xs
xsm
sm
md
lg

นางกลางไฟ ตอนที่ 19

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางกลางไฟ ตอนที่ 19

วันใหม่ หัวหน้าคนงานเดินนำธวัชกับนิคมตรวจ ไซด์งาน

หัวหน้าคนงานบอก
"อาทิตย์หน้างานวางท่อประปากับพวกสายไฟก็น่าจะเสร็จแล้วล่ะครับ"
"อืม ถ้าอย่างนั้นอาทิตย์หน้าผมกับธวัชจะขอเข้ามาดูอีกครั้งนะครับ" นิคมบอก
"ได้ครับ"
คนงานหญิงกับลูก ในวัยใกล้เคียงกับสายฟ้า นั่งพักอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น เด็กเดินเตาะแตะเข้ามาหา ธวัชอุ้มขึ้นมาเล่นอย่างเอ็นดู
"ไงครับ ชื่ออะไรเนี่ยเรา"
ภาพสายฟ้าแวบรัวเข้ามาในหัว ธวัชเซวูบ พยายามสลัดความคิด ความจำเริ่มปะติดปะต่อ หลุดปากเรียกชื่อลูกเมียออกมา
"ตะวัน…สายฟ้า"
นิคมรีบเข้ามาอุ้มเด็กส่งคืนให้คนงาน ธวัชยังดูยังมึน นิคมกับหัวหน้าคนงานรีบเข้ามาประคอง
หัวหน้าคนงานถาม
"คุณธวัชเป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
"ไอ้วัช แกเป็นอะไรหรือเปล่า แต่เมื่อกี๊แกเรียกชื่อสายฟ้า"
ธวัชปวดหัวขึ้นมาอย่างแรง
"โอ๊ย…ชั้นปวดหัวว่ะ"

ภายในห้องพักที่ไซต์งาน นิคมเทน้ำมาวางให้ ธวัชนั่งเอนหลังไปกับเก้าอี้ ดูสดชื่นขึ้น
"ขอบใจว่ะ ชั้นดีขึ้นแล้ว"
"ถ้าแกยังไม่หายดี ชั้นว่าแกขอลาพักต่อก็ได้นะ เดี๋ยวชั้นบอกเจ้านายให้"
"ไม่เป็นไร นายอุตส่าห์ไว้ใจให้ชั้นดูโปรเจ็กต์ใหญ่ทั้งที ชั้นไม่อยากทำให้นายผิดหวังว่ะ"
"ถ้างั้นแกก็แวะไปให้หมอตรวจซะหน่อยดีกว่า จะได้เช็คดูว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า"
"ไม่ต้องหรอก ชั้นแค่ปวดหัวนิดหน่อย มันเหมือน…มีภาพแว่บเข้ามาในหัว"
นิคมดีใจ
"เฮ้ยจริงหรอ หรือว่าความจำแกจะกลับมา แล้วแกจำอะไรได้บ้าง แกลองนึกซิ"
ธวัชพยายามนึกภาพตะวันฉายกับสายฟ้า แค่แว่บขึ้นมาแบบขาดๆหายๆ แล้วปวดหัวอีกจนต้องเอามือกุมหัว
"โอ๊ย ชั้น…ชั้นนึกไม่ออกว่ะ"
"เฮ้ย งั้นพักก่อนอย่าเพิ่งฝืน ให้มันค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่แน่นะ อีกไม่นานความจำแกอาจจะกลับคืนมาทั้งหมดเลยก็ได้"
นิคมนึกดีใจแทน ธวัชกลับรู้สึกตรงข้าม
"ความจำที่มีแต่เรื่องเจ็บปวดน่ะเหรอ ชั้นไม่เห็นจะอยากได้คืนเลย"
"ไอ้วัช แกรู้ไหมว่าลูกเมียเค้ารอแกอยู่ ถ้าแกยิ่งจำได้เร็วเท่าไหร่ แกก็จะได้ครอบ
ครัวและความสุขของแกลับมาเร็วเท่านั้น"
"ครอบครัวหรอ ฮึ ชั้นว่าเราอย่าเสียเวลากับเรื่องไร้สาระดีกว่า ไปทำงานกันต่อเถอะ"
ธวัชดูไม่สนใจลุกเดินออกไป นิคมเบื่อจะกล่อมได้แต่ถอนใจเดินตามไป

ตะวันเปิดมือถือดูรูป สายฟ้านอนหลับอยู่ใกล้ๆ เห็นรูปธวัชเดินออกจากบ้านนิคม มีข้อความแนบว่าจากผู้หวังดี ส่งจากมือถือซูซี่ไปที่เบอร์มือถือดวงสุดา
ตะวันนิ่งคิด เปิดคลิปดู - - มะปรางกำลังพยายามยื้อแย่งมือถือห้ามใครบางคน
"พี่ซูซี่คะ อย่าทำแบบนี้ พี่ส่งคลิปตะวันคุยกับคุณวัชให้คุณดาไม่ได้นะคะ ถ้าคุณดาเข้าใจผิดจะทำยังไง ปล่อยนะคะ"
มือถือโดนยื้อแย่งหล่นลงพื้น แล้วดับวูบไป
กล้วยยกของว่างเข้ามาวางได้ยินเสียงคลิป แล้วถามอยากรู้
"คุณตะวันดูอะไรอยู่หรอคะ"
"ชั้นดูรูปกับคลิปที่มะปรางบอกว่า พี่ซูซี่แอบถ่ายส่งไปให้คุณดาอยู่น่ะ"
กล้วยเข้ามานั่ง ตะวันเปิดคลิปให้กล้วยดู กล้วยนึกสงสัย
"แปลกนะคะ ทำไมไม่เห็นได้ยินเสียงพี่ซูซี่เถียงซักคำ แถมคุณมะปรางก็เหมือนกับ
selfie ตัวเองเลย"
"นั่นสิ ชั้นก็ว่ามันดูแปลกๆ"
"แปลกมากเลยค่ะ คนอย่างพี่ซูซี่คงไม่ยอมรูดซิปปากแบบนี้แน่นอน"
"กล้วยคิดว่ามะปรางทำคลิปขึ้นมาเองงั้นหรอ"
"กล้วยก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าคุณมะปรางทำได้ขนาดนี้ ก็รับตุ๊กตาทองไปได้เลย แต่คุณมะปรางจะทำไปทำไม คุณ 2 คนเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่หรอคะ"
"ใช่ แต่ชั้นก็ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือพี่ซูซี่หรอกนะ เพราะรายนี้โลว์เทคจะตายไป ถึงจะเป็นคนปากร้าย แต่ก็ไม่เคยว่าร้ายชั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว"
"แถมยังช่วยลุยกับพวกบ้านโน้นอีกต่างหาก หรือจะเป็นพวกมือที่ 3 ที่คิดจะทำให้พวกคุณแตกคอกัน"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยังดีซะกว่า เพราะ 2 คนนี้คือคนที่ชั้นรักและไว้ใจมากที่สุด"
เสียงสายฟ้าร้องไห้ กล้วยรีบเลี่ยงไปดู ตะวันนิ่งคิดดูรูป MMS แล้วเห็นอะไรบางอย่าง เห็นเล็บใครบางคนที่มุมรูป ตะวันฉายแตะหน้าจอมือถือขยายดู นึกสงสัยในใจ

มือซูซี่ที่กรีดกราย แต่ไม่ได้ทาสีเล็บ ถือโทรศัพท์คุย ซูซี่อยู่ในงานเดินแบบ ยังทำงอน
"แหม คิดว่าตะวันจะเลิกคบพี่ไปซะแล้ว"
ในซูเปอร์มาร์เก็ต ตะวันฉายเดินคุยโทรศัพท์ เลือกผักผลไม้ใส่ตะกร้ารถเข็น
ตะวันฉายหัวเราะ แล้วแกล้งยั่ว
"ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะคะ ก็พี่ซูซี่มั่นใจว่าไม่ได้เป็นคนแกล้งตะวันไม่ใช่หรอ"
ซูซี่พูดจริงจัง รีบพนมมือ
"พี่สาบานต่อหน้าไฟเลย ถ้าโกหกละก็ขอให้…"
ตะวันฉายรีบขัด
"ตะวันล้อเล่นน่ะ ไม่ต้องสาบานหรอกค่ะ ตะวันทำงานกับพี่มาตั้งแต่เข้าวงการ รู้นิสัยพี่ดี ตะวันจะไม่ฟันธงว่าเป็นฝีมือใครจนกว่าจะได้หลักฐานชัดเจนค่ะ"
"มันต้องอย่างนี้สิ ถึงจะสมกับเป็นเด็กปั้นของพี่ ถ้าไม่เห็นกับตาไม่ได้ยินกับหูละก็ อย่าด่วนสรุปเชื่อใครทั้งนั้น เรื่องนี้ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ คนชั่วน่ะยังไงซะสันดานมันก็ต้องโผล่ออกมาให้เห็นอยู่ดีนั่นแหละ"
ซูซี่ยังอดแค้นใจไม่ได้ ตะวันชวนเปลี่ยนเรื่อง
"พี่ซูซี่คะ ตะวันอยากปรึกษาเรื่องงานหน่อยค่ะ"
"มีอะไรหรอ"
"คือ คุณดำรงเขาอยากให้ตะวันไปถ่ายแบบเครื่องเพชรคอลเล็กชั่นใหม่ของเขาน่ะค่ะ พี่ซูซี่คิดว่ายังไงคะ"
"พี่ว่าตาเฒ่านี่เอางานมาบังหน้า หวังจะเครมตะวันน่ะสิ"
"ตะวันหมายถึงเรื่องงานค่ะ พี่ว่าเราควรรับงานนี้ไหม"
"อืม จะว่าไปมันก็น่าสนใจนะ เพราะคอนเซ็ปต์ของเขาก็สวยแซ่บทุกคอลเล็กชั่น แถมนางแบบที่เลือกไปถ่ายก็ระดับ A List ทั้งนั้น ถ้าตะวันรับงานนี้ รับรองว่าต้องได้กลับเข้าวงการอีกครั้งแน่ แล้วเรื่องค่าตัวล่ะ"
"ถ้าตกลง คุณดำรงจะจ่ายให้ 2 เท่าเลยค่ะ"
"หา! ต๊ายเลิศ เดี๋ยวพี่ขอคุยกับทีมเขาเรื่องคอนเซ็ปต์งานก่อน แล้วจะรีบโทร.บอกตะวัน ถ้าไม่ติดอะไรก็ตกลงรับงานนี้ได้เลย แต่… "
"แต่อะไรคะ"
"แต่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ คุณดำรงยอมทุ่มทุนขนาดนี้ มีหรอที่จะไม่หวังผลน่ะ อย่าใจอ่อนให้เขาเอาเรื่องนี้มาทวงบุญคุณทีหลังเด็ดขาดนะตะวัน"
ซูซี่สั่งเสียงเข้ม ตะวันฉายอดเครียดขึ้นมาไม่ได้

ตอนเย็น ดำรงส่งถุงของเล่นให้ กล้วยช่วยรับไว้แล้วเข้าบ้านไป ตะวันฉายมองอย่างไม่สบายใจและเริ่มระวังตัว
"คุณดำรงคะ คุณไม่ต้องซื้อของให้ชั้นกับลูกมากขนาดนี้หรอกค่ะ แค่คุณมีน้ำใจมาเยี่ยมก็พอแล้ว"
"คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมอยากซื้อให้ ว่าแต่เรื่องถ่ายแบบ คุณตกลงรับงานของผมใช่ไหม"
"ค่ะ พี่ซูซี่ไปคุยเรื่องคอนเซ็ปต์แล้ว กำลังนัดคิวถ่ายกันอยู่ ขอบคุณคุณมากนะคะที่ให้โอกาสชั้น"
ดำรงยิ้มรับ
"ผมดีใจจริงๆที่ได้คุณมาร่วมงานด้วย รับรองว่าคอลเล็กชั่นนี้จะต้องเป็นที่ฮือฮาที่สุดแห่งปี"
"คุณอย่าเพิ่งคาดหวังขนาดนั้นสิคะ ชั้นกลัวจะเป็นคนทำให้ยอดคุณตกน่ะสิ"
"ไม่มีทาง คนอย่างผมวางแผนอะไรไว้แล้ว ไม่เคยพลาด"
ตะวันฉายอึ้งไป กล้วยมองเขม่น ดำรงเห็นสีหน้าแล้วเดารู้ จึงรีบแก้ตัว
"คือ ผมหมายถึงแผนการตลาดน่ะ นี่แสดงว่าคุณยังไม่ไว้ใจผมใช่ไหม"
"เอ่อ…ก็"
"ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นละก็ ผมยอมรับว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลเสมอ แต่กับคุณ ผมอยากช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตะวัน ผมไม่เคยรู้สึกกับใครอย่างนี้มาก่อนเลยนะ"
ดำรงจะจับมือตะวัน กล้วยยกน้ำเข้ามาวางขัดจังหวะ แล้วนั่งลงใกล้ๆตั้งใจกันท่า ดำรงผละออกเปลี่ยนเรื่องคุย
"เอ่อ ผมจะให้ทีมงานติดต่อมะปรางมาทำงานนี้ด้วย ถ้ามีเพื่อนสนิทมาอยู่ใกล้ๆ คุณจะได้สบายใจขึ้น"
"จริงหรอคะ ขอบคุณมากเลยค่ะคุณดำรง"
ตะวันยกมือไหว้ ดำรงยิ้มรับคิดจะจับมือ สายฟ้าร้องขัดจังหวะขึ้น ตะวันรีบลุกไปดูลูก
ดำรงหน้าเจื่อน
"เอ่อ…ผมกลับก่อนดีกว่า แล้วจะแวะมาหาคุณใหม่"
"ค่ะ"
ดำรงลุกเดินออกไป กล้วยรีบเข้ามาเมาท์ทันที
"คุณดำรงนี่หูตาแพรวพราว ท่าทางไม่น่าไว้ใจเลยค่ะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอกกล้วย ชั้นมีมะปรางกับพี่ซูซี่อยู่ด้วยรับรองว่าปลอดภัยแน่ ขอให้งานนี้ราบรื่นไปด้วยดีเถิ้ด" ตะวันฉายหันไปจูบลูก "สายฟ้า เอาใจช่วยแม่ด้วยนะลูก"
ตะวันยิ้มออกดูมีกำลังใจ กล้วยอดยิ้มตามไม่ได้

เสียงใครบางคนอาเจียนเสียงดังอยู่ในห้องน้ำ ห้างสรรพสินค้า
เพื่อนสายป่านเปิดประตูห้องน้ำสะพายกระเป๋ากล้องออกมาล้างมือ แล้วเหลือบมองไปทางห้องต้นเสียง
สายป่านเดินออกมาหน้าซีดออกจากประตู เพื่อนมองจ้องในกระจกอย่างตกใจ
"อ้าว ป่าน…แกเองหรอ แกไม่ไปทำงานหรอ"
สายป่านชะงัก อึกอัก
"คือ…ชั้นไม่สบายน่ะ"
สายป่านขย้อนจะอาเจียนอีก เพื่อนรีบเข้ามาช่วยลูบหลัง
"ชั้นว่าแกไปหาหมอเถอะ เดี๋ยวชั้นพาไปเอง"
สายป่านแทบหมดแรง
"ไม่ต้องหรอกแก ชั้นดีขึ้นแล้ว"
"เฮ้ย แต่ชั้นว่าแกดูไม่ค่อยดีเลย ไปหาหมอเถอะเผื่อเป็นอะไรมาก ชั้นเป็นห่วงนะเว้ย ไป"
เพื่อนยื้อ สายป่านส่ายหน้าแล้วกอดเพื่อนปล่อยโฮออกมา
"แก…ชั้น…ชั้นท้อง"
เพื่อนอึ้ง กอดสายป่านไว้
"หา! แกท้องหรอ แน่ใจนะ แล้ว…ใครเป็นพ่อเด็ก…คุณทินใช่ไหม แล้วเขารู้เรื่องแล้วหรือยัง"
" แล้วถ้าคนที่สำนักพิมพ์รู้ ชั้นจะเอาหน้าไว้ที่ไหน…ชั้นจะลาออก"
"ใจเย็นก่อนแก ค่อยๆคิด วิธีนั้นต้องเป็นทางออกสุดท้ายจริงๆ แต่ถ้าแกจำเป็นต้อง
ทำละก็…ชั้นจะไปเป็นเพื่อนแกเอง"
สายป่านยิ่งคิดยิ่งกลัว น้ำตาไหลไม่หยุด เพื่อนกอดไว้อย่างสงสารจับใจ

เสียงกริ่งประตูดังขึ้น มะปรางเดินมาเปิด แล้วหันไปนั่งที่โซฟาวางท่าเย็นชา ดำรงปิดประตู เข้ามากระแซะเดารู้ว่างอน
"เป็นอะไรไปจ๊ะ งอนอะไรผมอีกล่ะ"
"คุณไม่เห็นบอกชั้นเลยว่าจ้างตะวันไปถ่ายแบบน่ะ"
"แหม เรื่องแค่นี้เองทำไมต้องโกรธด้วย"
มะปรางตวัดตามองด้วยความโมโหหึง
"แล้วทำไมต้องเป็นตะวันด้วย คุณก็รู้ว่ามันเสน่ห์แรงจะตาย"
ดำรงหัวเราะขำ
"ที่แท้ก็หึงผมนี่เอง น่ารักจริงๆ นี่มันเรื่องงานนะ คุณอย่าคิดมากสิ"
ดำรงจะจูบ มะปรางเบี่ยงตัวหนี
"วันนี้คนของบริษัทคุณโทร.มาติดต่องานกับชั้น คุณตั้งใจจะจ้างชั้นให้คอยดูแลนัง… เอ่อ…ตะวันใช่ไหม"
"ใช่ อ้าว แล้วคุณไม่ดีใจหรอที่จะได้ทำงานเพื่อนรักน่ะ"
ดำรงย้อนถามสงสัย มะปรางชะงักเก็บอาการ แอบทำหน้าเซ็ง
"ดีใจสิคะ แล้วนี่คุณดากับคุณวัลเขายอมให้ตะวันมาถ่ายแบบหรอคะ"
"ฮึ ใครจะกล้าหือกับคนหาเงินเข้าบ้านอย่างผมล่ะ"
มะปรางได้ยินคำว่าเงินแล้วตาโต ทำอิดออดมีแผน
"แต่…ชั้นคงไปทำงานคุณไม่ได้หรอกนะคะ พอดีรับปากอีกงานนึงไว้แล้ว"
ดำรงรู้ทันหยิบสมุดเช็คออกมาเซ็น มะปรางแอบชะเง้อมองแล้วยิ้ม
ดำรงยื่นเช็คให้
"ไปCancelงานนั้นซะ"
มะปรางรับเช็คมา เห็นตัวเลขแล้วตาโต แต่ทำงอนกลบเกลื่อน
"นี่คุณคิดว่าชั้นเห็นแก่เงินหรอ"
ดำรงจะดึงเช็คคืน
"แล้วจะเอาไหม"
มะปรางดึงเช็คกลับ ยิ้มอ้อน
"แหม นี่งานของคุณนะคะ ชั้นจะไม่ช่วยได้ยังไงล่ะ"
มะปรางหอมแก้มซ้ายขวา บีบนวดเอาใจ ดำรงโอบมือไล้ตามตัวมะปรางเล่น
"ก็คุณเอาใจเก่งแบบนี้ ผมจะไปไหนได้"
"คุณดำรงเรา 2 คนไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้วนะ เราไปทะเลกันไหมคะ"
"คุณอยากไปหรอ งั้นหลังFitting ถ่ายแบบเครื่องเพชรเสร็จแล้ว ผมจะพาไป"
"จริงนะคะ คุณเนี่ยน่ารักที่สุดเลย"
มะปรางจูบเป็นรางวัล ดำรงส่งสายตาหวานเยิ้ม เชยคางมะปรางขึ้นจะจูบ มะปรางทำเลี่ยง
"ไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวชั้นไปรอที่เตียง"

มะปรางส่งสายตายั่ว ดำรงยอมลุกอย่างว่าง่ายเดินเข้าห้องนอนไป
 
อ่านต่อหน้า 2

นางกลางไฟ ตอนที่ 19 (ต่อ)

ขณะที่ดำรงเข้าห้องน้ำ และเสียงเปิดฝักบัวดังขึ้น มะปรางก็เข้ามาในห้อง
 
เธอรีบหยิบมือถือดำรงข้างหัวเตียงขึ้นมา Set App find my iphone อย่างคล่องแคล่ว แล้วรีบปิดก่อนวางมือถือไว้ที่เดิม แล้วเปิด App ที่มือถือตัวเอง เช็คพิกัดของดำรง หน้าจอมือถือของมะปรางโชว์พิกัดดำรงอยู่ที่คอนโด
"บ่อน้ำมันอย่างคุณ ชั้นไม่มีวันปล่อยให้คนอื่นมาฮุบไปง่ายๆหรอก แม้แต่แก...นังตะวัน คราวนี้ต่อให้คุณโกหกหรือหายหัวไปอยู่ที่ไหน ก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาชั้นไปได้ คุณต้องเป็นของฉันคนเดียว…คุณดำรง"
มะปรางหัวเราะสะใจ

ธวัชเปิด IPAD เช็ค email งาน แล้วเปิดอ่านข่าวทั่วไป หน้าข่าวบันเทิงลงรูปที่ตะวันฉายเคยขึ้นปกนิตยสาร ธวัชนึกหงุดหงิดใจขึ้นมา เลื่อนจอให้รูปผ่านไป แล้วอดใจเลื่อนกลับมา click เปิดดูไม่ได้
ตะวันฉายดูสวยสะพรั่งมีเสน่ห์ Sexy แล้วนึกแค้น
"ทำไมเราต้องสนใจผู้หญิงคนนี้ด้วย"
ธวัชปวดหัวแปล๊บขึ้นมา
"โอ๊ย"
ภาพความทรงจำแว่บเข้ามาในหัวแบบรัวเร็ว ธวัชพยายามสลัดความคิดทิ้ง ยิ่งปวดหัวหนักขึ้น
"โอ๊ย"
ดวงสุดาเปิดเข้ามาเห็นรีบเข้ามาหา
"วัชคะ เป็นอะไรไปคะ คุณปวดหัวหรอ"
"ครับ จู่ๆก็ปวดหัวขึ้นมา…โอ๊ย"
ดวงสุดาเหลือบเห็นหน้าจอ IPAD แล้วอดหึงขึ้นมาไม่ได้ รีบประคองธวัชนอนลง
"ดาว่าเพราะคุณโหมทำงานหนักมากเกินไปน่ะสิคะ ดาบอกแล้วว่าให้เลิกทำคุณก็
ไม่เชื่อ นอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวดาไปหยิบยาแก้ปวดมาให้"
ธวัชนอนลง ดวงสุดาหยิบยาส่งให้ ธวัชรับมากิน
"นอนพักนะคะ"
ดวงสุดาหอมแก้ม แล้วห่มผ้าให้
ธวัชยิ้มเพลียแล้วนอนหลับไป ดวงสุดาได้โอกาสคว้า IPAD ออกไป
มุมหนึ่งของห้องนอน ดวงสุดากดเปิด IPAD ดูรูปตะวันฉายแล้วโมโห
"นี่คุณยังจะอาลัยอาวรณ์มันอยู่อีกหรอคุณธวัช"
ดวงสุดามองหุ่นตะวันฉาย เปรียบเทียบกับหุ่นตัวเองในกระจก เห็นว่า ตัวเองสู้ไม่ได้ก็รีบแตะปิดหน้าจอกดปิดเครื่องอย่างหงุดหงิด
"ทำยังไงมันถึงจะออกไปจากชีวิตชั้นซักทีนะ"
เสียงมือถือดวงสุดาดัง เห็นหน้าจอโชว์ชื่อ สายป่าน ดวงสุดากดรับ
"ว่าไงจ๊ะป่าน"
"พี่ดาคะ พรุ่งนี้พี่ดาว่างไหมคะ"
"ว่างจ้ะ ป่านมีอะไรหรือเปล่า"
"เอ่อ…คือป่านมีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อย ก็เลยอยากชวนพี่ออกมาทานข้าวน่ะค่ะ"
"ดีเลย พี่ก็กำลังเซ็งๆอยู่พอดี…ตกลงจ้ะ…งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะจ๊ะ"
ดวงสุดาวางหู มอง IPAD ในมือแล้วยัดใส่ลิ้นชักโต๊ะให้พ้นตา

ในห้างกลางกรุง มะปรางเดินเข้าออกในร้านแบรนด์เนม ส่องระจกลองสะพายกระเป๋าหรู
ลองรองเท้ากับชุดสวย หยุดโพสท์ท่าเช็คตัวเองไปมาหน้ากระจก พนักงานรูดบัตรเครดิต 4-5ใบรวด
มะปรางเปลี่ยนชุดสวยพร้อมรองเท้าใหม่เดินออกจากร้านหรูถือถุงแบรนด์เนมเต็ม2มือ ยิ้มเชิ่ดอย่างมีความสุข

ตะวันนั่งรอช่างหน้าช่างผม ซูซี่นั่งคุยอยู่ข้างๆ เห็นทีมงานกำลังเตรียมงานดูวุ่นวาย มะปรางสะพายกระป๋าหรูใบใหม่เดินเข้ามาทักทุกคน แอ๊บเรียบร้อยเต็มที่
"สวัสดีค่ะทุกคน" มะปรางเข้าไปกอดตะวันฉาย "ตะวัน ดีใจจังเลยที่เราได้กลับมาทำงานด้วยกันอีก"
"ชั้นตื่นเต้นจังเลยมะปราง"
ตะวันฉายกอดตอบยิ้มดีใจ ซูซี่เหล่มองมะปรางแล้วเบะปากใส่ มะปรางจ้องตอบเขม็ง แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานแกล้งทัก
"อ้าวพี่ซูซี่ สวัสดีค่ะ มายืนตรงนี้นานแล้วหรอคะ มะปรางไม่ทันเห็น"
ซูซี่ถลึงตามองไม่อยากเชื่อ แล้วยิ้มหวานแอ๊บหน้าแบ๊วใส่ล้อเลียน
"พี่ก็ยืนหัวโด่ตรงนี้มาตั้งนาน ก่อนมะปรางจะเข้ามาปลูกไร่สตอเบอร์รี่นี่แหละค่ะ"
มะปรางพยายามเก็บอารมณ์ ตะวันฉายมองปรามซูซี่
สไตลิสต์เข้ามาเตรียมชุดให้ หันมาเห็นกระเป๋ามะปรางแล้วกรี๊ดกร๊าดขอดู
"ต๊าย! นี่มันแบรนด์ยอดฮิต สี Limited editionซะด้วย ชิคแอนด์คูลสุดๆไปเลยค่ะคุณน้อง ขอดูใกล้ๆหน่อยได้ไหมคะ"
ทีมงานกรูกันเข้าไปดู มะปรางยิ้มภูมิใจ ซูซี่ได้ทีแอบเน็บ
"แหม ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าทำประสานงานเนี่ย จะเงินดีขนาดนี้"
ตะวันฉายปราม
"พี่ซูซี่"
ทีมงานยังมุงดูกระเป๋า มะปรางหมั่นไส้แต่แอ๊บหน้าซื่อไว้ตลอด
"ก็แค่รู้จักเก็บเท่านั้นเองค่ะ โชคดีที่มะปรางไม่ได้บ้าผู้ชายเหมือนบางคน ไม่อย่างนั้น หาได้เท่าไหร่ก็ถูกมันหลอก แถมยังโดนมันทิ้งอีก พวกเนี้ยน่าสงสารนะคะ เสียดายที่มีเงิน แต่…ไม่มีสมอง"
มะปรางเหลือบมองมา ซูซี่โมโหเลือดขึ้นหน้า ทีมงาน1 เอะใจกระซิบถามซูซี่
"เรื่องมันคุ้นๆแฮะ เขาแอบเหน็บเจ๊หรือเปล่าเนี่ย"
มะปรางแอบยิ้มมุมปาก ซูซี่ยิ่งเจ็บใจ
"เขาอาจจะมีเงินเหลือเลยเต็มใจให้หลอกเหมือนพี่ก็ได้นะคะ แต่ผู้หญิงบางคนนี่สิคะ ยอมเสียทั้งตัวทั้งศักดิ์ศรีเพื่อแลกกับเงิน คนอย่างนี้ต่างหาก…ที่ไร้สมอง"
ซูซี่กระแทกเสียงใส่ มะปรางมองเอาเรื่อง ตะวันฉายมองอย่างกลุ้มกับคู่นี้
พี่เป็ด ช่างหน้า พี่ไก่ ช่างผม เข้ามากอดยินดีกับตะวันขัดจังหวะ
"ต๊าย ดูซิตะวัน ขนาดมีลูกแล้วนะ หุ่นเธอยิ่งแซ่บกว่าเดิมอีก" เป็ดว่า
ซูซี่กับมะปรางได้แต่มองเขม่นใส่กันฝากไว้ก่อน
"ขอบคุณค่ะพี่เป็ด"
เป็ดกับไก่วางกระเป๋าแต่งหน้า-ทำผม พร้อมเริ่มงาน
"เธอนี่มันแมว 9 ชีวิตจริงๆ ในที่สุดก็กลับคืนวงการจนได้ ดีใจด้วยนะตะวัน" ไก่ว่า
"แค่ได้โอกาสกลับมาทำงานอีกครั้ง ตะวันก็ดีใจแล้วค่ะพี่ไก่"
มะปรางเข้ามากอดตะวันฉายทำยิ้มจริงใจ
"ไม่ต้องกังวลไปนะ ไม่ว่าใครจะชื่นชมหรือสมน้ำหน้า ตะวันก็จะมีมะปรางอยู่เคียง
ข้างเสมอนะจ๊ะ"
ซูซี่ถึงกับเบือนหน้าหนี
"โอ๊ย ตีบทซะแตกกระจุย ถ้าจะเล่นใหญ่ขนาดนี้ก็ไปเอาดีทางละครเถอะแม่คู้ณ"
มะปรางขยับจะเอาเรื่อง ซูซี่ขยับเผชิญหน้าไม่กลัว ตะวันฉายรีบลุกขวางทั้งคู่ไว้
"มะปราง พี่ซูซี่ ตะวันขอเถอะ วันนี้ตะวันเพิ่งกลับมาทำงานวันแรก อย่ามีเรื่องกันเลยค่ะ"
"ก็ได้จ้ะ พี่เห็นแก่ตะวันนะ"
ซูซี่แยกออกไปคุยกับเป็ดกับไก่อีกทาง มะปรางตีหน้าเศร้าทำสลด
"พี่ซูซี่คงเสียหน้าที่วันก่อนโดนชั้นแฉละมั้ง แต่ช่างเถอะ วันนึงเขาคงคิดได้เองแหละว่ามิตรภาพมีค่ามากกว่าเงินทองหลายร้อยเท่า"
"ขอบใจนะมะปรางสำหรับความจริงใจที่แกมีให้ชั้นมาตลอด"
ตะวันฉายซึ้งใจกอดเพื่อนแน่น มะปรางกอดตอบ หันไปมองซูซี่แล้วแสยะยิ้มเย้ย ซูซี่คิดไม่ถึงว่ามะปรางจะร้ายกาจถึงขนาดนี้
"ชั้นจะฉีกหน้ากากหล่อนออกมาประจานให้ทุกคนเห็นให้ได้ คอยดู"

วาทินกับบรรดานักข่าวเตรียมตั้งกล้องทำข่าว สายป่านเดินเข้ามาเห็นวาทินถึงกับอึ้ง รีบเข้าไปดึงออกมาคุย มุมหนึ่งของสตูดิโอ สายป่านโวยใส่ไม่ยั้ง
"คุณทิน ชั้นโทร.ไปหาสายแทบไหม้ทำไมไม่รับ"
"ผมโทร.กลับไปหาคุณแล้ว แต่เจอแม่คุณรับสายแทน"
"แล้วทำไมแม่ชั้นไม่เห็นบอกเลยล่ะ"
"คุณป้าคงจะลืมละมั้ง"
"แล้วคุณโผล่มาทำไมที่นี่ ทั้งๆที่ไม่ใช่งานคุณ อ๋อ คงอยากมาดูหน้าแฟนเก่าจนตัวสั่นละสิท่า"
"นี่ป่าน ผมว่าคุณหึงจนหน้ามืดไปแล้วนะ บก.เป็นคนสั่งให้ผมมาช่วยคุณเก็บภาพ เลิกคิดมากแล้วไปทำงานได้ละ"
วาทินจะเดินออก สายป่านดึงไว้
"เดี๋ยวก่อน ชั้นมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ"
วาทินพูดเลี่ยง
"เอาไว้ทีหลังได้ไหม"
"ไม่ได้ เราต้องคุยกันเดี๋ยวนี้"
วาทินเสียงเข้มใส่
"นี่สายป่าน เรามาทำงานนะ อย่ามาหาเรื่องทะเลาะกันได้ไหม เดี๋ยวก็ได้กลายเป็นข่าวซะเองหรอก เอาไว้เสร็จงานแล้วค่อยคุยกัน"
"เดี๋ยวสิ คุณทิน…คุณวาทิ"
วาทินไม่สนเดินหนีไป สายป่านหงุดหงิดจำต้องเดินตามออกไป

ตะวันฉายยิ้มสดใสให้สัมภาษณ์กับนักข่าว เห็นแสงแฟลชวูบวาบ
นักข่าว1ถาม
"ไม่ทราบว่าที่คุณตะวันตัดสินใจรับงานนี้เป็นเพราะคิดจะหวนคืนวงการรึเปล่าคะ"
"ต้องบอกก่อนค่ะว่าที่ตะวันได้มาถ่ายงานนี้ ก็เพราะคุณดำรงให้เกียรติและเห็นว่า ลุคของตะวันตรงกับคอนเซ็ปต์เครื่องเพชรคอลเล็กชั่นใหม่พอดี ถ้าพี่ๆสื่อมวลชนและผู้ใหญ่ในวงการยังให้โอกาส แฟนคลับทุกคนยังช่วยสนับสนุน ตะวันก็คงจะกลับมารับงานอย่างต่อเนื่องแน่นอนค่ะ"
วาทินยกกล้องขึ้นถ่าย อดนึกชมความสวยของตะวันไม่ได้ ถือโอกาสถาม
"คุณตะวันมีลูกแล้วแต่ยังสวยปิ๊งแบบนี้ ถ้ามีคนมาติดต่อให้ถ่ายแบบ Sexy คุณจะยอมถ่ายไหมครับ เพราะเชื่อว่าต้องมีแฟนคลับรอดูผลงานเด็ดๆของคุณอยู่แน่"
ตะวันชะงัก นักข่าวพากันซักอยากได้คำตอบ
ด้านหนึ่งของ Studio ดำรง ซูซี่ ยืนมองนึกโมโห ทีมงานหันซุบซิบกับคำถามของวาทิน
"ทำไมคุณวาทินถามแบบนี้ จะชักใบให้เรือเสียหรือไงคะ" ซูซี่ถาม
"ไอ้ทิน แทนที่มันจะถามเรื่องที่ช่วยสนับสนุนสินค้า ดันวกเข้าเรื่องฉาวแบบนี้ ตะวันก็ไปไม่ถูกน่ะสิ"
ตะวันฉายมองอย่างเคือง วาทินทำหน้ากวน ยักไหล่ทำทีว่าช่วยไม่ได้
สายป่านเหลือบมองวาทินกับตะวันแล้วยิ่งหึง ตะวันพยายามเก็บอารมณ์ไว้ แล้วยิ้มสู้
"ก็คงต้องให้พี่ซูซี่ช่วยพิจารณาคอนเซ็ปต์ของแต่ละงานไปค่ะ"
ตะวันฉายเหลือบมองขอกำลังใจ ซูซี่ทำมือว่าโอเคส่งให้เป็นกำลังใจ ตะวันโล่งอก

ใครบางคนกำลังถ่ายคลิปที่วาทินสัมภาษณ์ตะวันเอาไว้แล้วยิ้มสะใจ คลิปนั้นถูกส่งจาก ผู้หวังดี
ไปยังเบอร์มือถือดวงสุดา

วาทินกดชัตเตอร์รัวดูสนใจตะวันฉายจนออกนอกหน้า สายป่านหมั่นไส้คิดคำถามแกล้งฉีกหน้า
"แล้วเรื่องครอบครัวล่ะคะ ได้ข่าวว่าคุณตะวันแยกกันอยู่กับสามี แต่ยังถูกเมียหลวงคอยตามราวีจริงหรือเปล่าคะ"
ตะวันถึงกับอึ้ง นักข่าวส่งเสียงฮือฮายกกล้องถ่ายรูปตะวันรัว สายป่านยิ้มสะใจ
ซูซี่หยิบพัดกระพือรัวลมจะใส่ ดำรงเริ่มเครียด ทีมงานปรึกษากันชุลมุน
"ตายๆๆ ถ้าถามอย่างนี้หยิบมีดออกมาแทงนังซูซี่เลยดีกว่าค่ะ คุณสายป่าน"
วาทินหันมองอย่างไม่พอใจ ตะวันฉายเลี่ยงตอบอย่างสุภาพ
"เรายังมีความสุขกันดี ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ"
"แน่ใจหรอคะ แล้วข่าวที่ว่าคุณท้องไม่มีพ่อ ใครเป็นพ่อของเด็กบอกได้ไหมคะ ใช่ตากล้องไฮโซสามีเก่าที่เคยเป็นข่าวหรือเปล่า"
ตะวันทำหน้าไม่ถูก นักข่าวมองหน้ากันสงสัยว่าใคร สายป่านเหลือบมองไปทางวาทินเหมือนรอคำตอบ
วาทินโกรธ บ่นกับตัวเอง
"สายป่าน คุณนี่มัน…"
สายป่านยิ้มเย้ย นักข่าวเริ่มหันไปรุมถามตะวันกับวาทิน มะปรางยิ้มสะใจเข้ามายืนรวมกับทีมงานแอบยิ้มสะใจ ดำรงทนไม่ไหวตัดสินใจเดินเข้าไปช่วย
"ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ตะวันต้องแย่แน่ๆ"
ซูซี่รีบเข้าไปช่วยอีกแรง
"ซูซี่ไปด้วยค่ะคุณดำรง"
มะปรางมองทั้งคู่อย่างขัดใจ ทีมงานพากันมองตะวันฉายอย่างเห็นใจ
วาทินรีบขอตัวเดินเลี่ยงออกมา นักข่าวยังตามซัก
"ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย ขอตัวก่อนนะครับ"
สายป่านยิ้มเย้ย แล้วนึกได้ว่ายังไม่ได้คุยกับวาทิน
"สะใจจริงๆที่ได้เห็นนังตะวันมันโดนสื่อรุมทึ้ง อ้าว คุณทิน…รอด้วยสิ…คุณทิน"
สายป่านรีบตามไปวาทินไป ดำรงกับซูซี่รีบออกมาช่วยตะวันรับหน้า
"ไหนๆทุกท่านก็ถามถึงข่าวลือนี้แล้ว ในข่าวมีชื่อลูกสาวผมถูกพาดพิงอยู่ด้วย ผมขอปฏิเสธครับว่า ทุกอย่างเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน เพราะไม่อย่างนั้นบริษัทเราคงไม่เชิญตะวันมาร่วมงานด้วยแน่ ที่จริง... คอลเล็กชั่นนี้ลูกสาวผมเกือบจะได้มาถ่ายแบบคู่กับตะวันแล้วนะครับ แต่เสียดายที่ยัยดาติดประชุมอยู่ต่างประเทศน่ะครับ"
นักข่าว 2 ถาม
"แล้วตกลงคุณตะวันยังอยู่กับคุณธวัชหรือเปล่าครับ"
ตะวันฉายยิ้มรับ ตอบเลี่ยง
"สำหรับตะวัน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม วันนี้ตะวันกับลูกมีความสุขดีค่ะ"
นักข่าวจะซัก ซูซี่รีบเปลี่ยนประเด็น เบนความสนใจ
"ตะวันโชว์รูปสายฟ้าให้ทุกคนดูสิจ๊ะ กำลังน่ารักเลยค่ะ ถ้าสินค้าแม่และเด็กสนใจก็ยินดีนะคะ โทร.หาซูซี่ขอคิวมาได้เลยค่ะ"
"เอาละครับ ผมต้องขอบคุณนักข่าวทุกคนที่ให้เกียรติมาในวันนี้ด้วยนะครับ เชิญทุกท่านรับประทานอาหารทางด้านโน้นได้เลยครับ เชิญครับ"

ทีมงานรีบเข้ามาต้อนนักข่าวไปอีกทาง ดำรงพยักหน้าเป็นสัญญาณให้ซูซี่รีบพาตะวันฉายหลบออกไป
 
อ่านต่อหน้า 3

นางกลางไฟ ตอนที่ 19 (ต่อ)

บริเวณลานจอดรถ วาทินหิ้วกระเป๋ากล้องใส่รถ เปิดประตูจะขึ้นรถ สายป่านตามออกมาทัน

"เดี๋ยวคุณทิน เรามีเรื่องต้องคุยกัน"
"พอได้แล้วป่าน ผมว่าคุณทำเกินไปแล้วนะ นี่มันงานเปิดตัวเครื่องเพชรของพ่อผมนะ จะทำอะไรก็เกรงใจพ่อผมบ้าง"
"ทำไม คุณเกรงใจคุณพ่อหรือว่าทนเห็นนังตะวันมันโดนนักข่าวไล่บี้ไม่ได้กันแน่"
"สายป่าน ผมไม่ชอบคนไร้เหตุผล เอาไว้คุณสงบสติอารมณ์ได้เมื่อไหร่ เราค่อยคุยกันก็แล้วกัน"
วาทินเปิดรถขึ้นและสตาร์ท สายป่านวิ่งตามตะโกนเรียก
"เดี๋ยวก่อนคุณทิน มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน…คุณทิน"
ในรถหรูของวาทิน วาทินมองกระจกมองหลัง เห็นสายป่านวิ่งตามแล้วทนไม่ได้ ตัดสินใจถอยรถกลับไป สายป่านยิ้มออก วาทินเอื้อมเปิดประตูรถด้านข้างคนขับออก
" ขึ้นมา"
สายป่านขึ้นไปนั่ง ไม่ทันปิดประตู วาทินออกรถพรืดออกไปอย่างเร็ว เสียงเบรกเบียดถนนลั่นอย่างโมโห

วาทินหน้าเข้มนิ่งหงุดหงิดเต็มที่ วาทินกดคันเร่งจนเกือบมิดระบายความโมโห สายป่านกลัวรีบดึงเซฟตี้เบลท์มาคาด นั่งแทบไม่ติด
"คุณทิน! ทำไมต้องขับเร็วขนาดนี้ด้วย จอดเดี๋ยวนี้นะ"
วาทินยิ้มเยาะ โวยใส่
"ฮึ ทีเมื่อกี๊ล่ะทำเป็นเก่ง ยังคิดจะฉีกหน้าชั้นกับตะวันต่อหน้านักข่าวอยู่เลย ทำไมตอนนี้เกิดหงอขึ้นมาซะล่ะ"
"แหม ปกป้องออกนอกหน้าเชียวนะคะ นี่ขนาดมันผ่านผู้ชายมาไม่รู้เท่าไหร่ คุณยังจะอยากได้มันอยู่อีกหรอ"
"สายป่าน ผมคิดว่าคุณจะต่างจากผู้หญิงคนอื่นซะอีก ที่ไหนได้คุณมันก็เป็นพวกขี้หึงไร้เหตุผลยิ่งกว่าผู้หญิงพวกนั้นซะอีก รู้ไหมว่ามันน่ารำคาญ"
วาทินกระแทกเสียง แล้วแกล้งขับเร็วขึ้นกว่าเดิม ปาดซ้ายแซงขวารถคันอื่นไปอย่างน่ากลัว สายป่านร้องเสียงหลง ตลาดลั่นใส่วาทิน
"ว้าย! คุณทิน ถ้าคุณอยากตายมันก็เรื่องของคุณ แต่ชั้นกับลูกไม่ยอมเสี่ยงด้วยหรอกนะ จอด! ชั้นบอกให้จอดเดี๋ยวนี้ได้ยินไหม!"
สายป่านเผลอหลุดปากไม่รู้ตัว วาทินชะงักไม่เชื่อหูตัวเอง
"เมื่อกี๊คุณบอกว่าอะไรนะ…คุณกับลูก…นี่คุณท้องงั้นหรอ"
สายป่านพยักหน้ารับ
"ค่ะ"
วาทินผ่อนความเร็วรถลง แล้วรีบซัก
"แล้วมีใครรู้เรื่องนี้หรือเปล่า แล้วคุณปล่อยให้ท้องได้ยังไง ทำไมไม่รู้จักระวัง"
สายป่านอึกอัก
"ยังไม่มีใครรู้ค่ะ แต่คุณจะมาโทษชั้นฝ่ายเดียวได้ยังไง คุณรู้ไหมว่าชั้นกลัวแค่ไหน ชั้นโทร.ไปเท่าไหร่คุณก็ไม่ยอมรับสาย ถ้าแม่กับพี่วัชรู้เรื่องละก็ ต้องเอาชั้นตายแน่ๆ คุณทิน คุณต้องรับผิดชอบชั้นนะคะ"
สายป่านฟูมฟายปล่อยโฮ วาทินกลุ้ม
"รับผิดชอบหรอ ผมยังไม่พร้อมจะมีครอบครัวตอนนี้หรอก"
สายป่านชะงักอึ้ง
"แล้วเมื่อไหร่คุณถึงจะพร้อม ต้องรอให้ท้องชั้นป่องประจานตัวเองก่อนงั้นหรอ ชั้นไม่ยอม ยังไงคุณก็ต้องรับผิดชอบชั้น"
"นี่คุณอย่าคาดคั้นผมได้ไหม เอาไว้เราหาทางออกได้แล้วค่อยคุยกัน แต่ถ้ามันไม่มีทางอื่นละก็…"
สายป่านสบตากับวาทินเดารู้ว่าจะพูดอะไร
"ไม่…ป่านไม่มีวันฆ่าลูกของเราเด็ดขาด"
วาทินเผลอประชด
"ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ คุณก็อุ้มท้องทั้งๆที่ไม่พร้อมต่อไปละกัน"
"ทำไมคุณพูดพล่อยๆแบบนี้ พอคุณได้ชั้นแล้วก็คิดจะ... หรือว่า คุณมีผู้หญิงคนใหม่ นี่คุณคิดจะเขี่ยชั้นทิ้งใช่ไหม"
"ผมไม่มีใครทั้งนั้นแหละ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าเรื่องมันยุ่งยากนักละก็เราห่างกันซักพักก็ดีเหมือนกัน"
"คุณ…คุณนี่มันเลวจริงๆ คุณจะปล่อยให้ชั้นท้องไม่มีพ่อแบบนี้หรอ ชั้นไม่ยอม คุณจะทำกับชั้นแบบนี้ไม่ได้นะ"
สายป่านตีโพยตีพายทุบวาทินรัว วาทินปัดป้องหลบ รถขับส่ายสะบัดไปมา
"โอ๊ย! สายป่านหยุดนะ สายป่าน"
รถกระบะขับสวนมา รถวาทินส่ายพุ่งเข้าหาด้วยความเร็ว คนขับกระบะตกใจสุดขีด หักพวงมาลัยหลบ
"เฮ้ย!"
วาทินกับสายป่านตะลึงช็อกกับภาพตรงหน้า สายป่านหวีดร้องสุดเสียง
"แอร๊ย! คุณทิน ระวัง"
วาทินหักพวงมาลัยหลบสุดแรง เสียงล้อเบรกเบียดถนนดังลั่น รถวาทินหักเลี้ยวเฉียดรถกระบะที่ขับสวนไปอย่างหวุดหวิด แล้วกลิ้งพลิกคว่ำ หงายท้องหยุดข้างทาง
สายป่านมึน แล้วนึกได้รีบกุมท้องเอาไว้เป็นห่วงลูก
"ลูก!"
สายป่านโล่งอกที่ตัวเองดูปกติไม่มีบาดแผล รีบหันหาวาทินแล้วตกใจ
"คุณทิน…คุณทิน"
วาทินหัวแตกเลือดอาบสลบนิ่ง สายป่านทำอะไรไม่ถูก รีบปลดเซฟตี้เบลท์ของตัวเองออก
"คุณทิน…คุณทินคะ คุณอย่าเป็นอะไรไปนะ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ มีคนเจ็บอยู่ทางนี้"
สายป่านพยายามแกะเซฟตี้เบลท์ของวาทินแต่แกะไม่ออก ได้กลิ่นฉุนอะไรบางอย่าง
"นี่มัน…กลิ่นน้ำมันนี่"
สายป่านเห็นน้ำมันรั่วไหลเป็นทาง สายป่านหน้าตื่นรีบเร่งมือดึงวาทินออกมา
"คุณทิน คุณต้องไม่เป็นอะไร คุณอย่าทิ้งชั้นกับลูกไปนะคะ"
สายป่านปลดเซฟตี้เบลท์ ลากวาทินออกมาได้อย่างหวุดหวิด เสียงรถระเบิดดังสนั่น
รถกู้ภัยกับรถพยาบาลขับเข้ามา เจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วย
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
"ชั้นไม่เป็นไรค่ะ รีบช่วยคนเจ็บก่อนเถอะค่ะ"
เจ้าหน้าที่หามวาทินขึ้นเปลรีบช่วยปฐมพยาบาล
สายป่านถอยออกมา เห็นวาทินปลอดภัยก็โล่งอก แล้วเลี่ยงเดินไปเหมือนพยายามจะตัดใจ

เวลากลางคืน ที่โรงพยาบาล วาทินรู้สึกตัวฟื้น ที่หัวแปะผ้าก็อตไว้ ตามตัวมีรอยช้ำ ขาเป็นรอยถลอก พยาบาลกำลังให้น้ำเกลือ
"คุณฟื้นแล้วหรอคะ รู้สึกยังไงบ้างคะ"
วาทินขยับตัวจะลุก พยาบาลเข้ามาช่วยประคองให้เอนหลังพิงพนักเตียง
" โอ๊ย…ปวดหัวนิดหน่อยครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย"
"คุณรถคว่ำน่ะค่ะ แต่โชคดีนะคะที่แค่ศีรษะแตกกับฟกช้ำตามตัวเท่านั้นเอง ดีที่มีคนช่วยคุณออกมาได้ทัน ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่รอดแน่ค่ะ"
วาทินนึกถึงสายป่านขึ้นมาได้ รีบถามอย่างร้อนรนด้วยความเป็นห่วง
"สายป่าน…แล้วผู้หญิงที่มากับผมล่ะครับ เธอหนีออกมาทันไหม มีใครช่วยเธอหรือเปล่า"
"ใจเย็นๆค่ะ เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกว่า มีผู้หญิงช่วยคุณออกมา แต่ไม่ทราบว่าหายไปไหนแล้ว คุณพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ"
พยาบาลเดินออกจากห้องไป วาทินสลดนึกรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ
เสียงมือถือดัง นางแบบคู่ขาโทร.เข้า วาทินมองแล้วกดรับ
"ฮัลโหล"
เสียงคู่ขาดังลอดออกมา
"ทินคะ ได้ข่าวคุณรถคว่ำ เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ"
"ก็เจ็บนิดหน่อยน่ะ ว่าไว้ถอยคันใหม่อยากเปลี่ยนรถพอดี "
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวชั้นไปรับมาเที่ยวแก้เซ็งดีไหมคะ"
วาทินนึกถึงสายป่านแล้วเลี่ยงไป
"ไม่ดีกว่า ผมไม่มีอารมณ์ คุณโทร.ไปชวนคนอื่นเถอะ"
วาทินไม่สนใจกดตัดสายทิ้ง เสียงมือถือโทร.เข้ามาอีก วาทินกดทิ้ง จะกดโทร.หาสายป่านแต่เปลี่ยนใจ แล้วหยิบมือถือยัดเข้าลิ้นชักข้างเตียงไปอย่างสับสน

ป่านร้องไห้โฮ แทบเป็นสายเลือดไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเอง เธอทรุดลงนั่งที่ปลายเตียงอย่างหมดแรง
ทางด้านวาทินนอนไม่หลับ คิดถึงความรักของตัวเองกับสายป่าน วาทินสลดนึกรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ
วันใหม่ ตะวันฉายอุ้มสายฟ้าเข้ามา กล้วยหิ้วสัมภาระของสายฟ้าตามหลัง สุนทรีย์รีบลุกไปรับมาอุ้มไว้
"อ้าว สายฟ้าแวะมาหาย่าหรอลูก"
"พอดีตะวันพาสายฟ้าไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลมาน่ะค่ะ ก็เลยแวะมาหาคุณป้า"
"เก่งซะด้วยนะคะ ตัวแค่นี้แต่ไม่ร้องซักแอะเลยค่ะ"
"อย่างนี้ต้องให้รางวัลคนเก่งของย่าซักหน่อย" สุนทรีย์หอมฟอดใหญ่ "แหม เชื้อไม่ทิ้งแถว
จริงๆ ตาวัชตอนเด็กๆก็ว่าง่ายเหมือนกันเรื่องกินยาฉีดยาเนี่ย"
ตะวันฉายได้ยินชื่อธวัชแล้วหน้าเจื่อนไป สุนทรีย์ชะงักรีบเปลี่ยนเรื่อง
"เอ่อ เย็นนี้อยู่กินข้าวด้วยกันนะตะวัน เดี๋ยวป้าจะไปเตรียมทำกับข้าวไว้ให้"
"ขอบคุณมากค่ะ กล้วย เข้าไปช่วยคุณป้านะ เดี๋ยวชั้นดูสายฟ้าเอง"
"ได้ค่ะ"
ตะวันฉายรับลูกจากสุนทรีย์ กล้วยวางของแล้วตามสุนทรีย์เข้าครัวไป
"เราออกไปนั่งเล่นข้างนอกกันดีกว่านะลูก"
ตะวันฉายอุ้มลูกออกไปที่สวน

ตะวันนั่งเล่นกับลูก สายป่านเดินเข้ามาหยุดมอง ตะวันฉายทัก
"น้องป่าน"
สายป่านไม่พูดไม่จาหน้าเศร้าเข้ามานั่งเล่นกับหลาน สายฟ้าร้องงอแงขึ้นมา
"อ้าว ทำไมจู่ๆก็ร้องซะล่ะ ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"
"แกคงจะหิวน่ะค่ะ"
ตะวันฉายรับสายฟ้ามาป้อนนม แล้วเปลี่ยนผ้าอ้อมคล่องแคล่ว สายฟ้านิ่งหยุดงอแง สายป่านมองอย่างสนใจ ตะวันฉายเหลือบมองอย่างเข้าใจ
"มีลูกซักคนเนี่ยไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ต้องอุ้มท้องตั้ง 9 เดือน แล้วยังต้องห่วงว่า เขาจะแข็งแรงครบ32ไหม พอคลอดแล้วก็ยังต้องตื่นมาให้นมแทบทุกชั่วโมง ไหนจะต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม ต้องดูแลเขาตอนไม่สบายอีก"
สายป่านเผลอตัว
"ขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ที่พูดนี่แค่ส่วนนึงนะคะ ยิ่งถ้าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยละก็ รับรองว่าเหนื่อยแทบขาดใจเลยล่ะค่ะ"
สายป่านทำฟอร์มไม่สน
"แล้วมาเล่าให้ชั้นฟังทำไม"
ตะวันฉายยิ้มรู้ทันว่า สายป่านอยากจะปรึกษา ได้โอกาสสอน
"ตอนที่รู้ว่าตัวเองท้องพี่ตกใจมาก ตอนนั้นถึงจะยังไม่พร้อมมีลูก แต่พี่ก็ไม่เคยคิดที่จะทำลายชีวิตบริสุทธิ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเค้าเกิดมาจากความรักของเรา…และคนที่เรารัก"
ตะวันฉายมองสายฟ้าด้วยความรักแล้วกล่อมลูกนอน
"ป่านดูสิว่าสายฟ้าน่ารักแค่ไหน ถ้าพี่เกิดอยากจะตัดปัญหาและทำอะไรโง่ๆลงไป พี่คงเสียใจไปตลอดชีวิต ป่านว่าจริงไหม"
สายป่านถึงกับอึ้ง นึกโมโหที่โดนพูดแทงใจดำ
"นั่นมันเรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับชั้น อย่ามาทำเป็นรู้ดีสั่งสอนชั้นหน่อยเลย คนอย่างชั้นจัดการเรื่องของตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมายุ่งหรอก"
สายป่านนึกถึงวาทินแล้วน้ำตาคลอ ตะวันมองอาการแล้วเดารู้
"อย่าบอกนะคะว่าคุณทิน…ไม่ยอมรับ"
สายป่านนิ่งน้ำตารื้นขึ้นมาแต่พยายามกลั้นเอาไว้ ตะวันฉายเจ็บแทนทนไม่ไหว
"เดี๋ยวพี่จะไปคุยกับพ่อแม่เขาให้จัดการเรื่องนี้เอง คุณดำรงกับคุณวัลก็มีลูกสาว ถ้าลูกเขาต้องเจอเรื่องแบบนี้ พี่เชื่อว่าเขาต้องเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ว่าจะรู้สึกยังไง"
สายป่านกลัวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โวยลั่น
"อย่าแส่ได้ไหม ทำอย่างนั้นมันก็เท่ากับเอาพ่อแม่เขามาบีบให้คุณทินรับผิดชอบชั้นน่ะสิ แล้วถ้าเขาเกิดไม่ยอมขึ้นมา ชั้นไม่ยิ่งน่าสมเพชไปกว่านี้หรอ หรือคุณอยากเห็นชั้นโดนดูถูกว่าปล่อยให้ท้องเพราะหวังจับคุณทิน เหมือนที่คุณเคยโดน เลิกยุ่งกับเรื่องของชั้นซักที เอาตัวเองให้รอดซะก่อนเถอะ"
สายป่านโกรธลุกเดินออกไป ตะวันมองตามนึกโกรธแทน
"ชั้นคิดแล้วว่าคุณอย่างคุณน่ะมันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีหรอก คำว่าเลวมันยังน้อยเกินไปสำหรับคุณจริงๆ"

ภายในร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า สายป่านตักเค้กกินอย่างอร่อย ดวงสุดาจิบกาแฟมองนึกแปลกใจ
"น้องป่านจ๊ะ พี่จำได้ว่าปกติป่านไม่ชอบกินของหวานไม่ใช่หรอ"
สายป่านสำลัก ดวงสุดารีบส่งแก้วน้ำให้ สายป่านรับมาดื่มแล้วหัวเราะกลบเกลื่อน
"อ๋อ…คือ…พอดีบก.จะให้ป่านเขียนคอลัมน์แนวชวนชิมน่ะค่ะ ป่านก็เลยต้องเปลี่ยนมาชิมทุกอย่างเป็นการเก็บข้อมูล"
"อ๋อ งั้นก็แล้วไป มิน่าป่านดูมีน้ำมีนวลขึ้นตั้งเยอะ ระวังเถอะกินขนาดนี้หุ่นจะพังไม่รู้ตัว เอาไว้ไปเล่นฟิตเนสกับพี่ไหม"
สายป่านยังตักเค้กเข้าปากไม่หยุด
"หืม ช่วงนี้ป่านเล่นไม่ได้เด็ดขาดเลย เพราะกำลัง…" สายป่านเกือบหลุดปากว่าท้อง แต่ชะงัก …
"เอ่อ…กำลังยุ่งปิดเล่มน่ะค่ะ เอาไว้วันหลังนะคะพี่ดา"
"ว๊า ถ้าไม่มีเพื่อนไปเล่นด้วย สงสัยพี่คงต้องใช้ทางลัดซะแล้ว งั้นแวะไปดูดไขมันเอาก็แล้วกัน"
สายป่านพูดดักคอ
"เอ๊ แปลกจัง ทำไมจู่ๆพี่ดาก็เกิดจะฟิตหุ่นขึ้นมาซะอย่างงั้น อย่าบอกนะคะว่ากลัวสวยสู้นังตะวันไม่ได้น่ะ"
"ใครบอกว่าพี่กลัว พี่ก็แค่อยากดูดีเสมอในสายตาคุณวัชก็เท่านั้นเองค่ะ ขืนปล่อยตัวให้หุ่นเผละอย่างนังตะวันก็คงไม่มีผู้ชายคนไหนสนใจ ต้องวิ่งโร่หาพ่อให้ลูกมันอยู่นี่ไงคะ"
สายป่านชะงัก ได้โอกาสถาม
"เอ่อ…แล้ว…สมมุติว่าถ้าพี่ดาเกิดท้องไม่มีพ่อ…แบบมัน พี่จะทำยังไงคะ"
"น้องป่านคะ พี่คงไม่โง่จนดูไม่ออกเลยว่าผู้ชายเขาคิดยังไงกับเรา ถ้าเขาไม่ไยดี มันก็ชัดอยู่แล้วว่าเขาเห็นเราเป็นแค่คู่นอน ถ้าฉลาดพอก็ควรจะไปจัดการซะให้เรียบร้อย"
สายป่านถึงกับอึ้งเจ็บทุกคำที่ได้ยิน ดวงสุดายิ่งพูดยิ่งของขึ้น
"ฮึ แต่อย่างว่า นังผู้หญิงใจง่ายพวกเนี้ย มันก็คิดจะเอาตัวเข้าแลก ใช้แผนนี้จับผู้ชายกันทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้ท้องป่องประจานตัวเองแบบนี้หรอกค่ะ"
ดวงสุดายกชาขึ้นจิบสบายใจที่ได้ด่าตะวันฉาย สายป่านหน้าชาเหมือนโดนด่าเองรีบขอตัวกลับ
"เอ่อ…พี่ดาคะ พอดีป่านลืมไปว่ามีประชุมที่สำนักพิมพ์ เอาไว้วันหลังเราค่อยนัดกันใหม่ก็แล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะ"
สายป่านคว้ากระเป๋ายกมือไหว้ แล้วลุกออกไป ดวงสุดา รับไหว้แทบไม่ทัน
"เอ่อ จ้ะ อ้าวป่าน ไหนว่ามีเรื่องจะปรึกษาไง"
ดวงสุดามองตามส่ายหน้าไม่นึกเอะใจ

สายป่านเดินออกมาจากร้าน กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่นึกเจ็บใจที่ตัวเองพลาดไป
 
อ่านต่อหน้า 4

นางกลางไฟ ตอนที่ 19 (ต่อ)

ภายในห้อพักผู้ป่วย นางพยาบาลกำลังเช็คขวดน้ำเกลือ เสียงเคาะประตู ตะวันฉายเปิดประตูเข้ามา วาทินมองไม่อยากเชื่อ

"ตะวัน"
พยาบาลเลี่ยงออกไป ตะวันเดินเข้ามาหา
"ชั้นได้ข่าวว่าคุณรถคว่ำ"
"คุณรู้ได้ยังไง"
"บังเอิญชั้นได้ยินป่านคุยโทรศัพท์กับเพื่อนน่ะ แล้วคุณเป็นยังไงบ้าง"
"ก็…เจ็บนิดหน่อยน่ะ"
ตะวันฉายได้โอกาสพูดเหน็บเข้าเรื่อง
"แต่คงเจ็บไม่เท่าป่านหรอก"
"นี่คุณ…รู้" วาทินนึกโกรธสายป่าน "ไหนบอกว่าไม่มีใครรู้ไง"
"ไม่ต้องไปโทษป่านหรอก อย่าลืมสิว่าชั้นมีลูกมาก่อน แค่เห็นอาการป่านชั้นก็รู้แล้ว ว่าแต่คุณเถอะจะจัดการเรื่องนี้ยังไง"
"ก็…ผมยังไม่พร้อมน่ะ แล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย"
"เพราะชั้นรู้นิสัยคุณไงถึงต้องเข้ามายุ่ง คุณไม่เห็นหรอว่าชีวิตชั้นมันพังแค่ไหนที่ท้องไม่มีพ่อ คุณอยากเห็นป่านต้องทรมานแบบชั้นหรอ"
"ก็ผมบอกแล้วไงว่ายังไม่พร้อมจะรับผิดชอบใคร"
ตะวันโกรธจนเผลอตัวตบหน้าวาทินฉาดใหญ่
"ถ้าไม่พร้อม แล้วทำไมคุณต้องทำลายชีวิตผู้หญิงคนนึงที่รักคุณจนหมดหัวใจด้วย คุณปัดความรับผิดชอบให้ป่านต้องแบกรับเรื่องที่หนักสุดในชีวิตลูกผู้หญิงเพียงลำพัง คุณไม่รักป่านบ้างเลยหรอ วาทิน…คนอย่างคุณ มันไม่ใช่ลูกผู้ชายหรอก"
วาทินอึ้งไปเริ่มคิดได้ เสียงเคาะประตูขัดจังหวะ พยาบาลเดินเข้ามา ตะวันฉายยืนนิ่งสงบสติอารมณ์
"ขอโทษนะคะ คุณหมอบอกว่าอาการคุณแค่บาดเจ็บเล็กน้อย วันนี้ให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้เลยค่ะ"
"ขอบคุณมากครับ"
พยาบาลเดินกลับออกไป ตะวันฉายพูดทิ้งท้าย
"คนขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับความรู้สึกตัวเองอย่างคุณมันน่าจะเจ็บหนักกว่านี้ ชั้นขอเตือนว่าถ้าขืนคุณยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้ละก็ ป่านอาจจะคิดสั้นหรือทำอะไรโง่ๆลงไปก็ได้ ถึงตอนนั้นคุณจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต"
ตะวันฉายจะเดินออก วาทินตัดสินใจเรียกไว้
"เดี๋ยวก่อนตะวัน"
"มีอะไร"
"ผม…อยากไปขอโทษป่านน่ะ คุณช่วยพาผมไปหน่อยได้ไหม"
ตะวันฉายยิ้มออกดีใจที่วาทินคิดได้ รีบเร่งวาทินให้แต่งตัว
"งั้นก็อย่ามัวชักช้า รีบแต่งตัวเร็วๆเข้าสิคุณทิน"
วาทินค่อยๆลุกลงจากเตียง
"โอ๊ย ใจเย็นๆสิ ผมยังเจ็บแผลอยู่เลยนะ"
ตะวันฉายไม่ทันใจรีบเปิดตู้คว้าเสื้อผ้าวาทินยื่นให้ แล้วรูดม่านปิด
"เสร็จรึยังคุณทิน ทำไมช้าจัง ถ้าป่านรู้ละก็ต้องดีใจแน่ๆเลย"

ภายในสวนบ้านธวัช สายป่านหยิบดอกไม้หลายๆชนิดรวมกันในชามสลัดจิ้มพริกเกลือกินอย่างอร่อยหน้าตาเฉย
สายป่านคุยโทรศัพท์กับเพื่อน
"แก ชั้นจะทำยังไงดี"
ในห้องรับแขก บ้านเพื่อนสายป่านกำลังเปิดสมุดโทรศัพท์
"ใจเย็นก่อน ชั้นกำลังหาเบอร์นังชุเพื่อนที่ออฟฟิศเก่าอยู่ มันก็เคยเจอแบบเดียวกับแกนี่แหละ เดี๋ยวชั้นจะถามว่ามันไปจัดการที่ไหน คุ้นๆว่ามันเคยเล่าว่าแถวๆ…"
สายป่านลังเลนึกกลัวขึ้นมา
"อืม…แต่ มันจะดีหรอ…ชั้นกลัว"
"แล้วแกจะเอายังไง คุณทินก็ไม่ยอมรับ ท้องแกก็ป่องขึ้นทุกวัน ถ้าแม่แกรู้เข้าละก็ ชั้นว่าน่ากลัวกว่าอีก เดี๋ยวชั้นโทร.ไปสืบให้ ถ้าแกเกิดเปลี่ยนใจก็ค่อยว่ากันอีกที"
"อืม ขอบใจนะ แต่แกห้ามหลุดปากเรื่องนี้กับใครเด็ดขาดนะ สัญญาสิ"
"เออ รู้แล้วน่า แกไว้ใจชั้นได้"
สายป่านกดวางหูหยิบดอกไม้กินหน้าเครียด หันไปเห็นสุนทรีย์ยืนอยู่ใกล้ๆถึงกับตกใจ
"แม่! แม่มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
สายป่านนั่งแทบไม่ติดไม่กล้าสบตา สุนทรีย์ไม่ตอบนั่งลงมองชามสลัดอย่างสงสัย
"ป่าน"
สายป่านสะดุ้งเฮือก "คะ"
"ป่านตอบแม่มาตามตรงนะ ... ป่านท้องใช่ไหม"
สายป่านตัวชาวาบ อึ้งพูดไม่ออก
สายป่านยังปากแข็ง
"แม่พูดเรื่องอะไร ท้องเทิ้งอะไรกัน ป่านไม่ได้"
สุนทรีย์พูดสวนเสียงเข้ม
"แกท้องมากี่เดือนแล้ว"
สายป่านหน้าตื่นพูดไม่ออก เข้าใจผิดคิดว่าตะวันมาฟ้อง
" นี่ นังตะวันมันเป็นคนไปบอกแม่ใช่ไหม นังสารเลว ชั้นนึกแล้วว่าคนอย่างแก มันต้องหาทางแว้งกัดชั้นจนได้"
สุนทรีย์คิดไม่ถึง
"หา นี่ตะวันรู้เรื่องแกท้องด้วยหรอ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีใครบอกแม่ เห็นแม่เป็นหัวหลักหัวตอหรือยังไง ชั้นมีลูกมา 2 คนแล้วนะ ไม่ต้องให้ใครมาฟ้องหรอก แค่เห็นแกโอ้กอ้ากนั่งกินดอกไม้ ชั้นก็รู้แล้วว่าแกแพ้ท้อง แกจะปิดชั้นไปถึงเมื่อไหร่ หา!"
สายป่านตกใจที่ตัวเองพลาดสารภาพออกมาเอง
"แม่คะ ป่าน…ป่านขอโทษ"
"แกมารู้สึกตอนนี้มันก็สายไปแล้วล่ะ ทำไมแกถึงไม่รักตัวเอง ชั้นเลี้ยงแกมาอย่างดี แต่แกกลับทำตัวไร้ค่า ทำไมแกถึงปล่อยตัวง่ายๆแบบนี้"
สายป่านน้ำตาไหลพราก น้อยใจเถียงกลับ
"ใช่สิ ป่านมันง่าย ก็แม่เองไม่ใช่หรอที่คอยตั้งแง่รังเกียจคุณทินเค้าตลอดเวลา ถ้าแม่ยอมให้เราคบกัน เราคงไม่ต้องหลบๆซ่อนๆหรอก ป่านนี้ป่านกับคุณทินคงแต่งงานกันไปนานแล้ว"
สุนทรีย์ตบหน้าลูกสาวฉาดใหญ่
สายป่านจับแก้มตัวเองอึ้งช็อก "แม่!"
"อ๋อ ที่แกยอมนอนกับหมอนั่น ทำตัวเหมือนเมียเก็บ เพราะความเป็นห่วงของชั้นงั้นหรอ" สุนทรีย์น้ำตาไหล "แกรู้ไหมที่ชั้นคอยกันไม่ให้มันคบกับแก ก็เพราะชั้นรู้ว่ามันเป็นเสือผู้หญิง ถ้ามันรักแกจริงละก็ ตอนนี้มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ถึงปล่อยให้แกกินน้ำตาต่างข้าวอยู่ทุกวัน หา"
สายป่านถูกว่าจี้จุดยิ่งเจ็บ ถึงกับปล่อยโฮออกมา
"ชั้นผิดหวังในตัวแกจริงๆ ชั้นไม่คิดเลยว่าแกจะทำตัวเหลวแหลกจนท้องไม่มีพ่อแบบนี้"
"ถ้าป่านทำให้แม่อับอายมากนักละก็ ป่านไม่อยู่ที่นี่ก็ได้ แม่ไม่ต้องมาสนใจเรื่องของป่านอีก ป่านจะเป็นยังไงก็ช่าง คิดซะว่าไม่เคยมีลูกชื่อสายป่านอีกต่อไปก็แล้วกัน"
สายป่านประชดวิ่งขึ้นห้องไป
สุนทรีย์เรียกไว้
"ป่าน…กลับมานี่ก่อน อย่ามาทำอวดดีนะ สายป่าน ทำไมแกถึงทำตัวแบบนี้ ทำไม"
สุนทรีย์ได้แต่นั่งร้องไห้เสียใจ

สายป่านวิ่งเข้ามาในห้อง ทุ่มตัวลงบนเตียงปล่อยโฮ ทั้งเจ็บทั้งน้อยใจแม่อย่างที่สุด

เสียงรถแล่นมาจอดหน้าบ้าน สายป่านนอนหลับ แล้วรู้สึกตัวลุกขึ้นไปดู เห็นวาทินเปิดลงมาจากรถ
สายป่านยิ้มดีใจ
"ในที่สุดคุณทินก็มาง้อเรา เขายังรักเราอยู่"
แล้วสายป่านก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นตะวันฉายเปิดประตูด้านคนขับลงมา
"คุณตะวัน… ทำไม 2 คนนี้ถึงมาด้วยกัน"
สายป่านเกาะหน้าต่างมองเขม็งอย่างเอาเรื่อง

ตะวันฉายจะเดินเข้าบ้าน แต่วาทินดึงแขนเอาไว้
"เดี๋ยวตะวัน"
"นี่คุณทิน อย่าบอกนะว่าเกิดปอดขึ้นมาน่ะ"
วาทินดึงตะวันฉายเข้ามากอด เธอชะงัก
"คุณทิน"
สายป่านมองลงมาอย่างเอาเรื่อง เข้าใจผิดเต็มที่
"หญิงร้ายชายชั่วจริงๆ ทั้งๆที่รู้ว่าชั้นท้องกับเขา แกยังคิดจะแย่งไปอีกหรอนังตะวัน"
เสียง Line จากมือถือสายป่านดังขึ้น สายป่านหยิบดูแล้วตัดสินใจอะไรบางอย่าง
"คนอย่างชั้นไม่ยอมตกอยู่ในสภาพท้องไม่มีพ่อแบบแกหรอกนังตะวัน"
สายป่านกำมือถือแน่นด้วยความโกรธ คว้ากระเป๋ากับกุญแจรีบร้อนออกจากห้องไป

"ขอบคุณนะตะวันที่ทำให้ผมคิดได้"
"ยินดีเสมอ"
ทั้งคู่ผละออกจากกัน วาทินนึกกลัวขึ้นมา ตะวันหันมาถาม
"คุณทิน อะไรอีกล่ะ"
"คือ…ผมขอทำใจแป๊บนึงก่อนน่ะ คุยกับสายป่านน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่… พอนึกถึงหน้าคุณป้าแล้ว…ฮื้ย"
"ชั้นไม่อยากจะเชื่อว่าเพลย์บอยตัวพ่ออย่างคุณจะขี้ขลาดแบบนี้"
ตะวันกับวาทินหัวเราะขำเดินคู่กันเข้ามา สายป่านวิ่งสวนออกมาจากบ้าน แล้วชะงักมองทั้งคู่ยิ่งแค้นใจ
"ป่าน"
"สายป่าน…ผม"
วาทินไม่ทันอธิบาย สายป่านรีบขึ้นรถ เผลอทำมือถือหล่น แล้วสตาร์ทเร่งเครื่องขับออกไปอย่างโมโห
วาทินฝืนเดินไปหา เรียกไว้
"ป่านจะไปไหนน่ะ เดี๋ยวก่อนสิ ฟังผมก่อน"
ตะวันกับวาทินโดดหลบแทบรถไม่ทัน สุนทรีย์กับกล้วยได้ยินเสียงตามออกมาดู
"มีเรื่องอะไรกัน อ้าว…ตะวัน คุณวาทิน นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย"
เสียงไลน์จากมือถือสายป่านดัง ตะวันหยิบขึ้นมาดูเห็นข้อความค้างหน้าจอแล้วตกใจ
"สายป่าน"
"มีอะไรหรอตะวัน"
"สายป่านคิดจะทำแท้งค่ะคุณป้า"
"หา"
วาทินถึงกับอึ้งช็อก สุนทรีย์แทบล้มทั้งยืน กล้วยกับตะวันรีบเข้ามาประคองไว้
"คุณป้าคะ ทำใจดีๆไว้ค่ะ"
"ป่าน…ป่านอย่าคิดสั้นแบบนั้นนะลูก"
"กล้วยฝากดูคุณป้ากับสายฟ้าด้วย คุณทินเรารีบไปตามสายป่านกันเถอะค่ะ"
"ครับ"
"เดี๋ยว ชั้นจะไปด้วย"
"แต่คุณป้าคะ"
สุนทรีย์เสียงเข้ม
"เขาเป็นลูกสาวคนเดียวของชั้น ยังไงชั้นก็ต้องไปตามลูกกลับมาให้ได้"
วาทินกับตะวันหันมองหน้ากัน แล้วช่วยประคองสุนทรีย์ขึ้นรถ
ตะวันรีบขับออกไป กล้วยได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง แลเวยกมือพนมมือไหว้
"ขอให้คุณๆตามไปทัน แล้วพาคุณป่านกลับมาอย่างปลอดภัยด้วยเทิ้ด…สาธุ"

ตะวันขับรถไปตามทาง คอยมองหาสายป่านไปด้วย วาทินกับสุนทรีย์ช่วยกันมองหาสายป่านอย่างร้อนรน
วาทินเดินเข้าไปถามในคลินิก 1 เจ้าหน้าที่ส่ายหัว เขาเดินออกมา มองหาสายป่านอย่างกังวล
สุนทรีย์ใจคอไม่ดี น้ำตาคลอมองหาลูกสาว ตะวันช่วยประคองมองหาสายป่านด้วยความเป็นห่วง

บริเวณหน้าห้อง คลินิกทำแท้งแห่งหนึ่ง สายป่านนั่งรอคิวอย่างกระวนกระวาย เหลือบมองข้างๆเห็นวัยรุ่นสาวนั่งรอทำแท้งเป็นแถว วัยรุ่น 1 ถูกเจ้าหน้าที่ช่วยประคองออกมาจากห้อง หน้าซีดเผือดแทบไม่มีแรงเดิน สายป่านมองตามด้วยความกลัว

ตะวันฉายเห็นผู้หญิง 1เดินออกจากคลินิก
"คุณป้า นั่นมันสายป่านนี่คะ"
สุนทรีย์ดีใจ
"ป่าน…ป่าน"
ทั้งคู่รีบเข้าไปหา ตะวันดึงผู้หญิง1ไว้

หน้าห้องทำแท้ง สายป่านหันมา ตกใจหน้าตื่น
"นี่คุณ…"
หน้าคลินิก 2 ตะวันหน้าเสีย
"เอ่อ…ขอโทษค่ะ ชั้นคิดว่าเป็นน้องสาวน่ะค่ะ"

ผู้หญิง1 หันมองตกใจ แล้วรีบเดินหนีไป ตะวันฉายมองหน้ากับสุนทรีย์อย่างผิดหวัง
 
อ่านต่อตอนที่ 20
กำลังโหลดความคิดเห็น