นางกลางไฟ ตอนที่ 23
ดำรงพาตะวันฉาย กล้วยอุ้มสายฟ้าเข้ามา สายหิ้วข้าวของตามหลังเข้ามาในบ้าน ดำรงเปิดม่าน มองออกไปเห็นวิวทะเลสวย ตะวันกับกล้วยเข้ามานั่ง
"ที่นี่สงบเงียบบรรยากาศดี รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักที่นี่จนอยากอยู่ตลอดไปเลยล่ะ เดี๋ยวผมจะให้สายมาอยู่ที่นี่ตลอด ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมก็บอกผมได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ"
ดำรงหันไปสั่งงานสาย กล้วยรีบกระซิบ
"นี่คิดจะส่งคนมาเฝ้าเราหรือเปล่าคะเนี่ย"
"นั่นสิ ทำไงดีล่ะกล้วย"
ดำรงเข้ามานั่ง ตะวันรีบบอก
"เอ่อ…คุณดำรงคะ ไม่ต้องให้สายมาอยู่ตลอดก็ได้ค่ะ ชั้นมีกล้วยคอยดูแลอยู่แล้ว ขอแค่คุณอย่าบอกใครว่าชั้นอยู่ที่นี่ก็พอค่ะ"
"งั้นก็ตามใจ ส่วนเรื่องนั้นคุณสบายใจได้ ผมสั่งสายไว้แล้ว เขาทำงานที่นี่มานานไว้ใจได้"
สายฟ้าร้องขึ้นมา กล้วยส่งสายฟ้าให้ตะวัน
"กล้วยไปชงนมให้สายฟ้าก่อนนะคะ"
ดำรงหันไปสั่งสาย
"อ้อ! สาย เดี๋ยวเตรียมห้องเผื่อชั้นด้วยนะ คืนนี้ชั้นจะค้างที่นี่"
กล้วยทำฝากระป๋องนมหลุดมือ กล้วยโผล่หน้าออกมายิ้มจ๋อย
"แหะๆ ขอโทษค่ะ"
กล้วยเหลือบสบตากับตะวันฉายแบบหวั่นๆแล้วผลุบไป สายรับคำแล้วยกข้าวของไป ตะวันฉายเริ่มใจไม่ดีถามดักคอ
"ค้างที่นี่…แล้วคุณไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ"
"ผมสั่งงานลูกน้องไว้เรียบร้อยแล้ว ผมเป็นห่วงคุณกับลูกไม่อยากให้อยู่กันตามลำพังน่ะ"
"แล้วถ้าคุณวัลเกิดรู้เรื่องแล้วเข้าใจผิดขึ้นมาล่ะคะ"
ดำรงหัวเราะสบายใจ
"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง และไม่ต้องกังวลว่าผมจะคิดเกินเลยกับคุณ เพราะผมอยากจะช่วยคุณด้วยความจริงใจจริงๆ คุณจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ก็ได้ ทำตัวให้เหมือนกับอยู่บ้านตัวเองแล้วพักให้สบายใจเถอะ"
"คุณทำแบบนี้ชั้นยิ่งเกรงใจเข้าไปใหญ่ อย่างน้อยให้ชั้นได้จ่ายค่าเช่าบ้างก็ยังดีค่ะ"
"ไม่ต้องหรอกตะวัน ผมไม่อยากเห็นคุณต้องพาลูกออกไปตะลอนข้างนอกเกิดเจอคนไม่ดีเข้า ผมคงเสียใจไปตลอดชีวิต"
ตะวันฉายมองลูกแล้วยอมจำนนในเหตุผลยิ้มให้ดำรงอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ
กล้วยยังกังวลแอบบ่นกับตัวเองที่มุมหนึ่งของห้อง
"แต่ของฟรีไม่มีในโลก ร้ายตัวพ่ออย่างคุณดำรงต้องหวังเครมคุณตะวันเป็นการตอบแทนแหงๆเลย"
ตะวันฉายนั่งเหม่อ มองทะเลเศร้าๆน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ดำรงเดินเข้ามาเห็น ตะวันรีบเช็ดน้ำตากลบเกลื่อน
"ร้องไห้ออกมาเถอะ ระบายออกมาให้หมด คุณจะได้สบายใจขึ้น"
ตะวันยิ่งสะเทือนใจ น้ำตาคลอขึ้นมาอีก
"ชั้นไม่เหลือใครอีกแล้ว ชีวิตชั้นไม่เหลืออะไรอีกแล้วจริงๆ"
"ไม่ต้องกังวลนะตะวัน คุณยังมีผมอยู่ทั้งคน ผมยินดีจะเป็นคนดูแลคุณตลอดไป ตะวัน…รับเอาไว้นะ"
ดำรงยื่นซองเงินให้ ตะวันอึ้ง ชะงักมองดำรง
"คุณดำรง…ชั้นไม่เคยคิดที่จะเป็นเมียน้อยใคร คุณเองก็มีคุณวัล ชั้นคงไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่คุณอยากดูแล คุณวัลก็ยังให้อภัยและอดทนรอคุณกลับไปหาเสมอ อย่าลืมภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคุณมาสิคะ"
"ตะวันอย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ผมรู้ว่าตอนนี้คุณกำลังลำบาก ได้โปรดรับไว้เถอะครับ และขอให้คุณจำไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ผมยินดีช่วยคุณเสมอ รับไว้เถอะครับ"
ดำรงมองมาด้วยความจริงใจ ตะวันลังเล
"ขอบคุณคุณมากนะคะ ชั้นสัญญาว่าจะหาเงินมาคืนให้คุณทีหลัง ไม่อย่างนั้นชั้นคงรับเงินก้อนนี้ไว้ไม่ได้"
ตะวันฉายดันซองเงินกลับ ดำรงอ่อนใจกับความใจแข็งของผู้หญิงคนนี้
ดำรงถึงกับหัวเราะยอมแพ้
"คุณนี่เป็นคนดีจริงๆ ลูกเขยผมมันโง่ที่มีของดีแต่ไม่รู้จักเก็บรักษาเอาไว้"
"ชั้นต่างหากล่ะคะที่โง่ โงที่มอบหัวใจให้คนอย่างเขาไปจนหมด"
ตะวันฉายนึกถึงธวัชแล้วเผลอน้ำตาไหลออกมาอีก ดำรงมองอย่างเห็นใจ
"ยัยดาต่างหากที่ร้ายกับคุณไว้มาก คอยปั่นหัวให้ธวัชเข้าใจคุณผิด คุณกับเขาถึงต้องลงเอยกันแบบนี้ แต่ผมยังยืนยันคำเดิมนะครับว่า อยากดูแลคุณกับลูกจริงๆ คิดซะว่าผมเป็นญาติสนิทคนนึงก็ได้ คุณจะได้สบายใจ"
ดำรงจับมือตะวันอย่างให้กำลังใจ ตะวันมองอย่างชั่งใจแล้วจับมือตอบด้วยความรู้สึกวางใจ
"ขอบคุณคุณจริงๆนะคะคุณดำรง คุณดีกับชั้นเหลือเกิน"
"ที่จริงผมอยากรับสายฟ้าเป็นลูกบุญธรรมเสียด้วยซ้ำ ถ้าคุณยอมนะ"
ตะวันยิ้มขอบคุณ ดำรงยิ้มตอบนึกโล่งใจที่ตะวันหัวเราะได้
วันใหม่ มะปรางนั่งเปิดสลิปบัตรเครดิตเป็นตั้งอย่างเครียด เสียงมือถือดังขึ้น เธอลังเลแล้วกดรับ
"ฮัลโหล…กำลังพูดสายอยู่ค่ะ"
พนักงานทวงหนี้บอก
"ดิฉันโทรจากธนาคาร…"
มะปรางรีบกดตัดสายแล้วบล็อกเบอร์โทร.อย่างรำคาญ
"ฮื้ย มันจะโทร.มาจิกอะไรกันนักหนา"
เสียงเตือนข้อความเข้า มะปรางกดเปิดดู “กรุณาชำระยอดค้างชำระภายในวันพรุ่งนี้…”
มะปรางรีบกดลบทิ้ง โยนมือถือทิ้งระบายอารมณ์
"โอ๊ย ชั้นจะไปเอาเงินจากไหนมาจ่ายล่ะ…ไอ้แก่ก็ไม่โผล่มาหาซักที"
มะปรางคว้ามือถือมากดหาดำรง แต่ถูกตัดสาย มะปรางกดโทร.อีกอย่างจะเอาชนะ แต่ติดต่อไม่ได้
"ขณะนี้หมายเลขที่ท่านเรียก…"
มะปรางกดวาง แล้วรีบเปิดหาพิกัดดำรง
"ไอ้แก่ นี่แกปิดมือถือหนีชั้นหรอ …หรือว่าแกจะแอบไปเฝ้านังตะวันมันอีก คิดว่าจะเขี่ยชั้นทิ้งง่ายๆงั้นหรอ ฝันไปเถอะ"
มะปรางกดโทร.หานิคม
นิคมกดรับสาย
"ครับคุณมะปราง คุณตะวันหรอครับ อ้าว…นี่คุณยังไม่รู้หรอว่าคุณตะวันเก็บของออกไปจากบ้านผมตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"
มะปรางทำเสียงตกใจแต่หน้ายิ้มสะใจลึกๆ
"จริงหรอคะ แล้วคุณรู้หรือเปล่าคะว่าตอนนี้ตะวันอยู่ที่ไหน"
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แล้วคุณตะวันไม่ได้ติดต่อไปหาคุณหรอครับ"
"เปล่าค่ะ" มะปรางแสร้งทำเป็นห่วง "ตะวันนะตะวันชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อย งั้นเดี๋ยว
ชั้นจะลองโทร.หาพวกทีมงานดูเผื่อว่าตะวันจะติดต่อไป ถ้ามีข่าวอะไรชั้นจะรีบบอกทุกคนทันทีเลยนะคะ"
มะปรางวางหูแล้วโยนมือถือทิ้งไม่ได้สนใจ
มะปรางหัวเราะสะใจ
"สมน้ำหน้า ในที่สุดแกก็ไม่มีที่ซุกหัวนอนอย่างที่ชั้นอวยพรเอาไว้ ว่าแต่…แล้วไอ้แก่มันหายหัวไปไหน แล้วชั้นจะทำยังไงกับหนี้พวกนี้เนี่ย ฮื้ย"
มะปรางนั่งกลุ้มใจ เสียงมือถือดัง มะปรางเห็นเป็นเบอร์ทีมงานแล้วยิ้มหวังจะได้เงินเข้า รีบกดรับ
"ฮัลโหล…พี่ตือฮวนหรอคะ มีอะไรให้มะปรางรับใช้คะ"
ตือฮวนนั่งหัวโต๊ะ กำลังประชุมเตรียมงานอีเว้นท์ ทีมงานเปิดIPADกางหนังสือพิมพ์บันเทิงนินทากันสนุกปาก
"อ๋อ พี่จะโทร.มาบอกน่ะค่ะว่า อีเว้นท์อาทิตย์หน้าที่จะให้หนูมาทำน่ะ พี่ขอแคนเซิลนะคะ"
มะปรางชักสีหน้า
"อ้าว ทำไมล่ะคะ"
"พอดีพี่หาคนอื่นมาทำแทนแล้วน่ะค่ะ"
มะปรางผิดหวัง เริ่มโวยขึ้นเสียง
" อ้าว อยู่ๆจะมายกเลิกง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง รู้หรือเปล่าว่า เพราะติดงานนี้ ชั้นเลยต้องบอกปัดงานอื่นไป ทำแบบนี้ก็เสียหายหมดสิ แกจ่ายค่าเสียหายมาให้ชั้นเดี๋ยวนี้เลย"
ตือฮวนโมโหตบโต๊ะประชุม ปัง ! ทีมงานที่นั่งอยู่สะดุ้งกลัวเงียบไปทั้งห้อง
"ต๊าย ยังไม่รู้จักสำนึกอีกว่าหล่อนน่ะมันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ก็เพราะอีคิวหล่อนเป็นแบบนี้น่ะสิยะ ชั้นถึงต้องขอบาย ไม่ใช่เฉพาะงานนี้งานเดียวนะ แต่ไม่ว่างานไหน ชั้นก็ไม่ขอร่วมงานกับหล่อนอีกต่อไป"
ตือฮวนตัดสายทิ้ง มะปรางโมโหด่าใส่มือถือ
"หนอย คิดว่าวงการอีเว้นท์มีแค่แกคนเดียวรึไง"
มะปรางยังไม่รู้ตัว กดโทร.หาเบอร์ทีมอื่นแต่ไม่มีใครรับ
"โอ๊ย…นี่มันวันปิดมือถือแห่งชาติหรือไง ถึงไม่มีใครรับสายชั้นซักคน"
มะปรางมองกองสลิปบัตรเครดิตแล้วปัดกระจายอย่างหงุดหงิด
"ฮื้ย…ฮึ ถ้าไอ้แก่มันไม่มา งั้น…เราไปหาเองก็ได้นี่"
ตะวันยืนเหม่อ ทอดสายตามองทะเลเศร้าๆ ดำรงเดินเข้ามา
"คุณคิดอะไรอยู่เหรอ เห็นยืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว"
"ชั้นสมเพชตัวเองน่ะค่ะ สภาพของชั้นตอนนี้มันไม่ต่างอะไรกับนกปีกหัก นอกจากจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว ยังจะเป็นภาระให้คุณอีก"
"อย่าพูดแบบนี้สิครับ ผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นภาระเลยนะ ผมยินดีทำทุกอย่างให้คุณด้วยความเต็มใจ"
ตะวันยิ้มซาบซึ้ง
"ขอบคุณนะคะที่ให้ที่ซุกหัวนอนชั้นกับลูก"
"อย่าคิดมากสิตะวัน คิดซะว่านี่เป็นบ้านของคุณเอง คุณจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนก็ได้ หรือถ้าอยากจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ผมก็ยินดี"
"ชั้นคงไม่รบกวนคุณนานหรอกค่ะ ถ้าหาบ้านพักได้เมื่อไหร่ ชั้นจะรีบย้ายไปทันที"
กล้วยอุ้มสายฟ้าที่ร้องเสียงดัง หน้าตาตื่นเข้ามาหา
"แย่แล้วค่ะคุณตะวัน สายฟ้าตัวร้อนจี๋เลยค่ะ"
ตะวันแตะหน้าผากสายฟ้า แล้วตกใจ
"ตายจริง..เมื่อคืนตาสายฟ้าจามบ่อยๆ ชั้นสังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียวว่าตาสายฟ้าจะไม่สบาย"
"งั้นรีบพาตาสายฟ้าไปหาหมอเถอะ"
ดำรงคว้ากุญแจรถ ตะวันรีบอุ้มสายฟ้า กล้วยรีบตามหลังออกไป
อ่านต่อหน้า 2
นางกลางไฟ ตอนที่ 23 (ต่อ)
ในห้องพักสายฟ้าในโรงพยาบาล พยาบาลที่เอาแท่งปรอทวัดไข้ออกจากหูสายฟ้า พยาบาลบอกกับทุกคน
"ไข้ลดลงแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ"
ทุกคนโล่งอก ตะวันเข้าไปห่มผ้าให้ แล้วจูบหน้าผากลูกอย่างเป็นห่วง
"สายฟ้าลูกแม่ ขอบคุณมากเลยนะคะ"
พยาบาลยิ้มรับแล้วนั่งเฝ้าสายฟ้าห่างออกไป
ตะวันฉายเดินคุยกับดำรงออกมา
"ขอบคุณคุณดำรงมากนะคะที่จ้างพยาบาลมาดูแลตาสายฟ้า คุณมีบุญคุณกับเราสองแม่ลูกมากเหลือเกิน"
"ไม่เป็นไร อย่าถือเป็นบุญคุณเลย ตาสายฟ้าก็หลานผมเหมือนกัน"
ตะวันฉายยิ้มซาบซึ้ง
"ที่จริงทางนี้ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว คุณกลับกรุงเทพก่อนเถอะค่ะ"
"ไม่ ผมจะอยู่ต่อจนกว่าสายฟ้าจะหายป่วย"
"แล้วงานคุณล่ะคะ"
"คุณไม่ต้องกลัวว่าผมจะเสียงานเพราะคุณหรอก ผมแค่โทร.ไปสั่งงานกรี๊งเดียวก็เรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ"
"แล้วครอบครัวคุณล่ะคะ คุณไม่ต้องกลับไปดูแลคุณวัลบ้างเหรอคะ"
"เรื่องนั้นยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงใหญ่ เจอหน้ากันทุกวันจนเบื่อละ อยู่ห่างกันแบบนี้แหละดีแล้ว วัลเขาจะได้คิดถึงผมมากๆไง"
ดำรงยิ้มดูไม่ทุกข์ร้อนเดินไป กล้วยรีบขยับมากระซิบตะวัน
"กลัวว่าจะคิดถึงมากจนงานเข้าคุณอีกน่ะสิคะ"
ตะวันได้แต่ถอนใจพูดอะไรไม่ออก อดนึกกังวลขึ้นมาไม่ได้
ธวัชนั่งทำงานไม่มีสมาธิดูกลุ้มนึกเป็นห่วงตะวันกับลูก แล้วตัดสินใจกดโทร.หาซูซี่
"พี่ซูซี่ครับ ผมธวัชนะครับ ไอ้คมมันบอกผมว่าตอนนี้ตะวันพาลูกหนีไป ตะวันไปหา
พี่หรือเปล่าครับ"
ซูซี่ซึ่งมาร์คหน้าอยู่ถึงกับตกใจร้องเสียงหลง
"หา! ตะวันพาลูกหนีไป ตะวันไม่ได้มาหาพี่แล้วก็ไม่ได้โทร.มาด้วย ตะวันนี่จริงๆเลยนะ ทำแบบนี้ไม่ห่วงสายฟ้าบ้างหรือไง ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"
"ผมผิดเองที่ด่าเขา…ว่ามีชู้"
"หา! ตะวันเนี่ยนะคะมีชู้ เขารักคุณจะตายไป ตะวันไม่มีวันนอกใจคุณเด็ดขาด เอาหัวนังซูซี่เป็นประกันได้เลยค่ะ"
"พี่พอจะเดาออกไหมครับว่าตะวันจะไปที่ไหนบ้าง"
"ถ้าไม่ได้มาหาพี่ ก็เหลือแต่นังมะปรางนั่นแหละค่ะ แต่พี่ว่าถ้าตะวันคิดจะหนีละก็ คงไม่ยอมให้ใครตามเจอง่ายๆแน่ เดี๋ยวพี่จะลองโทร.หากล้วยอีกแรงนะคะ"
ซูซี่กดโทรศัพท์บ้านเปิดสปีคเกอร์ แล้วกดเบอร์มือถือกล้วย แต่ติดต่อไมได้
"ขณะนี้หมายเลขที่ท่านเรียก…"
"ว้า นังกล้วยก็ติดต่อไม่ได้ ขอให้คุณพระคุ้มครองตะวันกับสายฟ้าแล้วก็นังกล้วย
ด้วยเทิ้ด คุณวัชคะเดี๋ยวพี่จะพยายามติดต่อกับตะวันให้ได้ ถ้าได้เรื่องยังไงจะรีบ
โทร.บอกคุณวัชเลยค่ะ"
"ขอบคุณมากครับ…เอ่อ…พี่ซูซี่ครับ ผมมีอีกเรื่องจะขอร้อง"
"อะไรคะ"
"พี่ช่วยเล่าทุกอย่าง…ที่ผมควรจะรู้ให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ ผมไม่อยากถูกปั่นหัวให้เข้าใจตะวันผิดๆอีกต่อไปแล้ว"
"คุณธวัชมาหาถูกคนแล้วล่ะค่ะ พี่ยินดีเล่าทุกอย่างแบบหมดไส้หมดพุง รวมทั้งเรื่องที่รับรองว่าไม่มีใครคาดถึงเลยเชียวล่ะ"
ซูซี่ยิ้มสะใจคันปากอยากเล่ามานาน
ภายในห้องรับแขก บ้านนิคม ซูซี่นั่งกลางวง มีธวัช นิคม สายป่าน วาทิน สุนทรีย์ กันรอฟังพร้อมหน้า
"ไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ซูซี่ขอแฉความจริงให้ทุกคนได้รู้พร้อมๆกันเลยนะคะ ว่าคนที่คอยเป็นหอกข้างแคร่ลอบกัดตะวันตลอดเวลา จนต้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปเนี่ยก็คือ…นังมะปราง"
ทุกคนหน้าตื่นตกใจคิดไม่ถึง "หา!"
"นั่นไง! ซูซี่คิดไว้แล้วว่าทุกคนต้องไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นถึงได้แอบสืบพฤติกรรมของอีโรคจิต เพื่อถลกหนังมันออกมาแฉชนิดที่เรียกว่ามันต้องจนมุมด้วยหลักฐานทั้งคลิป รูปถ่าย และพยานบุคคลเลยล่ะค่ะ"
ซูซี่ไปรับมือถือจากร้านซ่อมในห้าง
"หลังจากมันป้ายความผิดให้ซูซี่ว่าแอบถ่ายรูปคุณวัชมาหาตะวันที่นี่แล้วส่งไปให้คุณดา มันคิดจะเสี้ยมให้ตะวันเข้าใจซูซี่ผิด ฮึ แต่ซูซี่ไปกู้หลักฐานที่นังมะปรางมันแอบลบทิ้งขึ้นมาได้"
หน้าจอมือถือเป็น MMS รูปธวัชมาบ้านนิคม
"นังนี่มันจ้องเล่นงานตะวันทุกครั้งที่มีโอกาส"
มะปรางหักส้นรองเท้าที่ตะวันจะใส่ถ่ายแบบ
"แม้แต่ตอนที่ตะวันกำลังจะกลับเข้าวงการได้อีกครั้ง มันก็ยังหาทางจัดการคนที่มันเรียกว่าเพื่อนรักอยู่ดี"
ใครบางคนแอบถ่ายรูปมะปรางกับดำรงเอาไว้
"แม้กระทั่งเรื่องชั่วๆของมันเอง ก็ยังป้ายสีใส่ตะวันว่าเป็นชู้กับคุณดำรง"
ซูซี่วางรูปถ่ายมะปรางกับดำรงสวีตกันที่ทะเล ภาพทุกใบเห็นหน้ามะปรางชัดเจน วาทินถึงกับอ้าปากค้าง
"หา! นี่…ยัยมะปราง เป็นเมียน้อยพ่อหรอเนี่ย" วาทินว่า
อึ้งเพิ่งรู้ตัวว่าพลาด
"คุณดาก็ร่วมมือกับมะปรางด้วยหรอเนี่ย…ที่โรงพยาบาล ทั้งๆที่ผมจำเรื่องทุกอย่างได้หมด แต่เขากลับพยายามกีดกันไม่ให้ผมกลับมาหาตะวัน และยังเอารูปพวกนี้มาหลอกผมว่าเป็นตะวัน ผมนี่มันโง่จริงๆที่ไม่เชื่อใจเมียตัวเอง"
"อย่าโทษตัวเองเลยค่ะคุณวัช เพราะคุณดาก็ร้ายตัวแม่ ส่วนนังมะปรางก็แอ๊บขั้นเทพ ถ้า 2 คนนี้จับมือกันละก็ ไม่มีใครตามทันหรอกค่ะ"
"พี่ผมนี่แสบจริงๆ เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อดึงคุณวัชกลับมา คอนเฟิร์มครับ" วาทินบอก
"ป่านเป็นพยานได้ค่ะทุกคน ว่าพี่มะปรางคือผู้หวังดีที่ประสงค์ร้ายกับคุณตะวันและพี่วัชมาตลอด"
"พี่นัดเจอกับผู้หวังดีที่นี่ คราวนี้นังตะวันมันเสร็จแน่" ดวงสุดาพูดกับสายป่าน
สายป่านเห็นมะปรางเข้าไปนั่งที่โต๊ะดวงสุดากับวัลลภา
"และป่านเองที่เป็นคนเอาหลักฐานทั้งหมดจากพี่ซูซี่และป้าวัลช่วยส่งต่อให้กับทุกสำนักพิมพ์และเว็บไซต์จอมแฉ"
"จากนั้นชีวิตของนังมะปรางก็ถูกขุดคุ้ยจนเหม็นโฉ่ไปทั้งวงการ กลายเป็นตำนานเพื่อนรักหักเหลี่ยมตะวัน แต่ที่ซูซี่ดีใจที่สุดก็คือ…ตะวันเหมือนถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้งเพียงชั่วข้ามคืน" ซูซี่บอก
"แล้วทำไมมะปรางถึงจ้องทำร้ายตะวันได้ถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่เป็นเพื่อนรักที่โตมาด้วยกัน" สุนทรีย์สงสัย
"มันสารภาพให้คุณวัลฟังจนหมดเปลือกเลยค่ะ ว่ามันอิจฉาตะวันมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยคิดทำลายตะวันมาตลอด แล้วก็ใช้ความเป็นเพื่อนบังหน้า เล่นละครตบตาทุกคน โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่ามันซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ข้างใน" ซูซี่บอก
"นี่คุณแม่ผมรู้เรื่องนี้ด้วยหรอครับ" วาทินถาม
"ใช่ค่ะ แม่คุณก็เกือบหลงกลนังมะปรางเข้าเหมือนกัน ถึงกับตามมาลุยตะวันถึงที่นี่ แต่โชคดีนะคะที่ตะวันช่วยเตือนสติไว้ ไม่งั้นละก็ ป่านนี้คุณดำรงกับคุณวัลคงเลิกกันไปแล้ว"
"มิน่าล่ะ ช่วงหลังๆคู่นี้ถึงได้กลับมาสวีตกันจนผมขนลุกเลย"
"ถ้าอย่างนั้นตะวันกับคุณดำรงก็ไม่ได้" ธวัชว่า
"ก็เออน่ะสิ รวมทั้งชั้นด้วย…ชั้นบอกแกแล้วไงว่า คุณตะวันน่ะไม่เคยนอกใจแก มีแต่แกนั่นแหละที่คอยระแวงไม่เชื่อใจเขาตลอดเวลา"
ธวัชเข้าใจทุกอย่างยิ่งรู้สึกผิด
"ผมจะไปตามตะวันกับลูกกลับมา"
"รีบไปเลยค่ะ ตอนนี้ตะวันอยู่ที่บ้านพักของคุณดำรง แหะๆ คือเมื่อกี๊เจ้าของบ้านเพิ่งแอบส่งแมสเสจมาบอก กลัวพวกเราจะเป็นห่วงตะวันน่ะคะ"
ทุกคนโล่งอก วาทินรีบเขียนแผนที่บ้านพักส่งให้ธวัช
"นี่ครับคุณวัช พาตะวันกับลูกกลับมาให้ได้นะครับ"
"ถ้าง้อไม่สำเร็จ แกก็อยู่กับลูกเมียที่นั่นเลยนะ ไม่ต้องกลับมาคนเดียว"
"ครับแม่"
"ไอ้วัช งั้นชั้นไปด้วย"
ซูซี่รีบขอตัว เพราะสายเข้า
"ตอนนี้ทุกคนเคลียร์แล้วใช่ไหมคะ งั้นซูซี่ขอตัวก่อนนะคะ อ้อ คุณวัชอย่าลืมส่งข่าวตะวันมาบอกด้วยนะคะจะได้หายห่วง"
ธวัชกับนิคมรีบเดินออกไป ซูซี่ตามหลังออกไป วาทินนึกขยาด
"ผู้หญิงนี่เป็นเพศที่น่ากลัวที่สุดในโลกเลยนะครับ โดยเฉพาะ…เวลาโกรธ"
"ใช่ค่ะ เพราะฉะนั้นห้ามทำให้พวกเราโกรธเด็ดขาดรู้ไหม"
วาทินทำหงอ สายป่านยิ้มขำ สุนทรีย์มองตามธัชไปอดเป็นห่วงตะวันกับหลานไม่ได้
อ่านต่อหน้า 3
นางกลางไฟ ตอนที่ 23 (ต่อ)
ซูซี่ใส่บลูทูธ ขับรถอยู่ กดรับสาย
"ซูซี่พูดค่ะ"
ตือฮวนนั่งหัวโต๊ะ กำลังประชุมเตรียมงานอีเว้นท์
"ซูซี่ที่พี่นัดไปดูโลเกชั่นต่างจังหวัดวันนี้ ขอเลื่อนไปก่อนนะจ๊ะ พอดีลูกค้าไม่สบายน่ะ"
"โห รมณ์เสียจริงๆเลยค่ะ งี้ซูซี่ก็ขนเสื้อผ้ามาเก้อสิคะพี่ตือฮวน"
"แหม ขอโทษทีจ้ะ เออ เธอช่วยหาคนทำประสานงานให้หน่อยสิ พี่เพิ่งจะแคนเซิลนังมะปรางไปน่ะ"
"จริงหรอคะ สมน้ำหน้ามันจริงๆ ได้เลยค่ะเดี๋ยวซูซี่จัดให้ แล้วจะโทร.ไปบอกนะคะ"
ซูซี่วางสายยิ้มสะใจ แล้วนึกสังหรณ์ใจเป็นห่วงตะวันขึ้นมา
"แต่เดี๋ยวก่อน นี่นังมะปรางมันรู้ตัวหรือยัง ชักเป็นห่วงตะวันขึ้นมาแล้วสิ"
ซูซี่รีบกดมือถือโทร.หาตะวันอย่างร้อนรน
ดวงสุดาแต่งตัวสะพายกระเป๋าจะออกไปข้างนอก วัลลภาเดินสวนมา มองอย่างรู้ทัน
"ยัยดาจะไปไหนหรอลูก"
"จะไปนวดตัวค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวสิลูก ยังงอนน้าเรื่องจัดการนังตะวันอยู่อีกหรอ น้าก็แค่คิดถึงตัวเองว่า ยิ่งวิ่งไล่ตามคุณดำรงเท่าไหร่ เขาก็เหมือนยิ่งห่างออกไปทุกที แต่พอน้าลองเอาความรักความห่วงใยเข้าแลกเหมือนที่..." วัลลภาเกือบหลุดชื่อตะวันออกมา แล้วเลี่ยงไป... "เคยอ่านในหนังสือ น้าก็ได้คุณดำรงกลับมา น้าก็เลยอยากให้ดาลองดูบ้าง"
"น้าวัลก็เห็นนี่ค่ะว่า ดาเอาใจวัชสารพัด แต่เขาไม่เคยสนใจ เขาไม่เคยรักดาเลย แม้แต่นิดเดียว ดาถึงอยากจัดการนังตะวันมันไง"
"ถ้าจัดการมันแล้ว ดามั่นใจหรอว่าตาวัชจะหันมารักดา ยิ่งถ้าเขารู้ว่าเป็นฝีมือของดาละก็ เขาจะรักดาจริงๆหรอ บางทีเรื่องของหัวใจมันก็บังคับกันไม่ได้นะลูก"
ดวงสุดาอึ้งไป
"นี่น้าวัลกำลังจะบอกให้ดาตัดใจจากวัชงั้นหรอคะ ไม่ค่ะ วัชต้องเป็นของดาคนเดียวเท่านั้น"
"แต่ว่า…"
"ก็คุณพ่อกลับมาตายรังแล้วนี่ ทีนี้น้าวัลก็ไม่ต้องห่วงเรื่องนังตะวันอีก ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องแค่นี้ดาจัดการคนเดียวได้ น้าวัลไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ"
ดวงสุดาหันเดินออกไปทั้งโกรธทั้งน้อยใจ วัลลภาเรียกตามหลัง ดวงสุดาไม่ยอมหยุดฟัง
"เดี๋ยวสิยัยดา น้าไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น ยัยดา…"
สาลี่เดินเข้ามา มองตามดวงสุดาไป
"คุณคะ คุณดาเดินงอนไปโน่นแล้วค่ะ"
วัลลภาถอนใจ
"เฮ้อ เด็กคนนี้นี่หัวรั้นจริงๆ สาลี่เดี๋ยวชงชาผลไม้ให้ชั้นซักแก้วนึงนะ เผื่อจะแก้เครียดได้บ้าง"
"ค่ะคุณผู้หญิง"
วัลลภาเดินไป
วัลลภากดรีโมทเปิดทีวี แล้วเปิดหนังสือพิมพ์บันเทิงอ่าน เห็นพาดหัวข่าว เพื่อนรักหักเหลี่ยม “ตะวัน”
วัลลภาเปิดอ่านยิ้มสะใจ
กองสลิปบัตรเครดิตถูกโยนลงตรงหน้า วัลลภาตกใจหันไปมองแล้วยิ่งแปลกใจ
"นี่เธอ!"
มะปรางเดินเข้ามานั่งตรงข้ามวัลลภา วางมาดเหมือนเป็นเจ้าของบ้านคนหนึ่ง
"สวัสดีค่ะคุณวัลลภา คุณดำรงอยู่ไหมคะ"
วัลลภารวบหนังสือพิมพ์วาง มองกองสลิปอย่างงง
"เธอมีธุระอะไรกับเขาไม่ทราบ แล้วนี่มันอะไรกัน"
"ก็ค่าบัตรเครดิตที่เขามีหน้าที่ต้องจ่ายให้ชั้นทุกเดือนไงคะ"
"ทำไมเขาต้องจ่ายให้เธอด้วย อย่าบอกนะว่า แก"
วัลลภาเพิ่งเข้าใจมองมะปรางอย่างคิดไม่ถึง มะปรางทำยิ้มเหนือชั้น
"ถูกต้องแล้วค่ะ ชั้นเป็นเมีย…อีกคนของคุณดำรง"
วัลลภาโมโหตัวสั่น
"แกแน่มากที่แอ๊บหลอกชั้นกับยัยดาได้เนียนขนาดนี้ นังมะปราง!"
สาลี่ยกชาผลไม้เข้ามาวางเหลือบมองมะปรางอย่างสงสัย ไม่คุ้นหน้า แล้วถอยออกไป
มะปรางมองเหยียดใส่สาลี่ แล้วดึงถ้วยชามาดื่มตั้งใจกวนประสาทวัลลภา
"ไร้มารยาท คนอย่างแกมันคงชินกับการลักกินขโมยกินล่ะสิ"
"แหม คุณวัลคะ อย่างอื่นเรายังแบ่งกันใช้ได้ กับแค่ชาถ้วยเดียว อย่าทำหวงไปหน่อยเลย"
มะปรางยกชาดื่มเย้ย วัลลภาพยายามคุมสติไว้
"นังมะปราง แกไม่ต้องมาทำกวนประสาท ต้องการอะไรพูดมาเลยดีกว่า"
"ชั้นต้องการมาหาผัว…เอ๊ย คุณดำรงน่ะสิ เขาอยู่ไหน"
"ฮึ เขาก็คงอยู่บ้านเมียน้อยคนไหนซักคนละมั้ง ไปร้องหา…ที่อื่นเถอะ ไป๊!"
วัลลภาแกล้งไล่ส่ง มะปรางชักสีหน้าแกล้งเปิดให้เห็นปืนในกระเป๋า ทำหยิบลิปสติกเติมปากแล้วปิดกระเป๋า
"ชั้นถามดีๆ ทำไมต้องเล่นลิ้นด้วย เกิดชั้นโมโหขึ้นมา…จะหาว่าไม่เตือนนะคะ"
วัลลภาหน้าซีดกลัวนั่งตัวแข็งไม่กล้าขยับ
"ชั้น…ชั้นไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เธอก็ลองโทรตามเอาเองสิ"
มะปรางมองชั่งใจ ยักไหล่ลองกดโทร.หาดำรง
"ฮึ ไม่รับสาย" แล้วมะปรางก็กดดูพิกัดของดำรง " คิดไว้ไม่ผิดเลยว่าต้องอยู่กับมัน คุณ
อยากรู้ไหมว่าสามีของเราอยู่กับใคร"
"ตะวันหรอ"
มะปรางยิ่งแค้นแล้วนึกแผนในใจ พูดต่อรองวัลลภา
"คุณวัล เรามาร่วมมือกันกำจัดนังตะวันด้วยกันดีกว่า เราทั้งคู่จะมีแต่ได้กับได้ ทั้งเราและคุณดาก็จะได้สามีคืน ชั้นสัญญานะคะว่าถ้าจัดการมันสำเร็จ ชั้นจะไม่มายุ่งวุ่นวายให้คุณรำคาญใจอีก เราจะต่างคนต่างอยู่ ถ้าดำรงดูแลชั้นดีเหมือนอย่างเคย"
"นี่เธอคิดจะทำร้ายเพื่อนรักของตัวเองอย่างนั้นหรอ"
"ใช่ เพราะชั้นไม่เคยคิดว่าคนอย่างมันเป็นเพื่อน ตกลงคุณจะว่ายังไง ถ้าคุณไม่อยากร่วมมือกับชั้น…ก็ไม่เป็นไร ชั้นจะได้ชวนนังตะวันกับลูกย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ เราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว หรือไม่…ก็จัดการไอ้แก่ตัณหากลับซะ คุณว่าดีไหมคะ"
มะปรางเปลี่ยนแผนใช้วิธีขู่ วัลลภาชะงักเป็นห่วงดำรง
"ตกลง เธอมีแผนยังไงก็ว่ามาเลย"
มะปรางยิ้มอย่างมั่นใจหยิบกระเป๋าแล้วลุกเดินนำ
"ถ้าอย่างงั้นก็ตามชั้นมา"
วัลลภาตัดสินใจหยิบกระเป๋าถือลุกตามมะปรางออกไป
หน้าจอทีวีที่เปิดค้างเป็นสกู๊ป”ประเด็น HOT ข่าวเด็ด” สัมภาษณ์พี่เป็ดกับพี่ไก่ (ช่างหน้า ช่างผม คนดังของวงการ)
"โอ๊ย ถ้าสตอขนาดนี้ พี่คงกรวดน้ำคว่ำขันขออย่าได้เจอกันอีกเลยค่ะ" เป็ดบอก
นักข่าวถาม
"แล้วพี่ไก่ล่ะค่ะ ยินดีจะร่วมงานกับคนที่กำลังตกเป็นข่าวว่าหักหลังคุณตะวันอีกหรือเปล่า"
"ดูปากพี่ไก่ชัดๆอีกครั้งนะคะ พี่ไม่ขอร่วมงานกับคนๆนี้" ไก่ชี้รูปมะปรางบนปกหนังสือพิมพ์บันเทิงที่ถูกพาดหัวว่าหักหลังตะวัน "โดยเด็ดขาดค่ะ ชัดไหมคะ"
ซูซี่ใส่บลูทูธ กดโทร.หาตะวันฉายอย่างร้อนใจแต่ไม่ติด
"ฮื้ย ติดหน่อยเถอะ ตะวัน…พี่เป็นห่วงเธอจะแย่อยู่แล้วเนี่ย"
"ฮัลโหล"
ซูซี่ดีใจ ร้อนรนถาม
"ตะวัน! โอ๊ย..พี่โทรหาเท่าไหร่ก็ไม่ติด ตะวัน นังมะปรางมันไปหาเธอหรือเปล่า…แล้วมีใครทำอะไรเธอไหม…แล้ว…"
ตะวันฉายยืนที่หน้าต่างมองออกไปเห็นกล้วยนั่งเล่นกับสายฟ้าอยู่กลางสวนอย่างสบายใจ
"ใจเย็นๆค่ะพี่ซูซี่ ไม่มีใครมาหาตะวันทั้งนั้น ทุกอย่างปกติดี มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"เฮ้อ โล่งอกไปที ก็พี่เพิ่งจะถลกหนังนังโรคจิตมันไปน่ะสิ ก็เลยกลัวว่ามันจะไปแว้งกัดเธอเข้าตอนนี้นะมันกำลังโดนสาวไส้ออกมาแฉกันมันไปเลย สมน้ำหน้า คนอย่างมันต้องโดนแบบนี้แหละถึงจะสาสม"
"นังโรคจิต…พี่ซูซี่หมายถึงมะปรางหรอคะ"
"ก็ใช่น่ะสิยะ จะใครซะอีกล่ะ"
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ตะวันงงไปหมดแล้ว"
อ่านต่อหน้า 4
นางกลางไฟ ตอนที่ 23 (ต่อ)
ตะวันฉายกดวางสาย หันกลับมาแล้วตกใจแทบช็อก มะปรางนั่งยิ้มไขว่ห้างอย่างสบายอยู่กลางโซฟา
"ว่าไงจ๊ะ เพื่อนรัก"
ตะวันมองอย่างสงสัย
"มะปราง! นี่แกรู้ได้ยังไงว่าชั้นอยู่ที่นี่"
มะปรางทำตัดพ้อ
"แหม มันน่าน้อยใจจริงๆเลย แกหนีมานอนชิลอยู่ที่นี่ก็ไม่ยอมชวนเพื่อนซักคำ"
"คือ…ชั้นอยากอยู่เงียบๆซักพักน่ะ ก็เลยไม่ได้บอกใคร"
มะปรางลุกเดินชมบ้าน ตะวันฉายเริ่มระวังตัว
"แล้วนี่บ้านใครหรอ มีหาดส่วนตัวซะด้วย ท่าทางเจ้าของบ้านคงจะรวยน่าดู"
ตะวันอึกอักไม่ทันตอบ ดำรงหอบข้าวของเข้ามาวางขัดจังหวะ ไม่ทันสังเกตเห็นมะปราง
"ตะวัน ผมซื้อของมาให้เยอะแยะเลย มีข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าอร่อยด้วยนะ เมื่อวานผมเห็นคุณบ่นอยากกิน…"
ดำรงหันมาเห็นมะปรางแล้วชะงักค้าง
"มะปราง!คุณมาที่นี่ได้ยังไง"
มะปรางมองดำรงกับตะวันอย่างแค้น
"ที่คุณไม่ยอมรับโทรศัพท์ชั้น แล้วก็หายหัวไปตั้งหลายวันเนี่ย เพราะมัวมากกนังตะวันอยู่ที่นี่เองน่ะหรอ"
"เอ่อ…มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ คือ…ผม"
ตะวันฉาย เพิ่งเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งคู่
"มะปราง นี่แกกับคุณดำรง"
"ใช่! ชั้นเป็นเมียเขา ชัดไหม ทีนี้แกก็เลิกยุ่งกับผัวชั้นได้หรือยัง"
"แล้วแกล่ะ เมื่อไหร่จะถอดหน้ากากของแกออกมาซักที"
วัลลภาเดินเข้ามา ดำรงมองยิ่งตกใจ อึ้ง ตัวชาทำอะไรไม่ถูก
"คุณดำรง ชั้นไม่คิดเลยว่าเดี๋ยวนี้รสนิยมคุณมันจะ ต่ำ ถึงคว้าผู้หญิงคนนี้มาเป็นเมียน้อย…อีกคน"
ตะวันฉายหน้าสลดจะอธิบาย มะปรางยิ้มเย้ยตะวันคิดว่า วัลลภาเป็นฝ่ายตัวเองเต็มที่ วัลลภามองไปที่ตะวันฉาย แล้วมองผ่านไปหยุดจ้องที่มะปราง
"อย่างน้อยแค่หิวเงินก็ยังพอไหว แต่นี่ถึงกับเล่นละครตบตา แถมยังลอบกัดได้แม้กระทั่งเพื่อนรักของตัวเอง"
มะปรางชะงักมอง วัลลภามองจ้องมาอย่างเอาเรื่อง
"ชั้นหมายถึงแกนั่นแหละ…นังมะปราง"
ดำรงมองมะปรางนิ่ง ตะวันฉายยืนงง มะปรางอึ้งชักสีหน้าไม่เข้าใจ
" นี่คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ ศัตรูของคุณน่ะคือนังตะวัน ไม่ใช่ชั้น!"
"ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อหรอก ชั้นรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว ทั้งเรื่องที่แกไปsetฉากที่
คอนโดคุณดำรง กับรูปสุดสวีตของแกกับเขาที่อุตส่าห์ส่งมายั่วชั้น คงอยากให้ชั้นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตะวันล่ะสิ หึ" วัลลภาหัวเราะเย้ย
ตะวันฉายกับดำรงมองหน้ากันอย่างงง มะปรางยิ่งคิดไม่ถึง
"แกรู้ได้ยังไง"
"แผนกระจอกๆแบบนี้ หลอกชั้นไม่ได้หรอก แกกับชั้นน่ะมันกระดูกคนละเบอร์ แค่เสียเงินจ้างนักสืบไม่กี่หมื่น ชั้นก็รู้ไส้รู้พุงแกหมดแล้ว นังมะปราง"
วัลลภายิ้มสะใจ มะปรางยิ่งแค้น
"ทำไมแกต้องทำแบบนี้ด้วย" ตะวันฉายถาม
กล้วยอุ้มสายฟ้าจะเข้ามา ตะวันเหลือบเห็นรีบส่งสัญญาณให้หลบไป กล้วยพยักหน้ารับ รีบอุ้มสายฟ้าเลี่ยงออกมา
นิคมรับสายกล้วยแล้วรีบบอกวัช
"หา! มะปรางกับคุณวัลบุกไปหาตะวัน"
ธวัชดึงโทรศัพท์มาคุยเอง เป็นห่วงตะวันกับลูก
"แล้วตะวันกับสายฟ้าปลอดภัยดีหรือเปล่า"
"คุณตะวันแอบให้กล้วยพาสายฟ้าหลบออกมาก่อน ตอนนี้ในบ้านกำลังเถียงกัน
ใหญ่เลยค่ะ คุณวัชรีบมาด่วนเลยนะคะ"
นิคมรีบแจ้งตำรวจ ทั้งคู่รีบตามไป
วัลลภายิ้มเยาะ
"เมียน้อยอย่างแกน่ะมีแต่มารยา แต่เมียหลวงอย่างชั้นน่ะมันเงินหนา ชั้นก็เลยซื้อรูปจากตากล้องที่แกจ้างไปถ่ายตัวเองนั่นแหละ ส่งให้หนังสือพิมพ์เขาจัดการให้ แกคิดว่าเล่นงานคนอื่นเป็นฝ่ายเดียวหรอ ตอนนี้ถึงเวลาโดนเอาคืนบ้างแล้วล่ะ"
มะปรางอึ้งแทบหมดแรง ซูซี่ถือหนังสือพิมพ์บันเทิง 2-3 ฉบับเดินเข้ามายืนข้างตะวัน ซูซี่ยิ้มสะใจให้วัลลภา
"คุณนี่คือมันสุดยอดเมียหลวงจริงๆคุณวัลลภา ขอบคุณนะคะที่ช่วยส่งข้อมูลไปยืนยันอีกแรง เพราะแค่คลิปกับรูปที่ชั้นส่งให้มันอาจจะน้อยเกินไป เอ๊…ไม่รู้ว่าป่านนี้ในเว็บจะเลิกขุดคุ้ยเรื่องของแกหรือยังน๊า"
ซูซี่ทำหน้าล้อเย้ย มะปรางคิดไม่ถึงว่าจะถูกรุมเปิดโปง โวยวายรับไม่ได้
"ไม่จริง! พวกแกรวมหัวใส่ร้ายชั้น"
มะปรางอึ้งพูดไม่ออก ซูซี่ได้ใจยิ่งซ้ำเติม
"ทำอะไรไว้ มันก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ อ้ะ ถ้าแกไม่เชื่อละก็ ชั้นมีของมาฝาก"
ซูซี่โยนหนังสือพิมพ์บันเทิงให้มะปรางดูเป็นการยืนยัน นสพ.ทุกฉบับพาดหัวข่าว เพื่อนรักหักเหลี่ยม “ตะวัน” / พี่เป็ดพี่ไก่ ให้สัมภาษณ์ไม่ขอร่วมงานด้วยเด็ดขาด / ทีมงานขอแบนด์เลิกจ้าง
มะปรางรีบหยิบขึ้นมาดูถึงกับกรีดร้องอย่างเจ็บใจ
"ไม่! ไม่จริง"
"ถ้ากลับไปคราวนี้ ชั้นเอาหัวเป็นประกันเลยว่า ไม่มีใครต้อนรับแกอีก แกมีแค่ 2 ทางเลือกคือ…คุก…กับ…คุก"
มะปรางน้ำตาไหลพรากเจ็บใจที่ทุกอย่างพังทลาย หันหาดำรงหวังให้ช่วย
"คุณดำรง ชั้นไม่ได้ทำนะคะ พวกมันกลั่นแกล้งชั้น"
ดำรงมองอย่างผิดหวัง
"ชั้นไม่คิดเลยว่าเธอจะเลวขนาดนี้ ต่อไปนี้ชั้นกับเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"
มะปรางเข้ามากอด
"ไม่นะคุณดำรง! คุณจะทิ้งชั้นไม่ได้นะ ชั้นรักคุณ ชั้นเป็นเมียของคุณนะ"
"มะปราง เธอก็ได้เงินจากชั้นไปมากพอแล้ว ชั้นจะขายคอนโดทิ้ง เธอเก็บข้าวของออกไปได้เลย แล้วอย่ามาให้ชั้นเห็นหน้าอีก"
มะปรางแทบล้มทั้งยืน ตะวันอยากเข้าไปช่วยแต่ตัดใจ
"มะปราง แกโตมากับชั้น…เราเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่หรอ ชั้นไปทำอะไรให้แกเจ็บแค้น
ถึงต้องคอยแทงข้างหลังชั้นแบบนี้"
"ตะวัน ชั้นหึงคุณดำรงก็เลย…แต่นอกนั้นชั้นโดนใส่ร้าย นังซูซี่มันแกล้งชั้น"
"มะปราง! แกเลิกโทษคนอื่นซะที ชั้นรู้ว่าเป็นฝีมือแกตั้งแต่เห็นรูปจากมือถือพี่ซูซี่แล้ว"
เล็บใครบางคนที่มุมรูปนั้น เป็นสีเล็บของมะปราง
"ชั้นไม่คิดว่าเลยว่าแกคือคนที่ทำให้ครอบครัวของชั้นมีแต่รอยร้าว ทั้งๆที่แกพูดมาตลอดว่าชั้นคือเพื่อนรักของแก"
มะปรางถูกเปิดโปงทั้งเจ็บทั้งอาย หลังชนฝาตัดสินใจควักปืนออกมาเล็งไปที่ตะวัน
"อีโง่! ก็เพราะชั้นไม่เคยคิดแบบนั้นไง ชั้นถึงอยากให้ชีวิตแกมันพังพินาศ"
มะปรางหัวเราะลั่นอย่างสะใจ ทุกคนมองอึ้งอย่างคิดไม่ถึง
ธวัชกับนิคมพร้อมตำรวจย่องเข้ามา กล้วยอุ้มสายฟ้าหลบอยู่รีบออกมาหา
"คุณนิคม…คุณวัช มีตำรวจมาด้วยหรอคะ"
ธวัชลูบหัวลูกชายอย่างเป็นห่วง
"กล้วย แล้วตะวันปลอดภัยหรือเปล่า"
กล้วยรีบรายงานสถานการณ์
"ไม่ทราบค่ะ กล้วยได้ยินแต่เสียงทะเลาะกัน"
"มะปรางน่ะอันตรายกว่าที่เราคิด" นิคมบอก
กล้วยนึกได้
"เมื่อกี๊กล้วยแอบดู เห็นคุณมะปรางชักปืนออกมาด้วยนะคะ"
ตำรวจชักปืนเตรียมพร้อมแล้วกระจายกำลังออกไป วัชหันไปสั่งกล้วย
"กล้วยพาสายฟ้าหลบออกไปก่อน ชั้นฝากสายฟ้าด้วยนะ"
"ค่ะ"
กล้วยอุ้มสายฟ้าหลบไปอีกทาง ธวัชมองตามแล้วรีบตาม นิคมกับตำรวจเข้าไป
ตำรวจแอบซุ่มกระจายอยู่รอบบ้าน ธวัชกับนิคมแอบโผล่มองผ่านหน้าต่าง ซูซี่เหลือบมาเห็นพอดี เผลอยิ้มดีใจ รีบหาทางบอกทั้งคู่ว่า มะปรางมีปืน
ซูซี่ทำพูดดี
"มะปราง เก็บปืนก่อนเถอะ มีอะไรก็พูดกันดีๆก็ได้นี่"
ซูซี่ขยิบตารับรู้ แล้วทำเก็บอาการ
"แหม คุณซูซี่นี่หัวไวจริงๆ ถ้าเป็นผู้หญิงละก็ ชั้นจีบไปแล้ว"
ธวัชกับนิคมรีบส่งสัญญาณว่าจะอ้อมไปด้านหลังแล้วผลุบหายไป
บริเวณประตูหลังบ้าน ธวัชแอบเปิดประตูเข้ามาอย่างเบามือ เห็นมะปรางชูปืนขู่ใส่ ซูซี่หวีดร้องหลบอย่างหวาดเสียว
"หุบปากเลยนังซูซี่! แกมันอีตัวแสบ แกอยากเอาคืนชั้นอยู่แล้วนี่ ถ้าอย่างนั้น…"
ซูซี่เห็นนิคมกับวัช พยายามกล่อมดีๆ ตะวันฉายเบนความสนใจ
"มะปราง ทำไมต้องถึงกับฆ่ากันด้วย"
มะปรางหันกระบอกปืนมา ตะวันสะดุ้งเฮือกกลัว
ธวัชแทบจะพุ่งออกไป นิคมรีบดึงห้ามไว้
"อย่าไอ้วัช ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ"
ตำรวจ 1 กระชับปืนเล็งที่มะปราง มะปรางตวาดลั่น ขยับเข้าหา ตะวันขยับถอย
"ก็เพราะแกแย่งทุกอย่างไปจากชั้นไง ทั้งชื่อเสียงเงินทอง แม้แต่คนรัก"
"ชั้นไม่เคยคิดจะแย่งคุณดำรงไปจากแก เราไม่เคยมีอะไรกัน เขาแค่มีน้ำใจช่วยชั้นก็เท่านั้นเอง"
"ชั้นไม่เชื่อ คนอย่างไอ้แก่เนี่ยหรอ จะปล่อยแกไปง่ายๆ ถ้าไม่มีแกซักคน ชีวิตทุก
คนก็จะกลับมามีความสุข ถ้าวันนี้ชีวิตชั้นพัง ชีวิตของพวกแกก็ต้องพังด้วย"
มะปรางขึ้นไก มองเล็งไปที่ตะวันอย่างเหี้ยม แล้วกดยิง ทั้งหมดก้มหลบหวีดร้องลั่น
กระสุนวิ่งผ่านตะวันไปดำรงเข้าไปแย่งปืนมะปรางแล้วร้องสั่ง
"ตะวันหนีไป"
ตะวันฉายลังเลแล้ววิ่งไป,kเจอธวัชกับนิคม เธฮปล่อยโฮกอดแน่น นิคมนึกโล่งอก
มะปรางถีบดำรงหงาย มองอย่างแค้นแล้วกดยิงใส่ทันที
"รักมันมากใช่ไหมไอ้แก่ งั้นก็ไปรอมันในนรกก่อนก็แล้วกัน"
ภาพุ่งเข้าไปกอดดำรงกันไว้
"คุณดำรง! ระวัง"
เสียงปืน 2 นัดซ้อน ซูซี่ก้มหลบกรี๊ดลั่น ตะวันฉาย ธวัช นิคมหันมองตามเสียงแล้วมองตะลึง
ซูซี่ช็อก เห็นมะปรางถูกตำรวจยิงจากทางด้านหลัง รูดลงกับพื้น
"ไม่! มะปราง"
ตะวันฉายถลาวิ่งเข้าไปรับมะปรางแล้วกอดเอาไว้แน่น
วัลลภากอดดำรงเอาไว้ ถามอย่างเป็นห่วง
"คุณ…ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ"
"ผมไม่เป็นไร ... คุณวัล"
ดำรงจับหลังวัลลภารู้สึกอะไรบางอย่าง เอ๊ะใจ แล้วยกมือขึ้นดูเห็นชุ่มไปด้วยเลือด
"คุณวัล!"
วัลลภายิ้มให้แล้วสลบไป ดำรงกอดวัลลภาไว้แนบอกอย่างซึ้งใจน้ำตาไหลพราก
"คุณวัล…คุณอย่าเป็นอะไรไปนะ คุณวัล"
ธวัชกับนิคมรีบเข้ามาช่วยประคองทั้งคู่
"คุณดำรง รีบพาคุณวัลไปโรงพยาบาลก่อนเถอะครับ"
ตำรวจรีบเข้ามาช่วยอุ้มวัลลภาออกไป ดำรงหันมองมะปรางอย่างสลดใจแล้วรีบตามไป
ซูซี่รีบเข้ามาดูมะปราง ตะวันกอดมะปรางที่หายใจแผ่วแทบหมดลม
"มะปราง"
"ช่วยมะปรางด้วย ใครก็ได้ช่วยมะปรางที" ตะวันฉายบอก
ธวัชเข้ามากอดปลอบ ตะวันฉายมองหน้าเหมือนจะถาม ทุกคนนิ่งไปอย่างรู้ว่า อาการมะปรางไม่รอด
มะปรางน้ำตาไหล พูดขาดช่วง
"ชั้ จะไม่ขอให้แกยกโทษให้ เพราะแก ทำให้ชีวิตชั้น ต้องเป็นแบบนี้"
"ชั้นขอโทษนะมะปราง ชั้นขอรับผิดทุกอย่างไว้เอง ถ้าชั้นรู้ว่าเรื่องจะลงเอยแบบนี้ แกอยากได้อะไรจากชั้น ชั้นจะยอมแกหมดทุกอย่าง แกเป็นเพื่อน…และเป็นครอบครัวคนเดียวของชั้นนะมะปราง"
มะปรางซึ้งใจ
"ชั้น…รักแกนะ…ตะวัน"
มะปรางสะดุ้งเฮือกแล้วนิ่งหมดลมไป ตายังเบิกโพรง
ซูซี่น้ำตาไหลพราก ตะวันฉายกอดศพมะปรางแน่น เอื้อมมือปิดตามะปรางลง
"อย่าพกความแค้นติดตัวแกไป…ทิ้งมันไว้ที่นี่ให้หมด ชั้นอโหสิกรรมให้แกทุกอย่าง ชั้นรักแกนะมะปราง หลับให้สบายนะ เพื่อนรัก"
ตะวันกอดมะปรางไว้แน่น ธวัชกอดประคองตะวันไว้ ซูซี่น้ำตาไหลพรากอย่างรู้สึกผิด นิคมหน้าสลด
อ่านต่อตอนที่ 24