นางกลางไฟ ตอนที่ 16
ภายในคอนโดฯ ดำรง มะปรางจ้องดำรงอย่างเอาเรื่อง
"คุณวิ่งโร่ไปเอาอกเอาใจตะวัน ทั้งๆที่ฉันก็อยู่ที่นั่น คุณทำร้ายจิตใจฉัน คุณไม่แคร์ความรู้สึกของฉันบ้างเลย"
"เธอเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ฉันเคยบอกแล้วไงว่าไม่มีใครแทนที่ตะวันได้"
"คุณเลิกหวังลมๆแล้งๆได้แล้ว ตะวันเค้ารักคุณธวัชมาก ยังไงคุณก็ไม่มีวันได้ตะวันมาครอบครอง ไม่ว่าจะตัวหรือหัวใจก็ตาม"
"แต่ฉันเชื่อว่าฉันจะเอาชนะใจตะวันได้"
มะปรางอึ้ง น้อยใจ น้ำตาไหล
"นี่คุณหลงใหลคลั่งไคล้ตะวันมากขนาดนี้เลยเหรอ แล้วฉันล่ะ คุณเอาฉันไปไว้ที่ไหน ฉันเป็นเมียคุณนะคะ"
"ใช่..เธอเป็นเมีย แต่เป็นแค่เมียเก็บนางบำเรอ ไม่ใช่เจ้าของชีวิตฉัน... กลับไปทำความเข้าใจกับคำว่าเมียเก็บนางบำเรอซะใหม่นะ จะได้รู้ว่าสิทธิและขอบเขตของตัวเองมีแค่ไหน"
มะปรางเดือด
"แล้วเมียเก็บนางบำเรอมันไม่มีหัวใจหรือยังไง !! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงรักสนุกที่จะมีความสุขกับการขึ้นเตียงกับผู้ชายไปวันๆ ฉันมีหัวใจ มีความรู้สึก คุณจะทำร้ายจิตใจฉันอย่างนี้ไม่ได้"
"ถ้าเธอคิดจะล้ำเส้น คิดจะเป็นเจ้าของฉัน เกินหน้าที่ขอบเขตของตัวเองล่ะก็...เราจะอยู่กันลำบากนะ มะปราง"
" แต่ฉันทนไม่ได้ ฉันรับไม่ได้ที่ตัวคุณอยู่กับฉัน แต่หัวใจคุณอยู่กับผู้หญิงอื่น"
"ถ้าทนไม่ได้ งั้นก็เลิกกัน"
มะปรางอึ้ง ! คิดไม่ถึงว่าดำรงจะพูดคำนี้ออกมา ดำรงโมโห เดินหนีไป
มะปรางวิ่งถลามาดึงดำรงไว้
"คุณจะไปไหนไม่ได้ เรายังพูดกันไม่รู้เรื่อง"
"บอกแล้วไง ถ้าเธอทนไม่ได้ เราก็เลิกกัน"
"ไม่...คุณจะบอกเลิกกับฉันง่ายๆอย่างนี้ไม่ได้"
"เธอคิดว่าเธอเป็นใคร เธอมีสิทธิ์อะไรจะมารั้งฉัน"
"ฉันเป็นเมียคุณ ฉันมีสิทธิ์ในตัวคุณ"
"ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องมาพูดกัน"
ดำรงสะบัดมือมะปรางออก จะเดินหนี มะปรางถลากอดดำรงไว้
"ไม่นะคะ อย่าทิ้งฉันไป ฉันขาดคุณไม่ได้"
"ฉันก็ขาดตะวันไม่ได้เหมือนกัน"
"ตะวันมีดีอะไรนักหนา ทำไมคุณถึงหลงใหลเค้าจนไม่ลืมหูลืมตา ตะวันมีครอบครัวแล้ว คุณจะไปพรากเมียคนอื่นเค้าได้ยังไง คุณไม่รู้สึกผิด ไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลยเหรอ"
"ไม่ว่ายังไง ฉันก็ไม่มีวันเลิกล้มความตั้งใจ"
มะปรางแววตาจริงจัง
"ฉันจะทำให้คุณลืมตะวันให้ได้"
"อย่าคิดหวังเกินตัว อย่าเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่อย่างงั้นนอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว เธอยังจะไม่เหลืออะไรอีก...จำไว้"
ดำรงแกะมือมะปรางออก แล้วเดินออกไป มะปรางยืนอึ้ง กำมือแน่น น้ำตาไหลด้วยเจ็บใจ
มะปรางหันหลังจะเดินออกไป แต่แล้วก็ต้องชะงักตกใจ เมื่อเห็นซูซี่ยืนอยู่
"นี่มันเรื่องอะไรกัน พี่ต้องการคำอธิบาย"
มะปรางนิ่งงัน ทำหน้าไม่ถูก
ภายในห้อง ซูซี่ทรุดลงนั่งอย่างตกใจ
"มะปรางเป็นเมียน้อยคุณดำรง ไม่จริง พี่หูฝาดไปใช่ไหม"
"ปรางอยู่กินกับคุณดำรงมาสักพักแล้วค่ะ"
ซูซี่สีหน้าผิดหวัง ส่ายหน้าไม่อยากจะเชื่อ
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น พี่ไม่คิดเลยว่าเธอจะสิ้นไร้ไม้ตอก ถึงขนาดไปคว้าเอาสามีคนอื่น ศักดิ์ศรีของเธอหายไปไหนหมด ทำไมถึงยอมลดตัวไปเป็นเมียน้อย ทำไม ถึงยอมกินน้ำใต้ศอกคนอื่นเค้าอย่างงี้"
มะปรางอึกอักครู่ใหญ่ ก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้น
"ตอบพี่มา...พี่ต้องการเหตุผล"
"ปรางไม่ได้อยากเป็นเมียน้อย ไม่ได้อยากกินน้ำใต้ศอกใคร แต่ปรางไม่มีทางเลือก"
"ไม่มีทางเลือก..หมายความว่ายังไง"
"ปรางถูกคุณดำรงขืนใจ"
ซูซี่ตกใจ
"อะไรนะ"
มะปรางคืนนั้นปรางไปหาเพื่อนที่คอนโด บังเอิญคุณดำรงก็พักอยู่ที่นั่น ปรางเห็นคุณ
ดำรงเมากลับมา ปรางสงสารเลยพาเค้าไปส่งที่ห้อง แต่เค้าใช้กำลังขืนใจปราง จากนั้นเค้าก็บังคับข่มขู่ให้ปรางเป็นเมียเก็บนางบำเรอให้เค้า ไม่อย่างงั้นเค้าจะป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทุกคนรู้"
ซูซี่ไม่พอใจ
"ไอ้คนมักมากไม่รู้จักพอ ! ไอ้แก่ตัณหากลับ ! เลวระยำที่สุด แล้วทำไมปรางไม่บอกพี่"
"ปรางอาย ปรางสมเพชตัวเอง ปรางไม่มีหน้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครหรอกค่ะ"
"โธ่..ปราง"
ซูซี่พูดไม่ออก ดึงมะปรางมากอดอย่างสงสารเห็นใจ แต่ซูซี่ยังคงติดใจสงสัยเรื่องที่มะปรางนัดเจอกับพวกดวงสุดาไม่เลิก!!
บริเวณสวนสำนักพิมพ์ Top star วาทินชวนสายป่านไปกินข้าว
ภายในสวน โรงพยาบาล สุนทรีย์นั่งคุยกับธวัช
"พรุ่งนี้วัชก็กลับบ้านได้แล้วนะลูก"
"ดีครับ ผมเบื่อโรงพยาบาลจะแย่ ว่าแต่แม่จะพาผมมาเจอใครเหรอครับ"
"คนที่วัชรักเค้ามาก แล้วเค้าก็รัชวัชมากเหมือนกัน"
"มาแล้วค๊า"
ตะวันฉายอุ้มสายฟ้าเข้ามากับซูซี่
"ธวัชคะ นี่ตาสายฟ้า ลูกของเราค่ะ"
"ลูก"
ธวัชมองสายฟ้านิ่งๆ เหมือนจะรู้สึกผูกพัน ธวัชยื่นมือไปจะจับมือสายฟ้า แต่แล้วก็ชะงัก เสียงวัลลภากับดวงสุดาดังเข้ามา
"ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะจับนาย แล้วลูกของมันก็เป็นลูกของผู้ชายคนอื่นที่ติดท้องมันมา ไม่ใช่ลูกของนาย" วัลลภาบอก
"ตะวันฉายใช้เล่ห์กลมารยาต่างๆนานาหลอกให้วัชรัก หลอกให้วัชเชื่อว่าเด็กคน
นั้นเป็นลูกของวัชกับเค้า" ดวงสุดาว่า
ธวัชมองสายฟ้าอย่างลังเลสับสน ตะวันยื่นสายฟ้าให้ธวัชอุ้ม
"อุ้มลูกของเรานะคะ"
"วัชเค้าไม่อยากอุ้มเด็กคนนี้หรอก" ดวงสุดาว่า
"เพราะเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของนายธวัช"
ตะวันฉายไม่พอใจ
"ตาสายฟ้าเป็นลูกของคุณธวัช อย่ามาพูดอะไรพล่อยๆ"
"เด็กคนนี้เป็นลูกของผู้ชายคนอื่นที่ติดท้องแกมา แกเลิกตอแหลแต่งเรื่องหลอกวัชว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเค้าได้แล้ว"
"เธอเอาอะไรมาพูดน่ะ...คุณดวงสุดา" สุนทรีย์แย้ง
"ดาพูดความจริงค่ะคุณแม่ นี่คือความจริงที่วัชกับคุณแม่ไม่เคยรับรู้ วัชกับคุณแม่ถูกผู้หญิงคนนี้หลอกลวงมาตลอด มันตั้งใจจับวัชเพื่อหาพ่อให้ลูกของมัน"
ตะวันเดือด
"หยุดนะ อย่ากล่าวหาฉันพล่อยๆ ตาสายฟ้าเป็นลูกของคุณธวัช ไม่มีใครที่จะรู้ดีเท่าฉัน เพราะฉันเป็นเมียคุณธวัช"
ดวงสุดาสวนทันที
"แกยัดเยียดตัวเองให้เป็นเมียวัชมากกว่า แกให้ท่าวัช หลอกให้วัชขึ้นเตียงกับแก แล้วก็หลอกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเค้า"
"ฉันไม่เคยใช้วิธีต่ำๆสกปรกๆแบบนั้นกับคุณธวัช"
"น้อยไปสิ นี่ฉันยังไม่นับรวมกับที่แกใช้มารยาสาไถหลอกให้วัชรักแก หลงแกจนหัวปักหัวปำด้วยซ้ำนะ"
"ฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะคุณธวัชรักฉัน"
"หน้าไม่อาย แกเลิกแถหน้าด้านๆได้แล้ว ไม่มีใครเค้าโง่เชื่อแกหรอก" วัลลภาบอก
"เลิกแต่งเรื่องใส่ร้ายตะวันฉายกันสักที เพราะไม่ว่ายังไงความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ" สุนทรีย์บอก
ดวงสุดาทำเสียงอ่อน
"คุณแม่ขา... เมื่อไหร่คุณแม่จะเลิกถือหางเข้าข้างนังตะวันซักทีคะ มันปั่นหัวคุณแม่ หลอกให้คุณแม่เชื่อว่ามันเป็นคนดี เชื่อว่าตาสายฟ้าเป็นหลานของคุณแม่ นี่คือความจริงนะคะ"
" ใช่... เธอจะโง่ให้มันหลอกไปถึงไหน นังตะวันมันตั้งใจจะจับลูกชายเธอ ขนาดเด็กอนุบาลยังดูออกเลย หัดหูตาสว่างได้แล้ว" วัลลภาบอก
"ฉันอายุปูนนี้แล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็เยอะ ทำไมฉันจะแยกแยะไม่ออกว่าใครดี ใครเลว"
ดวงสุดาทำเป็นบีบน้ำตา
"คุณแม่เข้าข้างนังตะวัน ทั้งๆที่มันแย่งวัชไปจากดา คุณแม่เชื่อมันจนคิดว่าดาเลว ดาเสียใจมากนะคะ"
"วันนึง...เธอจะต้องเสียใจที่เลือกลูกสะใภ้เลวๆอย่างนังตะวัน" วัลลภาบอก
"หน้าด้าน..! พวกแกหน้าด้านมากที่กล้าใส่ร้ายตะวันขนาดนี้" ซูซี่ว่า
"ฉันเชื่อว่าตะวันฉายไม่เคยทำอะไรเลวๆอย่างที่พวกเธอกล่าวหา"
ธวัชมองทั้งหมดอย่างครุ่นคิดสับสน
ซูซี่รีบบอกธวัช
"พวกมันรวมหัวกันใส่ร้ายตะวัน เพื่อให้คุณธวัชเกลียดตะวัน คุณธวัชอย่าเชื่อพวกมันนะคะ"
"ยังไงแม่ก็ขอยืนยันว่าตาสายฟ้าเป็นลูกของวัช"
"ตาสายฟ้าเป็นลูกของเรา เค้าเป็นพยานความรักระหว่างเรา ความรักที่เรามีให้กันเสมอมา เชื่อฉันนะคะ"
"ไม่จริง...นังตะวันมันหลอกวัชทุกอย่าง วัชจะเชื่อมันไม่ได้เด็ดขาด เพราะไม่มีเมียน้อยคนไหนหรอกที่จะยอมรับว่าตัวเองแย่งผัวคนอื่น"
ตะวันฉายเจ็บใจ
"ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะกล้าตอแหลแต่งเรื่องใส่ร้ายฉันถึงขนาดนี้ คุณยังมีสามัญสำนึกหลงเหลืออยู่บ้างรึเปล่า"
ดวงสุดาสวนทันที
"แล้วทีแกแย่งผัวฉันไปอย่างหน้าด้านๆล่ะ แกนั่นแหล่ะที่แพศยา หน้าด้าน ไร้ยางอาย"
ตะวันฉายจ้องดวงสุดาอย่างเจ็บแค้น ธวัชมองเมียทั้งสองอย่างเครียดสับสน
"ตกลงมันยังไงกันแน่"
"ฉันจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าตาสายฟ้าเป็นลูกของคุณจริงๆ"
"แกจะพิสูจน์ด้วยวิธีไหนไม่ทราบ" ดวงสุดาว่า
"ตรวจพิสูจน์ DNA"
ดวงสุดาชะงัก ซูซี่ยิ้มเป็นต่อ ดวงสุดากับวัลลภาหน้าเครียดทันที
อ่านต่อหน้า 2
นางกลางไฟ ตอนที่ 16 (ต่อ)
ภายในบ้าน ดวงสุดาเดินวนไปวนมาอย่างเครียดๆ วัลลภาที่นั่งอยู่ก็เครียดพอกัน
"ไอ้เด็กมารหัวขนนั่นเป็นลูกของวัช ยังไงผลตรวจ DNA ก็ต้องออกมาไม่ผิดพลาดแน่ ดาจะทำยังไงดี น้าวัลต้องช่วยดานะคะ ได้ยินไหมคะ...น้าวัลต้องช่วยดา ห้ามทิ้งดาเด็ดขาดนะคะ"
"อย่ารบเร้าน้าตอนนี้ได้ไหม"
ดวงสุดาชะงัก
"นี่หมายความว่าน้าวัลจะไม่ช่วยดาเหรอคะ"
"ไม่ใช่...ตอนนี้น้ากำลังใช้ความคิดอยู่"
ดวงสุดาเห็นวัลลภานิ่งเครียด ก็ยิ่งเครียดหนักกว่าเดิม
ทางด้านวาทินมอมสายป่านแล้วอาสาพากลับบ้าน
บริเวณหน้าห้องพักฟื้น ตะวันฉายเดินถือปิ่นโตข้าวต้มเข้ามา ดำรงแอบดูอยู่มุมหนึ่ง
ภายในห้อง ตะวันฉายไม่เห็นธวัช จึงเดินไปที่ประตูห้องน้ำ
"ธวัชคะ คุณอยู่ในห้องน้ำรึเปล่าคะ"
ไม่มีสียงตอบ เธอเปิดประตูห้องน้ำก็ไม่เห็นธวัชอีก
"คุณธวัชไปไหน"
ตะวันวางถุงของที่โต๊ะ แล้วจะเดินออกไป ทันใดนั้นดำรงเดินเข้ามา พร้อมกระเช้าเยี่ยมไข้
"สวัสดีครับ"
ตะวันฉายชะงัก
"คุณดำรง คุณมาที่นี่ทำไม"
ดำรงวางกระเช้าเยี่ยมไข้
"ผมมาเยี่ยมนายธวัช"
"ขอบคุณนะคะที่มีน้ำใจมาเยี่ยมสามีฉัน"
"แล้วนี่นายธวัชไปไหน"
"ไม่ทราบค่ะ ฉันขอตัวไปตามหาสามีก่อนนะคะ"
ตะวันฉายจะเดินออกไป ดำรงรีบดึงมือเธอไว้
"ผมรู้ว่านายธวัชเป็นสามีคุณ ไม่ต้องย้ำนักย้ำหนาขนาดนี้ก็ได้"
"ขนาดฉันย้ำแล้วย้ำอีก คุณก็ยังกล้าแตะต้องล่วงเกินฉัน"
ตะวันฉายจะดึงมือออก แต่ดำรงจับมือตะวันแน่น
"อย่ามองผมในแง่ร้ายนักสิ ผมก็แค่อยากจะให้กำลังใจคุณ เพราะผมรู้ว่าคุณเสียใจมากแค่ไหน ที่สามีคุณความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง"
" งั้นก็กรุณาปล่อยมือฉัน... ฉันต้องรีบไปตามหาคุณธวัช หวังว่าคุณจะเข้าใจ"
ตะวันฉายจะเดินออกไป แต่ดำรงขวางไว้อีก
"ผมอยากให้คุณคิดทบทวนเรื่องที่เราคุยกันเมื่อคราวที่แล้ว ผมยินดีจะดูแลคุณกับลูก ถ้าคุณรับความปรารถนาดีจากผม คุณกับลูกจะได้อยู่อย่างสุขสบาย ผมจะยกย่องคุณออกหน้าออกตา ผมรับรองว่าคุณจะมีทุกอย่างเท่าที่คุณอยากมี"
"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ"
"คุณอยากได้อะไร ผมก็จะหามาให้"
"ทุกอย่างรึเปล่าคะ"
"ครับ...ทุกอย่าง"
"งั้นตอนนี้ฉันขออะไรคุณอย่างนึงได้ไหมคะ"
"บอกมาเลย ผมจะหาให้คุณทันที"
"เลิกยุ่งกับฉันสักที ฉันเบื่อที่จะพูดคำนี้กับคุณซ้ำๆซากๆเต็มทีแล้ว"
ดำรงไม่พอใจ บีบแขนตะวัน
"อย่าอวดดีให้มากนัก การที่คุณปฏิเสธผมมันไม่ได้เป็นผลดีกับคุณเลย รับความหวังดีจากผมซะ เพราะตอนนี้คุณไม่เหลือใครแล้ว"
ตะวันฉายสะบัดแขนออก
"ฉันบอกว่าไม่ ก็คือไม่... เชิญคุณกลับไปได้แล้ว"
"ก่อนที่จะปฏิเสธผม กรุณาคิดให้ดีๆ"
"เลิกตื๊อฉันได้แล้ว เพราะยังไงฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน"
ตะวันฉายจะเดินออกไป ดำรงโมโห กระชากแขนตะวัน
"ผมจะทำให้คุณเปลี่ยนใจให้ได้"
แรงกระชากทำให้ตะวันแยเซถลาเข้าหา ดำรงฉวยโอกาสกอดเธอทันที
ทันใดนั้นธวัชเปิดประตูเข้ามาเห็น
ตะวันฉายตกใจ
"คุณธวัช"
ธวัชไม่พอใจที่เมียตัวเองอยู่ในอ้อมกอดผู้ชายอื่น ตะวันรีบผละออกจากดำรง ธวัชมองหน้าอย่างไม่คุ้น
"นายคงจะจำฉันไม่ได้ ฉัน..ดำรง เป็นพ่อของยัยดา แล้วก็เป็นพ่อตาของนาย"
"คุณพ่อ… แล้วคุณพ่อกับภรรยาผม มาอยู่ด้วยกันสองต่อสองได้ยังไงครับ"
"คือ..คุณดำรงมาเยี่ยมคุณน่ะค่ะ แล้วฉันก็หกล้มพอดี คุณดำรงเลยช่วยประคองฉันขึ้นมาน่ะค่ะ"
ธวัชยังคงมองตะวันกับดำรงอย่างสงสัย ตะวันรีบเปลี่ยนเรื่อง
"ว่าแต่คุณไปไหนมาคะ พอเข้ามาไม่เห็นคุณ ฉันตกใจแทบแย่"
"ผมไปเดินเล่นมา"
ทางด้านสายป่านเสร็จวาทินที่โรงแรม สุนทรีย์ตำหนิสายป่านที่กลับบ้านดึก ลูกสาวบอกงานเยอะ
วันใหม่ ที่ห้องพักฟื้น หมอและทุกคนยืนอยู่ตรงหน้าธวัช
"คุณพร้อมที่จะฟังผลตรวจ DNA ไหมคะ"
"ครับ"
ซูซี่ยิ้มเยาะดวงสุดา
"ตั้งใจฟังให้ดีล่ะ คุณหมอจะได้ไม่ต้องเมื่อยปากพูดหลายรอบ"
ดวงสุดากับวัลลภาจ้องซูซี่อย่างเจ็บใจ
"เชิญค่ะคุณหมอ"
หมอดึงใบผลตรวจ DNA ออกมาจากซอง แล้วจะพูด
"อ้อ...เดี๋ยวค่ะคุณหมอ ขอดังๆชัดๆนะคะ คนแถวนี้จะได้เข้าใจชัดๆ เคลียร์ๆ" ซูซี่บอก
วัลลภาโมโห
"จะทำอะไรก็รีบทำ ไม่ต้องมาลีลา"
"รีบพูดมาเถอะค่ะ ฉันรอฟังอยู่" ดวงสุดาบอก
"รหัสทางพันธุกรรมของนายธวัช ก้องเกียรติ และ ดช.กีรติ ก้องเกียรติ"
ธวัชรอฟังอย่างลุ้นๆ ซูซี่ยิ้มเยาะดวงสุดาอย่างออกนอกหน้า
"ไม่ตรงกัน.. สรุปว่าทั้งสองคนไม่ใช่พ่อลูกกัน"
ตะวันกับซูซี่ชะงัก
"อะไรนะ !"
ดวงสุดากับวัลลภายิ้มพอใจ
" คุณธวัชกับตาสายฟ้าเป็นพ่อลูกกัน เป็นไปไม่ได้ที่ DNA ของเค้าสองคนจะไม่ตรงกัน"
"ใช่..เป็นไปไม่ได้ที่ผลตรวจจะออกมาเป็นแบบนี้" บอก
"ผมตรวจอย่างละเอียดแล้ว ผลตรวจออกมาอย่างนี้จริงๆครับ"
"ไม่จริง ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ จะต้องเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นแน่ๆ"
"แกต่างหากที่พลาด"
"พลาดที่โกหกนายธวัชมาตั้งแต่ต้น"วัลลภาบอก
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ"
หมอเดินออกไป ตะวันกับซูซี่อึ้ง พูดไม่ออก
ธวัชมองตะวันฉายอย่างไม่พอใจ ดวงสุดากับวัลลภายิ้มสะใจมาก
"ในที่สุด..สวรรค์ก็ไม่เข้าข้างคนเลวๆอย่างแก ตาสายฟ้าเป็นลูกของผู้ชายคนอื่นที่ติดท้องแกมา ไม่ใช่ลูกของวัช"
"ในเมื่อความจริงมันปรากฏออกมาแบบนี้แล้ว งั้นแกก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวนายธวัชอีกต่อไป แกจะต้องคืนนายธวัชให้กับยัยดา แล้วก็ห้ามยุ่งกับนายธวัชอีก"
ตะวันฉายเจ็บใจจนพูดอะไรไม่ออก
"วัชเห็นรึยังคะว่า นังตะวันมันเลวแค่ไหน มันหลอกวัชมาตลอด มันทำทุกอย่างเพื่อแย่งวัชไปจากดา"
"ธวัชคะ" ตะวันฉายจะอธิบาย
ธวัชรีบตัดบท
"ผมปวดหัว อยากพักผ่อน...ออกไป ออกไปให้หมด"
ธวัชไม่พอใจล้มตัวลงนอน หันหลังให้ตะวันทันที ดวงสุดากับวัลลภายิ้มเย้ยตะวัน
ดวงสุดากับวัลลภาเข้ามานั่งในรถ ดวงสุดายิ้มพอใจมาก ย้อนหลังกลับไปในวันตรวจเลือด
ทุกคนมองหมอที่ตรวจเช็คขวดตัวอย่างเลือดของธวัชกับสายฟ้าที่ตะวันฉายอุ้มอยู๋
เจ้าหน้าที่บอกกับทุกคน
"ตัวอย่างเลือดเรียบร้อยดีครับ"
"แล้วต้องใช้เวลาในการตรวจนานแค่ไหนคะ"
"2-3 วันครับ"
ซูซี่ยิ้มกับตะวันฉาย
"ถ้าผลตรวจ DNA ออกมาเมื่อไหร่ล่ะก็ รับรองยัยดวงสุดาได้หงายเงิบลมจับแน่ๆ"
"หวังว่าคุณดวงสุดาจะเลิกจองล้างจองผลาญตะวันสักทีนะคะ ... ขอบคุณมากนะคะ"
ทุกคนเดินออกไป ครู่หนึ่งสินเดินออกมาจากห้องตรวจเลือดด้านใน สินยื่นขวดเลือดที่ถืออยู่ให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่หยิบขวดเลือดของธวัชขึ้นมา แล้วทิ้งลงในถังขยะ
สินกับเจ้าหน้าที่ยิ้มอย่างรู้กัน สินยื่นซองเงินให้เจ้าหน้าที่ แล้วควักมือถือมาโทร.
"ผมทำตามคำสั่งของคุณดวงสุดาเรียบร้อยแล้วครับ"
ดวงสุดายิ้มสะใจ
"ต้องขอบคุณอำนาจเงิน ที่เป็นฮีโร่ขี่ม้าขาวมาช่วยเราได้ทันเวลา"
"เงิน..เงินเท่านั้น ที่ครองโลก ฮ่า ฮ่า ฮ่า" วัลลภาบอก
ทั้งคู่หัวเราะอย่างสะใจ
อ่านต่อหน้า 3
นางกลางไฟ ตอนที่ 16 (ต่อ)
ดวงสุดากับวัลลภานั่งฉลองกัน เห็นว่าบนโต๊ะมีอาหารกับเครื่องดื่มอยู่
"วันนี้ดามีความสุขที่สุดเลย สุขมากที่เอาชนะนังตะวันได้"
"ถ้ามีความสุขก็ต้องฉลอง"
ดวงสุดาชูแก้วไวน์
"แด่ความชิบหายล่มจมของนังตะวัน"
วัลลภาชูแก้วไวน์ "เชียส..."
ทั้งสองจะชนแก้วกัน ทันใดนั้นตะวันฉายก็ปรี่เข้ามากับซูซี่ แล้วคว่ำโต๊ะใส่หน้าพวกดวงสุดาเสียงดังโครม ! อาหารบนโต๊ะกระจัดกระจายเต็มพื้น
ทั้งสองต่างตกใจ
"นังตะวัน"
ตะวันฉายดึงแก้วไวน์จากมือดวงสุดา แล้วสาดไวน์ใส่หน้าทั้งสองคน
"แด่ความตอแหลทั้งโคตรทั้งเหง้าของพวกแก"
"เชื้อตอแหลของพวกแกเนี่ย แรงดีไม่มีตกจริงๆ แรงตั้งแต่หัวหงอก ยันหัวดำ"
ทั้งสองไม่พอใจ
"พวกแกคิดว่าจะมีความสุขบนความทุกข์ของฉันได้งั้นเหรอ"
"พวกแกจะต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำกับตะวัน"
"ฉันไม่จำเป็นต้องชดใช้อะไรให้แกทั้งนั้น ไสหัวออกไป บ้านฉันไม่ต้อนรับ เมียน้อย เพราะผู้หญิงที่เที่ยววิ่งไล่จับผัวคนอื่น คือตัวเสนียดจัญไร อยู่ใกล้มีแต่จะทำให้ชีวิตตกต่ำอัปรีย์"
"ถ้าได้ยินชัดแล้ว ก็รีบไสหัวออกไป ฉันไม่อยากอยู่ใกล้เสนียดจัญไร เพราะมันขยะแขยง คลื่นไส้ !"
ตะวันจ้องพวกดวงสุดาอย่างเจ็บแค้น
"ฉันไปแน่ แต่ต้องคิดบัญชีกับพวกคุณซะก่อน พวกคุณรวมหัวกันวางแผนกลั่นแกล้งฉันเรื่องตรวจ DNA"
"ถ้าแกคิดว่าฉันทำอย่างงั้น ก็ไปหาหลักฐานมา อย่ามากล่าวหาฉันหน้าด้านๆ"
"หน้าด้านงั้นเหรอ"
ตะวันเดือด ตบดวงสุดาหน้าหัน วัลลภาตกใจ
"อย่าคิดว่าคุณจะข่มเหงรังแกฉันได้ตลอด คุณทำลายฉันได้ ฉันก็ทำลายคุณได้เหมือนกัน"
"นังตะวัน"
ดวงสุดาเดือด จะตบบ้าง แต่ตะวันฉายเบี่ยงตัวหลบ แล้วถีบดวงสุดาตกสระน้ำ
" นี่คือสิ่งตอบแทน..สำหรับความเลวของแก"
"คนที่กล้าแตะต้องหลานฉัน มันคนนั้นจะต้องตายสถานเดียว"
วัลลภาเดือด จะตบตะวัน แต่ซูซี่จิกหัววัลลภาไว้
"คนที่คิดจะแตะต้องตะวัน มันคนนั้นก็ต้องตายสถานเดียวเหมือนกัน"
ซูซี่ตบวัลลภาตกน้ำอีกคน ดวงสุดาและวัลลภาจ้องตะวันฉายกับซูซี่อย่างเจ็บแค้น
"ในเมื่อพวกแกกล้ามาเหยียบจมูกฉันถึงที่นี่ งั้นอย่าหวังเลยว่าพวกแกจะมี
ลมหายใจกลับออกไป"
"วันนี้พวกแกได้ตายคามือพวกฉันแน่" วัลลภาบอก
"ปากเก่งอย่างงี้ คงต้องตบรางวัลให้อย่างงาม"
ตะวันฉายสบตากับซูซี่ ทั้งสองเดินไปหิ้วถัง 2 ใบที่วางอยู่ใกล้ๆ
"พวกแกจะทำอะไร" ดวงสุดาถาม
ทันใดนั้นตะวันกับซูซี่ฏ้เทปลาไหลที่อยู่ในถังลงสระน้ำ ดวงสุดากับวัลลภาตกใจกลัว
"ว๊าย!"
ปลาไหลว่ายไปหาสองน้าหลาน ทั้งสองร้องวี๊ดๆ ว่ายน้ำหนีกันจ้าละหวั่น ตะวันฉายกับซูซี่ยิ้มสะใจ
ทันใดนั้นสาลี่วิ่งหน้าตื่นตกใจ ทำอะไรไม่ถูกเข้ามา
" ว๊าย! ช่วยด้วยค๊า..ช่วยด้วย!"
ดำรงวิ่งเข้ามา
"นี่มันเรื่องอะไรกัน"
ดำรงกับสาลี่มองพวกตะวันฉายกับพวกดวงสุดาที่จ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
"นังตะวันมันบุกมาหาเรื่องดาค่ะคุณพ่อ"
ดำรงไม่ค่อยเชื่อ
"ตะวันเนี่ยนะหาเรื่องแก"
"ใช่...คุณก็เห็นว่าพวกมันทำอะไรกับฉัน กับยัยดาบ้างง"
" นี่ถ้าคุณผู้ชายไม่เข้ามาห้ามนะคะ คุณผู้หญิงกับคุณดาอาจจะจมน้ำตายเพราะกลัวปลาไหลก็ได้นะคะ" สาลี่ว่า
"ถ้าพวกแกไม่ทำร้ายตะวันก่อน คิดเหรอว่าตะวันจะอยากมาเหยียบที่นี่ให้เสนียดจัญไรติดเท้า" ซูซี่ว่า
วัลลภาเดือด
"อีกะเทยคางคก...ฉันจะเอาเลือดปากแกออก"
วัลลภาจะเอาเรื่องซูซี่
"หยุด !!! ที่นี่บ้านฉัน ถ้าอยากจะกัดกัน ไปกัดข้างนอก"
ดำรงดุเสียงดัง วัลลภากับซูซี่เลยเงียบไป
" ใครทำอะไรคุณ บอกผมมา ผมจะจัดการให้"
ฝ่ายดวงสุดาไม่พอใจ
"คุณพ่อ / คุณดำรง"
"เรื่องนี้ถามภรรยากับลูกสาวคุณเองแล้วกัน ฉันไม่อยากจะประจานความชั่วของใคร แล้วคราวหลังอย่าลอบกัดแบบนี้อีก เพราะการลอบกัดมันเป็นวิสัยของพวกขี้ขลาดตาขาว... ถ้าจะเล่นงานฉัน ก็สู้กันซึ่งๆหน้า พวกคุณแรงมา ฉันก็แรงกลับ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน จำเอาไว้...!"
"พูดให้เข้าใจง่ายๆ ถ้าพวกแกทำร้ายตะวันไม่เลิก พวกแกก็จะหาความสงบสุขไม่ได้เหมือนกัน"
ตะวันจ้องพวกดวงสุดาอย่างอาฆาตแล้วออกไปกับซูซี่ พวกดวงสุดามองตามแค้นๆ
"ตกลงพวกแกทำอะไรตะวัน"
ดวงสุดารีบโกหก
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่กระทบกระทั่งกันนิดหน่อย"
"ตะวันถึงกับมาเอาเรื่องพวกแกถึงที่นี่ คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่"
วัลลภาไม่พอใจ
"ถ้าคุณห่วงนังตะวันมากนัก ก็ตามไปปลอบอกปลอบใจมันถึงเตียงซะเลยสิ อยากมานานแล้วไม่ใช่เหรอ"
ดำรงโมโห ประชดใส่
"ไม่ต้องห่วง ผมไปแน่"
ดำรงเดินหนีไปอย่างหัวเสีย
วัลลภากรี๊ดลั่น
"อ๊าย ! เชิญเลย อยากจะขึ้นเตียงกับนังตะวันจนตัวซีดตัวสั่นนัก ก็ไปเลย ไอ้ผัวสำส่อน ไอ้ผัวสกปรก!"
วัลลภาด่าดำรงไล่หลังอย่างเจ็บใจ
ทั้งหมดนั่งคุยกัน สุนทรีย์สีหน้าตกใจ
"อะไรกัน นี่หนูดากล้าใช้แผนสกปรกๆทำร้ายเธอขนาดนี้เลยเหรอ"
"มากกว่านี้มันก็ทำได้ค่ะคุณป้า เพราะคนอย่างมัน เลวในสันดาน เลวไม่มีอะไรเปรียบ" ซูซี่บอก
"แล้วทำไมเธอถึงเพิ่งมาบอกฉัน...ตะวันฉาย"
"ตะวันไม่อยากให้คุณป้าไม่สบายใจน่ะค่ะ"
"ฉันรู้ว่าเธอห่วงฉัน แต่ผู้หญิงคนนั้นจิตใจหยาบช้า เค้าทำลายเธอทุกทาง ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล หัวเดียวกระเทียมลีบอย่างเธอ จะไปทันเกมผู้หญิงคนนั้นได้ยังไง คราวหลังถ้าเกิดเรื่องอะไร เธอต้องบอกฉันนะ จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา"
"ใช่ครับ...หลายหัวดีกว่าหัวเดียว คุณตะวันจะประมาทผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เด็ดขาดนะครับ" นิคมบอก
" นังดวงสุดามันยุแยงเป่าหูคุณธวัชให้เข้าใจผิดตะวัน มันคิดจะฉวยโอกาสดึงคุณธวัชกลับไปเป็นของมัน อีนังแม่มด..อีนังปีศาจ"
สุนทรีย์รู้สึกผิด
"ฉันไม่น่าบังคับให้ตาวัชแต่งงานกับผู้หญิงใจร้ายใจดำคนนั้นเลย ฉันเป็นคนทำให้ตาวัชตกนรกทั้งเป็น"
"คุณป้าอย่าโทษตัวเองเลยนะครับ ไม่มีใครคาดคิดหรอกครับว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้"
ทุกคนต่างนิ่งเงียบด้วยความหดหู่ใจ
"แล้วตะวันจะปล่อยให้คุณธวัชเข้าใจผิดตะวันอยู่อย่างงี้เหรอ" ซูซี่ถาม
ตะวันนิ่งเงียบไป ไม่รู้จะทำยังไง
วันใหม่ ภายในห้องพักฟื้น นิคมเก็บของของธวัช ครู่หนึ่ง ธวัชที่อยู่ในชุดปกติ เปิดประตูห้องน้ำออกมา
"ฉันเก็บของให้แกเสร็จแล้ว"
"ขอบใจ"
ตะวันฉายเปิดประตูเข้ามา พร้อมซูซี่ มะปราง สุนทรีย์และสายป่าน
"พร้อมที่จะกลับบ้านแล้วใช่ไหมลูก"
"ครับ"
ทันใดนั้น ดวงสุดาเปิดประตูเข้ามากับวัลลภา
"ดามารับวัชกลับบ้านค่ะ"
ซูซี่แขวะดวงสุดาทันที
"กลับบ้านไหนไม่ทราบ"
" จะกลับบ้านไหนก็ได้ค่ะ แล้วแต่วัชค่ะ" ดวงสุดายิ้มบอก
"กลับไปอยู่บ้านเรานะลูก บ้านที่มีแม่..มีน้อง.. แล้วก็ลูกเมียของวัช"
"กลับบ้านเรานะคะ ธวัช..." ตะวันฉายบอก
ตะวันฉายเอื้อมมือไปจะจับมือธวัช แต่ธวัชเดินไปจับมือดวงสุดา
"ผมจะไปอยู่กับดวงสุดา เมียผม"
ทุกคนชะงักตามกัน
ดวงสุดายิ้มพอใจ
"วัชจะไปอยู่กับดาเหรอคะ"
"ครับ...คุณเป็นเมียผม ผมก็ต้องอยู่กับคุณ"
ทุกคนอึ้ง พูดไม่ออก
"ไอ้วัช...แล้วคุณตะวันกับลูกล่ะ" นิคมถาม
ธวัชมองตะวันฉายด้วยสายตาหมางเมินเย็นชา
"ผมจะไปอยู่กับดา เมียตัวจริงที่ถูกต้องตามกฏหมายของผม"
"นายธวัชเค้าจะไปอยู่กับยัยดา เมียของเค้า..ทุกคนได้ยินชัดเจนกันแล้วใช่ไหม" วัลลภาบอก
ธวัชบอกกับดวงสุดา
"พาผมกลับบ้านของเราเถอะครับ"
ดวงสุดายิ้ม
"ค่ะ"
ถนอมยืนอยู่ที่ประตูแล้วเดินมาหิ้วของๆธวัชออกไป ดวงสุดา วัลลภายิ้มเย้ยตะวันฉายก่อนออกไป ทุกคนอึ้ง งงตามกัน !
อ่านต่อหน้า 4
นางกลางไฟ ตอนที่ 16 (ต่อ)
พวกตะวันฉายเดินตามออกมา สุนทรีย์เรียกไว้
"เดี๋ยวก่อนวัช วัชจะทิ้งลูกเมียไปแบบนี้ไม่ได้นะ แม่ไม่ยอมให้วัชทำแบบนี้เด็ดขาด"
ดวงสุดาไม่พอใจที่สุนทรีย์รั้งธวัชไว้
"แม่ครับ..ที่แม่เห็นดีเห็นงามกับตะวันไปซะทุกอย่าง เพราะ แม่ถูกเค้ายุแยงเป่าหูแบบผิดๆนะครับ"
ตะวันฉายจะแย้ง
"ฉันไม่ได้"
"แม่เลิกเข้าข้างคนผิดสักทีเถอะครับ" ธวัชแทรก
ตะวันฉายกับสุนทรีย์อึ้ง พูดไม่ออก
"แม่ไม่คิดเลยว่าวัชจะเชื่อคนอื่น มากกว่าแม่"
"ดาไม่ใช่คนอื่น เค้าเป็นเมียผมครับ"
"แล้วดาก็เป็นลูกสะใภ้ที่คุณแม่เลือกมาตั้งแต่ต้น ลูกสะใภ้คนเดียวของคุณแม่ คือดาคนเดียวเท่านั้น คุณแม่อย่าอย่าลืมสิคะ"
สุนทรีย์จุก พูดอะไรไม่ออก
"ถ้าคุณแม่รักวัช คุณแม่ก็ต้องปล่อยให้เค้าไปมีความสุข กับผู้หญิงที่เค้าเลือก ไม่ใช่ดึงลูกให้มาเกลือกกลั้ว... กับผู้หญิงเลวๆพรรค์นี้"
"ถ้าเธออยากจะโง่งมงาย ถือหางเข้าข้างลูกสะใภ้ต่ำๆอย่างนังตะวันต่อไปก็เชิญ แต่อย่าดึงนายธวัชให้ไปจมปลักกับของโสมมเน่าเฟะไม่ต่างจากเศษสวะ เพราะตอนนี้นายธวัชเค้ารู้แล้วว่าผู้หญิงคนไหนเป็นเพชร ผู้หญิงคนไหนเป็นก้อนกรวด" วัลลภาว่า
ตะวันฉายเจ็บใจ จนพูดไม่ออก
"ไปค่ะ..กลับบ้านของเรานะคะ"
ดวงสุดาดึงธวัชออกไป วัลลภากับถนอมตามไป ทุกคนอึ้งตามกัน
ถนอมเปิดประตูรถให้ดวงสุดา ทั้งหมดกำลังจะขึ้นรถ แต่ตะวันฉายวิ่งมาดึงแขนธวัชไว้
"ธวัชคะ"
คนอื่นๆ ตามเข้ามา
"กลับไปอยู่กับฉัน กับลูกนะคะ"
"ผมจะไปอยู่กับเมียผม"
"คุณจะทิ้งฉันกับลูกไม่ได้นะคะ"
ดวงสุดารีบขัดขึ้น
"เธอได้ทุกสิ่งทุกอย่างจากวัชไปมากพอแล้วนะตะวัน ทำไมเธอไม่เห็นใจฉันบ้าง"
"ผมคิดว่าผมทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อย่าขวางให้เสียเวลาเลย"
" ทำไมคุณถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้"
ธวัชแกะมือตะวันฉายออกอย่างหมางเมินเย็นชา ตะวันอึ้ง สมองมึนตื๊อ ทำอะไรไม่ถูก !
ธวัชขึ้นรถไป ตะวันวิ่งไปเกาะกระจกรถด้านที่ธวัชนั่ง
"ไม่นะคะธวัช..อย่าทิ้งฉันกับลูกไปนะคะ"
ดวงสุดาบีบแขนตะวันฉาย
"วัชเพิ่งจะหายป่วย อย่าทำให้วัชเครียดเลยนะตะวัน"
"เกิดนายธวัชเครียดมากๆ แล้วเป็นอะไรขึ้นมาอีก ใครจะรับผิดชอบ ไม่ต้องเป็นห่วงนายธวัชหรอก ยังไงยัยดาเค้าก็ดูแลผัวเค้าได้อยู่แล้ว" วัลลภาบอก
ดวงสุดายิ้มกับทุกคน
"ลาก่อนนะคะทุกคน ลาก่อน..ตะวันฉาย"
ดวงสุดาผลักตะวันออก สองน้าหลานยิ้มเย้ยตะวันแล้วขึ้นรถ ถนอมขับรถออกไป
"ธวัชคะ ธวัช"
ตะวันฉายจะวิ่งตาม สุนทรีย์ดึงแขนตะวันฉายไว้ สายป่านยิ้มเยาะ เธอน้ำตาร่วง เสียใจที่ธวัชเชื่อดวงสุดา และทิ้งตนไปอย่างนี้ !
เวลาต่อมา ดวงสุดาพาธวัชเข้ามาในบ้าน วัลลภาตามเข้ามา สาลี่เข้ามาต้อนรับ ธวัชกวาดตามองบ้าน
"นี่บ้านของเราเหรอครับ"
"ค่ะ...บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของเรา เป็นที่ๆเราเคยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข"
"แต่พอนังตะวันเข้ามา ยัยดาก็มีแต่ความทุกข์ มันตามระรานยัยดาไม่ได้หยุดหย่อน ยัยดาไม่เคยมีความสุขเลย ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น"
"ผมทำให้คุณทุกข์ขนาดนี้เลยเหรอครับ"
ดวงสุดาตีหน้าเศร้า บีบน้ำตา
"หลังจากที่วัชไปจากดา ดาก็อยู่กับความทุกข์ทุกวันทุกคืน หลับก็ฝันร้าย ตื่นขึ้นมาก็เจอแต่ความเดียวดายอ้างว้าง"
"คุณดาน่าสงสารมาก กินข้าวต่างน้ำตาทุกวัน แล้วก็หลับไปพร้อมน้ำตาทุกคืน" สาลี่บอก
ธวัชจับมือ สงสารเห็นใจดวงสุดา
"ผมผิดเองครับ ผิดที่นอกใจคุณ ผิดที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายคุณขนาดนี้"
ดวงสุดาโผกอดธวัช แสร้งร้องไห้น่าสงสาร ก่อนจะหันไปยิ้มพอใจกับวัลลภาและสาลี่
ภายในร้านกาแฟ ซูซี่นิ่วหน้าแปลกใจ ดื่มกาแฟ พลางคิดเรื่องมะปราง
"มะปรางเป็นเมียน้อยคุณดำรง แล้ววันก่อนมะปรางจะไปเจอกับยัยวัลลภาด้วยเหตุผลอะไร"
ซูซี่คิดถึงตอนที่มะปรางกดส่งข้อความ แล้วดวงสุดาบอกว่า
"ยังไงดาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หวังดีคนนี้ เป็นใครกันแน่"
ซูซี่พึมพำอย่างแปลกใจ
"ผู้หวังดี"
ซูซี่สีหน้าสับสนงุนงง
"ถ้ามะปรางเป็นผู้หวังดีคนนั้น .. แล้วมะปรางคิดจะทำอะไร"
ซูซี่นิ่งคิดอย่างสงสัย ก่อนจะนึกอะไรได้
ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ซูซี่เดินคุยกับครูพี่เลี้ยง
"เสียดายที่ตะวันกับมะปรางไม่ได้มาด้วย ไม่อย่างงั้น.. ครูจะขอแรงให้ไปช่วยสอนหนังสือน้องๆ อ้อ..เห็นซูซี่บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาครู เรื่องอะไรเหรอ"
ซูซี่แสร้งโกหก
"เรื่องมะปรางน่ะค่ะ คือว่า..ตอนนี้มะปรางเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร แม้แต่กับซูซี่ มะปรางก็ทำตัวห่างเหิน ซูซี่รู้สึกว่ามะปรางเหมือนจะมีเรื่องทุกข์ในใจ ครูพอจะรู้ไหมคะว่ามะปรางเป็นอะไร"
ครูพี่เลี้ยงคิดๆ
"มะปรางก็ไม่เคยมาปรึกษาอะไรกับครูนะ อ้อ..แต่มีอยู่ครั้งนึง ช่วงที่ตะวันเป็นนางแบบ มีชื่อเสียงโด่งดัง ตอนนั้นมะปรางมาร้องไห้กับครู น้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองไม่สวย ไม่เก่งเท่าตะวัน มะปรางน่ะชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับตะวันตลอด"
"มะปรางมีฟีลแบบนี้ด้วยเหรอคะ"
"คงจะเป็นความคิดของเด็กกำพร้าที่เกิดมาไม่มีใคร แล้วก็ไม่มีอะไรเท่าคนอื่นเค้า มะปรางน่ะไม่ค่อยสุงสิงกับใครมาตั้งแต่เด็กแล้ว จะมีก็แต่ตะวัน ที่มะปรางสนิทสนมแล้วก็ไว้ใจที่สุด แต่นอกจากเรื่องนี้แล้ว ครูก็ไม่รู้หรอกนะว่ามะปรางมีเรื่องไม่สบายใจอะไร"
ซูซี่เดินมาที่รถ สีหน้าผิดหวัง ถอนใจ
"เสียเวลาเป็นชั่วโมง แต่ไม่ได้อะไร"
ซูซี่จะเปิดประตูรถ ทันใดนั้นครูพี่เลี้ยงเดินถือกล่องบางอย่างเข้ามา
"ซูซี่จ๊ะ เดี๋ยวก่อนจ๊ะ"
"ครูมีอะไรเหรอคะ"
"พอดีครูนึกขึ้นได้ว่ามะปรางฝากของไว้กับครูนานแล้ว แต่ไม่ยอมมาเอาคืนไปสักที ฝากไปให้มะปรางหน่อยนะ"
ครูยื่นกล่องให้ซูซี่
ซูซี่มองกล่องอย่างอยากรู้
"ของอะไร"
ซูซี่เปิดกล่องดู เห็นว่ามีอัลบั้มรูปอยู่ในนั้น ซูซี่หยิบอัลบั้มรูปขึ้นมาเปิดดู เป็นรูปถ่ายต่างๆที่ตะวันฉายและมะปรางถ่ายกับเพื่อนๆ ตั้งแต่สมัยเด็กจนโต
รูปใบหนึ่ง เป็นรูปที่ตะวันถ่ายคู่กับมะปราง ทั้งสองกอดคอกัน ท่าทางสนิทสนมรักใคร่กันมาก แต่เห็นว่ามะปรางมองจิกตะวัน เหมือนเกลียดตะวันมาก
ซูซี่แปลกใจ
"อะไร..มองจิกยังกะเกลียดกันมาร้อยชาติ"
ซูซี่ไม่ได้สงสัยอะไร แล้วเปิดดูรูปต่อ ทันใดนั้นเห็นว่าเศษกระดาษร่วงกราวออกมาจากอัลบั้ม
ซูซี่หยิบเศษกระดาษดู เห็นเป็นเศษรูปถ่ายที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
ซูซี่เอาเศษรูปมาต่อกัน เหมือนต่อจิ๊กซอ กระทั่งเสร็จ เห็นว่าเป็นรูปตะวัน
"ตะวัน"
ซูซี่เอาเทปกาวใสมาแปะให้รูปติดกัน ระหว่างนั้นลมพัดเข้ามา รูปปลิวตกลงที่พื้น แต่คว่ำหน้า
มีข้อความบางอย่างเขียนอยู่ด้านหลังรูปถ่าย แต่ตัวหนังสือกลับหัวอยู่
ซูซี่รีบหยิบรูปขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นข้อความที่เขียนว่า...
“ฉันเกลียดแก..!!!!! เกลียดดดดดๆๆๆ”
ซูซี่อึ้งตกใจมาก
"ลายมือมะปราง"
มะปรางเกลียดตะวันฉายขนาดนี้เลยหรือ
อ่านต่อตอนที่ 17