xs
xsm
sm
md
lg

คีตโลกา ตอนที่ 4

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คีตโลกา ตอนที่ 4

อัญมาเดินมาหยุดมองข้างตึก เห็นอธิคมเดินหน้าเครียดออกมาจากตึกเพียงลำพัง โดยอธิคมนึกถึงคำพูดดูถูกของเสี่ยใหญ่เมื่อครู่นี้อยู่

“ฉันไม่อยากให้ชื่อเสียงฉันมีปัญหา เพราะเกี่ยวข้องกับอดีตนักโทษคดียาเสพติด”
อธิคมโมโห กวาดของบนโต๊ะตกกระจายเสียงดังโครมคราม อัญมาสะดุ้ง ถอยไปชนกับเก้าอี้ล้มลงพื้น อธิคมหันขวับมาเห็นเข้า อัญมารีบแก้ตัว
“ฉันไม่ได้มาแอบดูนะ ได้ยินพวกมันบอกพี่เข้ามาแล้ว เลยมาเดินหา”
อธิคมเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบนิ่ง
“ทำไมไม่ไปอยู่ในงานเลี้ยง”
“ฉันเหนื่อย ฉันอยากกลับบ้าน”
อธิคมจ้องหน้า “กลับไปเจอไอ้พ่อเลี้ยงน่ะเหรอ ท่าทางมันหวงเธอ”
“ไอ้สัญชัยน่ะเหรอ มันหื่นต่างหาก”
“ฉันจัดการให้แล้ว”
“พี่ทำอะไรมัน”
“ก็แค่เตือน”
“มันไม่ถึงตายใช่มั้ย”
“เธออยากให้มันตายหรือเปล่าล่ะ”
“ไม่ต้องๆ ฉันไม่ใจร้าย สั่งฆ่าใครหรอก”
“ฉันคงดูใจร้ายมากล่ะสิ”
อธิคมเดินเข้าหา อัญมามองเห็นสายตาลึกซึ้งของอธิคมแล้ว รีบเดินเบี่ยงไม่ยอมติดผนังให้จนมุมอีก
“ขอฉันกลับบ้านนะพี่ ป่านนี้แม่คงรอฉัน”
อธิคมมอง อัญมาทำตาอ้อนๆ
“นะ พี่คม นะ พี่จะให้คนไปส่งฉันที่บ้านก็ได้ ถ้ากลัวฉันจะหนีไปไหน”
อธิคมไม่ตอบ ดึงข้อมืออัญมาเดินออกไปตัวปลิว

อัญมาถูกอธิคมกุมแขน เดินผ่านสายตาชาวบ้านที่พากันมองตลอดทาง อธิคมหันไปมองใคร ทุกคนต่างกลัว รีบหลบเข้าบ้าน
“พี่คม ปล่อยฉันเถอะ”
อธิคมไม่ฟัง ดึงมืออัญมาไปทางบ้านอุบล อีกด้านแอนนี่แต่งตัวสวยเซ็กซ์ เดินผ่านมาเห็น
“พี่คม อีอัญ”
แอนนี่รีบวิ่งแถเข้ามากอดอธิคม กระชากมืออธิคมมากุมไว้
“แอนนี้ไม่ให้พี่คมจับมือใคร”
อธิคมผลักแอนนี่ออก แอนนี่ไม่ยอม กอดแน่น อธิคมเงื้อมือจะตบ อัญมารีบร้องห้าม
“พี่คม อย่า”
อธิคมหันมามองอัญมา
“ฉันขอ อย่าทำร้ายผู้หญิง”
อธิคมเชื่ออัญมา ยอมลดมือ แอนนี่มองอย่างงงๆ
อธิคมสั่ง “ออกไป”
แอนนี่รีบกระเด้งตัวออกห่าง ส่งสายตาพิฆาตไปทางอัญมา
“แกออดอ้อนอะไรพี่คม ทำไมต้องให้พี่คมเค้าจูงเป็นหมาตาบอดด้วยฮะ”
“ก็ตาเธอบอดเหรอ แอนนี่ ถึงไม่เห็นว่าแถวนี้มันมืด มันเปลี่ยว เดินสุ่มสี่สุ่มห้าหมามันก็จะโผล่มางับ...งับ...งับไม่เลิก สงสัยอยากโดดน้ำร้อนสาด หรือไม่ก็โดนตบอีกห้าหกฉาด”
อัญมามองแอนนี่ด้วยสายตารำคาญ แล้วเดินฉับๆออกไป
อธิคมรีบเดินตามอัญมา แอนนี่มองตามงงๆ บ่นบ้าอย่างหงุดหงิดใจ
“ไอ้อัญ แกน่ะสิต้องโดนน้ำร้อนราดปาก แต่มันยังไงวะ พี่คมเชื่อไอ้อัญ เดินตามไอ้อัญ.. ตกลงใครเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแน่”

อัญมาเดินมาถึงหน้าบ้าน แล้วหันมาบอกอธิคม
“ส่งฉันแค่นี้แหละ”
อัญมากำลังจะเข้าบ้าน นวย จิ๊บและอุบลพากันวิ่งออกมาดักหน้า
“อัญ อัญลูกแม่”
ทุกคนวิ่งมาที่อัญมาด้วยสายตาเป็นห่วง
“ยังอยู่ครบนะเจ๊ ม้าม ปอด ไต แขน ขา ไม่หัก ตับไม่แตก” นวยถามเป็นชุด
“เออ อยู่ครบ นี่ตกลง ห่วงหรือแช่ง” อัญมาว่า
จิ๊บเข้ามาแตะตัวอัญมา “พวกมันทำอะไรแกหรือเปล่า ไอ้อัญ”
อัญมานึกถึงเรื่องที่รู้ว่าจิ๊บเป็นคนให้ลองยา ก็สะบัดแขน ปัดมือจิ๊บทันที
“ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก คนเป็นเพื่อนดีๆ เค้าไม่ทำให้เพื่อนติดยา”
“ไอ้อัญ ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ” จิ๊บหน้าเศร้า
อัญมาสะบัดหน้าไม่อยากมองหน้าจิ๊บ อุบลหันไปทางอธิคม
“พาลูกฉันไปทำเรื่องผิดกฎหมายหรือเปล่า”
“ถามกันเองก็แล้วกัน” อธิคมบอก
อธิคมตอบเรียบๆ อุบลไม่กล้าซักต่อ อัญมาหันไปทางอธิคม
อัญมายิ้มให้ “ขอบใจนะ พี่คม”
อธิคมยิ้มตอบนิดเดียว แล้วเดินกลับออกไป
“มันยังไงน่ะ เจ๊ มาลากตัวไป แล้วก็มาส่ง มียิ้มให้ด้วยงี้” ไอ้นวยซัก
“ไม่ยังไงหรอกไอ้นวย ก็อย่างที่แกเห็น ฉันทำงานกับพี่บัง กับลูกชายพี่บัง”
“ไอ้อัญ ที่แม่ขอร้อง อย่าไปยุ่งกับพวกค้ายา ทำไมเอ็งไม่ฟัง”
“ฉันมีเหตุผล แต่ยังบอกใครไม่ได้ตอนนี้”
อัญมามองทุกคนด้วยสายตาขอร้อง
“อย่าเพิ่งถามอะไรฉันอีก ฉันคิดดีแล้วทุกอย่างที่ทำลงไป ทำอย่างมีสติมีเหตุผล ไม่ใช่ทำเพราะเป็นไอ้อัญขี้ยาคนเดิม”
อัญมาเดินหนีเข้าบ้านไป ทุกคนมองตามอึ้งๆ
“ฉันว่าเจ๊อัญคนนี้แกไม่เหมือนก่อนตกน้ำเลยนะ ดูฉลาด ดูใจแข็ง ดูเป็นสาวมั่น มีความคิดเป็นของตัวเอง” นวยว่า
จิ๊บบอก “หรือว่าผีเข้า”
นวยประชด “คิดได้นะเจ๊”
“ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรนี่วะ อยู่ๆ ก็ประหลาด พูดกันไม่รู้เรื่อง”
อุบลเอ่ยขึ้น “ไอ้อัญ มันไม่เรียกข้าว่าแม่เหมือนเดิม”
จิ๊บตกใจ “จริงเหรอ น้าอุบล”
“มันไม่เรียกข้าว่าแม่ มันทำท่าแปลกๆ เหมือนเกลียดข้า แต่ช่างเถอะ มันอาจจะบ้าๆบอๆ สมองเสื่อมเพราะตกน้ำ แต่ข้าก็ไม่ถือหรอก เพราะยังไงข้าก็เป็นแม่มันอยู่ดี”

อุบลยิ้มจางๆ จิ๊บกับนวยได้แต่มองด้วยความสงสาร

ฝ่ายอัญมาทิ้งตัวลงนอนด้วยความสงสัย ย้อนคิดถึงภาพอธิคมกอดตัวเองไว้แน่นพลางบอกว่า

“สัญญาสิ แล้วฉันจะปกป้องเธอเอง”
อัญมานอนก่ายหน้าผาก ถอนใจซะดังเฮือก
“ทำไมต้องทำท่าแปลกๆ กับฉันด้วย กะจะจับพิรุธฉันให้ได้ล่ะสิ อธิคมอย่านึกเลยว่าคนอย่างคุณหนูอัญมาจะตามไม่ทัน”

อัญมาพลิกตัวไปอีกที สุดท้ายหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนกับเหตุการณ์ในวันนี้

เช้าแล้ว ภควัตยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง รู้สึกเหมือนมีคนเอามือแตะที่หน้าผากและตามแขนจึงลืมตาตื่น เห็นเป็นขวัญอนงค์ที่ก้มมองอยู่ใกล้ๆ แค่คืบ ภควัตตกใจมาก
“คุณน้อง” เขากระถดตัวถอยหนีอย่างแรง จนตกเตียงลงไป
ขวัญอนงค์หัวเราะคิกคัก ขำภควัตที่รีบลุกขึ้น
“อะไรกันคะพี่วัต กลัวน้องขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ลงไปข้างล่างดีกว่าครับ คุณน้อง”
“น้องเป็นห่วงเห็นพี่วัตตื่นสายกว่าปกติ เลยขึ้นมาดูว่าจะไม่สบายหรือเปล่า น้องมาทำอาหารเช้าไว้ให้แล้วรีบลงไปทานเถอะค่ะ”
ขวัญอนงค์ดึงแขนภควัตลงไปทันที

ในเวลาต่อมา ขวัญอนงค์วางจานใส่แซนด์วิช และเสิร์ฟกาแฟให้ภควัต เป็นการเอาใจ
“ขอบคุณครับ”
“เมื่อคืนกลับดึกเหรอคะ ไปไล่จับผู้ร้ายที่ไหนมาคะ”
“ก็ทั่วๆ ไปน่ะครับ”
“ต้องมีความลับกับน้องด้วย”
ภควัติยิ้มแห้งๆ รีบเปลี่ยนเรื่อง
“วันนี้ไม่ออกไปชอปปิ้งที่ไหนหรือครับ”
“เบื่อแล้วค่ะ อยากอยู่บ้าน อ่านหนังสือบ้าง คุณพ่อจะให้น้องไปช่วยงานที่พรรค น้องก็เลยต้องเตรียมตัว ทำการบ้านหาข้อมูล”
“ดีครับ คุณน้องต้องช่วยงานคุณลุงได้มากแน่ๆ”
ภควัตยิ้มให้จิบกาแฟแล้วลุกขึ้น
“พี่อิ่มแล้ว ขอบคุณมากนะครับ สำหรับอาหารเช้า”
“จะไปทำงานแล้วหรือคะ”
“ครับ ช่วงนี้มีประชุมทุกวัน”
“คุณพ่อกับคุณแม่เป็นห่วงพี่วัตมากนะคะ ท่านอยากเจอพี่วัต”
ขวัญอนงค์พูดขึ้น ภควัตมองแล้วต้องเปลี่ยนใจ

ในเวลาต่อมา ท่านอภิกานต์กับคุณหญิงวรจันทร์มองภควัตที่นั่งลงตรงหน้า
“ป้าให้ยายน้องไปตามวัตมาเพราะมีเรื่องสำคัญมาก”
คุณหญิงวรจันร์หันมองสามี ท่านอภิกานต์เอ่ยขึ้น
“ลุงทำเรื่องไปที่ท่านอธิบดีแล้วนะ ขอตัววัตมาช่วยงานลุง”
ภควัตชะงัก มองสองท่านท่าทีหนักใจ
“คุณลุงครับ ผมเข้าใจความหวังดีของคุณลุงกับคุณป้า แต่ขอให้ผมได้เลือกทำงานที่ผมรักก่อนได้มั้ยครับ”
“วัต สงสารป้าเถอะ ทุกวันนี้ป้าต้องนั่งเป็นห่วงทุกครั้งที่วัตไม่กลับบ้าน” คุณหญิงอ้อนวอน
“ผมจะระวังตัวครับ”
“วัตระวัง แต่พวกผู้ร้ายมันไม่คิดอย่างวัต”
“คุณป้าเคยภูมิใจเมื่อผมจบโรงเรียนนายร้อยนี่ครับ คุณป้าอุตส่าห์ส่งเสียผมจนผมได้เป็นตำรวจสมใจผมไม่เคยลืมสีหน้าของคุณป้าในวันนั้นเลย”
ภควัตมองผู้เป็นป้า ด้วยสายตานึกถึงความหลัง

ตอนนั้นภควัตที่เพิ่งจบนายร้อย กลังก้มลงกราบคุณหญิงวรจันทร์ กับท่านอภิกานต์ภายในโถงคฤหาสน์ มีขวัญอนงค์มองยิ้มปลื้มอยู่ด้วย
“ผมขอกราบคุณลุง คุณป้าที่ให้ชีวิตใหม่กับผม”
คุณหญิงวรจันทร์ก้มลงดึงภควัตมากอด
“ชื่นใจของป้า”
“ผมจะไม่ทำชื่อเสียงของคุณลุง คุณป้าต้องเสียหาย ผมจะเป็นตำรวจที่ดีครับ”
คุณหญิงวรจันทร์กอดภควัตไว้ด้วยความภาคภูมิใจ

ภควัตดึงตัวเองออกมา คุณหญิงวรจันทร์มองภควัตด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ
“ที่ป้าขอ ไม่ใช่ให้วัตเลิกทำงานที่วัตรัก วัตยังเป็นตำรวจ ไปช่วยงานลุงก็ทำเพื่อคนส่วนใหญ่เหมือนกัน”
“แต่ผมอยากปราบพวกค้ายา”
“ลุงทำเรื่องนี้ในระดับนโยบายได้ ไม่จำเป็นที่วัตจะต้องลงไปวิ่งไล่จับพวกมันเอง” ท่านอภิกานต์ว่า
ภควัตยืนกรานความคิด “ผมอยากจับพวกมันกับมือ”
วรจันทร์ วัต ..ฟังกันบ้าง ป้ารู้ว่าวัตลืมไม่ได้ ป้าบอกตามตรง ป้ากลัว กลัวว่า....
“คุณป้าครับ...ผมทราบ ว่าคุณป้าเป็นห่วงแต่...” ภควัตมองลุงกับป้าอย่างลำบากใจ “ตอนนี้ผมมีเหตุผลที่ถอนตัวจากงานนี้ไม่ได้ ผมต้องรับผิดชอบชีวิตคนที่ผมร่วมงานด้วย ผมต้องดูแลความปลอดภัยของสายที่ผมดึงเค้าเข้ามา”
คุณหญิงวรจันทร์ ฉงน “ใครกัน”
“ผมบอกไม่ได้ครับ เพื่อความปลอดภัยของเค้า”
“ห่วงเค้ามากกว่าชีวิตตัวเองงั้นหรือ วัต”
“ครับ ผมต้องห่วง เค้าทำงานเสี่ยงตายเพื่อผม ผมทิ้งเค้าไปกลางคันไม่ได้ คุณลุง คุณป้าเข้าใจผมด้วยนะครับ”
ภควัตยกมือไหว้ ลุงกับป้าอย่างเคารพ แล้วเดินออกไป คุณหญิงวรจันทร์ฉุกใจคิด มีสีหน้ากังวล
“ผู้หญิง”
“คุณหมายถึงใคร” ท่านอภิกานต์งุนงง
“สังหรณ์ของฉัน เชื่อว่าสายที่ตาวัตพูด เป็นผู้หญิง”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“วันก่อนตาวัตพาผู้หญิงมา แต่พยายามปิดบัง ไม่ให้เราเห็นหน้า”
“อาจจะไม่เกี่ยวกันก็ได้”
“ตาวัตไม่มีนิสัยเละเทะ เพื่อนเค้าเราก็รู้จัก แต่คนนี้เค้าปิดบัง แสดงว่าต้องเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่น แล้วเรื่องที่ตาวัตหายใจเข้าออกตอนนี้ก็มีเรื่องเดียว...จับพวกพ่อค้ายา”
ท่านอภิกานต์มองภรรยาอย่างเห็นด้วย

ฟากอัญมากำลังกินยาคลายประสาทเพื่อเลิกยาเสพติด อุบลเดินออกมาเห็น
“แกกินยาอะไร ไอ้อัญ”
อัญมาไม่ตอบ กำลังจะกินอีกเม็ด อุบลเข้ามาปัดมือ จนยาร่วงหล่นพื้น
“แกกินยาบ้าอีกหรือเปล่า”
“ไม่ใช่”
“แม่ไม่เชื่อ”
อัญมาข่มความโกรธ ก้มลงเก็บยาบนพื้น “ดูสิ นี่มันเหมือนยาบ้าหรือไง”
“แล้วมันยาอะไร”
อัญมาไม่อยากตอบ อุบลซัก
“กินยาอะไร”
“ตอนนี้ฉันยังบอกไม่ได้ แต่รู้ไว้เถอะ ว่าไม่ใช่ยาบ้า”
อัญมาจะเดินออกไป อุบลเข้ามากระชากไหล่
“แกโกหก แกมีอะไรปิดบังชั้น บอกแม่มาให้หมด แกเที่ยวไปคบกับผู้ชายแปลกหน้า วันก่อนก็ไอ้วัต เซียนพระ เมื่อวานก็ลูกชายพี่บัง ไอ้อัญ ฉันไม่เคยสอนแกให้เป็นผู้หญิงสำส่อน”
อัญมาตกใจที่ถูกด่าว่าอย่างรุนแรง จนกลายเป็นโกรธมาก “ชั้นไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิด ถ้าป้าจะใช้คำว่า สำส่อนกับฉัน ป้าก็ต้องส่องกระจกดูว่าฉันเลียนแบบใคร”
อุบลตบหน้าอัญมาดังฉาด อัญมาเหลียวขวับมองมายังอุบล
“ฉันมีผัวใหม่เพราะฉันต้องเลี้ยงแกมาคนเดียว ฉันไม่อยากเห็นแกขาดพ่อ อยู่อย่างนี้ถ้าไม่มีผู้ชายคุ้มครองก็จะมีภัยรอบตัว ถ้าไม่มีแกฉันก็ไม่มีวันมีผัวใหม่หรอก วันนี้ห้ามออกไปไหนอีก ไอ้อัญ แกต้องอยู่แต่ในบ้าน”
“ที่นี่ไม่ใช่บ้าน เพราะบ้านต้องมีความเข้าใจ ความสุข ไม่ใช่มีแต่เสียงด่าเสียงสาปแช่ง ทะเลาะกัน”
อัญมาหันหลัง วิ่งออกไปทันที อุบลมองตามด้วยสีหน้าโมโห

“กลับมาไอ้อัญ กลับมาเดี๋ยวนี้”

อัญมาเดินเร็วรี่มาด้วยความโมโห แอนนี่กำลังนั่งตะไบเล็บหน้าร้านเจ๊ว่าน พอเห็นก็พุ่งออกมาขวาง

อัญมาบอกเสียงขุ่นเข้ม “ถอย”
“แกกล้าดียังไง มาสั่งฉันไอ้อัญ”
“แล้วแกเป็นใคร ทำไมฉันต้องไม่กล้า”
ชาวบ้านพากันเดินมามุง สีหน้าอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
“อีอัญ ตั้งแต่มีพี่คมคอยจับมือถือแขน ปากดีนักนะ เข้าไปถวายตัวมากี่ครั้งแล้วล่ะ พี่คมเค้าถึงยอมเดินมาส่ง น้ำหน้าอย่างแก แบนยิ่งกว่ากระดาน เชอะ พี่คมเค้าก็แค่อยากลองของแปลก มันไม่เร้าใจ เหมือนชั้นหร้อก”
“แกว่าฉันเข้าไปให้ท่าพี่คม”
“ใช่ ฉันเห็นนอแกโผล่มาแต่ไกล” แอนนี่พูดโดยไม่ออกเสียงว่า “นังแรด”
“ยังไงก็หนีแถวนี้ไปไม่พ้นแล้วนี่นะ วันนี้ขอทำตัวกลมกลืนหน่อยแล้วกัน”
ขาดคำอัญมาตบผัวะเข้าหน้าแอนนี่ที่ลอยหน้าอยู่ จนแอนนี่เซถลาไปเจอเจ๊ว่านรับไว้แทบไม่ทันชาวบ้านพากันตบมือเฮ
แอนนี่แค้นจัด “อีอัญ”
เจ๊ว่านแว้ดใส่ “กล้าตบเด็กเจ๊ว่านต่อหน้าต่อตาข้าเลยเหรอไอ้อัญ”
“แอนนี่ขอตบกลับมันนะคะ คุณแม่”
“เอาให้หน้ามันโย้ หมอเกาหลีไม่กล้าเย็บเลยนะคะ คุณลูก”
จิ๊บกำลังจะไปทำงานร้านสะดวกซื้อ วิ่งเข้ามาเห็น แอนนี่โผเข้ามาขย้ำคออัญมา อัญมาจิกหัวแอนนี่ หงาย เจ๊ว่านตกใจ
“ว๊าย ลูกขา ระวังหน้านะคะ”
“ขออีกสักฉาด ให้หมอไทย หมอเกาหลี หมอฝรั่งไม่กล้ารับเย็บหน่อยนะคะ นังคุณลูกขา”
อัญมาล้อแม่เล้ากะลูกเล้า จิกหัวแอนนี้หน้าหงายแล้วเงื้อมือตบแอนนี่ซ้ายขวา สลับหน้า 4 ทีติดๆ กัน เจ๊ว่านเห็นเข้าก็กรี๊ดดัง
“ตายแล้ว ลูกแอนนี่ แหก...แหก...หน้าแหกหมดสวย รับแขกไม่ได้แล้ว”
อัญมาผลักแอนนี่ออก แอนนี่กรีดร้อง
“คุณแม่ขา อย่าปล่อยมันนะคะ มันทำแอนนี่ตัวเงินตัวทองของคุณแม่”
“เออ เข้ามาสิวะ คราวนี้จะชกให้ตาหลุดออกจากเบ้า ไม่ต้องถลึงตาอิจฉาใครอีก เข้ามาเลย”
อัญมาเลือดขึ้นหน้า กำหมัดท้า จิ๊บรีบเข้ามากระชากอัญมา ลากออกไป
“พอแล้ว ไอ้อัญ เดี๋ยวมันเรียกพวกมายำ ไปก่อน”
“ไม่กลัวแล้วโว๊ย แรงมาแรงไป ตบมาตบกลับ ไหนๆชีวิตมันก็ต้องจมปลักอยู่ที่นี่ หนีไม่พ้นแล้ว ไอ้อัญคนนี้จะถ่อย จะเถื่อน สู้คน ไม่เว้นหน้าไหนแล้ว”
อัญมาตะโกนใส่ดังๆ ให้ทุกคนได้ยิน จิ๊บรีบลากออกไป
แอนนี่เต้นต่อหน้าเจ๊ว่าน กับชาวบ้าน ประกาศกร้าวเอาจริง
“จำไว้ทุกคน ต่อไปนี้ มีแอนนี่ที่ไหน ต้องไม่มีอีอัญ ชั้นจะฆ่ามัน ชั้นจะฆ่าอีอัญที่แย่งพี่คมไปจากชั้น”

อัญมาถูกดึงมาจนถึงมุมหนึ่ง จึงสะบัดมือออกจากจิ๊บ
“แกจะบ้าไปถึงไหน”
“ก็จะทนทำไม ไหนๆก็ต้องมีลมหายใจ ใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบอยู่ที่นี่ไปจนกว่าจะหายดวงตก”
“ไอ้อัญ ฉันขอโทษเรื่องที่ทำให้แกลองยาบ้าพวกนั้น”
อัญมาประชดด้วยยังโกรธไม่หาย “เพื่อนดีจริงๆ เพราะมีเพื่อนอย่างแกนี่แหละ เด็กๆ ถึงได้พากันไปลองไอ้ยานรกนั่น จนเสียผู้เสียคน”
“ไอ้อัญ นี่แกจำอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย แกเป็นคนขอให้ฉันช่วยนะ”
อัญมามองจิ๊บที่สีหน้าจริงจัง
“ฉันรู้ แกตกน้ำ ความจำเสื่อม จำเรื่องเก่าๆไม่ได้ ตอนนั้นแกเสียใจเรื่องไอ้สัญชัยมันลวนลามแก พอบอกแม่ แม่แกก็ไม่เชื่อ แกเลยคิดจะหนีออกจากบ้าน ฉันห้ามเท่าไหร่ แกก็ไม่ฟัง”
จิ๊บมองอัญมา ย้อนนึกถึงเหตุการณ์หนึ่งในอดีต
ในตอนนั้นไอ้อัญหน้าตาตื่นกลัว กำลังเขย่าร่างจิ๊บ ขอร้องอย่างคนเสียขวัญ
“แกต้องช่วยฉันนะจิ๊บ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”
“ไอ้อัญแกใจเย็นๆ แกไม่อยู่ที่นี่ แกจะหนีแม่ไปไหน”
“ไม่รู้ ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ไปตายเอาดาบหน้าก็ได้ ดีกว่าต้องเจอไอ้สัญชัย จิ๊บ...ถ้าแกไม่ช่วย...ฉันจะฆ่าตัวตาย”
อัญมามองจ้องจิ๊บที่เล่าเรื่องในอดีตด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันไม่อยากให้แกกระเซอะกระเซิงไปไหน ถ้าแกหนีออกจากบ้าน ป้าอุบลต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ ป้าอุบลรักแกมาก”
“แต่แกก็ไม่ควรเอายาบ้ามาให้ฉันลอง”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจเอาให้แกนะไอ้อัญ ความจริงคือแกแย่งไปจากฉัน”

จิ๊บเล่าต่ออีกว่า ตอนนั้นเธอเขย่าร่างไอ้อัญให้ได้สติ แต่ไอ้อัญไม่ยอมฟังปัดมือเปะปะ
“ไอ้อัญ แกต้องอยู่ที่นี่ อยู่กับแม่”
“ไม่ ฉันทนอยู่ไอ้บ้านนี้ไม่ไหวแล้ว ฉันเกลียด ฉันขยะแขยงไอ้สัญชัย”
ไอ้อัญจะวิ่งหนี จิ๊บคว้าร้างเพื่อนไว้ ไอ้อัญผลักจิ๊บอย่างแรงจนจิ๊บล้ม กระเป๋าสะพายหล่นจากไหล่ เห็นของหล่นเทจากกระเป๋า ทั้งเงิน ลิปสติก ตลับแป้ง นอกนั้นยังมีหลอดใส่ยาบ้า 10 เม็ดหล่นออกมาบนพื้นด้วย จิ๊บจะคว้า แต่ไอ้อัญมือไว คว้ามาทั้งหลอด
“อย่านะ ไอ้อัญ นั่นมันยาบ้า”
“ฉันรู้ว่ามันเป็นยาอะไร ฉันเห็นพวกมันวิ่งขายกันทั้งวันทั้งคืน แกเอามาจากไหน แกติดมันเหรอ ไอ้จิ๊บ”
“ฉันไม่ได้ติด แฟนฉันให้เอามาปล่อย แต่ฉันไม่อยากทำ คืนให้ฉันเถอะ ไอ้อัญ ฉันจะเอาไปโยนทิ้ง”
ไอ้อัญมองยาบ้าในมือ
“ไอ้ยาพวกนี้ มันทำให้คนไม่ต้องคิด ไม่ต้องจำอะไร มีแต่ความสุขใช่มั้ย”
“ไอ้อัญ แกอย่าลองนะ ถ้าแกติดมัน แกจะมีความสุขแค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ชีวิตที่เหลือ แกจะตกนรกทั้งเป็น”
จิ๊บปราดเข้าไปแย่งแต่ไอ้อัญผลักจิ๊บกระเด็น
“มีความสุขชั่วครั้งชั่วคราว...ก็ยังดี ดีกว่าต้องทุกข์ หาทางออกไม่เจอ ไม่มีใครเข้าใจ”
“ไอ้อัญ อย่า”
ไอ้อัญผลักจิ๊บล้มคว่ำ แล้ววิ่งออกไปพร้อมยาบ้าทั้งหลอด
จิ๊บตะโกนไล่หลัง “ไอ้อัญ อย่าลอง ไอ้อัญ อย่าลองยานรกนั่น”

เมื่อได้ฟังดังนี้ อัญมามองจิ๊บที่แววตาเสียใจ
“แกหายไปกับยาบ้าหลอดนั้น ไม่ต้องมีใครสอนให้แกหรอกว่า ใช้มันยังไง เพราะแกเห็นคนรอบตัวใช้มาตลอด”
อัญมาสีหน้ารู้สึกผิดมาก จิ๊บน้ำตาคลอมองเพื่อน
“ฉันเป็นคนลองมันเอง ไม่ใช่เพราะแก”
“แต่ฉันก็ถือว่าเป็นความผิดของชั้น ที่ทำให้แกได้ไอ้ยานรกนั่นไปอยู่ในมือ”
จิ๊บน้ำตาไหล อัญมามองมาด้วยความเสียใจ
“ฉันขอโทษนะ จิ๊บ”
อัญมากอดจิ๊บไว้ จิ๊บสะอื้น
“ฉันเป็นเพื่อน แต่ห้ามแกไม่ได้ พอแกติดมัน แกก็เดินไปหาพวกพี่บังเอง”
“ไอ้อัญอ่อนแอเอง เลือกใช้มันเอง ก็ไม่ควรจะโทษคนอื่น” อัญมาพูดเหมือนบอกตัวเอง
จิ๊บเล่าต่ออีก “พอติดหนักๆ แกก็ไม่มีเงินจ่ายค่ายา แกถึงต้องไปเป็นเด็กเดินยาให้มัน จน...จน”
อัญมาสนใจ “จนอะไร...จิ๊บ”
“แกไม่อยากขายยาให้เด็กคนอื่น แต่แกก็เลิกไม่ได้ แกติดค่ายาจนไม่มีจ่าย พวกพี่บังมันเลย...”
“มันทำอะไร”
“มันบังคับเอาตัวแกไปซ่องเจ๊ว่าน”
อัญมามองจิ๊บทีอย่างนึกไม่ถึง

จิ๊บเล่าต่ออีกว่า ตอนนั้นไอ้อัญที่ไม่ได้สติเพราะเมายาบ้ากำลังถูกไอ้เมษ กับ ไอ้ป๊อบหิ้วปีกมาตามถนนในชุมชน โดยจิ๊บที่เพิ่งกลับมาจากทำงาน เลี้ยวมาเห็น ก็รีบวิ่งไปขวาง
“แกจะเอาเพื่อนฉันไปไหน”
เมษบอก “ซ่องเจ๊ว่าน”
จิ๊บร้องห้าม “ไม่ได้นะ”
“ไม่ได้ มึงก็จ่ายค่ายาแทนไอ้อัญมา” ป๊อบบอก
จิ๊บมองสภาพเพื่อนแล้วรีบล้วงกระเป๋า เอาเงินทั้งหมดออกมาเป็นแบงค์ร้อยหลายใบ สภาพยับยู่ยี่
“เอาไป เอาเงินไป เอาไปให้หมด แล้วปล่อยเพื่อนฉันมา”
ป๊อบกับเมษมองเงินในมือจิ๊บแล้วหัวเราะใส่หน้า
“ถุย เงินแค่ไม่กี่ร้อย มึงเก็บเอาไว้ยาไส้เหอะ นังจิ๊บ” ป๊อบหัวเราะเยาะ
“ไอ้อัญ มันติดค่ายาเป็นหมื่น พี่บังเค้าถึงให้มันไปหาเงินมาคืนจากซ่องเจ๊ว่าน” เมษบอก
“ไม่นะ อย่าพาเพื่อนฉันไปซ่องเจ๊ว่าน”
จิ๊บเข้าไปยื้อไอ้อัญ แต่เมษตบจิ๊บคว่ำ จังหวะนี้ไอ้อัญในสภาพขี้ยา พอมีสติก็เรียก
“จิ๊บ... ไอ้เมษทำเพื่อนฉันทำไม”
จิ๊บเข้าไปกระชาก แต่เจอเมษยันกระเด็นกลิ้งไปกับพื้น
ไอ้อัญตกใจ “จิ๊บ...จิ๊บ”
เมษกระชากลากไอ้อัญไปอย่างแรง จิ๊บลนลานร้องเรียก
“อย่านะ ไอ้อัญ อย่าให้พวกมันพาไปซ่องเจ๊ว่าน ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยไอ้อัญด้วย”
ป๊อบเดินเข้ามาชกท้องจิ๊บอย่างแรง จนสลบลงไปกองกับพื้น ร้องเรียกใครไม่ได้อีก จากนั้นป๊อบก็เดินหนีไป

ทิ้งจิ๊บไว้ตรงนั้นโดยไม่สนใจว่าจะเป็นหรือตาย

ไอ้อัญถูกหิ้วปีกมาหน้าร้านเสริมสวย เจ๊ว่านยืนรออยู่

“ถ้าพี่บังไม่โทร.มาขอ ฉันไม่รับหรอกนะ นังแห้งเนี่ย”
ป๊อบกับเมษผลักไอ้อัญเข้าไป ไอ้อัญเห็นแอนนี่นั่งอยู่บนตัก เอาใจชายแก่ในมุมมืดของร้าน ป๊อบกับเมษเดินออกไป เจ๊ว่านดึงแขนอัญมาขึ้น
“ไป หลังร้าน อาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวก่อน ฉันนัดแขกเปิดซิงแกไว้แล้ว”
“ไม่”
“ไม่อะไร อีก 15 นาทีเสี่ยเค้าก็จะมาถึงแล้ว”
“อย่า...” ไอ้อัญยกมือไหว้ปลกๆ “ฉันไม่อยากขายตัว”
“ไม่ขายตัวแล้วแกจะเอาเงินที่ไหนไปคืนค่ายาพี่บัง หรือแกจะยอมเป็นศพ”
เจ๊ว่านบีบคางไอ้อัญ จับหันซ้ายหันขวามองใบหน้าทรุดโทรมอย่างพิเคราะห์
“ว่าไป แกก็สวยคมดี แต่งเนื้อแต่งตัวเสียหน่อย ก็สวยจัดเหมือนกันรับแขกสักสองสามปี แล้วค่อยส่งลงใต้”
ไอ้อัญได้ยินแล้วยิ่งกลัว เจ๊ว่านผลักไอ้อัญออกห่าง
“ไป ห้องน้ำอยู่ด้านหลัง เดินอ้อมๆ ไปละ ลูกแอนนี่กำลังหลอกดูดเงินแขกหน้าโง่ กระเป๋าหนักอยู่”
ไอ้อัญมองไปทางแอนนี่ที่นัวเนียกับแขกในมุมมืดอีกทีด้วยสายตากลัว เจ๊ว่านเดินแยกไปทางห้องส่วนตัว วินาทีนั้นไอ้อัญตัดสินใจ รวบรวมกำลังวิ่งออกจากร้านทันที เจ๊ว่านหันมาตกใจร้องเรียก
“ไอ้อัญ...ไอ้อัญ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ มึงอยากตายนักใช่มั้ย”

ไอ้อัญกระเซอะกระเซิงวิ่งมาถึงสะพานไม้ข้ามคลองในชุมชน เกาะราวสะพานไว้ พยุงร่าง น้ำตาไหลพรากด้วยความกลัว ประสาทหลอน สับสนไปทุกอย่าง
“ฉันอยากตาย...อยู่ไปก็ไม่มีอะไรดี...ฉันไม่อยากอยู่อีกแล้ว...”
ร่างไอ้อัญโงนเงนเกาะราวสะพาน มองลงไปเบื้องล่างที่เป็นผืนน้ำ
“ยกโทษให้ลูกคนนี้ด้วยนะ แม่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่น่าลองไอ้ยานรกนั่นเลย ฉันน่าจะเชื่อแม่ แม่จ๋า แม่ยกโทษให้ฉันด้วย”
ไอ้อัญคร่ำครวญทั้งน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสินใจพุ่งร่างลงไปจากราวสะพานหวังจบชีวิต
ร่างไอ้อัญดำดิ่งตกลงไปในน้ำ

ฟังถึงตอนนี้ อัญมาสูดลมหายใจเฮือก เหมือนทะลึ่งขึ้นจากน้ำ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตกน้ำ
“ฉันโดดน้ำจะฆ่าตัวตาย แต่มีคนมาช่วยฉันไว้...ผู้กองภควัต”
จิ๊บมองอัญมานิ่งๆ ท่าทีงุนงง อัญมาถอนใจเบาๆ
“ทุกอย่างมันเป็นโชคชะตาที่ฉันจะได้มาอยู่ที่นี่”
“แกพูดอะไรแปลกๆ อีกแล้วนะ ไอ้อัญ”
“บอกไปตอนนี้ แกก็ไม่เข้าใจหรอกจิ๊บ มันเหลือเชื่อเกินกว่าที่เราจะนึกได้ เหลือเชื่อที่ฉันรอดตาย มาอยู่ในร่างที่ไม่ใช่ของฉัน”
จิ๊บยิ่งฟังยิ่งงง “แต่บอกตรงๆ ฉันชอบแกตอนนี้นะ แกดูเข้มแข็ง ถึงแกจะยังอยู่กับพวกพี่บัง แต่แกดูมีสติที่จะสู้กับทุกอย่าง”
“เพราะฉันไม่ใช่ไอ้อัญคนที่ยอมแพ้กับโชคชะตา บางทีวิญญาณอ่อนแอดวงนั้นอาจจะกำลังหลับ พักผ่อนอยู่ในร่างที่สุขสบาย เพื่อวันนึงจะตื่นขึ้นมาบอกความจริงกับคนอื่น เหมือนที่ฉันพยายามบอกทุกคน”
อัญมายิ้มกับจิ๊บอย่างทำใจได้มากขึ้น
“โลกนี้มีเรื่องไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นทุกวัน แต่รู้ไว้เลย อัญมาคนนี้จะไม่มีวันฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่ถอย ฉันจะไม่หนี ฉันจะสู้จนกว่าฉันจะชนะทุกปัญหา จนกว่าฉันจะได้ชีวิตที่แท้จริงของฉันกลับมา”
จิ๊บกับอัญมายิ้มให้กัน อย่างคนที่คอยเป็นกำลังใจ และมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน

ที่โต๊ะในมุมหนึ่งของร้านอาหารแห่งนั้น ภควัตกำลังนั่งทานข้าวอยู่กับขวัญอนงค์
“พี่วัตคงไม่โกรธที่น้องชวนมาทานข้าวนะคะ”
“ไม่หรอกครับ”
“น้องเห็นพี่วัตเครียดๆ ตั้งแต่คุยกับคุณพ่อคุณแม่เมื่อเช้า พี่วัตคงไม่ยอมทำตามใจคุณแม่ง่ายๆ”
“พี่มีเหตุผลนะครับ คุณน้อง”
“พวกเราก็มีเหตุผลค่ะ เหตุผลที่พวกเรารักแล้วก็เป็นห่วงพี่วัตมาก กลัวพี่วัตจะโดนเหมือนครอบครัวพี่...”
ภควัตห้าม “คุณน้อง...”
“น้องขอโทษค่ะ น้องไม่อยากให้พี่ชายของน้องเป็นอันตราย น้องมีพี่ชายคนเดียวที่ปกป้องดูแลน้องมาตั้งแต่เล็ก น้องรักและเป็นห่วงพี่วัตมากนะคะ”
ขวัญอนงค์กุมมือให้กำลังใจภควัต
ระหว่างนี้สุคนธรสควงแขนสารวัตรกฤษณ์เดินเข้าร้านมา มีจิรายุตามมาด้านหลังและเห็นสองคนพอดี
“นั่นแฟนเก่าเธอนี่ รส”
สุคนธรสหันขวับไปมองที่โต๊ะที่ขวัญอนงค์กุมมือภควัตอยู่
“หาแฟนใหม่ได้สวยกว่าแฟนเก่าอีก”
สุคนธรสหันไปค้อนจิรายุขวับ “หน้าตาพื้นๆ”
“หน้าตาพื้นๆ แต่โพรไฟล์สูงติดเพดานเลยล่ะ”
สุคนธรสมอง จิรายุพูดข่มอีกว่า
“ลูกสาวคนเดียวของคุณหญิงวรจันทร์กับรัฐมนตรีอภิกานต์ ญาติลูกพี่ลูกน้องกับแฟนเก่าเธอ มากินข้าวกันแบบนี้ สงสัยเรือจะล่มในหนอง ดองกันเองซะล่ะมั้ง”
สุคนธรสฟังแล้วโมโห หวง ดึงแขนกฤษณ์พุ่งเข้าไปที่โต๊ะภควัตทันที
“ไงคะ จับผู้ร้ายเครียดมากเลยสิคะ วัต ถึงมีเวลามาทานข้าวกับผู้หญิง”
ภควัตกับขวัญอนงค์หันมามองทั้ง 3 คน ขวัญอนงค์ดึงมือกลับ ภควัตตอบกลับน้ำเสียงเรียบๆ
“ก็คงเครียดเหมือนสารวัตรกฤษณ์นะครับ มีเวลามาทานข้าวเหมือนกัน”
“ผู้กองกับสารวัตร ยศต่างกัน จะให้ทำงานหนักเหมือนๆ กัน ได้ยังไงละคะ”
“พอเถอะ รส รีบทานแล้วรีบไปดีกว่า ผมมีงานต้องคุยกับนายอีกหลายเรื่อง”
กฤษณ์ปราม แล้วดึงสุคนธรสออกไปทันที จิรายุมองทิ้งสายตาให้ภควัต
ขวัญอนงค์ไม่พอใจ “สุคนธรส พูดจาน่าเกลียด น้องไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เลย ดีแล้วล่ะค่ะ ที่เลิกกันซะได้ ผู้ชายนั่นใครคะ”
ภควัตไม่รู้จัก “เพื่อนเค้ามั้งครับ พี่ไม่ค่อยรู้จักหรอกครับ ลูกหลานไฮโซ”
ขวัญอนงค์ว่า “เค้ามองพี่วัตแปลกๆ นะคะ”
ขวัญอนงค์มองสุคนธรส กับ จิรายุที่นั่งโต๊ะอย่างไม่ชอบหน้า
เสียงมือถือภควัตดังขึ้น ภควัตมองเห็นเป็นเบอร์แปลก
“ฮัลโหล”

อัญมาโทร.มาจากวัดในละแวกชุมชน ตอบปลายสายไปด้วยหน้าตาสงสัย
“นี่ชั้นเอง ผู้กอง ฉันซื้อโทรศัพท์ใหม่ อันเก่าอธิคมเขวี้ยงทิ้งไปแล้ว ออกมาเจอกันหน่อยสิ”
ภควัตยังอยู่ในร้านอาหาร มองขวัญอนงค์แล้วรีบทำท่าขึงขัง
“ครับ นาย ประชุมด่วนนะครับ ครับๆ ไปเลยครับนาย”
ภควัตรีบตัดสาย แล้วยิ้มแห้งๆ กับขวัญอนงค์
“นายเรียกตัวด่วน ไม่งั้นถูกสั่งขังแน่ๆ ครับ”
“โอเคค่ะ พี่วัตไปทำงานเถอะ”

ภควัตยิ้มแล้ววิ่งออกจากร้านไปเลย

อ่านต่อหน้า 2

คีตโลกา ตอนที่ 4 (ต่อ)

สุคนธรสมองจากโต๊ะมายังขวัญอนงค์แล้วยิ้มเยาะ

“เผ่นแน่บไปแบบนั้น รับรองเรื่องงาน ชัวร์ ผู้หญิงของวัต ก็ต้องชินกับการถูกทิ้ง”
จิรายุแขวะ “เหมือนที่เธอเคยโดนล่ะสิ”
“วันหลังไม่ต้องขอตามมาด้วยละนะ จิรายุ เธอน่ะมันชอบกินฟรีจนเคยตัว”
จิรายุหน้าชาที่โดนด่าต่อหน้ากฤษณ์
ขวัญอนงค์หันมา เห็นสายตาเยาะข้ามโต๊ะของสุคนธรส ก็มองเชิดเดินออกไป
จู่ๆ สารวัตรกฤษณ์วางช้อน “ผมต้องไปทำงานแล้ว”
“อะไรกันคะ กฤษณ์ รสยังไม่ได้กินเลย”
“วัตมันกำลังจะไปประชุมกับนาย ผมต้องอยู่ฟังว่ามันกำลังคิดจะทำอะไรบ้าง”
กฤษณ์ลุกเดินออกไปอีกคน สุคนธรสแทบกรี๊ด จิรายุหัวเราะกรีดเสียงขึ้นมา
“ตกลงว่า ทิ้งแฟนเก่าบ้างาน มาเจอแฟนใหม่ที่บ้างานเหมือนกันแถมยังแข่งกันเอง ฮึ...ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดีนะ”
จิรายุหัวเราะสะใจเบาๆ สุคนธรสแทบจะกรี๊ดให้ร้านแตกด้วยความเจ็บใจสุด ๆ

ในเวลาต่อมา ภควัตเดินก้าวเร็วรี่เข้ามาในวัด เห็นอัญมากำลังเอาแบงค์พันหยอดลงกล่องบริจาคเรียงกล่อง แล้วพนมมือต่อหน้าพระประธาน
“เงินนี่ ลูกได้มาอย่างผิดกฎหมาย แต่ลูกต้องทำเพื่อหยุดขบวนการพวกค้ายานรกให้ได้ ก่อนที่เด็กๆจะเสียคน สังคมเราจะมีแต่คนติดยา เงินที่ลูกได้เพราะเป็นเด็กเดินยา ลูกขอบริจาคเป็นกุศล”
ภควัตมายืนมองจากด้านหลัง
“แก้ว แหวน เงินทองลูกจะไม่ขออะไรเลย นอกจาก..ขอให้ลูกได้กลับไปเป็นคุณหนูอัญมาคนเดิมทีเถอะ เจ้าประคู้ณ”
อัญมาไหว้อย่างสวยงาม พอหันกลับมาเจอภควัตหน้าบึ้ง
“เบื่อเต็มทีสินะ ไอ้งานเป็นสายให้ตำรวจเนี่ย”
“ไม่เบื่อ ฉันกำลังสนุก ฉันจะทำต่อ แล้วฉันนี่แหละที่จะล้มขบวนการค้ายาของไอ้พี่บังให้ได้”
ภควัตกระแนะกระแหน “แต่ก่อนเห็นบ่นแล้วบ่นอีก ไม่ทำ ไม่เอา ไม่เสี่ยง ตอนนี้ชักติดใจ ไม่เอา ไม่เลิก ทำไม...มีใครมันดึงดูดใจให้อยากเสี่ยงทำงานนี้แล้วล่ะสิ”
“เดี๋ยวๆ ผู้กอง น้ำเสียงแบบนี้ มันเหมือนกำลังหึงฉันอยู่นะ”
ภควัตรู้ตัวว่าพลาดที่แสดงอารมณ์ออกไป แต่ก็เถียงเสียงแข็ง ไม่ยอมรับ
“หึง หึงเธอ...มีโรงพยาบาลไหนเค้ารักษาโรคหลงตัวเองบ้าง ฉันจะรีบพาเธอไปรักษาคนแรก”
“ไม่หึงแล้วทำไมต้องประชดฉันด้วย...หรือว่า...อย่าบอกนะว่าหึงฉันกับพี่คม”
ภควัตโมโหกลบ “หึงเธอกับอธิคม...นี่อัญมา เธอนี่เพี้ยน หลงตัวเองเข้าขั้นร้ายแรง ที่ฉันพูดทั้งหมด เพราะฉันกลัวเธอไม่มีสติ ทำงานไม่ได้เรื่อง มัวแต่โปรยยิ้ม...ไร้สาระ...”
“ฉันจะยิ้มกับใคร มันก็เรื่องของชั้นนะ ตราบใดที่ฉันยังทำงานได้ เอาข้อมูลมาให้ได้ คราวที่แล้วฉันก็ไม่ได้พลาด แต่พวกตำรวจอย่างคุณ มันงี่เง่า ใจร้อนเอง ของน่ะอยู่ในเรืออีกลำ พวกคุณทำให้อธิคมโกรธมากและต้องการจะจับให้ได้ว่ามีสายตำรวจหรือเปล่า แล้วฉันก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยรู้มั้ย ฉันเกือบตายไปแล้ว”
“ผมขอโทษ เพื่อนผม สารวัตรกฤษณ์เค้าใจร้อนเกินไป แล้วคุณรู้มั้ยมันเอาของทั้งหมดไปซ่อนไว้ที่ไหน”
“ฉันไม่รู้ อธิคมยังไม่ยอมให้ฉันช่วยขน มีแต่ลูกน้องเก่าเท่านั้นที่เข้าไปได้”
“ไหนว่าเจ๋ง เรื่องแค่นี้ ยังล้วงออกมาไม่ได้”
อัญมานึกสนุก “โอเค คราวหน้าฉันจะยิ้มให้หวานกว่านี้ แต่งตัวให้ยั่วอารมณ์อธิคมมากกว่านี้”
ภควัตตาวาว แต่อัญมาไม่ทันสนใจมอง มัวแต่วางท่าเชิดหยิ่งมาดคุณหนู
“เสน่ห์ของคุณหนูอัญมามันจะใช้ละลายใจพ่อค้ายาไม่ได้...ก็ให้รู้ไป”
อัญมาหันมายิ้มกวนใส่ภควัตแล้วเดินเชิดไป ภควัตน้อยใจโดยประหลาด ตามไปทันที

อีกฟากหนึ่ง สองพ่อลูกอยู่ในห้องทำงานบนตึก อธิคมยืนมองไปไกล จนวินิจเอ่ยเสียงแข็ง ไม่พอใจเท่าไหร่
“แกไว้ใจไอ้อัญมันเกินไป ปกป้องมันเกินไป จะเสียการปกครอง”
อธิคมโต้แทน “อัญไม่ใช่สาย”
“แกกำลังหลงผู้หญิง”
“ผู้หญิงอย่างไอ้อัญ มีอะไรน่าหลงเหรอพ่อ ผมหาดีกว่านี้ได้เป็นสิบ”
อธิคมตอบปิดบังความรู้สึกตัวเองทันที วินิจมองลูกชายอย่างรู้ทันกัน
“ไอ้อัญมันไม่เหมือนผู้หญิงที่มานอนเสนอตัวให้แกทุกคน เพราะไอ้อัญมันไม่สนใจแก แกถึงวิ่งตามมัน”
“พ่อเคยชมว่าไอ้อัญมันเก่งไม่ใช่เหรอ ผมก็กำลังหาวิธีดึงคนก่งไว้ใช้งาน” อธิคมอ้าง
“แกคิดจะโกหกพ่อตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่”
อธิคมหลบสายตาไปอีกด้าน แววตาดื้อรั้น
“แกมันหัวดื้อ คิดว่าตัวเองเก่งกว่าใคร คราวก่อนฉันก็เตือนแล้ว ว่าแกไม่ควรไปส่งของเอง แต่แกอวดดี จนถูกจับ แกรู้มั้ย ความหวังที่ฉันจะส่งแกไปทำงานเป็นใหญ่เป็นโต เป็นนักการเมืองมันดับลงเพราะความรั้น อวดดีของแก”
“ถึงผมไม่ได้เป็นนักการเมืองอย่างที่พ่อหวัง แต่สมองผมก็หาทางขนของ หาเงินให้พ่อมาได้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว”
วินิจตาวาวด้วยความโกรธ พูดเสียงกร้าว
“แกคิดว่าฉันโง่กว่าแกเหรอ อธิคม ฉันยิ่งใหญ่ในวงการนี้มา จนทุกคนยกให้ฉันคือเบอร์หนึ่ง แกเป็นลูกชายคนเดียวของฉัน แกต้องสืบต่อความยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้ ต้องยิ่งใหญ่กว่าที่ฉันเป็น แล้วถ้าแกยังหลงนังผู้หญิงคนเดียว จนเสียเรื่อง ถ้าแกพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าพ่อในวงการนี้ อย่าคิดนะ ว่าลูกชายคนเดียว ฉันจะทำลายด้วยมือของฉันไม่ได้”
วินิจเดินฉุนเฉียวออกไป อธิคมยืนนิ่งกดดันกับสิ่งที่พ่อต้องการให้ยิ่งใหญ่

อัญมาโยนขนมปังให้อาหารปลาอยู่ตรงท่าน้ำวัด ภควัตเดินตามมาถาม
“อัญมา ถ้าผมจะให้คุณเลิกไม่ต้องทำงานนี้”
อัญมาหันขวับ “ทำไม”
“งานนี้มันเสี่ยงเกินไป ถ้าเกิดถูกจับได้ว่าคุณคือสายตำรวจ...”
อัญมาหันมามอง เห็นภควัตสีหน้าเครียด
“เคยมีคนถูกจับได้เหรอ”
ภควัตพยักหน้าช้าๆ “เคยมี สายของเราเข้าไปเป็นนิ้วในกลุ่มพวกมันอยู่หลายปี จนพวกมันกำลังจะยกให้เป็นหัวหน้า แต่ถูกจับได้ ก่อนเราจะทะลายรังพวกมัน”
“แล้วตำรวจคนนั้น... เค้าเป็นยังไง”
“พวกมันต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู ต้องการให้เรารู้ว่าขบวนการของพวกมันแข็งแกร่ง มีอำนาจแค่ไหน”
อัญมาซัก “เกิดอะไรขึ้น”
“มันฆ่าหมดทั้งครอบครัว แล้วก็ส่งศพของสาย กับ ลูก เมียมาทิ้งไว้ที่กรม”
ภควัตนิ่งอั้นไป อัญมาหน้าตาตกใจ นึกไม่ถึง
“พวกเราเจ็บแค้นแทนเพื่อน แทนนาย...ตำรวจหลายคนยอมทิ้งคนรัก ครอบครัวทิ้งชีวิตสุขสบาย เพื่อกำจัดขบวนการค้ายาให้หมดไปให้ได้”
อัญมาย้อนเอา “แล้วคุณจะมาให้ฉันเลิก”
“อัญมา...ผมไม่ได้เล่าเพราะจะขู่คุณ ผมเห็นแล้วว่ามันไม่ละเว้นคุณแน่ มันสงสัยคุณมาก”
“แล้วตอนแรกมาชวนฉันทำงานให้ทำไม” อัญมาจ้องตาผู้กองหนุ่ม
“ผมไม่คิดว่าคุณจะบ้าระห่ำ ทำได้ทุกอย่าง”
“เพราะอะไร เพราะฉันเป็นคุณหนูอัญมา ดูงี่เง่า ง้องแง้ง เพ้อเจ้อ พูดแต่เรื่องคฤหาสน์หรู ร้องหาแต่คุณพ่อคุณแม่งั้นเหรอ”
“เปล่า ผมให้คุณทำงานเพราะคุณคือ ไอ้อัญ ผมไม่รู้หรอกว่าคุณหนูอัญมามีชีวิตสวยหรูมายังไง ผมคิดแต่ว่าไอ้อัญคือเด็กเดินยาที่คงพอจะได้ฟังได้ยินอะไร แล้วก็เอามาบอกผมได้ แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะกล้าเสี่ยงขนาดยอมตามติดอธิคม”
“เพราะฉันก็เหมือนคุณ เหมือนตำรวจคนนั้นที่ยอมตาย”
ภควัตมองอัญมาที่แววตาน่วแน่
“ฉันเห็นเด็กต้องติดยา ฉันส่งยานรกให้พวกเค้าด้วยมือคู่นี้ เท่ากับฉันเองที่ยื่นชีวิตเลวร้าย ตายทั้งเป็นให้เด็ก ให้ครอบครัวพวกเค้า วันนี้ฉันเพิ่งความจริงรู้ว่า เพราะความคิดชั่ววูบ ไอ้อัญถึงได้ติดยา แล้วก็เลิกไม่ได้ จนคิดจะจบชีวิตด้วยความตาย”

ขณะเดียวกันนี้ ไอ้อัญในร่างคุณหนูอัญมายังนอนนิ่งมีเครื่องช่วยหายใจอยู่บนเตียงในห้องคนไข้วีไอพี

นิ้วมือไอ้อัญเริ่มกระดิกขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

ด้านภควัตมองอัญมาที่พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“คุณบอกฉันเองว่าฉันมาอยู่ที่นี่ คงเพราะเหตุผลอะไรสักอย่าง ตอนนี้ฉันก็เหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่ ในขณะที่ไอ้อัญตัวจริงได้แต่นอนนิ่ง ไม่รู้ร้อนรู้หนาว เหมือนจะให้ฉันได้ช่วยทำดีชดใช้ความผิดที่เค้าเคยขายยาให้เด็กๆ”
ภควัตมองอัญมาด้วยสายตาพิจารณาลึกซึ้ง
“มีกี่คนที่จะได้ใช้ชีวิตคุ้มค่าแบบฉัน เป็นทั้งคุณหนูอัญมา ทั้งไอ้อัญ ขายยาในเมื่อฉันมีโอกาสพิเศษกว่าคนอื่น ทำไมฉันถึงจะทิ้งมันไป ทำไมชีวิตฉันถึงไม่ทำประโยชน์ให้คนอื่นบ้าง บางทีถ้าฉันทำความดีมากพอ ฉันอาจจะได้กลับไปใช้ชีวิตเป็นคุณหนูอัญมา ได้เจอคุณพ่อคุณแม่ที่ฉันรัก”
“คุณจะมีผมเป็นกำลังใจ”
“ฉันจะทำงานนี้ต่อ ฉันจะเป็นสายให้ตำรวจ จนกว่าเราจะทำลายแก๊งค้ายาที่ใหญ่ที่สุดนี่ได้ด้วยกัน”
ภควัตมองหวั่นใจ ในขณะที่อัญมายิ้มให้อย่างเข้มแข็ง

อัญมาเดินกลับเข้ามาในชุมชน กำลังจะตรงไปที่บ้าน อธิคมเดินก้าวออกมาดักไว้
“หายไปไหนมา”
อัญมายังไม่ทันตอบ อธิคมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“มารอตั้งนาน มีเรื่องอยากคุยด้วย”

ส่วนที่ฐานลับ ภควัตยืนคิด หน้าเครียดเรื่องอัญมา กฤษณ์เดินมาจากด้านหลัง มองแล้วถามขึ้น
“แกคิดจะทำอะไรอีก”
“ยังไม่ได้คิด”
“วัต ฉันขอคุยกับแกแบบเพื่อน”
ภควัตมองกฤษณ์
“ฉันทุ่มเทให้งานนี้เท่ากับๆที่แกทำ เพราะฉะนั้น มีอะไรที่แกรู้ แกต้องบอกฉันเหมือนที่บอกผู้การจักรภพ”
“เสียใจว่ะ เพื่อน ฉันไม่เคยทำตามคำสั่งใคร ถ้าเห็นว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ปลอดภัยสำหรับแผนทั้งหมด เพราะแม้แต่สายคนเดียว ฉันก็มีหน้าที่ต้องรักษาชีวิตเค้าไว้ให้รอด ฉันจะไม่เอาชีวิตใครมาต่อรอง มาเป็นฐานใช้เหยียบขึ้นไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง”
ภควัตมองสู้สายตากับเพื่อนด้วยความไม่พอใจ จนกฤษณ์หันหลังเดินออกไปเอง ผู้กองหนุ่มมีสีหน้านิ่งคิดอย่างหนักใจ
“อัญมา ผมต้องทำให้คุณถอนตัวออกมาอย่างปลอดภัยให้ได้”

ภายในในร้านกาแฟตอนนี้ อธิคมนั่งอยู่ตรงข้ามอัญมา
“ฉันก็ไม่รู้ทำไมถึงต้องคิดถึงเธอคนแรก เวลาที่ไม่สบายใจ”
อัญมายิ้มสนุก “เพราะฉันบ้าๆบอๆไงล่ะ พี่คมคงเห็นฉันตลกๆ ใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ใช่ เธอไม่ใช่คนบ้าๆบอๆ เธอเป็นคนฉลาด”
อธิคมมองจ้องลึกลงไปในตาอัญมา
จ่าเดชเดินเข้ามาซื้อกาแฟสายตามองไปเห็นอัญมากับอธิคม รีบหลบวูบหาโต๊ะนั่ง สังเกตการณ์
“ฉันไม่เคยมีใครที่คุยได้จริงๆจังๆ ฉันมันคนแย่ๆ คนนึง...คนใจร้ายมากใช่มั้ยถึงไม่มีใครจะอยากเข้าใกล้ ชีวิตแบบนี้...อยู่ไปก็ไม่มีค่ากับใคร”
อัญมาเอื้อมมือมากุมมืออธิคมอย่างปลอบใจ
“ไม่มีใครเกิดมาไม่มีค่าหรอก”
อธิคมมองอัญมาแววตาลึกซึ้ง เอ่ยขึ้นมาเสียงจริงจัง
“ฉันจะเลิก”
“เลิก เลิกอะไร” อัญมาลดเสียงลง “ขายยาน่ะเหรอ”
“ฉันไม่อยากมีชีวิตแบบนี้ ไม่อยากตายอย่างโดดเดี่ยว ฉันอยากไปอยู่ที่ไหน
สักแห่งไกลๆ แล้วก็เริ่มต้นชีวิตใหม่”
อธิคมเป็นฝ่ายเลื่อนมือมากุมมืออัญมาไว้
จ่าเดชที่แอบมองจากอีกโต๊ะตาลุกวาว กรอกเสียงลงมือถือ พากย์บอกภควัต
“ผู้กองครับ ตอนนี้...หวานซึ้ง โรแมนติกสุดๆ”

ภควัตของขึ้น ฟังจ่าเดชที่กำลังโทร.มารายงานด้วยสีหน้าทั้งหึงทั้งหวงแบบไม่รู้ตัว
“เล่ามาให้ละเอียดจ่า ไอ้อัญมันทำอะไร คุยอะไรกับอธิคม”

อัญมามองอธิคมด้วยสายตาแปลกใจ
“พี่คมคิดจะเลิกจริงๆ เหรอ”
“ฉันไม่อยากตายในคุก...ฉันเคยอยู่ในนั้น”
อัญมามองเห็นสีหน้าอันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดขมขื่นของอธิคม
“ไม่มีสักวัน...ที่เราจะหลับตาลงได้อย่างสนิทใจ”
“พี่คม”
อธิคมมองอัญมาที่มองมาด้วยแววตาสงสาร
“อัญ ...ถ้าฉันจะชวนเธอไปเริ่มต้นชีวิตด้วยกัน เธอจะไปกับฉันมั้ย”
อัญมายังอึ้ง อธิคมกุมมือหล่อนไว้ มองด้วยแววตาเว้าวอน
“ไปอยู่กับฉันนะ อัญ”
อัญมายังอึ้งนิ่งงันอยู่ แต่อธิคมยกมืออัญมาขึ้นมาจูบเบาๆ ส่งสายตาหวานซึ้ง
จ่าเดชเดชากดมือถือถ่ายภาพนั้นไว้ได้ทันที

ภควัตกดเปิดไลน์ เห็นภาพอธิคมกำลังจูบมือ สบตากับอัญมาที่จ่าเดชส่งมาให้
ภควัตหน้าแดงด้วยความโมโห หันรีหันขวางแล้วถีบผนังโครม ระบายความหึงที่กำลังแล่นพล่านเป็นริ้วๆ ทั่วกาย
“นี่ใช่มั้ย อัญมา เหตุผลจริงๆ ที่เธอไม่ยอมถอนตัวจากงานนี้”

ฟากอัญมามองตะลึงอธิคมที่กุมมือตัวเองไว้ อธิคมถามซ้ำ
“ไปเริ่มชีวิตใหม่กับฉันมั้ย อัญ”
อัญมาพยายามหาทางออกจากสถานการณ์น่าอึดอัดด้วยการพูดเล่นตลกๆ เปลี่ยนเรื่อง
“พี่คม นี่ชอบอำคนเหมือนกันนะ”
จ่าเดชเดชาชะเง้อมองด้วยความอยากรู้
“ฉันไม่ได้อำ ฉันพูดจริงๆ”
อัญมายิ่งพูดไม่ออกเพราะสายตาจริงจังของอธิคมคู่นั้น
จ่าเดชซุ่มซ่ามไม่ทันระวัง เอียงตัวฟังจนชนเก้าอี้อีกโต๊ะ ล้มลงเสียงดัง อธิคมหันขวับมองไปทางเสียง จ่าเดชทำเป็นก้มหน้า หยิบเก้าอี้ แล้วหันมาอ่านหนังสือ แต่ไม่รอดสายตาอธิคม เขารีบหันมาบอกอัญมา
“ไปกันเถอะ”
“ไปไหน ทำไมล่ะพี่คม ยังคุยกันไม่จบเลย”
“ไว้คุยทีหลัง ตรงนี้มีตำรวจ”
อธิคมกระชากมืออัญมาลุกออกไปอย่างเร็ว อัญมามองสบตาจ่าเดชที่ได้แต่มองตามอย่างเจ็บใจตัวเอง

ที่ฐานลับไม่นานต่อมา ภควัตมองจ่าเดชที่กำลังเล่าใส่ไข่ด้วยท่าทางโอเว่อร์
“ไอ้อธิคมมันทั้งจับ ทั้งจูบ ลูบ คลำ ขยำขยี้ไอ้อัญ”
“พอแล้วจ่า เอาเนื้อๆ น้ำไม่ต้อง อัญมาคุยอะไรกับอธิคม”
“ผู้กองนี่ถามพิลึก คนเค้ากิ๊กกัน จีบกันหนุงหนิง มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้ง เรื่องอะไรเค้าจะคุยให้ลั่นร้าน ถ้ามีเครื่องดักฟังติดใต้โต๊ะก็ว่าไปอย่าง”
ภควัตตัดบท “สรุปว่า จ่าก็ไม่รู้ว่าสองคนนั้นคุยอะไรกัน”
“ถึงผมไม่รู้ เดี๋ยวไอ้อัญมันก็มาบอกผู้กองอยู่แล้ว”
“บางเรื่องเค้าก็ไม่บอกผม”
ภควัตบอกประชดแล้วหันหลังเดินออกไปสีหน้าหงุดหงิด น้อยใจ จ่าเดชมองตามสงสัย
“งอน หรือ โกรธวะเนี่ย ฮื้อ จะงอนทำไม เป็นแฟนกัน หลอกชาวบ้านสักกะหน่อย”

อธิคมกำลังขับรถมาตามทาง มุ่งหน้ากลับชุมชน มีอัญมานั่งข้างๆ
“พี่คมคงไม่ไปส่งฉันถึงบ้านใช่มั้ย”
“ทำไมล่ะ กลัวแฟนที่เป็นเซียนพระ มันเห็นหรือไง”
“พี่วัตน่ะเหรอ ฉันไม่กลัวเลย”
อธิคมเหลือบมองสังเกตท่าทางอัญมาที่พูดถึงภควัต
“ฉันชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้อยู่แล้ว แต่ฉันกลัวพี่เสียการปกครองมากกว่า ถ้าคนอื่นเห็น มันจะนินทาหาว่าพี่เอาใจฉัน”
“ใครพูด ฉันจะเตะปากมัน”
“ขืนพี่เตะปากพวกมัน ฉันก็ยิ่งถูกหมั่นไส้น่ะสิ ฉันไม่อยากเป็นคนโปรดแล้วโดนเขม่นลับหลัง”
อัญมาแกล้งหยอดเสียงเศร้า
“แค่นี้คนมันก็มองว่าชั้นประจบพี่ มีแต่คนไม่ไว้ใจฉัน ระแวงฉันสารพัด”
อธิคมของขึ้นอีก จอดรถพรึ่ดลงริมถนนใกล้ทางเข้าชุมชนทันที
“ใครพูด บอกมา อัญ...ฉันจะไล่มันออก”
“พี่คมอย่าใจร้อนสิ ช่างมันเถอะ ฉันไม่ได้จะเอาเรื่องอะไร เพราะฉันบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว แค่ไม่อยากเป็นตัวปัญหา แล้วพี่คมต้องเดือดร้อนไปด้วย”
“ฉันคุ้มครองเธอได้ มีอะไร บอกฉันทุกเรื่องนะ อัญ”
“จ้ะ ฉันรู้ว่าพี่คมไว้ใจฉัน ช่วยฉันได้ทุกอย่าง”
อัญมาทำเป็นยิ้มหวานให้อธิคมอย่างโปรยเสน่ห์
“ฉันลงตรงนี้ก่อนนะ”
อัญมารีบเปิดประตูรถลงมา โบกมือบ๊ายบายให้ อธิคมขับรถเลยออกไป อัญมาหันมา กำลังจะเดินไปที่ทางเข้าซอย ผู้กองภควัตในคราบเซียนพระ เดินสวนเข้ามา
“อ้าว ผู้กอง”
ภควัตลงมาดึงแขนอัญมาจนตัวปลิว
“ไปกับชั้น”
“ไปไหน” อัญมายื้อตัวไว้ดิ้นหนี
“อย่าถามมากเรื่องน่ะ”
“อย่ามาใช้กำลังกับฉันนะ” อัญมาฉุนกึก
“จะร้องเหรอ อยากให้คนแห่กันมาล่ะสิ อ๋อ...หรือว่าอยากให้อธิคมมันย้อนกลับมา”
อัญมาแว้ดใส่ “นี่!!! อย่ามาพาล”
ภควัตสืบเท้าเดินเข้าใกล้ “ทำไมฉันจะพาลไม่ได้ เธอทำเกินหน้าที่สายลับ...มานี่”

อัญมาถูกภควัตกระชากแขนอย่างแรง พาเดินออกไปทันที

ภควัตจับข้อมือลากอัญมาไปหาที่คุย อัญมาเดินไปโวยไป

“ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย”
“เอาเลย ผัวเมียตีกัน ไม่มีใครเค้าอยากยุ่งหรอก”
“ฉันไม่ใช่เมีย” อัญมาขึ้นเสียง แล้วรู้ตัวรีบลดเสียงลง “ผู้กอง”
ภควัตรวบตัวอัญมามาใกล้
“อย่าเสียงดังสิ ตอนนี้ฉันไม่ใช่ผู้กอง ฉันเป็นไอ้วัต เซียนพระ”
“ก็ปล่อยฉันสิ”
อัญมาดิ้นหนี ภควัตรวบตัว ใบหน้าอัญมาเกือบชนกับหน้าภควัต สองคนมองกันในระยะประชิด
“ร้องดังๆ ให้คนมาดูเยอะๆ เดี๋ยวจะจูบโชว์”
อัญมารีบเม้มปาก ภควัตแกล้งทำหน้าขึงขัง เอาจริง
แอนนี่เดินมาเห็นภควัตกับอัญมาก็โวยวายเสียงดัง
“อุบาทว์ อุจาด ทุเรศ มายืนกอดกันไม่อายชาวบ้าน”
อัญมาหันมาเห็นแอนนี่ก็หมั่นไส้ สวนกลับไป
“คนที่ชอบมาสอดเรื่องชาวบ้านน่ะ ทุเรศกว่า”
“อีอัญ”
อัญมาชี้หน้า “อย่านะ อย่ามาขึ้นอี ขึ้นไอ้ กับชั้นนะ”
“เหรอยะ แม่นางฟ้าตกสวรรค์ ดัดจริตทำเป็นหัวสูง เอากระจกส่องดูสารรูปตัวเองซะมั่งสิวะ”
อัญมาเย้ย “นี่ขนาดฉันโทรม ผู้ชายยังตามจีบ แจกบัตรคิวแทบไม่ทัน”
แอนนี่แทบกระอัก “อี...”
อัญมากำหมัด ชูขึ้น “อีอีกคำ เธอได้ไปอัพดั้งใหม่แน่ แอนนี่”
แอนนี่รีบเอามือกุมจมูกด้วยความกลัว ถอยหลังหนีสองสามก้าว
ภควัตบอก “ไปซะ แอนนี่ อย่ามาหาเรื่องแฟนพี่”
แอนนี่ฮึดฮัด “พี่วัตอ่ะ แอนนี่สวยเซ็กส์ สะบึมอารมณ์กว่าไอ้อัญ ทำไมไม่มองแอนนี่”
“ก็อัญเค้ามาก่อน พี่รักเดียวใจเดียว คบทีละคน” ภควัตสวมบทเซียนพระนักรัก
“งั้นแอนนี่จะทำให้พี่วัตเลิกกับไอ้อัญ แล้วมาคบกับแอนนี่ให้ได้ คอยดู”
อัญมารำคาญ แกล้งควงแขนภควัตประชด แอนนี่เต้นเร่าๆ
“เร็วๆ หน่อยนะ แอนนี่ ไม่อยากรอถึงชาติหน้า”
“ไอ้อัญ แกอย่าเผลอนะ ฉันแย่งพี่วัตแน่”
อัญมาควงแขนภควัตเดินเชิดใส่ออกไป แอนนี่เต้นเร่าๆ อยู่อย่างนั้น

เย็นแล้วขณะที่กฤษณ์นั่งเครียดเรื่องงานอยู่ในร้านอาหาร มีสุคนธรสตักอาหารให้ กฤษณ์ไม่แตะ สุคนธรสมองโมโห วางช้อนลงดัง
“กฤษณ์คะ นี่มันเวลาของเราสองคน เลิกคิดเรื่องงานสักทีได้มั้ยคะ”
“ผมมีงานสำคัญนะ รส”
“ไล่จับพ่อค้ายาน่ะเหรอคะ ทำไมต้องเป็นคุณด้วย ถ้าเกิดพลาดพลั้งขึ้นมา...เกิดคุณถูกยิง บาดเจ็บหรือพิการ แต่งงานไม่ได้ละคะ”
“ผมกำลังจะพูดกับคุณเรื่องนี้อยู่พอดี ผมจะขอเลื่อนงานแต่งงานไปก่อน”
สุคนธรสตกใจก่อนอารมณ์จะเปลี่ยนเป็นโมโห “อะไรนะ? ไม่นะคะ คุณกำลังจะทำให้รสอับอายนะกฤษณ์”
“ผมอยากทุ่มเทเวลาให้งานคราวนี้ ผมต้องทำผลงานให้ดีกว่าไอ้วัต เข้าใจผมด้วยนะ รส”
“ไม่ รสไม่เข้าใจ คุณต้องแต่งงานกับรสนะ กฤษณ์”
กฤษณ์ลุกขึ้น สุคนธรสลุกพรวดตาม
“เอาไว้อารมณ์คุณเย็นลงแล้วค่อยคุยกันใหม่ ผมขอตัวไปทำงานก่อน”
กฤษณ์ออกไปเลย ทิ้งสุคนธรสยืนเต้นด้วยความโกรธ หยิบผ้าเช็ดปากขยำลงพื้นด้วยความโมโห
“บ้า บ้าที่สุด อยากไปทำงานนักก็ไป จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย”
สุคนธรสกรีดเสียงโดยไม่อายคนที่พากันมองมาเป็นตาเดียวทั้งร้าน

ริมน้ำ มุมสวยงามไม่กี่แห่งของชุมชน ภควัตยืนเผชิญหน้ากับอัญมาที่กอดอกมองไม่พอใจ
“อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นผู้ร้าย มีอะไรจะพูดก็พูดมาเลย”
“ผมจะให้คุณถอนตัวจากงานเป็นสายให้ตำรวจ”
“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ผู้กอง บอกว่าฉันไม่ถอนตัว ฉันจะทำงานนี้ให้สำเร็จ”
“ไหนคุณเคยกลัวสารพัด เบี้ยเลี้ยงก็น้อย...ถ้าเกิดพลาดพลั้งขึ้นมา อาจจะถึงตายได้ไง”
“อย่ามาขู่ตอนนี้ ฉันตั้งใจแล้วว่าจะใช้โอกาสนี้ ทำความดี”
“แล้วถ้าคุณไม่ได้กลับไปเป็นคุณหนูอะไรนั่นอย่างที่คุณเพ้อล่ะ”
“นี่ อย่ามาเบี้ยวนะ คุณสัญญากับฉันแล้วว่าจะช่วยฉันหาวิธีให้ฉันได้กลับเป็นไปเป็นคุณหนูอัญมา”
ภควัตยักไหล่พรืด ทำท่าไม่สนใจ “ก็ไม่รู้ ผมอาจจะเปลี่ยนใจแล้ว”
อัญมามองท่าทางยียวนของภควัต แล้วกระชากแขนภควัตมา
“อย่าคิดจะเบี้ยวคนอย่างคุณหนูอัญมา”
“ผมไม่ได้เบี้ยว ผมห่วงคุณ”
ภควัตหลุดปากไป อัญมามองตาปริบๆ นึกไม่ถึง ภควัตรีบแก้
“ห่วงว่าถ้าคุณเป็นอันตราย ป้าอุบลแกคงเสียใจมากที่ต้องเสียลูกสาวคนเดียวไป”
“ฉันไม่ใช่ลูกสาวของป้าอุบล อัญมาคนที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล ในร่างฉันต่างหาก ที่เป็นลูกของป้าอุบล”
“เอาล่ะ...เอาล่ะ จะอัญมาไหน สรุปว่า ผมขอให้คุณถอนตัว”
“ดูปากฉันนะ บอกว่า...ไม่”
อัญมาเดินผ่านหน้าภควัตไปอย่างกวนๆ ภควัตระงับอารมณ์ไม่ไหว ถามโพล่งขึ้น
“มีความสุขนักหรือไงได้อยู่ใกล้อธิคมน่ะ”
อัญมาหันมามองภควัตที่สีหน้าเคร่งเครียด แล้วหมั่นไส้ ตอบประชดใส่
“คงงั้นมั้ง อย่างน้อยอธิคมเค้าก็ปากตรงกับใจ”
“มันบอกรักเธอหรือไง”
“ยิ่งกว่าบอกรักอีก”
อัญมายิ้มยั่วโมโห ภควัตพุ่งเข้าจับแขนสองข้าง ดึงอัญมามาใกล้
“มันทำอะไร”
“เรื่องของชั้นกับอธิคม คุณไม่เกี่ยวนะ ผู้กอง”
ภควัตยิ่งโมโหเขย่าร่างอัญมา “ผมต้องรู้ทุกเรื่องของสายลับ บอกมา อธิคมมันทำอะไร”
“อธิคมเค้าชวนฉันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่”
“อธิคมขอเธอแต่งงาน”
“คนอย่างอธิคมเหรอจะแต่งงาน เค้าแค่อยากได้คนที่คอยรับฟัง อยู่ข้างๆ เค้า คนอย่างอธิคมไม่รู้จักความรักแบบที่เสียสละให้คนอื่นหรอก แทนที่คุณจะมาสงสัยคาดคั้นเอากับฉัน คุณควรจะดีใจนะว่าฉันเป็นคนที่อธิคมไว้ใจ”
“อธิคมมันเจ้าเล่ห์มากกว่าที่เธอรู้นะ อัญมา มันอาจจะหลอกให้เธอตายใจให้เธอคิดว่า ตัวเองเป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุด”
“ฉันว่าอธิคมกำลังสับสน เค้าพูดว่าอยากเลิก ไปใช้ชีวิตใหม่”
“มันโกหกเธอแล้ว หรือไม่มันก็คงพูดตอนเมายา”
อัญมาชักฉุน “นี่คุณจะมองใครในแง่ดีบ้างได้มั้ย”
“คนที่เธอพูดถึง คือ พ่อค้ายาเสพติด คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่เราจะไว้ใจได้ มันเลือดเย็นพอที่จะมองคนตายไปต่อหน้าต่อตา”
“ฉันรู้ว่าฉันกำลังเจอใคร กำลังทำอะไร คนอย่างฉัน คุณหนูอัญมา ตัดสินใจจะลงมือทำอะไรแล้ว ฉันต้องทำให้สำเร็จ เลิกพูดเรื่องถอนตัวกับชั้น คุณควรจะรีบวางแผนทะลายแก๊งนี้ให้ได้นะผู้กองภควัต เพราะถ้าขนของคราวหน้ายังจับนายวินิจกับอธิคมไม่ได้ ต้องมีเด็กติดยาเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยหลายพันคน”
อัญมาหันหลังเดินเชิดไปอย่างคนที่มั่นใจในตัวเองเต็มที่
ภควัตมองตามตาขุ่นขวาง หงุดหงิดใจที่ห้ามอัญมาไม่ได้เลย

คืนนั้นขวัญอนงค์ยืนรออยู่หน้าบ้านเล็กนานแล้ว จนมองเห็นภควัตในคราบเซียนพระเดินตรงเข้ามา ก็ร้องเรียกอย่างตกใจ
“พี่วัต”
“คุณน้อง”
“ตายแล้ว ทำไมหน้าตา เนื้อตัว เสื้อผ้าถึงมอมอย่างนี้ละคะ หนวดเคราก็ไม่โกน”
ภควัตหน้าตาเจื่อน ๆ

ภายในโถงกลางหน้าบันไดคฤหาสน์ ภควัตในคราบเซียนพระนั่งอยู่ตรงหน้าคุณหญิงวรจันทร์ กับ ท่านอภิกานต์ที่มองมาด้วยสายตาห่วงใย
คุณหญิงมองสภาพภควัตแล้วลูบหัว น้ำเสียงหญิงชราเป็นห่วงเป็นใยเขามาก
“วัตเปลี่ยนไปมากนะลูกนะ”
“ผมต้องปลอมตัวเข้าไปสืบน่ะครับ คุณป้า”
“ลุงคุยกับท่านอธิบดีแล้ว แก๊งนี้มันมีอิทธิพลมากนะวัต”
“ผมก็ระวังตัวอยู่ครับ คุณลุง ผมเคยจับลูกชายมันเข้าคุกมาแล้ว แต่มันก็รอดออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ”
ภควัตมีสีหน้าเจ็บแค้นขึ้นมา
“ผมปล่อยให้มันทำผิด เย้ยกฎหมายอีกไม่ได้”
“วัต...ป้ารู้ว่าขวางความตั้งใจของวัตเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ถ้าป้าจะขอให้วัตทำให้ป้าสบายใจสักเรื่องได้มั้ย”
ภควัตยิ้มหวาน “ถ้าผมทำได้ ผมจะทำทันทีครับคุณป้า”
“ป้าอยากให้วัตแต่งงาน มีครอบครัวได้แล้ว รักชอบใครก็พามาแนะนำกับลุงกับป้านะ”
“โธ่ คุณป้าครับ ไม่มีหรอกครับ ผมยังไม่พร้อม ไม่อยากพาผู้หญิงมาลำบากด้วย”
ท่านอภิกานต์ท้วง “เป็นหลานสะใภ้รัฐมนตรีอภิกานต์ มีอะไรต้องลำบาก”
“นั่นน่ะสิ ถ้าวัตไม่มีเวลา ป้าช่วยหาให้มั้ย”
“ไม่เป็นไรครับ” ภควัตกอดประจบคุณหญิงวรจันทร์ “ผมกลัวคุณป้าเหนื่อย”
“ไม่รู้ล่ะ ป้าถือว่าเป็นหน้าที่ของป้า ไม่ว่าวัตจะคบใครป้าจะต้องช่วยดูให้ ว่าผู้หญิงคนนั้นดีพอสำหรับวัตหรือเปล่า ไม่ใช่มาสร้างภาพว่าเป็นคนดี สุดท้ายก็มาทำให้วัตต้องเจ็บเหมือน…”
ท่านอภิกานต์รีบเตือนผู้เป็นภรรยา “คุณ”
“เอ่อ..คือ ผม...”
“เรื่องนี้วัตต้องตามใจป้า ป้าจะช่วยดูผู้หญิงที่จะมาเป็นหลานสะใภ้ของป้าให้เองป้ารัก และหวังดีกับวัตนะลูก”
“เชื่อคุณแม่เถอะค่ะ พี่วัต” ขวัญอนงค์เสริม
“ป้าแกเลือกเองอย่างนี้ คงไม่มีใครกล้ามาหักอกแกอีกได้หรอก...วัตเอ้ย”
ท่านอภิกานต์แซว คุณหญิงวรจันทร์มองสรุปให้จบเสร็จสรรพ ไม่ยอมให้ภควัตปฏิเสธได้อีก

ภควัตกลับเข้าบ้านเล็กของเขา ผู้กองหนุ่มทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มด้วยความเหนื่อยอ่อน ภาพอัญมาที่โต้เถียง ผุดย้อนเข้ามาในความคิด
“อธิคมเค้าชวนฉันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่”
ภควัตนอนพลิกกระสับกระส่าย อย่างไม่เข้าใจตัวเอง
“แกจะมัวคิดถึง อัญมา ผู้หญิงประหลาดๆ คนนั้นทำไมวะ”
ภควัตถอนใจ พยายามสลัดภาพอัญมาออกจากหัวทั้งที่รู้ว่าไม่สำเร็จ!

ด้านอัญมานั่งมองอุบลที่กำลังจัดของเตรียมไปขายพรุ่งนี้เช้า แล้วเอ่ยถามขึ้น
“ป้าแน่ใจนะ ว่าฉันไม่มีคู่แฝด”
อุบลฉุน “ไอ้อัญ เอ็งจะถามทำไม ตกน้ำตกท่าคราวนี้ ท่าจะเป็นเอามากนะ แม่ว่าไปหาหมอหน่อยมั้ย”
“ฉันสบายดี อยากรู้อะไรนิดหน่อย ป้าเล่าเรื่องของป้ากับไอ้อัญให้ฉันฟังหน่อยสิ เอาที่ฉันไม่เคยรู้นะ”
อุบลวางมือจากของมองลูกสาวนิ่งแล้วถอนใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อ... สงสัยยาบ้ามันจะทำลายสมองเอ็งไปหมดแล้วจริงๆ บอกแล้วอย่าไปลองยานรกพวกนั้น นี่ถึงกับจำแม่ไม่ได้”
อัญมาคร้านจะทะเลาะเรื่องนี้ “ป้าจะเข้าใจอย่างงั้นก็ได้ แต่ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อย ที่ป้าเล่าว่าเคยจะเอาไอ้อัญไปทิ้งที่บ้านเศรษฐี”
อุบลฉงน “ทำไมเอ็งถึงถามแต่เรื่องนี้ เอ็งรู้อะไรมา”
อัญมาตอบส่งๆ “มีคนมาเข้าฝันฉันมั้ง”
“ใคร ใครเข้าฝันเอ็ง”
“ใครไม่สำคัญ มันจริงใช่มั้ยล่ะ ป้าเคยคิดจะทิ้งลูก ป้าเล่าความจริงให้ฉันฟังหน่อยสิ”
อุบลมองอัญมาแล้วถอนใจหนักหน่วง อย่างคนมีความลับความหลังในใจ

“ตอนแรกแม่ก็ไม่เคยคิดจะทิ้งลูกในไส้หรอก จนกระทั่ง...วันนั้น วันที่พ่อเอ็งไปทำงานส่งของเหมือนทุกวัน”

เรื่องราวหนหลังถูกเล่าจากความทรงจำอันเจ็บปวดของอุบล

ตอนกลางวันวันหนึ่งเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ภายในห้องเช่าในชุมชนแออัด รัตน์ เรืองเดช พ่อของอัญมา ในวัยราว 40 ปี กำลังอุ้มทารกอัญมา ลูกสาวในอ้อมกอด จูบหอมด้วยความรัก อุบลในวัยย่าง 30 เดินออกมาพร้อมปิ่นโต
“ข้าวกลางวันของพี่”
รัตน์หอมแก้มลูกสาวอีกที
“อยู่กับแม่นะ ลูกอัญ อย่าดื้อ อย่ากวน อย่าโยเย เดี๋ยวพ่อไปทำงานแล้วจะรีบกลับมาหานะ”
รัตน์หอมแก้มลูกด้วยความรัก อุบลยิ้มชื่นมองแล้วรับลูกมาจากรัตน์ กอดไว้ในอก
“รีบไปรีบมานะจ๊ะ พี่”
“วันนี้เถ้าแก่ให้ไปส่งของไม่กี่ที่ คงเสร็จเร็ว”
“จ้ะ ขับรถดีๆ นะพี่”
รัตน์เดินจะออกไป แต่ชะงักหยุดแล้วเดินกลับมาหอมแก้มลูกอีกครั้ง ก่อนมองหน้าอุบลกำชับเมียอีก
“ดูลูกดีๆ นะอุบล อย่าให้ลูกไกลหูไกลตา พี่เป็นห่วงนะ”
“จ้ะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ไปทำงานเถอะ”
“พี่ไปก่อนนะ พ่อไปนะลูกอย่าดื้อกับแม่ เป็นเด็กดีนะลูก”
รัตน์มองหน้าลูกและเมียอีกครั้งแล้วเดินออกไป อุบลจับมือทารกน้อยโบกมือ

“ไม่มีใครรู้เลยว่า นั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นหน้ากัน สามพ่อแม่ลูก”
อัญมามองอุบลที่น้ำตาคลอ
“พ่อแกไปส่งของที่ร้านอาหาร ตอนที่มีเรื่องยิงกัน...ครอบครัวตำรวจคนนั้นถูกฆ่า”
“ตำรวจ” อัญมาสะดุดหู
“นายตำรวจที่มากับครอบครัว พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว”
“เกิดอะไรขึ้น”
อุบลหลับตา สะอื้นออกมาด้วยความกลัว
“คนที่ร้านเห็นว่าพ่อแกเข้าไปช่วยลูกๆ ของตำรวจที่ถูกยิง”
อุบลถอนสะอื้น

ในขณะเดียวกันภควัตนอนกระสับกระสายอยู่บนเตียง เหงื่อแตกเต็มหน้า เขาฝันร้ายถึงเหตุการณ์ที่เห็นภาพพ่อแม่ถูกฆ่า พี่สาวถูกยิงต่อหน้า และเป็น รัตน์ พ่อของไอ้อัญ นั่นเองที่เข้ามาขวางกระสุน
อัญมามองอุบลที่น้ำตาไหล
“พ่อแกเอาตัวบังกระสุนแทนเด็กผู้หญิง จนถูกยิงไปด้วย”
ภควัตฝันเห็นภาพเดียวกันนี้ เขาลุกพรวด ร้องดัง
“อย่า...อย่ายิง...อย่ายิง”
ภควัตเหงื่อกาฬแตกเต็มหน้า เจ็บปวดกับภาพอดีตที่ยังตามหลอกหลอนอยู่ทุกวัน

อัญมามองอุบลที่ซับน้ำตาเมื่อนึกถึงความหลัง
“ครอบครัวตำรวจคนนั้นถูกฆ่า เหลือรอดแค่ลูกชายคนเล็กที่แอบอยู่เพราะมันไม่เห็น หลังงานศพพ่อแก ญาติพี่น้องเค้านัดจะเอาเงินมาให้แม่ เค้าบอกว่าจะช่วยเหลือส่งแกเรียนหนังสือ ตอบแทนที่พ่อแกสละชีวิตช่วยหลานเค้า”
“แล้วเค้าก็ไม่เอาเงินมาให้”
“แม่ไม่รู้จริงๆ เพราะตอนนั้นมีคนมาด้อมๆ มองๆ แม่คิดว่าต้องเป็นพวกมือปืนที่อยากจะฆ่าปิดปากเราด้วย แม่เลยไม่กล้าอยู่รอญาติตำรวจ พาแกระหกระเหินหนีไปเรื่อยๆ ไม่มีงานทำ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เงินทองก็ไม่มีติดตัว”
อัญมาคิดตาม แล้วต่อให้ “ก็เลยคิดจะเอาลูกไปทิ้งหน้าบ้านเศรษฐี”
“แม่อับจนหนทางจริงๆ คิดได้อยู่ทางเดียว ว่าถ้าแกเป็นลูกแม่ แกอาจจะอดตาย ไม่มีอนาคต แต่ถ้ามีพ่อแม่เป็นเศรษฐีใจบุญ ลูกก็จะโตขึ้นมาอย่างสุขสบาย”
อุบลมองอัญมาด้วยสายตารู้สึกผิดมาก เล่าเรื่องต่อ

คืนหนึ่งในอดีต อุบลถือตะกร้าเก่าๆ โดยที่ข้างในคือทารกน้อยอัญมา มาหยุดที่กำแพงบ้านอรรณพ
มองเข้าไปเห็นยามนั่งหลับ อุบลมองลูกที่นอนหลับนิ่งในตะกร้า
“อัญเอ๋ย ไม่ใช่แม่ไม่รักลูก แต่อยู่กับแม่ เอ็งจะอดตายไปด้วย”
อุบลกอดลูกแนบอกอีกครั้ง หอมกอดลูกอีกครั้ง แล้ววางลูกลงในตะกร้าที่หน้าบ้านอรรณพ
“เป็นลูกเศรษฐีให้เค้าเมตตาเอ็งดีกว่าเป็นลูกคนจนๆ อย่างแม่ นะลูกนะ”
อุบลมองตะกร้าลูกครั้งสุดท้าย แล้วยกมือจะเอื้อมไปกดกริ่ง ทารกอัญมาลืมตาขึ้นมาร้องจ้า
อุบลมองแล้วส่ายหน้า ตัดใจทำลงไปไม่ได้ วิ่งกลับไปอุ้มลูกขึ้นมาแนบอก ร้องไห้
“ไม่...อัญ แม่ทิ้งลูกไม่ลง จะเป็นจะตาย แม่ก็ทิ้งลูกไม่ได้”

อัญมามองอุบลที่น้ำตาไหลเมื่อนึกถึงความหลังอันแสนเจ็บปวด
“ตั้งแต่นั้นมา จะอด จะอิ่ม จะลำบากแค่ไหน แม่ก็ไม่เคยคิดจะทิ้งแกอีกเลยนะ อัญ ถ้าแม่ทิ้งแกจริงๆ วิญญาณพ่อแกคงไม่มีความสุข”
“พ่ออัญชื่ออะไร” อัญมาถามขึ้น
“พ่อแกชื่อรัตน์ เรืองเดช”
“รัตน์ เรืองเดช”
อัญมาทวนคำอย่างจดจำ

ภควัตเองก็นอนไม่หลับ เขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานพลิกแฟ้มภาพข่าวหน้าหนึ่ง พาดหัว “ฆ่าล้างครัว มือปราบตงฉิน 3 ศพ ฮีโร่พลเมืองดีตายหนึ่ง”
ในภาพเห็นรูป รัตน์ เรืองเดช ที่นอนตายอยู่ด้วย
“รัตน์ เรืองเดช... คุณมีบุญคุณกับผม คุณสละชีวิตช่วยผมไว้”
ภควัตปิดแฟ้ม แววตาเศร้าสะเทือนใจ

ฝ่ายอัญมานอนก่ายหน้าผาก พลิกตัวไปมานอนไม่หลับ ครุ่นคิดเรื่องที่อุบลเล่าเกี่ยวกับอดีตให้ฟัง
“แล้วเราต้องอยู่ในร่างนี้ไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ”
อัญมาคิดแล้วกลุ้มหนัก อยากกรี๊ดเพราะคิดไม่ตก

รุ่งเช้า อัญมาช่วยอุบลเข็นรถขายไก่ทอดมาตามทางในซอย อุบลมองหน้าลูกสาวแล้วถามขึ้น
“เอ็งเป็นอะไร วันนี้หน้าซีดๆ เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ”
อัญมาพยักหน้าหงึกหงัก เข็นรถไปเรื่อยๆ ชาวบ้านผู้หญิง 2-3 คนเดินคุยกันมา
ชาวบ้าน 1 บอกว่า “จริงๆ นะ เจ้าแม่รัศมีท่านเห็นทุกอย่าง แม่นยิ่งกว่าตาเห็นเห็นไปถึงอดีต ใครทำอะไรไว้ ท่านทายตรงเป๊ะๆ พูดแล้วขนลุก”

เพื่อนชาวบ้านพากันตื่นเต้นด้วยความศรัทธา อัญมาได้ยินแล้ว มีสีหน้าแววตาครุ่นคิด

อ่านต่อตอนต่อไป

คีตโลกา ตอนที่ 4 (ต่อ)

ไม่นานต่อมา อัญมาพาตัวเองมาอยู่ในสำนักทรง เจ้าแม่รัศมีผู้มีญาณแก่กล้า มองตรงมาที่อัญมาที่กำลังนั่งลงตรงหน้า เจ้าแม่มองอัญมาแวบเดียวก็ทักขึ้น

“ถ้าไม่เชื่อ ก็อย่ามาลองดีกับข้า”
อัญมาย้อน “ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
เจ้าแม่มองอัญมาแล้วจ้อง
“จิตของเจ้าแรงกล้า ไม่ต้องพูด ข้ารู้ว่าเจ้ามาเรื่องอะไร”
“งั้นก็ทายมาสิ ว่าฉันจะถามอะไร” อัญมาลองดี
เจ้าแม่ตาวาวด้วยความโกรธ เทียนทั้งห้องดับพรึ่บเหลือเพียงเทียนเล่มใหญ่ตรงหน้าอัญมา
“เจ้าไม่มีวันสมหวัง ไม่มีวันได้กลับไปที่ๆ เจ้ามา”
อัญมาผงะ สีหน้าตกใจถึงขีดสุด ที่เจ้าแม่อ่านใจออก

ขณะที่ภควัตเดินมาหน้าบ้านอุบล จะมาหาอัญมา แต่สายตามองไปเห็นอธิคมที่เดินออกมาจากในบ้าน พร้อมเก้ากับป๊อบ ภควัตฉากหลบ แอบมองทันที
“ตามหาไอ้อัญให้เจอ แล้วพาไปหาข้า”
เก้ากับป๊อบแยกย้ายกันไปคนละทาง อธิคมยืนงุ่นง่านสีหน้าหงุดหงิด
ภควัตเพ่งมอง
“เข้านอกออกใน ตามหากันแต่เช้า เสน่ห์แรงเหลือเกินนะ อัญมา”
ภควัตมองด้วยสายตาขุ่นเคืองใจ แล้วหลบไปอีกทาง

ส่วนในบ้านสำนักทรง อัญมามองจ้องสู้ตาเจ้าแม่ที่มองมา
“ฉันต้องทำยังไง ถึงจะกลับไปมีชีวิตแบบเดิม”
“ก็บอกแล้วว่าไม่มีทาง”
“ต้องมีสิ ถ้าทายแม่นจริง ก็ต้องรู้”
เจ้าแม่บอก “คิดจะฝืนชะตาลิขิต”
“ไม่ใช่ชะตาลิขิต ฉันนี่แหละจะลิขิตเอง”
อัญมาใจร้อนรุ่ม พุ่งเข้าไปจับไหล่เจ้าแม่คาดคั้นรุนแรง
“ถ้ารู้จริงก็บอกมา ฉันจะกลับไปเป็นคุณหนูอัญมาได้ยังไง ต้องแก้กรรมต้องทำอะไรบ้าง บอกมา”
“ไม่รู้โว้ย”
เจ้าแม่รัศมีหลุดจากความเคร่งขรึม กลายเป็นตกใจที่อัญมาไม่ยอมปล่อย แถมเข้ามาเขย่าคาดคั้นจะรู้ให้ได้
“หลอกลวงกันนี่นา พวกต้มตุ๋น 18 มงกุฎใช่มั้ย ถ้าเห็นจริงอดีตจริง ก็รู้วิธีสิ”
“ช่วยด้วย ใครอยู่ข้างนอกช่วยเอานังบ้านี่ออกไปที”
เป็นภควัตที่พรวดเข้ามา อัญมามองงง
“คุณมาได้ไง”
“ฉันมีปาก ก็ถามชาวบ้านเค้าสิ นึกยังไงถึงมาที่นี่”
ภควัตดึงอัญมาออกห่างเจ้าแม่ที่หอบหายใจตื่นเต้น
“ฉันก็อยากดูดวงบ้าง”
ภควัตคว้ามืออัญมา
“มานี่เลย ไปกับฉัน”
ภควัตลากอัญมาออกไป แล้วหันมาทางเจ้าแม่
“เจ้าแม่ก็ระวังตัวไว้ด้วย ต้มตุ๋นหลอกลวง”
ภควัตกำลังจะลากอัญมาออกไป เจ้าแม่รัศมีร่างสั่นเทิ้ม เสียงดังขึ้น
“กรรม วิญญาณคนตายผูกเจ้าสองคนไว้ด้วยกัน หนีกันไม่พ้น”
ภควัต และอัญมาหันขวับมองเจ้าแม่ที่ร่างสั่นเทิ้ม
“กรรมกับใคร...ฉันจะหนีใครไม่พ้น” อัญมาถาม
เจ้าแม่ยังไม่ทันตอบ ภควัตดึงอัญมา พูดตัดรำคาญ
“ไม่ต้องถามแล้ว ผมไง คุณน่ะหนีผมไม่พ้นหรอก”
อัญมาเซไปตามแรงลากของภควัตที่ดึงออกไปอย่างเร็ว

ภควัตลากอัญมาออกมาตามทาง อัญมาจะดึงมือออก ภควัตจับแน่น
“นี่คงจะไปถามเรื่องกลับไปเป็นคุณหนูอะไรนั่นอีกล่ะสิ”
“ใช่ คุณไม่น่าจะเข้ามาขัดเลยนะ ฉันอยากรู้เรื่องที่วิญญาณคนตายผูกเราสองคนไว้ด้วยกัน ที่เจ้าแม่พูดน่ะ วิญญาณคนตาย”
“บ้าไปใหญ่แล้ว เชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ด้วยเหรอ”
“แต่ก่อนฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะ แต่ตอนนี้ ฉันเชื่อว่ามีสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ มันกำลังเกิดขึ้นกับชีวิตฉัน”
ภควัตส่ายหัว หน้าตาไม่เชื่อเลย อัญมาครุ่นคิดหน้าตาสงสัย
“แปลกดีนะ เจ้าแม่บอกว่าวิญญาณคนตาย เมื่อคืนป้าอุบลแกก็เพิ่งเล่าเรื่องสามีที่ถูกยิงตายให้ฉันฟัง”
ภควัตสนใจ “สามีป้าอุบล... ใครล่ะ”
“ช่างเถอะ ...ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหรอก รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์”
“ไม่มีประโยชน์ แต่ผมอาจจะช่วยได้”
“ไม่ต้องเลย ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณผู้กองนักหรอก คุณกับฉัน เราเกี่ยวกันเพราะงาน คุณเป็นตำรวจ ฉันเป็นสายให้ เสร็จงานฉันกลับไปเป็นคุณหนู ทุกอย่างก็จบ”
ภควัตสีหน้าเจื่อนลง เมื่อเห็นอัญมาท่าทางมาดมั่น ไม่มีความผูกพันอะไรแสดงออกมาเลย อัญมาหันมามอง ภควัตเลยทำท่าแข็งๆ เหมือนไม่แยแส
“ก็ดี”
“นี่ผู้กอง ฉันอยากไปโรงพยาบาล”
“เป็นอะไร ปวดหัว เป็นไข้ หรือว่า ลงแดง”
“ไม่ได้เป็นอะไรสักอย่าง ฉันอยากไปโรงพยาบาลที่ไอ้อัญตัวจริงนอนอยู่”
“ดีเหมือนกัน ผมจะพาคุณไปเช็คประสาท เอาแต่เพ้อว่าตัวเองไม่ใช่ไอ้อัญ”
“เพราะฉันไม่ใช่ไอ้อัญ ลูกป้าอุบลไง”
อัญมามองตาขวางโมโหสุดๆ เดินฉับๆออกไป ภควัตเดินตามติดๆ

ในห้องคนไข้ ภรณี และอรรณพยืนมองไอ้อัญในร่างอัญมาที่นอนนิ่ง
“ฉันไม่มีทางหมดหวัง ลูกรู้ค่ะว่าเราเป็นห่วง สักวันลูกเราต้องฟื้น”
อรรณพโอบกอดภรรยาไว้ด้วยความเป็นห่วง
นิ้วไอ้อัญกระดิกขึ้นมาทีละนิด แต่ยังไม่มีใครสังเกตเห็น

สองคนอยู่ในโบสถ์วัดที่ภตวัตมาเป็นประจำ ยามทุกข์ใจ อัญมามองภควัตสีหน้าประหลาดใจ
“ฉันบอกว่าจะไปโรงพยาบาล คุณพาฉันมาวัดเนี่ยนะ”
“โรคเพ้อ สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างเธอน่ะ ไม่ต้องพึ่งยา เจอน้ำมนต์หลวงพ่อสักขัน เดี๋ยวก็ดีขึ้น”
อัญมาฉุน “ฉันไม่ได้ผีเข้า”
หลวงพ่อเดินเข้ามา อัญมา ภควัตหยุดเถียงหันไปยกมือไหว้ หลวงพ่อยืนสำรวมสงบนิ่ง มองมาที่ภควัตกับอัญมา
“เพื่อนผมน่ะครับ หลวงพ่อ ช่วงนี้เค้าเจอเรื่องแย่ๆ ฟุ้งซ่านมาก”
อัญมามองภควัตตาเขียว
ภควัตบอกต่อ “เลยพามาหาหลวงพ่อ อยากให้หลวงพ่อช่วยเทศน์ให้เค้าสงบจิตสงบใจ ยอมรับความจริงซะบ้าง”
“ไม่ใช่ค่ะ หลวงพ่อ หนูไม่ได้บ้า แต่เรื่องที่หนูเจอ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่จิตนะ โยม จิตจะกำหนดให้โยมเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง”
อัญมางุนงง “หมายความว่าอะไรคะ หลวงพ่อ”
“ถึงเวลานั้น โยมก็จะรู้เอง เลือกเอง แต่จำไว้ว่าเส้นทางมีเพียงหนึ่ง เมื่อโยมเลือก ทุกอย่างจะไม่มีวันเหมือนเดิม”
“อะไรไม่เหมือนเดิมละคะ หลวงพ่อ หนูจะตายเหรอคะ”
หลวงพ่อหลับตาลงนิ่ง ไม่ตอบ อัญมายังซักด้วยความอยากรู้
“หลวงพ่อคะ”
“คุณ”
ภควัตหันมาทำเสียงดุ ให้อัญมาสงบ อัญมาลดเสียงเถียงกับภควัต
“ก็ฉันอยากรู้”
“โยมจะสมปรารถนาในสิ่งที่หวัง แต่ต้องแลกด้วยชะตากรรมของคนที่โยมรัก”
“คนที่ฉันรัก” อัญมาคิดตาม “คุณพ่อ คุณแม่ หนูจะได้กลับไปโลกคุณหนูอัญมาใช่มั้ยคะ”
“ที่ผ่านมา ชีวิตหนึ่งสละเพื่ออีกชีวิต กรรมถึงผูกพันโยมสองคนไว้”
ภควัต อัญมาหันมามองหน้ากันทันที
“เราสองคน”
ภควัตกับอัญมาหันกลับไปมองทางหลวงพ่อ แต่ไม่พบใครในนั้นแล้ว
“อ้าว ท่านหายไปไหนแล้ว”

ภควัต และอัญมาเหลียวมองหาไปทั่วภายในโบสถ์ แต่ก็ไม่เห็นหลวงพ่อสักที่ สองคนยืนขึ้นมองด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ

อัญมากับภควัตให้อาหารปลาอยู่บริเวณท่าน้ำในวัด

“หลวงพ่อกับเจ้าแม่พูดเหมือนกันอย่างนึงนะ ผู้กองกับฉัน เรามีกรรมต่อกัน”
“แหง อยู่แล้ว ผมเจอคุณนี่ก็กรรมชัดๆ”
อัญมาซัดผัวะเข้ากลางหลังภควัต ผู้กองยัวะ
“เจ็บนะคุณ ทำไมชอบใช้ความรุนแรงกับผม”
“ปากอย่างผู้กอง แค่นี้น้อยไป สรุปว่าฉันก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากขึ้น”
“เอาน่า... อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า คุณหนีผมไปไม่ได้...อีกนาน”
ภควัตลอยหน้าไปใกล้ อัญมาชะงักมองภควัต สองสายตามองกัน ภควัตมองจ้องลึกซึ้งจนอัญมารู้สึกเขิน ผลักอกเขาออก
“นี่แหละความซวย...ซวย...ซวยของฉัน เจอใครไม่เจอ ดันต้องมาเจอคุณ”
“หรืออยากเจอ อธิคม”
อัญมานึกได้ “ตายแล้ว ฉันต้องเข้าไปบ้านพี่บังแล้ว สายป่านนี้ อธิคมคงถามหาฉันแล้ว”
อัญมาจะเดินไป ภควัตดึงแขนหล่อนไว้ อัญมาเหลียวมองมา เห็นสายตาภควัตมีแต่ความกังวล
“ผมเห็นเค้าไปหาคุณที่บ้านตั้งแต่เช้า ระวังตัวด้วย อัญมา”
“ไม่เป็นไร ฉันดูแลตัวเองได้ ตั้งแต่ขนของคราวก่อน ท่าทางอธิคมแปลกไป เค้าพูดเรื่องอยากเลิก อยากมีชีวิตใหม่ ไม่อยากติดคุกอีก”
“ถ้าไม่พูดเพื่อหลอกเอาใจคุณ ก็แสดงว่าอธิคมกำลังมีปัญหากับคนในแก๊ง ถ้าเราแยกอธิคมกับนายวินิจได้ เราอาจจะปราบแก๊งนี้ได้เร็วขึ้น”
อัญมามองภควัตด้วยแววตาอันมุ่งมั่นอยากจะปราบแก๊งนายวินิจให้สำเร็จ

พออัญมาเดินเข้ามาในตึก ทุกคนมองจ้อง อัญมายิ้มให้ แต่พอหันมาอีกทางก็ชนเข้ากับร่างสูงของอธิคมที่ยืนอยู่
“หายไปไหนมา”
อัญมายิ้มหวานประจบให้อธิคมอย่างเอาใจ

ภควัตกลับเข้าฐานลับ กำลังนั่งเสิร์ชข้อมูลในคอมพิวเตอร์ จ่าเดชเดินเข้ามามอง
“ผู้กองไม่สบายเหรอครับ หาข้อมูลโรงพยาบาลไปทำไม”
“ผมกำลังหาคนไข้”
“คนไข้ ใครครับ ญาติเหรอครับ”
“ไม่ใช่หรอกจ่า คนไข้ที่ชื่ออัญมา”
จ่าเดชแปลกใจ “ห๊ะ คนไข้ชื่ออัญมา”
“อัญมาเค้าบอกว่า มีอัญมาอีกคนนอนอยู่ในโรงพยาบาล”
“ผมก็นึกว่าเรื่องคอขาดบาดตาย ราชการลับ นี่ผู้กองเชื่อที่ไอ้อัญมันพูดด้วยหรือครับว่ามันเป็นคุณหนู”
ภควัตแก้เก้อ “ก็ไม่เชื่อไง ถึงต้องพิสูจน์ว่าไม่มีคนไข้ชื่ออัญมาอยู่ในโรงพยาบาลไหนทั้งนั้น”
จ่าเดชรู้ทัน “อย่าๆ ผมว่าผู้กองเชื่อไอ้อัญ ถึงได้มานั่งค้นข้อมูล”
ภควัตปิดหน้าจอคอม ทำท่าไม่สนใจ
“พูดมากน่ะ จ่า แล้วเรื่องที่ให้ไปสืบลูกน้องนายบังน่ะ ได้ความถึงไหนแล้ว”
“ก็กำลังสืบอยู่ พวกนี้ประวัติยาวเหยียด”
“มีคนไหนที่เราจะเจาะเข้าไปได้บ้าง ถ้าเรามีสายในกลุ่มมันได้มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะจับพวกมันคาหนังคาเขา ก็จะมีมากกว่ารอข่าวจากอัญมาคนเดียว”
แววตาภควัตเต็มไปด้วยความห่วงใยเมื่อพูดถึงอัญมา

อัญมาเดินตามอธิคมเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้ ด้วยหน้าตาสงสัย
“พี่คมไม่สบายเหรอ...เป็นอะไร”
“ฉันสบายดี”
“อ้าว แล้วมาที่นี่ทำไม”
“พาเธอมาตรวจเลือด”
“ตรวจเลือด! ฉันตรวจแล้ว”
“แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้อยู่ด้วย ฉันอยากรู้ว่าเธอสบายดี ตรวจซะที่นี่ ฉันอยากรู้ว่าเธอไม่เป็นอะไร”
อัญมาอิดออด “แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ ทำตามที่ฉันสั่ง อัญ”
อธิคมจ้องอัญมาอย่างคาดคั้น จนอัญมาหลบหลีกไม่ได้

ในห้องตรวจตอนนี้ อัญมามีท่าทางลุกลี้ลุกลน นั่งไม่ติด สีหน้ากังวลหนัก จนพยาบาลที่กำลังจะเจาะเลือดบอกขึ้น
“ไม่ต้องเกร็งนะคะ เจาะเลือดนิดเดียว”
“ไม่ได้กลัวค่ะ แต่ว่าฉันมีญาตินอนป่วยอยู่ที่นี่”
พยาบาลมีสีหน้างงๆ อัญมาแกล้งตีหน้าเศร้าอธิบาย
“คือ...แฟนฉันที่พามาตรวจสุขภาพ เค้าไม่ค่อยถูกกับญาติคนนี้ ฉันอยากไปเยี่ยมญาติสักแป๊บ แต่ไม่อยากให้แฟนที่รอข้างนอกรู้ คุณพยาบาลพอจะช่วยหน่อยได้มั้ย มีทางไหนออกไปจากที่นี่ได้มั่งคะ”
อัญมาพยายามตีหน้าเศร้าให้พยาบาลเห็นใจสุดๆ

อธิคมนั่งรออยู่บริเวณโถงกลางโรงพยาบาล ขณะอัญมาเดินอ้อมออกมาจากอีกด้านของตึก มองไปที่โถงเห็นอธิคมนั่งรอนิ่งๆ
“รอไปก่อนนะ อธิคม... ไหนๆก็พาฉันมาถึงนี่ ...ฉันขอขึ้นไปหาไอ้อัญตัวจริงสักหน่อย”
อัญมาฉากหลบขึ้นลิฟต์ไปอีกทางอย่างรวดเร็ว

อัญมาออกจากลิฟต์ชั้นวีไอพี เดินมาตามระเบียงหน้าห้องคนไข้ ทำเหมือนมารักษาตัวปกติ สายตาอัญมามองเห็น พยาบาลออกมาจากห้องวีไอพี ที่เขียนว่าห้ามเข้า อัญมาทำเป็นยืนกดมือถือ พอจนพยาบาลออกไป อัญมารีบผลุบเข้าไปในห้องนั้นทันที

อัญมาใส่ชุดแม่บ้านโรงพยาบาล มีผ้าปิดปาก ปิดจมูก เดินเข็นถาดอาหารมา บอดี้การ์ด 2 คนที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไอ้อัญมอง อัญมาทำหน้าตาเรียบเฉย บอดี้การ์ดมองแล้วเปิดประตูให้เข้าไป อัญมาหยิบถาดอาหารเข้าห้องไป บอดี้การ์ดปิดประตูลง

อัญมาวางถาดอาหารลง เปิดผ้าปิดปาก มองไอ้อัญที่นอนใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่บนเตียง
“ไอ้อัญ เธอคือไอ้อัญ ลูกป้าอุบล”
อัญมามองภาพไอ้อัญในร่างของตัวเองด้วยสายตาเจ็บปวด
“เธอเอาชีวิตฉันไป เอาร่างฉันไป”
อัญมาเข้ามาใกล้ไอ้อัญ
“ถ้าไม่มีเธอ ฉันก็จะกลับมาเป็นคุณหนูอัญมา”
อัญมาเอื้อมมือไป อยากจะบีบคอไอ้อัญ
“ไม่ ถึงเธอตาย ฉันก็อาจจะไม่ได้กลับร่างนี้”
อัญมากำลังจะลดมือ บอดี้การ์ดเปิดประตูเข้ามา เห็นอัญมาที่เงื้อมืออยู่ใกล้คอไอ้อัญพอดี
“แกจะฆ่าคุณหนู”
“ไม่ใช่ เข้าใจผิดแล้ว”
บอดี้การ์ดพุ่งเข้ามา อัญมาจวนตัวหันไปคว้าถาดอาหารปาเข้าหน้า บอดี้การ์ดคนแรกร้องเพราะ
อาหารเข้าตา บอดี้การ์ดอีกคนเข้ามาจะจับ อัญมายกเก้าอี้ฟาด จนบอดี้การ์ดกระเด็น
อัญมาพุ่งตัวออกไปจากห้องทันที บอดี้การ์ด 2 คนวิ่งตามไปทันที
จังหวะนี้ นิ้วไอ้อัญที่นอนอยู่บนเตียงกระดิกขึ้นอีกครั้ง

ฝ่ายอธิคมมองนาฬิกาท่าทีกระสับกระส่าย สุดท้ายลุกไปหาพยาบาลหน้าห้องตรวจ

“คนไข้ชื่ออัญมา ตรวจเสร็จหรือยังครับ”

อัญมาวิ่งมาตามทางเดินหน้าห้องคนไข้ชั้นวีไอพี มีบอดี้การ์ด 2 คนวิ่งไล่มาติดๆ อรรณพ กับภรณีออกจากลิฟท์ อัญมาที่วิ่งมา เกือบชนสองคน

“คุณพ่อ คุณแม่”
อรรณพ กับภรณีตกใจสุดขีด มองเห็นอัญมาเต็มตา ภรณีเผลออุทานออกมา
“ลูกอัญ”
บอดี้การ์ด 1 ตะโกนมา “มันจะฆ่าคุณหนู”
“ไม่จริง อัญไม่ได้จะฆ่าใคร”
อรรรพรีบดึงภรณีออกห่าง อัญมาพยายามบอก
“คุณพ่อ คุณแม่ นี่อัญไงคะ”
อรรณพตกใจ “เธอเป็นใคร”
บอดี้การ์ดวิ่งมาใกล้ อีกด้านเป็นรปภ.โรงพยาบาล 2 คน วิ่งมา อัญมาเห็นจวนตัวตัดสินใจวิ่งหนีลงบันไดไป บอดี้การ์ดวิ่งตามไปกับยาม
ภรณีมองตามไม่ละตา ก่อนจะหันมาบอกสามี “เด็กคนนั้น เค้าคล้ายลูกอัญ”

อัญมาวิ่งหลบหลีกหนีบอดี้การ์ด กับ รปภ.มาตามทาง พยาบาล คนไข้ข้างทางพากันตกใจ บอดี้การ์ดวิ่งไล่จี้ อัญมาวิ่งเลี้ยวลงบันไดหนีไฟ
อีกด้านอธิคมที่มองหาอัญมา หันไปมองตามเสียงเอะอะที่ได้ยิน
“อัญ”
อัญมาวิ่งลงมา มีบอดี้การ์ดวิ่งตามติดๆ อธิคมวิ่งมาใกล้ บอดี้การ์ดพุ่งคว้าแขน อัญมาสะบัดแรง
“อัญ ระวัง”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งหันมา อธิคมชกเข้าหน้าเต็มหมัด บอดี้การ์ดล้มกลิ้ง อธิคมหันไปยื่นมือจะรวบตัวอัญมาไว้แต่ไม่ทัน
“อัญ”
อัญมาเซหงายหลังตกลงมาตามขั้นบันได
“อัญ”
อัญมากำลังกลิ้งลงมาข้างล่าง สำนึกสุดท้ายมองหล่อนเห็นโลกทั้งโลกเหวี่ยงวืดจนน่าเวียนหัวไปมา

ขณะเดียวกัน บนเตียงในห้องคนไข้ นิ้วไอ้อัญในร่างคุณหนูอัญมากระดิกขึ้นมากกว่าเดิม เครื่องวัดสัญญาณชีพจรอัญมากระตุกขึ้น ให้รู้ว่าร่างกาย มีการตอบสนอง และดูเหมือนจะรู้สึกตัวมากขึ้น

อัญมากลิ้งลงมาจากบันได ส่วนไอ้อัญกำลังจะฟื้น ตากระตุกถี่ขึ้น
อธิคมมองตกใจ อัญมากลิ้งจนมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย
ภาพเหตุการณ์ตอนตกจากสะพาน และกำลังดิ้นรนในน้ำผุดขึ้นในห้วงคิดของสองคน
อัญมากลิ้งตกลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นตีนบันได ส่วนไอ้อัญลืมตาขึ้น เสียงเครื่องวัดการเต้นของสัญญาณชีพดัง
อัญมาแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ในสมองอัญมาตอนนี้ได้ยินเสียงของเจ้าแม่และหลวงพ่อดังก้องสลับกันไปมา
“เจ้าไม่มีวันสมหวัง ไม่มีวันได้กลับไปที่ๆ เจ้ามา”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่จิตนะ โยม จิตจะกำหนดให้โยมเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง”
เหตุการณ์ตอนตกน้ำผุดซ้อนขึ้นมาอีก อัญมากำลังดิ้นรนอยู่ใต้ผืนน้ำ ดิ้นเฮือกหายใจ ไม่ยอมตาย
สำนึกต่อๆ มา เป็นหลายเหตุการณ์ที่ผุดซ้อนเรียงรายเข้ามาราวสายน้ำไหล และย้อนวนกลับไปมา เริ่มจากเหตุการณ์ตอนอัญมาพลัดตกบันไดลงมา / ตอนมาเจออธิคม / ถกเถียงกับอธิคม / อัญมาส่งยา / อัญมาลงแดง / อัญมาอยู่กับอุบล / อัญมาฟื้นในโรงพยาบาลครั้งแรก จนมาถึงตอนที่อัญมาตกน้ำ / อัญมาเฮือกหายใจดิ้นรนในน้ำ เพื่อยื้อชีวิตตัวเอง
เสียงเจ้าแม่ดังก้องขึ้น “กรรม วิญญาณคนตายผูกเจ้าสองคนไว้ด้วยกัน หนีกันไม่พ้น”
ตามด้วยเสียงหลวงพ่อ “ที่ผ่านมา ชีวิตหนึ่งสละเพื่ออีกชีวิต กรรมถึงผูกพันโยมสองคนไว้”
เหตุการณ์ตอนตกน้ำในวันนั้นผุดซ้อนขึ้นมาอีก อัญมาดิ้นรนเฮือกสุดท้าย กำลังจะหมดลมหายใจรอมร่อ จังหวะนี้อัญมามองไปเห็นร่างใครคนหนึ่งกำลังว่ายน้ำเข้ามาช่วย อัญมายื่นมือไปหา ที่แท้เป็นมือของผู้กองภควัตที่พุ่งเข้ามาจับมือหล่อนไว้ แล้วเข้ามารวบร่างอัญมาไว้ ดึงขึ้นไปเหนือน้ำ

ณ อันตกาล อัญมาเหมือนถูกผลักเข้ามาในที่แห่งหนึ่ง แสงสว่างเรืองรอง หันไปทางหนึ่งก็เห็นหลวงพ่อที่ยืนสงบนิ่งอยู่
“หลวงพ่อเจ้าคะ นี่มันอะไร หนูกำลังจะกลับไปเป็นคุณหนูอัญมาเหมือนเดิมใช่มั้ยคะ”
“ถึงเวลาที่โยมต้องเลือก ทุกอย่างจะกลับไปสู่จุดตั้งต้น จะเหลือเพียงชีวิตเดียว”
“เหลือชีวิตใครคะ คุณหนูอัญมา หรือไอ้อัญติดยา”
“ขึ้นอยู่กับโยมเลือก”
“เหลือเพียงชีวิตเดียว”
อัญมามองแล้วตัดสินใจ
“หนูไม่อยากเป็นไอ้อัญ ติดยา ชีวิตมันไม่มีอะไรดี หนูจะเป็นคุณหนูอัญมาหนูเลือกชีวิตคุณหนูอัญมา”
สิ้นเสียงนั้นร่างอัญมาเหมือนถูกดูด ลอยคว้างขึ้นไปในอากาศอย่างแรง

บนโลกคู่ขนาน อัญมานอนอยู่บนเตียงในชุดคนไข้ สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทั้งตัว ภรณีกับอรรณพมองตะลึง
“ลูกอัญ”
อัญมาตั้งสติ มองไปข้างเตียง เห็นภรณี และอรรณพมองมาด้วยหน้าตาดีใจมาก
“ลูกฟื้นแล้วค่ะ คุณ”
อัญมาตกใจ “คุณแม่ คุณพ่อ”
“พ่อกับแม่ตกใจมาก ตอนที่รู้ว่าลูกตกจากสะพาน” ภรณีบอก
อัญมามองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของพ่อแม่ ก็ดีใจ
“อัญกลับมาแล้ว อัญกลับมาเป็นคุณหนูอัญมาแล้ว อัญไม่ใช่ไอ้อัญ เด็กติดยาคนนั้นอีกแล้ว”
ภรณีงุนงง “ลูกอัญ ลูกพูดอะไร”
อรรณพบอก “ลูกอาจจะกระทบกระเทือนทางสมองน่ะคุณ”
อัญมาตื่นเต้นมาก “ไม่ใช่ค่ะ คือ...อัญไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่อัญดีใจมากที่ได้กลับมาเป็นลูกคุณพ่อคุณแม่”
อัญมาโผเข้ากอดแม่กับพ่อ อรรณพ และภรณีมองลูกด้วยความดีใจ
“โชคดีเหลือเกินที่มีคนโดดลงไปช่วยลูกไว้” อรรณพบอก
“คนที่ช่วยอัญ ใครคะ”
ประตูห้องเปิดออก อัญมามองไป เห็นภควัตก้าวเข้ามา
“ผู้กองภควัต”
ภควัตในโลกคู่ขนานมองอัญมาแล้วยิ้มให้อย่างสุภาพ
“ลูกอัญรู้จักผู้กองด้วยเหรอจ๊ะ”
“ผู้กองผ่านไปแถวนั้นพอดี ถึงโดดลงไปช่วยลูกขึ้นมา”
“คุณลงไปช่วยฉัน”
ภควัตยิ้มตอบ “ครับ”
“เราเคยเจอกันมาก่อน จำได้มั้ยคะ”
ภควัตมองอัญมาแล้วย้อนนึกเหตุการณ์วันแฟชั่นโชว์ กับ วันไล่จับยาบ้ากลางห้าง
“อ๋อ...คุณนั่นเอง ที่งานแฟชั่นโชว์กับในห้างวันนั้น”
“มีอีกค่ะ ผู้กองรู้จักฉัน รู้จักดี ...ไอ้อัญ”
อัญมามองภควัต พยายามทวนความจำ แต่สุดท้ายส่ายหน้า
“ไอ้อัญไหนครับ ผมไม่รู้จัก”
อรรณพ กับภรณีมองท่าทีคาดคั้นของอัญมาแล้วรู้สึกว่าอัญมาอาจจะทำให้ภควัตอึดอัด
“ลูกอัญเพิ่งฟื้น อาจจะสับสนไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ถ้าลูกสาวคุณปลอดภัยดีแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ ผมต้องไปทำงาน”
อัญมาเอ่ยขึ้น “คุณจะไปที่ชุมชมบัวสวรรค์ ปลอดยาเสพติด”
ภควัตตกใจ “คุณรู้ได้ยังไง”
“ฉันบอกไป ก็ไม่มีใครเชื่อหรอก”
ภรณีบอก “ลูกอัญ แม่ว่าลูกพักก่อนเถอะนะ”
“ขอบใจมากนะ ผู้กองภควัต ครอบครัวเราเป็นหนี้บุญคุณผู้กอง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นตำรวจ มีหน้าที่รับใช้ประชาชนอยู่แล้ว ลานะครับ”
ภควัตไหว้อรรณพ กับ ภรณี แล้วหันมาทางอัญมาเป็นเชิงลา อัญมามองภควัตนิ่ง ภควัตแค่ยิ้มให้แล้วเดินออกไป ไม่มีท่าทีสนิทสนมอะไรด้วย
ภรณีเข้ามาใกล้ลูกสาว อัญมารีบบอกพ่อกับแม่
“อัญไม่ได้จะโดดน้ำฆ่าตัวตายนะคะ แล้วอัญก็รู้จักผู้กอง อัญมีเรื่องจะเล่าตั้งเยอะ คุณแม่ต้องเชื่ออัญนะคะ”
“แม่รู้จ้ะ ลูกของแม่เป็นคนเข้มแข็ง มันคงเป็นอุบัติเหตุ ลูกถึงได้ตกลงไป”
อรรณพบอก “พ่อว่าลูกอย่าเพิ่งคิดอะไรเลยนะ”
อรรณพกับภรณีลูบผมลูกสาว อัญมามองพ่อกับแม่แล้วยิ้มทั้งดีใจ โล่งใจ
“อัญได้คุณพ่อ คุณแม่ ได้ชีวิตอัญกลับมา อัญก็ดีใจแล้วค่ะ”

อัญมาโผเข้ากอดพ่อกับแม่ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

คืนหนึ่ง อัญมากลับจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้าน กำลังรับแก้วนมที่ฤดีเอามาเสิร์ฟให้

“คุณหนูพักเยอะๆ นะคะ”
“ขอบใจมาก” อัญมาบอก
ฤดีมองอัญมาอย่างนึกไม่ถึงที่ได้รับคำขอบใจ
“มีอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“คุณหนูไม่เคยขอบใจฤดีเลย”
“เหรอ...” อัญมายิ้ม “ขอบใจนะ ฤดี ที่ดูแลฉันมาตลอด”
“คุณหนูต้องการอะไร เรียกฤดีได้เลยนะคะ”
ฤดียิ้มดีใจ อัญมายิ้มตอบ ฤดีออกไป อัญมาลุกขึ้น เดินใช้ความคิด
“ฉันกลับมาเป็นคุณหนูอัญมา กลับมาวันที่ตกน้ำ เหมือนไม่เคยเป็นไอ้อัญ ไม่เคยรู้จักผู้กองภควัต ไม่ติดยา ไม่เกี่ยวข้องกับอธิคม...”
อัญมาคิดย้อนที่เจอหลวงพ่อในความฝัน
“เมื่อโยมเลือก ทุกอย่างจะกลับไปสู่จุดตั้งต้น จะเหลือเพียงชีวิตเดียว”
อัญมายิ่งคิดยิ่งสงสัย
“เหลือชีวิตเดียว ถ้าฉันอยู่ที่นี่ แล้วไอ้อัญล่ะ”

เช้าวันนี้ รถสปอร์ตคันสวยของอัญมาจอดลงหน้าปากทางเข้าชุมชนบัวสวรรค์ อัญมาลงจากรถมาในแว่นกันแดดสีดำ แต่งตัวเปรี้ยวเฉี่ยวสไตล์คุณหนูอัญมา สวย เชิด หยิ่ง
นวยกับเพื่อนวินหันมองอัญมาเป็นตาเดียว เพราะความสวย รวย เริด
อัญมาร้องทัก “นวย”
นวยมองตกใจ อัญมาเดินตรงเข้ามา
“จำฉันไม่ได้เหรอ”
“คุณ... คุณทักคนผิดแล้วล่ะครับ” นวยบอก
อัญมานึกได้ ถอยออกมา
“จริงสินะ ตอนนี้ฉันเป็นคุณหนูอัญมา ไม่ใช่ไอ้อัญ”
เสียงแตรรถเข็นบีบดังข้างหลัง อัญมาตกใจหันไปมอง เห็นอุบลเข็นรถขายไก่ทอดมา
“ป้าอุบล”
อุบลมองอัญมาแบบไม่เคยเห็นหน้า
“ฉันมาหาไอ้อัญ”
อุบลถามงงอยู่ “หาใครนะ”
“ไอ้อัญ”
“ไม่มีหรอกคุณ ไม่มีคนชื่อนี้”
“มีสิ ก็ลูกสาวป้าไง อัญมา”
อุบลตกใจ ถึงกับมือปล่อยรถ ผงะสองสามก้าว อัญมามองสังเกต
“คุณพูดอะไร ฉันไม่มีลูก ไม่มี”
อัญมาจับสังเกต อุบลปฏิเสธพัลวัน นวยเข้ามาบอก
“ป้าแกไม่มีลูกนะคุณคนสวย แกอยู่ตัวคนเดียว อัญเอินอะไรที่คุณพูดน่ะ ไม่มีหรอกแถวนี้” นวยบอก
“ฉันไม่มีลูก คุณมาถามผิดคนแล้วล่ะ ฉันไม่เคยมีลูก”
อุบลเข็นรถหนี อัญมามองมั่นใจว่าอุบลโกหก
“โลกนี้มีป้าอุบล มีนวย...แต่ไม่มีไอ้อัญ แล้วจ่าเดช ผู้กองภควัตล่ะ”

อัญมาก้าวพรวดๆ ขึ้นมาบนโรงพัก ตรงไปที่โต๊ะร้อยเวร
“ฉันมาหาผู้กองภควัต กับ จ่าเดชเดชา”
“ผู้กองกับจ่าไปจับยาบ้าครับ” ตำรวจเวรบอก
“ที่ไหน”
อัญมาถามเสียงตื่นเต้น

รถตำรวจ รถมูลนิธิ จอดอยู่ในชุมชน มีชาวบ้านพากันวิ่งไปดู อัญมาจอดรถแล้ววิ่งไปทางที่คนกำลังมุง
ชาวบ้าน 1 บอกเพื่อน “จับยาบ้า มียิงกันตาย”
ชาวบ้าน 2 ถาม “ใครตาย ใครตาย”
อัญมาได้ยินแล้วยิ่งใจไม่ดี
ชาวบ้าน 1 บอก “เค้าว่าตำรวจถูกยิง”
อัญมารีบวิ่งฝ่าไทยมุงเข้ามาที่รถตำรวจ ตำรวจพยายามกั้นชาวบ้านออกไป อัญมาดันเบียดกับชาวบ้านจนเข้าไปเห็นจ่าเดชถูกยิงที่แขน กำลังถูกปฐมพยาบาล
“จ่าเดช ผู้กองภควัตล่ะ ผู้กองภควัต”
จ่าเดชหันมองอัญมาแบบไม่เคยเห็นหน้า
“ผู้กองล่ะ” อัญมาถามย้ำ
“ผู้กองช่วยผม”
จ่าเดชพูดได้แค่นั้น ก็ยกมือปาดน้ำตา หันไปทางรถมูลนิธิ อัญมาสังหรณ์ใจ เหลียวไปมองเห็นเปลพยาบาลที่กำลังถูกยกขึ้นไปบนรถ อัญมาวิ่งมาใกล้ มองภาพภควัตที่ถูกยิงตรงอก เลือดทะลัก
“ผู้กองภควัต”
ภควัตนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง เจ้าหน้าที่ดึงผ้าที่ปิดร่างขึ้นมาปิดหน้าภควัต อัญมาใจหายวาบ ร่างภควัตถูกยกขึ้นไปบนรถ
“ผมจะแก้แค้นให้ผู้กอง ผมจะทำลายแก๊งไอ้อธิคมให้ได้” จ่าเดชว่า
รถมูลนิธิแล่นเร็วออกไป อัญมายืนตะลึงอยู่ท่ามกลางผู้คน นึกถึงคำพูดของหลวงพ่อ
“โยมจะสมปรารถนาในสิ่งที่หวัง แต่ต้องแลกด้วยชะตากรรมของคนที่โยมรัก”
“ผู้กองภควัต”
อัญมามีสีหน้าตื่นตะลึง คาดไม่ถึงกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป

อัญมาเดินเข้าบ้านมา รีบเข้าห้องทันที หน้าซีดสลดกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปในอีกโลก
“ฉันได้กลับมาอยู่โลกของฉัน โลกที่ไม่มีไอ้อัญ โลกที่ผู้กองภควัต...ถูกอธิคมยิง...จนตาย”
อัญมาพูดแล้วใจหาย หวนคิดถึงที่เคยคุยกับภควัต
“นี่คือชีวิตที่เธอกำลังมีลมหายใจอยู่นะ ชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด มีคนตั้งกี่คนที่เค้าไม่อยากตาย ต่อให้เจอเรื่องร้ายแรงแค่ไหน เขาก็พร้อมจะสู้ต่อ บางคนต่อสู้แค่ไหนกลับต้องตาย แต่นี่เธอมีมือ มีสมอง มีอวัยวะครบสามสิบสอง มีชีวิต มีลมหายใจ แล้วเธอได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้างหรือยัง หรือคิดถึงแต่ความสุขสบายของตัวเอง”
อัญมาสับสนหนัก
“ครั้งหนึ่งฉันก็เคยคิดสั้นเหมือนเธอ แต่คนที่ตายไป เค้าไม่ยอมให้ฉันคิดแบบนั้น ฉันถึงต้องมีชีวิตอยู่ แล้วก็เป็นตำรวจ เพราะว่าสักวันหนึ่งฉันจะทำให้โลกนี้ สังคมนี้ดีขึ้น”
อัญมากลั้นน้ำตาเดินวุ่นวายใจ
“นี่มันอะไรกัน ฉันได้กลับมาอยู่ในโลกของฉัน คุณหนูอัญมา แต่ไม่มีไอ้อัญ”
อัญมาพุ่งตรงไปที่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เปิดอินเตอร์เน็ต เสิร์ชข้อมูลจากกู้เกิ้ลและเว็บต่างประเท อ่านข้อมูลในนั้น
“วิทยาศาสตร์บอกว่าอาจจะมีเอกภพอื่นๆ ที่มีกฎทางฟิสิกส์ มีค่าคงที่เหมือนโลกที่เราอยู่ แต่คนละสถานะกัน มันเป็นเอกภพคู่ขนานที่ติดต่อกันได้ มันสัมพันธ์กันด้วยกระบวนการ Quantum superposition ที่เรียกว่า โลกคู่ขนาน”
อัญมาลุกขึ้นจากหน้าคอมพิวเตอร์
“โลกคู่ขนาน มีฉัน แต่ไม่มีไอ้อัญ”
อัญมาย้อนนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อ
“เมื่อโยมเลือก ทุกอย่างจะกลับไปสู่จุดตั้งต้น จะเหลือเพียงชีวิตเดียว”
“มีผู้กองภควัต มีป้าอุบล มีทุกคน... มีฉัน คุณหนูอัญมา แต่ไม่มีไอ้อัญ”
อัญมาย้อนนึกถึงตอนที่อุบลเล่าเรื่องเอาลูกสาวมาทิ้งไว้หน้าบ้านเศรษฐี
“แม่อับจนหนทางจริงๆ คิดได้อยู่ทางเดียว ว่าถ้าแกเป็นลูกแม่ แกอาจจะอดตาย ไม่มีอนาคต แต่ถ้ามีพ่อแม่เป็นเศรษฐีใจบุญ ลูกก็จะโตขึ้นมาอย่างสุขสบาย”
อัญมาคิดได้แล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที

อัญมาเข้ามาในห้องภรณี ก้มลงมองตู้เซฟ ลองหมุนรหัส ตู้เซฟเปิดไม่ออก
“รหัสตู้เซฟ” อัญมาคิดปราดเดียว “วันเกิดเรา”
อัญมาลองหมุนตัวเลขใหม่ เสียงเซฟเปิดออกดังคลิก อัญมาเปิดเซฟออก เห็นกล่องเครื่องประดับ โฉนดที่ดินในนั้น อัญมาหยิบออกมาวางไม่สนใจ มองเห็นแฟ้มเอกสาร หลายอันก็ดึงออกมาเปิดดูอย่างเร็ว
สายตาอัญมาหยุดลงที่เอกสารเก่า มีรูปอัญมาตอนเป็นทารกถ่ายกับอรรณพและภรณีเมื่อ 22 ปีก่อน
อัญมาเปิดออกเห็นเอกสารรับรองบุตรบุญธรรม ถึงกับหน้าซีด
“ฉันเป็นลูกบุญธรรมของคุณพ่อ คุณแม่”
อัญมาย้อนคิดตอนที่อุบลเล่าเรื่องเอาลูกไปทิ้งหน้าบ้านเศรษฐี
“จริงๆแล้ว...ฉันคือลูกป้าอุบล”
อัญมาลุกขึ้น สีหน้าซีดเผือด นึกไม่ถึงกับความจริงที่ต้องเจอ อัญมาย้อนนึกถึงเรื่องที่อุบลเล่าว่าเอาลูกมาทิ้งหน้าบ้านอรรณพ และ ภรณี
“จริงๆ ฉันคือลูกของป้าอุบลที่ตั้งใจเอามาทิ้ง แล้วคุณพ่อคุณแม่รับเลี้ยงฉันม”
อัญมาร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
“ฉันไม่ใช่ลูกคุณพ่อ คุณแม่ ฉันเป็นลูกที่ป้าอุบลเอามาทิ้ง”
อัญมาสะอื้น เสียงหลวงพ่อดังในความคิด
“โยมจะสมปรารถนาในสิ่งที่หวัง แต่ต้องแลกด้วยชะตากรรมของคนที่โยมรัก”
อัญมานึกถึงภาพภควัตที่ถูกยิง
“ผู้กองภควัต”
อัญมาใจหายวาบ คิดถึงภาพและแววตาภควัตที่เคยบอกด้วยอุดมการณ์มุ่งมั่น
“ครั้งหนึ่งฉันก็เคยคิดสั้นเหมือนเธอ แต่คนที่ตายไป เค้าไม่ยอมให้ฉันคิดแบบนั้น ฉันถึงต้องมีชีวิตอยู่ แล้วก็เป็นตำรวจ เพราะว่าสักวันหนึ่งฉันจะทำให้โลกนี้ สังคมนี้ดีขึ้น”
อัญมามองไปรอบๆ ห้อง ชีวิตที่สุขสบาย บ้านใหญ่โต แล้วอยากรู้ความจริง เดินเร็วออกจากบ้านไป

อัญมาเดินเข้ามาในวัดอันร่มรื่นที่เคยมากับภควัต มองหาไปรอบๆ เพื่อหาหลวงพ่อ
“มาหาอาตมาหรือโยม”
อัญมาตกใจ หันไปเห็นหลวงพ่อที่ยืนสงบนิ่งอยู่ด้านหลัง
“หลวงพ่อคะ มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นกับหนู”
“อาตมารู้แล้ว”
“หลวงพ่อบอกหน่อยได้มั้ยคะ หนูควรจะทำยังไง นี่มันคือโลกคู่ขนานใช่มั้ยคะ โลกที่มีอัญมา ลูกนางอุบลแค่คนเดียว”
“ใช่”
“เพราะอะไรคะ ทำไมถึงไม่ให้หนูเป็นคนใดคนหนนึง ทำไมต้องให้หนูเรียนรู้ทั้งชีวิตคุณหนูอัญมา ทั้งไอ้อัญที่ติดยา”
“โลกนี้ก็เหมือนดนตรี มีท่วงทำนองชีวิตที่โลดแล่นต่างกันไป”
อัญมามองหลวงพ่อที่ตั้งใจบอก
“ชีวิตคนย่อมมีทุกข์ สุข สลับเปลี่ยนกันไป หากทุกคนเลือกเกิดได้ตามใจอยาก โลกก็คงมีแต่ท่วงทำนองที่สับสน วุ่นวาย เพราะคนก็จะเลือกแต่ความสุขไม่มีใครอยากเป็นทุกข์”
“หมายความว่าที่หนูเลือกได้ เพราะหนูกำลังต้องเรียนรู้ชีวิตที่แท้จริง ชีวิตทั้งสองด้านที่มีทั้งสุขมาก และ ทุกข์มาก”
หลวงพ่อยิ้มใบหน้าเปี่ยมเมตตา อัญมาคิดทบทวน
“ไม่ว่าจะเลือกด้านไหน มันก็คือชีวิตที่เกี่ยวข้องกับทุกคนที่อยู่รอบๆ ตัว อัญมาลูกสาวนางอุบล กับ นายรัตน์ เรืองเดช นายรัตน์ที่ตายเพราะช่วยเด็กผู้ชายคนหนึ่ง”
หลวงพ่อบอก “โยมรู้จักเด็กผู้ชายคนนั้นดี”
“ใครคะ เด็กผู้ชายคนที่นายรัตน์ พ่อที่แท้จริงของหนูช่วยไว้”
หลวงพ่อไม่ตอบ เพียงยิ้มบางๆ
“ถึงเวลา โยมก็จะรู้ว่าโลกนี้มีสิ่งผูกพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ ขอให้มีสติ มีกำลังใจที่ดีแก้ปัญหาทุกอย่าง สิ่งดีงามจะรอเราอยู่ข้างหน้า”
หลวงพ่อเดินออกไปอย่างสงบ สำรวม อัญมาไหว้หลวงพ่อแล้วทวนคำ

“ใช้สติ และกำลังใจ แก้ปัญหาทุกอย่าง”

อ่านต่อหน้า 4

คีตโลกา ตอนที่ 4 (ต่อ)

อัญมาเดินมาหยุดยืนบนสะพานปูนที่เดิม ทอดสายตามองไปยังแผ่นน้ำเบื้องหน้า อัญมาย้อนนึกถึงตอนเป็นคุณหนูกรีดกราย มีสุคนธรสกับเพื่อนๆ รายล้อม

“โลกของคุณหนูอัญมา...ชีวิตฉันไม่มีความหมายอะไรเลย ใช้ชีวิตฟุ่มเฟย แข่งขันชิงดีชิงเด่น...ไร้สาระสิ้นดี แถมยังมองไม่เห็นหัวใคร ทำไมฉันทำตัวได้น่าเกลียดขนาดนี้นะ แต่ถ้าฉันเป็นไอ้อัญ...”
อัญมานึกถึงตอนเจออธิคม วิ่งหนีตอนส่งยา ทะเลาะกับภควัต ตอนที่แอบมองอธิคมกับลูกน้อง
“ชีวิตฉันยังมีค่า...มีความหมายกับใครบางคน”
อัญมานึกไปถึงรอยยิ้มภควัตตอนชวนให้เป็นสายลับ ตอนที่ภควัตปลอมตัวเป็นเซียนพระมาช่วย ไอ้อัญในชุมชน
“ถ้านี่คือโลกคู่ขนาน...ถ้าฉันถูกกำหนดให้มีโอกาสอีกครั้งในชีวิต...ฉันขอเลือก...”
อัญมาปีนขึ้นไปบนราวสะพาน
“ชีวิตที่ความหมาย ชีวิตที่ได้ทำความดีเพื่อคนอื่น ชีวิตที่จะได้ช่วยเด็กอีกมากมายไม่ให้ต้องตกเป็นเหยื่อของยานรก”
อัญมาหลับตา ภาพที่เคยตกน้ำ มีภควัตมาช่วผุดซ้อนขึ้นมา
“คุณพ่อ คุณแม่คะ ขอให้อัญได้ใช้ชีวิตที่มีอยู่อย่างมีค่า...ขอให้อัญได้กลับไปโลกคู่ขนาน โลกอีกใบที่เป็นชีวิตจริงของอัญมา ให้อัญได้ทำบางอย่าง ที่มีความหมายกับชีวิตคนอีกหลายคน”
อัญมาทิ้งตัวลงจากราวสะพาน ร่างของอัญมาร่วงจากสะพานลงสู่เบื้องล่างแม่น้ำกว้างอย่างเร็ว

ร่างอัญมาร่วงลงในน้ำ อัญมาทิ้งตัว ไม่ดิ้นรน ร่างอัญมาจมลงเรื่อยๆ
เสียงเจ้าแม่ดังขึ้น “กรรม วิญญาณคนตายผูกเจ้าสองคนไว้ด้วยกัน หนีกันไม่พ้น”
ตามด้วยเสียงหลวงพ่อ “ที่ผ่านมา ชีวิตหนึ่งสละเพื่ออีกชีวิต กรรมถึงผูกพันโยมสองคนไว้”
อัญมากำลังจะหมดสติ ได้ยินเสียงเรียกของภควัตดังเข้ามา
“อัญมา อัญมา”
อัญมาสะดุ้งเฮือก ลืมตาขึ้น สำลักน้ำพรวด ดิ้นรน ทะลึ่งตัวขึ้นเหนือน้ำ เพื่องับอากาศหายใจทันที

ภายในห้องคนไข้ในโรงพยาบาล อัญมาสะดุ้งเฮือก ลืมตาตื่นขึ้น มองเห็นใบหน้าภควัตที่ก้มลงมจนใกล้
“อัญมา อัญมา”
อัญมากะพริบถี่ๆมองภควัต อัญมาพรวดขึ้นจับคอเสื้อ จ้องหน้าภควัต
“ผู้กอง...นี่ผู้กองไม่ได้...”
อัญมายิ้มออกมาอย่างยินดี
“ไม่ได้อะไร”
อัญมารีบกลบเกลื่อน
“เปล่า....ไม่มีอะไร เมื่อกี้คุณเรียกฉันว่าอะไรนะ”
“อัญมา”
“อัญมา หรือ ไอ้อัญ”
ภควัตเง็ง “นี่เธอเป็นอะไร”
“เรียกใหม่สิ เรียกฉันใหม่”
“เป็นอะไร ไอ้อัญ”
ภควัตขยี้หัวอัญมาเบาๆ มองอย่างเอ็นดู
“ไม่เป็นไร ผู้กอง ฉันไม่เป็นไร”
อัญมายิ้มอย่างโล่งใจที่ไม่ตาย และได้กลับมาเป็นไอ้อัญอย่างที่หวัง
“มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เล่าไป ผู้กองก็ไม่เข้าใจหรอก”
“นับวันยิ่งเพี้ยนนะเรา”
“แล้วผู้กองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ฉันต้องถามเธอมากกว่า มาที่นี่กับอธิคมทำไม”
ภควัตมองอัญมาอย่างคาดคั้น รอคำตอบจากอัญมา

ผู้กองเล่าว่าในวันที่อัญมาตกบันได เขาเดินเข้ามาในโรงพยาบาล
“คุณน้องโทร.มาบอกว่า คุณป้าวรจันทร์ไม่สบาย ฉันเลยรีบมาเยี่ยมท่าน แต่พอมาถึง ก็เห็นเธอนอนสลบ”
ภควัตมองไปที่อีกด้าน เห็นอธิคมกำลังพุ่งไปที่ร่างอัญมาที่นอนสลบอยู่กับพื้น
พยาบาลวิ่งเข้ามาดู เจ้าหน้าที่ พยาบาลผู้ชายอุ้มอัญมาเข้าไปทางห้องตรวจ อธิคมตามไปด้วยความเป็นห่วง
ภควัตมองภาพทั้งหมดด้วยสายตาสงสัย

อัญมามองภควัตที่เดินเข้ามาถามใกล้ๆ
“เธอมาทำอะไรที่นี่กับอธิคม”
“เรื่องมันยาว ยาวมาก แล้วคุณเห็นบอดี้การ์ด 2 คนที่วิ่งไล่ตามฉันมั้ย”
“ไม่มี เห็นแต่เธอกับอธิคม”
“บอดี้การ์ดของคุณพ่อ คุณแม่ล่ะ ฉันตกบันไดเพราะสองคนนั่นวิ่งตามมา”
“เพ้ออะไรอีก” ภควัตไม่เชื่อ
“ฉันจะพูดให้ฟัง คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เรื่องของคุณ ฉันตกบันไดเพราะถูกบอดี้การ์ดของคุณพ่อคุณแม่เข้าใจผิด แล้วฉันได้กลับไปเป็นคุณหนูอัญมาแล้ว เวลาทุกอย่างหยุดนิ่ง ย้อนกลับไปวันที่ฉันตกน้ำ รู้มั้ยฉันเจอคุณ ที่โลกคู่ขนานโลกของคุณหนูอัญมา คุณก็ช่วยฉันไว้”
ภควัตงงใหญ่ “โลกคู่ขนาน หมายความว่าอะไร มีผมอีกคนเหรอ”
“ไม่ใช่ มีคุณคนเดียว แต่อยู่อีกโลกนึง โลกที่ฉันเป็นคุณหนูอัญมา คุณช่วยชีวิตฉันตอนที่ฉันตกน้ำ ฉันฟื้นขึ้นมาเจอคุณ แล้วคุณก็ไปจับยาบ้า”
ภควัตอมยิ้ม ถามล้อๆ “ผมจัดการผู้ร้าย จับยัดเข้าคุกได้ทั้งแก๊งเลยใช่มั้ย”
อัญมาเซ็ง “นี่คุณไม่เชื่อที่ฉันพูดเลย ยังจะมาล้อเล่นอีก”
ภควัตเข้ามาจับไหล่ จ้องหน้าอัญมา
“อัญมา ผมว่าสมองคุณกระทบกระเทือนมาก นอนพักซะ”
“ฉันไม่ได้บ้านะ เอ๊ะ!! แล้วนี่คุณเข้ามาได้ยังไง”
“ลืมไปแล้วเหรอว่า ผมเป็นตำรวจ ผมจะบอกให้หมอสั่งคุณนอนพัก ห้ามเยี่ยม”
“แต่อธิคมรอฉันอยู่”
“ให้มันรอไป ผมบอกแล้วว่า ห้ามเยี่ยม”
เสียงมือถือภควัตดัง ภควัตหยิบออกมามอง
“คุณน้อง”
ภควัตหันมาสั่งอัญมา
“อยู่ที่นี่ ห้ามออกไปไหน เดี๋ยวผมไปเยี่ยมคุณป้าแล้วจะรีบมาหา ห้ามออกไปกับอธิคมเด็ดขาด”
ภควัตรีบรับโทรศัพท์เดินออกไป
“ครับๆ คุณน้อง...กำลังไปแล้วครับ”
อัญมามองไปรอบๆ ด้วยสายตาผ่อนคลายขึ้น
“นี่คือโลกของไอ้อัญ ผู้กอง...อย่างน้อยคุณก็ปลอดภัย”
อัญมาคิดแวบหนึ่ง
“คุณพ่อ คุณแม่ ไอ้อัญยังอยู่ที่นี่”
อัญมาคิดแล้วลุกขึ้น วิ่งออกไปจากห้องทันที

อัญมาเดินมาที่ทางเดินห้องคนป่วย มาหยุดที่หน้าห้องเดิม มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นมีคน ก็เปิดประตูเข้าไป พบว่าในห้องไม่มีคนป่วยนอนอยู่ อัญมามองหา
“ไอ้อัญล่ะ”
อัญมาถอยออกมา เห็นพยาบาลเดินมา รีบเดินเข้าไปถาม
“คนไข้ห้องนี้ คุณหนูอัญมา พิบูลย์สุวรรณ ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วเหรอคะ”
“ไม่มีนะคะ ไม่มีคนป่วยชื่ออัญมา”
พยาบาลเดินไป อัญมานึกได้
“ใช่สิ ไม่มีไอ้อัญแล้ว เหลือแค่ฉันคนเดียว”
อัญมาเดินออกมา พลันสายตามองหันไปเห็น อรรณพกับภรณีกำลังเดินมาด้วยกัน หลังจากตรวจร่างกาย
“คุณพ่อ คุณแม่”
อัญมายิ้มดีใจวิ่งเข้าไปหา
“คุณพ่อ คุณแม่”
อรรณพกับภรณีสีหน้าตกใจ
“ขอโทษนะจ๊ะ หนูเรียกใคร”
อัญมาชะงัก อรรณพกับภรณีมองด้วยสีหน้าแปลกใจ
“หนูจำคนผิดหรือเปล่า...เราไม่มีลูก”
อรรณพกับภรณียิ้มให้แล้วเดินแยกไป อัญมามองตามแล้วหันกลับมาครุ่นคิด
“โลกคู่ขนาน ...ถ้ามีไอ้อัญ ก็จะไม่มีคุณหนูอัญมา มีแค่ชีวิตเดียวที่ต้องเดินต่อไป”
อัญมาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ให้กำลังใจตัวเอง
“ฉันเลือกเอง ฉันเลือกเป็นไอ้อัญ ที่โตมากับแม่ชื่ออุบล ถึงไม่มีตัวตนของคุณหนูอัญมาอีก” หล่อนยิ้มบางๆ ออกมา “ถ้าฉันเป็นไอ้อัญ ฉันยังทำประโยชน์ได้ อย่างน้อยฉันจะช่วยให้คนดีอย่างผู้กองภควัตไม่ถูกยิงตาย”
อัญมาแววตายอมรับในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจ

ภควัตอยู่ในห้อง ท่านอภิกานต์กับขวัญอนงค์ยืนใกล้ มองคุณหญิงวรจันทร์ที่นั่งเอนพักอยู่บนเตียง
“คุณป้าเป็นยังไงบ้างครับ”
“แค่อาหารเป็นพิษ ยายน้องก็กระต่ายตื่นตูม โทร.ตามพี่เค้าทำไม”
“ก็น้องตกใจ นึกอะไรไม่ออก คิดถึงแต่พี่วัต”
“ดีแล้วล่ะครับ”
“ทำงานอยู่หรือเปล่า วัต” ท่านอภิกานต์ถาม
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็ต้องมาดูคุณป้าก่อน”
“แม่อยากกลับบ้านแล้ว กลับไปพักที่บ้านเถอะ แม่ไม่ชอบโรงพยาบาล”
“ใกล้หมออีกสักคืนดีกว่านะคุณ”
“ไม่ค่ะ ฉันอยากกลับบ้านจริงๆ ให้ฉันกลับบ้านเถอะ”
วรจันทร์มองขอร้องทุกคน

คุณหญิงวรจันทร์นั่งมาในรถเข็น มีภคัตเข็นให้ อภิกานต์และขวัญอนงค์เดินข้าง ภควัตมองไปเห็น อัญมายืนรอภควัตอยู่แถวลิฟท์ ภควัตคิดแล้วรีบหันมาบอกทุกคน
“ผมขอตัวเดี๋ยวนะครับ”
ขวัญอนงค์แปลกใจ “พี่วัตจะไปไหนคะ”
“พอดีพี่เห็นคนที่อยากเจออยู่พอดี ไม่รู้ใช่หรือเปล่า อยากให้แน่ใจ”

ภควัตเดินแยกไปอย่างรวดเร็ว วรจันทร์ ขวัญอนงค์ และอภิกานต์หยุดรถเข็นรอมองตาม

ภควัตเดินเลี้ยวมาทางลิฟท์ เจออัญมายืนหันรีหันขวางอยู่ 

“ออกมาทำไม บอกว่าให้อยู่ในห้อง”
“ฉันไม่เป็นอะไร ฉันจะกลับแล้วนะ”
อภิกานต์ ขวัญอนงค์ที่เข็นรถวรจันทร์แอบตามมามองดู
“ผู้หญิงที่คุยกับพี่วัต ใครคะ”
วรจันทร์มองเห็นภควัตจับแขนอัญมา ก็จ้องด้วยความสนใจ
ภควัตจับแขนอัญมา
“เธอจะกลับไปกับอธิคม”
“ฉันมากับเค้า ฉันก็ต้องกลับกับเค้าสิ”
อัญมาปัดมือภควัตออกจากแขน
วรจันทร์ ขวัญอนงค์มองอย่างสนใจ
“ท่าทางไม่น่าที่ตาวัตจะไปรู้จักได้” คุณหญิงบอก
อัญมาหันหลังเดินออกไป ภควัตมองอย่างหงุดหงิด
“อาจจะเป็นญาติของคนที่ตาวัตกำลังทำคดีอยู่ ตาวัตกำลังกลับมาแล้ว”
สาม คนทำเป็นเหมือนเข็นรถมาถึง ภควัตเดินเลี้ยวมาเจอ ก็ชะงัก วรจันทร์ทำเป็นถามขึ้น
“ตกลงใช่มั้ย ตาวัต”
“เอ่อ...ไม่ใช่ครับผมจำคนผิด”
“วัต จะไปทำงานก็ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวลุงดูแลป้าเอง”
“ใช่ค่ะ มีเรื่องอะไรต้องทำ ก็ไปทำเถอะค่ะ”
“งั้นผมขออนุญาตนะครับ” ภตวัตขอตัว ท่าทีเกรงใจ พลางเข้าไปกอดป้า “ทานยาตามหมอสั่งนะครับ”
“จ้ะ”
คุณหญิงวรจันทร์กอดหลาน ภควัตไหว้ลาลุงกับป้า แล้วรีบเดินเร็วไปตามทางที่อัญมาเพิ่งไป
“ต้องรีบตามผู้หญิงคนนั้นไปแน่ๆเลยค่ะ เดี๋ยวน้องมานะคะ”
ขวัญอนงค์ตามภควัตไป
“ยายน้องจะไปไหนลูก”
ขวัญอนงค์ไม่เหลียวหลัง รีบเดินตามไปห่างๆ อภิกานต์กับวรจันทร์มองตามด้วยสีหน้าสงสัย

อัญมาเดินฉับๆ มา หน้าตาเซ็ง
“ฉันคิดผิดหรือเปล่าเนี่ยที่ยอมเป็นไอ้อัญ เพื่อช่วยผู้กอง”
อัญมากำลังจะเดินออกไปจากโรงพยาบาล มีมือมาดึงแขนอัญมาไว้ อัญมาหันไป
“พี่คม”
อธิคมดึงแขนอัญมามอง
“หมอให้กลับบ้านได้แล้วเหรอ ทำไมไม่รอฉัน”
อัญมาแก้ตัว “ก็นี่แหละฉันจะออกมาหาพี่คม”
“หมอบอกว่าเธอต้องนอนพัก ห้ามเยี่ยม เป็นอะไรร้ายแรงหรือเปล่า อัญ”
อัญมามอง อธิคมเข้ามาใกล้ จับแขนจับตัว แววตาน้ำเสียงห่วงใยจนอัญมาหน้าร้อนผ่าว

อีกด้านภควัตวิ่งตามมา เห็นอธิคมจับแขนอัญมาก็ชักสีหน้าหึงโดยไม่รู้ตัว
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย ฉันไม่ชอบโรงพยาบาล กลับบ้านเถอะพี่คม วันนี้ฉันเหนื่อยมาก มีเรื่องอะไรเยอะแยะไปหมด ฉันอยากกลับบ้าน”
อัญมาจับแขนอธิคมพร้อมรอยยิ้ม
ภควัตมองจ้องอัญมาที่ยิ้มกับอธิคม
ที่ด้านหลังภควัต ขวัญอนงค์มองที่อัญมายิ้มกับอธิคม
“นั่นแฟนผู้หญิงคนนั้นล่ะสิ”
อธิคมกุมมืออัญมาเดินออกไปจากโรงพยาบาลด้วยกัน ดูราวกับเป็นคู่รักกัน
ภควัตมองตาม ตาขวาง สีหน้าดูออกว่าหึงมาก ขวัญอนงค์มองพี่ชายที่เดินตามออกไปห่างๆ ด้วยหน้าตาสนใจใคร่รู้

วรจันทร์มองขวัญอนงค์ที่กำลังรายงาน มะลิเอากาแฟมาเสิร์ฟให้อภิกานต์
“ผู้หญิงคนนั้นกลับไปกับแฟน พี่วัตท่าทางจะหึงเลยล่ะค่ะ”
“อยากรู้จริงๆ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” คุณหญิงว่า
อภิกานต์หัวเราะขัน “ดูจากการแต่งเนื้อแต่งตัวแล้ว ไม่น่าที่คุณหญิงวรจันทร์จะต้องสนใจขนาดนี้”
“ไม่ได้นะคะ ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ตาวัตก็ต้องสนใจไว้ก่อนละ สุคนธรสทำตาวัตเกือบเสียผู้เสียคนไปทีนึงแล้ว ฉันไม่อยากเห็นตาวัตต้องเจ็บเพราะความรักอีก”
ขวัญอนงค์เห็นด้วย “ใช่ค่ะ น้องก็ไม่ยอมให้พี่วัตไปรักผู้หญิงใจร้ายอีกแล้ว พี่วัตน่าสงสารนะคะ รักใครรักจริง รักเค้าจนหมดหัวใจ”
“ก็อย่างที่บอกน่ะแหละ คนนี้อาจจะเป็นญาติของคนที่ตาวัตทำคดีให้ หรืออาจจะรู้จักเพราะงานก็ได้ ตาวัตบอกว่ากำลังสืบเรื่องพ่อค้ายาอยู่ไม่ใช่เหรออาจจะเป็นคนในชุมชนที่ตาวัตไปฝังตัวก็ได้”
“นั่นยิ่งไม่ได้เลยนะคะ ใครที่ไหนก็ไม่รู้”
“น้องรับรองค่ะ เรื่องนี้น้องจะต้องสืบมาให้ได้ น้องไม่อนุญาตให้ผู้หญิงคนไหนมาทำให้พี่ชายของน้องอกหักอีกแล้ว”
วรจันทร์มองขวัญอนงค์ด้วยสีหน้าพอใจ
อธิคมเดินมากับอัญมา อัญมามองไปด้านในค่ายมวยส.วินิจ
“วันนี้ฉันไม่เข้าไปข้างในได้มั้ย พี่คม ฉันอยากกลับไปนอนพัก”
“ไม่สบายหรือเปล่า หน้าซีดๆ”
อธิคมเอามือแตะหน้าผาก อัญมารีบดึงมืออธิคมออก
“ไม่มีอะไรหรอก พี่คมไม่ต้องห่วงนะ”
“ไม่ห่วงได้ยังไง คิดว่าฉันพูดเล่นเหรอ ที่เคยชวนเธอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่”
“พี่คมกล้าทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่บังเตรียมไว้ให้เหรอ”
“ถ้าพี่จะยิ่งใหญ่ พี่ก็จะสร้างทุกอย่างด้วยตัวเอง”
อัญมามองเห็นแววตาแข็งกร้าวเอาจริงของอธิคมแล้วนึกกลัว
“พี่คมจะยิ่งใหญ่ในทางนี้แข่งกับพี่บังเหรอ”
“ไปเถอะ จะกลับบ้าน ก็รีบไปซะ”
อธิคมไม่ยอมตอบคำถาม อัญมายิ้มแห้ง แล้วเดินไปทางชุมชน อธิคมมองตาม

ขณะที่อัญมาเดินผ่านมาแถวร้านกาแฟ เสียงแอนนี่ส่งเสียงแหลมออกมาจากในร้าน
“ดูดอีกสิจ๊ะ ดูดแรงๆ เลย พี่วัตจ๋า”

อัญมาหันไปมอง เห็นแอนนี่กำลังลอยหน้ายื่นกาแฟเย็นให้ภควัตในคราบเซียนพระดูด

เห็นอัญมามองจ้อง แอนนี่เอาอกเบียดภควัตและยิ่งยั่วเป็นการใหญ่

“พอแล้วจ้ะ น้องแอนนี่ พี่อิ่มอกอิ่มใจมากเลย”
แอนนี่หัวเราะระริกระรื่น เอาอกเบียดแขนภควัต
“แอนนี่มีให้พี่วัตอิ่มเพียบเลยจ้ะ ไม่เหมือนนังแห้ง กระดานเรียกพี่อย่างบางคน”
อัญมาก้มมองหน้าอกตัวเองทันที ภควัตหัวเราะ
“น้องอัญเค้าเล็กพริกขี้หนูนะ”
อัญมาแหวใส่ “นี่ไอ้พี่วัต ว่างมากนักใช่มั้ย”
“มากจ้ะ”
“ทำไม หวงแฟนด้วยเหรอ พี่วัตเค้าอยากลองของใหม่บ้าง”
จิ๊บเดินมา เห็นอัญมาหน้าเขียวหน้าเหลือง โมโหภควัต ก็เข้าใจว่าเพื่อนหึง
“นั่นแฟนแกไม่ใช่เหรอ เป็นแฟนฉัน แอนนี่โดนตบตกโต๊ะไปแล้ว ใจเย็นอยู่ได้”
“ช่างเถอะ จิ๊บ แฟนไม่รักดี ชอบกินของเน่าของบูดก็ตามใจ”
อัญมาสะบัดหน้าพรึ่ดไป จิ๊บมองเขม่นไม่ชอบหน้าภควัต เดินตามเพื่อนไป
ภควัตจะลุก แอนนี่ไม่ยอมดึงไว้
“อะไรน่ะ พี่วัต แค่แฟนงอนใส่ ทำไมต้องไปง้อมันด้วย”
“พี่จะไปทำงานจ้ะ”
“ไม่ให้ไป แอนนี่รู้นะ จะไปง้อไอ้อัญมันล่ะสิ”
แอนนี่ไม่ยอม ดึงภควัต นัวเนียไว้จนภควัตดิ้นไม่หลุด

อัญมาเดินมาหน้าตาบึ้งตึง จิ๊บเดินตาม ถามขึ้น
“ถ้าแกหึง แกก็จัดการแฟนแกเลยสิวะ ปล่อยให้สุนัขคาบไปควงทำไม”
“ฉันไม่ได้หึง”
“หน้าย่น คิ้วชนกัน ไฟแล่บออกจากปากขนาดนี้ อย่ามาบอกเลย ไม่หึง”
“ฉันไม่ได้หึง ฉันโกรธ”
“อ๋อ...เหรอ”
“จิ๊บ ถ้ามีผู้ชายมาชวนแกไปมีชีวิตใหม่ แกจะทำยังไง”
“ทำยังไง แกบ้าหรือเปล่า ไอ้อัญ ก็ไปสิ แสดงว่าเค้ารักแก ชวนแกแต่งงาน”
“ไม่ได้บอกว่ารัก ไม่ได้บอกว่าจะแต่งงาน”
“เล่ามา ไอ้วัตเซียนพระมันชวนแกเหรอ”
“ไม่ใช่พี่วัต”
“งั้นใคร”
“แกอย่ารู้เลย”
อัญมาเดินหนี จิ๊บเดินตามยังไม่หายสงสัย

อัญมาเข้าบ้านมา จิ๊บยังตามมาถาม
“บอกมา ไอ้อัญ ใครชวนแกไปอยู่ด้วย”
อุบลที่เดินออกมาได้ยิน ก็ถามขึ้น
“แกว่าไงนะ จิ๊บ”
“มีผู้ชายชวนไอ้อัญไปอยู่ด้วยจ้ะ ป้าอุบล”
อุบลหูผึ่ง “ใคร ผู้ชายที่ไหน...จะรักใครชอบใครก็ดูให้มันดีๆ”
“ไปฟังไอ้จิ๊บมันน่ะ แม่” เป็นครั้งแรกที่อัญมาเรียกอุบลว่า แม่
อุบลตื่นเต้น หันไปมองอัญมาอย่างแปลกใจ
“แกยอมเรียกแม่ ว่าแม่แล้วเหรอ ไอ้อัญ”
อัญมาเดินเข้ามาใกล้
“ฉันรู้ว่าแม่เป็นแม่จริงๆ เป็นคนอุ้มท้อง ให้ชีวิตฉัน”
“แต่แม่เลี้ยงแกให้สุขสบายไม่ได้”
อุบลเสียงเศร้า อัญมามองอุบลด้วยสายตาเข้าใจ จิ๊บมองทั้งคู่ด้วยแววตาปีติดีใจ
“แม่เลยคิดจะเอาฉันไปยกให้คนอื่น” อัญมาเย้า
“อืม...แต่ทำไม่ลง”
“ฉันถึงเป็นไอ้อัญ โตมาในชุมชนแออัด”
“แม่อยากเลี้ยงเอ็งให้ดีกว่านี้ ให้ได้เรียนสูงๆ ทำงานดีๆ เป็นเจ้าคนนายคน”
“แต่ฉันติดยา”
“เอ็งติด เอ็งก็เลิกได้ เชื่อแม่นะ”
อุบลจับแขนลูก แววตามองมาอย่างขอร้อง
“ถ้าเอ็งอยากเลิก แม่จะช่วยทุกอย่างนะอัญ”
อัญมามองอุบล เห็นแววตาซื่อ ห่วงใยลูกแล้วยิ้ม ดึงอุบลมากอด อุบลกอดอัญมาไว้ด้วยความดีใจ
“แม่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันรู้จักผิดชอบชั่วดี แต่ที่ฉันกำลังทำ เพราะฉันมีเหตุผลที่บอกใครไม่ได้ ฉันไม่ได้อยากใช้ยา แต่ฉันยังต้องเกี่ยวข้องกับพี่บัง”
“อัญ มีปัญหาอะไรก็บอกแม่นะ จะได้ช่วยกันแก้”
“แกยังมีฉันด้วยนะ ไอ้อัญ” จิ๊บบอก
อัญมามองจิ๊บกับแม่แล้วยิ้ม
“ขอให้เชื่อว่าฉันกำลังทำดี ทำเพื่อช่วยชีวิตคนๆ นึงที่เป็นคนดีมาก ขอให้ทุกคนเชื่อใจฉันนะ”
อุบลกับจิ๊บมองอัญมาที่แววตาขอร้อง

ภควัตทิ้งตัวลงนั่งในห้องเช่า พยายามเช็ดลิปสติกรอยจูบของแอนนี่ที่แก้มออก จ่าเดชพรวดเข้ามา ภควัตสะดุ้ง
“ตกใจหมดจ่า มาเงียบๆ”
“โห ผู้กอง จัดหนักเลยวันนี้ เจอแอนนี่มันลากเข้าห้องหรือไง ถึงได้รอยจูบเต็มไปหมด”
“เกือบไป”
จ่าเดชมองเหล่ “ประชดใครป่าวเนี่ย”
ภควัตงง “ประชด”
“ก็ที่ไอ้อัญมันไปกุ๊กกิ๊ก มุ้งมิ้งกับไอ้อธิคม”
“บ้าแล้ว จ่า พูดเพ้อเจ้อ งานๆ ผมไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของไอ้อัญ”
จ่าเดชจ้อง “น่ะ...เถียงซะหน้าแดง หูแดงเลย หึงล่ะสิ หึง ๆ”
ภควัตลุกพรวด “เอ๊ะ จ่า ยังไง บอกว่าไม่ได้หึง”
“เดี๋ยวๆครับ ใจเย็น ผมก็มาแซวเล่นๆ เห็นแอนนี่มันเที่ยวป่าวประกาศว่าผู้กองเป็นแฟนมันแล้ว ดีนะ แค่แฟน ยังไม่ถึงสามี”
“ฮ้า ว่าไงนะ” ภควัตตกใจมาก

อัญมาออกมาช่วยอุบลทอดไก่หน้าร้านเจ๊ว่าน จิ๊บช่วยขายอีกแรง มีนวยกับพวกวินกำลังรอซื้อ
แอนนี่เดินบิดออกมาตะโกนหน้าร้าน จงใจให้อัญมาได้ยิน
“พี่วัตน่ะเค้าปากหวาน ชมว่าแอนนี่สวย เซ็กซี่ สะบึมอารมณ์”
แอนนี่เดินมายืนบิดหน้าร้านอุบลกะอัญมา
“แล้วก็บอกว่าชอบ ผู้หญิงอย่างแอนนี่ เพราะความเปิดเผย”
พลางแอนนี่สะบัด สะบิ้งเปิดเผยสัดส่วน นวยกับพวกวินที่ซื้อไก่ถึงคราง
“เปิดขนาดนี้ ฉันก็ชอบว่ะ แอนนี่” นวยว่า
แอนนี่เหยียดปากใส่ “ชิส์ หน้าอย่างแก ไม่ต้องหวังจะได้แอ้มฉัน ฉันหวงไว้ให้พี่วัตคนเดียว”
“มะ แหม ลืมอาชีพเดิมเลยนะ น้องแอนนี่”
“ไอ้บ้านวย”
นวยกับพวกหัวเราะ แอนนี่หันไปทางอัญมา
“พี่วัตน่ะเค้าบอกว่าไม่แคร์หรอกย่ะ ถึงแอนนี่จะเคยผ่านใครมา พี่วัตก็รับได้ และจะเป็นรักสุดท้ายของแอนนี่”
อัญมาสุดจะทน ทำเสียงอาเจียนออกมา
“อ๊วก...”
“แกท้องกับใครยะ อย่าบอกนะว่าพี่วัตของชั้น”
“ไหวมั้ย แอนนี่ ไหวมั้ย คำก็พี่วัต สองคำก็พี่วัตของชั้น”
“ช่วยไม่ได้ พี่วัตเค้าเลิฟฉันสุดๆ”
จิ๊บหมั่นไส้ “แหม...ช่างมโนเก่งจริงๆนะแก ให้ผู้ชายเค้าพูดชัดๆ ก่อนมั้ย”
ภควัตในคราบเซียนพระเดินมาพอดี แอนนี่รีบโดดเข้าไปเกาะ
“พี่วัตมาแล้ว”
ภควัตพยายามแกะแอนนี่ออก
“ไงล่ะ นังแอนนี่ รักมากเลยนะ ผู้ชายมันถึงสะบัดแกออกแบบนั้น” จิ๊บว่า
“พี่วัตอ่ะ บอกสิ บอกเลยว่าเลือกแอนนี่แล้ว
ภควัตดันแอนนี่ออกแล้วเดินไปดึงมืออัญมา
“มานี่ มีเรื่องต้องคุยกัน”
ภควัตดึงอัญมาออกไปตัวปลิว จิ๊บกับนวยหัวเราะสะใจ
“ว่าไง อีแอนนี่...ไหนว่าผู้ชายเค้ารักเค้าหลง ทำไมเค้าถึงดีดเอ็งซะเต็มที่ขนาดนั้น”
“เอากาวตราช้างมั้ย แอนนี่” นวยบอกอย่างสะใจ
“เอามาทำไม” แอนนี่ไม่เก็ต
“เก็บเศษหน้าที่แตกเอามาแปะใหม่ไงล่ะ”
“ไอ้นวยบ้า ไปเลยนะ ต่อไปนี้ชั้นจะไม่ขึ้นรถแกเด็ดขาด”
นวยลอยหน้าใส่ “เหรอ...”
นวยหัวเราะเยาะเสียงดัง จิ๊บมองตามอัญมาที่ออกไปด้วยสีหน้าอยากรู้

ภควัตดึงอัญมามาหยุดลงบริเวณริมน้ำ อัญมาหน้าบูดหน้าบึ้ง
“อธิคมมันพูดอะไรให้เป็นเบาะแสส่งยาครั้งต่อไปบ้างหรือเปล่า”
“เปล่า”
“เปล่า หรือมัวแต่พูดเรื่องไร้สาระ ฟังแต่คำหวานๆเลยไม่ทันฟัง”
อัญมายัวะ “นี่ ผู้กอง อย่ามาหึงไร้สาระ”
“หึง ฉันน่ะนะ หึงเธอ”
“ใช่สิ อาการแบบนี้ หึงขึ้นหน้าเลย”
ภควัตดึงอัญมามาใกล้
“หึงเธอ ฉันไปหึงผู้หญิงเนื้อนมไข่อย่างแอนนี่ดีกว่า”
อัญมาทุบหมัดลงบนไหล่ภควัต ภควัตร้อง
“เจ็บนะ”
อัญมาไม่หยุด ทุบลงบนไหล่อีกข้าง
“ปากเสีย มันก็ต้องเจอแบบนี้”
ภควัตหลบ อัญมาไม่ยอม ทุบหมัดลงไปอีก ภควัตรวบตัวอัญมามาใกล้จนจมูกชนกัน สองคนมองกันใกล้
“ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะรู้สึกยังไงกับอธิคม อย่าให้เสียมาถึงงานก็แล้วกัน
อัญมาได้ยินแล้วมองน้อยใจ แต่ประชดกลับ ไม่ยอมให้ภควัตรู้ความรู้สึกตัวเอง
“ไม่ต้องห่วงหรอก คนอย่างอัญมา ทำอะไรไม่เคยพลาด แยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้”
“ให้มันแน่เถอะ”
“ฉันแน่อยู่แล้ว ฉันถึงกล้าเอาตัวไปเสี่ยงเป็นสายลับในแก๊งค้ายา”
“ฉันว่าเธอทำงานด้วยความสุขมากกว่า” ภตวัตประชดอีก
“เรื่องมีความสุขน่ะ แน่อยู่แล้ว มีคนมาเอาใจ ทำไมจะไม่สุข สุ้ข สุข”
อัญมาแกล้งยั่ว ภควัตปล่อยมือจากไหล่อัญมา
“ฉันจะมาบอกแค่นี้แหละ”
ภควัตหันหลังเดินลิ่วๆออกไป อัญมาเปลี่ยนสายตา มองตามด้วยความน้อยใจเอามากๆ
“ดี ระหว่างฉันกับผู้กอง ก็มีแต่เรื่องงานนั่นแหละ”

ส่วนที่บ้านวินิจ อธิคมมองผู้เป็นพ่อที่กำลังวางแผนงานอยู่
“ฉันกำลังจะทำยาสูตรใหม่ ใช้น้อย สนุกได้นานๆ ไม่ต้องแพงมาก แล้วที่สำคัญตรวจฉี่ ก็ไม่เจอ เจาะตลาดเด็กเที่ยวโดยเฉพาะ”
“พ่อจะให้ผมทำอะไรบ้าง”
“เราต้องได้สารเคมีตั้งต้นมาตัวนึง ของจะส่งมางวดหน้า”
“ไม่ต้องห่วง ผมจะเอาของมาให้พ่อเอง”
วินิจยิ้มมอง อธิคมด้วยสายตาพอใจ

ภควัตกำลังประชุมอยู่กับทุกคนอยู่ในฐานลับ
“เราได้ข้อมูลว่ามีการสั่งสารเคมีตัวนึงเข้ามามากผิดปกติ”
“แต่ตามรายงานจากห้องแล็บ สารเคมีตัวนี้ ไม่ใช่สารตั้งตั้นผลิตยานะครับ”
“เราต้องระวังไว้ก่อน ภควัต ตรวจสอบกับสายของคุณหน่อย”
“ครับ นาย พวกค้ายามันมีลูกเล่นใหม่ๆ ขยายตลาดของมันเรื่อยๆ สายของผมคงจะพอบอกความเคลื่อนไหวเรื่องสารเคมีตัวนี้ได้” ภควัตบอกด้วยแววตาอันมุ่งมั่น
กฤษณ์มองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ ที่ภควัตได้ความไว้วางใจจากนายทุกเรื่อง

เวลาต่อมา อุบลที่กำลังทอดไก่มองจ้องภควัตที่แวะมาหาอัญมา
“ฉันไม่รู้หรอกว่าไอ้อัญมันอยู่ที่ไหน ก็เมื่อเช้าแกมาลากข้อมือมันออกไป”
“คือเราทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะครับ”
อุบลมองไม่ชอบใจภควัต
“ไอ้อัญมันลูกมีพ่อมีแม่ จะทำอะไรก็ให้มันเกรงใจหัวหงอกหัวดำมั่ง”
ภควัตยิ้มแห้งๆ ที่อุบลมองมาท่าทางไม่ชอบขี้หน้าตัวเอง

ขณะนั้น อัญมาเดินเที่ยวอยู่กับอธิคม อัญมาที่เริ่มมีอาการมือสั่น เหมือนจะลงแดง
“พี่คม เดี๋ยวฉันขอไปดูร้านโน้นแป๊ปนะ”
อัญมาเดินแยกออกไป อธิคมมองตาม
เดินมาถึงหน้าร้านขายเครื่องสำอาง อัญมาล้วงยาออกจากกระเป่าสะพายใบเล็ก
“มัวแต่ทะเลาะกับผู้กอง จนลืมกินยา เกือบลงแดงจนได้”
อัญมาเอายาใส่ปากแล้วกินน้ำตาม อธิคมที่หลบมองจากมุมหนึ่งฉงน
“กินยาอะไร”
อัญมารีบทิ้งขวดน้ำ เอาถุงยาใส่กระเป๋าสะพาย แล้วทำเดินดูเสื้อผ้า
อธิคมแกล้งอ้อมมาเจอ พร้อมถุงเสื้อ ส่งให้
“ฉันซื้อให้”
“อะไรน่ะ พี่คม”
“เปิดดูสิ”
อัญมาหยิบเสื้อออกมาดู แล้วยิ้ม
“น่ารักจัง ขอบใจนะ”

อัญมายิ้ม อธิคมยิ้มตอบ ทั้งๆที่ใจเริ่มสงสัยพฤติกรรมอัญมา

ภควัตก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ ขวัญอนงค์รออยู่รีบเดินเข้าไปคล้องแขนพี่ประจบ

“อย่าโกรธนะคะที่ขวัญโทร.เรียกพี่วัตมากะทันหัน”
วรจันทร์ อภิกานต์นั่งอยู่ใกล้ หนึ่งฤทัย หญิงสาวหน้าตาน่ารักที่คุณหญิงวรจันทร์จะจับคู่ให้ภควัต วรจันทร์รีบแนะนำ
“หนูหนึ่งฤทัย เป็นเพื่อนยายน้อง ป้าชวนมาทานข้าวด้วย”
“ครับ”
หนึ่งฤทัยมองภควัตอายๆ แต่ภควัตแววตาเฉยเมย วรจันทร์ลอบยิ้มกับขวัญอนงค์ที่ทุกอย่างกำลังทำตามแผน

ทุกคนอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ขวัญอนงค์สะกิดให้ภควัตตักอาหารให้หนึ่งฤทัย แต่ภควัตทำเฉย ขวัญอนงค์กระแทกแขนแรง ภควัตแกล้งทำช้อนหล่น วรจันทร์ มองอย่างขัดใจ
ขวัญอนงค์กระแทกแขนอีก ภควัตทำไม่รู้เรื่อง แกล้งเอื้อมตักอาหาร แล้วทำหกกลางโต๊ะ หนึ่งฤทัยมอง สีหน้าตกใจ วรจันทร์ กับอภิกานต์หน้าเสีย
ไม่เท่านั้น ภควัตแกล้งกินข้าวเลอะเทอะ สูดแกงจืดเสียงดัง หนึ่งฤทัยเริ่มเบ้หน้า ภควัตใช้ไม้ตายสุดท้าย ตักข้าวกินแล้วเคี้ยวไปพูดไป
“ข้าวบ้านผมอร่อยมั้ยครับ”
ภควัตยิ้มซดน้ำแกงเสียงดัง หนึ่งฤทัยวางช้อนด้วยความรังเกียจทันที ทุกคนตกใจ

หลังอาหารมื้อนั้น ขวัญอนงค์เดินเข้าหาภควัตอย่างไม่พอใจ
“พี่วัตแกล้งทำตัวไม่น่ารักต่อหน้าเพื่อนน้อง”
ภควัตยิ้มขัน ไม่โกรธอะไร “คุณน้องจะจับคู่ให้พี่เหรอครับ”
ขวัญอนงค์สะบัดหน้าหนี วรจันทร์พูดขึ้น
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ วัต”
“คนไหนครับ คุณป้า”
“คนที่เธอพามาบ้าน แล้วไม่ยอมให้ป้าเห็น คนเดียวกับที่โรงพยาบาลใช่มั้ย”
ภววัตรู้ว่าหนีไม่รอด ก็ตอบตามตรง ไม่อยากปฏิเสธ
“ครับ คือเค้าเป็นเพื่อนผมครับ”
วรจันทร์ถาม เสียงอ่อนโยน “ให้ป้ารู้จักเพื่อนวัตคนนี้ได้มั้ย”
“คือ...”
“ป้าอยากเห็นว่าเพื่อนผู้หญิงที่วัตพากันมาค้างอ้างแรมถึงในบ้าน หน้าตาเป็นยังไงคนเราเดี๋ยวนี้มันไว้ใจได้ยากเต็มทีนะวัต”
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณป้าคิดนะครับ ผมมีเหตุผล”
ท่านอภิกานต์แทรกขึ้น “เหตุผลอะไรน่ะ วัต ลุงเองก็อยากรู้”
“ผมยังบอกตอนนี้ไม่ได้จริงๆ ครับคุณลุง”
“ถ้าวัตบริสุทธิ์ใจ อย่าคิดว่าป้าจู้จี้ หรือบงการชีวิตวัต แต่ป้าไม่อยากให้วัตเลือกพลาด จนต้องมานั่งเสียใจ เสียเวลา”
ภควัตมองป้า พบว่าคุณหญิงวรจันทร์พูดด้วยแววตาเฉียบขาด
“ป้าอยากรู้จักเพื่อนผู้หญิงของวัตคนนี้ พามาให้ป้ารู้จัก”
ภควัตสีหน้าลำบากใจขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำสั่งวรจันทร์

อัญมากลับเข้ามาในห้อง หยิบเสื้อที่อธิคมซื้อให้ออกมาดู รู้สึกเหนื่อยใจที่ต้องเอาใจอธิคมตลอดเวลา
“อธิคม...หน้าตาท่าทางก็ดี เอาใจผู้หญิงก็เก่ง ถ้านายคิดจะออกจากวงการค้ายาจริงๆ ก็คงดี”
อัญมาหยิบซองยาในกระเป๋าสะพายออกมา เห็นยาเหลือแค่ 2 เม็ด
“ต้องแวะไปขอยาหมอมาเพิ่มแล้ว เดี๋ยวลงแดงขึ้นมาอีก”
สัญชัยที่ก้าวเข้ามาที่ประตูห้อง มองอัญมาถือซองยาอย่างดูแคลน คิดว่าเป็นซองยาบ้า
“ฮี่โธ่...นึกว่าจะกลับตัวกลับใจได้อย่างที่โม้ไว้ สุดท้ายก็กลับมาหายานรกอยู่ดี”
อัญมาเห็นสัญชัยเข้ามาในห้อง ก็รีบเก็บยาใส่กระเป๋าสะพาย
“จะเป็นจะตายมันเรื่องของชั้น พ่อเลี้ยงใจทรามอย่างแกไปอยู่ห่างๆดีกว่า สัญชัย”
สัญชัยไม่โกรธ แต่ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเดินเข้าหา
“จะไล่พ่อไปไหนละ ลูกอัญ พ่ออยากกอดลูกใจจะขาด อยากสอนให้ลูกเป็นคนดี มามะ มาให้พ่อกอดหน่อยมา”
สัญชัยเข้ามาลวนลามอัญมา อัญมาทำหน้าขยะแขยง เอากระเป๋าสะพายในมือฟาดหน้าสัญชัยอย่างแรง
“ทุเรศ ไม่ต้องมาอ้างทำหื่นใส่ แกไม่ใช่พ่อฉัน”
อัญมาจะหนีออกนอกห้อง สัญชัยเข้าไปกระชากอัญมาไว้ อัญมาถีบสัญชัยกระเด็นไป
“โอ๊ย ไอ้อัญ แก”
อัญมารีบวิ่งหนีออกจากห้อง
“ข้าไม่ปล่อยเอ็งไปง่ายๆ หรอก”
สัญชัยรีบวิ่งตามออกไป

เย็นจวนค่ำ อัญมาวิ่งออกมา อุบลกำลังเก็บร้านกลับเข้าบ้านพอดี สัญชัยวิ่งตามลงมา
“อย่าหนีนะ”
“อะไรกัน ไอ้อัญ มีเรื่องอะไรกัน”
อัญมาจะบอก “แม่....มัน...”
สัญชัยชิงฟ้องก่อน “ก็ไอ้อัญน่ะสิ มันจะเล่นยา ฉันอุตส่าห์พูดกับมันดีๆ มันก็ทั้งฟาด ทั้งถีบหาว่ายุ่งเรื่องของมัน ไม่เชื่อค้นกระเป๋ามันสิ ยาบ้าอยู่ในนั้นล่ะ”
อุบลได้ยินว่า ยาบ้า ก็โกรธทันที หันขวับไปดึงกระเป๋าสะพายอัญมาจะค้น
“ไหนไอ้อัญ จริงหรือเปล่า แม่ขอกี่ทีแล้วให้เลิก”
อัญมาไม่ยอมดึงกระเป๋ากลับ
“เห็นไหมมันไม่ยอมให้ค้นแสดงว่าที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง แถมในห้องมันก็มีเสื้อผ้าใหม่ๆ เต็มไปหมด น้ำหน้าอย่างมัน ถ้าไม่ไปขายยาจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ จริงไหม”
“ไม่จริง!! ฉันเคยเลว แต่ไม่จำเป็นต้องเลวตลอดไป แต่คนใจต่ำอย่างแกสิ ขุดยังไงก็ไม่มีวันโผล่ขึ้นมาจากตม กลับไปกอดขวดเหล้าของแกเลยไป อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน”
อุบลปราม “ไอ้อัญ ยังไงสัญชัยก็มีบุญคุณ มันก็เคยหาเลี้ยงเรามา”
“คนอย่างมัน ฉันไม่มีวันนับเป็นพ่อ ไม่ต้องมาสอนฉัน”
สัญชัยโกรธจัด “ดูนะ อุบล ดูลูกแก ฉันเตือนด้วยความหวังดีนะ ดูมันด่าฉัน ไม่ให้ความเคารพฉัน ยาบ้าน่ะ มันทำลายสมองลูกแกหมดแล้ว”
“ไอ้อัญ เอายาออกมาให้แม่”
อัญมากอดกระเป๋าแน่น “ไม่ เรื่องนี้ ฉันขอนะ แม่อย่ายุ่ง”
อุบลมองอัญมาอย่างเจ็บปวดคิดว่าลูกกลับไปหายาเสพติดอีก ตบหน้าอัญมาโดยอัญมาไม่ทันตั้งตัว
“แม่ตบฉันทำไม”
“ไหนเอ็งว่ารู้จักผิดชอบชั่วดี กำลังทำดี นี่เหรอสิ่งที่เอ็งทำ ถ้าเอ็งกลับตัวกลับใจไม่ได้ ก็อย่ามาโกหก”
“นี่แม่เชื่อมันเหรอ”
สัญชัยยิ้มเยาะสะใจ “เอ็งคิดว่าลูกกะผัว แม่เอ็งจะเชื่อใคร”
อัญมาทั้งโกรธและน้อยใจอุบล สะบัดหน้าเดินหนีออกจากบ้าน
“ไอ้อัญ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ กลับมาคุยให้รู้เรื่องก่อน”
“เป็นไงล่ะ ลูกรักของแก”
“แกหุบปากก่อนน่ะ ฉันจะคุยกับลูกเอง”
อุบลรีบตามอัญมาออกไป สัญชัยมองเยาะ

อัญมาเดินเร็วออกมาหน้าบ้าน อุบลตามมาดึงไม่ให้อัญมาไว้ ชาวบ้านพากันนั้นแห่ออกมาดูคนทะเลาะกัน
“ไอ้อัญ เอ็งจะไปไหน จะไปขายยาอีกหรือเปล่า”
“ในเมื่อแม่ไม่เชื่อใจฉัน ฉันจะทำอะไร แม่ก็ไม่ต้องสนใจหรอก”
สัญชัยตามมาแดกดัน
“จะสั่งสอนสิ่งดีๆให้ไม่ชอบ ปล่อยมันไปตกนรกอย่างที่มันชอบๆ เถอะ อุบล”
“แกน่ะสิ ต้องตกนรก ไม่ใช่ฉัน ไอ้พ่อเลี้ยงลามก”
“ไอ้อัญหยุดก่อน บอกแม่ มา แกยังติดยา ขายยาใช่มั้ย”
“ฉันพูดไป ถ้าแม่ไม่เชื่อใจ เราก็ไม่มีวันคุยกันรู้เรื่อง”
ภควัตเดินมาหา พอเห็นก็รีบเข้าไปหาอัญมา
“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ”
“พี่วัต พาฉันไปจากที่นี่ที ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว อยากฆ่าไอ้พวกหน้าไหว้หลังหลอก เดนมนุษย์หมกท่อ”
อัญมามองสัญชัยอย่างเกลียดชัง
“ใครทำอัญ” ภควัตจ้องไปที่สัญชัย “บอกพี่”
อัญมาเห็นภควัตที่จ้องสัญชัยแล้วรีบดึงแขนไว้
“ช่างเถอะ พี่วัต ไปกันก่อน”
“ป้าอุบล ไม่ต้องห่วงนะครับ” ภควัตมองอุบลแววตาจริงใจ “ผมจะดูแลอัญเอง”
อัญมาดึงภควัตออกไป สัญชัยไม่พอใจที่อัญมาไปกับภควัต โมโหหวงก้าง
“ดูมัน ดูลูกสาวทรพีของแกนะ อุบล ฉันเตือนด้วยความหวังดีแท้ๆ นี่มันคงติดผู้ชายล่ะสิ เอะอะถึงพากันไปง่ายๆ ระวังเถอะ อีกหน่อยก็ท้องไม่มีพ่อ”
อุบลมองตามลูกสาวอย่างกังวล

สองคนอยู่ในห้องเช่า ภควัตมองรอยแดงที่แก้มอัญมาข้างที่ถูกอุบลตบ
“เจ็บมากมั้ย”
“เสียใจมากกว่า ตอนนี้ ฉันพอจะเข้าใจความรู้สึกของเด็กมีปัญหาขึ้นมาบ้างแล้ว มีพ่อเลี้ยงเลวว่าแย่แล้ว แต่ที่แย่กว่าก็ตรงที่แม่ไม่เชื่อที่เราพูด ไม่เชื่อใจลูกตัวเอง”
“แม่เค้าคงโกรธที่คิดว่าเธอโกหก ทำไงได้ ก็เธอเป็นคนมีประวัติมาก่อนนี่”
“มีประวัติว่าเคยติดยาก็เลยต้องถูกตราหน้าว่าไม่วันหลุดพ้นจากมันได้หรือไง”
“ทุกอย่างต้องอาศัยเวลานะ อัญมา ถ้าเรามีหลักฐานจับแก๊งค้ายานายวินิจได้ทุกคนก็จะเข้าใจเธอดีขึ้น รู้ว่าทั้งหมดเธอทำเพื่ออะไร”
“ก่อนถึงวันนั้นฉันต้องคลั่งก่อนแน่ๆ ฉันอยากจะเอายาในกระเป๋าไปปาหน้าไอ้สัญชัยว่าไม่ใช่ยาบ้าอย่างที่มันพูดปาวๆ”
“ขอบใจที่เธออดทน”
“อดทนแล้วต้องมานั่งเจ็บใจนี่มันคุ้มกันมั้ย”
“อัญมา ฉันรู้ว่าทำให้เธอตกที่นั่งลำบาก แต่เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ”

ภควัตกับอัญมาสบตากัน อย่างเป็นกำลังใจให้กัน

อ่านต่อตอนที่ 5
กำลังโหลดความคิดเห็น