xs
xsm
sm
md
lg

คีตโลกา ตอนที่ 6

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คีตโลกา ตอนที่ 6

เช้าวันเดียวกันนี้ ภควัตกำลังยืนคุยสั่งงานจ่าเดชอยู่ ก่อนจะเข้าฐานลับในห้าง

“ผมจะไปฐานลับ จ่าคอยดูความเคลื่อนไหวที่บ้านวินิจ มีอะไรรีบรายงานผม”
“ได้ครับ ผู้กอง”
“ภายใน 2-3 วันนี้ พวกมันลงมือแน่”
นวยกับจิ๊บเดินดูดกาแฟกันมา นวยมองไปเห็นจ่าเดชยืนคุยอยู่กับภควัตหน้าตาเกลี้ยงเกลาก็หยุดมองจ้อง
“พี่จิ๊บๆ พี่ว่าผู้ชายคนนั้นเหมือนพี่วัตมั้ย”
นวยกับจิ๊บมองจากที่ไกลๆ จึงเห็นหน้าภควัตไม่ชัด
“เออว่ะ คล้าย”
ภควัตมองเลยจ่าเดชมาเห็นนวยกับจิ๊บก็ตกใจ
“นวยกับจิ๊บ ผมจะหลบไปก่อน”
ภควัตจะเดินหนี นวยกับจิ๊บวิ่งเข้ามา จ่าเดชรีบหันไปกางแขนกั้น ภควัตหลบหลังพุ่มไม้ วิ่งหนีไป
“พวกเอ็งจะไปไหน”
“จ่าคุยกับใครน่ะ”
นวยจะวิ่งตาม จ่าเดชกระชากไว้ “จะวิ่งไปไหน”
“ผู้ชายคนนั้นเหมือนพี่วัต”
“เหมือนตรงไหน ไอ้วัตมันกลับบ้านนอก นี่มันเอาพระข้าไปตั้งหลายองค์ ไม่รู้มันเชิดหรือเปล่า”
นวยกับจิ๊บมองจ่าเดชที่ทำฮึดฮัด
“ไปๆ มีอะไรก็ไปทำกัน อย่ามัวมาสอดส่องเรื่องชาวบ้าน”
จ่าเดชเดินหนีไป นวยหันมามองจิ๊บ
“ฉันว่าใช่ พี่วัต ถ้าไม่ใช่จะหนีทำไม”
“แต่หน้าตา ท่าทางไม่ได้สกปรกแบบไอ้วัตเลยนะ แกน่ะ ตาฝาดหรือเปล่า นวย”
“ไม่ฝาดหรอก ถ้าพี่วัตไม่มีหนวดเครา ก็หน้าแบบนี้”
นวยมีหน้าตาเต็มไปด้วยความสงสัย

อัญมามองนวยกับจิ๊บที่ยืนในบ้านแล้วแกล้งกลบเกลื่อน
“แกน่ะตาฝาดแล้วไอ้นวย พี่วัตเค้าจะต้องมีหนวด มีเครา สกปรกๆ”
“แล้วถ้าไม่จริง จะหนีทำไม ฉันห่วงเจ๊นะ เจ๊น่ะรู้จักพ่อแม่พี่วัตเค้าหรือยัง”
อัญมาอมยิ้ม “อ๋อ กลัวฉันโดนหลอก”
“อันนี้ฉันเห็นด้วยนะไอ้อัญ แกคบกับไอ้วัตเซียนพระปุ๊บปั๊บ พวกฉันเป็นห่วงนะ”
“ขอบใจมากทั้งแกทั้งนวย ฉันดีใจนะที่มีแกสองคนคอยห่วง”
“แล้วถ้าแกจะคบผู้ชายอีกคน”
“ใคร คบใคร”
จิ๊บกับนวยมองกัน แล้วจิ๊บตัดสินใจพูด
“อธิคม ลูกพี่บัง ชาวบ้านเค้าลือกันว่าแกควงสอง”
อัญมาขำ “โว้ว ดีจัง ฉันรู้สึกว่าตัวเองสวยมากเลย เค้าลือกันแบบนั้นเหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องตลกนะ แก ถ้าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจเพ่งเล็ง แกติดร่างแหไปด้วยแน่ๆ”
อัญมามองเห็นจิ๊บกับนวยสีหน้าห่วงจริงใจ แล้วก็เข้าไปกอดจิ๊บ
“ขอบใจมาก ขอบใจที่แกห่วงฉัน คำว่าเพื่อนของแกสองคนมันยิ่งใหญ่จริงๆ”

นวยยิ้มมองอัญมากับจิ๊บที่กอดกันด้วยความดีใจ

ภควัตยืนคุยอยู่กับผู้การจักรภพในฐานลับ

“มันจะขนสารตั้งตัวตัวใหม่ ภายใน 2-3 วันนี้ครับ”
“มีรายงานมาจากหลายสายว่าอาจจะไม่ใช่ วันลงมือมันยังแย้งกันเอง”
“แต่สายของผม ที่ใกล้ชิดอธิคมเป็นคนบอกมา”
ภควัตมองไปเห็นกฤษณ์ที่เดินมาใกล้ก็เงียบ
“โอเค ผมจะฟังจากทางคุณ”
ภควัตยิ้มจะเดินออกไป จักรภพเรียกไว้เสียงเครียด
“ภควัต ผมมีเรื่องต้องบอกคุณ”
ภควัตหันกลับมา กฤษณ์เดินมายืนใกล้นาย
“จบงานจับสารตั้งต้น ผมจะต้องส่งตัวคุณไปช่วยงานผู้ใหญ่” ผู้การบอก
“หมายความว่า ผมต้องหยุดงานที่นี่เหรอครับ”
“ใช่...นายขอตัวมาเป็นกรณีพิเศษให้ไปช่วยงานท่านรอง แล้วคนที่จะช่วยผู้การดูแลภารกิจทำลายแก๊งนายวินิจต่อ คือฉัน”
“ไม่จริงนะครับ นาย ผมขอทำงานที่นี่จนกว่าจะลากคอไอ้วินิจกับอธิคมเข้าคุก”
จักรภพเอ่ยขึ้น “ผมก็ลำบากใจนะ ภควัต คุณเป็นมือดีของหน่วยเรา”
“หรือนายจะกล้าขัดคำสั่งเพราะอยากได้ผลงานไว้คนเดียว”
ภควัตฉุนจัด พุ่งเข้าคว้าคอเสื้อ เงื้อจะชกกฤษณ์
“คนที่หัวสมองมีแต่เรื่องหวังชื่อเสียงอย่างแก มันไม่น่าจะเข้ามาที่นี่เลย”
“ภควัต”
ภควัตได้ยินเสียงห้ามของนายก็ลดมือลง กฤษณ์ผลักภควัตออกห่าง
“ฉันทำงานทุ่มเท ตามวิธีของชั้น เสร็จภารกิจคราวนี้ นายต้องส่งรายชื่อสายลับในแก๊งวินิจให้ฉันดูแลต่อ”
กฤษณ์บอกแล้วเดินออกไป รอยยิ้มเยาะเต็มหน้า ภควัตหันไปทางจักรภพ
“นายครับ...ผมไม่อยากไปจากหน่วยนี้”
“ผมจะลองหาทางดึงคุณไว้”
“แล้วผมก็ให้ชื่อสายของผมกับสารวัตรกฤษณ์ไม่ได้ เค้าจะไม่ทำงานให้ใคร นอกจากผม”
“ผมเข้าใจ ของแบบนี้มันคือความไว้ใจเชื่อใจกันของคุณกับสาย”
“นายครับ ผมมีอีกเรื่องสำคัญมาก อยากจะให้นายช่วย”
จักรภพมองภควัตอย่างสงสัย

ฝ่ายสารวัตรกฤษณ์เดินยิ้มกระหยิ่มพร้อมควงกุญแจรถในมืออย่างสมใจ
“ในที่สุด ฉันก็ชนะแกภควัต”
กฤษณ์เดินออกจากฐานลับไปด้วยความสบายใจ

บนดาดฟ้าตึกตอนนี้ ภควัตยืนอยู่ตรงหน้าจักรภพ
“นายช่วยเปลี่ยนประวัติผมใหม่ได้มั้ยครับ ถ้าเรามีสายในแก๊งวินิจได้ มันก็ต้องมีสายในพวกเราได้เหมือนกัน ผมไม่อยากให้อธิคมรู้ว่าผมคือคนที่เคยจับมันเข้าคุก”
“แต่ถ้ามันจำหน้าคุณได้”
“อีกไม่นาน มันก็ต้องจำผมได้ เพราะผมจะวนเวียนอยู่ที่ชุมชนนั้น ถึงผมเป็นไอ้วัตเซียนพระ มันก็ยังสงสัย ก่อนที่สายของมันจะเช็คประวัติผมเจอ ผมอยากให้เราป้องกันไว้ก่อน”
“ได้ ผมจะเปลี่ยนประวัติให้ร.ต.อ.ภควัต คนที่เคยจับอธิคม ตายไปในภารกิจใดภารกิจหนึ่งก่อนหน้านี้”
“นายครับ ผมถามได้มั้ยครับ ว่าใครเป็นคนขอตัวผมไปช่วยงาน”
“ท่านรองบอกว่ามันเป็นคำขอมาจากรัฐมนตรีอภิกานต์...ก็ลุงของคุณนั่นแหละ”
ภควัตฟังแล้วถอนใจหนักหน่วง “อย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ”
“ผมจะพยายามช่วยให้คุณทำงานกับเราต่อนะ ภควัต สารวัตรกฤษณ์เค้าตั้งใจทำงานก็จริง แต่ผมเห็นแววตาของเค้า เค้าอยากเอาชนะคุณเกินไป”
“ขอบคุณครับที่นายไว้ใจผม”
จักรภพเดินออกไป ภควัตมองไปไกล สายตามุ่งมั่น

อัญมาเดินเข้ามาในเรือนใหญ่ของเสี่ยวินิจ เห็นพวกเมษ เก้า ต้น ป๊อบกำลังตรวจดูทำความสะอาดปืนกันอยู่
“มาทำไมวะ ไอ้อัญ วันนี้พี่คมไม่อยู่” เก้าว่า
พวกผู้ชายมองกวนๆ อัญมาเดินมาใกล้ไม่กลัว
“ทำไม ฉันมาที่นี่แล้วมันหนักหัวใครเหรอ”
“ปากดีนักนะ ไอ้อัญ” ต้นโกรธ
“ถ้าจับส่งไปร้านเจ๊ว่านซะตั้งแต่คราวนั้น มันคงไม่มีปากมีเสียง” เมษเยาะหยัน
พวกผู้ชายหัวเราะกัน อัญมาเดินเข้าใกล้
“พวกที่รังแกผู้หญิงเป็นสันดาน รับรองว่าไม่เคยตายดีสักคน”
ผู้ชาย 4 คนขยับลุกโมโห ถือปืนขู่ อัญมามองสู้สายตา ไม่กลัว
“จะยิงฉันตรงนี้ก็ได้ แต่ถ้าฉันไม่ตาย พวกแกก็ไม่รอดเหมือนกัน”
อัญมาเชิดหน้ามองไม่กลัว
อธิคมเดินออกมาจากด้านในพอดี ทุกคนจึงถอยห่างอัญมา อัญมาหันมาเจออธิคมก็ยิ้มให้
“อ้าว พี่คม ไหนไอ้เก้าบอกพี่ไม่อยู่”
อธิคมเหลียวขวับตวัดตามองมายังเก้า เก้ารีบหลบ
“มาก็ดีแล้ว ฉันกำลังจะออกไปข้างนอก”
อธิคมเดินนำไป อัญมาหันมายิ้มเยาะให้พวกที่เหลือ แล้วเดินตามไป
“กูอยากตบปากไอ้อัญว่ะ” เมษบอก
ป๊อบท้วง “ตบต่อหน้าพี่คมไม่ได้หรอก”
“งั้นก็รอจังหวะดีๆ อยากรู้นักว่ามันจะร้องครวญครางแค่ไหน”

เก้ามองเพื่อนทั้งหมด เห็นแววตาดุร้ายของพวกมัน

ภควัตเข้าบ้านตรงไปเปิดตู้หยิบปืนออกมา ขวัญอนงค์กับคุณหญิงวรจันทร์เข้ามา ภควัตหันไปมอง

“พี่วัตยังไม่เลิกทำงานจับผู้ร้ายอีกเหรอคะ”
“ผมทราบเรื่องที่คุณลุงขอตัวผมแล้วนะครับ”
“ป้าเป็นคนบอกลุงเค้าเองน่ะ วัต”
“ผมก็ทราบครับว่าคงจะเป็นความคิดของคุณป้า เพราะที่จริงแล้วคุณลุงเข้าใจอาชีพตำรวจอย่างผมดี”
“ป้าห่วงเธอนะ วัต ห่วงมาก ไม่ใช่แค่เรื่องงาน เรื่องชีวิตของเธอด้วย”
“คุณป้ากลัวผมจะสนิทกับอัญมาเหรอครับ”
“พี่วัตแคร์อัญมามากรู้ตัวหรือเปล่า”
“ครับ พี่แคร์อัญมา พี่ไม่เถียง ถ้ามีคนให้คุณน้องทำงานเสี่ยงๆ ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางคนค้ายา ทุกนาทีหมายถึงชีวิต ถ้าถูกจับได้ หมายถึงตายอย่างเดียว คุณน้องกล้าทำมั้ยครับ”
“ยายน้องพูดเพราะห่วงวัต กลัวว่าความใกล้ชิดจะทำวัตพลาดพลั้งอีก”
“อัญมาไม่เคยคิดจะจับผม เค้าไม่สนใจเลยว่าผมเป็นลูกใครหลานใคร เค้าไม่อยากขายยาให้เด็กๆอีก เค้าอยากเลิกยา เค้าอยากให้ขบวนการค้ายานรกสิ้นซาก เค้าถึงยอมทำงานให้ผม”
ภควัตมองวรจันทร์อย่างขอร้อง
“ผมขอบคุณที่คุณป้าพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตผม แต่สำหรับเรื่องอัญมาผมขอตัดสินใจเองครับ”
ภควัตเดินถือปืนในซองออกไป
“พี่วัต”
“ปล่อยให้พี่เค้าไปทำงานก่อน ยายน้อง”
“แม่คะ”
“ยังไง เราก็ยังมีทางแยกภควัตกับอัญมา”
วรจันทร์พูดด้วยสายตามั่นใจว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อหลานชาย

อัญมาที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์อธิคมที่กำลังแล่นเร็วไปบนถนน ก่อนจะหยุดจอดกลางทุ่งนาเขียวขจี
อัญมาถอดหมวกกันน็อคลงจากมอเตอร์ไซค์ อธิคมถอดหมวกเดินมายืนมองไปรอบๆ
“พี่คมพาฉันมาเที่ยวเหรอ”
“เปล่า ฉันมาทำงาน”
“ทำงาน”
อัญมามองไป เห็นรถกระบะคันหนึ่งมีผ้าใบคลุมด้านหลังมามิดชิดเรียบร้อย มาจอดริมทาง
“พี่คมหมายถึง...”
“วันนี้ฉันมารับของ”
อัญมาตกใจนึกไม่ถึง มองอธิคมที่เดินไปที่รถกระบะ คุยกับคนขับ แล้วเปิดดูด้านหลัง
“นี่เราโดนหลอก อธิคมมันฉลาดอย่างที่ผู้กองบอกจริงๆ”
อัญมาเลื่อนมือไปหยิบมือถือ คิดจะส่งข้อความให้ภควัต แต่อธิคมหันมามองพอดี อัญมารีบดึงมืออกมา ยืนยิ้มให้เฉยๆ ทั้งที่ใจร้อนรุ่ม อยากส่งข่าวให้ภควัต

จ่าเดชกำลังยืนกินไอติม สายตามองไปด้านในค่ายมวย เห็นพวกเมษ ต้น ป๊อบ เก้ากำลังนั่งเล่นเกมส์ ทุกคนไม่เดือดร้อน จ่าเดชถอยออกมาบอกภควัตทางมือถือ
“พวกลูกน้องอยู่กันครบเลย แต่ไม่เห็นอธิคม”
จ่าเดชรีบหันทำทีกินไอติมอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นเมษมองมาทางตน
ภควัตกำลังหยุดคุยสายกับจ่าเดช
“อัญมาล่ะ”
“เดี๋ยวนะผู้กอง พวกมันมองมาอยู่”
“อย่าให้พวกมันผิดสังเกตละ”
“เชื่อมือเถอะน่าผู้กอง....เอาละ พวกมันไม่สนใจแล้ว”
จ่าเดชชะเง้อแล้วชะเง้ออีก มองไปด้านในค่ายมวย
“ไม่เห็นไอ้อัญนะ ผู้กอง”
“ออกมาจากที่นั่นได้แล้วจ่า”
จ่าเดชแอบเก็บมือถือ แล้วทำเป็นเดินกินไอติมออกไปอย่างธรรมดาที่สุด

ภควัตกดปิดสาย
“เธออยู่ไหนนะอัญมา”
ภควัตครุ่นคิด ในที่สุดก็ตัดสินใจลองกดเบอร์อัญมา
“รับนะ อัญมา ฉันอยากรู้ว่าเธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่”
ภควัตแนบหูฟัง เสียงโทรศัพท์ทางอัญมาติด ภควัตตั้งใจฟังสีหน้าเคร่งเครียด

สองคนอยู่กลางทุ่งนาเขียวขจี มือถืออัญมาเสียงดังขึ้น อธิคมหันมามอง
อัญมารีบหยิบดู เห็นชื่อ พี่วัต อธิคมเดินมาดึงมือถือออกไปดู อัญมาไม่กล้าทำอะไร อธิคมหน้าตึง
“แฟนโทร.มา”
“ไม่ต้องรับก็ได้ พี่วัตงี่เง่า คอยหาเรื่องชวนทะเลาะ น่าเบื่อ”
อธิคมตัดสายทิ้ง ทำท่าจะเก็บมือถือไว้ใส่กระเป๋าตัวเอง แต่อัญมารีบดึงกลับมา
“ไว้ที่ฉันดีกว่า เดี๋ยวพี่วัตโทร.มาอีก พี่จะได้ไม่รำคาญ”
อัญมารีบเก็บมือถือในกระเป๋ากางเกง
“มีปัญหากันอยู่เหรอ”
อัญมาทำหน้าเซ็ง “หมู่นี้ไม่รู้เป็นอะไร ชวนทะเลาะอยู่เรื่อย เบื่อมากๆ เดี๋ยวจะขอเลิกให้ดู พี่คมอย่าสนใจเลย”
อธิคมมองคนขับรถที่รออยู่ “ขึ้นรถ”
“จะไปไหน”
“เอาของไปเก็บ”
“แค่นี้เหรอ ไหนพี่ว่าให้ทุกคนเตรียมพร้อม ทั้งปืน ระเบิด แต่พี่มาแค่กับฉันสองคน”
อธิคมหัวเราะหึๆ มองอัญมา
“ก็แค่ฉันกับเธอ ถ้างานนี้มีตำรวจอีก ฉันก็จะได้รู้ไง”
อธิคมเอาปืนออกมาถือไว้ อัญมามองกลืนน้ำลาย
“ว่าฉันจะไว้ใจเธอได้อีกหรือเปล่า”
อัญมามองอธิคม ทำหน้าไม่รูไม่ชี้ ยิ้มให้

“พี่คมไว้ใจฉันได้เสมอ”

ภควัตมองมือถือที่ถูกตัดสาย

“อัญมา...ตัดสาย”
เหตุการณ์ที่อัญมาเคยตกลงกับภควัตในห้องเช่าวัตเซียนพระ ค่ำคืนหนึ่งผุดขึ้นมา โดยอัญมากำลังยืนบอกภควัตว่า
“ถ้าคุณโทร.มา ฉันตัดสาย ไม่รับ ไม่โทรกลับภายใน 15 นาที แปลว่า ฉันอยู่กับอธิคม แล้วมันก็ต้องเป็นตอนหน้าสิ่วหน้าขวานด้วย”
ภควัตยังยืนอยู่ที่เดิม มองนาฬิกาเริ่มจับเวลา ลุ้นใจจะหยุดเต้น
“โทร.กลับมา อัญมา โทร.กลับมา...”
ภควัตเริ่มเดินไปเดินมาอย่างกังวล

อัญมาซ้อนมอเตอร์ไซค์อธิคมที่แล่นมา ด้านหลังสองคนคือรถกระบะขนถังสารตั้งต้นที่อยู่ใต้ผ้าใบปิดมิดชิด มอเตอร์ไซค์ของอธิคมขับนำรถกระบะมาห่างๆ อัญมามองแล้วค่อยๆ ขยับ หยิบมือถือออกมากดส่งข้อความทันที

เสียงข้อความเข้าดัง ภควัตรีบเปิดอ่าน
“ขนของแล้ว กับดัก มาคนเดียว”
ภควัตสีหน้าเครียดจัด ห่วงอัญมาจับใจ
“อัญมา”
ภควัตมองอีกข้อความเห็นเป็นแผนที่พิกัดที่อัญมาส่งผ่านไลน์ รีบกดสายหาจ่าเดช
“จ่า อธิคมมันรู้ตัว มันขนของแล้ว กลับไปเฝ้าที่บ้านกับค่ายมวยมัน ผมจะตามไปช่วยอัญมา”
จ่าเดชรับสายขณะกำลังมองไปเบื้องหน้าอย่างเสียดาย ด้วยอีกไม่กี่ก้าวจะถึงร้านเจ๊ว่าน โดยเจ๊ว่านกำลังนั่งไขว่ห้าง อ่านหนังสือ จ่าเดชมองตาละห้อยด้วยความเสียดาย
“ครับ ผมจะรีบกลับไปเฝ้าที่ค่ายมวยกับบ้านมันไว้”
จ่าเดชตัดใจจากเจ๊ว่าน รีบหันหลังกลับไปในทันที เจ๊ว่านหันมองตามหลังจ่าเดชไวไว
“รีบไปจับไพ่อีกล่ะสิ จ่าเดชเอ๊ย”
จ่าเดชกำลังเดินมาอย่างรีบเร่ง เจอกฤษณ์ที่แต่งตัวธรรมดา ใส่แว่นเหมือนพวกครูเดินมาดักหน้า
จ่าเดชเบรกตัวโก่ง
“สารวัตรกฤษณ์”
กฤษณ์จ้องจ่าเดช “เงียบๆ อย่าเรียกฉันแบบนั้น”
“มาแถวนี้ทำไมครับ”
“ฉันก็อยากมาดูบ้าง”
“นึกว่ามาหาสายของผู้กอง”
กฤษณ์มองจ่าเดชแล้วเริ่มขู่นิ่มๆ
“ฉันกำลังจะเป็นหัวหน้าทีม ภควัตถูกเด้งไปทำงานที่อื่น”
จ่าเดชตาโต “หา”
“ต่อไปจ่าต้องทำงานกับฉัน”
จ่าเดชเริ่มกลืนน้ำลาย เห็นความยุ่งยากเบื้องหน้าชีวิต
“อะไรที่สมควรทำ คงไม่ต้องให้ฉันสอนจ่าหรอกนะ”
จ่าเดชมองกฤษณ์ที่ยิ้มขู่แล้วค่อยๆ บอกออกมา
“ผู้กองให้ผมไปเฝ้าที่บ้านกับค่ายมวยนายวินิจไว้ เพราะมันกำลังขนของ”
“พวกมันขนของอยู่ที่ไหน” กฤษณ์คาดคั้น
“ไม่รู้ครับ ผู้กองไม่ได้บอกไว้”
กฤษณ์มีสีหน้าอยากรู้ให้ได้

อธิคมขับพาอัญมามาจอดรถหลังโกดัง รถกระบะจอดลง คนขับลงมาเปิดผ้าใบด้านหลัง เตรียมขนของ
อธิคมหันมองมา อัญมายิ้มไม่มีพิรุธ
“ให้ฉันไปช่วยเค้าขนมั้ย”
“ไม่ต้อง คอยอยู่ข้างๆ ฉันก็พอ”
อัญมายืนนิ่งๆ ทั้งที่ใจร้อนเป็นไฟ

ด้านผู้การจักรภพกำลังคุยสายกับภควัตอยู่ในห้องทำงานที่ฐานลับ น้ำเสียงร้อนใจ
“ภควัต คุณอยู่ที่ไหน ผมได้ข่าวว่าอธิคมขนของแล้ว”
ภควัตขี่มอเตอร์มาบนถนนอย่างเร็วและแรง
“ผมกำลังไปโกดังที่มันเอาสารตั้งต้นไปเก็บไว้ ริมน้ำ พระราม 2 ครับ”
จักรภพทวนคำ
“โกดังริมน้ำ พระราม 2”
มีตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งที่แอบฟังอยู่ กำลังพิมพ์ข้อความลงมือถือ ส่งข่าวให้กฤษณ์

กฤษณ์อยู่ในชุมชน เปิดมือถือมองข้อความแล้วทวนคำ
“โกดังริมน้ำ พระราม 2”
จากนั้นกฤษณ์ก็พุ่งออกไปทันที

ฝ่ายภควัตเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์มาอย่างเร็วบนถนน
“นายอย่าให้ใครตามมานะครับ มันเป็นกับดัก ผมจะไปคนเดียว คนของเรากำลังตกอยู่ในอันตราย”
ภควัตเร่งเครื่องทะยานไปข้างหน้าตามหัวใจที่ร้อนเป็นไฟ

อัญมาเดินตามติดอธิคมเข้ามาในโกดัง คนขับกำลังวางเรียงถังสารเคมี
“มีแค่เธอกับฉันที่รู้เรื่องขนของวันนี้”
“อะไรน่ะ พี่ ในถังนั่นมันอะไร”
อธิคมมองอัญมาที่ถามด้วยหน้าตาใสซื่อ
“สารตั้งต้น เราจะทำยาสูตรใหม่”
“ขายแพงเลยสิ ทีนี้”
“ขายถูก ใครก็ใช้ได้”
“คงมีลูกค้าใหม่อีกเยอะ”
อัญมาพูดด้วยเสียงที่สะกดข่มความไม่พอใจไว้เต็มที่
“คราวนี้เราจะได้เงินก้อนใหญ่ พอที่จะไปตั้งต้นชีวิตด้วยกันนะอัญ”
อัญมามองอธิคมแล้วฝืนยิ้มกว้างให้เต็มที่

ภควัตลอบเข้ามาทางด้านหลัง มองไปเห็นมอเตอรไซค์อธิคมกับรถกระบะจอดอยู่
“อัญมา”
ภควัตหาที่หลบมอง หยืบปืนเตรียมพร้อมเผื่อปะทะ สักครู่อัญมาออกมาจากในโกดังพร้อมอธิคม ภควัตซุ่มมองอยู่ อัญมาเดินจะมาที่มอเตอร์ไซค์
กฤษณ์โผล่ขึ้นจากมุมสูง พอเห็นอธิคมก็ยกปืนเล็งพร้อมยิงทุกเมื่อ ขณะที่อธิคมหันมายิ้มกับอัญมา
“งานเสร็จแล้ว อยากไปฉลองที่ไหน อาหารญี่ปุ่นที่เธอชอบมั้ย”
“ฉันแล้วแต่พี่คม”
อธิคมขยี้หัวอัญมาเบาๆ อย่างเอ็นดูสายตาวางใจเห็นได้ชัด ภควัตซุ่มมองตาขวาง ในใจเดือดปุดๆ
อัญมาขยับตัวจะขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ แต่สายตามองไปเห็นกฤษณ์ที่เล็งปืนอยู่บนมุมสูง ภควัตเงยขึ้นไปตาม เห็นกฤษณ์ก็ตกใจ
“ไอ้กฤษณ์”
กฤษณ์คิดเด็ดหัวอธิคม เหนี่ยวไกเปรี้ยงอัญมาตัดสินใจชั่วเสี้ยวนาทีเอาตัวเข้าบังอธิคม กระสุนปืนของกฤษณ์เจาะเข้าไหล่อัญมาจังๆ ร่างบอบบางผงะหงายไปตามแรงกระสุน ภควัตตะลึง
อธิคมรวบรวมสติช้อนร่างอัญมาไว้ ชักปืนในเอวกระหน่ำยิงไปทางกฤษณ์ทันที กฤษณ์หลบกระสุนของอธิคมจนกลิ้งตกลงมาด้านหลัง อธิคมจะวิ่งตามไปยิง แต่พะว้าพะวงใจห่วงอัญมาที่สลบอยู่มากกว่า
“อัญ อัญ”
อธิคมเห็นเลือดอัญมาไหลทะลักจากแขน ก็ตัดสินใจช้อนอุ้มอัญมาขึ้นกอดไว้ในอก แล้วขับมอเตอร์ไซค์บึ่งออกไปโรงพยาบาล
ภควัตโผล่ออกมา กำหมัดด้วยความเจ็บใจแค้นใจ เป็นห่วงอัญมาจับจิต

“โธ่เว้ย...ไอ้กฤษณ์...อัญ เธอต้องไม่เป็นอะไร”

อ่านต่อหน้า 2

คีตโลกา ตอนที่ 6 (ต่อ)

ภควัตวิ่งกลับไปด้านหลังที่จอดรถไว้ เพื่อขับรถตามอธิคมออกไป

อัญมาที่เลือดยังไหลตลอดเวลา นอนสลบบนเตียง พยาบาลกำลังเข็นเตียงไปตามทางในโรงพยาบาล อธิคมอยู่ใกล้ไม่ยอมห่าง
“อัญ อัญ อย่าเป็นอะไรนะ อัญ”
อธิคมวิ่งตามจนเตียงอัญมาถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน เขายืนอยู่หน้าห้องด้วยความเครียด เสียงมือถือโทร.เข้ามา อธิคมกดรับ
“ครับ พ่อ”
เสี่ยวินิจอยู่ที่บ้าน กำลังถามลูกชายด้วยความกังวล
“มียิงกันที่โกดังของเราเหรอ ใครยิง ตำรวจหรือเปล่า แล้วพวกเรามีใครเป็นอะไรมั้ย”
อธิคมนั่งคุยสายอยู่หน้าห้องผ่าตัด สีหน้าเครียดมาก
“ไม่รู้ว่าพวกไหน มันมาคนเดียว ไม่น่าใช่ตำรวจ อัญถูกยิง พ่อ อัญช่วยผม อัญถูกยิง”

อัญมานอนสลบอยู่บนเตียงผ่าตัด หมอกำลังผ่าเอากระสุนออกจากไหล่
อัญมานอนนิ่งไม่รู้สึกตัว
อธิคมยืนรออยู่อย่างกระวนกระวาย จนห้องผ่าตัดเปิดออก อธิคมรีบเข้าไปใกล้เตียงอัญมาที่ผ่ากระสุนออกแล้ว แต่ยังสลบอยู่
“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ” หมอบอก
“หมอต้องดูแลแฟนผมให้ดีที่สุด”
อธิคมยิ้มกว้าง เดินตามเตียงอัญมาที่เข็นไปทางห้องพัก
ภควัตหลบอยู่ โล่งใจที่อัญมาปลอดภัย แต่มองตามอัญมาด้วยสายตาเป็นห่วงถึงที่สุด

ที่ฐานลับตอนนี้ กฤษณ์นั่งให้ตำรวจนอกเครื่องแบบทำแผลฟกช้ำที่ตกจากที่สูง ภควัตพุ่งเข้ามาในนั้น พอมองเห็นกฤษณ์ก็ตรงไปกระชาก แล้วชกกฤษณ์จนคว่ำ
“ภควัต หยุด” ผู้การร้องห้าม
ภควัตไม่ฟัง ตรงเข้าไปกระชากกฤษณ์ขึ้นมาชกซ้ำหลายหมัด ตำรวจพากันเข้าไปดึง แต่ภควัตเหวี่ยงทุกคนกระจายด้วยความโกรธถึงขีดสุด ภควัตจับกฤษณ์ขึ้นมาจ้องหน้า
“คนที่แกยิงคือผู้หญิง ไอ้กฤษณ์ แกยิงทำไม อยากได้หน้า อยากได้ตำแหน่งจนทำได้ทุกอย่างเลยใช่มั้ย”
ขาดคำภควัตเหวี่ยงกฤษณ์ลงไปกับพื้น ทุกคนอึ้ง
ผู้การจักรภพเข้ามาดึงภควัตออกห่าง
“สารวัตรกฤษณ์ ผมจะสืบสวนเรื่องนี้ คุณทำนอกเหนือคำสั่ง ทำโดยพละการ ความเสียหายที่เกิดขึ้น คุณรับผิดชอบไหวมั้ย ภควัต ออกไปก่อน”
ภควัตหันหลังเดินออกไป ผู้การจักรภพมองสารวัตรกฤษณ์ด้วยสายตาไม่พอใจมาก

อธิคมนั่งอยู่ข้างเตียงเฝ้าไข้อัญมาตลอดทั้งคืน จนอัญมาฟื้นขึ้น อธิคมมอง
“อัญ”
อัญมามองอธิคมแล้วยิ้มเพลียๆ
“เจ็บแผลมั้ย”
“เจ็บ”
อธิคมกุมมืออัญมาไว้
“ทำไม ทำไมต้องทำอย่างนี้”
อัญมามองเห็นแววตาอธิคมแล้วยิ้ม
“ฉันอยากให้พี่รู้ว่าฉันไว้ใจได้”
อธิคมก้มลงกอดอัญมาเบาๆ
จังหวะนี้ ประตูห้องเปิดออก ภควัตในคราบเซียนพระก้าวเข้ามา เห็นอธิคมกอดอัญมาก็ชะงัก อุบล จิ๊บ นวย และจ่าเดชพุ่งตามกันเข้ามา ทุกคนถึงกับอึ้งทั้งแถบ
อธิคมหันมามองทุกคน ภควัตเดินมาใกล้ คนอื่นๆ ยกเว้นจ่าเดช พากันเกาะเตียงถามเซ็งแซ่
“ไอ้อัญ เป็นยังไงบ้าง” อุบลถาม
นวยบอก “เจ๊อัญ ผมตกใจหมดเลย”
จิ๊บตบท้าย “แก...ทำไมซวยอย่างงี้”
อุบลหันไปทางอธิคมทันทีอย่างเอาเรื่อง “นี่ไปทำอะไร ลูกสาวฉันถึงได้ถูกยิง”
“ใครบอกว่าอัญถูกยิง” อธิคมถาม
อุบล จิ๊บ และนวยหันไปทาง วัต เซียนพระ อัญมามองสีหน้าไม่ดี เพราะเห็นอธิคมจ้องจับผิดภควัต
“แกรู้ได้ยังไงว่า อัญ ถูกยิง”
จ่าเดชโผล่หน้าออกมาตอบให้
“ฉันบอกแฟนไอ้อัญมันเอง โรงพยาบาลเค้าแจ้งไปที่สน.ว่ามีคนถูกยิง”
“มันมีเรื่องอะไรกัน ทำไมน้องอัญถึงถูกยิง เลือดตกยางออก แล้วใครเป็นคนยิง” ภควัตซักเป็นชุด
อธิคมเห็นทุกสายตาที่จ้องมาแล้วก็คิดไม่ทันว่าจะแก้ตัวยังไง
“คงเป็นพวกยิงผิดตัวน่ะ ให้จ่าเดชเค้าตามหาตัวผู้ร้ายไปเถอะ”
อธิคมกับภควัตมองอัญมาที่พยายามจบประเด็น
“อย่าเพิ่งมาเถียงกันเลย ฉันเพลีย เจ็บแผลมาก อยากนอนเงียบๆ”
อุบล นวย และจิ๊บเข้าไปใกล้เตียงดูอัญมาอย่างเป็นห่วง อธิคมมองภควัตเขม็ง ภควัตทำท่าหงอๆ เดินไปทางเตียงอัญมา
“น้องอัญอยากกินอะไรบอกพี่นะจ๊ะ พี่วัตจะไปหามาให้ทุกอย่าง”

อธิคมถอยห่างออกมามองอัญมาด้วยสายตาห่วงใย เชื่อใจอัญมา

รุ่งเช้าวันนี้ อธิคมนั่งนิ่งอยู่ในโถงตึกใหญ่ สีหน้าครุ่นคิด วินิจที่อยู่ถอนใจหนักหน่วง อธิคมเอ่ยขึ้น

“เสียดายจริงๆ ที่ไอ้คนลอบยิงผมมันหนีไปได้”
“ฉันย้ายของไปโกดังอื่นหมดแล้ว”
“แต่พวกตำรวจมันก็ไม่มากวน ไม่มาขอค้นอะไรเลยนี่พ่อ”
“นั่นน่ะสิ แสดงว่าคนที่ยิงแก ไม่ใช่พวกตำรวจ”
“อยากรู้จริงๆ ว่ามันเป็นใคร”
“ฉันก็อยากจะรู้ ว่าใครที่มันกล้าลูบคนฉัน”
อธิคมหน้าเครียดขณะที่นายวินิจสีหน้าดุดันหน้ากลัว

ด้านภควัตในคราบเซียนพระ นั่งอยู่ใกล้อัญมาที่สีหน้าดีขึ้น เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาพักที่บ้านอุบลได้เช้าวันนี้
“ผมขอผู้การจักรภพหยุดเรื่องนี้ ปล่อยไปก่อน เพราะถ้ามีการค้นโกดัง คุณต้องถูกอธิคมจับได้ว่าเป็นสาย”
“สารวัตรกฤษณ์ยิงฉัน”
“ผมขอโทษแทนเพื่อนด้วย อัญมา”
“เค้าคงตั้งใจยิงอธิคม”
“แต่คุณเอาตัวบัง คุณยอมเจ็บแทนอธิคม”
“เพราะฉันจะซื้อใจอธิคม”
ภควัตตั้งใจมองอัญมาที่อธิบาย
“อธิคมเหมือนที่คุณบอก เค้าไม่ใช่คนโง่ เค้าวางแผนทั้งหมด ปล่อยข่าวเรื่องส่งของ เพื่อจับให้ได้ว่าฉันเป็นสายตำรวจหรือเปล่า”
ภควัตเลื่อนมือไปกุมมืออัญมา
“ผมเห็นตอนคุณถูกยิง ผมอยู่ที่นั่น ผมตั้งใจจะไปดูตามที่คุณบอก ปล่อยคุณกลับไปกับอธิคมก่อน แล้วค่อยหาทางตลบหลัง แต่กฤษณ์…”
น้ำเสียงภควัตไม่พอใจมาก
“กฤษณ์ล้ำเส้น ผมเห็นตอนคุณถูกยิง...”
เสียงภควัตขาดหายไปดื้อๆ ด้วยความสะเทือนใจ
“อัญมา ผมทนไม่ได้ ถ้าต้องเห็นคุณเป็นอันตราย เลิกเถอะนะครับ เลิกทำงานนี้ ผมขอร้อง”
ภควัตกุมมืออัญมาไว้ อัญมามองภควัต
“ผมไม่อยากเห็นคุณอยู่ใกล้อธิคมอีก”
อัญมามองหน้าภควัตนิ่ง ตาสบตากัน

เช้าเดียวกันนี้ อธิคมนั่งใช้ความคิดหนักอยู่ในตึกใหญ่
“ไอ้วัต เซียนพระมันเป็นใครกันแน่”
“แกคิดว่ามันเป็นตำรวจ”
อธิคมย้อนนึกตอนที่ถูกภควัตจับครั้งแรก แต่เห็นหน้าภควัตไม่ชัดนัก เพราะภควัตใส่แว่นดำ และอีกครั้งตอนเหตุการณ์ชุลมุนที่ตำรวจหลายคนรุมเข้ามา และสุดท้ายตอนอธิคมชกมวยกับภควัต
“พ่อ... บอกคนของเสี่ยใหญ่ช่วยเช็คให้ที”
วินิจฉงน “เรื่องอะไร”
“ตำรวจที่มันเคยจับผมเข้าคุก มันชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
อธิคมแววตาสังหรณ์ใจเรื่องภควัต

สองคนอยู่ในบ้านอุบล ภควัตกุมมืออัญมาไว้ ขยับมาใกล้
“คุณเสี่ยงเพื่องานมากเกินไป”
“ผู้กอง ฉันไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอก แล้วตอนนี้อธิคมก็ไว้ใจฉันแล้ว”
“คราวหน้า ถ้ามันไม่ใช่แค่นี้ ถ้าคุณต้องอยู่ท่ามกลางกระสุนที่เล็งไปที่หาอธิคมอีก...”
ภควัตมองอัญมาใกล้ๆ
“อัญมา ถ้าคุณเป็นอะไร... ผมจะอยู่ได้ยังไง”

ภควัตมองสบตาอัญมาใกล้ชิด แลเห็นแววตาห่วงใยของทั้งสองคนที่กำลังสื่อถึงกัน นับวันยิ่งมากขึ้นเป็นทวี

ที่ค่ายมวย ส.วินิจ อธิคมกำลังซ้อมมวยกับเก้า อธิคมคิดถึงหน้าภควัต แล้วไม่พอใจ เหวี่ยงหมัดออกไป หมัดอธิคมซัดเข้าเต็มหน้าเก้า เก้าถึงกับหงายลงไปกองกับพื้น

อธิคมมองไปรอบๆ นักมวยพากันหลบ ไม่กล้าเป็นคู่ซ้อมให้ นักมวย 2 คน ขึ้นไปช่วยกันหิ้วปีกเก้าออกไป

ส่วนที่บ้านอุบลภ ควัตมองอัญมาด้วยสายตาห่วงใย
“ผมพูดจริงๆนะ อัญมา ถ้าไม่มีคุณผมจะอยู่ยังไง”
อัญมารู้สึกวาบหวิวในใจ ถามกลับไป
“ผู้กองหมายความว่า... ผู้กอง...รู้สึกกับฉัน...”
อัญมามองจ้องอยากรู้ ภควัตได้สติ ตอบเลี่ยง ไม่ยอมเผยความในใจ
“ผมหมายถึง... คือ...ผมต้องมีคุณช่วยงานนี้...ผมเป็นห่วง...ผม...”
อัญมาฟังแล้ว หน้าเชิด ทั้งน้อยใจและรู้สึกผิดหวังที่ภควัตคิดแต่เรื่องงาน ตอบกลับแบบไม่ใส่ใจเหมือนกัน
“อ๋อ ฉันก็ไม่ได้หมายถึงเรื่องอื่นหรอกนะ ฉันรู้ว่าฉันกับผู้กอง เราก็ห่วงเรื่องงานเหมือนๆ กัน”
อัญมาลุกขึ้น เดินออกห่าง หันหลังให้ ปิดบังสายตาน้อยใจ
ภควัตเก้อๆ ขยับมามอง “ผมกลัวว่าอธิคมมันจะไม่ปล่อยคุณ”
“ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไม่พลาดให้ถูกจับได้” อัญมาหันมามองภควัต “ฉันก็ต้องรักษาชีวิตฉันเหมือนกัน”
“ผมไม่รู้จริงๆ ถ้าคุณเป็นอะไรมากกว่านี้ ผมจะทำยังไง”
ภควัตหน้าตากังวล ร้อนรนใจ จนอัญมาถามขึ้นเสียงอ่อนโยน
“ผู้กอง...คุณจะเสียใจมั้ย ถ้าวันนึงฉันหายไปจากโลกนี้”
อัญมาถามขึ้น มองภควัตด้วยแววตามีความหมายลึกซึ้ง ภควัตมองตอบด้วยสายตาจริงจัง
“ผมจะเสียใจที่สุด ถ้าโลกนี้ไม่มีคุณ”
“ผู้กอง”
“ผมพูดจริงๆ อัญมา”
“ฉันหมายถึงว่า ถ้าฉันหายไปจากโลกนี้ โลกคู่ขนาน แล้วเราจะต้องเจอกันอีกที แต่ในฐานะอื่น ฉันเป็นคุณหนูที่คุณไม่เคยรู้จักฉัน”
ภควัตขยับเข้ามาใกล้มองหน้าอัญมา
“ผมไม่สนใจเรื่องโลกคู่ขนาน ผมรู้แต่ว่า ที่ไหนที่ไม่มีคุณ ผมจะเสียใจที่สุด”
อัญมาสบสายตากับภควัต รู้สึกเขิน จนต้องหลบตา
ภควัตเองก็รู้สึกประหลาดในใจที่กล้าพูดออกไป สองคนมองกันแล้วอมยิ้ม รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น

ฝ่ายอธิคมนั่งพัก ดื่มน้ำ โดยด้านหลัง เก้ามีนักมวยช่วยกันประคบที่หน้า อธิคมคิดทบทวนตอนที่ถูกจับครั้งแรก

วันนั้นเหตุการณ์ชุลมุนไปหมด อธิคมเอารถบัง กำลังยิงปืนสู้กับตำรวจท้องที่ในเครื่องแบบ อีกด้าน ภควัตใส่แว่นดำ พร้อมตำรวจ ปปส. นอกเครื่องแบบทั้งหมด กำลังโอบมาทางด้านหลังอธิคมและพวก อธิคมมองศพลูกน้องที่โดนยิงตายข้างรถไปแล้ว 1 อีก 1 กำลังยิงยันตำรวจ อธิคมเห็นกระสุนจากตำรวจในเครื่องแบบสาดมาก็เตรียมถอย
ภควัตมองเห็นด้านหลังอธิคมกำลังจะหนี ก็เล็งปืนยิงสกัด อธิคมหันไปเห็นนอกเครื่องแบบทั้งหมดกำลังกรูเข้ามา อธิคมยิงสู้ จะหลบออก ภควัตเล็งระยะไกลไปที่อธิคม
แววตาภควัตเล็งมองเป้าด้วยความแม่น แล้วเหนี่ยวไก กระสุนภควัตแล่นเข้าเจาะขาอธิคม ร่างอธิคมทรุดล้มลง
ตำรวจกรูกันเข้าไปชาร์จ อธิคมเงยขึ้นมอง เห็นใบหน้าตำรวจที่กรูเข้ามา ด้านหลังสุดคือภควัต
อธิคมพยายามมองจ้อง แต่ก็ถูกชาร์จตัวล็อคดันหน้าติดรถ
ภควัตเข้าไปใส่กุญแจมืออธิคม อธิคมจะเอี้ยวหน้ามอง ภควัตก็ถอยหลังออกไปห่าง ลูกน้องภควัตเข้ามา อธิคมถูกตำรวจ 3 คน ลากตัวไปที่รถ
อธิคมพยายามหันกลับไปมองภควัต แต่ก็ถูกตำรวจกดหัว ให้ก้มหน้าเดินไปขึ้นรถตำรวจ
ภควัตถอยออกมามองเห็นการจับกุมอธิคมเรียบร้อยก็ยิ้มด้วยสายตาพอใจ

ทางด้านภควัตเดินเข้ามาหาผู้การจักรภพที่รออยู่แล้วบนดาดฟ้า
“พวกนายวินิจมันเริ่มตรวจสอบประวัติคุณ อย่างที่คุณคิดแล้วนะ”
“มันเคลื่อนไหวยังไงครับ”
“แฟ้มประวัติของคุณถูกเข้ารหัส ดึงข้อมูลออกมาดู”
“เราตามได้มั้ยครับว่ามาจากคอมพิวเตอร์ของใคร”
“ยากมาก มันระวังเต็มที่ แต่ผมให้ลูกน้องที่ไว้ใจได้ตามแกะรอยไปที่เซิร์ฟเวอร์”
“เราจะได้รู้ว่าใครเป็นสายของวินิจที่อยู่ในหน่วยของตำรวจ”
ภควัตมองจักรภพแล้วถามต่อ
“แล้วอธิคมได้ประวัติใหม่ของผมไปยังไงครับ”

เวลาเดียวกัน อธิคมมองวินิจที่กำลังเล่า
“ไอ้ตำรวจที่เป็นหัวหน้าชุดจับแก มันชื่อ ภควัต”
“ภควัต... ตอนนี้มันอยู่หน่วยไหน”
“ตายไปแล้ว เมื่อปีก่อน ตอนแกอยู่ในคุก”
อธิคมอุทาน “ตาย”
“อาสาลงไปทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดน ชุดคุ้มครองครู แล้วก็ถูกระเบิด”
“ผมอยากเห็นหน้ามัน”
“คนของฉันก็พยายามหารูปมาให้”
วินิจโยนรูปให้ อธิคมหยิบเอกสารประวัติ ภควัต ที่พริ้นท์จากคอมพ์
ในนั้นเห็นมีภาพภควัตในประวัติ เป็นรูปถ่ายหน้าตรง ในชุดตำรวจ ใบหน้าคล้ายภควัตตัวจริง
แต่เป็นภาพคนอื่นที่หน้าตาใกล้เคียงกัน
“จำหน้ามันได้หรือเปล่า ใช่คนที่แกสงสัยมั้ย”
อธิคมมองแล้วมองอีก “ใช่... มันนี่แหละที่จับผม ถึงจะเห็นหน้ามันไม่ถนัด แต่ผมแน่ใจเสียดายมันน่าจะตายด้วยมือผม”

อธิคมมองเอกสาร เชื่อสนิทใจว่าภควัตตายไปแล้ว

ภควัตมองเจ้านายแล้วถามต่อ

“แล้วผู้การทำยังไงกับประวัติผมตอนนี้ล่ะครับ”
“ไม่มีประวัติของคุณที่มาช่วยงานในหน่วยเรา ตอนนี้เท่ากับคุณไม่มีตัวตน จบภารกิจนี้ จับนายวินิจกับอธิคมได้เมื่อไหร่ คุณจะได้ประวัติเก่ากลับคืนมา”
จักรภพมองภควัตอย่างเชื่อมั่น
“ผมว่าถึงตอนนั้น คุณก็คงได้เปลี่ยนยศใหม่ด้วย”
“ถ้าผมตายในภารกิจนี้ ผมมีเรื่องขอร้องผู้การอย่างนึงนะครับ”
“ว่ามา”
“พาอัญมากับป้าอุบลแม่ของเธอ ออกไปจากชุมชน และช่วยคุ้มครองเธอด้วยนะครับผู้การ”
จักรภพมองภควัตนิ่ง “คุณห่วงสายคนนี้มากนะ”
“อัญมาตั้งใจมากที่จะไม่ให้มีการขายยาเสพติดในชุมชนของเค้า เค้ายอมเสี่ยงเสียสละเพื่อคนส่วนรวม...ผมไม่อยากให้อัญมากับแม่ต้องจบชีวิตเพราะการตามล้างแค้นของพวกค้ายา...เหมือนที่ครอบครัวผมเจอ”
จักรภพเสริม “เพราะฉะนั้นทางเดียวที่คุณจะปกป้องอัญมา คือคุณต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ ภควัต อย่าให้คนที่นับถือคุณทุกๆคนต้องผิดหวัง นี่คือคำสั่ง ผมไม่อนุญาตให้คุณตายก่อนภารกิจนี้เสร็จสิ้น”
ผู้การจักรภพยิ้มให้กำลังใจลูกน้อง ตบไหล่แล้วเดินออกไป ภควัตมองตามด้วยสายตามีกำลังใจ
เย็นนี้อัญมากำลังจะเอื้อมตักข้าว แต่เจ็บแผลที่ไหล่ขวา อุบลเข้ามาแตะลูก หยิบจานข้าวขึ้น
“ไหล่แกยังเจ็บเหรอ มา แม่ป้อนให้เอง”
อัญมามอง อุบลตักข้าวป้อนให้ อัญมากินข้าว อุบลยิ้มมีความสุข
“กินเยอะๆ แกน่ะผอมมากไปแล้วนะ ไอ้อัญ”
“แม่ไม่ไปขายของเหรอ”
“ไม่เป็นไร หยุดสักวัน”
“แม่ต้องมาคอยดูแลฉัน”
“ไม่ดูแลกันตอนเจ็บป่วย แล้วจะไปดูแลตอนไหน”
อุบลป้อนข้าวลูก อัญมามองด้วยความซาบซึ้ง
“อัญ แกแน่ใจแล้วเหรอว่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้อธิคม”
“ฉันบอกแม่คนเดียว แม่จะได้สบายใจแต่แม่ต้องเก็บเป็นความลับที่สุดนะ”
อัญมากระเถิบเข้าใกล้ มองสายขวาให้แน่ใจก่อนกระซิบข้างหูนางอุบล
“ฉันเป็นสายให้ตำรวจ”
อุบลตกใจ อุทานเสียงดัง
“หา...ว่าไงนะไอ้อัญ แกเป็น...”
อัญมารีบเอามือปิดปากนางอุบล
“ชู่...เบาๆ ซิแม่ เดี๋ยวก็ตายกันหมดหรอก”
อุบลทวนคำเบาๆ “สายตำรวจเหรอ”
อัญมาพยักหน้า
อธิคมเดินเข้ามา สองแม่ลูกตกใจ หันไปมอง ไม่แน่ใจว่าอธิคมได้ยินหรือเปล่า อธิคมถือกระเช้าของเยี่ยม ตรงมาที่สองแม่ลูก
“ค่อยยังชั่วหรือยัง อัญ”
อุบลมองท่าทีอึดอัด อธิคมนั่งลงหน้าอัญมา
“เจ็บแผลอยู่หรือเปล่า”
“ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วจ้ะ พี่คม”
อธิคมมองไปที่อุบลเขม็ง อุบลเสียวแววตานิ่งๆ ของเขา อธิคมดึงจานข้าวในมืออุบลมา
“ฉันป้อนให้เอง”
อัญมาเกรงใจ “ไม่ๆ ไม่เป็นไรพี่คม”
อธิคมไม่สนตักข้าวมาจ่อถึงปาก อุบลมองอึ้ง อัญมามองอธิคม อธิคมยิ้ม
“ให้ฉันดูแลเธอบ้าง”
อัญมาจำยอมให้อธิคมป้อนข้าว อุบลมอง อึดอัดอยู่อย่างนั้น
“ที่จริง พวกเราดูกันเองได้”
อธิคมหันมาทางอุบลพูดดีๆ ด้วย “ฉันขอโทษที่ทำให้อัญเดือดร้อนไปด้วย แต่มันจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่ใช่คนน่ากลัวอะไร”
อธิคมมองอุบลด้วยแววตาให้ความจริงใจ แต่อุบลก็ยังกลัว
“พ่อกับฉันก็ทำมาหากินสุจริตเหมือนคนทั่วๆไป เรามีค่ายมวย อะไรที่คนเค้าพูดกัน ลือกันเสียๆหายๆ เราก็ไม่อยากไปนั่งแก้ข่าว”
“คุณจะบอกว่า คุณไม่เกี่ยวเรื่องขายยาที่ชุมชนนี้” อุบลคันปาก ทนไม่ไหว
“แม่”
อัญมาตกใจกลัวอธิคมจะโกรธที่อุบลถามตรง แต่อธิคมยิ้มใจเย็น
“ฉันไม่ได้ทำ พ่อฉันก็ไม่ได้ทำ เราถูกใส่ร้าย”
“จ้ะ...จ้ะ ถูกใส่ร้ายก็ถูกใส่ร้าย”
อุบลตอบรับอย่างกลัวๆ ความนิ่งและอิทธิพลของเสี่ยวินิจ
อธิคมหันไปป้อนข้าวอัญมาต่อ อัญมากินอย่างว่าง่าย อุบลมองไม่สบายใจ

ต่อมาอัญมาใส่ผ้าคล้องแขนขวาเดินมากับอธิคม
“พี่คมโกรธแม่ฉันหรือเปล่า”
“ที่ถามว่าฉันขายยาน่ะเหรอ”
อัญมามอง อธิคมยิ้ม
“มีแม่คนไหนไม่ห่วงลูกบ้าง”
“ค่อยยังชั่ว” อัญมาโล่ง
“ทำไม กลัวฉันจะฆ่าแม่เธอเหรอ”
“พี่คม ฉันขออะไรอย่างนึงนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่อย่าทำอะไร แม่ฉัน ไอ้จิ๊บ ไอ้นวย”
“ทำไมไม่ห่วงตัวเองบ้างล่ะ อัญ”
อัญมานิ่งคิด ทอดสายตามองไปไกล นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ตัวเองตกน้ำจนมาโผล่ยังโลกคู่ขนาน
“ยังไงฉันก็มีที่ไป แต่คนที่ฉันห่วง แม่ กับเพื่อนฉัน...เค้าต้องอยู่ที่นี่ เค้าเป็นคนของโลกนี้”
อธิคมฉงน “เธอพูดเรื่องอะไร”
“เอาเถอะ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อฉัน สัญญากับฉันสิ พี่คม สัญญากับฉันว่า แม่ฉัน ไอ้จิ๊บ ไอ้นวยจะปลอดภัย”
อธิคมมองอัญมาที่แววตาจริงจัง
“ฉันสัญญา ฉันจะคุ้มครองแม่เธอ ไอ้จิ๊บ ไอ้นวยตามที่เธอขอ”
“ขอบคุณนะพี่คม ฉันเชื่อว่าพี่จะรักษาสัญญาลูกผู้ชาย”

อัญมายิ้มให้อธิคมด้วยความดีใจ

อ่านต่อหน้า 3

คีตโลกา ตอนที่ 6 (ต่อ)

ในตอนเย็นๆ อุบลกำลังซื้อของใช้อยู่ในตลาดชุมชน สมใจซื้ออยู่ร้านข้างๆ พอเห็นอุบลก็แถมาพูดจาแดกดันเรื่องอัญมา

“แหม...อยากเป็นแม่ยายลูกเจ้าพ่อจังเว้ย คงจะได้นั่งกินนอนกิน วันๆ นอนนับแบงค์จนมือเปื่อย”
อุบลไมพอใจเหลียวไปมอง สมใจลอยหน้า เจ๊ว่านเดินมาสมทบจากด้านหลัง ถามขึ้น
“บ่นอะไรน่ะ อีสมใจ”
“ก้ออิจฉาคนแถวนี้ ว่าที่แม่ยายลูกชายเจ้าพ่อ มีลูกสาวมันดีอย่างงี้นี่เอง ทำเป็นส่งไปติดยา แต่ที่จริงก็เป็นทางลัดไว้จับผู้ชาย”
อุบลโกรธจัด “อีสมใจ ถ้าแกหมายถึงชั้น ก็ออกชื่อมาเลย จะได้ตบถูกคน”
เจ๊ว่านผสมโรง “จริงอย่างที่นังสมใจมันพูดเหรอ อุบล แกส่งลูกสาวไปให้เป็นเมียลูกชายพี่บัง หน็อย... แผนสูงเชียวนะยะ”
อุบลยัวะ “นี่ ปากแก หัวคิดแกสองคนเนี่ยะ ไม่ทราบว่าขุดขึ้นมาจากส้วมกอทอทมอหรือไง มันถึงเน่าเหม็น แมงวันหึ่งขนาดนี้”
“ว่าได้เหรอ ปากเน่าก็ยังไม่เท่าแม่เน่าๆ เอาลูกสาวไปขาย”
สมใจกรีดเสียงหัวเราะ ชาวบ้านพากันมองอุบล เจ๊ว่านได้ทีกระหน่ำคู่กัด
“เอ้า แม่ตัวอย่าง แม่ดีเด่นประจำชุมชนนะจ๊ะ ขายส้มตำไม่รวยก็ต้องให้ลูกสาวขาย...สังขาร ฮ่าฮ่า ทีหลังอย่ามาด่าข้านะ นังอุบล เพราะลูกแกมันก้อเต้าไต่เหมือนข้า”
อุบลแว้ดใส่ “ลูกข้าไม่ได้ขายตัวเหมือนแก อีเจ๊ว่าน ไอ้อัญมันกำลังจะเลิกยา”
“อมพระประธานสิบวัดมาพูด ชั้นก็ไม่เชื่อ” เจ๊ว่านหันไปทางชาวบ้านหาแนวร่วม “ไหนใครเชื่อมั่งว่าไอ้อัญจะเลิกยาได้ นัวกับลูกพี่บังขนาดนั้น กลัวจะท้องไม่มีพ่อมากกว่า”
อุบลโกรธจัด พุ่งไปตบเจ๊ว่าน สมใจช่วยกระชากตัวอุบลให้ เจ๊ว่านตบกลับ ชาวบ้านเฮ
จ่าเดชเดินตรวจมาจากด้านหลัง มองเห็นชาวบ้านกำลังมุง ก็แหวกคนเข้ามาดู
“น้องว่าน...เฮ้ย แยกๆ แยกก่อน”
จ่าเดชกระชากสมใจออกก่อน เจ๊ว่านเหวี่ยงหมัดจะตบอุบล แต่โดนจ่าเดชเข้าอย่างแรง จ่าเดชหน้าเบี้ยว อุบลตบกลับเจ๊ว่านฉาดใหญ่
เจ๊ว่านเซถลา อุบลไม่ยอมหยุดถีบเจ๊ว่านซ้ำ เจ๊ว่านหงายเงิบ จ่าเดชเห็นก็รีบพุ่งไปรับร่างเจ๊ว่านไว้ เจ๊ว่านล้มลงจมูกชนกับจ่าเดช
จ่าเดชตาวิบวับ กอดเจ๊ว่าน สีหน้าเคลิ้มคล้อย เจ๊ว่านตบผัวะ จ่าเดชถึงกับชัก จากนั้นเจ๊ว่านหันมาแต่เจออุบลคว้ามีดจากแผงแม่ค้าใกล้ๆ มาถือจังก้า
“เอ็งเข้ามาเลย อีว่าน ข้าจะเลาะปาก เลาะหนังหน้า ให้เอ็งใหม่ ไม่ต้องไปหาหรอก หมอเกาหลี มา เข้ามา ข้าจะเลาะให้ถึงกระดูกเหมือนไก่เลย”
เจ๊ว่านชักกลัว อุบลแกว่งมีดไปทางสมใจอย่างเอาเรื่อง สมใจผลักเจ๊ว่านเข้าหา แล้วตัวเองถอยหลังหลบ
จ่าเดชบอก “วางมีดลงก่อนนะ ป้า”
“จำไว้เลยนะ ใครปากหมาด่าไอ้อัญ ลูกข้าอีก ข้าสับไม่เลี้ยง”
อุบลเหวี่ยงมีดมา สมใจกรี๊ด วิ่งหนีคนแรก เจ๊ว่านถอยหลบเอาจ่าเดชขึ้นบัง อุบลจ้องหน้าทุกคนเอาเป็นเอาตายด้วยความรักลูก

ฟากอัญมานั่งกอดเข่ามองไปด้านนอกบ้าน จิ๊บเพิ่งกลับจากทำงานที่ร้านสะดวกซื้อ ดูดกาแฟเย็นแล้วเดินมาใกล้ อัญมาถามขึ้นว่า
“จิ๊บ แกมีแฟนมั้ย”
จิ๊บงง “ถามทำไม นี่แกลืมเรื่องฉันได้ไงวะ”
“เออน่า ตกน้ำไป ความจำเสื่อม ก็มีลืมๆ กันมั่ง ว่าไง มีมั้ย”
“มี”
“ไหนล่ะ ไม่เห็นพามาเลย”
จิ๊บหัวเราะคิก “ก็นั่นไง ถ้ามีก็ต้องเห็นแล้ว ถามทำไม เลือกไม่ถูกเหรอว่าจะคบใคร ไอ้วัตเซียนพระ หรือ ไอ้อธิคม”
“บ้า... ฉันแค่อยากรู้ ผู้ชายทำไมปากแข็ง”
จิ๊บหูผึ่ง “ผู้ชายปากแข็ง...ใคร ไอ้อธิคมเหรอ”
อัญมาลืมตัวตอบทันที “ไม่ใช่”
“งั้นก้อไอ้วัตเซียนพระ”
“พอละ...พอละ แกน่ะ เดามั่ว”
“ไม่มั่วหรอก ไอ้วัตแหงๆ มันปากแข็งตรงไหน ฉันเห็นมันหวานเจี๊ยบชวนอ๊วกกับแกจะตาย หรือว่าแกก็รู้ว่ามันแกล้ง มันจะหลอกฟันแกใช่มั้ย ฉันว่าแล้วไอ้นี่มันแปลกๆ”
“พอ ไอ้จิ๊บ อย่าเดา ฉันถามคำเดียว มโนไปถึงทางช้างเผือกแล้ว”
“ถ้าให้ฉันเลือกนะ ไอ้วัตเซียนพระบ้าๆบอๆ ก็ยังดีกว่า อธิคม ลูกพี่บัง แกเชื่อฉันสักครั้งนะ อัญ อยู่ห่างๆ ไอ้อธิคมซะ”
“ถ้าฉันเปลี่ยนพี่คมได้ล่ะ”
“นิสัยชั่วแต่กำเนิดขนาดนั้น เปลี่ยนไม่ได้หรอก”
“ฉันว่าพี่คมเค้าก็มีมุมอยากเป็นคนดีนะ”
จิ๊บลอยหน้าใส่ “เหรอ ดีตายล่ะ ทั้งค้ายา บ้าผู้หญิง ไล่เตะ ไล่กระทืบคน ดีของแกแบบนี้ ไอ้วัตเซียนพระกลายเป็นเทพบุตรไปเลย”
ว่าพลางจิ๊บส่ายหน้าหันไปหยิบรีโมทดูข่าวเจ็ดสี อัญมาอึดอัด ลุกขึ้น
“เดี๋ยวฉันมา”
“จะไปไหน”
อัญมาวิ่งออกไปทางหน้าบ้านบอกโดยไม่หันมาว่า “ไปหาแฟน”
“คนไหน”

จิ๊บตะโกนถามล้อๆ ไล่หลังเพื่อนไป

วัตเซียนพระตาคม กำลังจะเข้าห้อง แต่เห็นประตูปิดไม่สนิท ภควัตระวังตัว ค่อยๆ เอามือแง้มประตู เข้ามาในห้อง ภควัตมองหา ไม่เห็นใคร

แอนนี่หลบเงียบอยู่ที่หลังประตู พอเห็นภควัตเข้ามาก็กระโดดเข้ากอดโดยไม่ให้ตั้งตัว ภควัตตกใจ ถอยหลังเซ แอนนี่รีบกระโดดกอด
“แอนนี่ แอนนี่ปล่อยผมก่อน”
แอนนี่ไม่ยอมปล่อย แถมขึ้นคร่อมบนร่างภควัต
“ไม่ปล่อย แอนนี่มารอตั้งนาน พี่วัตหายไปไหนมา”
“ผมก็ไปทำงานน่ะสิ”
แอนนี่เอามือลูบไล้อกภควัต
“รู้มั้ย แอนนี่คิดถึงพี่วัตจะแย่”
แอนนี่ก้มลงไปซุกไซ้อก ภควัตพยายามดันแต่แอนนี่ไม่ปล่อย พยายามเลื้อยบนอกภควัต
“พี่วัตจ๋า... พี่วัตกลัวผีมั้ย คืนนี้แอนนี่นอนเป็นเพื่อนนะ”
“จะบ้าเหรอ แอนนี่ พี่เป็นเซียนพระ พระเต็มห้อง จะกลัวผีได้ยังไง พี่กลัวแอนนี่มากกว่า”
แอนนี่หัวเราะคิก “ไม่ต้องกลัว คืนนี้รับรองแอนนี่จะอยู่เป็นเพื่อนใจพี่วัต จนลืมนังอัญไปเลย”
แอนนี่ก้มลงฟัดภควัตอย่างเอาเป็นเอาตาย ภควัตเบี่ยงหน้าหลบ แอนนี่ไม่ยอม ซุกลงไปที่หน้าภควัต เห็นหัวแอนนี่ที่ไซร้อยู่ตรงหนวดเคราทั่วคาง ภควัตผลักหน้าแอนนี่
“ไป แอนนี่...ออกไป”
“โอ๊ย ผมๆ...ผมแอนนี่”
แอนนี่รู้สึกเจ็บเพราะผมไปติดเคราภควัต แอนนี่กระชากผมออกแรง พอหลุดออกมาได้ก็มอง เห็นหนวดภควัตที่เบี้ยว
“พี่วัต...หนวดพี่ ทำไมมันเบี้ยว”
ภควัตรีบปิดหนวด แอนนี่มองจ้อง พยายามจะดึงมือภควัตออก
“ไหนให้แอนนี่ดูสิ”
ภควัตไม่ยอมปล่อยมือ แอนนี่ดึง
“ไอ้พี่วัต” น้ำเสียงเอาเรื่องของอัญมาดังขึ้น
ภควัต กะ แอนนี่สะดุ้งหันไปมอง อัญมายืนมองอยู่หน้าประตู ภควัตหน้าเสีย แอนนี่มองหมั่นไส้ ทำเป็นล้มตัวลงไปนอนในอกภควัต
อัญมาด่า “ทุเรศที่สุด”
“ทุเรศอะไร คนเค้ารักกัน แกน่ะสิ หน้าไม่อาย มาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม”
ภควัตไม่สนลุกพรวด ทำเอาแอนนี่ล้มกลิ้งไปกับพื้น ภควัตวิ่งมาทางอัญมาให้ช่วย กระซิบบอก
“หนวดผม”
ภควัตแอบเปิดหนวดให้อัญมาเห็นว่าเบี้ยว อัญมามองตกใจ แอนนี่ลุกได้ก็ตามมาจะดึงภควัต อัญมารีบเข้าไปขวาง ภคควัตหันหลัง พยายามจับหนวดให้เข้าที่
“แกกล้ามาให้ท่าแฟนฉันถึงในนี้เลยเหรอ แอนนี่ วันนี้ถ้าหน้าไม่บวมกลับไป อย่ามาเรียกไอ้อัญ”
“เอาสิ อยากตบพวกหวงแฟนเหมือนกัน คันมือเหลือเกินแล้ว”
แอนนี่ลอยหน้าลอยตา อัญมาหมั่นไส้จับหัวแอนนี่แล้วลากผลักออกไปที่ประตู แอนนี่เจ็บร้องกรี๊ดๆ
“อร๊าย...พี่วัต พี่วัต ช่วยด้วย”
ภควัตไม่สนใจแอนนี่ พยายามจับหนวดให้เข้าที่ แอนนี่สะบัดหลุดจากอัญมาได้ ภควัตหันมา สองสาวตกใจ เพราะเห็นหนวดภควัตที่เบี้ยวหนักกว่าเดิม อัญมาเห็นท่าไม่ดี ผลักแอนนี่ออกไปนอกห้อง แล้วปิดประตูใส่หน้า ไล่ตะเพิด
“ไป แฟนใคร ใครก็หวงโว๊ย”
อัญมาหันกลับมามอง ภควัตมองอัญมา ยังไม่รู้ตัว กระซิบถาม
“หนวดผมโอเคมั้ย”
“โอเคว่ามันปลอมมากเลย”
อัญมาหมั่นเขี้ยว เดินไปใกล้แล้วกระชากหนวดเต็มแรง ภควัตร้องลั่นห้อง

ค่ำมากแล้ว ขณะที่แอนนี่กลับมาถึงร้านเจ๊ว่าน ด้วยหน้าตาสงสัย โวยขึ้นต่อหน้าเจ๊ว่าน
“แอนนี่เห็นจริงๆนะ คุณแม่ หนวดพี่วัตน่ะ มันเบี้ยวเห็นๆ เลย”
“จะบ้าเหรอ แกหน้ามืดจนมองผิดมองถูกหรือเปล่า”
“ไม่อ่ะ แอนนี่เห็นหนวดพี่วัตเบี้ยวจริงๆ” แอนนี่ยืนกราน
จังหวะนี้ จ่าเดชแต่งตัวหล่อ เดินฉีดน้ำหอมมา กำลังมาหาเจ๊ว่าน ได้ยินก็หูผึ่ง หลบฟัง
“ตายแล้ว ผู้กอง”
เจ๊ว่านบอกลูกเล่าว่า “หรือว่าไอ้วัต มันจะติดหนวดติดเคราปลอม”
จ่าเดชทำท่าสยองที่เจ๊ว่านสงสัย
“จะติดทำไมล่ะค่ะคุณแม่ เป็นแฟนไอ้อัญต้องปลอมตัวด้วยเหรอคะ”
เจ๊ว่านคิดบางอย่างออก “เดี๋ยวๆ ฉันชักสงสัย ระยะหลัง ได้ยินพวกไอ้ป๊อบไอ้เมษที่มันมาร้าน มันพูดกันว่าพี่บังแกถูกจับ ถูกค้นบ่อย มันจะเกี่ยวกับที่มีไอ้วัตแปลกหน้าเข้ามาหรือเปล่าวะ”
จ่าเดชฟังอยู่ข้างนอก เริ่มเครียด
“นี่ถ้าไม่เป็นมาม่าซัง สงสัยจะเป็นเอฟบีไอปลอมตัวมา”
แอนนี่ไม่อยากเชื่อ “ไม่หรอกมั้ง คุณแม่คิดมากหรือเปล่า”
“คิดมากดีกว่าคิดน้อยอย่างแก เอางี้ แอนนี่ พรุ่งนี้แกลองไปสืบให้ได้เรื่องจากไอ้วัตอีกที ถ้าเกิดมันเป็นหนวดปลอม เราต้องบอก เรื่องนี้กับพี่บัง”
“ไม่นะ คุณแม่ แอนนี่ไม่อยากให้พี่วัตโดนซ้อม”
เจ๊ว่านด่าให้ “แกจะยอมตายแทนมันหรือไง ถ้าพี่บังรู้ เราจะได้หน้า ได้เงิน ทีนี้แกจะเอาไปซื้อผัวหล่อๆ อีกกี่คนก็ได้”
แอนนี่หน้างอ ขัดใจ เจ๊ว่านสั่ง
“ไปจับให้ได้ ว่าไอ้วัตมันปิดบังอะไรพวกเราอยู่”
จ่าเดชตัดสินใจค่อยๆหลบออกไป แต่ดันไปเตะเข้ากับถังขยะหน้าร้าน เจ๊ว่านกับแอนนี่ได้ยินก็วิ่งออกมา จ่าเดชหลบวูบหลังพุ่มไม้แล้งร้อง เมี้ยวเมี้ยว
“แมวบ้าอะไร อย่าให้เจอนะ แม่จะตีให้ขาหัก”

จ่าเดชทำหน้าสยอง พอเจ๊ว่าน กับแอนนี่กลับเข้าร้านไป จ่าเดชรีบวิ่งหลบออกไปเร็วสุดชีวิต

ภควัตนั่งหน้าหนวดเคราที่ถอดออก อัญมามองกลุ้มใจ

“ยังไงล่ะทีนี้ แอนนี่ปากลำโพงป่าช้าแตกอยู่ด้วย”
“ก็ไม่ยังไง ผมก็ยืนยันว่าของจริง แอนนี่ตาฝาด”
อัญมาโมโห “เรื่องมันคงไม่ยุ่งหรอก ถ้าผู้กองไม่หน้ามืด”
ภควัตโต้ “ผมโดนปล้ำนะ อัญมา”
อัญมาไม่เชื่อ “เห็นฉันสามขวบเหรอ จะโกหกยังไงก็ได้เหรอ มีที่ไหน ผู้ชายโดนปล้ำ”
ภควัตย้ำ “ก็ผมนี่ไง ผมโดนแอนนี่ลวนลามขืนใจ”
อัญมาเบ้ปาก ภควัตเข้ามาถามใกล้ๆ มองเหล่
“หึงหรือเปล่า”
อัญมาปากแข็ง “หึง! พูดผิดพูดใหม่มั้ย ฉันเนี่ยนะจะหึงผู้กองกับแอนนี่”
“ก็ไม่แน่นี่ ถ้าไม่หึง จะมาหาทำไมดึกๆดื่นๆ”
“นี่...ฉันจะมาถามเรื่องอธิคม ว่าผู้กองจะหาทางจับเค้าอีกเมื่อไหร่ ถ้ารู้ว่าจะมาเจอฉากอุบาทว์ อุจาดของผู้กองกับแอนนี่ ฉันไม่โผล่มาให้เปลืองสายตาฉันหรอก”
อัญมายัวะสะบัดหันหลังจะออก ภควัตพุ่งเข้าดึงแขนขวาหมับ อัญมาเจ็บแขนข้างที่โดนยิงไหล่ร้องโอ๊ย ภควัตตกใจ ประคองอัญมาไว้ทันที
ภควัตอัญมา ผมขอโทษ
- เห็นภควัตกับอัญมามองสบตากันในระยะใกล้
“เจ็บมากหรือเปล่า”
“ไม่ ไม่เจ็บ...ปล่อยฉันเถอะ”
“แน่เหรอ นี่ถ้าเป็นอธิคมถาม คงบอกว่าเจ็บมาก” ภควัตแขวะอีก
อัญมาจะผลักแต่ภควัตไม่ปล่อย
“ผมไม่ปล่อย”
“รังแกคนป่วย”
“ใช่...ถ้าไม่ป่วย คุณก็หนีผมอีก”
ภควัต และอัญมาจ้องกันในระยะประชิด จู่ๆ จ่าเดชเปิดประตูพรวดเข้ามา มองภาพอัญมาอยู่ในอ้อมกอดภควัต
“อุ่ย ผมกลับก่อนดีกว่า ท่าทางกำลังคุยเครียด”
อัญมารีบกระเด้งตัวออก ภควัตทำดุข่มความเขิน
“ปิดประตูเร็วจ่า เดี๋ยวคนอื่นเห็น”
จ่าเดชรีบปิดประตูแล้ว พูดขึ้น
“ผมไม่ได้มาขัดจังหวะอะไรนะ”
“ฉันกำลังจะกลับ”
จ่าเดชบอก “อย่าเพิ่งกลับ ผมมีเรื่องสำคัญมาก”
“พวกนายวินิจเคลื่อนไหวเหรอ” ภควัตซัก
“ไม่ใช่ครับ... อันนี้สำคัญกว่านั้น แอนนี่กับเจ๊ว่านกำลังวางแผนจะกระชากหนวดผู้กอง”
ภควัตกับอัญมาหันมองหน้ากันด้วยสายตาหวั่นใจทันที

ค่ำคืนเดียวกันนี้ สารวัตรกฤษณ์อยู่ที่ห้องคอนโด นั่งสีหน้าเครียดอยู่ สุคนธรสวางเครื่องดื่มให้แล้วถาม
“โดนนายด่ามาเหรอคะ หน้าตาเครียดเชียว”
“ใช่ ผมเสี่ยงทำงานแท้ๆ แต่ก็ยังสู้ไอ้วัตไม่ได้สักอย่าง”
“แสดงว่าคุณจะแป๊กเหรอคะ”
กฤษณ์ตาวาว “ไม่มีทาง”
“แต่รสเห็นคุณบ่นแต่เรื่องวัตก้าวหน้า นายรักมากกว่าหลายครั้งแล้ว”
“ไอ้วัตมันได้ดีเพราะผู้หญิง”
สุคนธรสสงสัย “ผู้หญิง”
“มันใช้สายเป็นผู้หญิง คอยทำงานให้มัน”
“เฮอะ ก็คงผู้หญิงไม่ได้เรื่องได้ราว ขี้ยา...จะมีน้ำยาอะไร”
สุคนธรสไม่สนใจเรื่องสาย แต่กลับสนใจเรื่องอนาคตการงานของกฤษณ์
“อย่างงี้คุณกับวัตก็เท่ากับว่าแข่งกันทำผลงาน แล้วถ้าเกิดวัตเค้าแซงหน้าไปได้”
“ผมไม่เคยแพ้ไอ้วัต”
กฤษณ์บอกเสียงแข็งกร้าว จนสุคนธรสตกใจ
“ขนาดคุณ แฟนเก่าไอ้วัต ยังเปลี่ยนใจมาเป็นแฟนผมได้เลย”
กฤษณ์คว้าข้อมือสุคนธรส
“อ๋อ...ที่คุณคบรสทุกวันนี้ก็เพราะอยากเอาชนะวัต แค่นั้นเองเหรอคะ”
สุคนธรสสะบัด กฤษณ์นึกได้ก็รีบกอดเอาใจ
“ไม่ใช่ครับ ผมรักคุณจริงๆนะ รส รักมาก คุณอย่าทิ้งผมไปไหนนะครับ”
กฤษณ์กอดสุคนธรสไว้ แต่สุคนธรสแววตาเปลี่ยนไป เป็นไม่ปลื้มกฤษณ์เหมือนก่อนอีกแล้ว เมื่อรู้ว่า
กฤษณ์สู้ภควัตไม่ได้ทุกอย่าง

ฝ่าย ภควัต อัญมา และจ่าเดชนั่งกุมขมับ มองหน้ากันเครียดๆ อยู่
“ยังไงผมก็ยังต้องเป็นวัต เซียนพระ”
“ฉันว่าคุณหายไปจากที่นี่สักพักก่อนมั้ยแล้วปลอมตัวมาใหม่”
“ทีนี้คุณก็มีโอกาสคบกับอธิคมได้เปิดเผยเลยสินะ”
ภควัตกวน อัญมาหมั่นไส้ เลยประชดกลับทันที
“อ๋อ แน่นอน รับรองต่อไปข่าวฉันล้วงลึกเลยละ”
“ล้วงอะไรไม่ทราบ”
“ผู้กองว่า ผู้ชายหน้าตาดีอย่างพี่คม กับผู้หญิงสวยอย่างฉัน อยู่กันสองต่อสองจะล้วงอะไรล่ะ อย่างน้อยฉันก็ไม่ทำอะไรน่าเกลียดโจ๋งครึมเหมือนผู้กองกับแอนนี่หรอก”
“น่าเกลียด...หรือว่าน่าอิจฉา อยากเลียนแบบ”
จ่าเดชเซ็ง รีบห้าม “เดี๋ยวๆๆๆๆ นี้ จะประชดกันทั้งคืนมั้ยครับ ผมจะได้นอนก่อน”
ภควัตกับอัญมามองเมินไปคนละทาง
“มาคิดก่อนดีกว่าว่าจะปิดเรื่องที่ผู้กองปลอมตัวได้ยังไง ถ้าลองมีคนสงสัย ต่อไปเราทำงานยากแน่”
“ผมมีทางออกแล้ว” ภควตคิดได้
จ่าเดชสนใจ “ทางไหน”
“ผู้การจักรภพทำทางไว้ให้แล้ว ตอนนี้ก็คงไม่ต้องใช้หนวดเครา ในเมื่อพวกนั้นสงสัยมันคงต้องมุ่งรู้ให้ได้ว่าหนวดจริงหรือปลอม”
“หมายความว่า ผู้กองจะไม่ติดหนวดเคราแล้วเหรอ แล้วไม่กลัวมันเห็นหน้าแล้วเหรอ”
“มันก็ต้องให้เห็นแล้วละ มันจะได้ไม่ติดใจสงสัย”
จ่าเดชไม่แน่ใจ “เอางั้นเหรอผู้กอง”
“เอาอย่างนี้แหละ เชื่อมือผมซิจ่า”
อัญมาพูดลอยๆ “แมงโม้ ราคาคุย”
“ผมไม่ได้โม้”
“ฉันว่าคุณโม้เหรอ”
“นั่งกันอยู่แค่นี้ ไม่ว่าผม ก็แสดงว่าคุณว่าจ่าเดช”
สองคนตั้งท่าจะทะเลาะกันอีกจ่าเดชเซ็งหนัก “โอ๊ยย...จะกัด... เอ้ย...ทะเลาะกันให้ได้โล่หรือไงคร๊าบ”

ภควัต และอัญมามองหน้าแล้วสะบัดกันไปคนละทาง จ่าเดชเกาหัวปวดตับ!

รุ่งเช้า อธิคม และ วินิจ กำลังมองเจ๊ว่านที่คาบข่าวเรื่องภควัตมาบอก มีเก้ายืนห่างออกไป อีกด้านนักมวยกำลังซ้อม

“ลูกแอนนี่มันบอกว่าเห็นจริงๆนะคะ นี่ว่านก็เลยให้ไปสืบ ว่าตกลงไอ้วัต เซียนพระมันเป็นใครกันแน่”
วินิจสนใจ “ใช่พวกตำรวจหรือเปล่า”
วินิจหันไปทางลูกชาย อธิคมนิ่วหน้า
“ผมไม่แน่ใจ”
“ถ้าไอ้วัตเกิดเป็นตำรวจปลอมตัวมาจริงๆ แล้วไอ้อัญละค่ะ มันคบตำรวจตบตาพี่บังอยู่หรือเปล่า นี่ว่านไม่ได้ยุนะ”
อธิคมไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้”
วินิจเตือน “แกอย่าออกรับแทนไอ้อัญ ไอ้เก้าไปช่วยแอนนี่ เค้นคอไอ้วัตมาให้ได้ ว่ามันเป็นใคร”
เก้ารับคำสั่งแล้วรีบออกไป วินิจมองลูกชาย อธิคมมีสีหน้าร้อนใจ

ฝ่ายแอนนี่พาตัวเองมายืนอยู่กลางห้องเช่าภควัต มองไปทั่วแต่ไม่เห็น จากนั้นก็ก้มๆ เงยๆ หาไปทั้งห้อง
“พี่วัตขา ซ่อนอยู่ไหนน้า...แอนนี่มาหา ออกมาต่อเรื่องเมื่อคืนกันเถอะค่ะ”
เก้าพุ่งพรวดเข้ามา แอนนี่หันมามองตกใจ
“ไอ้เก้า มาให้สุ้มให้เสียงหน่อยได้มั้ย”
“ไอ้วัตล่ะ”
“ฉันหาทุกซอกแล้วนี่ ไม่รู้หายตัวไปไหน”
“หรือว่ามันเป็นตำรวจ”
“พี่วัตเป็นตำรวจ”
สีหน้าหน้าแอนนี่ตกใจมาก

ฟากอธิคมก้าวยาวเข้ามาในบ้านอุบล เจอจิ๊บที่มานอนค้าง ยืนหาว อุบลมองไม่พอใจแต่ก็ต้องทน
“ฉันมาหาอัญ”
“มาทำไมแต่เช้า ไอ้อัญมันไม่อยู่หรอก” จิ๊บบอก
“อัญไปไหน” อธิคมซัก
“ทำไมต้องมาตามมันด้วยล่ะ มีเรื่องอะไร” อุบลถามเสียงขุ่น
“ก็มีเรื่องน่ะสิ”
อธิคมตอบห้วน อุบลชักสีหน้า อธิคมนึกได้ว่าไม่ควร ก็เลยพูดเสียงอ่อนลง
“ฉันมีงานให้อัญทำ”
อุบลซัก “งานอะไร”
“เอ่อ...คือ...”
อธิคมอึกอักนึกคำไม่ทัน อุบลมองจ้อง
“อย่าให้ลูกชั้นทำอะไรผิดกฎหมายนะ ไอ้อัญมันเป็นเด็กดี ฉันขอร้อง ฉันไม่อยากให้ลูกต้องติดคุกติดตะราง”
อุบลย้ำ มองอธิคมด้วยสายตาห่วงใยลูกสาวมาก จนอธิคมอึดอัดใจ
“ฉันจะไม่ทำให้อัญเดือดร้อน ฉันสัญญา อัญอยู่ไหน”
จิ๊บกับอุบลมองหน้ากัน จิ๊บตัดสินใจบอก
“แน่ใจเหรอว่าอยากจะไปตามไอ้อัญที่นั่นจริงๆ”
อธิคมมองจิ๊บ แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

สองคนอยู่ด้วยกันที่วัด อัญมากำลังโยนขนมปังให้ปลาที่ท่าน้ำ อธิคมเดินเร็วมา พอเห็นด้านหลังอัญก็ยิ้ม
“อัญ”
อธิคมกำลังจะเดินเข้าไป เห็นภควัตที่ใบหน้าเรียบใส ไร้หนวดเครา ผมตัดสั้นหล่อ ก้าวเข้ามายืนข้างอัญมา โยนขนมปังข้างๆ ยิ้มแย้มกับอัญมา
อธิคมมองจ้องแววตาแค้นเคืองภควัต หวงหึงอัญมา
“ไอ้วัต”
อธิคมเห็นอัญมากับภควัตกำลังช่วยกันให้อาหารปลา อัญมายิ้มแย้มกับภควัต สักครู่อัญมารู้สึกว่ามีคนจ้องก็หันมามอง
“พี่คม”
อัญมากับภควัตหันมามองเห็นอธิคมที่ยืนจ้องอยู่
“แก” อธิคมมองภควัตตาไม่กะพริบ
“จำฉันไม่ได้เลยเหรอ แค่ตัดผม โกนหนวดโกนเครา หล่อใช่มั้ยล่ะ”
ภควัตถามเสียงกะล่อน ลูบใบหน้าอวด อธิคมมองจ้อง
“หน้าตาแก...เหมือน...”
ภควัตมองแล้วยิ้มโลกสวย ทำเหมือนไม่สะทกสะท้าน
“เหมือนใคร...หรือเหมือนคนที่นายเคยรู้จักเหรอ”
อัญมาทำเป็นถาม
“เหมือนใครเหรอ พี่คม”
อธิคมตัดบทดื้อๆ “ไม่มีอะไร...ไม่ใช่หรอก”
อธิคมเดินเข้ามาใกล้อัญมาจ้องภควัตสายตาจับผิด
“ทำไมอยู่ๆถึงตัดผม โกนหนวดโกนเครา”
“ฉันก็ไม่อยากโกนหรอก แต่น้องอัญเค้าบ่นรำคาญน่ะ”
อธิคมสีหน้าผิดหวัง อัญมารีบอธิบาย
“คือเห็นแล้วมันรำคาญ”
“ป้าอุบลแกก็บ่นอยู่เรื่อยว่ารกหูรกตา เหมือนพวกโจร ฉันก็เลยทำหล่อ เอาใจว่าที่แม่ยายสักนิด เดี๋ยวแกไม่ยกลูกสาวให้”
ภควัตพูดลีลากะล่อน พร้อมทำตาหวานใส่อัญมา อธิคมเห็นแล้วรำคาญ เบือนหน้าหนี ภควัตสบตากับอัญมา แล้วทำเป็นพูดขึ้น
“น้องอัญชอบมั้ยจ๊ะ พี่วัตหน้าใส๊....ใสแบบนี้ เหมือนดาราเกาหลีที่น้องอัญชอบมั้ย”
อัญมาได้ที หยิกแก้มภควัต ฉีกยิ้ม
“ชอบมากเลยจ้ะ พี่วัต”
“โอ๊ยย...เจ็บจ้ะ เจ็บ เจ็บจริง น้องอัญนี่ซาดิสม์นะ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วโซ่ แส้ กุญแจมือ พี่วัตช้ำไปหมดแล้ว”
อัญมาฉุน “นี่! พูดบ้าอะไร”
อัญมาแกล้งตี ภควัตแกล้งหัวเราะ ทำเป็นจับแก้มอัญมาบ้าง
อธิคมที่มองอยู่สายตาเจ็บปวดที่เห็นภาพอัญมาใกล้ชิดภควัต ถึงกับหันหลังเดินเร็วออกไปทันที
อัญมามองตาม เรียกขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสาร
“พี่คม”
ภควัตรวบตัวอัญมาไว้ มองจ้อง “แฟนคุณอยู่ตรงนี้”
อธิคมหันมาเห็นจังหวะภควัตที่มอบจ้องกับอัญมา ก็ยิ่งเดือด เดินหนีเร็วกว่าเดิมออกไป
อัญมาปัดมือภควัตออก มองตามอธิคม รู้สึกสงสาร
“ตาละห้อย อยากตามไปปลอบใจมั้ยล่ะ” ภควัตหมั่นไส้
“ไม่ต้องท้า อย่าตามมาก็แล้วกัน”

อัญมาผลุนผลันออกไป ภควัตมองแล้วฉุนกึก รีบตามไปทันที

อ่านต่อหน้า 4

คีตโลกา ตอนที่ 6 (ต่อ)

ภควัตรีบตามอัญมา เรียกไว้

“อัญ”
อัญมาหยุดหันมา
“บอกว่าอย่าตามมาไง”
“จะไปไหน”
อัญมาประชด “ก็ตามไปปลอบใจพี่คมไง”
“นั่นมันนอกเหนือจากงานที่ทำนะ”
“ใช่ แต่ฉันอยากทำ”
อัญมาหันกลับเดินออกไปทันที
“ทำไม่ได้ ผมไม่ให้ทำ”
“เป็นเจ้าชีวิตฉันเหรอ”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมไม่ยุ่งนะ”
อัญมาชะงักนิดหนึ่ง แต่แล้วเดินต่อไป ภควัตรีบตาม

อัญมาเดินเร็วรี่มาในซอยชุมชน มีภควัตเดินตามมาไม่ห่าง จู่ๆ แอนนี่ก็โผล่ออกมา กรี๊ดลั่นซอย
“ว้าย....พี่วัต หล่อลากกระชากใจ พี่วัตของแอนนี่”
แอนนี่กระโดดเข้ากอดภควัตหมับ ภควัตรีบแกะแอนนี่ออก อัญมาไปหยุดยืนอยู่ที่รถเข็นส้มตำของแม่ที่จอดอยู่ มองตาเขียว มีจิ๊บอยู่ด้วย
เจ๊ว่านเดินออกมาจากร้านมองแล้วมองอีก
“อื้อหือ...หล่อจนเจ๊หายใจไม่ทัน อยากจะกลับไปเป็นสาว แข่งกับนังแอนนี่”
“นึกยังไงวะ ไอ้วัต น่าจะตัดผมตัดเผ้าแบบนี้ซะตั้งนานแล้ว” อุบลว่า
ภควัตมองอัญมาที่ค้อนไม่สบตา แล้วพูดดังๆหวังให้ทุกคนได้ยิน
“อะไรที่ป้าอุบลชอบ ฉันก็ต้องทำสิจ๊ะ วันก่อนป้าบอกว่ารำคาญหนวดเคราฉัน น้องอัญก็บ่นว่าจั๊กกะจี้”
อัญมาเสียงเขียว “ใครบ่น”
แอนนี่หูผึ่ง “จั๊กกะจี้เลยเหรอ นี่แก...แกนัวเนียกับพี่วัตถึงขั้นไหน”
จิ๊บโมโหแทน “แอนนี่!! แกลืม หรือสมองเสื่อม พี่วัตมันเป็นแฟนไอ้อัญ แล้วคนเป็นแฟนกัน...เค้าก็ต้องกอดจูบลูบคลำ...”
“หยุด...หยุด...หยุดพูดเลย อีจิ๊บ ไม่อยากคิดตาม”
“อย่าๆ อย่าเพิ่งหยุดคิด เดี๋ยวฉันจะพูดให้แกเห็นภาพเลยนะว่า ไอ้อัญกับพี่วัตน่ะ เค้าแนบแน่นนัวเนียกันขนาดไหน”
อัญมายิ้มนึกสนุก “พอเหอะน่า จิ๊บ เดี๋ยวแอนนี่มันจะอกแตกตายซะก่อน”
“แหม ไอ้อัญ มีผัวหล่อล่ะ อวดเชียวนะ” สมใจแหลมเข้ามา
“นี่ น้าสมใจ แฟน ไม่ใช่ผัว ไม่ต้องรีบยัดเยียดให้ฉัน” อัญมาว่า
“จะแฟน จะผัว แอนนี่ก็อารมณ์เสีย อิจฉาโว๊ย”
แอนนี่เดินสะบัดก้นเข้าร้านอย่างขัดใจ เจ๊ว่านมองภควัตด้วยแววตาสงสัย ภควัตแกล้งยิ้มหวานให้ เจ๊ว่านหัวใจละลาย
“ตายๆ อย่ายิ้มแบบนี้ เจ๊จะเป็นลม”
จ่าเดชเดินเข้ามาเห็น มองอย่างหมั่นไส้ “แหม เจ๊ เก็บเหนียงก่อนมั้ย จะจีบเด็กน่ะ เฮอะ ไอ้เดชไม่เกาหลีมั่งให้มันรู้ไป”
เจ๊ว่านฉุน “จ่าเดช ไม่ดูหนังหน้าเลยนะ อย่างแกน่ะ มันเกาหลัง หลังที่เป็นขี้กลากด้วย”
จ่าเดชสะบัดหน้าเดินงอนออกไป
“เฮอะ...เออ...ไม่หล่อมั่งให้มันรู้ไป หล่อขึ้นมาเมื่อไหร่อย่ามาคุกเข่าง้อแล้วกันไปทำงานก็ได้”

ภควัตมองสบตาอัญมายิ้มให้ อัญมามองเมิน ทำเป็นช่วยอุบลปิ้งไก่ไม่สนใจ เซียนพระตาหวานหน้าจ๋อย

อธิคมกลับมาถึงค่ายมวยแล้ว กำลังชกรัวหมัดเข้าใส่คู่ซ้อม จนเมษหงายลงไปกับพื้น เก้ากับพวกมองด้วยความสยอง
“พี่คมเค้าอารมณ์เสียอะไรมาวะ” ป๊อบแปลกใจ
“อีแบบนี้ ก็ไม่พ้นเรื่องไอ้อัญกับแฟนมันน่ะสิ” เก้าบอก
อธิคมถอดนวมปาลงพื้น เก้ากับป๊อบรีบเข้าไปบีบนวด อธิคมปัด
“พวกมึงจะไปไหนก็ไป ไปให้พ้นหน้ากู”
เก้ากับเมษรีบถอยออกไป วินิจเดินเข้ามามองสีหน้าลูกชาย
“เป็นอะไรของแก พักนี้ดูงุ่นง่าน อารมณ์เสียตลอด แล้วไงได้เรื่องมั้ย ไอ้วัต เซียนพระน่ะ”
“มันก็ไอ้วัต เซียนพระ กวนส้นคนเก่า ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสงสัยอย่างที่เจ๊ว่านพูด”
“ก็ดี ฉันจะได้เริ่มงานใหม่สบายใจๆ หน่อย”
“งานใหม่อะไร พ่อ”
“ฉันอยากหาบ้านอีกหลังไว้เป็นเซฟเฮาส์”
“แถวไหนล่ะพ่อ”
“ถ้าคิดเรื่องขนของ แล้วก็ห่างสายตาตำรวจ ฉันอยากให้แกไปหาบ้านริมทะเล ที่ๆ เราจะมีทางหนีทีไล่ง่ายๆ ช่วงนี้ตำรวจมันกวน ถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันอยากแน่ใจว่า เราจะไม่ถูกจับ แล้วก็มีทางหนี หลบออกไปนอกประเทศ”
“ผมจัดการให้เอง”
อธิคมมองวินิจด้วยรอยยิ้ม วินิจสั่งทิ้งท้าย
“รีบหาแล้วก็เอามาบอกฉัน”
วินิจเดินออกไป อธิคมรีบหยิบมือถือ กดโทร.หาอัญมาทันทีด้วยความหวัง
“อัญ...ฉันเอง...มีงานด่วนต้องทำ รีบมาหาหน่อย”

อัญมาวางสายเดินเร็วรี่ออกมาทางปากซอย ภควัตตามหลังติดๆ
“เป็นอะไร ทำไมพออธิคมเรียกก็ต้องรีบไปทุกครั้ง”
“ก็พี่คมเค้าเรียกไปทำงาน”
“อ้างงานล่ะไม่ว่า”
อัญมาเซ็ง หันขวับมา ภควัตเบรคเกือบไม่ทัน สองคนมองประชิด
อัญมามองภควัตที่จ้องแล้วอึดอัดกับสายตาภควัต แต่ก็ถามเสียงแข็งๆ กลบเกลื่อน
“หรือผู้กองไม่อยากรู้เรื่องของ... ก็ได้นะ ฉันไม่ไปหาพี่คมก็ได้”
อัญมาทำเป็นจะเดินกลับไปทางที่มา ภควัตดึงมือไว้
“โอเค...ผมยอมคุณ”
อัญมาอมยิ้ม ภควัตมองจ้อง พูดกำชับ
“อย่าห้าว แล้วก็โทร.หาผมทุกชั่วโมง”
“เจ้าค่ะ...เจ้านาย”

อัญมากระแทกเสียงล้อๆ ภควัตปล่อยมือให้อัญมาเดินไป มองตามด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอัญมามากๆ

อธิคมแต่งตัวหล่อ มองอัญมาที่ยิ้มกว้างตรงหน้า

“ฉันมีงานสำคัญ ถึงต้องตามตัวมา”
“งานอะไรจ๊ะ”
“งานง่ายๆ” อธิคมยิ้มกริ่ม
“งานง่ายๆ พี่คมหมายถึงขนของอีกใช่มั้ย”
“ไม่ใช่ ลืมหรือไง เธอเคยสัญญาว่าจะไปเที่ยวกับฉัน”
“เอ่อ..คือ ไหนพี่คมบอกว่า ทำงาน”
“ก็ทำงานด้วย ไปเที่ยวด้วย”
อธิคมดึงมืออัญมา ยิ้มหล่อ
“ฉันจะพาเธอไปเที่ยวทะเล”
อัญมาฟังแล้วตกใจเพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน

ภควัตเดินไปเดินมาอยู่ในฐานลับ สีหน้าหงุดหงิด กฤษณ์มองจากโต๊ะที่ห่างออกไป เสียงมือถือดัง ภควัตรีบกดรับ กฤษณ์เหลือบมอง
“ว่าไงจ่า...อธิคมใช้อัญทำอะไร”
จ่าเดชอยู่ในชุมชน กำลังรายงานทางมือถือ
“ใช้อะไรไม่รู้ แค่ออกไปกันแล้ว”
“ไปไหน”
“เห็นพวกในค่ายมวยมันคุยกันว่า อธิคมพาไอ้อัญไปกกที่ริมทะเล” จ่าเดชใส่สี
ภควัตฟังแล้วยัวะ กดสายทิ้งด้วยความโมโห ผู้การจักรภพเดินเข้ามา ภควัตรีบหันไป
“นายครับ ผมขอลาสัก 2 -3 วัน”
“ลา...ลาไปไหน”
“อธิคมพาสายของผมออกนอกพื้นที่”
“พวกมันจะลงมืออะไร”
“ไม่ทราบครับ ผมจะรีบตามไป”
“ไปเลย ตามให้รู้ว่าพวกมันกำลังจะทำอะไร”
“ผมขอเบิกเครื่องดักฟังด้วยครับ”
“เบิกไปทุกอย่างที่คุณต้องการจะใช้”
“ขอบคุณครับ นาย”
ภควัตรีบออกไป กฤษณ์มองตามด้วยสายตาจับสังเกต จักรภพหันมา กฤษณ์ทำเป็นก้มลงอ่านเอกสาร พอจักรภพเดินผ่านไป แววตากฤษณ์เปลี่ยนเป็นร้าย เจ้าเล่ห์

อัญมาหยิบมือถือขึ้นมา อธิคมที่กำลังขับรถมอง
“จะโทร.หาใคร”
“หาแม่ ...บอกแม่สักนิด แกจะได้ห่วงน้อยๆ”
อัญมากดเบอร์ เห็นเมมชื่อว่า แม่ 2 อธิคมมอง อัญมายิ้มไม่มีพิรุธ
“แม่ ฉันเอง”
ที่แท้เป็นรหัสชื่อภตวัต เขากำลังหลบคุยอยู่มุมหนึ่ง ถามด้วยเสียงร้อนใจ
“คุณกำลังจะไปไหนกับอธิคม”
“จ้ะ แม่...เดี๋ยวๆนะ” อัญมาหันกลับมาถามอธิคม “เราจะไปที่ไหนน่ะ พี่คม”
“ไม่รู้ ไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้คิด”
อธิคมตอบเรื่อยๆ ไม่ร้อนใจ อัญมาฟังแล้วยิ้มแหย ตอบกลับไป
“แม่ เดี๋ยวถึงแล้วจะบอกนะ ไม่ต้องห่วง มาช่วยพี่คมเค้าทำงาน”
อัญมากดปิดสาย อธิคมมอง อัญมาทำเป็นยิ้ม
“คนสวย แม่ก็หวงแบบนี้แหละ”
อธิคมถึงกับหลุดหัวเราะ ยิ้มขำกับอัญมาที่ทำเป็นตลก
ส่วนภควัตหน้าตากังวลหนัก เดินกลับไปด้านใน โดยที่ด้านหลังกฤษณ์ยืนหลบมอง
อธิคมขับรถออกไป เขาเลื่อนมืออีกมากุมมืออัญมาที่เบาะไว้ อัญมามองตกใจ อธิคมดึงมืออัญมามาวางที่เกียร์
“ช่วยฉันขับรถหน่อย”
อัญมามองอึ้ง อธิคมไม่ปล่อยมือ กุมมือไว้แบบนั้น อัญมารู้สึกเขินๆขึ้นมา
อธิคมยิ้มหล่อ มองอัญมาด้วยแววตาลึกซึ้ง มืออธิคมกุมมืออัญมาไว้ ขับรถทะยานไปข้างหน้า

ฟากภควัตกำลังยืนอยู่หน้าลูกน้องที่วาง กล่องเครื่องดักฟังและปืนให้
“เครื่องดักฟังที่ผู้กองขอครับ”
“ผมอยากให้คุณจับสัญญาณโทรศัพท์เบอร์นี้ แล้วบอกพิกัดให้ผมด้วย”
ภควัตส่งเบอร์อัญมาที่จดในกระดาษให้
“ได้ครับ”
ตำรวจลูกน้องรับไป ภควัตหยิบเครื่องดักฟัง เล็กๆ ขึ้นดู โดยไม่รู้ว่าด้านหลังกฤษณ์มองสังเกตทุกอย่าง

เย็นแล้วขณะที่รถอธิคมแล่นมาจอด อธิคมหันไปมองเห็นอัญมานอนหลับพิงกระจกอยู่ อธิคมปลดเข็มขัดนิรภัย ขยับเข้ามาใกล้
“อัญ อัญ”
อัญมารู้สึกตัว ลืมตาตื่นขึ้น มองเห็นอธิคมที่หน้าอยู่ใกล้มาก อัญมาขยับมองไปนอกรถ
“ที่ไหนน่ะ พี่คม”
“ลงมาดูเองสิ”
อธิคมยิ้มแล้วเปิดประตูลงจากรถอัญมามองแล้วหยิบมือถือขึ้นมาแอบกดโทร.ออก เอามือถือใส่กระเป๋าแล้วเปิดประตูตามอธิคมลงไป

ภควัตเดินงุ่นง่านอยู่ในฐานลับ รอคอยอย่างกระสับกระส่าย ตำรวจลูกน้องคนที่ดักฟังมือถือ ขยับ มาบอกภควัต
“ผู้กองภควัตครับ เจอพิกัดมือถือแล้ว”
กฤษณ์ที่มองอยู่ นิ่วหน้า ทำเป็นเหมือนไม่สนใจ ภควัตรีบตรงเข้ามาที่ตำรวจนายนั้น ถามขึ้น
“ที่ไหน”
กฤษณ์ยืนอยู่ด้านหลัง แอบมองที่หน้าจอคอมพิวตอร์ เห็นพิกัดจุดที่ตำรวจชี้ให้ภควัตดู
“สัญญาณกำลังโทร.ออก เหมือนจงใจให้เรารู้ว่าอยู่ที่ไหน”
ภควัตมองจ้องพิกัดบนจอ ด้วยสีหน้ามีความหวัง

อัญมาวิ่งมาตามชายหาด มองวิวสวยของทะเลยามเย็น ใกล้พระอาทิตย์ตก อธิคมยืนยิ้มมอง
“สวยจังเลย พี่คม”
อธิคมมองอัญมาที่สูดอากาศสดชื่น
“ว่ายน้ำด้วยกันมั้ย”
อัญมายิ้ม หยิบมือถือออกมา แอบกดปิด แล้ววางข้างๆ รองเท้าที่ถอดออก
อธิคมจับมืออัญมาแล้วพากันวิ่งลงทะเล สาดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน

ภควัตมองสัญญาณที่ดับไปจากหน้าจอ
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมสัญญาณหายไป”
“สายถูกตัดแล้วครับ”
ตำรวจหันไปดึงกระดาษที่พิมพ์พิกัดละเอียดออกมา
“นี่ครับแผนที่พิกัด เป็นชายหาดปราณบุรี”
ภควัตคว้ากระดาษวิ่งออกไปเร็ว
กฤษณ์ยิ้มอยู่ที่ด้านหลัง เขาหยิบมือถือ กดโทร.เบอร์ฐานลับ มีเสียงโทรศัพท์สำนักงานดัง ตำรวจลุกจากหน้าจอ ไปรับสาย
“ฮัลโหล พูดกับใครครับ ฮัลโหล...”
กฤษณ์ได้โอกาสเดินโฉบเข้ามามองพิกัด ตำรวจยัง "ฮัลโหลๆ" อยู่นั่น กฤษณ์เห็นพิกัดในจอชัดๆ แล้วรีบเดินออกไป ตัดสายทิ้ง
ตำรวจมองงงๆ วางสายกลับมานั่งทำงานหน้าจอต่อ
กฤษณ์เดินห่างออกมา กดมือถือโทรหาสุคนธรส
“รสครับ เตรียมตัวไว้นะ ผมลาพักร้อน จะพารสไปเที่ยวทะเล”

กฤษณ์วางสายยิ้มร้าย แววตามีแผนจะตามไป เพื่อเอาชนะภควัตให้ได้

อัญมากับอธิคมที่เล่นน้ำจนเหนื่อยวิ่งขึ้นมานั่งที่ริมหาด

“สนุกจังเลย”
อัญมากางแขนยิ้มกว้างรับลมทะเลอย่างปลอดโปร่ง
“ฉันชอบทะเลมาก แต่ก่อนจะต้องมาเที่ยวกับคุณพ่อ คุณแม่ทุกเดือน”
อธิคมงง “ว่าไงนะ อัญ เธอเคยมาทะเลกับป้าอุบลแล้วก็ไอ้พ่อเลี้ยงเหรอ”
อัญมาได้ยินอธิคมทักท้วงก็นึกขึ้นได้
“ปละ...เปล่า...ไม่ใช่น่ะ พี่คม ฉันฝันไว้น่ะ ฝันว่าได้มาเที่ยวทะเลกับแม่บ่อยๆ ฉันอยากเห็นทะเล แต่ก็ได้แต่ฝันเอา พอได้มาเห็นจริงๆ โอ้โหหหห มันสวยกว่าที่ฝันไว้เยอะเลย.... ฉันอยากให้แม่มาเห็นด้วยจัง”
อัญมานึกถึงอุบลขึ้นมาจริงๆ และไม่รู้ว่าอุบลได้เคยมาเห็นทะเลหรือไม่ หากไม่เคย นางคงจะตื่นเต้นและมีความสุขมาก
“คราวหน้าฉันจะพาแม่เธอมาด้วย”
อัญมาประทับใจ หันมองหน้าอธิคม รู้สึกดี
“ขอบใจนะที่พี่ดีกับฉัน”
“ฉันอิจฉาครอบครัวเธอ”
อัญมาฉงน “อิจฉา? ฉันมีอะไรให้พี่อิจฉา”
“เธอมีแม่ที่รักเธอมาก มีเพื่อนอย่าง จิ๊บ กับนวย... ชีวิตที่ไม่มีเงิน แต่มีคนรัก มีคนคอยปลอบใจ เป็นห่วงเป็นใย คอยให้อภัยเวลาที่เราผิดพลาด...มันเป็นชีวิตที่น่าอิจฉา”
อัญมามองจ้อง นึกสงสารอธิคม
“พี่คมก็มีพี่บังไง แล้วก็มีลูกน้องตั้งเยอะแยะ”
“มันไม่เหมือนกัน อัญ พ่อเลี้ยงฉันให้แข็งแกร่งเพื่อให้ฉันเป็นผู้นำ ให้เป็นอย่างที่พ่ออยากให้เป็น เวลาหกล้มฉันก็ต้องลุกขึ้นมาเองให้ได้ ไอ้พวกนั้นมันก็ได้แต่คอยรับคำสั่ง ไม่เคยมีใครสนใจหรอกว่า ฉันจะร้อนจะหนาว หรือเคยต้องการกำลังใจบ้างมั้ย”
“พี่คมก็มีฉันไง ฉันจะเป็นกำลังใจให้พี่คมนะ”
อธิคมขยับตัวเข้ามาใกล้ ประคองใบหน้าอัญมาให้หันมายังตน อัญมาตกใจตัวแข็งทื่อ
อธิคมก้มลงจะจูบ อัญมามองตกใจ เบี่ยงหน้าหนี จมูกอธิคมเฉียดแก้มอัญมาไป อัญมารีบลุกขึ้น ถอยห่าง อธิคมมองตามอย่างเสียดาย
“ฉันหิวแล้ว ไปหาอาหารทะเลกินกันดีกว่า”
อัญมารีบคว้ามือถือ ใส่รองเท้าเดินนำไปที่รถ อธิคมมองตาม
“ฉันไม่รีบร้อนหรอก อัญมา มากันสองต่อสองแบบนี้ยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้น”
อธิคมยิ้มกริ่มเดินตามอัญมาไปอย่างใจเย็น

อัญมายืนอยู่ในห้องพักของรีสอร์ท ตกแต่งสวย พนักงานที่มาดูแลเปิดห้องให้เดินออกไป อัญมามองไปที่อธิคมแล้วรีบรวดรัดบอก
“พี่คมไปห้องพี่คมเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก”
อธิคมหัวเราะขัน “ที่จริงก็ว่าจะเปิดห้องเดียวเหมือนกัน”
อัญมาทำหน้าตื่น
“แต่ฉันไม่ชอบแบบต้องใช้กำลัง” อธิคมว่า
อัญมาใจชื้น “ดีแล้วจ้ะ”
อธิคมพูดแหย่ “ว่าแต่เธอ...อย่าเข้าห้องผิดแล้วกัน”
อัญมาค้อนกิริยาน่ารัก อธิคมยิ้ม อัญมาผลักดันหลังอธิคมออกไป
“ก่อนไปกินข้าว ฉันขอล้างเนื้อล้างตัวก่อน”
“เร็วๆ นะ ไม่อยากรอนาน”
อธิคมหัวเราะแหย่ๆ อัญมาผลักอธิคมออกไป แล้วรีบปิดประตู พุ่งไปหยิบมือถือมากดหาภควัต
สัญญาณปลายสายของภควัตติดต่อไม่ได้ อัญมาวางมือถือลงท่าทางหงุดหงิด
“ปิดเครื่องทำไม ผู้กอง... รู้มั้ยว่าคืนนี้ฉันหน้าสิ่วหน้าขวานนะเนี่ย”
อัญมามีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ กดอีกเบอร์ ปลายสายเป็นจิ๊บ อัญมารีบบอก
“จิ๊บ... ฉันเอง”

จิ๊บรับสายอยู่ในบ้านอุบล ที่มองเป็นห่วงอยู่ใกล้ๆ
“แกหายไปไหนวะ ไอ้อัญ ป้าอุบลแกได้ยินคนในตลาด บอกว่าแกออกไปกับอธิคม”
อุบลร้อนใจ ไม่รอ คว้ามือถือมาพูดต่อ
“ไอ้อัญ ไปกับอธิคมใช่มั้ย มันทำอะไรแกหรือเปล่า”
อัญมาตอบกลับปลายสาย ไม่ให้แม่เป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงนะ แม่ พี่คมเค้ามาหาเพื่อน เลยพาฉันมาด้วย”
“ระวังตัวด้วย แม่ไม่อยากให้แกไปไหนกับลูกพี่บังสองต่อสอง”
“จ้ะ แม่ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี”
อุบลส่งสายให้จิ๊บ จิ๊บรับมา
“แกจะให้ฉันตามไปมั้ย”
“ไม่เป็นไร จิ๊บ ฉันไม่อยากให้พี่คมเค้าผิดสังเกต แต่เดี๋ยวฉันจะบอกที่อยู่รีสอร์ทไว้นะ แกจดไว้ ถ้าฉันหายไปไม่ติดต่อ ไม่โทร.หา แกรีบไปบอกจ่าเดช”
“เออๆ บอกมาเลย”
อุบลมองจิ๊บที่หากระดาษปากกามาจด

ตรงโต๊ะเล็กๆ มุมเด่นของร้านอาหารติดริมทะเลในรีสอร์ท ตกแต่งน่ารัก บรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบาย อัญมาเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่อธิคมซื้อมาให้ นั่งตรงข้ามกับอธิคม
“ขอบใจนะพี่คม ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ฉันเยอะเลย”
“ฉันก็ต้องรับผิดชอบ ที่พาเธอมาปุบปับ”
“แล้วพี่คมมาแถวนี้ทำไม”
“ก็มาเที่ยว”
“ไม่จริงหรอก มาเที่ยวแต่ไม่ให้ฉันเตรียมตัวเลย”
“เธอนี่ฉลาดนะ อัญ”
อัญมาทำไก๋ “ฉลาดอะไร ฉันก็ถามซื่อๆ นี่แหละ”
“ฉันว่าจะมาซื้อบ้านริมทะเลสักหลัง” อธิคมเลื่อนมือมากุมมืออัญมาไว้ “เธอชอบแบบไหน”
อัญมาเขิน “ฉันไม่กล้าเลือกหรอก”
“เลือกสิ ถ้าเธอชอบ ฉันก็ชอบ”
อัญมารู้สึกเขินสายตาอธิคม ค่อยๆ ดึงมือออก เลี่ยงไปเรื่องอื่น
“อาหารน่ากิน อร่อยด้วย พี่คมกินให้หมดสิ อย่ากินเหลือรู้มั้ย เราต้องคิดถึงชาวนาที่ลำบากปลูกข้าวให้เรากิน”
อัญมาทำเป็นกินข้าวต่อ อธิคมยิ้ม
“พรุ่งนี้ฉันจะพาไปเลือกบ้านนะ”
อัญมายิ้มทำเป็นไม่ได้ยิน อธิคมมองนิ่งแววตาลึกล้ำมาที่อัญมาจนอัญมาเขิน ต้องหลบตา

อธิคมเดินมากับอัญมา อัญมาหยุดหน้าห้องตัวเอง
“เปิดประตูสิ”
อัญมาชี้ไปห้องข้างๆ “ห้องพี่คม ห้องโน้น”
อธิคมทำอ้อยอิ่งอิดออด
“ฉันไม่ชอบดูทีวีคนเดียว ขอเข้าไปนั่งดูที่ห้องเธอหน่อย”
“ฉันไม่ดู ง่วง จะนอนแล้ว”
อัญมาดันหลังอธิคมไปทางห้องของเขา
“ไปเลย ห้องใครห้องมัน พรุ่งนี้เช้าค่อยเจอกัน”

อธิคมหันกลับมา แต่อัญมาพรวดเข้าห้องปิดประตูไปแล้ว อธิคมได้แต่ยิ้มอยู่หน้าประตู

แต่พออัญมาเข้าห้องมา มองไปที่เตียงก็ต้องเบิกตาตกใจ

“ผู้กอง”
ภควัตนอนเอกเขนกสบายใจอยู่บนเตียง
“นี่เข้ามาได้ยังไง”
“ก็เดินเข้ามา” ภควัตชี้ไปทางระเบียง “ทางนั้น เธอไม่ได้ล็อคห้อง คงจะดีใจ รีบออกไปกินข้าวกับอธิคม จนลืมทุกอย่าง”
อัญมามองรู้ว่าภควัตประชด ก็เดินไปดึงมือภควัตขึ้นมา
“ลงมาจากเตียงฉันนะ”
“ไม่ ผมง่วง ขับรถมาตั้งไกล”
อธิคม เคาะประตูเรียกอยู่ที่หน้าห้อง
“อัญ...อัญ”
อัญมาตกใจหันไป ภควัตแกล้งดึงแขนอัญมาที่จับอยู่ลงมา อัญมาเสียหลักล้มทับลงบนตัวภควัต สองคนมองจ้องกันในระยะประชิด
อธิคมอยู่นอกห้อง เคาะประตูซ้ำ
“อัญ...อัญ...ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย พรุ่งนี้...จะไปกี่โมงดี”
ส่วนด้านในห้องภควัตมองอัญมาที่อยู่ในอก
“เงียบ ไม่ต้องตอบ”
“แต่ว่า...”
“หรืออยากให้ผมเดินไปเปิดประตู อธิคมจะได้เห็นผมอยู่ในห้อง”
“อย่ามาขู่”
“ไม่ขู่”
ภควัตจ้องนิ่งขึง อัญมาจำต้องเงียบ
อธิคมมองแล้วรอ พอเห็นด้านในเงียบ อธิคมก็ถอย
“เดี๋ยวก็รู้ ว่าเธอจะหลบฉันได้กี่ครั้ง”
อธิคมยอมถอย เดินไปทางห้องตัวเอง

ภควัตกอดอัญมาไว้ มองจ้องกวนๆ
“ตอบพี่คมไปสิ อยู่กับพี่วัตค่ะ”
“ปล่อยฉัน”
ภควัตแกล้งหลับตาลง กระชับอ้อมกอดมากขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอก อยู่กับผมคุณปลอดภัย นอนก่อนนะ ผมง่วง”
ภควัตทำท่าจะหลับ อัญมาจิ้มตา ภควัตตกใจ อัญมาดันตัวออกมาจากภควัต แต่ภควัตไม่ยอมคว้าร่างอัญมากลิ้งหนี กลายเป็นภควัตหมุนตัวขึ้นมาคร่อมเหนือร่างอัญมาที่นอนบนเตียง
“ผู้กอง...อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ”
“ทำไม ลองทำบ้าๆ ดูมั่งก็ดี เผื่อเธอจะชอบ”
ภควัตแกล้งยั่ว อัญมาดันหน้าภควัตออกห่าง
“โอ๊ย”
ภควัตเซ อัญมาผลักภควัตสุดแรงจนภควัตตกเตียง อัญมาโดดลงจากเตียงมายืนหัวเราะ

ฝ่ายอธิคมเพิ่งออกจากห้องน้ำ ใส่เสื้อคลุมออกมารับลมที่ระเบียง เขาเปิดกระจกออกไปมองทางห้องอัญมาเห็นม่านปิดสนิท อธิคมชะเง้อมองด้วยความเสียดาย

อัญมายืนอยู่ตรงข้ามกับภควัตในห้องพัก
“อธิคมมาทำอะไรที่นี่”
“เค้าบอกว่ามาหาซื้อบ้าน”
ภควัตตาโต “ซื้อบ้าน...เรือนหอของเธอกับมันน่ะเหรอ”
“คิดดีๆเป็นมั่งมั้ย ผู้กอง”
“เอ้า...ก็พาเธอมาด้วย จะให้ฉันคิดว่ายังไง”
“ไม่ต้องลีลา ผู้กองก็คิดเหมือนฉันใช่มั้ย อธิคมต้องวางแผนอะไรอยู่”
ภควัตมีท่าทีจริงจังขึ้นมา “หรือมันกำลังหาที่ปล่อยของแหล่งใหม่ ถึงได้มาสำรวจแถวนี้ก่อน”
อัญมาเห็นด้วย “นั่นน่ะสิ แต่ก็ไม่เห็นติดต่อใครเลยนะ”
“พรุ่งนี้ฉันจะตามเธอกับมันไปห่างๆ”
“โอเค แต่ว่า...คืนนี้ ...”
ภควัตมองแล้วแกล้งยั่วจะเดินไปที่เตียง “ก็นอนที่นี่”
อัญมารีบดึงแขนเขาให้ออกห่างเตียง
“อย่ามามั่ว ไปเปิดห้องนอนที่อื่นเลย”
“ตำรวจเงินเดือนน้อย จนนะคุณ รีสอร์ทหรูๆแบบนี้ ผมไม่มีเงินหรอก เอาน่า ผมนอนแป๊บเดียว ไม่กวนคุณหรอก”
อัญมาดึงภควัตเต็มแรง
“ไม่ตลก ถ้าไม่ออก ฉันจะเรียกอธิคมเข้ามา”
“ทีอย่างงี้ล่ะ กล้าให้อธิคมเข้าห้อง”
“ช่วยไม่ได้ แล้วพออธิคมเห็นคุณ งานนี้ก็ จบ”
อัญมาลอยหน้ายิ้มใส่ ภควัตมองเห็นที่อัญมาเป็นต่อก็ต้องยอมแพ้
“โอเค...โอเค ผมไปนอนอีกห้อง แต่พรุ่งนี้ คุณกับอธิคมอยู่ในสายตาผมแน่ๆ”
“แล้วอย่าโผล่มาขัดจังหวะคนรักกันอีกล่ะ”
ภควัตมองเคือง อัญมาหัวเราะชอบใจที่ได้แหย่เขาเล่น
“ฉันล้อเล่น”
ภควัตเดินไปที่ประตู แง้มออก มองซ้ายขวาแล้วรีบผลุบออกไปอย่างไว อัญมาอมยิ้มขำท่าทางภควัต

เช้านี้ อธิคมเดินเก็บเปลือกหอยอยู่กับอัญมาบริเวณริมชายหาด
ส่วน ภควัตหลบมองอยู่หลังม่านในห้องพัก ภควัตมองไปยังอัญมาที่หัวเราะยิ้มแย้มกับอธิคมด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
“ยิ้มเหมือนไม่เคยมาทะเลเชียวนะ อัญมา”
ภควัตเขม้นมอง เห็นอธิคมเดินขึ้นมาจากชายหาดกับอัญมา ภควัตเดินออกจากห้องทันที

อัญมาเดินมากับอธิคม ตรงไปทางลานจอดรถ
“พี่คมจะไปดูบ้านที่ไหนก่อน”
“ไปเรื่อยๆ ทำไม”
“เปล่า ฉันจะบอกว่า พี่คมไปไหน ฉันก็ไปด้วย”
“งั้นขับรถดูไปเรื่อยๆ นะ อยากแวะที่ไหนก็บอก เดี๋ยวจะพาไปกินของอร่อยๆ”
“จะเลี้ยงฉันให้อ้วนแข่งกับหมูเหรอพี่”
“ฉันชอบแบบมีน้ำมีนวลหน่อย”
อัญมาค่อน “แบบแอนนี่ล่ะสิ”
“แบบเธอ”
อธิคมยิ้มให้ อัญมาหลบสายตาหวานๆ พากันเดินออกไป

ภควัตเดินเร็วออกมาตรงสระน้ำรีสอร์ท กำลังจะเดินไปทางที่จอดรถ เพื่อตามอัญมา
เสียงสุคนธรสดังขึ้น “วัตคะ...วัต”
ภควัตได้ยินเสียงเรียกก็หันไปมอง พบว่าที่สระว่ายน้ำ สุคนธรสเพิ่งขึ้นจากสระรีบตรงเข้ามาเกาะแขนภควัต
“บังเอิญจังเลย วัตมาเที่ยวแถวนี้ด้วยเหรอคะ”
ภควัตพยายามจะแกะแขนสุคนธรสออก
“ผมมาทำงานน่ะ รส”
“งานอีกแล้ว งานอะไรคะ”
“ก็งานน่ะ ปล่อยก่อน ผมรีบ”
ภควัตดึงมือสุคนธรสออก มองแล้วนึกสังหรณ์ใจจนต้องถาม
“รสมากับใคร”
“คุณก็ถามแปลก รสจะมากับใครละคะ ถ้าไม่ใช่กฤษณ์”
“กฤษณ์อยู่ที่นี่ด้วยหรอ”
“เค้าลาพักร้อน พารสมาเที่ยว”
ภควัตหันไปด้านหลัง เห็นกฤษณ์ในชุดลำลองเดินออกมา ท่าทางสบายใจ
“อ้าว... ไม่นึกเลยว่าจะเจอนาย”
ภควัตมองอย่างรู้ทัน “แกคงไม่แอบตามฉันมาอีก”
“ไม่เอาน่า วัต ฉันพารสมาเที่ยว แกอย่าคิดมากสิ”
“ฉันเตือนไว้ก่อนนะ กฤษณ์ ถ้าแกทำงานครั้งนี้ฉันพังอีก ฉันจะไม่ไว้หน้าแก”
ภควัตเดินเร็วออกไป สุคนธรสหันมาทางคนรักทันที
“นี่คุณไม่ได้พารสมาเที่ยว แต่คุณเอารสมาบังหน้าเรื่องงาน ใช่มั้ยกฤษณ์”
“อย่าโวยวายเลยน่า รส จะยังไง คุณก็ได้มาเที่ยว”
“รสไม่ชอบนะคะ คุณทำเหมือนรสไม่มีความสำคัญ”
“ผู้หญิงนี่ทำไมชอบคิดมากนะ ถ้าคุณไม่มีความสำคัญผมจะพาคุณมาด้วยทำไม ถ้าผมไม่ชวนคุณก็หาว่าผมทิ้งคุณมาเที่ยวคนเดียวอีก”
“แต่คุณบอกรสว่าคุณลาพักร้อน มันก็ต้องไม่มีงานมาเกี่ยวข้องซิ ที่แท้คุณไม่ได้ลาพักร้อนหรอก คุณจงใจตามวัตมา”
“เอาน่า อย่าวุ่นวาย น่ารำคาญ คุณอยากทำอะไรก็ทำไป”
“คุณจะตามวัตไปเหรอคะ”
“ยังหรอก ไหนๆ วัตมันก็ระวังตัว ผมก็แค่คอยจับตาดูว่ามันมาหาใครที่นี่ เดี๋ยวก็ได้เรื่องเอง”
สีหน้ากฤษณ์มีแผนและใจเย็น สุคนธรสมองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

ฝ่ายอธิคมเดินดูบ้านสวยหลายหลังในโครงการบ้านจัดสรรริมทะเล มีอัญมาเดินใกล้ๆ อธิคมชี้ให้ดู อัญมาส่ายหัวว่าไม่ชอบ
ห่างออกมา ภควัตนั่งหลบมองอยู่ในรถ
อธิคมหันไปถามพนักงานขาย พนักงานอธิบาย อัญมามองไม่ค่อยสนใจบ้านนัก

เวลาเดียวกัน อรรรณพกำลังอ่านเอกสารจากบริษัท ฤดีเดินมาเสิร์ฟกาแฟ ภรณีเดินออกมานั่งข้างสามี
“อ่านอะไรคะ”
“โครงการลงทุนทำคอมเพล็กซ์ใหม่ของบริษัทเราน่ะ”
“ดูสิ ฤดี คุณผู้ชายของเธอขยันจะลงทุนให้เหนื่อยสมองอีกแล้ว”
ฤดียิ้ม “คุณผู้ชายเก่งนี่คะ หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด”
อรรณพบอกว่า “แต่โครงการนี้ไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านๆ มาหรอกนะ”
“มีปัญหาอะไรเหรอคะ”
“แถวนั้น มีชุมชนใหญ่อยู่ชุมชนนึง ถ้าเราจะทำจริงๆ อาจจะต้องกินพื้นที่บางส่วน ชาวบ้านหลายคนคงไม่ยอมขายที่ให้ง่ายๆ”
อรรณพปิดเอกสาร แล้วหันมาทางภรรยา
“ผมอยากไปดูสถานที่ตรงนั้นหน่อย ออกไปด้วยกันมั้ยคุณภรณี”
“ไปสิคะ ให้ฤดีไปด้วยนะคะ เผื่อถ้าอยากรู้อะไรในชุมชนนั้น ฤดีคงช่วยเราได้”
“ไปสิ”
อรรณพพยักหน้ารับมองภรณีกับฤดีที่มีหน้าตากระตือรือร้น

ฝ่ายอุบลเข็นรถส้มตำมา มีจิ๊บช่วยเข็นอีกแรง สองคนเดินคุยกันมา
“พักนี้ สัญชัยมันไม่กลับมาบ้านเลยนะ ป้าอุบล”
“ก็คงไปจมอยู่ในบ่อนไพ่เหมือนเดิม หมดตัวเมื่อไหร่ ก็ซมซานกลับมา”
“ฉันล่ะกลัวจริงๆ แถวบ้านเรามีอบายมุขครบทุกอย่าง ไอ้นวยเนี่ย ฉันก็ต้องคอยเตือน คอยห้ามมัน ไม่ให้หลงไปเล่นพนันบอลมีแต่หมดตัว หายนะมาถึงฉันด้วย”
“ไม้อ่อนดัดง่าย เอ็งก็รีบดัดซะ ไอ้สัญชัยมันไม้แก่ ดัดไม่ไหว นอกจากหักทิ้ง”
“ป้าไม่เลิกกับมันล่ะ ไอ้อัญจะได้สบายใจ”
“มันก็มีบุญคุณกับข้า กับไอ้อัญอยู่นะ แต่ก่อนมันก็เคยทำงานเลี้ยงข้า ตอนไอ้อัญเล็กๆ มันก็ช่วยดูแลเราแม่ลูกมา จะอ้าปากไล่มันก็ตะขิดตะขวงใจ แต่ถ้ามันจะไป ข้าไม่ห้ามเลยนะ ไม่เสียดายด้วย”
“มันไม่ไปง่ายๆ หร้อก มีที่กินที่ซุกหัวนอน แถมมีเมียใจดีอย่างป้าคอยให้มันจิ๊กเงินน่ะ”
จิ๊บหันมาหัวเราะกับอุบล ไม่ทันดูทาง เข็นรถจะข้ามถนน จู่ๆ รถอรรณพแล่นเร็วมา เสียงแตรดังลั่น
จิ๊บกับอุบลหันมองเห็นรถที่กำลังพุ่งเข้ามา
อุบลร้องลั่น “ว้าย”
รถอรรณพเบรคเส้นยาแดงผ่าแปด เกือบชน อุบล จิ๊บกับรถเข็น อุบลตกใจเข่าอ่อน ทรุดลงไปนั่งพับกับพื้น คนขับรถกับฤดีที่นั่งหน้าลงมาก่อน
“จะข้ามถนนทำไมไม่ดูให้ดีก่อน อยู่ๆก็เดินข้ามเลยอย่างนี้ได้ยังไง ทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนไปด้วย” ฤดีต่อว่า
คนขับรถบอก “ดีนะที่เบรกทัน
อุบล กับ จิ๊บมองไป เห็นอรรณพ ภรณีลงจากรถมา
อรรณพ รีบเดินมาทางอุบลที่จิ๊บประคองขึ้นมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า” อรรณพถามสุภาพ
ภรณีถามอีก “เจ็บตรงไหนมั้ยจ๊ะ”
อุบลมองอรรณพ กับ ภรณีนิ่งๆ

ภายในบ้านของโครงการบ้านจัดสรร ขณะกำลังยืนอยู่ในนั้น อัญมาเหมือนรู้สึกสังหรณ์โดยประหลาด และเจ็บแน่นที่หน้าอก หายใจไม่ออก ภาพตอนตกน้ำผุดขึ้นมาแว้บๆ ในห้วงคิด
อัญมารู้สึกแน่นหน้าอกไปหมด ร่างซวนเซ อธิคมที่กำลังดูบ้านอยู่หันไปมอง
“อัญ เป็นอะไร”
“ไม่รู้ พี่คม...อยู่ๆ ฉันก็หายใจไม่ออก”
ภควัตอยู่ในรถจ้องเขม็ง มองอธิคมที่ประคองอัญมาอย่างใกล้ชิด
อัญมาหายใจแรง รู้สึกเหมือนไม่สบายตัว ครางออกมาด้วยสัญชาติญาณ

“แม่...ช่วยด้วย...”

อ่านต่อตอนที่ 7
กำลังโหลดความคิดเห็น