คีตโลกา ตอนที่ 13
ภายในห้องประชุมที่ฐานลับตอนนี้ ท่านรองจักรภพกลับจากราชาการแล้ว ยืนอยู่เป็นศูนย์กลางลูกน้องในห้องนั้น ผู้การประพจน์ และผู้กำกับสิทธิชัยพร้อมด้วยลูกน้องยืนอยู่กันครบ
“ผู้กองภควัตเป็นนายตำรวจที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเรา ผมไม่เชื่อว่าภควัตจะรู้เห็นเป็นใจให้กับกลุ่มนายวินิจ เหมือนที่ได้รับรายงานจากเหตุการณ์ทั้งหมด”
จักรภพกวาดตามองทุกคนสีหน้าเคร่งเครียด
“ติดต่อผู้กองภควัตให้เข้ามาหาผม เดี๋ยวนี้”
ประพจน์ถาม “สารวัตรกฤษณ์ล่ะครับ”
“ยังไม่ต้อง ผมต้องการสอบสวนทีละคน”
น้ำเสียงจักรภพเป็นคำสั่งอันเฉียบขาด
ฝ่ายภควัตถูกอธิคมซ่อนตัวไว้ มองภาพอัญมาที่กำลังถูกวินิจจิกหัว ถือปืนพร้อมยิง อธิคมมองกังวลว่าพ่อจะตัดสินใจยังไง
“ถ้าพ่อไว้ชีวิตอัญ ผมสัญญา ผมจะทำให้ชื่อนายวินิจ เป็นชื่อที่ทุกคนต้องก้มหัวให้ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อความยิ่งใหญ่ของพ่อ”
วินิจมองลูกชายที่แววตาแน่วแน่ แล้วหันไปทางอัญมา
“ฉันจะไว้ชีวิตแก ไม่ใช่เพราะฉันสงสารแก แต่เพราะแกเป็นหัวใจของลูกชายฉันจำใส่กะโหลกของแกไว้ วันไหนที่อธิคมเบื่อแกขึ้นมา วันไหนที่เขาคิดได้แล้วโยนแกออกจากชีวิต วันนั้นคือวันตายของแก”
วินิจเหวี่ยงอัญมากระแทกผนัง จนทรุดไปกองกับพื้น ทุกคนมองอัญมา
ภควัตมองแล้วพยายามดิ้นรน แต่โซ่รัดแน่นจนแทบกระดิกตัวไม่ได้
วินิจมองอธิคมแล้วเดินออกไป เก้ากับลูกน้องเดินตาม ทั้งโกดังเหลือแค่อธิคมกับอัญมา
ภควัตถูกมัดอยู่อีกมุมหนึ่ง มองภาพอธิคมกับอัญมา อธิคมประคองอัญมาขึ้น อัญมามองอธิคม
“อธิคม ฉันขอโทษที่หลอกใช้ความรักของคุณ”
“เธอรักฉันบ้างมั้ย อัญ”
อัญมาไม่ตอบ อธิคมมองจ้องด้วยความเสียใจ
“เธอไม่รักฉันเลย เธอถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อขอชีวิตมัน”
อธิคมหันไปมองทางภควัตตาวาววับ ภควัตจ้องอธิคมที่ดึงอัญมาไว้ในอ้อมกอด
“แกต้องอยู่ที่นี่...อยู่จนกว่าฉันจะพอใจ”
อัญมามองภควัตที่ต้องถูกขัง สงสารจับใจ
“อยู่จนกว่าอัญจะรักฉัน”
อธิคมอุ้มอัญมาขึ้น ภควัตพยายามดิ้นรนสุดแรง
“คุณจะทำอะไรกับผู้กอง”
“ถ้าเธอพูดถึงมันอีก ฉันจะไม่ไว้ชีวิตมัน”
อธิคมอุ้มอัญมาออกไป อัญมาเหลียวมอง ภควัตมองอัญมาที่ถูกอธิคมพาออกไป สองสายตามองกันด้วยสายตาห่วงใย
ภควัตมองอธิคมอุ้มอัญมาออกไป และปิดประตูโกดังลง ก่อนจะทิ้งร่างพิงผนังด้วยสายตากดดัน
สิทธิชัยกดวางสายมือถือ แล้วหันมาบอกทุกคนที่รอฟัง
“ติดต่อผู้กองภควัตไม่ได้ครับ”
“ที่บ้านรัฐมนตรีอภิกานต์ล่ะ” ประพจน์ถาม
“แม่บ้านบอกว่าไม่ได้กลับเลยครับ”
จักรภพนึกได้ เอ่ยขึ้น “จ่าเดชเดชา ที่อยู่ในชุมชน ภควัตทำงานกับจ่าเดช ลองติดต่อเค้าดู”
สิทธิชัยกดมือถือทันที ท่ามกลางสายตาทุกคนที่มองจ้องรอฟังข่าว
จ่าเดชอยู่ในชุมชน กำลังรับสายผู้กำกับ จิ๊บ และอุบลอยู่ใกล้ๆ สีหน้าร้อนใจ
“ไม่เห็นเลยครับ...ครับ... ถ้าเจอแล้วจะรีบบอกให้ครับ”
จ่าเดชวางสาย อุบลถามขึ้น
“ใครน่ะ จ่า”
“อ้อ...ญาติไอ้วัตมัน เค้าติดต่อกันไม่ได้เลยโทร.หา ฝากบอกให้ไอ้วัตโทร.กลับ”
“ไอ้อัญมันก็เงียบไปด้วย หรือว่า...” อุบลใจสั่นไปหมด
จ่าเดชได้แต่ปลอบ “ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าเพิ่งเครียด”
นวยวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
“กลับมากันแล้ว ฉันเห็นพวกพี่บังกับอธิคมกลับมากันแล้ว”
“ไอ้อัญล่ะ” อุบลถามทันที
“ฉันแอบตามไปดูเห็น อธิคมพาเจ๊อัญเข้าไปในบ้าน”
“ไปตามไอ้อัญกันเถอะ” จิ๊บว่า
“ไป จิ๊บไปกับข้า มันจะขวางไม่ให้แม่เจอลูกได้ยังไง”
อุบล กับจิ๊บกำลังจะออกไป สุคนธรสเดินเข้ามา จิ๊บจำสุคนธรสได้ ก็มองแล้วถาม
“มาหาใคร”
“อัญมา” สุคนธรสบอก
ทุกคนมองหน้ากันสงสัย อุบลถามขึ้น
“มาหาไอ้อัญ มีธุระอะไรหรือคุณ”
“จะถามอะไรนิดหน่อย”
“อัญไม่ว่าง ไม่อยู่” จิ๊บรีบตอบแทนทันที
สุคนธรสถามเร็ว “ไปไหน อยู่กับวัตหรือเปล่า”
“เอ...ตกลงมาถามหาใครครับ ไอ้วัตหรือไอ้อัญ” จ่าเดชว่า
“แล้วใครอยู่ล่ะ ก็มาหาคนนั้นแหละ”
ทุกคนมองสุคนธรสงงๆ
เย็นนั้น ภควัตยังถูกขังในความมืด พยายามดิ้นรนหาทางออกไป ภควัตดิ้นรนจนเหงื่อแตกท่วมร่าง ในความร้อน มืด อับ แต่สายตาภควัตยังมีหวังว่าจะรอดไปได้
ด้านสุคนธรสเดินออกมา กำลังคุยมือถือรายงานกฤษณ์
“ไม่มีใครอยู่ที่ชุมชนเลยค่ะ กฤษณ์ ทั้งอัญมา ทั้งวัต หายกันไปหมด”
กฤษณ์ยังอยู่ในห้าง คุยสายกับสุคนธรสด้วยสีหน้าสงสัย
“แล้วอธิคมล่ะ”
พอสุคนธรสได้ยินคำถามก็ชักสีหน้า
“นี่ตกลงให้รสเป็นอะไร นักสืบเหรอ รสไม่ไปถามพวกมันแล้วนะคะ รสขยะแขยงที่นี่ รสจะกลับแล้ว คุณอยากรู้อะไรก็ส่งลูกน้องมาดูเองแล้วกัน”
สุคนธรสตัดสายด้วยความหงุดหงิด รีบเดินหุนหันออกไป
ฝ่ายกฤษณ์ก็มีสีหน้าหงุดหงิดมาก
“ไม่ได้เรื่อง” กฤษณ์นิ่งคิด “ยังไม่มีข่าวจับอธิคมได้...แสดงว่ามันยังลอยนวล หรือว่า ไอ้วัตมันตาย ตอนตามจับอธิคม”
กฤษณ์ครุ่นคิดหนัก สีหน้าแววตาสงสัยมาก
ภควัตดิ้นรน เอาเท้าไถเชือกกับเหล็กที่โซ่ จนเชือกคลาย ภควัตพยายามไถจนเชือกคลายออก ภควัตสะบัดเชือกที่มัดข้อเท้าออกจนได้ สุดท้ายภควัตพยามไถเชือกที่รัดข้อมือต่อ จนข้อมือครูดกับเหล็ก เลือดซึมซิบๆ
อธิคมมองอัญมาที่ยืนเผชิญหน้ากันในห้องนอนของเขาบนเรือนใหญ่
“ถ้าเธออยากให้ไอ้ผู้กองมันรอด เธอต้องอยู่ที่นี่ นอนห้องนี้ในฐานะเมียฉัน”
“แต่ว่าฉันไม่ได้เป็นเมียคุณ”
“หรือจะให้พ่อฉันรู้ว่าฉันซ่อนไอ้ผู้กองมันไว้ อย่างที่เธอขอ”
อัญมาคิดหนัก อธิคมมองจ้อง ขู่เข็ญ
“นอนที่นี่ ห้ามกลับบ้าน ห้ามออกไปไหนโดยไม่มีฉัน ห้ามพูดเรื่องไอ้วัต ถ้าเธอยังอยากให้ไอ้วัตมันรอด”
ที่ด้านนอกมีเสียงเก้าเคาะประตู
“พี่คม...แม่ไอ้อัญมาหา”
อธิคมหันมามองอัญมา ที่มีสีหน้ายิ่งเป็นกังวล
ไม่นานต่อมา อุบล กับจิ๊บมองอัญมาที่ยืนอยู่ตรงหน้ากับอธิคม
“อัญ หายไปไหนมา ลูก”
อุบลเหลือบมองอธิคมที่ยืนไม่ห่างอัญมา
“พี่คมเค้าพาฉันไปดูบ้านที่ระยองน่ะ แม่ พอดีมือถือแบตหมด”
“จริงเหรอ ไม่ใช่ว่าเอาตัวแกไปกักขังที่ไหนนะ”
อุบลมองไปที่อธิคมแววตาเข้ม อธิคมวางหน้าเรียบเฉย อัญมากลัวอธิคมจะทำร้ายแม่กับเพื่อนก็รีบบอก
“จริงจ้ะ แม่ พี่คมเค้าไม่ทำอะไรฉันหรอก”
“งั้นไป...กลับบ้านกัน”
อธิคมสวนขึ้น “อัญจะอยู่ที่นี่”
จิ๊บไม่ยอม “อยู่ได้ไง พวกเรามารับอัญ”
“อัญเป็นเมียฉันแล้ว ต่อไปนี้อัญจะอยู่ที่นี่”
อุบลกับจิ๊บตกใจสุดขีด
“เฮ้ย ไม่ได้หรอก ยังไม่ได้แต่งงานแต่งการกัน จะเอาตัวลูกสาวฉันอยู่ที่นี่ง่ายๆ ได้ยังไง”
อัญมาบอกแม่ว่า “แม่จ๋า ฉันอยากอยู่กับพี่คม”
“แม่ไม่เชื่อ ไอ้อัญ แกโดนบังคับใช่มั้ย”
อัญมาสบตาจิ๊บอย่างรู้กัน
“จิ๊บ พาแม่กลับบ้านก่อน”
“ข้าไม่กลับ” อุบลไม่ยอม
“ป้าอุบล กลับก่อนเถอะ ไอ้อัญมันอยู่กับพี่คม แฟนมัน ไม่เป็นไรหรอก”
จิ๊บพยายามดึงอุบลออกห่าง แล้วขยิบตาให้อุบลใจเย็นลง
“อยากจะมาหาอัญเมื่อไหร่ก็ได้” อธิคมว่า พลางโอบอัญมาไว้ อัญมาฝืนยิ้มให้แม่ “ต่อไปนี้ฉันจะดูแลอัญเอง”
อุบลมองอัญมาเห็นลูกสาวฝืนยิ้มเต็มที่
อัญมาเดินเข้ามาในห้องนอน อธิคมตามหลัง
“แม่ต้องไม่เชื่อว่าฉันอยากอยู่ที่นี่”
“คิดดูเอาเองแล้วกัน ถ้าเธอพูดความจริง ทุกคนที่เธอรักจะเดือดร้อนทั้งหมด”
อัญมาฉุน “คุณไม่ควรขู่ฉันแบบนี้นะ อธิคม”
“ฉันไม่ได้ขู่ เธอคิดว่าฉันใจร้ายมากใช่มั้ย แต่ถ้าฉันปล่อยเธอออกไปจากที่นี่ พ่อจะส่งคนไปฆ่าเธอ”
สีหน้าอัญมาผ่อนคลายลงเมื่อเห็นว่าสิ่งที่อธิคมพูดอาจจะเกิดขึ้นจริงๆ
“พี่บังเกลียดฉัน อยู่ที่นี่ ฉันก็ตายได้เหมือนกัน”
“ฉันจะให้เก้าเฝ้าเธอไว้”
“ฉันขอมือถือ”
“ห้ามติดต่อกับใครทั้งนั้น”
“ฉันไม่ใช่นักโทษนะ”
“เธอยังไม่รู้จักคุกที่แท้จริงหรอกอัญ เธอไม่เคยติดคุกเหมือนที่ฉันผ่านมาแล้ว ที่นั่นไม่มีอะไรเลย นอกจากความรู้สึกสิ้นหวัง แล้วก็ความตาย”
อธิคมหันหลังเปิดประตู อัญมาถามทันที
“คุณจะออกไปไหน”
อธิคมไม่ตอบ เดินออกไป ปิดประตูเสียงดัง อัญมามองกังวลไปหมด
อธิคมอยู่หน้าประตู เก้ายืนรออยู่
“เฝ้าไว้ อย่าให้อัญออกไปไหน อย่าให้คนของพ่อเข้าไปในห้อง”
“ครับ”
อธิคมเดินออกไป เก้าถือปืนยืนเฝ้าหน้าห้อง วางหน้าเหี้ยม
อัญมาเดินวนไปวนเดินมาอยู่ในห้อง รอสักพักแล้วเดินไปหมุนลูกบิดประตู เปิดออก มองเห็นเก้าที่ยืนอยู่ เก้าบอกเบาๆ
“กลับเข้าไป”
“อธิคมไปไหน”
“ไม่รู้ อย่าออกมา กลับเข้าไป อัญ ถ้าไม่อยากให้แม่กับจิ๊บตาย”
อัญมามองเก้าที่พยายามเตือน ก็ยอมถอยกลับเข้าห้อง
สีหน้าอัญมากังวลหนัก นึกถึงเหตุการณ์ตอนอธิคมสู้กับภควัตในโกดัง สุดท้ายภควัตถูกล่ามโซ่ขังไว้ อัญมาทรุดตัวลงนั่งอย่างโรยแรง บีบมือตัวเองด้วยความเครียด
“คุณต้องรอดมาให้ได้นะ ผู้กอง”
ที่ฐานลับตอนนี้ จักรภพกับประพจน์กำลังมองแผนที่โกดังที่พริ้นท์ออกมาจากกล้องวงจรปิด
“ร่องรอยสุดท้าย คือผู้กองภควัตไปตามหาอัญมาที่โกดังนี้”
“จัดกำลังไปตาม ดูสิว่าภควัตอยู่ที่นั่นหรือเปล่า”
เสียงมือถือจักรภพดังขึ้น จักรภพมองเบอร์ไม่คุ้น ก็กดสปีกเกอร์
“ผมเองครับ”
ที่แท้ภควัตกำลังพูดลงมือถือที่อธิคมเอาแนบหน้า ใช้ปืนจ่อภควัตให้พูด
จักรภพ และประพจน์สีหน้าดีขึ้น
“คุณอยู่ที่ไหน ภควัต”
สองคนอยู่ในโกดัง ภควัตมองอธิคมที่จ่อปืนบังคับให้พูด
“ผมสบายดีครับ ไม่เป็นอะไร”
“แล้วที่คุณบอกว่าจะไปจับอธิคม ช่วยอัญมาล่ะ” ประพจน์ถาม
“ผมเข้าใจผิด อัญมาปลอดภัยดีครับ”
จักรภพถาม “แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
ภควัตมองอธิคมที่จ่อปืน แล้วตอบไป
“ผมอยู่ต่างจังหวัด อยากทบทวนเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา ไม่ต้องห่วงนะครับ แล้วผมจะติดต่อมาใหม่ครับ”
อธิคมดึงมือถือแล้วกดตัดสาย ภควัตมอง อธิคมวางมือถือ แล้วกระทืบมือถือเครื่องนั้นจนแหลกคาเท้า ไม่ให้ใครตามรอยได้
ส่วนในฐานลับ จักรภพกับประพจน์มองหน้ากัน ท่าทีสงสัย
“อย่างภควัตน่ะเหรอ จะไปต่างจังหวัด ทบทวนตัวเอง”
สิทธิชัยรีบเข้ามา ประพจน์ถาม
“เจอมั้ยว่าโทร.มาจากที่ไหน”
“ยังจับสัญญาณไม่ได้ครับ”
สามคนมองหน้ากันไม่แน่ใจ
“ส่งคนของเราตามหาภควัตในทางลับ อย่าให้เรื่องนี้รู้ออกไป เราต้องแน่ใจว่าภควัตยังปลอดภัย”
ท่านรองจักรภพสั่งเสียงเข้ม
ภควัตถูกอธิคมมัดมืออย่างเก่า อธิคมยืนขึ้นมองเห็นเท้าภควัตที่หลุดจากเชือกได้
“เก่งนี่ แต่แกไม่มีวันเก่งกว่าฉันหรอก”
“อัญมาอยู่ที่ไหน”
“อยากรู้จริงๆเหรอ...ห้องนอนฉันไงล่ะ”
สายตาภควัตดูออกว่าเจ็บใจมาก อธิคมยิ้มเย้ยพูดหยัน
“แล้วคืนนี้พอฉันกลับไป อัญก็ต้องเป็นของฉัน”
เห็นภควัตยิ่งมีท่าทีเจ็บแค้น อธิคมยิ่งพูดยั่ว
“แกบอกว่าจะปล่อยอัญมาให้ปลอดภัย”
“อยู่กับฉัน เป็นเมียฉัน อัญก็ต้องปลอดภัยอยู่แล้ว”
อธิคมเปิดกระเป๋าใบเล็กที่เอามาด้วยออก ภควัตมอง เห็นอธิคมเอาเข็มฉีดยาออกมา
“แกจะทำอะไร”
อธิคมดูดสารเสพติดแบบน้ำเข้าไปในหลอดฉีดยา
“แกคิดว่าจะปลอมตัวมาทำลายพวกฉันได้ง่ายๆ ฉันก็จะทำให้แกรู้ว่า อะไรคืออำนาจของพวกฉัน”
อธิคมยื่นเข็มมาตรงหน้าภควัต
“ฉันจะให้แกเป็นคนแรกที่ได้ลองสูตรใหม่ สูตรที่ดีที่สุด สำหรับคนพิเศษอย่างแก”
อธิคมปักเข็มไปที่ต้นแขนภควัตที่พยายามดิ้น ไม่ยอมให้อธิคมฉีดยาเสพติดให้ อธิคมกดหัวภควัตติดผนัง ภควัตดิ้นรนได้ไม่มาก
อธิคมฉีดจนหมดเข็ม แล้วหัวเราะ เหวี่ยงเข็มฉีดยากระเด็นไปไกล
“ฉันไม่มีวันติดยาของพวกแก” ภควัตบอก
“ฉันก็ดูว่าแกจะทนได้นานแค่ไหน ฉันไม่ฆ่าแกหรอก ไอ้ผู้กอง ทรมานแก ทำให้แกเป็นทาสยาเสพติดของฉัน มันดีกว่าตั้งเยอะ แล้วฉันจะให้อัญได้เห็นสภาพแกตอนที่ลงแดง ใกล้ตาย ฉันจะให้ตำรวจอย่างแกต้องร้องขอยาจากฉัน”
อธิคมหัวเราะแล้วเดินออกไป
ภควัตเหงื่อแตกทั้งร่าง พยายามขืนสู้กับฤทธิ์ยาเสพติดที่ถูกฉีดเข้าไป
ยาสูตรเข้มข้นออกฤทธ์แล้ว สายตาภควัตตอนนี้มองเห็นทุกอย่างไม่ชัด ล่องลอย ได้ยินเสียงอธิคมหัวเราะดังห่างออกไป
ภควัตกำลังสู้กับฤทธิ์ยา เอ่ยชื่อคนที่เป็นห่วงที่สุดออกมา
“อัญมา...อัญมา...ผมต้องไม่เป็นอะไร ผมต้องไปช่วยคุณ”
ภควัตเหงื่อแตกเต็มหน้า สิ้นสติไปกับพื้นท่ามกลางความมืดทะมึนของโกดัง
อีกฟาก ทุกคนกำลังนั่งเครียดหารือกันอยู่ในบ้านอุบล โดยมีจ่าเดชเป็นคนเปิดประเด็นขึ้น
“เรื่องมันชักจะยังไงๆอยู่นะ ไอ้อัญกลับมา แต่ดันยอมไปอยู่กับอธิคมซะอย่างงั้น ส่วนไอ้วัตก็หายหัวไปเลย”
“หรือไอ้วัตมันจะถูกฆ่าหมกป่าไปแล้ว” จิ๊บว่า
จ่าเดชร้องลั่น “เฮ้ย... ไอ้อัญก็ต้องบอกเราสิ ไม่หรอก...ไอ้วัต มันเก่งนะ มันก็มีฝีมือพอตัว”
“ฉันว่าที่เจ๊อัญยอมไปอยู่กับอธิคม ก็เพราะอยากช่วยพี่วัต ช่วยเรา” นวยพูดน่าคิด
อุบลร้องครวญคร่ำ “โธ่ ไอ้อัญ ลูกแม่...ไอ้อธิคมมันว่าไอ้อัญเป็นเมียมัน”
“แต่ฉันดูตาไอ้อัญ ฉันว่าไอ้อัญมันกำลังหาทางเอาตัวรอด เอาอย่างนี้ เราเล่นตามน้ำไปก่อน อย่าเพิ่งไปกวนใจสองพ่อลูกมันมาก เพราะเกิดพี่บังอับอธิคมมันเปลี่ยนใจขึ้นมา ที่ไอ้อัญมันทำทุกอย่างลงไปเพื่อช่วยเรา จะเสียเปล่า รอให้ฉันเจอพี่เก้าก่อน เราจะรู้ความจริงมากกว่านี้”
จิ๊บสรุป ทุกคนมองกันอย่างไม่สบายใจไปทั้งแถบ
อธิคมเดินกลับมาหน้าห้อง เก้าที่นั่งเฝ้าอยู่ ลุกขึ้นบอก
“ไอ้อัญมันไม่ได้ออกไปไหนเลยพี่”
“เอ็งไปพัก พรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่”
เก้าเดินออกไป อธิคมมองแล้วเปิดประตูเข้าห้องไปทันที โดยไม่รู้ว่าเก้าฉากหลบมองอยู่อย่างไม่สบายใจ
อัญมากำลังมองไปนอกหน้าต่าง ได้ยินเสียงปิดประตูก็หันมามองด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี เมื่อเห็นว่าอยู่กับอธิคมสองต่อสองในห้อง
พออธิคมเดินเข้ามาหา อัญมาถอย อธิคมก้าวมายืนตรงหน้าอัญมา
“เธอกลัว รังเกียจฉันมากใช่มั้ย”
อธิคมจับไหล่อัญมาเข้ามาเผชิญหน้ากัน
“ทำไมอัญ ทำไมไม่รักฉัน ฉันดีกับเธอน้อยกว่าไอ้วัตหรือไง”
“คุณดีกับฉันมาก” อัญมาบอก
“แล้วทำไมไม่รัก เพราะไอ้วัตใช่มั้ย เธอรักไอ้วัตมันมากกว่า”
อธิคมเขย่าร่างอัญมาสุดแรง ด้วยความเสียใจ
“คุณเป็นคนดี คุณให้ความรัก ความจริงใจของคุณกับผู้หญิงที่ดีกว่าฉันได้”
“ฉันต้องการแค่เธอ”
อัญมามองอธิคมที่แววตากระด้างแล้วตัดสินใจกุมมืออธิคมอย่างอ่อนโยน
“ฉันไม่ได้รังเกียจที่คุณเป็นลูกชายพ่อค้ายา ไม่ได้รังเกียจที่คุณติดคุก เพราะฉันรู้ว่าคุณอยากจะมีชีวิตใหม่ ที่จริงคุณเป็นคนดี คุณอยากจะไปจากเส้นทางที่พ่อคุณสร้างไว้”
อธิคมมองอัญมาที่พูดเหมือนกับมานั่งอยู่กลางใจเขา
“ฉันเป็นเพื่อนคุณนะ อธิคม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันยังเป็นเพื่อนคุณเสมอ”
“แต่ฉันอยากอยู่กับเธอ อัญ อยากอยู่ตลอดไป”
อธิคมคว้าร่างอัญมากอด อัญมาลูบหลังอธิคมอย่างอ่อนโยนให้อธิคมรู้สึกมีที่พึ่ง
“ความรักต้องไม่ใช่กรงขัง ถ้าคุณรักฉันจริงๆ คุณต้องปล่อยให้ฉันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ”
อธิคมค่อยๆ คลายอ้อมกอดจากอัญมา และถอยห่างออกมา
“ไม่ต้องกลัวฉันหรอก เธอนอนเถอะ ฉันจะนอนตรงนี้ ฉันออกไปนอนที่ไหนไม่ได้ ถ้าพ่อรู้ พ่อจะไม่เชื่อที่ฉันบอกว่าเธอเป็นเมียฉัน”
“ขอบคุณนะ อธิคม ขอบคุณที่ปกป้องฉันทุกครั้ง”
อัญมามองอธิคมด้วยสายตาซาบซึ้งใจ
อธิคมหันไปเปิดตู้เสื้อผ้าออก แล้วหยิบเสื้อกางเกงหลายตัวที่พับไว้ออกมาวางลงที่ปลายเตียง
“เสื้อผ้าของเธอ”
อัญมามองด้วยสายตาแปลกใจ
“คุณเตรียมไว้ให้ฉัน”
“ฉันเตรียมเสื้อผ้าของใช้ไว้ในห้องนี้...ตั้งแต่กลับจากทะเล เพราะหวังว่าวันนึง เธอจะได้มาใช้มัน... ที่นี่”
อธิคมมองอัญมาด้วยสายตามีความหมายลึกซึ้ง อัญมายิ่งสงสารเขาจับใจ
อธิคมเดินไปทิ้งตัวลง นอนหันหลัง ซ่อนแววตาเสียใจไม่ให้อัญมาเห็น
อัญมานั่งนิ่งอยู่บนเตียง เหลียวมองอธิคมด้วยแววตาสงสาร
ฝ่ายภควัตฟื้นตื่นขึ้นมา นอนดิ้นทุรนทุรายจนถึงเช้าวันใหม่ ปากแห้ง ปวดท้องเพราะอยากจะเสพยา ภควัตพยายามต่อต้านอาการอยากยา
“ฉันไม่มีวันเป็นทาสยานรกของพวกแก”
วินิจลงนวมซ้อมกับพลภัทรอยู่บนเวทีในค่าย พลภัทรหลบหลีกได้เร็ว จนวินิจชกไม่ได้ เหนื่อยหอบ มองพลภัทร
“เอ็งนี่ฝีมือดี ไอ้พล”
ลูกน้องเข้ามาถอดนวมให้วินิจที่มองพลภัทรอยู่อย่างนั้น
“ข้ามีงานให้ทำ”
พลภัทรมองวินิจ รอรับคำสั่ง
ตอนสายวันนี้ พลภัทรขับรถให้อธิคมมาจอดลงหน้าโกดัง
“พ่อให้แกมาขับรถให้ฉัน เพราะกลัวฉันจะพาอัญหนีล่ะสิ”
“ผมไม่รู้หรอก พี่บังสั่ง ผมก็ทำตาม”
อธิคมมองพลภัทร
“แกรออยู่ตรงนี้ ไม่ต้องตามเข้าไป ฉันเช็คของแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ออกมา”
อธิคมเปิดประตูลงจากรถ เดินไปทางโกดัง
พลภัทรเหลียวมองตามแล้วหันกลับมา ไม่ให้ผิดสังเกต
ภควัตพยายามดิ้นหนีไม่ยอมให้อธิคมฉีดยาเข้าที่แขน อธิคมกดสลิงซ์อย่างใจเย็น ภควัตยังถูกมัดมือ มัดเท้า แต่ปล่อยโซ่ที่รัดตัวไว้กับเสาออก
“เมื่อคืน ถ้าแกได้เห็นตอนที่อัญนอนอยู่ในอกฉัน ฉันว่าแกคงมีความสุขเหมือนตอนนี้”
“แก...แกบังคับอัญมา”
อธิคมดึงเข็มออกยืนมองภควัต เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าแค้นใจสุดขีด
“อัญเค้าเล่าเรื่องแกหลายอย่างให้ฉันฟัง”
ภควัตมอง ไม่รู้ว่าอธิคมกำลังโกหกเพื่อความสะใจ
“ฉันฟังแล้วก็ยิ่งสงสาร ยิ่งอยากปกป้องอัญ”
อธิคมจับหัวภควัตเงยขึ้น
“ฉันรู้ว่าแกคงมีความสุขกับการนึกถึงอัญ กำลังล่องลอยอยู่โลกอีกใบเพราะยาสูตรใหม่ ขอบใจมากที่แกเดินมาเป็นหนูทดลองให้”
“อย่าทำ...ร้าย...อัญมา”
“ฉันไม่ทำร้ายอัญแน่ๆ เพราะยังไง ฉันก็รักอัญ เราจะไปมีชีวิตใหม่ด้วยกัน หลังจากจบเรื่องทุกอย่าง ...โดยเฉพาะตอนที่แกติดยาจนไปไหนไม่รอด ต้องขายความลับของพวกแกเพื่อแลกกับยาของฉัน”
อธิคมกระทืบลงบนอกภควัต แล้วโยนเข็มทิ้งไปไกล เดินออกไป ภควัตพยายามจะคลานออกไป แต่ก็ติดโซ่ที่เปลี่ยนมาล่ามข้อเท้าไว้
“ไม่...ฉันไม่ต้องการยาของพวกแก...”
ภควัตสูดหายใจ นอนหงาย แววตาเริ่มล่องลอยเพราะฤทธิ์ยา
อธิคมเดินกลับมานั่งในรถ ที่พลภัทรสตาร์ทรอ อธิคมมองพลภัทร
“ขับไปสิวะ”
“ไปไหน”
“ก็กลับบ้านไงล่ะ”
พลภัทรเคลื่อนรถออก อธิคมมองพลภัทรอย่างไม่ถูกชะตา
ฟากอัญมามองเก้าที่นั่งเฝ้า มีลูกน้องวินิจอีกหลายคนในบ้าน อัญมาขยับเดินเก้ามองจ้อง
“ฉันจะไปหาแม่”
“รอพี่คมกลับมาก่อน”
วินิจเดินออกมาจากในห้องทำงาน ได้ยินที่อัญมาพูด
“ให้มันไป”
เก้าท้วง “แต่พี่คมให้ฉันคอยดูไอ้อัญไว้”
อัญมามองวินิจที่อนุญาตอย่างไม่วางใจ
“เอ็งไปกับมัน ไอ้สน”
ลูกน้องวินิจร่างใหญ่คนหนึ่งลุกออกมาทันที
“เอ็งไปกับไอ้เก้า คอยเฝ้าเมียรักของลูกชายข้าไว้ อย่าให้คลาดสายตา”
อัญมามองเห็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของวินิจ ก็นึกหวั่นใจที่วินิจให้ลูกน้องตามไปด้วย
อัญมายืนอยู่ตรงหน้า อุบล จิ๊บ และนวย ที่มองเป็นห่วง เก้ากับสนยืนเฝ้าคนละด้านของประตูบ้าน
“ไม่ต้องห่วงนะ แม่ ฉันสบายดี”
“อัญ” อุบลเหลือบมองเก้ากับสน “แม่ไปบอกจ่าเดชให้มาช่วยมั้ย”
“ไม่ต้อง แม่...ไม่ต้อง”
“แต่เอ็งไปอยู่ในบ้านพี่บัง มันอันตราย”
“พี่คมคอยช่วยดูแลฉันอยู่”
“มันไม่ได้รังแกแกใช่มั้ย” จิ๊บถาม
อัญมาส่ายหน้า อุบล และจิ๊บมอง โล่งใจ
“แล้วพี่วัตเซียนพระล่ะ หายไปเลย หรือว่าโดนไปแล้ว...” นวยถามทำท่าปาดคอ อัญมาบอก
“เค้ายังไม่ตาย แต่ถ้าฉันบอกว่าเค้าอยู่ไหน อธิคมจะฆ่าเค้า”
ทุกคนได้ฟังต่างมีสีหน้าตกใจ อัญมาจับมือแม่ ลดเสียงให้ได้ยินกันแค่ในกลุ่ม
“ทำทุกอย่างให้ปกติที่สุด ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันต้องช่วยพี่วัตออกมาให้ได้”
ทุกคนมองอัญมาด้วยสายตากังวล ไม่แน่ใจ
ภควัตในตอนเดียวกันนี้ปากแห้ง เกิดอาการตาลาย อยากยา มือไม้จิกเกร็ง พยายามต่อต้าน
“ไม่...ฉันไม่ต้องการยาของพวกมัน...ฉันทนได้”
ภควัตสูดลมหายใจจิกแขนตัวเอง พยายามแข็งใจ ทั้งความหิว ความเจ็บ ความอยากยาที่รุมเร้า
อัญมายิ้มลากับทุกคน
“ฉันไปก่อนนะ”
“ดูแลตัวเองดีๆ นะ อัญ”
อุบลกอดลูกสาวแน่น อัญมากอดตอบแม่ จิ๊บ กับ นวยมอง ทั้งสงสารและเป็นห่วงอัญมา
ระหว่างนี้คนขับรถบ้านอรรณพมายืนนอกรั้ว เก้า กะ สนขยับพุ่งไปหาทันที
“หยุดนะ อย่าทำอะไรเค้า เค้าเป็นคนขับรถบ้านคุณภรณี”
เก้า กับ สน หยุดกึก อัญมารีบเดินไปที่คนขับรถ
“คุณภรณีให้มารับคุณครับ”
“ไปไม่ได้” เก้าโพล่งขึ้น
อัญมาเสียงแข็ง “ทำไมจะไม่ได้ ฉันจะไปหาคุณภรณี”
“พี่คมไม่ให้ไปไหน” เก้าท้วง
“ฉันจะไป...”
อัญมามองเก้า สายตาไม่ยอม เก้าหยิบมือถือขึ้นมากดหาอธิคมทันที
“พี่คม...ไอ้อัญมันจะไป”
อัญมาคว้ามือถือจากเก้ามาพูดต่อเองว่า
“ฉันจะไปบ้านคุณภรณี”
อธิคมลงจากรถที่หน้าค่ายมวย กำลังเดินเข้าไปด้านใน คุยมือถือเสียงไม่พอใจ พลภัทรที่เดินตาม มองอธิคม
“ไม่ได้...ฉันไม่ให้เธอไปบ้านไอ้เศรษฐีนั่นอีก”
อัญมาอยู่หน้าบ้านแม่ กรอกเสียงกลับไป ด้านหลังกลุ่มอุบล จิ๊บ นวย มองอย่างไม่สบายใจ
“ฉันยังมีตัวตน ฉันยังไม่ตาย ยิ่งคุณห้ามฉันไปไหนมาไหน มันจะยิ่งน่าสงสัยว่าคุณพยายามปิดบังอะไรอยู่”
อัญมากดตัดสายทันที มองเก้ากับสนที่ยืนคุมเชิงอยู่
ฝ่ายอธิคมโมโหมาก
“รักอะไรนักหนา พ่อแม่ก็ไม่ใช่”
พลภัทรมองอธิคมอยู่ อธิคมหัวเสียหันมาเห็นพลภัทร ก็ตวาด
“มึงจะมายืนทำไม จะไปไหนก็ไปสิวะ”
พลภัทรยังยืนอยู่ หน้าตากวน ยิ่งทำให้อธิคมโมโห กำหมัดแน่น แต่พลภัทรก็เฉย แววตาไม่กลัว อธิคมหัวเสีย หันหลังเดินเข้าไปด้านในบ้านทันที
อัญมานั่งอยู่ตรงหน้าอรรณพกับภรณี ในคฤหาสน์แล้ว สองสามีภรรยามองออกไปเห็นเก้ากับสนที่ยืนรออยู่หน้าตึก
“ใครน่ะ หนูอัญ ทำไมเค้าต้องมาเฝ้าหนูด้วย”
“คนของอธิคมน่ะค่ะ”
อรรณพโกรธทันที “พวกมาเฟีย ฉันจะเรียกตำรวจมาจับมัน”
“อย่าเพิ่งค่ะ อย่าเพิ่งเลยนะคะ หนูขอร้อง”
อัญมายกมือไหว้อรรณพกับภรณี
ภรณีฉงน “มีเรื่องอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นหรือเปล่า”
อรรณพบอก “เราพยายามติดต่อคุณวัต แต่โทร.ไม่ติดเลย”
“เรามีเรื่องกันนิดหน่อยค่ะ เค้ามีเรื่องกลุ้มใจ เลยไม่อยากพบหน้าใคร”
อัญมาพยายามหาทางพูดให้ละมุนละม่อมที่สุด
อรรณพทอดเสียงนุ่มบอก “มีอะไร ก็ปรึกษาเราได้นะ ทั้งหนู ทั้งคุณวัต”
อัญมาฟังแล้วตื้นตันนัก “ค่ะ หนูรู้ว่าคุณสองคนเป็นห่วงเรามาก”
“หนูอัญ หนูจะหาว่าฉันก้าวก่ายชีวิตหนูมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าฉันขอพูดตรงๆ เรื่องคุณวัตกับหนู”
อัญมามองภรณีเห็นสายตาห่วงใยมากมองมา พลางกุมมืออัญมาไว้
“คุณวัตเค้าเป็นคนดีมาก ไม่ว่าจะผิดใจอะไรกัน ฉันอยากให้หนูหนักแน่น และเข้าใจคุณวัต”
“เวลาที่ทุกข์ยากจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักได้ดีที่สุด”
อัญมามองอรรณพกับภรณี แล้วหวนย้อนนึกถึงเหตุการณ์ตอนเป็นคุณหนูอัญมาในโลกคู่ขนาน
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในคฤหาสน์ ตอนกลางวัน โดยในตอนนั้นคุณหนูอัญมาที่สะบัดหน้ามองพ่อกับแม่ ด้วยสายตาไม่พอใจมาก ที่ถูกขัดเรื่องแต่งงาน
“อัญรักกับจิรายุ เรารักกันมากตั้งแต่เรียนที่อเมริกา ไม่มีเหตุผลอะไรเลยนะคะ ที่คุณพ่อจะห้ามอัญไม่ให้แต่งงานกับจิรายุ”
“ลูกอัญ ลูกรู้จักกับจิรายุแค่ไม่นาน ทำไมไม่รออีกสักนิด เชื่อพ่อเถอะ อัญ เวลาที่ทุกข์ยากจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักได้ดีที่สุด” อรรณพบอก
อัญมาไม่ฟัง “คิดแบบนั้นมันโบราณไปแล้วค่ะ คุณพ่อ อัญไม่รู้จักคำว่ารอ อัญกับจิรายุรักกันเราไม่ต้องฝ่าฝันความรัก อุปสรรค รอเวลาทุกข์ยากอะไรอย่างที่คุณพ่อว่าหรอกค่ะ”
อัญมาพูดต่อด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ “อัญกับจิรายุเหมาะสมกัน จิรายุเค้าจบบิสิเนส เค้าจะทำให้บริษัทของเราก้าวหน้า คุณพ่อไม่อยากได้ลูกเขยที่เก่ง มีชื่อเสียง มีฐานะ หน้าตาทางสังคมเหมาะสมกับเราเหรอคะ”
“พ่อไม่คิดจะขายลูกสาวกินนะ อัญ พ่อทำงานสร้างอาณาจักรของเรามาได้ขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องหวังพึ่งลูกเขย”
ภรณีเอ่ยขัดขึ้น “ค่อยๆ คุยกันดีกว่าค่ะ”
“อัญเบื่อ เบื่อจะคุยเรื่องนี้แล้ว คุยกี่ครั้งๆ คุณพ่อก็ขัดอัญตลอด ถ้าไม่อยากให้อัญแต่งงาน แล้วให้อัญคบกับจิรายุทำไมล่ะคะ”
“พ่ออยากให้ลูกใช้เวลาศึกษาผู้ชายอย่างจิรายุให้ถ่องแท้อีกหน่อย เค้าอาจจะมีอะไรปิดบังเราอยู่”
อัญมาสวนออกมา “ไม่มีค่ะ รับรองว่าไม่มี จิรายุไม่มีความลับกับอัญเค้าซื่อตรง เค้ารักอัญคนเดียว”
อัญมาไม่อยากคุย หันหลังวิ่งขึ้นห้องไป อรรณพกับภรณีมองอ่อนใจ
“ผมผิดเองที่ตามใจลูกมาตลอด ไม่เคยให้ลูกหัดมองคนอื่นรอบๆ ไม่เคยสอนให้เค้าสนใจอะไร นอกจากความสุขของตัวเอง”
ภรณีมองอรรณพ สงสารทั้งสามีและลูกสาว
อัญมาทุ่มตัวลงบนเตียงด้วยความโกรธ
“คุณพ่อใจร้าย คุณพ่อไม่มีเหตุผล ใครจะรู้จักจิรายุดีเท่าอัญ”
ส่วนในห้องนั่งเล่น อรรณพนั่งลงอย่างท้อแท้ ภรณีประคองสามี
“นักสืบที่ผมให้ตามจิรายุ บอกผมว่า จิรายุอาจจะไม่ได้คบลูกสาวเราคนเดียว”
ภรณีตกใจ “ตายจริง แล้วทำไมคุณไม่บอกลูกไปละคะ”
“ผมไม่รู้ว่าอัญจะยอมเชื่อหรือเปล่า...คนที่จิรายุคบ ...ไม่ใช่ผู้หญิง”
ภรณีอึ้ง “แปลว่า ...จิรายุ”
“ผมไม่ได้รังเกียจรสนิยมของจิรายุ ถ้าเค้าไม่ใช่คนที่ลูกสาวเรารัก และอยากแต่งงานด้วย”
ภรณีสีหน้าหนักใจมากที่รู้ความจริงเรื่องเพศรสของจิรายุ
อัญมาลุกจากเตียง เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าจะเปลี่ยนชุดใหม่ออกไปเที่ยว ภรณีเข้ามาในห้อง อัญมาหันไปมอง
“คุณแม่ไม่ต้องมากล่อมอัญต่อจากคุณพ่อเลยค่ะ อัญไม่อยากฟัง”
ภรณี ยิ้มใจเย็น “ลูกจะออกไปไหนเหรอจ๊ะ”
“ช็อปปิ้ง กินข้าว ดูหนังค่ะ”
ภรณีเดินเข้ามาใกล้ลูก พูดอย่างอ่อนโยน
“แม่เข้าใจลูกนะจ๊ะ ตอนที่แม่มีรักแรก ก็เชื่อหัวใจตัวเองก่อน”
อัญมาเริ่มเบาลงเมื่อแม่ปลอบ หันมามองแม่
“แม่คะ ทำไมคุณพ่อถึงไม่ชอบจิรายุนักละคะ หรือที่จริงคุณพ่อหวงอัญ อัญใกล้ชิดจิรายุมากกว่าคุณพ่อ ทำไมอัญจะไม่รู้ว่าเค้ารักอัญมากแค่ไหน”
ภรณีดึงอัญมาให้นั่งลง และเตือนด้วยรอยยิ้ม
“แม่รู้จ้ะ ว่าลูกคิดว่ากำลังมีรักแท้”
“รักแท้...”
อัญมามองแม่ที่พูดด้วยแววตา และรอยยิ้มแจ่มใส
“รักแท้คือรักที่ลูกยอมรับความทุกข์ ความเจ็บปวดของคนที่รัก ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูก”
“เค้าเจ็บ อัญก็เจ็บใช่มั้ยคะ”
“ใช่จ้ะ ลูกรู้สึกอย่างนั้นกับจิรายุหรือยัง”
อัญมาย้อนแย้ง “อัญกับจิรายุไม่เคยมีความทุกข์นี่คะ เราคบกัน มีแต่ความสบายใจ”
“ก็แสดงว่า...บททดสอบความรักของลูกกับจิรายุยังไม่มากพอจนเป็นรักแท้”
อัญมามองแม่อย่างคล้อยตาม
“รออีกนิดสิจ๊ะ รอให้ได้เจอว่าจิรายุกับลูกจะมีรักแท้ยังไง”
อัญมานั่งใจลอยอยู่อย่างนั้น จนภรณีเรียกขึ้นมาเบาๆ
“หนูอัญ”
อัญมาได้ยินเสียงเรียกของภรณีก็ได้สติ
“กำลังคิดอะไรอยู่จ๊ะ”
อัญมามองอรรณพกับภรณี
“หนูคิดถึงสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่เคยสอนน่ะค่ะ”
อรรณพ กับ ภรณีมองหน้ากันแปลกใจ
“รักแท้ คือ รักที่เรายอมเจ็บปวดเพื่อคนที่เรารัก ไม่มีความกลัว ไม่มีคำว่าท้อ”
อรรณพกับภรณีมอง ไม่เข้าใจในสิ่งที่อัญมาพูด แต่อัญมากลับยิ้ม
“ขอบคุณนะคะที่ให้สติ ให้กำลังใจหนู หนูจะอดทนพิสูจน์รักแท้ ไม่ว่าจะต้องผ่านความเจ็บปวดแค่ไหน หนูรู้ว่าหนูกับคนที่มีความหมายที่สุดคนนั้น...เราจะเป็นมือที่ดึงกันและกันขึ้นมาจากเรื่องเลวร้ายได้ทุกเรื่อง”
อัญมายิ้มชื่น สุขใจที่สุดเมื่อนึกถึงภควัต
ทางด้านภควัตนอนหายใจแผ่วเบา สภาพจิตใจเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ด้วยฤทธิ์ยาเสพติดอย่างแรงที่อธิคมฉีดให้ ความคิดภควัตเริ่มล่องลอย คิดถึงแต่อัญมา และเหตุการณ์ทั้งสุขทั้งทุกข์ที่เคยผ่านมาด้วยกัน จนถึงตอนที่อัญมาถูกอธิคมจับล็อคคอ เป็นตัวประกัน
“อัญมา...ผมต้องไปช่วยคุณ”
ภควัตลุกขึ้น พยายามคลานออกไปทั้งๆ ที่ขาติดโซ่
“รอผมด้วย อัญมา...ผมต้องไปช่วยคุณ อธิคม แกอย่าทำอะไร อัญมา...”
ภควัตนึกถึงคำพูดของอธิคมเมื่อวันก่อน
“เมื่อคืน ถ้าแกได้เห็นตอนที่อัญนอนอยู่ในอกฉัน ฉันว่าแกคงมีความสุขเหมือนตอนนี้
ภควัตกระชากขาอย่างแรง แล้วก็ล้มลุกคลุกคลานลงไป
“อัญมา ผมรักคุณ...อัญมา ผมต้องไปช่วยคุณ”
ภควัตมีแววตาทุกข์ทรมาน สติเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง เรื่องเดียวที่คิดถึงคือเรื่องของอัญมา
อัญมาเดินกลับเข้ามาในบ้านเสี่ยวินิจ มีเก้ากับสนตามประกบ อธิคมที่ยืนรอ หันไปเห็นก็เข้าไปกระชากแขนอัญมา
“หายไปคุยอะไรกับไอ้สองเศรษฐีนั่นมา”
วินิจเดินออกมากับพลภัทรและลูกน้องอีก1 คน มองสองคน อัญมาบิดแขนตัวเองออก
“ฉันไม่ได้ไปคนเดียว เก้ากับคนของพี่บังไปด้วย”
อธิคมหันมองวินิจทันที
“ฉันให้คนของฉันไปช่วยดูแลเมียแก”
“ไม่ต้องหรอกพ่อ ไอ้เก้าคนเดียวก็พอแล้ว”
อธิคมกระชากแขนอัญมาเดินไปทางห้อง วินิจมองรำคาญ แล้วหันมาทางเก้ากับสน
“ไอ้อัญมันบอกอะไรไอ้เศรษฐีสองคนนั่นบ้าง”
“ก็เห็นคุยกันธรรมดานะพี่”
วินิจหันไปอีกทาง สนรีบบอกโดยไม่รอให้ถามซ้ำ
“ไม่มีพิรุธอะไรครับ”
วินิจมองไปทางอัญมาด้วยสายตาระแวง และไม่ชอบขี้หน้าอย่างแรง
อัญมาถูกอธิคมดันเข้ามาในห้องนอน ปิดประตู ล็อคห้อง
“อย่าทำเหมือนฉันเป็นนักโทษของคุณ ฉันมีอิสระที่จะไปไหนมาไหน คุยกับใครก็ได้”
“เธอผิดที่หลอกฉัน แล้วยังต้องการอิสระอีกเหรอ ทำไมต้องไปหาไอ้เศรษฐีสองคนนั่นด้วย ไปส่งข่าวอะไรให้มัน”
“ฉันไม่ได้บอกอะไรใครทั้งนั้น”
“ที่รักษาสัญญาก็เพราะไม่อยากให้ฉันฆ่าไอ้วัตใช่มั้ย”
“ฆ่าตำรวจคนนึง เรื่องไม่จบง่ายๆ หรอกนะ อธิคม”
“อย่ามาขู่เลย ฉันไม่กลัวหรอก บนเส้นทางนี้พ่อฉันจัดการตำรวจมาหลายคนแล้ว”
“ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากเป็นเหมือนพ่อ”
อธิคมมองอัญมาที่หาโอกาสเปลี่ยนความคิดอธิคมทีละน้อย
“คุณไม่ได้เลือดเย็นขนาดพี่บัง คุณยังรู้ผิดรู้ถูก ไม่งั้นคุณก็คงฆ่าผู้กองไปแล้ว”
“ฉันไว้ชีวิตมันเพราะเธอขอไว้...ฉันกำลังทำทุกอย่างเพื่อเธอนะ อัญ”
อัญมาเดินเข้าใกล้มองอธิคมด้วยสายตาเยือกเย็น
“ขอบคุณมาก อธิคม”
อัญมามองทอดสายตาห่วงใยจริงใจ
“ขอบคุณที่ทำให้ฉันคิดไม่ผิด ฉันรู้ว่าคุณเป็นคน”
อธิคมยิ้มดีใจ เอื้อมมือไปกุมไหล่ แต่อัญมาถามต่อ
“ฉันอยากเจอผู้กอง เค้าเป็นยังไงบ้าง”
อธิคมปล่อยมือจากอัญมาทันที
“ยังไม่ตาย”
อัญมาลดเสียงเป็นขอร้อง “ให้ฉันเจอเค้าแค่นิดเดียวก็ได้ อยู่ๆ เค้าก็หายไป ถ้ามีคนสงสัยมากๆ จนรู้ถึงหูพ่อคุณ...คุณจะลำบากนะ อธิคม ยังไงฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุให้คุณทะเลาะกับพ่ออีก”
อธิคมมอง เห็นอัญมามีสีหน้าจริงจัง
ขณะเดียวกันนั้นที่โกดังร้าง ภควัตพยายามกระชากแกะโซ่ที่ขาให้หลุดออกด้วยการถูกับเหล็ก แต่ยิ่งถู เหล็กเสียดสีกับเนื้อ
ภควัตที่ไม่ได้กินข้าวกินน้ำ เริ่มหมดแรง แต่สายตาภควัตไม่ยอมแพ้ พยายามทำทุกอย่างให้หนีออกไปได้
รองจักรภพกอดอกอยู่ในฐานลับ ตรงหน้าผู้การประพจน์ ผู้กำกับสิทธิชัย โทรศัพท์เปิดสปีกเกอร์
จักรภพกรอกเสียงลงไปถาม ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ส่งไปค้นหาภควัต
“เจอภควัตหรือยัง”
ประพจน์ และ สิทธิชัยสีหน้าลุ้น
ตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งกำลังซุ่มอยู่ที่ด้านหน้าโกดัง มองหาไปรอบๆ และพูดลงวิทยุสื่อสาร
ที่ติดข้างหู
“เราดูรอบๆ โกดัง ยังไม่พบร่องรอยผู้กองภควัตเลยครับ”
ตำรวจนอกเครื่องแบบอีก 2 คนอ้อมมาจากคนละทาง ส่ายหน้าให้รู้ว่าไม่เจอ
ประพจน์ถามกลับไป
“ในโกดังล่ะ ค้นดูหรือยัง”
ตำรวจ 3 คนวิ่งไปที่โกดัง พบว่าด้านนอกประตูปิดตาย มีกุญแจล็อคแน่นหนา
ทุกคนในฐานลับ รอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ตำรวจปีนขึ้นไปบนหลังคาโกดัง มองลงมาตามรูช่องว่างหลังคา ไม่เห็นอะไรด้านล่าง นอกจากกองลังของ เศษเหล็ก
ทุกคนในฐานลับ ได้ยินเสียงจากสปีกเกอร์
“ไม่พบผู้กองภควัตเลยครับ”
จักรภพสีหน้าหนักใจ ประพจน์หันไปมองที่ประตู เห็นกฤษณ์ที่เดินเข้ามาจึงเอ่ยทัก
“สารวัตรกฤษณ์”
จักรภพหันไปมอง กฤษณ์พอเห็นจักรภพก็ทำหน้าตากระตือรือร้น เดินเข้ามาทำความเคารพ
“ผมได้ข่าวว่าคุณถูกพักงาน เพราะมีเรื่องกับผู้บังคับบัญชา”
“ผมทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้จริงๆครับ เลยอยากจะมาขอโทษผู้การประพจน์ ผมรู้ว่าผมผิด ผมอยากทำงาน ขอให้ผมได้ทำอะไรก็ได้ครับ ผมอยากจับแก๊งวินิจให้ได้จริงๆ”
สามคนมองกฤษณ์เป็นตาเดียวกัน เห็นกฤษณ์ท่าทีจริงจัง แข็งขัน
ในมือถือท่านรองจักรภพเปิดภาพคลิปที่ภควัตคุยกับอธิคมที่รีสอร์ทริมทะเล อยู่
จักรภพมองกฤษณ์ที่เรียกมาสอบสวนตัวต่อตัว
“ผมเห็นคลิปนี้ที่คุณถ่ายผู้กองภควัตคุยกับอธิคมมาแล้ว หลักฐานแค่นี้ มันยังฟันธงไม่ได้ว่าผู้กองภควัตสนิทสนมกับพวกพ่อค้ายา ภควัตปลอมตัวไปทำงานลับ เค้าได้เข้าใกล้พวกนี้ มันจะยิ่งเป็นประโยชน์กับเรา”
กฤษณ์แย้ง “แล้วปฏิบัติการที่พลาดหลายๆ ครั้งล่ะครับ ผมเองก็ไม่ได้อยากปรักปรำเพื่อนนะครับ ผมแค่ตั้งข้อสงสัย ถ้าไม่ใช่ ภควัตก็ต้องมาตอบทุกคำถามด้วยตัวเอง”
“ตอนนี้เรายังตามหาตัวภควัตอยู่”
กฤษณ์แกล้งตกใจ “ภควัตหายไปไหนครับ”
“เราเชื่อว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกนายวินิจและลูกชาย ยังไงเราก็จะหาตัวภควัตกลับมาให้ได้ก่อน”
จักรภพมีสีหน้ากังวล กฤษณ์นิ่งคิดสายตาร้ายกาจที่รู้ความคืบหน้าเรื่องภควัตหายตัวไป
กฤษณ์เดินออกมาจากฐานลับ กำลังคุยมือถือ ปลายสายคือวินิจ
“พวกแกจับตัวตำรวจไว้หรือเปล่า”
วินิจอยู่ในห้องทำงานที่บ้าน สีหน้าไม่พอใจ
“ไม่เห็นจะมีตำรวจหน้าไหนมาจับลูกชายฉันเลย”
กฤษณ์ยิ่งมีสีหน้าสงสัย
“แล้วอัญมาล่ะ แกจัดการมันหรือยัง”
“ยัง”
“ปล่อยมันไว้ทำไม”
“ฉันจะฆ่าใคร ไว้ชีวิตใคร มันเรื่องของฉัน แกไม่ต้องมาสั่ง หน้าที่แกคือส่งข่าวให้ฉันรู้ความเคลื่อนไหวเท่านั้น อย่ามาออกคำสั่งกับฉัน”
วินิจวางสายไป กฤษณ์สีหน้าเจ็บใจ
“ถ้ากูไม่ได้เงินจากมึงวันไหน เตรียมตัวเข้าคุกได้เลยไอ้วินิจ”
กฤษณ์เก็บมือถือ ยังสงสัยคาใจเรื่องภควัตไม่คลาย
“ไอ้วัตหายไปไหน”
ประตูโกดังเปิด อัญมามองหา ไม่เห็นภควัต อัญมาหันไปทางอธิคม
“ไหนล่ะ ผู้กอง”
อธิคมเดินนำไป อัญมารีบเดินตาม อธิคมเดินนำมาที่มุมด้านในสุด
อัญมามองเห็นภควัตที่นอนนิ่ง สภาพหน้าตาทรุดโทรม อัญมาพุ่งเขาไปกอดประคองภควัตขึ้น
“ผู้กอง ผู้กองภควัต”
อธิคมมองจ้องอัญมาที่เป็นห่วงภควัตด้วยความเสียใจ ภควัตลืมตามองอัญมา พอเห็นเป็นอัญมาก็ดีใจ
“อัญมา”
ภควัตเอื้อมมือไปแตะหน้าอัญมา สายตาห่วงใย
“อธิคมทำอะไรคุณหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นอะไร ทำไม.. ทำไมคุณเป็นแบบนี้”
อัญมามองภควัตที่บัดนี้หน้าตาโทรม แต่ภควัตไม่ทันตอบ อธิคมกระชากแขนอัญมาออกห่างภควัตทันที
“มันไม่ตาย ก็กลับได้แล้ว”
“คุณขังเค้าไว้ ไม่ให้กินข้าวกินน้ำ ถึงไม่ฆ่าก็เหมือนปล่อยให้ตายทั้งเป็น”
“แล้วฉันจะหาคนมาเฝ้ามันเอง”
อธิคมกระชากอัญมาไม่ให้เข้าใกล้ อัญมามองภควัตด้วยสายตาเป็นห่วงมาก
อีกด้าน วินิจมองพลภัทรที่กำลังรายงาน
“อธิคมให้ผมขับรถพาไปที่โกดัง”
“ไปที่โกดัง...มีอะไร ทำมันต้องไปที่โกดังอีก”
เก้าแอบฟังอยู่ ด้วยสีหน้าสงสัย
ฟากภควัตมองอธิคมที่ดึงอัญมาไว้ แล้วยื่นมือไปหาอัญมา
“อัญมา”
อัญมาสะบัดตัวจะไปหาภควัต แต่อธิคมกอดแน่น
“พอได้แล้ว กลับได้แล้วอัญ”
“คุณจะขังเค้าไว้ถึงเมื่อไหร่”
“จนกว่าฉันจะพอใจ”
อัญมามองอธิคมแล้วถามให้ได้ยินกันแค่สองคน
“จนกว่าฉันจะยอมเป็นของคุณใช่มั้ย”
“ใช่”
อัญมาหันไปมองภควัต ภควัตยิ้มกับอัญมา
“หนีไป...อัญมา ไม่ต้องห่วงผม”
อัญมามองน้ำตาคลอที่ภควัตไม่ห่วงตัวเอง
“พวกมันทำอะไรผมไม่ได้...หนีไป อัญมา ...หนีไป”
ภควัตพยายามบอกด้วยเสียงอ่อนแรง อัญมาน้ำตาไหล
“ฉันไม่หนี ผู้กอง อดทนไว้นะ”
อธิคมกระชากอัญมาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ภควัต
“พอแล้ว ไม่ต้องมาร่ำไรคร่ำครวญ น่ารำคาญ ฉันไม่ให้มันตายง่ายๆ หรอก”
อธิคมบอกแล้วลากอัญมาออกไป อัญมาขืนตัว แต่สู้แรงอธิคมไม่ไหว
“อัญมา...อัญมา”
ภควัตร้องเรียก พยายามจะตาม แต่โซ่ก็รั้งขาจนภควัตล้มลง
อัญมาสะอื้นไห้เหลียวมองภควัตจนอธิคมปิดประตู
ภควัตมองภาพอัญมาที่ถูกอธิคมพาออกไปด้วยความเสียใจ ก่อนจะได้ยินเสียงล็อคกุญแจ และตกอยู่ในความมืดอีกครั้ง
อธิคมขับรถไป อัญมานั่งน้ำตาคลอ เมื่อนึกถึงสภาพภควัต อธิคมมองแล้วหงุดหงิด
“ฉันยังไม่ได้ฆ่าไอ้ผู้กองนั่นสักหน่อย ไม่ต้องร้องไห้ให้มันหรอก”
“ถ้าฉันยอมเป็นของคุณ คุณจะปล่อยผู้กองใช่มั้ย” อัญมาเอ่ยขึ้น
“ใช่”
อัญมามองสบตาอธิคม แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง สายตาตัดสินใจอย่างหนัก อธิคมมองอัญมา แววตาน้อยใจ
สองคนออกไปแล้ว ภควัตทรุดกับพื้น น้ำตาไหล ในความคิดมีแต่ความเป็นห่วงผู้หญิงที่รักที่สุด
“อัญมา หนีไป...ไม่ต้องห่วงผม...หนีไป อัญมา อย่าอยู่ใกล้อธิคม”
กลับถึงบ้าน อธิคมเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงาน มองพ่อที่ยืนรออยู่แล้ว
“แกหายไปไหนมา”
“ผมพาอัญ เมียผมไปกินข้าว”
“กินข้าว .. ที่ไหน ที่โกดังรึเปล่า”
อธิคมมองพ่อเห็นสายตาคมกริบ
“ไอ้พลมันฟ้องพ่อล่ะสิ ว่าผมไปไหนมาบ้าง”
“แกมีอะไรที่โกดัง”
“ผมไปตรวจดูว่า ไม่เหลืออะไรให้เป็นร่องรอยที่ตำรวจมันจะตามเรามาได้”
“ไม่มีอะไรปิดบังฉันแน่นะ”
“ไม่มี”
วินิจมองลูกชายแล้วโบกมือ
“แกจะไปไหนก็ไป”
อธิคมหันหลังเดินออกไป วินิจมองตามอย่างไม่ค่อยวางใจ
ประตูห้องเปิดออก อธิคมก้าวเข้าห้องมา ปิดประตู เหลียวมองไปที่ปลายเตียงด้วยสีหน้าตกใจ เมื่อเห็นใต้แสงโคมไฟ เมื่อเห็นด้านหลังอัญมานั่งเปลือยอยู่
“อัญ”
อัญมาลุกขึ้น ห่มผ้าเห็นแค่หัวไหล่หันมามองอธิคม
“ทำไม ...อัญ”
“ฉันพร้อมแล้ว อธิคม ...ฉันจะให้ในสิ่งที่คุณต้องการ”
อัญมามองอธิคมแววตาตัดสินใจยอมเป็นของอธิคมเพื่อช่วยภควัต
“แต่คุณต้องทำตามสัญญา”
อธิคมมองคับแค้นใจ เข้าไปดึงผ้าห่ม มาคลุมปิดร่างอัญมา
“เธอยอมเพราะเธออยากช่วยไอ้ผู้กองภควัต”
อัญมามองอธิคม
“เธอรู้มั้ยอัญว่า มันยิ่งทำให้ฉันเจ็บแค่ไหน ฉันไม่มีทางชนะใจเธอด้วยความรักของฉันเลย”
“ขอโทษ อธิคม ฉันไม่ได้รักคุณ”
“เพราะเธอรักไอ้ผู้กองภควัต”
“ใช่...ฉันรักผู้กองภควัต”
“รักจนทำได้ทุกอย่าง”
อัญมาน้ำตาไหล
“อย่าให้ฉันต้องทำให้ผู้กองภควัต ตายด้วยมือคุณเลย อธิคม คุณอยากได้ จะทำอะไร ฉันยอมทุกอย่าง ปล่อยผู้กองภควัตไปเถอะนะ”
อธิคมเห็นน้ำตาอัญมาแล้วยิ่งเจ็บไปทั้งหัวใจ ที่ต้องได้ยินความรักของอัญมากับภควัต อธิคมตาแดงก่ำ
“ฉันปล่อยมันแน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้...ฉันจะไม่ฆ่ามันให้ตายหรอก อัญ ยิ่งเธอรักภควัตมากเท่าไหร่ ฉันจะยิ่งให้มันทรมานมากเท่านั้น”
“อธิคม”
อัญมาเข้าไปจับมือขอร้อง แต่อธิคมกระชาก ปัดมือออก เดินออกนอกห้อง ปิดประตูลงเสียงดัง
อัญมาทรุดลงร้องไห้ สะอึกสะอื้น คับแค้นใจที่ยังหาทางช่วยภควัตจากเงื้อมมืออธิคมไม่ได้
คีตโลกา ตอนที่ 13 (ต่อ)
อธิคมเดินออกมายังมุมหนึ่งในบ้าน หลบจากทุกสิ่งทุกอย่าง ปล่อยให้น้ำตาแห่งความผิดหวังที่กักกั้นไว้ไหลออกมา อธิคมสะอื้นไม่มีเสียงลอดออกมา น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม
อธิคมทรุดนั่งลง เสียใจที่ความรักความทุ่มเททำให้อัญมาเปลี่ยนใจมารักไม่ได้เลย
เช้าวันนี้ อัญมาค่อยๆ แง้มประตูออกมา เห็นเก้าที่เฝ้าอยู่ห่างออกไป
“ไอ้อัญ”
เก้ารีบเดินมาที่อัญมา อัญมาเอ่ยขึ้นอย่างขอร้อง
“เก้า...ช่วยบอกจิ๊บด้วยว่า พี่วัตปลอดภัย”
“ทำไมต้องบอก มีอะไรเกี่ยวกับไอ้วัต”
“อย่าเพิ่งถามอะไรเลย ช่วยฉันเถอะนะ เก้า ฉันขอร้อง บอกจิ๊บให้หน่อย”
เก้าตัดสินใจหยิบมือถือมากดส่งข้อความหาคนรัก อัญมามองเบาใจ
จิ๊บอยู่ในบ้านอุบล กำลังอ่านข้อความในมือถือที่เก้าส่งมา อุบล นวย และจ่าเดชยืนมองกันอยู่
“พี่เก้าบอกว่าพี่วัตปลอดภัย”
จ่าเดช ยกมือท่วมหัว “คุณพระคุณเจ้า รอดแล้วไอ้วัต”
อุบลถาม “แล้วไอ้อัญล่ะ”
“ก็คงไอ้อัญนั่นแหละที่บอกให้พี่เก้าส่งข้อความมาให้เรา” จิ๊บบอก
นวยว่า “แสดงว่าเจ๊อัญแกเจอพี่วัตแล้ว”
“ใช่ๆ ไอ้อัญมันรู้ว่าข้าห่วงไอ้วัตอยู่”
จ่าเดชบอกแล้วรีบเดินออกไป อุบลถามขึ้น
“อ้าว จ่าจะไปไหนล่ะ”
“ธุระ ธุระสำคัญ เพิ่งนึกได้”
จิ๊บ นวย และอุบลมองตามจ่าเดชอย่างไม่เข้าใจ
จ่าเดชเดินหลบออกมา กดเบอร์โทร.หาสิทธิชัยทันที
“ผู้กำกับสิทธิชัยนะครับ ผมได้ข่าวผู้กองภควัตแล้วครับ”
ในฐานลับ สิทธิชัยรอฟังสายด้วยสายตาดีใจ
“ว่ามา จ่าเดช
จ่าเดชมองซ้ายมองขวา บอกอย่างกลัวคนอื่นจะได้ยิน
“ไอ้อัญน่ะครับ มันให้คนแมสเสจมาบอกว่าผู้กองปลอดภัย แสดงว่ามันคงได้เจอผู้กองแล้ว”
“บอกหรือเปล่าว่าที่ไหน”
“ไม่ได้บอกครับ ผมว่าไอ้อัญกับผู้กองคงกำลังวางแผนอะไรกันสักอย่างครับ”
“โอเค ผมจะรายงานท่านรองจักรภพตามที่จ่าบอก จ่าคอยเฝ้าไว้นะ มีอะไรรีบส่งข่าว ขอบใจมากจ่าเดชเดชา”
จ่าเดชวางสายแล้วยิ้ม แต่พอหันมาเจอเจ๊ว่านยืนอยู่ด้านหลัง จ่าเดชสะดุ้งเฮือก
“มาทำลับๆ ล่ออะไร จ่าเดช”
“เฮ้ย...ลับๆ ล่อๆ อะไร กลางวันแสกๆ”
เจ๊ว่านเดินเข้าหา จ่าเดชถอยหลัง “หรือว่า...”
จ่าเดชถอยจนสุด เอามือปิดหน้าอก เจ๊ว่านเท้าแขนมองจ่าเดช
“อย่าๆ อย่าข่มขืนใจ ...ถ้าจะทำ จ่าจะไม่ขัดไม่ขืน”
เจ๊ว่านตีผัวะ “จ่าบ้า ลามก ฉันสงสัยว่าที่จ่ามาด้อมๆ มองๆ จะจับไพ่ใช่มั้ย”
จ่าเดช รีบรับสมอ้าง “ใช่ๆ ช่วงนี้ต้องปราบให้หมด อิทธิพลเถื่อน การพนัน ทุกอย่างต้องโปร่งใส ต้องคืนความสุขให้ประชาชน”
เจ๊ว่านหัวเราะร่วน จ่าเดชยืดเต็มที่
ทุกคนที่เดินไปมาในชุมชน เห็นแอนนี่กรีดร้องออกมาด้วยเสียงอันดังลั่นซอย
“ฮือฮือ คืนแฟนฉันมาด้วยสิ แฟนฉัน พี่วัต พี่คมน่ะ ไอ้อัญมันคาบไปหมดเลย”
ทุกคนมองแอนนี่ที่โวยวายแล้วหมั่นไส้
“นี่ แอนนี่ แกเอาแต่เที่ยวบอกว่าคนหล่อๆเป็นแฟนแกหมด แกเคยถามผู้ชายบ้างมั้ย ว่าเค้าเป็นแฟนแกรึเปล่า”
“พี่จิ๊บไม่รู้อะไร แอนนี่ เค้าเพิ่งเปลี่ยนนามสกุลเป็น แอนนี่ มโนจงเจริญ”
จิ๊บกับนวยหัวเราะ แอนนี่ตวาดแว้ด
“ไอ้บ้านวย เดี๋ยวนะ เดี๋ยวแกจะได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น แหลกคามือ”
“ไม่กลัว ไม่กลัว”
นวยลอยหน้าล้อ แอนนี่เต้น เจ๊ว่านหันไปทางอุบลที่ยืนใกล้จ่าเดช
“แล้วที่เค้าลือกันให้ลั่นสนั่นซอยว่า ไอ้อัญมันหอบข้าวหอบของไปอยู่กินกับลูกชายพี่บังฟรีๆ ไม่ต้องมีสินสอด ไม่ต้องมีงานแต่งน่ะ จริงใช่มั้ย นังอุบล”
อุบลหน้าเสีย เจ๊ว่านได้ที เยาะใส่
“เลี้ยงลูกดีนักนะแก ใส่พานถวายตัวไปเสร็จเรียบร้อย”
“พวกแกไม่รู้เรื่องอะไรจริงสักคน แล้วอย่าปากมาก”
“ทำไมจะไม่รู้จริง ไอ้อัญ ลูกแกน่ะมันอ่อยไอ้วัตที อ่อยลูกชายพี่บังที กะว่าคนไหนพลาด คว้าหมับคนนั้น” เจ๊ว่านว่า
“ไอ้อัญท้อง ท้องแน่ๆ ถึงได้รีบย้ายไปอยู่กับพี่คม ถ้าไม่ท้อง พี่คมเค้าก็ไม่รับเข้าบ้านหรอก” แอ่นนี่ด่า
อุบลโมโห พุ่งเข้าตบหน้าแอนนี่ผัวะ
“นังแอนนี่ นังปากโสโครก อย่าเอาสันดานแกมาด่าลูกข้า”
“อีอุบล กล้าตบหน้าผ่องๆ แบ๊วๆ ใสๆ ของลูกแอนนี่”
“กูจะตบยิ่งกว่านี้ ถ้าไม่หยุดใส่ร้ายไอ้อัญ ลูกสาวกู”
“ฉันใส่ร้ายอะไร แหกตาดูสิ ชาวบ้านน่ะเค้าเมาท์กันสนั่น ว่าไอ้อัญน่ะมันนองอกระริกๆ มั่วผู้ชายตั้งแต่สมัยเล่นยา นี่ก็คงมั่วจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร พอท้องโย้ ถึงได้รีบเกาะพี่คม หาพ่อให้ลูก”
จิ๊บโผเข้าบีบคอแอนนี่ทันที
“ว่าเพื่อนกู มึงตาย”
เจ๊ว่านพุ่งจะเข้าไปช่วยแอนนี่ แต่อุบลถีบเจ๊ว่านกระเด็น
“จ่า ๆ ห้ามสิ...จ่า” นวยร้องบอก
อุบลตบเจ๊ว่านกระเด็น อีกด้านแอนนี่ตบจิ๊บ นวยผลักจ่าเดชเข้าไปกลางวง
จ่าเดชเป่านกหวีดปรี๊ด เจ๊ว่านหันมาตบเข้ากลางหน้าจ่าเดช ปรากฏว่านกหวีดหล่นลงคอจ่าเดช จ่าเดชจับคอสำลัก ทุกคนหยุดตบตีกัน หันมามองตกใจ
จ่าเดชอ้าปากร้องออกมาเป็นเสียงนกหวีดดังยาวสนั่นซอย
อุบลกลับเข้าบ้าน มีรอยแดงเพราะโดนเจ๊ว่านตบที่แก้มแดง หัวหูยุ่ง นั่งลง สัญชัยที่เพิ่งออกจากห้องขัง เท้าสะเอวมอง
“แก่แล้วไม่เจียม ไปตบตีกลางถนนยังกับพวกสก๊อย”
“จ่าเดชไม่น่าปล่อยแกมาเลยนะ ไอ้สัญชัย น่าจะขังลืมให้หายปากเสีย”
“แล้วมันจริงหรือเปล่า ที่ไอ้อัญมันย้ายไปอยู่บ้านอธิคมน่ะ”
“จริง”
สัญชัยโมโหพรวด ดึงอุบลมาเขย่าตัว
“เลี้ยงลูกประสาอะไร นังอุบล ปล่อยมันไปได้ยังไง ไอ้อัญน่ะตัวเงินตัวทอง”
อุบลได้ยินก็โมโห สะบัดแรง
“ฉันไม่ได้เลี้ยงลูกไว้ไถเงินผู้ชายนะ”
“อีโง่ ไอ้อัญนะมีแต่ผู้ชายมาแย่ง อีกนิดเดียว ข้าก็จะได้เงินสินสอดแล้ว”
อุบลมองเจ็บใจสัญชัยมาก
“ไอ้สัญชัย แกจะเอาเงินเท่าไหร่ ถึงจะไปจากฉัน ห๊ะ!!! จะเอาเท่าไหร่ ฉันจะให้ แกจะไม่ต้องมายุ่งกับฉัน กับไอ้อัญอีก”
สัญชัยเห็นท่าแข็งขืนเอาเรื่องของอุบล ก็เริ่มอ่อนลง
“แค่ไอ้อัญมันไปอยู่กับอธิคมนี่ ฉันก็กลุ้มจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
“ก็แกปล่อยลูกสาวให้ผู้ชายมันเจาะไข่แดงได้ง่ายๆ สุดท้ายมันก็ต้องลงเอยแบบนี้”
“แกไม่รู้อะไรจริง ก็เงียบไว้ดีกว่า”
“แล้วเรื่องจริงมันอะไรล่ะ”
สัญชัยรีบเปลี่ยนท่าทางเข้าไปฉอเลาะ จับแขน อุบลปัดมือ
“ไม่ต้องมาถาม ไปเลย จะไปไหนก็ไป ฉันไม่อยู่กับแกแล้ว”
“โถ...โถ...อุบลเมียรัก อุบลไล่พี่ แล้วพี่จะไปซุกหัวนอนที่ไหน”
“ก็ช่างหัวแก”
สัญชัยรีบโอบอุบลประจบ
“ที่พี่พูดทั้งหมด ก็เพราะพี่ห่วงลูกอัญของเรา”
สัญชัยรีบกอดอุบลที่กำลังร้องไห้ ด้วยนิสัยกะล่อน
“โอเคๆ ต่อไป พี่จะไม่พูดตอกย้ำเรื่องนี้แล้ว ชาวบ้านหน้าไหนมันนินทา พี่จะไล่ชกปากมันให้หมด”
สัญชัยรีบโอบอุบลนั่งลง
“อุบลมีอะไร ก็เล่าให้พี่ฟังนะ จะได้ช่วยคิด ช่วยดูแล ยังไงพี่ก็เลี้ยงไอ้อัญมาตั้งแต่เล็ก ไม่ใช่ลูก พี่ก็คิดว่าเป็นลูกไปแล้ว ทีนี้ลูกสาวคนเดียวของเราไปได้ดี พี่ถึงเป็นพ่อเลี้ยง ก็ต้องดีใจกับอนาคตสดใสของลูกอัญ”
สัญชัยบีบสุ้มเสียงเป็นห่วงจริงใจมาก รีบเช็ดน้ำตาให้อุบลที่กลุ้มใจอัดอั้น
“ฉันไม่อยากให้ไอ้อัญไปยุ่งเกี่ยวกับพวกค้ายาเลย”
สัญชัยเบือนหน้า เบะปากแล้วหันมาทำลูบหลังลูบไหล่เอาใจอุบล
“จ้ะ จ้ะ พี่จะหาทางไปเตือนสติลูกอัญให้นะ”
ทางฝ่าย อัญมาเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านเสี่ยวินิจ มองไปรอบบ้านอย่างหงุดหงิด แล้วหันไปถามเก้าที่นั่งเฝ้าอยู่กับลูกน้องวินิจ
“พี่คมไปไหน พี่บังก็ไม่อยู่ใช่มั้ย”
“ไม่รู้ เรื่องเจ้านายไม่บอก อย่าเสือกถาม”
อัญมาชักสีหน้า “ขอฉันออกไปหาแม่หน่อยได้มั้ย”
“ไม่ได้ พี่คมสั่งว่าวันนี้หัวเด็ดตีนขาด ก็ห้ามแกออกไปไหนทั้งนั้น”
อัญมาฟังแล้วสะบัดหน้าหนี ซ่อนแววตาสงสัย
“หายไปทั้งพ่อทั้งลูก”
ในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ซึ่งห้องนี้เป็นห้องวีไอพีปิดมิดชิด อธิคมนั่งอยู่กับวินิจในนั้น ตรงข้ามคือเสี่ยใหญ่ อธิคมรินน้ำชาให้เสี่ยใหญ่อย่างนอบน้อม
“ของสูตรใหม่ที่เราลองปล่อยไปสองสามล็อต ลูกค้าชอบมาก” วินิจบอก
เสี่ยใหญ่ท้วงว่า “จะสู้กับของผ่านชายแดนได้เหรอ ราคามันผิดกันนะ”
“แต่เราไม่ต้องเสี่ยงกับด่านหลายๆ ด่านที่กว่าจะถึงกรุงเทพฯ นะครับ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยบ้ายรายทาง ทำเสร็จที่นี่ ก็ปล่อยของได้เลย”
เสี่ยใหญ่จิบชาแล้วถามซ้ำ “ปลอดภัยแค่ไหน”
อธิคมบอก “ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ”
“แน่ใจได้ยังไง ตำรวจก็เคยตามแกอยู่ไม่ใช่เหรอ”
เสี่ยใหญ่ย้อนถามอธิคม สายตาดูแคลน อธิคมมองอย่างอดทน
ที่ด้านนอกห้องอาหารญี่ปุ่น พลภัทรยืนอยู่กับกลุ่มลูกน้องวินิจ อีกด้านคือกลุ่มลูกน้องเสี่ยใหญ่ ทุกคนต่างคุมเฝ้าหน้าประตูห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
อธิคมมองเสี่ยใหญ่ด้วยสายตาไม่เชื่อถือ วินิจรีบบอกแทนลูกชาย
“เราสลัดพวกตำรวจได้แน่นอนครับ ตั้งแต่เสี่ยให้ผมติดต่อกับตำรวจคนนั้น มันก็ส่งข่าวให้เราตลอด”
“ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้รู้ถึงหูใครนะ เพราะท่านก็เป็นคนเอาเบอร์มาให้ ถ้าดูแล้วจะมีปัญหา คุณก็รู้ใช่มั้ย วินิจ ว่าต้องจัดการยังไง”
“ครับ...ถ้าไอ้ตำรวจคนนี้มันตุกติก ผมจะส่งคนไปฆ่ามันเอง”
“รู้หรือเปล่า มันเป็นใคร”
“มันไม่ยอมเผยตัว แต่ผมกำลังให้คนตามจากเบอร์มันแล้วครับ อย่างน้อยก็ให้มั่นใจว่ามันเป็นใคร อยู่ที่ไหน”
เสี่ยใหญ่พยักหน้ารับรู้ วินิจมองอธิคมแล้วเอ่ยบอกเสี่ยใหญ่
“ผมคิดจะปล่อยของสูตรใหม่ให้ลูกค้าวีไอพี อย่างพวกในผับ ในปาร์ตี้ไฮโซ ดารา นางแบบ ตอนนี้ลูกชายผมเข้ามาช่วยงานเต็มตัว ยังไงผมฝากท่านเมตตาอธิคมมันด้วยนะครับ”
เสี่ยใหญ่มองอธิคม แล้วบอกขึ้น
“ฉันเลี้ยงพริตตี้ไว้หลายคน ก็ลองปล่อยของไปกับพวกนี้ ค่าจัดการส่วนของฉัน 50 เปอร์เซ็นต์ โอนเข้าบัญชีเดิม แต่บอกไว้ก่อนนะ เด็กฉันทุกคน ดูแต่ตา...ห้ามแตะ”
“ครับ ท่าน”
อธิคมนอบน้อมเต็มที่ วินิจมองดีใจที่เสี่ยใหญ่รับปากจะช่วย
อัญมาเดินไปเดินมา ไม่สบายใจ มองผ่านหน้าต่างออกไปเห็นลูกน้องที่ยืนเฝ้าทุกจุดรอบบ้าน
อัญมาปิดม่าน หันกลับมา สีหน้าเคร่งเครียด
“คิดสิ อัญมา คิด ต้องหาทางออกจากที่นี่ ไปช่วยผู้กองให้ได้”
ภควัตนอนตัวสั่น หนาว ปวดท้องเพราะอาการอยากยา เห็นอธิคมก้าวมายืนหน้าภควัต ภควัตเงยขึ้นมอง
“แก”
“อยากยาใช่มั้ย” อธิคมหยิบเข็มฉีดยาออกมา “แกไม่หิว ไม่ต้องกิน ไม่ต้องนอน เพราะแกต้องการแค่ยาของฉัน”
อธิคมก้มลงจะฉีดยาให้ แต่ภควัตยกแขนปัดเข็มกระเด็น
“ฉันไม่ต้องการยาของพวกแก ฉันไม่มีวันเป็นทาสยาเสพติด ไม่ใช่ทาสพ่อค้ายา”
อธิคมโมโห กระชากผมภควัตขึ้น
“แกคิดว่าจะทนทานได้นานแค่ไหน”
อธิคมผลักภควัต กระทืบเข็มตรงหน้าภควัต
“ลมหายใจแกเป็นของฉัน ผู้หญิงที่แกรัก อัญมา ก็เป็นของฉัน”
“อัญมาไม่ได้รักแก”
อธิคมโมโห กระทืบภควัตลงอย่างแรง ภควัตกระอักเลือดจากปาก อธิคมมองแล้วตะโกนสั่ง
“เข้ามา”
ลูกน้องอธิคมตัวใหญ่สองคนเดินเข้ามา ภควัตเงยมอง
“อย่าเพิ่งรีบตายจนกว่าฉันสะใจ”
อธิคมมอง ลูกน้อง 2 คนเข้ามากระชากหิ้วปีกภควัตขึ้น อธิคมก้าวเข้ามาจ้องภควัต
“ต่อไปนี้...ชีวิตแกเป็นของฉัน”
อธิคมชกภควัตอีกหมัด ภควัตสลบไปกลางอากาศ
อัญมายืนกระวนกระวาย เก้ายืนเฝ้าประตู
วินิจเดินกลับเข้ามา พลภัทรกับลูกน้องตามหลัง อัญมาหันไปมองทันที วินิจมองอัญมา แล้วสงสัย หันไปถามเก้า
“อธิคมยังมาไม่ถึงอีกเหรอ”
เก้าบอก “ยังครับ”
“มันขับรถเอง บอกว่าไม่ได้ไปไหน”
อัญมาตอบแทนว่า “พี่คมอาจจะแวะทำธุระ”
วินิจหันขวับมอง สีหน้าเกลียดชังอัญมามาก อัญมาหยุดวินิจคิดแล้วสั่งขึ้น
“ไอ้พล ไปที่โกดัง ดูให้ทั่วว่าไอ้คมซ่อนอะไรไว้”
พลภัทรออกไปกับลูกน้องทันที
อัญมาสีหน้าไม่ดีเพราะห่วงภควัต รีบหันหลังเดินเข้าไปทางห้องนอน เก้าตามติด วินิจมองตาม สงสัยท่าทีร้อนรนของอัญมา
อัญมาเดินจะเข้าห้อง เก้าเดินตาม สายตาอัญมาคิดปราดเดียว แล้วทำท่าทรุดลง
“โอย”
“เป็นอะไร”
เก้าเข้ามาดู อัญมาจับแขนเก้าบิดทันที อีกมือพยายามจะแย่งปืนในเอว แต่เก้าแรงเยอะกว่าดันร่างอัญมากระแทกผนัง อัญมาทรุด เก้าตะคอกอัญมา
“ใจเย็นๆ อยู่เฉยๆ”
อัญมาขยับ เก้าจ่อปืน
“ใครอยู่ที่โกดัง”
อัญมาไม่ยอมตอบ เก้ามองท่าทางอัญมาแล้วนึกออก
“ไอ้วัตใช่มั้ย”
อัญมาไม่ยอมพูด เก้าจ่อปืน
“กลับเข้าไป อยู่เฉยๆ ไม่งั้นพวกเราจะตายกันหมด”
อัญมายังไม่ยอม เก้าผลักอัญมาเข้าไปในห้อง แล้วเอาตัวพิงประตู สายตาเครียด
ฝ่ายพลภัทรเดินเข้ามาในโกดังกับลูกน้องวินิจ ทุกคนกระจายตัวกันหาตามมุมต่างๆ
ด้านอัญมาเดินวุ่นวายใจอยู่ในห้อง ด้วยกลัวว่าลูกน้องวินิจจะเจอภควัต
“คุณต้องรอดนะ ผู้กอง คุณต้องเอาตัวรอดให้ได้”
ลูกน้องเสี่ยวินิจกำลังค้นดูรอบโกดัง พลภัทรมองแล้วเดินห่างแยกออกมา มองไปตามมุมอับ พลภัทรมองแล้วกระซิบขึ้นเบาๆ
“ผู้กองภควัต...ได้ยินผมมั้ย ผมเอง พลภัทร”
พลภัทรหันไปมอง จนเห็นว่าลูกน้องวินิจกำลังอยู่ห่าง ก็เดินหาลึกเข้าไป
“ผู้กอง...อยู่แถวนี้หรือเปล่า ออกมาเถอะ ผมจะพาผู้กองหนี”
ที่มุมอับใกล้ๆ เกิดเสียงของหล่นกระทบพื้น พลภัทรยกปืนเล็งไปที่มุมนั้นทันที
เก้าอยู่หน้าห้องอธิคม กำลังกดมือถือส่งข้อความถึงใครบางคนอย่างเร็ว
ในฐานลับ เสียงข้อความในมือจักรภพดังขึ้น จักรภพหยิบมาเปิดอ่าน
“ผู้กองภควัตถูกขังอยู่ในโกดัง”
ประพจน์ที่อยู่ใกล้ถามขึ้นทันที
“ใครส่งข้อความบอกครับ” ผู้การเดา “อัญมา”
“ไม่ใช่อัญมา”
จักรภพมองไปรอบๆ แล้วลดเสียงให้ได้ยินแค่ตัวเองกับประพจน์
“เรามีสายอีกคนอยู่ในกลุ่มของวินิจ เค้าฝังตัวอยู่ที่นั่นมานานแล้ว”
อธิคมก้าวเข้ามายืนมองเก้าตรงหน้าห้อง
“ส่งแมสเสจหาใคร”
เก้ากำลังกดมือถือ ถึงกับสะดุ้งเงยขึ้นมองอธิคม แววตาตกใจวูบ ชั่ววินาทีนั้นเก้าพยายามทำสีหน้าปกติ
“เด็กผมน่ะ พี่ มันไลน์มาขอเจอคืนนี้ ผมเลยบอกว่าไม่ว่าง”
เก้ารีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง
“เมียพี่อยู่ข้างใน”
เก้ารีบเปิดประตู อธิคมไม่สนใจเก้า เดินเข้าห้องไป เก้ารีบปิดประตูให้ ถอนใจโล่งอกเบาๆ
จักรภพยืนหน้าเครียด ประพจน์เดินเข้ามารายงาน
“ผมส่งหน่วยจู่โจมเข้าไปช่วยผู้กองภควัตที่โกดังแล้วครับ”
เสียงข้อความเข้ามือถือจักรภพดังขึ้นอีก จักรภพรีบเปิดอ่าน
“บอกให้หน่วยจู่โจมกลับมา...คนของเราส่งข่าวว่า ไม่มีภควัตที่โกดัง”
“คนของเรา...ใครอีกครับที่รายงานท่านรอง”
ประพจน์ถามด้วยสายตาสงสัยอีกรอบ
ที่แท้ เก้า เป็นสายของตำรวจ ซึ่งไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นอกจาก ท่านรองจักรภพ
พลภัทรยืนอยู่ตรงกลางโกดัง กับลูกน้องวินิจ
“ไม่มีใครอยู่เลย”
“นั่นสิ ค้นทุกซอกทุกมุมแล้ว”
พลภัทรสั่ง “รีบกลับไปบอกพี่บัง”
ลูกน้องวินิจเดินนำออกไป พลภัทรเดินตามปิดท้าย สีหน้ากังวลที่ไม่เจอภควัต
จักรภพยืนอยู่กับประพจน์ที่สีหน้ารอคอยคำอธิบาย
“ภควัตเค้ารอบคอบมาก เค้ารู้ว่าอัญมาถูกสงสัย วันนึงพวกวินิจมันต้องเค้นจนจับได้ เค้าถึงขอให้ผมส่ง หมวดพลภัทร ลูกน้องเก่าของเค้าเข้าไปเป็นสายอีกคน”
“แล้วคนที่ท่านบอกว่าฝังตัวอยู่นานแล้ว” ประพจน์คาใจ
“หมวดกนก หรือชื่อที่พวกมันเรียกว่า ไอ้เก้า”
“แล้วหมวดพลภัทรกับหมวดกนก เค้ารู้หรือเปล่าครับว่าอีกคนเป็นสาย”
“ไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นสาย เพื่อความปลอดภัยของพวกเค้าเอง ตอนนี้เก้ากับพลภัทรจะช่วยคุ้มครองอัญมาที่ถูกดึงไปอยู่กับอธิคม ลูกชายวินิจ แต่ผู้กองภควัต คนสำคัญที่สุด เรารู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่รู้ว่าถูกเก็บตัวไว้ที่ไหน”
จักรภพกับประพจน์มีสีหน้าหนักใจ
คืนนั้นอัญมายืนกอดอกมองฝ่าความมืด ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะห่วงภควัต แต่พอหันกลับมา ก็เห็นอธิคมที่เพิ่งออกจากห้องน้ำ
อัญมาเห็นอธิคมนุ่งแค่ผ้าขนหนู เปลือยท่อนบน ก็หันไปมองทางอื่นด้วยสายตาอาย
“ยังจะมัวใจเย็นอยู่ได้ พ่อคุณส่งคนไปค้นที่โกดัง เพราะคุณไม่ยอมกลับบ้านมาพร้อมเค้า”
อธิคมเดินเข้ามาหาอัญมา
“ทำไม กลัวว่าคนของพ่อจะลากไอ้ผู้กองกลับมาซ้อมจนตายต่อหน้าล่ะสิ”
อัญมาหันมาด้วยความโมโห แต่เจอเข้ากับร่างสูงของอธิคมที่ยืนประชิด
อัญมาเลี่ยงมองไปทางอื่นแต่น้ำเสียงฉุนๆ
“ถ้าพ่อคุณเจอผู้กอง...คุณจะบอกยังไง คุณโกหกไปแล้วว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น”
อธิคมจับหน้าอัญมาหันมามองจ้อง
“เธอห่วงว่าฉันจะช่วยไอ้วัตไม่ได้”
“ใช่”
อธิคมโมโห ก้มลงจูบ อัญมาไม่ปัดป้อง อธิคมชะงักค้าง อัญมาไม่มองอธิคมตรงๆ
“ทำไมไม่หลบเหมือนทุกครั้ง”
“ฉันยอม ถ้ามีอะไรจะทำเพื่อแลกชีวิตผู้กองภควัต”
อธิคมผลักอัญมาออกทันที
“ไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะโง่กว่าพ่อ หรือ ไอ้วัต เธอจะไม่ได้เจอมันอีกพักนึง แต่รับรองว่ามันจะไม่ตาย”
อธิคมหันมามองอัญมา ยิ้มโหดเหี้ยมเลือดเย็น
“ความตายมันทรมานน้อยไป”
อัญมาฟังแล้วยิ่งใจไม่ดี
คืนเดียวกัน กฤษณ์นอนอยู่ในคอนโดตัวเอง มีสุคนธรสเคียงข้าง กฤษณ์นอนไม่หลับเพราะคิดเรื่องภควัต จนต้องลุกขึ้นมานั่ง
สุคนธรสลืมตา ลุกขึ้นมาถาม
“มีอะไรเหรอคะ”
“ไอ้วัตมันหายไป”
สุคนธรสสีหน้าตกใจมาก กฤษณ์หันมามอง
“ห่วงมันมากใช่มั้ย”
สุคนธรส รีบปฏิเสธ “ไม่เลยค่ะ รสจะไม่ห่วงใครมากกว่าคุณ ผู้ชายที่ดีที่สุดของรสอีกแล้ว”
พลางสุคนธรสรีบโอบกอดกฤษณ์จากด้านหลัง หลบสายตาที่เป็นห่วงภควัต
อัญมานอนหลับอยู่บนเตียง ขณะอธิคมลุกจากโซฟา เดินมายืนก้มมองอัญมาที่ข้างเตียง อัญมานอนหลับตา อธิคมก้มลงคุกเข่าข้างเตียงอัญมา แววตาทอดความรู้สึกทั้งรักทั้งหวง
“วันนึงเธอจะลืมไอ้วัต แล้วรักฉัน อัญ”
อธิคมก้มลงจูบแก้มอัญมาเบาๆ แล้วถอยออก ทอดสายตามองก่อนจะกลับไปนอนที่เดิม
อัญมาค่อยๆ ลืมตา ได้ยินทุกคำพูดของอธิคม ใจนั้นห่วงภควัตกว่าสิ่งใด แต่ก็อดสงสารอธิคมไม่ได้
อ่านต่อตอนที่ 14