xs
xsm
sm
md
lg

คีตโลกา ตอนที่ 10

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คีตโลกา ตอนที่ 10

ที่หน้าร้านเสริมสวยเจ๊ว่านในชุมชนตอนนี้ อธิคมจ้องสุคนธรสด้วยสายตาอันน่ากลัว โดยมีแอนนี่ และเจ๊ว่านคอยมองดูอย่างสงสัย

“รู้จักไอ้วัตได้ยังไง”
อธิคมเดินเข้าหา สุคนธรสมองจ้องอธิคมตอบโดยไม่เกรงกลัว
“บอกสิ ไอ้วัตมันเป็นใคร รู้จักกันที่ไหน” อธิคมคาดคั้น
“ฉันไม่ใช่ลูกน้องแกนะ ทำไมชั้นต้องตอบแกด้วย”
อธิคมโกรธจัด คว้าแขนสุคนธรสมาบีบอย่างแรงทันที
สุคนธรสร้อง “โอ๊ย”
เจ๊ว่านสอดขึ้น “นังหน้าขาว ปากรนหาที่แล้วนะ ไม่รู้หรือไงว่าพูดอยู่กับใคร”
แอนนี่เสริม “นี่พี่คม ลูกชายพี่บังนะยะ”
“พี่บังน่ะ คนใหญ่คนโตที่นี่ ไม่รู้จักหรือไง” เจ๊ว่านว่า
สุคนธรสไม่สน “พี่บงพี่บังอะไรของแก ฉันไม่รู้จัก ปล่อยนะ”
อธิคมบีบแขนสุคนธรสแรงขึ้นอีก จ้องหน้าราวกับจะกินเลือดเนื้อ จนสุคนธรสชักรู้สึกกลัวสายตาของเขา
“โอ๊ย! เจ็บนะ”
“ฉันถาม แกก็ตอบมา แกรู้จักไอ้วัตได้ยังไง”
สุคนธรสโพล่งขึ้น “ก็วัตเค้าเป็น...”
อธิคมจ้องสุคนธรสคาดคั้นหนัก “เป็นอะไร...”
“ก็...เป็นคนดูแลลานกีฬาของคุณอรรณพน่ะสิ”
สุคนธรสสะบัดแขนออกจากอธิคมที่มีสีหน้าผิดหวัง คิดว่าจะได้คำตอบดีกว่านี้
“นี่แก... เรื่องนี้เค้ารู้กันทั้งชุมชน ไอ้ด่างไอ้ดำ หมาแมวมันยังรู้เลย แกจะมาพูดทำไม” เจ๊ว่านแว้ดใส่
สุคนธรสทำท่าเชิดใส่เจ๊ว่าน กลบเกลื่อน
“อ้าว แล้วจะให้ชั้นตอบว่าอะไร คิดว่าชั้นรู้จักวัตในฐานะอะไร บ้าเหรอ คนระดับนั้น... ชั้นยอมทำงานด้วย ก็เป็นบุญแล้ว”
สุคนธรสข่มความกลัว เชิดหน้าหันไปมองอธิคมอีก
“ถ้าแกโกหกฉัน...แก” อธิคมขู่
“อย่ามาขู่ ชั้นไม่กลัวแกหรอกนะ ไม่ว่าแกจะเป็นลูกใคร ชั้นบอกเลย คนอย่างสุคนธรส ไม่เคยกลัว !”
พูดจบสุคนธรสก็สะบัดหน้าเดินออกไปโดยเร็ว อธิคมมองตามตาวาววับ แอนนี่หมั่นไส้รีบพูดขึ้น
“แหม...พี่คม มองตามตาไม่กระพริบเลยนะ...นี่แค้นหรือว่าชักจะติดใจ”
“ระวังจะไม่มีปากไว้พูดอีก”
อธิคมหันมองดุ แอนนี่ค้อนควักใส่อธิคม เจ๊ว่านมองตามสุคนธรสอย่างหมั่นไส้
“นังนี่มันน่าตบนะ กล้ามาผยองใส่พี่คม ไม่รู้ซะแล้วที่นี่ ใครคุม”
อธิคมมองตาม เสียดายที่ไม่ได้เรื่องคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับภควัตจากสุคนธรส
สุคนธสเดินเร็วรี่มาในชุมชน สีหน้าแววตายังตกใจไม่หาย
“เกือบไปแล้ว ถ้าอธิคมจับได้ ตายแน่ๆ เรา นี่นะเหรอ อธิคม ที่กฤษณ์กับวัตกำลังจะรวบตัว หน้าตาก็ดีไม่น่าเลวเลย”
สุคนธรสมัวแต่คิดเรื่องอธิคม เดินไม่ทันระวังทาง นวยที่กำลังขับรถมอเตอร์ไซค์มา เห็นสุคนธรสขวางทาง ก็บีบแตรรีบเบรคแทบไม่ทัน สุคนธรสตกใจด่าทันควัน
“ว้าย! ไอ้บ้า ขับรถประสาอะไร”
นวยฉุนกึก “อ้าว...ทำไมต้องด่ากันด้วยเจ๊ ก็ขับประสาคนน่ะสิ แล้วเจ๊น่ะเดินประสาอะไร ถนนนะไม่ใช่ห้าง จะได้เดินหน้าตั้ง ไม่มองใคร ดูรถมั่งสิเจ๊”
สุคนธรสโกรธ “อย่ามาเรียกฉันเจ๊นะ ทะลึ่ง”
“จะให้เรียกอะไรละเจ๊ ป้า...หรือน้า”
นวยแกล้งพูดเสียงดัง ผู้คนในชุมชนที่เดินไปมาเริ่มสนใจ สุคนธรสเห็นท่าไม่ดี
“ไม่ต้องเรียกอะไรทั้งนั้น ฉันไม่รู้จักแก คนแถวนี้ไม่ไหวเหมือนกันหมด ไม่มีมารยาท”
สุคนธรสเดินเชิดออกไป นวยแกล้งส่งเสียงหัวเราะตามหลัง สุคนธรสรีบเดินจ้ำพาตัวเองให้พ้นๆ ไปจากที่นั้น

ขณะเดียวกันในโถงคฤหาสน์ใหญ่โตของบ้านอริยะวงศ์ อัญมานั่งอยู่ตรงหน้าคุณหญิงวรจันทร์ ด้วยสีหน้าสงบเสงี่ยม วรจันทร์เยื้อนยิ้มมองมา
“ที่จริงเธอก็ยังเจ็บแผลอยู่ รอให้ดีขึ้นค่อยคุยกันก็ได้ อัญมา”
“ไม่เป็นไรค่ะ แผลแค่นี้ อัญทนได้”
“มิน่า ตาวัตเค้าถึงชื่นชมเธอมาก เพราะเธอเข้มแข็ง ไม่ทำตัวน่ารำคาญ”
“ที่จริงผู้กองเค้าก็รำคาญอัญค่ะ แต่ว่ายังต้องใช้อัญทำงานให้ ก็เลยต้องทน”
อัญมายิ้มออกไป วรจันทร์มองอย่างเป็นกันเองมากขึ้น
“เธอนี่เป็นคนฉลาดนะ”
อัญมามองวรจันทร์ที่ชมจากใจจริง
“อ่อนน้อม ถ่อมตัว”
อัญมาแค่ยิ้มรับบางๆ วรจันทร์มองอัญมาแล้วถามเรื่องที่เตรียมมาพูดโดยเฉพาะ แต่ถามอ้อมๆ
“ช่วยตาวัตเรื่องคดีนี้จบแล้ว คิดหรือยังว่าต่อไปจะทำยังไง”
“คุณหญิงหมายถึงว่า อัญจะทำงานให้ตำรวจอีกหรือเปล่า ใช่มั้ยคะ”
“ฉันรู้ว่างานของเธอมันเสี่ยง ถ้าถูกจับได้ เธอกับครอบครัวก็อาจจะเป็นอันตราย ถ้าเทียบกับเงินรางวัล หรือเบี้ยเลี้ยงที่จะได้รับ มันคงไม่คุ้ม”
“อัญทำงานให้ผู้กองเพราะความพอใจค่ะ”
วรจันทร์ฟังแล้วนิ่วหน้าสงสัย อัญมาตอบอย่างเชื่อมั่นในตัวเอง
“ความพอใจของอัญคือ ได้ทำตัวให้มีค่า สมกับที่ได้เกิดมามีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่น”
วรจันทร์ฉงน “โอกาสที่ดี...ขอโทษนะ ฉันรู้จากภควัตว่าเธอเคยติดยา”
“ค่ะ อัญเคยติดยา” อัญมาตอบด้วยรอยยิ้มมั่นใจ “อัญเคยติดยา เคยผิดพลาดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เคยทำให้แม่ คนที่รักอัญที่สุดต้องทุกข์ทรมานใจ เพราะหลงผิด อยากรู้อยากลอง คิดว่ายาจะช่วยให้หนี
ไปจากความทุกข์ แต่มันกลับยิ่งทำให้อัญจมลงไปในนรก จนได้ผู้กองภควัตที่ช่วยฉุดอัญขึ้นมา”
วรจันทร์นิ่งฟัง อัญมาพูดต่อ
“ผู้กองช่วยพาอัญไปรักษาค่ะ ช่วยดึงอัญขึ้นมาจากความทุกข์ ให้โอกาสที่อัญจะมีชีวิตใหม่ โอกาสที่อัญจะได้เอาความผิดพลาด มาเปลี่ยนเป็นประโยชน์ช่วยเหลือคนอื่น ถ้าแก๊งของพี่บังถูกจับ คนในชุมชนและเด็กๆ อีกหลายคนที่อัญเคยขายยาให้ ก็จะหลุดจากขุมนรกเหมือนที่อัญหลุดพ้นมาแล้ว เวลาอยากยา...เวลาลงแดง...มันทรมานแค่ไหน อัญรู้ซึ้งในรสชาติของมันดี”
“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมตาวัตถึงเลือกเธอให้ช่วยงานสำคัญ เธอเป็นคนกล้า มีสำนึกที่ดี คนเราแค่คิดได้และรู้ตัวว่าทำดีหรือชั่วอยู่แค่นี้ก็นับว่าใช้ได้”
วรจันทร์อดทึ่งไม่ได้ ชมอัญมาอีก อัญมายิ้มบางๆ ตามเคย
ภควัตเดินเข้ามาในบ้าน มองเห็นอัญมานั่งอยู่กับวรจันทร์ก็ดิ่งเข้ามาหา
“อัญมา ลงมาทำไม”
อัญมา และวรจันทร์หันไปมอง ภควัตเดินเร็วมาใกล้
“ยังไม่หายดี ลุกมาแบบนี้ แผลจะหายช้า รู้หรือเปล่า”
อัญมามองด้วยสีหน้าเกรงใจวรจันทร์
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกน่า ผู้กอง แค่แผลถูกแทงจึ๊กเดียว ไม่เห็นต้องโวยเลย”
วรจันทร์ออกตัว “ป้าชวนอัญมาเค้ามานั่งคุยเอง”
คุณหญิงลุกขึ้น อัญมาลุกขึ้นตามมารยาท แต่ลุกเร็วจนเจ็บแผลแปลบ ต้องกุมท้อง
“โอ๊ย”
ภควัตพุ่งเข้าไปประคองทันที ไม่สนใจว่าวรจันทร์กำลังลังยืนมองจับสังเกตอยู่
อัญมาหันมาเห็นสายตาวรจันทร์ก็ดันภควัตออก
“ไม่เป็นไร ฉันเดินไหว”
ภควัตไม่ฟัง “ไหวยังไง เมื่อกี้ยังร้องลั่นอยู่เลย”
“บอกว่าไหว ก็ไหวสิน่า”
“ปากแข็ง”
คุณหญิงร้องเรียกเสียงดัง “มาลัย มาลัย”
มาลัยเดินเร็วออกมา
“ช่วยพยุงคุณอัญมาขึ้นไปพักก่อน”
มาลัยเข้าไปพยุงอัญมาออกไป ภควัตมองตาม พอหันมาเห็นสายตาวรจันทร์ที่มองสังเกต แล้วยิ้มเจื่อนๆ บอกเสียงอ่อยๆ
“ผมกลัวอัญมาเค้าจะหายช้าน่ะครับ”
“ป้านึกว่าวัตดีใจที่อัญมาจะได้อยู่ที่นี่นานๆ”
วรจันทร์มองหลานชายอย่างรู้ทัน ภควัตยิ้มเขินๆ

อัญมานั่งลงบนเตียง มีมาลัยช่วยพยุง
“ขอบใจมากจ้ะ”
มาลียิ้มรับแล้วเดินออกไป ภควัตเดินสวนเข้ามาในห้อง
“เข้ามาทำไม บอกแล้วว่าฉันไม่เป็นอะไร”
ภควัตไม่สนใจเดินมานั่งใกล้อัญมา
“อย่าบ่นน่ะ พูดมากเดี๋ยวแผลฉีก”
อัญมาค้อนควัก ภควัตอมยิ้ม
“ที่ชุมชนเป็นยังไงบ้าง”
“นายวินิจสั่งหาตัวคุณ เค้าไม่เชื่อว่าคุณจะหายไปเฉยๆ”
“ยังไงฉันก็ถูกพี่บังหมายหัวแล้ว ที่จริงตอนยิงกันในผับ คุณไม่น่าช่วยฉันเลย”
“ผมจะปล่อยให้คุณเป็นอันตรายได้ยังไง อัญมา”
ภควัตทอดเสียงนุ่มเลื่อนมือมากุมมืออัญมาไว้ อัญมามองเขิน
“ผมบอกแล้วว่าผมจะปกป้องคุณ”
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก คนอย่างฉัน...ตายยาก”
ภควัตขยับเข้าใกล้ เอานิ้วปิดปากไม่ให้อัญมาพูดต่อ
“อย่าพูดอีก รู้มั้ยว่าตอนที่ผมเห็นคุณถูกแทง ผมกลัวแค่ไหน”
ภควัตบีบมืออัญมาแน่น อัญมามองภควัตที่มองทอดสายตาห่วงใย
“ผมไม่มีวันทนได้ ถ้าต้องอยู่โดยไม่มีคุณ”
“ผู้กองภควัต”
อัญมาใจเต้นแรงมองมา ภควัตมองจ้องแล้วโน้มหน้าจูบลงที่หน้าผากแผ่วเบา อัญมามองสบตาเขาด้วยความเขินอาย ภควัตแตะหน้าผากตัวเองกับหน้าผากอัญมา
“อย่าทิ้งผมไปไหนนะ อัญมา คุณมีความหมายกับผม”

ภควัตขยับมอง สองคนสบตาซึ้ง ยิ้มให้กันด้วยความรู้สึกในใจที่ไม่ต่างกัน

เย็นนั้น ด้วยท่าทีของภควัตที่แสดงออกชัดแจ้งว่าชอบอัญมา สร้างความหนักใจแก่คุณหญิงวรจันทร์ซึ่งยืนเครียดอยู่ในห้องนั่งเล่น ใช้ความคิดหนัก มีขวัญอนงค์เดินไปเดินมา บ่นขึ้นอย่างไม่พอใจ

“น้องไม่ยอมมีพี่สะใภ้เป็นอดีตคนติดยานะคะ”
วรจันทร์ปราม “ยายน้อง...คนทำผิดแล้วกลับตัวได้ เราก็ต้องให้โอกาส ไม่ใช่ไปซ้ำเติม คนเราไม่ว่าจะผิดพลาดมาขนาดไหน ก็ต้องการกำลังใจเพื่อจะเริ่มชีวิตใหม่ๆทุกคน อัญมาก็เหมือนกัน”
ขวัญอนงค์ฮึดฮัด “ก็ให้อัญมาไปหากำลังใจ หาชีวิตใหม่จากที่อื่นสิคะ ไม่ใช่จากพี่วัตของเรา หรือคุณแม่จะยอมมีหลานสะใภ้อย่างอัญมา ผู้หญิงที่มีประวัติติดยา แถมยังขายเองอีกด้วย ไหวเหรอคะคุณแม่ เค้าจะหลอกพี่วัตเพื่อตัวเค้าเองหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“เรื่องนี้แม่ก็ไม่สบายใจอยู่เหมือนกัน แต่เท่าที่แม่สังเกตเห็น มันไม่ใช่อัญมาที่หลอกตาวัตหรอก ตาวัตต่างหากที่หลงรักอัญมา”
“แต่เค้าไม่คู่ควรกับพี่วัต ถ้าคุณแม่กลัวเสียผู้ใหญ่ น้องก็จะพูดเอง”
“ใจเย็นๆ ลูก เรื่องแบบนี้หักด้ามพร้าด้วยเข่าไม่ได้นะลูก พี่ชายเราน่ะเหมือนใครที่ไหน ถ้ารู้ว่าเรากีดกัน แล้วเกิดพาอัญมาหนีไปอยู่ที่อื่น แต่งงาน จดทะเบียน อยู่กินกันขึ้นมา จะว่ายังไง”
“ไม่ได้ค่ะ น้องไม่ยอมเด็ดขาด ผู้หญิงที่เหมาะสมกับพี่วัตมีตั้งเยอะ อัญมาเค้าไม่ใช่คนสังคมระดับเดียวกับเรานะคะ เค้าอาจจะดี แต่ไม่ใช่สำหรับพี่วัต น้องไม่ยอมให้พี่วัตคบกับอัญมา”
“แม่รู้ แม่ถึงกลุ้มอยู่นี่ไง”
“ไม่รู้ล่ะ คุณแม่ต้องจัดการเรื่องนี้ด่วนที่สุด ก่อนที่พี่วัตจะคิดแต่งงานกับอัญมาขึ้นมาจริงๆ”
วรจันทร์ฟังแล้วยิ่งกลุ้ม

ผู้กองภควัตทำตามหัวใจตัวเอง เวลานี้กำลังป้อนข้าวต้มให้อัญมา แล้วเอาทิชชู่เช็ดปากให้ อัญมาดึงมือห้ามภควัต
“พอแล้วผู้กอง อย่าทำอะไรให้ฉันนักเลย”
“ไม่ได้...คุณต้องเจ็บตัวเพื่อช่วยผม ผมต้องดูแลคุณ”
“ก็ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก จนถึงกับกินข้าวเองไม่ได้นี่นา”
“ก็ผมอยากป้อนคุณนี่”
ภควัตตอบกวนๆ อัญมามองค้อน
“คุณนี่...กวนประสาท”
ภควัตวางจานข้าวต้ม แล้วหันมองอัญมา
“ทำไมต้องห้ามไม่ให้ผมทำอะไรให้คุณด้วย ผู้หญิงชอบให้ผู้ชายเอาใจไม่ใช่เหรอ”
“ยกเว้นฉัน”
“ไม่มีข้อยกเว้น เพราะผมอยากเอาใจคุณ”
“รู้สึกผู้กองจะรู้ใจผู้หญิงจริงนะ มีผู้หญิงมาให้เอาใจบ่อยละซิ”
ภควัตมองยิ้มขำๆ “หึงเหรอ”
“บ้าเหรอ ฉันจะหึงผู้กองทำไม”
“ไม่หึงแน่นะ”
อัญมามองภควัตด้วยสายตาเขินๆ ภควัตยิ้ม ตักข้าวต้มให้
“กินเยอะๆ คุณน่ะผอมไปแล้ว”
อัญมาแกล้งเม้มปากแน่นไม่ยอมกิน ภควัตเลยแกล้งกินเอง อัญมาหัวเราะ
ในโมงยามนี้ภควัตกับอัญมาใกล้ชิดกัน และยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

ขณะเดียวกัน อธิคมเดินมาหยุดมองหน้าบ้านอุบลที่ปิดเงียบ แอนนี่เดินมาด้านหลัง
“บ้านปิดเงียบ ไอ้สัญชัยก็หายหัวไปด้วย คงอยู่บ่อนไหนสักบ่อน พี่เป็นแฟนไอ้อัญ ทำไมไม่รู้มันหายไปไหน”
อธิคมฉุน “ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
“ไอ้อัญมันไม่รักพี่จริงหรอก”
อธิคมหันขวับมองแอนนี่นัยน์ตากร้าว
“หน้าอย่างไอ้อัญ มันก็ดีแต่ยั่วให้ผู้ชายหลง แล้วก็จะฆ่ากันตาย มันจะได้ดูมีค่า โธ่เอ๊ย ไม่ดูสารรูปตัวเองบ้างเลย”
อธิคมคว้าคอแอนนี่มาบีบจนแอนนี่ตาเหลือก
“อย่าให้ฉันได้ยินว่าเธอว่าแฟนฉันอีก ถ้ายังอยากหายใจอยู่”
แอนนี่ รีบพยักหน้าเพราะหายใจไม่ออก อธิคมจึงปล่อยมือ แอนนี่รีบถอยห่าง
“โอ๊ย แคก...แคก...พี่คมอ่ะ”
อธิคมจ้องแอนนี่ด้วยแววตาน่ากลัวก่อนเดินออกไป แอนนี่มองค้อน คลำคอด้วยความสยอง
“อู๊ย...ไอ้พี่คมบ้า”

รุ่งเช้า อัญมาค่อยๆ เดินออกมาในสวนสวย มองไปรอบบริเวณสูดอากาศอย่างสดชื่น ด้านหลังมีมาลัยคอยดูอยู่ สักครู่หนึ่งขวัญอนงค์เดินออกมาเห็นอัญมาแล้ว มาลัยมองนายสาวแล้วฉากหลบถอยออกไป
อัญมามองขวัญอนงค์แล้วยิ้มทัก
“คุณน้อง”
“ท่าทางเธอดีขึ้นแล้วนะ อัญมา”
อัญมารับรู้จากน้ำเสียงขวัญอนงค์ว่าไม่ค่อยพอใจแต่ก็ยังยิ้มให้
“ค่ะ ค่อยยังชั่วแล้ว อยากจะกลับบ้านแล้วละค่ะ อยู่ที่นี่รบกวนคุณหญิงกับคุณน้อง เกรงใจจะแย่แล้ว”
“พวกเราไม่ได้ใจร้ายขนาดไล่เธอหรอกนะ ก็รู้ว่าเธอสำคัญกับงานพี่วัต”
“ค่ะ ฉันกับผู้กอง เราเกี่ยวข้องกันเพราะงาน...แค่นั้น”
ขวัญอนงค์มองอัญมาอย่างพิจารณา
“พี่วัตเป็นผู้ชายที่ดี มีอนาคตรออยู่ คุณพ่อเองก็อยากให้พี่วัตทำงานการเมืองเธอก็คงเข้าใจนะ ว่าทุกอย่างสำหรับพี่วัต มันต้องเพอร์เฟ็คท์ สมบูรณ์ที่สุด ไม่มีอะไรด่างพร้อย”
อัญมาอึ้งไป เมื่อขวัญอนงค์พูดตรงๆ
“พี่วัตคงไม่เคยเล่าล่ะสิ ว่าเพื่อนๆ ของฉันหลายคน เคยไปทานข้าวกับพี่วัต”
“ไม่เคยค่ะ ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาเล่าให้ฉันฟังนี่คะ”
“นั่นซินะ พี่วัตเค้าคนมีเสน่ห์ แต่ก็เลือกเยอะ เลยไม่ควงใครเป็นตัวเป็นตนซะที”
อัญมานิ่ง ขวัญอนงค์ทำเป็นเสียงอ่อนลง
“ตั้งแต่อกหักจากแฟนคนเก่า ก็ไม่เห็นพี่วัตจริงจังกับใครอีก คงเข็ดน่ะ”
“เหรอค่ะ” อัญมาตามน้ำไปไม่อยากทำลายบรรยากาศ
ขวัญอนงค์แกล้งตีซี้ทำเสียงสนิทสนมกับอัญมา
“เธอคงไม่ได้ชอบพี่วัตอยู่หรอกใช่มั้ย แล้วสาวๆ ในชุมชนที่เธออยู่ล่ะ มีใครจีบพี่วัตบ้าง”
“ไม่รู้ซิคะฉันไม่ได้สนใจ แต่ถึงมีผู้กองคง...ไม่จริงจังกับใครอย่างที่คุณน้องบอก เค้าก็ดีกับทุกคน”
“นั่นแหละพี่วัต ทำดีกับทุกคน ฉันก็ไม่คิดหรอกนะว่าพี่วัตจะทำดีเพราะเรื่องงานอย่างเดียว แต่ก็อย่างว่า... พี่วัตน่ะเค้าบ้างาน ทำได้เพื่องานทุกอย่าง ไม่รู้มีหัวใจไว้รักใครจริงหรือเปล่า ฉันกับคุณแม่เป็นห่วงพี่วัตเรื่องนี้มาก คนที่จะมารักษาแผลใจให้พี่วัตได้ จึงต้องผ่านการพิจารณาจากฉันและคุณแม่เสียก่อน...ไม่กวนเธอแล้วตามสบายนะ”
ขวัญอนงค์เดินกลับเข้าบ้านไป ทิ้งให้อัญมายืนนิ่งงันสีหน้าสับสน เริ่มไม่แน่ใจวามสัมพันธ์กับภควัต

ในห้องนอนที่ม่านปิดมืด ภควัตนอนหลับอยู่บนเตียง กำลังฝันร้ายถึงตอนพ่อแม่และพี่สาวถูกยิง สีหน้าภควัตอึดอัดทรมาน
อัญมาเดินเข้ามาในบ้านภควัต มองไปรอบๆ เห็นรูปภควัตกับวรจันทร์ อภิกานต์ ขวัญอนงค์
โดยไม่มีรูปกับผู้หญิงคนอื่นๆ เลยคำพูดขวัญอนงค์ดังก้องขึ้นในหู
“พี่วัตน่ะเค้าบ้างาน ทำได้เพื่องานทุกอย่าง ไม่รู้มีหัวใจไว้รักใครจริงหรือเปล่า ฉันกับคุณแม่เป็นห่วงพี่วัตเรื่องนี้มาก คนที่จะมารักษาแผลใจให้พี่วัตได้จึงต้องผ่านการพิจารณาจากฉันและคุณแม่เสียก่อน”
อัญมาหน้าเสียเมื่อนึกถึงคำพูดนี้ของขวัญอนงค์
“ผู้กอง ผู้กอง”
อัญมาเรียกขึ้น แต่ไม่มีเสียงตอบจากภควัต
ด้วยภควัตกำลังด่ำดิ่งอยู่ในฝันร้าย สีหน้าอึดอัด เขาฝันถึงตอนที่ รัตน์ เรืองเดช พ่อของอัญมา เข้ามาช่วยชีวิตไว้
อัญมาเดินมาหยุดมองไปยังกรอบรูปบนโต๊ะวางของโชว์ มีรูปต่างๆ ของภควัตตั้งไว้ ถัดมาคือแฟ้มเอกสาร อัญมาหยิบรูปภควัตมามอง แล้วยิ้มเศร้าๆ
“ที่คุณเอาใจฉัน ก็คงเพราะเรื่องงานของคุณ”
อัญมาวางรูปกลับลงไปที่เดิม แต่เหมือนบางสิ่งเหนือธรรมชาติที่เชื่อมภควัตกับอัญมาไว้ อยู่ๆ อัญมารู้สึกเกิดเจ็บแผล
“โอ๊ย...เจ็บ”
อัญมากุมท้อง อีกมือพยายามจับขอบโต๊ะ พยุงร่างไว้
ด้านภควัตนอนกระสับกระส่าย ฝันถึงตอนที่ รัตน์ เรืองเดช ถูกยิงเพราะเข้ามาช่วยตัวเองซ้ำๆ
ฝ่ายอัญมาเกิดเจ็บแผลอย่างรุนแรง ร้องคราง ตัวงอ มือหนึ่งแตะที่ท้อง อีกมือควานหาที่ยึดพยุงร่าง
“ทำไมต้องมาเจ็บตอนนี้”
มืออัญมาที่พยายามยึดร่าง ปัดไปโดนกรอบรูปภควัตหล่น แล้วกวาดไปโดนแฟ้มที่วางอยู่หล่นลงพื้น อัญมายึดร่างไว้ไม่ไหว ทรุดลงกับพื้น
“โอย”
อัญมาเอื้อมมือไปจะเก็บกรอบรูปกับแฟ้มที่เปิดอ้า ตกบนพื้นขึ้นมา สายตามองไปเห็นในแฟ้ม เปิดอยู่ที่หน้าภาพข่าวพร้อมรูปในที่เกิดเหตุครอบครัวภควัตถูกฆ่า
“ฆ่าล้างครัว มือปราบตงฉิน 3 ศพ ฮีโร่พลเมืองดีตายหนึ่ง”
และเห็นรูป รัตน์ เรืองเดช นอนตายอยู่ในภาพข่าวนั้นด้วย
อัญมาสะดุดตา หยิบแฟ้มที่ใส่ข่าวไว้ขึ้นมา กวาดตาอ่าน
“ด.ช.ภควัต อริยะวงศ์ ลูกชายวัย 6 ขวบ คนเดียวรอดปาฏิหาริย์ พลเมืองดีช่วยชีวิตไว้จนถูกยิง เสียชีวิตเป็นศพที่ 4 คือนายรัตน์ เรืองเดช”
อัญมามีสีหน้าตกใจถึงขีดสุด นึกถึงเรื่องที่เคยคุยกับอุบลเรื่องพ่อ
“พ่ออัญชื่ออะไร”
“พ่อแกชื่อรัตน์ เรืองเดช”
อัญมาดึงตัวเองกลับมา สีหน้าตื่นตะลึง นึกไม่ถึง
“รัตน์ เรืองเดช พ่อถูกยิงตายเพราะช่วยผู้กองภควัต”
อัญมามีสีหน้าตกใจอยู่อย่างนั้น

ส่วนภควัตนอนกระสับกระส่ายอย่างหนัก เหงื่อไหลเต็มหน้าแล้วเปลี่ยนเป็นค่อยๆ สงบลง สีหน้าเปลี่ยนเป็นยิ้มน้อยๆ อย่างพอใจ
เพราะภาพในความฝันตอนนี้ กลายเป็นเรื่องราวความผูกพันระหว่างเขากับอัญมาในเหตุการณ์ต่างๆ แต่แล้วความฝันเปลี่ยนเป็นภควัตสู้กับอธิคมที่ริมทะเล ภควัตพลาดท่าถูกอธิคมจับคอกดน้ำทะเล ภควัตดิ้นรนทะลึ่งขึ้นหาอากาศ อธิคมก็กดลงไปอีก ภควัตทรมานพยายามดิ้นให้พ้นเงื้อมมืออธิคมภควัตทะลึ่งพรวดขึ้นหาอากาศร้องส่งเสียดัง
“ปล่อย...”
ภควัตลุกพรวดขึ้น หอบหายใจแรงนึกถึงความฝัน
จังหวะเดียวกันนี้ ทางฝ่ายอัญมามือร่วงหลุดผล็อยจากแฟ้ม ทรุดลงกับพื้น ด้วยความเจ็บอย่างรุนแรงไปทั้งร่าง
“โอย ทำไม เจ็บอย่างนี้...ช่วยฉันด้วย...ผู้กองภควัต”

อัญมาครางออกมาอย่างเจ็บปวดสุดแสน ก่อนสติจะดับวูบ นอนลงไปกับพื้นอย่างหมดแรง

ณ โลกคู่ขนาน กลางแสงสีภายในผับแห่งนั้น เสียงเพลงดังกระหึ่ม จิรายุกำลังก้มลงจะจูบอัญมารอมร่อ จู่ๆ อัญมาลืมตาโพลงเห็นหน้าจิรายุเต็มตาอยู่ตรงหน้าก็ผลักอกเขาออกสุดแรง

“เฮ้ย”
จิรายุแทบตกเก้าอี้ที่นั่ง มองอัญมาอย่างตกใจ อัญมาลุกขึ้น มองไปรอบๆ
“นี่ฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง”
อัญมามองสภาพตัวเอง พบว่าแต่งตัวอยู่ในชุดสวย เซ็กซี่ หรู ไฮ สไตล์คุณหนูอัญมา
“คุณหนู...ฉันกลับมาเป็นคุณหนูอัญมา”
“อัญ เป็นอะไรครับ”
จิรายุโอบกอดอัญมาเอาใจ อัญมาที่กลับมาเป็นคุณหนูตกใจ ผลักจิรายุออก
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
“อัญ นี่คุณยังไม่ได้แตะเครื่องดื่มเลย ทำไม่เมาไม่รู้เรื่องอย่างนี้ คุณชวนผมมาที่นี่เองนะครับ”
“ฉันไม่ได้เมา ไม่ได้บ้า แล้วฉันก็ไม่อยากเสียเวลาพูดกับคุณ”
อัญมาเดินเชิดจะออกไป จิรายุรั้งไว้
“งอนอะไรผม”
อัญมามองจิรายุที่พยายามกอด ง้อเอาใจ
“หรือว่าโกรธที่เห็นสารวัตรกฤษณ์เค้าขอแต่งงานสุคนธรส ไม่เป็นไรนะครับ ผมสัญญาว่าผมจะขอคุณแต่งงานให้น่าเซอรไพร้สกว่าของสุคนธรส”
อัญมาไม่สนใจที่จิรายุพูดเลย ก้มมองเสื้อผ้าตัวเอง
“นี่ฉันกลับมาตั้งแต่วันที่สารวัตรกฤษณ์ขอสุคนธรสแต่งงาน ก่อนที่เราจะรู้ว่าจิรายุเป็น...” อัญมาเหลือบมองจิรายุ “...ก่อนเราตกน้ำ”
จิรายุไม่สนใจว่าอัญมาจะพูดอะไร กุมมืออัญมาขึ้นจะจูบ
“ผมจะทำให้คุณตกหลุมรักผมทุกวัน”
อัญมามองจิรายุแล้วนึกถึงความจริงว่าจิรายุชอบอนุรุท อัญมารีบสะบัดมือออกทันที
“ฉันไม่รักคุณอีกแล้ว”
“อะไรกันครับ อัญ คุณดูแปลกๆ”
“เพราะฉันไม่ใช่อัญมาคนเดิมอีกแล้วน่ะสิ”
“คุณพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ ยังไงคุณก็เป็นอัญมาที่รักของผม”
“ไม่ต้องปั้นหน้าปิดบังความจริงกับฉันหรอก จิรายุ ฉันรู้แล้วว่าคุณไม่ได้รักฉัน”
อัญมาผลักจิรายุพ้นทางเดินจะออกไป จิรายุเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อน อัญมา...คุณจะไปไหน”

อีกด้านในผับเดียวกัน ภควัตที่หนีออกจากโรงพยาบาลหลังเหตุการณ์จับยาบ้าในห้าง เดินมาอย่างอ่อนแรง มีพลภัทรลูกน้องตามหลัง
“ผู้กองกระชากสายน้ำเกลือ หนีออกจากโรงพยาบาลแบบนี้ ถ้าคุณขวัญอนงค์รู้ มีหวังผมตายแน่ๆ”
“ฉันไม่อยากนอนเฉยๆ เราต้องควานหาตัวสายส่งยาให้ได้ ก่อนมันจะไหวตัวหนีไป”
“ให้ผมมาคนเดียวก็ได้ครับ”
“ไม่ได้หรอก ฉันอยากลากตัวพวกมันเข้าคุกด้วยมือฉันเอง”
ภควัตเดินเบียดคนเข้าไปด้านใน พลภัทรลูกน้องคู่หูเดินตามไปติดๆ อย่างไม่รู้จะห้ามยังไง

อัญมาดินเร็วรี่จะออกไปจากผับ จิรายุตามหลังมาติดๆ
“อัญครับ คุยกันก่อน คุณชวนผมมา แล้วอยู่ๆก็จะวิ่งหนี คุณเป็นอะไร”
“ฉันไม่มีเวลาคุยกับคุณแล้ว”
“โอเค...ผมเข้าใจละ คุณโกรธที่ผมขอแต่งงานช้ากว่าสารวัตรกฤษณ์ขอสุคนธรส”
จิรายุตัดสินใจคุกเข่าลงทันที กุมมืออัญมาไว้ ผู้คนรอบๆ แหวกออกมอง อัญมาอึ้ง
“คุณต้องการแบบนี้ใช่มั้ยครับ ขอแต่งงานต่อหน้าคนเยอะๆ...อัญมาแต่งงานกับผมนะครับ”
จิรายุทำซึ้งสุดชีวิต ยกมือจะจูบอัญมา อัญมาพูดขึ้น
“ใครจะแต่งงานกับคุณจิรายุ ชั้นไม่แต่ง”
“แต่เรารักกัน”
“ฉันเคยหลงผิด คิดว่ารักคุณแต่ตอนนี้ฉันรู้ความจริงหมดแล้ว คุณรักผู้ชาย”
อัญมาสะบัดมือสุดแรง
จิรายุทั้งอึ้งทั้งอายคน “อัญมา คุณพูดอะไร อย่ากล่าวหาผมนะ”
ภควัตเดินมาจากอีกด้าน พลภัทรตามมาติดๆ ภควัตสอดส่ายสายตามองหาสายส่งยา
“ไม่ต้องแอ๊บ ฉันรู้ความจริงหมดแล้ว คุณรักอนุรุท”
จิรายุลุกพรวดทันที รีบโวยกลบ
“อย่ามาหาเรื่องผมนะ อัญ...นี่คุณมีคนอื่นใช่มั้ย คุณคบคนอื่นทั้งๆที่คบผม ใคร มันเป็นใคร ลูกหลานไฮโซคนไหนที่ดีว่าผม”
อัญมารำคาญจะเดินไป จิรายุไม่ยอมดึงไว้ ภควัตมองมาเห็นคนส่งยาที่กำลังดื่มอยู่ใกล้ๆ กับอัญมา
“มันนั่งอยู่โต๊ะนั้น”
ภควัตกับพลภัทรแยกกันจะเข้าไปจับกุมสายส่ง อัญมาสะบัดมือ ผลักจิรายุที่พยายามรั้ง จิรายุเซไปชนโต๊ะที่สายส่งยานั่งดื่มอยู่ คนส่งยาลุกพรวด
“เฮ้ย ไรวะ”
ภควัตกับพลภัทรล้อมเข้ามา กำลังจะเข้าถึงตัว คนส่งยามองเห็นภควัต ก็ฉุกใจ ล้มโต๊ะอีกตัวขวางภควัต
เกิดเหตุการณ์แตกตื่นชุลมุนในบัดดล นักเที่ยวโวยวายขรม อัญมามองเห็นภควัต
“ผู้กองภควัต”
คนส่งยาวิ่งชนคนหนีออกไปทางหลัง ภควัตตะโกนนบอกพลภัทร
“จับมัน”
ภควัตกับพลภัทรวิ่งตามคนส่งยาออกไป อัญมาจะวิ่งตามภควัตไป
“ผู้กอง ผู้กอง”
อัญมาจะวิ่งฝ่าคนที่กำลังตกใจ แต่จิรายุเข้ามาขวางอีก อัญมาฉุนผลักจิรายุ แล้วหันหลังไปทางประตูหน้า จิรายุวิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว

อัญมาวิ่งออกมาตามหาภควัต จิรายุวิ่งตามมาตื๊อ
“อัญ...คุณต้องแต่งงานกับผม”
อัญมาหันมามองจิรายุสายตาจริงจัง
“ฉันไม่ได้รังเกียจความสัมพันธ์ของคุณกับอนุรุท ตอนที่ฉันรู้ ฉันเสียใจ ฉันผิดหวัง ฉันคิดว่าระหว่างเรามันคือความรัก ฉันรักคุณที่มันสมอง ไม่ใช่รูปร่างหน้าตาที่บอกตามตรง ไม่เพอร์เฟ็คท์พอสำหรับฉันเลย แต่คุณกลับใช้มันสมองของคุณหลอกลวงฉัน ทำเป็นรักฉันเพราะหวังมรดกของฉัน คุณพ่อฉันมองคนไม่ผิดเลย จำได้มั้ยที่คุณพูดว่า ผู้ชายโง่ๆ สติไม่ดีเท่านั้นที่จะรักผู้หญิงอย่างฉันได้ ฉันอโหสิให้คุณเพราะมันมีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นกับฉัน ฉันเพิ่งเข้าใจว่าความรักคืออะไร มันหมายถึงการที่เรายอมให้ตัวเองมีความสุขน้อยกว่า ความสุขของคนที่เรารัก การที่เราไม่ได้หวังอะไรจากคนที่เรารักนอกจาก...”
จิรายุทำเป็นงงกลบเกลื่อน “คุณพูดเรื่องอะไร”
“คุณไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันพูดหรอก พอฉันหลุดไปจากที่นี่ จากโลกของคุณหนูอัญมา คุณอาจจะลืมเหตุการณ์ตอนนี้ เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม ฉันคงได้กลับมาที่นี่เพราะเหตุผลบางอย่างที่ผูกพันฉันกับผู้กองไว้”
จิรายุงงเป็นไก่ตาแตก อัญมาไม่สนใจ วิ่งเร็วออกไป ทิ้งจิรายุให้ยืนงุนงงสุดขีดอยู่ตรงนั้น

“ผู้กอง...ผู้กองที่ไหน”

ภควัตวิ่งมาด้านหลังผับ พลภัทรที่แข็งแรงกว่าวิ่งเร็ว คนส่งยากำลังหนี อัญมาอ้อมมาอีกทาง เห็นภควัตก็ดีใจ
“ผู้กองภควัต...ผู้กอง”
ภควัตชะงักหันไปมองอัญมาที่ส่งเสียงเรียก คนส่งยาหยิบถังขยะปาใส่ ภควัตถึงกับหงาย อัญมาตกใจ วิ่งมาหา ภควัตเจ็บแผล ลุกไม่ขึ้น แต่ยังตะโกนสั่งลูกน้อง
“จับมันให้ได้”
พลภัทรวิ่งเร็วปรื๋อตามคนส่งยาที่วิ่งหนีไปในซอยหลังผับ
อัญมาวิ่งมาถึงตัว ประคองภควัตขึ้น ภควัตปัดอัญมา มองอย่างไม่คุ้น
“ฉันเอง ผู้กอง ฉันกลับมาโลกคุณหนูอัญมา กลับมาได้ยังไงก็ไม่รู้”
ภควัตมองจ้องอัญมา สีหน้านึกทวนหวนย้อน สองครั้งที่เจอกันตอนจับยาบ้ากลางโรงแรมกับจับยาบ้าในห้าง
“คุณ...ผู้หญิงคนนั้น”
“จำฉันได้แล้วใช่มั้ย”
“บ้าที่สุด ทำไมผมต้องเจอคุณเวลาทำงานทุกที ผมเกือบจะจับไอ้คนส่งยาได้อยู่แล้ว”
“คุณหนีฉันไม่พ้นหรอก เพราะพ่อฉันช่วยชีวิตคุณ เราถึงได้มาเจอกัน”
“เพ้อเจ้อ พ่อคุณเป็นใครถึงมาอ้างว่าช่วยชีวิตผม ผมไม่เคยรู้จักครอบครัวคุณ”
ภควัตไม่สน หันหลังจะตามไปจับคนส่งยา
“พ่อแท้ๆ ของฉันชื่อ รัตน์ เรืองเดช”
ภควัตหันขวับกลับมามอง อัญมาย้ำ
“พ่อแท้ๆ ของฉันชื่อ รัตน์ เรืองเดช คุณจำได้ใช่มั้ย พ่อของฉันยอมสละชีวิตช่วยคุณ”
ภควัตชะงัก ไม่พอใจ “ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องนี้เพื่ออะไร คุณอัญมา พิบูลย์สุวรรณ”
“ไหนบอกว่าไม่รู้จักฉัน”
“ผมนึกออกแล้วว่า ผมเจอคุณตอนจับยาบ้ากลางโรงแรม แล้วก็ในห้าง”
“ถ้าฉันกลับไปโลกของไอ้อัญ คุณจะไม่ลืมฉันใช่มั้ย จำชื่อฉันไว้นะ ผู้กอง”
“จำสิ ผมต้องจำแน่ ชื่อคุณมันอยู่ในข่าวสังคม ชื่อของผู้หญิงแต่งตัวเก่งหรูหรา มาจากตระกูลดี แต่สมองข้างในมีแต่ฟองอากาศ ดูถูกคนอื่น”
“ใช่ แต่ก่อนฉันเป็นแบบนั้น”
“ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะบอกว่าแต่ก่อนหรือเมื่อไหร่ แต่คุณไม่ควรเอาอดีตของผมมาล้อเล่น”
“ฉันพูดเรื่องจริง ฉันรู้จักคุณดี ผู้กองภควัต”
“แต่ผมไม่อยากรู้จักผู้หญิงอย่างคุณ”
อัญมาผงะมองภควัตที่จ้องมาด้วยสายตาเกลียดชัง
“อย่ามาเข้าใกล้ผม อย่ามาขวางทางงานของผม”
ภควัตไม่สนใจ วิ่งไปทางที่พลภัทรวิ่งไปก่อน อัญมามองตามด้วยความเสียใจ
“ฉันไม่ได้ขวางงานของคุณ ผู้กองภควัต ฉันช่วยงานคุณอยู่”
จังหวะนี้อัญมารู้สึกเจ็บแปลบไปทั้งตัวอย่างประหลาด
“เจ็บ เจ็บอีกแล้ว เจ็บเหมือนตอนที่มา...”
อัญมานึกถึงตอนล้มลงในบ้านภควัต เมื่อรู้ความจริงเรื่องพ่อ
“หรือว่า... ฉันบอกเรื่องพ่อกับผู้กองไม่ได้”
อัญมาทรุดลงด้วยความเจ็บแปลบทั้งร่าง
“ให้ฉันกลับไป...ฉันต้องกลับไปช่วยผู้กองจับอธิคมเข้าคุก...ผู้กองภควัต ฉันต้องช่วยคุณ ไม่ให้คุณถูกอธิคมยิง...ผู้กองภควัตฉันต้องช่วยคุณทำลายแก๊งพี่บังกับอธิคม”
อัญมาทรุดลง เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์
“ฉันต้องกลับไป...กลับไปวันที่ถูกแทง”
อัญมาเจ็บจนทนไมไหว ทรุดร่างลงกับพื้นตรงด้านหลังผับ หมดสติไปในสภาพคุณหนูอัญมา

อัญมามาโผล่ขึ้นในผับที่มาส่งยาบ้าตามคำสั่งวินิจ โดยตอนนี้มือปืนกำลังยิงปืนดังขึ้นนัดหนึ่งขึ้นเพดาน เสียงปืนนั้นทำให้อัญมาก้มหลบวิ่งหนี สอดตามองไปรอบๆ
อัญมาเพิ่งหลุดมาจากโลกคู่ขนานของคุณหนูอัญมา หันขวับไปมองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
“ฉันกลับมาแล้ว กลับมาวันที่พี่บังให้มาส่งยา...กลับมาช่วยผู้กอง ก่อนฉันจะถูกแทง”
อัญมามองไปเห็นมือปืนกำลังจะลุกขึ้นหยิบปืน และภควัตพุ่งเข้ามาจากประตูกระทืบเท้าลงที่แขนมือปืน แล้วเตะปืนไปจนห่าง
อัญมาเห็นภาพเหตุการณ์ต่อไปที่ตัวเองถูกมือปืนล็อคคอ จนถูกแทงเข้าที่ท้อง ตามด้วยภควัตกอดอัญมาที่ถูกแทงไว้ มีมือปืนล้อมเข้ามาจะยิงทั้งสองคน
“ถ้าผู้กองช่วยฉันรอดไปได้ พี่บังจะสงสัยฉัน”
แววตาอัญมาที่หมอบอยู่ตัดสินใจเด็ดขาด อัญมามองไปเห็นปืนหล่นอยู่บนพื้น ตัดสินใจพุ่งไปหยิบปืนขึ้นมา
“ยกโทษให้ฉันด้วย ผู้กองภควัต ฉันต้องยิงคุณ พี่บังจะสงสัยฉันไม่ได้”

ที่แท้อัญมากลับไปโลกคู่ขนาน แล้วย้อนกลับมายังโลกไอ้อัญ เปลี่ยนสถานการณ์เพื่อช่วยงานภควัต

อ่านต่อหน้า 2

คีตโลกา ตอนที่ 10 (ต่อ)

จังหวะที่ภควัตจับตัวมือปืนฟาดลงกับโต๊ะ แล้วหันมา อัญมาตัดสินใจเหนี่ยวไกออกไปเปรี้ยง กระสุนโดนเข้าไหล่ซ้ายภควัต มือปืนกับลูกน้องวินิจ 2 คน มองอย่างตื่นตกใจ ภควัตมองจ้องอัญมา แววตานึกไม่ถึงว่าอัญมาจะยิงตัวเอง

อัญมามอง เห็นตำรวจนอกเครื่องแบบกำลังเข้ามาจึงทิ้งปืน วิ่งหนี มือปืนกับลูกน้องวินิจยิงสู้กัน ภควัตจะตาม แต่มือปืนยิงขวาง จนต้องหาที่หลบ มือปืนกับลูกน้องวินิจยิงสวน แล้วพากันถอยหนี
ภควัตไม่ยอมวิ่งตามออกไปทันที ตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 คนวิ่งตามออกไปด้วย

อัญมาวิ่งมาตามถนนนอกผับโดยเร็ว ลูกน้องวินิจกับมือปืนกำลังวิ่งหนี แต่ภควัตกับตำรวจนอกเครื่องแบบวิ่งตามมา
ภควัตยิงสกัดจนลูกน้องวินิจต้องหาที่หลบ อัญมาวิ่งเร็วสุดชีวิต เลี้ยวไปอีกทาง
จนเสียงปืนเงียบลง ลูกน้องวินิจกับมือปืนออกจากที่ซ่อนจะวิ่งหนีต่อ ภควัตกับกำลังตำรวจอ้อมมาดักจ่อปืนเล็ง ลูกน้องกับมือปืนจะสู้แต่เจอตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าชาร์จ คุมตัวทุกคนได้โดยละม่อม
“รีบเอาตัวออกไป”
ภตวัตสั่งแล้วเหลียวมองไปทางอัญมาที่วิ่งหนีไป ตัดสินใจวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว

อัญมาวิ่งหนีมาตามถนนอีกด้าน หยุดหันไปมอง เมื่อไม่เห็นตำรวจตามมาก็หยุดหอบหายใจ
“ค่อยยังชั่ว...ฉันกลับมาโลกของไอ้อัญแล้ว”
อัญมาสะท้อนใจหยุดคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
“ฉันต้องยิงคุณนะ ผู้กอง ไม่งั้น ฉันจะไม่ได้กลับเข้าแก๊งพี่บัง”
อัญมากำลังจะหนีต่อ แต่หันมาเจอเก้าที่ปาดมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดขวาง
“ไอ้เก้า”
เก้ากระชากแขนอัญมา “ขึ้นมา...เร็ว”
อัญมากระโดดขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์โดยเร็ว เก้าบิดเร็วออกไปทันที ภควัตวิ่งเลี้ยวมาเห็นอัญมาซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่บิดหนีห่างไปไกลแล้ว
ภควัตแตะแผลที่ไหล่ซ้ายซึ่งมีเลือดซึมออก นึกถึงตอนอัญมายิงตัวเองด้วยสีหน้าสับสน
“คุณไม่ได้ตั้งใจยิงผมใช่มั้ย อัญมา”

อัญมาถูกเก้าลากพาเดินเข้ามาบนเรือนใหญ่ของเสี่ยวินิจ ก่อนจะเหวี่ยงลงไปกองกับพื้นห้องๆหนึ่ง อัญมาเหลียวขวับไปมองเก้าที่เหยียดยิ้มให้
“คราวนี้ แกไม่รอดแน่ ไอ้อัญ”
เก้าเดินออกไป ทิ้งอัญมาให้อยู่ในห้องคนเดียวด้วยความหวาดหวั่น

ที่ฐานลับตอนเดียวกันนี้ กฤษณ์นั้นยืนไม่ติด ประพจน์กับสิทธิชัยกำลังรอ สักครู่หนึ่งภควัตเดินเข้ามาในฐาน ทุกคนมองจ้อง พบว่าภควัตมีรอยเลือดที่ถูกยิงตรงไหล่ซ้าย
“ภควัต...คุณบาดเจ็บ” ประพจน์ตกใจ
“ผมถูกยิงครับ”
สิทธิชัยรีบหันไปสั่งลูกน้อง
“เรียกหน่วยพยาบาลฉุกเฉินมาที่นี่”
ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งออกไป ประพจน์มองด้วยสายตาเป็นห่วงภควัต
“ผมได้รับรายงานแล้วนะ จับได้ 3 รอดไป 1 คนที่ยิงคุณใช่มั้ย”
ภควัตบอกหน้านิ่ง “ครับ...สายของผมเอง”
กฤษณ์โพล่งขึ้น “อัญมายิงนาย”
ภควัตหันไปมองกฤษณ์ที่มีสีหน้านึกไม่ถึง พร้อมกับตั้งคำถาม
“อัญมาถึงขนาดยิงนาย...เป็นไปได้ยังไง...ภควัต”
“เค้าต้องป้องกันตัว เค้าถูกจับไม่ได้”
“ไหนว่าปฏิบัติการนี้ ห้ามพวกเราลงมือ นายจะดูห่างๆ เพราะไม่อยากให้สายเป็นอันตราย แต่นี่สายกลับยิงนาย แถมยังหนีไปได้ มันเรื่องบังเอิญ หรือว่า...จงใจปล่อยผู้ต้องหา”
ภควัตโกรธจัดจนลืมเจ็บ พุ่งเข้าหากฤษณ์
ประพจน์เสียงดัง “ภควัต”
สิทธิชัยรีบเข้าไปดึงภควัตไว้ ภควัตมองจ้องกฤษณ์
“นายคิดว่าฉันจัดฉาก”
กฤษณ์ใส่ไม่ยั้ง “นายจัดฉากหรือเปล่า ฉันไม่รู้ แต่ทำไมเราถึงกวาดล้างแก๊งวินิจไม่ได้สักที ทั้งๆที่นายก็ไปแฝงตัวอยู่กับพวกมัน มีโอกาสจะจับตัวทั้งวินิจ ทั้งลูกชายหลายครั้ง แล้วยังไง...ทุกครั้งที่มีการขนยา เราก็จับได้แต่ปลายแถว แถมวันนี้นายห้ามพวกเราไปยุ่ง นายจะคุ้มครองสาย แล้วเป็นยังไง ดันถูกอัญมายิง เหมือนกับ...ตั้งใจให้พวกวินิจรอดไปได้...ทุกครั้ง”
ภควัตโมโห สิทธิชัยดึงไว้สุดแรง กฤษณ์ยิ้มเยาะ ประพจน์มองภควัต
“ภควัต คุณพักงานไปก่อน”
ภควัตพูดอย่างจริงจัง “ผู้การครับ ผมยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ ผมไม่ได้ตั้งใจปล่อยผู้ต้องสงสัย ผมอยากให้เราจับพวกมันทั้งหมด ทั้งหลักฐาน ทั้งขบวนการ ลากพวกมันขึ้นศาลไปรับโทษ ไม่มีทางหลุดออกมาสร้างความเลวให้กับสังคมนี้ได้อีก”
ประพจน์สั่ง “ผมรู้...แต่คุณบาดเจ็บ ผมไม่ได้ให้คุณเลิกจากงานนี้ แต่คุณต้องพัก”
“ถูกยิงแค่นี้ ผมไม่เป็นอะไรเลยครับ” ภควัตว่า
“คุณต้องพัก เข้าใจมั้ยภควัต นี่คือคำสั่ง”
ประพจน์เน้นเสียงเข้มและดุ ภควัตยืนตัวตรง รับคำสั่ง
“ครับ ผู้การ”

ภควัตมองไปยังกฤษณ์ เห็นสายตาที่กฤษณ์มองมาเต็มไปด้วยแววตาเยาะเย้ย ก็ยิ่งเจ็บใจ

อัญมายืนอยู่คนเดียวในห้อง สักครู่วินิจเดินเข้ามาเงียบๆ อัญมาหันไปมองวินิจตรงเข้ามากระชากผมอัญมาเต็มมือ

“ทำไมแกรอดมาได้คนเดียว”
อัญมาเจ็บมาก “ไอ้เก้าไปช่วยฉันไว้ทัน ที่จริงฉันก็เกือบจะถูกจับได้แล้ว”
วินิจจ้องอัญมาด้วยแววตาอันเหี้ยมเกรียม จนอัญมานึกกลัว
“ทำไมมีตำรวจล่ะพี่ ไหนว่าให้ฉันไปส่งของเฉยๆ”
วินิจกระชากอัญมาขึ้นจ้องหน้า
“เพราะที่นี่มันมีสายตำรวจอย่างแกไงล่ะ”
วินิจเหวี่ยงอัญมาไปกระแทกผนังไม่ปราณีปราศรัย อัญมาเจ็บจุกจนลุกไม่ขึ้น
“ฉันไม่ใช่สายตำรวจ”
วินิจโมโห พุ่งเข้าจิกหัวอัญมาขึ้นจ้องหน้า
“แกสอดรู้สอดเห็นขึ้นไปบนตึกร้างทำไม”
อัญมากำลังจะปฏิเสธ แต่วินิจจ้องเขม็ง อัญมาเห็นว่าจวนตัวก็ตอบไปทันที
“พวกมันทิ้งฉันไว้ตั้งนาน...ฉันกลัว ฉันแค่ขึ้นไปตาม”
“โกหก”
วินิจผลักอัญมากระแทกผนัง พร้อมกับชักปืนออกมาจะจ่อยิง อัญมามองตกใจ อธิคมพุ่งเข้ามาแล้วปัดมือพ่อขึ้นสูงพ้นร่างอัญมา
“พ่อ...อย่ายิง”
อธิคมหันมาขวางร่างอัญมาไว้
“ถอยไปอธิคม ไอ้อัญมันเป็นนิ้ว”
อธิคมโต้ลั่น “ไม่จริง พ่อสงสัยคนผิด พ่อฆ่าอัญไม่ได้...อัญเป็นเมียผม”
อัญมามองตกใจที่อธิคมโกหกเพื่อปกป้องตัวเอง
“พ่อจะยิงเมียผมไม่ได้” อธิคมย้ำ
วินิจมองอัญมาอย่างเจ็บใจ
“อธิคม...แกเห็นผู้หญิงดีกว่าพ่องั้นเหรอ”
“ฉันไม่ได้ทรยศพี่ ฉันไม่ได้หักหลังพี่คม” อัญมาจ้องวินิจแล้วตัดสินใจพูดเอาตัวรอด “ให้ฉันตายแทนพี่คมก็ได้”
“เห็นมั้ยพ่อ นี่เหรอ คนที่พ่อสงสัย ลูกน้องพ่อมีตั้งเยอะ ทำไมต้องมาสงสัยอัญคนเดียว”
อัญมามองวินิจ “ถ้าพี่ไม่เชื่อใจฉัน พี่ฆ่าฉันให้ตายเลย พี่บัง”
วินิจมองอัญมา
“ฉันทำงานให้พี่เต็มที่ทุกครั้ง แต่วันนี้พี่สั่งเก็บฉัน”
อธิคมตกใจเมื่อได้ฟัง “พ่อ”
วินิจตอกกลับ “แกมีพิรุธก่อน”
“งั้นพี่ก็ฆ่าฉันซะ จะได้จบๆเรื่องไป พี่คมปล่อยฉัน ให้ฉันพิสูจน์ตัวเอง”
อัญมาดิ้นหนี อธิคมไม่ยอมปล่อย วินิจมองอัญมา
“ปล่อยฉัน พี่คม ให้ฉันตายคนเดียว”
“ไม่...อัญมา ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย” อธิคมไม่ยอม
“พอแล้ว” วินิจตวาดลั่น
อัญมามองวัดใจวินิจ
“ต่อไปนี้ อย่าให้ฉันเห็นแกมาที่นี่ มาที่ค่ายมวยอีก ฉันถือว่าแกไม่ใช่คนของฉันอีก ออกไป”
อัญมาตะลึงยังตกใจไม่หาย วินิจหันไปตวาดซ้ำกับอธิคม
“เอามันออกไป ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”
อธิคมรีบดึงอัญมาออกไปจากห้อง วินิจวางปืนลงอย่างอ่อนแรง เพราะเสียใจเรื่องที่ลูกชายปกป้องอัญมาด้วยชีวิต
“อธิคม...ทำไมต้องปกป้องไอ้อัญถึงขนาดนี้ด้วย”

อธิคมประคองอัญมาออกมาอีกห้อง แล้วถามขึ้นด้วยเสียงห่วงใย
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า อัญ”
อัญมามองอธิคมด้วยแววตาสงสาร
“พี่คม...อย่าดีกับฉันนักเลย พี่โกหกพี่บังไปแบบนั้นทำไม”
“ฉันไม่ได้โกหก ถ้าอัญรักฉัน...เราจะแต่งงานกัน”
อัญมายิ่งอึ้ง อธิคมดึงอัญมามากอดไว้
“แต่งงานกับฉันนะ อัญ”
อัญมาอึ้ง อธิคมกอดอัญมาแน่น
“แต่งงานกัน แล้วไปจากที่นี่ เธออยากไปอยู่ที่ไหน ฉันจะพาไป”
“แล้วพี่จะเลิกขายยาใช่มั้ย”
อัญมามองอธิคมรอฟัง อธิคมมีสีหน้าอึดอัดใจ ไม่ตอบ อัญมาถามซ้ำ
“ใช่มั้ย พี่คม พี่จะเลิกขายยา พี่จะเลิกยุ่งกับงานของพี่บัง”
“ฉันยังเลิกตอนนี้ไม่ได้ ก้าวเข้ามาแล้ว มันถอนตัวไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ อัญ”
อัญมามองแววตาเสียใจ คิดว่าจะเปลี่ยนใจอธิคมได้ ถอยห่างออกจากอธิคม
“งั้นพี่ก็อย่าพูดเรื่องแต่งงานกับฉันอีก”
อธิคมใจหาย “อัญ”
“เราจะอยู่กันยังไง ถ้าฉันต้องคอยระแวงว่าพี่อาจจะถูกตำรวจจับ หรือไม่ก็ถูกวิสามัญเข้าสักวัน”
อัญมาหันหลังเดินออกไป

อธิคมมองอย่างเจ็บใจ ก่อนจะกำหมัดชกลงบนผนังเต็มแรงอย่างลำบากใจเป็นที่สุด

ภควัตกลับเข้าบ้านทำแผลใส่เฝือกอ่อนที่ไหล่ซ้ายแล้ว ทิ้งตัวลงนั่งพิงโซฟาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ภควัตหลับตา นึกถึงตอนถูกอัญมายิง แล้วถอนใจยาวด้วยความสับสน

“อัญมา...เธอไม่ได้ตั้งใจยิงฉันใช่มั้ย”
ภควัตลุกขึ้น หันหลังจะเดินขึ้นบ้าน โดยไม่รู้ว่าอัญมาก้าวเข้ามาด้านหลัง
“เจ็บมากมั้ย ผู้กอง”
ภควัตได้ยินเสียงอัญมา ก็เหลียวขวับมาทันที
“อัญมา”
อัญมาเดินมามองใกล้ๆ สายตาเป็นห่วงถึงที่สุด
“ฉันบอกยามว่ามาหาผู้กอง”
อัญมามองที่เฝือกอ่อนด้วยสายตารู้สึกผิดเต็มๆ
“ผู้กอง ฉันจำเป็นต้องยิงคุณ...ตอนแรก...เรื่องมันไม่ใช่แบบนี้”
ภควัตงง “ตอนแรก...เธอหมายความว่าอะไร อัญมา”
“คุณอย่าเพิ่งคิดว่าฉันบ้านะ ที่จริงฉันไม่ได้ยิงคุณ แต่ฉันถูกแทง คุณจับพวกมันได้ทั้งหมด แล้วคุณก็พาฉันมาหลบที่นี่ แม่กับจิ๊บถูกพาตัวไปซ่อนเพราะกลัวพี่บังจะแก้แค้น”
ภควัตงงไปหมด “คุณพูดเรื่องอะไร อัญมา ผมไม่เข้าใจ”
“ฉันพูดถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จำได้มั้ยที่ฉันเคยบอกคุณว่า ฉันอยู่ในโลกคู่ขนาน เหตุการณ์ในโลกของไอ้อัญคือ ฉันถูกแทง คุณพามาหลบที่นี่ แล้วฉันก็ได้รู้เรื่องอดีตของคุณ...อดีตที่สำคัญมาก อดีตที่ทำให้ฉันต้องกลับไปโลกของคุณหนูอัญมา”
ภควัตมองอัญมาที่พยายามเล่าให้ฟัง
“ที่โลกนั้น...คุณเกลียดฉัน แต่ฉันไม่สนใจ ฉันคิดแต่ว่า ขอให้ฉันได้กลับมาช่วยคุณอีกครั้ง ให้คุณทำลายแก๊งพี่บังได้ ปาฏิหาริย์หรือไม่สิ่งศักดิ์สิทธ์ก็ต้องได้ยินคำขอของฉัน...ถึงให้ฉันกลับมาที่นี่...โลกของไอ้อัญ”
อัญมาเริ่มสะอื้นมากขึ้น พรั่งพรูทุกอย่างออกมา
“ฉันเคยเห็น...มันเหมือนภาพอนาคต...คุณถูกอธิคมยิง ฉันไม่อยากให้มันเกิด ฉันขอทำทุกอย่างให้คุณรอด คุณต้องไม่ถูกยิงจากพวกค้ายา เหมือนที่ครอบครัวคุณ เหมือนที่พ่อฉัน...ต้องตาย”
อธิคมฉงน “พ่อคุณ”
“พ่อแท้ๆ ของฉันชื่อ รัตน์ เรืองเดช”
ภควัตตะลึงแทบช็อก “ไม่จริง! อัญมา คุณเป็นลูกสาวของผู้ชายที่ตายเพราะช่วยผม”
สายตาภควัตมองอึ้งกับสิ่งที่รับรู้
“หลวงพ่อเคยบอกว่า ผมจะต้องเจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝัน เพราะกรรมที่ผูกพันกันมา”
“ฉันคือลูกสาวของ รัตน์ เรืองเดช คนที่ช่วยชีวิตคุณไว้จริงๆ”
ภควัตมองอย่างตั้งตัวไม่ติด
“พอฉันได้กลับมาที่โลกนี้ โลกของไอ้อัญ ฉันคิดแต่ว่า ฉันต้องไม่ทำให้พี่บังสงสัย ฉันถึงยิงคุณ”
อัญมาน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม
“ฉันยิงคุณกับมือฉันเอง พ่อฉันช่วยคุณไว้...แต่วันนี้...ฉันเกือบฆ่าคุณ”
ภควัตเดินเข้ามาใกล้ เอื้อมมือไปเช็ดรอยน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา อัญมาเงยมองหน้ามองสบตาภควัต เห็นสายตาที่มองมา เต็มไปด้วยความรู้สึกแสนสับสน
“พ่อคุณต้องตาย...เพราะผม...คุณเองก็เกือบตายเพราะช่วยผม”
ภควัตยอมรับไม่ได้ ดึงมือออก ถอยห่างอัญมา
“ออกไป อัญมา”
“ผู้กอง”
“ผมบอกให้ออกไป”
ภควัตถอยห่าง มองอัญมาอย่างละอายใจ
“พ่อคุณตายเพราะผม...คุณเกือบตายเพราะผม ไปซะ อัญมา อย่ามาใกล้ผมอีก”
“ผู้กอง ฉันอยากช่วยคุณ”
อัญมาเดินเข้าไปใกล้ แต่ภควัตใช้แขนขวาผลักอัญมาออกห่าง
“ไปซะ กลับไปโลกของคุณหนูอัญมา กลับไป”
อัญมาตกใจ “ผู้กอง”
“อย่าเอาชีวิตมาทิ้งให้คนอย่างผม อัญมา...พ่อคุณตายเพราะผมมาคนนึงแล้ว หนี้ชีวิตที่ผมไม่มีทางชดใช้ให้คุณได้เลย ออกไป อัญมา ออกไปจากชีวิตผม”
อัญมาตกตะลึง ภควัตเดินเข้ามาผลักให้อัญมาออกไป แรงผลักทำให้อัญมาล้มลงไปกับพื้น
ภควัตเองก็ตกใจ อัญมาเงยหน้ามองน้ำตาเต็มตา
ภควัตมองอัญมาแล้วตัดใจ หันหลังให้ทันที กำมือแน่นด้วยความกดดัน
อัญมาลุกขึ้น มองภควัตด้วยความเสียใจ
“คุณไม่ต้องชดใช้หนี้ชีวิตของพ่อ ฉันรู้ว่าพ่อก็ต้องคิดเหมือนฉัน ได้ช่วยชีวิตคนดีคนนึงไว้ ถึงตายก็ไม่เสียดาย ขอแค่ให้ชีวิตเรามีค่า มีความหมาย...กับใครสักคน”
อัญมามองภควัตแล้วหันหลังเดินออกไป
ภควัตหันมามองช้าๆ แต่อัญมาเดินออกไปแล้ว

สายตาภควัตเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เสียใจกับความจริงที่ได้รู้ว่าอัญมาคือลูกสาวของ รัตน์ เรืองเดช คนที่ต้องตายเพราะ ช่วยชีวิตเขาไว้ในตอนเด็ก

เวลาต่อมา อัญมาเดินซึมมาตรงริมน้ำสวย มองเหม่อไปไกลลิบตา คิดถึงภาพความใกล้ชิดกับภควัต แล้วน้ำตาคลอ ภาพถูกภควัตผลักไล่ไสส่งเมื่อครู่ซ้อนขึ้นมาในห้วงคิดอีก

“อย่าเอาชีวิตมาทิ้งให้คนอย่างผม อัญมา...พ่อคุณตายเพราะผมมาคนนึงแล้ว หนี้ชีวิตที่ผมไม่มีทางชดใช้ให้คุณได้เลย ออกไป อัญมา ออกไปจากชีวิตผม”
อัญมาคิดแล้วน้ำตาไหลริน สะอื้นไห้ออกมา เสียใจที่ทุกอย่างกลับตาลปัตร กลายกลับเป็นความผิดหวังเช่นนี้

ส่วนทางภควัตนั่งซุกตัวอยู่มุมหนึ่งในห้องนอน หลับตาก็เห็นภาพที่รัตน์ช่วยชีวิตเขาไว้ ภควัตตัวสั่นกับฝันร้ายที่หลอกหลอนไม่รู้จบรู้สิ้น ภาพตอนที่อัญมาถูกกฤษณ์ยิง และอยู่ในอ้อมกอดตัวเองผุดซ้อนตามมา
“อัญมา...อย่าตายเพราะผม...คุณต้องไม่ตายเพราะผมเหมือนพ่อคุณ”
ภควัตน้ำตาไหลริน เนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความกดดัน เพราะความรักล้นใจที่มีต่ออัญมานั่นทำให้เขายิ่งรู้สึกผิดอย่างรุนแรง

ค่ำคืนนั้น สายฝนกำลังตกลงมาทั่วชุมชน อัญมาเดินฝ่าสายฝนกลับมาบ้านด้วยใบหน้าหมองเศร้า
เมื่อมองไปยังหน้าบ้านก็เห็นอธิคมยืนตากฝน รออยู่ อัญมาหยุดเดิน มองจ้องอธิคม ไม่อยากจะเข้าไปตอนที่ใจกำลังว้าวุ่นเรื่องภควัต
อัญมาทำท่าถอยแล้วเดินหนี แต่อธิคมเห็นเดินตรงเข้ามากอดอัญมาไว้
“อย่าหนีฉันอีก อัญ”
อัญมาถอนสะอื้นด้วยความสงสารอธิคม ฝนตกหนักมากขึ้น อธิคมกอดเอาร่างบังอัญมาไว้ แล้วจูบลงที่ข้างแก้มอัญมาเบาๆ
อัญมาที่ตอนนี้กำลังเสียใจหนัก หมดแรงที่จะขัดขืน
“ชีวิตฉันต้องมีเธอ อัญมา” อธิคมกอดอัญมาแน่น
อัญมาซบลงที่ไหล่กว้างของอธิคมอย่างอ่อนล้ากับเรื่องที่ต้องผิดใจกับภควัต

ตื่นเช้ามาอัญมาเอาแต่นั่งมองเหม่อไปไกล จิ๊บลงมานั่งใกล้ๆ สะกิดเพื่อน
“เป็นไร หน้าตาเหมือนคนอกหัก”
“เปล่า”
อัญมาตอบสั้นๆ จิ๊บไม่ทันสนใจ รีบเล่าเรื่องของตัวเอง
“ฉันฝันว่ะ ไอ้อัญ แต่มันเหมือนจริงม้ากมาก ฉันฝันว่าจ่าเดชพาฉันกับป้าอุบลไปซ่อน”
เสียงอุบลดังขึ้น “เออ ข้าก็ฝันเหมือนเอ็งเลยว่ะจิ๊บ”
อัญมากับจิ๊บหันไปมองอุบลที่เดินออกมาคุยด้วย
“แม่ฝันแปล้กแปลกล่ะ ไอ้อัญ ฝันว่าจ่าเดชมาบอกว่าแกถูกแทง แล้วก็รีบพาแม่กับไอ้จิ๊บไปซ่อนที่ไหนก็ไม่รู้”
จิ๊บเสริมอุบลขึ้นว่า “เพราะกลัวว่าพี่บังจะมาแก้แค้น”
“เออ...ใช่ๆ” อุบลพยักพเยิด
“แม่กับไอ้จิ๊บอาจจะไม่ได้ฝันก็ได้นะ...มันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นตอนช่วงเวลานึง”
จิ๊บเง็ง “แกนี่พูดประหลาด เรื่องจริงได้ยังไง ฉันกับป้าอุบลยังนั่งอยู่ตรงนี้”
“นั่นน่ะสิ หรือว่าเจ้าแม่ท่านมาเข้าฝัน ให้โชคให้ลาภข้ากับเอ็งวะ จิ๊บ งวดที่แล้ว เค้าว่าเจ๊ว่านกับแอนนี่มันแอบไปขอเลขท่านถึงสำนักทรง ถึงได้ถูกจนปิดร้านสามวันเจ็ดวัน”
อัญมาเซ็งปนขำ “ทำไปทำมา ก็ลงที่หวย”
“แล้วจะให้ข้าเชื่ออย่างที่เอ็งพูดเหรอ มีที่ไหน คนจะฝันเหมือนกันเด๊ะๆ ถ้าไม่ใช่อิทธิฤทธิ์ของเจ้าแม่ท่าน”
อัญมาลุกขึ้น ไม่มีอารมณ์คุยต่อ
จิ๊บบ่นกับอุบล “มันเป็นอะไร หน้าเหมือนโลกจะแตก”
“ไม่รู้เหมือนกัน หรือว่าอกหัก รักคุด”
“แล้วตกลงไอ้อัญมันรักใครล่ะ ไอ้พี่วัต หรือ ไอ้พี่คม”
อัญมาไม่สนใจแม่กับเพื่อนที่กำลังสงสัย เดินออกไปท่าทีเซื่องซึม จิ๊บกับอุบลได้แต่มองตาม

ฟากภควัตนอนซุกในเสื้อผ้าชุดเก่าอยู่บนพื้น วรจันทร์ และขวัญอนงค์เข้ามาเห็นเข้าก็ตกใจ
“ตายแล้ว ตาวัต ทำไมมานอนบนพื้นอย่างนี้
ขวัญอนงค์รีบเข้าไปประคองภควัตขึ้นมา
“พี่วัตไม่สบายค่ะ คุณแม่ ตัวร้อนจี๋เลย”
“ตาวัตมีแผล เป็นอะไรมาเนี่ย”
สายตาวรจันทร์ และขวัญอนงค์สงสัยภควัตที่ยังไม่ได้สติเต็มที่

แม่ลูกช่วยกันประคองภควัตขึ้นมานอนในห้องนอนแล้ว วรจันทร์ยืนมองหลานชาย ส่วนขวัญอนงค์ห่มผ้าให้ภควัตที่หลับอยู่บนเตียง มาลัยเอาผ้าขนหนูที่เช็ดตัวออกไป
ท่านอภิกานต์ที่ตามมาสมทบยืนอยู่ตรงข้างเตียง เอ่ยปากเล่าให้เมียกับลูกฟัง
“ผู้การประพจน์บอกว่า ตาวัตจับผู้ร้ายแล้วถูกยิง”
“โถ... แล้วก็ไม่ยอมบอกใคร มานอนซมเป็นไข้ไม่ได้สติ”
ขวัญอนงค์แปลกใจมาก “ทำไมพี่วัตไม่นอนที่โรงพยาบาลล่ะคะ”
“ก็คงห่วงงานตามเคย”
ภควัตกำลังจับไข้ เพ้อออกมา “อัญมา”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างแปลกใจ ภควัตเพ้อออกมาอีก
“อัญมา...ผมขอโทษ”
“ห่วงงาน หรือ ห่วงอัญมากันแน่”
ขวัญอนงค์หมั่นไส้มองค้อนพี่ชายที่หลับไม่ได้สติ อภิกานต์ทำหน้าเจื่อน ไม่อยากยุ่งด้วย เดินออกไป
“ทะเลาะกับอัญมาแน่ๆ เลยค่ะ”
วรจันทร์ทอดสายตามองหลานชายอย่างอ่อนใจ
“วัตนะ วัต”
ขวัญอนงค์เดินไปที่ประตู วรจันทร์มองแล้วถามทันที
“จะไปไหน...ยายน้อง”
“น้องทนเห็นผู้ชายดีๆ อย่างพี่วัตเจ็บเพราะผู้หญิงไม่ได้อีกแล้ว”

ขวัญอนงค์เดินเร็วรี่รีบร้อนออกไป วรจันทร์ได้แต่มองตาม สุดจะห้ามลูกสาวไว้ได้

อ่านต่อหน้า 3

คีตโลกา ตอนที่ 10 (ต่อ)

นวยกำลังขับรถตามแอนนี่ที่เดินดีดดิ้น สะบัดสะบิ้ง ดูดกาแฟมาตามทางเดินชุมชน

“ไม่ขึ้นรถเหรอ แอนนี่ ...ส่งฟรีนะ”
“ฉันยอมเดิน ดีกว่าให้นมชนหลังแก”
“แหม เห็นฉันเป็นคนฉวยโอกาสตั้งแต่เมื่อไหร่...ไม่รู้หรือไง ฉายาฉัน นวย เบาะนิ่ม ลื่น เรียบ ไม่มีสะดุดให้เสีย’รมณ์”
นวยแหย่ แอนนี่มองเชิด
ขวัญอนงค์เดินเข้ามา นวยกับแอนนี่หันไปมอง
“บ๊ะ ชุมชนเรา...พักนี้มีแต่คนสวยๆ เดินเข้าเดินออก”
“มาหาใครอีกยะ หวังว่าคงไม่ใช่พี่วัตของชั้น”
แอนนี่กระชากเสียงถาม เพราะจำได้ว่าเคยมีเรื่องกับขวัญอนงค์
“ฉันมาหาอัญมา”
“มาหาไอ้อัญทำไม” แอนนี่ย้อนถาม
“ฉันไม่มีหน้าที่ต้องตอบคำถามเธอ” ขวัญอนงค์ หันไปทางนวย “อัญมาอยู่ที่ไหน เธอรู้มั้ย”
ขวัญอนงค์หยิบแบงค์ร้อยส่งให้ นวยมองหน้าไม่ชอบใจ
“เก็บเงินของคุณไปเถอะ”
“ไอ้นวย ทำไมไม่เอาไว้ก่อน” แอนนี่ด่า
“ถึงจนก็มีศักดิ์ศรีครับ ไม่ใช่เอะอะอะไร ก็เอาเงินฟาดหัวได้”
ขวัญอนงค์รู้ตัว “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะดูถูก แค่อยากให้ค่าเสียเวลาเธอ”
“มันไม่เสียเวลาเท่าไหร่หรอกคุณ น้ำใจน่ะมันยังพอหาได้ ถ้าคุณรู้จักพูดดีๆ กับคนอื่น อยากเจอเจ๊อัญ ใช่มั้ย เดี๋ยวผมไปตามให้”
นวยบิดมอเตอร์ไซค์ออกไปเลย แอนนี่มองหมั่นไส้ ขวัญอนงค์เต็มที่
“แหม...จะอวดว่าสวย รวย...เชอะ งั้นๆ ฉันสวยกว่ายังไม่พูดเลย”
ขวัญอนงค์ปรายตามองแอนนี่ เหมือนไม่อยากยุ่งด้วย

วรจันทร์มองภควัตที่เพิ่งฟื้นจากไข้
“คุณป้า”
“อย่าเพิ่งลุกนะ วัต เราน่ะคงแผลอักเสบ ถึงได้เป็นไข้ นอนซมไม่ได้สติอยู่ข้างล่าง”
ภควัตคิดทบทวนเหตุการณ์ นึกได้ว่าตนผลักและขับไล่ไสส่งอัญมาไป สายตาภควัตเต็มไปด้วยความเสียใจ วรจันทร์มองสังเกตแล้วถามขึ้น
“วัตมีอะไรผิดใจกับอัญมาหรือเปล่า” ภควัตมองป้าเห็นสายตาห่วงใย “ป้าได้ยินวัตเพ้อชื่ออัญมา”
“อัญมา...เค้าไปแล้วครับ”
วรจันทร์แตะมือภควัตให้กำลังใจ มองเป็นเชิงบอกให้ภควัตระบายออกมา
“อัญมาไม่ได้ผิดอะไร...ผมไม่อยากให้เค้าเข้ามาใกล้ผมอีก”
“วัตคิดดีแล้วเหรอ” ภควัตมองวรจันทร์นิ่ง “วัตแน่ใจแล้วเหรอว่าตัวเองจะทนได้ที่ปล่อยอัญมาไปอย่างนี้”
“ผมกับอัญมา...ผมรู้สึกเหมือนว่าผมกับเค้าเจอกันมาหลายครั้ง ไม่ใช่แค่ที่นี่ อีกโลกนึง เราก็รู้จักกัน เราผูกพันมาตลอด ผมไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรโลกคู่ขนานเหมือนที่อัญมาพยายามบอกผมหรือเปล่า แต่วันนี้...ผมเพิ่งรู้...อัญมาเป็นลูกสาวของคนที่ช่วยให้ผมรอดจากพวกมือปืนพวกนั้น...มือปืนที่มันฆ่าพ่อ...แม่.. พี่สาวผม”
วรจันทร์ตะลึง “คุณพระช่วย”
“ผมละอายใจ ผมจะมองหน้าอัญมาได้ยังไง ในเมื่อผมทำให้พ่อของเค้าตาย”
ภควัตเสียงสั่น วรจันทร์มองหลานชายสงสารจับใจ

ฟากอัญมาเดินเข้ามาหาขวัญอนงค์ที่ยืนรออยู่ที่ลานกีฬา ขวัญอนงค์หันมาเห็นอัญมาก็พูดขึ้นทันที
“เธอทะเลาะอะไรกับพี่วัต”
อัญมานิ่งไป ขวัญอนงค์รีบพูดต่อ
“อย่าปฏิเสธ ฉันรู้แล้วว่าเธอเข้าไปหาพี่วัตที่บ้าน พอเธอกลับ พี่วัตก็ไม่สบายหนัก”
อัญมาแดห่วงไม่ได้ “ผู้กองเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เราไม่ปล่อยให้พี่วัตเป็นอะไร เธอกับพี่วัตมีปัญหาเรื่องอะไรกัน”
“ไม่มีค่ะ”
“ถ้าเธอไม่อยากพูด ก็ไม่เป็นไร เพราะฉันก็ไม่ได้อยากมาฟังเรื่องของเธอกับพี่วัตเหมือนกัน”
อัญมามองขวัญอนงค์เห็นสายตาเย็นชา
“ฉันรู้ว่าค่ะคุณห่วงพี่ชาย แต่ผู้กองกับฉัน...ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดอะไร ไม่มีเรื่องต้องเกี่ยวข้องกันอีก”
ขวัญอนงค์ฉุนกับท่าทีอวดเก่งของอีกฝ่าย “ดี ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ขอร้องเธอได้ใช่มั้ย”
อัญมามองขวัญอนงค์ด้วยสายตาอึดอัด
“พี่วัตเป็นคนดีมาก ฉันไม่อยากเห็นพี่ชายฉันต้องทุกข์เพราะผู้หญิงไม่ดี เธออาจจะหาว่าฉันหวงพี่ชาย ใช่..ฉันหวง พี่วัตเป็นคนดี เป็นผู้ชายน่าสงสาร ผู้หญิงคนไหนที่ทำให้พี่วัตเสียใจ ชั้นถือว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีทั้งนั้น”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณขวัญอนงค์ ฉันไม่ต้องทำงานให้ผู้กองอีกแล้ว”
ขวัญอนงค์จ้องหน้า “แน่ใจนะ อย่าพูดปัดให้พ้นๆตัวนะ อัญมา”
“ฉันพูดจริงค่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันกำลังจะแต่งงาน”
ขวัญอนงค์มีสีหน้าตกใจไปชั่วขณะ อัญมายืนยัน
“ฉันจะแต่งงานกับคนรักของฉัน”
“ขอบใจมาก ที่เธอไม่ยุ่งเกี่ยวกับพี่วัตอีก”

ขวัญอนงค์เดินออกไปด้วยรอยยิ้มโล่งใจ ทิ้งให้อัญมาดื่มกินความเศร้า ใจหายที่ตัวเองพูดออกไปว่าจะแต่งงาน

ทางด้านภควัตนั่งนิ่งอยู่ แววตาขมขื่น มองเหม่อไปนอกหน้าต่าง วรจันทร์มองสีหน้าแสนเศร้าของหลานชายด้วยความเห็นใจ

“ผมไม่รู้จะชดใช้ให้อัญมากับป้าอุบลได้ยังไง ที่ทำให้เค้าขาดหัวหน้าครอบครัว”
“วัต...ฟังป้านะ”
ภควัตหันมามองวรจันทร์
“ป้าเข้าใจ วัตรู้สึกผิด แต่ทั้งหมดมันผ่านมาแล้ว ถ้ายังยึดติดกับอดีต เราจะไม่มีทางเจอความสุขกับปัจจุบันเลย เรื่องที่พ่อของอัญมาถูกยิง...ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่คนดีๆ อย่างพ่ออัญมา เค้าสละชีวิตให้วัตแล้ว วัตมีโอกาสที่เจออัญมากับแม่ วัตก็ต้องทำดีกับเค้า ช่วยให้ชีวิตเค้าสองคนดีขึ้น นั่นคือการตอบแทน ...ไม่ใช่การชดใช้”
“ผมทำให้อัญมาเกือบตาย อยู่ใกล้ผม อัญมามีแต่อันตราย เค้าจะมีแต่ความทุกข์”
“ชีวิตคน...หวานมาจากขม สุขมาจากทุกข์” คุณหญิงยิ้มอ่อนโยน “อัญมาเค้าอยากจะทุกข์หรือสุข วัตต้องปล่อยให้เค้าเลือกเอง”
ภควัตมองวรจันทร์ที่เอ่ยสอนโดยหวังดี
“ที่วัตกับอัญมาเจอกันอีกจนได้ ป้าคิดว่ามันเป็นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ชีวิตคนทุกคนมีท่วงทำนองเป็นของตัวเอง ท่วงทำนองสุข ทุกข์สลับกันไป แล้วพอทุกทำนองมาประสานกัน ก็จะได้เพลงแห่งชีวิต ที่มีทั้งหวานชื่น มีทั้งเศร้าแต่ฟังเพราะจับใจ...ถ้าเส้นทางชีวิตของวัตกับอัญมาจะต้องเดินไปด้วยกันจริงๆ วัตก็ต้องปล่อยให้อัญมาเค้าตัดสินใจเอง”
“คุณป้าไม่รังเกียจอัญมาใช่มั้ยครับ”
“ที่ป้าทำทั้งหมด เพราะป้าเลี้ยงวัตมา แต่ป้าไม่อยากให้ความเป็นห่วงของป้าเป็นกรงขังวัตเอาไว้ สุดท้ายถ้าวัตยืนยันในสิ่งที่เลือก ว่าทำให้ชีวิตวัตมีความสุข ป้าก็จะยอมรับ เพราะป้าเองก็อยากเห็นหลานมีความสุขมากกว่าความทุกข์นะจ๊ะ”
“ขอบคุณครับ คุณป้า ผมจะไปขอโทษอัญมา”
ภควัตตื้นตัน คิดตกก้มกราบวรจันทร์ที่ลูบหัวเขามองมาอย่างเอ็นดูและเข้าใจในความทุกข์ของหลานชาย

ภควัตแต่งตัวใหม่ กำลังจะเดินออกจากบ้าน เจอขวัญอนงค์ที่เพิ่งกลับจากชุมชนเดินเข้าบ้านมา
“ค่อยยังชั่วแล้วเหรอคะ พี่วัต จะออกไปไหน”
“พี่จะไปหาอัญมา”
“ไม่ต้องไปหาหรอกค่ะ น้องได้คำตอบมาให้พี่วัตแล้ว”
วรจันทร์เดินออกมามองสายตาสงสัย
“คุณน้องไปเจออัญมาเหรอครับ”
“ค่ะ แล้วเค้าก็บอกเรื่องสำคัญกับน้องมาด้วย อัญมาบอกว่าเค้ากำลังจะแต่งงาน”
“ไม่จริง” ภควัตสีหน้าไม่เชื่อ เถียงทันที
วรจันทร์มองตกใจ ขวัญอนงค์ยืนยันอีกครั้ง
“อัญมาเค้าบอกน้องค่ะ ว่าเค้าจะแต่งงานกับคนรักของเค้า”

ใจภควัตร้อนเป็นไฟเดินเร็วรี่มาที่หน้าบ้าน เจออุบลกำลังกวาดบ้าน ก็เดินตรงเข้าไปหา
“ไอ้อัญมันไม่อยู่” อุบลบอก
“ไปไหนครับ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นมันหน้าเศร้าๆ ไอ้อัญมันมีเรื่องอะไร แกรู้มั้ย ไอ้วัต”
“ผมกับอัญเข้าใจผิดกัน ผมมันโง่เอง ป้าอุบลครับ ผมมีเรื่องสำคัญต้องบอกป้า เดี๋ยวผมจะพาอัญกลับมาคุยพร้อมๆ กันเลยนะครับ”
ภควัตยกมือไหว้อุบลแล้วรีบวิ่งออกไป อุบลมองตามงงๆ
“เรื่องสำคัญ...เรื่องอะไร?”

อัญมานั่งอยู่ริมน้ำ ทอดสายตามองสายน้ำไหลเอื่อยด้วยความทุกข์ใจเรื่องภควัต อธิคมเดินมาด้านหลัง นั่งลงใกล้ๆ อัญมาหันไปมอง อธิคมยื่นกล่องแหวนมาตรงหน้าอัญมามองสีหน้าตกใจ
อธิคมเปิดกล่องออก เห็นเป็นแหวนเพชรวงเล็กๆน้ำงาม
“ฉันไม่สนใจเรื่องพิธี ฉันถือว่าเรื่องของความรัก เป็นเรื่องของคนสองคน”
“พี่คม”
“ฉันไม่ใช่คนดี แต่ฉันรู้ว่าความรักเป็นยังไง เธอคือคนสุดท้ายที่ฉันอยากฝากชีวิตไว้นะ อัญ”
อัญมามองอธิคมด้วยสายตาสงสาร
ภควัตก้าวเข้ามาทางด้านหลังในจังหวะนี้ เห็นภาพอธิคมกำลังยื่นแหวนให้อัญมา ถึงกับยืนตัวชา
อธิคมจับมืออัญมามากุมไว้ อัญมาสบสายตาอธิคม
ภตวัตมองแล้วหันหลังเดินออกไปด้วยความเศร้า ทนเห็นภาพต่อไปไม่ไหว
สองคนจึงไม่ทันเห็นภควัตที่เดินออกไป อธิคมมองหน้าสบตาอัญมา
“ถ้าเธอยอมสวมแหวนวงนี้ ชีวิตฉันจะเป็นของเธอ...จนวันตาย”
อัญมาน้ำตาคลอ ยิ่งสงสารความจริงใจของอธิคม
“ฉันขอเวลาอีกหน่อยนะ พี่คม”
อัญมาพูดได้แค่นั้น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่แท้จริง
อธิคมค่อยๆ เอากล่องแหวนใส่ในมืออัญมายิ้มบอก
“ฉันจะรอเธอคนเดียว”
อัญมามองนิ่งสะเทือนใจกับความรัก ความจริงใจที่อธิคมมีให้

ภควัตเดินหนีมาแล้วหยุดยืนนิ่ง ภาพอธิคมกุมมืออัญมามีแหวนในมือยังติดตา ก่อนที่ภาพซึ่งเคยใกล้ชิดกับอัญมาหลายครั้งผุดซ้อนขึ้นตามมาเป็นระลอก จนสุดท้ายถึงวันที่รู้ความจริงว่าพ่ออัญมาเป็นช่วยชีวิตเขาไว้

ภควัตมีสีหน้าผิดหวัง เสียใจยิ่งนักที่เป็นคนผลักไสอัญมาออกไปจากชีวิต

เช้านี้ อัญมานั่งอยู่ตรงหน้า อุบล จิ๊บ และนวย ทุกคนตาโตเมื่อได้ฟัง

“อธิคมขอแกแต่งงาน”
อัญมาหยิบกล่องแหวนออกมาวางตรงหน้า จิ๊บรีบเปิดออก สามคนมองแหวนตาโต
“ตายแล้ว...ฉันอยากจะเป็นลม ไอ้อัญ นี่มันแหวนเพชร” อุบลว่า
นวยจ้อง “กี่หมื่นกี่แสนเนี่ย”
อัญมาบอกท่าทีเฉยเมย “อยากได้ แกก็เอาไปสิ นวย”
“บ้าเหรอ เจ๊ พี่คมมันจะได้ฆ่าปาดคอ หมกศพฉันยัดถังสองร้อยลิตร เอาไปเผานั่งยาง แล้วก็ถ่วงน้ำทิ้ง บรึ๋ย ไม่เอาหรอก ฉันไม่ยุ่งกับของๆพี่คม”
จิ๊บซักหน้าตาเป็นกังวล “แกอย่ามาพูดเป็นเล่น ไอ้อัญ แกตอบอธิคมไปว่ายังไง”
“เจ๊ก็ถามตลก ถ้าตอบว่าแต่ง จะมานั่งทำหน้าหมาเหงาหมาอกหักแบบนี้เหรอ”
“ฉันยังไม่ตอบอะไรทั้งนั้น”
อัญมาวางกล่องแหวนไม่สนใจ เดินออกไป อุบลมองแล้วพูดขึ้น
“ที่ไม่ตอบคงเพราะยังรักไอ้วัต”
“นั่นนะสิ มิน่าไอ้วัตถึงรีบตามมาง้อ” จิ๊บเห็นด้วย
“แล้วเจ๊อัญเค้ารู้มั้ยว่า พี่วัตมาง้อ” นวยเอ่ยขึ้น
“หยุดเลยเอ็ง ไม่ต้องปากมาก เรื่องของผู้ใหญ่”
จิ๊บหันไปดุนวยที่หน้าย่น อุบลมองตามลูกสาวได้แต่ทอดถอนใจ

สองคนนัดเจอกันที่มุมหนึ่งนอกชุมชน ภควัตยืนอยู่หน้าจ่าเดชที่ย้อนถามทันทีที่ได้ฟัง
“ให้ไอ้อัญเลิกเป็นสาย”
“จ่าไปบอกเค้าด้วยแล้วกัน ว่าผมจะรีบทำเรื่องเบิกเบี้ยเลี้ยงแล้วให้จ่าเอาไปให้เค้า”
จ่าเดชงง ตามไม่ทัน “เดี๋ยวๆๆ เดี๋ยวครับ ผู้กอง ผมว่าพูดแบบนี้ ชักไม่สวยละ ไอ้อัญมันไม่ห่วงเรื่องเงินแน่ๆ ทำไมผู้กองไม่บอกมันเอง อ่ะ...หรือว่างอนกันอีกแล้ว”
“ไม่มีอะไร”
“อย่าคิดจะโกหก สายตาเหยี่ยวอย่างจ่าเดช มีอะไรให้จ่าเดชเคลียร์มั้ยครับ”
“ไม่มี”
ภควัตตอบห้วนเดินออกไป จ่าเดชเกาหัวแกรกๆ
“ความรักวัยรุ่นนี่เข้าใจยากจริงๆ”

อีกฟากหนึ่ง เสี่ยวินิจมองจ้องหน้าอธิคมที่ยืนตรงหน้าในห้องทำงานบนเรือนใหญ่
“ผมขออัญแต่งงานแล้ว”
“อธิคม แกกล้าขัดคำสั่งฉัน แกกล้าท้าทายพ่อแกใช่มั้ย”
“ผมบอกพ่อแล้ว อย่าแตะอัญ” อธิคมมองวินิจสายตานิ่ง “ผมไม่ได้เอาแต่ใจ แล้วถ้าพ่อยังสงสัยอัญ นี่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด ให้อัญเป็นเมียผมอยู่กับผม พ่อจะได้เลิกระแวงเรื่องอัญเป็นสายตำรวจสักที”
อธิคมบอกแล้วเดินออกไปเลย วินิจมองจนลูกลับสายตาด้วยความผิดหวัง
“งานที่ฉันสร้างมากับมือ ฉันไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำลายทั้งนั้น”
วินิจรีบกดมือถือต่อสายหาเสี่ยใหญ่ นายทุนผู้อยู่เบื้องหลังขบวนค้ายาเสพติด
“สวัสดีครับ เสี่ยนะครับ...ผมว่าเราต้องรีบหาสายอีกสักคนในพวกตำรวจ ไม่อย่างงั้น งานเราจะโดนก่อกวน ยิ่งปล่อยไว้นาน งานเราจะยิ่งพังทั้งหมดแน่ๆครับ เสี่ย”

ด้านกฤษณ์กำลังแต่งตัวจะไปทำงาน สุคนธรสในชุดนอนเดินถือโบรชัวร์บ้านหลายแผ่นหลายโครงการมายื่นให้ตรงหน้า
“อะไรครับ รส”
“โครงการบ้านค่ะ สวยๆ หรูๆทั้งนั้นเลย”
“รสจะซื้อบ้านเหรอครับ”
สุคนธรสกระเง้ากระงอด “กฤษณ์อ่ะ รสไม่ได้ซื้อ คุณสิคะที่ต้องซื้อให้รส”
กฤษณ์มองสุคนธรสงงๆ
“ให้ผมซื้อ”
“ถ้าแต่งงานกันแล้ว รสไม่อยู่คอนโดนะคะ รสต้องมีบ้านสวยๆ หลังใหญ่ๆ เป็นเรือนหอ”
“อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้เลย รส บ้านหลังใหญ่ก็ภาระ ค่าจ่ายเยอะ ยังไม่มีลูก อยู่คอนโดไปก่อนเถอะ อีกอย่าง ผมมีแค่เงินเดือนตำรวจ ยังไม่อยากมีหนี้ท่วมหัว”
สุคนธรสอารมณ์ขุ่น “อะไรคะ กฤษณ์ พ่อแม่คุณก็มีฐานะ จะไม่ช่วยซื้อเรือนหอแค่สิบกว่าล้าน ไว้รับขวัญลูกสะใภ้เลยเหรอคะ”
“ผมมีพี่น้องหลายคนนะ รส อีกอย่างคุณพ่อ คุณแม่ก็ยังไม่แบ่งมรดกให้ใคร ขืนผมไปขอท่านตอนนี้ มีหวังพวกพี่น้องมันจะได้รุมทึ้ง หาว่าผมแช่งคุณพ่อคุณแม่”
“แต่คุณต้องมีหน้ามีตาให้สมฐานะนะ กฤษณ์ ชีวิตเราจะพอใจกับความสุขแค่นี้ไม่ได้ ถ้าอยากมีบารมีให้ทุกคนก้มหัวให้ คุณก็ต้องมีทรัพย์สิน มีหน้าตา มีฐานะให้เหนือกว่าทุกคน”
“ผมมีแน่ ยังไงตอนนี้ผมก็เขี่ยไอ้วัตพ้นทางไปได้คนนึงแล้ว ต่อไปเจ้านายจะต้องเห็นฝีมือผม ผมต้องได้ไปไกลกว่านี้แน่นอน คุณ...อย่ามาสั่งสอนผมทำตัวเองให้ดี ให้สมกับที่จะต้องยืนเคียงข้างผมก่อนดีกว่า”
กฤษณ์โมโห เดินออกไป ปิดประตูดังปัง!
สุคนธรสปาโบรชัวร์ลงพื้นด้วยความเจ็บใจ
“สุคนธรส ทำไมแกมันโง่ๆๆๆอย่างนี้ ทิ้งภควัตมาทำไม...ทนอีกหน่อยก็ไม่ต้องมาเป็นแฟนไอ้สารวัตรกฤษณ์งี่เง่าแล้ว”
สุคนธรสมองเจ็บใจตัวเอง

ตกตอนเย็น ขณะกฤษณ์กำลังจะเดินเข้าไปด้านในฐานลับ แต่เห็นประพจน์ยืนคุยอยู่กับสิทธิชัย กฤษณ์รีบหลบฟัง
“ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อคลิปผู้กองภควัต ที่สารวัตรกฤษณ์เปิดให้ดู” ประพจน์บอก
กฤษณ์นิ่วหน้าฟัง สีหน้าเดือดปุดๆเมื่อได้ยินชื่อภควัต
“นั่นสิครับ ผู้กองภควัต ประวัติดี ทำงานตรงไปตรงมา เข้าขั้นยอมตายถวายชีวิตซะด้วยซ้ำ” สิทธิชัย เห็นด้วย
“ยังไงเราก็ต้องฟังหูไว้หู คนเรา ถ้าไม่รู้จักความพอดี เห็นแก่ชื่อเสียงเงินทอง อำนาจวาสนา อะไรมันก็เปลี่ยนไปได้หมด เราต้องระวังถ้าเกิดผู้กองภควัตเห็นแก่ผลประโยชน์ที่พวกค้ายาเอามาล่อ”
สิทธิชัยไม่เชื่อ “ผู้กองภควัต เป็นถึงหลานรัฐมนตรีอภิกานต์ รวยติดอันดับเศรษฐีเมืองไทย ผมว่าไม่น่าจะลำบากถึงขนาดเห็นแก่เงิน”
“ยังไงผมจะรายงานเรื่องทั้งหมดกับท่านรองอีกที ภควัตเริ่มทำงานที่นี่มาก่อน ผลงานก็ดีมาก...เราจะไม่ปลดเค้าออกอย่างไร้ความยุติธรรม”
สิทธิชัยพยักหน้ารับรู้

กฤษณ์ที่ได้ยินทั้งหมด ตาลุกวาวความด้วยแค้นใจ

สุดท้ายกฤษณ์เดินออกมาในห้างไม่ยอมเข้าฐานลับ สายตากฤษณ์มีแต่ความเจ็บใจ

ขณะเดินผ่านหน้าโครงการขายบ้านหรูที่มาจัดงานเปิดโครงการในห้าง กฤษณ์หยุดมองโมเดลบ้าน พนักงานขายรีบเข้ามายื่นโบรชัวร์ คิดถึงคำพูดสุคนธรส

“ชีวิตเราจะพอใจกับความสุขแค่นี้ไม่ได้ ถ้าอยากมีบารมีให้ทุกคนก้มหัวให้ คุณก็ต้องมีทรัพย์สิน มีหน้าตา มีฐานะให้เหนือกว่าทุกคน”
สายตากฤษณ์มีแต่ความโกรธแค้นและความอิจฉา
“ไอ้วัต...เมื่อไหร่แกจะไปพ้นๆทางของฉันสักที ฉันต้องได้ทุกอย่างเหนือแก”

ภควัตใส่หมวกหรุบหน้าเดินมาหยุดมองหน้าบ้านอุบล มองเห็นอุบลกำลังกวาดบ้านอยู่ด้านใน
“ผมจะชดใช้ แทนบุญคุณสามีป้าที่ช่วยชีวิตผมไว้”
ภควัตมองอุบลแล้วถอยออกไป อุบลออกมายังหน้าบ้านมองไปที่รั้ว เห็นหลังภควัตเพิ่งเดินออกไป
“ใคร... ท่าทางคุ้นๆ เหมือนไอ้วัต”

อัญมากำลังโยนบอลเหงาๆ อยู่คนเดียวในลานกีฬา ภควัตเดินมาด้านหลังทอดสายตามองอัญมานิ่งนานด้วยอาวรณ์ จนอัญมารู้สึกว่าถูกมองก็หันไป
“ผู้กอง”
ภควัตรีบเปลี่ยนสายตามองอัญมาอย่างเย็นชา
“เจอก็ดีแล้ว ผมฝากจ่าเดชมาบอกเรื่องเบี้ยเลี้ยงที่เธอต้องได้ รอหน่อยแล้วกัน ผมไม่เบี้ยว”
“นี่เหรอ เรื่องที่ผู้กองจะบอกฉัน”
“ก็เราไม่มีอะไรต้องคุย ต้องติดต่อ ผมไม่ต้องให้คุณช่วยงานอีกแล้ว”
ภควัตทำท่าแข็งๆ ใส่ กลบเกลื่อนความรู้สึกในใจ
“เงินที่ได้มันอาจจะไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยที่คุณยอมเสี่ยง ผมก็เลยเอาเงินส่วนตัวอีกก้อนเพิ่มไปให้ อย่างน้อยก็ถือว่าตอบแทนความดีที่พ่อคุณช่วยชีวิตผม”
อัญมาโกรธ พุ่งเข้าไปตบหน้าภควัตสุดแรง ภควัตหน้าสะบัดไป
“อย่าคิดว่าเงินจะซื้อได้ทุกอย่าง”
“ผมทำเพราะผมไม่อยากติดค้าง...ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร”
“ไม่ต้อง ฉันกับแม่ไม่เคยถือว่าเป็นบุญคุณ พ่อฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน”
“ใช่สิ... ตอนนี้คุณกำลังจะมีฐานะสบายกว่าเดิม อธิคมคงไม่ปล่อยให้แฟนลำบาก” น้ำเสียงภควัตเย้ยหยันเป็นที่สุด
“ผู้กองภควัต อย่าดูถูกฉันมากกว่านี้”
“ผมต้องดีใจล่วงหน้าใช่มั้ย งานแต่งงานใหญ่โตของลูกชายนักค้ายาระดับประเทศกับเจ้าสาวคนสวย”
อัญมาโกรธกว่าเก่า พุ่งจะเข้าตบหน้าซ้ำ ภควัตกระชากข้อมืออัญมามองจ้อง
“มีความสุขให้พอเลยนะ อัญมา ผมจะไม่ยุ่งวันแต่งงานของคุณ แต่หลังจากนั้น ผมสาบาน... ผมจะจับไอ้วินิจกับอธิคม แฟนคุณมารับโทษให้ได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณรักแม่คุณ ไม่อยากเห็นแม่คุณร้องไห้ แต่งงานแล้วก็รีบหนีไปซะ ก่อนที่ผมจะจับคุณเข้าคุกในฐานะสมรู้ร่วมคิดกับอธิคม”
สายตาภควัตที่จ้องมองอัญมามีแต่ความหมางเมิน บัดนี้ทั้งคู่มีแต่ความบาดหมาง ผิดใจกันอย่างรุนแรง

อธิคมยืนอยู่ในบ้านรออัญมานานแล้ว อุบลกับจิ๊บมอง
“ทำไมถึงจะแต่งงานกับลูกสาวฉัน”
อธิคมมองมายังอุบลที่ถามขึ้น จิ๊บมองลุ้นว่าอธิคมจะตอบยังไง
“ฉันกับอัญ เรารักกัน”
อุบลกับจิ๊บมองอึ้งๆ ที่อธิคมตอบ
“ไอ้อัญน่ะเหรอ รักพี่คม” จิ๊บอดถามไม่ได้
“ใช่ ฉันไม่อนุญาตให้อัญรักใคร นอกจากฉัน”
คำตอบของอธิคมยิ่งทำให้อุบลกับจิ๊บไปไม่เป็น
“จะให้ฉันจัดงานแต่งใหญ่โตในโรงแรมก็ได้”
อุบลชักฉุน “ฉันไม่ได้ถามเพราะจะขายลูกสาวกิน ฉันอยากแน่ใจว่าไอ้อัญมันจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาไปกับผู้ชายที่ดูแลมันได้ตลอดชีวิต ไม่ทำให้ลูกสาวฉันเสียใจ”
อุบลมองอธิคมนิ่ง เห็นแต่สีหน้าอันจริงจังของอธิคม

ส่วนอัญมาพยายามบิดมือออกจากภควัต ภควัตไม่ยอมปล่อย
“จะรีบไปไหน หรือว่าเจ้าบ่าวรออยู่”
“ฉันจะทำอะไร คบกับใคร มันก็เรื่องของฉัน ฉันก็ไม่ต้องรายงาน เพราะฉันไม่ได้ทำงานให้ผู้กองแล้ว ผู้กองเป็นคนไล่ให้ฉันออกไปจากชีวิต คนอย่างอัญมา พูดครั้งเดียวรู้เรื่อง ไม่ต้องไล่ซ้ำสอง...ปล่อย”
อัญมาสะบัดมือเต็มแรง ภควัตต้องปล่อยมือ
“แล้วเรื่องที่ฉันจะแต่งงานกับพี่คม มันก็เรื่องส่วนตัวของชั้น ไม่ต้องให้คนนอกอย่างคุณมาสั่งว่าฉันต้องทำยังไง”
อัญมาหันหลังจะเดินออกไป ภควัตพูดขึ้น
“ถ้ามีโลกคู่ขนานจริงๆ คุณก็กลับไปเป็นคุณหนูอัญมาสิ ไม่ต้องอยู่ที่โลกนี้ ไม่ต้องแต่งงาน”
อัญมาหันกลับมามองจ้องหน้าตาภควัต ที่พูดออกไปด้วยทิฐิ สายตาปกปิดความในใจ
“กลับไปเป็นคุณหนู ร่ำรวย มีพ่อแม่ ...มีคนที่รอคุณอยู่”
“คุณไม่ต้องไล่ฉันหรอก ฉันรู้ว่าที่นี่ ฉันหมดประโยชน์ หมดความหมายกับคุณแล้ว”
“คุณไม่ต้องห่วงป้าอุบล คุณไม่อยู่ ผมจะดูแลป้าอุบลอย่างดี”
“เพราะอะไร รู้สึกผิดมากใช่มั้ยที่ทำให้พ่อฉันตาย”
“ผมต้องชดใช้ที่ทำให้คุณกับป้าอุบลลำบาก”
“ไม่ต้อง เราสองแม่ลูกไม่เคยกลัวความลำบาก พ่อฉันเป็นพลเมืองดีตายเพื่อปกป้องชีวิตคุณ ถ้าคุณคิดจะชดใช้ ก็ขอให้เป็นตำรวจที่ดี ช่วยให้สังคมนี้ดีขึ้น พ่อฉันจะได้ไม่ตายฟรี”
อัญมามองจ้องหน้าภควัตด้วยแววตาน้อยใจ
“ไม่ต้องคิดจะมาดูแลเราสองแม่ลูก”
ภควัตพาล “มีอธิคมอาสาดูแลคุณกับแม่แล้วนี่”
“ใช่...คุณไม่ต้องไล่ฉันไปเป็นคุณหนูอัญมา เพราะถึงฉันกลับไป ฉันก็จะแต่งงานกับ จิรายุ คนรักของฉัน”
ภควัตเยาะ “ไม่ว่าโลกไหน ก็มีเจ้าบ่าวรออยู่”
“ใช่”
“งั้นผมก็ขอโทษด้วยที่ออกความเห็นโง่ๆออกไป ไม่รู้ว่าคุณมีทางเลือกเยอะแยะ”
“คนอย่างอัญมา ไม่เคยทำตัวเป็นของตายของใคร”
อัญมาเชิดหน้ามองภควัตด้วยมาดคุณหนู
“ดี ผมจะได้หมดห่วง ไม่รู้สึกผิดที่ลากคุณมาทำงานเป็นสายให้ตำรวจ”
อัญมามองภควัต แววตาสองคนมองหมางเมินใส่กัน ไม่ยอมหลุดความในใจออกมาให้อีกฝ่ายเห็น
“หมดเรื่องแล้วใช่มั้ย พักนี้ฉันไม่มีเวลาว่าง คนจะแต่งงาน ผู้กองคงเข้าใจนะ”
อัญมาสะบัดหน้า หันหลังให้ภควัต สายตาเปลี่ยนเป็นเสียใจที่ต้องทำท่าไม่แคร์ออกไป

เฉกเช่นเดียวกัน ภควัตทอดตามองด้านหลังอัญมาที่เดินห่างออกไป ในสายตามีแต่ความเสียใจ

อ่านต่อหน้า 4

คีตโลกา ตอนที่ 10 (ต่อ)

อธิคมยืนอยู่นอกบ้าน ส่วนอุบลกับจิ๊บอยู่ด้านใน อัญมาเดินกลับมา อธิคมเห็นรีบปราดเข้าไปหา อุบลกับจิ๊บก้าวออกมามอง

“หายไปไหนมา”
“ฉันไปเดินเล่นแถวๆ นี้ พี่คมมีอะไรหรือเปล่า”
“มารอตั้งนานแล้ว”
จิ๊บบอกลอยๆ ให้อัญมารู้ อัญมายิ้มให้อธิคมที่ยิ้มตอบมาเช่นกัน

ภควัตกลับเข้าบ้าน เดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในโถงคฤหาสน์ท่าทีเหงาๆ วรจันทร์ และ อภิกานต์ ยืนมองอยู่ห่างๆ ขวัญอนงค์ทนไม่ไหวพูดขึ้น
“ท่าทางยังกับอกหักอีกแล้ว น้องต้องไปถามรู้เรื่อง”
ท่านอภิกานต์ไม่ยอม ดึงแขนลูกสาวไว้
“ไม่ต้อง ยายน้อง ปล่อยให้พี่เค้ามีเวลาส่วนตัวบ้าง”
ขวัญอนงค์อิดออด “แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ ตามพ่อไปห้องทำงาน พ่อมีรายงานประชุมในพรรคต้องสรุป มาช่วยพ่อทำงานดีกว่า”
อภิกานต์ดึงขวัญอนงค์ที่ไม่ค่อยเต็มใจให้เข้าบ้านไป วรจันทร์มองภควัตแล้วตัดสินใจค่อยๆ เดินไปหา ภควัตกำลังมองเหม่อคิดแต่เรื่องอัญมา วรจันทร์เดินลงมานั่งใกล้ ยิ้มอบอุ่นให้หลานชาย แล้วเอามือภควัตมาจับเบาๆ
“ไปเจออัญมามาแล้วใช่มั้ย”
“ครับ คุณป้า เค้าดูมีความสุขดีที่จะได้เป็นเจ้าสาวของอธิคม”
“ลูกชายพ่อค้ายาน่ะเหรอ”
“ครับ อธิคมเค้ารักอัญมามาก”
วรจันทร์จ้องหน้าภควัต “มากกว่าที่วัตรักหรือเปล่า”
ภควัตมองป้าแบบอึ้งไปที่ถูกถามตรงๆ
“ผมกับอัญมา…”
“วัตจะปฎิเสธป้ายังไงก็ได้” คุณหญิงยิ้ม “แต่วัตปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้”
“ผมแค่...รู้สึกดีกับอัญมา คงไม่ใช่ความรักเหมือนที่อธิคมมีให้”
“เอาเถอะ วัตจะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไรก็แล้วแต่ ป้ารู้ว่าวัตจะทำใจ ยอมรับสิ่งที่อัญมาเลือก”
“ผมเตือนเค้าแล้ว เรื่องแต่งงานกับลูกชายพ่อค้ายา”
“อัญมาเค้าไม่ได้ทำประชดใครใช่มั้ย”
วรจันทร์ถามอย่างคนเป็นผู้ใหญ่ มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ภควัตส่ายหน้า
“ไม่หรอกครับ อัญมาเค้าใกล้ชิดกับอธิคมมาตลอด”
วรจันทร์มองภควัตแล้วยิ้มๆ ที่หลานชายไม่เข้าใจอัญมา
“เอาเถอะ เรื่องบางเรื่อง วัตก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ป้าจะบอกไปซะทุกอย่าง วัตก็จะไม่ได้สังเกตอะไรเลย”
ภควัตมองป้า วรจันทร์ตบมือให้กำลังใจหลานชายเบาๆ
“จำคำป้าไว้นะวัต คนเราจะอยู่ด้วยกันได้ ศีลย่อมต้องเสมอกัน ถ้าอัญมาเค้าเลือกจะแต่งงานกับลูกชายพ่อค้ายา ก็เท่ากับเค้าเลือกเส้นทางชีวิตข้างหน้าที่ขรุขระ มีแต่ขวากหนาม ไม่ว่าวัตจะดึงจะฉุดรั้งเค้ายังไง เค้าก็จะไม่กลับมา”
ภควัตมองป้าที่กำลังสอนด้วยความรู้สึกลำบากใจ
“แต่ถ้าเค้าเปลี่ยนใจ ไม่แต่งงาน แสดงว่าอัญมาไม่ใช่คู่ชีวิตของอธิคมเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อกันและกัน”
ภควัตสีหน้าลังเล วรจันทร์ยิ้มพลางลุกขึ้น
“ส่วนวัตของป้า...ไม่ต้องพยายามลืมอัญมา เพราะวัตจะไม่มีวันลืมได้ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ หัวใจวัตจะลืมอัญมาได้เอง โดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลย”
วรจันทร์ยิ้มให้กำลังใจหลานชาย แล้วเดินกลับออกไป เมื่ออยู่ตามลำพังสีหน้าภควัตมีแต่ความเศร้าหมอง ครวญคร่ำกับตัวเองออกมาอย่างเดียวดาย

“อัญมา...ฉันจะลืมเธอได้ยังไง”

เย็นนั้น มีโต๊ะอาหารตั้งอยู่ภายในบ้านอันคับแคบของอุบล อธิคมกำลังตักอาหารชั้นดีหลายอย่างที่สั่งมาพิเศษ ให้อัญมา มีอุบลนั่งใกล้อัญมา อธิคมตักอาหารให้อุบลด้วย นวยกับจิ๊บนั่งกินห่างออกมา อุบลบ่นกระปอดกระแปด

“ซื้อมาทำไมตั้งมากมาย จะกินหมดได้ยังไง”
อธิคมยิ้ม “กินไม่หมด ก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากให้อัญกับป้าได้กินของอร่อยๆ”
“ขอบใจนะพี่คม แต่วันหลังไม่ต้องซื้อมาเยอะขนาดนี้ กินทิ้ง กินขว้าง สงสารชาวนา” อัญมาว่า
“ได้ วันหลังอัญกับแม่อยากกินอะไร ก็บอกนะ ฉันจะซื้อมาตามที่อัญสั่ง”
จิ๊บได้ยินอธิคมพูดคำหวานใส่เพื่อนก็ถึงกับสำลักพรวด นวยตบหลังพี่สาว อธิคมหันไปมอง แล้วเอ่ยชวน
“มานั่งกินด้วยกันสิ จิ๊บ นวย”
จิ๊บบอกทันที “ไม่อ่ะ กินห่างๆ ดีกว่า”
อธิคมชวน “มาสิ เพื่อนอัญก็เหมือนเพื่อนฉัน”
นวยปฏิเสธ “ไม่เหมือน ไม่เหมือนเด็ดขาด พี่คมกินไปตามสบายเลย ฉันกินกับพี่จิ๊บตรงนี้คล่องคอกว่าเยอะ”
อธิคมหยิบมือถือออกมา ถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองกินข้าวกับอัญมา แล้วถ่ายรูป 3 คนที่มีอุบลด้วย
“จะโพสต์ลงเฟซเหรอ พี่คม” นวยถามหน้าทะเล้น
“เปล่า จะเก็บไว้ดูเอง อุตส่าห์ได้มากินข้าวบ้านแฟนทั้งที”
อธิคมยิ้มแย้มมีความสุขล้น อัญมาฟังแล้วเก้อๆ อุบลหน้าเจื่อนทำตัวไม่ถูก
“ยิ้มหน่อยสิ อัญ”
อธิคมถ่ายรูปบรรยากาศกินข้าว มีทั้งรูปคู่กับอัญมาสองคน รูปกับอุบล ยังมีรูปจิ๊บกับนวยมาแจมด้วย สองพี่น้องถือจานข้าวเกร็งๆ
อธิคมตักอาหารเอาใจทั้งอัญมา และอุบล ด้วยรอยยิ้ม
อัญมาสะทกสะท้อนใจ มองอธิคมด้วยแววตาสงสาร

คืนเดียวกันภควัตอยู่ในบ้าน กำลังมองภาพข่าวในแฟ้มแล้วกุมขมับ นึกถึงวันที่อัญมาบอกความจริงเรื่องพ่อ แล้วหงุดหงิด ปัดแฟ้มกระเด็น
“โธ่โว๊ย ทำไมอัญมา... ทำไมเธอต้องเป็นลูกของนายรัตน์ ทำไมเธอถึงไม่ยอมให้ฉันช่วยเหลือครอบครัวเธอ”
ภควัตทั้งกดดัน และผิดหวัง อยู่เพียงลำพัง

หลังมื้อค่ำอัญมาเดินออกมาส่งอธิคมที่หน้าบ้าน เอ่ยปากแซวยิ้มขำๆ
“วันนี้พี่คมดูมีความสุขมากกว่าทุกคนเลยนะ”
“ตั้งแต่ไม่มีแม่...ฉันก็ไม่เคยกินข้าวแบบครอบครัวอีกเลย”
อธิคมพูดด้วยสีหน้าระบายยิ้ม นั่นยิ่งทำให้อัญมาสงสาร
“พ่อไม่มีเวลามาสนใจฉัน...เราต่างคนต่างอยู่ ยิ่งพอฉันเกเร มีเรื่องกับคนไปทั่ว เรียนมหาวิทยาลัยไม่จบ พ่อก็แทบจะไม่เห็นฉันเป็นลูกแบบที่พ่อคนอื่นเค้าเป็น”
อัญมามองอธิคมที่ระบายความในใจ
“พ่อให้ฉันมาทำงาน เผอิญว่าฉันคงจะดวงขึ้นเรื่องเลวๆ ด้วยมั้ง ช่วยจนพ่อขยายเครือข่ายใหญ่โต กว้างขวาง...ความสัมพันธ์ของฉันกับพ่อถึงได้ดีขึ้น พ่อยอมรับฉัน ปลื้มในตัวฉัน หวังให้ฉันสืบทอดงานของพ่อ และพยายามผลักดันให้ฉันเป็นนักการเมือง แต่ฉันก็พลาดอีกจนได้ ฉันประมาทพวกมันเกินไป ไอ้ตำรวจคนนั้นมันถึงจับฉันได้”
อัญมาใจหายวาบ แข็งใจถามออกไป
“พี่รู้จักตำรวจคนที่จับพี่มั้ย”
“มันตายไปแล้ว”
อัญมาสงสัย “ตายยังไง”
“พ่อให้คนของเสี่ยใหญ่สืบจนรู้ว่ามันเป็นใคร คนของเสี่ยดูข้อมูลแฟ้มประวัติไอ้ตำรวจคนนั้นให้ มันเพิ่งตายในหน้าที่ไปเมื่อปีก่อน”
อัญมาโล่งอก ลอบถอนใจเบาๆ
“ดีที่มันตายไปซะ เพราะถ้าฉันเจอมันอีกครั้ง ฉันจะยิงกบาลมันด้วยมือฉันเอง”
“พี่คม...ทำยังไง พี่ถึงจะเลิกจากเส้นทางนี้ ฉันรู้ว่ามันยาก แต่พี่เคยคิดจะเลิกมั้ย”
“คนบาปอย่างฉัน ไม่มีอะไรมาลบล้างให้กลายเป็นคนดีได้หรอก คงต้องตกนรกขุมที่ลึกที่สุดไปอย่างนี้...ยกเว้นว่า เธอจะช่วยอยู่ข้างๆ ฉันนะอัญ”
อธิคมกอบกุมมืออัญมาไว้
“เธอกลัวหรือเปล่าที่ต้องอยู่กับฉัน”
“ฉันกลัว ฉันไม่อยากหนีตำรวจไปตลอดชีวิต ถ้าพี่จะแต่งงานกับฉัน ฉันก็อยากให้พี่เลิก ล้างมือออกมาจากแก๊งพี่บังซะ นะ พี่คม ...ถอนตัวตอนนี้”
อัญมาพยายามขอร้อง แววตาอธิคมเต็มไปด้วยความลำบากใจ
“ถ้าพี่ทำได้ เราจะแต่งงานกัน แล้วก็เริ่มชีวิตใหม่”
“ฉันขอเวลาได้มั้ย อัญ...ฉันยังห่วงพ่อ” อธิคมมองอัญมาด้วยแววตาจริงจัง “ขอบใจมากที่อัญยอมรับฉัน ฉันสัญญา ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของอัญ”
อธิคมยิ้มหวาน จนอัญมาอึ้งพูดอะไรไม่ออก อธิคมอาศัยจังหวะนี้ ขยับมาหอมแก้มอัญมาอย่างเร็ว อัญมาอึ้ง
“ฝันดีนะ”

อธิคมเดินเร็วออกไป อัญมามองตาม สายตายิ่งเศร้า

รุ่งเช้า จ่าเดชแวะมาที่บ้านอุบล ได้ฟังข่าวรับอรุณถึงกับสำลักกาแฟลงตรงหน้าจิ๊บกับนวย อุบลยืนเท้าสะเอวมอง

“ไอ้อธิคมน่ะนะจะแต่งงานกับไอ้อัญ”
“แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอีก จ่าเดช ฉันถึงได้กลุ้มอยู่นี่ไง” จิ๊บว่า
“เมื่อวานมาดินเน่อร์กันที่นี่ด้วย หวานซะหมดเดินสวนสนามกันเป็นแถว ตั้งแต่หน้ารั้วยันในบ้าน” นวยรายงานความหวาน
“ฉันไม่สบายใจเลยนะจ่า ไอ้อัญท่าทางเหมือนมันคบพี่คมประชดไอ้วัต ฉันดูไม่ออกจริงๆ ว่ามันคิดอะไรอยู่”
อุบลเอ่ยขึ้น “นั่นน่ะสิ ข้าว่าไอ้อัญท่ามันแปลกๆ แล้วไอ้วัตก็มาหายตัวไปอย่างนี้”
จ่าเดชแกล้งแหย่ “มีลูกเขยรวยไม่ดีใจเหรอ ดีกว่าลูกเขยจนๆ เป็นเซียนพระนะ อุบล”
“รวยเพราะค้ายา เงินสกปรก ฉันไม่อยากได้ ฉันไม่อยากให้ลูกสาวฉันเดือดร้อน ให้นอนอยู่บนกองเงิน มันก็เหมือนอยู่บนกองไฟ กลัวแต่ว่าบาปกรรมมันจะย้อนมาเอาคืนไม่ช้าก็เร็ว”
จิ๊บหันมาหาจ่าเดช “จ่ารู้มั้ยไอ้วัตมันหายไปไหน ตามมันมาเคลียร์กับไอ้อัญหน่อยสิ”
“ถึงขั้นนี้ เคลียร์ไปจะได้เรื่องเรอะ ไอ้วัตมันก็ไม่มีอะไรจะสู้อธิคมได้หรอกนะแต่ถ้าเจอ ก็จะบอกๆให้แล้วกัน ไม่รู้ไอ้วัตมันจะอยากมายุ่งกับเรื่องไอ้อัญอีกหรือเปล่าน่ะสิ”
เห็นจ่าเดชทำท่าไม่แน่ใจ พวกอุบล จิ๊บ และนวยยิ่งหน้าไม่ดี

ภควัตพาตัวเองมาที่บ้านพิบูลย์สุวรรณตามคำเชิญเจ้าของบ้านสองคนแต่เช้า เวลานี้เขานั่งอยู่ตรงหน้าอรรณพกับภรณีในห้องรับแขก
“ต้องขอโทษที่เชิญคุณมา ผมกับคุณภรณีมีเรื่องสงสัยอะไรอยากจะถามสักหน่อย”
“เรื่องหนูอัญมาน่ะค่ะ คราวก่อน เราเห็นเธอสนิทกับพวกนายวินิจแล้วก็ลูกชาย”
อรรณพตัดสินใจถาม “อัญมาเค้าเป็นคนรักของคุณไม่ใช่เหรอ”
“เคยเป็นครับ เรา..ไม่ได้คบกันแล้ว”
“โธ่ เสียดายจริงๆ หนูอัญไม่น่าไปยุ่งกับพวกมาเฟียอย่างลูกชายนายวินิจเลย” ภรณีครวญ
“เค้ากำลังจะแต่งงานกันครับ” ภควัตบอก
อรรณพตกใจนิดๆ “จริงเหรอ ไม่น่าเลย”
ภรณีบอกทันที “ฉันไม่ยอมนะคะ”
“ใจเย็นๆ คุณภรณี อัญมาไม่ใช่ลูกสาวเรา”
“ฉันเคยบอกคุณแล้ว ฉันถูกชะตาหนูอัญมาก ฉันไม่อยากเห็นแกตัดสินใจผิดๆ คุณภควัตช่วยพาฉันไปเจอหนูอัญหน่อยได้มั้ยคะ”
ภควัตเห็นภรณีขอร้องอย่างนี้ก็ยิ่งลำบากใจ

ฟากอัญมาเดินช็อปปิ้งอยู่ในห้างกับอธิคมที่ถือถุงของจนล้นสองมือ
“ไปดูร้านนั้นกันมั้ย”
“พอแล้ว พี่คม ไม่ต้องซื้ออะไรให้ฉันอีกแล้ว”
“ฉันก็อยากเอาใจเจ้าสาวของฉันมั่ง”
“ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงจะแต่งงานกับพี่เลยนะ”
“ฉันถึงต้องเร่งทำคะแนนจีบเจ้าสาวอยู่นี่ไง”
อธิคมยิ้มไม่สนใจว่าอัญมาจริงจัง กำลังจะเดินไปอีกร้าน เสียงมือถืออัญมาดังขึ้น อัญมามองเบอร์
“ผู้กอง”
อัญมาคาดไม่ถึงปนดีใจจนเผลอพูดคำนี้ออกมา อธิคมหันขวับมามอง อัญมารีบกลบเกลื่อน
“เบอร์โรคจิตน่ะพี่”
อัญมากดสายทิ้ง เดินไปทางอธิคม
“ไปหาขนมกินกันดีกว่า”
เสียงมือถือดังขึ้นอีก อธิคมมองชักสีหน้า
“เอามา ฉันรับให้เอง”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องรับหรอก”
“ไอ้วัตโทร.มาใช่มั้ย”
อธิคมมองจ้องคาดคั้น อัญมามีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เอามา ฉันจะคุยกับมันเอง”
อัญมาตัดสินใจรับสายเพราะไม่อยากให้มีเรื่อง
“ว่าไง บอกแล้วว่าอย่าโทร.มาอีก”

พอรู้ว่าพ่อกับแม่ในโลกคู่ขนานอยากเจอ ไม่นานต่อมา ภายในร้านอาหารหรูมีระดับ ภรณี และอรรณพ มองอัญมาที่นั่งลงตรงหน้า อัญมายกมือไหว้ภรณี และ อรรณพด้วยสายตาคิดถึง
“ฉันให้คุณวัตช่วยโทรตามหนูมา เรามีเรื่องอยากจะคุยกับหนูจ้ะ หนูอัญ”

ภรณียิ้มแย้ม มองอัญมาอย่างเอื้อเอ็นดู

ส่วนภควัตยืนกอดอก มองอธิคมที่ยืนตรงข้ามตาขวางใส่

“วันหลังอย่าโทร.ตามแฟนฉันอีก ใครอยากเจอก็ให้โทร.มาเอง”
ภควัตหมั่นไส้ มองกวนกลับอธิคม
“หวงจัง ไหนๆ ก็จะแต่งงานแล้ว ถ้าจะหวงขนาดนี้ วันหลังล่ามโซ่ไว้ที่บ้าน ไม่ต้องออกมาให้ใครเห็นนะ”
อธิคมยัวะ “แก ไอ้วัต”
“อย่ามีเรื่องกันกลางห้างเลย เดี๋ยวใครมาเห็นจะถ่ายคลิปไปลงยูทูป อายคนเค้าเปล่าๆ”
ภควัตตีรวนแถมทำหน้ากวนใส่
“เอาน่า รอแป๊บเดียว คุณภรณีเค้าคงคุยกับว่าที่เจ้าสาวนายไม่นานหรอก”
ภควัตยังทำหน้ากวนใส่อธิคมที่ดูหงุดหงิด ไม่สบอารมณ์เอามากๆ

อัญมามองภรณี กับอรรณพด้วยสายตาคิดถึง ภรณีเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น
“ฉันรู้จากคุณวัต เรื่องที่หนูกำลังจะแต่งงาน”
“อัญยังไม่แต่งหรอกค่ะ”
“อย่าหาว่าเราละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเลยนะ เราเห็นว่าหนูเป็นคนดี แต่อธิคม...ก็รู้ๆกัน... เรื่องที่เค้าทำอยู่กับพ่อของเค้า มันไม่ใช่เรื่องดี” อรรณพบอก
“อัญอยากจะให้อธิคมกลับตัวค่ะ”
“โธ่ หนูอัญ หนูเสียสละตัวเองทำแบบนี้ ฉันยิ่งเป็นห่วงหนูนะ ห่วงเหมือนลูกสาวของฉันเอง”
อัญมาดีใจเหลือเกิน “งั้นให้อัญเรียกคุณว่า คุณแม่ คุณพ่อได้มั้ยคะ”
ภรณีกับอรรณพมองหน้ากัน นึกไม่ถึง อัญมามองทั้งคู่น้ำตาคลอ ภรณีเอ่ยถามขึ้น
“จะดีเหรอจ๊ะ หนูอัญเองก็มีแม่อยู่แล้ว”
“คุณเป็นห่วงอัญ ให้ความรัก ความเอ็นดูอัญเหมือนที่แม่รัก อัญเองก็รักคุณสองคนมาก... รักเหมือนพ่อกับแม่อีกคน”
“ฉันไม่เคยรังเกียจหนูเลย ดีใจด้วยซ้ำที่หนูยอมมาพบกับเรา ยอมคุยกับเราเรื่องนี้”
“อัญมีเหตุผลที่ต้องใกล้ชิดกับอธิคมค่ะ... อัญอยากเปลี่ยนใจเค้าให้กลับมาเดินทางที่ถูก อัญเชื่อว่าอัญจะทำได้ อัญต้องเปลี่ยนใจอธิคมให้ได้”
อรรณพฉงน “ทำไมหนูต้องเอาตัวไปเสี่ยงขนาดนี้”
ภรณีสงสัย “หนูรักอธิคมใช่มั้ย ถึงเป็นห่วงเค้ามาก”
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ได้รัก อัญไม่ได้รักอธิคม”
“แสดงว่าหนูอัญยังรักคุณวัตอยู่”
อัญมาอึ้งไปทันที เมื่อเจอคำถามจี้ใจ
“หนูอัญ ในฐานะที่ฉันเอ็นดูหนู ฉันจะขอให้หนูคิดพิจารณาให้ถี่ถ้วนอีกสักครั้ง ที่จริงเรื่องของหนุ่มสาว ฉันก็ไม่อยากยุ่ง แต่ครั้งนี้มันเรื่องของอนาคต แล้วฉันก็เห็นว่าคุณวัตเค้าห่วงหนูมากจริงๆ”
อัญมาฟังแล้วมีสีหน้าลำบากใจ

ภควัตรออยู่นอกร้าน ทำทีเป็นยืนอ่านหนังสือใจเย็น ส่วนอธิคมเดินไปเดินมา สักครู่ อัญมาเดินออกมาจากร้านกับภรณี อรรณพ อธิคมรีบตรงเข้าไปคว้าข้อมืออัญมา
“ทำไมคุยนานนัก คุยอะไรกัน”
ภรณี และอรรณพมองอธิคมเห็นสีหน้าไม่พอใจชัดแจ้ง
“ไม่มีอะไรหรอกน่ะ พี่คม”
“ไปได้แล้ว”
อธิคมดึงมือ อัญมาหันไปมองภรณีกับอรรณพแล้วดึงแขนออกจากอธิคม
“อัญไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
อัญมาไหว้ภรณี และ อรรณพ สองคนรับไหว้ อธิคมมองตาขุ่นไม่ชอบใจ
พออัญมาหันมาทางภควัต แต่เขากลับทำเมินมองไปทางอื่น อัญมามองอย่างน้อยใจ จนเมื่ออธิคมดึงอัญมาออกไป ภควัตค่อยๆหันกลับมามองทางอัญมา
“สงสารหนูอัญจังเลย” ภรณีว่า
“อัญมาเค้ายอมเปลี่ยนใจ ไม่แต่งงานหรือเปล่าครับ”
อรรณพบอก “ท่าทางจะยาก”

ภควัตได้ฟังแล้วยิ่งใจหาย ระหว่างเขากับอัญมาต้องจบลงแบบนี้จริงละหรือ?

อ่านต่อตอนที่ 11
กำลังโหลดความคิดเห็น