รักต้องอุ้ม ตอนที่ 12
ทุกคนยังตะลึงไม่หายกับคำพูดของอินทนนท์
อังเสียงดังด้วยความเสียใจ "ไม่จริงใช่ไหม ยัยลัน!”
ลันตาได้สติก็จะอ้าปากพูด "ลัน....”
อินทนนท์แทรก "หลานสองคนรักกัน คุณป้าเข้าใจใช่ไหมครับ คนรักกันก็อยากอยู่ด้วยกัน มีครอบครัว มันก็เป็นโอกาสที่ดี ที่เราสองครอบครัวจะได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ใช่ไหมหนูลัน" อินทนนท์โยนให้ลันตาซะงั้น
ลันตามองอินทนนท์แล้วก็เห็นสายตาอินทนนท์ขอร้องให้เธอรับตามที่เขาพูด ลันตารู้เลยว่าถ้าปฏิเสธจะต้องมองหน้ากันไม่ติดตลอดชาติแน่ๆ
ลันตามองทุกคนแล้วก็ตัดสินใจยอมรับ "ใช่ค่ะคุณย่า"
สิปาดันมองลันตาอึ้งๆ
มาลัยตกใจ "ลันตา!”
สิปาดันตัดสินใจพูด "ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างที่ผมทำกับลันตาครับ"
มาลัยมองลันตาด้วยความเสียใจ ทันใดนั้น มาลัยก็เป็นลมต่อหน้าทุกคนถึงขนาดหัวฟาดกับโต๊ะแล้วล้มลงไปกับพื้น ทุกคนตกใจมาก "คุณย่า! / คุณพี่! / มาลัย!”
พิธานที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าลิฟท์พลางมองไปที่ห้องสิปาดันเพื่อรอดูเหตุการณ์ เขาชะงักที่ได้ยินเสียงดังมาจากทางห้องของสิปาดัน
เสียงลันตาดังขึ้น "คุณย่า!”
เสียงอินทนนท์ดังตามมา "เรียกรถพยาบาลเร็วเข้า"
พิธานมองไปทางห้องก็เห็นพอลกำลังกดโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล แล้วก็มีเสียงโวยวายด้วยความเป็นห่วงมาลัยดังลั่น พิธานเซ็งที่เป็นเรื่องแบบนี้ เขาตัดสินใจกดลิฟท์แล้วชิ่งออกไป
ที่โรงพยาบาล ลันตานั่งไม่ติดเพราะเป็นห่วงมาลัยว่าจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า
"คุณพี่....” อังเป็นห่วงมาก
"ใจเย็น ๆ นะคะคุณป้า" ลันตาบอก
"จะให้เย็นยังไงไหว คุณพี่แข็งแรงไม่เคยเป็นลมล้มง่ายๆ แบบนี้ ถ้าเส้นเลือดแตกเป็นอัมพาต เป็นเจ้าหญิงนิทรา ไม่ฟื้นขึ้นมาอีก ป้าจะทำยังไง เพราะเราแท้ๆ เลย ยัยลัน! ทำไมก่อเรื่องแบบนี้"
อังหันมาตีลันตาอย่างระบายอารมณ์บวกกับความเสียใจ ลันตายอมให้ตีโดยไม่หนี ไม่หลบจนสิปาดันทนไม่ได้ต้องเข้ามาดึงตัวลันตาให้ออกห่างจากป้าอัง
"ลันขอโทษค่ะคุณป้า...ขอโทษ...” ลันตาพูด
สิปาดันต้องกอดปลอบลันตา
นวลหันมามองอินทนนท์ด้วยความโมโหแล้วก็ทั้งตีทั้งหยิก "เพราะแกคนเดียว พูดบ้า ๆ มาลัยถึงได้โกรธจนเป็นลม เจ้าลูกบ้า!ๆๆ"
"โอ้ย ๆ ๆ ๆ แม่จ๋า ฟังหนูก่อนสิ ถ้าไม่พูดแบบนี้ ไอ้หมาเราจะมีโอกาสเจาะหนูลันเหรอ"
นวลตีปากลูกชาย "พูดสกปรก"
"เอ้ย! หนูหมายถึงเจาะกำแพงย่ามาลัยได้จีบหนูลันแบบจริงจัง"
นวลยังไม่ทันจะด่าต่อ กีรติกับแพทก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
"ลัน,สิปา" แพทเรียก
"พวกแกมาได้ไง" สิปาดันถาม
"พอลโทรไปหาแพทน่ะสิ" กีรติบอก
"ลัน...ความแตกแล้วเหรอ" แพทถาม
อังหันขวับมาพูดเสียงเข้มทันที
"ยัยแพท นี่เรารู้เรื่องกับเขาด้วยเหรอ"
แพทตกใจ "ป้าอัง!”
"นี่รวมหัวกันโกหกป้ากับคุณพี่มาตลอดใช่ไหม" อังว่า
อังหยิกแพท แพทกระเด้งตัวหนี
"ใจเย็นๆ นะคะคุณป้า" แพทบอก
"ทำผิดขนาดนี้ยังจะให้ใจเย็นอีกเหรอ"
อังจะตามไปเล่นงานต่อ แต่คุณหมอออกมาเสียก่อน
นวลรีบเข้าไปหาหมอก่อนใคร แล้วทุกคนก็กรูกันเข้าไป
"มาลัยเป็นยังไงบ้างคะ คุณหมอ" นวลถาม
หมอยิ้มแทนคำตอบ
ลันตาเปิดประตูเข้ามาในห้อง คนอื่นๆ เดินตามกันเข้ามา ลันตากับป้าอังตรงเข้าไปหามาลัยที่นอนอยู่บนเตียง
"คุณย่า...”
มาลัยค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นลืมตาขึ้นมาเห็นลันตา
ลันตาดีใจ "คุณย่า ปลอดภัยแล้วนะคะ คุณย่าเป็นลมกับมีแผลที่แตกเพราะกระแทกกับขอบโต๊ะเท่านั้นค่ะ"
มาลัยแค่มองแต่มีสีหน้าเย็นชาไม่ตอบโต้ ลันตาหน้าเสีย มาลัยเหลือบมองไปทางคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่
นวลจะก้าวเท้าเข้าไปหา "มาลัย....”
มาลัยมองมาอย่างรังเกียจทำให้นวลไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้เตียง
"คุณย่า...” ลันตาเป็นห่วง
มาลัยพูดแทรกเสียงแข็ง "ยัยอัง ฉันจะกลับบ้าน"
"แต่คุณพี่พึ่งฟื้น รอดูอาการสักนิดไหมคะ เผื่อไอ้ที่มันกระแทกเส้นเลือดฝอยที่แตกมันยังไม่แสดงอาการ"
มาลัยย้ำเสียงหนักแน่น "ยัยอัง!”
อังหยุดเอี๊ยด! "ค่ะ...”
"คุณย่าคะ...ลัน"
"มีอะไรคุยกันที่บ้าน แต่ถ้าไม่คิดว่าที่นั่นเป็นบ้านแล้ว ก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าย่าอีก" มาลัยว่า
ทุกคนอึ้งกับอาการแข็งกร้าวของมาลัยจนเงียบกันไปหมด
ลันตาเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า แพทกับกีรติมองด้วยความเห็นใจ
"ไอ้ลัน...แกว่าแกจะโดนย่าเชือดไหมวะ" แพทถาม
"ไม่ถึงตาย...แต่คงรู้สึกผิดไปอีกนานแสนนาน"
"ที่จริงน่าจะสารภาพให้หมดทุกเรื่องไปเลย จะได้ไม่ต้องมีชนักติดหลังอีก นี่กลายเป็นว่ายังปิดเรื่องตาหนูต่อไปอีก"
"แล้วเรื่องที่ลุงนนท์โกหกบอกว่าคุณกับสิปาดันเป็นพ่อแม่ของตาหนูจะทำยังไงล่ะครับ" กีรติถาม
"เออ...แล้วแกไปรับลูกโกหกจากลุงนนท์ทำไมวะ ฆ่าตัวตายชัด ๆ จากหลานแสนดีกลายเป็นผู้หญิงใจแตก เหลวแหลกเลยนะแก" แพทว่า
"ฉันไม่เข้าใจว่าลุงนนท์โกหกแบบนั้นทำไม" ลันตาบอก "แต่พอลุงนนท์เปิดเรื่องมา ถ้าตอนนั้นฉันไม่ตามลุงนนท์ล่ะก็...คราวนี้คงเกลียดหน้ากันไปตลอดชาติ"
"แปลกนะครับ...ตอนคุณพิธานจะมัดมือชกเรื่องเป็นแฟน คุณลันไม่เห็นปล่อยผ่าน ผมจำได้นะว่าคุณลันบอกว่า ถ้ามัดมือชกเรื่องที่ไม่จริงคุณลันจะไม่ยอมปล่อยเลยตามเลย"
ลันตาอึ้งๆ แพทกับกีรติมองมาอย่างต้องการคำตอบ
"ก็..." ลันตาพยายามตั้งสติ "ครั้งนี้มันมีเรื่องผู้ใหญ่มาบวกด้วย ลันไม่อยากเสี่ยงค่ะ"
กีรติรู้ว่าลันตาเลี่ยงตอบก็ไม่จี้ เพราะมั่นใจว่าลันตาก็มีใจ "อ๋อ...ครับ"
ลันตาทำหน้าไม่ถูกเพราะรู้สึกว่ากีรติไม่ได้เชื่อที่ตัวเองพูดนัก
"ปกติก็เกลียดกันจะตายอยู่แล้ว ตอนนี้คงแทบอยากฆ่า...ถ้าอยู่ระยะประชิด ไอ้สิปาโดนย่ามาลัยกระซวกแน่"
ลันตาฟังด้วยอาการหนักใจ
นวลตี ๆ หยิก ๆ อินทนนท์ อินทนนท์หลบจนวุ่นวาย สิปาดันพยายามมาช่วยห้าม
"พอแล้วครับย่า" สิปาดันบอก
"ไม่พอ... เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์ แกก่อเรื่องใหม่อีกแล้ว" นวลยิ่งโมโหก็ยิ่งตี "หนูลันก็เสียหายไปด้วย"
"โอ้ย...แม่ ยังไงป้ามาลัยก็ไม่เชื่อหรอกว่าหนูลันจะยังซิงอยู่ มาอยู่คอนโดกับไอ้สิปานานเป็นเดือนๆ แบบนี้"
"ถ้าพวกเราไม่พูดใครจะรู้" นวลบอก
"แม่จ๋า ยาม พีอาร์ คนในคอนโดนี้มีเป็นสิบ ทุกคนเป็นพยานได้หมดต่อให้เราพูดความจริง หนูลันก็เสียหายอยู่ดี สวมรอยรับไปเลยยังจะดีซะกว่า จริงไหมสิปา"
สิปาดันพูดไม่ออกเพราะที่อินทนนท์พูดมันก็จริง
นวลอ้ำอึ้งเพราะว่าเป็นจริงอย่างที่อินทนน์ว่า ลันตาอุ้มตาหนูออกมา กีรติกับแพทช่วยถือกระเป๋าของลันตาออกมา
"จะไปเลยเหรอลูก" นวลถาม
"คุณย่ากับป้าอังถึงบ้านแล้วค่ะ ลันไม่อยากให้ท่านรอขอบคุณลุงนนท์กับย่านวลนะคะที่ช่วยหนูมาตลอด"
"ลุงขอโทษนะที่พูดไม่ทันคิด ลุงอยากช่วยไม่ให้ตาหนูถูกส่งไปบ้านเด็กกำพร้า"อินทนนท์พูดเนียนๆ
"ขอบคุณนะคะที่ห่วงตาหนู"
"หนูลันกลับไปคงจะเจอมาลัย....”
"ไม่ต้องห่วงนะคะ ยังไงคุณย่าก็คงไม่ใจร้ายกับลันหรอกค่ะ"
"ตาหนูฝากไว้ที่นี่ก็ได้นะ ฉันเลี้ยงให้เอง" สิปาดันบอก
ลันตาหนักใจ "ไม่ได้หรอก"
แพทพูดว่า "ป้าอังย้ำมาหนักแน่นเลยว่าต้องพาตาหนูกลับไปด้วยเพราะ.... “
แพทเงียบไปจนทุกคนหันไปมอง
อินทนนท์ถาม "เพราะอะไร... "
"ไม่มีอะไรค่ะ"
"เปิดมาขนาดนั้นแล้วก็พูดมาเถอะน่า" อินทนนท์ว่า
แพทตอบด้วยความเกรงใจ "คุณย่ามาลัยสั่งว่าถึงจะพลาดจนได้เลือดของพวกขี้โกงมา แต่ฉันจะเลี้ยงให้มันเป็นคนดีให้ได้" แพทหน้าแหยที่พูดจบ
ทุกคนเงียบไป แพทหน้าเสีย
"ย่าพูดเพราะโกรธน่ะค่ะ" ลันตาพูดกับนวล "อย่าคิดมากนะคะคุณย่า...ลันไปก่อนนะคะ"
สิปาดันเข้าไปดึงกระเป๋าเสื้อผ้าลันตาจากกีรติมาถือเอาไว้
"ฉันจะไปส่ง" สิปาดันบอก
ทุกคนตกใจ
"อยากตายหรือไงวะ"
"ไม่ต้องหรอก สิปา....”
"ฉันยอมให้ย่ามาลัยฆ่า แต่จะไม่ยอมทิ้งแกให้รับเรื่องร้าย ๆ คนเดียวแน่"
ทุกคนมองอึ้งๆ ด้วยความชื่นชม ลันตายิ้มปลื้ม
อังพาย่ามาลัยเข้ามานั่งในห้องรับแขก พิธานเดินเข้ามาหา
"คุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ"
อังสงสัย "คุณหายไปไหนมา เขาเกิดเรื่องกันวุ่นวายไปหมด"
"ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้เข้าไปช่วย แต่ผมไม่อยากให้ลันรู้ว่าผมเป็นคนพาคุณย่าไปที่นั่น ผมไม่อยากให้ลันเกลียดผม" พิธานบอก
"คุณรู้เรื่องของลันตากับสิปาดันหรือเปล่า" มาลัยถาม
"ไม่รู้ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ"
อังมองมาลัยว่าจะพูดอะไร
มาลัยรู้ทันว่าพิธานรู้ดีแต่แกล้งทำใสซื่อ "เอาเป็นว่า....ฉันขอบคุณมากที่คุณช่วยให้ฉันตาสว่างในครั้งนี้"
"ผมเชื่อว่าลันตาเป็นคนดี แต่คงมีเหตุผลบางอย่างทำให้ต้องปิดบังคุณย่ากับคุณป้า"
"ชั้นคิดว่าคุณรู้นะ ที่คุณมาหาฉันก็เพราะอยากให้ฉันดึงลันตากลับมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ"
พิธานอึ้งไปเล็กน้อยที่มาลัยรู้ทันในสิ่งที่เขาอยากได้
พิธานตัดสินใจยอมรับ "ใช่ครับ" พิธานยังพยายามสร้างภาพคนดี "เพราะผมคิดว่าการโกหกยิ่งนานไปจะยิ่งทำให้ถลำลึกจนพูดความจริงไม่ได้ ผมอยากให้ลันยอมรับความจริงจะเป็นการแก้ ปัญหาที่ดีที่สุดครับ แต่ผมขอให้คุณย่าทราบเรื่องจากลันนะครับ ผมไม่อยากก้าวก่าย"
มาลัยมองพิธานอย่างพินิจ
มาลัยยิ้มอย่างรู้ทัน "ก็ดูกันไป"
อังพูดแทรกเสียงดัง "คุณพี่อนุญาตให้เขาคบกับหลานเราแล้วเหรอคะ"
มาลัยย้ำเสียงเรียบพร้อมกับมองสายตาเด็ดขาด "ฉันพูดว่าก็ดู ๆ กันไป"
"ค่ะ"
พิธานมองรู้ว่าย่ามาลัยไม่ได้เชื่อใจเขานักแต่ก็พยายามยิ้มซื่อ
สิปาดัน ลันตา และตาหนูพร้อมกับกระเป๋าที่เอามายืนอยู่หน้าประตูบ้านมาลัย สิปาดันจะกดกริ่งแต่ลันตาจับมือสิปาดันเอาไว้
"แกอย่าเข้าไปเลย" ลันตาบอก
"กลัวฉันไม่มีชีวิตกลับออกมาหรือไง" สิปาดันถาม
"ย่าอาละวาด ฉันยังว่าปกติ แต่โกรธจนเป็นลม แล้วก็นิ่งๆ นี่ ฉันกลัวย่าจะ...”
"ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า จำได้ไหม ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยบอกแกแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะคอยปกป้องแกเอง"
ลันตามองสิปาดันที่หันมายิ้มหล่อ
"ฉันดีใจนะที่มีแกอยู่ข้าง ๆ เสมอ" ลันตาบอก
"ฉันก็เหมือนกัน...พร้อมนะ"
ลันตาสูดลมหายใจ "อืม...”
สิปาดันกดกริ่ง ลันตาใจเต้นอย่างเป็นกังวล สิปาดันจับมือลันตา ทั้งสองคนหายใจเข้าลึก ๆ ประตูรั้วค่อยๆ เปิดออกช้าๆ
สิปาดันกับลันตาอุ้มตาหนูก้าวเข้ามาในบ้าน ทั้งสองชะงักที่เห็นมาลัยกับอังก้าวออกมาจากบ้านแล้วยืนประจันหน้า บรรยากาศมาคุสุด ๆ
"กลับไป...บ้านนี้ไม่ต้อนรับผู้ชายเลวๆ อย่างแก" มาลัยไล่
ลันตามองสิปาดัน สิปาดันตัดสินใจเดินเข้าไปหามาลัย ลันตากับอังตกใจว่าสิปาดันจะทำอะไร สิปาดันไปคุกเข่าต่อหน้ามาลัยโดยมีระยะห่างจากระเบียงกับพื้นที่ในโรงรถ
สิปาดันยกมือ "ผมขอโทษย่ามาลัย ผมขอรับผิดชอบในการกระทำทั้งหมดที่ผมทำให้ลันต้องเสียหาย ผมพร้อมที่จะดูแลรับผิดชอบชีวิตของลันกับลูก"
"ไปให้พ้นหน้าฉัน!” มาลัยไล่
"ใจเย็น ๆ ค่ะคุณพี่" อังเตือนสติ
มาลัยไล่อีกครั้ง "ออกไปจากบ้านฉัน"
"คุณย่าครับ ผมอยากขอความเห็นใจ ขอให้คุณย่าเมตตาเราสองคนด้วยนะครับ"
มาลัยโกรธจัด "ไม่ไปใช่ไหม"
มาลัยคว้าแจกันไม้ใกล้มือได้ก็เขวี้ยงไปที่สิปาดัน แจกันโดนเข้าที่ขมับสิปาดันจนแตกเลือดไหล ทั้งลันตา ทั้งอังตกใจที่เห็นสิปาดันเลือดไหล
"สิปา!” ลันตาจะเข้าไปหา
มาลัยเสียงดัง "ยัยลัน!”
ลันตาชะงักไม่กล้าขยับตัว เธอกอดตาหนูไว้แน่น
"พวกแกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีฉัน สะใจพวกแกแล้วใช่ไหม ที่ทำร้ายฉันได้"
"ผมไม่เคยคิดจะทำร้ายลันกับครอบครัวเลย เพราะผมรักลัน" สิปาดันบอก
ลันตาตะลึง
สิปาดันยังไม่ถอย "ผมพร้อมที่จะแต่งงานกับลันตาให้ถูกต้อง ขอเพียงคุณย่าอนุญาต"
มาลัยโกรธมาก "ฉันจะไม่ยอมให้ลูกหลานฉันต้องเกี่ยวดองกับพวกขี้โกงอย่างแก ไม่มีทาง...”
มาลัยโกรธมากจนเริ่มหายใจถี่และยืนไม่อยู่จวนจะเป็นลม
อังเป็นห่วง "คุณพี่...”
"คุณย่า!....แกกลับไปก่อนสิปา...ไปสิ" ลันตาบอก
สิปาดันจะไม่ไป ลันตาต้องดันให้สิปาดันกลับไปก่อน สิปาดันจำต้องเดินกลับไป
ลันตาเอาตาหนูลงนอนที่ห้องรับแขกบ้านมาลัย ลันตาเดินเข้ามาหามาลัยกับอัง มาลัยนั่งนิ่ง อังก็เงียบโดยไม่กล้าพูดอะไร ลันตาตัดสินใจเข้าไปกราบที่ตักมาลัยด้วยความรู้สึกผิด
"คุณย่าขา....ลันขอโทษที่ทำให้คุณย่าเสียใจ...ลัน"
มาลัยไม่ได้หลบเลี่ยง ลันตาช็อคเพราะเห็นหยดน้ำตาที่หยดลงที่หลังมือของลันตาซึ่งวางอยู่บนเข่าของมาลัย ลันตาเงยหน้าขึ้นเห็นมาลัยน้ำตาร่วงก็รู้สึกเหมือนใจจะขาด
ลันตากอดมาลัยด้วยความรู้สึกผิด "คุณย่า ลันขอโทษ"
"ถูกคนเลวทำร้ายเป็นร้อยครั้งยังไม่เจ็บเท่าคนที่เรารักหักหลังครั้งเดียว"
ลันตาสะอึก
"ลันสัญญานะคะว่าจะไม่ทำให้คุณย่าต้องเสียใจอีก ลันขอโทษนะคะคุณย่า"
มาลัยไม่ตอบแต่ลุกออกไป อังรีบตามไป ลันตาเครียดมาก
นวลนั่งนิ่งสีหน้าเครียด อินทนนท์เอาข้าวผัดมาวางให้
"กินข้าวหน่อยเถอะแม่จ๋า ตั้งแต่เช้าแม่ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ"
"แม่กินไม่ลง สิปาโทรมาหรือยัง" นวลถาม
สิปาดันเดินเข้ามา ทุกคนหันไปมอง นวลกับอินทนนท์ตกใจที่เห็นคราบเลือดที่ขมับของสิปาดัน
"สิปา ไปโดนอะไรมาลูก ทำไมเลือดไหลแบบนี้" นวลถาม
นวลดึงสิปาดันมานั่งแล้วรีบไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ด
"ฝีมือย่ามาลัยเหรอเนี่ย" แพทถาม
สิปาดันรับนิ่งๆ "อืม….”
"ถึงขนาดเลือดตกยางออกแบบนี้ แบบนี้ถ้าแพทเข้าไปคงโดนย่าเชือดเละไม่เหลือ"
"แพทได้คุยกับลันหรือยัง" สิปาดันถาม
"โทรไปก็โดนตัดสายตลอด โทรบ่อยๆ เข้าก็ไม่รับสายเลย โดนคุมความประพฤติแน่" แพทว่า
ทุกคนยิ่งเป็นห่วง
"พ่อว่าเราต้องจู่โจม ไปขอขมากับป้ามาลัยแล้วก็สู่ขอลันตาเลย" อินทนนท์บอก
สิปาดันมองทางกีรติด้วยความลำบากใจ
"ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นทางออกที่ดี" สิปาดันว่า
"ทำไมล่ะในเมื่อแกระ.." อินทนนท์จะพูดว่ารัก
สิปาดันรีบแทรก "พ่อครับ" สิปาดันเห็นอินทนนท์ชะงัก "ไว้คุยเรื่องนี้ทีหลังเถอะครับ"
อินทนนท์มองสิปาดันที่มองไปทางกีรติ
อินทนนท์มองอย่างเข้าใจ "ก็ได้...”
กีรติมองสิปาดันอย่างสังเกตท่าที
ลันตาชงนมใส่ขวดจะเดินเอามาให้ตาหนู แต่เธอก็ชะงักที่เห็นมาลัยยืนดูตาหนูนิ่งๆ ลันตาตัดสินใจเข้าไปทำเสียงร่าเริงเต็มที่
"ตาหนูเป็นเด็กเลี้ยงง่ายค่ะ ไม่ค่อยงอแง กินอิ่มก็หลับเลย ลองอุ้มไหมคะคุณย่า"
ลันตาอุ้มตาหนูขึ้นมากะว่าจะส่งให้แต่มาลัยมองนิ่งอย่างเย็นชาแล้วเดินหนีไปโดยไม่ฟังอะไร
ลันตาจ๋อยแล้วก็กอดตาหนูด้วยความเสียใจ ลันตาป้อนนมตาหนูโดยน้ำตาไหลไปตลอด อังแอบดูด้วยความสงสาร
ลันตาเคาะประตูห้องมาลัย มาลัยเปิดประตูออกมาเห็นลันตายืนอยู่หน้าห้องพร้อมถ้วยน้ำขิง
"ลันชงน้ำขิงมาให้คุณย่าทานก่อนนอนค่ะ"
มาลัยมองนิ่งๆ ลันตาพยายามจะเอาใจเต็มที่ แต่มาลัยปิดประตูใส่ ลันตายืนมองประตูด้วยความเสียใจ อังแอบยืนมองด้วยสีหน้าเครียด ๆ
กีรติลุกพรวดขึ้นจนทุกคนงง กีรติจับข้อมือแพท
"คุณไปกับผมหน่อย" กีรติบอก
แพทงง "ไปไหน"
"พาผมไปบ้านคุณลัน"
"แกจะไปบ้านลันทำไม" สิปาดันถาม
"ในเมื่อแกรับเป็นพ่อตาหนูไม่ได้ ฉันจะไปรับว่าเป็นพ่อตาหนูตัวจริง และขอคุณลันแต่งงานเอง" กีรติบอก
"แบบนั้นมันบ้าแล้ว" อินทนนท์ว่า
"ไม่ได้นะเว้ยไอ้กบ" สิปาดันเบรค
กีรติไม่สนใจ เขาลากแพทออกไป สิปาดันรีบเดินตามไป
"ตานนท์...แม่อยากจะเป็นลม" นวลว่า
"อดทนไว้แม่ ฮึบ..ฮึบ!”
อินทนนท์คว้ายาดมมาส่งให้นวลพลางมองตามไปด้วยความเป็นห่วง
กีรติลากแพทมาที่หน้าลิฟท์ แพทพยายามจะยื้อกีรติไว้สุดแรง
"คุณบ้าไปแล้วหรือไง"
"วิธีนี้จะเคลียร์ทุกเรื่อง เชื่อผมสิ" กีรติบอก
กีรติพูดจบ สิปาดันก็ตามมาขวางกีรติไว้
"แกไปไม่ได้"
"แกช่วยเขาไม่ได้ฉันจะช่วยเขาเอง" กีรติบอก
"แกบ้าหรือเปล่าไอ้กบ ฉันเพิ่งรับเป็นพ่อเด็ก จู่ๆ แกไปเสนอตัวอีกคน ย่ามาลัยจะมองลันยังไง มีผู้ชายมารับผิดชอบมากแบบนี้"
"อย่างน้อยก็มีคนรับผิดชอบ ฉันรักคุณลัน ฉันยินดีเต็มใจแต่งงานกับคุณลัน" กีรติบอก
สิปาดันกับแพทอึ้ง กีรติจะไปแต่สิปาดันโกรธจึงกระชากคอเสื้อเขาไว้
"ฉันไม่ยอมให้แกฉวยโอกาสแบบนี้กับลันเด็ดขาด"
กีรติกวนประสาท "เรื่องนี้คุณลันต้องเป็นคนตัดสินใจ แกเป็นแค่เพื่อนนะสิปา ถ้าคุณลันยอมตกลง แกก็ไม่มีสิทธิ์มาห้าม"
กีรติผลักอกสิปาดันแล้วจะไป แต่สิปาดันกระชากกลับมา
"ฉันบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้"
"ฉันจะแต่งงานกับคุณลัน แกไม่มีสิทธิ์ห้ามฉัน" กีรติบอก
สิปาดันโกรธจึงพุ่งกระแทกกีรติจนกีรติไปกระแทกกับกำแพงแล้วก็ดึงคอเสื้อดันเขาไว้กับกำแพง อินทนนท์กับนวลที่เดินตามมาตกใจ
"ฉันจะไม่ยอมให้แกทำให้คนที่ฉันรักต้องเสียหายเพราะความเห็นแก่ตัวของแก" สิปาดันพูด
กีรตินิ่งมองสิปาดันแล้วทวนคำสั้นๆ "คนที่แกรัก?”
สิปาดันชะงักได้สติว่าเผลอหลุดปากไปแล้ว สิปาดันปล่อยมือจากกีรติ
กีรติจี้ทันที "หมายความว่ายังไง คนที่แกรัก!”
แพทอึ้งแล้วหันมองสิปาดัน สิปาดันอึ้ง กีรติมองอย่างกดดันเพราะต้องการคำตอบ
พอลที่อยู่ที่ร้านกำลังเก็บล้างอุปกรณ์ มิ้งค์ที่มารอก็ช่วยเก็บไปด้วย
"ถ้าพี่สิปาจะรับผิดชอบอย่างที่บอกย่ามาลัยจริงๆ ก็หมายถึงแต่งงานใช่ไหม แบบนี้พี่ลันก็สมหวังน่ะสิ...ความแตกกลับเป็นเรื่องดีไป" มิ้งค์บอก
"ก็ไม่แน่นะ ดูคุณย่าไม่น่าจะยอมลงให้ง่ายๆ" พอลว่า
"ก็จริง มิ้งค์ยังไม่กล้าโผล่หน้าไปเลย ยังไงย่าก็ต้องรู้ว่ารวมหัวกัน.... ว่าแต่ย่ามาลัยรู้ได้ยังไงว่าพี่ลันอยู่ที่คอนโดพี่สิปา พี่ลันเคยบอกฉันว่าย่าไม่เคยรู้นะว่าพี่สิปามีคอนโด"
พอลคิดตามคำพูดมิ้งค์
ภาพตอนที่พิธานเดินนำมาลัยกับอังออกมาจากลิฟท์แวบกลับมาในหัวของพอล
"พี่พีทเป็นคนพาย่ามาลัยมา" พอลพูดขึ้นมา
วันที่กำลังจะเข้ามาชะงักที่ได้ยิน
มิ้งค์ตกใจ "คุณพิธานน่ะเหรอ แล้วเขาทำเพื่ออะไร"
พอลคิด "พี่พีททำอะไรต้องหวังผลวางแผนไว้อยู่แล้ว เรื่องครั้งนี้มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่"
วันฟังด้วยความเครียด
สิปาดันมองกีรติอย่างตัดสินใจ
"ฉันรักลัน รักมาตั้งแต่เด็ก" สิปาดันบอก
กีรติมองสิปาดัน ทุกคนมองลุ้นๆ ว่ากีรติจะโกรธ
แต่กีรติก็พูดออกมา "ก็แค่นี้ กว่าจะพูดได้"
สิปาดัน แพท อินทนนท์ และนวลงงว่ากีรติหมายความว่ายังไง
"ฉันรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ไปเชียงใหม่แล้ว" กีรติบอก
ทุกคนงง
"คุณรู้ได้ยังไง" แพทถาม
"ไม่มีเพื่อนที่ไหนเขาทำตัวเป็นหมาหวงก้างอย่างมันหรอกคุณ" กีรติบอก
สิปาดันมองแล้วคิด "งั้นที่แกมาขอให้ฉันช่วยจีบลันให้ แกตั้งใจกวนประสาทให้ฉันสารภาพมาตลอดเลยงั้นสิ"
"ก็งั้นสิ"
"แล้วตกลงแก...”
"ฉันวางคุณลันไว้เป็นเพื่อนตั้งแต่ฉันรู้ว่าคุณลัน..." กีรติจะพูดว่าชอบแก
กีรติเห็นทุกคนรอฟังมากจึงลีลาไม่พูดต่อ
"รู้ว่าลันทำไม...”
กีรติเห็นว่าคนอื่นยิ่งอยากรู้ก็ยิ่งกวนตีนไม่บอก "เรื่องแบบนี้มันต้องรู้เอง ถ้าไม่โง่นะ"
"เดี๋ยว ไอ้กบ" สิปาดันจับไหล่กีรติ
กีรติหันมาต่อยสิปาดันดังผัวะ! ทุกคนตกใจ
"หมัดนี้ไล่ความขี้ขลาดของแก เป็นลูกผู้ชายอย่าดีแต่หวงก้างไปวัน ๆ"
กีรติไป อินทนนท์กับนวลเข้าไปดูสิปาดัน แพทมองตามกีรติไป
สิปาดันนั่งพิงกับโซฟาอย่างเศร้าซึมกับชีวิต อินทนนท์เอาผ้าห่อน้ำแข็งวางบนหน้าสิปาดัน
"ยังไงล่ะไอ้หมา" อินทนนท์ว่า
สิปาดันยังเงียบ
นวลมาจับผ้าประคบแล้วขยี้ ๆ ตรงรอยช้ำ
"โอ้ยๆ ๆ เจ็บนะครับ ย่า"
"ก็มันน่าโมโห หลานย่าไม่เจ๋งเลย"
สิปาดันตัดสินใจ "พ่อครับ ผมอยากให้พ่อช่วย"
อินทนนท์กับนวลมองว่าจะเอายังไง
กีรตินอนมองฟ้ายิ้ม ๆ จังหวะตอนที่ยิ้มเจ็บบริเวณมุมปากที่ช้ำ "โอ้ย....”
แพทเดินเข้ามาพร้อมกระป๋องน้ำเย็นเฉียบแต่หุ้มด้วยผ้าเย็น แพทประคบวางที่มุมปากของกีรติ กีรติสะดุ้งมองเห็นว่าเป็นแพท
"จะได้หายช้ำ" แพทบอก
"ขอบใจ" กีรติพูด
"ไม่เสียใจเหรอที่อกหัก" แพทถาม
"อกหักดีกว่ารักไม่เป็นนะคุณ"
"คุณรักลันจริงๆ เหรอ"
"ไม่จริง"
"เอ้า!" แพทคิดในใจว่ากวนตีนนะเนี่ย
"ผมประทับใจคุณลัน เพราะไอ้สิปามันพูดถึงคุณลันบ่อย ๆ ยิ่งได้รู้จัก ก็ยิ่งรู้สึกดี"
"ถ้ารู้สึกดีขนาดนั้นแล้วทำไม...เสียสละให้สิปางั้นเหรอ"
กีรติยิ้ม "เพื่อเพื่อน มากกกว่านี้ผมก็ให้ได้"
"แมนซะ...”
"มันแน่นอน"
"งั้นก็ไปส่งฉันที่บ้านด้วย"
"หืม...”
"แมนไง สุภาพบุรุษน่ะ"
"ขออยู่นิ่งๆ แบบนี้สักพักก่อน"
"อืม...”
กีรติถอนใจแล้วนอนมองฟ้า แพทแอบมองกีรติเงียบ ๆ อย่างปลื้ม ๆ
ลันตาเดินออกมาที่สวนโดยมองไปบนฟ้าอย่างใช้ความคิด เธอนึกถึงตอนที่สิปาดันไปคุกเข่าต่อหน้ามาลัย
สิปาดันยกมือไหว้ "ผมขอโทษย่ามาลัย ผมขอรับผิดชอบในการกระทำทั้งหมดที่ผมทำให้ลันต้องเสียหาย ผมพร้อมที่จะดูแลรับผิดชอบชีวิตของลันกับลูก"
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น ลันตาก็ยิ้มออกมา
"แกคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอเปล่านะ สิปา"
ลันตามองฟ้าอย่างไม่รู้จะหาคำตอบได้อย่างไร อังเดินเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์
"ลัน...คุณรัชนีโทรมา"
ลันตารับสาย "ค่ะพี่นี เมื่อวานก่อนลันไปเช็คสถานที่แล้วค่ะ เรื่องแขกกับโชว์แพทกับมิ้งค์เช็คความพร้อมให้แล้วค่ะ ค่ะ พรุ่งนี้พบกันค่ะพี่ สวัสดีค่ะ" ลันตาวางสาย
ลันตาจะคืนโทรศัพท์ให้แต่ก็นึกได้
"ลันขอส่งข้อความสั่งงานให้แพทหน่อยนะคะป้า"
"ก็เอาสิ"
ลันตากดพิมพ์ไลน์อย่างรวดเร็ว “แพท...ฉันอยากคุยกับสิปาพรุ่งนี้...ไม่ต้องตอบกลับมานะ”
ลันตาจะกดส่งแต่พอพิมพ์ข้อความเรียบร้อยก็กดลบออก แล้วกดข้อความใหม่ว่าพรุ่งนี้เจอกันที่งาน 08.00 น. อย่าเลทนะแล้วกดส่ง ลันตาส่งมือถือคืนให้อัง อังรับมาแล้วเปิดดูข้อความ
"เห็นพิมพ์ตั้งเยอะ ทำไมข้อความมันแค่นี้ล่ะ"
ลันตาคิดในใจว่านั่นไงเช็คจริงๆ ด้วย "อันแรกมันพิมพ์ผิดน่ะค่ะ ลันไปนอนก่อนนะคะป้า ราตรีสวัสดิ์ค่ะ" ลันตาหอมแก้มป้าอังแล้วจะเดินเข้าบ้าน
อังเรียก "ลัน...”
"ว่าไงคะป้า"
"อดทนหน่อยนะลูก เราทำผิดจริงๆ ก็ต้องโดนลงโทษ"
"ลันรู้ค่ะ ลันจะรอเวลาที่ย่าให้อภัยลันค่ะ"
ลันตากอดอัง อังกอดตอบอย่างปลอบโยน
อ่านต่อหน้าที่ 2
รักต้องอุ้ม ตอนที่ 12 (ต่อ)
ลันตาแต่งตัวลงมาจากบนบ้านเตรียมจะออกไปทำงาน เธอชะงักที่เห็นมาลัยกับอังที่อุ้มตาหนูยืนรออยู่
"วันนี้ลันต้องไปทำงานค่ะคุณย่า"
"ทำงาน...วันเสาร์น่ะเหรอ?” มาลัยถาม
"มันเป็นอีเว้นท์ของออฟฟิศจัดร่วมกับลูกค้ารายใหญ่ของเราค่ะ" ลันตาพูดกับอัง "ลันจะรบกวนป้าอังช่วยดูตาหนู"
"ไม่ต้อง…. ฉันจะเลี้ยงตาหนูเอง" มาลัยว่า
ลันตากับป้าอังมองหน้ากันอึ้ง ๆ ที่ได้ยินเช่นนั้น
"อังเลี้ยงให้ก็ได้ค่ะคุณพี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย" อังบอก
มาลัยไม่สนใจอังเลย "ไปทำงานสิ รีบไม่ใช่เหรอ"
ลันตาได้สติ "ขอบคุณค่ะคุณย่า ป้าอังคะ ลันขอโทรศัพท์ได้ไหมคะ จะได้ติดต่องานวันนี้ได้"
"ไว้กับป้าเขาก็ได้"
"แต่ลันต้องไปทำงาน"
มาลัยยิ้มจนลันตาชักสังหรณ์ใจไม่ดี
มะนาวพยายามโทรหาสิปาดันแต่สิปาดันไม่รับสาย
"ทำไมไม่รับสายนะ"
มะนาวมายืนลับๆ ล่อ ๆ ดักรอสิปาดันจนสิปาดันเดินเข้ามา มะนาวรีบเข้าไปหา
"เมื่อวานสิปามีบินไฟล์ทเดียวกับนาวตอนค่ำทำไมถึงไม่ไปล่ะ" มะนาวถาม
"ผมมีเรื่องนิดหน่อย ไม่พร้อมบิน" สิปาดันบอก
"ไม่ใช่เพราะนาวใช่ไหมคะ"
"ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับนาวเลยครับ"
มะนาวอึ้งเล็กน้อยกับคำพูดที่ดูจะไม่ใช่แค่หมายถึงเรื่องเมื่อวานแต่หมายถึงทุกเรื่องของสิปาดัน วีระเดินมาจากอีกทางหนึ่ง สิปาดันเห็นพอดีจึงพูดกับมะนาว
"ผมมีธุระ ขอตัวก่อนนะ"
สิปาดันรีบปลีกตัวเดินตามวีระไปทันที มะนาวมองตามอย่างไม่พอใจ
สิปาดันเดินเข้าไปหาวีระ
"คุณลุงครับ"
"สิปา...พ่อเขาโทรมาบอกลุงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ลุงดีใจด้วยนะที่เราจะมีครอบครัวสักที แล้วจะให้ไปเจรจาสู่ขอเมื่อไหร่ล่ะ" วีระถาม
"พรุ่งนี้ครับ ตอนนี้พ่อกับย่ากำลังช่วยกันเตรียมของ"
วีระยิ้มๆ "ไม่คิดเลยนะ ว่าสิปาจะลงเอยกับหนูลันได้"
สิปาดันยิ้ม มะนาวได้ยินก็แค้นมาก
มิ้งค์เดินวนไปมาอยู่แถวแบ็คดรอปงาน “ Remember of Love (ความทรงจำแห่งรัก) ” ซึ่งเป็นงานอีเว้นท์ของหนังสือลาเบลที่มีสินค้าเป็นแหวน คอนเซ็ปท์เป็นสีขาว หรู มิ้งค์ชะเง้อมองออกไปทางลานจอดรถตลอดเวลา แพทเข้ามาเอาหนังสือตีหัวเบา ๆ
"มิ้งค์ คู่รักที่เป็นผู้ร่วมสนุกจากทางบ้านมาครบหรือยัง" แพทถาม
"พี่ติ๊ดตี่บอกว่าครบแล้วค่ะ.... สาวๆ กำลังแต่งหน้า ชายหนุ่มกำลังทำผม ตื่นเต้นแทนผู้โชคดีนะพี่ คนรักเก่ากลับมาเจอกันเพราะหนังสือเราช่วยให้เขาได้พบกันอีกครั้ง...พี่ลันเจ๋งอ่ะ คิดงานด่วนขายลูกค้าจนผ่าน แต่วันนี้พี่ว่า...ย่ามาลัยจะยอมให้พี่ลันมาทำงานหรือเปล่า" มิ้งค์ว่า
"ย่าเขาแยกแยะได้น่ะ งานกับเรื่องส่วนตัว" แพทบอก
ลันตาที่เดินเข้ามามีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"ไอ้ลันมาแล้ว พี่บอกแล้วว่าย่ามาลัยเขาแยก...." แพทชะงัก
มิ้งค์หันไปมองแล้วก็อึ้งไม่แพ้กันที่เห็นลันตาเดินเข้ามาโดยมีป้าอังตามเข้ามาด้วย
มิ้งค์ยิ้มแบบคิดในใจว่านี่เหรอแยกได้ "แยกแยะได้"
แพทยิ้มเจื่อนๆ
"สองคนนั้น เห็นหน้าป้าอย่างกับเห็นผี" อังว่า
แพทกับมิ้งค์ยกมือไหว้ "สวัสดีค่ะป้าอัง"
อังตำหนิ "เด็กเลี้ยงแกะ"
มิ้งค์ออดอ้อนเต็มที่ "มิ้งค์ขอโทษค่ะ ป้าอังขา คุณย่าโกรธมากไหมคะ"
"บอกเลยว่าคราวนี้ป้าก็ช่วยไม่ได้" อังว่า
"โหย......ถ้าเข้าไปมีหวังโดนสั่งแทงปลาไหล สก๊อตจัมพ์กลางตลาดนัดแน่เลย" แพทกลัวไปก่อน "ตายแน่ ๆ"
ลันตาตีหน้าผากแพท "หยุดเพ้อ เวิ่นเว้อ แล้วพี่นีอยู่ไหน"
"ข้างในโน่น เรื่องเวทีพร้อมหมดแล้ว นางแบบ สินค้าพร้อม" แพทบอก
"แล้ว...?” ลันตาถาม
แพทรู้ว่าหมายถึงสิปาดัน "กำลังมา..”
"โอเค...งั้นเราไปเช็คงานละเอียดกันอีกที" ลันตาขยิบตาให้แยกตัวไปจากอัง "มิ้งค์ พี่ฝากดูแลป้าอังด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนเสื้อสต๊าฟก่อน"
"แล้วตาหนูล่ะคะ" มิ้งค์ถาม
"ก็ต้องอยู่กับมือวางอันดับหนึ่งเรื่องเลี้ยงเด็ก ยัยลันนี่โตมาได้ขนาดนี้ เพราะมือคุณพี่ทั้งนั้น"
มิ้งค์แอบเม้าท์กับแพทเบาๆ "ตาหนูคงกลัวแย่"
ตาหนูหัวเราะเอิ๊กอ๊ากที่มาลัยเล่นด้วยอย่างเอ็นดูและมีความสุขมาก มาลัยเอาตาหนูลงนอนที่เตียงแล้วเอาขวดนมให้ดูด มาลัยเดินออกมาที่ห้องรับแขกก็เห็นเจ้าหน้าที่จากสำนักจัดหางานนั่งรออยู่
"พี่อังบอกให้ศรีช่วยหาเด็กทำงานบ้านชั่วคราว ศรีก็เลยแบ่งเด็กที่บ้านมาช่วยค่ะ ทำแบบไปเช้าเย็นกลับนะคะ" ศรีบอก
"แล้วอยู่ไหนล่ะ เด็กที่ว่าน่ะ" มาลัยถาม
"เข้ามานี่สิจ๊ะ"
มินที่แต่งตัวเป็นคนรับใช้ปกติเดินเข้ามาแล้วขยับมาไหว้มาลัย ด้วยหน้าตาซื่อ ๆ เพราะไม่รู้ว่าเป็นบ้านของลันตา
รัชนีกับลันตาคุยกับมิ้งค์และติ๊ดตี่ด้วยสีหน้าเครียด
"หมายความว่ายังไงที่คู่ของคุณฤชวียังไม่มา" รัชนีถาม
"ตามที่เราคุยกันไว้ต้องมี 3 คู่ไม่ใช่เหรอมิ้งค์" ลันตาถาม
"มิ้งค์ส่งรายชื่อทั้งหมดให้พี่ติ๊ดตี่ประสานงานค่ะ แต่พี่ติ๊ดตี่คอนเฟิร์มกับมิ้งค์ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่คะว่าครบ"
"ก็ตอนแรกมันครบค่ะ แต่พอดีคุณฤชวีติดธุระเดินทางต่างประเทศกะทันหัน" ติ๊ดตี่บอก
"แล้วรายชื่อสำรองล่ะ" ลันตาถาม
"ติ๊ดตี่ติดต่อคู่เซเลบริตี้อีกท่านไว้แล้วค่ะ กำลังเดินทางมา"
"ใคร?” ลันตาถาม
"บอกไม่ได้ค่ะ มันเป็นเซอร์ไพร์ส"
"เซอร์ไพร์สทีมงานกันเองด้วยเหรอ"
"อย่ามาเล่นตลกกับพี่นะติ๊ดตี่" รัชนีว่า "บอกมาว่าเซเลบริตี้อีกคนเป็นใคร"
"บอกไม่ได้จริง ๆค่ะ หัวหน้าสั่งไว้" ติ๊ดตี่ว่า
"พี่เป็นคนคิดงานขายลูกค้า และทำอีเว้นท์นี้นะ" ลันตาบอก
"ลันตาเป็นหัวหน้าที่พี่แต่งตั้งให้ทำงานนี้ ถ้าบอกลันตาไม่ได้แล้วเธอจะบอกใคร" รัชนีถาม
เสียงธัญญาเรศดังขึ้น "ก็บอกบรรณาธิการบริหารของหนังสือลาเบลสิคะ"
ทุกคนหันไปเห็นธัญญาเรศเดินเข้ามา
"ธัญญาเรศ เธอยังไม่ได้รับจดหมายแจ้งจากฝ่ายบุคคลเหรอว่า พี่อนุมัติเรื่องลาออกของเธอแล้ว"
"ญ่าได้รับแล้วค่ะ แต่คนที่ไม่ได้รับจดหมายตัวจริงน่าจะเป็นพี่นีมากกว่า" ธัญญาเรศบอก
"จดหมายอะไร?” รัชนีถาม
ธัญญาเรศส่งจดหมายให้รัชนี
"จดหมายจากคุณพิธานเรื่องระงับการปลดญ่าจากตำแหน่ง เห็นลายเซ็นไหมคะ" ธัญญาเรศถาม
รัชนีอึ้ง
"ชัดเต็มสองตาแล้วนะคะ ถ้าพี่นียังไม่มั่นใจเชิญคุยกับคุณพิธานโดยตรงได้เลยค่ะ"
รัชนีโกรธมากจึงเดินออกไป
"ฉันชอบคอนเซ็ปท์ของเธอนะ ความทรงจำแห่งรักที่จะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งวันนี้ ไม่ต้องห่วงนะลัน งานนี้จะต้องเป็นที่พอใจของลูกค้าแน่ๆ"
ลันตามองอย่างสมเพช "ฉันสงสัยว่าจะมีวันได้เห็นเธอเป็นตัวจริงในการทำงานบ้างไหม"
ธัญญาเรศมองด้วยสายตากร้าว
"ยากว่ะ ปาดหน้าเค้กคนอื่นจนเคยตัว" แพทบอก
"คนโง่ก็ต้องเป็นบันไดให้คนฉลาดเหยียบแบบนี้เรื่อยไป...” ธัญญาเรศว่า
"คนโง่ที่มีฝีมือจะยืนอยู่ได้ด้วยความเพียร แต่โง่สร้างภาพหมดเล่ห์กลไม่นานก็ตาย เปลี่ยนความคิดตอนนี้ยังทันนะ" ลันตาว่า
ลันตามองธัญญาเรศที่ส่งสายตาท้าทาย ลันตาส่ายหน้าเบาๆ กับความดื้อรั้นของธัญญาเรศก่อนจะเดินตามรัชนีออกไป
"พี่ญ่าคะ แล้วใครที่จะมาเป็นคู่ไฮไลท์คะ" ติ๊ดตี่ถาม
"พี่จะจัดการเอง"
ติ๊ดตี่มองธัญญาเรศด้วยความสงสัยว่ามีแผนอะไร
พิธานที่อยู่ในลานจอดรถกำลังจะเดินเข้ามาในงาน
เสียงลันตาดังขึ้น "อย่าเลยค่ะพี่นี"
พิธานชะงักแล้วมองไปทางต้นเสียงก็เห็นลันตากำลังเดินตามรัชนี
"พี่นีคะ"
"คนทำผิดต้องได้รับโทษ ต้องจัดการให้ถูกต้อง พี่ต้องคุยกับคุณพิธานเรื่องนี้" รัชนีบอก
พิธานพอจะเดาได้ว่าเรื่องของธัญญาเรศ พิธานเดินตรงเข้าไปหารัชนี
"มีเรื่องอะไรเหรอครับ" พิธานถาม
ลันตาจะเดินไป
"ผมคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับคุณลันด้วยนะครับ" พิธานพูด
ลันตาชะงัก
แพทเดินคุยโทรศัพท์เข้ามาในงาน
"ไอ้สิปา แกอยู่ไหนแล้ว ไอ้ลันมันมาถึงแล้วนะ" แพทบอก
อังถามขึ้น "คุยกับใครน่ะ"
"ก็คุยกับ...”
แพทหันมาก็ตกใจที่เห็นอังกำลังมองจ้อง "เฮ้ย!”
"ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น แล้วเมื่อกี้ป้าได้ยินเรากำลังบอกใครว่ายัยลันมาถึงแล้วน่ะ"
"ทีมงานค่ะ มาสายมากเลย ลันมันโวยวายใหญ่แล้วค่ะ" แพทบอก
มิ้งค์เดินตามเข้ามา "ขอโทษค่ะที่มิ้งค์ช้า"
สิปาดันกับกีรติรีบเดินเข้ามาเห็นอังที่หันหลังให้ก็ตกใจมาก แพทกับมิ้งค์ที่หันหน้าไปทางที่สิปาดันเดินเข้ามาก็ตกใจไม่แพ้กัน
"เฮ้ย!” สิปาดันต้องรีบหลบไปทันที อังหันมาเลยเห็นกีรติยืนอยู่คนเดียว
"สวัสดีครับคุณป้า" กีรติยกมือไหว้
"แฟนคลับโรคจิตของยัยลันนี่ หายแล้วเหรอพ่อคุณ" อังถาม
"หายแล้วครับ แล้วคุณลันอยู่ไหนครับ"
"ไปคุยกับพี่นีทางโน้น" แพทหันมาหาป้าอัง "ป้าอังคะ ไปทานของว่างตรงโน้นดีกว่านะคะ จะได้นั่งรอแบบสบายๆ"
กีรติพูดกับสิปาดัน "แกไปหาคุณลันนะ พวกฉันจะดึงป้าอังไว้เอง"
แพท กีรติ และมิ้งค์ต้อนพาอังเดินออกไปจนได้ สิปาดันมองตามกลุ่มแพทแล้วเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง
พิธานรับฟังอย่างไม่รู้สึกใด ๆ
"เรื่องแค่นี้น่ะเหรอที่คุณเป็นเดือดเป็นร้อน" พิธานว่า
"หลักฐานชัดแจ้งขนาดนี้ เราต้องจัดการลงโทษคนผิดให้เป็นเยี่ยงอย่าง บริษัทเกิดความเสียหาย" รัชนีบอก
"ตรงไหนล่ะครับที่เสียหาย?”
รัชนีอึ้ง
พิธานพูดต่อ "ก็ในเมื่อส่วนที่คิดว่าเสียหาย คุณกับคุณลันก็วางแผนดักไว้ทุกทางแล้วนี่ ทั้งเรื่องไอจี เรื่องใส่ร้าย"
"แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของจรรยาบรรณในการทำงาน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธัญญาเรศทำร้ายเพื่อนร่วมงาน" รัชนีบอก
"แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาทำงานให้เราได้ ถูกต้องไหม" พิธานถาม
รัชนีอึ้งดอกที่สอง
"ในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้บริหาร ดิฉันขอยืนยันที่จะปลดธัญญาเรศจากตำแหน่ง" รัชนีบอก
"โดยตำแหน่งของผมคือ นายทุน ที่ต้องการกำไรของผลประกอบการ ใครที่ทำงานได้ผมก็จ้างไว้รวมทั้งคุณด้วย"
"ความคิดเห็นของดิฉันมันไม่มีความหมายใช่ไหมคะ แล้วตำแหน่งของดิฉันจะมีประโยชน์อะไร" รัชนีถาม
พิธานมองรัชนียังมีที่ท่าไม่ยอมง่าย ๆ
พิธานตัดสินใจ "เอาอย่างนี้ เรื่องนี้ คนที่เสียหายคือคุณลัน ผมขอให้คุณลันตัดสินใจว่าจะจัดการยังไงกับธัญญาเรศ"
ลันตาเหวอที่ทุกอย่างมาหล่นใส่ตัวเองแบบนี้ รัชนีกับพิธานมองมาทางลันตาอย่างกดดัน ลันตาเครียด
รัชนีเดินเข้ามาในงานด้วยสีหน้าเครียด ลันตาเดินตามออกมา
"พี่นี ลันขอโทษนะคะ" ลันตาพูด
"จุดอ่อนของลันคือขี้สงสารและใจอ่อนเกินไป ลันต้องรู้จักที่จะเลือกสงสารคนที่ควรจะสงสาร" รัชนีว่า
"ยังไงญ่าก็เป็นเพื่อนลัน"
"แล้วเขาเห็นลันเป็นเพื่อนหรือเปล่า ใจดีกับโง่มันต่างกันแค่นิดเดียวนะ"
"ลันจะระวังตัวค่ะ"
"วันนี้เอเจนซี่กับคุณกาญจนาจะมาดูงาน พี่อยากให้ลันคอยดูแล เพราะมันจะมีผลกับการซื้อแอดครึ่งปีหลังทั้งลาเบล ดรีม"
"ค่ะ....”
เสียงมือถือดัง ลันตาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสิปาดันโทรมา
ลันตาพูดกับรัชนี "เดี๋ยวลันตามเข้าไปในงานนะคะ"
รัชนีพยักหน้ารับแล้วเดินแยกตัวไป
ลันตารีบกดรับ "สิปา แกอยู่ที่.....”
ลันตาพูดยังไม่ทันจบคำแขนของเธอก็ถูกดึงให้หันมา ลันตาหันมาเจอกับสิปาดัน ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความดีใจมาก ทั้งคู่กำลังจะเข้ากอดกันด้วยความดีใจ
เสียงสุวิภาดังขึ้น "ลันตา!”
ทั้งคู่ชะงัก สุวิภากับพิธานเดินเข้ามา
"เอเจนซี่กับคุณกาญจนามาถึงแล้ว ทำไมถึงยังไม่เข้าไปที่งานอีก" สุวิถาภาม
"ลันกำลังคุยธุระอยู่ค่ะ" ลันตาบอก
"พี่อยากให้คุณกาญจนาเป็นแอคเคาท์ของดรีม เธอเข้าใจใช่ไหมว่ามันสำคัญมากแค่ไหน" สุวิถาภาม
"ค่ะ"
"เข้าไปในงานกับฉัน...”
ลันตาหันมองสิปาดันอย่างเสียดายเพราะเธออยากจะพูดจะคุยกับเขา
สิปาดันบอกกับลันตา "ฉันจะรอ"
ลันตาจะจับมือสิปาดัน
พิธานรีบแทรก "คุณลัน!”
ลันตาชะงัก
"คุณสุคงไม่อยากให้ลูกค้ารอนานใช่ไหมครับ" พิธานว่า
สุวิภาพูดกับสิปาดัน "ฉันคงต้องขอตัวลันตาไปทำงานก่อนนะคะ"
ลันตาจำต้องเดินไปกับสุวิภาทำให้เหลือพิธานอยู่กับสิปาดัน สิปาดันมองพิธานที่ยิ้มกวนประสาทว่าแยกลันตาไปได้สำเร็จ
"คงสนุกมากสินะ ทำตัวเป็นแมลงหวี่บินสร้างความรำคาญไปวันๆ" สิปาดันว่า
"วันนี้ยังมีอะไรสนุก ๆ อีกเยอะ ฉันอยากให้แกรอดู" พิธานบอก
พิธานยิ้มร้ายแล้วเดินไป สิปาดันมองตามด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
เสียงมือถือของพิธานดังขึ้น พิธานกดรับ
"สวัสดีครับ คุณมะนาว ผมหวังว่าการโทรมาของคุณจะเป็นข่าวดี" พิธานฟัง
พิธานตกใจที่ได้ยินเรื่องราวจากมะนาว พิธานวางสายด้วยสีหน้าเครียดเพราะไม่พอใจมากที่รู้เรื่องสิปาดันจะไปขอหมั้นลันตา
"ไอ้สิปา!”
พิธานยืนรออยู่สีหน้าเครียด ธัญญาเรศเดินเข้ามาหาพิธาน
"คุณพิธานเรียกญ่ามาพบ มีเรื่องอะไรเหรอคะ" ธัญญาเรศถาม
"เซอร์ไพร์สที่ผมให้คุณช่วยวันนี้ ผมอยากได้มากกว่าแค่จะสร้างความประทับใจให้ลัน"
"มากกว่ามอบของเหรอคะ?”
พิธานยิ้มร้ายอย่างคิดไว้แล้ว ธัญญาเรศมองอย่างสงสัยว่าเขาต้องการอะไร
แขกเหรื่อทยอยกันเข้ามานั่งที่เก้าอี้บริเวณ stage ลันตากับสุวิภาเดินเข้ามาเจอกับรัชนีและอนุชิตที่กำลังคุยอยู่กับวาณี ซึ่งเป็นเอเจนซี่
"สวัสดีค่ะคุณสุ" วาณีทักทาย
"วันนี้คุณวามาดูงานเองเลยเหรอคะ" สุวิภาถาม
"คุณกาญจนาค่อนข้างกังวลน่ะค่ะ เพราะเพิ่งร่วมงานกับทางลาเบลเป็นครั้งแรก ถ้างานวันนี้ออกมาดี ก็บอกได้เลยว่ามีโปรเจ็คท์ใหญ่รออยู่"
วาณีพูดด้วยความมั่นใจมาก พวกสุวิภาฟังแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าลูกค้ารายนี้ใหญ่จริง ๆ
อนุชิตพูด "ครึ่งปีหลัง ทั้งลาเบลกับดรีมคงต้องรบกวนคุณวา ผมจะให้คนส่งม็อคอัพของดรีมให้ทางคุณวาช่วยเชียร์กับแอคเคาท์รายอื่นๆ ด้วยนะครับ"
"ยินดีค่ะ"
กาญจนาเดินเข้ามา วาณีปรี่เข้าไปต้อนรับ
"เชิญทางนี้ค่ะ คุณกาญจนา"
"เป็นยังไงบ้างคะ" รัชนีถาม
"โอเคนะคะ เป็นอย่างที่คุยไว้ทุกอย่าง ก็เหลือแต่ตอนงานเริ่มกับไฮไลท์ว่าจะดีเท่าที่พรีเซ้นท์ไว้ไหม ฉันชอบคอนเซ็ปท์นะคะ มันเหมาะกับคอลเลคชั่นใหม่ที่ทางเราวางแผนจะเปิดตัวในเดือนหน้า" กาญจนาบอก
"โปรเจ็คท์ครั้งนี้พิเศษมาก ก็กำลังเลือกอยู่ว่าจะเป็นเล่มไหน" วาณีบอก
"ทางลาเบลหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าจะได้รับความไว้วางใจ" อนุชิตว่า
กาญจนาแค่ยิ้มรับ
"งานจะเริ่มแล้ว ดิฉันจะพาไปที่นั่งนะคะ"
รัชนีพากาญจนาเดินไป สุวิภาอยู่กับลันตา อนุชิตมองตาม
"อนุชิต" สุวิภาเรียก
"ครับ...”
"บอกทุกฝ่ายนะว่างานวันนี้จะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด"
"ครับ"
อนุชิตมองลันตาแบบอยากจะคุย
"มีอะไร?” สุวิภาถาม
อนุชิตเห็นว่าไม่มีโอกาสแน่ๆ ก็ตอบไป "ไม่มีครับ...”
อนุชิตเดินแยกออกไป
"ลันตา...” สุวิภาเรียก
"คะ?” ลันตารับคำ
"คอยตามประกบคุณกาญจนาไว้ ยังมีอีกหลายงานที่รอเราอยู่ เธอควรต้องรู้รสนิยมลูกค้าให้มากที่สุด" สุวิภาสั่งงาน
"ค่ะ"
สุวิภาเดินตามไปตรงที่นั่ง ลันตาเดินตาม
ลันตาเดินเข้ามาภายในงานโดยกำลังจะตรงไปมุมที่นั่ง จู่ ๆ ติ๊ดตี่ที่ถือเครื่องดื่มมาสองมือก็ชนเข้ากับลันตาทำให้เครื่องดื่มหกใส่ตัวลันตาเต็มๆ
"โอ๊ะ!” ลันตาตกใจ
ชุดสีขาวของลันตาเลอะเป็นด่างดวง
"ตายแล้ว ขอโทษค่ะพี่ลัน ติ๊ดตี่กำลังจะเอาเครื่องดื่มไปให้ลูกค้า ขอโทษจริงๆนะคะ"
"ไม่เป็นไร" ลันตาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ด
สุวิภามองเห็นสภาพลันตาก็ถาม
"เธอคงไม่คิดจะไปดูแลลูกค้าด้วยสภาพนี้ใช่ไหม"
ลันตามองตัวเองอย่างหนักใจ
"ลัน...ไม่มีชุดสำรองมาค่ะ" ลันตาบอก
"ติ๊ดตี่...จัดการพาลันตาไปหาเพชรทีนะ" สุวิภาสั่ง
"ค่ะ ทางนี้เลยค่ะพี่ลัน"
ติ๊ดตี่รีบดึงลันตาไป สุวิภามองตามแล้วยิ้มนิด ๆ อย่างพึงพอใจ
ติ๊ดตี่ดึงลันตาเข้ามา มิ้งค์กับเพชรกำลังเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหญิงสาวจากทางบ้าน ส่วนแพทกำลังช่วยดูการปล่อยคิว
"พี่ลัน...ทำไมมันเลอะเทอะแบบนั้นล่ะพี่" เพชรตกใจ
"พี่เพชรคะ คุณสุให้ช่วยหาเสื้อเปลี่ยนให้พี่ลันหน่อยค่ะ ต้องรีบไปต้อนรับลูกค้า" ติ๊ดตี่บอก
เพชรพูดซื่อๆ เพราะไม่ได้ร่วมมือกับธัญญาเรศ "ทำไมบังเอิญอย่างนี้ เมื่อกี้ มีคนเอาชุดมาให้พี่บอกว่าเป็นชุดของลัน"
ลันตาแปลกใจ "ชุดของลันเหรอคะ”
"ค่ะ พี่ก็ยังงง ๆ แต่เค้าบอกว่าเดี๋ยวลันต้องใช้ชุดนี้"
ลันตาชักรู้สึกแปลกๆ แต่ยังไม่ทันจะซัก
ติ๊ดตี่ก็พูดด้วยเสียงเร่งเร้ามาก "พี่ลัน คุณสุโทรตามใหญ่แล้วค่ะ บอกงานจะเริ่มแล้ว"
ลันตาจำต้องเดินเข้าไปเปลี่ยน
"พี่แพทคะ คุณสุบอกให้พี่ช่วยออกไปดูที่หน้าเวทีด้วยค่ะ" ติ๊ดตี่บอก
แพทเดินออกไป ติ๊ดตี่ลอบยิ้มอย่างพึงพอใจ
แหวนเพชรสามวงถูกวางอยู่บนเวที โดยตกแต่งที่วางโดดเด่นเพื่อรอการรับมอบ ธัญญาเรศขึ้นมาเป็นพิธีกรบนเวที
"สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ทางลาเบลและควีนส์ไดมอนด์ได้ร่วมกันสร้างสรรค์คอลเลคชั่นพิเศษในเดือนแห่งความรัก “Remember of Love”ความทรงจำของความรักจากคู่รักกว่าหนึ่งพันคู่ หนึ่งพันเรื่องราวความรักงดงามที่ถูกร้อยเรียงในจดหมาย และผ่านสายตาของทีมงานของลาเบลจนถูกคัดเหลือเพียงสองคู่ที่จะเป็นผู้โชคดีในวันนี้เพื่อรับมอบแหวนเพชร “Remember of Love “ มูลค่าหนึ่งแสนบาท ขอเชิญคู่รักผู้โชคดีทั้งสองคู่บนเวทีค่ะ"
คู่รักจากทางบ้านที่แต่งตัวสวยงามก้าวขึ้นมาบน stage
สิปาดันกับกีรติเดินเข้ามาในงาน
"ช่วยมองหาลันหน่อย....อยู่ตรงไหน?” สิปาดันบอกเพื่อน
พิธานที่เปลี่ยนชุดหล่อยืนอยู่ที่มุมหนึ่งโดยมองทางสิปาดันอย่างพอใจที่เข้ามาตามเกมที่เขาต้องการ ธัญญาเรศยังดำเนินงานต่อไปบนเวที
"ขอเชิญคุณกาญจนา กรรมการบริหารบริษัทควีนส์ไดมอนด์ให้เกียรติมอบแหวนแก่ผู้โชคดีทั้งสองคู่ค่ะ" ธัญญาเรศบอก
กาญจนาเดินขึ้นมาบนเวทีและมอบแหวนให้กับคู่รักทั้งสองคู่ท่ามกลางเสียงปรบมือของคนในงาน
"ขอแสดงความยินดีกับผู้โชคดีทั้งสองคู่ และนับจากวันนี้ ความทรงจำจะเริ่มต้นพร้อมกับความรัก และแหวน Remember of Love อีกครั้ง"
ผู้ชมต่างพากันปรบมือ
ลันตาเปลี่ยนชุดเรียบร้อยเดินออกมา เธอมองสภาพตัวเองอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
เพชรเดินเข้ามาดู "ใส่ได้พอดีเลยนะ"
"พี่เพชรคะ ลันว่าชุดนี้มัน...." ลันตาจะบอกว่ามันหรูเกินไป
ติ๊ดตี่รีบเข้ามาประกบลันตาทันที
"พี่ลันคะ คุณสุเร่งให้ไปที่นั่งแล้วค่ะ ทางนี้เลยค่ะพี่"
ลันตามีสีหน้าอึดอัดแต่ก็เดินตามติ๊ดตี่ไป
คู่รักสองคู่จากทางบ้านต่างเดินลงจากเวที นักข่าวพากันถ่ายรูปพร้อมเสียงปรบมือจากผู้ร่วมงาน ธัญญาเรศเดินไปตรงมุมที่ถูกจัดวางแหวนวงพิเศษ
"ไม่ใช่เพียงผู้โชคดีทั้งสองคู่ที่ความรักได้ชักนำให้คนรักหวนกลับมาอีกครั้ง มีชายหนุ่มอีกหนึ่งท่านที่เฝ้ารอคอยหญิงสาวอันเป็นที่รัก และในวันนี้เราจะขอให้แขกผู้มีเกียรติทุกท่านในที่นี้ได้เป็นสักขีพยานในความรักมั่นคงของเขา ขอเชิญคุณพิธาน Ceo คนสำคัญของลาเบล และหญิงสาวผู้กุมหัวใจของคุณพิธานก็ได้อยู่ที่นี่แล้ว"
สปอตไลท์จับไปที่ลันตาที่เดินออกมาจากข้างเวทีโดยมีติ๊ดตี่เดินตามหลัง ลันตาอึ้งที่เห็นว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในงานรวมทั้งกาญจนาและสุวิภาที่กำลังมองตรงมา
ธัญญาเรศพูดใส่ไมโครโฟน "ขอเชิญคุณลันตาบนเวทีค่ะ"
ลันตามองไปทางเวทีเห็นพิธานที่เดินขึ้นมาบนเวทีในชุดหล่อ ลันตาตะลึงกับเหตุการณ์ที่ถูกจัดวางโดยไม่รู้ตัว เธออ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะเอายังไง
วาณีหันมาทางสุวิภากับรัชนี
"ในสคริปต์ที่ส่งให้ไม่มีซีเควนท์นี้นี่คะ"
รัชนีงงเหมือนกันแต่ก็พยายามเก็บอาการ
"เป็นเซอร์ไพร์สค่ะ" สุวิภาพูด
รัชนีมองสุวิภาอย่างอึ้งนิด ๆ ที่เห็นสุวิภารู้เรื่องนี้ดี อนุชิตอยากจะลุกแต่รัชนีตะปบมือไว้
"อย่า!”
อนุชิตจำต้องนิ่งแต่มองด้วยสายตาแค้นมาก
แพทกับมิ้งค์ที่ดูแลอยู่แถวเวทีก็พลอยตกใจไปด้วย
"พี่แพท...ทำไงดี" มิ้งค์ถาม
แพทมองสุวิภาแล้วก็มองลันตา "ไอ้ลัน...”
ลันตาสบตากับแพทอย่างต้องการความช่วยเหลือ
"ตามน้ำไปก่อนไหมลัน ไม่งั้นงานพังแน่" แพทบอก
ลันตามองไปรอบ ๆ แล้วก็มองสุวิภากับกาญจนาแล้วเธอก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปบนเวที
ธัญญาเรศส่งกล่องแหวนให้พิธาน พิธานถือกล่องแหวนเดินลงมาจากเวทีตรงไปหาลันตาแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าลันตา ลันตาอึ้ง
"เริ่มต้นกันใหม่อีกครั้งนะครับ ลัน....” พิธานพูด
เสียงฮือฮาดังทั่วงาน นักข่าวถ่ายรูป
ลันตามองพิธานด้วยสายตาโกรธมาก
ลันตารู้สึกแทบอยากจะฆ่า "คุณพิธาน...”
"คุณกาญจนาให้กำลังใจเราอยู่นะครับ"
ลันตามองไปทางกลุ่มกาญจนาก็เห็นสุวิภาที่มองมาอย่างบังคับ
พิธานพูดเสียงดังขึ้น "ให้โอกาสผมนะครับ...ลัน"
อังตะลึงกับการกระทำของพิธานโดยรู้สึกยินดีเพราะเชื่อว่าพิธานเป็นคนดี ลันตารู้สึกเหมือนถูกมัดมือชก พิธานมองไปทางสิปาดันอย่างจงใจจะหยาม
สิปาดันจะพุ่งขึ้นไป
"มันตั้งใจมัดมือชกลัน"
กีรติไวมากเข้าล็อคตัวสิปาดันไว้สุดชีวิต
"ปล่อย"
"งานนี้จะพังไม่ได้ งานพัง คุณลันพังด้วย" กีรติบอก
สิปาดันยังไม่ยอม เขาจะเข้าไปให้ได้
ลันตามองไปทางสุวิภากับกาญจนาที่รอดูการตัดสินใจของลันตา
"การตัดสินใจของคุณลัน จะสร้างปรากฎการณ์ความรักที่งดงามในค่ำคืนนี้" ธัญญาเรศกดดัน
ลันตามองไปทางธัญญาเรศ ธัญญาเรศยิ้มเยาะ ลันตาต้องตัดสินใจยื่นมือขวาให้ พิธานยิ้มแล้วดึงแหวนสวมนิ้วนางข้างขวาให้กับลันตา เพลงโรแมนติกบรรเลงขึ้น
พิธานลุกขึ้นจับมือลันตาแล้วกลีบดอกไม้ก็ถูกโปรยลงมาเบาๆ บนเวทีเป็นการแสดงความยินดี พิธานจับมือลันตาแล้วพาเดินลงมาจากเวที นักข่าวกรูกันเข้ามาถ่ายรูปพิธานกับลันตาซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน นักข่าวรุมเข้ามาจนลันตาได้โอกาสปลีกตัวรีบออกไปจนได้
สิปาดันสะบัดกีรติสุดแรงจนกีรติปล่อยมือจากสิปาดัน ลันตาที่ปลีกตัวออกมารีบคว้ามือสิปาดันแล้ววิ่งออกไปนอกงานในจังหวะที่คนกำลังสนใจพิธาน อังเห็นก็รีบวิ่งตามทั้งสองไป
อ่านต่อหน้าที่ 3
รักต้องอุ้ม ตอนที่ 12 (ต่อ)
ลันตาลากสิปาดันออกมาด้านนอกจนเห็นว่าไกลพอแล้วก็หยุด
"กว่าจะรอดมาได้" ลันตาโล่งอก
ลันตาหันมา สิปาดันก็ทำเสียงเขียวหน้าเครียดใส่
"ถอดแหวน!”
ลันตามองแหวนในมือแล้วมองสิปาดัน พอรู้สึกเหมือนสิปาหึงลันตาก็กวนเล็กๆ
"ทำไมล่ะก็สวยดี" ลันตาบอก
"ถ้าไม่ถอด ฉันจะถอดให้เอง" สิปาดันบอก
ลันตาเห็นว่าสิปาดันโกรธจริง "ถอดแล้ว..." ลันตาถอดแหวนแล้วชูให้ดู "จบนะ"
เสียงอังดังขึ้น "ยัยลัน"
สิปาดันกับลันตาตกใจที่อังวิ่งตามออกมา
"นี่สิปามาได้ยังไง นัดกันใช่ไหม ยัยลัน"
"คุณป้าอย่าฟ้องคุณย่านะคะ ลันขอคุยกับสิปานะคะคุณป้า" ลันตาบอก
"แต่ถ้าคุณพี่รู้...”
สิปาดันยกมือไหว้ "ผมขอร้องนะครับคุณป้า เห็นใจเราสองคนด้วยนะครับ"
"นะคะคุณป้า"
สิปาดันกับลันตาอ้อนเต็มที่
อังใจอ่อน "อย่านานนะ...”
"ขอบคุณครับคุณป้า"
"ขอบคุณค่ะ" ลันตาพูด
สิปาดันจูงมือลันตาเดินห่างออกไป
"สิปา แผลแกเป็นยังไงบ้าง" ลันตาถาม
"ฉันหัวแข็ง ไม่ต้องห่วง คุณย่าลงโทษแกหรือเปล่า"
"ไม่ทำอะไรเลย ไม่สนใจฉันด้วย เมินใส่กันแบบนี้เจ็บกว่าด่าอีก แต่ฉันเชื่อว่าท่านจะต้องอภัยให้ ไม่นานหรอก...สิปา"
"ว่า...”
"แกบอกคุณย่าว่าจะรับผิดชอบฉันกับตาหนู ทั้งที่มันเป็นเรื่องโกหก ทำไมแกต้องทำขนาดนี้ แกบอกฉันได้ไหม?”
สิปาดันมองลันตาอึ้งๆ พร้อมกับคิดในใจว่าหรือถึงเวลาที่ต้องบอกแล้ว
พิธานเดินออกมาตามลันตา เขาเห็นอังยืนรออยู่ ห่างออกไปเป็นสิปาดันกำลังคุยกับลันตา พิธานเดินเข้าไปหาอังทันที
"ป้าอังครับ..ทำไมคุณป้าถึงปล่อยให้เขาสองคน...”
"ยังไงเขาก็สามีภรรยากัน คุณก็ควรจะตัดใจเถอะนะ" อังบอก
"แต่เขาสองคนทำผิด" พิธานว่า
"ถ้าคุณเข้าไปแทรกเรื่องผัวเมีย คุณก็ผิดเหมือนกัน ไม่กลัวบาปกรรมหรือไง"
พิธานรู้ว่าอังกำลังจะเข้าข้างลันตาโดยไม่จัดการแยกลันตากับสิปาดันให้แน่ๆ
"ถ้างั้น...ผมจะลองถามคุณย่าดูนะครับ ว่าท่านจะคิดเหมือนคุณป้าไหม"
พิธานหยิบโทรศัพท์มือถือมาจะกด อังตกใจรีบพูด
"นี่ขู่ฉันเหรอ"
พิธานไม่ตอบแต่เริ่มกดโทรศัพท์
"อย่านะ!”
พิธานมองอย่างเป็นต่อ "ถ้าคุณป้าจะจัดการให้ผม"
อังมองพิธานอย่างไม่พอใจแต่ก็ขัดไม่ได้
ลันตามองสิปาดันอย่างรอคำตอบ
"สิปา…"
"ลัน...ฉัน....ฉัน....”
เสียงอังดังขึ้น "ยัยลัน!”
ลันตากับสิปาดันชะงักแล้วหันไปมองอังที่เดินตรงเข้ามา
"กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวนี้เลย" อังว่า
"ขอเวลาอีกนิดนะคะคุณป้า" ลันตาบอก
"อย่าทำให้ป้าลำบากใจได้ไหม….”
"ลำบากใจ? เรื่องอะไรครับ"
"ช่างฉันเถอะน่า กลับบ้านกันเถอะ ป้าเหนื่อย….นะ" อังบอก
"ค่ะคุณป้า"
"พรุ่งนี้เช้าแกรออยู่ที่บ้านอย่าไปไหนนะ"
"แกจะทำอะไร" ลันตาถาม
"ฉัน....”
อังหันไปเห็นพิธานที่มองมาอย่างกดดัน
"ไปเถอะ..ยัยลัน..ไป"
อังกึ่งจูงกึ่งลากแขนลันตาเดินออกไป สิปาดันมองตามก็เห็นพิธานที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าสะใจมาก
"หน้าของไอ้ขี้แพ้มันเป็นแบบนี้เอง" พิธานยิ้มสะใจ
"กลัวฉันใช่ไหม ถึงต้องเล่นโกงมันทุกทาง" สิปาดันว่า
พิธานไม่พอใจ "ฉันไม่เคย”กลัว”
"คนจริงมันไม่ใช้วิธีขี้ขลาดแบบนี้หรอก" สิปาดันกวนใส่ "หน้าตาไอ้ขี้ขลาดมันเป็นแบบนี้นี่เอง"
สิปาดันทิ้งคำพูดกวนๆ แล้วเดินไป พิธานมองตามอย่างแค้นว่าจะต้องเอาชนะสิปาดันให้ได้
อังจูงมือลันตาจะเดินไปที่รถ มิ้งค์ออกมาตามหา
"พี่ลัน ! หายแล้วเหรอพี่" มิ้งค์ถาม
"อืม...”
มิ้งค์พูดเบาๆ กับลันตา "แล้วพี่สารภาพกับพี่สิปาหรือยัง"
ลันตาส่ายหน้า มิ้งค์ส่งเสียงจิ๊จ๊ะด้วยความเสียดาย
"นัดแนะอะไรกันอีก ขยันก่อเรื่องกันนัก โผล่ไปที่บ้านจะให้ย่าเขาทำโทษให้เข็ดเลย พาป้ากลับบ้านได้แล้วยัยลัน"
พิธานเดินเข้ามา ลันตาหน้าตึงมาก
"คุณป้าครับ ผมขอคุยกับลันสักครู่นะครับ" พิธานพูด
แพทพูดกับลันตา "ถ้าแกไม่อยากคุย ฉันจัดการให้"
ลันตามองพิธานแล้วตัดสินใจพูด
"แพท,มิ้งค์ พาคุณป้าไปรอที่รถก่อน ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์"
แพทมองแบบไม่อยากไปแต่ลันตามองย้ำว่าให้ไป แพทกับมิ้งค์ต้องพาอังเดินออกไป ลันตาหันมามองพิธานอย่างเอาเรื่อง
ลันตาไม่พอใจ "ฉันเกลียดวิธีการที่คุณทำกับฉัน"
"ทุกคำพูดของพี่คือความจริงใจ"
ลันตาสวน "แค่ความสะใจ คุณแค่ต้องการเอาชนะฉัน"
พิธานยิ้ม "บางครั้งลันก็ดื้อเกินไป"
"ก็เลยต้องสั่งสอน...คุณรู้จักฉันน้อยเกินไป" ลันตาว่า
ธัญญาเรศเดินออกมาพร้อมกาญจนา วาณี สุวิภา และรัชนี ทั้งหมดตรงเข้ามาหาลันตากับพิธาน
"คุณพิธาน คุณลันตา ยินดีด้วยนะคะ" วาณีพูด
"ขอโทษนะครับที่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับงานวันนี้" พิธานบอก
"ไม่เป็นไรค่ะ เซอร์ไพรส์ของคุณสองคนทำให้งานวันนี้สมบูรณ์แบบมาก” กาญจนาบอก
"คุณกาญจนายังเปรยกับวาเลยนะคะว่า อยากร่วมงานกับทางลาเบลอีก" วาณีพูดกับอนุชิตและรัชนี "แล้ววาจะนัดวันประชุมเรื่องรายละเอียดของโปรเจ็คท์อีกทีนะคะ"
"หวังว่างานวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่มีปลายทางเป็นข่าวดีของคุณทั้งคู่" กาญจนาบอก
ลันตาจะเอ่ยปากปฏิเสธ
"ก็คงอีกไม่นานครับ" พิธานบอก
พิธานหันมายิ้มกับลันตาที่สายตาแข็งกร้าวอย่างไม่สะทกสะท้าน อนุชิตมองพิธานอย่างไม่พอใจ แต่รัชนีจับแขนอนุชิตแล้วบีบให้นิ่ง อนุชิตจำต้องนิ่ง ธัญญาเรศมองเหตุการณ์ทั้งหมดพลางยิ้มอย่างพอใจ
สิปาดันเดินกลับมาเจอกับกีรติที่มาตาม
"ได้เรื่องไหม สิปา" กีรติถาม
สิปาดันส่ายหน้า "ก็คงต้องวัดกันพรุ่งนี้"
"แกแน่ใจเหรอว่าจะลุยเข้าไปจริง ๆ" กีรติถาม
"เป็นลูกผู้ชายนี่นะ" สิปาดันมองกีรติ
"ไม่ต้องห่วงหลังนะ พวกฉันดันสุดตัว"
"ขอบใจนะเพื่อน"
สิปาดันกับกีรติเอาหมัดแตะกันเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ สิปาดันมีสายตามุ่งมั่นมาก
มาลัยเล่นอยู่กับตาหนู ลันตากับแพทช่วยกันพาอังเข้ามานั่ง อังมีสภาพเพลีย ๆ เพราะเจ็บสะโพกขึ้นมาอีก
"ทำไมมันปวดแบบนี้" อังบ่น
"ก็ป้าอังเล่นแสดงพลังขนาดนั้น ไม่ช็อคขาดใจก็เก่งแล้วล่ะค่ะ" แพทบอก
"เพราะไอ้สิปาแท้ๆ" อังบอก
มาลัยเดินออกมา
"ไอ้สิปามันทำไม" มาลัยถาม
ทุกคนตกใจที่มาลัยได้ยิน
"ทำหน้าแบบนี้ มันแอบไปหาแกใช่ไหม"
ทุกคนอ้ำอึ้ง
อังช่วยหลาน "เปล่านะคะคุณพี่"
มาลัยหันขวับ "คิดจะโกหกฉันถ้าจับได้ ฉันจะตัดพี่ตัดน้องกับหล่อนเลยนะ"
อังจ๋อย "อังไม่กล้าค่ะ"
"วันนี้ไอ้สิปามันทำอะไร เล่ามา"
ทุกคนสะดุ้งแล้วอ้ำอึ้งพลางมองมาลัยที่มีสีหน้าดุมาก
ภาพพิธานสวมแหวนให้กับลันตาอยู่ในโทรศัพท์ของวัน วันรีบเดินมาที่จอดรถจนเจอกับพิธานที่รออยู่
"พีท....รูปนี้มัน...”
"ผมกับลันเราจะเริ่มกันใหม่อีกครั้ง" พิธานบอก
"เป็นไปได้ยังไง พี่คิดว่าลันกับ...”
พิธานขัด "ผมมีเรื่องอยากให้พี่ช่วย...ช่วยทำหน้าที่ของคนเป็นพี่สาวที่ดีสักครั้ง"
"จะให้พี่ทำอะไร?”
พิธานยิ้มร้าย
แพทกับมิ้งค์ยืนเจี๋ยมเจี้ยมต่อหน้ามาลัย ลันตายืนอยู่ที่มุมหนึ่ง ในขณะที่อังนั่งอยู่ไม่ห่างจากมาลัยนัก
"ใครเป็นคนต้นคิดนัดไอ้สิปามาหายัยลัน...ใคร!” มาลัยถามเสียงเข้ม
แพทกับมิ้งค์สะดุ้งแล้วรีบแก้ตัวกันยกใหญ่ "หนูเปล่านะคะ!”
"สิปามันมาหาลันเองค่ะ มันเป็นห่วงลันว่าจะโดนทำโทษ" แพทบอก
"ย่าไว้ใจ เอ็นดูพวกเธอ แต่พวกเธอรวมหัวกันช่วยลันปกปิดความผิด ไม่เห็นหัวหงอกคนนี้แล้วใช่ไหม"
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ หนูนับถือคุณย่ามาก แต่...." แพทเหลือบมองลันตาแล้วตัดสินใจพูด "หนูขอโทษนะคะคุณย่า"
มิ้งค์ไหว้ที่ตักมาลัย "หนูขอโทษนะคะคุณย่า"
"มิ้งค์กับแพทไม่ผิดหรอกค่ะ ลันเป็นคนขอให้สองคนนี้ช่วย คนที่ผิดคือลันคนเดียวค่ะคุณย่า" ลันตารับ
"ร่วมมือกันนับว่าผิดทุกคน ถ้ามีครั้งต่อไปก็รู้ไว้เลยว่าบ้านนี้จะไม่ต้อนรับ" มาลัยเสียงแข็ง
แพทกับมิ้งค์จ๋อย "ค่ะ"
"ผู้ใหญ่ก็เหมือนกัน อย่าตามใจจนเสียนิสัย" มาลัยมองไปทางอัง
อังถึงกับสะดุ้ง "ค่ะ"
ทุกคนต่างนั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมกันไปหมด
มาลัยคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเครียด
"ขอบคุณมากนะที่โทรมาบอก"
ลันตาเดินเข้ามา
"แพทกับมิ้งค์ล่ะ" มาลัยถาม
"กลับไปแล้วค่ะ" ลันตาบอก
"นั่งสิ" มาลัยบอก
ลันตารู้สึกว่าต้องมีอะไรแน่ๆ "ค่ะคุณย่า"
"ลัน...ย่าเลี้ยงแกไม่ดี รักแกไม่พอ หรือว่าย่าทำอะไรให้แกไม่พอใจหรือเปล่า" มาลัยถาม
"ทำไมคุณย่าพูดแบบนั้นละคะ"
"การที่ลันโกหกย่า ทำให้ย่ารู้สึกว่าลันไม่รักย่าเลย ลันถึงได้เห็นคนอื่นดีกว่าย่า ทั้งที่ลันก็รู้ว่าบ้านสิปาทำกับเราไว้เจ็บปวดแค่ไหน"
"คุณย่าคะ เรื่องนั้นลันอธิบายได้นะคะ"
"ถ้าคิดจะแก้ตัวให้บ้านนั้นล่ะก็ ย่าไม่อยากฟัง" มาลัยบอก
ลันตาชะงัก
"ย่าขอโทษที่เสียงดัง แต่ย่ารักลันไม่อยากให้ลันต้องถูกคนไม่ดีชักจูง เรื่องที่ลันพลาดไป ย่าจะไม่รื้อฟื้น แต่ย่าขอได้ไหม ขอให้ลันรักย่าบ้าง"
"คุณย่า....ลันขอโทษค่ะ ลันรักคุณย่า ลันสัญญานะคะว่าจะไม่ทำให้คุณย่าต้องเสียใจอีก คุณย่าให้ลันทำอะไรลันจะทำ จะเชื่อฟังคุณย่าคนเดียว"
"ขอบใจมากนะลูก"
ลันตากอดมาลัยด้วยความรู้สึกผิดและอยากแก้ตัว มาลัยยิ้มอย่างพอใจในคำมั่นสัญญาของลันตา
เช้าวันใหม่ อินทนนท์ที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินออกมาจากห้อง นวลที่แต่งตัวสวยงามกำลังเตรียมอาหารเช้า สิปาดันในชุดสูทสุภาพ หล่อ กำลังยืนให้นวลเช็คความเรียบร้อย
"ย่าครับ ผมดูดีหรือยัง" สิปาดันถาม
"ดีแล้วลูก" นวลบอก
"ดีจริงเหรอครับย่า ผมว่าลองอีกตัวดีกว่า"
สิปาดันไม่รอคำตอบ เขาเดินกลับเข้าไปในห้องโดยเปลี่ยนสูทมาอีกตัว
นวลพูดกับอินทนนท์ "ตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ ลองสูทเป็นสิบตัวแล้ว"
สิปาดันสวมสูทตัวใหม่เดินออกมา
"แล้วตัวนี้ล่ะครับย่า พ่อ"
"ตัวไหนก็เหมือนกัน คนมันหล่อใส่อะไรก็หล่อ" อินทนนท์บอก
สิปาดันไม่มั่นใจ "จริงเหรอครับพ่อ แต่ผมว่า...”
"พอแล้วไอ้สิปา พ่อรู้ว่าแกตื่นเต้น แต่ถ้าช้ากว่านี้จะสาย เกิดย่ามาลัยออกจากบ้านล่ะวืดทั้งคณะ"
"เดี๋ยวผมลงไปสตาร์ทรถรอนะครับ"
สิปาดันรีบเดินออกไป
"นนท์ ลูกว่าวิธีนี้มันจะได้ผลเหรอ" นวลถาม
"ไม่รู้เหมือนกันล่ะแม่ แต่ถ้าเราอยู่นิ่งๆ ป้ามาลัยก็จะคิดว่าพวกเราไม่เห็นหัวเขา จู่โจมแบบนี้เพื่อจะไม่ทันตั้งตัว เบลอ ๆ ยอมยกหนูลันให้ไงแม่"
นวลหยิก "เห็นเป็นเรื่องตลกอยู่เรื่อย แม่กลัวว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ"
นวลรู้สึกหนักใจ
ลันตายืนรดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้านอย่างกระวนกระวาย
"แล้วมันจะมาตอนไหนเนี่ย"
มาลัยเดินออกมามองท่าทีของลันตา
"เป็นอะไรหรือเปล่า" มาลัยถาม
ลันตาสะดุ้ง "เปล่าค่ะ คุณย่าจะทานข้าวเช้าเลยไหมคะ เดี๋ยวลันไปทำให้"
"เอาสิ...”
ลันตากำลังจะเดินเข้าบ้าน
เสียงกริ่งดัง ทั้งลันตากับมาลัยต่างหันไปมองหน้าบ้านทั้งคู่
ประตูรั้วค่อย ๆเปิดออก ลันตาเห็นสิปาดันในชุดสูทหล่อยืนอยู่หน้าบ้าน
"เฮ้ย! ทำไมวันนี้มาเต็มยศเลย" ลันตาทัก
"ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวนะ" สิปาดันบอก
ลันตามองไปทางด้านหลังก็เห็นอินทนนท์ นวล กัปตันวีระ แพท และกีรติในชุดทางการยืนอยู่ด้วยลันตามองสิปาดันว่านี่เรื่องอะไร
มาลัยเรียก "ลัน!”
ลันตาสะดุ้ง "ค่ะคุณย่า"
"แขกมาถึงบ้านก็เชิญเข้ามาสิ" มาลัยบอก
ทุกคนมองอย่างไม่อยากเชื่อว่ามาลัยจะเชิญพวกเขาเข้าบ้าน
มาลัย อัง นวล อินทนนท์ และวีระนั่งอยู่ที่โซฟา ลันตา สิปาดัน กีรติ และแพทรวมตัวกันอยู่อีกมุมหนึ่ง
ลันตาพูดกับสิปาดัน "นี่มันเรื่องอะไรกัน"
มาลัยปราม "ยัยลัน....”
แค่เสียงเรียบๆ ของมาลัยก็ทำให้ลันตาสะดุ้งจนต้องรีบมานั่งอยู่ที่พื้นข้าง ๆ อังทันที
"พวกคุณมีธุระอะไร" มาลัยถาม
อินทนนท์หันมองไปทางวีระ
"วันนี้ผมมาเป็นเถ้าแก่เจรจาสู่ขอหนูลันตาให้กับสิปาดัน" วีระบอก
ลันตาตกใจมาก เธอมองไปทางสิปาดันที่ยิ้มอ่อนโยน แพทกับกีรติยิ้มอย่างให้กำลังใจ
วีระพูดต่อ "ผมทราบว่าเด็กสองคนรักกัน ทางฝ่ายชายก็อยากจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณีเพื่อเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง แต่ก่อนที่จะเริ่มเจรจา ทางฝ่ายชายก็อยากจะแสดงความจริงใจ"
ทุกคนมองไปทางสิปาดัน
กีรติส่งพานธูปเทียนแพให้สิปาดัน "สูดลมหายใจลึก ๆ เว้ย"
"ฉันโอเค"
สิปาดันถือพานธูปเทียนแพไปคุกเข่าตรงหน้าของมาลัย
"คุณย่าครับ ผมกราบขออภัยที่ทำให้คุณย่าต้องเสียใจเพราะการกระทำที่ไม่ยั้งคิดของผม"
"จิตสำนึกของเธอทำงานช้ามากนะ" มาลัยว่า "ที่บ้านเธอได้สั่งสอนให้เธอรู้จักคำว่า “ให้เกียรติ” คนอื่นบ้างไหม"
อินทนนท์ได้ยินก็ขึ้นทันที "อ้าว...”
นวลหันไปกดอินทนนท์ไว้แล้วพยายามส่งซิกว่าให้อดทนไว้
"ผมขอโทษครับ"
"ยัยลันเป็นแก้วตาดวงใจของฉัน เขาควรจะมีผู้ชายดีๆ ที่จะมาเป็นคู่ครองอย่างถูกต้องทั้งสังคมและประเพณี ไม่ใช่ผู้หญิงใจแตกที่ท้องก่อนแต่ง และผู้ชายก็ไม่เคยคิดจะมาแสดงความรับผิดชอบ" มาลัยว่า
"ผมรักลันตาและพร้อมจะดูแล" สิปาดันพูด
"แล้วทำไมถึงเพิ่งมาพูดตอนนี้ ตอนที่เรื่องทุกอย่างมันแดง ตอนที่เหลนของฉันมันออกมาเป็นตัวเป็นตนแล้ว เธอยังกล้าเรียกตัวเองว่าลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า สิปา"
อินทนนท์ นวล กีรติ และแพทหน้าเสีย วีระมองสถานการณ์อย่างเห็นใจสิปาดันที่โดนกระหน่ำไม่ยั้ง
สิปาดันพูดต่อ "ผมขอรับผิดทุกอย่างครับ วันนี้ผมสำนึกผิดแล้ว ผมขอความเห็นใจจากคุณย่าโปรดให้อภัยผม" สิปาดันยื่นธูปเทียนแพรให้กับมาลัย "รับการขอขมาจากผมด้วยนะครับ"
มาลัยมองนิ่ง ทุกคนมองลุ้นๆ แม้แต่อังยังแทบจะลืมหายใจ มาลัยยื่นมือรับพานมาวาง ทุกคนถอนใจแทบจะพร้อมกัน
สิปาดันดีใจ "ขอบคุณมากครับคุณย่า ผมสัญญาว่าผมจะดูแลลันกับลูกให้ดีที่สุด"
มาลัยยิ้มนิดๆ "ก็ยังดีนะที่รู้จักผิดชอบชั่วดี"
สิปาดันยิ้ม "คุณย่ายอมยกลันตาให้ผมใช่ไหมครับ"
ทุกคนมองอย่างมีความหวัง
"เรื่องมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว.....เธอก็ควรจะรับผิดชอบ....” มาลัยพูด
ทุกคนยิ้ม
มาลัยทำเสียงเชือดตอนจบ "แต่ฉันไม่ให้"
ทุกคนอึ้ง
"เพราะลันตามีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว"
ทุกคนงงว่าใคร
เสียงพิธานดังขึ้น "ขอโทษครับที่มาช้า"
ทุกคนหันไปตามเสียงก็เห็นพิธาน สุวิภากับวันในชุดเป็นทางการเดินเข้ามา ทุกคนตะลึง
อนุชิตจะพุ่งออกไปแต่รัชนีมาขวางไว้
"แกจะไปไม่ได้"
"ผมจะไม่ยอมเสียลันไป" อนุชิตบอก
รัชนีระอา "แกมีเมีย มีลูกแล้ว"
"คุณอาก็รู้ว่ามันเป็นความผิดพลาด ผมไม่เคยมีความสุข ผมไม่มีสิทธิ์เลือกชีวิตที่ดีกว่าเหรอครับ"
"แกไม่มีสิทธิ์จะเห็นแก่ตัวอีกตั้งแต่แกเลือกที่จะแต่งงานกับอรแล้ว และที่แกควรจะยอมรับจริงๆ คือ ลันตาไม่ได้รักแก" รัชนีบอก
อนุชิตหัวเสีย "คุณอาให้ผมตัดใจเพราะกลัวไอ้พิธานใช่ไหมครับ"
รัชนีมองอนุชิตนิ่งอย่างยอมรับ
"อายุอย่างแกควรจะหาความมั่นคงในชีวิตได้แล้ว สนใจอนาคตตัวเองมากกว่าจะวุ่นวายกับเรื่องไร้สาระสักที"
"ผมไม่กลัวมัน" อนุชิตบอก
"ที่แกต้องรู้ตัวคือ แกไม่ได้เจ๋งพอที่จะออกไปยืนด้วยตัวเองได้ อาคอยช่วยเหลือแกไปตลอดไม่ได้หรอกนะ คุณพิธานไม่เหมือนคุณสุ ถ้าเขาไล่แกออก คราวนี้อาคงช่วยแกเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว ยอมรับความจริงซะ แกไม่ใช่คูแข่งของคุณพิธาน"
อนุชิตอึ้งพร้อมกับกำหมัดแน่นด้วยความโกรธตัวเองเพราะทุกสิ่งที่รัชนีพูดเป็นความจริง
สุวิภากับวันมีสีหน้าเหวอเล็กน้อยที่เห็นสิปาดันกับผู้ใหญ่ในห้องนั้น แม้แต่อังยังอึ้งๆ เพราะไม่รู้แผนของมาลัยมาก่อน พิธานยิ้มสุภาพก่อนจะยกมือสวัสดีผู้ใหญ่ทุกคนในที่นั้น
"สวัสดีครับ" พิธานพูดกับมาลัย "ขอโทษนะครับที่มาช้า"
"ได้เวลาพอดี เชิญนั่งสิคะ" มาลัยว่า
พิธาน วัน และสุวิภาขยับมานั่งอีกฟากของชุดรับแขก ตอนนี้ในห้องอุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยผู้ที่มาร่วมในการสู่ขอลันตาทั้งสองฝ่าย
แพทพูดกับกีรติ "คุณว่ามันบังเอิญหรือเปล่า"
"ดูสีหน้าคุณย่าแล้ว งานนี้สิปาเดินเข้าเกมคุณย่าเต็มๆ" กีรติบอก
พิธานเดินเกมต่อทันที
"วันนี้ผมพาผู้ใหญ่มาคุยกับคุณย่าอย่างเป็นทางการ"
"ดิฉันเป็นพี่สาวของพิธานค่ะ น้องชายดิฉันขอให้ดิฉันช่วยเจรจาสู่ขอลันตา ในเรื่องของสินสอดทองหมั้นทางเราก็พร้อม....”วันบอก
"เดี๋ยวนะครับ ผมว่าเรื่องนี้เราคงต้องขอเวลาทำความเข้าใจกันใหม่ เพราะทางผมก็มาเพื่อสู่ขอหนูลันเหมือนกัน" อินทนนท์ว่า
มาลัยไม่สนใจ "ฉันยินดีที่คุณพิธานแสดงความจริงใจให้เกียรติกับหลานสาวของฉัน....ฉันคิดว่าเวลาที่ทั้งคู่รู้จักกันยังน้อยเกินไป"
ฝั่งสิปาดันกับลันตามีสีหน้าที่ค่อยๆ ดีขึ้นเพราะฟังแล้วเหมือนมาลัยจะปฏิเสธ
มาลัยพูดต่อ "แต่...ถ้าจะหมั้นกันไว้ก่อน ฉันก็ไม่ขัดข้อง"
ลันตาตกใจ "คุณย่า!”
สิปาดันลุกพรวดทันที "ไม่ได้นะครับ ลันเป็นภรรยาผม"
"หลักฐานยืนยันล่ะครับ ลันเป็นภรรยาของคุณทางกฎหมาย หรือว่าทางประเพณี" พิธานว่า
"ทาง..." สิปาดันพูดอะไรไม่ออก "เอ่อ...”
"แค่คำพูดลอย ๆ มันใช้เป็นข้อผูกมัดไม่ได้หรอกนะสิปา" พิธานยิ้มเย้ย
ทางฝั่งของอินทนนท์มองท่าทีพิธานก็ชักเดือด
นวลพยายามจะประนีประนอม "หนูลันเป็นคนน่ารัก ฉันไม่แปลกใจถ้าจะมีคนหมายปอง แต่ความสุขของลูกหลาน เจ้าตัวก็ควรจะเป็นคนตัดสินใจ จริงไหมมาลัย"
มาลัยยังยิ้มรับ "ก็จริงของเธอ ชีวิตคู่มันเป็นเรื่องของคนสองคนนี่นะ ว่ายังไงล่ะลัน.." มาลัยยิ้มกับลันตาอย่างกดดันมาก "ย่าเชื่อในการตัดสินใจของลันนะลูก"
ภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา ลันตาพูดกับมาลัย "คุณย่า....ลันขอโทษค่ะ ลันรักคุณย่า ลันสัญญานะคะว่าจะไม่ทำให้คุณย่าต้องเสียใจอีก คุณย่าให้ลันทำอะไรลันจะทำ จะเชื่อฟังคุณย่าคนเดียว"
ลันตานึกถึงคำพูดนั้นแล้วก็อึ้ง
ลันตาจำใจ "ลันมีวันนี้ได้เพราะคุณย่าเมตตา" ลันตามองไปทางสิปาดันอย่างเจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องทำแบบนี้ “...ลันขอให้คุณย่าเป็นคนตัดสินใจค่ะ"
กลุ่มสิปาดันอึ้ง พิธานยิ้มกริ่มอย่างพอใจ
"ได้ยินกันชัดแล้วนะ" มาลัยพูดกับฝั่งพิธาน "ถ้าหาฤกษ์ยามที่เหมาะสมได้เมื่อไหร่ ทางฉันก็ไม่ขัดข้อง ขอให้จัดงานบอกกล่าวเป็นที่รับรู้ ให้เกียรติทางเราเท่านั้นก็พอ"
"ขอบคุณมากครับคุณย่า" พิธานบอก
วันมองไปทางสิปาดันกับครอบครัวก็เห็นบรรยากาศความตึงเครียด
"ถ้าอย่างนั้นทางดิฉันคงต้องขอตัวกลับก่อนนะคะ" วันบอก
"ลัน...ไปส่งพี่เขาสิลูก" มาลัยว่า
ลันตามีสีหน้าอึดอัดแต่ก็ทำได้แค่ตอบรับ "ค่ะ...”
กลุ่มพิธานยกมือไหว้ลาแล้วก็ลุกออกไป ลันตาจำต้องเดินตามไปส่งจนเหลือแต่มาลัย อัง กับแก๊งค์สู่ขอของอินทนนท์ที่ต่างก็อึ้งกันไป ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ
มาลัยหันมายิ้มเชือดเฉือนกับทางสิปาดัน "เข้าใจตรงกันแล้วนะ" มาลัยชี้ที่พานธูปเทียนแพร "แล้วของพวกนี้ก็เอากลับไปด้วยนะ มันรก"
ทุกคนอึ้งหนัก
อ่านต่อหน้าที่ 4
รักต้องอุ้ม ตอนที่ 12 (ต่อ)
วันกับสุวิภาเดินนำออกมาที่หน้าบ้าน
"ขอโทษคุณสุวิภาด้วยนะคะที่ต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้" วันบอก
"แค่ดิฉันได้ช่วยคุณพิธานได้สำเร็จ ดิฉันก็ยินดี" สุวิภาบอก
พิธานเดินตามมาช้า ๆ เพื่อรอให้วันกับสุวิภาเดินพ้นไปเพื่อให้ลันตาปราดเข้ามาขวางไว้
"คุณสินะที่เป็นคนพาคุณย่าไปที่คอนโดสิปา ทำให้เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวาย" ลันตาว่า
"พี่กำลังช่วยให้ลันทำสิ่งที่ถูกต้อง"
"นั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณทำ คุณก้าวก่ายเรื่องงานฉัน ฉันยังพอทนแต่ลามมาถึงชีวิตของฉัน ฉันไม่ยอม"
"ลันคิดจะขัดใจคุณย่า ทำตัวเป็นหลานอกตัญญูงั้นเหรอ"
ลันตาอึ้ง
พิธานยิ้มอย่างเป็นต่อ "คุณย่าเสียใจกับการที่ลันโกหก ไปวุ่นวายกันบ้านสิปามากแค่ไหน ลันก็เห็น"
"คุณพิธาน! ฉันจะไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ฉันรังเกียจ จำไว้" ลันตาว่า
"ลันก็จำไว้ว่า พี่จะทำให้ลันแต่งงานกับพี่ให้ได้"
ลันตามองพิธานที่ประกาศกร้าวด้วยสายตาเอาจริง
อินทนนท์ลุกขึ้นอย่างไม่พอใจ
"ทำแบบนี้มันมากเกินไปนะครับคุณป้า"
"แล้วแกจะทำไม จะทำอะไรฉันได้" มาลัยถามกลับ
ทุกคนอึ้งกับท่าทียียวนของมาลัย
"แต่เด็กสองคนก็เป็นสามีภรรยา มีลูกด้วยกันแล้ว" อินทนนท์บอก
"ตาหนูไม่ใช่ลูกของยัยลัน" มาลัยว่า
ทุกคนตกใจ
"แกคิดว่าฉันโง่หรือไง ยัยลันไม่เคยไปอยู่นอกบ้าน คำนวณยังไงหลานฉันก็ไม่มีทางจะตั้งท้องได้แน่"
"เอ้า!....ถ้าคุณป้ารู้อยู่แล้ว....แล้วจะมาโวยวายด่าลูกผมซะเสียหมาทำไม" อินทนนท์บอก
"คำโกหกของแกทำให้หลานของฉันเสียหาย ที่ฉันด่ามันยังน้อยไป"
"มาลัย....ฉันต้องขอโทษแทนเจ้านนท์ด้วย แต่เรื่องหนูลันกับสิปา" นวลพูด
"ถ้าฉันไม่ยกให้ ลันตาก็จะไม่มีวันขัดคำสั่งฉัน! ผู้ชายห่วยๆ อย่างหลานแก ไม่มีวันได้แตะหลานฉันแน่ พวกแกต้องเจ็บยิ่งกว่าที่ฉันเคยเจ็บ"
"ผมเคยหวังว่าความแก่ชราจะทำให้คุณย่าปลง และหัดมีเมตตาในจิตใจบ้าง แต่วันนี้ผมรู้แล้วว่าไม้แก่ดัดยากจริง ๆ"
"เจ้านนท์!”
"คุณย่าครับ...ผมขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์ตัวเอง ว่าผมรักและจริงใจกับลันจริงๆนะครับคุณย่า"
"ฉันจะไม่มีวันดองเป็นทองแผ่นเดียวกับพวกขี้โกง ออกไปจากบ้านฉัน" มาลัยว่า
อินทนนท์ฉุน "คุณป้า!”
นวลแทรกขึ้นมาโดยไม่ตะคอก แต่ก็ดังพอจะหยุดทุกคนได้ "พอได้แล้ว!”
ทุกคนชะงัก
"สิปา ตานนท์ กลับบ้านเถอะลูก" นวลพูด
อินทนนท์ทำท่าจะไม่ยอม "แม่!”
นวลเข้าไปประคองสิปาดัน "กลับบ้านเถอะนะ"
สิปาดันเสียใจมาก เขาลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้มาลัยกับอังก่อนจะเดินออกไปอย่างผู้แพ้ กีรติกับแพทรีบเดินตามไป อินทนนท์ตามออกไปอย่างหัวเสีย แต่นวลยังยืนมองมาลัยนิ่ง มาลัยมองอาการของนวลที่มองเธอนิ่งแต่น้ำตาไหลพราก
"เรื่องวันนี้คงไม่ใช่ความบังเอิญ เป็นแผนของเธอสินะมาลัย" นวลว่า
มาลัยมีน้ำเสียงเชือดเฉือนยิ่งขึ้น "ถ้ามันใช่แล้วเธอจะทำไม"
นวลและทุกคนอึ้งกับท่าทีแข็งกร้าวของมาลัย
"เธอแก้แค้นสำเร็จแล้วมาลัย เธอทำหลานฉันเจ็บ ฉันเจ็บยิ่งกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า เพราะฉันทำให้สิปาต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้ตัวเอง แล้วเธอล่ะมาลัย ใช้ลูกหลานเป็นเครื่องมือแก้แค้น เธอมีความสุขจริง ๆ ใช่ไหม"
มาลัยอึ้งๆ เพราะตอบไม่ได้
นวลทิ้งคำถามไว้ให้กับมาลัยและอังแล้วเดินจากไป
สิปาดันเดินออกมาเจอลันตาที่ยืนอึ้งอยู่หน้าบ้าน ต่างคนต่างมองหน้ากันโดยพูดอะไรไม่ออก อินทนนท์กับวีระเดินตามออกมา
"ลันต้องขอโทษคุณลุงวีระกับลุงนนท์ด้วยนะคะ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น" ลันตาพูด
"ไม่เป็นไร ลุงเข้าใจ" วีระยอมรับ
"ลุงต่างหากที่ต้องขอโทษลัน ลุงทำให้ลันต้องลำบาก" อินทนนท์บอก
"ถ้าจะมีคนผิด คนนั้นก็คือลันค่ะ ลันเลือกจะโกหกตั้งแต่แรกทำให้ทุกคนต้องมาวุ่นวายกับลันด้วย"
"ไม่ต้องคิดมากนะ ลุงเชื่อว่าทุกอย่างจะมีทางออก เราจะหาทางแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้" อินทนนท์บอก
"ขอบคุณค่ะ"
อินทนนท์ วีระเดินออกไปจนเหลือสิปาดัน ลันตา กีรติ และแพท
"นี่แกตั้งใจจะมาขอฉันจริงๆ เหรอ" ลันตาถาม
สิปาดันตอบรับ "อืม...”
"ทำไมล่ะ"
กีรติกับแพทมองไปทางสิปาดัน สิปาดันอ้ำอึ้ง กีรติกับแพทลุ้นให้สิปาดันพูด
สิปาดันอึกอัก "ฉัน...ฉัน....”
นวลเดินออกมาเห็นก็ยืนลุ้นไปด้วย
เสียงมาลัยเรียกดังลั่น "ยัยลัน!”
ทุกคนชะงักมองไปทางมาลัย
"ฉันไปก่อนนะ"
ลันตาจำต้องเข้าบ้านโดยที่ยังไม่ได้เคลียร์กับสิปาดัน สิปาดันจ๋อย กีรติ แพท และนวลมองอย่างเสียดายมาก
ลันตา มาลัย และอังเผชิญหน้ากัน
"ย่าคะ...ลันไม่เคยคิดจะกลับไปคบกับพี่พิธาน เรื่องระหว่างลันกับเขามันจบไปตั้งนานแล้ว" ลันตาบอก
"แต่พ่อพิธานเขารักเรานะยัยลัน" อังบอก
"แต่ลันไม่ได้รักเขา"
"แล้วแกรักใคร ไอ้สิปางั้นเหรอ" มาลัยถาม
ลันตาอึ้งเพราะพูดไม่ออก
"ย่าสอนลันเสมอว่าสามสิ่งในชีวิตที่เราต้องเป็นคนเลือก การเรียน งานและความรัก ชีวิตเราจะดีขึ้นหรือเลวลงขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เราเลือกเอง" ลันตาพูด
"แกจะบอกย่าว่าแกจะเลือกเจ้าสิปา ผู้ชายที่ไม่ให้เกียรติแก ทำให้แกโกหกย่าครั้งแล้วครั้งเล่า แบบนี้น่ะเหรอคนที่แกคิดจะฝากชีวิตไว้ด้วย" มาลัยถาม
"แล้วทำไมคุณย่าถึงคิดว่าพี่พิธานเขาดี ยอมให้ลันหมั้นกับเขา"
"ย่าตัดสินใจไปแล้ว ตอนนี้มันก็อยู่ที่แกว่าระหว่างย่ากับไอ้พวกขี้โกง แกจะเลือกใคร" มาลัยบอก
ลันตามองมาลัยด้วยสีหน้าเครียด
มิ้งค์ที่คุยมือถือหันมามองพอล
"คุณพิธานไปขอหมั้นพี่ลันเหรอคะ แล้วพี่สิปาล่ะพี่แพท"
มิ้งค์ฟังด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักก่อนจะกดวางสาย มิ้งค์หันขวับมาหาพอล
"อย่ามองแบบนั้น ผมไม่รู้เรื่องเรื่องนี้ด้วยนะ น้าวันไม่ได้บอกผม"
วันเดินเข้ามาเห็นพอลกับมิ้งค์หันมามอง
"รู้กันแล้วใช่ไหม" วันถาม
"น้าวัน....น้าก็รู้ว่าคุณลันเขาชอบสิปาแล้วทำไม...” พอลพูด
เสียงพิธานขัดขึ้น "พี่สาวเขาจะช่วยน้องชาย มันแปลกตรงไหน"
ทุกคนชะงักที่เห็นพิธานเดินเข้ามา
"มันเป็นเรื่องในครอบครัวที่พี่น้องเขาจะช่วยเหลือกัน ส่วนเกินอย่างแกคงจะไม่เข้าใจสินะ" พิธานว่า
"เรื่องเป็นส่วนเกินในชีวิตคนอื่นผมเข้าใจดี คุณสอนผมมาตลอดทั้งชีวิตตั้งแต่เราเจอกัน" พอลบอก
"กว่าแกจะเข้าใจก็ทำตัวเป็นกาฝากอยู่นาน"
"ถึงจะช้าแต่ผมก็ยังมีรอยหยักมากพอที่จะเข้าใจ แต่มันแปลกที่คนฉลาดอย่างคุณกลับมองไม่ออกว่ากำลังทำตัวเป็นส่วนเกินในความรักของคนอื่นอยู่ ไม่รู้ว่า" พอลชี้ที่หัว "มันฝ่อหรือว่าเป็นคนมีปม ที่ต้องแก้ด้วยการแย่งชิงตลอดเวลา"
พิธานยิ้มอย่างเหยียดหยาม "แกคงคิดว่าตัวเองฉลาดมาก เก่งมาก เรื่องโกหกของพี่วันคงทำให้แกไม่มีปมด้อยเลยสินะ"
พอลชะงัก
วันปราม "หยุดนะพีท!”
พิธานเสียงร้าย "มันควรจะได้รู้ความจริงว่าไอ้เรื่องที่พี่แต่งขึ้นว่าพ่อแม่มันตายเพราะรถคว่ำมันไม่เป็นความจริง ไอ้เด็กที่มันถูกทิ้งอยู่ข้างถนนอย่างแก มันคือก้อนเลือดที่แม่มันยังไม่เอาด้วยซ้ำ"
"พีท!...กลับไป ไปเดี๋ยวนี้!” วันไล่
พิธานมองพอลอย่างสะใจแล้วเดินออกไป วันกับมิ้งค์หันมาเห็นพอลที่ยืนตะลึงและอึ้งกับความจริงที่ได้รู้ในวันนี้ วันเครียด
ธัญญาเรศโมโหมาก
"หมายความว่ายังไงที่เพชรต้องส่งคอนเซ็ปท์ให้พี่นีตัดสินใจก่อน"
"พี่นีสั่งทุกฝ่ายลงมาว่าต่อไปนี้ก่อนลงมือทำงานต้องส่งคอนเซ็ปท์ทั้งหมดให้พี่นีตรวจ" เพชรบอก
ติ๊ดตี่พรวดพราดเข้ามา "พี่ญ่าคะ เกิดเรื่อง...”
ธัญญาเรศหันขวับมาทางติ๊ดตี่ ติ๊ดตี่ชะงักยืนนิ่ง
ธัญญาเรศพูดกับเพชร "พี่เพชรจัดการตามหน้าที่ก็แล้วกันค่ะ แล้วค่อยคุยกันวันประชุมพรีโปรอีกที"
เพชรเดินออกไป ธัญญาเรศหันมาทางติ๊ดตี่
"รู้แล้วใช่ไหมคะ" ติ๊ดตี่ใส่ไฟ "ค่อย ๆ แทรกแซงแบบนี้ บีบพี่ชัด ๆ" ธัญญาเรศสายตากร้าว "ถ้ามันอยู่ร่วมกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องอยู่!
ธัญญาเรศแค้นมาก
มาลัยกำลังป้อนนมตาหนูแล้วก็มองอังอึ้ง ๆ
"หน้าแบบนี้ถูกใจใช่ไหมคะคุณพี่ นี่คือเตียงเด็กรุ่นใหม่ล่าสุด ส่วนอันนี้....” อังอธิบาย
อังขายคล่องราวกับรายการขายสินค้าในโทรทัศน์ มาลัยจะหยิบมาดู อังก็ขยับตามมาหยิบขายตลอดเวลาจนมาลัยรำคาญ
มาลัยหยิก "ยัยอัง!”
"โอ้ยๆๆ คุณพี่...”
"โตแล้วนะ เล่นเป็นเด็ก ๆ ไปได้ เดี๋ยวตาหนูก็จำเป็นเยี่ยงอย่าง" มาลัยหันไปเล่นกับตาหนู "คนเก่งของย่า"
อังมองมาลัยที่เล่นกับตาหนูยิ้มๆ ด้วยความเอ็นดู แล้วอังก็มองลันตาที่นั่งซึมอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน
"คุณพี่ว่า...ยัยลันกับสิปารักกันจริงๆ หรือเปล่าคะ" อังเอ่ยถาม
"ถ้ารักแล้วทำไม ถ้าไม่รักแล้วยังไง" มาลัยย้อน
"ก็ถ้ายัยลันรักสิปาจริงๆ ที่คุณพี่ปฏิเสธไปเมื่อเช้า หลานคงเสียใจ อีกอย่างอังไม่เห็นด้วยเรื่องคลุมถุงชนค่ะ มันหมดสมัยไปแล้ว"
"หล่อนอยากจะดองกับพวกนั้นหรือไง"
"อังเกลียดพวกมันค่ะ แต่รักหลานมากกว่า ไม่อยากให้หลานเสียใจ พรากคนรักกันมันบาปนะคะคุณพี่"
"ความรักมันต้องมาพร้อมความถูกต้องและเหมาะสม"
อังแอบหงุดหงิด "ดื้อจริงๆ"
มาลัยถาม "อะไรนะ!”
"อังบอกว่า อื้มมมม..จริง ๆ ด้วยค่ะ"
อังทำเป็นหันไปสนใจของเล่นโดยเอามาเล่นกับตาหนู มาลัยมองป้าอังแล้วมองลันตาที่นั่งซึมอยู่ที่ระเบียง
พอลล้างอุปกรณ์ทำอาหารในห้องครัวโดยไม่สนใจวันกับมิ้งค์ที่ยืนมองอยู่เลย วันมองพอลอย่างรู้สึกผิด
"พอล...น้าขอโทษ.....”
พอลชะงักหันมาหาวันแล้วก็ยิ้มโดยพยายามกลบเกลื่อนให้มากที่สุด "ผมเข้าใจว่าน้าเป็นห่วงผม"
"พอล..ไม่โกรธน้า?” วันถาม
"ถ้าน้าไม่เก็บผมมาเลี้ยง ป่านนี้ผมคงตายไปแล้ว ผมแยกแยะได้ไม่ต้องห่วงนะครับน้า" พอลบอก
วันมองพอลที่ยังคงล้างอุปกรณ์แล้วก็ตัดสินใจไม่พูดต่อ เธอค่อย ๆ เดินออกไป มิ้งค์ขยับเข้ามาหามุมนั่งพิงสบายๆ
"นั่นมันกระทะนะคุณ ไม่ใช่ชีวิต ต่อให้คุณขัดจนตายมันก็ล้างอดีตไม่ได้หรอก" มิ้งค์ว่า
พอลชะงักหันมามองมิ้งค์ "รู้เหรอ...”
"น้าวันก็รู้ แต่เขาเลือกจะไม่พูด ... ฉันก็เลยจัดให้เอง"
"วันนี้ดูดีนะ" พอลบอก
"ก็อยู่ใกล้กับคนดีไง ไม่สำคัญว่าคุณจะมาจากไหน มันสำคัญที่คุณเป็นคนดีก็พอ"
พอลมองมิ้งค์ด้วยความประทับใจ
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" มิ้งค์ว่า
"แบบไหน?” พอลถาม
"หมาเหงาน่ะ มานี่สิคุณ"
พอลไม่เข้าใจแต่ก็ยอมขยับเข้ามาใกล้ จู่ ๆ มิ้งค์ก็กอดพอลเพื่อปลอบใจ พอลอึ้ง
"คุณเป็นคนมีค่านะพอล อย่างน้อยก็สำหรับฉัน"
พอลค่อยๆ เลื่อนมือกอดตอบอย่างขอบคุณ "ขอบคุณนะ"
มิ้งค์ยิ้มดีใจที่อย่างน้อยก็ช่วยให้กำลังใจพอลได้บ้าง
พิธานคุยโทรศัพท์กับมะนาว
"อีกไม่นานผมจะหมั้นกับลันตา" พิธานยิ้มอย่างพอใจกับผลงานวันนี้
มะนาวยิ้มอย่างพอใจ
"คุณควรจะรีบจัดงานหมั้นให้เร็วที่สุด" มะนาวบอก
"ผมจะทำเมื่อมันถึงเวลา" พิธานว่า
"แต่ฉันไม่อยากเจอเรื่องพลิกล็อคอีก คุณพลาดมาแล้วหนนึงนะคะ"
พิธานไม่พอใจ "ผมรู้ว่าควรจะต้องทำยังไง"
ธัญญาเรศเคาะประตูห้องเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามา
"ผมต้องวางสายแล้ว" พิธานกดวางสายทันที
พิธานมองธัญญาเรศด้วยความแปลกใจ
"คุณมีอะไร" พิธานถาม
"ฉันอยากรู้ว่าคุณพอใจกับผลงานของฉันเมื่อวานนี้ไหม" ธัญญาเรศถาม
"ก็ดี..." พิธานมองอย่างรู้ทัน "มันควรจะมีผลตอบแทนสินะ"
"ให้ลาเบลเป็นอิสระจากการบริหารของพี่นี"
"มันมากเกินไป"
"ฉันทำให้ลาเบลดีกว่านี้ได้"
"ผมมอบหมายงานให้คนตามความสามารถ ไม่ใช่ตามคำโอ้อวด งานคุณดีพอเมื่อไหร่ ผมจะพิจารณาเรื่องนี้เอง"
"แต่ว่า...”
"เชิญ!”
ธัญญาเรศหัวเสียที่ไม่ได้ดังใจก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ธัญญาเรศที่ยืนอยู่หน้าห้องหัวเสีย เธอชะงักที่เห็นอนุชิตยืนอยู่ด้วยสีหน้าโมโหมาก
ธัญญาเรศหน้าสะบัดตามแรงตบของอนุชิต เธอหันกลับมามองอนุชิตด้วยสายตาโกรธแค้น
"วันนี้พิธานเอาผู้ใหญ่ไปสู่ขอยัยลันแล้ว อีกไม่นานเขาก็จะหมั้น" ธัญญาเรศพูด
"เลิกปัญญาอ่อนสักทีได้ไหม คิดเหรอว่าถ้าผมพลาดจากลันแล้วจะยกผู้หญิงอย่างเธอเป็นเมีย"
"นี่ยังคิดว่าฉันอยากได้คุณเพราะรักเพราะหลงจนหน้ามืดอยู่อีกเหรอ รู้ไว้ซะว่าฉันไม่เคยอยากได้คุณกลับมา แต่ถ้าฉันไม่มีความสุข ชีวิตคุณก็ต้องพัง"
"แล้วอานีเกี่ยวอะไรด้วย"
ธัญญาเรศชะงัก
"ผมได้ยินนะว่าคุณคิดจะเขี่ยอานีออกจากงานของลาเบล" อนุชิตบอก
"หัวหน้าที่ไม่มีความยุติธรรม ก็ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องเกรงใจ"
เสียงรัชนีดังขึ้น "ก็ดี...”
ธัญญาเรศกับอนุชิตตกใจที่เห็นรัชนีเดินเข้ามาในห้อง
"ต่างคนต่างไม่ต้องเกรงใจกัน พี่จะได้ทำสิ่งที่มันสมควรสักที" รัชนีว่า
ธัญญาเรศมองท้าทาย "ทำในสิ่งที่พี่คิดเถอะค่ะ เพราะญ่าคงจะห้ามอคติของพี่ไม่ได้"
รัชนีอึ้งกับท่าทีของธัญญาเรศ ทั้งสองคนมองกันแบบไม่มีใครยอมใคร
"ออกไปได้แล้วธัญญาเรศ ไปสิ" อนุชิตไล่
ธัญญาเรศเดินออกไป
"ธัญญาเรศ...” รัชนีเรียก
"คุณอาจะทำยังไงก็แล้วแต่เลยนะครับ เรื่องของผมกับญ่ามันจบไปแล้ว" อนุชิตบอก
รัชนีคิดหนัก
อังอุ้มตาหนูเดินออกมานั่งข้างๆ ลันตาที่ยังเครียดเพราะไม่รู้จะทำยังไง
อังโอบลันตา "อย่าคิดมาก เดี๋ยวมันก็ต้องมีทางออก"
"บอกตรงๆ นะคะป้า ลันมืดบอดจริงๆ"
ตาหนูวาดมือเปะปะที่หน้าลันตา
"ปลอบพี่เขาเหรอลูก น่ารักจริงๆ" อังชม
"ขอบคุณนะครับ ตาหนู" ลันตาบอก
"น่าสงสารจริงๆ ใครนะมันใจร้ายเอามาทิ้งไว้ได้" อังว่า
"ลันตั้งใจไว้แล้วค่ะว่าจะต้องตามหาครอบครัวตาหนูให้เจอให้ได้ พี่สัญญานะครับ"
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น อังจะเดินไปเปิด
ลันตาพูดขึ้น "เดี๋ยวลันไปดูให้ค่ะ"
ลันตาเดินไปเปิดประตูเล็ก ทันทีที่ประตูเล็กเปิดมินก็พูด
"ขอโทษค่ะที่วันนี้มา...ช้า" มินชะงักที่เห็นลันตา
ลันตากับมินต่างคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ
"มิน!”
มินวิ่งหนีทันที ลันตาวิ่งตาม
มินวิ่งหนี ลันตาวิ่งตาม
"หยุดก่อนมิน หยุด"
มินไม่หยุดแต่จังหวะที่หันกลับมาสะดุดขาตัวเองล้ม ลันตาจึงพุ่งเข้าตะครุบตัวมินไว้
"ปล่อยนะ ปล่อย"
"อย่าหนี ฟังฉันก่อน"
"ไม่ฟัง แกเป็นคนขับรถทับเด็ก ฉันไม่เกี่ยว ฉันไม่ยอมโดนจับ ปล่อย ปล่อย" มินดิ้นสุดชีวิต
ลันตาพยายามล็อคเต็มที่ "เด็กยังไม่ตาย! ได้ยินไหม เด็กยังไม่ตาย"
มินชะงักแล้วหันมองหน้าลันตา
"จริงเหรอ?” มินถาม
"ก็เออสิ"
"แล้วมาตามจับฉันทำไม"
"เพราะฉันอยากรู้ว่าพ่อแม่เด็กเป็นใคร ฉันจะพาเด็กไปส่งบ้านมิน ถ้าเธอช่วยฉัน ฉันจะช่วยไม่ให้ใครทำร้ายเธอ ไม่ให้เธอติดคุก เธอจะไม่ต้องหนีอีกแล้ว"
มินชะงัก "แล้วฉันจะเชื่อได้ยังไง"
"ก็เลือกเอา จะหนีไปเรื่อย ๆ หรือจะลองเชื่อฉัน" ลันตาบอก
มินมองอย่างคิดหนัก
มินมองตาหนูที่ลันตาอุ้มขึ้นมาด้วยความดีใจ
"เด็กยังไม่ตายจริง ๆด้วย"
"แล้วพ่อแม่ของตาหนูเป็นใคร?” ลันตาถาม
"มินไม่รู้ คนจ้างเขาเอาเด็กใส่กล่องแล้วก็บอกแค่ให้ไปวาง มินอยากได้เงินกลับบ้านก็เลยทำ ขอโทษนะหนู"
ลันตาคิดแล้วหยิบมือถือกดให้ดูรูปของธัญญาเรศ
"คนนี้ใช่ไหมที่จ้างเธอ" ลันตาถาม
"ใช่ คุณรู้จักเขาเหรอ" มินถามกลับ
"เขาเคยเป็นเพื่อนฉัน"
มินตกใจจะขยับถอย
ลันตาตัดสินใจพูด "เธอไม่ต้องกลัวนะอยู่ที่นี่ใครก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ฉันจะปกป้องเธอเอง แต่ห้ามเธอพูดเรื่องเธอรู้จักตาหนูกับใคร ฉันจะสืบเรื่องพ่อแม่ตาหนูเอง"
"ค่ะ"
ลันตามองตาหนูอย่างมีความหวัง
"สิปาต้องดีใจแน่ๆ"
มาลัยแอบฟังอยู่ที่มุมหนึ่งอย่างใช้ความคิด
กิ๊กนั่งสบตากับธัญญาเรศด้วยท่าทีมั่นใจมากกว่าเดิม
"กล้ามากนะที่ติดต่อฉันมา" ธัญญาเรศว่า
"อย่างน้อยเราก็เคยมีความสัมพันธ์อันดีนี่คะ" กิ๊กบอก
"หวังว่าเรื่องที่เธอลงทุนนัดฉันมามันจะคุ้มกับเวลาที่ฉันต้องเสีย"
"ติ๊ดตี่บอกกิ๊กว่า หลังจากที่กิ๊กโดนเด้งออกมา พี่นีก็อยากเด้งพี่ออกมาเหมือนกัน"
ธัญญาเรศโมโห "อย่าปากมาก แกอยากจะพูดอะไรก็รีบพูด"
"งานที่บริษัทใหม่มันก็ดีค่ะ เทรนด์แม็กกาซีน มันก็สูสีกับลาเบลแต่คนเก่าๆ ก็กันท่า ขัดขากันมากเหมือนกัน กิ๊กไม่อยากเป็นแค่พิสูจน์อักษรเหมือนเดิม"
"แล้วเธอจะเป็นอะไร"
"เลขาผู้บริหารเทรนด์แม็กกาซีน" กิ๊กยิ้ม "ตำแหน่งนี้มันว่างอยู่ค่ะ รอคนที่เหมาะสม"
"คิดจะใช้ฉันช่วยดันงั้นสิ"
"กิ๊กว่าเราได้ทั้งคู่นะคะ ถ้าลาเบลมันมืดมนพี่จะทนอยู่ทำไมล่ะคะ"
ธัญญาเรศคิดตามคำพูดของกิ๊ก กิ๊กยิ้มบอกว่ามีเปอร์เซ็นต์มากแน่นอน
ลันตากับแพทเข้ามาเจอพอลที่รออยู่ ลันตากับแพทมีสีหน้าที่ซีเรียสมาก
"ผมจัดโต๊ะไว้ตามที่ต้องการแล้วครับ" พอลบอก
"แล้ว...” ลันตาถาม
"เขามาถึงแล้วครับ แล้วไม่รอคุณสิปาด้วยเหรอครับ"
"สิปาไปบินค่ะ เรื่องนี้ลันคิดว่าลันเคลียร์เองได้"
พอลเดินนำลันตาไปมุมที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
ลันตาเดินเข้ามาเห็นธัญญาเรศกำลังรออยู่ สองสาวเผชิญหน้ากัน
"เธอคงไม่ได้เรียกฉันมารียูเนี่ยนหรอกนะ" ธัญญาเรศว่า
"ไอ้งานแบบนั้นมันสำหรับคนที่รักและเป็นเพื่อนกัน" ลันตาบอก
"แต่ไม่ใช่พวกปากอย่างใจอย่าง อย่างแก" แพทเสริม
"ถ้าจะเรียกมาด่าไร้สาระล่ะก็ ฉันไม่มีเวลา"
ธัญญาเรศจะเดินออกไป
"เธอไปขโมยตาหนูมาจากไหน ตาหนูเป็นลูกของใคร" ลันตาถาม
ธัญญาเรศชะงักแล้วหันกลับมา
ธัญญาเรศยังทำซื่อ "ถามแบบนี้หมายความว่ายังไง"
พิธานนั่งอยู่กับมาลัยและอัง
"ผมแน่ใจว่าจะจัดการทุกอย่างได้ทันเวลาแน่นอนครับ" พิธานบอก
"ฉันไม่ชอบงานรีบเร่ง" มาลัยว่า
"ผมเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วครับ แค่คุณย่าอนุมัติ"
พิธานมองอย่างมีความหวังว่ามาลัยจะเห็นด้วย
ธัญญาเรศมองการแฉของลันตาอย่างตั้งรับ
"เธอจ้างคนเอาตาหนูใส่กล่องมาวางที่ล้อรถฉัน คงผิดหวังมากสินะที่เห็นว่าตาหนูยังรอดอยู่จนถึงทุกวันนี้ แล้วก็เป็นเธอใช่ไหมที่จ้างคนตามฉันไปที่เชียงใหม่" ลันตาว่า
ธัญญาเรศยังนิ่งฟังอย่างตั้งรับ
"ที่เลวที่สุดคือคิดจะยืมมือฉันฆ่าตาหนู" ลันตาว่า
ธัญญาเรศยังนิ่ง ลันตาเริ่มโมโหจึงจับแขนธัญญาเรศอย่างคาดคั้น
"บอกฉันมาว่าตาหนูเป็นลูกใคร"
ธัญญาเรศปัดมือลันตาอย่างแรงแล้วทำหน้ายียวนแต่ไม่ตอบ
"ไม่พูด....ก็ได้...ถ้างั้นฉันจะแจ้งความ"
ธัญญาเรศชะงักมอง
"ถ้าเรื่องถึงตำรวจ เธอก็ต้องยอมพูดออกมาอยู่ดี" ลันตาบอก
ธัญญาเรศยิ้มอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ "แต่ถ้าฉันไม่พูด ไอ้เด็กนั่นก็ต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ถ้าแกคิดว่าทนเห็นไอ้เด็กนั่นลำบากก็เอาเลย"
ลันตากับแพทอึ้งในความร้ายของธัญญาเรศ
"ไอ้ญ่าฉันไม่คิดว่าแกจะเลวได้ขนาดนี้" แพทว่า
"คนไม่โดนมันไม่มีวันเข้าใจ! ....ฉันจะไม่มีวันพูด ไอ้เด็กนั่นจะต้องเป็นกำพร้าทุกข์ทรมานไปชั่วชีวิต" ธัญญาเรศบอก
ธัญญาเรศพูดจบก็เดินออกไป ทิ้งความตึงเครียดไว้กับลันตาและแพท
พิธานมองมาลัยอย่างมีความหวัง
"จัดการตามที่เธอเห็นว่าสมควรมาก็แล้วกัน" มาลัยบอก
"คุณพี่คะ" อังเรียก
มาลัยมองอังว่าให้เงียบ อังอัดอั้นมาก
"ถ้าเธอมั่นใจว่าจะรักและดูแลหลานฉันได้ ก็ลองดู" มาลัยพูด
อังมองมาลัยอึ้งๆ พิธานยิ้มพอใจ
วาณีเดินมาที่ลานจอดรถ ธัญญาเรศเข้าไปหาวาณีทันที
"สวัสดีค่ะคุณวา ทำไมไม่โทรมาล่ะคะ ญ่าจะได้ไปที่ออฟฟิศ คุณวาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาถึงที่นี่"
"คุณกาญจนาเร่งงานมาน่ะค่ะ เรื่องซื้อหน้าแฟชั่นเพื่อเปิดคอลเลคชั่นใหม่" วาณีบอก
"แสดงว่ามีโมเดลในใจแล้วใช่ไหมคะ"
"ค่ะ สุดฮอทและคุณกาญจนาเจาะจงเลยนะคะว่าต้องคนนี้ แกชื่นชอบเป็นการส่วนตัวน่ะค่ะ"
"ถ้างั้นญ่ากับทีมจะรีบสรุปไอเดียส่งไปให้นะคะ"
"ขอบคุณนะคะ"
ธัญญาเรศรับฟังด้วยสีหน้าร้าย
รัชนีกำลังดูงานบทความที่วางอยู่บนโต๊ะ สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ธัญญาเรศเปิดประตูเข้ามา
"พี่นีให้ตามญ่าเหรอคะ"
"มานี่สิ บทความตรงนี้พี่ขอปรับใหม่ มันมีแต่น้ำไม่มีสาระ ส่วนอันนี้เรื่องบิวตี้มันเป็นโฆษณาแฝงก็จริง แต่อย่าอวยจนมันดูมากเกินไป หัวข้อสัมภาษณ์พี่ขอตัดข้อ สี่ หก สิบ สิบเอ็ด กับมุมเรื่องส่วนตัว ตัดมาให้พี่ดูใหม่ บางคำมันไม่เหมาะสม"
"ค่ะ....”
รัชนีชะงักที่เห็นว่าธัญญาเรศแค่ขานรับโดยไม่เถียงซึ่งผิดนิสัยมาก "ไม่มีความคิดเห็นอย่างอื่นเหรอ"
"อืม...แล้วถ้าญ่าคิด พี่นีจะเห็นด้วยเหรอคะ"
รัชนีอึ้งไปกับคำพูดของธัญญาเรศ
"ชีวิตการทำงานมันก็แบบนี้ล่ะค่ะ ต้องรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ตรงไหน และอยู่กับใคร"
รัชนีมองธัญญาเรศที่หลอกด่าหน้าตึง
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ญ่าขอไปแก้งานก่อนนะคะ"
ธัญญาเรศเดินออกไป รัชนีมองตามอย่างไม่พอใจ
ลันตาเครียด
"แล้วแกจะเอายังไงวะ ถ้าไอ้ญ่ามันไม่พูด" แพทถาม
"ถ้าส่งคืนตาหนูไม่ได้จริงๆ ฉันจะรับเลี้ยงตาหนูเอง" ลันตาบอก
"รับเป็นลูกบุญธรรมเลยสิครับ" พอลเสนอ
"รอให้สิปาบินกลับมาจะปรึกษาอีกที"
"แต่ก่อนจะไปเรื่องเด็ก แล้วเรื่องคุณพีทล่ะครับ เขาไม่ยอมหยุดแน่ๆ"
"แล้วถ้าย่าบังคับแกล่ะลัน แกจะทำยังไง" แพทถาม
ลันตาคิดหนักเพราะยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะจบเรื่องนี้ยังไง
อ่านต่อตอนที่ 13