xs
xsm
sm
md
lg

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาลีเริงระบำ ตอนที่ 13

ภายในคอนโดฯ ชงโคมีแก้วเหล้าเหลืออยู่ เธอนั่งร้องไห้อยู่ในชุดนอน บนเตียง มีลูกค้าชายหนุ่มเปลือยท่อนบนหลับอยู่ แม้จะร้องไห้แต่ยังต้องทำงานให้บริการเหมือนเดิม

วันใหม่ บุษบาบัณนั่งอยู่ในบ้านเมืองแมน บุณฑริกเอาข่าวมาให้ดู เป็นรูปเมืองแมนกับเลขาจ๋าควงกันที่ชายทะเลจากกล้องแอบถ่าย
"ดูสิ พอฉันเห็น ฉันจี๊ดขึ้นสมองเลย"
บุษบาบัณรีบลุกมาดูหน้าเครียด
"พ่อไปทะเลกับใคร" บุษบาบัณอ่านข้อความนั้น "ผู้เข้ารอบเดอะซุปตาร์มีข่าวทุกวัน เจ้าของสถานีก็ไม่น้อยหน้า ควงสาวคนใหม่ไปสวีตแถวชายทะเล คุณโยทะกาคนสวยช่างใจกว้างเป็นมหาสมุทร ....หนอย"
บุษบาบัณสีหน้าแค้นมาก

บุษบาบัณเขวี้ยงหนังสือพิมพ์ลงตรงหน้า โยทะกามองรูปบนหนังสือพิมพ์ เพิ่งเห็น แก้วกาแฟที่ถือในมือสั่น เสียใจที่เห็นข่าว
โยทะกาฝืนถามกลับ
"ทำไมหรือคะ"
"เห็นแล้วหรือ"
โยทะกาเมินหน้าหนีเพราะ ที่จริงเพิ่งเห็น
"เห็นแล้ว ยังเฉยอยู่ได้ เนี่ยนะ"
บุณฑริกบอก
"นังนี่ไม่เหมือนคนอื่นนะ ฉันโทร.ไปถามหนังสือพิมพ์ ทางโน้นว่า ผู้หญิงคน
นี้แหล่ะ เป็นคนส่งรูปตัวมันเองให้นักข่าว มันจงใจบอกทุกคนว่ามันคบเศรษฐีอยู่"
ทั้งบุษบาบัณกับโยทะกาตกใจมาก
"จริงหรือ"
"อีพวกเอาเต้าไต่ ... หนอย"
"อีพวกสงบเสงี่ยม ให้เขาฟันเล่นสนุกๆ ได้เงินแล้วเก็บไปเงียบๆ ผู้หญิงพวกนี้ เธอทำเฉยฉันไม่ว่า แต่พวกลองของแบบนี้ ฉันไม่ทน เธอรู้จักมันใช่ไหม มานี่ ไปกับฉัน"
บุณฑริกดึงมือโยทะกาให้ลุกขึ้น

คอนโดฯ เมืองแมน วันเดียวกันในเวลาต่อมา เลขาจ๋าเดินออกมาจากห้องน้ำเจอสามสาว ไขกุญแจเข้ามา
"คุณโย !"
บุณฑริกเปิดฉาก
"เมื่อก่อน ใช้มือเท้าหาเงินก็ดีอยู่แล้ว ตอนนี้หันมาใช้ไอ้นั่นหาเงิน ฉันจะบอกให้นะ ว่ามันเสี่ยง"
จ๋าที่เคยเรียบร้อยกลายเป็นสาวแรงเพราะความทะเยอทยาน
"คุณไม่เกี่ยว เรื่องของฉันกับคุณเมืองแมน ขนาดคุณโยทะกา เขายังไม่เคยว่าฉัน คุณเป็นใคร"
บุษบาบัณตาเขียวมองหน้าจ๋า ความกราดเกรี้ยว ดุร้ายของเธอนับวันจะมากขึ้นจนกลายเป็นอำมหิต
"อ๊า แรงส์แบบนี้สินะ มิน่าถึงกล้าส่งรูปให้นักข่าว พ่อแม่ เพื่อนฝูง ไม่
อายเลยใช่ไหม อยากมากใช่ไหมเป็นเมียน้อยเนี่ย" บุณฑริกบอก
"แล้วรู้ได้ไง ว่าฉันจะเป็นเมียน้อยไปตลอดชีวิต คุณโยแก่แล้ว อาจจะตาย อาจจะป่วย หรืออาจจะหย่า ใครจะไปรู้" จ๋าพูดหน้าเชิด
โยทะกาอึ้งช็อd ทำอะไรไม่ถูก
"ตกลงแกจะเอาให้ได้ใช่ไหม แกไม่ยอมหยุดใช่ไหม"
"คุณก็ไปบอกคุณเมืองแมนสิ ว่าให้หยุด อ้อ ถ้าบอกแล้วเขาไม่หยุด ฉันก็ช่วยไม่ได้นะ"
 
จ๋ายักไหล่ ไม่ยี่หระ โยทะกาเจ็บปวด

บุษบาบัณร้องกรี๊ด แล้วหยิบกระถางขึ้นมาทุ่มใส่ โชคดีจ๋าหลบทัน

"แอร๊ย อีบ้า !"
"นี่จะฆ่ากันหรือไง"
บุษบาบัณเดินไปหยิบไม่กอล์ฟ แถวนั้นมา
"ผู้หญิงอย่างแกนี่มันเยอะจริงๆ ต่อไปนี้ฉันไม่ใช้ใครแล้ว ฉันจะจัดการด้วยตัวฉันเอง"บุษบาบัณเอาไม้กอล์ฟไล่ตี จ๋าร้องกรี๊ด หนีไปหลบ โยทะกา รีบเข้าไปจับคุณเบล
"คุณเบล หยุดนะ หยุด"
"ฉันไม่ได้เป็นพระอิฐพระปูนเหมือนคุณ นังปลวกหน้าหนาแบบนี้ ทนเข้าไปได้ยังไง ยายก็เหมือนกัน เอาแต่พูดแต่ขู่ มันจะได้อะไรขึ้นมา คนแบบนี้ต้องเอาให้เข็ด"
เธอบุกไปหาอีก จ๋าวิ่งหนี บุษบาบัณฟาดกระถางแถวนั้น แตกกระจาย
"อร๊ายๆ"
โยทะกาตามขวางอีก
"ตั้งสติหน่อยสิ อยากเป็นข่าวหรือไง ซุเปอร์สตาร์น่ะไม่อยากเป็นหรือ ถามหน่อย ถ้ามีข่าวแบบนี้จะได้เป็นไหม หา"
ได้ผล เบลอึ้งไป ยอมหยุด
"ก็มัน ก็มัน ... ฮึ่ย !"
บุษบาบัณยอมหยุด จ๋าไปแอบหลังเก้าอี้ด้วยความกลัวเบล หายซ่าไปเลย

ทันทีที่เมืองแมนทราบข่าว ก็มาโวยวายกับลูกสาวที่บ้าน
"เบล เมื่อก่อนหนูไม่ได้เป็นแบบนี้ ตอนนี้เป็นอะไร เหี้ยมโหดขึ้นทุกวัน"
"อย่ามาแตะต้องตัวหนู คุณก็แค่คนที่ทำให้หนูเกิดมาเท่านั้นแหล่ะ"
"เบล !"
เมืองแมน ตกใจกับสายตาเกลียดชังของเบล
"หนูเกลียดพ่อ !"
เธอพูดเสร็จ เดินออกไป ทิ้งให้เมืองแมนยืนอึ้ง
บุณฑริกบอก
"ผู้หญิงคนนี้มันงูเห่า เธอต้องเลิกกับนังนี่"
"ได้ ถ้ามีนิสัยส่งภาพให้นักข่าวแบบนั้น ผมก็ไม่โง่ คบต่อหรอก ผู้หญิงมีเยอะแยะ"
"ผู้หญิงมีเยอะแยะ แปลว่าหมดนังนี่ก็จะมีอีกใช่ไหม"
เมืองแมนเดินมาเหวี่ยงใส่บุณฑริก ไม่มีความเคารพ
"ผมไม่ใช่หลานคุณ ไม่ใช่เด็ก ผมจะมีหรือไม่มี ไม่เกี่ยวกับคุณ"
"นี่แก"
"แก่แทนที่จะอยู่ส่วนแก่ หาเรื่องตลอด เบื่อโว้ย !"
เมืองแมนด่าเสร็จเดินหนี เบื่อบุณฑริกสุดๆ บุณฑริกด่าไล่หลัง ตะโกนลั่นบ้าน
"เบื่อก็เลิกเจ้าชู้เสียทีสิวะ ลูกสาวฉันฆ่าตัวตายเพราะแกมันเจ้าชู้ ฉันจะตามจองล้างจองผลาญแกจนตายไปข้าง คอยดูไอ้เมืองแมน"
โยทะกาเบื่อหน่ายเต็มทีจะลุกไปอีกคน บุณฑริกเหวี่ยงใส่อีกคน
"นี่จะไม่พูดอะไรสักคำเลยหรือ"
โยทะกา ได้แต่มอง ไม่ตอบ
"ผู้หญิงหรือท่อนไม้วะ ผัวประกาศปาวๆ ว่าจะมีเมียน้อยมันยังเฉย ดูมัน"

โยทะกาเดินเข้ามาในห้อง นึกถึงคำพูด และแววตารังเกียจแม่ของมาลี
"ออกไป อย่ามายุ่งกับหนูอีก อย่าแม้แต่เรียกชื่อหนู"

โยทะกา ร้องไห้ เปิดลิ้นชัก เอายาคลายเครียดมากิน แล้วล้มตัวลงนอน

มาลีเอาขนมลูกชุบที่ทำเองลงกล่อง เสียงมือถือดัง มาลีรับสาย

"จ้า กำลังจะออกจากบ้าน ลูกชุบที่พี่อยากกิน สูตรของแม่พี่ เจ๋งจริงด้วย อร่อยมากเลย"มาลีพูดพลางหยิบกิน
ทองทากำลังขับรถกำลังจะไปทำงาน คุยโทรศัพท์
"อืม น้ำลายสอเลย เจอกันที่สตูดิโอนะ"
"หนูไม่อยากเข้าไปที่สตูดิโอนั่น"
"อ้าวทำไมล่ะ ขนาดนั้นเลยหรือหนูมาลี"
"มาลีไม่อยากเห็นความร่ำรวยของโยทะกาอีก เลยไม่อยากไปเหยียบ
"วันนี้ เจอกันที่ร้านกาแฟหน้าสถานีนะคะ"
" เออ ก็ได้จ้ะ ขึ้นรถระวังแล้วกันนะ"
มาลี หน้าเครียดๆ หันไปจัดขนมลงกล่องจนเสร็จ

แม่บ้านเห็นสายมากแล้ว เลยมาเคาะห้อง
"คุณโยคะ คุณโย …. คุณโย"

ทองทาขับรถใส่สมอลท็อค มือถือดัง กดมือถือรับสาย
"ช่วยด้วยค่ะคุณทองทา คุณโย คุณโยนอนหลับแล้วปลุกไม่ตื่นค่ะ"
"อะไรนะ"

โยทะกานอนหลับอยู่ แม่บ้านมือหนึ่งบีบนวด อีกมือคุยโทร. หน้าตาตื่น
"โทร.หาคุณเมืองแมนก็ไม่รับสาย คุณทองทามาช่วยหน่อยสิคะ ไม่มีใครอยู่บ้านเลย ดิฉันทำอะไรไม่ถูก"
"ตั้งสติดีๆ โทร 191 บอกเขาว่าจะเรียกรถพยาบาลนะครับ ผมจะกลับ
รถไปหาเดี๋ยวนี้"
ทองทากลับรถ

มาลีเดินมาหาเจ้าของร้านกาแฟ
"พี่คะ ขอยืมจานหน่อยค่ะ"
เจ้าของร้านที่สนิทกันอยู่หยิบให้ ที่เคาน์เตอร์นั้นมีเบเกอรี่ พร้อมป้าย “เชิญชิม”วางอยู่ มาลีเปิดกล่องแถวนั้น เทขนมลูกชุบใส่จานวางไว้ตรงนั้น โทรศัพท์ดังขึ้น มาลี กดรับสาย
"เดี๋ยวนะพี่ทองทา สัญญาณไม่ดี"
มาลีเดินออกไปคุยโทรข้างนอก ทิ้งจานใส่ขนมลูกชุบไว้ปะปนเบเกอรี่เชิญชิม
มาลี เดินออกมาคุยโทรศัพท์
"ว่าไงนะคะ"

ทองทา คุยโทร.ทางสมอลท็อค
"เกิดเรื่องกับคุณ เอ้อ เอาว่าเดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง ตอนนี้พี่มีเรื่องด่วน"
"เข้าไปไปในสตูหนึ่ง บอกพี่ทีมงานนะ ว่าพี่ขอเวลาสักสองสามชั่วโมง "
"เรื่องด่วนที่ว่า เรื่องอะไรคะ"
"เอาว่า เดี๋ยวไปถึงเล่าให้ฟังนะ ตอนนี้พี่ต้องขับรถก่อน"
ทองทาวางสาย มาลีนึกสงสัย

เจ้าของหายไปหลังร้าน เมืองแมนเดินเข้ามาในร้าน คุยโทร. กับเลขาไปด้วย เมืองแมนเห็นจานขนมลูกชุบ แล้วหยิบกินทันที กินแล้วชอบมาก มองจานขนม หยิบกินต่ออีกจนเกือบหมด
"ใช่ใช่ อยู่ร้านกาแฟข้างหน้านี่ล่ะ เอาเอกสารลงมาแล้วกัน ขี้เกียจเดินขึ้นไป"
มาลีเข้ามาเห็นโวยใหญ่
"เอ้าคุณ มากินขนมของฉันทำไม"
เมืองแมนวางสาย
"เอ้า ไม่ใช่ขนมของร้านหรือ ไหนบอกว่าเชิญชิม"
เจ้าของเพิ่งเดินออกมา เลยเพิ่งรู้เรื่อง
"เชิญชิมคือเบเกอรี่นี่ค่ะ อันนี้เราไม่ได้ขาย"
"แล้วคุณชิมประสาอะไรเกือบหมดเลย นี่ฉันทำเองนะคะ จะมาให้เพื่อน เฮ้อ"

มาลีเซ็งมองขนม ตัดใจหยิบกล่องขนมแล้วออกไปเลย

มาลีตั้งใจจะกลับ เมืองแมนเดินตามมาเอาเงินให้สองพัน

"เอ้อ ผมชดใช้ให้แล้วกันนะ นี่ครับ"
"เยอะเกินไป"
เมืองแมนหยิบเงินออกเหลือหนึ่งพัน
"งั้นนี่"
"ก็เยอะเกินไปอีกนั่นแหล่ะค่ะ ช่างเถอะๆ"
เมืองแมนยังดักมาลีไว้อีก เพราะเริ่มสนใจมาลีซะแล้ว
"ผมชอบกินลูกชุบมาก ไม่ได้กินมานานแล้ว แล้วรสชาติมันก็เหมือนที่ผมเคยกินมาตลอด ผมหากินที่ไหนไม่ได้ ก็เลยเผลอน่ะ"
"แค่ลูกชุบ คนรวยอย่างคุณเนี่ยนะ หากินไม่ได้" มาลีมองหน้าชัดๆ ตกใจ
มาก "เอ๊ะคุณคือ คือ ... เจ้าของสถานี ! ขอโทษค่ะ หนูเพิ่งนึกออก"
เมืองแมนยิ้มกว้าง
"ตอนแรกฉันก็จำหนูไม่ได้เหมือนกัน ปรกติเห็นหนูแต่ในจอ แต่งตัวเยอะๆน่ะ หนูมาลี ตอนใสๆแบบนี้น่ารักกว่าเยอะเลย " เมืองแมนส่งสายตากรุ้มกริ่มทันที
มาลียังสงบเสงี่ยมเจียมตัว ขอโทษต่อ
"แหะๆ อย่าถือสาเรื่องที่เกิดขึ้นเลยนะคะ หนูเสียมารยาทไป"
"คนที่เสียมารยาทคือฉันต่างหาก เอ้านี่ คราวนี้ต้องรับแล้วนะ นี่ค่าเสียหาย"
เมืองแมนจับมือหนูมาลีนานกว่าปรกติ เอาเงินใส่ให้สองพัน เลขาจ๋าเดินมาเห็นอึ้งไป
มาลีชักมือกลับ
"ยังไงก็รับไม่ได้ค่ะ หนูขอโทษอีกครั้งค่ะ ขอตัวนะคะ"
มาลียกมือไหว้ เดินจากไป เมืองแมนมองตาม สนใจจริงจัง จนจ๋าต้องเรียก
"คุณคะ คุณ"
เมืองแมนสะดุ้ง เสียงเข้ม
"เอ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตามมา"
เมืองแมนเดินเข้าในร้าน จ๋าหน้าบึ้งเดินเอาเอกสารตามไป

เมืองแมนเดินเข้ามาพร้อมจ๋าในร้านกาแฟ
"อีกสิบห้านาที ผมต้องออกไปประชุมที่กระทรวง ให้คนรถมารอหน้าร้านนะ"
"ได้ค่ะ"
"แล้วโหลดโฟรไฟล์กับรูปของเด็กคนนั้น หนูมาลีน่ะ เข้ามือถือผมที"
"ทำไมคะ"
"เด็กเข้าประกวดของสถานี ผมเป็นเจ้าของสถานี ผมดูไม่ได้หรือ"
จ๋าหน้าเข้มรู้ทัน
"คุณไม่เคยสนใจเด็กคนไหน คุณดูแต่เรตติ้งรายการ"
"เขาเป็นข่าวอยู่ ข่าวใหญ่เรื่องเขากับพ่อ ผมต้องดู ส่งมาด้วย เดี๋ยวนี้เลย"
"ค่ะ"
จ๋าออกไป เมืองแมนมองลูกชุบที่เหลืออยู่ในจาน แล้วยิ้มออกมา

ห้องพักคนไข้ในโรงพยาบาล โยทะกาในชุดคนไข้ งัวเงียตื่นขึ้น
"ทองทา"
ทองทาโล่งใจ
"พี่โย ตื่นซะที เป็นไงบ้างครับ"
เธอมองไปรอบๆ
"นี่พี่"
"พี่กินยาเกินขนาด แม่บ้านปลุกเท่าไหร่พี่ก็ไม่ตื่น นี่พี่ทำอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่า"
"พี่ไม่ได้ตั้งใจ"
"พี่จะฆ่าตัวตายใช่ไหม"
"เปล่านะเปล่า แค่ช่วงหลัง พี่นอนไม่ค่อยหลับเลยต้องกินยามากขึ้นเรื่อยๆ"
"กินยาพวกนี้มานานเท่าไหร่แล้ว"
"ก็...กินมาตลอด เวลาที่มีเรื่อง ก็ต้องกินเยอะหน่อย กินแล้วถึงนอนหลับได้"
"พี่จะตายเพราะยาพวกนี้รู้ไหม ทำไมถึงทำตัวเองแบบนี้"
"แล้วหมอว่าไง"
"หมอฉีดยาให้ แล้วขอให้พี่อยู่ที่นี่เช็คร่างกาย ดูอาการคืนหนึ่ง"

โยทะกาพยักหน้า ทองทามองอย่างสงสาร

เมืองแมนนั่งดูรูปมาลีด้วยมือถือในรถ สายตาหลงใหล ยิ้มอยู่คนเดียว

เสียงมือถือดัง หน้าจอว่าทองทาโทร.มา เมืองแมนรับสายขณะนั่งในรถ
"ว่าไง"

ทองทาพูดเสียงดุ
"ทำไมไม่รับสายจากที่บ้าน"
"สายอะไร"
"โทรศัพท์แม่บ้านเขาตามพ่อ ทำไมไม่รับสาย"
"ที่บ้านมีแต่เรื่อง คุณโยก็อยู่ เดี๋ยวเขาก็จัดการเองนั่นแหล่ะ"
"พี่โยอยู่โรงพยาบาล กินยานอนหลับเกินขนาด ทั้งหมดเพราะฝีมือพ่อ ถ้าเขาเป็นอะไรไป เขาจะเป็นผู้หญิงคนที่สามที่ชีวิตพังพินาศเพราะพ่อ อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหม"
ทองทากดสายทิ้ง แค้น เมืองแมนอึ้งไป

เวลาต่อมา มาลีนั่งรออยู่ ทองทาหน้าเครียดเดินมาหา
"พี่ทองทา ทีมงานเขารออยู่ข้างใน"
"คุณโยทะกากินยาเกินขนาด อยู่โรงพยาบาล"
มาลี อึ้ง ตกใจ
"เป็นอะไรมากไหมคะ"
"เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก เขาเครียด ใช้ยามานานแล้ว เพิ่มขนาดยาเองไม่ยอมปรึกษาหมอ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว"
มาลีพยักหน้า โล่งใจไปหน่อย
"ไปเยี่ยมเขากันนะ"
มาลีคิดเล็กน้อย กลับมาเย็นชา มึนตึง
"พี่ไปคนเดียวเถอะค่ะ"
"หนูมาลี"
"พี่กับเขาสนิทกันมานานแล้ว พี่ไปเถอะ พอดีขนม เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ไว้วันหลังหนูทำให้ใหม่ วันนี้หนูกลับก่อน"
มาลี ท่าทางขึ้งเครียดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เดินหนีไป จนทองทาต้องตาม
"เอ้าเดี๋ยวสิ"

หน้าสถานีอีกมุมหนึ่ง ทองทาเดินตามมาอธิบาย
"เพราะพี่สนิทกับเขาไง พี่ถึงรู้ว่าเขาไม่เคยมีความสุข เขารู้สึกผิดจริงๆเรื่องหนูมาลี พี่เห็นกับตา เห็นมาตลอด"
"รู้สึกผิดแล้วไงคะ นั่งอยู่เฉยๆ กินยาทำร้ายตัวเอง แค่นั้นหรือคะ"
"เขาไม่ใช่คนเข้มแข็งนัก เขามีพ่อพี่อยู่ เขาจะไปตามหาหนูมาลี ได้ไง พ่อพี่ไม่รู้เรื่องของเขาเลย ผู้จัดการตอนประกวดนางงามตกแต่งประวัติให้เขาใหม่หมด ทุกคนนึกว่าเขาเป็นเด็กกรุงเทพ เรียนจบมาอย่างดี เขาจะบอกทุกคน บอกพ่อได้ยังไงว่าเขาเคยมีลูก"
"งั้นก็ดีแล้ว เป็นคนใหม่แล้ว จะอาลัยอาวรณ์เรื่องมารหัวขนที่เกิดมาอีกทำไม หนูกับพ่อ ต้องใช้ชีวิตตามปรกติ หนูมาลี ไม่เคยสนิทกับเขา เพราะฉะนั้น หนูไม่จำเป็นต้องเห็นใจ ไม่จำเป็นต้องไปเยี่ยม ไม่ต้องรับรู้อะไรอีกทั้งนั้น"
"นี่ มันเกินไปแล้วนะหนูมาลี หนูเป็นคนเก่งเป็นคนดีทุกอย่าง ยกเว้นอยู่อย่างเดียว ทำไมถึงไม่พยายามเข้าใจคนอื่นบ้าง คราวของพี่โรสก็ทีหนึ่งแล้ว นี่มาเรื่องแม่อีก ชีวิตมันก็เป็นของมันแบบนี้แหล่ะ จะทิฐิไปทำไมกัน"
"ผู้หญิงคนนั้นเป็นรักแรกของพี่ เขากับพี่สนิทกันมาก่อนหนูมาลีอีก ยังไงพี่ก็ทิ้งเขาไม่ลงถูกไหม แล้วทีนี้เราจะทำยังไงกันต่อไปดีล่ะคะ ในเมื่อหนูมาลีคบกับพี่ แต่ไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากฟังเรื่องของเขา หนูมาลีว่า ความสัมพันธ์ของเรามีปัญหาแล้วล่ะค่ะ"

มาลีพาลโกรธทองทาไปด้วย เดินจากไป ทองทายืนอึ้ง
 
อ่านต่อหน้า 2

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 13 (ต่อ)

วันใหม่ โยทะกาแต่งตัวเสร็จแล้วจะกลับบ้าน

"ผมมารับพี่กลับบ้าน"
"เพิ่งไปถ่ายรายการมาใช่ไหม น่าจะกลับไปพัก พี่ไม่เป็นไรหรอก"
"เขาไม่มาหรือ"
"โทร.มาแล้ว เขาบอกว่าติดประชุม"
"ใจร้ายจริงๆ มีสามีแบบนี้มีไปทำไม"
"เราอยู่กันอย่างนี้มานานแล้ว พี่ชินแล้ว เขาคงไม่เชื่อหรอกว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ เขาคงคิดว่าพี่เรียกร้องความสนใจจากเขานั่นแหล่ะ"
"เฮ้อ กลับกันเถอะครับ"
"หนูมาลี รู้ไหม"
"คนนี้สินะ ที่เป็นความสุขความทุกข์ของพี่จริงๆ"
"เขาว่ายังไง"
"เขาไม่ยอมมากับผม แถมท้าเลิกกับผม ถ้าผมยังสนิทกับพี่อีก"
โยทะกาตกใจ
"โธ่ ไม่น่าเลย พี่จะทำให้เธอลำบากไหมเนี่ย"
ทองทาร้องเฮ้อ กลุ้มอยู่เหมือนกัน

ชงโคหิ้วกระเป๋าใบเล็ก เดินร้องไห้ หน้าตาซีดเซียวเข้ามา กำลังหนีออกจากชีวิตเดิม ด้วยความช็อก
บอยถาม
"ชงโค เป็นอะไร"
โรสกับหนูมาลี เดินออกมาสมทบ ร้านยังไม่เปิด
มาลีเข้าไปกอด
"ชงโค ร้องไห้ทำไม"
"พี่ซูซี่ไม่สบายหนัก เขากำลังจะตาย"
"คนอย่างนั้น จะตาย ต้องจุดพลุฉลองนะ ร้องไห้ทำไม" โรสบอก
"เขาเป็นเอดส์ ! พี่ซูซี่เป็นเอดส์"
ทุกคนตกใจมาก
"เธอก็เลยกลัวใช่ไหม"
ชงโคร้องโฮ
"เราไปเที่ยวด้วยกันบ่อย กับผู้ชายคนเดียวกัน กับผู้ชายหลายๆ คน"
"เขาไม่ได้เรียกเที่ยว เขาเรียกแบหราแลกเงิน"
"จะซ้ำเติมอะไรก็เอาเลย ตอนนี้หนูไม่แคร์อะไรทั้งนั้น พี่โรส ถ้าหนูเป็นเอดส์แล้วหนูตายตามพี่ซูซี่ไปล่ะ หนูกลัว ฮือ หนูกลัวตาย"
สภาพร้องไห้เสียขวัญถึงกับหอบผ้าหอบผ่อนหนีมา ทำให้ทุกคนสงสารชงโค

ชงโคเข้ามาพักที่ห้องเดิม แต่ยังร้องไห้ มาลีอยู่เป็นเพื่อน ช่วยเอาของออกจากกระเป๋า
บุญมา สมศรี การะเกด ได้ข่าวตามมาดู มาคุยกับโรสและ บอย เสียงเบาอยู่ หน้าห้อง
"สุดท้ายก็กลับมาตายรัง เฮ้อ" บุญมาบอก
"มัน ไม่มีญาติ มันมาขอพึ่ง จะให้ทำไง" โรสว่า
"แล้วถ้ามันติดโรคมาล่ะ
"เอดส์ไม่ติด ด้วยการกินข้าวกินน้ำร่วมกัน ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ"
"โรคเอดส์ พวกฉัน เพศที่สามรู้จักมันมากกว่าใคร ฉันบอกว่าไม่ติดก็ไม่ติด เชื่อฉันเหอะ"
"โรคเอดส์ไม่ใช่โรคของเพศที่สามสักหน่อย พูดให้ถูก เป็นโรคที่มากับความสำส่อนของทุกเพศนั่นแหล่ะ" บอยบอก
"ซูซี่รับกรรมไปแล้ว เมื่อไหร่จะถึงคิวไอ้วานิชวะ เมื่อไหร่จะมีคนจัดการกับมันซะที" โรสบอก

การะเกดอึ้งไปกับคำพูดของโรส

คืนเดียวกัน การะเกดนอนคิดบางอย่าง นอนไม่หลับเช่นกัน เธอลุกขึ้นไปเปิดไฟ เอาหนังสือพิมพ์ที่มีข่าววานิชขึ้นมาดู แล้วนึกถึงคราวที่อธิมาขอความร่วมมือ

"ถ้าเกดช่วยเป็นพยาน ว่าเคยโดนเหมือนสาวคนนี้ คือพี่มีหลักฐานรูปของเกดช่วงนั้นอยู่ เราจะเอาผิดวานิชได้"
"พี่อธิใจร้ายมาก เกดกำลังจะขอบคุณที่พี่ช่วยเกดให้พ้นจากขุมนรก แต่ตอนนี้พี่จะมาผลักเกดให้ลงไปที่ขุมนรกนั้นอีก"

ยามดึก ร้านไม่มีคนแล้ว หนูมาลี เก็บร้านอยู่ ทองทาเดินเข้ามา
"เอ้า มาซะดึกเลยค่ะ"
"เพิ่งเสร็จงานน่ะ ได้ข่าวชงโค เลยแวะมาเยี่ยมเขาน่ะ ยังไงเขาก็เป็นลูกศิษย์"
"เขาอยู่ในห้อง เอาข้าวเย็นไปให้เขากินก็ไม่ยอมกิน พี่ไปคุยกับเขาหน่อยก็
ดิ"
"คุณโยออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ เขากลับไปบ้าน แต่ไม่ยอมไปทำงาน ลาพักร้อนน่ะ"
"ก็ดีแล้วค่ะ พี่น่าจะพาเขาไปเที่ยวนะ จะได้สบายใจขึ้น"
"งั้นไปด้วยกันสามคนนะ"
"ไม่ค่ะ"
มาลีเดินหนีไป ทองทาทนไม่ไหว คว้าตัว ดึงมาลีเข้ามากอด
"พี่ทองทา นี่ เดี๋ยวพ่อมาเห็นนะ"
"สัญญาได้ไหม อนาคตต่อไปข้างหน้า อย่าเดินหนีพี่ อย่าบอกเลิกกันแบบคราวที่แล้วอีก พี่เจ็บ"
สายตาทองทาขอร้องน่าสงสาร หนูมาลี อึ้งไป
"ก็หนูไม่อยากทะเลาะด้วยนี่คะ ปล่อย"
"ไม่.... ไม่ถูก เราต้องทะเลาะกัน ต้องคุยกันให้จบ ไม่งั้นเราจะรักษาชีวิตคู่ของเราไม่ได้ สัญญาสิว่าจะต้องทะเลาะกันให้จบทุกครั้ง"
"งั้นพี่ต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่พูดเรื่องคุณโยอีก จะไม่กดดันหนูอะไรทั้งนั้น สัญญาได้ไหมล่ะ"
"เฮ้อ ทำไมดื้ออย่างนี้นะ ก็ได้ตกลง"
"งั้นหนูก็ตกลง"
ทองทามองหน้า ร้องเฮ้อ ก่อนจับแก้ม
"นี่ท่าทางพี่จะแพ้เธอไปตลอดชีวิตใช่ไหมเนี่ย"
มาลีค่อยยิ้มออกมาได้

วันใหม่ เวลากลางคืน โรสยืนหน้าร้าน กำลังบันทึกคำสัมภาษณ์ให้นักข่าวรายการทีวีที่มาถ่ายทำสัมภาษณ์ แคที่แต่งตัวสวยอยู่ข้างหลังโรส ทำท่าทางต่างๆ เข้ากล้อง เช่น สยายผม ทำปากจุ๊บ ส่งจูบคนดู ประมาณขโมยซีน วิ่งไปมา เพราะอยากออกทีวี รบกวนซีนอยู่ข้างหลังโรส
"คอนเซปต์ ร้านเรา ช่วยให้ความฝันของทุกคนเป็นจริง ใครๆก็อยากเป็นซุปตาร์ แต่บางทีก็อ้วนเกินไป แก่เกินไป ถ้าคุณเป็นแบบนี้มาที่ร้านเราได้เลยครับ"
" เอ้อ ขอถ่ายใหม่ได้ไหมครับ ป้าข้างหลัง อย่าเข้ามาครับ"
แคที่ ท้าวสะเอว อารมณ์เสีย หน้าบูด งอน

บรรยากาศในร้านร้านเซอร์ไพร์ส มียายอ้วน ร้องเพลง แอ็คท่าเป็นซุปตาร์ อย่างเมามันบนเวที
มุมส่งอาหาร เด็กเสิร์ฟ งานยุ่งมาก บุญมา สมศรี ต้องหยิบอาหารออกมาวางเอง
" เอ้า มาเอาไปหน่อยโว๊ย โฮ๊ย ต้องหาคนมาเพิ่มแล้วมั้ง" สมศรีว่า
"มาแล้วๆ รีบขาจะขวิดแล้วเนี่ย" ปลาเข้ามาหยิบไป
"แค่นี้ก็ทำไม่ทันแล้ว ไอ้พวกนักข่าว จะมาสัมภาษณ์อะไรกันนักหนาวะ"
มาลีเดินมารับอาหาร
"จองคิวถึงเดือนหน้า เรารวยแล้ว คิดเรื่องเงินส่วนแบ่งไว้สิพี่ พี่โรสเขาบอกว่าเราจะได้ส่วนแบ่งทุกคนเลยนะ"

มาลีอารมณ์ดียกอาหารเดินออกไป

โรสเดินออกมาส่งนักข่าวกลับ

"ขอบคุณนะครับที่มาทำข่าวให้ ขอบคุณนะครับ"
โรสรู้สึกเสียดท้องขึ้นมา ปวดจนต้องงอตัว
"ปวดท้องล่ะสิ กินยาแล้วทำไมยังไม่หายอีกนะพี่"
"โฮ้ย ฉันก็เป็นๆหายๆอย่างนี้มานานแล้ว นี่มีอะไรให้ดู มานี่เร็ว"
โรสหยิบสมุดบัญชีให้ดู
"เมื่อคืนพี่ทำบัญชี นี่ๆ กำไรเป็นครั้งแรก พี่มีเงินจ่ายนังกะทกรกมันเป็นครั้งแรก"
บอยเข้าไปกอด
"เยส พี่เก่งที่สุด รักพี่ที่สุด เรารวยแล้ว"
ทั้งสองหัวเราะกัน
"แบบนี้ถ้าต้องตาย ก็ตายตาหลับแล้ว มายดาร์ลิ้ง"
บอยอึ้งไป
"ตายอะไรนะ"
โรสยิ้มให้ไม่สนเดินไปหาที่โต๊ะ ลูกค้ายกมือเรียก โรสลืมความเจ็บทั้งปวง
"ว่าไงพี่ เอาอะไรเพิ่มดีคะ"
บอยมองตามสงสัยขึ้นทุกที

บริเวณบ้านพักคนงาน การะเกดยกถาดอาหารมา เจอชงโคนั่งเหม่อกลุ้ม เรื่องของตนเองเงียบๆคนเดียวในมุมมืดมุมหนึ่งดูราวกับเป็นโรคซึมเศร้า การะเกดต้องเรียกหลายครั้งกว่าจะได้ยิน
"ชงโค ๆ ทานข้าวจ้ะ"
"ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ออกไปช่วยเลย"
"เธอจะเอาแต่นั่งเหม่ออย่างนี้ไปตลอดชีวิตหรือ ไปตรวจโรคกันไหม จะได้รู้กันไปว่าเธอติดโรคจากพี่ซูซี่จริงไหม"
ชงโคร้องไห้ออกมา
"ฉันไม่กล้า"
การะเกดตัดสินใจบางอย่างแล้ว เลยบอกด้วยสีหน้าเข้มแข็ง
"เรามาทำสัญญาความกล้ากันไหม"
"สัญญาอะไรนะ"
"ถ้าฉันทำในสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดหนึ่งอย่าง เธอต้องทำในสิ่งที่เธอกลัวที่สุด คือไปตรวจโรค"
"เธอจะทำอะไร"
การะเกดสีหน้ามุ่งมั่น

วันใหม่ การะเกดลงจากรถอธิ มองสถานีตำรวจ ยืนรวบรวมความกล้า
"พี่ดีใจที่เกดทำแบบนี้ อีกสักพักจะมีคนมากมาย มาถามเรื่องของเกดกับนายวานิช"
"ถามว่าโดนข่มขืนยังไง เขาจะย้ำถามว่า ไม่ได้สมยอมใช่ไหม"
อธิพยักหน้าว่านั่นล่ะ
"ใช่ ทั้งตำรวจ ทนาย ผู้พิพากษาและสื่อ เกดต้องตอบซ้ำไปซ้ำมา … ทุกนาทีที่กำลังจะแย่ เกดต้องจำไว้ เกดกำลังช่วยผู้หญิงอีกมากมายไม่ให้โดนอย่างเกด"
การะเกดหลับตา หายใจเข้า ฮึบๆ
"เกดพร้อมแล้วค่ะ"

อธิพยักหน้า เดินนำ การะเกดเข้าไปพบกับตำรวจ ข้างในสถานี

อธิกับการะเกดเดินเข้ามา โดยไม่รู้ว่าวานิชก็มาเรื่องคดี และเดินออกมาพอดี วานิชเจอกับการะเกดพอดี

"การะเกด"
"ไม่ต้องไปสนใจ ตามพี่มา เราจะไปห้องโน้น"
วานิชเริ่มระแวง เดินตาม
"เธอมาทำอะไร มีอะไรมาคุยกันก่อนไหม... เกด เกด"
อธิเข้าขวาง
"คุณอย่ามายุ่งดีกว่า เสร็จธุระคุณแล้ว ก็กลับไปซะ"
วานิชไม่สน เดินไปใกล้เกด ชี้หน้าดุ
"คิดให้ดีนะ คนตัวเล็กๆอย่างเธอ ทำอะไรไม่ได้หรอก พวกชั้นต่ำ"
การะเกดกลืนน้ำลาย ก่อนจะรวบรวมความกล้า
"ฉันจะไม่กลัวแกอีกแล้ว ฉันจะไม่ตายทั้งเป็นเพราะกลัวแกอีก !"
"ผู้หญิงอย่างพวกแก เห็นแก่เงินทุกคน พวกไม่รู้จักพอ คนอย่างพวกแก ทำงานเป็นที่ไหน วันๆเอาแต่แต่งตัวสวยขอเงินจากผู้ชาย เอาสิ ถ้าแกจะเอาเรื่องฉัน บอกมาเลยว่าจะเอาเท่าไหร่ ฉันจะเซ็นเช็คให้แกเดี๋ยวนี้เลย"
"ผู้หญิงส่วนใหญ่ ไม่ได้เป็นอย่างที่แกพูด เขาฝันที่จะเป็นเมียคนที่เขารัก เป็นแม่ที่ลูกภูมิใจ ฉันจะต้องเป็นแบบนั้นให้ได้ แกไม่มีสิทธิ์ ทำลายความฝันของใครอีก ... ถุย"
การะเกดถุยน้ำลายใส่หน้า วานิชโกรธมาก อธิรีบเข้าขวาง ตำรวจอีกสองสามคนรีบมาดึงวานิชออกไป เพราะวานิชโวยวายหนักเหมือนจะทำร้ายการะเกด
" อีบ้า ฉันจะฆ่าแก แกใส่ร้ายฉัน ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก"
การะเกดไม่กลัว วานิชถูกตำรวจลากออกไปจนได้

ตำรวจบันทึกปากคำ การสอบสวนการะเกดในห้องสอบสวน

ผ่านเวลา อธิมาส่งการะเกด เดินคุยกันลงมา
"เกดทำแบบนั้นไปได้ยังไง กับนายวานิชน่ะ"
"ทำไม่ได้ใช่ไหมคะ ทำผิดใช่ไหมคะ มีผลต่อคดีไหมคะ"
"ใครบอก มันเยี่ยมที่สุดเลย วันนี้เกดเหมือนเป็นคนละคน"
"จริงหรือคะ เกดกลัวสุดๆเลย ไม่รู้ทำออกไปได้ยังไง"
อธิยิ้ม
"เกดเป็นคนใหม่แล้ว เป็นคนใหม่แล้วจริงๆ"
การะเกดยิ้ม สบายใจขึ้น
"ไม่ต้องห่วงนะ ตำรวจจะปกป้องพยานอย่างเกด และผู้หญิงทุกคน จะพยายามลดขั้นตอนให้มากที่สุด"
"เกดทำทั้งหมดนี่ได้ เพราะมีพี่อยู่ เกดรู้ว่าพี่จะปกป้องเกด"
การะเกดมองหน้าอธิ จริงจังในสายตา
อธิซาบซึ้งจะยื่นมือไปหมายจะจับ แต่ยั้งมือไว้ทัน ถอยกลับ
"เกด ... เอ้อ พี่ขอโทษ พี่ลืมไปว่าเกดไม่ชอบ เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่เนอะ เอ้อ เอาเถอะ พี่ต้องไปละ ไปทำงานต่อ"
อธิ เก้อเขินวุ่นวาย ยิ้มแห้ง แล้วเดินกลับไป
"เอ้อ"

การะเกดเรียกไว้ อยากคุยต่อ อยากเปิดใจแล้ว แต่ไม่กล้าพูด

บริเวณคลินิกนิรนาม สามคนนั่งรอคิวอยู่ ชงโคว้าวุ่นมาก มองซ้ายมองขวา ขยับขาตลอด โรสกับมาลีมาด้วย

"ความตายไม่ได้น่ากลัวหรอก ถ้าเราใช้ชีวิตอย่างดีแล้ว"
"ชีวิตที่ดี หนูก็ไม่มี"
"แกมีเพื่อน มีพี่ แล้วที่แกไปเต้นนั่น อยากได้เงิน แต่งตัวสวย แกก็ทำมาหมดแล้วนี่"
ชงโคหงุดหงิดเลยวีน
"ให้พี่ตายบ้างเอาไหม พี่อยากตายนักหรือไง"
โรสอึ้ง ชงโคยกมือไหว้
"เอ้อ หนูขอโทษ"
"ที่จริงฉันพร้อมแล้ว !"
มาลีหันมองทันที
"อะไรนะคะ"
มาลีมองหน้าโรส คาดคั้นว่าพูดทำไม โรสมองอย่างเสียใจ
"ฉันไปรอข้างนอกดีกว่า อย่าหนีกลับล่ะ แกเจอมือฉันแน่"
ชงโคร้อง ฮึ่ย !
"ชงโค ฉันอ่านมาหมดแล้ว มีคนที่เป็นโรคแล้วใช้ชีวิตปรกติ อายุยืนยาวไปได้เป็นสิบปีก็มีนะ ถ้ารู้ก่อนก็ดูแลตัวเองได้ไง"

โรส มาลี ชงโค เดินหน้าเศร้ากลับเข้ามาที่ร้านเซอร์ไพร์ส
"นังชงโค ผลเป็นยังไง"
สามคนหน้าเศร้าลง ทุกคนเลยเครียดไป
"จริงหรือครับพี่โรส" บอยถาม
"เอาเถอะนะ มีอะไรก็ค่อยๆแก้ไขกันไป"
สมศรีเข้าไปกอด ชงโคเลยตะโกนออกมา หน้าตายิ้มแย้มสุดๆ
"หนูไม่เป็น หนูได้โอกาสอีกครั้ง หนูไม่เป็น"
สามคนร้องพร้อมกัน เย้ เฉลย ทุกคนถอนใจโล่งยิ้มออกมา
"ไอ้พวกบ้า ตกใจหมด แกล้งกันเนียนเชียว" บุญมาบอก
"ชงโคสุดยอด เย้ๆ"
ทุกคนร้องตามบอย เย้ๆ จับหัวชงโคกันใหญ่ ดูอบอุ่น
"หมอนัดว่าอีกสามเดือนให้ไปตรวจอีกครั้ง แต่เบื้องต้นนี้ ปลอดภัยจ้ะ"
สมศรีหยิบหนังสือพิมพ์ไปให้การะเกดดู
"ดีใจกับชงโคคนเดียวไม่ถูก ดูนี่"
บุญมาอ่านให้ฟัง
"สอบพยานเพิ่มอีกหลายปาก วานิชดิ้นไม่หลุด ปิดกิจการเลดี้ชาร์ล็อตถาวร"
การะเกดดีใจสุดๆ ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน
"เย้ๆๆ"
"แกเก่งมาก เกด.... เก่งที่สุดเลย" โรสบอก
"พี่โรส หนูกับเกดจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนร้านนี้ ทุกอย่างต้องไปได้ดีเหมือนร้านของเรา"
โรสกอดสองสาวไว้
"ใช่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ เย้ๆ"

ทุกคนดีใจมีความสุข ยกเว้นโรสที่ดวงตาเศร้าลง เมื่อนึกถึงอาการป่วย
 
อ่านต่อหน้า 3

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 13 (ต่อ)

บ้านเมืองแมน วันเดียวกัน โยทะกานั่งซึมเศร้า เหม่อบนเตียง ไม่ได้ป่วยแต่ไม่มีกะใจทำอะไรเลย เมืองแมนเดินมาหา

"ยังไม่หายหรือ"
"ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่คะ"
"แล้วทำไมไม่ไปทำงาน สถานีวุ่นวายไปหมด จู่ๆก็ลาพักร้อนแบบนี้"
"ฉันไม่มีใจแล้ว ฉันเพิ่งให้คนสืบ ยายเบลทำรายการปั่นป่วนไปหมด ปล่อยข่าวทำลายคู่แข่งคนอื่นจนวุ่นวาย"
"มีข่าวทุกวัน เรตติ้งก็ยิ่งขึ้น ไม่ดีตรงไหน"
"หน้าที่ของสื่อ คือนำเสนอความจริง ไม่ใช่แย่งชิงเรตติ้งไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ เพราะเป็นแบบนี้แหล่ะ ฉันถึงไม่อยากทำงาน คุณหาคนอื่นมาทำงานแทนแล้วกัน ....ฉันลาออก"
เมืองแมนปรี๊ด โมโหมาก ชี้หน้าทันที เพราะขาดโยทะกาไม่ได้ในเรื่องการทำงาน
"ลาออก พูดง่ายๆแค่นี้หรือ แล้วผมจะไปหามาจากไหน โธ่โว้ย อยู่ๆ เป็นบ้าอะไรขึ้นมา เมื่อก่อนก็ยังดีๆ ผมไม่ยอมให้ลาออก พรุ่งนี้คุณต้องไปทำงาน..... ถ้าไม่ไป มีเรื่อง !"
เมืองแมนเอาจริงชี้หน้า ขู่ ตาดุ โยทะกามองตอบ กดดัน

กลุ่มบุษบาบัณประชุมกัน มีข่าวหนังสือพิมพ์บันเทิง ไอแพด วางอยู่ แต่ละคนสีหน้าเครียด
นีน่าอ่านหนังสือพิมพ์
"อดีตเมียทิมมี่เคลียร์ลงตัว คะแนนโหวตทิมมี่ขยับดีขึ้น"
"ทำไมเคลียร์ง่ายนักล่ะ ไปเคลียร์กันตอนไหน เคลียร์ยังไง"
"เอ้อ เราไม่รู้ค่ะ ไม่ได้เป็นจิ้งจกในบ้านเขา" ยาหยีบอก
"เอ๊ะ นังนี่"
ยาหยียิ้มแห้งขอโทษ
"แล้วภูมิล่ะ มันจองที่หนึ่งตลอด ต้องจัดการมันให้ได้"
นีน่าบอก
"วันๆ เอาแต่ซ้อม ไม่เจ้าชู้ ไม่เที่ยว ไม่เคยมีเรื่องกับใคร สรุปคือ ยังหา
จุดอ่อนไม่เจอค่ะ"
"หาต่อไป"
บุษบาบัณหยิบหนังสือพิมพ์ที่มีรูปโรสถ่ายกับร้านขึ้นมา
"นี่อะไร"
"สัมภาษณ์พ่อนังหนูมาลี เรื่องร้าน วันนี้ลงตั้งสามฉบับกำลังเห่อร้านอาหารคอนเซปต์ใหม่น่ะค่ะ" ยาหยีบอก
ยาหยี ดูท่าทางไม่สนใจเพราะไม่ใช่ข่าวของมาลีโดยตรง
"บ้าจริง โฆษณาร้านก็เท่ากับโฆษณานังหนูมาลี ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ต้องจัดการด่วน !"

ยาหยีนีน่างงให้จัดการยังไง

เวลาต่อมา มาลีเช็ดโต๊ะทำความสะอาดอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง โต๊ะข้างหลังเป็นหญิงสองคนโวยวายขึ้นขณะทานอาหาร ชี้ไปที่จานอาหาร มาลีมองตามทันทีเพราะอยู่ใกล้ไม่เห็นแมลงสาบอะไรเลย

หญิง1ร้องบอก
"อร๊าย แมลงสาบๆ"
โรสรีบเดินมา มองหา
"ไหนครับ ไหนครับ"
"อยู่บนจานผักเนี่ย ร้านอะไรสกปรกที่สุด"
หนูมาลี มองไป คนทานอาหารโต๊ะอื่นมองตามหญิง 1 ไม่กล้ากินอาหารบนโต๊ะของตน
"เดี๋ยวผมจะเปลี่ยนให้ใหม่นะครับ"
หญิง 1เสียงดังบอกคนอื่น
"ไม่...ฉันไม่กินแล้ว แมลงสาบตัวเบ้อเร่อ ใครกินลงก็เชิญ"
หญิงทั้งสองคนลุกไปทันที แขกโต๊ะอื่น กินไม่ลง วางช้อนทันที
ชาย 1บอก
"เอ้อ น้องเช็คบิลด้วย"
ชาย 1 วางเงินบนโต๊ะ เดินหนีออกไป ในขณะกลุ่มที่เหลือ มองหน้ากัน มองอาหาร จะกินต่อดีไหม
โรสเข้าไปค้นหาแมลงสาบ
"พี่สมศรี พี่บุญมาไม่เคยพลาดนี่นา"
บุษบาบัณ ยาหยี นีน่าเดินเข้ามาในร้านทันที
"อีกประเดี๋ยว ลูกค้าคนนั้นจะไปแฉลงอินเตอร์เน็ต ร้านคุณคงมีปัญหาแล้วล่ะ"
"ฉันไม่เห็นแมลงสาบสักตัว ร้านเราเปิดมาหลายปี ไม่เคยพลาดเรื่องแบบ
นี้ ฝีมือเธอใช่ไหมเบล" มาลีถาม
"ฉันแค่สาธิตให้เธอดู วิธีทำลายร้านของเธอมันง่ายแค่ไหน"
"คนของแกจริงด้วย อีไฮโซหน้าหนอน แกทำร้านฉัน แกตาย"
โรสพุ่งเข้าใส่
"อย่าค่ะพ่ออย่า เขาจะเอาไปฟ้องได้อีกว่าพ่อทำร้ายเขา" มาลีบอก โรสยอมหยุด " คุณต้องการอะไรบอกมาเลย"
"เรื่องการประกวด รอบชิงชนะเลิศ"
"ฉันจะลาออกจากการแข่งขัน"
"อะไรนะ"
บุษบาบัณงง ทำไมมันยอมง่ายๆ
นีน่าถาม
"ทำไมง่ายนักล่ะ"
"ถ้าฉันลาออก แมลงสาบเมื่อกี๊ จบไหม"
"จบ ! ถ้าประกาศอย่างเป็นทางการ ให้เราอัดคลิป"
"ตกลง !"
สามสาวมองหน้ากัน
ยาหยีกระซิบ
"ยอมเลิกจริงด้วย งงว่ะ"
นีน่ายักไหล่ไม่รู้ โรสถอนใจ เรื่องโยทะกาแน่ที่ทำให้มาลีตัดสินใจ

มาลีเดินนำสามสาวเข้ามาในห้อง นั่งลง เพื่ออัดเทป
ทองทา เพิ่งมาถึง โรสเดินออกมาบอก

"มาพอดี เกิดเรื่องใหญ่แล้วทองทา"

นีน่ากดอัดวิดีโออัดภาพมาลี ด้วยมือถือ

"สวัสดีค่ะ ดิฉันหนูมาลี ผู้เข้ารอบเดอะซุปเปอร์สตาร์ซีซั่นสอง ดิฉันอัดคลิปนี้ ด้วยความสมัครใจ ดิฉันขอลาออกจากการแข่งขัน ด้วยปัญหาทางด้านจิตใจ ดิฉันจะไม่เข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่กำลังจะมาถึงแน่นอนค่ะ"
บุษบาบัณสะใจ
ทองทาเดินเข้ามา ตามด้วยโรส
"หนูมาลี เธอลาออกไม่ได้นะ"
"พี่มาไม่ทันแล้วค่ะ" บุษบาบัณบอก
"เบล เธอได้คะแนนสูงอยู่แล้ว ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย"
"ก็หนูไม่ใว้ใจ ร้านบ้านี่ลงข่าวทุกวัน คนเห็นใจสองพ่อลูกมีมากขึ้นทุกที"
"โฮ้ย อีนรกส่งมาเกิด อี...."
มาลีตัดบท
"พ่อ ...หนูตั้งใจลาออกอยู่แล้ว ขอโทษด้วยค่ะพี่ทองทา หนูขึ้นเวทีที่เป็นของ….. คนๆนั้นไม่ได้"
มาลีออกไป
นีน่ากระซิบ
"คนๆนั้นใครอ่ะ"
ยาหยียักไหล่ไม่รู้
" เบลเป็นน้องพี่นะ ถ้าเบลชนะ เบลจะเป็นดารา เป็นนักร้อง ในสถานีที่เป็นสมบัติของเรา ประโยชน์จะอยู่ที่พี่กับหนู พี่จะไปสนใจนังเด็กเสิร์ฟคนนั้นทำไม"
"งั้นฟังให้ดีนะ ฟังให้ชัดๆ เธอไม่ใช่น้องพี่อีกแล้ว นับจากวันนี้ เราขาดกัน"
"พี่ทองทา ไม่ ไม่นะ อร๊ายๆ"
โรสหัวเราะเยาะดัง
"ฮะฮะฮะ อยากหัวเราะขึ้นมาไม่มีเหตุผล"
โรสหัวเราะเยาะยาวจนเบลร้องกรี๊ดดัง
"อ๊าย อีกระเทยหยุด"
โรสทำหน้าล้อแล้วออกไป เบลแค้นใจมาก เครียด

นีน่า ยื่นมือถือให้สต๊าฟ
"เอาคลิปนี้ออกอากาศที่สถานีของเรา... ออกทุกสื่อ"
เมืองแมนเดินผ่านมา เอะใจที่เห็นนีน่า ประชุมกับคนของตน
"จะเอาอะไรออกอากาศต้องติดต่อคุณโย แต่ตอนนี้คุณโยไม่มาทำงาน"
เมืองแมนเดินเข้ามาถาม
"มีเรื่องอะไร"
นีน่า กลืนน้ำลายกลัวๆ เมืองแมน

เมืองแมนเรียกบุษบาบัณมาคุยกันในห้องประชุม ชี้ไปที่มือถือซึ่งมีคลิปที่อยู่บนโต๊ะ
"พ่อให้ออกอากาศไม่ได้ หนูมาลีลาออกไม่ได้"
"ทำไมคะ"
"ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่ต้องถาม"
"เบลต้องการชนะ และยายนั่นเป็นตัวเก็ง พ่อต้องเอามันออก"
"พอกันทีนะเบล เลิกโกงเสียที รอบสุดท้ายนี้ แค่ตั้งใจร้องเพลง แล้วปล่อยให้การแข่งขันเป็นไปอย่างขาวสะอาด... นี่เป็นคำสั่ง"
เมืองแมนเสียงเข้มเอาจริงก่อนเดินออกไป
"นี่มันอะไรกันเนี่ย"
เบลงงกับท่าทางเมืองแมน ที่เหมือนไม่ยอมช่วยลูกเลย

ในห้องทำงาน เลขาจ๋า จัดโต๊ะอยู่ เมืองแมนเดินเข้ามา
"หาที่อยู่ที่ร้านของหนูมาลีให้ที"
"จะไปที่ร้านนั้นหรือคะ ไปทำไมคะ"
เมืองแมนเสียงเข้มดุ
"อนุญาตให้เป็นเมีย ไม่ได้อนุญาตให้เป็นแม่ ไปหามา"

จ๋าเสียใจ รับคำเบาๆ ออกไป เมืองแมน หน้าตายิ้มขึ้นมาเมื่อนึกได้ว่าจะไปหาสาว

ในห้องอัดเสียง แซนดี้ทำงานกับสต๊าฟเพลงตามปรกติ

"แก้สักนิดดีไหม พี่ว่าให้ดนตรีมันแน่นขึ้นหน่อย"
ทองทาเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
"ผมมีเรื่องขอความช่วยเหลือครับครู"
เจ้าหน้าที่รู้แกว ก้มหัวให้ทองทาเป็นการทักทาย แล้วเดินออกไป
"ว่ามาเลย ซุปตาร์ ... ดีใจด้วยนะ อัลบั้มชุดแรก ยอดขาย ยอดดาวน์โหลดใช้ได้เลย"
"หนูมาลีลาออก จู่ๆก็หมดไฟ ผมยอมไม่ได้ ครูมีวิธีพูดกับเขาไหมครับ"
แซนดี้อึ้งไป

คืนนั้น ทองทาเดินตามแซนดี้เข้ามาในร้านนิวเซอร์ไพร์ส แคที่กับโรสหน้าตาดีใจวิ่งเข้ามาหา
"อ๊าย คุณแซนดี้.... ดีว่าคนดัง ยุคเรายังเป็นสาว" แคที่บอก
"วันนี้มีซุปตาร์มาเยี่ยมร้านของเรา ขอบคุณมากครับ"
แซนดี้ยิ้มแย้มขอบคุณ
"ตอนคุณดัง แคที่ใช้เทปคาสเส็ท เอาไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานเขา จำได้ใช่ไหมคะ เทปชุดนั้น คุณแต่งหน้าโทนสีเงินชิมเมอร์สวยมาก"
" ผู้ชายคนนั้น รับรู้ความรู้สึกคุณ ได้เป็นแฟนกัน"
"เขาเอาเทปเขวี้ยงพื้นแล้วเอารองเท้าเหยียบเทปแตกคาเท้า บดขยี้ตรงหน้าของคุณ ขยี้ๆ"
แคที่ทำเท้าให้ดู แซนดี้เซ็ง นังนี่มันจะเล่าทำไม
"ฉันร้องไห้อยู่ปีหนึ่ง"
แซนดี้หน้าเหวี่ยงใส่
"ขอบใจนะ ที่เล่าให้ฟัง !"
มาลีเข้ามา
"ครูแซนดี้ สวัสดีค่ะ"
"เสาร์นี้ ทั้งสี่คนจะขึ้นคอนเสิร์ต จะมีรางวัลที่หนึ่งสองสามและรางวัลชมเชย.... ครูอยากฟังเหตุผล ทำไมถึงอยากลาออก"

สองคนนั่งคุยกันบนโต๊ะอาหาร
"หนูมีเหตุผลบางอย่าง เรื่องคุณ.....เอ้อ อย่าพูดถึงมันดีกว่า เอาเป็นว่า หนูแข่งต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ความอยากที่จะชนะมันหายไปหมด"
"เธอคิดว่าเธอต้องแพ้ใช่ไหม"
"ครูเห็นคุณเบลแล้ว เขาใช้วิธีสกปรก แล้วเขาเป็นใคร ยังไงเขาก็ต้องชนะ"
"เธอคิดว่าที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เพื่อการเป็นผู้ชนะหรือ"
"แล้วมันไม่ใช่หรือคะ เอาชนะใจลูกค้า เอาชนะใจเจ้านาย เอาชนะใจคนดู ทุกคนอยากเป็นผู้ชนะ ใครอยากเป็นผู้แพ้บ้าง"
"คิดแบบนั้น คงเหนื่อยน่าดู ชีวิตจะสนุกตรงไหนกัน"
" คุณหมายความว่าไงคะ"
"เรามีชีวิตทุกวันนี้เพื่อนาทีที่ยิ่งใหญ่ต่างหาก"
"นาทีที่ยิ่งใหญ่คืออะไรคะ"
"ก็แล้วแต่ ชนะประกวด รับปริญญา รับเงินเดือน ยืนบนหน้าผาที่ปีนขึ้นมาอย่างยากลำบาก...อะไรก็ได้ แล้วแต่ แต่ละคน แต่ละช่วงเวลาของชีวิต"
คนบนเวทีกำลังร้องเพลง
"ลูกค้าร้านนี้ หลายคนร้องเพลงได้ดีกว่าคนที่มาแข่งขัน เพราะอะไรรู้ไหม เขากำลังมีนาทีที่ยิ่งใหญ่ ได้เป็นซุปตาร์ต่อหน้าเพื่อนและญาติของเขา บางที แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว"
มาลีคิดตาม

"ชีวิตไม่ต้องชนะตลอดเวลา แต่ขอให้ได้เข้าร่วม ได้เป็นส่วนหนึ่งของนาทีที่ยิ่งใหญ่ ก็พอแล้ว"

แซนดี้อยู่บนเวทีแล้ว กำลังร้องเพลง นาทีที่ยิ่งใหญ่

"บนทางเดินอาจไม่มีทางไหนมุ่งไปดวงดาว ที่สองสกาว... บนนภา...และคนที่เดินดิน ทุกทุกคนก็รู้ว่า... มันไกลเกินที่คนจะก้าวไป
ในความเป็นจริงเส้นทางบนดินนั้นก็มีดวงดาว ที่ส่องสกาว... อยู่ไม่ไกล... และตัวฉันคนนึงที่ต้องการจะก้าวไปฉันมั่นใจว่าคงไม่ยากเกิน
เพราะฉันนั้นต้องการมีเสี้ยวนาทีที่ยิ่งใหญ่ ให้ใจจดไว้... นานเท่านาน อยากจะได้ภูมิใจที่มือฉันเคยได้เอื้อมผ่าน ได้เก็บดาวที่แสนไกลด้วยตัวฉันเอง
คนบางคนอาจจะมีใจท้อแค่ตรงกลางทาง หมดความหวัง... ในหัวใจ... แต่มีฉันคนนึงที่ยังคงจะก้าวไป ฉันมั่นใจกับทางที่เลือกเดิน"
หลังจากร้องไปหนึ่งท่อน ทองทาเดินไปทำท่าขอมาลีเต้นรำ ทั้งสองออกมาเต้นรำที่ฟลอร์ประกอบเพลงของแซนดี้ ทั้งคู่เต้นไป คุยไป
"ก่อนเจอหนูมาลี พี่กำลังเบื่อชีวิต พี่ประสบความสำเร็จทุกอย่างแล้ว พี่แทบไม่รู้เลยว่าพี่จะตื่นขึ้นมาทุกวันเพื่ออะไร... แต่ตอนนี้พี่รู้แล้ว นาทีที่ยิ่งใหญ่ของพี่ คือคนที่อยู่ตรงหน้านี่แหล่ะ อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตนะหนูมาลี"
มาลีมองทองทาอย่างซาบซึ้ง
"ตอนนั้น พี่ไม่เคยเห็นภาพตัวเองเป็นครูสอนใครเลย แต่พอนานไป พี่รู้สึก
สนุก อยากแต่จะหาวิธีทำให้ลูกศิษย์ชนะ"
ทองทานึกถึงตอนสอนสามสาวร้องเพลง
"ถ้าหนูเลิก พี่คงเสียใจ" มาลีว่า
ทองทาพยักหน้า
ไปลูกต้นไม้ เหมือนปลูกสร้างคน นาทีที่ยิ่งใหญ่ อยู่ที่ดูต้นไม้ อยู่ที่ดูลูกศิษย์ของเราเติบโต รับปากพี่นะ ไปแข่งรอบสุดท้าย อย่าลาออก ไปแข่งเพื่อพี่"
มาลีจำนนต่อเหตุผล พยักหน้า ทองทายิ้ม
"ก็ได้ค่ะ แต่ว่า ป่านนี้เบลเผยแพร่คลิปนั้นเต็มยูทูปไปหมดแล้ว"
"พี่ไม่เห็นคลิปนั้นนะ"
มาลี งง ทำไมเบลไม่เผยแพร่

บุษบาบัณกับบุณฑริกเคาะประตูคอนโดฯของเมืองแมน จ๋ามาเปิด ตกใจ
"ฉันผ่านมาดู แกยังอยู่จริงๆ คอนโดนี้เป็นของเมืองแมน เท่ากับเป็นของคุณเบล แกไม่มีสิทธิ์อยู่ ย้ายออกไปซะ"
จ๋าเศร้า จะร้องไห้
"เขาไม่มาที่นี่สองอาทิตย์แล้ว เขาเบื่อฉันแล้ว เขาติดผู้หญิงคนใหม่"
"ฮึ สมน้ำหน้า ... พ่อทำตามที่พูด ตั้งใจเขี่ยยายนี่จริงๆ งั้นแกก็รีบๆย้ายออกไปซะ... ไปเถอะยาย ไม่มีประโยชน์แล้ว"
บุษบาบัณหันหลังเดินออกไป บุณฑริกยังคาใจ
"เขาติดผู้หญิงใหม่ ... ใคร"
"หนูมาลี !"

บุษบาบัณหันกลับมาช้าๆ ตาเดือดแทบลุกเป็นไฟ นี่เอง สาเหตุนี้เองที่พ่อไม่ยอมให้ปล่อยคลิป เธอกำมือแน่น
 
อ่านต่อหน้า 4

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 13 (ต่อ)

ร้านเซอร์ไพรส์ คนยังน้อยอยู่ มาลีตกใจเมื่อเมืองแมนเดินเข้ามา

"เอ้า ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ"
"นั่งก่อนค่ะ หนูแค่ไม่นึกว่าคุณจะมาที่แบบนี้"
"ฉันชอบคอนเซปต์ร้านนี้มากเลยนะ มันเยี่ยมมากแลย"
"ขอบคุณค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ ทานอะไรดีคะ"
เมืองแมนมองหนูมาลี
"ทำไมถึงลาออก"
"ตอนนั้น.... เอ้อ"
"ฉันไม่อนุญาต ฉันเป็นคนสั่งหยุดเผยแพร่คลิปนั้น เรื่องเบล ฉันสั่งให้เขาหยุดทุกอย่างแล้ว ถ้าเธอกลัวแพ้ เธอไม่ต้องกลัว"
มาลีมีหวัง
"จริงหรือคะ"
" การแข่งขันจะต้องขาวสะอาด เธอเตรียมตัวร้องเพลงในคอนเสิรต์ครั้งสุดท้ายได้เลย"
มาลีพยักหน้า
"ค่ะ"
เมืองแมนมองมาลีอย่างหลงใหล
"อ้อ อีกอย่างหนึ่ง ฉันหางานให้เธอ เป็นนางเอกเอ็มวี"
"หางานให้ทำหรือคะ ทำไมคะ"
"เธออยากเป็นนักร้อง เป็นดารา ไม่ใช่หรือ ฉันรับเธอไว้ในสังกัดแล้วไง ไม่ดีใจหรือ"
"คุณจะรับผู้ชนะเข้าสังกัดเท่านั้นไม่ใช่หรือคะ"
เมืองแมนส่งสายตาเจ้าชู้ ตั้งใจให้รู้ แต่มาลี ไม่ทันคิด แถมยังแตะมือนิดๆ
"เธอ สวย น่ารัก มีพรสวรรค์ ฉันจะสนับสนุนเธอ"
มาลีรีบเอามือออก เมืองแมนหยิบนามบัตร เอาเบอร์ส่วนตัวให้
"พรุ่งนี้ไปที่สถานีนะ เริ่มถ่ายเอ็มวี เก้าโมง แล้วนี่เบอร์ส่วนตัวของฉัน เก็บเอาไว้สิ"
ณ มุมหนึ่ง บุษบาบัณยืนมอง แค้นใจ กำหมัดแน่น

แล้ววันนี้ทั้งหมดก็ย้ายมาประชุมบ้านเมืองแมน
ยาหยีบอก
"คุณเมืองแมนไม่รู้หรือว่า นี่มันแฟนลูก"
"เขาไม่รู้หรอก เขาไม่เคยสนใจลูกคนไหน ไม่ว่าจะเป็นพี่ทองทาหรือฉัน"
"ไปลุยมันที่ร้านไหมคะ เอาให้ร้านพังเลย อยากถามนักว่า เป็นโรคจิตหรือไง คิดจะเอาทั้งพ่อทั้งลูกเนี่ย" นีน่าว่า
"หนูมาลี แกขวางตำแหน่งที่หนึ่งของฉัน แกแย่งพี่ทองทา แกยังคิดจะมาแย่งพ่อของฉันอีก คราวนี้ แกต้องตาย"
บุษบาบัณหยิบแจกัน ทุ่มพื้น แตกเปรี้ยง สองสาวสะดุ้ง เธอโกรธจริง
"โห วันนี้แรงอ่ะ หมู่นี้แรงขึ้นทุกวัน" ยาหยีบอก
"เออ โมโหจริงนะเนี่ย" นีน่าว่า

โยทะกานั่งเศร้าเจ่าจุก อยู่บนเตียงเปิดทีวีอยู่ แต่ตาเหม่อมองออกไป แบบคนอมทุกข์
ทองทาเดินมาปิดทีวี
"ทองทา"
"ลุกขึ้น.... ไปทำงาน ไปเที่ยว อะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่นั่งเจ่าจุกอยู่อย่างนี้"
"พี่ไม่ได้ทานยาแล้ว อย่ากลัวเลย"
"ลดยาแล้ว หลักลอยอยู่อย่างนี้ อีกไม่นานพี่ก็จะกลับไปติดใหม่ หรือไม่ก็ติดอย่างอื่น"
"ออกไปเถอะ พี่ขออยู่คนเดียว"
"มากับผม"

ทองทาดึงโยทะกาให้ลุกขึ้นออกไปด้วยกัน

ทองทาพาโยทะกามาดูแม่ของเขาที่โรงพยาบาล ช้องนางนั่งเหม่อ พยาบาลดูแลป้อนอาหาร

"คุณช้องนาง"
"แม่เป็นผู้หญิงคนแรกที่พ่อแต่งงานด้วย พ่อชอบคนอายุน้อยๆ เพราะรู้สึกได้ครอบครอง แม่ก็เป็นอย่างนั้น ยอมหยุดชีวิตและความฝัน ทั้งหมดเพื่อเขาคนเดียว"
"เหมือนกับฉัน ทิ้งชีวิตให้เขาทั้งหมด"
"ไม่นานพ่อก็เบื่อ ไปคบกับแม่ของเบล"
"เขาสอนเราให้ยึดเหนี่ยวแต่เขา พอเขาทรยศ โลกของเราทั้งใบ...ก็พังลง"

ทางด้านบุษบาบัณเอารูปในบ้านมาดู เป็นรูปถ่ายหมู่ ของ บุณฑริก เมืองแมน และบัวบุษบาที่อุ้มบุษบาบัณเมื่ออายุได้หนึ่งขวบไว้บนตัก เธอเอานิ้วลูบที่หน้าบัวบุษบา
"แม่"
ทองทาบอก
"ตอนที่แม่รู้ว่าพ่อท้องกับผู้หญิงอื่นจนมีเบล แม่พาผมหนีไปต่างประเทศ บัวบุษบา เมียใหม่ของแม่ อ่อนแอกว่าแม่อีก เพราะทันทีที่พ่อมีคนใหม่ เธอกินยาตายประชดทันที"

บุษบาบัณพูดกับรูปแม่ ในอารมณ์เกลียดพ่อมาก
"แม่ตายเพราะพ่อ เพราะพ่อ"

โยทะกาบอก
"ความผิดอีกอย่างในชีวิตของฉัน คือร่วมมือกับเมืองแมนทำลายชีวิตคุณบัวบุษบา

บุษบาบัณบอก
"พ่อไม่เคยรักแม่ ไม่เคยรักลูก ไม่เคยรักใคร แล้วทำไม ฉันต้องรักพ่อ !"

เธอเอาปากกามาขีดบนรูปเมืองแมนด้วยความเกลียดชัง !

ทองทาคุยกับโยทะกาต่อเนื่อง
"พี่กำลังจะเป็นอย่างผู้หญิงสองคนนั้น รู้ตัวไหม แม่กินยาเหมือนพี่ จากนั้นก็เหล้า บางทีก็ทั้งยาทั้งเหล้า จนมันทำลายสมอง"
โยทะกาคิดตาม
"หนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ยังลืมความเศร้าไม่ได้"
"เอาออกไปจากชีวิต ออกไปจากสายตา แต่ไม่ได้เอาออกไปจากใจ ต่อให้หนีไปที่ไหน ต่อให้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ พี่ก็จะเป็นเหมือนแม่ คือไม่เคยลืมเขาเลย"
โยทะกาคิดตาม ช้องนางหันมาเจอทองทายืนกับโยทะกา
"คุณเมืองแมน คุณมากับใครน่ะ คุณพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามา คุณพามาหรือ"
พยาบาลบอก
"ไม่ใช่ค่ะ ....คุณทองทาค่ะ ไม่ใช่คุณเมืองแมน"
โยทะกาสะท้อนใจ ช้องนางยังจำทองทาเป็นเมืองแมนอยู่เลย

ทั้งสองเดินมานั่งคุยต่อ
"เธอพูดในสิ่งที่ทำยากที่สุด เอาเขาออกไปจากใจ"
"ตอนเด็ก อยู่กับคนซึมเศร้าอย่างแม่ ไม่ใช่ง่าย.... ผมทุ่มเทความสนใจไปที่การเรียนเต้น เรียนศิลปะทุกอย่าง ถ้าพี่ถามว่าผมประสบความสำเร็จได้ยังไง ก็ต้องตอบว่าเพราะผมไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวเลย ไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ ผมมีแต่การเรียนเท่านั้น"
"เธออยากให้ฉันหาอะไรยึดเหนี่ยวงั้นหรือ"
ทองทาพยักหน้า
"ฉันไม่มีแล้ว เธอก็รู้ว่า ฉันไม่มีลูกอีกต่อไปแล้ว"
ทองทาถอนใจเศร้าตามไปด้วย
"อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ หนูมาลี เขาแค่ขอเวลาทำใจ... แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พี่ต้องตัดใจจากคุณเมืองแมนให้ได้ก่อน พี่พร้อมหรือยัง ตัดใจซะ แล้วเดินไปข้างหน้า ทำให้ได้นะครับ ทำให้ผมเห็น"

โยทะกาคิดหนัก

บุษบาบัณเดินมาหาคนใช้คนหนึ่งที่ทำความสะอาดบ้านบุณฑริกอยู่

"เอามือถือเธอมานี่"
คนใช้กลัวๆ รีบหยิบให้
เธอหยิบเงินให้ปึกหนึ่ง
"เบอร์นี้ยกให้ฉัน เอาเงินนี่ไปซื้อใหม่"
คนใช้พยักหน้ารับเงินแล้วออกไป
บุษบาบัณยิ้มร้าย เข้าโหมดส่งข้อความเริ่มพิมพ์อะไรบางอย่าง

เสียงข้อความมา เมืองแมนกดอ่านข้อความ
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างค่ะ คุณเมืองแมน วันนี้หนูมาลี ประทับใจมาก"
เมืองแมนยิ้มดีใจมีความสุข
"ตอบฉันมาแล้ว หนูมาลีของฉัน ฉลาดใช้ได้ ฉันจะพาหนูไปถึงสวรรค์ ....เอ๊ยถึงฝันเอง"
บุษบาบัณยิ้มร้าย ดวงตาดุดัน ตั้งใจล้างแค้น พ่อตัวเอง

ในบ้านพัก โรสหน้าซีด เหงื่อแตก นั่งปวดท้องอย่างทุกข์ทรมาน สักพักวิ่งไปอาเจียน
มาลีโผล่เข้ามาเห็น
"พ่อ พ่อคะ"
โรสรีบเช็ดหน้าเช็ดตา ทำสีหน้าให้เป็นปรกติเดินออกมาหา
"เอ้าว่าไง"
"วันนี้หนูจะไปถ่ายเอ็มวี"
"ยอมไปที่สถานีนั่นแล้วหรือ"
"แค่ทำงานหาเงิน ถ้าเจอผู้หญิงคนนั้น หนูมาลีจะหนี ไม่คุยด้วย"
"เฮ้อ... ไอ้เด็กหัวดื้อ"
"แค่จะมาบอกว่า หนูจะกลับดึกค่ะ"
"พ่อไปด้วย"
"ทำไมคะ"
"วันนี้วันหยุดร้าน ถ้าฉันอยู่บ้าน ก็มีแต่นั่งปวดท้อง อยู่กับแกเท่านั้นทำให้พ่อหายป่วย"
"เพี้ยนละ อยู่กับหมอต่างหาก ถึงหาย... ไปหาหมอดีกว่าไหมพ่อ"
"ไว้แกมีลูก แกจะเข้าใจ ไม่มียาอะไร ทำให้เราหายป่วยเท่ากับความรัก"
มาลี รู้มุข ร้อง "ฮิ้ว" ออกมาพร้อมกันกับโรส พร้อมทำมือทำไม้ ยกขึ้นสูงตามเสียง
ทั้งสองคนหัวเราะกัน กับมุกที่สอดรับกันอย่างรู้ใจ โรสเข้าไปกอดลูก สดชื่นขึ้นทันที
"ไป ถ้าเขาแต่งตัวแกเสร่อๆ แต่งหน้าเอาท์ๆ ฉันจะเหวี่ยงมันให้ติดข้างฝาเลย"
มาลีหัวเราะกอดพ่อออกเดินไปด้วยกัน
"ไป๊ ไปเลย"

โยทะกาเดินมาหาเมืองแมนที่นั่งทานข้าวเช้าอยู่ เอาเอกสารมาวาง สีหน้าขรึม
"เซ็นรับให้ด้วย"
"อะไร"
"ฉันให้ทนายฟ้องหย่าคุณ"
เมืองแมนตบโต๊ะทันที เสียงดังมาก
"บ้าไปกันใหญ่แล้ว กล้าดียังไงฟ้องหย่าผม"
"ฉันไม่เอาสินสมรส คุณเซ็นซะเถอะ มันจะได้จบ"
"ไม่ ...รอชาติหน้าเถอะ"
เมืองแมนเดินหนี โยทะกาจับเมืองแมนไว้ ไม่ให้ไป
"เราไม่ได้รักกันแล้ว ทำไมไม่ปล่อยฉันไป"
"โธ่โว้ย"
เมืองแมนสะบัด ตบโยทะกาเซไป เลือดกลบปาก คนใช้เดินเข้ามาร้องกรี๊ด
"คุณวอนเองนะ คุณเป็นสมบัติของผม คนอย่างคุณไม่มีผม คุณไปไม่รอดหรอก เพราะฉะนั้นอย่าหาเรื่อง เลิกทำบ้าๆนี่" เมืองแมนฉีกเอกสารทั้งหมด "แล้วกลับไปทำงานซะ ไม่งั้น จะไม่ใช่แค่ปากฉีก คอยดู"

คนใช้เข้าไปจับประคอง โยทะการ้องไห้ ตกใจ ไม่เคยโดนทำร้ายร่างกายถึงขั้นเลือดตกยางออก

ซีโร่เดินไปมา เครียด พิสมัยเดินมาหา

"นี่นี่ ...พี่ได้ตารางเรียนเต้นมาแล้ว"
"ผมบอกแล้วไง ว่าผมไม่เรียน ไปเรียนเต้น ตั้งสี่ห้าเดือน คนลืมผมหมดพอดี"
"แล้วทุกวันนี้เขาไม่ลืมหรือไง"
"พี่ไหม !"
"ตารางงานทั้งเดือนมีแต่งานการกุศล ถ้าเธอไม่พัฒนาตัวเอง ไม่เพิ่มความสามารถใหม่ๆ เธอจะเอาอะไรไปขายคนฟังล่ะ"
"ผมต้องสร้างข่าวขึ้นมาสักชิ้น"
"เราทำไปหมดแล้ว.... ข่าวหนูมาลี ข่าวกับเบล มันก็ยังไม่เวิร์ก"
"เพราะข่าวมันไม่แรงพอต่างหาก หนูมาลี กำลังดัง ลงข่าวกับพ่อแทบทุกวัน นาทีนี้แหล่ะ มีข่าวกับหนูมาลี ตอนนี้เวิร์กที่สุด พี่เช็คคิวที หนูมาลี อยู่ไหน"
พิสมัยเบื่อ

มาลี กำลังแต่งหน้าทำผมอยู่ในห้องแต่งตัวของสถานี ทองทาเพิ่งมาถึง เดินมาหา
"หนูมาลีเองหรือ เป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอของพี่"
"หนูมาลี ก็เพิ่งรู้ตอนมาถึงนี่แหล่ะค่ะ"
"ดีจัง มีกำลังใจทำงานขึ้นเยอะเลย ว่าแต่ใครติดต่อมาน่ะ"
"คุณเมืองแมน พ่อพี่น่ะค่ะ"
"หา"
"หนูเจอเขาโดยบังเอิญ ท่าทาง เขาโกรธเรื่องคุณเบล เขายังบอกอีกนะว่าจะไม่ให้มีการโกงในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ"
"เขาเนี่ยนะ"
"ทำไมหรือคะ"
"เขาไม่เคยทำงานในรายละเอียดแบบนี้ หรือว่า เพราะพี่โยไม่ยอมมาทำงาน พี่โยอยากลาออกน่ะ"
มาลีเมินหน้าหนีไปเมื่อพูดเรื่องโยทะกา

ทั้งคู่ถ่ายเอ็มวีในชุดแต่งงานที่สตูดิโอ ทั้งคู่เหมือนเข้าพิธีแต่งงานแสดงความรักต่อกันอยู่ โรสนั่งมองสองคน ยิ้มมีความสุข ภูมิใจในตัวลูกสาวกับแฟนของเขา
"ทานข้าวได้แล้วค่ะ เชิญห้องอาหารค่ะ" สต๊าฟบอก
"ผมปวดท้อง ไม่ทานดีกว่าครับ"
"เอ้า เห็นนั่งยิ้มอยู่ ปวดท้องหรือคะ เอายาไหมคะ"
"ผมทานแล้ว"
"ท่าทางจะภูมิใจในตัวลูกมากๆ"
"ชีวิตผมอยู่ตรงนั้น" โรสชี้ที่มาลี " ไม่ใช่ตรงนี้ครับ" โรสชี้ที่ท้อง
สต๊าฟยิ้มให้ เดินจากไป
ระหว่างที่มาลีรอกล้อง เลยโบกมือมาหาโรสอย่างสดใส โรสโบกมือตอบ ซีโร่กับพิสมัยเดินเข้ามาแอบดู
"นั่นไง อยู่นั่นไง แต่คงถ่ายรูปทำข่าวไม่ได้หรอก นายทองทาอยู่นั่น"
"เดี๋ยวมันต้องไปถ่ายที่สวนต่อคนเดียว แค่รอเท่านั้นเอง"
พิสมัยเซ็ง ซีโร่ไม่ยอมเลิกรา

สต๊าฟเดินมาส่งหนูมาลี ที่หน้าห้อง
"หมดคิวแล้วค่ะ เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะคะ แล้วออกมาทานข้าว คุณพ่อรออยู่"
"ขอบคุณค่ะ"
มาลีเข้าไป ซีโร่กับพิสมัยตามมาบอกสต๊าฟที่กำลังจะล็อกห้องให้หยุดล็อก
"เอ้อ ไม่ต้องล็อก ผมจะคุยกับหนูมาลี"
สต๊าฟพยักหน้าเดินออกไป
"แล้วพี่ต้องทำยังไง"
"ถ่ายรูปไง"
"แต่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่"
"นั่นแหล่ะที่ผมต้องการ รูปที่มีเสื้อผ้าน้อยๆ แบบนี้ ถึงจะเป็นข่าวใหญ่ คนโหลดดูเยอะๆ ดูบ่อยๆ มาเร็วเข้า"
พิสมัยไม่ค่อยเต็มใจ จำใจตามซีโร่ไป

มาลี ถอดเสื้อชั้นนอกออก ซีโร่กับพิสมัยย่องเข้ามามาลีซึ่งอยู่ข้างใน ซีโร่ล็อกประตู แล้วทำสัญลักษณ์ให้พิสมัยแอบหลังหลืบ เขาเข้าไปคนเดียว
มาลีเหลือเสื้อผ้าชั้นใน ซีโร่เข้ามา
"พี่ซีโร่ เข้ามาทำไมคะ" มาลีรีบเอาเสื้อบังตัวเอง ตกใจมาก
"คิดถึงจังเลย"
ซีโร่เข้าไปกอด มาลีหลบไม่ทัน จำยอม
พิสมัยอยู่ในหลืบยื่นมือยาวๆ ออกไปแอบถ่ายซีโร่กอดหนูมาลี จนสำเร็จ
"พี่ซีโร่ ออกไปก่อนค่ะ หนูขอแต่งตัวก่อน"
"ทำไมไล่พี่แบบนั้นล่ะ พี่ไม่ใช่หรือ คนที่หนูเคยฝันถึง วันนี้พี่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว พี่พร้อมจะเป็นผู้ชายในชีวิตจริงของหนูมาลี แล้วไง" ซีโร่ก้มลงหอมแก้ม ต่อด้วยการปล้ำจูบ
พิสมัยถ่ายต่อเนื่อง มาลีดิ้นหนี ตะโกนลั่น

"พี่หยุดค่ะ ออกไป๊ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย"

โรสเดินมา ได้ยินเสียงลูกสาว ร้องออกมา รีบเปิดประตู แต่เปิดไม่ออก

"หนูมาลี ๆ โธ่โว้ย"
โรสกระแทก สองสามที จากนั้นเตะเข้าไปจนสำเร็จ

พิสมัยตกใจร้องกรี๊ด เพราะประตูเปิดปัง โรสโผล่เข้ามา โรสมองเห็นแล้วว่าเขาถ่ายคลิปกันอยู่
"ทำบ้าอะไรกัน"
โรสเข้าไปลากคอซีโร่ออกมาจากตัวหนูมาลี
"ไอ้ซีโร่ มึง"
"โฮ้ยๆ ผมไม่ได้ทำจริงๆแค่จะถ่ายรูป ให้พี่ไหมถ่ายรูป นี่ไง พี่ไหมอยู่ด้วย"
"นั่นแหล่ะที่ต้องโดน"
โรสต่อยหน้าซีโร่เต็มๆ เปรี้ยงลงไปกอง มึนที่พื้น
"บ้าทำข่าวนักใช่ไหม"
โรสหยิบกระชากมือถือพิสมัยมา เขวี้ยงทิ้งพื้น แล้วเหยียบๆ
"อร๊าย โทรศัพท์ฉัน"
"พี่เป็นบ้าไปแล้ว หนูน่าจะเชื่อพ่อ พี่เป็นแค่ภาพมายาที่ทีมงานสร้างให้ แล้วหนูนี่แหล่ะที่มาสร้างจินตนาการต่อ อยากเป็นข่าวนักใช่ไหม ได้ หนูจะทำให้ภาพมายาของพี่สมบูรณ์แบบเลยล่ะ"
มาลีเดินออกมาหน้าห้อง ตะโกนดังลั่น ไม่กลัวใคร
"นักข่าว นักข่าวอยู่ไหน มานี่เร็ว มีข่าวใหญ่ พี่ซีโร่ลวนลามหนู พี่ซีโร่ ก็แค่ศิลปินหลอกลวง นักข่าวอยู่ไหน มาทำข่าวนี่เร็ว"

นักข่าวหลายคนรุมสัมภาษณ์อยู่ โดยสัมภาษณ์ แยกเป็นสองกลุ่ม มาลี โรส กลุ่มหนึ่ง ซีโร่ พิสมัย ยืนอยู่อีกกลุ่ม
แซนดี้และสต๊าฟสองสามคนยืนห่างๆมอง ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ทองทาวิ่งมาหาแซนดี้ กระซิบถาม
"เกิดอะไรขึ้นครับพี่ หนูมาลีเป็นอะไร"
แซนดี้ชี้ให้ดู
"ไม่จริงนะครับ ผมไม่ได้ทำ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด" ซีโร่ว่า
มาลีตะโกนข้ามไปหาซีโร่
"คุณพิสมัย มือถือ และพ่อหนู จะเป็นพยานทุกอย่าง คุณโกหกต่อไปไม่ได้หรอก"
"ไอ้ชั่ว ถ้าฉันไม่อยู่ ลูกฉันจะเป็นยังไง" โรสถามอย่างโกรธ
"ผมบอกแล้วไง ว่าผมไม่ได้จะทำอะไรหนูมาลี ผมแค่ต้องการสร้างข่าวกับหนูมาลี แค่นั้นเอง"
พิสมัยตีว่าพูดออกไปทำไม
"อร๊าย ซีโร่"
"ผมหมายถึง...ล้อเล่นน่ะครับ แค่ล้อเล่นไม่ได้ลวนลามอะไรทั้งนั้น"
"ที่ว่าสร้างข่าว คือเรียกร้องความสนใจใช่ไหมคะ" มาลีถาม
"ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ ลบตรงนี้ออกไปเลย ลบๆ"
ซีโร่เครียดทันที พลาดไปแล้ว โรสยิ้มสะใจ
"สมใจแล้วมึง มาเลยมาขึ้นหน้าหนึ่งด้วยกันสามคนเลยมา แกไม่ใช่ซุปตาร์หรอก แกมันภัยสังคม !"
"ไอ้ซีโร่" ทองทาพุ่งจะเข้าไป แซนดี้ขวางไว้
"ไม่ต้องออกไป ...ทองทา แค่นี้ซีโร่ก็หมดอนาคตแล้ว"
ทองทาสงบสติอารมณ์
"สถานีเราเลือกเขามา อยากให้เขาเป็นศิลปินให้ความสุขกับผู้คนที่เขาเป็นได้ ก็แค่ตัวปลอม จบแล้ว เดอะซุปตาร์ซีซั่น 1 ที่ฉันสร้างมา"
แซนดี้มองซีโร่ที่ว้าวุ่นอยู่หน้านักข่าว

หนูมาลีเดินนำโรสกับทองทาเข้ามาเก็บของ หลังเสร็จการให้ข่าวไปแล้ว
"เรื่องนี้มันบ้าจริงๆ พรุ่งนี้ต้องกลายเป็นข่าวใหญ่แน่" ทองทาว่า
"ปล่อยให้มันเป็นไป หนูไม่แคร์ หนูอยากสั่งสอนให้คนพวกนี้หลาบจำ"
"จริง เฮ้อ เหนื่อยชะมัด กูอยากจะเป็นลม ยิ่งปวดท้องอยู่ ต้องมาบู๊กับไอ้บ้านั่น ไป กลับกันเถอะ"
โรสหิ้วของเดินออกไป
"พี่เสร็จงานแล้ว พี่จะขับไปส่ง"
แต่ด้านหลัง จู่ๆโรสเซ ล้ม หมดสติไปกับพื้น ทองทาและมาลี ได้ยินเสียงโครม หันมา ร้องลั่น
"พี่โรส.... เป็นอะไรไป"

"พ่อ"
 
อ่านต่อตอนที่ 14
กำลังโหลดความคิดเห็น