มาลีเริงระบำ ตอนที่ 5
พิธีกรกำลังออกอากาศ
พิธีกร1บอก
"ทางเราต้องขออภัยด้วยนะคะ ระบบการออกอากาศของเรามีปัญหาไปครู่หนึ่ง มีเสียงแต่ไม่มีภาพ"
พิธีกร 2 บอก
"คราวนี้เราจะมาดูคะแนนกันนะคะ ที่จริงไม่มีภาพแบบนี้ คุณเบลจะจะเสียเปรียบหน่อยนะคะ"
"แต่คุณเบลร้องดีมากนะคะ ฐานคะแนนเสียงเดิมก็มีมากด้วย เป็นไฮโซคนดัง เฟซบุ๊กไอจีมีคนตามเป็นแสนๆ ต้องมาลุ้นกัน
พิธีกร 2 บอก
"ตัวเลขมาแล้วๆ โชคดีระบบออนไลน์ยังใช้ได้อยู่นะคะ ... โอ้โหคะแนนพุ่งขึ้นมาเลย แต่ยังไม่เท่ากับกลุ่มสาวเสิร์ฟนะคะ"
พิธีกร 1บอก
"มาลุ้นกันนะคะ ถ้าได้คะแนนเสียงมากกว่า กลุ่มสาวเสิร์ฟจะหลุดทันทีค่ะ"
กราฟแท่งของเบลพุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ คะแนนวิ่งไปไม่หยุด เหมือนคนอื่นๆ ยังไม่หยุดจนกว่าจะปิดโหวต
ที่เกาหลี 3 สาวนั่งดูการถ่ายทอดรายการที่หน้าคอมพิวเตอร์ ต่างร้องกรี๊ดกระโดดพร้อมกัน
"เย้ๆ มาแล้ว"
"สูงด้วย โหวตต่อๆ เร็วเข้า"
นีน่า ยาหยีและบุษบาบัณก้มหน้าโหวตมือถือต่อ
เมืองแมน ยิ้มกับบุณฑริก
เช่นเดียวกับกดมือถือ จากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในห้าง ตลาด วินมอเตอร์ไซค์
ทุกคนมาลุ้น รอผล ที่หน้าทีวี เห็นคะแนนที่วิ่งไป
"เหลือเวลาโหวตอีกสิบนาที" มาลีบอก
"โฮ้ย จะเป็นลม"ชงโคกระซิบบอก
"ถ้าเขาคะแนนมากกว่า เราก็จบ"
กลุ่มของภูมิส่งเสียงคุย ภูมิดูหยิ่ง เชิดเพราะถือว่าเก่ง
"สาวเสิร์ฟ กับลูกสาวเจ้าของสถานี ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก"
ทิมมี่ดีกับสาวสวย โปรยเสน่ห์ เหมือนเดิม
"สู้ๆนะ สาวๆ เพราะฉันกับนายภูมิก็จะสู้เต็มที่เหมือนกัน"
ทิมมี่ ภูมิ มองหน้ากัน เขม่นเล็กน้อย
โกมินทร์จริงใจกว่าคนอื่น
"ลูกทุ่งคือกัน ขอให้ชนะนะ"
น้อยหน่าหน้าบึ้ง อารมณ์เสีย หน้าบูดมาตั้งแต่คะแนนลด หันมาพูดตามมารยาท
"ฉันก็เอาใจช่วยนะ"
ชงโคกระซิบกันเอง
"พูดตามมารยาท ไม่ต้องพูดก็ได้มั้ง"
สามสาวยิ้มให้พวกเข้ารอบด้วยกัน เพื่อรักษาไมตรี
พิธีกรกำลังออกอากาศ
พิธีกร 1บอก "เหลือเวลาอีกนาทีเดียวจะปิดโหวตแล้วนะคะ"
พิธีกร 2 บอก "สรุปคะแนนตอนนี้ ภูมิ ทิมมี่ โกมินทร์ และน้อยหน่า สี่คนนี้ เข้ารอบ
ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ที่เป็นปัญหา คู่คี่สูงสีมาด้วยกัน คือคู่นี้ค่ะ"
พิธีกร1บอก "ทีมสาวเสิร์ฟ และ เบล บุษบาบัณนะคะ"
พิธีกร 2 บอก "โห คะแนนตีคู่กันมาเลย สูสีมาก"
ทุกภาคส่วน จับตามองทีวี ลุ้นอย่างหนัก ดนตรีตื่นเต้น
พิธีกร 1บอก "เอ๊ะ คะแนนหยุดแล้ว ดูนะคะ ตอนนี้ คุณเบลน้อยกว่าในหลักร้อย
เท่านั้น แตกต่างกันเป็นแค่หลักร้อยคะแนน"
พิธีกร 2 บอก "ยังเหลือเวลาอีก นับถอยหลังค่ะ 9 8 7"
กราฟคะแนนของเบลที่หยุดไป สองสามวินาทีวิ่งพุ่งขึ้นมาอีก
พิธีกร 1บอก "คะแนนคุณเบลมาอีกแล้ว"
กลุ่มของบุษบาบัณที่เกาหลียังกดโหวตไม่หยุด
"แพ้ใครก็แพ้ได้ แพ้สาวเสิร์ฟ ฉันไม่ยอม กดโหวตอย่าหยุดนะพวกเธอ"
ทุกคนรัวกดโหวตต่อ
นาฬิกาในห้องโถง
พิธีกร 1พูดพร้อมๆกับเวลาที่นับถอยหลัง
"3 2 1 0 ปิดโหวตค่ะ"
ที่จอยักษ์ คะแนนหยุดทั้งหมด
พิธีกร 2 บอก "โอ ตายแล้ว คุณพระช่วย"
บนทีวีจอยักษ์ คะแนนอันดับ 29และ30 เท่ากัน
พิธีกรบอก "เท่ากันเป๊ะ"
อธิ กับทองทาตะลึง ลุกขึ้นยืน !! โพล่งพร้อมกัน "เฮ้ย" !!
เมืองแมนกับบุณฑริกงงมาก
"คะแนนเท่ากันหรือ" เมืองแมนว่า
"เป็นไปได้ยังไง"
พิธีกร 1บอก
"นี่แทบจะเป็นเรื่องหนึ่งในล้านเลยนะคะนี่ คะแนนโหวตเป็นหมื่นเท่ากันเนี่ย"
พิธีกร 2บอก"แบบนี้ก็เท่ากับว่า... เข้ารอบทั้งทีมสาวเสิร์ฟและคุณเบลค่ะ"
อธิและทองทาร้องเย้ด้วยความดีใจ
ณ ห้องจัดเลี้ยงที่เกาหลี สามสาวกอดกันร้องกรี๊ด
ภายในห้องแต่งตัว สามสาวเสิร์ฟร้องกรี๊ด กอดกัน
"เราทำได้ เราทำได้แล้ว" มาลีบอก
ภายในห้องโถง พิธีกร 1บอก
"ปีนี้ต้องสนุกมากแน่ๆ จากที่คาดว่าผู้เข้าร่วมจะมี 5 คน กลายเป็นแปดคนแล้ว"
ในห้องแต่งตัว โกมินทร์บอกว่า
"แปดคนเลยหรือ โห..."
ผู้เข้ารอบต่างมองหน้ากัน อย่างอึ้งๆ
อธิกับทองทา เดินมา เจอกับสามสาวเสิร์ฟที่เดินออกจากห้องแต่งตัวพอดี ทั้งหมดวิ่งมาจับมือกัน
"แอร๊ย เราทำได้แล้วเราทำได้"
"เก่งมาก เก่งที่สุดเลย"อธิบอก
"ขอบคุณมากนะคะ เรามีวันนี้ได้เพราะพี่ทองทา พี่อธิด้วยขอบคุณมากนะคะ" มาลีบอก
สต๊าฟเดินมาพาสามสาวไป
"น้องๆที่เข้ารอบ เดี๋ยวไปที่โถงนะคะ นักข่าวขอสัมภาษณ์ค่ะ"
ชงโคดีใจ
"มีคนมาสัมภาษณ์เราด้วย"
"อธิ พาน้องๆไปก่อน ฉันมีธุระเดี๋ยว"
ทองทาเดินแยกไปด้านใน มาลีสงสัยมองตาม ขณะเดินกลับไปที่โถง
ทองทาเดินเข้ามาหน้าห้องเมืองแมน เลขาฯพุ่งมาขวาง
"คุณจะไปไหนคะ คุณเข้าไม่ได้นะคะ"
โยทะกาเดินตามมาพอดี
"ทองทา ลูกคุณเมืองแมนจ้ะ"
เลขายิ้มแห้งยอมถอย ทองทาเดินเข้าไปโวยเมืองแมนและบุณฑริกที่นั่งอยู่ จนสองคนตั้งรับแทบไม่ทัน
"เบล ยังอยู่เกาหลี เขาไม่ได้อยู่บนเวทีจริงๆ"
ทุกคนช็อก
"คุณรู้ได้ยังไง"
"ผมเห็นกับตา"
ทุกคนอึ้งไป
"แล้วไง ... แกจะเอาไงกับฉัน" เมืองแมนถาม
"ตามหลัก เท่ากับเขาไม่ได้แข่งขัน เขาไม่มีคะแนน"
"เบลเป็นน้องสาวแก เขาใช้ความพยายามมาสามเดือน เหมือนคนอื่น วันนี้ถ้าไม่มีพายุ ไม่มีฝนตก เขาก็กลับมาร้องทัน"
"ถ้าเขาเห็นว่ามันสำคัญจริงๆ เขาต้องไม่ไปตั้งแต่แรก แต่นี่ เขายังห่วงความสบาย ห่วงความสนุก"
เมืองแมนตบโต๊ะชี้หน้าด่า
"ได้ ถ้าแกอยากทำลายฉัน ทำลายน้อง ทำลายที่นี่ แกก็ออกไปบอกนักข่าวเลย ฉันจะได้รู้ ว่าแกมันอกตัญญู !"
"คุณทองทา ยังมีโอกาสข้างหน้า เบลได้ตำแหน่งสุดท้าย คราวหน้าก็คงหลุด ที่สำคัญคะแนนพวกนั้นเป็นคะแนนดิบที่เราไม่ได้แทรกแซง มันเป็นคะแนนของเขาจริงๆ"
"คนทั่วไปแสวงหาโอกาสแทบตาย แต่คนที่มีอยู่แล้วกลับไม่เห็นค่า ไม่รู้ว่าตัวเองเกิดมาโชคดีแค่ไหน ยังทำเป็นเล่นกับชีวิตอยู่ได้ !"
ทองทาออกไป
"มันจะบอกนักข่าวไหม ถ้าบอกขึ้นมา...เราเสร็จเลยนะ" บุณฑริกว่า
เมืองแมนเครียดขึ้นมาทันที
"คุณโย ตามไปดูเร็ว"
โยทะการีบออกไป
บรรดาสาวเสิร์ฟถูกนักข่าวถ่ายรูป อธิยืนมอง ทองทาเดินมาหา สีหน้าเครียดจัด
"มีอะไรไหมวะ"
ทองทามุ่งหน้าเดินไปหานักข่าว เหมือนมีอะไรจะบอก โยทะกาเดินตามมา แล้วหยุดห่างๆ มองดู ไม่กล้ากระโตกกระตาก
นักข่าวหันมาหาทองทา
"มีอะไรคะ"
โยทะกาสบตา ลุ้นว่าทองทาจะทำยังไง ทั้งคู่ต่างหยุดไปสองวิ แล้วในที่สุด
"เปล่าครับ"
โยทะกาโล่งใจเบาๆ ทองทาแค้นใจตัวเองที่ใจอ่อน นักข่าวถ่ายรูปต่อไป
ร้านเซอร์ไพร์ส ตอนกลางคืน วันเดียวกัน โรส นั่งยิ้มไม่หุบ บุญมา สมศรีเอาอาหารออกมา เตรียมกินเลี้ยงเล็กๆ
ทองทาและอธิพาการะเกด และชงโคกลับมา ทั้งหมดร้องเย้ เข้ามาหากัน
"เฮ้ดีใจด้วย นี่มันยิ่งกว่าถูกหวยอีกนะ" ปลาบอก
บุญมาบอก "พวกเราดูแกทุกคน ข้าโหวตไปตั้งหลายร้อย"
"ข้าทำกับข้าวเลี้ยงพวกเอ็งไว้เพียบ ป่วนไว้เยอะ ชนะแบบนี้ค่อยคุ้มหน่อย" สมศรีบอกโรสเดินไปหาทองทา
"ฝีมือคุณแท้ๆ คนที่เก่งคือคุณ วันนี้ทั้งสามคนร้องเพลงเหมือนเป็นคนละคน"
"ขอบคุณครับพี่"
"แล้วหนูมาลี ล่ะ" บุญมาถาม
"เขาบอกว่ามีธุระค่ะ" การะเกดบอก
"ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว ธุระอะไรของมัน"
ทองทา การะเกด ชงโค ยิ้มให้กัน
บอยทำสายไฟอยู่ในสตูดิโอ แคที่พามาลีเดินมา
"บอย มีคนมาหา"
บอยตกใจ
"หนูมาลี"
"พี่กลับไปอยู่ที่บ้านพี่โรสเหมือนเดิมได้ไหม"
"ทำไมล่ะ"
"หนูมาลีรู้ความจริงแล้ว หนูขอโทษ"
บอยยิ้ม
แคที่ร้องไห้กระซิกๆ
"แล้วพี่จะร้องไห้ทำไมเนี่ย"
"ซาบซึ้ง ความรัก ชนะทุกอย่าง ซาบซึ้งๆ"
บอยยิ้มให้หนูมาลี โล่งใจที่เข้าใจเสียที
พวกโรส ทานข้าวฉลองกันอยู่
บุญมาบอก
"ฉลองโว้ย"
ทั้งหมดชนแก้ว
ทุกคนพร้อมกัน"สาวเสริฟเซอร์ไพร์ส จงเจริญ เย้"
บุญมาถาม
"โอ๊ะ โอ๋ ตากูฝาดหรือเปล่า"
แคที่ มาลีและบอยเดินมาด้วยกัน
โรสนึกไม่ถึง "บอย"
ทุกคนอึ้ง มาลีพูดกับโรสทำลายความงุนงง
" ป้าสมศรีบอก ด่าพ่อแม่ตายไปจะกลายเป็นเปรต แล้วถ้าหนูอยู่บ้านนั้น หนูคงทะเลาะกับพี่ทุกวัน"
"นี่หมายความว่า"
"หนูไปตามพี่เขากลับมา"
ทุกคนตกใจ ว่ามาลี ทำได้
"อย่าไล่ผมไปอีกเลยนะ ผมอยากอยู่กับพี่"
แคที่กระซิกๆ อีก
"แล้วแกจะร้องไห้ทำไมวะแคที่" สมศรีถาม
"ฉันร้องมาตลอดทางนั่นแหล่ะ"
ชงโคบอก
"ความรักของพ่อลูก ใครๆก็ซาบซึ้ง"
แคที่ส่ายหน้า ไม่ใช่อย่างนั้น
"ถ้ามีเวลาอีกหน่อย ไอ้บอยเสร็จแน่ !"
ทุกคนร้องโฮ้ยออกมาพร้อมกัน !
ทองทากับอธิ หัวเราะ
"สองคนนี้หัวเราะอะไรฉัน ไปอยู่กับฉันไหมล่ะ ขำทั้งคืนเลยนะ"
แคที่กระแซะทองทากับอธิ สองคนล่าถอย ยกมือว่า...ไม่ต้องครับ มาลีดึงกุหลาบขาวดอกนั้นออกมา เดินไปหาโรส
"หนูชนะเพราะพี่"
โรสรับกุหลาบ ทุกคนยิ้ม
"วันนี้แกร้องเพลงดีนะ"
อธิกับทองทากระซิบกัน
"ได้ดูฉากซึ้งแล้ว กอดไหม กอดไหม" อธิลุ้น
"เสียดายแต่ชุด จืดสนิท ไม่ได้เรื่อง"
ป่อย... ทุกคนอึ้ง
มาลีต่อปากต่อคำทันที ยืดยาว ทันกัน ซัดไปมารวดเร็ว
"หนูไม่ใช่นางโชว์ พวกหนูผู้หญิงแท้" มาลีเชิดใส่นิดๆ "จะโบ๊ะบึ้มไปทำไม ไม่จำเป็น"
"ไม่มีรสนิยมมากกว่า"
"ทำไมจะไม่มี ที่ไม่มีจริงๆคือ ไม่มีตังค์ จะให้ไหมล่ะ"
"ไม่ให้ จะหักพวกแกด้วย เดือนนี้หยุดเกินกำหนด"
"ก็หักไปสิ กลัวที่ไหน"
"ไม่กลัว แล้วอยู่ทำไม"
"ไม่รู้ ไม่ไป ไล่ไงก็ไม่ไป มีอะไรไหม"
มาลียั่วไปยิ้มไป แล้วตักข้าวกินทันที
โรสค้อน แต่แววตามีความสุข
"นี่ต่างหากโรส กับหนูมาลี ของแท้" ทองทาว่า
"นี่แหล่ะ ครอบครัว" อธิว่า
"มากินข้าวกัน เดี๋ยวเกดตักข้าวให้" การะเกดว่า
การะเกดไปดึงบอยกับแคที่มา ทุกคนอยู่ในบรรยากาศแห่งความสุข
เวลาต่อเนื่องมา มาลีเก็บของในห้องของตนเองย้ายออกไป บอยยืนดูอยู่
"พี่นอนที่บ้านพักได้"
"ไม่ พี่นอนที่นี่เถอะ เสียงกรนเขา ทนได้ยังไง"
โรสเดินตามมาด่า
"น้อยๆหน่อย บอยมันกรนดังกว่าฉันอีก"
มาลีเดินมาเยาะโรส
"กลับห้องเราสบ๊ายสบาย ไม่เห็นอยากนอนด้วยเลย"
โรสหมั่นไส้ หันขวับมาจะกดหัว มาลี หลบหมับได้ทันที
"คิดจะจับชะนี ยากหน่อยนะ เก้ง กวางน่ะยังไงก็วิ่งสู้ชะนีไม่ได้"
โรสยังวิ่งตามจะตี ปากยังดุ
"นี่ ว่าใครเป็นเก้งเป็นกวางชักเอาใหญ่นะ"
มาลีวิ่งหนีไปยืนบนเก้าอี้ยาว ทำท่าลิง
"ผัวๆๆ"
"ขาสกปรก ไปเหยียบเก้าอี้ได้ไง ลงมา"
มาลีหัวเราะร่า กระโดดวิ่งหนีหัวเราะไป
"ฮะฮะ ไปล่ะน้า"
โรสยิ้มมีความสุข มองตามไป
"เขาเหมือนจะยอมรับได้แล้วนะ จู่ๆก็ยอมรับขึ้นมา เป็นเด็กที่แปลกจริงๆ ทำเรื่องที่คาดไม่ถึงอยู่เรื่อย"
"ประสบความสำเร็จในวันนี้ แต่วันข้างหน้า มันไม่ง่ายหรอกบอย"
บอยหันไปกอดโรส โรสกอดตอบ
"ขอบใจนะบอย ที่อดทนกันมาขนาดนี้"
ทั้งสองยืนกอดกัน ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุข
วันใหม่ บรมและแซนดี้ในชุดเดิมมาบันทึกเทป บนฉากที่เหมือนเมื่อวานเปี๊ยบ
บุษบาบัณในชุดสวยก็เช่นกัน ยืนเตรียมตัวบนเวที
บรมบอกแซนดี้
"คุณกับผมต้องนั่งประกอบฉากให้เหมือนเราดูเขาอยู่"
โยทะกาบอก
"เราจะใช้ภาพนี้ตัดต่อเข้ากับเทปที่เราถ่ายคุณสองคนวันนั้น ตอนนี้นักข่าวเริ่มคนสงสัยเรื่องคุณเบล เขาเริ่มถามว่า ปัญหาอยู่ที่การออกอากาศ แต่เทปที่อัดไว้ของเราต้องมีสิ เขาจะขอดูเทปนั้น เพื่อยืนยันว่าเบลมาร้องจริงๆ"
บรมถามทีมงาน
"เมื่อวานผมใส่นาฬิกาไหม พวกรายละเอียด ทีมงานเช็คที ต้องเหมือนเปี๊ยบเลยนะ เปิดเทปวันนั้น เช็คเราทั้งสองคนเลย"
ทีมงานยกมือว่าโอเค ทำงานต่อไป
"เริ่มโกหกครั้งที่ 1 ก็ต้องมีครั้งต่อไปสินะ"
แซนดี้เซ็ง เดินไปนั่ง ข้างๆบรม
"ทีมภาพนิ่งก็ถ่ายในลักษณะร่วมเฟรมไว้นะ บันทึกเสร็จเราจะรีบเอาออกสื่อ ออกอากาศทันที เพื่อยืนยันว่า คุณเบลมาเข้าแข่งจริงๆ"
"แน่ใจนะว่ามีคนรู้ไม่มาก" เมืองแมนถาม
"ไม่เกิน 20 คนค่ะ เอ แล้วที่สนามบิน"
"ยายเบลใช้ ทางเข้าออกวีไอพีทั้งสนามบินที่โน่นและที่กรุงเทพ คนเห็นน้อยมาก"
โยทะกาพยักหน้า
"ร้องลิปซิงค์ให้เหมือนเลยนะลูก" บุณฑริกบอก
นีน่า ยาหยียืนวิจารณ์กัน เบาๆสองคน
ดนตรีขึ้น บุษบาบัณเริ่มร้องเพลง บรม แซนดี้นั่งฟัง
นีน่าบอก
"ใช้การตัดต่อ มายากลทางโทรทัศน์ หลอกคนได้ทั้งประเทศ"
"วาสนาคนไม่เท่ากัน มีเงิน มีอำนาจ ทำได้ทุกอย่าง" ยาหยีว่า
อ่านต่อหน้า 2
มาลีเริงระบำ ตอนที่ 5 (ต่อ)
วันใหม่ บุษบาบัณกับบุณฑริกนั่งแถลงข่าว มีนักข่าวล้อมเต็ม
"มีคนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมวันนั้น ต้องเจาะจงมีปัญหาที่คุณเบลคนเดียว"
"เบลไม่ทราบเลยค่ะ เห็นเขาบอกระบบการถ่ายทอดดาวเทียมมันรวนน่ะค่ะ เห็นพี่ๆเขาบอก"
"คือถ้าสัญญาณออกอากาศจะเสียก็เสียทั้งภาพ ทั้งเสียงแต่นี่เสียงกลับใช้ได้"
"วันนี้ทั้งวันทางสถานี ฉายให้ดูแล้วนี่คะ ว่าจริงๆแล้ว อัดเทปเก็บไว้ด้วย กล้องสำรอง นี่ไงคะ ภาพนี้ มีคุณบรม ครูแซนดี้อยู่ด้วย"
บุณฑริกช่วยโชว์ภาพด้วยไอแพด
"แล้วเรื่องคะแนนที่เท่ากัน"
"ผู้ที่คำนวณคะแนน เป็นกรรมกลางกลางด้านคอมพิวเตอร์ ท่านออกมาชี้แจงแล้วนี่คะ ว่านั่นเป็นคะแนนดิบ ไม่มีการแทรกแซงใดๆทั้งสิ้น"
"แต่โอกาสที่จะเท่ากันเป๊ะๆขนาดนั้น มันเป็นไปได้ยังไง"
บุษบาบัณทำเป็นก้มหน้าร้องไห้ พูดไม่ออก เหมือนน้อยใจสุดๆ
"ให้ความยุติธรรมกับเบลบ้างนะคะ"
"ไม่ต้องร้องไห้ลูก"
"ถ้าเบลอยากจะโกง ขอคะแนนที่ 1 ไม่ดีหรือคะ นี่เบลซ้อมร้องเพลง เหนื่อยมาก ตลอดสามเดือน ลำบากที่สุดในชีวิต เบลก็ยอม เพื่อให้ทุกคนเห็นใจ เห็นความสามารถของเบลจริงๆ"
ทองทาดูทีวีอยู่ที่บ้าน เห็นน้องสาวต่างแม่ร้องไห้ต่อหน้าสื่อ จนบุณฑริกต้องกอดไว้
เขานั่งดูอย่างเซ็งมาก รู้สึกผิดตลอดเวลา อยากเอาเรื่อง แต่ก็เกรงใจพ่อบังเกิดเกล้า !!
คืนวันเดียวกัน สามสาวทำงานเสิร์ฟอาหารตามปรกติ ลูกค้าทักทายชงโค
"เมื่อวานพี่ดูรายการ พี่เลยแวะมา ขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ"
ชงโคยิ้มแย้มถ่ายรูปด้วย
"ร้องเพลงเยี่ยมมากเลย สู้ๆนะ"
ห่างไป มาลีและการะเกดก็ถ่ายรูปอยู่ที่มุมหนึ่ง
"ลูกค้าเพิ่มสองเท่า กลายเป็นคนดังไปเลย" บอยบอก
"ดูหน้ามันสามคน บานยิ่งกว่าถาดนี่อีก" โรสบอกพลางค้อนใส่
"เอาน่ะ กำไรทั้งนั้นเลย ค่อยยังชั่ว นังหนูป่วนมันหาเรื่องเสียเงินเยอะแล้ว คราวนี้ เอาคืนได้เสียที"
เกรซกับมี่มาถึง
ชงโคเสียดสีทักทาย
"เกรซ มี่ มาแล้วหรือจ๊ะ วันนี้จะออกไปเสี่ยอ้วนๆคนไหนดีล่ะ"
เกรซถาม
"นี่แกเยาะฉันหรือ"
"เปล่า แค่ทักทาย เมื่อวานดูรายการฉันหรือเปล่า"
มี่บอก
"ถุย แค่ไก่รองบ่อน ลำดับสุดท้าย ... คราวหน้ามึงก็แพ้"
"อีมี่ มึงเล่นน้ำลายจริงหรือ"
ชงโคตบมี่เปรี้ยง มี่เซ ลูกค้าตกใจหันมามอง
เกรซบอก
"อีชงโค มาเลย อยากตบมึงมานานแล้ว"
เกรซเข้าไปตบชงโคอีกเปรี้ยง ชงโคเซไปที่ โต๊ะ ลูกค้ากรี๊ดกระจายหายหนี ทั้งสองรุมชงโค จับกดที่โต๊ะอาหาร การะเกดตกใจทำอะไรไม่ถูก
"อ๊าย พี่บอย ช่วยด้วย"
พวกโรสสะดุ้ง รีบหันมามอง แต่ยังอยู่ห่างกันมาก
"รุมน่ะมันหมา เกิดเป็นคน ตัวต่อตัวโว้ย"
มาลีพุ่งไปจับเกรซขึ้นมา แล้วผลักออกไป กลายเป็นสองคู่ ปล้ำกันที่พื้น เอาข้าวมาเทใส่หัวกัน บอยถึงก่อน จับแยก
"เฮ้ยหยุดๆ"
บอยถูกมี่ถีบออกมา
"โฮ้ย ทำไมมันแรงเยอะจังวะ"
โรสบุกเข้ามาเอาน้ำมาราดสองคู่จนเปียกปอน ได้ผล หยุดกันหมด
"พี่โรส"
"ฝันอยากเป็นดาว อยากอยู่ที่สูง แล้วดูซิตอนนี้มึงสูงกันจริงไหม ทั้งข้าวทั้งแกง เต็มหัวหูหมดแล้ว"
สมศรีมาชี้ด่า
"เพิ่งชมแหม็บๆ นึกว่าจะได้เงินคืน ลูกค้าตกใจหนีหมดแล้ว เงินก็ไม่ได้จ่าย อีหนูป่วนเอ๊ย"
มาลี ชงโค เกรซ มี่ นั่งหน้าตาสกปรกอยู่ที่พื้น โรสโกรธมาก ซูซี่เดินเข้ามามอง อย่างแค้น
มี่กับเกรซเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ หลังจากล้างตัวมา ซูซี่ส่งผ้าให้
"ความสำเร็จครั้งนี้ก็แค่ภาพลวงตา พวกแกสองคนไม่ต้องไปสนใจหรอก ชีวิตมันสามคน จะไม่มีวันดีไปกว่าพวกแกหรอก"
"ทำไมล่ะพี่ซูซี่" เกรซถาม
"เพราะโลกใบนี้ มีสองอย่าง เงินและตัณหา ! ฮึ นังสามคนนั่นแสบนัก คนอย่างมันต้องเจอฉัน !"
ซูซี่ยิ้มร้าย
เวลาเช้า ต้นกุหลาบมีหยดน้ำสะท้อนแสงแดดสวยงาม บัดนี้มีดอกตูมแล้ว วางเคียงกับต้นชงโคและการะเกด ทองทายังนอนหลับอยู่ มาลียกถาดอาหารเช้าเข้ามา
"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่"
"เฮ้ย เข้ามาทำไม"
"ไม่รู้จะตอบแทนพี่ยังไงดี ก็เลยมาจัดบ้านให้ ดอกไม้สวนพี่ไง"
ทองทามองไปรอบๆ ห้องเรียบร้อย มีดอกไม้ในแจกันวางอยู่สวยงาม
"นี่อเมริกันเบรคฟัสต์ ไง... ฉันทำได้ ออกเสียงถูก รายการ อิงลิชออนทัวร์สอนให้ ... เสิร์ฟถึงเตียงเลยนะ"
"นี่เข้าห้องผู้ชายตอนเช้าๆเนี่ย ผู้หญิงดีๆเขาไม่ทำกันนะแม่คุณ ติดนิสัยยายชงโคมาหรือไง"
"ก็พี่ไม่ใช่ผู้ชายนี่…. ไปแปรงฟันเร็วเข้า เดี๋ยวเย็นหมด เดี๋ยวหนูจะเก็บเตียง"
มาลีเริ่มเก็บห้อง ดูแล ทองทามองด้วยสายตาลึกซึ้งมีความสุข
"เขาแต่งงานกัน เพราะงี้นี่เองเนอะ"
"อะไรนะ"
มาลีมองหน้าทองทา ได้ยินไม่ถนัด ไม่เข้าใจ
ทองทาเอาหน้าเข้าไปใกล้ สบตากัน สองวิ ทองทาส่งสายตามา แต่มาลีไม่เข้าใจ ทองทาพูดเบาๆ ตาหวานฉ่ำ
"ขอบใจจ้ะ คนสวย"
มาลีไม่เขยิบหนี ยิ้มให้ เพราะไม่ได้คิดอะไร ทองทาลุกไป
"ทำหน้าแปลกๆ"
มาลีคิดถึงสายตาเมื่อกี๊ ไม่ค่อยกล้าตีความไป เลยยังงงๆอยู่
ดอกกุหลาบแดง บนต้นของหนูมาลี มีดอกตูม เหมือนความรักที่เริ่มต้น อาหารเช้าบนถาดเกลี้ยงแล้ว ทองทาเพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมาจากในห้องน้ำในชุดเสื้อคลุม มาลีเอาชุดมาให้เลือก ทำหน้าที่ต่างๆ เพราะรู้ใจ เข้านอกออกในจนรู้สไตล์ของทองทาว่ามีชุดเก่งชุดไหน มาลี หยิบออกมาให้ดูสองชุด ให้เลือก
"ชุดไหน"
ทองทาชี้ชุดทางขวา หนูมาลี วางให้แล้วเก็บอีกชุดเข้าตู้ และเก็บผ้าต่างๆ เตรียมไปซัก " การะเกดกับ ชงโควันนี้เขาต้องอยู่ร้าน หนูมาลีเลยว่าจะมาเก็บบ้านให้ จะมาคุยกับพี่ด้วย เรื่องรอบต่อไป"
"นั่นมันอีกตั้งนาน"
"เราไม่ค่อยมีเวลา พี่ก็รู้ เราต้องทำงานมากกว่าคนอื่นสามเท่า เราถึงจะชนะ"
"วันนี้พี่มีธุระ"
"ธุระอะไร ช็อบปิ้งหรือ ให้ไปช่วยถือของให้ไหม"
ภายในสวนของโรงพยาบาลดูแลคนโรคจิต ทองทากับมาลียืนมองช้องนางที่นั่งเหม่อเศร้า
"นั่นแม่พี่หรือคะ"
"ถอยห่างพี่ไปก่อน เดินใกล้ๆ จะไม่ปลอดภัย"
มาลีถอยไป ด้วยความงง
"แม่ครับ วันนี้เป็นยังไงบ้าง"
"เมืองแมน แกมาทำไม คนทรยศออกไปนะ ออกไป"
ช้องนางจะฟาดหน้า ทองทาหลบทัน ถอยกรูด
ช้องนางหันไปมองหามาลี
"แกจะพาผู้หญิงคนนั้นมาเยาะฉันหรือ"
มาลี สะดุ้งรีบหยิบสายยางมา ทำทีเป็นคนสวนอย่างรวดเร็ว ยืนรดๆไปทั้งที่ไม่มีน้ำ เข้าใจแล้วว่า ทองทาหมายถึงอะไร
พยาบาลเข้ามาดูทันที กันให้ทองทาถอยออกไปยืนไกลๆ
"ออกห่างไปก่อนค่ะ"
ช้องนางหันหนีไปคร่ำครวญทางอื่น
"ฉันจะพาลูกไปอยู่เมืองนอก เราจบกันแค่นี้เถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว"
ช้องนางก้มหน้าลงร้องไห้ มาลีเห็นเขาไม่มอง เลยกระซิบถาม
"พี่เป็นอะไรไหม"
"หลบทัน พอห่างไปนานๆเป็นอย่างนี้ทุกที สงสัยวันนี้จะคุยกันไม่รู้เรื่อง"
มาลี คิดอะไรได้
"ขอฉันลองบ้างได้ไหม"
"นี่อย่าเลย"
ไม่ทันแล้ว มาลีเดินไปนั่งข้างๆช้องนาง
ช้องนางหันมาเจอ
"เธอเป็นใคร"
มาล บรรจงฮัมเพลงทีละตัวโน้ต ให้กลายเป็นการสื่อสารให้ได้ซึ่งไพเราะและเต็มด้วยความรู้สึก
มาลีฮัมเพลง "หนูมาลี" ให้เกิดความสดใส พลางยิ้มไปด้วย
ช้องนางคิดๆชื่อเพลง
"หนูมาลี"
มาลีพยักหน้าว่าใช่ ช้องนางคล้อยตาม ยิ้มออกมา สนใจมาลีทันที
มาลีฮัมทำนอง "ธรณีกรรแสง" ที่ดูไม่ตลก ไม่แอกติ้งให้ทำนองเพลงทำหน้าที่
บอกอารมณ์ตรงไปตรงมา เต็มไปด้วยความรู้สึก
ช้องนางใช้หูฟังความรู้สึกนั้น อย่างจริงจัง
"มีเรื่องเศร้าหรือลูก"
มาลีพยักหน้าเล็กๆ
มาลีฮัมทำนอง "เพลงค่าน้ำนม"
"ทะเลาะกับพ่อ"
มาลีพยักหน้า
"โถ พ่อแม่รักลูกทุกคนนะ อย่าคิดมาก"
ช้องนางเข้ามาจับไหล่ปลอบ การสื่อสารด้วยวิธีฮัมทำนอง กลายเป็นเรียกร้องความสนใจจากช้องนางได้ อย่างไม่น่าเชื่อ ช้องนางลืมเรื่องของตนหันมาสนใจมาลีทันที
ทองทาทึ่ง มาลีทำได้ยังไง
มาลีหยิบมือถือออกมาเปิดดนตรีวอลซ์สำหรับเต้นรำ แล้ววางไว้
มาลีดึงช้องนางลุกขึ้น แล้วเริ่มเต้นไปตามเพลง ทั้งสองเต้นไปพร้อมกัน ช้องนางหัวเราะอารมณ์ดีขึ้นทันที
"วอลซ์ไม่ได้เต้นอย่างนี้สักหน่อย มั่วๆนะเธอ"
มาลีเต้นนำช้องนางไปหาทองทา แล้วดึงช้องนางให้ ทองทารับไปเต้นต่อ
ทั้งสองเต้นกัน ช้องนางดูมีความสุขขึ้นที่ได้เต้นรำ ช้องนางมองหน้าทองทาแล้วคิด ในที่สุดจู่ๆก็จำได้
"ทองทา ทองทามาเยี่ยมแม่หรือลูก"
ทองทาตกใจมาก ดีใจ ที่แม่จำตนได้แล้ว มาลีปรบมือเบาๆ... สำเร็จ
"แม่คิดถึงลูก เราไม่ได้เต้นรำด้วยกันนานเท่าไหร่แล้วนะ"
ช้องนางเต้นไป กอดลูกไป
ทองทาดีใจมาก ไม่ได้กอดแม่มานานแล้ว กอดตอบแนบแน่น
"ผมคิดถึงแม่ยิ่งกว่า ผมรักแม่นะครับ"
นาทีที่สำคัญ ทั้งสองต่างซาบซึ้งมาก
"แม่ก็รักลูก รักลูกที่สุด"
ช้องนางกับทองทา ยิ้มออกมาด้วยความรัก
ช้องนางกำลังสอนพยาบาลเต้นวอลซ์อยู่ห่างไป ช้องนางมีความสุข ยิ้มแย้ม เป็นคนละคน
"พี่พยายามหาวิธีเข้าถึงแม่มาหลายปี แต่หาไม่ได้ จู่ๆ หนูก็เข้ามาทำเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆ"
"ก็พี่บอกว่า ดนตรีคือการสื่อสาร พี่บอกคุณแม่เป็นนักดนตรีนักเต้น แสดงว่าท่านต้องเข้าใจดนตรีมากกว่าคำพูด"
"จริงๆด้วย" ทองทามองแม่ที่ยิ้มสนุกกับพยาบาล
"แล้วพี่ยังบอกอีกว่า เวลาที่ดีที่สุดที่พี่มีกับแม่คือ ตอนเต้นรำ หนูก็เลยจำได้ว่า ท่านต้องมีความสุขกับดนตรีและการเต้นรำ ถ้าเราเริ่มจากความสุข อะไรๆมันก็ดีทั้งนั้น ดนตรีบำบัดไงพี่"
"เออเนอะ ทำไมพี่ไม่เคยคิดถึงวิธีนี้มาก่อนนะ"
"พี่คงเอาแต่เสียใจเรื่องแม่จำแต่พ่อ ชื่อแมนอะไรนะคะ ชื่อพ่อพี่ชื่ออะไรนะ"
ทองทามองหนูมาลี นิ่งๆ ตาบอกความรู้สึกรัก จนมาลีต้องหยุดพูด
"ตาพี่ตอนนี้ เหมือนกำลังร้องเพลง"
ทองทาดึงมาลีเข้ามากอด มาลียิ้มมีความสุข เข้าใจดี
"หนูหายใจไม่ออกแล้ว"
"เธอต้องเป็นครึ่งหนึ่งที่หายไปของฉันแน่ๆ"
"ใช่ค่ะ พี่น่ะครึ่งหนึ่งของหนูมาลีอยู่แล้ว โดยเฉพาะนับจากนี้ต่อไป ทุกความสำเร็จของหนูมาลี จะมีพี่อยู่ครึ่งหนึ่ง"
"ขอบใจจริงๆ ขอบใจนะ"
ช้องนางมีความสุข ยิ้มใหญ่ชี้ให้พยาบาลมองทั้งคู่
อธิแวะมากินข้าวกลางวันฝีมือการะเกด ที่ร้านเซอร์ไพร์ส การะเกดกับชงโคทำความสะอาดร้านอยู่ตามปรกติ
"ถ้าน้ำหนักพี่ขึ้นเพราะเธอ เธอต้องรับผิดชอบนะการะเกด"
"รับผิดชอบยังไงคะ"
"ก็ง่ายๆแค่…"
อธิหลบตาเขินการะเกด จะจีบ แต่ไม่กล้า การะเกดงง ชงโคเบ้หน้า หมั่นไส้การะเกดเล็กๆ
"พี่อธิจีบเธอ แอ๊บหรือเปล่าถึงไม่รู้เนี่ย"
อธิสะดุ้งโหยง
"เฮ้ย ... ชงโค พูดอะไรอย่างนั้น"
การะเกดบอกเหตุผลออกมาตรงๆ
"ไม่ได้แอ๊บ ก็พี่ทองทากับพี่อธิ เป็นแฟนกัน ไม่ใช่หรือ"
อธิไอแค่กๆ จนต้องดื่มน้ำ หนักข้อเข้าไปอีก
ชงโคหยิบหนังสือพิมพ์ข่าวบันเทิงแถวนั้นขึ้นมา มีรูปบุษบาบัณให้สัมภาษณ์
"นักข่าวยังเล่นข่าวคุณเบลอยู่ เขายืนยันว่าคุณเบลโกง พี่อธิอ่านหรือยัง" ชงโคว่า
"อื้อ อ่านแล้ว เขาพยายามหาหลักฐานกันใหญ่ ถ้าคุณเบลโกง เขาก็ต้องออก คู่แข่งจะน้อยลง พวกเธอก็สบาย"
"แล้วถ้าหาความจริงไม่ได้ เขาก็จะโกงต่อไป คนที่เหลืออยู่ตอนนี้ ก็สู้ไปทั้งที่ไม่ชนะ คนชนะสุดท้ายก็คือยายเบล"
การะเกดบอก
"โอกาสของคนด้อยโอกาส ถูกทำลายโดยคนที่เกิดมาพร้อมกับโอกาส"
ทั้งคู่เศร้า อธิปลอบ
"ธรรมชาติ จะมอบความเข้มแข็งให้คนด้อยโอกาส และเมื่อคนด้อยโอกาสลุกขึ้นสู้ด้วยความเข้มแข็งนั้น เขาจะชนะ นี่แหล่ะคือความยุติธรรมของธรรมชาติ"
"หนูต้องสู้ใช่ไหมคะ" การะเกิดถาม อธิพยักหน้า
"ฟังดูน่าเหนื่อย… ปัญหาคือ คนบางคนสู้ตลอดชีวิต แต่ไม่เคยชนะเลย ถ้าเราเป็นแบบนั้นล่ะ"
อธิอึ้ง ชงโคดูหมดความหวังขึ้นเรื่อยๆ
ตอนกลางคืน รถเบนซ์คันหนึ่งเข้ามาจอด วานิชเดินลงมา พร้อมสมุน 2 คน
ซูซี่ มี่ เกรซ รู้ข่าวก่อนแล้ว รีบมาต้อนรับ
ภายในร้าน โรสกับบอยมองไป
"ใครวะ นังซูซี่ต้องไปรับเสด็จขนาดนั้น"
"คุณวานิช ขาเที่ยวแถวนี้ เที่ยวอาบอบนวดทุกวัน จ่ายไม่อั้น ไม่รู้รวยมาจากไหน"
"ซูซี่เคยรับใช้ท่าน ตอนอยู่ เดอะพาราไดซ์ จำได้ไหมคะ" ซูซี่แนะนำตัว
"อื้อ แล้วตอนนี้ออกมาเป็นมามาซังเอ็งหรือ"
"แหม เบาหน่อยก็ได้ค่ะ คือพอดีมีน้องๆต้องดูแล นี่ มีมี่ กับเกรซ คืนนี้ เราจะดูแลเสี่ยนะคะ"
วานิชมองมี่กับเกรซ หัวจรดเท้า ชี้หน้าอกตรงไปตรงมา พูดจาเสียงดังเป็นนิสัย มองผู้หญิงเหมือนจะเลือกซื้อวัว
"หน้าอกน่าจะไปทำอีกนิด สะโพกด้วย มันต้องตึงๆ แน่นๆ มิน่าแขกไม่ค่อยมี"
มาลีที่ทำงานแถวนั้น ได้ยินเต็มๆ นิ่วหน้ามองไม่ชอบที่วานิชพูด
"ไปตามเด็กสามคนที่เข้าประกวดมาให้ดูที"
มาลีตกใจ รีบหลบชะแว้บกลับไป แต่หูยังฟังอยู่
"เด็กสามคนหรือคะ"
ซูซี่งงๆ เพิ่งรู้ว่าวานิชมาเพราะเรื่องนี้
"อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ ฉันกดโหวตมันไปตั้งหลายพัน"
"เอ้อ พวกนั้นเขาแค่เด็กเสิร์ฟ คนละชั้นกับเรานะคะ"
"อยู่ไหม ถ้าไม่อยู่จะได้กลับ"
"เอ้อ อยู่ค่ะอยู่ ไปหาที่นั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวซูซี่จัดให้ค่ะ"
วานิชพยักหน้าเดินนำไป ซูซี่รีบตาม มี่กับเกรซเซ็ง มาลีเริ่มหวั่นใจ
วานิชเดินไป มองร้านไป วิจารณ์ไป คนอื่นเดินตาม
"ร้านอยู่หลังซอย ขายอาหารธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น"
"มีห้องหนึ่ง ไม่ธรรมดาค่ะ ซูซี่ดูแลเอง เป็นห้องที่ลูกค้ามีน้องๆดูแลใกล้ชิดสนิทแนบ อยากทำอะไรก็ได้ เราไปห้องนั้นกันไหมคะ"
มี่บอก
"หนูสองคนจะดูแลพี่ๆให้ดีเลยค่ะ"
ซูซี่ทำหน้าให้รู้ว่าเป็นห้องประเภทไหน
"มีห้องหนึ่ง แปลว่ามีห้องเดียวหรือ"
"ค่ะ ทางนี้ค่ะ"
วานิชคิดเล็กน้อยเดินไปอีกทาง วันนี้อยากกินข้าวธรรมดา
"เอ้าไปไหนอ่ะคะ คุณวานิช"
ซูซี่หันมา วิ่งตามกลับมาแทบไม่ทัน
ผ่านเวลามา วานิชนั่งโต๊ะรวมกับแขกอื่นกลางร้าน ฟังดนตรีที่อยู่บนเวทีตามปรกติ กินอาหารไปหลายจานแล้ว
ซูซี่ เดินนำสามสาวเสิร์ฟมาหาตามคำสั่ง
"นี่คุณวานิช รวยมาก" ซูซี่บอกแนะนำ
"รวยจากอะไรคะ" มาลีถาม
"เอ๊ะไอ้นี่ คนสมัยนี้เขาไม่สนหรอกว่ารวยจากอะไร ขอให้รวยจริงก็พอ"
วานิชเพ่งมองหุ่นทั้งสามคน แบบดูหมอนวด
"อืม ไหนสามคนหมุนตัวหน่อยซิ"
สามสาวงง
"ไม่ต้องมองหนูแบบนั้นหรอกค่ะ หนูไม่ศัลยกรรมอะไรทั้งนั้น หน้าอก ตะโพก หนูพอแล้ว"
วานิชอึ้งไปนิด ...
"อีบ้านี่ แกพูดอะไรของแก"
วานิชหัวเราะลั่น
"นึกแล้วว่าต้องเป็นเด็กแบบนี้ มันต้องบ้าๆหน่อย ไม่งั้นจะตะกายดาวไปถึงตรงนั้นได้ยังไง"
"คนนี้ชื่อ..."
ยังไม่ทันที่ซูซี่จะแนะนำ วานิชก็ชี้บอก จำได้
"ชงโค การะเกด หนูมาลี ฉันรู้จักทั้งสามคน กดโหวตไปหลายพันให้ไอ้พวกนี้มันช่วยกดด้วย"
การะเกดยกมือไหว้
"ขอบคุณมากค่ะ วันนี้เราสามคนจะร้องเพลงตอบแทนคุณ อยากฟังเพลงอะไรคะ"
"ไม่อยาก อยากชวนหนูไปทำงาน ฉันทำโมเดลลิ่ง"
วานิชพยักหน้า สมุนยื่นนามบัตรให้
"มิน่า ต้องผ่า ต้องยัด ต้องเสริม" มาลีบอก
"ดนตรีธรรมดา อาหารก็งั้นๆ" วานิชโยนช้อนกินไม่หมด เลิกกิน "เอางี้ วันศุกร์หน้า ไปถ่ายรูปตามที่อยู่ที่ให้ไป เก็บประวัติ ถ่ายรูป เอาไว้ก่อน ส่วนใหญ่เราเริ่มจากการลงหนังสือนะ ถ้าฟีดแบ็คดีก็ทำอัลบั้ม เล่นละคร"
"โห .....ได้เล่นละครด้วย หนูขอเมมเบอร์ไว้นะคะ" ชงโคบอก
ชงโคเอามือถือมาเมมเบอร์ตามนามบัตร วานิชมองมือถือพันสก๊อตเทปของชงโคแล้วโยนมือถือตัวเองไปกลางโต๊ะทันที
"นั่นเรียกมือถือหรือ เอาของฉันไป นี่เพิ่งซื้อมาสองวันนะ เฮ้ย เปลี่ยนซิมให้น้องเขาหน่อย"
สมุนดึงมือถือชงโคมาจัดการให้ทันที
"รุ่นใหม่เพิ่งออก ให้ฟรีเหรอคะ"
"อีกสองคนเอาไหม เซ็นสัญญากับฉันสิ ฉันจะให้มากกว่านี้"
สมุนส่งมือถือใหม่ให้ ชงโคดีใจสุดๆ
"เจ๋งอ่ะ ขอบคุณค่ะ ... อ๊าย"
ชงโคเต้นเบาๆ ชื่นชมดีใจกับมือถือใหม่มาก
อ่านต่อหน้า 3
มาลีเริงระบำ ตอนที่ 5 (ต่อ)
ซูซี่พาวานิชเดินผ่านเคาน์เตอร์ เข้าไปทักโรสที่ทำงานอยู่
"เจ้าของร้านหรือ"
"ครับ มีอะไรก็แนะนำได้นะครับ"
"คุณมาเกือบจะถูกทางแล้วนะ แต่ถ้าจะให้ดี ควรจะขยายห้องของเจ๊คนนี้ให้มันเยอะกว่านี้ ทุกห้องเลยยิ่งดี"
ซูซี่ยิ้มดีใจ
"โอ๊ย จริงค่ะจริง"
"ขอโทษนะ ผมทำธุรกิจมามาก ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ ไม่เกินสามปี คุณแย่แน่"
โรสอึ้ง วานิชเดินจากไป
สองหนุ่มนั่งเล่นอยู่ที่ร้านด้วยในคืนนี้ มองนามบัตรที่วานิชให้ เห็นโลโก้อยู่ แต่ไม่มีข้อความว่าธุรกิจอะไร
การะเกดบอก
"ตอนนี้เราดังแล้ว เพราะพี่ทองทานะ ทำตัวไม่ถูกเลย"
ชงโคนั่งเล่นมือถือ เห่อมาก
"เขาให้มือถือฉัน ไม่เสียดายเลย เขารวยจริง ตั้งใจดูแลเราจริงๆ"
"โมเดลลิ่งที่ดังๆก็มีของพี่โอ ศุภโชค พี่เพชร อนันต์ พี่โคคาโคล่า ไม่เคยได้ยินชื่อวานิชแฮะ"
"โลโก้บริษัทเขาคุ้นๆ แต่นึกไม่ออก" อธิบอก
"ชงโค เวลาที่คนเอาเงินมากๆมาให้เรา ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนดีนะ มันแปลว่า เขาต้องการบางอย่างจากเรา แล้วส่วนใหญ่น่ะ เอาคืนมากกว่าที่ให้ทั้งนั้น" ทองทาบอก
"ไม่รู้ล่ะ ต้องเอาไว้ก่อน"
"อืม หนูมาลีไม่ชอบสายตาแบบนั้นเลย สายตาคุณวานิชมองผู้หญิงที เหมือนมองหมา มองแมว สวยไหม ขายได้ไหม ยังไงไม่รู้"
"เขาคงเที่ยวอาบอบนวดจนเคยตัว ถนนทั้งเส้นเนี้ย มันเส้นอาบอบนวด แล้วร้านเราก็คาราโอเกะเหมือนไอ้ร้านข้างนอก คนมันก็มองอย่างนี้กันทุกคน"
หนูมาลี หน้าเบ้ ทองทาเห็นแล้วขำ
"เป็นไง อยู่มาสี่เดือน เจอคนเยอะขึ้น กรุงเทพยังเมืองเทวดาอยู่ไหม"
มาลี ยิ่งหน้างอเมื่อเจอคำพูดของทองทา
วันใหม่ ในตลาด มาลี การะเกด ขายข้าวกล่องกันอยู่ตามปรกติ พ่อค้าแม่ค้า เดินมาคุยด้วย
"ดังแล้วยังมาขายของอีกหรือหนู" พ่อค้าว่า
"แค่เข้ารอบ ยังไม่ได้เงินนี่ค้า" การะเกดบอก
"พวกเราในตลาดโหวตหนูหลายคนเลยนะ" แม่ค้าบอก
"จริงหรือคะ ขอบคุณมากเลย เอางี้หนูยกข้าว" มาลีชี้ข้าวกล่องของตนเอง "เอ้อ เงินลงทุนของพี่เขา ถ้ายกให้ฟรี เขาคงด่าหนูอีก"
ซีโร่เดินมาหา
"ไม่ได้ยกแล้วใช่ไหม งั้นขอซื้อนะ"
"ได้เลยค่ะ พี่เอาอะไรดีจ๊ะ มีข้าวไข่เจียว ข้าวผัดปู ข้าวกะเพรา"
"กินอะไรดีน้า"
มาลียื่นหน้าไปเพ่งมอง
"มีใครบอกไหม พี่หน้าเหมือนพี่ซีโร่มาก"
"อื้อมี มีคนบอกเสียงก็เหมือนนะ"
ซีโร่ร้องเพลงประจำตัว 1 ท่อน
"โอ้โห โคตรเหมือนเลย" มาลีบอก
ซีโร่ยิ้มๆชี้ให้มาลีดู ... ทีมถ่ายรายการเดินออกมาจากที่ซ่อน
"ถ่ายเราอยู่นี่" การะเกดบอก
"นี่หมายความว่า ....พี่ซีโร่ตัวจริง"
มาลีไม่คาดคิดว่าจะเจอผู้ชายในฝันถึงกับเซลง การะเกดร้องว้าย เข้าไปรับ ซีโร่รีบเข้าไปช่วยจับ
"หนูมาลี หนูมาลี"
มาลีเป็นลมไป เพราะพี่ซีโร่มาคุยด้วย
ที่ร้านเซอร์ไพร์สในเวลาต่อมา มาลีแอบอยู่ข้างหลังการะเกด ซ่อนหลังการะเกด เขินอาย แต่ตามองเขม็ง ชื่นชมซีโร่แต่ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ เพราะเขินมาก
ทีมถ่ายรายการก็ถ่ายไป ซีโร่ยิ้มๆ
การะเกดบอก
"วันที่เขาเจอพี่ตอนเราไปสมัคร เขาก็เป็นลมแบบนี้ค่ะ ถ้าพี่อยากรู้ว่าเขาบ้าพี่แค่ไหน พี่ไปดูในห้องเขาได้เลยค่ะ"
"ก็ดี งั้นไปกันครับ"
ซีโร่ลุกขึ้น การะเกด ทีมถ่ายทำเตรียมย้าย
"เฮ้ยไปจริงเหรอ เฮ้ยมาก่อน กลับมาก่อน"
ในห้องพักของมาลี มีรูปถ่ายซีโร่ติดอยู่ที่ฝาบ้าน อัลบั้ม ซีดีเพลง วางเรียงมุมหนึ่งราวกับแท่นบูชา เพราะมีเทียนและกระจกอยู่ด้วย
"โห มีหมดเลย เอ แล้วนี่ เอาไว้ทำอะไรครับ" ซีโร่ชี้เทียนกับกระจก
"อ๋อ อันนี้เอาไว้..."
มาลีตามเข้ามาดึงเทียนกับกระจกไปซ่อนไว้ข้างหลัง ไม่ให้การะเกดพูด
"เฮ้ย อย่าๆ ... อย่าพูดนะ ขอร้อง อย่าบอก"
การะเกดหัวเราะ
จู่ๆ ชงโคโผล่เข้ามาประกาศเสียงดัง
"เขาเอาไว้ จุดเทียน แล้วท่องชื่อพี่ซีโร่ หน้ากระจกพันครั้ง แล้วพี่จะได้เป็นแฟนเขา"
"นังปากสว่าง ! ฉันจะฆ่าแก"
มาลีแทบกรี๊ด วิ่งไล่ตีชงโคไปรอบๆ ซีโร่หัวเราะ กล้องถ่ายไว้หมด
ความโกลาหลผ่านไป ทั้งหมดมาส่งซีโร่กลับ มาลีเอาผ้าพันคอสีดำให้ซีโร่ ด้วยท่าทางเขินเหมือนเดิม
"หนูถักเองค่ะ นั่งถักก่อนนอนตั้งสามเดือน ตั้งเป้าหมายว่า จะมอบให้พี่
กับมือ ตอนเข้ารอบ แล้วหนูก็เข้ารอบจริงๆ ได้ให้พี่จริงๆ ... ขอบคุณทุกเสียงโหวตค่ะ" มาลีพูดขณะมองกล้อง
"ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ"
ซีโร่ดูจริงใจมาก ซาบซึ้งกับกำลังใจ เพราะซีโร่กำลังมีปัญหาในชีวิตอยู่ในช่วงนี้ ซีโร่จับผ้าคล้ายพูดไม่ออก คล้ายมีอะไรติดที่คอ
"อืม ไม่รู้สินะฮะ วันนี้ผมแวะมาเยี่ยมน้องๆทั้งสามคน ผมทึ่งมาก พวกเขายังทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ แล้วผมก็พบว่า ผมคือแรงบันดาลใจของพวกเขา ผมประทับใจมาก และผมขอให้เธอชนะ"
ซีโร่และหนูมาลี ต่างมองด้วยสายตาลึกซึ้ง มากกว่าความชื่นชม
ทองทา อธิ นั่งดูภาพทีวีในบ้าน ถึงกับอึ้ง เพิ่งรู้
"เธอเป็นไปได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ"
มาลีและการะเกดเดินออกมา พร้อมจานอาหาร แวะมาทำอาหารให้สองหนุ่ม
"แหม คนเรามันต้องมีแรงบันดาลใช่ป่ะล่ะ"
สองสาววางเสร็จเดินเข้าไป กลับไปทำงานในครัว อธิรีบกระซิบ
"นี่ๆ แกบอกพวกเขาเรื่องแกไม่ใช่ตุ๊ดหรือยัง"
"เปล่าไม่เคยคุยกัน"
"สาวๆเขาเชื่อว่าเราเป็นตุ๊ด เป็นแบบ อี๊ แค่คิดก็ขนลุก"
ทองทากินอาหาร ไม่ค่อยสนใจ "อื้อ"
"แกอื้อเฉยๆไม่ได้นะ ถามจริงๆแกเป็นอะไรของแก ทำไมแกชอบปล่อยให้คนเข้าใจผิดวะ"
"เอางี้ลืมฉันไปก่อน คิดถึงผู้ชายคนอื่น ที่แกไปเจอในผับ ถ้าเขาบอกแกว่า เขาเรียนบัลเล่ต์"
"เป็นตุ๊ด !"
"แล้วถ้าเขาบอกแกว่า เขาไม่ได้เป็น"
"ไม่เชื่อ !"
"เห็นไหม แม้แต่พ่อฉัน เขายังไม่เชื่อ ฉันเลิกพูดเรื่องนี้ เลิกตอบใครๆ มานานแล้ว"
"แต่มันเดือดร้อนถึงฉันนะ การะเกด เขา เข้าใจผิดใหญ่แล้ว"
"นี่....บอกแล้วไงว่าห้ามมีเรื่องชู้สาว"
"อย่ามา... ทีแกกับหนูมาลีฉันดูออกนะ"
"เอ๊ะไอ้นี่ ฉัน...ฉัน"
"ไม่รู้ๆ วันนี้แกจะไปหาแม่กับหนูมาลี ใช่ไหม บอกเขานะว่าแกไม่ได้เป็น แกบอกหนูมาลี เดี๋ยวเขาก็บอกการะเกดเอง โอเคนะ ...ตามนี้"
อธิออกคำสั่งจริงจัง จนทองทาอึ้ง
ทองทาเต้นรำในจังหวะชะชะช่า กับรุมบ้ากับแม่สนุกจนจบเพลง
มาลี บอกช้องนาง
"หนูมาลีอยากได้แรงบันดาลใจจากคุณ ... หนูเรียนนะที่โรงเรียน ชอบมากๆ ครูชมตลอด ได้เต้นโชว์ด้วย ครูบอกว่า การเต้นรำเป็นการออกกำลังกายและส่งเสริมบุคลิกภาพ"
"ยิ่งกว่านั้นอีก การเต้นรำคือการรักตัวเอง หนูต้องรักร่างกายตัวเอง ต้องภูมิใจ ต้องรู้สึกว่ามีค่า สวยสง่างาม"
ทองทากดเพลงที่ไอโฟนให้ ช้องนาง นำหนูมาลี เต้น quick waltz หนึ่งท่อน มาลีพยายามฝึกให้เต้นสวยขึ้น
มาลีท่องตาม
"รักร่างกายตัวเอง รู้สึกว่า ตัวเองมีค่า สวย สง่างาม"
"ดีมาก จากนั้น ..... จงรักคนอื่น"
ช้องนางหมุน หนูมาลี ไปให้เต้นกับทองทา
"quick step"
พยาบาลกดเปลี่ยนเพลงให้ตามคำสั่งของช้องนาง
"เต้นรำก็เหมือนคู่รัก ร่าเริงไปด้วยกัน สนุกไปด้วยกัน"
ทั้งสองสดใสกับจังหวะที่รวดเร็วของดนตรี
"นั่น เต้นได้ดีขึ้นแล้วเห็นไหม ต้องรู้สึก สนุกไปด้วยกันอย่างนั้น"
ช้องนางชี้ให้พยาบาลเปลี่ยนเพลง
" tango"
ทองทานำหนูมาลี เต้นแทงโก้
ช้องนางคอยสอน
"ลองแบบนี้นะ เสน่หา ร้อนแรง ไม่อาจละสายตา ไม่อาจควบคุม"
ช้องนางบอกพยาบาล
"viennese waltz"
ทองทาเปลี่ยนท่า ตามเพลง
ช้องนางคอยสอน
"อันนี้ต้องรู้สึกแบบ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ยอมให้สิ่งใดแยกเราออกจากกัน... ใช่ แบบนั้นล่ะ เยี่ยมมาก"
ทั้งสองเต้นกันจนจบท่อน ทองทาและหนูมาลี ยังไม่ยอมคลายมือจากกัน ต่างหยุดสบตากันด้วยความรัก ด้วยความรู้สึกแปลกๆภายในที่ก่อตัวแน่นหนาขึ้นเรื่อยๆ จนช้องนางต้องเดินไปบอกคนทั้งคู่
"ดีใจด้วยนะ พวกเธอเจอคู่แท้แล้ว"
ทั้งสองสะดุ้ง รีบเอามือออกจากกัน
"คู่แท้อะไรแม่"
"คู่เต้นไง คนที่จะเต้นรำกับเราไปได้ตลอดชีวิต ดีจะตาย" ช้องนางกระซิบทองทา "ไม่ได้เจอง่ายๆ อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียวนะ"
ทั้งสองมอง ยิ้มแห้งให้กัน งงๆกับเรื่องเคลิบเคลิ้ม มือถือทองทาดังขึ้น ทองทา รับสาย
อธิแอบมาคุยโทร. หลังบ้าน
"แกบอกเขาหรือยัง"
"บอกอะไร"
การะเกดเดินมาข้างหลังโดยที่ อธิไม่รู้เรื่อง เพื่อมาทำงานอะไรสักอย่าง
"ก็บอกว่าแกชอบผู้หญิงไง เขาจะได้ไปบอกการะเกด"
การะเกดถามไป อธิก็หลับหูหลับตาคุยโทร.อยู่นั่น ไม่สนใจเลยว่าเสียงใคร
"บอกว่า" การะเกดถาม
"ก็บอกว่า แกกับฉันไม่ได้เป็นแฟนกัน แกชอบผู้หญิง ฉันก็ชอบผู้หญิง"
"อ๋อ"
ทองทาถาม
"ทำไมฉันต้องบอกด้วย ถ้าแกเดือดร้อน แกก็บอกการะเกดเองสิ"
"ก็ฉัน ... แบบว่า ไม่รู้ล่ะ บอกเขาด้วย สั่งเขาด้วยนะ ให้ไปบอกการะเกด ไม่งั้น ฉันจะโทร.ตามแกทุกชั่วโมงเลยคอยดู"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
อธิจอมเหวอเพิ่งได้สติ หน้าซีด ค่อยๆหันไปด้านหลัง สะดุ้ง
" เฮ้ย !... มาตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ตั้งแต่แรก"
"ได้ยินหมดแล้วสิ"
การะเกดพยักหน้ายิ้มเขิน อธิก็เขิน จู่ๆ ก็ได้เปิดเผยความในใจ ทั้งสองมอง ความรักผลิบาน
ทองทา มาลี นั่งมองช้องนางเต้นรำไปกับนางพยาบาล
"ดนตรีบำบัดช่วยได้จริงๆ หมอบอกว่า ท่านดูมีความสุขขึ้น เที่ยวไปสอนทุกคนเต้นรำหมดเลย ถ้าแม่เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แม่จะหายไหมนะ"
"คนเราต้องมีความหวังสิคะ"
ทองทายิ้มแล้วมองหน้ากำลังจะบอกเรื่องสำคัญคือ เรื่องที่ตนจะไม่เป็นเกย์
"หนูมาลี เอ้อ ไอ้อธิน่ะ คือ พี่มีอะไรจะบอก"
ซีโร่ส่งข้อความมาหา สัญญาณดังขึ้น หนูมาลี กดอ่าน แล้วแทบจะกรี๊ดออกมา
"อ๊าย..."
"เฮ้ยอะไร ใครเหยียบหาง"
"มีข้อความมา บอกว่า นี่คือเบอร์มือถือส่วนตัวของพี่ซีโร่เอง พี่ทองทาว่ามันจะจริงไหมอ่ะ ใครล้อหนูเล่นหรือเปล่า"
"ก็โทร.กลับไปสิ"
"ยกมือไหว้ เพี้ยงๆๆ"
หนูมาลีกดโทร.ออก
ห้องแต่งตัว ภายในสถานีเอ็มเอ็มแชนนัล ซีโร่แต่งชุดสวย กำลังจะถ่ายเอ็มวี ช่างผม ดูความเรียบร้อยของทรงผมอยู่
ซีโร่กดรับสาย
"ฮัลโหล"
"ใครคะ"
"หนูมาลีโทรหาใครล่ะคะ"
"พี่ซีโร่ พี่ซีโร่จริงๆด้วย"
"อย่าบอกเบอร์นี้กับใครนะ ความลับ"
"ค่ะ"
"นี่... วันนี้พี่จะใช้ผ้าของหนูมาลีถ่ายเอ็มวีด้วย คอยดูดีๆ นะ"
พิสมัยผู้จัดการส่วนตัว วัย 30 เอาผ้าพันคอของมาลี มาให้ซีโร่ ช่างทำผมรับไปจัดการพันคอให้สวยงาม
"พี่จะใช้ผ้าพันคอจริงหรือคะ"
ซีโร่มีแววเศร้า เพราะชื่อเสียงที่เริ่มหดหายลง
"ชีวิตช่วงนี้มันวุ่นๆ น่ะ พี่ต้องการกำลังใจ แล้วที่เราเจอกันวันนั้น ก็ทำให้พี่รู้สึกดีมาก ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจากใจ"
ซีโร่ส่งความจริงใจมาให้ จนมาลีซาบซึ้ง และรับความรู้สึกนั้นได้
"ค่ะ แล้วหนูโทร.หาพี่ได้ไหมคะ"
"ได้สิ แล้วพี่ โทร.หาหนูมาลีได้ไหมคะ"
"หา...พี่จะโทร. หาหนู เอ้อ ได้ค่ะ ได้"
มาลี เหวอ ตกใจ แทบทำอะไรไม่ถูก
"แล้วคุยกันค่ะ"
มาลีกดสายทิ้งแล้ว ร้องกรี๊ดๆ
"อ๊าย พี่ซีโร่จะโทร.หาหนู พี่ทองทา พี่ซีโร่บอกจะโทร.หาหนู"
"ชอบเขามากขนาดนี้เลยหรือ"
"เขาให้เบอร์มือถือ เขาใช้ผ้าพันคอหนูด้วยด้วยอ่ะพี่ เขาคิดอะไรกับหนูป่ะ แต่หนูอ่ะคิดนะ พี่ทองทา พี่ทองทา เขาจะทำแบบนี้กับหนูแล้วทิ้งๆขว้างๆหนูไม่ได้นะ เพราะหนูคิด หนูคิดจริงๆ"
มาลี เป็นบ้า มองมือถือ นั่งพร่ำเพ้อ ทองทาอึ้ง ใจเจ็บปวด
ซีโร่มองโทรศัพท์และจับผ้าเช็ดตัว
"ชอบเด็กคนนี้หรือ จะจีบเขาหรือ ดูแปลกๆนะเรา" พิศมัยบอก
ซีโร่ตอบกลางๆ ดูไม่รู้ว่าชอบจริงไหม
" เด็กคนนี้น่ารักดี"
ซีโร่หันไปสนใจมองตัวเองในกระจก
ทองทาเดินมาเก็บปิ่นโตอาหารที่เอามาจากบ้าน หนูมาลี เดินมาช่วย ปากก็พูดไป
"หนูไม่ได้บ้าดารา หนูน่ะตามเชียร์พี่ซีโร่มาตั้งแต่ต้น เขาเป็นคนเชียงใหม่ ไม่ได้เรียนเต้น เรียนร้องอะไรแบบหนูนี่แหล่ะ แต่พี่เขาพยายามสุดๆ จนครูๆทั้งหลาย ยังทึ่งที่เขามีพัฒนาการสูงมาก คนแบบนี้ไม่รักได้ยังไง"
"หน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้ว"
"ฮิฮิ... เออ เมื่อกี๊พี่จะพูดอะไรกับหนูนะ พี่อธิอะไรน่ะ"
ทองทาคิดเล็กน้อย
"ไม่มีอะไร ไม่สำคัญอะไรหรอก นั่งฝันหวาน เรื่องพี่ซีโร่ต่อไปเถอะ เชอะ"
ทองทาเก็บปิ่นโตออกไป หนูมาลี ยังเคลิ้มสายตาชวนฝันต่อไป
ซีโร่ ร้องเพลงท่อนสุดท้าย บันทึกเอ็มวีจนเสร็จ พิสมัยหน้าเครียดเดินถือโทรศัพท์มา
ช่างแต่งหน้าเข้ามาซับหน้า
"ข่าวร้าย"
"ไม่ได้หรือพี่"
"เขาเลือกคนอื่นเป็นพรีเซนเตอร์ หมู่นี้เป็นอะไร ชวดพรีเซนเตอร์มาสามเจ้าติดกันแล้ว"
"แหมพี่ ดาราเกิดใหม่เป็นดอกเห็ด ซีโร่นี่ก็ปีกว่าแล้ว หนัง ละคร อัลบั้มทำมาหมดแล้ว คนดูมันก็ต้องไปดูของใหม่ๆบ้างสิ" ช่างหน้าบอก
ซีโร่ปัดมือช่างคนนั้น ออก มองดุทันที มีความร้ายอยู่ในตัว
"เป็นอะไร พูดแค่นี้โกรธหรือ"
ซีโร่อ่อนลง
"ขอโทษครับ"
ช่างแต่งหน้าเดินออกไป งอนๆค้อนๆ
"เพลงชุดใหม่ก็ไม่เปรี้ยง งานเดือนนี้ก็ไม่เต็มเดือน เมื่อก่อนแทบไม่มีเวลานอน ผ่านไปแค่ปีกว่า เฮ้อ เกิดเป็นดาราสมัยนี้อยู่ยากจริง อายุงานสั้นลงทุกวัน เอาไงดีน้า" พิสมัยว่า
ซีโร่เครียด กำมือแน่น ซีโร่เป็นคนจำพวกบ้าความสำเร็จ ยินดีทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ และเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาพักหนึ่ง จึงดูเศร้าและเครียด พยายามหาวิธี
วันใหม่ ที่หน้าบ้านพักคนงาน ชงโคมาเคาะประตูห้อง มาลีเพิ่งตื่น เปิดออกมา
"ตื่นๆๆ... วันนี้ต้องไปถ่ายรูปโมเดลลิ่งคุณวานิช จำได้ไหม"
"ต้องไปแต่เช้าเลยหรือ"
"ฉันนัดพี่ร้านเสริมสวยไว้ ต้องจัดเต็มเสียหน่อย..." ชงโคเดินไปอีกห้อง "การะเกดๆๆ ตื่นเร็ว"
ชงโคกระตือรือร้นอยากไปมาก
บริษัทของวานิชเป็นบ้านหลังใหญ่ ลึกลับ ประตูไม่ได้เปิดไว้ต้องมีคนคอยโทร.บอกให้เปิด ยามเปิดประตูออกมาปุ๊บ เห็นสามสาว แต่งตัวเวอร์ มีดอกไม้เต็มหัว เครื่องตกแต่งซับซ้อน ยืนโพสต์ท่าอยู่ ก็ตกใจ สะดุ้งโหยง
"เฮ้ย"
การะเกดคอตก หมดความมั่นใจทันทีฃ
"ฮือ ขนาดยามยังตกใจเลย"
"ยังไม่นับแท็กซี่คันเมื่อกี๊ ที่นั่งอมยิ้มตลอด" มาลีบอก
"เฮ้ยมั่นๆหน่อย ไปไป๊ ...ที่นัดไว้ ว่าจะมาถ่ายรูป มีคนโทร.บอก แล้วใช่ไหมคะ"
"ครับๆ"
สาวๆเดินเข้าไป ยามกดปิดประตู
"ดูลึกลับเนอะ" มาลีบอก
"ความลับทางบริษัทครับ ถ้ามีคนแอบถ่ายไปลงโซเชียลก่อนเราก็แย่สิครับ พวกคุณเองก็เหมือนกัน จะเข้าไป ต้องฝากมือถือไว้ตรงนี้ครับ เพราะข้างในห้ามบันทึกภาพเด็ดขาด"
สามสาวแปลกใจขึ้นทุกทีมองหน้ากัน แล้วยอมเอามือถือให้ ยามรับมือถือใส่ซอง
"เซ็นชื่อฝากมือถือตรงนี้ครับ"
สามสาวมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าที่ดูเงียบเชียบ
ภายในห้องจัดเป็นมุมถ่ายแบบเล็กๆ ช่างภาพเตรียมกล้องอยู่ เจ้าหน้าที่มองสามสาว ที่หุ่น หัวจรดเท้า หน้าหลัง ท่าทางพอใจ
เจ้าหน้าที่ 1บอก "สวยๆกันทุกคนเลย"
"ไม่เยอะไปใช่ไหมคะ" มาลีว่า
"เยอะไปมากๆเลยค่ะ" เธอบอกเจ้าที่หญิงอีกสองคน "มาช่วยกันถอดออก"
ทุกคนเข้าไปรุมถอดเครื่องประดับมากองที่พื้น ถอดเยอะจนสามสาวเริ่มงง
"เอ้อ อันนี้ก็ต้องเอาออกหรือคะ"
เจ้าหน้าที่ มุ่งมั่นถอด จนมาลีหน้าเครียดไม่ชอบ
อ่านต่อหน้า 4
มาลีเริงระบำ ตอนที่ 5 (ต่อ)
ทองทามาจอดรถ เดินมาซื้อหนังสือพิมพ์ ที่ร้านหนังสือริมถนน ทองทาเห็นหนังสือชื่อ “lady charlotte" ปกเป็นสาวสวยเซ็กซี่ในชุดว่ายน้ำ
ทองทาเห็นโลโก้บนหนังสือ นึกไป... มันเหมือนโลโก้ที่อยู่ในนามบัตรวานิช
อธิเคยบอกว่า "โลโก้บริษัทเขาคุ้นๆ แต่นึกไม่ออก"
"หนังสือโป๊ แย่แล้ว"
ทองทารีบกดมือถือ
เสียงมือถือ ดังออกมาจากลิ้นชักในป้อมยามที่ล็อคกุญแจไว้
"ไม่มีใครรับสายเลย"
ทองทารีบจ่ายเงินค่าหนังสือเล่มนั้น แล้ววิ่งขึ้นรถ
โรสทำงานในร้านเซอร์ไพร์สคาราโอเกะ ทองทาวิ่งเข้ามา
"พี่โรส พวกหนูมาลีอยู่ไหน ออกไปหรือยังครับ"
"ไปแล้วนี่ นั่งแท็กซี่ไปสักชั่วโมงแล้ว"
ทองทาโชว์หนังสือ "บ้าจริง พวกนายวานิชทำหนังสือโป๊ แล้วเขาไปออดิชั่นกันที่ไหนเนี่ย"
โรสตกใจ
"หนังสือโป๊หรือ"
ทองทาเปิดหาที่อยู่ในหนังสือ
"ไม่มีที่อยู่แฮะ"
"เดี๋ยวๆ มีนามบัตรอยู่นี่..." โรสค้นแถวเคาน์เตอร์แล้วยื่นให้ "นี่ไง"
"ผมจะไปดู"
"พี่ไปด้วย"
ทั้งสองขึ้นรถออกไป
สามสาวถูกปลดทุกอย่างออกจนเหลือแต่เชิ้ตยาวเกือบถึงเข่า อวดขาสวย เจ้าหน้าที่หญิงจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของมาลีอีก
เจ้าหน้าที่ 1บอก "ปลดกระดุมอีกสักสองสามเม็ดนะหนู"
"นี่มันถ่ายรูปโป๊แล้วนะพี่"
เจ้าหน้าที่ 2 บอก "ไม่โป๊หรอก ไม่งั้นมันไม่เห็นหุ่นสวยๆน่ะ เห็นเนินอกนิดๆพอเซ็กซี่ก็แค่นั้น สองคนนี้ด้วย จัดการซะ"
เจ้าหน้าที่ 1 บอก "อย่าเรื่องมากได้ไหม จะถ่ายหรือไม่ถ่าย"
"พวกคุณทำธุรกิจอะไรกันแน่"
เจ้าหน้าที่ 1 บอก "ถ้าไม่ถ่าย ก็เชิญกลับได้ เฮ้ยเก็บของ"
ชงโคหน้าเสีย
"ฉันว่าไม่เป็นไรหรอก สมัยนี้มันก็อย่างงี้แหล่ะ นางเอกเขาก็ถ่ายกันนะ"
"เราไม่ชอบ เราไม่ถ่าย การะเกด กลับเถอะ" มาลียืนยัน
หนูมาลี เดินออก
การะเกด ชงโคยืนงง เอาไงดี เจ้าหน้าที่เดินมาขวางมาลี
เจ้าหน้าที่ 1บอก
"นี่ เดี๋ยวคุณวานิชจะมาแล้ว เดี๋ยวพวกฉันก็โดนเล่นงานกันพอดี กลับไปถ่ายซะให้มันเสร็จๆ"
เจ้าหน้าที่เข้าไปจับ หนูมาลีดิ้น
"นี่ อย่ามาจับ"
เจ้าหน้าที่ 1 บอก "ก็อย่าเรื่องมากสิ"
เจ้าหน้าที่พยายามผลักมาลีกลับเข้าไป มาลีดิ้น เตะที่หน้าแข้งเจ้าหน้าที่
"เฮ้ย เจ็บนะ"
มาลี วิ่งไปเปิดประตู
"หนีเร็วการะเกด ชงโค"
การะเกดกับชงโคขยับ เจ้าหน้าที่ เข้ามาขวาง
เจ้าหน้าที่ 2 ถาม "จะไปไหน ใจเย็นก่อน"
เจ้าหน้าที่ 1ตะโกนออกไป "พวกข้างนอก จับผู้หญิงไว้"
เจ้าหน้าที่ 1 ตั้งตัวได้ก็ออกไป
มาลี วิ่งออกมา ร.ป.ภ วิ่งมาจากที่ไกลๆ
"เฮ้ยจะไปไหน กลับมา"
มาลี วิ่งหาทางออกต่อไป
ทองทากับโรส ยืนคุยกับยาม ที่ไม่ยอมเปิดประตู
"มีผู้หญิงมาถ่ายแบบใช่ไหมวันนี้ ผมขอเจอพวกเธอหน่อย"
"สามโมงค่อยมา" ยามบอก
"งั้นก็เปิดประตู ขอเข้าไปคุยกับเด็กๆเขาหน่อยได้ไหม ผมเป็นพ่อเขา" โรสบอก
"ก็บอกว่าสามโมงไงล่ะ กลับไปก่อนไป๊"
ยามเดินเข้าป้อมไม่สนใจอีก โรสกับทองทากระซิบกัน
"มันแปลกๆนะ เอาไงดี"
"ผมจะอ้อมไปดูประตูหลัง พี่อยู่ตรงนี้ไปก่อน"
โรสพยักหน้า ยืนอยู่ที่เดิม ทองทาเดินหนีไป หาทางอ้อม
ทองทาเจอประตูหลัง พยายามหาทางเข้า พบประตูล็อก ก็เลยปีนเข้ามา
เสียงช่วยด้วยดังขึ้นมาจากในบ้าน
"ช่วยด้วย"
ทองทารีบวิ่งไป
ร.ป.ภ.จับมาลีไว้ได้ทัน
มาลีดิ้นสู้
"ปล่อย ปล่อยนะ"
การะเกด ชงโค ร้อนรน
"เสียงหนูมาลี... ทำไมต้องทำรุนแรงกันด้ว เอาไว้คราวหน้าค่อยมาถ่ายแล้วกันนะ"
การะเกดจะออกไป เจ้าหน้าที่ 2 คนมาขวางประตูไว้ไม่ให้ใครออกทั้งนั้น
"ออกไปไม่ได้ เดี๋ยวคุณวานิชจะมา พวกเธอต้องอยู่คุยกับท่านก่อน"
ชงโค การะเกดชักวิตก
มาลีพยายามดิ้นตี ร.ป.ภ.คนนั้น ทองทาเข้ามาจับร.ป.ภ.คนนั้น แล้วต่อยจน ร.ป.ภ.คว่ำไปกับพื้น ทองทาเจ็บมือมาก เพราะเกิดมาไม่เคยต่อยใคร สะบัดมือเร่าๆ
"โฮ้ย เจ็บๆ"
ทองทาลากหนูมาลี หนีไป ระหว่าง ร.ป.ภ. เค้เก้ที่พื้น
รถตู้ใหญ่ขับมาที่หน้าบ้านพอดี โรสมองตาม วานิชนั่งบนรถ ยามเปิดประตูให้ โรสใช้จังหวะนั้นวิ่งตามรถไปทันที
"เฮ้ยไปไหนวะ ห้ามเข้าโว้ย"
ทองทา พามาลี วิ่งออกมาจากในบ้านรวดเร็ว มาประจันหน้ากับรถที่เข้ามา โรสตะโกนลั่น เพราะดูราวกับว่ารถจะพุ่งชนใส่ทั้งสองคน
"อ๊าย ระวัง"
ทั้งสองล้มลงกับพื้นหน้ารถเพราะตกใจ รถก็เบรกเอี๊ยดเสียงดังสนั่น วานิชลงมาดู
"นี่มันอะไรกันนี่"
เจ้าหน้าที่ 1 ตามมาฟ้อง
"นังเด็กนี่มันไม่ยอมถ่ายรูป อาละวาดจะหนีจนวุ่นวายไปหมด"
เจ้าหน้าที่ 2 พาการะเกด ชงโคมาต้อนรับวานิช
"พวกคุณทำหนังสือโป๊" ทองทาบอก
"หนังสือโป๊ .... นึกแล้ว" มาลีว่า
"ทำไมคุณไม่บอกเราตรงๆ จงใจปิดบังแบบนี้ จะหลอกกันใช่ไหม" โรสว่า
โรสเอาหนังสือเขวี้ยงไปกับพื้น ชงโคการะเกดรีบหยิบมาดู
"โป๊จริงๆด้วย" ชงโคยิ้มแห้งจ๋อย
"พี่โรส พี่ทองทา พาพวกเรากลับบ้านที" มาลีบอก
"ไป... ทุกคนกลับ"
โรสเดินนำทุกคน วานิชพยักหน้าเรียกนักเลงมาล้อม ไม่ให้โรสออกไป
"เข้ามาแล้วกลับไม่ได้ !"
"นี่มันอะไรกัน บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะโว้ย พวกแกเป็นใครกันแน่"
วานิชยิ้มร้าย พวกโรสไม่เข้าใจ มันจะห้ามเราทำไมวะ
ภายในห้องประชุม มีภาพดาราเซ็กซี่ ภายใต้โลโก้ เลดี้ชาร์ล็อตประดับข้างฝาเต็มห้อง
วานิช นั่งกับพวกของโรส แท้จริงก็แค่จะเชิญมาคุยกัน เพื่อหว่านล้อม ไม่ใช่คนเลวอะไร เจ้าหน้าที่เอาน้ำมาเสิร์ฟอย่างดีทุกคน สาวๆใส่เสื้อผ้ามิดชิดแล้ว
"ผมก็คนทำธุรกิจธรรมดานี่แหล่ะ เด็กๆของผมมันก็แค่จะกักตัวหนูๆไว้ให้คุยกับผม ก็แค่นั้น ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายอะไรสักหน่อย แต่ถ้าทำให้ตกอกตกใจ ก็ขอโทษ"
"ยังไงหนูก็ไม่ถ่าย" มาลีบอก
"พวกคุณไปอยู่ไหนกันมา ถึงไม่รู้จักเลดี้ชาร์ล็อต" วานิชชี้รูปข้างฝา "ผู้หญิงพวกนี้ดังมากนะ ทุกคนได้ขึ้นปกหนังสือ มีผู้จัดการดูแลบริหารให้ไปร้องเพลง ถ่ายละคร"
ทองทาบอก
"ถ่ายรูปวับๆแวมๆ ร้องเพลงสองแง่สองง่าม ถ่ายหนังเกรดบี ที่เน้นฉากอย่างว่า"
"แต่ทุกอย่างถูกกฎหมาย คุณไม่รู้อะไร ผู้หญิงพวกนี้ออกงานโชว์ตัวทุกวัน
มีรายได้ดีกว่าดาราหลายคนเลยนะ"
การะเกดมองรูป คิดตา
"ขายเรือนร่าง ไม่ได้ขายความสามารถ"
"แหกแข้งแหกขา ไม่มียางอาย ขายศักดิ์ศรีแบบนี้ หนูมาลี ทำไม่ได้"
มาลี ประจันสายตากับวานิช วานิชนิ่งดุ ครู่หนึ่ง ก่อนจะอ่อนลง
"ไม่เป็นไร จะไปกัดก้อนเกลือกินกับไอ้ทีวีช่องเล็กๆนั่นก็ตามใจ แต่บอกก่อนนะ เครือข่ายของฉันมีเงินหมุนเวียน มากกว่าเอ็มเอ็มแชนนัลสามเท่า ฉันจะให้โอกาสพวกเธอไปคิดดู"
วานิชพยักหน้า เจ้าหน้าที่เอาสัญญามาให้สามซอง
โรสบอก
"ฮึ ธุรกิจใต้ดินกับบนดิน กำไรมันต้องมากกว่าอยู่แล้ว"
"เอกสารสัญญา แค่เซ็นกริ๊กเดียว ไม่ต้องประกวด ไม่ต้องร้องเพลง พวกเธอจะได้ขึ้นปกฉบับหน้า ได้เงินทันที หนึ่งแสนบาท"
ชงโคโพล่ง
"หนึ่งแสน"
"แต่ต้องยกเลิกการเข้าประกวดร้องเพลง ยกเลิกทันที"
ทุกคนมองหน้ากัน
"เอาเอกสารไปคิดดู ผมให้เวลาแค่เจ็ดวัน ถ้าเลยอาทิตย์หน้า ไม่ต้องมาคุยกันอีก"
วานิชลุกออกไป สามสาวมองเอกสารตรงหน้า
ทั้งหมดกลับมานั่งคุยกันที่เซอร์ไพร์สคาราโอเกะ อธิลนลานเพิ่งมาถึง
"การะเกด เป็นอะไรไหม ผมรู้เรื่องตกใจแทบแย่"
"ฉันจัดการแล้ว ถ้าแกเห็นฉันต่อยพวกนั้น ... โอ๊ย"
"อย่าไปเซ็นสัญญากับเขานะ กิจการพวกนี้คือกิจการค้าผู้หญิงที่ถูกกฎหมาย" อธิบอก
ทุกคนตกใจ
"เป็นยังไงคะ"
"ธุรกิจที่เขาเล่าก็แค่เริ่มต้น ดูนี่ เว็บไซต์รับงานของเลดี้ชาร์ล็อต รับงานเซอร์ไพร์ส ทานข้าว งานวันเกิด งานสละโสด แต่งตัววับๆแวมๆไปคุยกับหนุ่มๆ แกฟังดูคุ้นๆไหม" อธิเอารูปให้ดู
"ก็เหมือนเด็กของเจ๊ซูซี่ แตกต่างที่หีบห่อ"
อธิพยักหน้า
โรสบอก
"ออหรี่ตลาดนัด ... ออหรี่บนห้างหรู แต่มันก็ออหรี่เหมือนกัน"
"ยิ่งนึกยิ่งสกปรก ยี้" มาลีว่า
"ก็แบบห้องเก้าของคุณ .....ร้านข้างนอกถนนโลกีย์ทั้งสาย สินค้าที่ดังไปทั่วโลกของประเทศเรา ....มันคืออะไรเอ่ย ติ๊กต่อกๆ"
"ผู้หญิงที่ติดป้ายราคา มีเต็มไปหมด ทุกหย่อมหญ้า" ทองทาบอก
"ทุกอย่างเป็นไปตามสมัครใจ ตำรวจจะจับตรงไหน จะผิดกฎหมายตอนไหนล่ะครับ มันมีใบเสร็จที่ไหนกันเล่า"
"ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ผู้หญิงเดี๋ยวนี้มันตีราคาความสาวเป็นเงิน"
จู่ๆมาลีก็หงุดหงิดขึ้นมา
"พูดออกมาได้ ตัวเองนั่นล่ะ ที่เปิดห้องนั้น !"
"นี่พูดดีๆนะ จะมาหาเรื่องอะไรฉันอีก" โรสว่า
มาลีมองไป ห้องเลขเก้าที่ประตูเปิดอยู่ครึ่งๆ มี่ เกรซ นั่งตักเสี่ย นัวเนีย ซูซี่ ยืนคุยกับเสี่ยอีกกลุ่ม
"ก็หนูมาลีเกลียดนี่ ผู้ชายในห้องเก้านั่น ทั้งเมา ทั้งหิว ตะกละ มูมมาม จับตรงไหนได้เป็นจับ พยายามไม่มองแล้วนะ แต่มันก็ต้องได้ยินเสียง แค่คิดว่าเขาจะไปทำอะไรต่อ ก็ขยะแขยงแล้ว"
"แกก็รู้ว่า ร้านเป็นหนี้ขนาดไหน โรสมันก็แค่ให้นังซูซี่เช่า พาเด็กๆมารับลูกค้าผู้ชายที่มันหลุดเข้ามา มันก็แค่ห้องเดียว ห้องอื่นก็ร้องเพลงคาราโอเกะตามปรกติ โฮ้ย ดีได้วันสองวัน ...ป่วนพ่อมันอีกละ" สมศรีบอก
โรสน้อยใจ มองมาลี
"ฮึ แกเกลียดที่นี่ ทั้งที่มันหารายได้ส่งแกเรียน ใช่สิ ฉันทำอะไรก็ไม่ถูกใจแกไปหมด แกนั่นแหล่ะที่เริ่มไปประกวดบ้าบอนั่น แกก็ขายความสวย ขายความสาวของแกเหมือนกัน"
"เหมือนกันที่ไหน"
"ฉันพูดจริง ผู้ชายใช้เหงื่อทุกเม็ดแลกเงิน แต่ผู้หญิงทาแก้ม ทาปาก ใช้ความสวยเพื่อแลกบางอย่างเสมอ แล้วพอถึงเวลา ก็มาด่าว่าโดนดูถูก โดนเอาเปรียบ ก็ใครล่ะวะ มันวางเบ็ดล่อ พอปลากินเหยื่อก็มาโทษปลา โถ อีพวกชะนี !"
"เราแต่งตัวเพราะเรารักสวยรักงาม เพราะเรารักตัวเอง ที่หนูโกรธพี่ มันมีเหตุผล ตอนเด็กๆ พี่สอนอะไรหนูล่ะ"
"สอนอะไร"
ในอดีต ที่บ้านหลังเขา โรสเพิ่งช่วยมาลีในวัยเด็กอาบน้ำเสร็จ กำลังทาแป้งให้ แล้วหวีผมให้ โรสสอน
"พ่อทุกคน เวลาอาบน้ำให้ลูกสาว เขาทำด้วยความรัก สิ่งที่เขาคิดคือ ขอให้ผู้ชายคนต่อไปที่จะแตะต้องตัวหนู กระทำกับหนูด้วยความรัก แค่ครึ่งหนึ่งของพ่อ พ่อก็ดีใจแล้ว เพราะฉะนั้น โตขึ้น ต้องรักร่างกายหนูให้มากๆนะ"
โรสมองลูกสาวด้วยความรัก อบอุ่น
ทุกคนฟังเรื่องจากมาลีแล้ว
"สอนลูกได้ดี จริงที่สุด" บุญมาบอก
"เพราะหนูจำคำสอนนี้ได้ หนูถึงเกลียดในสิ่งที่พี่ทำ เพราะมันเหมือน พี่ทรยศต่อคำสอนของพี่เอง"
โรสอึ้งไป พูดไม่ออก
"แกนี่สมกับโตบนเขานะ ดูแต่ทีวี จนไม่รู้จักโลกที่แท้จริง ความจริงในโลกนี้ คือ พรุ่งนี้ เดี๋ยวอีกระทกรกนั่นมันก็มาทวงหนี้ มายืนทะเลาะกันที่หน้าร้านเหมือนเคย นี่ล่ะความจริงที่สุดโว้ย" สมศรีบอก
"คนที่ทำผิด มีเหตุผลหลอกตัวเองทั้งนั้น แต่ความถูกต้อง มันไม่มีข้อแก้ตัว ไม่งั้นมันจะเรียกความถูกต้องได้ไง หนูจะเป็นของหนูอย่างนี้ ไม่เปลี่ยน !"
มาลี เดินไปรับออเดอร์ ทำงานต่อ สมศรีโกรธ
"หนอย...ไม่ฟัง นังเด็กคนนี้นะ เวลามันเชื่ออะไร มันหัวชนฝาจริงๆ"
"แต่ครั้งนี้ มันเชื่อในสิ่งที่ถูกโว้ย ถ้าฉันเป็นพ่อแม่มัน ฉันดีใจตาย หาไม่ได้แล้วนะผู้หญิงแบบนี้"
ทองทายิ้มปลื้มมองตาม ยิ่งรักมากขึ้น รีบบอก
"ผู้หญิงที่รักตัวเอง ผู้หญิงอย่างนี้คือของมีค่า มีคุณค่าที่จะเป็นเมีย เป็นแม่"
อธิขำออกมา ทองทาสะดุ้ง พูดเบี่ยงไป
"เอ้อ หมายถึงทั่วๆไปน่ะครับ"
ทองทาเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง แต่คนอื่นไม่สนใจ อธิกระซิบได้ยินกันสองคน
"หนูมาลี ยังเวอร์จิ้น !"
"ไอ้อธิ"
"เวอร์จิ้นอีกนาน เหมาะกับแกนะ เวอร์จิ้นทั้งคู่ คู่สุดท้ายของมนุษยชาติ
น่ายกย่อง"
ทองทาเอามือมาตบหัวอธิ ที่ล้ออยู่นั่น อธิขำ
โรสคิดหนัก อึ้งไปเหมือนกัน ชงโคคิดหนักที่สุดตลอดเวลา
ดึกแล้ว ร้านปิด ไม่มีคนแล้ว มาลี เล่นอิเล็คโทนทีละโน้ต หน้าตาครุ่นคิด
"คนเชื่อมั่นในความถูกต้อง ต้องไม่เศร้านะ เดี๋ยวมันไม่น่าเชื่อถือ"
หนูมาลีจับมือทองทาที่ทำแผลแล้วมา ลูบด้วยความสนิทสนม
"เจ็บไหม"
"ทายาแล้ว เดี๋ยวก็หาย ต่อยคนนี่ไม่สนุกเลย ครั้งแรกนะเนี่ย"
"นั่นสิ เกย์เอ้อ ศิลปินอย่างพี่ ดูไม่ใช่เลย ทำได้ยังไงนะ"
ทองทามองมาลีด้วยความรัก
" ไม่รู้เหมือนกัน ทำไปได้ยังไงนะ"
มาลีเอียงตัวลงพิงไหล่ทองทา สนิทสนมกันมากขึ้นทุกที
"ขอบคุณนะ เทวดาของหนู"
ทองทายิ้มมีความสุขที่มีมาลีอิงแอบอยู่ข้างๆ
วันใหม่ ประตูห้องไม่ได้ปิด ชงโคมองซ้ายขวาก่อนเอาซองสัญญาออกจากกระเป๋าถือ
ชงโคเปิดอ่านทบทวน สนใจมาก
"สัญญาหรือนั่น แอบเอามาหรือ" เสียงซูซี่ดังขึ้น
ชงโคหันมาเจอ
"ตกใจหมด"
"เงินตั้งแสน แถมเซ็นสัญญา ลงปกฉบับหน้าทันที ไม่ดังตอนนี้จะไปดังตอนไหน"
"รู้เร็วดีนะ"
"กลับไปแข่งขันต่อ อันดับสุดท้ายอย่างเธอ รอบหน้าก็ต้องตกรอบ"
"จะพูดอะไรเจ๊"
"ถ้าแกไม่เอางานนี้แกก็โง่แล้ว"
ชงโคมองหนังสือเลดี้ชาร์ล็อตที่วางอยู่ ชั่งใจ ครุ่นคิด
"ต้องไปออกงานกับผู้ชาย ถ้าพวกนั้น อ้วนๆ แก่ๆ เฮ้อ ...จะอ้วก"
"แล้วไง ถ้าแข่งต่อ ชนะประกวดแกก็ได้แค่ล้านเดียวหารสาม เหลือแค่สามแสน ซื้อรถเก๋งยังไม่พอ"
"เมื่อเช้าเขาโทร.มา ให้เราสามคนแยกกัน รับคะแนนโหวต ทีละคน เพื่อความยุติธรรมกับคนอื่น"
"นั่นยิ่งแย่ ยอมรับเถอะ แกเข้ารอบมาได้เพราะสองคนนั้น หนูมาลีกับการะเกด มันร้องดี ไม่ใช่เพราะแกสักหน่อย"
ชงโคค้อนๆ เซ็งๆเดินหนีออกไปจากห้อง
"เป็นฉัน ฉันจะรีบๆเซ็น รีบๆรับเงินแสน"
ชงโคหยุดชะงักคิด แล้วเดินออกไป โทรศัพท์ดังขึ้น ซูซี่รับสาย
วานิชคุยโทรศัพท์กับซูซี่
"จัดการคุยกับสามสาวหรือยัง"
"คุยกับชงโคแล้ว"
"เอาพวกนั้นมาเซ็นสัญญาให้ได้ ฉันมีรางวัลให้เธอ"
"งานนี้ซูซี่ทำด้วยความเต็มใจ นังหนูมาลีตัวดี ทุกคืนมันมองซูซี่ อย่างกับเป็นอาชญากร ฮึ ทุกอย่างในโลกนี้มันก็ไอ้เรื่องพรรค์อย่างว่าทั้งนั้น อีกหน่อยมันจะรู้"
"มันยังเด็ก นังหนูมาลีเองก็เถอะ อีกหน่อยมันก็ติดใจ ยอมคลานขึ้นเตียงแลกเงินแค่ไม่กี่ร้อย มันก็จบลงตรงนี้เหมือนกันทุกคนแหล่ะวะ"
"จัดการนังชงโคก่อน ท่าทางจัดการง่ายที่สุด ได้นังชงโคเมื่อไหร่ เดี๋ยวนังสองคนนั้นก็ตามมา"
"เออ ฝากด้วยแล้วกัน"
ซูซี่ยิ้มร้าย กดวางหู
อ่านต่อตอนที่ 6