xs
xsm
sm
md
lg

คีตโลกา ตอนที่ 19 จบบริบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คีตโลกา ตอนที่ 19 อวสาน

อัญมายังคงพยายามพูดโน้มน้าวอธิคมอยู่ในโรงไม้ ในมืออธิคมถือปืนอยู่กระชับมั่น อัญมามองแล้วพยายามเตือนสติ

“อธิคม...คุณคิดว่าคุณกับพ่อจะหนีกฎหมายไปได้นานแค่ไหน”
“ฉันรู้ว่าฉันต้องถูกจับตาย...ความผิดของฉันมันลบล้างไม่ได้ง่ายๆ ฉันค้ายา ฉันฆ่าคน ฆ่าตำรวจ”
“รู้อย่างนี้แล้ว ทำไมคุณถึงไม่มอบตัว คุณจะสู้ไปเพื่ออะไร”
“ไอ้วัตมันต้องมาช่วยเธอ แล้วมันก็ต้องตายอยู่ที่นี่ พ่อฉันถึงจะหนีไปได้”
“คุณจะยอมตายแทนพ่อ”
“ฉันมีพ่อคนเดียวที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงพ่อจะเลี้ยงให้ฉันเป็นโจร ฉันก็ยังรักพ่อที่สุด”
อธิคมมองอัญมาเขม็ง อัญมายิ่งสงสารเขา

ส่วนในเซฟเฮาส์วินิจชักมีสีหน้ากังวล มองไปรอบๆ เห็นลูกน้องที่เฝ้าอยู่
กฤษณ์มองขวัญอนงค์ที่ถูกปิดปาก สลบอยู่แล้วนั่งไม่ติด
“ไอ้วัตมันต้องเอาตำรวจมาช่วยน้องสาวมันแน่ ฉันว่าแกทำพลาดไปแล้วล่ะ วินิจ”
“แกก็เลยคิดจะหนีเอาตัวรอดคนเดียว”
“ฉันเตือนสติแก คืนนี้เรายังมีโอกาสเอาตัวรอด ทิ้งขวัญอนงค์ไว้ที่นี่ซะ” กฤษณ์บอก
“ฉันไม่หนี อธิคมลูกชายฉัน ยังไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ฉันยังติดต่อลูกไม่ได้”
กฤษณ์คิดปราดเดียว “ตำรวจอาจจะตัดสัญญาณโทรศัพท์เพื่อแยกพวกแก ไอ้วัตต้องกำลังวางแผนจับตายแกสองพ่อลูกอยู่แน่ๆ”
“ยังไงฉันก็ไม่หนี แกก็เหมือนกัน ห้ามใครไปไหนจนกว่าฉันจะได้ตัวลูกชายฉัน”
วินิจยืนกรานน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม กฤษณ์เริ่มเครียด เมื่อเห็นว่าสถานการณ์จวนตัว ถูกบีบทั้งสองทาง

ฝ่ายทางอธิคมพยายามโทร.มือถือที่ได้จากแท็กซี่ แต่มือถือขึ้นสัญญาณแบตหมด อธิคมหัวเสีย โยนมือถือไปไกล
“แบตหมด”
อัญมามองแล้วพยายามเกลี้ยกล่อมต่อ
“พ่อคุณอาจจะหนีไปแล้ว”
“ยังไงฉันก็อยากให้แน่ใจว่าพ่อพ้นมือตำรวจ”
อัญมามองไปรอบๆ เพื่อหาทางหนีทีไล่ อธิคมมองสายตาอัญมา รู้ทัน
“เธอคิดจะหนีไปจากฉันตลอดเวลาใช่มั้ย อัญ”
อัญมาหันมามอง อธิคมสายตาเศร้า
“เธอไม่เคยรัก ไม่เคยอยากอยู่กับฉันเลย”
“ความรักมันบังคับกันไม่ได้นะอธิคม คุณจะพอใจเหรอถ้าฉันบอกว่าฉันรักคุณเพราะคุณบังคับฉันนะ... ถึงฉันไม่ได้รักคุณแต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นะ บางครั้งมิตรภาพมันก็ยาวนานกว่าความรัก”
“ฉันไม่ได้ต้องการแค่มิตรภาพ คนอย่างฉัน ต้องได้ทุกอย่าง”
อัญมาเริ่มลำบากใจ อธิคมเดินเข้ามาใกล้ๆ
“แล้วถึงความรักจะสั้นมากแค่ไหน ฉันก็ยังอยากให้เธอรักฉันสักครั้ง...ครั้งเดียว ที่เธอรักฉันมากกว่าภควัต”

อัญมามองนิ่ง แม้จะสงสารมาเฟียรูปงามปานใด แต่ก็ทำตามที่อธิคมต้องการไม่ได้

ในฐานลับคืนนี้ ภควัตยืนมองฝ่าความมืดไปไกลลิบ สีหน้าเครียดหนัก ด้วยความเป็นห่วงอัญมาและขวัญอนงค์ ท่านรองจักรภพเดินเข้ามา ประพจน์ สิทธิชัย หันไปทำความเคารพ
จักรภพมองภควัตแล้วเดินเข้ามาใกล้ภควัต
“ไปช่วยอัญมาก่อน ผมจะให้ทีมที่ดีที่สุดของเราไปช่วยขวัญอนงค์ น้องสาวคุณ”
ภควัตหันมามองขอบคุณเจ้านาย
“ผมจะไปช่วยคุณน้องก่อนครับ”
“คิดดีๆ ภควัต ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงอัญมามากเค้าเป็นคนรักของคุณ”
ทุกคนมองให้กำลังใจ ด้วยเข้าใจความรู้สึกของภควัต ภควัตแววตาเด็ดเดี่ยวตอบกลับไป
“เราต้องจับวินิจให้ได้เพราะทุกอย่างที่ทำ ก็เพื่อทำลายเครือข่ายของพวกมันทั้งหมด ทุกคนต้องทำตามแผนที่วางไว้ วินิจคือเป้าหมายใหญ่ของปฏิบัติการส่วนอธิคม...เป็นเรื่องส่วนตัวของผม”
ประพจน์บอกว่า “แต่ถ้าระหว่างรอคุณ แล้วอธิคมเกิดทำอะไรอัญมา”
“อธิคมไม่กล้าฆ่าอัญมา”
สิทธิชัยแย้ง “อธิคมเข้าตาจนแล้วนะ ผู้กอง”
“ผมเชื่อว่าความรักจะทำให้อธิคมไม่กล้าลงมือกับอัญมา อย่างน้อยผมยังมีเวลาที่จะตามไปช่วย”
ทุกคนสีหน้าไม่แน่ใจ ภควัตบอกทุกคน
“อธิคมจะไม่ยอมให้อัญมาเป็นอะไร จนกว่าจะได้เห็นผมตายต่อหน้ามันก่อน”
ทุกคนฟังแล้วยิ่งหนักใจ
สายตาภควัตแน่วนิ่ง ไม่กลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ภายในโรงไม้ตอนเช้ามืด อัญมานอนหลับพิงหัวกับผนัง เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น สายตาอัญมามองไปที่มุมหนึ่งสุดโรงไม้ เห็นร่างๆ หนึ่งยืนอยู่
“ใคร”
อัญมาเพ่งตามอง
“ผู้กอง ผู้กองหรือเปล่า”
อัญมาลุกขึ้น เดินไปใกล้ แต่ร่างนั้นกลับห่างออกไป ระยะเท่าเดิม
“ใคร คุณเป็นใคร”
อัญมาเพ่งมอง หน้าตาไม่คุ้น ที่แท้เป็นวิญญาณของรัตน์ยิ้มมองมาที่ลูกสาว
“อัญ...ลูกพ่อ”
อัญมาสังหรณ์ใจ “พ่อ...พ่อรัตน์”
รัตน์เยื้อนยิ้มมองมา อัญมาลังเล ด้วยตั้งแต่เกิดไม่เคยเห็นหน้าพ่อ
“พ่อ...พ่อจริงๆ ใช่มั้ยคะ”
อัญมามองพ่อด้วยสายตาปีติดีใจ รัตน์ยิ้ม
“พ่อคะ ผู้กองภควัต เด็กผู้ชายที่พ่อช่วยเค้าไว้ เค้าจะมาช่วยอัญผู้กองจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ”
รัตน์ไม่ตอบ สายตามองไปที่ลูก อัญมายิ่งกระวนกระวาย
“ผู้กองจะไม่ตายอย่างที่อัญเคยเห็นใช่มั้ยคะ”
“ใช้หัวใจนะลูกอัญ”
อัญมาสงสัย “หัวใจ”
“หัวใจที่มีเมตตาคือรักแท้”
อัญมาไม่เข้าใจ มองเห็นร่างพ่อเลือนรางลง อัญมาวิ่งเข้าไปจะกอดพ่อ

“พ่อคะ พ่อ พ่ออย่าเพิ่งไป ขออัญกอดพ่อสักครั้ง”

ร่างรัตน์หายวับไป พร้อมๆ กับที่อัญมาสะดุ้งตื่นลุกพรวด

“พ่อ...อัญอยากกอดพ่อ”
อัญมามองไป เห็นทุกอย่างเหมือนเดิม อธิคมยืนถือปืน หันมามอง
“อัญ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ฉันฝันเห็นพ่อ พ่อรัตน์ เรืองเดช พ่อแท้ๆของฉัน”
อัญมาลุกขึ้น มองไปด้านนอก แสงทองยามเช้าเริ่มจับขอบฟ้าเบื้องหน้า
“ไอ้วัตมันกำลังมาช่วยเธอ”
อัญมามองอธิคมอธิคมมองอัญมา
“อัญ ถ้าฉันตาย...”
อัญมาเอามือปิดปากอธิคม
“ฉันไม่อยากให้คุณตาย ขอร้องนะ อธิคม คุณยังมีโอกาสกลับตัว”
อธิคมกุมมืออัญมาไว้
“ฉันไม่มีวันมอบตัว ถ้าฉันตาย ...เธอจะคิดถึงฉันบ้างได้มั้ยอัญ”
อัญมามองแววตาขอร้องของอธิคม
“ชีวิตนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การได้มีลมหายใจอยู่เพื่อคนอื่น...อยู่เพื่อคนที่เรารักถ้าคุณรักฉัน คุณต้องมีชีวิตอยู่ ฉันอยากเห็น...อธิคมคนที่ดีกับฉัน คนที่ยังยิ้มให้ฉัน”
“ถ้าฉันรอด คนรักของเธอก็ต้องตาย ตำรวจกับโจรมันเดินบนทางเส้นเดียวกันไม่ได้ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วอัญ”
“ไม่”
อัญมาสะอื้น อธิคมเช็ดน้ำตาให้อัญมาอย่างแผ่วเบา
“เก็บน้ำตาไว้คิดถึงฉัน”
อธิคมกอดอัญมาไว้แน่น
“ฉันไม่ให้คุณตาย ฉันจะไม่ให้คุณฆ่าผู้กอง อย่าทำผิดมากไปกว่านี้เลย อธิคม”
อธิคมกอดอัญมาไว้ ไม่ตอบอะไรอีก แววตาตัดสินใจแล้ว ว่าจะต้องฆ่าภควัต

วินิจตรวจเช็คปืนอยู่ในเซฟเฮ้าส์ กฤษณ์ยืนสีหน้าเครียด ขวัญอนงค์ถูกมัดปาก มัดมือมองตกใจ วินิจหันมามองขวัญอนงค์
“อยากดูตอนพี่ชายเธอถูกฆ่ามั้ย”
ขวัญอนงค์ส่ายหน้ากลัวจับใจ วินิจยิ้มใจเย็น ขวัญอนงค์มองไปที่กฤษณ์ กฤษณ์ละอายใจจนต้องหลบตา
“เอาไปขังไว้ในห้อง แล้วพวกแกเฝ้ามันไว้”
ลูกน้อง 2 คนลากขวัญอนงค์ออกไป กฤษณ์มองใจคอไม่ดี
“แกจะไม่ฆ่าคุณน้องใช่มั้ย”
วินิจตวาด “เลิกถาม หุบปาก แล้วหยิบปืนของแกออกมาได้แล้ว ไอ้วัตมาเมื่อไหร่ ฉันจะให้แกยิงมันคนแรก”
วินิจมองกฤษณ์เขม็ง กฤษณ์เห็นท่าทางวินิจแล้วยิ่งกังวล

ฝ่ายภควัตเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเซฟเฮาส์ เห็นลูกน้องวินิจ 4 คนเฝ้าอยู่ ภควัตมองลู่ทางเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้อย่างระวัง เห็นท่อนไม้ตกแต่งต้นไม้รีบหยิบมาถือไว้
ภควัตเคลื่อนใกล้เข้ามา ลูกน้องวินิจคุยกันเพลินไม่ทันระวังตัว ลูกน้อง 1พูดขึ้น
“เฮ้ย ข้าไปฉี่เดี๋ยวนะ”
คนอื่นๆ พยักหน้า ลูกน้อง 1เดินมุ่งไปห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังทางเดียวกับที่ภควัตหลบอยู่
ภควัตเห็นได้จังหวะปฏิบัติการรวดเร็ว พอลูกน้อง 1 เดินผ่านก็ฟาดด้วยไม้เข้าที่กกหู ลูกน้อง 1 ล้มสลบไปทันที ภควัตรีบลากเข้าไปเก็บหลังพุ่มไม้แล้วมองลู่ทางต่อไป

ด้านขวัญอนงค์อยู่ในห้องคุมขัง พยายามช่วยตัวเองให้มือหลุดจากการถูกมัดพลางเหลือบมองลูกน้องวินิจที่นั่งเฝ้าอยู่เห็นลูกน้องวินิจคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือ คนหนึ่งเล่นเกมส์ในมือถือ

ลูกน้องวินิจอีก 3 คน เริ่มผิดสังเกต
“ทำไมมันไปฉี่ช้านักว่ะ เอ็งไปดูซิ”
ลูกน้อง 2 เดินออกไปแล้วก็ถูกภควัตจัดการเหมือนลูกน้อง 1 เสร็จแล้วภควัตเคลื่อนตัวเร็วไปทางลูกน้องอีก สองคน ภควัตตรงเข้าตีลูกน้อง 3 สลบไปอีกคน ลูกน้อง 4 ตกใจชักปืนออกมาเล็ง
“เฮ้ย”
ภควัตเตะปืนลูกน้อง 4 กระเด็นขณะลูกน้อง 4 เหนี่ยวไกกระสุนเฉียดภควัตไป ภควัตรีบจัดการลูกน้อง 4 จนสลบไปอีกคน

เสียงปืนที่ดังขึ้น ทำให้วินิจ และกฤษณ์หันไปมองนอกด้านนอก
“ไอ้วัต”
ลูกน้องคนที่เฝ้าขวัญอนงค์ถลันออกมาเพราะได้ยินเสียงปืน
วินิจตวาด “กลับไปเฝ้านังนั่นไว้”
ลูกน้องถอยกลับไป
วินิจยิ้มเหี้ยม “มันมาแล้ว”
วินิจทำท่าจะออกไป กฤษณ์ร้องห้าม
“แกแน่ใจเหรอว่าไอ้วัตมันจะทำตามที่แกสั่ง” วินิจชะงัก “ไอ้วัตมันเป็นคนฉลาด แกไม่ทันมันหรอก”
“งั้นฉันให้เป็นหน้าที่ของแก...ฆ่ามัน”
“ถ้าฉันจะทำฉันต้องทำซึ่งหน้า ไม่ใช่วิธีลอบกัด”
“ก็เอาซิ....ฉันจะคอยดูแกออกไปดูว่ามันพาลูกชายฉันมาด้วยหรือเปล่า ก่อนจะฆ่ามันฉันต้องได้ตัวลูกชายฉันก่อน”

กฤษณ์สีหน้าเคร่งขณะก้าวออกไป วินิจจับตาดูทุกก้าวย่าง

ภควัตซุ่มหลบอยู่ด้านนอก มองเข้าไปในเซฟเฮ้าส์ เห็นกฤษณ์เดินถือปืนออกมาจากด้านใน อย่างระมัดระวัง

“สารวัตรกฤษณ์”
กฤษณ์ตะโฏน “ไอ้วัต...ออกมาซะดีๆ”
ภควัตยังนิ่งดูเชิง
“ว่าไง...ถ้าแกห่วงคุณน้อง ก็ออกมา”
ภควัต นิ่งคิด แล้วตัดสินใจก้าวออกจากที่ซ่อน กฤษณ์ยิ้มพอใจ ยกปืนจ้องภควัต
“ไหนละอธิคม แกพามาด้วยหรือเปล่า”
“ฉันต้องได้เห็นคุณน้องก่อน คุณน้องปลอดภัยวินิจก็จะได้เห็นลูกชายทันที”
“ฉันไม่ไว้ใจแก วางปืนลง”
ภควัตมองนิ่ง
กฤษณ์สั่งอีก “ฉันบอกให้วางปืน”

ฝ่ายอธิคมถือปืนเดินกระวนกระวายอยู่ในโรงไม้ อัญมาคอยมองไปรอบๆ
“ไอ้วัตมันควรจะมาได้แล้ว”
อธิคมหันมามองอัญมา
“เธอไม่ได้แอบบอก ไม่ได้วางแผนอะไรกับมันใช่มั้ย”
“ฉันไม่มีมือถือ”
“เครื่องดักฟัง”
อธิคมเข้ามาจับอัญมาค้นตัว อัญมาหลบ เบี่ยงตัว อธิคมจับไหล่อัญมาเผชิญหน้า
“ฉันไม่มีอะไรทั้งนั้น”
อัญมามองจ้องตาอธิคม

ด้านภควัตลดปืนในมือลง จ้องมองกฤษณ์ที่ถือปืนจ้องตนอยู่
“แกทำอย่างนี้ทำไม กฤษณ์ ทำไมถึงยอมทรยศกับเกียรติ ทรยศศักดิ์ศรีตำรวจ”
“เพราะโลกนี้มันไม่มีความยุติธรรมไง ฉันทำงานเสี่ยงตาย แต่ฉันไม่ได้อะไรที่คุ้มค่ากับชีวิตฉันเลย....ส่งปืนมาให้ฉัน”
กฤษณ์เดินเข้าหาภควัต
“ถ้าแกจะทำงานเพื่อเงินทอง ชื่อเสียง ลาภยศ แกไม่ควรเป็นตำรวจ หน้าที่ตำรวจคือเสียสละตัวเอง ให้ประชาชนมีความสุข”
“ฉันไม่กินอุดมการณ์อย่างแก...ฉันบอกให้ส่งปืนมา”
ภควัตยื่นปืนไปข้างหน้าเหมือนส่งให้โดยดี กฤษณ์ยื่นมือมาเพื่อรับปืนขณะที่อีกมือยังจ้องปืนอยู่จังหวะที่มือของกฤษณ์จับปืน ภควัตใช้ความเร็วดึงปืนจนกฤษณ์เซแล้วพุ่งตัวเข้ากระแทกกฤษณ์จนเสีย
หลักล้มลงปืนกระเด็นหลุดจากมือไปไกล ภควัตก้าวเข้ามาใกล้
“แล้ววินิจมันให้ความภูมิใจแกได้มั้ย นอกจากเศษเงินที่พ่อค้ายาโยนให้ แกได้อะไรจากมันอีก หรือแกคิดว่า แค่มีเงินแล้วทุกคนจะยกย่อง นับถือแกจากใจจริง กฤษณ์ แกยังมีทางเลือกแกจะอยู่อย่างมีคุณค่า หรือจะตายอย่างขี้ข้าโจร”
กฤษณ์พลิกตัวเตะตัดขาจนภควัตเซล้มปืนหลุดจากมือ กฤษณ์พุ่งขึ้นชกภควัต
“แกไม่ต้องมาเปลี่ยนใจฉัน ไอ้วัต แกคิดว่าตัวแกดีกว่า วิเศษกว่าคนอื่นเสมอ”
ภควัตชกกลับ ทั้งคู่ต่อสู้กันดุเดือด

รอเท่าไหร่ภควัตก็ยังไม่มา อธิคมร้อนใจ หันรีหันขวาง
“ป่านนี้ยังไม่มา ไอ้วัต มันจะลูกเล่นอะไรอีก”
อัญมาสีหน้าไม่ดี มองไปรอบๆ คิดหาทางยื้อเวลา อธิคมดึงแขนอัญมา
“ออกไปจากที่นี่ ไปหาที่นัดใหม่”
“ไม่ ฉันไม่ไปกับคุณ”
อัญมาผลักแรง หลุดจากมืออธิคม แล้วออกวิ่ง
“หยุด! อัญมา อย่าหนี”
อัญมาหันมา ตกใจที่เห็นอธิคมยกปืนเล็งมาที่ตัวเอง

สองหนุ่มสู้กันอยู่หน้าเซฟเฮ้าส์ จังหวะหนึ่งภควัตล๊อกตัวกฤษณ์ไว้ได้
“ไม่เลย กฤษณ์ ถ้าฉันคิดว่าฉันดีกว่าแก ฉันจะไม่ยอมให้แกแย่งสุคนธรสไปได้ฉันจะไม่ให้แกเข้ามาทำงานนี้ แกเป็นคนเก่ง แกกับฉันเราเคยปฏิญาณตนว่าจะเป็นตำรวจที่ดี คนที่แกต้องเล็งปืนไปหาคือ วินิจ ไม่ใช่ฉัน คนที่เป็นเพื่อนแก”
กฤษณ์เริ่มหน้าเครียด รวบรวมแรงดิ้นจนหลุดแล้วเข้าเล่นงานภควัต แต่ก็ต้องเพลี่ยงพล้ำถูกภควัตชกคว่ำ
“แกคิดดูแต่ถ้าแกช่วยวินิจหนีไปได้คราวนี้ แกจะถูกตามล่าเหมือนโจรแกคิดให้ดีว่าแกจะเป็นโจรหรือเป็นตำรวจ แกยังมีพ่อมีแม่อยู่นะกฤษณ์ แกเป็นลูกชายคนเดียวของท่าน”
คราวนี้กฤษณ์เริ่มลังเล
ภควัตดูออกรีบบอก “มันยังไม่สาย กลับใจซะเถอะ...สารวัตร”
ได้ยินภควัตให้เกียรติเรียก "สารวัต" กฤษณ์ถึงกับอึ้ง
“สารวัตรเป็นตำรวจ มีหน้าที่ปราบปรามคนชั่ว ไม่ใช่ทำชั่วซะเอง”
กฤษณ์กระซิบถาม “แกสัญญานะว่า ท่านรองจะช่วยฉันได้”
“ฉันสัญญา”
กฤษณ์มองภควัต ที่มองมาอย่างวัดใจกัน ภควัตยื่นมือให้กฤษณ์

เหตุการณ์ในโรงไม้ อัญมามองอธิคมที่เล็งปืนแล้วเดินมาใกล้
“อย่าคิดจะหนีฉันอีก”
“จะฆ่าฉัน ก็ฆ่าเลย”
อัญมาไม่ฟัง หันหลังวิ่งต่อ อธิคมยิงปืนลงพื้นขู่ เฉียดร่างอัญมา อัญมาแกล้งทำตกใจ เซล้มไปทางกองไม้ อัญมาเอาตัวบัง แล้วแอบเอามือปัดไม้หล่นลงมาข้างตัว 2-3 อัน
“โอ๊ย”
“อัญ”
อัญมาค่อยๆ ทรุดลง อธิคมถลาเข้ามาประคอง
อัญมากุมขา “ขา...ขาฉัน ขาฉันโดนไม้ทับ”
อธิคมเห็นอัญมาจับขา ก็หลงเชื่อว่าอัญมาเจ็บจริง ก็รีบอุ้มอัญมามานั่งพิงอีกด้าน
“เบาๆ นะอัญ เบาๆ”
อัญมาบีบน้ำตาคลอๆ จับขาไว้ มองอธิคมแววตาตัดพ้อ

“พอใจหรือยัง ทีนี้ฉันก็หนีคุณไปไหนไม่ได้แล้ว”

กฤษณ์เอื้อมมือจับมือภควัตดึงตัวลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากัน ก่อนจะพูดอะไรกฤษณ์หันไปมองทางวินิจ เห็นวินิจเล็งปืนออกมาจากในเซฟเฮาส์ เสียงปืนดังเปรี้ยงขึ้น 1 นัด

“กฤษณ์”
กฤษณ์ถูกวินิจยิงหลังทะลุอก ภควัตพุ่งไปหยิบปืนที่พื้นแต่ช้ากว่า วินิจยิงอีก 2 นัดติดกัน กฤษณ์ล้มทรุดลง ภควัตพุ่งเข้าไปที่ร่างเพื่อน
วินิจก้าวออกมา
“ตำรวจชั่วอย่างมัน อยู่ไป ก็พร้อมจะทรยศทุกคนเพื่อตัวเอง ถือว่าฉันช่วยกำจัดตำรวจเลวแล้วกันนะ ไอ้ผู้กองภควัต”
ภควัตยกปืน วินิจหัวเราะลั่น ด้วยตอนนี้ที่ด้านหลังลูกน้องวินิจที่เหลืออีก 2 คนเข้ามาจ่อปืนที่กลางหลังภควัต
ลูกน้องวินิจดึงปืนออกจากมือภควัตทันที วินิจหัวเราะเยาะ
ภควัตมองกฤษณ์ที่กำลังสำลักเลือด
“กฤษณ์”
“ไอ้วัต...ช่วยฉันด้วย”
ภควัตจับมือกฤษณ์ที่มีแต่เลือด
“อดทนไว้กฤษณ์”
“ฉันไม่น่า...ทรยศเพื่อน...ทรยศหน้าที่...ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”
กฤษณ์น้ำตาร่วงสำนึกได้เมื่อสายกินไป สำลักเลือดอย่างหนักมองเพื่อนเป็นภาพสุดท้ายแล้วขาดใจตาย
“กฤษณ์...กฤษณ์”
กฤษณ์คอพับขาดใจตายไปต่อหน้าภควัตที่ยังจับมือเพื่อนอยู่
วินิจหัวเราะ ภควัตเงยขึ้นไปมอง วินิจก้าวมาใกล้ แล้วถีบเข้ากลางอกภควัตจนหงายหลังกลิ้งไปกับพื้น วินิจเข้ามาเล็งปืนไปที่ภควัต
“ลูกชายฉันอยู่ไหน”
“คุณน้องปลอดภัยดีหรือเปล่า”
“มันจะไม่ปลอดภัย ถ้าแกเบี้ยวฉัน อธิคมอยู่ไหน”
“อธิคมยังไม่ฟื้น อาการไม่ดี เพื่อความปลอดภัยหมอไม่ให้เคลื่อนย้าย”
วินิจไม่เชื่อสีหน้าดุดันขึ้นมาทันที “โกหก...ฉันบอกให้แกพาอธิคมมาให้ฉันไง”
ส่วนในโรงไม้ อัญมามองอธิคมที่เดินเป็นเสือติดจั่น อธิคมหันมา อัญมาทำจับขา เหมือนว่าเจ็บมาก
อธิคมมีสีหน้าสงสัย คาใจมากที่ยังไม่เห็นแม้เงาภควัต
“ไอ้วัตมันทำอะไรอยู่ ป่านนี้ทำไมยังไม่มาช่วยอัญ”

ฟากภควัตไม่ยอมหลบสายตาวินิจ
“แกไม่ห่วงว่าอธิคมจะตายเหรอ”
วินิจโกรธจัด “แกกล้ามากนะที่ลูบคมคนอย่างฉัน ไม่เป็นไรฉันยังมีน้องสาวของแกที่จะทำให้ฉันได้ลูกชายฉันคืนมา ส่วนแก..โทษที่แกจะได้รับคือ...ตายเท่านั้น”
ภควัตมองจ้องวินิจที่จ่อปืนมา ลูกน้องคุมเชิงอยู่ 2 คน วินิจมองภควัตแล้วหัวเราะ
“ไหนๆ วันนี้แกก็ต้องตาย ฉันจะบอกความจริงอะไรให้อย่างนึง แกจะได้ตายอย่างมีความสุข”
วินิจพยักหน้า ลูกน้อง 2 คนกระชากภควัตขึ้น ยืนเผชิญหน้ากับวินิจ
“แกต้องขอบใจฉันนะ ที่วันนี้จะช่วยให้แกได้ไปเจอหน้าครอบครัว พ่อ แม่ พี่สาวแก...ในนรก”
ภควัตสังหรณ์ใจ “วินิจ... แก”
วินิจยิ้มเยาะ “ใช่ ฉันเอง ฉันเป็นคนส่งลูกน้องไปฆ่าครอบครัวแก”
ภควัตโกรธมาก ดิ้นสุดแรง วินิจกดปืนจ่อลงไปที่อก หัวเราะ
“ไม่นึกเลยว่า ไอ้เด็กเมื่อวานซืนที่รอดมาได้อย่างแก จะกลับมาทำความฉิบหายให้ฉันได้ถึงขนาดนี้”
ภควัตคำราม “ฉันจะเอาชีวิตแก ไอ้วินิจ”
วินิจหัวเราะร่า ลดปืน ถอยออกมาจากภควัต
“ฉันก็อยากให้แกมีทางสู้นะ จะได้ไม่ต้องตายเหมือนหมาอย่างไอ้กฤษณ์ เพื่อนแก”
วินิจมองศพกฤษณ์แล้วหัวเราะเยาะ ภควัตมองจ้องรอจังหวะ
“เสียใจด้วยนะ ผู้กองภควัตที่ครอบครัวแก เพื่อนแกต้องมาตายเพราะฉัน แต่แกไม่ต้องเศร้านาน เพราะฉันกำลังจะส่งแกไปอยู่กับพวกมันพร้อมหน้าพร้อมตา”
เสี้ยวนาทีที่วินิจเหนี่ยวไก ภควัตหันไปคว้าคอลูกน้องวินิจที่ยืนใกล้มา รับกระสุนแทนแล้วก้มหลบลูกน้องอีกคนจะยิง ภควัตกำทรายซัดเข้าหน้า ลูกน้องร้องลั่น ปืนแกว่งไปทางวินิจน่าเสียวไส้ วินิจหลบ
ภควัตพุ่งเข้าคว้าแขนลูกน้อง เล็งปืนไปทางวินิจ แต่วินิจกระโดดหลบไปอีกทาง ภควัตอัดเข้าหน้าลูกน้องวินิจอย่างหนัก
วินิจเหนี่ยวไก แต่ภควัตก้มหลบกลิ้งไปอีกทางอย่างเร็ว วินิจยิงโดนลูกน้องตัวเองคนสุดท้าย ล้มลงตาย
ภควัตม้วนตัวพุ่งไปคว้าปืนตัวเองได้ ยิงสวนกลับวินิจทันที

ภควัตกับวินิจกำลังยิงสู้กันชนิดแลกตาย กระสุนของแต่ละฝ่าย เฉียดร่างคู่ต่อสู้ วินิจกับภควัตหาที่หลบกันคนละด้าน
“ฉันจะฆ่าแก ฆ่าไอ้อัญ พวกแกคิดว่าจะโค่นฉัน กำจัดฉันได้เหรอ ไม่มีทางหรอก คนดีๆ มันเหลืออยู่ไม่เยอะแล้ว ยังไงฉันก็จะยิ่งใหญ่ด้วยยาเสพติดของฉัน”
ภควัตกับวินิจโผล่ออกมาจากที่หลบพร้อมๆ กัน แต่ภควัตไวกว่าแม่นกว่า เหนี่ยวไกกระสุนภควัตเจาะเข้าท้องวินิจ
วินิจเซ เหนี่ยวไกยิงสู้ กระสุนเฉียดร่างภควัต
ภควัตยิงเข้าลำตัววินิจอีกนัด วินิจบ้าเลือดกราดยิงซ้ำ ภควัตลอยตัวกลางอากาศอย่างเท่ เหนี่ยวไกอีกนัด กระสุนภควัตเจาะเข้าคอวินิจ เลือดกระฉูด วินิจถึงกับหงายตึง
ภควัตกลิ้งไปกับพื้น แล้วลุกขึ้น ถือปืน เดินเข้ามา วินิจกำลังสำลักเลือดกุมคอ ภควัตมองจ้อง
“กะ...อั๊ก...อ้ะ...”
วินิจพูดได้แค่นั้น เลือดทะลักออกมาเต็มคอ
“ฉันไม่มีวันให้ยาเสพติดของแกทำลายชีวิตคนไปมากกว่านี้”
ภควัตจ่อปืนไปที่วินิจทีละนัด วินิจกุมคอมองภควัต เห็นเลือดทะลักที่ท้อง ลำตัว ทุกแผลที่โดนยิง
มือภควัตสั่น เล็งไปที่วินิจ นิ้วแตะที่ไกพร้อมยิงปลิดชีพ
ภควัตนึกถึงภาพตอนพ่อแม่ถูกฆ่า แล้วมือสั่น เพราะคิดจะฆ่าวินิจด้วยตัวเอง
วินิจดิ้นรนกระเสือกกระสน พยายามถอยหนี ภควัตตาม วินิจคลานถอยอย่างกลัวตาย
“แกไม่ควรตายเพราะฉันคนเดียว ยาเสพติดของแกทำลายชีวิตคนมานับไม่ถ้วน แกก็ต้องได้รับโทษที่ทรมานทุกชีวิต”
สุดท้ายภควัตลดปืน มองวินิจที่พยายามคลานหนี แล้วกรอกเสียงลงวิทยุ
“เคลียร์”
ขาดคำ เห็นตำรวจนอกเครื่องแบบนับสิบพร้อมอาวุธปืนก้าวออกมา
สองคนเข้าไปจับวินิจไว้ทันที คนอื่นๆ ตรวจศพที่เกลื่อนพื้น
“คุณน้อง”
ภควัตมองแล้ววิ่งไปในเซฟเฮาส์ทันที

วินิจไม่รอดจากการถูกจับกุม กำลังนอนดิ้น เลือดทะลัก พยายามหายใจ อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน

อ่านต่อหน้า 2

คีตโลกา ตอนที่ 19 อวสาน (ต่อ)

ส่วนในโรงไม้ อัญมากวาตามองไปรอบๆ เห็นเศษขวดที่ตกแตกห่างออกไป อัญมามองอธิคมที่เดินมองไปด้านนอก

อัญมาค่อยๆขยับไปหยิบเศษขวดแตกไว้ในมือ อธิคมหันมาเห็นก็พุ่งเข้ามาคว้ามือไว้ อัญมาทำเศษขวดหล่น อธิคมมอง
“อัญ”
อธิคมมองจ้องอัญมา
“จะทำอะไร จะฆ่าฉันด้วยเศษขวดแค่เนี้ยเหรอ”
“คุณไม่ตายหรอก จนกว่าผู้กองภควัตจะมาช่วยฉัน”
“ป่านนี้มันยังไม่มา มันอาจจะตายไปแล้วก็ได้”
“ไม่จริง ผู้กองต้องมา”
“มันผิดเวลา ฉันไม่รอมันแล้ว”
“คุณจะพาฉันไปไหนอธิคม”
อธิคมไม่ตอบกระชากร่างอัญมาออกไปทันที

ทางด้านภควัตพุ่งเข้ามาในเซฟเฮาส์ มองหา
“คุณน้อง คุณน้อง”
ภควัตไม่เห็นขวัญอนงค์ ตำรวจตามเข้ามาอีก 2 คน ภควัตสั่ง
“ค้นให้ทั่ว”
ตำรวจกระจายกันค้นทุกห้องทั้งชั้นบนชั้นล่าง ภควัตวิ่งไปยังห้องต่างๆ
ต่อมาภควัตวิ่งเปิดประตูเข้ามาอีกห้อง
“คุณน้อง คุณน้อง”
เห็นขวัญอนงค์ถูกมัดมือ มัดปาก มัดเท้านอนอยู่ ภควัตรีบเข้ามาแก้เชือกที่มัดปาก
ขวัญอนงค์ดีใจมาก “พี่วัต”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ คุณน้อง”
“พวกมันจะฆ่าพี่วัต”
ภควัตแก้เชือกมัดมือออก “ไม่มีอะไรแล้วครับ”
ภควัตแก้เชือกที่มัดข้อเท้า ขวัญอนงค์โผเข้ากอดพี่ชายด้วยความดีใจ
“คุณแม่ พวกมันไม่ได้ทำอะไร คุณแม่ใช่มั้ยคะ”
“คุณป้าปลอดภัยครับ”
ภควัตยิ้มประคองขวัญอนงค์ลุกขึ้น พาออกไปทันที

ฟากอธิคมลากอัญมาออกมาที่ริมน้ำด้านนอกโรงไม้ อัญมาขืนตัว อธิคมลากมา
“อธิคม ฉันเจ็บ”
“ฉันไม่เชื่อเธออีกแล้วอัญ”
“เราจะหนีไปยังไง”
อธิคมลากอัญมามา เห็นเรือยนต์เก่าผูกจอดอยู่ที่ท่าน้ำ
“ฉันจะพาเธอไปจากที่นี่ ยังมีคนของพ่อที่จะช่วยเราได้”
อธิคมลากอัญมาเดินไปตามทาง แต่อัญมาขืนตัวไว้ ไม่ยอม อธิคมกระชากแรงจนอัญมาปะทะในอก
“ไอ้วัตมันไม่มาแล้ว ยังจะรักมันอีกเหรอ อัญ”
“ฉันรักผู้กอง ถึงผู้กองภควัตมาช่วยฉันไม่ได้ ฉันก็ยังรักเค้า เพราะฉันมีความสุขที่ฉันได้รัก ไม่ใช่เพราะฉันได้เป็นเจ้าของใคร”
“แล้วเธอจะต้องน้ำตาตก ไอ้วัตมันหลอกใช้เธอ พอมันได้ทุกอย่าง มันก็ไม่สนใจว่าเธอจะเป็นหรือตาย คนที่ทิ้งเธอคือ ผู้กองภควัต”
อธิคมออกแรงกระชาก แต่อัญมาตัดสินใจผลักอธิคมสุดแรง อธิคมเซ อัญมาหันไปคว้าถังขยะที่กลิ้งอยู่ ปาใส่ อธิคมล้มลง
“ถึงผู้กองทิ้งฉัน ฉันก็ไม่ไปกับคุณ”
อัญมาวิ่งหนี อธิคมลุกได้วิ่งไล่ตามไปทันที

คุณหญิงวรจันทร์นั่งดมยาดมรอฟังข่าวอยู่ในบ้าน สีหน้ากระวนกระวาย ท่านอภิกานต์กุมมือให้กำลังใจภรรยา มาลัยคอยรอรับใช้
“ตาวัตส่งข่าวยายน้องมาบ้างหรือยังคะ”
อภิกานต์ส่ายหน้า วรจันทร์หน้าตาเป็นทุกข์มาก
สักครู่หนึ่ง ขวัญอนงค์วิ่งเข้ามา ด้านหลังตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 คน ที่พามา
“คุณพ่อ คุณแม่”
“ยายน้อง”
ขวัญอนงค์เข้ามากอดแม่ อภิกานต์ยิ้มโล่งใจ
“ปลอดภัยแล้วนะลูก”
“พวกมันทำอะไรลูกหรือเปล่า”
วรจันทร์จับดูเนื้อตัว ลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ค่ะ มันแค่จับตัวไปเฉยๆ”
“คุณพระคุ้มครองแล้วลูกเอ๊ย” คุณหญิงบอก
“แล้วตาวัตล่ะ” อภิกานต์ถาม
“พี่วัตจัดการวินิจแล้วค่ะ”
“แล้วทำไม่กลับมาด้วยกัน”
“พี่วัตต้องไปช่วยอัญมาค่ะ”
วรจันทร์ อภิกานต์มีสีหน้าตกใจ ขวัญอนงค์รีบบอก
“ลูกชายวินิจจับตัวอัญมาไปเหมือนกัน ทั้งวินิจทั้งลูกชายบังคับให้พี่วัตไปหา ทั้งพ่อทั้งลูกตั้งใจจะฆ่าพี่วัต แต่พี่วัตเลือกมาช่วยน้องก่อน”
“ตายแล้ว ป่านนี้อัญมาจะเป็นยังไงบ้าง”
น้ำเสียงวรจันทร์กังวลหนัก นึกเป็นห่วงอัญมา

อัญมาวิ่งหลบหลีกมาหน้าโรงไม้ มีอธิคมวิ่งตามกระชั้นชิด
“อัญมา กลับมา...เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก”
อธิคมก้าวยาวและเร็วตามมา สอดสายตามองไปรอบๆ
อัญมาหลบซุ่มตัวอยู่ใต้กองไม้สูง อธิคมมองหา ไม่เห็น จึงเหลียวมองไปทางโรงไม้ แล้ววิ่งกลับไปดูในโรงไม้อย่างเร็ว

อัญมานั่งนิ่งเงียบ ซ่อนตัว ยังไม่กล้าขยับออกมาเพราะกลัวอธิคมจับได้

ท่านรองจักรภพมีสีหน้าร้อนใจมาก ประพจน์ และสิทธิชัยเองก็กังวล รอฟังข่าวภควัตที่ลุยเดี่ยวไปช่วยอัญมา

“หวังว่าผู้กองภควัตจะไปช่วยอัญมาทัน”
“เอาพวกเราไปล้อมไว้มั้ยครับ จับวินิจได้แล้ว จะได้จับอธิคมได้อีกคน” ประพจน์บอก
สิทธิชัยเสริม “ผู้กองภควัตจะได้ปลอดภัยขึ้น”
จักรภพตัดสินใจ “รีบส่งคนของเราไป ช่วยให้ได้ทั้งภควัต ทั้งอัญมา”
สิทธิชัยออกไปสั่งลูกน้อง ประพจน์กับจักรภพมองหน้ากัน
“สารวัตรกฤษณ์ทำชื่อเสียงของเรามัวหมอง แต่ยังดีที่มีผู้กองภควัตที่กู้หน้าไว้”
“มันเป็นบทเรียนให้พวกเรารู้ว่า อย่ายอมให้ความโลภ ความไม่รู้จักพอมีอำนาจเหนือใจ เหนือชีวิตเรา” ท่านรองบอก
ประพจน์มองจักรภพสีหน้าเห็นด้วยที่สารวัตรกฤษณ์มีจุดจบเพราะความไม่รู้จักพอ

วรจันทร์กับอภิกานต์ฟังขวัญอนงค์เล่าเรื่องน่าตื่นเต้นตอนที่ถูกวินิจจับตัวไป
“พี่วัตจับวินิจไว้ ตอนที่พี่วัตพาน้องออกมา ยังไม่รู้ว่ารอดหรือไม่รอด”
“ถึงรอดก็ต้องรับโทษหนัก ไม่พ้นประหารชีวิต” อภิกานต์ว่า
“แต่อีกคนสิคะ ที่น่าผิดหวังที่สุด สารวัตรกฤษณ์ แฟนสุคนธรส เพื่อนพี่วัตเค้านี่แหละค่ะช่วยส่งข่าวทุกอย่างให้วินิจ”
“ทำไมถึงเอาเกียรติ เอาศักดิ์ศรีไปแลกเงินอย่างนั้น” อภิกานต์หดหู่ใจ
“สุดท้ายเค้าก็ถูกวินิจยิงตายตอนที่กำลังจะกลับใจ”
“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนะ คนชั่วก็ต้องเดือดร้อนเพราะกรรมชั่วที่ตัวเองก่อไว้ ตอนนี้ที่แม่ห่วงที่สุด คือพี่ชายของลูก”
ทุกคนต่างมีสีหน้ากังวลไปด้วย วรจันทร์มองไปไกลส่งใจไปช่วยหลานและอัญมา
“ขอให้วัตกับอัญมาปลอดภัยด้วยเถอะ”

อัญมาหลบอยู่ในกองไม้ มองจนแน่ใจว่าไม่มีอธิคมอยู่แถวนั้นแล้ว จึงค่อยๆ คลานออกมาจากใต้กองไม้ ขณะกำลังจะลุกขึ้นวิ่ง ก็ถูกอธิคมเข้ามารวบตัวจากด้านหลัง
“ปล่อยฉันนะ...ปล่อย”
“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกอัญ ไอ้วัตมันไม่มาช่วยเธอแล้วละ ไปกับฉัน”
“ไปไหน”
“ตอนนี้ไปตามหาพ่อฉันก่อน แล้วค่อยจัดการไอ้วัตทีหลัง”
อธิคมจับมืออัญมาจะจูงไป อัญมาดิ้นรนขัดขืน
“ฉันไม่ไป ฉันเป็นห่วงแม่”
“เธอต้องไป”
เสียงภควัตดังขึ้น “ปล่อยอัญมาซะ อธิคม”
อธิคมล็อคคออัญมาหันไป เห็นภควัตที่ยืนอยู่
“มาจนได้นะแก ทำไมเพิ่งโผล่หัวมา”
“ฉันไปช่วยคุณน้องที่ถูกพ่อแกจับตัวไป”
อธิคมตกใจเป็นห่วงพ่อ “พ่อ...พ่อฉัน”
อัญมาตกใจมาก ภควัตมองอธิคมสายตานิ่ง ไม่หวั่นไหว
“พ่อฉันอยู่ที่ไหน พ่อฉันยังไม่ถูกจับใช่มั้ย”
ภควัตยังไม่ตอบ อัญมามองด้วยความกังวลว่าอธิคมจะคลั่งถ้ารู้ความจริง

อรรณพอยู่ในโถงคฤหาสน์ กดวางสายมือถือที่โทร.หารองจักรภพ ภรณีมองแล้วถามขึ้น อุบลมองรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“ท่านรองจักรภพว่ายังไงคะ มีใครไปช่วยลูกอัญหรือยัง” ภรณีถาม
“ผู้กองภควัตกำลังไปแล้ว”
“ผู้กองต้องช่วยไอ้อัญได้” อุบลเอ่ยบอกภรณีด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
ภรณีมองอรรณพสีหน้าไม่สบายใจ จนอรรณพต้องเข้าไปมากอดปลอบไว้
“หนูอัญไม่เคยคิดร้ายกับใคร ความดีจะต้องคุ้มครองลูกของเรา”

ที่หน้าโรงไม้ ตอนนี้ อัญมาถูกอธิคมดึงร่างไว้ มองภควัต แล้วพยายามจะกล่อมอธิคมอีกครั้ง
“อธิคม พ่อคุณถูกจับแล้ว”
อธิคมตวาด “เงียบ อัญ ฉันอยากฟังจากปากมันว่าพ่อฉันอยู่ที่ไหน”
อธิคมจ้องภควัตเขม็ง ภควัตเอ่ยขึ้น
“วินิจอยู่ที่โรงพยาบาล”
“พ่อฉันเป็นอะไร ไอ้วัต แกทำอะไรพ่อฉัน”
“ฉันป้องกันตัว พ่อแกไล่ยิงฉัน ฉันจำเป็นต้อง...”
อธิคมแค้น “แกยิงพ่อฉัน?”
“กระสุนเข้าจุดสำคัญหลายนัด”
“ไอ้วัต!! แกตาย”
อธิคมโมโหสุดขีด จะยิงภควัต อัญมาตัดสินใจผลักแขนอธิคมขึ้น ปืนลั่นขึ้นฟ้าหลายนัด
“อัญมา ก้มลง”

ภควัตตะโกนก้อง อัญมาก้มต่ำนอนราบกับพื้น ภควัตชักปืน อธิคมลดปืนยิงมาทางภควัตทันที

ส่วนในฐานลับ จักรภพยืนรอฟังข่าวอยู่กับประพจน์ สิทธิชัยเข้ามารายงาน

“พวกเราไปถึงจุดนัดพบของอธิคมแล้วครับ”
จักรภพ กับประพจน์ฟังแล้ว สีหน้ายังไม่คลายกังวลเพราะห่วงภควัต

อธิคมยิงไปที่ภควัตไม่นับ ภควัตหลบแล้วยิงสวนกระสุนเฉียดอธิคม
อัญมาจะหลบให้พ้นวิถีกระสุน แต่อธิคมกระชากตัวไว้ ลากขึ้นไปบนกองไม้ เพื่อจะข้ามไปอีกด้านภควัตวิ่งตามไป อัญมาลื่นล้ม อธิคมกระชากไม่ปล่อย
“ปล่อย อัญมา” ภควัตตะโกน
อธิคมหันมายิงใส่ภควัตหลบ จะยิงไปก็พบว่าอัญมาอยู่ใกล้อธิคมจนอาจจะโดนลูกหลง ภควัตไม่กล้ายิง
อธิคมลากอัญมาขึ้นจะข้ามกองไม้ที่ขวางอยู่ออกไปให้ได้ อัญมาเห็นภควัตตามมาใกล้ก็ตัดสินใจ อัญมาพุ่งเข้าแย่งปืนอธิคม
“อัญมา อย่า” ภควัตร้องห้าม
อธิคมปัดสุดแรง อัญมาล้มลง ภควัตเข้าไป อธิคมเตะเสย ภควัตกลิ้ง อธิคมเข้าไปถีบลงที่มือภควัต ปืนหลุดจากมือ กลิ้งไปบนกองไม้
“อย่า อธิคม... อย่าฆ่าผู้กอง”
อธิคมได้ยินเสียงอัญมาก็ยิ่งโกรธ กระทืบลงที่กลางอกภควัตเต็มแรง อัญมาจะเข้าไปช่วยแต่กลัวอธิคมยิงบ้าเลือด ภควัตมองอัญมา
“หนีไป”
“ไม่ ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณตาย”
ระหว่างนี้ที่ด้านล่าง ตำรวจ 6 นายกรูเข้ามาล้อมกองไม้ อธิคมหันไปเห็น ก็จ่อปืนไปที่ภควัตทันที
“ถอยออกไป ไม่งั้นไอ้ผู้กองภควัต ตาย”
อธิคมกระทืบลงกลางหลังภควัต ตำรวจมองแล้วยังลังเล
“อย่าเข้ามา อธิคมจะยิงผู้กอง”
อัญมาตะโกนบอก ตำรวจหัวหน้าชุดมองปราดเดียวพบว่าภควัตไม่มีปืนในมือ ก็หันไปมองหน้าลูกน้อง สุดท้ายตำรวจถอยออกไปสองสามก้าว
“ออกไปอีก” อธิคมสั่ง
หัวหน้ากลุ่มมองประเมินแล้วตัดสินใจถอยห่างออกไปกันหมด เพื่อรักษาชีวิตภควัต อัญมามองตำรวจที่ถอยออกไปจนหมด อธิคมมองไม่เห็นตำรวจเหลืออยู่ โดยที่เท้ายังเหยียบอยู่บนหลังภควัต

ฝ่ายวรจันทร์หยิบกรอบรูปภาพภควัตชุดปกติขาววันรับกระบี่ ที่ตั้งอยู่ในบ้าน ขึ้นมามอง อภิกานต์ ขวัญอนงค์มองรู้ว่าวรจันทร์เป็นห่วงภควัตมาก
วรจันทร์พยายามกลั้นน้ำตาอดหวั่นกลัวว่าจะเสียภควัตไปไม่ได้ คุณหญิงมองแล้วพูดกับภาพด้วยความหวาดหวั่น
“วัต ต้องกลับมาหาป้านะลูก”

วรจันทร์กอดภาพภควัตไว้ในอก น้ำตาหยดรินออกมาด้วยความกลัว

ภควัตถูกอธิคมกระทืบลงกลางหลัง

“มึงฆ่าพ่อกูใช่มั้ย”
อธิคมเตะภควัตซ้ำจนกลิ้งไป
“อธิคม พอแล้ว” อัญมาขอร้อง
“มันยิงพ่อฉัน เธอจะให้ฉันปล่อยมันเหรอ”
“วินิจฆ่ากฤษณ์แล้วจะฆ่าฉัน” ภควัตบอก
“ไอ้กฤษณ์น่ะ มันสมควรตาย มันเกลียดแก มันอยากให้แกตายด้วยซ้ำ”
“ถึงยังไง วินิจก็ไม่มีสิทธิ์ฆ่าใคร คนชั่วต้องให้กฎหมายลงโทษ”
อธิคมเตะเข้ากลางตัวภควัตอีกครั้ง ภควัตกลิ้ง อธิคมจะตามไปกระทืบซ้ำ แต่ภควัตคว้าขาอธิคมไว้ แล้วกลับเป็นฝ่ายบิดขาอธิคมจนล้ม
ภควัตพลิกเป็นฝ่ายกลับมาเป็นต่อ ลุกขึ้นเตะอธิคมบ้าง อัญมามองลุ้น
ภควัตเข้าแย่งปืนกับอธิคม จนปืนอธิคมกระเด็นหลุดมือไป อัญมาตกใจ อธิคมกับภควัตพุ่งเข้าหา แลกหมัดกัน
อัญมามองปืนบนพื้นพยายามจะเข้าไปหยิบ แต่อธิคมกับภควัตก็ต่อสู้กัน จนขวางทางอัญมาไม่ให้เข้าใกล้ปืนสองกระบอกที่อยู่ไม่ห่างกัน

ฟากอุบลนั่งรอฟังข่าว บีบมือตัวเองแน่น ด้วยความกลัว ภรณีเอื้อมมือมาแตะมืออุบลเบาๆ อรรณพมองทั้งคู่ สองคนมองกันด้วยหัวใจของคนเป็นแม่ที่ต่างเป็นห่วงอัญมาเหลือเกิน

อัญมามองปืนที่ตกอยู่แล้วพยายามจะคลานเข้าไปใกล้ ภควัตเสียท่า ถูกอธิคมล็อคแล้วงัดขึ้นตัวกระแทกกับพื้น
ร่างภควัตเกือบหล่นไปข้างล่าง อัญมามองตกใจ
“ผู้กอง”
อัญมาจะคลานเข้าไปช่วยภควัต อธิคมก้มลงเก็บปืนแล้วสั่ง
“หยุด อัญมา”
อัญมายืนขึ้นมองอธิคม ภควัตเจ็บหนักทรุดอยู่ มองอัญมาด้วยความเป็นห่วง
จังหวะนี้ที่ด้านล่าง กำลังตำรวจค่อยๆ ลอบเข้ามาใกล้
“ถ้าเธอไม่อยากให้คนรักตาย มากับฉัน”
อัญมามองอธิคมที่แววตาบ้าเลือด อธิคมมองไปเห็นตำรวจกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามาเพื่อช่วยภควัต
“อธิคม ใจเย็นๆ นะ ถ้าคุณยอมมอบตัว คุณจะได้ไปเจอพ่อ”
อธิคมเห็นตำรวจที่ล้อมไว้ทุกด้านแล้ว
“ฉันไม่รอดหรอก อัญ” อธิคมบอก
“ผู้กองจะช่วยคุณ”
“ไม่ ฉันเกลียดไอ้วัต โลกนี้มีมัน ต้องไม่มีฉัน”
แววตาอธิคมแข็งกร้าวเมื่อหันไปจ้องภควัต แล้วยกปืนจ่อไปที่อัญมา
“ฉันไม่ให้เธอเป็นของมัน...เราจะตายด้วยกัน”
อธิคมเข้าตาจน รู้สึกสูญสิ้นหมดทุกอย่าง จะเหนี่ยวไกไปที่อัญมา ภควัตเห็นแล้วพุ่งไปคว้าปืนบนพื้น ตำรวจด้านล่างกำลังจะยิง เสียงปืนดังเปรี้ยง
อธิคมยิงไปทางอัญมา แต่ภควัตพุ่งเข้าผลักร่างอัญมาหลบไปได้ชั่วเส้นยาแดงผ่าแปด
อธิคมโกรธ เล็งปืนไปที่ภควัต “ไอ้วัต! มึงตาย”
อธิคมยิงไปไม่โดน ภควัตยิงสวน เข้าท้องอธิคมจังๆ ร่างอธิคมโงนเงน อธิคมฝืนเจ็บ เดินเข้าหาภควัตแลกตาย ภควัตส่ายหน้า
“อย่า อธิคม...ฉันไม่อยากฆ่านาย
“อธิคม หยุดได้แล้ว” อัญมาตะโกนสุดเสียง
“มันสายไปแล้ว อัญ”
ขาดคำอธิคมจะยิงภควัต มีเสียงปืนดังขึ้น เป็นฝีมือหัวหน้าชุดตำรวจด้านล่าง ยิงเข้ากลางหลังอธิคมจังๆ อัญมามองตกตะลึงพรึงเพริด
“อธิคม”
อัญมาจะพุ่งเข้าไปช่วยอธิคม แต่ถูกภควัตรวบร่างไว้ ไม่ให้เข้าไปใกล้อธิคมเพราะกลัวอันตราย อธิคมเห็นอัญมาในอ้อมกอดภควัต ก็ตาพร่าน้ำตาเอ่อ มือที่ถือปืนปล่อยร่วงตกลงข้างตัว ตำรวจยิงอีกนัด เข้าที่สีข้าง อธิคมน้ำตาไหล แล้วหงายหลัง ร่วงลงจากกองไม้สูง อัญมาร้องสุดเสียง
“อธิคม”
อัญมากับภควัตลุกขึ้น
ร่างอธิคมหงายหลังตกลงไป หลังกระแทกกองไม้ด้านล่างอย่างแรง อัญมาตกใจ ช็อก ภควัตกอดร่างอัญมาไว้
ร่างอธิคมเลือดทะลัก น้ำตาหยดจากหางตา

ภาพอัญมากอดกับภควัตพร่าเลือนจนดำมืดไปพร้อมกับสติที่ดับวูบลง

อ่านต่อหน้า 3

คีตโลกา ตอนที่ 19 อวสาน (ต่อ)

ขณะเดียวกัน วินิจที่บัดนี้สภาพร่างกาย ถูกยิงที่ท้อง ลำตัว แผลฉกรรจ์คือถูกภควัตยิงเข้าที่คอกระสุนฝังใน อาการสาหัส ทีมหมอผ่าตัดกำลังพยายามยื้อชีวิตให้วินิจ

อัญมาเดินเข้ามาในคฤหาสน์พิบูลย์สุวรรณ ด้านหลังมีตำรวจคุ้มกันมาสองคน อรรณพ ภรณี และ อุบลพอเห็นลูกสาวก็ดีใจ รีบเข้าไปหา อัญมากอดอุบล แล้วกอดภรณี ทุกคนโล่งใจ ล้วนมีสีหน้ายินดี
“คุณพระคุณเจ้า คุ้มครองลูกแม่” อุบลบอก
“พวกเราเป็นห่วงมาก คอยโทร.ถามท่านรองทุกระยะ” อรรณพว่า
“ผู้กองช่วยหนูมาได้จริงๆ” ภรณีpbh,
“พี่บังล่ะอัญ พี่บังกับลูกชาย ถูกจับแล้วใช่มั้ย”
อุบลถามขึ้น ทุกคนมอง อัญมาเอ่ยด้วยเสียงเศร้า
“วินิจอาการสาหัส กระสุนของผู้กองภควัตเข้าจุดสำคัญ โดยเฉพาะที่คอ”
ทุกคนสีหน้าโล่งใจได้บ้างที่วินิจถูกคุมตัว
“ลูกชายเค้าล่ะ” ภรณีถาม
อัญมายืนอึ้ง น้ำตาคลอก่อนจะเอ่ยขึ้น
“อธิคมถูกตำรวจยิง ตกลงมา...ถูกคุมตัวไปโรงพยาบาล เป็นตาย...เท่ากัน”
อัญมาน้ำตาไหลด้วยความสงสาร อุบลเข้าไปกอดปลอบอัญมาไว้
“อัญอยากให้เค้ากลับตัว...เป็นคนดี แต่สุดท้าย...อัญก็เปลี่ยนใจเค้าไม่ได้”
อัญมาร้องไห้ออกมาอย่าสุดกลั้น สงสารอธิคมจับใจ

ในห้องผ่าตัดตอนนี้ อธิคมได้รับการผ่าตัดจากบาดแผลถูกกระสุนเข้าที่ไขสันหลังและตกกระแทกจากที่สูง สัญญาณชีพอธิคมต่ำลงเรื่อยๆ เห็นหมอที่พยายามผ่าตัดช่วยทุกวิถีทาง

ส่วนภควัตเดินประคองร่างที่บอบช้ำ จากการต่อสู้กับอธิคมเข้ามา ตำรวจทุกคนยืนเรียงแถวกันอยู่
ภควัตหยุดมอง ท่านรองจักรภพพูดขึ้น
“ขอบใจความเสียสละ ความอดทน ความทุ่มเทของคุณมาก ผู้กองภควัต คุณกู้เกียรติยศ ศักดิ์ศรีของเราพวกเรากลับมาจนได้”
ประพจน์เสริม “คุณทำให้ตำรวจทุกนายที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการณ์นี้ ชีวิตพวกเค้าจะไม่ตายอย่างไร้ค่า”
ทุกคนในฐานยกมือทำความเคารพภควัตพร้อมกันอย่างให้เกียรติ
ภควัตยิ้ม ฝืนเจ็บยกมือทำความเคารพตอบกลับด้วยสีหน้าตื้นตัน ภูมิใจที่สุดที่ได้ทำหน้าที่ตำรวจ

รุ่งเช้าภควัตก้มลงกราบอภิกานต์ วรจันทร์ ขวัญอนงค์อยู่ใกล้พี่ชาย
“ผมขอโทษคุณลุง คุณป้าที่ทำให้คุณน้องต้องเดือดร้อนไปด้วย”
วรจันทร์ดึงภควัตขึ้นมา
“โธ่ ตาวัต ไม่มีใครโทษเราหรอก วินิจต่างหากที่ก่อเรื่องทั้งหมด”
อภิกานต์เอ่ยขึ้นว่า “ตำรวจบอกว่าอาการเค้ายังไม่ดีขึ้น”
“ครับ ใจจริง...ผมอยากให้เค้าตาย”
วรจันทร์ตกใจ “ตาวัต”
“วินิจเป็นคนสั่งฆ่าครอบครัวผม”
ทุกคนฟังแล้วตกตะลึง ยิ่งสงสารภควัต
“พ่อ แม่ พี่...พ่ออัญมา...ทุกคนตายเพราะความเลวของมันคนเดียว”
“เค้าก็กำลังรับกรรมของเค้าอยู่แล้วนะ วัต” คุณหญิงว่า
“มันน้อยไปครับกี่ชีวิตที่ต้องตายเพราะมัน”
“วินิจโหดเหี้ยมมากนะคะ เค้าไม่สำนึก ไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่เค้าทำเลย”
ขวัญอนงค์ช่วยอธิบายให้แม่กับพ่อรู้
“ถึงยังไง ป้าก็อยากให้วัตอโหสิกรรมให้เค้า คนตายไปสู่สุขคติ แต่คนเป็นนะวัต ที่จะทรมานถ้าไม่รู้จักปล่อยวาง”
อภิกานต์บอกว่า “ลุงเห็นด้วยกับป้าเค้านะวัต”
“ผมลืมไม่ได้หรอกครับผมอโหสิให้คนเอาชีวิตครอบครัวผมไม่ได้”
ภควัตลุกขึ้นเดินออกไปเลย ทุกคนได้แต่เห็นใจ วรจันทร์มองตามสายตาเข้าใจถึงความทุกข์ทรมานที่อัดแน่นในใจภควัต

ภายในห้องไอซียู ภควัตสวมใส่ชุดเขียว เพื่อเข้าเยี่ยมเช่นเดียวกับอัญมา
สองคนยืนมองภาพวินิจที่นอนอยู่กระสุนฝังในคอขวา ตัดเส้นประสาทสำคัญ
สภาพวินิจมีสายระโยงรยางค์ เครื่องช่วยชีวิตเต็มไปหมด
ภควัตมองจ้องวินิจ คนที่พรากครอบครัวไปจากเขาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความรู้สึกเกลียดชัง เจ็บแค้น อัญมามองภควัตด้วยสายตาเห็นใจ ภควัตกำหมัดแน่นมองจ้องวินิจ อัญมาเอื้อมมือไปกุมมือภควัตอย่างเป็นกำลังใจ ภควัตหันมามอง อัญมามองด้วยสายตาปลอบประโลมใจ
ภควัตหันกลับไปมองสภาพวินิจแล้วหน้าเครียด ตัดสินใจ หันหลังเดินออกไปอัญมาเดินตาม

อธิคมนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง แขนข้างหนึ่งถูกใส่กุญแจมือล็อคไว้กับขาเตียง อัญมาเดินนำภควัตเข้ามายืนข้างเตียงมองอธิคม
“อธิคม” อัญมามองเห็นใจอธิคม ขยับมาใกล้
อธิคมรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมามองเห็นอัญมาและมองเลยไปเห็นภควัต อธิคมเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองอัญมากับภควัต อัญมามองเห็นใจ ค่อยๆเอามือไปแตะแขนอธิคม
“พ่อฉันล่ะ พ่ออยู่ที่ไหน”
อัญมาสบตาภควัต อธิคมหันหน้ามา มองภควัต
“แกจับพ่อฉันไว้ที่ไหน”
“วินิจอยู่ที่นี่ บาดเจ็บสาหัส”
อธิคมใจหาย “พ่อ”
อธิคมพยายามจะลุกอัญมากดไหล่ไว้
“อย่าเพิ่ง”
“ปล่อย ฉันจะไปหาพ่อ”
อธิคมสะบัดเต็มแรง จนอัญมากระเด็นไปชนภควัตที่เข้ามาประคองไว้
พออธิคมจะลุก แต่ขยับได้เพียงครึ่งตัวบน อธิคมโมโห กระชากตัวเองขึ้นอย่างแรง แต่กลายเป็นกลิ้งตกเตียง
“อธิคม”
อัญมารีบเข้าประคอง อธิคมตกใจ
“ขาฉัน...ขาฉันทำไมมันไม่มีแรง”
อธิคมตกใจสุดขีด สายตามองจ้องอัญมาเป็นคำถาม อัญมาน้ำตาคลอเพราะรู้ก่อนจะเข้ามาเยี่ยมแล้วว่าอธิคมเป็นอัมพาตท่อนล่าง
“อัญขาฉัน ทำไมขาฉันขยับไม่ได้”
ภควัตสีหน้าเครียด อัญมามองอธิคม ยังไม่กล้าพูด อธิคมดึงอัญมามาใกล้
“อัญบอกฉัน ฉันเป็นอะไร”
“กระสุนตัดเส้นประสาทที่ไขสันหลัง แล้วนายก็ตกลงมา หลังกระแทกพื้น”
“ฉันถึงเดินไม่ได้ ฉันเป็นอัมพาต”
อธิคมช็อก อัญมาพยายามให้กำลังใจ
“อย่ายอมแพ้นะ อธิคม คุณต้องสู้”
“สู้ อัญ เธอจะให้ฉันสู้กับอะไร ร่างกายฉันเป็นแบบนี้”
“แต่คุณยังมีลมหายใจ คุณยังมีชีวิต คุณแค่เดินไม่ได้ แต่สมองคุณ จิตใจคุณร่างกายคุณยังทำประโยชน์ได้”
“ไม่มีใครต้องการฉันหรอก อัญ ฉันมันคนเลว ฉันมันพ่อค้ายา ฉันกำลังรับกรรมที่ฉันเคยขายยา ทำลายชีวิตคน ทำไม...ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย”
อธิคมสะอื้น ร้องไห้อัญมากอดอธิคมไว้ด้วยความสงสาร ภควัตมองเห็นใจอธิคม
“คุณยังมีฉันเป็นเพื่อน”
“ไป อย่ามายุ่งกับฉัน ไปให้พ้น”

อธิคมผลักแต่อัญมาไม่ยอมปล่อย กอดอธิคมที่สะอื้นในอกอย่างไร้เรี่ยวแรงที่จะสู้ชีวิต

ภควัตเข้ามาบีบไหล่ให้กำลังใจอธิคม

“วันนี้นายอาจจะยังไม่พร้อมรับความจริง ฉันเข้าใจ เพราะฉันก็เคยเป็นคนที่สูญเสียอย่างนาย แต่วันนึงเวลาจะรักษาบาดแผลในใจเราทั้งหมด ขอให้เรามีกำลังใจที่จะอยู่เพื่อ..ใครบางคน”
ภควัตถอยออกมามอง อัญมาพยายามปลอบอธิคม
“ถึงสองขาคุณจะล้ม แต่มันหยุดความหวังคุณไม่ได้หัวใจคุณต้องไม่ยอมแพ้ที่จะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง”
อธิคมส่ายหน้า ยังรับความจริงไม่ได้ อัญมาดึงอธิคมมากอดไว้อย่างเป็นที่พักพิงใจในยามทุกข์ที่สุดในชีวิต

ภควัตก้าวเข้ามาหยุดยืน ทอดสายตามองไปไกล อัญมาเดินมายืนใกล้
“คุณให้กำลังใจอธิคมเพราะคุณสงสารเค้า อยากช่วยให้เค้ากลับตัว”
“ผมไม่ได้อยากให้อธิคมตาย”
อัญมามองภควัตเห็นสายตาเต็มไปด้วยความกดดัน
“ตอนที่วินิจสั่งฆ่าครอบครัวผม อธิคมก็คงอายุไล่เลี่ยกับผม เค้ายังไม่รู้เรื่องบาปที่พ่อก่อไว้กับคนอื่น”
“คุณยกโทษให้วินิจกับอธิคมได้มั้ยคะ”
“ผมให้กำลังใจอธิคมได้ เพราะผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงเค้า แต่สำหรับวินิจ... มันยากเกินไปอัญมา...ถ้าคุณต้องเห็นครอบครัวต้องตายต่อหน้าต่อตา”
อัญมากอดปลอบภควัตที่ตอนนี้กำลังเกร็งไปทั้งร่าง
“ผมไม่เคยลืมภาพนั้น พ่อคุณก็ตายเพราะช่วยผม”
“ตอนอยู่โรงไม้ ฉันเห็นพ่อค่ะ”
อัญมาย้อนนึก ตอนรัตน์มาบอกกับอัญมา
“ใช้หัวใจนะลูกอัญ”
อัญมาสงสัย “หัวใจ”
“หัวใจที่มีเมตตาคือรักแท้”
อัญมาดึงตัวเองออกมา มองจ้องภควัต
“พ่อรู้ว่าลูกชายคนที่ฆ่าพ่อ จับฉันมา แต่พ่อก็ยังเตือนให้ฉันเมตตา”
“ผมทำไม่ได้”
ภควัตปฎิเสธทันที อัญมามองสีหน้าไม่สบายใจ
“ไม่ว่าสภาพมันจะเป็นยังไง ผมจะลากวินิจเข้าคุก ให้มันรับโทษหนักที่สุด”
ภควัตเดินออกไป อัญมามองตามหนักใจที่ภควัตต้องแบกรับความแค้นไว้

ภควัตนั่งหน้าเครียดอยู่ในโถงคฤหาสน์ วรจันทร์มองหลานอยู่ห่างๆ แล้วตัดสินใจเดินมาใกล้ แตะบ่าเบาๆ ภควัตมองป้า วรจันทร์เอ่ยอย่างอ่อนโยน
“อย่าให้ความโกรธแค้นมาเปลี่ยนความรัก ความอ่อนโยนในตัววัตไปได้นะลูก”
ภควัตมองวรจันทร์ที่ยิ้มเยือกเย็น

ภควัตกับอัญมานั่งพนมมือต่อหน้าหลวงพ่อรูปเดิม ในโบสถ์แห่งนั้น
“มากกว่าความรักคือเมตตา มากกว่าเมตตาคือการปล่อยวาง มากกว่าปล่อยวางได้คือการอโหสิกรรม”
ภควัตมีสีหน้าครุ่นคิดเรื่องในอดีตที่วินิจเป็นคนสั่งฆ่าครอบครัวตัวเอง อัญมามองภควัตด้วยสายตาเห็นใจ
“อโหสิกรรมคือให้อภัยความผิดที่คนอื่นทำกับเรา ไฟโทสะก็จะกลายเป็นสงบเย็น เพราะไม่อาฆาตพยาบาท ไม่ก่อกรรมต่อกันอีก ลองเลือกดูเถอะ...จะใช้ไฟหรือน้ำดับทุกข์ในใจโยม”
ภควัตกับอัญมาก้มลงกราบหลวงพ่อเดินออกไปอย่างสำรวม
ภควัตเงยขึ้นมา มองไปไกล สีหน้าหนักใจเรื่องที่ต้องอโหสิกรรมให้กับวินิจ

ไม่นานต่อมา อัญมาเดินคุยกับมากับอุบล
“แม่อโหสิให้วินิจ ที่เค้ายิงพ่อได้มั้ยคะ”
อุบลถอนใจแล้วย้อนถามขึ้น
“แล้วอัญล่ะ”
“อัญถามตัวเองตลอด ตั้งแต่ที่อัญเห็นพ่อ”
“พ่อเค้าคงห่วงอัญมาก ถึงมาหา”
อุบลน้ำตาคลอ กอดอัญมาไว้
“อัญ รักพ่อให้มากๆนะ ถึงพ่อจะไม่ได้เลี้ยงอัญมาจนโต แต่แม่รู้ว่าพ่อคอยดูแลเราอยู่”
“ค่ะแม่ อัญจะไม่ลืมรอยยิ้ม ไม่ลืมคำเตือนของพ่อ ไม่ว่าวิญญาณพ่อ ร่างพ่อจะอยู่ห่างไกลจากเราแค่ไหน แต่พ่อจะอยู่ในใจอัญเสมอ”
อุบลกอดลูกสาวไว้ด้วยความชื่นใจ

คืนเดียวกัน ภควัตมองภาพข่าวการตายของพ่อในหนังสือพิมพ์ที่ตัดเก็บไว้ วรจันทร์เดินเข้ามามอง แล้วดึงอัลบั้มออกไปจากมือ
“พอได้แล้ว วัต เลิกขังตัวเองอยู่กับอดีตสักที วัตได้ชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่จากพ่ออัญมาแล้ว ทำไมวัตถึงยังวนเวียนอยู่กับสิ่งที่มันแก้ไขไม่ได้”
ภควัตย้อนแย้ง “นั่นพ่อแม่ พี่สาวผมนะครับ”
“แล้ววัตเอาลมหายใจของพวกเค้าคืนมาได้มั้ย” ภควัตอึ้งไป วรจันทร์ถามต่อ “ป้าไม่อยากเห็นวัตจองเวรกับวินิจ วัตคิดแต่จะให้เค้ารับกรรม แล้วใจใครล่ะที่เป็นทุกข์ ใจวัตใช่มั้ย”
วรจันทร์มองหน้าหลานชาย แล้วมองอัลบั้ม
“ป้าจะเผาอัลบั้มนี้ทิ้ง วัตจะได้เป็นคนใหม่สักที”
“อย่านะครับ”
“งั้นวัตก็ทบทวนให้ดี โลกนี้ไม่มีเวรที่ระงับด้วยการจองเวร” ภควัตมองป้าที่ให้สติตน “มองไปข้างหน้าสิวัต วัตต้องมองไปให้เห็นว่า การให้ที่ไม่ต้องเสียอะไรเลย คือการให้อภัย”
วรจันทร์ถืออัลบั้มไว้ ภควัตเครียด ทบทวนตัวเองอย่างหนัก

เช้าวันหนึ่ง ภควัตเปิดประตูห้อง อัญมาเข็นรถคนป่วยที่อธิคมนั่งเข้ามา อธิคมมองไปยังพ่อที่อยู่บนเตียง วินิจหน้าตาอิดโรย อย่างคนใกล้วาระสุดท้าย
“พ่อ”
อัญมาเข็นอธิคมมาใกล้เตียง วินิจขยับร่างกายไม่ได้ เพียงแค่หันหน้ามอง
อธิคมน้ำตาคลอ แตะแขนพ่อ วินิจมองสภาพลูกชายแล้วน้ำตาซึมออกมา
ภควัตมายืนมองวินิจอยู่ วินิจเลื่อนสายตาไปที่ภควัต
อัญมามองภควัตว่าจะอโหสิให้วินิจได้หรือไม่
“คุณเป็นคนให้ลูกน้องไปฆ่าพ่อแม่ พี่สาวผม ไม่ใช่ผมคนเดียวที่สูญเสียครอบครัว อัญมาต้องเสียพ่อที่เป็นคนดี ป้าอุบลอยู่อย่างยากลำบาก ครอบครัวสองครอบครัวแตกสลาย เพราะความโลภ ความเห็นแก่ตัวของคุณคนเดียว”
วินิจมองภควัตกับอัญมา ด้วยสายตารู้อยู่แก่ใจในความผิดที่ก่อไว้
“ตอนนั้นผมเป็นเด็กกำพร้า อายุผมก็คงเท่าๆ กับอธิคม คุณรักลูกชายคุณ แต่กลับทำลายชีวิตลูกคนอื่น”
ภควัตมองวินิจที่น้ำตาไหล พยายามกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ อัญมามองวินิจ เอ่ยด้วยเสียงสงบ
“คุณทำให้พ่อฉันตาย แม่ฉันลำบากจนแทบจะทิ้งลูกสาวในไส้ คุณเองก็เคยทำลายชีวิตฉันด้วยการให้ฉันติดยา มีชีวิตอีกหลายร้อยหลายพันคนที่คุณทำลายด้วยยาเสพติด แต่วันนี้ฉันรู้ว่าคุณได้รับผลของการกระทำทั้งหมดของคุณแล้ว ความทุกข์ ความทรมาน ความพ่ายแพ้เป็นสิ่งที่คุณไม่ต้องการ...วินิจ ฉันอโหสิกรรมให้คุณ”
วินิจน้ำตาร่วง อธิคมบีบมือพ่อด้วยความสงสาร อัญมาหันไปทางภควัต รอว่าภควัตจะตัดสินใจอย่างไร
“ความอยากทำให้คนเราทำได้ทุกอย่าง แม้แต่เรื่องเลวร้ายที่สุด...ผมไม่อยากเป็นเหมือนคุณ ไม่อยากความโกรธเกลียด ความเสียใจครอบงำจิตใจผม จนให้อภัยคนอื่นไม่ได้...วินิจ ทุกสิ่งที่คุณทำกับครอบครัวผม ผมขออโหสิกรรมให้คุณ”
วินิจสำนึกตื้นตันจนน้ำตาไหลเป็นสาย พยายามเปล่งเสียงออกจากลำคอ
“ขอ...โทษ”
อัญมา กับภควัตยิ้มสีจางๆ มองวินิจด้วยสายตามีเมตตา
วินิจขยับมืออธิคมเข้ามาใกล้ วินิจรวบรวมแรง เอื้อมมือไปแตะบนหัวลูกชายคนเดียว
“เป็น...คน...ดี”
อธิคมสะอื้น วินิจยิ้มบางๆ ก่อนลมหายใจจะหลุดลอยออกจากร่าง มือวินิจตกจากศีรษะอธิคมลงข้างๆ ตัว
อธิคมหันไปมองพ่อที่สิ้นลมไปแล้ว โผเข้ากอดร่างพ่อแน่น
อัญมาน้ำตาไหล ภควัตโอบอัญมาไว้อย่างปลอบประโลมใจ
อธิคมน้ำตาอาบแก้ม ขยับรถเข็นมาด้วยตัวเองแล้วก้มลงกราบลงที่เท้าพ่อ อัญมาน้ำตาไหล สงสารอธิคมที่กอดขาพ่อร้องไห้จับใจ
วินิจจบสิ้นชีวิตชั่วช้า ไปสู่สุขคติด้วยการอโหสิกรรมจากภควัตและอัญมา

อีกวันหนึ่งภควัตนั่งนิ่งอยู่ในบ้าน มองเหม่อไปไกล วรจันทร์เดินมานั่งลงใกล้ ภควัตเอ่ยบอก
“ผมอโหสิให้วินิจแล้วครับ”
“ป้ารู้ว่าวัตต้องทำได้ วัตทำถูกแล้ว ลูก”
ภควัตหันมามองวรจันทร์ น้ำตาคลอ
“ผมคิดว่าผมจะดีใจที่เห็นวินิจตาย แต่พอถึงเวลาจริงๆ”
วรจันทร์กุมมือ ให้กำลังใจหลาน
“ผมเสียใจ เพราะผมเห็นอธิคมต้องเสียพ่อของเค้าไป ผมจำความรู้สึกวันนั้นได้ วันที่ผมต้องกอดศพครอบครัวผม” ภควัตน้ำตาไหล “ผมไม่อยากให้มันเกิดกับใครอีกแล้ว”
“เราไปวัดกันนะ ไปบอกพ่อ บอกแม่ บอกพี่สาวของวัต ให้รู้ว่าต่อไปนี้ วัตจะเริ่มชีวิตใหม่ที่ไม่มีความเศร้า ไม่มีความทุกข์ติดค้างในใจอีกแล้ว”

ภควัตกอดวรจันทร์ไว้แน่นด้วยความรักเหมือนแม่ ที่ให้ทุกอย่างด้วยความปรารถนาดีตลอดมา

หน้าบ้านไม้หลังเล็กๆ กะทัดรัด ในชุมชนบัวสวรรค์ มีป้ายชื่อบอกว่า “ศูนย์ฟื้นฟูใจ ยินดีต้อนรับทุกคน”

อรรณพ และภรณีมาเป็นประธานการเปิดศูนย์บำบัดผู้ติดยาในชุมชน ทุกคนยืนอยู่ด้วยสีหน้าสดชื่นอรรณพกับภรณีตัดริบบิ้น ปล่อยลูกโป่ง ทุกคนตบมือเฮ
อัญมาแต่งตัวสวยงาม ยิ้มมีความสุขกับอุบลที่แต่งตัวดีขึ้น จ่าเดชยิ้มขอบคุณอรรณพ กับภรณี
“ผมจ่าเดชเดชา หน้าตาดี ในฐานะตัวแทนชุมชนบัวสวรรค์ ชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติด ขอบคุณคุณอรรณพกับคุณภรณีมากนะครับที่ไม่ลืมชุมชนของเรา ช่วยมาสร้างศูนย์บำบัดฟื้นฟูให้คนที่อยากเลิกยา”
“สังคมเข้มแข็ง ชุมชนเข้มแข็งเท่านั้นนะ ที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ เราต้องสอนลูกหลานของเราให้รู้จักโทษของยาเสพติด ที่มันจะทำลายครอบครัว ทำลายชีวิต อย่าไปยุ่ง อย่าไปลองเด็ดขาด” อรรณพว่า
“พลาดไปแล้ว คนรอบข้างโดยเฉพาะครอบครัวก็ต้องเข้าใจ ให้อภัย แล้วก็เป็นกำลังใจให้เค้าอยากเลิกด้วยค่ะ”
ทุกคนยิ้มชื่นชมความคิดของอรรณพกับภรณี อัญมาเสริมขึ้นบอกทุกคน
“ใครที่อยากเลิก ขอแค่เดินเข้ามา ศูนย์ฟื้นฟูใจจะช่วยทุกอย่าง”
เจ๊ว่านเอ่ยขึ้น “ต่อไปนี้เราก็คงอยู่กันโล่งใจขึ้นนะ ขโมยขะโจร พวกวิ่งราว พวกเมายาบ้าพวกข่มขืนคงหายไปเยอะ ลองมันติดยาจนไม่มีความยับยั้งชั่งใจ อะไรเลวๆ มันก็หน้ามืดตามัวทำได้หมด”
เก้าแซวว่า “อย่างงี้จ่าเดชก็ว่างงานน่ะสิ”
“แหม...หมวดเก้า ว่างอะไร งานเพื่อชุมชนมีเยอะแยะ จริงมั้ย”
นวยยิ้มร่า “จริงจ้ะ จ่าเดชสุดหล่อ”
ทุกคนหัวเราะจ่าเดชที่เก๊กหน้าหล่อ
เวลาต่อมา เห็นอัญมา จ่าเดช และเก้าแบ่งกลุ่มกัน นำวัยรุ่นกวาด ทำความสะอาดถนน ซอย ในชุมชน ทุกคนช่วยกันเก็บขยะรอบชุมชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข มีแต่เสียงหัวเราะ หยอกล้อกัน
ด้านเก้าและนวยปีนขึ้นไปช่วยซ่อมหลังคาชาวบ้าน จ่าเดชบอกซ้าย บอกขวา จนเก้ากับนวย งง เกาหัว
อัญมา เจ๊ว่าน อุบล และจิ๊บเอาน้ำมาหวานมาแจกให้ทุกคนที่ทำงานจิตอาสาเพื่อชุมชนด้วยรอยยิ้ม และความสามัคคี

อรรณพ ภรณีช่วยกันแจกหนังสือ สมุด ดินสอ เครื่องดนตรี ลูกฟุตบอลให้กับเด็กๆที่เข้าแถว
เด็กทุกคนสีหน้ายิ้มแย้มดีใจ
จิ๊บเจ๊ว่านนำทีมวัยรุ่นเต้นแอโรบิคออกกำลัง เก้าสอนวัยรุ่นชายตะบอล จ่าเดชเป็นปอมปอม เชียร์หอบแฮ่ก
อัญมาพาอุบลมาหยุดมองที่หน้าบ้านหลังเก่า เจ๊ว่านกับจ่าเดชเดินมาด้วย
“คิดแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะ ย้ายไปที่อื่น แม่อยู่ที่นี่มาตั้งนาน ทุกข์สุขก็เกิดที่นี่”
“ต่อไปอัญจะดูแลแม่ให้ดีที่สุดเองค่ะ”
เจ๊ว่านบอก “ฉันก็คงทำมาหากินอาชีพอื่นแล้วละ ล้างมือเรื่องค้าๆขายๆเนื้อหนังมังสาผู้หญิงสักที”
จ่าเดชเชียร์ออกหน้า “ดีแล้ว เจ๊ว่าน มันผิดกฎหมาย แล้วก็สงสารผู้หญิงพวกนั้น”
“บาปกรรมมันติดดาวเทียมจริงๆ นะ ฉันต้องเสียแอนนี่ไป รักมันเหมือนลูกสาวคิดทีไรก็อดใจหายไม่ได้”
“ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้แอนนี่บ่อยๆ สิเจ๊ว่าน เกิดชาติหน้า ก็จะได้มาเป็นลูกสาวจริงๆ” อุบลบอก
เจ๊ว่านยิ้ม แล้วหันไปมองอัญมา
“ขอให้ฉันได้ลูกสาวอย่างแกนะอุบล ไอ้อัญ มันเป็นคนกตัญญูพ่อแม่ถึงตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้”
จ่าเดชชื่นชม “โชคสองชั้น ได้ไปเป็นลูกบุญธรรมเศรษฐีอย่างคุณอรรณพ กับ คุณภรณีด้วยเพราะความดี ความเสียสละของตัวเอ็งแท้ๆ ไอ้อัญ”
“ฉันจะกลับมาที่นี่บ่อยๆ ฉันไม่มีวันลืมชุมชนบัวสวรรค์ เพราะความยากลำบาก ความผิดพลาดที่นี่ สอนให้ฉันรู้คุณค่าของชีวิต สอนให้ฉันมีลมหายใจ มีมือสองข้างไว้ทำประโยชน์เพื่อคนอื่นด้วย ชีวิตถึงจะมีความสุขที่แท้จริง”
อัญมายิ้มชื่นให้กับทุกคนที่มองด้วยสายตาชื่นชม

อยู่มาวันหนึ่ง อัญมานั่งรออยู่ในห้องเยี่ยม อธิคมถูกผู้คุมเข็นรถมานั่งตรงข้าม แล้วถอยกลับไป อัญมามองสภาพอธิคมที่แววตาหมดกำลังใจ
“อธิคม”
อัญมาเอ่ยเรียกเสียงอ่อนโยน อธิคมนั่งก้มหน้า ไม่มอง ไม่สบตาอัญมา
“ฉันมาเยี่ยม”
อธิคมยังนั่งนิ่ง อัญมาพยายามชวนคุย
“ฉันฝากหนังสือไว้ให้คุณ เผื่อคุณอยากจะอ่านแก้เหงา”
อธิคมยังไม่ยอมพูดกับอัญมา
“ฉันจะมาหาคุณบ่อยๆ นะ”
อัญมามอง อธิคมนั่งนิ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้าๆ อัญมาใจหาย เห็นแต่แววตาทุกข์ทน
“คุณอย่าหมดหวังนะ อธิคม ถึงร่างกายคุณจะไม่เหมือนเดิม แต่คุณยังมีลมหายใจ คุณยังเปลี่ยนความโชคร้ายให้เป็นโอกาสของชีวิตได้”
อธิคมมองอัญมาแล้วพูดขึ้น
“ไม่ต้องมาเยี่ยมฉันอีก”
อัญมาอึ้ง
อธิคมพยายามเข็นรถออก ผู้คุมเข้ามาช่วยเข็น อธิคมปัดมือไม่ยอม เข็นรถไปเอง
อัญมาลุกขึ้นมองตามอธิคมเข็นรถออกไปมีผู้คุมตามติด อัญมาเสียใจที่อธิคมปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง

ทางแคบๆ ทอดยาว แสงสว่างสาดส่องเข้ามา อธิคมเข็นรถไปช้าๆ แววตามีแต่ความเศร้า ความทุกข์ ผู้คุมเดินตามประกบ
อธิคมเข็นรถไปช้าๆ มองสภาพขาตัวเองที่ใช้การไม่ได้ด้วยแววตาทุกข์ทรมานใจอย่างคนตายทั้งเป็น

ผู้คุมเปิดห้องขัง อธิคมเข็นรถเข้ามา มีเพื่อนนักโทษร่วมห้อง 1 คน
อธิคมหยุดรถเข็น เพื่อนนักโทษจะเข้ามาช่วยดึงร่างอธิคมลุกจากรถเข็น อธิคมปัดมือแรง เพื่อนนักโทษถอยกลับไปที่นอนของตัวเอง ไม่อยากยุ่ง อธิคมพยายามพยุงตัวเองจากรถเข็นไม่ขึ้น จนเซ แล้วพลิกตัว ล้มลงบนที่นอน
เพื่อนนักโทษหันมามอง แล้วหันหลังให้

อธิคมก้มหน้าอาย นอนหันหลังเข้ากำแพง สายตาหม่นหมอง มีแต่ความขมขื่น

กลับบ้านมา อัญมาถอนใจหนักหน่วง หันมามองภควัตที่มาหา

“อัมพาตท่อนล่าง รักษาหายได้มั้ยคะ ฉันอยากให้อธิคมเค้ามีหมอไปรักษา”
“อธิคมเค้าติดคุกนะ คงมีชีวิตสะดวกสบายเหมือนแต่ก่อนไม่ได้ หมอในเรือนจำก็ดูแลรักษาตามสมควรอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องรักษาคือใจเค้าต่างหาก”
“ฉันรู้ว่าเค้ากำลังชดใช้ความผิดที่เค้าเคยทำ แต่ฉันอยากให้เค้าทำใจได้เร็วกว่านี้”
“เค้าก็มีคุณเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดอยู่แล้ว”
อัญมามองจ้อง เห็นสายตาภควัตจริงใจ ไม่ได้หึงหวง อัญมาโล่งใจลงไปบ้าง
“ฉันจะไปเยี่ยมอธิคม ให้เค้ารู้ว่าเค้ายังมีเพื่อน เค้าต้องมีกำลังใจที่จะเป็นคนดี”
ภควัตมองอัญมาที่สีหน้าเปี่ยมความจริงใจกับอธิคม
“ผมมารับคุณไปหาคุณป้า”
“แต่ว่า...”
“คุณภรณีบอกผมเรื่องที่รับคุณเป็นลูกบุญธรรมแล้ว ผมอยากให้คุณบอกคุณป้าด้วยตัวเอง”
ภควัตเดินเข้ามากุมมืออัญมา
“ผมอยากให้คุณป้ายอมรับเรื่องของเรา”
ภควัตยิ้มกับอัญมาอย่างมีความหวัง

ภควัตเดินกุมมืออัญมามา กำลังจะเข้าไปในตัวคฤหาสน์ แต่เห็นร่างสุคนธรสที่ยืนอยู่ อัญมาชะงัก ดึงมือออกจากมือภควัต สุคนธรสใส่แว่นดำ หันมามองทั้งคู่
“คุณมีแขก...คนสำคัญ”
ภควัตหันไปบอกอัญมาทันที
“คุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
“รสมีเรื่องส่วนตัวอยากคุยกับวัต”
สุคนธรสพูดขึ้น อัญมาถอยห่างทันที
“อัญมา”
ภควัตเรียกแต่อัญมาไม่หันมาเดินออกไปเลย ภควัตจะตาม สุคนธรสดึงแขนภควัตไว้
ภควัตหันมา สุคนธรสถอดแว่นตาดำ เห็นแววตาแดงช้ำ ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก อัญมาหันมามอง เห็นภควัตหันไปทางสุคนธรส จึงตัดสินใจเดินออกไปเลย
ภควัตมองจ้องสุคนธรส
“รสไม่มีที่พึ่งที่ไหนอีกแล้ว นอกจากคุณ”
สุคนธรสน้ำตาไหล ภควัตจำใจต้องหันกลับมาทางสุคนธรส คนรักเก่า

ขวัญอนงค์เดินหงุดหงิดเข้ามาหาวรจันทร์ที่กำลังชื่นชมแหวนเพชรในกล่องเครื่องประดับ
“มาอีกแล้วค่ะ คุณแม่”
“ใคร ยายน้อง”
“จะใครซะอีกละคะ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงที่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้พี่วัตทุกครั้ง”
วรจันทร์คิดปราดเดียว “สุคนธรส”
“ไม่รู้ว่าหน้าทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กเบอร์อะไร ถึงได้ทั้งหนาทั้งทน”
ขวัญอนงค์ค่อนขอดด้วยความไม่พอใจเต็มที่

ภควัตนั่งมองสุคนธรสที่ซับน้ำตา สีหน้าเดือดร้อนมาก
“ตำรวจเรียกรสไปถามแล้วถามอีกเรื่องกฤษณ์ รสก็ตอบไปหมดแล้ว วัตคะ รสจะติดคุกหรือเปล่าคะ กฤษณ์เค้าทำอะไร ไม่เคยปรึกษารสนะคะแล้วนี่เค้าก็ตายไปแล้ว ยังมาทิ้งปัญหาให้รสด้วย แย่จริงๆ”
“รสครับ ยังไงกฤษณ์ก็เคยเป็นคนรักของรส ให้เกียรติเค้าหน่อยเถอะครับ”
“คนชั่ว คนเลวแบบนั้น ทำไมต้องให้เกียรติคะ ตายซะได้ แผ่นดินก็เบาขึ้น”
ภควัตฉุน ลุกห่างจากสุคนธรสทันที แต่สุคนธรสยังไม่รู้ตัว
“เค้าได้เงินมา ก็เอาไปใช้สุรุ่ยสุร่าย พอหึงคุณ เค้าก็ทำร้ายรส”
“แต่กฤษณ์ก็เป็นผู้ชายที่รสเลือกจะแต่งงานด้วย”
“รสหลงผิดเพราะกฤษณ์เค้าหลอกรสนี่คะ” สุคนธรสตอแหลไม่เลิก
“ไม่มีใครหลอกใครได้หรอกครับ ถ้าเราไม่เต็มใจ รสไม่ใช่เด็กๆแล้ว ผมอยากให้รสคิดทบทวนดีๆ ผมเป็นเพื่อนรสได้ แต่เราจะกลับไปเป็นคนรักกันไม่ได้อีกแล้ว”
ที่ด้านหน้าประตูจังหวะนี้ วรจันทร์กับขวัญอนงค์มายืนฟังสักระยะแล้ว
ภควัตไม่เห็นป้า พูดตอบสุคนธรสไปอย่างตรงไปตรงมาตามที่คิด
“อัญมาใช่มั้ย ที่ทำให้คุณลืมรส”
“ไม่เกี่ยวกับอัญมา ผมลืมคุณตั้งนานแล้ว”
“ไม่จริง คุณรักรส”
“เคยรัก ตอนนี้มันหมดไปแล้ว” สุคนธรสไม่อยากฟัง ภควัตบอกต่อ “ผมจะแต่งงานกับอัญมา”
วรจันทร์สีหน้ากระตุกใจ ไม่ค่อยเห็นด้วย
“เรื่องสอบสวน ผมจะช่วยรสเท่าที่ช่วยได้ ถ้ารสไม่ผิด ไม่รู้เรื่องทั้งหมดที่กฤษณ์ทำจริงๆ ผมขอร้องนะรส ต่อไปนี้ผมอยากให้คุณเกรงใจอัญมา คนรักของผมด้วย ผมรักอัญมามาก ยังไงอัญมาก็จะเป็นเจ้าสาวของผม”
สุคนธรสหันมา เห็นวรจันทร์กับขวัญอนงค์เดินเข้ามา ก็พูดจาเยาะเย้ยเสียดสี
“ดีใจด้วยนะคะ หลานชายเป็นตำรวจปราบยาเสพติด คุณหญิงก็เลยจะได้สะใภ้เป็นอดีตคนติดยา”
“ไม่ต้องมาเสียเวลา ดีใจกับฉันหรอก สุคนธรส ควรจะเอาเวลาไปคิดเรื่องที่เธอต้องเจอในอนาคตดีกว่า เคยร่วมมือทำอะไรไว้กับคนรักของเธอ ก็ต้องรู้จักรับผลของการกระทำด้วยนะ” คุณหญิงเหน็บกลับ
“รสจะหาทนายที่เก่งที่สุด ยังไงรสก็ไม่ยอมเสียชื่อเพราะเคยคบคนเลวๆ โชคดีนะคะ วัต ขอให้มีความสุขกับเจ้าสาวที่ไม่มีราคาของคุณ”
สุคนธรสหน้าเชิดเดินออกไป ภควัต กับ ขวัญอนงค์มองตามอย่างอ่อนใจ
“เมื่อไหร่เค้าจะถึงยอมรับว่าตัวเองผิด”
“ปล่อยเค้าเถอะครับ คุณน้อง เค้าก็คงรู้แล้วว่าผมช่วยอะไรเกินฐานะเพื่อนไม่ได้”
วรจันทร์หันหน้าไปมอง ภควัตยิ้มให้ป้า
“ผมพูดจริงๆ นะครับ คุณป้า เรื่องอยากแต่งงานกับอัญมา”
“ป้าก็พูดจริงๆ นะ วัต ป้าทำใจยอมรับอัญมาเป็นหลานสะใภ้ไม่ได้เหมือนกัน”
ภควัตสีหน้าเครียดลงทันที

ตั้งแต่กลับจากบ้านภควัตสีหน้าอัญมาเศร้าหมอง ดูออกว่าไม่สบายใจมาก อุบลกับภรณีมองกันห่างๆ ฤดีที่กลับจากดูแลญาติป่วย ยืนรอรับใช้อยู่ด้านหลัง
“ไปบ้านผู้กองกลับมา ก็หน้าตาเป็นแบบนี้” อุบลเอ่ยขึ้น
“หน้าตาอกหัก รักคุดมาแน่นอนค่ะ” ฤดีว่า
ภรณีหมั่นไส้ ค่อนขอดนิดๆ “แม่บ้านสาวโสดอย่างเธอนี่ รู้ดีเหลือเกินนะ นี่คงซอกแซกจนรู้ทุกเรื่อง ตอนที่ไปดูแลญาติป่วยแล้วล่ะสิ”
“แหม คุณผู้หญิงขา ฤดีไม่เคยมีสามีเป็นจริงเป็นจัง แต่ฤดีเคยเป็นสาว สวยด้วย ก็ต้องผ่านความรักมาโชกโชนนะคะ ดูปราดเดียว ก็รู้เลยว่าคุณอัญมาต้องทุกข์เพราะรัก”
“ก็คงเรื่องป้าของผู้กองภควัต” อุบลว่า
“ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยลูกสาวของเราแล้ว”
ภรณีกับอุบลมองหน้ากันแล้วเดินกลับเข้าบ้านไป ฤดีเดินตาม
อัญมายืนคิดถึงภาพที่เคยใกล้ชิดกับภควัตแล้ว สีหน้ายิ่งเศร้าลงไปทุกที

ในห้องขังค่ำคืนนี้ เพื่อนนักโทษนอนหลับหมดแล้ว อธิคมยังนั่งเครียดอยู่ในความมืด อธิคมถอดเสื้อตัวเองออก มองเสื้อในมือ แล้วมองไปที่ลูกกรง สายตาตัดสินใจเด็ดเดี่ยว
เวลาผ่านไปสักระยะ เพื่อนนักโทษพลิกตัวตื่นขึ้น มองไป ตาเบิกโพลง

แลเห็นร่างอธิคมห้อยอยู่ใช้เสื้อผูกคอตายกับราวลูกกรง ไม่รู้เป็นหรือตาย

อ่านต่อหน้า 4

คีตโลกา ตอนที่ 19 อวสาน (ต่อ)

เช้าวันถัดมา ภควัตพาตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าภรณีกับอุบล ฤดีอยู่ด้านหลังห่างออกไป

“อัญมาไม่อยู่เหรอครับ”
“ค่ะ พอรับโทรศัพท์ ก็รีบออกไป”
ภควัตมองไปทางอุบลที่สีหน้ากระอักกระอ่วน
“ป้ารู้ใช่มั้ยครับ ว่าอัญมาไปไหน”
“อัญมันไปเยี่ยมอธิคม” อุบลบอก
“งั้นผมขออนุญาต”
ภรณีเรียกไว้ “อย่าเพิ่งตามไปเลยค่ะ ผู้กอง ฉันมีเรื่องอยากจะถามคุณเกี่ยวกับ หนูอัญ ลูกสาวของชั้น”
ภควัตมองสายตาภรณี รู้ว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญ

ในห้องเยี่ยมผู้ต้องขังตอนนี้ อัญมามองอธิคมที่เพื่อนนักโทษช่วยไว้ทัน และนั่งอยู่ตรงหน้า ผู้คุมยืนดูอยู่ห่างๆ
“อย่าทำแบบนี้อีก อธิคม อย่าฆ่าตัวตาย คุณยังมีฉัน”
อธิคมมองนิ่ง อัญมาเอื้อมมือไปแตะมือเขา ขอร้องทั้งน้ำตา
อธิคมได้รับสัมผัสอบอุ่นของอัญมา ถึงกับสุดกลั้น น้ำตาคลอ
“ฉันไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ฉันกลายเป็นคนพิการ”
“คุณเดินไม่ได้ แต่หัวใจคุณไม่ได้พิการไปด้วย หัวใจคุณยังอยากเป็นคนดี”
อธิคมมองอัญมาแล้วถามขึ้น
“รอผมได้มั้ย อัญ”
อัญมายิ้ม “ฉันรอคุณได้เสมอ อธิคม ถ้าคุณเป็นนักโทษชั้นดี ได้รับพระราชทานอภัยโทษ คุณต้องได้ออกไปใช้ชีวิตใหม่ข้างนอก”
อธิคมจับขาตัวเองด้วยความเศร้า
“คุณอย่ายอมแพ้นะ คุณต้องสู้ คุณต้องอยากมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่น คุณยังเหลือฉัน ฉันจะไม่ทอดทิ้งคุณ มือฉันยังจับมือคุณไว้ตลอดเวลา อธิคม...ฉันจะเป็นเพื่อนที่รักแล้วก็หวังดีกับคุณตลอดไป”
อธิคมมองอัญมาที่บีบมือเบาๆ ให้กำลังใจ แล้วน้ำตาร่วง

อัญมามองจ้อง มีความหวังเต็มเปี่ยมว่าอธิคมจะกลับตัว กลับใจสู้ชีวิตได้อีกครั้ง

ภควัตยืนรออยู่ในสวนจนเห็นอัญมากลับมา ภควัตรีบเดินเข้าไปหา อัญมาชะงักมองแววตาเศร้า

“ไปหาอธิคมมาเหรอ ทำไมไม่รอผม ไปด้วยกัน”
“ฉันรู้ว่าอธิคมเค้าไม่อยากเจอใคร โดยเฉพาะคุณ”
“ผมเพิ่งคุยกับแม่ของคุณทั้งสองคน เรื่องงานแต่งงานของเรา” อัญมามองภควัตนิ่ง “ผมจะแต่งงานกับคุณนะอัญ”
“คุณป้าคุณยอมหรือคะ”
“ผมจะพูดให้คุณป้าเข้าใจคุณ”
ภควัตกุมมืออัญมา อัญมาดึงมือออก
“อย่าหลอกตัวเองเลยค่ะ คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“อธิคมบอกให้คุณรอเค้าใช่มั้ย เค้าจะออกมาหาคุณ”
ภตวัตย้อนถาม อัญมาย้อนถามเหมือนกัน
“คุณก็จะไม่ทำให้อธิคมติดคุกตลอดชีวิตใช่มั้ย ผู้กอง”
“ผมบอกไม่ได้หรอก อัญมา ศาลต่างหากที่จะตัดสินความผิดอธิคม คุณก็รู้ว่าเค้าทำอะไรลงไปบ้าง”
“ฉันรู้ว่าอธิคมทำผิด และต้องการโอกาสที่จะเริ่มต้นเป็นคนดี”
“แล้วโอกาสของผมล่ะ ทำไมคุณไม่ให้โอกาสที่ผมจะเปลี่ยนใจคุณป้า”
อัญมาถอนใจ “ฉันรู้ว่ามันยาก ฉันเคยเป็นคุณหนูอัญมา ฉันเข้าใจเหตุผลเรื่องความเหมาะสม
ที่คุณหญิงวรจันทร์บอก ในโลกในสังคมของท่านไม่มีวันรับได้หรอกกับอดีตผู้หญิงติดยา...ขายยาอย่างฉัน”
“คุณไม่ได้ทำด้วยความสมัครใจ ที่สำคัญคุณเสี่ยงชีวิตช่วยตำรวจปราบปรามทลายแก๊งค้ายาเสพติดที่ใหญ่ที่สุด ช่วยให้เด็กๆรอดพ้นจากยานรกได้ไม่น้อย นี่ต่างหากอัญมาคือสิ่งที่คุณลุงคุณป้าผมควรจะภูมิใจในตัวคุณ หรือว่าคุณไม่อยากใช้ชีวิตกับผม”
“ฉันไม่อยากให้ความรักของฉันทำร้ายใคร บีบบังคับใจใคร ฉันไม่อยากรักแล้วเรียกร้องเหมือนที่อธิคมทำกับฉัน ถ้าความรักของฉันต้องทำให้คุณป้าที่มีพระคุณกับคุณต้องเดือดร้อนใจ ทำให้ตระกูลของท่านเสื่อมเสียฉันยอมไปเอง ต่อไปนี้ คุณไม่ต้องมาหาฉันอีก”
“ไม่ อัญมา อย่าไล่ผม ผมไม่ยอม”
ภควัตรวบตัวอัญมาไว้ อัญมาดิ้นไม่ยอม ผลักภควัตสุดแรง
“เรารักกันนะ อัญมา” ภควัตครวญ
“เก็บความรักของเรา ไว้นึกถึง ตอนที่เราไม่มีกันและกันเถอะค่ะ”
อัญมาปาดน้ำตา วิ่งเข้าบ้านไป
ภควัตมองอึ้งๆ คิดไม่ถึงว่าอัญมาจะตัดสินใจแบบนี้

อัญมาปาดน้ำตาสะอื้นไห้เดินเข้ามาในบ้าน ภรณี กับอุบลยืนมองอยู่ พากันเดินเข้าไปหา ฤดีที่รอรับใช้ มองด้วยสายตาสงสารคุณหนู ภรณีลูบหัวอัญมาซบลงในอกภรณี
“ร้องซะ ลูก อยากร้องก็ร้องออกมาให้หมดตอนนี้”
“อัญทำถูกแล้วใช่มั้ยคะ” อัญมาเสียงสั่น
“ถูกแล้วล่ะ อัญ ผู้กองเค้าเป็นคนดีอย่าให้เค้าต้องเลือกระหว่างผู้หญิงกับผู้มีพระคุณเลย”
อุบลแตะไหล่ปลอบใจลูก อัญมาน้ำตาไหล มองแม่ทั้งสองคนอย่างตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว

เย็นวันหนึ่ง ภควัตนิ่งเหม่อลอยสายตาหมองเศร้า คิดถึงภาพความใกล้ชิดกับอัญมา ด้านหลัง ขวัญอนงค์กับวรจันทร์ยืนมองอยู่
ขวัญอนงค์จะเข้าไป วรจันทร์เตือนเบาๆ
“เวลานี้ ตาวัตไม่ฟังใครหรอก ถ้านี่ไม่ใช่รักแท้ วันนึงตาวัตจะตัดใจจากอัญมาได้เอง”
ขวัญอนงค์มองแม่แล้วเดินกลับเข้าบ้านไปด้วยกัน
ภควัตยังนั่งซึม คิดถึงภาพความหลังตอนใกล้ชิดกับอัญมาอย่างคนหัวใจแตกสลาย

เช้าวันหนึ่งอธิคมเกาะลูกกรงแน่น ดึงตัวเองขึ้นจากรถเข็น เพื่อนนักโทษมอง จะเข้ามาช่วย
อธิคมบอก “ไม่ต้อง”
เพื่อนนักโทษต้องถอย อธิคมพยายามดึงตัวเองขึ้น นึกถึงคำพูดที่อัญมาบอก
“คุณเดินไม่ได้ แต่หัวใจคุณไม่ได้พิการไปด้วย หัวใจคุณยังอยากเป็นคนดี”
อธิคมเกาะลูกกรงพยุงตัวแต่สุดท้ายก็หมดแรง ล้มลงไปกองกับพื้น เพื่อนนักโทษได้แต่มองเงียบๆ ไม่กล้ายุ่ง

อธิคมกำหมัดทุบลงพื้น น้ำตาคลอด้วยความเจ็บใจ

สองคนอยู่ในสวนหน้าคฤหาสน์ ภควัตหันมองฤดีที่ยืนรอรับหน้า ถามขึ้นด้วยเสียงแปลกใจ

“ไม่มีใครอยู่ อัญมาก็ไม่อยู่ หายไปไหนกันหมดครับ”
“ดิฉันคงจะบอกคุณผู้กองไม่ได้นะคะ”
“บอกไม่ได้ หมายความว่าอะไร ผมมาที่นี่บ่อยๆ ผมเป็นคนรักของอัญมา”
“อันนั้นทราบค่ะว่าเป็นคนรัก แต่ฤดี เป็นแม่บ้านที่นี่ คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงไว้ใจให้ฤดีดูแลบ้าน ฤดีก็คงตอบได้แค่ว่า ไม่มีใครอยู่”
“ขอผมพบ คุณอรรณพ กับคุณภรณี หน่อย”
“ห้ามเข้าค่ะ”
ฤดีกางแขนกั้น ภควัตไม่สนใจ วิ่งพรวดเข้าไป ฤดีตกใจ วิ่งตามไปทันที
“ไม่ได้นะคะ ผู้กอง ห้ามเข้านะคะ ตำรวจบุกรุกบ้านประชาชนไม่ได้นะคะ”

เมื่อภควัตพุ่งเข้ามาในบ้าน มองไม่เห็นใคร ก็เรียกขึ้น
“คุณอรรณพ คุณภรณีครับ ป้าอุบล...อัญมา”
ฤดีตามเข้ามา
“จะเอาตำรวจทั้งกองร้อยมาค้น ก็ไม่เจอใครหรอกค่ะ”
“ป้าครับ...บอกผมหน่อยเถอะครับ”
ฤดีทำท่ารูดซิปปาก ส่ายหน้า แล้วผายมือไปทางประตูให้ภควัตออกไป
“ผมต้องคุยกับอัญมา”
ฤดีทำท่ารูดซิปปากอีก เปิดออกแล้วพูด
“ถ้าคุณอัญมาอยากคุยกับคุณ เธอจะติดต่อไปเองค่ะ”
ฤดีเห็นหน้าตาจริงจัง รู้ว่าคงไม่ยอมบอกแน่ๆ ภควัตมองด้วยสีหน้าว้าวุ่นใจ

ภควัตมองเก้ากับจ่าเดชที่แวะมาหาถึงบ้าน และยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยสายตาร้อนใจ
“คุณอรรณพ คุณภรณี ป้าอุบล อัญมาไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลย ฤดี แม่บ้านก็ไม่ยอมบอกว่าไปไหน”
“ที่ชุมชนก็ไม่มีนะครับ ไอ้อัญ เอ่อ...คุณอัญ ก็ไม่ได้แวะไปเลย” จ่าบอก
“จิ๊บ นวยไม่มีใครรู้สักคน อัญไม่ได้บอกใครไว้” เก้าว่า
“แต่ผมว่าต้องมีคนนึงที่รู้”
“ใครน่ะ จ่า”
จ่าเดชทำท่าไม่อยากเอ่ยชื่อออกมา ภควัตมองเขม็ง
“ก็มันน่ะ...”
เก้าซัก “ก็ใครเล่า”
“หืมมม...นึกไม่ออกหรือไง หมวดเก้า”
“อธิคม”
ภควัตตอบให้ทันที

ภายในห้องเยี่ยมผู้ต้องขังเวลานี้ อธิคมนั่งตรงข้ามภควัต ผู้คุมยืนห่าง
“อัญไม่ได้บอกว่าไปไหน”
“นายเป็นเพื่อนอัญมา เพื่อนคนเดียวที่อัญมาใกล้ชิด เป็นห่วงที่สุด
“ฉันเป็นแค่เพื่อน แต่แกเป็นแฟน แล้วทำไมถึงปล่อยให้คนรักหายไปได้”
ภควัตกำหมัด อธิคมมองสู้ไม่มีหลบตา
“อัญให้กำลังใจฉัน ให้ฉันเลือกเดินทางที่ถูกต้อง แกเองก็ควรจะเลือกสักทีว่าต้องทำอะไรต่อไป”
อธิคมถอยเก้าอี้รถเข็น จะออกไป ภควัตลุกขึ้นมอง
“ถ้านายยังแค้นที่ฉันยิงพ่อนาย”
อธิคมหยุดชะงัก นิ่งแล้วพูดขึ้น
“แกทำหน้าที่ของตำรวจ ตอนนี้ฉันเป็นนักโทษ ชดใช้ความผิด ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีอะไรต้องเกลียด ต้องแค้น ต้องจองเวรจองกรรมต่อกันอีก”
อธิคมเข็นรถออกไป

ภควัตยิ้มมองอธิคมตามที่บัดนี้สงบลงและทำใจยอมรับความจริงมากขึ้น

ในห้องขัง อีกวันหนึ่ง อธิคมกำลังอ่านหนังสือกฎหมายของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ที่อัญมาส่งมาให้

“ฉันสอบผ่านหลายวิชาแล้วอัญ เพราะหนังสือวิชากฎหมายที่เธอส่งมาให้”
อธิคมก้มหน้าก้มตาเขียนจดหมาย สลับกับการอ่านหนังสือ
“ฉันทำกายภาพบำบัดด้วยตัวเองทุกวัน เหมือนที่เธอบอก”
อธิคมเอามือนวดขาตัวเอง กระตุ้นปลายประสาท
“ขอบใจนะอัญ ที่ทำให้ฉันรู้ว่า ความรักที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากการครอบครอง แต่เกิดจากการให้อิสระกันและกัน”
อธิคมพยายามยกปลายเท้าขึ้น ครั้งแรกยกไม่ได้ จนครั้งต่อๆ มา ปลายเท้าอธิคมยกขึ้นสูงจากพื้นได้ทีละน้อย
“ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ฉันจะคิดถึงเธอ มีเธอเป็นกำลังใจ ให้ฉันก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งอย่างคนดี ฉันรักเธอที่สุดนะ อัญ จากเพื่อนของเธอ อธิคม”
อธิคมยิ้มกับตัวเองด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่าวันหนึ่ง ขาจะกลับไปใช้การได้เหมือนเดิม

ภายในบ้านภควัตอีกวันหนึ่ง ภควัตมองภาพที่เคยถ่ายกับอัญมา คุณหญิงวรจันทร์ยืนอยู่ด้านหลัง
“อัญมาเค้าตั้งใจจะหนีไปจากผม ไม่ให้ผมรู้ว่าเค้าอยู่ที่ไหน”
“วัตยังรักอัญมาอยู่หรือเปล่าล่ะ”
“หัวใจผม ความรักผม มีให้อัญมาคนเดียว”
วรจันทร์ลอบยิ้มนิดๆ แต่ไม่ให้หลานชายเห็น
“งั้นวัตก็ต้องอดทน พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ไม่ว่านานแค่ไหน ความรักของวัต หนักแน่น มั่นคงกับอัญมาจริงๆ”
วรจันทร์อมยิ้มน้อยๆ แล้วเดินออกไป
ภควัตมองภาพอัญมาด้วยสายตาหวนไห้
“ผมรอคุณอยู่นะ อัญมา”

วันเวลาเคลื่อนคล้อย 2 ปี ผ่านไป
ตอนกลางวันของวันนี้ ภควัตในชุดคอมมานโดเตรียมพร้อม ในมือมีปืน นำหมวดกนกกับตำรวจอีก 3 คน เตรียมจะบุกเข้าไปในไร่แห่งนี้
“สายรายงานว่า พวกมันซ่อนตัวอยู่ที่นี่ มีทั้งยาบ้า ยาไอซ์”
“สารวัตรจะลุยเข้าไปคนเดียวเหรอครับ” เก้าท้วง
“ใช่ จับเป็นเท่านั้นนะ หมวดเก้า แยกกัน...ตามแผน”
ภควัตสั่งแล้ววิ่งลุยเข้าไป ลูกน้องจะแยกกันตาม หมวดเก้ารีบหันไปห้าม
“ไม่ต้อง...ไม่ต้องตาม”
เก้ายกมือห้าม ทุกคนมอง
“กลับหน่วยกันได้ ภารกิจนี้ให้สารวัตรภควัตเค้าจัดการคนเดียว”
เก้ายิ้มเจ้าเล่ห์

ภควัตวิ่งถือปืนลุยเข้ามาในไร่ เหลียวมองอย่างระแวดระวัง จนเห็นร่างๆ หนึ่งยืนหันหลังอยู่บนเนิน ภควัตค่อยๆ เข้าไปใกล้อย่างเงียบกริบ
พอพ้นแนวหญ้าสูง ภควัตยกปืนเล็ง พอเห็นร่างแบบบางที่ยืนหันหลัง ภควัตตะลึง
“อัญมา”
อัญมาในชุดสวยค่อยๆ หันมายิ้มให้ภควัต

ส่วนภายในโถงกลางคฤหาสน์ คุณหญิงวรจันทร์นั่งยิ้มมีความสุข ต่อหน้าทุกคน ท่านอภิกานต์เอ่ยขึ้น
“ป่านนี้ตาวัตกับหนูอัญคงกำลังปรับความเข้าใจกันอยู่”
“ฉัน คุณอรรณพ แล้วก็อุบล เอาเพชรเม็ดนี้ไปเจียระไนมาแล้ว 2 ปี ไม่ทราบว่าคุณหญิงจะพอใจบ้างหรือยังคะ”
ภรณีถามยิ้มๆ วรจันทร์ยิ้มสดชื่น
“เราพาลูกอัญไปเรียนต่อที่อังกฤษ เพื่อกลับมาเป็นทายาท ดูแลธุรกิจทุกอย่าง” อรรณพว่า
อุบลบอก “ไม่ใช่ไอ้อัญ เด็กติดยาเหมือนแต่ก่อนแล้วค่ะ”
ขวัญอนงค์ถามขึ้น “นี่เป็นแผนของคุณแม่เหรอคะ ที่หลอกให้พี่วัตแยกจากอัญมา”
ภรณียิ้ม “เรียกว่าเป็นความร่วมมือกันของผู้ใหญ่ดีกว่าค่ะ”
ผู้ใหญ่ทุกคนยิ้มแย้ม คุณหญิงวรจันทร์เอ่ยบอกทุกคนด้วยสีหน้าสดชื่น
“อัญมาเค้าพิสูจน์ตัวเองแล้ว ไม่ใช่แต่เฉพาะกับแม่ แต่กับทุกคน”
ทุกคนมองคุณหญิงวรจันทร์ที่สีหน้ามีปลาบปลื้ม
“คนเราจะดีได้ก็ด้วยเนื้อแท้ของตัวเอง ไม่ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน ชาติกำเนิดเป็นยังไง ขอให้ทำตัวเป็นบัวพ้นน้ำ ใฝ่หา หมั่นทำความดี อย่าจมลงไปในปลักโคลนกิเลส ความทะเยอทะยาน ความเห็นแก่ตัว เท่านี้ทั้งตัวเองคนรอบข้าง สังคมก็จะไม่เดือดร้อน เป็นคนดีอยู่ที่ไหน ความดีก็จะตอบแทนให้ชีวิตมีแต่ความสุข”

ส่วนในไร่สวย ภควัตเก็บปืน เดินเข้าไปหาอัญมาที่ยืนยิ้มอยู่
“ผู้หญิงใจร้าย”
“คุณว่ายังไงนะ”
“ผมบอกว่าคุณเป็นผู้หญิงใจร้ายที่สุด หายตัวไป ไม่บอก ไม่เคยโทร.หา อีเมลสักฉบับก็ไม่มี”
“ใช่ ฉันใจร้าย แล้วจะทำไม”
ภควัตเข้าไปรวบตัวอัญมามากอดไว้
“ผมก็ต้องลงโทษ”
ภควัตหอมแก้มฟอดทันที อัญมาดิ้นหนี
“ฉวยโอกาส”
“ผมจะทำยิ่งกว่านี้อีก”
“ปล่อยฉันนะ คิดว่าเป็นตำรวจแล้วฉันจะกลัวเหรอ”
“ผมรู้ว่าคุณไม่กลัวผม แต่ผมกลัว...กลัวคุณหายไปจากผมอีก”
ภควัตกอดอัญมามาจูบลงที่หน้าผากแผ่วเบา นุ่มนวล
“ผมคิดว่าคุณหายไปในโลกคู่ขนาน ไม่อยากกลับมาเป็นไอ้อัญของผม”
“ฉันจะไม่ไปไหน เพราะฉันมีความสุขที่จะเป็นไอ้อัญของคุณ...คนเดียว”
อัญมามองสบตาภควัตหวานฉ่ำ ภควัตก้มลงจูบ
แลเห็นพรายน้ำสีฟ้าเข้มวิบวับขึ้นมา ภควัตก้มลงจูบอัญมาอย่างดื่มด่ำ อัญมากอดภควัตไว้แน่น

พรายน้ำสีฟ้าเข้ม ชัดขึ้น...ชัดขึ้น ราวกับว่าโลกคู่ขนานกำลังพร้อมจะเปิดขึ้นอีกครั้ง

จบบริบูรณ์

โปรดติดตาม "เงา" เร็วๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น