ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 10
พวงแก้วและบุหงาต่างรอคอยเจ้าสัวแสนอยู่หน้าเรือนใหญ่ ทั้งคู่ไม่อยู่ใกล้กัน แต่อาการคล้ายกัน คือผุดลุกผุดนั่ง กระวนกระวายและโกรธบึ้ง ในที่สุด ต่างเดินไปชะเง้อหน้าเรือน สวนกันไปมา กดอารมณ์ไม่อยู่
"ท่านเจ้าสัว เมื่อไหร่จะกลับก็ไม่รู้" บุหงาเปรยขึ้น
"ก็เป็นเพราะหล่อน ท่านเจ้าสัวถึงร้อนใจ ออกไปสำราญข้างนอก" พวงแก้วว่า
"ต๊าย ! พูดไม่อายปากนะคะ คุณพี่นั่นแหละ ปากเปราะ หาเรื่องบุหงาก่อน"
"อีบุหงา !"
"อุ๊ย ! ไม่เหลือวาจากุลสตรีมีชาติตระกูลแล้วรึคะ ขึ้นอ้ายขึ้นอี คุณพี่เรียกบุหงาอี บุหงาก็เรียกคุณพี่ได้เหมือนกัน....อีแก้ว !"
"แก"
เอื้อยเป็นลูกขุนพลอยพยัก เช่นเดียวกับเจียม ที่นายว่าขี้ข้าพลอยเช่นกัน
"พูดแบบนี้ ตบเลยไหมเจ้าคะ" เอื้อยว่า
"เอาซี้ ! มึงตบ กูถีบ...ลองดูสิ เอ้า" เจียมบอก
บ่าวทั้งคู่เงื้อง่า จดๆจ้องๆ นายเถียงกันหน้าดำหน้าแดง
"หยุด!! ถ้าเอ็งสองคนจะตบไปตบกันข้างนอก ฉันอนุญาติ แต่ตอนนี้ฉันต้องการที่จะง้างปากนังบุหงาให้มันคายความจริงออกมา ฟังฉันดีๆนะ ที่ท่านเจ้าสัวออกไปวันนี้ เป็นเพราะแผนการของหล่อนใช่ไหม"
"แผนการของฉันรึ พูดให้ดีๆนะ"
"หล่อนนัดเว่ยชิงมาที่นี่ นัดมันมาทำไม เพื่อจะให้มันหานางโลมมาปรนเปรอท่านเจ้าสัวอย่างนั้นรึ"
บุหงาตกใจ ไม่รู้ว่าเว่ยชิงมา
"เจ้เว่ย มาที่นี่ !"
"ไม่ต้องมาเสแสร้งทำหน้าตกใจ หล่อนรู้ทั้งรู้ เยี่ยงนั้นมันจะกล้าบุกมาที่นี่ได้อย่างไรกัน ใช่ไหมตอบมาซิ"
พวงแก้วโกรธบุหงามาก เข้าใจผิดว่าบุหงากำลังวางแผนร้าย บุหงาได้แต่ยืนอึ้ง แล้วตีหน้าเชิดทำไม่รู้ ทั้งที่ชักหวาดหวั่น เพราะเกิดเรื่องหลายอย่าง กลางวันมีสาวจีน มีเรื่องเว่ยชิง และสำคัญ เว่ยชิงกำคำลับของบุหงาอยู่
ภายในโรงน้ำชา เว่ยชิงพยายามผลักฟ้าหยาดให้เข้าข้างหลัง แต่แสนตามมา
"ลื้อกลับเข้าไปข้างในเดี๋ยวนี้ อาฟ้าหยาด"
"เดี๋ยวสิ จะไปไหน ขอฉันคุยกับแม่สาวงามคนนี้ก่อน"
เจ้าสัวแสนจะจับมือฟ้าหยาด เว่ยชิงเอาตัวกัน ไม่ให้จับ
"เว่ยชิง ลื้อเป็นอะไร อย่ามาขวางทางข้า ข้า แสน ส่องหล้าแห่งใต้หล้า ข้าอยากได้ อะไรข้าต้องได้"
"ท่านเจ้าสัวแสน" ฟ้าหยาดพูดเบาๆกับตัวเอง "ก็เป็นบิดาของคุณหาญน่ะสิ ว่าที่พ่อ สามี"
ฟ้าหยาดรู้ดังนั้น ได้ที จึงรีบย่อตัวไหว้คำนับสวยงาม
"โอว ท่านเจ้าสัวแสน ฟ้าหยาดขออภัยที่ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร ครานี้ทราบแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าค่ะ"
ฟ้าหยาดจะไหว้แทบอก เว่ยชิงกันออกอย่างนุ่มนวล
"นางยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย เดี๋ยวข้าพานางไปด้านหลังก่อนนะเจ้าคะ"
เว่ยชิงกึ่งประคองฟ้าหยาด แต่จริงๆคือการลากเข้าไปด้านหลัง
"เดี๋ยวสิอาเว่ย ฉันยังไม่ได้ทำให้ท่านเจ้าสัวประทับใจเลยนะ"
ที่ด้านหลัง เว่ยยชิงเหวี่ยงฟ้าหยาดมาที่อ่างล้างจาน
"ท่านเจ้าสัวคนนี้ ลื้อห้ามยุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด"
"ทำไมจะยุ่งไม่ได้ ธรรมดาเป็นลูกค้า ฉันก็ต้องบริการ แต่นี่เป็นท่านเจ้าสัวแสน ฉันยิ่งต้องทำให้ท่านประทับใจ"
"ไม่ได้ ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก ลื้อจะพัวพันใกล้ชิดกับอีไม่ได้เด็ดขาด"
เว่ยชิงห้ามเสียงสั่น เกรงความอัปมงคลจะเกิดขึ้นเหลือเกิน ฟ้าหยาดเข้าใจไปทางหนึ่ง และที่จะบริการให้ดีก็เพราะเป็นว่าที่พ่อสามีในฝันของนาง
"ทำไมฉันต้องเชื่อเจ้เว่ยด้วย"
ฟ้าหยาดเดินไปจะแหวกมู่ลี่ออกไปข้างนอก เว่ยชิงปราดมากระชากแขนแล้วเหวี่ยงกลับเข้าข้างใน
"อั๊วบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้"
"โอ๊ย ทำไมไม่ได้ ในเมื่อท่านเจ้าสัวแสนเป็นว่าที่พ่อ..."
เว่ยชิงตกใจตาโต
"พ่อ...พ่อ...ลื้อรู้"
"ใช่ อั๊วรู้ ก็พ่อไง...ท่านเจ้าสัวแสนเป็นพ่อ พ่อของคุณหาญ ก็เท่ากับเป็นว่าที่พ่อผัวของฉัน"
เว่ยชิงคลายความตกใจลง
"ฉันจะไปปรนนิบัติว่าที่พ่อผัว ท่านเจ้าสัวจะได้เมตตารับฉันเข้าไปอยู่ในบ้านเป็นสะใภ้"
"เออ ค่อยยังชั่ว .แต่ ฮ๊า ไม่ได้ ลื้อจะเป็นเมียคุณหาญไม่ได้เหมือนกัน อั๊วบอกแล้วว่าผู้ชายใต้หล้า ห้ามข้องแวะด้วย"
"เอ๊ะ อาเว่ย ผู้ชายใต้หล้านี่มันพันธุ์ต้องห้ามหรือยังไง ฮ๊า"
ฟ้าหยาดไม่เลิกสงสัย เว่ยชิงตอบคำถามไม่ได้เพราะนั่นคือการเปิดเผยความลับสุดแสนดำมืดของบุหงา
ทางด้านหน้า แสนนั่งอยู่อย่างร้อนใจ อยากเจอฟ้าหยาดอีก
"เว่ยชิง พาขวัญใจข้าหายไปนานเชียว"
แสนอดรนทนไม่ได้ เดินไปที่มู่ลี่กั้นระหว่างด้านในกับด้านหลังร้าน
"เว่ยชิง อยู่ในนั้นหรือเปล่า ข้าจะเข้าไปหาฟ้าหยาดเดี๋ยวนี้"
ฟ้าหยาดเหลียวไปยังทางเสียงของเจ้าสัวแสน เว่ยชิงตกใจ
"ข้าจะจองตัวแม่นางฟ้าหยาดขึ้นห้องด้วยคืนนี้ เว่ยชิง จัดมาให้ข้าเดี๋ยวนี้"
"ท่านเจ้าสัว !"
"เหอะน่า ฉันรับมือเอง ลูกค้าหลายร้อยพันราย ฉันก็ไม่เคยเสียนวลสักคน เพราะฉันรอเก็บความสาวไว้ให้ผู้ชายที่ฉันรัก...อย่างคุณหาญ"
"อ้วก....อั๊วรับไม่ได้ อั๊วรับไม่ได้ ลื้อต้องไม่ยุ่งกับผู้ชายใต้หล้า ห้ามใกล้ชิด ห้ามแตะต้องตัวห้ามสัมผัสเด็ดขาด"
"คนนี้ว่าที่พ่อผัวฉันนะ ฉันไม่กินหรอกน่า"
"โอ่ย ลื้ออย่าพูด ยิ่งพูดอั๊วยิ่งคลื่นไส้"
เว่ยชิงดันฟ้าหยาดไปทางหนึ่ง พลางพยักหน้าให้คนงาน
" อาเว่ยจะทำอะไร"
"เว่ยชิง"
เว่ยชิงหันขวับไป เจ้าสัวแสนเข้ามา กวาดตามอง หลังร้านไม่มีฟ้าหยาด เว่ยชิงยืนอยู่กลางที่ล้างจานของโรงน้ำชา มีคนงานกำลังทำงานอยู่สองคน
"ฟ้าหยาดล่ะ"
"นางไม่ค่อยสบาย ข้าให้นางไปพักผ่อนแล้ว"
"แอ๊..." ฟ้าหยาดส่งเสียงได้แค่นั้น
"เสียงอะไร"
"เสียงหมูในเล้าเจ้าค่ะ หมูมันร้องหิวข้าว....ด้านหลังนี้สกปรก ท่านเจ้าสัวกลับเข้าด้านในเถอะเจ้าค่ะ ไปนะเจ้าคะ อั๊วจะไปส่ง"
เว่ยชิงโอบพาเจ้าสัวแสนออกไป นางชำเลืองไปทางด้านหลัง แล้วถอนหายใจ
ฟ้าหยาดถูกมัดปาก มัดมือผูกติดไว้กับเสาในเล้าหมู หมูเดินมาดม ฟ้าหยาดกรี๊ดลอดผ้าที่มัดปากอยู่ ฟ้าหยาดเจ็บใจเว่ยชิงมาก
เวลาต่อเนื่องมา เว่ยชิงมาส่งเจ้าสัวแสนที่หน้าโรงน้ำชา แสนยังดูอาวรณ์หาฟ้าหยาด
"วันนี้ไม่มีวาสนาจะได้ขึ้นสวรรค์กับแม่นางฟ้าหยาดก็ไม่เป็นไร"
อ่ำฟังอยู่ นึกทบทวนอยู่คนเดียว
"แม่นางฟ้าหยาด"
"อย่าเลยเจ้าค่ะ อย่าเลย"
"ข้าบอกแล้วนะเว่ยชิง คนอย่างแสน ส่องหล้า อยากได้เป็นต้องได้ ไว้ข้าจะมาหาแม่นางฟ้าหยาดคราหน้า และลื้อห้ามปฏิเสธเด็ดขาด"
เว่ยชิงหน้าเจื่อน แสนหันกลับและนั่งรถลากออกไป อ่ำยังยืนคิดครวญอยู่
"แม่นางฟ้าหยาด คนที่วันก่อนไปหาคุณหาญ แต่คืนนี้เป็นท่านเจ้าสัวมาติดพัน เอ...แม่นางคนนี้ จะเกี้ยวได้ทั้งพ่อทั้งลูกเชียวรึ"
เว่ยชิงได้ยินอ่ำพูดกับตัวเอง แต่คำพูดนั้นทิ่มแทงจนเว่ยชิงทนไม่ได้
"ยืนอยู่ทำไม ไอ้อ่ำ รีบตามนายเอ็งไปสิ ไป๊ แล้วอย่าพากลับมาที่นี่อีกเลยนะ ทั้งตัวพ่อตัวลูกเลย"
"หา.!! ..เอ้อ ขอรับๆ"
อ่ำรีบวิ่งตามรถลากของแสนกลับไป"
เว่ยชิงกลุ้มใจ ทรุดลงนั่งหน้าโรงน้ำชา
"อีบุหงา ความลับของลื้อมันจุกอกอั๊วอยู่ตรงนี้ อั๊วจะทำยังไงดีโว้ย"
บุหงาคิดไม่ออกว่าทำไมเว่ยชิงถึงมา และหญิงจีนคนนั้นจะเป็นใคร บุหงาเดินหนีจะกลับเรือนเล็ก พวงแก้วเดินตามมาหาเรื่อง กระชากตัวบุหงากลับมา
"หล่อนกับนังเว่ยชิงสมคบคิดกันจะหาเด็กสาวคนใหม่มาบำเรอท่านเจ้าสัวใช่ไหม"
บุหงาไม่รู้เรื่อง หาคำตอบไม่ได้ แต่พลิกเกมด่ากลับด้วยเรื่องความแก่ทิ่มใจดำ
"เฮอะ ! คงกลัวจะตกกระป๋องสิท่า คุณพี่ไม่ต้องกังวลใจหรอกนะค่ะ บุหงาไม่เสียแรงหาหญิงงามเมืองมากลั่นแกล้งคุณพี่หรอก เพราะว่า....หนังย้อยเหนียงยานอย่างคุณพี่ ท่านเจ้าสัวก็ไม่ชายตาแลนานแล้ว"
บุหงายิ้มเยาะ พวงแก้วปรี๊ดแตก ตบหน้าบุหงาฉาดใหญ่ด้วยความกราดเกรี้ยว บุหงาฮึดสู้ เงื้อมือ เอื้อยพุ่งเข้าขวางบุหงา
"อย่าทำร้ายคุณแก้วของข้านะ คุณบุหงา"
"เอ็งขวางมือนายข้าเหรอนังเอื้อย...มา เอ็งต้องเจอข้า"
เจียมจัดการ เอื้อยหลบวืบ จิกหัวกันไปมา บุหงาจะเข้ามาตบพวงแก้ว เอื้อยกันไม่ได้เพราะโดนเจียมลากไปทางหนึ่ง พวงแก้วตบคืน ฉาด !
เอื้อยผลักเจียมออก ปรี่มาขวาง
"คุณแก้ว !"
บุหงาจะเข้ามาอีก พวงแก้วชี้หน้าด่ากราด
"หญิงต่ำอย่างหล่อน ท่านเจ้าสัวฉุดขึ้นมาจากขี้ตม แต่เพลาผ่านก็ไม่ได้ช่วยให้หล่อนคายกลิ่นคาวหมดตัว ยังเกลือกกลั้วสมาคมกับของโสมมอยู่เหมือนเดิม คอยดูนะ ท่านเจ้าสัวกลับมา ข้าจะบอกเรื่องนังเว่ยชิงมาที่นี่"
"บอกก็บอกไป ไหนล่ะหลักฐาน ไม่มีใครรู้เห็น ก็เท่ากับคุณพี่ปรักปรำหาเรื่องฉัน"
"หึ ฉันมีหลักฐานก็แล้วกัน หากท่านเจ้าสัวรู้ว่า หล่อนนำพาเรื่องโสมมและทำเรื่องเสื่อมเสียให้ใต้หล้า หล่อนอาจจะโดนเฉดหัวออกไปจากใต้หล้าเลยก็ได้"
"หลักฐานอะไร บอกมาสิ หลักฐานอะไร"
บุหงาไม่กลัว โผเข้ามา พวงแก้วตั้งป้อมรอจะสู้กลับ
เสียงอ่ำดังมาก่อน
"พี่เอื้อย เตรียมน้ำอุ่นให้ท่านเจ้าสัวที ท่านกลับมาแล้ว"
พวงแก้วและบุหงาต่างลดมือ ไม่ตบกัน ต่างคนต่างรีบจัดผมเผ้าเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
เจ้าสัวแสนก้าวขึ้นเรือนมา อย่างหงุดหงิด
เมียทั้ง 2 คนเสียงหวาน เรียกพร้อมกัน "ท่านเจ้าสัว"
"คืนนี้ข้าจะนอนเรือนกลาง ไม่ว่าใครก็ตามห้ามมายุ่งกับข้า"
แสนผละไป พวงแก้วและบุหงาหน้าชาทั้งคู่
เอื้อยรีบกระซิบถามอ่ำ
"ท่านเจ้าสัวไม่สบอารมณ์ด้วยเรื่องอันใด"
"ท่านคงหงุดหงิด ไม่ได้ขึ้นห้องกับนางโลมเลืองชื่อ"
"ไอ้อ่ำ น้ำร้อน กูจะอาบน้ำ" แสนโวยเสียงดัง
อ่ำเหวอๆ รีบไป ไม่ทันเล่าหมดว่านางโลมชื่ออะไร สองเมียมองหน้าเหมือนจะกัดกัน พวงแก้วเดินสบัดออกไป บุหงาคับข้องใจ ความกลัวยิ่งแน่นอก จนอยากจะยกออก
อ่านต่อหน้า 2
ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 10 (ต่อ)
บุหงาครุ่นคิดนึกย้อนถึงเมื่อตอนกลางวันเห็นสาวชุดจีนแว๊บๆ แล้วตรงกับคำพวงแก้วที่ว่า เว่ยชิงมาใต้หล้าอีก
"เว่ยชิง มาที่นี่ทำไม หรือว่าจะมาบอกความลับของฉัน เจ๊เว่ยชิง ! คิดจะหักหลักฉันเหรอ"
บุหงาทั้งโกรธทั้งกังวล
วันใหม่ เดือนกวาดลานบ้านอยู่มุมหนึ่ง หาญเข้ามายิ้มให้
"คุณหาญ !"
"ฮะๆ เห็นหน้าเราคราใด แม่เดือนต้องเรียกชื่อเราครานั้น ทำไมรึ ตกใจ..กลัวลืมเรา หรือทวนว่าคิดถึงเราอยู่"
"มิได้เจ้าค่ะ บ่าวมิอาจ...บ่าวคงไม่มีอะไรจะพูดกับคุณหาญ บ่าวขอตัว"
เดือนจะเลี่ยงไปทางหนึ่ง เพราะเจียมตน เห็นว่าหมู่นี้ หาญมีหญิงควงแล้วคือฟ้าหยาด หาญรีบดึงมือเดือน
"เดี๋ยวก่อนสิแม่เดือน เรามีของจะให้"
มุมหนึ่ง ดาวโผล่มา หิ้วเข่งใส่เศษใบไม้จะเข้ามาหาเดือน
"นังเดือน...เอ็งกวาดเสร็จหรือยัง...อุ๊ย !"
ดาวยังมาไม่ถึงตัวเดือน แต่เห็นเดือนอยู่กับหาญ หาญส่งผ้าสีนวลจันทร์พับหนึ่งใส่มือเดือน
ดาวมองด้วยความอิจฉา ทิ้งตะกร้าใบไม้ลงพื้นแล้วรีบวิ่งไปทางเรือนใหญ่
เดือนนั่งมองผ้าสีนวลจันทร์อยู่ที่เรือนทาส ดาวมองผ้าด้วยความอิจฉา เย้ยเยาะ
"ท่าเอ็งจะปลาบปลื้มมากสินะ"
ดาวกระชากผ้ามาจากเดือน
"เอาของข้าคืนมานะดาว"
"เอ็งใช้มารยาใดหลอกล่อคุณหาญ คุณหาญจึงได้ซื้อผ้าผืนนี้ให้เอ็ง"
"ไม่ใช่นะดาว ไม่ใช่อย่างที่เอ็งคิด ข้าไม่ได้ทำอะไรอย่างที่เอ็งหยามหมิ่น"
"ตอแหล ข้าไม่เชื่อ เอ็งมันอีร้อยเล่มเกวียน"
ดาวกางผ้า ทำท่าจะฉีก เดือนเข้ามาแย่ง
"เอ็งจะทำอะไร อย่านะดาว อย่า เอาของข้าคืนมา"
"หวงนักหรือ แสดงว่าคุณหาญให้เอ็งมาจริงๆ หึ"
เดือนเข้ามาแย่ง ดาวผลักเดือนออก เดือนแย่งอีก กลายเป็นยื้อยุดผ้าคนละด้าน
"เอาของข้าคืนมา"
"อยากได้ก็แย่งกลับไปสิ"
ทั้งคู่ต่างดึงกันไปมาจนผ้าขาด เดือนตกใจ
"ดาว...ทำไมเอ็งทำอย่างนี้"
ดาวกระชากผ้าที่ขาดแล้ว ให้ขาดอีก ฉีกทึ้ง แล้วปาลงพื้น เหยียบขยี้ซ้ำให้เปรอะดิน
"อ้าว ตายแล้ว ผ้าขาด เพราะเอ็งนะที่มาฉีก...ฮ่าๆ ผ้าขาดห่มไม่ได้แล้ว ข้าขอเป็นผ้าขี้ริ้วเช็ดตีนก็แล้วกันนะ ฮ่าๆ"
"ดาว...เอ็งรู้ไหมถ้าคุณท่านรู้เข้า เอ็งจะเป็นเยี่ยงไร"
"เฮอะ เอ็งจะฟ้องเรอะ เอาเลย ไปฟ้องคุณท่าน เพราะเอ็งนั่นแหละที่จะต้องโดนโทษฐานอ่อยคุณชายของใต้หล้า"
"ดาว เอ็งพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ"
ดาวยิ้มเยาะ มั่นเข้ามา หน้าตาตื่น
"นังเดือน คุณแก้วเรียกหา...เอ็งไปทำเรื่องอันใดให้คุณท่านโกรธหรือนังเดือน"
ดาวยิ้มร้ายกาจ เดือนตกใจ ไม่รู้เรื่อง
พวงแก้วมองหน้าเดือนด้วยความไม่พอใจ
"นังดาวมาบอกข้าว่า เอ็งบังอาจประจบลูกหาญของข้าเพื่อขอผ้าห่มผืนใหม่"
เดือนก้มหน้าหมอบอยู่ต่อหน้าพวงแก้ว แล้วชำเลืองมองดาว รู้แล้วว่าที่พวงแก้วเรียกมาเพราะดาวไปฟ้องเรื่องผ้า ดาวได้ทีข่มเดือน เจื้อยแจ้วประจบ
"บ่าวก็ไม่ได้อยากเป็นคนขี้ฟ้องดอกเจ้าค่ะ แต่บ่าวเห็นว่าคุณแก้วเคยอบรมไม่ให้บ่าวไพร่ในเรือนมักใหญ่ใฝ่สูง บ่าวเห็นว่านังเดือน..."
"นังดาว หุบปาก คุณแก้วกำลังซักความนังเดือน ไม่ใช่เพลาที่เอ็งต้องสาระแน" เอื้อยบอก
"ว่าอย่างไร นังเดือน"
"บ่าวมิได้กระทำเยี่ยงนั้นนะเจ้าคะ บ่าวมิได้ประจบคุณหาญ บ่าวไม่ได้ขออะไรจากคุณหาญทั้งสิ้น"
"ยังจะโกหก ข้าเห็นกับตา เอ็งขอผ้าจากคุณหาญ"
ดาวหมายมั่น พวงแก้วมองเดือนแทบจะเผาให้ตายไปตรงนั้น
บุหงา สายฝน และเจียมลอบฟังพวงแก้วกำลังซักความเดือนอยู่ที่บริเวณใต้ถุนเรือน
"ทำไมเราต้องมาแอบดูแอบฟังบ้านนังแก้วด้วยแม่ ทำเหมือนหมาลอบกัดเค้า"
"เอ๊ะ นังลูกโง่ รู้เขารู้เรา จะหาเรื่องมันก็ต้องรู้จุดอ่อนของพวกมัน"
"จุดอ่อนตระกูลนังคุณแก้วจะมีอะไร นอกจากหวงลูกชาย หวังจะให้ได้ผู้หญิงดีๆ แต่ก็ดันมีแต่ทาสไพร่สาวๆในใต้หล้า คุณแก้วก็คงหวั่นใจลูกตัวเองจะไขว้เขวเพราะอีนังพวกนั้นไปยั่วละมั้ง" สายฝนว่า
"เก่งนี่ สมแล้วที่เป็นลูกแม่ ฟังต่อสิมันพูดอะไรกัน"
สายฝนงง ตัวเองก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย แต่บุหงารู้ว่านี่เป็นจุดอ่อนของพวงแก้ว ทั้งหมดมองเข้าไปในเรือนต่อ
เดือนยังคงปฏิเสธ
"บ่าวไม่ได้ขอผ้าจากคุณหาญจริงๆเจ้าค่ะ"
"แต่ข้าเห็นเอ็งได้รับผ้าจากคุณหาญ ข้าเห็น"
"แล้วไหนล่ะผ้าที่เอ็งว่า"
เดือนย้อน ดาวเงียบ พวงแก้วมองทั้งคู่ ยังไงกัน หาญเดินเข้ามา อ่ำหิ้วหอบผ้าสีต่างๆมาด้วย
"ผ้าแบบนี้น่ะรึที่พวกเจ้ากำลังพูดถึงอยู่"
อ่ำวางห่อผ้า หาญแกะห่อออก เห็นว่ามีผ้าพับหลายสีหลายผืนซ้อนกันอยู่
"พ่อหาญ ! นี่พ่อหาญซื้อผ้ามาให้นังเดือนมันจริงรึนี่"
"ขอรับคุณแม่"
แก้วอึ้ง เดือนเหวอ ดาวสะใจที่เดือนจะต้องได้รับโทษ แต่ก็เจ็บใจว่าเดือนได้ผ้าจากหาญด้วย
"กระผมซื้อมาแจกจ่ายแก่ทาสไพร่ในเรือนทุกคนขอรับ ตอบแทนความเหนื่อยยาก อีกทั้งเมื่อคราฉลองวันคล้ายวันเกิดกระผม ทุกคนในใต้หล้าร่วมแรงทำงานแข็งขัน กระผมอยากตอบแทนน้ำใจ"
พวงแก้วใจชื้นขึ้น แต่ยังไม่หายข้องใจ
"แล้วเหตุอันใดลูกถึงต้องไปมอบผ้าให้แม่เดือนถึงมือมัน เรียกมารับกับแม่ก็ได้"
"เอ่อ...ผ้าผืนนั้น"
หาญอึกอักไป เดือนก้มหน้าด้วยความตรอมใจ
"พ่อหาญ"
"ผ้าสีนวลจันทร์ผืนที่บ่าวได้รับ เป็นแม่หญิงบุษบาบรรณซื้อให้ แล้วฝากคุณหาญมาให้บ่าวเจ้าค่ะ"
พวงแก้วอึ้งไป ลำดับความ หาญพยักหน้ารับ พวงแก้วสีหน้าดีขึ้นมาก
"จริงรึพ่อหาญ นั่นก็แสดงว่าพ่อหาญไปพบกับแม่หญิงบุษบาบรรณ"
"ขอรับ ตอนที่ลูกไปร้าน บังเอิญได้พบแม่หญิงบุษบาบรรณ หลังจากนั้นจึงได้โอภาปราศรัยกันเล็กน้อย"
หาญจำต้องตอบความจริงกับแม่ แม้จะรู้ว่าจะทำให้เดือนเข้าใจผิด
พวงแก้วดีใจที่หาญเริ่มสนิทสนมกับบุษบาบรรณ คิดว่าแผนการที่จะจับคู่ช่างเข้าทางเสียจริง
พวงแก้วยิ้ม
"คงไม่เล็กน้อยแล้วมั้ง ได้พูดคุย ไปเดินตลาดซื้อผ้าด้วยกัน แม่ไม่คาดเลยว่าพ่อหาญกับแม่หญิงจะสนิทกันเร็วถึงเพียงนี้ แม่ดีใจจริง"
"เยี่ยงนั้นก็แสดงว่า นังดาวมันใส่ความนังเดือนแล้วเอามาฟ้องคุณท่านน่ะสิเจ้าคะ"
เอื้อยมองดาวด้วยความไม่พอใจ ดาวเหวอ อึกอัก พวงแก้วปรายตามอง แล้วตัดสินใจ
ดาวถูกมัดอยู่กับขื่อ เอื้อยถือหวาย เตรียมโบยดาว เดือนอยู่กับชื่นและมั่น มองอยู่ แต่ไม่กล้าพูดอะไร
"นังเอื้อย โบยนังดาว 5 ครั้ง ฐานที่มันสาระแนแต่งเรื่อง ทุกคนในใต้หล้าย่อมรู้ ว่าข้าไม่ชอบคนโกหก จงจำใส่กะลาหัวไว้ นังดาว โบย"
แก้วพยักหน้า เอื้อยลงหวายครั้งที่ 1 ดาวร้องโวยวาย
"อ๊าก เจ็บ... คุณท่านเจ้าขา บ่าวเข้าใจผิด บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ"
ขวับ ! เอื้อยลงหวายที่หลังดาวครั้งที่สอง ที่หลังของดาว มีรอยแดงขึ้นเป็นรอยที่สอง
"คุณแม่ขอรับ กระผมว่าพอเถอะขอรับ ที่กระผมเอาผ้าไปให้แม่เดือน อาจทำให้แม่ดาวเข้าใจผิดไปจริงๆ หากเรื่องนี้รู้ถึงแม่หญิงบุษบาบรรณ แม่หญิงอาจไม่สบายใจได้"
เดือนฟังอยู่ ถึงกับซึมลงอีก เข้าใจไปว่าหาญเป็นห่วงความรู้สึกบุษบาบรรณ
ขวับ ! เอื้อยลงหวายครั้งที่สาม
"เห็นแก่แม่หญิงบุษบาบรรณและพ่อหาญดอกนะ พอแล้วแม่เอื้อย"
เอื้อยไม่ยั้งมือ เลยลงหวายไปอีกเป็นครั้งที่ 4 ดาววี๊ด
"แหม่ ข้ายั้งมือไม่ทัน"
เดือนรีบมาปลดเชือกให้ดาว จะดูแผลให้ ดาวสะบัดเดือนออก
"กราบขอบพระคุณคุณแก้วเสียนังดาว" ชื่นว่า
ดาวรีบกราบแก้ว เจ็บหลังจนน้ำตาร่วง พวงแก้วเดินกลับเรือนไปพร้อมหาญและเอื้อย หาญพะวงความรู้สึกเดือนมาก แต่ไม่มีโอกาสคุย
หาญและเดือนส่งถึงสายตากัน ดาวเจ็บใจและเกลียดชังเดือน
บุหงา สายฝนและเจียม มองพวงแก้วที่มาส่งหาญหน้าใต้หล้า
"คอยจับตาไอ้กล้าไอ้หาญให้ดี ถ้ามันทำอะไรเสื่อมเสีย คุณพ่อของลูกคงไม่พอใจมากแน่ๆ" บุหงาบอก
"ถ้าไอ้พี่กล้ากับไอ้หาญมันมีเรื่องชั่วๆ สายฝนก็จะเป็นลูกรัก อยากได้อะไรก็ได้"
"ตอนนั้นใต้หล้าก็จะเป็นของเรา ท่านเจ้าสัวจะเชื่อแม่คนเดียว ส่วนอีแก้วแม่จะเหยียบให้มันจมดินไปเลย"
"เยี่ยงนั้น สายฝนจะทำเป็นตามไอ้หาญไปที่ร้าน คอยจับตาดูพวกมันสองพี่น้อง"
"ไม่ใช่ไปเฝ้าคุณหยกหรือคะคุณสายฝน" เจียมว่า
"อีเจียม"
"ฉันให้แกไปตามไอ้กล้า ไอ้หาญ ไม่ใช่ให้แกไปหาไอ้หยกนะ"
"รู้แล้วน่าแม่"
สายฝนทำรับคำแล้วหันไปหยิกเจียม แล้วหันหน้าไปปะเหลาะบุหงา บุหงาพยักหน้าให้ไปได้แล้ว
หาญออกจากใต้หล้าไปทำงาน สายฝนรีบถลาตามไป
"นายหาญ...สายฝนไปด้วย"
บุหงามองสายฝนออกไปกับหาญ พวงแก้วตวัดสายตามองบุหงาแต่ไกล แววตาไม่เข้าใจและไม่ไว้ใจบุหงา
อ่านต่อหน้า 3
ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 10 (ต่อ)
พวงแก้วและบุหงาปะหน้ากันก่อนจะเข้าไปในห้องอาหารในเรือนใหญ่ ทั้งสองจ้องหน้ากัน
"หล่อนจะทำอะไรฉันไม่ระคายดอก เพราะหล่อนไม่มีทางเอาชนะฉันได้"
"คุณพี่ก็คอยดูแล้วกัน"
บุหงาเย้ย พวงแก้วยิ้มเย็น เพราะมีของจะจัดการกับบุหงา พวงแก้วหันไปพยักหน้ากับเอื้อยที่พยักหน้ารับ
ทั้งคู่เดินเบียดไหล่เขม่นกันเข้าเรือน ทั้งคู่ต่างได้ยินเสียงพูดอารมณ์ดีของเจ้าสัวแสน
"ไอ้อ่ำ เอ็งดูที ข้าแต่งตัวแบบนี้ ดูลดอายุลงไปได้ไหมวะ"
ทั้งสองเมียต่างอึ้ง งง รีบเข้าไปข้างใน
แสนดูจะเอาใจใส่การแต่งตัวเป็นพิเศษ หวีผม ลงน้ำมัน สวมเสื้อผ้าที่ลวดลายดูลดวัย จนเกือบแต่งกายลม้ายคล้ายวัยเดียวกับลูกชาย ทั้งคู่เข้ามาอย่างแปลกใจ ต่างคนต่างรีบเอาหน้า
"ท่านเจ้าสัว ทำไมวันนี้แต่งตัวซะหนุ่มฟ้อเชียวเจ้าค่ะ"
บุหงาแปลกใจเช่นกัน แต่จำต้องตามน้ำเอาใจท่านเจ้าสัว
"ท่านทำให้บุหงาคึกคักกระปรี้กระเปร่าจริงเชียว ถ้าแบบนี้คืนนี้บุหงาคงไม่ได้นอนทั้งคืนเป็นแน่"
บุหงาทำดีดดิ้น พวงแก้วหมั่นไส้
"หล่อนไม่ได้นอนทั้งคืน จะทำอะไร" เจ้าสัวถาม
"แหม ท่านก็ทำเล่นลิ้น บุหงาก็จะปรนนิบัติรับใช้ท่านเจ้าสัวอย่างไรเล่าเจ้าคะ"
"นึกว่าหล่อนจะเป็นผีโขมด ออกหากินกลางคืน" พวงแก้วว่า
แสนหัวเราะลั่นด้วยความครื้นเครง พวงแก้วแปลกใจที่แสนไม่โกรธ แต่ไม่ค่อยข้องใจเพราะถือว่าตนไม่เสีย บุหงาค้อนจิกแก้วก่อนจะปราดเข้าเกาะแขนเจ้าสัว
"ท่านเจ้าสัวดูท่าอารมณ์ดีเป็นพิเศษ มีเหตุอันใดควรฉลองหรือเปล่าคะ"
"ไม่มีอะไรนี่ แล้วพวกหล่อนสองคน มีอะไร"
"ไม่มีอะไรค่ะ บุหงาเพียงแต่อยากดูแลท่าน"
"แม่บุหงาโกหกหรือเปล่า"
"หมายความว่าอะไร"
"คุณพี่จะกล่าวหาอะไรบุหงาอีก"
พวงแก้วยิ้มเย็นใจ เอื้อยเข้ามา ส่งพัดให้ พวงแก้วคลี่ออก ต่อหน้าแสนและบุหงา
"จำพัดนี่ไม่ได้หรือแม่บุหงา"
"หมายความเยี่ยงไร คุณพี่เอามาจากไหน"
"พัดของนังเว่ยชิง เว่ยชิงมาที่นี่ มันมาเพราะมันนัดกับหล่อนไว้ใช่หรือไม่"
บุหงาช็อกไปทันที
"เว่ยชิงรึ !"
เจ้าสัวแสนคิดคำนวณว่า เว่ยชิงมาที่ใต้หล้าทำไม เพราะเมื่อคืนเหมือนเว่ยชิงไม่อยากให้ตนไปที่โรงน้ำชาด้วยซ้ำ
พวงแก้วและบุหงาไม่รู้ว่าคืนก่อน แสนไปโรงน้ำชา
"ท่านเจ้าสัวดูสิคะ แม่บุหงามันยังลักลอบสมาคมกับนังเว่ยชิง ยังเกลือกกลั้วสมาคมกับคนพรรค์นั้น ดีไม่ดี แม่บุหงาอาจนำเรื่องเสื่อมเสียมาสู่ใต้หล้า"
"หล่อนรู้เรื่องเว่ยชิงมาที่นี่หรือไม่บุหงา"
"เออ...ไม่ไม่ค่ะ คุณพี่แก้วใส่ร้ายบุหงา บุหงาไม่รู้เรื่องจริงๆค่ะท่านเจ้าสัว"
พวงแก้วยิ้มเยาะ คิดว่าแสนจะด่าบุหงาแน่นอน
"ท่านเจ้าสัวคงจะต้องทำโทษแม่บุหงาให้หนักนะเจ้าคะ ป้องกันที่นางอาจจะนำเรื่องเสียหายมาสู่ใต้หล้า โทษฐานติดต่อกับนางแม่เล้าคนนั้น"
"นำเรื่องเสื่อมเสียมาสู่ใต้หล้ารึ...เรื่องอะไรล่ะแม่แก้ว"
"ท่าน"
"แล้วเกิดขึ้นหรือยัง....ก็ยังไม่เกิด ข้าว่า การจะสมาคมกับนางเว่ยชิงคงไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่างไรเสีย แม่บุหงาก็เคยรู้จักเว่ยชิง หากจะยังพูดคุยติดต่อตามประสาเพื่อนมนุษย์ คงไม่ได้น่าเกลียดอะไร เพราะหมู่นี้ ข้าก็ได้พูดจากับเว่ยชิงอยู่บ่อยๆ"
แสนหัวเราะหึๆ แล้วออกไป
พวงแก้วกับบุหงาต่างเป็นงง เหวอไปตามๆกัน แต่บุหงาอึ้งกับคำที่แสนว่าได้พูดจากับเว่ยชิงบ่อยๆนี่แหละ
เว่ยชิงมองซ้ายขวา ทั้งแปลกใจทั้งกังวลใจ เดินเข้ามาในตรอกเปลี่ยวกลางตลาด บุหงารออยู่ โยมีเจียมคอยเฝ้าต้นทางให้ เว่ยชิงกังวลกลัวบุหงารู้เรื่องเมื่อคืน แต่ซ่อนพิรุธไว้
"ให้คนไปเรียกอั๊วมา มีอะไร"
บุหงาเปลี่ยนจากยิ้มมุมปากเบาๆ เป็นกระชากคอเว่ยชิงจนแทบจะบีบคอ
"เจ้จะทรยศฉันเหรอ"
"ทรยศ ? เรื่องอะไร อั๊วยังไม่ได้ทำอะไรเลย"
"แล้วเจ้ไปที่ใต้หล้าทำไม เจ้จะเรียกร้องอะไร หรือว่านังฟ้าหยาด"
"นังฟ้าหยาดมันไม่ได้ไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น อั๊วแค่ผ่านไป แล้วดันเจอกับนังแก้ว อีนังแก้วมันก็จ้องแต่จะหาเรื่องจับผิดหน่ะสิ ลื้อก็เลยต้องตกเป็นเหยื่อของมัน"
เว่ยชิงสะบัดบุหงาออก เว่ยชิงซ่อนสายตาพิรุธแนบเนียน
"เจ้ก็น่าจะจำได้นะ ความลับต้องเป็นความลับ เรื่องนังฟ้าหยาดมีแค่ฉัน เจ้ กับอีเจียมเท่านั้นที่รู้"
เว่ยชิงมองหน้าเจียม เจียมนิ่ง ไม่รู้ว่าเจียมคิดอะไรบ้าง
"อั๊วไม่เคยแพร่งพรายอะไรเลย อีนังเด็กคนนั้นก็โตไปตามเวรตามกรรมของมัน อั๊วไม่เคยบอกอะไร ส่วนอีตาดก็ตายไปนานแล้ว มันก็ไม่มีใครพูดเรื่องนี้อีก มีแต่ลื้อที่ขุดมันขึ้นมา"
"งั้นก็แล้วไป...ดีแล้ว ที่เจ้จำชะตากรรมอีแม่หมอตำแยคนนั้นได้ เพราะใครขวางทางฉัน เปิดเผยความลับฉัน มันจะมีจุดจบแบบเดียวกับอีตาด"
เว่ยชิงพยักหน้า ทำนองว่ามีแค่นี้ใช่ไหม เว่ยชิงมองลู่ทางซ้ายขวา ไม่มีคนเห็น รีบไปทางหนึ่ง
บุหงากับเจียมเดินออกจากตรอกไปอีกทางหนึ่ง
มุมหนึ่ง มียายแก่ชราถือตะกร้าขายสมุนไพร ใบไม้ใบหญ้าอยู่ตรงหน้า ยายแก่มองตามบุหงา นางค่อยๆเปิดผ้าคลุมใบหน้าออก
บุหงาและเจียมเดินผ่านถนนบริเวณตลาดสำเพ็ง ยายแก่นั้นขายของอยู่ แต่เมื่อเห็นทั้งคู่เดินมา ก็ก้มหน้าลงทำเป็นหาของ เพื่อหลบหน้า จนบุหงาและเจียมเดินผ่านไป นางจึงเงยหน้าขึ้น
ยายแก่ชรานั้น มีแผลเป็นใหญ่ทำให้ใบหน้าเสียโฉมไปครึ่งหนึ่ง จำแทบไม่ได้ นางคือ ตาด อดีตหมอตำแยที่เคยทำคลอดให้บุหงาแล้วโดนเจียมฆ่า ที่นึกว่าตายไปแล้วเมื่อ 20 ปีเศษ
"โชคดีที่กูไม่ตายอีนังบุหงา กูทำคลอดลูกมึง กูกุมความลับมึงอยู่ อีบุหงา"
ตาดตาวาววับด้วยความอาฆาตแค้น
หญิงชาวบ้านดูท่าทางสะดิ้ง 2 คน เดินมาใกล้ตาด แล้วเรียก
"แม่หมอ...แม่หมอขายยาหม้อ ยาสมุนไพรด้วยใช่ไหม" แล้วหญิงนั้นก็ก้มลงกระซิบ "ข้าได้ข่าวว่าแม่หมอทำยาเสน่ห์ได้ด้วย"
ตาดยิ้มมุมปาก พยักหน้า
ตาดกลับมาในพระนครครั้งนี้ ได้ประกอบอาชีพแม่หมอปรุงยา
แสนนั่งสบายใจอยู่ที่ร้าน พวงแก้วตามเข้ามาถาม
"ท่านเจ้าสัวเจ้าคะ ท่านว่ายังพูดคุยกับนังเว่ยชิง นี่มันหมายความเยี่ยงใด"
"เรื่องแค่นี้ทำเสมือนเรื่องใหญ่โต ข้าก็พบปะกับนางเว่ยชิงทั้งบังเอิญไม่บังเอิญบ้าง จะเป็นอะไร"
"ท่านเจ้าสัว อิฉันไม่พึงใจนะเจ้าคะ"
"ข้าเคยบอกแล้วใช่ไหมแม่แก้ว คนอย่างแสน ส่องหล้า ไม่มีใครมาสั่งได้ ยกเว้น ดวงมันสั่งให้มันเป็นไปอย่างนั้น ก็คงต้องเป็น"
พวงแก้วถอนหายใจ เหนื่อยใจความเจ้าชู้ของแสน เอื้อยอยู่ใกล้แอบบีบขาให้กำลังใจนาย
"พูดถึงดวง ซินแสเทียนก็มาพอดี"
"อรุณสวัสดิ์ค่ะซินแสเทียน ลมอะไรหอบมารึคะ" พวงแก้วว่า
"ลมแห่งความเปลี่ยนแปลงกระมัง...ดูท่าท่านเจ้าสัวจะอยากมีข่าวดีในเร็ววันนี้"
"ท่านเจ้าสัวจะมีข่าวดี...ท่านเจ้าสัวทำไมทำแบบนี้ ก็รู้อยู่อิฉันไม่พึงใจ"
"โอย แม่แก้ว ข้าให้ท่านซินแสมาดูดวงให้ตาหาญตากล้า ข้าอยากให้ลูกชายออกเรือนเป็นฝั่งเป็นฝาซะที ข้าอยากจะรู้นักว่าชะตาเจ้าลูกคนไหนจะส่งเสริมให้ใต้หล้ารุ่งเรืองกว่านี้"
พวงแก้วเปลี่ยนสีหน้าทันที ยิ้มย่องผ่องใสขึ้น เชื้อเชิญซินแสนั่งลง รีบบีบนวดเอาใจแสน แสนถอนหายใจ กึ่งรำคาญกึ่งเหนื่อยหน่าย
กล้าและหยกนั่งอยู่ต่อหน้าซินแสเทียน สายฝนแทบจะเกาะอยู่ใกล้ๆหยกทางหนึ่ง
"นอกจากดวงชะตา เพลาเกิดแล้ว ครานี้ อั๊วจะดูลายมือให้ลื้อทั้งคู่ด้วย"
"ดูให้สายฝนด้วยได้ไหมคะอาเจ้ก ดูว่าสายฝนจะได้แต่งงานกับ..." สายฝนเหลือบมองหยก " เมื่อไหร่"
"อย่าดีดดิ้นให้มากนักเลยแม่สายฝน อยู่นิ่งๆ ถ้าซินแสท่านเมตตา ท่านคงจะดูให้" เจ้าสัวปราม
ซินแสเทียนมองหน้าสายฝนปราดเดียว ยิ้มบางๆ
"ลื้อเกิดวันเดียวกับพ่อหาญ เพียงแต่ต่างฤกษ์ยามไปเสี้ยวหนึ่ง โชคของลื้อคือมีทุนชีวิตหนา แต่ชะตาจะอัปลักษณ์ ที่หวังไม่ได้ ที่ได้ไม่ได้หวัง หากลื้อได้พบบทเรียนเมื่อไหร่ลื้อจะมีชีวิตที่ดีเมื่อนั้น"
สายฝนเหวอ ฟังแล้วยังไม่เข้าใจ ตีความสองสามชั้นไม่เป็น
"ดีหรือไม่ดีน่ะพี่หยก"
"น้องสายฝนฟังแล้วไม่เข้าใจหรือครับ"
"เท่าที่พี่รู้คือ สิ่งใดที่น้องสายฝนหมายตา" กล้าเหลือบมองหยก บอกเป็นนัย "น้องจะไม่มีทางสมหวัง ฮ่าๆ เสียใจด้วยนะน้องสายฝน"
สายฝนหมั่นไส้กล้า อยากจะกรี๊ด แต่ติดสายตาของพ่อ สายฝนจำต้องนิ่ง
ซินแสเทียนตรวจลายมือกล้า ถึงกับอึ้งไป เงยหน้ามองกล้า และแอบชำเลืองมองหยก
"ชะตาของลูกกล้าเป็นเยี่ยงไรคะซินแส"
"ซับซ้อนเกินไป เอาเป็นว่าต่อจากนี้ไปขอให้พ่อกล้า อย่าได้เบี่ยงเบนจิตใจไปทางใด อย่าฝักใฝ่ในของต้องห้าม ขอให้ยึดในขนบธรรมเนียมเดิมให้มั่นคง"
กล้าแอบชำเลืองมองหยก หยกอึ้งไปรู้ว่า เทียนหมายถึงรักต้องห้ามแน่นอน เพราะเทียนเคยเตือนหยกแล้ว
"หมายความเยี่ยงใด ซินแส" เจ้าสัวบอก
"อั๊วขอตรวจให้ละเอียดอีกครั้งแล้วจะอธิบายให้คราหน้านะ"
"ก็ได้...ทีนี้ ชะตาของพ่อหาญเล่า จะเป็นเยี่ยงใด"
เทียนยิ้มกว้าง หาญงง กล้าหมองลง พวงแก้วเห็นต้องบีบมือปลอบใจ
"ชะตานี้ มีคู่ครองแล้ว"
"อุ๊บ๊ะ" แสนอุทาน
"คู่ครองของพ่อหาญจะเสริมดวงให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป ทำอะไรก็ก้าวหน้า สตรีนางนี้เป็นสตรีผู้คอยหนุนเป็นกำลังใจเป็นหัวใจของพลังชีวิตพ่อหาญ จะช่วยให้พ่อหาญเข้ารับราชการ สร้างความรุ่งเรืองแก่ใต้หล้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เทียว !"
"ดีจริงๆลูกพ่อ พ่อจะสมหวังก็ครานี้"
สายฝนเบ้ปากแอบอ๊วก
"สตรีผู้เพียบพร้อมผู้นี้เป็นใครหรือคะ เป็นคนที่พบกันแล้ว รู้จักกันแล้วใช่หรือไม่" พวงแก้วถาม
"เอ...ดูท่าว่าจะวนเวียนเข้ามาในชีวิตแล้ว แต่อั๊วไม่อาจเจาะจงได้ว่าเป็นผู้ใด หากแต่บอกได้ว่า สตรีผู้ค้ำจุนดวงนายหาญนั้น เกิดในชะตาจันทร์เต็มฟ้า เป็นคืนเดือนหงาย ปีระกา เพลาเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว"
"แค่หาสตรีนางนั้นให้พบรึ"
"หากรู้ชะตาตกฟากของนาง นำมาให้อั๊วตรวจสอบได้จะยิ่งดี"
แสนและพวงแก้วพอใจคำทำนายของหาญมาก แสนลูบหัวหาญอย่างรักใคร่ กล้ารู้สึกไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น น้อยใจ อึ้ง เงียบไป หยกแอบบีบมือปลอบใจ เทียนปรายตามาเห็น หยกรีบปล่อยทันที กล้ายิ่งน้อยใจหนักเข้าไปอีก
สายฝนมองคนนั้นคนนี้ด้วยความอิจฉา ของตัวเองก็ตีความไม่ได้ ส่วนของกล้า สายฝนยิ่งฟังไม่เข้าใจ รู้แต่ดวงของหาญดีเลิศอยู่คนเดียว
อ่านต่อหน้า 4
ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 10 (ต่อ)
ดาวนั่งเจ็บใจอยู่มุมหนึ่งในเรือนทาส ทั้งยังเจ็บหลัง เอี้ยวตัวไปจับรอยแดงจากหวายแล้วยิ่งปรี๊ด เดือนเข้ามาพร้อมกับยาหนึ่งฝาหม้อ
"ดาว เอ็งเจ็บหรือเปล่า"
"มาลองโดนหวายดูบ้างไหมล่ะ เดี๋ยวข้าเฆี่ยนเอ็งเอง"
"มาเถอะ ข้าจะทายาให้"
เดือนป้ายยาลงที่หลังดาว ดาวแสบมาก ปัดถ้วยยา ผลักเดือนออก
"ไม่ต้องมายุ่ง เอ็งจะซ้ำเติมข้าใช่ไหม เอ็งมันหน้ามึน หาเรื่องให้ข้าเจ็บตัว"
"มันใช่ไหมล่ะดาว เอ็งหาเรื่องข้านะ หนำซ้ำคนวิ่งไปฟ้องคุณท่านก็เป็นเอ็ง"
"แล้วทำไมเอ็งไม่บอกความจริงแต่แรก ทำไมเอ็งถึงอมพะนำไว้ เอ็งอยากให้ข้าโดนทำโทษ เอ็งนั่นแหละนังเดือน เอ็งมันเลว อิจฉาข้า ถุย ไม่ต้องมายุ่งกับข้าเลย"
ดาวผลักเดือนหงายหลังไปแล้วออกไป เดือนได้แต่ระอา
ดาวหงุดหงิดออกมาจากใต้หล้า เจอตาดที่ลับๆล่อๆอยู่หน้าใต้หล้า
"ยายมาทำลับๆล่อๆอะไรแถวนี้ ห๊ะ"
ตาดไม่กล้าถามเท่าไหร่
"คุณบุหงาอยู่ที่นี่ใช่ไหม"
"มีอะไรกับคุณบุหงา แล้วยายเป็นใคร"
ดาวมองหน้าเหวอะหวะมีแต่แผลเป็นของตาด ยี้ใส่ ตาดมองหน้าดาว
"เอ็งเป็นทาสในเรือนใต้หล้านี่รึ"
"สวยๆอย่างข้าน่ะรึจะเป็นทาส หึๆ พูดให้ดีๆนะยายแก่แผลเป็น"
"ฮึ คนเป็นนายคงไม่โดนเฆี่ยนหลังลายแบบนั้นหรอก"
ตาดชำเลืองตาปราดเดียว ดาวเหวอ มองหน้าตาด
"ยายเป็นใคร"
"เอ็งไม่ต้องรู้ว่าข้าเป็นใคร...เอาสมุนไพรนี่ไปพอกทา สองวันหาย ผิวบางๆของเอ็งจะไม่มีแผลเป็น"
ตาดหยิบกำยาสมุนไพรส่งให้ดาว ดาวมองอย่างลังเล
"ถึงจะเป็นทาส แต่เอ็งก็เป็นหญิง ผู้หญิงย่อมมีความงามเป็นอาวุธ"
ตาดพูดไปชำเลืองมองเข้าไปในใต้หล้า นึกถึงบุหงาที่สวยแต่มีพิษ
"แล้วจะให้บอกคุณบุหงาว่าใครมาหา"
"ไม่ต้องบอก ไม่ต้องรู้เป็นดีที่สุด"
ตาดรีบเดินออกไป ดาวมองตามอย่างสงสัยมาก มองยาในมือชั่งใจ แต่ติดใจคำพูดของตาดว่าผู้หญิงต้องมีความงามเป็นอาวุธ ดาวเก็บสมุนไพรไว้
หยกโดนซินแสเทียนลากเข้ามาในศาลเจ้า ด้านในเป็ฯที่ลับตาคน เทียนไม่เก็บความโกรธ
"อาหยก ทำไมลื้อทำอย่างนั้น"
"โอ๊ย เจ็ก...ตีผมทำไม ผมทำอะไรผิดขอรับ"
"ลื้อไม่ต้องมาทำไขสือ อั๊วเห็น ลื้อแอบ...ลื้อจับมือคุณกล้า"
เทียนไม่อยากจะพูด ยิ่งพูดยิ่งละอายต่อพฤติกรรมเบี่ยงเบนของหลานตัวเอง
"อาเจ็ก ! อั๊ว...เอ่อ"
หยกแก้ตัวไม่ออก รู้ว่าซินแสเทียนเห็น แต่ก็ไม่กล้าจะปฏิเสธเพราะใจรักกล้าไปแล้ว
"อั๊วเคยเตือนลื้อไปแล้วให้ห่างจากคุณกล้า อย่าเข้าใกล้อี อย่ายุ่งกับอี อย่าให้เรื่องหยำฉ่าบังเกิดขึ้นเพราะลื้อมีใจเป็นบุรุษบกพร่อง"
หยกเจ็บปวด
"อั๊วน่ะหรือ บกพร่องในความเป็นบุรุษ แล้วมันผิดตรงไหนล่ะเจ็ก"
"ผิด !"
"อั๊วทำผิดตรงไหนหรือ"
"ลื้อมันผิด...ผิดปรกติ"
ซินแสเทียนและหยกมองหน้ากัน ต่างคนต่างเจ็บปวด เทียนกลัวว่าหยกจะเป็นชายวิปริตผิดเพศ
หยกกับกล้า แต่เป็นความรักต้องห้าม ไม่อาจอธิบายได้
แอ๊ด...เสียงประตูศาลเจ้าเปิดเข้ามา
"ซินแสเทียน พ่อหยก มีอะไรหรือเปล่าคะ"
หยกและเทียนตกใจ หันไปมอง ต่างคนต่างเงียบ เพราะเรื่องนี้ พวงแก้วรู้ไม่ได้ เพราะเธอเป็นแม่ของกล้า
"ไม่มีอะไรหรอกคุณแก้วเจ้าหยกก็ไม่มีอะไรหรอก ใช่ไหม"
"เอ่อ ขอรับ กระผมขอตัว"
"คุณแก้วตามอั๊วมาถึงศาลเจ้า ต้องมีเรื่องอันใดกระมัง"
ซินแสเทียนพูดดักคอเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องดวงแน่นอน แก้วพยักหน้า
ซินแสเทียนหมุนดูวงล้อเช็คดวงชะตาแบบจีน นับนิ้วซ้ายขวา
"ดวงแม่หญิงคนนี้เป็นผู้มีบุญ มีสมอง มีปัญญา ซ้ำยังมีวาสนาเกิดในตระกูลที่ดี"
"ใช่เจ้าค่ะ นางคือแม่หญิงบุษบาบรรณ อิฉันแอบถามกับคุณจันทร์เพื่อนอิฉันเมื่อคราก่อน ได้เพลาตกฟากของแม่หญิงมาด้วย แม่หญิงใช่สตรีผู้มีดวงชะตาเกื้อหนุนพ่อหาญใช่ไหมเจ้าคะ"
พวงแก้วตื่นเต้นด้วยความหวัง
เทียนอ่านดวงชะตา คำนวณสักครู่ เงยหน้ามอง ตบหลังมือพวงแก้วเบาๆ
"นางเป็นแม่หญิงที่ดี แต่อาภัพนัก บุญชะตาอาจพาให้ใกล้ชิดสนิทใจกับพ่อหาญ แต่ไม่ใช่แม่หญิงผู้ส่งเสริมชะตาพ่อหาญที่แท้จริง"
"ไม่ใช่แม่หญิงบุษบาบรรณ" เอื้อยว่า
"ทำไมไม่ใช่ล่ะเจ้าคะ ทำให้ใช่ได้ไหมเจ้าคะ แก้ดวง หาวิธีได้ไหมคะซินแส"
ซินแสเทียนเช้งปวย
"แม้ว่าคู่กันหากผิดฝาผิดตัวย่อมประกบคู่ไม่ได้ อุปมามีตะเกียบเงินและทองอย่างละอัน แม้วางเคียงกันจะสวยงาม ดูมีราคา หากไม่เข้าคู่ อย่างไรเสียก็ไม่ใช่คู่"
พวงแก้วถอนหายใจ เสียดายที่ไม่ใช่แม่หญิงบุษบาบรรณ
เวลากลางคืน ดาวพยายามพอกยาสมุนไพรที่หลังให้ตัวเอง ไม่อยากยุ่งกับคนอื่น แต่อยู่ในบริเวณที่ชาวครัวคุยกัน
เอื้อยเล่าเรื่องดวงของหาญให้ทุกคนฟัง ชื่นฟังแล้วก็เออออยิ้มแย้มตามไปด้วย
"จริงรึนังเอื้อย ดวงคุณหาญ ท่านซินแสเทียนบอกว่าพบดวงคู่ครองแล้วรึ"
เดือนแทบจะวางงานตรงหน้าตัวเอง ดาวหูผึ่งมือที่ทายาพอก ก็ค้างอยู่
"คุณหาญมีดวงคู่ครอง เป็นใคร เป็นข้ารึเปล่า" ดาวว่า
"หนอยๆ อีดาว มึงน่ะเรอะจะเหมาะสมกับคุณหาญ ขนาดคุณแก้วเอาดวงแม่หญิงบุษบาบรรณไปให้ซินแสดู ซินแสยังบอกไม่ใช่เลย แล้วนำหน้าทาสีตีนดำเปรอะอย่างเอ็งน่ะเรอะ จะเป็นคู่คุณหาญ"
"แล้วไหนเมื่อครู่ น้าเอื้อยบอกว่า คุณหาญได้พบกับหญิงนางนี้แล้ว เป็นคนวนเวียนอยู่ไม่ไกล" ดาวว่า
"ก็นั่นน่ะสิ แม่หญิงที่ไหนวะ อยู่ไม่ห่างคุณหาญ เกิดคืนเดือนหงาย ปีระกา เพลายี่สิบปีที่แล้ว" เอื้อยว่า
"ก็อีดาวอีเดือนไง ปีนี้มันอายุได้ยี่สิบพอดี เกิดปีระกา ฮ่าๆๆ" มั่นบอก
มั่นหัวเราะลั่น เพราะคิดว่าเป็นเรื่องตลก ไม่มีทางที่จะเป็นดาวเดือน เอื้อยผสมโรงหัวเราะด้วย สักพักเพิ่งรู้ตัว
"นังชื่น อีดาวอีเดือนมันตกฟากเพลาอะไรนะ"
ชื่นอึ้งไป ความอึ้ง เงียบ ทำให้เอื้อย มั่น ชื่น มองเดือนกับดาวสลับกันเป็นตาเดียว
"แม่มองฉันอย่างนั้น หมายความเยี่ยงใด" เดือนถาม
"ไม่ใช่เอ็ง ต้องเป็นข้า...คู่ครองคู่เสริมคุณหาญ เป็นข้าแน่ๆ ฮ่าๆๆ" ดาวว่า
ดาวยิ้มกว้าง มีความสุขอย่างไม่เคยมาก่อน ไม่อยากนึกว่าจะมีวาสนาขนาดนี้ เอื้อย ชื่น ส่ายหน้าไม่อยากจะเชื่อว่าโลกจะกลม เรื่องบังเอิญจะมาใกล้ตัว
เดือนแอบหลบตาซ่อนหัวใจที่พองโตด้วยความหวังว่าจะเป็นหญิงที่ส่งเสริมหาญ
เช้าวันนี้ ท่ามกลางหมู่เรือนมากมาย กลุ่มเรือนทาส แปลงนา สวนผลไม้ มีเสียงอื้ออึงไปทั่วอาณาจักรใต้หล้าอันใหญ่โต
"อะไรนะ คู่ครองคุณหาญอาจจะเป็นอีทาสในเรือนใต้หล้านี้น่ะหรือ เป็นไปไม่ได้" เจียมว่า
เมฆกำลังผ่าฟืนอยู่มุมหนึ่ง ได้ยินเสียงคนพูดกัน เจียมเดินคุยกับอ่ำ
"ก็ใช่น่ะสิ ผู้หญิงที่มีชะตาค้ำจุนคุณหาญ เกิดในเพลาตกฟากเป็นมงคล หาเจอสองคน คือ นังเดือนกับนังดาว"
"นังเดือนกับนังดาว ฮ่าๆๆ ข้าอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง"
จึ้ก ! เมฆผ่าฟืนลงทันที ไม่อยากเชื่อ เขาถึงกับหันไปมอง
"ไม่จริงหรอก นังดาวมันจะต้องเป็นเมียข้า" เมฆว่า
"ฮ่าๆ ถ้าเกิดนังดาวมันบุญพาวาสนาส่งได้เป็นเมียคุณหาญ เอ็งก็คงต้องช้ำกินน้ำใบบัวบกสามวันเจ็ดวันแน่ ไอ้เมฆ"
"ไม่...ไม่จริง ไม่มีทาง"
"จริงไม่จริงเดี๋ยวก็รู้ คุณแก้วเชิญซินแสมาที่เรือนเพื่อตรวจดวงชะตานังสองคนนั้นแล้ว"
อ่ำรีบไปเรือนใหญ่ เหล่าทาสแถวนั้นวางงานตามกันไปเรือนใหญ่ทันที
เดือนและดาวหมอบอยู่ตรงหน้าซินแสเทียน พวงแก้วนั่งมองซินแสเทียนพินิจพิเคราะห์ดูโหวเฮ้งเดือนและดาว พวงแก้วยังไม่อยากเชื่อ ได้แต่กระซิบกับเอื้อย
"เอ็งแน่ใจนะนังเอื้อย ว่านังทาสสองคนนี้เกิดในชะตาราศีนั้นพอดี"
"เป๊ะเจ้าค่ะ ตอนแรกบ่าวก็ไม่แน่ใจ แต่พอทวนความจำ บ่าวเป็นคนช่วยหมอตำแย ทำคลอดนังเดือนนังดาวกับมือ มันสองคนเกิดในคืนเดียวกัน ผิดห่างเพลาชั่วไม่เกินหม้อข้าวเดือดเจ้าค่ะ"
"คงต้องให้ท่านซินแสพิเคราะห์โหวเฮ้งประกอบชะตาให้แน่ใจ เอ็งให้ใครไปกันพ่อกล้าพ่อหาญ อย่าให้มารู้ ข้าต้องแน่ใจก่อน ข้าไม่อยากให้ลูกข้ามีข้ออ้างไปสนิทสนมกับทาสไพร่จนเกินงาม"
"เจ้าค่ะ"
เอื้อยพยักหน้า หันไปกวักมือเรียกมั่นเข้ามากระซิบ มั่นฟัง เข้าใจ แล้วรีบออกไป
หาญลงบันไดมา กำลังจะเดินไปทางโถงใหญ่
"นายน้อยจะไปร้านหรือขอรับ" มั่นถาม
"ยังหรอก เราจะเอาผ้าพับนี้ไปให้แม่เดือน เอ็งได้แล้วผ้าแล้วใช่ไหมไอ้มั่น"
"ได้แล้วขอรับ ผ้านุ่งสีงาม บ่าวจะเก็บไว้นุ่งไปเที่ยวยามมีงานฉลองพระนคร"
"แล้วแม่เดือน"
"นังเดือน....นายท่านถามถึงนังเดือนทำไมขอรับ บ่าวว่าอย่าไปถามถึงมันเลยขอรับ ไปทำงานเถอะขอรับนายน้อย "
"แต่ผ้าผืนนี้"
"บ่าวเก็บไว้เองขอรับ บ่าวจะส่งให้แม่เดือนกับมือ"
"แต่ว่าเราอยากพบ..."
"นายน้อยอย่าลืมสิขอรับ คุณแก้วท่านเป็นห่วงกระไรบ้าง ท่านไม่อยากให้บ่าวไพร่ตีสนิทกับเจ้านาย นายน้อยอาจทำให้แม่เดือนเดือดร้อนนะขอรับ"
มั่นรุนหลังให้หาญออกจากบ้านไปอีกทางหนึ่ง หาญดูแปลกใจ
"ไอ้มั่น วันนี้เอ็งมีทีท่าแปลกประหลาดนัก เอ็งต้องมีเหตุอันใดแน่ๆ"
"เหตุอันใดจะเกิดก็ต้องเกิดขอรับ นายน้อย ไปขอรับ วันนี้บ่าวไปส่งนายน้อยถึงร้านเองขอรับ"
หาญคิดไม่ตกว่ามั่นมาประกบทำไม คิดไปคิดมานึกถึงเรื่องฟ้าหยาด
"หรือคุณแม่ท่านรู้เห็นเรื่องแม่หญิงฟ้าหยาด แล้วให้เอ็งมาเฝ้าข้าใช่ไหม"
"โอย ตามสะดวกใจคุณหาญจะคิดเลยขอรับ บ่าวไม่รู้ ว่าแต่แม่หญิงฟ้าหยาดนี่ ใครกันขอรับ"
มั่นอือออ พูดไปก็รีบดึงหาญออกจากบ้าน หาญเหวอจำต้องออกไป
มุมหนึ่ง อ่ำ เจียม เมฆ มาแอบดูพร้อมๆกับพวกมั่นกับชื่นที่ลุ้นเดือนอยู่ด้วย เทียนมองหน้าเดือนและดาว กวักมือเรียก
"ไหนมาใกล้ๆอั๊วซิ"
ดาวปราดเข้าไป ตัดหน้าเดือน เบียดนิดๆทำให้เดือนยอมให้ดาวเข้าไปก่อนด้วยความหวังเต็มปรี่
"คนนี้หรือ แม่ดาว อืม งามผุดผาด ใบหน้าผ่องแผ้ว หน้าผากกว้างนูน แสดงความสมบูรณ์ของแม่หญิง"
ดาวยิ้มกว้าง เขินจนบอกไม่ถูก ความหวังเต็มเปี่ยม เหล่าทาสแอบดู เจียมหมั่นไส้มาก
"ต๊าย ดูหน้าอีดาว ระริกระรี้เหมือนกระดี่ได้น้ำ" เจียมว่า
"ไม่นะอีดาว เอ็งต้องไม่ได้เป็นคู่คุณหาญ"
ซินแสเทียนดูหน้า ดูลายมือดาว แล้วเอาไปคำนวณกุกกักๆ ซินแสเทียนยิ้มมุมปาก
พวงแก้วมือทาบอก ตื่นเต้นลุ้นระทึกว่าจะคู่เสริมของลูกตัวเองจะเป็นทาสในเรือนไปได้หรือนี่
"ว้ายตายแล้ว ซินแสเทียนยิ้มกับอีดาว" เอื้อยว่า
"ใจเย็นพี่เอื้อย เหลือตัวเลือกอีกคน" อ่ำบอก
ซินแซเทียน กวักมือเรียกเดือนเข้าไปใกล้
"มานี่สิ แม่เดือน....อืม ลื้อเป็นคนงามพิศ ดวงหน้าเรียวยาวดั่งดวงเดือน แววตาลื้อใสซื่อเหมือนน้ำค้างเกาะกลีบบัวยามอรุณรุ่ง"
เหล่าทาสซุบซิบ
"มันแปลว่าอะไรวะ" อ่ำถาม
"แปลว่าลูกข้าสวย" ชื่นว่า
พวงแก้วหายใจไม่ทั่วท้อง รอลุ้น
เทียนดูลายมือเดือน คำนวณกุกกักนับนิ้ว เดือนเก็บความตื่นเต้นไว้เงียบๆ ผิดกับดาวที่ตัวสั่นอยากจะให้เป็นตัวเองใจจะขาด
"เอาล่ะ... นางทาสีทั้งสองนางนี้ เกิดในคืนเดียวกัน ปีระกา จันทร์สว่างกระจ่างฟ้าเป็นชะตาที่สอดคล้องใกล้เคียงเป็นคู่สมของพ่อหาญ"
"ทั้งสองคนหรือเจ้าคะซินแส " พวงแก้วถาม
"จริงหรือเจ้าคะ" ดาวว่า
"คู่เสริมที่เหมาะสม มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น แม่ดาว..."
ดาวตัวสั่นระริก หัวใจบานเบิก ยิ้มกว้างถึงกว้างที่สุด ก้มลงกราบซินแส
พวงแก้วยกมือทาบอก เดือนยิ้มแต่หมองมาก ทาสไพร่อื้ออึง... นังดาว !
อ่านต่อตอนที่ 11