มาลีเริงระบำ ตอนที่ 12
ทองทากำลังทำผมเพื่อเตรียมอัดเทปที่สถานี หนูมาลี นั่งข้างๆ คุยกับทองทาเรื่องโน้ตเพลงของโรส
"จะให้พี่ทำเพลงนี่หรือ"
" จ้ะ "
"ได้ แก้อีกนิดเดียวเอง พี่โรสมีหัวทางนี้นะ ถ้าเรียนต่อ รับรองรุ่ง ว่าแต่จะใช้เพลงนี้ขึ้นร้องประกวดอาทิตย์หน้านี้เลยไหม"
หนูมาลีกลุ้ม
"ไม่รู้สิ นี่ใกล้สอบปลายภาคที่รามแล้ว อ่านหนังสือดีกว่า ถ้าหนูสอบได้ พี่โรสคงดีใจมากกว่า"
มาลีชูหนังสือเรียนที่พกมาด้วย
"อีกแค่สองรอบ ทำให้ถึงที่สุดเถอะนะ"
สต๊าฟมีอุปกรณ์ครบเดินมาตาม
"ได้เวลาแล้วค่ะ จะอัดเทปอีกสิบนาที"
"คิดดูนะ พี่ไปทำงานก่อน"
ช่างทำผมปลีกตัวไปอ่านหนังสือข่าวบันเทิงเลยเอามาให้หนูมาลีดู
"อ่านหรือยังหนู ทิมมี่โดนข่าวเรื่องทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับ"
มาลีรับมาดู มีทั้งข่าวและรูป ทิมมี่ และข่าวของโกมินทร์
"ทิมมี่น่ะหรือคะ อุ๊ย มีข่าวโกมินทร์ด้วย"
"โกมินทร์โดนข่าวเรื่องซื้อวุฒิปริญญาตรี ไม่ได้เรียนจบจริงๆข่าวเยอะนะ เวทีนี้"
มาลี คิดสงสัยแล้วเดินออกไป
"ข่าวสองข่าวในวันเดียวกันหรือ"
โทรศัพท์มือถือดังขึ้น หนูมาลีรับสาย
บุษบาบัณกำลังคุยโทรศัพท์ เปิดลำโพงได้ยินทั้งยาหยีและนีน่า
"อ่านหนังสือพิมพ์วันนี้หรือยัง"
"ข่าวทิมมี่กับเบลใช่ไหม"
"ฝีมือของฉันเอง คนทุกคนย่อมมีจุดอ่อนจริงไหม ฉันแค่ขยายจุดอ่อนนั้นขึ้นมา"
"คนดูรายการเขาไม่เชื่อหรอก"
ยาหยีเข้ามาพูดด้วย
"ผลโหวต เดอะซุปเปอร์สตาร์วันนี้ คะแนนของ โกมินทร์และทิมมี่ ร่วงลงกว่าปรกติ ยี่สิบเปอร์เซนต์ ส่งผลให้คะแนนของคุณเบล สูงขึันมาเป็นอันดับสอง"
มาลี มองไปที่ทีวีซึ่งมีการฉายกราฟคะแนนพอดี มาลีรีบเข้าไปดูจนใกล้
"ย้ำอีกครั้ง"
ยาหยีและนีน่าตะโกนพร้อมกันใส่โทรศัพท์
"คุณเบล ขึ้นที่สองแล้ว"
มาลี มองทีวีแค้น สามสาวหัวเราะกันใหญ่
"คะแนนของเธอ อยู่ต่ำสุด แถมยังทิ้งห่าง คะแนนแทบไม่ขยับ ชิ"
"คุณจ้างสื่่อทำลายคนอื่น คุณมันขี้โกง !"
" ไม่ใช่แค่ โกมินทร์ ทิมมี่นะ วันนี้จะมีข่าวของแกด้วย"
ช่างผมกลับเข้ามาใหม่ สีหน้าร้อนรน
"หนูมาลี ออกไปดูหน้าสถานีสิ"
มาลีหน้าเครียด
มาลี และช่างผมมายืนแอบดูอยู่ที่มุมหนึ่ง ได้ยินเสียงกลุ่มคนที่มาประท้วงหน้าสถานี
กลุ่มกรรมการหญิงชรา 5-6 คน ที่เคยแถลงข่าวคราวที่แล้ว วันนี้มายืนถือป้าย ข้อความต่างๆ เช่น "หนูมาลี ลาออกซะ" - "เด็กอกตัญญูต้องให้ออก" - "ขอต่อต้านเด็กอกตัญญู"
นักข่าวหลายคนถ่ายรูปบ้าง ยื่นไมค์ให้กรรมการสัมภาษณ์บ้าง
กรรมการ 1บอก
"เรามาที่นี่ในวันนี้เพื่อมาเรียกร้องให้ทางสถานีเอ็มเอ็มแชแนล ไล่เด็กอย่างหนูมาลีออกจากการแข่งขันซะตั้งแต่วันนี้ ลูกทุกคนต้องเคารพพ่อแม่ ขอยืนยันนะคะ คำว่าพ่อ เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ ลูกทุกคนต้องรียกพ่อว่าพ่อ ไม่ใช่เรียกเป็นอย่างอื่น"
โยทะกาเดินมาเจอมาลี เธอรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว และกำลังจัดการ
"อยู่นี่เอง ให้คนตามหาเสียทั่วสถานี"
"เขามาประท้วงหนู"
"อย่าไปใส่ใจ เรื่องพวกนี้สถานีเราจัดการได้ มาเถอะ รถรออยู่ข้างหลังจะพาเธอออกไปข้างหลัง ฉันบอกทองทาแล้วว่าเธอต้องกลับก่อน"
มาลีพยักหน้า เดินตามโยทะกากับช่างผมเข้าไป แต่เธอยังไม่วายมองมาทางหน้าสถานีที่กลุ่มประท้วงยังยืนอยู่
สาวสามตัวก่อเหตุนั่งดูทีวีในบ้านเมืองแมน หน้าตายิ้มแย้มดีใจ
"เยี่ยมมาก เล่นข่าวนี้ต่อให้สุดๆไปเลย"
นีน่าบอก
"ส่งคนไปหน้าสถานีแบบนี้ พ่อคุณไม่ว่าหรือคะ"
"เขาไม่รู้เรื่องหรอก พวกนี้เพื่อนของยาย พ่อกับคุณโยไม่รู้จัก"
"พรุ่งนี้ข่าวจะออกสื่อทุกสำนัก จากนั้นเราก็จะส่งคน แอบเข้าไปที่ร้านมัน เก็บภาพพ่อลูก เพื่อยืนยันความอกตัญญูของนังหนูมาลีที่เรียกพ่อว่าพี่"
บุษบาบัณพยักหน้ายิ้มร้าย
"คอนเสิร์ต อาทิตย์หน้านี้แล้ว แกเสร็จรอบนี้แน่ แกไม่มีวันที่จะเข้ารอบชิงชนะเลิศได้หรอก"
บุษบาบัณหมายมาด
วันใหม่ ทองทานอนหลับอยู่
มาลีเดินเข้ามา รับสายโทรศัพท์
"ว่าไงคะ พี่โรส"
โรสโวยวายใหญ่ในโทรศัพท์กับมาลี
"แกออกไปบ้านทองทาหรือ"
"มาทำความสะอาดไงคะ"
"แล้วทองทามันอยู่บ้านไหม"
"คิดว่าไม่อยู่นะคะ"
"คิดว่า คิดว่าหรือ แสดงว่าไม่แน่ใจล่ะสิ กลับร้านเดี๋ยวนี้"
มาลีแกล้ง ทำเป็นไม่ได้ยิน
"อะไรนะคะ สัญญาณไม่ดีเลย แค่นี้นะคะ"
มาลี ยิ้มขำกำลังจะดื้อกับโรส
ทองทานอนหลับอยู่ในห้อง มาลีเดินมานั่งบนเตียง
"นอนหลับน่ารักจัง"
มาลีก้มลงหอมแก้ม ทองทาลืมตาพอดี
"หนูมาลี"
" พี่ทองทาทั้งหล่อ ทั้งเท่ หนูไม่เชื่อพี่โรสอีกต่อไปแล้ว"
ทองทายิ้ม หลับตา ทำปากจูบ ยื่นหน้าเข้ามา
อธินั่งอยู่ข้างเตียง แทนที่มาลี
"เฮ้ย ไหนว่ามีงานไง สายโด่แล้ว"
ทองทาหลับหูหลับตายื่นหน้าเข้ามา
"จู๊บ"
อธิผลักทองทาออกไป
"เฮ้ย ออกไป๊"
ทองทากระแทกเตียงเลยตื่น อ้าว ! ที่แท้ ... ฝันไป
"ไอ้บ้า เข้ามาอีกสิ กูต่อยนะ" อธิกำหมัด
"เฮ้ยอย่า …อะไรวะเนี่ย โอ๊ยเจ็บ"
ทองทาจับหัวตัวเองที่ถูกกระแทก
"ไอ้นี่เล่นไม่ซื่อ เพื่อนจะเล่นเพื่อนซะแล้ว ตกลงแกเป็นเกย์ใช่ไหม เอาจริงใช่ไหม จะได้จัด !"
อธิกำหมัด ลากคอ
" เฮ้ย อย่าๆ ฉันฝันน่ะ หนูมาลี หนูมาลีไม่ได้มาหรือ"
"มาที่ไหน ฉันเปิดเข้ามาเอง ฉันเพิ่งออกเวร"
ทองทายังไม่เชื่อ ลุกขึ้นมามองๆ
"ฝันจริงหรือวะเนี่ย ฝันยืดยาวไปถึงพี่โรสเลยหรือวะ เป็นเอามากนะเนี่ย"
"ฝันลามก เดี๋ยวจะฟ้อง"
ทองทาเกาหัวยิ้มแห้งๆ รู้สึกว่าตัวเอง หื่นไม่หาย
โรสตกแต่งร้านเซอร์ไพร์สอยู่ ติดไฟเพิ่มที่เวที ทองทามายืนมองๆเขินๆ ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงดี
"อะไรของแก จะคุยอะไรก็พูดมาสิ"
"ผมว่าผมมีปัญหา ฟังแล้วอย่าเพิ่งด่านะ ผมยังไม่ทำอะไรหนูมาลี แต่ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ แหะๆ เรื่องฮอร์โมน ที่พี่ถามเมื่อคราวที่แล้ว ผมเป็นจริงๆ"
โรสเสียงดังแล้วชี้ไปที่หว่างขา
"อ๋ออาการคัน... ตรงนั้นหรือ"
ทองทาทำปากจุ๊ๆ ให้เบาหน่อย โรสก้มลงมองเป้า
"ไหนดูเด๊ะ คันมากไหม"
ทองทารีบ ทั้งป้องมือทั้งหันหนี
"นี่ๆ ออกไปเลย อย่าล้อผมได้ไหมเนี่ย พี่นี่ต้องเป็นพ่อตาที่น่ากลัวที่สุดในโลก กลัวถูกตีหัวก็กลัว กลัวถูกลักหลับก็กลัว สรุปกลัวทั้งขึ้นทั้งล่อง"
โรสหัวเราะสนุก
"ฉันล้อเล่น เอาๆ ไปคุยกัน ไปๆ"
โรสลากไป ทองทายังป้องๆ ปัดๆ แถวๆเป้าตัวเอง
ทองทานั่งลงกับโรส มาลีเดินเข้ามาแอบฟัง
"เมื่อก่อนผมไม่มีแฟนเพราะผมมุ่งมั่นเรื่องเรียน ซ้อมเต้นจนเหนื่อยทุกวัน แต่ตอนนี้ ..."
"สมองว่าง ฟุ้งซ่าน พลังงานเหลือ ฮอร์โมนพุ่ง"
ทองทาพยักหน้า
"แฟนน่ารัก สวยโคตรๆ มันก็เลยยาก"
มาลียิ้ม
"เรื่อง ตัณหาราคะ เราต้องบอกตัวเอง เรื่องโทษของมัน... โทษของมันก็คือ..."
โยทะกาเดินเข้ามาแล้วบอกกลางวง จนสองหนุ่มและหนูมาลี อึ้งไป
"ท้องไม่พร้อม !"
"พี่โย"
โยทะกาบอกโรส
"ฉันเอาอุปกรณ์ประกอบฉากที่สถานีไม่ใช่แล้ว เอามาให้ที่ร้านคุณน่ะค่ะ ส่วนใหญ่สภาพดี เผื่อเอาไว้ให้คุณตกแต่งร้าน คนส่งเขากำลังขนลงมา"
"ของฟรี เราไม่ปฎิเสธอยู่แล้ว ขอบคุณครับ"
"ท้องไม่พร้อม ผมอยากฟังต่อ" ทองทาบอก
มาลีเข้ามาถาม
"หนูก็อยากฟัง ขออนุญาตได้ไหมคะ"
"ออกไป นี่มันเรื่องของทองทาเขา" โรสบอก
"ให้เขาฟังเถอะ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงต้องฟัง" โยทะกาบอก
มาลีนั่งลงทันที
"ทีวี อินเตอร์เน็ต บอกว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับผู้ชาย เป็นเรื่องพาฝันสำหรับผู้หญิง สื่อต่างๆชวนเราฝันถึงการมีใครสักคน แต่แค่ไม่กี่นาทีที่มีความสุข มันจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดชีวิต เรื่องนี้ไม่มีใครบอกเรา"
"เพราะตั้งท้องใช่ไหมคะ"
โยทะกาพยักหน้า
"สำหรับผู้ชาย คำว่าลูกผู้ชาย คือความรับผิดชอบ ความกล้าหาญ ที่สำคัญคือ เสียสละ และอดกลั้น ผู้หญิงทุกคนหวังฝากชีวิตกับผู้ชาย ชีวิตของคนที่เรารักทั้งชีวิต เราต้องเป็นผู้นำเขา เป็นที่พึ่งของเขา ไม่ใช่ทำลายเขา" โรสบอก
"สำหรับผู้หญิง ไม่มีอนาคต ไม่มีฝัน ไม่มีอิสรภาพ สิบๆปีหมดไปกับการเลี้ยงลูก หรือถ้าทำแท้ง ทิ้งลูก นั่นยิ่งเลวร้ายยิ่งกว่า เพราะเราจะอยู่กับฝันร้าย ทุกคืน ! ไม่มีเลย ที่หลับไปพร้อมกับความสุขสงบ ไม่มีสักคืน !" โยทะกาพูดจากประสบการณ์ของตัวเอง มองหน้าลูกสาวตรงหน้าแล้วน้ำตาคลอ
"ผู้ชายก็ไม่ต่างกัน ฝันร้ายได้เหมือนกัน แต่ถ้าเรารู้จักอดทนรอ ผลไม้ที่มีแค่ลูกเดียว กินตอนห่ามกับกินตอนสุก รสชาติมันต่างกันลิบ รักคนที่ถูก ในเวลาที่ถูก ผลของมันจะมีแต่ความสุข"
"รักคนที่ถูก ในเวลาที่ถูก มันถึงจะกลายเป็นความสุข ชีวิตของหนูมาลี ยังต้องทำอะไรอีกหลายอย่าง ผมจะรอ ผมรอได้"
ทองทาจับมือ มาลีซาบซึ้ง
"ขอบคุณค่ะ"
บอยยืนอยู่มุมหนึ่งกับบุญมา
"พ่อ แม่ ช่วยกันอบรม ลูกชายลูกสาวด้วยประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ดูเป็นครอบครัวที่ยอดเยี่ยมมาก เฮ้อ ครอบครัวปกติ"
บอยร้องออกมาเศร้าๆ เพราะเป็นสิ่งที่บอยก็ไม่มี บุญมางงๆ
"พ่อแม่อะไรวะ ไปขนของเฮอะ"
บุญมาเดินนำไป ไม่สนใจ โรส โยทะกา ทองทา และหนูมาลี นั่งยิ้มให้กัน
มาลี ตามมาเรียกโยทะกา
"เอ้อ อย่าเพิ่งไปสิคะ อยู่ทานข้าวเย็นกันก่อน"
"ฉันเกรงใจ พี่โรสของเธอ"
"คุณขนของมาตกแต่งร้านเราเยอะแยะ วันศุกร์นี้เราจะเปิดร้านแล้วนะคะ"
"ต้องไปรอดแน่ๆ ฉันเชื่อ..."
มาลีคิดเล็กน้อย
"มีอยู่อย่างหนึ่ง หนูไม่รู้จะปรึกษาใคร แต่มันอยู่ในใจของหนูมาตลอด หนูขอปรึกษาคุณได้ไหมคะ"
"เรื่องอะไรจ๊ะ"
"คำว่าพ่อ กับพี่ มันต่างกันจริงๆใช่ไหมคะ"
"นี่หนูมาลี เครียดเรื่องข่าวมากเลยใช่ไหม"
"พี่โรสบอกว่าไม่เป็นไร หนูก็พยายามเชื่อ แต่พอมีคนพูดขึ้นมา หนูก็กลับมาคิดใหม่"
"คำว่าพ่อ และแม่ เหมือนความฝันของคนทั้งโลก ใครๆก็อยากได้ยิน เพราะมันหมายถึงความรัก และความสำเร็จ ที่ยิ่งกว่าความรักและความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต"
มาลีคิดจัดการเรื่องโรส
"บางที...คงถึงเวลาจัดการอะไรบางอย่างแล้ว ไอ้เรื่องพี่ เรื่องพ่อเนี่ยคงถึงเวลาแล้ว"
โยทะกามองหน้ามาลี แล้วร้องไห้ออกมา เพราะไม่มีโอกาสเป็นแม่ของมาลี
"คุณโย คุณเป็นอะไรไปคะ"
"ตอนฉันอายุเท่าเธอ ฉันสู้ชีวิตเหมือนเธอ วันนี้ฉันมีทุกอย่าง ฉันเพิ่งรู้ว่า ไอ้เงิน และเกียรติยศที่หามา มันเอามาซื้อความรักไม่ได้ ฉันไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว"
"หนูขออนุญาตนะคะ"
มาลีเข้าไปกอดโยทะกา
"ถ้าอยากเป็นครอบครัวเดียวกับเรา แวะมาที่นี่บ่อยๆสิคะ"
โยทะกากอดมาลีแน่น หลับตา จดจำความรู้สึกที่ได้กอดมาลีไว้ เพราะอาจจะเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต
"อ้อมกอดของหนู.... แค่นี้ ฉันก็ตายตาหลับแล้ว"
มาลีงงๆเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมา โยทะกากอดลูกสาวแน่นมากขึ้น ร้องไห้มากขึ้น
โรสเดินผ่านทางจะเข้ามา เห็นเลยรีบหลบ โรสมองไปเห็นแม่ลูกกอดกัน สงสาร เริ่มคิดอะไรบางอย่าง
ผ่านเวลามา โยทะกาเดินมาล้างมือหลังอาหาร โรสเดินตามมา
"อาหารอร่อยมาก ขอบคุณนะ ที่ให้ฉันอยู่"
"คุยอะไรกับหนูมาลีหรือ เห็นยืนกินมาม่าน้ำหูน้ำตาไหลกันอยู่"
"เขาห่วงความรู้สึกเธอก็เลยปรึกษา เขารักเธอมาก ฉันเป็นแม่ แต่ฉัน
ทิ้งเขาลงคอ ฉันสู้เธอไม่ได้เลย คนอย่างเธอมีความเป็นแม่เต็มเปี่ยมยิ่งกว่าผู้หญิงหลายคน"
"เธอผอมมากเลยนะหมู่นี้ หาความสุขใส่ตัวซะบ้าง"
"หาจากไหน ตรงนี้ ที่นึกไม่ออก"
โรสคิดๆ
"ฉันจะลองถามเขาใหม่ เรื่องแม่"
"ถามอะไรนะ"
"ที่ฉันเคยถามเขาว่า เขาต้องการแม่ไหม นั่นมันตอนเขาเป็นเด็ก ถ้าสิบกว่าปีนี้ ความคิดเขาเปลี่ยนไปล่ะ ถ้าเกิดเขาต้องการแม่ขึ้นมา"
โยทะกาดีใจ
"เธอจะถามเขาจริงหรือ"
"ถ้าเสียงเขาดูสนใจ ฉันจะบอกความจริงกับเขา"
"ขอบคุณนะ ขอบคุณมาก"
โยทะกาสีหน้า มีความหวัง
ในมุมเครื่องดื่มของร้านเซอร์ไพร์ส มาลีทำเครื่องดื่มอยู่ โรสเดินมาหา
"หนูต้มน้ำขิงให้ เขาว่าช่วยลดอาการคลื่นไส้ คืนนี้จะได้ไม่ต้องลุกขึ้นมาอ้วกอีก"
"ขอบใจ"
โยทะกา ตามมาแอบฟังที่มุมหนึ่ง
"พี่น่าจะไปหาหมอ หมู่นี้พี่ทานข้าวน้อยมากเลย ถึงได้อาเจียนไง"
"เรื่องนี้อีกแล้ว พอเลย ไม่ต้องไปฟังบอยมันหรอก พี่รู้ตัวเองดี พี่มีคำถาม"
"ถามมาเลยเพราะหนูจะถามพี่บ้างว่าทำไมไม่ชอบหาหมอ"
" ยังเกลียดแม่อยู่ไหม"
โยทะกาลุ้น มาลีหน้าเครียดขึ้นมาทันที
"พี่โรส ทำไมจู่ๆพูดเรื่องนี้"
"ตอบมาสิ"
มาลีหันมาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เกลียดจริงๆ
"นับวันยิ่งเกลียด ! ขนาดตอนเด็ก หนูยังไม่ต้องการเขา แล้วตอนนี้หนูโตแล้ว หนูเห็นชีวิตเยอะกว่าเมื่อก่อน พี่มองไปรอบๆสิ มีพ่อแม่กี่คนที่ใจร้ายทิ้งลูกตัวเอง เขาต้องเป็นคนใจร้ายที่สุดเลยแหล่ะ"
โยทะกาเอามือปิดปาก ร้องไห้โฮออกมาทันที โรสแอบมองสงสาร
มาลีวางเครื่องดื่มให้
"ดื่มให้หมดนะจ๊ะ แล้วทีหลังอย่าพูดเรื่องนี้อีก อารมณ์เสีย"
มาลีเดินออกไป โยทะการ้องไห้หนักขึ้น โรสมองอย่างเห็นใจ
อ่านต่อหน้า 2
มาลีเริงระบำ ตอนที่ 12 (ต่อ)
วันใหม่ รูปแบบของป้ายหน้าร้านเปลี่ยนไป เป็น "นิว เซอร์ไพร์ส" บอยเอาป้ายฉลองเปิดร้านใหม่ ลด20 % ไปปิดไว้
มาลี การะเกดในชุดเด็กเสิร์ฟ เตรียมเปิดร้านเต็มที่ จัดโต๊ะอยู่
โยทะกา อธิและทองทาเพิ่งมาถึง ทองทาเอาต้นไม้เปิดร้านมาด้วย ของโยทะกาเป็นแจกันดอกไม้
"ยินดีด้วยครับพี่" อธิบอก
"เฮงๆครับพี่"
"ขอให้ขายดีๆนะคะ" โยทะกาบอก
"ขอบคุณทุกคนมากครับ นั่งเลยๆ กินข้าวกัน ทองทา ไง ขึ้นเวทีไหม"
"ไว้คราวหน้าฮะพี่ วันนี้ผมถ่ายเอ็มวี ไปเจ็ดรอบ กว่าจะผ่าน หมดแรงแล้ว"
"เออ... หนูมาลี มันก็ไม่ยอมขึ้นเวทีเหมือนกัน มันบอกว่ามันห่วงงานเสิร์ฟ อะไรของมันไม่รู้ ดื้อ สั่งให้ทำอะไรก็เอาแต่เถียงๆ"
โรสค้อน แล้วเดินจากไป มาลียิ้มๆ
การะเกดเดินเอาของว่างมาวาง
"ของโปรดมาแล้ว คุณโยจะทานอะไรสั่งได้เลยนะคะ" การะเกดบอก
"เยส"
อธินั่งกิน เนื้อจิ้มแจ่ว ยิ้มให้การะเกด นั่งลงคุยกันสามคนกับโยทะกา
ทองทาปลีกมาคุยกับมาลี
"เสาร์นี้แล้วนะ คอนเสิร์ต รอบรองสุดท้ายน่ะ"
"ลืมไปเลยแฮะ มัวแต่วุ่นๆร้าน ..."
โทรศัพท์มือถือดัง มาลีกดรับสาย มองโรส ไม่ให้โรสได้ยิน เอามือป้อง
"ย่าหรือคะ เป็นไงคะถึงไหนแล้ว ค่ะ ค่ะ โอเค"
"ย่าไปไหนหรือ"
มาลีทำปากจุ๊ๆ มองโรส ไม่ยอมให้รู้
"พี่อยากรู้ว่าหนูจะร้องเพลงอะไร เราต้องชนะเบลให้ได้ เข้ารอบสุดท้ายก็ยังดี"
"พี่ทองทานี่ไม่ยอมแพ้จริงๆ ตัดใจซะ ตั้งหน้าเรียนต่อดีกว่ามั้ง แหะๆ ...คะแนนหนูมาลี ต่ำสุดรอปากเหวเลยนะคะ ไอ้ข่าวเรื่องอกตัญญู ก็ไม่เลิกซักที"
ทองทาไม่วายคิดต่อ หน้าเครียด มาลีกระซิบ
"เรื่องประกวดเอาไว้ก่อน วันนี้ หนูมีเซอร์ไพร์ส"
"เซอร์ไพร์สอะไรหรือ"
ทองทางง มาลีและการะเกดมองหน้ากัน แล้วยิ้มมีแผนเด็ด
มุมหนึ่ง แคที่ในชุดสวยจัดว่าเวอร์ เดินเข้ามา
"มาแล้วจ้ามาแล้ว"
"โห อีเจ๊ ให้มาเป็นแค่พิธีกรนะ ไม่ได้ให้มาประกวดมิสยูนิเวิร์ส"
"มิสยูนิเวิร์สหรือมิสคอนเวิร์สน้า" บอยว่า
"อ๋อ ถ้าคอนเวิร์สอยู่นี่ กำลังจะลอยเข้าหน้าแกนี่ไงล่ะ"
แคที่ยกเท้าขึ้นมาให้บอย
"คนมันอลังการดาวล้านดวงในสายเลือด วันนี้วันเกิดร้านต้องเต็มที่ย่ะ"
โรสเข้ามาบอก
"นี่นะ... สคริปต์นะ คนร้องเพลงคือ พี่บุญมา พี่สมศรี จบด้วยการะเกด มีสามคนแค่นี้"
แคที่รู้แผนยิ้มกรุ้มกริ่ม
"สามคนแค่นี้ใช่ไหม"
บอยยิ้มด้วย รู้แผนกัน
"ใช่ สามคน จากนั้นเป็นพวกแขกวีไอพีของร้านเรา นี่รายชื่อ"
โรสบรีฟแคที่ต่อไป แคที่ตั้งใจฟัง
แขกนั่งกันหนาตาที่ร้านนิว เซอร์ไพร์สเพราะเป็นแขกเก่าบ้าง เป็นวีไอพีบ้าง อธิ ทองทาและโยทะกานั่งอยู่มุมหนึ่ง โรส ปลาและเด็กเสิร์ฟดูแลร้านอยู่
ดนตรีกระหึ่มเปิดตัวยิ่งใหญ่ แคที่ขึ้นมาบนเวที ทำหน้าที่พิธีกร
"สวัสดีค่า ... ขอต้อนรับเพื่อนฝูงพี่น้องผู้มีอุปการคุณ และแขกเก่าแก่ของร้านเซอร์ไพร์ส วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ทุกคนจะได้พบกับร้านเซอร์ไพร์สโฉมใหม่ ทุกๆท่านคงเห็นแล้วว่าร้านเราเปลี่ยนไปมากมาย แต่คงนึกไม่ออกว่า แล้วไอ้คอนเซปต์ใหม่นี้มันยังไงเรื่องนี้อืมให้พ่อครัวเรามาเล่าดีกว่า
ดนตรีดังขึ้นบุญมาในคราบราชาลูกทุ่งออกมา โชว์ลูกคอเพลงหรือ ฝีมือทางด้านการดนตรี
บอยต้อนรับแขกที่ถูกเชิญมา
"เอ้าเฮีย สวัสดีครับ" บอยทักทาย
"เปิดร้านแบบนี้ดีๆ ไม่มีผู้หญิงแบบนี้ดีมาก ไม่งั้นเมียไม่ให้มา"
"ขอบคุณครับ ขอบคุณ วันนี้เปิดร้าน เดี๋ยวร้องเพลงสักเพลงนะเฮีย มีแต่คนกันเอง"
กลุ่มนักข่าวเข้ามา มีกล้องมาพร้อม บุษบาบัณส่งข่าวให้มา ทองทาเดินออกมาหาบอย เลยได้เห็น
"มีบัตรเชิญไหมครับ"
"ไม่มีเข้าได้ไหมครับมีเงินจ่าย"
"อ๋อ ได้ครับได้"
กลุ่มนักข่าวเดินเข้าไป
"หน้าคุ้นๆพวกนักข่าวนี่นา"
ทองทาคิดๆว่า พวกเขามาทำไม
บุญมาร้องเพลงท่อนสุดท้ายจนจบ
"อุ๊ต๊ะ พ่อครัวเราวันนี้เขาไม่ได้เป็นพ่อครัวแล้ว เขาคือราชาเพลงลูกทุ่ง"
แคที่ตีมือ แขกปรบมือกันเกรียว
"คอนเซปต์ของร้านเราไม่ว่าท่านจะเป็นพ่อครัว ขับแท็กซี่ ขี่รถตุ๊กๆ ที่นี่คืนนี้คุณคือซุปเปอร์สตาร์" บุญมาขยายความ
"ยังไม่ชัดเจนนะคะ งั้นพบกับแม่ครัวของร้านเรา พี่สมศรีค่ะ "
สมศรีออกมาร้องเพลงโชว์พลังเสียง
กรรมการสมาคมกตเวที เดินเข้ามาในร้าน ถือป้ายชุดเดิมมาด้วย มาถึงก็มายืนจับกลุ่มกันที่หน้าป้ายร้าน นักข่าวที่ตามมาด้วย เริ่มบันทึกทั้งภาพนิ่งและภาพวีดีโอ
กรรมการ 1 บอก
"ที่นี่คือร้านของหนูมาลีและพ่อ วันนี้เราจะมาประท้วงหนูมาลีถึงที่ร้าน"
บอยบ่นฮุบ
"แย่แล้ว มาได้ไงวะเนี่ย"
นักข่าวชุดที่แล้วที่เดินเข้าข้างใน เดินออกมาสมทบ
"มากันแล้ว"
ทองทาและโยทะกาตามมาดูหน้าตาซีเรียส
กรรมการ 1 บอก
"พวกเราต้องสร้างจริยธรรมให้กับสังคมนี้ วันนี้เรามาที่นี่ เราจะเข้าไปดูกันว่า หนูมาลีกับพ่อของเขาอยู่กันยังไง"
กรรมการ 2 บอก
"ถ้าให้เดาคงสนใจแต่จะร้องเพลงจะดังไม่สนใจดูแลพ่อแม่ ก็ขนาดเป็นพ่อแท้ๆ ยังไม่ให้ความเคารพ เราจะหวังอะไรจากเด็กคนนี้ มาค่ะ เข้าไปดูกัน"
โยทะกาสงสัย
"คนพวกนี้นี่มันอะไรกันนักหนา มีเบื้องหลังอะไรหรือเปล่านะ"
"ผมจะไปไล่ให้เขาออกไป" ทองทาบอก
บอยคิดอะไรเล็กน้อย
"ไม่ต้องครับ คราวนี้ให้เขาเข้ามา"
"ทำไมอ่ะพี่" ทองทาถาม
บอยเดินไปบอกพวกกรรมการ
"เชิญเลยครับ หนูมาลี อยู่ข้างใน เชิญเข้าไปทำข่าวข้างในเลยครับ"
พวกกรรมการและนักข่าวเข้าไปข้างในกัน
"เฮ้ยทำไมอ่ะพี่"
ทองทางง บอยยิ้ม เดี๋ยวก็รู้เอง
สมศรีร้องเพลงท่อนสุดท้ายจนจบ
"คอนเซปต์ของร้านเรา ไม่ว่าท่านจะเป็นเด็ก เป็นคนแก่ ท่านจะหุ่นไม้กระดานหน้าบ้านๆ เหมือนปลาชนเขื่อน ที่นี่คืนนี้คุณคือซุปเปอร์สตาร์"
การะเกดออกมาร้องเพลง
"ไม่ต้องสมัครไม่ต้องแข่งขันมาที่นี่คืนนี้คุณจะเป็นซุปเปอร์สตาร์" การะเกดบอก
"ปรบมือให้หนูการะเกดหน่อยจ้า และ ณ จุดนี้ ขอเชิญพบกับ ไฮไลท์ของรายการ ผู้เข้ารอบเดอะซุปเปอร์สตาร์ ซีซั่นสอง หนูมาลีเริงร่า ค่า"
โรสที่เติมน้ำให้แขกอยู่ตกใจ หันมาทันที
"อ้าว เอ๊ะ..."
มาลีออกมาในชุดนักร้องบนเวที
"ท่านผู้ชมที่รัก บทเพลงไม่ได้มีไว้เพื่อให้คนร้องมีความสุขเท่านั้น บทเพลงยังมีหน้าที่อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ...หน้าที่ บอกรัก!"
กลุ่มกรรมการสมาคม นักข่าว นั่งลงแล้ว
ทองทา โยทะกาและบอยเดินเข้ามาสมทบกับโรส
"ไหนนังหนูมาลีมันว่ามันไม่ขึ้นเวทีไง"
"ดูไปก่อนครับ เขาตั้งใจกับการแสดงนี้มาก" บอยบอก
เพลง "วิมานดิน" ขึ้นมา ดนตรีอินโทร.... แต่ยังไม่ถึงท่อนร้อง
โรสยิ้มออกมา
"เพลงนี้มัน"
ทองทาเพิ่งรู้เหมือนกัน
"เพลงพี่โรส ที่เขาเอาให้ผมปรับให้นี่นา"
โรสกับทองทางงๆกันต่อไป
ปู่เชื้อและย่าหงส์เดินเข้ามาที่นิวเซอร์ไพร์ส โรสตกใจ
"พ่อแม่มาได้ยังไง!"
"เรามาเซอร์ มาซา ซาใภ้ (เซอร์ไพร์ส) เอ้อ อะไรทำนองนั้นน่ะ" หงส์บอก
เชื้อกับหงส์หันมาเจอโยทะกา โยทะกา หน้าตามีพิรุธ
เชื้อคุ้นหน้า
"เอ๊ะหนูคนนี้"
โรสมองหน้าหงส์ขอความช่วยเหลือ หงส์รู้ใจลูกชาย
"เจ้านายของหนูมาลีมัน...เจ้านายไง ที่เป็นนางงาม ออกทีวีบ่อยๆ แกเลยคุ้นหน้า แค่นั้นแหล่ะ"
หงส์มองหน้าโยทะกา จงใจบอกด้วยสายตาให้ทำตัวปกติ
โยทะกาละอายใจ ก้มหน้า เข้าใจแล้วว่าหงส์ช่วยปกปิดทุกอย่าง เชื้อพยักหน้าว่าคงใช่ ไม่สนใจอีก
บนเวที มาลีพูดต่อ
"ร้านเซอร์ไพร์สของเราผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย เคยเป็นแค่ร้านคาราโอเกะ เคยเป็นสถานที่ผ่อนคลายของผู้ชายอารมณ์เปลี่ยว ถึงกระนั้นร้านนี้ก็ยังไม่มีอนาคตจะถูกเจ้าหนี้ยึดวันไหนก็ยังไม่รู้ แต่สำหรับหนูร้านนี้คือ ชีวิตของพ่อหนู พ่อที่หนูเรียกว่าพี่"
นักข่าวสั่งช่างกล้อง
"ถ่ายเลย"
"พี่โรสใช้ร้านนี้หาเงินส่งหนูเรียน เกือบเดือนมานี้พี่เขาตัดสินใจชุบชีวิตร้านขึ้นมาใหม่เพื่อให้ร้านนี้เป็นที่ ร้องเพลงที่ๆคุณจะบอกรักตัวคุณ บอกรักคนอื่นด้วยเสียงเพลง หนูก็เลยขอใช้โอกาสนี้บอกรักพ่อ พ่อที่หนูจะไม่เรียกว่าพี่อีกแล้ว"
โรสตะลึง
กรรมการ 1ทำหน้าสะใจบอก
"อัดแล้วใช่ไหมอัดแล้วนะ ... เอ๊ะ"
"นาทีนี้หนูไม่มีความสงสัยไม่มีความอายใดๆอีกแล้วกับคำว่าลูกตุ๊ด เพราะพ่อคนนี้ เขาเป็นทั้งแม่ และเป็นทั้งพ่อ ที่หนูภาคภูมิใจ"
โรสยิ้มออกมาในดวงตา นึกไปถึงอดีตกว่าจะมีวันนี้
โยทะกาเศร้า พึมพำออกมา ได้ยินคนเดียว
"ใช่ เขาเป็นทั้งพ่อและแม่ที่ดีที่สุด ในขณะที่บางคน ไม่สนใจจะทำหน้าที่นี้ด้วยซ้ำ"
กรรมการ 2 บอก
"เอ๊าทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้"
ทองทา บอย อธิ การะเกดพลอยซาบซึ้ง
"ต่อไปนี้สำหรับหนู จะไม่มีพี่โรสจะมีแต่พ่อเท่านั้น"
โรสน้ำตาไหลลงมา
เชื้อตะโกนออกมา เสียงดังทั้งร้าน หน้าตายิ้มแย้มให้หนูมาลี ได้ยินด้วย
"เฮ้ย... ข้าเป็นพ่อมันข้าก็ไม่อายโว้ย"
"พ่อ!"
"ข้ามาหาเอ็งเพราะเรื่องนี้... ไอ้ลูกชาย"
โรสร้องไห้ออกมา กอดกับเชื้อและหงส์
"เพลงนี้พ่อแต่งให้หนูหนูจะร้องมันให้พ่อของหนูและคนที่เป็นพ่อแม่ทุกคน"
แขกในร้านปรบมือเสียงดัง บางคนเป่าปาก
เพลงวิมานดินดังขึ้น...
กรรมการ1บอกช่างภาพ
"นี่หยุดถ่ายได้แล้วหยุดถ่าย"
นักข่าวบอกช่างภาพ
"อย่าหยุด ข่าวดราม่าขนาดนี้คนดูชอบ"
กรรมการ 2 บอก
"นี่บอกให้หยุดถ่ายไง ฉันเป็นคนตามพวกเธอมาทำข่าวนะ บอกให้หยุดก็หยุดสิ"
นักข่าวถ่ายต่อไป ไม่สน สนข่าวมากกว่า !!
เพลงวิมานดินดังต่อเนื่อง โรสน้ำตาไหล ส่งจูบให้มาลี บนเวที มาลีพลอยน้ำตาไหลไปด้วย บอยเดินมาแอบจับมือโรสดีใจไปด้วยกัน
เวลาผ่าน แขกในร้านน้อยลงแล้ว ที่โต๊ะใหญ่ ทุกคนนั่งทานอาหารกันคุยกัน ยกเว้นทองทา
แคที่นั่งร้องไห้ฮือโฮ เสียงดังในขณะที่โรสนิ่งไปแล้ว
บุญมาบอก
"เขาน่ะพ่อลูก แกน่ะเป็นอะไร...เป็นม้าม เป็นเซี่ยงจี๊ เป็นไส้ติ่งในตัวเขาหรือไง ร้องขนาดนี้"
"คิดถึงหม่าม้านี่ ฮือ อยากร้องเพลงให้หม่าม้าบ้างไรบ้าง" แคที่ว่า
ทุกคนขำ
สมศรีว่า
"โฮ้ย สมชื่อ นังคาที่ จริงๆ"
"พ่อนั่งรถไฟมากรุงเทพหรือ" โรสถาม
"อื้อ...อ้วกไปสามรอบ"
อธิหัวเราะ
"เหมือนหนูมาลีเลย สมเป็นปู่หลาน"
"จู่ๆไอ้แก่มันก็นึกได้ขึ้นมา เรื่องแกมันว่าเดี๋ยวมันตายก่อนจะได้พูด เอ้ามาถึงแล้วพูดเลย"
โรสยิ้มดีใจถาม
"พูดอะไรพ่อ"
"อ๋อ..." ทุกคนตั้งใจฟัง "จำไม่ได้"
ทุกคนร้องโฮ้ย
"อ้อ ๆ... นึกออกแล้ว ไอ้เรือง แกเสียใจใช่ไหมที่ลูกแกเรียกแกว่าพี่"
โรสพยักหน้า มาลียิ้มแห้งขอโทษ
"ไอ้คนเป็นลูกนะ ชีวิตหนึ่งมันทำพ่อแม่โกรธได้เป็นพันๆครั้ง แต่ไอ้พันๆครั้งน่ะเดี๋ยวเดียวก็หายหมดไม่รู้ทำไม"
โรสพยักหน้า ร้องไห้ออกมาอีก มาลีกอดพ่อ สองพ่อลูกเอาหัวชนกันรักใคร่
เชื้อ หงส์ โรสและหนูมาลีกอดกัน แล้วฝึกเรียกฃ
"พ่อจ๋าพ่อจ๋าพ่อจ๋า อืมรู้สึกดีจัง"
ทุกคนยิ้มกัน
โยทะกายืนห่างออกมากับการะเกด มองบรรยากาศครอบครัว ที่ไม่มีตนอยู่
"ฉันพลาดแล้ว ฉันพลาดที่จะได้อยู่ตรงนั้น ...พลาดไปตลอดกาล"
"อะไรนะคะ"
โยทะกากลั้นน้ำตาไม่ได้ รีบเดินออกไป การะเกดมองตามงงๆ
"อีพวกนี้รวมหัวกันเซอร์ไพร์ส ฉันตาบวมแน่คืนนี้ มีแกเรียกพ่อๆ ฉันก็แก่เลยสิเนี่ย"
ทุกคนหัวเราะกัน
ทองทาค่อยเดินมาสมทบกับอธิ
"หายไปไหนมาวะ"
"ไปถามพวกนักข่าว ไปยืนฟังเขาคุยประเด็นกัน"
"แล้วเขาว่าไง"
ทองทายิ้มรู้แล้ว แต่ไม่บอก
"วันเสาร์นี้ ฉันจะให้หนูมาลีร้องเพลงนี้ ฉันสังหรณ์ว่าหนูมาลีจะเข้ารอบ"
"เฮ้ย จริงหรือ ... ยังไงวะ"
ทองทายิ้มมั่นใจ ในชัยชนะของมาลี
วันใหม่ในบ้านเมืองแมน นีน่า ยาหยีเพิ่งมาถึง บุษบาบัณนั่งหน้าเครียดอยู่
"มีอะไรค้า ไหนว่าวันนี้จะซ้อมร้องเพลงขึ้นคอนเสริต์พรุ่งนี้" นีน่าว่า
"มีอารมณ์ที่ไหนกันเล่า ดูข่าวนี้ก่อน"
บุษบาบัณโยนหนังสือพิมพ์ข่าวบันเทิงให้ มีรูปหนูมาลีกอดร้องไห้กับโรสจากที่ร้านในคืนวันนั้นโชว์หรา ในหน้าหนึ่ง
ยาหยีอ่าน
"หนูมาลี คืนดีเรียกพ่อ พร้อมเปิดร้านคอนเซปต์ใหม่ ทุกคนคือซุปตาร์ ….อะไรกันเนี่ย"
บุณฑริกเดินออกมาร่วมวงคุยอีกคน เพิ่งโทรศัพท์กับเพื่อนกรรมการสมาคมเสร็จ
"พวกกรรมการสมาคมเขาฝากขอโทษมา เขาไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะมีฉากดราม่าบนเวทีวันนั้น"
"บ้าที่สุด เหมือนพานักข่าวไปทำข่าวให้มันเลย เตะหมูเข้าปากหมาแท้ๆ"
"ยายโทรสกัดข่าวแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ภาพข่าวพ่อลูกกอดกันร้องไห้คนอ่านชอบ ดูสิ มีทุกเล่มเลย"
บุณฑริกเอาหนังสือพิมพ์บันเทิงทั้งหลายให้ดู อีกสองสามเล่มมีรูปโรสกอดกับหนูมาลี ขึ้นหน้าหนึ่งทุกเล่ม
บุษบาบัณกดไอแพด โวยวายลั่น
"อี๊ บ้าชะมัด ดูคะแนนนี่ คนให้อภัยมัน คะแนนกำลังวิ่งขึ้นมา ดูสิ ดู"
กราฟของหนูมาลี บนไอแพดวิ่งขึ้นเร็วกว่าของคนอื่น ที่ขยับทีละนิด ทุกคนหน้าเครียด
อ่านต่อหน้า 3
มาลีเริงระบำ ตอนที่ 12 (ต่อ)
หน้าร้าน นิวเซอร์ไพร์ส กลางวัน วันเดียวกัน มีรถแล่นเข้ามาจอดสองสามคัน คนทยอยเดินเข้ามารุมถามบอย
"เอ้อ ที่นี่ห้ามจอดรถแล้วนะครับ ร้านเราเปิดแล้ว"
ลูกค้า 1บอก
"ก็มาร้านนี่แหล่ะ"
"เพิ่งบ่ายสองโมง ร้านเราเปิดสี่โมงครับ"
ลูกค้าถือหนังสือพิมพ์บันเทิง ชี้ถามบอย
ลูกค้า 1ถาม
"ใช่ร้านในข่าวนี่หรือเปล่า"
"อ๋อครับ"
"ให้พี่ร้องเพลง มีชุดให้พี่ใส่"
"ใช่ครับ มีชุดให้ใส่ มีแดนเซอร์เต้นให้ มีแสงสีเสียงสวยสุดๆ เราพร้อมออกแบบให้พี่เป็นซุปตาร์ หนึ่งคืน ครับ"
ลูกค้าที่รุมฟังอยู่พยักหน้า
ลูกค้า1 บอก
"เยี่ยม งั้นพี่รอ จะได้มีเวลาตามญาติมาดูพี่ร้องเพลงไง"
ลูกค้า 1 เข้าไป
"ขอโต๊ะให้พี่ด้วย 5 คน"
"อ๋อ ได้ครับได้"
ลูกค้า 3 บอก
"ของพี่ 12 เดี๋ยวตามมาอีก"
"ได้ครับเชิญข้างในเลยครับ เชิญเลย"
บอยยิ้ม ดีใจมาก รีบเดินตามเข้าไป
ลูกค้า1 ในชุดแบบไมค์ ภิรมย์พร ร้องเพลงอยู่บนเวที กลายเป็นซุปตาร์ไปแล้ว คนมากมายในร้าน เด็กเสิร์ฟวิ่งวุ่น มาลีทำงานในฐานะเด็กเสิร์ฟ ถือจานอาหารมาส่ง
"ทอดมันมาแล้วค่ะ ขอโทษนะคะ วันนี้คนเยอะหน่อย"
ลูกค้า 2 บอก
"หนูมาลี ใช่ไหม พี่โหวตให้หนูอยู่นะ ดูนี่" ลูกค้าชี้มือถือ "ขอให้ชนะนะ คนรู้จักกตัญญูพ่อแม่อย่างนี้พี่ชอบ"
"ขอบคุณค่ะ"
มาลียิ้มมีความสุข มองไปรอบๆ ร้านนี้ไปได้ดีกว่าที่คิด
โรสวุ่นวายคิดเงินลูกค้าเยอะ งานเยอะ
"เอ้ามา... เอาไปหน่อยเร็ว"
การะเกดเร่งมือมา มือถือถาดแก้วน้ำเต็มถาด
"หนูทำไม่ทันแล้วนะพี่ มาจากไหนเยอะแยะ ไม่รู้"
ปลาวุ่นๆ เมาท์ไปด้วยทำงานไปด้วย
"โฮ้ย ยังน้อยไปสิ มีมารอคิวอยู่ข้างนอก พี่บอยต้องเอาสมุดไปให้เขา
จองคิวไว้วันอื่น"
ปลาและการะเกดหายไปทำงานต่อ มาลีเดินเอาบิลเข้ามาอย่างเร่งรีบ
"เพราะข่าวเรื่องแกแท้ๆนังหนูมาลี ลงหนังสือพิมพ์ฟรีๆทุกฉบับ" โรสยีหัวจับ
แก้ม รักใคร่ "อีแมวกวัก อีกุมารทอง อีนางกวักของฉัน ... ฉันรักแก"
มาลียิ้มรับจับมือพ่อตอบ รักใคร่สนิทสนมกัน
"ออกไปยืนร้องไห้กอดกันที่สี่แยกอีกสักทีไหมพ่อ เผื่อขยายร้าน"
"เฟคแระ เฟค เอาแค่นี้ ทำกันให้ทันเหอะ"
มาลีให้สัญญาณกับพ่อ... "1 2 3"
โรสทำสาวแตกกับมาลี ร้องอร๊ายออกมาพร้อมกัน พร้อมเพรียงเป็นพ่อลูก แถมทำไฮไฟว์พร้อมกัน สามทีพร้อมตะโกน
"รวยๆๆ"
คนในร้านตกใจมองพ่อลูกอย่างงงๆ มันเสียงดังวี้ดว้ายอะไรไม่รู้
สองพ่อลูกหัวเราะกัน เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย มีพ่อที่เดี๋ยวเป็นชาย เดี๋ยวเป็นหญิงกรี๊ดกร๊าดด้วยกันได้หมด ทุกรูปแบบ
ทองทาเดินออกมาขากบ้านจะไปทำงาน พอดีผ่านกระถางกุหลาบแล้วถอยมามองใหม่ชัดๆที่กระถางกุหลาบตัวแทนหนูมาลี ที่ออกดอกตูมหลายดอกอยู่
"กุหลาบสีแดงออกดอกนี่นา"
ป้าดูแลต้นไม้อยู่แถวนั้น ตอบมา
"อีกสองสามวันก็บานค่ะ"
ทองทาคิด
"บานในวันแข่งพอดี แก้ข่าวเรื่องอกตัญญูสำเร็จ คนให้อภัยกลับมาโหวตหนูมาลี อืม"
ทองทากดดูคะแนนในมือถือ
"คะแนนยังวิ่งฉิว ยะฮู้ว.... รอบนี้ชนะแน่ป้า"
ป้ายิ้มให้ ขำทองทาที่ดีใจอย่างกับแข่งเอง
การะเกดทำงานอยู่ ร้านยังไม่เปิด อธิเดินมาหา หน้าเครียด
"เอ้าพี่อธิ มาเงียบๆ"
"พี่มีเรื่องมาปรึกษาเกดน่ะ คิดอยู่นานว่าจะพูดดีไหม"
อธิหน้าเครียดอธิเอาหนังสือพิมพ์มีรูปวานิชกรอบเล็กและรูปสาวปิดหน้าแจ้งความมาให้ดูมีพาดหัวข่าว “สาวพริตตี้แจ้งจับนักธุรกิจใหญ่ข้อหาข่มขืน”
"นี่ข่าวนายวานิชถูกสาวคนนี้ฟ้องว่าข่มขืน แต่นายวานิชฟ้องกลับว่า สมยอมพี่ก็เลยอยากให้การะเกดช่วย"
"ช่วยยังไงคะ"
"ถ้าเกดช่วยเป็นพยานว่าเคยโดนเหมือนสาวคนนี้ คือพี่มีหลักฐานรูปของเกดช่วงนั้นอยู่เราจะเอาผิดวานิชได้"
"รูปวันนั้น ! พี่ยังเก็บไว้อีกหรือ"
"ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เป็นตำรวจ ไม่ใช่เพราะมีรูปพวกนั้น ป่านนี้ไอ้วานิชเอารูปเซ็กซี่ของเกดออกไปขายแล้ว"
เกดคิดถึงอดีตอันเจ็บปวด
"นับวันนายวานิชจะก่อคดีหนักขึ้น เพราะย่ามใจที่ไม่มีใครกล้าฟ้อง เราต้องช่วยผู้หญิงคนอื่นที่จะเป็นเหยื่อของมัน เราต้องทำให้มันหลาบจำ"
เกดมองหน้าโกรธมากเดินหนี
"เกด เกด"
อธิเดินตาม
เกดเดินมาสงบสติอารมณ์
"เกดโกรธหรือ"
"พี่อธิใจร้ายมาก เกดกำลังจะขอบคุณที่พี่ช่วยเกดให้พ้นจากขุมนรก แต่ตอนนี้พี่จะมาผลักเกดให้ลงไปที่ขุมนรกนั้นอีก"
"พี่เป็นตำรวจ ถ้ามีช่องทางไหนจะเอาคนผิดมาลงโทษเพื่อให้สังคมปลอดภัย พี่จะทำทันที"
"แล้วเกดต้องคิดถึงภาพวันนั้นอีกกี่ครั้ง ไหนจะตอบคำถามตำรวจ ไหนจะสายตานักข่าวทุกคนที่มองมาเกดต้องเผชิญเรื่องนี้ไปอีกกี่ปี เกดเพิ่งทำใจได้ เกดเพิ่งลืมมันได้แล้วจู่ๆจะ…. ฮือ"
การะเกดร้องไห้โฮออกมา กลับไปซึมเศร้าอีก อธิอึ้งไปพูดไม่ออก
โรสนอนไม่หลับปวดท้องอยู่ กระสับกระส่าย จนบอยที่หลับไปแล้ว ตื่นขึ้นมา
"ยังไม่หายปวดท้องอีกหรือ"
"เดี๋ยวกินยาแก้ปวดอีกสักเม็ด"
"พี่เพิ่งทานไปนี่นา ไปหาหมอกันไหมผมขับไหว"
"นอนไปเลยพูดเรื่องหมอขึ้นมาอีกทีโดนแน่"
บอยเซ็งล้มตัวลงนอน โรสลุก เดินไปหยิบยาแก้ปวดมากิน เริ่มกังวลกับเรื่องสุขภาพของตัวเอง
ทั้งหมดทานข้าวมื้อสายกันอยู่ บอยเดินเอาสมุดคิวจองมา
"ตั้งแต่ทำร้านมาไม่เคยมีใครจองข้ามเดือนแบบนี้เลย ดูนี่ คิวจองร้องเพลง มีอีกเดือนล่วงหน้า"
"ใครๆก็อยากเป็นซุปตาร์สักคืนว่างั้น" สมศรีว่า
บุญมากอดคอโรส
"เหมือนสมัยตอนคาบาเรต์เรารุ่งๆเลย นังโรส"
"ชีวิตของนังโรสกุหลาบราตรี กลับมารุ่งเรืองแล้วโว้ย"
บุญมาสมศรีร้องเย้เคาะโต๊ะไปด้วย
ร้องพร้อมกัน
"ปลดหนี้! ปลดหนี้"
มาลีเดินออกมา แต่งตัวเสร็จแล้วกำลังจะออกไปข้างนอก
"หนูต้องไปสถานีละ พ่อไปด้วยกันนะ"
โรสคิดอะไรเล็กน้อย
"วันนี้วันคอนเสิร์ตนี่หว่าลืมไปเลย คนเยอะอย่างนี้ ฉันจะทิ้งร้านไปได้ไง ให้บอยไปส่ง เดี๋ยวฉันจะไปตลาดเอง"
"งั้นผมไปส่งหนูมาลีก่อนแล้วไปตลาดด้วยกัน"
"ไม่เอาๆ ฉันไปเอง"
โรสหยิบกระเป๋าเงินแล้วเดินออกไปเลย
"เอ้าแล้วนั่นจะไปเลยหรือ เพิ่งสิบโมงเองนะ"
บอยสงสัย โรสไปไหน ทำไมรีบๆพิกล
บุษบาบัณมาถึงห้องแต่งตัว ยาหยี นีน่าหิ้วเสื้อผ้ากระเป๋าเครื่องสำอางตามมาด้วย
นีน่าบอก
"ช่างผม ช่างหน้าพวกนี้แทนที่จะมารอเรา"
"ฉันไปดูเอง"
ยาหยีพูดแล้วไปเปิดประตู แต่ทิมมี่ โกมินทร์ เปิดพรวดเข้ามา เกือบกระแทกหน้า
"ว้ายๆ หน้าแหกๆ"
สองหนุ่มโวยใส่บุษบาบัณทันที
"คุณเล่นข่าวเราสองคนใช่ไหม" ทิมมี่ถาม
"ปรกติคุณก็จ้างคนโหวตอยู่แล้ว คะแนนก็นำเราสองคนไปแล้ว ทำไมต้องทำลายอนาคตพวกเราด้วย" โกมินทร์บอก
"ฉันพูดเรื่องโกหกหรือไง คุณทำผู้หญิงท้องจริงไหม"
"มันเป็นแค่ความผิดพลาด ทุกวันนี้ผมก็จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กคนนั้น ถ้าคุณไม่คุ้ยเขี่ยให้มันเป็นเรื่อง เขาก็อยู่ส่วนของเขา"
นีน่าถาม
"แล้วคุณล่ะ ซื้อปริญญาข้อหาหนักนะ"
"ใครๆเขาก็ทำ ไอ้มหาลัยนี้ ก็จะเอาแต่เงินไว้แลกปริญญาอยู่แล้ว ผมก็จ่ายไง ผมไม่ได้ทำผิดสักหน่อย ต้องไปร้องเรียนมหาลัยเขาสิ"
"สรุปก็คือ เราแค่พูดเรื่องจริง เราไม่ผิด ออกไปจากห้องแต่งตัวคุณเบลเดี๋ยวนี้...ไป๊"
ยาหยีบอก
"ออกไปเลย ออกไป"
ยาหยีกับนีน่าช่วยกันกัน ทิมมี่และโกมินทร์ออกไป
"คนขี้โกง ผมจะแฉกลับให้หมดอนาคตไปเลย" ทิมมี่บอก
"เชิญย่ะ ชั่วโมงนี้ ฉันจ่ายเงินค่าปิดปากนักข่าวทุกคนไว้แล้ว แฉยังไง ก็ไม่มีใครสนใจแกหรอก ชิ เตรียมคำอำลาเวทีได้เลย ไอ้คนขี้แพ้ ไป๊ ไปเลย"
"ไป๊ออกไป" ยาหยีไป
ทิมมี่และโกมินทร์ออกไปจนได้ บุษบาบัณแสยะยิ้มร้าย
โรสมองหน้าโรงพยาบาล รวบรวมกำลังใจก่อนเดินเข้าไป ... ภายในห้องตรวจ โรสนั่งหน้าเครียดต่อหน้าหมอที่พลิกอ่านแฟ้มประวัติคนไข้
"ผมรู้สึกผิดปรกติครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง"
"เอ๊ะ คุณเคยมีประวัติ"
โรสพยักหน้า แพทย์มองหน้า ซีเรียสมากเพราะโรสเป็นโรคมะเร็งมาก่อน แต่ไม่ยอมรักษาต่อ
"เราคงต้องตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง"
โรสพยักหน้าอีก
ทองทายื่นกุหลาบให้ ขณะมาลี รอช่างหน้าช่างผมในห้อง
"กุหลาบสีแดงบานวันนี้ หนูต้องร้องไห้ดีเพื่อพ่อนะ"
มาลียื่นมือไปรับมา
"เดี๋ยวๆ ลืมๆ" ทองทาดึงคืนไปจูบดอกไม้แล้วยื่นให้ มาลีอาย
"ค่ะพี่ ร้องเพลงของพ่อ ต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อพ่อ"
ทองทาพยักหน้า
แพทย์ดูผลตรวจร่างกาย
"ข่าวไม่ดีนัก"
"มันลุกลามใช่ไหม โรคนั้นใช่ไหม"
"คุณตรวจพบมะเร็งมาตั้งสามสี่ปีแล้ว แต่คุณไม่ยอมรักษาต่อ คุณอยู่มาได้นานขนาดนี้ผมว่าคุณเก่งมากแล้ว ผมไม่เข้าใจจริงๆ คุณไม่ตกใจหรือ ตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็น"
โรสเมื่อสามสี่ปีที่แล้ว กับแพทย์อีกคนหนึ่งที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง
"การรักษามะเร็งต้องใช้เคมีบำบัด นี่ครับค่าใช้จ่าย"
"เงินมากขนาดนี้ผมไม่มีหรอกครับ"
"ถ้าคุณปล่อยไว้ ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะอยู่ได้อีกกี่ปี"
โรสหยิบรูปมาลี ในชุดมัธยมต้นในกระเป๋าเงินให้แพทย์ดู
"ลูกสาวผมครับหมอ เขาเรียนเก่งมาก อีกแค่ สามปีเขาก็จะเรียนจบม.6 ครูบอกว่าเขาจะได้ทุน เขาจะดูแลตัวเองได้ ผมยังมีร้าน มีลูกน้อง เด็กบ้านนอกทั้งนั้น ผมเอาเงินทั้งหมดที่มีมารักษาไม่ได้หรอกครับ"
"แล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณมีอายุอยู่ได้อีกแค่ 2- 3 ปี รักษาซะตอนนี้ ยังมีโอกาส"
"โอกาสแค่ครึ่งเดียวถูกไหมล่ะครับ หมดเงินทำเคมีบำบัดไป แต่ก็ต้องตายก็มีเยอะแยะถูกไหมครับ"
แพทย์พยักหน้า จำนนต่อเหตุผล
"3 ปี ผมเอาแค่นั้นก็พอ ผมจะทำมันอย่างดีที่สุด"
ภายในห้องตรวจ โรสบอก
"ตลกดีนะครับหมอ นี่สามปี พอดีกับที่บอกหมอวันนั้น"
"หลายปีมานี่ คุณคงเจ็บปวดทรมานมาก คุณอยู่ได้ยังไง ผมนับถือจริงๆ"
"หมอมีลูกไหมครับ"
แพทย์ยิ้มให้ พยักหน้าว่าเข้าใจ
"ตกลงคุณไม่ยอมทำเคมีบำบัดใช่ไหม แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป ผมบอกไว้ก่อนนะครับ ความเจ็บปวดทรมานนับจากนี้จะมากขึ้น จะถี่ขึ้นกว่าเดิม...หลายเท่า"
โรสเดินมาเชื่องช้า เศร้า สักพักก็เซ จนแขกในโรงพยาบาลคนหนึ่งเข้ามาจับ
"อุ๊ย คุณระวังค่ะ นั่งก่อนค่ะนั่งก่อน"
"ผมโอเคครับ ขอพักหน่อย"
แขกในโรงพยาบาลเดินจากไป
โรสมองไป ทีวีกำลังออกอากาศ มาลี ขึ้นร้องเพลงแล้ว
มาลีร้องเพลงวิมานดิน โรสนั่งดูน้ำตาคลอ แขกในโรงพยาบาลที่นั่งข้างหลัง คุยกัน โดยไม่รู้ว่าโรสนั่งอยู่ข้างหน้า
"นี่ไง ที่เป็นข่าวกับพ่อเขา โหวตเลยแม่ โหวตเลย"
แม่กับลูกยกมือถือมาโหวต โรสนั่งยิ้มดีใจ
บอยขับรถมา หลังจากไปส่งหนูมาลี ที่สถานีมาแล้ว คนส่งของจากตลาด ขี่มอไซค์มายกของจำพวก ผัก เนื้อต่างๆ ลงมา
"พี่โรสโทร.สั่งให้ผมเอามาส่งครับ"
"แล้วพี่โรสไปไหน"
"ไม่ทราบครับ นี่บิล"
บอยมองบิล งงๆ โรสหายไปไหนทั้งวัน
ในห้องออกอากาศ ทิมมี่ร้องเพลง โกมินทร์ร้องเพลงเป็นลำดับต่อไป
พิธีกรมองกราฟที่อยู่บนจอของมาลี โกมินทร์และทิมมี่ ที่สูสีกันอยู่ แย่งชิงความเป็นบ๊วย
พิธีกร1บอก
"ดูสิคะท่านผู้ชม ผู้เข้าประกวดสามท่านคะแนนสูสีมาก"
พิธีกร2บอก
"หลายวันมานี้ คะแนนหนูมาลี สูงขึ้นมาเร็วมาก เพราะข่าวที่ออกมาช่วงนี้"
"วันนี้ทั้ง โกมินทร์และทิมมี่ก็ดูเหมือนจะเกร็ง ร้องไม่ค่อยดีนะคะ ต้องมาตามดูว่าจบรายการ ใครที่ได้คะแนนต่ำสุดก็ต้องออกไปจากการแข่งขันนะคะ น่าลุ้นมาก โฮ้ยตื่นเต้นแทน"
"ตอนนี้ยังเหลืออีกสองท่าน ที่ต้องขึ้นร้องเพลง ไปเอาใจช่วยกันค่ะ"
บุษบาบัณขึ้นร้องเพลง ตามด้วยภูมิ
ในห้องคอนโทรลกลางคืนวันเดียวกัน โยทะกา ดูบุษบาบัณและภูมิ
"ร้องดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเบล ทั้งภูมิ คะแนนน่าจะสูงขึ้นไปอีก"
ภูมิร้องเพลงเสร็จเดินเข้ามาดูที่ทีวี ที่กำลังโชว์กราฟคะแนน ยิ้มดีใจกับผู้จัดการ
"คะแนนขึ้นเร็วเหมือนเดิม ยังที่ 1 อยู่"
บุษบาบัณเดินเข้ามาคุย
"ทุ่มเงินโหวตไว้เยอะล่ะสิ"
"คุณมีเงินคนเดียวที่ไหนล่ะ"
"ครองอันดับ 1 ตั้งแต่ต้นจนถึงรอบรองสุดท้าย รู้สึกดีมากสินะ"
"ก็ดี ถ้าไม่ดี คุณคงไม่อยากขนาดนั้น"
"คราวหน้ารอบสุดท้าย ถ้าเกิดต้องชิมรสชาติเป็นที่สอง คงเฮิร์ทน่าดู"
ภูมิโมโหเสียงเข้มทันที
"ไม่มีทาง ! ผมไม่ยอมแพ้คุณหรอก"
ยาหยีชี้ไปที่ทีวี
"คุณเบล มาดูที่นี่ค่ะ"
"นังหนูมาลี !"
ทั้งหมดมารุมดูที่ทีวี ดูกราฟคะแนน
พิธีกรกำลังรายงานบนกราฟคะแนน
พิธีกร1บอก
"ท่านผู้ชมคะ เกิดการเปลี่ยนแปลงอันดับแล้ว หนูมาลีแซงทั้งทิมมี่และโก
มินทร์ขึ้นมาเป็นที่สามแล้วดูสิคะดูๆ"
พิธีกร 2 บอก
"เหมือนเช่นเคยนะคะ อีก 5 วินาทีจะปิดโหวต และคนที่ได้คะแนนต่ำสุด ก็จะตกรอบ ออกจากการแข่งขัน"
อ่านต่อหน้า 4
มาลีเริงระบำ ตอนที่ 12 (ต่อ)
โกมินทร์ ทิมมี่และมาลีมองทีวี ทั้งสามคนอยู่ห้องเดียวกัน
พิธีกร 1บอก
"2... 1 หมดเวลาแล้วค่ะ"
กราฟคะแนนที่หยุดวิ่งหมดพร้อมกันเพราะหมดเวลาแล้ว
พิธีกร 2 บอก
"และคนที่ได้คะแนนต่ำสุดที่ต้องจากเราไปในคืนนี้คือ โกมินทร์ค่ะ"
โกมินทร์เศร้า ทิมมี่จับไหล่ปลอบ มาลีมองอย่างเสียใจด้วย
พิธีกร 1 บอก
"ผู้ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ เดอะซุปเปอร์สตาร์ซีซั่นสอง เราได้มาทั้ง 4 คนแล้ว เรียงตามคะแนนสูงไปจนถึงต่ำ ได้แก่..."
"ภูมิ เบล หนูมาลี และทิมมี่ ค่ะ"
"ดีใจด้วยนะหนูมาลีทิมมี่" โกมินทร์บอก
"ไม่เป็นไรนะโกมินทร์ ร้องเพลงต่อไปนะ"
"ผมเองก็แย่ การแข่งขันเวทีนี้มันสกปรกยังไงพิกล" ทิมมี่บอก
"ทำไมฉันไม่ดีใจเลยก็ไม่รู้ ความอยากจะชนะเหมือนตอนแรกๆมันปลุกไม่ขึ้นเลย"
ทองทายืนดูทีวีที่มีกราฟคะแนนอยู่
"เยสสุดยอด"
บุษบาบัณเดินมาสมทบ
"ดีใจออกนอกหน้าเกินไปหน่อยไหมคะ"
"ต้องขอบใจเธอนะเบล ส่งคนไปทำข่าวที่ร้านเรื่องหนูมาลีร้องเพลงให้พ่อจนดังไปทั้งประเทศ ข่าวนั้นทำให้คะแนนหนูมาลี ตีตื้นขึ้นมาจนได้"
"พี่ทองทา !"
"ไม่แค่นั้นนะ ตอนนี้ที่ร้านเซอร์ไพร์ส คนแน่นไปถึงเดือนหน้า เธอทำให้พ่อของหนูมาลีเขาปลดหนี้ได้แล้วล่ะ ไม่มีใครดีกับหนูมาลี เท่ากับเธอแล้วเบล"
บุษบาบัณโกรธจัด เสียงดังใส่หน้ายียวนของทองทา
"พี่ทองทา"
โยทะกาเดินออกมาจากห้องคอนโทรล สต๊าฟเดินมาหา
"คุณโยทะกา มีคนมาขอพบค่ะ"
"ฉันกำลังยุ่ง"
เธอมองออกไปโรสยืนหน้าเศร้าอยู่ เธอเสียงอ่อนลง ส่งเอกสารแฟ้มที่ถือติดมาทำงานให้ไป
"เอ้าเธอเองหรือ เอานี่ไปวางที่ห้องที" โยทะกาบอกสต๊าฟแล้วเดินไปหาโรส "เป็นอะไรไปน่ะ ทำไมหน้าซีดจัง"
"ไปด้วยกันหน่อยสิ ฉันนัดหนูมาลีไว้"
"ให้ฉันไปหรือ ทำไมหรือ มีอะไร"
"มันสำคัญกับฉันมาก มาเถอะ"
โรสจับมือโยทะกาพาเดินไปด้วยกัน
บนดาดฟ้า มาลีมองวิวอยู่เพราะพ่อนัดไว้ที่นี่ โรสและโยทะกาเดินเข้ามาหา โรสหน้าเครียด
"พ่อ ... คุณโย"
โรสมองกรุงเทพยามค่ำคืนที่อยู่เบื้องหน้า เริ่มพูดในสิ่งสำคัญ
"กรุงเทพราตรี มันไม่หลับเลยเนอะ รำเพย ตอนเธอมากรุงเทพครั้งแรก เห็นมันครั้งแรก เธอรู้สึกยังไงหรือ"
มาลี งง ในทีท่าของโรส ทำไมเรียกโยทะกาว่ารำเพย !!
"เห็นกรุงเทพครั้งแรกหรือ มันไม่ชัดหรอก ลงรถทัวร์มา ตาฉันยังมีน้ำตาอยู่เลย"
ตอนนั่งบนรถทัวร์มา เธอดูรูปของลูกตลอดเวลา
"ฉันหนีทุกอย่างมา .... ฉันมาที่นี่อย่างคนแพ้ หัวใจสลาย"
"หัวใจสลายที่ต้องทิ้งลูกมา"
มาลีเอะใจมากขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศไม่ดีเสียแล้ว
"ฉันอ่อนแอมาก แม่บอกแต่ว่ายกให้เขาไปเสีย เด็กจะมีชีวิตที่ดีกว่าเรา จากนั้นฉันก็กลืนหายไปกับแสงสีในเมืองใหญ่เมืองนี้ ฉันพยายามบอกตัวเองให้ลืมทุกอย่าง แต่เชื่อไหม ไม่มีคืนไหนเลย ที่หลับอย่างมีความสุข ความรู้สึกผิดต่อเด็กคนนั้น ไม่เคยหายไปไหน"
"พ่อกับคุณโย?"
"พ่อกับคุณโยเป็นเพื่อนสมัยเรียน ที่จริงพ่อไม่รู้จักคนชื่อโยคนนี้เลย พ่อรู้จักแต่รำเพย เด็กสวยที่สุดในโรงเรียน ที่วันๆ เอาแต่นั่งเศร้าไม่ยอมพูดกับใคร"
โยทะกายิ้ม มาลีนิ่วหน้าเครียดทันที ตัวชาลงเรื่อยๆ
"เรืองยศเป็นเพื่อนคนเดียว ที่สนใจเด็กเหม่อลอยไม่มีใครคบอย่างฉัน เรืองแบ่งข้าวให้ฉันกินทุกวัน"
"รำเพยเขามีพ่อที่ไม่ยอมทำงานทำการ ติดเหล้า ทำร้ายลูกเมีย พ่อแบ่งข้าวของตัวเองให้เขาทุกวัน เราก็เลยสนิทกัน เราเป็นรักแรกของกันและกัน"
มาลี หน้าเข้มเสียงเข้มโวยออกมา ช็อก ก้าวร้าวเล็กๆ
"พอก่อน ! พอแค่นี้! หนูไม่ฟังแล้ว หนูจะไปแล้ว พี่ทองทารออยู่ข้างล่าง"
มาลี เดินไป โรสเดินขวาง
"แกต้องฟัง ... ถึงเวลาแล้วที่หนูจะรู้ว่าแม่หนูเป็นใคร"
"หนูไม่ฟัง พ่อนั่นแหล่ะที่ต้องหยุด ถามหนูบ้างสิ เมืองนี้ให้อะไรกับหนู .... ทันที่ที่มาถึง หนูเจอพ่อเป็นเกย์ หนูใช้เวลาเท่าไหร่ กว่าจะเรียนรู้ว่าชีวิตจริงๆ มันยากเย็นแค่ไหน แล้วนี่ พอหนูดีขึ้น พ่อเอาอะไรมาให้หนูอีก ทำไม ทำไมชีวิตหนูถึงไม่ง่ายเหมือนคนอื่นๆเขา ทำไม !"
"หนูมาลี"
โยทะกาเข้ามาจับ มาลีสะบัดไม่ให้จับ
"ออกไป อย่ามายุ่งกับหนูอีก อย่าแม้แต่เรียกชื่อหนู"
โยทะกาหน้าเสีย มาลีมองเธออย่างเกลียดชัง แล้วเดินจากไป
"เขาเกลียดฉัน เขาเกลียดฉันจริงๆ"
"ไม่ เกลียดไม่ได้ ! เขาต้องรู้ เขาต้องยอมรับเธอให้ได้ ฉันไม่มีเวลาแล้ว"
"ไม่มีเวลา แปลว่าอะไร"
โรสเดินตามไป โยทะกาตามไปอีกคน
หน้าตามาลีเหมือนจะร้องไห้เมื่อเห็นทองทา
"พี่ทองทา"
"เอ้า พี่โรสมาหรือยัง เห็นเขาบอกว่าจะถึงแล้ว"
มาลีร้องไห้จนได้
"พาหนูกลับบ้าน หนูอยากกลับบ้าน"
"เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรไป"
"ทองทา ปล่อยเขา ให้เขามาเจอกับแม่ของเขา ให้เขาเจอกับความจริง"
"อะไรนะครับ"
"เขาเก็บเธอไว้ตั้งเก้าเดือน ผู้หญิงที่มีเวลาตั้งเก้าเดือนที่จะทำแท้งแล้วเขาไม่ทำ ผู้หญิงคนนั้น ถึงยังไงก็เป็นแม่เธอ ยังไงเธอก็หนีไม่พ้น"
"พี่โย ... นี่คือ"
"เขาเป็นลูกพี่ หนูมาลี เป็นลูกพี่เอง"
ทองทาตกใจมาก มาลีร้องไห้ พูดเสียงเข้ม
"ไม่ ! ไม่ใช่ อย่ามาพูดกับหนูแบบนี้ ตอนหนูไม่สบาย บ้านเรา มีเงินทั้งบ้านแค่ยี่สิบบาท ปู่นั่งสัปปะหงกเช็ดตัวหนูทั้งคืน ย่าไปเฝ้ารอเงินที่ไปรษณีย์ พ่อหนูวิ่งหาเงินหัวปั่น คุณอยู่ไหน จะบอกให้ คุณอยู่ในบ้านหรูกับเศรษฐี กินข้าวมือหนึ่งเป็นพันเป็นหมื่น นี่เรียกว่าแม่หรือ จะให้หนูเรียกแม่จริงๆหรือ"
โยทะการ้องไห้
"แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ"
"ฟังพ่อ ใครๆก็เคยทำผิด เราต้องเข้าใจ ต้องให้อภัย คนที่อยู่ได้ คือคนที่ยอมรับและอยู่กับมันให้ได้อย่างมีความสุขต่างหาก"
"พ่อเองก็เถอะ พ่อมีปู่กับย่า พ่อไม่เข้าใจหรอก ความรู้สึกถูกทอดทิ้ง มันเป็นยังไง ถ้าผู้หญิงคนนี้ตาย พิการ เป็นบ้า เป็นคนจรจัด หนูจะเข้าไปหาเขา กอดเขาและเรียกเขาว่าแม่ทันที แต่ตอนนี้ พ่อดูเขา เขาเป็นใคร เขามีชีวิตดีกว่าเราสองคนร้อยเท่าพันเท่า พ่อดู"
"หนูมาลี พี่ว่า…"
"หนูไม่ฟังอะไรอีกแล้ว คุณต้องออกไปจากชีวิตของหนู นั่นแหล่ะถึงจะทำให้หนูดีขึ้น พ่อกับพี่ทองทาก็เหมือนกัน อย่าพูดเรื่องผู้หญิงคนนี้อีก"
มาลีเปลี่ยนท่าทางปาดน้ำตา กลืนมันลงไป
"หนูจะไม่ร้องไห้ พอแล้ว ! หนูจะถือซะว่า คืนนี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
มาลีหลับตา ลืมตาตั้งสติขึ้นมาใหม่ แล้วกลับมาเย็นชา ไม่สนใจอะไรอีก เดินออกไป
"หนูมาลี !" ทองทาเรียกแล้วมองโรส
"ไปส่งเขาที่ร้าน เดี๋ยวมันเตลิดไปใหญ่ อีเด็กนี่มันน่าบีบคอ เขย่าๆ ทำไมเข้าใจอะไรยากนักวะ"
โยทะกานั่งลงร้องไห้ โรสเข้าไปจับไหล่ โอบเข้ามาปลอบ
ทองทาเดินมาส่งหนูมาลีที่หน้าร้าน
"อยากคุยกับพี่ไหม"
"ไม่ เพื่อนๆกำลังเก็บร้าน งานเยอะแยะ หนูจะไปช่วย พี่กลับไปเถอะค่ะ พรุ่งนี้ ต้องเริ่มโปรโมตอัลบั้มแล้วใช่ไหมคะ รีบนอนนะคะ"
มาลี เดินเข้าไป ทองทามองตามเป็นห่วง
โยทะกากลับมาถึงบ้าน ปวดหัวมาก กินยานอนหลับเข้าไปมากกว่าปกติแล้วนอนลง เพราะความเครียด
วันใหม่ บอยนั่งคุยกับโรสเพิ่งรู้เรื่อง
"พี่บอกความจริงเขาไปแล้วหรือ"
"บอยต้องช่วยฉันนะ บอกให้หนูมาลี ยอมรับแม่เขาบ้าง"
"ทำไมจู่ๆ ลุกขึ้นมาทำแบบนี้ล่ะครับ เมื่อก่อนพี่กลัวหนูมาลี รับไม่ได้ ก็เลยไม่บอก แล้วทำไมจู่ๆถึงบอกล่ะครับ"
"รำเพยเขาน่าสงสาร เขาน่าจะได้โอกาสแก้ไขอีกครั้ง"
"แค่นั้นจริงหรือ มันเกี่ยวกับที่พี่ไปหาหมอไหม จู่ๆไปหา ไม่ยอมให้ผมไปด้วย พี่เป็นอะไรกันแน่"
"ไปหาก็ว่า ไม่ไปก็ว่า จะเอาไงแน่"
บอยมองสีหน้าเปลี่ยนเป็นโกรธ หันหนี
"ผมไปนอนข้างนอก"
"บอย โกรธหรือ"
"เราสัญญาว่าจะบอกกันทุกเรื่องไม่ใช่หรือ ไมงั้นจะเรียกว่ารักกันได้ยังไง"
โรสกอดบอยไว้ สายตาเศร้า
"อีกเดี๋ยวนะ แล้วจะบอก รออีกแป๊บ นะนะ"
บอยชักเครียด รู้สึกว่า ต้องมีเรื่องแน่ๆ
โรสเดินมาหามาลี ซึ่งทำความสะอาดในร้านอยู่
"เมื่อคืนแกเป็นไง"
"นอนหลับสบาย ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างเหมือนเดิม พ่อล่ะ เมื่อเช้าไม่เห็นกินข้าว ได้ยาหมอไปแล้ว ยังเบื่ออาหารอีกหรือคะ"
"ฉันสบายดี"
"หนูไปดูหน้าร้านนะ ไม่รู้เขาเก็บของหมดหรือยัง"
โรสมองอย่างเป็นห่วง มาลีพยายามทำตัวเป็นปรกติ
มาลีเดินมาหน้าร้าน เจอชงโคที่เดินเข้าร้านมา เธอดีใจ
"ชงโค ไปไงมาไงเนี่ย"
"ฉันเห็นข่าว ร้านดังมากเลยนะ"
"ใช่ คอนเซ็ปต์ใหม่ ไม่มีผู้หญิงพวกนั้นแล้ว"
ชงโคหน้าเสียกับคำว่าผู้หญิงพวกนั้น
หนูมาลียิ้มแห้งเพราะไม่ได้ตั้งใจ
"ฉันขอโทษ"
ชงโคยิ้มแห้งพยักหน้า เดินมาหาเซๆหน่อยแบบคนเมา
"นี่เธอดื่มมาหรือ"
"ฉันดื่มทุกวัน ตอนแรกก็งาน ลูกค้าให้ แต่ตอนหลังก็กลายเป็นติด ต้องซื้อกินเอง"
"โห กินทุกวัน แล้วจะเหลือเงินเท่าไหร่เนี่ย"
"มีใครอยู่บ้าง เกดอยู่ไหม วันนี้ฉันว่าง ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันอยากเลี้ยงข้าวพวกเธอ"
มาลี ยิ้มพยักหน้า
ภายในร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งในเวลาต่อมา ทั้งสามนั่งดูเมนู บ๋อยยืนรอคำสั่งอาหาร
ชงโคบอกบ๋อย
"เอากุ้งอบวุ้นเส้น สเต๊กปลา แล้วก็ปลานึ่งซีอิ๊ว แล้วก็... " ชงโคทำท่าเพราะคุ้นเคยกับร้านนี้ "กรึ้บๆหนึ่งขวด"
"ของแพงๆทั้งนั้นเลย เธอไม่ต้องเลี้ยงเราแพงขนาดนี้ก็ได้" การะเกดบอก
"ฉันไม่อยากถูกต่อว่า ได้ดีแล้วลืมเพื่อน พวกเธอฟังเพลงฉันหรือยัง"
"มีเพลงใหม่แล้วหรือ"
ชงโคหน้าเสีย
"ยัง ก็เพลงเก่า เพลงเดียวนั่นแหล่ะ"
"แล้วเมื่อไหร่จะมีอัลบั้มล่ะ ดีใจด้วยนะ"
ชงโคโกหก
"เสี่ยเขาบอกไม่นานมานี้ แล้วเธอล่ะหนูมาลี ดีใจด้วยนะที่เข้ารอบ"
มาลีพยักหน้า
"ไม่ดีใจสักนิด ไอ้การประกวดนี่ ฉันไม่น่าเริ่มต้นตั้งแต่แรกเลย สุดท้าย เพราะการประกวดนี่ ทำให้ฉันต้องมาเจอกับ ...เอ้อ"
มาลีหยุดแค่นั้น
"เจออะไร มีอะไรหรือเปล่า"
"ช่างเถอะ"
รายการข่าวบันเทิงบนจอโทรทัศน์ มีรูปภาพนิ่งเสี่ยวานิช การะเกดเห็นแล้วก็อึ้งไปกับรูปนายวานิชบนจอทีวี
"นายวานิช… ขอให้มันโดนจับ"
การะเกดนั่งหน้าเครียดไป
"เดี๋ยวเขาก็รอดเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ เขารอดมาหลายครั้งแล้ว" ชงโคบอก
"คนเลว เอาอีกแล้ว มีผู้หญิงกี่คนแล้วที่โดนมันทำร้ายจิตใจ เมื่อไหร่จะมีคนจัดการกับมันเสียทีนะ" มาลีว่า
เสี่ยคนหนึ่ง ซึ่งเคยนอนกับชงโคเดินมาทัก
"เอ้าหนูเชอร์เบ็ต มาทำอะไรจ๊ะ"
ชงโคอายเพื่อน ไม่อยากพูดด้วย
"เอ้อ มาทานข้าวกับเพื่อน"
"มาทำงานหรือ พาเพื่อนมาด้วย สวยๆทั้งนั้นเลย เป็นเลดี้ชาร์ล็อตกันหมดหรือเปล่า"
เสี่ยจับมือมาลี
"นี่ ปล่อยนะ"
"คราวที่แล้ว เฮียพาเชอร์เบ็ตเขาไปภูเก็ตตั้งอาทิตย์ เราสนุกกันมากเลย หนูสองคนอยากไปไหม เฮียพาไป"
"เอ๊ะนี่ืจะปล่อยหรือไม่ปล่อย ปล่อย"
มาลีสะบัดออกจนได้
"เฮีย.... พูดน้อยๆหน่อยได้ไหม บอกว่าเพื่อนก็เพื่อนสิ" ชงโคบอก
"เอ๊ะ แค่นี้ต้องอารมณ์เสีย หมู่นี้ไม่มีงานล่ะสิ เลดี้คนใหม่ๆ ออกมาทุกเดือน พวกคนเก่าๆอย่างเธอก็เตรียมถูกโละ เฮอะ ยังจะพูดไม่ดีกับลูกค้า ....ไม่ยุ่งก็ได้วะ เชอะ"
เสี่ยสะบัดหน้าจากไป
ชงโคนั่งเศร้า เงียบกันไปทั้งโต๊ะ
"ฉันไปเข้าห้องน้ำ"
ชงโคกลั้นร้องไห้ มาลีลุกตามไป
ชงโคเดินร้องไห้ออกมา มาลีตามมา
" เธอร้องไห้หรือ"
ชงโคดุใส่ แต่เธอน้ำตาไหล
"ก็บอกแล้วไง ว่าฉันจะไปเข้าห้องน้ำ ไม่ต้องตามมา กลับไปซะ !"
ชงโคปาดน้ำตาเดินหนีไป มาลียืนอึ้ง
มาลีกลับมานั่ง การะเกดพอจะเดาออกเหมือนกัน
"แต่งตัวสวย มีรถขับ มีมือถือ มีอาหารราคาแพงๆกิน คนอื่นมองมามีแต่อิจฉา แต่ตัวเองเท่านั้นแหล่ะที่รู้ว่า น่าอิจฉาจริงไหม"
"เขาดูไม่มีความสุขเลย เราจะช่วยชงโคยังไงดี"
"สุขสบายขนาดนี้ จะให้เขากลับไปเป็นเด็กเสิร์ฟอีกครั้ง เขาไม่ไปหรอก"
"เงินกับศักดิ์ศรี เลือกยากสินะ"
"คนเดี๋ยวนี้คงเลือกเงิน แต่ดูวันนี้สิ ตอนไอ้เสี่ยนั่นเข้ามา หน้าสวยๆของชงโค ซีดแล้วซีดอีก เครื่องสำอางแพงๆ ปิดไม่มิดเลย เราจะหลอกตัวเอง แล้วเชิดหน้าในสังคมได้นานเท่าไหร่ล่ะ"
"เพราะไอ้วานิชนั่นคนเดียว ชงโคถึงเป็นแบบนี้"
การะเกดอึ้ง กลับไปคิดเรื่องเอาผิดวานิชอีกครั้ง
อ่านต่อตอนที่ 13