xs
xsm
sm
md
lg

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 4

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาลีเริงระบำ ตอนที่ 4

บอยเดินเข้ามาทำงานที่ร้านเซอร์ไพร์สคาราโอเกะตามปรกติ โรสเดินไปหา มองหน้า ทั้งสองประจันหน้ากัน

"วันนี้แวะไปไหนมา"
"เปล่านี่"
มาลีลุ้นแอบมองอยู่มุมหนึ่ง ลุ้นมาก เสียงความคิดบอก
"ถามออกไปสิ ถามเลย"
"ไปกินข้าวเถอะ จะได้รีบเปิดร้าน"
มาลี ป่อย !
บอยเดินมาจับแก้ม ทำท่าจะกอด สวีตตามปรกติ
"น่ารักจัง"
โรสยิ้มออกมา ผลักออก
"มีแต่เหงื่อ ไป๊"
โรสยิ้มให้แก้วเพราะ ในใจโรสจริงๆ ไว้ใจบอยมาก เพราะรู้จักเขาดีและคิดว่าตนมีวิธีเช็คเรื่องเงินเยอะแยะ อย่าถามให้เป็นเรื่องดีกว่าเลยเปลี่ยนใจ
มาลีพึมพำ
"โฮ้ย อึดอัด"

ทองทากำลังสอนชงโคอยู่มุมหนึ่ง ฝึกเพลงอกหักที่จะขึ้นร้อง
"เธอยังมีปัญหากับ Chest tone อยู่นะรู้ตัวไหม"
"อ๋อ ... มันแปลว่าอะไรคะ"
ทองทาปวดกะโหลก
"หมายถึงช่วงเสียงต่ำน่ะ เวลาร้องมันจะสั่นที่อกตรงนี้ ดูพี่ร้องนะ ที่ถูกคือ …"
ทองทาร้องให้ดู ห่างไปมุมหนึ่ง การะเกดเอาส้มตำมาให้อธิชิม
"สูตรบ้านเรา"
"โฮ้ย กินแล้วน้ำตาจะไหล คิดถึงบ้าน คิดถึงแม่"
"แล้วพี่อธิได้กลับบ้านบ่อยไหม"
"กลับสิ พ่อแม่พี่อยู่ครบ ยังทำนาอยู่เลย นาล่มประจำ แต่แกก็ไม่อยากเลิก เกดล่ะ"
"แม่เกดติดยาบ้า รับจ้างรายวัน มีน้องต้องเรียนหนังสือสามคน เกดเก็บเงินให้น้องเรียนจ้ะ"
อธิอึ้ง สงสารการะเกด
ทองทาที่สอนชงโคอยู่หันมามอง สนใจ และได้ยินที่ทั้งคู่คุยกันแล้ว
"เกดเป็นลูกกตัญญู ต้องชนะสักวันหนึ่งนะ"
"แม่รับปากเกดว่าจะพยายามเลิก แต่แกบอกว่าถ้าไม่กินก็ทำงานไม่ได้อีก อุ๊ย…. พี่เป็นตำรวจคงไม่จับแม่เกดใช่ไหมคะ"
"ถ้าจะจับกันจริงๆ คงครึ่งประเทศอ่ะ ไม่มีกรงขังหรอก ไอ้คนขายนั่นล่ะชั่ว"
"ถ้าได้เงินล้าน เกดจะกลับบ้านนอกไปเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง จะเลี้ยงน้องด้วยตัวเอง เกดต้องทำให้ได้ ช่วยเกดนะคะพี่ทองทา"
ชงโคร้องเพลงห่วยแตกอยู่ ทองทามองการะเกด แล้วหันมามองเสียงห่วยๆของชงโคเกาหัว จะหาทางชนะได้ด้วยวิธีไหนนะ
"เฮ้อ ปวดหัวโว้ย"

ดึกแล้ว โรสตื่น เดินมาเข้าห้องน้ำ เดินผ่านหน้าต่าง มาลีโผล่มาที่หน้าต่าง โรสสะดุ้ง
"โฮ้ย ตาเถรหกเจ็ดแปด เดี๋ยวปั๊ดจะเข้ฟาดหางให้ตาหลุดเลย โผล่มาแบบนี้ได้ไงหา"
"เปิดประตูให้หน่อยค่ะ"
โรสเดินไปเปิดประตูให้
"มีอะไรหรือเปล่า"
"พี่บอยนอนแล้วใช่ไหม"
"ทำไมหรือ"
มาลีรีบเดินไปชี้กระเป๋าเงินบอยที่วางอยู่
"กระเป๋าพี่บอย... ใช่ไหมคะ ค้นดูสิคะว่าเขาถอนเงินจากบัญชีพี่โรสไหม"
"ฉันเอ้อ ฉัน"
"ไม่กล้าดู กลัวความจริงใช่ไหม ยอมถูกหลอกดีกว่ายอมเสียเขาไปแบบนั้นหรือคะ"
"ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ"
"โธ่พี่"
"บอกให้ไปก็ไปสิ"
มาลี จ๋อย ทำทีออกไป แต่ที่สุดก็คว้ากระเป๋าเงินติดมือไปด้วย
"เฮ้ย เอาไปไหน หนูมาลี"

ทั้งสองวิ่งกันออกไปนอกบ้าน

มาลีวิ่งออกมาพร้อมเปิดกระเป๋าค้นดูเอกสารข้างใน โรสวิ่งตามมา

"แกจะเอากระเป๋าเขาไปไหน เอามานี่"
"ขอดูก่อน"
โรสแย่งคืน
"เอามา เอามา"
แต่มาลีดึงเอกสารไปได้แล้ว
"นี่ไง ใบถอนเงิน นี่ไง"
โรสอึ้ง รับมาดู
"เขาเบิกเงินจริงใช่ไหม"
"เลขบัญชีร้าน"
มาลีตบมือฉาด มั่นใจมาก
"เห็นไหม เห็นไหม เขาขโมยเงินจากบัญชีที่ร้านจริงๆด้วย ขโมยเอาไปให้ผู้หญิงอีกต่างหาก"
โรสยืนอึ้งมองเอกสาร

ภายในสวน บ้านทองทา อธิเอาไอแพดมาให้ดู ทองทาเพ่งมองหน้าจอสนใจ
"เอาล่ะ อัพเดต คู่แข่งคนใหม่ๆ มาให้ละ"
อธิเปิดคลิปในยูทูป
"คนนี้ ชื่อโด่ง ทำมิวสิกวีดีโอเพลงลงยูทูป อันนี้เขาทำเองกับวงของเขา"
"หน้าตาดี มีแฟนคลับสาวๆกดไลค์เป็นแสนๆ เตรียมชนะเลยว่างั้นเถอะ"
"คนต่อไป ชื่อ โกมินทร์"
โกมินทร์ยืนร้องเพลงลูกทุ่ง เสียงดีมาก
"นายคนนี้ร้องเพลงลูกทุ่งกวาดรางวัลมาเพียบ" อธิบอก
"ร้องดีมาก คู่แข่งน่ากลัวขึ้นทุกที แล้วดูเราสิ"
ทองทามองไป เห็นมาลีนั่งเหม่อคิดเรื่องพ่อ
"หนูมาลี วันนี้เหมือนมีเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ ดูไม่มีสมาธิ" อธิบอก
การะเกดหัดร้องอยู่ แล้วเดินมาดึงมือมาลี
"เป็นอะไรไป มาซ้อมกันเร็ว"
"เอ้อ จ้ะ"
สองสาวซ้อมร้องเพลงด้วยกัน แต่หนูมาลี ยังไม่เต็มที่เท่าไหร่
"อืม เราต้องชนะ.... ชนะใสกิ๊กเลย เฮ้อ" ทองทากัดฟันประชด

ทองทาเครียดกุมขมับ สีหน้ายุ่งเหยิง

ร้านคาราโอเกะเปิดแล้ว แต่ลูกค้ายังน้อยอยู่ มาลียกอาหารมาให้ตามหน้าที่ ตาแอบมองบอยกับโรส

บอยเอากาแฟมาให้โรสที่กำลังทำงาน
"กาแฟจ้ะ อันนี้ยาหลังอาหาร ... ถ้าไม่กินจะโดนตีก้นนะ"
"ขอบใจ บอยกินข้าวหรือยังล่ะ"
"เดี๋ยวก่อน แวะไปซื้อของที่ตลาดให้ลุงเขาแป๊บ"
สมศรีเดินออกมาเอาของ มาลีเลยบ่นให้ฟัง
"ทำเฉยอยู่ได้ รู้เขาหลอกยังเต็มใจให้หลอก…โฮ้ยกลุ้มๆ"
"พูดเรื่องอะไรของแก....เอ้า วันนี้นังกระทกรกมาถึงนี่เลยโว้ย" สมศรีว่า
มาลีมองตาม
เจ๊ปล่อยเงินกู้ชื่อนิดหน่อย เดินเข้ามาพร้อมสมุนนักเลง 1 คน
"เฮ้ยเจ๊ บอกแล้วไงขอสิ้นเดือน" โรสว่า
"ถ้าฉันมาสิ้นเดือน แกก็คงบอกให้มาเดือนหน้า วันนี้มีเท่าไหร่จ่ายมา"
"เหลือเศษเงินติดเก๊ะไว้ทำทุนนิดหน่อยเอง ฉันให้เจ๊ไป พรุ่งนี้จะขายอะไรล่ะ"
"ไม่สน คนอย่างแก มันไม่มีสัจจะ เฮ้ย... ไปเอามา"
นักเลงพุ่งมาที่ลิ้นชัก โรสขวาง
"นี่มันเกินไปแล้วนะ ถ้าเข้ามาฉันแจ้งตำรวจนะ เรื่องใหญ่นะ"
ลูกค้าและคนในร้านบางคนเริ่มมองมา
"ฉันก็จะแจ้งว่า แกติดหนี้ฉันไม่ยอมจ่าย จัดการเลย"
นักเลงจะดึงเงินในเก๊ะออกมา
"เฮ้ยมันมากไปแล้วออกไป"
โรสต่อยหน้านักเลงเปรี้ยง
"เอ๊า อีตุ๊ด ต่อยหน้าคนของฉันหรือ มึงตาย"
นิดหน่อยเอาขวดฟาดหัวโรส ! จนโรสร้องโอ๊ย เอามือกุมหัว มาลีร้องกรี๊ดวิ่งไปหาโรส คนอื่นๆวิ่งมาดู ตกใจ สมศรีเข้าไปในครัวทันที
นักเลงหายมึน ลุกขึ้นมา เตรียมจะลุยต่อ
"นี่อย่านะ อย่า"
มาลีปกป้องโรส
สมศรี บุญมาถือปังตอวิ่งออกมา
"อีนิดหน่อย มึงมาสิ ถ้ามึงจะใช้กำลัง มึงมาใช้กับปังตอนี่ อยากมีเรื่อง มีให้มันสุดๆไปเลย มาสิ"
บุญมาบอก
"ชงโค โทรแจ้งตำรวจ คดีทำร้ายร่างกายใหญ่กว่าติดหนี้โว้ย"
"ได้เลย เดี๋ยวเจอแน่"
ชงโคหายไป นิดหน่อยชักกลัว
"โฮ้ย หมาหมู่นี่หว่า คอยดูนะพรุ่งนี้ถ้าไม่โอนเงินมา ฉันจะเอาพวกมาเยอะกว่านี้ ...มาพังร้านแก"
นิดหน่อยพาลูกน้องออกไป
มาลีจับหัวพ่อ
"พี่โรส ... เลือดออก"
"มาเร็วจ้ะไปทำแผลก่อน" การะเกดบอก

มาลี และการะเกดพาโรสเข้าไปข้างในบ้านพัก

โรสปิดแผลที่หัวเรียบร้อยแล้ว เป็นแผลธรรมดาๆ โรสกินยาแก้อักสบที่มาลีเอามาให้

"โชคดีหัวไม่แตก" สมศรีบอก
"วันนี้ เจ๊นิดหน่อยมันเป็นบ้าอะไร บุกมาถึงนี่ ติดเงินมันเยอะหรือ" บุญมาถาม
"สามเดือนแล้ว ไม่ได้จ่ายดอกมัน"
บอยหน้าตาตื่นมา เพิ่งรู้เรื่อง
"พี่โรสเป็นอะไรมากไหมครับ"
"เพราะพี่คนเดียว" มาลีว่า
จู่ๆ หนูมาลีเดินเข้าไปตบหน้าบอย เปรี้ยง !
"หนูมาลี เป็นบ้าอะไรขึ้นมา"
"ต่อหน้าทำเป็นรัก ทำเป็นเอาใจ ลับหลังโกงเงินพี่โรส คนอกตัญญู"
"โกงเงินหรือ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า" บุญมาบอก
"หนูมาลีเห็นกับตา วันก่อน พี่นัดกับแฟน หนูมาลี ไปส่งข้าว เจอพี่อี๋อ๋อกับผู้หญิง ทั้งนอกใจ ทั้งขโมยเงิน คนแบบนี้พี่โรสยังจะเลี้ยงไว้ พี่อ่ะหลงเขาจนหน้ามืดตามัวแล้วรู้ไหม"
"ฉันรู้จักบอยมานาน เขาไม่ได้มีนิสัยอย่างนั้นซะหน่อย"
หนูมาลีชี้ไปที่รูปโรสถ่ายกับมาลีตอนเด็ก วางอยู่มุมหนึ่งในห้อง เป็นรูปเดียวกับที่มาลี พกติดตัวไว้เป็นประจำ
"หนูเคยฝันไว้ ผู้ชายในรูปนี้เขาคงมีแต่หนู ทุกลมหายใจเขาทำเพื่อหนู เขาไม่ตอบจดหมายหนู หนูก็ไม่โกรธ เพราะคิดว่าเขาคงยุ่ง แต่พอหนูมาพบเขาจริงๆ หนูไม่เคยเข้าถึงตัวเขาเลย เพราะเขามีผู้ชายคนนี้คั่นกลางระหว่างเราตลอดเวลา"
มาลีน้ำตาคลอ โรสสะเทือนใจมาก
"ตกลงมันเรื่องเงินหรือเรื่องแย่งความรักกันแน่ ถามตัวเองก่อนเถอะนังหนู" สมศรีถาม
"เรื่องนี้ผมอธิบายได้นะพี่โรส"
"หนูบอกความจริงพี่ไปตั้งหลายวันแล้ว แทนที่พี่จะจัดการ พี่ก็ยังไม่ทำอะไรเขา จะปล่อยให้ถูกโกง ปล่อยให้พวกเจ้าหนี้ทำร้ายอย่างนี้ไปอีกนานเท่าไหร่หา"
"เรื่องเจ๊นิดหน่อย ไม่เกี่ยวกับบอย" สมศรีบอก
"เกี่ยว .. ถ้าพี่แก้วไม่ขโมยเงิน ป่านนี้ก็มีจ่ายเขาแล้ว สำหรับพี่ มีแต่ผู้ชายคนนี้คนเดียวนั่นล่ะที่มีค่า คนอื่นไม่มีค่าอะไรทั้งนั้น อยากเจ็บ อยากตายเพราะเขายังไงก็ตามใจ หนูมาลีไม่สนแล้ว"
มาลีจะเดินออก จู่ๆโรสพูดขึ้น
"บอยไปเก็บของ ย้ายออกไปซะ"
"พี่โรส" บอยตกใจมาก
"ไม่ได้นะ บอยไม่อยู่ ใครจะช่วยทำร้าน ใครจะพาอีแก่สองคนนี้ไปตลาด" สมศรีบอก
"เรื่องคุมเด็ก คุมเงิน แกทำคนเดียวไม่ไหวหรอกโรส" บุญมาบอก
"ไปสิบอย ฉันพูดไม่ได้ยินหรือ"
บอยฝืนใจ พยักหน้า ไม่เคยขัดคำสั่งโรสอยู่แล้ว
"แก้ว เดี๋ยวก่อน" สมศรีเรียก
สมศรี บุญมาตามแก้วไป
"ส่วนเธอ พรุ่งนี้เก็บข้าวของ ย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้"
โรสตามบอยเข้าห้อง
มาลี ตกใจ อะไรจะรวดเร็วและง่ายปานนั้น
"ย้าย...ย้ายมาอยู่บ้านนี้หรือ"

บอยเดินมาเก็บของลงกระเป๋าเดินทาง โรสตามเข้ามาสมทบกับคนที่เหลือ
"ผมไม่เคยขโมยเงินพี่ พี่ดูสมุดบัญชีได้"
"พี่เช็คแล้ว เธอเอาเงินออกไปสามหมื่น แต่วันต่อมาก็โอนมาคืน"
"เห็นไหม …" สมศรีบอก

"เรื่องผู้หญิงคนนั้น เขาชื่อน้ำ เป็นเพื่อนเก่า ที่เขาจับมือผม มันมีเหตุผล"

ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในวันนั้น น้ำจับมือบอย ลูบ เพราะสนิทสนมกันมาก่อน

"มือหยาบแบบเนี้ย ครีมของน้ำ กระปุกเดียวอยู่"
"ขายของอีกละ ไม่เชื่อหรอก"
"เพื่อนเก่าเพื่อนแก่หลอกได้ไง ดูมือน้ำสิ นุ่มเนียนไหมล่ะ ครีมที่บ้านน้ำขาย ดีจริงๆนะ เดี๋ยวให้ลองใช้กระปุกหนึ่ง"
"เออ มือนุ่ม หน้าสวย... สวยที่สุดเลยจ้า"
ทั้งสองจับมือยิ้มกัน
"วันนี้ บอยเอาเงินมาคืนนะ นี่ไง"
เป็นจังหวะที่มาลีที่แอบดูอยู่
"พอได้ข่าวว่า น้ำกลับมาจากเมืองนอก ก็รีบโทร.ไปที่บ้านเลย บอยทำงานฝากให้ป้าเข้าธนาคารไว้ ขอบใจนะน้ำ ถ้าไม่ได้น้ำส่งเงินมาให้ยืมตอนป้าป่วย เราสองคนคงแย่"
"ไม่เป็นไร เพื่อนเก่าเพื่อนแก่"

ทุกคนฟังเรื่องราว บุญมาบอก
"ขายครีมกันนั่นเอง"
"เงินนั่น พอดีว่าป้าเขาโอนมาไม่ทัน ผมเลยเอาเงินบัญชีร้านจ่ายก่อน วันต่อมา พอป้าโอนมา ผมก็คืนให้เลย"
สมศรีบอก
"เห็นไหม บอยไม่ได้ทำอะไรผิด"
"ถึงยังไง เธอก็ต้องย้ายออกไป"
"พี่โรส !"
"ออกไปทำงานกับพี่แคที่ที่สตูดิโอเถอะ แล้วก็หาหออยู่แถวๆนั้นคงพอมี"
"นี่มันอะไรกันวะโรส ทำไมบอยต้องไปอีก" บุญมาแย้ง

มาลี การะเกด ชงโค จับกลุ่มกันมองไปที่หน้าร้านคาราโอเกะ บอยกำลังขึ้นแท็กซี่ มีโรสออกมาส่ง
"คนชั่ว คนเลวย้ายออกไปก็ดีแล้ว" มาลีบอก
"พี่บอยกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ยังไง" ชงโคถาม
"นั่นสิ ฟังดูไม่ใช่นิสัยพี่บอยเลยนะ" การะเกดว่า
"คนเรามันเปลี่ยนกันได้ เซนส์ของหนูมาลี ไม่ผิดหรอก ออกไปเสีย รับรองพี่โรสหมดหนี้"
สมศรี บุญมาเดินออกมาบอก พร้อมกับมาหยิบข้าวของไปทำงาน
"มันไม่ใช่อย่างที่แกคิดหรอก นังเด็กโง่" สมศรีว่า
"นี่ป้าด่าหนูทำไมเนี่ย ไม่มีเขา ร้านเราอยู่ !...นะป้า"
"ไม่มีแกต่างหาก นังตัวป่วน มาอยู่แค่เดือนกว่า มีแต่เรื่อง"
"ไม่มีแก้ว พรุ่งนี้ร้านเละแน่ เฮ้อ ไม่อยากจะคิด" บุญมาบอก
ทั้งสองเดินเข้าไป
"ลุงกับป้านี่ก็แปลก โดนพี่บอยเขาใส่ยาเสน่ห์กันหรือไง คนแบบนั้นก็แค่ทำงานบังหน้าเท่านั้นเอง งานที่มีก็ช่วยกันทำ ไม่ลำบากหรอกน่า"
"งานเยอะขึ้นอีกหรือวะเนี่ย ตายๆ หน้ากูจะเป็นหลินปิงอยู่แล้วนะนี่ ฮือ" ชงโคว่า

วันใหม่ ทองทานั่งกินกาแฟรอ การะเกดเพิ่งมาถึง
"ทำไมวันนี้มาคนเดียว"
"ต่อไป คงเหลือทีละคนจ้ะ พี่บอยลาออก งานในร้านเยอะขึ้น ต้องอยู่ช่วยร้าน"
"โฮ้ย ชนะแน่ ...ชนะใสกิ๊กเลย"
ทองทาโวยวาย กัดฟัน ประชด การะเกดยิ้มแห้ง

เมื่อบอยไม่อยู่ที่ร้าน หน้าที่วิ่งธนาคารจึงเป็นของมาลี เธอขึ้นมอเตอร์ไซค์วินมาที่ธนาคาร จัดการธุรกรรมทั้งหลายแทนบอย ส่วนชงโคไปช่วยป้ากับลุงซื้อของที่ตลาด คุยกับแม่ค้า พ่อค้า จดบัญชี ถือของ
 
อ่านต่อหน้า 2

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 4 (ต่อ)

ภายในบ้านพักโรส มาลีทำความสะอาด จัดโต๊ะรับแขก

"นี่ หยุดเลย ทีหลังไม่ต้องทำ ฉันทำเอง" โรสบอก
โรสเพิ่งตื่นเดินเข้าห้องน้ำไป มาลีหน้างอ ทำงานต่อ ไม่สนใจ

มาลีพยายามเอาใจพ่อ เอาเสื้อพ่อมาซักที่เครื่องซักผ้า เอาตะกร้ามาวาง โรสเดินออกมาดู
"เสื้อผ้าฉัน ฉันซักเอง"
โรสหยิบตะกร้าคืนไป มาลีเศร้า

ที่โต๊ะกินข้าว โรสนั่งเศร้ามองรูปที่ถ่ายกับบอย พอลูกยกถาดมาก็หันไปทางอื่น
"หนูต้มโจ๊กมาให้"
"เอาไปกินเถอะ ไม่หิว"
มาลีดูยา จัดยามาวาง
"เอาเก็บคืนไป ทีหลังไม่ต้องทำ"
โรสเดินออกไป หนูมาลีจ๋อย ไม่ยอมแพ้ แค้นเดินตาม

หน้าบ้านพัก มาลีถามพ่ออย่างน้อยใจมาก
"ความรักมันแทนกันไม่ได้เลยหรือ ทำไมไม่ให้โอกาสหนูมาลีบ้าง"
"เสื้อนั่นบอยซักมือเท่านั้น ไม่ซักเครื่อง"
"เอ๊า แล้วมีเครื่องซักผ้าไว้ทำไม ถ้าคนเราต้องไปนั่งขยี้ๆ"
"แกวางของผิดหมด ฉันหาอะไรก็ไม่เจอ"
"เขาเรียกความเป็นระเบียบ"
มาลีเถียงคำไม่ตกฟาก โรสรำคาญมาก
"อาหารที่ฉันเกลียดที่สุดคือโจ๊ก"
" จริงหรือ ทำไมหนูไม่รู้ล่ะ"
"ยานั่น แค่ครึ่งเดียวที่ฉันกิน ยังมีอีกครึ่ง มันเป็นพวกยาบำรุง ที่ฉันเองก็จำไม่ได้ มีบอยรู้คนเดียว"
"ไม่เห็นยาก หนูก็โทร.ไปถามเขา"
โรสโวยเสียงดัง
"ไม่ต้องถาม ไม่ต้องยุ่ง เลิกยุ่งกับชีวิตฉันก็พอ !"
มาลีน้ำตาคลอ โรสเดินหนีไป

มาลีนั่งเศร้าเล่าเรื่องให้บุญมาฟัง
"ไม่ต้องเสียใจไปหรอก เมื่อคืนฉันเห็นมันเดินทั้งคืน มันนอนไม่หลับเลยหงุดหงิด"
สมศรีเดินมารื้อค้นหาของ
"อะไรมันอยู่ตรงไหนวะ ปวดหัวจริงโว้ย บอยไม่อยู่ กูก็ต้องมานั่งคิดเลขเองอีก"
"หนูช่วยเอง คนไม่ดีพรรค์นั้น จะไปอาลัยอาวรณ์ทำไมกันนักหนา"
"เมื่อวานส่งอาหารไม่ทันไปสามโต๊ะ คนลุกกลับบ้านเพราะระบบมันมั่ว เปิดร้านมาห้าหกปี เคยมีเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน"
"จะหาเครื่องคิดเลขใช่ไหม นี่ๆ มันเก็บตรงนี้" บุญมาบอก
สมศรีรับมาแล้วค้อนใส่หนูมาลี หงุดหงิด โกรธหนูมาลีมาก เดินหนีไป
"เมื่อก่อนลุงก็ไม่ชอบนะ พวกตุ๊ดแต๋ว เห็นแล้วมันหงุดหงิด แต่พออยู่ไปนานๆ มันก็ไม่ใช่ตุ๊ดแต๋ว มันก็คือ คุณอลิซ นังแคที่ นังโรส คนธรรมดาอย่างเราๆนี่ล่ะ"
"ไม่ใช่ คนละประเด็นแล้ว เขาเป็นพวกชอบหลอกเกย์ ลืมเขาเสียเถอะ"
บุญมาเดินไป บ่นไป
"เฮ้อ... ผู้ชาย ผู้หญิง เกย์ มันก็เป็นของมันอย่างนั้น เป็นธรรมชาติตามปรกติ กรอบของสังคม กรอบของคนแต่ละคนต่างหากที่เป็นปัญหา"

มาลีอ่อนใจ พูดคนละเรื่องอีกแล้ว

โรสนั่งเศร้าเหม่อ เหมือนคนอกหัก ร้านเปิดให้บริการตามปรกติ ทองทายืนคุยกับสามสาว

"ให้ขึ้นเวทีบนโน้นหรือ" ชงโคถาม
"อีกไม่กี่วัน เธอก็ต้องแสดงแล้ว ต้องให้ชินเวทีไว้"
"ต้องไปขออนุญาตพี่โรสก่อน" การะเกดบอก
การะเกดเดินไปหาโรส พวกมาลี มองตาม
"พี่โรส เดี๋ยวเราสามคนขอขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีหน่อยนะคะ"
โรสนิ่ง เหม่อ ไม่ได้ยิน
"พี่โรสคะ"
"อะไรนะ"
"หนูสามคนจะขึ้นไปร้องเพลง พี่ทองทาบอกว่า ถ้าเราดึงความสนใจคนดูในร้านได้ก็เท่ากับเราจะชนะ แต่ถ้าไม่ได้ ก็แปลว่าเราจะแพ้ค่ะ"
โรสพยักหน้า
"ทำตัวเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ น่าหมั่นไส้" มาลีบอก
"เอาล่ะ ไปเตรียมตัวได้ ร้องดีๆเลยนะ" ทองทาว่า

แสงสวยสว่างขึ้นที่เวที สามสาวในชุดสวยงาม ร้องเพลงอกหักประสานเสียงกันไพเราะ
จนแขกในร้านหยุดฟัง
บุญมา สมศรีออกมาฟัง ซูซี่ เกรซ มี่ออกมาฟัง ต่างตกตะลึงกับความไพเราะ
ทองทามองไปรอบๆ ยิ้มพอใจ มีแววไปได้ดี
ในตอนแรก โรสทำเหมือนไม่ได้ฟัง ไม่ได้มองเวที ทำงานบวกเลข ทอนเงิน แต่ไม่กี่นาที จากนั้นก็ไม่ไหวต้องวางทุกอย่างลงแล้วร้องไห้ น้ำตาไหลออกมา โรสร้องมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องลุกออกไป
เพลงดำเนินต่อไป...
บุญมาบอก
"จะเจ๋งจริงไม่จริงอยู่ตรงนี้แหล่ะ"
บุญมารอฟังเพราะเป็นนักดนตรีมาก่อนรู้ว่า ท่อนยากอยู่ตรงไหน
ปรากฏท่อนยากมาถึง ... สามสาวร้องเพี้ยนออกมา แล้วชะงัก ทั้งสามหยุดนิ่งตกใจไม่ร้องต่อ เกิด death air คนในร้านร้องโห่
"นึกแล้วเชียว" บุญมาบอก
สมศรี บุญมา ส่ายหน้าไปทำงานต่อในครัว ซูซี่ เกรซ มี่ ยิ้มสะใจ คนดูยังหัวเราะ สามสาวอายมาก ต้องรีบลงจากเวทีไป ทองทาส่ายหน้า กลุ้ม...

ดึกแล้ว คนในร้านน้อยลง สามสาวนั่งเศร้าในความผิดพลาด
เกรซบอก
"โฮ้ย ขำว่ะ ทุ่มเทไปตั้งเยอะ ร้องได้แค่นี้ เหนื่อยฟรี แล้วยังแพ้"
มี่บอก
"สมน้ำหน้า เป็นสาวเสิร์ฟ แต่ฝันอยากเป็นดารา"
"นี่ พวกฉันยังไม่แพ้นะ นี่ก็แค่ซ้อม"ชงโคว่า
เกรซบอก
"ไม่แพ้ตอนนี้ เดี๋ยวก็แพ้ตอนหน้า เขามีครูฝรั่งซ้อมวันละหลายๆชั่วโมง แกจะเอาอะไรไปสู้ นี่ล่ะนะ คนไม่รู้จักเจียมตัว"
"ให้เจียมตัวอย่างไหน อย่างแกหรือ... เจียมซะจนต้องมาขายตัว !" มาลีบอก
มี่ผลักอก "หนูมาลี !"
ทองทาเดินเข้ามาได้ยินพอดี ตั้งใจฟัง
"ฉันพูดจริง !"
มาลีไม่ยอม ผลักคืน
ทั้งสองคนพุ่งมาหากัน ทำท่าจะตบ การะเกดร้อง
"ฮ้ายอย่าๆ"
"นี่หยุดนะ ใจเย็นๆก่อน ใช้กำลังกัน หน้าแหกขึ้นมา ฉันไม่รู้ด้วยนะ" ทองทาบอก

สองสาวยอมรามือ เดินห่างกัน

สองสาวยอมรามือ เดินห่างกัน

"คิดอะไรง่ายๆ หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ผิดพลาดนิดหน่อยก็ท้อแบบพวกแกไง ถึงต้องขายตัวแบบนี้" มาลีบอก
"พวกเราไม่ได้ขายตัว พวกเราแค่นั่งเป็นเพื่อนคุย พอใจก็ไปกับเขา ไม่พอใจ ก็ไม่ไป...พวกเราไม่เหมือนผู้หญิงพวกนั้น" เกรซว่า
"ฮึ หลอกตัวเองยิ่งกว่าพวกฉันอีก ชงโค การะเกด อย่าไปฟังมัน วันนี้แค่ผิดพลาดนิดหน่อย อย่าไปเสียกำลังใจ ยังไงเราก็ต้องชนะ"
มี่ เกรซค้อน เดินหนีไปหาซูซี่ ที่ยืนฟังตั้งแต่ต้น
"นังเด็กคนนี้มันร้าย อย่างมันต้องเจอฉัน" ซูซี่บอก
"มันดูถูกเรา พี่ซูซี่" เกรซบอก
"ฮึ ประเดี๋ยวมันก็แพ้ พอมันแพ้ มันก็อด พออดมากๆเข้า เดี๋ยวมันก็มาขอให้พวกเราช่วยเอง คอยดูไป ไม่ผิดปากฉันหรอก"
ซูซี่มองสามสาวอย่างอาฆาต

ดึกแล้ว ร้านปิดแล้ว ไม่มีคน !!
ทองทาเดินมาเล่นอิเล็กโทน มาลีเดินมาหา
"คนเก่ง คือคนที่ทำได้ แต่คนเก่งจริงๆ คือ คนที่ลุกได้ ในเวลาที่ผิดพลาด เธอเก่งจริงๆ ... ที่ตอบผู้หญิงพวกนั้นไง"
มาลีจับมือทองทา สีหน้าเศร้าต้องการกำลังใจ ทองทาตกใจมาก
"หนูไม่ได้เก่งขนาดนั้น ที่จริงกำลังกลัวด้วยซ้ำ แต่เราต้องสู้ ดูสิ มือหนูเย็นไปหมดเลย"
ทองทาเอามือตนเองออกช้าๆ
"แหะ ๆ ลืมไปค่ะว่าพี่ห้าม"
ทองทามองมือมาลีที่ยังคาอยู่บนอิเล็คโทน
"มือหนูมาลี ทำไมคะ"
"ถ้าไม่เอาออกทันที จะเอาออกไม่ได้เลยต่างหาก" เสียงความคิดทองทาว่าอย่างนั้น
ทองทาไม่ตอบ ยิ้มให้
"อย่ากังวล วันนี้พวกเธอตื่นเวทีน่ะ ปรกติทำได้ดีกว่านี้ไม่ใช่หรือ"
"พี่คิดอย่างนั้นหรือคะ"
"เธอเข้มแข็งมาก เพราะเธอเป็นอย่างนี้ เธอทำให้พี่แพ้ไม่ได้ เราจะแพ้ไม่ได้ เราต้องชนะ ต้องชนะเท่านั้น !"
มาลีพยักหน้าขอบคุณทองทา ที่ยังเชื่อมั่นในกันและกัน

ในห้องซ้อม วันใหม่ บุษบาบัณร้องเพลงด้วยท่าทางเหนื่อยๆ
"ยังเพี้ยนอยู่ เอาใหม่ค่ะ" ครูว่า
เธอร้องเพลงอีก
"ยังไม่ได้ เอาใหม่ค่ะ"
เธอร้องอีกครั้ง
"แค่นี้ก็ทำไม่ได้ เอาอีกทีซิ"
"ไม่... เบื่อแล้ว จะเข้มงวดอะไรกันนักหนา รู้แล้วน่าว่าเก่ง"
ครูตกใจ ไม่คิดว่า ลูกศิษย์จะด่าตน
โยทะกาวันนี้นั่งดูอยู่ด้วย เดินเข้ามาทันที
"คุณเบล ใจเย็นๆสิคะ"
"จะอะไรกันนักกันหนา ไม่ใช่เพลงที่จะประกวดสักหน่อย"
"เด็กนรก ...ใครอยากสอนก็สอนไปเถอะ"
ครูเขวี้ยงโน้ตทิ้ง เดินออกไป
"ครูจอย ครูจอยเดี๋ยวค่ะ"
โยทะกาส่ายหน้าใส่บุษบาบัณ แล้วตามครูออกไป
ยาหยี นีน่ารีบเข้ามาหาพื่อนที่หงุดหงิดเต็มที
"เครียดเนอะ ไปเกาหลีกันไหม บัตรคอนเสิร์ตที่เราจองเอาไว้ รอคุณเบลอยู่นะคะ"
นีน่าบอก "ไปกันนะ ไปกัน"
"มะรืนนี้ จะประกวดรอบสองแล้ว"
"กลับมาทันค่ะ เราบินพรุ่งนี้ ดูคอนเสิร์ตเสร็จ บินกลับเลย มาเข้าประกวดตอนเช้าทันพอดี" ยาหยีบอก
"นะนะ"นีน่าว่า

บุษบาบัณคิดหนัก หงุดหงิด ไม่มีทีท่าว่าจะไป

ชงโคนั่งซ่อมมือถือเครื่องเก่าอยู่

"แค่นี้ก็เรียบร้อย"
ซูซี่ เกรซ มี่เดินเข้ามาหา
"ซื้อเครื่องใหม่เถอะ เดี๋ยวก็ระเบิดใส่หน้า" ซูซี่บอก
"ก็เอาตังค์มาสิ"
"คืนนี้เอาให้"
ชงโคอึ้ง
"อะไรนะ"
"เสี่ยชัยเขาชอบแก แกไปกับเขา แกจะได้มือถือใหม่" ซูซี่บอก
"ให้ฉันขายตัว แบบนั้นใช่ป่ะ"
"เอ๊ะก็บอกว่าไม่ใช่ขายตัว นั่งนี่มันวอน"
มี่ทำท่าจะโวยอีก ซูซี่ทำมือให้หยุด
"ถามจริงทุกวันนี้ไม่เหนื่อยหรือไง ไปบ้าตามนังหนูมาลี ทำนั่นทำนี่ ผอม
โซ ตาโหล ขนาดยืนยังจะหลับ"
ชงโคคิดเล็กน้อย
"ไม่อ่ะ ไม่ไป"
เกรซถาม
"แกกลายเป็นคนกินอุดมการณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่หา นังชงโค"
"เสี่ยชัยหน้าเหมือนหมู ไม่หล่อ ไม่เอา"
ชงโคดูเด็ดขาด หิ้วกระเป๋าเดินออกไป ซูซี่อึ้ง งง คาดไม่ถึง
"ผิดคาดแฮะ นึกว่านังนี่จะง่าย" เกรซว่า
"นั่นสิ มันเชื่อว่ามันจะชนะจริงหรือวะ ยังไงวะ งงว่ะ"
ซูซี่คิดหาทางต่อ ตามประสาแม่เล้า

สามสาวร้องเพลง ท่อนที่ทำไม่ได้คืนก่อน แต่วันนี้ทำได้สวยงาม จนอธิกับทองทาปรบมือชม
"เย้ ทำได้แล้ว" อธิว่า
"ร้องดีขึ้น …..เอาล่ะ มะรืนนี้แล้วนะเต็มที่"
สามสาวมีกำลังใจขึ้น

ทองทาเอากล้าไม้มายื่นให้สามสาว ทีละคนและชี้กระถางใบใหญ่ที่ถูกจัดวางไว้อย่างโดดเด่นสามกระถาง กลางสวน
"อ่ะ เอาไปปลูกคนละต้น ในกระถางตรงโน้น"
"อะไรคะ"
ทองทาชี้ต้นไม้ไล่ไป
"ชงโค การะเกด และกุหลาบแดง ต่อไปนี้มันจะเป็นต้นไม้ประจำตัวเธอ .... เธอก็เลยต้องปลูกเอง"
การะเกดถาม
"ต้นไม้ประจำตัวแปลว่าอะไรคะ"
มาลี เข้าใจทันที
"เอาฤกษ์เอาชัยไง ชีวิตเราทั้งสาม จะลงรากฝังลึกเหมือนต้นไม้พวกนี้"
"ใช่ ชีวิตของพวกเธอจะต้องสวยงาม จะต้องสำเร็จ"
"พวกเราต้องชนะ พวกเราต้องสู้"
สามสาวเอามือมาจับกันพร้อมกัน
"สู้ เย้"
สามสาวเดินไปปลูกต้นไม้ร่วมกัน

อธิคุยกับทองทาได้ยินกันสองคน
"ที่ให้ปลูกต้นไม้เพราะมั่นใจแล้วว่าเราจะชนะใช่ไหม"
"ไม่ !"
"หา…"
"ฉันดูคู่แข่งแล้ว เราคงแพ้"
"เฮ้ย นี่แกพูดจริงหรือ ที่เหนื่อยมาสามเดือนสูญเปล่าหรือเนี่ย"
ทองทาพยักหน้า
"เราแค่ร้องดี แต่ไม่โดดเด่น 30 คนคัดเหลือแค่ 5 คน 5 คนนี้จะอยู่ในสายตาของคนทั้งประเทศ กรรมการจะต้องเลือกคนที่ทั้งร้องดีและโดดเด่นพร้อมๆกัน สามคนนี้ยังไม่ใช่"
อธิเหวอไป ทองทาอ่านเกมขาดมาก สายตาแอบเครียดอีก ครุ่นคิดต่อ
"มันต้องมีวิธี มีวิธีสิน่า"
"มะรืนนี้แข่งแล้วนะโว้ย... จะมีทางหรือวะ"

โรสนั่งเศร้า มาลียกข้าวต้มที่ทำเองมาให้
"ข้าวต้มกุ้ง พี่กินได้แน่ เพราะหนูมาลีแอบถามจากลุงบุญมาว่าพี่ชอบ"
"ฉันไม่กิน"
โรสลุกไป มาลีขอร้อง
"กินหน่อยไม่ได้หรือ พรุ่งนี้หนูมาลี ต้องร้องเพลงประกวดรอบสอง หนูมาลีอยากสบายใจก่อนขึ้นร้อง"
"แกหนีเรียนมาประกวด หนีงานไปสมัคร ประกาศตลอดเวลา มั่นอกมั่นใจเหลือเกิ๊น ถึงเวลามาเรียกหากำลังใจจากฉันเนี่ยนะ"
มาลีน้อยใจขึ้นมาอีก
"หนูเป็นแค่ส่วนเกิน เป็นภาระใช่ไหม พี่มีความสำคัญกับหนู แต่หนูคงไม่มีความสำคัญอะไรกับพี่เลย"
มาลีน้ำตาไหลเดินออกไป

มาลีเดินมาหาบุญมา สมศรีที่กำลังรออยู่
"นี่สายแล้วนะ เดี๋ยวก็กลับมาไม่ทันเปิดร้านหรอก"
มาลี ร้องไห้ปาดน้ำตา
"เอ้าเป่าปี่เสียแล้ว ทะเลาะกันมาอีกหรือ แล้วนี่จะไปตลาดไหวไหมเนี่ย" บุญมาถาม
"เออดี หาเรื่องมาไล่บอยออก ต้องขึ้นแท็กซี่ไปตลาด ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย นี่ วันนี้จะปล่อยฉันไปกับไอ้แก่สองคนนี้ ถือของกันเองอีก มันชักจะมากไปแล้วนะ" สมศรีว่า
"เอาเหอะๆ เดี๋ยวเฮียร้านชำ มันก็ส่งคนมาช่วยถือเองแหล่ะไปเหอะๆ"
"ไม่ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันทนนังหนูป่วนนี่ไม่ไหวแล้ว พ่อเขารักขนาดนี้ ยังจะแง่งอนใส่เขาไม่รู้จักจบจักสิ้น นี่ฉันจะบอกอะไรให้นะ เรื่องไอ้บอยน่ะ..."
"เฮ้ย อย่าไปยุ่ง เรื่องในครอบครัวเขา ให้เขาไปคุยกันเอง"
"ไม่ ... ฉันจะเล่าความจริงให้มันฟัง ต้องมีใครสักคนพูดเรื่องนี้ ไอ้บอยมันไม่ได้ขโมยเงิน ไม่ได้นอกใจ ที่มันต้องออกไป เพราะโรสมันตามใจแก"
"อะไรนะ"

สมศรีเล่าเรื่อง

วันนั้น ขณะที่บอยเก็บของกำลังจะไป โรสปลอบ

"บอย พี่ขอโทษนะ พี่อยากชดเชยให้หนูมาลี พี่ไม่เคยคิดเลยว่ามันสำคัญสำหรับเขาขนาดนี้"
"เราจะเลิกกันหรือครับ"
"พี่ไม่รู้ พี่รู้แต่ว่า เราห่างกันสักพักเถอะนะ พี่อยากให้หนูมาลี รู้สึกมั่นคงก่อน สักระยะหนึ่ง"
บอยพยักหน้า
"เขาคงรู้สึกโดดเดี่ยวมานาน พี่ทิ้งเขามานานเกินไป เขาถึงกลายเป็นแบบนี้ ยิ่งช่วงนี้ ไม่ว่าเขาจะผิดหวังหรือสมหวัง พี่อยากให้เขารู้ พ่อจะอยู่ข้างเขาเสมอ"
บอยเข้ามากอดโรส ทั้งสองน้ำตาคลอ
"พี่ก็รู้ ผมให้พี่ได้ทุกอย่าง ผมเข้าใจครับ"
บอยเริ่มเก็บของอย่างจริงจัง โรสยืนร้องไห้ สมศรีกับบุญมาเสียใจไปด้วย สงสารทั้งคู่

มาลีรู้เรื่องแล้ว นั่งลงช็อก !
"พี่บอยไม่ได้ทำผิดหรือคะ"
"เออ! ... นังโรสไล่บอยออก ทั้งที่มันไม่ผิด เพื่อจะเอาใจแกนั่นแหล่ะ" สมศรีว่า
"นั่นๆแท็กซี่มาแล้ว ไปเหอะไป๊"
บุญมาลากสมศรีไป มาลียังนั่งช็อกอยู่
เสียงมือถือดังขึ้น
"ฮัลโหล"
"แกไม่ได้เป็นส่วนเกิน อย่าไปคิดอะไรแบบนั้น"

ที่บ้านพัก โรสคุยโทรศัพท์อยู่
"ฉันมันคนขี้โมโหปากเสีย แล้วแกมันก็คนปากไว ฉันน่ะเกลียดที่สุดเลย คนชอบเถียง ก็ดันต้องมาอยู่กับแก เอาเถอะ อีกหน่อยมันคงดีขึ้น พรุ่งนี้ขอให้โชคดีแล้วกันนะ "
โรสวางหู
มาลีลุกขึ้นมองเข้าไปในบ้าน มาลีจะเดินเข้าไปหาโรส แต่ที่สุดกลับถอยเท้าออกมา หนูมาลีวิ่งออกไปจากร้านทั้งน้ำตา

วันเดียวกัน ทองทา อธิ การะเกด ชงโค ซ้อมร้องเพลงกันอยู่
ทองทาบอก
"วันนี้ เราแค่วอร์มเบาๆ นะ เราต้องถนอมเสียงของเราไว้"
มาลี เดินร้องไห้เข้ามา
"หนูมาลี... ร้องไห้ทำไม" การะเกดถาม
"พี่บอยไม่ได้ทำผิด ที่เขาออกไปเพราะพี่โรสเกรงใจหนูมาลี หนูมาลี ใส่ร้ายพี่บอย หนูมาลี มันตัวป่วน ป่วนไปทั่วแบบที่ป้าสมศรีว่าจริงๆด้วย"
"โฮ้ย ร้องใหญ่เลย พอก่อนๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้เสียงไม่มีนะ" ชงโคว่า
"เรื่องแค่นี้เอง ก็ไปปรับความเข้าใจกับพี่โรสได้ไม่ใช่หรือ" อธิบอก
"หนูมาลี ไม่กล้าสู้หน้าพี่โรส ฮือ บางทีเขาก็ทำเหมือนรัก บางทีก็ทำเหมือนหนูมาลีเป็นภาระ"
"เฮ้อ ความรัก ไม่ใช่การพูดดีกันอย่างเดียวหรอกหนูมาลี เพราะทะเลาะกันนี่แหล่ะ ถึงเรียกว่ารัก"
"ถ้าเรายังทะเลาะกัน แสดงว่าเรายังแคร์กัน แต่เมื่อไหร่เราเมินเฉยต่อกันนี่ต่างหากน่ากลัว" อธิบอก
"มีเรื่องหนึ่ง พี่ไม่ได้บอก วันที่หนูมาลีหิ้วกระเป๋าหนีมาที่นี่ วันนั้นพี่โรสตามมา พี่โรสขอร้องให้พี่สอนหนูมาลีร้องเพลง" ทองทาบอก
วันนั้น โรสบอกว่า
"เราทุกคนโตขึ้นเพราะได้ “โอกาส” จากใครคนหนึ่งเสมอ อย่าปฏิเสธที่จะให้โอกาส เพราะมันอาจจะเป็นแค่โอกาสครั้งเดียวในชีวิตเขา !"
"อะไรนะ... หนูมาลี นึกว่าเขาไม่อยากให้หนูประกวด"
"ถึงจะคิดไม่เหมือนกัน ... แต่ครอบครัวอยู่ข้างเดียวกันเสมอ"
ทองทากลุ้ม หนูมาลีเกาะแขนทั้งสองของเขาร้องไห้อยู่อย่างนั้น
"พี่ตัดสินใจแล้ว คิดมาหลายวันแล้วด้วย พี่จะเปลี่ยนเพลง"
พร้อมกันร้อง "เฮ้ย"
"พรุ่งนี้แล้วเนี่ยนะ"
"อื้อ ... ไอน์สไตน์กล่าวว่า ถ้าทำอะไรแล้วมันผิด อย่าฝืนทำต่อ มันต้องเปลี่ยนตั้งแต่กระบวนการความคิด ... ทั้งสามคนจะร้องเพลงของตนเอง จะไม่ประสานเสียง"

สามคนมองหน้ากัน แม้แต่หนูมาลี ยังอึ้ง ว่าทองทาพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม
 
อ่านต่อหน้า 3

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 4 (ต่อ)

โรส บุญมา สมศรี เตรียมเปิดร้านเซอร์ไพร์สคาราโอเกะ ทุกคนทำงานไปด้วย คุยกันไปด้วย

"นังสามสาวไม่กลับหรือคืนนี้" สมศรีถาม
"ทองทาเขาโทร.มาขออนุญาตให้ค้างที่บ้านเขา คงจะซ้อมหนัก พรุ่งนี้แข่ง วันนี้คงยุ่งๆหน่อย"
"เฮ้อ เอาอีกแล้ว"
บุญมาถามโรส
"มันคุยกับแกหรือยัง หนูมาลีน่ะ ตอนจะออกไปตลาด มันนั่งร้องไห้"
"ฉันบอกมันแล้วนะเรื่องไอ้บอย เด็กอะไร้ สร้างแต่เรื่อง ในเมื่อรู้ความจริงแทนที่จะมาขอโทษพ่อ"
โรสคิดเล็กน้อย
"ช่างเขาเถอะ"
แล้วโรสหันไปทำงานวุ่นๆต่อ เอาป้ายมาวางปิดครึ่งร้าน “โซนนี้ปิด”
"เปิดขายมันแค่ครึ่งร้านก็พอ ฮู้ย เจริญลงทุกวัน... ชีวิตนังโรส"

ทองทาพาทั้งสามมาเรียนที่ดาดฟ้า เพื่อสร้างกำลังใจบางอย่างให้แก่สามสาว สามสาวกำลังยืนหลับตายื่นมือออกไป ทำสมาธิ แบบที่ทองทาเคยสอนมาลี
"พี่จะให้พวกเธอเลือกเพลงด้วยตัวเองเธอเอง เพลงที่บอกตัวตนของเธอจริงๆ... สัมผัสได้ไหม ในโลกนี้มีพลังงานแฝงบางอย่าง พลังที่จะสร้างปาฎิหารย์"
ชงโคบอก
"โห ถ้าฉันสัมผัสได้ ฉันคงเป็นชงโค จิตสัมผัส ไม่มาเป็นเด็กเสิร์ฟหรอก"
ทองทาสั่ง
"หลับตา ทำสมาธิต่อไป พี่จะสอนให้ วิธีเรียกพลังแฝงในตัวเธอออกมา พลังแบบนี้ จะทำให้เธอชนะ ทั้งที่เป็นเด็กเสิร์ฟ ทั้งที่ไม่ได้ซ้อม"
หน้าทองทามีแผนการใหญ่

วันใหม่ สถานีเอ็มเอ็มแชนนัล ทีมงาน กำลังเตรียมฉาก อุปกรณ์ในห้องสตูดิโอออกอากาศ มีเก้าอี้คอมเมนเตเตอร์ข้างหน้า 2 ชุดของบรมและแซนดี้ ทีมงานกำลังวุ่นวาย กับ การถ่ายทอดครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้
ภายในห้องแต่งตัว พิธีกรสองคน ซ้อมบท ในห้องคอนโทรล โยทะกา ดูแล คุยกับทีมงาน ในห้องแต่งตัว บรม แซนดี้ แต่งหน้า
เวลาต่อมา ทีมถ่ายรายการ กำลังถ่าย สอง พิธีกรที่ยืนข้างจอทีวียักษ์ที่จะกลายเป็นที่รายงานคะแนนต่อไปในอนาคตจนถึงรอบสุดท้าย ตอนนี้ทีวีจอยักษ์เป็นโลโก้รายการก่อน มีเก้าอี้เรียงรายให้สื่อมวลชน และคนดูมานั่งชมการรายงานผลคะแนนต่อไป
พิธีกร1บอก
"สวัสดีค่ะท่านผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการสี่แยกนักฝัน เดอะซุปเปอร์สตาร์ซีซั่นสอง"
พิธีกร 2บอก
"วันนี้เป็นวันสำคัญมาก ตื่นเต้น ๆ วันนี้ ผู้เข้าประกวดที่ผ่านรอบแรก 30 คน จะเข้ามาร้องสดๆ ออกอากาศ เพื่อขอคะแนนโหวตจากกรรมการ"
พิธีกร 1บอก
"จับตาให้ดีนะคะ ที่จอภาพแห่งนี้ และที่เว็บไซต์เดอะซุปเปอร์สตาร์ คะแนนจะออนไลน์สด โดยผู้ชมจะเป็นผู้ตัดสิน ... 5 คน เพียง 5 คนจากสามสิบคน ที่จะได้รับคะแนนโหวตสูงสุด จะเป็นผู้เข้ารอบต่อไปค่ะ"

"ท่านผู้ชมคะ รักใครชอบใครโหวตได้ตั้งแต่ตอนนี้ จนถึงเวลา สี่โมงเย็น วันนี้เท่านั้นนะคะ สี่โมงเย็นวันนี้เราจะประกาศผู้เข้ารอบสดๆ ณ ที่แห่งนี้ค่ะ"

สามสาวกำลังแต่งหน้าเสร็จพอดี

ช่างบอก
"โอเค สวยละ เปลี่ยนชุดแล้วรอห้องนี้นะคะ"
ช่างหันไปแต่งให้คนอื่น ที่อยู่ห่างกันไปคนละมุม
ทองทาบอก
"ฟังนะ ตอนนี้ความรู้เรื่องการร้องเพลง พวกเธอเรียนมามากพอแล้ว ตอนนี้ขอให้ลืมไปให้หมด ต่อไปนี้ ใช้หัวใจร้องเพลง อย่าใช้สมองร้องเพลง"
การะเกดตื่นเต้น เครียด
"เฮ้อ อยากจะอ้วก"
"กินน้ำๆ" อธิบอก
"ฟังพี่นะ วันนี้สิ่งสำคัญคืออะไรการะเกด"
"ลืมว่านี่คือการแสดง ลืมว่านี่คือการแข่งขัน"
"หนูมาลี"
"จำไว้แค่ว่า การร้องเพลงคือการสื่อสาร ร้องออกมา กลั่นมันออกมาราวกับว่า นี่เป็นเสียงสุดท้ายของชีวิตเรา"
"เยี่ยม" ทองทาบอก
"เยี่ยมตรงไหนวะ แกต้องบ้าแน่ๆ จู่ๆก็เปลี่ยนเพลง"
"อย่าลืม พลังงานแอบแฝง ที่จะสร้างปาฏิหาริย์"
"แปลว่าอะไรวะ"
"แกไม่ต้องรู้ เพราะแกไม่ต้องแข่ง"
อธิค้อน
"ฉันก็มีโว้ย พลังงานแอบแฝง"
อธิเอาสายสิญจน์แบบเชือกถักออกมาใส่ให้สามสาว
"หลวงพ่อดัง วัดบ้านโคก ปลุกเสกก่อน"
"งมงายอ่ะ" ชงโคบอกแล้วเปลี่ยนท่าทางทันที พุ่งเข้าหา "คาถามีไหม หนูท่องเอง"
"นี่ๆ มายืนด้วยกัน มาๆ มารวมกัน พี่จะท่องให้ เอามือมาจับกัน ไอ้ทองทามานี่"
อธิท่องพึมพำ แล้วตีหน้าผากทั้งสามคน
"เปรี้ยงๆๆ ดัง ดัง ดัง ! เอาล่ะ ใส่ไว้ทั้งสามคน"
ทั้งหมดรับเชือกถักไปใส่ข้อมือ
สต๊าฟเดินเข้ามา
"เอาล่ะค่ะ ขอเชิญพ่อแม่ คุณครูไปรอที่ห้องโถงนะคะ ขอให้ห้องนี้เหลือแต่ผู้แข่งขันนะคะ ผู้แข่งขันเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยค่ะ"
ทองทากับอธิ เดินออกไปเหลือสามสาวกับผ็แข่งขันคนอื่น

ทองทาและอธิเดินมาตามทางมาเจอกับโยทะกา
"เอ้าทองทา"
"ท่าทางวุ่นเชียวครับ"
"มาทำไมนี่"
"เอ้อ ชวนอธิมาหาพี่ มาเยี่ยม" ทองทาโกหก
"วันนี้วันประกวด พี่ยุ่งมากเลย ยายเบลก่อเรื่องแล้ว"
"ทำไมหรือครับ"
"เขาหนีไปเที่ยวที่เกาหลีตั้งแต่วันก่อน"

"เอ้าไหนว่าตั้งใจนักหนา"

โยทะกาเล่าเหตุการณ์เมื่อ 3-4 วันเก่า บุษบาบัณกำลังวอร์มเสียง ยาหยี นีน่าเล่นมือถืออยู่

ยาหยีกรีดเสียง "แอร๊ย"
นีน่าถาม "อะไร"
ยาหยีชี้ไปที่อินสตาแกรม
"นังเขียวหวาน คู่แข่งเรามันขึ้น ไอจี พวกมันไปถึงเกาหลีแล้ว"
"มันเอาชุดมาอวดด้วย คอนเสิร์ตพรุ่งนี้มันคุยว่ามันจัดเต็ม" นีน่าว่า
"ยายเขียวหวานหรือ ไหนดูซิ"
บุษบาบัณรีบกดมือถือตัวเองดู แค้นมาก
"เบล เรายอมแพ้มันไม่ได้นะ ถ้าเราไม่ไปดูคอนเสิร์ต พรุ่งนี้ นังเขียวหวาน มันต้องกลายเป็นแฟนคลับไทยเบอร์หนึ่งพี่มินโฮ แน่นอน" ยาหยีบอก
"ไหนจะคนอื่นๆอีก มันต้องถามแน่ว่าทำไมเราไม่ไป เราต้อง เอาท์สุดๆ ฮือ" นีน่าว่า
เรื่องนี้เองทำให้บุษบาบัณโมโห ขยำผ้าเช็ดหน้าด้วยความโกรธ
"คืนนี้ฉันจะหนี พวกเราไปเจอกันที่สนามบิน อย่าบอกยาย อย่าบอกใครๆนะ"
สองสาวยิ้มดีใจสุดๆ รีบพยักหน้า ครูดินเข้ามา
"เอ้า มาค่ะ เริ่มซ้อมกันเลย"
บุษบาบัณแกล้งทำเป็นเด็กดีรีบมาซ้อม นีน่า ยาหยียิ้มกันไป ได้ไปเกาหลีเสียที

"บินไปเกาหลีหรือครับ"
"ตามกำหนด คุณเบลจะบินกลับมาเมื่อเช้า ทันขึ้นร้องเพลง แต่เกิดพายุเข้า สนามบินที่นั่นปิด เขาบินไม่ได้ จนตอนนี้ยังออกจากสนามบินไม่ได้เลย แล้วทีนี้จะเข้าประกวดยังไง"
"เย้ !"
โยทะกามองหน้าว่าดีใจอะไร อธิรีบไปหยิบหนังสือพิมพ์กีฬาแถวนั้นมาชี้
"ข่าวบอลครับ ตรงนี้ครับ เต็งหนึ่งหลุดโผ โอกาสชนะอยู่ที่ทีมรอง"
โยทะกาไม่เอะใจ รีบไปต่อ
" วันนี้คงไม่เหมาะ ไว้ไปกินกันข้าวกันวันอื่นนะอธิ แล้วโทร.คุยกันทองทา"
โยทะการีบเดินหนีไป ทองทาคิดๆ อธิยิ้มแย้ม
"ตัดตัวเต็งหนึ่งออกไป โอกาสของเราเยอะขึ้น ...สุดยอด"

ยาหยี นีน่า นั่งจ๋อยอยู่ในโรงแรมของสนามบิน บุษบาบัณเครียดเดินไปเดินมา เลยหันมาตีๆ นีน่า
"โฮ้ย ฉันไม่น่าเชื่อพวกเธอเลย นี่แน่ะ เพื่อนบ้าๆ
"โอ๊ย นีน่าเจ็บนะ ใครมันจะไปรู้ล่ะคะ ว่าจะมีพายุเข้าวันนี้"
ยายหยีหันไปรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้น มาจากบุณฑริก
"คุณยาย ....เรายังอยู่โรงแรมใกล้ๆสนามบินนี่แหล่ะค่ะ ทางสนามบินเขาแจ้งว่า ฟ้าเปิด ฝนหยุดเมื่อไหร่จะให้เราบินกลับเที่ยวแรกทันที"

โยทะกาเดินเข้ามา ขณะเมืองแมนกับ บุณฑริกนั่งเครียด
" เธอสองคนนะ พาหลานสาวฉันหนี กลับมา ฉันจะยึดกระเป๋า ยึดนาฬิกา จะเก็บเงินค่าเครื่องบินจากพ่อแม่เธอ คอยดู"
"ตรวจสอบสภาพอากาศแล้ว อย่างเร็วก็อีกชั่วโมงหนึ่งค่ะ บินกลับเที่ยวแรกยังไงก็ไม่ทัน บินมากรุงเทพต้องใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมง ยังไงก็เข้าแข่งไม่ได้"
"ซ้อมมาตั้งสามเดือน หมดเงินไปเท่าไหร่ หมดๆกัน"
"ฉันไม่ยอมแพ้หรอก ! เบลต้องเข้ารอบ" เมืองแมนบอก
"คุณเมืองแมน"
"เห็นทีต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว"
เมืองแมนกดโทรศัพท์ออกไปหาเลขาฯหน้าห้อง
" โทรหามิสเตอร์ปาร์ค เพื่อนฉันที่เกาหลี"

โยทะกากลุ้ม ไม่เห็นหนทาง

อธิ ทองทาเดินเข้ามานั่งในห้องโถง ที่มีสื่อมวลชนและญาติหลายคน พิธีกร ถ่ายรายการต่อไป หน้ากล้อง อธิและทองทามองดู

พิธีกร1บอก
"ที่ห้องโถงแห่งนี้ จอภาพจากเว็บไซต์ ผลโหวต จะส่งตรงเข้ามาออนไลน์ ...ภาพมาแล้วนะคะ ตอนนี้คะแนนทุกคนยังเป็น ศูนย์นะคะ"
ที่จอยักษ์ กราฟแท่งพร้อมรูปภาพ แสดงคะแนนโหวตของคนทั้งสามสิบคน เป็นภาพกราฟฟิก ปรากฏขึ้น
พิธีกร2 บอก
"ทันทีที่นักร้องคนแรกเริ่มร้อง ท่านผู้ชมก็กดโหวตได้ทันที ตามหมายเลขข้างหน้าจอทีวีของท่านนะคะ"
พิธีกร 1 บอก
"ณ ขณะนี้ สื่อมวลชนและญาติผู้เข้าแข่งขันจะรอเป็นสักขีพยาน อยู่ตรงนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า การแข่งขันครั้งนี้ขาวสะอาด"

เมืองแมนคุยโทรศัพท์อยู่ บุณฑริกและโยทะการอฟังผล
" โอเค แทงกิ้ว ๆ" เมืองแมนวางหู เดินยิ้มออกมา "ผมติดต่อเพื่อนที่เกาหลีแล้ว ทางโน้นจะจัดการทุกอย่างให้"
โยทะการู้แผนการแล้ว ไม่พอใจนัก
"คุณทำแบบนี้ ก็เท่ากับโกง"
บุณฑริกบอก
"โยทะกา เบลเป็นลูกสาวเจ้าของสถานีนะ"
"แค่เข้าแข่ง คนก็ครหาแล้ว ดิฉันย้ำนักหนาให้รักษากติกา หนูเบลก็ยังทิ้งงานไปเที่ยว ถ้าไม่มีความรับผิดชอบก็เป็นศิลปินไม่ได้"
"ก็ตอนมันหนีไป ไม่บอกฉันสักคำ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง"
"คุณเมืองแมน คุณเป็นคนกลาง เป็นคนรักษากฎ คุณต้องยุติธรรมนะคะ"
"กฎมีเอาไว้แหก... ไม่มีความยุติธรรมในโลกนี้หรอก"
โยทะกาอึ้ง ถอนใจ เดินออกไปทำงาน เมืองแมนยิ้มร้าย แผนการสำเร็จแน่

วันนี้ร้านปิดเป็นวันหยุด บุญมาเข้ามาที่ทีวี ภูมิกำลังร้องเพลง
"เฮ้ย โรส สมศรี คนแรกเริ่มร้องแล้วโว้ย"
โรส สมศรี เดินเข้ามาดู ตื่นเต้นเหมือนกัน

ในสตูดิโอ กล้องที่ถ่ายภูมิออกอากาศอยู่ บรมและแซนดี้ นั่งสวยงามอยู่ในตำแหน่งคอมเมนเตเตอร์ ตั้งใจฟังภูมิ
กลับมาที่ร้านเซอร์ไพร์ส
"ร้องดีมาก เฮ้อ" โรสบอก
"เป็นแค่เด็กเสิร์ฟ จะมีคนกดโหวตให้มันหรือวะ"

ในตลาด เปิดดูรายการนี้สองสามเจ้า พ่อค้าแม่ค้า ขายของไป ดูไป ให้ความสนใจอยู่

ในห้างสรรพสินค้า บริเวณศูนย์อาหาร คนกินข้าวหลายคน นั่งดูรายการทีวี ฟังเพลงของภูมิด้วยความสนใจ

คนขับมอเซอร์ไซค์นั่งดูรายการที่วิน

ภูมิร้องจนจบ กล้องตัดไปที่บรมและแซนดี้
บรมบอก
"เข้าใจแล้วว่าทำไมภูมิถึงเข้ารอบมาด้วยคะแนนที่ 1 จากคณะกรรมการ และได้โอกาสร้องเป็นคนแรก ร้องดีมากครับ ไม่มีอะไรติ"
บริเวณโถง ญาติของภูมิดีใจ
แต่แซนดี้บอกว่า
"เทคนิคเยอะเกินไป ขาดอารมณ์ เหมือนความเป็นระเบียบที่ไร้ทิศทาง"
ภูมิหน้าเสีย บรมค้อนๆแซนดี้ ชอบคิดไม่เหมือนกัน
"ก็ให้คนดูเป็นคนตัดสินนะครับ เราสองคนได้แค่แสดงความเห็น ขอให้น้องภูมิโชคดี ได้รับคะแนนโหวตมากๆครับ"

ภูมิยกมือไหว้ขอบคุณ

อธิกระซิบให้ข้อมูลทองทา

"นายบรมเป็นโปรดิวเซอร์ ชอบคนเด่นๆ หล่อๆสวยๆ พวกที่ทำเรตติ้งให้รายการ ครูแซนดี้เป็นนักร้องเก่า ให้คะแนนคนที่คุณภาพมากกว่าหน้าตา เป็นขาโหดของวงการ"
ทองทาพยักหน้ารับรู้
ทีมถ่ายรายการให้สัญญาณสองสาว สองสาวเริ่มพูดออกอากาศ
พิธีกร1บอก
"มาแล้วนะคะ จบเพลงแล้ว ตอนนี้มาดูตัวเลขคะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้านกันค่ะ"
ที่จอยักษ์ กราฟแท่งของภูมิแสดงตัวเลข ที่กำลังวิ่งเข้ามา
ทุกคนปรบมือ
ทองทามองไปรอบๆ แต่ละคนยุ่งกับมือถือที่กดโหวตอยู่ อธิก็เช่นเดียวกัน
พิธีกร2บอก
"คะแนนสูงทีเดียว ท่านผู้ชมยังโหวตเข้ามาได้เรื่อยๆนะคะ"
ตัวเลขบนจอของภูมิ ยังพุ่งไปเรื่อยๆ ทองทา อธิชักเครียด

ภายในห้องแต่งตัว สต๊าฟกำลังตกลงกับสามสาวที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว สามสาว ถือซีดีแบ็คกิ้งแทร็คอยู่
"ก็ไหนบอกว่า สามคนจะร้องเพลงเดียวกัน เราเตรียมทุกอย่างไว้แล้วนะ"
มาลีบอก
"พวกเราขอโทษจริงๆค่ะ มีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน"
"นี่ค่ะแบ็คกิ้งแทร็คของพวกเรา"
"จากทีมเดียวแบ่งเป็นสามทีม แบบนี้เราจะตอบคนดูทางบ้านว่ายังไง ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่ร้องเพลงเดิม พี่ขออนุญาตตัดสิทธิ์"
"ฮือ ปาฎิหารย์ ช่วยลูกด้วย"
ชงโคแทบอยากร้องไห้ออกมา จับสายสิญจน์ แล้วยกมือไหว้
โยทะกาเดินเข้ามา เพราะถูกตาม มาลีพุ่งเข้าไปหาทันที
"คุณคะ คุณเป็นผู้อำนวยการโครงการนี้ใช่ไหมคะ ช่วยพวกเราด้วยค่ะ เรามีเรื่องขอความช่วยเหลือ"
ทั้งหมดคุยกันต่อไป

ทองทา อธิ นั่งดูทีวีจอเล็กในห้องโถง
ที่จอยักษ์ กราฟแท่งของนักร้องประมาณ 10 คนที่ร้องไปแล้ว ตัวเลขพุ่งต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ตลาด วินมอไซค์ แต่ละคนเริ่มหยิบมือถือมาโหวตนักร้องที่ตนชอบ
ที่ทีวีจอเล็ก กำลังออกอากาศ สกู๊ปของน้อยหน่า ตามด้วยคำบรรยาย
"น้อยหน่าเป็นนางงามภูไท เป็นชาวสกลนครโดยกำเนิด ถนัดร้องเพลง เต้นรำ ทุกประเภท รอบแรกทำคะแนนดีมาก จนได้เข้ารอบและร้องเพลงเป็นอันดับที่ 5"
น้อยหน่าร้องเพลง บรม แซนดี้ จดคอมเมนต์
โยทะการู้ความต้องการของมาลีแล้ว
"คุณเป็นคนต่างจังหวัดหรือเปล่าคะ"
"อะไรนะ เอ้อ เปล่า"
สต๊าฟบอก
"คุณโยทะกา เธอเป็นอดีตนางงาม เกิดและโตที่กรุงเทพ ใครๆก็รู้กันทั้งประเทศ"
โยทะกาหลบตา เพราะเป็นเรื่องโกหกที่สร้างขึ้นมาสมัยเป็นนางงาม
"คุณมาจากครอบครัวที่ดีมีโอกาสเยอะแยะใช่ไหมคะ ลองนึกถึงคนที่ไม่มีโอกาส ดูสิคะ เราสามคนเป็นแบบนั้น ช่วยเราด้วยนะคะ"
สต๊าฟบอก
"เอกสาร เว็บไซต์ทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้วนะคะ"
โยทะกามองหน้ามาลี นึกถึงคำพูดของเมืองแมนขึ้นมาได้
"ในเมื่อกฎมีไว้แหก ความยุติธรรมไม่มีจริง ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้โอกาสเธอ ไปเตรียมตัวร้องเพลงได้ "
สต๊าฟตกใจ
"คุณโยทะกา"
สามสาวดีใจ ยกมือไหว้กันใหญ่
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆ"
"แต่เพื่อความยุติธรรมกับคนอื่น เธอสามคนยังเป็นทีมเดียวกันอยู่ คะแนนโหวต จะเข้ามาที่เธอทั้งสามคนในลักษณะเฉลี่ยคะแนนกัน ชนะ ชนะด้วยกัน แพ้ๆด้วยกัน ตกลงไหม"
ทุกคนโพล่งพร้อมกัน
"ตกลงค่ะ"
สาวสามคนยื่นแบ็คกิ้งแทร็คให้ โยทะกามอบต่อให้สต๊าฟ
"รีบไปจัดการ"

โยทะกายิ้มกับมาลีที่ส่งสายตาซาบซึ้งมา
 
อ่านต่อหน้า 4

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 4 (ต่อ)

น้อยหน่าร้องเพลงท่อนจบ

"ร้องได้ดี แสดงได้ดี ยังมีเสียงเพี้ยนบางโน้ตนะ ปรับปรุงหน่อย"
"ยอดเยี่ยมครับ หน้าตาแบบนี้ พัฒนาอีกนิดไปได้แน่นอน"
แซนดี้มองหน้าบรม น้อยหน่ายิ้มดีใจที่ทำผลงานได้ดี
กล้องตัดมาที่คะแนนกราฟและรูปของน้อยหน่า
พิธีกร 1บอก
"ผ่านไปแล้ว 15 คนนะคะ คนที่ได้รับคะแนนสูงสุดตอนนี้เป็น ภูมิ และน้อยหน่าค่ะ สองคนนี้คะแนนนำมาอย่างเห็นได้ชัดค่ะ"
พิธีกร 2 บอก"ยังโหวตเข้ามาได้เรื่อยๆนะคะ"
ทิมมี่ร้องเต้นสวยงาม สไตล์เพลงป๊อบ คนในห้างที่เป็นแก๊งค์วัยรุ่นสาว กดมือถือโหวตกันใหญ่
"น้องทิมมี่ ครบเครื่อง ครบรส ดีมากครับ" บรมบอก
"ร้องเพลงไม่โดดเด่น แต่เต้นสวย ฝากพัฒนาต่อด้วยค่ะ"
ทิมมี่ยิ้มพอใจ
กราฟของทิมมี่ วิ่งสูงกว่าคนอื่น
พิธีกร 1บอก
"คะแนนของทิมมี่ น่าสนใจมาก เบียดน้อยหน่าไป มาเป็นอันดับสองแล้วค่ะ ห่างจากภูมินิดเดียวเอง"
พิธีกร 2 บอก
"หล่อขนาดนี้ โกยคะแนนจากสาวๆแน่นอน โฮ้ยตื่นเต้น"
ญาติทิมมี่ดีใจกันใหญ่

โกมินทร์ร้องเพลงลูกทุ่ง ไพเราะมาก
ที่ตลาด พ่อค้า แม่ค้ากดมือถือโหวตให้โกมินทร์
"ร้องลูกทุ่งได้ดี แต่ศิลปินที่แท้ต้องร้องได้ทุกแนว เอาไปพัฒนาต่อนะคะ"
"ถ้าผู้เข้ารอบทั้งห้า จะมีลูกทุ่งสักคนหนึ่ง ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยใช่ไหมครับท่านผู้ชม ยอดเยี่ยมมากครับน้องโกมินทร์"
คะแนนของโกมินทร์ วิ่งไปหยุดที่สูงมาก
พิธีกร 1บอก
"โอวมายก๊อด ดูค่ะ ...โกมินทร์ คะแนนขึ้นที่สาม แซงน้อยหน่าไปอีกแล้วค่ะ"

ในห้องแต่งตัว น้อยหน่าหน้าเสีย ภูมิกับทิมมี่ดีใจ

พิธีกร 2 บอก
"สรุปคะแนนตอนนี้ คนที่นำโด่งมา คือ ภูมิที่ 1 ทิมมี่ที่2 โกมินทร์ที่ 3 น้อยหน่าที่ 4 นอกไปจากนี้ คะแนนยังไล่เลี่ยกันอยู่"
พิธีกร 1บอก
"อย่าลืมนะคะท่านผู้ชมเราต้องการผู้เข้ารอบแค่ 5 คน แสดงว่าเรา ต้องการอีกแค่คนเดียวค่ะ"
พิธีกร 2 บอก
"ใกล้จบ หัวใจดิฉันจะวาย เอาค่ะโหวตกันเข้ามา เราจะปิดที่ 4 โมงเย็น แสดงว่าเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงนะคะ"
โกมินทร์เดินยิ้มเข้ามาสมทบในห้องแต่งตัว ภูมิกับทิมมี่ยังดีใจอยู่ เดินมาชวนน้อยหน่าคุย ทุกคนเพิ่งรู้จักกัน
"ผ่านไป 28 คนแล้ว เหลือคนที่จะเก็บคะแนนอีกแค่สองคน" ทิมมี่บอก
"ทีมสาวเสิร์ฟคือทีมต่อไป รายนี้ไม่เท่าไหร่นะ ไม่น่าเข้ารอบ" ภูมิว่า
น้อยหน่าบอก"คนสุดท้ายคือเบล คะแนนรอบที่แล้วได้เป็นคนสุดท้ายก็จริงแต่เขาเป็นลูกสาวเจ้าของสถานีนะ ถ้าเขาตุกติกล่ะ"
"เขาตุกติก เข้ารอบ เธอก็ยังอยู่นะ ทำใจดีๆไว้" ทิมมี่ว่า

ทิมมี่หวานกับผู้หญิงทุกคนเป็นนิสัย ในขณะที่ภูมิดูเครียดตลอดเวลา

เมืองแมนนั่งเครียดรอโทรศัพท์ บุณฑริกเดินไปมา คร่ำครวญ

"ยายเบลของยาย ฮือๆ"
โทรศัพท์ดังขึ้น เมืองแมนรีบรับ
"เป็นไงบ้าง เรียบร้อยไหม"

ภายในร้านเซอร์ไพร์สคาราโอเกะ ตอนนี้ทุกคนมารุมออหน้าทีวีแล้ว
บุญมายืนห่างไป วุ่นวายกับมือถือตัวเอง กดโหวตให้มาลี
"แกไปทำอะไรตรงนั้นวะ" สมศรีถาม
"เปล่า" บุญมารีบลดมือถือ เสไปหาขนมกิน โรสมองอย่างรู้ทัน
"คนอื่นเขาลูกคนรวย เขาทุ่มโหวตไม่อั้น เงินสองสามร้อยบาทของพี่ มันก็เหมือนเทน้ำจืดลงในทะเลนั่นแหล่ะพี่บุญมา"
บุญมาค้อนโรส หนอยรู้ทัน
"เฮ้ย มาแล้วๆ" ปลาบอก
ทั้งหมดเริ่มมองที่ทีวี เป็นสกู๊ปแนะนำสามสาว
"ผู้เข้าแข่งขันทีมนี้มีด้วยกันสามคนนะครับ ทุกคนเป็นสาวเสิร์ฟที่ร้าน
เซอร์ไพร์ส คาราโอเกะ พวกเขาบอกว่า เขาทั้งหมดเป็นคนต่างจังหวัดไม่มีโอกาสเรียนร้องเพลงอย่างจริงจัง พวกเขามีแต่ความฝันว่า จะเอาเงินรางวัลไปช่วยเหลือครอบครัว เอ้า พวกเราช่วยสามสาวกันหน่อยดีไหมครับ"

ชงโคเตรียมร้อง
มันเป็นความลับ ที่ทองทาสอนชงโคไว้เมื่อวานที่ดาดฟ้า
"ชงโค เธอคือความร่าเริง สดใส จำไว้นะ คนที่รักตัวเอง คือคนที่สวยที่สุด ส่งความรู้สึกนี้ออกมาให้ได้ - ความรักตัวเอง”
"ฉันไม่สวย ฉันไม่รวย แต่ ผู้ชายทุกคนต้องหันมามองฉัน คอยดู"
ชงโคเริ่มร้องเพลงแนวเซ็กซี่แดนซ์ ..... การเต้นโดดเด่นมาก เสียงดี มีพลัง สนุกสนาน
กลุ่มมอเตอร์ไซค์วินเรียกเพื่อนมาดู
"น่ารักดีว่ะ เฮ้ยมาดู"
กลุ่มมอเตอร์ไซค์วินมารุมดูทีวีกันใหญ่

วานิช มีสาวรุมนวดอยู่ในอาบอบนวด หันไปดูทีวี ดูชงโค สนอกสนใจมาก สมุนสองคนอยู่ห่างไป

ทองทา อธิยิ้มออกมา
"น่ารักโคดร" อธิบอก
"เปิดตัวสวยมาก"

เพลงของชงโคจบลง
"ดีมากครับ" บรมบอก
แซนดี้บอก "ใช้ได้"
ทองทากับอธิ กำมือว่าเยส

รายต่อไปคือ การะเกดในแสงไฟ
บนดาดฟ้า การะเกดหลับตาอยู่ พูดขึ้นมา ถึงสิ่งที่อยู่ในใจตลอดเวลา
"เกดคิดถึงบ้าน เกดเหมือนคนอีกเป็นล้านๆ คนข้างล่างนั่น ... เกดคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่กับน้อง"

"เวลาร้องเพลง ใช้ความรู้สึกนี้นะ ร้องมันออกมาด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ"

การะเกดร้องเพลงลูกทุ่ง ที่ตลาด พ่อค้าแม่ค้าซาบซึ้งมาก ฟังกันอย่างตั้งใจ เริ่มไม่ขายของ

พ่อค้าถาม "เฮ้ยมันกดยังไงวะ"
พ่อค้าแม่ค้าช่วยกันกดโหวตมือถือ เดินมารุมกันช่วยกันกด
ด้านมอเตอร์ไซค์วิน
"คนบ้านนอกคือกัน จัดปาย"
ที่อาบอบนวด วานิชชอบมาก ฟังไปกดมือถือไป จนเพลงของการะเกดจบลง
บรมบอก "ทึ่งครับทึ่ง"
แซนดี้บอก "เก่งมาก"
ทองทา อธิ เอามือตบกัน
"สุดยอด"
"การะเกดของฉัน สวยที่สุดในโลก"
ข้างเวที หนูมาลียืนในมุมมืดรอเวลา กำกุหลาบสีขาวแน่น เตรียมขึ้นเวทีร้องเพลง
นึกถึงสิ่งที่ทองทาสอนบนดาดฟ้า
มาลีสีหน้าเศร้าแอบไปคิดเรื่องพ่อ
"คู่รักทุกคู่ ทุกชาติทุกภาษา จะต้องเคยทำอย่างหนึ่ง อัดเทป อัดเพลงส่งเพลงบอกรัก"
หนูมาลีคิดตาม
"ดนตรีคือการสื่อสาร"
ทองทาพยักหน้า
"บางสิ่งบางอย่างกับคนบางคน ที่พูดไม่ได้ พูดไม่เป็น ...ร้องเพลงให้เขาฟัง"
มาลีสว่างวาบ ได้ความคิด หายเศร้า เริ่มมีหวัง

มาลีในมือถือกุหลาบขาวร้องเพลง ระหว่างที่ร้องเพลงนั้น เธอคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ของเธอกับพ่อ
ปลาที่นั่งดูรายการอยู่บอก
"ดอกกุหลาบนั่นมัน..."
สมศรีว่า "นี่มันร้องเพลงให้…"
ทุกคนมองหน้าโรส ที่ช็อกอยู่หน้าทีวี สีหน้าของมาลีบอกความเสียใจ น้ำเสียงสื่อคำขอโทษแก่โรสอย่างเต็มเปี่ยม ทุกคำ ทุกตัวโน้ต

ที่ตลาด ทั้งคนซื้อ คนขายมารุมกันดู การขายของหยุดนิ่ง ทุกคนสะเทือนใจตาม สีหน้าเศร้าไปกับมาลีด้วย
ที่ห้าง คนมุงดู ผู้หญิงคนหนึ่ง แอบร้องไห้ปาดน้ำตา
ทุกคนที่วินมอเตอร์ไซค์มารุมดู กลืนน้ำลายเศร้าตาม
ภายในอาบอบนวด วานิชสั่ง
"เฮ้ย ช่วยกันโหวตหน่อยเร็วๆ"
วานิชกระตุ้นสมุน ให้หยิบมือถือขึ้นมา สมุนกับหมอนวดเลยยกมือถือมากดกระหน่ำ

มาลีร้องเพลงจบ ดึงดอกกุหลาบขึ้นจูบ น้ำตาไหลลงมา เช่นเดียวกับพ่อที่น้ำคาไหลเช่นกัน เสียงความคิดของมาลีดังขึ้น
"เป็นตัวตนขึ้นมาได้เพราะเขาคนนั้น วันนี้ร้องเพลงได้ก็เพราะเขาคนนั้น"
"เป็นการขอโทษที่เจ๋งสุดๆเลยว่ะ" บุญมาว่า
"ฮือ ... คิดถึงพ่อ" ปลาบอก
การะเกด ชงโค ที่ยืนข้างเวที ซาบซึ้งไปด้วย

อธิตะลึง ทองทายิ้ม
"พลังงานแฝง... นี่แหล่ะที่ฉันพูดถึง !"
อธิเพิ่งเข้าใจความหมาย

ที่ดาดฟ้าทองทา สอนสามสาวบอกความลับสำคัญ
"คนข้างล่าง เป็นล้านๆคน ทุกวันวิ่งไป ด้วยพลังงานแฝงที่เขาไม่รู้ตัว อยากรู้ไหม พลังงานแฝง ที่ทำให้เราสร้างปฏิหารย์ได้คืออะไร พลังความรัก !รักตัวเอง รักคนอื่น"

มาลีคิดตาม ชงโคและการะเกด พยักหน้า เข้าใจแล้ว

กล้องตัดมาที่คอมเมนเตเตอร์

บรมบอก
"พูดไม่ออกเลย นี่ไปฝึกร้องเพลงมาจากไหนเนี่ย เป็นเด็กเสิร์ฟต้องทำงานตลอดเวลา ทำได้ขนาดนี้ พวกเธอน่ายกย่องมาก"
แซนดี้บอก
"เสียงธรรมดา เทคนิคธรรมดา แต่ตีความได้ทุกตัวโน้ต สื่ออารมณ์ได้มีพลังที่สุดของวันนี้ !"
สามสาวหันมายิ้มมองหน้ากัน ดีใจมาก

อธิกับทองทาดีใจสุดๆ
ทองทาโพล่ง "เยส !"
"ปาฎิหารย์จริงๆ แกทำได้ไงวะ สุดยอด"
พิธีกรที่อยู่ข้างจอยักษ์
พิธีกร 1บอก
"เมื่อครู่ ทุกคนในห้องนี้แทบหยุดหายใจเลยนะคะ สาวๆจากเซอร์ไพร์สคาราโอเกะ สร้างเซอร์ไพร์สจริงๆค่ะ"
พิธีกร 2 บอก
"ได้รับคำชมขนาดนี้ ขนาดครูแซนดี้ไม่เคยชมใคร ยังชมพวกเธอมาดูคะแนนกันค่ะ"
กราฟแท่งในจอขนาดยักษ์วิ่งขึ้นสูงมากโดดเด่นทีเดียว
พิธีกร 1บอก "โอว....สูงมาก"
พิธีกร 2 บอก"สามคนนี้สมัครในลักษณะทีม คะแนนจะเฉลี่ยกัน ชนะๆด้วยกัน แพ้... แพ้หมดนะคะ เพราะฉะนั้น โหวตกันเข้ามานะคะ"
พิธีกร 1 บอก
"ตอนนี้อันดับ 1 คือภูมิที่สูสีมากับทิมมี่ที่ตามมาเป็นที่สอง ที่สามคือโกมินทร์ ที่ 4 คือน้อยหน่า และที่ห้า คือทีมสามสาวเซอร์ไพร์ส !"
อธิ ทองทา ดีใจมากกอดกัน "เย้"
ที่ร้านคาราโอเกะ ทุกคนกระโดดดีใจกอดกัน โรสยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ไม่อยากจะเชื่อ
"เข้ารอบโว้ย เย้..." บุญมาบอก

น้อยหน่าถอนใจโล่งอก
"ค่อยยังชั่ว ฉันยังอยู่ที่ 4"
"พวกเรามีสกู๊ปออกอากาศ มีข่าวออกมาตลอดสามเดือน ฐานคะแนนเรา
เก็บมาก่อนเขา ต้องดีกว่าอยู่แล้ว" ภูมิบอก
ทิมมี่บอก
"พวกสาวเสิร์ฟ ม้านอกสายตาชัดๆ ไม่เคยมีข่าว ไม่เป็นที่รู้จัก เบียดเข้ามาอันดับที่ 5 นี่ก็มหัศจรรย์แล้วนะ"
"คนสุดท้าย ไว้ใจไม่ได้ เด็กเส้น คุณเบล !" น้อยหน่าบอก

อธิกับทองทายังดีใจอยู่
"คุณเบลมาร้องไม่ได้ มันก็เท่ากับจบรายการแล้วสิ"
พิธีกร 1บอก "เหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีที่จะโหวตเข้ามานะคะ"
พิธีกร 2 บอก "ต่อไปก็เหลือ ผู้เข้าประกวดคนสุดท้าย คุณเบล บุษบาบัณค่ะ"
อธิยิ้มได้สักพักก็ต้องหุบยิ้ม
"เอ้ามาหรือ เฮ้ย ไหนพี่โยบอกว่า..."
ทองทาทำปากจุ๊ๆ กลัวคนอื่นได้ยิน อธิ ต้องปิดปากว้าวุ่นต่อไป
สกู๊ปแนะนำเปิดตัวบุษบาบัณเริ่มต้น
"คุณบุษบาบัณ หรือเบล เข้ารอบมาด้วยคะแนนอันดับที่ 30 พอดี ท่ามกลางกระแสต่อต้าน แต่ทุกวัน เราจะเห็นภาพเธอผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซ้อมร้องเพลง ซ้อมเต้นอย่างหนัก ทำให้ฐานคะแนนของเธอเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา"

ทีวีเล็กเกิดสัญญาณวูบไหว พร้อมเสียงเพลงของบุษบาบัณที่ดังขึ้นพร้อมกัน ทุกคนงุนงงมาก ขนาดพิธีกรยังหันมาคุยกัน
"สัญญาณภาพมีปัญหา"
ภาพนิ่งรายการขึ้นมาแทนที่ และพร้อมข้อความ “ขออภัยสัญญาณขัดข้อง”
"ทางห้องคอนโทรล ขึ้นคำขอโทษแล้ว" พิธีกรบอก
"นี่มันอะไรกันวะ"
ทุกคนงงงวยมองที่ทีวี
ทองทาเดินออกไปทันที ต้องรู้ให้ได้

ทองทามองๆ เห็นยามเฝ้าอยู่มุมหนึ่ง ทองทาหลบหลีกยาม แอบเปิดเข้าไปในสตูดิโอจนได้ โดยที่ยามไม่เห็น
ภาพตรงหน้า
"ทุเรศที่สุด!"
ไม่มีคนร้องบนเวที เวทีว่างเปล่า !
บรมและแซนดี้ นั่งดูคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ที่โต๊ะตัวเอง บุษบาบัณร้องเพลงอยู่ที่เกาหลี แล้วส่งมาทางอินเตอร์เน็ต !

"ตัวเบลอยู่เกาหลี แค่ส่งสัญญาณมา"

ห้องจัดเลี้ยง ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในเกาหลี บุษบาบัณร้องเพลงอยู่กับไมโครโฟน มีทีมถ่ายทำ ถ่ายลงอินเตอร์เน็ต เพื่อส่งสัญญาณไปที่เมืองไทย

แซนดี้ มือกำแน่น บ่นพึม
"เกิดมาฉันไม่เคยโกหกใครขนาดนี้เลย"

เมื่อประมาณชั่วโมงที่แล้ว เมืองแมนเข้ามาขอร้องบรมและแซนดี้ด้วยตัวเอง เป็นการพูดคุยกันระหว่างโฆษณา ณ ช่วงเวลาหนึ่งระหว่างการแข่งขัน หลังจากที่เมืองแมน แก้ปัญหาการถ่ายทอดได้แล้ว
"ช่วยกันเล่นละครหน่อย ผมขอร้องล่ะ ยายเบลติดพายุอยู่ที่เกาหลี ผมจัดทีมถ่ายไว้แล้ว พวกเขาจะส่งสัญญาณภาพมาทางอินเตอร์เน็ต แต่คนดูจะรู้แค่ว่าสัญญาณภาพเสีย มีแต่สัญญาณเสียง แต่ทุกคนจะเข้าใจไปว่า ยายเบลร้องเพลงอยู่บนเวทีนี้จริงๆ"
แซนดี้บอก
"แบบนี้มันไม่ถูก คนที่ไม่เข้าแข่งต้องถูกตัดสิทธิ์"
บุณฑริกบอก
"ขอแค่นี้ช่วยไม่ได้ เธอก็ไม่ต้องอยู่ใช่ไหม เมืองแมน"
แซนดี้มองหน้าเมืองแมนเอาจริงหรือ
"ใช่ ! ถ้าไม่ช่วย คุณไม่ต้องอยู่"
แซนดี้เซ็ง บรมสะใจ
บุณฑริกและเมืองแมนออกไป ทิ้งแซนดี้กับบรมไว้

ยังได้ยินแต่เสียงบุษบาบัณ
พิธีกรถาม "สัญญาณมาหรือยัง"
ตากล้องบอก
"ห้องคอนโทรลบอกว่ายังนะ"
โยทะกาหน้าบึ้งตึงดูแลในห้องถ่ายทอด ไม่เต็มใจทำเลยประชด
"คุณบรม ช่วยคุยอะไรกับคุณเบลหน่อยนะ โกหกทั้งที เอาให้สุดๆ"
บรมได้ยินเสียงโยทะกาในหูฟัง หันมาทำมือ โอเคกับกล้อง เพลงจบพอดี

ทองทายังยืนแอบมองรายการแหกตาท่านผู้ชมอยู่
"โอ คุณเบล ดูจะตื่นเต้นใช่ไหมครับ" บรมถาม
บุษบาบัณคุยกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีบรมกับแซนดี้บนจอ ถ่ายทอดมาทางอินเตอร์เน็ต
"ตื่นเต้นมากเลยค่ะ"
ชาวบ้านยังนั่งมองสนใจบนจอ ที่มีแต่เสียง ประกอบภาพนิ่งของบุษบาบัณอยู่
"ร้องดีมากนะครับ ไม่มีเพี้ยน ไม่หลุดเลย ยอดเยี่ยมมากครับ"
แซนดี้นั่งหน้าบึ้งอยู่
"ครูแซนดี้มีคอมเมนต์ไหมคะ"
"ร้องดีแล้วค่ะ เก่งมาก"
ที่เกาหลี นีน่า ยาหยี หัวเราะสะใจหลอกคนได้
ทองทาโกรธออกไปจากสตูดิโอ

ทองทาโกรธจัด เดินกลับมานั่งกับอธิ
"เป็นไง ตกลงคุณเบล กลับมาทันหรือวะ เฮ้อ ร้องดีเสียด้วย แบบนี้ถ้าคะแนนนำ จะเบียดให้ทีมเราหลุดได้เลยนะ"
"คนที่มันเกิดมามีทุกอย่าง แล้วยังคิดจะเอาเปรียบคนอื่น นี่มัน ..."
"แปลว่าอะไรวะ"
กล้องได้ยินคำสั่งทางเฮดโฟน เลยบอกพิธีกร
"สัญญาณมาแล้ว พิธีกรสแตนบายครับ หลังโฆษณา"
พิธีกรทั้งสองคนเตรียมตัว ทีวีเล็กกำลังฉายโฆษณา
พ่อภูมิบอก
"เหลืออีกแค่20นาทีก็จะสี่โมงเย็นปิดโหวตแล้ว ตื่นเต้น ๆ"

ทีมญาติตื่นเต้นกันใหญ่กับจอยักษ์แสดงคะแนน คะแนนแต่ละคนยังวิ่งกันอยู่
 
อ่านต่อตอนที่ 5
กำลังโหลดความคิดเห็น