คีตโลกา ตอนที่ 17
อัญมานั่งมาในรถที่อธิคมขับมาตามถนนสายหนึ่งด้วยความเร็วสูง และกำลังมุ่งหน้าออกชานเมือง
“คุณจะพาฉันไปไหนอธิคม”
“ไปหาอนาคต...ชีวิตใหม่ของเราไงล่ะ อัญ” อธิคมบอกโดยไม่หันมา
“คุณก็รู้ใช่มั้ยว่า ตำรวจกำลังตามจับคุณกับพ่อ”
“ไอ้วัตน่ะเหรอ”
อธิคมเหยียดยิ้ม หันมามองอัญมา
“มันจะจับได้ยังไง ถ้าฉันฆ่ามันตายด้วยมือฉันเอง”
อธิคมหันกลับไปพุ่งรถเร็ว อัญมาฟังแล้วใจร้อนยิ่งกว่าไฟ
ภควัตวิ่งออกมาจากในบ้าน ตรงไปที่มอเตอร์ไซค์ พร้อมโทร.ออกไปที่ฐานลับ
“ผู้กำกับสิทธิชัยครับ ผมกำลังตามรถอธิคม มันจับตัวอัญมาไป เราคิดว่ามันกำลังไปที่จุดนัดพบเพื่อหนีออกนอกประเทศ”
ภควัตขึ้นนั่งรถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทเครื่องแล้ว
“ผมอยากให้เราตั้งด่าน สกัดเส้นทางออกนอกเมืองทุกเส้น เจอรถอธิคมที่ไหนส่งข้อมูลให้ผมเลยครับ”
ภควัตวางสายแล้ว บิดคันเร่งมอเตอร์ไซค์ออกตัวไปทันที
อัญมามองอธิคมที่พอเห็นตำรวจกำลังยกกรวยออกมาวางกั้นที่พื้นถนน เพื่อตั้งด่านก็เร่งเครื่องเร็วขึ้น อัญมารีบเตือน
“อธิคม! คุณแหกด่านไม่ได้นะ”
อธิคมไม่สนใจ เร่งเครื่อง อัญมาเกาะเบาะแน่น อธิคมชนกรวยกระเด็น รถพุ่งไปอย่างแรง อัญมาร้องวี้ด อธิคมพุ่งรถไปข้างหน้า ไม่สนใจตำรวจ
อัญมาเหลียวไปมองด้านหลัง รู้ว่าตำรวจกำลังรีบว.บอกสกัดแน่นอน
อัญมาหันมาทางอธิคมพยายามโน้มน้าวใจ
“อธิคม ตอนนี้คุณยังมีโอกาส ถ้าคุณมอบตัว ฉันจะบอกให้ผู้กองภควัตช่วยคุณ”
อธิคมตวาด “หยุดพูดชื่อมันได้แล้ว โลกนี้ถ้ามีไอ้วัต ก็ต้องไม่มีฉัน”
อัญมาตกใจ เห็นอธิคมอาฆาตแค้นภควัต ยิ่งเครียด
ด้านภควัตขับรถทะยานมาบนถนน มุ่งหน้าไปตามที่ฐานลับกำลังแจ้งข้อมูลผ่านหูฟัง
“ผู้กองภควัต ผมเองผู้การประพจน์”
ในฐานลับตอนนี้ ประพจน์กำลังพูดกับภควัต ผ่านเครื่องวิทยุสื่อสาร สิทธิชัยยืนใกล้ คุมลูกน้องเอาภาพกล้องวงจรปิดบนถนนทางหลวงหลายมุมขึ้นจอ
“ท่านรองจักรภพต้องเข้าไปที่ทำเนียบด่วน ผมมาคุมปฏิบัติการนี้ เราเพิ่งพบรถต้องสงสัยแหกด่าน กำลังมุ่งไปทางสระแก้ว”
สิทธิชัยสั่งลูกน้องดึงภาพขึ้นจออีก เป็นภาพจากวงจรปิดไม่ชัดนัก แต่มองเห็นจากมุมด้านข้างว่า
คนขับคืออธิคม
ประพจน์รีบบอกภควัต “ใช่มันจริงๆ! อธิคม”
ภควัตขับรถมาโดยเร็ว เลี้ยวหันกลับ เสียงล้อบดถนนดังสนั่น ภควัตพุ่งรถ เลี้ยวแยกไปตามเส้นทางที่ยืนยันจากฐานลับทันที เสียงผู้การดังออกมาว่า
“คุณรีบตามอธิคมไปเลย”
ประพจน์ใช้ความคิด แล้วหันมาสั่งสิทธิชัย
“สารวัตรกฤษณ์มาหรือยัง”
“สารวัตรกฤษณ์ลาพักร้อนอยู่ครับ”
“ยกเลิกใบลา ตามตัวมาเดี๋ยวนี้! ตอนนี้ทุกคนต้องทำงาน ก่อนที่วินิจกับอธิคมมันจะหลุดมือเราไป”
สิทธิชัยรีบกดมือถือตามตัวกฤษณ์ทันที
กฤษณ์ยืนอยู่กับโรจน์ มองเบอร์ที่ขึ้นชื่อว่า ผู้กำกับสิทธิชัย
“ผู้กำกับสิทธิชัย”
กฤษณ์ตัดสาย โรจน์เห็นแล้วถามขึ้น
“นายไม่รับเหรอครับ”
“จะรับทำไม ป่านนี้นังสุคนธรสมันคงแฉให้พวกมันรู้หมดแล้ว โดยเฉพาะไอ้วัต กลับไป...ก็เท่ากับว่าฉันเดินไปเข้าคุก”
กฤษณ์แค้นใจ ล้วงเงินที่เตรียมไว้ส่งให้โรจน์ โรจน์มองเงินแบงค์พัน เห็นมีแค่ 10 ใบ
“ไหนนายบอกว่าจะให้ผมแสนนึง นี่มันแค่หมื่นเดียว”
“งานง่ายๆ แค่สะกดรอยตามคน แล้วฉันก็เป็นคนใช้สมองคิด แกรับคำสั่งทำตามอย่างเดียว แค่นั้นก็เยอะแล้ว”
โรจน์ฉุน “นายจะโกงลูกน้องเหรอ”
“หรือแกอยากทำให้ฉันโกรธ”
กฤษณ์จ้องขู่ พร้อมกับขยับให้เห็นปืนในเสื้อ โรจน์หัวเสียแต่ไม่อยากมีเรื่อง รีบหันหลังเดินออกไป
“เรื่องอะไรกูจะให้มึงเป็นแสน กูรีดอธิคมได้มา 2 ล้าน กูก็ต้องเก็บไว้ใช้ตอนหนีสิวะ”
กฤษณ์พูดออกด้วยแววตาอันร้ายกาจ
รถอธิคมจอดลงตรงริมถนนเปลี่ยวนอกเมือง อัญมาเปิดประตูรถออกมาทันที อธิคมเปิดตาม
“อย่าให้ฉันต้องมัดมือมัดเท้า แล้วก็ลากเธอไปเลยนะ อัญ”
อัญมามองไปรอบ แล้วถามอธิคม
“คุณคิดว่าจะหนีตำรวจพ้นเหรอ อธิคม”
อธิคมเดินมาเผชิญหน้ากับอัญมา
“คนอย่างฉัน ติดคุกครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว”
“ถ้าคุณมอบตัว ...”
อธิคมขึ้นเสียง “เลิกพูดเรื่องมอบตัวสักที ฉันยอมตาย ดีกว่าต้องแพ้ไอ้วัต”
“ผู้กองภควัตเค้าต้องตามจับคุณจนได้”
อธิคมกระชากแขนอัญมา
“ฉันถึงเอาตัวเธอมา ในเมื่อเธอคือหัวใจของไอ้วัต ฉันก็จะทำให้มันรู้ว่า คนที่ถูกแย่งหัวใจไป มันเจ็บยิ่งกว่าตาย”
อธิคมลาก อัญมาดิ้นสู้ ไม่ยอม
“ไม่ ฉันไม่ไปกับคุณ อธิคมเปลี่ยนใจเถอะ ติดคุกยังดีกว่าตาย ยิ่งหนี...คุณกับพ่อจะยิ่งไม่รอด”
อธิคมไม่ยอม ฉุดกระชากลากอัญมาไป
อัญมาทั้งกัด ทั้งถีบ ทั้งข่วน จนอธิคมตัดสินใจ ชกเข้าที่ท้อง อัญมาแน่นิ่งไป
อธิคมแบกอัญมาขึ้นบ่า เดินข้ามถนนไปอีกด้าน เพื่อหลอกให้ตำรวจสับสน
สุดท้ายอธิคมแบกร่างอัญมา เดินลงเนินเข้าไปในทางเล็กๆ มีพุ่มไม้บังทันที
กฤษณ์อยู่ในห้างสรรพสินค้า กำลังพูดมือถือ ด้วยสีหน้าร้อนรนใจ
“ท่านครับ มีคนรู้แล้วว่าผมรับเงินไอ้วินิจ ผมไม่อยากให้ท่านที่เป็นคนกลางเดือดร้อนไปด้วย ผมจะหนีแล้วก็ปิดปากเงียบ ท่านพอช่วยให้ผมหนีออกไปวันนี้เลยได้มั้ยครับ”
กฤษณ์นิ่งฟังสาย แล้วทวนคำ
“ถ้าจะหนี...ผมต้องหนีไปกับไอ้วินิจพ่อค้ายาเหรอครับ”
กฤษณ์หน้าเครียด ตัดสินใจอย่างหนัก เมื่อรู้ว่าทางหนีทางเดียวคือไปพร้อมกับวินิจ
วินิจยืนอยู่กับลูกน้องที่คุ้มกันแน่นหนาในเซฟเฮาส์หลังหนึ่งนอกเมือง วินิจมองนาฬิกาแล้วบ่นขึ้น
“ไอ้คม ป่านนี้ทำไมมันยังไม่มา”
อธิคมแบกอัญมาเข้ามาในไร่อ้อยแห่งหนึ่ง อัญมาฟื้นขึ้นมาจนได้สติ ทุบหลังอธิคม
“ปล่อย ปล่อยฉัน”
อัญมาดิ้นไม่หยุด อธิคมต้องวางร่างอัญมาลง กระชากแขนไว้
“อย่าคิดจะหนีอีก”
อธิคมลากอัญมาผ่านไร่อ้อย เพื่อทะลุไปอีกด้าน
“คุณจะพาฉันไปไหน”
“ผ่านตรงนี้ไป ฉันจอดรถไว้อีกคัน เราจะรีบไปรวมกับพ่อ” อัญมามองอธิคมที่บอกต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
“ผู้ใหญ่ที่ช่วยพ่อ จะให้คนพาเราออกนอกประเทศ”
อัญมาบอกทันที “พ่อคุณเกลียดฉัน เค้าไม่มีวันให้ฉันร่วมทางไปด้วย”
อธิคมชะงัก อัญมายิ่งรุก
“คุณก็รู้ว่าพ่อคุณเกลียดฉัน เค้าฆ่าฉันแน่ เค้าไม่รู้ใช่มั้ยว่าคุณพาฉันมาด้วย”
“เธอจะปลอดภัย ฉันคุ้มครองเธอได้ ถ้าเธอสาบานว่าต่อไปเธอจะไม่เข้าข้างตำรวจ”
“ไม่มีทาง ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็จะไม่ช่วยพวกค้ายาอย่างคุณ”
อธิคมกระชากอัญมาเต็มแรง อัญมาจ้องไม่กลัว
“เธอยอมตายเพื่อไอ้วัต”
“ใช่ ฉันยอมตายเพื่อคนดี ยอมตายเพื่อความดี พวกคุณฆ่าคนด้วยยาเสพติดถึงคุณหนีออกนอกประเทศได้ ไปใช้เงินบาปที่คุณกอบโกยมา แต่คุณกับพ่อ ไม่มีทางหนีเวรกรรมพ้น”
อัญมาพูดใส่หน้าอธิคม
ส่วนทางภควัตบึ่งมอเตอร์ไซค์มา จนเห็นรถของอธิคมจอดอยู่ ภควัตชะลอรถมอเตอร์ไซค์ มองไปข้างใน ภควัตเปิดหน้าหมวกออก
“ทะเบียนรถที่แหกด่าน”
ภควัตมองไปรอบๆ ใช้ความคิด
“อธิคม...ถ้าฉันเป็นแก...”
ภควัตคิดแทนอธิคมมองรถที่จอดอยู่
“ฉันจะทิ้งรถให้ทุกคนตามหาทางนี้”
ภควัตมองไปอีกทางด้านตรงข้ามกับที่อธิคมลากอัญมาลงไป
“แล้วก็จะพาอัญมาหนีไปทางนั้น”
ภควัตปิดหมวก ตัดสินใจ พุ่งรถลงไปทางที่อธิคมเพิ่งพาอัญมาไป ขับรถตะลุยพุ่งลงทางเนินดินเล็กๆ ไปอย่างเร็ว
อธิคมมองอัญมาที่จ้องตรงหน้า
“ฉันจะไม่มีวันหนีไปกับคนผิด ฆ่าฉันให้ตายตรงนี้ก็ได้ อธิคม เอาตัวฉันไปยังไงพ่อคุณก็ยิงฉันตายอยู่ดี”
อธิคมมองอย่างผิดหวัง อัญมาพูดขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว
“ให้ฉันตายด้วยมือคุณก็ได้”
“ไม่ เธอต้องไปกับฉัน ฉันทำทุกอย่างเพราะฉันอยากให้เธออยู่ด้วย ชีวิตฉันต้องการเธอนะ อัญ”
อธิคมกระชากอัญมา อัญมาขืนตัวดิ้นหนี
“ไม่...อธิคม คุณต้องกลับตัว คุณยังมีโอกาส อย่าให้ความโลภ ความแค้นมาทำลายชีวิตคุณ... ปล่อย ปล่อยฉัน”
ภควัตพุ่งรถมา เสียงเครื่องดังสนั่น อัญมากับอธิคมหันไปมอง เห็นภควัตพุ่งรถทะยานมาในไร่
“ผู้กอง”
อธิคมชักปืนยิงทันที ภควัตชักปืนยิงสวน อธิคมผลักอัญมาห่าง แล้วกระหน่ำยิง จนโดนล้อ
“ผู้กอง”
อัญมาเห็นล้อรถภควัตถูกกระสุน รถเสียหลักหมุนคว้าง ภควัตกระโดดออกจากรถ หมุนตัวกลิ้งไปหลายตลบ
อธิคมเล็งปืนเดินเข้าหาภควัตที่กำลังหมอบกับพื้น
“ผู้กอง ระวัง” อัญมาร้องลั่น
ภควัตเงยมองขึ้นมาเห็นอธิคมเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าเหี้ยมเกรียมดุดัน
วินิจยืนไม่ติดที่แล้ว พยายามกดสายโทร.หาลูกชาย แต่ไม่มีสัญญาณ
“ทำไมป่านนี้อธิคมยังมาไม่ถึง หรือว่า....”
วินิจสีหน้าไม่ดี ลูกน้องวินิจเปิดประตูเข้ามาพร้อมกฤษณ์ วินิจหันไปมอง
“ท่านให้ฉันหนีไปกับแก”
กฤษณ์กับวินิจมองจ้องตากันและกัน เผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก
เหตุการณ์ในไร่อ้อย อธิคมมองภควัตแล้วลั่นไกเสียงปืนดังปัง อัญมาร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ผู้กอง”
ภควัตพุ่งหลบแล้วหันกลับมาเป็นฝ่ายชักปืนจะยิงอธิคม แต่อธิคมตั้งหลักรออยู่แล้ว เตะปืนในมือภควัตเต็มแรง ภควัตยังไม่ปล่อย อธิคมเตะตัดเข้ากลางลำตัว ภควัตเซ อธิคมกระโดดเข้าเตะท่าจระเข้ฟาดหางภควัตเซ ปืนหลุดมือกระเด็นไปไกล
อธิคมจ่อปืนจะยิง แต่กระสุนหมด ภควัตหันมาพุ่งเข้าชก อธิคมหน้าหงาย ภควัตเตะซ้ำ ปืนอธิคมหลุดมือ ร่างเซไป
ภควัต กับอธิคมมองจ้องกัน
อัญมามองอยู่ตรงกลาง ห่างออกมา เห็นสองคนพุ่งเข้าหากัน ผลัดกันชก ผลัดกันเตะ ระเบิดความแค้นจนล้มกลิ้งล้มหงายกันไป
อัญมาตกใจ คิดหาทางช่วยภควัต
ภควัตโดดอธิคมเตะจนล้ม อธิคมตามไปกระทืบ แล้วล็อคคอภควัต
“แกอยากจับฉันมากใช่มั้ย”
“ฉันต้องจับแกเข้าคุกให้ได้เหมือนที่ฉันเคยจับแกมาแล้ว”
อธิคมมองด้วยสีหน้าตกใจ ภควัตเหยียดยิ้ม
“ใช่แล้วอธิคม ฉันนี่แหละที่เคยยิงแก...จับแกเข้าคุก”
วินาทีที่ภควัตจับอธิคมครั้งแรกผุดซ้อนขึ้นมาในห้วงคิดทั้งสองหนุ่ม อธิคมเห็นรอยยิ้มเยาะของภควัตก็ยิ่งโกรธ รัดคอภควัตแน่น
ฝ่ายวินิจมองกฤษณ์ที่เอ่ยอธิบายต่อหน้า
“ตอนนี้ไอ้วัตมันต้องรู้เรื่องที่ฉันติดต่อแกหมดแล้ว ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้เหมือนกัน”
“แต่ฉันไม่ต้องการแกร่วมทางไปด้วย” วินิจบอก
“ถ้าแกมีตำรวจร่วมทางไปด้วย แกก็ข้ามชายแดนไปได้ง่ายกว่า...ไม่ใช่เหรอ”
กฤษณ์พูดด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ วินิจมองแล้วใช้ความคิดอย่างหนัก
อ่านต่อหน้า 2
คีตโลกา ตอนที่ 17 (ต่อ)
ส่วนเหตุการณ์ในไร่อ้อย ภควัตถูกอธิคมรัดคอแน่น
“วันนี้ กูจะฆ่ามึงให้หายแค้น”
อัญมาร้องขึ้น “อธิคม ปล่อยผู้กองเดี๋ยวนี้”
สองหนุ่มมองไป เห็นอัญมาถือปืนภควัต จ่อมาที่อธิคม
“เธอกล้ายิงฉันหรืออัญ”
อธิคมขยับภควัตมาให้หน้าตรงกับวิถีกระสุนที่อัญมาเล็ง
“เอาเลย ยิงสิ ยิง” อธิคมท้า
“ไม่ต้องห่วงผม อัญมา ยิงอธิคม”
อัญมาลังเล “มันจะโดนคุณนะ ผู้กอง”
“ไม่เป็นไร เราปล่อยอธิคมไปไม่ได้”
“ยิงสิ อัญ ยิงฉัน ไอ้วัตก็ต้องตายด้วย”
อัญมาบอก “อธิคม คุณเป็นลูกผู้ชายพอหรือเปล่า”
“แล้วมันล่ะ มันแย่งเธอไปจากฉัน”
“ผู้กองไม่ได้แย่งฉันไปจากคุณ ฉันกับผู้กองภควัต เรารักกัน ฉันรักผู้กองภควัต”
อธิคมตวาดลั่น “หยุดพูด”
“ฉันจะหยุด ถ้าคุณยอมรับความจริงก่อน ฉันหวังดี เป็นห่วงคุณ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันรักคุณ ฉันอยากให้คุณกลับตัวเพราะฉันรู้ว่าเนื้อแท้คุณเป็นคนดี ฉันเป็นเพื่อนคุณได้เสมอนะ อธิคม”
“ฉันไม่เคยต้องการเพื่อน ชีวิตฉันต้องการแค่ผู้หญิงที่รักฉัน”
“ความรักที่ไม่รู้จักการเสียสละ มันคือความเห็นแก่ตัว”
อัญมามองพยายามเตือนสติอธิคม อธิคมนิ่งไป อัญมามอง
อธิคมค่อยๆ คลายล็อคคอจากภควัต อัญมามองใจชื้น ค่อยๆ ลดปืนในมือ
แต่เพียงชั่วเสี้ยวนาที อธิคมหลอกอัญมา จับหน้าภควัตเตรียมบิดอย่างแรง หวังให้คอหัก อัญมามองตะลึง นึกถึงภาพที่เคยเห็นอธิคมยิงภควัตในโลกคู่ขนาน
อัญมาตัดสินใจ ยิงเปรี้ยงออกไป เสียงปืนดังขึ้น อัญมาหลับตาลั่นกระสุนไปอีกนัด เสียงปืนดังปัง
อัญมาลืมตามอง เห็นภควัตที่ก้มหลบต่ำ คว้าไม้บนพื้นฟาดเสยขึ้นปลายคาง อธิคมเซ
ภควัตฟาดอีกทีลงที่หัว อธิคมเลือดกระฉูดจากขมับ ทรุดลงไปกองกับพื้น ภควัตหันมามองเห็นอัญมายืนตะลึง ก็วิ่งเข้ามาหา
อัญมาช็อกอยู่ “ฉันยิงอธิคม”
ภควัตดึงปืนออกมามาจากมืออัญมา รีบบอกให้อัญมาคลายความตกใจ
“คุณยิง แต่ไม่โดนครับ อธิคมล้มเพราะผมตีเค้าเอง”
อัญมาวิ่งมาดู อธิคมนอนเลือดไหลออกจากขมับซ้าย อัญมารีบช้อนหัวอธิคมขึ้นก่อนจะเอามืออังที่จมูกตรวจลมหายใจ
“เค้ายังไม่ตาย”
อัญมาโล่งใจ ที่อธิคมไม่ตาย
ภควัตมองด้วยสายตาโล่งใจที่จับตัวอธิคมได้ และอัญมาก็ปลอดภัย
ฟากวินิจมองกฤษณ์แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันทรงอำนาจ
“ฉันจะพาแกไปด้วย ต่อเมื่อลูกชายฉันอยู่ที่นี่”
เตียงที่อธิคมนอนเลือดอาบร่างไม่ไหวติง กำลังถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เพื่อทำการผ่าตัดด่วน ภควัตกับอัญมาวิ่งตามมาส่งจนพยาบาลปิดประตูลง
อัญมายืนสีหน้ากังวลอยู่หน้าห้อง
“อธิคม...เค้าจะไม่ตายใช่มั้ย”
“หมอต้องช่วยเค้าไว้ได้”
ภควัตมองกุมมืออัญมา
“ผมแจ้งไปที่ฐานลับ ท่านผู้การประพจน์กำลังมาที่นี่” ภควัตดีใจ “อัญมา...เราจับตัวอธิคมได้แล้ว”
อัญมาหันไปมองด้านใน หน้าเครียดด้วยยังเป็นห่วงอธิคมอยู่
ในความตึงเครียดที่ปกคลุมทั่วห้องผ่าตัดตอนนี้ หมอและพยาบาลพยายามช่วยชีวิตอธิคมไว้เต็มที่ แต่สัญญาณชีพจรอธิคมต่ำลงเรื่อยๆ
ขณะเดียวกันที่เซฟเฮาส์นอกเมือง วินิจมองเวลาที่ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง
“อธิคมไม่เคยผิดนัดขนาดนี้”
วินิจหันไปมองกฤษณ์หน้าตึง กฤษณ์รีบบอก
“ฉันไม่รู้เรื่องที่แกนัดกับลูกชาย รับรองว่าตำรวจก็ไม่รู้”
“ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้ลูกชายฉันอยู่ที่ไหน ถ้าแกบอกไม่ได้ ฉันจะทิ้งศพแกไว้ที่นี่”
ขาดคำของวินิจ ลูกน้องทั้ง 6 คนจ่อปืนมาที่ร่างกฤษณ์ทันที
“ใจเย็นๆ ขอเวลาฉันแป๊บเดียว”
กฤษณ์รีบหยิบมือถือออกมากดหาลูกน้องคนสนิทในฐานลับ วินิจมองจ้อง
“หมวดผมเอง...คือผมกำลังจะเข้าไปที่ฐานลับ...แต่ผมใจร้อน อยากรู้ก่อนว่าวันนี้เรามีความคืบหน้าเรื่องจับวินิจกับอธิคมไปถึงไหนแล้ว”
กฤษณ์แกล้งทำเสียงถามลูกน้องในฐาน วินิจมองจ้อง กฤษณ์ฟังปลายสายด้วยสีหน้าตกใจ
“อธิคมถูกจับแล้ว”
วินิจจ้องกฤษณ์ ชักปืนขึ้นมาจ่อใส่กฤษณ์ทันที
กฤษณ์ตกใจ พยายามบังคับเสียงถามลูกน้องต่อ
“ขัดขืนการจับกุม...อาการสาหัส อยู่โรงพยาบาลไหน”
กฤษณ์มองวินิจด้วยความกลัว วินิจจ้องกฤษณ์ด้วยสายตาโกรธจัด
อธิคมนอนอยู่บนเตียง ในห้องพักฟื้น อาการอยู่ในโคม่า มีเครื่องช่วยหายใจ ระโยงรยางค์เต็มไปหมด
ภควัต อัญมา ประพจน์ และสิทธิชัยทุกคนยืนกันอยู่ในห้องข้างๆ เตียง หมอมีสีหน้าหนักใจ เอ่ยบอกทุกคน
“ศีรษะเค้าได้รับความกระทบกระเทือน เราต้องดูอาการใกล้ชิด ว่าเค้าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมาได้เมื่อไหร่”
หมอเดินออกไปเลย ภควัตเครียด ประพจน์มองลูกน้องแล้วบอกขึ้น
“คุณทำดีที่สุดแล้ว ภควัต จากที่อัญมาเล่าให้ผมฟัง อธิคมไม่ยอมให้คุณจับง่ายๆ”
“ผมอยากจับเป็น เพราะอธิคมต้องช่วยให้เราลากไส้ขบวนการของพวกมัน”
“ผมจะบอกให้หมอดูแลกรณีนี้เป็นพิเศษ ผู้กำกับสิทธิชัย สั่งคนของเราเฝ้าชั้นนี้ไว้ ทุกทางเข้าออก ห้ามสื่อ ห้ามคนแปลกหน้าเข้ามา ป้องกันการชิงตัวผู้ต้องหา” ผู้การประพจน์สั่ง
“ครับผู้การ” สิทธิชัยรีบออกไปทำตามคำสั่ง
อัญมามองอธิคมที่นอนนิ่งไม่รู้ตัวบอกตัวเองว่า
“เค้าต้องฟื้น...”
ประพจน์กับภควัตมองอัญมา เห็นสายตาห่วงใยอธิคม
“เราจะดูแลผู้ต้องหาเอง อัญมา ขอบใจเธอมาก ฉันจะให้คนของเราพาเธอกลับไปพัก”
“ขอฉันเฝ้าอธิคมได้มั้ยคะ”
ภควัตท้วงไม่อยากให้อยู่ “อัญมา”
“ยังไงสภาพนี้ เค้าก็คงหนีไปไหนไม่ได้ ฉันอยากอยู่ดูแลเค้า ถ้าเค้ารู้ว่าฉันเป็นห่วง บางทีอธิคมอาจจะอยากฟื้นขึ้นมาเร็วๆ”
ประพจน์ กับ ภควัต มองอัญมาที่ให้เหตุผลด้วยสีหน้าจริงจัง
ประพจน์นำออกจากห้อง หันมาถามภควัตที่เดินมาด้วยกัน
“อัญมากับอธิคม ความสัมพันธ์สองคนนี้เป็นยังไง”
“อธิคมรักอัญมาครับ พยายามจะพาเธอหนีไปด้วยกัน”
“หมวดเก้าเคยรายงานว่า อธิคมเอาตัวอัญมาเข้าไปอยู่ในบ้าน...ในฐานะเมีย”
ประพจน์มองด้วยสายตาสงสัย ภควัตตอบด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
“อัญมายอมได้ชื่อว่าเป็นเมียอธิคม เพราะต้องการจับตาอธิคมให้เรา เค้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน”
“คุณแน่ใจนะ ที่จะให้เราไว้ใจอัญมา”
“ผมยืนยันได้ครับ อัญมาเป็นห่วงอธิคมอย่างเพื่อน ต้องการเกลี้ยกล่อมให้อธิคมกลับใจยอมสารภาพ”
“ผมจะอนุญาตให้แค่อัญมาที่เฝ้าอธิคมได้ ถ้าอธิคมรักอัญมามาก อัญมาอาจจะเป็นคนที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์ จนอธิคมฟื้นขึ้นมาได้จริงๆ”
ประพจน์บอกแล้วเดินออกไป ภควัตฟังด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก
อัญมามองอธิคมที่นอนนิ่งเหมือนเจ้าชายนิทราอยู่บนเตียง แล้วกุมมืออธิคมขึ้นมา
“อธิคม คุณได้ยินฉันใช่มั้ย”
ภควัตแง้มประตูมา เห็นภาพอัญมากุมมือ และมองหน้าอธิคมอย่างห่วงใย
“คุณรู้ว่าฉันเป็นห่วงคุณ คุณรู้ว่าฉันคือเพื่อน เพื่อนคนเดียวที่คุณมีอยู่”
อัญมาน้ำตาคลอมองอธิคม ภควัตเดินเข้ามาใกล้
“ฟื้นขึ้นมาเถอะนะ อธิคม ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากมีชีวิตแบบนี้ ฉันรู้ว่าคุณอยากมีอนาคตใหม่ คุณเองก็ไม่อยากเป็นเหมือนพ่อ”
ภควัตมองอธิคม
“ถ้าเค้าฟื้นขึ้นมา แล้วยอมเปิดปาก ผมจะช่วยกันเค้าไว้เป็นพยาน อย่างน้อยเค้าจะได้ทำประโยชน์ ชดเชยความผิดได้บ้าง เค้าอาจจะไม่ต้องโทษประหาร และถ้าทำตัวดีตลอดเวลาที่ติดคุก เค้าก็จะออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีก”
“ฉันจะบอกเค้า บอกทุกวัน ฉันต้องเปลี่ยนใจอธิคมได้”
อัญมามองอธิคมด้วยสายตาหมองจัด หวังว่าจะทำให้อธิคมฟื้นขึ้นมาได้
อ่านต่อหน้า 3
คีตโลกา ตอนที่ 17 (ต่อ)
เย็นลงแล้ว ที่เซฟเฮาส์นอกเมือง กฤษณ์มองวินิจที่ออกคำสั่งด้วยสีหน้าเครียดและจริงจังมาก
“แกต้องเอาตัวลูกชายฉันออกมาจากโรงพยาบาล”
“ใจเย็นๆ วินิจ ขอฉันคิดก่อนว่าจะช่วยยังไง”
“แกเป็นตำรวจ แกต้องเอาตัวลูกชายฉันออกมาจากโรงพยาบาลได้สิวะ”
“แต่ไอ้วัตมันต้องรู้ว่าฉันหักหลังมัน หักหลังทุกคน เพราะช่วยแก ขืนโผล่ไปตอนนี้ อย่าว่าแต่ลูกชายแกเลย ตัวฉัน ฉันยังเอาไม่รอด”
“ฉันไม่สนว่าเรื่องของแกจะเป็นยังไง ตราบใดที่แกยังไม่ลาออก แกก็คือตำรวจ แล้วถ้าแกไม่อยากตายอย่างหมาที่นี่ !! แกก็ต้องเอาตัวลูกชายฉันออกมา”
กฤษณ์มองวินิจกับลูกน้อง 6 คนที่ล้อมไว้แล้วบอกด้วยเสียงอ่อนลง
“ได้ ฉันจะช่วยพาอธิคมออกมา แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เหตุผลแรก เท่าที่ฟังเมื่อกี้ อธิคมต้องอยู่ใกล้หมอที่สุด เพื่อให้พ้นอาการโคม่า สอง ตอนนี้ตำรวจเต็มโรงพยาบาล ขืนเข้าไป ทั้งฉัน ทั้งลูกชายแกก็ฝ่าพวกมันออกมาไม่ได้ หรือแกอยากได้ศพลูกชาย”
กฤษณ์พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง วินิจมองอย่างใช้ความคิด
กฤษณ์พูดต่ออีกว่า “แกใจเย็นๆ เราต้องรอเวลาที่เหมาะที่สุด ฉันมีลูกน้องบางคนที่จะส่งข่าวให้ได้เชื่อฉันเถอะ อธิคมอยู่ที่นั่น ตำรวจจะดูแลอย่างดี รอให้มั่นใจว่าอธิคมค่อยยังชั่ว พร้อมจะหนี ฉันจะเอาตัวลูกชายแกออกมาให้เอง”
กฤษณ์สัญญากับวินิจด้วยสายตาจริงจัง
คืนนั้นอธิคมยังนอนหลับเหมือนเจ้าชายนิทรา อัญมามองนิ่ง
แฟลชภาพอัญมาคิดถึงตอนที่อธิคมทำตัวดี น่ารัก ห่วงใยเธอทุกอย่าง เห็นรอยยิ้มของอธิคม
อัญมาน้ำตาคลอ มองอธิคมด้วยความสงสาร
ภายในเรือนใหญ่ บ้านเสี่ยวินิจคืนนั้น แลเห็นลูกน้องวินิจนอนหลับอยู่กับพื้นทั้งหมด เก้าเปิดประตูให้ภควัตลอบเข้ามาในบ้าน
“ผมใส่ยานอนหลับในน้ำที่พวกมันดื่ม”
“ขอบใจมาก หมวด พาผมไปห้องวินิจ”
เก้าเดินนำไปทันที ภควัตรีบตาม
เวลาต่อมาภควัตกับเก้าช่วยกันรื้อหาเอกสารที่วินิจเก็บไว้ในห้องทำงาน เพื่อหาข้อมูล รายชื่อคนที่วินิจติดต่อ
“วินิจมันระวังตัวมาก ไม่โทร.กลับ ไม่ติดต่อใคร ยิ่งอธิคมนอนนิ่งกลายเป็นเจ้าชายนิทรา...เราจะตามตัววินิจเจอมั้ยครับ”
“ยังไงเราก็รู้ว่ามันยังไม่ออกนอกประเทศ ตามด่านต่างๆ ยืนยันมาแล้วว่าไม่มีคนหน้าเหมือนวินิจผ่านออกไป”
“มันคงรอลูกชายมันฟื้น” หมวดกนกหรือเก้าบอก
ภควัตมองไปที่ภาพถ่ายสองพ่อลูกกอดคอกัน
“ใช่ วินิจรักอธิคมมาก”
ภควัตหันกลับมามองหาเอกสารที่โต๊ะทำงาน
“ถ้าวินิจยังไม่หนีเพราะรู้ว่าอธิคมเจ็บหนัก มันก็ยังเป็นโอกาสของเรา เราต้องหาให้เจอว่าใครบ้างที่เป็นเครือข่ายของมัน แล้วคนของเรา ใครบ้างที่แอบช่วยเหลือขบวนการค้ายา”
“ได้ครับ ผมจะคอยดูทางนี้ไว้ จนกว่าผู้กองจะจับวินิจได้”
ภควัตเตือนด้วยความหวังดี “ระวังตัวด้วยหมวดเก้า พวกมันยังไม่รู้ว่าคุณเป็นตำรวจ”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผู้กอง ผมเป็นตำรวจ ผมภูมิใจถ้าได้ตายในหน้าที่ เพื่อรักษาชีวิตประชาชน”
ภควัตมองเก้าด้วยสายตาชื่นชม
ประพจน์พาตัวเองมาอยู่ที่ทางเดินหน้าห้องคนไข้ ชั้นที่อธิคมรักษาตัวอยู่ ตั้งแต่เช้าตามคำร้องขอของภควัต ผู้การมองแฟ้มเอกสารบางๆ ที่ภควัตยื่นให้
“รายชื่อที่ผมได้มาจากห้องทำงานวินิจครับ ผู้การ”
ประพจน์แปลกใจ “ทำไมคุณถึงไม่ให้ผมที่ฐานลับ
“ผมกับท่านรองจักรภพ กำลังสืบเรื่องที่มีคนในคอยช่วยเหลือขบวนการของวินิจอยู่”
ประพจน์ฉุกคิด “คุณสงสัยใคร...หรือว่าสารวัตรกฤษณ์”
“ผมมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ สารวัตรกฤษณ์เป็นหนึ่งในคนที่ทรยศเกียรติของตำรวจ แต่ผมยังเอาหลักฐานทั้งหมดมาไม่ได้ ผมกับท่านรองจักรภพอยากมีหลักฐานให้แน่ใจทั้งหมด ทุกระดับชั้น แล้วก็รีบจัดการปัญหานี้ ก่อนที่ชื่อเสียงขององค์กรเราจะมัวหมองไปมากขึ้น”
“ผมเข้าใจแล้ว นี่คือเรื่องลับสุดยอด”
“ครับ ผมถึงไม่อยากให้ใครเห็นเอกสารพวกนี้ ถ้ามันหลุดรอดออกไป บางคนอาจจะไหวตัว”
“ผมจะรีบเอาไปคุยกับท่านรองคืนนี้เลย ขอบใจมาก ผู้กองภควัต คุณเป็นน้ำดีที่จะช่วยไล่น้ำเสียออกจากหน่วยงานของเรา”
ประพจน์ยิ้มให้กำลังใจ แล้วรีบถือแฟ้มเอกสารออกไป
ภควัตมองโล่งอก หันไปทางห้องคนไข้อธิคมแล้วเดินไปทันที
เมื่อภควัตเปิดประตูเข้ามา เห็นอัญมานั่งหลับอยู่ข้างเตียงคนไข้ อธิคมยังไม่รู้สึกตัว ภควัตเดินมาใกล้ มองเห็นอัญมากุมมืออธิคมอยู่
ภควัตแตะมือ จะดึงมืออัญมาออก แต่ภควัตมองไปที่เตียง นึกถึงตอนสู้กับอธิคมในไร่อ้อย
“ยิงสิ อัญ ยิงฉัน ไอ้วัตก็ต้องตายด้วย”
“อธิคม คุณเป็นลูกผู้ชายพอหรือเปล่า”
“แล้วมันล่ะ มันแย่งเธอไปจากฉัน”
“ผู้กองไม่ได้แย่งฉันไปจากคุณ ฉันกับผู้กองภควัต เรารักกัน ฉันรักผู้กองภควัต”
“หยุดพูด”
“ฉันจะหยุด ถ้าคุณยอมรับความจริงก่อน ฉันหวังดี เป็นห่วงคุณ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันรักคุณ ฉันอยากให้คุณกลับตัวเพราะฉันรู้ว่าเนื้อแท้คุณเป็นคนดี ฉันเป็นเพื่อนคุณได้เสมอนะ อธิคม”
ภควัตย้อนคิดแล้วเข้าใจความเป็นห่วงของอัญมา มองอธิคมด้วยสายตาเห็นใจ
“ฟื้นขึ้นมาเถอะ อธิคม ฉันรู้ว่านายแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญทุกอย่างด้วยตัวเอง”
ภควัตยกมือที่แตะบนมืออัญมาออก ให้อัญมากุมมืออธิคมไว้เหมือนเดิม
ภควัตถอดแจ๊กเก็ต คลุมร่างอัญมาไว้ แล้วถอยกลับไปนั่งเฝ้าที่โซฟา มองอัญมาด้วยความรักและห่วงใย
ในโถงคฤหาสน์พิบูลย์สุวรรณ เช้าวันนี้ อรรณพ ภรณี อุบล จิ๊บ และนวย มองภควัตที่มาบอกให้ทุกคนคลายกังวลใจเรื่องอัญมา
“ไม่ต้องห่วงอัญมานะครับ เค้าอยากเฝ้าอธิคมจนกว่าจะฟื้น”
ภรณีครวญ “จิตใจดีเหลือเกิน หนูอัญ รู้จักให้อภัยและมีเมตตากับคนผิดอย่างอธิคม”
“อัญมันจะปลอดภัยแน่นะ คุณ” อรรณพถาม
“ปลอดภัยครับ”
นวยเอ่ยขึ้น “แล้วถ้าเกิดพี่บังคิดชิงตัวอธิคม”
“อยากจะตบให้หนอนร่วงออกจากปาก พูดจาให้เป็นมงคลหน่อย”
จิ๊บตีปากนวย ร้องเบาๆ อรรณพพูดขึ้นอย่างเห็นด้วย
“มันเป็นไปได้มากเลยนะ วินิจอาจจะไม่ยอมให้ลูกชายติดคุก หรือพูดซักทอดอะไร”
“พวกเราก็ระวังเรื่องนี่กันอยู่ครับ ตอนนี้มีตำรวจเฝ้าที่โรงพยาบาลทั้งในเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ”
ภควัตบอก ทุกคนต่างมีสีหน้าดีขึ้น เบาใจขึ้น
ฝ่ายกฤษณ์แต่งตัวธรรมดา ใส่แว่นตาปลอมตัว พาตัวเองมานั่งจิบกาแฟในร้านเล็กๆ ของโรงพยาบาล เขามองไปเห็นตำรวจในเครื่องแบบเดินผ่านไป 2 คน พอกวาดตามองไปมา ก็พบว่าตำรสจนอกเครื่องแบบกระจายตามจุดต่าง อีก 6 คน
กฤษณ์ยกกาแฟจิบอย่างใจเย็น
อัญมาฟุบหลับทั้งคืน รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ขณะพยาบาลเข้ามาจะวัดไข้ ทำความสะอาดร่างกายคนไข้ อัญมาลุกขึ้น
“เชิญค่ะ”
อัญมามองอธิคมแล้วเดินแยกไปล้างหน้าทางห้องน้ำ
เมื่อเข้าห้องน้ำมาจะล้างหน้าล้างตา อัญมาเห็นเสื้อผ้าหลายชุดวางอยู่ หยิบมาดูแล้วยิ้มกับตัวเอง
“คุณเอามาเตรียมไว้ให้ฉันล่ะสิ ผู้กอง”
อัญมายิ้ม ซึ้งใจที่ภควัตละเอียดลออทุกเรื่อง
ขณะที่กฤษณ์นั่งหันหลังอยู่ในร้านกาแฟของโรงพยาบาล และกำลังจะลุกขึ้น อัญมาซึ่งอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้ว เดินเข้ามาสั่ง
“คาปูชิโนร้อนค่ะ”
กฤษณ์ ได้ยินเสียงอัญมาก็ค่อยๆ หันไปมอง โดยไม่ให้ผิดสังเกต
กฤษณ์เห็นอัญมาก็รีบหันกลับมา กลัวอัญมาจะเห็น
อัญมารับกาแฟมา หันหลังเดินออกจากร้าน
กฤษณ์ลุกตามทันที อัญมาจะเดินกลับไปยังชั้นที่อธิคมนอนรักษาตัวอยู่ กฤษณ์เดินใกล้มาทางด้านหลังอัญมา
เสียงคุ้นหูดังขึ้น “อัญมา”
เป็นภควัตเดินเข้ามา ยิ้มทักอัญมา
กฤษณ์เหลือบไปเห็นภควัตก็รีบเลี้ยวหลบ แทรกคนหนีหายไปอีกทางทันที ภควัตไม่ทันเห็น เดินตรงมาทางอัญมา
“หายไปไหนมาคะ”
อัญมายิ้มให้ภควัต
สองคนเดินเข้ามาในสวนมุมสวยของโรงพยาบาล ภควัตนั่งลงกับอัญมา แล้วบอกขึ้น
“ผมไปหาแม่คุณที่บ้านคุณอรรณพ ไปส่งข่าวให้ทุกคนหายเป็นห่วงคุณ”
“ขอบคุณมากค่ะ ผู้กอง แล้วตามตัววินิจเจอหรือยัง”
“ยัง เราออกค้นทุกจุดรอบบริเวณที่เจออธิคม แต่ยังไม่พบร่องรอยวินิจ”
“วินิจเคยให้อธิคมไปดูบ้านทำเซฟเฮาส์ที่ทะเล”
“เราให้สายไปค้นดูทุกที่ที่คุณเคยไปกับอธิคม ก็ยังไม่เจอ เราคิดว่าอาจจะมีคนช่วยให้ที่ซ่อนกับวินิจ”
“ใครคะ”
อัญมาถาม ภควัตมีสีหน้ายุ่งยากใจ
“วินิจมีเส้นสายหลายทาง นอกจากเสี่ยใหญ่ที่เป็นตัวกลาง ยังมีคนที่เราสงสัยหลายคน หนึ่งในนั้นคือกฤษณ์”
กฤษณ์ตามมา และหลบมุมฟังอยู่ สีหน้าเขาเครียดเคร่งที่ได้ยินชัดๆ ว่าภควัตสงสัยตัวเอง
อัญมาเองก็ตกใจ “สารวัตรกฤษณ์น่ะเหรอคะ”
“ครับ สุคนธรสยืนยันเรื่องนี้กับผม แต่ยังไม่ยอมให้หลักฐาน”
กฤษณ์มองจ้องแววตาร้ายกาจ หลบออกไปเมื่อได้ยินว่าสุคนธรสมีหลักฐานเอาผิดเขา
“เรายังปล่อยกฤษณ์ให้ลอยนวล เพราะคิดว่ากฤษณ์เป็นเหยื่อล่อ พวกที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกมาได้”
“คุณต้องใช้หลักฐานจากสุคนธรสใช่มั้ยคะ”
“ครับ”
“ติดต่อสุคนธรสสิคะ ทำให้เธอยอมมอบหลักฐานให้คุณ”
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องห่วงความรู้สึกฉัน ฉันรู้เหตุผลคุณแล้ว ฉันเชื่อใจคุณค่ะ”
อัญมายิ้มให้ ภควัตกุมมือเธอไว้
“ขอบคุณมาก อัญมา”
สองคนยิ้มให้กัน
“ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องจับวินิจให้ได้ คุณต้องเอาผิดทุกคนที่ช่วยขบวนการค้ายา”
“ผมจะทำให้ชีวิตตำรวจทุกคนที่สละชีวิตเพื่อปราบปรามยาเสพติด ไม่ตายอย่างสูญเปล่า”
อัญมากุมมือภควัตด้วยรอยยิ้มเป็นกำลังใจให้กัน
อ่านต่อหน้า 4
คีตโลกา ตอนที่ 17 (ต่อ)
ด้านวินิจมองกฤษณ์ที่กลับมาถึงเซฟเฮ้าส์และกำลังรายงานเหตุการณ์ที่โรงพยาบาล
“ตำรวจเต็มโรงพยาบาล อธิคมถูกเก็บตัวไว้ในห้องที่ตำรวจผลัดกันเฝ้า 24 ชั่วโมง”
“อาการลูกชายฉันเป็นยังไงบ้าง”
“ยังไม่ฟื้น”
“แกต้องกลับไปที่ฐานลับ ทำยังไงก็ได้ รีบหาทางเอาตัวลูกชายฉันออกมา”
“ฉันกลับไปไม่ได้ ไอ้วัตมันรู้แล้วว่าฉันทำงานให้แก มันไม่ปล่อยให้ฉันรอดแน่ๆ”
“ไอ้วัต”
กฤษณ์บอก “ผู้กองภควัต หรือไอ้วัตเซียนพระ มันเป็นคนที่จับลูกชายแกครั้งนั้น”
วินิจทุบโต๊ะดังปังที่รู้เรื่อง
“ฉันเคยให้คนของพวกแก สืบเรื่องตำรวจที่จับลูกชายฉัน”
“แกไม่มีวันสืบได้ เพราะผู้ใหญ่หน่วยลับสั่งเปลี่ยนข้อมูลของมันทั้งหมด ไอ้วัตมันถึงไร้ตัวตน ไร้เงาพร้อมจะทำลายขบวนการของพวกแกทุกทาง”
“แค่ตำรวจคนเดียว ทำไมมันถึงคิดกล้าจะทำลายฉัน”
“พวกเรารู้กันดี ถึงไอ้วัตจะเป็นหลานรัฐมนตรี แต่ครอบครัวมันถูกพวกค้ายาฆ่าทั้งครอบครัว”
วินิจสะดุดหูหันขวับมามอง กฤษณ์เล่าต่อ
“พ่อมันเป็นตำรวจปราบปรามมือดี พวกค้ายาถึงลงขันส่งมือปืนมาเก็บ ไม่มีใครรอด ยกเว้นไอ้วัต เพราะมีพลเมืองดีคนนึงเข้ามาช่วยไว้ จนถูกยิงตายไปด้วย”
วินิจชะงักนิ่งสีหน้ารำลึกถึงความหลัง
“ฆ่าครอบครัวตำรวจตงฉิน...พ่อ แม่ ลูกสาวที่ร้านอาหารเมื่อ 20 ปีกว่าก่อนใช่มั้ย”
กฤษณ์อึ้ง มองวินิจอย่างวิเคราะห์
“ใช่...หรือว่าฝีมือแก”
“ฉันรับคำสั่งมา แล้วก็ส่งลูกน้องไป ไม่นึกเลยว่าไอ้เด็กที่รอดวันนั้น มันจะมีพิษสงกลับมาเอาคืนจนได้”
“ถ้าวัตมันรู้ว่าแกมีส่วนฆ่าครอบครัวมัน มันอาจจะไม่ปล่อยอธิคมให้รอด”
กฤษณ์เอ่ยเตือน วินิจฟังแล้วยิ่งไม่สบายใจ
“แกเก็บตัวเงียบๆไว้ก่อน ไหนๆเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ฉันจะช่วยอธิคมออกมาแน่ๆ ตอนนี้ฉันขอจัดการนังสุคนธรสตัวแสบก่อน”
สายตากฤษณ์เต็มไปด้วยความเจ็บใจ และแค้นใจมาก
ภควัตรออยู่แล้วในสวนสวยหน้าคฤหาสน์บ้านอริยะวงศ์ สุคนธรสก้าวมายืนตรงข้าม น้ำเสียงสุคนธรสแง่งอน
“ถ้ารสไม่มีหลักฐานเอาผิดกฤษณ์ วัตก็คงไม่เชิญรสมาที่บ้านนี้อีกใช่มั้ยคะ”
สุคนธรสพยายามเข้ามาใกล้ แต่ภควัตถอยห่าง
“เข้าเรื่องเลยดีกว่ารส หลักฐานที่คุณมี ...ผมขอ”
“แล้วถ้ารสไม่ให้”
“ผมก็ต้องให้ตำรวจมาเชิญตัวคุณไปสอบสวน”
“รสไม่ได้ทำผิด กฤษณ์เค้าทำคนเดียว ไม่เคยให้รสรับรู้ แต่ที่รสเก็บหลักฐาน แอบอัดคลิปเสียงไว้ตอนที่เค้าคุย แอบเปิดมือถือ จดเบอร์วินิจ เพราะรส รู้ว่ากฤษณ์กำลังทำผิด รสอยากช่วยคุณ”
สุคนธรสรีบปั้นเรื่องเอาหน้า ภควัตมอง สายตาอ่อนลง พยายามเกลี้ยกล่อม
“งั้นรสก็เอาหลักฐานมาให้ผม ถ้ารสอยากช่วยอย่างที่พูดจริงๆ”
ภควัตเสนอ สุคนธรสท่าทางกระอึกกระอัก
“แต่ถ้ารสไม่ให้ ผมก็จะเข้าใจว่า รสไม่มีหลักฐานนั่นจริงๆ แล้วก็สมรู้ร่วมคิดกับกฤษณ์ ขัดขวางการทำงานของตำรวจ...คดีวินิจเป็นคดีใหญ่ ใครๆ ก็จับตา ถ้ามีชื่อรสมาเกี่ยวข้องด้วย ผมคิดว่า รสคงเสียชื่อเสียง ใครๆในสังคม คงพูดถึงคุณไม่ดีเท่าไหร่ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด”
ภควัตวางกับดักล่อด้วยสิ่งที่สุคนธรสกลัวมากคือ เสียชื่อเสียง หน้าตาในสังคม
อัญมามองหมอเวรที่กำลังตรวจอธิคม หมอเช็คค่าการทำงานต่างๆของร่างกายแล้วเซ็นใบตรวจ
“อธิคมมีโอกาสฟื้นขึ้นมาใช่มั้ยคะ”
“ครับ.. แต่ผมไม่อยากให้คุณเครียดเรื่องนี้มาก คุณไปพักผ่อนบ้างก็ได้ครับ เดี๋ยวคุณจะป่วยไปอีกคน”
“ฉันอยากมีส่วนช่วยเขา อยากอยู่ใกล้ๆ เค้า คุยกับเค้า เค้าได้ยินเสียงฉันใช่มั้ยคะ”
หมอยิ้ม ไม่กล้ายืนยันคำตอบเรื่องอธิคม แต่เตือนอัญมา
“หมออยากให้คุณห่วงสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ”
อัญมาฟังแล้ว ถอนใจ หันไปมองอธิคมอีกครั้ง
ขณะเดียวกันนั้นสองคนอยู่ในสวนสวยหน้าคฤหาสน์บ้านอริยะวงศ์ ภควัตมองสุคนธรสที่ท่าทีแข็งขืน เป็นต่อ
“รสจะปฏิเสธทุกข้อหา เพราะรสไม่รู้เรื่อง แล้วตอนนี้กฤษณ์อยู่ที่ไหน คุณจับเค้าได้หรือยัง”
“กฤษณ์หายตัวไป ติดต่อไม่ได้ ผมคิดว่าเค้ากำลังหาทางหนี”
“เค้าจะตามฆ่ารส จริงๆนะคะ เค้าโกรธมาก เค้าบอกว่าจะฆ่ารสให้ได้”
“กฤษณ์เป็นคนรักแรง เกลียดแรง เพราะเค้าทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ได้คุณมา ผมรู้จักเค้ามาก่อนคุณ”
ภควัตหน้าเครียด
“ผมก็พยายามจะช่วยปกป้องคุณมากที่สุดแล้ว รส แต่บางทีกฤษณ์อาจจะลงมือตอนที่พวกเราไม่ทันระวัง”
สุคนธรสออกอาการกลัว “รสจะให้หลักฐานคุณก็ได้ แต่คุณต้องให้รสหลบกฤษณ์อยู่ที่นี่”
สุคนธรสยื่นคำขาด แล้วล้วงแฟลชไดรฟ์ที่มีข้อมูลทุกอย่างเรื่องกฤษณ์ออกจากกระเป๋าถือ ชูต่อหน้าภควัต
“ถ้าคุณไม่ยอม ก็ถือซะว่าคุณเป็นคนปฏิเสธหลักฐานด้วยตัวเอง”
ภควัตมองแฟลชไดรฟ์ในมือสุคนธรส
“แล้วคุณก็ยังปล่อยให้รสไปตายเพราะกฤษณ์”
ภควัตมีสีหน้ายุ่งยากใจมาก สุคนธรสยื่นคำขาดอีก
“ตัดสินใจสิคะ วัต ตัดสินใจมาเลย คุณจะให้รสอยู่ที่นี่มั้ย”
“ได้...ผมให้คุณอยู่ที่นี่”
สุคนธรสยิ้มอย่างผู้ชนะ ส่งแฟลชไดรฟ์ให้ภควัต ภควัตเก็บใส่กระเป๋าแจ๊กเก๊ตทันที
“ไปสิคะ พารสไปที่ห้อง”
สุคนธรสยิ้มหวาน ภควัตยิ้มตอบ แล้วเรียกขึ้น
“มาลัย”
ภควัตเรียก มาลัยเดินออกมารอคำสั่ง สุคนธรสมองงง
“พาคุณสุคนธรสไปพักห้องนอนแขก”
“แต่รสอยากอยู่บ้านคุณ”
สุคนธรสเถียงทันที ภควัตจ้อง ไม่พอใจ สุคนธรสนึกได้ รีบแก้
“รสเกรงใจคุณหญิงวรจันทร์ คุณป้าคุณ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ คุณป้าใกล้จะกลับมาจากต่างประเทศแล้ว คุณเป็นแขกคนสำคัญของผม ผมต้องดูแลคุณให้ดีที่สุด ถึงฝากคุณไว้กับคุณป้า” ภควัตยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์ “มาลัย คอยดูแลคุณสุคนธรส ตามสบายเลยนะ รส”
ภควัตเดินเร็วออกไป สุคนธรสจะตาม มาลัยรีบพูดดัก
“เชิญในบ้านค่ะ”
สุคนธรสตามภควัตไม่ทัน ก็เต้น
“วัตนะวัต คุณรู้ว่ารสต้องยื่นคำขาด คุณถึงวางแผนให้รสมาอยู่ที่บ้านป้าคุณ”
สุคนธรสมีสีหน้าเจ็บใจที่เสียรู้คนรักเก่าอย่างภควัต
ขณะที่อัญมากำลังนั่งกินกาแฟที่ร้านในโรงพยาบาล สายตามองไปเรื่อยๆ กระทั่งสายตามองไปเห็นร่างสูงใหญ่ใส่สูทดูภูมิฐานใส่แว่นดำปิดบังสายตา แต่ท่าทางเหมือนวินิจมาก ร่างนั้นเดินผ่านตรงไปทางลิฟท์ มีลูกน้องสองคนเดินประกบ
“เหมือน ... พี่บัง”
อัญมาสงสัยมาก ลุกขึ้นโดยเร็ว เดินตามไปทันที
วินิจเดินมาหยุดรอหน้าลิฟท์ ด้านหลังคือลูกน้อง 2 คน วินิจมองซ้าย มองขวาตลอดอย่างระวัง อัญมาสืบเท้าเดินตามมา วินิจเข้าลิฟท์ไป อัญมาวิ่งมาไม่ทัน ลิฟท์ปิดพอดี
“หรือว่า...พี่บังปลอมตัวมาหาอธิคม”
อัญมามีสีหน้าร้อนใจมาก
วินิจปลอมตัวใส่สูทเนี้ยบมาดนักธุรกิจใหญ่ เดินมากับลูกน้อง 2 คน ออกจากลิฟท์ แล้วเดินมาตามทางเดินหน้าห้องคนไข้ ชั้นที่อธิคมอยู่ มีตำรวจนอกเครื่องแบบเฝ้าทางเข้า 2 คน
วินิจค่อยๆ เดินช้าลง ตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งหันมาเห็น ก็เดินตรงมาทางวินิจกับลูกน้อง
วินิจวางสีหน้าสงบนิ่ง ไม่มีพิรุธ
“จะไปไหนครับ” ตำรวจถาม สีหน้าจับสังเกต
“ผมมาเยี่ยมภรรยาเก่า เธอนอนป่วยอยู่ห้องโน้น”
ด้านหลัง อัญมาโผล่มาจากลิฟท์ วิ่งมาเห็น ตัดสินใจร้องบอก
“นั่น วินิจ”
วินิจได้ยินเหลียวขวับไปมอง “ไอ้อัญ”
ตำรวจนอกเครื่องแบบขยับจะเข้าจับกุม ลูกน้องวินิจจ่อปืนเก็บเสียงยิงใส่ตำรวจล้มไปทั้ง 2 คน อัญมามองตะลึง หันหลังตะโกนไปรอบๆ โดยหวังให้ทุกคนได้ยิน
“วินิจ...วินิจอยู่ที่นี่”
“จับตัวไอ้อัญ”
วินิจแค้นสั่งเสียงกร้าว แต่ลูกน้องดันวินิจหลบไปอีกทาง เพราะเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบกำลังกรูเข้ามาอีก 6 คน
วินิจถูกลูกน้องคุ้มกัน พาลงบันได ตำรวจวิ่งตามทันที
อัญมามองตามอย่างตกใจ
ตามทางเดินในโรงพยาบาล แลเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบ 6 คน วิ่งตามตัว วินิจ กระจายกำลังแยกกันไปคนละทาง ส่วนที่หน้าห้องเก็บของ บุรุษพยาบาล 1 คน เปิดประตูออกมา ที่แท้เป็นลูกน้องวินิจ
ลูกน้องวินิจตามอออกมาคุ้มกันวินิจที่ออกมาเป็นคนสุดท้าย บุรุษพยาบาลนำวินิจกับลูกน้อง
หลบไปอีกทางอย่างเร็ว
ในฐานลับตอนนี้ ภควัตกำหมัดแน่น ประพจน์หัวเสีย สิทธิชัยมีสีหน้ากังวลเห็นถนัดตา เมื่อได้รับรายงานเรื่องวินิจโผล่ที่โรงพยาบาล
“มันรอดมือเราไปอีกจนได้”
“ผมสั่งเพิ่มกำลังมากขึ้นแล้ว ท่านจะให้ย้ายอธิคมมั้ยครับ” สิทธิชัยถาม
ประพจน์บอกว่า “เตรียมไว้”
“ผมว่าเราน่าจะให้อธิคมอยู่ที่เดิม วินิจต้องกลับมาเอาตัวลูกชายไปแน่ๆ” ภควัตเอ่ยขึ้น
ประพจน์แย้ง “มันจะกล้าลงมืออีกเหรอ”
“วินิจมันรักลูกชายมาก ตราบใดเรามีอธิคมในมือ ก็เท่ากับว่าเรามีสิทธิ์ได้ตัววินิจ”
“สิทธิชัย ไปสั่งคนของเรา...เตรียมแผนใหม่ ถ้าวินิจโผล่มาอีก คราวนี้เราต้องจับมันให้ได้”
“ครับ”
เมื่อผู้กำกับสิทธิชัยเดินออกไปแล้ว ภควัตมองตามจนแน่ใจ แล้วค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ผู้การ ยื่นแฟลชไดร์ฟจากสุคนธรสให้ประพจน์
“หลักฐานเรื่องสารวัตรกฤษณ์ครับ”
“คุณดูหรือยัง”
“ดูแล้วครับ ของจริง ใช้ยืนยันได้ ว่าสารวัตรกฤษณ์มีส่วนพัวพัน เรียกเงินวินิจ ขายความลับราชการ”
ประพจน์รีบเก็บแฟลชไดร์ฟลงกระเป๋าเสื้อ มองภควัตอย่างรู้สึกผิด
“น่าเจ็บใจที่ผมเคยหลงเชื่อสารวัตรกฤษณ์ จนสงสัยคุณ”
“ไม่เป็นไรครับท่าน ผมเองก็เคยเชื่อใจ ว่าเพื่อนผมจะไม่ทรยศศักดิ์ศรีตำรวจ”
ภควัตพูดถึงกฤษณ์ด้วยสีหน้าผิดหวัง
“ผมกับท่านรองปรึกษากันแล้ว เราจะจัดการเรื่องสารวัตรกฤษณ์ให้เงียบที่สุด เพราะมันกระทบกระเทือนภาพลักษณ์ของเรามาก ส่วนคุณ จัดการเรื่องอธิคมกับวินิจไปได้เลย ตามที่คุณเห็นว่าวิธีใดที่จะจับวินิจให้ได้เร็วที่สุด ท่านรองกับผมเชื่อใจคุณ”
“ขอบคุณครับ”
ภควัตทำความเคารพแล้วเดินออกไป ประพจน์มองตามอย่างชื่นชมในตัวภควัต
ขณะที่อัญมานั่งเฝ้าอธิคมอยู่ในห้อง โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบอยู่ในห้องอีก 2 คน ภควัตเดินเข้ามา บอกขึ้น
“ผมเฝ้าเอง”
ตำรวจเดินออกไป ภควัตเดินมาที่อัญมา
“เราจะย้ายอธิคมใช่มั้ยคะ เค้าไม่ควรอยู่ที่นี่”
“เราจะไม่ย้ายเค้า” ภควัตบอก
“แต่พี่บังต้องกลับมาเอาตัวอธิคม”
“ผมถึงต้องการให้อธิคมอยู่ที่นี่”
“คุณจะใช้อธิคมเป็นเหยื่อล่อ”
ภควัตพยักหน้า อัญมาไม่เห็นด้วย
“แล้วถ้าเกิดจับกุมพลาด อธิคมเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ”
“เราจะระวังเค้า”
อัญมาเสนอ “เอาอธิคมตัวปลอมมาแทนสิคะ พี่บังไม่มีทางรู้ว่าเราเปลี่ยนตัว ฉันไม่อยากให้เราใช้ชีวิตอธิคมเป็นเหยื่อล่อ เค้าอาจจะตายได้”
ภควัตขยับเข้ามาจับไหล่อัญมา “ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงอธิคม แต่วินิจไม่โง่ ทันทีที่เราเคลื่อนย้ายอธิคม เค้าต้องรู้”
“จะรู้ได้ยังไง ถ้าพวกคุณไม่มีคนที่เห็นแก่เงินอย่างสารวัตรกฤษณ์”
“ไม่ใช่แค่ตำรวจ อัญมา พ่อค้ายามีเงินที่จะหว่านซื้อข้อมูลจากทุกคน...คุณคิดว่าวันนี้วินิจเข้ามาเกือบถึงตัวอธิคมได้ยังไง ทั้งๆ ที่ตำรวจอยู่ที่นี่ ถ้าเค้าไม่รู้ทางหนีทีไล่ ไม่มีคนนอกรู้เห็นช่วยพาหลบสายตาตำรวจ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เห็นค่าชีวิตเค้า แต่ถ้าอธิคมอยู่ที่นี่ เราจะจับวินิจได้เร็วขึ้น”
อัญมานิ่ง ภควัตรู้ว่าอัญมาไม่ค่อยสบายใจ
“อัญมา...ขอให้เชื่อใจผม”
อัญมาหันมาทางอธิคมเรียกสติอีก “อธิคม” พลางกุมมือเขาไว้ “ฟื้นขึ้นมาเถอะนะ”
ภควัตมองภาพนั้นชั่วขณะหนึ่ง ก่อนเดินออกไปจากห้องนั้น
เย็นวันนั้นวินิจยืนอยู่ในห้องโถงเซฟเฮ้าส์ กฤษณ์หัวเสียเอามากๆ ที่รู้ว่าวินิจไปที่โรงพยาบาลมา และเกือบถูกจับได้
“ไปที่โรงพยาบาลทำไม รู้มั้ยว่ากำลังทำให้เรื่องมันยากขึ้นไปอีก”
“ฉันมีลูกชายคนเดียว เค้านอนอาการสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาล แกจะให้ฉันนิ่งเฉยอยู่ได้ยังไง ถ้าเป็นแกๆ จะทนอยู่เฉยๆ ได้มั้ยถ้ารู้ว่าคนที่แกรักที่สุดต้องอยู่ในสภาพแบบนั้น”
“ฉันบอกแล้ว ฉันมีหน้าที่วางแผนเอาตัวอธิคมออกมา ไม่ใช่แกทะเล่อทะล่าเดินเข้าไปแบบนั้น”
วินิจโมโห “ไอ้กฤษณ์”
ปืนในมือวินิจจ่อใส่กฤษณ์ทันที กฤษณ์สู้ตา ไม่กลัว
“เอาสิ...แกยิงฉัน ก็จะกลายเป็นแกฆ่าตำรวจระหว่างหลบหนี ทีนี้ตำรวจจะตามล่าแกไม่ปล่อย”
วินิจยังถือปืนจ้องกฤษณ์อยู่อย่างนั้น
“ทางที่ดีคือแกต้องเชื่อฉัน ฉันรู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องทั้งหมดให้เรารอดออกไปจนได้”
วินิจลดปืนลงในที่สุด
“แกจัดการแฟนแกหรือยัง”
“ฉันตามไม่เจอ ป่านนี้มันคงไปซุกอยู่กับไอ้วัต”
“วันนี้ฉันเกือบถูกจับได้เพราะไอ้อัญ ฉันอยากฆ่าไอ้อัญด้วยมือฉันเอง เอาตัวมันออกมากับอธิคมด้วย”
กฤษณ์ไม่เอาด้วย “แค่อธิคมคนเดียวก็ยากพอแล้ว”
“ฉันจะให้ค่าจ้างแก เป็นหุ้นคาสิโนกับโรงงานผลิตยาของฉันที่ฝั่งโน้น”
กฤษณ์ตาวาวเพราะความโลภ ตอบทันทีว่า “ตกลง”
“เอาตัวไอ้อัญมาให้ฉัน ฉันจะทรมานให้สมกับความเลวที่มันทำให้อธิคม ลูกชายฉันเจ็บ”
วินิจแค้นอาฆาตอัญมาเป็นที่สุด
อ่านต่อตอนที่ 18