xs
xsm
sm
md
lg

คีตโลกา ตอนที่ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คีตโลกา ตอนที่ 5

เสี่ยวินิจแต่งตัวจะออกไปงานเลี้ยงข้างนอก อธิคมนั่งดื่มอยู่ที่มุมห้อง มีต้นยกกับแกล้มมาให้ เก้า กะ เมษ เข้ามาหาเสี่ยวินิจ

“รถพร้อมแล้วพี่บัง ไอ้เมษมันขัดให้เงาวับ ฝุ่นสักเม็ดไม่มีเกาะ” เก้าบอกนอบน้อม
“เออ ขอบใจ แล้วนี่ไอ้อัญมันหายไปไหน ข้าไม่เห็นหน้ามันเลย”
“ฉันได้ยินชาวบ้านพูดกันว่ามันเพิ่งทะเลาะกับแม่มัน แฟนมันเลยพาออกไป ป่านนี้คงไปกกกันที่ไหนแล้วล่ะ” เมษบอก
อธิคมได้ยินก็อารมณ์ขึ้นลืมตัว ปาแก้วในมือลงพื้น ทุกคนพากันสะดุ้ง วินิจหันไปมองลูกชายอย่างไม่พอใจที่แสดงออกชัดเจนเกินไป
อธิคมกลบเกลื่อน “กับแกล้มอะไรของเอ็งวะไอ้ต้น รสชาติเทให้หมา หมายังกระเดือกไม่ลง ไปเอามาใหม่เลย”
ต้นรีบลนลานยกจานกับแกล้มออกไปอย่างกลัวๆ
วินิจมองอธิคม “หวังว่าแกคงไม่หลงผู้หญิง จนเสียการเสียงาน ไม่เป็นผู้เป็นคน”
อธิคมสีหน้าหงุดหงิดใจแต่ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
“ไม่มีอะไรหรอกน่า พ่อจะออกไปหาเสี่ยใหญ่ ก็ไปเถอะ”

ค่ำคืนนั้น อัญมานั่งกอดเข่า มองเหม่อไปบนฟ้า ภควัตมองอยู่ใกล้
“อยากกลับบ้านหรือยัง ผมพาไปส่ง”
“กลับไปก็ต้องเจอไอ้สัญชัย หน้าหม้ออีก”
ภควัตมองอัญมาด้วยสายตาเห็นใจ
“ถ้าไม่กลัว ก็นอนที่นี่ก็ได้”
“หมายถึงกลัวผู้กองน่ะเหรอ”
“ทำไม ผมก็ผู้ชายคนนึง มีเลือดมีเนื้อ” ภควัตแกล้งยื่นหน้ามาใกล้ “มีอารมณ์...อาจจะคิดบ้าๆกับคุณก็ได้ อยู่กันสองต่อสอง”
“ใช่ ผู้กองคุณเป็นผู้ชายคนนึง แต่เป็นคนที่มีสติสัมปัชชัญญะ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี ไว้ใจได้ คุณจะไม่รังแก ขืนใจผู้หญิง...ที่เค้าไม่รักคุณ”
ภควัตชะงักมองอัญมา
“ใช่ ใครไม่รักก็อย่าไปง้อ”
ภควัตถอยห่าง อัญมามองงๆ ยังไม่รู้ว่าภควัตน้อยใจ
“คุณไปนอนในห้องเถอะ ผมจะนอนแถวนี้เอง ดึกๆ อย่าหื่นออกมา ลวนลามปล้ำผมแล้วกัน”
ภควัตทำเอามือปิดอกตัวเองแบบกลัวๆ อัญมาหมั่นไส้ คว้าหมอนใกล้มือ ตีภควัต
“ผู้กองบ้า เพี้ยน ลามก”
ภควัตหัวเราะ อัญมาโยนหมอนใส่ แล้วเดินเข้าห้องไป ภควัตมองตามด้วยรอยยิ้ม แล้วหันมาล้มลงนอนที่พื้น กอดหมอนที่อัญมาโยนใส่อมยิ้ม
เห็นประตูห้องนอนแง้มออกมา อัญมามองผ่านช่องประตู อมยิ้มที่ภควัตเป็นสุภาพบุรุษ

อัญมามารับยาเพิ่มแต่เช้า ตอนนี้อยู่ตรงเคาน์เตอร์รับยา
“มารับยาที่คุณหมอจิระศักดิ์ ฝากไว้ให้น่ะค่ะ”
“อ๋อค่ะ คุณหมอมาตรวจที่นี่ด้วย ฝากไว้ให้...คุณอัญมาใช่มั้ยคะ”
อัญมารับซองยามา “ขอบคุณนะคะ”
พออัญมาหันหลังกำลังจะเดินกลับเห็นอธิคมยืนหน้าถมึงทึงรออยู่ก็ตกใจ
“พี่คม มาได้ไง”
“ฉันจะมารับผลเลือดให้ แต่พยาบาลไม่ยอม บอกต้องให้เจ้าตัวมารับเอง แล้วเป็นอะไรอีก หมอให้ยาอะไรมา”
อัญมาเหงื่อซึม พยายามหาทางแก้ตัว
“ฉันไม่สบายนิดหน่อย ก็เลยมาหาหมอ”
“งั้นไปเอาผลตรวจเลือดด้วยกัน”
อธิคมดึงแขนอัญมาไปกึ่งบังคับ
อัญมาต้องยอมไปโดยดี ระหว่างนั้นพยายามครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด

อธิคมดูผลตรวจเลือดที่ไม่มีอะไรผิดปกติก็ยิ้มพราย เพราะหมายความว่าอัญมาปลอดโรค
“เธอไม่ได้เป็นอะไร สบายใจได้ล่ะสิ”
อัญมารู้ว่าอธิคมต้องการอะไรก็ได้ยิ้มแห้งๆ
“ไม่ได้เป็นเอดส์ ฉันก็สบายใจแล้วล่ะ”
“แล้วที่ไม่สบายต้องกินยา หมอบอกว่าเป็นอะไร”
อธิคมแกล้งถามนิ่งๆดูพิรุธของอัญมา
“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกพี่ หมอบอกว่าฉัน...ขาดสารอาหารน่ะ เลยให้วิตามินมากิน”
“ฉันก็ว่าเธอผอมไปนะอัญ ดีแล้วที่หมอให้ยามาบำรุง เวลากอดจะได้เต็มมือหน่อย”
อัญมาอายมาก อธิคมเห็นแล้วยิ้ม ตาวาวๆ
“มีวิตามินอะไรบ้างเอามาดูหน่อยสิ เผื่อวันหลังฉันจะซื้อมาให้เอง”
อธิคมทำเหมือนพูดคุยปกติ แต่ต้องการจับผิดเรื่องยา อัญมาหน้าเสียถ้าไม่ให้ดู อธิคมก็ต้องสงสัยแน่นอน

ด้านภควัตกำลังคุยงานอยู่กับจ่าเดชในห้องเช่า
“ทางจ่าได้ข้อมูลเกี่ยวกับสารตั้งต้นบ้างหรือยัง”
“ยังเลยครับ แล้วไอ้อัญล่ะครับ มันอยู่ใกล้ น่าจะได้กลิ่นอะไรบ้าง”
ภควัตส่ายหน้า จู่ๆ เสียงทุบประตูบ้านราวกับจะพังเข้ามาดังขึ้น ภควัตและจ่าเดชตกใจ
“ใครมา จ่าเข้าไปหลบในห้องน้ำก่อน”
จ่าเดชรีบเข้าไปหลบในห้องน้ำตามคำสั่ง
เสียงอุบลแหลมเข้ามา “เปิดเดี๋ยวนี้ เปิด ไอ้วัตเปิด ไม่เปิดข้าจะพังเข้าไป”
“เปิดแล้วจ้ะ เปิดแล้ว”
พอประตูเปิด อุบล นวยและจิ๊บ พุ่งพรวดเข้ามาในบ้าน
“ไอ้อัญอยู่ไหน มันไม่กลับบ้านทั้งคืน มันอยู่กับเอ็งใช่ไหม ไอ้วัต”
“ใจเย็นๆก่อนครับ ป้า อัญไม่อยู่แล้วครับ เค้าออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว”
อุบลตะคอก “ไปไหน”
“ไปทำงานมั้งครับ คือผมนอนที่พื้น อัญเค้านอนในห้อง ตื่นเช้ามา อัญเค้าก็ออกไปแล้ว ผมไม่ทันได้ถาม”
“ข้าไม่เชื่อ เอ็งอย่ามาทำพูดดี เอ็งเป็นแฟนทำไมไม่รู้จักดูแลไอ้อัญให้มันกลับตัวกลับใจ ห๊า ไอ้วัต เอ็งจะมาหลอกลูกสาวข้าใช่มั้ย เอ็งจะหลอกฟันไอ้อัญแล้วก็ทิ้ง”
อุบลพุ่งเข้าไป ทุบอกภควัตพัลวัน นวย กะ จิ๊บรีบเข้าไปห้าม แต่จับอุบลไม่อยู่
“ป้าอุบลอย่า...” จิ๊บร้องห้าม
“โอ๊ยป้า พี่วัตเขาเป็นแค่แฟน ไม่ใช่พ่อจะได้สั่งสอนพี่อัญได้ ป้าโกรธพี่อัญแล้วไปลงกับพี่วัตเขาทำไม พอเหอะ” นวยพยายามห้าม
“ไอ้นวยหุบปาก อย่ามายุ่ง”
อุบลสะบัดศอกเข้าหน้านวยหงายไปอีกด้าน แล้วเข้าไปทุบภควัตต่อ ภควัตได้แต่ปัดป้อง
“ไอ้อัญมันไม่น่าคบแกเลย ทำไมไม่พากันไปทางดีๆ”
จ่าเดชแอบแง้มประตูดูจากห้องน้ำ ทำหน้าสยอง
“ผู้กองรับศึกหนักแล้วไง”
จิ๊บเห็นท่าไม่ดีรีบกดโทรศัพท์หาอัญมา

“แย่แล้ว ไอ้อัญ”

สองคนอยู่ที่โรงอาหารโรงพยาบาล อัญมามองอธิคมที่รอให้หยิบยาออกมาให้ดู อัญมาเปิดกระเป๋าจะหยิบถุงยาออกมา กลั้นใจว่าถ้าถูกจับได้จะทำยังไง เสียงโทรศัพท์อัญมาดังขึ้นขัดจังหวะพอดี

“ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะพี่คม”
อัญมารีบรับโทรศัพท์ที่จิ๊บโทร.เข้ามา
พอฟังแล้วต้องตกใจ “ว่าไงนะ ได้ๆ ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
“มีอะไร”
“จิ๊บมันโทร.มาบอกว่าแม่ฉันไปอาละวาดใส่พี่วัต กำลังจะสับพี่วัตเป็นชิ้นๆ เหมือนไก่ทอด ฉันต้องรีบไปห้ามแม่ก่อน แล้วจะแวะไปหานะพี่คม”
อัญมารีบเก็บห่อยาและโทรศัพท์เข้ากระเป๋า หาทางชิงเอาตัวรอดไปก่อน อธิคมมองตามอย่างไม่วางใจ หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาเก้า
“ไอ้เก้า เอ็งรีบไปที่บ้านไอ้เซียนพระเดี๋ยวนี้เลย”

ภควัตวิ่งหนีอุบลออกมาหน้าบ้านกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ อุบลตามมาลากภควัตไม่ให้ไป
“เอ็งคิดจะหนีเหรอ ถ้าไม่คิดจะดูแลลูกข้าก็ไม่ต้องมาเป็นแฟนมัน”
นวยและจิ๊บช่วยกันดึงอุบลไว้
นวยบอก “ไปเลย พี่วัต เผ่นก่อน”
“ขอบใจมาก นวย” เซียนวัตหันไปทางอุบล “ป้าอุบล ผมจะเตือนอัญให้นะครับ”
ภควัตรีบบิดเครื่องขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป
“ไอ้ขี้ขลาด ลูกข้าเป็นแฟนกับมันได้ไงวะ”
อุบลยืนหอบ
“เป็นฉัน ฉันก็เผ่นล่ะ ใครจะอยู่ ป้าเล่นด่าไฟแล่บขนาดนี้” นวยบ่น
“ไอ้อัญมันจะดีจะเลว พี่วัตเขาไม่เกี่ยวหรอกนะจ้ะป้า”
“แถวบ้านเรียกพาลอะป้า”
อุบลเสียงเขียว “พวกเอ็งไม่ต้องมาพูดเข้าข้างมัน ถ้าไอ้อัญไม่กลับบ้าน ข้าจะมาเล่นมันอีกคอยดู”
เก้ายืนอยู่ที่มุมหนึ่ง มองดูเหตุการณ์ตามที่อธิคมสั่ง โทรศัพท์กลับไปรายงาน
“มีเรื่องกันจริงๆ พี่ ไอ้อัญมันไม่ได้โกหก”
ฝ่ายจ่าเดชแอบมองจากหน้าต่างในบ้านเช่า เห็นเก้ายืนหลบมุมสังเกตการณ์โทรศัพท์รายงานนาย
“พวกไอ้อธิคมมันมาสอดส่องตลอดเลย ต้องเตือนผู้กองซะแล้ว”

อัญมารีบกลับมาที่เจอจิ๊บที่หน้าทางเข้าชุมชนพอดี
“จิ๊บ พี่วัตเป็นไงบ้าง”
“ระเบิดลงก็ต้องเผ่นสิ ไม่ต้องห่วงหรอก หนีขึ้นมอไซค์ได้ก็รอดแล้ว”
อัญมาโล่งอก
“ท่าทางแกจะเป็นห่วงแฟนมากเลยนะอัญ รักเค้ามากสิท่า”
“ก็คนเป็นแฟนกันก็ต้องห่วงสิ จะถามทำไมเนี่ย”
“ถ้าแกไม่อยากให้ป้าอุบลไปเล่นงานพี่วัตอีก ก็รีบกลับบ้านไปให้แกเห็นหน้า แม่ลูกต่อให้ทะเลาะกันยังไง ก็ตัดกันไม่ขาดหรอก จริงไหม”
“รู้น่า ไม่ต้องมาสอนหรอก”
จู่ๆ ก็มีวัยรุ่นวิ่งเข้ามากระชากกระเป๋าอัญมาสุดแรง
อัญมาตกใจ “เฮ้ย กระเป๋าฉัน เอาคืนมา”
อัญมารีบวิ่งตามวัยรุ่นนั่นไป จิ๊บตกใจทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ตะโกนตาม
“ไอ้อัญระวังตัวนะ”

อัญมาวิ่งตามคนกระชากกระเป๋าอย่างไม่ลดละ วิ่งชนชาวบ้านที่เดินผ่านไปมา
“ช่วยด้วย โจรกระชากกระเป๋า จับมันที”
ไม่มีชาวบ้านคนไหนยอมช่วย
คนกระชากกระเป๋าวิ่งหลบเข้าไปในซอกหลืบบริเวณนั้น มันเปิดกระเป๋าหยิบห่อยาในกระเป๋าอัญมาไปอย่างเดียว แล้วโยนกระเป๋าทิ้งลงถังขยะแถวนั้นก่อนวิ่งหนีหลบออกไป
อัญมาวิ่งตามมาเห็นกระเป๋าตัวเองอยู่ในถังขยะก็ชะงัก รีบคีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาเปิดตรวจดู พบว่ากระเป๋าเงิน โทรศัพท์ยังอยู่ ก็โล่งใจ แต่นึกได้เห็นว่าห่อยาที่เพิ่งได้จากโรงพยาบาลหายไป
“ยาล่ะ”
อัญมาหน้าเสียเมื่อยาไม่มี ก็รู้ทันทีว่าฝีมือใคร

ต่อมาอัญมายืนอยู่กับภควัตที่ริมน้ำ สีหน้าเครียดเคร่ง
“แน่ใจเหรอว่าเป็นฝีมืออธิคม”
“ก็โจรที่ไหนมันจะกระชากกระเป๋าแล้วไม่เอาของมีค่าอะไรไปเลย เอาไปแต่ถุงยา อธิคมก็ท่าทางสงสัย อยากรู้ว่าฉันไปหาหมอทำไมด้วย ถ้าอธิคมรู้ว่าฉันเลิกยา...”
“ใจเย็นๆก่อน อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้”
“ไม่ทันแล้ว ตอนนี้ฉันกลัวจนไข้จับแล้วเนี่ย”
ภควัตกวน “เธอกลัวอธิคมด้วยเหรอ ฉันคิดว่าเธอชอบมันซะอีก”
อัญมากวนกลับ “ถ้าฉันไม่ใช่สายตำรวจ ฉันอาจจะชอบอธิคมขึ้นมาจริงๆ ก็ได้”
ภควัตโกรธจับไหล่อัญมา
“ฉันขอเตือนให้คิดให้ดีๆ นั่นมันโจรค้ายา ทำลายชีวิตคนมาเป็นร้อยเป็นพัน”
“คนเราถ้าเกิดใจมันรักไปแล้ว ต่อให้เป็นเทพบุตรหรือโจรห้าร้อยก็ไม่ต่างกันหรอกผู้กอง ผู้หญิงยอมได้ทุกอย่าง”
“แสดงว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่คิดจะใช้สมองเลยใช่ไหม ใช้แค่อารมณ์กระเจิดกระเจิงตัดสินอย่างเดียว”
“ผู้กองต่างหากที่ไม่ใช้สมอง นี่คุยเรื่องรับมืออธิคมอยู่นะ ลากไปเรื่องอื่นทำไม”
ภควัตได้สติว่าอารมณ์หึงพาออกนอกเรื่องจริงๆ จึงยอมสงบลง แต่ยังพาล
“แล้วเธอมานอกเรื่องตามฉันทำไมล่ะ”
“คนบ้า ผิดแล้วไม่ยอมรับผิดอีก”
อัญมาค้อนใส่ภควัตอย่างหงุดหงิด

อีกฟาก ต้นโยนห่อยาที่เอามาจากอัญมาให้เก้า เก้าเอาห่อยาไปส่งต่อให้อธิคม
“เด็กเรามันเอาไปให้ที่คลินิกดูแล้วนะพี่ ที่นั่นเขาบอกว่าเป็นยาระงับอาการทางประสาทและยาบำรุง จ่ายให้กับพวกที่มารักษาอาการติดยา” ต้นบอก
เก้างง “นี่ไอ้อัญมันคิดจะเลิกยาเหรอ แล้วนี้ที่มันมานี่บ่อยๆ มันไม่ได้มาเล่นเหรอวะ”
ต้นยักไหล่ไม่รู้เหมือนกัน
นัยน์ตาอธิคมวาววับ สีหน้าไม่พอใจอย่างมาก บีบห่อยาแทบแหลกคามือ

อัญมาและภควัตยังคิดไม่ตกจะเอายังไงเรื่องอธิคมดี เสียงโทรศัพท์อัญมาดังขึ้น อัญมารับสาย
“ได้ เดี๋ยวฉันเข้าไป” อัญมาวางสาย “อธิคมโทร.ตามฉันแล้ว”
อัญมาทำท่าจะไป ภควัตรีบดึงมือเอาไว้
“อธิคมรู้เรื่องยาแล้ว มันอาจจะรอเล่นงานเธออยู่”
“แล้วจะให้ทำไงล่ะ ขืนไม่ไป อธิคมก็ยิ่งสงสัย”
“เอาอย่างงี้ไม่ต้องไป เธอหลบไปจากที่นี่สักพัก”
“ทำแบบนั้นอธิคมก็ยิ่งตามล่าฉันสิ”
“ฉันจะคอยคุ้มกันเธอเอง”
อัญมาอดซึ้งไปกับคำพูดของภควัตไม่ได้ แต่ก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว
“ผู้กอง ทำไมถึงเลือกฉันให้เป็นสายให้คุณ”
“เพราะเธออยู่ใกล้พวกนั้นที่สุด ที่สำคัญฉันเชื่อว่าเธอฉลาด ตั้งใจจริง”
“งั้นก็เชื่อในความฉลาด ความตั้งใจจริงของฉันแล้วกัน ฉันจะเอาตัวรอดให้ได้ ผู้กองรอฟังข่าวจากฉันแล้วกัน”
อัญมาพูดจบก็รีบผละจากภควัตไปหาอธิคม

ภควัตได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง

อัญมาทำใจดีสู้เสือเข้ามาในเรือนใหญ่ อธิคมนั่งรออยู่สีหน้าดูน่ากลัว สายตาดุกร้าวผิดไปจากทุกที

เก้า ต้น เมษ และ ป๊อบ ยืนอยู่ไม่ห่าง ต่างจ้องมาที่อัญมาอย่างพร้อมเล่นงานถ้าอธิคมสั่ง
“พี่คม มีอะไรหรือเปล่า นี่ฉันยังไม่ได้เคลียร์กับแม่เลย รีบมาหาพี่ก่อน”
อธิคมโยนห่อยาใส่หน้าอัญมา
“นี่เหรอวิตามิน ยาบำรุง สำหรับคนขาดสารอาหาร นึกว่าฉันจะโง่เชื่อเธองั้นเหรอ”
อัญมาเริ่มกลัวอารมณ์ของอธิคม แต่พยายามตั้งสติ แกล้งทำหน้าเศร้า
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหก”
“รู้ไหมคนอย่างฉันเวลารักใคร ฉันให้ได้ทุกอย่าง แต่ถ้ารู้ว่าถูกทรยศ ฉันก็ทำให้มันตายคามือฉันได้เหมือนกัน”
อธิคมตรงไปบีบคออัญมาอย่างแรง พวกเก้ามองดูอย่างสะใจ นึกสมน้ำหน้าอัญมา อัญมาแกล้งทำหน้าอ้อนวอน น้ำตาคลอ
“พี่คม ให้โอกาสฉันได้พูดอะไรบ้างได้ไหม”
“ก็ได้ ฉันจะลองฟังว่าเธอจะตลบตะแลงอะไรฉันอีก”
“แต่ฉันขอคุยกับพี่ตามลำพังนะ”
อธิคมลากอัญมาเข้าไปในห้อง พวกเก้าพากันผิดหวัง
“อ้าว เฮ้ย นึกว่าจะได้เห็นไอ้อัญโดนพี่คมตบกลิ้งแล้ว” เก้าบอก
“ไม่แน่เข้าไปแล้ว มันอาจจะโดนตบแล้วก็จูบ แล้วก็ถีบออกมาก็ได้” ต้นว่า
พวกเก้าส่ายหน้าเสียดาย อดเห็นช็อตเด็ด

อัญมาถูกอธิคมลากเข้ามาในห้องและผลักลงเตียง
“พูดมาฉันจะฟัง แต่ถ้ามันฟังไม่ขึ้น...”
อธิคมหันไปหยิบมีดพับที่วางอยู่มาขู่อัญมาอย่างเลือดเย็น
“ฉันจะจัดการฝังเธอที่หลังตึกนี่แหละ”
อัญมามองมีดคมวาวอย่างหวั่นใจ แต่ต้องเอาตัวรอดให้ได้ แกล้งบีบน้ำตา
“ก็ตามใจพี่คม ฉันก็ไม่อยากอยู่แล้ว ตอนนี้มีแต่ปัญหา แม่ก็ด่าฉันทุกวัน ไอ้พี่วัตก็งี่เง่า แล้วยังมาเจอพี่คมเข้าใจผิดอีก”
“เข้าใจผิด คิดว่าฉันโง่หรือไง เห็นๆอยู่ว่าเธอโกหก”
“ฉันโกหกก็เพราะจำเป็น ฉันอยากเลิกยา อยากให้แม่เลิกด่าฉันสักที แต่ที่ไม่กล้าบอก เพราะกลัวพี่คมจะระแวงฉัน แบบที่เป็นอยู่เนี่ย อีกอย่างถ้าพวกไอ้เก้ารู้ มันคงหัวเราะเยาะฉัน พวกมันชอบคิดว่าฉันไม่มีทางเลิกยาได้ ฉันไม่อยากเมายาจนพลาดถูกพวกมันพาไปขายที่ซ่องเจ๊ว่านอีก”
อธิคมเข้าไปจับคางอัญมาจ้องเข้าไปในตาของอีกฝ่ายอย่างค้นหาความจริง อัญมาจ้องกลับสู้สายตาอธิคม
“ถ้าพี่ไม่เชื่อ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว จัดการฉัน แล้วเอาไปฝังได้เลย”
อัญมามองจ้อง เชิดหน้า มองท้าทายเหมือนยอมให้อธิคมปาดคอ

ภควัตเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านเล็กของเขา เป็นห่วงอัญมามาก เขามองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ว่าเมื่อไหร่อัญมาจะโทรมา
จังหวะนี้ขวัญอนงค์เดินเข้ามาพร้อมมาลีที่ถือถาดใส่คุกกี้และขนมอบต่างๆเข้ามา
“พี่วัตคะ วันนี้น้องหัดทำขนมเลยเอามาให้พี่วัตชิม”
มาลีเอาไปวางที่โต๊ะให้
“ชิมแล้วช่วยติชมด้วยนะคะ”
“ครับ”
“แล้วเมื่อไหร่พี่วัตจะพาคนที่คุณแม่อยากเจอมาสักทีละค่ะ”
ภควัตหยิบขนมชิมตามมารยาทแทบติดคอ รีบวางขนมลงคืนในจาน
“ช่วงนี้พี่ยุ่งมาก เขาก็ยุ่งมาก ยังไม่มีเวลามาเลยครับ”
“พาน้องไปเจอก็ได้นะคะ เพราะน้องว่างและมีเวลาเสมอ”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ภควัตรีบโผไปรับสาย ได้ยินเสียงอัญมาปลายสายก็โล่งใจ
“ได้ฉันจะรีบไปหาเธอเดี๋ยวนี้” ผู้กองวางสาย หันมาทางขวัญอนงค์ “พี่มีธุระด่วนเข้ามา ขอตัวก่อนนะครับ”
ภควัตรีบร้อนออกไป
“เดี๋ยวสิคะพี่วัต” ขวัญอนงค์รีบตามออกไป

ภควัตรีบออกมาขึ้นมอเตอร์ไซค์ขี่ออกไป ขวัญอนงค์ตามมาตัดสินใจขึ้นรถที่จอดอยู่ขับออกไปบ้าง
วรจันทร์เดินออกมาเห็นก็แปลกใจ ถามมาลีที่เดินถือถาดกลับมาพอดี
“นั่นยายน้องจะไปไหน”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ได้ยินคุณวัตคุยโทรศัพท์ว่าจะออกไปพบใครนี่แหละค่ะ”
“เล่นอะไรกันอยู่ สองพี่น้องนี่”
วรจันทร์มองตามอย่างเป็นห่วง

คุณหญิงวรจันทร์อยู่ในโถงคฤหาสน์กำลังคุยมือถือกับขวัญอนงค์อย่างเป็นห่วง
“ยายน้อง รีบร้อนออกไปไหน อย่าบอกนะว่าตามตาวัตไป”
ฟากขวัญอนงค์ใส่สมอลทอล์คขับรถไปคุยไปกับมารดา มองผ่านกระจกหน้ารถเห็นมอเตอร์ไซค์ของภควัตวิ่งอยู่ข้างหน้าไกลๆ
“พี่วัตต้องออกไปหาผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ คุณแม่ น้องจะไปดูให้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครอยู่ที่ไหน
“ทำแบบนี้ตาวัตจะไม่โกรธเอาเหรอ ยายน้อง รอให้พี่เค้าพาผู้หญิงคนนั้นมาที่บ้านเราเองดีกว่ามั้ย”
“น้องไม่อยากรอค่ะคุณแม่”
ขวัญอนงค์ตัดสายไป วรจันทร์ได้แต่วางโทรศัพท์อย่างกลุ้มใจ
“คนนึงก็ใจร้อน อีกคนก็ต้องรู้ให้ได้”

ขวัญอนงค์ขับรถมาถึงทางเข้าชุมชน ต้องจอดรถเพราะไปต่อไม่ได้ ขวัญอนงค์ลงมาจากรถมองไปรอบๆอย่างไม่คุ้นกับสลัม เห็นชาวบ้านเดินกันไปมา บางเข็นรถเข็นขายของไม่สนใจคนเดิน ขวัญอนงค์เกือบถูกรถเข็นชนต้องรีบหลบข้างทาง
“พี่วัตนัดเจอกับผู้หญิงคนนั้นที่นี่เหรอ”
ขวัญอนงค์พยายามเดินมองหาภควัต มองไปเห็นรถมอเตอร์ไซด์จอดหลบอยู่แถวนั้นพอดี
“มอเตอร์ไซค์พี่วัต อยู่แถวนี้จริงๆ ด้วย”
ขวัญอนงค์รีบเดินหาภควัตต่อ

อัญมายืนรอภควัตที่มุมหนึ่งอย่างร้อนใจ
“เมื่อไหร่จะมาเนี่ย”
ภควัตตรงเข้ามาหาอัญมาจับไหล่อย่างดีใจ
“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม มันทำอะไรเธอหรือเปล่า”
“ระดับนี้แล้ว ถ้าทำคงไม่มายืนคุยกับผู้กองตรงนี้หรอก”
“งั้นไปหาที่อื่นคุยกัน” ภตวัตแกล้งเสียงดัง “พี่ขอโทษนะ เราไปปรับความเข้าใจกันนะ คราวหลังพี่จะไม่ทำให้น้องอัญโกรธอีกแล้ว”
ภควัตรีบโอบอัญมาจะพาเดินออกไป แต่ต้องชะงักเพราะเห็นขวัญอนงค์เดินมาพอดี และกำลังมองหาตนเองอยู่ ภควัตรีบพาอัญมาหันหลังกลับเดินหนี
“อะไรอีกผู้กอง”
ภควัตไม่ตอบรีบลากอัญมาไปหลบหลังรถเข็นมีผ้าพาสติกคลุมปิดที่จอดอยู่บริเวณนั้น
“พาฉันมาหลบตรงนี้ทำไม”
“เบาๆ สิ น้องสาวฉันมาที่นี่”
อัญมารีบโผล่หน้าออกไปดู เห็นขวัญอนงค์มาดคุณหนูเดินตรงมาบริเวณที่ตนซ่อนอยู่
ภควัตรีบดึงอัญมาให้ลงมาหลบ กลัวขวัญอนงค์จะเห็น
“แน่ใจเหรอว่าน้องสาว”
“นี่อย่าสงสัยอะไรที่ไม่ใช่สาระหน่อยเลย”
“อ้าว ก็น้องสาวที่ไหนจะตามติดซะขนาดนี้”
ภควัตรีบปิดปากอัญมาไม่ให้พูดมาก อัญมาดิ้นศอกไปกระแทกกับรถเข็นเสียงดัง ขวัญอนงค์ได้ยินเสียงดังมาจากหลังรถเข็นก็สงสัยจะเดินเข้าไปดู แอนนี่เดินถือถุงกาแฟ ชาเขียว ชาเย็น เต็มมือเข้ามาพอดีปากก็บ่นบ้าไม่หยุด
“แถวหน้าร้านมีก็ไม่ยอมกิน ทำไมคุณแม่ต้องเรื่องมากให้ไปซื้อถึงปากซอยด้วยนะ”
แอนนี่เดินเหวี่ยงถุงน้ำอย่างไม่สนใจใคร ชนเข้ากับขวัญอนงค์ที่จะเดินไปที่รถเข็นพอดี ถุงน้ำหล่นพื้นแตกกระจาย
แอนนี่กรี๊ด “แอร๊ย นังบ้าเดินทะเลอทะล่า ตาไม่มีหรือไง ดูสิ ถุงแตกหมดแล้ว”
ขวัญอนงค์โดนด่าเป็นชุดก็ไม่พอใจ
“เธอต่างหากที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เสื้อผ้าฉันก็เลอะเหมือนกัน”
“แกเป็นใครนี่ หน้าตาไม่ใช่คนแถวนี้” แอนนี่มองหัวจรดเท้า “คิดจะมาหากินข้ามถิ่นหรือไงยะ บอกให้รู้ไว้นะ อย่ามาแหยมกับฉันดีกว่า จะโดนตบหน้าเบี้ยว ดั้งหัก กรามบิด ต้องไปสวยด้วยแพทย์ไม่รู้ตัว”
ชาวบ้านเห็นแอนนี่ทะเลาะกับขวัญอนงค์ก็พากันหยุดยืนดู
ภควัตได้โอกาสค่อยๆพาอัญมาออกมาจากที่ซ่อน อาศัยชาวบ้านที่มุงดูพาอัญมาหลบออกไป

ภควัตพาอัญมาหลบออกมารอดพ้นสายตาขวัญอนงค์จนได้
“นี่ผู้กองไม่ห่วงน้องสาวคุณหรือไง ปล่อยให้ฟัดกับยายแอนนี่แบบนั้นได้ไง ยายแอนนี่ปากจัด ฟัดไม่เลือกแค่ไหนคุณก็รู้”
“ฉันรู้ว่าแอนนี่ร้าย แต่เธอคงไม่รู้ว่าคุณน้องก็ไม่ธรรมดาหรอก ไปเหอะน่า ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก”
ภควัตพาอัญมาออกไป

จริงดังภตวัตว่า ขวัญอนงค์มองแอนนี่อย่างไม่เกรงกลัว
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอทำมาหากินอะไร แต่คนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องลดตัวไปแย่งอาชีพคนอย่างเธอ”
“คนอย่างนังแอนนี่ทำไม ดาวเด่นประจำร้านเจ๊ว่านนะยะ”
ขวัญอนงค์มองแอนนี่อย่างดูแคลนเดาอาชีพของแอนนี่ได้ทันที ขวัญอนงค์เดินหนีไม่อยากลดตัวไปต่อปากต่อคำกับแอนนี่อีก แต่แอนนี่เข้าไปกระชากแขนขวัญอนงค์เอาไว้
“จะไปไหน เรื่องทำถุงกาแฟฉันแตกยังไม่จบนะยะ”
ขวัญอนงค์สะบัดแขนออก หยิบเงินในกระเป๋า ยื่นแบงค์พันให้แอนนี่
“จบไหม”
แอนนี่คว้าเงิน “มีเงินแล้วคิดว่าจะจบแค่นี้เหรอ” รีบยัดใส่อกเสื้อแต่ไม่ยอมจบ “ขอค่าเสียหายเป็นตบสักทีเหอะ”
แอนนี่เงื้อมือจะตบขวัญอนงค์
ขวัญอนงค์ประกาศ “ใครจับผู้หญิงคนนี้ไว้ ฉันให้คนละพัน”
ชาวบ้านแถวนั้นได้ยินรีบแห่กันเข้าไปจับแอนนี่เอาไว้
แอนนี่กรี๊ด “แอร๊ย ปล่อยฉันนะ พวกแกบ้าไปแล้วเหรอมาจับฉันทำไม ปล่อย หลุดไปได้แม่
จะตบให้ฟันร่วงทุกคนเลยคอยดู”
แอนนี่เอาแต่กรี๊ดดิ้นไปมา ชาวบ้านไม่ยอมปล่อยแอนนี่ ขวัญอนงค์ยืนกอดอกสะใจ

ภควัตพาอัญมาหลบคุยตรงบริเวณปลอดภัย ไม่มีใครผ่านไปมา ภควัตจับอัญมาหมุนสำรวจรอบตัวอัญมาเพื่อความแน่ใจว่าไม่บุบสลายเพราะน้ำมืออธิคม
“อะไรของผู้กองเนี่ย ฉันไม่ใช่ตุ๊กตานะ จับหมุนไปหมุนมาอยู่ได้ เวียนหัว”
“ก็ฉันอยากดูให้แน่ใจว่าเจ้าอธิคมไม่ได้ทำร้ายเธอ”
“ก็เกือบไปล่ะ มีดจ่อคอหอย”
อัญมาไม่เล่าเปล่าแสดงท่าทางปาดคอให้เห็นด้วย
ภควัตโกรธ “เธอมันบ้า บอกแล้วว่าอย่าไป เกิดมันปาดคอเธอขึ้นมาจริงๆจะทำไง”
“ก็ตายไง ถามได้”
ภควัตใจหาย ห่วงมาก “อย่ามัวพูดเล่นได้ไหม”
“เอาน่าผู้กองตอนนี้ฉันก็รอดมาได้แล้วไง ฉันเก่งไหมล่ะ”
“ทำยังไง อธิคมมันถึงปล่อยเธอ”

อัญมาหวนนึกถึงเหตุการณ์ในห้องอธิคมก่อนหน้านี้

โดยในตอนนั้นอธิคมมองอย่างชั่งใจ อัญมาทำเป็นท้าทายเพื่อเอาตัวรอด คว้ามือธิคมที่ถือมีดมาจ่อคอหอยตัวเอง

“เอาเลย ถ้าพี่คมไม่เชื่อฉัน ก็ฆ่าฉันทิ้ง ยังไงฉันก็หนีพี่ไม่พ้นอยู่แล้ว”
อธิคมตกใจ นึกไม่ถึงว่าอัญมาจะกล้า อัญมายิ่งท้าทาย
“ให้ฉันตายด้วยมือพี่ ฉันคงมีความสุขมาก”
อัญมาแกล้งดึงมืออธิคมที่ถือมีดขยับมาใกล้ตัวเองอีก อธิคมทำไม่ลง กระชากมืออัญมาออกจากมือตัวเองแล้วเก็บมีด อัญมาผ่อนลมหายใจโล่งอก แต่อธิคมดึงอัญมาเข้ามาใกล้ จ้องตาวาวอย่างเอาจริง
“ฉันจะให้โอกาสเธอ เชื่อในที่สิ่งที่เธอพูด แต่ถ้าจับได้ว่าเธอโกหก หรือมีแผนการทรยศฉันล่ะก็ รับรองฉันจะทำให้เธอตายช้าช้า อย่างทรมาน”
“ฉันรู้ว่าพี่คมจะไม่ไว้ชีวิตคนทรยศ ฉันขอไว้เรื่องเดียว ถ้าฉันจะตายพี่ต้องเป็นคนฆ่าฉัน อย่าให้คนอื่นมาแตะต้องตัวฉัน”
อัญมาจ้องตาอธิคมอย่างเด็ดเดี่ยว อธิคมมองใบหน้าอัญมาแล้วต้องหวั่นไหวในใจ จนต้องผลักอัญมาออกห่าง
“ไปได้ แล้วฉันจะโทร.หา”

ภควัตได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็สีหน้าไม่สบายใจนักเพราะยิ่งเป็นห่วงอัญมา
“ทำไมถึงไปท้าทายอธิคมแบบนั้น”
“ฉันต้องทำให้เค้ารู้สิ ว่าฉันบริสุทธิ์ใจ”
“ต่อไปเธอคงต้องระวังตัวมากขึ้น ถ้าอธิคมจับพิรุธอะไรได้อีก ต่อให้เธอแต่งเรื่องเก่งแค่ไหน ก็ช่วยไม่ได้แล้ว”
“นี่หาว่าฉันสตอเบอร์รี่เก่งเหรอผู้กอง”
“ฉันไม่ได้ว่าแบบนั้นสักหน่อย เอางี้ฉันจะพาเธอไปเลี้ยงข้าว ไปซื้อของที่เธออยากได้เป็นรางวัล ในความเก่งครั้งนี้”
อัญมาได้ยินแบบนั้นก็ดีใจ
“จริงเหรอ งั้นฉันขอ...”
“หยุด ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ฉันจะพาเธอไปเลี้ยงข้าวซื้อของในฐานะพี่วัต เซียนพระกระจอกๆ ไม่ใช่ผู้กองภควัต”
“นี่หมายความว่าจะเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวข้างทาง เดินช็อปปิ้งในตลาดนัดใช่ไหม”
“ก็ใช่สิ”
ภควัตตอบกวนๆ ทำเอาอัญมาเซ็งไปทันที

ภควัตพาอัญมามากินก๋วยเตี๋ยวที่ข้าง อัญมาทำหน้าเซ็งๆ แต่ก็ยอมกิน ภควัตเอาใจคีบลูกชิ้นตัวเองให้ อัญมาทำหน้าไม่อยากได้สักนิด
“ลูกชิ้นเจ้านี้อร่อยนะ”
“ฉันไม่ได้อยากกินลูกชิ้น ฉันอยากกินฟัวกราส์”
ภควัตแกล้งทำเสียงดัง “ตับห่านจานละเป็นพันน่ะเหรอ คนจนอย่างพี่ไม่มีปัญญาพาน้องอัญไปกินหรอก กินลูกชิ้นไปก่อนนะน้องนะ”
คนอื่นๆ ที่นั่งกินอยู่ด้วยพากันหันมามอง
“จะเสียงดังทำไมเนี่ย อายคนเป็นมั่งมั้ย”
“ไม่เป็น” ภควัตหัวเราะขำที่ได้แกล้งอัญมา
เวลาต่อมา ภควัตพาอัญมามาเดินตลาดนัด อัญมาเริ่มเพลินไปกับข้าวของในตลาด หยิบเสื้อผ้ามาทาบตัว ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง ภควัตชี้ชวนอัญมาให้ดูข้าวของอื่นๆ สองคนเริ่มเพลินและสนุกสนาน ที่ได้เดินเที่ยวด้วยกัน

ขณะเดียวกัน สุคนธรสยืนกอดอกหงุดหงิดดูกฤษณ์ซ่อมรถให้อยู่ที่ริมถนนบริเวณตลาดนัด
“เสียตรงไหนไม่เสีย ทำไมต้องมาเสียแถวนี้ด้วยนะ”
กฤษณ์เงยหน้าจากเครื่องยนต์
“ความจริงรสควรจะเรียกช่างนะ ไม่ใช่เรียกผมมา”
สุคนธรสยิ่งหงุดหงิดเลยพาลใส่ “ก็คุณเป็นแฟนรส เกิดปัญหา รสก็ต้องนึกถึงคุณก่อนสิคะ ไม่โทร.เรียกคุณจะให้โทร.เรียกใคร”
“แต่ผมไม่ใช่ช่างซ่อมรถ คุณโทร.ตามช่างเถอะ”
“คุณก็โทร.ตามให้รสหน่อยสิคะ เบอร์โทร.อะไรพวกนี้ รสไม่มีหรอก”
กฤษณ์หงุดหงิดแต่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.ตามช่างให้
ระหว่างนี้ภควัตในคราบเซียนพระและอัญมาเดินดูของในตลาดผ่านมาบริเวณนั้นพอดี กฤษณ์หันไปเห็นภควัตแม้จะแปลกตาไป แต่ก็จำได้ จึงเพ่งมอง เห็นภควัตเดินกับอัญมาก็ครุ่นคิด
กฤษณ์เก็บโทรศัพท์ไม่สนใจสุคนธรส รีบเดินตามภควัตและอัญมาไป
สุคนธรสตะโกนไล่หลัง “กฤษณ์ นั่นคุณจะไปไหน แล้วช่างซ่อมรถล่ะ คนบ้าทำไมทำกับรสแบบนี้”
สุคนธรสไม่รู้เรื่องได้แต่ยืนไม่พอใจอยู่ตรงนั้น

อีกมุมในตลาดนัด กฤษณ์เดินตามมาห่างๆ ดูว่าใช่ภควัตไหม พลางสังเกตอัญมาที่เดินอยู่ด้วย เสียงโทรศัพท์ภควัตดังขึ้น
“ได้ จ่าเดช ผมจะรีบไป” ภควัตบอกกับอัญมา “ผมต้องไปแล้ว จ่าเดชโทร.มา มีประชุมด่วน”
“ไปเถอะ แยกกันตรงนี้แหละ”
อัญมาพยักหน้าเข้าใจ
“ดูแลตัวเองด้วย คืนนี้ค่อยเจอกัน”
“ไม่ละ ฉันไม่ออกไปไหนแล้ว จะกลับไปหาแม่”
“ดี อย่าอยู่คนเดียว ให้จิ๊บกับนวยไปอยู่ที่บ้านด้วย อย่าอยู่ตามลำพังกับสัญชัย ผมเป็นห่วงนะอัญมา”
อัญมาอมยิ้ม ภควัตมองแล้วต้องตัดใจ แยกกับอัญมา เดินออกไป
อัญมาแยกไปอีกทาง กฤษณ์มองดูทุกอย่าง ตัดสินใจเดินตามอัญมาไป

ริมถนนบริเวณตลาดนัด สุคนธรสยืนคว้างอยู่ข้างรถเสีย ท่ามกลางชาวบ้านที่เดินไปเดินมา สุคนธรสเบี่ยงตัวหลบหลบด้วยความรังเกียจ กรอกเสียงลงมือถือ
“รีบมาช่วยฉันเลยนะ จิรายุ ไม่รู้ล่ะ นายมาไมได้ ก็ส่งช่างมาด่วนเลย ก่อนที่ฉันจะเป็นบ้ากลางตลาดเนี่ยะ ได้ยินมั้ย ด่วน ๆ ๆ”

เย็นแล้ว อัญมาเดินกลับมาท่าทางอารมณ์ดีขึ้นเพราะภควัต โดยไม่รู้ว่ากฤษณ์เดินตามมาห่างๆ เดินมาสักพักเก้าและต้นเดินมาดักหน้าอัญมาเอาไว้ อัญมาเห็นทั้งคู่ก็ชะงัก
“รอดตายมาได้ ก็หน้าบานเชียวนะไอ้อัญ”
“มีอะไร”
“เอ็งเก่งมากที่ทำให้พี่คมหลงเอ็งหัวปักหัวปำ” เก้าว่า
“ไม่น่าเชื่อว่ากระดานเรียกพี่ ขี้ยาอย่างเอ็งจะมีเสน่ห์มัดใจพี่คมได้ขนาดนี้” ต้นเยาะ
“หรือเอ็งมีของดีวะไอ้อัญ ไหนลองใช้ของดีเอ็งกับพวกข้าบ้างสิวะ”
เก้ากะต้นเดินเข้าหาอัญมาอย่างหาเรื่อง กฤษณ์มองดูเหตุการณ์ ลังเลจะเข้าไปช่วยอัญมาดีหรือเปล่า
“พวกแกอยากได้ของดี ของฉันใช่ไหม”
อัญมาตีเข่าใส่เป้าเก้าเต็มๆ
“โอ๊ย”
เก้าเจ็บจุกแทบยืนไม่อยู่
“ไอ้ต้น อยากได้ของดีอีกคนไหม”
“ไอ้อัญ” ต้นโมโห
เก้าและต้นจะเข้าไปเล่นงานอัญมา
อัญมาชี้หน้าเก้าและต้น “เอาสิ ถ้าพวกแกทำอะไรฉัน ฉันจะบอกพี่คมว่าพวกแกมาหาเรื่อง ศพพวกแกไม่สวยแน่”
เก้าและต้นได้ยินอัญมาเอาอธิคมมาอ้างก็พากันชะงัก ไม่กล้าทำอะไรอัญมา
เก้าขู่ “ฝากไว้ก่อนเหอะ”
“เออ รีบมาเอาคืนล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้ดอกเบี้ยจุกกว่านี้”
ต้นประคองเก้าที่ยังจุกไม่หายออกไป อัญมายิ้มเยาะที่พวกเก้าทำอะไรตนไม่ได้ แต่พออัญมาหันมา เจอกฤษณ์ที่พุ่งประชิดตัว
“สารวัตรกฤษณ์” อัญมาพึมพำเบาๆ
“เธอเป็นสายให้ผู้กองภควัตใช่ไหม”
อัญมาตกใจที่อยู่ๆ กฤษณ์มาพูดเรื่องนี้กับตน
“พูดอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง”
อัญมารีบเดินหนี กฤษณ์รีบเดินตาม

อัญมาเดินหนีกฤษณ์มาอีกด้าน กฤษณ์เดินตามเห็นปลอดคนรีบฉุดแขนอัญมาไว้
“หยุดคุยกับฉันก่อน”
“ปล่อยฉัน ฉันไม่รู้จักคุณ ปล่อย”
อัญมาพยายามสะบัดมือ ไม่ยอมหยุดคุยกับกฤษณ์ แต่กฤษณ์ไม่ยอมปล่อย
“ใจเย็นๆ ฉันไม่ได้มาร้าย เราคุยหน่อยกันได้ไหม”
“ก็บอกแล้วไงฉันไม่คุย”
อัญมาและกฤษณ์ยื้อยุดกันอยู่
จู่ๆอุบลที่ถือตะกร้าไปซื้อของที่ตลาดมาผ่านมาเห็นก็เข้าใจว่ากฤษณ์เข้ามาทำร้ายอัญมา
“เอ็งจะทำอะไรลูกข้า ปล่อยลูกข้าเดี๋ยวนี้นะ”
อุบลเข้าไปใช้ตะกร้าในมือฟาดกฤษณ์ไม่ยั้ง ข้าวของหล่นกระจายไม่สนใจ
“โอ๊ย” กฤษณ์พยายามปัดป้อง
“แม่”

อัญมาตกใจและเป็นห่วง เข้ามาดึงอุบลให้ห่างจากฤษณ์สุดแรง

อ่านต่อหน้า 2

คีตโลกา ตอนที่ 5 (ต่อ)

ฟากขวัญอนงค์เดินเร็วรี่มาตามถนนบริเวณตลาดนัด สอดตามองหาภควัตปากก็บ่นตามประสา

“เกือบตามพี่วัตทันแล้วเชียว ถ้าไม่เจอยายปากลำโพงแตกนั่นมาขวาง”
ขวัญอนงค์มาหยุดมองหาตรงมุมหนึ่ง แล้วเห็นสุคนธรสที่กำลังยืนข้างรถท่าทางลุกลี้ลุกลนบ่นบ้าอยู่คนเดียว
“บริษัทประกันอะไรเนี่ย เต่าคลานยังเร็วกว่า”
สุคนธรสหันมาเจอขวัญอนงค์ ก็ตกใจ
“ขวัญอนงค์”
ขวัญอนงค์อยากจะเดินหนี แต่สุคนธรสรีบปรี่เข้ามาเพราะจำได้ว่าเป็นน้องของภควัต
“คุณน้องมาทำอะไรแถวนี้คะ”
ขวัญอนงค์คอตั้ง หน้าตาไม่ค่อยอยากทักทายสุคนธรสเท่าไหร่ เพราะจำได้ว่าเป็นแฟนเก่าที่หักอกภควัต
“คุณรสล่ะคะ แถวนี้ไม่มีห้างหรูๆ คนอย่างคุณรสไม่น่าจะมาชอปแถวนี้ได้”
“ไม่อยากเฉียดมาเลยค่ะ บังเอิญรถมาเสียแถวนี้ อยากไปให้ไกลๆ จะแย่อยู่แล้ว นี่ขนาดยืนแป๊บเดียว เนื้อตัวรสผื่นขึ้นเลยนะคะคุณน้อง”
สุคนธรสทำหน้าขยะแขยงมาก ขวัญอนงค์มองหมิ่นๆที่สุคนธรสดูถูกคน
“เออ...แล้วคุณน้องละคะมาทำอะไรแถวนี้ ถ้ายังไม่รีบไปไหนอยู่เป็นเพื่อนรสหน่อยนะคะ คนแถวนี้ไม่น่าไว้ใจเลยดูสายตาที่มองมาซิคะ น่ากลัวยังไงไม่รู้”
ขวัญอนงค์อิดออด “เอ่อ...”
สุคนธรสอ้อน “นะคะคุณน้อง รอให้ประกันมาก่อนนะคะ”
ขวัญอนงค์พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจนัก “ก็ได้ค่ะ”
สุคนธรสยิ้มอย่างสมหวัง

ด้านอัญมาดึงแม่ออกห่างจากสารวัตรกฤษณ์
“พอก่อน แม่ พอแล้ว เดี๋ยวเค้าตาย”
“ก็จะตีให้มันตายนะซิ มันจะทำมิดีมิร้ายแกนะ ไอ้อัญ”
ชาวบ้านพากันมอง นวยกับจิ๊บวิ่งมา
“มีอะไร เจ๊อัญ”
“ใครวะอัญ หน้าไม่ใช่คนแถวนี้” จิ๊บมองเอาเรื่อง
อัญมารีบตอบ “ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยทักคนผิด”
“ข้าเห็นมันมากระชากไอ้อัญ” อุบลว่า
กฤษณ์ถอยห่างออกมา ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่
“คือผมทักคนผิดจริงๆ ครับ”
“แน่ใจเหรอ ท่าทางแปลกๆ เรียกตำรวจมั้ย โทร.หาจ่าเดชเลย” นวยยัวะ
“ไม่มีอะไรหรอก ก็เค้าบอกว่าทักคนผิด” อัญมาหันไปทางกฤษณ์ “ไม่มีอะไรแล้ว ก็รีบไปสิคุณ”
อัญมารีบรวบรัดตัดความไล่ กฤษณ์มองอัญมานิ่ง จนอัญมาต้องไล่ซ้ำ
“หรือจะรอให้ฉันยกพวกมาไล่”
กฤษณ์จำต้องเดินออกไป แต่ก็มองอัญมาทิ้งท้าย
“มอง ยังจะมองเอ็งอีกนะ” อุบลหันมาทางอัญมา “พวกจับผู้หญิงขึ้นรถตู้ไปขายหรือเปล่า”
อัญมาร้อง “โธ่ แม่ อย่างฉัน ใครจะมาจับ”
จิ๊บบอก “ถึงจะแห้ง แบนกระดานเรียกแม่ แต่แกก็สวยใช้ได้อยู่นะ อัญ แพ้ชั้นนิดเดียวเอง”
นวยหมั่นไส้ “หืมมม ฉันหูฝาดหรือเปล่าป้าอุบล พี่จิ๊บพูดผิดพูดใหม่ได้นะ”
“ไอ้นวย เดี๋ยวฉันจะตบแกให้ขี้หูกระเด็น สมองโล่ง ตาสว่างมองเห็นออร่าของชั้นเลยดีมั้ย มานี่เลย”
จิ๊บไล่ตีน้อง อุบลยิ้มขำออกมา อัญมายิ้มกับแม่แล้วมองทางที่กฤษณ์เดินไปอย่างสงสัย

กฤษณ์เดินย้อนกลับมาตรงตลาดนัดที่ทิ้งสุคนธรสไว้ ขวัญอนงค์ยืนหน้าเอือมๆ อยู่เป็นเพื่อนสุคนธรสที่เอาแต่โวยวาย ตวาดใส่มือถือ
“เมื่อไหร่จะมาถึง แย่ๆมาก จะให้ฉันรอถึงพรุ่งนี้เลยมั้ย ฉันจะยกเลิกประกันให้หมดเลย”
สุคนธรสวางสายหันมาเจอกฤษณ์พอดี
“กฤษณ์ คุณทิ้งรสหายไปไหนมา ใจคอคุณไม่ห่วงรสเลยเหรอ”
“ผมก็กลับมาแล้วไง”
“กลับมาแล้ว พูดง่ายไปมั้ย คุณทิ้งรสไว้ที่อี๋ อี๋แบบนี้เนี่ยนะ”
สุคนธรสเหลือบมองขวัญอนงค์ ก็กลัวเสียฟอร์ม รีบทำโวยวายใส่กฤษณ์ต่อหน้าขวัญอนงค์
“รสไม่พอใจมากนะคะ”
“ถ้าคุณรสมีเพื่อนมาแล้ว น้องขอตัวก่อนนะคะ”
สุคนธรสยิ้มระรื่น “ไม่ใช่เพื่อนค่ะ นี่แฟนของรส สารวัตรกฤษณ์ เรากำลังจะแต่งงานกัน”
พลางสุคนธรสรีบคล้องแขนอวด กฤษณ์หน้าเจื่อนๆ
“เชิญวัตเค้าแล้วล่ะค่ะ ยังไงเชิญคุณน้องด้วยนะคะ ฝากเรียนคุณหญิงและ ท่านรัฐมนตรีด้วยว่ารสกับกฤษณ์ จะเอาการ์ดไปกราบเรียนเชิญที่บ้านคะ”
ขวัญอนงค์ตัดบท “ฉันไม่แน่ใจว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะว่างหรือเปล่า ไปก่อนนะคะ”
สุคนธรสหน้าตึง ก่อนปรับสีหน้าพูดเสียงหวาน
“ขอบคุณมากค่ะ คุณน้อง ที่อยู่เป็นเพื่อน คราวหน้าเราคงไม่ต้องเจอกันแถวนี้อีกนะคะ”
ขวัญอนงค์เดินออกไป กฤษณ์มองตาม พูดเป็นเชิงถาม
“คุณน้อง น้องสาวภควัต”
สุคนธรสตอบด้วยเสียงหมั่นไส้ “ลูกพี่ลูกน้องค่ะ ลูกสาวคุณหญิงวรจันทร์ คงนึกว่าเป็นลูกสาว
รัฐมนตรีแล้วตัวเองจะสวยเลอค่ากว่าคนอื่น ทำท่าเชิดเชียว”
กฤษณ์แปลกใจ “คุณน้องเค้ามาทำอะไรแถวนี้”
“นั่นนะซิ รสมัวแต่โมโหคุณกับบริษัทประกัน เลยลืมไปว่ายังไม่ได้คำตอบเลย”
สุคนธรสทำท่าเพิ่งนึกออก ขณะที่กฤษณ์ครุ่นคิด

ขวัญอนงค์ถึงบ้านเอาตอนค่ำ เดินเข้ามาหาคุณหญิงวรจันทร์ เล่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“สุคนธรสน่ะอวดแฟนใหม่น่าดูเลยค่ะ คุณแม่ น้องเห็นแล้วอยากจะจุดพลุฉลองที่พี่วัตหลุดมาจากผู้หญิงคนนี้ได้”
“ก็ขอให้เค้ารักกันดี มีความสุข แต่...สุคนธรสจะไม่เปลี่ยนใจอีกแน่เหรอ ถ้าเจอคนที่รวยกว่า ดีกว่าคนที่คบอยู่นี่”
“นั่นนะซิคะ” คุณน้องจอมแก่นยกมือไหว้ “สา...ธุ..น้องขอให้ผู้ชายคนนี้เป็นรักแท้ของสุคนธรส รีบแต่งงานกันมีลูกหัวปีท้ายปี รักกันม้ากมาก รักแบบตายแทนกันได้ สุคนธรสจะได้ไม่ต้องรีเทิร์นมาทำให้พี่วัตเสียใจอีก”
“เรานี่นะ ยายน้อง เกลียดใครล่ะ ไม่เคยลืม”
วรจันทร์ขำท่าทางลูกสาว ก่อนจะรีบถามเข้าเรื่องที่อยากรู้
“แล้วผู้หญิงคนที่ตาวัตตามไป ท่าทาง หน้าตาเป็นยังไง”
“เกือบเห็นชัดๆแล้วค่ะ แต่มีคนมาขวางเสียก่อน”
วรจันทร์ผิดหวัง “สรุปว่าก็ไม่เห็น”
“แต่อย่างน้อยเราก็รู้ว่าบ้านเค้าอยู่แถวไหน”
วรจันทร์ลังเล “บางทีอาจจะเป็นอย่างที่คุณพ่อบอกก็ได้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นญาติคนที่ตาวัตกำลังตามคดี ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น”
“อุ๊ย คุณแม่อย่าเป็นพวกโลกสวยสิคะ ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเดียวกันกับที่พี่วัตพามาค้างที่บ้าน แถมไม่ยอมให้เราเห็น ไม่พามาแนะนำ พิรุธเต็มๆ แบบนี้ พี่วัตต้องซ่อนอะไรเราอยู่แน่ๆ”
“แต่ถ้าจากที่ลูกเล่า ในชุมชนอย่างนั้น ตาวัตไม่น่าจะไปหลงรักใครได้นะ เราก็รู้นิสัย ตาวัตน่ะเค้า พิถีพิถัน ช่างเลือก”
“ไม่แน่หรอกค่ะ อกหัก เสียใจจนเป็นบ้ามาแล้ว ก็อาจจะเบื่อของดีขึ้นห้างเพราะว่ามันไม่แซบถึงใจ”
“ยายน้อง พูดเข้า เราเป็นผู้หญิงนะ” คุณหญิงปราม
“ก็เพราะเป็นผู้หญิงนี่แหละค่ะ ถึงมั่นใจว่าพี่วัตอาจจะติดใจเสน่ห์แบบแปลกๆ ก็ได้ แต่...พอไปเห็นสภาพที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ น้องไม่สบายใจเลยค่ะ”
“ถ้าเค้าเป็นคนดีจริง จะอยู่ที่ไหน ก็ไม่สำคัญนะ ทองถึงตกอยู่ในบ่อโคลนก็ยังเป็นทองอยู่วันยังค่ำ”
“ยังไงน้องก็ขอทดสอบให้มั่นใจก่อนค่ะว่า ผู้หญิงที่พี่วัตแอบซุกไว้ เป็นทองแท้จริงๆ”
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วละลูก เราจะไม่ยอมให้ตาวัตพลาดจนต้องเจ็บอีกแน่”

แม่ลูกมองหน้ากันด้วยสายตามุ่งมั่นมาดหมาย

ทางด้านภควัตเข้าห้องมา รีบปิดหน้าต่างทุกบานไม่อยากให้ใครเห็นจากด้านนอก อัญมายืนพูดอยู่ด้านหลัง

“น้องสาวผู้กองกำหราบแอนนี่ซะจนแอนนี่เขี้ยวหายคม ชาวบ้านเล่ากันสนุกปากเชียว ฉันว่าวันนี้ผู้กองน่าจะกลับบ้านนะ ไปแก้ตัวกับน้องสาวสักหน่อย”
“ไม่ต้องหรอก คุณน้องเธอเข้าใจ”
“เข้าใจแน่เหรอ...กลัวแต่ว่าจะมาตามพี่ชายอีกจนคนแถวนี้กระเจิง” อัญมายิ้มๆ “อ้อ..แล้วสารวัตรกฤษณ์น่ะ”
ภควัตหันขวับมามองทันที
“เค้าตามมาถามว่าฉันเป็นสายของคุณหรือเปล่า”
“ทำไมคุณรู้จักสารวัตรกฤษณ์ เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า”
ภควัตเดินเข้าหา อัญมารีบหาข้อแก้ตัว
“ก็สารวัตรเค้าบอกชื่อฉัน”
“กฤษณ์น่ะเหรอ กล้าบอกชื่อคุณ ถ้าเค้าจะมาสืบเค้าไม่น่าแนะนำตัวเองนะ”
“โอเค พูดเรื่องจริงก็ได้ แต่บอกแล้วผู้กองก็คงไม่เชื่อ ฉันรู้จักเค้า สารวัตรกฤษณ์เป็นแฟนกับเพื่อนฉัน ในโลกของคุณหนูอัญมา”
ภควัตหน่าย “โลกของคุณหนูอีกแล้ว”
อัญมาเซ็ง “เห็นมั้ย บอกแล้วผู้กองก็ไม่เชื่อ คิดว่าฉันโกหก เพราะฉะนั้นอย่าพูดให้เปลืองน้ำลายดีกว่า”
“ทำไมกฤษณ์ถึงสงสัยว่าคุณเป็นสายให้ผม”
“นั่นน่ะสิ ตอนนี้ฉันจะซวยนะ เป็นเป้าทุกทาง ทั้งตำรวจ ทั้งโจร”
ภควัตยิ้มพูดแหย่ “กลัวเหรอ...กลัวก็เลิกทำงานนี้สิ”
“ไม่เลิกเด็ดขาด จนกว่าฉันจะทำสำเร็จ คนอย่างคุณหนูอัญมา ไม่เคยหนีปัญหา”
ภควัตยิ้มมองอัญมาที่แววตาเอาจริง ไม่กลัวใคร แล้วแกล้งเดินเข้าหา
“งั้นวันนี้ก็อย่าหนีผมนะ”
อัญมามองไปรอบๆ เพิ่งนึกออกว่าอยู่กับภควัตสองคน แถมบ้านปิดหมด
“ฉันแค่มาส่งข่าวสารวัตรกฤษณ์ หมดเรื่องแล้วก็จะกลับบ้านฉัน”
“ไหนว่าไม่กลัวใคร อยู่กับผมสองต่อสอง ทำไมต้องคอยหนี”
“ใครบอก...ผู้กองน่ะน่ากลัวที่สุด”
ภควัตแกล้งยื่นหน้ามาใกล้
“ทีอธิคมไม่กลัว กล้าอยู่กับโจรสองต่อสอง...กับผม อยู่กับตำรวจแท้ๆ กลัวอะไรผมนักฮะ”
อัญมาทำทีเป็นกลัว “คือฉันกลัว...กลัว”
อัญมายิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วกระชากหนวดภควัต
ภควัตร้องลั่นด้วยความเจ็บ อัญมาหัวเราะชอบใจ
“กลัวอดใจไม่ไหว กระตุกหนวดเสือไง”
อัญมาหัวเราะร่า วิ่งไปเปิดประตูออกไป ภควัตยิ้มมองตามอัญมาอย่างอารมณ์ดี

อุบลกำลังพับผ้าอยู่ในบ้าน มองอัญมาที่วิ่งกลับเข้าบ้านมาด้วยรอยยิ้ม ก็ถามขึ้นเรื่อยๆ
“หายไปไหนมาน่ะ ไอ้อัญ แม่แบ่งกับข้าวไว้ให้ในตู้กับข้าวแนะ”
“ฉันกินมาแล้ว”
อัญมาเดินมาใกล้แม่ อุบลมองลูกสาวแล้วเอ่ยอย่างพอจะเดาได้
“ไอ้วัตมันเลี้ยงข้าวมาล่ะสิ”
“แค่กินข้าว แล้วก็แยกกัน”
อุบลเตือนลูกตามประสา “จะรักจะชอบใคร ก็ดูให้ถี่ถ้วนซะก่อนนะ ไอ้อัญ ผู้หญิงเราต้องมีผู้ชายคุ้มครองแม่อยากเห็นผู้ชายที่คุ้มครองเอ็ง เป็นคนดี”
“พี่วัตเค้าเป็นคนดีนะแม่ ดีมาก”
อุบลวางผ้าในมือ มองลูกสาวจริงจังก่อนเข้ามาจับมือ
“แม่อาจจะไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ แต่แม่ก็รักลูกไม่น้อยกว่าใครนะอัญ”
“จ้ะ แม่ ฉันรู้ว่าแม่รักฉันมาก แล้วฉันจะไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจเหมือนที่ผ่านๆ มา แม่เชื่อใจฉันนะ”
“บางเรื่องมันก็ทำใจยากนะ แต่เอาเถอะ แม่จะพยายาม ถ้าแกจะเลิกไอ้ยานรก แล้วพากันไปในทางที่เจริญก้าวหน้าได้”
อัญมารู้สึกได้ถึงความรักจากอุบลจากน้ำเสียงและทีท่า จึงสวมกอดอุบลอย่างซาบซึ้ง อุบลอึ้งด้วยลูกสาวไม่เคยกอด แม่ค้าส้มตำน้ำตาคลอกอดตอบลูกอย่างตื้นตัน

เช้านี้ ในร้านการแฟประจำซอย ภควัตในคราบวัตเซียนพระกำลังนั่งส่องพระด้วยแว่นขยาย จ่าเดชทำเป็นเอาพระให้ภควัตดูพลางสอบถาม
“แท้ไม่แท้วะ ไอ้เซียนวัต”
จ่าเดชทำขยับมาใกล้มองผ่านแว่นส่องพระด้วย ภควัตบอกเบาๆ
“สารวัตรกฤษณ์สงสัยอัญเป็นสายผม จ่าต้องกันอัญออกไป”
เจ๊ว่านเดินนวยนาดเข้ามา จ่าเดชละสายตาจากพระไปมองแม่เล้าของชุมชน เจ๊ว่านนั่งลง กระโปรงสั้นถลกสูงเห็นขาขาว เสื้อผ่าคอลึก โชว์ความเซ็กซี่ จ่าเดชถึงกับหยิบแก้วกาแฟเย็นมาซดโฮก ดับร้อน
ภควัตเห็นมีคนอื่นก็ส่งพระคืนจ่าเดช พูดเสียงดัง
“นี่เนื้อลงยาแท้ ลงยันต์นะเศรษฐีด้วย จ่าเดช รุ่นนี้รวยแล้ว รวยไม่เลิก”
เจ๊ว่าน ชาวบ้านกับเจ้าของร้านพากันตาโต ภควัตทำเป็นพูดกับจ่า
“ถ้าจะปล่อย บอกฉันก่อนเลยนะ จ่า”
จ่าเดชยืดใหญ่ ทุกคนมองตาเป็นมัน เจ๊ว่านหันไปถามภควัตทันที
“นี่ๆ ไอ้วัต แล้วแกมีพวกยันต์มหาเสน่ห์ ใครเห็นก็รักก็หลงเก็บไว้บ้างมั้ย”
“อย่างเจ๊ไม่ต้องใช้ยันต์หรอก แค่มองก็หัวปักหัวปำจะแย่แล้ว”
จ่าเดชบอกเสียงหวาน เจ๊ว่านเชิดใส่
“อย่ามาทำพูดดีกับฉันหน่อยเล้ย จ่าเดช ร้านเจ๊ว่านไม่มีของฟรี”
“นี่เห็นฉันเป็นคนยังไง ชมใครชมจากใจจริง”
เจ๊ว่านพูดเสียงเยาะๆ “เรอะ...ดีนะ ตำรวจชมมาม่าซัง”
จ่าเดชหน้าม้าน ไม่กล้าต่อปากต่อคำอีก เจ๊ว่านหันหน้ากลับไปนั่งไขว้ขา จงใจโชว์เนื้อขาวๆ หว่านไปทั่วร้าน จ่าเดชเห็นแล้วซดกาแฟหมดแก้ว ภควัตมองแล้วอมยิ้มขำ แซวเบาๆ
“ไหนว่าเมียจ่าดุ”
“เมียก็เก็บไว้บนหิ้งที่บ้าน นอกบ้าน ห้ามพูดถึง”
“อย่ามัวแต่หลงขาขาวๆ ของมาม่าซังล่ะจ่า ที่ผมบอกน่ะ กันอัญมาออกห่างสารวัตรกฤษณ์ด้วย”
ภควัตสั่งแล้วทำเก็บหนังสือ เก็บของใส่กระเป๋าสะพาย
“ผมไปละจ่า อย่าลืม มีอะไรดีๆ นึกถึง วัต เซียนพระตาคมนะ”
“เออๆ ไม่ลืม”
ภควัตเดินออกไป จ่าเดชหันไปมองทางเจ๊ว่านแล้วสั่งกาแฟเพิ่ม
“เฮีย... กาแฟร้อนเพิ่มอีกแก้ว นมไม่ต้อง”

เจ๊ว่านได้ยินแล้วหัวเราะร่วนอย่างมีจริต จ่าเดชมองจ้องน้ำลายย้อยน้ำลายยืด

อัญมาเดินเข้ามาในค่ายมวย อธิคมกำลังซ้อมมวยอยู่กับเก้า อัญมาทำเป็นมาเกาะข้างเวทีเชียร์

“พี่คม สู้ๆ”
อธิคมหันมายิ้มทักอัญมา เลยเจอเก้าชกสวน อธิคมถึงกับเซ เก้าหน้าเสีย แทบถอดนวมทิ้ง
“ฉันขอโทษพี่คม”
“ขอโทษทำไม ไอ้เก้า ซ้อมมวยมันก็ต้องมีโดนจริงกันบ้าง” อธิคมโชว์แมน
“พี่คม แมนที่สุด”
เห็นอัญมาชม อธิคมยิ่งยิ้มกว้าง”
“อยากลองชกมวยมั้ย อัญ”
อัญมาส่ายหัวดิก “ไม่ ไม่ ฉันกลัวเจ็บ”
อธิคมเดินมาใกล้ มองท้าอัญมา “ไม่เจ็บ ฉันหัดให้”
“จะไปชวนมันทำไม ไอ้อัญมันตาขาว ป๊อดจะตาย”
เก้าหัวเราะเยาะ อัญมามองเก้าหันขวับ ตาวาวด้วยความกลัว
“แกท้าใคร ไอ้เก้า” อัญมาโดดขึ้นเวที เกาะเชือกตรงข้ามอธิคม “พูดจริงหรือเปล่า พี่คม ที่จะหัดมวยให้ฉันน่ะ”
อธิคมยิ้มมองอัญมา

ภควัตเดินผ่านมาหน้ารถเข็นส้มตำของอุบล พอเห็นอุบลก็ยกมือไหว้ อุบลมองขวางตา
“ไปไหนล่ะ ไอ้วัต”
“ทำงานจ้ะ วันนี้มีลูกค้าเค้าให้ไปดูพระที่บ้านให้หน่อย”
“เออ ทำมาหากินดีๆ ล่ะเอ็ง แล้วทำไมไม่ตัดผมตัดเผ้าซะบ้าง หนวดเคราน่ะ จะเก็บไว้ขายหรือไง ตัดซะมั่งสิวะ”
“หน้าตาฉันมันดูไม่ค่อยได้น่ะจ้ะ เลยต้องเอาหนวดเอาเครามาบังความขี้เหร่”
ภควัตบอกทีเล่นทีจริง แอนนี่พุ่งปราดออกมา
“พูดอะไรแบบนั้นจ๊ะ พี่วัตของแอนนี่”
อุบลมองแอนนี่ที่โผเข้ามาเกาะแขนภควัต ด้วยสายตาเขม่น
“พี่วัตน่ะหล่อลากเลือด เร้าใจ ดิบ เถื่อนสไตล์ที่แอนนี่กรี๊ดมากๆ”
“อยากจะอาเจียนข้าวเช้าว่ะ นังแอนนี่ ให้มันเกรงใจบ้าง นี่แฟนลูกข้านะเว้ย”
“เหรอ ไม่ติดป้ายแขวนคอพี่วัตไว้เลยล่ะ แฟนไอ้อัญ ห้ามแตะ” แอนนี่ยิ้มหยัน “แต่ฉันก็จะแตะนะ เพราะชั้นถือว่า สวยไม่กลัว กลัวไม่แซบ”
ภควัต รีบแกะมือแอนนี่ออก “พี่ไปทำงานก่อนนะจ๊ะ แอนนี่”
“ดีจ้ะ พี่วัต ขยันทำงานนะจ๊ะ รีบสร้างฐานะมาอยู่ด้วยกัน”
“โอ๊ย ข้าอยากเอาสากตำปากคนจริงโว๊ย”
อุบลโมโห ชูสากไม้หรา ภควัตรีบสลัดแขนออกจากแอนนี่
“สากแค่เนี้ยะ ไม่เคยกลัว”
“ก็เข้ามาสิวะ”
แอนนี่ลอยหน้า ท้าสากในมืออุบลเหย็งๆ
“อย่ามีเรื่องกันเลยครับ เอ่อ ป้าอุบลตอนนี้อัญอยู่ที่บ้านใช่มั้ยครับ”
“ไม่อยู่ ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ไปไหนครับ”
ภควัตถามทันทีด้วยความอยากรู้

อัญมากำลังหัดชกมวย มีอธิคมโอบอยู่ด้านหลัง คอยสอนปล่อยหมัด เก้าเป็นคู่ซ้อม
อัญมาชกออกไปแบบเก้งก้าง อธิคมขยับซ้อนหลังมาจับแขน ให้อัญมาปล่อยหมัดไป อัญมาพยายามทำ
ใบหน้าอธิคมใกล้หน้าอัญมามาก อัญมาชกไปที่เก้า อธิคมยืนมองไม่ห่าง เก้าหลบให้ อัญมาชกไม่โดน
ภควัตก้าวมายืนมองด้านหน้าค่ายแล้ว อธิคมเดินเข้ามาโอบอัญมาให้ปล่อยหมัด ภควัตมองแล้วชักไม่พอใจ
อัญมาปล่อยหมัดไป เก้าหลบ อัญมาเหนื่อย เหงื่อแตกเต็มหน้า ยกมือปาดเหงื่อ แต่อธิคมดึงมืออัญมาลง เอาผ้าขนหนูที่คอยื่นไปจะซับเหงื่อให้อัญมา ภควัตมองตาแทบถลน
อัญมายิ้มรีบรับผ้ามา ขอบคุณอธิคม
ภควัตความหึงแล่นพล่านเต็มทรวง จี๊ดใจ เดินพุ่งเข้ามา ทำเรียกเสียงหวาน
“น้องอัญจ๋า”
อธิคม และอัญมาหันไป ภควัตทำเป็นมาเกาะเชือก
“นัดให้พี่ไปรับที่บ้าน ทำไมลืมล่ะจ๊ะ”
“ฉันนัดเหรอ” อัญมางง
อธิคมหูตาไว จับสังเกตได้ทันที
“ให้แฟนเธอขึ้นมาซ้อมมวยกับฉันหน่อยสิ อัญ”
“ไม่เอาหรอก ไม่เอา” ภควัตว่า
อธิคมด่า “กลัวยังกับลูกหมา”
ภควัตทำถอยอยู่นั่น อธิคมร้องท้า “ขึ้นมาเลย”
อัญมาห้าม “พี่คม อย่าเลย พี่วัตเค้าเป็นเซียนพระ เรื่องมงเรื่องมวย เค้าชกไม่เป็นหรอก เค้าไม่สู้ใคร”
อธิคมสั่งลูกน้อง “ไอ้เก้า ลากมันขึ้นมา”
เก้าเดินไปจะกระชากภควัต แต่ภควัตไม่ให้เก้าแตะตัว กระโดดขึ้นมาเอง
“เข้ามาเลย” อธิคมมองจ้องท้าทาย
ภควัตจ้องอธิคม กำเชือกแน่น เก้าผลักภควัตเข้าไป
“ออมมือให้ฉันหน่อยนะ พี่คม”
ภควัตทำเป็นกลัวๆ นักมวยพากันโห่ป่า อธิคมยิ้ม เก้าโยนนวมใส่หน้าภควัต
ภควัตก้มลงหยิบนวมขึ้นมาใส่มือ อัญมามองเห็นภควัตที่เดินขึ้นมาเผชิญหน้ากับอธิคม อย่างไม่ค่อยสบายใจ

กฤษณ์นั่งอยู่บนเตียง ห้องคอนโดสุคนธรส หน้าเครียดจัด สุคนธรสใส่เสื้อคลุมเพิ่งออกจากห้องน้ำ อ้อมเข้ามากอดกฤษณ์จากด้านหลัง
“เครียดอะไรแต่เช้าคะ ที่รัก หรือว่ากำลังคิดว่าจะจัดงานเราเป็นธีมไหนดีรสชอบแบบเจ้าหญิงในเทพนิยายนะคะ”
กฤษณ์หันมามองหน้าตาจริงจัง “ผมอยากให้เราเลื่อนการแต่งงานออกไปก่อน”
“อะไรนะ..ไม่ค่ะ รสไม่เลื่อน รสต้องอับอายแค่ไหน แล้วคุณพ่อคุณแม่ของรสละ คุณจะบอกท่านว่าไง อย่าทำอย่างนี้กับรสนะกฤษณ์”
“ผมอยากทำงานสำคัญชิ้นนี้ให้เสร็จก่อน”
“แล้วถ้าเกิดกฤษณ์ตายขึ้นมาตอนไปจับผู้ร้ายล่ะคะ”
“รสครับ คุณเป็นแฟนตำรวจนะครับ คุณก็ต้องรู้จักเสียสละ”
“ใช่ รสเป็นแฟนตำรวจ แต่ตำรวจคนอื่นเค้าไม่บ้างานเหมือนคุณ ทำไมนะ ทำไมรสถึงโชคร้ายแบบนี้ รสทิ้งวัตก็เพราะเค้าบ้างาน แล้วยังมาเจอคุณที่บ้างานอีก เมื่อก่อนก็ไม่เห็นคุณบ้างานแบบนี้เลย”
กฤษณ์ลุกขึ้นอย่างมีอารมณ์ “ก็ลองเลือกแฟนใหม่ที่ไม่เป็นตำรวจสิครับ”
สุคนธรสหน้าตาเหวอมาก กฤษณ์จะเดินออกไป สุคนธรสรีบบีบน้ำตา
“กฤษณ์ คุณอยากเห็นรสตายใช่มั้ย”
กฤษณ์หันขวับมาทันที สุคนธรสน้ำตาไหลพรากๆ
“รสเลือกคุณเพราะรู้ว่าคุณจะเป็นสามีที่เป็นผู้นำ เป็นคนดี คุณพ่อคุณแม่ของเราก็มีความสุขที่เราจะแต่งงานกัน ถ้าคุณจะทำลายทุกอย่างเพราะคุณไม่รักรสแล้วก็อย่าผลักไสรสไปแบบนี้ บอกมาเลยค่ะว่าไม่รักรสแล้ว”
กฤษณ์ถลาเข้ามาประคองแฟนสาว สุคนธรสบีบน้ำตาเต็มที่
“รส ผมขอโทษ ผมรักคุณมากนะครับ”
“แล้วทำไมคุณอยากจะเลื่อนงานแต่งของเราละคะ”
“ผมกำลังทำงานสำคัญ ปราบปรามพวกค้ายารายใหญ่ มันมีอิทธิพลมาก ถ้าคุณแต่งงานกับผมตอนนี้ ก็เท่ากับว่าคุณต้องเสี่ยงไปด้วย”
สุคนธรสนิ่งฟัง
“ผมยอมรับ ผมอยากทำงานให้ดีกว่าไอ้วัต ผมอยากให้นายไว้ใจผมมากกว่าไอ้วัต หมายถึงว่าผมจะทำทุกอย่างเพื่อสร้างผลงานครั้งนี้ พวกค้ายาแก๊งนี้มันโหดเหี้ยมมาก ถ้าผมปะทะกับมันตรงๆ ผมไม่กลัว แต่ถ้าแต่งงานไป มีคุณ รส...ผมกลัวว่า ถ้าพวกมันเล่นสกปกรก เล่นงานคุณด้วย พวกนี้มันโหดเหี้ยมมากนะรส”
“ถึงตายเลยใช่มั้ยคะ”
“ใช่รส อีกอย่างคุณไม่อยากให้ผมก้าวหน้าไปกว่าไอ้วัตเหรอ ไม่อยากเห็นสามีคุณเติบโตไปกว่านี้เหรอ”
“รสเข้าใจคุณแล้วค่ะกฤษณ์ เลื่อนงานไปก่อนก็ได้”
สุคนธรสรีบตกลงเพราะกลัวตาย กฤษณ์ยิ้มโล่งใจ
“ผมสัญญานะครับ ทันทีที่ผมกำจัดพวกเดนสังคมได้ ผมจะจัดงานแต่งงานของเราให้สวยสมกับที่คุณฝันไว้ทุกอย่าง”

พลางกฤษณ์กอดสุคนธรสไว้แน่นด้วยความดีใจ ตรงข้ามกับสุคนธรสหน้าตาเซ็งๆ ที่ต้องจำยอมรับคำ

ภควัตใส่นวม เต้นไปรอบๆ เวที อธิคมพุ่งเข้าไล่ชก ภควัตแกล้งให้โดนเฉียดบ้าง แกล้งถอยทำเป็นกลัวบ้าง อัญมามองด้วยสีหน้ากังวล เก้ากับพวกนักมวยเชียร์เฮ ทุกครั้งที่อธิคมไล่ต้อนภควัตได้

“พอเถอะ พี่คม พี่วัตเค้าสู้พี่คมไม่ได้หรอก”
ภควัตได้ยินอัญมาตะโกนก็สวนหมัดไป เกือบโดนอธิคม
อธิคมแววตาโกรธ พุ่งเข้าชกอธิคมที่หลบหลีกอย่างตาไว อธิคมป้องหน้า แล้วก้มลงสวนหมัดเสยใต้คาง ภควัตแกล้งทำเหมือนโดน ทั้งๆ ที่ห่าง ล้มลงหงายตึงกลางเวที เก้ากับพวกนักมวยมองดูถูก
“โธ่ ไอ้สำออย ยังไม่ทันโดนหมัดพี่คม ดันลื่นล้มไปเอง”
อธิคมหัวเราะเยาะ อัญมาวิ่งพุ่งเข้าไปประคองภควัตทันที ภควัตเหลือบมองเห็นอธิคมมองจ้องมาที่อัญมา
ภควัตแกล้งโน้มคอ ซุกซอกคออัญมา
“น้องอัญจ๋า พี่วัตเจ็บจังเลย”
อธิคมได้ยินแล้วถอดนวม ปาลงใกล้ตัวภควัต ตาวาวด้วยความโกรธ
ภควัตยิ่งยั่ว กุมมืออัญมามาแตะลงที่ปาก อธิคมจ้องเขม็ง
“น้องอัญดูสิ ปากพี่วัตแตกหรือเปล่า”
อัญมาดูให้ “ไม่แตก แต่เกือบ”
“ไอ้เก้า เอ็งมาทำแผลให้ไอ้เซียนพระหน่อยซิ”
เก้าเดินเข้ามากับนักมวยอีกคน แต่ภควัตทำเป็นลุกขึ้นก่อน
“ไม่เป็นไร ฉันไหว ไปเถอะ น้องอัญ ไปทำแผลให้พี่หน่อย”
อัญมาหันไปมองทางอธิคม “ฉันพาพี่วัตไปก่อนนะพี่”
โดยไม่รออธิคมอนุญาต อัญมารีบดึงภควัตออกไป อธิคมมองตาม เก้าเดินมาใกล้
“พี่อยากให้ฉันเก็บไอ้เซียนพระนี่หรือเปล่า”
“ยัง...ข้าไม่อยากให้มันตายโจ่งแจ้ง เดี๋ยวจะเดือดร้อนมาถึงงานใหญ่ของเรา เอ็งรอคำสั่ง จังหวะดีเมื่อไหร่ ค่อยเชือดให้มันพ้นหูพ้นตาข้า”
เก้าก้มหัวรับคำสั่งแล้วถอยออกไป
อธิคมมองตามภควัตกับอัญมาไป ด้วยสายตาหึงหวงเป็นอย่างมาก

สารวัตรกฤษณ์อยู่ในฐานลับเปิดฐานข้อมูลดู สายตาครุ่นคิด เห็นตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งเอาแฟ้มมาวางให้
“ผู้กองภควัตยังไม่มาเหรอ”
ตำรวจ 1 บอก “ยังครับ”
“รู้บ้างมั้ยว่าเราจะติดต่อสายในแก๊งนายวินิจได้ยังไง”
ตำรวจ 1บอกอีก “ไม่มีใครรู้เลยครับ นอกจากผู้กองภควัต” ตำรวจเดินออกไป กฤษณ์นึกภาพที่กฤษณ์เห็นภควัตอยู่กับอัญมา พึมพำกับตัวเองว่า
“ผู้หญิงคนนั้น ไอ้อัญ สายของไอ้วัต...ถ้าดึงมาทำงานให้เราได้”

ภควัตใบหน้าเกลี้ยงเกลา ดึงหนวด ดึงผมออกแล้ว โดยในห้องปิดหน้าต่างทั้งหมด เขานั่งอยู่หน้าอัญมา เปิดฉากอ้อล้อ
“นี่ ผมเจ็บตรงนี้”
“ไหน ไม่เห็นจะมีรอยช้ำอะไรเลย”
อัญมาจ้องมาใกล้ ภควัตยังแกล้งชี้
“ดูดีดีสิ ตั้งใจดูหน่อย ผมเจ็บมากนะ”
อัญมาก็ยังมองหา ปากก็บ่น
“หาเรื่อง ไปชกกับพี่คมเค้าทำไม เดือดร้อนฉันเลยเห็นมั้ย”
ภควัตจี๊ด จับมือคว้าอัญมา จ้องตาใกล้ๆ
“ทำไม คิดว่าผมสู้อธิคมไม่ได้เหรอ”
“แล้วที่กลิ้งหงายหลัง แผ่กลางเวทีแบบนั้น เค้าเรียกว่าชนะหรือไง”
“ผมแกล้งแพ้ มองไม่ออก หรือมัวแต่ปลื้มว่าอธิคมมันเก่ง” ภตวัตทั้งหมั่นไส้ทั้งหึง
“นี่...อย่าทำเสียงงี่เง่าแบบนี้ ฉันไม่ชอบ”
อัญมาสะบัดมือ ทำเสียงดังกลบความเขินที่โดนภควัตจ้อง ภควัตรู้ตัวว่าแสดงอารมณ์มากเกินไป ก็ทำเก๊ก
“นี่ผมกำลังเตือนคุณนะ ว่าอย่ามัวแต่หลงอธิคม”
“ถ้าไม่ไว้ใจ ก็ไม่ต้องทำงานด้วยกัน”
“ทำตัวให้น่าไว้ใจกว่านี้หน่อยสิ ผมอยากรู้เรื่องที่มันจะขนสารเคมีตั้งต้น”
“ก็ถ้าคุณไม่โผล่มาวันนี้ ไม่มาขวางฉันซ้อมมวยกับอธิคม ป่านนี้เค้าก็คงไว้ใจ พาฉันเข้าไปนั่งฟังด้วยแล้ว”
“อ้าว...ผมมาทำแผนคุณเสียงั้นเหรอ” ภควัตพาล
“ใช่ รู้ไว้ซะด้วย คุณมีวิธีของคุณ ชั้นก็มีวิธีของชั้น”
ภควัตปากเสียทำเสียงประชด “อ้อ...ใช่ มารยาหญิง”
“ใช่ มารยาผู้หญิงแล้วทำไม”
อัญมาเถียงอย่างเลือดขึ้นหน้า
“ฉันใช้มารยาผู้หญิงทำให้พวกค้ายาไว้ใจ แล้วก็เอาข่าวมาบอกพวกผู้กอง ถ้าจะ ดูถูกมารยาผู้หญิง ช่วยเก็บไว้ดูถูกตอนที่ชั้นเอาไปใช้หว่านเสน่ห์หาสามีแล้วกัน”
ภควัตรู้ตัว “อัญมา ผม...”
“อย่าขอโทษ จำไว้ว่าคำพูดเป็นนายเรา แล้วที่ฉันเสี่ยงทำอยู่ก็เพื่อเด็กๆ ที่จะไม่ต้องติดยา ฉันไม่ได้ทำเพื่อคุณผู้กอง จำไว้ด้วย”
อัญมาฉุนขาด ปัดภควัตที่เข้ามาขวางจนกระเด็นพ้นทาง ภควัตอยากจะขอโทษ แต่ก็ไม่ทันเพราะอัญมาพุ่งพรวดออกไปแล้ว

“ไอ้วัตเอ้ย...พูดอะไรของเอ็งออกไปวะ”

อ่านต่อหน้า 3

คีตโลกา ตอนที่ 5 (ต่อ)

อัญมาเดินหน้ายุ่งออกมาจากบ้านเช่า โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง อธิคมก้าวมายืนขวางทาง

“พี่คม”
“ว่างอยู่ใช่มั้ย”
อัญมายังไม่ทันตอบ อธิคมคว้าแขนอัญมาไปทันควัน
ภควัตหน้าเกลี้ยงใส เดินตามออกมา เห็นอธิคมกับอัญมา ก็รีบฉากหลบ
“ไปนั่งรถเล่นกับฉันหน่อย”
อธิคมดึงแขนอัญมาไป อัญมาตัวปลิวตาม ภควัตได้แต่หลบมองด้วยสายตาเจ็บใจ แต่ทำอะไรไม่ได้

อธิคมขับมอเตอร์ไซค์แล่นมาตามถนนสายหนึ่ง มีอัญมาซ้อนท้าย สองคนใส่หมวกกันน็อค อธิคมขับมอเตอร์ไซค์ซิกแซกไปตามถนนสวยออกนอกเมือง อัญมาเกาะเอว อธิคมดึงมืออัญมาให้โอบเอวแน่นขึ้น และกุมมืออัญมาไว้แล้วพุ่งรถทะยานออกไปข้างหน้าอย่างเร็วและแรง

ภควัตเข้าฐานลับ กำลังนั่งเปิดดูข้อมูลอาชญากรในคอมพิวเตอร์ แต่ไม่มีสมาธิมัวแต่ใจลอยเพราะคิดถึงเรื่องอัญมา ตำรวจคนหนึ่งเอาแฟ้มมาถาม
“ผู้กองครับ”
ภควัตยังใจลอย ไม่ตอบ ตำรวจถามซ้ำ
“ผู้กองภควัตครับ”
กฤษณ์ได้ยินเสียงดังมองมาทางภควัต ตำรวจโบกมือหน้าภควัต ภควัตสะดุ้ง
“ครับ ว่าไงนะ”
“ยังไม่ว่าไงครับ ผู้กองให้ผมเอาแฟ้มงานมาให้ครับ”
ตำรวจวางแฟ้มแล้วเดินออกไป ภควัตเปิดแฟ้ม มองผ่านๆ แล้วปิดลง
กฤษณ์เดินเข้ามาใกล้ ทำเป็นถามขึ้น
“วันนี้มีอะไรคืบหน้าบ้างหรือยัง”
ภควัตหันไปมอง แววตาติดจะกวนๆ
“เรื่องอะไรที่สารวัตรอยากให้ผมรายงานเหรอครับ”
“วัต แกไม่ต้องมาลีลา ฉันถามอย่างเพื่อน”
ภควัตลุกขึ้น “สารวัตรอยากรู้เรื่องอะไรล่ะครับ”
“เรื่องสารตั้งต้นที่พวกมันจะเอามาทำยาบ้า มันจะมาถึงเมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่มีเบาะแสอะไรเลย สายของแกมัวทำอะไรอยู่”
“เค้าก็ทำงานของเค้านั่นแหละครับ สารวัตร ผมเองก็ติดต่อเค้าเรื่อยๆ ตามแต่สะดวก”
“ตามแต่สะดวกยังไง แกเพิ่งไปเจอสายมา” กฤษณ์เผลอหลุดปาก
ภควัตยิ้มใจเย็น “สารวัตรรู้ได้ยังไงครับ ว่าผมไปเจอสายของผม”
กฤษณ์ชะงัก รู้แล้วพลาดที่พูดออกไปจนภควัตจับได้
ภควัตพูดต่อ “คราวที่แล้ว สารวัตรอยากได้หน้าเป็นคนจับพวกอธิคมที่โกดัง สายของผม
เกือบตาย เอาละผมจะพูดแบบเพื่อน อย่างที่สารวัตรต้องการนะครับ”
ภควัตเปลี่ยนเสียงเป็นดุกร้าว
“อย่าคิดจะทำอะไรที่เหยียบหัวคนอื่น ไปเพื่อความสำเร็จของตัวเองคนเดียว เราต้องทำงานกันเป็นทีม แล้วถ้าแกทำให้สายของฉันต้องเดือดร้อน ไม่ปลอดภัย...ฉันจะไม่ให้อภัยแกอีกครั้ง ไอ้กฤษณ์”
ภควัตจ้องกฤษณ์อย่างเอาจริง กฤษณ์ต้องหันหลังออกไป
เสียงมือถือดังขึ้น ภควัตกดรับ “ว่าไง จ่าเดช”

จ่าเดชที่ทำเป็นยืนเลือกไก่ปิ้งที่รถเข็นส้มตำอุบล กำลังกรอกเสียงลงมือถือ อุบลกำลังตำส้มตำให้ลูกค้าอีกคนที่ยืนรอ ไม่ทันสนใจจ่าเดช
“ของที่แกให้ฉันหาน่ะ ไม่รู้อยู่ไหนนะ หาไม่เจอ”
ภควัตคุยสายอยู่ในฐานลับ สีหน้ากังวล
“อัญมาหายไป”
จ่าเดชคุยเป็นรหัสรู้กัน
“เออๆ ดูจนทั่ว หาหมดแล้ว ไม่มี ไม่เจอ สงสัยมีคนซื้อไปแล้ว แค่นี้นะ เมียรัก”
ภควัตวางสาย สีหน้าเป็นกังวลเอามาก
“จ่าเดชก็ไม่รู้ว่าอัญมาหายไปไหนกับอธิคม”
สีหน้าภควัตยิ่งเครียดหนัก
ส่วนที่รถเข็นส้มตำของอุบล เจ๊ว่านแหลมขึ้นมา
“นี่จะเลือกอีกนานมั้ย จ่า ที่ถือน่ะ ยังดำไม่พอใช่มั้ย”
จ่าเดชรีบเก็บมือถือ หันมามองไก่ในมือที่ดำปี๋ไหม้เกรียม
“ฉันชอบของดำ เอ้ย...ของขาวๆ”
เจ๊ว่านเดินเข้ามาเลือกไก่ปิ้ง จ่าเดชส่งหัวใจไก่ปิ้งให้
“หัวใจมั้ยจ้ะ”
“อี๋ ไม่เอาอ่ะ ใจจ่านี่ดำจังเลยนะ”
เจ๊ว่านสะบัดหน้าอย่างมีจริต จ่าเดชทำหน้าอกหัก อุบลมองแล้วหมั่นไส้
“นี่ๆ ของซื้อของขาย ไม่เอาก็วางลง คนอื่นเค้าจะได้เลือก”
“ฉันให้มาขายหน้าร้านนี่ก็บุญแล้วนะ” เจ๊ว่านว่า
“ฉันยอมมาขายหน้าซ่อง เอ้ย หน้าร้านของเจ๊ ก็ถือว่าให้เกียรตินะ” อุบลด่าสวนกลับ
เจ๊ว่านปรี๊ด “นังอุบล แกด่าใคร”
“แหม...ด่าหมาที่ยืนหน้าร้านมั้ง”
“แกด่าฉัน”
เห็นเจ๊ว่านกับอุบลทำท่าจะมีเรื่อง จ่าเดชรีบเข้าขวาง
“รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะทะเลาะกันทำไม”
“แกหาที่ขายของใหม่เลยนะ ฉันไม่ให้มาเกะกะหน้าร้านชั้นแล้ว”
อุบลไม่สน “ของอร่อย ลูกค้าติด ข้าไม่ง้อหรอกโว๊ย เอ็งก็อย่าตามมาซื้อส้มตำข้าแล้วกั”
“ซื้อแน่ แต่ซื้อไปเทให้หมากิน”
“นังเจ๊ว่าน แกดูถูกว่าส้มตำของข้าเป็นอาหารหมาเหรอ แก...”
อุบลควงสากอยากจะตบ ชาวบ้านเชียร์ เจ๊ว่านปรี่เข้าหา
“เออซิวะ...แกจะทำไมนังอุบล ห๊า”
จ่าเดชแกล้งกอดหมับเข้าขวางเจ๊ว่าน แล้วถึงกับตาเคลิ้ม เจ๊ว่านผลักจ่าเดชออกห่าง มองเห็นจ่าเดชเลือดกำเดาไหลย้อย
“ไอ้จ่าบ้า”
“บ้าก็บ้ารักเจ๊”
จ่าเดชถึงกับละเมอ เจ๊ว่านผลักจ่าเดชชนรถเข็นอุบลจนจุก แล้วเดินสะบัดเข้าร้านไป จ่าเดชทำท่าขว้างหัวใจตามเจ๊ว่านไป แต่พอหันมาเจอสายตาอุบลกับชาวบ้านที่จ้องอยู่ จ่าเดชทำท่าเก๊ก
“มองอะไร ไม่เคยเห็นจ่าหล่อๆ เร้าใจแบบเวียร์หรือไง”
จ่าเดชทำเป็นเดินออกไป อุบลค้อนควักตามอย่างหมั่นไส้

“อุบาทว์ ชอบเข้าไปลงได้ไง เจ๊ว่านร้อยผัว”

ภควัตเดินออกมาจากฐานลับที่ซ่อนในห้างสรรพสินค้าด้วยสีหน้าหงุดหงิด เป็นจังหวะที่สุคนธรสกำลังเดินคุยมือถือมาทางอีกทาง
“ฉันก็มาหาว่าที่เจ้าบ่าวฉันน่ะสิยะ แค่นี้นะ”
สุคนธรสหันมาเจอภควัตที่กำลังเดินผ่านไป สุคนธรสมองแล้วรีบเดินไปหา
“วัต”
ภควัตมองสุคนธรสอย่างไม่อยากทักทาย
“มีเวลามาเที่ยวห้างด้วยเหรอคะ”
“ครับ ก็มีเวลาบ้าง”
“พักนี้รสเห็นคุณเที่ยวบ่อยนะคะ ทีเมื่อก่อนกว่ารสจะลากออกมาได้สักที”
“ผมไม่ชอบจำอดีต”
“หมายถึงคนด้วยหรือเปล่าคะ”
“ใช่”
สุคนธรสหน้าชา แต่พยายามชวนคุย
“กฤษณ์เค้าบอกว่าทำงานกับคุณ คุณก็ยังบ้าระห่ำเหมือนเดิม”
ภควัตแค่นยิ้ม สุคนธรสมองจ้องภควัต
“วัตมีแฟนใหม่หรือยัง”
ภควัตหันมามองสุคนธรส
“หรือยังลืมเรื่องของเราไม่ได้”
ภควัตชะงักมองสุคนธรสที่ยิ้มหวาน นัยน์ตามีความหมาย
“ถึงรสจะแต่งงงานกับกฤษณ์ แต่รสก็จะไม่ลืมคุณ รักแรกของรส”

ทางด้านอัญมาเดินมากับอธิคมที่สะพานยาว มองบรรยากาศรอบๆ อันสวยงามของทะเลบางปู
“นึกยังไงพี่คมถึงพาฉันมาเที่ยว”
“ไม่สนุกเหรอ ถ้าเบื่อ ไปที่อื่นก็ได้นะ”
“ไม่เบื่อหรอก สวยดี ฉันไม่เคยมาเลย”
อัญมามองมา อธิคมยิ้มให้ แล้วทอดสายตามองไปไกล
“แม่เคยพาฉันมาเที่ยวที่นี่ ตอนเด็กๆ นานมากแล้วสามคนพ่อแม่ลูก นานมาก จนแทบจำไม่ได้”
แววตาอธิคมหวนคิดถึงแม่ จนอัญมามองเห็นโอกาส
“ถ้าพี่คมอยากไปเที่ยวที่ที่เคยไปตอนเด็กๆ ฉันไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ”
“จริงเหรอ ฉันอยากไปทางเหนือ”
“ไปสิ ไปเมื่อไหร่ก็ได้ อาทิตย์หน้าเลยมั้ย”
“อาทิตย์หน้า” อธิคมทวนคำหวนคิดถึงเรื่องที่คุยกับพ่อ
โดยในตอนนั้นสองคนอยู่ในห้องทำงานเสี่ยวินิจบนเรือนใหญ่
อธิคมกำลังรายงานวินิจเรื่องสารตั้งต้นที่กำลังจะมาถึง
“สารตั้งต้นที่เราจะเอามาทำสูตรใหม่ จะมาถึงอาทิตย์หน้า”
“เอาคนของเราไปจัดการขนของให้เรียบร้อย อย่าให้มีเรื่องแบบคราวก่อนอีก

อัญมามองสังเกตสีหน้าอธิคมแล้วทำเป็นเร่งถาม
“พี่คมไม่ว่าง ก็ไม่เป็นไรนะ ไว้วันหลังก็ได้”
“สัญญากับฉันแล้ว ยังไงก็ต้องไปนะ”
“ไปสิ...ฉันไม่เบี้ยวหรอก แต่เสียดายอาทิตย์หน้าเนอะ”
“มีงานสำคัญ”
อัญมาแกล้งมองตาใสๆ อธิคมพูดขึ้น
“ยังไม่รู้วันแน่นอน”
“ให้ฉันช่วยงานพี่บ้างได้มั้ย ถ้าพี่ไว้ใจว่าฉันไม่ใช่สายตำรวจ”
อธิคมมองอัญมาแล้วเดินเข้าใกล้
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเชื่อเธอ”
อธิคมเข้ามาประคองหน้าอัญมาแผ่วเบา
“อย่าหลอก อย่าโกหก อย่าหักหลังฉันนะ อัญ”
อัญมาเริ่มรู้สึกถึงสายตาอ้างว้างของอธิคม
“ฉันไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลย”
อธิคมดึงอัญมามากอดไว้ อัญมาถึงกับทำอะไรไม่ถูก
“ฉันอยากมีเงินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธออยากไปอยู่ที่ไหน ฉันจะพาไปนะอัญ”
อธิคมกอดอัญมา สีหน้าของหล่อนกำลังสงสารอธิคมจับใจ

ส่วนภควัตนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟในห้าง มีสุคนธรสนั่งจิบกาแฟใกล้ๆ
“กฤษณ์คงไม่ค่อยชอบทำงานกับผมเท่าไหร่”
“ไม่นี่คะ เค้าออกจะชอบ เค้าบอกว่าคุณทำงานเก่ง”
“จริงเหรอ เค้าชมผมอย่างงั้นจริงๆเหรอ”
ภควัตแกล้งทำเป็นไม่เชื่อ สุคนธรสเลื่อนมากุมมือภควัต
“ไม่เอาล่ะ วัต ทำไมเราต้องมาคุยเรื่องคนอื่นด้วย”
สุคนธรสยิ้มหวานให้ภควัต
“เล่าเรื่องของวัตให้รสฟังสิคะ มีแฟนใหม่หรือยัง”

ขวัญอนงค์กำลังเดินผ่านหน้าร้านมา พอเห็นภควัตกับสุคนธรสในร้าน ความโกรธพุ่งปรี๊ด
“พี่วัต”
ขวัญอนงค์ตรงลิ่วมาที่โต๊ะภควัต
“พี่วัต”
ภควัตมองเห็นขวัญอนงค์ก็ตกใจ สุคนธรสปล่อยมือภควัต
“คุณน้อง”
“พี่วัต อย่าบอกนะค่ะว่า พี่วัตจะ...”
“คุณน้อง ไม่มีอะไรนะครับ ผมแค่เจอรสโดยบังเอิญ”
“เหรอคะ วันก่อนคุณรสเพิ่งอวดว่าที่เจ้าบ่าวกับน้อง ไม่นึกว่าวันนี้จะมาดื่มกาแฟกับแฟนเก่า ใจกว้างจังเลยนะคะ” ขวัญอนงค์เหน็บ
“วัตกับรสก็คุยกันประสาเพื่อนเก่า ทำไมเหรอคะ เลิกกันแล้วก็เป็นเพื่อนที่ดีกันได้”
“เอ...แต่ไม่รู้แฟนพี่วัตเค้าจะคิดแบบคุณรสหรือเปล่าน่ะสิคะ”
ภควัตงง “แฟน”
สุคนธรสหันมาถาม “วัต มีแฟนใหม่แล้ว ใครคะ”
“คุณน้อง มาธุระแถวนี้เหรอครับ”
“ค่ะ พอดีแวะเข้ามาหาอะไรทาน เลยได้เจอภาพเด็ด”
สุคนธรสคาใจ “วัต แฟนใหม่วัตเป็นใครเหรอ”
“คุณน้องจะทานอะไร ไปพี่เลี้ยงกำลังหิวพอดี”
ภควัตตัดบท ดึงขวัญอนงค์ออกไป ขวัญอนงค์แกล้งพูดยั่วทิ้งท้ายให้สุคนธรสยิ่งสงสัย
“พี่วัตพาแฟนไปที่บ้านอีกซิคะ คุณแม่ถามถึง”
ภควัตดึงขวัญอนงค์ออกไปไกล สุคนธรสมองด้วยสายตาเจ็บใจระคนคาใจ

“วัต มีแฟนใหม่แล้ว หาคนที่ดีกว่าชั้นได้แล้วเหรอ”

ภควัตดึงขวัญอนงค์เดินออกห่าง

“คุณน้องไปพูดยั่วรสเค้าทำไมครับ”
“ก็น้องไม่ชอบ พี่วัตกลับไปคบกับผู้หญิงคนนี้ทำไม เค้าทำพี่วัตเจ็บแค่ไหน ลืมแล้วเหรอคะ”
“พี่ไม่ได้คบ พี่รู้ว่ารสเค้ากำลังจะแต่งงานกับสารวัตรกฤษณ์ แล้วสารวัตรกฤษณ์นี่แหละครับที่พี่อยากรู้เรื่องของเค้า ถึงต้องมาถามเอากับรส”
“แน่เหรอคะ”
“แน่ครับ คุณน้อง พี่ไม่เลวขนาดแย่งแฟนเพื่อนนะครับ ว่าแต่คุณน้องเถอะ มาทำไมแถวนี้”
“ก็มาหาพี่วัตนะซิคะ”
“หาพี่หรือหาคนอื่นกันแน่”
“โอเคค่ะ น้องก็แมนพอ กล้าทำ กล้ารับ น้องจะมาหาผู้หญิงคนนั้น คนที่พี่วัตพาไปบ้าน คนที่พี่วัตมาหาแถวนี้”
ภควัตถอนใจเฮือกใหญ่ “เฮ้อ...”
“ไม่ต้องถอนหายใจค่ะ งานนี้น้องกัดไม่ปล่อยแน่ๆ อยากรู้ว่าพี่วัตซ่อนใครไว้พี่วัตจะเห็นว่าน้องจุ้นก็ยอมละ พี่วัต...น้องเป็นห่วงพี่วัตมากนะคะ น้องไม่อยากเห็นพี่ชายของน้องต้องเจ็บช้ำอีก”
“โอเคครับ พี่ยอมแล้ว พี่จะพาเค้าไปที่บ้าน ให้คุณน้อง คุณป้า คุณลุงรู้ว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ”
“เมื่อไหร่คะ”
“อาทิตย์หน้านะครับ ขอเวลาให้เค้าเตรียมตัวนิดนึง”
“อย่าเบี้ยวนะคะ น้องรู้ว่าเค้าอยู่แถวนี้ น้องจะมาตามถ้าพี่วัตเบี้ยวน้อง”
“โอเค ไม่เบี้ยวครับ สัญญาครับ”
ขวัญอนงค์มองอย่างคาดคั้น ภควัตตอบท่าทีน่ารัก

เย็นแล้ว สองคนยังดื่มด่ำกับธรรมชาติบางปู อัญมากำลังโปรยอาหารให้นก อธิคมยืนมอง อัญมาเอาขนมปังใส่มืออธิคม
“โปรยให้นกสิ ให้ปลาก็ได้”
อธิคมยิ้ม แล้วลองโปรยไป อัญมาหยิบขนมปังโปรยไปให้ไกลๆ อธิคมทำตาม
อัญมายิ้มแย้มหน้าตาสดใส อธิคมมองอัญมาที่ยิ้มสดใสแล้วยิ้มด้วยความสุข

อุบลกำลังปิดประตูบ้าน ห่างออกมาที่พุ่มไม้หน้าบ้าน เห็นภควัตในคราบเซียนพระหลบมองอยู่ด้านนอก
“ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก อัญมา”
จ่าเดชยื่นหน้ามามองจากข้างหลัง ลากเสียงถาม
“มาหาคราย...”
ภควัตสะดุ้ง หันมาเจอจ่าทำหน้าทะเล้นให้
“ตกใจหมดจ่า”
“มาซุ่มรอไอ้อัญเหรอ”
“อืม... ป่านนี้ยังไม่กลับบ้านกลับช่อง”
“เป็นพ่อไอ้อัญมันตั้งแต่เมื่อไหร่”
ภควัตถลึงตามอง จ่าเดชรีบหัวเราะแหย่
“ที่ค่ายมวย บ้านนายวินิจก็ไม่มี”
“อัญมาคงเอาตัวรอดได้”
“ถ้าห่วงมาก ไม่โทรไปหามันล่ะ”
“โทร.แล้ว เค้าไม่รับ คงยุ่งอยู่กับอธิคม”
หางเสียงภควัตฟังออกว่าหึง จ่าเดชหรี่ตามอง ชักสงสัยอาการภควัตมากขึ้นๆ
ฟากอธิคมขับมอเตอร์ไซค์มาทตามถนน อัญมาโอบเอวซ้อน อธิคมขับเร็ว อัญมาพิงลงที่หลังอธิคมอธิคมยิ้มชอบใจ พุ่งรถไปด้วยความสุข

มอเตอร์ไซค์ของอธิคมมาจอดลงหน้าบ้านอุบล อัญมาลงจากรถ อุบลเปิดประตูออกมามอง พอเห็นเป็นอธิคมก็ชักสีหน้าน้อยๆ ใส่
“พรุ่งนี้ไปที่บ้านด้วยนะ”
“จ้ะ”
อธิคมยิ้มให้อัญมาแล้วพุ่งรถออกไป อัญมาหันมาเห็นแม่ก็เดินเข้ามาหา
“ไอ้วัตมันมาหาเมื่อเช้า เจอกันหรือยัง”
“เจอแล้ว”
“แล้วทำไมกลับมากับลูกชายพี่บัง”
“ฉันไปข้างนอกกับพี่คมมา”
“ไอ้อัญ แกรู้ใช่มั้ยว่ากำลังทำอะไร อย่าเล่นกับไฟ”
อุบลเตือน อัญมามองแม่ด้วยสายตาเชื่อมั่นในตัวเอง

อัญมานอนลง สายตาอัญมาย้อนคิด ภาพที่ไปเที่ยวกับอธิคมเมื่อบ่าย อธิคมหัวเราะ มีความสุข ไม่เหมือนผู้ร้ายใจโหด อัญมาผุดลุกขึ้นนั่ง
“ไม่ได้นะ อัญมา...อธิคมอาจจะทำดีหลอกให้เธอตายใจก็ได้”
อัญมาถอนใจหนักๆ
“แต่ถ้าเราเปลี่ยนใจอธิคมให้กลับตัวได้...งานทะลายแก๊งพี่บังก็จะง่ายขึ้น”

อัญมามีสีหน้ามุ่งมั่น คิดหาแผนเปลี่ยนใจอธิคมให้กลับตัว

รุ่งเช้าจิ๊บกับนวยออกมาซื้อน้ำเต้าหู้ พี่น้องเดินคุยกันมา

“จริงเหรอวะ ไอ้นวย ลูกชายพี่บังน่ะนะ จะพาไอ้อัญซ้อนมอร์เตอร์ไซค์ กลับมาจนมืดจนค่ำ”
เห็นจากด้านหลังสองคนว่า จ่าเดชกำลังเดินมาพอได้ยินก็หลบฟัง
“จริงสิพี่จิ๊บ พวกที่วินมันเห็นเต็มสองตา มันพูดกันสนุกปากว่าเจ๊อัญแกแน่จริง ควงทั้งเซียนพระ ควงทั้งลูกชายพี่บัง”
“ไอ้อัญมันไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันรู้จักมันดี”
“แต่เจ๊อัญเค้าไม่เหมือนคนเดิมที่เรารู้จักนะ ตั้งแต่ตกน้ำมา แกแกร่งขึ้น เป็นสาวมั่นผิดหูผิดตาเลยนะ” นวยบอก
“ควงไอ้วัตเซียนพระ ฉันก็ไม่ชอบไปคนนึงแล้ว นี่จะควงลูกชายพี่บัง มันเสี่ยงเกินไป” จิ๊บบอก
“เจ๊ก็ต้องเตือนเพื่อน”
“ไป ไปหาไอ้อัญเดี๋ยวนี้เลย”
จิ๊บกับนวยเดินเร็วรี่ไปทางบ้านอุบล จ่าเดชโผล่ออกมามอง
“ผู้กองจะรู้หรือยังเนี่ยะ ว่าที่อุตส่าห์ห่วงเมื่อวาน ไอ้อัญมันไปสวีทหวานกับอธิคม”

ฝ่ายอัญมาเดินออกจากบ้าน เจอจิ๊บกับนวยที่วิ่งหน้าเริดเข้ามา
“ไอ้อัญ เมื่อวานแกหายไปไหนมา” จิ๊บถาม
ตามด้วยนวย “ถามตรงๆไปเลย ไปกับลูกชายพี่บังมาใช่มั้ย”
อัญมาตอบเฉยว่า “ใช่”
จิ๊บตกใจ “ไอ้อัญ แกเป็นบ้าอะไร”
อัญมาอธิบาย “อย่าเพิ่งโวยวาย อาทิตย์หน้า ฉันอาจจะไม่ได้กลับบ้านทุกวัน จิ๊บ แกช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ตอนกลางคืนหน่อยได้มั้ย นวยแกมาด้วย เผื่อไอ้สัญชัยมันกลับบ้านมา แล้วจะหน้ามืด คิดชั่วๆ กับพี่สาวแก”
นวยรับปาก “ไม่มีปัญหา เจ๊ ฉันมานอนเฝ้าป้าอุบลให้เอง”
“แล้วแกจะหายตัวไปไหน ไอ้อัญ อย่าบอกนะว่าแกจะไปกับลูกชายพี่บัง”
อัญมาบอก “ก็ทำนองนั้น”
จิ๊บตาโต “เฮ้ย เสี่ยงนะแก ไปไหน ไปทำอะไร แกต้องบอกฉันก่อน”
“ฉันบอกอะไรมากไม่ได้ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยของแกสองคนด้วย”
นวยมองทึ่ง “เจ๊ อย่าบอกนะว่าเจ๊เป็นเหมือนในหนัง”
อัญมางง “เป็นอะไร”
“สายลับสาว” นวยบอก
อัญมารีบแก้ “บ้า ไอ้นวยเพ้อแล้วแก ไปๆ แยกย้าย ทำตามที่ฉันขอแล้วกัน”
อัญมากำลังจะเดินออกไป ภควัตในมาดเซียนพระเดินเข้ามามองจ้องเอาเรื่อง จิ๊บกับนวยเห็นสีหน้าดุของภควัตแล้วกลืนน้ำลายมองกัน
“แกว่าจะมีเรื่องมั้ยวะ”
“ดูหน้าพี่วัตซะก่อน ฉันว่าทางที่ดี เราไปก่อนดีกว่าพี่จิ๊บ” นวยออกไอเดีย
“เออว่ะ ขี้เกียจขึ้นโรงพักเป็นพยาน คดีคู่รักหึงโหด”
จิ๊บกับนวยเผ่นออกไป ภควัตเดินเข้าหาอัญมา
“มานี่”
ภควัตกระชากแขนอัญมาเข้าไปในบ้านตัวปลิว

ภควัตกระชากแขนอัญมาเข้ามาในบ้าน
“ไม่ต้องให้ถามมากนะ เล่ามาว่าเมื่อวานหายไปไหน ทำอะไร”
อัญมาบอกหน้าตาเฉย “ฉันไม่เล่าเรื่องเมื่อวาน มันเรื่องส่วนตัว”
ภควัตมองจ้อง “เรื่องส่วนตัว”
“ใช่ เรื่องส่วนตัวของฉัน ที่จะบอกผู้กองคืออาทิตย์หน้า อธิคมลงมือแน่”
ภควัตถามย้ำ “เธอมั่นใจ”
“ร้อยเปอร์เซ็นต์”
“ทำไมอธิคมถึงบอกเธอ...เธอทำยังไง”
อัญมาลอยหน้ากวน “ก้อมารยาหญิงที่ผู้กองว่าฉันไงล่ะ”
ภควัตจี๊ด ลืมตัวจับแขนอัญมา
“มารยาหญิงอะไร หายไปกับอธิคมกลับมาจนดึกดื่น”
“อย่ามองคนในแง่ร้ายนักเลย ผู้กอง อธิคมเค้าก็คนมีหัวจิตหัวใจคนนึงเหมือนเรานี่แหละ”
ภควัตเยาะ “โห หายไปวันเดียว ถึงกับเข้าอกเข้าใจกันลึกซึ้ง”
“เพราะใจฉันไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนผู้กองนี่”
“อัญมา”
อัญมาสะบัดแขนออก มองจ้องหน้าภควัต
“ฉันมองเห็น อธิคมน่ะ เด็กขาดแม่ เค้าต้องการความรักจากคนอื่นเพราะเค้าขาดแม่ พ่อเค้าก็ไม่เคยสนใจตรงนี้ คนอย่างเราที่มีความรักเพียบพร้อม ไม่เข้าใจเค้าหรอก”
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ขาดความรัก พ่อแม่ฉันถูกฆ่า แล้วฉันก็เห็นหน้าไอ้ฆาตกร” ภควัตโพล่งขึ้น
อัญมาตกใจ “ผู้กอง”
“ฉันมีคุณป้า มีคุณลุง ท่านรักฉันเหมือนลูก แต่ฉันก็รู้ว่าไม่มีความรักไหนมาทดแทนความรักของพ่อแม่ได้”
อัญมามองตาภควัตเห็นแต่สีหน้าจริงจัง ปิดบังความเจ็บปวดไว้
“ถึงเราขาดความรัก มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่เราจะทำตัวเป็นคนชั่ว”
“ผู้กอง...ฉันอยากให้คุณเข้าใจว่านี่คือจุดอ่อนของอธิคม”
ภควัตนิ่งฟังอัญมา
“เค้ามีฉันเป็นเพื่อน เค้ากล้าเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังมากขึ้น มันจะทำให้งานของเราสำเร็จเร็วกว่าเดิม”
ภควัตนึกห่วง “ระวังตัวด้วย อัญมา อย่ามั่นใจไปว่าอธิคมจะเชื่อใจคุณ อธิคมน่ะ ฉลาดเป็นกรด ไม่อย่างนั้นวินิจคงไม่ให้ลูกชายเป็นคนวางแผนทุกครั้ง”
อัญมาฟังภควัตบ้าง ภควัตมองอัญมา
“ที่เตือนเพราะผมเป็นห่วง”
ภควัตกับอัญมาหยุดมอง สบตากันและกัน อัญมามองลุ้นว่าภควัตจะพูดอะไรต่อ
“ผมเป็นห่วงสายของผมทุกคน” นั่นเป็นคำที่ภควัตบอกออกมา
“ก็ดี ฉันจะจำไว้ ว่าคุณเป็นห่วงสายของคุณทุกคน...เหมือนกัน”
อัญมาน้อยใจบอกไม่ถูก เมินหน้าหนีไปอีกทาง

ภควัตมีสีหน้าอึดอัด ที่ต้องเก็บงำความรู้สึกจริงๆ ในใจไว้อย่างนี้

อ่านต่อหน้า 4

คีตโลกา ตอนที่ 5 (ต่อ)

ด้านอธิคมมีสีหน้าครุ่นคิด โดยมีวินิจมองลูกชายจากด้านหลัง

“พวกปปส. มันต้องตามกลิ่นเราทุกทาง”
“แกมีแผนยังไง”
“หลอกมันให้หลงทาง”
อธิคมหันมาทางพ่อ แล้วบอกแผน
“พ่อแบ่งคนไว้สัก 4 ชุด ให้พวกมันเคลื่อนไหวเหมือนส่งข่าว ติดต่อกันตลอด ปล่อยข่าววันส่งของออกไปคนละวัน ดูว่าตำรวจมันจับข่าวได้จากทางไหน แสดงว่าตรงนั้นมีสายของมันอยู่”
“แล้วใครจะเป็นคนไปรับของ”
“ผมเอง” อธิคมบอกอย่างเด็ดเดี่ยว
วินิจกังวล “คม...ถ้าพลาด พ่อไม่อยากให้แกติดคุกอีก”
“ผมจะเอาไอ้อัญไปด้วย ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ไอ้อัญจะเป็นคนรับผิดทั้งหมด”
วินิจคิดตาม “ตกลงว่าที่แกทำเป็นสนิทกับไอ้อัญ...”
อธิคมมองพ่อด้วยสายตาดุดัน
“ผมยังไม่หายสงสัยมันหรอก... แล้วคราวนี้ ถ้าตำรวจตามมาถึงตัวผมได้ ก็เหลือแค่มันคนเดียว”
อธิคมหยิบปืนขึ้นวางบนโต๊ะ วินิจมอง
“ผมจะให้มันรับโทษหนักที่กล้าลูบคมผม”
อธิคมยิ้มเหี้ยม

จ่าเดชเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ในซอยชุมชน เห็นสมใจคู่ปรับอุบลเข็นรถขายของสวนมา
“ไม่ขายของเหรอวันนี้”
“ขาย แต่มันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ เลยจะกลับไปนอนพัก แล้วจ่าละจะไปไหน ไม่ทำงานเหรอ”
“ก็ทำอยู่นี่ไง ดูแลทุกสุขของประชาชน”
สมใจลอยหน้า “เหรอ...แต่ทางที่จะไปเนี่ย รู้สึกจ่าจะมุ่งไปดูแลทุกข์สุขของนังเจ๊ว่านมันเท่านั้น
นะ เออ....” สมใจทำหน้าเจ้าเล่ห์ “ชั้นพึ่งนึกออก ว่าจะแวะไปที่บ้านของจ่าอยู่เหมือนกัน มีธุระกับเมียจ่าพอดี อยู่ใช่มั้ย”
จ่าเดชทำหน้าเอาจริง “ธุระอะไรกับเมียข้า นังสมใจ ถ้าเอ็งปากสว่างนักละก็ ไอ้ที่ข้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเวลาเอ็งไปตั้งวงที่บ้านยายจันนะ ข้าก็จะรู้จะเห็นขึ้นมาละนะ แล้วที่เอ็งครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้เนี่ย ข้าว่าเอ็งไม่ได้จะกลับบ้านไปนอนพักหรอก แต่เอ็งกำลังจะไปแก้อาการครั่นเนื้อครั่นตัวที่บ้านยายจันใช่ปะ”
สมใจหน้าจ๋อง “ปล่าวซะหน่อย ใคร ใครจะไปบ้านยายจัน จ่าอย่ามาหาเรื่องนะ ชั้นไม่ไปบ้านจ่าก็ได้ แต่บอกซะก่อนนะ ถ้าเมียจ่ารู้เรื่องขึ้นมา ไม่ใช่เพราะชั้นนะจ่าอย่ามาพาลหาเรื่องชั้นไม่ได้นะ ชั้นไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจ่าก็รู้ ทำมาหากินอย่างสุจริต”
จ่าเดชเยาะ “เหรอ....ข้าต้องเชื่อม่ะ ไม่ไปบ้านยายจันแน่นะ ข้าจะได้ตามไป”
สมใจรีบเผ่น เข็นรถหนีไปทันที
“ก็บอกว่าไม่ไป ชั้นจะกลับไปนอนพัก”
จ่าเดชมองตามสมใจที่รีบเข็นรถไป แล้วถอนใจอย่างโล่งอก
“เกือบไปแล้วมั้ยละ...เกือบซวยแล้วเรา”
จ่าเดชหันกลับเดินออกไปหน้าปากซอยทันที

อัญมาเดินมาตามทาง มีวัตเซียนพระเดินตามหลังต้อยๆ อัญมาหันมาโวย
“จะตามไปถึงไหน”
“ก็จะไปไหนล่ะ”
อัญมาหยุดเดินหันมา ภตวัตเกือบเบรคไม่ทัน ชนเข้ากับอัญมา อัญมาลดเสียง
“ไม่ต้องตามได้มั้ย ฉันจะไปหาอธิคม”
“ผมก็จะไปส่งไง”
“ไม่ต้องดูแลฉันดีขนาดนี้ก็ได้”
ภควัตประชด “เกรงใจใครหรือเปล่า”
อัญมาประชดกลับ “อ๋อ ใช่ ฉันกลัวพี่คมจะเข้าใจฉันผิด”
“อย่ายั่วอารมณ์ผมนักนะ อัญมา เตรียมตัวไว้ด้วย เย็นนี้ผมจะมารับ”
อัญมางง “รับไปไหน”
“ที่จริงผมบอกคุณน้องไว้ว่าจะพาคุณไปอาทิตย์หน้า แต่ถ้าเราต้องทำงาน ไปซะวันนี้เลย”
อัญมางงใหญ่ “ไปบ้านคุณน่ะเหรอ”
“ใช่ ผมจะโทร.หา อย่าหนีหายไปไหน รับโทรศัพท์ผมด้วย”
“ฉันไม่อยากไป ทำไมฉันต้องไปบ้านคุณไปเจอหน้าลุงกับป้า ครอบครัวคุณด้วย เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
อัญมาสะบัดหน้า หันหลัง ภควัตจะเข้าไปใกล้อัญมา แต่แอนนี่วิ่งปรี่เข้ามาขวางทันที
“พี่วัต”
อัญมาหันมอง แอนนี่กระโดดกอดภควัตหมับ อัญมามอง แอนนี่จับภควัตหอมแก้มซ้ายขวาโชว์ อัญมาตาโต ภควัตไม่ทันตั้งตัว แอนนี่ทำท่าสยิว ส่วนภควัตสยอง
“หนวดพี่วัตน่ะเซ็กซี่ที่สุดเลย”
ภควัตดันแอนนี่ออกห่าง “ไม่ดีนะ แอนนี่ แฟนพี่ยืนอยู่ทั้งคน”
แอนนี่มองเย้ยไปทางอัญมา แล้วกอดภควัตอีก ซบลงไปอก มองท้าทาย
“แล้วทำไม”
ภควัตดันแอนนี่ออก แต่แอนนี่เกาะแน่น
“ก็ไม่ทำไมหรอก แอนนี่ ถ้าอยากได้มาก จะบริจาคให้ ถือว่าของใช้แล้ว”
อัญมาสะบัดหน้าเดินไปเลย ภควัตดันแอนนี่ออกจนได้
“เห็นมั้ย ไอ้อัญมันหาว่าพี่วัตเป็นของใช้แล้ว ของเหลือใช้ ยังจะง้อมันอีกทำไม”
ภควัตบอก “เพราะพี่รักอัญมา”
“อ๊าย...อย่าพูด แอนนี่ไม่อยากได้ยิน”
แอนนี่กรี๊ดยกมือปิดหู ภควัตดึงมือแอนนี่ออก แล้วพูดใกล้หูแอนนี่
“พี่รักอัญมา ได้ยินชัดมั้ย พี่รักอัญมาคนเดียว”
แอนนี่เต้นเป็นเจ้าเข้า ภควัตรีบวิ่งหนีไป แอนนี่ยืนเต้น
“บ้าๆ ๆ ผู้ชายอะไรน่ารักที่สุด รักเดียวใจเดียวแถมไม่แป๊บเดียว แบบนี้หายาก แอนนี่ต้องฉกมาให้ได้”

ฟากจ่าเดชกำลังทำเป็นยืนหมุนอยู่หน้าร้านเจ๊ว่านเสริมสวย สักครู่เจ๊ว่านออกมายืนมองในชุดนอนบางเบาเซ็กซี่
“มาทำอะไรแถวนี้”
“มาซื้อไก่ย่างส้มตำ”
“ไหน ซื้อที่ไหน”
จ่าเดชหันไป ไม่เห็นรถเข็นอุบลตั้งอยู่ เลยติดอ่าง
“เอ่อ...”
“ตลกละจ่า ฉันไล่ร้านนังอุบลไปแล้ว ตกลงจ่าจะมาทำอะไรกันแน่ บอกฉันมาดีกว่า มาคอยป้วนเปี้ยนแถวนี้ หรือว่า...”
เจ๊ว่านทำหน้าตกใจ
“จ่าคิดจะจับร้านฉัน”
“เปล่าเลยจ้ะ ไม่จับร้าน อยากจับอย่างอื่นมากกว่า”
จ่าเดชยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย แต่พอจะเข้าใกล้เจ๊ว่าน วัตเซียนพระเดินปราดมา กระชากแขนจ่าเดช
“เฮ้ยๆ อะไรวะ ไอ้วัต”
“ฉันจะถามเรื่องพระ จ่าจะปล่อยไม่ปล่อย วันนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”
ภควัตลากจ่าเดชออกไปท่าทางขึงขัง

ภควัตดึงจ่าเดชเดินเร็วมานอกบริเวณชุมชน
“ปล่อยผมได้แล้ว ไม่มีคนแล้ว ผู้กอง”
“จ่ามัวแต่ยุ่งกับร้านเจ๊ว่าน รู้บ้างมั้ยว่าอัญมาไปบ้านนายวินิจบ่อยแค่ไหน ทำไมไม่คอยคุ้มครอง”
“ผู้กอง ไอ้อัญมันเดินเข้าเดินออกที่นั่นน่ะ ถูกแล้ว ไม่งั้นเราจะได้ข่าวมาจากไหน”
จ่าเดชมองภควัตแล้วเตือนสติ
“อย่าหาว่าผมงั้นงี้เลยนะ ผู้กองน่ะท่าทางเหมือนหึงไอ้อัญ”
ภควัตโวยกลบทันที “หึง! บ้าแล้วจ่า”
จ่าเดชเหล่ “น่ะ ไม่ยอมรับ ปากแข็ง ใช่เลย”
“โอเค ผมยอมรับว่าผมเป็นห่วงอัญมา”
“แค่เป็นห่วงเหรอ” จ่าเดชมองจ้องหน้า
“ใช่ ผมชวนเค้ามาเป็นสาย ผมก็ต้องรับผิดชอบชีวิตเค้าให้มากที่สุด”
“แต่ผู้กองก็ต้องรู้นะว่าไอ้อัญมันเต็มใจทำงาน ขืนผู้กองอาละวาดแบบนี้บ่อยๆ ผมว่าวันนึงความมันจะแตก ทีนี้ถ้าอธิคมจับพิรุธได้ คนซวยเต็มๆก็คือ ไอ้อัญ คนที่ผู้กองห่วงมากที่สุดนั่นแหละ”

จ่าเดชเตือนสติ ภควัตนิ่งฟัง

ขณะเดียวในห้องคุยงานบนชั้นสองของบ้านเสี่ยวินิจ อัญมานั่งอยู่ในกลุ่มด้านหลังๆ ฟังอธิคมที่กำลังสั่งงานทุกคน

“เอาคนของเรามาให้หมด”
อัญมานั่งฟังเงียบ ไม่แสดงพิรุธ
“ไอ้เมษ แกกับคนของแก เป็นคันแรก คอยคุ้มกันของ”
เมษรับคำ “ครับพี่คม”
อธิคมหันมาทางป๊อบ “ไอ้ป๊อบ เตรียมรถที่จะสลับล่อพวกตำรวจไว้ด้วย”
“ครับ พี่”
“เก้า เอ็ง กับไอ้ต้น เอ็งคอยดูเรื่องอาวุธกับระเบิด ถ้าตำรวจตามจัดการอย่าให้เหลือ”
ป๊อบกับเก้ามอง รับคำสั่ง อัญมานั่งฟังด้วยใจเต้นระทึก

อัญมาเดินออกมาตรงสวนสวยด้วยสีหน้ากังวล อธิคมเดินตามหลังมา
“กลัวเหรอ อัญ”
“พี่จะขนอะไร ทำไมต้องมีระเบิดด้วย”
อธิคมบอก “ของสำคัญ”
อัญมาทำเป็นไม่ค่อยสนใจ ถามต่อเรื่องของ “แล้วพี่จะให้ฉันช่วยอะไร ตรงไหน”
“ไปกับฉัน”
อัญมาร้อง “หา”
“นั่งรถไปกับฉัน”
อัญมาแย้ง “ปกติจะเป็นไอ้เก้า”
“ไหนบอกว่าอยากช่วยงานฉันไง”
“ฉันตื่นเต้นน่ะ ดีใจที่พี่ไว้ใจฉัน”
อัญมายิ้มให้ อธิคมมองด้วยแววตาลึกซึ้ง
“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก อยู่ใกล้ฉันไว้ เธอปลอดภัยแน่”
อัญมายิ้มกลับให้อธิคม อย่างไม่มีพิรุธ
“ฉันขอกลับบ้านหน่อยนะพี่คม แช่ผ้าไว้เยอะเลยจะกลับไปซักซะหน่อย ไม่งั้นเผลอไม่ได้แม่เก็บไปซักให้อยู่เรื่อย รู้สึกบาปยังไงไม่รู้”
อธิคมมองอัญมานิ่งแล้วพยักหน้า อัญมาเดินออกไปอย่างปกติ เพราะรู้ว่าอธิคมจับตามองอยู่

อัญมาเดินกลับเข้ามาในบ้าน ทรุดนั่งลง รื้อหายาแก้อาการลงแดงจากในลิ้นชักที่ซ่อนไว้
“กินอีกไม่เท่าไหร่ ก็จะเลิกลงแดงแล้ว”
อัญมามองยาด้วยสีหน้ามีความหวัง อัญมาวางยา 3 เม็ด หันไปกำลังจะเทน้ำลงแก้ว
เสียงมือถือที่โต๊ะด้านหลังดังขึ้น อัญมาลุกขึ้นวิ่งไปรับมือถือที่วางอยู่
“ว่าไง ผู้กอง อะไรนะ...จะมารับฉันแล้ว รอก่อนสิ เสื้อผ้าฉันก็ไม่มี ไม่ต้องใส่เสื้อผ้า บ้าเหรอ”
อัญมาทวนคำเสียงหลง

คุณหญิงวรจันทร์มอง ขวัญอนงค์ที่เดินไปเดินมา รอภควัต ท่านอภิกานต์ปิดแมกกาซีนธุรกิจในมือหันมองลูกสาว
“มานั่งรอใจเย็นๆเถอะ ยายน้อง เดี๋ยววัตเค้าก็พาเพื่อนมา”
“ตื่นเต้นกว่าใครเลยค่ะ พอตาวัตโทร.มาบอกว่าจะพามาวันนี้ ก็เดินไม่หยุด”
สองสามีภรรยาอมยิ้มขำท่าทางตื่นเต้นของขวัญอนงค์
“หรือคุณพ่อ คุณแม่ไม่ตื่นเต้นคะ พี่วัตกล้าพาผู้หญิงคนนั้นมาจริงๆ”
“วัตก็คงบริสุทธิ์ใจ ถึงอยากให้เรารู้ว่าเค้าเป็นเพื่อนกัน” อภิกานต์ว่า
“อีกเดี๋ยวก็รู้แล้วค่ะ ว่าเพื่อนแบบไหน เพื่อนคุยหรือแค่เพื่อนนอน”
“อย่าเพิ่งไปซักเค้ามากนะ ยายน้อง เราดูเค้าไปก่อน อย่าให้เค้ารู้ตัวว่าเราตรวจสอบเค้า”
วรจนทร์เตือนอย่างเป็นผู้ใหญ่ ขวัญอนงค์ยังไม่ยอมรับปาก

ด้านภควัตเดินนำอัญมาเข้ามาในบ้านตัวเอง แล้วส่งถุงเสื้อผ้าใหม่ให้
“เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ในถุงนั่น ผมเตรียมไว้ให้แล้ว”
“ชุดนี้ฉันก็สุภาพมากนะ เสื้อยืด กางเกงยีนส์มันดูไม่ดีตรงไหน”
“ผมซื้อเสื้อ กับกางเกงยีนส์ใหม่มาให้”
อัญมาดึงเสื้อกับกางเกงออกมาดู เป็นสไตล์แบบเรียบๆแต่ดูสะอาด ใหม่เอี่ยม
“ไม่ต้องเลิศหรู แต่ก็ขอให้ดูดีกว่าที่ใส่อยู่หน่อย”
“รสนิยมใช้ได้ ยี่ห้อนี้ราคาไม่แพงมาก แต่คัทติ้งดี”
อัญมาชมสไตล์คุณหนูอัญมาแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ ภควัตมองรู้ทันที
“ผีคุณหนูเข้าสิงอีกเหรอ”
“วันนึงฉันจะทำให้คุณหงายเงิบเรื่องนี้...คอยดู”
ภควัตหัวเราะ อัญมาสะบัดหน้าเดินไปด้านใน
“ใช้ห้องน้ำในห้องผมก็ได้ เผื่อจะอยากอาบน้ำ”
“ฉันอาบมาแล้ว”
“อาบอีกก็ได้ ผมขัดขี้ไคลให้”

อัญมาปาถุงเสื้อใส่ภควัตที่แหย่ ภควัตหัวเราะอารมณ์ดี ยิ้มมองตามอัญมาตาเป็นประกาย

คุณหญิงวรจันทร์กำลังจิบชาอยู่ ขวัญอนงค์นั่งลงตรงกลางพ่อกับแม่ มาลีวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงาน

“คุณวัตพาผู้หญิงคนนั้นมาแล้วค่ะ”
ขวัญอนงค์ลุกพรวด “ไหนล่ะ”
“พาแว๊บไปบ้านคุณวัตแล้วค่ะ” มาลีรายงานต่อ
“ทำไมไม่พามาที่นี่ก่อน”
ขวัญอนงค์ร้อนใจรีบเดินปรี่ออกไป วรจันทร์ อภิกานต์มองตาม
“ยายน้อง กลับมาก่อนลูก”
ขวัญอนงค์ก้าวเดินเร็วพรวดๆไป วรจันทร์ และอภิกานต์เห็นท่าไม่ดีลุกขึ้น
“ไปดูกันเถอะ ต้องคอยห้ามยายน้อง” อภิกานต์บอก
“ใจร้อนจริงๆ ไปค่ะ เดี๋ยวเพื่อนตาวัตจะหาว่าบ้านเราไม่ให้เกียรติเค้า”
วรจันทร์เดินนำอภิกานต์ออกไป ด้วยความเป็นห่วง

อัญมากำลังเปลี่ยนเสื้อใหม่อยู่ในห้องน้ำ เสื้อผ้าชุดเก่ากองอยู่บนพื้น อัญมาก้มลงเก็บ แต่อยู่ๆ เกิดปวดท้อง มือสั่น เริ่มมีอาการอาการลงแดงอีก
“ไม่นะ อย่ามาลงแดง อยากยาตอนนี้”
อัญมาเนื้อตัวสั่น ทรุดลงกุมท้อง
“ผู้กอง ช่วยฉันด้วย”
อัญมาร้องเรียกเสียงแผ่ว นึกถึงตอนที่กำลังจะกินยาแต่วางยา วิ่งไปรับโทรศัพท์
อัญมาหันไปคว้ามือจับใกล้ตัว พยุงร่าง อัญมาพยายามยืนขึ้นแต่อ่อนแรงจนลื่นล้มลง
“ผู้กอง”
อัญมาคลานมารวบรวมแรงทุบประตู
“ช่วยฉันด้วย”

ภควัตกำลังยืนรอ ได้ยินเสียงทุบประตู ตามด้วยเสียงอัญมา
“ผู้กอง! ช่วยฉันด้วย”
“อัญมา”
ภควัตวิ่งไปทางห้องน้ำทันที
จังหวะนี้ ขวัญอนงค์ก้าวเข้ามาในบ้านพอดี สอดตามองหาพี่ชาย
“พี่วัต”

อัญมาทรุดลงที่พื้นห้องน้ำ กุมท้องร้องครางด้วยความเจ็บปวดทรมาน ภควัตเปิดเข้ามา
“อัญมา”
“ช่วยฉันด้วยผู้กอง”
ภควัตพยุงอัญมานั่ง แล้วเปิดฝักบัว ราดน้ำลงเนื้อตัวอัญมา
“ยาล่ะ อัญมา ยาคุณ”
“ฉันไม่ได้กิน ฉันไม่ได้เอามา ผู้กอง ฉันปวดท้อง”
ภควัตวางสายฝักบัว รวบร่างอัญมามากอดไว้
“ไม่เป็นอะไร อัญมา ผมอยู่กับคุณ”
อัญมาหายใจแรง ภควัตมอง
“กัดผม กัดไหล่ผม”
“ไม่”
“กัดอัญมา ผมไม่เจ็บ คุณจะปวดจนทนไมไหว”
ภควัตประคองหน้า มองอัญมาที่หนาวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง อัญมามองภควัตที่ยิ้มให้ แล้วกัดลงไปที่ไหล่ ภควัตอดทน กอดอัญมาไว้
“หายใจลึกๆ อัญมา ผมอยู่กับคุณตรงนี้ คุณต้องไม่กลับไปหามันอีก”
อัญมาน้ำตาไหล ภควัตปลอบ
“คุณต้องเลิกได้ คุณต้องชนะ คุณจะไม่กลับไปใช้ยาอีก”
อัญมากอดภควัตไว้อย่างเป็นที่พึ่ง ภควัตโอบกอดอัญมา ขวัญอนงค์วิ่งเข้ามาเห็นสภาพภควัตกับอัญมาก็ตกใจ
“พี่วัต นี่มันอะไรกัน”
“คุณน้องหยิบผ้าขนหนูให้ผมก่อนครับ”
ขวัญอนงค์วิ่งออกไป ภควัตมองอัญมาที่กำลังสู้กับอาการเจ็บปวด ปั่นป่วน
“ผมอยู่กับคุณนะ อัญมา ผมไม่ทิ้งคุณ”
ภควัตให้กำลังใจ
ขวัญอนงค์วิ่งถือผ้าขนหนูเข้ามาส่งให้ภควัต อัญมาหมดแรง หงายลงในอ้อมแขนภควัต ภควัตเอาผ้าจนหนูเช็ดหน้าให้อัญมาแล้วอุ้มขึ้น ขวัญอนงค์ถอย
“คุณน้อง ช่วยหยิบเสื้อกับกางเกงนั่นตามพี่มาหน่อยครับ”
ภควัตรีบอุ้มอัญมาที่มีผ้าขนหนูห่อตัวออกจากห้องน้ำ
ขวัญอนงค์หยิบเสื้อกางเกงที่ภควัตซื้อให้อัญมาตามออกไป

วรจันทร์ กับ อภิกานต์เดินเข้ามาในห้องโถงกลาง เห็นภควัตที่อุ้มอัญมาออกมา มีขวัญอนงค์ตามมาด้านหลัง
“วัต มีอะไรกัน”
“เดี๋ยวผมลงมาเล่าให้ฟังนะครับ”
ภควัตอุ้มอัญมาวิ่งขึ้นไปห้องนอน ผ่านหน้าทุกคน ขวัญอนงค์มองตกใจ
“ผู้หญิงเพื่อนพี่วัต เป็นอะไรน่ะ ยายน้อง”
“ผู้หญิงคนนั้น...ลงแดงค่ะ”
วรจันทร์แทบช็อก “ฮ้า...ติดยา”
วรจันทร์กับอภิกานต์มีสีหน้าตกใจมาก

ภควัตวางร่างอัญมาที่ไม่ได้สติลงนอนบนเตียงของเขา ขวัญอนงค์ตามเข้ามามอง ภควัตมองขวัญอนงค์อย่างขอร้อง
“คุณน้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อัญมาหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้ค่ะ”

ภควัตเดินออกไป ขวัญอนงค์มองอัญมาที่ไม่ได้สติ ทั้งสงสารทั้งลำบากใจ

ภควัตยืนอยู่ตรงหน้าคุณหญิงวรจันทร์กับท่านอภิกานต์ ในห้องโถง

“เค้าชื่ออัญมาครับ เค้าช่วยผมทำงานสายสืบ”
“ไว้ใจได้หรือ วัต” วรจันทร์กังวลไม่คลาย
“ไว้ใจได้ครับ อัญมาเป็นคนดี เค้าอยู่ในแก๊งค้ายาของนายวินิจ”
วรจันทร์ติง “นี่เหรอที่วัตเรียกว่า คนดี”
“อัญมาอยากเลิก เค้ากำลังบำบัด เราต้องให้โอกาสเค้านะครับ”
อภิกานต์แทรกขึ้น “แต่ถ้าพวกค้ายารู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นสาย อัญมาเดือดร้อนหนักแน่”
ภควัตบอก “ผมถึงต้องดูแลอัญมา”
วรจันทร์มองท่าทางสีหน้า แววตาของภควัตอย่างสังเกต
“ผมต้องปกป้องคนที่ทำงานให้เรา อัญมาจิตใจเข้มแข็งมาก”
ภควัตมองวรจันทร์กับอภิกานต์อย่างขอความเห็นใจ
“ผมอยากให้คุณลุง คุณป้าสงสารอัญมา เห็นเธอเป็นลูกหลานคนนึงได้มั้ยครับ”

ฝ่ายอัญมาที่ตอนนี้ขวัญอนงค์เปลี่ยนเสื้อผ้าให้แล้ว ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องนอนภควัต พอมองไปเห็นขวัญอนงค์ อัญมาลุกขึ้นนั่ง
“คุณ...น้องสาวผู้กอง”
“ฉันชื่อขวัญอนงค์”
“คุณขวัญอนงค์”
อัญมายิ้มให้ แต่ขวัญอนงค์มองเฉย
“เธอสนิทกับพี่วัตขนาดไหน ทำไมพี่วัตต้องมาช่วยดูแลเธอ”
อัญมามอง ขวัญอนงค์ที่สายตาคาดคั้นอยากรู้

ภควัตเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ นั่งอยู่ตรงข้าม วรจันทร์ อภิกานต์ ขวัญอนงค์ ในห้องรับแขกคฤหาสน์ อัญมาในชุดใหม่เช่นกัน นั่งใกล้ภควัต มองทุกคนแล้วส่งยิ้มไป มีแต่อภิกานต์ที่มองแล้วยิ้มให้ วรจันทร์กับขวัญอนงค์มองอัญมาหัวจรดเท้า
“หนูรู้จักกับตาวัตนานหรือยัง”
“ไม่นานค่ะ เพิ่งรู้จักกัน”
“ช่วยงานตาวัตอยู่เหรอ เห็นตาวัตเล่าให้ฟังบ้างนิดหน่อย”
“ค่ะ อัญทำงานกับผู้กอง”
“ไม่กลัวเหรอ งานพี่วัต มีแต่งานเสี่ยงๆ” ขวัญอนงค์บอก
“ไม่กลัวค่ะ ผู้กองคอยช่วยดูแลฉันอย่างดี”
ขวัญอนงค์สบตากับแม่ อัญมามองภควัต ภควัตเห็นความอึดอัดในสายตาอัญมา
“เดี๋ยวผมต้องกลับไปประชุม ยังไงผมขอพาอัญมากลับไปเลยนะครับ”
ขวัญอนงค์เหน็บ “เสียดายกำลังคุยกันสนุก”
วรจันทร์บอก “วันหลังมาที่นี่อีกนะจ๊ะ หนู”
อัญมามองวรจันทร์ที่มองมาด้วยสายตาลึกล้ำ
“ครอบครัวเรายินดีต้อนรับเพื่อนของตาวัตทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร ทำอะไรมา ถึงหนูอัญมาจะไม่เหมือนเพื่อนตาวัตคนอื่นๆ ที่เราเคยรู้จักมาทั้งหมด ก็แวะมาคุย มาทักทายกันได้”
อัญมายิ้มเจื่อนๆ รู้ดีว่าวรจันทร์พูดตามมารยาท
“ฉันคงไม่กล้ามาบ่อยๆ หรอกค่ะ”
ทุกคนมองอัญมาที่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ไม่ก้าวร้าว ไม่กระโชก
“ฉันกับผู้กองรู้จัก ติดต่อกันแค่เรื่องงาน ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันเกินกว่านั้น ฉันเองก็ทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่หรอกค่ะ ไม่ค่อยคุ้นกับสังคมเศรษฐี”
วรจันทร์มองอัญมาอย่างพินิจ รู้จากคำพูดว่าอัญมาไม่ใช่เด็กขาดการอบรม
“กราบขอบคุณท่านรัฐมนตรีกับคุณหญิง แล้วก็คุณน้องมากค่ะ ที่ไม่ได้ไล่ฉันออกไปจากบ้านตั้งแต่แรกเห็น”
ภควัตมองมาด้วยความสงสารจับจิต อัญมายืนขึ้น
“เราคงไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ลานะคะ”
อัญมาพนมมือไหว้ทุกคนแล้วเดินออกไป ภควัตลุกขึ้น
“ผมไปก่อนนะครับ”
ภควัตไหว้ลุงกับป้าแล้วรีบตามออกไป ขวัญอนงค์มองลุกตาม อภิกานต์เรียกไว้
“พอแล้ว ยายน้อง”
“คุณพ่อ อัญมานั่น ทั้งหยิ่ง ทั้งจองหอง”
อภิกานต์ปราม “ถึงอัญมาจะอยู่ในชุมชนแออัด แต่เค้ามีการศึกษา มีมารยาทมากนะที่จะไม่อาละวาด โวยวายต่อหน้าเราทั้งๆ ที่เค้าไม่พอใจอยู่”
“มิน่าตาวัตถึงต้องคอยดูแลอัญมา”
พ่อลูกหันมามองวรจันทร์
“ฉันเห็น สายตาภควัตมีแต่ความเป็นห่วงอัญมา ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็กกะโปโล ไม่ใช่เด็กไม่มีความคิด อย่างที่เราเห็นภายนอกเลย”
“คุณแม่หมายความว่าพี่วัตชอบอัญมา”
“อาจจะไม่ใช่แค่ชอบ ตาวัตอาจจะกำลังหลงรัก ประทับใจอัญมาอยู่ แล้วฉันก็คงยอมไม่ได้ ถ้าหลานชายคนเดียวจะเลือกอดีตขี้ยามาเป็นเมีย”
วรจันทร์สายตาเข้ม ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คาดเดาว่าจะขึ้นกับหลานชายตัวเอง

อัญมาเดินมาห่างจากตัวบ้าน กำลังตรงไปที่รั้ว ภควัตตามมาติดๆ
“คุณคงไม่โกรธคุณลุง คุณป้า กับคุณน้อง”
“ฉันเข้าใจคุณป้าคุณดี โลกของคุณหนูอัญมา โลกที่ฉันเคยอยู่ เราก็เลือกคบคนในสังคมระดับเดียวกัน ฐานะเหมือนกัน”
“คุณป้าท่านห่วงผมมาก”
“ฉันเข้าใจ ตอนนี้ สภาพฉันแบบนี้ ...ใครเห็นก็คงไม่อยากรู้จัก”
“แต่ผมไม่เคยรังเกียจคุณ คุณเป็นคนเก่ง กล้าที่จะทำเรื่องเสี่ยงที่สุดเพื่อคนอื่น”

สองคนไม่รู้ว่าคุณหญิงวรจันทร์ยืนมองจากด้านในคฤหาสน์ เห็นภควัตกับอัญมาที่ยืนคุยยิ้มหัวให้กันอยู่ วรจันทร์ปิดม่านลงด้วยสีหน้ากังวล

อัญมายิ้มมองภควัต
“รู้มั้ยว่านี่คือความสุข ฉันคิดว่าตัวเองเลือกไม่ผิด ที่เป็นไอ้อัญ เพราะฉันจะได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า”
“ส่วนผมก็จะตายอย่างมีศักดิ์ศรี”
“ผู้กอง คนดีๆอย่างคุณ ห้ามตายนะ”
ภควัตยิ้ม “ผมทำงานสู้กับพวกค้ายา ผมทำให้พวกมันเสียผลประโยชน์ มันก็ต้องอยากเอาชีวิตผม แต่ถ้าผมจะตาย ผมก็ตายในหน้าที่ ตายด้วยความภูมิใจที่ทำให้สังคมเราไม่มีเด็กติดยา”
ภควัตยิ้มให้อัญมา อัญมายิ้ม มองภควัตชื่นชมความคิดของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก

ทางฝ่ายอธิคมนั่งเปลือยอกอยู่บนเตียงในห้องนอน มีแอนนี่เลื้อยมากอดไว้จากด้านหลัง
“เห็นพวกในค่ายมวยมันพูดกันว่า เธอกำลังจีบไอ้เซียนพระ”
“พี่วัตน่ะ เค้ารักไอ้อัญจะตาย แต่ไอ้อัญมันเฉยๆนะ ดูไม่ค่อยรักพี่วัตเท่าไหร่”
“ผู้ชายดีๆ มันน่าเบื่อ”
“นั่นน่ะสิ เค้าถึงลือว่า ไอ้อัญมันมาคบพี่”
อธิคมหันขวับ แอนนี่นึกได้รีบปฏิเสธ
“เค้าลือกัน ฉันก็จำเค้ามาพูดนะพี่คม”
“ลือกันว่ายังไงอีก”
“เค้าก็ด่าไอ้อัญกันทั้งนั่นแหละ ทำเป็นควงสอง มีแฟนทั้งคน ยังมาอ่อยให้พี่ ที่เค้าพูดๆน่ะ จริงใช่มั้ยล่ะ”
“เธอชอบไอ้เซียนพระนั่นมากมั้ย”
“ชอบจ้ะ อยากจะลองชิมสักครั้ง”
อธิคมโยนเงินให้ แอนนี่รีบคว้า
“ทำให้มันไกลหูไกลตาฉันหน่อย”
“ไกลหูไกลตาไอ้อัญด้วยใช่มั้ย”
“เออ”
“ตกลงว่าพี่จะให้ฉันแยกพี่วัตออกมา แล้วพี่ก็จะเคี้ยวไอ้อัญ”
อธิคมไม่ตอบ แต่แอนนี่มองก็เข้าใจ รีบเก็บเงินระริก
“พี่ใช้ถูกคนแล้วจ้ะ รับรองว่าพี่วัตต้องเลิกกับไอ้อัญ 3 วัน 7 วัน”
แอนนี่รีบออกไป อธิคมยิ้มร้าย

อัญมามองเม็ดยาที่ยังตั้งวางไว้ไม่ได้กิน หวนนึกถึงตอนที่ที่ลงแดงในห้องน้ำบ้านภควัต
“คุณต้องเลิกได้ คุณต้องชนะ คุณจะไม่กลับไปใช้ยาอีก...ผมอยู่กับคุณนะ อัญมา ผมไม่ทิ้งคุณ”
อัญมาวางยาไว้ที่เดิม
“ฉันต้องเลิกให้ได้ ฉันต้องหักดิบ เลิกให้ได้”
อัญมาเริ่มปวดท้องดิ้นทุรนทุราย ล้มลงไปนอน เหงื่อแตกเต็มหน้า แต่ตั้งใจว่าจะหักดิบให้ได้
อัญมาทุรนทุรายหนักกว่าเดิม กัดผ้า ไม่ยอมร้องออกมา เหงื่อแตกเต็มร่าง
อัญมาอดทนกับอาการอยากยาที่ใกล้จะหาย จนสลบไป

ส่วนในห้องนอนภควัตตอนกลางดึก ภควัตยังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้องนอน คิดถึงภาพที่อัญมามีอาการลงแดงอย่างทรมาน ในห้องน้ำ
ยิ่งคิดความสงสารแล่นจับหัวใจภควัต
“อัญมา คุณต้องหาย คุณต้องเอาชนะมันให้ได้นะ ผมไม่ทิ้งคุณ ผมจะอยู่เคียงข้างคุณ สู้สู้นะอัญมา”
แสงแดดอ่อนๆ สาดเข้ามาต้องร่างบางของอัญมาที่นอนในท่าเดิม สักครู่อัญมารู้สึกตัวค่อยๆ ลืมตาขยับกายลุกขึ้น มองสภาพตัวเองในกระจกเบื้องหน้าแล้วยิ้มให้ตัวเองอย่างมีกำลังใจ

“ฉันชนะแกแล้ว ไอ้ยานรก ฉันจะไม่มีวันอ่อนแอ กลับไปใช้แกอีก”

อ่านต่อตอนที่ 6
กำลังโหลดความคิดเห็น