xs
xsm
sm
md
lg

คีตโลกา ตอนที่ 7

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คีตโลกา ตอนที่ 7

เหตุการณ์ที่ชุมชนบัวสวรรค์ตอนนี้ อุบลมองจ้องหน้าภรณีที่มองมา ถามซ้ำ ด้วยสายตาเป็นห่วงจากใจจริง

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าจ๊ะ”
“ไม่จ้ะ ไม่เป็นไร แค่ตกใจ”
จิ๊บบอก “ขอโทษนะคุณ ฉันเข็นรถไม่ดูทางเอง”
อรรณพเอ่ยขึ้น “พวกเธอไม่เป็นไรก็ดีแล้วละ”
ฤดีเสียงแข็งใส่ “วันหลังก็ระวังๆหน่อยสิจ๊ะ ดูสิ คุณผู้หญิงตกใจหมดเลย”
ภรณีปราม “ไม่เป็นไรน่า ฤดี”
เจ๊ว่านกับแอนนี่เดินผ่านมา พอเห็นก็รีบตรงมา
“มีอะไรกัน รถคันโก้นี่มันชนแกเหรอ อุบล”
แอนนี่สาระแนทันที “อย่างนี้ต้องเรียกค่าเสียหาย”
เจ๊ว่านเสริม “ขูดให้หนักๆ เอาเลย อุบล ชั้นเป็นพยานให้เอง”
อรรณพ และ ภรณี มองด้วยสีหน้าตกใจที่เห็นเจ๊ว่านใส่ไม่ยั้ง
“พยานบ้าอะไร เจ๊ว่าน รถคุณเค้าไม่ได้ชนข้าสักหน่อย” อุบลด่าเอา
ฤดีโมโห “หน็อย จะมาขูดเลือดกันง่ายๆ ใครจะยอมยะเธอ”
เจ๊ว่านไม่สน “ก็เห็นๆอยู่ ลูกแอนนี่ถ่ายคลิปเลยลูก ถ่ายให้เห็นหน้าชัดๆ สมัยนี้คนรวยจะมารังแกคนจนไม่ได้นะเว้ย”
“เดี๋ยวก่อน ฉันว่าเธอไม่เกี่ยวนะ ฉันกำลังคุยกับผู้หญิงคนนี้” อรรณพหันไปทางอุบล “เธอชื่ออะไรนะ”
“อุบลจ้ะ” อุบลบอก
อรรณพหันมาทางเจ๊ว่าน “ฉันกับอุบลไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เราคุยกันรู้เรื่องแล้วต่างคน ก็กำลังจะแยกย้าย”
“นั่นน่ะสิ เจ๊ว่าน อย่าหาเรื่องน่ะ เกิดคุณเค้าเอาเรื่อง ชั้นผิด เข็นรถตัดหน้าเค้า ต้องจ่ายค่าซ่อมรถแพงๆหรูๆคันนี้ ชั้นคงไม่มีปัญญาจ่ายหรอกนะ” จิ๊บตำหนิ
เจ๊ว่านด่าเอา “นังโง่สองคนนี่ ข้ากำลังช่วยเอ็งอยู่นะ”
อุบลไม่พอใจ “ก็คุณเค้าไม่ผิด แกจะกลับขาวเป็นดำได้ยังไง ข้าไม่เอาด้วยหรอก”
แอนนี่ด่า “โง่ โง่มาก คุณแม่ขาอย่าไปช่วยมันเลยค่ะ เราไปชอปปิ้งของเรากันดีกว่า”
“โง่ตั้งแต่สาวยันแก่เลยนะ นังอุบล”
เจ๊ว่าน กะแอนนี่เดินเชิดไป ฤดีมองตามอย่างหมั่นไส้
“คนแถวนี้มันปลิงชัดๆ คิดแต่หาโอกาสจะขูดเลือดคนอื่น”
“ฤดี”
ภรณีมองปราม ฤดีหยุดพูด อรรณพหันไปมองอุบลกับจิ๊บแล้วยิ้มให้
“เธอสองคนเป็นคนซื่อดีนะ”
อรรณพเปิดกระเป๋า ส่งนามบัตรให้จิ๊บ
“ฉันชื่ออรรณพ นี่ภรรยาฉันชื่อ ภรณี เผื่อถ้าเธอมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็โทร.ไปหาฉันได้”
อุบลมองอรรณพกับภรณี
“ขอบใจมากนะคุณ”
น่าประหลาดยิ่งนัก อรรณพ และภรณียิ้มให้อุบล ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน

อัญมานั่งพักหายใจลึกๆ อยู่มุมรับแขกในบ้านจัดสรร สีหน้าผ่อนคลายขึ้น อธิคมที่มองอยู่ร้อนใจ
“เป็นไงบ้าง อัญ”
“ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วจ้ะ”
“สีหน้าเธอยังไม่ดีเลย เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำมาให้กินนะ”
อธิคมเดินเร็วออกไป ได้เพียงพักเดียวเท่านั้นภควัตรอจังหวะอยู่ รีบวิ่งเข้ามา อัญมาเห็นก็ตกใจมาก
“ผู้กอง”
“เธอเป็นอะไรน่ะ อัญมา”
“ออกไปก่อน เดี๋ยวอธิคมเห็น”
ภควัตร้อนใจ เป็นห่วงมาก “ก็บอกฉันสิ เธอเป็นอะไร”
“ฉันใจหวิวๆ เหมือนเป็นลม”
ภควัตเอามือแตะหน้าผากอัญมาทันที อัญมามองเขินๆ
“ไม่ได้เป็นไข้”
“ฉันไม่เป็นไร ดีขึ้นแล้ว ผู้กองออกไปก่อน เดี๋ยวฉันจะบอกให้อธิคมพากลับแล้วไปเจอกันที่รีสอร์ทนะ ไปสิ”
อัญมาเร่ง กลัวอธิคมมาเห็น ภควัตพยักหน้าแล้วรีบถอยออกไป อัญมามองตามสีหน้าโล่งใจ

ด้านสุคนธรสนอนอาบแดด อ่านแมกกาซีนแฟชั่นอยู่ริมสระรีสอร์ท กฤษณ์เดินไปเดินมา มองนาฬิกาจนสุคนธรสรำคาญ
“จะเดินอีกนานมั้ยคะ กฤษณ์ รสรำคาญ อยากรู้นัก ทำไมไม่ตามวัตไปซะเลย”
“ถ้าคุณรำคาญมากนัก ก็ไม่ต้องคอยเฝ้าผมก็ได้ ไปสปา หรือไม่ก็ไปเที่ยวชอปปิ้งอะไรไปสิ”
สุคนธรสปิดหนังสือด้วยความโมโหทันที
“อย่ามาไล่รสนะ คุณพารสมา คุณก็ต้องดูแลรส จะมาทิ้งๆขว้างๆไม่ได้ ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย”
สุคนธรสลุกขึ้นมอง กฤษณ์เห็นอารมณ์โกรธของแฟนก็เปลี่ยนน้ำเสียง เข้าไปโอบกอดเอาใจ
“ผมขอโทษนะครับ รส โอเค รสอยากไปไหน บอกผมเลย”
“รสอยากกินอาหาทะเล”
“ครับๆ ไปทานอาหารทะเลกันครับ”

กฤษณ์ควงแขนสุคนธรส พะเน้าพะนอเอาอกเอาใจออกไป 

อัญมานั่งในรถแล้วหันไปมองอธิคม

“ขอโทษนะพี่คม ฉันเลยทำให้พี่คมต้องรีบกลับเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่ค่อยยังชั่วแล้วแน่นะ”
“จ้ะ ค่อยยังชั่วแล้ว แปลกนะ ปกติฉันก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ ใจมันกระตุก แล้วก็หวิวๆ เหมือนสังหรณ์อะไรสักอย่าง”
อธิคมมองเป็นห่วง อัญมายิ้มให้
“กลับไปนอนพักก่อนแล้วกัน”
อัญมาพยักหน้า

อุบลกำลังตำส้มตำ จิ๊บช่วยเอาไก่ย่างใส่ถุงให้ลูกค้า
“อัญ มันโทร.มาบ้างหรือเปล่าจิ๊บ”
“ยังจ้ะ แต่มันส่งข้อความาว่า ไม่มีอะไรน่ากลัว มันแยกห้องนอน”
“แยกยังไง อีกคนมันก็ผู้ชาย” อุบลกังวลไม่คลาย
จิ๊บเอาส้มตำใส่ถุง ลูกค้าเดินไป อุบลปาดเหงื่อ จิ๊บมองแล้วถามขึ้น
“ป้า...ป้าอยากเลิกขายส้มตำมั้ย ฉันเห็นในนามบัตร ผัวเมียสองคนที่เราเจอเค้าเป็นเจ้าของบริษัท”
“ข้าว่าคุณเค้าท่าทางเป็นคนดีนะ ไม่ดูถูกคนจนๆ”
“ใช่...เราไปของานเค้าทำมั้ย ป้า พาไอ้อัญไปด้วย”
“จะไปทำอะไรวะ ทำความสะอาดน่ะเหรอ ไม่เอาหรอก ข้าชอบอาชีพอิสระ เหนื่อยวันไหนก็หยุด”
“ยังกับป้าได้หยุด ฉันเห็นป้าตำส้มตำทุกวัน จนกล้ามขึ้นแล้ว”
“เออ เอาไว้วันไหน ข้าเหนื่อย ยกสากไม่ไหว ค่อยพาไอ้อัญไปของานคุณสองคนเค้า เออ เค้าชื่ออะไรนะ”
“คุณอรรณพ กับ คุณภรณี” จิ๊บบอก
อุบลทวนคำ เพื่อจำชื่อ
“คุณอรรณพ กับ คุณภรณี”

ภรณีเดินข้าบ้านมาพร้อมกับอรรณพ มีฤดีตามหลัง
“ฉันรู้สึกถูกชะตาแม่ค้าส้มตำวันนี้ยังไง ก็ไม่รู้ค่ะคุณ”
“ยายอุบลน่ะเหรอคะ” อรรณพจำชื่อแม่น
“ใช่ อุบลเค้าดูเป็นคนซื่อๆ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม”
“อย่างน้อยเราก็ได้เจอคนดีแถวนั้นบ้าง ไม่ใช่ผู้หญิงคนที่จะมาโมเมเรื่องรถชน”
ฤดีบอกทันที “เจ๊ว่าน กับลูกแอนนี่ ค่ะ”
ภรณีเย้า “ความจำดีจริงๆ นะ”
“ก็คุณผู้หญิงใช้ให้ฤดีไปซื้อน้ำร้านของชำแถวนั้นเพื่อสืบความเคลื่อนไหว ฤดีก็ทำเต็มที่สิคะ
“แล้ว ได้เรื่องอะไรมา”
“ชุมชนแถวนั้น มีขาใหญ่นะคะ ชื่อ...” ฤดีนึก “...พี่อะไรนะ...พี่อะไรสักอย่าง”
ภรณีค่อนขอดขำๆ “ทีนี้ล่ะหลงๆ ลืมๆ ขึ้นมาเชียว”
“คือฤดีลืมน่ะค่ะ”
“ที่ไหนๆ ก็มีมาเฟียทั้งนั้น” อรรณพว่า
“คุณต้องระวังนะคะ เราอาจจะไปทำให้ใครเสียผลประโยชน์เข้า”
“ผมทำธุรกิจไม่เอาเปรียบใคร ถ้าเราปรับเปลี่ยนที่แถวนั้นให้เป็นทำเลทอง ทำมาหากินคล่อง ทุกคนก็มีชีวิตที่สะดวกสบาย ง่ายขึ้น วิน - วินทั้งคู่”
“คราวนี้อะไรอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดนะคะ ฤดี วันหลังไปสืบเรื่องแถวนั้นมาให้ฉันอีก”
“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง งานถนัดของฤดีเลยค่ะ”
ภรณีมองค้อน ฤดีรีบถอย อรรณพมองเมียแล้วยิ้มอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่
“โธ่ คุณภรณี คิดมากน่ะ”
“ไม่รู้สิคะ ฉันสังหรณ์ใจ บอกไม่ถูก เหมือนว่าเราจะได้เจอใครที่เรานึกไม่ถึง”
อรรณพหัวเราะ ภรณีค้อนน้อยๆ ที่สามีไม่เห็นด้วย

อัญมาเดินนำมาถึงหน้าห้องพัก อธิคมมอง
“แน่ใจนะ ว่าไหว ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนมั้ย”
“ไม่เป็นไร ขอนอนพักสักแป๊บนึง”
อัญมาเปิดประตูห้อง แล้วเข้าไป อธิคมรีบตามเข้ามา
“พี่คม” อัญมาตกใจ มองไปรอบห้อง กลัวภควัตอยู่ในห้อง
“ตกใจอะไร อัญ”
“คือ ฉันว่าพี่คมออกไปก่อนเถอะ”
อธิคมมองไปรอบๆ ไม่เห็นอะไรผิดปกติ อัญมาพยายามขอร้อง
“นะ พี่คม ให้ฉันนอนพัก”
“เธอก็นอนไป ฉันจะเฝ้าเธอเอง”
เสียงมือถืออธิคมดัง อธิคมมอง เห็นเป็นชื่อพ่อ
“ครับ พ่อ”
อธิคมหันไปเห็นอัญมายืนอยู่ อัญมาทำหน้าอยากรู้ อธิคมต้องถอย แล้วเปิดประตูออกไปอัญมาถอนใจโล่ง รีบหันไปมองรอบห้อง แล้วกระซิบเรียกเบาๆ

“ผู้กอง ผู้กอง อยู่ในนี้ใช่มั้ย ผู้กองภควัต”

อธิคมเข้าห้องมา กรอกเสียงคุยสายกับพ่อ สีหน้าหงุดหงิด

“วันนี้ผมก็ออกไปตระเวนหาบ้านอยู่ พ่อไม่ต้องเร่งหรอก”
เสี่ยวินิจอยู่ที่บ้าน ถามกลับไปน้ำเสียงดุดัน
“ฉันได้ยินพวกไอ้เก้ามันพูดว่าแกเอาไอ้อัญไปด้วย แกไปทำงาน ทำไมเอาผู้หญิงไป”
อธิคมอยู่ในห้องพัก หน้าตาเต็มไปด้วยความอึดอัด ตอบกลับไป
“เอาไอ้อัญมา คนจะได้ไม่สงสัยไงพ่อ นึกว่าหิ้วผู้หญิงมานอน”

ด้านอัญมาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแทบกรี๊ด เมื่อเห็นภควัตนั่งเขลงอยู่ พอจะร้องภควัตจุ๊ปากให้เงียบ
อัญมามอง ภควัตกำลังใส่หูฟัง เหมือนฟังเสียงจากสัญญาณเครื่องดักฟัง อัญมารีบเดินมานั่งข้าง ดึงหูฟังข้างหนึ่งมาเสียบหูตัวเอง
เสียงอธิคมดังขึ้นว่า “ผมจะรีบหาบ้านแล้วกัน”
อัญมาตกใจ “คุณแอบติดเครื่องดักฟังในห้องอธิคม”
“ใช่...ก่อนที่เธอจะมาถึง” ภควัตบอก
“หือ...เสี่ยงมากเลยนะเนี่ย”

อธิคมยังเดินคุยมือถือในห้องพัก
“ผมไม่ได้มาเที่ยว ผมรู้ว่าผมมาทำงานน่ะพ่อ” เสียงวินิจถามว่า “แล้วนี่แกอยู่ที่ไหน” อธิคมบอกว่า “อยู่ที่ห้อง”
“เนี่ยเหรองานของแก”
“ไอ้อัญมันไม่สบาย ผมพากลับมานอนพัก เดี๋ยวจะออกไปใหม่”
จังหวะนี้ แลเห็นเครื่องดักฟังที่ติดอยู่ใต้โต๊ะข้างเตียงทำงานอยู่

วินิจอยู่ในบ้านตะคอกสั่งกลับไป
“แกคิดว่าฉันไม่รู้จักนิสัยลูกตัวเองเหรอ ไอ้คม รีบหาบ้านให้ได้ แล้วส่งข้อมูล รูป มาให้ฉัน ถ้าฉันชอบ ฉันจะได้จัดการเรื่องซื้อขาย อย่ามัวแต่สำเริงสำราญกับไอ้อัญ เข้าใจมั้ย”
วินิจตัดสายอย่างขุ่นมัวที่ลูกชายไม่ได้ดั่งใจ

ภควัตกับอัญมามองสบตากันในที่แคบๆ
“ได้ยินมั้ย...อย่ามัวแต่สำเริงสำราญ”
อัญมาตีเผียะลงที่แขนภควัต กระชากหูฟังออก เดินออกไปอย่างงอนๆ ภควัตลุกตามออกไป
ส่วนอธิคมโยนมือถือห่างตัว หน้าตาหงุดหงิดไม่พอใจที่ถูกพ่อด่า
“โธ่โว๊ย สั่งๆๆ สั่งเหมือนเราคิดไม่เป็น”

ภควัตเดินมาใกล้อัญมาสีหน้าสงสัย
“ตอนไปหาบ้าน อธิคมมันถามอะไรคนขายบ้าง มันอยากได้บ้านแบบไหน”
“ก็ถามทั่วไปๆ”
“อยากได้ที่มีห้องใต้ดินหรือเปล่า”
“ไม่นะ แต่เค้าเน้นติดทะเล”
“ติดทะเลเหรอ ที่จอดเรือล่ะ”
“ก็มีถามๆ”
ภควัตคิดปราดเดียว “พวกมันจะหาเซฟเฮาส์ที่ขับเรือหนีออกไปได้”
“แล้วพวกคุณจะทำยังไง”
“ปล่อยให้มันซื้อ เราจะสะกดรอยตั้งแต่เรื่องที่มันซื้อ เงินในบัญชี ชื่อคนซื้อแทน วินิจมันต้องไม่ใช้ชื่อตัวเอง จะต้องมีใครช่วยมันฟอกเงินอยู่”
อัญมามองอย่างทึ่งๆ กับความคิดภควัตที่คิดล่วงหน้า และรอบคอบมาก

กฤษณ์เดินกลับเข้ามากับสุคนธรสตรงฟร้อนท์
“รสไปที่ห้องก่อนนะครับ ล้างเนื้อล้างตัว เดี๋ยวผมตามไป”
“อย่าให้รสรอนานนะคะ”
สุคนธรสยิ้มหวาน กฤษณ์รอจนสุคนธรสเดินลับไป ก็หันมาถามพนักงานหน้าเคาน์เตอร์
“คุณภควัตกลับมาหรือยัง ผมว่าจะไปหาที่ห้องหน่อย”
พนักงานตรวจดูแล้วบอก “ไม่มีนะครับ ลูกค้าชื่อภควัต”
“ไม่มี...มีสิ ผมยังเจอเค้าเลยเมื่อเช้า ที่ขาวๆ หล่อๆ สูงๆ”
พนักงานก้มลงมองรายชื่อแขกในจอคอมพิวเตอร์อีก
“ไม่มีจริงๆ ครับ ในรายชื่อเข้าพัก ไม่มีแขกชื่อภควัต”
กฤษณ์เดินห่างออกมา สีหน้าฉุนๆ
“แกใช้บัตรประชาชนปลอมเหรอไอ้วัต รอบคอบจริงๆ ฉันหาเองก็ได้ว่าแกอยู่ห้องไหน”

กฤษณ์เดินหงุดหงิดเข้าไปด้านในทันที

ขณะที่กฤษณ์เดินมองมาตามทางเดินหน้าห้อง หวังว่าจะฟลุคเจอภควัต พอดีอธิคมเปิดประตูห้องออกมา กฤษณ์เห็นแต่ไกล ก็หลบวูบ

อธิคมรู้สึกด้วยหางตาหันขวับไปมองกฤษณ์ฉากหลบทำตัวลีบ
อธิคมเดินเร็วมามองหาตรงที่กฤษณ์ยืนอยู่
กฤษณ์หลบมาซ่อนตัวอยู่อีกด้าน ไม่กล้าโผล่ออกมา อธิคมมองไปรอบๆ ไม่เห็นใครก็เดินเร็วออกไป
กฤษณ์ค่อยๆ โผล่มามอง เห็นอธิคมเดินออกไปทางด้านหน้า
“ไอ้วัต...นี่แกมาตามอธิคมเหรอ คิดจะจับตัว เอาผลงานคนเดียวล่ะสิ”

ภควัตยืนใช้ความคิด มือถืออัญมาดัง อัญมารีบรับ
“จ้ะ พี่คม”
ภควัตมอง อัญมาแกล้งทำเสียงป่วยๆ
“ฉันนอนอยู่น่ะจ้ะ ยังมึนๆ พี่คมจะออกไปข้างนอกเหรอ”
อัญมาเหลือบมองภควัตที่ยืนฟัง
“ไม่ต้องห่วงฉันนะ ไปเถอะ พี่จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ เดี๋ยวค่ำๆ เจอกันจ้ะ”
อัญมาวางสายไป ภควัตมองจ้อง
“อธิคมคงรีบออกไปหาบ้าน...ตามคำสั่งพ่อ”
“เราแอบตามไปมั้ย”
“ไม่เป็นไร ถ้าได้บ้านจริงๆ เค้าต้องพาเธอไปดูแน่ๆ”
“เล่นง่ายเลยนะ ผู้กอง รอฉันเหนื่อยคนเดียวเลย พี่คมไม่อยู่แล้วออกไปข้างนอกกันได้แล้วผู้กอง”
“ทำไมกลัวเหรอ...กลัวอะไร ไม่มึนหัวแล้วเหรอ”
“ไม่ต้องเลย...ออกไป เร็ว”
“น่าจะนอนพักก่อน ฉันห่วงเธอนะ เห็นเพิ่งเป็นลมเป็นแล้ง”
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกน่ะ”
“ก็คงใช่ เถียงซะนึกว่าหายใจทางผิวหนัง”
“ผู้กองภควัต”
“อย่าเพิ่งโวย เดี๋ยวก่อน ...ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ...เรื่องนึง”
อัญมาฉงน “คอขาดบาดตายอีกหรือเปล่า”
“คือผมก็เพิ่งรู้เมื่อเช้า... กฤษณ์อยู่ที่นี่ด้วย”
อัญมาตกใจ “หา! แล้วถ้าอธิคมเจอผู้กองกฤษณ์ล่ะ”
“นั่นล่ะ ปัญหาของเรา”
อัญมาทำหน้ากลุ้ม ภควัตเองก็สีหน้าอึดอัด

สุคนธรสเดินออกจากห้องน้ำในชุดใหม่ กฤษณ์นั่งอยู่ในห้องหน้าเครียด
“ทำหน้าเหมือนโดนนายด่ามาเลยนะคะ”
“ผมจะอาบน้ำ”
“ทำท่าหงุดหงิดใส่รสอีกแล้วนะ”
กฤษณ์คว้าผ้าขนหนู จะเดินเข้าห้องน้ำ ไม่อยากต่อความกับสุคนธรสที่อารมณ์เสียเดินไปยืนมองออกไปที่ทะเล
“เอ๊ะ”
กฤษณ์หันมา “อะไร รส”
“นั่นวัตนี่...อยู่กับใครนะ”
กฤษณ์วิ่งมายืนข้างสุคนธรส มองผ่านกระจกแล้วยิ้มร้ายพอใจ
“ในที่สุดฉันก็เจอแก”

ภควัตเดินคุยกันมากับอัญมาที่ริมหาด
“กฤษณ์มันตามผมมา”
“สารวัตรกฤษณ์เค้าทำให้งานคุณเละยิ่งกว่าโจ๊กมาหลายครั้งแล้วนะ แถมยังเป็นคนยิงฉันด้วย”
“เค้าเป็นเพื่อนผม เราเรียนรุ่นเดียวกัน”
“แล้วทำไม...ฉันควรใช้คำว่าอะไร” อัญมานึกปราดเดียว “...จองล้างจองผลาญใช่มั้ย
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เราแยกย้ายกันทำงาน กฤษณ์มันไปไกลกว่าผมเยอะ”
“แน่ใจว่าไม่มีเรื่องผิดใจกัน”
ภควัตทำท่าอึดอัดไม่ตอบ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามีเรื่องสุคนธรสด้วย อัญมามองแล้วนึกเอะใจ
“ผู้หญิง... เรื่องผู้หญิงแน่ๆ”
เสียงคนต้นเหตุดังเข้ามา “วัต! วัตขา”
สุคนธรสเดินเร็วรี่ตรงมา ด้านหลังคือกฤษณ์ ภควัตมีสีหน้าอึดอัด อัญมาหันไปมอง พอเห็นสุคนธรสก็ตกใจ ภาพอดีตในโลกคุณหนูอัญมา เคยเที่ยว เคยเดินแบบกับสุคนธรสผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“สุคนธรส”

ภควัตหันขวับ มองอย่างแปลกใจที่อัญมารู้จักชื่อสุคนธรส

อ่านต่อหน้า 2/17.00 น.

คีตโลกา ตอนที่ 7 (ต่อ)

สุคนธรสเดินมาหยุดตรงหน้าอัญมา มองสำรวจหัวจรดเท้า เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนในโลกใบนี้

“แหม หลบมาเที่ยวกับ...” สุคนธรสปรายตามองไปทางอัญมา
กฤษณ์จ้องว่าภควัตจะแนะนำอัญมาว่ายังไง
“เพื่อนผม...อัญมา”
สุคนธรสสะดุดหู “ชื่ออะไรนะ”
อัญมามองหมั่นไส้สุคนธรส พอจะนึกออกว่า ต้นเหตุของความบาดหมางใจของเพื่อนคู่นี้คือ สุคนธรส นี่เอง
“อัน - ยะ มา ค่ะ ชั้นชื่อ อัน ยะ มา จำชื่อชั้นไว้ให้แม่นๆเลยนะคะ เผื่อวันนึงข้างหน้า คุณจะต้องคุ้นเคยกับชื่อนี้”
สุคนธรสทำน้ำเสียงกระแทกกระทั้นใส่ “เพื่อนวัต พูดจาประหลาดดีนะคะ”
“ชั้นมีอะไร ประหลาด ยิ่งกว่านี้อีกค่ะ คุณสุคนธรส” อัญมาว่า
“รู้จักชื่อรสด้วย วัตคงพูดถึงชั้นบ่อยล่ะสิ”
อัญมาหันไปมองภควัตที่ทำหน้าตาเซ็งมาก เลยแกล้งตีหน้าตาย ตอบกวนๆ
“ไม่เคยพูดถึงเลยค่ะ”
“อ้าว... แล้วเธอรู้จักชื่อชั้นได้ยังไง”
“เมื่อกี้เองค่ะ ผู้กองเพิ่งพูดถึงคุณ ก่อนที่คุณจะเดินเข้ามา สองวิ ฉันก็เลยจำได้”
สุคนธรสเน้นเสียง มองด้วยสายตาไม่ชอบขี้หน้า “เพื่อนวัตคนนี้ ประหลาดมากนะคะ”
ภควัตยิ้ม “อัญเค้าไม่เหมือนใครดีออกครับ”
กฤษณ์ถาม “จำผมได้มั้ย อัญมา”
“จำไม่ได้หรอกค่ะ ฉันความจำสั้นกว่าปลาทองสามวิอีก”
กฤษณ์บอก “เราเคยเจอกันที่ตลาด”
อัญมากวนต่อ “ขอนึกแป๊บนะคะ”
“แอบซุกผู้หญิงมาด้วย ไหนวัตบอกว่ามาทำงาน” สุคนธรสค่อนแคะ
“คุณจะคาดคั้นอะไรผมนักหนา”
“คงลืมตัว...นึกว่าเป็นแฟน”
อัญมาตอบกวนๆ สุคนธรสหันมาจ้องไม่ชอบขี้หน้า
ภควัตเห็นแววตาสองคนแล้วไม่อยากให้มีเรื่อง ตัดบทขึ้น
“ไปเถอะ อัญ แดดร้อน อย่ายืนคุยแถวนี้เลย ไหนเมื่อกี้บอกว่า อยากกินไอติม”
สุคนธรสแขวะ “น่ารักจังเลยนะคะ กินไอติม”
“เรามีเรื่องอะไรน่ารักๆ มากกว่านี้อีกค่ะ”
อัญมาย้อนทันที สุคนธรสถลึงตามอง
“ถ้าคุณสุคนธรสอยากรู้ วันหลังฉันจะเล่าให้ฟัง ผู้กองเค้าน่ารัก ใจดี เอาใจเก่ง”
“แน่ใจเหรอว่า ที่พูดมาน่ะ...แค่เพื่อน”
“ค่ะ เพื่อน แต่จะเพื่อนแบบไหน สนิทยังไง ขอเก็บเป็นความลับของเราสองคน”
อัญมาแกล้งหันมายิ้มหวานกับภควัต ภควัตนึกสนุกอยากแกล้งสุคนธรส เลยยิ้มตอบ
“ใช่ เป็นเรื่องของเราสองคน”
“คนอื่นไม่เกี่ยว”
อัญมายิ้มยั่วแล้วจะเดินไป สุคนธรสแกล้งแหย่เท้า ขวางทางให้อัญมาสะดุด กลิ้งลงไปกับทราย
ภควัตตกใจ “อัญมา”
“ตายแล้ว เพื่อนวัตสงสัยเป็นลมแดดนะคะ”
สุคนธรสเยาะหยัน อัญมาโกรธจัด ลุกขึ้นพุ่งเข้าหา สุคนธรสถอยกรูด
“จะทำอะไร อย่ามาถ่อยกับฉันนะ”
กฤษณ์กับภควัตดึงผู้หญิงของตัวเองไว้คนละด้าน
“นิสัยแต่กำเนิดนี่มันแก้ไม่ได้จริงๆ” อัญมาด่า
“เพื่อนวัตคนนี้ไปเก็บเอามาจากไหนคะ ก้าวร้าว”
“ฉันก้าวร้าวกับคนที่มันสมควรโดน อย่าคิดว่าอยู่สูงเลิศลอย เพราะแค่มีเงิน แล้วจะข่ม จะดูถูกคนอื่นได้ตลอด”
กฤษณ์เอ่ยขึ้น “ผมขอโทษแทนสุคนธรส”
สุคนธรสเสียงดัง “รสไม่ได้ทำอะไรผิด อัญมาเดินสะดุดล้มเอง จะขอโทษทำไม”
“พอเถอะ อัญ ...อยู่ตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ดูแลแฟนนายด้วย กฤษณ์ หวังว่าจะไม่มีเรื่องบังเอิญแบบนี้อีก”
ภควัตดึงอัญมาที่มีสีหน้าเจ็บใจเดินออกห่างไป สุคนธรสมองตามแววตาไม่พอใจมาก

ภควัตเดินมากับอัญมาที่ยังมีสีหน้าไม่พอใจอยู่อย่างนั้น
“คุณไม่น่าห้าม ฉันจะได้สั่งสอนสุคนธรส หัวสูงทะลุเพดาน ไม่เคยเปลี่ยน”
“อัญมา...คุณรู้จักสุคนธรสที่ไหน”
อัญมาหันมองมา ภควัตมองจ้องคาดคั้น
“ฉันพูดไป คุณก็ไม่เชื่ออีกหรอก”
“จะบอกว่าโลกคู่ขนานที่เธอเป็นคุณหนูน่ะเหรอ”
“ใช่”
อัญมานิ่ง นึกทวนหวนย้อนนึกถึงเรื่องราวในโลกที่เป็นคุณหนูอัญมา

ในตอนนั้นสองสาวช็อปปิ้งอยู่ในห้างหรู สุคนธรสก้มลงช่วยใส่รองเท้าให้อัญมา แต่แอบเบ้ปาก
อัญมาเล่าว่า “ฉันเป็นเพื่อนกับเค้า เพื่อนที่ไม่ต้องมีความจริงใจ แค่เพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน เพราะเป็นคนในสังคมระดับเดียวกัน”
อัญมาถือถุงช็อปปิ้งหลายใบ มีสุคนธรสเดินข้างๆ อัญมาส่งถุงให้สุคนธรสช่วยถือ สุคนธรสรับมาอย่างไม่เต็มใจ
อัญมาแอบมองเหยียดยิ้ม เห็นสุคนธรสเป็นแค่คนช่วยถือของ เดินเชิดเข้าร้านเพชรไปตัวปลิว
“เพื่อนที่แข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกัน แล้วก็สะใจที่ตัวเองอยู่สูงกว่า” อัญมาเล่าอีก
ต่อมาสองสาวอยู่ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางแบรนด์ดัง อัญมากำลังลองเครื่องสำอาง
พนักงาน 3 คนพากันมารุมล้อมเอาใจอัญมาคนเดียว สุคนธรสถูกทิ้งให้ถือถุง โดยไม่มีใครสนใจ
“ฉันอยู่เหนือกว่าสุคนธรสทุกอย่าง สุคนธรสเองก็พยายามที่จะอยู่ใกล้ฉันเพราะอยากมีชื่อเสียง อยากให้ทุกคนมองมาที่เค้า เราไม่เคยมีความจริงใจต่อกัน”
อัญมามองเงาที่สะท้อนในกระจก เห็นด้านหลังสุคนธรสยืนถือถุง ก็ยิ้มเยาะ หันมาเลือกเครื่องสำอางต่อ

สุคนธรสกำถุงแน่นมองจ้องอัญมาด้วยสายตาริษยาเต็มที่

ได้ฟังแล้วภควัตมองจ้องอัญมาด้วยสายตาฉงนฉงาย ไม่แน่ใจ

“จะให้ผมเชื่อที่คุณเล่า...”
“ไม่เชื่อก็ได้ แต่นิสัยที่ฉันเล่า มันเหมือนกับสุคนธรสที่เคยเป็นแฟนเก่าคุณหรือเปล่าล่ะ”
“รสเค้าก็ไม่ได้นิสัยแย่อะไร เค้าแค่ต้องการคนเทคแคร์ ดูแลสนใจเค้า”
“สุคนธรสน่ะ ไม่ว่าโลกไหน เค้าก็อยากเด่น อยากดัง อยากมีหน้ามีตาในวงสังคม”
“แล้วผมล่ะ ผมในโลกคู่ขนานของคุณ เป็นยังไง เราเคยเจอกันมาก่อนมั้ย”
อัญมามองหน้าภควัต ภาพตอนเห็นภควัตไล่จับพ่อค้ายาที่งานแฟชั่น และจับยาบ้าในห้าง ภควัตถูกแก๊งอธิคมยิง รวมทั้งตอนที่ภควัตกระโดดน้ำลงไปช่วย ผุดซ้อนขึ้นมาติดๆ กัน
เห็นอัญมานิ่งไปเฉยๆ ภควัตเลยถามซ้ำ “ว่ายังไง อัญมา เราเคยรู้จักกันมาก่อนมั้ย”
“คุณเป็นคนดี”
“แสดงว่าเราเคยรู้จักกัน”
“เคยรู้จัก...แล้วคุณก็ช่วยฉันหลายครั้ง...จนกระทั่งตอนตกน้ำ”
“ตกน้ำ...อ๋อ...ตอนที่ผมเจอคุณ”
“มันเหลือเชื่อใช่มั้ยผู้กอง”
ภควัตยิ้ม “งั้นถ้าคุณตกน้ำคราวหน้า คุณจับมือผมไว้ ให้ผมตกลงไปด้วยนะ”
“ทำไมล่ะ”
“ผมอยากไปเห็นโลกคู่ขนานของคุณ อยากรู้ว่าตอนเป็นคุณหนู คุณกับผม มันคงต่างกัน ไม่มีวันใกล้กันเหมือนตอนนี้”
ภควัตมองใกล้มาก อัญมาใจเต้นโครมคราม ภควัตเข้ามาใกล้อีก
“ผมไม่เข้าใจโลกคู่ขนานที่คุณพูดหรอก แต่ผมว่าบางที มันอาจจะเป็นพรหมลิขิตให้เรามาเจอกัน”
อัญมายิ่งใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อภควัตก้มหน้ามาใกล้ อัญมามองภควัต ไม่ได้รู้สึกกลัว ไม่หลบ ไม่ถอยเหมือน ตอนใกล้ชิดอธิคม
“คุณกับผม...ได้เจอกัน ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุขด้วยกัน ...”
ภควัตก้มลงจะจูบ อัญมามองใจเต้นระรัว ภควัตกำลังจะจูบ แต่ก็หยุดตัวเองไว้ ขยับออกมา อัญมาหน้าตาเก้อเขิน
“ผมไม่ควรทำแบบนี้”
อัญมามองภควัตที่พยายามข่มความรู้สึก
“ถ้าโลกคู่ขนานมีจริง...คุณหนูอัญมาก็คงมีใครสักคนรออยู่”
“ฉัน ...”
อัญมายังไม่ทันตอบ ภควัตพูดขัดขึ้น
“เราทำงานด้วยกัน...ผมไม่ควรทำให้คุณอึดอัด ผมควรแยกเรื่องงานกับเรื่องอื่น”
อัญมามองภควัต สายตาน้อยใจ
“เรื่องอื่นของคุณหมายความว่าอะไร”
“เราแกล้งเป็นแฟนกัน ตบตาทุกคน ผมไม่ควรเอาเรื่องนี้มาฉวยโอกาสกับคุณ ผมขอโทษ”
ภควัตหันหลังเดินออกไป อัญมามองตามอย่างน้อยใจ

ภควัตเดินมาอย่างพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง
“โลกคู่ขนาน คุณหนูอัญมา...คุณหนูอัญมา...อัญมา...ไอ้อัญ”
ภควัตหันรีหันขวางสีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนว้าวุ่นใจ
“ใคร...เธอเป็นกันแน่ อัญมา ฉันจะเชื่อเธอดีมั้ยนะ”

ส่วนอัญมาเดินเตะน้ำทะเลเหงาๆ
“ใครจะเชื่อว่าฉันมาจากโลกคู่ขนาน... ผู้กองภควัต ถ้าฉันกลับไปโลกของคุณหนูอัญมา... คุณคงไม่สนใจผู้หญิงฉาบฉวย ไร้แก่นสารอย่างฉันเลยสักนิด...ไม่สนใจเลย”
อัญมาสายตาเศร้า นึกถึงตอนเจอภควัตที่เป็นคุณหนูอัญมาแล้วยิ่งแววตาเศร้าลง

ฝ่ายสุคนธรสยืนกอดอกหน้าบึ้ง ต่อหน้ากฤษณ์
“คุณต้องเอาเรื่องยายอัญมา”
“ผู้หญิงคนนั้น เค้ามีประโยชน์กับงานของผมนะรส”
“รสไม่สน มันกล้ามาท้าทายรส คุณยอมเหรอคะ กฤษณ์”
กฤษณ์เกลี้ยกล่อม “อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่น่า”
“ดี รสจะไดรู้ว่าคุณเห็นงานดีกว่ารส”
กฤษณ์ชักฉุน “แล้วคุณเห็นผมดีกว่าไอ้วัตหรือเปล่า”
สุคนธรสโกรธ “กฤษณ์”
“ที่คุณโวยวายเนี่ย เพราะคุณยังหึงไอ้วัตมันใช่มั้ย”
สุคนธรสปฏิเสธทันที “ไม่นะคะ รสแค่รักษาชื่อเสียงของรส เรื่องอะไรจะให้ผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้า กระจอกๆ แบบนั้น มากล้าตีเสมอ เถียงรสฉอดๆ”
“ให้มันจริงนะ รส...คนอย่างผมไม่ชอบเป็นรองใคร โดยเฉพาะเพื่อน คุณน่าจะรู้ดีที่สุด”
สุคนธรสมองท่าทางหัวเสีย และจริงจังของกฤษณ์ ก็รีบกอดประจบเอาใจ
“ค่ะ รสรู้ว่ากฤษณ์เป็นคนดีที่สุด”
“ผมขอร้อง อย่ายุ่งกับอัญมา อยู่ห่างๆ เค้าเลยก็ได้ ผมต้องใช้เค้า ผมต้องดึงตัวอัญมาจากไอ้วัต มาทำงานให้ผม”
กฤษณ์มองไปไกลแววตาครุ่นคิด เลยไม่เห็นสีหน้าบูดบึ้งไม่พอใจของสุคนธรส

อัญมานั่งมองบรรยากาศยามเย็นเหงาๆ ภควัตเดินมามองจากด้านหลัง แล้วเดินลงมานั่งข้างๆ
อัญมาแค่เหลือบมอง แล้วหน้าเชิดกลับไป ภควัตมองแล้วพยายามง้อ
“เล่นน้ำมั้ย”
“ฉันกลัวเปียก”
“แค่เดินเล่น ไม่ต้องลงก็ได้”
“ไม่ละ”
“งั้นไปกินอาหารทะเลมั้ย”
“ไม่...เบื่อ”
ภควัตชักพาล “อธิคมคงเลี้ยง อิ่มจนจุกแล้วสินะ”
“นี่ผู้กอง อย่ามาพาลคนอื่น”
อัญมาลุกขึ้น ภควัตลุกตาม อัญมาจะเดินหนี ภควัตดึงมือ ลากอัญมา แต่อัญมาสะบัดออก
“ก็ฉันบอกว่าไม่เล่นไงล่ะ”
“มาน่ะ เล่นเป็นเพื่อนหน่อย เป็นโรคกลัวน้ำหรือไง”
“นี่ผู้กอง ปากคุณน่ะ วันหลังฉันจะซื้อตะกร้อใส่ให้”
ภควัตดึงอัญมาลงมาในน้ำ อัญมาอมยิ้ม แกล้งสะบัดมือ พอภควัตหันมาอัญมาผลักก้นจ้ำเบ้าลงน้ำ
“เล่นทีเผลอเหรอ”
อัญมาวัดน้ำสาดใส่ ภควัตลุกมาดึงมือไว้แต่อัญมาดิ้นหนี
ภควัตกอดอัญมาไว้ได้ แล้วดึงลงไปในน้ำ อัญมาเปียกปอนไปหมด ภควัตกอดไว้
ต่อมาอัญมาผลักแต่ภควัตรวบตัว สบตากัน
สุคนธรสยืนมองภาพภควัตกับอัญมาที่ริมหาด
“สิ้นคิดจริงๆ วัต คงจะเสียใจที่ถูกฉันทิ้ง ถึงได้ไปคว้าผู้หญิงแปลกๆ แบบอัญมา”
กฤษณ์ออกมาจากห้องน้ำ สุคนธรสรีบปิดม่าน เอาตัวบังอีกที
“ดูอะไรครับ”
“ดูวิวเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

สุคนธรสตอบเลี่ยงไป ไม่ยอมบอกว่ากำลังมองภควัต กับ อัญมา

ภควัตกับอัญมามองหน้ากันใกล้ๆ ภควัตยิ้ม ปัดน้ำบนหน้าให้อัญมาอย่างแผ่วเบา อัญมามองแล้วยิ้ม วักน้ำขึ้นสาดหน้าภควัต หัวเราะเริงร่าแล้ววิ่งหนี ภควัตวิ่งตามไล่สาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน

ขณะเดียวกันอธิคมขับรถเข้ามาจอดแล้วก้าวลงจากรถ ใส่หมวกหรุบหน้า มองซ้ายมองขวา ระวังว่าจะมีคนตาม แล้วรีบเดินเข้าไปในรีสอร์ท

ภควัตยืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกอยู่กับอัญมา
“ผมไม่เคยสบายใจอย่างนี้มานานมากแล้ว”
“ผู้กอง...คุณเป็นแฟนกับสุคนธรสนานมั้ย”
ภควัตยิ้มเศร้าๆ “สองปีกว่า”
อัญมาคิดตาม “แสดงว่าก่อนที่ฉันจะรู้จักรส...ตอนที่รู้จักกันเค้าเป็นแฟนสารวัตรกฤษณ์ เราเป็นเพื่อนเที่ยวกลุ่มเดียวกัน”
ภควัตมองอัญมา ด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ไม่น่าเชื่อเลยนะ คุณคบกับรสได้”
“ถ้าคุณเจอฉัน ที่อีกโลกนึง...คุณก็คงไม่อยากรู้จักฉันเหมือนกัน”
“งั้นผมขอให้คุณอยู่โลกนี้ อยู่ที่นี่ เป็นอัญมาแบบนี้ไปนานๆ ได้มั้ย”
ภควัตมองสบตาอัญมาลึกซึ้ง
อธิคมก้าวเข้ามามองสองคนจากด้านหลัง
ภควัต และอัญมาหันไป เห็นอธิคมหน้าบึ้ง ตาลุกวาวด้วยความโกรธ
“พี่คม...กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่...คือว่า”
ภควัตพูดขึ้นเอง “ฉันตามมาหาแฟนฉัน”
ภควัตโอบไหล่อัญมาไว้ทันที อธิคมยิ่งโมโห
“พอดีฉันมาดูพระแถวนี้ โทร.หา น้องอัญ รู้ว่ามาที่นี่ เลยตามมา”
ภควัตยิ้มให้กับอธิคมที่จ้องตาลุกวาว
“ขอบใจมากนะ พี่คมที่พาแฟนฉันมาเที่ยว รีสอร์ทหรูๆ อย่างงี้ ฉันไม่มีปัญญาพามาหรอก ไป น้องอัญ...พาพี่ไปดูห้องน้องหน่อย คงจะหรูหรา น่านอนเลยใช่มั้ย”
ภควัตกุมมืออัญมาแน่น ดึงให้เดินผ่านหน้าอธิคมอย่างจงใจ อธิคมกำหมัด มองตามแววตาแค้นมาก
“ไอ้วัต วันนี้กูจะฝังมึงหมกทรายไว้ที่นี่”
แววตาอธิคมโกรธแค้นถึงขีดสุด

ฝ่ายอัญมาเดินนำเข้าห้องมา ภควัตตามหลัง
“ไปยั่วอธิคมแบบนั้น เดี๋ยวก็มีเรื่องจนได้”
ภควัตหยิบปืนที่เหน็บเอวด้านหลังออกมา อัญมามองตาขุ่น
“ผู้กอง ถึงกับต้องใช้ปืนเลยเหรอ”
“ฉันเตรียมพร้อมไว้ก่อน”
“คุณจะไม่ยิงอธิคมใช่มั้ย”
“ผมจะพยายาม ถ้าอธิคมไม่ยิงผมก่อน”
“อย่าฆ่าอธิคมได้มั้ย”
ภควัตมองอัญมาอย่างไม่พอใจ
“คุณแค่ห่วงงาน หรือว่า คุณกำลังปกป้องอธิคม”
ภควัตกับอัญมาจ้องกัน ราวกับจะค้นความจริงในใจของอีกฝ่าย

อธิคมเดินเข้าห้องมาแล้วเปิดกระเป๋า หยิบปืนออกมา ยกขึ้นเล็ง
“ไอ้วัต...มึงอย่าอยู่กวนใจกูอีกเลย”

ส่วนภควัตมองแล้วถามอัญมาซ้ำ
“ที่เธอห้าม เพราะเธอรักอธิคม”
“ฉันไม่ได้รักอธิคม คุณก็บอกเอง อธิคมเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะลากนายวินิจกับขบวนการค้ายาทั้งหมดเข้าไปรับโทษในคุก”
“ผมจะไม่จับตายอธิคม ไม่ใช่เพราะคำขอของคุณ”
อัญมามองภควัต
“เพราะผมจะจับเป็น ให้มันขึ้นศาล ชดใช้ความผิดที่มันกับพ่อทำลงไปทั้งหมด...ในคุก”ภควัตถือปืน อัญมามองนิ่ง ยังไม่สบายใจนัก

ตกตอนเย็นอุบลกำลังเข็นรถกลับบ้าน พอผ่านหน้าร้านเจ๊ว่าน แอนนี่กำลังทาเล็บให้เจ๊ว่าน ร้องแขวะ
“อ้าว นังจิ๊บหายหัวไปไหนซะล่ะ”
“ไอ้จิ๊บมันก็ไปทำงานของมันที่เซเว่นสิวะ”
“แหม นึกว่ามีลูกบุญธรรมจิ๊บเพิ่มขึ้นมาอีกคน นอกจากลูกอัญสุดที่รัก” เจ๊ว่านแขวะอีก
“ปากว่างมาก ข้าจะต้มกระดูกให้มั้ย นังสองแม่ลูก”
เจ๊ว่านเหยียดปากใส่ “แกเอาไว้แทะกินเองเถอะ นังอุบล ชิส์”
เก้าเดินผ่านมา แอนนี่เห็นก็รีบพุ่งไปถาม
“ไอ้เก้า ...พี่คมกลับมาหรือยัง”
“ยัง”
“พี่คมก็ไม่อยู่ พี่วัตก็ไม่อยู่ ไอ้อัญนี่มันจะกวาดผู้ชายทั้งซอยเลยหรือไงวะ”
อุบลหัวเราะเยาะ “น่าสงสาร”
“สงสารทำไม”
“ที่เดือดร้อนเนี่ย เพราะกลัวจะไม่มีลูกค้า แล้วซ่องจะเจ๊งละซิ”
เก้าหัวเราะพรวด เจ๊ว่านถึงกับลุก
“นังอุบล”
จ่าเดชเดินมา ส่งเสียงห้ามมาก่อนตัว
“ทะเลาะวิวาท ปรับห้าร้อย”
เจ๊ว่านไม่สน “ให้พันนึงเลย ขอตบปากมันหน่อย”
“เข้ามาเล้ย วันนี้ขายของได้เยอะ มีค่าปรับตบปากนังเจ๊ว่าน”
อุบลหยิบแบงค์มากรีดโชว์ ชาวบ้านเฮ เจ๊ว่านหันไปตวาดชาวบ้าน
“นี่พวกแก ไม่เกี่ยว ถอยไปเลยนะ เดี๋ยวจะเจอลูกหลง”
“จริงไม่กลัว กลัวจะขู่เก่งน่ะสิ เจ๊ว่าน” เก้าว่า
เจ๊ว่านด่า “ไอ้เก้า เดี๋ยวแม่ตบ”
“เจ๊ตบ ผมก็ชก” เก้าไม่ยอมลงให้
“ว๊าย ดั้งหัก กรามบุบ ต้องไปเหลาหน้าใหม่เลยนะคะคุณแม่”
แอนนี่ดึงเจ๊ว่านถอยห่างเก้า
“เอ้า แยกย้าย บ้านใครบ้านมัน อย่ามัวเชียร์มวย ไป...ไป” จ่าเดชเคลียร์กองเชียร์
ชาวบ้านพากันแยกย้าย อุบลมองเยาะ พูดเย้ยตามหลังเจ๊ว่านไป
“อยากมีเรื่องอีกเมื่อไหร่บอกนะ นังเจ๊ว่าน ข้ามีตังค์จ่ายค่าปรับ”
“ไปๆ ไปเลย กลับบ้านเลย จะมาหาเรื่องกันอีก ไม่ทะเลาะกัน กินข้าวไม่อร่อยหรือไง คู่นี้” จ่าเดชห้าม
เจ๊ว่าน กะเหี้ยนกระหือรือ อยากจะตบอุบล แต่อุบลลอยหน้า เข็นรถออกไป จ่าเดชหันมายิ้มกับเจ๊ว่าน
“ยิ้มอะไร ไอ้จ่าหน้าลิง”
“ลิงก็ลิงจั๊กจั๊ก รักจริงๆนะจ๊ะ”
แอนนี่กับเจ๊ว่านอ๊วกพร้อมกัน จ่าเดชหัวเราะหน้าทะเล้น

เจ๊ว่านสะบัดหน้าเข้าร้าน แอนนี่สะบัดตาม จ่าเดชทำท่าขว้างหัวใจแบบเกาหลีส่งตามไป

ในขณะที่อุบลกำลังเก็บของจากรถเข็นเข้าบ้าน จ่าเดชเดินมามอง

“ไอ้อัญมันยังไม่กลับเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ หายไปกับลูกชายพี่บัง นี่...จ่า ถามจริงๆ เมื่อไหร่จะจับถอนรากถอนโคนพวกค้ายานี่สักที ก็เห็นๆ รู้ๆ ก็กันอยู่เต็มตานะ หรือว่า...ทำไม่รู้ไม่เห็น”
“ชะ หมิ่นประมาทเจ้าพนักงานแล้วนะ ป้าอุบล”
“ก็มันสงสัย คนทั้งชุมชนนี่เค้าก็ไม่หูหนวกตาบอดนะ จ่า พวกนี้พอมันไม่มีเงินค่ายา มันก็จี้ก็ปล้น คนดีๆ คนทำมาหากินเค้าก็พากันเดือดร้อน”
“ก็ไม่ใช่ว่าตำรวจจะเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ความชั่วทำง่ายกว่าทำความดี คนเลวมันถึงเยอะขึ้นทุกวัน พวกเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจหรอก คอยดูเถอะ อีกไม่นาน ที่นี่จะต้องเป็นชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติดจริงๆ”
อุบลยกมือท่วมหัว “สาธุ ขอให้จริงเร็วๆนะ ฉันมีลูกติดยา ฉันรู้ดีว่าหัวใจพ่อแม่ทรมานแค่ไหน อย่าให้คนอื่นต้องมาเป็นเหมือนฉันเลย”
จ่าเดชมองอุบลอย่างเห็นใจ

ทางด้านอัญมานั่งอยู่ตรงกลางอธิคมกับภควัตที่จ้องหน้ากันอย่างไม่สบตาอารมณ์ทั้งคู่
“ที่จริง ...ฉันก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”
“กินเถอะ น้องอัญ มื้อนี้พี่เลี้ยง พี่คมด้วยนะ กินเลย ผมเลี้ยงเอง”
“ไม่ต้อง อัญมากับฉัน ฉันดูแลเองได้”
“มากับพี่คม แต่ใครๆ ก็รู้น้องอัญ แฟนผม”
ภควัตทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราะกวนๆ อธิคมจ้องหน้านัยน์ตาเข้ม จนอัญมาเสียวไส้แทน
“สั่งอาหารกันเลยดีกว่า กินเสร็จจะได้ห้องใครห้องมัน”
อัญมาหยิบเมนูส่งให้สองคน แต่ไม่มีใครสนใจเมนู อัญมาเปิดเมนูหยิบน้ำขึ้นจิบ
“คืนนี้พี่ว่าจะพาน้องอัญไปนอนดูดาวริมหาด”
“ฉันไปดูด้วย ทะเลมันมืดดี น้ำนิ่งอย่างๆ นี้ ถ้าใครสักคนจมลงไป...กว่าจะเจอ...ศพคงขึ้นอืด”
อัญมาถึงกับสำลักน้ำ ภควัตกับอธิคมหันมามองอัญมาทันที
“ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร”
อีกด้านกฤษณ์ควงแขนสุคนธรสออกมา มองมาเห็นภควัต อธิคม และอัญมานั่งอยู่ที่โต๊ะ สองคนความสนใจต่างกันทันที
สุคนธรสอุทานว่า “อัญมา”
กฤษณ์อุทานชื่อ “อธิคม”

“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
อัญมาลุกขึ้นเดินหนีบรรยากาศน่าอึดอัด ออกไปทางห้องน้ำ ภควัตกับอธิคมหันมาจ้องกัน
สุคนธรสเห็นอัญมาเดินไป ก็ผละจากฤษณ์
“ขอรสไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
สุคนธรสไม่รอกฤษณ์อนุญาต รีบเดินออกไป กฤษณ์ได้โอกาส หาที่หลบมองแล้วยกมือถือขึ้นถ่ายรูปภควัตกับอธิคม ร่วมโต๊ะกันทันที

อัญมาเข้าห้องน้ำมา สีหน้ากลุ้มใจ “จะรอดคืนนี้มั้ยเนี่ย”
สุคนธรสตามเข้ามากดล็อคห้องน้ำ อัญมามอง
“สุคนธรส”
“แกกล้าดียังมาท้าทายฉัน”
“เพราะชั้น...คงรู้เช่นเห็นชาตินิสัยเธอมาก่อนน่ะสิ”
“ปากดี...ดูสารรูป จนๆอย่างนี้ จะคิดอะไรได้นอกจากใฝ่สูง คิดจะจับวัต หวังเป็นคุณนายผู้กอง”
“แล้วเธอล่ะ คุณนายสารวัตรสินะที่ระริกระรี้อยากจะเป็นเหลือเกิน คงจะดีกว่าเป็นคุณนายผู้กอง ยศน้อยๆ ไม่มีหน้าไม่มีตาใหญ่โตอวดชาวบ้านได้”
“แก”
สุคนธรสพุ่งเข้าไปจะตบอัญมา แต่อัญมาตาไวจับแขนสุคนธรสไว้ สุคนธรรสเอากระเป๋าถือฟาดเข้าหน้าอัญมา อัญมากระเด็น สุคนธรสหันไปคว้าถังขยะ แล้วเทขยะใส่อัญมา
“อย่างแกมันก็เน่าๆ เหมือนขยะในถังนี่แหละ”
อัญมาปัดป้อง สุคนธรสยังไม่สาแก่ใจ หันไปหยิบถังตักน้ำที่วางอยู่ขึ้นมา อัญมาลุกขึ้นได้ สุคนธรสสาดน้ำโครมเข้าหน้าอัญมาจังๆ อัญมาเปียกไปทั้งตัว

ภควัตกับอธิคมที่นั่งจ้องหน้ากันในศึกชิงนาง อธิคมตะเพิด
“ฉันพาอัญมา แกมาทีหลัง กลับไปซะ”
“ผมยังไม่ได้เอาเรื่องเลยนะ ที่พี่คมแอบฉกแฟนผมหนีมาเที่ยวกันสองต่อสอง”
“ฉันมีทางให้แกเลือก ไอ้วัต”
ภควัตมองอธิคม
“เลิกกับอัญ หรือไม่ก็ตาย”
อธิคมชักปืนเอามาวางบนโต๊ะ ภควัตมองนิ่ง

กฤษณ์แอบถ่ายวิดีโอคลิปด้วยมือถืออยู่ที่มุมหนึ่งด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เป็นภาพภควัตนั่งอยู่กับอธิคม

อ่านต่อหน้า 3

คีตโลกา ตอนที่ 7 (ต่อ)

ส่วนในห้องน้ำตอนนี้ อัญมาเปียกไปทั้งตัว สุคนธรสมองเยาะพร้อมกับหัวเราะสะใจ

“จำไว้ วันหลังอย่ากล้าดีมาต่อปากต่อคำกับชั้น”
สุคนธรสหันหลังจะเดินออกไป อัญมาลุกได้ก็จิกผมด้านหลังสุคนธรส สุคนธรสร้องกรี๊ด อัญมาจับสุคนธรสพลิกหน้ามาแล้วตบซ้าย ตบขวา สุคนธรสกรีดร้องดัง
“พวกชอบกดหัวคนอย่างเธอ มันต้องเจอไอ้อัญ”
อัญมาจับสุคนธรสมาที่อ่างล้างหน้า แล้วเปิดก๊อกน้ำ กดหัวสุคนธรสลงไปในอ่างให้เปียกน้ำ สุคนธรสทั้งร้อนทั้งดิ้นแต่สู้แรงอัญมาที่กำลังโมโหไม่ได้
“ชั้นจะให้น้ำล้างจิตใจกับปากโสโครกของเธอ จำไว้ สุคนธรส อย่าดูถูกคนที่เค้าจนกว่า ด้อยกว่า คนทุกคนมีหัวใจ มีศักดิ์ศรี มีค่าความเป็นคนเหมือนกัน”
อัญมาเห็นสุคนธรสสำลักน้ำ ก็จับขึ้นเงยขึ้นมา สุคนธรสกรีดร้องทันที
“ช่วยด้วย อัญมาจะฆ่าฉัน ช่วยด้วย”
สุคนธรสกรีดร้องเสียงดังมาก
“อร๊าย...ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย”

ภควัตกับอธิคมจ้องมองกันอยู่ในร้าน ได้ยินเสียงดังออกมา
“ช่วยด้วย”
“เสียงรส ...อัญมา”
ภควัตลุกขึ้นวิ่งออกไปก่อน อธิคมเห็นเข้าก็เก็บปืน วิ่งตามออกไปทันที
กฤษณ์รีบหยุดถ่ายคลิป วิ่งอ้อมไปอีกทาง
อัญมาเปิดประตู เหวี่ยงสุคนธรสออกมา ภควัตกับอธิคมวิ่งมาเห็น สุคนธรสพอเห็นภควัต ก็รีบทำว่าเจ็บมาก เจ็บโอเว่อร์
“วัต...ช่วยด้วย เพื่อนคุณจะฆ่ารส”
สุคนธรสโผเข้าไปในอกภควัต อธิคมรีบเข้ามาดึงอัญมา กฤษณ์ที่ตามมา หลบมอง ไม่กล้าเข้าไป เพราะกลัวอธิคมเห็นแล้วจำได้ อัญมาเห็นอธิคม ก็กลัวความลับเปิดเผย รีบดึงอธิคมออกห่าง
“ไปกันเถอะพี่คม”
“แต่ว่า...”
“ไปก่อนที่ฉันจะฆ่าคน”
อัญมารีบลากอธิคมออกไป สุคนธรสหันมาออดอ้อนภควัต
“วัตขา รสเจ็บ ช้ำ ระบมไปทั้งตัวเลย”
“เกิดเรื่องอะไรกัน”
“รสมาเข้าห้องน้ำดีๆ อัญมาพอเค้าเห็นรส ก็กระชากทั้งตบทั้งตี รสไม่รู้เค้าโกรธอะไรรส เพื่อนวัตใจร้ายมาก ถ้าวัตไม่มาช่วย ป่านนี้รสตายคามืออัญมาไปแล้ว”
ภควัตดันสุคนธรสออก
“ผมจะไปถามอัญมาให้รู้เรื่อง”
ภควัตวิ่งเร็วออกไป สุคนธรสคว้างจะตาม กฤษณ์พุ่งเข้ามาดึงแขนสุคนธรสไว้
“จะไปไหน จะตามไอ้วัตไปใช่มั้ย”
“หายไปไหนมา รู้มั้ย รสเจ็บ โอ๊ย...เจ็บจะตาย”
สุคนธรสโผเข้าซบอกแฟนหนุ่ม กฤษณ์มองตามภควัต สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย

อัญมาเดินมาสงบสติอารมณ์ อธิคมถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงเรียกไอ้วัตว่าเพื่อน แล้วมีเรื่องอะไรกัน”
“ผู้หญิงสติไม่ดีน่ะ เมายาหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็มาตบตีฉัน หาว่าฉันแย่งผัวเค้า”
อธิคมมองสงสัย ภควัตที่เดินมาได้ยิน อัญมาหันไปมอง แล้วเล่าให้ภควัตรับรู้ด้วย
“ผู้หญิงคนนั้น... บอกว่าตัวเองเป็นไฮโซ พอเห็นหน้าฉัน ก็หาว่าเป็นเมียน้อยผัวเค้า อาละวาดใหญ่ ฉันก็เลยต้องสู้”
“ผัวเค้ามาพาตัวออกไปแล้ว เค้าบอกว่าเมียเป็นโรคประสาท”
ภควัตสวมรอยสมอ้างช่วยปั้นเรื่องต่อ แล้วเดินมาใกล้อัญมาด้วยความสงสาร
อธิคมมองจับสังเกตทั้งคู่
“ไปเถอะ น้องอัญ พี่จะพาไปล้างเนื้อล้างตัว”
“ไม่ต้อง ฉันไปเองได้”
“ผู้หญิงคนนั้นมันอยู่ห้องไหน” อธิคมถามเสียงเข้ม
ภควัต และอัญมาตกใจ หันขวับมามอง
“อย่านะ พี่คม พี่จะทำอะไร”
“จะไปถามมันว่า อยากหายจากโรคประสาทถาวรมั้ย”
สีหน้าอธิคมดุดัน จนอัญมา และภควัตมองอย่างเป็นกังวล

ฝ่ายสุคนธรสยังไม่รู้ชะตา ยืนเต้นโวยวายอยู่ในห้องพัก
“คุณต้องไปอาเรื่องอัญมานะคะ จับมันข้อหาทำร้ายร่างกายรส”
“เรากลับกันเลยดีกว่ารส”
สุคนธรสยัวะ “กลับ รสโดนตบแทบตาย คุณจะไม่เอาเรื่อง”
กฤษณ์จับแขนคนรักมองแบบบังคับ
“หมดธุระของผมที่นี่แล้ว ผมเพิ่งได้คลิปเด็ดๆ ที่จะเอาไว้ใช้ดัดหลังไอ้วัต”
“รสไม่สนเรื่องงานของคุณกับวัต แต่รสโดนตบ คุณต้องลากตัวอัญมามากราบขอโทษรสต่อหน้าคนทั้งรีสอร์ท ไม่งั้น รสไม่กลับ”
“จะกลับ หรือจะอยู่ให้โดนตบอีก”
สุคนธรสไม่พอใจ “กฤษณ์”
“คุณไม่เห็นแววตา อธิคมเหรอ มันจ้องคุณแทบจะฉีกออกเป็นชิ้นๆ... ไปกลับ”

สุคนธรสมองแล้วต้องตกใจ ด้วยแววตากฤษณ์ดุเข้ม และเอาจริงกว่าทุกครา

อัญมาพยายามเกลี้ยกล่อม อธิคมให้เย็นลง

“พี่คม อย่าใจร้อนเลยนะ เรามาเที่ยว แค่นี้ก็หมดสนุกแล้ว ถ้ามีเรื่องมีราว เดี๋ยวก็ไม่จบกันพอดี”
“แต่เธอถูกทำร้าย”
“ฉันไปจัดการให้เอง” ภควัตบอก
“ไม่ต้อง อัญมากับฉัน ฉันรับผิดชอบได้ คนมาทีหลัง…อย่าเผือก”
อธิคมกับภควัตจ้องหน้ากันแบบไม่ยอมลงให้กัน

ด้านวินิจหันมาถามเก้าที่มารายงานด้วยสายตาสงสัย
“แกแน่ใจนะ ไอ้เก้า”
“ครับพี่ คนของเราเห็นพวกหน้าแปลกๆมันมาเดินดูในชุมชน พอเข้าไปถาม ถึงได้รู้ว่ามันมาจากบริษัทธุรกิจก่อสร้างห้างสรรพสินค้า”
“หรือว่าพวกมันจะมากว้านซื้อที่แถวนี้ ถ้าใช่...อีกหน่อยแหล่งเงินแหล่งทองข้าก็จะหายไป”

ฝ่ายอรรณพกับภรณีอยู่ในโถงคฤหาสน์มองฤดีที่กำลังรายงาน
“ฤดีแอบไปถามมาแล้วค่ะ มาเฟียแถวนั้น ชื่อพี่บัง”
อรรณพทวนชื่อ “พี่บัง”
“ฉันว่าเราย้ายโครงการไปที่อื่น ไม่ดีกว่าเหรอคะ”
“ผมไม่ย้าย...ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายกับความถูกต้องได้ทั้งนั้น”
แววตาอรรณพดูมุ่งมั่น ภรณีสีหน้าไม่ดี

เสี่ยวินิจอยู่ในบ้าน กำลังพูดมือถือกับอธิคม
“อธิคม ฉันมีเรื่องด่วน กลับมาได้แล้ว กลับมาคืนนี้เลย”
เก้ามองวินิจที่สั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

อธิคมตัดสายมือถือ ภควัตกับอัญมาจ้อง อัญมาถามขึ้น
“มีอะไรเหรอพี่คม พี่บังโทร.มาใช่มั้ย”
“ฉันต้องกลับเดี๋ยวนี้”
“กลับไปเถอะ ฉันดูน้องอัญเอง” ภควัตว่า
“กลับไปกับฉันมั้ย อัญ”
อัญมามองอธิคมที ภควัตที สายตาลำบากใจที่อยู่ตรงกลาง
“ไปกับพี่ดีกว่า น้องอัญ ใครๆก็รู้ว่าน้องอัญแฟนพี่ แค่มากับพี่คมเค้าแบบนี้ น้องอัญก็เสียชื่อมากแล้ว พี่คมเค้ามีงานต้องทำ อย่าไปเกะกะให้เค้าเสียเวลา”
ภควัตพูดนิ่ง จ้องหน้าอธิคมตลอด แววตาไม่ยอมเหมือนกัน

ฟากสุคนธรสถลากกระเป๋าตามออกมากับกฤษณ์เพื่อกลับกรุงเทพด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“เราต้องรีบกลับตอนนี้เลยเหรอคะ กฤษณ์ ทำไมต้องรีบขนาดนี้เหมือนยังกับจะหนีพวกมาเฟีย”
สุคนธรสพูดอย่างไม่คิดอะไร แต่กฤษณ์กระตุกใจ
“แล้วถ้าผมบอกว่าคนที่คุณไปมีเรื่องด้วย มันเป็นมาเฟียล่ะ”
“รสก็ไม่กลัวไงคะ แฟนรสเป็นตำรวจ ภควัตก็อยู่ตรงนี้ด้วย ถ้าเป็นมาเฟียจริงๆ พวกคุณสองคนก็ต้องจับมันแล้ว ไม่ใช่มายืนใจเย็นอยู่แบบนี้”
สุคนธรสลอยหน้า ไม่รู้เรื่อง กฤษณ์ส่ายหัว
“ดีแล้วที่คุณไม่รู้เรื่องงานของผมมากไปกว่านี้ ไป กลับ”
กฤษณ์เดินนำสุคนธรสออกไปเร็ว สุคนธรสเดินตามอย่างขัดใจ
อีกด้านอธิคมเดินมากับอัญมา ภควัตกำลังจะแยกไปที่ห้อง
อธิคมมองตามหลังด้านหลังสุคนธรสที่กำลังจะพ้นออกไป แล้วรีบหันมาทางอัญมา
“นั่น ผู้หญิงคนเมื่อกี้ ที่มีเรื่องกับเธอ”
อธิคมจะตามด้วยความโกรธ อัญมาสบตากับภควัตนึกกังวล อัญมารีบก้าวมาขวาง บังสายตาอธิคมไว้
“พี่คมจำผิดแล้ว เรารีบไปเก็บของกลับกันดีกว่า พี่คมรีบไม่ใช่เหรอ”
“นั่นสิ นายรีบไปเก็บของเถอะ”
“อัญ ...เธอไปเก็บของด้วย กลับกับฉัน”
ภควัตไม่ยอม “น้องอัญจะกลับกันฉัน”
“ให้อัญเลือก บอกมา อัญ ฉันหรือ ไอ้วัต”
อัญมาอยู่ตรงกลางระหว่างอธิคมกับภควัตที่จ้องหน้ากัน ไม่มีใครยอมกัน
“ฉัน...”
“บอกไปเลย น้องอัญ ว่าเธอเลือกพี่วัต แฟนตัวจริง”
อธิคมกำหมัดแน่น อยากชกปาก อัญมารีบดันอกอธิคมให้ห่างภควัต
“ฉันขอกลับกับพี่วัตแล้วกันนะ แต่เดี๋ยวเราขับรถตามกันไป”
อธิคมมองทั้งเจ็บใจทั้งโมโห ภควัตยิ้มกวน
“รถฉันช้า... นายนำไปก่อนเลยแล้วกัน”
อธิคมแทบอยากซัดหน้าภควัตตอนนี้ แต่อัญมามองด้วยแววตาขอร้อง
“พี่คม...อย่ามีเรื่องกันเลยนะ”
อธิคมเดินกลับไปที่ห้องเพราะอัญมาขอร้อง ภควัตหัวเราะไล่หลังยิ้มเป็นต่อ อัญมาหันมามองตาขวาง
“ขำมากมั้ย”
“มาก แต่สะใจมากกว่า”
“ที่จริงฉันอยากกับอธิคมมากกว่า พี่บังต้องมีเรื่องสำคัญมาก ถึงกับเรียกตัวลูกชายกลับกะทันหัน”
“คุณตามกลับไปด้วย วินิจมันอาจจะไม่พอใจ แล้วก็สงสัยที่คุณตามติด ดีแล้วที่กลับไปกับผม”
อัญมามองไปทางห้องพัก แล้วเดินไป ภควัตเดินตาม

อธิคมเข้าห้องมาหยิบกระเป๋าจะเก็บของ แต่สีหน้าหงุดหงิดมาก
“บ้าเอ้ย...ไอ้วัต ทำไมแกต้องมาขวางด้วย
อธิคมเตะโต๊ะระบายความโมโห เครื่องดักฟังที่ติดอยู่หลุดลงพื้น อธิคมตาไวหันไปมอง แล้วหยิบขึ้นมาดู
“เครื่องดักฟัง ที่นี่มีตำรวจ”

แววตาอธิคมวาววับ โกรธ และระแวงระวังตัวขึ้นมาทันที

อัญมากลับเข้าห้องมา และกำลังจะเก็บของอยู่ ภควัตยืนมองนิ่งอยู่อย่างนั้น อัญมาหันไปมอง

“นี่ผู้กอง กลับไปจัดของที่ห้องสิ”
“ของผมมีไม่กี่ชิ้น กวาดๆ ลงกระเป๋าเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ ทำไม..อยากรีบออกไปพร้อมๆ อธิคมมากเลยเหรอ”
“อย่ามาพูดจากวนอารมณ์นักได้มั้ย ทำไมต้องตามติดเป็นเห็บเหาฉลามด้วย”
“ก็เผื่อคุณเปลี่ยนใจ อยากกลับกับอธิคม”
มีเสียงเคาะประตูดังตามด้วยเสียงเรียกของอธิคม
“อัญมา อัญมา เปิดประตูหน่อย”
สองคนหันไปมองประตูด้วยความตกใจ
“ออกไปทางระเบียง เร็วๆ” อัญมาบอก
อธิคมเรียกซ้ำ “อัญมา ฉันมีเรื่องสำคัญ”
อัญมามองเร่งภควัต “ไปเร็วๆ สิ”
ภควัตไม่ยอมออกไปทางระเบียง แต่กลับพุ่งไปหลบใต้เตียงนอน
“ผมอยากรู้ว่าอธิคมจะคุยอะไร”
อธิคมเร่งใหญ่ “อัญมา เปิดประตูหน่อย”
อัญมาจำใจรีบไปเปิดประตู อธิคมเปิดประตูแล้วพรวดเข้ามาปิดประตูลง อัญมาตั้งหลักแทบไม่ทัน ภควัตซ่อนใต้เตียง แอบฟัง
“มีอะไรหรือ พี่คม”
อธิคมชูเครื่องดักฟังตรงหน้า อัญมาพยายามระงับสีหน้าตกใจ
“อะไรจ๊ะ พี่”
“เครื่องดักฟัง ที่นี่มีตำรวจ”
ภควัตมีสีหน้าตกใจ อธิคมคว้ามืออัญมา
“เราต้องรีบไป”
“ฉันยังเก็บของไม่เสร็จ”
อัญมาพยายามแกะมืออธิคมออก
“แล้วฉันก็ต้องรอพี่วัต”
อธิคมพุ่งเข้ารวบตัวกอดอัญมา
“ไม่ต้องรอมัน ไปกับฉัน”
อัญมาดิ้นใหญ่ “พี่คม ปล่อยฉันก่อน”
ภควัตได้ยินเสียงก็ใจร้อนเป็นไฟ อยากจะออกไป
“ทำไม อัญ ทำไมเธอถึงเลือกไอ้วัตแทนที่จะเลือกฉัน”
อัญมาตอบไม่ถูก อธิคมผลักอัญมาลงบนเตียง
“พี่คม อย่าทำแบบนี้กับฉัน”
อธิคมไม่รีรอ โถมตัวตามลงไป อัญมาดิ้นหนี
“พี่คม อย่า...พี่คม ปล่อยฉัน”
อธิคมหน้ามืด ระงับใจไว้ไม่ได้
“ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธฉัน”
ภควัตทนไม่ไหว เอื้อมมือมากระชากผ้าปูที่นอนอย่างแรง อัญมากับอธิคมลื่นไหลตกจากเตียง
อัญมารีบลุกมายืนตั้งหลักอีกด้าน อธิคมมองที่พื้น กำลังจะก้มมองด้วยความสงสัย
อัญมารีบพูด “ถ้าพี่คมไม่ออกจากห้อง เราก็ไม่ต้องเจอกันอีก”
อธิคมกำลังจะก้มดู ถึงกับชะงักมองอัญมานิ่งๆ อัญมาเดินมาเปิดประตูห้อง
“หรือจะให้ฉันร้อง คนทั้งรีสอร์ทจะได้เรียกตำรวจมาจริงๆ”
ภควัตถอนใจโล่งที่อัญมามีไหวพริบดี ช่วยไม่ให้อธิคมเจอตัว อัญมาทำหน้าบึ้ง อธิคมมองแล้วต้องออกไปอย่างโมโห อัญมารีบปิดประตู ถอนใจเฮือก หันมาเจอภควัตที่ออกมายืนมองอยู่แล้ว

อธิคมเข้าห้องมาด้วยสีหน้าฉุนเฉียว วางเครื่องดักฟังลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วกดมือถือสายหาพ่อ
“พ่อเหรอ ผมยังกลับคืนนี้ไม่ได้นะ พ่อ มีเรื่องสำคัญ”
เสียงวินิจถามว่า “เรื่องอะไร”
“มีเครื่องดักฟังในห้องผม ผมต้องควานหาไอ้ตัวคนติดให้เจอ”
อธิคมสีหน้าแค้นมาก
เสียงวินิจดังมาว่า “ไม่ต้องหา ป่านนี้พวกมันสะกดรอยแกแล้ว รีบกลับมาเดี๋ยวนี้ กลับมา”
อธิคมโมโห ปามือถือลงบนเตียง ขัดใจทุกอย่าง

ภควัตมองอัญมาที่หน้าตาตกใจ
“เกือบถูกจับได้ ฉันบอกแล้วใช่มั้ยให้ออกไปก่อน”
“ถ้าออกจะได้เห็นฉากเลิฟซีนเร่าร้อนของคุณกับอธิคมเหรอ”
อัญมาโมโหเตะหน้าแข้งภควัตจังๆ ภควัตถึงกับร้องตัวงอ “โอ๊ย”
“งั้นฉันไปเรียกอธิคมมาต่อให้จบเลยดีกว่า”
อัญมาประชด ภควัตดึงแขนอัญมาไว้
“อัญมา ผมขอโทษ”
อัญมาหันมา ภควัตสีหน้าอ่อนลงอย่างรู้สึกผิด
“คุณไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า พักผ่อนเถอะ”
“ก็ไหนว่าจะกลับ”
“อย่าเลย ค้างที่นี่ก่อนดีกว่า”
“แต่อธิคมจะโกรธ”
“ถ้ากลับก็เท่ากับคุณกลัวเค้า แล้วคราวหน้าเค้าก็จะข่มเหงคุณอีกคุณต้องแสดงให้เค้ารู้ว่าคุณโกรธ ในสิ่งที่เค้าเพิ่งทำลงไป”
อัญมาเห็นด้วย “อืม ก็จริงของคุณ แต่... คุณก็ต้องออกไปจากห้องฉันด้วยนะ ผู้กอง”
ภควัตเดินไปนั่งแหมะลงที่เก้าอี้ “คุณนอนเถอะ ผมจะนั่งเฝ้าอยู่ตรงนี้”
อัญมาโวย “เฮ้ย ไม่ได้นะ คุณก็น่ากลัวพอๆกับอธิคม”
“ผมไม่ได้คิดจะลวนลาม ฉวยโอกาสเหมือนอธิคม ผมอยู่เพราะผมเป็นห่วงคุณ ถ้าอธิคมวนกลับมา อย่างน้อยผมจะช่วยเป็นเกราะให้เค้าต้องถอยออกไป”

อัญมามอง เห็นว่าภควัตมีสีหน้าจริงจัง

จนกระทั่งอัญมาในชุดเสื้อยืดกางเกงเลออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าภควัตนั่งพิงหัวหลับไปกับเก้าอี้

“ไหนบอกจะเฝ้าฉัน”
อัญมามองภควัตที่หลับใกล้ๆ แล้วหันกลับไป แต่ไม่ทันเดินห่าง ภควัตรวบเอวอัญมามานั่งบนตัก
“ผู้กอง”
“ผมแค่หลับตา แต่หูผมได้ยินทุกอย่าง”
“ปล่อย”
อัญมาแกะมือ ภควัตปล่อยแต่โดยดี อัญมาพุ่งไปที่เตียง เอาผ้าห่มปิดตัว ภควัตมองหมั่นไส้
“ผ้าห่มแค่นั้น ถ้าผมจะลงมือ”
ภควัตแกล้งพูดยั่ว ทอดสายตาหื่นแกล้ง อัญมาหันไปคว้าแจกันที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนมาถือไว้
“ฉันก็จะตีหัวคุณให้แบะ หมอเย็บไม่ถูก”
“ดุ เผ็ด ห้าวอย่างงี้ กลัวแล้วคร๊าบ”
ภควัตเอนตัว นอนหลับตา อัญมามองระวัง
สุดท้ายอัญมานอนหลับไปก่อน โดยมีภควัตนั่งจ้องมองด้วยรอยยิ้ม

สองคนตื่นแต่เช้าตรู่ ออกมาเดินเล่นมาชายหาดพร้อมกัน
“ผมเช็คแล้ว อธิคมกลับไปเมื่อคืน”
“เรื่องเครื่องดักฟัง เค้าจะสงสัยคุณมั้ย”
“ถ้าสงสัย เค้าจัดการผมไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ไม่ปล่อยผมให้มายืนอยู่กับคุณตรงนี้หรอก”
“ฉันกลัวว่าวันนึง... อธิคมจะรู้ความจริงเรื่องฉันเป็นสายให้คุณ”
ภควัตบอก “ถึงวันนั้น ผมก็ลากมันไปรับโทษในคุกแล้วล่ะ”
“อย่าประมาทนะ ผู้กอง นายวินิจกับอธิคมเค้ายิ่งใหญ่มาขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะแค่โชคช่วย เค้าทำทุกอย่างด้วยสมอง สติปัญญาเท่าๆ กับที่ตำรวจมี”
“แต่พวกมันก่อกรรมชั่วกับคน กับเด็ก ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันคนที่ต้องติดยาเพราะความโลภของพวกมันสองพ่อลูก” ภควัตมองจ้องอัญมา “คนก่อกรรมชั่วไม่เคยหนีกฎแห่งกรรมได้หรอก ขอบใจนะอัญมา ที่เป็นห่วงแล้วก็เตือนผม”
อัญมามองภควัตด้วยรอยยิ้ม ภควัตยิ้มตอบ
ภควัตกับอัญมาเดินเล่นกันริมหาด ท่ามกลางบรรยากาศสดใสยามเช้า

ภควัตสะพายเป้เดินคุยมากับอัญมาที่สะพายกระเป๋า สองคนเตรียมตัวกลับ
“มันคงจะสนุกมากเลยนะ ถ้าได้มาเที่ยวมาพักผ่อน ไม่มีเรื่องต้องคอยกลัว คอยปวดสมอง เจอคนที่ไม่อยากเจอ”
“ผมขอโทษแทนสุคนธรสด้วย ไม่คิดว่าเค้าจะมาถึงนี่”
“คุณกับผู้กองกฤษณ์นี่ยังไงกัน ทำงานด้วยกันแต่เหมือนขัดแข้งขัดขากันตลอดเพราะเรื่องแฟนเก่าคุณหรือเปล่า”
“สุคนธรสไม่มีความหมายอะไรกับผมแล้ว”
ภควัตมองหน้าอัญมา
“ให้มันแน่เถอะ เพื่อนรักหักหลัง ทรยศกัน ฆ่ากันตายเพราะผู้หญิงมีเยอะไป”
“เพราะผู้หญิง เป็นอย่างที่โบราณว่า สามวันจาก นารีเป็นอื่นใช่มั้ย”
“คนอื่นไม่รู้ แต่สำหรับฉัน ไม่ใช่!!! ถ้าฉันรัก ต่อให้จากกันชั่วชีวิต ฉันก็ยังรัก”
ภควัตยั่วยิ้ม พูดแหย่ “ผู้ชายคนนั้น ใครน่ะ โชคร้ายจัง”
“ทำไมฉันต้องบอกคุณ”
“ผมทายว่า...อธิคม”
“ไม่ต้องมาทาย”
“แสดงว่าอธิคมแน่ๆ ถึงไม่ปฏิเสธ”
อัญมามองภควัตด้วยสายตาน้อยใจ
“จะเป็นใคร คุณไม่ต้องรู้หรอก เพราะว่ายังไงมันก็ไม่มีทางเป็นคุณ”
อัญมาสะบัดหน้าเดินออกไปทีท่าดูออกว่างอน
“ไม่มีวันเป็นผม”
ภควัตถือกระเป๋าตามอัญมาออกไปหน้าเศร้าๆ

อัญมากลับมาถึงชุมชนในยามเช้า เข้าบ้านมานั่งลงหน้าตาเซ็ง จิ๊บวางจานปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ให้ตรงหน้าเพื่อน
“ดีจริงๆนะแก ไปกับพี่คม กลับมากับไอ้วัต เสน่ห์แรง เกินห้ามใจ นี่ถ้านังแอนนี่มันรู้ มันคงกรี๊ดยาวกว่าขบวนรถไฟฟ้า”
“เหรอ” อัญมาล้อเพื่อน
“ไปเที่ยวทะเลมา ทำไมหน้าเหี่ยวแบบนั้นวะ ไอ้อัญ ไม่เห็นสดชื่นเหมือนคนไปรับโอโซนมาเลย”
“มันไม่สนุกเหมือนที่แกคิดหรอก จิ๊บ มีแต่เรื่อง”
“เหรอ... ที่นี่ก็มีเรื่องตื่นเต้นนิดหน่อย”
“เรื่องอะไร”
“ป้าอุบลเกือบถูกรถชน”
อัญมามองแม่ทันที อุบลสับมะละกออย่างใจเย็น
“ไม่มีอะไรหรอก แค่เกือบ รถของคุณเค้าเบรกทัน”
“รถใครน่ะ แม่”
“รถของคุณอรรณพกับคุณภรณี”
อัญมาลุกพรวด ตะลึง จิ๊บเอานามบัตรมาอวด
“นี่ๆ เค้ายังให้นามบัตรฉันไว้เลย”
อัญมารีบดึงนามบัตรมามอง นึกไม่ถึง
“คุณพ่อ คุณแม่มาที่นี่”

ด้านสองพ่อลูกอยู่บนเรือนใหญ่ เสี่ยวินิจมองหน้าลูกชาย
“ไอ้เศรษฐีเจ้าของโครงการสร้างศูนย์การค้า ปรับปรุงพื้นที่แถวนี้มันชื่อ อรรณพ”
“พ่อจะให้ฉันทำยังไง”
“จับตาดูพวกมันไว้ ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นแผนของตำรวจ ที่จะส่งคนมากวาดล้างที่นี่”
“ถ้างั้นเราใจเย็นปล่อยไว้ไม่ได้” อธิคมว่า
“แกจับตาดูมันไว้ ถ้าพวกมันมาอีก ท่าทางไม่น่าไว้ใจ ก็ยิงมันทิ้งแล้วก็เอาไปถ่วงน้ำ”

แววตาอธิคมแข็งกระด้าง พร้อมลงมือตามที่พ่อสงสัย

อ่านต่อหน้า 4

คีตโลกา ตอนที่ 7 (ต่อ)

ไม่นานต่อมาอัญพาตัวเองมาเดินเข้าหาภควัตในห้องเช่า เอ่ยขึ้นทันทีด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

“ผู้กอง ถึงเวลาที่ผู้กองต้องช่วยฉันมั่งแล้วนะ ฉันอยากให้ผู้กองช่วยคุ้มกัน คุณพ่อคุณแม่”
“ว่าไงนะ คุณพ่อคุณแม่” ภควัตงุนงง
“คือ... ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง...” อัญมาอึดอัดอัดอั้น
“ก็พูดมาตรงๆ อย่าคิดจะโกหกฉันก็พอแล้ว”
“เอางี้นะ ผู้กองจำได้มั้ยที่ฉันบอกว่าฉันมาจากโลกคู่ขนาน โลกที่ฉันเป็นคุณหนูอัญมา ลูกคุณพ่อ คุณแม่”
“อืม...โลกที่เธอคิดฝันขึ้นเอง หลังจากตกน้ำ สมองกระทบกระเทือน”
“โอเค ผู้กองจะเชื่ออย่างงั้น ก็แล้วแต่ ฉันขี้เกียจจะอธิบายแล้ว แต่เรื่องที่ฉันขอเมื่อกี้ ให้ผู้กองคุ้มครองคุณพ่อ คุณแม่ เป็นเรื่องที่ฉันขอร้องผู้กองจริงๆ”
“ใคร ที่เธอบอก ว่าเค้าเป็นคุณพ่อ คุณแม่เธอ”
“คุณอรรณพ กับ คุณภรณี เจ้าของบริษัท อรรณพ เรียลเอสเตรท ที่กำลังมีโครงการปรับปรุงพื้นที่แถวนี้ให้เป็นย่านการค้า
ภควัตมองจ้องอัญมาที่อธิบายด้วยเสียงจริงจัง กังวลใจ
“คุณพ่อ คุณแม่...” อัญมาเห็นสายตาไม่เชื่อจากภควัต ก็เปลี่ยนสรรพนาม “คือ...คุณอรรณพ กับคุณภรณีเพิ่งมาที่นี่ มาดูพื้นที่แถวนี้ จิ๊บกับแม่อุบลเจอท่าน ทีนี้ฉันกลัวว่า...ถ้าพี่บังไม่อยากให้แถวนี้เปลี่ยนไป”
“เพราะเค้าจะเสียผลประโยชน์จากการขายยาให้กับชุมชนนี้”
“ใช่ ถ้าคุณอรรณพกับคุณภรณีมาที่นี่อีก ผู้กองช่วยคุ้มครองคุณพ่อคุณแม่ให้หน่อยได้มั้ย”
“เธอจะให้ฉันคุ้มครองนักธุรกิจไม่ได้หรอกนะ อัญมา ฉันเป็นตำรวจ ฉันเลือกปฏิบัติไม่ได้ แล้วฉันก็ยังไม่รู้ด้วยว่า คนที่เธออ้างว่าเป็นคุณพ่อ คุณแม่เค้าจะมาลงทุนพัฒนาที่ดินแถวนี้ เพื่อเอาเปรียบคนในชุมชนหรือเปล่า”
“คุณอรรณพกับคุณภรณีเป็นคนดี ฉันยืนยันได้”
ภควัตมองนิ่ง อัญมาหวนย้อนนึกถึงตอนใช้ชีวิตเป็นคุณหนู เล่าให้ผู้กองฟัง

เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในคฤหาสน์คุณอรรณพ โดยคุณหนูอัญมาแต่งตัวสวยเฉิดฉาย หยิบสร้อยเพชรจากกล่องออกมาทาบลงคอ สายตาชื่นชมแล้วหันมามองทาง อรรณพ กับภรณีที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“สวยจังเลยค่ะ คุณแม่เพิ่งซื้อมาเหรอคะ อัญไม่เคยเห็น”
“เปล่าหรอกจ้ะ คุณหญิงจำนงค์เพิ่งให้แม่มา”
“อ๋อ...คนที่อยากให้คุณพ่อไปสร้างรีสอร์ทบนที่ดินตัวเอง เพราะเที่ยวไปหลอกกว้านซื้อที่จากชาวบ้านราคาถูกๆ”
อรรณพเอ่ยขึ้น “พ่อย้ายโครงการแล้ว ที่ดินตรงนั้นเป็นป่าสงวน พ่อจะไม่บุกรุกป่าเด็ดขาด”
อัญมาย้อนแย้ง “แต่ใครๆ เค้าก็ทำกันทั้งนั้นนะคะ คุณพ่อ”
อรรณพเดินมาดึงสร้อยเพชรออกมาจากมือลูกใส่กล่อง ปิดลง อัญมามองอึ้ง
“ไม่ได้หรอก ลูกอัญ ถึงพ่อจะเป็นนักธุรกิจ อยากทำกำไรให้บริษัทแค่ไหน แต่เราจะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบชาวบ้าน ไม่เอาเปรียบสังคม”
“แม่ก็บอกคุณหญิงแล้ว แต่เธอคิดว่าสร้อยเพชรแพงๆ เส้นนี้ จะช่วยให้แม่พูดเปลี่ยนใจคุณพ่อได้”
“เอาไปคืนเค้าซะ คุณภรณี แล้วบอกคุณหญิงว่าอย่าใช้วิธีติดสินบน คนอย่างผมเกลียดเรื่องทุจริตที่สุด”
ภรณีรับกล่องเพชรมา อัญมามองพ่อกับแม่ด้วยสายตาภูมิใจ

เล่าจบแล้ว อัญมามองภควัตที่มีสีหน้ายังไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเล่านัก บอกย้ำอย่างจริงจังออกมา
“ท่านสองคนเป็นคนดี ฉันไม่อยากให้คนดีๆ ต้องมาเจอกับอิทธิพลชั่วของพี่บังผู้กอง ฉันขอร้องละนะ”
อัญมาคุกเข่าลงตรงหน้า ภควัตตกใจ รีบลงไปประคองไหล่อัญมา
“อัญมา! ทำไมต้องทำขนาดนี้ สองคนนั่นเค้าสำคัญกับคุณมากเลยเหรอ”
“สำคัญ...เท่าชีวิตฉัน”
ภควัตมองสบตาอัญมาอย่างลำบากใจ
“ผมขอเจอเค้าก่อน ขอให้ผมได้พิสูจน์ว่าเค้าเป็นคนดีอย่างที่คุณพูด ถ้าจริง ผมจะให้จ่าเดชช่วยดู”
“สัญญานะ ผู้กอง” อัญมาอ้อนวอน บีบมือภควัตแน่น “อย่าให้คุณอรรณพ คุณภรณีต้องเป็นอันตรายเพราะพี่บัง”
ภควัตดึงไหล่อัญมาขึ้นยืนมองสบตา
“ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้คุณสบายใจ”
อัญมามองเขาด้วยสายตาขอบคุณ

ฟากอธิคมยืนมองวินิจ ที่โยนโบรชัวร์บ้านพักตากอากาศหลายใบลงบนโต๊ะ อย่างไม่ชอบใจ
“มันยังดีไม่พอจะเป็นเซฟเฮาส์ เดี๋ยวฉันจะถามเสี่ยใหญ่ท่านดู เผื่อท่านจะแนะนำได้ดีกว่าแก”
“ที่ผมเลือกมา พ่อว่ามันไม่ดีตรงไหน”
“ห้องเล็กเท่ารูหนู แถมอยู่ติดกับบ้านคนอื่น”
“ผมไม่อยากให้เราอยู่แยกออกมา เป็นจุดเด่น” อธิคมอธิบาย
“อย่าแก้ตัว งานก็ไม่ได้ แถมถูกตำรวจดักฟัง ฉันจะให้คนของเสี่ยใหญ่ช่วยตามหาว่าหน่วยไหนมันดักฟังแก แต่ทั้งหมด มันคือความผิดพลาดของแก เพราะแกมัวแต่กกไอ้อัญ คราวหน้าอย่าเอาผู้หญิงไปด้วยตอนทำงานอีก ต่อให้แกอ้างว่าเอาไปบังหน้า ฉันก็ไม่ชอบ”
อธิคมแย้ง “ผมไม่ได้บอกอะไรไอ้อัญมันเลย”
“ไอ้อัญมันไม่โง่หรอก”
วินิจมองตาขุ่น ไม่พอใจลูกชาย
“ไม่เป็นไร ถ้ามันปากมากเมื่อไหร่ แกอย่าหาว่าฉันใจร้าย เพราะแกนั่นแหละจะเป็นคนทำให้ฉันต้องจัดการกับไอ้อัญ”
อธิคมหน้าเสีย เก้าเข้ามารายงาน
“พวกนายอรรณพมาแล้วครับ”
วินิจมองไปทางอธิคมเป็นเชิงบอก อธิคมขยับตัว
“ไป ไอ้เก้า”
อธิคมนำออกไปกับเก้าทันที วินิจมองตามลูกชายอย่างขุ่นเคือง ไม่ได้ดั่งใจ

รถอรรณพจอดลงตรงปากทางเข้าชุมชนบัวสวรรค์ มีบอดี้การ์ดแต่งตัวในชุดลำลอง ลงมาเปิดประตูให้ อีกคนเป็นคนขับรถ
อรรณพอยู่ในลำลอง มองไปรอบๆ จิ๊บที่กำลังจะออกไปทำงาน มองเห็นอรรณพ ก็มองจ้อง จำได้
“นั่นคุณเศรษฐีใจดี...มาทำไมอีก” จิ๊บมองด้วยแววตาสงสัย “ไอ้อัญมันสั่งว่ามาเมื่อไหร่ ให้รีบไปบอก”
จิ๊บหันหลังวิ่งกลับไปทางชุมชนทันที

อรรณพมองบอดี้การ์ดสองคนที่มายืนใกล้
“ฉันแค่มาดูบริเวณรอบๆ อยากรู้ว่ามีคนอยู่กันเยอะแค่ไหน อย่าทำอะไรให้คนแถวนี้แตกตื่น”
บอดี้การ์ด 1น้อมรับ “ครับ”
อธิคมกับเก้าเดินเข้ามามองจากอีกด้าน เห็นอรรณพก็เพ่งมองจ้องพลางถามเก้า
“นั่นเหรอ ไอ้อรรณพ”
“ครับพี่คม...แต่อีกสองคนท่าทางจะเป็นบอดี้การ์ด”
“ไอ้พวกเศรษฐีหน้าโง่ เหยียบถิ่นใครไม่เหยียบ มาเหยียบถิ่นข้า เอ็งไปบอกไอ้เมษ ไอ้ป๊อบมาต้อนรับไอ้เศรษฐีหน้าแหยนี่หน่อย”
เก้าถอยออกไป อธิคมจดสายตามองอรรณพโดยไม่ปรารถนาดี ขณะอรรณพเดินเข้าไปในชุมชน บอดี้การ์ด 2 คนตามติดทันที

อัญมาแยกจากภควัต เดินมุ่งหน้ากลับบ้าน เจอจิ๊บวิ่งหน้าตื่นมาจากทางด้านหลัง
“ไอ้อัญ...ไอ้อัญ”
อัญมาหยุดเดินหันไปหา “อะไร จิ๊บ”
จิ๊บวิ่งมาถึงรีบคว้าข้อมมืออัญมา
“ไปเร็ว คุณเศรษฐีใจดี...คุณอรรณพนะ มาที่นี่”
อัญมาตื่นเต้น “หา...จริงเหรอจิ๊บ”
“เออ...ไปเร็ว...”
จิ๊บดึงแขนอัญมารีบพาวิ่งไป

อัญมาวิ่งเร็วจี๋มากับจิ๊บ
“แน่นะไอ้จิ๊บ คุณอรรณพแน่ใช่มั้ย”
“ความจำข้าไม่ได้สั้นเป็นปลาทอง คนรวยดูดีขนาดนั้น เห็นครั้งเดียวก็จำได้แล้ว”
“บ้าชะมัด ผู้กอง…” อัญมาร้อนรุ่มใจ พึมพำออกมา
จิ๊บหยุดพร้อมดึงอัญมาให้หยุดด้วย
“แกเรียกใครผู้กอง”
“ใคร...บ้า หูฝาด ฉันพูดว่าพี่วัต”
อัญมารีบแก้ตัวกลบเกลื่อน ปิดบังความจริงที่พลั้งปาก
“พี่วัตเพิ่งแยกกับฉัน”
จิ๊บงง “แล้วไอ้วัตเซียนพระเกี่ยวอะไรด้วย”
“เออ...แกอย่าเพิ่งรู้เลย คุณอรรณพเค้าอยู่ไหน พาฉันไปเร็ว”
“ทางนี้”

จิ๊บรีบนำอัญมาเดินเร็วรี่ออกไปทันที

ฝ่ายคุณอรรณพเดินมามองไปรอบๆ ชุมชน ชาวบ้านหลายคนที่อยู่ในละแวกนั้น ต่างมองอรรณพอย่างคนแปลกหน้า บอดี้การ์ดสองคนเดินอารักขามองอย่างไม่ไว้ใจ

จังหวะนี้เมษทำตัวเป็นชาวบ้านเดินพุ่งตรงมาทางอรรณพ โดยมีอธิคมยืนหลบมองเหตุการณ์อยู่กับเก้า เมษทำเป็นเซเหมือนเมายาพุ่งมาทางอรรณพ บอดี้การ์ดเห็นก็ผลักอกเมษทันที เมษถึงกับล้มลง
“เฮ้ย ไรวะ”
อรรณพมองสีหน้าตกใจ ป๊อบพุ่งออกมาสมทบทันที ร้องโวยวาย
“ใครวะ แปลกหน้ามาแถวนี้”
ชาวบ้านพากันมามุงดูมากขึ้น
อรรณพหันมาทางเมษและป๊อบพูดดีๆ ด้วย “ฉันมาดี อย่ามีเรื่องกันเลย”
“ก็พวกเอ็งผลักอกข้าก่อน ใหญ่โตมาจากไหนนักวะ หรือว่าเป็นพวกเจ้าของที่ จะมาดูลาดเลา กะจะเผาไล่พวกเราหรือเปล่า”
เมษโวยวายใหญ่โต ชาวบ้านฮือฮา โดยไม่มีใครคาดคิด เมษพุ่งไปทางอรรณพ บอดี้การ์ด 2 อีกคนจ้องอยู่จับแขนเมษหักไปข้างหลังทันที
“โอ๊ย มันจะฆ่าฉัน” เมษร้องลั่น
ป๊อบไม่สน พุ่งเข้าชกบอดี้การ์ด 1 ก่อน บอดี้การ์ด 1 สวนกลับ สองคนแลกหมัดกัน ชาวบ้านแตกฮือ
อรรณพร้องขึ้น “หยุดก่อน...หยุดก่อน อย่ามีเรื่องกัน ฉันไม่ได้มาเผาไล่ที่ใคร”
“เฮ้ย ช่วยกัน จับมันไว้ มันทำพวกเรา” ไอ้ป๊อบสร้างสถานการณ์
อรรณพโดนล้อมกรอบจากกลุ่มชาวบ้านทันที อธิคมหลบมองอยู่มุมหนึ่ง ยิ้มร้ายสะใจ

อัญมาวิ่งนำจิ๊บมา พอมาถึงหน้าทางเข้าชุมชน มองเห็นรถของอรรณพจอดอยู่ ก็จำได้ทันที
“รถคุณพ่อ”
จิ๊บตามหลังมาหอบแฮกๆ
“ไหนล่ะ ไอ้จิ๊บ คุณอรรณพน่ะ”
จิ๊บมองไปรอบๆ “ก็เมื่อกี้เห็นแถวนี้”
จังหวะนี้เอง เห็นชาวบ้าน 2-3 คนเสียงดังมาจากด้านในชุมชน
“เฮ้ย ไปเร็ว ไปดูคนตีกัน”
อัญมาใจหล่นวูบ นึกสังหรณ์ใจ
“คุณพ่อ”
อัญมาวิ่งตามชาวบ้านกลุ่มนั้นไปทันที จิ๊บที่กำลังหอบ หันหลังวิ่งตามไปด้วย
“อะไรของแกวะ ไอ้อัญ”

อรรณพกำลังโดนชาวบ้านล้อมกรอบเพราะเข้าใจผิด ขณะที่ป๊อบเตะต่อยบอดี้การ์คนหนึ่งล้มไป แต่เมษโดนบอดี้การ์ดอีกคนชกจนคว่ำ ป๊อบคว้าสนับมือออกมาใส่ เดินเข้ามาหา อรรณพเห็น ตกใจกลัว
“มึงทำเพื่อนกู”
ป๊อบง้างหมัด จะชกอรรณพ อธิคมยิ้มร้ายสะใจ ที่ป๊อบกำลังขู่อรรณพ
“อย่า”
แลเห็นภควัตกระโดดมาจากด้านหลังอรรณพ พุ่งเข้าถีบกลางอกป๊อบ อธิคมตาวาวลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ
ป๊อบเซ ภควัตมองเอาเรื่อง ป๊อบมองจ้องพอเห็นเป็นภควัตก็ชี้หน้า
“ไอ้วัต ไอ้เซียนพระ มึงไม่เกี่ยว ถอยไป”
“ต้องเกี่ยวว่ะ คุณคนนี้เค้าไม่มีอาวุธอย่างเอ็ง”
ภควัตหันไปมองอรรณพ
“คุณ...ระวัง” อรรณพร้องบอก
ภควัตหันไปป๊อบพุ่งเข้ามา ภควัตตาไวหลบวูบ แล้วจระเข้ฟาดหางเข้ากลางตัวป๊อบหงายไป
บอดี้การ์ดคนหนึ่งลุกได้ รีบเข้ามากันนาย อรรณพบอก
“ไปช่วยผู้ชายคนนั้น”
บอดี้การ์ดพุ่งเข้าไป จะช่วยภควัต ป๊อบลุกได้ก็เอาสนับมือฟาดหน้าจังๆ บอดี้การ์ดร้องลั่น เพราะความเจ็บที่หน้าแหก
อัญมาวิ่งมาถึง เห็นภควัตที่กำลังพุ่งเข้าเตะป๊อบ ก็ตกใจ จิ๊บวิ่งมาหยุดมอง ด้วยความกลัว
ป๊อบพุ่งเข้า แต่เจอภควัตถีบหงายเงิบไป
ภควัตตามมาชกเข้าหน้าป๊อบอีกหลายหมัด จนป๊อบเลือดกบปาก
เมษที่โดนบอดี้การ์ดล็อคมองอย่างตื่นตกใจ พยายามดิ้นหาทางหนีด้วยการเอาหัวโขกหัวบอดี้การ์ดจนหลุดออกมา
“พี่วัต...คุณพ่อ”
อัญมาวิ่งไปทางอรรณพ อรรณพตกใจถดตัวถอยหนี คิดว่าอัญมาจะทำร้าย
“อย่าทำอะไรฉัน”
“คุณพ่อ นี่อัญเองค่ะ”
“ฉันไม่รู้จักเธอ”
อรรณพตกใจมาถอยหลังโดยไม่ระวัง ขาพันกันจนล้มลง
“โอ๊ย”
อัญมาตกใจรีบถลาไปจับประคองอรรณพไว้ แต่อรรณพปัดมืออัญมาสุดแรงเพราะคิดว่าอัญมาเป็นพวกป๊อบ
“อย่ามาแตะตัวฉัน”
อัญมาหน้าเสีย ภควัตหันมามองทางอัญมากับอรรณพ เมษฉวยโอกาส พุ่งเข้าถีบภควัตหงาย แล้วตามไปเตะจนภควัตล้ม เมษกำลังจะกระทืบซ้ำ จ่าเดชวิ่งเข้ามา ร้องเสียงดัง
“เฮ้ย อะไรกัน อะไรกัน มีเรื่องอะไรกัน”
ป๊อบกับเมษเห็นจ่าเดชก็รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดก่อน อรรณพหันไปถามภควัตทันที
“คุณเป็นยังไงบ้าง”
อัญมาหันไปมองทางภควัต
“ไม่เป็นไรครับ”
ภควัตทรงตัวลุกขึ้นแต่จุก อัญมารีบเข้ามาไปประคอง
“เบาๆ อย่าเพิ่งขยับ พี่วัต”
อธิคมมองจ้องตาขวาง ด้วยความโกรธและหึง ที่เห็นอัญมาประคองภควัตขึ้นไว้แนบอก สายตาห่วงใยมาก
จ่าเดชมองไปที่อรรณพ
“มีเรื่องอะไรกันครับ”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งเข้ามาประคองอรรณพยืน
“ผมถูกทำร้าย ผู้ชายคนนี้มาช่วยผมไว้”
อัญมาประคองภควัตลุกขึ้น
อธิคมหันหลังเดินหุนหันออกไปด้วยความโกรธ เก้าเดินตามลูกพี่ไป
“พวกไหนครับ” จ่าหันไปทางภควัต “ไอ้วัต เอ็งเห็นหน้าพวกมันใช่มั้ย”
ภควัตมองสบตาอัญมาอย่างลำบากใจ

วินิจรู้เรื่อง ตบหน้าเมษกับป๊อบที่กลับมารายงาน ด่าว่าอย่างรุนแรง
“ไอ้พวกโง่ งานง่ายๆ แค่นี้ ยังทำพลาด”
“เอ็งสองคนหลบไปก่อน คนเห็นหน้าเอ็งหลายคน เป็นพยานชี้ตัวได้ เดี๋ยวจะซวยมาถึงพ่อข้า” อธิคมด่าซ้ำ
เมษกับป๊อบมองลังเล ไม่อยากไป อธิคมตวาดอีก
“ไปสิ หรืออยากตาย”
อธิคมโมโหกรุ่นๆ เรื่องอัญมา ชักปืนในเอวออกมา เมษกับป๊อบรีบประคองกันออกไป
วินิจหน้าเครียด หันไปสั่งเก้า
“เลี้ยงเปลืองข้าวสุกจริงๆ ไอ้เก้าเอ็งไปสืบมาให้ข้า ไอ้เศรษฐีนั่นมันอยู่ที่ไหน”
“ปอดแหกอย่างนั้น ป่านนี้คงวิ่งแจ้นไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้ว” อธิคมว่า
“งั้นเอ็งก็ไปสืบมาด่วน มันอยู่โรงพยาบาลไหน ข้าจะไปเยี่ยมมัน”
“ครับ พี่บัง”
เก้าเดินออกไป วินิจมีสีหน้าหงุดหงิดมาก อธิคมมองพ่ออย่างสงสัย
“พ่อจะไปเยี่ยมไอ้อรรณพทำไม”
“เรื่องอะไร ข้าจะให้ตำรวจเพ่งเล็งว่าเป็นข้าที่ขัดขวางการก่อสร้าง ยังไงข้าก็ต้องแสดงตัวว่าข้าไม่เกี่ยว นี่มันแค่เรื่องเข้าผิดใจกันเล็กๆ น้อยๆ ไม่เกี่ยวกับคนอย่างนายวินิจเลยสักนิดเดียว”
เสี่ยวินิจสีหน้าไม่สะทกสะท้านกับความผิด อธิคมยิ้ม มองทึ่งพ่อผู้ฉลาดแกมโกง

ที่โรงพยาบาลแห่งนั้น อรรณพนั่งอยู่ในรถเข็น อัญมายืนมองทอดสายตาไปที่พ่อ มีภควัตยืนใกล้ อรรณพกำลังเล่าเหตุการณ์ให้จ่าเดชฟัง
“ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด วัยรุ่นสองคนนั้น ตั้งใจมาหาเรื่องผม จับตัวพวกนั้นมาให้ได้นะครับ ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ปล่อยไว้ก็จะเที่ยวทำความเดือดร้อนให้คนอื่น”
“ถ้าตามที่ไอ้วัต เซียนพระมันบอก เราก็แน่ใจได้ว่า เป็นไอ้เมษกับไอ้ป๊อบ คนของนายวินิจ”
อรรณพสะดุดหู “นายวินิจ มาเฟียแถวนั้นใช่มั้ยครับ”
สามคนมองหน้ากัน อรรณพเอ่ยบอก
“คนของผมสืบข้อมูลชุมชนตรงนั้นมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องนายวินิจที่อาจจะไม่อยากให้ผมก่อสร้างศูนย์การค้าตรงนั้น”
เสียงภรณีดังขึ้นมา “คุณคะ”
อัญมาหันไปมอง เห็นภรณีที่เดินเร็วเข้ามา ภรณีเดินผ่านหน้าอัญมาตรงไปที่อรรณพ
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ พวกไหนกันคะที่กล้าทำร้ายคุณ”
อัญมามองทอดสายตา ทั้งรักและคิดถึงไปที่ภรณี ภควัตหันมามองท่าทางอัญมาอย่างจับสังเกตอรรณพเอ่ยบอกให้ภรรยาคลายกังวล
“ผมไม่เป็นอะไรมาก โชคดีได้คุณวัตช่วยไว้”
ภรณีหันมามองทางอัญมากับภควัต อัญมามองจ้องภรณี
ส่วนภรณีมองภควัต “ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่แถวนั้นพอดี เห็นพวกมันตั้งใจมาหาเรื่องคุณ”
ภควัตยิ้มให้อย่างสุภาพ ภรณีหันไปทางอัญมา
“แล้วหนูคนนี้”
“อัญมาค่ะ หนูชื่ออัญมา”
อัญมามองภรณีกับอรรณพน้ำตาคลอ ก่อนจะน้ำตาไหลร่วงลงมารดแก้มด้วยความคิดถึง ภควัตมองนิ่ง แปลกใจท่าทางอัญมา
“อ้าว ร้องไห้ทำไมล่ะจ้ะ หนู”
ภรณีทักขึ้น อัญมาพยายามกลั้นสะอื้น
“หนูเห็นคุณสองคน แล้วหนูคิดถึง...”
ภควัตมองจ้องอัญมา
“คิดถึงใครจ๊ะ”
“คุณพ่อ...คุณแม่ค่ะ หนูเห็นคุณแล้วคิดถึงพ่อแม่ที่เลี้ยงดูหนูมาอย่างดีที่สุด”
ภรณีกับอรรณพมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ จ่าเดชเกาหัว หันมาบอกภควัตเบาๆ
“ไอ้อัญมันอาการสมองเสื่อมกำเริบอีกแล้ว สงสัยคิดว่าเป็นลูกคุณหนู”
อัญมาปาดน้ำตาด้วยแขนเสื้อ ภรณีเปิดกระเป๋าส่งผ้าเช็ดหน้าให้
“เอาไปสิจ๊ะ หนู ซับน้ำตาซะ โถ...ฉันคงหน้าตาคล้ายๆ แม่หนูล่ะสิ ถึงได้ร้องไห้”
ภรณียิ้มอ่อนโยนมาให้
อัญมาเอามือไปประคองรับผ้าเช็ดหน้ามา แตะมือภรณีอย่างตั้งใจด้วยความคิดถึง ภรณีดึงมือออก มองยิ้มให้อัญมาอย่างเป็นกันเอง
“หนูเก็บไว้เถอะจ้ะ ไม่ต้องคืนฉันหรอก”
“ขอบคุณมากนะคะ”

อัญมามองทอดสายตาเต็มตื้นด้วยความรักไปที่อรรณพกับภรณี ภควัตมองสังเกตท่าทางอัญมาอย่างใคร่ครวญครุ่นคิด

อรรณพนั่งลงบนเตียงในห้องพักฟื้น โดยมีภรณีคอยช่วยประคอง

“ท่าทางคุณถูกชะตาเด็กที่ชื่ออัญมานะ”
“เห็นแล้วก็เอ็นดูนะคะ ฉันคงหน้าตาเหมือนแม่ของแก แกถึงได้น้ำหูน้ำตาไหล ไม่รู้ว่ามีความหลังอะไร”
“ตอนแรกผมคิดว่าอัญมาเป็นพวกจะมาทำร้ายผม ไม่คิดว่าจะเป็นแฟนของคุณวัต”
“เกิดเรื่องขนาดนี้ คุณยังจะทำศูนย์การค้าตรงนั้นอีกหรือคะ”
“ทำสิ ผมไม่กลัวอิทธิพลมืดหรอกนะ วันนี้เท่าที่ผมเดินดูรอบๆ ชุมชน ถ้ามีศูนย์การค้าขึ้นมา คนที่นั่นก็จะมีงานทำซะด้วยซ้ำ ผมอยากสร้างอาชีพ อยากให้ที่ตรงนั้นเปลี่ยนเป็นแหล่งความเจริญ ไม่ใช่แหล่งเสื่อมโทรมอย่างที่เป็นอยู่”
ภรณีกังวล “ฉันเป็นห่วงคุณมากนะคะ”
“ผมไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยวันนี้เราก็เห็นแล้วว่า ไม่ได้มีแต่พวกมาเฟียอยู่แถวนั้น มีชาวบ้านดีๆอย่างคุณวัตกับตำรวจดีๆ อย่างจ่าเดชอยู่ด้วยเหมือนกัน”
อรรณพยิ้มให้ภรณีอย่างมีกำลังใจ
ภรณีเสริม “แล้วก็แม่หนูหน้าตาน่ารักคนนั้น...อัญมา”

อัญมาเดินหน้าตาเอาเรื่องมาตามทางในชุมชน ภควัตตามมาดึงแขนไว้
“อัญมา...จะไปไหน”
“ฉันจะไปอัดไอ้เมษกับไอ้ป๊อบ มันทำคุณพ่อ...”
ภควัตค้าน “ปล่อยให้เป็นหน้าที่จ่าเดช”
“จ่าเดชจะทำอะไรมันได้ มันเป็นลูกน้องพี่บัง”
จ่าเดชที่ตามมาด้านหลัง โวยขึ้นทันที
“เฮ้ยๆ ข้าน่ะตำรวจนะไอ้อัญ วันนี้มีพยานทั้งผู้กอง ทั้งเอ็ง ทั้งไอ้จิ๊บ ข้าก็ไปจับไอ้สองคนนั้นมันมาสอบสวนได้แล้ว”
“แล้วพี่บังก็มาประกันตัวพวกมันออกไป ไอ้พวกนี้ มันต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
“เธอต้องให้กฎหมายลงโทษคนเลว ไม่ใช่กฎหมู่”
ภควัตดึงแขนอัญมารั้งไว้ แล้วหันไปสั่งจ่าเดช
“จ่ารีบไปคุมตัวไอ้เมษกับไอ้ป๊อบมาก่อนที่มันจะหนี”
จ่าเดชทำท่าจะเดินไป แต่นึกบางอย่างได้ หันมาถามอัญมา
“เออ...ไอ้อัญ...วันนี้แกร้องไห้ทำไมวะ ตอนเห็นหน้าคุณอรรณพกับคุณภรณีเค้าทำเหมือนยังกับเจอพ่อแม่ที่พลัดพรากกันมานาน”
อัญมาหงุดหงิดอยู่เลยพาลพาโล “ถ้าใช่ แล้วจ่าเดือดร้อนอะไรด้วย”
“โอ้โห! ปากแบบนี้ เดี๋ยวปั้ดยัดเข้าไปนอนกินโอเลี้ยงในห้องขังสักคืนสองคืน”
ภควัตตัดความ “ไปเถอะน่า จ่า อย่ามัวมาเถียงกัน ไปจับตัวไอ้เมษไอ้ป๊อบก่อน เดี๋ยวผมคุยกับอัญมาแป๊บนึง แล้วจะตามไปโรงพัก”
พอจ่าเดชเดินออกไปตามที่ภควัตสั่ง ภควัตหันมามองอัญมา
“มีอะไรที่จะยืนยันให้ผมเชื่อว่าคุณรู้จักกับคุณอรรณพ คุณภรณีมากกว่านี้อีกมั้ย”
“ฉันไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เรื่องคุณพ่อคุณแม่ กับคนที่ไม่เชื่อเรื่องโลกคู่ขนานอย่างคุณ...เสียเวลาเปล่า”
“แต่ผมอยากแน่ใจก่อนที่จะช่วยคุณอรรณพ กับคุณภรณีอย่างที่คุณขอ”
“เหตุการณ์วันนี้ มันยังไม่พออีกหรือไง คุณก็เห็นกับตาว่าพวกพี่บังทำร้ายคุณอรรณพ”
อัญมามองภควัต
“ฉันไม่ยอมหรอกนะที่จะให้คนดีๆ อย่างคุณอรรณพต้องมาเดือดร้อนเพราะคนชั่วอย่างไอ้วินิจ”
“ผมจะปรึกษานายให้ เรื่องนี้เราทำกันแค่สองคนไม่ได้ คุณอรรณพเอง ก็ท่าทางจะไม่ยอมรามือจากโครงการนี้”
“ฉันรู้จักคุณอรรณพดี ท่านจะไม่มีวันก้มหัวให้ความไม่ถูกต้อง”
“อัญมา... บอกตรงๆ นะ ผมแปลกใจมากที่คุณเหมือนรู้จักคุณอรรณพกับคุณภรณีมาก่อน”
“เพราะคุณไม่เชื่อว่าฉันมาจากโลกคู่ขนาน ไม่เชื่อว่าฉันชื่อคุณหนูอัญมา ลูกของคุณพ่อคุณแม่”
อัญมามองภควัตอย่างตัดพ้อ
“ให้ฉันพูดความจริงกับคุณแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่เปิดใจ คำพูดของฉันมันก็ไม่มีความหมายสำหรับคุณเลย”
อัญมาเมินหน้าหนีมองไปทางอื่น
ภควัตมองอัญมา ถอนใจหนักหน่วง สีหน้าลำบากใจเมื่อเริ่มก้ำกึ่งว่าอัญมาอาจจะมาจากโลกคู่ขนานจริง

อรรณพกับภรณีอยู่ในห้องพัก บอดี้การ์ดคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา
“นายวินิจกับลูกชายขอเข้ามาเยี่ยมครับ”
ภรณีตกใจหันมามองอรรณพ
“นายวินิจ มาเฟียคนนั้นเหรอคะ”
“ให้เค้าเข้ามา” อรรณพบอก
ภรณีทักท้วง “คุณคะ”
“ไม่มีอะไรที่เราต้องกลัวพวกผิดกฎหมาย”
ภรณีมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่อรรณพกลับมีหน้าตาขรึมเคร่ง ไม่กลัวเกรงชื่อเสียงวินิจเลย

พอประตูห้องเปิดออก เห็นวินิจกับอธิคมเดินเข้ามา อธิคมถือกระเช้าดอกไม้มาในมือ บอดี้การ์ด 2 คนของอรรณพตามประกบ อรรณพมองจ้องวินิจ ภรณีเครียดไม่สบายใจ วินิจมายืนตรงหน้าอรรณพ ตีสีหน้ายิ้มแย้มแนะนำตัว
“ผมวินิจ แล้วนี่ก็ลูกชายคนเดียวของผม อธิคมครับ”
อธิคมส่งกระเช้าดอกไม้ให้ภรณี แต่ภรณีไม่รับ บอดี้การ์ดเข้ามารับออกไปวางห่าง
“ทราบจากพี่น้องในชุมชนตรงนั้นว่า วันนี้มีเรื่องเข้าใจผิดกัน”
“ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด ผมบอกตำรวจไปแล้วว่าผมจะเอาเรื่องคนที่ทำร้ายผมให้ถึงที่สุด” อรรณพบอก
“พวกนั้นมันวัยรุ่น เที่ยวเกะกะระรานชาวบ้านไปเรื่อย ผมสั่งให้พวกเรา คนในชุมชนออกตามหาตัวพวกมันสองคน พาไปมอบตัวแล้วล่ะครับ”
อรรณพประชด “คงหาไม่ยากหรอก ถ้าไม่มีคนช่วยให้เค้าหนีไปก่อน”
“จริงครับ ผมเองก็มาในฐานะหัวหน้าชุมชนตรงนั้น ไม่สบายใจเลยพอรู้ว่า เกิดเรื่องกับคนแปลกหน้าอย่างคุณอรรณพ”
“อีกหน่อย ผมจะไม่ใช่คนแปลกหน้าของที่นั่น”
“เห็นว่าคุณจะมาทำธุรกิจ ลงทุนกับที่ดินตรงนั้น” อธิคมพูดเป็นเชิงถาม
“บริษัทเราทำธุรกิจตรงไปตรงมา ไม่เคยมีใครเดือดร้อนเพราะเรา” ภรณีบอก
“ดีครับ ผมดีใจมากที่ได้มาพบ มาคุย แนะนำตัวเองในฐานะหัวหน้าชุมชน ต่อจากนี้ไป ถ้าคุณอรรณพยืนยันว่าจะทำธุรกิจตรงชุมชนของผม เราก็คงได้พึ่งพากันบ่อยๆ”
วินิจยิ้มให้ แต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงความเหี้ยมโหดในสีหน้า อรรณพรู้สู้ตา มองโดยไม่กลัวเกรง

ส่วนบนโรงพักตอนนี้ อัญมายืนข้างภควัต จิ๊บยืนใกล้ ทุกคนมองไปที่จ่าเดช
“ไอ้เมษกับไอ้ป๊อบ มันเปิดแน่บออกไปตั้งแต่เกิดเรื่อง”
“ว่าแล้ว...ผู้ร้ายมันไวกว่าตำรวจทุกที” จิ๊บเหน็บ
“อ้าวพูดดีๆ ไอ้จิ๊บ ห้องขังอยู่แค่นี้ เดี๋ยวก็ได้ไปนอนตบยุงหรอก หมิ่นประมาทเจ้าพนักงานนะเอ็ง”
จิ๊บมองจ่าเดช หน้ามุ่ย ภควัตหันไปมองอัญมา
“ยังไงจ่าเดชก็จะตามหาตัวไอ้เมษ ไอ้ป๊อบมาจนได้”
อัญมามั่นใจ “ไม่เจอหรอก ป่านนี้พี่บังสั่งให้พวกมันหนีไปไกลแล้ว”
“มันหนีได้ไม่ตลอดรอดฝั่งหรอก โผล่ตรงไหน ตำรวจก็รอรวบตัวอยู่แล้ว”
อัญมามีสีหน้าไม่พอใจมาก เดินลงจากโรงพัก จิ๊บกับจ่าเดชมองตามงงๆ
“เป็นอะไรของมัน ไอ้อัญ เรื่องคุณอรรณพนี่เป็นเอามาก ห่วงน่าดู” จิ๊บบ่น
จ่าเดชเห็นด้วย “เออว่ะ ทำยังกะเป็นพ่อเป็นแม่ตัวเอง”
“อย่ามัวแต่สงสัยเรื่องอัญมาเลย จ่า รีบตามหาตัวไอ้เมษ ไอ้ป๊อบมาให้ได้”
ภควัตสั่งแล้ววิ่งตามอัญมาออกไป จ่าเดชเกาหัว จิ๊บพูดขึ้น
“ตกลงพี่วัตเป็นเจ้านายจ่าเหรอ สั่งยังกะเป็นตำรวจ”
“มั่วละ ไอ้จิ๊บ มั่ว...มั่ว ไอ้วัตเซียนพระน่ะเหรอ จะมาเป็นตำรวจ มั่วฉิบเป๋งเลยเอ็ง”

จ่าเดชรีบแก้ตัวพัลวัน เพราะกลัวจิ๊บจะระแคะระคาย

ตกตอนเย็น อัญมาเดินเร็วรี่เข้ามาในค่ายมวย ด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะโมโหเรื่องอรรณพถูกทำร้าย ภควัตเดินตามมาดึงแขนรั้งไว้

“อัญมา”
“อย่าคิดจะห้ามฉัน”
“อย่าทำอะไรเพราะความโกรธ ปล่อยให้ตำรวจจัดการเรื่องนี้”
ภควัตเดินเข้าใกล้อัญมา สายตาเตือนสติ
“ถ้าเธอเอาเรื่องไอ้เมษ ไอ้ป๊อบ งานใหญ่เราจะเสีย”
“คุณมันก็ห่วงแต่เรื่องงานของตัวเอง” อัญมาตัดพ้อ
“อัญมา ผมห่วงคุณด้วย รู้หรือเปล่า”
ภควัตมองจ้องตาอัญมา
“คุณคิดเหรอว่าพวกนายวินิจจะปล่อยให้คุณช่วยคนนอก”
อัญมามองภควัต
“ผมสัญญากับคุณแล้ว ผมจะช่วยดูแลคุณอรรณพให้...ผมขอแค่ให้คุณนิ่งไว้ อย่าให้เรื่องนี้ทำลายงานใหญ่ที่เราทุ่มเททำกันมา”
ภควัตมองไป เห็นนักมวยมองมาทางตัวเองกับอัญมา ก็ทำเป็นเข้าใกล้ ก้มลงจูบแก้ม อัญมาตกใจ
“เสร็จธุระแล้วรีบกลับบ้านะจ๊ะ น้องอัญ พี่จะรอ”
ภควัตถอยออกมา อัญมามองเห็นนักมวยที่มองจับสังเกตอยู่ จึงฝืนยิ้มหวาน โบกมือให้ภควัต
“เดี๋ยวเจอกันจ้ะ”
อัญมาเดินเข้าไปด้านใน ภควัตยิ้มมองส่งโดยไม่ให้มีพิรุธ

อัญมาเดินเข้ามาในเรือนใหญ่ เห็นเก้าที่นั่งเล่นเกมมือถืออยู่ในโถงคนเดียว อัญมาตรงเข้าไปถาม
“ไอ้เมษ ไอ้ป๊อบอยู่ไหน”
เก้าเงยหน้ามองอัญมากวนๆ
“ทำไม เอ็งจะจับมันส่งตำรวจเหรอ”
อัญมาเสียงแข็ง “ไอ้เก้า”
เก้าลุกขึ้นยืนจ้องหน้าอัญมาแววตาท้าทาย
“อย่าคิดว่าเป็นคนโปรดพี่คม แล้วพวกข้าจะกลัว”
“ก็เอาสิวะ วัดกันก็ได้ว่าใครทำงานใช้สมอง ช่วยพี่คมกับพี่บังได้ดีกว่ากัน”
อัญมามองจ้อง ไม่ลดราวาศอกให้เก้า

ที่ด้านหลังสองคน วินิจกับอธิคมกลับมาจากโรงพยาบาล อัญมากับเก้าหันไปมอง วินิจมองอัญมาอย่างไม่ชอบใจนัก
“หายหัวไปไหนมา ไอ้อัญ ได้ข่าวว่าอยากเป็นพยานคดีไอ้เศรษฐีนั่นนักเหรอ”
อัญมายังไม่ทันตอบ วินิจตรงเข้ามาบีบคออัญมาด้วยมือแค่มือเดียว ออกแรงบีบจนอัญมาหน้าเชิด หายใจไม่ออก อธิคมเห็นก็ห้ามขึ้นทันที
“พ่อ!!!”
“คนอื่น อย่าเสือก”
วินิจตวาด อธิคมหยุดกึก เก้ายิ้มสะใจ วินิจหันมามองอัญมา
“เอ็งมันเป็นมือดีของเรา ไอ้อัญ แต่ถ้าเอ็งใช้ความฉลาดให้เป็นประโยชน์กับศัตรูของข้า...รับรองว่าไม่ใช่เอ็งคนเดียวที่จะเดือดร้อน”
อัญมามองเห็นแววตาวินิจที่ยิ้มให้อย่างโหดเหี้ยม
“แม่เอ็ง...เพื่อนเอ็ง...ทุกคนที่เอ็งรัก...ไม่ต้องบอกนะ ว่าข้าจะจัดการยังไง”
อัญมาพยายามพูด “ฉัน...ไม่ได้...ทรยศพี่”
วินิจปล่อยมือ อัญมาสำลักอากาศ
อธิคมขยับอยากจะเข้าไปช่วย วินิจเหลียวมองขวับ สายตาคมปลาบจนอธิคมต้องหยุด
วินิหันกลับมามองอัญมาที่หอบหายใจแรง
“จะไปไหนก็ไป ถ้าข้าไม่เรียก ยังไม่ต้องมาให้เห็นหน้า”
อธิคมมองด้วยแววตาห่วงใย อัญมาทำเป็นเดินออกไปท่าทีกลัวๆ วินิจมองจ้องลูกชาย อธิคมได้แต่มองตาม ไม่กล้าตามออกไปเพราะเกรงใจพ่อ

สามคนอยู่ในบ้านด้วยกัน อุบลกับจิ๊บมองอัญมาที่ถือผ้าเช็ดหน้าของภรณีในมือ สีหน้าไม่สบายใจ
“พี่บังมันขู่เอ็งน่ะสิ มันไม่อยากให้เอ็งเป็นพยานเรื่องทำร้ายร่างกายคุณอรรณพ” จิ๊บว่า
อุบลเตือนสติลูก “อัญเอ้ย...คิดดีๆนะลูก พี่บังมันมีอิทธิพลขนาดไหน เราก็รู้”
“ทำไมเราต้องยอมให้คนเลวมันมีอำนาจเหนือกว่า แล้วก็คอยทำร้ายคนอื่น” อัญมาบอก
อุบลแย้ง “คุณอรรณพยังไงเค้าก็คนนอก เกิดเรื่องมา เค้าจะช่วยเราได้ที่ไหน”
“ไอ้อัญมันห่วงคุณอรรณพน่าดู ห่วงยังกับเป็นพ่อ” จิ๊บค่อนขอด
อัญมามองอุบลนิ่ง อุบลยิ้มไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไร
“อัญมันก็คงเห็นว่าคุณเค้าเป็นคนดี”
“จ้ะ แม่ คุณอรรณพกับคุณภรณีเค้าเป็นคนดี มีอะไรที่ฉันช่วยเค้าได้ ฉันก็อยากช่วยเค้า”
อัญมามองผ้าเช็ดหน้าภรณีในมือ แล้วมองไกลนอกหน้าต่าง สายตาเศร้าสร้อยเมื่อเจอปัญหาเรื่องอรรณพ

คืนนั้นภควัตอยู่ในห้องเช่า กำลังเปิดหาข้อมูลในกู้เกิ้ล จากคอมพิวเตอร์แล็บท็อปที่วางบนตัก
“โลกคู่ขนาน”
ภควัตเปิดเว็บไซต์ภาษาอังกฤษหลายหน้าอ่านด้วยความสนใจ มองข้อมูลในเว็บพลางใช้ความคิดหนัก แล้วยกคอมพิวเตอร์วางลงบนพื้น หงายตัวลงนอนเอามือก่ายหน้าผาก รำพึงออกมาอย่างคิดไม่ตก

“อัญมา...โลกคู่ขนานของเธอมันคืออะไรกันแน่”

อ่านต่อตอนที่ 8
กำลังโหลดความคิดเห็น