xs
xsm
sm
md
lg

คีตโลกา ตอนที่ 11

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คีตโลกา ตอนที่ 11

อัญมาเดินมาจนถึงหน้าบ้าน อธิคมมาส่งถือถุงหลายใบมายื่นให้ แล้วขวางไม่ให้อัญมาเข้าบ้าน

“บอกได้หรือยังว่าคุยอะไรกับไอ้สองเศรษฐีนั่น”
อัญมาฉุนนิดๆ “พี่คม อย่ามาจุกจิกกับฉันนะ ฉันจะคบจะคุยกับใคร ไม่ต้องรายงานพี่ทุกเรื่อง”
“แต่เรากำลังจะแต่งงานกัน เรื่องของอัญ มันก็เรื่องของฉันด้วย”
“ฉันยังไม่เคยรับปากพี่ แล้วฉันก็บอกแล้วว่า พี่ต้องสัญญากับฉันก่อนว่าจะไม่เดินทางเก่า เราถึงจะคุยกันเรื่องแต่งงาน”
อธิคมพาล “เพราะไอ้เศรษฐีสองคนนั่นใช่มั้ยที่มาปั่นหัว ให้อัญเกลียดฉัน”
“หยุดว่าคุณอรรณพกับคุณภรณี อย่าให้ฉันได้ยินอีก”
อัญมาโมโหมากเดินหนีเข้าบ้านไป ส่วนอธิคมโกรธจัด และแค้นภควัต
“ไอ้วัต เพราะแก...แกพาไอ้แก่สองคนนั่นมา”
อธิคมพุ่งออกไปทันที

ไม่นานต่อมา อธิคมถีบประตูห้องเช่าภควัตเต็มแรง ประตูเปิด อธิคมพุ่งเข้าไปกวาดตามองหา แต่ทั้งห้องไม่มีใคร อธิคมเข้าไปดูจนทั่ว
“มุดหัวอยู่ที่ไหน ไอ้วัต”
สุดท้ายอธิคมเดินออกมาข้างนอก มองหาไปรอบๆ แอนนี่เดินผ่านมาแถวนั้น พอเห็นอธิคมก็เตร่เข้ามาหา ทักถามขึ้น
“อ้าว พี่คมมาที่นี่ทำไม...มาหาพี่วัตเหรอ”
อธิคมก้าวพรวดๆ ออกมาถามแอนนี่
“เห็นมันมั้ย”
“ไม่เห็นเลย หายไปตั้งหลายวันแล้ว นี่ฉันก็คิดถึงอยู่”
อธิคมกำลังจะเดินไป แอนนี่รีบคว้าแขน
“เดี๋ยวๆ รู้หรือเปล่าเค้าลือกันว่าพี่กำลังจะแต่งงานกับไอ้อัญ”
“ไม่ได้ลือ เรื่องจริง”
แอนนี่ตาโต “ฮ้า... ไอ้อัญจะเป็นเจ้าสาวของพี่ ทำไมพี่คม ผู้หญิงดีกว่าไอ้อัญมีเป็นร้อยพี่จะคว้าใครก็ได้ ทำไมไปเลือกไอ้อัญ ไอ้ขี้ยา มันเป็นลูกน้องพี่ไม่ใช่เหรอ”
อธิคมโกรธจัด บีบปากแอนนี่จนตาเหลือก
“อย่าให้ฉันได้ยินใครปากชั่ว ว่าเจ้าสาวฉันอีก ไม่งั้นฉันจะเลาะปากออกมาโยนให้หมากิน”
อธิคมเหวี่ยงแอนนี่จนเซ แล้วเดินออกไป แอนนี่เต้นเร่าๆ กระทืบเท้าด้วยความโกรธ
“ไม่จริง ไอ้อัญมันจะเป็นเจ้าสาวได้ยังไง มันต้องแอนนี่สิได้แต่งงาน ไม่ใช่ไอ้อัญ”

ฝ่ายอัญมานั่งกอดเข่าอยู่ในบ้าน ทอดสายตามองเหม่อไปไกล จิ๊บเดินมานั่งใกล้ๆ พูดเตือนสติอย่างเป็นห่วงเพื่อน
“เรื่องใหญ่แล้วนะไอ้อัญ อธิคมมันไม่เหมือนใคร แกก็รู้ มันผิดหวังไม่เป็น”
“ฉันสงสารเค้า ถ้าฉันเปลี่ยนใจให้เค้าเลิกทำงานกับพ่อได้ มันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ จิ๊บ”
“แต่แกไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปแลกขนาดนี้ เหตุผลเดียวที่แกจะแต่งงาน คือแกรักผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่แต่งเพราะสงสาร”
อัญมาถอนใจยาว จิ๊บถามขึ้น
“แกยังรักไอ้วัตอยู่ใช่มั้ย”
“เปล่า ขอร้องนะ ถ้าแกอยากคบฉันอยู่ อย่าพูดชื่อนี้ให้ฉันได้ยินอีก ฉันกับไอ้พี่วัตไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง ไม่มีอะไรต้องคิดถึงกันอีก”
จิ๊บรีบหุบปากทันที อัญมาสะบัดหน้ามองไปด้านนอกอย่างแง่งอน ลึกๆ แล้วน้อยใจภควัตไม่คลาย
ทางด้านภควัตยืนอยู่หน้ารถเข็นอุบลที่กำลังปิ้งไก่
“ข้าถามจริงๆ นะ เอ็งกับไอ้อัญโกรธอะไรกันนักหนา ไอ้อัญมันถึงตัดสินใจไปคบกับลูกชายพี่บังจริงจัง”
“เราผิดใจกันน่ะครับ ที่ผมมาเพราะผมอยากบอกป้าว่า ผมอาจจะไปจากที่นี่”
“นี่ถึงกับจะย้ายไปเลยเหรอ มีอะไรให้ข้าช่วยพูดให้มั้ย ที่จริงข้าก็ไม่ชอบหน้าเอ็งหรอกนะ แต่ถ้าให้เลือก เอ็งก็ยังทำงานสุจริตกว่าอธิคม”
“ผมกับอัญ ลูกสาวป้า คงจะกลับมาคบกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้วล่ะครับ”
ภควัตมองอุบลเห็นสีหน้าแววตาบอกว่าเสียดาย จึงตัดสินใจพูด
“ป้าอุบลครับ ผมเห็นตึกแถวหน้าตลาด พอดีมีห้องว่างห้องนึง ถ้าป้าสนใจเปิดร้านอาหาร ร้านส้มตำ ผมรู้จักกับเฮียเจ้าของตึก ขอซื้อราคาพิเศษได้นะครับ”
“ข้าจะเอาเงินที่ไหน ตึกห้องนึงมันก็หลายแสน เผลอๆ เป็นล้าน”
“ผมพอมีเงินเก็บ ผมออกเงินให้ก่อน ป้าขายของได้ ก็ค่อยทยอยคืน”
อุบลซึ้งใจนัก “โธ่ ไอ้วัต เอ๊ย นี่เอ็งคงรักไอ้อัญมันมาก ถึงคิดจะช่วยข้าให้มีร้าน มีที่อยู่ที่ทำมาหากินใหม่ ขอบใจมากนะ ไม่เป็นไร ข้าขายของอย่างนี้จนชินแล้ว”
“คือที่จริง ผมไปดาวน์เอาไว้แล้ว อยากให้ป้าไปขายของที่นั่น”
ภควัตพยายามโน้มน้าวให้อุบลไปขายของที่ใหม่ที่ตัวเองเตรียมไว้ให้
“ข้าไม่ไปหรอก เอ็งเอาไว้เปิดร้านเช่าพระของเอ็งเถอะ”
“ผมมันไม่ชอบอยู่เป็นที่ ป้าช่วยไปขายของที่นั่นหน่อยเถอะนะครับ ผมไม่อยากปล่อยห้องว่างๆ พาอัญย้ายไปอยู่ที่นั่นเลยยิ่งดี”
“เออๆ เอ็งคะยั้นคะยอข้าขนาดนี้ แล้วข้าจะลองแวะไปดู” อุบลบอก
“ขอบคุณครับป้า ป้าจะย้ายไปเมื่อไหร่ บอกผมนะครับ ผมจะช่วยซื้อของเข้าร้าน”
“เอ็งนี่ ทำยังกะจะยกตึกให้ข้าฟรีๆ” อุบลค้อนท่าทีน่าขัน
ภควัตยิ้มชื่น ดีใจ “ถ้าผมยกให้ ป้าต้องรับนะ”
อุบลมองภควัต รู้สึกดีที่เขาเป็นคนมีน้ำใจ
“เห็นอย่างนี้แล้วก็ยิ่งเสียดายนะ ทำไมไอ้อัญมันถึงไม่คบคนซื่อๆ อย่างเอ็ง ทำการทำงาน มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น”
“ความรักมันห้ามกันไม่ได้นี่ครับ”
“ไอ้อัญ มันไม่ได้รักอธิคมหรอก ลูกสาวข้า ข้าดูออก เชื่อข้าสิ ไอ้อัญมันไม่ได้รักอธิคม”
อุบลย้ำ แต่ภควัตฟังสีหน้านิ่งๆ ไม่เชื่ออย่างที่อุบลพูด

ทางฝ่ายอธิคมเดินหุนหันสีหน้าโมโหเข้าบ้านมา มีเก้าเดินเข้ามาหา
“พี่คมโทร.ตามตัวผม”
“ข้ามีงานให้ทำ เอ็งไปจัดการไอ้สองเศรษฐีผัวเมียเจ้าของลานกีฬาให้ข้าหน่อย”
“จะดีเหรอพี่ คนระดับนั้น ถ้าพลาด พี่บังจะซวยด้วยนะ”
อธิคมโกรธหันไปกระชากคอเสื้อเก้า
“มึงกลัว มึงก็ออกไปจากที่นี่เลยไป๊”
“ฉันไม่ได้กลัว ฉันไม่อยากให้พี่กับพี่บังเดือดร้อน ช่วงนี้ตำรวจมันกวนเราตลอด”
“แค่ขู่ให้พวกมันกลัว ไม่ต้องถึงตาย”
“พี่มีเรื่องอะไร ใจเย็นๆ รอพี่บังกลับมาก่อนดีมั้ย”
อธิคมโมโห ชกเข้าหน้าเก้า แล้วถีบเต็มแรง ร่างเก้ากระเด็นติดพื้น อธิคมหันไปเรียกลูกน้องวัยรุ่นที่ยืนกันอยู่ไม่ห่างนัก
“มึง!! มานี่”
ลูกน้องอธิคมรีบเดินเข้ามา 2 คน
“มึงไปตามหาบ้านไอ้สองผัวเมียเศรษฐีนั่น แล้วสั่งสอนมันแทนกู ให้มันรู้ว่าอย่าเสือกเรื่องของกูกับอัญ”

อธิคมสั่งเสียงกร้าวดุดัน แววตาวามวับ โกรธถึงขีดสุด

เช้าวันต่อมา ขณะอรรณพกับภรณีนั่งมาในรถ คนขับกำลังเคลื่อนรถออกพ้นประตูรั้ว มือปืน 2 คนซ้อนมอเตอร์ไซค์ปาดมา มือปืนที่ซ้อน กราดปืนยิงมาข้างรถไม่นับ

ภรณีกรีดร้องด้วยความกลัว อรรณพรีบกดหัวภรรยาให้ก้มลงต่ำ เอาตัวบังร่างภรณีปกป้อง
มือปืนขับรถปาดออกไปอย่างเร็ว ภรณี และอรรณพ คาดไม่ถึง ตกใจกลัวสุดขีด

ไม่นานต่อมาภรณียืนตัวสั่นอยู่ในห้องโถง ยังตกใจไม่หาย ส่วนอรรณพมองตำรวจ 2 นายที่เพิ่งสอบปากคำเสร็จ
“ฝากด้วยนะครับ ยังไงผมก็ไม่อยากให้เรื่องเงียบ พวกมันจงใจขู่ผมกับภรรยา”
ตำรวจสน.ท้องที่ 2 นาย ก้มหัวตอบรับแล้วเดินออกไป ภรณีหันมามองสามี
“คุณคิดว่ามันแค่ขู่หรือคะ”
“ระยะขนาดนั้น ถ้ามันตั้งใจยิง เราคงไม่รอด”
“พวกไหนกัน เราไม่เคยมีศัตรู ธุรกิจของเราก็ไม่เคยเอาเปรียบใคร”
“ก็มีแค่พวกนายวินิจ แต่ทำไมมันเพิ่งมาลงมือตอนนี้” อรรณพใช้ความคิด
ภรณีนึกได้ “หรือว่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่เราไปเจอหนูอัญ”
“งั้นเราต้องรีบบอกคุณวัตให้รู้ เพราะถ้าเป็นลูกชายวินิจจริงๆ คุณวัตก็อยู่ในอันตรายเหมือนกัน”
อรรณพ กับภรณีคิดแล้ววิตกหนัก สีหน้าไม่ดี เพราะเป็นห่วงภควัต

บ่ายนั้น ขณะที่อัญมากำลังตากผ้าที่ซักแล้ว ภควัตเดินเร็วเข้ามาหา อัญมาหันไป ภควัตใส่เป็นชุด
“แฟนคุณอยู่ไหน มีเรื่องอะไร ทำไมไม่คุยกับผม ไปหาเรื่องคุณอรรณพ กับคุณภรณีเค้าทำไม”
“เดี๋ยวก่อน คุณพูดว่าอะไรนะ”
“อธิคมให้คนไปยิงขู่คุณอรรรพกับคุณภรณี”
อัญมาตกใจ “แล้วคุณพ่อคุณแม่...ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
“คราวนี้ไม่ แต่คราวหน้าผมรับประกันไม่ได้ อธิคมอยู่ไหน”
“ทำไมคุณถึงสงสัยพี่คม”
“ทำไมเหรอ เพราะมันหวงคุณจนหน้ามืดไงล่ะ”
“แล้วถ้าไม่ใช่พี่คม”
“ปกป้องกันจริง กลัวไม่มีเจ้าบ่าวหรือไง”
“ฉันไม่ได้ปกป้อง ฉันกำลังสงสัยว่าทำไมพี่คมต้องลงมือตอนนี้ เค้าไม่ได้ทะเลาะอะไรกับคุณพ่อคุณแม่ นอกจาก...เรื่องแต่งงาน”
อัญมาเพิ่งนึกได้ ภควัตมองแล้วยิ่งฉุนประชดโดยไม่รู้ตัว
“ก็ไม่มีเรื่องอะไรหรอกที่ทำให้อธิคมเป็นบ้าได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องของเจ้าสาวคนสวยอย่างเธอ”
“คุณไม่ต้องมาประชดฉัน ฉันไม่ได้เข้าข้างคนผิด ถึงจะเป็นคนรักฉัน”
อัญมาทำท่าจะเดินออกไป ภควัตพูดขึ้น
“ผมซื้อห้องแถวที่ตลาดไว้ห้องนึง อยากให้คุณย้ายไปอยู่กับแม่ ป้าอุบลจะได้เปิดร้านอาหาร”
“ไม่ต้องคิดจะมาชดใช้เรื่องพ่อ อยู่ที่นี่เราก็ไม่ลำบาก”
“คุณไม่ห่วงตัวเองเพราะกำลังจะแต่งงานกับอธิคมไม่เป็นไร แต่ป้าอุบลแกไม่เกี่ยว แกไม่ควรจะต้องเดือดร้อนไปด้วยถ้าแฟนคุณถูกจับ อย่างน้อยแกควรจะได้สบายมีที่อยู่ดีกว่านี้”
“ฉันดูแลแม่ฉันได้ ไม่ต้องอาศัยคนนอก”
อัญมาพูดอย่างถือดี แล้วสะบัดหน้าเดินหนีไป
ภควัตมองตามเสียใจที่อัญมาไม่ยอมฟัง อีกทั้งไม่ยอมรับความช่วยเหลืออะไรจากเขาเลย

อัญมาเดินเร็วรี่เข้ามาในค่ายมวย ตรงเข้าไปในเรือนใหญ่ อธิคมกำลังยืนอยู่ พอเห็นอัญมาก็ยิ้มดีใจ
“อัญ”
อัญมาพุ่งเข้าผลักอกอธิคมทันที
“พี่คม พี่ให้ลูกน้องไปขู่คุณอรรรพ คุณภรณีทำไม ฉันบอกแล้วว่าอย่าแตะสองคนนี้”
“ฉันไม่รู้เรื่อง”
“พี่กล้าสาบานมั้ย”
อธิคมฉุนกึก “ทำไมอัญถึงต้องปกป้องคนอื่นมากกว่าฉัน”
อัญมาคาดคั้น “สาบานมั้ยว่าพี่ไม่ได้ส่งคนไปทำ”
“ฉันไม่อยากให้เธอไปยุ่งกับไอ้เศรษฐีสองผัวเมียนั่น ไม่อยากให้มันมายุ่งกับเธอ”
อัญมาเข้าไปตบหน้าอธิคมด้วยโกรธสุดขีด จนอธิคมตกใจ
“ถ้าพี่ยังอยากเห็นหน้าฉัน อย่ายุ่งกับคุณอรรณพ คุณภรณี จำไว้ว่าเค้าเป็นคนที่ฉันรัก ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้พี่เจ็บมากกว่าที่พี่จะนึกได้”
อัญมาจ้องหน้าอธิคมอึดใจหนึ่งแล้วหันหลังออกไป
อธิคมเตะเก้าอี้ล้มกระเด็นด้วยความเจ็บใจ

ออกจากค่ายมวย อัญมาวิ่งมาเกาะรั้วบ้านพิบูลย์สุวรรณมองไปด้านใน รปภ. ออกมามอง
“ฉันมาขอพบคุณอรรณพ คุณภรณี”
“ท่านไม่อยู่”
“บอกคุณภรณีก็ได้ว่าฉันชื่ออัญมา”
รปภ.มองอัญมาหัวจรดเท้า
“ก็บอกว่าท่านไม่อยู่ ไม่รู้จะกลับเมื่อไหร่”
อัญมาจำต้องถอย มองไปด้านในด้วยสายตาเป็นห่วงอรรณพและภรณีมาก

ทางด้านกฤษณอยู่ในคอนโดของสุคนธรส กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ สุคนธรสเข้ามาฉอเลาะใกล้ๆ
“วันก่อนรสไปเจอเพื่อน เค้ากำลังทำโครงการบ้านหรู เค้าชวนรสไปดูก่อน แล้วจะลดให้ราคาพิเศษ”
กฤษณ์มองสุคนธรสรู้ทันทีว่าจะพูดเรื่องซื้อบ้าน
“ผมบอกว่าอย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้ อย่าเซ้าซี้ได้มั้ย รส”
“แล้วรสต้องรอถึงเมื่อไหร่ เรื่องแต่งงานคุณก็เลื่อน ไอ้งานบ้าๆ ของคุณ เมื่อไหร่มันจะเสร็จ แล้วถ้าคุณจับพวกค้ายาไม่ได้ ชีวิตรสไม่ต้องพลาดหมดทุกอย่างเหรอ”
“คุณไม่ต้องพลาดอะไรหรอก ตอนนี้ไอ้วัตมันเดี้ยงไปแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะได้โชว์ฝีมือ”
กฤษณ์พูดแล้วหันมาสนใจหนังสือต่อ ไม่ทันได้มองสุคนธรสที่หันหลัง เอ่ยกับตัวเองเบาๆ
“วัตบาดเจ็บเหรอ”

ภควัตนุ่งผ้าขนหนูสีขาวตัวเดียว เดินออกมาจากห้องน้ำ แปลกใจระคนตกใจที่เห็นสุคนธรสที่ยืนรออยู่
“เฮ้ย รส...คุณเข้ามาได้ยังไง”
“ไม่เห็นยากเลย รปภ. เค้ายังจำรสได้น่ะสิ”
สุคนธรสยิ้มมองภควัตที่มีแค่ผ้าขนหนูพันกายท่อนลาง
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วนะ”

“คุณไม่มี แต่รสอาจจะมีก็ได้”

ว่าพลางสุคนธรสเดินรุกเข้าหา ภควัตหมุนตัวถอย สุคนธรสปรี่เข้าไปดักหน้า

“วัต อย่าทำเหมือนรสเป็นคนอื่น”
“เราไม่ใช่แฟนกันแล้ว รส คุณทิ้งผมไปคบกับไอ้กฤษณ์ อย่ามาพูดจาน่าเกลียดอย่างนี้อีก ออกไป มีอะไรค่อยไปคุยกันที่อื่น เชิญ นั่นประตู”
ภควัตหันหลัง ไม่สนใจ สุคนธรสโผเข้ากอดภควัตจากด้านหลัง
“รสรู้แล้วว่ารสเลือกผิด รสโง่เองที่ดูถูกความรักของคุณ วัตคะ รสขอโทษ ยกโทษให้รสได้มั้ยคะ”
ภควัตสะบัดสุดแรง หันกลับมาจ้องสุคนธรส สายตาไม่พอใจมาก
“ยิ่งคุณทำตัวแบบนี้ ผมยิ่งรังเกียจ แล้วก็จะไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณทำกับผม”
“คุณลืมรสไม่ได้หรอก คุณรักรสมาก”
“เคยรัก แล้วก็ลืมหมดแล้ว”
“ไม่จริง คุณลืมรสไม่ได้ นอกจากคุณจะมีคนอื่น...” สุคนธรสนิ่งคิดปราดเดียว “คุณมีคนอื่นแล้ว ใคร อัญมา...อัญมาเหรอ”
ภควัตไม่ตอบ สุคนธรสยิ่งโกรธและมั่นใจมาก
“คุณรักอัญมา”
“ผมจะรักใคร มันก็เรื่องของผม แต่รู้ไว้เลย ว่าผมไม่ได้รักคุณอีกแล้ว”
ภควัตยืนยันหนักแน่นจนสุคนธรสหน้าเสีย ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนเป็นแค้นอัญมาสุดขีด

อัญมาเดินกลับเข้าบ้านมา เห็นอธิคมยืนรออยู่ อัญมาไม่อยากมองหน้าเขา อธิคมเข้ามากุมมืออัญมาง้อ
“เธอจะโกรธฉันก็ได้นะ อัญ แต่ที่ฉันทำลงไป เพราะเค้าพยายามจะแยกเราจากกัน”
อัญมามองอธิคมนิ่งๆ
“ฉันไม่มีวันยอม”
อัญมามองแววตาอธิคมที่จริงจังแล้วนึกหวั่นใจ

ทางด้านภควัตมองจ้องสุคนธรส
“ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไร มันไม่ใช่ความรัก คุณต้องการคนที่เอาใจคุณทุกอย่าง ผมทำไม่ได้หรอก รส ความรักของผมคือเดินไปด้วยกัน ไม่ใช่ให้ใครมาจูงจมูก ชี้นิ้วสั่ง เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว อย่าพยายามรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก”
“รสยังรักคุณนะ วัต คุณรู้มั้ยว่ากฤษณ์เค้าจะทำทุกอย่างเพื่อเอาผลงานไปจากคุณ”
“ผมรู้ แล้วผมก็ไม่แคร์ด้วย เพราะผมไม่ได้ทำงานแข่งกับใคร ผมทำงานแข่งกับตัวเอง กลับไปซะ รส ไม่ต้องมาอ้างความหวังดีอะไรกับผมอีก”
ภควัตมองสุคนธรสด้วยสายตาเหินห่าง ไร้สิ้นเยื่อใย
“อย่าให้ผมต้องเรียก รปภ. มาโยนคุณออกไปนอกรั้ว”
ภควัตเดินขึ้นบ้านไปทันที ทิ้งให้สุคนธรสกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ
“อัญมา แกมีดีอะไรถึงทำให้วัตไม่สนใจฉัน”

อัญมามองอธิคมที่เอาจานขนมหลายจานมาวางตรงหน้าอย่างเอาใจ
“จำได้ว่าวันนั้นอัญบอกว่าอยากกิน”
“ฉันยังไม่หิว” อัญมาบอกเสียงขุ่น
อธิคมชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วยิ้มอย่างอดทนและใจเย็น
“ไม่เป็นไร หิวเมื่อไหร่ค่อยกิน”
อธิคมเดินไปนั่งมองไม่วางตาจนอัญมาอึดอัด
“พี่คม”
อธิคมมองอัญมาหน้าม่อย รู้ตัวว่าผิด ก็เดินมาคุกเข่าลงตรงหน้าอัญมา
“ให้โอกาสฉันได้มั้ย อัญ ให้โอกาสฉันเปลี่ยนตัวเอง ให้โอกาสฉันเป็นคนดีกว่านี้”
อัญมามองอธิคมที่คุกเข่าตรงหน้าก็ใจอ่อน
อธิคมกุมมืออัญมามาจูบเบาๆ มองสบสายตาอ่อนหวาน
“ถ้าฉันไม่มีเธอเป็นกำลังใจ ฉันก็ไม่รู้จะทำดีไปเพื่อใคร”

เย็นนั้นเสี่ยวินิจมองเก้าที่เดินมาหยุดตรงหน้า ถามขึ้น
“จริงอย่างที่ไอ้พวกข้างนอกมันเล่าหรือเปล่า อธิคมมันให้คนไปยิงขู่ไอ้เศรษฐีผัวเมียนั่น”
“จริงครับ”
“ไอ้ลูกบ้า มันจะพาความซวยมาให้เรา หลงผู้หญิงจนจะพังกันหมด ฉันปล่อยแกไว้ไม่ได้แล้วไอ้อัญ”
เก้ามองนิ่ง เห็นสายตาอันดุดันของวินิจที่พร้อมจะเอาเรื่องอัญมาทุกขณะจิต

ภควัตเข้าฐานลับในตอนเช้า กำลังยืนประชุมงานอยู่ในกลุ่ม ตรงข้ามกับกฤษณ์ ประพจน์ และสิทธิชัยมองภควัต
“ที่จริงคุณน่าจะลาพักนานกว่านี้นะ ผู้กองภควัต” ประพจน์ว่า
“ผมหายดีแล้วครับ แล้วก็มีเรื่องต้องมาเรียนท่าน”
ทุกคนมองภควัต
“สายของผม... คนที่ยิงผม เค้าไม่ได้ทำงานให้เราแล้ว”
ประพจน์แปลกใจ “มีปัญหาอะไรกัน”
“ผมเป็นคนบอกให้เค้าเลิก ถอนตัวไปซะเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยของเค้า”
สิทธิชัยเอ่ยขึ้น “แน่ใจได้แค่ไหนว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ปริปากเรื่องพวกเรา”
“แน่ใจครับ อัญมาไว้ใจได้”
กฤษณ์จงใจเหน็บ “ถ้าไว้ใจได้จริง นายคงไม่เจ็บเพราะถูกอัญมายิง”
ภควัตหันขวับไปมองกฤษณ์ทันที ประพจน์เห็นสายตาภควัตแล้วพูดขึ้น ไม่อยากให้มีเรื่องกัน
“ผมกับผู้กำกับประพจน์คุยกันว่าเราต้องก้าวไปข้างหน้าพวกมัน แทนที่จะคอยตามไล่หลังมันแบบนี้ เราจะล่อซื้อของจากพวกมัน ผมให้สารวัตรกฤษณ์จะดูแลแผนล่อซื้อคราวนี้ ผู้กองภควัต คุณเป็นฝ่ายสนับสนุนเพราะคุณเข้าไปคลุกคลีกับพวกมันแล้ว”
กฤษณ์มองมายังภควัตส่งสายตาเย้ยไปให้ ภควัตมองข่มความโกรธอย่างอดทน

ที่ห้องประชุมในฐานลับตอนนี้ กฤษณ์ยืนอยู่หน้ากระดาน วางแผนงาน ให้ตำรวจทุกคนฟัง ภควัตยืนอยู่ในกลุ่มตำรวจ มีประพจน์ สิทธิชัยมองจากอีกด้าน
“ผมต้องการแผนผังอย่างละเอียด ทางหนีเข้าออกของพวกมันทุกทาง โดยเฉพาะเส้นทางลับ ที่พวกมันรู้กันไม่กี่คน ไว้สำหรับหนีตำรวจ” กฤษณ์บอก
“พวกมันมีศูนย์บัญชาการอยู่ที่บ้านนายวินิจ คุ้มกันหลายชั้น”
ภควัตพูดขึ้น ทุกคนมองมาที่ภควัตรอฟัง
“ค่ายมวยเป็นด่านแรกที่คอยสังเกตทุกคนที่จะผ่านเข้าไป คนในชุมชนหลายคนเป็นหูเป็นตาให้นายวินิจ พวกนี้ถูกเลี้ยงด้วยยาเป็นค่าตอบแทน หลายบ้านพร้อมเปิดทางให้พวกมันเข้าไปซ่อนตัว”
ประพจน์ถาม “มันเอาของไว้ที่ไหน”
“โกดังนอกเมือง เอามาพักไว้ไม่เกินครึ่งวัน แล้วก็รีบกระจายของทั้งหมด ของที่บ้านวินิจ มีแค่ไว้ให้พวกมันเล่น ไม่มากพอที่จะลากพวกมันรับโทษหนัก”
กฤษณ์เอ่ยขึ้น “แต่เราต้องการจับวินิจกับลูกชายมัน เราจะล่อซื้อพวกมันที่นั่น”
“ไม่มีทาง ชุมชนนั้นมีทางเข้าออกหลายทาง เชื่อมต่อไปอีกหลายชุมชน ทันทีที่เราจับกุม มันจะเหมือนผึ้งแตกรัง แล้วสุดท้ายเราก็จะตกอยู่ในวงล้อมของพวกมัน เราต้องไม่ล่อซื้อในที่ๆ มันจะได้เปรียบ”
กฤษณ์ย้อนแย้ง “แต่วินิจไม่ค่อยจะออกไปนอกพื้นที่ ยังไงเราต้องจับมันให้ได้”
“อัญมาเคยเล่าว่าพวกมันผลิตยาสูตรใหม่ที่ตึกร้าง บางครั้งวินิจกับอธิคมต้องไปที่นั่น”
สิทธิชัยบอก “รอให้มันไปแล้วเราเอากำลังเข้าจับกุม”
“น่าจะเป็นอย่างที่ท่านผู้กำกับสิทธิชัยพูด เราจะได้ทั้งคนทั้งของ ดิ้นไม่หลุดแน่” ภควัตว่า
ประพจน์มีสีหน้าเห็นด้วย ทุกคนพยักหน้าเห็นตามที่ภควัตบอก ยกเว้นกฤษณ์ที่เหมือนถูกหักหน้า
“แล้วเมื่อไหร่ที่พวกมันจะเคลื่อนไหว เราต้องรู้เวลาแน่นอน”
ประพจน์มองไปที่ภควัต
“สายของคุณเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ ภควัต”
“ผมไม่อยากให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องอีก”
“นี่มันครั้งสุดท้าย ครั้งสำคัญมาก คุณจะเห็นแก่สายหรือเห็นแก่งานมากกว่ากัน” ประพจน์บอกเป็นเชิงบังคับ
ภควัตมองมาทางกฤษณ์ ในฐานะหัวหน้าคนหนึ่งกฤษณ์สั่งทันที
“ผู้กองภควัต ถ้าคุณต้องการให้งานที่พวกเราทุ่มเทสำเร็จ ใช้สายของคุณให้บอกเราทันทีที่วินิจเคลื่อนไหวไปโรงงานผลิต”

ภควัตรับฟังด้วยสีหน้ากดดันเป็นที่สุด

อัญมากำลังช่วยอุบลจัดร้าน เจ๊ว่าน กับ แอนนี่ปรี่เข้ามาหาเรื่อง

“จะเป็นเจ้าสาวพี่คมแล้วยังมาทำงานงกๆ อีกเหรอ ไอ้อัญ”
“แหม เจ้าสาวอาไร้ ราศีไม่จับเลย ดูหน้าหม้องหมองถามจริงๆ แกใช้มารยาท่าไหน มัดใจพี่คมให้ยอมแต่งงานกับแกได้”
จิ๊บกับนวยเดินเข้ามาได้ยินก็หมั่นไส้
“ก็ท่าที่พวกเจ๊ทำไม่ได้ไงล่ะ”
แอนนี่หันไปด่า “อีจิ๊บ ปากดีนักนะ”
“ใช่ ปากดี หน้าตาดี นิสัยดี ไม่เหมือนแก ชั่วหัวจรดเท้า”
แอนนี่เต้น “อีจิ๊บ”
อัญมารำคาญถืออีโต้สับไก่ออกมายืนข้างจิ๊บ
“อยากเหลาคางใหม่มั้ย แอนนี่ วันนี้แม่ฉันเพิ่งลับมีดมา รับรองเฉาะทีเดียว...จบ”
แอนนี่กลัว ถอยหลังไปใกล้เจ๊ว่าน แต่ยังปากเก่ง
“เหลาหน้าแกก่อนเถอะ ไอ้อัญ คิดว่าจะจับพี่คมอยู่เหรอ เดี๋ยวเค้าก็เฉดหัวแกทิ้ง”
จ่าเดชเดินเข้ามาส่งเสียงปราม “อะ...อะ...ให้พรอะไรกันแต่เช้า”
“มาก็ดีแล้วจ่า ฉันแจ้งความได้มั้ย นังแอนนี่กับเจ๊ว่านมันหาเรื่องฉัน” อุบลว่า
“แอนนี่ รับแจ้ง แต่เจ๊ว่าน รับมาอยู่ในหัวใจจ่าเดช” จ่าเล่นลิ้นหมาหยอกไก่
เจ๊ว่านเม้ง “ถุย ไม่ต้องมาจีบฉันหรอก ไอ้จ่าเดช ยศแค่เนี้ย ฉันไม่ชายตาแลให้เสียรมณ์”
จ่าเดชฉุน “เอ้า ไหนใครจะแจ้งความ วันนี้จากจ่าเดชขอเป็นจ่าดะ จับดะโว๊ย”
เจ๊ว่านไม่แคร์ “ไม่กลัว บอกเลยว่า จะจับ จะคลำตรงไหน เจ๊ว่านไม่กลัว”
เจ๊ว่านหัวเราะเชิดใส่จ่าเดช ส่วนแอนนี่หันไปทางอัญมาพูดแขวะโดยอิจฉา
“ไงยะ ท้องกี่เดือนแล้วล่ะ ถึงจะรีบแต่งน่ะ คงปล่อยตัวเต็มที่ คิดจะให้พี่คมรับผิดชอบล่ะสิ”
อธิคมเดินเข้ามา เจ๊ว่านหันไปเห็นก็สะดุ้งโหยง รีบดึงแอนนี่ไปด้านหลังก่อนจีบปากจีบคอ
“คุณอธิคม...วันแต่งงานอย่าลืมบอกเจ๊นะจ๊ะ เจ๊จะปิดร้านเอาเด็กไปช่วยสร้างความบันเทิงให้”
แอนนี่ฮึดฮัดใหญ่ “คุณแม่”
เจ๊ว่านตวาด “เงียบ ถ้าไม่อยากตาย”
อธิคมหันมาทางอัญมา อัญมาใส่ทันที
“ฉันไม่ได้ท้อง ไม่เคยมีอะไรกับพี่ อย่าพูดให้ฉันเสียหาย”
อัญมาโมโห เดินสะบัดออกไป อธิคมชี้หน้าแอนนี่คาดโทษแล้วรีบเดินตามมาไป
“อัญ... รอก่อน อัญ”
ทุกคนมองตามเห็นอธิคมที่ตามอัญมาไป จิ๊บได้ทีพูดเย้ย
“ดูสิ น่ารักเนอะ ผู้ชายตัวโตวิ่งตามง้อผู้หญิง”
นายผสมโรง “ไม่รักมาก ทำไม่ได้นะเนี่ย”
จิ๊บกับนวยหัวเราะเยาะแอนนี่ที่เต้นเร่าๆ ด้วยความอิจฉา

อัญมาเดินเร็วรี่พอเข้าบ้าน พบว่าภควัตยืนรออยู่ในนั้น
“ผู้กอง”
ภควัตมองนิ่งมายังอัญมา โดยที่ด้านหลังอธิคมเดินมา เห็นภตวัตยืนอยู่กับอัญมา
“ฉันมีเรื่องมาขอร้อง...เกี่ยวกับนายวินิจ”
อธิคมได้ยินก็หลบหลังพุ่มไม้ทันที
อัญมามองหน้าภควัตด้วยความอยากรู้

ภควัตกับอัญมาไม่ทันเห็นว่าอธิคมยืนหลบ รอฟังอยู่ด้วยความกระหาย สายตาสงสัยใคร่รู้

ทางด้านเสี่ยวินิจกำลังลงนวมซ้อมมวยกับนักมวยอยู่ในค่าย วินิจชกเข้าเป้าหลายหมัด ซัดจนนักมวยลงไปนอนกอง เก้ากับลูกน้องรีบเข้ามาเช็ดเหงื่อ ถอดนวมให้วินิจหันไปสั่งเก้า

“ไอ้เก้า เอ็งไปหาเพื่อนมือดีๆ มาให้ข้า”
“พี่บังจะให้พวกมันทำอะไร”
“ฆ่าไอ้อัญ”

น้ำเสียงเสี่ยวินิจทั้งโหดเหี้ยม และไร้ซึ่งความปรานี

อ่านต่อหน้า 2

คีตโลกา ตอนที่ 11 (ต่อ)

ฟากอัญมามองภควัตที่ยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อรอฟังคำขอ โดยที่ด้านหลังอธิคมกำลังจับตารอฟังเช่นกันว่าสองคนจะคุยอะไรกัน

“ฉันมาขอร้องเธอ แต่ถ้าเธอลำบากใจ ไม่ต้องช่วยก็ได้” ภควัตเอ่ยขึ้น
“จะให้ฉันทำอะไร”
ระหว่างนี้ จ่าเดช นวย และจิ๊บเดินกันมาหน้าบ้าน จ่าเดชมองไปเห็นอธิคมกำลังยืนมองอัญมากับภควัตอยู่เห็นท่าไม่ดี ทำเป็นหันไปโวยวายอีกด้าน
“เฮ้ย อะไรวะ ขับรถในซอย ยังแว้นเร็วขนาดนี้ ไม่ใช่สนามแข่งรถนะเว้ย ระวังลูกเด็กเล็กแดงมั่งสิวะ”
อธิคมเหลียวขวับมามองจ่าเดช ภควัต กะอัญมาได้ยินเสียงจ่าเดชก็หันไปมอง พอเห็นอธิคมก็มีสีหน้าไม่สบายใจ กลัวว่าอธิคมจะได้ยิน
จิ๊บกับนวยมองจ่าเดชงงงๆ นวยแอบกระซิบถามพี่
“จ่าแกมโนเหรอพี่จิ๊บ แว้นที่ไหน ยังไม่เห็นรถสักคัน”
“จ่าแกช่วยไอ้อัญกับไอ้วัตมันไง เห็นอธิคมแอบจ้องอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า”
สองพี่น้องกระซิบกระซาบ
อัญมารีบผละจากภควัต เดินมาทางอธิคม
“พี่คม ตามฉันมาทำไม”
“แหม แฟนกันก็ต้องตามง้อน่ะสิ”
จิ๊บกับนวยรีบเดินมายืนข้างอัญมา
ภควัตฟังแล้ว โมโหกรุ่นๆ แต่ไม่แสดงออก อธิคมมองไปที่ภควัตอย่างระแวง
“แกมาหาแฟนฉันทำไม”
“มีเรื่องจะคุยกันนิดหน่อย” ภควัตบอก
“เรื่องอะไร” อธิคมซัก
“อัญลืมของส่วนตัวไว้ที่ห้องฉัน”
อธิคมหันขวับมามองอัญมา ทุกคนมองกลัวว่าอธิคมกำลังโกรธ
ภควัตทำพูดสบายๆ
“ไม่ใช่ของสำคัญอะไร แค่หนังสือ ฉันเลยมาถามว่าจะให้โยนทิ้งหรือจะให้เอามาคืน”
อธิคมตอบเอง “ไม่ต้องเอามาคืน แล้วแกก็ไม่ต้องมายุ่ง มาแอบเจอแฟนฉันอีก ฉันกับอัญกำลังจะแต่งงานกัน”
“ไม่ต้องอวดหรอกเค้ารู้กันทั่วแล้ว ลงเฟซลงไอจี หรือยังล่ะ”
ภควัตกวนกลับอธิคมที่จ้องเอาเรื่อง จิ๊บกับนวยสะกิดจ่าเดชให้ช่วยห้ามทัพ
“เออ...ไอ้วัตมาก็ดีแล้ว ไม่เจอเอ็งตั้งนาน หายหัวไปไหนมา”
“ฉันก็ตระเวนดูพระไปเรื่อยแหละจ่าเดช ฉันมันจน ต้องทำมาหากิน จะให้นั่งกินนอนกินสบายๆ มีผู้หญิงตามเอาอกเอาใจ คงยาก”
อัญมาตัดความอย่างรำคาญ “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไป ที่นี่ไม่มีใครอยากฟังคำพูดกากๆ”
ภควัตแกล้งเป่าปากแซว “ฟังแต่คำหวานๆ มันเพราะกว่าเยอะ”
“โรคจิตหรือไง ชอบให้ฉันไล่ซ้ำไล่ซาก”
อัญมาเสียงเข้ม จิ๊บกับนวยมองสงสารภควัต สะกิดจ่าเดชอีก
“เออ ไปๆ ไอ้วัต ไปกับข้า ข้าเพิ่งได้พระมาองค์ เอ็งช่วยไปดูให้ข้าหน่อย”
จ่าเดชคว้าคอภควัตดึงออกไป อธิคมมองจ้องภควัตแล้วหันทางอัญมาที่มองภควัตสายตาดุ
“อย่าเพิ่งชวนทะเลาะเลยนะ ฉันปวดหัว”
อัญมาเดินเข้าบ้านไป อธิคมจะตามจิ๊บกับนวยแกล้วก้าวมาขวาง
“ไอ้อัญมันบอกปวดหัว ก็แสดงว่าอยากนอนพัก”
“อัญเป็นแฟนฉัน” อธิคมเสียงแข็ง
“แต่แฟนพี่บอกอยากอยู่คนเดียว งอนแบบนี้อย่างเพิ่งเข้าไปกวนอารมณ์เลย นิสัยผู้หญิง ง้อมากจะได้ใจนะพี่” นวยว่า
“หรือไม่ไอ้อัญก็จะโกรธมาก ไม่พูดด้วย”

อธิคมมองจิ๊บกับนวยที่ขวางไว้อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ก็ไม่กล้าตามเข้าไปเพราะกลัวอัญมาโกรธ

ภควัตกับจ่าเดชเดินมาตามทางในชุมชน ภควัตเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น

“ขอบใจมากจ่า ถ้าไม่ได้จ่า อธิคมมันอาจจะจับได้”
“ผู้กองยังไม่ได้พูดอะไรออกไปใช่มั้ยครับ”
“ยัง แต่อธิคมมันคงระแวงฉัน จ่าเดช เราต้องจับตาวินิจกับอธิคม ตอนแรกฉันตั้งใจจะมาขอให้อัญมาช่วยส่งข่าว แต่ถ้าแบบนี้ คงยากแล้ว”
“ผมจับตาสองพ่อลูกนี่แทนก็ได้ครับ”
“เราต้องรู้ว่ามันไปตึกร้างผลิตยาเมื่อไหร่ เราจะรวบตัวสองพ่อลูกที่นั่น”
ภควัตอธิบาย จ่าเดชรับ สีหน้าแข็งขัน
อธิคมเดินกลับเข้าบ้านมาในตอนเย็น สีหน้าหงุดหงิด วินิจกำลังอ่านหนังสือพิมพ์เหลือบมองลูกชาย
“หายหัวไปทั้งวัน คิดจะช่วยงานฉันบ้างมั้ย”
วินิจโยนหนังสือลงบนโต๊ะเสียงดังอธิคมสีหน้ารำคาญ
“พ่อมีอะไรจะใช้ก็ว่ามา”
“ฉันจะให้แกไปดูที่ตึกร้าง ไปเร่งพวกมันทำงานให้เร็วกว่านี้ ของรุ่นใหม่กำลังขายดี”
“ได้ พรุ่งนี้ผมจะไปเร่งพวกมันให้”
“ฉันหมายถึง ไปเดี๋ยวนี้”
อธิคมทวนคำเสียงขุ่น “เดี๋ยวนี้”
อธิคมมองวินิจ เห็นสายตากร้าว
“ทำไม หรือแกมีปัญหาจะไม่ทำตามคำสั่งฉัน ไปคนเดียว อย่าพาใครไปโดยเฉพาะไอ้อัญ”
อธิคมหันหลังออกไป วินิจมองด้วยสายตามีแผน กดมือถือแล้วสั่งเก้าที่ปลายสาย

“ไอ้เก้า บอกคนของแกลงมือเก็บไอ้อัญคืนนี้เลย”

ช่วงหัวค่ำคืนนั้น อัญมาเดินออกมาทางปากซอยกับจิ๊บ และนวย

“ที่จริงเราน่าจะชวนพี่คมเค้ามาเลี้ยงบะหมี่เหมือนตอนพี่วัตเป็นแฟนเจ๊อัญนะ”
จิ๊บหันไปเขกหัวน้องชาย
“ไอ้งก เห็นแก่กิน จะชวนมาทำไม ไม่เห็นหรือไงว่าไอ้อัญมันเซ็งอยู่”
นวยคลำหัวป้อยๆ “ไม่รู้นี่... ก็อยากมีเจ้ามือ”
“ไอ้คมมันหึงแกหน้ามืดเลย อัญ แต่งกันไป ไม่มีหวังฆ่ากันตายเหรอวะ”
“ฉันยังไม่แต่งกับพี่คมหรอก”
“เพราะไม่แต่งนี่แหละ พี่คมเค้าถึงหึง ลองแต่งไป เป็นเมียปั๊บ ก็เลิกหึง เลิกหวง”
อัญมาหมั่นไส้ “รู้มากจริงนะ ไอ้นวย”
“แหม ผู้ชายหล่อๆ” นวยเก๊ก “ก็นิสัยเหมือนกันทั้งโลกแหละ”
“หล่อมากเลยนะ แก”
จิ๊บเขกกะโหลกนวยอีกทีอัญมาหัวเราะ แต่พอหันไป เจอวัยรุ่น 2 คน ที่ยืนอยู่ ทั้ง 3 คนระวังตัว นวยขยับมาบังอัญกับจิ๊บ
“เฮ้ย หลบไป อย่าขวางทาง ใครวะ หน้าไม่คุ้น”
วัยรุ่น 1 ไม่สน ดึงมีดสปริงออกมาขู่
อัญมาร้องบอก “นวยระวัง”
ไม่ทันขาดคำ วัยรุ่น 1 เข้ามา จะแทง นวย นวยหลบ อัญมา จิ๊บตกใจ
อีกคนเข้ามาเตะนวย อัญมาจะเข้าไปจะช่วยเจอวัยรุ่น 1 ตบกระเด็น
วัยรุ่น 2 กระทืบนวยจนตัวติดพื้น ลุกไม่ขึ้น จิ๊บเข้าไปจะช่วยน้อง วัยรุ่น 1 ตบจิ๊บแล้วเหวี่ยงอัดผนัง
อัญมาลุกขึ้น เห็นวัยรุ่น 1 เดินถือมีดเข้ามา
“ช่วยด้วย”
อัญมาตะโกนเสียงดัง จนวัยรุ่นชะงักไปนิดเดียว จิ๊บทรุดอยู่ด้านหลังตะโกนอีก
“ช่วยด้วย คนจะฆ่ากัน ช่วยด้วย เจ้าข้าเอ้ยออกมาถ่ายคลิปกันเร็ว”
วัยรุ่น 2 ชะงักเท้าที่กำลังเตะนวยเพราะเสียงจิ๊บ
อัญมาอาศัยจังหวะ พุ่งเข้าชนวัยรุ่น 1 วัยรุ่น 1 เซ วัยรุ่น 2 ผละจากที่กระทืบนวย วิ่งเข้าล็อคคออัญมา จิ๊บรีบคลานไปที่น้อง ปากก็ร้อง
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
อัญมาโดนวัยรุ่น ล็อค วัยรุ่น 1 ชกท้องอัญมาจุก สลบคามือ
วัยรุ่น 2 แบกอัญมา ไปทันที
“ไอ้อัญ...ไอ้อัญ”
นวยมองเห็น ก็รีบบอกพี่
“ไปช่วยเจ๊อัญก่อน”
จิ๊บประคองน้องชายขึ้น แล้ววิ่งออกไปช่วยอัญมา

วัยรุ่น 2 แบกอัญมามาหยุดในซอยเปลี่ยวและมืด วัยรุ่น 1 ถือมีดเดินมาใกล้ๆ กัน โดยที่ด้านหลังจิ๊บกับนวยวิ่งตาม ครู่หนึ่งอัญมาที่อยู่บนบ่าวัยรุ่น2 เริ่มรู้สึกตัว มองกลับหัวคิดหาทางหนี
อัญมาเห็นมีดในมือวัยรุ่น 1 ก็ตัดสินใจ เอื้อมมือไปกระชากมีดโดยไว แล้วจ้วงแทงลงขาวัยรุ่น 2 มันร้องโอ๊ย ปล่อยร่างอัญมาลง อัญมากลิ้งลงกับพื้น วัยรุ่น 1 จะเข้ามา อัญมายกสองข้างถีบเข้ากลางอก วัยรุ่น 1 กระเด็น
อัญมาถือมีดยืนจังก้า วัยรุ่น 2 คน ถอยห่าง
“แกไม่ใช่พวกปล้น แกตั้งใจมาเอาตัวฉัน ใคร...ใครใช้แกมา”
เก้าโผล่ออกมาจากมุมมืด อัญมาหันไปเห็น
“ไอ้เก้า”
จิ๊บกับนวยวิ่งมาอีกทาง เก้าหันไปชักปืนขึ้นมาทันที อัญมารีบร้องบอก
“เก้า แกจะฆ่า...ก็ฆ่าฉันคนเดียวจิ๊บกับนวยไม่เกี่ยว”
จิ๊บกับนวยยืนห่างอัญมา ไม่กล้าเข้าไป
เก้าถือปืนมองวัยรุ่น 2 คน แล้วดึงปึกเงินออกมา โยนให้วัยรุ่นรับ
“ที่เหลือข้าจัดการเอง”
วัยรุ่น 2 คนรีบหลบออกไป อัญมามองเก้า
“ใครใช้แกมา” อัญมาคิดปราดเดียว “พี่บัง...พี่บังใช่มั้ย พี่บังให้แกมาฆ่าฉัน”
อัญมามองเก้าด้วยสายตามั่นใจ

ด้านเสี่ยวินิจยืนตระหง่านอยู่บนเรือนใหญ่ สายตามีแต่ความเหี้ยมโหด

“ไอ้อัญ เพราะแกลูกชายฉันถึงเปลี่ยนไป แกตายไปสักคน อธิคมมันก็ต้องเชื่อฟังฉันเหมือนเดิม”

ทางฝ่ายอัญมามองเก้าที่ถือปืนขวางอยู่ระหว่างตัวเอง กับจิ๊บ และนวย

“พี่บังเค้าเตือนแกหลายครั้งแล้ว...วางมีดลง”
อัญมายังกำมีดไว้มั่น
“ถ้าฉันจะตาย ฉันก็ขอให้ได้สู้ก่อนตาย”
เก้าตวาดแรง “วางมีด”
“ไอ้อัญ วางมีด” จิ๊บตะโกนบอก
อัญมามอง เป็นห่วงเพื่อน จึงก้มลงวางมีด เก้าเดินเข้ามาใกล้ เตะมีด อัญมาฉวยโอกาสพุ่งเข้าไปแย่งปืนจากมือเก้า
จิ๊บร้องลั่น “ไอ้อัญ อย่า”
อัญมาจับปืนเก้าได้ แต่เก้าไม่ยอมปล่อย เก้าเหวี่ยงปืนมาทางจิ๊บกับนวย จิ๊บกับนวยรีบหาที่หลบ
“ไอ้อัญ มึง”
อัญมาตัดสินเอาหัวโขกเก้าจนเก้าหงายเงิบ อัญมากระชากปืนจากมือเก้า พอเก้าหันมา อัญมาจ่อปืนที่เก้า จิ๊บเห็นแล้วรีบตะโกนห้าม
“ไอ้อัญ อย่า... อย่าทำอะไรเค้า”
“ถอยไป จิ๊บ แกจะช่วยมันทำไม มันหาเรื่องฉันหลายครั้งแล้ว”
อัญมาจ่อปืนไปที่เก้า
“วันนี้แกจะฆ่าฉันให้ตายตามคำสั่งพี่บังใช่มั้ย”
อัญมาเอานิ้วแตะไก จิ๊บตะโกนขึ้น
“ไอ้อัญอย่า...พี่เก้ามันเป็นแฟนฉัน”
อัญมาหันมองจิ๊บอย่างนึกไม่ถึง นวยมองพี่สาวอย่างเพิ่งรู้เหมือนกัน
“จริงเหรอ จิ๊บ แกเป็นแฟนกับไอ้เก้า”
“ใช่ ยาบ้าที่แกลองจนติด ฉันก็ได้มาจากพี่เก้า”
อัญมาตกใจ “แกไม่เคยบอกฉันเลย”
“ฉันไม่ให้จิ๊บบอกใคร”
อัญมาหันไปมองเก้า เก้าเอ่ยบอกขึ้น
“ฉันไม่อยากให้แฟนฉันเป็นอันตราย ฉันบอกกับจิ๊บแล้วว่าช่วยดูแกให้ ส่งปืนคืนมาเถอะ ไอ้อัญ ฉันไม่ทำอะไรแกหรอก ฉันจ้างไอ้พวกเมื่อกี้มันแค่เล่นละครขู่แกฉันจะได้บอกพี่บังว่าทำไม่สำเร็จ”
อัญมายังมองนิ่ง ไม่แน่ใจ จิ๊บย้ำ
“จริงๆ ไอ้อัญ พี่เก้าสัญญาว่าจะคอยช่วยแก”
อัญมานึกถึงตอนเก้าขับรถไปช่วยตัวเองออกมาจากผับ

“ฉันช่วยได้เท่าที่ช่วย เพราะฉันก็ยังต้องทำงานให้พี่บัง พี่บังเค้าไม่อยากให้แกไปยุ่งกับพี่คม”
นวยโมโหไม่หาย “แต่ไม่ต้องถึงกับฆ่าแกงกันก็ได้นี่”
อัญมามองแล้ววางปืนลง เก้าเดินมาหยิบ มองอัญมา
“ยิ่งพี่คมเชื่อแกมากเท่าไหร่ พี่บังเค้ายิ่งไม่พอใจ ไหนจะเรื่องที่เค้าสงสัยแกอีก”
จิ๊บบอกว่า “เลิกกับไอ้คมถอะว่ะอัญไม่งั้นเอ็งตายแน่”
“ถ้าแกไม่เลิก วันนึงจะไม่ใช่ฉันที่พี่บังให้ลงมือ...พี่ไปก่อนนะจิ๊บ ช่วยได้แค่นี้ เดี๋ยวพี่บังจะสงสัย”
“ระวังตัวนะพี่เก้า”
เก้ารีบหลบออกไป จิ๊บมองตามอย่างเป็นห่วง นวยถามขึ้น
“ไอ้เก้า แฟนพี่มันมาช่วยเจ๊อัญแบบนี้ แล้วตัวมันจะรอดเหรอ”
“พี่เก้าเค้าคงระวังอยู่แล้ว” จิ๊บว่า
“ระวังแค่ไหน ต้องเจ็บตัวแน่ พี่บังมันโหดไม่ปรานีใคร”
อัญมามองตามเก้าสีหน้าไม่ดีเอาเลย

จริงดังที่อัญมาว่า เก้าโดนวินิจชกเข้าหน้า เตะซ้ำล้มกลิ้ง แล้วตามไปกระทืบซ้ำจนติดพื้นด้วยความโกรธ
“งานง่ายๆ แค่นี้ มึงยังทำไม่สำเร็จ แล้วถ้าไอ้อัญมันรู้ตัว เอาไปฟ้องอธิคม”
“ไอ้อัญมันไม่รู้หรอกพี่...มันคิดว่าแค่โจรปล้น ไอ้สองคนนั้นมันใจเสาะ แถมไอ้อัญมากับเพื่อนอีก 2 คน”
วินิจเตะเก้าไปอีกทีอย่างระบายอารมณ์ เก้าเจ็บจนจุก ค่อยๆประคองตัวลุกขึ้น
“ไอ้อัญมันดวงดี กูทำอะไรมันกี่ครั้ง มันก็รอด แต่กูไม่ยอมแพ้มันหรอก กูต้องได้ลูกชายกูคืนมาจากไอ้อัญ”
นัยน์ตาวินิจกร้าวจนน่ากลัว
ส่วนด้านหลังเก้ามองอย่างกังวล ว่าจะช่วยปกป้องอัญมาไม่ได้อีกแล้ว

ฝ่ายอัญมาเดินกลับเข้าบ้านมา อุบลยืนรอสีหน้าไม่ดี อัญมามอง
“อัญ คืนนี้แกไปนอนกับไอ้จิ๊บมันก่อนเถอะ”
“มีอะไรเหรอแม่”
สัญชัยเดินออกมา อัญมาหันไปมอง
“หายหัวไปไหนมา เงินหมดล่ะสิ ถึงโผล่กลับมาได้”
“แหม...ลูกอัญ ไม่เจอกันหน่อย ทักพ่อซะแรงเลยนะ พ่อได้ข่าว....เค้าว่าลูกจะแต่งงาน ก็เลยกลับมาดีใจกับความสุขของลูก”
“ไม่ต้อง พ่อเลี้ยงใจทรามอย่างแก ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับฉันกับแม่ แกจะเอาเงินเท่าไหร่ถึงจะไปจากชีวิตแม่ฉัน”
“โธ่ ลูกอัญที่ผ่านมา พ่อผิดไปแล้ว จะให้พ่อกราบก็ได้”
สัญชัยยกมือทำท่าจะไหว้ อัญมาตวาด
“ไม่ต้อง ไม่ต้องมากราบมาไหว้ฉัน สิ่งที่แกควรทำ คือสำนึกผิดชอบชั่วดีเอง แล้วก็อย่าคิดรังแกผู้หญิงไม่ว่าคนไหนอีก”
“จ้ะ พ่อจะเชื่อลูกอัญ พ่อไปสวดมนต์ไหว้พระ แล้วก็เข้านอนก่อนนะ”
สัญชัยทำหงอเดินเข้าไปในบ้าน อุบลมองอัญมา
“อัญ ถ้าแกไม่สบายใจ แม่ไล่มันไปก็ได้นะลูก”
“ไม่เป็นไรหรอกแม่ ฉันกำลังคิดว่า จะหาที่อยู่ใหม่ เราไปอยู่กันสองแม่ลูก ทิ้งไอ้สัญชัยไว้ที่นี่ มันอยากอยู่ก็ต้องหาเงินค่าเช่าบ้านเอง”
“วันก่อนไอ้วัตมันชวนให้แม่ทำร้านที่ตึกแถวหน้าตลาด”
อัญมาบอกทันที “ไม่จ้ะ เราจะไม่พึ่งใคร โดยเฉพาะคนชื่อภควัต เราจะไม่รับอะไรจากเค้า อัญจะเลี้ยงแม่เอง”
อุบลชื่นใจเหลือเกิน กอดอัญมาแน่น
“ขอบใจมาก อัญ เอ็งเลิกยา กลับตัวกลับใจได้ แม่ก็ถือว่าเป็นของขวัญดีที่สุดที่เอ็งให้แม่แล้ว นี่เอ็งยังกตัญญู อยากเลี้ยงแม่ให้แม่สบาย แม่ดีใจเหลือเกิน อัญ”
“แม่เหนื่อยเพื่ออัญมาทุกอย่าง ถึงเวลาที่อัญต้องตอบแทนแม่ ดูแลแม่ให้สุขสบายที่สุดแล้วจ้ะ”
อุบลกอดแล้วกอดอีก มองหน้าลูกสาวด้วยความปลาบปลื้ม
โดยไม่รู้ว่าที่ด้านในสัญชัยแอบมองอยู่
“อย่าหวังเลยว่ามึงจะไปสบายกันสองแม่ลูก นี่คงกะแต่งงานแล้วปอกลอกเงินลูกชายพี่บังมาล่ะสิ ไอ้อธิคมมันโง่ที่ชอบผู้หญิงอย่างเอ็ง แต่ข้าไม่โง่ให้เอ็งใช้เงินกันแค่สองแม่ลูกหรอก”

สายตาสัญชัยเจ้าเล่ห์เพทุบายนัก คิดหาทาเอาเปรียบอัญมากับอุบลทุกทาง

คืนเดียวกันนี้ อธิคมแวะมาที่ตึกร้างผลิตและบรรจุยา มองเด็กที่กำลังเอายาใส่หลอดกาแฟ ลูกน้อง 2 คนยืนใกล้

“ให้ข้าวให้น้ำพวกมันกินบ้างรึเปล่า”
ลูกน้อง 1 บอก “ให้ครับ”
อธิคมมองเด็กๆ “แล้วทำไมมันผอมแบบนี้”
“พี่บังบอกว่าไม่ต้องดูแลพวกมันดีมากนัก” ลูกน้อง 1 ว่า
“พวกมันไม่อิ่ม แล้วจะเอาแรงที่ไหนมาทำงานให้เรา ไปซื้อข้าวมาให้พวกมันกิน ไป”
ลูกน้อง 2 รีบออกไป
อธิคมถามลูกน้อง 1 อีกว่า “เมื่อไหร่จะเสร็จ”
“มะรืนครับ”
อธิคมฟังแล้ว มีสีหน้าเหมือนใช้ความคิด

ข่าวอธิคมออกจากบ้านตอนค่ำคืนรู้ถึงจ่าเดช กำลังรายงานภควัต
“มีคนเห็นอธิคมออกไปนอกบ้าน เมื่อหัวค่ำ”
“ไปกับใคร”
“คนเดียว”
“ถ้าออกไปกับนายวินิจ จ่ารีบรายงานผม”
“แล้วถ้าออกไปกับไอ้อัญล่ะ ผู้กอง”
“ก็รายงานสิ”
“อ่ะ เกิดเค้าพากันไปเที่ยวหนุงหนิงงุ้งงิ้ง ประสาคู่รัก อาจจะไปเลือกของชำร่วย ชุดเจ้าสาว”
จ่าเดชลอยหน้าแหย่ขำๆ เลยเจอภควัตเตะกระเด็น
“โอ๊ย ผู้กอง”
“เป็นไง งุ้งงิ้งพอมั้ย”
“เต็มฝ่าเท้าเลยครับ”
“ฉันไม่สนหรอกว่าจะงุ้งงิ้งอะไร ฉันกลัวว่าอธิคมจะใช้งานแต่งงานบังหน้าทำเรื่องเลวๆอีก”
“อย่างเช่นนัดส่งยาล็อตใหญ่ตอนที่ทุกคนเผลอ”
“ใช่”
“แล้วผู้กองว่าไอ้อัญมันจะรู้เรื่องมั้ยครับ”
“คนเป็นแฟนเค้าไม่มีอะไรต้องปิดบังกันหรอก”
“แต่บอกตรงๆนะ ผู้กอง ผมว่าไอ้อัญมันไปคบกับอธิคม ถึงขั้นจะแต่งการแต่งงานเนี่ย ไม่ใช่ว่ามันสมัครใจหรอก”
ภควัตมองจ่าเดช
“เจ้าสาวที่ไหนจะหน้าบูดหน้าบึ้ง หงุดหงิดตลอดเวลา แล้วไอ้อัญมันก็เป็นคนดีนะ ตั้งแต่เลิกยามาช่วยเป็นสายให้เรา มันก็ยอมเสี่ยงตายตั้งหลายครั้ง คนใจไม่ถึงน่ะ เปิดแน่บไปแล้ว ผมถึงได้สงสัยว่า ขนาดยอมคบ ยอมจะแต่งงานกับไอ้อธิคม ถ้าไม่เพราะสมองช็อต ความจำเสื่อมล่ะก้อ ไอ้อัญมันก็คงทำประชดใครสักคน”
จ่าเดชหันมามองทางภควัต แต่อีกฝ่ายเมินหน้าหนีไม่ยอมให้จ่ารู้ความในใจ

เช้าวันนี้ อัญมาเดินออกจากห้องแต่เช้า เห็นสัญชัยกำลังช่วยแบกข้าวของ หม้อ กะละมังไปจัดที่รถเข็นส้มตำหน้าบ้าน ก็แปลกใจ อุบลเดินออกจากครัว ถือถุงมะละกอออกมา
“มันช่วยแม่ทำงานเหรอ” อัญมาถาม
“อืม...มันบอกว่าขอกลับตัว จะช่วยทำมาหากิน”
สัญชัยเดินกลับมา ยิ้มแฉ่งมองอุบลกับอัญมา รีบทำเป็นเข้าไปแย่งถุงมะละกอ
“มาฉันแบกไปให้ บอกแล้วว่าเธอไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ เดี๋ยวจัดร้านเสร็จ ฉันจะเข็นรถไปให้เอง”
สัญชัยกุลีกุจอแบกของออกไปอย่างกระตือรือร้น อัญมามองไม่แน่ใจ
“ผีเข้าหรือเปล่า หรือว่าโดนพวกในบ่อนซ้อมมาจนประสาทกลับ”
อุบลฟังอัญมาแล้วหัวเราะ
“เอาน่า ลองดูมันไปสักพัก มันอาจจะอยากเป็นคนดีเพราะเอ็งก็ได้”
อัญมางง “เพราะฉัน”
“ก็เอ็งทำให้มันเห็นว่าเอ็งกลับตัวได้ ไอ้สัญชัยมันก็คงอยากจะเลียนแบบเอ็งน่ะสิ”
อุบลยิ้ม แต่อัญมามองไม่เชื่อใจ

อัญมานั่งมองจิ๊บกำลังทายาให้เก้าที่เขียวช้ำจากโดนวินิจซ้อม เนื้อตัว หน้าตาเป็นจ้ำ ปากก็บ่นบ้าหลังฟังเพื่อนเล่าจบ
“น้าอุบลแกเป็นพวกโลกสวยคนอย่างไอ้สัญชัย เกิดมาเลวหมดจด มันจะกลับตัวได้ยังไง”
จิ๊บเผลอทายาหนักมืออย่างมีอารมณ์ เก้าซี๊ดปากด้วยความเจ็บ
นวยที่อยู่ด้วยด่าเอา “พี่จิ๊บ เบาๆ พี่เก้ามันจะตายแล้ว”
อัญมามองเก้าแล้วถามขึ้น น้ำเสียงเห็นใจ
“ฝีมือพี่บังซ้อมแกล่ะสิ”
“ตอนนี้เรื่องไอ้สัญชัยไม่น่าห่วงเท่าเรื่องพี่บังหรอก พี่บังเค้าไม่วางมือเรื่องแกแน่ ไอ้อัญ ระวังตัวหน่อยแล้วกัน ฉันช่วยออกหน้าอะไรไม่ได้ แล้วแกก็ปิดปากเรื่องฉันเป็นแฟนจิ๊บแล้วก็เรื่องเมื่อคืนให้สนิทล่ะ อย่าให้พี่บังจับพิรุธได้ ลำพังฉันไม่เท่าไหร่ ฉันไม่อยากให้จิ๊บ แฟนฉันเดือดร้อนไปด้วย”
จิ๊บซึ้งกอดเก้าด้วยความรัก นวยมองหมั่นไส้แล้วลุกขึ้น
“ไม่ไหว คนโสดทนดูไม่ไหว พี่เก้า แกอย่าทำให้พี่ฉันเดือดร้อนไปด้วยนะ”
นวยเดินออกไปก่อน อัญมามองจิ๊บกับเก้า
“แกบอกให้ฉันเลิกกับพี่คม แต่แกคบอยู่กับไอ้เก้า”
“พี่เก้าเค้าไม่ได้เป็นหัวหน้าใหญ่เหมือนพี่คมนี่ แล้วพี่เก้าเค้าก็กำลังหาทางจะเลิกด้วย”
อัญมาหันไปมอง เก้ามองตอบสีหน้าจริงจัง
“ฉันไม่อยากถูกวิสามัญ ไม่อยากตายเหมือนหมา แต่ตอนนี้ถ้าขยับตัวมาก ฉันก็อาจจะตายเพราะกระสุนพี่บังเหมือนกัน แกด้วยนะ ไอ้อัญ หาทางรอดไว้ด้วย ขืนแกแต่งงานกับพี่คมไป ทางออกแกจะยิ่งปิดตาย”
อัญมาฟังแล้วเครียด คิดหนัก ลุกขึ้นเดินออกไป จิ๊บกับเก้ามองตามอย่างเป็นห่วง

อัญมาเดินมาที่หน้าค่ายมวย คนดูแลเดินมามอง
“พี่บังสั่งห้ามแกเข้าไปข้างใน”
“ฉันมาหาพี่คม”
อธิคมเดินออกมาจากเรือนใหญ่พอดี อัญมามอง อธิคมเดินมาใกล้ คนดูแลถอยไป
“ไปข้างนอกกันมั้ย”
อัญมายิ้มหวานส่งไป อธิคมมองนิ่ง นึกถึงตอนเห็นภควัตถามอัญมาว่า
“ฉันมีเรื่องมาขอร้อง...เกี่ยวกับนายวินิจ”
อัญมามอง แปลกใจไม่เห็นอธิคมยิ้มเหมือนเคย
“วันนี้ฉันไม่ว่างไปไหน”
“พี่คมจะไปส่งของเหรอ”
อัญมาถามทันทีด้วยสายตาอยากรู้ อธิคมนิ่วหน้า
“ทำไม อยากรู้มากเหรอ”
“เปล่า เผื่อฉันจะช่วยอะไรได้บ้าง”
“ไม่ต้องหรอกอัญ งานฉัน ฉันจัดการเองดีกว่า ขอบใจมากนะ ชวนจิ๊บไปเที่ยวซื้อของ แต่งตัวให้สวยๆ คอยเอาใจฉันดีกว่า”
อธิคมเปิดกระเป๋า หยิบเงินออกมาส่งให้ อัญมามองไม่ชอบใจ
“ทำอะไรน่ะพี่คม”
“เอาไปช็อปปิ้ง”
อธิคมยัดเงินใส่มือ อัญมาปากลับใส่หน้าอธิคม
“เห็นฉันเป็นผู้หญิงประเภทไหน ถึงต้องเอาเงินมาปรนเปรอให้”
“อัญ อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิด ฉันแค่อยากให้เธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ แต่งตัวสวยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกเธอ”
“ถ้าพี่ชอบผู้หญิงแต่งตัวสวยๆ พี่ก็ไม่ต้องมาคบฉัน เพราะฉันมีประโยชน์กับพี่มากกว่าแค่แต่งตัวปั้นหน้าสวยไปวันๆ”
อธิคมรีบเข้าไปโอบกอดอัญมาเอาใจ
“อย่าเพิ่งงอนสิ ฉันกลัวเธอเหงา ฉันต้องไปทำงาน อยู่กับเธอทั้งวันไม่ได้”
อัญมาทำทีเป็นอ่อนลงให้
“พี่บังคงไม่ยอมให้ฉันไปทำงานช่วยพี่”
อธิคมมองท่าทีอึดอัด อัญมาทำเสียงอ่อนอ้อน
“พี่คมต้องระวังตัวนะ ฉันเป็นห่วง”
“เอาไว้เสร็จงานแล้วฉันโทร.หานะ”

อธิคมหอมแก้มอัญมายอมให้หอม โดยซ่อนแววตาสงสัยไว้ไม่ให้อธิคมเห็น

อ่านต่อหน้า 3

คีตโลกา ตอนที่ 11 (ต่อ)

อัญมาเดินห่างมาตรงมุมปลอดคนในชุมชน ก็รีบส่งข้อความหาจ่าเดช

จ่าเดชอยู่ที่สน. อ่านข้อความในมือถือ
“อธิคมกำลังไปทำงาน” จ่าเดชทำหน้าสงสัย “แล้วทำไมไม่บอกผู้กองเค้าเองล่ะ ไอ้อัญ อ๋อ...งอนกันอยู่ ต้องพึ่งกามเทพอย่างจ่าเดชเดชา”
จ่าเดชเลยรีบกดมือถือหาภควัต
“ผู้กองครับ อธิคมกำลังจะออกไปข้างนอกครับ”

ภควัตยืนอยู่ตรงหน้าทุกคนในฐานลับ
“จ่าเดชได้รายงานจากสายว่า อธิคมกำลังจะออกไป น่าจะที่ตึกร้าง”
สิทธิชัยถาม “วินิจล่ะ”
“เบื้องต้น ตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าออกไปด้วย”
กฤษณ์บอก “มันอาจจะตามไปเจอกันที่ตึกร้าง”
ประพจน์มีสีหน้าใช้ความคิด
“สารวัตรกฤษณ์คุมกำลังออกไป จับอธิคมให้ได้ จับเป็น ผมอยากต่อรองกับนายวินิจ”
“ครับ”
“แต่ถ้าเรารอให้แน่ใจ ว่าวินิจไปตรงนั้นด้วย เราจะจับได้ทั้งสองพ่อลูก พร้อมของกลางนะครับ”
กฤษณ์แย้งภควัต “จับอธิคมได้ เราก็บีบวินิจได้ มัวแต่ลังเล ถ่วงเวลา งานมันถึงไม่คืบหน้าไปไหน”
ภควัตจ้องกฤษณ์ ประพจน์เอ่ยสั่งทันที
“ไปได้แล้ว สารวัตรกฤษณ์ ผู้กองภควัตคุณอยู่ที่นี่”
กฤษณ์เดินยืดออกไปกับลูกน้องอีก 6 คน
ภควัตนั่งลงหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน อย่างอดทน

อธิคมกำลังจะเดินออกนอกบ้าน วินิจก้าวออกมาสั่ง
“กำลังจะออกไปที่ตึกร้างใช่มั้ย เอาไอ้อัญไปด้วย”
“เอาไปทำไม ก็พ่อระแวงว่าอัญจะเป็นสายตำรวจ” อธิคมแปลกใจ
“ก็ถ้ามันไม่ใช่ แกจะกลัวทำไม ถ้าแกทำงานครั้งนี้ทางสะดวก ก็แสดงว่าไอ้อัญมันไม่เกี่ยว”
“พ่อไม่ได้กำลังวางแผนอะไรใช่มั้ย”
“ถ้าฉันทำ แกจะห้ามฉันได้เหรอ”
วินิจจ้องหน้าลูกชาย
“เอาไอ้อัญไปด้วย ถ้าไม่มีตำรวจ ฉันก็จะเชื่อใจมัน แต่ถ้ามี แกก็จะได้รู้ได้เห็นกับตาว่าถูกหักหลังจากคนที่รักน่ะ มันเจ็บที่สุด”
วินิจมองเยาะ อธิคมสายตาเริ่มไม่แน่ใจว่าจะเจออะไรข้างหน้า เดินหันหลังเดินออกไป

อัญมามองอธิคมที่ขับรถหรูด้วยสีหน้าเครียดตลอดทาง
“ฉันดีใจจังเลยที่พี่ยอมให้ฉันมาด้วย”
อธิคมมองมา อัญมายิ้มให้
“อัญวันนี้เธออย่าอยู่ห่างฉันนะ”
“จะมีอะไรเหรอพี่ ทำไมพูดน่ากลัวจัง”
อธิคมไม่ตอบ กุมมืออัญมาไว้ อัญมามองอธิคมเป็นเชิงถาม แต่อธิคมไม่พูดอะไร ขับรถทะยานออกไป

อธิคมเอารถเข้ามาจอดที่หน้าตึกร้าง อัญมากับอธิคมลงมาจากรถ อัญมากวาดสายตามองไปรอบๆทันทีเพราะไม่รู้ว่าจะมีตำรวจมาหรือเปล่า พออธิคมมองมา อัญมาแกล้งหันมายิ้ม
“ที่นี่ มันเงียบๆ นะ”
อธิคมเดินนำอัญมาเข้าไปในตึก

โดยไม่รู้ว่าระหว่างนี้หลังเพิงสังกะสีที่มีแต่ขยะ เห็นกฤษณ์ในชุดจู่โจม พร้อมลูกน้องอีก 6 คนที่ซุ่มอยู่

อัญมาเดินตามอธิคมขึ้นบันไดตึกร้างมาเรื่อยๆ ทั้งตึกเงียบสนิท อัญมามองไปรอบๆ ไม่เห็นใคร อธิคมหันมา อัญมาถึงกับสะดุ้ง

“กลัวเหรอ”
“ใช่ ฉันไม่ชอบที่นี่เลย มันเงียบๆ สกปรก น่ากลัว มาคราวก่อน ฉันก็เกือบตายไปรอบนึงแล้ว”
อธิคมดึงมืออัญมามากุมไว้ แล้วพาเดินขึ้นบันไดต่อไป
สีหน้าอัญมาหวาดระแวง เริ่มหวั่นใจว่าอาจจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล

ส่วนในฐานลับตอนนี้ ภควัตนั่งเครียดอยู่หน้าจอ จนมีตำรวจนายหนึ่ง เข้ามารายงานประพจน์กับสิทธิชัย
“สารวัตรกฤษณ์รายงานมาว่า อธิคมมากับผู้หญิงครับ”
ภควัตลุกพรวด “อัญมา”
ประพจน์สั่ง “ห้ามคุณออกไปไหน ผู้กองภควัต อยู่ที่นี่สารวัตรกฤษณ์เป็นคนควบคุมปฏิบัติการนี้ เค้ารู้ว่าควรทำอะไร”
สิทธิชัยมองปรามภควัตอีกคนภควัตลุกเดินไปอีกด้าน สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“อัญมา คุณต้องปลอดภัย”

อัญมาเดินมากับอธิคมที่กุมมือแน่นมากจนเจ็บ
“พี่คม พี่บีบมือฉันแน่นมาก”
“ขอโทษ”
“พี่เครียดอะไรหรือปล่า”
“เธอเคยคิดมั้ยว่าอาจจะมีตำรวจตามหลังเรามา”
อัญมาตกใจ แต่พยายามทำสีหน้าเป็นปกติ
“จะมีได้ยังไง หรือพี่ก็คิดแบบพี่บัง ว่าฉันเป็นสาย”
อธิคมมองจ้องอัญมา ไม่ตอบอะไร ดึงมืออัญมาพาเดินไปต่อ อัญมาสีหน้าเริ่มกังวล

กฤษณ์กับลูกน้อง 5 คนกำลังขึ้นบันไดมาช้าๆ
อธิคมดึงมืออัญมามาจนถึงห้องหนึ่ง อัญมามองสังเกต
“ทำไมไม่มีคนเฝ้าประตู”
อธิคมไม่ตอบ จับมืออัญมาไว้แน่น แล้วถีบประตูอย่างแรง พอประตูเปิดออก อัญมามองไปรอบห้อง ไม่เห็นอะไรเหลืออยู่เลยทั้งคนทั้งของ
“ไหนพี่คมบอกว่าจะมาเอาของ”
อธิคมชักปืนออกมาทันที อัญมาตกใจ อธิคมมองไปรอบๆ
“ถ้าตำรวจตามมา ป่านนี้มันคงใกล้เข้ามาแล้ว”
“นี่พี่คมคิดว่าฉันพาตำรวจมา”
อธิคมดึงมืออัญมาแน่น “วันนั้นไอ้วัตมันมาหาเธอทำไม”
อธิคมคาใจกับเหตุการณ์วันที่ภควัตมาหาอัญมาคุยกันอยู่ตรงหน้าบ้าน และอธิคมเห็น
“ทำไมมันต้องพูดชื่อพ่อฉัน”
อัญมาปฏิเสธ “พี่วัตไม่ได้พูดชื่อพี่บัง”
“แต่ฉันได้ยิน”
“พี่หาเรื่อง พี่ก็สงสัยเหมือนที่พ่อพี่สงสัยใช่มั้ยล่ะ พี่คิดว่าฉันเป็นสายให้ตำรวจ”
“ฉันแค่ไม่แน่ใจ ถึงต้องพิสูจน์ ที่จริงเมื่อคืนทั้งคืน ฉันขนของกับย้ายคนออกไปจากที่นี่หมดแล้ว ฉันไม่บอกเรื่องนี้กับใครเลย แม้กระทั่งพ่อ”
“แต่พี่โกหกฉันว่าจะมาที่นี่ เพราะคิดว่าฉันจะพาตำรวจมา”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เธอมาด้วย ถ้ามีตำรวจจริงๆ ฉันก็ไม่อยากเธอโดนลูกหลง แต่พ่อก็รอดูว่าวันนี้จะเกิดเรื่องขึ้นอีกหรือเปล่า ถึงให้พาเธอมา อัญ ถ้าวันนี้ไม่มีตำรวจ ทุกอย่างก็จบ”
อัญมาโมโห “ยังไงฉันก็ดิ้นไม่หลุดอยู่แล้วนี่ จะเป็นหรือตาย ไอ้อัญมันก็น่าสงสัยวันยังค่ำ”
“ถ้าเธอไม่ใช่สายตำรวจ เราจะแต่งงานกันอย่างไม่มีข้อครหาจากใคร”
“ถึงขนาดนี้ คิดว่าฉันจะแต่งกับผู้ชายที่ไม่ไว้ใจฉันเหรอ”
อัญมาสะบัดมือแรง อธิคมมองตามนิ่งๆ อัญมาหันหลัง พยายามมองไปรอบๆ ว่ามีตำรวจหรือเปล่าและหาทางรอด แต่ปากก็พูดตัดพ้อให้อธิคมจับไม่ได้
“ฉันเสียใจที่พี่ไม่ไว้ใจฉัน เสียใจที่สุดที่เป็นพี่”
“แต่เรื่องนี้จะทำให้เธอได้เคลียร์ตัวเอง”
“ไม่ ฉันไม่ฟัง ฉันไม่คุยกับพี่แล้ว ถ้าพี่ไม่เชื่อใจ ก็ให้ฉันตายซะเลยดีกว่า”
อัญมาแกล้งตัดพ้อ แล้ววิ่งออกไปจากตรงนั้น
ที่บันไดชั้นล่างตอนนี้ กฤษณ์นำกำลังตำรวจเตรียมจะขึ้นมาถึงชั้นที่อัญมาอยู่แล้ว
อัญมาแวบในสายตามองไปเห็นชุดดำของกฤษณ์ที่ด้านล่าง แค่เสี้ยวนาที อัญมาตัดสินใจวิ่งขึ้นไปทางดาดฟ้า
กฤษณ์เงยหน้าเห็นอัญมาวิ่งไป ก็รีบหลบถอยแนบตัวกับผนัง ซุ่มรอเวลา อธิคมวิ่งตามอัญมา
“อัญมาอัญมา”
กฤษณ์ได้ยินเสียงอธิคมก็กระชับปืน
อธิคมวิ่งมาหยุดตรงบันได สังหรณ์แปลกๆ เดินมาก้มมอง แต่ไม่เห็นใคร
กฤษณ์กับลูกน้องที่ซุ่มหลบอยู่ในหลืบห้องด้านล่าง
อธิคมวิ่งขึ้นตามอัญมาไป
“อัญลงมา อัญอย่าขึ้นไป”

กฤษณ์ได้ยินเสียงอธิคมห่างไปก็ค่อยๆ ขยับออกมา นำขึ้นไปยังชั้นที่อธิคมเพิ่งวิ่งผ่านไปทันที

ในฐานลับ ภควัตนิ่งรอคอยฟังข่าวด้วยความเครียด ประพจน์มองท่าทางภควัตแล้วเตือนขึ้น

“สารวัตกฤษณ์เค้าต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับงาน”
ภควัตยิ่งฟังยิ่งกังวลต่อการตัดสินใจของกฤษณ์ที่ผ่านๆมา

ด้านสารวัตรกฤษณ์นำลูกน้อง 6 คน เข้ามาตรงหน้าห้องที่ใช้ผลิตยา ประตูเปิดอ้าอยู่ กฤษณ์ระวัง ลูกน้องผลักประตูให้กว้าง กฤษณ์นำเข้าไปก่อน ลูกน้องตามเข้ามาดูพื้นที่
กฤษณ์เดินเข้าไปดู เห็นแต่กล่องข้าวโฟม ขวดน้ำ ถูกทิ้งไว้
“พวกมันหนีไปแล้ว”
กฤษณ์มองเจ็บใจ
“แต่อธิคมยังอยู่ที่นี่ ฉันจะจับมันเอง”
กฤษณ์วิ่งออกจากห้องไปทันที

อัญมาวิ่งออกมาที่ดาดฟ้า อธิคมวิ่งตามหลังมา ดึงแขนอัญมาไว้
“อัญ อย่าหนีฉัน”
อัญมาพยายามสะบัดมือออกแต่อธิคมจับแน่น
“เอาสิ พี่อยากจะฆ่าฉันก็ทำเลย ฉันไม่หนีไปไหนหรอก”
“อย่าท้าฉันนะอัญ”
“ก็พี่สงสัย ตั้งใจจะฆ่าฉันอยู่แล้ว จะรอทำไม”
“อัญฟังฉัน”
อธิคมเสียงเข้ม
“ฉันแค่ต้องการพิสูจน์ ถ้าไม่มีตำรวจ เราจะกลับไปด้วยกัน”
“แล้วถ้ามีล่ะ ฉันคือคนผิดใช่มั้ย ฉันคือสายตำรวจใช่มั้ย”
อัญมาแย้งย้อนถามไปอย่างไม่ยอมแพ้ และไม่ยอมให้อธิคมจับผิดได้

กฤษณ์วิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อตามจับอธิคม

อัญมามองอธิคมที่ดึงข้อมือไว้ อีกมือยังถือปืน
“ถ้าสงสัยฉันกับพี่วัต ก็จัดการเถอะพี่คม อย่ารอให้เสียเวลาเลย ไม่ต้องมาลองใจ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว พ่อพี่จะได้โล่งใจ ไม่ต้องคอยด่าว่าพี่ไปด้วย”
อัญมาดึงมือข้างที่อธิคมถือปืนมาจ่อที่อกตัวเอง แววตาอัญมาจ้องอธิคมอย่างเด็ดเดี่ยวไม่หวั่นไหว ไม่แสดงความกลัวออกมาให้เห็น
“อย่าให้ผู้หญิงอย่างฉันทำลายความรักของพ่อกับพี่”
อธิคมมีสีหน้าลำบากใจ อัญมามองจ้อง
กฤษณ์ขึ้นมาถึงดาดฟ้า มองไปเห็นภาพอธิคมกับอัญมาก็หาที่ซุ่มอยู่ กฤษณ์ประทับปืนเล็งไปที่อธิคม พูดลงในหูวิทยุ
“ค้นทั้งตึกแล้วไม่พบแหล่งผลิตยา ตอนนี้เป้าหมายตรงหน้าผม...อธิคม”

เสียงของกฤษณ์ดังผ่านเครื่องรับฟังในฐานลับให้ได้ยินกันทุกคน
“รอคำสั่งจับกุมจากผู้การครับ”
ภควัตได้ยินแล้วหันไปทางประพจน์
“อัญมาล่ะครับ ถ้าอธิคมสู้ อัญมาจะอันตรายหรือเปล่า”
ประพจน์กรอกเสียงถามผ่านไมค์ในห้อง
“ผู้หญิงจะเป็นอันตรายหรือเปล่า ถ้าเกิดการปะทะ”
ภควัตมีสีหน้าเครียดมากๆ

กฤษณ์มองไปที่อัญมา พูดผ่านเครื่องวิทยุ
“อัญมากำลังมีปากเสียงกับอธิคม อธิคมจ่อปืนที่อัญมา”
ในฐานลับ ภควัตได้ยินก็พูดขึ้น
“อธิคมสงสัยอัญมา”
เหตุการณ์บนดาดฟ้า อัญมามองอธิคม
“ฉันไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า ทำให้พี่มีชีวิต มีเส้นทางที่ดี ฉันขอแค่พี่ปลอดภัย ทุกคนมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ ตอนที่ยังไม่สาย ตอนที่เราไม่ถลำลึกลงไปในความผิด”
อธิคมมองอัญมา
“ฉันถอยกลับไปเป็นคนดีไม่ได้แล้ว อัญ สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดมันคือความผิด ฉันจะถูกตำรวจวิสามัญ เพราะฉันจะไม่มีวันยอมติดคุกอีก”
อัญมามองจ้องอธิคมที่มองตอบแววตานิ่ง
“ฉันต้องการพิสูจน์ให้ทุกคน โดยเฉพาะพ่อ รู้ว่าฉันทำได้ ฉันเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยวิถีทางของฉันเอง เธอจะเดินไปกับฉันหรือเปล่า”
อัญมาจ้องอธิคม
“ฉันรักเธอนะ อัญ เธอก็รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน แต่ฉันหันหลังกลับอย่างที่เธอต้องการไม่ได้ ฉันคิดไว้แล้วว่าถ้าฉันเห็นตำรวจที่นี่ ฉันจะไม่ปล่อยให้พ่อฆ่าเธอ ...ฉันจะลงมือเก็บเธอเอง”

กฤษณ์เล็งปืนไปที่อธิคม

เหตุการณ์ในฐานลับตอนนี้ภควัตหันไปทางประพจน์

“ผู้การคับ ผมขอร้องล่ะครับ นี่คือกับดักของอธิคม ถ้าอธิคมเห็นสารวัตรกฤษณ์อัญมาจะตายทันที เค้าทำงานให้เรา แล้วเราจะยื่นความตายให้ผู้หญิงคนนี้เป็นสิ่งตอบแทนหรือครับ”
ประพจน์มีสีหน้าตัดสินใจอย่างหนัก
ที่ดาดฟ้า อธิคมมองอัญมาอัญมาสีหน้าเริ่มมีความหวังน้อยลง
กฤษณ์ขยับตัว ตัดสินใจ จะออกไป
ในฐานลับ ภควัตหน้าเครียดมาก
กฤษณ์กำลังจะลุกขึ้น ออกไปจับกุมอธิคม ประพจน์พูดลงไปที่ไมค์
“ถอนกำลังเดี๋ยวนี้ ห้ามฝ่าฝืน ห้ามยิง”
กฤษณ์ที่กำลังจะก้าวออกไปจับอธิคมตรงหน้า มีสีหน้าเจ็บใจ
อธิคมมองจ้องวัดใจกับอัญมาอยู่บนดาดฟ้า
กฤษณ์จำต้องทำตามคำสั่ง เคลื่อนตัวหายลงไปอย่างเงียบกริบ
ภควัตรอฟังในในฐานลับ ได้ยินเสียงกฤษณ์ที่สั่งลูกน้องผ่านวิทยุสื่อสารดังขึ้น
“ยกเลิกปฏิบัติการ”
ภควัตได้ฟัง ถึงกับถอนใจหนักโล่งแต่เสียงประพจน์เอ่ยขึ้น
“ผมขอให้คุณไปเขียนใบลาออกซะ ผู้กองภควัต”
ภควัตหันมองประพจน์อย่างตกใจ ทั้งห้องเงียบกริบด้วยความตกตะลึง
ส่วนที่ดาดฟ้า อธิคมหันไปมองรอบๆ ไม่เห็นใคร จึงลดปืนลง เอามือแกะมืออัญมาออก อธิคมเก็บปืน มองอัญมา
“ถ้าเกิดมีตำรวจรอพี่อยู่ด้านล่างล่ะ”
“เราก็จะตายด้วยกัน”
อธิคมมองจ้องอัญมาอย่างเด็ดขาด อัญมาได้ยินแล้วหายใจไม่ทั่วท้อง

บรรยากาศในฐานลับตึงเครียดสุดๆ ภควัตมองประพจน์
“คุณห่วงผู้หญิงคนนั้น ห่วงจนทำให้งานเราเสียหาย”
“ผมต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องนะครับ อัญมาทำงานเพื่อเรา”
“ถ้าเค้าทำงานให้เรา เค้าต้องรู้ว่าชีวิตของเค้าจะตกอยู่ในอันตราย จะไม่มีใครคุ้มครองเค้าได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมดูโหดร้ายใช่มั้ย แต่นี่คืองานที่เสี่ยงชีวิต ทุกคนต้องพร้อมเสียสละ แล้วอัญมาก็เป็นคนส่งข่าวมาว่า อธิคมออกไปคนเดียว แต่ทำไมเค้าไปอยู่ที่นั่นด้วย”
“อธิคมอาจจะเปลี่ยนใจพาอัญมาไป”
“ผมไม่รู้ว่าคุณกับอัญมา สายของคุณสนิทสนมกันในฐานะไหน แต่วันนี้ความสัมพันธ์ของคุณกับอัญมาทำให้งานของเราพลาดอีกครั้ง”
สิทธิชัยเห็นท่าไม่ดีเอ่ยแทรกขึ้น “ผมว่าอย่าเพิ่งให้ถึงกับลาออกเลยครับ ให้ผู้กองพักสงบสติอารมณ์ ทบทวนว่าทำอะไรลงไปดีกว่า”
สิทธิชัยเอ่ยติงอย่างนุ่มนวล ประพจน์มองภควัต
“ผมสั่งให้คุณพักงานไม่มีกำหนด อย่ายุ่งกับเรื่องนี้อีกจนกว่าผมจะเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ออกไปได้แล้ว”
ภควัตมองประพจน์ ยกมือต๊ะเบ๊ะรับคำสั่งนายแล้วเดินหันหลังออกไป ประพจน์มองสิทธิชัย
“ผมต้องทำนะ ภควัตกำลังปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลการตัดสินใจทุกอย่างเพราะผู้หญิงชื่ออัญมาคนเดียว”

อธิคมถือปืนเดินนำลงมาหน้าตึกร้าง สายตาก็มองระวังไปรอบๆ อัญมาเดินตามหลังอธิคมมาจนถึงหน้ารถ
“ไม่มีตำรวจ” อธิคมมองอัญมาที่พูดขึ้น “ถ้ามีตำรวจ ฉันคงตายอยู่ที่นี่”
“อัญฉันขอโทษ”
อธิคมรวบตัวอัญมามากอด
“จะให้ฉันทำยังไง เธอถึงจะหายโกรธ ยอมแต่งงานกับฉัน”
อธิคมมองอัญมา
“เธอรักฉันบ้างมั้ยอัญ”
อัญมาอึกอัก “ฉัน ...”
“เธอไม่เคยพูดเลยว่ารักฉัน” อธิคมตัดพ้อ
“ฉันไม่ใช่คนชอบพูดเรื่องแบบนี้ ฉันถือว่าการกระทำสำคัญกว่า”
“แล้วถ้าฉันอยากได้ยินล่ะ เธอจะพูดได้มั้ยพูดจากใจของเธอ”
“อย่าบังคับฉันเลยพี่คม” อัญมาเบือนหน้าหนี ไม่อยากต่อความให้เข้าตัว “ถ้าบังคับ พี่จะได้ยินแต่สิ่งที่พี่อยากฟัง โดยที่มันอาจจะไม่ได้มาจากใจจริงของฉันเลย”

อัญมาเดินผละขึ้นรถไป อธิคมมองตามสายตาหมองเศร้า

อ่านต่อหน้า 4

คีตโลกา ตอนที่ 11 (ต่อ)

ภควัตกลับห้องเช่าในชุมชน ยืนทอดสายตามองไปไกลลิบ จ่าเดชที่แวะมาหา เกาหัวสงสัยเมื่อรู้เรื่องภควัตถูกพักงาน

“ผู้กองทุ่มเททุกอย่างให้งาน ทำไมถึงถูกพักงาน ถึงกับจะไล่ออก”
“ผู้การท่านทำถูกแล้วละที่ต้องห่วงเรื่องงาน เรื่องส่วนรวมมาก่อน” ภควัตว่าท่าทีปล่อยปลง
“แต่ถ้าไม่มีผู้กอง ไม่มีไอ้อัญ เราไม่มีวันเข้าใกล้ถึงตัวอธิคมกับวินิจได้ขนาดนี้”
“ไม่ใช่ความดีของผม อัญมาต่างหากที่เสี่ยงที่สุด”
“ถ้าผู้กองห่วงไอ้อัญ ผู้กองต้องช่วยให้งานนี้สำเร็จ ผู้กองก็รู้ ถ้าเราเอาตัวไอ้อัญออกมาจากอธิคมไม่ได้ เท่ากับเราปล่อยให้ไอ้อัญมันตกนรก เมื่อไหร่ที่มันไม่ได้อยู่ในฐานะเป็นสายให้เรา มันจะถูกจับ”
“แล้วจ่าจะให้ผมทำยังไง อัญมาปฏิเสธความช่วยเหลือทุกอย่างจากผม เค้าเกลียดขี้หน้าผม”
จ่าเดชสวนขึ้น “เพราะผู้กองไม่พูดความจริง”
พร้อมกับมองภควัตอย่างเป็นผู้ใหญ่กว่า
“ผมไม่รู้หรอกว่าผู้กองกับไอ้อัญทะเลาะอะไรกันอยู่ แต่ที่แน่ๆ ไอ้อัญมันกำลังทำประชดผู้กอง แค่นี้แหละที่จ่าอย่างผมมองออกมากกว่าผู้กอง”
จ่าเดชเดินออกไป ทิ้งให้ภควัตจมอยู่กับความคิดตัวเอง แก้ไม่ตกว่าเขาต้องทำยังไงดี

ฟากสารวัตรกฤษณ์ยืนสีหน้าไม่พอใจนักต่อหน้าประพจน์กับ สิทธิชัย
“ทำไมท่านไม่ให้จับอธิคม มันไม่มีทางสู้ผมได้เลย ทำไมต้องห่วงแค่ชีวิตผู้หญิงคนเดียวอย่างอัญมา”
สิทธิชัยปราม “ใจเย็นๆ สารวัตรกฤษณ์”
“ผมใจเย็นมานานแล้วครับ เราพลาดมาทุกครั้งเพราะอะไร ท่านยังมองไม่ออกอีกหรือครับ”
กฤษณ์อารมณ์ขึ้น ถามไปอย่างลืมตัว โดยไม่ระวังคำพูด จนประพจน์กับสิทธิชัยเริ่มชักสีหน้า
“ผมเคยบอกท่านแล้ว ภควัตมันรู้เห็นเป็นใจกับพวกค้ายา มันปล่อยให้อธิคมหนีรอดไปได้ทุกครั้ง เพราะอะไรน่ะเหรอครับ อัญมาไงครับที่เป็นนางนกต่อ คอยปั่นหัวภควัตให้ติดต่อกับพวกวินิจ อธิคม คอยรับส่วยช่วยเปิดทางให้พวกมันขนของ”
ประพจน์โกรธ “พอแล้ว สารวัตรกฤษณ์ คุณคิดว่าผมไม่รู้จักลูกน้องตัวเองรึไง”
“ท่านรู้จักลูกน้องแต่ผมก็รู้จักไอ้วัตดีเหมือนกัน มันแค้นผมที่ผมเหนือกว่ามัน มันพยายามทำงานให้ดีกว่าผม แต่มันทำไม่ได้ ท่านคิดว่าเงินซื้อคนไม่ได้เหรอครับ ถ้าท่านไม่ตาบอด ท่านก็ต้องเห็นว่างานของเราล้มเหลวเพราะไอ้วัต”
ประพจน์โกรธจัด “ผู้กองกฤษณ์มากไปแล้ว คุณกำลังดูถูกผู้บังคับบัญชา”
สิทธิชัยก็โกรธ “ขอโทษท่านผู้การประพจน์เดี๋ยวนี้”
“ผมพูดเรื่องจริง”
กฤษณ์ไม่ยอมเอ่ยขอโทษ ประพจน์ยิ่งโกรธจัด
“ผมสั่งพักงานคุณ”
กฤษณ์ตกใจ
ประพจน์ย้ำ “ลูกน้องที่ก้าวร้าว ไม่ฟังคำสั่งหัวหน้า จะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ผมต้องการความสามัคคี ต้องการทีมที่ดีที่สุด ไม่ใช่คนเก่งที่เข้ากับใครไม่ได้ เชิญ”
เจออย่างนี้เข้ากฤษณ์ถึงกับหน้าถอดสี ทุกคนในนั้นมองกฤษณ์เป็นตาเดียว กฤษณ์ฉุนจัดหันหลังเดินพรวดๆ ออกไปเลย
ประพจน์สีหน้านิ่ง สิทธิชัยมองลูกน้อง ทุกคนรีบกลับไปทำงานของตัวเอง
“ถึงไม่มีผู้กองภควัต ไม่มีสารวัตรกฤษณ์ เราก็จะกวาดล้างแก๊งวินิจให้ได้”
ประพจน์ยืนยันหนักแน่น ไม่เสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจลงไปแล้ว

กฤษณ์เดินเร็วรี่ออกมาในห้าง ด้วยความโมโห ผ่านเค้าน์เตอร์พนักงานขายน้ำหอมถือถาดเข้ามา
“ลองกลิ่นใหม่หน่อยมั้ยคะ”
“ไม่เอาโว้ย”
กฤษณ์ปัดถาดน้ำหอมกระเด็น เสียงดังลั่น ผู้คนที่กำลังเดินซื้อของพากันหันมามอง พนักงานขายถอยห่างไปท่าทีกลัวๆ
กฤษณ์หันไปมองเห็นทุกคนที่จ้องมา
“มองอะไรวะ”
ทุกคนหัวหดพากันกลัว รีบเดินหนี
“ในเมื่อกูทำดีไม่ได้ดี ต่อไปนี้ก็อย่ามีใครได้ดีกันอีกเลย”

สายตากฤษณ์ตอนนี้มีแต่ความร้ายกาจอาฆาตแค้น พร้อมจะตอบโต้ทุกคน

ฝ่ายอัญมายืนตรงหน้าวินิจ บนเรือนใหญ่ มีอธิคมยืนข้างรายงานพ่อ

“งานวันนี้เรียบร้อยดี ไม่มีอะไรผิดพลาด ของถูกขนไปส่งหมดแล้ว”
วินิจมองอัญมา
“โชคดีของแกนะ ไอ้อัญ ถ้าวันนี้มีตำรวจมาเกี่ยวอีกสักคน แกเป็นศพแน่”
อัญมามองวินิจอย่างสงบเสงี่ยม วินิจแค่ปรายตามองแล้วเดินออกไป
อธิคมหันมายิ้มกับอัญมา
“ต่อไปเธอก็มาที่นี่ได้เหมือนเดิมแล้ว”
อธิคมจับมืออัญมามากุม อัญมาอารมณ์ขุ่นมัว ไม่ยอมให้จับ
“งานพี่เสร็จแล้ว ฉันกลับบ้านได้หรือยัง”
อธิคมกำลังจะตอบ อัญมาไม่รอ หันหลังเดินออกไป อธิคมหน้าเศร้า

อัญมาเดินมาในชุมชน ตรงไปที่รถขายส้มตำของแม่ สัญชัยกำลังช่วยปิ้งไก่ มองเห็นก็เรียกทัก
“ลูกอัญมาแล้วลูกอัญ”
จิ๊บกับนวยที่กำลังนั่งกินส้มตำไก่ปิ้งหันไปมอง
อัญมาเดินมา อุบลกำลังตำส้มตำให้ลูกค้าถามขึ้น
“หายไปไนหมาทั้งวันไอ้อัญ”
“นั่นสิ พ่อร้อ...รอ นึกว่าลูกอัญจะมาช่วยขายของด้วยกัน” สัญชัยสาระแน
อัญมานั่งลงอย่างเหนื่อยๆ จิ๊บกับนวยย้ายมานั่งลงใกล้
“พ่อเลี้ยงแกกินยาลืมเขย่าขวดแน่ๆ ฉันเห็นมันทำงานตัวเป็นเกลียวเลยว่ะ”
อัญมามองไปที่พ่อเลี้ยงแสบ สัญชัยยิ้มกว้างปาดเหงื่อ
“ลูกอัญกินอะไร มาหรือยัง ลูก เดี๋ยวพ่อเอาไก่ชิ้นนี้ให้นะ ดูสิ พ่อปิ้งกับมือ หอม เหลืองเชียว”
“ไม่ต้องหรอก เก็บไว้ขายเถอะ ฉันไม่หิว”
สัญชัยพยายามเอาใจ “โธ่ พ่ออุตส่าห์เป็นห่วง”
“ไปกับลูกพี่บังมาหรือเปล่า อัญ” อุบลถาม
อัญมาลุกขึ้น ไม่อยากตอบคำถามแม่ ทุกคนมองเป็นตาเดียว
“ไม่ต้องรอกินข้าวนะ ฉันไปธุระ”
อัญมาพูดแล้วเดินออกไปเลย จิ๊บมองตาม
“อีแบบนี้ รับรองว่าทะเลาะกับไอ้พี่คมมาแน่ๆ”
“เจ๊อัญนี่แกอึดนะ เป็นแฟนพี่คมได้”
“อะไรของแกวะ ไอ้นวย”
“ก็เข้าตำราไง เป็นแฟนพี่ต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย”
จิ๊บขำน้องชาย สัญชัยหน้าตาเจ้าเล่ห์ ลอบฟังอย่างสนใจ

เย็นแล้วขณะอัญมาพาตัวเองมายืนหน้าประตูรั้วบ้านอรรณพ และ ภรณี
“ขอฉันเข้าไปพบคุณภรณีหน่อยเถอนะ บอกว่าฉันอัญมา ฉันอยากรู้ว่าคุณภรณีเป็นยังไงบ้าง”
ยามไม่ยอม “ไม่ได้ ห้ามเข้า”
“ฉันเคยมาที่นี่นะ จำฉันได้มั้ย”
ยามไม่ยอมรับรู้ท่าเดียว แถมไล่อัญมาอีกต่างหาก
“ไป ออกไป อย่าเกะกะหน้ารั้ว”
เสียงภรณีดังเข้ามา “มีอะไรกัน”
อัญมามองไปเห็นภรณีที่ลงมาตัดกุหลาบ มีกรรไกรและดอกกุหลาบในมือ
“คุณแม่”
อัญมามองไปเห็นภรณียิ้มอยู่ด้านใน มองตรงมาด้วยความดีใจเช่นกัน

“หนูอัญ”

ไม่นานต่อมา ภรณีเดินมาในบ้านกับอัญมาที่มีสีหน้ายิ้มแย้มดีใจ

“วันก่อน หลังจากมีเรื่องยิงขู่คุณ อัญมาหาครั้งนึงแล้วค่ะ อัญเป็นห่วงคุณสองคนมาก”
“ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้เราเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย รปภ.เค้าก็เลยไม่ปล่อยใครผ่านเข้ามาง่ายๆ”
“คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ”
“โถ หนูอัญ น่ารักจริงๆ รู้จักเป็นห่วงผู้ใหญ่”
อัญมายกมือไหว้ภรณี
“หนูขอโทษที่ทำให้คุณสองคนเดือดร้อน”
ภรณีประคองมืออัญมาที่ไหว้ ด้วยรอยยิ้ม
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ ฉันดีใจมากเลยที่วันนี้หนูมาที่นี่”
“ดีใจ...ทำไมเหรอคะ”
“เพราะฉันมีแขกพิเศษอีกคนไงล่ะ”
อัญมามองตามสายตาภรณีที่เหลียวไปมองอีกด้าน เห็นผู้กองภควัตเดินออกมา อัญมาตกใจไม่นึกว่าจะเจอเขาที่นี่
ภควัตกับอัญมามองสบตากันอย่างหมางเมิน

สองคนอยู่อีกมุมในคฤหาสน์ อรรณพมองภรณีที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดีอกดีใจ
“ดีใจล่ะสิ ที่คุณวัตมาเจอกับหนูอัญได้”
“ก็ต้องดีใจสิคะ ไม่เรียกว่าพรหมลิขิตแล้วจะเรียกอะไร สองคนนั่นใจตรงกันมาหาเราพร้อมๆ กันที่นี่ วันนี้”
“แต่อัญมาเค้ากำลังจะแต่งงาน เมื่อกี้ที่คุณวัตคุยกับผม ก็น้ำเสียงไม่ค่อยสบายใจ คุณวัตบอกว่าอาจจะช่วยงานที่ลานกีฬาไม่ได้เหมือนก่อน เค้าสองคนต้องมีเรื่องกินใจกันแน่ๆ คุณวัตท่าทางเหมือนจะถอยออกไปเอง”
“ฉันไม่ยอมหรอกค่ะ สองคนนี้สมกัน ฉันจะไม่ปล่อยให้หนูอัญไปแต่งงานกับคนที่ไม่คู่ควรอย่างนายอธิคม พ่อค้ายา”
อรรณพติง “เราไม่ใช่พ่อแม่เค้า ไปเจ้ากี้เจ้าการไม่ได้หรอก คุณภรณี”
“ฉันเอ็นดูหนูอัญถึงไม่ใช่ลูก ก็อยากได้เธอมาเป็นลูก แล้วหนูอัญเค้าก็รัก นับถือเรา จำได้มั้ยคะที่เค้าขอเรียกเราว่าคุณพ่อ คุณแม่”
อรรณพมองภรณี ยิ้มแย้มสีหน้าตื่นเต้น
“ฉันจะทำให้หนูอัญเลิกกับนายอธิคม แล้วกลับมาคืนดีกับคุณวัต”
อรรณพทักท้วง “จะดีเหรอคุณ เรื่องของเด็กๆเค้า”
“เรื่องของเด็กๆ ที่เราห่วงใยนะคะ ไม่รู้ล่ะ ถ้าเรารัก หวังดีกับคนสองคนนี้ เราก็ต้องให้เค้ากลับมาคืนดี ปรับความเข้าใจกันสิคะ”
ภรณียิ้มแววตาเป็นประกายมีความหวังว่าจะเป็นแม่สื่อให้ภควัตกับอัญมาดีกันจนได้

ในสวนสวยหน้าคฤหาสน์ ภควัตกับอัญมายืนกันห่าง สองคนเหลือบมอง แต่ไม่ยอมเข้าใกล้กัน
“เป็นยังไงบ้าง ท่าทางสบายใจดีนะ”
อัญมางอน กวนใส่ “ถามใคร ถ้าถามฉันก็ช่วยบอกด้วย”
“ไม่ต้องกวนผมหรอกอัญมา ไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ”
อัญมาเหลียวขวับ “นี่ผู้กอง ฉันไม่ได้มาหาคุณ ฉันมาหาคุณอรรณพกับคุณภรณี”
“มาดูผลงานฝีมือเจ้าบ่าวล่ะสิ” ภควัตแขวะเอา
“ใช่...ฉันมีความรับผิดชอบ รู้จักขอโทษ รู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ ฉันก็มาขอโทษ”
ภควัตประชด “ดี... แล้วบอกเจ้าบ่าวของคุณด้วยให้ระวังตัว โชคดีอย่างวันนี้ มันไม่ได้มีบ่อยๆ ครั้งหน้าอธิคมจะถูกใส่กุญแจมือ”
อัญมาเอะใจคำพูดภควัต ถามขึ้น
“คุณรู้เรื่องวันนี้ที่ตึกร้าง”
ภควัตไม่ยอมตอบแถมจะเดินหนี อัญมาตามมาดึงแขนไม่ให้ภควัตไป
“คุณรู้ทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจไปที่นั่นใช่มั้ยคุณหรือเปล่าที่ไป”
“ผมไม่ได้ไป วันนี้เป็นงานของสารวัตรกฤษณ์”
“แล้วทำไมฉันไม่เห็นตำรวจสักคน ไม่เห็นสารวัตรกฤษณ์ คุณช่วยฉันอีกหรือเปล่า”
“ผมไม่ได้ช่วยคุณ” ภควัตปากแข็งตอบอย่างเย็นชา ปิดบังความรู้สึก “ผมไม่จำเป็นต้องช่วยคุณอีกแล้ว”
อัญมาน้อยใจนัก ปล่อยมือจากภควัต
“ก็ดี... จะได้ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณ หนี้ชีวิตกันไม่รู้จักจบจักสิ้น”
“ตำรวจยอมถอยเพราะเห็นคุณอยู่ด้วย แต่คราวหน้า เค้าจะไม่ถอยอีกแล้ว ตำรวจจะจับอธิคมให้ได้ ถ้ารักชีวิตตัวเอง ก็คิดซะตั้งแต่ตอนนี้ ว่าควรจะทำยังไงหรือถ้าจะหน้ามืดตามัวอยากแต่งงาน ก็เอาป้าอุบลออกมาจากที่นั่นก่อน คุณไม่ห่วงชีวิตตัวเอง ก็ช่วยห่วงชีวิตแม่บ้าง”
อัญมาโกรธ “อย่ามาสั่งว่าฉันต้องทำอะไร ชีวิตฉันกับแม่ เราไม่ต้องให้คุณมายุ่ง”
“ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายชีวิตคุณ ผมต่างหากที่เป็นหนี้ชีวิตพ่อคุณอยู่ อัญมา ผมไม่เคยนอนหลับตั้งแต่วันที่พ่อคุณถูกยิงเพื่อช่วยผม ฝันร้ายมันหลอกหลอนผมทุกคืน จนกระทั่ง...”
ภควัตหยุดไปเองเฉยๆ อัญมามองสงสัย
“จนกระทั่งผมมาเจอคุณ ผมรู้ว่าหนี้ชีวิตของผมต้องชดใช้ให้คุณกับป้าอุบลทางไหนทำได้ ผมก็จะทำ ถึงคุณรังเกียจ ผมก็ต้องทำ”
“เพราะบุญคุณของพ่อฉันล่ะสิ”
“ใช่...เพราะบุญคุณของพ่อคุณอย่างเดียว ระหว่างเรา ไม่มีความรู้สึกอื่นเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”

ภควัตยืนยันหนักแน่น อัญมาได้ฟังก็ยิ่งน้อยใจ

กลางดึกคืนนั้นกฤษณ์อยู่ในคอนโด กำลังยืนคุยมือถือ มองผ่านประตูห้องนอนที่เปิดอยู่ เห็นสุคนธรสที่กำลังหลับอยู่บนเตียง

“ผมทราบว่าท่านเป็นเพื่อนกับนายวินิจ รู้จักสนิทสนมกันอย่างดี ผมมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องทะลายแก๊งนายวินิจหลายเรื่อง...แบบลับสุดยอด... เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนของท่าน”
เสียงจากปลายสายเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตอบกลับมา กฤษณ์ฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ใจเย็น วางเบ็ดล่อ
“ผมไม่เรียกร้องอะไรหรอกครับ ก็แล้วแต่ท่านจะกรุณา เมตตา เห็นว่าสิ่งที่ผมเอาบอกมา มีค่ามากแค่ไหน”
กฤษณ์ยิ้ม ฟังปลายสายอีกครู่แล้วตอบกลับไป
“ให้ผมช่วยเป็นหูเป็นตาน่ะเหรอครับ ถ้าท่านต้องการ ผมก็ยินดีครับ”
กฤษณ์ตอบไปด้วยแววตาละโมบ
“ผมยินดีจะทำงานให้ท่าน ช่วยส่งข้อมูลที่จะช่วยให้เพื่อนของท่าน นายวินิจรอดจากการถูกจับ แล้วผมจะติดต่อมาใหม่นะครับ”
กฤษณ์วางสายเดินกลับเข้าไปในห้อง นั่งลงที่ข้างเตียง สุคนธรสงัวเงียตื่น พลิกตัวมามอง
“ดึกป่านนี้ คุยกับใคร”
“ผมคุยเรื่องงาน”
“แน่ใจนะว่าไม่ใช่ผู้หญิง”
กฤษณ์ก้มลงจูบที่หัวไหล่สุคนธรส
“รับรองว่าไม่มี ผมกำลังทำเพื่ออนาคตของเรา”
สุคนธรสฉงน “อนาคต”
“คุณอยากให้ผมซื้อเรือนหอไม่ใช่เหรอ”
สุคนธรสดีใจ ลุกพรวด
“จริงเหรอคะกฤษณ์ คุณจะซื้อบ้านให้รสจริงๆ ใช่มั้ย”
“คุณไปเลือกแบบได้เลย ไม่เกินอาทิตย์หน้า ผมต้องได้เงินค่าเหนื่อยของผม”
“คุณจะได้เงินมาจากไหน” สุคนธรสสงสัย
กฤษณ์ปัด “ไม่สำคัญหรอกว่าผมจะได้มาจากไหน ขอแค่ให้มันก้อนใหญ่ พอที่จะซื้อความสุขของคุณกับผมได้”
สุคนธรสยิ้มแย้มดีใจ ทั้งกอดทั้งหอมกฤษณ์
“รสเลือกรักผู้ชายไม่ผิดจริงๆ”
สุคนธรสซบลงในอกกฤษณ์ที่มองไปเบื้องหน้าด้วยแววตาอันร้ายกาจ พร้อมจะขายความลับราชการเพื่อเงิน

คืนเดียวกันนี้ ภควัตกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านหลังเล็ก สีหน้าภควัตอึดอัดคล้ายฝันร้าย เขาฝันเห็นภาพตอนสู้กับอธิคมที่ริมทะเลอีกครั้งแล้ว
ภควัตเหงื่อแตก ลุกพรวดขึ้น รู้สึกเหมือนเหตุการณ์นั้นต้องเกิดขึ้น

“อธิคม...ไม่แกก็ฉัน ...ต้องตายกันไปข้างนึง”

อ่านต่อตอนที่ 12
คีตโลกา ตอนที่ 10
คีตโลกา ตอนที่ 10
ที่หน้าร้านเสริมสวยเจ๊ว่านในชุมชนตอนนี้ อธิคมจ้องสุคนธรสด้วยสายตาอันน่ากลัว โดยมีแอนนี่ และเจ๊ว่านคอยมองดูอย่างสงสัย “รู้จักไอ้วัตได้ยังไง” อธิคมเดินเข้าหา สุคนธรสมองจ้องอธิคมตอบโดยไม่เกรงกลัว “บอกสิ ไอ้วัตมันเป็นใคร รู้จักกันที่ไหน” อธิคมคาดคั้น “ฉันไม่ใช่ลูกน้องแกนะ ทำไมชั้นต้องตอบแกด้วย” อธิคมโกรธจัด คว้าแขนสุคนธรสมาบีบอย่างแรงทันที สุคนธรสร้อง “โอ๊ย” เจ๊ว่านสอดขึ้น “นังหน้าขาว ปากรนหาที่แล้วนะ ไม่รู้หรือไงว่าพูดอยู่กับใคร” แอนนี่เสริม “นี่พี่คม ลูกชายพี่บังนะยะ” “พี่บังน่ะ คนใหญ่คนโตที่นี่ ไม่รู้จักหรือไง” เจ๊ว่านว่า สุคนธรสไม่สน
กำลังโหลดความคิดเห็น