เรื่องย่อ "ลิเก๊ ลิเก" (แก้ไข + สัมภาษณ์นักแสดง-ผู้กำกับ)

เรื่องย่อละคร "ลิเก๊ ลิเก”

บทประพันธ์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : ตุณย์
กำกับการแสดง : กิตติ บุญสกุลศักดิ์
แนวละคร : โรแมนติก คอเมดี้
วันเวลาออกอากาศ : พุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทาง ททบ.5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มพฤหัสที่ 2 ตุลาคม 2557
จำนวนตอนออกอากาศ : 20/+/-

ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วทุกหัวระแหง ธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ ล้วนประสบภาวะขาดทุน รวมทั้งธุรกิจ SME ของ พงศ์เทพ กับ พร้อมพงศ์ สองพ่อลูก ถึงขนาดที่พร้อมพงศ์ต้องใช้บริการเงินกู้นอกระบบที่เป็นลูกค้าเก่าแก่กันมานาน

เสี่ยเต๊ก อาเสี่ยหน้าเลือดปล่อยเงินกู้คิดดอกมหาโหด ใครเบี้ยวหนี้ เสี่ยเต๊กส่งลูกน้องไปรุมยำซะเละเทะอย่างกับหน้าเค้กโดนกระทืบ จนลูกหนี้ต่างพากันหวาดกลัว สิริรวมเลขมงคลที่พร้อมพงศ์ติดหนี้เสี่ยเต๊ก ทั้งต้นทั้งดอกรวมเป็นเงินหลายล้านบาท พร้อมพงศ์ไม่มีเงินใช้หนี้ขอผัดผ่อนเรื่อยมา เสี่ยเต๊กฮึ่ม ๆ ขู่จะส่งลูกน้องมาสกรัมพร้อมพงศ์

พงศ์เทพเป็นแฟนคลับยาแก้ไอชวนป๋วยปี๋แป่ก่อ ตราลูกกตัญญูผุด ๆ เร่ขายของในโรงงาน ตรากตรำหาลูกค้าทุกวันไม่มีวันหยุด เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อ แต่ยอดขายไม่กระเตื้อง

เหมยฮัว ลูกสาวเสี่ยเต๊กเกิดตั้งท้อง ทั้งที่ไม่มีแฟน เหมยฮัวกลัวพ่อด่า เลยให้พงศ์เทพพาหนีออกจากบ้าน เสี่ยเต๊กเลยพาลเข้าใจผิดว่า พงศ์เทพ ทำเหมยฮัวท้อง เสี่ยเต๊กโกรธมาก จะกระทืบพงศ์เทพให้ตายคาเกี๊ยะ เหลียนฮัว เมียเสี่ยเต๊กห้ามไว้ อาตี๋นี่เป็นพ่อของหลานเรานะเสี่ย เสี่ยเต๊กให้พงศ์เทพแต่งงานกับเหมยฮัวเพื่อรับผิดชอบ

พร้อมพงศ์ พ่อของพงศ์เทพดีใจประหนึ่งถูกหวย ไชโย.. จะได้ดองกับเสี่ยเต๊กแล้วโว้ยยยย....
“ไม่แต่งโว้ย...!” พงศ์เทพประกาศลั่น เค้าไม่ได้แตะต้องเหมยฮัวแม้แต่ปลายเล็บเท้า
“มึงต้องแต่ง...!!!” เสี่ยเต๊กออกประกาศิต “ไม่แต่ง พ่อมึงตายยยย.. !!!”

วันแต่งงานมาถึงอย่างรวดเร็ว พงศ์เทพพยายามขอให้พ่อเชื่อคำพูดเค้า เค้าไม่ได้มีอะไรกับเหมยฮัว พร้อมพงศ์ไม่รู้ ไม่สน เอ็งจะมีหรือไม่มี พ่อไม่เกี่ยว พ่ออยากเกี่ยวดองกับเสี่ยเต๊กเท่านั้น จะได้...ปลดหนี้... พงศ์เทพน้อยใจมากพ่อมาก ที่พ่อเห็นเงินสำคัญกว่าลูก

ถึงเวลาที่พงศ์เทพต้องไปสู่ขอเหมยฮัวตามธรรมเนียม พงศ์เทพทนรับสภาพผัวจำเป็นไม่ได้ จึงตัดสินใจ...หนีดีกว่าเว้ย

พงศ์เทพแหวกม่านประเพณีหนีการแต่งงาน โดนพ่อไล่ตามจับ พงศ์เทพโซซัดโซเซไปโดนรถเฉี่ยว เจ้าของรถกลัวความผิด ชิ่งหนี พงศ์เทพไม่ได้ตาย เจ็บนิดหน่อยประมาณมดตะนอยกัด พงศ์เทพกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะคันที่เฉี่ยวชน หวังไปตายเอาดาบหน้า

รถกระบะคันก่อเหตุพาพงศ์เทพมาบ้านคณะลิเก พงศ์เทพเกิดรักแรกพบอย่างจังกับสาวสวยนางหนึ่ง โอ้โหแฮะ.. สาวบางไทร สวยจริงอะไรจริงเว้ยเฮ้ย

จอมนาง นางเอกลิเกคนสวย เห็นหนุ่มแปลกหน้าทำตาเจ้าชู้ใส่ ก็หมั่นไส้ผุดๆ พงศ์เทพโกหก ครูเทียม หัวหน้าคณะลิเกเทียมฟ้าสุวรรณศิลป์ ว่าความจำเสื่อมตอนโดนรถกระบะของคณะครูเทียมเฉี่ยวชน นี่ยังงงอยู่ กระโดดขึ้นรถมาได้ยังไง เหตุผลที่พงศ์เทพโกหกไปก็เพราะไม่อยากกลับไปแต่งงานที่กรุงเทพฯ และดันไปปิ๊งปั๊งจอมนาง หลานสาวครูเทียมเข้าให้

ครูเทียมพินิจพิเคราะห์พงศ์เทพ หน้าตาสะอาดสะอ้าน ผิวพรรณดี ไม่น่าเป็นพม่าหนีเข้าเมืองหรือโจรใจโหด เลยให้พงศ์เทพอยู่เสียด้วยกัน จอมนางโวยปู่ ใจดีเกิ๊น อะไรหลงมา รับเลี้ยงหมด พงศ์เทพตงิด ๆ ใจ นี่แม่คนสวยพูดถึงคน หรือ หมา ??

พงศ์เทพทำฟอร์ม จำชื่อเสียงเรียงนามตัวเองไม่ได้ เมื่อเช้าได้แปรงฟันเหรอเปล่า ยังลืมไปแล้วจอมนางตั้งชื่อให้พงศ์เทพใหม่ว่า...หลง พงศ์เทพทำทะเล้นใส่จอมนาง หลงที่ว่าเนี่ย หลงรักใช่มั้ยฮ้าบบ..จอมนางหันไปมองหมา ตั้งชื่อตามหมาน่ะ พงศ์เทพชะอุ๊ย... ถูกใจจุงเบย ผู้หญิงอะไรทั้งสวยทั้งปากเก่ง ชอบ ๆๆๆ

จอมนางทำเหม็นหน้าหลงไปงั้นๆ แหละ อันที่จริงปิ๊งหลงอย่างจัง จอมนางเป็นสาวตจว. แพ้หนุ่มกรุงเทพฯ พี่ป้างเค้าภูมิแพ้กรุงเทพฯ แต่จอมนางแพ้ทางหนุ่มกรุงเทพฯ ค่า มาดของหลงมันหนุ่มกรุงเต้ปปปป ชัดๆ ช่างดูดี มีมาด แม้จะกะล่อนไปมากกกก..ก็เหอะ จัดได้ว่า นายหลงคนนี้ตรงสเป็คจอมนางแบบเป๊ะเว่อร์

คณะลิเกเทียมฟ้าของครูเทียมก่อตั้งมาหลายสิบปี ตั้งแต่ครูเทียมยังรุ่นหนุ่ม ลิเกยุคเดียวกับครูเทียมล้มหายตายจากไปหลายคณะ ก็เหลือแต่คณะของครูยังอยู่ยงคงกระพัน ลิเกของครูเทียมไม่ใช่ลิเกที่หาดูได้ทั่วไป เป็น..ลิเกทรงเครื่อง ตัวแสดงรำอ่อยช้อยแบบนาฏศิลป์ บทร้องบทพูดสละสลวยสวยงามเป็นบทกวี การแต่งหน้าแต่งกายก็ไม่จัดจ้านเหมือนลิเกวิกทั่วไป ลิเกทรงเครื่องเป็นลิเกที่อ่อนช้อย งดงามในทางวรรณศิลป์ ครูเทียมตั้งใจจะอนุรักษ์ลิเกทรงเครื่องให้อยู่สืบไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

หลงอยู่คณะลิเก มีหน้าที่ช่วยงานจิปาถะหรือพูดภาษาบ้าน ๆ ก็คือ เป็นเบ้นั่นเอง หลงเลยสนิทกับ ไอ้ โก๊ะ เบ้รุ่นแรกรุ่นดั้งเดิมของคณะ หลงชอบแกล้งโก๊ะเล่นขำ ๆ โก๊ะเป็นคนซื่อ หลอกหรืออำอะไร โก๊ะเชื่อโหม้ดดด...

จอมนางวางแผนสารพัดจับผิดพี่หลง โกหกเรื่องความจำเสื่อมหรือเปล่า หลงรู้ทัน เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง กระแต ลูกพี่ลูกน้องจอมนาง กระซิบบอกหลง จอมนางเป็นผู้มีอิทธิพลท้องพระโรง (ลิเก)คล้าย ๆ กับผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น

หลงถูกอกถูกใจจอมนางมาก ผู้หญิงอะไร้ สวย แสบ ซ่า โดนใจเว้ยเฮ้ย หลงรู้ตัวว่า ความเจ้าเสน่ห์ของตนไปสร้างไม่พอใจให้ ฟ้าประทาน พระเอกลิเกรูปหล่อของคณะเทียมฟ้า หลงโดนฟ้าประทานเขม่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน โทษฐาน...หล่อ...

แต่ไหนแต่ไร ฟ้าประทานเป็น The Special One สาว ๆ ในคณะล้อมหน้าล้อมหลัง วันนี้มาถูกหลงลูบคมแย่งความสนใจ หล่อล้นหลวงระดับฟ้าประทานต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น เทพบุตรสุดหล่อสองตน อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้โว้ย !

หลงถูกฟ้าประทานหาเรื่องกลั่นแกล้งต่าง ๆ นา ๆ หมายให้หลงทนไม่ไหว อเปหิตัวเองออกจากคณะ ทว่า..หลงหน้าด้านหน้าทน มึงแกล้งได้แกล้งไป กูทนด้ายยยย...

ฟ้าประทานเจ็บใจ ไอ้หลงมันสุดอึด แกล้งยังไงมันก็ไม่ไป หากพี่เจน ญาณทิพย์ หรือ คุณริว จิตสัมผัส มาจ้องหน้าฟ้าประทาน พี่เจนกับพี่ริวจะอ่านแววตาฟ้าประทานออกว่า เจ้าของแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความ... เคียดแค้น ในชีวิตฟ้าประทานไม่เคยรักใคร แม้แต่ครูเทียมที่เลี้ยงดูมา ฟ้าประทานนึกถึงแต่ตัวเอง ฟ้าประทานตั้งใจว่า เมื่อดังกว่านี้ ฟ้าประทานจะออกไปตั้งคณะลิเกของตัวเอง ให้ดังอย่างไชยา มิตรชัย แล้วฟ้าประทานก็จะร่ำรวยเงินทอง มีบ้านหลังใหญ่ มีรถคันหรู ไม่ต้องอาศัยบ้านครูเทียมอยู่ ไม่ต้องนั่งรถเก่า ๆ ของคณะไปเล่นลิเก ...มันโลโซว่ะ....

ครูเทียมเฝ้ามองความไม่ลงรอยกันระหว่างหลงกับฟ้าประทาน เห็นว่าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย มันก็แค่หนุ่มๆ เหม็นขี้หน้ากัน

ความเป็นห่วงพ่อ ทำให้หลงคอยสืบข่าวคราวทางบ้าน พ่อโดนเจ้าหนี้ฆ่าหมกป่าไปเหรอยัง หลงขอยืมโทรศัพท์มือถือคนในคณะโทรหาพ่อ พ่อรับสาย หลงโล่งใจ วางสาย พ่อยังมีลมหายใจอยู่

พร้อมพงศ์ร้อนรนตามหาพงศ์เทพ ไอ้ลูกเวร หายหัวไปไหนวะ พ่อโดนเสี่ยเต๊กขู่ทุกวัน ไม่เจอตัวลูกชายจะจับเผานั่งยางไม่ให้เหลือกซาก

พร้อมพงศ์กับไอ้เจ๋งปฎิบัติการมิสชั่นอิมพอสสิเบิ้ล ปูพรมตามหาพงศ์เทพ ขับรถวนไปดูทุกตรอกซอยแถวบ้าน ไม่มีวี่แววพงศ์เทพ หรือมันหนีไปต่างจังหวัด พร้อมพงศ์ไม่มีญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัด หลังเรียนจบ พงศ์เทพไม่ได้ติดต่อเพื่อน ๆ วัน ๆ ทำแต่งาน แล้วมันไปมุดหัวอยู่กับใครที่ไหววะ

ฝ่ายเสี่ยเต๊กก็สั่งลูกน้อง คือไอ้เบิ้มไอ้พล ให้ตามล่าหาพงศ์เทพ เจอมันที่ไหน ลากมาให้อั๊วกระทืบ หน็อย...!! ทำลูกสาวอั๊วท้องแล้วทิ้ง

การตามหาพงศ์เทพเป็นไปอย่างเข้มข้นคลั่ก ฝ่ายพร้อมพงศ์กับเจ๋งก็ตามหาไม่ลดละ ฝ่ายเสี่ยเต๊กกับเหลียฮัวก็ให้ลูกน้องตามหา ต่อให้ไปมุดหัวอยู่ในบ้านเอสกิโม ก็ต้องหามันให้เจอ !

หลงแอบชะแว้บบบๆ กลับไปดูลาดเลาที่กรุงเทพฯ พบว่าเสี่ยเต๊กยังหมายมาดจะจับหลงแต่งงานกับเหมยฮัว ลูกสาวเสี่ยให้จงได้ พ่อหลงเองก็ไล่ล่าหลงอยู่เช่นกัน หลงน้อยใจพ่อมาก พ่อไม่เชื่อคำพูดลูกตัวเอง ไปฟังคนอื่น หลงไม่ได้มีอะไรกับเหมยฮัวซะหน่อย

เมื่อรู้ว่าพ่อตัว กับครอบครัวเสี่ยเต๊กยังตามล่าให้หลงกลับไปแต่งงาน หลงจึงกบดานอยู่บางไทรต่อไปไม่มีกำหนดกลับ อีกทั้งอยู่ต่างจังหวัดก็อากาศดี ผู้คนจริงใจ ไม่เหมือนคนกรุงเทพฯ ส่งยิ้มมาพร้อมกับซ่อนดาบในมือ

วันหนึ่งหลงจับผลัดจับผลูขึ้นเล่นลิเกแทนชาวคณะด้วยเหตุจำเป็น ครูเทียมเห็นแววหลง จึงปั้นเป็นพระเอกลิเก ครูเทียมจะลองเจียระไนเพชรในตม ที่ชะตาส่งมาให้เจอกัน ลิเกรึ...... หลงเคยร้องลิเกซะที่ไหน แต่ความที่ชอบร้องเพลงเป็นทุนเดิม เอาวะ..ร้องลิเกก็ร้อง มันก็ไม่ต่างจากร้องเพลงซักเท่าไหร่หรอกมั๊ง

หลงเริ่มหัดรำก่อน โดยน้ากำจายเป็นครูสอน หลงรำไม่เก่งซักเท่าไหร่ มีดีที่เสียงร้อง ทำให้ครูเทียมพอใจได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องรำ ค่อย ๆ ฝึกไป เดี๋ยวก็รำสวย

ฟ้าประทานเห็นครูเทียมเอาใจใส่หลง อย่างกับจะปั้นหลงเป็นพระเอกลิเก ฟ้าประทานเริ่มทำตัวงี่เง่า เรียกร้องความสนใจจากครู ฟ้าประทานตื่นสาย มาซ้อมช้า ซ้อมแป๊บ ๆ หยุดพัก มีประชดประชันครูเทียม ลืมฟ้าประทานแล้ว

ครูเทียมรักลูกคณะในวงทุกคนเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นพระเอก นางเอก นางร้าย ตัวโกง นักดนตรี แม้แต่ลูกจ้างตำแหน่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในคณะ ครูก็ให้ความเมตตาเสมอกัน ครูเทียมเรียกฟ้าประทานมาคุย ครูไม่ได้รักไอ้เจ้าหลงมันมากกว่าฟ้าประทาน ที่เอาใจใส่มันมากกว่าเพราะมันเพิ่งหัดเล่นลิเก ส่วนฟ้าประทานน่ะ เก่งแล้ว

คำอธิบายของครูเทียมไม่ทำให้ฟ้าประทานพอใจ ฟ้าประทานอยากเป็นลูกศิษย์ที่รักที่สุดของครู เป็นพระเอกลิเกที่หล่อที่สุด เป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคเลิศเลอที่สุด และวันหน้าฟ้าประทานจะต้องมีชื่อเสียง ร่ำรวยเงินทองที่สุด

ครูเทียมรู้จักฟ้าประทานดี เพราะเลี้ยงมันมากับมือ ไอ้เด็กคนนี้ใฝ่สูง อยากได้อยากมี ไม่รู้จักพอ ครูเทียมเตรียมใจไว้ ซักวันหนึ่ง ฟ้าประทานอาจทิ้งคณะลิเกของครูไป

พร้อมพงศ์ตามมาเจอลูกชายที่บางไทร บังคับให้หลงกลับกรุงเทพฯไปแต่งงานกับเหมยฮัว เป็นตายยังไงหลงก็ไม่กลับ พร้อมพงศ์เลยเช่าบ้านอยู่ใกล้บ้านลิเก คอยไปป่วนลูกชาย บีบให้หลงทนอยู่ไม่ได้ ยอมกลับกรุงเทพฯเอง จอมนางและคนบ้านลิเกไม่รู้ว่าพร้อมพงศ์เป็นพ่อหลง

ฟ้าประทานหลอกแดกเจ๊ทรงงามมาหลายปี ไอโฟน ไอแพด ที่เอามาอวดชาวคณะ ก็ล้วนเป็นอภินันทนาการจากเจ๊ทรงงาม ฟ้าประทานมีชั้นเชิงแพรวพราวหลอกล่อผู้หญิง ตราบใดที่ฟ้าประทานยังไม่ได้เสียกับเจ๊ทรงงาม เจ๊ก็ต้องทุ่มแหลก

วันนี้เจ๊ทรงงามจัดหนัก ซื้อรถยนต์มือสองให้ฟ้าประทาน 1 คัน เอาไว้ขับไปเล่นลิเก ไม่ต้องนั่งเบียดเสียดไปกับรถของคณะ ชาวคณะอู้หู... ในรถมีเครื่องเล่นซีดีด้วย ฟ้าประทานหวงรถมาก ไม่ค่อยยอมให้ใครนั่ง

จอมนางชิงชังฟ้าประทานเหลือกำลัง ครูเทียมเลี้ยงมันมา ให้ข้าวให้น้ำ ให้ที่กินที่นอน มันไม่เคยคิดตอบแทนบุณคุณ ค่าตัวที่เล่นลิเกก็เอาเงินเดือนแพงกว่าคนอื่น ครูเทียมปลงใจ ความกตัญญูเป็นเรื่องที่บังคับใครไม่ได้ แล้วครูเองก็ไม่เคยหวังจะได้อะไรคืนมาจากคนที่ชุบเลี้ยงมา จอมนางกอดครูเทียม จอมนางโชคดีที่สุด มีปู่แสนดีอย่างครูเทียม

ครูเทียมเริ่มให้จอมนางซ้อมบทเข้าพระเข้านางกับหลง หลงดีใจวี้ดวิ้วววว... ได้ทีเกี้ยวจอมนางเจอจอมนางเล่นงานกลับ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับสาวซ่าบางไทร ครูเทียมยังเงียบไว้ ไม่ว่ากระไรที่หลงเกี้ยวหลานสาว แต่หากลามปามกว่านี้ เจอส้นทีนครูแน่...

ที่กรุงเทพฯ เหมยฮัวแพ้ท้องหนัก อ้วกทั้งวัน เสี่ยเต๊กเห็นว่าชักช้าไม่ได้ ญาติสนิทมิตรสหายเริ่มเม้าท์มอยด์ เหมยฮัวท้อง... เสี่ยเต๊กสั่งลูกน้อง กูให้เวลามึง 3 วัน มึงตามหาไอ้พงศ์เทพไม่เจอ พวกมึงไม่ต้องกลับมา

พงษ์เทพหรือหลง ถูกเบิ้มกับพลแกะรอยมาถึงบางไทร หลงต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ และขอร้องให้พ่ออย่าชี้เป้าเค้า พร้อมพงศ์เริ่มผูกพันกับบ้านลิเก เลยไม่จับลูกชายไปสังเวยเสี่ยเต๊ก

ฟ้าประทานกังวลกับสถานะการเงินของคณะลิเกเทียมฟ้า ลาออกจากคณะเทียมฟ้า ไปตั้งคณะลิเกของตัวเอง ตุ้มตามไปอยู่กับฟ้าประทาน ความลับของทั้งคู่แตกโพละ ฟ้าประทานกับตุ้มได้แอบกระทำการฟิลเจอร์ริ่งกันมานานแล้ว ตุ้มหลงรักฟ้าประทานมากขนาดยอมเป็นเมียเก็บ

ฟ้าประทานไปอาศัยอยู่กับเจ๊ทรงงาม โดยเจ๊ทรงงามลงทุนตั้งคณะลิเกให้ ตุ้มย้ายมาอยู่ด้วยกัน กลายเป็นรักสามเส้าในบ้าน อลวนอลเวง ครื้นเครงดีแท้

หลังฟ้าประทานลาออกจากคณะ หลงถูกดันขึ้นเป็นพระเอกลิเกแทนฟ้าประทาน ครูเทียมตั้งชื่อในวงการลิเกให้หลงว่า “ เทพทอง สุวรรณศิลป์” คณะลิเกของครูเทียมปิดวิกประชันกับคณะของฟ้าประทาน ผลออกมาคณะเทียมฟ้าแพ้ยับ คนดูไปกองที่วิกฟ้าประทานหมด เทียมฟ้าเล่นลิเกทรงเครื่อง ที่เดินเรื่องช้า ไม่ทันใจคนดู ขณะที่คณะฟ้าประทานเล่นลิเกลูกบท เดินเรื่องกระชับฉับไว

หลงหาทางกอบกู้คณะเทียมฟ้า เมื่อชาวบ้านไม่นิยมลิเกทรงเครื่องแล้ว เทียมฟ้าก็ต้องเล่นเป็น....ลิเกโชว์... ลิเกทรงเครื่องเป็นศิลปะการแสดงที่หาดูยาก ใกล้สูญหาย คนที่สนใจศิลปวัฒนธรรมจึงสนใจ หลงหางานให้คณะ รำโชว์นักท่องเที่ยวต่างชาติในโรงแรม ชาวต่างชาตินิยมชมชอบลิเกทรงเครื่องมาก คณะเทียมฟ้าเริ่มมีงานเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นงานโชว์ตามโรงแรม ชาวคณะที่ลำบากขัดสนมาหลายปี กลายเป็นอยู่ดีกินดีขึ้น ทุกคนยกความดีความชอบให้หลง จอมนางชื่นชมพี่หลงมาก พี่หลงฉลาด หล่อ นิสัยดี อู้ยยย หาที่ติไม่เจอ

ชีวิตหลงช่วงนี้ งานก็รุ่ง รักก็ฟรุ้งฟริ้ง จอมนางมีใจให้พี่หลง สองคนชอบทำตาหวานใส่กันจนโดนชาวคณะแซว

คณะฟ้าประทานเจ๊งไม่เป็นท่า เจ๊ทรงงามจับได้ว่าฟ้าประทานอมเงิน เจ๊ไล่ฟ้าประทานกับตุ้มออกจากบ้าน ครูเทียมรับทั้งคู่กลับเข้าคณะ หลงยินดีคืนบทพระเอกให้ฟ้าประทาน อีกไม่นานจะประกวดลิเกชิงแชมป์ประเทศไทยแล้ว ฟ้าประทานควรเล่นเป็นพระเอก

ครูเทียมกับจอมนางมอบตำแหน่งผู้จัดการคณะให้หลง มีหน้าที่คุยเรื่องเงินทอง หางาน หาเงินเข้าคณะ ซึ่งเป็นงานที่หลงถัด

เสี่ยเต๊กรู้ว่าหลงอยู่บ้านลิเก ก็มาจับตัว ชาวคณะเทียมฟ้าช่วยไว้ หลงบอกบ้านลิเกว่าเสี่ยมาตามล่าเพราะหนี้สิน โดยปิดทุกคนเรื่องเค้าถูกกล่าวหาว่าทำผู้หญิงท้อง เนื่องด้วยกลัวจอมนางโกรธ

อยู่ ๆ เหลียนฮัวพาเหมยฮัวที่ท้องโต 7 เดือนมาบ้านลิเก ชี้หน้าด่าหลง ทำเหมยฮัวท้องแล้วทิ้ง จอมนางเสียใจมาก ขณะที่ครูเทียมไม่ปักใจเชื่อคำพูดเหลียนฮัวนัก หลงถูกจับไปขังในบ้านเสี่ยเต๊กเพื่อรอวันแต่งงาน

วันแต่งงานของหลงตรงกับวันประกวดลิเกชิงแชมป์ประเทศไทย จอมนางไหว้ขอพรพ่อแก่ ให้พ่อแก่ดลจิตดลใจจอมนางให้เข้มแข็ง มีกำลังใจประกวดลิเก

พร้อมพงศ์รู้จากหลงว่าแฟนตัวจริงเหมยฮัว คือ นักร้องดังชื่อพีท จึงไปลากคอพีทมาแต่งงานกับเหมยฮัว เสี่ยเต๊กอึ้งรับประทาน เข้าใจผิดว่าหลงทำลูกสาวท้อง ตามล่าหลงอยู่หลายเดือน เสี่ยเต๊กสำนึกผิด ขอโทษขอโพยหลง หลงให้อภัยเสี่ยเต๊ก เราเลิกแล้วต่อกันเท่านี้

คณะเทียมฟ้าขึ้นประกวด หลงมาทันดูจอมนางเล่นลิเก เหมยฮัวพาแฟนหนุ่มตัวจริงมาชี้แจง ผู้ชายคนนี้ทำเหมยฮัวท้อง ไม่ใช่หลง ครูเทียมและชาวคณะเชื่อ หลงขึ้นเวที ยืนยันความรักของเค้าที่มีต่อจอมนาง หลงขอจอมนางแต่งงาน คนดูทั้งโรงละครส่งเสียงเชียร์ให้จอมนางรับคำแต่งงาน จอมนางตกลงแต่งงานกับพี่หลง แต่...ให้พี่หลงรออีก 3 ปี ขอดูใจอีกซักหน่อย หลงรักจริง รอได้

ครูเทียมดีใจที่ได้หลงเป็นว่าที่หลานเขย ที่ผ่านหลงพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นคนดี และที่สำคัญหลงซึมซับความรักในลิเกทรงเครื่องจากครู เชื่อได้ว่า วันหน้าหลงจะช่วยจอมนางสืบสานลิเกทรงเครื่องต่อไป

คาแร็กเตอร์ตัวละคร

พงศ์เทพ (หลง)
พระเอกของท้องเรื่อง รูปหล่อ อารมณ์ดี อัธยาศัยเป็นเลิศ พงศ์เทพเป็นผู้ชายรักจริง ไม่เคยหลอกลวงสาวที่ไหน ถ้าลงจีบแล้ว นั่นแสดงว่ารัก อยากเป็นแฟน อยากดูแล ปกป้องคุ้มครองสาวคนนั้น พงศ์เทพมีมุม drama จริงจังกับชีวิต มุมานะช่วยกิจการ Sme ที่บ้าน โดยทำทุกหน้าที่ เป็นรองผู้จัดการ เป็นเซล เป็นพนักงานบัญชี พนักงานส่งของ พงศ์เทพทำงานหนัก อยากสร้างฐานะตัวเองให้มั่นคง พรสวรรค์หนึ่งของพงศ์เทพก็คือ การร้องเพลง สมัยเด็กคว้ารางวัลมาหลายเวที ถนัดแนว Pop ที่สุด แต่ลูกทุ่งก็พอไหว พงศ์เทพระวังตัวไม่ร้องเพลงในครัว กลัวได้เมียแก่

จอมนาง
นางเอกลิเกสาวสวย เป็นคนบางไทร อยุธยาโดยกำเนิด ต้นตระกูลเป็นคณะลิเก พ่อแม่ตายตั้งแต่เด็ก ได้ปู่ซึ่งเป็นเจ้าของคณะลิเกเลี้ยงมา จอมนางนิสัยทโมนตั้งแต่เล็ก เวลาเล่นลิเกนางจะอ่อนหวาน น่าทนุถนอมมาก พอลงจากเวทีกลายร่างเป็นอีกคน ห้าว แสบ ซ่า นิสัยอื่น ๆ ของจอมนางก็ขี้เล่น เฮฮา ครึกครื้นเครงอลเวงอยู่เสมอ พอเจอหลง หรือพงศ์เทพก็รักแรกพบ ด้วยประทับใจความหล่อ

ครูเทียม
ผู้ก่อตั้งคณะลิเกเทียมฟ้า สมัยเป็นหนุ่มวัยละอ่อน เคยมีโอกาสได้เล่นละครกรมศิลป์ เมื่อลาออกมากลับบ้านเกิดที่บางไทร อยุธยา จึงตั้งคณะลิเกทรงเครื่องขึ้นเป็นลิเกที่รำสวย คนเล่นสวมเครื่องทรงครบชุด บทร้องก็งดงาม ครูเทียม หรือใคร ๆ เรียกว่าครูเทียมเป็นคนแต่งบทร้องเอง ตอนหนุ่ม เล่นเป็นพระเอกลิเก คู่กับเมียรักเล่นเป็นนางเอก ลูกชายกับลูกสะใภ้รถคว่ำตาย ครูเทียมจึงเลี้ยงจอมนาง หลานสาวคนเดียวมา

ฟ้าประทาน
พ่อแม่เคยทำงานที่คณะลิเกครูเทียม แม่ที่เล่นเป็นนางร้ายหนีตามเด็กส่งน้ำแข็งต่อมาพ่อก็ทิ้งฟ้าประทานไปมีเมียใหม่ ไม่เคยกลับมาดูดำดูดีลูกชายวัยเพียงไม่กี่ขวบ ฟ้าประทานโตมาได้ก็เพราะความเมตตาของครูเทียมที่ชุบเลี้ยงไว้ การถูกพ่อแม่ทอดทิ้งสร้างปมในใจให้ฟ้าประทาน ฟ้าประทานไม่เชื่อในความรัก ไม่เชื่อในความดีงาม เมื่อโตเป็นหนุ่ม ฟ้าประทานหล่อเหลา ครูเทียมจึงให้เป็นพระเอกลิเก คนที่ฟ้าประทานรักมีคนเดียวคือ ตัวเอง

ตุ้ม
หรือนังตุ้มของชาวคณะลิเกเทียมฟ้า นังตุ้มเล่นเป็นนางร้าย นิสัยขี้อิจฉา เห็นใครดีกว่าไม่ได้เป็นต้องแขวะ มีเรื่องกับเค้ารอบวง หนุ่มหล่อหนึ่งเดียวที่ได้ตัว ได้หัวใจตุ้มก็คือ ฟ้าประทาน ตุ้มฝันหวาน วันหนึ่งจะได้แต่งงานอยู่กินเป็นคู่ผัวตัวเมียกับฟ้าประทาน

กระแต
หลานครูเทียม เป็นลูกพี่ลูกน้องจอมนาง กระแตเป็นคู่ซี้จอมนาง เนื่องจากอายุไล่เลี่ยกัน ความคิดความอ่านคล้ายคลึงกัน กระแตแสบซ่าน้อยกว่าจอมนาง เลยยกให้จอมนางเป็นหัวโจ๊ก รัก ปกป้องจอมนางทุกเรื่อง สำหรับกระแต จอมนางไม่เคยทำอะไรผิด นอกจากเล่นลิเกแล้ว กระแตยังดูแลชุดลิเก และเครื่องทรง มีฝีมือเย็บปักถักร้อย

พร้อมพงศ์
พ่อพงศ์เทพ เป็นนักธุรกิจที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ หยิบจับอะไร เจ๊งหมด ติดพนันบอล มีหนี้สินหลายล้านบาท เลยบังคับให้ลูกชายแต่งงานกับลูกสาวเสี่ยเพื่อปลดหนี้ ไม่ใช่ไม่รักลูก แต่เห็นลูกชายไม่มีแฟน ลูกสาวเสี่ยก็สวยดี แต่ง ๆ ไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ตอนหลังคิดได้ว่าทำให้ลูกชายเสียใจ และสำนึกถึงการทำธุรกิจของตัวเองที่ไร้ซึ่งคุณธรรม ตอนหลังกลายคนดีมีคุณธรรม

เสี่ยเต๊ก
คนไทยเชื้อสายจีน แต่หน้าออกแขก เพราะแม่มีเชื้ออินเดีย มีเลาจน์ ที่ทำโต๊ะพนันบอลผิดกฏหมาย เงินล้นบัญชีธนาคารเลยปล่อยกู้ คิดดอกเบี้ยอภิมหาโหดร้อยละ 30 ใครไม่ใช้หนี้ เสี่ยเต๊กส่งนักเลงไปยำ เสี่ยเต๊กเป็นคนบ้าเงินบ้าวัตถุ รวยแล้วไม่รู้จักพอ กับครอบครัว เสี่ยกดขี่ลูกเมีย เอะอะด่า ๆ ใช้อารมณ์กับลูกเมีย ทำให้ลูกสาวกลัวเตี่ยมาก ตอนหลังโดนเมียปฎิวัติ ทำเอาไปไม่เป็น หงอไปเลย

เหลียนฮัว
เมียเสี่ยเต๊ก เป็นลูกเจ้าของร้านทอง พอแต่งงานก็เอาสมบัติติดตัวมาด้วยรวมกับเงินสามี จึงลงทุนกิจการสามี หลายสิบปีที่ผ่านมา เป็นแม่บ้าน ยุ่งวุ่นวายกับการดูแลลูกดูแลผัว รักลูกสาวยิ่งชีวิต เพราะกว่าจะมีลูกได้ แท้งไปหลายคน เหมยฮัวมีลูกยาก เหมยฮัวเป็นแม่ที่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อลูกสาว ให้เดินลอดท้องช้างตกมันก็ยอม ขอเพียงให้ลูกสาวมีความสุข

เหมยฮัว
ลูกสาวเหลียนฮัวกับเสี่ยเต๊ก เป็นเด็กขาดความอบอุ่น พ่อแม่ห่างเหิน เป็นแฟนคลับนักร้องซุป'ตาร์ แอบคบหากันจนมีลูก เหตุการณ์บีบคั้นทำให้เหมยฮัวต้องใส่ร้ายพงศ์เทพว่าเป็นพ่อลูกในท้อง เหมยฮัวรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา อยากสารภาพความจริงพ่อกับแม่ แต่เสี่ยเต๊กกับเหลียนฮัวฮึ่ม ๆ จะลากคอพงศ์เทพมาแต่งงานกับเหมยฮัวให้ได้ เหมยฮัวเลยไม่กล้าบอกความจริง

เจ๋ง
หลานพร้อมพงศ์ เป็นเด็กช่าง จึงดูแลเกี่ยวกับเครื่องกลต่าง ๆ ในบริษัทพร้อมพงศ์ อาศัยกินอาศัยนอนบ้านพร้อมพงศ์ ได้เงินเดือนมั่งไม่ได้มั่ง พ่อแม่เจ๋งตายแล้ว เจ๋งเลยรักลุงพงศ์กับพี่เทพมาก นับถือพี่เทพเหมือนพี่ชายแท้ ๆ เจ๋งเป็นพวกปากไม่มีหูรูด มักพูดอะไรผิดหูชาวบ้านชาวช่อง

กำจาย
คนเก่าคนแก่ในคณะลิเกเทียมฟ้า ตอนหนุ่ม ๆ เล่นเป็นพระเอก พอสูงวัยขึ้นก็เล่นเป็นตัวโกง กำจายเล่นลิเกเก่งมาก มีลูกล่อลูกชนพราวแพรว ชีวิตนอกวิกลิเกส่วนใหญ่ กำจายทุ่มเทให้น้ำอำพัน เมาได้ทุกวี่ทุกวัน เป็นลำยองภาคผู้ชาย เคยขึ้นเวทีทั้งเมามาแล้ว อาศัยความสามารถเฉพาะตัว รอดมาได้ แต่ก็โดนครูเทียมด่ายับ

โก่ง
พลขับและมือระนาดประจำคณะลิเกเทียมฟ้า อายุน้อยกว่ากำจาย เข้ามาอยู่ในคณะช่วงใกล้ๆ กัน โก่งชอบพูดจากวนประสาท แต่ออกกแนวฮา ๆ คนเลยไม่โกรธ

โก๊ะ
เบ้ประจำคณะลิเกเทียมฟ้า เล่นเป็นมหาดเล็ก ชอบคิดตัวเองฉลาดผุดๆ จริง ๆ โง่มาก โก๊ะเป็นที่รักใคร่ของทุกคนในคณะ แล้วยังเป็นเหยื่อชั้นดีให้ใครต่อใครอำเล่น เพราะความซื่อผิดมนุษมนาของโก๊ะ โก๊ะไม่เคยโกรธเวลาโดนอำแรงๆ เห็นเป็นเรื่องหนุกหนาน

เจ๊ทรงงาม
เจ้าของตลาดทรงงาม ในตัวอำเภอบางไทร กิจวัตรประจำวันคือเดินเก็บค่าเช่าแผงค้าในตลาด ใครจ่ายช้า เจ๊แกด่าเปิดเปิงจนต้องปิดแผงหนี เป็นกะดังงาลนไฟ ผัวตายนานแล้ว ไม่มีผัวใหม่ เพราะหลงรักพระเอกลิเกนามว่าฟ้าประทาน อยากเอาทำผัวเหลือเกิน ทุ่มเงินให้ทองเป็นแสนๆ ก็ไม่ได้แอ้มฟ้าประทานเสียที

เบิ้ม กับ พล
ลูกน้องเสี่ยเต๊ก 2 คน

สัมภาษณ์ นักแสดง-ผู้กำกับ

ศรราม เทพพิทักษ์ รับบทเป็น พงศ์เทพ/หลง
“พงศ์เทพ” ลูกชายของ ”พร้อมพงศ์” เป็นคนขยัน แต่พ่อติดหนี้การพนัน พงศ์เทพจึงต้องทำงานทุกอย่างเพื่อใช้หนี้ และถูกจับให้แต่งงานกับเหมยฮัว ลูกสาวของเสี่ยเต็ก เขาจึงต้องหนีไปอยู่ในคณะลิเกเทียมฟ้า ปิ๊งจอมนางตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ และด้วยความที่เป็นคนหน้าตาดี มีน้ำใจต่อคนรอบข้าง จึงเป็นที่รักของคนในคณะลิเก ทำให้ ฟ้าประทานซึ่งเป็นพระเอกลิเกของคณะเทียมฟ้า เขม่น ไม่ชอบขี้หน้า

“ในเรื่องก็จะมี 2 ชื่อ คือ ”พงศ์เทพ” กับ “หลง” ทั้ง 2 คาแร็กเตอร์นี้จะคล้ายๆกัน คือ เป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่น มองโลกในแง่บวก ส่วนชื่อ “หลง”ได้มาเพราะ “ครูเทียม” เห็นเราความจำเสื่อม หลงทางมา จึงตั้งชื่อให้ว่า “หลง” เรื่องนี้เราต้องเล่นลิเกด้วย ก็พอมีพื้นฐานการร้อง การรำมาบ้าง และในเรื่องหลงก็เพิ่งหัดเล่นลิเกเหมือนกัน เราจึงไม่จำเป็นต้องเก่งมาก ก็ขอฝากเป็นกำลังใจให้ ”ลิเก๊ ลิเก” ด้วยนะครับ คิดว่าไม่นานก็จะได้ชมกันแล้ว ตัวละครแต่ละคนล้วนมีฝีมือมากมาย เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย สนุกแน่นอนครับ”

เปาวลี พรพิมล รับบทเป็น จอมนาง
“จอมนาง” นางเอกลิเก หลานสาว “ครูเทียม” เจ้าของคณะลิเกเทียมฟ้า เป็นคนตระหนี่ เค็ม ด้วยความที่เป็นหลานคนเดียวของปู่ จึงต้องคอยดูแลทุกคนในคณะ และคอยจัดการทุกอย่างในบ้าน ไม่ถูกชะตากับหลงตั้งแต่แรกเจอ เพราะคิดว่าหลงเป็นคนไม่ดีที่ปลอมตัวเข้ามาอยู่ในคณะ จึงคอยจ้องจับผิดหลงตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็แพ้ความดีของหลง และตกหลุมรัก โดยไม่รู้ตัว

“รับบทเป็น “จอมนาง” ค่ะ เป็นหลานของ “ครูเทียม” เจ้าของคณะลิเกเทียมฟ้า อยู่กับครูเทียมมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยซึมซับในด้านลิเก จนได้ขึ้นมาเป็นนางเอกลิเกในคณะค่ะ เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับพี่หนุ่มครั้งแรก พี่หนุ่มน่ารักมากค่ะ พี่ๆหลายคนจะมีพื้นฐานด้านลิเกมาบ้าง ก็จะช่วยบอก ช่วยสอนเราเยอะเลย เพราะเรื่องนี้เปาก็เพิ่งเคยได้ร้อง รำลิเกเป็นครั้งแรก ซึ่งมันยากมากสำหรับเปา ก็ต้องเริ่มเรียนกันใหม่หมดเลย แต่ก็ตั้งใจและพยายามอย่างสุดความสามารถค่ะ.. เปาฝากละครเรื่อง “ลิเก๊ ลิเก” ด้วยนะคะ เพราะเป็นการสืบสานวัฒนธรรมด้วย ได้ความสนุกสนาน เราทุกคนตั้งใจกันเต็มที่ ก็อยากให้แฟนๆได้ดูกัน รับรองว่าสุดยอดมากๆค่ะ”

สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล รับบทเป็น ฟ้าประทาน
พระเอกลิเกรูปหล่อของคณะเทียมฟ้า เติบโตมาในคณะลิเก จึงมีความผูกพันกับลิเกและมีครูเทียมที่คอยประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ จนมีชื่อเสียง เป็นคนทะเยอทะยาน รักสบาย เห็นแก่ตัว ไม่ชอบหน้าหลง เพราะมาแย่งตำแหน่งขวัญใจชาวคณะ แอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับตุ้ม ลิเกสาวสวยในคณะ

“รับบทเป็น “ฟ้าประทาน” ครับ ก็จะอยู่ ในคณะลิเกมาตั้งแต่เด็กๆ และมีครูเทียมที่คอยดูแล คอยสอนลิเกให้ เลยมีความผูกพันกับลิเก แต่จะเป็นคนที่เห็นใครได้ดีกว่าตัวเองไม่ได้ อยากได้ดี อยากรวย มีความทะเยอทะยานสูง เลยทำให้ไม่ค่อยถูกกับคนในคณะครับ สิงโตก็ขอฝากละคร “ลิเก๊ ลิเก” ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจพ่อยกแม่ยกทุกๆคนนะครับ เพราะเรื่องนี้ผมก็มีโอกาสได้เล่นลิเกเป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งผมเองไม่เคยผ่านงานนาฏศิลป์มาก่อนเลย ก็ถือว่ายากมากครับ แต่ก็ตั้งใจเรียนร้อง เรียนรำ ฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ เพื่อให้ละครออกมาสมบูรณ์ที่สุด อยากจะให้ลองกลับมาดูวัฒนธรรมที่สวยงามของไทยเรากันนะครับ”

ชาม โอสถานนท์ รับบทเป็น ตุ้ม
ตุ้ม ลิเกสาวสวยของคณะเทียมฟ้า เป็นคนสวยๆ เชิดๆ จริงจังในความรัก ชอบแต่งตัว รักสวยรักงาม เป็นคู่ปรับกับกระแต เพราะชอบอู้งาน ไม่ค่อยช่วยเหลืองานในบ้าน รักฟ้าประทาน อยู่ฝ่ายเดียว ถูกฟ้าประทานหลอกใช้เป็นเครื่องมืออยู่ตลอด

“ตุ้มจะเป็นคนที่ร่าเริง เป็นเด็กต่างจังหวัดที่มีความเชื่อในรักแท้ แล้วก็มีความคิดที่ว่าถ้าเรามีแฟน เราก็ต้องซื่อสัตย์กับเค้า เลยกลายเป็นเครื่องมือของ “ฟ้าประทาน” เพราะเรายึดติดกับคำว่าความรักค่ะ เรื่องนี้ชามต้องเล่นลิเกด้วย ก็รู้ว่าตัวเองอ่อนการเล่นลิเก แต่ก็พยายามเต็มที่กับส่วนอื่น ก็ฝากเป็นกำลังใจให้ชามและชาว “ลิเก๊ ลิเก” ด้วยนะคะ รับรองว่าเป็นละครสนุกสนาน ดูได้ทั้งครอบครัวเลยค่ะ”

พริมรตา เดชอุดม รับบทเป็น กระแต
ลิเกสาวคนสวยอีกคนของคณะเทียมฟ้า เป็นเด็กกำพร้าที่ปู่เทียมเลี้ยงไว้ กระแตจึงรักเทิดทูน กตัญญูต่อปู่เทียมมาก เป็นคนคอยช่วยเหลือจอมนาง ช่วยดูแลทุกอย่างในบ้าน เห็นจอมนางเป็นน้องสาว แต่จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับตุ้ม แต่ลึกๆแล้วก็รักและเป็นห่วงตุ้ม

“กระแตก็จะเหมือนเป็นพี่สาว เป็นเพื่อนคู่หูกับ “จอมนาง” เราจะคอยเป็นห่วง คอยเตือน คอยปลอบใจ คอยห้าม แล้วก็คอยดูว่าใครทำงานไม่ทำงาน ใครขี้เกียจ เหมือนเป็นคนที่คอยสอดส่องดูแล เรื่องนี้จ๋าได้เล่นเป็นนางลิเกด้วย ตัวจ๋าเองก็พอมีพื้นฐานการร้อง การรำมาบ้าง แต่ต้องรื้อฟื้นกันนิดหน่อย ก็สนุกมากค่ะ ที่ได้มีโอกาสเล่นลิเกอีกครั้ง จ๋าคิดว่า “ลิเก๊ ลิเก” เป็นละครอีกเรื่องหนึ่งที่ทีมงานและนักแสดงทุกคนตั้งใจทำ เพื่อให้แฟนๆลิเกและแฟนๆละครของพวกเราได้ดูกันค่ะ”

ปกฉัตร เทียมชัย รับบทเป็น เหมยฮัว
ลูกสาวคนเดียวของเสี่ยเต็ก เป็นคนโลกสวย รักสนุกตามประสาวัยรุ่น จนตั้งท้องกับแฟนหนุ่ม ทำให้พ่อจับแต่งงานกับพงศ์เทพ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าพงศ์เทพเป็นพ่อของเด็กในท้อง แต่เหมยฮัวรักและนับถือพงศ์เทพแบบพี่ชาย จึงทำให้เกิดเป็นเรื่องราววุ่นวายต่างๆตามมา

“บทนี้จิ๊บจะเป็นคนร่าเริง สดใส ชอบเที่ยว ไม่ทันคน จนพลาดตั้งท้อง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก เลยขอร้องให้พี่ “พงศ์เทพ” พาหนี ทุกคนเลยเข้าใจผิดคิดว่า “พงศ์เทพ” เป็นพ่อของเด็กค่ะ เป็นบทที่สนุกมาก และดีใจที่ ได้กลับมาร่วมงานกับเอ็กแซ็กท์อีกครั้ง ทีมงานทุกคนยังน่ารักเหมือนเดิม ก็ฝากละครเรื่อง “ลิเก๊ ลิเก” ด้วยนะคะ จิ๊บเชื่อว่าจะต้องได้ข้อคิดดีๆ ในการดำเนินชีวิตซึ่งสามารถนำไปใช้จริงได้ค่ะ”

สุประวัติ ปัทมสูต รับบทเป็น ปู่เทียม
เจ้าของคณะลิเกเทียมฟ้า เป็นปู่ของจอมนาง เป็นคนที่มีความเป็นครูผู้ให้อยู่เต็มตัว อยากเห็นลิเกทรงเครื่องไทยคงอยู่ต่อไปในสังคมไทย ไม่อยากให้จางหายไปกับอดีต จึงอนุรักษ์ไว้ ไม่ยอมเปลี่ยนไปทำลิเกสมัยนิยมอย่างในปัจจุบัน

“ตอนแรกที่ติดต่อมาให้เล่นเรื่องนี้ก็รับเล่นทันที เพราะด้วยตัวละคร “ครูเทียม” นี้มันมีความน่าสนใจมากๆ เป็นครูสอนลิเกที่หัวโบราณ แถมยังเป็นโรคร้ายแรงด้วย แต่ก็พยายามใช้มุกตลกปกปิดคนในคณะรวมถึงหลานตัวเองไม่ให้รู้ ตัวบทมันยาก มันท้าทาย เลยอยากเล่น อีกทั้งทีมงานของเอ็กแซ็กท์ก็เป็นทีมงานที่มีคุณภาพ คิดว่าละครเรื่องนี้จะเป็นละครที่สนุกมากๆอีกเรื่องนึงเลยล่ะ”

มนตรี เจนอักษร  รับบทเป็น พร้อมพงศ์
พ่อของพงศ์เทพ รักการดูลิเกเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ติดการพนันไม่ทำการทำงาน จนติดหนี้ติดสินเสี่ยเต็ก เป็นคนที่มองทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง ถึงขั้นบังคับลูกชายตัวเองให้แต่งงานกับเหมยฮัว เพื่อที่จะได้เป็นลูกเขยเสี่ยเต็ก เพราะหวังสบายทางลัด

“เรื่องนี้จะเป็นพ่อค้าที่ทำอะไรมาหลายอย่าง ทำธุรกิจอะไรต่างๆ นานา แต่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จ เพราะว่าเป็นประเภทโกงนิดโกงหน่อย กะล่อน เพื่อจะได้ให้ตัวเองมีธุรกิจที่ดีกว่าคนอื่นครับ สำหรับละครเรื่องนี้ถ้าว่ากันจริงๆ มันก็ได้อะไรหลายอย่าง จะได้ดูศิลปะพื้นบ้านของไทย ที่เป็นศิลปะประจำชาติ เรื่องราวสนุกสนานเฮฮา คนดูก็จะดูได้อย่างสบายใจ ไม่ได้ถูกกำหนดว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันเลยดูกลมกลืนกันทั้งบท ทั้งตัวละคร ทำให้ทุกอย่างมันลงตัว น่าติดตามจริงๆครับ”

เมทนี บุรณศิริ  รับบทเป็น เสี่ยเต็ก
อาเสี่ยหน้าเลือดเจ้าของบ่อนคาสิโน เงินล้นบัญชีธนาคารเลยปล่อยกู้ คิดดอกเบี้ยอภิมหาโหด ใครไม่ใช้หนี้ เสี่ยเต๊กจะส่งนักเลงไปยำเละ บ้าเงิน บ้าวัตถุ จนลูกหนี้ต่างพากันหวาดกลัว มีภรรยาคือเหลียนฮัว และมีลูกสาวคือเหมยฮัว เป็นคนมีศักดิ์ศรี มีอิทธิพล มีหน้ามีตาในสังคม ไม่ยอมให้ใคร่มาหยามได้ง่ายๆ

“เสี่ยเต็ก จะเป็นอาเสี่ยขี้โมโห อารมณ์แปรปรวนง่าย เอาแต่ใจ แต่รักลูกสาวมาก เพราะมีลูกแค่คนเดียว เป็นคนถือศักดิ์ศรีเป็นใหญ่ ชอบข่ม “เหลียวฮัว” เมียตัวเองให้อยู่ใต้อำนาจ และเมื่อมีคนมาหยามเกียรติย่อมยอมไม่ได้ โกรธ “พงศ์เทพ” มากที่บังอาจมาทำลูกสาวตนท้อง แต่ด้วยความที่พงศ์เทพเป็นคนขยันทำมาหากิน ก็หวังว่าจะให้แต่งกับลูกสาวแล้วมาช่วยดูแลกิจการต่อจากเราได้ เลยพยายามให้อภัย ในเรื่องนี้จะสอดแทรกเรื่องการใช้ชีวิตในครอบครัวไว้เยอะมาก เพราะพื้นฐานแต่ละครอบครัวจะไม่เหมือนกัน อยากให้ดูและเอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันนะครับ”

วราพรรณ หงุ่ยตระกูล รับบทเป็น เหลียนฮัว
ภรรยาของเสี่ยเต็ก และแม่ของเหมยฮัว เป็นแม่บ้าน วันๆยุ่งวุ่นวายกับการดูแลลูกดูแลผัว รักลูกสาวยิ่งชีวิต พอเสี่ยรู้ว่าเหมยฮัวท้อง ตนก็กลัวว่าเสี่ยจะโกรธที่ลูกสาวท้องไม่มีพ่อ เลยโบ้ยความผิดไปให้พงศ์เทพ ว่าทำลูกสาวท้อง

“ตัว “เหลียวฮัว” จะเป็นคนที่รักลูกมาก ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก เป็นคนที่กลัว ผัวมากๆ ยอมแม้กระทั่งให้ผัวไปมีอีหนูนอกบ้านได้ เพราะไม่กล้ามีปาก มีเสียง ในปัจจุบันคิดว่าหลายครอบครัวจะมีปัญหาอย่างนี้อยู่ ก็อยากให้ดูและเอาวิธีการ ใช้ชีวิต บางอย่างก็น่าเอาไปทำตาม แต่บางอย่างก็ควรไตร่ตรองให้ดีดี เรื่องนี้จะแฝงสาระในการดำเนินชีวิตครอบครัวไว้ด้วยค่ะ”

เอกชัย ศรีวิชัย รับบทเป็น กำจาย
ลิเกอาวุโสในคณะเทียมฟ้า เป็นลุงขี้เมา ชอบดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจ เมาทั้งวัน แต่จริงๆแล้วเป็นคนจิตใจดี มีน้ำใจ คอยสอนและให้คำแนะนำหลงอยู่เสมอ

“รับบทเป็น “กำจาย” ครับ เป็นพระเอกลิเกเก่าที่ตกรุ่นแล้ว แต่ตอนหลังก็มาเป็นครูสอนลิเก รับหน้าที่ต่อจากพ่อครู คอยสอนรำ สอนร้อง สอน การเล่นลิเก แต่ตัวเองเป็นคนขี้เมา เลยได้สาระบ้าง ไม่ได้บ้างตามประสาหน่ะครับ สำหรับในยุคปัจจุบันละครที่สะท้อนความเป็นวัฒนธรรมของไทย นับวันจะถูกลืม แล้วก็ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจกับมันสักเท่าไหร่ จริงๆ ไม่อยากจะมาบอกว่า ฝากละครเรื่องนี้ด้วยนะ พี่ว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องสนับสนุนวัฒนธรรมของตัวเราเอง วันนี้ถ้าหากเราไม่รักศิลปพื้นบ้านของตัวเราเอง เราจะให้ใครมาดูแลให้เรา ช่วยกันดูเถอะ ดูแล้วจะตำหนิก็ได้ จะชื่นชมก็ได้ แต่ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ที่สำคัญที่สุด ก็อยากให้ส่งกำลังใจให้กับนักแสดงทุกคน เพราะว่า นักแสดงทุกคนไม่ว่าใครก็ตาม หากเราทำงานไปแล้ว มีคนสนใจมีคนติดตามงาน เราจะมีความสุข ”

ไท ธนาวุฒิ รับบทเป็น โก่ง
เป็นสมาชิกคณะลิเก เป็นคนโพล่งๆ ตามประสาคนต่างจังหวัด คอยช่วยเหลือหลงอยู่ตลอดตั้งแต่ที่หลงก้าวเข้ามาอยู่ในคณะ คอยสอนหลงทั้งร้อง ทั้งรำลิเก และการใช้ชีวิตในคณะลิเก

“ผมรับบทเป็น “โก่ง” ครับ ในคณะลิเกก็จะเป็นคนตีตะโพน และยังได้ออกแขกหน้าเวทีลิเกเป็นครั้งแรกด้วย คาแร็กเตอร์จะคล้ายตัวเอง ซื่อๆแต่จริงใจ เล่นเป็นเพื่อนพระเอก คอยช่วยเหลือพระเอกอยู่ตลอด เป็นบทที่ตื่นเต้นมากครับ ในชีวิตไม่เคยได้ทำอะไรอย่างนี้มาก่อน ก็อยากให้ลองติดตามดูกันนะครับ”

จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม รับบทเป็น โก๊ะ
เบ้ประจำคณะลิเกเทียมฟ้า ด้วยใจรักลิเก โก๊ะเลยมาขอสมัครเล่นลิเกกับครูเทียม เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในคณะ แล้วยังเป็นเหยื่อชั้นดีให้ใครต่อใครอำเล่น ด้วยความที่เป็นคนซื่อๆ เชื่อคนง่าย

“ผมรับบทเป็น “โก๊ะ” ครับ เป็นคนซื่อๆ ตรงๆ พูดไม่ค่อยคิด เป็นลูกน้องของพี่ “ หลง” อีกทีนึง ตอนแรกที่ตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้ก็เพราะว่าได้เล่นลิเกด้วยครับ ผมเป็นเด็กโขนเลยพอมีพื้นฐานการร้อง การรำมาบ้าง เลยสบายเลยครับ สำหรับเรื่องนี้เป็นวัฒนธรรมของไทยโดยแท้ ก็ดีใจนะครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในถ่ายทอดและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้รุ่นลูก รุ่นหลานได้ดูกัน”

แจ็ค เชิญยิ้ม รับบทเป็น เจ๋ง
ลูกจ้างพร้อมพงศ์ ช่วยดูทั้งที่โรงงานและที่บ้าน อาศัยกินนอนบ้านพร้อมพงศ์ ได้เงินเดือนมั่งไม่ได้มั่ง เข้าใจพร้อมพงศ์ว่าขายของไม่ได้ เจ๋งเอาแค่ว่ามีกิน มีบ้านซุกหัวนอน พื้นเพเจ๋งเป็นคนต่างจังหวัด ตัวคนเดียว เจ๋งเลยรักพงศ์เทพ ลูกชายพร้อมพงศ์เหมือนพี่น้องแท้ ๆ อยู่กันมาหลายปีจนผูกพันเหมือนครอบครัว

“เจ๋ง จะเป็นลูกน้องของ “พงศ์เทพ” ครับ จะคอยช่วยงาน คอยดูแลทั้งที่โรงงานและที่บ้าน แต่พอพงศ์เทพปลอมตัวไปเป็นหลงในคณะลิเก เราก็ยังคอยแอบให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลาครับ คือเราจะรักเขาเหมือนพี่ชายคนนึง และนับถือลุง “พร้อมพงศ์” เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่ครับ ส่วนตัวผมคิดว่าลิเกของไทยมันมีเสน่ห์มากครับ ก็อยากให้ลองติดตามกันดูนะครับ สนุก มันส์ ฮาแน่นอน ”

กิตติ บุญสกุลศักดิ์ กำกับการแสดง
กิตติ บุญสกุลศักดิ์ ผู้กำกับมากฝีมือของเอ็กแซ็กท์ ฝากฝีมือกำกับละครแนวคอเมดี้โดนใจผู้ชมมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น หัวใจพลอยโจร, ดำขำ, หวานใจยัยต่างดาว, เจ้าแม่จำเป็น ฯลฯ จนมาละครแนวครอบครัวสุดดราม่า “ปีกมาร” ที่ถ่ายทอดได้โดนใจแม่ผัว ลูกสะไภ้อย่างจัง ล่าสุดผู้กำกับติก็หวนกลับมาทำละครแนวคอมเมดี้อีกครั้งใน “ลิเก๊ ลิเก” ครั้งนี้เจ้าตัวจะมีมุกเด็ดอะไรมาเอาใจคอละครบ้าง? ไปฟังกัน..

“เป็นละครรีเมคซึ่งเรื่องราวมีการปรับใหม่ เป็นเรื่องของคนที่อยู่ในกรุงเทพฯคนหนึ่ง เจอชีวิตที่วุ่นวายจึงหนีไป ใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัดแทน ทำให้เจอคนที่จริงใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เลยทำให้เปลี่ยนแนวความคิดที่จะใช้ชีวิตในแบบเรียบง่าย ในขณะเดียวกันเราก็เอาเรื่องเกี่ยวกับการเล่นลิเกมาแทรก ซึ่งตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยจะรู้จักกันแล้ว เราจึงอยากนำเสนอรากแท้ของลิเกจริงๆ ว่ามันคืออะไร เราก็ไปหาข้อมูล ก็เลยเลือกลิเกทรงเครื่องโบราณ ซึ่งแตกต่างตรงพระนางจะใส่ชฎา และห่มสะไบ แต่วิธีการแสดงเหมือนลิเกปัจจุบัน แต่ว่ามันจะมีความละเมียดละไมมากกว่า เราจึงจับประเด็นนี้มาทำ เพื่อให้มีความน่าสนใจ และเพื่ออนุรักษ์ประเพณีของไทยด้วย ความพิเศษของเวอร์ชั่นนี้ผมคิดว่าอยู่ที่นักแสดงที่มาเล่น อย่างพี่หนุ่ม-ศรราม, เปาวลี และสิงโต ซึ่งเราไม่ได้พรีเซนต์ในมุมที่เป็นนักร้อง แต่เรานำเสนอในมุมที่เป็นนักดนตรี ร้องลิเก อีกทั้งพี่เอกชัย, พ่ออี๊ด-สุประวัติ, จ๊ะจ๋า-พริมรตา, ชาม-ไอยวริญท์, และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย ทำให้ละครเวอร์ชั่นนี้มันน่าสนใจยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็เป็นความบันเทิงในครอบครัวซึ่งดูง่ายๆ ดูเมื่อไหร่ก็ดูได้ ดูหายไป 3-4 วัน กลับมาเมื่อไหร่ก็ดูได้ มันสนุกทุกครั้งที่ดู ยังไงก็ฝากลิเกซึ่งตอนนี้รุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูแล้ว อยากบอกว่ามันงดงามเหลือเกิน ถ้าใครได้ดูผมก็อยากให้เอาไปเล่าให้ลูกให้หลานฟังต่อว่าเป็นลิเกที่สวยงาม ควรรักษาไว้ในความทรงจำ แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว ในฐานะคนทำ”