xs
xsm
sm
md
lg

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาลีเริงระบำ ตอนที่ 2

ทั้งหมดย้ายมานั่งกันทั้งหมดที่ห้องประชุมเล็ก เบล หรือชื่อจริงว่า บุษบาบัณ มีบุคลิกเหมือนเด็กไม่รู้จักโต แต่งตัวเป็นเกาหลี แอ๊บแบ๊ว ชอบทำเสียงเล็กน้อย ดูเหมือนเป็นเด็กไฮโซน่ารักไม่มีพิษสงเล่นตุ๊กตากับนีน่า ยาหยีเพื่อนสาว

บุษบาบัณเล่นตุ๊กตา ใส่เสื้อ ถ่ายรูป เดิน นีน่า - ยาหยีเอาใจเป็นสมุนซ้ายขวา จงรักภักดี
"มาค่ะ นีน่าถ่ายรูปให้"
"เดี๋ยวยาหยี แต่งรูปให้นะคะ เดินอีกค่ะเดินอีก"
บุณฑริกบอกพลางชี้ชี้ไปที่โปสเตอร์
"เบลเขาอยากสมัครโครงการนี้"
"จะดีหรือคะ ลูกสาวเจ้าของสถานี สมัครแข่งขันด้วย คนจะครหานะคะ"
บุษบาบัณจับตุ๊กตา สะดุดกึกมองโยทะกา มือจิกเล็บใส่ตุ๊กตา เห็นแววนางเสือร้ายที่ซ่อนอยู่ ยาหยีชี้ให้นีน่าดูตุ๊กตาที่ถูกจิก ทำนองว่า ดูสิ ชีโมโหแล้ว !!
"เราก็ประกาศออกไปสิ ว่าจะแข่งกันอย่างโปร่งใส เบลจะมีฐานะเท่าผู้แข่งคนอื่นๆ ไม่เห็นจะยากอะไร"
"คุณเบลคะ เป็นลูกสาวเจ้าของสถานีโทรทัศน์ มีแต่คนนับหน้าถือตา ลงไปแข่งกับเขา เหมือนเอาทองไปรู่กระเบื้อง ทองจะเสียราคานะคะ"
บุษบาบัณมือจับตุ๊กตา หันมาแสงสีเสียงใส่โยทะกา ความโหดเริ่มเพิ่มดีกรี
"เบลต้องการแสดงความสามารถ เบลอยากเป็นดารา เป็นนักร้อง นังเมียน้อย ! อย่าทำตัวมีปัญหาได้ไหม"
ทองทาปราม
"เบล !"
"เขาไม่โกรธหรอก ตอนพ่อหลงเสน่ห์เขา แม่ของเบลรู้ว่าสามีนอกใจ ก็เลยประชดกินยาตาย นางงามระดับชาติคนนี้ รู้สึกผิดกับเบลล่า ติดหนี้เบลตลอดชีวิต เขาก็เลยต้องยอมเบลทุกอย่าง"
โยทะกาหลบตาเพราะเบลล่าพูดเรื่องจริง
"แม่ของพี่ก็จับได้เหมือนกัน ว่าพ่อไปติดคุณบัวบุษบาแม่ของเบล แม่ของพี่ ก็เลยคุ้มดีคุ้มร้าย หย่าพ่อหนีไปเมืองนอกแถมยังพาพี่ไปด้วย พี่ยังไม่เคยโกรธเบลเลย"
"พี่ทองทา"
บุณฑริกชี้ทองทา
"แม่ของเธอ แค่นักเต้น นักร้อง ส่วนเธอ" บุณฑริกชี้โยทะกา "แค่นางงาม เทียบกับบัวบุษบาลูกสาวฉันไม่ได้ ตระกูลของฉัน มีเกียรติยิ่งกว่าพวกเธอ มีเกียรติยิ่งกว่าไอ้เมืองแมนนั่นอีก"
"จะมีเกียรติแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้ฉลาดขึ้น ถึงเวลาถูกผู้ชายหลอก ก็โง่เท่ากันหมด"
"นายทองทา"
"พี่ไปก่อนนะเบล แล้วเจอกัน"
ทองทาลุกออกไปด้วยความเบื่อหน่าย ยิ้มลาเฉพาะโยทะกา
"มันมาทำไม มาประจบพ่อมันหรือ"
"เขามาคุยธุระ เขาไม่เคยญาติดีกับคุณเมืองแมนหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วง สมบัติทั้งหมดของคุณเมืองแมน ยังอยู่ครบ"
"ไม่ต้องพูดมาก ! ไปจัดการตามที่ฉันสั่ง ประกาศออกไป คุณบุษบาบัณ จะลงสมัคร เดอะซุปเปอร์สตาร์ด้วย"
"คุณเมืองแมนตั้งใจกับโครงการนี้มาก ดิฉันต้องเรียนท่านก่อน"
โยทะกากดโทรศัพท์ บุษบาบัณกลับไปเป็นสาวแบ๊วเล่นตุ๊กตาเหมือนเดิม
"จ๊ะเอ๋ น่ารักจังไปทำอะไรมาจ๊ะเธอ"
เธอพูดกับตุ๊กตาเพื่อให้ยาหยีและนีน่าถ่ายคลิป

ทันทีที่เมืองแมนรู้เรื่องก็โวยเสียงดังใส่โทรศัพท์
"บ้าสิ นักข่าวด่าสถานีเราเละแน่ มันจะหาว่าฉันจัดโครงการนี้เพื่อปั้นลูกสาวให้เป็นดารา ไปบอกยายเบลาว่าพ่อไม่ให้ "

บุณฑริกได้รับการถ่ายทอดจากโยทะกาแล้ว
"ไม่ให้หรือ ฮึ"
บุณฑริกโทรหาเซลล์ขายรถยนต์ เพื่อดัดหลังเมืองแมน

"ฉันคุณหญิงบุณฑริกนะ บ่ายนี้ ให้คนขับรถเบนซ์รุ่นใหม่ สี อืม สีเงินแล้วกัน ขับมาให้ฉันที่บ้าน แล้วไปเก็บเงินที่คุณเมืองแมน"

ภายในห้องทำงาน เมืองแมนรู้เรื่องแล้วโวยกับเซลล์ขายรถที่ปลายสาย

"รถอะไรใครสั่ง จะบ้าหรือ คุณหญิงบุณฑริกเป็นแม่พวกเธอหรือ ถึงต้องไปเชื่อมัน คราวที่แล้ว มันเอาเพชรจากฉันไปกี่แสนรู้ไหม คราวนี้ ใครสั่ง ใครจ่ายโว้ย"

ในห้องประชุมเล็ก บุษบาบัณยังเล่นตุ๊กตาแอ๊บแบ๊วต่อไป นีน่าถ่ายคลิปลงอินสตราแกรมต่อเนื่อง
"เต้นรำๆกับเจ้าชาย ลาลัลลา"
บุณฑริกยังคุยสายกับเซลล์ขายรถ เพื่อกดดันเมืองแมนต่อไป
"ถ้าไม่เอามาให้ ฉันก็จะไปที่ศูนย์รถ ตามนักข่าวไปด้วย แล้วก็แฉเรื่องระหว่างคุณหญิงบุณฑริกเป็นข่าวฉาวโฉ่กับเมืองแมนลูกเขย ที่ศูนย์รถของเธอนั่นล่ะ เธอน่าจะชอบนะ ศูนย์รถของเธอจะได้เป็นข่าวใหญ่ไง จะส่งรถมาดีๆไหม หา"
บุษบาบัณจู่ๆทิ้งตุ๊กตา แล้วลุกขึ้นเดินออกไป
"ชักช้าไม่ได้เรื่อง"
"คุณเบลจะไปไหนคะ คุณเบล"
บุษบาบัณออกไปคนเดียวพร้อมด้วยตุ๊กตา คนอื่นงง

ขณะที่เมืองแมนนั่งคุยงานกับพนักงานสองคน บุษบาบัณก็บุกเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"หนูต้องการสมัครแข่งขัน เดอะซุปเปอร์สตาร์"
เมืองแมนพยายามอธิบาย
"ลูกอยากเป็นดารา พ่อจะหาละครให้ อยากเป็นนักร้อง พ่อจะทำอัลบั้มให้"
"ใช้อำนาจพ่อ คนก็ไม่เห็นความสามารถของหนู"
"ปีที่แล้ว รายการนี้ทำกำไร เป็นหน้าเป็นตาให้บริษัท รายการนี้สำคัญสำหรับกิจการสถานีของเรามากนะลูก"
"เพราะมันดัง มันสร้างซุปเปอร์สตาร์ พี่ซีโร่ดังข้ามคืนขนาดนั้น เบลอยากเป็นแบบพี่ซีโร่ มานั่งทำเพลงทีละเพลง เล่นละครทีละเรื่องเมื่อไหร่จะดังล่ะคะ"
"ถ้าลูกแพ้ ลูกก็เสียชื่อ ถ้าลูกชนะ เขาก็หาว่าใช้เส้น คนเขาไม่ฟังเหตุผลหรอก มีแต่เสียกับเสีย"
"หนูเป็นลูกเจ้าของสถานีเอ็มเอ็มแชนแนลถูกไหมคะ"
"ถูกสิจ๊ะ ก็หนูเป็นลูกพ่อ พ่อมีลูกแค่สองคน"
"คนทั้งสถานีมีกี่ร้อยกี่พันคนต้องรับใช้หนู แล้วทำไมแค่นี้จะแก้ปัญหาให้หนูไม่ได้ล่ะคะ"
เมืองแมนเสียงเข้ม
"เบล ! ฟังนะ พ่อจะไม่พูดกับหนูอีกแล้ว ไม่ก็คือไม่"
บุษบาบัณเงียบอึดใจหนึ่ง รวบรวมพลัง แล้วร้องกรี๊ดยาวมาก จนพนักงานทั้งสองสะดุ้งรีบปิดหู เพราะเสียงในระยะเผาขน
หน้าห้องทำงานของเมืองแมน พนักงานตะลึงพึงเพริดเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง
เสียงดังไปทั้งตึกถึงห้องประชุมเล็ก บุณฑริกยิ้มสะใจ ถามโยทะกา
"ซุปเปอร์สตาร์พอไหมจ๊ะ บอยเสียงใช้ได้เลยเห็นไหม"

บุษบาบัณเอาตุ๊กตาที่ติดมือมาฉีกขาดเป็นสองท่อน เขวี้ยงใส่พนักงานทั้งสองที่ลุกฮือขึ้น ตุ๊กตาหัวหลุดบนโต๊ะสยองน่ากลัวมาก
"หน้าที่ของพ่อแม่ ปู่ย่าตายายคือให้ความสุขกับลูก ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ควรให้หนูเกิดมาตั้งแต่แรก ! ถ้าคุณพ่อไม่ยอมให้หนูสมัครที่บริษัทนี้มันก็ทำงานไม่ได้อยู่ดี"

บุษบาบัณเดินออกไป เมืองแมนแค้น

บุณฑริกเดินออกมาหน้าห้อง เอาโปสเตอร์ แถวนั้นมาฉีกทิ้ง ทำลายข้าวของ พนักงานทั้งหลายมองตะลึง เมืองแมนออกมาดู

"มองอะไร พวกนี้ของของฉัน ฉันทำลายแล้วมันผิดตรงไหน หา" บุษบาบัณบอกบุณฑริก โยทะกา นีน่า ยาหยี มาถึง บุษบาบัณหยิบของจะทุ่มอีก
โยทะกาเข้าไปแย่ง
"อย่าค่ะคุณเบล"
ทั้งสองยื้อของชิ้นนั้นกัน โยทะกาส่งสายตาขอร้องเมืองแมน
"คุณคะ"
"เออ ๆ ยอมก็ได้โว้ย"
เมืองแมนตะโกนลั่น บุษบาบัณ บุณฑริก นีน่า ยาหยี ยิ้มเข้าทาง

บริเวณบ้านพักเด็กเสิร์ฟ ในร้านคาราโอเกะ มาลีเตรียมตัวมาอาบน้ำ ได้ยินเสียงออกมาจากในห้องน้ำ เป็นเสียงการะเกดร้องเพลงลูกทุ่ง มาลียืนฟังอย่างสนใจสักพัก เมื่อการะเกดออกมา
"เธอร้องเพลงเพราะจัง"
"มาอยู่ใหม่หรือ ฉันชื่อการะเกดจ้ะ สองห้องนั้นมีช่องอากาศ บางทีมีพวก
ก่อสร้างโรคจิตข้างหลังแอบมองมา ใช้ห้องนี้ดีกว่านะจ๊ะ"
"สวยด้วย ใจดีด้วย"
การะเกดเขินตามประสาคนเรียบร้อย มาลีมองไปเพราะมีคนมองมา
บ้านพักหลังเล็กของโรสอยู่ห่างออกไป บอยเปิดประตูออกมาโบกมือให้อย่างมีไมตรี โรสเดินตามออกมาหยิบของในรถ ไม่ได้มองมาลีเหมือนบอย มาลีโกรธทันที เพราะเพิ่งรู้ว่าทั้งคู่อยู่บ้านหลังเดียวกัน
"เขาอยู่ด้วยกันหรือ"
"พี่บอยเป็นกัปตันที่ร้าน แล้วก็เป็นแฟนพี่โรสด้วย ทำไมอยู่ด้วยกันไม่ได้ล่ะจ๊ะ"
"มีความสุขมากสินะ มีร้าน มีลูกน้อง มีแฟนหล่อ แบบนี้นี่เอง ถึงไม่สนใจกลับบ้านนอก"
มาลีค้อนให้บอย ก่อนเข้าห้องน้ำไป การะเกดงง

โรสเดินกลับมา บอยชี้ไปที่ห้องน้ำ
"ผมเจอเขวี้ยงค้อนอันใหญ่มาก"
"หนูมาลีน่ะหรือ"
"ลูกพี่มา ให้เขามาอยู่ที่บ้านนี้ไหม ผมย้ายไปอยู่ที่บ้านพักเอง"
โรสคิดตาม
มาลี การะเกดและปลาทำความสะอาดแถวหน้าบ้านพักคนงาน โรสเดินมาหา คุยกับมาลีเบาๆ มีแววห่วงใย คนอื่นไม่ได้ยิน โรสแกล้งทำเป็นมาดูต้นไม้แถวนี้ทำไปคุยไป
"นอนได้ไหม มีห้องอยู่บนบ้าน"
"อยู่บ้านบนเขาก็นอนแบบนี้แหล่ะ เชิญพี่โรสเสวยสุขกับแฟนไปเถอะ ไม่อยากรบกวน"
โรสโมโหกระแทกกระถางต้นไม้ลงพื้นเปรี้ยง เสียงดัง สาวแตกไม่มียั้งกันอีกต่อไป หันไปหาการะเกดและปลา ระบายอารมณ์แทน
"โฮ้ย แม่คุณ ทูนหัวของบ่าว จะสามโมงแล้ว ข้างในร้านยังไม่ไม่มีใครทำ ทำงานล่ะชักช้า ตอนเบิกเงินน่ะเร็วกันนักนะ นั่นๆ ตามช่องตามหลืบ กวาดออกมาสิยะ ทีช่องหลืบอย่างอื่นล่ะก็ ล้วงควักกันนักทีอย่างนี้ไม่รู้จักล้วง"
การะเกดยิ้มแห้งรีบทำ
มาลีตกใจท่าทางออกสาวมากขึ้น แถมวีนแตกที่เป็นตัวจริงของโรส เธอยืนช็อกอยู่ โรสหันมา
"ทำไม ฉันด่าอย่างนี้ทุกวัน ท่าทางฉันก็เป็นแบบนี้ เดือดร้อนใครไหม ตำรวจมาจับไหม ก็ไม่ แล้วเธอจะเอาไงกับฉันล่ะ"
มาลีโกรธจัดหันหนีไปทำงาน แอบน้ำตาคลอ กวาดเรือนไป อายไป
"อีหอยกะพง"
ปลางง เหวอๆ
"ฉันชื่อปลา"
"หอยกะพงดีแล้ว อืดตะพืดนัก วนมันอยู่ตรงนั้น ตรงนั้นมันสะอาดแล้ว โน่น เขาไปตรงโน้นกันแล้ว ไปเก็บโต๊ะในร้านเลยไป"
โรสไปตีประตูห้องชงโค โวยวายต่อ
"อีชงโค ยังไม่ตื่นอีก ตะวันแยงก้นหล่อนไม่รู้ตัวใช่ไหม เอาตีนกูไปแยงแทนไหม หา อีชงโค จะตื่นหรือไม่ตื่น"
ชงโคเปิดประตูออกมา รีบถือของไปห้องน้ำ
"มาแล้วจ้ะมาแล้ว"

โรสค้อน มาลีเศร้าอึ้งไป กับท่าทางสาวแตก ปากจัดของโรสที่ไม่รู้จะเป็นพ่อหรือเป็นแม่ดี

คืนวันเดียวกัน ห้องคาราโอเกะซึ่งมีอยู่หลายห้อง มีคนมาร้องเพลง ร้านอาหารคึกคักดี บอยในชุดกัปตันเชียร์แขกอยู่ การะเกด ชงโค วุ่นวายในชุดเด็กเสิร์ฟ

สมศรีกับบุญมาทำอาหาร มีปลาเป็นลูกมือ เอาอาหารมาวางแล้วชี้บอกมาลี ที่อยู่ในชุดเด็กเสิร์ฟกับชงโคและการะเกด
บุญมาชี้อาหารทีละจาน
"ห้อง8 ห้อง 9 ห้อง 5"
มาลีพยักหน้าจะจัดใส่ถาดทั้งสามจาน แต่จานสุดท้าย โรสมาบอก
"ห้อง9 ไม่ต้องไป" โรสตะโกนเรียก "นังชงโค ห้อง9"
ชงโควุ่นอยู่มุมหนึ่ง
"จ้าๆ"
โรสเดินไปทำงานเก็บเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์
"ห้องเก้าที่อยู่ข้างหลังใช่ไหมคะ ทำไมไปไม่ได้ล่ะคะ ลุงบุญมา"
"เอาเถอะ พี่เขาสั่งไงก็เอาตามนั้น"
มาลีพยักหน้า หยิบไปเสิร์ฟแค่สองจาน เหลือจานกุ้งชุบแป้งทอดของห้อง 9 ไว้ที่เดิม

มาลีส่งจานอาหารที่โต๊ะแขก ในห้องครัวทุกคนวุ่นวาย จานกุ้งทอดยังอยู่ที่เดิม
"อีชงโค กับข้าว เย็นหมดแล้ว" สมศรีบอก
มาลีมองไปเห็นชงโควุ่นวายอยู่กับการจดออเดอร์แขกอีกโต๊ะหนึ่ง เธอตัดสินใจหยิบจานกุ้งทอดมาจะไปส่งเองที่ห้องข้างหลัง คนอื่นไม่รู้เรื่อง ไม่เห็น

ร้านคาราโอเกะโซนข้างหลัง มาลียกจานอาหารมายังห้องเบอร์ 9 เจอกับมาม่าซังชื่อ ซูซี่ ที่ออกมาจากห้องเบอร์ 9 พอดี ซูซี่ทำอ่อนหวาน ท่าทางเป็นมิตรเข้าหา
"อุ๊ยตาย เด็กเสิร์ฟคนใหม่ หน้าตาสะสวย"
มาลียิ้มให้
"ของห้องเก้าค่ะ"
"พี่ชื่อซูซี่ หนูชื่ออะไรจ๊ะ"
"หนูมาลีค่ะ"
ซูซี่ดูหุ่น มองสินค้า
"ชื่อน่ารัก หุ่นดี๊ดี สวยก็สวย เอ้าเข้าไปเลยจ้ะ ห้องนี้แหล่ะ"

มาลีมองชื่อห้อง ประตูห้อง หน้าต่างห้องนี้ ดูปิดทึบกว่าทุกห้อง มาลีสงสัยว่า ทำไมลึกลับจัง

ภายในห้อง มาลีเข้ามาเจอเสี่ยสองคนกำลังนัวเนียกับเกรซและมี่ สองสาวที่ขายบริการอยู่ ในห้องเปิดเพลงไว้เฉยๆ ไม่มีใครร้องเพลง

"ว้าย ขอโทษ"
เสี่ยในอาการเมามาย
"อุ๊ยคนนี้ก็สวย มา มานั่งโต๊ะป๋ามา ชื่ออะไรจ๊ะ"
เสี่ยจับมือมาลี จะเอามานั่งตักให้ได้
"ปล่อยนะ ปล่อย"
"อุ๊ยมีสะดิ้ง เขาเรียกสวยสะดิ้ง"
ทั้งหมดหัวเราะกัน
มาลีหนี เสี่ยดึงมาอีก
"จะไปไหน"
"ช่วยด้วยๆ"
โรสเปิดประตูเข้ามา
"ปล่อยลูกสาวกู ปล่อย"
เสี่ยเมามึนงง
"ลูกสาวเจ๊โรส เฮ้ย แล้วจะเรียกพ่อ หรือแม่วะ"
เสี่ยยังจับ มาลี ไม่ยอมปล่อย
"พ่อต่อย !"
โรสต่อยเสี่ยจนคว่ำไป
เพื่อนเสี่ยอีกคน จะต่อยโรสแต่ไม่ทัน
"เฮ้ย"
โรสตบเพื่อนเสี่ยคว่ำไป
"แม่ตบ ! ทูอินวัน โว้ย"
ซูซี่เปิดประตูเข้ามา
"ว้ายอะไรกันคะ"
โรสดึงมาลี ออกมาไว้กับตัว หันไปด่าซูซี่
"นี่ลูกสาวฉัน ถ้าหล่อนอยากอยู่ร้านนี้ อย่ามายุ่งกับลูกสาวฉัน"
ซูซี่ช็อก
"ลูกสาว"
"อีซูซี่ ร้านฉันพึ่งหล่อนก็จริง แต่ถ้ายุ่งกับหนูมาลี นอกจากจะอยู่แถวนี้ไม่ได้ หน้าหล่อนจะแหกหมอไม่รับเย็บ คอยดู"
โรสลากมาลีออกไป
"ลูกสาวพี่โรส โฮ้ย โลกวิปริต"

เวลาต่อมา บุญมา สมศรี และปลาทำครัวไป เมาท์ไป
"ลุงกับป้า ได้ยินที่เขาเมาท์กันไหม" ปลาถาม
"เด็กเสิร์ฟใหม่เป็นลูกสาวพี่โรสจริงหรือวะ" บุญมาว่า

"สภาพอย่างนั้น มันทำผู้หญิงท้องได้หรือวะ ทำเป็นหรือวะ" สมศรีบอก
 
อ่านต่อหน้า 2

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 2 (ต่อ)

โรสลากมาลีเข้ามาด่าในครัว ไม่ให้แขกได้ยิน ทุกคนรีบก้มหน้าทำงาน สมศรีเสียงดังกลบเกลื่อนที่คุยกันอยู่

"ทำเป็นไม่เป็น ก็หั่นไป นังปลา หั่นเป็นชิ้นเท่าลูกเต๋าไงอีกโง่"
โรสด่ามาลี
"ขึ้นชื่อว่าลูกมันต้องดื้อกับพ่อแม่ใช่ไหม ถ้าไม่ทำ มันไม่เท่ ไม่ได้ลงกินเนสบุ้คหรือไง ก็บอกแล้วว่าอย่าไปห้องนั้น ทำไมดื้อนักหา"
"ก็ใครจะรู้ว่ามันมีคนเมา"
"มันไม่ใช่แค่เมาเฉยๆ ห้องนั้นมัน"
"แล้วพี่ซูซี่นั่นเขาเป็นใครคะ เขาไม่ได้ดูแลแขกเหมือนกัปตันธรรมดาหรือคะ แล้วเด็กผู้หญิงที่มากับพี่ซูซี่ สองคนนั้น ทำไมไปนั่งกับแขกล่ะคะ"
"ปากมีเอาไว้กิน ไม่ได้มีเอาไว้ถาม บอกแล้วให้กลับบ้านไปก็ไม่เชื่อ ตอนเด็กๆก็น่ารักดี โตขึ้นมาทำไมมันดื้ออย่างนี้นะ โซนข้างหลัง อย่าไปอีกนะ"
มาลีจ๋อย พวกบุญมาทำหน้ากันว่า พ่อลูกกันจริงด้วยว่ะ

แขกน้อยลงเมื่อดึกแล้ว การะเกดกับมาลีช่วยกันเก็บจานชามไป คุยกันไป
"พี่ซูซี่เป็นเอ้อ จะเรียกยังไง พี่เขาเป็นมาม่าซัง"
"หา... งั้นผู้หญิงพวกนั้นก็เป็นผู้หญิงอย่างว่าหรือ โห ยังเด็กอยู่เลย พี่ซูซี่เองก็เถอะ แก่กว่าฉันแค่ไม่กี่ปีเองมั้ง"
การะเกดบุ้ยใบ้ให้มองดูสิ เสี่ยสองคนควง เกรซและมี่หัวเราะร่วนกันออกไป ซูซี่เดินมาส่ง ขึ้นแท็กซี่กันไปทั้งสี่คน
"พี่โรสตกลงกับพี่ซูซี่ไว้ว่า ห้องเก้าข้างหลัง จะรับเฉพาะแขกที่มาหาเพื่อนนั่งดริ๊งก์ แขกผู้ชายที่มาเป็นกลุ่มนั่นแหล่ะ พอพวกนี้มา พี่บอยจะเรียกพี่ซูซี่มารับไป"
"พี่โรสตกลงกับเขาจริงๆหรือ"
การะเกดพยักหน้า
"คาราโอเกะ แถวนี้เขาทำแบบนี้กัน ถ้าเราไม่ทำก็อยู่ไม่ได้ แต่ก็ห้องนั้นห้องเดียว ห้องอื่นก็แขกปรกติ"
"หาเงินให้ฉันเรียนหนังสือด้วยวิธีนี้หรือ"
"หนูมาลี เป็นลูกสาวพี่โรสจริงหรือจ๊ะ"
มาลีไม่ตอบก้มหน้าทำเป็นไม่ได้ยิน
"แขกผู้ชายพวกนี้ รายได้ดีกว่า หนูมาลีอย่าไปห้องข้างหลัง ก็ไม่มีอะไรหรอก"
"แล้วเวลามีอาหารมาล่ะ"
"ชงโคเขาอาสาไปเอง เขาอยากได้ทิปเยอะๆ"
"ก็เห็นชงโคเขาไม่มาเสียที กับข้าวเย็นหมดแล้ว"
"คนพวกนั้นเขาไม่สนใจรสชาติอาหารหรอก"

มาลี กลุ้มไม่ชอบใจเลย

วันใหม่ ในโรงพยาบาลดูแลคนโรคจิต ทองทาเดินมาติดต่อกับพยาบาล เห็นคนไข้ที่ดูแลตัวเองไม่ได้ทั้งคนแก่ และคนไม่ปรกติอื่นๆอยู่รวมกัน มีพยาบาลหลายคนกันดูแล

"มาพบคนไข้ ...ช้องนางครับ"
"นั่งเล่นตุ๊กตาอยู่ คงดีใจนะคะที่ลูกชายมาเยี่ยม"
ช้องนางเป็นคนไข้โรคจิต นอนกล่อมตุ๊กตาเหมือนเลี้ยงทารกอยู่
ช้องนางพูดกับตุ๊กตา
"ทองทาลูกแม่ นอนซะนะลูก"
ทองทาเดินมามอง ได้ยินตุ๊กตาเป็นชื่อตนก็ยิ้มปลื้ม
"แม่ครับ ผมเอง"
ทองทายิ้มให้ ช้องนางหันมามอง ยิ้มอยู่ ทองทานั่งลงข้างๆ จับมือแม่
"วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ"
ช้องนางเปลี่ยนเป็นโมโหเอามือมาตีๆทองทา
"เมืองแมน แกมาทำไม"
"โอ๊ยๆ แม่ครับ ผมเอง ผมทองทาครับ ไม่ใช่เมืองแมน"
ช้องนางอาละวาดเกลียดชัง ตบตีทองทา
"ออกไปนะไอ้คนเลว แกนอกใจฉัน แกมันไอ้คนไม่รู้จักพอ อยากจะไปอยู่กับไฮโซนั่นก็ไปเลย !"
พยาบาลเข้ามาช่วยกันดึงช้องนางออกจากทองทา
"หยุดก่อนค่ะคุณ หยุดก่อน หยุด"
ทองทามองสภาพแม่ที่ยังชี้ด่าตน จำตนไม่ได้ก็อึ้งไป แววตาเสียใจมาก
"ฉันจะเอาลูกหนีไปเมืองนอก ฉันจะไม่ทนอยู่กับคนมักมากอย่างแก ไป๊ ไปให้พ้น"

ภายในห้องแพทย์ประจำศูนย์ หมอนั่งคุยกับทองทาที่นั่งเศร้า
"ความทรงจำของคุณช้องนางหยุดนิ่งแต่เรื่องนี้ ยิ่งเห็นหน้าคุณก็ยิ่งคิดถึงพ่อของคุณ ผมอาจจะต้องเปลี่ยนยา อาการอาละวาดแบบนี้ ไม่ดีนัก"
ทองทาน้อยใจมาก
"ทำไมแม่ไม่จำผม ไปจำเขาเอาไว้ทำไม"
"คราวที่แล้ว เขาจำคุณได้นี่นา"
"ครั้งเดียวในรอบห้าปี ที่เหลือจำผมเป็นพ่อหมดเลย ทำไมแม่ต้องรักเขา
ขนาดนี้ แม่จำผมไม่ได้"
ทองทาน้ำตาคลอ หมอมองอย่างเห็นใจ

ในคืนเดียวกัน ทองทา โยทะกา นั่งกินดื่ม คุยกัน ในบรรยากาศที่มีแสงเทียน โยทะกาฟังเรื่องจากทองทาหมดแล้ว เศร้าเห็นใจตามไปด้วย
"คุณช้องนาง ภรรยาคนแรกเป็นโรคจิต คุณบัวบุษบา แม่ของเบลกินยาตาย ทั้งหมดเพราะความเจ้าชู้ของพ่อคุณ กับผู้หญิงโง่ๆ เชื่อคนง่ายอย่างฉัน"
"ที่น่าแปลกก็คือ เจ้าตัวคนทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สา ตายหนึ่ง เป็นบ้าหนึ่ง รู้สึกผิดหนึ่งคือพี่ กำลังสับสนอีกหนึ่งคือผม"
"สับสนอะไรคะ"
"ผมบอกหมอว่าช่วงนี้ผมมีอาการแบบ ตั้งข้อสงสัยว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไร บางทีมันเหงาจนบอกไม่ถูก เหมือนชีวิต ไม่มีใครเลย หมอรีบชวนผมบำบัด หมอเขาว่า โรคซึมเศร้าของแม่ถ่ายทอดให้คนในครอบครัวได้"
"โธ่คุณทองทา อายุคุณยังน้อย ชีวิตคุณขาวสะอาดกว่าคนอีกมากมาย ถ้ารู้ชีวิตของฉัน คุณจะหนาว"
"แล้วเมื่อไหร่ พี่โยจะเล่าให้ผมฟังล่ะ บางทีพี่ดูเศร้ากว่าผมอีก ไม่แชร์กับใครเลย ทนได้ยังไง"
โยทะกาเดินไปมองข้างนอก มองท้องฟ้า
"เมืองใหญ่เมืองนี้ มีแสงสี มีความเจริญ แต่พออยู่ไปสักพักเราจะรู้ ความเหงา ความเศร้าอยู่ทุกตารางเมตรเลยมั้งพี่ว่า"
โยทะกาเริ่มร้องเพลงท่อนหนึ่งออกมา ทองทาเดินไปที่เปียโนเริ่มเล่นเพลงคลอไปกับโยทะกา เพลงเศร้ากับน้ำตาคลอของโยทะกา บาดหัวใจคนฟัง

"เจ็บเหลือเกิน เหลือเกิน กับเรื่องราวที่พลาดไป ทำให้เธอผิดหวังวุ่นวาย จากเธอและทำให้เธอเสียใจ ทั้งที่ใจก็ยังรักเธอ" (เพลง ฉันทำผิดเอง - แพท สุธาสินี)

18 ปีก่อน รำเพยมาคลอดลูก อุ้มลูกที่เพิ่งคลอดใหม่ เธอมองลูกอย่างรักใคร่ แต่ก็มีแววตาเศร้ากังวลอนาคต

วันใหม่ รำเพยอุ้มลูกมือหนึ่ง ถือกระเป๋ามือหนึ่งกลับเข้ามาบ้าน พ่อเลี้ยงเมาออกมาด่า
"นี่ใจคอมึงจะเลี้ยงมันจริงหรือ ที่หากินอยู่ทุกวันนี้ ก็ไม่พอยาไส้แล้ว สำส่อนไม่พอ ยังเก็บลูกไว้ประจานชาวบ้านอีก ดี วันนี้กู จะบีบคอมึงให้ตาย"
พ่อเลี้ยงพุ่งเข้ามาจะทำร้าย
"อย่านะลุง"
รำเพยวิ่งไปหลบ แม่ของรำเพยออกมาจับพ่อไว้
"ไป๊ นังรำเพย แม่เก็บกระเป๋าไว้แล้ว หนีไป๊"
"อีน้อย มึงจะมาขวางทำไม ปล่อยกู ปล่อย"
พ่อดิ้น
"แล้วลูก ... ลูกฉันล่ะแม่"
"แม่จะจัดการเอง ไอ้ชาติมันไม่ทำเด็ก แต่มันเอามึงตายแน่เพราะมันอายชาวบ้าน ทิ้งเด็กไว้ เอาเด็กไปด้วยแกเอาตัวไม่รอดหรอก ไป๊ ไปซะ"
รำเพยละล้าละลัง
"เชื่อแม่ ทิ้งเด็กไว้แล้วไปซะ"
รำเพยอุ้มเด็กไปไว้ในห้อง กอดจูบเด็ก แล้ววางไว้ที่ฟูกที่นอน แล้วร้องไห้ออกมาหยิบกระเป๋า มองลูกอย่างอาลัยแล้วออกไป

รำเพยหิ้วกระเป๋า มองแม่ที่ยังยื้อกับพ่ออยู่
"มึงจะไปไหน มึงเอาลูกมึงไปด้วยเลยนะ"
"พี่ชาติ ฉันจะเอาเด็กให้สังคมสงเคราะห์ ปล่อยนังรำเพยมันไป ปล่อยมันไป"
"อีสำส่อน ท้องไม่มีพ่อ ทำอะไรไม่รู้จักคิด มึงทำให้กูกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน ไปแล้วอย่ากลับมานะมึง"
รำเพยร้องไห้ มองรูปถ่ายแม่ลูกที่พยาบาลถ่ายให้ แล้วเดินทางเข้ากรุงเทพ

โยทะกาน้ำตาคลอยังร้องเพลงต่อเนื่องมา ทองทาเป็นคนดีดเปียโนให้
"แอบมองเห็นเธอทุกวัน แอบมองด้วยรอยน้ำตา และอยากกลับคืนกลับมาเหมือนเก่า
มันทรมานเหลือเกิน แอบมองด้วยความปวดร้าว เมื่อรู้ว่ามันสายไป อยากทำให้เธอหันมา อยากทำให้เธอเข้าใจ กับสิ่งที่ทำลงไปมากมาย และรู้ว่าในที่สุด ก็คงไม่มีผู้ใด จะรักจะดีเท่าเธอ
ฉันสูญและเสียอะไรที่ดีมากมาย ไม่ใช่เพราะฟ้ากำหนดเอาไว้ แต่ฉันทำผิดเอง"
เพลงจบ ทองทาเอาผ้าเช็ดหน้าให้
"เราจะมัวเศร้าทำไมกันนะ ชีวิตมีด้านสวยงามอีกเยอะแยะ"
"ครับ ...ถ้าแบกไม่ไหว เล่าให้ผมฟังได้นะ"
"จ้ะ ว่าแต่เราเถอะ ทำไมไม่หาแฟนสักคน"
"แฟนหรือ"
"เคยนึกชอบใครไหม"
"พี่ไง"
"หลงนางงามที่ดูทางทีวีน่ะ มันเรื่องฝันเฟื่องตอนวัยรุ่น"
"ทำเป็นเล่น เป็นครั้งแรกที่ผมรู้ตัวว่าผมไม่ใช่เกย์ เจอพี่กี่ทีก็เหมือนเดิม ใจมันเต้นๆ หน้าร้อนๆ"
"เธอเหมือนผู้ชายก็ตรงนี้ พูดโกหก ! ... เธอต้องชอบคนอื่นบ้างสิ ใจเต้นครั้งหลังสุดน่ะ มีไหม"
ทองทานึกอดีต ที่มาลีนอนตรงหน้ามา จนทองทาต้องหนีเข้าห้อง
"อืม... เขามีอะไรคล้ายๆพี่นะ แต่ไม่เห็นโทร.มาหาเราเลย เป็นไงบ้างก็ไม่รู้"
"นี่ เราเป็นผู้ชายนะ ต้องเป็นคนโทร.หาเขาสิ"
"ก็ผมไม่กล้านี่"
"ทั้งปี"
โยทะกาส่ายหน้า ยิ้มให้ อารมณ์ดีขึ้น
"ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ"
คืนวันเดียวกัน มาลีทำงานเสิร์ฟ มองไปทางหลังร้าน เกรซ กับมี่ กำลังยืนต้อนรับแขกผู้ชายทั้งกลุ่ม แขกหอมแก้มเกรซอย่างคุ้นเคย
"ทุเรศ สกปรก กิจการสกปรก"
โรสมองหน้า มาลีตกใจ เพราะเพิ่งเห็นว่าโรสอยู่แถวนี้
"สกปรกก็ไม่ต้องอยู่ ใครเขาเอาโซ่ล่ามไว้ล่ะ" โรสเดินไปที่แคชเชียร์ หยิบเงินออกมาวาง ตบๆกระแทกๆ เสียงดัง "นี่ ให้ทั้งปึก ทั้งเก๊ะนี่ ทุ่มสุดตัว มาเอาไป ! แล้วไป เก็บกระเป๋า ขึ้นรถทัวร์ไปเลย จะดักดานอยู่ที่นี่ทำไม ทั้งคนทั้งสถานที่ มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหล่ะ ไม่พอใจอยู่ก็ไม่ต้องอยู่"

มาลีนิ่ง อายที่พ่อด่าเสียงดัง นึกในใจเดี๋ยวเถอะ

มาลีเรียกประชุมเด็กสาวทั้งร้าน เอาโปสเตอร์วางให้ดู ราวกับจะก่อม็อบ

"ชีวิตคนเกิดมามันต้องมีความฝัน ความฝันเท่านั้นที่จะหล่อเลี้ยงวันเหนื่อยๆของเราได้ !"
การะเกดยิ้มบอก
"รายการสี่แยกนักฝัน"
"หาเดอะซุปเปอร์สตาร์" ชงโคบอก
"ชิงเงินรางวัลตั้งล้านหนึ่ง"
ทุกคนโพล่งพร้อมกัน
"ล้านหนึ่ง !"
"แถมได้เป็นดารา เป็นนักร้อง"
เกรซเพ้อ
"เป็นดารา"
"อย่างพวกเราสมัครได้จริงหรือ" มี่ถาม
"ได้สิ ความฝันเป็นของทุกคน ดูอย่างพี่ซีโร่ เดอะซุปเปอร์สตาร์คนแรก เขาเป็นแค่เด็กเทคนิคเชียงใหม่ นี่ไงๆ ฉันพกรูปพี่ซีโร่ไว้ตลอด"
มาลีเอารูปให้ดู
"แอร๊ย พี่ซีโร่"
"คนนี้หนูมาลีจอง ห้ามใครมายุ่ง น่ารักๆ รักที่สุดๆ"
มาลีเอารูปมาจูบ
ชงโคถาม
"เอาไงดีพวกเรา"
"จะเป็นเด็กเสิร์ฟไปทั้งชาติหรือไงล่ะ"
โรสโผล่ออกมา
"โอ๊ย จริงจ้ะ จริงที่สุด ดักดานเหี่ยวแห้ง ตายอยู่ในคาราโอเกะ มันทุเรศ พูดอีกก็ถูกอีก"
ทั้งหมดจ๋อยและอึ้ง มาลีมองหน้าพ่อ แล้วตัดสินใจพูดต่อ
"พรุ่งนี้ฉันจะไปสมัคร ใครไปมั่ง"
สาวส่วนใหญ่บอก
"ไปด้วย ไปด้วย ไปด้วย"
บอยมองคนยกมือ
"ไปกันหมดร้านเลยหรือ แล้วใครจะทำงาน"
บอยมองหน้า โรสประจันสายตากับลูกอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร
"อิ่มจริงโว้ย ฝันนี่มันอร่อยเนอะ ไม่ต้องเคี้ยวไม่ต้องกลืน ฟินถึงสมอง พี่บุญมา พี่สมศรี พรุ่งนี้ข้าวไม่ต้องทำให้พวกมันกินนะ พวกมันกินฝันคืนนี้ อิ่มถึงชาติหน้า"
โรสด่าเสร็จก็มองหน้าลูกสาวที่ไม่ยอมแพ้ !!

บริเวณ ด้านหน้า สถานีเอ็มเอ็มแชนนัล เจ้าหน้าที่หลายคน เด็กวัยรุ่นแต่งตัวเต็มพรึ่บมาสมัครกันหลายคน ผู้ปกครองเด็กหลายคน ช่างภาพทีวี นักข่าวเต็มไปหมด
กลุ่มของมาลีเดินเข้ามา มี่ และเกรซแต่งตัวโป๊ เดินดูบรรยากาศผู้คนมากมาย เจ้าหน้าที่กำลังตั้งโต๊ะรับสมัครพร้อมใบกรอกอยู่มุมหนึ่งมีแบล๊กดร๊อป ไว้ให้นักข่าวถ่ายรูปผู้สมัครอยู่มุมหนึ่ง
"โห ครึกครื้นจัง" การะเกดว่า
"รับใบสมัครทางนี้ค่ะ กรอกใบสมัครนี้ แล้วเอาเงินไปจ่ายทางโน้น" เจ้าหน้าที่บอก
เจ้าหน้าที่ยืนแจกใบสมัครให้คนที่เดินเข้ามาใหม่
"โห ค่าสมัครตั้งพันหนึ่ง" ชงโคว่า
"ถ้าไม่ได้ เสียเงินฟรีเลยนะ"
"ฉันไม่มีเงินหรอก กลับดีกว่า" ปลาหันหลังจะกลับ
"เดี๋ยวๆ จะเอาเงินล้านมันก็ต้องลงทุนหน่อย สมัครเป็นเพื่อนกันหน่อยนะ นะ" มาลีว่า
"เงินตั้งพัน เสียดายว่ะ" มี่บอก
"เอางี้...ฉันให้ยืม 8 คน แปดพัน"
"โห ทำไมเธอมีเงินเยอะจัง"
มาลี ยิ้มแห้ง
"เงิน เอ้อ ผู้มีพระคุณน่ะ ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่แหล่ะ ไว้พวกเธอใครดังก็เอามาจ่ายคืนดีไหม"

ทุกคนยิ้มพยักหน้า

กลุ่มของมาลี เขียนใบสมัครแล้วจ่ายเงินจนเสร็จ เสียงประกาศ

"ขณะนี้เดอะซุปเปอร์สตาร์ คนแรกของเมืองไทย ซีโร่ สิริพงษ์ สุขเสถียร มาถึงแล้ว พี่ซีโร่ พร้อมให้กำลังใจทุกคนแล้วค่ะ"
รถตู้ที่มีรูปซีโร่วิ่งไปยังเวทีเล็กๆ ด้านหน้า มาลี ร้องกรี๊ดออกมาวิ่งตามไปกับคณะแฟนคลับที่กรูกันไป กลุ่มชงโควิ่งตาม ตื่นดารา
"พี่ซีโร่ พี่ซีโร่"

ซีโร่เดินขึ้นเวทีร้องเพลงและเต้น เก่งมาก มีเสน่ห์มาก ผู้คนกรี๊ดกันใหญ่ ... จบเพลง
"ขอบคุณทุกท่านนะครับ ผมมีวันนี้ได้เพราะรายการนี้ เห็นบรรยากาศการสมัครวันนี้แล้ว คิดถึงตอนที่ตัวเองนั่งรถทัวร์มาจากเชียงใหม่ ตอนนี้เองก็ ยังเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงอยู่เลยครับ วันนี้ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ"
มาลีออกอาการอย่างหนักเพราะ มีซีโร่เป็นไอดอลมาตลอด ถึงขั้นคุมสติไม่อยู่เมื่อเห็นความเท่ของพี่ซีโร่ตัวเป็นๆ
"พี่ซีโร่ตัวเป็นๆ เฮ้อ"
มาลีเซลงไป การะเกดและชงโควี้ดว้ายช่วยกันรับ มาลีนอนตาค้าง เคลิ้มหนัก อยู่ในอ้อมกอดการะเกด ตาลอย จนการะเกดกับชงโคต่างมึน
"หนูมาลีๆ ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย มีคนเป็นลมทางนี้ค่ะ"

เจ้าหน้าที่เรียกกลุ่มของมาลีที่มีหลายเลขติดอกแล้ว
"คนที่สมัครแล้ว มีเลขประจำตัวแล้วมาถ่ายรูปที่แบ็กดร็อปตรงนี้เลยค่ะ"
ชงโคมองทีมงานที่ถ่ายคนอื่นอยู่ที่แบ็คดร็อป
"ได้ออกทีวีด้วยหรือ"
"เกดเคยดู ส่วนใหญ่คนสวยๆ ที่มีนักข่าวถ่ายรูปไว้เยอะๆจะเข้ารอบ เรา
ต้องทำตัวสวยๆ"
ทุกคนเริ่มตกแต่งตัวเอง เตรียมเข้าไปถ่าย มี่กับเกรซดึงกระโปรงให้สั้นขึ้น ดึงเกาะอกให้ลดลง
"ใช่ๆ รอบนี้เป็นการคัดเลือกที่บุคลิกภาพ เราต้องสวย ต้องเริ่ดเข้าไว้" มาลีว่า
"เฮอะ เรื่องสวย พวกเราน้อยหน้าใครที่ไหน ฉันมั่นใจ"
ชงโคเดินไป เจ้าหน้าที่เริ่มถ่าย คนรุมชงโค
"ถูกต้อง มองๆไปแล้วมีแต่พวกเราเนี่ยแหล่ะ สวยสุด"
มี่บอก ... เตรียมตัวขึ้นต่อจากชงโค
และแล้วรถปิคอัพแห่นางงามก็ขับเข้ามา มีนางงามบนปิคอัพพร้อมมงกุฎสายสะพาย มีเครื่องเสียงประกาศพร้อม ราวกับแห่เข้าเมืองก็ไม่ปาน
เสียงประกาศ
"ชาวสกลนครกราบสวัสดีพี่น้องชาวกรุงเทพ นางงามภูไท อันดับหนึ่ง น้องน้อยหน่า และรองชนะเลิศทั้งสองคน น้องฝ้ายและน้องน้ำหวาน ขอโอกาสทุกท่านเข้าประกวดซุปเปอร์สตาร์ครั้งนี้ด้วยนะครับ"
ช่างภาพทีวีและคนอื่นวิ่งไปถ่ายนางงามภูไททันที
"เอ้าพี่จะไปไหนกัน หนูล่ะ หนู"
การะเกดอุทานภาษาอีสาน
"โห สวยคักๆ"
"นางมี่แกดูดีๆ ที่ว่าเราสวยสุดน่ะ ไดอาน่าจงจิตนาการทั้งนั้น"
มีนางงามมาอีกหลายคนพร้อมสายสะพายและมงกุฎ ยืนถ่ายรูปมุมต่างๆ มีคนรุมล้อม
"ภูไทสวยหวาน โน่น ซุปเปอร์โมเดล สวยเฉียบ" มี่บอก
สาวนางแบบมีมงกุฎสายสะพาย ถ่ายรูปกับแฟนคลับมุมหนึ่ง
ปลาชี้นางงามอ้วนที่คนถ่ายรูปอยู่
"นางงามตุ่มสามโคก สวยแปลก ยังมี ! เราจะเอาอะไรไปสู้ล่ะ"

กลุ่มของมาลี ชักปริวิตก จะเข้ารอบไหมเนี่ย
 
อ่านต่อหน้า 3

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 2 (ต่อ)

บอยมองไปที่ประตูร้านเซอร์ไพร์สคาราโอเกะ โรส บุญมา สมศรีนั่งรอ กำลังกลุ้ม

"บ่ายสามแล้ว เราต้องเปิดร้านสี่โมงเย็น ไม่มีคนงานเราจะเปิดได้ไง"
ซูซี่เพิ่งมาถึง เดินมาโวยอารมณ์เสีย
"มันเอาคนของฉันไปด้วย ลูกพี่คนนี้ร้ายนัก จะทำงานกันยังไงล่ะวันนี้"
"ลูกมือในครัวฉันก็ไม่มี ให้ทำกับข้าวก็ได้นะนังโรส แต่แบบสโลโมชั่น แกอย่ามาด่าฉันแล้วกัน ฉันกลัวปากตะไกรของแก" สมศรีว่า
โรสแค้น

มาลีให้กำลังใจเพื่อนฝูง
"ชงโค สู้ต่อไป ยิ้มๆ พี่ซีโร่อุตส่าห์ร้องเพลงให้พวกเราจำไม่ได้หรือ"
"เขาร้องให้ทุกคนไม่ใช่หรือ" การะเกดว่า
มาลีจ๋อย
"นั่นแหล่ะๆ โพสต์ท่าสวยๆ"
ช่างภาพถ่ายรูปไป
"คนต่อไปค่ะ"
"ไป มี่ลุยเลย สู้ๆ"
จนถึงมาลี เป็นคนสุดท้าย การถ่ายภาพนิ่งเป็นไปด้วยดี ห่างออกไป ทองทาเดินมาดูมาลี ขณะถ่ายภาพนิ่ง
"มาจริงๆด้วยแฮะ"
ในห้องคอนโทรล มีจอแสดงภาพจากกล้องต่างๆ ออกอากาศ โยทะกา บรม แซนดี้ นั่งชมจอต่างๆ หาคนที่เตะตา
กลุ่มของมาลีที่ถูกบันทึก ถูกส่งมาขึ้นที่จอๆหนึ่งด้วย
"เดี๋ยวนะคะพี่แป๊บหนึ่ง"
มาลีเด็ดดอกไม้แถวนั้น มาทัดหู โยทะกาเพ่งมองที่จอ แล้วยิ้มออกมา เอ็นดูเด็กที่ทำอะไรเหมือนตนเอง
"ถ่ายต่อได้ค่ะ"
ทองทา กอดอกมองเพลิน
"โอเค ถ่ายรูปเสร็จเข้าไปร้องเพลงในสตูดิโอนะคะ รอบต่อไปจะแสดงความสามารถด้านร้องเพลง เราจะบันทึกวีดีโอให้กรรมการดู เชิญข้างในเลยค่ะ"
มาลีและเพื่อนยิ้มกันเดินเข้าไป โยทะกามองตามมาลี แล้วยิ้มเอ็นดู

ในสตูดิโอ ทุกคนจะร้องเพลงใส่กล้อง ทีละคน การะเกดร้องเพลงลูกทุ่ง ร้องสด

บรมชี้การะเกด
"คนนี้ร้องดี น่าสนใจครับ สวยด้วย"
โยทะกาพยักหน้า
ชงโคร้องเพลงไป เต้นไป
แซนดี้บอก
"คนนี้พอผ่าน"
มาลี ร้องเพลงไป เต้นไป
"พอผ่าน แต่หน้าตาน่ารักดีนะ" บรมว่า
ทั้งสามคนนั่งดูไปเรื่อยๆ
ภูมิ หนึ่งในผู้สมัคร ร้องเพลงแบบโชว์พลังเสียง โอเวอร์มาก ตามประสานิสัยชอบโชว์

มาลี ชงโค การะเกดยืนดื่มน้ำอยู่ที่หน้าสตูดิโอ เสียงร้องโหยหวนลากยาวอย่างเวอร์ของภูมิดังออกมา แบบไม่บันยะบันยัง ฟังแล้วขี้หูแทบจะเต้น
"โห เขาร้องกันเอาตายเลยนะ เราจะชนะเขาหรือ" การะเกดว่า
ชงโคตะโกนเข้าไปในห้อง
"เฮ้ย ไฟจะไหม้ตึกแล้วโว้ย"
มาลี ยิ้มแห้ง มีทั้งคนสวย มีทั้งคนเก่งกว่า จะชนะหรือนี่ !!
"เราต้องสู้ ด่านต่อไป ขึ้นแสดงหน้าเวทีให้คนขำ เราต้องทำให้ดีกว่าทุกคน อย่าลืมสิ ใครชนะ จะได้ทำงานคู่กับพี่ซีโร่ อย่างน้อยต้องได้เข้ารอบโว้ย"
มาลีเรียกทุกคนมาล้อมวง เอามือมาแตะกันตรงกลาง
"สู้ !"

ทั้งหมดโพล่งแล้วสะบัดออกพร้อมร้องเย้

ทองทาเดินมาหา มิกซ์กับแมกซ์ดูแลเด็กกลุ่มหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์และวันนี้มาสมัคร เด็กเหล่านั้นมีเลขประจำตัวผู้สมัครด้วย กำลังเตรียมขึ้นแสดง

มิกซ์กับแมกซ์ตะโกนเสียงดังพร้อมกัน
"ผัวขา...ทางนี้"
คนอื่นมองขำ แต่ทองทาเฉยๆ
"มาทำอะไรเนี่ย ไหนบอกเกลียดรายการนี้ไง"มิกซ์ว่า
ห่างออกไป มาลีเดินนำทุกคนออกมาที่ข้างเวที
มีผู้สมัครอยู่บนเวที ผู้สมัครกำลังแสดงในหัวข้อ “ทำให้คนดูขำ” มีกล้องถ่ายอยู่
พวกหนูมาลีและเพื่อนมาต่อคิวขึ้นเวที
"เฮ้ยนั่นมันหนูมาลี" แมกซ์บอก
ทุกคนพร้อมใจกันหันมามองทองทาเป็นตาเดียว "อ๋อ"
"เฮ้ยอะไร ไม่มีอะไร ฉันมาเชียร์ลูกศิษย์โรงเรียนแกไง"
"เชื่อจ้าเชื่อ คุยๆกันอยู่หรือ"
"เปล๊า ตั้งแต่วันนั้นยังไม่ได้คุยเลย"
"แล้ววันเนี้ย"
"ก็ฉันไม่ได้มาหาเขานี่ ฉันมาให้กำลังใจเด็กๆ.....จริงๆ"
ทุกคนโพล่งพร้อมกัน
"ป๊อดอ่ะ"
ทองทาเขิน หน้าจ๋อย

ทั้งหมดยังนั่งรอทุกคน
"สี่โมงแล้วเอาไงครับพี่โรส" บอยถาม
"เอาป้าย ปิดร้าน 1 วัน ไปตั้งข้างหน้า" โรสบอก
คนอื่นเซ็ง

ในห้องคอนโทรล ทั้งหมดยังนั่งดูการถ่ายทอด ภาพตัดเข้ามาที่กล้องต่างๆ บนจอในห้องนี้อย่างต่อเนื่อง แซนดี้หันมาคุยกับโยทะกา
"คุณมองเด็กพวกนี้ คุณเห็นอะไร"
เสียงความคิดโยทะกาว่า
"ลูกแม่... หนูอยู่ในนี้หรือเปล่า"
โยทะกาตอบแซนดี้
"มองเห็นงานค่ะ งานหนักทีเดียว"
สีหน้าแซนดี้คือ ครูที่มีเมตตาต่อเด็กๆ มองเด็กๆในจอ อย่างเอ็นดู
"ฉันมองเห็นโชคชะตา เด็กทุกคนก็น่ารักเหมือนกัน เก่งเหมือนกัน มีฝันเหมือนกันหมด แต่โชคชะตา จะเข้าข้างใคร"

กลุ่มของมาลี ขึ้นมาแบบคณะตลก คือขึ้นมาพร้อมกันทั้ง 8 คน เอากระดาษม้วนมาอันหนึ่ง ทั้งหมดยืนเรียงหน้ากระดานร้องเพลงและเต้นท่าเดียวกัน เหมือนเป็นพวกคีย์ซีนนำเข้าตลก ดูน่ารัก
พร้อมกันร้อง "แถ่มแท้ม แถ่มแท้มๆๆๆ"
มาลีบอก
"วันก่อน อ่านสามก๊ก เล่าปี่มีลูกสองคน เล่าเก่ากับเล่าใหม่ เล่าเก่าไปรบแล้วตาย เล่าปี่จะให้ใครสืบสกุล"
ชงโคบอก
"เล่าใหม่"
มาลีย้อนคำถามเดิม
ชงโคบอก
"เฮ้ยก็ตอบไปแล้ว...เล่าใหม่"
มาลีบอก
"วันก่อน อ่านสามก๊ก เล่าปี่ มีลูกสองคน เล่าเก่ากับเล่าใหม่" มาลีเอากระดาษ
ตีหัวชงโคเปรี้ยง ! " นี่แน่ะ ขี้เกียจเล่าแล้ว คนนี้บ้าง"
การะเกดบอก
"วันก่อน ตื่นขึ้นมา อกตัญูญูทันทีเลย"
ปลาบอก "ถีบแม่ตกเตียง" การะเกดส่ายหน้า
มี่บอก "ขโมยเงินพ่อ" การะเกดส่ายหน้า
เกรซ บอก "แย่งข้าวแม่กิน"
"ลืมตา" การะเกดบอก

มาลีตีหัวปลาเปรี้ยง ! เพราะแพ้การะเกด คนดูขำกันพอสมควร

สามกรรมการ มองกลุ่มมาลี แล้ววิจารณ์กัน

แซนดี้บอก "เด็กบ้านนอก"
โยทะกา คีย์เลขบนอกหมาลีใส่คอมพ์
"เขาใส่ประวัติว่าเป็น เด็กเสิร์ฟ"
"ว่าแล้ว... ก็แค่มุกตลกคาเฟ่"
บรมบอก
"รอบแรกเราวัดกันที่บุคลิก กับความกล้าแสดงออกไม่ใช่หรือ ก๊วนนี้กล้าดี ถ้าเลือกก๊วนนี้แฟนรายการคนต่างจังหวัดน่าจะชอบ เพราะเป็นตัวแทนของ “โอกาส” เราต้องให้ “โอกาส”เขา"
"เดี๋ยวรู้กัน ว่าคณะกรรมการจะให้ใครผ่าน แต่ฉันไม่เอาคนหนึ่งล่ะ ไม่มีคุณภาพ"
โยทะกายิ้มๆ มองนาฬิกาแล้วออกไปจากห้อง ไปรอรับใครบางคน

ทั้งแปดคนยังเล่นตลกต่อเนื่อง
เด็กเสิร์ฟคนหนึ่งบอก
"วันก่อน โกรธอาม่า"
"โกรธเรื่อง" มาลีถาม
ทองทายืนมอง ยิ้มเพลิน
"ถามอาม่า บ้านหลังนี้ยกให้ใคร อาม่าตอบให้รื้อๆ"
มาลีตีหัวเด็กเสิร์ฟ
"เขาบอกให้ลื้อ หมายถึงแก... ไม่ใช่ให้รื้อ"
ทีมงานยกมือหมดเวลา
มาลีหันไปบอกกล้องวีดีโอ
"ท่านคณะกรรมการ อย่าลืมเลือกหนูนะคะ ทีมเอสเคปค่ะ หนูมาลีค่ะ"
"การะเกดค่ะ"
คนอื่นรีบวิ่งมาแนะนำตัวพร้อมชี้ที่เลขบนหน้าอก
"ชงโคค่ะ เลือกหนู...รับรองจี๊ดค่ะ"
"แม่ๆ ปลาออกทีวีด้วย"
เกรซ กับ มี่ทำท่าเซ็กซี่
"เกรซค่ะ หุ่นขนาดนี้ลืมลงหรือคะ"
"มีมี่ ยินดีให้บริการทุกท่า เอ๊ยทุกท่าน ค่ะ จุ๊บๆ"

ในห้องคอนโทรล บรมบอก
"หน้ามันคุ้นๆนะสองคนนี้ เคยเห็นที่ไหน"
แซนดี้มองบรม รู้นิสัย
"อาบอบนวด ! จดไว้ด้วย น่าสงสัย"
บรมค้อน แซนดี้มองอย่างไม่แคร์เพราะไม่ค่อยถูกกัน

ทีมของมาลีลงจากเวทีไป

โยทะกาเดินนำทีมกล้องมารอรับใครบางคน รถยาวหรูลิมูซีนมาถึง ยาหยีและนีน่าลงมาก่อนเปิดประตูให้ เธอพยักหน้าให้กล้องไปถ่ายภาพ

ช่างภาพได้รับข่าวมาแล้ว ต่างกรูกันเข้ามาเต็ม พวกมาลีมาดู
ชงโคถาม
"ใครมาอ่ะ คนมารับเต็มเลย"
บุษบาบัณในชุดหรู ราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ลงมาจากรถ มงกุฎเพชรพรึ่บ ดูสวยงาม
"เจ้าหญิงประเทศไหนวะเนี่ย เพชรเยอะขนาดนั้น" ปลาว่า
ยาหยีบอก
"หลีกทางๆ ขอเชิญ พบกับคุณบุษบาบัณ หรือคุณเบลค่ะ"
มาลีนึกออก
"ลูกสาวคุณเมืองแมน เจ้าของสถานี สงสัยมาให้กำลังใจมั้ง"
"ทั้งสวยทั้งรวย น่ารักดีเนอะ ทำบุญกี่ชาตินะถึงเกิดมาได้อย่างนี้" การะเกดว่า
นักข่าวถาม
"วันนี้มาทำอะไรครับคุณเบล"
"เบลจะขอร่วมสนุกกับโครงการนี้ วันนี้จะมาส่งใบสมัครเข้าโครงการ สี่แยกนักฝันเดอะซุปเปอร์สตาร์ปีสองค่ะ"
นีน่าโชว์กระดาษ
"นี่ค่ะใบสมัครของคุณเบล"
"มาสมัคร" มาลีโพล่ง
"ไม่กลัวคนจะหาว่าเป็นเด็กเส้นหรือคะ" นักข่าวถาม
"เวทีนี้เป็นเวทีอันทรงเกียรติ คณะกรรมการแต่ละคน ก็เป็นผู้มีเกียรติยศชื่อเสียง ทุกอย่างจะเป็นไปตามกติกา ไม่มีการใช้เส้นอย่างที่ว่าหรอกค่ะ"
"แล้วจะมั่นใจได้ยังไง ครับว่ากรรมการจะไม่เกรงใจคุณเมืองแมน"
"ขอบคุณนะคะ พี่ๆ ที่ให้เกียรติเบลขนาดนี้ ขอบคุณมากค่ะ"
"คุณโยทะกาให้เกียรติมารับใบสมัครด้วยตัวเองเลยนะคะ" นีน่าว่า
บุษบาบัณรับใบสมัครมายื่นให้โยทะกา ทุกคนถ่ายรูปใหญ่ เธฮยกมือไหว้อย่างสวยงาม
"ขอบคุณค่ะ"
บุษบาบัณกอดกับโยทะกาเอาหน้ากับนักข่าวในฐานะครอบครัวเดียวกัน ทุกคนถ่ายรูปกัน

ในห้องคอนโทรล แซนดี้ส่ายหน้า
"กดดันกรรมการจริงๆ จะให้สมัครทำไมไม่รู้"
"ที่จริงก็ดีนะ พรุ่งนี้ลงข่าวหน้าหนึ่งบันเทิงแน่นอน เป็นกลยุทธ์เรียกเรตติ้งเปิดตัวที่ดี" บรมบอก
"คนสมัยนี้ก็แปลก ทำตัวดีๆ เก่งๆ ไม่เป็นข่าว ทำตัวเลวๆ ผิดที่ผิดทางเป็นข่าวดังชั่วข้ามคืน แล้วแบบนี้ใครมันจะอยากเป็นคนดี"
บรมยักไหล่ไม่แคร์ หมั่นไส้นิสัยครูแก่ของแซนดี้
กลุ่มมาลียืนเซ็ง
"ชนะใสๆ นอนมาเลย มีเงินเป็นร้อยๆล้าน ยังจะมาแย่งเงินล้านเดียวจากเราอีก เชอะ" ชงโคบอก
"ไม่หรอกน่า เขาก็บอกแล้วไงว่า จะแข่งกันอย่างโปร่งใส พวกเราต้องมีกำลังใจนะ กลับบ้านกันเถอะ ไปดูทีวีที่เขาถ่ายเราดีกว่า"
ทองทา ตั้งสติใหม่จะเดินมาทักหนูมาลี
รถแท็กซี่มาจอด
"ไป กลับกันเถอะ รถมาพอดี"
"เอ้อเดี๋ยว"
ไม่ทันแล้ว กลุ่มของมาลี ขึ้นรถไปอย่างรวดเร็วมาก ทองทาได้แต่มองตามรถที่แล่นออกไป ทักไม่ทัน เสียดาย...

ทั้งหมดลงจากแท็กซี่มาเจอป้าย “หยุด 1 วัน”
การะเกดบอก
"ร้านปิด แย่แล้วพวกเรา"

มาลีหน้าเครียด

กลุ่มของโรสนั่งเซ็งรออยู่ กลุ่มของมาลีเดินเข้ามา ก็ชะงัก ไม่กล้าเดินต่อ สมศรีหันมาเห็น ได้ยินแล้ว

"ฉันจัดการเอง" มาลีบอก
"จะจัดการยังไงไม่ทราบยะ ของสดที่ซื้อมาในตู้วันๆหนึ่ง หลายบาทนะหนู"
ซูซี่บอก
"อีมี่ อีเกรซ หนอย มานี่เลย เสี่ยเขารออยู่"
"โอ๊ยเบาๆ เจ็บ" มีมี่บอก
"จะไปประกวดทำไม มึงก็ดารากันอยู่แล้ว ดาราตู้กระจกไงอีโง่ มานี่ มานี่เลย"
ซูซี่ลากมี่และเกรซออกไป
มาลีบอกกับโรส
"หนูขอโทษค่ะ ไม่นึกว่าจะนานขนาดนี้"
โรสโกรธเดินไป มาลีเดินตาม
"พี่โรส จะไปไหนคะ"

โรสเดินเข้ามาในห้องของมาลีในบ้านพักคนงาน
"พี่จะทำอะไรคะ"
โรสเอากระเป๋าเดินทางลงมาทุ่มลงพื้นแทบเท้ามาลี
"เก็บข้าวของ ฉันจะไปส่งเธอที่สถานีรถ กลับบ้านไปได้แล้ว"
บอย บุญมา สมศรี แอบดูที่มุมหนึ่ง
"คุณมีฝันคนเดียวหรือไง คุณมากรุงเทพได้ แล้วทำไมหนูถึงมาไม่ได้ล่ะคะ"
"ฉันมาทำงาน หาเงินไปให้แกเรียนหนังสืออย่างสุขสบาย ถ้าฉันฝันเฟื่องอย่างแก แกคงเป็นขอทานไปแล้ว"
"คนอื่นก็มาทำงานเหมือนกัน ทำไมเขากลับบ้านไปเยี่ยมลูกได้ล่ะ อย่าอ้างเลย หลงแสงสี หลงผู้ชาย"
โรสยกมือขึ้น พวกบอยตกใจ
มาลีตกใจ ก้มหน้าเตรียมรับ โรสหันไปถีบพัดลม เปรี้ยง ! ฝาพัดลม กระเด็น ทุกคนสะดุ้ง
"เอาแล้วไง" บุญมาถาม
สมศรีออกมาโวย ทนไม่ได้
"พูดจากับพ่อแม่แบบนี้ ตกนรกไปจะกลายเป็นเปรต ปากเท่ารูเข็ม"
"หนูขอโทษ ... ยังไงหนูก็ไม่กลับ"
โรสมองหน้ามาลี ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ โรสเดินออกไป
"ตามไปเร็ว บอย" บุญมาบอก
บอยรีบเดินตามไป พูดไป
"พี่โรสไปไหน ผมไปส่งเอง...ผมขับรถให้"
หนูมาลีเสียใจ แต่โกรธมากกว่า

เจ๊แคที่นอนสบายอยู่ที่บ้าน มีหนุ่มกล้ามใหญ่ชื่อเทพที่จ้างมานวดถึงบ้าน โรสนั่งกลุ้มปรึกษา
"โฮ้ย คิดมากนะแก เด็กมันเรียนหนังสือจบมอหกแล้วมันเรียนมหาวิทยาลัยช้าไปแค่ปีสองปีจะเอาอะไรนักหนา"
"พี่แคที่เห็นด้วยหรือ"
"พ่อแม่แบบพวกแก วันๆจะบังคับให้มันเอาใบปริญญา ความรู้นอกห้องเรียนมันก็สำคัญนะ เขาเรียกหาประสบการณ์ชีวิต ... อยากมาหาประสบการณ์แปลกใหม่กับพี่ไหมจ๊ะ" แคที่หันไปจับมือ หมอนวดยิ้มให้ นวดต่อ
"ชีวิตในเมืองหลวง ไม่เหมาะกับเด็ก มีแต่ขโมย ยาบ้า แสงสี ฉันดิ้นรนซื้อให้มันทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ ก็เพื่อมันจะได้ไม่ต้องมาที่นี่ หนอย มาหาว่าฉันหลงผู้ชาย"
บอยเป็นคนขยันและขี้เอาใจ ชงเครื่องดื่มให้สองหนุ่ม
"นี่ครับพี่โรส พี่แคที่"
แคที่จับมือบอย อิจฉาโรส
"เฮ้อ ถ้าไม่ติดว่าแฟนเพื่อนนะ ฉันจะดื่มกินตั้งแต่หัวแม่เท้ายันใบหูเลย"
บอยยิ้มให้ ชินแล้วเดินไปนั่งดูทีวีห่างออกไป
"หมู่นี้ มีไซต์ก่อสร้างมาทำสตูดิโอใหม่ ยังหิวอีกหรือ ฝุ่นปูนติดนะ ที่ใบหู
ตรงนี้น่ะ"
"อีบ้า" แคที่รีบดูกระจก " ไหนอ่ะติดจริงหรือ"
โรสหันไปกลุ้มต่อ
"เฮ้อกลุ้ม"
แคที่มอง แล้วพูดขึ้นลอยๆ จู่ๆก็คมขึ้นมาซะงั้น
"อย่าเอากะลาที่ชื่อว่าความหวังดีไปครอบเด็กๆ อย่ากักขังเขาจากความผิดพลาด เพราะเขาจะโตจากมัน "
ทั้งบอยและโรสหันมามองอย่างทึ่ง
บอยร้อง "โห"
แคที่ส่งเสียงสูง เล่นหน้าเล่นตา "อาร๊าย สวยมีสมอง !"

โรสคิดตาม
 
อ่านต่อหน้า 4

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 2 (ต่อ)

บ้านเมืองแมน ในเช้าวันใหม่ โยทะกานั่งอยู่ท่ามกลางกองหนังสือพิมพ์และไอแพด

เมืองแมนในชุดสูทเดินลงมาทานอาหารเช้า เธอชี้ให้ดูหนังสือพิมพ์
"ขึ้นหน้าหนึ่ง ด่าสถานีเรา ไร้จรรยาบรรณ ปั้นลูกสาวตัวเอง ส่วนเล่มนี้ ใช้คำว่า หน้าไม่อาย ฉบับนี้ ผู้เข้าประกวดหลายร้อยคนต่อต้านโครงการเดอะซุปเปอร์สตาร์2 ใช้ตนเป็นเครื่องมือเพื่อสานฝันให้ลูกสาว นัดชุมนุม ต่อต้านเอ็มเอ็มแชนนัล เอาไงต่อดีคะคุณ"
เมืองแมนเหมือนไม่สนใจ วุ่นวายด่าคนใช้อยู่
"แยมส้มล่ะ คราวหน้าถ้าต้องให้บอกอีก ก็ออกไปเลยไป"
"นี่ยังไม่นับ เสียงต่อต้านที่เข้ามาในเว็บ ในเฟสบุ๊ก ยาวเป็นหางว่าว"
เธอชี้ไอแพด ฝ่ายเมืองแมนได้แยมส้มมา แต่ด่าต่อ
"เวลาฉันมีค่า อย่าให้ฉันมาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้เข้าใจไหม"
"นี่คุณไม่สนใจ เลยหรือคะ"
"ไม่ ! ผมชอบ"
"หา... ก็เมื่อคราวที่แล้ว คุณทะเลาะกับเบลเรื่องนี้"
"คุณบรมพูดถูก ได้ลงหน้าหนึ่งทุกฉบับ มีเงินยี่สิบล้าน ยังซื้อสื่อโฆษณาระดับนี้ไม่ได้เลย พอข่าวออก ทุกคนเปิดช่องเอ็มเอ็มแชนนัลทันที จำได้ทันทีว่า ช่องของเรากดเลขอะไร"
เสียงข้อความเข้ามาที่มือถือเมืองแมนและโยทะกาพร้อมกัน โยทะกากดดู
"เรตติ้งออนไลน์มาแล้ว เพิ่มสามเท่าจากปรกติ"
"นั่นไง เยี่ยมจริงๆ คุณโย มันไม่ใช่ปัญหา มันคือโอกาส"

คุณหญิงบุณฑริกเดินไปมาภายในบ้าน คุยมือถือสีหน้าเครียด อีกมือหนึ่งถือหนังสือพิมพ์ ด่าแหลก
"เอ๊ะคุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะคะ เว็บไซต์คุณปล่อยให้คนมาด่าหลานสาวฉันเสียๆหายๆ ใช้คำหยาบ ไม่คิดถึงจิตใจญาติพี่น้องเขาบ้าง ฉันเป็นยายเขา อ่านคำว่า เด็กนรก เด็กเส้น ยายหน้าด้าน พวกนี้ คุณคิดถึงจิตใจฉันบ้างไหม"
ยาหยีกดคอมพ์ นีน่ากดไอแพด
บุษบาบัณเล่นหมาน้อยน่ารักชื่อ ลูกชิ้น ดูร่าเริง ทำเสียงเล็กเสียงน้อย ไม่สนใจ ไม่จำเป็นต้องทำอะไร
ยาหยีกำลังพิมพ์
"โฮ้ย ตอบจนมือเป็นระวิง คุณเบล สู้สู้ เราเชียร์คุณเบล"
"ยาหยี เปลี่ยนบ้าง เดี๋ยวเขาก็รู้หรอกว่าคนเดียวกัน" นีน่าบอก
"เปลี่ยนหรือ ก็ได้ คุณเบลสู้ๆ เราเชียร์คุณเบล นะจ๊ะ"
ยาหยียิ้มแย้ม ความปัญญาอ่อนทำให้รู้สึกภูมิใจว่า ตนเองนั้นแสนฉลาดที่เพิ่มคำว่านะจ๊ะเข้าไป
"เปลี่ยนชื่อล็อคอินด้วยนะ เดี๋ยวเขาจะรู้ว่าเราหน้าม้า"
"โอเช สมัครใหม่ ชื่อเดิมยาหยี เพิ่มเป็นยาหยีนะจ๊ะ เย้ เก่งที่สุด เก่งอีกแล้ว"
บุณฑริกกดรับสายใหม่
"สัมภาษณ์เหรอคะ รายการอะไร ข่าวช่วงเย็น ประเด็นอะไรคะ ถ้าจะหาเรื่องด่าหลานสาวฉัน ฉันไม่ไปหรอกนะ สื่อคุณน่ะตัวดี ใช้ภาษาแย่มาก ผิด จรรยาบรรณเนี่ยคืออะไร ไหนอธิบายมาซิ"
บุษบาบัณเดินไปเปิดแมกกาซีน
"หาชุดสวยๆดีกว่า แต่งตัวสวยๆ ธีมเจ้าหญิงดีไหมลูกชิ้น ต่อไปนี้ออกทีวีทุกวันเลยนะๆๆนุ้งนิ้ง" เธอหันไปพูดกับตุ๊กตาที่ถือประจำ "เอาชุดอะไรดีนะ"

บุษบาบัณยิ้มแย้มไม่สนคำด่า ดีใจมากที่ตนดังแล้ว

วันเดียวกัน ร้านเซอร์ไพร์สตอนกลางวัน โรสจัดของจากตู้เย็นออกมาวาง มาลี ชงโค การะเกด เดินจ๋อยๆเข้ามาจะมาขอโทษ

" หนู ... คือ ว่า"
โรสชี้ของสดที่เอาออกมาจากตู้เย็น จำพวกผักและเนื้อ
"ของสดทั้งหมดที่มันควรจะขายได้ตั้งแต่เมื่อวาน พวกแกทุกคนต้องทำเป็นอาหารกลางวันแล้วเอาออกไปขายที่ตลาด ฉันจะไม่ยอมเสียเงินค่าของสดพวกนี้ฟรีๆ"
ชงโคถามมาลี
"แล้วแปดพันค่าสมัครที่เธอเสียให้เราเมื่อวานล่ะ เงินพี่โรสใช่ไหม"
มาลีตาเหลือก
"หา ... แกเบิกเงินจากบัญชีฉันไปสมัครหรือ"
"ชงโค สองครั้งแล้วนะ ถ้าแกใช้ปากผิดที่อีก โดนแปรงขัดส้วมแน่"
"ฉันพูดอะไร ฉันพูดความจริงทั้งนั้นนะ"
"เงียบๆเถอะ เราจะจัดการให้ค่ะพี่โรส เกดจะทำกับข้าวเอง พี่โรสก็รู้ว่า
เกดมีฝีมือ ต้องขายหมดแน่นอน มาเถอะพวกเรา"
การะเกดเริ่มหยิบของสดเข้าครัว ชงโคยังเสนอหน้าเข้าไปถามโรส
"แปลว่าพี่โรสไม่ไล่หนูมาลีกลับบ้านนอกแล้วใช่ป่ะ"
มาลีรีบไปปิดปาก สวยไม่มีสมองอย่างชงโค ลากไปด้วยกัน
"มานี่เลย มานี่ อีปากโทรโข่ง"
มาลียิ้มให้พี่โรสอย่างประจบ แล้วหยิบของบางส่วนและลากชงโคออกไป

อาหารสำเร็จในกล่องใสถูกวางขายที่ตลาดนัด มีสามสาวใช้เวลาก่อนร้านเปิดมายืนขาย
"ข้าวผัดปูค่ะ ห้าสิบบาทเท่านั้นนะคะ"
"ดูนั่น" มาลีว่า
มาลีชี้ไปที่โทรทัศน์ของแม่ค้าร้านข้างๆ ที่เปิดรายการ เดอะซุปเปอร์สตาร์

ณ สถานีเอ็มเอ็มแชนัล ภายในห้องหลังกระจกมีทีวี เมืองแมนนำการประชุม ดูเทปผู้เข้าสมัครที่เก็บภาพไว้ ต่างถกเถียงกัน
พิธีกร ยืนหน้าห้อง รายงานสดหน้ากล้อง
"สถานีเอ็มแชนนัลวันนี้ คณะกรรมการของเรากำลังตรวจเทปผู้เข้าสมัคร เดอะซุปเปอร์สตาร์ ห้าพันคนอย่างขะมักเขม้น เรายังมีทีมลงคะแนนอีกยี่สิบคน จากหลากหลายสาขาอาชีพ ทุกคนจะใส่คะแนนให้ผู้สมัครแต่ละคน จากนั้น คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ที่จอนี้ จะคำนวณหาผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดสามสิบคน จับตาดูนะคะ เก้าโมงเช้าวันจันทร์ที่จะถึงจะเป็นวันประกาศผลค่ะ ผู้ที่ได้รับเลือกจะได้รับการติดต่อจากเรา ผู้สมัครทุกคนมาลุ้นกันนะคะวันจันทร์นี้เก้าโมง ถึงเที่ยงค่ะ"
กลุ่มของมาลี มีคนซื้อเข้ามาถาม
"หนูมีอะไรขายบ้าง"
สามคนหันไปสนใจคนซื้อไม่ได้ดูทีวีอีก

พิธีกรยืนหน้าห้องประชุม พูดไปเรื่อยๆ ที่ห้องประชุมที่เป็นแบ็คกราวน์ กำลังถกเถียงบางอย่างชี้ไปที่ทีวี
ในห้องประชุม เมืองแมนเป็นประธานฟังการถกเถียงของบรมและแซนดี้ ที่แท้ ต่างถกเถียงเรื่องแก๊งค์มาลีมาพักหนึ่งแล้ว
"คุณจะใช้เกณฑ์ของเรตติ้งมาเลือกคนไม่ถูก รายการของเราเป็นรายการของมืออาชีพ" แซนดี้บอก
"อยากพ่นไฟ ไปอยู่ที่บ้าน ไปร้องคนเดียว อยากร้องเพลงให้คนดู ต้องอยู่กับคนดู ต้องมีเรตติ้ง"
"เด็กพวกนี้ ร้องธรรมดา ฝีมือธรรมดา หน้าตา ธรรมดา ! คุณเลือกเขา เพื่อจะให้เขาเป็นตัวแทนคนต่างจังหวัด ยังไงเขาก็ไม่ชนะ คุณให้ความหวังคนลมๆแล้งๆไม่ได้"
"คนที่ไม่มีโอกาส และสู้เพื่อมันนี่ล่ะ คือสิ่งที่คนดูอยากดู เราไม่ได้อยากดูคนเก่ง แต่เราอยากดูคนสู้ชีวิต" บรมบอก
"สู้เหรอ ร้องเพลง เต้นรำ เอ็นเตอร์เทน ไม่เคยเรียนมาสักอย่าง จะเอาอะไรไปสู้ล่ะคู๊น""เอาล่ะๆ ส่งความเห็นของคุณบรมและคุณแซนดี้ออกไป แล้วให้กรรมการอีกยี่สิบคนที่เราเชิญมา เป็นผู้ตัดสิน เราจะใช้คะแนนจริงจากคอมพิวเตอร์ เอาคะแนนดิบมาวัดกัน" เมืองแมรบอก
บรมและแซนดี้ ยอมสงบ
"มีคนบอกฉัน เห็นเด็กเหล่านี้ เราจะได้เห็นโชคชะตา" แซนดี้มองหน้าโยทะกาเพราะเป็นคนพูดประโยคนี้เอง "สามพันคนเหลือสามสิบคน โชคชะตาจะเป็นคนตัดสิน"

ที่ทีวี ถูกกดปล่อยภาพเป็นการเล่นตลกของแก๊งมาลี

ร้านยังไม่เปิด ทุกคนเตรียมตัวอยู่ โรส บอย จัดร้านให้สวยงาม มือไม่ว่างทั้งสองคน บุญมา สมศรีเตรียมวัตถุดิบทำครัว

หนูมาลี การะเกด ชงโค เอาโทรศัพท์มาวางที่กลางโต๊ะตัวหนึ่ง พร้อมกันสามเครื่อง มาลียกมือไหว้มือถือ พึมพำ
"มันทำอะไรของมัน" โรสพึมพำ
"วันนี้ประกาศผล ใครเข้ารอบ เขาจะโทร.มาบอกก่อนเที่ยง" บอยบอก
โรสตื่นเต้น
"จริงหรือ"
"แอบลุ้นไปด้วยใช่ไหมล่ะ"
โรสรีบเก็บหน้า ทำเฉยๆ
"หนูมาลีมันร้องเพลงเก่งนะ มันร้องเพลงทั้งวัน จนฉันเบื่อจะฟังมันแล้ว" บุญมาบอก
มาลีเดินมา มองโรส พยายามประจบพ่อ เพราะกลัวเขาไล่
"หนูติดนิสัยมาจาก เอ้อพี่โรส ฟังมาตั้งแต่เด็ก"
โรสมองหน้า วันนี้มันพูดดี
"ซาบซึ้งดีนะ พ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ลูก" บอยว่า
"จริงด้วย หายโกรธกันได้แล้วนะ" การะเกดบอก
โรสนิ่งดูไม่ออกว่าจะสนับสนุนไหม ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าถือ เหมือนจะออกไปข้างนอก
"พี่จะไปไหนคะ"
"เดี๋ยวมา"
โรสเดินออกไป เหมือนว่า บรรยากาศพ่อลูกกำลังจะดีขึ้น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สามสาววิ่งปรู๊ดไปที่โทรศัพท์กลางโต๊ะ แต่บอยกลับเป็นคนรับสาย
"ว่าไงพี่ อ๋อ ยังไม่หมดพี่ อาทิตย์หน้าค่อยเอามาลงนะ"
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก สามสาววิ่งพุ่งไปล้อมโต๊ะอีก บุญมายกหูขึ้นพูด
"ไอ้ชิน... มีเด็ดๆไหมวะ ของใครๆ หลวงพ่อป่วน จริงดิวะ"
สามสาวเซ็งไม่มีโทรศัพท์

เวลา สิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว แต่สามสาวยังล้อมโต๊ะเฝ้าโทรศัพท์
"สิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว หมดหวังแล้วล่ะ" การะเกดบบอก
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สามสาวรีบมองเครื่อง หนึ่งในสาม สั่นขึ้นมา
"ของหนูมาลี" ชงโคบอก
ทั้งหมดยังตะลึงมองโทรศัพท์
สมศรี บุญมา บอย ชะโงกหน้าจากงานออกมามองด้วยความสนใจ
การะเกดดีใจโพล่ง
"หนูมาลี ได้รับเลือก"
ชงโคบอก
"ดังแล้วอย่าลืมเพื่อนนะ ขอยืมตังค์ซื้อมือถือใหม่นะเพื่อนรัก"
หนูมาลีรับสาย ทุกคนตื่นเต้น ระทึกใจ
"ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ฮัลโหลๆ"
ปลายทางเงียบไปอึดใจหนึ่ง และแล้วเสียงก็ดังออกมาจากโทรศัพท์
"... จากเธอไป ไม่ใช่เรื่องที่ฉันนั้นอยากจะทำ แต่เป็นเรื่องที่ฉันไม่ทำไม่ได้..." (เพลง "สุดเหงา" - ทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล)
มาลีตะลึงมองโทร
"พี่โรส"
โรสเดินเข้ามาพร้อมคุยโทร. ร้องเพลงให้หนูมาลีฟังด้วยสีหน้าแสนเศร้า
" สุดหักอาลัย...ยามไกล ไปจากเธอ"
โรสร้องไป สีหน้าเว้าวอนลูกไป พร้อมยื่นข้อความและตั๋วรถทัวร์ให้
มาลีอ่าน
"ตั๋วรถทัวร์ กลับบ้าน"
โรสยื่นกระเป๋าให้
"นี่กระเป๋า มีครบทั้งตั๋ว ทั้งกระเป๋า ถ้าถูกคัดออก ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่กรุงเทพ เพราะฉะนั้น กลับบ้านได้แล้ว"
ทุกคนช็อก มาลีเสียใจ น้อยใจมาก
"พี่ไม่ให้กำลังใจหนูมาลีเลย"
"ไม่มี ! ไม่เคย ! ฉันแช่งแกทุกวันให้แกตกรอบ แกจะได้กลับไปเรียนหนังสือ" แล้วโรสก็ร้องเพลงต่อ "...ร้อนสุดร้อนผ่อนคลาย หนาวเหน็บหนาวไม่หาย ยามฉันอยู่เดียวดาย ขาดเธอ"
โรสเน้นคำว่า “ขาดเธอ” โหยหวน พร้อมผายมือไปที่ลูกสาว สีหน้ากวนสุดๆ มาลีโกรธจนนำตาคลอ
การะเกดมองนาฬิกา ใกล้เที่ยงแล้ว
"อีกสิบนาที เฮ้อ ไปทำงานดีกว่า"
"มือถือ ชุดสวยๆ รถสปอร์ต บ๊ายบาย"
สองสาวแยกย้ายจะไปทำงาน
ปลาวิ่งหน้าตาตื่น
"พี่ๆ ออกไปดูเร็ว มีรถมา มีรถมา"
"รถอะไรอีปลา ตื่นเต้นขนาดนั้น" สมศรีถาม
"รถสถานีโทรทัศน์ รายการที่พวกเราไปสมัครไง"
กลุ่มสามสาวมีความหวัง วิ่งออกไป คนอื่นยืดคอมอง โรสยืนอึ้ง ตกใจ ชักไม่ดีเสียแล้ว
รถตู้ถ่ายทอดจอดอยู่ที่หน้าร้าน พิธีกรยืนเตรียมตัวอยู่ที่ป้ายหน้าร้าน
"พร้อมนะ"
กล้องทำมือให้สัญญาณ
"สวัสดีค่ะท่านผู้ชม ดิฉัน พิมพ์พร รายงานสดจาก ถนนรัชดาภิเษก ที่นี่ คือร้านคาราโอเกะ เอสเคป"

บุญมาชี้ที่ทีวี ทุกคนกรูกันเข้าไป
"เฮ้ย ออกทีวี ร้านเราออกทีวี"

สมศรี โรสกับบอยวิ่งไปดู เห็นพิธีกร ยืนอยู่หน้าร้าน กำลังเดินไปพูดไปหาสามสาว

สามสาวยังยืนตะลึง ขณะพิธีกรเดินมาหา

"เขามากันทำไม"มาลีตั้งข้อสังเกต
"กำลังเดินตรงมาหาเรา" การะเกดว่า
"หมายความว่า" ชงโคบอก
"เรามาพบ ผู้เข้ารอบ เดอะซุปเปอร์สตาร์ค่ะ"
สามสาวมองหน้ากัน ตื่นเต้นมาก
"คนไหนคะ ชื่ออะไร" การะเกดถาม
พิธีกรดูโพยแล้วบอก
"คุณชงโค ใจหาญ"
ชงโคช็อก คาดไม่ถึง
มาลีร้อง "เย้"
มาลีกับการะเกดกระโดดกอดชงโค
"ฉันหรือ ฉันหรือ แอร๊ย"
"ยังไม่หมดค่ะ" พิธีกรบอก สามสาวนิ่ง "คุณการะเกด ย่ามใหญ่"
การะเกดแทบร้องไห้ กอดกัน
พิธีกรเก็บกระดาษใส่กระเป๋า ราวกับมีแค่นี้...
โรส หน้าเสียคนแรก
"ชงโคกับการะเกด แล้ว"
"ไม่มีหนูมาลีหรือ" บอยว่า
มาลีมีแววเสียใจแล้วหายทันที มีน้ำใจมากเข้าไปกอดเพื่อน
"ฉันดีใจด้วยนะ ทั้งสองคน"
ทั้งสามคนจับมือกัน พิธีกร ค่อยโผล่เข้ามาเซอร์ไพร้ส
" ยังไม่หมดสักหน่อย ! มีอีกคน คุณมาลีเริงร่า อากาศดี !"
โรส กระโดดก่อน ร้องสุดเสียง "ไชโย !"
ทั้งสามสาวร้องเย้ กอดกัน
"เฮ้ๆๆ"
บอย ปลา บุญมาและสมศรีร้องเย้
"ไม่น่าเชื่อนะคะ จากผู้เข้าแข่งขันนับพันคน เราคัดเลือกเหลือ สามสิบคน และสามในสามสิบคนนั้นเป็นเพื่อนกัน ทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งนี้ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เรา มาต้อนรับผู้เข้ารอบทั้งสามด้วยตัวเองค่ะ ยินดีด้วยนะคะ น้องๆ"
ทั้งสามยกมือไหว้พิมพ์พร
สมศรีบอก
"ลูกสาวเข้ารอบแบบนี้ ก็แปลว่าไม่ต้องกลับบ้านนอก ท่าจะอยู่กรุงเทพอีกนาน...เอาล่ะสิ"
โรสที่ยิ้มอยู่พลางถอนหายใจ เปลี่ยนไปทันที เมื่อนึกได้
"งานงอกแล้ว เรืองยศ !" บุญมาบอก

วันเดียวกัน ที่บ้านทองทา เขานั่งปลูกต้นไม้ในกระถางเล็กๆ ไว้ขาย อธิมาพักผ่อนนั่งเล่น ดูทีวี โวยขึ้นมา ชี้ที่ทีวี
"เฮ้ยนี่มันเด็กที่เราเจอไง เขาเข้ารอบรายการที่เขาสมัคร จริงด้วยว่ะ"
หน้าจอทีวี พิมพ์พรกำลังสัมภาษณ์สามสาวประมาณให้แนะนำตัวว่าเป็นใคร สามสาวบอกชื่อและบอกว่าตนเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านนี้ ... รู้สึกยังไงกันบ้าง แต่ละคนก็ตอบไป
ทองทาอึ้ง ไม่อยากจะเชื่อ !!
"รอบต่อไป เราจะเตรียมตัวให้เต็มที่ค่ะ ถึงเราสามคนจะเป็นแค่เด็กเสิร์ฟ แต่เราก็จะทำเต็มที่ ให้กำลังใจเราด้วยนะคะ" มาลีบอก
"ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ เดี๋ยวเราไปที่คุณนิรมล ยังมีผู้เข้ารอบท่านอื่นรออยู่ค่ะ"
ทองทา อธิจับตาที่ทีวีต่อไป

พิธีกรอีกคนอยู่ที่โรงเรียนเด็กยากจน ข้างหลังพิธีกร คุณหญิงบุณฑริกกำลังแจกอาหารเด็กๆ บุษบาบัณนั่งถ่ายรูปตัวเองลงโซเชียล เด็กมาถ่ายด้วย สีหน้าเธอรังเกียจเด็ก เบ้ปาก ถอยห่าง
"ขอบคุณค่ะ คุณพิมพ์พร ตอนนี้ดิฉันอยู่ที่โรงเรียนวัดน้อยนะคะ คุณหญิงบุณฑริกพาหลานสาวคุณเบลมาทำบุญค่ะ"
กล้องเดินไปหาทั้งสองสาว บุณฑริกแกล้งทำตกใจ
"มากันทำไมคะนี่"
เมื่อเห็นกล้องมา บุษบาบัณรีบเล่นกับเด็ก ตบแผะกันใหญ่ ดูกลายเป็นคนอบอุ่น ใจดีกับเด็กโดยฉับพลัน
"มีเซอร์ไพร้สค่ะ คุณเบลคะ คุณ..." พิธีกรแกล้งอั้นไว้ให้ระทึก "คุณได้เข้ารอบเดอะซุปเปอร์สตาร์ ซีซั่นสองค่ะ"
ยาหยีและนีน่าที่เตี๊ยมอยู่แล้วมุมหนึ่ง ส่งสัญญาณมือให้เด็กๆ
เด็กๆ ในโรงเรียนร้องกรี๊ด
บุษบาบัณน้ำตาคลอออกมาเร็วมาก ไม่น่าเชื่อ มองเด็กๆ ที่ส่งกรี๊ดมาจากมุมหนึ่ง ส่งจูบให้
"ขอบคุณเด็กๆค่ะ ขอบคุณท่านคณะกรรมการทุกคนมากค่ะที่ให้โอกาส เบล... เบล จะพยายามพิสูจน์ตัวเองต่อไปค่ะ"
บุษบาบัณปาดน้ำตานางเอ๊ก นางเอก

ทองทา อธิขณะดูทีวีต่อเนื่อง
"ในที่สุด น้องแก ลูกสาวเจ้าของสถานีก็เข้ารอบโดยไม่สนกระแสต่อต้านใดๆ"
"เบลถูกต่อต้านหนักหรือ"
"โฮ้ยไอ้นี่ วันๆไม่ดูข่าวเลย"
อธิกดไปอีกช่อง เป็นภาพทีวี ที่พิธีกร 2 คน กำลังวิจารณ์บันเทิง มีภาพพาดหัวจากหนังสือพิมพ์ “ช็อก !เดอะซุปเปอร์สตาร์ 2 ส่งลูกเข้าประกวด”
พิธีกร1
"มันไม่ใช่กฎหมายก็จริง แต่คนเราต้องรู้ สมมติเราเป็นเราจะจับฉลากปีใหม่ ทองห้าบาท แจกของให้เด็ก แต่มีชื่อเราอยู่ด้วย ใครมันจะกล้าไปจับ"
พิธีกร2
"เอ๊าเขาอ้างว่า เขาใช้บรรดาครูเพลง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคนตรวจสอบ"
"ไม่ได้ กรรมการเขาก็เลือกมาไง เลือกมาแต่พวกเดียวกันไง"
"แต่พอรอบสาม รอบสี่ ชาวบ้านเขาเป็นคนโหวต ถ้าคุณเบลเขาไม่มีฝีมือ ชาวบ้านเขาก็โหวตออกเอง"
"เขาก็เอาเงินทุ่มโหวตไงคุณ เชื่อไหมยังไงคุณเบลก็ต้องชนะคนสุดท้าย ผมเอาหัวเป็นประกัน"
ทองทาบอก
"จะชนะหรือไม่ชนะ ตอนนี้เบลก็ดังแล้ว ไม่ต้องรอถึงวันประกาศผลหรอก นี่ไงล่ะ วิธีแบบคุณเมืองแมน วิถีของเงินเป็นใหญ่ ใหญ่กว่าความถูกต้อง"

ทองทายิ้มหยัน

ณ สตูดิโอซ้อมเต้น บุษบาบัณอยู่ในชุดซ้อมเต้น รออยู่กับบุญฑริกและ ยาหยี นีน่า

โยทะกาบอก
"พี่จัดครูมาให้แล้ว"
ครูทั้งหมดทยอยเดินเข้ามา
โยทะกาชี้ทีละคน
"ครูสอนร้องเพลง ป๊อบ คลาสสิก แร๊พ ครูสอนดนตรี ครูสอนเต้น ครูสอนบุคลิกภาพ"
ยาหยีโพล่ง
"6 คน"
"กระแสต่อต้านรุนแรงมาก ถ้าคุณเบลพิสูจน์ฝีมือได้ ทุกอย่างก็จบ พี่เชื่อว่าคุณทำได้ นี่ค่ะตารางเวลาเรียน"
เลขาโยทะกาเดินแจกเอกสารให้ทุกคนดู
นีน่าบอกบุษบาบัณ
"ทุกวันศุกร์กับเสาร์ เวลาปาร์ตี้ของพวกเรานะคะ"
"อันนี้ ชนกับโปรแกรมไปฮ่องกงช็อปปิ้งนะคะคุณเบล"
"อันนี้ไปดูคอนเสิร์ตที่เกาหลี จองตั๋วมาเป็นปี"
"ยกเลิกให้หมด ได้เวลาเรียนอย่างจริงจังแล้วนะคะ" โยะทะกาบอก
"นอนแค่วันละ 5 ชั่วโมง ไม่ไหวนะหล่อน" บุณฑริกว่า
"เลือกเอา จะเป็นเด็กเส้น หรือจะเป็นศิลปิน ทุกอย่างอยู่ในมือของเธอ"
ยาหยีบอก
"ก็เอาทั้งสองอย่างไง เที่ยวด้วย เรียนด้วยนะนะ"
บุษบาบัณตัดสินใจ
"ยกเลิกทั้งหมด"
เธอเดินไปหาครู
"พี่ๆขา เบลฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
"เอาก็เอา งั้นก็ถ่ายรูปก่อนเลย เบลมาตรงกลาง ครูมาๆ ออกข่าวไปอย่างนี้นะ เบลมีครูหกคน ออกข่าวใหญ่เลยนะ"
เลขาโยทะการับคำ พร้อมถ่ายรูปให้
"เซ็งเบย"นีน่าบอก
สองสาวเต้นเร่าๆ เต้นกระทืบเท้าไปด้วยเบาๆ พร้อมส่ายหัว ทำท่าและเสียงเล็กน้อยเป็นเด็กๆ
"งุงิ งุงิ"
บุษบาบัณถ่ายรูปกับครูหกคน

หนังสือดาราในมือชงโคและการะเกดที่รุมดูอยู่
"ครูหกคน" การะเกดโพล่ง
ชงโคบอก
"แล้วเรามาทำอะไรตรงนี้เนี่ย"
มาลีทำงานเสิร์ฟตามโต๊ะวุ่นวายเพราะคนในร้านเยอะ ยุ่งมากๆเดินมาเสียบบิล
"โลกใบนี้มันเป็นของพวกเทวดานางฟ้าจริงๆ คนจนมันจะมีโอกาสอะไรบ้างวะเนี่ย"
โรสตะโกนด่ามาจากเคาน์เตอร์ เสียงดังฟังชัด
"เป็นเด็กเสิร์ฟ หรือม็อบรับจ้าง หา... ฉันไม่มีเงินจ้างแกมายืนเฉยๆนะ จับกลุ่มทำอะไรกัน ขาน่ะ เดินกันหน่อยโว้ย"
สามสาวต้องแตกออกจากกันไปเดินให้บริการต่อ โรสค้อนๆ

ฝรั่งคนหนึ่งสอนภูมิร้องเพลงอยู่ในสตูดิโอแห่งหนึ่ง
พิธีกรเข้ามาบอก
"ดิฉันมาเยี่ยมผู้เข้ารอบอีกท่านนะคะ คุณภูมิ ภัสดา สวัสดีค่ะ"
ภูมิยกมือไหว้กล้องและพิธีกร
"สวัสดีทุกคนครับ ขอบคุณรายการเดอะซุปเปอร์สตาร์นะครับ ที่ให้โอกาสผม"
"นี่ทำอะไรอยู่คะ"
"เรียนร้องเพลงครับ นี่ครูสอนร้องเพลงของผมครับ มิสเตอร์จิม เขาสอนที่
บรอดเวย์ เขาจะมาอยู่กับผมสามเดือนเต็มครับ"

ขณะสัมภาษณ์ภูมิ ภัสดา ได้ผ่านมายังทีวีที่ร้านคาราโอเกะ สามสาวกำลังเก็บโต๊ะ ทำความสะอาดหลังปิดร้าน มองทีวีไปด้วย
มี่กับเกรซ แต่งตัวสวยเดินมาทัก ตามองทีวี
"เขาเรียนกับครูบรอดเวย์ พวกเธอมายืนเก็บจาน" มี่บอก
"คงชนะหรอกแก"
มี่กับเกรซยิ้มๆ
"เฮ้ย เป็นเพื่อนกันหาเรื่องดีๆมาพูดไม่ได้หรือวะ" มาลีว่า
การะเกดปราม
"หนูมาลี"
"นั่นดิ นี่ให้กำลังใจหรือเยาะเย้ยกันแน่" ชงโคว่า
"ชงโค คนกันเอง ไม่เอาน่า"
"เราก็แค่เตือน หาเวลาไปซ้อมบ้างอะไรบ้าง …. แหมคิดมาก"
สองสาวสะบัดจากไป สามสาวมองทีวี ดูภูมิ หัดร้องเพลงกับครูฝรั่ง อิจฉาเขา
"เราต้องมีทางออก" มาลีบอก
"บุญเก่าเขาดี เกิดมามีเงินถุงเงินถัง เฮ้อ เราก็แค่ไม้ประดับบารมีคนรวย มันก็เท่านั้น ยังไงลูกสาวเจ้าของสถานีก็ต้องเป็นผู้ชนะอยู่แล้ว" การะเกดว่า
"เขามีวาสนาคนเดียวหรือ แล้วถ้าเกิดฉันมีบ้างล่ะ"
ชงโคหัวเราะ
"เป็นแค่เด็กเสิร์ฟเนี่ยนะมีวาสนา"
หนูมาลีมองไป รถแล่นเข้ามาจอด ทองทากับอธิเดินลงมา มาลียิ้มกว้าง
"เทวดาของฉันมาแล้ว นี่ไงทางออกของฉัน นี่ไงวาสนาของฉัน"

เพื่อนทั้งสองงง มองตามไป มาลี รีบไปโบกมือให้ ทองทายืนยิ้มมองสบตากับมาลี ได้เจอกันเสียที
 
อ่านต่อตอนที่ 3
กำลังโหลดความคิดเห็น