xs
xsm
sm
md
lg

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 11

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาลีเริงระบำ ตอนที่ 11

บ้านเมืองแมน บุษบาบัณยังขยันวอร์มเสียงอยู่ ยาหยี นีน่า นั่งดูคอมพิวเตอร์ตามเคย

"คะแนนวันนี้ หนูมาลีสูสีกับน้อยหน่า ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ"
"ฉันต้องการให้คะแนนหนูมาลีอยู่ที่โหล่"
นีน่าบอก
"เกลียดน่าดูเลยนะนี่ แล้วเอาไงต่อล่ะคะ"
บุษบาบัณคิดเล็กน้อยแล้วกดโทร
" คุณยายคะ คุณยายมีเพื่อนมากใช่ไหมคะ พวกทำสมาคมน่ะค่ะ มีไหมคะ"

ทีวีที่ฉายให้คนเดินห้างทั่วไปชม มีรายงานข่าว บอยกับแคที่ออกมาซื้อของเข้าบ้าน ยืนซื้อไป ดูไป

ภายในห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมเล็กๆ เป็นงานแถลงข่าวของสมาคม คุณนาย 2-3 คนใส่ชุดผ้าไหม วัยชรา หน้าตาทำผมเป็นครูโบราณ ผมตีโป่ง นั่งอ่านเอกสาร มีผู้สื่อข่าว นั่งฟังคอยจด เป็นภาพข่าว ประกอบเสียงอ่านข่าวเหมือนข่าวสั้นทั่วไป
เสียงอ่านข่าว
"สมาคมกตเวทิตา ออกโรงประณาม ผู้เข้ารอบเดอะซุปเปอร์สตาร์ น.ส. มาลี อากาศดี ที่ไม่ยอมรับพ่อตนเอง กรรมการระบุว่า คำว่าพ่อ มีความสำคัญ เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรเรียกพ่อเป็นพี่ เกรงจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน"
แคที่กับบอยยืนวิจารณ์
"โฮ้ย ข่าวใหญ่โตเหลือเกิน กับอีแค่คำเรียก ไปบอกนังโรสดีกว่า ไม่ให้เรียกว่าพี่ ให้หนูมาลี เรียกคนสวย...คนสวย อุ๊ยเดี๋ยวมันมาด่าอีกว่าเป็นเกย์ ไม่ใช่ตุ๊ด งั้นให้หนูมาลี เรียก ไอ้ถึก ไอ้ถึก"
แคที่มองเป็นเรื่องขำ บอยคิด หน้าขรึม
" พี่โรสบอกทุกคนว่าไม่สน แล้วเจ๊คิดว่า จริงๆ พี่โรส เขาอยากให้เรียกพ่อป่ะ มันไม่สำคัญจริงป่ะ"
แคที่นิ่งไป อึ้งไป น้ำเสียงจริงจัง
"หม่าม้าฉันนะ ตอนก่อนตายบอกว่าไม่เป็นไรๆ ดูแลตัวเองได้ แต่พอฉันขับรถไปหา พาไปกินข้าว โฮ้ยหน้าบานยิ้มไม่หุบไปสามวันเจ็ดวัน พ่อแม่ทุกคนก็เป็นแบบนี้"
"คำว่าพ่อสำคัญสำหรับพี่โรสสินะ"
แคที่พยักหน้าว่าใช่
"อย่าเปิดทีวีที่บ้านช่วงนี้ล่ะ ปิดๆข่าวหน่อย"
ทั้งสองหิ้วของเดินกลับบ้าน

ลำโพงออกเพลง ที่หนูมาลี จะร้องในฉากขึ้นคอนเสิร์ต มาลีซ้อมร้องเพลงๆนี้อยู่ โรสกำลังช่วยคิดท่า
"ฉันว่าต้องทำท่าแบบนี้"
มาลี ส่ายหน้าดิ๊กไม่ยอมทำตามโวยลั่น
"โฮ้ย เหมือนนางโชว์ ท่าเช้ย เชย"
"นั่นเถียงๆ งั้นเอาท่านี้"
"ก็ได้ เอาก็เอา ยังไงหนูต้องตกรอบต่อไปอยู่แล้ว"
"เอาอีกละอีนี่"
มาลีเอาหนังสือบันเทิง หน้าปกเป็นกรรมการสมาคมให้ดู ที่แท้มาลีรู้แล้ว โรสรับไปอ่านแล้วชี้บอก
"สามคนนี้ คนปัจจุบันหรือ พ.ศ.นี้หรือ มีความคิดเชยๆแบบนี้ คงกินบัวหิมะแล้วเป็นอมตะ อยู่มาตั้งแต่สมัยจอมพลป.นะฉันว่า"
"ผลจากข่าว คะแนนล่าสุดวันนี้ หนูตกลงมาต่ำสุดแล้วค่ะ ทิ้งห่างน้อยหน่าแล้ว"
มาลีกดมือถือชี้ให้ดู กราฟคะแนน จากเว็บไซต์ของสถานี
โรสกลุ้ม ดึงลูกเข้ามากอด ปลอบ
"เอาน่า ยังไงก็ต้องร้องโว้ย ต้องทำให้ดีที่สุด พรุ่งนี้แล้ว สู้ๆ"

มาลี เดินมานั่งเศร้า นอนไม่หลับ

"พี่ทองทา หนูควรจะทำยังไงดีคะ" เสียงความคิดของมาลีลั่นขึ้น

เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกับเพลงที่อัดไปแล้ว ทองทาดูที่มือถือ เห็นกราฟคะแนนของมาลีแล้วกลุ้มไปด้วย เหม่อเศร้าคิดถึงเช่นกัน

ณ สถานีเอ็มเอ็มแชนนัล วันใหม่ วันนี้เป็นวันคอนเสิร์ต ท่ามกลางบรรยากาศการเตรียมพร้อม เพราะวันนี้เป็นวันคอนเสิร์ต

แคที่ บอยเดินนำหนูมาลีกำลังจะออกไปสถานี โรสเดินตาม แต่ไม่ได้ไปด้วย
"แกเชื่อฉันเถอะ แกอย่าไปเลย ปากแก มันเชิญทั้งแขก จีน เขมร ลาว นักข่าวมันจะมารุมสัมภาษณ์แกกับหนูมาลี จนหนูมาลีไม่มีสมาธิร้องเพลง"
บอยบอก
"ผมเห็นด้วยกับเจ๊เขานะ วิธีสยบข่าวที่ดีที่สุด คือ อย่าให้ข่าวเพิ่ม ถ้าพี่ไปก็อดไม่ได้ เพราะเป็นคนฤทธิ์แยะ"
บอยเสนอหน้าแซว โรสผลักบอยเย้าแหย่กัน ตามประสาคนรัก
"ฉันกับบอยจะเป็นคนไปส่งหนูมาลีเอง แกรออยู่นี่เถอะ" แคที่บอก
"วันนี้แต่งตัวสวยนะเจ๊ ไม่ทำวัตร จะไปหานักร้องเหรอ" บอยแซวแคที่
"ไม่... นักร้องไม่ ฉันชอบ ช่างไฟ"
"ทึงโป๊ะ !"
โรสตัดใจ บอกมาลี
"งั้นฉันให้กำลังใจแกอยู่ตรงนี้นะ"
มาลีเข้าไปกอดโรส
"เรื่องข่าวพวกนั้น แกต้องลืมไปซะ แกต้องมีสมาธิกับการประกวด ถ้าแพ้ ก็แค่กลับมาเรียนต่อ"
"ได้ค่ะ พี่โรส"
"เพลงของแกพูดเรื่อง ความคิดถึง ร้องมันออกมาจากความรู้สึกนะ แกคิดถึงใครก็ร้องถึงคนๆนั้น"
"คิดถึงหรือคะ"
"ถ้าแกร้องได้ตามความรู้สึกนี้ แกก็จะได้คะแนน อาจจะไม่ตกรอบ"
มาลีเริ่มมีสายตามุ่งมั่นขึ้นมาบ้าง

ทองทานั่งอ่านเนื้อเพลง เตรียมอัดเพลงอยู่ แซนดี้ บรม คุยกับช่าง เรื่องเพลงที่อัดไป แล้วเดินมาหาทองทา
"พวกเราต้องไปเตรียมตัวออกอากาศแล้ว" บรมบอก
"เพลงที่อัดเมื่อกี๊ ขอใหม่อีกรอบนะคะ คืนนี้คงดึกหน่อย แต่เพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุด ขออีกรอบนะ เอาให้มันมีฟิลกว่านี้หน่อย นะแบบที่คุยกัน"
"ได้ครับ ผมเข้าใจ แค่เสียดายไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ต"
"เอ้าชอบหรือครับ เชียร์ใครครับ ผมไปบอกให้ก็ได้" บรมถาม
ทองทายิ้มๆ ไม่ตอบ
"ผมหวังว่าเขาจะรู้ ถึงตัวจะไปไม่ได้ แต่ใจของผม จะส่งถึงเขาเสมอ"
ทองทาดูเศร้าไป จนบรมและแซนดี้สงสัย บรมทำปากถามแซนดี้ว่า ใครอ่ะ

แซนดี้ส่ายหน้าว่าไม่รู้ ทองทาดูเซ็งๆอยู่

ภายในห้องแต่งตัว ทั้งหมดมานั่งรอแล้ว น้อยหน่าเดินไปเดินมา ภูมิ ทิมมี่ โกมินทร์ วอร์มร่างกาย วอร์มเสียงไปด้วย

ภูมิถาม
"จะเดินทำไมนักหนา คนอื่นต้องทำสมาธินะ"
"ฉันมันพวกคะแนนต่ำ ไหนจะสบายเหมือนพวกคะแนนสูงสุดอย่างเธอล่ะ"
"ทำไมต้องมาแขวะกันด้วย ฉันคะแนนสูงสุด เพราะฉันร้องดีที่สุด มันก็ถูกแล้วนี่"
"เออเก่ง เก่งแต่ไม่มีน้ำใจอย่างเธอ ระวังเถอะจะตกรอบ"
"เอ้าพูดดีๆนะ"
ทิมมี่เข้ามา
"เอ้อ ใจเย็น ใจเย็นก่อน เครียดๆกันอยู่ ทุกคนแยกกันๆ"
ช่างหน้า ช่างผมเดินเข้ามา
โกมินทร์แซว
"เป๊ง หมดยก ช่างมาแล้ว แยกก่อนนะ มาเร็วแต่งตัวกันเร็ว"
โกมินทร์ ทำตลก ยิ้มให้ทั้งสองคนเพื่อคลายความเครียด

กลุ่มมาลีลงจากรถ นักข่าวกรูกันเข้ามาสัมภาษณ์ทันที
"หนูมาลี วันนี้ไม่พาพ่อมาด้วยหรือคะ"
มาลีก้มหน้าอาย เครียด แคที่เข้าขวาง
"อ๋อวันนี้พ่อไม่มา ใช้แม่แทนได้ไหมคะ หนูมาลีนี่ ฉันตกไข่ลงมาเองเลยนะคะ ปฎิสนธิทางปีกมดลูกข้างขวาทางนี้เลยค่ะ"
"เจอข่าวขนาดนี้ ยังเรียกพ่อว่าพี่อยู่หรือเปล่าคะ"
แคที่ดึงไมค์มา จับมือนักข่าวที่ถือไมค์ทุกอัน มาตอบเอง ทำให้นักข่าวทั้งหมดไปไหนไม่ได้ ถูกแคที่จับมือไว้ ตามมาลีไม่ได้
บอยกระซิบมาลี
"เดินไป อย่าหยุด"
บอยรีบรุนหลังมาลีไป แคที่เสนอหน้าตอบ
" ขอบคุณค่ะที่ให้ความสนใจเรื่องในครอบครัวของเราขนาดนี้ แต่อยากให้คนถาม กลับไปสนใจเรื่องครอบครัวตัวเองก่อนดีไหมคะ ครอบครัวใคร ครอบครัวมันต้องจัดการเอง ดูแลเอง "
นักข่าวพยายามดิ้น แต่แคที่ดึงไว้
"ปล่อยค่ะ"
"ที่มายุ่งเรื่องชาวบ้านเขาเนี่ย ร้อยทั้งร้อย อิจฉาค่ะ ไม่ดีนะคะ ธรรมสุภาษิตกล่าวไว้อรติ โลกนาสิกา (อะระติ โลกะนาสิกา) ความริษยาเป็นเหตุทำโลกให้ฉิบหาย ....สาธุ"
นักข่าวพยายามดึงมือออก แคที่ก็ยังดึงไว้ เป็นที่วุ่นวายกองกันอยู่ตรงนั้น

ภายในห้องแต่งตัว มาลี กับบุษบาบัณนั่งคนละมุม ทำผมแต่งหน้ากันอยู่ ลูกสาวเจ้าของสถานีมองมาลีด้วยความเกลียด เธอมองตอบ
สต๊าฟถือช่อกุหลาบแดงมา
"มีคนให้มาส่งครับ ของคุณหนูมาลี"
หนูมาลียิ้ม นึกว่าทองทา
"จากใครคะ"
ซีโร่เข้ามา
"พี่เองจ้ะ"
มาลีหุบยิ้ม เศร้า
"หน้าเหี่ยวเชียว รอดอกไม้ใครหรือ" บุษบาบัณถาม
มาลียิ้มแห้งให้ซีโร่
"ขอบคุณค่ะ พี่ซีโร่"
"ถ่ายไปลงสักร้อยรูป ก็คงช่วยข่าวเรื่องเด็กอกตัญูไม่ได้หรอก"
ซีโร่ทำเป็นไม่ได้ยิน ทำเป็นไม่มองบุษบาบัณ ไม่สนใจ เข้าไปแตะไหล่มาลี
"สู้ๆนะ"
ซีโร่ทำเหมือนจะออกไป ระหว่างหันหลังก็ทำมือ ทำสีหน้า ให้บุษบาบัณตามออกไป มีเรื่องคุย โดยที่มาลีไม่เห็นว่าซีโร่ขอคุยกับบุษบาบัณอยู่
บุษบาบัณเดินตามซีโร่มา แล้วโวยวาย
"ชอบเด็กนั่นจริงหรือ"
ซีโร่ทำหน้านิ่งๆ ไม่ตอบ
"หนูมาลีเจอแอนตี้ขนาดนี้ คะแนนร่วงไปที่โหล่ วันนี้ต้องออกจากการแข่งขันแน่นอนแล้ว จะเอาตัวไปพัวพันทำไม"
"เมื่อกี๊ผมถ่ายรูปที่ไหนกัน ช่วงนี้เขาหาว่าผมไม่จริงใจก็ต้องเอาใจเขาหน่อย เกิดเขาไม่พอใจแฉนักข่าวขึ้นมา ผมก็ซวย"
"แปลว่า ไม่อยากทำข่าวกับยายนั่นแล้วใช่ไหม"
"โดนสังคมประณามซะขนาดนั้น ไหวหรือคุณ ผมว่าจะคุยกับคุณ เรื่องข่าวของเราสองคน ที่เพิ่งเปิดประเด็นไป ยังไม่ต่อเนื่องพอ ผมว่าเรา"
ซีโร่เดินเข้าไปใกล้ ยกมือถือมาเหมือนจะถ่ายรูปคู่
"นี่ออกไปเลย ไม่ต้องมาใกล้ ทำข่าวคู่กัน แต่ฉันต้องทำท่าว่าชอบคุณก่อนอีกแล้วใช่ไหม"
"จะใครก่อน ใครหลัง เราก็ได้พื้นที่ข่าวเหมือนกันนั่นแหล่ะน่า"
"คุณจะไม่ทำข่าวร่วมกับยายนั่น ไม่ช่วยยายนั่นอีก แน่นะ"
"คงต้องใส่เกียร์ถอย ถอยห่างออกมาแล้วล่ะคุณ"
"งั้นก็ได้"

บุษบาบัณยิ้มออกมาเป็นฝ่ายเข้าไปเกาะแขน ถ่ายรูปด้วยมือถือของตนเอง เพื่อสร้างข่าวว่าเป็นแฟนกันต่อไป ทั้งสองยิ้มเกาะกัน แนบชิด ถ่ายรูปไปสองสามรูป

ทีมงานเตรียมการถ่ายทำที่ทีวีจอยักษ์ที่ห้องโถงเหมือนทุกครั้ง ทีมงานทำมือให้สัญญาณเริ่มออกอากาศ พิธีกรส่งเสียงสวัสดีพร้อมกัน

พิธีกร 1บอก
"สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งสำหรับคอนเสริต์เดอะซุปเปอร์สตาร์ซีซั่นสอง"
พิธีกร2บอก
"เหมือนเช่นทุกครั้งนะคะ คืนนี้ผู้ที่ได้คะแนนโหวตน้อยที่สุดจะต้องออกไปจากการแข่งขัน1 คน เพราะฉะนั้นรีบโหวตกันเข้ามานะคะ"

ภูมิร้องเพลง เต้นเป๊ะมาก ความสามารถเหมือนเดิม บรมแซนดี้พอใจ ปรบมือ

เด็กๆ นั่งดูทีวีกับพ่อแม่อยู่ในห้าง ในศูนย์อาหาร ต่างกดโหวตกัน

ภายในห้องแต่งตัว แคที่เดินเข้ามาหา บีบนวดหนูมาลี ที่แต่งตัวเสร็จแล้ว
"อย่าทำหน้าเครียดนักสิแก"
บุษบาบัณเดินมาหา
"เป็นศิลปินมีแรงร้องเพลง เพราะเสียงปรบมือ วันนี้เธอจะร้องเพลงได้ยังไงท่ามกลางการประนามจากสังคม ฮึ ฉันจะร้องเพลงจนสุดพลังในวันนี้ เพราะเธอจะร้องเพลงห่วยสุดๆ พูดเลย"
มาลี เครียดยิ่งขึ้นได้แต่มองหน้าแล้วเดินออกไป บุษบาบัณเยาะตาม แคที่จู่ๆโวย
"อุ๊ยอะไรเหม็นๆ"
แคที่มองหาที่พื้น บุษบาบัณมองตาม
"อะไรเหม็น "
แคที่ชี้หน้า
"อ๋อ อยู่นี่ คนหน้าสวย ใจเน่า... เหม็นเชียว !"
แคที่สะบัดหน้าพรืดออกไป บุษบาบัณตกใจ ด่าตามไม่ทัน
"โอ๊ย อีป้านี่ เดี๋ยวเถอะ ไม่ได้แก่ตายหรอก"

มาลีเดินมามองสถานีฯ ไปรอบๆ
"มันจะตัดกำลังเรา อย่าไปฟังมันนะ"
"คะแนนห่างขนาดนี้ ร้องดียังไงก็สู้ไม่ไหวหรอกเจ๊ หนูแค่อยากมาอำลา สถานีแห่งนี้ อำลาทุกอย่างที่พาหนูมาถึงตรงนี้"
"พระท่านว่าชีวิตนี้น้อยนัก จะแพ้หรือชนะก็เป็นกำไรนะแก"
มาลีมองไปรอบๆ รวบรวมจิตใจ
"ใช่ จะแพ้หรือชนะ ทุกอย่างก็เป็นความทรงจำที่ดี หนูจะร้องเพลงรอบสุดท้ายนี้ให้ดีที่สุด"
มาลี ดูดีขึ้นพยายามให้มีกำลังใจขึ้น

ทิมมี่ร้องเพลง ชาวบ้านที่เฝ้าร้านไป ดูทีวีไป กดโหวตไป เพราะชอบทิมมี่

โกมินทร์ร้องเพลงลูกทุ่ง บรมกับแซนดี้มองหน้ากัน แซนดี้ส่ายหน้าให้บรมดูว่าไม่ชอบ วันนี้ร้องไม่ดี

พ่อค้าแม่ค้ารุมดู วิจารณ์กัน
"ร้องไม่ค่อยดีนะ สู้ต้นฉบับไม่ได้"

พิธีกร 1บอก
"คะแนนโกมินทร์ยังวิ่งเข้ามานะคะ ยังอยู่อันดับสาม ที่หนึ่งยังเป็นภูมิที่สองทิมมี่"
พิธีกร 2 บอก
"ที่สามเป็นโกมินทร์ ที่สี่เบล ที่ห้าน้อยหน่า และรั้งท้ายคือหนูมาลี หลายวันมานี่ คะแนนของหนูมาลีอยู่รั้งท้ายสุด คะแนนของหนูมาลีกับน้อยหน่าห่างกันเยอะอยู่นะคะ คนที่น่าห่วงที่สุดตอนนี้ก็คือหนูมาลี"

ในห้องแต่งตัว ภูมิ ทิมมี่ร้องเสร็จแล้วนั่งดูทีวีห่างไป น้อยหน่าแต่งตัวเสร็จแล้ว หลับตาเสียงความคิดว่า
"วันนี้แค่ร้องให้ดี เราก็รอดแล้ว ยายหนูมาลีต่างหากที่ต้องตกรอบ"
สต๊าฟเดินมาตามมาบอก
"คุณน้อยหน่า สแตนบายค่ะ"
น้อยหน่าเดินออกไป

บุษบาบัณร้องเพลงอยู่ เป็นเพลงเต้น โชว์พลังและสเต็ปได้ดี บรมและแซนดี้ หันมามองกันว่า ร้องดีมาก !!
พิธีกรสรุปคะแนนออกอากาศ
พิธีกร 1บอก
"มาดูคะแนนคุณเบลกันนะคะ"
พิธีกร 2 บอก
"คะแนนดีมาก โห ดูสิ อันดับเปลี่ยนแล้วค่ะ คะแนนโหวตเบลมากกว่า โกมินทร์แล้ว คุณเบลขึ้นเป็นที่สามแล้วนะคะ"
"ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ คะแนนคุณเบลขึ้นแล้ว วันนี้คุณโกมินทร์ร้องเพลงพลาดไปหน่อย หล่นจากที่สามเลย"
ยาหยี นีน่าดีใจมาก ยืนดูอยู่ แทบกรี๊ดออกมา แอบตีมือกัน

น้อยหน่าขึ้นร้องเพลง เมียหลวงของคุณอาหน้าถมึงทึง จู่ๆก็เดินเข้ามาในสตูดิโอ มายืนแถวหน้า ประจันหน้ากอดอกมองน้อยหน่าราวกับจะฆ่า
น้อยหน่าชะงักทันที เสียสมาธิ หยุดร้องเพลงไปเฉยๆ
"เฮ้ย หยุดอีกคนแล้วหรือ" บรมว่า

โยทะกาดูแลการออกอากาศอยู่ตกใจ
"ลืมเนื้อ ! ตัดไปที่แดนเซอร์ก่อน เดี๋ยวคงนึกออก"

น้อยหน่ายังหยุด เมียหลวงชี้หน้าตะโกนด่า
"อีเมียน้อย อีเมียน้อย ยังมีหน้าจะเป็นซุปตาร์อีกหรือ"
บรมบอกเจ้าหน้าที่ข้างหลัง
"ซวยแล้ว นั่นๆ ไปเอาตัวออกมาเร็ว"
น้อยหน่ายังยืนงงหน้าซีด มองเมียหลวง ภาพทีวีได้แต่ถ่ายแดนเซอร์เต้นอยู่
แซนดี้ทำมือส่งซิกน้อยหน่า
"น้อยหน่า ร้องต่อๆ"
เมียหลวงควักรูปที่นีน่าถ่ายไว้ใบเบ้อเร่อเอาออกมาโชว์
"ใครส่งมาที่บ้านฉัน... แกหรือ จะโชว์ จะเยาะเย้ยฉันหรือ ส่งรูปนี้มาเนี่ยอยากได้ อยากโดนใช่ไหม มาแล้วนี่ไง จัดมาแล้วนี่"
สต๊าฟเข้ามาดึงเมียหลวงที่ยิ่งตะโกนด่าหนักขึ้น
"มึงแย่งผัวกู หลอกเงินผัวกูไปเท่าไหร่แล้ว ยังหวังจะเป็นซุปตาร์สวยเก๋หรือมึง อย่าหวังเลย กูจะเอาเรื่องมึงให้ถึงที่สุด"
น้อยหน่าร้องไห้โฮ ทิ้งไมค์วิ่งออกไปเลย
ห้องคอนโทรล โยทะกาบอก
"ตัดเข้าโฆษณา ตัดไปเลย"
ในห้องสตูดิโอออกอากาศ
บรมบอก
"ไปแล้ว ไปจนได้ ทิ้งไมค์อีกคนแล้ว"

"โฮ้ย ฉันล่ะเกลียดรายการนี้จริงเชียว วุ่นวายจริง !" แซนดี้บอก
 
อ่านต่อหน้า 2

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 11 (ต่อ)

พิธีกร ต้องบอกความจริงออกอากาศ

พิธีกร 1บอก
"เกิดเหตุขัดข้องบางประการนะคะ น้อยหน่า ร้องไม่จบเพลง ตามกติกาของเรา ก็เท่ากับน้อยหน่าขอลาออกจากการแข่งขันค่ะ"

แคที่ดีใจมาหาหนูมาลีที่นั่งเศร้า รอขึ้นร้องเพลง
"แกแก... กัมมุนาวัตตติโลโก"
"อะไรของพี่เนี่ย"
"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม น้อยหน่ามันทิ้งไมค์ โอกาสเป็นของแก"
มาลียิ้มมีหวัง

ทองทาเข้าประจำที่ในห้องอัดเสียง เตรียมร้องแล้ว จู่ๆก็ตัดใจ ขอร้องเจ้าหน้าที่บางอย่าง
"พี่ครับ ผมร้องไม่ดีแน่ ผมขอเปลี่ยนเพลงดีกว่า"
"เอ้าหรือครับ จะเปลี่ยนเป็นเพลงอะไรครับ"
"เพลงที่เขาให้ผมร้อง cover เพลงเก่าน่ะครับ"
"เอ ถ้าอย่างนั้นรอคุณแซนดี้ก่อนดีไหมครับ"
"ไม่ต้องหรอกครับ เพลงนี้ผมมั่นใจ ครูแซนดี้ต้องให้ผ่านเพราะผมร้องด้วยอารมณ์เต็มเปี่ยม"
ทองทายังอยู่ในอารมณ์คิดถึงมาลีเต็มเปี่ยม

มาลี สแตนบายข้างเวที หลับตาคิดถึง คำสั่งของพ่อ
"เพลงของแกพูดเรื่อง ความคิดถึง ร้องมันออกมาจากความรู้สึกนะ แกคิดถึงใครก็ร้องถึงคนๆนั้น"
มาลีร้องเพลง คิดถึง - มีฟ้า มีดาว มีเธอ ด้วยอารมณ์คิดถึงทองทาสุดๆ
"มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง อยู่ทุกครั้งที่มองดาว มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง เรื่องวันวานและฝันของเรา มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง และบ่อยครั้งก็ทำให้เหงา คิดถึงเธอ....คิดถึงเธอ หวังว่าเธอคงสุขดี อยู่ตรงนั้นเจอสิ่งดีดี ฉันคงมีเพียงสิ่งเดียวทุกวัน
เฝ้าแต่คิดถึง ได้แต่คิดถึง สิ่งที่สองเราเคยมี เฝ้าแต่คิดถึง ได้แต่คิดถึง นึกทีไรก็ยิ้มทุกที"

ทองทาในห้องอัดเสียงร้องเพลงเดียวกับมาลี ด้วยความรู้สึกเดียวกัน ทั้งคู่ แม้จะแยกกันร้อง คนละสถานที่ แต่แสดงความรักที่มีต่อกันมากมาย ความคิดถึงเต็มเปี่ยมในหัวใจ ในสายตาของคนทั้งคู่

โรสหงุดหงิดหน้าตายุ่งเหยิงโวยใส่บอย ที่บ้านแคที่

"ปรับความเข้าใจที่ดาดฟ้า ดึกๆเนี่ยนะ"
"ทำไมหรือพี่"
โรสตีแขนบอยเป็นจริงเป็นจังหลายหน
"นี่แน่ะๆๆ"
"โฮ้ย ผมเจ็บ"
"มันเพิ่งร้องเพลงฟิเจอริ่งกันตอนค่ำ แล้วถ้าดึกๆ มันฟิเจอริ่งอย่างอื่นล่ะ"
"ผมบอกแล้ว อีกหนึ่งชั่วโมงต้องมาส่ง ผมสั่งเลยนะ สั่งจริงๆ"
โรสเดินไปมาอย่างว้าวุ่น
"ฮึ่ย ... ไอ้ทองทา แกนะแก"
"เอ๊า นังนี่ ตอนเขาทะเลาะกัน ก็ไปช่วยเขาคืนดี นี่พอเขาดีกันก็โกรธอีก ผีเข้าผีออก ลักษณะจะสับสน เดี๋ยวรุก เดี๋ยวรับนะเนี่ย" แคที่บอก
บอยเดินไปดูที่ประตู
"นั่นๆมาแล้ว ไม่ต้องกลัวแล้ว"
รถของทองทาวิ่งเข้ามา โรสและแคที่ ตามไปแอบดูด้วย
"ไหนดูเด๊ะ" โรสว่า
สามหัวรุมดูกันเบียดกันอยู่มุมหนึ่งเพราะกลัวทองทาเห็น
แคที่ด่าโรสที่เอาหน้ามาซะใกล้
"โอ๊ยมาเบียดทำไม เดี๋ยวจูบปากให้ถ่านไฟเก่าคุเลย"
ทองทาลงมาจากรถพร้อมมาลี พูดสั่งลากันเล็กน้อย ห่างๆ ไม่ได้รุ่มร่าม
"จูบลากันป่าววะ แตะลูกกูนะ จะเอาเอ็มเจ็ดสิบเก้ามายิงให้ไส้ไหลเลย"
สามหัวยังสุมรวมกันวิพากษ์วิจารณ์
มาลีกับทองทายิ้มแย้มบอกลากัน มือไม่แตะกันด้วยซ้ำ
"ไม่มีเห็นไหมเล่า มือยังไม่จับเลย" บอยบอก
มาลีเดินเข้าบ้าน ทองทามอง โบกมือทักทายบรรดาพี่ๆ
"เฮ้ พี่ๆ"
สามคนหลบวูบกันลงไป หัวชนกันเละเทะ กองนัวเนียกันอยู่ วุ่นวายด่าทอ
"โอ๊ยเจ็บ" บอยบอก
"อีเจ๊เหยียบตีนกู ออกไป๊" โรสว่า
ทองทาเพ่งมองหัวเราะออกมา เมื่อเห็นสามคนที่วุ่นวายกันอยู่

วันใหม่ สตูดิโอ ในสถานีฯ ทองทาในชุดหล่อกำลังจะถ่ายแบบปก g-kฟังบรีฟจากช่างช่างภาพอยู่
ทีมงานกลุ่มหนึ่งรุมดูที่หน้าคอมพ์ ดูบางอย่างอยู่ เพราะช่างภาพยังไม่ถ่าย งานยังไม่เริ่ม
โยทะกาเดินเข้ามา ทีมงานสะกิดบอกกัน
"เฮ้ย คุณโยมา"
ทุกคนแตกกระจายกัน มีคนหนึ่งรีบกดเปลี่ยนหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นไปที่รูปทองทาที่ช่างภาพเริ่มถ่ายและส่งเข้ามา
"ขอดูหน่อยจ้ะ"
โยทะกาเข้ามาขอนั่งหน้าคอมพ์ เจ้าหน้าที่ลังเล แต่ก็ยอมลุกให้ หน้าจอมีรูปของทองทาที่ถ่ายอยู่ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามที่ช่างภาพกดถ่าย
ทีมงานบอก
"คุณทองทาดูมืออาชีพมากเลยนะครับ"
ทุกคนชื่นชมทองทาและภาพถ่ายที่ได้มา
โยทะกามองที่หน้าจอ แล้วสังเกตอะไรบางอย่าง เลยกดดู ไปเจอรูปเมืองแมนกอดกับจ๋า บนหน้าเฟสบุ๊กของเลขาจ๋า ซึ่งคือสิ่งที่กลุ่มทีมงานนั่งรุมดูกันอยู่ ก่อนหน้านี่เอง
โยทะกาหน้าซีด มองไปรอบๆคนอื่น สต๊าฟทุกคนหลบตาวูบ เพราะดูรูปนี้กันหมดแล้ว เธอหน้าซีดมือไม้สั่น เพราะไม่ใช่คนเข้มแข็งมากนัก โยทะกาทนไม่ไหว ลุกเดินออกไป ทองทามองมาพอดี เห็นความผิดปรกติ
"คุณโย"

ทองทาหันไปมองหน้าจอที่มีรูปคาอยู่ ทองทาเซ็ง เดินตามไป

โยทะกาเดินออกมานั่งร้องไห้เพราะความอายลูกน้องตัวเอง

"ผู้หญิงคนใหม่หรือ"
โยทะกาพยักหน้า
"เขาเป็นเลขาคนสนิทของพี่เอง"
ทองทาส่ายหน้า แค้นพ่อตัวเอง
"ไม่มีเกรงใจกันเลยสินะ แล้วภาพหลุดออกมาได้ยังไง"
"รูปจากเฟสบุ๊กของผู้หญิงคนนั้น เขาจงใจปล่อยภาพออกมาให้เพื่อนๆเขาดู ส่วนใหญ่ก็คนในสถานีนี่แหล่ะ"
"ต้องการโชว์ แสดงความเป็นเจ้าของ"
"เมื่อก่อน คุณเมืองแมน เชื่อพี่มาตลอด ไม่ยุ่งกับคนงาน ไม่ยุ่งกับศิลปินของบริษัท แต่เขาเหมือนยิ่งแก่ยิ่งหิว ยิ่งเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยขึ้น โดยไม่ยั้งคิดว่า ผู้หญิงพวกนั้นจะมาจากไหน"
"เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น ไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไงทั้งนั้น"
"นี่เป็นสิ่งที่พี่เกลียดที่สุด การเป็นตัวตลกในบริษัทของตัวเอง"
จู่ๆ บุษบาบัณก็เดินมาร่วมวง ด้วยวาจาเชือดเฉือนสายตาเย็นชา
"เมื่อก่อนแม่ของเบลก็โดน"
ทองทาปราม
"เบล !"
"คุณยายเล่าว่าคุณพ่อไปคบกับนางงามเป็นข่าวไปทั้งประเทศ เพราะนางงามคนนั้นยังอยู่ในตำแหน่ง กำลังดังสุดๆ คุณแม่คงรู้สึกเหมือนคุณเวลานี้ เป็นตัวตลกของคนทั้งประเทศ"
"ตอนนั้นฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเขามีเมียแล้ว"
เธอรุกไล่ จนโยทะกาถอย เพราะสะอึกในความจริง เธอกำลังทำร้ายโยทะกาด้วยสายตาและวาจาให้เจ็บปวดมากขึ้นทุกที
"แต่ต่อมา ยายก็ตามบอกคุณ แล้วคุณทำยังไง"
"ฉันพยายามเลิกแล้ว"
บุษบาบัณตะโกนด่าด้วยความเกลียดจริงจัง
"แต่ก็เลิกไม่ได้ ! ….ทุกครั้งที่คุณเจ็บ นึกถึงแม่พี่ทองทาที่เป็นบ้าไป นึกถึงแม่ฉันที่กินยาตาย นึกเอาไว้ ผู้หญิงที่แย่งของคนอื่น สักวันก็จะถูกแย่งไป ! นี่คือกรรมสนอง"
ทีมงานบริษัทคนสองคนได้ยินเสียงบุษบาบัณ โยทะกามองเห็นพนักงานพวกนั้นยิ่งละอาย
"ฉัน ฉันแค่..."
"พอแล้ว มานี่เลยมานี่"
ทองทาลากน้องสาวออกไป โยทะการ้องไห้ รีบเดินออกไปจากตรงนั้น ทีมงานมองตามซุบซิบที่ผู้บริหารทะเลาะกัน

ทองทาลากน้องสาวมานั่ง แล้วด่า
"แม่เธอตายไปแล้ว ด่าเขาแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา...หา"
"เตือนสติไง การตายของแม่เบลต้องมีค่า"
"ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน"
"ยายยังบอกอีกนะ พ่อของเราน่ะ ไม่เคยรักเราจริง เขาใช้ประโยชน์จากเมีย จากลูก เราต้องใช้ประโยชน์จากเขาบ้าง เบลต้องเป็นที่หนึ่ง เป็นซุปตาร์ ส่วนพี่ทองทา ต้องยึดสถานีนี้เอาไว้ ก่อนที่เมียใหม่ ลูกใหม่จะมายึด เข้าใจไหม"
"บ้าสิ ผลประโยชน์อะไรกัน เธอโตแล้ว หัดคิดเองบ้าง ไม่ต้องไปเชื่อยายทั้งหมดหรอก หัดเห็นใจสงสารคนอื่นบ้าง"
"เบลเชื่อยาย เราสองคนเกิดมาเพราะตัณหาของผู้ชายคนหนึ่ง กับความโง่ซื่อบื้อของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ไม่มีใครรักเราจริง"
"เบล นี่เธอโตมาแบบไหนกันเนี่ย"
"ในเมื่อไม่มีใครรักเรา เราก็ไม่ต้องไปรักใคร พี่ทองทา เราดูแลกันเองสามคน ยาย เบลแล้วก็พี่ เรามีกันแค่นี้ก็พอ อย่าทรยศกันก็พอนะพี่"

ทองทามองน้องสาวอย่างผิดหวังมาก ยิ่งโตเธอยิ่งแสดงด้านร้ายในตัวตนมากขึ้นทุกที เธอไม่มีความรักให้พ่อ ให้ใครอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้กลายเป็นคนชั่วร้ายมากขึ้นในอนาคต

โรสนั่งดูเอกสารเรื่องเงิน สมุดธนาคารเหมือนที่เคยทำ พร้อมกับถอนใจเรื่องหนี้สินเหมือนเคย บอยเพิ่งวางโทรศัพท์เดินมาบอก

"พี่ข้างบ้านเขาโทร.มาบอก นังกะทกรกมันทวงหนี้ไม่ได้ โมโหใหญ่ มันขู่ว่า ถ้าพี่ไม่เอาเงินมาจ่าย มันจะมาพังประตู ยึดของในร้าน ของที่บ้าน"
"ได้ไงวะ แบบนี้มันขโมยกันชัดๆ ลองมันมาสิ พ่อจะจับหัวกระแทกโถส้วมเลยคอยดู"
"ตอนเราไปกู้ เราสัญญากับเขาเอง นี่เราผิดนัดเขามาเป็นเดือนแล้วพี่"
"เรื่องหาคนเช่าร้านต่อล่ะ ไม่มีใครสนใจเลยหรือ"
บอยส่ายหน้า
"ในเมื่อหาคนเช่าต่อไม่ได้ เราก็ต้องกลับมาเปิดร้านเอง"
"หาค่าดอกให้เขาได้ แต่หนี้มากขึ้น ...มากขึ้น เฮ้อ ผมเบื่อแบบนี้ที่สุด เราไม่มีหนทางอื่นเลยหรือพี่"
โรสคิดหนัก

วันใหม่ มาลีเก็บห้องรับแขกอยู่ ทองทาเดินออกมา ตื่นเรียบร้อยแล้ว
"อุ๊ย หนูปลุกพี่หรือเปล่าคะ ... รกมาก ทนอยู่เข้าไปได้ไง"
ทองทายิ้ม มองมาลีไม่วางตา ด้วยความรักอยู่ห่างๆ
"บ้านค่อยกลับมาเป็นบ้าน ชีวิตได้กลับมาเป็นชีวิต …พี่รักหนูที่สุด"
"หนูมาลีก็รักพี่ทองทาจ้ะ"
สายตาทองทาดูเคลิ้มๆ จากความรักลึกซึ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นเสน่หา
"เราจะรักกัน ดีต่อกัน ชุดสวยเชียว อกเป็นอก เอวเป็นเอว !"
"หา…"
แป่ว! ทองทาสะดุ้งพรวด สติคืนมา
"เอ้อ พี่หมายถึง ชุดนี้เหมาะกับหนูน่ะ สวยดี แค่นั้น"
มาลีค่อยคลายใจหันไปทำงานต่อ ทองทาเกาหัว ตัวเราเป็นอะไรไปนะ

เวลาผ่านในวันเดียวกัน
"เฮ้อ บ้านสวยแล้ว ดีใจดีใจ"
ทองทามีความสุขกับการมอง อาการค่อนข้างหนัก เห็นมาลีปรบมือดีใจ ก็ยิ่งเคลิ้ม
"ยิ่งหัวเราะยิ่งสวย"
มาลีวางยกแจกันที่จัดเพิ่งเสร็จ มาวางบนโต๊ะตรงหน้าทองทา
"ดอกไม้สักนิด ดูนุ่มนวลขึ้นเยอะเลยเนอะ"
มาลีเดินมาหายืนใกล้ๆ ทองทาเลยเคลิ้มหนัก มองมือ มองแขน
"ผิวนุ่มนวลจริงๆด้วย"
มาลีหยิบของบนโต๊ะนั้นมาจัดการ
"จุดเทียนหอมสักนิด จะได้คลายเครียด"
มาลีหยิบเทียนสองชิ้นขึ้นไปให้ดม
"กลิ่นนี้ หรือกลิ่นนี้ดีคะ"
"กลิ่นนี้ ดีที่สุด"
ทองทาดึงหนูมาลีมากอด แล้วหอมมือที่ถือเทียน อย่างอ่อนโยน
"หอมจัง"
มาลียิ้มแห้ง เขินอาย พยายามดึงตัวออก เรียกเตือนสติ
"พี่คะ พี่"
ทองทาสะดุ้งปล่อยมาลี ยิ้มแห้ง ขอโทษ พร่ำพูดถึงความตั้งใจเดิมที่เคยลั่นวาจาไว้
"หนูเป็นผู้หญิง พี่เป็นผู้ชาย เพราะความรักคือการให้เกียรติ พี่จะระมัดระวังมากขึ้น" ทองทาหลับตา พยายามระงับใจบอกกับตัวเอง "ท่องไว้ๆ"
มาลีโล่งใจ
อธิในชุดตำรวจเดินเข้ามา
"พี่อธิ"
"เรื่องการะเกด… ฉันจนปัญญาว่ะ แกเป็นครูของการะเกด แกช่วยหน่อยได้ไหมวะ"
มาลีกับทองทางง
"การะเกดทำไมวะ"
ปมที่การะเกดถูกวานิชข่มขืนและพูดใส่หน้าว่า หลงรักตั้งแต่ตอนร้องเพลง ทำไม เธอไม่คิดจะร้องเพลงอีกเลย แม้น้องชายจะขอร้องก็ตาม
"การะเกดไม่ยอมร้องเพลงอีกเลยหรือ"
อธิพยักหน้า
"นายวานิชเขาบอกว่า เขาชอบการะเกดตอนร้องเพลงน่ะค่ะ เป็นความทรงจำอันเลวร้ายของการะเกด"

ทองทาเครียด จะทำยังไงดี

ณ ห้องอัดเสียง เจ้าหน้าที่กำลังมิกซ์เพลงกับแซนดี้ ทองทายังนั่งคิดเรื่องการะเกด

"เพลงกำลังจะเสร็จหมดแล้ว คุณทองทาดีไซน์ท่าเต้นให้พี่ดูหน่อยได้ไหม อยากคุยกันก่อนน่ะ"
"ครูแซนดี้ครับ ครูมีวิธีแก้ไขคนที่ไม่ยอมร้องเพลงไหมครับ"
"อะไรนะ"
"มีคนๆหนึ่ง เขารักการร้องเพลงเหมือนพวกเรา แต่แล้วพอวันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้น เขาถูกทำร้ายทางจิตใจอย่างแรง เขาไม่ยอมร้องเพลงอีกเลย"
"โอ น่าสงสารจริง คนที่ไม่เคยร้องเพลง น่าสงสาร น่าสงสารที่สุด"
"ผมเป็นครูเขา ผมทิ้งเขาไม่ได้ แต่ต้องหาวิธีสอน"
"สิ่งที่สนับสนุนดนตรี คือความรัก" แซนดี้บอก
"ความรัก"
"ให้ความรักสร้างดนตรี และให้ดนตรีสร้างความรัก เขาถึงบอกว่า สุนทรียะสร้างคนได้ ถึงได้มีวิชาดนตรีบำบัดไง"
ทองทาครุ่นคิดต่อ
"ผมเคยสอนให้เขารักตัวเอง รักคนอื่น"
"กับคนป่วย เราต้องเอาความรักของคนอื่นมาเยียวยา ต้องใช้ความรักของคนอื่น มาให้กำลังใจเขา ทำให้เขาร้องเพลงอีกครั้ง"
ทองทายิ้มออกมา นึกออกแล้ว

ดึกมาแล้ว เสียงออดหน้าบ้านดังมาก
แคที่ในชุดนอนเดินนำทองทาที่มาหากลางดึก โรส บอย มาลี พลอยตื่นขึ้นมาหมด เดินจากห้องตัวเองมาสมทบ
"เห็นไหม ตื่นกันหมดบ้านเลย ตีสองแล้วนะตีสองแล้ว ทีหลังมานะ ไม่ต้องกดออด เดินมาเงียบๆ ห้องข้างบน สุดทางด้านขวา เข้าไปเลย ฉันจะแหก...รออยู่"
"แหกอะไรเจ๊" บอยถาม
"แหกตาไง แหกตารอ"
บอยยิ้มๆ ทองทาก็ยิ้มๆตลอดที่ถูกด่าเพราะ คิดแผนออก กำลังดีใจ เลยไม่แคร์ที่ถูกด่า
"ขอโทษทุกคนด้วยครับ พอดี ผมเพิ่งเสร็จงาน"
"พี่ทองทา มีเรื่องด่วนอะไรหรือคะ" มาลีถาม
"พี่หาวิธีช่วยการะเกดได้แล้ว แต่เราทุกคนต้องช่วยกันนะครับ โดยเฉพาะ พี่โรสและพี่บอย เรากลับไปที่ร้านของเรากันนะครับ"
โรสกับบอยงงมองหน้ากัน

อธิจอดรถหน้าบ้าน การะเกดเดินมาหา
"ลางานมาหรือคะพี่"
"เพิ่งออกเวร ขับมาตั้งแต่เมื่อคืน ตกลงจะไม่ใช้เลยใช่ไหม มือถือน่ะ"
การะเกดยิ้มแห้ง
"ไม่ได้ชาร์ตแบตค่ะ"
"ไม่มีใครติดต่อเกดได้เลยสักคน พี่โรส คนที่มีบุญคุณกับเกด อยากคุยด้วย เขาต้องการความช่วยเหลือ"
"พี่โรสหรือคะ"
"ตอนเกดลำบาก พี่โรสถึงกับยกร้านให้ซูซี่ เพื่อหาเงินมาช่วยเกด ตอนนี้ ถ้าพี่เขาขอความช่วยเหลือ เกดคงยินดีช่วยเขาใช่ไหม"

"ยินดีสิคะ ยินดี ว่าแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือคะ"
 
อ่านต่อหน้า 3

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 11 (ต่อ)

สภาพร้านเซอร์ไพร์สยังถูกปิดอยู่ โรส การะเกดและมาลี ยืนมองร้านด้วยความคิดถึง

" มีคนๆหนึ่ง เขาอยากดูการแสดงของแก"
"ของหนูหรือคะ"
"เขาบอกให้ฉันจัดมินิคอนเสิร์ตที่ร้าน"
"เขาเป็นใครคะ"
"แฟนคลับแกมั้ง เขาจ่ายเงินล่วงหน้ามาแล้ว ฉันอยากได้เงินก้อนนี้ ไปจ่ายหนี้นังกะทกรกที่มันมาตามทุกวัน ก็เลยต้องตามแกกลับมาร้องเพลง และที่สำคัญ ต้องเปิดร้านนี้อีกครั้ง !"
"หนูร้องไม่ได้ ให้หนูมาลีร้องเพลงแทนได้ไหมคะ"
"พี่โรสเสนอเขาแล้ว เขาไม่เอา เขาบอกว่า ต้องการเกดเท่านั้น แหม ดังนะนี่ มีแฟนคลับกระเป๋าหนักซะด้วย" มาลีบอก
การะเกดว้าวุ่น รถบอยเข้ามาจอด ทุกคนลงจากรถ
"ใครเอ่ยกลับมาแล้ว"
มาลีวิ่งเข้าไปกอด
"ลุงบุญมา ป้าสมศรี คิดถึงจัง"
"ข้าก็คิดถึงเอ็ง โฮ้ย บ้านนอกไม่ไหวเงียบเกิน สงบแต่ไม่สนุก" บุญมาบอก
"คันมือโว้ย คันมือ กะทะ ตาหลิวกูอยู่ไหน ไมโครโฟนด้วย จัดมา จัดมา" สมศรีบอก
ทุกคนหัวเราะ
"นี่เอาจริงหรือคะ" การะเกดถาม
โรสจับที่ป้ายปิดปรับปรุง ดึงออกมา
"ลงมือกันได้แล้ว ทำความสะอาดเปิดร้านใหม่ ส่วนแก" โรสชี้หน้าการะเกด "ไปหาวิธีมา ยังไงก็ต้องร้อง ต้องร้องให้ได้"
ทุกคนแยกย้ายเข้าไปในในร้านทันที เหลือแต่การะเกดยืนว้าวุ่นอยู่คนเดียว

มาลี โรส บุญมา สมศรี ช่วยกันหยิบจับทำความสะอาด ด้วยหน้าตายิ้มแย้มมีความสุขดีใจที่ได้กลับร้าน
บุญมากับสมศรี เริ่มทำครัวแล้ว ร้องเพลงไปทำงานไป
"มื้อนี้อร่อยแน่ พ่อครัว แม่ครัวอารมณ์ดี อาหารของลุงกับป้าจะอร่อยสุดๆ" มาลีบอก
"เฮ้อ ข้าอยากกลับมาทำร้านอีกครั้งว่ะ โรส" บุญมาบอก
โรสอึ้งมองหน้า สมศรีพยักหน้าเห็นด้วย
"ตอนทำงานหนักก็บ่นว่าอยากกลับบ้าน แต่พอกลับบ้านจริงๆ ถึงได้รู้ว่าทำงานนี่ล่ะสนุกที่สุด"
โรสคิดหนัก จะเปิดร้านอีกครั้งดีหรือไม่

รถปิคอัพคันหนึ่งวิ่งมาจอด บอยและการะเกดยืนรอช่วยยกของ การะเกดหน้าตาว้าวุ่นกลัวร้องเพลงไม่ได้ตลอดเวลา แคที่เดินลงมา คนขับลงมาเปิดท้ายรถให้ดู
"เยอะนะนี่"
"ของประกอบฉากในสตูดิโอฉันที่ลูกค้าฝากไว้" แคที่บอก
"ยืมมา" แคที่ส่ายหน้า "ซื้อเหรอ" แคที่ส่ายหน้าอีก
"หยิบมาเฉยๆ ขโมย !." บอยถึงกับเซ็ง " พวกหล่อนระวังกันด้วยแตกหัก คิดตังค์โว้ย"
บอย การะเกดและ คนของแคที่มาช่วยกันยกของ เป็นพวกไฟ และของประดับต่างๆ
รถของอธิมาจอด การะเกดรีบวิ่งมา
"พี่อธิ เกดร้องเพลงไม่ได้ ทำไงดีคะ"
ทองทาลงมาจากรถอธิ
"พี่อยู่นี่แล้ว ครูเธออยู่นี่ เธอต้องร้องเพลงได้ เชื่อครูของเธอสิ ใครที่ทำให้
พวกเธอเข้ารอบ ใครที่ทำให้เด็กเสิร์ฟอย่างเธอกลายเป็นศิลปิน พี่จะทำให้เธอเป็นนักร้องอีก เชื่อพี่ !"

การะเกดมองหน้าทองทาที่ส่งสายตาเชื่อมั่นมาหา

ทองทานั่งพักอยู่ในร้าน มาลียกน้ำมาให้

"น้ำจ้ะ"
ทองทาตาเชื่อมมองมาลี ติดจะเคลิ้มๆ ไม่เลิก
"หวาน"
"ยังไม่ชิมเลย"
"แค่หนูยิ้มให้ ก็หวานแล้ว"
ทองทาเอื้อมมือไปรับแก้วน้ำที่ยื่นส่งมา
โรสที่ทำงานแถวนั้นมองมา หน้าเข้ม ทองทา รีบบอกเสียงดังแถมชี้แก้วที่จับด้วยกัน"หันมา พรีเซนต์ให้โรสเห็นชัดๆ"
"นี่ดู นิ้วหัวแม่โป้ง ยันนิ้วก้อย ไม่มีแม้แต่นิ้วเดียวที่แตะถึงกันเลย ขี้เล็บยังไม่มีกระเด็นถึงกัน นี่ดู ... ดู นี่"
" ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่" โรสบอก
มาลี ขำทองทากับโรส
โยทะกาเดินเข้ามา
"คุณโยทะกา มาได้ไงคะ" มาลีทักทาย
โรสตกใจหันไปมองสบตา ไม่กล้าพูดอะไรทั้งคู่ มาลีสงสัย ทองทาส่ายหน้าว่าไม่ได้เป็นคนชวน
"พี่เปล่า"
"ผ่านมาน่ะค่ะ จำได้ว่าเป็นร้านของหนูมาลี เลยแวะมาดู"
"เชิญค่ะ เชิญ นี่พี่โรสเป็นเจ้าของร้าน เอ้อ เป็นพ่อที่อยู่ในข่าวนั่นแหล่ะค่ะ"
โรสพยักหน้าให้โยทะกา
"เชิญตามสบาย เดี๋ยวอยู่ทานข้าวด้วยกันนะครับ"
เธอแกล้งพยักหน้าตอบ ทำทีว่าไม่รู้จักกัน
"ส่วนพี่ทองทา เอ้อ... พี่เขาก็แวะมาทานข้าวเหมือนกันค่ะ"
"เธอสองคนคบกัน พี่รู้ตั้งนานแล้ว ทองทาเขาบอกเป็นนัย บ่อยๆ"
ทองทากับมาลียิ้มเขิน
"ดีจริงๆ คนที่ดูแลหนูคือทองทา ดีมากๆที่เป็นทองทา"
โยทะกามองลูกสาวได้กับคนดีก็ปลื้มใจมาก จนแสดงออกทางสายตาไม่หยุด โรสมองโยทะกาอย่างเห็นใจ เข้าใจ มาลี ยิ้มเขินอายกับทองทาเฉยๆ ไม่รู้เบื้องลึก

ทองทาเดินนำการะเกดมานั่ง
"ไม่ต้องทำงานอะไรแล้ว นั่งเงียบๆ ทำสมาธิตรงนี้"
ทองทายื่นมือถือให้
"เอ้านี่เพลง ตั้งใจฟัง ... เพลงเก่าที่เข้าประกวดคราวที่แล้วนั่นแหล่ะ"
"เพลงนั้น...เกด"
"เกดร้องไม่ได้ ยิ่งร้องไม่ได้ ยิ่งต้องร้อง สิ่งที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราทิ้งไว้ พอมันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราจะกลายเป็นคนล้มเหลว ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่เรื่องทำไม่ได้"
การะเกดน้ำตาคลอออกมาอีก
"ร้องเพลงเป็นความสุข สำหรับคนอย่างเกด ถ้าเกดกลับมาร้องเพลงไม่ได้ เกดจะกลายเป็นคนที่อ่อนแอ และไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต"
"ค่ะ เกดจะพยายาม"
"กฎข้อที่ 1 คือ อะไรการะเกด"
"ความรัก"
"ใช่....ความรัก สิ่งที่ทำให้เกดร้องเพลงไม่ได้ทุกวันนี้เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก"
"ความเกลียด !"
"ไปขยายความเกลียดให้มันใหญ่ขึ้นทำไม ขยายความรักสิ วันนี้ รักตัวเอง รักเสียงเพลง ร้องมันออกมา"

การะเกดมองหน้าทองทา มีความหวังมากขึ้น

มาลีทำความสะอาดโต๊ะเก้าอี้ โยทะกาเข้ามาช่วยหยิบจับอย่างคล่องแคล่ว

"อุ๊ย คุณจะทำอะไรคะ ทิ้งไว้ตรงนั้นเถอะค่ะ"
"ฉันอยากช่วย"
"คุณทำเป็นหรือคะ"
"ฉันไม่ใช่ลูกคุณหนูอย่างที่เธอคิดหรอก สมัยเรียน ล้างจานในร้านอาหาร ฉันก็เคยทำ ฉันไม่มีอะไรแตกต่างจากเด็กเสิร์ฟอย่างเธอ"
"จริงหรือคะ ไม่น่าเชื่อเลย"
โยทะกาที่หยิบจับงานทำความสะอาดคล่องแคล่วจริงด้วย
"ได้ยินว่า วันนี้ เป็นแค่ปาร์ตี้ ไม่ได้คิดจะกลับมาเปิดร้านหรอกหรือ"
"เดี๋ยวคุณอยู่ทานข้าวกับเรา คุณก็จะเข้าใจเองค่ะ เราทุกคนกำลังช่วยการะเกด"
มาลี จับของจากชั้นบน เพื่อเอาลงมาข้างล่าง ฝุ่นร่วงเทลงมา รดหูรดหน้ามาลี จนไอแค่กๆ โยทะการีบเอาทิชชูมาช่วยเช็ดหูเช็ดหน้าให้
"มาจ้ะ ฉันเช็ดให้ เข้าตาไหมเนี่ย"
โยทะกาถ่ายทอดความอบอุ่นมาสู่ลูก จนมาลีรู้สึกได้จับมือโยทะกา
"ขอบคุณนะคะ คุณใจดีจัง ไม่เหมือนคนกรุงเทพ ไฮโซคนอื่น อย่าว่าแต่จับเนื้อจับตัวเราเลย แทบไม่มองหน้าเราด้วยซ้ำ"
โยทะกาน้ำตาคลอออกมาเป็นครั้งแรกที่สัมผัสแก้มของลูกสาวตัวเองด้วยมือทั้งสองมือ หลังจากที่ได้กอดเมื่อตอนเป็นเด็ก
"ฉันไม่ได้ทำกับทุกคน เฉพาะหนู เฉพาะหนูคนเดียว"
โยทะกาจับแก้มมาลี ไม่ยอมปล่อยจนมาลีมองงงๆ ว่าอะไรกัน โรสยืนมองอยู่ด้วยสายตาเห็นใจ

แคที่เอาชุดกระเป๋าแต่งหน้า ทำผมเข้ามา คนงานช่วยกันถือเข้ามา
"ทะแด้ม สวยไหม"
"โห …. ไปเอามาจากไหนคะ" การะเกดถาม
"ลูกค้าเขาฝากไว้ เลยยืมเขามา ส่วนช่างหน้าช่างผมก็ ... แฮะๆ งบหมด เจ๊เองฮ่ะ"
"ลูกค้าที่ว่าใครคะ ชื่ออะไร เจ๊รู้ไหม"
แคที่เริ่มแต่งหน้าให้การะเกด
"โน…"
"แล้วถ้าหนูร้องเพลงไม่ได้ล่ะคะ"
"ก็ร้องไห้แทนสิคะ"
"พี่อ่ะ"
"กะอีแค่ร้องเพลง เมื่อก่อนแกร้องเพลงทุกครั้งที่อาบน้ำ เวลา ล้างจานเก็บขยะ"
" เวลาทำงานที่ไม่ชอบ เกดร้องเพลง เวลามีความสุข เกดก็ร้องเพลง"
"นั่นแหล่ะ พวกแกน่ะ สามคนเลย หนูมาลี ชงโค เป็นเหมือนกันหมด ร้องเพลงกันตลอดเวลา แล้วตอนนี้จะมาบอกว่ายากได้ไงวะ"
การะเกดถอนใจเฮ้อ

โยทะกานั่งจัดดอกไม้ ช่วยงานปาร์ตี้เขา ด้วยการหยิบดอกไม้ที่ซื้อมากองไว้เอามาลงในแจกัน ท่าทางเพลิดเพลิน โรสเดินมา มองซ้ายมองขวา เห็นไม่มีใครอยู่แถวนั้น เลยเนียนคุยไปเรื่อยๆ แบบห่างๆ ระวังๆ โยทะกาก็มีท่าทางแบบเดียวกัน ห่างๆ พยายามทำให้เหมือนคนที่เพิ่งรู้จักกัน
"โกรธหรือเปล่าที่ฉันมาที่นี่"
"ตอนแรกก็ไม่ค่อยชอบ แต่คิดว่าเธอคงมีเหตุผล"
"หมู่นี้ ชีวิตฉันเหมือนอยู่ในความมืด"
"มีเรื่องกับสามีหรือ"
โยทะกาพยักหน้า
"ฉันต้องการแสงสว่างจากใครสักคน แล้วทุกคนที่เป็นแสงสว่างของฉัน ทองทา หนูมาลีหรือแม้แต่เธอก็มาอยู่ที่นี่ ฉันก็เลยมา"
โรสพยักหน้าเข้าใจ แม้จะไม่รู้รายละเอียดก็ตาม แต่ก็พอเดาออกจากสีหน้าท่าทางว่า โยทะกาดูมีความทุกข์อยู่เสมอ
"ชีวิตไม่มีคำว่าง่ายสินะ ดอกไม้พวกนี้ ฉันให้นะ หยิบที่เธอชอบเอาไปเถอะ เธอชอบดอกไม้มาตลอด เข้มแข็งไว้…. สวยงามให้เหมือนดอกไม้พวกนี้"
โรสมองโยทะกาในฐานะเพื่อนที่ดี พยายามให้กำลังใจ โยทะกาหยิบดอกไม้เล็กๆจากกองดอกไม้ที่โรสบอกขึ้นมา เอามาทัดหู ยิ้มๆ
 
โรสพยักหน้าว่าดีแล้ว แล้วเดินจากไป โยทะกาได้รับกำลังใจ จิตใจก็ดีขึ้น แม้จะมีแววเศร้าอยู่

มาลีเอาอาหารมาวางเป็นออเดิฟจานแรก อาหารเริ่มทยอยออกมา

"โห ....จิ้มแจ่วนี่เลย อยากกินมากถึงมากที่สุด"
มาลีป้อน
"เอ้านี่ค่ะ"
ทองทาเอามือจับมือมาลีที่ยื่นป้อนเข้ามา ไม่ได้ตั้งใจลวนลาม โรสโผล่มาข้างหลัง เสียงดุขึ้นมา
"จับมือกันบ่อยหรือ"
ทั้งคู่สะดุ้ง ปล่อยช้อนร่วง เนื้อหลุดตกพื้น กระโดดถอยห่างจากกันเป็นวา... ไปนั่งที่เก้าอี้คนละด้าน
"อุ๊ยแหวกเป็นทางเชียว"
โรสเข้ามานั่งตรงที่แหวกเลยกลายเป็นนั่งกลาง สองหนุ่มสาว ยิ้มแห้งกลัวโรส
"กลับมาคบกันเนี่ย หวานฉ่ำสินะ วางแผนจะไปถึงไหนกันล่ะ พระจันทร์ ดาวเสาร์ ดาวพลูโต ไปถึงไหนดี"
"พี่โรส ผมไม่กล้าหรอกน่า"
"ก็เตือนไว้ไง หนูมาลียังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังเป็นสิทธิ์ของฉันนะโว้ย"
"พี่ทองทา เขาระวังตัวมากขึ้น เราไม่มีแผนทำอะไรนอกลู่นอกทางหรอกค่ะ"
"หรา.... ของแบบนี้ ไม่มีใครตั้งใจมาก่อนหรอกโว้ย ถึงเวลามันจะคัน มันจะออกอาการ ร้อนๆ หนาวๆ ฮอร์โมนธรรมชาติมันจะพุ่ง มันจะเรียกร้อง จริงป่ะ" โรสเอาไหล่ไปชน ทองทาหน้าซีดเมื่อโดนถาม "พักนี้เป็นป่ะ"
ทองทาโกหก
"ก็ไม่นะ... ไม่เป็น"
"เอาว่าเป็นเมื่อไหร่ มาหาพี่ พี่จัดการให้"
ทองทาสะดุ้ง เอามือทั้งสองขึ้นมาบัง มาจับเป้า มองโรสอย่างระแวง
"หยึย"
"ไอ้บ้า ไม่ใช่จัดการอย่างนั้น ฉันอยากให้แกไว้ใจฉัน แกก็รู้ว่าฉัน สนับสนุนแก"
ทองทายิ้มแห้งๆ จะเล่าเรื่องอาการหื่นของตนเองให้เขาฟังดีไหมนะ อย่าเพิ่งเลยเนอะ ยังไม่เล่าดีกว่า

อธิในชุดตำรวจลำลอง เพิ่งกลับจากทำงานมา การะเกดในชุดสวย เสื้อผ้า ผม เรียบร้อย เดินออกมา เสร็จพอดี
"สวยจัง สวยที่สุด"
แคที่ยิ้มหวาน ทำหน้าว่าเขาชมตัวเอง "ขอบคุณค่ะ ... อ้อ ชมการะเกด แฮะ ๆ แสดงว่ายังชอบอะไรสวยๆ เอาเป็นว่า เมื่อไหร่ชอบอะไรแปลกๆ ติดต่อเจ๊นะคะ ไปล่ะ เชิญตามสบาย"
"เกดสวยจริงหรือคะ"
"จริงค่ะ" อธิเคลิ้มแล้วสะดุ้ง จำได้ว่าตนเอง ไม่เล่นบทรุ่มร่าม "เอ้อพี่ไม่ได้
สนใจเธอแล้วนี่ื พี่ก็แค่ชม เธอสวยจริงๆ ไม่ได้จีบ ไม่ได้เกี้ยวอะไรทั้งนั้น"
การะเกดยิ้มๆ อารมณ์ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งสองเดินออกไปด้วยกัน

อธิพาเกดออกมา แม่และน้องชาย นั่งรอ แม่มีแผลที่ขาเล็กน้อย
"แม่ โต้ง มากันหมดบ้านเลยหรือ"
"พ่ออธิเขาให้คนไปรับ เขาบอกว่าเกดจะเป็นดาราคืนนี้ จะขึ้นเวทีร้องเพลง"
"แค่นักร้องที่ร้านเองนะแม่"
"แม่พูดถูกแล้ว เกดต้องคิดว่าตัวเองเป็นดาราเป็นซุปเปอร์สตาร์ จะได้ร้องเพลงเพราะๆไง"
การะเกดยิ้มแห้ง จะทำได้ไหมล่ะ
"แล้วนี่แฟนคลับที่จ้างเกดเขามาหรือยังคะ เขาเป็นใคร บอกหน่อยไม่ได้หรือคะ"

อธิยิ้ม มีเลศนัย

เวทีของร้านถูกจัดขึ้นอย่างสวยงามแปลกตาไปกว่าปรกติด้วยพร็อพ ไฟที่มาจากสตูดิโอของแคที่

แคที่พาโยทะกามานั่ง ดูแลแขกวีไอพีให้ ส่วน โรส ทองทา มาลี บุญมา สมศรี ครอบครัวของการะเกด นั่งอยู่ที่โต๊ะกลาง
"จัดเวทีสวยดีนะคะ"
"ของที่สตูดิโอดิฉันเอง นามบัตรค่ะ มีอะไรให้ช่วยรับใช้ ยินดีนะคะ"
โยทะกายิ้มให้
หน้าเวทีโดดเด่นที่สุด จัดวางเป็นเก้าอี้ว่างๆ ตกแต่งด้วยดอกไม้ ดูก็รู้ว่าเป็นเก้าอี้ของคนพิเศษที่กำลังจะมา
อธิพาการะเกดมาที่ข้างเวที การะเกดมองมา เก้าอี้ที่ว่างเปล่า
"แขกที่อยากดูเกด ยังไม่มาหรือคะ"
"เดี๋ยวเขาก็มา....มาเถอะ"
อธิจูงการะเกดขึ้นเวที แล้วออกไปยืนที่หน้าไมโครโฟน กลางเวทีด้วยกัน

ในการประกวดร้องเพลงในค่ำคืนนั้น ภาพหลอนจากคำพูดของวานิช ทำให้เธอร้องเพลงไม่ได้

วันนี้ในหัวการะเกด ยังมีแต่ภาพความล้มเหลวในวันนั้น
อธิบอก
"จำเรื่องพลังแฝงได้ไหม มองไปข้างหน้า คนชั่วคนเดียว เทียบไม่ได้กับคนที่รักหนูตรงนั้น ทุกๆคนมาที่นี่เพื่อหนู"
การะเกดมองทุกคน มองครอบครัว
"อะไรนะคะ หนูต้องร้องเพลงให้แขกคนสำคัญไม่ใช่หรือคะ"
"แขกคนสำคัญคือนี่ ตัวของการะเกดเอง !"
ทองทาหยิบกระจกบานยาวมาวางที่เก้าอี้ที่ว่าง การะเกดตะลึง เห็นเงาของตนสะท้อนอยู่บนกระจก
"กฎข้อที่ 1 คือ รักตัวเอง รักคนอื่น" ทองทาบอก
"ความเกลียด โกรธ กลัว ให้ความรักของทุกคนในที่นี้ ช่วยเยียวยาได้ไหม มีชีวิตต่อไปข้างหน้าเพื่อพวกเขา เดินออกมาจากตรงนั้นเสียทีเถอะ"
การะเกดมองหน้าทุกคนที่ส่งความรักมาให้
ดนตรี เพลง “ดอกหญ้าในป่าปูน” ดังขึ้น
ทุกคนมองลุ้นการะเกด การะเกดหลับตา และแล้ว การะเกดก็ร้องออกมา อย่างไพเราะ สวยงาม ทุกคนยิ้มออกมา แม่การะเกดเช็ดน้ำตาสงสารลูก แคที่เอามือจับปาก น้ำตาไหลพรากๆ เวอร์เหมือนเคย
"ซาบซึ้ง ซาบซึ้ง อเกน แอนด์ อเกน ความรักชนะทุกสิ่ง" แคที่ทำมือท่าเลิฟ
ไปรอบๆ
สมศรีบอก
"โฮ้ย ขนลุก มันร้องดีจริงๆ"
บทเพลงไพเราะของการะเกดสะกดใจทุกคน
"ลูกศิษย์ของพี่ต้องให้ได้ แบบนี้ ! แบบนี้"
สีหน้าความสุขของการะเกดปรากฏขึ้นพร้อมเสียงเพลงที่ไพเราะขึ้นเรื่อยๆ
"เวที ฉาก นักร้อง นี่แหล่ะ ภาพในฝัน" โรสบอก
"ฝันอะไรวะ" บุญมาถาม
"ชีวิตแบบที่ฉันฝันไงพี่ ร้านในฝัน คืนนี้ร้านเรา ร้านของทุกคน สวยมากๆ ทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางไปหมด เวลาพวกเราอยู่ด้วยกันอยู่ที่นี่" โรสบอก
"บางทีความฝันมันก็สวนทางกับความจริง คืนนี้เราจัดงานหลอกๆ ไม่มีรายได้ เราไม่มีเงินจ่ายหนี้เขา เดี๋ยวก็ต้องเก็บร้าน หนีไปซ่อนที่บ้านเจ๊แคที่เหมือนเดิม" บอยว่า
"ไม่เอาแล้ว ไม่หนี ไม่ซ่อน ไม่หลอก ฉันจะกลับมาทำร้านนี้อีกครั้ง"
บอย-บุญมา-สมศรีร้อง "หา" พร้อมกัน

โรสพูดทั้งหมดนี้ท่ามกลางเสียงเพลงของการะเกด
 
อ่านต่อหน้า 4

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 11 (ต่อ)

วันใหม่ โรสเอาเอกสารมาวางกลางวงโต๊ะประชุม

"ฉันจะเอาโปรเจ็คเปิดร้านใหม่ไป กู้ธนาคาร"
"เท่าที่ผมจำได้ ตอนเปิดร้านใหม่ เราไปขอกู้ธนาคารครั้งหนึ่งแล้ว เขาไม่ให้เพราะบอกว่าร้านเราทำเลอยู่ในซอย โอกาสกำไร ไม่ค่อยมี" บอยบอก
"ฉันก็บอกเหมือนธนาคารเปี๊ยบ เชื่อกันที่ไหน และแล้วก็เจ๊งจริงๆ" แคที่ว่า
"เราก็เลยต้องไปกู้นอกระบบให้นังกะทกรก พานักเลงมาจัดการอยู่นี่ไง"
"แล้วถ้าแกเจ๊งอีกคราวนี้ ข้างหน้าแกเห็นอะไรไหม นั่นตรงนั้น...ไม่เกินเมตรหนึ่งล้มละลายไงแก ฮะฮะฮ่า"
โรสเข้ามาบีบคอแคที่
"นี่ไม่ใช่คอนะท่านผู้ชม นี่คือคอห่าน ส่วนนี่ก็ชักโครก อวยพรกันตั้งแต่เริ่มเลยนะ อีเจ๊ ฉันมีคอนเซปต์ใหม่โว้ย ได้ไอเดียจากการะเกดนี่แหล่ะ"
"หนูหรือคะ"
"ข้างนอก มีคนร้องเพลงเก่งๆ ที่ไม่มีวันได้เป็นนักร้องเยอะแยะ ทุกคนที่ชอบร้องเพลง เขาฝันว่าตัวเองจะไปอยู่บนเวที มือถือไมค์ไฟส่องหน้า สักครั้งหนึ่งก็ยังดี"
"พวกลูกค้าเก่าๆที่ร้องเพลงเก่งๆ" บุญมาบอก
"นั่นแหล่ะ เราจะตกแต่งร้านให้เขา เราจะหาอุปกรณ์ประกอบฉาก เราจะเชิญญาติเขามาฟัง ค่ำคืนนั้นเขาจะเป็นซุปเปอร์สตาร์ ทุกคนจะเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่ร้านของเรา"
สมศรีคิดตามแล้วตบโต๊ะ
"สำเร็จแน่ ! เป็นฉัน ฉันก็ยอมจ่าย จากแม่ครัวเป็นราชินีลูกทุ่ง คืนหนึ่ง ! ใครๆก็เอา"
"เห็นไหม"
สองสาววาดฝันตาม
"ร้านในฝัน ไม่มีผู้หญิงนั่งดริ๊งค์ มีแต่คนชอบร้องเพลงมารวมตัวกัน" มาลีบอก
"ไม่ต้องเข้าประกวด เราทุกคนก็เป็นซุปเปอร์สตาร์ได้" การะเกดว่า
"น่านแหล่ะ"
"ไปก็ไปพี่... เจ๊งหรือเจ๊าเดี๋ยวก็รู้ ไป ลองดู" บอยว่า
บอยลุกไป โรสลุกพร้อมเก็บเอกสาร
"ไม่ต้องไปธนาคารหรอก" แคที่บอก
"เจ๊ อย่าดับฝันกันสิ ลองไปดูก่อน ธนาคารเขาอาจจะให้ก็ได้" โรสว่า
"ฉันจะออกทุนให้เอง" แคที่เสนอตัว
"หา ...อะไรนะ"
"ฉันจัดปาร์ตี้เกย์ ทุกเดือน ใครๆก็ขนการแสดงมาโชว์ด้วยความเต็มใจ จ่ายเท่าไหร่มันก็ยอมเพื่อที่จะไปโชว์ของบนเวทีนั่น ฉันรู้ ร้านนี้ไม่เจ๊งแน่"
"จริงหรือเจ๊"
"เออ ไม่เจ๊งหรอก งวดนี้แกมาถูกทางแล้ว" แคที่บอก

ทุกคนปรบมือเย้ รัโรสดีใจมากจะได้ทำตามความฝันแล้ว

ทองทากำลังนั่งรออยู่ในสตูดิโอ หลังแต่งหน้าทำผมพร้อมแล้ว ทีมงานกำลังเตรียมสตูดิโอสำหรับถ่ายเอ็มวี เพลงคิดถึงที่เพิ่งขึ้นเวทีไป

มาลีมานั่งข้างๆ เอามือถือมาให้ดูในมือถือ มีเอ็มวีเพลงแรก ของทองทาที่ถ่ายเสร็จแล้วออกอากาศแล้ว มาเปิดให้ดูจากยูทูป
"ซิงเกิ้ลแรกของพี่ ยอดวิวสูงมาก พี่ต้องกลายเป็นซุปตาร์คนต่อไปของเมืองไทยแน่"
ทองทามองเคลิ้มต่อเนื่อง ยังไม่หายง่ายๆ
"วันนี้แต่งตัวน่ารักแล้วยังหอมด้วย"
ทองทาเข้าไปใกล้เหมือนจะหอม มาลีเสียงเข้ม
"จะทำอะไรคะ"
ทองทายิ้มแห้งค่อยมีสติถอยตัวออกมา มาลียิ้มเขินๆ
"ตารางงานแน่นทุกวัน เบื่อชะมัด ดีขึ้นมาหน่อยตรงที่มีหนูมาดูแลนี่แหล่ะ อย่าทิ้งพี่ไปนะ นะ.... อยู่เป็นกำลังใจให้พี่นะนะ"
มาลีพยักหน้า
"อื้อ ไม่ได้เป็นซุปตาร์ ได้ดูแลซุปตาร์ก็ยังดีเนอะ"
"เฮ้ย ไม่ได้นะ อย่าทิ้งฝันง่ายๆ จำไม่ได้หรือว่าตัวเองอยากชนะแค่ไหน พี่เหนื่อยกับเราทั้งสามคนมากนะ ชงโคกับการะเกดหมดหวังไปแล้ว ขอหนูสักคนเถอะ"
"พี่หวังมากขนาดนั้นเลยหรือ"
ทองทาพยักหน้า
"พี่ได้การะเกดกลับมาแล้ว พี่อยากให้เราสู้ หมู่นี้หนูมาลีถอดใจยังไงก็ไม่รู้ ลืมความฝันตัวเองไปแล้วหรือ"
มาลีเศร้า

มาลีเดินนำทองทามาดูหน้าทีวีจอยักษ์แสดงคะแนน คะแนนเรียงตามลำดับดังนี้ ภูมิ ทิมมี่ บุษบาบัณ โกมินทร์ ลำดับสุดท้ายคือ มาลี
"หลังจากข่าวเรื่องหนูเป็นเด็กอกตัญญู ดูคะแนนนี่สิ ห่างจากคนอื่นตั้งเยอะ"
"คอนเสิร์ต คราวหน้าเป็นรอบรองสุดท้าย ถ้าหนูรอด หนูก็จะเข้ารอบสุดท้าย เอาให้รอดคราวนี้ให้ได้ แค่นั้นก็พอ"
"คะแนนห่างกันขนาดนี้ ไหวหรือคะพี่ ต้องมีปาฏิหาริย์เท่านั้นนะ"
ทองทามองคะแนนกลุ้มตาม

คะแนนบนจอโน้ตบุ๊กอยู่ในมือบุษบาบัณ สามสาวรุมปรึกษากัน
"รอบหน้า หนูมาลีมันออกแน่อยู่แล้ว คะแนนห่างไม่เห็นฝุ่น" ยาหยีว่า
"แต่ฉันยัง เป็นที่สาม เหลือการแข่งขันอีกสองครั้งเองนะ เราต้องจัดการกับคนอื่นเหมือนที่จัดการน้อยหน่า อย่าลืมสิ ฉันต้องเป็นที่หนึ่ง ต้องเป็นแชมป์รายการนี้" บุษบาบัณบอก
"จัดการยากมาก ทิมมี่หล่อเต้นเก่ง แฟนคลับสาวๆตึม" นีน่าว่า
ยาหยีบอก
"ภูมินี่ ฝีมือแท้ๆ คะแนนไม่เคยตกเลย เพราะร้องเต้นได้ทุกแนว หาจุดอ่อนก็ยาก"
"งั้นโกมินทร์ล่ะ เด็กบ้านนอก ซื่อๆ โง่ๆอย่างโกมินทร์ ไม่น่ายากนะ"
"แล้วจะเอาวิธีไหนล่ะ" ยาหยีว่า
ทั้งหมดเงียบกันไปครู่หนึ่ง
"ไม่รู้ล่ะ ไปจัดการซะ ทั้งสามคนนั่นแหล่ะ เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน การแข่งขันก็จะจบลงแล้ว ส่วนเรื่องเพิ่มคะแนนให้ตัวฉัน ฉันมีแผนแล้ว"
นีน่าถาม
"แผนอะไรคะ"
"ฉันจะออกซิงเกิ้ลกับพี่ทองทา เตรียมเพลงไว้แล้ว" บุษบาบัณชี้ที่มือถือ "ไปกันเถอะ"

บุษบาบัณหยิบกระเป๋าออกไป นีน่า ยาหยี รีบตาม

วันใหม่ มาลีหิ้วเสื้อผ้าซักรีดแล้วของทองทาเดินเข้ามาในห้อง จัดเข้าตู้ อีกมือหนึ่งโทร.คุยไปด้วย

"เอาเสื้อผ้าเข้าตู้ให้แล้วนะคะ"

ทองทาเพิ่งมาถึงที่สถานีฯ เพื่อทำงานเหมือนกัน เขากำลังจะเข้าสตูดิโอถ่ายเอ็มวี
"ทำไมมาตอนนี้ล่ะ"
"แหะ พี่โรสสั่งว่าให้มาทำงานบ้านให้พี่เฉพาะตอนพี่ไม่อยู่ ผู้หญิงดีๆ เขาไม่เข้าบ้านผู้ชายอยู่กับผู้ชายสองต่อสองหรอกจ้ะ พี่เขายังสอนอีกนะว่า"
" สอนอะไร"

ท่ามกลางบรรยากาศ การตกแต่งร้านเซอร์ไพร์สใหม่ โรสกับหนูมาลีกำลังทาสีร้านในบางมุมให้สดใสขึ้น โรสเดินมาคุยด้วย
"เรื่องทองทา แกคิดยังไง"
"เอาอีกแล้ว... เรากำลังจะเปิดร้านใหม่ มีงานอีกเยอะ ทำงานก่อนไหม"
"ไม่ได้ ฮอร์โมนวัยแกมันกำลังพลุ่งพล่าน แกรู้วิธีป้องกันหรือเปล่า"
มาลีมองซ้ายขวา เขินมาก
"พี่โรส ! ...เบาๆหน่อย"
"ก็มันหน้าที่ฉันน่ะ"
หนูมาลีพูดเบาๆ เพราะอาย
" โรงเรียนเขาสอนแล้ว"
"สอนว่าไง"
มาลี กระซิบที่หูโรส
"เออๆ ก็พอได้"
"งั้นฉันสอนแกเรื่องอื่น วิธีที่จะทำให้ทองทาหลงรักแกนานๆ แบบหัวปักหัวปำ"
มาลีทิ้งงานทันที สนใจมาก
"จริงหรือ มีวิธีหรือ ใช่ซี้ ใครจะเฟี้ยว เชี่ยวชาญเหมือนพี่ เจ๊แคที่อกหักแล้วอกหักอีก แต่ตลอดชีวิตพี่โรสมีแฟนแค่สองคน"
จู่ๆ บอยก็โผล่มาหอมแก้มโรส
บอยบอก " แถมรักพี่โรสมากอีกต่างหาก"
โรสจับแก้มบอยด้วยความรัก
"ขอบใจจ้ะ ไอเลิฟยูนะ ออกไปก่อน คุยก่อน"
บอยหัวเราะเดินออก ไปเก็บของอีกมุมหนึ่ง
"เรื่องฉันกับแฟนฉัน มันคือความเข้าใจ แต่สำหรับลูกผู้หญิงอย่างแก มันไม่เหมือนกัน"
"เป็นไงคะ ทำไงคะ บอกหน่อยๆ"
โรสยิ้มๆ ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กำมือแล้วหยิบออกมา
"อะไรอ่ะ"
"อยากดูไหม" โรสถาม มาลีพยักหน้า "ไม่ให้ดู"
โรสกำมือเดินหนี
"ของดีหรือพี่ ของขลังใช่ป่ะ ขอดูหน่อย"
"ขอค่าดู"
"ร้อยหนึ่ง"
"ไม่"
โรสเดินหนี มาลีเดินตามตอแย วุ่นวายไปมา
"500"
"ไม่"
"นี่ชักอยากดูจริงๆแล้วนะ จะเดินหนีไปทำไม จะลีลาอะไรเยอะนักหนาเนี่ย"
โรสทำมืออวดลอยไปลอยมา
"จ่ายไหม"
มาลีตัดใจสุดๆ
"พันหนึ่ง"
"ไม่ !"
มาลีหมดแรงนั่งลงครวญคราง
"พี่โรสอ่ะ ฮือ อยากรู้แล้วอ่ะ อะไรอยู่ในมืออ่ะ"
โรสยอมแพ้เดินมาหา ยื่นมือที่ยังกำให้ดู
"ของที่ปกปิดไว้ ยิ่งปิดยิ่งซ่อนยิ่งอยากรู้ อยากดู ยิ่งเขาไม่ให้ดู ยิ่งอยากดู แกยอมจ่ายเงินทั้งหมดที่มีเพื่อให้ได้ดูถูกไหม"
มาลีพยักหน้า
โรสแบมือออกมา ไม่มีอะไร !!
"ไม่เห็นมีอะไรเลย เล่นอะไรเนี่ย"
โรสช้ในมือ
"ของในนี้ ฉันกำลัง พูดถึงสิ่งมีค่าทั้งหลายตัวของผู้หญิง คิดดูซิ ฉันพูดถึงของที่ปกปิดไว้ อะไรกันแน่ ที่ผู้ชายทั้งหลายมันอยากดูที่สุด"
มาลีติดตาม
"นี่พี่หมายถึง..."
"ของที่ไม่ได้เห็น ไม่ได้สัมผัส ราคาก็มีแต่สูงขึ้น สูงขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป คราวนี้รู้หรือยัง ถ้าแกอยากให้ ทองทารักมากขึ้นทุกๆวัน แกต้องทำยังไง"
มาลีคิดตาม ยิ้มอาย
"เข้าใจแล้วค่ะ"
"อยากจะมีค่า หนึ่งพัน หนึ่งร้อย สิบบาท หรือไม่มีค่า.... แกคิดดูเอาเอง ว่าต้องทำยังไง"

โรสจับหัวหนูมาลี ยิ้มให้กัน

ทองทาคุยโทรศัพท์อยู่ที่สถานีโทรทัศน์

"ตกลงสอนว่าอะไรหรือ"
"เล่าไม่ได้จ้ะ สรุปว่า ต่อไปนี้หนูจะมาทำงานที่บ้านเฉพาะตอนพี่ไม่อยู่ค่ะ บอกลุงกับป้าเฝ้าบ้านให้หนูด้วยนะคะ"
ทองทางง

วันเดียวกัน บุษบาบัณเดินเข้าบ้านมา เดินมาถึงหน้าห้องนอนที่เปิดประตูทิ้งไว้ เธอได้ยินเสียงตะกุกตะกักเพราะหนูมาลีเก็บห้องอยู่ เธอยิ้มๆ นึกว่าข้างในเป็นทองทา เลยมาแอบข้างประตูยืนรอกะจะจ๊ะเอ๋ที่ประตูประมาณนั้น
พอหนูมาลีเดินออกมา เบลเข้าไปกอดหลังทันที
"คิดถึงจัง !" เธอเพิ่งเห็นว่ากอดใคร "หนูมาลี ! อี๊ไป๊ ! สกปรก"
เธอผลักหนูมาลีแรงมาก เซไปชนผนัง เจ็บแขน
"นี่เจ็บนะ...ผลักซะแรงเลย"
"พี่ทองทาไปไหน"
"อยู่ที่สถานี ถ่ายเอ็มวี"
"แล้วหล่อนมาทำอะไรที่นี่ มาให้ท่าเขาถึงในห้องนอน ผู้หญิงชั้นต่ำ"
"เฮ้อ แบบที่พี่โรสบอกเลย ใครๆจะดูถูกเรา"
บุษบาบัณคิดอะไรเล็กน้อย
"เอางี้ ....1. เลิกยุ่งกับพี่ทองทา 2.ลาออกจากการแข่งขัน สองอย่างนี้ ต้องการเงินเท่าไหร่"
"ถามว่าฉันต้องการเท่าไหร่ ...ก็เยอะนะ"
นีน่าบอก
"ว่าแล้ว....ฮึ คนอย่างหล่อนซื้อได้ด้วยเงินสินะ บอกมาเลย เอาเท่าไหร่"
"ทั้งหมดที่คุณมี" มาลีบอก
"อีบ้า !"
บุษบาบัณเงื้อมือขึ้น หนูมาลี ตกใจ ยืนหลับตา แต่บุษบาบัณกลับหยุด หดมือกลับ
ยาหยีถาม
"คุณเบลหยุดทำไมคะ...กำลังมันส์"
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง
"ตบก็เจ็บมือ แถมไม่นานก็หาย"
จู่ๆ เธอก็พุ่งไปหยิบมีด
"กรีดหน้ามันดีกว่า ทำให้มันอายคน จนขึ้นเวทีไม่ได้"
ยาหยีร้อง "หา ?!"
ขนาดยาหยียังตกใจกับความโหดของบุษบาบัณ แล้วมาลีล่ะ ตกใจมากกว่า
"การแข่งขันครั้งนี้คือชีวิตของฉัน ฉันต้องชนะเท่านั้น ถ้าไม่เอาเงิน เธอก็จะได้แผลเป็นที่หน้าแทน ! คิดดูนะหน้าสวยๆ มีรอยบากสักสองสามรอย พี่ทองทาก็ไม่สน...ประกวดต่อ...ก็ไม่มีใครเลือก"
"เธอมันบ้าไปแล้ว แค่การแข่งขันเป็นซุปเปอร์สตาร์เนี่ยนะ"
"เพื่อการเป็นที่หนึ่งต่างหาก เป็นที่หนึ่ง ! ความรู้สึกแบบนี้ที่ฉันต้องการ ฉันต้องเป็นที่หนึ่งในการแข่งขัน และต้องเป็นที่หนึ่งในใจพี่ชายของฉัน แต่แกขวางทางอยู่ทั้งสองอย่าง แกต้องโดน ! ยาหยี นีน่า จับมันไว้"
ยาหยีกับนีน่าพุ่งเข้าหา มาลีกระโดดหนี เหมือนจะหนีได้ แต่นีน่า วิ่งมาจับหนูมาลีไว้ได้
"แกเสร็จแน่"
บุษบาบัณหัวเราะร่า เดินมาพร้อมมีด
"เอ้อ ยาหยี แค่จะถามว่า คุณเบลเป็นคนกรีด แล้วเราสองคนเป็นคนจับ เวลาตำรวจจับ เขาจับคุณเบลใช่ป่ะ"
เบลได้ยินแล้วโวย
"อีนีน่า ! พูดมากนัก จับดีๆ"
มาลีถูกล็อกแน่น บุษบาบัณเงื้อมีดขึ้น มือของทองทาก็เข้ามาจับไว้ เธอตกใจหันมอง
"พี่ทองทา"
"เธอสองคน ร่วมทำผิด เธอไม่รอดหรอก แต่ยังดีนะ รู้จักแยกแยะดีชั่ว เธอสองคนยังดีกว่าผู้หญิงร้ายกาจคนนี้ ... เอามานี่"
ทองทาดึงมีดแล้วผลักน้องสาวออกไป เธอเซคะมำลงไปที่เก้าอี้
"พี่ทองทา เจ็บนะ"
มาลีวิ่งมาเกาะทองทาไว้ สีหน้ายังตื่นกลัวอยู่
"พี่ทองทา เขาบ้าไปแล้ว"
"ไม่เป็นไรแล้ว พี่อยู่นี่ โชคดีที่กองถ่ายยกเลิกกลางคัน โชคดีจริงๆ ...กล้าทำเรื่องชั่วๆ เพราะถือว่ามีเงินใช่ไหม ลองอีกครั้งสิ พี่จะลากเธอเข้าคุกด้วยตัวพี่เอง"
"พี่ทองทา พี่เป็นพี่หนูนะ พี่ไปเข้าข้างคนอื่นได้ยังไง"
"พี่ดีกับเธอเพราะสงสารเธอ เมื่อก่อนเธอเป็นแค่เด็กสาวเอาแต่ใจ แต่ตอนนี้เธอหมกมุ่นกับเป้าหมายของตัวเองจนไร้มนุษยธรรม คนแบบนี้แหล่ะที่พี่เกลียด ! คนแบบพ่อ"
"พี่คลั่งนังเด็กเสิร์ฟคนนี้เข้าไปได้ยังไง จะแตะตัวมันหนูยังไม่กล้า"
"เชื่อเถอะ....ถึงตอนนี้ คนที่พี่ไม่กล้าแตะตัวเพราะกลัวสกปรก ก็คือเธอ ! ไม่ใช่หนูมาลี …. ออกไปได้แล้ว เราจบกันแค่นี้"
บุษบาบัณแค้น
ทองทาตะโกน
"ออกไป ออกไปให้หมด"
เธอสะดุ้ง ยอมลุกขึ้นยืน พูดเสียงเบา มองมาที่มาลี
"พี่ทองทา ปกป้องเธอไม่ได้หรอก คอยดูไปเถอะ"

เธฮสะบัดหน้าออกไป ตามด้วยยาหยี นีน่า มาลีกับทองทาถอนใจโล่ง เกือบไปแล้ว

ทองทานั่งลง กลุ้มเรื่องบุษบาบัณ มาลีตามมา

"แม่ของเบล แย่กว่าแม่พี่ เพราะฆ่าตัวตายประชดพ่อ ยายของเขาสอนแต่เรื่องความเกลียด สอนแต่เรื่องผลประโยชน์ที่ต้องช่วงชิงคืนมาจากพ่อ เบลรู้จักแต่ความเกลียด ไม่รู้จักความรักเลย"
"เมื่อก่อนการประกวดคือทุกอย่างในชีวิตหนู แต่ตอนนี้หนูรู้สึกว่าการประกวดชักไม่สนุก ไม่สนุกเอาซะเลย"
"ไม่หรอก บทเพลงสะอาดเสมอ แต่คนต่างหากที่อยากเด่นอยากดังจนทำได้ทุกอย่าง คนนี่ล่ะ ...สกปรก"

ในคืนวันเดียวกัน โรสอ้วกอยู่ในห้องน้ำ บอยเดินเอาผ้าเช็ดหน้ามาให้
"เวียนหัวอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย หมู่นี้ พี่อ้วกบ่อยนะ วันก่อนก็ทีหนึ่งแล้ว ผมได้ยินเสียงไปหาหมอกันหน่อยดีไหม" บอยว่า
"ไว้ให้ตกแต่งร้านเสร็จก่อนแล้วกัน"
"พี่นี่เหมือนเด็ก กลัวหมอไม่เข้าเรื่อง เป็นอะไรก็เอาแต่ซื้อยามากิน ตั้งแต่คบกันมา ผมไม่เคยลากพี่ไปหาหมอสำเร็จซักที"
"ถ้าแกเคยจน แกมีลูก แกก็จะเหมือนฉัน ฉันไม่ได้กลัวหมอโว้ย ฉันกลัวเสียตังค์ต่างหาก"
โรสเวียนหัว เดินกลับไปที่เตียง บอยมองตามอย่างเป็นห่วง

วันใหม่ มาลีทำงานบ้านให้โรสเหมือนเคย โรสนั่งเตรียมเครื่องมือออกไป ตกแต่งร้าน มาลีบ่นไปทำงานไป
"คนอะไร้ไม่รักตัวเองเลย หาหมอมันจะซักกี่ตังค์ หนูก็ยังอยู่ อีกหน่อย เรียนจบหนูทำงาน หนูก็ใช้หนี้ให้พี่ได้"
โรสกลับมาคล่องแคล่วเหมือนเดิม หยิบจับของเหมือนคนปกติ
"อีนี่ ขี้บ่นจริง ฉันก็ไม่เป็นไรแล้วนี่ไง"
มาลีเห็นโรสกลับมาแข็งแรงก็เลยสบายใจขึ้น มาลีทำความสะอาดไปเจอกล่องไม้ที่ใส่เอกสาร มีกุญแจเล็กๆล็อกไว้
"นี่กล่องใส่อะไร ทำไมต้องล็อกกุญแจ"
"วางลงๆ อย่าไปยุ่ง"
"อะไรอ่ะ อยากรู้ โฉนดที่ดิน... มรดกหรือ"
"ของสำคัญที่สุดในชีวิต"
"โห ยิ่งอยากรู้ใหญ่เลย"
"ไปเลยไป"
โรสผลักหัวลูกสาวเบาๆอย่างเอ็นดู ดึงกล่องคืนเอาไปซ่อน หวงแหน
"โห ผลักหัวเลยหรือ ... ดูอย่างอื่นก็ได้"
มาลีหยิบกระดาษแผ่นหนึ่ง เป็นกระดาษโน้ตเพลงเขียนด้วยดินสอ มีขีดฆ่าทิ้ง เป็นช่วงที่โรสหัดแต่งเพลงด้วยตัวเอง
"นี่เหมือนเป็นเพลง พี่แต่งเพลงหรือคะ"
"วางลงๆ ยุ่งจริง รื้อนั่นนี่ ไปไป๊"
"เขียนดีจัง"
"ฉันแต่งเพลงไม่เป็นหรอก แค่ก๊องๆแก๊งๆ นานแล้ว"
มาลี อ่านเนื้อเพลงแล้วยิ้มกว้างเข้าไปกอดโรส
"เขียนให้หนูใช่ป่ะ"
"อื้อ"
"น่ารักจัง"
มาลีหอมแก้ม โรสยิ้มกอดลูกอย่างมีความสุข
"เก็บเข้าที่ดีๆเลย ฉันจะออกไปข้างนอกละ งานเยอะแยะ"
มาลีหยิบโน้ตเพลง ทำท่าเหมือนจะวางเก็บแล้วหยิบหนีไปเลย
"ขอนะ"
"เฮ้ย เอามานี่ จะเอาไปไหน"

โรสได้แต่ส่ายหน้ายิ้มตาม
 
อ่านต่อตอนที่ 12
กำลังโหลดความคิดเห็น