xs
xsm
sm
md
lg

นางกลางไฟ ตอนที่ 4

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางกลางไฟ ตอนที่ 4

ทุกคนต่างงงที่ตะวันฉายมาในชุดเจ้าสาว แขกในงานต่างซุบซิบกัน

แขก 1บอก
"ทำไมมีเจ้าสาว 2 คนวะ"
แขก 2บอก
"นั่นสิ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย"
เธอถือซองลงจากรถแล้วดิ่งไปหาธวัช
"ธวัช.. ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ ฉันท้องกับคุณ"
ทุกคนตกใจ ธวัชกับดวงสุดาชะงักไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
"คุณว่าอะไรนะ"
"ฉันท้องค่ะ เด็กในท้องของฉัน เป็นลูกของคุณ"
ธวัชกับดวงสุดาต่างตกใจ ซูซี่ส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนางแบบในสังกัด ดวงสุดาตั้งสติได้ก็ตวาดแว๊ดใส่ตะวันอย่างไม่พอใจ
"ไม่จริง วัชจะไปทำแกท้องได้ยังไง แกอย่ามาพูดมั่วๆนะ"
เธอดึงกระดาษใบหนึ่งในซองออกมา
"กระดาษใบนี้คือหลักฐานยืนยัน"
ดวงสุดารีบดึงกระดาษมาดู... "ใบรับรองการตรวจครรภ์"
ตะวันฉายบอกธวัช
"ฉันท้องได้ 1 เดือน"
ธวัชตกใจ! ทุกคนอ้าปากค้าง ธวัชดึงใบรับรองการตรวจครรภ์มาดูอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะนิ่งอึ้งไป
"กระดาษแค่ใบเดียวจะยืนยันอะไรได้"
ตะวันฉายชะงัก ดวงสุดาดึงใบรับรองการตรวจครรภ์จากธวัชมาขยำกระดาษแล้วปาใส่หน้าเธอ
"แกอาจจะสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาก็ได้ ใครจะไปรู้"
เธอไม่พอใจ วัลลภาอดแดกดันตะวันไม่ได้
"สงสัยว่าแกจะมีผัวไปทั่วจนล้นบ้านล้นเมืองเลยจำผิดจำถูก ผู้ชายอย่างธวัชน่ะเหรอจะใฝ่ต่ำคว้าแกมาเป็นเมีย"
ธวัชหน้าซีดเผือด พูดไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก
"ฉันขอยืนยันอีกครั้งว่าคุณธวัชเป็นพ่อของเด็กในท้องฉันจริงๆ"
ดวงสุดาปรี๊ด
"เป็นไปไม่ได้..ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ"
"นังตะวัน แกนี่มันหน้าด้านจริงๆ คิดจะแย่งผัวฉันไม่พอ ยังคิดจะแย่งผัวหลานฉันอีก ไสหัวไปให้พ้น อย่ามามั่วหาผัวไม่เลือกสถานที่ ผู้ชายแถวนี้ไม่มีใครเค้าอยากจะชายตาแลผู้หญิงโสโครกอย่างแกหรอก รู้ไว้ซะด้วย"
ดวงสุดาพูดเสริม
"แล้วผู้ชายอย่างวัชเค้าก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าอันไหนของดี อันไหนของเน่า !! ทำไม..เห็นเพศผู้แล้วต่อมแรดมันทำงาน หางสั่นระริกๆอยากจะเอาผสมพันธุ์ทำผัวทุกคนหรือยังไง"
"ถ้าแกร่านมากอยากจะมีผัวจนตัวสั่นนักล่ะก็ ฉันจะช่วยสงเคราะห์ ส่งผู้ชายไปจัดให้แกสักดอกสองดอกจะได้หายร่าน" วัลลภาบอก
"อย่าเอาเชื้อโรคร่านผู้ชายมาแพร่กระจายแถวนี้ และถ้าแกร่านมากอยากจะมีผัวทั่วราชอาณาจักรล่ะก็ ไปหาเอาที่อื่น ไสหัวออกไปจากงานฉัน อย่ามามั่วว่า วัชเป็นผัวแก"
เธอดึงแผ่นซีดีออกมาจากซอง
"ฉันมีหลักฐาน"
ทุกคนชะงัก นิคมรีบเอาซีดีไปเปิด ทันใดนั้นบนจอบาร์โกปรากฏภาพที่ธวัชกอดจูบตะวันฉายที่หน้าห้องพักในรีสอร์ต ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไปในห้อง ทุกคนฮือฮาตกใจ
ธวัชอึ้ง ! พูดไม่ออก ดวงสุดาช็อก !
"ไม่จริง... ไม่จริง"
ดวงสุดากรีดร้องออกมาอย่างรับไม่ได้ แล้วเป็นลมล้มพับไป
วัลลภากับสาลี่รีบเข้าประคองดวงสุดา วาทินกับดำรงก็ช็อกไม่แพ้กัน !!! นักข่าวรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปไม่ยั้ง
ดำรงกำหมัดแน่น เจ็บใจมาก วาทินตบกิ่งไม้อย่างกราดเกรี้ยวไม่พอใจ ก่อนจะเดินหนีไปอย่างรับไม่ได้ ธวัชรีบดึงตะวันออกไปที่มุมหนึ่ง จ้องตะวันฉายอย่างไม่พอใจ
"คุณทำอะไรลงไป คุณรู้ตัวไหมบ้างไหม..ตะวันฉาย"
"ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำไม่ถูกต้อง แล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้"
"แล้วคุณทำทำไม อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาประจานตัวเอง" เขาโพล่งออกมาอย่างเจ็บปวด "ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คุณปฏิเสธผมอย่างไม่มีเยื่อใย ความรักของผมไม่ได้มีความหมายสำหรับคุณเลย คุณเห็นผมเป็นอากาศธาตุด้วยซ้ำ"
"เพราะลูกของเราไงคะ ฉันยอมเป็นผู้หญิงหน้าด้าน เที่ยวแย่งสามีชาวบ้านเค้าในสายตาคนอื่น ยอมให้เค้าดูถูกประณามเหยียดหยาม ยอมเอาชื่อเสียงตัวเองมาให้เค้าเหยียบย่ำ ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อลูก"
ธวัชชะงัก ตะวันฉายน้ำตาคลอ มองธวัชอย่างเจ็บปวดสะเทือนใจ
"ฉันต้องการให้ลูกมีพ่อ ต้องการให้ลูกมีครอบครัวที่อบอุ่น" เธอน้ำเสียงสั่นเครือ "ฉันไม่อยากให้ลูกต้องเป็นกำพร้าเหมือนฉัน"
ธวัชนิ่ง เสียงอ่อน
"แต่คุณไม่ควรจะแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ สิ่งที่คุณทำมันกำลังจะทำร้ายทุกคน รวมทั้งตัวคุณเอง" ตะวันฉายนิ่ง เถียงไม่ออก "ทำไมคุณไม่บอกผมเรื่องลูกของเรา"
เธอเสียงอ่อน
"ฉันพยายามจะบอกคุณ แต่ไม่มีโอกาส"
ธวัชชะงัก นึกถึงตอนที่คุยกับตะวัน ณ ริมถนนหน้าสปา
"คุณธวัชคะ ฟังฉันก่อน เรื่องที่ฉันจะบอกคุณ มันสำคัญมากนะคะ"
แต่ธวัชขับรถออกไป
ธวัชถอนหายใจพรวดอย่างเจ็บใจตัวเองที่ไม่ยอมฟังตะวันฉายในวันนั้น
ซูซี่ มะปราง นิคมเข้ามา มะปรางกับนิคมจ้องธวัชกับตะวันอย่างอยากรู้
"ตะวัน..เรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่ ?"

ในห้องพัก วัลลภาเอายาดมจ่อจมูกดวงสุดาที่หมดสติ สาลี่ช่วยพัดให้ดวงสุดา ดำรง สายป่าน สุนทรีย์ยืนมองอย่างเป็นห่วง
"ไม่คิดเลยว่านายธวัชจะตกเป็นเหยื่อนังตะวันอีกคน"
"นังตะวันนี่มันร้ายจริงๆนะคะ ผู้ชายคนไหนๆก็พลาดท่าเสียทีให้มันหมด"
สายป่านนิ่งฟังอย่างผิดหวังในตัวตะวันฉาย
"เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกค่ะ จะไปโทษผู้หญิงฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก ถ้าตาวัชรู้จักยับยั้งชั่งใจ เรื่องวุ่นวายคงไม่เกิดขึ้น.. ตาวัชน่ะผิดเต็มประตู" สุนทรีย์บอก
วัลลภามองดำรง ตั้งใจแดกดัน
"ใช่... ผู้ชายมันก็มักมาก สำส่อนเหมือนกันหมด"
ดำรงไม่พอใจ
"นี่คุณ"
วัลลภาสวนทันที
"ทำไม..คุณกล้าปฏิเสธเหรอว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันพูด"
ดำรงจะด่าวัลลภา แต่อายสุนทรีย์จึงเดินหนีไปอย่างหัวเสีย วัลลภาสงสารดวงสุดา
"โธ่เอ้ย..หลานน้า กำลังจะมีความสุขแท้ๆ แต่กลับมีมารมาผจญ นังตะวัน.. นังปีศาจ..นังนางมารร้าย"
"ไม่รู้มันมาจากนรกขุมไหนนะคะ ถึงได้เที่ยวทำลายความสุขใครต่อใครเค้าไปทั่ว" สาลี่ว่า
วัลลภานิ่งไปอย่างเจ็บแค้น สายป่านพูดอะไรไม่ออก สุนทรีย์ได้แต่ถอนใจอย่างสะเทือนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

บริเวณลานจอดรถในงาน วาทินเตะรถตัวเองอย่างเจ็บใจ
"ที่ตะวันบอกเลิกฉันก็เพราะแก..ไอ้ธวัช"
วาทินขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเกรี้ยวกราด

ดำรงเดินหัวเสียเข้ามาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำอย่างเจ็บใจ
"นายธวัช...นายนี่เองที่ทำให้ตะวันปฏิเสธฉัน"
ดำรงกระแทกหมัดกับต้นไม้อย่างเจ็บใจ เพื่อนดำรง 2 คนเดินเข้ามา
เพื่อน 1ถาม
"ทำไมแกถึงปล่อยให้ลูกเขยคาบหนูตะวันไปกินหน้าตาเฉยอย่างงี้วะ"
เพื่อน 2 บอกกับเพื่อน 1
"ก็เพราะมันมัวแต่ใจเย็นเป็นน้ำยังไงล่ะ หนูตะวันถึงได้โดนลูกเขยมันสอยไปเชยชมซะก่อน"
ดำรงยิ่งฟังยิ่งเจ็บใจ ก่อนจะหันไปเห็นแขกกลุ่มหนึ่งที่กำลังจับกลุ่มนินทาตัวเองอยู่
แขก 1คุยกับแขก 2
"ตลกจังเลยเนาะเธอ คุณดำรงเทียวไล้เทียวขื่อแม่ตะวันฉายอยู่นานสองนาน ไปๆมาๆ ว่าที่นางบำเรอกลายเป็นเมียลูกเขยตัวเองซะงั้น"
แขก 2 ว่า
"ใช่... ไม่รู้พ่อตากับลูกเขยจะมองหน้ากันยังไง ฉันว่าต่อไปชีวิตคนบ้านนี้คงจะยุ่งเหยิงน่าดูเลยล่ะ"
แขกหัวเราะคิกคักกัน ดำรงอับอาย รีบเดินหนีไป

มุมหนึ่งในงาน ตะวันฉายนั่งคุยกับซูซี่และมะปราง มะปรางมองตะวันอย่างเห็นใจ
"มิน่า.. ตั้งแต่กลับจากถ่ายแบบที่เขาใหญ่ ตะวันถึงดูไม่มีความสุขเลย"
"ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนฉันไม่ทันตั้งตัว ตอนนั้นฉันเครียด ฉันสับสนจนไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเอง" เธอน้ำเสียงสั่นเครืออย่างสะเทือนใจ "จนเกือบจะทำแท้ง" มะปรางตกใจที่ได้ยินเธอพูดอย่างนั้น "ดีที่ฉันได้สติไม่ทำร้ายลูก ลูกทำให้ฉันเข้าใจความหมายของคำว่าครอบครัว สิ่งเดียวที่ฉันขาดหายมาตลอดชีวิต" ตะวันฉายพูดพลางลูบท้องไปมา
ซูซี่มองตะวันอย่างเห็นใจ แต่ก็อดตำหนิไม่ได้
"แต่เธอไม่ควรจะมาที่นี่นะตะวัน การที่เธอสุ่มสี่สุ่มห้าบุกมาประกาศตัวแบบนี้ เท่ากับฆ่าตัวเองชัดๆ แล้วยังจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงอีก รู้หรือเปล่า"
เธอหน้าเจื่อนอย่างรู้สึกละอายกับการกระทำของตัวเอง
"อย่าตำหนิตะวันเลยค่ะพี่ซูซี่ ตะวันคงไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ ถึงทำแบบนี้"
"ตะวันไม่ได้อยากจะทำแบบนี้ แต่ตะวันมองไม่เห็นทางอื่นจริงๆค่ะ"
ซูซี่ถอนใจอย่างเป็นกังวลแทนตะวันฉาย

ธวัชคุยกับนิคมอยู่ที่มุมหนึ่ง
"ที่แกมีอะไรกับคุณตะวัน เพราะอารมณ์ชั่ววูบใช่ไหมวะ"
ธวัชนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วบอก
"ฉันรักตะวันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ยิ่งไปติดป่าด้วยกัน ฉันก็ยิ่งมั่นใจความรู้สึกที่ฉันมีต่อเค้า"
ธวัชน้ำตาคลอ น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวด
"ฉันยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่เค้าปฏิเสธฉันอย่างไม่ใยดี เค้าเห็นความรักของฉันเป็นแค่อากาศ สิ่งที่เกิดขึ้นคืนนั้น สำหรับเค้า..มันคือความสนุกชั่วครั้ง ชั่วคราวเท่านั้น"
"นี่แกรักคุณตะวันขนาดนี้เลยเหรอ" ธวัชนิ่งไปอย่างขมขื่น เพื่อนถามต่อ "แล้วคุณดาล่ะ...แกแต่งงานกับคุณดาทำไม"
ธวัชอึกอัก ทันใดนั้นเสียงสุนทรีย์ดังเข้ามา
"อย่าบอกนะว่าวัชแต่งงานกับหนูดา ประชดแม่นางแบบตะวันฉาย"
ธวัชหันไปเห็นแม่ยืนอยู่กับน้องสาว
ธวัชตกใจ
"แม่...!"
สุนทรีย์จ้องหน้าลูกชายอย่างต้องการคำตอบ
"ว่ายังไง"
ธวัชชะงักหน้าเสีย ก่อนจะเงียบแทนคำตอบ ทุกคนมองธวัชอย่างนึกไม่ถึง
"ทำไมพี่วัชทำแบบนี้ พี่วัชไม่นึกถึงจิตใจพี่ดาบ้างเหรอ ว่าถ้าพี่ดารู้เรื่อง เค้าจะเจ็บปวดเสียใจมากแค่ไหน"
ธวัชนิ่งไปอย่างรู้สึกละอายกับการกระทำของตัวเอง สุนทรีย์จ้องธวัชอย่างไม่พอใจ
"ทำไมถึงทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ แม่สอนวัชเสมอว่าก่อนจะทำอะไรต้องใช้สติไตร่ตรอง อย่าใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา วัชรู้ไหมว่าการกระทำของวัช กำลังจะเป็นปมเชือกมัดตัวเองและทุกคนที่เกี่ยวข้อง"
"ผมขอโทษครับแม่ ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้"
"วัชเป็นคนผูกปม วัชก็ต้องแก้ด้วยตัวเอง"
"พี่วัชเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะตามมาให้ดีก็แล้วกัน"
ธวัชนิ่งไปอย่างกังวลใจ
"ตอนนี้วัชควรจะไปดูแลหนูดา เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของวัช"
สุนทรีย์เน้นย้ำอย่างต้องการเตือนสติลูกชาย ธวัชชะงักไปอย่างรู้สึกผิด

ดวงสุดาค่อยๆรู้สึกตัวฟื้น วัลลภากับสาลี่มองอย่างดีใจ
"คุณดาฟื้นแล้ว" สาลี่บอก
ดวงสุดางงๆ
"นี่ดาเป็นอะไรไปคะน้าวัล"
วัลลภาชะงักไม่รู้จะพูดยังไง ดวงสุดานิ่งไปครู่หนึ่งอย่างทบทวนความจำ ก่อนจะนึกขึ้นได้
ดวงสุดาสีหน้าเจ็บแค้น
"นังตะวันมันบุกเข้ามาบอกว่าวัชเป็นผัวมัน มันบอกว่ามันท้องกับวัช ไม่จริงใช่ไหมคะ ดาฝันไปใช่ไหมคะน้าวัล"
วัลลภาอึกอัก ไม่กล้าบอก กลัวดวงสุดาจะเป็นลมไปอีก
"คุณดาไม่ได้ฝันหรอกค่ะ มันคือเรื่องจริง นังตะวันมันตั้งใจจะแย่งคุณวัชไปจากคุณดาค่ะ" สาลี่บอก
"นังตะวัน"
ดวงสุดาผลุนผลันเดินออกไป
"ดาจะไปไหน...ดา..." วัลลภาบอกกับสาลี่ "แกจะยืนเซ่ออยู่ทำไม รีบตามยัยดาไปสิ"
"ค่ะๆ"
สาลี่รีบวิ่งตามดวงสุดาไป

ตะวันฉายยืนคุยกับมะปรางและซูซี่
"ตะวันรีบกลับคอนโดดีกว่า อยู่ไปก็มีแต่จะประจานตัวเอง พี่กับปรางจะไปส่ง"
"ค่ะ"
"เดี๋ยวปรางขอเข้าห้องน้ำแป็บนึงนะคะ"
มะปรางเดินออกไป ครู่หนึ่งมือถือซูซี่ดัง
"ตะวันรอตรงนี้นะ พี่ขอคุยธุระก่อน ... ฮัลโหล ว่าไง"
ซูซี่เดินคุยมือถือห่างออกไป ดวงสุดาเดินเข้ามา มองหาตะวันฉายอย่างร้อนใจ สาลี่วิ่งตามมา
"คุณดาจะไปไหนคะ"
ดวงสุดามองซ้ายขวา แล้วปรี่เข้าไปหาตะวันฉายทันที
"นังตะวัน ! แกตั้งใจจะแย่งผัวฉัน แกจะแย่งวัชไปจากฉัน"
"ฉันไม่ได้จะแย่งคุณธวัชไปจากคุณนะคะ ที่ฉันมาก็เพื่อเรียกร้องพ่อให้กับลูก ฉันแค่ต้องการให้คุณธวัชรับผิดชอบลูกในท้องของฉันเท่านั้น"
"ฉันไม่เชื่อว่าแกจะหวังแค่นั้น"
"ฉันไม่เคยคิดจะแย่งคุณธวัชไปจากคุณ ฉันแค่ต้องการให้ลูกมีพ่อ ต้องการให้ลูกมีครอบครัวที่สมบูรณ์อบอุ่น คุณน่าจะเห็นใจฉันบ้างนะคะ"
"อย่าเอาลูกมาอ้าง แล้วก็เลิกแต่งเรื่องโกหกเพื่อที่จะผูกมัดวัชไว้กับแกได้แล้ว"
"ฉันยินดีพิสูจน์ว่าฉันท้องกับคุณธวัชจริงๆ"
"ไม่ต้องมาพิสูจน์อะไรทั้งนั้น สิ่งที่แกต้องทำคือเลิกยุ่งกับวัช แกไม่ใช่ผู้หญิงที่วัชเลือก เพราะฉะนั้นอย่าล้ำเส้นเข้ามาในชีวิตฉันกับวัช"
"แต่ลูกของฉันต้องการพ่อ ต้องการครอบครัวที่อบอุ่น เห็นแก่เด็กตาดำๆที่กำลังจะเกิดมาเถอะนะคะ"
"ไม่ต้องมาหว่านล้อมฉัน ฉันไม่มีความเมตตาปราณีอะไรให้แกทั้งนั้น"
"ถ้าอย่างงั้น เรื่องนี้ให้คุณธวัชเป็นคนตัดสินใจดีกว่านะคะ"
"ตกลงแกจะแย่งวัชไปจากฉันให้ได้ใช่ไหม" ดวงสุดาฉายแววตาอำมหิตทันที "งั้นแกเตรียมตัวตายได้เลย"
ดวงสุดาหันมองสาลี่อย่างรู้กัน ก่อนจะจับตะวันฉายไพล่หลัง
เธอดิ้นขัดขืน
"ปล่อยฉันนะ จะทำอะไรฉัน"

ดวงสุดาจิกหัวตะวันฉาย แล้วลากเธอออกไป
 
อ่านต่อหน้า 2

นางกลางไฟ ตอนที่ 4 (ต่อ)

ดวงสุดาจิกหัวตะวันฉายเข้ามากลางงาน พร้อมกับสาลี่ ดวงสุดาเหวี่ยงตะวันฉายไปชนโต๊ะ แขกมองอย่างตกใจ

ดวงสุดาประกาศกับทุกคน
"ใครไม่เคยเห็นผู้หญิงหน้าด้าน เที่ยวไล่แย่งผัวชาวบ้านเค้า ก็รีบดูเอาไว้ซะ หน้าตามันเป็นแบบนี้"
ตะวันฉายเดือด เข้ามาประจันหน้ากับดวงสุดาอย่างเอาเรื่อง
"ฉันกับคุณธวัชมีอะไรกัน ก่อนที่คุณจะแต่งงานกับเค้า เพราะฉะนั้นฉันไม่ได้แย่งคุณธวัช"
ดวงสุดาสวนทันที
"ที่วัชหลงผิดมีอะไรกับแกเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ผู้ชายดีๆอย่างวัชไม่มีทางไปเกลือกกลั้วกับผู้หญิงสกปรกเน่าเฟะอย่างแกแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะแกให้ท่าเค้า"
"ผู้หญิงอย่างฉันไม่ตกต่ำถึงขนาดต้องให้ท่าผู้ชาย แล้วฉันก็มีศักดิ์ศรีพอ"
"ผู้หญิงที่มั่วผู้ชายไม่เลือกหน้า ขึ้นเตียงกับใครต่อใครมานับไม่ถ้วนอย่างแก สะกดคำว่าศักดิ์ศรีเป็นกับเค้าด้วยเหรอ ไสหัวแกออกไป อย่ามายุ่งกับผัวฉัน ฉันไม่แบ่งผัวให้แก"
"ยังไงคุณธวัชก็ต้องรับผิดชอบลูกในท้องฉัน"
ดวงสุดาเดือด ตบตะวันฉายหน้าหัน
"หน้าด้าน ไร้ยางอาย แกไม่มีสิทธิ์จะเอาวัชไปจากฉัน !" ดวงสุดาจิกหัวตะวัน "ตราบใดที่ฉันยังหายใจอยู่ แกจะไม่มีวันได้วัชไป และแกจะไม่มีวันได้อยู่บนโลกใบนี้อย่างสงบสุข"
ดวงสุดาเหวี่ยงเธอไปชนแท่นเค้กล้มครืนลง แล้วตามไปตบตะวันฉายแบบไม่ยั้ง พร้อมกดหน้าเธอลงกับเค้ก ตะวันฉายตบดวงสุดากลับ แล้วเอาเค้กโปะหัวดวงสุดา ทั้งสองตบกันอย่างชุลมุน
ซูซี่กับมะปรางวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
"ว๊าย ตะวัน"
ธวัชและคนอื่นๆวิ่งเข้ามาอย่างตกใจ นักข่าวกรูเข้ามาถ่ายรูป
ดำรงกับนิคมพยายามกันนักข่าวไม่ให้ถ่ายรูป ธวัชวิ่งไปดึงดวงสุดาออก ซูซี่กับมะปรางเข้าไปดูตะวันฉาย
"พอเถอะครับดา ตะวันกำลังท้องอยู่นะครับ"
ดวงสุดาตวาด
"นี่วัชปกป้องมันต่อหน้าดาเหรอ วัชเห็นมันสำคัญกว่าดาได้ยังไง"
"ดา..ผมขอร้อง แค่นี้ก็วุ่นวายมากพอแล้ว"
"ไม่... ดาจะไม่ยอมให้มันมาทำลายความรักของเรา มันไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง ถ้ามีดาก็ต้องไม่มีมัน ดากับมันต้องตายกันไปข้าง"
ดวงสุดาผลักธวัชออกแล้วพุ่งเข้าไปจิกหัวตะวันฉายอีก ตะวันฉายจิกหัวกลับอย่างไม่ยอมแพ้
ธวัชรีบแยกทั้งคู่ออกจากกัน
ธวัชบอกตะวันฉาย
"คุณไม่ควรจะหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเอง อีกอย่างคุณกำลังท้อง จะทำอะไรควรจะนึกถึงลูกบ้าง"
ดวงสุดาตวาดธวัช
"เป็นห่วงเป็นใยมันมากใช่ไหม งั้นก็ปกป้องมันให้ตลอดรอดฝั่งแล้วกัน"
ดวงสุดาโกยเค้กมาโปะหัวธวัช จนเขาเสียหลักเซไปชนโต๊ะล้มโครม ดวงสุดาปรี่ไปตบตะวันฉายเธอล้มลงกับพื้น ดวงสุดาขึ้นคร่อมแล้วตบเธอไม่ยั้ง
นิคมกับดำรงจะเข้าไปห้าม ดวงสุดาปาเค้กใส่ทั้งคู่จนเลอะไปหมด ดำรงกับนิคมลื่นเค้ก ล้มก้นจ้ำเบ้ากันระเนระนาด ธวัชเข้าไปห้าม
"ดา...พอได้แล้ว"
ดวงสุดาเอาเค้กโปะหน้าธวัชอีก เค้กเข้าตาธวัชจนแสบลืมตาไม่ขึ้น วัลลภากับสาลี่ยืนมองอย่างสะใจ
"นี่คุณ... ยืนนิ่งอยู่ทำไม ไปห้ามยัยดาสิ"
"เรื่องอะไร.. ปล่อยให้ยัยดาตบนังตะวันให้ตายคามือไปเลย ฉันจะได้หมด
เสี้ยนหนามไปด้วยยังไงล่ะ" วัลลภาหัวเราะอย่างสะใจ
ดำรงตวาดวัลลภา
"คุณมันบ้า บ้าไปแล้ว"
ดวงสุดาบีบคอตะวันฉาย ซูซี่กับมะปรางทนดูไม่ได้ เข้าไปช่วย ซูซี่ดึงดวงสุดาไว้
"หยุดทำร้ายตะวันได้แล้ว จิตใจเธอทำด้วยอะไร ถึงได้กล้าทำร้ายคนกำลังท้องไส้ได้ลงคอ เธอมันไม่ใช่คน"
ดวงสุดาโกรธถีบซูซี่จนกระเด็น ซูซี่ล้มหน้าทิ่มเค้ก
"สาระแนดีนัก ! นังกะเทยปากปลาร้า"
"คุณดวงสุดาคะ หยุดเถอะค่ะ อย่าทำให้เรื่องวุ่นวายมากกว่านี้เลยนะคะ"
ดวงสุดา ตบมะปรางอีกคนจนล้มกลิ้ง
"ไม่ใช่เรื่องของเธอ อย่าสอด"
ตะวันฉายโกรธ พุ่งเข้าไปหาดวงสุดา
"คุณทำร้ายฉัน ฉันทนได้ แต่ทำเพื่อนฉัน ฉันยอมไม่ได้ !"
เธอตบดวงสุดาจนหน้าหงาย แล้วตามไปตบซ้ำ
วัลลภาตกใจ
"ว๊าย !! ยัยดา.." วัลลภาบอกกับสาลี่ "รีบไปช่วยยัยดาสิ"
สาลี่ผลักตะวันฉายออก วัลลภาประคองดวงสุดาขึ้นมา ตะวันฉายกับดวงสุดาตั้งหลักได้ก็จะตบกันต่อ
สุนทรีย์รีบห้าม
"หยุดได้แล้ว ! แค่นี้ยังอับอายขายหน้าไม่พอหรือยังไง ถ้าไม่เห็นแก่หัวดำ ก็น่าจะเห็นแก่หัวหงอกอย่างฉันบ้าง"
ตะวันฉายกับดวงสุดาถึงกับนิ่งไป

ซูซี่กับมะปรางพาตะวันฉายในสภาพเยิน เลอะเทอะไปทั้งตัว เข้ามาที่รถของซูซี่
"วันนี้มันวันโลกาวินาศชัดๆ" ซูซี่เจ็บแผลที่โดนตบ "โอ๊ย ! ดีนะที่ฟันฉันไม่หักออกมาด้วย"
"ตะวันขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ซูซี่กับมะปรางต้องเดือดร้อนไปด้วย ทั้งหมดเป็นความผิดของตะวันเองค่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอกตะวัน.. ฉันกับพี่ซูซี่เจ็บน้อยกว่าเธอหลายเท่า เธอห่วงตัวเองดีกว่า ดูสิ..ช้ำไปทั้งตัว"
ซูซี่แค้น
"ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น รีบกลับกันเถอะ ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวกลับไปเอาคืน สักฉาดสองฉาด..ตะวันกลับรถพี่กับมะปรางนะ เดี๋ยวพี่จะขับรถตะวันกลับเอง"
ตะวันจะขึ้นรถ ทันใดนั้นธวัชเข้ามา
"ผมจะไปส่งคุณเอง"

ตะวันฉายเปิดประตูรถ พาธวัชเข้ามา
"ขอบคุณนะคะที่มาส่งฉัน"
"ผมว่าคุณรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วหายามาทาแผลดีกว่า" ตะวันฉายยิ้ม ดีใจที่ธวัชเป็นห่วง "อย่าเข้าใจว่าผมห่วงคุณ ผมห่วงลูก"
เธอหน้าเจื่อนนิดนึง
"ฉันดีใจนะคะที่คุณเป็นห่วงลูกของเรา"
ทันใดนั้น ธวัชอุ้มตะวัน
"คุณจะทำอะไรคะ"
"จะจับคุณอาบน้ำไง"
"ไม่ต้องค่ะ ฉันอาบเองได้"
เขาปล่อยเธอลง
"งั้นก็รีบอาบ ตัวคุณเหม็นจะแย่อยู่แล้ว"
ตะวันฉายมองสภาพตัวเองแล้วเถียงไม่ออก ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนู ทันใดนั้น เธอก็หน้ามืด เซจะล้ม ธวัชรีบเข้าไปประคอง เธอหมดสติไป
ธวัชตกใจ
"ตะวัน..คุณเป็นอะไร ตะวัน !"
ทันใดนั้น ซูซี่กับมะปรางเข้ามาเห็นตะวันฉายหมดสติในอ้อมแขนธวัชก็ตกใจ
"ตะวัน"

วัลลภาเช็ดเนื้อตัวให้ดวงสุดาที่สภาพเยินเลอะเทอะไม่แพ้ตะวัน
"สมน้ำหน้านังตะวัน อยากแส่หาเรื่องดีนัก"
"ป่านนี้มันคงนอนหยอดข้าวต้มไปแล้ว เสียดายที่มันไม่ตายคามือดา"
"นังนี่มันดวงแข็ง ไม่ตายง่ายๆหรอก อีกอย่าง คนชั่วช้าบาปหนาอย่างมัน คงต้องอยู่ใช้เวรใช้กรรมไปอีกนาน"
" แต่ถ้ามันยังยุ่งกับวัชไม่เลิก ดาจะส่งมันไปลงนรกด้วยมือของดาเอง"
สาลี่เข้ามา
"คุณดาขา..สาลี่หาจนทั่วแล้ว แต่เจอไม่คุณวัชเลยค่ะ"
"หรือว่าวัชจะไปส่งคุณแม่กับน้องป่านที่บ้าน"
"สงสัยนายธวัชจะไม่กล้าสู้หน้าดา เลยหาเหตุเลี่ยง"
ดวงสุดานิ่งไปอย่างไม่สบายใจ วัลลภาเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
"น้าว่าดารีบกลับบ้านดีกว่า ถ้าใครมาเห็นสภาพดาตอนนี้ ไม่ดีแน่ๆ"

ตะวันที่เปลี่ยนชุดแล้วนอนหลับอยู่บนเตียง มะปรางเช็ดตัวให้เพื่อน ธวัชกับซูซี่มองตะวันอย่างเป็นห่วง
"ตะวันคงจะอ่อนเพลียมากนะคะ"
"ก็โดนตบตีจนเยินไปทั้งตัวซะขนาดนั้น"
ธวัชรู้สึกผิด
"ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเองครับ ถ้าคืนนั้น ผมมีสติพอ หักห้ามใจตัวเองได้ เรื่องวุ่นวายเหล่านี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น"
"อย่าเสียเวลาโทษตัวเองเลยค่ะ เอาเวลามาคิดหาทางแก้ปัญหาจะดีกว่า"
ธวัชนิ่งไปอย่างยอมรับ
"พี่ซูซี่กับคุณมะปรางกลับไปพักผ่อนเถอะครับ ผมจะดูแลตะวันเอง"
"แปลก..ไม่รู้เมียใจยักษ์ใจมารมันปล่อยคุณมาได้ยังไง หรือว่าจะถูกล่ามโซ่ขังไว้ในกรง เลยออกฤทธิ์ออกเดชไม่ได้"
มะปรางปราม
"พี่ซูซี่... ยังไงขอบคุณคุณธวัชมากนะคะที่ช่วยดูแลตะวัน"
มะปรางยิ้มให้ธวัช แล้วรีบดึงซูซี่ออกไป

ดวงสุดาคุยกับสายป่านและสุนทรีย์
"พี่วัชไม่ได้มาส่งป่านกับแม่นะคะพี่ดา"
"วัชไม่ได้มาที่นี่ แล้ววัชหายไปไหน"
"หนูดาโทร.หาตาวัชรึยัง"
"โทร.แล้วค่ะ แต่วัชไม่รับสายเลย"
"พี่ดาลองโทร.หาพี่คมสิคะ เผื่อพี่วัชจะอยู่กับพี่คม"
"จริงสิ... " ดวงสุดาโทร.หา " คุณคมคะ...ดาเองค่ะ ตอนนี้วัชอยู่กับคุณคมรึเปล่าคะ ไม่อยู่เหรอคะ งั้นแค่นี้นะคะ...วัชคงจะไม่กล้าสู้หน้าดา ถึงได้หลบหน้าดาอย่างงี้"
ดวงสุดาสีหน้าเจ็บแค้นตะวันขึ้นมา
"เพราะนังตะวันคนเดียว มันทำลายความสุขของดากับวัช แล้วนี่ดาจะไปตามหาวัชที่ไหนนะ"
"ใจเย็นๆนะหนูดา ตาวัชคงจะเครียดจนไม่อยากเจอใคร ถ้าตาวัชรู้สึกดีขึ้นแล้ว ตาวัชก็กลับมาเองล่ะจ๊ะ" สุนทรีย์บอก

ธวัชจับมือตะวันที่หลับอยู่บนเตียงอย่างห่วงใย ขณะที่ดวงสุดายืนชะเง้อรอธวัชอย่างกระวนกระวายใจ สาลี่ยืนอยู่ด้วย
"ใจคอวัชจะหลบหน้าฉันไปถึงไหน ดึกดื่นป่านนี้แล้วยังไม่กลับบ้านอีก"
ดวงสุดาหยิบมือถือมาโทรหาธวัช มือถือธวัชดัง ตะวันฉายรู้สึกตัวตื่น ธวัชควักมือถือมาเห็นหน้าจอเป็นเบอร์ดวงสุดา เขาถอนใจอย่างเบื่อๆก่อนจะกดตัดสาย ดวงสุดาชะงักไม่พอใจ
"วัชกล้าตัดสายฉันได้ยังไง"
" ขอโทษที่ทำให้ตื่น คุณพักผ่อนต่อเถอะ"
ธวัชจะเดินออกไป
"เดี๋ยวค่ะ" ธวัชชะงัก
สาลี่บอกกับดวงสุดา
"ส่วนใหญ่ผู้ชายที่ไม่รับโทรศัพท์เมียตัวเอง มักจะอยู่กับผู้หญิงอื่น หรือว่าคุณวัชจะอยู่กับนังตะวันคะ ใช่..ต้องใช่แน่ๆค่ะ" ดวงสุดาชะงัก คิดตาม "มันคงจะออดอ้อนออเซาะคุณวัชน่าดู คุณวัชถึงไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องอย่างงี้ไงคะ"
ดวงสุดาโกรธจนมือไม้สั่น
"แทนที่จะเข้าห้องหอกับฉัน แต่วัชกลับไปอยู่กับนังตะวัน งั้นเหรอ"
"ชัวร์ค่ะ.. สาลี่คอนเฟิร์ม"
ดวงสุดาเจ็บปวดระคนเจ็บใจจนปากคอสั่นเทา กรีดร้องดังลั่น ก่อนจะเป็นลมล้มพับไป
สาลี่ตกใจ รีบไปดูดวงสุดา
"คุณดา..คุณดาเป็นอะไรคะ ช่วยด้วยค๊า ช่วยด้วย ..!" สาลี่ตะโกนเสียงดัง
วัลลภากับดำรงเข้ามา เห็นดวงสุดาหมดสติก็ตกใจ
"ยัยดา"
ดำรงถามสาลี่
"ยัยดาเป็นอะไร"
สาลี่อึกอักไม่กล้าบอก วัลลภาตะคอก
"แกจะรอให้ยัยดาตายก่อนรึไง ไปเรียกรถพยาบาลเร็วสิ"

ภายในห้องรับแขกของคอนโดฯ เธอคุยกับธวัช
"เรื่องลูกของเรา..คุณจะทำยังไงคะ"
"ยังไงผมก็ไม่ใจจืดใจดำทิ้งขว้างคุณกับลูกแน่ คุณสบายใจได้"
ตะวันฉายยิ้มดีใจ
"ขอบคุณนะคะที่เมตตาฉันกับลูก"
ธวัชประชดในที
"ผมจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ...เพื่อลูก"
ตะวันฉายชะงักไป ทันใดนั้นมือถือธวัชดัง ธวัชทำหน้าเบื่อหน่าย นึกว่าดวงสุดาโทรมาอีก แต่พอเห็นเบอร์แม่ก็รีบรับสาย
"ครับแม่... อะไรนะครับ !! ครับ... ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
"มีอะไรเหรอคะ"
"ดาช็อก... ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล"
ตะวันฉายชะงัก
"เพราะฉันสินะ คุณดวงสุดาถึงได้เป็นแบบนี้" ธวัชนิ่งไป "คุณรีบไปดูคุณดวงสุดาเถอะค่ะ"
ธวัชรีบออกไป ตะวันพึมพำอย่างรู้สึกผิด
"ฉันไม่ได้อยากจะทำร้ายใคร ฉันไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้"

หน้าห้องฉุกเฉิน ในโรงพยาบาล เวลากลางคืน ดำรงกับวัลลภามองเข้าไปอย่างเป็นห่วงดวงสุดา สายป่านกับสุนทรีย์ตามเข้ามา
สุนทรีย์ถาม
"หนูดาเป็นยังไงบ้างคะ"
"อยู่ในห้องฉุกเฉิน ยังไม่ออกมาเลย"
"แล้วพี่ดาช็อกได้ยังไงคะ"
"ก็พี่ชายตัวดีของเธอน่ะสิ วิ่งโร่ไปกกกอดนังตะวัน ทั้งๆที่ควรจะเข้าห้องหอกับยัยดา ยัยดาถึงได้ช็อกตาตั้งอย่างงี้ไงล่ะ"
ดำรงมองวัลลภาเคืองๆ สุนทรีย์ชะงัก ไม่พอใจธวัช ทันใดนั้น ธวัชเข้ามา วัลลภาจ้องธวัชอย่างไม่พอใจ
"ดาเป็นยังไงบ้างครับ"
วัลลภาจิกกัดธวัชทันที
"คงจะกกกอดพรอดรักกับนังตะวันหนำใจแล้วสินะ ถึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีเมียอีกคนรออยู่" ธวัชชะงักหน้าเจื่อน "ยัยดาไม่ยอมตายง่ายๆหรอกตราบใดที่ยังมีนังตะวันเป็นมารหัวใจอยู่อย่างงี้"
ทันใดนั้นหมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน ทุกคนรีบกรูไปหาหมอ
"คุณหมอครับ ลูกสาวผมปลอดภัยไหมครับ"
"คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ"

หมอกับพยาบาลตรวจร่างกายดวงสุดาที่หลับอยู่บนเตียงในห้องพักฟื้น ทุกคนมองดวงสุดาอย่างเป็นห่วง
" คนไข้เครียดมาก เลยทำให้ร่างกายอ่อนเพลียไปด้วย หมอฉีดยาและให้น้ำเกลือแล้ว อย่าพยายามทำให้คนไข้เครียดนะครับ ไม่อย่างงั้นอาการจะกำเริบขึ้นมาอีก"
"ครับ ขอบคุณครับคุณหมอ"
หมอกับพยาบาลออกไป
"แม่ไม่คิดเลยว่าวัชจะกล้าหักหาญน้ำใจหนูดาขนาดนี้ วัชรู้ไหมว่า หนูดาทั้งพยายามโทร.หาวัช ทั้งไปตามหาวัชที่บ้านกับแม่ แต่ที่ไหนได้" สุนทรีย์ว่า
" ผมขอโทษครับที่ทำให้ดาต้องเป็นแบบนี้" ธวัชบอกทุกคน
"เก็บคำขอโทษของนายไว้อธิบายกับยัยดาจะดีกว่า" ดำรงบอก
ธวัชนิ่งไปอย่างยอมรับ
"เดี๋ยวผมจะอยู่เฝ้าดาเองครับ"
"มันก็ต้องเป็นอย่างงั้นอยู่แล้ว นายทำอะไรไว้ นายก็ต้องรับผิดชอบ ดูแลยัยดาให้ดีล่ะ อย่าทำอะไรให้ยัยดาเสียใจอีก เพราะถ้านายทำแบบนั้นอีกล่ะก็ ฉันจะถือว่านายอกตัญญูกับครอบครัวของฉัน"
ธวัชอึ้ง พูดไม่ออก
"ถ้ายัยดาเป็นอะไรขึ้นมาอีกเพราะนาย ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่"
ดำรงกับวัลลภาจ้องธวัชอย่างโกรธเคืองแล้วออกไป ธวัชมองสุนทรีย์ ก็เจอกับสายตาตำหนิ
"หนูดาต้องมารับเคราะห์เพราะวัช ทั้งๆที่หนูดาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย อย่าทำให้ผู้หญิงบริสุทธิ์ๆอย่างหนูดาต้องมาแปดเปื้อนด่างพร้อย เพราะความมักง่ายและเห็นแก่ตัวของวัชอีก แล้วถ้าวัชไม่อยากถูกใครดูถูกว่าเป็นคนอกตัญญูล่ะก็ วัชก็ต้องว่าควรจะปฏิบัติตัวต่อหนูดา ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องของวัชยังไง"
สุนทรีย์พูดจบก็ออกไปกับสายป่าน ธวัชมองดวงสุดาอย่างรู้สึกผิด

"ผมขอโทษ ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้"
 
อ่านต่อหน้า 3

นางกลางไฟ ตอนที่ 4 (ต่อ)

เช้าวันใหม่ บนแผงหนังสือ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวที่ตะวันฉายตบตีกับดวงสุดาอย่าง

คึกโครม !!! พาดหัวข่าว “..สุดฉาว ! นางแบบชื่อดัง ตบแย่งสามีชาวบ้านกลางงานแต่ง..”
แฟนคลับของตะวันอ่านข่าวแล้วช็อกตามกัน !!!
ในคอนโดฯ ซูซี่โยนหนังสือพิมพ์หลายฉบับลงบนโต๊ะ ตะวันฉายมองนิ่งๆท่าทางไม่ทุกข์ร้อนเพราะทำใจไว้แล้ว ขณะที่มะปรางกับซูซี่หน้าเครียด
"ชื่อเสียงของเธอป่นปี้ไม่มีชิ้นดีเลย"
ตะวันอึ้ง พูดไม่ออก ทันใดนั้นโทรศัพท์ตั้งโต๊ะดังขึ้น ตะวันจะเดินไปรับโทรศัพท์
ซูซี่รีบห้าม
"ตะวันห้ามรับนะ คนที่โทร.มาตอนนี้มันต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ"
"อย่าเสี่ยงเลยนะตะวัน"
"คงไม่มีอะไรแย่กว่านี้อีกแล้วล่ะ" ตะวันรับโทรศัพท์ "ฮัลโหล... มีคนมาขอพบฉันเหรอ"

โถงชั้นล่างคอนโดฯ ตะวัน ซูซี่ มะปรางยืนคุยกับสายป่าน
"พี่ก็นึกว่าใคร.. ที่แท้ป่านนี่เอง"
"ป่านคงมาให้กำลังใจเธอน่ะ" มะปรางว่า
สายป่านมองตะวันนิ่งๆ
"ที่ฉันมาเพื่อจะบอกคุณว่า..ฉันขอถอนตัวออกจากการเป็นแฟนคลับของคุณ..!" ตะวันชะงักตกใจ "คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก พี่ชายฉันกำลังจะมีความสุขกับผู้หญิงที่เค้ารัก แต่คุณกลับเข้ามาทำลายความสุขของเค้า คุณกำลังจะทำให้ครอบครัวพี่ชายฉันแตกแยก"
"ป่านกำลังเข้าใจพี่ผิดนะ พี่ไม่ได้..."
สายป่านรีบแทรกทันที
"อย่าเสียเวลาเลย การกระทำของคุณมันอธิบายทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว คุณทำให้ฉันหมดศรัทธาในตัวคุณ ฉันคงจะรัก คงจะสนับสนุนคนที่ทำลายครอบครัวพี่ชายฉันไม่ได้อีกต่อไป"
ตะวันฉายเจ็บจนพูดไม่ออก "ป่าน"
"ถ้าคุณยังพอมีศีลธรรมอยู่บ้างล่ะก็ เลิกยุ่งกับพี่ชายฉันซะ อย่าลากพี่ชายฉันไปลงนรกด้วย ผู้หญิงสวยๆอย่างคุณ คงจะหาผู้ชายมาแทนที่พี่วัชได้ไม่ยาก"
ตะวันฉายอึ้ง พูดอะไรไม่ออก
ทันใดนั้น แฟนคลับกลุ่มหนึ่ง ก็กรูกันเข้ามาด่าทอเธอ
"นังผู้หญิงไร้ยางอาย แย่งผัวชาวบ้านเค้าหน้าด้านๆ !"
"เสียแรงที่รักที่สนับสนุน.. ที่แท้เธอก็เลวอย่างที่เค้าว่า !"
"พอกันที..จากนี้ไปอย่าหวังเลยว่าพวกเราจะยกย่องเทิดทูนเธออีก"
"ใช่..! นังแม่มด นังหน้าด้าน"
แฟนคลับต่างก่นด่าตะวันฉายกันระงม เธอน้ำตาร่วงอย่างเจ็บปวด อับอาย
ซูซี่มองสายป่านอย่างไม่พอใจ
"นี่เธอพาแฟนคลับมาด่าตะวันเหรอ"
"ฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น แต่มันก็สมควรแล้วนี่"
สายป่านมองตะวันอย่างเยาะหยัน ก่อนจะออกไป
มะปรางบอกกับซูซี่
"รีบพาตะวันขึ้นห้องเถอะค่ะ"
ซูซี่กับมะปรางรีบพาตะวันฉายแหวกวงล้อมแฟนคลับออกไป เหล่าแฟนคลับพากันตะโกนด่าไล่หลัง

ตะวันฉายร้องไห้สะอึกสะอื้น ซูซี่กับมะปรางมองอย่างสงสารและเห็นใจ
"ไม่นึกเลยว่าจะโดนเหยียบซ้ำถึงขนาดนี้ จากรักก็กลายเป็นเกลียด ไม่เหลือแม้กระทั่งความเข้าใจ" ซูซี่ว่า
"ทุกคนเกลียดตะวันกันหมด ตะวันไม่หลงเหลือความดีอะไรอีกแล้ว"
มะปรางลูบไหล่ตะวันฉาย
"อย่าไปแคร์คนอื่นเลยนะตะวัน แค่เรารู้ว่าเราเป็นยังไงก็พอ"
"ใช่..คนอื่นจะด่า จะว่ายังไงก็ช่างหัวมัน อย่าไปใส่ใจ เพราะคนพวกนั้นเค้าไม่รู้หรอกว่าความจริงเป็นยังไง"
ซูซี่กับมะปรางบีบมือปลอบใจตะวันฉาย

ภายในห้องพักฟื้น ดวงสุดาหลับอยู่บนเตียง ธวัชฟุบหลับอยู่ข้างๆ ดวงสุดารู้สึกตัวตื่น มองธวัชนิ่งๆ เมื่อธวัชรู้ตัวตื่น เห็นดวงสุดาฟื้นก็ยิ้มดีใจ
"ดา... คอแห้งไหมครับ เดี๋ยวผมจะรินน้ำให้"
ดวงสุดาเสียงแข็ง
"เมื่อคืนวัชไปอยู่กับนังตะวันใช่ไหม"
ธวัชอึกอักพูดไม่ออก ดวงสุดาปรี๊ดแตก ตีธวัชไม่ยั้ง พลางร้องไห้
"วัชหนีไปอยู่กับนังตะวัน ไม่ยอมเข้าห้องหอกับดา...วัชไม่ให้เกียรติดา ไม่ซื่อสัตย์กับดา วัชทำอย่างนี้กับดาได้ยังไง"
"ดาฟังผมก่อน"
"ไม่ฟัง..ไม่ต้องมาแก้ตัว วัชเคยสัญญาว่าจะไม่ทำให้ดาเสียใจ แต่ตอนนี้วัชผิดคำสัญญา..คำสัญญามันไม่มีความหมายอะไรเลยใช่ไหม..!! วัชทำร้ายจิตใจดา เหยียบย่ำทำลายหัวใจดา วัชรู้บ้างไหมว่าดาเจ็บปวดเสียใจแค่ไหน.. คนทรยศ คนหลอกลวง คนเห็นแก่ตัว"
ดำรงกับวัลลภาเปิดประตูเข้ามา พร้อมสาลี่ที่ถือกระเช้าเยี่ยมไข้และถุงของต่างๆ
ทุกคนตกใจที่ดวงสุดาอาละวาด ดำรงกับวัลลภารีบดึงดวงสุดาออก
"ดา.. ใจเย็นๆลูก"
ดวงสุดาซบวัลลภา ร้องไห้โฮ
" เกิดอะไรขึ้น ออกไปคุยกับฉัน"
ดำรงเดินออกไป สีหน้าไม่พอใจ

มุมหนึ่งในโรงพยาบาล ดำรงยืนหันหลังให้ธวัช
"นายรู้ใช่ไหมว่าฉันคิดยังไงกับตะวัน"
ธวัชไม่พอใจ รู้สึกหึงหวงตะวันฉายขึ้นมา แต่พยายามข่มอารมณ์
"ครับ"
ดำรงหันหน้ามา
"งั้นก็เลิกยุ่งกับตะวันซะ ถ้าไม่อยากมีปัญหากับฉัน"
ธวัชชะงัก
"ผมนึกว่าคุณจะเรียกผมว่าต่อว่า เพื่อที่จะปกป้องดาซะอีก"
ดำรงตะคอก
"นายไม่มีสิทธิ์มาตำหนิฉัน การที่ฉันให้นายเลิกยุ่งกับตะวัน ก็เท่ากับฉันปกป้องยัยดาเหมือนกัน เลิกยุ่งเกี่ยวกับตะวัน แล้วทำหน้าที่สามีที่ดีให้กับยัยดา"
"แต่ตะวันท้องกับผมนะครับ"
"ฉันยินดีจะดูแลตะวันกับลูก แทนนาย..."
"ผม"
"นายต้องทำตามที่ฉันสั่งอย่างไม่มีเงื่อนไข อย่าลืมว่าครอบครัวฉันมีบุญคุณกับครอบครัวนายมากแค่ไหน"
"ทำไมต้องบีบบังคับผมด้วยวิธีนี้ด้วยครับ"
"ฉันหาทางออกให้นายต่างหาก วิธีนี้ดีที่สุดแล้ว หวังว่านายจะไม่อกตัญญูต่อครอบครัวฉัน"
ดำรงเน้นย้ำอย่างจริงจัง ธวัชพูดไม่ออก ได้แต่ถอนใจอย่างขมขื่น

ดวงสุดาร้องไห้สะอึกสะอื้น วัลลภากับสาลี่มองอย่างสงสาร
"ดาทำผิดอะไรคะ ทำไมดาต้องเจอกับเรื่องบ้าๆแบบนี้ด้วย"
วัลลภาลูบหัวดวงสุดา
"ดาไม่ผิดอะไรเลย คนที่ผิดคือนังตะวันต่างหาก"
"ทำไมนังตะวันต้องเข้ามาเป็นมารหัวใจดาด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ชีวิตดาก็ไม่เป็นแบบนี้ ดาอยากจะฆ่ามันนัก"
วัลลภาเช็ดน้ำตาดวงสุดา
"ดาใจเย็นๆลูก เลิกร้องไห้ แล้วก็ตั้งใจฟังข่าวดีจากน้านะ"
ดวงสุดางงๆ วัลลภาหันมองสาลี่ สาลี่รีบหยิบหนังสือพิมพ์จากถุง ยื่นให้ดวงสุดาอย่างรู้งาน
"ข่าวนี้น่าจะทำให้ดาอารมณ์ดีขึ้น"
ดวงสุดาดึงหนังสือพิมพ์มาอ่าน เห็นภาพที่ตะวันตบกับดวงสุดาลงหน้าหนึ่ง พาดหัวข่าวว่า
“..ช็อควงการ ! นางแบบดังตะวันฉาย ก่อเรื่องอื้อฉาว อุ้มท้อง 1 เดือน บุกงานแต่ง ตบแย่ง
สามีชาวบ้าน..”
สาลี่อ่านเสียงดัง ดวงสุดายิ้มสะใจ
"ในที่สุด.. นังตะวันก็ตกเป็นจำเลยสังคม สะใจจริงๆ"
"คราวนี้อนาคตของนังตะวันได้ดับอนาถแน่ค่ะ"
"ใครต่อใครจะต้องพากันประณามหยามเหยียดนังตะวัน แล้วมันก็จะไม่มีแม้แต่ที่จะยืนในสังคมนี้อีกต่อไป"
"ดาไม่รอให้สังคมลงโทษมันหรอกค่ะ ดานี่แหล่ะจะถีบมันออกจากวงการเอง"
ดวงสุดายิ้มร้าย

ภายในสวนบ้านดวงสุดา วาทินยืนหน้านิ่ง ธวัชที่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วเดินเข้ามา
"คุณวาทินจะไปเยี่ยมดาพร้อมผมเหรอครับ"
วาทินไม่พูดอะไร ต่อยหน้าธวัชหมัดใหญ่
ธวัชตกใจ
"คุณวาทินต่อยผมเรื่องอะไรครับ"
วาทินชี้หน้าธวัช
"นายมายุ่งกับเมียฉันทำไม"
"คุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ"
"ตะวันเป็นเมียฉัน" ธวัชชะงักตกใจ "ฉันกับตะวันคบกันมานานแล้ว"
ธวัชอึ้ง
"ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้"
"งั้นก็จำใส่สมองนายไว้ซะ ฉันเข้าออกคอนโดตะวันทุกวันในฐานะผัว คนที่นั่นก็เห็น.. พี่ซูซี่กับคุณมะปรางก็รู้..."
ธวัชอึ้งหนัก ! แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
"เลิกยุ่งกับตะวัน เมียฉัน.. ไม่อย่างงั้นนายจะเดือดร้อน"
วาทินจ้องธวัชอย่างเอาจริง แล้วจะเดินออกไป ธวัชตั้งสติได้ รีบเรียกวาทินไว้
"เดี๋ยวครับ.." วาทินชะงัก "คุณจะให้ผมเลิกยุ่งกับตะวัน ทั้งๆที่เด็กในท้องของตะวันเป็นลูกของผม ยังงั้นเหรอครับ"
"ฉันไม่สน ตราบใดที่ฉันยังต้องการตะวัน ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เอาตะวันไปจากฉันทั้งนั้น และหวังว่านายคงไม่คิดที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉัน"
วาทินเน้นย้ำอย่างจริงจังแล้วเดินออกไป ธวัชถอนใจอย่างขื่นขม

ภายในห้องพักฟื้น วัลลภานั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักข่าว
"ขอบใจน้องๆทุกคนมากนะคะที่อุตส่าห์สละเวลามาทำข่าวในวันนี้"
นักข่าว 1 ถาม
"ไม่ทราบว่าเรื่องที่คุณดวงสุดาจะแถลงเนี่ย เกี่ยวข้องกับตะวันฉายไหมคะ แล้วคุณดวงสุดาเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมถึงต้องเข้าโรงพยาบาล"
"เรื่องนี้ให้หลานสาวฉันเป็นคนตอบจะดีกว่านะคะ"
นักข่าว 2 บอก
"เมื่อไหร่คุณดวงสุดาจะมาครับ นี่พวกเราก็รอนานแล้วนะครับ"
เสียงสาลี่เข้ามา
"คุณดามาแล้วค่ะ"
สาลี่ประคองดวงสุดาออกมาจากห้องน้ำ มานั่งข้างวัลลภา ตรงหน้านักข่าว ดวงสุดาใบหน้าซีดเซียว ปากแตก โหนกแก้มแตก เนื้อตัวมีรอยฟกช้ำ
นักข่าวไม่รอช้า ยิงคำถามพร้อมถ่ายรูปทันที
นักข่าว 2 ถาม
"ทำไมคุณดวงสุดาถึงมีบาดแผลเต็มตัวไปหมดอย่างงี้ล่ะครับ"
ดวงสุดาทำเป็นพูดไม่ออก แสร้งบีบน้ำตา ซบวัลลภาร้องไห้กระซิกๆ
นักข่าว 1 ถาม
"ว่ายังไงคะคุณดวงสุดา ตกลงเกิดเรื่องอะไรกันแน่คะ"
ดวงสุดาทำเป็นไม่พูดอีก เอาแต่ร้องไห้โฮ
"โถ..หลานน้า ... ยัยดาคงจะเจ็บปวดสะเทือนใจจนพูดไม่ออกน่ะค่ะ ขอเวลาให้ยัยดาทำใจสักครู่นะคะ" วัลลภาทำเป็นปลอบดวงสุดา "น้ารู้ว่าดาเสียใจ แต่ดาต้องเข้มแข็งแล้วก็ตั้งสติให้ดี ทุกคนกำลังรอฟังความจริงจากดาอยู่นะ"
ดวงสุดาเช็ดน้ำตา ทำเป็นตั้งสติ แล้วบอกนักข่าว
"แผลที่ทุกคนเห็นนี่ เกิดจากที่ฉันถูกทำร้ายตบตีค่ะ"
นักข่าว 1ถาม
"ใครทำร้ายตบตีคุณดวงสุดาเหรอคะ"
"ตะวันฉายค่ะ..." นักข่าวตกใจ "ฉันขอเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดนะคะ เมื่อคืนตะวันฉายกักตัวธวัชไว้ ไม่ให้มาเข้าห้องหอกับฉัน ฉันโดนฉกสามีในคืนเข้าห้องหอค่ะ"
นักข่าวฮือฮาสนใจ
"ตะวันฉายแย่งสามีฉันไปนอนกกกอดไม่พอ ยังโทร.มาเยาะเย้ยถากถางฉัน บอกว่าฉันเป็นอีเมียหลวงหน้าโง่ ฉันก็แค่นอนกอดทะเบียนสมรสไร้ค่าแผ่นหนึ่ง แต่เค้าได้นอนกอดธวัชตัวเป็นๆทั้งคืน..แล้วยังบอกอีกว่า อย่างมากฉันก็เป็นได้แค่เมียในทะเบียนสมรส ไม่มีทางได้ครอบครองตัวและหัวใจธวัชเหมือนอย่างเค้า"
ดวงสุดาทำเป็นร้องไห้สะอึกสะอื้นน่าสงสาร สาลี่รีบเสริมกับนักข่าว
"คุณดาเสียใจมากจนช็อกหมดสติ เลยต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ"
"น้าวัลโทร.บอกให้ธวัชมาดูอาการฉันที่โรงพยาบาล พอตะวันฉายรู้เรื่อง เค้าก็บุก
มาด่าทอฉัน หาว่าฉันมารยาสาไถ แกล้งป่วยเรียกร้องความสนใจจากธวัช แค่นั้นไม่พอ เค้ายังทำร้ายตบตีฉันด้วย"
วัลลภาเสริม
"ตะวันฉายตบตียัยดาอย่างไม่ปราณีปราศรัย กะจะเอาให้ตายคามือ.. ดูสิคะหลานสาวฉันบาดแผลเต็มตัว ฟกช้ำดำเขียวไปหมด"
"นี่ดีนะคะที่คุณดารอดมาได้น่ะค่ะ" สาลี่ว่า
"ตะวันฉายทำร้ายฉัน ทั้งๆที่ฉันไม่มีทางสู้ ฉันพยายามอ้อนวอนขอความเห็นใจ แต่เค้าไม่สน เค้าบังคับจะให้ฉันเลิกกับธวัชให้ได้ แล้วยังขู่จะเอาชีวิตฉันด้วย"
"เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ที่จริง..ยัยดาไม่ได้อยากจะออกมาแถลงข่าวหรอกนะคะ แต่ฉันรับไม่ได้ที่ตะวันฉายทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจหลานสาวฉันอย่างอุกอาจและไร้มนุษยธรรม ฉันจึงอยากจะให้สังคมรับรู้ค่ะ" วัลลภาบอก
พวกนักข่าวต่างซุบซิบกัน
นักข่าว 1บอก
"นังนางแบบคนนี้มันร้ายกาจจริงๆปแย่งผัวเค้าหน้าด้านๆไม่พอ ยังจะอันธพาลทำร้ายตบตีเค้าอีก"

ดวงสุดา วัลลภาและสาลี่ได้ยินนักข่าวซุบซิบกัน ทั้งหมดยิ้มสะใจ
 
อ่านต่อหน้า 4

นางกลางไฟ ตอนที่ 4 (ต่อ)

ภายในคอนโดฯ

"ตะวันห้ามออกไปไหนนะ ไม่อย่างนั้นได้โดนนักข่าวรุมกินโต๊ะแน่" ซูซี่บอก
"ตะวันคงจะทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอรับผลที่จะเกิดขึ้นใช่ไหมคะ"
ซูซี่ได้แต่ถอนใจ พูดอะไรไม่ออก มะปรางจับมือปลอบใจ
"ตะวันต้องเข้มแข็งไว้นะ"
ซูซี่ยกมือสาธุ
"สาธุ..ขออย่าได้เกิดเรื่องอะไรที่มันร้ายแรงกว่านี้อีกเลย"
ทันใดนั้นมือถือซูซี่ดัง ซูซี่รีบกดรับ
"มีอะไรนังแพนเค้ก ห๊า..!!! เออๆ..ขอบใจนะแก"
"มีอะไรเหรอคะพี่ซูซี่"
ซูซี่ไม่ตอบมะปราง รีบกดรีโมทเปิดทีวี แล้วเห็นภาพที่ดวงสุดาแถลงข่าว ทุกคนตกใจ !
ทางเดินในโรงพยาบาล ธวัชถือถุงผลไม้เข้ามา ทันใดนั้น ธวัชเห็นกลุ่มคนยืนดูทีวีภาพที่ดวงสุดาแถลงข่าว ธวัชตกใจ !!!
ตะวันฉาย ซูซี่ มะปรางต่างดูข่าวอย่างไม่พอใจ
"นังดวงสุดา..นังหน้าด้าน นังตอแหล มันกล้าแต่งเรื่องใส่ร้ายตะวันอย่างงี้ได้ยังไง !!! มันจงใจแกล้งตะวันชัดๆ"
"เมื่อคืน...คุณดวงสุดายังทำร้ายตะวันไม่สาแก่ใจอีกหรือไง"
ตะวันฉายโกรธ
"ทำไมคุณต้องทำกับฉันถึงขนาดนี้ด้วย..คุณดวงสุดา"
ทันใดนั้นมือถือซูซี่ดังอีก ซูซี่รีบกดรับ
"ฮัลโหล..ซูซี่พูดค่ะ ว่าไงนะคะ แย่แล้วตะวัน คุณประเสริฐ โทร.มายกเลิกงานเดินแบบถ่ายแบบที่ติดต่อเธอไว้ทั้งหมดเลย"
ตะวันรับฟังนิ่งๆ ทันใดนั้นโทรศัพท์ตั้งโต๊ะดัง มะปรางเดินไปรับ
"สวัสดีค่ะ" มะปรางหน้าเจื่อนรับคำก่อนวางสาย "ค่ะ... ตะวัน คุณสมรโทรมายกเลิกงานถ่ายโฆษณาที่ติดต่อเธอไว้"
ทันใดนั้นมือถือซูซี่ดังอีก ซูซี่รีบกดรับ
"ซูซี่ค่ะ.. ค่ะๆ แม้แต่งานอีเวนท์ก็ไม่เหลือ" ซูซี่ใจหาย "นี่หมายความว่าตะวันถูกถีบออกจากวงการแล้วเหรอเนี่ย"
ตะวันฉายนิ่งไปอย่างอดใจหายไม่ได้
"ที่ตะวันถูกยกเลิกงานทุกชิ้น คงจะเป็นผลมาจากเรื่องที่คุณดวงสุดาแถลงข่าวด้วยสินะ"
ซูซี่แค้น
"ที่มันแถลงข่าวสร้างเรื่องขึ้นมาแบบนี้ มันจงใจจะทำให้คนทั้งประเทศเกลียดตะวัน แล้วมันก็จงใจจะทำให้ตะวันหมดทางทำมาหากินด้วย"
ตะวันฉายพยายามทำใจ
"ต้นตอของเรื่องทั้งหมดเกิดจากตะวัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือต่อให้ไม่มีที่จะยืนในสังคมอีกต่อไป ตะวันก็ต้องยอมรับค่ะ"
"แต่สำหรับนังดวงสุดา..ตะวันจะยอมแพ้มันไม่ได้" ซูซี่บอก
"ตะวันจะแจ้งความจับคุณดวงสุดา ข้อหาแต่งเรื่องพูดเท็จให้ร้ายตะวัน"
"ตะวันไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เรื่องนี้พี่จัดการเอง"
ซูซี่สีหน้าเอาเรื่อง

ธวัชเปิดประตูเข้ามาในห้อง สีหน้าไม่พอใจ
"ดา...คุณทำแบบนี้ได้ยังไง"
ธวัชชะงักแปลกใจที่ไม่เห็นดวงสุดา เห็นแต่พยาบาลกำลังเปลี่ยนปลอกหมอน
"ภรรยาผมไปไหนครับ"
"อ้าว..คุณไม่รู้เรื่องเหรอคะ คุณดวงสุดาเธอขอคุณหมอกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ตั้งแต่ตอนสายๆแล้วค่ะ"

ภายในบ้าน ดวงสุดานั่งคุยกับวัลลภา สาลี่นั่งอยู่ด้วย
"ฉันอยากจะเห็นหน้านังตะวันตอนนี้นัก"
"ถ้าไม่ดิ้นพล่านๆเป็นหมาโดนน้ำร้อนลวก ก็คงจะนอนตายจมกองเลือดที่มันกระอักออกมา" วัลลภาบอก
ดวงสุดายิ้มสะใจ
"มันคงคิดไม่ถึงว่าดาจะตบหน้ามันด้วยวิธีนี้"
"โดนไม้นี้เข้าไป..นังตะวันได้ถูกถีบออกจากวงการ..ชัวร์ค่ะ"
ทั้งหมดหัวเราะสะใจกัน ครู่หนึ่ง ... เนียมเดินเข้ามา
"คุณดาคะ..มีแขกมาขอพบคุณดาค่ะ"
ดวงสุดาชะงักแปลกใจ
"แขกที่ไหน"
"ฉันเอง"
ซูซี่สะพายกระเป๋าเดินนวยนาดเข้ามา
"แกเสนอหน้ามาที่ไหนทำไม นังกะเทยคางคก"
ซูซี่ยิ้มมองดวงสุดาที่ไม่มีบาดแผลที่หน้าและเนื้อตัว
"ฉันมาเยี่ยมเธอ เห็นว่าเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลก็เลยเป็นห่วง แต่ฉันไม่ได้มาคนเดียวนะ พาแขกวีไอพีมาด้วย"
"แขกวีไอพีบ้าบออะไรของแก" วัลลภาว่า
ซูซี่ตบมือ ทันใดนั้น นักข่าวกลุ่มเดิมโผล่มา พร้อมกล้องเต็มมือ พวกดวงสุดาชะงักตกใจมาก !
ซูซี่แกล้งแดกดัน
"อุ้ย..ทำไมเจอนักข่าวแล้วคุณดวงสุดาหน้าซีดเป็นไก่ต้มอย่างงั้นล่ะค่ะ ตกใจอะไรรึเปล่าคะเนี่ย"
นักข่าว 1ถามดวงสุดา
"ไหนล่ะ..แผลที่คุณอ้างว่าตะวันฉายบุกไปตบตีคุณที่โรงพยาบาล"
นักข่าว 2 บอก
"ใช่..แผลพวกนั้นหายไปไหนหมดแล้วล่ะ"
พวกดวงสุดาหน้าเสีย เลิ่กลั่ก ทำอะไรไม่ถูก ซูซี่จ้องดวงสุดาเอาเรื่อง
"ที่แท้แกก็แต่งแผลปลอมแหกตาคนทั้งประเทศ แล้วที่บอกว่าตะวันกักตัวคุณธวัชไว้ ไม่ให้มาเข้าห้องหอกับแก ก็โกหกตอแหลทั้งเพ..!!! ที่คุณธวัชต้องไปหาตะวันเพราะตะวันไม่สบาย เพราะโดนแกตบตีกลางงานแต่งจนน่วมไปทั้งตัว"
"ไม่จริง..นังตะวันมันมารยา มันแกล้งป่วยเรียกร้องความสนใจจากวัช"
"อย่าคิดว่าคนอื่นจะตอแหลหน้าด้านเหมือนกับแก แกจงใจใช้วิธีต่ำๆ สกปรกๆกลั่นแกล้งตะวัน เพื่อจะถีบตะวันออกจากวงการ แกมันจอมลวงโลก..ตอแหล..แต่งเรื่องใส่ร้ายตะวันหน้าด้านๆ" ซูซี่หันไปบอกนักข่าว "คุณน้องคะ..ถ่ายรูปมันไว้เลยค่ะ ถ่ายให้เห็นชัดๆ" ซูซี่ชี้ดวงสุดา "คนทั้งประเทศจะได้รู้นังนี่มันตอแหลขนาดไหน"
"ไม่นะ..อย่าถ่ายนะ"
ดวงสุดาอายจะวิ่งหนี แต่ถูกนักข่าวตีวงล้อมไว้ นักข่าวถ่ายรูปดวงสุดากันใหญ่ ดวงสุดาอับอาย หันหน้าหนีอุตลุต วัลลภากับสาลี่ก็อายไม่แพ้กัน
"หนีอะไรก็ได้ แต่หนีความจริงยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก จำใส่กะโหลกพวกแกไว้" ซูซี่หัวเราะอย่างสะใจแล้วนึกได้ "อุ้ยตาย... แป็บนึงนะคะคุณน้อง พี่ขอคั่นเวลาสักครู่นะคะ" ซูซี่บอกนักข่าวก่อนพูดกับดวงสุดา "ในฐานะที่เธอเล่นละครแหกตาคนทั้งประเทศได้เนี๊ยนเนียน สมจริงม๊ากมาก ขนาดดาราเจ้าบทบาทตัวแม่ยังต้องยกนิ้วให้ ฉันเลยอยากจะมอบรางวัลให้"
ซูซี่ควักโล่รางวัลออกมา เขียนว่า..”รางวัลตอแหลชนะเลิศในสามโลก”
"นี่จ๊ะ รางวัลตอแหลชนะเลิศในสามโลก ฉันมอบให้" ซูซี่ยัดโล่รางวัลใส่มือดวงสุดา "เอาไปนอนกอดนะ จะได้ภาคภูมิใจในความตอแหลขั้นเทพของตัวเอง"
ดวงสุดาทนไม่ไหว กรี๊ดลั่น "อ๊าย !"
นักข่าวรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปดวงสุดาไม่ยั้ง ซูซี่หัวเราะอย่างสะใจ

แฟนคลับรุมอ่านข่าวที่ซูซี่แฉดวงสุดาในร้านหนังสือ หนังสือพิมพ์พาดหัวว่า “เมียหลวงสะตอบอแหล มารยาแต่งเรื่องใส่ร้ายนางแบบตะวันฉาย พร้อมโชว์แผล อ้างถูกคู่กรณีทำร้ายตบตี”
ตะวันฉาย ซูซี่ มะปรางดูทีวี อยู่ที่คอนโดฯ เป็นภาพข่าวที่ดวงสุดาถูกแฉ
ผู้ประกาศว่า
"ในที่สุดก็เป็นแค่เรื่องโอละพ่อนะคะ สำหรับกรณีที่ น.ส.ดวงสุดา บรมกิตติ ทายาทนักธุรกิจเครื่องประดับชื่อดัง ที่ออกมาแถลงข่าว อ้างว่านางแบบดัง ตะวันฉายตบตีทำร้ายร่างกายตัวเอง แต่แท้จริงแล้วเป็นการเล่นละครใส่ร้ายนางแบบสาว เพื่อหวังจะทำลายชื่อเสียงของอีกฝ่ายนั่นเอง"
ซูซี่ยิ้มสะใจ
"หน้าแหกทั้งน้าทั้งหลาน สะใจอีซูซี่จริงๆ"
มะปรางส่ายหน้าสมเพช
"ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว"
"คุณทำอะไรกับฉันไว้ คุณก็ต้องได้รับผลกรรมนั้นเหมือนกัน..คุณดวงสุดา"

ภายในห้องนั่งเล่น ธวัชยืนดูภาพข่าวดวงสุดาในทีวี ดวงสุดากับวัลลภานั่งหน้าเจื่อน สาลี่นั่งอยู่ด้วย ธวัชกดรีโมทปิดทีวี แล้วจ้องดวงสุดาอย่างเอาเรื่อง
"ดา..คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ทำไมต้องทำร้ายตะวันถึงขนาดนี้ด้วย"
"ก็เพราะนังตะวันมันบังอาจแย่งคุณไปจากฉันไงล่ะ มันถึงต้องโดนแบบนี้"
"แต่สุดท้ายคุณก็แพ้ภัยตัวเอง นี่แหล่ะ..ผลที่คุณให้ร้ายคนอื่น"
ดวงสุดาสวนทันที
"หยุดนะ..คุณไม่มีสิทธิ์ด่าฉัน ฉันไม่ผิด..นังตะวันต่างหากที่ผิดเต็มประตู..เพราะมันฉกคุณไปจากฉันหน้าด้านๆ"
ดำรงเดินเข้ามา สีหน้าไม่พอใจ
"นี่แกยังไม่สำนึกผิดอีกเหรอ...ยัยดา"
"คุณพ่อจะมาด่าดาอีกคนเหรอคะ"
วัลลภาแดกดันดำรงทันที
"หรือไม่..พ่อแกก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทนนังตะวัน เพราะพ่อแกหลงใหลคลั่งไคล้นังนั่นจนไม่ลืมหูลืมตา"
ดำรงตะคอกวัลลภา
"อย่ามานอกประเด็น..!! ผมไม่อยากอารมณ์เสียมากกว่านี้"
วัลลภาทำลอยหน้าลอยตาใส่ดำรง
"ทีนี้แกเห็นรึยังว่าผลของการคิดร้ายให้ร้ายคนอื่น มันเป็นยังไง จะทำอะไร ทำไมไม่รู้จักใช้สมองคิดหน้าคิดหลังให้ดี แกรู้ไหมว่าเรื่องฉาวโฉ่ที่แกก่อขึ้น กระทบกับชื่อเสียงและธุรกิจของฉันมากแค่ไหน ชื่อเสียงฉันเสียหายป่นปี้ก็เพราะแก ฉันอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว รู้รึเปล่า"
"คุณพ่อห่วงหน้าตัวเอง มากกว่าลูกงั้นเหรอคะ"
"แล้วแกจะให้ฉันชื่นชมลูกที่ไม่มีสมอง ทำอะไรไม่คิดอย่างแกงั้นเหรอ"
ดวงสุดาน้อยใจ น้ำตาไหล
"คุณพ่อไม่เคยเข้าใจดาเลย ดาทำอะไรก็ผิดไปหมด คุณพ่อรักดาบ้างไหมคะ"
"ไม่มีพ่อที่ไหนที่จะไม่รักลูกตัวเองหรอก เพราะฉันรักแกนี่ไง ฉันถึงได้ตักเตือนแก ไม่อยากให้แกทำอะไรผิดๆอีก"
"ไม่จริง ถ้าคุณพ่อรักดา คุณพ่อก็ต้องเข้าข้างดา"
"เมื่อไหร่แกจะสำนึกสักที แกแต่งเรื่องให้ร้ายคนอื่น แกคิดว่าแกทำถูกงั้นเหรอ"
"หยุดนะ..หลานฉันไม่ได้ทำอะไรผิด อย่ามาด่าหลานฉัน"
ดำรงสวนทันที
"ทำไมจะด่ามันไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นลูกฉัน คุณเองก็เหมือนกัน แทนที่จะรู้จักอบรมสั่งสอนให้มันรู้เหมาะรู้ควร แต่นี่กลับส่งเสริมให้ท้ายกันในทางที่ผิด เพราะอย่างงี้ไง ยัยดามันถึงไม่รู้ดีรู้ชั่ว"
"อย่ามาโทษฉันนะ ! คุณมันก็ดีแต่โทษว่าด่าทอลูกเมีย ลูกเมียทำอะไรก็ผิดไปหมด คุณเห็นคนอื่นดีกว่าลูกเมียตัวเองตลอดเวลา"
"หุบปาก"
"ไม่หุบ ฉันจะพูดจนกว่าคุณจะสำนึก คุณเคยสนใจความทุกข์ร้อนของลูกเมียบ้างไหม ฉันกับลูกเคยมีตัวตนในสายตาคุณบ้างรึเปล่า"
ดำรงอึ้ง พูดไม่ออก ธวัชได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอาความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวนี้ ดำรงจ้องเมียกับลูกสาวอย่างโมโห ก่อนจะเดินออกไป ธวัชก็เดินหนีไปอีกคน
ดวงสุดากับวัลลภาเจ็บใจมาก

ดวงสุดาทำเป็นร้องไห้กระซิกๆต่อหน้าสุนทรีย์และสายป่าน
"หนูดาไม่น่าทำแบบนี้เลยนะ หนูดาเป็นเมียที่ถูกต้อง ยังไงหนูดาก็เหนือกว่าแม่ตะวันฉายทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องลดตัวลงไปชิงดีชิงเด่นกับผู้หญิงแบบนั้นให้เสียเกียรติตัวเองเลย"
ดวงสุดาทำเป็นยกมือกราบที่ไหล่สุนทรีย์
"ดาขอกราบขอโทษนะคะที่ทำให้คุณแม่ต้องพลอยเสื่อมเสียไปด้วย แต่ที่ดาทำไปเพราะดารักวัชนะคะ ดาไม่ยอมเสียวัชให้นังตะวันเด็ดขาด"
"แม่รู้ แม่เข้าใจ แต่การที่ต่างฝ่ายต่างแรงใส่กัน เรื่องจะยิ่งบานปลายไปมากกว่านี้นะ"
"แต่ถ้าพี่ดาไม่ตอบโต้บ้าง ตะวันฉายเค้าจะยิ่งได้ใจนะคะแม่ เพราะการที่เค้าบุกมาทำลายงานแต่ง แสดงว่าเค้าจงใจที่จะแย่งพี่วัชไปจากพี่ดาให้ได้ ป่านว่ายังไงเค้าก็ไม่รามือแค่นี้หรอกค่ะ"
"หนูดาไม่ควรจะร้อนตามแม่ตะวันฉายนะ หนูดาต้องเย็นเหมือนน้ำ เพราะน้ำนี่แหล่ะที่จะดับไฟให้มอดลงได้ เชื่อแม่นะหนูดา"
ดวงสุดาแอบเบะปากไม่เห็นด้วย ก่อนจะทำเป็นเชื่อฟังสุนทรีย์
"ค่ะคุณแม่ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณแม่จะอยู่ข้างดาใช่ไหมคะ"
"หนูดาเป็นสะใภ้ที่แม่เลือก ยังไงแม่ก็สนับสนุนหนูดาอยู่แล้ว"
ดวงสุดายกมือไหว้และกอดสุนทรีย์
"ขอบคุณคุณแม่มากนะคะ มีแต่คุณแม่นี่ล่ะค่ะที่เป็นที่พึ่งเดียวให้กับดา"
ดวงสุดายิ้มพอใจที่สุนทรีย์เข้าข้างตัวเอง

ซูซี่ มะปรางคุยกับตะวันฉายอย่างเครียดๆในคอนโดฯ
"พี่พยายามคุยกับเจ้าของงานแล้ว แต่ทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวไม่ยอมคืนงานให้ตะวัน อ้างว่ากลัวชื่อเสียงที่เสียหายของตะวันจะกระทบกับงานเค้า" ซูซี่ถอนใจ "ไม่นึกเลยว่าอนาคตในวงการบันเทิงของตะวันจะมาดับวูบเพราะเรื่องแบบนี้ ตะวันกำลังรุ่งแท้ๆ"
ตะวันถอนใจอย่างปลงตก
"ตะวันทำใจแล้วล่ะค่ะ ตะวันทำตัวเอง มันก็สมควรแล้วล่ะค่ะที่ตะวันจะต้องรับผลกรรมที่ก่อไว้ ตะวันขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ซูซี่เดือดร้อนไปด้วย"
"พี่น่ะไม่เป็นไรหรอก แต่มันอดใจหายไม่ได้ กว่าเธอจะก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบแถวหน้า ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาพังทลายลงในพริบตา"
"แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป..ตะวัน"
ตะวันฉายนิ่งอึ้งไป ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น
"รู้สึกว่าวันนี้จะแขกเยอะเหลือเกิน"
ตะวันเดินไปเปิดประตู เห็นว่าธวัชยืนอยู่
"คุณธวัช"
ธวัชพูดนิ่งๆ
"ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ"

ตะวันตกใจ
"นี่วาทินไปหาเรื่องคุณเหรอคะ"
ตะวันคุยกับธวัช
"หมายความว่าคุณคบกับคุณวาทินจริง ผมสมเพชตัวเองจริงๆที่ไปยุ่งกับเมียชาวบ้านเค้าแบบนี้"
"ฉันเลิกกับวาทิน ก่อนที่จะเจอกับคุณนะคะ"
"ถ้าเป็นอย่างนั้น.. แล้วคุณวาทินจะมาวางท่าหึงหวงคุณกับผมทำไม"
"เพราะเค้าต้องการจะเอาชนะฉัน ฉันบอกเลิกวาทิน เพราะเค้าแอบมีผู้หญิงอื่น ตอนนี้หัวใจฉันไม่หลงเหลือความรักให้เค้าอีกแล้ว แต่เค้าตามวอแวฉันไม่เลิก"
"เค้าตามวอแว หรือว่าคุณอยากจะจุดถ่านไฟเก่ากันแน่ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณถึงปฏิเสธผมอย่างไม่ใยดี ที่แท้เพราะคุณมีตัวเลือกอยู่แล้วนี่เอง"
"ไม่ใช่นะคะ.. คุณกำลังเข้าใจผิด"
"งั้นคุณก็คงจะเป็นผู้หญิงประเภทรักสนุก แต่ไม่คิดจะผูกพันจริงจังกับใคร เห็นผู้ชายเป็นของเล่น คบไปเรื่อยตามความพอใจของตัวเอง"
ตะวันฉายอึ้ง พูดไม่ออก เจ็บจนน้ำตาคลอ
"คุณคิดว่าฉันเลวขนาดนี้เลยเหรอคะ"
"คุณคงมีความสุขมากสินะ ที่มีผู้ชายมากหน้าหลายตามารายล้อมอยู่รอบตัวคุณ แต่ไม่เป็นไร เพื่อความสุขของคุณ ผมจะยอมทำใจ"
ตะวันอึ้งหนัก พูดอะไรไม่ออก ธวัชเจ็บปวด ก่อนจะเดินออกไป ตะวันน้ำตาร่วงอย่างร้าวรานใจ ห่างออกไป ซูซี่กับมะปรางยืนฟังอยู่
"ทำไมปัญหาสารพัดสารเพ ถึงได้เรียงหน้าเข้ามาหาตะวันพร้อมกันอย่างนี้นะ" มะปรางว่า
"ความวัวยังไม่ทันจะหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เวรกรรมแท้ๆ"
ซูซี่กับมะปรางถอนใจอย่างเห็นใจสงสารตะวัน

ภายในห้องนอน ดวงสุดานั่งซึมอยู่ที่เตียง ธวัชเปิดประตูเข้ามา
"วัชไปไหนมา"
"ผมไปทำธุระมา"
ธวัชเดินไปหยิบผ้าขนหนู แล้วจะเดินเข้าห้องน้ำ
"เดี๋ยว.." ธวัชชะงัก "ดามีเรื่องจะตกลงกับวัช ดาไม่มีทางยอมให้นังตะวันเข้ามาแทรกกลางความรักของเรา ยังไงดาก็ไม่แบ่งวัชให้มัน"
"แต่ตะวันท้องกับผมนะครับ"
ดวงสุดาขัดทันที
"มันสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อที่จะผูกมัดวัชต่างหากแล้วต่อให้มันท้องจริง ผู้หญิงร่านจัดอย่างมันก็หาผัวใหม่มาช่วยเลี้ยงลูกได้ไม่ยากหรอก ผู้ชายคนไหนๆก็อยากขึ้นเตียงกับมันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่วัช..ที่กล้าทรยศหักหลังดา"
"ดา...ผม..."
ธวัชจะหลุดปากบอกว่าไม่เคยรักดวงสุดาเลย แต่ยั้งปากทัน
"ต่อให้วัชแก้ตัวให้ตาย หรือขอโทษดาแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก รู้ไว้เลยนะว่าการที่วัชทำร้ายจิตใจดา ทำให้ดาเสียใจก็เท่ากับวัชอกตัญญูต่อครอบครัวของดา ยิ่งวัชทำให้ดาเสียใจมากแค่ไหน วัชก็ยิ่งเป็นคนอกตัญญูมากเท่านั้น"
ธวัชพูดไม่ออก
"ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ ผมไม่ได้อยากจะทำร้ายดา แต่ในเมื่อผมเป็นคนทำให้ตะวันท้อง ผมก็ต้อง..."
ธวัชจะบอกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบตะวันฉายกับลูก ดวงสุดารีบขัดขึ้น
"ดาไม่ยอมให้นังตะวันเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา ดาไม่มีวันหลีกทางให้มันเด็ดขาด เพราะดาจดทะเบียนสมรส เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของวัช วัชต้องเลิกกับนังตะวันอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างงั้น ชีวิตมันจะต้องเจอกับความวิบัติ ล่มจม ชิบหายวายวอด ดารับรอง"

ธวัชอึ้ง หนักใจอย่างที่สุด
 
อ่านต่อตอนที่ 5
กำลังโหลดความคิดเห็น