คีตโลกา ตอนที่ 14
อธิคมตื่นแต่เช้า รีบเข้ามาหาพ่อในห้องทำงานทันทีเพื่อเคลียร์เรื่องที่โกดัง เสี่ยวินิจเงยหน้ามองลูกชายที่ยืนตรงหน้า และเปิดปากถามขึ้นด้วยน้ำเสียงขัดเคืองใจนิดๆ
“พ่อคิดว่าผมซ่อนใครไว้ในโกดัง”
“ใครก็ได้ ที่มันจะเอาความฉิบหายมาให้พวกเรา”
“ไม่มีหรอกพ่อ บอกแล้ว ให้พ่อเชื่อใจผม” อธิคมมองพ่อด้วยแววตาอันเด็ดเดี่ยว “คืนนี้ผมจะไปส่งของให้เด็กของเสี่ยใหญ่ พ่อคอยระวังไอ้พวกตำรวจให้ผมด้วยแล้วกัน”
วินิจบอกว่า “ให้คนอื่นไปส่ง ฉันไม่อยากให้แกพลาด ถูกจับขึ้นมา”
“ผมจะไปเอง ผมจะทำให้พ่อเห็นว่า อำนาจต้องอยู่ที่เรา ไม่ใช่ตำรวจ”
น้ำเสียงอธิคมแข็งกระด้าง มั่นใจเต็มที่จะพิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็น
อธิคมเดินออกมาจากห้องวินิจ เห็นเก้าที่รออยู่หน้าห้อง
“อัญออกมาจากห้องหรือยัง”
“ยังเลยพี่”
“ฉันจะออกไปข้างนอก แกเฝ้าอัญไว้”
“ถ้าเกิดเมียพี่จะออกไปไหนล่ะ ฉันกลัวว่าเกิดไอ้อัญ มันเครียดมากๆ ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้ไปหาแม่ หาเพื่อน เกิดมันผูกคอตายขึ้นมา”
อธิคมนิ่งคิด เก้ามองจ้องรอว่าอธิคมจะตอบยังไง
“งั้นเอ็งพาอัญไปหาแม่ แต่ก็คอยเฝ้าไว้ด้วย”
อธิคมสั่งแล้วเดินออกไป เก้ามองตาม
ตอนสายนั้นเอง อัญมาโผเข้ากอดอุบลด้วยความคิดถึง อุบลกอดลูกสาว จิ๊บกับนวยยิ้มดีใจเช่นกัน เก้าอยู่ใกล้จิ๊บ
“เอ็งไม่เป็นอะไรใช่มั้ย อัญ”
“ไม่จ้ะ ฉันไม่เป็นอะไร แม่ล่ะ”
นวยบอก “ไอ้พ่อเลี้ยงเจ๊มันถูกปล่อยมาละนะ เห็นเดินร่อนไปทั่วซอย”
อัญมารีบหันมาทางแม่ “ไอ้สัญชัยมันทำอะไรแม่หรือเปล่าจ๊ะ”
“เปล่าหรอก แม่บอกมันแล้วว่าจะไปก็ไป แต่มันยังหาที่อยู่ไม่ได้ นึกว่าเวทนามันก่อนนะ อัญ”
“ถ้ามันไม่ทำอะไรแม่ ก็แล้วไป”
“ไม่ต้องกลัว อัญ ฉันกับไอ้นวยคอยอยู่ใกล้ๆป้าอุบล”
“ต้องขอบใจเก้า” อัญมาพูดประชด “เค้าคอยช่วยเฝ้าฉันไม่ให้คลาดสายตา”
จิ๊บหันไปมองเก้าที่หน้าเจื่อนๆ ไป นวยแกล้งเดินไปใกล้เก้า ทำชวนคุย
“เออ พี่ เมื่อคืนดูบอลป่าว”
เก้าหันไปคุยกับนวยเรื่องบอล
อัญมารีบดึงจิ๊บมาใกล้แล้วถามเบาๆ
“จ่าเดชล่ะ หายไปไหน”
“สงสัยเพิ่งออกเวร เลยกลับบ้าน”
“จิ๊บ บอกจ่าเดชด้วย...เรื่องพี่วัต”
สัญชัยส่งเสียงชวนหมั่นไส้เข้ามา “ลูกอัญ ลูกรักของพ่อ”
อัญมาหันไปมอง ไม่ทันจะได้บอกเรื่องภควัต
สัญชัยกางแขน เดินเร็วโผจะเข้ากอด อัญมากำหมัดเกือบกระแทกหน้าสัญชัย
“โธ่ ลูกอัญ พ่อเป็นห่วง เป็นยังไงบ้างลูก ชีวิตเจ้าสาวของพี่คม นั่งกินนอนกินบนกองเงินกองทองเลยล่ะสิ”
“ฉันจะกินที่ไหน ยังไง แกไม่ต้องยุ่งหรอก”
ด้านหลังแอนนี่ เจ๊ว่านพากันวิ่งมา สู่รู้เต็มที่
“ไหนๆ เค้าว่าไอ้อัญออกมาจากกรงทองแล้วเหรอ”
อัญมาหันไปมองเจ๊ว่านกับแอนนี่ที่หน้าตาอยากรู้อยากเห็น วิ่งเข้ามาในบ้าน
“มีผัวไม่บอกใครเลยนะ” แอนนี่แขวะ
“ฉันต้องประกาศปากลำโพงงานวัดเหมือนเธอด้วยเหรอ แอนนี่”
“ใช่สิ แกมันได้ดี เลือกได้ว่าจะเอาหล่อแบบไหน นี่ก็คง 3 เดือน 4 เดือนแล้วล่ะสิ”
อัญมาฉุน “ปากถ่อยๆ แบบนี้ มันน่าเอาเลือดล้างปาก”
เก้าขยับเดินมา เจ๊ว่าน กะ แอนนี่พากันถอย สัญชัยดันหลังเจ๊ว่านสู้
“อย่ายอมแพ้ง่ายๆ สิ เจ๊ว่าน กลัวด้วยเหรอ”
“ไม่ได้กลัว ถอยมาตั้งหลัก” เจ๊บอก
“เพราะแกมีผัว พี่วัตเค้าถึงพลอยหายหน้าไปด้วย ฉันล่ะอยากตบแก ตบซ้ายแล้วก็ตบขวาให้สะใจ ตบให้หน้าแกต้องไปหาหมอเกาหลี ทำไมแกถึงได้ฉกผู้ชายหล่อๆ ไปหมด”
“อย่าดีกว่า แอนนี่ ฉันไม่ได้มาคนเดียว” อัญมาว่า
เจ๊ว่าน กะแอนนี่หันไปมองเก้า
เจ๊ว่านแดกดันทันที “อ๋อ...เดี๋ยวนี้เป็นเมียลูกเจ้าพ่อ เลยต้องมีบอดี้การ์ดอย่างไอ้เก้าคอยตามก้น”
“ฉันไม่ใช่หมากัดคนไม่เลือก แต่ถ้าวันนี้อยากมีเรื่องก็ได้นะ เจ๊ว่าน” เก้าบอก
แอนนี่ชิ่ง “คุณแม่คนเดียว ฉันไม่เกี่ยวนะ ไอ้เก้า”
อุบลชักรำคาญ “นังสองแม่ลูกนรก เอ็งจะไปไหนก็ไปเลย ข้ากับลูกกำลังคุยกัน”
“ไม่ไป ฉันชอบฟังเรื่องของชาวบ้าน”
เจ๊ว่าน กะ แอนนี่ลอยหน้าลอยตาสู่รู้ อัญมาชักสีหน้าใส่ รำคาญมาก
ขณะเดียวกันในห้องเช่าปิดทึบ แถวชุมชนบัวสวรรค์นี่เอง ภควัตถูกจับเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ หน้าตาดูออกว่าผ่านการอาบน้ำมาแล้ว แต่ถูกมัดแขนขาไว้ มีลูกน้อง 2 คนของอธิคม จับหัวให้เงยขึ้นมามองอธิคม
“แกย้ายฉันมาขังไว้ที่นี่ทำไม”
“ถ้าฉันไม่ฉลาด ย้ายแกออกมาก่อน ป่านนี้แกคงโดนคนของพ่อฉัน ยิงตายเหมือนหมาอยู่ในโกดังนั่นแล้ว”
อธิคมส่งกระเป๋าสีดำให้ลูกน้อง ลูกน้องเปิดออกเห็นขวดยาหลอดเล็กเรียงกัน 6 หลอด พร้อมเข็ม
“ฉีดให้มันวันละสองเข็ม ให้ข้าว ให้น้ำมัน เฝ้าไว้ยี่สิบสี่ชั่วโมง”
ลูกน้องอธิคมดูดเอายาเข้าหลอด ภควัตส่ายหน้า ดิ้นหนีไม่ยอม ลูกน้องอธิคมอีกคนจับภควัตกดหัวไว้ไม่ให้ดิ้น
อธิคมมองภควัตที่กำลังโดนฉีดยาเข้าแขนด้วยสายตาสะใจ
“ทนอยู่ที่นี่อีกไม่นานหรอก ไอ้วัต”
ภควัตถูกกดหน้ามองจ้องมองอธิคม
“ถึงเวลาฉันก็จะปล่อยแกไปเจอผู้หญิงที่แกรักที่สุด”
ด้านอัญมามองเจ๊ว่าน แอนนี่ และสัญชัยอย่างเป็นส่วนเกิน
“เห็นคนอื่นได้ดีกว่านี่มันกินไม่ได้ นอนไม่หลับเลยใช่มั้ย” อัญมาด่า
จิ๊บเสริม “พวกต่อมขี้อิจฉาแตก”
แอนนี่แว้ดใส่ขจิ๊บ “นังจิ๊บ คราวก่อนยังไม่รู้ผลเลยนะว่าใครแพ้ใครชนะ”
“อยากมีเรื่องขึ้นโรงพักเสียค่าปรับก็ได้นะ”
จิ๊บกับแอนนี่รี่จะเข้าหากัน เก้ารำคาญ
“กลับบ้านได้แล้ว ไอ้อัญ”
“ดู้ ดู ผัวหวงจัด ส่งลูกน้องมาคุม จำกัดเวลาเคอร์ฟิวส์” แอนนี่เยาะ
สัญชัยสาระแนอาสา “เดี๋ยวฉันไปส่งลูกอัญเอง”
“ไม่ต้อง”
เก้าเปิดเสื้อให้เห็นปืนที่เอว ขู่ทุกคน สัญชัยผวากลัวเป็นคนแรก
“ที่จริงลูกอัญไปกะไอ้เก้าก็ปลอดภัยดีแล้วนะ ฉันว่า”
แอนนี่ไม่วายเหน็บ “นั่นสิ รีบกลับไปทำกับข้าว รอปรนนิบัติผัวแกเถอะ”
“เราก็ไปร้านทำเล็บกันดีกว่านะคะลูกแอนนี่ วันนี้ยุ่งเรื่องชาวบ้านพอขำๆ ละ”
สัญชัย แอนนี่ เจ๊ว่านพากันแตกกระเจิงไปคนละทาง
เหลืออุบล จิ๊บ และนวย ที่มองอัญมาเป็นเชิงถาม อัญมามองเก้าแล้วหันไปทางครอบครัว
“ฉันไปก่อนนะ”
อัญมาเดินออกไป เก้าตามติด อุบล จิ๊บ นวยมองตาม
“เจ๊อัญ แกดูเกร็งๆ ยังไงไม่รู้นะ จะยิ้มก็ยิ้มไม่เต็มที่ เหมือนแกกลัวๆ อะไรอยู่” นวยตั้งข้อสังเกต
“ก็คงเรื่องไอ้วัต” อุบล กับนวยมองจิ๊บ “ป่านนี้ ไอ้วัตในยังไม่โผล่หน้ามาเลย น่าแปลกมั้ยล่ะ”
“จริงด้วย อกหักแค่ไหน มันก็ไม่เคยห่างไอ้อัญ”
สามคนมีสีหน้าสงสัยพอกัน
ฝ่ายภควัตเริ่มตาลอย มือไขว่คว้าไปข้างหน้าเพราะฤทธิ์ยา
“อัญมา...อัญมา กลับมา อย่าไป อัญมา”
ลูกน้อง 2 คนมองสภาพภควัตแล้วยิ้มเยาะ
ลุกน้อง 1 ว่า “พี่คมเค้าให้ของแรงเลยว่ะ”
สองคนหัวเราะ แล้วถอยออกไปเฝ้า
ภควัตตาลอย ในสมองเห็นแต่ภาพอัญมาวนเวียนไปอย่างสับสน
“อัญมา ...อัญมา...อย่าทิ้งผมไป”
อัญมาเดินกลับจะไปทางบ้านวินิจ เก้าเดินตามติด อีกด้านเห็นขวัญอนงค์เดินมามองหา อัญมาเห็นขวัญอนงค์ก่อนก็ตกใจ
“คุณน้อง”
อัญมาเดินเร็วรี่เข้าไปหาขวัญอนงค์ เก้าตามทันที
“อัญมา”
“คุณน้องมาทำอะไรแถวนี้คะ”
เก้าเข้ามาใกล้ อัญมารีบหันไปบอกเก้า
“อย่ายุ่ง ถอยออกไป ฉันจะคุยกับเพื่อนฉัน”
เก้าถอยออกไปนิดเดียว แต่สายตาก็ยังมองจ้องอัญมาตลอด
ขวัญอนงค์มองเก้าอย่างสงสัย แล้วหันมาถามอัญมา
“ฉันมาตามหาพี่วัต โทร.หาเท่าไหร่ก็ติดต่อไม่ได้ บ้านก็ไม่กลับเลย เธอรู้ใช่มั้ยพี่วัตอยู่ไหน”
อัญมาลดเสียงลงเพราะกลัวเก้าได้ยิน “คุณวัตไม่เป็นอะไรคะ กำลังทำงานสำคัญ เลยไม่ติดต่อใคร”
อัญมาตัดสินใจโกหกไม่ให้ขวัญอนงค์เป็นห่วง
“งานอะไร ที่ไหน ยังไง”
“บอกตรงนี้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
“งั้นเธอต้องไปกับฉัน ไปเล่าให้คุณแม่ฟังที่บ้าน”
“ฉันไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
อัญมาบอกพลางมองไปที่เก้า เห็นสายตาเก้าจ้องดุดันมายังอัญมา
คุณหญิงวรจันทร์ลุกขึ้นมองลูกสาวที่กลับมาเล่าเรื่องอัญมาไม่ยอมมาที่บ้าน ท่าทีไม่พอใจ
“ทำไมอัญมาถึงมาไม่ได้ รู้หรือเปล่าว่าเราเป็นห่วงตาวัตแค่ไหน เค้าไม่เคยหายไป ติดต่อไม่ได้ ไม่กลับบ้านนานขนาดนี้”
“น้องก็ถามเค้าทุกอย่าง อัญมาก็บอกแต่ว่าพี่วัตไม่เป็นอะไร”
“อัญมาอยู่ที่ไหน แม่จะไปถามเค้าให้รู้เรื่อง”
ท่านอภิกานต์เอ่ยเตือนภรรยา
“ใจเย็นๆ ก่อนคุณวรจันทร์”
“ตาวัตหายไปทั้งคน ฉันคงเย็นเป็นน้ำแข็งไม่ไหวหรอกค่ะ”
“ตาวัตเป็นตำรวจ อัญมาก็บอกเองว่าเค้าทำงานสำคัญอยู่”
วรจันทร์มองอภิกานต์ด้วยสายตาเกรงใจ
“ตาวัตทำอะไรมีเหตุผล อย่าให้ความหวังดีของเราทำลายงานที่ตาวัตทุ่มให้ทั้งชีวิตสิ”
สุดท้ายวรจันทร์นั่งลงหน้าพระพุทธรูปในห้องพระ ขวัญอนงค์มานั่งใกล้ๆ
“แม่สังหรณ์ไม่ดีเลย”
“พี่วัตคงไม่เป็นอะไรนะคะ”
ขวัญอนงค์พูดทั้งๆ ที่ใจคอก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน
วรจันทร์มองพระพุทธรูปแล้วพนมมือ สายตาแน่วแน่
“กรรมใดที่ภควัตทำดี ทำเพื่อคนอื่น ขอให้กรรมดีเหล่านั้นคุ้มครองภควัตด้วยเถอะค่ะ”
ในห้องเช่าอันทึบและอับ ภควัตกำลังหลับเพราะฤทธิ์ยา พลันสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“คุณป้า ...”
ลูกน้อง 2 คนที่กำลังนั่งกินข้าว มองภควัตด้วยสายตาเฉยๆ ไม่สนใจ ภควัตกอดตัวเอง รู้สึกหนาวสะท้าน
“คุณป้า...คุณลุง คุณน้อง”
ภควัตยันตัวพิงฝา กำลังต่อสู้กับฤทธิ์ยาอย่างหนัก
“ผมอยู่ที่นี่”
คุณหญิงวรจันทร์พนมมือตั้งใจส่งจิตอธิษฐานเพื่อหลาน ขวัญองค์พนมมือตามแม่
“ขอให้ความดีเป็นเกราะคุ้มครองคนดี อย่าให้ภควัตต้องพ่ายแพ้แก่ความชั่ว ไฟร้ายใดๆ ไม่อาจเผาผลาญทำลายทองแท้อย่างภควัต”
สายตาวรจันทร์เต็มไปด้วยความห่วงใยในตัวภควัต
ภควัตพิงร่าง หอบหายใจ ลูกน้อง 2 คนโยนข้าวกล่องกับน้ำมาให้ภควัตตรงหน้า แล้วพากันเดินออกไป สูดอากาศข้างนอก ปิดประตูขังภควัตไว้ข้างใน
ภควัตพลิกหน้าไม่สนใจอาหาร มองไปเห็นสภาพตัวเองที่สะท้อนในกระจก ขอบตาดำคล้ำ หน้าตาอิดโรย เพราะฤทธิ์ยา ภควัตปล่อยให้น้ำตาไหล แต่แววตายังมีสติ
“ฉันต้องไม่แพ้ ยาเสพติดของแกทำอะไรฉันไม่ได้”
ฟากวรจันทร์ และขวัญอนงค์มองไปที่พระพุทธรูปด้วยจิตแน่วแน่
“คนใจบาปหยาบช้า เอาเปรียบเพื่อน มนุษย์ ทำลายสังคม ทำลายคุณความดีในโลกนี้...ขอให้พวกเค้าได้รับผลกรรมที่ก่อขึ้นในเร็ววัน...ความเพียร ความตั้งใจ ของคนดีเท่านั้นที่จะเป็นอาวุธ เอาชนะคนชั่ว...ในโลกนี้ ขอให้ความเลวพ่ายแพ้ความดีทุกครั้งไปเถิด”
วรจันทร์ก้มลงกราบพระ ขวัญอนงค์กราบตามด้วยจิตใจที่เป็นห่วงภควัตเหมือนกัน
วรจันทร์เงยขึ้นมองพระพุทธรูปด้วยสายตาสงบนิ่ง
เย็นลง ภควัตนอนไม่ได้สติ อยู่ท่ามกลางแสงสีทองสุดท้ายของวันที่กำลังสาดส่องเข้ามา
ฝ่ายอัญมายืนมองอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า
“ผู้กอง ไม่ว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ขอให้คุณรู้ว่าฉันรอคุณอยู่ คุณต้องปลอดภัย เราต้องได้เจอกันอีก”
อัญมาน้ำตาหยดริน
ที่รอยแง้มประตูห้อง อธิคมมองดูอัญมาที่สีหน้าเศร้าหมอง ก็รู้ว่ากำลังคิดถึงเรื่องของภควัต
อธิคมถอยออกไปเงียบๆ อัญมาน้ำตาไหลอยู่คนเดียวด้วยความเป็นห่วงภควัตจับใจ
ค่ำแล้ว พลภัทรยืนรออยู่ พอเห็นอธิคมเดินออกมา ก็ถามขึ้น
“จะให้ขับรถไปส่งที่ไหน”
“ไม่ต้อง คืนนี้ฉันขับเอง”
“แต่พี่บังสั่งไว้”
อธิคมโกรธ “กูบอกว่า คืนนี้กูจะขับเอง”
พลภัทรขยับแต่อธิคมไวกว่า ชกเข้าหน้าพลภัทรจนเซ
อธิคมเดินเร็วรี่ออกไป พลภัทรไม่กล้าตาม ได้แต่มอง ด้วยความอยากรู้ว่าอธิคมจะไปไหน
ท่ามกลางแสงสี เสียงเพลงเร้าอารมณ์ในผับแห่งหนึ่ง บรรดานักเที่ยวกำลังดื่ม เต้น สนุกสนาน อธิคมถือกล่องของขวัญเดินเข้ามา มองไปยังสาวสวยกลุ่มหนึ่ง ที่กำลังเป่าเทียนฉลองวันเกิด สาวเจ้าของวันเกิดหันมาเห็นอธิคมก็ยกมือทักทาย อธิคมเดินถือของขวัญเข้าไปมอบให้ สาวๆ พากันเบียดชิด ผลัดกันถ่ายรูปกับอธิคม
อธิคมยิ้มแย้ม สบตากับเจ้าของวันเกิดที่เป็นเด็กของเสี่ยใหญ่อย่างรู้กัน
เวลาเดียวกันนี้ เสี่ยวินิจนั่งสีหน้ากังวลอยู่ในห้องทำงานที่บ้าน กังวลเรื่องที่อธิคมกำลังไปส่งของเอง
“แกต้องทำสำเร็จนะ ไอ้คม เพราะแกเป็นลูกชายฉัน”
อธิคมมองเห็นสาวสวยเจ้าของวันเกิดถือกล่องของขวัญไปด้านหลังร้าน คนอื่นยังเต้นกันอยู่ที่โต๊ะ
อธิคมมองแล้วจิบน้ำลุกขึ้น สาวๆ ดึงอธิคมให้อยู่ต่อ
อธิคมยิ้มหล่อให้อย่างสุภาพ ทำเป็นขอตัวกลับ สาวๆ มองตาปรอย
อธิคมเดินห่างออกมาหน้าผับ กดมือถือ กรอกเสียงลงไป
“ส่งของเรียบร้อยแล้วพ่อ”
เสี่ยวินิจวางสาย แววตาพอใจ หันไปมองภาพถ่ายคู่กับอธิคมที่ใส่กรอบประดับอยู่บนผนังด้านหลัง แล้วยิ้มมีความสุข
“แกต้องไม่ทำให้พ่อผิดหวัง
อธิคมเดินเข้าห้องนอนมาเงียบๆ ตรงมายังเตียงที่อัญมานอนหลับอยู่ หยุดยืนทอดสายตามองอัญมาแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้ ก่อนจะถอยกลับไปนั่งมองเงียบๆ
อัญมาลืมตามอง รู้ตั้งแต่อธิคมเข้ามาในห้อง สายตาอัญมามีแต่ความหมางเมิน
เช้านี้ ภควัตหลับลึกเพราะความอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง จู่ๆ ถูกน้ำสาดเข้าหน้าจัง ภควัตสะดุ้ง ได้สติ มองไป เห็นอธิคมถือถังน้ำและเป็นคนสาดใส่ ให้ลูกน้อง 2 คนจับภควัตเงยหน้าขึ้น
“ตื่นได้แล้ว ลุกขึ้น แล้วก็รีบออกไปจากที่นี่ได้แล้ว”
ภควัตมองอธิคมอย่างแปลกใจ “แกปล่อยฉันทำไม หรือว่าแกทำร้ายอัญมา”
“ไม่ต้องถามมาก...ออกไป”
ลูกน้องแก้เชือกที่มือ ที่เท้าภควัตออก ภควัตยืนโงนเงน
“อัญมา”
ภควัตจะเดินออกไป แต่อธิคมขวางไว้
“แกไปเจออัญมาสภาพนี้ไม่ได้” ภควัตมองอธิคมที่ออกคำสั่ง “แกต้องทำตัวเหมือนเดิม ให้ทุกคนคิดว่าแกกลับมาแล้ว กลับไปหาครอบครัว กลับไปหาเจ้านายแก พวกตำรวจหน้าโง่ที่มันกำลังวางแผนจับฉันทั้งหมด ไปบอกมันว่าแกจะจับฉันให้ได้ แล้วค่อยกลับมาที่ชุมชน”
“ไม่...ฉันจะจับแก
เท่าสที่แรงจะมี ภควัตพุ่งเข้าไป แต่ถูกอธิคมชก ภควัตหมดแรง ล้มลง
“ต่อไปนี้แกต้องอยู่ในคำสั่งของฉัน เพื่อแลกกับของที่แกต้องใช้มัน” ภควัตมองหลอดยาที่อธิคมชูขึ้น “แกต้องทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง แล้วแกจะได้ยา”
“ไม่”
“ถ้าแกไม่ใช้ยาที่ฉันให้ แกก็เตรียมตัวลงแดงตายได้เลย”
อธิคมถีบภควัตจนกระเด็น ภควัตมองหลอดที่อยู่ในมืออธิคม แววตาสั่นระริกด้วยความอยากยา
ท่านอภิกานต์ทานมื้อเช้าเสร็จ และกำลังจะออกไปประชุมที่พรรค คุณหญิงวรจันทร์ส่งกระเป๋าทำงานให้ ขวัญอนงค์วิ่งเข้ามา หน้าตาตื่นเต้น
“พี่วัตกลับมาแล้วค่ะ”
วรจันทร์ กับอภิกานต์มีสีหน้ายินดี
ภควัตยืนอยู่ในสวนหน้าคฤหาสน์ สีหน้าอ่อนแรง เสื้อผ้าเลอะเทอะ ยับยู่ยี่ วรจันทร์เดินเข้ามา พอเห็นสภาพหลานชายก็ตกใจ
“ตาวัต ไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้”
ขวัญอนงค์ อภิกานต์มองภควัตอย่างตกใจกับสภาพทรุดโทรมหมดสภาพของเขา
ภควัตรู้ตัวว่ากลายเป็นคนติดยาแล้ว พยายามฝืนยิ้ม เหมือนไม่มีอะไร
“ผมปลอมตัวไปสืบข่าวมาน่ะครับ”
“อื้อหือ ไปสืบข่าวหรือไปตกน้ำเน่ากันแน่คะ” ขวัญอนงค์หน้าง้ำ
วรจันทร์ปราม “ยายน้อง”
วรจันทร์หันไปทางภควัต
“เดี๋ยวไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ ป้าจะให้คนเตรียมอาหารร้อนๆ ไว้ให้”
“ขอบคุณครับ คุณป้า”
“วัตกลับมาก็ดีแล้วนะ พวกเราเป็นห่วงมาก” อภิกานต์บอก
“ครับ”
ภควัตตอบสั้นๆ แล้วรีบเดินแยกไปทางบ้านตัวเอง ทุกคนมองตาม
ขวัญอนงค์ตั้งข้องสังเกต “พี่วัตดูแปลกๆ ไปหรือเปล่าคะ หลบหน้าหลบตาพวกเราชอบกล”
“ก็เราไปทักเค้าว่าตัวเหม็น ตาวัตเค้าก็ต้องอายสิ”
“พอๆ ยายน้อง ไม่ต้องวิจารณ์แล้ว ไปช่วยแม่เตรียมของกินให้พี่เค้า”
วรจันทร์เดินนำขวัญอนงค์เข้าบ้าน อภิกานต์ยิ้มมอง ไม่ติดใจสงสัยท่าทางของภควัต
ภควัตเข้าห้องน้ำ รีบถอดเสื้อ เนื้อตัวสั่นเพราะมีอาการอยากยา
“ไม่...ฉันไม่ได้ติดยา”
ภควัตเอาน้ำล้างหน้า แต่ยังไม่ดีขึ้น หันไปเปิดฝักบัวราดหัว พยายามจะหักดิบความอยาก แต่กลับยิ่งหนาวยะเยือกสั่นไปทั้งร่าง
ภควัตหมดแรงทรุดลงกับพื้นห้องน้ำ ตะโกนด้วยความเจ็บร้าวไปทั้งร่าง
“ไม่...”
ตกตอนบ่าย ในฐานลับวันเดียวกัน ท่านรองจักรภพ ผู้การประพจน์ และผู้กำกับสิทธิชัยกำลังประชุมแผนงาน
กฤษณ์เอาแฟ้มเอกสารมาเปิดให้ดู ทุกคนกำลังทำงานกันอย่างซีเรียส
“ผมอยากให้เราเอารายชื่อเครือข่ายของพวกมันมาให้ได้ทั้งหมด”
จังหวะนี้ภควัตก้าวเข้ามา ทุกคนหันไปมอง นึกไม่ถึง
กฤษณ์ร้องทัก “ไอ้วัต”
ภควัตทำความเคารพนายทั้ง 3 คน
“ภควัต คุณหายไปไหนมา”
ทุกคนมองภควัตด้วยสายตาฉงน ยกเว้นกฤษณ์ที่จ้องอย่างไม่เป็นมิตร ภควัตยิ้มให้ทุกคน
อัญมาแวะมาหาแม่ในชุมชน ทว่าเอาแต่นั่งเหม่อมองไปไกล อุบลขยับมานั่งใกล้ลูก
“คิดถึงไอ้วัตมันใช่มั้ย”
“อธิคมไม่ยอมให้ฉันเจอเค้าอีก”
“ผู้ชาย ...เสียอะไร มันไม่เท่ากับเสียของรักให้คนอื่นหรอก”
อุบลมองเห็นใจลูกสาวที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วมองไปยังเก้าที่ยืนเฝ้าอัญมาตลอด
“ไอ้เก้า...เอ็งก็เข้ามานั่งข้างในซะบ้างเถอะ จะยืนตากแดดให้แห้งเป็นปลาเค็มหรือไง”
เก้ามอง อัญมาลุกขึ้น จะเดินตามเข้าบ้าน อุบลเดินนำ
“มา...มากินข้าวกินน้ำซะบ้างไอ้เก้า เดี๋ยวข้าทำส้มตำ ไก่ย่างให้กิน”
“ขอพริกเยอะนะๆ” เก้าบอก
“เออ จะเอาให้ปากหุบไม่ลงเลย”
เก้าเดินตามอุบลเข้าไปในบ้านก่อน
อัญมายืนหันหลังให้รั้ว กำลังจะเดินเข้าบ้าน ได้ยินเสียงเรียกขึ้น
“อัญมา”
อัญมาชะงักเท้า จำเสียงที่เรียกได้ทันที
“ผู้กอง”
อัญมาค่อยๆ หันมาทางเสียง เห็นร่างภควัตที่ยืนอยู่จริงๆ ภควัตยิ้มให้
อัญมาวิ่งเข้าไป ภควัตกางแขน อัญมาโผเข้าอ้อมกอดของภควัต
“คุณกลับมาจริงๆ คุณกลับมาแล้ว”
ภควัตกอดอัญมาไว้แน่น
“ผมคิดถึงคุณ อัญมา ผมเป็นห่วงคุณ อธิคมไม่ได้ทำอะไรคุณใช่มั้ย”
“ไม่...เค้าไม่ได้ทำอะไรฉัน”
อัญมามองสำรวจภควัต พบว่าหน้าตาไม่สดใสเหมือนก่อน
“อธิคมทำอะไรคุณหรือเปล่า ผู้กอง เค้าเอาตัวคุณไปไว้ที่ไหน”
อัญมาถาม ภควัตมองนิ่ง ไม่กล้าตอบความจริง อัญมาเอามือแตะหน้าภควัต
“คุณดูเหนื่อย ...อธิคมทำอะไรคุณบ้าง ตอนที่เค้าขังคุณ”
“ไม่มีอะไร”
ภควัตดึงมืออัญมามากุมไว้แล้วจูบเบาๆ
“ผมกลับมาแล้ว อัญมา ผมกลับมาหาคุณ”
ภควัตดึงอัญมามากอดเต็มรักเพื่อบดบังสายตาที่ไม่สดใสเหมือนทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะรู้ตัวว่าเขาไม่ใช่ ผู้กองภควัต คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
อ่านต่อหน้า 2
คีตโลกา ตอนที่ 14 (ต่อ)
อธิคมยืนอยู่ตรงหน้าวินิจในห้องทำงาน ด้วยสีหน้าลำพองใจ
“ผมควบคุมงานของเราได้ ต่อไปไม่ว่าจะส่งของเมื่อไหร่ พวกตำรวจไม่มีวันตามเราทัน”
“อย่าประมาท...บนเส้นทางนี้ ความไม่ประมาททำให้เรายังมีลมหายใจอยู่ได้” วินิจเตือน
“เชื่อผมเถอะ พ่อ ผมทำงานแทนพ่อได้”
“ฉันอยากจะเชื่อ ถ้าแกไม่ทำพลาดเพราะผู้หญิงมาหลายครั้งแล้ว แกพลาดเพราะแกรักไอ้อัญ”
“คราวนี้ผมไม่โง่แล้ว ผมจะใช้ความรักให้เป็นประโยชน์กับงานของเรา”
“พ่อดีใจที่แกพูดแบบนี้”
อธิคมมองพ่อด้วยแววตาจริงจัง วินิจตบไหล่ลูกชาย
“ถ้าแกจะยิ่งใหญ่ สิ่งแรกที่แกต้องสละได้คือความรัก ความรักมันจะทำให้เราใจอ่อน มีเมตตา เสียการปกครอง แกจะไม่มีวันมองเห็นความผิดของคนรัก ‘ความรักทำให้คนตาบอด’ แกเคยได้ยินใช่มั้ย”
อธิคมมองพ่อที่สั่งสอนด้วยแววตาจริงจัง
ทางด้านภควัตเข้ามาในบ้านอุบลแล้ว เขามองอัญมาด้วยความคิดถึง พยายามทำสีหน้าให้เหมือนปกติที่สุด
“คุณเป็นยังไงบ้าง อธิคมทำอะไรคุณหรือเปล่า อัญ”
“เค้าไม่ได้ทำอะไร แต่ฉัน...ฉันต้องอยู่ที่บ้านอธิคม”
ภควัตมองอัญมา ในสายตาเต็มไปด้วยความเสียใจ
“คุณต้องไปอยู่บ้านอธิคม เพราะคุณจะช่วยผม”
“ไม่ใช่ความผิดคุณหรอก ผู้กอง อย่าโทษตัวเอง อีกอย่างอธิคมเค้าไม่ได้ทำร้าย ไม่ได้ล่วงเกินฉัน”
ภควัตมองอย่างดีใจ
เก้าถือจานส้มตำเดินออกมา อัญมาตกใจ รีบขยับยืนข้างภควัต กลัวว่าเก้าจะทำร้ายภควัต
“อย่านะ เก้า”
เก้าวางจานส้มตำเดินตรงมาที่ภควัต ภควัตไม่มีท่าทางตกใจ เก้าถามขึ้น
“ออกมาได้ยังไง...ผู้กองภควัต”
อัญมาตกใจที่เก้าทักขึ้นด้วยคำนี้ ภควัตยิ้มใจเย็น
“นี่คุณกับเก้า...”
ภควัตตัดสินใจบอก “หมวดกนก เค้าเป็นสายที่ฝังตัวอยู่ในแก๊งวินิจมานานแล้ว”
อัญมามองเก้าอึ้งไปชั่วขณะ เก้ายิ้มให้
“ขอโทษด้วยที่บางครั้ง ฉันทำรุนแรงกับเธอ”
เก้ายิ้มให้อัญมากับภควัต
ต่อมาไม่นาน เก้า และ ภควัต ยืนข้างกัน อุบลยืนข้างอัญมา มองอย่าแปลกใจ
“เอ็งน่ะเหรอ ไอ้เก้า เป็นตำรวจ”
เก้ายกนิ้วเป็นเชิงบอกให้อุบลพูดเบาๆ
“เดี๋ยวก็รู้ทั้งชุมชนหรอกป้า”
อุบลมองภควัต “แล้วเอ็งก็..เป็นตำรวจ...เหมือนกัน ไอ้วัต เอ้ยย ผู้กองวัต”
ภควัตยิ้มให้กับอุบล
“เรียกไอ้วัตอย่างเดิมเถอะครับ จะได้ไม่มีคนสงสัย”
“ฉันไม่เคยทำอะไรผิดนะ ไพ่ไม่เล่น ยาไม่เกี่ยว มีหวยใต้ดินนิดๆหน่อยๆ พอขำๆ อย่าจับฉันนะ” อุบลพูดเสียงหวาน “ผู้กองจ๋า”
“โธ่ ป้าอุบล เราจับแต่พวกยา แต่ก็ไม่แน่ใช่มั้ย ผู้กอง เปลี่ยนไปจับหวยซะบ้าง”
เก้าแกล้งแหย่ อุบลค้อนควักท่าทีน่าขัน อัญมามองเก้ากับภควัต
“พวกคุณรู้กันมาตลอด”
“ผมเพิ่งมารู้ทีหลังจากท่านรองจักรภพ ว่าสายที่แฝงตัวในแก๊งวินิจมาก่อน คือเก้า หรือหมวดกนก”
อัญมามองเก้า “แล้วจิ๊บรู้เรื่องแก...เอ๊ย นาย เป็นตำรวจหรือเปล่า”
“ฉันไม่ได้บอกจิ๊บเรื่องเป็นตำรวจ เพราะไม่อยากให้จิ๊บเดือดร้อนไปด้วย”
ภควัตเสริมว่า “เพื่อความปลอดภัย เราต้องปกปิดตัวเองให้มากที่สุด แฟ้มของพวกเราจะเป็นข้อมูลชั้นลับสุดยอด หัวหน้าปฏิบัติการเท่านั้นที่จะรู้ หรือไม่ก็คนที่ทำงานด้วยกัน”
ภควัตมองขอร้องอุบล “อย่าเพิ่งบอกใครเรื่องนี้นะครับ”
“อือ ไม่บอกหรอก รู้อย่างงี้ก็ค่อยโล่งใจนะ มีตำรวจตั้ง 2 คนคอยดูแลไอ้อัญ”
“ที่ต้องระวังคือตอนนี้ไอ้สัญชัยมันเป็นคนคาบข่าว ความเคลื่อนไหวของอัญไปบอกอธิคม ทางที่ดี ต้องไล่มันออกไปจากบ้านหลังนี้” เก้าบอก
อัญมามองอุบลนิ่ง อุบลสีหน้าไม่ดี แต่ก็ตัดสินใจเด็ดขาด
“ถ้ามันกลับมา ฉันจะไล่มันเอง”
ภควัตไม่เห็นด้วย “อย่าเพิ่งเลยครับ ถ้าเราเคลื่อนไหวอะไรผิดปกติช่วงนี้ วินิจมันอาจจะจับพิรุธได้ให้สัญชัยอยู่ที่นี่ไปก่อน แต่ป้าอุบลหาทางขยับขยายไปอยู่ที่อื่น ค่อยๆ ตีตัวห่างไปอยู่ที่อื่นสักพัก อย่าให้มันทันสังเกต”
“ฉันจะจัดการเรื่องแม่เอง ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
อัญมายิ้มให้ความมั่นใจกับอุบล ภควัตมองแล้วเอ่ยบอกขึ้นเพื่อความสบายใจของอุบล
“เรายังมีสายอีกคนที่จะคอยดูแลเธอในบ้านวินิจ”
อัญมาถามทันที “ใครกัน”
“ผมยังบอกไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยของเค้าแล้วก็ตัวคุณ กับเก้า ถึงเวลาคับขัน คุณสองคนจะรู้เองว่าใครเป็นสายอีกคน”
“ผู้กองไม่ต้องห่วงนะครับ อธิคมมันเชื่อใจผม ถึงให้ผมคอยเฝ้าอัญมาไว้”
“ฝากอัญมาด้วยนะ”
“ครับ ผู้กอง”
เก้าหันไปทางอัญมา
“หายมานานแล้วเรากลับกันได้แล้วล่ะ อัญ ก่อนอธิคมมันจะสงสัย”
อัญมาลุกขึ้น อุบลมองลูกสาว อัญมากอดแม่
“บุญรักษานะลูก”
“แม่ค่อยๆ เก็บของเตรียมไว้นะ อย่าให้ไอ้สัญชัยมันรู้ตัว แล้วฉันจะมารับแม่กับจิ๊บไปอยู่ที่อื่น”
“ดูแลตัวเองดีๆ นะ อัญ เอ็งอยู่ในถ้ำเสือ ไอ้เก้า...ไอ้วัต ดูลูกฉันด้วยนะ”
เก้ายิ้มให้อุบลเป็นคำสัญญา ภควัตมองอัญมาสายตาซึ้ง
“อัญมาเสียสละเพื่อผมมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่มีวันปล่อยมือจากอัญมา”
อัญมามองสบตาภควัตด้วยความสุขเต็มหัวใจ
อธิคมยืนรออยู่หน้าบ้าน จนเห็นอัญมาเดินเข้ามาพร้อมกับเก้า
“หายไปไหนกันตั้งนาน”
“แม่ไม่ค่อยสบาย ฉันเลยอยู่ดูแม่” อํยมานึกเหตุผลไว้แล้ว
“แม่เป็นอะไร อัญ พาไปโรงพยาบาลหรือยัง”
“ยัง”
“ให้ฉันพาไปมั้ย”
“ไม่เป็นไร แม่แกดื้อ ไม่ชอบนอนโรงพยาบาล แม่ก็เหมือนฉันนั่นแหละ ชอบอิสระ เราไม่ชอบถูกขังอยู่ในกรงของใคร”
อัญมาประชดอธิคมแล้วเดินเลยไปด้านใน อธิคมมองตาม แล้วหันมาทางเก้า
“อัญเจอใครหรือเปล่า”
“ไม่เจอเลย”
อธิคมพยักหน้ารับ ท่าทีพอใจ เก้ามองไม่มีท่าทางพิรุธใดๆ อธิคมมองไปทางที่อัญมาเดินไป
อัญมาเดินเข้ามาในห้อง สีหน้าครุ่นคิด ถึงเรื่องที่เพิ่งคุยกับภควัตในบ้านแม่
ตอนนั้น ภควัตมองอัญมาด้วยสายตาเป็นห่วงมาก
“วินิจมันต้องมีแผนส่งของล็อตใหม่ ยิ่งคุณบอกว่าอธิคมหายไปตอนดึกๆ แสดงว่าพวกมันกำลังทำงาน อัญมา ผมอยากให้คุณออกมาจากที่นั่นก่อน ปล่อยให้คนของผมลงมือสืบเรื่องนี้เอง”
อัญมามอง ภควัตจับมือขอร้อง
“พาป้าอุบล จิ๊บ นวยย้ายออกไปก่อน แล้วคุณก็ออกมาจากบ้านอธิคมให้เร็วที่สุด”
อัญมากำลังยืนคิดอยู่ อธิคมเปิดประตูเข้ามา อัญมาเห็นแล้วแกล้งทำหน้าเศร้า อธิคมเดินมาใกล้ มองอัญมาที่ตาแดงๆ
“อัญ เป็นอะไร”
“ฉันเป็นห่วงแม่ แม่ไม่ค่อยสบาย”
“ฉันจะพาแม่เธอไปรักษา โรงพยาบาลที่ดีที่สุด”
“ขอบคุณมาก แต่หมอเก่งแค่ไหนก็ช่วยแม่ไม่ได้หรอก เพราะแม่เครียดเรื่องฉัน ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ”
อธิคมมองอัญมาที่สีหน้ากังวลหนัก
“ฉันไม่อยากขอร้องคุณ แต่ฉันก็ไม่อยากได้ชื่อว่าลูกอกตัญญู ฉันอาจจะขอไปค้างบ้านแม่บ้าง คุณจะให้ใครไปเฝ้าก็ได้นะ ถ้าไม่เชื่อใจกัน”
อัญมาทำเป็นท้า อธิคมมองแล้วบอก
“ฉันจะไปกับเธอเอง”
“พ่อคุณคงยิ่งเกลียดฉันที่ดึงคุณไป แทนที่จะมีคุณเป็นมือเป็นไม้ทำงานให้”
อัญมาแกล้งแหย่ให้อธิคมคิดมาก จากนั้นทำเป็นเดินห่างไป สีหน้ากังวล
“สัญญากับฉันสิ อัญมา เธอจะไม่หนีฉันไป”
อัญมาหันมามอง อธิคมจ้องแววตาเข้ม
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าทรยศความรักที่ฉันให้เธอคนเดียว”
“ฉันสัญญา”
อัญมาจำใจต้องพูดออกไป ทั้งๆที่รู้ว่ากำลังหาทางหนีจากอธิคมทุกขณะจิต อธิคมคลี่ยิ้มพอใจ ยิ่งทำให้อัญมาอึดอัด
ภควัตเข้ามาในห้องตอนกลางคืน ปิดประตู ปิดหน้าต่างทุกบาน นั่งลง กำหมัดแน่น สีหน้าบังคับตัวเอง
“ฉันจะไม่ใช้ยาของแก อธิคม ฉันไม่ใช่ทาสแก ฉันต้องช่วยอัญมาออกมาให้ได้”
ภควัตเริ่มปวดท้องเพราะอาการลงแดง เขาทิ้งตัวลงนอนจนตัวงอ เหงื่อผุดเต็มหน้า แต่สีหน้าอดทน ไม่ยอมแพ้
อัญมานั่งอยู่บนเตียง เสียงประตูห้องน้ำเปิด อัญมารีบล้มตัวลงนอน เอาผ้าห่มร่าง อธิคมเดินออกจากห้องน้ำ มองมาเห็นอัญมาหลับ เดินมามองใกล้ๆ
อัญมาแกล้งหลับ อธิคมก้มลงใกล้แก้มอัญมาหอมเบาๆ แล้วถอยออกมามอง
“หลับให้สบายนะ อัญ ฉันจะรอวันที่เธอเต็มใจเป็นของฉัน”
อธิคมถอยไปแต่งตัว แล้วนอนลงที่โซฟา อัญมาค่อยๆ ลืมตาขึ้น โล่งใจที่รอดไปได้อีกคืน
ฝ่ายภควัตนอนทุรนทุราย เหงื่อแตกเต็มหน้า พยายามลุกขึ้นมากินน้ำ แต่ก็อาเจียนออกมาหมด
“ฉันไม่ใช่ทาสยานรก ฉันต้องทนให้ได้”
ภควัตคว้าผ้าขนหนูมากัด ไม่ให้เสียงร้องดังออกไปข้างนอก หอบหายใจรุนแรง เหงื่อกาฬเต็มหน้า สีหน้าทุรนทุรายทรมานสุดจะประมาณ
รุ่งเช้าวันนี้ อัญมายืนอยู่กับอุบล เก้ายืนห่างคอยมอง
“แม่เก็บของเสร็จแล้วใช่มั้ย”
“เสร็จแล้ว ไม่มีอะไรมากหรอก เมื่อคืนไอ้สัญชัยมันกลับมา เดี๋ยวมันจะสงสัย”
สัญชัยเดินบิดขี้เกียจออกมา อุบลรีบเอายาดมมาดม ทำทีเหมือนคนป่วย อัญมาทำบีบนวดแม่
“อ้าว ลูกอัญ มาหาพ่อเหรอลูก”
สัญชัยเดินปรี่เข้ามา เก้าขยับมาขวางก่อนถึงตัวอัญ สัญชัยชักสีหน้า
“เฮ้ย ถอยไป พ่อลูกเค้าจะทักทายกัน”
“พี่คมบอกให้ฉันคอยดูเมียเค้า อย่าให้ผู้ชายหน้าไหนมาใกล้”
สัญชัยพอได้ยินชื่อ อธิคม ก็หงอ ชักไม่กล้า แต่ยังทำวางท่า กลัวเสียฟอร์ม
“หวงเมียนัก ก็อย่าเที่ยวปล่อยออกมาเจอคนอื่นสิวะ”
อัญมาโวยขึ้น “นี่เงียบๆหน่อยได้มั้ย ไอ้สัญชัย โวยวายอยู่ได้ เห็นหรือเปล่าว่าแม่ฉันไม่สบาย”
สัญชัยหันมาเอาใจ “อุบล เมียรักเป็นอะไรจ๊ะ”
สัญชัยเข้ามาแตะแขนอุบล อัญมาปัดมือสัญชัยออก
“อัญ แม่ใจหวิวๆ หายใจไม่ค่อยออก”
“ฉันพาแม่ไปโรงพยาบาลมั้ยจ๊ะ”
“ไม่ต้องๆ เอ็งอยู่ใกล้แม่ๆก็พอแล้ว”
สัญชัยมองแม่ลูกเป็นห่วงกันแล้วนึกหมั่นไส้
“ใกล้ตายเมื่อไหร่ก็บอกพี่แล้วกันนะจ๊ะ น้องอุบล พี่จะจองศาลาให้”
“แกต่างหากที่ต้องตายก่อน”
อัญมาโมโห คว้าของใกล้มือเขวี้ยงใส่สัญชัยวิ่งออกไปนอกบ้าน อุบลมองตาม
“มันไปแล้วใช่มั้ย”
“รออีกเดี๋ยว เราค่อยออกไป”
“มันคงรีบวิ่งไปบอกอธิคม”
เก้าเดาแล้วบอกสองแม่ลูกที่กำลังรอจังหวะหนี
จริงดังที่เก้าคิด ตอนนี้อธิคมมองสัญชัยที่ยืนอยู่ตรงหน้า มารายงานข่าว
“นังอุบลน่ะมันป่วยหนัก จะตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ เมื่อคืนก็นอนร้องครวญครางทั้งคืน ฉันไม่ได้หลับได้นอนเลย อยากจะเอาหมอนอุดจมูกให้มันเงียบๆเสียง”
“อย่ายุ่งกับแม่อัญ” อธิคมเสียงเข้ม
“ฉันก็พูดล้อเล่นให้พี่ขำๆ น่ะ ใครจะกล้า รู้จ้ะว่าพี่รักลูกสาวฉันใจจะขาด นี่อัญมันก็ไม่ไปไหนนะ คอยดูแลแม่มัน ไอ้เก้าก็ยืนเฝ้ายังกะหมาเฝ้าบ้าน”
อธิคมฟังด้วยความพอใจ สัญชัยพูดขึ้น
“พี่คมมีอะไรให้ฉันช่วยงาน ก็บอกเลยนะ ฉันเต็มใจทำทุกอย่าง จะปล่อยของให้แถวๆ นี้ก็ได้ ฉันไม่เกี่ยง”
วินิจเดินมากับพลภัทรทางด้านหลัง อธิคมเห็นพ่อก็รีบหยิบเงินสองพันส่งให้สัญชัย
“วันนี้แกไปก่อน”
สัญชัยรับเงินแล้วเดินออกไปอย่างเสียดาย
วินิจเดินมามองด้านหลังสัญชัย
“ไอ้สัญชัย ผีพนัน พ่อเลี้ยงไอ้อัญ มันมาทำไม”
“ฉันให้มันคอยดูพวกแปลกหน้ารอบๆ ชุมชน”
วินิจไม่เชื่อ “คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าแกเลี้ยงมันไว้เป็นหูเป็นตาเฝ้าไอ้อัญ”
อธิคมไม่กล้าสบตาพ่อ วินิจมองลูกชาย
“ไปกันได้แล้ว อย่าให้เสี่ยใหญ่ท่านรอ”
วินิจเดินนำ อธิคมเดินตามไป พลภัทรกับลูกน้องเดินตามหลัง พลภัทรท่าทางไม่มีพิรุธใดๆ
ประตูห้องเช่าถูกทุบเสียงดังลั่น ขณะภควัตนอนอยู่ด้านใน
“ไอ้วัต ไอ้วัต เฮ้ยเปิดหน่อย ไอ้วัต ข้าเอง จ่าเดช ข้าจะเอาพระมาให้เอ็งดู”
ภควัตยังไม่ได้สติ เสียงเคาะเงียบไป ภควัตสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา จ่าเดชถีบจนประตูเปิด แล้วพุ่งเข้ามา
“เฮ้ย!”
จ่าเดชมองเห็นภควัตหน้าตาทรุดโทรม ก็รีบปิดประตู พุ่งเข้ามาหา
“ผู้กองทำไมเป็นแบบนี้”
“ใครบอกจ่าว่าผมอยู่ที่นี่”
“ไอ้อัญมันให้ไอ้นวยไปส่งข่าวผม พอรู้ ผมก็รีบมาจากโรงพักเลย ทำไมหมดสภาพอย่างนี้ล่ะ ผู้กอง ไอ้อธิคมมันเอาตัวผู้กองไปทำอะไรมาเนี่ย” จ่าเดชพยุงภควัตขึ้นมานั่ง “แล้วกินข้าวกินน้ำหรือยัง นี่ถ้าไอ้อัญมันมาเห็นสภาพผู้กองตอนนี้…”
ภควัตดึงเสื้อจ่าเดชทันที
“อย่าบอกอัญมา”
จ่าเดชสังหรณ์ใจ “ผู้กอง...ท่าทางผู้กอง...” จ่ามองด้วยสายตาผ่านประสบการณ์ของขี้ยาในชุมชน “เหมือนผู้กอง...ลงแดง”
“อธิคมมันใช้ยากับผม” ภควัตตัดสินใจบอก
“เวรละ”
“มันทำเพราะคิดว่าจะควบคุมผมได้ มันจะให้ผมเป็นสาย หักหลังตำรวจ หักหลังพวกเดียวกันเอง”
“ผู้กองต้องไปหาหมอนะครับ”
“อย่าเพิ่ง ให้อธิคมมันคิดว่าควบคุมผมได้ จ่าไม่ต้องมาที่นี่บ่อยๆ คอยดูพวกมันอยู่ห่างๆ มันต้องหาโอกาสช่วงนี้ ลงมือทำงานใหญ่”
จ่าเดชเห็นด้วย “ใช่ พวกมันเงียบมานานแล้ว ว่าแต่ผู้กองไหวนะครับ”
“ไหวสิ จ่า ไม่ต้องห่วง อะไรที่จะทำให้เรากวาดล้างขยะสังคมอย่างวินิจกับอธิคมได้ ผมยอมทุกอย่าง”
ภควัตฝืนยิ้มกัดฟันบอกจ่าเดชไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าตอนนี้ร่างกายตัวเองอยากยามาก
ขณะเดียวกัน ภายในห้องวีไอพี ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เดิม อธิคมนั่งอยู่วินิจ ตรงข้ามคือเสี่ยใหญ่
วินิจยื่นกระเป๋าเอกสารให้ เสี่ยใหญ่เปิดกระเป๋าออก เห็นเงินสดแบงค์พันอัดแน่นไม่ต่ำกว่า 3 ล้านเสี่ยใหญ่ยิ้ม ปิดกระเป๋า
“ขอโทษด้วยที่ต้องเปลี่ยนวิธีให้จ่ายเป็นเงินสด ช่วงนี้หลายบัญชีกำลังถูกตรวจสอบ ฉันไม่อยากให้มีหลักฐาน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีทำตามที่เสี่ยต้องการทุกอย่าง”
“ฉันก็ต้องจ่ายเยอะนะ การลงทุน ค้าขาย มันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ของงวดที่ผ่านมา นี่ดีนะ เด็กฉันมันบอกว่าปล่อยง่าย ลูกค้าชอบ ยังไงก็ลดราคาให้อีกหน่อย แล้วฉันเคลียร์ทางทุกเส้นให้”
เสี่ยใหญ่หิ้วกระเป๋าลุกขึ้น เดินออกไป
อธิคมที่อดทนฟังมาตลอด พอเห็นเสี่ยใหญ่ออกไป ก็หันไปมาทางพ่อทันที
“มันได้ส่วนแบ่งของมันเยอะอยู่แล้ว ยังจะขอลดราคาของ ก็เท่ากับได้กำไรเพิ่ม เราต้องจ่ายให้มันอีกนานแค่ไหน กว่ามันจะเลิกเอาเปรียบเรา”
“อธิคม ยังไงเราก็ต้องให้ ถ้าไม่อยากมีปัญหา เสี่ยใหญ่ช่วยเคลียร์ทางให้เรามาหลายครั้ง กระทั่งตอนแกถูกจับ ถ้าไม่ได้บารมีเสี่ยที่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ แกไม่มีวันรอดออกมาใช้ชีวิตใหม่อยู่อย่างงี้”
“แต่ที่ผมรู้ พ่อก็ให้เงินมันทุกครั้ง ทุกเรื่อง มันคิดว่าเราต้องอยู่ใต้อำนาจของมัน มันถึงบีบเราทุกทาง”
เสียงมือถือวินิจดังขัดขึ้น วินิจมองเบอร์ เห็นขึ้นว่า Blocked ก็รู้ทันทีว่ากฤษณ์โทร.มา
“ว่าไง”
อธิคมมองพ่อที่กำลังคุยสาย
กฤษณ์อยู่ที่คอนโด สีหน้าร้อนรนใจมาก กรอกเสียงถามลงไป
“ลูกชายแกจับตำรวจไปขังหรือเปล่า”
ที่ด้านหลังของกฤษณ์ สุคนธรสแอบหลบฟังกฤษณ์คุยสายอยู่
ส่วนในห้องอาหาร อธิคมมองด้วยแววตาสงสัย ท่าทีพ่อที่กรอกเสียงกลับไป
“ตำรวจอะไร ตำรวจที่ไหน”
“ภควัตมันกลับมาแล้ว”
วินิจนิ่วหน้า ย้อนคำทวนชื่อ “ภควัต”
อธิคมมอง สีหน้าไม่ดี เมื่อได้ยินพ่อพูดชื่อภควัตขึ้นมา
“หมายความว่าอะไร บอกมาให้หมด”
“นี่แกยังไม่รู้อีกเหรอ ว่าภควัต...ไอ้วัต เซียนพระน่ะ มันเป็นตำรวจ”
กฤษณ์ตะคอกเสียงถาม สุคนธรสที่แอบฟัง หน้าเสีย
“วัต...คุณลำบากแน่”
วินิจตัดสายโทรศัพท์ หันไปมองธิคม
“ไอ้ตำรวจคนที่มันเป็นสายให้เรา มันบอกว่า ไอ้วัต เซียนพระเป็นตำรวจ”
อธิคมไม่มีสีหน้าตกใจ หน้าตานิ่งมาก วินิจดูออก
“แกรู้เรื่องนี้”
“ผมเพิ่งรู้ ตอนที่อยู่ในโกดัง”
“แล้วแกก็ปล่อยมัน”
“ใช่”
วินิจกระชกาคอเสื้อลูกชายด้วยความโมโห
“ทำไมไม่ฆ่ามันทิ้งไปวะ”
“เพราะผมมีแผนดีกว่านั้น”
วินิจมอง พบว่าสายตาอธิคมดูเชื่อมั่นในคำพูดมาก จึงปล่อยคอเสื้อลูกชาย อธิคมบอกอย่างมีแผน
“ผมจับไอ้ผู้กองภควัตไปขัง เลี้ยงมันด้วยยา แล้วก็ปล่อยมันออกมาเพราะมันต้องกลับไปทำงานกับพวกตำรวจใหญ่ๆ”
“แกจะมั่นใจได้ยังไง ว่ามันจะยอมเป็นทาสเรา”
“ยาไงล่ะ พ่อ ไอ้วัตมันเจอของแรง ฉันจัดหนักให้มัน ถ้ามันไม่อยากตาย มันก็ต้องเข้ามาหาฉัน แล้วยังไอ้อัญอีก”
“ไอ้อัญเกี่ยวอะไร”
“ไอ้ผู้กองภควัตมันรักไอ้อัญ ตราบใดที่ไอ้อัญอยู่กับเรา มันก็ไปไหนไม่รอด”
วินิจไม่ชอบใจนัก “แกอย่าประมาทมันสองคน มันทำให้เราพินาศมาหลายงาน ทางที่ดีแกต้องฆ่ามัน”
“ไอ้ตำรวจคนที่พ่อได้ข่าวมาจากมัน พ่อต้องจ่ายเงินให้มัน วันไหนที่มันโลภ ไม่รู้จักพอ มันจะแว้งกัดเรา แต่สำหรับไอ้ผู้กองภควัต ผมจ่ายมันด้วยยา กับความหวังว่าไอ้อัญที่มันรักจะปลอดภัย...ผมเห็นมาแล้วว่ามันรักกันขนาดไหน”
แววตาอธิคมเจ็บช้ำขมขื่น เมื่อนึกถึงภาพอัญมาที่ยอมตายแทนภควัต
“ผมจะใช้ความรัก ความเสียสละให้ฆ่าตัวมันเอง”
อ่านต่อหน้า 3
คีตโลกา ตอนที่ 14 (ต่อ)
ภควัตเดินโซเซมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านอุบลมองไปด้านในพบว่าไม่มีคน และบ้านปิดเงียบ จึงหยิบมือถือขึ้นมากดหาหมวดกนก หรือ ไอ้เก้า
“อัญมาพาแม่ออกไปแล้วใช่มั้ย เก้า”
ในตอนนี้เก้าที่ยืนอยู่นอกคฤหาสน์คุณอรรณพ คุณภรณี มองเข้าไปด้านใน เห็นอัญมา กับอุบล ยืนอยู่กับเจ้าของบ้านแล้ว
“ครับ ผู้กอง อัญมากับป้าอุบลมาถึงบ้านคุณอรรณพแล้ว”
ภควัตมองโล่งใจ กดปิดสาย
“อัญมา...ครอบครัวคุณเสียสละเพื่อผมมามากพอแล้ว”
ภควัตสายตาเศร้า คิดถึงเหตุการณ์ในวัยเด็กตอนที่ รัตน์ พ่ออัญมาถูกยิงเพราะช่วยชีวิตตน
“ผมปล่อยให้คุณเป็นอะไรไปอีกคนไม่ได้”
ภควัตสีหน้าหมองเศร้า ก่อนหันหลัง เดินโซเซออกไป
อัญมายืนอยู่ในคฤหาสน์กับอรรณพ ภรณี และอุบล หันมามองเก้าที่เดินเข้ามา
“ผู้กองโทร.มา ผมบอกแล้วว่าป้าอุบลอยู่ที่นี่”
อัญมาหันมาทางอรรณพ ภรณี
“แม่เป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตอัญ อัญขอรบกวนคุณสองคน ฝากแม่ไว้ที่นี่เพื่อความปลอดภัยสักพักนะคะ”
“ไม่เป็นไรเลยจ้ะ หนูอัญ หนูไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ฉันดีใจมากที่หนูนึกถึงเรา”
“ขอบพระคุณคุณสองคนมากค่ะ คุณมีเมตตากับเราสองแม่ลูกเหลือเกิน”
อุบลซาบซึ้งตื้นตันยกมือไหว้อรรณพกับภรณี สองคนเยื้อนยิ้มอย่างมีเมตตา
“ฟังเรื่องทั้งหมดที่หนูอัญเล่าแล้ว ฉันต้องช่วยนะ ทุกคนเสียสละความสุขเพื่อกำจัดพ่อค้ายาอย่างนายวินิจ มีอะไรที่ฉันสองคนทำได้ ขอให้บอก เราทุกคนต้องร่วมมือกัน”
ภรณีเป็นห่วงอัญมา “ที่จริง ฉันอยากให้หนูอัญมาอยู่ที่นี่ซะด้วยกัน ไม่ต้องไปเสี่ยงอันตรายที่บ้านอธิคมนั่นอีก”
“เราต้องทำทุกอย่างให้ไม่มีพิรุธค่ะ ต้องทำให้วินิจชะล่าใจมากที่สุด จนกว่าจะทำลายเครือข่ายพวกมันได้ทั้งหมด” อัญมาว่า
“เราออกมานานแล้ว อัญ”
เก้าเอ่ยเตือน อัญมาหันไปกอดอุบล อุบลกอดลูกสาวแน่น
“อัญ สัญญากับแม่นะ อัญ เอ็งต้องกลับมารับแม่”
“จ้ะ แม่ อัญจะมารับแม่ด้วยตัวเอง”
อรรณพบอก “ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลแม่ของเธอให้ปลอดภัย”
ภรณีเต็มตื้น ยิ้มให้กำลังใจอัญมา
“หนูอัญ ฉันเชื่อมาตลอดว่าหนูเป็นคนดี...ตอนนี้ฉันภูมิใจในตัวหนูเหลือเกิน”
อัญมายิ้มมองอุบล อรรณพ และภรณีที่ต่างก็เป็นพ่อแม่ของเธอทั้งสองโลก
“คุณทุกคนหล่อหลอมให้อัญเป็นคนดีค่ะ”
อัญมายืนยิ้มชื่นอยู่ตรงหน้าอรรณพ และ ภรณี อุบล สายตาเต็มไปด้วยความสุข และความภูมิใจ
ภควัตเดินท่าทางหนาวสั่นจากในกระดูก มาหยุดที่หน้าค่ายมวย มองไปด้านใน ลูกน้องวินิจก้าวออกมา
“มาหาใคร”
“อธิคม”
ลูกน้องมองจับสังเกต เห็นภควัตทำท่าอยากเจอมาก
“บอกว่าฉัน...ไอ้วัต เซียนพระมาหา”
“กลับไป พี่คมไม่อยู่ วันหลังมาใหม่”
“ให้ฉันเจอเถอะ”
ภควัตทำเซ้าซี้ ลูกน้องผลักอก ภควัตทำกระเด็นไปไกล เดินหันหลังออกมา
แววตาภควัตไม่ได้เซื่องซึมตามท่าทาง แต่กลับเป็นแววตาที่วางแผนการมาหลอกอธิคม
ทางฝ่ายกฤษณ์เดินเป็นเสือติดจั่น มีมือถือ 3 เครื่องที่ใช้โทรสลับกันวางอยู่ตรงหน้า สุคนธรสมองแล้ว ทำเป็นวางแมกกาซีนแฟชั่นในมือ ถามขึ้น
“มีเรื่องอะไรเหรอคะ กฤษณ์ งานมีปัญหาเหรอคะ มีอะไรให้รสช่วยมั้ย”
กฤษณ์หันขวับมามองตาขวาง สุคนธรสตกใจ
“ไปหาอัญมาให้ผมหน่อย”
สุคนธรสหน้าง้ำ “อีกแล้ว ไปทำไมคะ ทำไมต้องให้รสไปเจอมันทุกทีเลย”
“ผมอยากรู้ว่าอัญมาเจอภควัตหรือยัง”
“ทำไมคะ มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับวัต”
สุคนธรสถามแล้วก็นึกได้ ว่าไม่ควรถามเพราะกฤษณ์จ้อง
“ตามใจ คุณไม่อยากไป ก็ไม่ต้องไป”
กฤษณ์ตัดบท สุคนธรสทำเป็นหันกลับมาสนใจแมกกาซีน ไม่ถามเรื่องภควัตต่อ ทั้งที่สายตาอยากรู้มาก กฤษณ์เดินห่างจากสุคนธรส มองไปด้านนอก
“ไอ้วัต...ฉันจะยืมมือไอ้วินิจเขี่ยแกให้พ้นทาง”
ขณะนั้นภควัตนั่งเปิดหนังสือพิมพ์อ่านอยู่ที่ร้านกาแฟชุมชน นวยเดินเข้ามานั่งตรงข้าม หันไปสั่งเครื่องดื่มกับเฮียเจ้าของร้าน
“ชามะนาว เฮีย”
ภควัตมองนวยเป็นคำถาม นวยขยับมาหา รู้เรื่องภควัต เก้า และอัญมาหมดแล้ว
“ฉันทำตามที่พี่บอกแล้วนะ เย็นๆ ฉันจะไปรับพี่จิ๊บที่ทำงาน แล้วก็เลยไปบ้านญาติฉันเลย”
“ดี ไปนานๆ อย่าเพิ่งกลับจนกว่าฉันหรืออัญจะส่งข่าวไป”
“แล้วที่วินล่ะ จะให้ฉันบอกหัวหน้าวินว่าอะไร”
“ไปงานศพญาติที่ต่างจังหวัด รู้กะทันหัน อย่าเพิ่งบอกตอนนี้ ค่อยโทร.กลับมาบอก”
“เจ๊อัญล่ะ แกจะไม่เป็นอันตรายแน่นะ” นวยกังวลมาก
“ไม่ต้องห่วง ฉันดูให้เอง”
ภควัตมองนวยที่แววตาเป็นกังวลไม่คลาย
“พี่เก้าเป็นพวกเดียวกับเจ๊อัญ...กับผู้กองใช่มั้ย” ภควัตพยักหน้ารับ “พี่จิ๊บเค้ารักพี่เก้า ยังไงก็อย่าให้พี่เก้าเป็นอะไรไปด้วยนะ”
นวยมองด้วยสีหน้าแววตาฝากฝัง เป็นห่วงเก้า ว่าที่พี่เขยจากใจจริง
อธิคมกกลับถึงบ้านแล้ว กำลังฟังลูกน้องรายงาน
“ไอ้วัตมาหาพี่คม ท่าทางมันจะเจอพี่ให้ได้”
อธิคมฟังแล้วยิ้ม อัญมาเดินเข้ามากับเก้า อธิคมมองลูกน้องเดินเลี่ยงออกไป
“แม่เป็นไงมั่ง อัญ”
“ฉันพาไปโรงพยาบาลแล้ว”
“เป็นอะไรมากรึเปล่า”
“ไม่มาก แต่ฉันอยากให้อยู่ใกล้หมอ”
“โรงพยาบาลไหน ฉันจะไปเยี่ยม”
“ไม่ต้องหรอกพี่ ฉันขอร้องนะ พี่ก็รู้ว่าแม่ฉันเครียดเรื่องที่ฉันมาอยู่กับพี่มากแค่ไหน แม่ทำใจไม่ได้หรอกถ้าต้องเห็นพี่ ให้แม่ดีขึ้นแล้วฉันจะไปรับกลับบ้านเอง”
อัญมาทำหน้าตาเครียดเป็นกังวล แล้วเดินออกไป อธิคมหันไปมองทางเก้า
“โรงพยาบาลไหน”
“โรงพยาบาลวชิรปราการน่ะพี่ ห้องพิเศษรวม มีคนอื่นอยู่ด้วย” เก้าบอกชื่อส่งๆ
“งั้นแกคอยดูแลค่ายา ค่าหมอแทนฉันด้วย เวลาอัญไปหาแม่”
อธิคมหยิบแบงค์พันเป็นปึกส่งให้ เก้ารับมาแต่ทำเป็นเสนอ
“ครับ แต่ถ้าพี่อยากไปจริงๆ...”
“ไม่ได้ยินหรือไง แม่อัญไม่อยากเจอหน้าฉัน แล้วช่วงนี้ฉันก็ยุ่งๆ ด้วย”
“ที่จริงพี่ให้ฉันไปส่งของ แล้วให้คนอื่นมาเฝ้าเมียพี่ก็ได้นะ”
เก้าแกล้งแหย่ อธิคมส่ายหน้า
“ฉันไม่ไว้ใจใครนอกจากแก ช่วงนี้เราไม่ต้องห่วงเรื่องส่งของ แกคอยดูอัญไว้มีอะไรผิดปกติ รีบโทร.หาฉัน” อธิคมกำชับ
“ครับ พี่”
เก้าตอบนอบน้อมเหมือนทุกครั้ง ไม่ให้อธิคมเห็นพิรุธ
อธิคมเดินออกไปนอกบ้าน เก้ามองตาม
อัญมาเดินมา เจอวินิจกับพลภัทรที่กำลังเดินมาจากอีกทาง อัญมามองแล้วหลบทางให้ วินิจมองอัญมา
“หายหัวไปไหนมา”
“แม่ฉันไม่สบาย”
“ก็คงจะเงินลูกชายฉันน่ะสิ ที่แกเอาไปรักษาแม่”
อัญมาทำเป็นยอม ไม่เถียง วินิจจ้องอัญมาอย่างเกลียดชัง
“รีบตักตวงความสุขซะ เพราะอีกไม่นาน แกจะไม่เหลืออะไร กระทั่ง...ชีวิต”
วินิจขู่ อัญมาทำหลบตาท่าทางหวั่นกลัว วินิจเดินออกไป พลภัทรเดินตาม อัญมามองพลภัทรที่ทำหน้าตาดุอย่างไม่ชอบขี้หน้า
ฝ่ายฟากภควัตกำลังปวดท้องตัวงออยู่ในห้องเช่า เพราะอาการอยากยา อธิคมเปิดประตูเข้าห้องมา ภควัตเงยมอง อธิคมมองสภาพภควัตแล้วหยิบถุงใสที่ใส่ยาบ้า 2 เม็ดออกมาชูตรงหน้าภควัต
“สำหรับแก”
อธิคมโยนมาให้ตรงหน้า ภควัตแกล้งทำเป็นรีบเข้าไปคว้าถุง อธิคมก้าวมาเหยียบมือภควัตที่กำลังจับถุงยาบ้า
“มีตำรวจคนไหนเป็นสายอีก”
ภควัตเจ็บมือ ดิ้นพราด อธิคมกระทืบซ้ำลงไปอย่างแรง ภควัตชักมือที่กำถุงยาบ้าไว้แน่น อธิคมเตะเข้ากลางอก ภควัตหงายเงิบไป แต่มือยังกำถุงยาบ้าแน่นไม่ปล่อย อธิคมกระชากถุงยาออกจากมือภควัต
“มีใครอีก”
ภควัตทำเป็นมองยาบ้าแล้วรีบบอก
“ไม่มี...มีฉันแค่คนเดียว”
อธิคมบีบคอภควัต
“มึงโกหก”
อธิคมบีบแรง ภควัตเริ่มหายใจไม่ออก
“ไม่มี”
อธิคมมองภควัตแล้วจับหัวโขกลงพื้น ภควัตถึงกับมึน อธิคมปล่อยมองอย่างสมเพช ภควัตคลานไปกำถุงยาบ้าไว้ อธิคมมองหยาม
“ฉันจะมาหาแกที่นี่เอง ไม่ต้องไปหาฉันที่บ้าน” อธิคมเยาะเย้ย “นอกจากแกอยากจะเจออัญ เมียฉัน”
ภควัตตีหน้าเศร้าครวญออกมา “อัญมา...”
“อัญกับฉันมีความสุขกันดี ฉันขอเตือนนะ ว่าแกไม่ควรจะออกไปไหนให้คนเห็นสภาพแก ตอนนี้มันเหมือนศพเดินได้เลยว่ะ”
อธิคมจ้องภควัต
“2 เม็ดนั่นสำหรับวันนี้ อย่ารีบใช้เพราะถ้าพรุ่งนี้ฉันนึกไม่ออกว่าจะถามอะไรแกอีก...แกก็จะไม่ได้รางวัลจากฉัน”
อธิคมหัวเราะสะใจ แล้วเดินออกไป ภควัตรอจนอธิคมปิดประตูสักพัก ก็ปาถุงยากระเด็น หันหน้าไปทางอื่น พยายามจะไม่หันไปมอง
แต่สุดท้าย ภควัตลุกขึ้นเดินเข้าไปหยิบถุงยาบนพื้นขึ้นมากำไว้ ตัดสินใจอย่างหนัก
ด้านวินิจกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับเสี่ยใหญ่ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ได้ครับ เสี่ย ผมมีของบริการเพื่อนๆ ของเสี่ยแน่นอนครับ”
พลภัทรเดินเข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้ วินิจยืนหันหลัง คุยมือถือ
“ได้ครับ เสี่ย คืนนี้...จะให้อธิคมไปส่งเหมือนเดิม”
วินิจวางสายหันมาเห็นพลภัทร กำลังจะเดินออกไป
“ไอ้พล”
พลภัทรสะดุ้งนิดๆ หันกลับมา วินิจกำลังจิบกาแฟ พลภัทรยืนรอ จนวินิจวางถ้วยกาแฟ
“ไอ้อัญมันมีอะไรผิดหูผิดตามั่งมั้ย”
“ท่าทางเค้าจะมีเรื่องไม่พอใจลูกชายพี่”
“ดี ให้มันทะเลาะ เลิกๆ กันได้ ยิ่งดี ข้าจะลงมือกำจัดไอ้อัญได้ง่ายๆ ไม่ต้องมีไอ้เก้าคอยขวางมือขวางเท้า ไปรายงานไอ้คม”
พลภัทรไม่ออกความเห็น ยืนรอรับคำสั่ง
“คืนนี้ ข้ามีงานให้เอ็งทำ ตามลูกข้าไป ตามห่างๆ อย่าให้ไอ้คมมันรู้ตัว คอยระวังตำรวจให้มัน ดูจนมันส่งของเรียบร้อย อย่าให้มันถูกจับ”
“ครับ”
พลภัทรตอบด้วยแววตานิ่ง
วินิจจิบกาแฟต่อ ไม่ทันสำเหนียกว่ากำลังคุยกับตำรวจอย่างพลภัทร
เย็นแล้วขณะอัญมาอยู่ในห้อง และอธิคมเข้าห้องมา อัญมามอง อธิคมหันมาบอก
“เดี๋ยวฉันจะพาออกไปเที่ยว”
“ไปไหน?”
“ไม่อยากไปเหรอ”
“ฉันอยากไปอยู่แล้ว ไม่ได้อยากอุดอู้อยู่ในนี้ทั้งวัน”
“งั้นก็รีบไปแต่งตัวสวยๆ สิ”
อัญมามองอธิคมที่ยิ้มเอาใจ
อธิคมขับรถมา มีอัญมาแต่งตัวสวยนั่งข้างๆ อธิคมยิ้มสุขใจ อัญมาเหลียวมองไปดูกล่องของขวัญที่เบาะหลัง
“ไปงานวันเกิดเพื่อนเหรอ”
อธิคมพยักหน้า ยิ้มในสีหน้า แล้วเร่งเครื่องรถแล่นไป
โดยที่ด้านหลัง รถพลภัทรขับตามมา ตามคำสั่งวินิจ และกำลังกดมือถือโทร.ออก คุยกับภควัตที่ปลายสาย
“ผมกำลังตามอธิคม มันพาอัญมาออกมาข้างนอก คิดว่ามันกำลังจะไปส่งของครับ ผู้กอง”
ภควัตอยู่ในห้องเช่าคุยสายกับพลภัทร
“ดูอัญมาไว้ด้วย พลภัทร ผมจะรีบตามไป”
ภควัตวางสายแล้ววิ่งออกไปทันที
รถอธิคมแล่นมาจอดตรงลานจอดรถหน้าผับ พอรถจอดสนิท อัญมาจะหันไปหยิบกล่องของขวัญ อธิคมมองแล้วห้าม
“ไม่ต้อง ฉันถือเอง”
อธิคมรีบคว้ากล่องมาถือ เปิดประตูลงไป อัญมามองตามด้วยความสงสัย แล้วลงจากรถ อธิคมยืนรอ อัญมามองจ้องกล่องของขวัญเขม็ง อธิคมใช้มือที่ว่างกุมมืออัญมาเดินเข้าไปทันที
พลภัทรจอดรถห่างมาหน่อย มองอัญมากับอธิคมที่เดินเข้าไป แล้วรีบลงจากรถ ตามไปห่างๆ
ภายในผับ สุคนธรสนั่งอยู่ที่โต๊ะกับกฤษณ์ หน้าตากฤษณ์ดูออกว่าเริ่มเมาแล้ว สุคนธรสมองแล้วแกล้งเอาใจเทเครื่องดื่มให้
“วันนี้คุณดูเครียดมากเลยนะคะ กฤษณ์ มีอะไรก็บอกรสสิคะ เรากำลังจะแต่งงานกัน ให้รสช่วยแบ่งเบาความทุกข์คุณบ้าง”
สุคนธรสส่งแก้วเครื่องดื่มให้ กฤษณ์รับไปดื่ม สุคนธรสแหย่หยั่งเชิงต่อ
“เรื่องวัตล่ะสิ”
“ก็มีมันคนเดียว ที่ขวางทางผม ไอ้วัต มันถือว่าทำงานเสี่ยงกว่า เอาหน้าอยากให้นายรัก อยู่ๆ พอมันโผล่หัวมา ทุกคนก็สนใจแต่มัน”
กฤษณ์กระดกหมดแก้วด้วยความขุ่นเคืองใจ
ด้านหลังสองคน อธิคมเดินกุมมืออัญมาเข้ามา อธิคมพาอัญมาเดินไปที่โต๊ะ ห่างจากโต๊ะสุคนธรสกับกฤษณ์
“ไหนละ เพื่อนคุณ เจ้าของวันเกิด”
“สงสัยจะมาเลท เราสั่งอะไรกันก่อนเถอะ”
อธิคมวางกล่องของขวัญ แล้วเรียกบริกรมารับออเดอร์ อัญมามองกล่องอย่างสงสัย
พลภัทรตามเข้ามาด้านหลัง มองไปที่โต๊ะอธิคมแล้วถอยห่างไปนั่งที่โต๊ะมุมร้าน คอยมองจับสังเกต
ด้านสุคนธรสรินเครื่องดื่มให้อีก กฤษณ์มีสีหน้าเมามาย ลุกขึ้น
“ผมไปห้องน้ำ เดี๋ยวมา”
กฤษณ์หันหลังจะเดินออกไปทางห้องน้ำร้าน แต่สายตามองไปเห็นอธิคมกับอัญมาที่โต๊ะ กฤษณ์เพ่งมองแล้วรีบนั่งลง
สุคนธรสฉงน “มีอะไรคะ กฤษณ์”
กฤษณ์บอก “อธิคม”
สุคนธรสหันไปดูที่โต๊ะห่างออกไปทันที
“อัญมาด้วย”
กฤษณ์มีสีหน้าเครียดไปถนัดตา
“อธิคม มันมาที่นี่ทำไม หรือว่า...ส่งของ”
กฤษณ์คิดหนักว่าจะเอาไงดี
ขณะเดียวกัน ภควัตลงจากแท็กซี่ มองไปยังผับว่ามาถูกที่แน่ จ่ายเงินแล้วรีบเดินเข้าไปด้านใน
อธิคมนั่งอยู่กับอัญมาที่โต๊ะ บริกรมาเสิร์ฟเครื่องดื่มสีสวย อธิคมยื่นให้อัญมาอย่างเอาใจ
“เดี๋ยวเราไปเต้นกันนะ”
อัญมารับเครื่องดื่มมา ยิ้มให้อธิคมโดยไม่มีพิรุธ อธิคมมองไปเห็นพริตตี้เด็กเสี่ยคนเดิมเดินเข้ามาหา อธิคมมองสบตาแล้วหันมาบอกอัญมา
“แฟนเพื่อนผมมา เดี๋ยวผมไปถามเค้าก่อนนะ ว่าเลี้ยงกันที่ห้องไหน”
อธิคมคว้ากล่องของขวัญ ลุกเดินออกไป อัญมามองตามยิ่งสงสัย
กฤษณ์หันไปเห็นอธิคมถือกล่องของขวัญไปทางผู้หญิงสาวสวยอีกด้านของห้อง มั่นใจว่าคิดไม่ผิด
“อธิคมมันกำลังจะส่งยา”
กฤษณ์ชักปืนออกมาจากเอว สุคนธรสตกใจ
“กฤษณ์ อย่านะคะ คุณมาคนเดียว”
“คนเดียวสิดี ถ้าจับอธิคมได้ ก็เป็นผลงานผมคนเดียว”
“แต่นายวินิจ พ่ออธิคมจะฆ่าคุณ”
“มันฆ่าผมไม่ได้หรอกน่า ผมมีวิธีรีดเงินจากไอ้สองพ่อลูกนี่มากกว่าเดิมด้วยซ้ำจับอธิคมได้ แล้วขู่เอาเงินพ่อมัน แล้วผมก็ค่อยแกล้งปล่อยให้อธิคมมันหนีไป ผมได้ทั้งเงินจากวินิจ แล้วก็ผลงานเข้าตานาย”
กฤษณ์ย่ามใจไม่ฟังสุคนธรส เดินออกจากโต๊ะไปเลย
อธิคมเดินมาถึงตัวพริตตี้เด็กเสี่ยใหญ่ที่รับยาไป
อัญมามองจากที่โต๊ะ เห็นอธิคมส่งกล่องของขวัญให้ ฉุกใจคิดได้
“อธิคม ส่งยา”
อัญมาลุกขึ้นที พุ่งจะเข้าไปทางอธิคม
กฤษณ์ซุ่มตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง ตะโกนออกมา ยกปืนเล็งใส่
“หยุดนะ ตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว”
อธิคม กับพริตตี้ ได้ยินหันไปมองทางเสียง เห็นแค่ว่าในมุมมืดมีคนยกปืนขึ้น เล็งมาที่ตน โดยไม่รู้ว่าเป็นกฤษณ์
พลภัทรดูอยู่ลุกพรวด เช่นเดียวกัน ที่ทางเข้า ภควัตเข้ามาเห็นอธิคมถูกกฤษณ์เล็งปืนใส่
ระหว่างนี้นักเที่ยวเริ่มตกใจ หลายโต๊ะทิ้งยาอีลงพื้น วิ่งหนี เสียงหวีดร้อง เหตุการณ์อลหม่าน
“ตำรวจๆ”
อธิคมตกใจ จะหันหลังหนี กฤษณ์เห็นความวุ่นวาย ก็ตัดสินใจยิงขู่ไปที่อธิคม กระสุนพุ่งเจาะกล่องของขวัญที่อธิคมถือ กล่องกระดาษกระจุย ยาบ้าในกล่องทะลักออกมา ร่วงลงพื้น
อัญมาที่ยืนใกล้ๆ อธิคม มองอย่างตกใจ
“ยาบ้า”
ภควัตมองเห็นเหตุการณ์หน้าเครียด ห่วงอัญมาจะโดนลูกหลง
“อัญมา”
อธิคมชักปืนในเอวออกมา หันไปมองจะคว้ามืออัญมา แต่กฤษณ์ตัดสินใจยิงไปอีกนัด อธิคมต้องโดดหลบหลังโต๊ะ บรรดาพริตตี้ กับแขกแตกตื่น พากันวิ่งหนีจ้าละหวั่น
สุคนธรสตกใจ รีบหลบใต้โต๊ะ ร้องกรี๊ดๆ
อธิคมยิงสวนไปทางที่กฤษณ์ยิงมา คนยิ่งแตกตื่น
กฤษณ์หลบไม่ยอมให้อธิคมเห็นตัว เพราะพลาดที่ขู่อธิคมไม่ได้ แถมอธิคมยังยิงสวน
อธิคมหันมา จะเข้าไปคว้าอัญมาที่หมอบอยู่ห่าง แต่ภควัตพุ่งเข้ามาคว้ามืออัญมา อธิคมเห็น
“ไอ้วัต”
อธิคมเปลี่ยนมายิงใส่ทางภควัต
ภควัตกระชากมืออัญมาวิ่งหลบหนีกระสุนอธิคม
หมวดพลภัทรตกใจ ที่เห็นอธิคมกำลังไล่ยิงภควัต
“ผู้กอง”
พลภัทรหยิบปืนจากเอวออกมา กฤษณ์มองไปเห็นภควัตกำลังหลบกระสุน
“ไอ้วัต มึงมาได้ยังไง”
กฤษณ์มองไปยังสุคนธรสที่หลบใต้โต๊ะด้วยความกลัว แล้วตัดสินใจ วิ่งไปกระชากแขนมือคนรักจากใต้โต๊ะ
“ไป”
“ไปไหนคะ ยิงกันน่ากลัวมาก”
“ไปจากที่นี่ไงเล่า ให้อธิคมมันคิดว่าเป็นไอ้วัตยิง ให้มันไล่ฆ่ากันเอง”
“วัต วัตจะตายหรือเปล่า” สุคนธรสหลุดปาก
กฤษณ์ไม่สน กระชากแขกสุคนธรสวิ่งหนีแหวกคนไปอีกทางทันที
พลภัทรมองเห็นอธิคมไล่ตามภควัตกับอัญมาไปก็รีบตามไปทันที
ภควัตจับมืออัญมาวิ่งมากับกลุ่มนักเที่ยวที่กำลังแตกตื่นวิ่งหนี
“คุณเอาตำรวจมาเหรอ”
“เปล่า ผมไม่ได้บอกใคร”
“แล้วตำรวจที่มาจับเป็นใคร” อัญมาก็ไม่รู้ว่าเป็นกฤษณ์
“ผมไม่รู้ ไม่ใช่พวกผม ผมมาเพราะรู้ว่าอธิคมพาคุณมาส่งยาด้วย”
จังหวะนี้เอง อธิคมวิ่งตามมาทางด้านหลัง ยกปืนเล็ง
“หยุดเดี๋ยวนี้ ไอ้วัต”
อธิคมยิงเปรี้ยงออกไป นักเที่ยวหวีดร้อง กระสุนเฉียดภควัต
“ปล่อยฉัน หนีไป...ผู้กอง” อัญมาบอก
“ไม่ เราต้องไปด้วยกัน”
ภควัตดึงแขนอัญมาวิ่งหลบเลี้ยวออกไป อธิคมแหวกคนวิ่งตามทันที พลภัทรอยู่หลังสุด รีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
กฤษณ์ กับสุคนธรสวิ่งออกมาทางหน้าผับ ผ่านกลุ่มนักเที่ยวที่กำลังแตกตื่น พอตั้งหลักได้ สุคนธรสก็ใส่กฤษณ์ทันที
“ดูสิ รสเตือนแล้วนะ ที่วุ่นวายจะฆ่ากันตายก็เพราะคุณคนเดียวเลย อยากได้หน้าจับพวกค้ายา แล้วเป็นไง ผับแทบแตก ทีหลังดูตาม้าตาเรือก่อนนะ ว่าพวกนั้นมันมีปืนหรือเปล่า”
“พูดมาก ก็อยู่ให้โดนลูกหลงก็ตรงนี้แหละ”
กฤษณ์ยัวะ จะเดินไป สุคนธรสถามขึ้น
“แล้ววัตล่ะ”
“มันดันโผล่มาเอง ก็ดี ให้มันรับผลงานเน่าๆ ไป ไม่ใช่ฉันก็พอ”
กฤษณ์เดินไปเลย สุคนธรสบ่นขึ้นสีหน้าไม่พอใจ
“คุณมันเห็นแก่ตัวที่สุด” สุดท้ายก็เดินตามไป “กฤษณ์ รอรสด้วยสิ”
ภควัตจูงอัญมาวิ่งหนีออกมาด้านหลังผับแล้ว
“ปล่อยฉันเถอะ ให้ฉันกลับไปกับอธิคม”
“ไม่ได้ อธิคมคิดว่าผมยิงเค้า เค้าทำร้ายคุณแน่ๆ”
อธิคมวิ่งตามออกมา เห็นภควัตกับอัญมาก็เล็งปืน
“มึงกล้ายิงกูใช่มั้ย ไอ้ผู้กอง”
“ไม่ใช่ อธิคม ไม่ใช่ผู้กองภควัตที่ยิงคุณ” อัญมาบอก
“ไม่ใช่มันแล้วจะใคร ในนั้นมีตำรวจคนเดียว คือมัน อย่าอยู่อีกเลย ไอ้วัต”
อธิคมจ้องภควัตด้วยความโกรธ เสี้ยวนาทีที่อธิคมตัดสินใจเหนี่ยวไกนั้น แลเห็นพลภัทรที่ตามมาพุ่งโดดเข้าขวางร่างภควัตไว้ กระสุนเจาะเข้าเหนืออกขวาพลภัทรจังๆ ภควัต และอัญมามองตะลึง
ภควัตร้องสุดเสียง “พลภัทร”
พลภัทรล้มลง เลือดพุ่ง รวบรวมแรงที่มีบอกคู่หู
“หนีไป ผู้กอง”
คำพูดประโยคนั้นกระแทกเข้าหน้าอธิคมจังๆ มาเฟียหนุ่มตาวาว แค้นสุดขีด
“ไอ้พล มึงเป็นพวกไอ้วัต มึงเป็นตำรวจ”
อ่านต่อหน้า 4
คีตโลกา ตอนที่ 14 (ต่อ)
อธิคมเหนี่ยวไกจะยิงซ้ำ แต่พลภัทรแข็งใจ ยกปืนในมือขึ้นยิงเปรี้ยง โดนไหล่ซ้ายจนร่างอธิคมกระเด็นไปด้านหลัง การ์ดของผับรูปร่างสูงหน้าทะมึนวิ่งมา 4 คน อธิคมเห็นแล้วรีบบอก
“ฉันคนของเสี่ยใหญ่...ฆ่าพวกมัน”
ภควัตมองไปทางการ์ดที่กำลังดาหน้าเข้ามา พลภัทรคว้ามือถือยัดใส่มือภควัต
“คลิปเสียงทุกอย่างอยู่ในนี้ ...รีบพาอัญมาหนีไปก่อน”
ภควัตลังเล “พลภัทร”
“ไม่ต้องห่วงผม หนีไปก่อน ผู้กอง แล้วกลับมาจัดการมันให้ได้”
ภควัตเห็นอธิคมที่กำลังลุกขึ้นเดินตรงมา รวมทั้งการ์ดระดมยิงมาทางตนไม่ยั้ง ภควัตคว้าปืนในมือพลภัทรยิงสวน อธิคมหลบ พวกการ์ดหาที่กำบังแล้วสาดกระสุนมา
ภควัตยิงตอบโต้ อัญมาหลบอยู่มุมหนึ่ง ภควัตเห็นอธิคมกำลังพุ่งไปทางอัญมาก็ยิงสกัด ถูกอธิคมยิงสวน
ภควัตพุ่งไปทางอัญมา แล้วกระชากมือ พาอัญมาวิ่งไปทันที
อธิคมกับการ์ดจะตาม แต่ได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจดังมา อธิคมชะงักเท้า พวกการ์ดเริ่มถอย เก็บปืน วิ่งกลับไปทางผับ
อธิคมจะตาม แต่พลภัทรคว้าเท้าอธิคมไว้ อธิคมก้มมองแค้นสุดขีด
“มึงเป็นตำรวจ”
อธิคมจ่อปืนยิงลงไป พลภัทรสะดุ้งเฮือก กระสุนทะลุอก ขาดใจตายทันที
เสียงไซเรนดังใกล้ รถตำรวจจอดลง แสงสาดสีแดงส่องไปรอบๆ บริเวณ อธิคมตัดสินใจวิ่งหลบหายไปอีกทางอย่างเร็ว
สภาพศพพลภัทรที่ช่วยภควัตจนนาทีสุดท้าย ตายจมกองเลือดอยู่บนพื้นอย่างผู้เสียสละ
ฝ่ายภควัตพาอัญมาวิ่งหลบออกมาในซอยมืดเปลี่ยว อัญมาหอบแรง ภควัตเห็นว่าไม่มีใครตามก็หยุด
“ไหวมั้ย อัญมา”
อัญมาพยักหน้าแล้วบอกขึ้น
“เรากลับไปชุมชนไม่ได้ อธิคมล่าตัวคุณแน่”
ภควัตหอบหายใจแรง หน้าซีดขาว ท่าทางเหนื่อยง่าย อัญมามองอย่างตกใจระคนแปลกใจ
“ผู้กอง คุณเป็นอะไร หน้าคุณซีดมากเลย คุณถูกยิงหรือเปล่า”
“เปล่า...ผมไม่เป็นอะไร”
“เราต้องรีบหาที่ซ่อนก่อน”
อัญมามองภควัตที่พยักหน้าเห็นด้วย
ฝ่ายอธิคมกำลังขับรถด้วยแขนขวา ไหล่ซ้ายที่ถูกพลภัทรยิง เลือดทะลัก ปืนอยู่ที่เบาะข้างตัว อธิคมเปิดสปีกเกอร์โทรศัพท์คุยกับพ่อขณะเร่งความเร็วรถ
“ผมถูกยิง ไอ้พล ลูกน้องพ่อมันเป็นตำรวจ”
วินิจถือสายอยู่ในบ้าน สายตาโกรธจัด
“ตำรวจ นี่มันกล้าเหยียบจมูกฉัน”
“ผมยิงมันตายแล้ว แต่อัญมากับไอ้วัตหนีไปได้”
“อย่ากลับมาที่นี่ ไปหาที่กบดานสักพัก เดี๋ยวพ่อจะคุยกับเสี่ยใหญ่ เคลียร์เรื่องทั้งหมดให้เอง”
วินิจวางสาย สีหน้าเครียดหนัก ขับรถตะบึงออกไปราวกับจะบิน
ทางด้านกฤษณ์เดินเข้ามาในห้องคอนโด สีหน้าเครียดมาก สุคนธรสนั่งลงอย่างแทบหมดแรง
“พวกค้ายาจะรู้มั้ยว่าคุณต่างหากที่เป็นคนเริ่มยิงก่อน ไม่ใช่วัต”
“ไม่รู้แหละดี”
เสียงมือถือเครื่องหนึ่งของกฤษณ์ดัง กฤษณ์มองเบอร์แล้วสะดุ้ง
“วินิจ”
สุคนธรสมองกฤษณ์ทันที
วินิจอยู่ที่ห้องทำงานในบ้าน ตะคอกเสียงถามด้วยความโกรธ
“ไอ้วัต เซียนพระ มันอยู่ไหน”
“ไม่รู้ ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าว”
“ฉันอยากรู้ว่ามันอยู่ไหน มันกล้ายิงลูกชายฉัน ฉันจะเอาเลือดมันมาล้างตีน”
วินิจวางสายไปเลย กฤษณ์มือสั่น วางมือถือลง
“ไอ้วินิจ พ่อค้ายามันว่ายังไงคะ”
“มันจะล่าตัวไอ้วัต”
สุคนธรสหลุดปาก “วัตไม่เกี่ยว คุณต่างหากที่จะจับลูกชายวินิจเอาหน้า”
กฤษณ์โกรธจัด หันมาตบหน้าสุคนธรสอย่างแรง
สุคนธรสตะลึง “กฤษณ์”
“หุบปากให้สนิททุกเรื่อง ถ้าไม่อยากให้ผมเดือดร้อน อย่าคิดว่าผมจะปล่อยให้ใครมาทำลายทุกอย่างที่ผมหามาด้วยความยากลำบาก” กฤษณ์ขู่
“แต่คุณกำลังโยนความผิดไปให้วัต”
“ก็สมควรแล้วนี่ มันดันโชว์โง่ ลุยเดี่ยว มาอยู่ตรงนั้นเอง เรื่องมันถึงลงเอยแบบนี้”
กฤษณ์มองจ้อง ชี้หน้าขู่คนรัก
“เลือกเอา รส จะอยู่เงียบๆ ใช้เงินที่ผมหาให้ หรือปากสว่าง พูดเรื่องที่รู้ทั้งหมด แล้วก็นอนตายให้หนอนไชปากอยู่ในหลุม”
สุคนธรสมองนิ่งกลัวจับใจ ไม่กล้าออกความเห็นต่อปากกับกฤษณ์ที่แววตาร้ายกาจ เหมือนปีศาจไปแล้ว
ด้านอธิคมกำลังนั่งให้พยาบาลทำแผล ในมืออธิคมถือปืนขู่ พยาบาลทำแผลที่ถูกยิง มือไม้สั่น
แววตาอธิคมวาววับ มีแต่ความคั่งแค้นคิดว่าเป็นฝีมือภควัต
เช้าวันนี้ ในห้องพักของรีสอร์ทแสนสวยย่านชานเมือง ภควัตนั่งอยู่ระเบียงหน้าห้อง อัญมานั่งอยู่ใกล้
“เราหลบอยู่ที่นี่นานไม่ได้ พวกวินิจไม่ปล่อยเราไว้แน่”
ภควัตเหงื่อแตกทั้งร่าง บีบมือตัวเอง สู้กับอาการอยากยา อัญมามองภควัตอย่างแปลกใจ
“ผู้กอง คุณไม่สบายใช่มั้ย”
อัญมาแตะไหล่ถาม ภควัตสะดุ้ง แต่พยายามยิ้มกลบเกลื่อน
“ผมไม่เป็นอะไร”
“เมื่อกี้ฉันไปขอโทรศัพท์รีสอร์ท โทร.หาจิ๊บ จิ๊บกับนวยอยู่ที่บ้านญาติ เค้าปลอดภัยแล้ว เหลือแต่เก้า ไม่รู้ว่าวินิจจะสงสัยเก้าหรือเปล่า”
อัญมาบอกด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เช้าวันเดียวกันวินิจถือปืนยืนอยู่หน้าลูกน้องทุกคนที่ยืนหน้าเครียด เก้าอยู่ปลายแถว
อีกด้านบนโต๊ะคือโทรศัพท์มือถือ ปืนของทุกคนที่วางรวมกันอยู่
“พวกมึง...รู้ใช่มั้ยว่าใครคิดทรยศกู มันจะไม่มีชีวิตออกไปจากที่นี่”
ทุกคนก้มหน้า ไม่กล้าสบตา วินิจมองไล่มาทีละคน
“กูให้โอกาสพวกมึงครั้งสุดท้าย ใครที่เคยทำผิด ก้าวออกมา กูจะให้อภัย”
ทุกคนนิ่ง จนมีคนหนึ่งก้าวออกมา วินิจมอง ลูกน้อง 1 ยกมือไหว้
“ฉันผิดไปแล้ว พี่ ฉันเคยอมเงินค่ายา แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจ แม่ฉันกำลังไม่สบาย”
วินิจไม่หันไปมองหน้าลูกน้องที่ยังพูดไม่ทันจบ ยกปืน ยิงเปรี้ยง ลูกน้องหงายหลังตายคาที่ คนที่เหลือตัวสั่นไปทั้งแถบ
วินิจแววตานิ่ง กวาดตาจนหยุดมองไปที่เก้า เก้าก้มหน้า ไม่ยอมเงยขึ้นสบตาวินิจ
“ใครที่ช่วยตำรวจ เป็นสายให้ หรือว่าปลอมตัวมาแบบไอ้พล นี่คือจุดจบของมัน”
ทุกคนก้มหน้านิ่ง มองศพเพื่อนด้วยความกลัว เก้าข่มความกลัวลงไปลึกสุดใจ ยืนนิ่งไม่มีพิรุธ
สายแล้วภควัตสีหน้าไม่สู้ดี เหงื่อออกเต็มมือ พยายามเช็ดกับกางเกง
“เราจะทำยังไงกันต่อ ผู้กอง”
ภควัตไม่ได้สนใจฟัง อัญมามองแล้วเข้ามาใกล้ถามซ้ำ
“ผู้กอง”
ภควัตมองมา อัญมาเห็นเหงื่อเต็มหน้าภควัตก็เอื้อมมือไปเช็ดให้
“คุณร้อนเหรอ เหงื่อเต็มหน้าเลย”
ภควัตมองอัญมาแล้วกุมมืออัญมาไว้
“มือคุณเย็นเฉียบเลย”
“อัญมา...ผม”
ภควัตมองแล้วอยากจะบอกเรื่องที่อธิคมบังคับให้ใช้ยา แต่พอเห็นแววตาห่วงใยของอัญมา ก็พูดไม่ออก ปล่อยมือ แล้วผละเข้าห้องไป อัญมามองตามอย่างแปลกใจมากยิ่งขึ้น
“ผู้กองเป็นอะไร”
อัญมาเดินตามไปทันที
ภควัตเข้าห้องมา หันรีหันขวางแล้วคว้ารีโมททีวี กดเปิดช่อง 7 เห็นรายงานข่าวตอนเช้า
อัญมาเดินเข้ามา ภควัตกำลังยืนมองข่าวในจอ ซึ่งเป็นภาพเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ตำรวจ กำลังตรวจสอบศพของพลภัทร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
“เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ยิงกันในผับดังย่านชานเมือง มีผู้เสียชีวิต 1 คนเป็นชายไม่ทราบชื่อ ไม่มีหลักฐานในตัว”
ภควัตมองภาพศพพลภัทรที่ถูกเจ้าหน้าที่ห่อผ้า ด้วยความกดดัน
อัญมามองเห็นสีหน้าภควัต ก็ยิ่งสงสาร
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อ “ส่วนสาเหตุ คาดว่าเป็นการทะเลาะวิวาทกันของผู้มาเที่ยว ในที่เกิดเหตุยังพบยาบ้าจำนวนมาก ขณะนี้ผับได้ถูกสั่งปิดแล้ว และทางเจ้าหน้าที่จะเร่งคลี่คลายคดีอุกฉกรรจ์ครั้งนี้ต่อไป”
ภควัตหยิบรีโมทกดปิดข่าว ยืนตัวสั่นด้วยความเครียด
อัญมาเดินมาใกล้ มองเห็นภควัตน้ำตาไหล
“พลภัทรเค้าเป็นลูกน้องที่ดีที่สุดของผม เราช่วยกันจับคนร้ายเข้าคุกมาไม่รู้กี่คดี แต่คราวนี้...ผมพาเค้ามาตาย”
อัญมาเข้าใจและเห็นใจ “ผู้กอง”
“ผมขอให้เค้ามาช่วยเป็นสาย ใกล้ชิดวินิจให้มากที่สุด” ภควัตสะอื้นออกมา “เพราะผมประมาท ผมปล่อยให้ไอ้อธิคมยิงพลภัทร”
อัญมา กุมมือภควัตให้กำลังใจ “ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้”
“ถ้าผมจับพวกมัน ทำลายพวกมันได้ ตำรวจดีๆคนนึง ตำรวจที่ทุ่มเท เสียสละ ก็ไม่ต้องตาย”
ภควัตสะอื้นไห้จนไหล่สะท้าน อัญมากอดปลอบโยนภควัตแน่น
ฟากอธิคมเดินไปเดินมาในห้องพักโรงแรมนอกเมือง อันเป็นแหล่งกบดาน เสียงมือถือดัง อธิคมรีบไปรับ
“เป็นไงบ้างพ่อ เจอพวกไอ้วัตหรือเปล่า”
เสี่ยวินิจอยู่ที่บ้าน คุยมือถือกับลูก สีหน้ากังวล
“ยังไม่เจอ พวกมันหายกันไปหมด ทั้งแม่ ทั้งเพื่อนไอ้อัญ”
อธิคมทุบหมัดลงผนังด้วยความเจ็บใจ
“คม ฟังพ่อนะ ตำรวจที่แกยิงตาย มันเป็นตำรวจน้ำดี เสี่ยใหญ่บอกว่าทางผู้ใหญ่ ไม่พอใจมากที่ตำรวจถูกยิงตาย มันเพ่งเล็งเราเต็มที่ แต่ตอนนี้มันยังไม่ออกข่าว”
“มันคิดจะจับตายพวกเรา” อธิคมมั่นใจ
“ใช่...คราวนี้มันจะเก็บพวกเราให้ได้”
“แล้วไอ้ตำรวจที่มันคอยส่งข่าวให้พ่อล่ะ”
“มันบอกว่าตอนนี้ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหว ให้เราหลบให้นานที่สุด พ่อก็กำลังจะออกจากบ้าน อธิคม แกต้องรักษาตัวให้ดี อย่าเพิ่งกลับมา เข้าใจมั้ย”
อธิคมเครียดมาก “พ่อ...ผมขอโทษ”
อธิคมสีหน้ากดดัน
ตัดเห็นวินิจที่รูดซิปกระเป๋าเดินทางที่ด้านในมีเงินสดอัดแน่น
“รักษาชีวิตไว้ เราต้องกลับมาแก้แค้นพวกมันทุกคน”
วินิจคว้ากระเป๋าเดินเร็วออกไป
อธิคมกดปิดสายแล้วทรุดนั่งลงที่เตียง
อธิคมนึกถึงตอนที่ยิงพลภัทร และเห็นอัญมาอยู่กับภควัต
“อัญ...เธอหักหลังฉันจริงๆ เธอไม่เคยรักฉันเลย”
อัญมานั่งอยู่ข้างภควัตที่เปิดโทรศัพท์ของพลภัทร เห็นภาพวินิจในบ้านหลายภาพ และไฟล์คลิปเสียง
“พลภัทรพยายามอัดคลิปเสียงวินิจ ภาพถ่ายที่ไปเจอเสี่ยใหญ่ ผมจะเอามือถือไปให้ท่านรองจักรภพ อัญมา คุณหลบอยู่ที่นี่ก่อนนะ”
“ฉันจะไปกับคุณ ฉันไม่กลัวพวกมัน”
“แต่ผมห่วง ตอนที่อธิคมพาคุณไปอยู่ที่บ้าน เค้าทำร้ายคุณหรือเปล่า”
“ไม่ อธิคมไม่ได้ล่วงเกินอะไรฉัน”
อัญมามองภควัต
“แล้วที่เค้าจับคุณไปขังไว้ เค้าทำอะไรคุณหรือเปล่า ผู้กอง”
ภควัตคิดถึงเหตุการณ์ตอนอธิคมฉีดยาเสพติดให้ที่โกดัง และที่ห้องเช่า แล้วหันมาฝืนยิ้มกับอัญมา
“เปล่า”
“แล้วทำไมอธิคมถึงปล่อยคุณออกมา”
ภควัตอึ้งเงียบ ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาอธิบายให้อัญมาฟัง อัญมาซักต่อ
“ฉันขอร้องเค้าให้ปล่อยคุณ เค้าบอกว่าถึงเวลาเค้าก็จะปล่อยเอง”
“มันแค่อยากทรมานผม”
ภควัตลุกขึ้น ท่าทางกระสับกระส่าย อัญมาดูออก
“ผู้กอง คุณไม่สบาย ตั้งแต่กลับมา คุณดูกระสับกระส่าย ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย”
“ผมคงเครียดไป ขอตัวก่อนนะ”
ภควัตตัดบทเดินไปทางห้องพัก อัญมามองสงสัย
ภควัตพุ่งเข้าห้องน้ำรีสอร์ท ปิดประตู แล้วล้วงยา 2 เม็ดออกมาจากกระเป๋ากางเกง
นึกเห็นภาพในห้องเช่าตอนอธิคมโยนยา 2 เม็ดให้ ภควัตแกะซอง มือไม้สั่น ตัดสินใจว่าจะกินยา
“ฉันให้อัญมารู้ไม่ได้ ว่าแกทำอะไรฉันบ้าง ไอ้อธิคม”
ภควัตกำลังจะกลืนยา ที่หน้าห้อง อัญมาทุบประตูเรียก
“ผู้กอง ผู้กอง”
ด้านในภควัตสะดุ้งสุดตัว
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
ภควัตรีบเก็บยาลงซองใส่กางเกง
“ไม่มีอะไร เดี๋ยวผมออกไป”
ภควัตรีบเปิดฝักบัวแรงๆ ให้เสียงน้ำดังกลบ
โดยด้านนอกห้องตอนนี้ สายตาอัญมามีแต่ความสงสัยต่อท่าทางลุกลี้ลุกลนของภควัต
สัญชัยเดินเร็วรี่มาตามทาง ตรงเข้าไปหาจ่าเดชที่กำลังเดินมาจากอีกด้าน เหมือนจะตรงไปหาข่าวทางบ้านเสี่ยวินิจ
“จ่าๆ จ่าเดช ฉันขอแจ้งความ ลูกเมีย ฉันหายไปไหนก็ไม่รู้ ทั้งลูกอัญ ทั้งอีแก่อุบล เอ๊ย อุบลเมียรัก”
จ่าเดชรู้ว่าอัญมาหายไปกับภควัต และอุบลถูกพาออกไปหลายวันแล้วแกล้งตีหน้าไม่รู้เรื่อง
“อะไร ลูกเมียแก หายไปไหน ทำไมแกไม่รู้”
“ถ้ารู้จะมาถามจ่ามั้ยล่ะ”
“ไอ้สัญชัยเอ็งนี่น่าจะชื่อ...วอน คุก จัง”
“อย่าเพิ่งยัดฉันเข้าตะรางเลยจ่า นี่ฉันก็กลุ้มใจแทบบ้าแล้วนะ ว่าลูกอัญหายไปไหน”
“ก็ไอ้อัญมันเป็นเมียอธิคม มันก็อยู่ที่บ้านวินิจไม่ใช่เหร้อ”
“อยู่กะผีอะไรล่ะ ทั้งค่ายมวย ทั้งบ้านพี่บัง ปิดเงียบยังกะป่าช้า ไม่รู้หายหัวไปไหนกันหมด ติดต่อพี่คมก็ไม่ได้”
สัญชัยพูดแล้วก็นึกได้ว่าหลุดปากพูดมากไป เพราะเห็นสายตาจ่าเดชมองจ้อง
“คือฉันก็อาศัยถามไถ่ข่าวลูกอัญสุดที่รักจากลูกเขยน่ะสิ”
“แล้วลูกสาวแกไม่ได้อยู่กับลูกเขยเหรอ”
“ถ้าอยู่แล้วฉันจะมาถามจ่าหาพระแสงทำไม”
สัญชัยนึกได้ว่าตกหลุมพรางจ่าเดช จึงรีบทำเป็นโวยกลบเกลื่อน
“คุยกับจ่านี่เสียเวลา”
“อ้าว... ไหนบอกจะแจ้งความ”
“ไม่จงไม่แจ้งแล้ว”
สัญชัยเดินออกไปไม่สนใจ จ่าเดชมองตาม
“พวกไอ้บังกับลูกชายมันหายไปหมด...คงหนีตำรวจหัวซุกหัวซุน พวกแกฆ่าตำรวจดีๆ ไปคนนึง อย่าคิดเลยว่าแผ่นดินนี้จะมีที่ให้หลบไปได้ชั่วชีวิต”
สีหน้าจ่าเดชเจ็บแค้นถึงขีดสุด เพราะรู้เรื่องหมวดพลภัทรถูกอธิคมยิงตายแล้ว
สัญชัยเดินคุยโทรศัพท์มาตามทางในชุมชน
“ไม่ได้เรื่องเลยพี่คม ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกไอ้อัญไปซ่อนกันที่ไหน”
คู่สนทนาคืออธิคมที่กำลังคุยสายกับสัญชัยในห้องพักชานเมืองที่เดิม สีหน้าเครียด
“เฝ้าแถวนั้นไว้ ถ้าแกได้เรื่อง...ว่าอัญอยู่ที่ไหน ฉันจะให้แกแสนนึง”
“แสนนึง” สัญชัยตาลุกวาว
อธิคมตัดสาย แววตาเจ็บใจ
“แสนนึงยังน้อยไป ถ้าฉันฆ่าไอ้วัตต่อหน้าเธอได้ อัญมา”
ภควัตออกมาจากห้องน้ำ หน้าตาสะอาดสะอ้านขึ้นมากเพราะล้างหน้า อาบน้ำมาแล้ว อัญมามอง แล้วยิ้มให้
“ผมอาบน้ำแล้ว คุณเข้าห้องน้ำสิ เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินกัน”
อัญมายิ้มแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ภควัตเหลือบมอง เห็นอัญมาเข้าห้องน้ำแล้ว จึงเอามือล้วงกระเป๋า
มองยาบ้าที่ยังเหลือทั้ง 2 เม็ด แล้วเก็บเข้ากระเป๋าลงไปอย่างเก่า
เสียงอัญมาดังขึ้น “คุณติดยาใช่มั้ย ผู้กอง”
ภควัตสะดุ้งสุดตัว หันไปเห็นอัญมาที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
“ไม่ใช่...ผมเปล่า”
อัญมาเดินตรงเข้ามาหาภควัต
“อย่าโกหกฉัน ผู้กองภควัต คุณลืมแล้วเหรอว่า ฉัน...ไอ้อัญ เคยติดยาบ้างอมแงมอาการที่คุณเป็นทุกอย่าง มันคือคนกำลังลงแดง”
ภควัตหลบสายตาอัญมาวูบ อัญมาบีบไหล่ภควัต
“อธิคมใช่มั้ย เล่าสิ ตอนที่อธิคมจับคุณไป เค้าให้คุณเสพยา”
ภควัตกำยาในถุง ยืนออกมาให้ดู อัญมามองสีหน้าตกใจมาก
“ผู้กอง คุณใช้มันไม่ได้นะ...มันจะทำลายอนาคตคุณ ชีวิตคุณ”
อัญมาคว้ายามา ปาทิ้งลงถังขยะ ภควัตมองอัญมา แววตาอ่อนล้า
“อัญมา...ช่วยผมด้วย ผมไม่อยากใช้มัน ผมทำให้ทุกคนผิดหวังไม่ได้”
“ฉันจะช่วยคุณ จำได้มั้ย ผู้กอง คุณพาฉันไปหาหมอ คุณเป็นกำลังใจให้ฉันอดยาจนสำเร็จ”
อัญมามองภควัตอย่างเป็นกำลังใจ
“เราจะยังไม่ไปไหน เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะหาย อดทน แข็งใจนะ ผู้กอง คุณต้องชนะ คุณเป็นคนเก่งที่สุด คุณต้องผ่านมันไปได้”
อัญมากอดภควัตที่ตัวสั่นเทาไว้ ภควัตกอดอัญมาแน่น
“คุณบอกว่าจะไม่ปล่อยมือจากฉัน” ภควัตมองสบตา อัญมายิ้มให้
“ฉันก็จะไม่ปล่อยมือ ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณ”
ภควัตมองซึ้งแล้วกอดอัญมาไว้แน่น ยึดถือเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ขณะเดียวกัน อุบลนั่งอยู่ที่โต๊ะสนามในสวนสวยบ้านอรรณพ ภรณี เก้า จิ๊บ และนวยที่มาหานั่งใกล้ เห็นอรรณพ ภรณีนั่งอยู่อีกด้าน
“ตั้งแต่เกิดเรื่อง ไอ้อัญติดต่อมาจากรีสอร์ท แล้วบอกว่าจะโทร.มาหาอีก ไม่ต้องเป็นห่วง” จิ๊บบอก
“ถึงกับยิงตำรวจ ไอ้สองคนพ่อลูกนี่มันเลวชาติชั่วจริงๆ”
“ตอนนี้วินิจหลบไปที่ไหน ไม่มีใครตามรอยได้ มันไปเงียบกริบ ไม่ให้ลูกน้องตามไปสักคน”
“พี่เก้า เอ๊ย...หมวดเก้าก็มาอยู่กับพี่จิ๊บสิ พวกฉันอาศัยบ้านญาติอยู่”
“ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ต้องอยู่ในชุมชนก่อน เพราะวินิจกับอธิคมมันอาจจะกลับมา”
อุบลท้วง “แล้วถ้ามันไม่กลับล่ะ”
“ชุมชนตรงนั้นเป็นแหล่งปล่อยของชั้นดีของพวกมัน มันไม่ทิ้งที่ทำมาหากินหลักไปแน่ๆ เพียงแต่รอเวลาให้เรื่องที่หมวดพลภัทรถูกยิงเงียบไปซะก่อน”
อรรณพโมโหมาก “มันชั่วจริงๆ ที่หากินกับเด็ก กับเยาวชนของชาติ สังคมเราอ่อนแอเพราะมี
พวกค้ายาอยู่ ยังไงผมขอช่วยพวกคุณอีกแรงนึงที่จะทำให้ชุมชนตรงนั้นปลอดยาเสพติด กวาดล้างอำนาจของวินิจไปได้ เราจะช่วยกันทำให้เด็กๆ มีทางเลือก มีการศึกษา ไม่หันไปใช้ยาเสพติด”
ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดของอรรณพ ภรณีถอนใจหนักๆ
“เป็นห่วงหนูอัญกับผู้กองภควัตเหลือเกิน ถ้าหนูอัญส่งข่าวอะไรมา ก็บอกฉันบ้างนะ”
จิ๊บรับคำ “ค่ะ แต่เรามั่นใจว่าไอ้วัต เอ่อ...ผู้กองภควัต เค้าเก่ง เค้าอาจจะกำลังวางแผนรวบตัวอธิคม”
“สาธุ...ขอให้พรเข้าข้างคนดี ช่วยให้คนชั่วมันไม่รอดเงื้อมือกฎแห่งกรรมทีเถอะ”
ทุกคนมองอุบลที่ยกมือท่วมหัวด้วยความหวัง
ฝ่ายอธิคมเดินไปเดินมาในห้องพักโรงแรมชานเมือง สีหน้าเครียดจัด พอนึกถึงตอนที่ยิงพลภัทร อธิคมกุมขมับ สีหน้าเครียดถึงขีดสุด เพราะรู้ว่าทำผิดขั้นร้ายแรง
“กูจะไม่ยอมกลับไปติดคุกอีก”
อีกมุมในบ้านอรรณพ เก้าเดินแยกมาคุยกับจิ๊บ ประสาคนรัก
“พี่จะมาที่นี่บ่อยๆ ไม่ได้ ไม่อยากให้ใครเห็นแล้วเอาไปบอกพวกวินิจ จิ๊บมาคอยดูป้าอุบลแกบ้างนะ พวกวินิจมันคงคิดไม่ถึงว่าอัญจะพาป้าอุบลมาหลบอยู่ที่นี่”
“พี่เก้าไม่ต้องห่วง ฉันจะแวะมาหาป้าอุบลจนกว่าไอ้อัญจะมารับ แต่พี่สิ อย่ากลับไปอีกเลย ฉันกลัวว่าถ้าพวกมันจับได้ว่าพี่เป็นตำรวจ...”
จิ๊บเสียงหายไปในคอ เพราะความกลัว เก้ากุมมือจิ๊บ ยิ้มให้
“พี่รอดมาได้ทุกครั้ง ไม่เป็นไรหรอก”
“แต่ตอนนี้พวกมันจนตรอก มันแค้นทุกคน พี่เก้า...ฉันห่วงพี่จริงๆ นะ”
“พี่ก็ห่วงจิ๊บ” เก้ากุมมือจิ๊บไว้ “พี่รู้ว่าจิ๊บรักพี่ รักทั้งๆที่ไม่รู้มาก่อนว่าพี่เป็นใคร พี่จะรักษาตัวให้ดี ถ้าไม่ได้จับไอ้เลวสองพ่อลูกนั่นเข้าคุกด้วยมือพี่เอง พี่ไม่มีวันยอมตายง่ายๆ”
เก้ายิ้มให้จิ๊บด้วยความหวังเต็มเปี่ยมในการจะทำลายแก๊งวินิจลงให้ได้ด้วยตัวเอง
เย็นย่ำ ภควัตเดินเล่นมาในสวนสวยของรีสอร์ทพร้อมกับอัญมา โดยอัญมากุมมือภควัตไว้ ภควัตนิ่วหน้า อัญมาหันมามอง
“ผู้กอง ปวดท้องใช่มั้ย”
ภควัตพยักหน้า
“อย่าไปนึกถึงมัน” อัญมาบีบมือเขาแน่น “อดทนนะ อยากอาเจียนมั้ย”
ภควัตส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง อัญมาพยายามให้กำลังใจ
“ดูนั่นสิ ผู้กอง ตรงโน้นวิวสวยมากเลย”
ภควัตมองไปตามที่อัญมาชี้ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเศร้า
“ถ้าเรามาที่นี่ ในสภาพที่ผมไม่ติดยา...มันคงเป็นเวลาที่เรามีความสุขด้วยกันมากกว่านี้”
อัญมาฟังแล้วยิ่งสงสารภควัตเหลือเกิน ประคองหน้าภควัตแล้วยิ้มให้
“ใครบอกล่ะ ฉันกำลังมีความสุขมากนะ ที่ไหนที่มีคุณอยู่ด้วย ฉันก็มีความสุข”
ภควัตยิ้มชื่นใจ ดึงอัญมามากอดไว้แล้วก้มลงจูบอัญมา ท่ามกลางแดดอัสดง ในบรรยากาศแสนอ่อนหวาน
ภควัตกอดอัญมาไว้แน่น อัญมากอดตอบด้วยความรักและผูกพัน
ขณะเดียวกันในความมืดสลัวนั้น แลเห็นอธิคมนั่งถือปืน ระวังตัวตลอดเวลา
อธิคมหวนคิดถึงภาพที่ตนเคยใกล้ชิดอัญมา แต่ถูกภาพอัญมากอดกับภควัตที่โกดัง และภาพภควัตเกี่ยวแขนอัญมาวิ่งหนีด้วยกันที่ผับผุดซ้อนขึ้นมา
สีหน้าและแววตาอธิคมมีแต่ความผิดหวัง เจ็บใจ
ส่วนทางอัญมากำลังเอาน้ำราดรดร่างกายที่สั่นเทาของภควัต อยู่ในห้องน้ำ ภควัตหายใจแรง เพราะความอยากยาที่แล่นไปทั้งร่าง
“อัญมา ผมปวด ปวดไปทั้งตัว”
“อดทนนะ ผู้กอง อดทน”
อัญมามองภาพภควัตเนื้อตัวเปียกหนาวสั่นสะท้านแล้วเข้าไปกอดไว้แน่นด้วยความสงสารจับใจ
ภควัตเกร็งไปทั้งร่าง อัญมาประคองพามานั่งลงที่เตียง แล้วเอาผ้าขนหนูเช็ดตัวให้ ภควัตมองอัญมาที่คอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิด ผมอัญมาเปียกน้ำ เนื้อตัวอัญมาเปียกเท่าๆ กับภควัต
ภควัตดึงผ้าขนหนูในมืออัญมาวางลง แล้วปัดละอองน้ำที่ผมอัญมาอย่างแผ่วเบา อัญมามองสบตาภควัตลึกซึ้ง ภควัตยิ้มให้กับอัญมา
“อย่าทิ้งผมนะ อัญมา”
อัญมามองสบตายิ้มตอบให้คำมั่น
“ฉันจะไม่ทิ้งคุณไปไหน ผู้กองภควัต”
ภควัตโน้มใบหน้าแตะหน้าผากตัวเองลงที่หน้าผากอัญมา
“ชีวิตผมต้องมีคุณ ไม่ว่าคุณจะมาจากไหน ขอให้เราได้อยู่ด้วยกัน”
ภควัตขยับตัว ประคองหน้าอัญมามองด้วยความรักเต็มทรวงแล้วจูบอย่างแผ่วเบา อัญมาหน้าแดงด้วยความอาย
ภควัตดันร่างบางลงบนเตียง อัญมามองไม่ละสายตา ภควัตกอดร่างอัญมาไว้ด้วยสัมผัสอันแสนอบอุ่น ก่อนจะก้มลงจูบอัญมาที่หลับตาลงด้วยความวาบหวาม
ภควัตพรมจูบอัญมาทั่วใบหน้าอย่างนุ่มนวลละมุนละไม มือของภควัตกระหวัดเกี่ยวมืออัญมาไว้แนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวกัน
อ่านต่อตอนที่ 15