xs
xsm
sm
md
lg

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 6

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 6

กลายเป็นว่า ภายในห้องโถงบ้านหลังนั้นกำลังตั้งวงเล่นไพ่รัมมี่กันอย่างเมามัน พอเห็นหน้าต่างเปิดผัวะ ขาไพ่ก็ตกใจ แหกปากร้องลั่นบ้าน โดยเฉพาะกำจายเสียงดังกว่าใคร

“ตำรวจ”
จอมนางกับกระแตเหวอ นึกว่า 3 คน มาทำเรื่องบัดสีบัดเถลิง ที่แท้ชวนกันมาเล่นไพ่นี่เอง

วงไพ่กระเจิง ขาไพ่ด่าว่าสามคน ตุ้มพูดขึ้นด้วยความโมโห พอรู้ว่าสองคนคิดว่าตนเป็นแฟนกะโก่ง
“จอมกับกระแตคิดว่าชั้นเป็นแฟนน้ากำจายกับพี่โก่ง เห็นชั้นสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนั้นเลยเหรอ”
กำจายกับโก่งเหล่ตุ้ม ทำไมวะ พวกน้าๆ เป็นไง
ตุ้มเหลียวไปเห็นรีบแก้ “ชั้นพูดผิดน่ะจ้ะ ปากไวไปหน่อยชั้นตั้งใจพูดว่าน้ากำจายกับพี่โก่งไม่ลดตัวมาเอาชั้นหรอก”
“แล้วที่ชั้นเห็นกระซิบกระซาบกันตรงถนนล่ะ ดูเหมือนผัวเมียหยอกล้อกันเลย” กระแตท้วง
กำจายเซ็ง “มโนไปเองแล้วเอ็ง”

ความจริงที่กำจายเอย โก่งเอกกระซิบข้างหูตุ้มหัวร่อหัวใคร่กันนั้น คือ
กำจายกระซิบบอกตุ้มว่า “น้าเอาไพ่มาสำรับ จะซ่อนไว้ใต้ผ้า เอ็งอยากตัวอะไร ขยิบตาบอกน้า”
“น้ากำจายเนี่ย ขี้โกงตัวพ่อ” ตุ้มหัวเราะชอบใจ ตีแขนกำจายเบาๆ
โก่งกระซิบตุ้ม “อย่าไว้ใจพี่กำจายมาก เล่นรัมมี่ทีไร ตีโง่ประจำ จะพาเอ็งโง่ไปด้วย”
ตุ้มหยิกโก่งหมับ “มาแช่งชั้นตีโง่ เดี๋ยวก็กินพี่โก่งมันทุกตาเลย”
“คว่ำพี่ไม่ลงหรอก พี่น่ะเซียนโกงไพ่” โก่งหัวเราะร่า

พอได้ฟังจบลง จอมนางกับกระแตถึงบางอ้อ ตอนเห็นสามคนกระซิบกระซาบกัน ที่แท้กำลังวางแผนโกงไพ่
“หนีไปเล่นไพ่ก็แย่แล้ว ยังไปโกงเค้าอีก” กระแตค้อนควัก
“ปู่สั่งกี่ทีแล้ว ห้ามเล่นไพ่ เล่นการพนันมีแต่หมดตัว” จอมนางฉุน
“อย่าบอกครูนะจอม พี่ต้องโดนครูเทียมด่าไปยันชาติหน้า” โก่งขอร้อง
โก่ง กำจาย ตุ้ม หน้าเสียทั้งแถบ กลัวจอมนางฟ้องครูเทียมที่เกลียดเรื่องการพนันนี้มาก

ไม่นานต่อมา สามเซียนไพ่ ตุ้ม กำจาย โก่ง ถูกจอมนางบังคับให้นั่งประนมมือต่อหน้าพระประทานในโบสถ์ใกล้บ้าน
จอมนางพนมมืออยู่ สั่งการเสียงเข้ม “พูดตามชั้น...ต่อไปนี้ลูกช้างจะไม่เล่นไพ่”
ตุ้ม กำจาย โก่ง ว่าตามพร้อมกัน “ต่อไปนี้ลูกช้างจะไม่เล่นไพ่”
“ถ้าลูกช้างผิดคำพูด ขอให้มือด้วน”
ทุกคนเงียบกริบ โก่งอ้ำอึ้ง บ่นบ้าออกมา “แรงไปมั้ยจอม”
“เลือกเอา ระหว่างให้ฟ้องปู่ กับสาบานหน้าพระประธาน”
ตุ้ม กำจาย โก่งจำใจประสานเสียงสาบานพร้อมกัน
“ถ้าลูกช้างผิดคำพูด ขอให้มือด้วน”
ทั้งสามหน้าซีด สยอง กับคำสาบานของจอมนาง กลัวมือด้วน

ต่อมา จอมนาง กระแต ตุ้ม กำจาย และโก่ง เดินคุยกันมาในลานวัด จอมนางเปิดคอร์สอบรมอีกรอบ
“การพนันเป็นสิ่งไม่ดี คนหมดตัวเพราะการพนันมาเยอะแล้ว”
“น้าไม่ไปอีกแล้วล่ะจอม กลัวมือด้วน”
ระหว่างนี้ พร้อมพงศ์ขับรถกลับจากตามหาพงศ์เทพ จอดรถแวะทักจอมนาง
“หนู หนูเป็นนางเอกลิเกคณะเทียมฟ้าใช่มั้ย ลุงจำหน้าได้”
“ใช่จ้ะ ลุงมาไหว้พระเหรอจ๊ะ”
“ลุงอาศัยนอนวัดนี้น่ะ ลุงมาตามหาลูกชาย หนูเคยเห็นลูกลุงมั้ย”
พร้อมพงศ์กำลังจะเอารูปพงศ์เทพในโทรศัพท์มือถือให้จอมนางดู โก่งร้องทักขึ้นมาซะก่อน
“รถโดนอะไรมาน่ะลุง”
พร้อมพงศ์เลยยังไม่ได้ให้จอมนางดูรูป บ่นอย่างหงุดหงิด “รถซิ่งที่ไหนไม่รู้ โผล่มาชนท้าย ชนแล้วหนี จำทะเบียนรถมันไม่ได้ด้วย”
กระแตถาม “รถสีอะไร หน้าตาคนขับเป็นอย่างไงจ๊ะ เผื่อพวกชั้นรู้จัก”
“ไม่เห็นหน้าคนขับ มันไม่ยอมลงจากรถ รถมันสีขาว...น่าจะเป็นรถมือสอง ทะเบียนสองตัวหลัง...09”
“คุ้นๆ ว่ะ ไอ้รถคันนี้” กำจายนึกใหญ่
ตุ้มนึกออกก่อน โพล่งขึ้นมา “รถฟ้าประทานไง”
พร้อมพงศ์ตาวาว ตามตัวไอ้คนชนเจอแล้ว ได้ไถเงินแน่ ลืมเรื่องที่จะให้จอมนางดูรูปลูกชายไปเลย

ตุ้มหุบปากทันที ไม่น่าเผลอหลุดปากพูดไปเลย ทำแฟนตัวเองเดือดร้อน

พร้อมพงศ์ขับรถพาพวกจอมนางมาส่งบ้าน พร้อมพงศ์ตามลงมา เพื่อดูรถฟ้าประทานใช่คันที่ชนท้ายรถตนหรือเปล่า

“จอดตรงเนี้ยจ้ะ นี่บ้านชั้น”
เจ๋งมองบ้าน ตายห่าซวยแล้วไง พี่เทพอยู่บ้านนี้ เจ๋งเลยรีบพูดว่า
“อย่าเอาเรื่องเค้าเลยลุง รถลุงบุบนิดเดียวเอง”
พร้อมพงศ์ไม่ยอม “ยังไงข้าต้องเรียกค่าเสียหาย”
ทั้งหมดลงจากรถ กำจายพาพร้อมพงศ์มาดูรถฟ้าประทานที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“รถคันนี้เหรอเปล่า ที่ชนท้ายรถพี่”
พร้อมพงศ์พยักหน้าหงึก “ใช่ คันนี้แหละ จำได้”
“ชั้นไปตามฟ้าประทานมาตกลงค่าเสียหาย”
โก่งเดินไปทางตัวบ้าน ตุ้มหน้าเสีย กลัวโดนฟ้าประทานดุ ที่ดันเป็นคนบอกว่าเป็นรถฟ้าประทาน
พร้อมพงศ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ งานนี้กะฟันค่าเสียหายสูงลิ่ว

ทางด้านหลง ขับรถตู้พาครูเทียมกลับจากโรงพยาบาล รถแล่นเข้าซอยบ้านมาแล้ว
ครูเทียมบ่นเสียดายตังค์ “ไปหาหมอแต่ละทีก็เปลืองเงิน ไหนจะค่าน้ำมัน ค่ากินข้าวนอกบ้าน”
จู่ๆ รถตู้เครื่องดับ
“ดีนะ มาเสียเอาตอนขากลับ”
หลงสตาร์ทหลายที แต่ไม่ติด หันไปบอกครู “เดินอีกนิดก็ถึงบ้านแล้ว ครูกลับไปก่อนครับ ผมจะซ่อมรถ”
“จอดไว้เนี่ยแหละ ไปตามโก่งมาช่วยซ่อม”
หลงขบคิด เอาไงดี จะซ่อมเอง หรือไปตามคนที่บ้านมาช่วย

ตรงที่จอดรถ พร้อมพงศ์เถียงกับฟ้าประทานลั่นหน้าบ้าน จอมนางกับตุ้มไม่ร่วมวงด้วย ปล่อยให้คู่กรณีตกลงกันเอง
“รถผมก็มีรอย ต่างคนต่างซ่อมแล้วกัน”
“ผมขับของผมอยู่ดีๆ คุณมาชนท้าย คุณเป็นคนผิด ต้องจ่ายค่าซ่อมทั้งสองคัน” พร้อมพงศ์ไม่ยอม
“จ่ายๆ ลุงแกไปเหอะ จะได้รีบไป” หลงลุกลี้ลุกลน กลัวพงศ์เทพกลับมา ความแตก
ฟ้าประทานโมโห “เรียกเงินตั้งหมื่นนึง เยอะเกิน”
ระหว่างนี้ครูเทียมเดินกลับบ้านมาคนเดียว หลงไม่ได้มาด้วย ครูจำพร้อมพงศ์ได้ “อ้าว คนที่เก็บกระเป๋าสตางค์ได้นี่”
“พระเอกของครูซิ่งรถชนท้ายรถผม ไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายครับ” พร้อมพงศ์ฟ้อง
“รถลุงแทบไม่เป็นไร ดูรอยบุบสิครับครู นิดเดียว” ฟ้าประทานชี้รอยบุบให้ครูดู
ครูเทียมดูแล้วบอกกับพร้อมพงศ์ “บุบแค่นี้ เคาะนิดเดียวก็เหมือนเดิม จ่ายเสียหายพันนึงก็พอ”
พร้อมพงศ์ต่อรอง “เห็นแก่ที่ผมชอบดูลิเก เอาสองพันก็ได้ครับ”
ฟ้าประทานไม่ยอม “พันเดียว มากกว่านี้ ไม่จ่าย”
ครูเทียมตัดความ “ครูช่วยออกพันนึงแล้วกัน เรื่องได้จบๆ”
ฟ้าประทานจอมงก จำใจควักเงินในกระเป๋าให้พร้อมพงศ์ 1 พันบาท ครูเทียมควักให้อีกพัน พร้อมพงศ์เก็กหน้ายังไม่พอใจ น้อยกว่าที่วาดหวัง

พร้อมพงศ์ขับรถมายิ้มหน้าระรื่น ได้เงินมาตั้งสองพันบาท
“กินนิ่มๆ เลยนะลุง ไปให้อู่เคาะรถไม่กี่ร้อยเอง” เจ๋งบ่น
“ที่เหลือเป็นค่าทำขวัญลุงเว้ย”
หลงก้มๆ เงย ๆ ซ่อมรถตู้คณะลิเก เลยไม่เห็นรถกระบะพ่อที่แล่นใกล้เข้ามาข้างหลัง
พร้อมพงศ์มองผู้ชายที่ยืนหันหลัง ก้มๆ เงยๆ ซ่อมรถตู้อยู่ตรงหน้า เอะใจ ที่รูปร่างคลับคล้ายคลับคลาลูกชายตัวแสบมาก จึงชะลอรถเพื่อดูหน้า
หลงเหลือบมอง เห็นรถกระบะกำลังแล่นมา จึงหันไปโบกมือให้รถกระบะแล่นหลบรถตู้ พอหลงโบกมือให้ก็ต้องตาเหลือก รถสีแดงปุโรงทั่งแบบนี้ นั่นมันรถกระบะพ่อ !
พร้อมพงศ์เห็นไอ้ลูกชายตัวดีเต็มตา “ไอ้เทพ”
หลงอุทานลั่น “พ่อ”
พร้อมพงศ์จอดกึกลงจากรถ หลงหรือจะอยู่รอให้พ่อจับตัว วิ่งหนีไปก่อนแล้ว
พร้อมพงศ์โมโหกลับขึ้นรถปิดประตูปัง จะขับไล่ตามลูกชาย เจ๋งที่หายตะลึง รีบดึงกุญแจรถออก กะไม่ให้ลุงตามพี่เทพของมัน
“เอากุญแจมา !
เจ๋งส่ายหน้าไม่ให้
“เดี๋ยวลุงจะกลับมากระทืบเอ็ง”

พร้อมพงศ์คาดโทษไอ้เจ๋งตัวแสบ แล้ววิ่งไล่ตามลูกชายไปติดๆ

อ่านต่อหน้า 2

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 6 (ต่อ)

สองพ่อลูกวิ่งไล่กวดกันมาตามถนนละแวกบ้านครูเทียม พงศ์เทพหรือหลงวิ่งหนีตามซอกซอยที่พอรู้ทาง พร้อมพงศ์วิ่งไล่กวดตามมาห่างๆ

หลงตะโกนบอกพ่อ “ปล่อยผมไปเถอะพ่อ”
พร้อมพงศ์ตะโกนตอบ “เอ็งต้องกลับบ้านกับพ่อ”
หลงเห็นพ่อยืนยันจะเอาตัวกลับบ้านให้ได้ เลยเร่งฝีเท้ากวดเต็มที่
หลงวิ่งทิ้งระยะห่างพ่อมากขึ้น พร้อมพงศ์แก่แล้ววิ่งช้าลงทุกทีๆ
ฝ่ายเจ๋งยืนกระวนกระวายอยู่ตรงรถกระบะห่วงพี่เทพของมัน จะโดนลุงพงศ์จับตัวได้มั้ย จอมนางกับโก่งหิ้วกล่องเครื่องมือช่างมาช่วยหลงซ่อมรถตู้ พอเห็นเจ๋งก็แปลกใจ
“ยังไม่ไปอีกเหรอ”
“รอลุงครับ ลุงแกไปยิงกระต่าย”
เจ๋งไม่อยากโกหกมากกว่านี้ และไม่เปิดช่องให้จอมนางชวนคุย กลัวหลุดถึงพงศ์เทพ เจ๋งหนีขึ้นไปนั่งรอลุ้นในรถ
“ไอ้หลงไปไหน” โก่งมองหา
จอมนางมองหาหลงไม่เจอ นึกฉุนนิดๆ ที่หลงชอบหายไปเฉยๆ และทำตัวน่าสงสัยอยู่เรื่อย

ฟากพร้อมพงศ์ใกล้หมดแรงเต็มที วิ่งไล่ตามจับลูกชายจนเหนื่อยหอบ ขณะที่หลงไม่มีท่าทีเหนื่อย วิ่งโกยแนบด้วยความเร็วระดับเดิม
สุดท้ายพร้อมพงศ์ทรุดลง เอามือทาบอกซ้าย ด้วยเจ็บหน้าอก
หลงเหลียวไปมอง “อะไรอีกล่ะพ่อ”
“หัวใจพ่อ...เต้นเร็วมาก” บิดาจอมมารยาบอก
สีหน้าพร้อมพงศ์คล้ายเจ็บหน้าอกมาก หน้าตาเหยเก
หลงไม่เชื่อ “ตีบทแตกมากพ่อ”
ร่างพร้อมพงศ์ทรุด ล้มลง
“พ่อ...พ่อ...”
หลงชักห่วงพ่อ วิ่งย้อนกลับมาดูเชิงพ่ออยู่ห่างๆ ชั่งใจว่าพ่อเล่นละครตบตาหรือเปล่า พร้อมพงศ์
นอนหลับตาร่างกายไม่ไหวติง หลงตกใจพ่อไม่ได้เล่นละคร
“พ่อ”
หลงรีบวิ่งมาหาพ่อ
“อย่าเป็นอะไรไปนะพ่อ! ผมจะพาพ่อส่งโรงพยาบาล”
หลงรีบพยุงพ่อขึ้น พร้อมพงศ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ล็อคตัวลูกชายหมับ
“เสร็จล่ะไอ้เทพ”
“โธ่พ่อ หลอกอีกแล้ว”
หลงยื้อยุดดิ้นหนี แต่พร้อมพงศ์โถมทั้งตัวจับล็อคตัวลูกชายไว้แน่น ไม่ยอมให้หลุดมือ

โก่งซ่อมรถไปเรื่อย จอมนางชะเง้อคอ สอดตามองหาหลง
“ซ่อมไปนะพี่โก่ง ชั้นไปเดินหาพี่หลง”
จอมนางไปเดินหาหลง อยากรู้แอบไปทำอะไร?
ทางด้านสองพ่อลูกคลุกวงในกอดปล้ำกันชุลมุน หลงพยายามดิ้นหนีให้หลุดจากพ่อ
ห่างออกไปไม่ไกล จอมนางเดินตามหาหลงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
หลงเห็นจอมนางเดินมา รีบออกแรงดึงพ่อล้มกลิ้งลงไปข้างทาง ไม่ให้จอมนางเห็น
จอมนางมองหาไปบนถนน แต่ไม่เห็นใคร
“พี่หลงแอบแว้บไปไหนเนี่ย”
จอมนางเดินไปหาทางอื่น

หลงกับพร้อมพงศ์สู้กันจนเหนื่อยหอบ นอนแผ่หลากันทั้งคู่
“เหนื่อยชะมัด” หลงทำเป็นหอบ ลิ้นห้อย
พร้อมพงศ์หอบแฮ่กๆ “เทพ พ่อว่าเราอย่าใช้กำลังเลยวะ”
“หมดแรงแล้วเหรอพ่อ”
“เออ”
“หมดจริงนะ”
“ลุกไม่ไหวแล้วเนี่ย”
“งั้น พ่อนอนต่อนะ”
หลงเผ่นแนบหนีต่อไม่ได้เหนื่อยจริง หลอกพ่อเอาคืน
“มันกะล่อนเหมือนใครวะ”
พร้อมพงศ์โมโห แต่หมดแรงวิ่งตามไม่ไหว เลยไม่ไล่ตามลูกไป

หลงรีบกลับมาซ่อมรถ อยากไปก่อนพ่อกลับมา รถติดแล้ว จอมนางกลับมาจากเดินหาหลง
“พี่หลง หายไปไหนมาจ๊ะ” จอมนางมองจับผิด
หลงโกหก “ไปเดินหาซื้อหัวเทียนครับ หัวเทียนรถบอด กลับบ้านกันครับ”
จอมนางไม่เชื่อเพราะรู้จักร้านรวงแถวนี้ดี “แถวนี้มีหัวเทียนขายซะที่ไหน”
หลงอยากจะบ้าตาย กำลังรีบๆ มาเจอสาวน้อยช่างซัก หลงสตาร์ทรถ บีบแตรเร่งให้จอมนางขึ้นรถแล้วขับรถไปทันที โก่งร้องลั่น ไม่ทันขึ้น
“เฮ้ย เอ็งลืมข้า”
หลงหยุดรถให้โก่งขึ้น จอมนางมองสงสัย พี่หลงจะรีบไปไหนกันบ้านก็อยู่แค่นี้
ไอ้เจ๋งลงจากรถกระบะ ดีใจที่พงศ์เทพรอดจากมือมาร
“พี่เทพรอดมาได้ไงวะ”
พอรถตู้แล่นพ้นหัวโค้ง พร้อมพงศ์ก็เดินโผเผแข้งขาอ่อนมา เจ๋งรีบไปหาลุง
พร้อมพงศ์ยังหอบเหนื่อย มองหาไปทั่ว “รถตู้ไอ้เทพไปไหนแล้ว”
“มีใครไม่รู้มาขับไปน่ะลุง”
พร้อมพงศ์ตาลุก “ใคร”
เจ๋งตีฝีปากใส่ “จะไปรู้เหรอลุง บ้านเกิดไม่ได้อยู่แถวนี้”
“ยียยวนข้าอีกนะ ไอ้หลานทรพี! ไม่ช่วยลุงจับไอ้เทพ”
พร้อมพงศ์สำเร็จโทษ ถีบไอ้เจ๋งเต็มบาทาไป 1 ที เจ๋งถลา ตูดแอ่น
“เทพ เอ็งต้องอยู่แถวนี้ พ่อต้องหาเอ็งเจอ”

พร้อมพงศ์พูดจบก็ไปยืนพิงรถ หอบไม่หยุด ไล่ตามลูกชายจนหมดแรง

คืนนั้นเกือบทั้งคืนหลงนอนไม่หลับ กลัดกลุ้มใจ ลุกออกมารับลมข้างนอก คิดในใจ

“อย่าบอกเสี่ยเต๊กนะพ่อ ผมไม่อยากหนีไปที่อื่น ผมชอบที่นี่”
หลงมองบ้านอันอบอุ่นของครูเทียมอย่างอาวรณ์ ใจไม่อยากจากไป
ขณะเดียวกันพร้อมพงศ์เองก็นอนไม่หลับ ออกมาหน้ากุฎี คิดหนัก เอายังไงกับไอ้ลูกชายตัวแสบดี คิดแค้นอยู่ในใจ
“จะโทร.รายงานเสี่ยให้มาช่วยเอาตัวไอ้เทพกลับ หรือลากคอมันกลับไปเองดีวะ”
พร้อมพงศ์ขบคิดหาทางออกที่ดีที่สุด

ดึกดื่น บ้านเงียบเชียบทั้งหลังครูเทียมมักใช้เวลานี้ เพ่งสมาธิแต่งกลอนลิเก
“แม้เจ้าไม่รักข้า ข้าก็ภักดีเจ้าคนงาม”
อ่านได้แค่ท่อนนี้ มือขวาครูเทียมเกิดสั่น เขียนหนังสือออกมาไม่เป็นตัว ครูพยายามทำมือให้นิ่ง แต่ทำไม่ได้ จำต้องวางปากกา ตัดใจเลิกเขียนกลอน
สีหน้าชายชรากังวลหนัก หากตนล้มป่วยอาการหนัก เขียนกลอนลิเกไม่ได้ ดูแลคณะไม่ได้ คณะเทียมฟ้าก็ต้องลำบากกว่าเดิม

วันถัดมาครูเทียมเรียกจอมนางมาหา พลางส่งสมุดกลอนลิเกของครูให้หลานสาว
“ให้ชั้นทำไมจ๊ะปู่”
ครูเทียมเก็บมือขวาซ่อนด้านหลัง แม้มือสั่นเพียงนิดๆ แต่ครูก็กลัวจอมนางสังเกตเห็น
“ให้เอาไปชั่งกิโลขายเหรอจ๊ะ”
ครูเทียมเขกกบาลหลานสาวหนึ่งโป๊ก
“แล้วปู่ให้ชั้นทำไมเล่าจ๊ะ นี่สมุดกลอนของปู่”
“จอม เอ็งต้องหัดแต่งกลอนลิเก”
“ปู่เคยบอกชั้น ให้ชั้นโตอีกหน่อย ปู่ถึงจะให้หัด” จอมนางท้วง
“ปู่วัยรุ่นเว้ย ใจร้อน”
“รุ่นไหนเนี่ย”
“จอมเอ๊ย อีกไม่นาน...ปู่จะยกคณะเทียมฟ้าให้เอ็งดูแล”
จอมนางหน้าเหรอหรา ปู่พูดเรื่องยกคณะให้เร็วเกินกว่าจอมนางจะตั้งตัวทัน

เจ๋งตื่นแต่เช้า รีบขับรถกระบะมาหาพงศ์เทพเทพที่บ้านครูเทียม ลงรถมาชะเง้อมองหา แต่ไม่เห็นพี่เทพ เลยถือวิสาสะเดินเข้าบ้านมาเลยท่าทางเจ๋งร้อนใจมาก
เจ๋งเดินปรี่เข้ามาสอดตามองหาไปทั่ว หลงมาเห็นเจ๋งพอดี
“เจ๋ง! แอบเข้ามาทำไม เดี๋ยวคนก็จับพี่ได้หรอก”
“ลุงพงศ์หายไปพี่”
หลงไม่เชื่อ “พ่อเล่นละครตบตาน่ะ”
“คราวนี้ของจริงพี่ ผมตื่นมาตอนเช้าไม่เจอลุง เด็กวัดบอกว่า เห็นลุงพงศ์ออกไปตอนเช้ามืด ผมขับรถหาลุงแถวนี้จนทั่ว ไม่เจอ เลยมาหาพี่”
“เมื่อวานกลับไป พ่อพูดอะไรบ้าง”
“ลุงด่าพี่ซะเปิดเปิง”
“พ่อต้องโกรธพี่ เลยเอาคืน หนีไปบ้าง”
หลงใจเสียห่วงพ่อจับใจ

หลงขับรถกระบะตามหาพ่อทั่วอำเภอบางไทร แต่ไม่มีแม้เงา หลงเหนื่อยจอดรถเข้าข้างทาง
“เหมือนดูหนังเรื่องเดิม แค่เปลี่ยนคนเล่น คราวก่อน พ่อพี่ตามหาพี่ คราวนี้ พี่ตามหาพ่อ” เจ๋งบ่น
“พี่ว่า พ่อต้องกลับกรุงเทพฯไปแล้ว” หลงใช้ความคิด
เจ๋งตาเหลือก “ซวยล่ะสิ”
หลงงง “ทำไมต้องซวย”
“อืม...วันที่พี่หนีงานแต่ง เสี่ยเต๊ก...อืม...เสี่ย...” เจ๋งกระอึกกระอัก
“เสี่ยทำอะไร”
“เสี่ยเต๊กมาที่บ้าน ให้ลูกน้อง....อืม...ยำพ่อพี่ซะอ่วม”
“ทำไมเอ็งไม่บอกพี่”
“ผมไม่อยากให้พี่กลับไปแต่งงานอ่ะ”
“โธ่เว้ยไอ้เจ๋ง”
หลงรีบขับรถออกไปทันที

ขณะเดียวกันเสี่ยเต๊กกำลังโอ้โลมสาวสวยอยู่ที่ห้องทำงานในเล้าจน์ เบิ้มกับพลเข้ามา
“เฮ้ย พวกเอ็งมาอยู่นี่ แล้วใครเฝ้าบ้านเฮียพงศ์”
“ผมไปอยู่โยงตั้งหลายวัน เฮียพงศ์กับลูกชายไม่กลับบ้าน หนีหายไปแล้วล่ะครับเสี่ย”
เสี่ยเต๊กยัวะ ลุกเดินมาถีบพลดังพลั่ก!
“อั๊วสั่งให้เฝ้าก็ต้องเฝ้า! เป็นเดือนเป็นปี ก็ต้องเฝ้า จนกว่าเฮียพงศ์กับไอ้เทพจะกลับมา”
พลหงอกลัวมาก “ผมจะกลับไปบ้านเฮียพงศ์เดี๋ยวเนี้ยครับเสี่ย”
เสี่ยเต๊กหันไปบอกเบิ้ม “เอ็งก็ไปด้วย”
“ครับเสี่ย”
เบิ้มกับพลรีบออกไป สาวสวยมาคลอเคลียเอาใจเสี่ยให้หายโมโห
ถูกเสี่ยเต๊กตวาด “อั๊วอารมณ์ไม่ดี” สาวเจ้าขยาด “ไอ้เทพ เอ็งซมซานกลับบ้านเมื่อไหร่ ข้าจะเอาเลือดหัวเอ็งออก!”
เสี่ยเต๊กคำรามหน้าตาสุดแค้น

ขณะนั้นหลงบึ่งรถกระบะเหยียบไปร้อยกว่า แล่นมาราวกับจะบิน ห่วงพ่อใจร้อนเป็นไฟ
“เบาๆ หน่อยพี่”
“พี่เป็นห่วงพ่อ ต้องไปให้ถึงบ้านก่อนพ่อ”

รถกระบะสีแดงปุโรทั่ง ทะยานเข้าสู่เขตกรุงเทพฯ ไปแล้ว

อ่านต่อหน้า 3

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 6 (ต่อ)

พงศ์เทพขับรถมาจอดหน้าบ้าน โดยไม่ดับเครื่อง ห่วงพ่อ ใจร้อนเป็นไฟ สองคนรีบลงจากรถ เห็นประตูหน้าต่างทุกบานปิดหมด

“ลุงไม่ได้กลับบ้าน”
พงศ์เทพเอาให้ชัวร์ ลองไปเปิดประตูบ้าน ประตูไม่ได้ล็อค เขาดีใจ
“พ่ออยู่”
สองคนเข้าบ้านไป

พอเข้ามาในบ้าน สองคนเห็นสภาพบ้านเละเทะ ถูกพวกเสี่ยเต๊กมาพังข้าวของเมื่อหลายวันก่อน
“ลุงพงศ์พังบ้านทำไม” เจ๋งงง
พงศ์เทพฉุกคิด ไม่ใช่พ่อหรอกที่พังบ้าน “ฝีมือพวกเสี่ยเต๊ก”
เจ๋งแค้น “อันธพาลฉิบ”
จังหวะนี้ พลโผล่ออกมาจากครัว ตะครุบตัวพงศ์เทพ
“เฮ้ย”
“ปล่อยพี่กู”
เจ๋งเข้าช่วย สองหนุ่มรุมยำพล เตะต่อยพลพัลวันจนพลจุก พงศ์เทพหลุดจากพลมาได้ สองคนวิ่งหนีออกไปหน้าบ้าน

สองคนวิ่งหนีหน้าตั้งออกมาจะขึ้นรถ เจอเบิ้มที่ออกไปซื้อของปากซอย ในมือถือซองบุหรี่
“พงศ์เทพ” เบิ้มชี้หน้า
“ขึ้นรถเร็วเจ๋ง”
เบิ้มชักปืนออกมาขู่ พงศ์เทพกับเจ๋งผวาเฮือก ไม่กล้าขึ้นรถกลัวโดนยิง พลตามออกมาจากในบ้าน
เห็นเบิ้มก็ถือปืนจังก้าดักไว้ สองคนถูกบีบให้วิ่งหนีเข้าไปในตัวโรงงาน

พงศ์เทพกับเจ๋งหนีตายเข้ามา เห็นข้าวของในโรงงานก็พังเละเพราะฝีมือพวกเสี่ยเต๊ก หลงมองหาที่ซ่อน ในโรงงานไม่มีซอกหลืบหรือมุมใดๆ ให้ซ่อนตัว
เบิ้มกับพลตามเข้ามา เบิ้มยกกระบอกปืนข่มขู่ พงศ์เทพห่วงชีวิตน้อง ดึงไอ้เจ๋งมาหลบข้างหลัง เจรจาแบบกล้าๆ กลัวๆ ด้วยอีกฝ่ายมีปืน
“เบิ้ม เรามาคุยกันแบบลูกผู้ชาย ถ้าเบิ้มถูกใส่ร้ายว่าทำผู้หญิงท้อง พ่อผู้หญิงจะฆ่าเบิ้ม ผมมั่นใจ คนใจนักเลงอย่างเบิ้ม ต้องเอาปืนไปยิงพ่อผู้หญิงคนนั้น”
เบิ้มพยักหน้า ให้ว่าต่อ
พงศ์เทพใจชื้น ที่เบิ้มรับฟัง “ลูกผู้ชายกล้าทำ ต้องกล้ารับ ถ้าผมทำลูกสาวเสี่ยเต๊กท้องจริง ผมยอมให้เบิ้มยิงตายตรงนี้ แต่ผมไม่ได้ทำ เบิ้ม ลูกผู้ชายต้องเห็นใจกัน”
“พูดได้ดี แต่...ฟังไม่ขึ้น” เบิ้มบอกใส่หน้า
พลเข้ารวบตัวพงศ์เทพ จับกดกับพื้น พงศ์เทพดิ้นรนต่อสู้ เจ๋งจะเข้าช่วยโดนเบิ้มจ่อปืนขู่เลยไม่กล้า
พลต่อยกลางหลังไปที พงศ์เทพเจ็บ เลิกดิ้นรนสู้

ส่วนที่วัดในบางไทร พร้อมพงศ์เดินด้อมๆ มองๆ สอดตาหาลูกชายกับหลานชาย อยู่วัดหรือเปล่า?หันไปถามเด็กวัด
“ไอ้หนู เห็นผู้ชายหนุ่มๆ ที่มานอนวัดกับลุงมั้ย”
เด็กวัดส่ายหน้า
“ป่านนี้ไอ้เทพกับไอ้เจ๋งต้องตามหาเราจ้าละหวั่น โดนย้อนศรซะบ้างไอ้เทพ”
พร้อมพงศ์กระหยิ่มยิ้มย่อง เป็นไปตามแผนที่จะบีบไอ้ลูกชายตัวดีให้กลับบ้าน

เสี่ยเต๊กขับรถมา หน้าเหี้ยมขณะคุยสายกับเบิ้มเรื่องพงศ์เทพ
“อย่าเพิ่งเอาไอ้เทพไปบ้าน อั๊วจะไปกระทืบมันให้หนำใจก่อน”
เสี่ยเต๊กวางสาย เร่งความเร็วรถ หมายจะไปกระทืบไอ้เทพตัวแสบไวๆ

เบิ้มวางสายเสี่ยหันมาบอกพล
“เดี๋ยวเสี่ยมากระทืบมัน”
เบิ้มหันกลับมามองพงศ์เทพที่ถูกจับมัดมือไพล่หลังอยู่กับเจ๋ง
“จบเห่แล้วพี่” ไอ้เจ๋งหน้าซีด หมดหวัง
แต่พงศ์เทพไม่สิ้นหวัง ยังมีเวลาหนี กระซิบเจ๋ง “เขยิบมาใกล้ๆ พี่”
เจ๋งเขยิบไปนั่งชิดช่วยบังให้พงศ์เทพ
โดยในตอนนี้พงศ์เทพพยายามดึงมือให้หลุดจากเชือก แต่เชือกมัดแน่น ดึงเท่าไหร่ก็ไม่ออก

อีกฟากครูเทียมเป็นกังวล รอฟังข่าว ชาวคณะที่แยกย้ายกันไปเดินหาหลง แต่ละคนกลับมารายงาน เริ่มด้วยจอมนาง
“ไม่เจอพี่หลงจ้ะปู่”
“พวกชั้นก็ไม่เจอ ชั้นว่ามันต้องไปเที่ยวในเมือง ครูพาไปเที่ยวหนนั้น ติดใจ” กำจายว่า
กระแตบอก “พี่หลงไม่มีเงิน จะไปยังไง ต้องเสียค่ารถค่ารา”
“เมื่อเช้าปู่ให้เงินหลง ติดกระเป๋าไว้ 300 เผื่ออยากกินเปรี้ยวกินหวาน” ครูเทียมว่า
โก่งบ่น “ไอ้นี่ ได้เงินแล้วติดปีก หนีเที่ยว”
“พี่หลงเค้าต้องเบื่อบ้างอะไรบ้างน่ะพี่โก่ง อยู่บ้านทั้งวันทั้งคืน” โก๊ะว่า
“ไปโขกหมากรุกต่อเว้ย”
พวกกำจายปักใจเชื่อว่าหลงหนีเที่ยว จึงหมดห่วงหลง เดินเกาะกลุ่มกันไป
“ชั้นว่าพี่หลงไม่ได้ไปเที่ยว ต้องแอบไปทำอะไรซักอย่าง” จอมนางยอดนักสืบบอก
“อีกและ จับผิดพี่หลงอีกแล้ว”
กระแตเบื่อความคิดจอมนาง เดินออกไป
จอมนางนิ่วหน้าสงสัย หลงมักหนีหายไปคนเดียว ทำตัวมีลับลมคมนัยตลอดๆ
แม้ครูเทียมเองก็สงสัยเหมือนหลานสาว แต่มั่นใจว่าหลงต้องหายไปด้วยเหตุผลบางอย่าง

เสี่ยเต๊กถีบพงศ์เทพที่ถูกจับมัดมือไพล่หลัง จนล้มไปชนโต๊ะ ขวดแก้วใส่น้ำมันมะพร้าวบนโต๊ะตกแตก เพล้ง !
“กูให้โอกาสมึงอีกที มึงจะรับ หรือไม่รับ”
“ผมไม่รับในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ”
เสี่ยเต๊กแค้นหนัก “มึงไม่รับว่าทำเหมยท้อง งั้นมึงก็รับลูกตะกั่วแทนแล้วกัน”
ขาดคำเสี่ยเต๊กจ่อปืนจะยิง พงศ์เทพทำอะไรไม่ได้ ยอมรับชะตากรรม เขาก้มหัวหลับตา วันนี้ต้องตายแน่แล้วเรา จู่ๆ เสี่ยนึกถึงคำพูดพร้อมพงศ์ที่เกลี้ยกล่อมให้ไว้ชีวิตลูกชาย
“เสี่ยครับ ไอ้เทพตาย หลานเสี่ยก็กำพร้าพ่อนะครับ เสี่ยแค้นมันแค่ไหน ก็นึกถึงหลานตาดำๆ ที่อยู่ในท้องคุณหนูเหมยฮัวบ้าง”
นึกแล้ว เสี่ยเต๊กกำปืนแน่นจนมือสั่น อยากฆ่าไอ้ผู้ชายที่ทำลูกสาวท้องแล้วทิ้ง แต่ใจก็สงสารหลานในท้อง ไม่อยากให้หลานกำพร้าพ่อ ฝ่ายพงศ์เทพตัวเกร็ง กลัวสุดชีวิต รอรับความตายที่คืบคลานใกล้เข้ามาแล้ว
สุดท้ายเสี่ยเต๊กกลับลดปืนลง เปลี่ยนใจไม่ฆ่า พงศ์เทพมองหน้าเสี่ยอย่างแปลกใจ
“เทพ เอ็งต้องแต่งงานกับลูกสาวเสี่ย คราวนี้เอ็งหนีงานแต่งงานอีก ต่อให้ลูกในท้องเหมยเป็นลูกแฝด เสี่ยก็จะฆ่าพ่อมัน”
เสี่ยเต๊กจ้องมาอย่างโหดเหี้ยม พงศ์เทพอดสยองไม่ได้
“เอาตัวมันไปขึ้นรถ อั๊วจะเอาไปขังไว้ที่บ้าน”
พงศ์เทพมองเศษแก้วบนพื้น เห็นทางหนีรอด แอบหยิบเศษแก้วกำใส่มือไว้ ก่อนถูกเบิ้มกับพลคุมตัวออกไป

เสี่ยเต๊กคุมตัวสองคนมาที่รถ ระหว่างเดินจากโรงงานมาถึงรถ พงศ์เทพแอบใช้เศษแก้วที่แอบเก็บมา ตัดเชือกจนขาด พอมือเป็นอิสระก็ล้วงฉกขโมยปืนที่เอวเบิ้มอย่างว่องไว เอาปืนขู่พวกเสี่ยเต๊ก
“เอ็งไม่กล้ายิงหรอก” เสี่ยว่า
“เสี่ยพูดงี้ แสดงว่าอยากโดนคนแรก”
พงศ์เทพหันปากกระบอกปืนไปที่เสี่ยเต๊ก ทำท่าจะเหนี่ยวไก
“อย่านะเว้ย”
พงศ์เทพยิ้มย่อง ถึงทีตรูมั่งละ

ไม่นานต่อมาพงศ์เทพขับรถออกจากมาบ้าน จอดข้างทาง เขวี้ยงปืนทิ้งพงหญ้า
“ทิ้งทำไมอ่ะพี่ พวกเสี่ยเต๊กตามเรามา ได้เอาไว้ป้องกันตัว” เจ๋งบ่น
“อีกนานกว่าเสี่ยจะออกจากบ้านได้”

พงศ์เทพขำก๊าก เอาคืนพวกเสี่ยเต๊กแสบสันต์

โดยทั้งสามคนถูกห่อด้วยผ้าห่ม แล้วมัดข้างนอกหัวท้ายด้วยเชือกอย่างแน่นหนา จนดูเหมือนห่อแหนมสามห่อ เสื้อกางเกงก็ถูกถอดเป็นชิ้นๆ ทิ้งเกลื่อนพื้น

เสี่ยเต๊กดิ้นขลุกขลัก ให้หลุดจากห่อ แต่ไม่สำเร็จ “ไอ้เทพ...ทำกูเป็นแหนมดอนเมืองเลยมึง”
เสี่ยเต๊กแค้นจัด

รถแล่นออกมาปากซอยบ้านแล้ว เจ๋งยังขำไม่หาย
“พี่ก็ เล่นเสี่ยซะเสียผู้เสียคน”
“อัดอั้นมานาน ขอจัดหนักซักดอก พ่อพี่ไม่กลับบ้าน แล้วพ่อไปไหน”
มีสายโทร.เข้ามือถือเจ๋งพอดี “ลุงพงศ์โทรมา” เจ๋งรีบรับสาย “ลุงอยู่ไหน”

พร้อมพงศ์อยู่ที่วัดคุยสายกับเจ๋ง
“เอ็งกับไอ้เทพตามหาลุงจนหัวหมุนเลยสินะ” พร้อมพงศ์ยิ้มย่อง ข้าเหนือกว่า คุมเกมอยู่หมัด
ถนนซอยบ้านพร้อมพงศ์ พงศ์เทพเอาโทรศัพท์เจ๋งคุยกับพ่อ หลอกล่อพ่อ
“พ่อหนีไปไหนครับ ผมกับเจ๋งขับรถตามหาพ่อมาถึงอ่างทอง”
เจ๋งมึนตึ๊บ เราอยู่อ่างทองซะที่ไหนวะ
พร้อมพงศ์หลงกล ยิ้มสมน้ำหน้า “ไง ซึ้งยัง เวลาคนในครอบครัวหนีหายไปรู้สึกยังไง”
“ซึ้งถึงหัวอกเลยครับพ่อ พ่ออยู่ไหน ผมจะไปรับ”
พร้อมพงศ์หลอกลูก “พ่ออยู่บ้าน”
“ที่แท้พ่อหนีกลับบ้าน โธ่เอ๊ย ผมมาตามหาพ่อซะไกลเลย” พงศ์เทพยิ้มขำ พ่อโกหกชัดๆ
พร้อมพงศ์ประเมินเวลา “จากอ่างทางมากรุงเทพฯ ขับรถประมาณ 3 ชั่วโมง นี่ 5 โมงกว่า พ่อให้เวลาเอ็งถึง 3 ทุ่ม เอ็งไม่ถึงบ้าน พ่อจะหนีไปอีก เอ็งจะไม่ได้เจอพ่อตลอดชีวิต”
พงศ์เทพใส่อารมณ์ “ไม่นะพ่อ อย่าหนีผมไป”
พร้อมพงศ์วางสายใส่ลูก ปลื้มปริ่มกะความกะล่อนของตัวเองมาก
“หลอกไอ้เทพกลับบ้านสำเร็จแล้วโว้ย ฮ่าๆๆ”
พงศ์เทพอยู่ปากซอยบ้าน ส่ายหน้าเซ็ง
“ไปเจ๋ง รีบกลับบางไทรไปดักพ่อ”
“พี่รู้ได้ไง ลุงพงศ์อยู่บางไทร”
“พ่อพี่ไม่มีรถ ไปไหนไกลไม่ได้ ยังอยู่ที่วัดนั่นแหละ แหม...คิดว่าตัวเองเนียน หลอกพี่กลับบ้าน”
เจ๋งทึ่งพี่เทพของมันคอดๆ “โห เลือกไม่ถูกเลย ใครกะล่อนกว่ากัน”
พงศ์เทพขึงตาดุไอ้เจ๋ง หน็อยว่าพี่กะล่อน เจ๋งยิ้มแหง สองคนขึ้นรถ พงศ์เทพบึ่งรถไปบางไทร

พร้อมพงศ์หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าลงจากกุฎี อารมณ์ดีสุดๆ จะกลับไปรอลูกชายที่บ้าน ดูนาฬิกาข้อมือ
“เพิ่งทุ่มนึง เหมารถกลับกรุงเทพฯก็ชั่วโมงกว่าๆ ไปถึงบ้านก่อนไอ้เทพสบายๆ”
ห่างออกไป พงศ์เทพขับรถมาจอดแอบ ไม่ให้พ่อเห็นเห็น ดับไฟหน้ารถขอแกล้งพ่อซะหน่อย
พงศ์เทพเอามือถือเจ๋งโทร.หาพ่อ “ผมถึงอนุสาวรีย์ชัยแล้วนะพ่อ”
พร้อมพงศ์คุยสายกับลูก “ทำไมเร็วนักวะ เมื่อชั่วโมงที่แล้ว เอ็งยังอยู่อ่างทอง”
“ผมเหยียบมาเกือบ 200 แทบจะกลายเป็นรถเหาะ”
เจ๋งกลั้นหัวเราะ “พี่เทพ โกหกเนียนคอดๆ”
“เอ็งแวะหาข้าวกินก่อนก็ได้ ไม่ต้องรีบ พ่อออกมากินก๋วยเตี๋ยวปากซอย อีกชั่วโมงถึงจะเข้าบ้าน”
“เหรอพ่อ งั้นผมไปรับพ่อที่ร้านก๋วยเตี๋ยว” พงศ์เทพวางสาย
“เฮ้ยเทพ ฟังก่อน...กลับถึงบ้านทีหลังมัน มันก็รู้ว่าเราหลอกดิวะ เอาไงดี”
พร้อมพงศ์วิ่ง จะรีบออกไปหารถหน้าวัด พงศ์เทพขับรถมาหาพ่อ เปิดไฟหน้ารถให้พ่อเห็น
“ก๋วยเตี๋ยวอร่อยมั้ยพ่อ” เขายิ้มแซวพ่อ
“ไอ้...ไอ้กะล่อน”
พงศ์เทพกับไอ้เจ๋งหัวเราะขำพร้อมพงศ์ กะล่อนตัวพ่อโดนกะล่อนตัวลูกหลอกเข้าให้มั่ง

ฝ่ายครูเทียมกับจอมนางชะเง้อรอหลงอยู่หน้าบ้าน หลงหายไปทั้งวัน มืดค่ำแล้วยังไม่กลับ
จอมนางกังวลมาก “ป่านนี้ยังไม่กลับ หรือพี่หลงจำทางกลับบ้านไม่ได้จ๊ะปู่”
“อ้าว เอ็งว่าหลงแกล้งความจำเสื่อมไง”
“ชั้นก็มีเผื่อไว้บ้างน่ะปู่ ชั้นอาจมองพี่หลงผิดไปก็ได้เอารถออกไปตามหาพี่หลงกันเหอะปู่”
“มันเป็นผู้ชาย กลับดึกกลับดื่น ใครจะฉุดมันไปปล้ำ ก็ยินดีกับมันเถ๊อะ”
จอมนางห่วงหลงมาก โพล่งออกมาเป็นชุด “แถวบ้านเราเคยมีคนถูกจี้ พี่หลงเป็นคนต่างถิ่น ตะโกนขอความช่วยเหลือ ใครเค้าจะช่วย พี่หลงก็มีแต่ชั้น ที่พร้อมเสี่ยงตายช่วย”
ครูเทียมสะดุดหู จอมนางจะเสี่ยงตายช่วยหลง
“ชั้นจะออกไปตามหาพี่หลง เผื่อเกิดอะไรขึ้น ชั้นได้ช่วยทัน”
จอมนางจะไป ครูเทียมรั้งไว้
“เอาอย่างนี้แล้วกันจอมเอ๊ย 2 ทุ่ม หลงยังไม่กลับ ปู่จะออกไปตามหาหลงกับเอ็ง”
จอมนางพยักหน้ายอมตามปู่ ครูเทียมจับสังเกตใบหน้าแววตาหลานสาว ดูจอมนางดูห่วงใยใส่ใจหลงมากเกินคนรู้จัก ครูเทียมครุ่นคิด เอ...หรือหลานสาวครูชอบไอ้เจ้าหลง
สองพ่อลูกเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียดแถวกุฎีวัด เจ๋งคอยดูอยู่ใกล้
“เลิกฝันถึงเงินเสี่ยเต๊กได้แล้วพ่อ ผมไม่มีวันแต่งงานกับลูกสาวเสี่ย แล้วที่ผมทำกับเสี่ยวันนี้ เสี่ยต้องแค้นผมมาก” พงศ์เทพยืนกราน
“เอ็งกลับไปกราบขอโทษเสี่ย เสี่ยต้องให้อภัย ยังไงเอ็งก็เป็นพ่อของหลานเสี่ย”
“ผมไม่ใช่พ่อลูกในท้องเหมยฮัว จบนะพ่อ เลิกคุยเรื่องเหมยฮัว ตอนนี้พ่อก็ห้ามกลับบ้าน เสี่ยต้องรอเล่นงานพ่อด้วย”
พร้อมพงศ์โมโห “ไอ้ลูกไม่รักดี ทำพ่อซวยไปด้วย”
“ผมไปล่ะพ่อ คนที่บ้านต้องเป็นห่วงผม ผมหายไปทั้งวัน”
“เอ็งอยู่บ้านใครวะ”
“พ่อห้ามไปหาผม ผมหลอกเค้าว่าความจำเสื่อม”
เจ๋งตกใจ “ความจำเสื่อม”
“พี่จำเป็นต้องหลอกน่ะ ต้องการที่หลบภัย”
“แล้วเค้าเชื่อเหรอพี่”
“มีบางคนไม่เชื่อ แต่พี่ก็ถูไถเอาตัวรอดมาได้”
พร้อมพงศ์เยาะ “ฮีโธ่เอ๊ย ว่าพ่อกะล่อน เอ็งมันก็เชื้อไม่ทิ้งแถว แล้วนี่แขนเอ็งไปโดนอะไรมา”
“สู้กับลูกน้องเสี่ยครับ วันนี้รอดมาได้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว”
พงศ์เทพ หรือ หลงถอนหายใจเฮือก เหนื่อยใจกับปัญหาชีวิต หลงเดินหายไปในความมืด พร้อมพงศ์ยังมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ลูกชาย
“ฟังคำลุงนะเว้ยเจ๋ง ถ้าลุงทำให้ไอ้เทพยอมกลับบ้านดี ๆ ไม่ได้ อย่านับว่าลุงเป็น...พ่อมัน”

พร้อมพงศ์ไม่ยอมแพ้ลูกชายจอมกะล่อน

อ่านต่อหน้า 4

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 6 (ต่อ)

จอมนางเดินลุกไปมาอยู่ในโถงบ้าน สีหน้าเป็นกังวล ห่วงหลงมาก เหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะ ๆ จวน 2 ทุ่มแล้ว แต่หลงยังไม่กลับ

หลงเปิดประตูรั้วเข้าบ้าน จอมนางชะเง้อมอง พอเห็นพี่หลงกลับมาแล้ว ก็ยิ้มแป้น จอมนางไม่อยากให้หลงรู้ว่าตนเป็นห่วง อยู่รอ รีบไปหยิบชุดลิเกมาทำเป็นปักซ่อม ฟอร์มว่าไม่ได้อยู่รอย่ะ ทำงานต่างหาก
หลงเข้ามา จอมนางฟอร์มจัดเงยหน้ามองหลง แล้วทำเฉย ไม่พูดทักทายหลงสักคำ และทำเหมือนไม่ห่วง
“คนในบ้านไปไหนกันหมดครับ”
“พวกน้ากำจายอยู่ศาลาท่าน้ำ พี่กระแตกับปู่อยู่ข้างบนจ้ะ” จอมนางเห็นรอยช้ำที่แขนหลง “โดนใครทำร้ายมาจ๊ะ โดนจี้เหรอเปล่า”
หลงโกหกหน้าตาย “แฮนด์มอเตอร์ไซค์เฉี่ยวครับ พี่เดินอยู่ริมถนน มอเตอร์ไซค์ขี่ย้อนศรมาไม่ดู
จอมนางลุกไปหยิบยาหม่องให้ หลงยื่นมือจะรับตลับยา จอมนางห่วงหลงจนลืมตัว ทายาให้ซะเอง
“มือหนักไปก็บอกนะจ๊ะ”
จอมนางบรรจงทายาให้หลงอย่างเบามือ หลงยิ้มปลื้ม จอมนางดูแลใส่ใจเค้าน่าดู
ครูเทียมแอบดูอยู่หน้าโถง เห็นพฤติกรรมจอมนางทั้งหมด รู้แน่ว่าหลานสาวคนสวยของครูชอบไอ้หลง หนุ่มแปลกหน้าความจำเสื่อม ครูกังวลไม่น้อย ด้วยไม่รู้หัวนอนปลายเท้าหลง

ครูเทียมตื่นเช้า กำลังแกะซีลซองยาอย่างลำบาก มือขวาครูเทียมสั่นด้วยอาการโรคพาร์กินสัน
“ผมแกะให้ครับครู” หลงเดินมาหาในห้องเห็นเข้า รีบเอาซองยามาแกะเอง หยิบยาให้
ครูเทียมกินยา หลงเอาซองยาไปเก็บซ่อนที่เดิม ครูเทียมลอบมองหลงอย่างพินิจพิเคราะห์ มันเป็นคนดีจริงเหรอเปล่า หลานสาวครูพึงใจมันให้เข้าแล้ว
“หลงเอ๊ย ถ้าความจำเอ็งกลับมา แล้วเอ็งจำได้ว่ามีลูกมีเมียแล้ว เอ็งจะทำยังไง”
“ผมก็กลับไปรับผิดชอบครับ”
ครูเทียมลองใจอีก “ไหนๆ ก็ห่างทางนู้นมาแล้ว ไม่คิดหาคนใหม่ที่บางไทรเหรอ หล่อๆ อย่างเอ็งน่ะ สาว ๆ ขึ้นบ้านหัวกะไดไม่แห้ง”
“ผมตั้งใจว่า ชีวิตนี้จะแต่งงานครั้งเดียวครับ คนเรามีความรักได้หลายครั้ง แต่รักแท้มีได้แค่ครั้งเดียว กับคนๆ เดียวเท่านั้นครับ”
“ผู้ชายที่คิดแบบเอ็ง จะไม่ทำให้ผู้หญิงเสียใจ”
ครูเทียมยิ้มพอใจในคำตอบหลง ไอ้เจ้านี่ไม่น่าทำร้ายจิตใจจอมนาง หลานสาวครู

เช้าวันเดียวกัน เหลียนฮัวกับเหมยฮัวนั่งรอเสี่ยมากินข้าวเช้า เหมยฮัวเกิดพะอืดพะอม แพ้ท้อง เหลียนฮัวลูบหลังให้เห็นอาการลูกแล้วกังวล “แพ้ท้องหนักขึ้นทุกวัน”
เสี่ยเต๊กมา อารมณ์บูดแต่เช้า เห็นลูกสาวแพ้ท้องก็หน้าบึ้งตึง เหมยฮัวพยายามเก็บอาการแพ้ท้องไม่ให้เตี่ยหงุดหงิด
“เสี่ย ได้เบาะแสอาเทพบ้างมั้ย อั๊วอยากให้เหมยรีบแต่งงาน”
“เมื่อวานอั๊วจับตัวมันได้แล้ว แต่มันเอาตัวรอดไปได้ แล้วยังทำอั๊วซะแสบถึงขั้วตับ มัดอั๊วเป็นแหนมป้าย่น”
เหมยฮัวตกใจ “พี่เทพมัดเตี่ย”
“ผัวลื๊อมันเชื้อไม่ทิ้งแถว แสบเหมือนพ่อมันไม่มีผิด” เสี่ยโมโห วางหน้าเหี้ยม “ต่อไปนี้เตี่ยจะตามล่าไอ้เทพเอง ต่อให้มันหนีข้ามชายแดน เตี่ยจะไปลากคอมันกลับมา มันกล้าลูบคมเสี่ยเต๊ก มันก็ต้องเจอคมมีดจากเสี่ยเต๊ก”
เสี่ยเต๊กหน้าตากระเหี้ยนกระหือรือ อยากเอามีดปาดไอ้เทพ จอมแสบ
เหมยฮัวกังวลใจ กลัวพงศ์เทพจะเป็นอะไรไปเพราะเธอเป็นต้นเหตุ

เหมยฮัวขึ้นห้อง รีบกดโทรศัพท์หากิ๊กอย่างร้อนใจ
“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากข้อความไว้หลังเสียงสัญญาณ”
เหมยฮัวตัดสินใจฝากข้อความไว้ในมือถือ “เหมยฝากข้อความเป็นสิบๆ ข้อความแล้วโทร.กลับมาซะทีสิคะ ตอนนี้ผู้ชายคนอื่นกำลังเดือดร้อนเพราะคุณ กลับมารับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำ กลับมารับผิดชอบลูกของเรานะคะ”
เหมยฮัววางสาย พึมพำอย่างรู้สึกผิดในใจ “พี่เทพ พอปัญหาจบแล้ว เหมยจะไปไหว้ขอโทษพี่”

วันนี้หลงเก็บตัวอยู่ในห้องทั้งวัน อากาศร้อนเหงื่อแตก พัดลมก็เอาไม่อยู่ หลงขบคิดแก้ปัญหาชีวิต
“โทร.หาเหมยก็เปล่าประโยชน์ ถ้าเหมยสำนึกผิด ต้องบอกความจริงเสี่ยไปแล้ว”
กำจาย โก่ง และโก๊ะ เข้ามาทั้งก๊วน ปะแป้งเย็นกันซะหน้าขาววอก
“ไปกินหวานเย็นที่ตลาดกันหลง” โก่งชวน
“ไปกินอะไรเย็นๆ ก็ดีครับ ได้เย็นใจขึ้น” หลงรับคำชวน
“เอ้อ เมื่อวานเอ็งหนีไปเที่ยวไหนมา” กำจายถามขึ้น
หลงโกหกเนียนๆ “ไปไหว้พระในเมืองครับ ขอให้ความจำกลับมา”
“ทีหลังไปไหนก็บอกก่อน อย่าให้พวกข้าเป็นห่วง” โก่งตำหนิ
“ขอโทษครับ”
โก๊ะยังเย็นสะใจไม่พอโปะแป้งเย็นอีก
“เดี๋ยวก็หนาวตายหรอกโก๊ะ”
“จุ๊กกรู๊...เย็นจนขนลุก” โก๊ะทำตัวสั่นเลียนแบบโฆษณาแป้งเย็น

หลงขำ ยิ้มออกมาได้ ขอพักปัญหาไว้ก่อน กอดคอโก๊ะ ตามกำจายไปหาหวานเย็นกิน

ขณะนั้น ฟ้าประทานเช็คเรตติ้งความดัง เดินเก๊กหน้าหล่อโชว์ทั่วตลาดเจ๊ทรงงาม บรรดาแม่ค้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้

จู่ๆ มีเสียงกรี๊ด “อ๊ายๆๆ” ดังไม่หยุด
ฟ้าประทานยิ้มหน้าบาน เข้าใจว่าสาวแก่แม่ม่ายกรี๊ดตัวเองลั่นตลาด หันมองสาวเจ้าของเสียงกรี๊ด
เป็นแม่ค้า 1 “อ๊าย...นั่นไง ลิเกใหม่คณะครูเทียม”
หลงเดินมากับพวกกำจาย หล่อเด่นสุดในกลุ่ม หล่อกลบรัศมีฟ้าประทานเลยทีเดียว ฟ้าระทานหน้าบึ้ง โธ่เว้ย! นึกว่ากรี๊ดกรู...กรี๊ดไอ้หลง!
แม่ค้า 1 จ๊ะจ๋า “จำแม่ได้มั้ยลูก เมื่อคืนนั้น แม่ไปดูลูกเล่นลิเกที่วัด”
หลงจำไม่ได้ แต่ไหลไป “ใครจะลืมแม่ครับ เสียงแม่กรี๊ดยังติดรูหูผมอยู่เลย”
แม่ค้า 1ปลื้ม “อ๊าย... ลูกแม่ เอาขนมไปลูก”
หลงต้องใช้สองมือเป็นตะกร้า รับขนมหวานหลายถุงจากแม่ค้า 1
แม่ค้า 2 “มาเอาแกงแม่ไปลูก”
หลงเดินเวียนรับของจากบรรดาแม่ค้ารุ่นป้าย่ายาย พวกกำจายยิ้มแป้นช่วยถือของฟรีทั้งน้าน
“ลาภปากเว้ยพวกเรา”
ฟ้าประทานมองหลงอย่างอิจฉา พอหลงมาฟ้าประทานก็ถูกบดบังรัศมี
“ไล่มันไปเจ๊”
เจ๊ทรงงามรับบัญชาฟ้าประทานทันทีหันไปไล่ตะเพิดหลง “ไปซะ! แล้วห้ามมาเหยียบตลาดเจ๊อีก”
กำจายยัวะ “เฮ้ยไอ้ฟ้าประทาน เอ็งอย่ายุเจ๊ทรงงามให้เกลียดหลงดิ”
“ฟ้าประทานไม่ได้ยุ เจ๊เหม็นหน้าของเจ๊เอง” เจ๊ขู่หลง “โผล่หน้ามาเมื่อไหร่ จะเอาแกงถุงปาให้”
ขาดคำ มือดีที่ไหนไม่รู้ สาดน้ำใส่เจ๊ทรงงาม ฟ้าประทานอยู่ใกล้ๆ พลอยเปียกไปด้วย
“ใคร! ใครบังอาจลามปามฟ้าประทานของเจ๊”
ไม่มีใครรับ เจ๊ทรงงามเลยพาลทั้งตลาด เอาน้ำในถังที่รองจากแผงขายของคาว สาดใส่มันทุกแผง ทำข้าวของแม่ค้าเสียหาย
แม่ค้า 1 โมโห “คิดว่าเป็นเจ้าของตลาด แล้วทำอะไรก็ได้เหรออีเจ๊”
แม่ค้า 1 เขวี้ยงถุงขนมหวานใส่เจ๊ทรงงาม ถุงแตก ขนมเลอะเทอะตัวเจ๊ พวกแม่ค้าหัวเราะสมน้ำหน้า
“อีบ้า”
เจ๊ทรงงามแค้น เอาคืน เขวี้ยงถุงแกงมั่ว โดนใครก็ช่างมัน ทำเอาแม่ค้าเลอะเทอะกันไปหมด พวกแม่ค้าเลยรุมเอาคืน เขวี้ยงของใส่เจ๊
เหตุการณ์เริ่มชุลมุน ฟ้าประทานได้ที เขวี้ยงผักเน่าในถังขยะใส่หลง พวกกำจายสวนคืน เขวี้ยงหัวปลาทิ้งแล้วใส่ฟ้าประทาน
หลงไม่ขอร่วมด้วย ก้มหลบกลางสมรภูมิเขวี้ยงของใส่กันเละทั้งตลาด !

ครูเทียมซ่อมรางระนาดอยู่ในบ้าน เอาไม้ขีดไฟลนให้ตะกั่วอ่อนลง แล้วจะติดตรงตำแหน่งเดิม ใต้ผืนระนาด ครูตาไม่ดี ต้องเพ่งมอง จดๆ จ้องๆ กลัวติดไม่ตรงจุด
หลง กำจาย โก่ง โก๊ะ เดินเนื้อตัวเลอะเทอะกลับเข้ามาพอดี กลิ่นคลุ้ง
“ตกบ่อขยะกันมาเหรอวะ”
หลงกับพวกกำจายมองหน้ากัน โกหกครูยังไงดี
กำจายบอกว่า “ตกท่อจ้ะ”
โก่งพูดพร้อมกำจายว่า “ตกถนนจ้ะ”
“ถนนหรือท่อ” ครูทำเป็นซัก
หลงแก้ให้ “ถนนตรงนั้นมีท่ออยู่น่ะครับ อบต.ไม่ได้ปิดฝาท่อ เลยตกลงไป”
โก๊ะเสริม “ชั้นไม่ทันดู ตกท่อลงไปทั้งตัวเลยจ้ะ น้ากำจายยื่นมือไปฉุด เลยหัวทิ่มลงไปอีกคน”
โก่งใส่อีกชุด “ท่อมันลึกน่ะจ้ะครู ชั้นกับไอ้โก๊ะต้องไปหาเชือกมาหย่อน ดึงน้ากำจายขึ้นมา”
ครูเทียมดักคอ “ไอ้โก๊ะมันอยู่ในท่อไม่ใช่เหรอ”
“อืม... ชั้นปีนขึ้นมาได้จ้ะ น้ากำจายตัวอ้วน ปีนไม่ขึ้น” โก๊ะว่า
หลงกับพวกกำจายมองหน้ากันเลิกลัก รวมหัวกันโกหกไม่เนียน ครูเทียมขำรู้ทัน
“เอาเหอะๆ พวกเอ็งจะตกท่อ ตกถนน หรือตกส้วม ก็ตามสบาย แต่ตอนนี้ช่วยไปตกน้ำตกท่าล้างเนื้อล้างตัว เหม็นหึ่งเชียว”
ครูเทียมโบกมือไล่ หลงกับพวกกำจายรีบยกโขยงกันไป

ฝ่ายฟ้าประทานอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างกลิ่นเหม็นคาวเสร็จแล้ว เจ๊ทรงงามเปิดแอร์เย็นฉ่ำ รอฟ้าประทานอยู่ในห้องโถง
“ตัวผมยังไม่หายเหม็นเลยครับเจ๊”
เจ๊ทรงงามหาเศษหาเลย สูดหอมดอมดมตัวฟ้าประทาน
“หือ หอมออก” มือไม้เริ่มป่ายตัวฟ้าประทาน
ฟ้าประทานขยาดเจ๊ ทำทีเป็นไปปรับแอร์ให้เย็น “วันนี้ร้อนน่าดูเลยนะครับเจ๊”
“เจ๊ก็ร๊อน...ร้อน”
เจ๊ทรงงามดึงอกเสื้อ พัดให้ตัวเองพึ่บพั่บๆ กะโชว์ร่องอก
ฟ้าประทานเห็นอกเหี่ยวๆ เลยไม่ทำให้ซู่ซ่า “เจ๊ครับ ห้องนอนผมร้อนมากกลางคืนแทบนอนไม่ได้”
“ก็หน้าร้อนปีที่แล้ว เจ๊จะติดแอร์ ครูเทียมไม่ยอมให้ติด บอกว่าเปลืองไฟ”
ฟ้าประทานนึกถึงครูเทียมก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก ครูเทียมเขียมเกิน
“จะประหยัดอะไรนักหนา เอะอะก็อ้างว่าไม่มีงาน ก็บอกแล้ว ให้เปลี่ยนไปเล่นลิเกประยุกต์ ลิเกเธค ครูก็ไม่ฟัง”
“ครูเทียมแกแก่แล้ว ไม่รู้คนรุ่นใหม่ชอบดูอะไร”
“คนที่มาดูคณะเทียมฟ้า ก็มาดูผมทั้งนั้น” ฟ้าประทานคุยฟุ้ง
“ถูกจ้ะ อยู่บ้านครูเทียมลำบากนัก ฟ้าประทานก็ย้ายมาอยู่กับเจ๊ซี่”
เจ๊ทรงงามมองฟ้าประทานตาวิบวับ อยากเคลมพระเอกคนดังเต็มที่
“ผมยังพอทนอยู่กับครูเทียมได้ครับเจ๊”

ฟ้าประทานหน้าตาขุ่นเคืองใจเอามากๆ ด้วยว่าครูเทียมมีแต่ความจน ความยากลำบากให้ชาวคณะ

อ่านต่อตอนที่ 7
กำลังโหลดความคิดเห็น