เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 10
เช้าวันใหม่ รามนรีนำทีมสอนโยคะเบาๆ ให้กับทุกคนในบ้านย่า
“การฝึกโยคะ เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับทุกวัยโดยเฉพาะผู้สูงอายุ”
“แต่ผมยังเด็กอยู่นะครับคุณยาย โน่นต้องคุณย่าโน่น ทาร์เก็ตกรุ๊ปเลย”
“พี่บุญปลูกก็ใช่ค่ะคุณภูมิ”
ภูมิกับเภา หัวเราะเบาๆ ย่ามองค้อน
“เออ พวกแกไม่แก่มั่งก็ให้มันรู้ไป”
“ผมก็แค่ล้อเล่นน่ะครับคุณย่า มาครับ เรามาทำตามเขาดีกว่า จะได้แข็งแรง”
“แล้วต่อไปนี้ทุกเช้า ฉันจะอนุญาตให้พวกเรามาออกกำลังกายยืดเส้นยืนสายกับแม่เดือนฉายทุกวัน จะได้แข็งแรงกันถ้วนหน้า”
“จริงเหรอค่ะ คุณท่าน”
“คนอย่างฉัน ถ้าไม่จริงจะพูดทำไม ว่าแต่แม่เดือนจะไหวรึเปล่า”
“ไหวค่ะ ว่าแต่ พวกพี่เถอะไหวรึเปล่า”
ทุกคนยิ้มดีใจ ตอบพร้อมกันว่าไหว ถวิลดีใจตาโต
“งั้นต่อไป ฉันก็จะมีซีแพกกับเขาแล้วล่ะสินังเภา”
“เขาเรียกซิกแพก ไม่ใช่ซีแพก ซีแพกเขาเอาไว้ใช้ในการก่อสร้างค่ะผัวขา”
“อ๋อเหรอ เขาเรียกซิกแพก ไม่ใช่ซีแพกหรอกเหรอ”
ทุกคนหัวเราะร่าขำเภากับถวิล
“มาค่ะ เราเริ่มท่าแรกกันเลยนะคะ ทำตามเลยนะ”
ภูมิยิ้มสดใสให้รามนรี ก่อนทำท่าทางตาม
ภูมินั่งเช็ดเหงื่อที่เก้าอี้สนาม รามนรีเดินถือจานผลไม้มาวางไว้ให้
“ขอบคุณครับ คุณเป็นภรรยาที่น่ารักมาก”
“ก็ในเมื่อคุณอยากจะรู้ ฉันก็ทำให้ดู ตามข้อตกลงก็แค่นั้น”
“ผมก็เพิ่งจะรู้ ว่าเราควรจะกินผลไม้ มากกว่าน้ำผลไม้และต้องกินตอนท้องว่าง”
“ก็ใช่น่ะสิคะ กินตอนท้องว่าง ร่างกายจะสามารถดูดซึมสารอาหาร ไปใช้ได้ง่ายกว่า”
“ขอบคุณนะ ที่คุณเอาแต่สิ่งดีๆ มาให้ชีวิตผม”
รามนรีสบตายิ้มเขิน
“ขนาดนั้นเชียว เดี๋ยว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“จะรีบไปไหน”
“ฉันมีงานต้องไปทำที่บ้านคุณย่า ขอตัวค่ะ”
รามนรีเดินไป ภูมิยิ้มปลื้ม
วิรัช กองแก้ว ระพี ศจี นั่งคุยกันที่ห้องรับแขก ผสานเดินเช้ามา ยกมือไหว้วิรัชและทุกคนอย่างนอบน้อม จอสถือถุงของฝากตามมาติดๆ
“สวัสดีทุกท่านครับ”
“ไหว้พระเถอะลูก มา มานั่งข้างๆ พ่อให้หายคิดถึงที”
กองแก้วยิ้มปลื้ม
“ดูสิคะ พ่อตาก็ร๊าก รักลูกเขยที่แสนดีคนนี้เสียจริงๆ”
จอสยื่นถุงของฝากให้ผสาน ผสานเดินก้มหัวเข้าไปหาวิรัช
“นี่ครับ ของฝากสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคุณพ่อ ผมเลือกมาเป็นอย่างดี”
“ดูเอาเถอะระพี จะไม่ให้พ่อเคืองยัยหนูเล็กได้ยังไง ที่ทิ้งผู้ชายดีๆ แล้วหนีไปได้ลงคอ”
“เขาอาจจะไม่มีเวลาศึกษากันเท่าที่ควร ก็เลยยังไม่รู้ว่าคุณผสานเป็นคนดีแค่ไหน”
“ใช่ค่ะ ถ้าเขารู้ เขาต้องดีใจและอาจเปลี่ยนใจเปลี่ยนความคิดก็ได้นะคะ”
“ต้องกราบขอบพระคุณมากนะครับ ที่ทุกคนเข้าใจและเมตตาผม”
วิรัชโอบไหล่ผสานที่ทำหน้าเศร้าน่าสงสาร
“ถ้าพ่อผสานยังยืนยันว่ายังรักและจะยังรอยัยหนูเล็ก พ่อก็สัญญาว่าจะทำทุกทางที่จะเอาตัวหนูเล็ก กลับมาแต่งงานกับพ่อผสานให้ได้”
ผสานแสร้งน้ำตารื้น โผกอดวิรัช
“ขอบคุณมากครับคุณพ่อ ไม่ว่าจะยังไง ผมก็จะรอเขากลับมา ผมรักเขามากจริงๆ นะครับ”
ผสานแอบยิ้มสะใจ
“แต่ผมกลับมองว่า ถ้าหนูเล็กกลับมา เราควรจะให้โอกาสเขาทั้งคู่ได้ปรับตัวปรับใจเข้าหากันดูอีกสักครั้ง เพราะการที่คนเราจะอยู่ด้วยกันได้ มันต้องเริ่มที่ความรัก ความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย ไม่งั้นก็คงจะอยู่ด้วยกันยากครับ”
ผสานหุบยิ้มหน้าเซ็ง ผละออกจากวิรัช ก่อนหันมาทำหน้าเศร้าต่อ วิรัชมองไม่พอใจระพี ศจีครุ่นคิด
“มันก็จริงอย่างพีว่านะคะ ตบมือข้างเดียวยังไงมันก็ไม่ดัง มันต้องรักกันค่ะ”
“อุ๊ย น้าว่าไม่มีปัญหาหรอกค่ะ อยู่ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ดูอย่างน้ากับคุณพ่อสิคะ ยิ่งนานวัน น้าก็ยิ่งร้าก รัก”
“พ่อว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันเลย เดี๋ยวพ่อเครียด”
ศจีหันไปสบตาระพี ก่อนหันไปมองผสาน ซึ่งนั่งซื่อทำหน้าเศร้า ด้วยความรู้สึกเห็นใจ ผสานแอบไม่พอใจระพีกับศจี
บุญปลูกประคองย่าเข้ามา ย่าชะงัก เห็นห้องพระจัดอย่างสะอาดเรียบร้อย
“เธอจัดห้องพระใหม่ให้ฉันเหรอแม่ปลูก”
“เปล่าค่ะ”
“อ้าว แล้วใครทำ”
ย่าเหลือบไปเห็นพวงมาลัยพวงหนึ่งวางอยู่ในพาน
“อ๋อ แม่เดือนฉายนั่นเอง”
“คุณท่านเห็นว่าไง ถ้าไม่สบายใจที่จะให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายกับห้องพระ ปลูกจะบอกเธอให้เองค่ะ”
“ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่พอใจ แต่หลานสะใภ้คนนี้ ฉันพอใจมาก”
“งั้นกีดีแล้วละค่ะ เพราะปลูกเอง ก็ค่อนข้างมั่นใจ ว่าคุณเดือน แกดีทั้งกายและใจจริงๆ ดูสิคะขนาดเป็นสาวสมัยใหม่ก็ไม่นิยมแต่งหน้าแต่งตา ปล่อยหน้าสวยใสเป็นธรรมชาติดีออกค่ะ”
ย่าเดินดูภายในห้อง เอานิ้วรูดกับพื้นดูฝุ่น
“ดูสิ เช็ดได้สะอาดมาก สะอาดกว่าแกอีก”
บุญปลูกยิ้มแหย
“สมกับเป็นแม่บ้านแม่เรือนของหลานฉันจริงๆ”
“แล้วเรื่องที่เราสงสัยกันเมื่อคืนล่ะคะเอาไง”
“คอยดูไป เดี๋ยวก็รู้”
ย่าหันไปสบตาบุญปลูก ยิ้มเจ้าเล่ห์
ทุกคนที่บ้านวิรัชเดินออกมาส่งผสาน วิรัชโอบไหล่ผสานมาตลอดทาง ระพีกับศจีแอบมอง
“รออีกหน่อยนะพ่อผสาน ตอนนี้พ่อก็พยายามอยู่”
“ครับคุณพ่อ ผมจะรออย่างมีความหวัง จะรอจนกว่าเขาจะกลับมา”
ผสานหน้าเศร้า แสร้งสะอึกสะอื้น กองแก้วน้ำตารื้น
“ดูสิ เป็นผู้ชายชาตรี แต่ต้องมาเสียน้ำตาให้กับความรักขนาดนี้”
“ใจเย็นๆ นะคะคุณผสาน อีกไม่นานหนูเล็กเขาต้องกลับมาแน่นอน ตอนนี้คุณระพี เขาก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่อยู่ค่ะ”
“ขอบพระคุณมากครับ งั้นผมถือโอกาสลาเลยนะครับคุณพ่อ ทุกคนด้วยนะครับ”
“โชคดีนะครับคุณผสาน”
“ขอบคุณครับพี่ระพี ถ้ามีข่าวคราวอะไร อย่าลืมบอกผมบ้างนะครับ ผมเป็นห่วงเขามาก”
ผสานหน้าเศร้ามองทุกคนด้วยแววตาใสซื่อก่อนหันหลังกลับ เปลี่ยนเป็นตากร้าว เก็บกด เดินออกไป ทุกคนมองตามผสานด้วยความสงสารและเห็นใจ แต่ระพีกลับรู้สึกแปลกๆ
รามนรีกดอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์ให้ย่า ก่อนจะหันมาบอก
“หนูเปลี่ยนรหัสให้แล้วค่ะ ต่อไปคุณย่าก็ใช้รหัสใหม่เข้าเมล์ได้เลยค่ะ”
“ขอบใจนะ งั้นรบกวนหนูเปิดเมล์ให้ย่าหน่อย แล้วอ่านให้ฟังทีว่าใครส่งมาบ้าง”
“ค่ะคุณย่า”
รามนรีกดเปิดเมล์ แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นภาพหน้าจอ โหลดเป็นรูปของเธอสมัยเรียน และประกาศคนหาย
“อีกแล้วเหรอ”
รามนรีเอี้ยวเอาตัวบังจอไว้ กันไม่ให้ย่าเห็น
“แม่เดือนเป็นอะไร ทำไมบิดไปบิดมาอย่างนั้นล่ะ”
“เอ่อ คือ หนูรู้สึกเมื่อยเอว ก็เลยลองบิดไปมา มันดีมากเลยนะคะคุณย่าท่านี้”
“นึกว่าจะเป็นแต่คนแก่ มา งั้นย่าลองบิดดูบ้างสิ”
ย่าทำท่าตามรามนรี ที่จำใจบิดตัวต่อ
“เออ มันหายเมื่อยจริงด้วย แฮะ มา งั้นหนูไปพัก เดี๋ยวย่าอ่านเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า หนูหายแล้วค่ะ เดี๋ยวหนูอ่านให้ฟังนะคะ”
รามนรีกลอกตาไปมาก่อนหันมองหน้าจอ คิดหาทางออก ตัดสินใจกดลบเมล์นั้นทิ้ง มือไม้สั่น
“อ้าว ปิดทำไม”
“คือ เมล์นี้เป็นเมล์ขยะ แถมยังมีไวรัสเพียบเลยค่ะ คุณย่า เราต้องรีบปิด ก่อนที่มันจะแพร่เชื้อ แล้วทำให้คอมเราเสียหายค่ะ”
“มันร้ายกาจขนาดนั้นเลยเหรอ ไอ้ไวรัสเนี่ย”
รามนรีพยักหน้า
“งั้นก็จัดการมันเลย แล้วช่วยเช็คให้ย่าดีๆ อย่าให้มีไวรัสอีกนะลูก”
“ได้ค่ะคุณย่า”
รามนรีรีบกดเปิดเมล์อื่นๆ เพื่อเช็คดูและรีบลบข้อความที่มีทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
วิรัชหงุดหงิด ไม่พอใจระพีที่พูดไม่เหมาะสมกับผสาน
“เมื่อกี้แกไม่น่าไปพูดอย่างนั้นต่อหน้าพ่อผสานเขาเลย”
“มันถึงเวลาที่เราต้องพูดความจริงกันแล้วนะครับพ่อ”
“แต่ความจริงมันทำร้ายจิตใจคุณผสานเขานะคะคุณพี”
“ก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่ายเลยนะคะ”
“หนูเล็กก็ช่างปกระไร สร้างแต่ความเดือดร้อน นี่ก็นานแล้วยังไม่ยอมกลับมาอีก ไม่เห็นใจหัวอกคนเป็นพ่อบ้างเลย รู้ทั้งรู้ว่าพ่อตัวไม่สบายอยู่แท้ๆ”
ระพีมองกองแก้วไม่พอใจ
“แต่จะว่าไปหนูเล็กก็น่าสงสารมากนะคะ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพราะไม่อยากแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก”
“ผมว่าที่เขาไม่กลับ ไม่ใช่ไม่อยากกลับ แต่ไม่อยากถูกจับแต่งงานอีกรอบต่างหาก”
กองแก้วหน้าเจื่อน
“พ่ออุตส่าห์ใจดี และให้เวลามันมาเยอะแล้ว ไม่ว่าจะยังไง มันต้องแต่งงานกับพ่อผสานเท่านั้น พูดเรื่องนี้ทีไร แล้วมันเจ็บหัวใจจริงๆ”
วิรัชกุมหน้าอกเหมือนเจ็บหัวใจจริงๆ กองแก้วทำเป็นเข้าไปประคอง
“ทำใจดีๆ ไว้นะคะคุณ อย่าไปรู้สึกอะไรกับลูกอกตัญญูพรรค์นั้นเลยค่ะ”
"หนูเล็กไม่ใช่คนอกตัญญู แกรักพ่อมากแค่ไหนน้าก็น่าจะรู้ดี ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา การแต่งงานสำหรับผู้หญิงดีๆ มันเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่แต่งๆ ไปเพราะอยากสบายก็จบ"
"ผมว่าเราอย่าทำให้หนูเล็กเป็นเหมือนสินค้าที่รอการขายเลยครับ"
กองแก้วหน้าชา กำมือแน่นแค้นระพี
“นี่แกหาว่าพ่อกำลังจะขายลูกกินงั้นเหรอ”
“พีเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอกนะคะคุณพ่อ”
วิรัชทำท่าเจ็บหัวใจขึ้นมาจริงๆ กองแก้วรีบเข้าไปประคอง
“คุณคะ”
“ยา เอายามาให้ฉันที”
ระพีกับศจีหน้าเสีย กองแก้วมองซ้ายมองขวา ทำอะไรไม่ถูก จนศจีต้องถาม
“ยาอยู่ที่ไหนคะคุณน้า”
“ใครมันจะไปจำได้ล่ะ เก็บไว้ที่ห้องคุณพี่ล่ะมั้ง”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปหาเอง”
ระพีรีบไปหยิบยามาพ่นให้วิรัชได้ทัน อาการของวิรัชค่อยๆ ดีขึ้น
“เป็นยังไงบ้างครับพ่อ”
“จำไว้นะ ถ้าแกคิดกับพ่ออย่างนี้ เราก็ไม่ต้องมายุ่งกัน”
ระพีได้แต่ถอนใจ สบตากับศจีอย่างอ่อนใจ
รามนรีเดินออกมาที่มุมลับตาคน ถอนใจโล่งอก
“เกือบไปแล้วเรา”
รามนรีหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
“ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”
รามนรีตัดสินใจโทรศัพท์ ระพีนั่งปรับทุกข์อยู่กับศจี กดรับสาย
“สวัสดีครับ”
“พี่พี นี่หนูเล็กเองนะคะ”
ระพีหันไปมองศจี ยิ้มให้ด้วยความดีใจ ทำเอาศจีงง ระพี ระล่ำระลักถาม
“หนูเล็ก นั่นหนูเล็กจริงๆ ใช่ไหม”
ศจีเข้าใจทันที ส่งยิ้มสดใส ดีใจไปกับระพี
“ใช่ค่ะพี่พี นี่หนูเล็กน้องพี่จริงๆ ค่ะ”
“เห็นประกาศตามหาของพี่แล้วใช่ไหม แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหน พี่จะไปรับ”
“ใช่ หนูเล็กเห็นประกาศพวกนั้นแล้ว แต่ยังกลับไปไม่ได้ หนูไม่อยากแต่งงาน”
“ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง พี่จะช่วยพูดกับพ่อให้เอง”
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เพราะตอนนี้พ่อเห็นดีเห็นงามกับน้าแก้ว และคุณผสานไปหมดแล้ว เขาไม่เคยเชื่อในสิ่งที่หนูเล็กพูดเลย”
ระพีหนักใจ และพอจะเข้าใจสิ่งที่น้องสาวพูด เพราะเพิ่งปะทะคารมกับพ่อมา
“แล้วหนูเล็กจะทำยังไงต่อไป”
“ตอนนี้หนูเล็กได้งานทำที่กรุงเทพ และสบายดีทุกอย่างค่ะ เพียงแต่อยากขอร้องให้พี่ช่วยยกเลิกลงโฆษณาทั้งหมดที่มีให้ที ไม่งั้นหนูเล็กกลัวนายผสานจะตามมาราวีอีกน่ะค่ะ”
“ได้ เดี๋ยวพี่จะยกเลิกประกาศทั้งหมดให้ แต่เท่าที่พี่ได้คุยกับคุณผสานก็ดูเขาเป็นคนดี เขารักหนูเล็กมากเลยนี่นา”
นิดเดินผ่านมา ได้ยิน รีบหลบมุมแอบฟัง
“เขาก็แค่สร้างภาพ แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ดีจริงอย่างที่แสดง เขาเป็นโรคประสาท”
“เรามองโลกในแง่ร้ายเกินไปรึเปล่า”
“พี่ก็พูดเหมือนพ่อเหมือนน้าแก้ว ที่ถูกนายผสานกล่อมจนเคลิ้ม เอาไว้มีเวลาแล้วหนูเล็กจะเล่าพฤติกรรมของเขาให้ฟังนะคะพี่”
“ได้ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ขอให้จำเอาไว้ ว่าพี่จะคอยปกป้องและอยู่ข้างหนูเล็ก พี่จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรน้องของพี่แน่ ถ้าพร้อมที่จะกลับก็บอกนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่พีที่เข้าใจ ตอนนี้หนูเล็กรับทำงานสำคัญที่ต้องสะสางให้เสร็จก่อน ส่วนจะกลับเมื่อไหร่จะตัดสินใจอีกที หนูเล็กรักพี่พีนะคะ”
รามนรีตัดสาย ก่อนมองซ้ายมองขวา รีบเดินออกไป ระพีกำลังจะพูดต่อ แต่มีเสียงวางสายไปเสียก่อน
“หนูเล็ก หนูเล็ก เดี๋ยวก่อนสิหนูเล็ก”
ระพีหันไปสบตาศจี เซ็ง นิดเดินออกมาจากที่ซ่อน มองตามรามนรี
“ยัยเดือนฉายคนนี้ ต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่ๆ แล้วใครคือหนูเล็ก แล้วหนูเล็กคือใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่พี แล้วเขารับทำงานสำคัญอะไร โอ๊ย งง”
นิดเอามือยีขมับปวดสมอง
รามนรีนั่งเศร้าน้ำตาร่วง หลังจากคุยโทรศัพท์กับระพี
“พี่พีคะ หนูเล็กขอโทษ ที่ทำให้พี่ต้องทุกข์ใจไปอีกคนแล้ว”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น รามนรีรีบปาดน้ำตาแล้วออกไปเปิด บุญปลูกยืนอยู่
“คุณท่านให้คุณเดือนกับคุณภูมิ ไปเลือกภาพแต่งงานได้แล้วค่ะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวจะขึ้นไปตามคุณภูมิที่ห้อง แล้วจะตามไปนะคะน้าปลูก”
“ค่ะ”
บุญปลูกเดินออกไป
หน้าจอคอมพิวเตอร์ของย่า มีภาพถ่ายหลายภาพ ที่ส่งมาให้เลือก
“ย่าว่ารูปนี้ดี ถ้าได้ขยายใหญ่ใส่กรอบหลุยส์จะยิ่งงามกว่านี้อีกนะเนี่ย”
บุญปลูกกับเภาพยักหน้าเห็นดีเห็นงาม
“จริงด้วยค่ะ ปลูกเคยเห็นในทีวี ภาพยิ่งใหญ่ยิ่งดูสง่างาม”
“เภาว่ารูปนี้คุณเดือนกับคุณภูมิ งามแท้งามว่า งามคักๆ โคตะระงาม สมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยกอีกนะคะ”
ภูมิเหล่มองรามนรี ที่นั่งอมยิ้มขำๆ เขาหันไปมองรูป
“เยอะไปไหมพี่เภา”
“เออ ครั้งนี้ฉันก็เห็นด้วยกับแกนังนิด นี่นังเภา คู่คุณภูมิกะคุณเดือนเขากิ่งทองใบหยกของแท้ แต่คู่ของแกกะเจ้าหวินน่ะ มันผีเน่ากะโลงผุจ้ะ”
“โห พี่ปลูก พูดไม่เกรงใจ คนเป็นผัวแม่เภาบ้างเลยนะพี่ แต่พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหล”
ทุกคนหัวเราะขำเภากับถวิล เภาแกล้งทำหน้าหงิกค้อนให้บุญปลูก
“แต่ผมว่ารูปนี้ดีกว่าครับคุณย่า”
“รูปนี้ดีกว่า”
“รูปนี้ดีกว่าครับคุณย่า”
“งั้นให้แม่เดือน เลือกละกัน”
“หนูเหรอคะ”
ย่าพยักหน้าให้ รามนรีมอง แล้วชี้ไปที่รูปที่ย่าเลือก
“รูปนี้ก็ได้ค่ะ”
“เห็นไหม เขาตาถึงเหมือนย่า ไม่เหมือนแก ตาไม่ถึง”
“เขาอยากเอาใจคุณย่ามากกว่า จริงๆ แล้วเขารู้ว่าผมตาถึง แต่ไม่เป็นไร เพื่อความรักของเรา ผมยอมตามใจเขา เอาภาพนี้ก็ได้ครับคุณย่า”
ทุกคนมองตาเยิ้มในความหวานเกินเหตุของภูมิกับรามนรี รามนรีแอบฮึ่มใส่ ที่ภูมิฉวยโอกาส แต่ทำอะไรไม่ได้มากเพราะทุกคนจ้องมองเป็นตาเดียว
“หมดธุระของเราแล้ว งั้นผมขอพาภรรยากลับบ้านก่อนนะครับ”
ภูมิฉุดมือรามนรีจะเดินไป
“เดี๋ยว ยังมีของสำคัญที่ย่าต้องการจากพวกแกอีกหนึ่งอย่าง”
ภูมิกับรามนรียิ้มร่าหันกลับมามอง
“สำหรับคุณย่าสุดที่รัก ไม่ว่าจะกี่อย่าง ผมก็จะหามาให้ ว่าแต่คุณย่าต้องการอะไร ผมและภรรยาจะจัดให้ ณ บัดนาว”
ภูมิหันไปยิ้มให้รามนรี
“ขอบใจมากนะลูก ก็ไม่มีอะไรมาก ย่าก็แค่อยากได้ใบทะเบียนสมรส ย่าจะได้เอาใส่กรอบ มาติดคู่กับรูปแต่งงาน มันจะได้ดูขลังไง”
ภูมิกับรามนรีหุบยิ้มแทบไม่ทัน ย่าแอบสังเกตอากัปกิริยาของทั้งสองคน
ภูมิกับรามนรีเดินเข้าประตูห้องมา นั่งคนละมุม กุมขมับทั้งคู่
“เอาไงดีล่ะที่นี้ แต่ละเรื่องที่คุณย่าจัดมา โคม่าทั้งนั้นเลย”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ใจเย็นๆ ค่อยๆ ช่วยกันคิด ว่าจะเอายังไงกันดี ทุกปัญหามันมีทางออกเสมอ”
ทั้งสองนั่งเอามือเกยคาง ก่อนหันมามองหน้าตาละห้อย ช่วยกันคิด สักครู่ ทั้งสองตาโตนึกได้พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ไอ้ไท”
“คุณไท”
ภูมิกับรามนรียิ้มร่า หันมาปะมือกัน ก่อนรีบไปหาไผทที่บริษัท ไผทโวยวาย
“เฮ้ย ฉันทำให้ไม่ได้ และไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ เสียจรรยาบรรณทนายหมด”
“หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ จะทิ้งกันได้ไง ช่วยฉันหน่อยสิวะ”
“นะคะคุณไท ช่วยเราหน่อยนะ”
“ไม่ใช่ไม่อยากช่วย แต่ลองคิดในแง่ของความเป็นจริงหน่อยจะได้ไหม ผมเป็นทนาย จะให้ผมไปปลอมใบทะเบียนสมรสได้ยังไง มันผิดทั้งกฎหมาย และผิดทั้งมารยาททนาย ถ้าถูกจับได้จะต้องติดคุกและถูกเพิกถอนใบอนุญาตทนายแน่นอน สรุปว่าสิ่งที่ทนเหนื่อยยากร่ำเรียนนิติศาสตร์มา ก็จบ ก็หมดอนาคตไปในพริบตา”
ภูมิกับรามนรีสบตาหน้าจ๋อย มองไผทอย่างเข้าใจ
“งั้นไม่เป็นไร ฉันเข้าใจแล้วค่ะ งั้นเราไปกันดีกว่า จะได้ไม่รบกวนคุณไผท”
“ฉันไปก่อนนะไท ขอบใจมากนะเพื่อน”
“ต้องขอโทษจริงๆ แต่ฉันจะเอาใจช่วย ให้แกผ่านมันไปให้ได้นะ”
รามนรีจับมือภูมิพาเดินออกไป
ผสานเมา เอะอะโวยวาย ขว้างแก้ว ขว้างของแตกกระจัดกระจายไปทั่วห้อง จอสพยายามห้าม
“ใจเย็นครับนายหัว”
“เย็นอะไร มึงจะให้กูเย็นได้ยังไงวะไอ้จอส”
จอสหลบตาหน้าจ๋อย
“มึงก็รู้ ว่ากูต้องฝืนใจแค่ไหน ที่ต้องไปเอาใจคนพวกนั้น”
“จอสก็เข้าใจครับนายหัว”
“เข้าใจแล้วมาห้ามกูทำไม”
“จอสก็แค่เป็นห่วง ไม่อยากให้นายหัวเครียด เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับนายหัว”
“เฮ้ย คนอย่างกู ถ้าไม่ชนะ กูยังไม่ยอมตายง่ายๆ หรอกน่า มึงเห็นไหมว่าพ่อมันเชื่อกูสนิทใจ แต่ไอ้พี่ชายกับว่าที่เมียมันนี่สิ ท่าจะแสบพอๆ กับน้อง ทำเป็นจะมารู้ทันกู”
“ดูเขาก็เป็นคนตรงไปตรงมา”
“แต่ไม่ต้องมาใช้กับกู มึงก็รู้ดี ว่ากูนับวันรอให้อีนังตัวแสบนั่นกลับมา แล้วกูจะจัดการมันให้หนำใจ ไม่เชื่อมึงก็คอยดู”
ผสานขว้างแก้วอีกใบแตกกระจาย จอสมองอย่างห่วงใย
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 10 (ต่อ)
ตอนเย็น ภูมิกับรามนรีนั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง ต่างคนต่างมองไปที่เวิ้งน้ำ ช่วยกันคิดหาทางออก
“คุณ”
ทั้งสองหันมาสบตากัน
“ผมขอโทษ ที่ทำให้คุณต้องลำบากใจอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไร นี่มันไม่ใช่ความผิดของคุณ”
“แล้วคุณก็อย่าโกรธคุณย่าผมเลยนะ ที่ท่านทำไปเพราะท่านไม่รู้”
“ฉันรู้น่า”
“ครั้งนี้ คุณดีกับผมอีกแล้ว ว่าแต่เรื่องนี้ เราจะทำยังไงดี ในเมื่อไอ้ไทไม่ยอมทำให้”
“ในเมื่อไอ้ไท ไม่ยอมทำให้ แล้วทำไมเราไม่ทำเองล่ะ”
ภูมิตาโตหันไปมองหน้ารามนรี ยิ้มร่า
“ใช่ เราก็ทำเองสิ”
ทั้งสองปะมือกันอีกรอบ
“ถูกต้องที่สุด งั้นเรารีบไปเร็ว”
รามนรีดึงมือภูมิ วิ่งออกไป
ย่านั่งเล่นกับบุญปลูก เภา นิด ภูมิกับรามนรีเดินจูงมือยิ้มร่าพากันเดินเข้ามา
“ผมกับเดือนไปเอาของที่คุณย่าต้องการมาให้แล้วนะครับ นี่ครับคุณย่า”
ภูมิยื่นซองสีน้ำตาลให้
“ของสำคัญ ทำไมไม่เก็บไว้กับตัว แล้วไปเอาที่ไหนมาตั้งนานเชียว”
“ก็ไปเอากับฝ่ายกฎหมาย ทนายไผท ของผมน่ะสิครับ”
“พ่อไผทอีกแล้ว เออ ขอบใจมากนะแม่เดือน ที่มาทำความสะอาดห้องพระให้ย่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ามีเวลาหนูจะขออนุญาต มาทำความสะอาดให้อีกนะคะ”
“ดีมากเลย มาได้เลยลูก”
ย่าหยิบแว่นมาเพ่งมอง
“ภูมิ รัตนบดินทร์ กับ เดือนฉาย ฉัตรากร คุ้นจริงๆ นะ ฉัตรากร เหมือนเคยได้ยินที่ไหน”
รามนรีหันไปมองหน้าภูมิ ขยิบตาให้รีบเปลี่ยนเรื่อง
“โห คุณย่า ผมว่าอย่ารู้จักใครมากนักเลย เดี๋ยวก็ปวดหัวแย่ ลืมๆ ไปบ้างเถอะ”
“เออ ก็จริง”
“เดี๋ยวผมกับเดือนขอตัวกลับก่อนนะครับคุณย่า อยากจะพักแล้ว”
“หนูขอตัวก่อนนะคะคุณย่า”
“เดี๋ยว เอานี่ไปด้วย”
ย่าหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงยื่นให้รามนรี รามนรีมองงงๆ ก่อนหันไปมองหน้าภูมิ
“รับไปสิ ย่าให้”
รามนรีกระอักกระอ่วน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“คุณย่าให้ก็รับไปสิ เร็ว”
รามนรีจำใจรับกล่องไป
“เปิดดูก่อนสิ ว่าชอบไหม รึว่าเล็กไป ย่าจะได้เปลี่ยนให้ใหญ่กว่านี้”
รามนรีเปิดดู เห็นชุดสร้อยเพชรพร้อมจี้เพชรเม็ดโต พร้อมชุดต่างหู บุญปลูก เภา นิด ชะโงกมอง ตาโตรามนรียื่นคืนให้ย่า
“มันใหญ่ไป คงไม่เหมาะกับหนูหรอกค่ะ”
“ย่าให้หนูเป็นของขวัญวันแต่งงาน เอาไว้ใส่กับชุดเจ้าสาว มันเข้ากันมากนะลูก”
“ในเมื่อคุณย่าตั้งใจให้ ก็รับไว้เถอะคุณ ผมไปนะครับคุณย่า”
ภูมิดึงมือรามนรี รีบเดินออกไป ย่าเห็นนิดนั่งอยู่ไม่กล้าพูดอะไร ทำได้แค่หันไปสบตาบุญปลูกกับเภารู้กัน
กล่องกำมะหยี่วางอยู่ที่โต๊ะกลางในห้องภูมิ
“คุณเอาไปเก็บไว้ให้พี่เดือน อุ้ย คุณเดือนฉาย ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
“อ้าว ก็คุณย่าเขาเต็มใจให้คุณ ก็ต้องเป็นของคุณสิ”
“แต่ฉันไม่ใช่เดือนฉาย และฉันไม่ชอบแย่งของของใคร คุณต้องเก็บไว้ให้เขา”
“เป็นบุญของคุณมากนะเนี่ย มาเป็นสะใภ้รัตนบดินทร์ได้ไม่กี่วันก็ได้ของมีค่าขนาดนี้”
“ฉันไม่เคยอยากได้ของพวกนี้ และมันก็มีค่ามากเกินไปสำหรับฉัน ย่าคุณให้ฉันเอง”
“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่าทางคุณย่าจะรักคุณมาก ไม่งั้นคงไม่ให้ขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่ายัยบ๊องเฉิ่มเบ๊อะอย่างคุณจะมีคนรักเยอะแยะมากมาย ทั้งคุณย่า ทั้งไอ้ไท”
“คนดี ก็เป็นอย่างนี้ มีแต่คนรัก ไม่เหมือนคุณ”
“อ้าวเฮ้ย นี่คุณหาว่าผมเลวงั้นสิ”
“คุณพูดเองนะว่าตัวเองเลว ก็ดี ที่ยังรู้ตัวว่าเลว งั้นก็รีบปรับปรุงตัวซะ”
“หือ นี่คุณหลอกด่าผมเหรอ”
ภูมิจี้เอวรามนรี ทั้งคู่เล่นกันเหมือนเด็ก เสียงหัวเราะดังลั่นห้อง
เช้าวันแต่งงาน ภายในบ้านตกแต่งด้วยดอกไม้สีสันสดใสนานาชนิด ภาพคู่บ่าวสาวภาพใหญ่ ตั้งไว้ที่ด้านหน้า คู่กับใบทะเบียนสมรส คนรับใช้ช่วยกันเดินดูความเรียบร้อยของสถานที่
“ดูอะไรให้เรียบร้อยนะ หวิน ไปดูตรงตั่งรดน้ำสิ ว่าของครบไหม”
ถวิลเข้าไปยืนกวาดตามอง
“ครบครับพี่ปลูก”
“ดอกไม้ก็สวยสดงดงาม ไม่มีเหี่ยวเฉาเลยค่ะ”
“แล้วภาพนี่ เขาตั้งตรงนี้ ถูกต้องไหมพี่ปลูก”
“ถูกแล้ว คุณท่านสั่งเอาไว้ให้ตั้งตรงนี้ ไป งั้นพวกเรารีบแยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่า แล้วรีบลงมาก่อนเจ้านาย เผื่อท่านจะเรียกใช้อะไร”
ทุกคนต่างแยกย้ายกันออกไป
รามนรีนั่งหน้ากระจก ย่านั่งมองอยูอีกด้าน ช่างทำผมเริ่มทำผมให้เจ้าสาว จนสวยสะดุดตา ย่ามอง ยิ้มพอใจ ช่างแต่งหน้าถอนขนคิ้วของรามนรี เธอนิ่วหน้า เจ็บ
“อยากสวยก็ต้องทนเจ็บนิดนึงนะคะ”
ช่างแต่งหน้าเขียนคิ้ว ปัดมาสคาร่า ปัดแก้ม และทาปากให้ ย่ายิ้มพอใจ เชยคางมองหน้ารามนรี
“เจ้าสาวของเจ้าภูมิ สวยมากจริงๆ”
รามนรียิ้มเขิน เวลาเดียวกันนั้น ภูมิแต่งหน้าทำผมเสร็จ เอาชุดเจ้าบ่าวมาสวม ไผทนั่งหลับสัปหงกอยู่อีกมุม ภูมิยืนมองกระจกยิ้มปลื้ม
“เฮ้อ ทำไมถึงได้หล่ออย่างนี้วะเรา จริงไหมไอ้ไท”
ภูมิหันไปมอง แกล้งตะโกน
“ฉันถามว่าหล่อไหมไอ้ไท”
ไผทตกใจตื่น
“เฮ้ย อะไร ไฟไหม้อะไร”
“ตกลงฉันควรจะให้แกนอนต่อ หรือจะไปงานแต่งของฉันดีวะ”
“ฉันก็ต้องไปงานแต่งของแกสิวะ”
“งั้นก็ไปสิ”
ไผทเดินไปพินอบพิเทาผายมือเชิญภูมิ ประหนึ่งเจ้าชาย ภูมิยืดอกเก๊กหล่อ เดินงามสง่า ตามไผท ออกไป
ประกันนอนเหยียดยาวที่โซฟา กรนเสียงดังสนั่น ที่หน้ามีหน้ากากมาร์คหน้าแปะอยู่
พวงศรีกับประกายฟ้านั่งพิงโซฟา ทุกคนทำมาร์คหน้า ไม่พูดไม่จากัน เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งเวลาไว้ดัง พวงศรีเปิดแผ่นมาร์คออกมา ตามด้วยประกายฟ้า ประกันยังนอนหลับไม่รู้เรื่อง
“หน้าผ่องขึ้นไหมคะแม่”
“มากมาย ออร่ากระจายเลยลูก”
“แม่ก็เหมือนกัน หน้าใสมาก งั้นหนูไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะแม่”
“ไปเลยลูก เอาให้สวย เอาให้พ่อกับแม่เขาตะลึง ตึง ตึง และหลังจากนั้น ก็เป็นเวลาของลูกชายสุดหล่อ กับคุณย่า ที่จะต้องมาหลงเสน่ห์ลูกของแม่แน่นอน”
“มันชัวร์อยู่แล้วค่ะแม่”
ประกายฟ้ามั่นใจ พวงศรีหุบยิ้มหันไปมองประกันที่ยังนอนไม่รู้เรื่อง พยายามเขย่าก็ยังเฉย เธอเข้าไปกระชากมาร์คที่หน้าอย่างแรง พร้อมกับเอาหมอนฟาดไม่ยั้ง ประกันนึกว่าแผ่นดินไหว ตกใจตื่น คลานไปหมอบที่ข้างเตียง
“ยืนอยู่ทำไม แผ่นดินไหวขนาดนี้ เดี๋ยวก็ตายหรอก”
“แผ่นดินไหวบ้าอะไร ฉันตีคุณให้ตื่นต่างหาก”
“เฮ้อ เมียคนนี้ แทนที่จะปลุกกันดีๆ ก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็หาเมียใหม่ซะเลย”
“สาธุ ให้มันจริงซะทีเถอะ ฉันจะได้หมดเวรหมดกรรมเสียที รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวนี้ไป เดี๋ยวก็ไปไม่ทันเวลากันพอดี”
ประกันเดินออกไปอย่างว่าง่าย พวงศรีมองเหนื่อยใจ
ภูมิกับรามนรีในชุดบ่าวสาว นั่งรอย่าอยู่ที่ตั่งรดน้ำสังข์ ต่างคนต่างเขินหันมองหน้ากัน
“วันนี้คุณสวยอีกแล้วนะ”
“คนอย่างฉัน สวยทุกวันย่ะ”
ภูมิเบ้ปากใส่ รามนรีทุบไหล่ภูมิด้วยความเขิน ระคนหมั่นไส้ ไผทยืนกอดอกมอง บุญปลูกประคองย่าเดินเข้ามา หยิบแป้งยื่นให้ย่าเจิมหน้าผากให้บ่าวสาว ก่อนหยิบด้ายมงคลมาสวมใส่ไว้ที่ศีรษะ ภูมิกับรามนรีแอบรู้สึกว่าเป็นการแต่งงานที่เสมือนจริงมาก จนขนลุก เภายื่นหอยสังข์ให้ย่า ย่ามองบ่าวสาวน้ำตาคลอ
“ถึงงานนี้จะเป็นพิธีเล็กๆ มีคนแค่ไม่กี่คน แต่ทุกคนก็ตั้งใจทำทุกอย่างด้วยความรักและหวังดีกับเราสองคนจริงๆ และวันนี้ เป็นวันที่ย่าดีใจที่สุดในชีวิต ที่ได้ทำสิ่งนี้ให้กับหลานทั้งสอง ย่ามั่นใจว่าเราสองคนจะต้องได้อยู่ดูแลกันไปชั่วชีวิต วันนี้หลานทำให้ย่าหายห่วงแล้ว ขอให้มีความสุข อายุมั่นขวัญยืน ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร นะลูกนะ”
ภูมิกับรามนรีไหว้รับพร มองย่าน้ำตาซึมด้วยความซาบซึ้งก่อนหันไปสบตากัน ภูมิเอาซับน้ำตาให้รามนรี ทำให้เธอแอบประทับใจ ก่อนซับน้ำตาให้ภูมิบ้าง ย่ายื่นหอยสังข์คืนให้เภา ก่อนจะส่งต่อให้ไผท ไผทรดน้ำสังข์แอบกระซิบที่ข้างหูภูมิ
“ฉันรู้สึกว่ามันจริงมากๆ”
“ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน”
รามนรีหันไปมองไผท
“ขอให้มีความสุขมากมาย ฝากช่วยดูแลเพื่อนรักผมคนนี้ให้ดีๆ ด้วยนะครับ วันหน้าผมไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่วันนี้ขอให้รักกันไปนานๆ”
รามนรีอมยิ้มมองไผท ย่าอนุญาตให้บุญปลูกเป็นตัวแทนรดน้ำอวยพร บุญปลูกมองภูมิ น้ำตารื้น
“คุณภูมิโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะ ต้องรักและซื่อสัตย์กับคุณเดือนให้มากๆ ปลูกมั่นใจว่า เธอเป็นคนดีและมีค่ามากสำหรับคุณภูมิค่ะ”
เภายืนยิ้มอินกับภาพที่เห็น ถวิลมองเมียด้วยความสงสาร เพราะไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานอย่างนี้เลย ย่า ถอดด้ายมงคล ยื่นให้บ่าวสาว
“เสร็จพิธีแล้ว เอาไปเก็บไว้บนหัวเตียงหรือที่สูงนะลูก จะได้เป็นสิริมงคลกับชีวิต”
ย่ามองทั้งสองยิ้มปลื้ม
รถหรูขับมาจอดอยู่ริมถนนใกล้บ้านย่า คนขับวิ่งมาเปิดประตูรถ สราญลงมาจากรถ ถอดแว่นยิ้มร่า
“วันนี้วันมหาเซอร์ไพรส์ใช่ไหมคะคุณ”
สราญก้มมองหาภัทรที่ยังนั่งอยู่ในรถ อารมณ์เสีย
“แล้วทำไมยังไม่ออกมาอีกคะคุณ”
“ก็เขายังไม่มากันเลย จะรีบออกไปทำไม เมืองไทยร้อนจะตายกันคุณ”
“เราต้องออกมาเช็คออร่ากันก่อนสิ เดี๋ยวฝั่งโน้นเขามาล่ะเสียหน้าตายเลย”
สราญใช้กระจกรถส่องดูเสื้อผ้าหน้าผมให้อีกรอบ รถของประกันแล่นเข้ามาจอด
“อุตะ เขามากันแล้วออกมาเร็วคุณ”
ภัทรจำใจเปิดประตูรถออกมา พวงศรีกับประกายฟ้า รีบเปิดประตูโผเข้ามาหาสราญกับภัทร ประกัน เดินตามมาติดๆ
“อ๊าย สวัสดีค่ะคุณพี่สราญ กับ คุณพี่ภัทร”
“สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า”
“สวัสดีครับคุณภัทร คุณสราญ”
“ไม่เจอกันเสียนานเลยนะครับคุณประกัน”
“ครับ ผมยังบ่นคิดถึงคุณภัทรอยู่เลย ไม่งั้นก็จะได้ดื่มได้ดริงค์กันบ้าง พอเป็นกษัย”
“ต่อไปนี้ก็เริ่มต้นใหม่ที่เมืองไทย เป็นไงลูกสะใภ้เราสวยไหมคะคุณ”
“สวยมาก สวยสมกับตาภูมิจริงๆ”
“ขอบพระคุณมากค่ะ คุณลุง”
“เราจะอนุญาตให้เรียกคุณลุงคุณป้าแค่ตอนนี้เท่านั้นนะจ๊ะ เพราะต่อไปต้องเรียกว่าคุณพ่อคุณแม่เท่านั้นจ้ะ”
“ต้องขอบคุณพี่ทั้งสองอีกครั้งนะคะ ที่เมตตายัยฟ้าเหลือเกิน”
“ขอแค่ให้ถูกใจ แล้วก็ไม่รู้ทำไม ถึงได้รู้สึกเอ็นดูหนูฟ้ามากมายเหลือเกิน”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปลูก เราไปเซอร์ไพรส์พี่ภูมิกับคุณย่ากันได้แล้ว ไป”
สราญหันไปสบตาพวงศรี พยักหน้าให้
ภายในบ้าน ภูมิกับรามนรีนั่งอยู่ที่ตั่งรดน้ำ ย่าเรียกช่างภาพมา
“ช่างภาพ ถ่ายให้กับบ่าวสาวเขาก่อน ถ่ายให้ดีให้สวยที่สุด เพราะวันนี้ จะต้องเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของเขาทั้งสองคนตลอดไปชีวิต”
“ใช่เลยค่ะคุณท่าน”
ช่างภาพดีไซน์ท่าทางทั้งกอด หอมแก้ม กดชัตเตอร์รัวจนเสร็จ ไผทยืนมอง เห็นเป็นหน้าเดือนฉายกับตัวเอง
“ไผท”
ย่าเรียก แต่ไผทยืนเหม่อมองภูมิกับรามนรี ตาไม่กระพริบ
“เฮ้ยไอ้ไท แกเหม่ออะไรอยู่วะเนี่ย คุณย่าเรียกไม่ได้ยินรึไง”
ไผทสะดุ้ง
“คุณย่าเรียกผมเหรอครับ”
“สงสัยคงจะอยากแต่งงานกับเขาแล้วล่ะสิ ดีๆ จะแต่งเมื่อไหร่ก็บอกย่า เดี๋ยวย่าจะขอเป็นเจ้าภาพ จะจัดการให้เอง ไป ไปถ่ายรูปด้วยกันก่อนเร็ว”
ช่างภาพถ่ายภาพให้ย่ากับไผท ทั้งเดี่ยว ทั้งหมู่ ย่าอนุญาตให้บุญปลูก เภา ถวิล นิด เข้าไปร่วมถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาวกันอย่างชื่นมื่น
สราญพาทุกคนมาหยุดยืนที่หน้าบ้าน ภัทรแปลกใจ
“อะไรอีกล่ะคุณสราญ เข้าไปเลยดีกว่าไหม จะได้ไม่ยุ่งยากคนอื่นเขา”
“ยุ่งยากอะไรกันคะ ถ้าผลีผลามเข้าไป ก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ คุณต้องใจเย็นแล้วฟังฉัน ทำตามที่ฉันบอก เข้าใจไหมคะ”
ภัทรถอนใจ ประกายฟ้าตื่นเต้น
“หนูตื่นเต้นมากเลยค่ะคุณป้า เอ๊ย คุณแม่ ดูสิคะมือเย็นไปหมดเลย”
“ใช่ เย็นเจี๊ยบเลย”
“น้องฟ้าเขาไม่เคยเจอผู้ชาย ก็เลยตื่นเต้นเป็นธรรมดาน่ะค่ะ”
“อ๊าย ดีค่ะดี จะได้ลูกสะใภ้ทั้งที ก็อยากได้กุลสตรีสุดๆ ค่ะ”
“ถ้างั้น คุณก็เลือกได้ถูกคนแล้วล่ะครับ คุณสราญ”
“จริงที่สุดค่ะ เพราะลูกฟ้าของศรี เป็นเด็กดี เป็นกุลสตรี ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอย่างเคร่งครัด เห็นผู้ชายก็อายม้วนต้วนตลอดเลยค่ะ”
“แค่ดู ก็พอจะรู้ค่ะ”
สราญยิ้มปลื้ม จูงมือประกายฟ้า
“ไปกันได้แล้วค่ะไป แต่เดี๋ยวก่อน เพื่อฤกษ์งามยามดี เราควรจะก้าวเท้าไหนออกไปก่อนดีเอ่ย ถึงจะเฮง”
ภัทรมองสราญเหนื่อยใจ
“อ๊าย ศรีรู้ดีว่าเราต้องก้าวเท้าขวาออกไปก่อนเท้าซ้าย จะทำให้เราโชคดีค่ะ”
“งั้นเรามาเตี๊ยมกัน เราจะก้าวเท้าขวาออกไปพร้อมๆ กันนะคะ แล้วถ้าหนูฟ้าเข้าไปในบ้าน เห็นหญิงชราท่าทางสง่างาม ขอให้จำเอาไว้ ว่าท่านคือคุณย่า หนูฟ้าจำคุณย่าได้ไหม”
“จำได้ค่ะคุณแม่”
“ดีมากลูก เห็นคุณย่า แล้วรีบพุ่งเข้าไปวันทา ในทันทีเลยนะคะลูกขา ถ้าได้ใจคุณย่า ทุกอย่างก็จะราบรื่น จะแต่งพรุ่งนี้หรือมะรืนยังได้เลย จริงไหมคะคุณ”
ภัทรเหล่มองสราญ
“มันจะเร็วขนาดนั้นเลยเหรอคุณ ผมว่ารอพบคุณแม่ก่อนดีกว่าไหม”
“ฉันถามว่าจริงหรือไม่เท่านั้น จงตอบเดี๋ยวนี้อย่านอกเรื่อง”
“จริงก็ได้ครับ”
ประกันหันไปสบตาพวงศรี ยิ้มมีชัยให้กัน
“ไปค่ะลูกไป แล้วอย่าลืมทำตามที่เตี๊ยมกันไว้นะคะ”
“ค่ะ คุณแม่”
สราญพาทุกคนก้าวเท้าขวา ก่อนเดินเชิดนำหน้า จูงมือประกายฟ้าไป
ย่าและทุกคนกำลังวุ่นวายถ่ายภาพกับบ่าวสาว ขณะที่สราญ นำทีมเดินยิ้มร่าเข้ามาที่หน้าประตู มือกำลูกบิดประตูไว้ สราญยิ้มดีใจ หันไปหาทุกคน
“เอาค่ะ ช่วยกันนับถอยหลังนะคะ พอนับเสร็จอิฉันเปิดประตู แล้วเราจะพูดเซอร์ไพรส์เสียงดังๆ พร้อมกัน โอเคไหมค่ะ”
“โอเคค่ะโอเค”
“เดี๋ยวผมจะเอาให้ดังสุดเสียงเลยดีไหมครับ”
“สุดยอดเลยค่ะ เอาตามนี้นะคะ”
ภัทรมองสราญเซ็งๆ จำใจทำตาม ทุกคนนับพร้อมกัน ขณะที่ด้านใน เภาเชียร์ให้ภูมิหอมแก้มรามนรีเพื่อถ่ายภาพ สราญเปิดประตูเข้าไป ก่อนพากันตะโกนเซอร์ไพรส์สุดเสียง เป็นจังหวะเดียวกับที่ภูมิเอาจมูกแนบแก้มรามนรี ก่อนหันไปมองตามเสียงหน้าเหวอ
“คะ คะ คุณแม่”
รามนรีหันไปมอง เห็นพวงศรีกับประกายฟ้า ทำเอาหน้าเหวอเช่นกัน
จบตอนที่ 10