คีตโลกา ตอนที่ 3
เย็นมากแล้ว อัญมาหันกลับไปมองเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ที่กำลังล้อมกรอบเข้ามาจากคนละทาง อัญมาตัดสินใจวิ่งพรวดเข้าบ้านที่ใกล้ที่สุด ตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 คน วิ่งตามทันที เก้ากับต้นพรวดมามองเห็น แล้วตกใจ
อัญมาพุ่งเข้ามาในบ้านที่กำลังตั้งวงเล่นไพ่กันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด นักพนันผงะมองอัญมาตะลึง อัญมาใช้ไหวพริบ ตะโกน
“ตำรวจ ตำรวจมาจับไพ่”
วงพนันแตกฮือ อัญมาฉวยโอกาสวิ่งสวนพุ่งออกไปด้านหลังบ้าน
ตำรวจ 2 คนเข้ามา นักพนันอลหม่าน ตำรวจชุลมุม นักพนันผู้หญิงวิ่งหนี โดดหน้าต่างบ้าง
นักพนันชายคนหนึ่งชกตำรวจ อีกคนเข้าดึง ที่เหลือพากันหนี เหมือนผึ้งแตกรัง
อัญมาวิ่งทะลุออกมาอีกด้านของชุมชน เก้ากับต้นวิ่งมาดัก เห็นอัญมาวิ่งหนี แหกปากตะโกนสุดชีวิต
“ตำรวจ ตำรวจมาจับไพ่”
นักพนันที่แตกกระเจิงพากันวิ่งหนี ชนชาวบ้าน อลหม่านไปทั่วชุมชน จนตำรวจนอกเครื่องแบบหัวหมุน
อัญมาตั้งหน้าวิ่งหนีออกไปทันที
อัญมาวิ่งเข้ามาในร้านสะดวกซื้อ มาหยุดหอบหายใจอยู่หน้าตู้เครื่องดื่ม
“ไอ้อัญ”
อัญมาตกใจเสียงเรียก หันไปเห็นจิ๊บที่กำลังเรียงของ
“ไอ้อัญ แกหายหัวไปไหนมา แล้วทำไมหน้าตายังกับหนีใครมา”
จิ๊บพูดแล้วนึกขึ้นได้ ถามซะดัง “ไอ้อัญ หรือแกหนีตำรวจ”
อัญมาโมโห “จะเสียงดังทำไม”
“แกหนีตำรวจมา แกส่งยา” จี๊บไม่หยุด
อัญมาพูดแทบเป็นตวาด “เงียบน่ะ”
อัญมากำเงินจากส่งยาออกมาดู จิ๊บตาโตเมื่อเห็นแบงค์พันเป็นปึก
“แกส่งยาจริงๆ”
อัญมาย้อนคิดที่ภควัตสอน
“ถ้าตำรวจล่อซื้อ เราจะจดเลขที่แบงค์เอาไว้”
อัญมาเดินไปที่เคาน์เตอร์ หยิบขนมถุงมา 2 ถุง แล้วเดินไปที่แคชเชียร์ จิ๊บเดินตาม มองอัญมาที่เอาแบงค์พันจ่ายค่าขนม
ส่วนด้านนอก เก้ากับต้น ซุ่มมองอัญมาที่อยู่ในร้าน
อัญมารับเงินทอนมา มองจิ๊บ
“ไอ้อัญ แก…”
“เจอกันที่บ้าน”
อัญมาตับท ตอบสั้นๆ แล้วเดินออกมา
เก้าเหลียวมองตามอัญมา โดยกำลังคุยมือถือรายงานอธิคม
“ไอ้อัญมันทำงานเสร็จแล้วครับ”
ภายในห้องทำงานวินิจบนตึกใหญ่ อธิคมกดตัดสาย แล้วมองพ่อที่ยิ้มมองอยู่
“ตำรวจล่อซื้อไอ้อัญ แต่มันไหวตัว หนีออกมาได้ เอาเงินล่อซื้อเข้าไปแลกในร้าน”
“พ่อบอกแล้วว่าไอ้อัญมันหัวไว มันเก่ง นี่แหละมือไม้ของเรา ทำไมแกถึงไม่เชื่อพ่อ”
“ผมอยากลองใจมัน ท่าทางมันสู้คน ไม่กลัวอะไรเลย”
“หรือแกอยากได้คนขี้ตื่น หัวหดมาทำงานให้” วินิจว่า
“ผมแค่ทดสอบ เพราะผมไม่รู้จักมันมาก่อน ถ้าจะเอามาทำงานข้างตัว ผมก็ต้องแน่ใจ”
วินิจเย้าลูกชายเล่น “เฮ้ยๆ ไอ้อัญน่ะเด็กปั้นของฉัน”
“ผมขอแล้วกันพ่อ ผมขอไอ้อัญมาทำงานให้ผม ถ้ามันเก่งจริง ผมก็จะปั้นมันต่อ ถ้ามันหัวไว ทำงานดี เราก็จะได้มันเป็นมือเป็นไม้ คุมของขยายสาขาให้เรา”
วินิจยิ้มมองชอบใจที่ลูกชายคิดการใหญ่
“โอเค ฉันยกให้อัญให้แก”
“ไม่ต้องห่วงนะพ่อ ผมจะดูแลไอ้อัญอย่างดี”
อธิคมยิ้มหล่อร้ายเมื่อนึกถึงอัญมา
อัญมาถือถุงขนมที่ซื้อมา เทออกลงพื้น แล้วเหยียบๆๆ ด้วยความแค้นใจ และยิ่งแค้นหนักเพราะเป็นที่ได้มาจากการเงินขายยาจากวัยรุ่น อัญมากุมขมับ
“ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องบ้าๆ แบบนี้ด้วย ทำไม ทำไม”
เสียงภควัตดังขึ้น “อัญมา”
อัญมาเงยขึ้น พอเห็นเป็นภควัตก็พุ่งเข้าไปทุบอกภควัต
“ไหนคุณบอกว่าจะปกป้องฉัน วันนี้ฉันเกือบถูกตำรวจนอกเครื่องแบบจับ รู้มั้ยว่าฉันกลัวแค่ไหน”
“อัญมา...อัญมา ใจเย็นๆ”
อัญมาทุบลงที่อกภควัตด้วยความโมโห ภควัตรวบมือไว้
“ผมขอโทษ ผมขอโทษ อัญมา ผมไม่รู้จริงๆ ว่าท้องที่ได้ข่าวมาจากสายตำรวจ”
“สายตำรวจ แสดงว่าในกลุ่มพี่บัง มีคนของพวกคุณอยู่แล้ว”
“มี แต่เราเปิดเผยชื่อไม่ได้”
“งั้นก็ไม่ต้องมาให้ฉันเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายสิ รู้มั้ย ฉันขยะแขยงร่างนี้ ฉันเกลียดสิ่งที่ฉันเพิ่งทำลงไป ฉันขายยา ฉันส่งยา เด็กพวกนั้น...ยังเด็ก เค้าต้องไปเรียนหนังสือ โตขึ้นดูแลครอบครัว ไม่ใช่มาติดยา”
อัญมาเจ็บใจจนพูดไม่ออก ภควัตมองด้วยความสงสารจับจิต เข้าไปสวมกอดไว้อย่างปลอบประโลม
“อัญมา ผมขอโทษ”
อัญมาตกตะลึงในอ้อมกอดภควัต
“ผมรู้ว่าคุณกลัว อัญมา คราวหน้าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก ผมสัญญา”
อัญมามองสบตาภควัต สองคนชะงักกันไป เมื่ออยู่ใกล้ชิด อัญมาผละออกจากอกภควัตก่อน
“คุณมีสายตำรวจแล้ว งั้นฉันก็ขอถอนตัว”
“ไม่ได้นะ สายของเราทำงานอยู่ในกลุ่มของนายวินิจก็จริง แต่ยังไม่ได้ใกล้ชิดอธิคมเหมือนคุณ”
จังหวะนี้ อัญมาเริ่มหูอื้อ ตาลาย มีอาการลงแดง มือไม้เกร็ง กุมท้อง
“ฉันไม่...อยากทำ..แล้ว...”
ภควัตตกใจ “อัญมา”
“ช่วยด้วย ฉันปวดท้อง”
ภควัตเข้าไปช้อนร่างอัญมาไว้ไม่ให้ทรุดลงไป
“ฉัน...”
“ผมรู้ คุณลงแดง”
ภควัตช้อนร่างอัญมาขึ้น แล้วรีบอุ้มออกไปทันที
อัญมานอนอยู่บนเตียงในห้องตรวจของคลินิกแห่งหนึ่ง หมอ พยาบาลพยายามช่วยบรรเทาอาการลงแดง ภควัตยืนรออยู่ด้านนอกห้อง ด้วยสีหน้ากังวล
อัญมาถูกหมอฉีดยาให้บรรเทาอาการ พยาบาลเปิดประตูห้องออกมา ภควัตซึ่งมีสีหน้าไม่ดีถามเสียงเร่งร้อน ห่วงใย
“คนไข้เป็นยังไงบ้างครับ”
ฟากอธิคมอยู่ในตึก มองนาฬิกา เก้ากับต้นอยู่ด้านหลัง
“ป่านนี้แล้ว ทำไมไอ้อัญไม่เอาเงินมาส่ง”
อัญมาที่อธิคมเป็นกังวล นอนอยู่บนเตียงตรวจอาการคนไข้ สีหน้าดีขึ้น มองหมอที่อยู่ข้างเตียง
“เดี๋ยวเพื่อนคุณจะขอเข้ามาเยี่ยมนะครับ”
“หมอคะ ก่อนจะให้เค้าเข้ามา คือเอ่อ ฉันเอ่อ..อยากตรวจ... ตรวจภายใน”
หมองง “ตรวจทำไมครับ”
“คือ...จริงๆ ฉันไม่เคยยุ่งกับใคร แต่ถ้าเป็นไอ้อัญ ฉันไม่แน่ใจ มันติดยา บางทีมันอาจจะเผลอ เมายา หรือ สมยอม หรือ...แอบไปขายตัวเอาเงินมาซื้อยา”
หมอมองอัญมางงงัน
“อธิบายไป หมอก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ เอาเป็นว่าตรวจให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะว่าฉันยังบริสุทธ์ แล้วก็ฉันไม่ได้ติดโรคเอดส์ หรือ โรคที่น่ากลัวเพราะใช้เข็มร่วมกัน”
ภควัตยืนกระสับกระส่ายรออยู่บริเวณหน้าห้องตรวจ เห็นอัญมาออกจากห้อง ก็รีบพุ่งเข้าไปหา
“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหมอตรวจนานมาก”
อัญมาโดดกอดภควัตทันที
“ฉันไม่เป็นเอดส์ ฉันยังบริสุทธิ์อยู่”
ภควัตตกใจ ยิ้มขำ อัญมานึกได้ รีบเอาตัวออก
“นี่... คุณเข้ามากอดผมเองนะ”
“ฉันดีใจจนลืมตัวต่างหาก”
“แต่ยังไงเรื่องโรคเอดส์ คุณก็ต้องมาเช็คเลือดอีกรอบ 3 เดือนข้างหน้า”
“ใช่ หมอก็บอก เพื่อความแน่ใจ”
ภควัตยิ้มกริ่ม ทำหน้าล้อๆ “แต่อีกเรื่อง...”
อัญมารู้ทัน “หยุด...เรื่องเวอร์จิ้น ฉันไม่ได้บอกคุณ”
“เหรอ เห็นกอดผมซะแน่นเลย ก็นึกว่าจะบอกให้รู้
“ไอ้อัญมันเล่นยา แถมเจ๊ว่านก็เอาแต่ชวนมันขายตัว ฉันไม่แน่ใจเลยว่าไอ้อัญ...ไอ้ร่างนี้มันเละเทะมาขนาดไหน”
“ทีนี้ก็สบายใจแล้ว ทำงานต่อได้”
อัญมาหมั่นไส้ “นี่คุณผู้กอง ลมหายใจเข้าออกมีแต่งานหรือไง”
“ผมไม่ได้ใช้คุณฟรีนะ อัญมา ผมจะพาคุณไปรักษา เลิกยาให้ได้ แต่เรื่องนี้ต้องเป็นความลับของเราสองคนไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของคุณ แล้วผมก็จะทำเรื่องเสนอนาย ค่าเบี้ยเลี้ยงของคุณ”
“เรื่องพาฉันไปรักษาน่ะ รีบๆเลย ฉันไม่อยากลงแดงอีกแล้ว ส่วนเรื่องเบี้ยเลี้ยงน่ะ เท่าไหร่”
“ก็เบี้ยเลี้ยงราชการน่ะคุณ แต่ถ้าตายในหน้าที่ก็ได้เยอะหน่อย”
อัญมาฉุนกึก “นี่!! ถ้าตายฉันก็ไม่อยากได้เบี้ยเลี้ยงแล้ว ตายไปก็ไม่ต้องใช้เงิน”
“แม่คุณล่ะ ป้าอุบล เค้าจะได้เงินนะ ถ้าคุณเป็นอะไรไป”
อัญมาเสียงแข็งใส่ “ป้าอุบลไม่ใช่แม่ฉัน แม่ฉันชื่อภรณี”
ภควัตเซ็งมีสีหน้าอ่อนอกอ่อนใจ อัญมานึกขึ้นได้
“ตายแล้ว! ฉันต้องเอาเงินไปให้อธิคม”
อธิคมมองอัญมาที่แกล้งทำหน้าไม่สบาย เอามือกุมท้อง อีกมือยื่นแบงค์พันกับแบงค์ที่แตกแล้วให้อธิคม
“ฉันไม่ได้เบี้ยว แต่มันปวดท้อง เลยนั่งพัก พอค่อยยังชั่วก็รีบมา”
“ไอ้เก้ามันว่า คนพูดกันว่าเธอลงแดง แสดงว่าเอ็งอยากเลิก”
“ป่าว ไม่ได้ลงแดง ปวดท้องเมนส์ วิ่งหนีตำรวจด้วย มันเลยจุกจนเดินไม่ไหว”
อธิคมมองเงิน อัญมารีบอธิบาย
“ฉันเอาไปแตกแบงค์ที่ตำรวจมันมาล่อซื้อ ซื้อขนมไป 50”
อธิคมดึงเงินครึ่งนึงส่งให้อัญมา
“ค่าแรง”
อัญมามองเงิน ไม่อยากรับ อธิคมจ้องตา
“ทำไม หน้าตายังกับไม่อยากได้ หรือคิดว่าเงินสกปรก”
อัญมารีบคว้ารับมา “ป่าว ฉันจะเกลียดทำไม มีเงินไปกินไปใช้ ดีจะตาย”
“เข้าไปสิ ห้องนั้นน่ะ ไม่ต้องจ่ายหรอก อยากได้เท่าไหร่ก็หยิบไป ฉันอนุญาต”
อัญมาเหลียวมองไปทางห้องเสพยา เก้ากับต้นยืนมองอยู่ เก้าเปิดประตูให้ อัญมาตัดสินใจหันมา
“วันนี้เล่นไม่ไหวจริงๆ ฉันขอกลับไปนอนพักก่อนนะพี่”
อัญมาทำเป็นกุมท้อง เดินกะปลกกะเปลี้ยออกไป อธิคมมองแล้วสั่งเก้า
“คอยดูมันไว้”
เก้าก้มรับคำสั่ง แล้วเดินแยกออกไป
อธิคมมองตามด้วยสีหน้าพอใจความเก่งของอัญมา
คืนนั้นอัญมาเดินเข้าบ้านมา อุบล กับ จิ๊บลุกพรวดมาหา ส่วนสัญชัยขยับจากหน้าทีวีมามอง
“ไอ้อัญ หายไปไหนมา วันนี้พวกพี่บังมันมาตามหาเอ็ง”
อัญมามีสีหน้าท่าทีอ่อนแรง ปัดมืออุบลออก อุบลหน้าหมองลง
“ขอนอนก่อนนะ ปวดท้อง”
จิ๊บโพล่งถาม “ลงแดงอีกหรือเปล่า”
“เปล่า”
“แล้วเป็นอะไร”
จิ๊บดึงแขนอัญมาไว้ ถูกอัญมาสะบัด
“อย่ามายุ่ง”
อัญมาเดินเข้าห้องไป จิ๊บมองอุบล
“ปล่อยๆ มันก่อน ไม่เป็นไร ข้าเฝ้ามันเอง ขอบใจเอ็งมากนะจิ๊บ”
“ฉันผิดเองที่ชวนมันไปรู้จักไอ้ยานรกพวกนี้ ฉันขอโทษนะ ป้าอุบล”
จิ๊บยกมือไหว้อุบล อุบลได้แต่ถอนใจ
“ไอ้อัญใจมันไม่แข็งเอง จะเลิกมากี่ครั้ง ก็ทำไม่ได้สักที ไม่รู้ทำไมต้องสิ้นคิดไปใช้ไอ้ยานรกพวกนี้ด้วย”
สัญชัยรีบหลุบหน้ากลับไป อุบลมองตามเข้าไปในห้องลูกอย่างไม่เข้าใจ
อัญมาเดินเข้ามาในห้องนอน หยิบเงินที่ได้จากอธิคมออกมามอง
นึกถึงตอนอธิคมส่งเงินให้
“ทำไม หน้าตายังกับไม่อยากได้ หรือคิดว่าเงินสกปรก”
อัญมาวางเงินลงแรง ไม่อยากแตะต้อง
“ฉันไม่อยากได้ ฉันไม่อยากแตะต้องเงินพวกนี้”
อัญมามีสีหน้าไม่สบายใจ
“ทำไม อัญมา...เธอทำบาปทำกรรมอะไรนักหนา ถึงต้องมาตกนรกแบบนี้”
อัญมาหยิบเงินใส่กล่อง วางไว้ แล้ว กอดเข่า มองเหม่อ นึกถึงชีวิตในอดีต
คืนนั้น อัญมาเป่าเค้กวันเกิดในคฤหาสน์ ทุกคนล้วนมีสีหน้าเบิกบานยิ้มแย้ม ของขวัญกล่องใหญ่ที่สุคนธรส กับ เพื่อนๆ ราว 10 คน พากันให้เป็นของขวัญวันเกิด
อัญมายิ้มแย้มถ่ายรูปกับทุกคนในบรรยากาศปาร์ตี้สนุกสนาน
จิรายุใส่สร้อยเพชรสวยให้อัญมา อัญมายิ้มกว้าง มีความสุข ทุกคนพากันถ่ายรูปอัญมากับจิรายุอย่างชื่นมื่น
อัญมาลืมตาขึ้น เมื่อนึกถึงความเป็นจริง
แต่อัญมายังเห็นภาพจิรายุงอนง้ออนุรุทติดตา
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะเอาเงินจากอธิคมไปทำบุญให้หมด ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเกิดมามีเวรมีกรรม เจอพวกหน้าไหว้หลังหลอก โดนคนสวมเขา หลอกได้หลอกดี”
อัญมาเดินมามองไปนอนหน้าต่าง คืนนี้แสงจันทร์เสี้ยวไม่สว่างมาก อัญมาปล่อยใจล่องลอยคิดไปถึงพ่อกับแม่
ค่ำคืนหนึ่ง อรรณพกับภรณีมองอัญมาที่ยิ้มสดใส ก่อนที่อรรณพจะถามขึ้นว่า
“พ่อกับแม่รักลูกมากนะ อัญมา วันเกิดปีนี้ ลูกอยากได้อะไรเป็นของขวัญ”
“คุณพ่อคุณแม่ให้ทุกอย่างกับอัญมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเลยที่อัญจะอยากได้อะไร แล้วคุณพ่อคุณแม่จะหาให้อัญไม่ได้ อัญมีครบทุกอย่างแล้ว อัญไม่อยากได้อะไรอีกแล้วค่ะนอกจากความรักของคุณพ่อ คุณแม่”
อัญมาก้มลงกราบที่ตักพ่อและแม่
อรรณพ และภรณีมองชื่นใจ ภรณีดึงอัญมาขึ้นมอง
“อัญมา ลูกเหมือนพระจันทร์เต็มดวง สวยสง่า เป็นความเยือกเย็น เป็นความสุขของชีวิตพ่อกับแม่”
อัญมาฟังแล้วปลื้มใจ โผเข้ากอดสองคน อยู่ตรงกลางอ้อมกอดอับอบอุ่นที่สุดของพ่อกับแม่
อัญมาดึงตัวเองกลับมา ยืนทอดสายตา มองพระจันทร์เสี้ยวบนฟ้า ด้วยสีหน้าเศร้ามากหมองจัด
“วันนึงอัญจะต้องกลับไปหาคุณพ่อ คุณแม่ อัญไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นลูกป้าอุบล แม่ค้าขายไก่ทอด อัญมาคือลูกของคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น”
ในเวลาเดียวกันนี้ ไอ้อัญในร่างคุณหนูอัญมา นอนนิ่ง ภรณีกอดลงไปที่ร่างลูก อรรณพกุมมือไอ้อัญ
“อย่าเพิ่งเอาแกไปรักษาที่เมืองนอกเลยค่ะ ฉันรู้ว่าต้องมีปาฏิหาริย์ อีกเดี๋ยวลูกต้องฟื้นกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิม”
น้ำตาภรณีหยดลงที่แก้มไอ้อัญ แต่ไอ้อัญก็นอนนิ่ง ไม่รับรู้ใดใด
รุ่งเช้าอุบลกำลังเตรียมร้าน เพื่อออกไปขายของ เห็นอัญมาเดินออกมา
“ไอ้อัญ”
อัญมาหันมามอง
“จะไปค่ายมวยพี่บังเค้าอีกหรือเปล่า”
“เปล่า”
“อย่าโกหกแม่นะไอ้อัญ แม่เลี้ยงเอ็งมา ทำไมจะไม่รู้ใจเอ็ง แม่ทำงานหนักแค่ไหน แม่ไม่บ่น ไม่ว่าเลย ถ้าเอ็งจะเอาเงินไปเรียนหนังสือ ทำไมเอ็งไม่เรียนฮะไอ้อัญ ทำไมเอ็งติดยา”
อัญมาบอกตามตรง “ฉันไม่รู้...ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมไอ้อัญมันติดยา”
อุบลมองงง ที่อัญมาปฏิเสธออกมา อัญมาพอนึกได้ก็ลดเสียงลง
“อย่าซักอะไรฉันนักเลย”
“อยู่ๆ เอ็งก็ไม่เรียกข้าว่าแม่”
อัญมาไม่อยากตอบ เลี่ยงไปจับรถเข็น
“วันนี้ฉันช่วยเข็นรถไปแล้วกัน”
อัญมาเข็นรถออกไป อุบลลืมเศร้า มองปลื้ม รีบเดินตามคนที่คิดว่าเป็นลูกไปทันที
สามขาเม้าท์ เจ๊ว่าน แอนนี่ และสมใจพากันมองตกใจที่เห็นอัญมาเข็นรถมา มีอุบลเดินตามหลัง ยิ้มหน้าบานปลาบปลื้ม
“ตายๆๆๆๆ วันนี้ฟ้าดินอาเพศนะจ๊ะ ไอ้อัญมันช่วยแม่ทำงาน” สมใจเปิดฉาก
แอนนี่เสริม “หรือว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพฯอีกรอบ”
อัญมาเข็นรถมาถึงที่ทันได้ยิน แล้วหันไปตอบแอนนี่ทันที
“ก็ดีนะ จะได้เอาพวกปากโสโครก เห่าหอนแข่งกับหมาให้ลอยไปกับน้ำซะมั่ง”
แอนนี่แว้ด “อีอัญ”
“เรียกดีๆ สิ ไม่ต้องขึ้นอี... ต่ำอยู่แล้ว มารยาทยังทราม”
สมใจหัวเราะลั่น “ตายแล้ว อีแอนนี่ ไอ้อัญมันหาว่าเอ็งต่ำ”
อัญมาหันไปดุ จัดการสมใจ “ป้าก็เหมือนกัน วันๆ ปากว่างมาก คอยแต่จะงับคนอื่นถ้าทนไม่ไหว เดี๋ยวฉันจะซื้อตะกร้อมาใส่ปากให้”
แอนนี่หัวเราะเอาคืน “ฮ่าฮ่าฮ่า ป้าสมใจโดนด่าว่าปากหมา”
เจ๊ว่านยิ้มเยาะ “แรงแต่เช้าเลยนะยะ ไอ้อัญ ไปกินรังแตนที่ไหนมา”
“ฉันก็อยู่ของฉันดีๆ แต่ใครหาเรื่อง ฉันก็ไม่ทนให้กัดได้ทุกวี่ทุกวันหรอกนะ ทนเกินทนน่ะไม่ใช่คน มันควายแล้ว”
ทุกคนตกตะลึงกับอัญมาที่ตอบโต้กลับ
สมใจแหวใส่ “แกด่าใคร ควาย”
“ใครอยากรับ ก็รับไป”
แอนนี่บอก “มันด่าเรา อีป้าสมใจ ควายจริงๆ ด่าขนาดนี้ ยังไม่รู้อีก”
“ด่ากู ก็เจอ…”
สมใจหยิบอีโต้ อัญมาหันไปหยิบอีโต้ของอุบลขึ้นมาบ้าง
“มาสิ มา”
อัญมาแกว่งอีโต้ไปหน้าแอนนี่กับสมใจที่ถลามา สองคนถึงกับถอย
อุบลหัวเราะชอบใจ “เอาสิวะ ใครกล้าก็เข้ามา ข้าจะไม่ห้ามไอ้อัญมันหรอก วันนี้ขอจ่ายค่าเย็บแผลนังพวกชอบเห่าหอนเดือนสิบสองให้สะใจหน่อยเว๊ย”
เจ๊ว่านรีบดึงแอนนี่
“อย่านะ คุณลูกขา หน้าแหกล่ะ หากินไม่ได้ ต้องไปหาหมอเกาหลีเลยนะคะ”
สมใจมองจ้องอัญมา อัญมาร้องเรียก
“เข้ามามั้ย ป้า”
อุบลหันไปหยิบขวดน้ำมันทอดไก่
“มึงเข้ามาเลย อีสมใจ กูจะราดน้ำมัน จุดไฟมึงตรงนี้ ให้เป็นหมูทอดเลย”
“หมาหมู่นี่ หมาสองแม่ลูกเลย”
“เออ หมาบ้าก็ต้องเจอหมาบ้าสิวะ มัวเป็นผู้ดี หมามันก็กัดไม่เลือกทุกวัน”
สมใจถอยหลัง วางมีดเพราะเห็นสองแม่ลูกเอาจริง อัญมามองแล้ววางมีด หันไปบอกอุบล
“ฉันไปก่อนนะ”
“เอ็งอย่าไปหาพี่บังมันนะ ไอ้อัญ แม่ขอร้อง”
อัญมาไม่รับปาก อุบลมอง อัญมาเดินออกไป
แอนนี่มองหมั่นไส้ แกล้งแหย่ขาไป อัญมาสะดุด ล้มลงกับพื้น แอนนี่พุ่งปราดไปคร่อมอัญมา
“ไง ไม่มีอีโต้ มาเจอตัวต่อตัวดีกว่า ปากเก่งนักนะมึง”
แอนนี่ตบผัวะเข้าหน้าอัญมา อุบลพุ่งปรี๊ดจะไปช่วยลูก แต่สมใจเข้ามากระชากอุบล ปากก็ตะโกน
“ตบมันเลย นังแอนนี่ เดี๋ยวข้าช่วยจ่ายค่าปรับเอง”
แอนนี่เงื้อมือตบอัญมาเข้าอีกที อัญมาหน้าสะบัดไปตามแรงตบ
อุบลตกใจ “ไอ้อัญ”
ฟากอธิคมกำลังวิดพื้นอยู่ในค่ายมวย มีเก้ายืนรายงาน
“ไอ้อัญมันไม่ได้ไปไหน ไม่ได้มีพิรุธอะไร คนเข้าออกบ้านมันก็มีแค่ จิ๊บ เพื่อนมัน”
“ไอ้อัญมันมีแฟนหรือยัง”
อธิคมถามเสียงเรียบ เก้าไม่ได้ผิดสังเกต
“ยังไม่มี ไม่เคยเห็นมีแฟนที่ไหนด้วย”
อธิคมลุกขึ้น หยิบผ้าขนหนูซับเหงื่อ ลอบยิ้มกับตัวเองเมื่อได้ยินคำตอบว่าอัญมายังไม่มีแฟน
อ่านต่อหน้า 2
คีตโลกา ตอนที่ 3 (ต่อ)
ฝ่ายอัญมาโดนแอนนี่บีบคอ ชาวบ้านไทมุงพากันเชียร์ลั่น สมใจกับอุบลก็กำลังจิกทึ้งผมกัน ไม่มีใครยอมใคร เจ๊ว่านแหกปากห้าม
“หยุด...หยุด อย่ามากัดกันเหมือนหมาหน้าร้านข้า บอกให้หยุด”
แต่ไม่มีใครฟังใคร แอนนี่จะตบอีก แต่คราวนี้อัญมาจับข้อมือบิดจนแอนนี่ร้อง อัญมาผลักแอนนี่สุดแรง ร่างแอนนี่กระเด็นไป
อัญมาได้ทีขึ้นคร่อมบ้าง จับหัวแอนนี่โขกผนัง ตามด้วยอีก 2 ตบ ซ้าย ขวา แอนนี่แหกปากร้องลั่นชาวบ้านเชียร์ลุ้น
คู่สมใจกับอุบลก็ผลัดกันเหวี่ยงกระแทกผนัง กระแทกข้าวของในร้านกระเด็นเซ็นซ่าน ชาวบ้านเชียร์ไป หลบไป
เจ๊ว่านวิ่งออกมาพร้อมถังน้ำในมือ สาดน้ำโครมเข้าใส่ทั้ง 4 คน เปียกปอนเป็นแถบ
จ่าเดชขับมอเตอร์ไซค์เป่านกหวีดมาดังลั่น
“เฮ้ยๆ หยุดๆ”
เจ๊ว่านหมั่นไส้ “มาทำไม ตอนมวยเลิกล่ะ จ่า เค้าตบกันล้างน้ำไปแล้ว”
จ่าเดชมองอัญมาที่ยืนตัวเปียกซ่ก
“ล้างกันสะอาดเอี่ยมเลยนะ”
สองฝ่ายทำท่าจะฮึ่มใส่กันอีก จ่าเดชรีบห้าม
“แยกๆ กันเลยนะ ไม่งั้นข้าจับขังหมดทุกคน”
อัญมาดึงอุบลไว้ แอนนี่ กับสมใจมองสองแม่ลูกอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
ไอ้นวยขี่มอเตอร์ไซค์ปาดมาเห็น ก็หยุดมอง
“เจ๊อัญ ไปตกน้ำที่ไหนมา” นวยหัวเราะ
อัญมาหันขวับมามอง นวยรีบหุบปาก
“จะไปไหน ขึ้นรถไอ้นวยเลย ส่งถึงที่ ฟรีตลอด ขอแค่อย่าตบ”
อัญมามองอุบลนึกสงสาร
“กลับบ้านไปเถอะ วันนี้อย่าขายเลย หยุดสักวัน
อุบลมองลูกสาว เห็นด้วย
“ดวงซวย โคตรซวยแต่เช้า”
เห็นมอเตอร์ไซค์เก่าแต่สวยขับมาจอดในซอย ทุกคนหันไปมอง เป็นภควัตที่ปลอมเป็นพ่อค้าขายพระ มีพระห้อยเต็มคอ หนวดเคราครึ้มเต็มหน้าขับมอเตอร์ไซค์มาจอด
แอนนี่กรี๊ด “ว๊าย...หน้าตาดี คนแถวนี้หรือเปล่า ไม่เคยเห็น”
จ่าเดชอยากจะหัวเราะแต่ทำเก๊ก ถามขึ้นกวนๆ
“เฮ้ย ไอ้น้อง เอ็งมาจากไหนวะ ข้าไม่เคยเห็นแถวนี้”
“ผมชื่อวัต เป็นเซียนพระจากสิงห์บุรี เพิ่งมาเช่าอยู่แถวนี้ครับจ่า”
แอนนี่วี๊ดว้าย “อ๊ายยย...เมื่อคืน”
เจ๊ว่านหงุดหงิดปนงง “อะไร นังแอนนี่”
“เมื่อคืนฝันว่างูเหลือมตัวเท่าขารัดฉัน มิน่า ตื่นมาเจอพี่วัต สเป็ค โดนเลย”
อัญมามองจ้องจนจำภควัตได้ เลยหัวเราะออกมา แอนนี่หันขวับ
“หัวเราะหาบรรพบุรุษในหลุมหรือไง ไอ้อัญ”
“มาสิ น้องอัญ” ภตวัตในคราบเซียนพระเอ่ยขึ้น
ทุกคนหันขวับมองภควัตที่เรียกอัญมา
“อะไรนะ พี่วัต เรียกใคร อ๋อ...เรียกแอนนี่ใช่มั้ยจ๊ะ”
แอนนี่เดินบิดตูดไปหา ภควัตรีบบอก
“เรียกน้องอัญ”
ภควัตตบเบาะเรียกอีก อัญมากระชากแอนนี่ก่อนถึงตัวภควัต เหวี่ยงกระเด็นออกไป
“นี่มันอะไร งูใหญ่รัดแอนนี่ ดันกลายเป็นงูมาเขมือบไอ้อัญ”
ทุกคนมอง อัญมาเดินมาใกล้ ภควัตอมยิ้มตบเบาะ พูดให้ได้ยินกันสองคน
“เล่นให้สมบทบาทหน่อยนะ”
“เตรียมให้ออสการ์ฉันได้เลย”
อัญมานึกสนุก อมยิ้ม หันไปยิ้มเยาะทางแอนนี่ แล้วค่อยๆ ก้าวขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ โน้มตัวไปกอดภควัตหมับ ตัวแนบชิดจากด้านหลัง ทุกคนตาค้าง
“โห..มาแรง แซงทางเรียบเลยว่ะ” นวยว่า
อุบลตกใจ “ไอ้อัญ”
“ไปเถอะจ้ะ พี่วัต”
อัญมาแกล้งกอดเอวเบียดเข้าใกล้ภควัตอีก แล้วหันไปบอกอุบล
“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไปกับพี่วัต ค่ำๆ ถึงจะกลับ”
ภควัตเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์ออกไปจากตรงนั้น ทุกคนมองตาค้างนึกไม่ถึง จ่าเดชอมยิ้ม
“อะไร...ยังไง ไอ้อัญมาถึงโฉบพี่วัตของชั้นไป” แอนนี่โวยวาย
“นั่นสิ...มันจะไปถึงไหนถึงไหนกัน ตายแล้ว ไอ้อัญนะไอ้อัญ เสียราคาหมด”
อุบลมีสีหน้าไม่ดี จ่าเดชมองแล้วบอก
“ไม่ต้องห่วงหรอก อุบล”
“ไม่ห่วง จ่าลองมีลูกสาวสิ จะได้รู้ว่าฉันรู้สึกยังไง”
อุบลกระชากเสียงโมโหใส่ จนจ่าเดชยิ้มแหย
ทางด้านอัญมาซ้อนมอเตอร์ไซค์ภควัต ที่วิ่งไปบนถนน อัญมามองแล้วซบลงที่หลังเขาอย่างเป็นที่พึ่งเดียว ภควัตแอบอมยิ้ม
เรื่องนี้ถึงหูอธิคมอย่างไว เขาถอดนวมปาลงพื้น สีหน้าโมโห หันไปกระชากเสียงถามต้นที่เข้ามารายงานเรื่องไอ้อัญซ้อนท้ายออกไปกับเซียนพระชื่อวัต
“ไหนไอ้เก้ามันบอกว่าไอ้อัญมันไม่มีแฟน”
“ไม่เคยมีใครเห็นไอ้เซียนพระชื่อวัตคนนี้มาก่อนเลยพี่”
“เซียนพระ ชื่อ วัต มันมาจากไหน ข้าอยากรู้เรื่องมัน”
ต้นก้มหน้างุด รีบออกไปสืบ สีหน้าอธิคมหงุดหงิดเอามากๆ
ไม่นานต่อมา ภควัตนั่งอยู่กับอัญมา ตรงหน้าหมอจิระศักดิ์เพื่อนภควัต หมอประจำในโรงพยาบาลแห่งนี้
“หมอจิระศักดิ์เป็นเพื่อนผม เค้าจะช่วยให้คุณเลิกยา”
อัญมามองจิระศักดิ์อย่างมีความหวัง
“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าฉันติดอะไรบ้าง ติดมานานแค่ไหน”
อัญมายกแขนทั้งสองข้างที่มีทั้งรอยเข็ม รอยกรีดแขนให้จิระศักดิ์ดู ภควัตมองแล้วนึกสงสาร
“คุณมีทั้งรอยเข็ม รอยกรีดแขน” หมอว่า
“ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ตอนนี้ไม่รู้จริงๆ นี่คือหลักฐานเดียวที่จะให้คุณหมอเห็นว่า ฉันผ่านมาอะไรมาบ้าง”
จิระศักดิ์ปลอบ “ใจเย็นๆ คุณอัญมา ผมจะช่วยคุณ แต่ที่สุดแล้ว คนที่จะเลิกยาได้ คือคนที่มีกำลังใจเข้มแข็ง ตั้งมั่นว่าจะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก เพื่อครอบครัว เพื่อคนที่รักคุณ รับรองว่าจะไม่มีอุปสรรคอะไร ที่จะเอาชนะหัวใจเข้มแข็งของคนเราไปได้แน่นอนครับ”
หมอจิระศักดิ์มองให้กำลังใจอัญมาเต็มที่
ส่วนในฐานลับ สารวัตรกฤษณ์เดินออกจากห้องประชุมมาเจอจ่าเดชยืนอยู่ จ่าเดชทำความเคารพตามฐานะผู้น้อย กฤษณ์มองแล้วถาม
“ทำไมมาประชุมคนเดียว จ่าเดชเดชา ผู้กองภควัตไปไหน”
จ่าเดชบอก “ไป...” แล้วนึกได้
กฤษณ์จ้องหน้า “ไปไหน”
“ปฏิบัติราชการลับครับ”
“ราชการลับอะไร ที่เราทำนี่มันก็ลับสุดยอดแล้วนะ”
“มีลับอีกนะครับ ลับอภิมหาสุดยอด ผู้กองภควัตถึงต้องลงมือเอง”
จ่าเดชทำท่ามีลับลมคมใน ยิ่งทำให้กฤษณ์สงสัยมากขึ้น
สองคนอยู่ในร้านอาหาร สุคนธรสมองกฤษณ์ที่เอาแต่ใจลอย หน้าเครียด ไม่ยอมกินอาหารที่สั่งมา จนรู้สึกหงุดหงิด
“หมายความว่า วัตเค้ากำลังจะทำผลงานแซงหน้าคุณเหรอคะ กฤษณ์”
“ไม่มีทาง”
“ไม่มีทางแล้วคุณจะมานั่งเครียดทำไมล่ะคะ”
“ผมไม่ได้เครียดเลย”
กฤษณ์ทำเป็นจิบน้ำ สุคนธรสพูดบ่นออกมาอีก
“รสไม่เข้าใจเลย คุณจะย้ายมาทำงานพื้นที่เดียวกับวัตทำไม วัตเค้าทำงานบ้าบิ่น บ้าระห่ำ พวกผู้ใหญ่เค้าถึงชอบใช้คนแบบนี้มาตายก่อน”
กฤษณ์วางแก้วแรงอย่างมีอารมณ์ สุคนธรสมอง ยิ่งสงสัยท่าทางเคร่งเครียดของคนรัก
“หรือถ้าไม่ตาย ก็จะได้ดี นายอยากได้ตัวไปอยู่ใกล้ๆ แล้วก็เลื่อนยศให้เร็วกว่าคนอื่น”
เวลานั้นภควัตเดินคุยมากับจิระศักดิ์ตามทางเดินในโรงพยาบาล
“อัญมาเค้าจะเลิกยาได้ใช่มั้ย”
“ฉันถามจริงๆ ไอ้วัต แกห่วงผู้หญิงติดยาคนนี้มาก เพราะอะไร”
“เค้าช่วยฉันทำงานกวาดล้าง”
จิระศักดิ์จ้องตาเพื่อน “แค่นั้น?”
ภควัตยืนยัน “แค่นั้น”
“ไม่จริง ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ผู้หญิงที่ทำให้แกร้อนรน มองเค้าด้วยสายตาห่วงใย ฉันเห็นแค่สุคนธรส แฟนเก่าแก กับ ผู้หญิงชื่ออัญมาคนนี้”
ภควัตนิ่งอึ้งไป เลี่ยงไปอีกทาง
“แกอย่ามารู้ดีกว่าฉัน ไอ้หมอ แล้วก็เลิกพูดเรื่องสุคนธรสสักที เค้าเป็นแฟนสารวัตรกฤษณ์ไปแล้ว”
ภควัตอดย้อนนึกไปถึงตอนครั้งที่ถูกสุคนธรสบอกเลิกไม่ได้
เย็นนั้นสุคนธรสยืนต่อหน้าภควัตในสนามกีฬา ภควัตมองสุคนธรสที่ยื่นแหวนทองมาตรงหน้าอึ้งๆ
“เอาคืนไปเถอะค่ะ วัต รสไม่อยากให้เรามีอะไรติดค้างกันอีก”
“รส ผมทำอะไรผิด”
ภควัตดึงแขนแฟนไว้ แต่สุคนธรสสะบัด แหวนหลุดจากมือสุคนธรสตกลงพื้นหญ้า ภควัตมองอย่างเสียใจ แต่สุคนธรสมองอย่างเฉยชา
“รสอยากมีอนาคต คบกันไป วัตก็ให้สิ่งที่รสต้องการไม่ได้”
“รสต้องการอะไร ผมจะหามาให้ทุกอย่างนะครับ”
“เวลาค่ะ เวลาที่วัตจะเอาใจใส่รส”
“แต่ผมเป็นตำรวจนะ รส ผมก็ต้องทำงานดูแลประชาชน”
“งั้นก็ดูแลทุกข์สุขประชาชนของคุณไปเลยค่ะ ไม่ต้องมาสนใจ รส”
“หรือว่าที่จริงรสไม่ได้ต้องการเวลา สิ่งที่รสต้องการจากผมคือ...ความสุข ความสบาย”
“ค่ะ รสเบื่อ คุณเป็นถึงหลานรัฐมนตรีอภิกานต์กับคุณหญิงวรจันทร์ แต่ทำตัวซอมซ่อ ไม่สมฐานะ ขับรถเก่าๆ ไม่เข้าสังคม รสทนไม่ได้ รสอายเพื่อน”
“รสเคยบอกว่ารักผมที่ผมเป็นนายภควัต ไม่ใช่ภควัตหลานรัฐมนตรี”
สุคนธรสย้อน “รสเคยบอกอย่างงั้นเหรอคะ รสลืมไปแล้ว พูดแต่เรื่องปัจจุบันดีกว่าค่ะ”
ภควัตมองหน้าเศร้า ผิดหวังกับคนรัก
“อย่าเสียใจเลยนะคะที่ต้องเสียผู้หญิงดีๆ อย่างรสไป โทษตัวเองดีกว่าค่ะ วัตนั่นแหละที่ทำให้รสต้องตัดสินใจ”
สุคนธรสเดินออกจากสนามไปขึ้นรถสปอร์ตหรูของกฤษณ์ที่มารับ และขับออกไปอย่างเร็ว
ภควัตยืนมองแหวนทองที่ตกพื้นอยู่ แล้วหันหลังเดินห่างออกมาด้วยสภาพคนอกหักยับเยิน
ภควัตยังคงนั่งเหม่อ เมื่อคิดถึงเรื่องแฟนเก่า อัญมาเดินออกมามองเห็น
“คิดถึงใครอยู่ แฟนหรือว่ากิ๊ก”
ภควัตรีบลุกขึ้น มองอัญมาตาดุ
“เลอะเทอะ ฉันไม่ได้คิดถึงใคร หมอว่ายังไงบ้าง”
อัญมาชูถุงยาให้ดู “กินยาให้หมด อย่ากลับไปใช้ยาเสพติดพวกนั้นอีก อยู่ให้ห่างๆ” หล่อนยิ้มเศร้าๆ ออกมา “จะอยู่ห่างได้ยังไง ถ้าฉันยังต้องกลับไปใช้ชีวิตไอ้อัญ”
“คุณกำลังเสียสละเพื่อส่วมรวมอยู่นะ อัญมา”
อัญมาทวนคำ “เสียสละ”
“คุณสละความสุข ยอมเสี่ยงเป็นเด็กเดินยา ให้เราได้ข้อมูลของพวกค้ายานายวินิจคือกลุ่มพ่อค้ารายใหญ่ โยงใยเครือข่ายหลายแห่ง”
“ทำไมต้องเป็นฉัน ใช่ซี้ ฉันมันคือไอ้อัญนี่นะ”
“เพราะคุณเข้มแข็ง เด็กวิ่งยอดคนไหนก็ไม่เหมือนคุณ”
“นี่กำลังชมฉันใช่มั้ย”
“ผมว่าอธิคมก็ต้องเห็นข้อดีข้อนี้ในตัวคุณเหมือนที่ผมเห็น เค้าถึงให้คุณอยู่ใกล้ๆ”
“อธิคมเห็นฉันเป็นผู้หญิงสวยต่างหาก”
อัญมาเชิดหน้าสไตล์คุณหนู ภควัตมองแล้วอมยิ้ม
อัญมารู้สึกแปลกๆ หันมามอง ภควัตรีบตีหน้าขรึมเก๊กอย่างเก่า ไม่ยอมให้อัญมาจับความรู้สึกได้
“สวย นี่น่ะนะสวย...คนอย่างอธิคม มันเลือกได้สวยกว่านี้อีกเป็นสิบ”
“คุณพูดเหมือนรู้จักกันดี”
“ปีก่อน ผมเป็นคนจับอธิคมเข้าคุก”
อัญมาหน้าตาตะลึง ภควัตเล่าต่อ
“ผมตามดูแก๊งมัน จนได้โอกาส จับมันตอนส่งของล็อตใหญ่ ทุกครั้งอธิคมมันจะเป็นแค่คนวางแผน หลอกล่อปั่นหัวตำรวจนับครั้งไม่ถ้วน แต่คราวนั้น มันย่ามใจ ถึงกับออกมาส่งของเอง เพราะราคาของเกือบสิบล้าน”
“คุณเลยมีโอกาส”
“ช่วยผมนะ อัญมา ช่วยผมลากมันเข้าคุกอีกครั้ง ถ้าผมมีคุณ รับรองว่าอธิคมมันจะไม่มีวันออกมาสร้างความเดือดร้อน ขายยานรกพวกนี้ให้ใครได้อีก”
ภควัตมองมาด้วยแววตาขอร้อง จนอัญมาไม่กล้าปฏิเสธ
ฟากอธิคมนอนอยู่บนเตียงในห้องบนตึกใหญ่ แอนนี่กำลังกอดคลอเคลียอธิคม ด้านข้างยังมีเด็กสาวจากเจ๊ว่านคอยบีบนวดอีก 2 คน
“ไอ้อัญมันควงผู้ชายออกไปต่อหน้าต่อคนทั้งตลาด” แอนนี่ว่า
อธิคมนอนฟังนิ่งๆ
“เห็นมันบอกว่า เป็นเซียนพระ เพิ่งย้ายมาอยู่”
“เรื่องนั้น ฉันรู้แล้ว”
ฝ่ายเก้ากับต้นกำลังรื้อค้นห้องเช่าของภควัต เห็นแต่หนังสือพระ กับพระเก่าๆ ไกลออกไป จ่าเดชแอบซุ่มมอง
“กูนึกแล้วว่าพวกมึงไม่ปล่อยให้คนแปลกหน้ารอดสายตา ดีนะ ผู้กองเค้าฉลาดเตรียมการไว้หมดแล้ว”
ส่วนอธิคมลุกขึ้น แอนนี่มองตาม จีบปากจีบคอรายงาน
“ท่าทางไอ้อัญมันคงจะหาผัวไว้เกาะ แล้วก็สูบเงินมาจ่ายค่ายาให้พี่บังนะจ๊ะ สารรูปอย่างไอ้อัญ แหวะ ใครจะกินเข้าไปลง นอกจากพวกตายอดตายอยาก”
“กลับไปได้แล้ว”
อธิคมโยนเงินให้ แอนนี่กับเด็กสาวรีบแย่งกันคว้า
“บอกเจ๊ว่าน ไอ้อัญ เป็นเด็กของชั้น”
“เด็กพี่คม หมายความว่าอะไร” แอนนี่งง
“หมายความว่าใครก็ห้ามแตะไอ้อัญ” อธิคมบอก
“แล้วไอ้เซียนพระนั่นล่ะ ป่านนี้มันไม่แตะไม่ลูบไม่คลำ จนถึงสวรรค์ชั้นไหนต่อไหนแล้วเหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ อย่าเสือก ออกไปได้แล้ว”
อธิคมตวาด แอนนี่กับเด็กผู้หญิงผวา รีบออกไป
อธิคมตาขวาง หงุดหงิด งุ่นง่านใจเรื่องไอ้อัญอย่างบอกไม่ถูก
เจ๊ว่านมองแอนนี่ที่กลับมาถึงก็รีบฟ้องเรื่องไอ้อัญกับอธิคม
“จริงๆ นะคะ คุณแม่ขา พี่คมเค้าท่าทางเหมือนหึงไอ้อัญ”
เจ๊ว่านไม่ใครเชื่อ “นังบ้า คนอย่างคุณอธิคม ลูกพี่บังไม่โง่กินของเหลือเดนใครหรอกมีแต่พริตตี้สวยๆ จะถวายตัว เข้าไปหา”
“แต่แอนนี่ว่ามันแปลกๆ นะคะ น้ำสงน้ำเสียงแบบว่า ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ”
“ไอ้อัญมันเป็นเด็กวิ่งยอดที่เก่งที่สุดน่ะสิ วันก่อนไม่เห็นเหรอ ตำรวจจะจับมันยังหลบแผล็วไปได้ต่อหน้าต่อตา ฉันว่าคุณอธิคมเค้าถึงหวง ไม่ยอมให้มันหลุดมือ”
เจ๊ว่านท่าทางไม่ติดใจเหมือนแอนนี่เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
อธิคมยืนอยู่ในตึก กำลังกดสายหา อัญมา เสียงปลายสายติด
เวลาเดียวกันนี้ อัญมากับภควัตกำลังเดินมาที่รถ มือถืออัญมาดัง หล่อนสะดุ้ง หยิบออกมาดูชื่อ
“อธิคมโทร.มา”
“รับ”
ภควัตพยักหน้าให้อัญมารับ อัญมากดรับ
“มีอะไรเหรอพี่คม”
ภควัตฟังแล้ว มีสีหน้าหงุดหงิดใจโดยไม่รู้ตัว
อธิคมพูดน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้มีความโมโหเจือ
“เข้ามาหน่อย มาตอนนี้เลย ฉันกำลังจะออกไปข้างนอก...ไปดูของ”
อัญมาทวนคำ ภควัตเขม้นมอง
“ดูของ... ขนของเหรอพี่”
ปลายสายตัดไปเลย ภควัตมองอัญมา
“อธิคมบอกให้ไปหาตอนนี้”
อัญมาสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที ภควัตกุมมือหล่อนไว้ อัญมามอง
“ผมจะไปส่ง แล้วก็รออยู่ข้างนอก”
อัญมามองมือภควัตที่กุมมือตัวเองอยู่
“คุณมีเครื่องดักฟัง มีอะไรที่ให้ฉันป้องกันตัวบ้างมั้ย”
“ไม่ได้หรอกครับ พวกมันฉลาดมาก ถ้ามันค้นเจอ คุณจะไม่รอด”
อัญมาหน้าแห้งลงไปถนัดตา ภควัตบีบมือแน่น ให้กำลังใจ
“ผมมองคุณอยู่นะ อัญมา”
อัญมาเงยมองหน้าภควัต
“ผมไม่ได้ทอดทิ้งคุณ ไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหน ถึงไม่เห็นตัวผม แต่คุณมั่นใจได้ว่าผมจะอยู่ใกล้ๆ ปกป้องคุณ”
“ปกป้องฉัน คุณหมายถึง ปกป้องเพราะว่า...”
อัญมาถามด้วยสายตาอยากรู้ ภควัตมองแล้วรีบตอบเป็นอย่างอื่น ไม่ยอมเผยความรู้สึกเป็นห่วง
“ผมมีหน้าที่ต้องปกป้อง สายของเรา...ทุกคน”
“ฉันเข้าใจหน้าที่ของคุณ...หน้าที่ของฉัน ตอนนี้คืออย่าทำให้อธิคมจับได้”
อัญมายิ้มสู้โลกและโชคชะตา
ไม่นานต่อมาภควัตในคราบเซียนพระจอดรถมอเตอร์ไซค์ลงตรงหน้าค่ายมวยส.วินิจ อัญมาลงจากรถ เก้ากับนักมวยในค่ายมองมาไกลๆ อัญมาจะเดินเข้าไปในค่ายมวย ภควัตเรียกไว้เสียงหวาน
“น้องอัญจ๋า”
อัญมาหันมามอง หน้าตายังไม่รับมุก
“ลืมอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
อัญมางง ภควัตชี้แก้ม ยื่นไปอัญมาทำหน้าตกใจ ภควัตฉีกยิ้ม พยายามบอกให้ไม่มีพิรุธ
“หอมสิ หอมแก้มผม พวกมันกำลังมองอยู่”
อัญมาจำใจ เดินมา เอาแก้มแตะลงไปที่แก้มภควัตอย่างเสียไม่ได้
“แค่นี้พอ”
อัญมารีบถอยออกมา ภควัตทำท่าระรื่นส่งจูบแล้วขับรถออกไป
อัญมาหันมา เห็นเก้าที่เดินตรงรี่เข้ามา
“พี่คมรออยู่”
อัญมาเปิดประตูห้องอธิคมเข้ามา ปิดประตูลง มองไปรอบๆ ค่อยๆ เดินสำรวจเพื่อมองเก็บรายละเอียดว่ามีอะไรบ้าง หล่อนพบว่าทั้งห้องตกแต่งเรียบๆ
จังหวะนี้ มีเสียงกดล็อคประตูดังกริ๊ก อัญมาหันขวับไป เห็นอธิคมที่ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงยีนส์ เป็นคนกดล็อค ยืนพิงประตูมาดหล่ออยู่
“พี่คม ไหนว่าจะชวนฉันออกไปดูของ” อัญมาเอ่ยถามขึ้น
“เปลี่ยนใจแล้ว เธอมาช้า ไปไหนมา”
“ไป...” อัญมาคิดหาคำมาอ้าง
“ไปไหน” อธิคมคาดคั้น
“ไปกับเพื่อน”
“เพื่อน หรือ ผัว”
อัญมาตกใจกับคำถามและท่าทีอันดุดันของอธิคม
“ฉันถาม ทำไมไม่ตอบ”
“เพื่อนจ้ะ...เอ่อ...ไปคุยกันข้างนอกมั้ยพี่ ฉันว่าในนี้มันอับๆ เวียนหัว”
อัญมาเดินมาที่ประตู แต่อธิคมไม่ยอมให้ไป แถมรวบตัวอัญมาให้เข้ามาจนใกล้
“ฉันอยากคุยที่นี่ ในห้องนี้ สองคน”
“แต่ฉันว่าคุยกันคนเยอะๆ ดีกว่า”
อัญมาจะเบียดตัวไปที่ประตูให้ได้ แต่อธิคมไม่ยอมจับอัญมาเหวี่ยงลงไปที่เตียงนอน อัญมาจะลุก แต่อธิคมพุ่งตัวลงทีเดียว ล็อคขาอัญมาไว้ กดไหล่อัญมาลงไป อธิคมมองอัญมาใกล้แค่คืบ
“ฉันอยากคุยกับเธอแค่สองคน”
อัญมามองอธิคมที่โน้มใบหน้าลงมาใกล้แล้วร้อง
“อย่า...อย่านะพี่คม อย่าทำอะไรฉันนะ”
ภควัตในคราบเซียนพระเข้าห้องมา เห็นข้าวของถูกรื้อกระจุยกระจาย ท่าทางภควัตไม่ตกใจอะไร
พอเดินออกมาหน้าห้องเช่า เห็นจ่าเดชขี่มอเตอร์ไซค์ปาดเข้ามา ภควัตทำเดินไปใกล้
“พวกอธิคมมันมาค้นห้องผู้กอง”
“ดีแล้ว มันจะได้ไม่สงสัยผม”
“พวกมันตามผู้กองกับไอ้อัญไปด้วยหรือเปล่า มันคอยดูความเคลื่อนไหว ของผู้กองกับไอ้อัญอยู่นะ ระวังตัวด้วย”
จ่าเดชขับรถเลยไป ภควัตนิ่วหน้า กังวลและห่วงอัญมามาก
“อัญมา”
ทางด้านอัญมากรีดร้องดังลั่นห้องอธิคม
“อย่า....”
อัญมาเห็นทุกอย่างเงียบก็ลืมตา เห็นหน้าอธิคมที่หยุดอยู่ใกล้ ปลายจมูกเกือบชนกัน
“ร้องทำไม ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย”
“ไม่ทำ พี่ก็ถอยออกไปสิ”
อัญมาพยายามดันอกอธิคม อธิคมไม่ขยับ ก้มลงมาใกล้ อัญมาเบี่ยงหน้าหนี อธิคมหัวเราะในลำคอ เอ่ยใกล้แก้มอัญมา
“ตัวสั่น...ยังกับไม่เคย”
อัญมาหันขวับมามองตาวาวๆ ด้วยความโกรธ อธิคมมองจับสังเกต
“ไม่เคยถูกผู้ชายกอดเลยเหรอ”
อัญมานึกทวนหวนย้อนถึงเรื่องราวในอดีต
ภายในสวนสวยบ้านอัญมาตอนนั้น จิรายุเข้ามาโอบกอดอัญมาจากด้านหลัง อัญมาเบี่ยงตัวออกทันที จิรายุหน้าตาสงสัย
“ทำไมต้องหลบด้วยล่ะครับ อัญ เราคนรักกัน ผมแค่กอดนิดเดียว”
“อัญไม่ชอบค่ะ จะคบกันอัญ คุณต้องจำไว้ด้วยนะคะ จิรายุ อัญไม่ชอบให้ถึงเนื้อถึงตัว”
“โบราณไปหรือเปล่า”
“เรื่องอื่น อัญไม่ว่า แต่เรื่องนี้ อัญเชื่อคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เป็นผู้หญิง เรื่องรักนวลสงวนตัวไม่ใช่เรื่องล้าหลัง ถ้าเราไม่ให้เกียรติตัวเอง ปล่อยตัวปล่อยใจ ผู้ชายก็จะเห็นว่าเราง่ายไปซะทุกเรื่อง”
จิรายุทำหน้าเซ็ง
ภาพนั้นเลือนหายไป อัญมามองจ้องอธิคมที่อยู่ตรงหน้า อธิคมถามซ้ำ
“ตัวสั่นแบบนี้ ไม่เคยถูกผู้ชายกอดเลยใช่มั้ย”
อัญมามองอธิคมที่แววตาเป็นประกาย แล้วกัดฟัน ฝืนยิ้มตอบ
“แหม มองฉันดีเกินไปแล้ว พี่คม”
“งั้นก็ดี จะได้ไม่ต้องเล่นตัวให้เสียเวลา”
อธิคมพุ่งเข้าก้มลงจะจูบ อัญมาตัวสั่น ดันอกอธิคม
“อย่าทำฉัน...ปล่อยฉัน...ปล่อย”
อัญมารวบรวมเรี่ยวแรงถีบตัวเองให้เลื่อนหลุดออกมาจากแรงกดของอธิคม แล้วตะกายหนีอย่างเร็ว แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าอธิคมที่คว้าข้อเท้าของอัญมาไว้แล้วลากกลับมา อัญมาเห็นว่าตนสู้แรงอธิคมไม่ไหวทั้งตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ จึงใช้อุบายยกมือไหว้ขอร้องอธิคม
“ฉันไหว้ละพี่คมอย่าทำฉันเลยนะ ปล่อยฉันไปเถอะ”
อธิคมยิ้มเยือกเย็น รวบมืออัญมาที่ไหว้ตนไว้ พร้อมทั้งก้มหน้าลงมาจะจูบอัญมาอีก อัญมาเบือนหน้าหนีร้องลั่นห้อง
“อย่า.....”
อ่านต่อหน้า 3
คีตโลกา ตอนที่ 3 (ต่อ)
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้กองภควัตวิ่งเร็วมาหยุดลงหน้าค่ายมวย ด้วยความเป็นห่วงอัญมา เขามองหาลู่ทางเข้าไปในตึก จนมีเสียงของเก้าดังเอะอะโวยวายขึ้น
“เฮ้ย มึงมาด้อมๆ มองๆ หาใคร”
ภควัตหันไปเห็นเก้ากับต้นเดินกร่างเข้ามาอย่างเอาเรื่อง
ฝ่ายอธิคมมองจ้องอัญมาเอาที่มือยันอกเขาไว้สุดแรง
“ฟังฉันก่อนนะ พี่”
“เสียเวลาน่ะ”
“แต่พี่ต้องฟังก่อน...ฉันเพิ่งไปตรวจเลือดมา”
อธิคมชะงัก อัญมาแกล้งทำหน้าอึดอัด
“คือ...คือ..หมอบอกว่า...”
อธิคมรีบลุกออกจากตัวอัญมา
“แกเป็นเอดส์หรือเปล่า ไอ้อัญ”
อัญมาผสมโรงทันที “หมอเค้าบอกว่าต้องไปตรวจอีกรอบ”
อัญมาสำทับด้วยการแกล้งตีหน้าเศร้า อธิคมมีสีหน้าหงุดหงิด อัญมารีบเข้ามาประจบ
“ไว้ถ้าฉันไม่เป็นเอดส์ พี่จะทำอะไรฉัน ฉันจะไม่ขัดไม่ขืนเลยนะ”
อธิคมคว้าข้อมืออัญมาดึงเข้าหาตัว อกอัญมากระแทกอกเขา อธิคมจ้องตาอัญมา
“อย่าคิดว่าจะหนีฉันพ้น คนอย่างอธิคม ไม่เคยมีอะไรรอดมือได้”
“ฉันรู้ ฉันไม่หนีหรอก ฉันสัญญา”
อธิคมมองอัญมาตาวาววับ อัญมาหนาวๆ ร้อนๆ ยิ้มสู้ อิธิคมลุกยืนมองอัญมาอย่างเสียดาย อัญมาลอบถอนใจอย่างโล่งอกที่รอดมาได้
ส่วนภควัตถูกเก้าเหวี่ยงกระเด็นติดผนัง ภควัตทำเป็นกลัว ต้นตามมาจ้อง ถ้ามเสียงเข้ม
“บอกมา มึงมาแอบดูใคร หรือว่า เป็นสายให้ตำรวจ”
“ผมมาหาแฟนผม” ภควัตบอก
“ไอ้อัญน่ะเหรอ แฟนมึง ไปรู้จักกันตอนไหน เมื่อไหร่”
เก้าเข้ามากระชากคอเสื้อภควัต เค้นคอถาม
“ไอ้อัญมันไปเป็นแฟนมึงเมื่อไหร่บอกมา”
“อัญ เป็นแฟนฉัน แล้วพวกแกเกี่ยวไรด้วย” ภตวัตในคราบเซียนพระตีรวน
เก้าฉุน “แม่งกวน”
ต้นบอก “เหยียบหน้ามันเลย”
เก้าเงื้อหมัดชก ภควัตตาไวหลบวูบ เก้าชกลงกำแพงจังๆ สะบัดมือเร่าๆ ด้วยความเจ็บ ภควัตหลบออก ต้นคว้าตัว จะถีบ แต่ภควัตจับขาต้นแล้วบิด ต้นแหกปากร้องด้วยความเจ็บ
อธิคม เดินมากับอัญมามองเห็น ตะโกนก้อง
“เฮ้ย! มึงทำอะไรลูกน้องกู”
ภควัตหันไปเห็นอัญมากับอธิคม เก้าอาศัยทีเผลอ เตะเข้ากลางตัว ภควัตแกล้งไม่สู้ ล้มลงก้นกระแทกพื้นต่อหน้าอธิคม
“พี่วัต”
เห็นอัญมาวิ่งไปที่ภควัต อธิคมเขม้นมองไม่พอใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้
อัญมารีบประคองภควัต ภควัตร้องคาง ทำเหมือนเจ็บมาก อธิคมมองจ้องภควัต อัญมาประคองภควัตขึ้นมา
“นี่เหรอ แฟนแก ไอ้อัญ” อธิคมถาม
“จ้ะ พี่วัต แฟนฉัน”
ภควัตจ้องหน้าอธิคม อธิคมมองตอบ ภควัตทำกลัว หันไปทางอัญมา
“พี่มาหา อัญลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่พี่”
“อ๋อ ใช่ เมื่อกี้ฉันรีบ พี่เป็นยังไงบ้าง ไปบ้านฉันก่อนแล้วกันนะ”
ภควัตทำทีเป็นเจ็บ และหวาดกลัว รีบหันกลังเดินออกไปกับอัญมา อธิคมมอง เก้ากับต้นรีบเข้ามาใกล้
“ท่าทางมันแหย” เก้ารีบคุย
อธิคมตอบลูกน้อง แต่จดตามองตามภตวัตไป “แต่เมื่อกี้ที่ข้าเห็น เอ็งสองคนยังเล่นงานมันไม่ได้”
“มันแค่ไวนะพี่ แต่ไม่มีฝีมือ” ต้นว่า
“ข้าคุ้นหน้ามัน” อธิคมบอก
“มันเพิ่งมาอยู่นะพี่ ฉันไปถามชาวบ้านมาหมดแล้ว มันเพิ่งมา ไม่ใช่สายตำรวจ” เก้ายืนยัน
“ใช่ ไม่ใช่ ถ้าทำให้ข้าหงุดหงิด มันก็มีสิทธิ์ตายได้เท่ากัน”
อธิคมมองตามด้วยสายตาเหม็นขี้หน้าภควัตเต็มที่
ภควัตอยู่ในบ้านอุบล มองอัญมาที่กำลังเอายาหม่องส่งให้
“ทาซะ”
“ยาหม่อง”
“ก็ฉันเห็นผู้กองล้มก้นจ้ำเบ้า”
“ถ้าผมไม่แกล้งแพ้ อธิคมมันจะสงสัย คุณหายไปกับอธิคม มันทำอะไรคุณหรือเปล่า อัญ”
อัญมาอึกอักสีหน้าลำบากใจไม่รู้จะตอบยังไง ภควัตเห็นท่าทียิ่งอยากรู้ จับไหล่อัญมา
“ว่าไง อธิคมมันทำอะไรคุณหรือเปล่า”
อัญมายังไม่ทันตอบ สัญชัยเดินเข้าบ้านมา พอเห็นภควัตใกล้ชิดอัญมา ก็ลมหึงขึ้นหน้า
“เฮ้ย ใครวะ เข้ามาทำอะไร ลูกสาวข้า”
ภควัตปล่อยมือจากไหล่อัญมา สัญชัยทำกร่าง กำหมัดร่อนเข้ามาหาภควัต
“ไอ้อัญน่ะ ลูกสาวสุดที่รักของข้า ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามแตะต้อง”
ภควัตหยิบมีดพกในเอวมาควงเล่น สัญชัยผงะ ถอยออกมาสองสามก้าว แต่ยังปากดี
“ลูกอัญ ลูกจะคบผู้ชายอันธพาลแบบนี้ไม่ได้ พ่อไม่อนุญาต”
“จะอ๊วก พ่อเลี้ยงอย่างแกไม่ต้องมาอนุญาตอะไรหรอก ทำตัวดีๆ อยู่ห่างๆ ชั้นไว้เถอะ ไม่งั้นฉันจะให้แฟนชั้น พี่วัต กระซวกแกไส้ไหลออกมากองจนหมด” อัญมาด่า
ภควัตควงมีดเร็ว แล้วแกล้งจ่อไปทางสัญชัยที่ถอยห่าง
“ลูกอัญ ทำไมพูดกับพ่อแบบนี้ ทำไมเห็นผู้ชายดีกว่าพ่อ”
“แกไม่ใช่พ่อฉัน แกคิดจะปล้ำฉันทุกครั้งที่มีโอกาส คนอย่างแก ไม่สมควรจะเรียกว่าพ่อ”
“ไม่จริง ลูกเข้าใจพ่อผิด พ่อรักลูก หวังดีกับลูกทุกอย่าง”
ภควัตชี้มีดไปทางสัญชัยอีก เพื่อไม่ให้เข้ามาใกล้อัญมา
“ถ้าฉันรู้ว่าแกคิดจะลวนลามอัญอีก” ภควัตทำท่าเอามีดปาดคอตัวเอง จ้องสัญชัยให้กลัว “แกตาย”
อัญมาควงแขนภควัต รีบดึงออกจากบ้านไป สัญชัยมองตามอย่างเจ็บใจ
“มึงคิดจะเอาผัวมาขู่กูเหรอ ไอ้อัญ มึงไม่รอดมือกูแน่”
ภควัตมองอัญมาที่เดินมาด้วยกันตามทางเดินในชุมชน ก่อนที่อัญมาจะสะบัดแขนออก
“อัญมา คุณไม่เคยเล่าเรื่องพ่อเลี้ยงคิดจะปลุกปล้ำคุณให้ผมฟังเลย”
“เล่าไปก็เท่านั้น ชีวิตชั้นตอนนี้มันก็แย่ครบสูตรแล้ว”
อัญมาเมินหน้าไปทางอื่น ภควัตมองสงสาร เลื่อนมือไปกุมมืออัญมาไว้ อัญมาหันขวับ
“ปล่อยมือชั้นนะ”
“ปล่อยได้ยังไง ทุกคนที่นี่รู้แล้วว่าเราเป็นแฟนกัน เกิดพ่อเลี้ยงคุณตามมาเห็น แผนก็แตกพอดี”
อัญมาหมั่นไส้ “ฉวยโอกาส”
“ผมแค่จับมือ แต่ไอ้อธิคมมันคงจับ..ถึงไหนๆ”
อัญมายัวะ “อยากปากแตกนักใช่มั้ย”
อัญมากำหมัด ชาวบ้าน 2-3 เดินมามอง ภควัตรีบทำประจบ
“พี่กลัวแล้วจ้ะ น้องอัญ ไปๆ อย่าโมโหหิว พี่พาไปกินข้าวหรูๆ จ้ะ ไปๆ”
ภควัตดึงอัญมาออกไปท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของชาวบ้าน
ที่ร้านบะหมี่ริมถนนคืนนี้ อัญมากับภควัตมองชามบะหมี่ที่คนขายวางลงตรงหน้า อัญมาบ่นออกมา
“ไหนบอกจะพาฉันไปกินข้าวหรูๆ ไง แล้วนี่อะไร แค่ร้านบะหมี่ริมทาง คุณมันกะล่อนมาก ผู้กอง”
ภควัตมองอัญมานิ่งซักไซ้เรื่องอธิคมอีก “บอกผมหน่อยสิ อัญมา...อธิคมมันรังแกคุณหรือเปล่า”
อัญมามองสายตาเป็นห่วงของภควัตแล้วยิ้ม
“ไม่ต้องห่วง คนอย่างคุณหนูอัญมา เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์”
“ผมเป็นห่วงนะ”
“รู้แล้ว คุณห่วงว่าฉันจะโดนจับได้ว่าเป็นสายตำรวจใช่มั้ย ทีนี้ก็จะไม่มีคนทำงานให้คุณ” อัญมาแขวะ
“ไม่ใช่ อัญมา ผมไม่ได้ห่วงว่าคุณจะทำงานให้ไม่ได้ แต่ผมห่วงคุณอย่าง...”
ภควัตมองอัญมา ลังเลว่าจะพูดความรู้สึกจริงๆ มั้ย อัญมามองลุ้น
สุดท้ายภควัตบอกว่า “อย่าง...เพื่อน”
“เจ๊อัญ” เสียงไอ้นวยดังมาจากมุมหนึ่ง
ภควัต และอัญมาหันไปมอง เห็นนวยจอดรถข้างฟุตบาท มีจิ๊บลงจากรถ ตรงมาที่โต๊ะอัญมา จิ๊บมองภควัตตาเข้ม ภควัตยิ้มให้ จิ๊บหน้าบึ้ง ไม่ยิ้มด้วย
“แหม มาดินเนอร์กับแฟนเหรอเจ๊” นวยทัก
“อือ”
“นั่งด้วยนะ”
ภควัตยิ้มกว้างพยายามผูกมิตร “สั่งซิ วันนี้ผมเลี้ยงเอง”
จิ๊บชักสีหน้า “ไม่ต้อง ทำงานมีเงิน เลี้ยงตัวเองได้”
“ที่เลี้ยงไม่ใช่ว่าดูถูก แต่เห็นเป็นเพื่อนกับแฟนผม” ภควัตบอก
จิ๊บหันไปถามอัญมา “แกไปคบกับไอ้หมอนี่ตอนไหนห๊ะ อัญ”
“ก้อ...”
“ฉันเจอแกเกือบทุกวัน แกไม่เห็นเล่าเลยว่าเจอไอ้เซียนพระนี่ที่ไหน”
ภควัตแหลมขึ้น “รู้ด้วยว่าผมเป็นเซียนพระ”
“แหม เรื่องชาวบ้านนี่ ใครๆก็อยากรู้ โดยเฉพาะเรื่องเจ๊อัญมีแฟน หล่อเว่อ หล่อฟิน หล่อชวนจิ้น น้องแอนนี่มันเมาท์ซะเละเทะ รู้ทั้งชุมชนแล้ว”
“หุบปาก ไอ้นวย ฉันกำลังถามไอ้อัญ” จิ๊บตวาด แล้วหันมามองจ้องอัญมา “ตกลงแกไปรักกับมันตอนไหน”
“ไม่รู้ จำไม่ได้ เจอปุ๊บ คุยกัน ชอบก็คบเลย”
จิ๊บหันมองภควัตอย่างไม่ชอบขี้หน้า ภควัตยิ้มกวนๆ ให้ นวยหันมาทางภควัต
“คือเจ๊จิ๊บ แกโกรธน่ะ พี่อัญมีแฟนหล่อกว่าแฟนแก”
จิ๊บหันมาตบหัวน้องชาย นวยรีบถอยมาใกล้ภควัต อัญมาทำหน้าไม่คอยถูก
4 คนที่เดินมาหน้าบ้านอุบล
ภควัตถามขึ้น “พ่อเลี้ยงยังอยู่หรือเปล่า น้องอัญ”
อัญมามองเข้าไป “ไม่รู้”
“ฉันมานอนเป็นเพื่อนแกมั้ย อัญ” จิ๊บอาสา
“ไม่ต้อง ฉันชอบนอนคนเดียว”
อัญมามองทุกคน “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันเอาตัวรอดได้”
จากนั้นอัญมาเดินเข้าบ้านไป ภควัตขยับมองตาม นวยมองเป็นห่วง
“เจ๊อัญแกแกร่ง หรือถ้าห่วงมาก พี่ก็รีบแต่งงานกับเจ๊แกไปซะ พาแกออกไปจากบ้านหลังนี้”
ภควัตมองนวยที่ยิ้มจริงใจ จิ๊บตบหัวน้องชายอีกทีด้วยความหมั่นไส้
“พูดมาก ใครใช้ให้แกยุ่งเรื่องไอ้อัญ ตัวเองยังเอาไม่รอด ไป กลับบ้านไปเลย”
นวยคลำหัวป้อยๆ จิ๊บมองภควัต
“อย่าคิดจะมาหลอกเพื่อนฉัน ไอ้อัญมันเป็นคนดี”
จิ๊บเดินออกไป ภควัตถอนใจเบาๆ มองกลับไปในบ้านอุบลอย่างกังวล
“อย่างน้อยก็ยังมี จิ๊บ เป็นเพื่อนที่จริงใจกับคุณนะ อัญมา”
อัญมาเดินเข้าบ้านมา อุบลกำลังรีดผ้า พอเห็นอัญมาก็วางเตารีด ถามเสียงไม่พอใจทันที
“ชาวบ้านเค้าลือกันว่าแกพาไอ้ผู้ชายที่แกว่าเป็นแฟนเข้ามามั่วในบ้าน”
“ไม่ใช่ชาวบ้านลือหรอก ไอ้สัญชัยล่ะสิที่มันฟ้อง”
อุบลหน้าตึงกว่าเก่า “ถึงเค้าจะไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่แกก็ต้องเคารพเค้าบ้างนะ ไอ้อัญ”
“จะให้ฉันไหว้ ไอ้ผู้ชายที่มันคิดจะปล้ำฉันทุกนาทีน่ะเหรอ”
อุบลตกใจ ไม่เชื่อ “แกพูดอะไร สัญชัยมันไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอก”
“ไม่กล้า... มีอะไรที่ไอ้ขี้เมาอย่างมันไม่กล้า”
อุบลเปลี่ยนเรื่อง “แกอย่าเที่ยวใส่ร้ายคนอื่นนะ ไอ้อัญ แกตอบแม่เรื่องไอ้ผู้ชายที่แกซ้อนท้ายมันมาก่อน ไอ้ที่หายๆ ไป แกหายไปกับไอ้ผู้ชายคนนี้ใช่มั้ย งามหน้ามั้ย มีลูกสาวคนเดียว ติดยา แล้วยังจะมีผัวไม่เลือกอีก”
อัญมาชักฉุน “หรือฉันต้องเลือกแบบไอ้สัญชัย ป้าถึงจะเรียกว่าดี”
อุบลตกใจกับสรรพนาม “ไอ้อัญ”
“ถามจริงๆ เถอะ ฉันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของป้าหรือเปล่า”
“ไอ้อัญ แกพูดกับแม่อย่างนี้ได้ยังไง ฉันเบ่งแกออกมานะ”
อุบลพูดด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจมาก
“ถึงฉันจะเคยคิดทิ้งขว้างแก แต่สุดท้ายฉันก็ทำไม่ลง ฉันสู้อุตส่าห์เลี้ยงแกมาจนโต”
อัญมาสะดุดหู “ทิ้งฉัน? ป้าเคยคิดจะทิ้งฉันเหรอ แล้วฉันมีฝาแฝดหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอก แค่เอ็งคนเดียว ข้าก็ไม่รู้จะเลี้ยงยังไงให้รอด พ่อเอ็งก็มาตายจากไปกะทันหัน ตายเพราะช่วยคนอื่นแท้ๆ ข้าเอาเอ็งไปวางไว้หน้าบ้านเศรษฐี แต่สุดท้ายก็ทำไม่ลง ข้าทิ้งลูกตัวเองไม่ได้”
“ไอ้อัญถึงรอดมาได้ แล้วมันก็มาขโมยชีวิตฉันไป”
อัญมาบ่นงึมงำ แล้วหันไปทางอุบล
“ชีวิตฉัน...ไอ้อัญต้องดีกว่านี้ ถ้าไม่มีป้าเป็นแม่”
อุบลตกใจ พุ่งเข้าตบหน้าอัญมาอย่างแรง อัญมาหน้าสะบัด
“ฉันเลี้ยงแกมานะ ไอ้อัญ สู้ลำบากทุกอย่าง เลี้ยงแกมาคนเดียว แต่แก...แกกลับไปคบเพื่อน จนติดยา ชีวิตแกตกต่ำเพราะตัวแกกับเพื่อน แกอย่ามาโทษฉัน ไม่ใช่เพราะนังจิ๊บเหรอ แกถึงได้ไปลองไอ้ยาบ้านรกพวกนั้น”
อุบลปล่อยโฮ อัญมามีสีหน้าตกตะลึง
“จิ๊บ”
อุบลบอกต่อ “ที่มันทำดีกับแก เพราะมันสำนึกผิด มันเป็นคนเอายาบ้ามาให้แกลอง”
“จิ๊บ...จิ๊บเป็นคนเอาไอ้ยานรกมาให้ฉันลองเหรอ”
“ก็ใช่นะซิ”
อัญมาสุดจะทนฟัง วิ่งหนีเข้าห้องไป อุบลสะอื้นไห้ออกมา
อัญมาเข้าห้องมาปิดประตูลงอย่างแรง กดดัน ผิดหวังความจริงทุกอย่างที่ได้รู้
“ไม่จริง ฉันไม่ได้ติดยาเพราะเพื่อนเลวๆ อย่างจิ๊บ ไม่ใช่ ไม่จริง”
อุบลทุบประตูแรงๆ อยู่ที่ด้านหน้าห้อง
“ไอ้อัญ ไอ้อัญออกมาคุยกันรู้เรื่องก่อน”
“อย่ามายุ่งกับชั้น ชั้นไม่ใช่ลูกป้าอุบล ขายไก่ทอด ไม่ใช่ อย่ามายุ่งกับฉัน”
อุบลได้ยินเสียงกรีดร้องของอัญมาแล้วตกใจ ทรุดลงร้องไห้หน้าห้อง
ส่วนในห้องอัญมาสะอื้นไห้ หยิบหมอนฟาดเปะปะไปด้วยความผิดหวัง ก่อนจะทิ้งหมอน ยืนสะอื้นอย่างคับแค้นในชะตากรรมของตัวเอง
ฟากภควัตกำลังนอนอยู่บนที่นอนเก่าราคาถูก ในห้องเช่าเล็กๆ เหงื่อแตกเต็มหน้าเพราะภาพติดตาในวัยเด็กที่ยังตามหลอกหลอน
ภควัตฝันเห็นภาพเดิมที่ครอบครัวถูกฆ่าต่อหน้า ภควัตสะดุ้งขึ้นทั้งตัว ลุกนั่ง เหงื่อเต็มหน้า
เสียงเคาะประตูด้านนอกดังปัง ปัง ภควัตหยิบปืนข้างหมอนออกมาถือไว้เตรียมพร้อมในมือทันที
เสียงทุบประตูดังอีก ปัง ปัง ภควัตเดินมาใกล้ประตู ค่อยๆ เปิด แง้มออกไป
ประตูถูกกระชากออก ภควัตเล็งปืน เห็นอัญมาพรวดเข้ามา
“ผู้กอง”
สภาพอัญมาน้ำตานองหน้า ภควัตมองด้วยความตกใจ
“ฉัน...ไม่รู้จะไปหาใคร”
อัญมาพูดไม่ทันจบ ภควัตดึงร่างอัญมามากอดปลอบไว้อย่างอ่อนโยน อีกมือปิดประตูให้สนิท
กันคนนอกเห็น อัญมาสะอื้นไห้อยู่ในอ้อมอกแกร่งของภควัต
ภควัตมองอัญมาที่สะอื้นอยู่อย่างนั้น แล้วเลื่อนนิ้วมาปาดเช็ดน้ำตาให้แผ่วเบา
ทางฝ่ายอธิคมมีสีหน้าหงุดหงิดไม่สบายใจ เดินไปเดินมา จนนายวินิจผู้เป็นพ่อมอง เก้ากับต้นเดินมารายงาน
“คนของเราเห็นไอ้อัญ..หายเข้าไปในบ้านไอ้เซียนพระ แฟนมัน” เก้าบอก
“ไป ไปให้พ้นหน้ากู”
อธิคมตวาดไล่ เก้า กะ ต้นรีบแจ้นออกไป วินิจมองอยู่ด้านหลัง
“แกทำเหมือนหึงไอ้อัญ”
“ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมาโกหกฉัน”
“ไอ้อัญมันโกหกอะไร”
“มันบอกว่ามันอาจจะ...เป็นเอดส์”
วินิจงง “ไอ้อัญน่ะนะ”
“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับมัน แค่เห็นมันทำงานดี ไม่อยากให้มันตายเร็ว”
อธิคมเดินเร็วออกไปทันที วินิจมองอาการงุ่นง่านของลูกชายอย่างจับสังเกต
สองคนอยู่ในห้องเช่าสองต่อสอง อัญมารู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของภควัตที่โอบกอดอยู่อย่างสุภาพ อัญมาขยับตัวออกจากอ้อมกอด อดนึกเสียดายไม่ได้ ระบดระบายออกมาอีก
“ป้าอุบลเล่าว่าเคยจะเอาลูกไปทิ้งที่หน้าบ้านเศรษฐี อาจจะเป็นบ้านคุณพ่อ คุณแม่ฉัน แต่ฉันก็เป็นลูกที่แท้จริงของคุณพ่อคุณแม่นี่...นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกับฉัน...ฉันกับไอ้อัญคงมีอะไรผูกพันกันสักอย่าง ฉันถึงต้องหลุดมาที่นี่ ทำไม...ผู้กอง... ทำไม ฉันทำผิดอะไรหนักหนา”
“อัญมา ฟังผมนะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ที่เค้าเรียกว่ากรรม”
“ฉันทำกรรมชั่วอะไรนักหนา ถึงต้องมาตกนรกขุมนี้”
“นี่ไม่ใช่นรกนะ อัญมา ถ้าเป็นอย่างที่คุณเล่า ผู้หญิงอีกคนที่หน้าเหมือนคุณ เค้านอนอยู่ในโรงพยาบาล เค้าอาจจะมีแต่ร่าง มีลมหายใจ แต่เค้าไม่มีชีวิตไม่มีพลังที่จะได้ทำอะไรอย่างคุณ”
อัญมาฟังแล้วยิ่งสะอื้น ภควัตพยายามปลอบใจ
“บางทีโชคชะตาคงอยากให้คุณได้เรียนรู้ชีวิต...อย่าคิดว่าที่นี่เป็นนรก”
“ช่วยฉันได้มั้ย ผู้กอง ช่วยฉันตามหาความจริง”
อัญมาจับมือภควัตด้วยสายตาขอร้อง
“ฉันรู้ว่าคุณไม่เชื่อที่ฉันพูด เรื่องไอ้อัญตัวจริง”
“ผมจะช่วยคุณ”
อัญมายิ้มดีใจ ภควัตยิ้มให้กำลังใจ
“ผมจะช่วยคุณพิสูจน์ว่าผู้หญิงที่คุณบอกว่านอนอยู่ที่โรงพยาบาลคือไอ้อัญ ตัวจริง หรือแม้กระทั่งคุณอาจจะมีฝาแฝด ทั้งหมดถึงมันจะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ ผมก็จะช่วยคุณหาความจริง”
อัญมามองภควัตอย่างซาบซึ้ง “คุณเป็นตำรวจที่ใจดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ คุณรู้มั้ย ว่าฉันเคยเจอคุณมาก่อน”
ภควัตงวยงง “เจอผม”
อัญมามองภควัต แล้วนึกถึงตอนเจอเขาในงานแฟชั่นโชว์การกุศล และอีกครั้งที่เจอภควัตตอนจับยาบ้าในห้าง
“ช่างเถอะ ถ้านี่คือชะตาลิขิต หรือ กรรมอะไรก็ตาม ฉันรู้ว่ามันต้องมีทางเปลี่ยนแปลง ฉันจะไม่ยอมตายง่ายๆ”
“รู้มั้ย อัญมา คนเป็นตำรวจอย่างผม ทำไมจะไม่กลัวตาย แต่ผมคิดเสมอว่าวันนี้ ตอนนี้ ชีวิตเราดีที่สุด ไม่ต้องรังเกียจอดีต ไม่ต้องกลัวอนาคต” ภตวัตยิ้มอ่อนโยน “เชื่อผมนะ อัญมา เวลาตอนนี้ที่เราได้เจอกัน มันดีที่สุดเสมอ”
อัญมามองภควัตที่ยิ้มให้ เริ่มมีกำลังใจ ภควัตจับไหล่อัญมาไว้ ตบเบาๆ ให้กำลังใจ
ขณะเดียวกันนั้นอธิคมก้าวมายืนหน้าบ้านเช่าภควัต ด้วยแววตาแข็งกร้าว ดุดัน และน่ากลัว
อัญมาอยู่ใกล้ภควัต ภควัตกำลังจะปล่อยมือจากไหล่อัญมา แต่สายตามองผ่านหน้าต่างไปเห็นอธิคมที่ยืนอยู่ด้านนอกห้อง ภควัตทำเป็นไม่เห็นอธิคม รีบดึงอัญมามากอดไว้
“กอดผม อัญมา อธิคมกำลังมองเราอยู่”
อัญมาตกใจ รีบทำตามที่ภควัตสั่ง เอื้อมมือไปโอบกอดภควัตไว้ ภควัตก้มลงหอมที่ผม อัญมากระซิบเสียงเขียว
“นี่ผู้กอง แสดงสมบทบาทไปหรือเปล่า”
“เงียบๆสิ แล้วก็กอดแน่นๆ เร็วๆ”
อัญมาจำใจกอด ภควัตกอดอัญมาแน่นขึ้นอีก
ส่วนที่ด้านนอก อธิคมมองตรงมาเห็นภควัตกอดกับอัญมาแทบจะเป็นร่างเดียวกัน ตาวาววับ แตะปืนในเอว
“พอหรือยัง” อัญมาถามขึ้น
“เดี๋ยวก่อน ผมว่าเค้ายังไม่ไป”
ภควัตขยับร่างออก ทำเป็นหมุนร่างอัญมาไปอีกทาง ภควัตเหลือบตามอง เห็นอธิคมยังจ้องมา และในมือมีปืน
“เข้าไปในห้องน้ำ”
“หา”
“เข้าไป มีอะไรก็อย่าออกมา”
ภควัตดึงอัญมามาจูบลงที่ผมข้างแก้ม อัญมาตาโตตกใจ
“ผู้กอง”
ภควัตบอกกำชับเบาๆ “ถ้าได้ยินเสียงปืน เปิดหลังคา ปีนหนีออกไป”
ภควัตยิ้มแล้วดันอัญมาไปทางห้องน้ำ ทำพูดเสียงดัง
“อาบเร็วๆ นะ อย่าให้พี่รอนาน”
อัญมามองแล้วเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป ภควัตยิ้ม เดินฮัมเพลงมาที่หน้าต่าง ทำเป็นดึงหน้าต่างจะปิด แต่สายตามองหาไปรอบๆ ภควัตมองไม่เห็นอธิคม ก็แกล้งตะโกนขึ้นเสียงหวาน
“อาบเสร็จหรือยังจ้ะ น้องอัญ พี่ไปช่วยถูหลังให้มั้ย”
พอภควัตปิดหน้าต่างลง จึงเห็นว่าอธิคมพิงฝาผนังห้องอยู่ข้างหน้าต่างที่เพิ่งปิดลงไปนั่นเอง
สายตาอธิคมที่ถือปืนลุกวาวด้วยความหึง แล้วเดินหายไปจากตรงนั้นอย่างเร็ว
ภควัตเดินมาเคาะประตูห้องน้ำเสียงหวาน
“เปิดหน่อย น้องอัญจ๋า”
อัญมาเปิดออกมา หน้าตาบูดบึ้งใส่
“ไหนล่ะ อธิคม”
อัญมาก้าวพรวดๆออกมมา
“ผู้กองหลอกฉันหรือเปล่าเนี่ย หลอกฉวยโอกาส กอดฉันหรือเปล่า อธิคมจะมาตามถึงนี่ได้ยังไง”
“ก็คุณยังรู้เลยว่าผมอยู่ไหน จ่าเดชบอกว่าอธิคมให้ลูกน้องมาค้นห้องนี้แล้ว”
“แสดงว่าเค้าจะมาฆ่าผู้กอง”
ภควัตโต้ “เพราะผมเป็นแฟนคุณ”
อัญมาไม่เชื่อ “ว่าไงนะ อธิคมน่ะนะ จะฆ่าแฟนไอ้อัญขี้ยา”
“ถ้ามันจะฆ่าเพราะสงสัยผม มันสั่งยิงไปตั้งแต่กลางวันแล้ว แต่นี่มันมาตอนนี้ ตอนที่คุณอยู่กับผม แสดงว่ามันตามคุณ ไม่ใช่ผม แล้วถ้ามันตามคุณก็เพราะเมื่อเย็นคุณอยู่กับมันสองต่อสอง”
“ไม่ต้องมาจ้องฉันแบบนี้ ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร”
อัญมาหันหลังให้ ภควัตดึงอัญมาไว้
“อย่าเพิ่งออกไป อยู่ที่นี่ก่อนสักพัก”
“ฉันง่วงแล้ว”
“ก็นอนตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผมปลุก”
“ฉันไม่ได้กลัวเรื่องนอนไม่ตื่น”
“กลัวผมล่ะสิ”
อัญมาลอยหน้า “ไม่เคยกลัว”
“งั้นก็นอน รอจนกว่าผมจะมั่นใจว่าคืนนี้อธิคมกับลูกน้องมันเลิกจับตาดูเรา”
อัญมากระแทกตัวลงนั่ง สีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ ภควัตแอบยิ้ม
ฝ่ายอุบลอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงเปิดประตู ก็สะดุ้ง หันขวับไปมอง
“อัญ อัญเหรอลูก”
พอเห็นเป็นสัญชัยเดินเข้ามา อุบลชักสีหน้า
“ไอ้สัญชัย มึงทำอะไรลูกกูตอนกูไปขายของหรือเปล่า”
สัญชัยหน้าแดงก่ำด้วยความเมา ปราดเข้าไปตบอุบลคว่ำ แล้วตามไปเตะซ้ำ
“กูจะทำอะไร มึงก็ห้ามกูไม่ได้หรอก อีอุบล”
อุบลคลานจะไปคว้ามีดที่ครัว สัญชัยจับผมอุบลจิกขึ้น
“อย่าให้กูต้องโมโหแบบนี้บ่อยๆ กูไม่ใช่คนที่มึงสองแม่ลูกจะมาหัวเราะเยาะได้ จำไว้ว่าที่กูยอม เพราะกูเป็นคนดี ไม่ชอบมีปากเสียง ไม่อยากมีเรื่องกับใคร”
สัญชัยกระแทกหัวอุบลลงกับพื้นอีกที อุบลร้องด้วยความเจ็บปวด
“จำไว้ ถ้าลูกสาวมึงถาม ก็บอกว่ามึงล้มในห้องน้ำ
สัญชัยเตะอุบลกลิ้งไปติดข้างฝา แล้วจ้องหน้า เดินไปหยิบเหล้า เปิดทีวีดูอย่างเฉยเมย อุบลซุกตัว ร้องไห้ด้วยความกลัว และเจ็บใจ
อัญมานอนหลับไปกับพื้นห้องด้วยความเพลีย ภควัตมองแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมให้ จากนั้นถอยไปนั่งห่าง สายตามองตรงมาที่อัญมา
บนท้องฟ้ายามนี้ พระจันทร์เลื่อนหลบเข้ากลุ่มเมฆ อัญมาสะดุ้ง ลืมตาตื่น มองไปเห็นภควัตนั่งหลับพิงผนังห้องอยู่ ก็อมยิ้มมอง ด้วยความสบายใจ และรู้สึกปลอดภัย
รุ่งเช้าอธิคมยืนอยู่ข้างนายวินิจ พร้อมหน้าด้วยลูกน้องทุกคน
“วันนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับ อธิคม ลูกชายคนเดียวของข้า แขกคนสำคัญคือเสี่ยใหญ่ ท่านจะมาที่นี่”
วินิจมองลูกน้องทุกคนด้วยสายตากำชับ
“อย่าให้มีอะไรขาดตกบกพร่อง ส่วนคนที่ต้องไปทำงาน ก็ไปทำให้เรียบร้อยตามคำสั่งของลูกชายข้า แล้วค่อยกลับมาฉลองทีหลัง”
อธิคมกวาดตามองไปรอบๆ แล้วถามขึ้น
“ไอ้อัญหายไปไหน”
อัญมาเดินมาตามทางเดินโรงพยาบาล พร้อมกับภควัต ในมืออัญมามีถุงยาที่เพิ่งรับมาจากหมอ
“ยังมีอาการอยากยาอีกมั้ย”
“มี แต่น้อยลง”
“คุณต้องสู้นะ อัญมา ผมเอาใจช่วย”
“ขอบใจมากนะ ผู้กอง ยังไงฉันก็ต้องหาย”
อัญมายิ้มสู้ มีกำลังใจ
“เก็บยาไว้ดีๆ อย่าให้อธิคมเห็น อย่าให้พวกมันรู้ว่าคุณกำลังเลิกยา”
อัญมาเอายาระงับอาการทางประสาทและยาบำรุง 3 ถุงออกจากถุงใหญ่ ใส่กระเป๋ากางเกง
แล้วทิ้งถุงใหญ่ออก
“เรียบร้อย”
ภควัตกำชับ “อย่าประมาทนะ อัญมา”
“ค๊า คุณผู้กองจอมสั่ง”
อัญมาทำเสียงล้อ ค่อนขอด ภควัตอมยิ้ม
อธิคมก้าวเข้ามาในบ้านอุบล ด้านหลังคือเก้ากับต้น จิ๊บที่กำลังทายาให้แผลที่เนื้อตัว ใบหน้าอุบลผวาเข้าหากัน
สัญชัยเดินจังก้าเข้ามา ท่าทางยังไม่สร่างเมา จ้องหน้าอธิคม
“พวกมึง...มึง...มึง เป็นใคร เข้าบ้านกู ทำไมไม่เคาะประตู”
เก้า กับต้นขยับ แต่อธิคมยกมือห้าม
สัญชัยพ่นต่อ “กูถามว่าพวกมึงเป็นใคร เข้ามาบ้านกู ทำไม”
อธิคมถีบโครมเดียวเข้ากลางอกสัญชัย กระเด็นกลิ้งไปชนข้าวของระเนะระนาด อุบลจิ๊บ ตกใจ อธิคมหันถามอุบลสียงนุ่ม
“ฉันมาหาไอ้อัญ”
“มันหายไปตั้งแต่เมื่อคืน ยังไม่กลับมาเลย” อุบลบอก
ต้นแหลมขึ้น “มึงกล้าโกหกลูกชายพี่บังเหรอ”
อุบลตกใจ “ลูกชาย...พี่บัง พวกแก ไอ้พวกค้ายา”
“คิดให้ดีก่อนนะ ถ้าจะเรียกให้ตำรวจช่วย”
เก้ากระชากจิ๊บมา จิ๊บร้องวี๊ดอย่างหวาดกลัว เก้าล็อคคอ ชักมีดออกมาขู่
อธิคมถามอีก “ไอ้อัญอยู่ไหน”
“ฉันไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ”
“ป้าอุบลแกไม่รู้หรอก อย่าทำอะไรแกเลยนะ” จิ๊บอ้อนวอน
เก้าตวาด “เงียบ”
จิ๊บที่ถูกเก้าล็อคคอมองผวากลัว สัญชัยได้สติ ลุกขึ้น อธิคมมองมา
“พวกมึงทำอะไร”
ต้นไม่พูดมาก เดินเข้ากระทืบสัญชัยซ้ำจนสลบ
อธิคมมองอุบลด้วยแววตาคาดคั้น
“นึกออกหรือยัง ไอ้อัญมันจะไปไหนกับใครได้บ้าง”
อ่านต่อหน้า 4
คีตโลกา ตอนที่ 3 (ต่อ)
ด้านอัญมาซ้อนมอเตอร์ไซค์ภควัตในคราบเซียนพระเข้ามาจอดหน้าปากซอย ทุกคนในวินมองเป็นตาเดียวกัน อัญมาลงจากรถ ภควัตส่งจูบ
“พี่ส่งแค่นี้นะน้องอัญ พี่ต้องรีบไปธุระนัดคุยเรื่องพระไว้ แล้วพี่โทร.หานะน้องอัญ”
ภควัตโบกมือ อัญมาจำใจโบกมือตอบ แต่พอหันมาจะเดินเข้าซอย ไอ้นวยวิ่งหน้าตั้งมา
“เจ๊ เร็วๆ มัวมายืนลาแฟนอยู่ได้ ไอ้คมลูกพี่บังจะฆ่าแม่เจ๊แล้ว”
อัญมาได้ยินก็วิ่งฝุ่นตลบตามนวยเช้าซอยไปทันที
อธิคมดึงอุบลมาใกล้ ด้านหลังเก้าล็อคคอจิ๊บ มีต้นยืนอยู่ใกล้
“ไอ้อัญมันทำงานกับฉัน ฉันเป็นเจ้านาย ก็อยากจะรู้ว่าลูกน้อง บ้านช่อง ความเป็นอยู่เป็นยังไง ไม่ต้องกลัวนะ”
“ถ้าจะไม่ให้กลัว ก็ถามกันดีๆสิ ไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือ” อุบลมองตาขุ่น
“ฉันถามดีๆ ก็ได้ แต่จะถามอีกครั้งเดียว แล้วต้องได้คำตอบ”
อุบลมองอธิคมที่แววตาดุ
“ไอ้อัญอยู่ที่ไหน”
อุบลกับจิ๊บมองหน้ากัน ด้วยความกลัว
“ฉัน...ฉันไม่…”
เสียงอัญมาดังขึ้น “ฉันอยู่นี่”
ทุกคนหันไปมอง เห็นอัญมายืนหอบอยู่หน้าประตู
อธิคมเดินมากระชากแขนลากอัญมาไปทันที เก้าปล่อยจิ๊บต้นเดินตาม นวยจะขวาง เจอต้นผลักกระเด็น
อัญมานึกได้ หันมาตะโกนบอกอุบล
“ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวฉันก็กลับมา”
อุบลกับจิ๊บ และนวยมอง เห็นอัญมาถูกลากออกไป
“แจ้งตำรวจสิ พี่จิ๊บ” นวยบอก
“แจ้งให้ไอ้อัญมันตายเร็วขึ้นหรือไง ตำรวจรู้ พี่บังก็รู้” จิ๊บว่า
“แล้วเจ๊อัญล่ะ ปล่อยเจ๊อัญไปกับไอ้โหดหน้าหล่อนั่นไม่ได้นะพี่”
“ข้าจะไปบอกจ่าเดช”
อุบลไม่รอ วิ่งออกไปทันที นวยกับจิ๊บวิ่งตาม
ไม่นานต่อมา ร่างแบบบางของอัญมาถูกเหวี่ยงมาในห้อง อธิคมมอง เก้ากับต้นออกไป อัญมายิ้มสู้
“หายไปไหนมา”
“ฉันก้อไปธุระของฉันบ้าง”
อธิคมสวน “กับใคร”
“คนเดียว”
“โกหก”
อธิคมพุ่งเข้ามาอย่างแรงเร็ว อัญมารีบถอยหนี
“ไปกับแฟน พี่มีอะไรจะใช้ฉันหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ปล่อยฉันไปเถอะ แม่ฉันเป็นห่วง แกยิ่งไม่ค่อยสบาย เกิดเป็นลมไป ฉันก็กลายเป็นลูกเนรคุณเลยนะ”
“ไหนแกบอกว่าแกรอผลตรวจว่าจะเป็นเอดส์หรือเปล่าไง แกกล้ามากนะที่โกหกฉัน
“ฉันไม่ได้โกหกนะพี่คม”
อธิคมตวาด “แกจะบอกว่าแกไม่ได้นอนกับไอ้วัตแฟนแกเหรอ”
“ฉันเปล่า...ฉันไม่กล้าหรอก ฉันกลัวเค้าเป็นอะไรไป”
“แต่แกอยู่กับมันทั้งคืน แกคิดว่าฉันจะเชื่อแกเหรอ”
อัญมาแกล้งทำเป็นอึ้ง คาดไม่ถึง “พี่คม...พี่...พี่รู้เหรอ”
“แกคิดว่าจะรอดหูรอดตาฉันไปได้เหรอ ไอ้อัญ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่กันตามลำพังสองต่อสองทั้งคืน แกจะให้เชื่อเหรอว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
อัญมาใส่จริต ทำเป็นอาย “เรา...ก็แค่กอดกันหอมกันเท่านั้นละพี่ แต่...พอจะ...จะเลยเถิดไป กว่านั้นฉันก็...บอกเค้าอย่างที่บอกกับพี่นั่นแหละ เค้าคงกลัวเหมือนกันเลยไม่ได้...ทำอะไรอย่างที่พี่คมคิด”
แววตาอธิคมวาบเจิดจ้า ด้วยความยินดี แต่รีบกลบเกลื่อน
“แน่นะ ไอ้อัญ”
“โธ่...ก็บอกแล้วฉันไม่กล้าโกหกพี่หรอก”
อธิคมมองอัญมานิ่งจับพิรุธ อัญมาทำเป็นยิ้มแหยๆ กลบความกลัว
อุบล นวย และจิ๊บวิ่งขึ้นมาที่โรงพัก ต่างคนต่างสอดตามองหา
“จ่าเดช จ่าเดชอยู่ไหน” อุบลสอดตาหา
“หรือวันนี้แกไม่เข้าเวร” นวยว่า
“โธ่เอ๊ย ไอ้อัญ...ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง” จิ๊บครวญ
สามคนมีสีหน้าว้าวุ่นใจตามๆ กัน
สองคนยังอยู่ในตึก อัญมามองอธิคมที่เดินเข้ามาใกล้
“วันนี้เราต้องไปทำงานสำคัญ”
“งานอะไรเหรอพี่”
“ขนของ”
“ที่ไหน”
“แกไม่ต้องรู้ ไปกับฉัน ทำตามที่ฉันสั่ง แค่นั้นพอ เอามือถือออกมา”
“ห๊ะ อะไรนะ”
“เอามือถือออกมา”
อัญมาจำใจล้วงมือถืออกมา ส่งให้ อธิคมรับมาโยนมือถือลงถังขยะ อัญมามองเสียดาย
“ไปกับฉัน”
อธิคมเดินนำ อัญมาจำใจเดินตามออกไป
ฝ่ายภควัตกำลังประชุมอยู่กับผู้การจักรภพในฐานลับ อีกด้านคือสารวัตรกฤษณ์
“เรายังไม่ได้รับรายงานเรื่องขนยาล็อตใหญ่” ภควัตบอก
“แต่พวกมันมีความเคลื่อนไหวมาพักนึงแล้ว ผมมั่นใจว่าของกำลังมาถึงภายในวันสองวันนี้” ผู้การว่า
“สายของนายรู้หรือเปล่าว่ามันจะส่งของที่ไหน” กฤษณ์ถาม
“ยังไม่รู้ครับ”
“ทำไม ป่านนี้แล้ว” กฤษณ์ย้อน
“ข่าวมันไม่ได้หาง่ายๆ เหมือนเดินเข้าเซเว่นนะครับ”
“แต่สายของนายอยู่ในกลุ่มพวกนั้น หรือว่ามันทำงานไม่เป็น”
ภควัตตาวาววับ บอกออกไปด้วยความโกรธทันที
“สายของผมทำงานเป็น ผลงานดีเยี่ยม ไม่ต้องห่วงนะครับ สารวัตรกฤษณ์พวกมันส่งของเมื่อไหร่ เรารู้แน่”
อีกด้าน อุบล จิ๊บ และนวย เดินไปเดินมาเป็นเสือติดจั่น
“ฉันว่าเราไปหาจ่าเดชที่บ้านกันเถอะ”
“ไปเร็วๆ”
สามคนกำลังจะออกจากโรงพัก เจอจ่าเดชดูดกาแฟเดินสวนมา จิ๊บดีใจสุดขีด กระโดดเข้ากอดจ่าเดชเป็นคนแรก
“จ่า หายไปไหนมา”
“อย่ามากอดข้า ไอ้จิ๊บ เดี๋ยวเมียข้าจะเข้าใจผิด ยิ่งหล่อๆ เหมือนเวียร์อยู่ด้วย” จ่าคุย
“จ่า ช่วยเราด้วย ไอ้อธิคม ลูกชายพี่บังมันมาเอาตัวไอ้อัญไป” นวยบอก
“เอาตัวไอ้อัญไปไหน”
จ่าเดชย้อมถามทันที
ภควัตยังประชุมงานกับผู้การจักรภพ และกฤษณ์ เสียงมือถือดัง เขากดรับทันที
“ว่าไง จ่าเดช” ภตวัตนิ่งฟัง “อัญมาถูกอธิคมพาตัวไป”
กฤษณ์มองภควัตทันทีด้วยสายตาอยากรู้
ตอนนี้ จ่าเดชเดินแยกจากกลุ่มอุบลมาคุยบอกภควัต
“ป้าอุบล ไอ้จิ๊บ ไอ้นวยมันมาขอให้ช่วย ผมโทร.ถามคนของเราที่ป้วนเปี้ยนหน้าค่ายมวย มันบอกว่าเห็น ไอ้อัญเพิ่งนั่งรถออกไปกับอธิคม”
ภควัตกดวางสาย หันมาบอกเจ้านาย
“พวกมันเคลื่อนไหวแล้ว”
“เป้าหมายที่ไหน” จักรภพถาม
“ยังไม่ทราบครับ”
กฤษณ์เหน็บ “ไม่ได้เรื่อง สายของนายนี่มันทำงานไม่ได้เรื่อง ถ้าพลาดจับล็อตนี้ ยาเป็นร้อยๆ ล้านเม็ดจะทะลักเข้าสู่ตลาด”
ภควัตก้มหน้า ตัดสินใจ หันไปบอกเจ้านาย
“ผมกลัวว่ามันจะเป็นกับดัก”
“กับดัก” ผู้การฉงน
“ผมเจอตัวอธิคมแล้ว ผมว่ามันฉลาด รอบคอบมากกว่าแต่ก่อน มันไม่น่าปล่อยให้ข่าวรั่วออกมาได้ง่ายๆ มันอาจจะวางยา ล่อเราออกไปจับมัน”
กฤษณ์โต้ทันที “เป็นไปไม่ได้ คนของเราที่ได้ข่าวมาจากฝั่งโน้น ทำงานไม่เคยพลาด”
“มันต้องส่งของแน่ๆ แต่เราไม่รู้ว่าที่ไหน”
“ผมขอออกไปตามเรื่องนี้เอง รู้เป้าหมายแน่นอน ผมจะรีบแจ้งมาครับ”
“ระวังตัวด้วย ภควัต ผมจะเตรียมกำลังไว้รอคุณแจ้งพิกัด”
“ครับ นาย”
ภควัตทำความเคารพนายแล้วรีบออกไป
สารวัตรเอ่ยขึ้นทันทีว่า “ที่จริงให้ผมออกไปตามเบาะแสนี้ดีกว่านะครับท่านผู้การ”
“คุณอยู่เตรียมกำลังเข้าจับกุมที่นี่แหละ สารวัตรกฤษณ์ ภควัตเค้าเก่ง เราเชื่อมือเค้าได้”
จักรภพชมภควัตต่อหน้า ยิ่งทำให้กฤษณ์ไม่พอใจ
ภายในรถกระบะที่แล่นมาตามถนนสายหนึ่ง เก้ากับต้นนั่งหน้า ต้นเป็นคนขับรถ ด้านหลังคืออธิคมนั่งมากับอัญมา
“เราจะไปไหนกัน” อัญมาถาม
“แกไม่มีหน้าที่ต้องถาม”
อัญมาต้องเงียบ นั่งไม่ค่อยติด ใจพะวงอยากจะส่งข่าวให้ภควัตรู้
จ่าเดชมาหาข่าว เดินเยี่ยมๆ มองๆ เข้าไปด้านใน พบว่าค่ายมวยส.วินิจตอนนี้ไม่มีคนพลุกพล่าน เห็นแต่พวกนักมวยกำลังเก็บของ จ่าเดชเตร่เข้าไปถาม
“ทำไมวันนี้เลิกซ้อมกันเร็วนักวะ”
“พี่บังเค้ามีงานเลี้ยง เค้าจะจัดสถานที่น่ะจ่า”
“อ๋อ งานเลี้ยง เออ..แล้วเลี้ยงโอกาสอะไรวะ มีกิ๊กเด็กคนใหม่เหรอวะ”
จ่าเดชทำหน้าถามตลกๆ
ฝ่ายภควัตใส่หมวก บิดมอเตอร์ไซค์เร็วแร็งมาบนถนน แววตาใต้หมวกนิ่งคิดถึงคำพูดจ่าเดชที่รายงานก่อนหน้านี้
“ไอ้บังมันบอกทุกคนว่าจัดงานเลี้ยงต้อนรับอธิคม แต่อธิคมเอาตัวไอ้อัญกับลูกน้องบางส่วนออกไปแล้ว”
ภควัตขับรถเร่งเครื่องหลบหลีกการจราจรติดขัด
“มันต้องไปทำอะไรที่สำคัญมาก”
ภควัตเลี้ยวจอดรถริมถนน กดมือถือส่งข้อความ
“น้องอัญจ้ะ พี่วัตคิดถึงจัง ทำอะไรอยู่”
อัญมาเดินตามอธิคมมายังท่าเรือขนทราย มีลูกน้องตามหลัง มาหยุดลงที่เรือขนทรายลำใหญ่
อธิคมมอง ลูกน้องพากันลงไปตรวจดูที่เรือจอดอยู่ อัญมามองชะเง้อ อยากรู้ ทำท่าจะเดินลงไป
อธิคมสั่ง “ไม่ต้องลงไป ไอ้อัญ แกอยู่ใกล้ๆฉัน”
“ให้ฉันไปช่วยด้วยเถอะนะ”
อัญมายังตื๊อจะเดินลงไปให้ได้ อธิคมกระชากแขนอัญมาจนเซมาอยู่ในอก อธิคมมองสบตาอัญมาที่อยู่ใกล้
“แกอยู่ติดตัวฉันไว้”
อัญมามองอธิคมนิ่วหน้า
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“ฉัน...ปวด ห้องน้ำ”
“ปล่อยให้ราดตรงนี้”
“พี่คม”
อัญมาลดเสียงอ้อนลง หวังให้อธิคมใจอ่อน
“พี่อย่าขู่ฉันนักเลย ฉันกลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว ฉันก็มากับพี่ กับพวกนั้นจะหนีไปไหนได้อีก”
อธิคมมองอัญมาที่ทำหน้าจ๋อยๆ
“รีบไปรีบมา”
อัญมายิ้ม “ขอบใจนะจ๊ะ”
อัญมาวิ่งทำท่าปวดฉี่ไปทางโกดัง
อธิคมมองตาม สายตาลดลง เห็นความห่วงใยอ่อนโยนในแววตา
อัญมาเข้ามาด้านหน้าโกดัง มองเห็นผู้ชายชาวบ้านกำลังคุยกับแฟนหัวเราะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อัญมาเดินเข้าไป ชาวบ้านหันมามอง อัญมาทำหน้าบีบน้ำตา
“พี่จ๋า ฉันขอยืมมือถือพี่แป๊บได้มั้ย แม่ฉันไม่สบาย ที่บ้านโทร.มาบอกว่ากำลังเข้าไอซียู แต่มือถือฉันแบตหมด” นักแสดงดาวรุ่งในแวดวงยาเสพติดแกล้งปล่อยโฮ
ภควัตกำลังขับรถ เสียงมือถือสั่น ผู้กองจอดรถลงริมถนน กดรับสายอย่างร้อนใจ
“ฮัลโหล... อัญมา...เธออยู่ไหน”
สารวัตรกฤษณ์อยู่ที่โต๊ะประชุมในฐานลับ ผู้การจักรภพเดินไปคุยกับตำรวจคนอื่น มือถือจักรภพขึ้นแมสเสจหน้าจอเป็นข้อความจากภควัต
กฤษณ์มองไปยังเห็นว่าจักรภพยืนห่างอยู่ ก็เอาตัวบังมองหน้าจอ ตั้งมือถือขึ้นดูข้อความ เห็นตัวหนังสือเป็นรหัส กฤษณ์ทวนคำอ่านเบาๆ
“พิกัดขายไข่ ท่าเรือขนทราย”
กฤษณ์หันไปมองจักรภพอีกครั้ง แล้วตัดสินใจจะลงมือเอง แอบเดินออกไปเงียบๆ
ที่ท่าเรือขนทราย อัญมายืนข้างอธิคมท่าทางนิ่งๆ แต่สายตามองไปรอบๆ อธิคมมองเห็นเก้าขึ้นจากเรือ
“เรียบร้อยครับพี่” เก้าบอก
“เตรียมขนขึ้นมา”
อัญมายุกยิกอยากรู้
“ให้ฉันไปช่วยด้วยนะ”
“บอกว่าไม่ต้อง”
อธิคมดุ อัญมาทำท่าจ๋อย
ภควัตจอดมอเตอร์ไซค์ในที่ลับตาคน แล้วหยิบปืนเช็คกระสุน ถือปืนไว้ในมือ รีบวิ่งเข้าไปทางท่าเรือ อัญมายืนข้างอธิคม เก้ากำลังเดินลงไปที่เรือ รถตำรวจ 4 คัน เปิดหวอพุ่งเข้ามา อัญมามองตกใจ หันไปบอกอธิคมสีหน้าเครียด
“ตำรวจ พี่ หนีก่อนเถอะ”
กฤษณ์กับตำรวจในเครื่องแบบ 10 คน ลงจากรถพร้อมอาวุธครบมือ ล้อมกรอบอธิคมกับอัญมา
ภควัตวิ่งมาจากอีกด้าน มองเหตุการณ์อย่างตกใจ
“สารวัตรกฤษณ์...ทำไมจู่โจมก่อน แผนเราคือรอสัญญาณ”
“ยกมือขึ้น อย่าขัดขืน”
กฤษณ์สั่ง ตรงมาเล็งปืนที่อธิคม อัญมาก้มหน้า หลบหลังอธิคม ไม่อยากสบตากฤษณ์ ตำรวจอีก 6 คน ลงไปล้อมรอบเรือ
ลูกน้องอธิคมค่อยๆ เดินออกมา
กฤษณ์สั่งเข้ม “ลงไปตรวจ”
อธิคมหัวหมอใส่ “หมายค้นละครับ”
กฤษณ์ชะงัก แต่ยังไม่ยอมแพ้
“เดี๋ยวแกจะได้มากกว่าหมายค้น ถ้าฉันเจอของในเรือลำนั้น”
กฤษณ์ถอยไปทางเรือ ลูกน้องยังเล็งปืนระวัง กฤษณ์กำลังจะก้าวลงเรือ ลูกน้องคนหนึ่งของอธิคมมองไม่ยอมแพ้ แย่งปืนตำรวจเล็งไปทางกฤษณ์ กระสุนลั่นออกจากปืนตำรวจ เฉียดกฤษณ์ไปแค่เส้นยาแดง ตำรวจหันมายิงลูกน้องอธิคมตกน้ำ อธิคมคว้าอัญมาวิ่งหันหลังไปทางโกดัง กฤษณ์หันมาเห็นก็วิ่งขึ้นจากเรือมา
กฤษณ์ร้องสั่งเสียงกร้าว “จับมัน”
“บ้าเอ้ย”
ภควัตโมโหที่เสียแผน ฉากหลบวิ่งไปทางโกดังทันที เห็นกฤษณ์กับตำรวจ 2 คนตาม ที่เหลือคุมเชิงลูกน้องอธิคมไว้ทั้งหมด
อธิคมจับแขนอัญมาวิ่งเร็ว หลบหลีกมาในโกดัง อัญมามองไปด้านหลัง เห็นกฤษณ์กับตำรวจอีก 2 คนวิ่งตามมา
อธิคมดึงแขนอัญมาวิ่งหนี อัญมาหอบหายใจแรง กฤษณ์วิ่งตามดักหน้าไว้
อธิคมเห็นอัญมาหายใจแรง ก็ดึงอัญมาหลบหลังกองไม้
“ไหวมั้ย”
อัญมาพยักหน้า หายใจแรง อธิคมบอก
อธิคม ฉันไม่ยอมถูกจับ
อธิคมดึงอัญมาลุกจะวิ่ง แต่อีกด้านกฤษณ์เดินเข้ามาดัก จ่อปืนมา ตำรวจ2 คนดักอีกทาง
อธิคมกอดอัญมาไว้ในอก มองไปที่ปืน
“แกไม่รอดแน่ ฉันจะลากแกเข้าคุกอีกครั้งด้วยมือฉันเอง” กฤษณ์ลำพองใจ
ภควัตซุ่มมองจากด้านบนกองไม้ เล็งปืนไปที่อธิคม คอยมองว่าอธิคมอาจจะตอบโต้ ลูกน้องกฤษณ์อีก 2 คน เข้ามารายงาน
“ค้นเรือหมดแล้วใช่มั้ย ของมีเท่าไหร่”
ตำรวจ 1 รายงานว่า “ในเรือมีแต่ทรายครับ”
กฤษณ์ตกใจ ไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้”
ตำรวจ 2 บอก “ค้นจนทั่ว มีแต่ทรายทั้งลำเลยครับ”
กฤษณ์หันขวับมองอธิคมตาขุ่นขวาง อธิคมคลี่ยิ้มร้ายให้
“คิดว่าผมมารอรับอะไรหรือ สารวัตร ยาบ้า หรือเฮโรอีน”
“แกเอามันไว้ที่ไหน”
“ผมไม่รู้ ผมเห็นแต่ตำรวจรังแกประชาชน”
กฤษณ์มองอย่างแค้นใจ อธิคมคลี่ยิ้มสะใจเป็นที่สุด
“พรุ่งนี้รอรับหมายศาลเรียกตัวเลยนะ สารวัตร ผมจะให้ทนายฟ้องตำรวจคุณข่มขู่ พยายามฆ่าประชาชน”
กฤษณ์จ้องตาอธิคมด้วยความแค้น ภควัตมองอยู่ด้านบนด้วยความเจ็บใจ
“บ้าเอ้ย...ไอ้กฤษณ์ แกเสียทีไอ้อธิคมจนได้”
ภายในห้องโถงตึกใหญ่
วินิจกำลังนั่งดูโคโยตี้สาว 4-5 คน กำลังเต้นในงานเลี้ยงท่ามกลางเพลงสนุก ที่จัดขึ้นบนลานโล่ง
มีเครื่องดื่มเสิร์ฟบริการ พร้อมซุ้มอาหาร
อธิคมเดินเข้ามากับอัญมา ลูกน้องตามหลัง วินิจหันไปมอง อธิคม ถามขึ้นด้วยเสียงโมโห
“ตำรวจมันรู้ได้ยังไงว่าเราจะขนของที่นั่น แสดงว่ามีนิ้วของมันอยู่ในนี้”
วินิจแผดเสียงถาม ลูกน้องทุกคนหน้าเสีย อัญมารู้สึกได้ถึงความน่ากลัว
“ใช่...มีนิ้ว มีสายตำรวจอยู่ในกลุ่มเรา”
อธิคมหันมามองลูกน้องทุกคนแล้วหยุดตาที่ไอ้อัญ
“กูถามว่าใครเป็นสายตำรวจ”
ทุกคนยิ่งอึ้งไม่ตอบ อธิคมชักปืนมาจ่อหัวทีละคนเรียงตัว ลูกน้องยืนนิ่งตัวชา
พอมาถึงอัญมา อธิคมชะงัก ลดปืน มองเห็นแต่แววตาตื่นกลัวของอัญมา
“ไอ้อัญ” วินิจบอก
“ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่สายตำรวจ ฉันอยู่กับพี่ตลอดเวลา”
วินิจตัดรำคาญ “เสี่ยใหญ่ท่านกำลังมา อย่าให้เรื่องนี้ถึงหูท่าน ท่านจะโกรธเอาได้ เอามันไปไว้ในตึกก่อน”
อัญมาถูกเก้ากับต้นลากเข้าไปด้านใน อธิคมมองแววตาคมกริบ
ภควัตเดินหาทางเข้าจากด้านหลังค่ายมวย เจอจ่าเดชโผล่พรวดออกมา
“เฮ้ย”
“เละเป็นโจ๊กเลยใช่มั้ย ปฏิบัติจับฟ้าแล่บน่ะ”
“สารวัตรกฤษณ์ไม่ทำตามแผน โผล่พรวดเข้าไป ของก็ไม่ได้ เจอพวกมันหลอกวางกับดักไว้” ภควัตแค้น
“ของน่ะมีแน่ ตามสัญชาตญาณของตำรวจอย่างผม คืนนี้แหละ มันจัดงานเลี้ยงเพื่อเบนความสนใจที่จะขนของ”
“แต่เราไม่เจอของในเรือ” ภควัตว่า
จ่าเดชบอก “ถ้ามันไม่ได้อยู่เรือลำนั้นล่ะ”
ภควัตคิดตาม แค้นนัก “ไอ้อธิคม ไอ้เจ้าเล่ห์”
“ผู้กองพูดก็ถูก มันวางกับดัก กระสุนนัดเดียว ขนของด้วย จับสายตำรวจด้วย”
“อัญมา”
ภควัตมีสีหน้าห่วงอัญมามากๆ จะวิ่งเข้าไปในค่ายมวย จ่าเดชเรียกไว้
“ผู้กอง อย่าเข้าไปแบบนั้น ไอ้อัญตายแน่ ถ้าผู้กองทะเล่อทะล่าเข้าไปช่วย มานี่ ผมหาทางไว้ให้แล้ว”
ภควัตมองจ่าเดชอย่างขอบคุณ
อัญมาถูกเก้าโยนเข้ามาในห้องหนึ่งของตึก
“ฉันไม่ใช่นิ้ว ฉันไม่ใช่สายตำรวจ”
อัญมาพยายามบอก แต่เก้าไม่ฟัง ปิดประตูใส่หน้า เก้าล็อคกลอนจากด้านนอก
“ปล่อยฉัน...ฉันไม่ใช่นิ้ว เปิดประตู”
อัญมาดึงประตูไม่ออก พยายามหาทางจะออกไป
ในฐานลับบรรยากาศตึงเครียดสุดๆ กฤษณ์กับลูกน้องยืนก้มหน้า จักรภพอารมณ์ฉุน ตวาดใส่
“วันนี้คุณล้ำเส้นนะ สารวัตร ทำอะไรโดยพละการ ผมกับภควัตวางแผนไว้แล้ว ว่าต้องรอสัญญาณเข้าจับกุม เราต้องแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกมันไหวตัวไม่ทัน และต้องได้ของกลางทั้งหมด”
“ผมขอโทษครับ ผู้การ”
“คุณรู้มั้ย คุณอยากมีผลงานโชว์เดี่ยว แต่คุณกำลังจะทำให้สายของเราในนั้น ตาย”
สารวัตรกฤษณ์หน้าเครียดจัด เมื่อถูกตำหนิอย่างรุนแรง
ฝ่ายอัญมาพยายามกระแทกประตู แต่พอไม่ออก ก็มองไปที่หน้าต่าง อัญมาเปิดม่านออกเห็นหน้าต่างถูกล็อคจากด้านนอกทั้งหมด อัญมามองหาทางหนี
จู่ๆ ประตูเปิดออก อธิคมเข้ามา อัญมามอง อธิคมยืนขวางประตู
“ไม่นึกเลยว่า ฉันจะไว้ใจคนผิด”
“พี่คม ฉันไม่รู้เรื่อง”
อธิคมชักปืนออกจากเอว อัญมามองถอยไปจนติดผนัง อธิคมสืบเท้าเดินเข้าหา
“ทำไม ไอ้อัญ ทำไมต้องโกหกฉันด้วย รู้มั้ยว่าผู้หญิงคนสุดท้ายที่มันกล้าโกหกฉัน ตอนนี้ศพมันอยู่ที่ไหน”
อัญมาผวา ถอยจนติดผนัง มองอธิคมที่เข้ามาตรงหน้าด้วยความกลัวสุดขีด
วินิจกำลังดูโคโยตี้เต้นอย่างมีความสุข ลูกน้องพากันยืนยิ้มแย้ม พนักงานเสิร์ฟวางเหล้าให้วินิจแล้วเดินออกไป พนักงานคนนั้น ที่แท้เป็นภควัตที่ปลอมตัวใส่แว่น ใส่วิก ในชุดพนักงานเสิร์ฟที่จ่าเดชเตรียมไว้ให้
และกำลังเอาแก้วเหล้ามาเปลี่ยนที่โต๊ะ
ภควัตมองไปด้านในตึก มองเห็นทุกคนกำลังเพลิน ก็ทำท่าจะเดินลอบเข้าไป ต้นมองตามภควัต สายตาสงสัย เดินเข้ามาดักหน้าก่อนภควัตจะถึงประตู
“มึงจะเข้าไปในตึกทำไม”
ภควัตหลบสายตาวูบ ไม่อยากให้ต้นเห็นหน้าชัด
“กูถามว่า มึงจะเข้าไปหาใคร”
ภควัตหน้าเครียดทันที
ส่วนที่ห้องนั้น อัญมาถอยจนหลังติดผนังจ้องอธิคม ตัดสินใจสู้ตา รวบสติ มความกลัวเอ่ยออกมา
“พี่จะฆ่าฉันเลยก็ได้ ถ้าคิดว่าฉันเป็นสายให้ตำรวจ”
“แกท้าฉันเหรอ”
“ฉันคงโง่มาก ถ้าคิดจะท้าคนอย่างลูกชายพี่บัง”
อธิคมบีบคางอัญมา อัญมาไม่ร้อง อธิคมมองตาอัญมา
“ทำไมแกไม่กลัวฉัน ไอ้อัญ ทำไมแกกล้าจ้องตาฉัน”
“เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันไม่ใช่นิ้ว ไม่ใช่สายตำรวจ”
อธิคมกับอัญมามองจ้องกันอย่างวัดใจ
ด้านภควัตทำเป็นกลัวต้นที่ตะคอกถาม
“ผมไม่ได้เข้าไปหาใคร”
“แต่กูเห็น” ต้นตะคอก
เก้าเดินมาทางต้น
“เฮ้ย เสี่ยใหญ่ท่านมาแล้ว พี่บังบอกให้พวกเราออกไปต้อนรับ”
“แต่ไอ้นี่ ท่าทางมันแปลกๆ”
เก้ามองปราดเดียว “ก็เด็กเสิร์ฟ เอ็งจะมัวหาเรื่องเด็กเสิร์ฟให้พี่บังด่าทำไมวะ”
เก้ามองหงุดหงิดต้น แล้วรีบเดินออกไป ต้นมองภควัตอย่างไม่ถูกชะตา
“อย่าให้กูเห็นมึงป้วนเปี้ยนแถวนี้อีก”
ต้นขู่ ภควัตรีบก้มหน้า ต้นเดินตามเก้าออกไป
ภควัตมองตามเห็นนายวินิจกับพวกเดินออกไปทางหน้าบ้าน
“เสี่ยใหญ่”
ภควัตพึมพำ ท่าทางลังเล อยากไปดูหน้าเสี่ยใหญ่ แต่ก็มองไปด้านใน
“อัญมา”
ภควัตตัดสินใจ หลบเข้าไปด้านใน เพื่อช่วยอัญมา
อธิคมมองอัญมาแล้วพูดขึ้น
“ฉันเชื่อว่าแกไม่ใช่นิ้ว แต่แกต้องทำให้ทุกคนเชื่อเหมือนกัน”
“แค่พี่เชื่อฉัน ฉันก็ดีใจแล้ว”
อัญมายิ้มดีใจ อธิคมมองรอยยิ้มหวานนั้นแล้วใจยิ่งอ่อนลง
“สัญญากับฉัน ไอ้อัญ แกจะไม่โกหก แกจะไม่ทรยศฉัน”
อธิคมมองจ้องคาดคั้นอัญมา จนอัญมารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กับสายตาคมกริบนั้นของอธิคม
“สัญญาได้มั้ย...” อธิคมทอดเสียงนุ่มลง “อัญมา”
“เรียกฉันไอ้อัญเหมือนเดิมเถอะพี่ ฉันกลัวคนอื่นมันจะหาว่าพี่ลำเอียง”
“ฉันจะเรียกเธอว่ายังไง มันก็เรื่องของฉัน ใครพูดมาก ฉันจะยิงกรอกปากมันเอง”
อธิคมดึงอัญมาเข้ามาใกล้ “สัญญากับฉันสิ อัญ”
สีหน้าอัญมาดูอิหลักอิเหลื่อเต็มกลืน “พี่คม คือ…”
“สัญญาสิ แล้วฉันจะปกป้องเธอเอง”
อธิคมดึงอัญมามากอดแน่น อัญมาตกใจตัวแข็งทื่อ
“จ้ะ ฉันสัญญา ฉันจะไม่โกหกพี่”
อธิคมดึงตัวอัญมาออก ยิ้มดีใจ แล้วกุมมือออกไป
ภควัตลอบเข้ามาในค่ายมวย เปิดประตูห้องเสพเข้าไป เห็นวัยรุ่นกำลังเสพยาอยู่ในห้อง กลางควันโขมง ภควัตถอยออกมา แววตาเจ็บใจ
“ไอ้วินิจ ไอ้อธิคม ฉันต้องกวาดล้างแกสองพ่อลูกให้สิ้นซาก”
ภควัตได้ยินเสียงเปิดประตูอีกห้อง ก็รีบหาที่หลบมุมมอง เห็นอธิคมกุมมือ อัญมาเดินออกมา ภควัตจ้องไม่กะพริบตา อธิคมหันมายิ้มน้อยๆกับอัญมา
“ฉันต้องออกไปต้อนรับเสี่ยใหญ่ ป่านนี้คงมาถึงแล้ว เธออยู่ที่นี่ก่อน”
“ให้ฉันไปด้วยเถอะนะ พี่คม”
ภควัตมองจ้อง เห็นอัญมาขยับเข้าใกล้ ยิ้มกับอธิคม
“ฉันอยากไปกับพี่”
ภควัตมองหึงอย่างไม่รู้ตัว อธิคมยิ้ม ปล่อยมือที่กุมมืออัญมา ภควัตจ้อง เห็นอัญมายิ้ม ภควัตยิ่งใจร้อนเป็นไฟ
“ฉันไม่อยากให้เสี่ยใหญ่เห็นเธอ อัญ ไม่อยากให้ใครมองเธอ” อธิคมว่า
“ฉันหลบอยู่ห่างๆ ก็ได้จ้ะ พี่คม”
อัญมาดึงแขนขอร้องอธิคม แววตาอ้อน ภควัตจ้อง เขม้นมองอย่างไม่พอใจ
“อย่าให้ฉันอยู่ห่างพี่เลย ฉันกลัว”
อัญมายิ้มหวานให้จนอธิคมใจอ่อน อธิคมเดินนำออกไป อัญมาเดินตามติด
ภควัตมองตามตาขวาง หึงหวงอัญมาโดยไม่รู้ตัว
จังหวะนี้ แลเห็นรถหรูมาจอดลงหน้าตึกใหญ่ของนายวินิจ บอดี้การ์ด 4 คนลงจากรถ วินิจ อธิคม กับลูกน้องยืนรอต้อนรับ อัญมายืนอยู่ด้านหลังอธิคม สายตามองตรงไปที่รถ อยากรู้ว่าเสี่ยใหญ่คือใคร ส่วนอีกด้านภควัตหลบมาลอบดู
เสี่ยใหญ่ที่ก้าวลงจากรถลงมา หน้าตาดูใจดี เป็นผู้มีบารมี วินิจเดินเข้าไปไหว้ เสี่ยใหญ่รับไหว้ยิ้มแย้ม อธิคมยกมือไหว้ เสี่ยใหญ่ยิ้มหันไปทางวินิจพลางถาม
“ลูกชายคนนี้เหรอ”
“ครับ ที่ท่านช่วยอำนวยความสะดวก ให้ออกจากเรือนจำก่อนกำหนด”
อัญมาขยับมองเสี่ยใหญ่ที่ท่าทางไม่ได้มีความน่ากลัว
ภควัตหลบมองจากมุมหนึ่ง จ้องมองเสี่ยใหญ่แน่วนิ่ง ด้วยสายตาคาดไม่ถึงที่เห็นว่าเป็นใคร
วินิจเดินนำเสี่ยใหญ่มา
“เชิญท่านด้านในก่อนดีกว่าครับ”
เสี่ยใหญ่เดินตามวินิจเข้าไปด้านใน
ภควัตจะตามแต่ เห็นเก้า กับ ต้นหันมองไปรอบๆ ภควัตต้องรีบฉากหลบ
อีกด้าน ลูกน้องของวินิจกำลังเดินตรวจตรามาใกล้
ภควัตจำใจต้องหาทางหลบออกไปก่อน อธิคมยืนอยู่กับลูกน้อง อัญมายังมองตามเสี่ยใหญ่ด้วยท่าทางอยากรู้
ที่ห้องโถงงานเลี้ยง ภายในตึกของนายวินิจตอนนี้ วินิจมองโคโยตี้สาวสวย 4 คนที่เข้ามาดูแลเสี่ยใหญ่ที่สีหน้าสดชื่น อารมณ์ดีเบิกบานเต็มที่
วินิจวางกระเป๋าเอกสารสีดำลงตรงหน้าแล้วเปิดออก เสี่ยใหญ่มอง เห็นเงินแบงค์พันอัดแน่น เต็มกระเป๋า ก็ยิ้มพอใจ วินิจปิดกระเป๋าเลื่อนไปวางตรงหน้าเสี่ยใหญ่
“ผมกับอธิคม เป็นหนี้บุญคุณท่านมากครับ” วินิจว่า ท่าทีนอบน้อมต็มที่
“อย่าคิดว่าเป็นบุญคุณอะไรเลย วินิจ ถือว่าน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าแล้วกัน เลือกตั้งครั้งหน้า ผมจะลงสมัคร คุณก็ช่วยสนับสนุนบริจาคให้พรรคผมแบบนี้ ส่วนเรื่องลูกน้อง เรื่องหัวคะแนน ผมก็คงต้องให้คุณช่วย”
“ไม่มีปัญหาเลยครับท่าน ผมพร้อมทั้งคนทั้งเงินทั้งอาวุธ เพื่อสนับสนุนท่านเต็มที่” วินิจประจบเอาใจ
“ถ้าผมได้เป็นส.ส. ต่อไปธุรกิจของคุณ มันก็จะสะดวกขึ้น” เสี่ยใหญ่ว่า
“ครับ ผมก็ต้องพึ่งบารมีท่านคนเดียว ตอนนี้ก็ประคองๆ ตัวไป พวกตำรวจปราบปรามมันกวนเหลือเกิน” วินิจตัดพ้อ
“มันเป็นนโยบาย...จะเลือกตั้งใหม่ ทุกคนก็ต้องมีผลงาน คุณก็อย่าทำอะไรให้มันท้าทายตำรวจมากนัก ผมขี้เกียจมีปัญหา ตอนนี้ทีมงานเค้าอยากให้ภาพพจน์ผมขาวสะอาด”
“งวดนี้คงเป็นล็อตสุดท้ายแล้วล่ะครับ ถือเป็นกระสุนสำหรับการลงสนามเลือกตั้งของส.ส.ใหม่อย่างท่านด้วย”
วินิจมองมา โคโยตี้รีบเติมไวน์ให้
เสี่ยใหญ่ผู้มีอิทธิพลดึงโคโยตี้มานั่งตัก หน้าตามีความสุขมากที่แผนลุล่วง
อธิคมเดินผ่านตึก จะออกไปด้านหลัง อัญมาตามติด อธิคมหันมาสั่ง
“ไอ้เก้า ไอ้ต้น ไอ้เมษ ไอ้ป๊อบ ไปกับข้า ที่เหลือกลับไปในตึก”
“ขอฉันไปด้วย”
อธิคมหันมามองตาคมกริบ เป็นเชิงปราม แล้วหันไปสั่งลูกน้องที่เหลือ
“พวกเอ็งพาไอ้อัญกลับเข้าไป”
ลูกน้องเข้ามาใกล้ อัญมาจำใจหันกลังแยกไปกับกลุ่มลูกน้อง อธิคมหันมามอง 4 คนที่เหลือ
“ของจากท่าเรือมาถึงหรือยัง”
“มาแล้วครับ พี่” เก้าบอก
อธิคมเดินนำไปด้านหลังทันที
แลเห็นรถบรรทุกขนทรายจอดอยู่หน้าโรงเก็บของข้างตึกใหญ่ของนายวินิจ
อธิคมเข้ามายืนมอง คนขับกำลังเททรายลงมาที่พื้น พบว่าในทรายมีห่อของหลายห่อที่ซ่อนอยู่ เก้า เมษ ป๊อบ และต้น รู้หน้าที่ เข้าไปหยิบห่อของอย่างดีหลายชั้นบนพื้นขึ้นมา
“พวกเอ็งเอาไปเก็บด้านใน ฝังไว้ให้ดี”
เห็น 4 คนเอายกห่อของเรียงกัน เข้าไปด้านใน
ตรงบริเวณที่ดินรกร้างหลังตึกเสี่ยวินิจ ถูกใช้เป็นที่จอดรถ มีรั้วรอบขอบชิด กำแพงสูง เก้า ต้น เมษ ป๊อบลำเลียงห่อของมาที่สุดขอบที่ดิน มองลงไปเห็นที่ดินถูกขุดลึกหลายเมตร มีผ้าใบกั้นรอบทั้ง 4 ด้าน
อธิคมก้าวมายืนมอง เห็นทั้ง 4 กำลังลำเลียงห่อยาลงไปฝังไว้ใต้ดิน เสร็จแล้วเอาผ้าใบคลุมปิดด้านบน ตามด้วยแผ่นไม้อัดวางทับอีกชั้น
อธิคมยืนมอง ทั้ง 4 คน ยกระแนงไม้เก่าๆ ตีเป็น 4 ด้าน มีต้นไม้ปลูกไว้หลอกตา มาวางทับลงบนที่ดิน เห็นสภาพที่ดินที่เหมือนถูกทิ้ง มีเพียงต้นไม้ปลูกระเกระกะที่ระแนงไม้ ตั้งอยู่
อธิคมยิ้ม พอใจกับผลงานการขนยาล็อตใหญ่ ที่ตบตาตำรวจสำเร็จ
ในห้องเสพ อัญมากำลังแกล้งทำเป็นก้มเหมือนสูดยาบ้าจากฟอยด์ ลูกน้องวินิจมองผ่านควันคลุ้งทั้งห้อง เห็นแต่ด้านหลัง อัญมากลั้นหายใจ แล้วทำเป็นเมายานอนทิ้งตัว ตะแคงลงไปอย่างสมบทบาท
ลูกน้องวินิจมองๆกัน คิดว่าอัญเมาเยา ก็เดินออกไป อัญมาลอบมอง พอไม่มีใคร อัญมารีบลุกขึ้น เดินหลบออกไปทันที
อธิคมเดินกลับเข้ามาในตึก เห็นวินิจกับเสี่ยใหญ่ที่ถือกระเป๋าเดินออกมา มีโคโตยี้เดินตามไม่ห่าง
“งานเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”
“ครับ พ่อ”
เสี่ยใหญ่มองอธิคมด้วยสายตาพึงพอใจ
“พ่อเธอชมให้ฉันฟัง ว่าเธอเก่งมาก ดูท่าทางแล้วเสียดาย ถ้าไม่มีประวัติในคุกมาก่อน ฉันก็อยากชวนไปทำงานด้วย” เสี่ยว่า
“คนอย่างเสี่ยใหญ่ ถ้าต้องการอะไร มีหรือครับที่ใครจะกล้าขัดใจ” อธิคมตอบ
เสี่ยใหญ่ชอบใจ “พูดดี”
อธิคมบอกอีกว่า “อีกหน่อยท่านเป็นใหญ่ในบ้านเมือง อดีตในคุกของผม ก็ไม่ใช่เรื่องยาก มันคงจะถูกลบออกไปง่ายๆ”
อัญมาหลบออกมาได้ยิน แอบมองอยู่เงียบๆ
“ลูกคุณนี่เอาเรื่องเลยนะ วินิจ...ใจนักเลงดี ผมชอบ”
“ให้อธิคมไปรับใช้ท่านเลยก็ได้นะครับ”
“อย่าเพิ่ง ตอนนี้ยังไม่ได้เด็ดขาด ฉันไม่อยากให้ชื่อเสียงฉันมีปัญหา เพราะเกี่ยวข้องกับอดีตนักโทษคดียาเสพติด”
นัยน์ตาอธิคมวาววับเอาเรื่องขึ้นมา แต่ต้องข่มใจไว้ อัญมามองเห็นอธิคมเห็นแววตาดุดันของเขา เสี่ยใหญ่เดินออกไป วินิจกับโคโยตี้รีบตามไป
อธิคมกำหมัดแน่น เดินตามออกไป อัญมามองตามอธิคมเห็นแววตาอันน่ากลัวของเขา
คืนเดียวกันนั้น ภควัตยืนอยู่หน้าทุกคนในห้องประชุมฐานลับ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คนที่วางแผนขนยาครั้งนี่คือ อธิคม มันตั้งใจหลอกให้เราติดกับ”
กฤษณ์รู้สึกเสียหน้า
“แล้วคนที่สนับสนุนสองพ่อลูก วินิจกับอธิคม ก็ไม่ใช่ใคร”
“นายรู้แล้วใช่ไหม ใครหนุนหลังมัน”
ภควัตมองกฤษณ์ ด้วยสายตาตำหนิ
“เรื่องนี้ผมขอคุยกับท่านผู้การจักรภพเป็นการส่วนตัว”
กฤษณ์ย้อนแย้ง “เราทำงานเป็นทีม ทำไมต้องมีความลับ”
“เพราะผมไม่แน่ใจว่าจะมีใครแหกคำสั่ง ไม่ทำตามแผน จนทำให้สายของเราเกือบตายอีก” ภตวัตเหน็บเสียงเรียบ
กฤษณ์ โกรธจนลืมตัว “ไอ้วัต”
จักรภพปราม “พอก่อน สารวัตรกฤษณ์ ทุกคนออกไป ผมจะคุยกับภควัตสองคน”
ทุกคนพากันเดินออก ภควัตมองกฤษณ์ กฤษณ์ออกไปเป็นคนสุดท้ายฮึดฮัดไม่พอใจ ทั้งห้องเหลือ 2 คน ภควัตบอกกับจักรภพ
“ผมเห็นหน้าไอ้เสี่ยใหญ่ที่สนับสนุนขบวนการค้ายาของนายวินิจแล้ว แต่ไม่อยากให้ชื่อของมันอยู่ในรายงาน ถ้าเรามีสายอยู่ในแก๊งมันได้ มันก็อาจจะมีสายในกรมของเราเหมือนกัน”
“ผมจะเก็บชื่อมันเป็นความลับสุดยอด จะมีแค่หัวหน้าปฏิบัติการลับชุดนี้ กับคุณเท่านั้นที่รู้”
“ขอบคุณครับ ผู้การ”
“สายของคุณเป็นยังไงบ้าง”
“ยังปลอดภัยดีครับ แต่ช่วงนี้ผมคงต้องประกบเค้าไว้ก่อน สถานการณ์ที่นั่นยังวางใจไม่ได้”
ภควัตมีสีหน้ากังวลชัดแจ้งเมื่อนึกถึงอัญมา
อ่านต่อตอนที่ 4