xs
xsm
sm
md
lg

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 19

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 19

เช้าวันใหม่ ดาวเปิดประตูออกมา หาญตามออกมาโอบดาวที่ด้านนอกของบ้าน ขณะที่กำลังซุก ไซร้กันอยู่ บ่าวไพร่เดินผ่านมาต่างตกใจ แอบดูอยู่ตามมุมต่างๆของตึกใหญ่ใต้หล้า ต่างพากันอึ้ง ทึ่ง เหวอ

ทาสชาย1 ขยี้ตาบอก
"เฮ้ย..คุณหาญ !! นี่ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมวะ"
ทาสชาย 2 บอก
"ถ้าเอ็งตาฝาดข้าก็คงฝาดด้วยแหล่ะวะ และนั่นก็นังดาว"
ทาสชาย 1 และ2 มองหน้ากัน ทาสหญิงเดินมาเห็นปิดตาร้องว๊าย
ทาสหญิง 1-2"ว๊าย...คุณพระ"
ทาสชาย2บอก
"คุณพระเสียที่ไหนละ คุณหาญกับนังดาวต่างหากล่ะ กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่ลอมล่อแล้ว พวกแกเปิดตาดูซิ"
ทาสหญิง 2 บอก
"อี๊ น่าเกลียด ไม่น่าเชื่อเลยว่านั่นจะเป็นคุณหาญ นังดาวมันมีมารยาอะไรถึงได้ล่อคุณหาญมาติดบ่วงได้เนี่ย"
ทาสหญิง1 บอก
"คงจะมารยาร้อยเล่มเกวียนน่ะสิ คุณบุษบาบรรณเป็นผู้ดีออกอย่างนั้นจะสู้นังดาวได้รึนั่น"
บุษบาบรรณเดินมาตามหาหาญพอดี บ่าวไพร่เห็นรีบบุ้ยใบ้ห้ามพูด แล้วรีบเลี่ยงออกจากที่นั่น แม่หญิงมองตามทาสไปแล้วหันไปมองเห็น หาญที่กำลังนัวเนียกับดาวอยู่ก็ชะงักกึก
ดาวเห็นบุษบาบรรณ เลยยิ้มเยาะแสร้งห้ามปรามหาญ
"คุณหาญคะ พอเถอะเจ้าค่ะเมื่อคืนดาวก็รับใช้คุณหาญมาทั้งคืนแล้วนะเจ้าคะ ใจคอจะไม่ให้ดาวได้พักเลยรึเจ้าคะเดี๋ยวดาวช้ำกันพอดีเจ้าค่ะ"
ตะวันถือถาดดอกมะลิ มั่นช่วยถือดอกดาวเรืองตามมา ตะวันเห็นนายสาวยืนนิ่งก็แปลกใจ เมื่อมองตามสายตาก็อึ้งมืออ่อนแทบจะทำถาดร่วง มั่นมาช่วยรับถาดได้ทัน มั่นชะงักเช่นกัน
"อย่าห้ามเราเลยนะ เราปรารถนาในตัวเจ้าเหลือเกินแล้ว ข้า อยากจะกลืนกินเจ้าไปทั้งตัวเลยล่ะแม่ดาว"
หาญซุกไซร้ดาวยิ้มเยาะเย้ยทำทีจริตเอียงอาย
"อย่าค่ะ บ่าวไพร่ออกเต็มเรือน ดาวจะถูกครหาได้นะเจ้าคะ"
"ให้มันพูดไป ยังไงเจ้าก็เป็นเมียรักของข้าแม่ดาว"
หาญรวบดาวกอดรัดนัวเนีย ดาวทำทีหันมาเห็นบุษบาบรรณ
"อุ๊ย...คุณบุษบาบรรณมาเจ้าค่ะคุณหาญ"
หาญไม่สนใจใยดีที่จะทักทาย ตะวันมองอึ้งงุนงง
"คุณหาญ"
ดาวออเซาะ แกล้งให้หาญวิ่งไล่กอด ก่อนหันมามองเยาะเย้ยแกล้งพูด
"คุณบุษบาบรรณคงมาตามคุณหาญกระมังคะ ไปเถอะเจ้าคะ คุณหาญ จะขึ้นเรือนไปกับคุณบุษก็ได้นะเจ้าคะ"
"ไม่ ! เราจะอยู่กับเจ้า"
"แต่ว่า"
"เชิญตามสบายเราไม่รบกวนละ" บุษบาบรรณบอก
"ก็ดีเจ้าค่ะเดี๋ยวคุณบุษจะเห็นภาพที่ไม่ควรเห็น"
ดาวหัวเราะหึๆ ตะวันกับมั่นทนไม่ได้ด่าดาว
"แกถือดียังไงถึงได้พูดกับคุณบุษเยี่ยงนี้ ระวังเถอะจะไม่มีเงาหัว"
หาญหันมาตบตะวันฉาดมองตาขวางใส่ ตะวันอึ้ง ข่มความเจ็บและน้ำตาไว้
หาญชี้หน้า
"อย่าขึ้นเสียงกับคนรักข้า ไปให้พ้นหน้าข้า ไป"
ตะวันน้ำคลอ มั่นสงสารจับใจ มั่นรีบเดินตามตะวันไป
"ตะวัน ..เฮ้ย..รอด้วย"
หาญเข้ามากอด ดาวซบหน้าลงกับอกของหาญ

ในมุมหนึ่ง เจ้าสัวแสนนั่งดวดเหล้าอยู่ อ่ำเป็นคนปรนนิบัติ พวงแก้วมาเจอ
"ไอ้อ่ำเลิกรินน้ำจันทร์เสียที ออกไปได้แล้ว"
อ่ำละล้าละลัง เจ้าสัวหันมองแก้วตาขวางไม่พอใจ พร้อมชี้หน้า
"หล่อนนั่นแหล่ะไป ... ไอ้อ่ำเอาเหล้ามา"
พวงแก้วมองเจ้าสัวเมาหัวราน้ำด้วยความเอือมระอา
หาญและดาวประคองกันซุกไซ้เดินขึ้นเรือนมา พวงแก้วมองเห็นตกใจที่เห็นหาญนัวอยู่กับดาวเลยรีบเข้าไปดึงลูกชายออกจากดาว
"ตาหาญทำไมไม่ไปทำงานหละลูก"
หาญตาขวางผิดปกติไป พวงแก้วตกใจ
"กระผมอยากอยู่กับแม่ดาวขอรับ กระผมรักเมียหลงเมียคนนี้จริงๆ ไม่อยากทิ้งไปไหน"
พวงแก้วอึ้งกับคำตอบของลูกชาย แล้วหันไปตวาดดาว
"นี่มันยังไงกันนังดาว แกทำอะไรคุณหาญ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ"
ดาวแกล้งตีหน้าเศร้า
"เมื่อคืนนี้ จู่ๆคุณหาญก็บุกมาย่ำยีดาวค่ะคุณแก้ว ดาวพยายามห้ามแต่เธอก็ไม่ฟัง ดาวไม่อาจสู้แรงเธอได้ ก็เลย..."
เอื้อยไม่เชื่อ
"อีโกหก"
ดาวมองเอื้อยตาขวาง แล้วตีหน้าเศร้าต่อหน้าพวงแก้ว
"น้าเอื้อยไม่เชื่อดาวเหรอจ๊ะ"
"ก็เออสิวะคนอย่างเอ็งมันกำเริบเสิบสานนัก เอ็งวางแผนหลอกล่อคุณหาญไปล่ะ สิไม่ว่า"
หาญมองเอื้อยตาขวาง
"ข้าไปหาแม่ดาวเมียของข้าเอง ทำไมรึแม่เอื้อย ทำไมข้าจะไปหาแม่ดาวเมียรักข้าไม่ได้"
เอื้อยกับพวงแก้วตกใจไม่คิดว่าจะได้ยินหาญพูดแบบนี้
หาญไม่สนใจแม่หันไปหอมแก้ม ดาวทำเอียงอายอาเซาะ หาญอุ้มดาวพากันเข้าห้องไป พวงแก้วตะลึง
"ตาหาญ เดี๋ยวกลับมาพูดกับแม่ให้รู้เรื่องก่อน ตาหาญ"
หาญหมกมุ่นในกามารมณ์ผิดไปคนละคน พวงแก้วหันไปฟ้องแสน
"คุณพี่เจ้าคะ ดูพ่อหาญสิเจ้าคะ เมื่อคืนตามไปกกอีนังดาวถึงเรือน คุณพี่ต้องช่วยจัดการให้ น้องนะเจ้าคะ"

แสนไม่สน กระดกแก้วเหล้าเอื้อก

เจ้าสัวสะบัดพวงแก้วที่เกาะแขนอยู่

"ใครก็ช่วยหล่อนไม่ได้หรอก เพราะลูกหล่อนมันวิปริตกันไปหมดแล้ว"
"ไม่จริง ไม่จริง"
เสียงบุหงาที่พูดเย้ยก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมเจียม
"แหม่ บ้านนี้ช่างมีแต่เรื่องวุ่นวายไม่ได้หยุดหย่อนเสียจริง ไหนจะเรื่องอับอาย ขายขี้หน้าชายรักชาย แล้วยังมาเรื่องคาวๆของนายที่เสพรสสวาทไม่เลือกแม้กระทั่งเมียบ่าวที่ต่ำต้อย ฮ่าๆๆ"
พวงแก้วกำมือแน่นด้วยความโกรธ จนเป็นลม เอื้อยรีบเข้ามาประคอง
"คุณแก้วเจ้าคะ"
เอื้อยประคองแก้วไปนั่งที่มุมนึง บุหงายิ้มเยาะ ก่อนจะหันไปทางเจ้าสัวที่นั่งดวดสุราอยู่ บุหงาเดินตรงเข้าไป
"คุณพี่เจ้าคะ"
เจ้าสัวยกมือห้าม
"ออกไปข้าไม่ต้องการใคร ยกเว้นแม่ฟ้าหยาดคนเดียวเท่านั้น"
บุหงาฉุน ขึ้นเสียงใส่เจ้าสัวแสน
"มันมีอะไรดีนักหนารึเจ้าคะถึงได้จ้องแต่จะเรียกหา มันน่ะ"
แสนไล่ตะเพิดบุหงา
"ถ้าไม่หยุดพล่ามข้าจะให้ไอ้อ่ำลากคอออกไปให้พ้นๆ"
"คุณพี่"
"คุณบุหงาเจ้าคะ ออกไปก่อนเถ่อะเจ้าค่ะ ท่าทางเจ้าสัวจะเอาจริงเจ้าค่ะ"
บุหงาโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้
" ฮึ่ย อีฟ้าหยาด"
บุหงาสะบัดหน้าเดินออกไปด้วยความโกรธ เจียมรีบตามไป พวงแก้วน้ำตาซึม กังวล เศร้าสร้อยที่บ้านมีแต่เรื่องร้าวฉานไม่สุขสงบเหมือนเคย

ฟ้าหยาดหวีผมอยู่หน้ากระจกมองดูเว่ยชิงที่กำลังพับผ้าจากกระจก
"อาเว่ย"
"ฮืม"
"อาเว่ยมาอยู่สยามได้อย่างไรรึ"
"อั๊วอยากมีชีวิตที่ดีกว่าอยู่ที่นั่น เลยแอบขึ้นเรือสินค้าหนีออกมาจากแผ่นดินใหญ่"
เว่ยชิงพับผ้าไปนึกถึงสิ่งเก่าๆแล้วเล่าออกมา
"อั๊วเคยทำงานมาสารพัดอย่าง จนสุดท้ายก็มาเป็นนางโลมเหมือนที่ลื้อเป็นนั่นแหล่ะอาฟ้าหยาด"
"แล้วไปไงมาไง อาเว่ยถึงกลายเป็นเจ้าของหอนางโลมได้ล่ะ"
"วันนึงอั๊วได้เจอกับคหบดีผู้มีอันจะกินท่านหนึ่ง เค้าเห็นว่าอั๊วดิ้นรนต่อสู้เพื่อจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ท่านเลยเมตตาออกทุนให้อั๊วทำโรงน้ำชา จนใหญ่โตที่สุดในย่านนั้น แต่ตอนนี้ฝันของอั๊วมันพังทลายลงหมดแล้วทุกสิ่ง เพราะนังงูพิษนั่นแท้ๆเชียว"
ฟ้าหยาดสงสัยที่เว่ยชิงพูด
"อาเว่ยหมายถึง..เอ่อ...คุณบุหงาใช่ไหม"
เว่ยชิงไม่ตอบ
"อาเว่ยบอกฉันมาสิ ว่าเหตุใดเค้าถึงได้จงเกลียดจงชังเราทั้งสองคน นัก"
ฟ้าหยาดจ้องเอาคำตอบ
"ว่าไงล่ะอาเว่ย ฉันอยากรู้ว่านางเกลียดเราด้วยเหตุใดกัน"
ทันใดนั้น บุหงาเปิดห้องพรวดเข้ามา ตามด้วยเจียม
"อีเจียม เก็บข้าวของของมันโยนออกไปนอกเรือนให้หมด"
"เจ้าค่ะ"
เจียมเดินไปจะเก็บข้าวของตามคำสั่ง ฟ้าหยาดเข้ามาขวาง
"หยุดนะ ห้ามแตะต้องของของฉัน"
เจียมหันมองบุหงา
"เอาไงดีเจ้าคะ"
บุหงาจ้องมองฟ้าหยาด
"งั้นแกสองคนก็ไปนอนกอดกกของของแกที่อื่นไม่ใช่ที่ใต้หล้าแห่งนี้ ไสหัวไปซะ"
"ไม่ ฉันจะอยู่ที่นี่"
เว่ยชิงประหลาดใจในความมุ่งมั่นของฟ้าหยาด บุหงาไม่พอใจ
"แกไม่มีสิทธิ์"
"ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ ฉันจะทำทุกทางให้ฉันมีสิทธิ์ที่ใต้หล้าแห่งนี้"
" แก... นังฟ้าหยาด ออกไป ฉันบอกให้ออกไป"
ฟ้าหยาดเดินเข้าหาบุหงาอย่างท้าทาย
"ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันมีสิทธิ์จะอยู่ที่นี่ แกนั่นแหละ ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว ออกไป"

ฟ้าหยาด ผลักทุกคนเต็มแรงให้ออกไป แล้วปิดประตูใส่กลอนทันที
 
อ่านต่อหน้า 2

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 19 (ต่อ)

บุหงาทุบประตู "ปังๆๆๆ"ร้องแรกแหกกระเชออยู่หน้าห้อง

"เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ อีเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อีนังมารหัวขน เปิดเดี๋ยวนี้นะเปิด"
พวงแก้วเดินมาเพราะได้ยินบุหงาเอะอ่ะโวยวายหันไปว่ากระทบกับเอื้อยให้บุหงาได้ยิน
"นังเอื้อยให้ใครเอาน้ำร้อนมาสาดหมาที่มันมาเห่ามาหอนอยู่แถวนี้ที ถ้ามันอยากจะกัดกันก็ไล่มันไปกัดกันที่อื่น"
เอื้อยแกล้งเเหน็บเจียมอีกที
"ไม่ได้ยินรึนังเจียม รีบพานายของเอ็งไปซะให้พ้นๆเดี๋ยวน้ำร้อนลวกเอาจะมา หาว่าฉันไม่เตือนนะ เอ๊ะ..! หรือต้องให้จุดธูปก่อนถึงจะออกไปได้"
"อีเอื้อยชักจะมากไปแล้วนะ นายว่าขี้ข้าพลอยนักนะเดี๋ยวกูตบล้างน้ำให้เข็ดเลย"
เจียมเงื้อมือจะตบเอื้อย บุหงาห้ามเจียม
"ไม่ต้องอีเจียม ... มัวแต่ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้อีกหน่อยก็คงไม่เหลือทั้งลูกทั้งผัวหรอกเจ้าค่ะ นี่น้องหวังดีนะเจ้าคะถึงได้จะตัดไฟเสียแต่ต้นลม"บุหงาบอก
"หึๆๆ เก็บความหวังดีของหล่อนไว้เถอะ ความอิจฉาริษยาถ้ามันสุมอยู่ในอกมากเกินไป ระวังมันจะทำให้หล่อนอกแตกตายซะก่อนล่ะ"
พวงแก้วเดินเชิดออกไป เอื้อยตามไป บุหงามองตามอย่างเจ็บแค้น ก่อนกรี๊ดลั่นทิ้งท้าย
"อ๊าย อีบ้า คอยดูแล้วกันอีแก้ว ลูกคนโตของแกก็วิปริตเป็นชายรักชาย คนรองก็มัวเมาคาวโลกีย์ แกนั่นแหล่ะที่ต้องอกแตกตายก่อนไม่ใช่ฉันแน่"
เจียมอดไม่ได้พูดโพล่งออกไปตามประสา
"ก็ไม่แน่นะเจ้าคะ ถ้าเจ้าสัวจะเอาแม่ฟ้าหยาดเป็นเมียอีกคนคุณบุหงาอาจจะอกแตกตายก่อนก็ได้เจ้าค่ะ"
บุหงาปรี๊ดขึ้นมาทันที
"อีเจียม"
เจียมรีบเผ่น บุหงาตามออกไปด้วยความโกรธ

ภายในห้อง ฟ้าหยาดเดินจากประตูมานั่งลงที่หน้ากระจก เว่ยชิงเดินเข้าไปหา
"อาฟ้าหยาด ลื้อไปพูดอย่างนั้นได้อย่างไร พวกเรามีสิทธิ์อะไรที่ไหนกัน"
"มีก็แล้วกันน่าอาเว่ย"
เว่ยชิงสงสัย ฟ้าหยาด
"ลื้อหมายความว่ายังไง"
ฟ้าหยาดเลี่ยงไปตอบอย่างอื่นแทน
"ก็ ..เพราะเจ้าสัวเชิญเราสองมาอยู่ที่นี่ ถ้าเจ้าสัวไม่เอ่ยปากไล่ ฉันก็ไม่ไปจากที่นี่หรอก คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉัน ฉันอยากรู้นักว่าจะทนกันไปได้นานสักเท่าไหร่"
เว่ยชิงมองสงสัย

ชื่นกำลังนั่งสาละวนอยู่กับการเด็ดมะเขือพวง ตะวันเดินหน้าเศร้าเข้ามานั่งข้างๆ
"ไปไหนกันมาล่ะเนี่ย"
"ไปตามหาคุณบุษน่ะจ้ะแม่"
"ข้าก็ตามหาจนทั่วใต้หล้าก็ไม่เจอ" มั่นบอก
"คุณบุษเธอคงจะเสียใจมากกับภาพที่เห็นเมื่อเช้า"
ตะวันเศร้าเมื่อนึกถึงภาพเมื่อเช้าระหว่างหาญกับดาว มั่นอดเป็นห่วงตะวันไม่ได้
เอื้อยเดินมาลงนั่งตรงชื่น ถอนหายใจ
"เฮ้อ !"
"นี่ก็อีกคน มีเรื่องอะไรหรือวะนังเอื้อย"
"โอย ก็เรื่องคุณๆท่านน่ะแหล่ะจะมีอะไร คุณแก้วก็ประสาทจะกินแล้วไหนจะท่านเจ้าสัวที่เรียกหาแต่คุณฟ้าหยาด และยังมาเรื่องที่คุณหาญหมกมุ่นอยู่กับนังดาวอีก ดูเอาเถอะ ฉันเป็นบ่าวฉันยังกลุ้มเลย แล้วคุณแก้วจะไม่กลุ้มได้อย่างไรไหว จริงไหม"
มั่นขบคิดสิ่งที่เอื้อยพูด
"แล้วท่านเจ้าสัวไม่ว่ากระไรคุณหาญดอกรึ"
"ท่านไม่ยุ่งแถมยังต่อว่าคุณแก้วว่าเลี้ยงลูกวิปริตเสียผู้เสียคนอีกด้วย"
ตะวันนิ่งไป มั่นขบคิดด้วยความสงสัย
"แต่ฉันว่ามันแปลกๆนะ"มั่นบอก
"แปลกอะไรวะ"
"ก็คุณหาญไม่เคยรักนังดาวเลย แล้วทำไมถึงได้หลงไหลนังดาวมากขนาดนี้ ส่วนคนที่คุณหาญรักคือเอ็งมิใช่รึนังเดือน เอ็งน่าจะรู้จักคุณหาญดีกว่าใครๆนะ"
เอื้อยกับชื่นอึ้งไป ตะวันก้มหน้าเศร้า
"คุณหาญที่ฉันรู้จักเธอเป็นคนอ่อนโยนเป็นชายสมชาย ผิดกับสิ่งที่ฉันเห็นเมื่อเช้านี้ราวกับเป็นคนละคน"
ชื่นเป็นห่วงลูกเมื่อรู้ความจริง
"อะไรที่สูงเกินไปก็อย่าไปไขว่ไปคว้ามันมาเลยวะนังเดือน"
ตะวันนิ่ง น้ำตาซึม
"ฉันรู้จ้ะแม่ ตอนนี้ฉันเป็นนายตะวัน เป็นบ่าวของคุณบุษบาบรรณ ฉันมีหน้าที่ต้องภักดีกับเจ้านาย คุณหาญกับคุณบุษ กำลังจะเข้ากันได้ดี แต่เรื่องที่คุณหาญมาเป็นแบบนี้ต้องมีเหตุฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นเพราะอะไร"
ชื่นจับบ่าตะวันเตือน
"ที่อยากรู้นี่ไม่ใช่ว่าเอ็งทำเพื่อตัวเองใช่ไหม"
"ไม่ใช่เพื่อตัวฉันเองหรอกจ้ะแม่ ฉันทำเพื่อคุณบุษบาบรรณผู้มีพระคุณของฉันต่างหากจ้ะ"
มั่นมองเดือนสงสาร ชื่นกับเอื้อยเข้าใจ

หลังจากเสร็จสมอภิรมย์สุข ดาวนอนแนบอกหาญอยู่ก็ออดอ้อนออเซาะ
"คุณหาญรักอิฉันไหมเจ้าคะ"
หาญจูบหน้าผาก
"รักสิ"
ดาวเอามือเขี่ยที่อกหาญแล้วพูดออเซาะ
"ถ้าหากเรามีลูกด้วยกันคงจะมีความสุขมากนะเจ้าคะ"
หาญเพลียๆ ดาวแอบยิ้มฝันๆอยู่คนเดียว
"ถึงวันนั้น คุณหาญต้องยกอิฉันขึ้นเป็นเมียเอกนะเจ้าคะ"
หาญเริ่มสลัดความงุนงงออกไปบ้าง ดาวนึกรู้ว่าฤทธิ์น้ำยาหมด เสียงแม่ตาดดังในหัว
"เสน่ห์ยาแฝดต้องหมั่นเติมอย่าให้เว้นช่วง เอาให้ลุ่มหลงโงหัวไม่ขึ้น หากมีแววว่า จะโงหัวขึ้นมาล่ะก็ ต้องรีบเติมยาทันทีจำไว้"
ดาวจำคำตาดได้รีบลุกจากเตียงทันที
"อิฉันขอตัวประเดี๋ยวนะเจ้าคะ"
หาญสลัดหัวไปมามึนๆ
"เจ้าจะไปไหน"
"เอ่อ.... อิฉันจะไปกำกับดูแลเรื่องอาหารบำรุงร่างกายให้คุณหาญเจ้าค่ะ อิฉันไม่อยากให้บกพร่องต่อหน้าที่เมียเอกน่ะเจ้าค่ะ"
ดาวจะเดินออกไป หันไปเห็นห้องพระที่อยู่ห้องข้างๆ แล้วเริ่มใจเสีย
"รออิฉันที่ห้องนี้นะเจ้าคะ อ้อ แล้วก็อย่าเข้าไปที่ห้องพระนะเจ้าคะ"
"ทำไมรึ"
ดาวอึกกัก
"เอ่อ.. คือ ถ้าคุณหาญจะไปก็ต้องรออิฉันด้วย เราจะได้เข้าไปไหว้พระด้วยกันหนะเจ้าคะ"

หาญพยักหน้า ดาวรีบออกจากห้องไป

ดาวคดข้าวในหม้อข้าววางลงสำรับ ตะวันและมั่นจ้องมองดาว อย่างสังเกต ดาวพยายามเบี่ยงเอาตัวบังแอบควักยาเสน่ห์ออกมาจากพกจะเทยาใส่อาหาร

เอื้อยนั่งปอกกระเทียมอยู่หันไปบอกกับตะวัน
"นังดาวมันดูลุกลี้ลุกลนชอบกล เหมือนมันหลบๆซ่อนๆอะไรซักอย่าง"
ตะวัน มั่น ลุกพรวดเขาไปถึงตัวดาวที่รีบซ่อนยาเสน่ห์ไว้ในมือ แล้วเอามือไพล่หลังไว้
"ทำอะไรอ่ะ"
" ทำอะไรก็เห็นอยู่ว่าเตรียมอาหารยังจะมาถามอีก"
ตะวันสังเกตมือที่ดาวไขว้หลังไว้
"ในมือมีอะไร ซ่อนอะไรไว้"
ตะวันหน้าจริงจัง ดาวไม่ยอมรับถอยหลังหนีนิดๆ
"ไม่มี"
"ไม่มีก็เอามือออกมาสิ"
ก่อนตะวันจะคว้าแขนดาวออกมาข้างหน้า ดาวปล่อยขวดเล็กๆลงพื้นแล้ว บนพื้น น้ำยาเสน่ห์ไหลหกหมด ดาวเตะขวดกระเด็นออกไปไม่มีใครเห็นขวด
"ไง อยากจะเห็นว่าฉันถืออะไรไว้ในมือรึ อย่ามองคนในแง่ร้ายนักเลยระวังเถอะ เงาหัวพวกเอ็งจะไม่มี"
ดาวสะบัดหน้าเดินออกไป ตะวันกับมั่นมองหน้ากันครุ่นคิด
ดาวเดินห่างจากเรือนครัวออกไป หยุดกึกด้วยความเจ็บใจ
"ไอ้พวกบ้าเอ๋ย ยาหกไม่เหลือสักหยด ทำไงดีวะ"
ดาวครุ่นคิดก่อนจะนึกออกแล้วรีบเดินไป

หาญกระสับกระส่าย อาการคนสะลึมสะลือจากยาเสน่ห์ แต่ยาก็ใกล้หมดฤทธิ์ เสียงเปิดประตู หาญดีใจ
"แม่ดาวมาแล้ว ข้าคิดถึงใจจะขาด"
ประตูเปิดมาเห็นเป็นบุษบาบรรณ อุ้มพระพุทธรูปเข้ามาด้วย
"เจ้าเข้ามาทำไม"
บุษบาบรรณไม่ตอบ นำพระพุทธรูปไปวางไว้ที่โต๊ะเหนือหัวนอน
"เจ้าจะทำอะไร"
" เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่คุณหาญและแม่ดาวเจ้าค่ะ บุษจึงนิมนต์พระพุทธรูปมาไว้เป็นศรีแก่ห้องหอนี้จะได้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามายังไงล่ะเจ้าคะ"
หาญไม่พอใจ
"ออกไป"
บุษบาบรรณมองหาญด้วยสายตานิ่งๆ
"บุษรู้ตัวและเจียมตัวเสมอว่าอยู่ในตำแหน่งไหน แต่เอาเถอะคะในเมื่อคุณหาญปันใจมาทางแม่ดาวแล้ว ถ้าบุษจะขัดคอก็รังแต่จะสร้างรอยร้าวให้เราสอง บุษจะไม่ว่าอะไร เชิญตามสบายเจ้าค่ะ"
บุษบาบรรณยิ้มเย็นก่อนจะเดินออกไป
"หน้าตาซีดเซียวดูไม่สดชื่นแบบนี้ แม่หญิงที่ไหนมาเห็นก็ไม่สดชื่นนะคะ อาบน้ำอาบท่าทำจิตใจให้ผ่อนคลายสักหน่อยไม่ดีกว่ารึคะ"
บุษบาบรรณเดินไปหยิบเครื่องอาบน้ำ
"หากบุษปรนนิบัติด้วยเรื่องอย่างว่าไม่ได้เพราะแม่ดาวมาทำหน้าที่แทนแล้ว ก็ขอให้บุษได้ทำหน้าที่ดูแลส่วนอื่นๆให้คุณหาญเถอะนะคะ บุษจะเตรียมเครื่องอาบน้ำให้คุณหาญได้ผ่อนคลายนะคะ"
หาญพยักหน้า
"อือ"
หาญยืนนิ่งมีรังสีของพระพุทธรูปแผ่คลุม ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ

ในห้องน้ำ มีพานใส่เครื่องหอมดอกไม้ ตรงกลางพานมีถ้วยใส่กำยานเห็นควันลอยเป็นสายเล็กๆกระจายกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้องน้ำ มีดอกไม้มาลัยวางกำกับอยู่ข้างๆ
หาญเดินเข้ามาในห้องน้ำสูดกลิ่นหอมอบอวลเข้าไป รับรู้ได้ถึงความปลอดโปร่ง
"กลิ่นช่างหอมเสียจริง"
กลิ่นกำยานช่วยขับไล่ความมึนงงจากฤทธิ์ของยาเสน่ห์ที่ดาวทำ หาญดูสดชื่นขึ้นมา เมื่อเทน้ำจากเหยือกล้างหน้า เห็นว่าน้ำเต็มเหยือกนั้นมีดอกมะลิลอยอยู่เบื้องบนส่งกลิ่นหอม
หาญยิ้มเอาน้ำล้างหน้า น้ำราดลลงที่หน้า เหมือนชำระล้างคราบมนต์ดำออกไป
หาญเปิดตุ่มน้ำ มีกลีบดอกกุหลาบลอยอยู่ ปะปนกับกลีบดอกไม้ขาวๆ เห็นน้ำตาเทียนบางๆ สองสามชิ้น หาญจ้วงขันลงตักราดที่ตัวขันแล้วขันเล่า...

กล้ากรวดน้ำรดลงที่กลีบดอกไม้บนหลุมศพของหยกจนหมด แล้วเช็ดน้ำตา
"ขอให้พี่หยกได้อยู่ในภพภูมิที่ดี มีความสุขในสัมปาริยภพด้วยเทอญ อย่าห่วงอย่า กังวลกับสิ่งใดในโลกที่โหดร้ายนี้เลย หากชาติหน้ามีจริงขอให้เราสองคนสมหวังในรักนี้ด้วยเถิด"
กล้าหันไปหยิบพวงมาลัยมาวางบนเนินหลุมศพ ซบหน้าลงที่เนินดินแห่งนั้นประหนึ่งว่าได้กอดหยกครั้งสุดท้าย
ดาวเดินลัดเลาะมาตามป่าหลังวัดเป็นเขตป่าช้า ท่าทางลับๆล่อๆ รีบเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ไม่ทันได้มองกล้าที่เพิ่งเสร็จจากวางมาลัยที่หลุมศพหยก กล้ามอง แปลกใจ

"นั่นนังดาวนี่"
 
อ่านต่อหน้า 3

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 19 (ต่อ)

เวลาต่อมา ดาวออกจากกระท่อมตาดอย่างกระหยิ่มใจ

"รออิฉันก่อนนะเจ้าคะคุณหาญ"
ดาวยิ้มมีแผน แล้วเดินออกไปทางหนึ่งคลาดกันกับกล้า

กล้าเดินตามมาจนเจอกระท่อม แต่ไม่เห็นมีวี่แววดาว กล้าเดินเข้าไปใกล้ที่กระท่อม ร้องเรียกดาว
"แม่ดาว เจ้าอยู่ที่นี่รึไม่ แม่ดาว"
"ไม่มีใครอยู่หรอก"
แล้วเจ้าของเสียงนั้นก็สาดน้ำอะไรบางอย่างออกมา กล้าหลบทัน
"เฮ้ย..!"
กล้ามองน้ำที่เลอะเทอะอยู่หน้ากระท่อมได้กลิ่นน้ำชวนคลื่นเหียนยิ่งนัก
"พิลึก น้ำอะไรก็ไม่รู้เหม็นๆ"
กล้ามองที่กระท่อมรู้สึกรังเกียจคนในกระท่อมนั้น และสงสัยดาว

บุษบาบรรณเดินมาที่เรือนครัวเห็น ตะวัน มั่น ชื่น เอื้อย นั่งจับกลุ่มกันอยู่
"ตะวัน"
บุษบาบรรณดีใจรีบวิ่งเข้ามาหา
"คุณบุษหายไปไหนมาขอรับ"
บุษบาบรรณไม่ตอบได้แต่ยิ้มๆ เอื้อยเอ่ยปากถาม
"เตรียมอาหารให้คุณหาญกับแม่ดาวหรือยังจ๊ะ"
เอื้อยมองหน้าชื่น สงสารบุษบาบรรณ เอื้อยถอนหายใจ
"บ่าวเตรียมไว้แล้วเจ้าค่ะ คุณบุษช่างเป็นคนดีจริงๆนะเจ้าคะ งามทั้งจิตใจงามทั้ง ใบหน้า" ชื่นบอก
"คุณบุษไม่ร้อนใจ ไม่คิดจะสั่งสอนหรือทำอะไรให้นังดาวมันสำนึกบ้างหรือเจ้าคะ" เอื้อยว่า
"ฉันกับคุณหาญเราไม่ได้รักกันมาก่อน ที่เราต้องแต่งงานกันก็เพราะผู้ใหญ่ ฉันเป็นเมียแต่งและอยากเป็นเมียเดียว ทำไมฉันจะไม่ทำอะไรล่ะ"
ทุกคนมองหน้ากัน งงๆ ระคนตื่นเต้นว่าบุษบาบรรณมีแผนการอะไร
"คุณบุษจะทำอะไรรึเจ้าคะ ถ้าเป็นการสั่งสอนนังดาวล่ะก็พวกบ่าวจะช่วยคุณบุษ เองเจ้าค่ะ"เอื้อยว่า
ชื่น มั่น ตะวัน พยักหน้ารับเอื้อยเห็นด้วย บุษบาบรรณยิ้ม
"เราก็กำลังทำอยู่นี่ไงล่ะ"
ทุกคนมองหน้ากันงงๆอีกครั้ง
"ทำอะไรรึขอรับ" ตะวันถาม
"ก็ดูแลคุณหาญให้ดีที่สุดนี่ยังไง"
บุษบาบรรณยิ้ม มุ่งมั่นอะไรบางอย่าง ตะวันสบตาชักผิดสังเกต ต้องมีอะไรแน่ๆ

เวลากลางคืน ดาวเปิดประตูห้องหาญเห็นว่าหาญกำลังนอนหลับอยู่ มองเห็นสำรับกับข้าววางอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งจึงแอบย่องเข้ามาเบาๆ
"คุณหาญจะโงหัวไม่ขึ้นก็คราวนี้แหล่ะ หึๆ"
ดาวหยิบขวดยาเสน่ห์ออกมาแล้วพนมพึมพำก่อนจะเอาเทใส่อาหาร ดาวถูตัวล้วงควักแล้วทำท่าโปรยปรายกลิ่นตัวเองใส่อาหารของหาญ
"คุณหาญต้องเป็นของข้าคนเดียว จะไม่มีใครรู้ความลับนี้"
"จริงรึ"
ดาวหันไปเห็นบุษบาบรรณและตะวัน ก็ตกใจสุดฤทธิ์ ทั้งคู่ออกจากที่ซ่อน ตะวันเข้าไปยึดของกลางในมือของดาวทันที
"ที่แท้ก็เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง จับได้คาหนังคาเขาแบบนี้คงดิ้นไม่หลุดแล้วสินะ"
ดาวหันไปทางหาญร้องเรียก
"คุณหาญช่วยเมียด้วยเจ้าค่ะคุณหาญเมียโดนรังแกเจ้าค่ะ คุณหาญ"
"ไม่มีประโยชน์ที่จะเรียกหรอก เพราะยังไงซะคุณหาญก็คงไม่ตื่นขึ้นมาช่วยหล่อน เป็นแน่"
"แกทำอะไรคุณหาญ" ดาวตาขวางใส่
บุษบาบรรณมองไปทางหัวเตียงนอนที่มีพระพุทธรูปตั้งอยู่ ดาวมองตาม
" ก็ทำให้คุณหาญหลุดพ้นจากมนต์ดำของหล่อนยังไงล่ะ คุณหาญดื่มน้ำมนต์ อาบ น้ำมนต์ไปแล้วก็เลยหมดแรงหลับไป"
"แกนี่มันร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ"
"ตะวันเอาตัวออกไป"
"ไม่ ฉันไม่ไป"
"หรือจะให้ฉันประจานหล่อนตรงนี้ต่อหน้าทุกคนในใต้หล้าเลยไหม"
ดาวนิ่งกริบ ตะวันลากตัวดาวออกไปจากห้อง บุษบาบรรณคุมหลังตามออกไปปิดห้องลง

ตะวันลากดาวมาที่มุมลับตา พอเห็นว่าไม่มีใคร ดาวพยายามจะดิ้นให้หลุด ตะวันจัดไปสองสามดอก ดาวสู้แต่เจอสวน ตะวันรวบตัวดาวไว้
"ที่จริงฉันไม่นิยมความรุนแรงหรอกนะ แต่เพราะหล่อนไม่ได้มีความละอายแก่ใจแต่อย่างใดกับสิ่งที่ทำลงไปกับคุณหาญ"
ดาวโกรธ
"คุณหาญเป็นผัวของฉัน เค้าเป็นผัวฉันก่อนที่แกจะมาซะอีกอีนังผู้ดีตีนแดง แน่ จริงก็มาสู้กันตัวต่อตัวสิวะ จะให้ไอ้ขี้ข้านี่จับกูอยู่ทำไม"
บุษบาบรรณมองดาวนิ่ง
"ตะวันปล่อยนาง"
ตะวันอึกอักแต่ก็ยอมปล่อยดาวตามคำสั่ง ดาวเดินหักนิ้วมือเข้าไปใกล้บุษบาบรรณ พอเข้าไปใกล้บุษบาบรรณยิ้มแล้ว ตบด้วยหลังมือฉาด !!! ทีเดียวดาวลงไปกองตกตะลึง
ดาวจับแก้มที่ถูกตบ
"อี๊...แก"
" เจ็บไหม"
"นี่แกตบฉันเหรอ"
"หัวใจถูกกระชากมันเจ็บคล้ายๆอย่างนั้น ตอนแรกก็เจ็บแปลบ ต่อมาจะชา หล่อน รู้สึกอย่างนั้นหรือไม่ล่ะ"
ดาวปรี๊ดลุกขึ้นมาพุ่งเข้าหา บุษบาบรรณจับข้อมือดาวไว้สีหน้านิ่ง
"หากหล่อนกับคุณหาญรักกันจริง เป็นของกันและกันจริง คุณหาญซึ่งเป็นสุภาพบุรุษคงยกหล่อนขึ้นมาเป็นเมียเอกแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ หนำซ้ำหล่อนยังใช้วิธีสกปรกกับคุณหาญอีก หากเจ้าสัวกับคุณแก้วรู้เข้าหล่อนคงรับโทษไม่ใช่น้อยๆ"
บุษบาบรรณสะบัดมือดาวออก ดาวเซถลาไป ดาวกลัวท่าทีที่บุษบาบรรณเอาจริงเอาจัง
ตะวันสงสาร ขอร้องบุษบาบรรณ
"คุณบุษขอรับแค่นี้นังดาวก็คงสำนึกแล้วล่ะขอรับ อย่าเรียนให้เจ้าสัวกับคุณแก้ว ทราบเลยนะขอรับบ่าวเกรงว่าแม่ดาวคงไม่พ้นโดนโบยจนกระอักเลือดเป็นแน่ขอรับ และอาจไม่ไม่ได้ปลดปล่อยจากความเป็นทาสอีกด้วยขอรับ"
ดาวตื่นตระหนกรีบตอแหลตามน้ำ ดาวรีบคลานเข้าหาบุษบาบรรณกราบแทบเท้า
"บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณบุษบาบรรณได้โปรดอภัยให้บ่าวด้วยนะเจ้าคะ ที่บ่าวทำไปเพราะว่าบ่าวเองก็รักคุณหาญ บ่าวรู้ว่าสิ่งที่บ่าวทำไม่ถูกไม่ควร ต่อไปนี้บ่าวจะไม่ทำเยี่ยงนี้อีกแล้วเจ้าค่ะ บ่าวจะอยู่อย่างเจียมตัวไม่ยุ่งเกี่ยวข้องแวะให้คุณบุษบาบรรณไม่สบายอีกนะเจ้าคะ อภัยให้บ่าวด้วยเถอะเจ้าค่ะ"
ดาวก้มหน้าพนมมือนิ่ง แสร้งบีบน้ำตาสะอึกสะอื้น
ตะวันพยักหน้าขอให้คุณบุษบาบรรณอภัยให้
"ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาความหล่อน"
ดาวเงยหน้าขึ้มมองบุษบาบรรณด้วยความดีใจ
"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ"
ดาวยกมือไหว้แล้วเข้าไปกอดขาบุษบาบรรณ
"หล่อนบอกกับฉันว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวไม่ข้องแวะกับคุณหาญอีก ช่วยทำตามที่บอกด้วยล่ะ ถ้าคุณหาญเขารักหล่อน เขาจะไปหาหล่อนเอง หล่อนไม่ต้องตะเกียกตะกายให้ใครเค้าสมเพชหรอก"

บุษบาบรรณเดินออกไป ดาวเดินไปอีกทาง ตะวันตามไป

ดาวเดินหนีตะวันมาที่เรือนทาสเจอเข้ากับเอื้อย ชื่น

"คงจะถูกคุณหาญเธอถีบหัวส่งมาล่ะสิ ถึงได้หน้าหงิกหน้างอกลับมาแบบนี้" เอื้อยว่า
"หัดเจียมเนื้อเจียมตัวซะบ้างเถ่อะวะนังดาว อยู่ในที่ที่ควรอยู่อย่าใฝ่สูงให้เกินตัวไปหน่อยเลยวะ" ชื่นบอก
"จะให้ฉันใฝ่ต่ำอยู่อย่างน้าเห็นทีฉันคงทำไม่ได้กระมัง ฉันไม่ยอมเป็นแค่บ่าวไปจน แก่ตายหรอก"
ตะวันตามเข้ามา
"อย่าทำผิดซ้ำสอง ไม่งั้นนายข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่แม่ดาว"
ดาวตาขวางใส่ตะวัน
เอื้อยตบเข่าฉาด
"นั่นปะไร นี่เอ็งคงจะโดนคุณบุษบาบรรณดัดสันดานเข้าให้แล้วสินะ ดีสมน้ำหน้าคราวนี้จะได้รู้จักที่สูงที่ต่ำซะบ้าง"
ดาวเจ็บใจ มั่นเดินเข้ามา พอดีเห็นดาว
"มาอยู่ที่นี่เองมีคนเค้าถามหาเอ็งแน่ะนังดาว"
ดาวยิ้ม
"คุณหาญใช่ไหม ฉันจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้แหล่ะ"
ดาวจะเดินออกไป มั่นรีบบอก
"ไอ้เมฆต่างหากที่มันถามหาเอ็งน่ะ ดูท่าทางมันจะชอบเอ็งเอามากๆนะ ถามหา เช้าสายบ่ายเย็นไม่หยุดหย่อนเสียเลย"
ดาวหยุดอยู่กับที่ด้วยความโกรธ
"ข้าว่าไอ้เมฆมันก็เหมาะสมกับเอ็งดีนะนังดาว จะรีบไปหามันก็ไปสิ ฮ่าๆๆ"...มั่นหันไปเรียก ชื่น ตะวัน เอื้อย "ไปเห่อะพวกเราเข้าเรือนเถอะ"
ทุกคนเดินจากไปทิ้งดาวยืนเจ็บแค้นอยู่ผู้เดียว
"ฮึ่ย ! คอยดูนะฉันจะเอาคืนสาสมทุกคนเลย"
ดาวเจ็บใจมาก ยังไงดาวก็ไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่

วันใหม่ พระสงฆ์เดินบิณฑบาตบุษบาบรรณยืนรอใส่บาตรอยู่กับหาญ มีตะวันยืนรออยู่ใกล้ๆ
"นิมนต์เจ้าค่ะ"
พระสงฆ์เดินมาหยุดที่ด้านหน้าตะวันส่งขันข้าวให้ บุษบาบรรณตักข้าวโดยมีหาญช่วยประคองทัพพีเพื่อใส่ข้าวลงบาตรพระ ทั้งสองคนช่วยกันใส่ยิ้มมีความสุข
ตะวันเศร้ามาก นึกถึงในภวังค์

ภายในห้องนอนหาญ คืนล้างอาถรรพณ์ บุษบาบรรณกำลัง เช็ดหน้าเช็ดตัวให้หาญที่สะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งตื่น กึ่งปวดหัว
"เราเป็นอะไรกันนี่ทำไมถึงได้ปวดหัวนัก"
บุษบาบรรณหยิบแก้วน้ำมนต์ที่มีดอกมะลิลอยอยู่ให้หาญดื่ม
"จิบน้ำสักนิดนะเจ้าคะแล้วอาการปวดหัวจะทุเลาขึ้นเจ้า ค่ะ" แล้วเธอก็ประคองให้นอนลง "นอนพักก่อนนะเจ้าคะ"
บุษบาบรรณประคองหาญลงนอนที่เตียงจัดการห่มผ้าให้ หาญหลับตาลง บุษบาบรรณนั่งมองดูด้วยแววตาแห่งความรัก ตะวันเห็นสายตานั้นก็รู้ในทันที
"หมดเคราะห์หมดโศกเสียทีนะเจ้าคะ"
"คุณหาญเป็นอะไรรึขอรับ"
"โดนวางยาเสน่ห์น่ะ"
ตะวันตกใจ
"คุณบุษรู้ได้อย่างไรขอรับว่าคุณหาญเธอโดนวางยาน่ะขอรับ"
"ก่อนหน้านี้คุณหาญดีกับเรา แต่จู่ๆเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ใบหน้าหมอง คล้ำจนสังเกตได้ชัด เราเลยคิดว่า คุณหาญน่าจะโดนยาเสน่ห์เข้าให้"
ตะวันอึ้งมองดูหาญที่หลับด้วยความเป็นกังวล
"แล้วคุณหาญจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานไหมเจ้าคะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอก เราให้คุณหาญดื่มน้ำมนต์ อาบน้ำมนต์ไปแล้ว จะเหลือก็แต่ให้คุณหาญไหว้พระใส่บาตรทำบุญ ไม่นานก็จะดีขึ้นเอง"
ตะวันมองดูหาญด้วยความเป็นห่วง บุษบาบรรณบอกกับตะวันที่ดูเป็นกังวล
"หากคุณหาญทำบุญมาดี คงไม่ติดอยู่ในบ่วงสวาทที่เหมือนเป็นกรรมร้อยรัดอยู่นี้นานหรอก เราจะช่วยคุณหาญทุกทางที่ทำได้"
บุษบาบรรณมองดูหาญด้วยความรัก ตะวันทั้งตื้นตันใจและเสียใจในคราเดียวกัน
บุษบาบรรณได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาหน้า
"แม่ดาวคงจะมาแล้ว เราจะจับให้ได้คาหนังคาเขา หลบเร็วตะวัน"

ประตูเปิดเข้ามาดาวค่อยๆมองมาในห้อง
 
อ่านต่อหน้า 4

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 19 (ต่อ)

เสียงเรียกของบุษบาบรรณทำเอาตะวันหลุดจากภวังค์ในขณะที่สายตามองหาญเพลินๆ

บุษบาบรรณชี้มือขอที่กรวดน้ำ
"เอ่อ..ขอรับ"
ตะวันส่งที่กรวดน้ำให้ บุษบาบรรณกับหาญกรวดน้ำร่วมกัน ตะวันมองด้วยความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่กลางใจ มั่นเดินผ่านมาเห็นก็สงสาร ตะวันค่อยๆเลี่ยงหลบออกมา มั่นตามไป

ตะวันมานั่งร้องไห้อยู่ มั่นเดินตามมาหยุดมองสงสารตะวัน
"เดือน"
ตะวันรีบปาดน้ำตาออก
"พี่มั่น"
มั่นเดินลงนั่งข้างๆ ตะวันหลบๆหน้าไม่อยากให้มั่นเห็นน้ำตา
"ถ้าเสียใจก็ร้องไปเถอะ เห็นแบบนี้ทุกวันเอ็งจะร้องทุกวันก็ไม่มีใครห้ามเอ็งได้หรอก"
มั่นมองหน้าตะวันจริงจัง
"เอ็งต้องห้ามตัวเองแล้วล่ะเดือน"
ตะวันปล่อยโฮด้วยความเสียใจ โผซบอกมั่น มั่นเข้าใจตะวันดีโอบกอดปลอบใจ
ฟ้าหยาดเดินมาได้ยินเสียงคนร้องไห้จึงเดินเข้าไปดูเห็นเป็นมั่นโอบปลอบตะวันที่ร้องไห้อยู่ ฟ้าหยาดมองแกล้งทำเสียงดัง
"อ่ะแฮ่มๆๆ"
มั่นกับตะวันตกใจผละออกจากกัน
"โอ๊ะ ต้องขอโทษทีที่มาขัดจังหวะ ฉันแอบตามนายมั่นมาไม่คิดว่านายมั่น จะแอบมาอยู่กับ..."
มั่นอึกอักรีบอธิบาย
"ไม่ใช่นะขอรับ กระผมไม่ได้กระทำการใดๆอย่างที่คุณฟ้าหยาดคิดนะขอรับ"
ฟ้าหยาดยิ้มกวนๆ
" ข้าไม่ได้คิดอะไรสักหน่อยทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้น่า"
มั่นงง ตะวันแอบปาดน้ำตา
"แล้วทำไมต้องแอบตามกระผมมาด้วยขอรับ"
"ฉันแค่อยากจะถามอะไรหน่อยเท่านั้นล่ะ"
ฟ้าหยาดมองที่ตะวันที่กำลังแอบปาดน้ำตาอยู่แอบยิ้มขำๆ ตะวันก้มหน้างุด
"นี่พ่อตะวัน ร้องไห้ปาดน้ำตาอย่างนั้นเสียมาดหนุ่มน้อยหมดพอดี"
ตะวันนิ่ง ฟ้าหยาดเข้าไปขยับเสื้อที่เอียงไปข้างหนึ่งของตะวันให้เข้าที่
"เสื้อแสงก็ไม่ดูให้ดีแบบนี้จะไปตบตาใครเค้าได้ล่ะ เดี๋ยวใครเขาก็รู้หมดหรอก"
ตะวันกับมั่นตะลึง
"คุณฟ้าหยาดรู้"
ฟ้าหยาดยิ้มๆ
"ฉันเป็นนางโลมมาไม่รู้กี่ปี แยกชายหญิงแค่นี้ทำไมจะทำไม่ได้"
ตะวันหน้าซีดถูกจับได้ว่าเป็นหญิง มั่นรีบพูดขอร้องฟ้าหยาด
"กระผมขอร้องเถอะนะขอรับอย่าบอกเรื่องนี้กับผู้ใด ที่ตะวันต้องทำแบบนี้เพราะมี เหตุผลนะขอรับ"
"เจ้าจะมีเหตุผลใดก็ตามเราไม่อยากยุ่ง เราแค่ต้องการอยากจะถามในสิ่งที่เราอยาก รู้เท่านั้น พวกเจ้าช่วยเราได้ไหม"
มั่น ตะวันยิ่งงงเข้าไปใหญ่
"คุณฟ้าหยาดอยากให้พวกกระผมช่วยเรื่องอะไรรึขอรับ"
ฟ้าหยาดมุ่งมั่นอยากรู้
"ฉันอยากถามคนเก่าคนแก่ที่รู้เรื่องใต้หล้า"

ในเรือนทาส ชื่นนั่งลง
"คุณจะอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับใต้หล้าไปทำไม"
"ในเมื่อเราต้องมาอยู่ที่นี่เราก็ควรต้องรู้เรื่องของที่นี่ไว้บ้างมิใช่รึ"
ฟ้าหยาดคุยกับชื่น เอื้อย อ่ำ
มั่นพูดลอยๆเหน็บฟ้าหยาด
"ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของท่านเจ้าสัวเป็นแน่"
"ใช่เจ้าพูดถูก ข้าอยากรู้เรื่องราวของท่านเจ้าสัว เพลานี้เจ้าสัวดูจะตรอมใจเรื่องคุณกล้ามาก เหตุใดเจ้าสัวถึงตรอมใจมากเช่นนี้รึ"
ทุกคนมองหน้ากันถอนหายใจ ฟ้าหยาดสงสัย
"มีอะไรรึ"
"เจ้าสัวท่านคงช้ำใจที่คุณกล้าเป็นไปตามคำทำนายของซินแสเทียน"
"คำทำนายอันใดรึ"
"เมื่อยี่สิบว่าปีก่อน ตอนคุณกล้ายังเล็ก เจ้าสัวขอให้ซินแสเทียนทำนายทายทักดวง ชะตาของคุณกล้า"
ซินแสมองหน้าเด็กชายกล้า
"บุตรชายของท่านคนนี้ มีราคีเกาะกุมชะตา จะผิดแผกพงศ์พันธุ์ นำความเดียจฉันท์นินทา รังจะพาแต่ความอัปยศมาสู่ตระกูล"
โครม ! เจ้าสัวลุกขึ้นด้วยความตกใจ เท้าพลาดเตะถาดที่วางใบบัวใส่ปอยผมลูกร่วงลงกับพื้น
"ไม่"
เจ้าสัวมองกล้า ยังไม่อยากเชื่อ เด็กชายนอนตาแป๋ว ไม่รู้เรื่อง

หยาดฟ้าตั้งใจฟัง
"เรื่องคุณกล้านั้นไม่มีใครนึกฝันว่ามันจะเป็นจริงไปได้ ตอนนี้ก็เหลือเพียงคุณหาญที่ดวงชะตาเกิดมาค้ำจุนใต้หล้า แต่เพลานี้ก็ไม่อาจคาดเดาอันใดได้"
ชื่นถอนหายใจ
เจียมเดินเข้าครัวมาตักข้าวเหลือบมองเห็นฟ้าหยาดแปลกใจจึงทำทีตักข้าวไปแต่แอบฟังที่เค้าคุยกัน
ฟ้าหยาดอยากรู้เรื่องบุหงาจึงเลียบเคียงถาม
"จริงสิข้าได้ยินมาว่าคุณบุหงามีลูก 2 คนมิใช่รึ แต่เหตุใดเราเห็นเพียงคุณสายฝนคนเดียว"
เอื้อย ชื่นมองหน้ากันประหลาดใจ
"คุณได้ยินมาจากที่ใดรึ ใครที่ไหนมันพูด" เอื้อยถาม
"เจ้าสัวบอกข้าเอง เล่าให้ข้าฟังจะได้ไหมจ๊ะ"
เจียมได้ยินตาโตขึ้นมาทันที
"คุณบุหงามีลูกสองคน คนแรกเป็นชาย"
"แล้วไปไหนเสียแล้วล่ะ ทำไมเราไม่เคยพบเจอ"
"เธอบุญน้อยเสียตั้งแต่แรกคลอดแล้วล่ะเจ้าค่ะ"
ฟ้าหยาดสงสัย
"แล้วมีใครเคยเห็นหน้าเด็กคนนั้นไหม"
"ไม่มีหรอก" เอื้อยบอก
เจียมลุ้นฟังด้วยความตื่นตระหนกทนไม่ไหวรีบแจ้นออกไป ฟ้าหยาดฟังเอื้อยนิ่ง
"คุณบุหงาเธอตรอมใจหนักจึงรีบทำพิธีให้กับคุณหนู แม้กระทั่ง เจ้าสัวเองยังไม่มีโอกาสได้ชื่นชมคุณหนูเลยสักนิด ช่างน่าสงสารเหลือเกิน" เอื้อยว่า

ฟ้าหยาดฟังที่เอื้อยเล่าด้วยความคลางแคลงใจ

เจียมวิ่งพรวดพราดเข้ามาในเรือนบุหงา

"คุณบุหงาเจ้าคะ"
บุหงากำลังปะทินผิวอยู่ตกใจ
"อะไรกันนังเจียม พรวดพราดเข้ามาทำอย่างกับเจ๊กตื่นไฟ"
เจียมหอบเหนื่อย
"บ่าวตื่นไฟจริงๆเจ้าค่ะ"
"อะไรของเอ็ง"
"บ่าวเพิ่งมาจากครัว บ่าวเห็นนังฟ้าหยาดมันกำลังคุยกับพวกบ่าวในเรือนครัวเจ้าค่ะ"
" ก็เรื่องของมันปะไร ไพร่ก็ต้องอยู่กับไพร่ไม่เห็นจะตกอกตกใจอะไร"
"แหมคุณบุหงาเจ้าคะ ถ้ามันคุยกันปกติธรรมดาเจียมจะวิ่งมาให้เหนื่อยทำไมกันเจ้าคะ แต่นี่นังฟ้าหยาดมันกำลังซักเรื่องลูกของคุณบุหงาอยู่น่ะสิเจ้าคะ"
บุหงาหันขวับมาด้วยความโกรธ
"มันจะซักเรื่องลูกข้าทำไม"
บุหงาเครียดแค้นชิงชัง
"นังฟ้าหยาด"

วันใหม่ บุษบาบรรณกับหาญกำลังอธิฐานร่วมกันก่อนจะปล่อยปลาลงแม่น้ำที่ท่าวัด
ตะวันมองชื่นชมทั้งคู่ แต่ภายในแอบเศร้า

วันใหม่ บุษบาบรรณเทน้ำมนต์ลงอ่างให้หาญล้างหน้า หาญก็ล้างแต่โดยดี บุษบาบรรณมองหาญด้วยรอยยิ้มแห่งความรัก
บุษบาบรรณปอกไข่ต้มวางใส่ชามแล้วส่งให้หาญ หาญมองไข่ต้มงงๆ
"ไข่ต้มใบนี้เป็นอาหารก้นบาตร พระที่วัดท่านปันมาให้ทานสักหน่อยนะ เจ้าคะ"
บุษบาบรรณป้อนไข่ให้หาญกิน หาญกินตามที่บุษบาบรรณบอกจนหมด จากนั้นก็หันไปหยิบน้ำดื่มที่เป็นน้ำมนต์มีดอกมะลิลอยส่งให้หาญดื่มมองหาญดื่มจนหมด

วันใหม่ ทั้งคู่นั่งอยู่หน้าพระประธานในโบสถ์ ตะวันเอามาลัยดอกไม้มาให้
"ดอกไม้ขอรับ"
บุษบาบรรณมองมาลัยดอกไม้ในพาน
"เจ้าร้อยมาลัยได้สวยมากตะวัน"
หาญหันมองเห็นกระแตไต่ไม้ เป็นกระแตที่เป็นเอกลักษณ์ของเดือน หาญมองตะวัน
"พ่อตะวันร้อยมาลัยเหมือนคนที่เราเคยรู้จัก"
ตะวันอึ้งก้มหน้า เงียบไป
"กราบพระเถอะเจ้าค่ะคุณหาญ"
บุษบาบรรณส่งพวงมาลัยให้หาญ หาญยกมาดูใกล้ๆจ้องมองที่พวงมาลัยนึกถึงเดือน
ตะวันแอบมองหาญเจ็บจี๊ดที่ใจ

วันใหม่ หาญกลับจากทำงาน บุษบาบรรณมารับ พร้อมน้ำลอยดอกมะลิ
"ดื่มน้ำเย็นๆให้ชื่นใจสักหน่อยนะคะ"
บุษบาบรรณยื่นน้ำให้ ตะวันส่งผ้าเย็นให้กับบุษบาบรรณ แม่หญิงหยิบส่งให้หาญ
"เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนนะคะจะได้สดชื่น"
หาญรับผ้ามาเช็ดดมผ้ามีกลิ่นหอมชื่นใจแล้วเช็ดหน้าเช็ดตาตามที่บุษบาบรรณบอก
หาญวางผ้าที่เช็ดลงที่อ่าง แล้วหันไปหยิบถุงใส่ของมาจากกระเป๋างานแล้วส่งให้บุษบาบรรณ
"ผมตั้งใจซื้อน้ำอบมาฝากคุณบุษที่มีน้ำใจคอยดูแลผมเป็นอย่างดี รับไปสิ ขอรับ"
ตะวันแอบมองทั้งสองคนที่มีความสุข ด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดีกับคนทั้งสอง

ในเวลากลางคืน บุษบาบรรณพรมน้ำอบที่คอ
"กลิ่นหอมชื่นใจจัง"
"น้ำอบคุณหาญกลิ่มหอมเหลือเกินค่ะ"
"ดีใจที่คุณบุษชอบนะครับ"
บุษบาบรรณเขินๆเดินเลี่ยงไปที่เตียงนอน ทั้งสองคนนอนนิ่งๆกันพักหนึ่ง แต่หัวใจบุษบาบรรณเต้นโครมครามจนแทบแล่นออกมานอกอก เธอรีบหันหลังแล้วขยับหนีห่างจากหาญจนสุดเตียงเพื่อสะกดใจตัวเองไม่ให้เต้นโครมครามไปกว่านี้
หาญมองรู้สึกได้ที่บุษบาบรรณหันหลังให้ รำพึงออกไป
"คุณบุษคงรังเกียจผมเหลือเกินใช่ไหมครับ"
บุษบาบรรณอึ้งนิ่ง
"ที่ต้องมาแต่งงานกับผมแล้วต้องมาเจอเรื่องราววุ่นวายของเมียแต่งขัดดวงอีกคน"
เธอรีบหันมาเพราะกลัวหาญเข้าใจผิด
" ไม่ใช่นะคะ บุษไม่เคยรังเกียจคุณหาญเลยแม้แต่น้อย"
"งั้นทำไมคุณบุษถึงได้ขยับหนีผมจนจะตกเตียงเช่นนี้ล่ะครับ"
บุษบาบรรณจ้องตาหาญด้วยความประหม่า หาญโน้มเข้ามาใกล้
"ว่าอย่างไรครับ"
เธอใจสั่นหัวใจเต้นไม่เป็นระส่ำ
"เอ่อ...คือ"
หาญเข้ามาใกล้อีก
"คำตอบคืออะไรรึครับ"
บุษบาบรรณใจเต้นรัว หาญกุมมือไว้ สองคนมองตากัน
"บุษตอบไม่ได้เจ้าค่ะ แต่ใจของบุษตอบคุณหาญได้เจ้าค่ะ"
บุษบาบรรณเอามือหาญลงมาแนบที่หัวใจตัวเองที่เต้นโครมครามจนหาญรู้สึกได้
หาญมองตา ทั้งสองคนตกอยู่ในภวังค์มีเพียงเสียงหัวใจที่กำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
สองหนุ่มสาวค่อยๆโน้มหน้าเข้าหากันตามหัวใจที่เรียกร้อง


บรรยากาศยามเช้า หาญเดินประคองบุษบาบรรณออกมาจากห้อง ตะวันจะมาปรนนิบัติแต่เช้า เห็นภาพนั้น
"ผมไปทำงานก่อนนะ"
"แล้วรีบกลับมานะคะ ประเดี๋ยวบุษจะเข้าครัวทำขนมไว้รอ"
หาญยิ้มแล้วหอมแก้มบุษบาบรรณ
"แบบนี้ต้องรีบกลับมาซิ"
หาญอาวรณ์ จนบุษบาบรรณต้องปรามไว้
"ไปได้แล้วค่ะ ประเดี๋ยวจะสายนะคะ"
" ไปก็ได้"
หาญเดินออกไป ตะวันมองตาม บุษบาบรรณเดินเข้ามาบอกตะวัน
"ไปเรือนครัวกันเถอะตะวัน"
ตะวันพยักหน้าเดินตามบุษบาบรรณไป
อีกมุมหนึ่ง ดาวแอบมองอยู่ด้วยใจริษยา ดาวมองไปที่ห้องของหาญสายตาร้าย

รถลากพาหาญออกมาได้สักพัก หาญนึกขึ้นได้ว่าลืมกระเป๋า
"เดี๋ยว เราลืมกระเป๋า วกกลับไปเอากระเป๋าที่เรือนก่อน"
"ขอรับนายท่าน"
รถลากวกรถกลับ

บุษบาบรรณเดินมาแล้วนึกขึ้นได้
"ตายแล้วลืมไปเสียสนิทเลยว่าจะเอาอ่างล้างหน้าของคุณหาญมาให้นายมิ่งขัดให้ เสียหน่อย"
"บ่าวไปหยิบให้ก็ได้เจ้าค่ะ"
บุษบาบรรณ พยักหน้า
"อ่างอยู่ที่ชั้นในห้องอาบน้ำนะจ๊ะตะวัน"
"เจ้าค่ะ คุณบุษไปรอที่เรือนครัวก่อนนะเจ้าคะประเดี๋ยวบ่าวรีบตามไป"
"จ้ะ"
ตะวันรีบวิ่งออกไป บุษบาบรรณแยกไปที่เรือนครัว

ตะวันเปิดประตูห้องหาญเข้ามาแล้วตรงไปที่ประตูห้องน้ำ มองหาอ่างล้างหน้า เห็นว่าอยู่ที่ชั้นกำลังจะเข้าไปหยิบ
ทันใดนั้นเอง งูพิษก็เลื้อยออกมา ชูคอแผ่แม่เบี้ย เธอตกใจยืนอึ้งด้วยความกลัวพอได้สติตะวันจะเลี่ยงออกประตู แต่งูเลื้อยมาขวางทางไว้ แล้วตรงจ้องมองเธอนิ่ง เธอเหงื่อแตกถอยล่นด้วยความกลัวจนไปถึงตุ่มน้ำที่มีขันคว่ำอยู่
หาญเปิดประตูเข้ามากำลังจะหยิบกระเป๋าได้ยินเสียงขันหล่น ในห้องน้ำ หาญเข้าใจว่าเป็นบุษบาบรรณกำลังอาบน้ำแน่ๆ จึงเดินเข้าไปที่ห้องน้ำ
ภายในห้อง งูแผ่เม่เบี้ยขู่ตะวัน ตะวันตกใจร้องสุดเสียง
"อ๊าย"
หาญรีบพุ่งไปที่ห้องน้ำทันที เปิดประตูเห็นงูกำลังจะฉกตะวัน หาญดึงผ้าที่วางอยู่ข้างๆตัวสะบัดผ้าใส่หน้างู งูเลื้อยหนีออกไป
ตะวันช็อกตกใจ เป็นลมจะล้มลง หาญเห็นเลยรีบเข้าไปประคองแต่ลื่น เสียหลัก ล้มไปพร้อมกับประคองเธอไม่ให้หัวฟาด หงายหลังลงมือกอดตะวันไว้ ในตำแหน่งหน้าอกพอดี
หาญรู้สึกทันทีว่าคือหน้าอกผู้หญิง หน้าหาญอึ้งนิ่งงัน
ตะวันผวารู้สึกตัวรู้สึกมีมือเกาะกุมอยู่ เลยรีบสะบัดตัวออกอย่างเร็วแล้วรีบตะเกียกตะกายหาที่เกาะเพื่อจะลุกขึ้น แต่ดันไปเกาะที่ขอบอ่างน้ำที่มีน้ำอยู่หกคะเมนราดลงตัวเองจนเปียกปอน
"ว๊าย"
เสื้อตะวันเปียกน้ำเห็นเนินอกหญิงชัดเจน ผมสั้นที่ตัดไว้ พอโดนน้ำแนบหน้า ตะวันก็เสยผมขึ้นทันทีเพราะมองไม่เห็น
"แม่เดือน"
ตะวันมองหาญที่เหมือนอยู่ในภวังค์
"คุณหาญ"

ทั้งสองคนมองตากันและกัน นิ่งงันไป
 
อ่านต่อตอนที่ 20
กำลังโหลดความคิดเห็น