รอยฝันตะวันเดือด ตอนที่ 7
มาซารุทุบโต๊ะทำงานด้วยความโมโห ขณะที่ยูจิ เคน และฮิโระยืนอยู่ตรงหน้า
“ห้องเก็บหลักฐานถูกลอบวางระเบิด มันเกิดขึ้นได้ยังไง”
มาซารุจ้องยูจิ ต้องการคำอธิบาย
“พบร่องรอยสารสำหรับทำระเบิดชนิดเหลวบริเวณจุดเกิดเหตุ” เคนอธิบาย
“หลักฐานอื่นได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่หลักฐานดำเนินคดีมิอุระ ถูกทำลายเสียหายทั้งหมดครับ” ยูจิเสริม
มาซารุกำมือแน่นจนสั่น โกรธจนหน้าแดงกล่ำ
“สำนวนคดีไนท์คลับของฮารุค้ายาเสพติดจะส่งฟ้องพรุ่งนี้แล้วไม่มีหลักฐาน...จะเอาอะไรไปยืนยันความผิด”
ฮิโระสีหน้าเคร่งเครียดมาก แต่พยายามนิ่งเก็บอาการ มาซารุลอบสังเกตท่าทางของฮิโระ ยูจิหันไปเห็นจึงเปรยขึ้นเหมือนต้องการจับผิด
“คนในสำนักงานตำรวจช่วยทำลายหลักฐานแน่ๆ รองฮิโระสงสัยใครบ้างมั้ย” ยูจิหันไปถาม
“ผมไม่ได้ทำงานฝ่ายสืบสวนแล้ว รู้เรื่องน้อยกว่าหมวดเคนซะด้วยซ้ำ” ฮิโระย้อน
“มีคนเห็นรองฮิโระอยู่บริเวณห้องเก็บหลักฐานก่อนเกิดระเบิด” เคนจ้องอย่างจับผิด
“ผมแค่ถูกย้ายไปดูแลฝ่ายอื่น ไม่ใช่ผู้ต้องขังที่ห้ามเดินเพ่นพ่าน” ฮิโระบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แล้วหันไปบอกมาซารุ “ถ้าไม่มีอะไร... ผมขอตัวกลับไปทำงานนะครับ”
ฮิโระก้มศีรษะลามาซารุ แล้วเดินออกไป มาซารุมองตาม มั่นใจว่าฮิโระเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้แน่
“รองฮิโระสนิทกับพวกโอะนิซึกะ เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด ทำไมพ่อไม่จัดการ” ยูจิหันมาถาม
“ฉันมีอำนาจ แต่ไม่ได้โง่เหมือนแก”
มาซารุหันไปตวาดใส่หน้ายูจิอย่างเดือดดาล
“ไม่มีหลักฐาน... คิดเหรอว่าไอ้ฮิโระมันจะยอมรับ หัดใช้สมองกลวง ๆ ของแกให้มีประโยชน์หน่อยได้มั้ย”
ยูจิก้มหน้าหลบสายตามาซารุ แววตายูจิแข็งกร้าว และรู้สึกเก็บกดอย่างหนัก
ยูจิกลับมาห้องทำงาน รีบปิดประตูด้วยความโมโห อาการปวดอย่างรุนแรงกำเริบขึ้นจนทนไม่ไหว กุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย”
ยูจิรีบไปเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานอย่างร้อนรน รื้อค้นหาขวดยาจนข้าวของกระจุยกระจาย
อาการปวดหัวจี๊ดของยูจิรุนแรงขึ้นอีก จนยูจิยืนไม่ไหว ถึงกับทรุดลงข้างโต๊ะ ทรมานมาก
“โอ๊ย”
ยูจิพบยาขวดหนึ่งซุกซ่อนอยู่ด้านในสุดของลิ้นชัก เขารีบหยิบขวดยาออกมาด้วยมือสั่นเทา เริ่มทุรนทุรายจากอาการประสาทกำเริบ ยูจิยิ้มอย่างมีหวัง เมื่อเจอทางออกให้กับตัวเอง
ริวกับโคจินั่งเล่นหมากรุกญี่ปุ่นกัน ทั้งสองต่างจ้องมองกระดานหมากรุกอย่างใช้สมาธิ
นิ่งมาก ไทชิลุ้นมองการต่อสู้ของทั้งคู่เงียบ ๆ ริวตัดสินใจเดินหมากตัวหนึ่ง โคจิยิ้มทึ่ง
“ใช้ขุนบัญชาการรบเพื่อปิดเกม... โซเรียวไหวพริบดีมาก”
“จะดีกว่านี้...ถ้านักรบกล้าเผชิญหน้ากับความจริง”
ฮิโระเดินบุ่มบ่ามเข้ามา คัตสึ เซกิ วิ่งตามมาติด ๆ ยังไม่ทันรายงาน ริวก็ลุกขึ้นพูดกับฮิโระอย่างใจเย็น รู้ล่วงหน้าว่าฮิโระต้องมาแน่
“รองฮิโระมาเร็วว่าที่ผมคาดไว้” ริวก้มศีรษะทักทาย
ฮิโระจ้องริวด้วยความไม่พอใจ
ในครัวบ้านโอะนิซึกะ มายูมิเห็นอายะโกะกำลังเตรียมน้ำชาและของว่างอยู่ จึงถามด้วยความแปลกใจ
“ริวมีแขกเหรอคะ”
“รองฮิโระมาค่ะ...ท่าทางเครียด ๆ”
มายูมินึกสงสัย
ฮิโระต่อว่าริวทันทีที่ทั้งสองแยกมาคุยกันตามลำพัง
“คุณหลอกให้ผมเอากระเป๋าของกลางคดีมิอุระมาให้ เพื่อซ่อนระเบิดกลับไป”
“นั่นเป็นวิธีเดียวที่ ฮารุ มิอุระ จะพ้นผิดในคดีที่เขาไม่ได้ทำ”
ริวตอบด้วยท่าทางที่นิ่งมาก ยิ่งทำให้ฮิโระหัวเสีย
“ริว.. คุณกำลังทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไร้เกียรติที่สุด”
“แล้วการที่คนบริสุทธิ์ถูกใส่ร้าย มันเป็นเรื่องถูกต้องงั้นเหรอครับ”
ฮิโระอึ้งไปพูดไม่ออก
“บางครั้งเราจำเป็นต้องใช้ไหวพริบเล่ห์เหลี่ยม เพื่อเอาชนะอันธพาลชั่ว ถ้าพวกมันวิ่งนำไปหนึ่งก้าว เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อวิ่งแซงมันให้ได้”
“ถ้าเป็นทาเคชิ...เขาคงไม่ทำวิธีนี้” ฮิโระมองริวด้วยสายตาผิดหวัง
“ผมไม่ใช่ทาเคชิ ผมจะนำโอะนิซึกะด้วยวิถีทางของผมเอง”
“อำนาจมันหอมหวาน ยั่วยวนให้หลายคนอยากลองเข้าไปสัมผัส ผมยังเชื่อในความดีของสายเลือดนักรบซามูไรอย่างโอะนิซึกะ แต่คุณมั่นใจเหรอว่า มิอุระจะไม่อยากลิ้มรสอำนาจนั้น จนลุกขึ้นมาเป็นศัตรูกับคุณ”
“วันนี้ผมช่วยมิอุระในฐานะมิตรที่ดีต่อกัน แต่เมื่อไหร่ที่ ฮารุ มิอุระ คิดไม่ซื่อกับแผ่นดินนี้ ผมจะจัดการด้วยมือของผมเอง”
ริวประกาศกร้าว สีหน้าจริงจังมาก ฮิโระยังคงเป็นกังวล ไม่สบายใจกับสิ่งที่ริวทำ
ยามค่ำคืน แสงไฟหน้าไนต์คลับมิอุระว่างไสว
ภายในไนต์คลับ ฮารุยืนจิบไวน์ มองบรรยากาศสนุกสนานยามราตรีที่มีนักเที่ยวแวะเวียนเข้ามามากมาย ทำให้ไนต์คลับคึกคักอีกครั้ง
“เปิดไนท์คลับวันแรกหลังจากที่ปิดไปนาน นึกไม่ถึงว่านักเที่ยวจะมากันเยอะขนาดนี้” ชุนยิ้มอย่างพอใจ
“ฉันได้รับอิสรภาพเพราะความช่วยเหลือของ ริว โอะนิซึกะ บุญคุณครั้งนี้ ฉันจะจดจำไปจนวันตาย” ฮารุบอกอย่างสบายใจ
“นายแน่ใจเหรอครับ ว่าโอะนิซึกะไม่หวังอะไรจากเราจริง ๆ”
ฮารุหันขวับตวาดใส่ชุน
“ถ้าได้ยินแกพูดไม่ให้เกียรติโอะนิซึกะอีก ฉันจะตัดลิ้นของแกซะ”
“ขอโทษครับ”
ชุนรีบก้มศีรษะขอโทษฮารุอย่างเกรงกลัว ฮารุหันมองไปรอบ ๆ นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ขณะที่เขาโน้มหน้าจะจูบจุนโกะ แต่จุนโกะใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปากเขาไว้
“ฟังข้อเสนอของฉันก่อนสิคะ ถ้าเราตกลงกันได้.. ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ท่านต้องการ”
คิดแล้วฮารุแค้นขึ้นมาทันที
“นังแพศยาคนนั้นทำให้ฉันเกือบติดคุก ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหา ฉันก็จะตามล่าตัวมันมาลงโทษให้หายแค้น”
ริวยืนเหม่ออยู่ในความมืดตามลำพังคนเดียว คิดถึงประโยคที่ฮิโระพูดกับเขา
“อำนาจมันหอมหวาน.. ยั่วยวนให้หลายคนอยากลองเข้าไปสัมผัสผมยังเชื่อในความดีของสายเลือดนักรบซามูไรอย่างโอะนิซึกะแต่คุณมั่นใจเหรอว่า... มิอุระจะไม่อยากลิ้มรสอำนาจนั้น จนลุกขึ้นมาเป็นศัตรูกับคุณ”
ริวทอดถอนใจเครียด จะเดินกลับเข้าบ้าน ชะงักเมื่อเห็นมายูมิยืนอยู่
“มีปัญหากับรองฮิโระเหรอคะ”
“สิ่งที่เราทำ อาจทำให้คนหนึ่งพอใจ แต่อีกคนอาจไม่ถูกใจ”
“อย่าไม่สบายใจไปเลยค่ะ ตราบใดที่คุณมั่นใจว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง”
ริวสีหน้าดีขึ้น คิดตามที่มายูมิบอก
“ไม่คิดจะบอกฉันบ้างเหรอ ว่าเรื่องอะไร”
“เมื่อถึงเวลา คุณจะได้รู้ทุกเรื่อง”
ริวเดินมากุมมือมายูมิ แววตายังแฝงความเครียด
“ผู้หญิงของโอะนิซึกะต้องเจออันตรายรอบตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ คุณกลัวที่จะอยู่กับผมมั้ย”
“ในเมื่อชีวิตฉันถูกลิขิตให้เป็นผู้หญิงของโอะนิซึกะโซเรียว ฉันก็พร้อมจะเผชิญทุกอย่างร่วมกับคุณค่ะริว”
ริวดึงตัวมายูมิเข้ามากอดอย่างรู้สึกเป็นสุขใจ
“คุณคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างผม...มายูมิ”
มายูมิโอบแขนทั้งสองไปสวมกอดริวแนบแน่น อบอุ่น แทนสัญญาจากคำพูดของเธอ
มาซารุกำลังเคร่งเครียดกับการอ่านแฟ้มเอกสาร ผ่านโคมไฟดวงเดียวบนโต๊ะทำงาน
เสียงฝีเท้าใครบางคนถือวิสาสะก้าวเข้ามาในห้อง โดยไม่เคาะประตู
“เคน...ฉันบอกว่าห้ามเข้ามารบกวน”
มาซารุเงยหน้าขึ้นต่อว่า เพราะคิดว่าเป็นเคน สายตามาซารุพยายามเพ่งมองผ่านความมืด จนมองเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้วตกใจ
“ท่านยามาโมโต้”
มาซารุรีบลุกก้มศีรษะให้ยามาโมโต้ แล้วรีบหาเก้าอี้มาให้นั่ง ยามาโมโต้เดินผ่านเก้าอี้ที่มาซารุยกมาให้ ไปหยุดยืนตรงโต๊ะทำงานของมาซารุ
“โต๊ะทำงานตัวนี้ คู่ควรกับผู้บัญชาการตำรวจที่เก่งและมีความสามารถ” ยามาโมโต้หันมาจ้องหน้าเขม็งไปยังมาซารุ “คิดว่าตัวเองยังเหมาะสมกับตำแหน่งนี้อยู่มั้ย”
“ผมขอโทษที่ปล่อยให้ ฮารุ มิอุระ รอดไปได้”
“กี่ครั้งแล้วที่ทำงานพลาด อย่าคิดว่าเป็นญาติกับเมียฉัน แล้วฉันจะไม่กล้ายึดอำนาจที่เคยให้”
“ขอโอกาสอีกครั้งนะครับ ผมรับรองว่าจะไม่พลาดอีก”
มาซารุโค้งตัวขอโทษยามาโมโต้อย่างหนักแน่น ด้วยความรู้สึกผิด ยามาโมโต้ประเมินมาซารุด้วยสายตา
“ได้ยินว่าผู้กองยูจิคอยขัดขวางงานของเรา”
“ท่านทราบ” มาซารุพึมพำเบาๆ ด้วยความแค้น “ไอ้สุนัขลอบกัดทาคาโอะ”
“ว่าไงนะ”
“เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันครับ ยูจิรู้หน้าที่ของตัวเองและยินดีทำงานรับใช้ ท่านยามาโมโต้ทุกอย่าง”
“หวังว่าฉันจะไว้ใจคนไม่ผิด”
สีหน้ายามาโมโต้เรียบนิ่ง ร้ายลึก คาดเดาอารมณ์ยาก มาซารุเครียด
มาซารุเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานยูจิ เห็นยูจินั่งพิงโซฟาด้วยสีหน้าผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม ในมือยูจิถือขวดยาระงับประสาทอยู่
“ไอ้ยูจิ”
“พ่อ” ยูจิเหมือนคนละเมอตกใจ
มาซารุตรงเข้าไปคว้าขวดยาระงับประสาทจากยูจิมา โมโหมาก
“แกยังไม่เลิกใช้ยาระงับประสาทอีกเหรอ”
มาซารุเขวี้ยงขวดยาทิ้ง แล้วกระชากตัวยูจิลุกขึ้น ตรงไปยังหน้าต่างห้องทำงาน
“ไอ้ลูกไม่รักดี”
“พ่อจะทำอะไร”
มาซารุจับหัวยูจิกดบังคับให้มองออกไปยังวิวกว้างนอกหน้าต่าง
“เห็นมั้ย...เมืองนี้กำลังจะอยู่ในกำมือของท่านยามาโมโต้ อยู่ในอุ้งมือของพวกเรา อำนาจและความยิ่งใหญ่กำลังรอเราอยู่ แต่ชีวิตของแกกำลังจะพังเพราะยาระงับประสาท และผู้หญิงคนเดียว”
“ชีวิตผมพังเพราะพ่อต่างหาก”
ยูจิสะบัดตัวหลุดจากมาซารุ สายตากร้าว
“พ่อบ้างานจนลืมผมกับแม่ พอแม่ล้มป่วยจนตาย พ่อก็เข้มงวดบังคับผมในทุกๆ เรื่อง..แต่ไม่เคยพยายามจะเข้าใจผมเลย”
“เพราะฉันอยากให้แกเป็นตำรวจที่เข้มแข็งเหมือนฉัน”
“เคยถามสักคำมั้ยว่าผมอยากเป็นมั้ย”
มาซารุอึ้งไป ยูจิบอกอย่างขมขื่น
“ผมไม่อยากเป็นตำรวจ ไม่อยากทำตามคำสั่งพ่อ ผมเบื่อชีวิตที่มีพ่อคอยกดดันทุกอย่าง ผมต้องพึ่งไอ้ยาบ้านั่นก็เพราะพ่อ ถ้าชีวิตผมจะพัง...ก็เพราะพ่อคนเดียว”
“ไอ้ยูจิ”
มาซารุต่อยยูจิสุดแรงอย่างระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ยูจิเซเสียหลักโครมไปติดกำแพง ทรุดกองกับพื้น เลือดกบปาก มาซารุก้าวไปยืนตรงหน้ายูจิ ชี้หน้าดูถูก
“ถึงฉันจะไม่ชอบ ริว โอะนิซึกะ แต่ฉันก็นับถือในความสามารถของมัน ถ้าแกยังอ่อนแออยู่อย่างนี้ แกจะไม่มีทางสู้ไอ้ริวได้ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือชีวิตส่วนตัว มายูมิเหมาะกับไอ้ริวมากกว่าแก”
ยูจิยิ่งคิด ยิ่งแค้น เมื่อถูกเปรียบเทียบกับริว
มาซารุเดินกลับมาที่ห้องทำงาน หันไปจับรูปครอบครัวที่มีตนเอง ภรรยา และยูจิในวัยเด็ก ถ่ายร่วมกันสามคนพ่อแม่ลูก มาซารุหยิบรูปมาดูใกล้ ๆ
“ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีอนาคต มีงานที่ดี แต่ยูจิไม่เคยเข้าใจ”
แววตามาซารุเครียดระคนเหนื่อยล้า
“แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้... ฉันจะเคี่ยวเข็ญให้ลูกแข็งแกร่งเหมือนฉันให้ได้”
มาซารุบอกตัวเองอย่างมุ่งมั่น
ไทชิ คัตสึ เซกิ ช่วยกันยกอาหารกล่องหลายอย่าง มาวางให้ริว
“ป้าอายะโกะจัดอาหารตามที่โซเรียวสั่งเรียบร้อยแล้วครับ”
ริวพยักหน้ารับรู้ มายูมิมองอาหารกล่องหลายอย่างแปลกใจ
“จะเอาไปเยี่ยมใครเหรอคะ”
ไทชิ คัตสึ เซกิ สบตากัน แล้วก้มหน้าเงียบ ริวรีบอธิบาย
“เพื่อนผมสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ผมจะของบำรุงไปฝาก รอให้เขาแข็งแรงก่อนนะ แล้วผมจะพาคุณไปเยี่ยม”
“ค่ะ”
มายูมิลอบมองท่าทางริวกับลูกน้อง รู้สึกผิดสังเกตจนน่าสงสัย
อายะโกะย้อนถามมายูมิด้วยความแปลกใจ
“เพื่อนสนิทโซเรียว ตั้งแต่เล็กจนโตโซเรียวสนิทกับคุณทาเคชิ แค่คนเดียว ตอนนี้...”
“ริวสนิทใครคะ”
มายูมิลุ้นรอคำตอบ อายะโกะพยายามนึก
“ไม่เคยเห็นโซเรียวสนิทกับใครนะคะ”
ฟุมิโกะตื่นเต้นอยากรู้
“แล้วคุณอาคิโกะล่ะป้า เป็นเพื่อนหรือว่า..”
มายูมินิ่งงัน เมื่อฟุมิโกะพูดถึงอาคิโกะขึ้นมา อายะโกะหันไปหยิกฟุมิโกะจนร้องลั่น
“โอ๊ย...ฉันเจ็บ”
“เจ็บเยอะ ๆ จำนาน ๆ จะได้ไม่พูดอะไรพล่อย ๆ อีก”
“ขอโทษจ้ะป้า” ฟุมิโกะครวญ
อายะโกะปล่อยมือจากฟุมิโกะอย่างสุดเอือม แล้วหันมาให้กำลังใจมายูมิที่ยังคงนั่งเงียบอยู่
“อะไรที่ยังไม่เกิด พาลคิดไปก่อน เราก็จะทุกข์เพราะความคิดตัวเองรักคือความเชื่อใจซึ่งกันและกัน... อย่าปล่อยให้ความคิดร้าย ๆ มาทำลายความสุขในหัวใจเรานะคะ”
อายะโกะยิ้มให้มายูมิอย่างอบอุ่น มายูมิสับสน
จุนโกะหิ้วห่ออาหารที่เพิ่งซื้อมา เดินกลับห้องพัก ลูกน้องมิอุระเดินตาม จุนโกะชะงักนิดหนึ่ง รู้สึกเหมือนใครเดินตามมา หันขวับไปมอง เห็นเงาใครคนหนึ่งวิ่งหลบไปอย่างรวดเร็ว จุนโกะตกใจกลัว รีบเร่งฝีเท้าเดินกลับห้องให้เร็วที่สุด
จุนโกะรีบเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้อง เพราะกลัวคนที่สะกดรอยตามมา ก่อนหันขวับไปเห็นคนที่รอเธออยู่ในห้อง ตกใจจนปล่อยห่ออาหารลงกับพื้น
“ฮารุ”
ฮารุยืนรอจุนโกะอย่างใจเย็น สายตาเหี้ยม ข้างกายมีชุนและลูกน้องมิอุระหลายคน
“ยังจำฉันได้เหรอ..นังแพศยา”
จุนโกะตกใจและหวาดกลัวมาก
จุนโกะถูกลากออกมาจากห้อง โดนชุนเหวี่ยงจนเซไปล้มอยู่กับกองขยะ มีเลือดซึมมุมปาก หลังจากเล่นงานมาแล้วตั้งแต่อยู่ในห้อง ฮารุเดินเข้ามาหาจุนโกะ เอามือบีบหน้าเธอจนหน้าแหงนเจ็บปวด
“นังตัวดี แกทำให้ฉันเกือบติดคุก”
“ฉันกลัวแล้ว...”
“กลัวเหรอ ไม่จริงมั้ง แกยังไม่รู้หรอกว่าความกลัวที่แท้จริงเป็นยังไง”
ชุน ลูกน้องมิอุระ ตรงเข้าล็อคตัวจุนโกะอย่างรู้หน้าที่ ฮารุเอาดาบสั้นออกมา กระชากดาบสีเงินวาววับออกมาจากฝัก จุนโกะตกใจ กลัวมาก พยายามดิ้นรนขัดขืน
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย”
“โบราณว่า...นิ้วไหนร้าย จงตัดนิ้วนั้นทิ้ง อยากให้ฉันตัดนิ้วไหนก่อน”
ชุนกระชากข้อมือจุนโกะ บังคับให้ยื่นมือออกมา ฮารุยิ้มเหี้ยม ใช้ปลายดาบไล้ไปตามแต่ละนิ้วของจุนโกะที่ร้องไห้ ตื่นกลัว
“อย่าทำฉันเลย ได้โปรด...”
“มือของแกมันร้าย กล้าเอายาเสพติดไปวางถึงถิ่นมิอุระ ฉันจะค่อย ๆ เฉือนออกทีละนิ้วๆ ให้แกได้กลัวอย่างไม่มีวันลืม”
ดาบสั้นในมือฮารุถูกยกขึ้นจนเกิดเงาวูบวาบทาบผ่านหน้าจุนโกะ ที่กำลังตกใจสุดขีด
“ไม่นะ อย่า”
ฮารุกำลังจะใช้ดาบฟันที่มือจุนโกะ จู่ ๆ ดาบสั้นอีกเล่ม ก็พุ่งแหวกอากาศเข้ามา...กระแทกดาบสั้นของฮารุจนกระเด็นหลุดมือ ดาบสั้นทั้งสองเล่มตกพื้นไปคนละทาง ฮารุ กับเหล่าลูกน้องตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ริวก้าวเข้ามา โดยมีคัตสึ เซกิ หิ้วอาหารกล่องที่เตรียมมาให้จุนโกะด้วย
“คุณริว” จุนโกะดีใจ
“ปล่อยตัวจุนโกะ”
ฮารุสบตาริว ไม่เข้าใจว่าทำไมริวถึงปกป้องจุนโกะ
รอยฝันตะวันเดือด ตอนที่ 6 (ต่อ)
ฮารุประจันหน้าริวตามลำพัง สายตาดุดัน เอาเรื่อง
“จุนโกะคือคนที่ช่วยไอ้ทาคาโอะจัดฉากใส่ร้ายมิอุระ”
“เธอถูกบังคับให้ทำ” ริวบอกทันที
ฮารุชะงัก สีหน้าเหี้ยมเกรียนมมากยิ่งขึ้น ยิ่งสงสัยในสิ่งที่ได้ยิน
“โอะนิซึกะโซเรียวรู้จักผู้หญิงคนนี้”
“ผมรู้จักจุนโกะตอนที่พยายามหาทางช่วยคุณให้พ้นคดี จุนโกะเป็นแค่เหยื่อของทาคาโอะ”
“ผู้หญิงคนนี้ทำให้มิอุระเดือดร้อน มันต้องรับโทษ”
“ผมยอมให้ใครทำร้ายจุนโกะไม่ได้”
“โอะนิซึกะพร้อมจะเป็นศัตรูกับมิอุระ เพื่อปกป้องผู้หญิงของมิซาว่างั้นรึ” ฮารุถามเสียงแข็ง
“ไม่ว่าจุนโกะจะเป็นคนของใคร ถ้าเธอถูกรังแกอย่างไม่ยุติธรรม โอะนิซึกะยินดีช่วยเหมือนกับที่เคยช่วยมิอุระและทุกคนในเมืองนี้”
ริวตอบโต้ด้วยท่าทางสุขุม ต้องการรักษาน้ำใจฮารุไว้ด้วย ฮารุจ้องริวเขม็ง ไม่พอใจ แต่ก็ไม่เคยลืมบุญคุณของริว
“มิอุระไม่เคยลืมความช่วยเหลือจากโอะนิซึกะ แต่บุญคุณนั้นกำลังจะถูก ลบล้างด้วยอิสรภาพของจุนโกะ”
ฮารุจ้องริวเขม็ง แล้วจึงค่อยๆ เดินออกไปด้วยแววตาไม่พอใจเป็นอย่างมาก ริวหนักใจ แต่ก็หนักแน่นกับการตัดสินใจของตัวเอง
สวนสาธารณะ...จุนโกะก้มศีรษะขอบคุณริว น้ำตาซึม และหวาดกลัวไม่หาย
“ขอบคุณคุณริว ที่กรุณาช่วยฉัน”
“โอะนิซึกะยังต้อนรับเธอเสมอนะจุนโกะ”
จุนโกะมองริวอย่างซาบซึ้ง
“คุณเมตตาฉันมาก ฉันไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้คุณอีก”
“วันนี้เธอปลอดภัย แล้ววันอื่น ๆ ล่ะ ถ้าเธอเป็นคนของโอะนิซึกะ เราจะคุ้มครองเธอได้ตลอดเวลา” ริวถามอย่างไม่สบายใจ
“ตอนนี้มิซาว่ายังไว้ใจฉัน...ถ้าฉันอยู่กับคุณ ก็เท่ากับเพิ่มศัตรูให้ตัวเอง ถูกมิอุระหมายหัว ถูกมิซาว่าตามล่า ฉันไม่อยากอยู่อย่างหลบซ่อนหรือหวาดกลัวแล้ว ได้โปรดเข้าใจฉันเถอะนะคะ”
จุนโกะสีหน้าเศร้ามาก ริวมองจุนโกะด้วยความสงสารและเข้าใจ
ไทชิทำหน้าที่เป็นองครักษ์เฝ้ามายูมิตรงทางขึ้นห้องนอน หันไปเห็นริวกลับมาพร้อมคัตสึ เซกิ จึงก้มศีรษะต้อนรับ
“มายูมิล่ะ”
“ขึ้นห้องไปตั้งแต่ตอนหัวค่ำแล้วครับ”
“ทำไมนอนเร็ว”
ริวแปลกใจ รีบเดินขึ้นห้องไปหามายูมิ
มายูมิมองเข็มกลัดรูปผีเสื้อ กับ สร้อยจี้รูปดอกเดซี่ในมือด้วยความสับสน เสียงอายะโกะแทรกขึ้นมาในความคิด
“รักคือความเชื่อใจซึ่งกันและกัน... อย่าปล่อยให้ความคิดร้าย ๆ มาทำลายความสุขในหัวใจเรานะคะ”
มายูมิเหม่อมองเข็มกลัดรูปผีเสื้อกับสร้อยจี้รูปดอกเดซี่อยู่ โดยไม่รู้ว่าริวเดินเงียบมานั่งอยู่ข้าง ๆ
“กำลังชั่งใจเลือกไม่ถูกว่าเข็มกลัด หรือสร้อยจะสวยกว่ากันเหรอ”
มายูมิรู้สึกตัว หันไปเห็น
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ตั้งแต่คุณเพ้อว่าคุณถึงผม”
“ใครเพ้อ คุณนั่นแหละที่เพ้อเจ้อ”
มายูมิเมินหน้าหนีริว งอน ๆ
“ทำหน้างอนเป็นช้อนซุปอย่างนี้ โกรธอะไรผมรึเปล่า”
“อย่าเดาแทนฉันเลยค่ะ”
“ไม่ให้เดาแทนคุณ งั้นผมคิดแทนสร้อยของผมก็ได้ ผมว่าสร้อยเส้นนี้กำลังคิดถึงซอกคอหอม ๆ ของคุณอยู่นะ”
ริวขยับมาด้านหลังมายูมิเล็กน้อย ปัดลูบผมมายูมิให้เป๋ไปทางหนึ่งอย่างแผ่วเบา แล้วหยิบสร้อยในมือของเธอมาสวมใส่ให้ ใบหน้าริวเอียงเข้ามาใกล้มาก มายูมิอึ้ง เขิน รับรู้ได้ถึงลมหายใจอันอบอุ่นที่อยู่ข้างตัว
“ครั้งแรก...ผมสวมสร้อยเส้นนี้ให้คุณ เพื่อให้คุณโชคดีในการสอบ ครั้งนี้...ผมขอให้ดอกเดซี่บนสร้อยเส้นนี้ เป็นตัวแทนความรักและความซื่อสัตย์ของผมที่มีต่อคุณ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...เชื่อใจผมนะมายูมิ”
ริวพูดราวกับกระซิบ สีหน้าและแววตาจริงใจ มายูมิหันมาสบตาริว นิ่งลังเล ก่อนคลี่ยิ้มออกมาราวกับความอึดอัดภายในถูกคลายลง
ริวสวมกอดมายูมิด้วยรักที่แสนอบอุ่น
คาโอะนั่งแกะสลักจุกไม้ก๊อกเล่น ด้วยสีหน้าสบายใจ ไม่สนสายตาจดจ้องอย่างหมั่นไส้ของมาซารุ
“ท่านยามาโมโต้ให้โอกาสแก้ตัวแล้ว งานนี้แกพลาดไม่ได้”
“พลาด พูดเหมือนผมเป็นคนทำให้ไอ้ฮารุหลุดคดี” ทาคาโอะย้อน
“อย่ามายอกย้อน ลืมแล้วเหรอว่าใครมีบุญคุณกับแก”
สายตาทาคาโอะกระตุกอย่างไม่พอใจ จำต้องอดกลั้น
“ผมซาบซึ้งบุญคุณเสมอ แต่หวังว่าจะไม่มีใครขัดขวางการทำงานของผมอีก”
ทาคาโอะปรายตามองยูจิที่ยืนอยู่ ยูจิถีบโครมเข้าที่เก้าอี้ข้างทาคาโอะ จนเก้าอี้ล้มกระจายไป
“มองหน้าฉันอย่างนี้ หมายความว่าไง”
“แล้วแต่จะคิด แต่จะคิดออกเหรอ ไอ้ผู้กองขี้ยา”
“ไอ้ทาคาโอะ”
ยูจิกับทาคาโอะ ต่างคนต่างลุกขึ้น จะเอาเรื่องกัน มาซารุรีบห้าม
“หยุดกัดกันสักทีได้มั้ย ถ้าแกสองคนไม่ร่วมมือกัน ปล่อยให้งานนี้พลาด ท่านยามาโมโต้ต้องเล่นงานพวกเราทุกคนแน่ๆ”
ทาคาโอะกับยูจิฮึดฮัด เขม่นกัน
หน้าไนต์คลับมิอุระ...ฮารุยืนมองไปรอบๆ ไนท์คลับ แล้วจึงเดินเข้าไปในไนท์คลับกับชุนและลูกสมุนส่วนหนึ่ง ลูกน้องฮารุอีกคนหนึ่งเดินอยู่ทางด้านหน้าโดยไม่ระวังตัว ด้านหลัง นาบุกับลูกน้องตรงเข้าชาร์จลูกน้องฮารุคนนั้น ซัดจนสลบแล้วลากออกไปโดยไม่มีใครรู้
ภายในไนต์คลับมิซาว่า ลูกน้องฮารุที่โดนลากออกมา ถูกน้ำสาดให้ฟื้นขึ้นมา เขาตาเหลือกมองไปทางด้านหน้าด้วยสายตาหวาดกลัว เห็นทาคาโอะนั่งแกะจุกไม้ก็อกนิ่งๆ ดูน่ากลัว
“นี่ไม่ใช่เรื่องของความแค้นส่วนตัว คิดซะว่าเป็นกรรมเก่าก็แล้วกันนะ ลาก่อน”
ทาคาโอะหยิบปืนพกบนโต๊ะ เหยียดตรงเข้ามาที่ร่างลูกน้องฮารุ กระหน่ำยิงไม่นับ ปังๆ
วันใหม่ลูกน้องโอะนิซึกะขับรถขนสินค้าเข้า ออกในคลังสินค้าโอะนิซึกะ ลูกน้องอีกส่วนช่วยกันยกของสินค้าขึ้นรถอย่างแข็งขัน
ในคลังสินค้า โคจิ คาซูมะ มาซาโตะ ปรึกษากัน ขณะเดินตรวจความเรียบร้อย
“โอะนิซึกะไม่ควรเปิดสงครามกับมิอุระ โซเรียวออกโรงปกป้องผู้หญิงที่มิอุระต้องการตัวอย่างนั้น ฮารุไม่ปล่อยเอาไว้แน่” มาซาโตะบอกอย่างกังวล
“ความเมตตาที่โซเรียวมีต่อจุนโกะจะนำภัยมาสู่โอะนิซึกะ” คาซูมะออกความเห็น
มาซาโตะกับคาซูมะสีหน้าเครียด หวั่นวิตก โคจิหันมาเตือน
“เรามีหน้าที่ให้คำแนะนำและตักเตือน ไม่ว่าโซเรียวจะตัดสินใจยังไง พวกเราก็ต้องยอมรับ”
ลูกน้องโอะนิซึกะคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมารายงาน
“เกิดเรื่องแล้วครับ”
โคจิ คาซูมะ มาซาโตะ เดินมาดูเหตุการณ์ เห็นกลุ่มลูกน้องโอะนิซึกะกำลังมุงดูอะไรบางอย่าง
“ทางนี้ครับ”
ลูกน้องเดินนำพวกโคจิเข้ามา ลูกน้องโอะนิซึกะที่กำลังมุงกันอยู่รีบเปิดทางให้ ทั้งสามคน เดินเข้าไปดู ชะงัก เมื่อเจอร่างของใครคนหนึ่งนอนคว่ำจมกองเลือดอยู่มุมหนึ่งบริเวณที่เก็บสินค้า
“คนของเรารึเปล่า” มาซาโตะตกใจ
“ไม่ใช่ครับ”
โคจิ มาซาโตะ คาซูมะหันมามองกัน เครียดและสงสัยว่าเป็นใคร
เคนเอ่ยปากบอกจุดประสงค์ที่มาพบริวที่บ้านโอะนิซึกะ
“ตำรวจพบศพคนของมิอุระในคลังสินค้าโอะนิซึกะ ท่านมาซารุให้มาเชิญตัวโอะนิซึกะโซเรียวไปให้คำปาก”
“ตายจริง”
มายูมิยืนอยู่ข้างริวตกใจเมื่อรู้เรื่อง ไทชิ คัตสึ เซกิ มองกันเลิกลั่กว่าเกิดอะไรขึ้น ริวกุมมือมายูมิต้องการปลอบไม่ให้ตกใจ ก่อนบอกเคน
“เดี๋ยวผมจะรีบไป”
มายูมิกังวล เป็นห่วงริว
มายูมิช่วยริวแต่งตัวอย่างเร่งรีบ ขณะที่กำลังผูกเนคไทให้ ก็ถามขึ้นอย่างทนอึดอัดใจไม่ไหว
“ตลอดเวลาที่ฉันอยู่บ้านโอะนิซึกะ ฉันไม่เคยเห็นพวกคุณคบอันธพาล หรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมาย แต่ทำไมถึงมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นไม่หยุด”
“คนชั่วเกิดใหม่ทุกวัน... โอะนิซึกะสืบทอดหน้าที่ปกป้องเมืองนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ การต่อสู้กับความชั่ว คือสิ่งที่สายเลือดโอะนิซึกะทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่า...เกียรติและศักดิ์ศรีของคุณ ต้องแลกมาด้วยความเสียสละมากแค่ไหน”
ริวยิ้ม รู้สึกมีกำลังใจ
“ขอแค่มีคิมิ..ที่รักของผมอยู่เคียงข้าง ผมก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
มายูมิกอดริว ยังเต็มไปด้วยความกังวล
สำนักงานตำรวจ...ริวนั่งประจันหน้ากับมาซารุ โดยมี โคจิ มาซาโตะ คาซูมะ ยืนขนาบอยู่ด้านหลัง
“ผมไม่ทราบว่าคนของมิอุระเสียชีวิตอยู่ในคลังสินค้าได้ยังไง” ริวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ผมก็ไม่เคยเห็นคนผิด ยอมรับความผิดที่ตัวเองทำเลยสักคน” มาซารุย้อน
“ตามกฎหมาย ตำรวจมีสิทธิ์ตั้งข้อหา แต่ถ้าแจ้งข้อหาโดยขาดหลักฐานเพียงพอ ถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โทษร้ายแรงกว่าหมิ่นประมาทอีกนะครับ”
มาซาโตะน้ำเสียงนิ่ง สุขุม มาซารุปรายตามองมาซาโตะอย่างไม่พอใจ
“หลักฐานคือศพที่ถูกยิงจนเสียชีวิตในถิ่นของโอะนิซึกะ”
“แต่ยังไม่มีผลการชันสูตรศพที่บ่งบอกว่าเป็นฝีมือของโอะนิซึกะ” คาซูมะแย้ง
“จะบอกว่า...ศพนั่นเดินเข้าไปตายในที่ของพวกคุณเองงั้นเหรอ”
“โอะนิซึกะมาที่นี่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจใน การตามตัวคนร้าย แต่ไม่ได้มาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา”
สีหน้าโคจินิ่งขรึม มีมาด มาซารุมีท่าทางไม่สบอารมณ์ จ้องริวเขม็งอย่างจะหาเรื่องให้ได้
ในห้องทำงาน...ยูจิถามฮารุอย่างใจเย็น ในขณะที่ท่าทางฮารุเครียด ๆ เริ่มอารมณ์ไม่ดี
“มิอุระกับโอะนิซึกะเคยมีเรื่องบาดหมางกันมั้ย”
“ไม่มี” ฮารุเสียงขึงขัง
“คิดว่าการตายของลูกน้องคุณ เป็นฝีมือโอะนิซึกะรึเปล่า”
“ตำรวจต้องสืบหาความจริงเอาเอง ผมไม่จำเป็นต้องคิด”
“มั่นใจในมิตรภาพของโอะนิซึกะเกินไปมั้ย”
“ผู้กองกำลังพูดถึงอะไร”
ยูจิยิ้มกริ่มเข้าทาง
“มิอุระเติบโตขึ้นทุกวัน โอะนิซึกะคงไม่ยินดีนักหรอก ถ้าจะมีใครขึ้นมาแบ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจในเมืองนี้ ไม่เคยได้ยินเหรอ ตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลม”
ฮารุสบตาชุน เริ่มคิดหนักกับคำพูดยูจิ
ริว โคจิ มาซาโตะ คาซูมะ เดินมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กำลังจะกลับ พอดีกับที่ฮารุกับชุนออกมาจากอีกห้องหนึ่ง ริวแปลกใจ เพิ่งรู้ว่าฮารุมาด้วย จึงก้มศีรษะทักทาย
“ท่านฮารุ... ผมกำลังอยากเจออยู่พอดี”
ฮารุเมินเฉย ไม่ก้มศีรษะรับจ้องหน้าริวด้วยแววตานิ่งๆ แล้วเดินหันหลังผละไปกับชุนโดยไม่พูดอะไร โคจิมองตามอย่างคาดเดาเหตุการณ์ได้ทันที
“ถ้ามีคนต้องการให้โอะนิซึกะกับมิอุระแตกกัน มันทำสำเร็จแล้ว”
ริวฟังแล้วเครียด
ชุนพูดขึ้น ขณะเดินตามฮารุออกมา
“เจ้านายเชื่อคำพูดของผู้กองยูจิรึเปล่า”
“แกคิดว่าไง”
“ความสัมพันธ์ระหว่างจุนโกะกับโอะนิซึกะมันน่าสงสัย ทำไมโอะนิซึกะโซเรียวถึงต้องปกป้องผู้หญิงคนนี้”
ฮารุนิ่งงัน นึกถึงเหตุการณ์ที่ริวเข้ามาปกป้องจุนโกะ
“ถ้าจุนโกะเป็นคนของโอะนิซึกะ คนที่อยู่เบื้องหลังการจัดฉากใส่ร้ายมิอุระค้ายาเสพติด...ก็ไม่ใช่มิซาว่า”
ฮารุ เริ่มสงสัยในตัวริว
เคนบอกกับมาซารุอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก
“แค่ศพในคลังสินค้าโอะนิซึกะ เราไม่มีทางเล่นงานริวได้แน่ๆ”
มาซารุยิ้มเยาะ
“ฉันไม่ได้ต้องการให้ริวติดคุก... แค่สร้างแรงกดดันให้มิอุระแตกกับโอะนิซึกะ”
“ตอนนี้ฮารุเริ่มไม่ไว้ใจไอ้ริวแล้ว เพราะคิดว่ากำลังถูกหักหลัง” ยูจิออกความเห็น
“ท่านยามาโมโตะต้องการล้มโอะนิซึกะให้ได้ก่อน ถ้าเมืองนี้ไม่มีสายเลือด ซามูไรที่คอยปกป้องชาวเมือง พวกเราก็จะทำอะไรง่ายขึ้น ฮึๆ”
ทั้งสามยิ้มกับแผนการ
ห้องป้ายบรรพบุรุษ ริว โคจิ มาซาโตะ คาซูมะ ปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยมีมายูมินั่งฟังอยู่ด้วย
“สายตาของฮารุเหมือนไม่ค่อยพอใจพวกเรา” คาซูมะออกความเห็น
ริวครุ่นคิด ก่อนตัดสินใจ
“เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผมจะไปทำความเข้าใจกับฮารุที่ไนต์คลับคืนนี้”
“จะเหมาะเหรอครับ” มาซาโตะกังวล
“ปล่อยเวลานานออกไป มิอุระอาจเข้าใจผิดเรามากกว่านี้”
“ขอฉันไปด้วยนะคะ”
จู่ ๆ มายูมิก็พูดขึ้น ทำให้ทุกสายตาต้องหันไปมอง
“เรื่องบางเรื่อง ปล่อยให้ผู้หญิงเจรจาอาจจะง่ายกว่า”
“คุณจะไปไนต์คลับกับผมเนี่ยนะ” ริวแปลกใจ
“หรือคุณไม่อยากให้ฉันไป”
มายูมิย้อนถามริว หวงนิด ๆ ริวอ้ำอึ้ง ชำเลืองมองโคจิ มาซาโตะ คาซูมะอย่างขอความเห็น
ยามาโมโต้ยืนอยู่บนดาดฟ้าตึกสำนักงานตำรวจ สายตามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงไฟจากตึกเบื้องหน้า มาซารุเดินมาทางด้านหลัง
“จะเริ่มงานเมื่อไหร่”
“คืนนี้ครับ”
“จะต้องไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วนะ”
“รอฟังข่าวดีได้เลยครับท่านยามาโมโต้” มาซารุบอกอย่างมั่นใจ
ยามาโมโต้สีหน้าดูน่าเกรงขาม แววตาเหี้ยม
ค่ำคืนนั้น ริวแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว รอมายูมิแต่งตัวลงมาจากห้อง
“ความจริงโซเรียวน่าจะให้อาไปด้วย ตอนนี้อันตรายมีอยู่รอบด้าน เราไม่รู้ใจฮารุ ไหนจะไอ้ทาคาโอะที่กำลังจ้องเล่นงานอีก” โคจิบอกอย่างไม่สบายใจ
“มี ไทชิ คัตสึ เซกิ และคนของเราอีกหลายคนไปด้วยแล้ว อาโคจิไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมห่วงมายูมิคนเดียว...ดื้อจะไปด้วยให้ได้”
“นี่แหละ...ผู้หญิงของ ริว โอะนิซึกะ” โคจิยิ้ม
“ขอโทษที่ให้รอนานค่ะ” เสียงมายูมิดังนำเข้ามา
อายะโกะกับฟุมิโกะเดินนำเข้ามาก่อน ริวหันไปมอง มายูมิก้าวเข้า ในชุดกระโปรงสวยหวาน สง่างาม โดดเด่นและสะดุดตา ริวตะลึงมองมายูมิราวกับต้องมนต์สะกด ทุกคนพลอยปลื้มไปกับสายตาที่ริวมองมายูมิ
“ฉันแต่งตัวแย่มากเหรอคะ ถึงได้ทำหน้าแบบนี้”
มายูมิถามเหมือนจะงอนนิด ๆ ริวรีบปฏิเสธ
“คิมิของผมสวยเกินไป สวยจนผมอยากเปลี่ยนใจให้คุณอยู่บ้านไม่อยากให้หนุ่ม ๆ ในคลับมองคุณ”
“งั้นก็รีบไป ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนใจเถอะค่ะ”
มายูมิคล้องแขนริว เตรียมพร้อมที่จะออกไปด้วยกัน”
โคจิหันไปกำชับไทชิ คัตสึ เซกิ
“ดูแลโซเรียวกับคุณมายูมิให้ดี”
ทั้งสามโค้งตัวรับคำ
“ครับท่านโคจิ”
ริวควงมายูมิเดินคู่กันไป โดยมีไทชิ คัตสึ เซกิ ตามไป โคจิมองตามอย่างกังวล
ชบวนรถสามคันของโอะนิซึกะแล่นเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าไนท์คลับมิอุระ เหล่าลูกน้องมิอุระเห็นต่างแปลกใจที่เห็นพวกโอะนิซึกะ ทุกคนมองระแวง เตรียมพร้อม ไทชิวิ่งลงจากรถนำขบวน คัตสึ เซกิ ลงจากรถคันที่สามปิดท้าย ตรงมาเปิดประตูคันกลางให้ริวกับมายูมิ ลูกน้องมิอุระสองคนที่เฝ้าหน้าประตูทางเข้า ก้าวเข้ามาขวาง ริวบอกเรียบๆ
“ฉันมาหา ฮารุ มิอุระ”
ฮารุแปลกใจมาก เมื่อชุนรายงาน
“ริว โอะนิซึกะ ยังกล้ามาพบหน้าฉันอีกเหรอ”
“น่าจะมาดีนะครับ เพราะพาคุณมายูมิ ว่าที่โอะคะมิซังแห่งโอะนิซึกะมาด้วย”
ฮารุสงสัยว่าริวต้องการอะไรกันแน่
มายูมิยืนมองบรรยากาศแสงสีเสียงในไนท์คลับผ่านกระจกใสใบใหญ่ในห้องวีไอพี เห็นนักเที่ยวกำลังวาดลวดลายเต้นรำกับสาวสวยบนฟลอร์เต้นรำอย่างสนุกสนาน ทำให้รู้สึกครึกครื้นไปด้วย
“ไปเต้นรำกับผมมั้ย”
มายูมิยังไม่ทันตอบรับหรือปฏิเสธ ชุนเปิดประตูให้ฮารุเดินเข้ามา
“ยินดีต้อนรับสู่ไนต์คลับมิอุระ”
ริวก้มศีรษะทักทายฮารุ ก่อนแนะนำมายูมิ
“มายูมิ ว่าที่โอะคะมิซังของผมครับ”
มายูมิก้มศีรษะ ยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ ฮารุก้มศีรษะรับ จ้องหน้ามายูมิ ถูกใจในความสวยน่ารักของเธอ
“มีผู้หญิงสวยมาเยือน ถือเป็นเกียรติของมิอุระเป็นอย่างยิ่ง”
“ขอบคุณที่ให้เกียรติฉันเช่นกันค่ะ”
“คืนนี้ผมขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับพวกคุณเอง เชิญทุกคนตามสบาย”
ฮารุผายมือเชื้อเชิญให้มายูมิกับริวนั่งลงพร้อมกับเขา ลูกน้องมิอุระเอาเครื่องดื่มอย่างดีเข้ามาเสิร์ฟให้ริว มายูมิ ฮารุ
“ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ” ริวพูดขึ้น
ฮารุนิ่ง ยกเครื่องดื่มขึ้นเชิญให้ริวกับมายูมิจิบด้วยกันอย่างใจเย็น ริวกับมายูมิยกแก้วเครื่องดื่มขึ้น แล้วดื่มพร้อมกับฮารุ
ด้านนอกไนท์คลับมิอุระลูกน้องโอะนิซึกะต่างกระจายกำลังกันคอยอารักขาริวกับมายูมิ โดยลูกน้องมิอุระบางส่วน ก็คอยจับตามองพวกโอะนิซึกะอย่างไม่ไว้ใจเช่นกัน ไทชิเดินมาตรวจความเรียบร้อย สั่งลูกน้อง
“จับตาดูคนเข้าออกไนท์คลับ เห็นอะไรไม่น่าไว้ใจแจ้งฉันทันที”
ลูกน้องโอะนิซึกะก้มศีรษะรับคำสั่ง แล้วแยกย้ายกันไป โดยไม่รู้ว่าลูกน้องมิซาว่าในชุดดำ วิ่งหลบไปตามมุมต่าง ๆ เพื่อซุ่มรอเวลาเล่นงาน !
รอยฝันตะวันเดือด ตอนที่ 7 (ต่อ)
ห้องรับรองวีไอพีในคลับมิอุระ ริวเอ่ยปากพูดตรง ๆ ทันทีที่เห็นฮารุวางแก้วเครื่องดื่มลง
“โอะนิซึกะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการเสียชีวิตของลูกน้องมิอุระ”
“พบศพในถิ่นโอะนิซึกะ จะมีใครรู้ดีไปกว่าคุณ”
ฮารุย้อนถามริว วางสีหน้าเรียบ
“เรากำลังเร่งหาความจริงของเรื่องนี้อยู่”
“ความจริง..เป็นสิ่งที่ทุกคนจะได้รู้สักวันหนึ่ง ถ้ามันคือความจริงนะ”
“คุณไม่เชื่อว่าโอะนิซึกะถูกจัดฉากใส่ร้าย” ริวถามเครียดๆ
“ผมเชื่อในสิ่งที่เห็นด้วยตาตัวเอง”
“วิเคราะห์ด้วยตา ก็ถูกลวงได้ด้วยตา”
คำพูดของมายูมิสะกดให้ริวกับฮารุ หันไปมองด้วยความสนใจ
“แต่ก่อนฉันไม่เข้าใจคำพูดนี้ของริว แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทิฐิ ปิดกั้นสายตาเราได้มืดมิดที่สุด”“ความเชื่อใจที่ถูกทำลายไปแล้ว มันเอากลับคืนมายาก” ฮารุหันไปบอกมายูมิในสิ่งที่คิด
“ใจที่ไร้อคติจะตัดสินเองว่า ควรเชื่อเหตุผล หรือเชื่อในสิ่งที่เห็น”
มายูมิอย่างมาดมั่น จนฮารุรู้สึกทึ่ง
“ฉลาด วิสัยทัศน์ไกล ว่าที่นายหญิงแห่งโอะนิซึกะไม่ได้มีดีแค่ความสวย”
“มายูมิ... คือเพชรที่มีค่าที่สุดสำหรับผมและโอะนิซึกะ”
ริวกุมมือมายูมิด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ
“ขอบคุณที่มองเห็นคุณค่าในตัวฉันค่ะริว”
มายูมิยิ้มรับปลาบปลื้ม ก่อนชำเลืองไปเห็นแววตาที่จ้องมองมาอย่างเสน่หาของฮารุ ทำให้มายูมิเริ่มรู้สึกอึดอัดจึงหันไปชวนริว
“เพลงนี้เพราะมาก ฉันอยากเต้นรำแล้วค่ะ”
ริวบอกฮารุตามมารยาท
“ขอตัวสักครู่นะครับ”
มายูมิดึงแขนริวลุกเดินไปทันที ฮารุมองตาม ยิ่งชื่นชอบในความสวย มาดมั่นของเธอ
บริเวณมุมซุ่มตัวด้านนอกไนท์คลับมิอุระ ลูกน้องมิซาว่าหลบซุ่มอยู่ตามมุมต่าง ๆ ทาคาโอะเดินเข้ามาหานาบุที่ซุ่มเตรียมพร้อมอยู่มุมหนึ่ง ในชุดดำอำพรางตัวเหมือนลูกน้อง
“จัดการพวกลูกน้องโอะนิซึกะให้เงียบที่สุด อย่าเพิ่งให้พวกมันรู้ตัวส่วนไอ้ริว... เป็นหน้าที่ของฉัน”
ทาคาโอะเอาปืนพกกระบอกหนึ่งออกมา กระชากลูกเลื่อนยิ้มเหี้ยม
ริวเต้นรำกับมายูมิในจังหวะดนตรีที่สุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางนักเต้นรำอีกหลายคู่ในไนท์คลับ มายูมิบอกริวเต้นรำด้วยกันอย่างรู้สึกผิด
“เมื่อกี้ฉันเสียมารยาทออกความเห็น ขอโทษนะคะ”
ริวโน้มหน้ากระซิบข้างแก้มมายูมิ
“ไม่จำเป็นต้องขอโทษ เพราะนี่คือมายูมิที่ผมรักรักทั้งตัวและหัวใจของคุณ”
มายูมิขวยเขิน ริวดึงตัวมายูมิเข้ามากอดอย่างทะนุถนอม แนบแน่น
“ผมจะเร่งให้อาโคจิเตรียมพิธีแต่งงานของเราให้เร็วที่สุด หลังแต่งงาน เราจะมีลูกด้วยกันกี่คนดี ได้ลูกแฝดก็ดีนะ แต่ลูกคนแรก ผมอยากให้เป็นผู้ชาย”
มายูมิอมยิ้ม แก้มร้อนผ่าวด้วยความอาย
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะมีลูกกับคุณสักหน่อย”
“โธ่...คิมิจ๋า ถ้าคุณไม่ยอมมีทายาทสืบสกุลให้ผมวิญญาณบรรพบุรุษต้องรุมเคาะกะโหลกผมแน่”
ริวออดอ้อนเสียงหวาน มายูมิยิ้มเขิน เลื่อนแขนขึ้นโอบลำคอริว พิงแก้มลงบนบ่าของเขา ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเสียงเพลงและอ้อมกอดอันอบอุ่นของริว
ลูกน้องโอะนิซึกะสองคนยืนเฝ้ายามอยู่มุมหนึ่ง นอกไนท์คลับมิอุระ นาบุและลูกน้องมิซาว่าย่องมาปิดปากและล็อกคอลูกน้องโอะนิซึกะจากด้านหลัง ก่อนจะบิดหักคอลูกน้องโอะนิซึกะทั้งสองอย่างรวดเร็วและเงียบมาก
ริวกับมายูมิกอดกันเต้นรำอย่างมีความสุข โดยมีคัตสึ เซกิ สะกิดกันมองความหวานของเจ้านายอย่างอดปลื้มไม่ได้ ฮารุยืนมองริวกับมายูมิอยู่
อีกมุม ก้าวเข้าไปหาริวกับมายูมิช้า ๆ มือข้างหนึ่งไขว้หลัง สายตาวาวดุจหมาป่าจ้องตะครุบเหยื่ออันโอชะ
ด้านนอกไนท์คลับมิอุระ ลูกน้องโอะนิซึกะหันหลังขวับไปเห็นเงาวูบของใครบางคนวิ่งผ่านไป
“นั่นใคร”
ลูกน้องโอะนิซึกะอีกคน นึกสังหรณ์ใจ จะผิวปากส่งสัญญาณเตือนคนอื่น นาบุเบี่ยงตัวออกมาจากมุมมืด สะบัดมีดสั้นออกมาซัดเข้าใส่ลูกน้องโอะนิซึกะทั้งสองพร้อมกัน ลูกน้องโอะนิซึกะทั้งสองหน้าตื่นตกใจ หลบไม่ทัน ถูกมีดสั้นพุ่งปักเข้ากลางหน้าอกด้านซ้ายอย่างแม่นยำ จนล้มลง
ฮารุก้าวเข้ามาหยุดอยู่ด้านหลังริวกับมายูมิ ขณะดนตรีกำลังเปลี่ยนเป็นจังหวะบอลรูมแดนซ์
“ขอคุณมายูมิมาเป็นคู่เต้นรำกับผมสักเพลงได้มั้ย”
ฮารุโค้งตัวขออนุญาตริวอย่างสุภาพ เลื่อนมือที่ไขว้หลังยื่นออกมารอ เผยให้เห็นว่าในมือฮารุไม่มีอาวุธอะไรซ่อนอยู่ ริวชำเลืองมองมายูมิ ราวกับต้องการให้เธอตัดสินใจเอง มายูมิยิ้มรับตามมารยาท แม้ไม่ได้เต็มใจนัก
“ยินดีค่ะ”
ริวถอยตัวออกมา ให้มายูมิกับฮารุเต้นรำด้วยกันบนฟลอร์
ไทชิถือดาบประจำตัวเดินตรวจความเรียบร้อยกับลูกน้องสองคน เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกน้องโอะนิซึกะอีกคนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา ไทชิรีบถามทันที
“คนอื่นหายไปไหนหมด”
มีดสั้นเล่มหนึ่ง พุ่งเข้ามาปักหลังลูกน้องโอะนิซึกะอย่างรวดเร็ว จนลูกน้องโอะนิซึกะสะดุ้ง ตาเหลือก ล้มลงต่อหน้าต่อตาไทชิและลูกน้องโอะนิซึกะ
“มีคนซุ่มโจมตีพวกเรา”
นาบุและลูกน้องมิซาว่าปรากฏตัวจากมุมมืด พุ่งเข้าเล่นงานไทชิกับลูกน้องโอะนิซึกะอย่างไม่รอช้ามิซาว่าทุกคนผูกผ้าปิดจมูกและปาก ปิดบังใบหน้าที่แท้จริงของตัวเอง
“พวกแกเป็นใคร”
“จัดการมัน” นาบุสั่งลูกน้อง
ลูกน้องมิซาว่ากรูกันเข้าไปรุมเล่นงานลูกน้องโอะนิซึกะทั้งสอง ไทชิกระชากดาบออกมา พุ่งเข้าใส่นาบุอย่างไม่รอช้า นาบุวาดดาบของตัวเองออกมา ต่อสู้กับไทชิอย่างสูสี ไทชิเอี้ยวตัวหลบ แต่ก็ถูกนาบุเตะจนเสียหลักไปทางหนึ่ง นาบุจะตามไปซ้ำ แต่ถูกไทชิยกขาถีบจนหงายท้อง ล้มลง ทาคาโอะพุ่งเข้ามาอีกทาง ใช้มีดพกของตัวเองแทงเข้าไปที่หัวไหล่ของไทชิ โดยที่ไทชิไม่ทันตั้งตัว
“โอ๊ย”
ทาคาโอะปิดบังใบหน้าเช่นกันประจันหน้าไทชิ แววตาเลือดเย็น บิดมีดพกที่ยังปักคาไหล่ไทชิ จนไทชิสะดุ้งเฮือก ร้องลั่นอย่างเจ็บปวด
“อ๊าก”
ทาคาโอะกระชากมีดออกสุดแรง ร่างไทชิทรุดลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดและทรมาน เลือดไหลซึมออกมาจากหัวไหล่ไม่หยุด นาบุและลูกน้องมิซาว่าเข้าไปช่วยกันล็อคตัวและปิดปากไทชิไว้ ไทชิหันไปเห็นลูกน้องโอะนิซึกะทั้งสองถูกฆ่าตายแล้ว พยายามดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดกำลัง นาบุเงื้อดาบจะจัดการไทชิ ทาคาโอะร้องห้าม
“อย่า...ฉันอยากให้มันเห็นหายนะของโอะนิซึกะก่อน”
ทาคาโอะจ้องไทชิสายตาเหี้ยมเกรียม ประกาศต่อหน้าไทชิ
“คืนนี้...ฉันจะเปลี่ยนชะตาของเมืองให้อยู่ในกำมือฉัน”
ไทชิเครียด เป็นห่วงริว
มายูมิหมุนตัวพลิ้วและเต้นไปตามท่าที่ฮารุเต้นนำ ทั้งสองเต้นรำคู่กันอย่างทะมัดทะแมง เข้ากันได้ดีในจังหวะบอลรูมแดนซ์ คัตสึ เซกิ มองอย่างไม่ชอบใจ หวงแทนเจ้านาย จนต้องสะกิดถามริวอย่างอดไม่ได้
“โซเรียวยอมให้คุณมายูมิเต้นรำกับฮารุได้ไง”
“การเจรจากับฮารุ มายูมิน่าจะจัดการได้ดีกว่าฉัน”
ริวนิ่งมองมายูมิ เข้าใจในการกระทำของคนรัก ฮารุเต้นรำและสังเกตมายูมิอย่างชื่นชม
“คุณมีความสามารถรอบด้าน เป็นศัลยแพทย์ฝีมือดีมุมมองความคิดดี แถมยังเต้นรำเก่งอีกด้วย”
“ฉันก็แค่ทำในสิ่งตัวเองรัก พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดเท่านั้น”
มายูมิตอบสีหน้าเรียบ ฮารุมองมายูมิด้วยสายตาประเมิน
“โอะคะมิซังแห่งโอะนิซึกะจะต้องเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวไม่แพ้โซเรียวแน่ใจเหรอ ว่าผู้ชายเนื้อหอมอย่างริว จะไม่มีคนอื่นนอกจากคุณ”
“ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยโซเรียวยืนยันความบริสุทธิ์ใจที่โอะนิซึกะมีต่อมิอุระ และยอมเต้นรำกับคุณในฐานะนายหญิงของโอะนิซึกะ เรื่องอื่น ฉันไม่จำเป็นต้องรับรู้”
“ฮึๆ แกร่งมากกว่าที่ผมคิด ยิ่งได้พูดคุยใกล้ ๆ ผมก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตา ถ้าคุณไม่ใช่ผู้หญิงของริวผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คุณมายืนเคียงข้าง”
มายูมิหยุดเต้น บอกฮารุด้วยท่าทางหยิ่งทะนง
“ฉันขอยืนยัน โอะนิซึกะยังถือว่ามิอุระเป็นมิตรเสมอ” มายูมิก้มหัวให้ฮารุนิดหนึ่ง “ขอบคุณที่ให้เกียรติฉันเต้นรำด้วย”
มายูมิหันหลังเดินเฉิดฉายตรงไปหาริวที่ยืนรออยู่ข้างฟลอร์เต้นรำ
“เรากลับกันได้รึยังคะ”
“ผมตามใจคิมิเสมอ”
ฮารุเดินตามเข้ามา ริวจึงออกปากทันที
“เราคงต้องขอตัวกลับก่อน ส่วนเรื่องที่คุยกันวันนี้..”
“เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง” ฮารุชำเลืองมองมายูมิตาเป็นประกาย “ว่าที่โอะคะมิซังคนนี้ คือหัวใจของโอะนิซึกะที่แท้จริง ดูแลหัวใจตัวเองให้ดีนะครับ”
“มายูมิมีค่ายิ่งกว่าลมหายใจของผม...ผมพร้อมจะดูแลเธอด้วยชีวิต”
ริวยืนยันหนักแน่น จู่ ๆ มายูมิก็รู้สึกใจหายวาบ ราวกับมีลางสังหรณ์บางอย่าง มายูมิกังวล ไม่สบายใจ
ชุนถามฮารุไม่เข้าใจ
“เจ้านายเชื่อว่าโอะนิซึกะไม่ได้ฆ่าคนของเรา”
“เรายังไม่พร้อมที่จะทำสงครามตอนนี้”
“เพราะความแข็งแกร่งของริวเหรอครับ”
“ผู้กุมชะตาของโอะนิซึกะที่แท้จริงไม่ใช่ริว...แต่เป็นว่าที่โอะคะมิซัง อย่างมายูมิต่างหาก”
ฮารุคิดถึงมายูมิ ยังคงติดตาตรึงใจไม่หาย
คัตสึ เซกิ เดินนำอารักขาริวกับมายูมิที่เดินควงแขนกันออกมายังรถที่จอดอยู่บริเวณหน้าไนท์คลับ เห็นไทชิและลูกน้องโอะนิซึกะยืนหันหลังอยู่ข้างรถ
“โซเรียวจะกลับแล้ว มัวทำอะไรกันอยู่” เซกิร้องถาม
ริวมองด้านหลังไทชิอย่างรู้สึกเอะใจ คัตสึ เซกิ เดินเข้าไปตบหลังเรียกไทชิและลูกน้อง
“หลับยามรึไง” คัตสึถาม
ร่างไทชิและลูกน้องโอะนิซึกะทรุดลงหงายกับพื้น เผยให้เห็นว่าไทชิถูกมัดมือและอุดปากไว้ ตามร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล โดยเฉพาะบาดแผลฉกรรจ์ที่หัวไหล่ มีเลือดเปรอะเต็มไปหมด ส่วนลูกน้องโอะนิซึกะคนอื่นเสียชีวิตหมดแล้ว ริว มายูมิ คัตสึ เซกิ ตกใจ ไทชิพยายามส่งเสียงร้องให้ริวระวังตัว
ทันใด เสียงมีดแหวกอากาศดังเข้ามา ริวชะงักหันขวับไปทางเสียง เห็นมีดบินหลายเล่มกำลังแหวกอากาศ ตรงเข้ามายังริว มายูมิ คัตสึ เซกิ
“ทุกคนระวัง”
ริวหันขวับ เตือนทุกคน คว้าตัวมายูมิหลบไปทางหนึ่ง คัตสึ เซกิ กระโดดหลบไปอีกทาง ไม่โดนมีดอย่างเฉียดฉิว ทาคาโอะ นาบุ ลูกน้องมิซาว่าในชุดดำ พุ่งออกมาจากที่ซ่อนตรงเข้าเล่นงานริวกับทุกคนทันที
“กำจัดโอะนิซึกะ” ทาคาโอะร้องบอก
ลูกน้องมิซาว่าพากันกรูเข้าเล่นงานพวกริวทันที
ฮารุถือดาบประจำตัวมั่น เร่งฝีเท้าเดินออกไป หลังจากรู้เรื่องการปะทะกันหน้าไนท์คลับ
ของตัวเอง ชุนปราดเข้ามาขวาง เตือนฮารุ
“เจ้านายจะออกไปช่วยพวกโอะนิซึกะจริงเหรอครับ”
“นี่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ฉันจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาฆ่าใครในถิ่นมิอุระเด็ดขาด”
ฮารุประกาศกร้าว
คัตสึ เซกิ ต่อสู้กับนาบุและลูกน้องมิซาว่า เพื่อปกป้องริวกับมายูมิอย่างสุดกำลังด้วยอาวุธดาบ และอุปกรณ์รอบตัวที่คว้ามาได้ ลูกน้องมิซาว่าอีกคนหน้าคะมำ เพราะฝีมือการต่อสู้ของมายูมิ
ริวควงดาบจัดการลูกน้องมิซาว่าร่วงไปหลายคน ลูกน้องมิซาว่าคนหนึ่งถือดาบพุ่งเข้าหา
ริวจากด้านหลัง ริวหมุนตัวหลบวูบ ไวมาก แล้วตวัดเหวี่ยงดาบเข้าใส่ลูกน้องมิซาว่าจนล้มคว่ำไปกับพื้น ทาคาโอะปรี่เข้ามาตวัดดาบฟาดเข้าใส่ริว แต่ริวยกดาบขึ้นรับไว้ได้ทัน ทาคาโอะกดน้ำหนักลงไปที่ดาบตัวเองเพื่อจะเอาชีวิตริวให้ได้ ริวประคองดาบตัวเองต่อต้านแรงดาบทาคาโอะอย่างสุดกำลังก่อนเงยหน้าขึ้นมองเห็นแววตาของทาคาโอะ
“กล้าทำเรื่องชั่ว แต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงถึงยังไงฉันก็จำแววตาแกได้... ไอ้ทาคาโอะ”
ทาคาโอะไม่ตอบ ยิ่งออกแรงกดดาบลงไปอีก สายตาริวดุดัน ไม่เกรงกลัวออกแรงผลักดาบทาคาโอะ จนทั้งสองแยกจากกัน
ฮารุ ชุน นำกำลังลูกน้องมิอุระออกมาต่อสู้กับลูกน้องมิซาว่าที่รุมเล่นงานพวกริว
“พวกอันธพาลไม่มีสิทธิ์เข้ามาก่อความวุ่นวายในถิ่นฉัน”
ฮารุหมุนดาบจัดการลูกน้องมิซาว่าหลายคนอย่างเหี้ยมโหด จนล้มไปทีละคน
ริวตวัดดาบต่อสู้กับทาคาโอะอย่างไม่หยุดยั้ง ดุเดือด สูสี ไม่มีใครยอมกัน มายูมิกระโดดเตะลูกน้องมิซาว่าก้มตัวลงหันมาชก มายูมิรับหมัดแล้วตวัดขาเตะลูกน้องมิซาว่าจนเซเสียหลัก ลูกน้องมิซาว่าอีกคน พุ่งเข้ามาล็อคตัวมายูมิจากด้านหลัง มายูมิพยายามขัดขืน ริวหันไปเห็น
“มายูมิ”
คัตสึ เซกิ จะไปช่วยมายูมิ แต่ไปไม่ได้ เพราะถูกนาบุกับลูกน้องมิซาว่าล้อมไว้
ไทชิฮึดสะบัดตัวสุดแรง จนหลุดจากเชือกที่มัดตัวเอง แล้วคว้าดาบของลูกน้องมิซาว่าที่ตกอยู่ใกล้ตัว มาใช้ยันตัวเองลุกขึ้น กระเสือกกระสนลุกขึ้นต่อสู้กับพวกมิซาว่า
มายูมิถีบลูกน้องมิซาว่าที่อยู่ข้างหลังอย่างไม่ยอมจำนน แต่ยังไม่หลุด ริววาดลวดลายฝีมือเพลงดาบ ฟาดฟันทาคาโอะอย่างเหนือชั้น จนทาคาโอะเสียหลักไป ริวรีบเข้าไปเล่นงานลูกน้องที่จับมายูมิไว้ ตวัดดาบฟันจนลูกน้องปล่อยมือร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
ทาคาโอะตั้งหลักได้ วาดปืนออกมา เล็งปืนไปที่มายูมิ กระแทกไกปืน...เปรี้ยง !
“มายูมิระวัง”
ริวคว้าตัวมายูมิเข้ามากอด ล้มกลิ้งนอนไปกับพื้นเพื่อหลบกระสุนทาคาโอะ จนไปหยุดอยู่มุมหนึ่ง ริวนอนคร่อมบนตัวมายูมิ ดูเหมือนทั้งคู่รอดจากกระสุนของทาคาโอะได้อย่างหวุดหวิด มายูมิมองสำรวจริว ตื่นตระหนก แต่โล่งใจที่เห็นริวไม่เป็นอะไร
“คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย”
ริวยิ้ม จะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่กลับชะงัก รับรู้ถึงความผิดปกติในร่างกาย มายูมิเห็นเลือดค่อย ๆ ซึมออกมาจากศีรษะทางด้านหลังของริว เลือดหยดลงบนหน้ามายูมิ
“เลือด...” มายูมิตกใจ
ริวหงายหลังไปกองกับพื้น เลือดนองพื้น มายูมิตะโกนตะโกนด้วยความตกใจ ช็อกมาก
“ริว”
ฮารุ ไทชิ คัตสึ เซกิ หันไปเห็น ตกใจเช่นกัน
“โซเรียวถูกยิง”
ไทชิ คัตสึ เซกิ ฮึดฟาดฟันรุกไล่ลูกน้องมิซาว่าอย่างเลือดขึ้นหน้า เอาเป็นเอาตาย ทาคาโอะเป่าปากเป็นสัญญาณเรียกนาบุและลูกน้องมิซาว่า นาบุและลูกน้องมิซาว่าเริ่มถอยร่น จนพวกมิซาว่าแยกย้ายกันหนีรอดไปได้ ชุนตะโกนบอกฮารุ
“พวกมันหนีไปแล้วครับ”
คัตสึ เซกิ รีบวิ่งเข้าไปดูอาการริวด้วยความเป็นห่วง ไทชิโซซัดโซเซตามเข้าไป มายูมิพยายามรวบรวมสติฉีกเสื้อริวเป็นเศษผ้ายาวมากดห้ามเลือดที่หัวริวไว้
“ลืมตาไว้นะคะริว...อย่าหลับ”
ริวตาปรือใกล้หลับ
หน้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล...ริวนอนอยู่บนเตียงรถเข็น พยาบาลวิ่งประกบเตียงเข็นริว มายูมิจับมือริววิ่งตามรถเข็นมา ทั้งตกใจและขวัญเสีย แต่ก็ยังคอยเรียกสติริว
“ริว...ถึงห้องฉุกเฉินแล้ว อย่าเพิ่งหลับนะคะ”
บุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นที่ไทชินั่งตามมาติด ๆ โดยมีคัตสึ เซกิ ประกบมาด้วย พยาบาลวิ่งวุ่นอยู่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินเพื่อเตรียมผ่าตัดด่วน บุรุษพยาบาลเข็นรถพาไทชิแยกไป บุรุษพยาบาลอีกคนเข็นเตียงริวเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที มายูมิจะตามเข้าห้องฉุกเฉินไปด้วย แต่ถูกพยาบาลขวางไว้
“คุณหมอมายูมิ กรุณารอข้างนอกนะคะ” พยาบาลเตือน
“ฉันจะผ่าตัดเคสนี้เอง”
“อาจารย์ฮาร่ารับผ่าตัดเคสนี้แล้วค่ะ”
มายูมิพยายามผลักตัวพยาบาลให้หลบไป แต่พยาบาลยังคงยืนกราน ขวางมายูมิ
นานะมาหามายูมิ หลังจากที่รู้ข่าวริว ช่วยพยาบาลเกลี้ยกล่อม
“มายูมิ...สงบสติอารมณ์ก่อน”
“ริวถูกยิงที่ศีรษะขวากระสุนฝังอยู่ข้างใน ฉันจะเข้าไปช่วยริว”
มายูมิบอกนานะทั้งน้ำตา เครียดและสับสน แต่ไม่ฟูมฟาย
“ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมจะช่วยชีวิตใคร ถ้าเข้าไปจะเป็นภาระให้ทีมผ่าตัด คุณริวถึงมืออาจารย์ฮาร่าแล้ว... เขาจะต้องปลอดภัย”
มายูมิมองตามเข้าไปด้วยความเป็นห่วงริว น้ำตาไหล เจ็บปวดมาก
“ริว...”
นานะกอดมายูมิอย่างปลอบใจ คัตสึ เซกิ สีหน้าเคร่งเครียดมาก
ในห้องผ่าตัด พยาบาลสองคนกำลังช่วยห้ามเลือดริวอย่างเร่งรีบ พยาบาลอีกคนง่วนกับการเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิตและเตรียมผ่าตัด อาจารย์ฮาร่านิ่งและมีสมาธิมาก เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าระหว่างผ่าเอากระสุนออกให้ริว พยาบาลคนหนึ่งคอยส่งเครื่องมือ พยาบาลอีกคนคอยซับเหงื่อให้อาจารย์ฮาร่าคีบเศษกระสุนที่อาบเลือดขึ้นมาได้ แล้ววางเศษกระสุนลงบนถาดข้างเตียง แต่ที่เครื่องวัดสัญญาณชีพจร เส้นชีพจรลดระดับลงอย่างรวดเร็ว จนแปรเปลี่ยนเป็นเส้นตรง อาจารย์ฮาร่าและพยาบาลชะงัก ตกใจ
“แย่แล้ว”
รอยฝันตะวันเดือด ตอนที่ (ต่อ)
โคจิ คาซูมะ มาซาโตะ เร่งฝีเท้าเดินตามคัตสึ เซกิ ที่กำลังนำพวกเขาไปยังห้องผ่าตัดด้วยความร้อนใจ เป็นห่วงริว
“โซเรียวอาการแย่แค่ไหน”
มายูมิตกใจที่เห็นพยาบาลเข็นเครื่องช่วยหายใจจะเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
“เครื่องช่วยหายใจ อาการริวทรุดใช่มั้ย”
คาซูมะ พยายามให้กำลังใจตนเองและทุกคน
“โซเรียวจะต้องไม่เป็นอะไร บรรพบุรุษโอะนิซึกะจะต้องคุ้มครอง ลูกหลานทุกคนให้ปลอดภัย
มายูมิมองพยาบาลเข็นเครื่องช่วยหายใจเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เริ่มใจเสีย ทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลไม่หยุด
“เข้มแข็งไว้นะมายูมิ”
นานะกุมมือมายูมิบีบแน่น คอยให้กำลังใจเต็มที่ โคจิ คาซูมะ มาซาโตะ ตามคัตสึ เซกิ มาถึงหน้าห้องฉุกเฉินพอดี เห็นอาการมายูมิยิ่งรู้สึกเครียดยิ่งกว่าเดิม
ในห้องฉุกเฉิน เส้นชีพจรที่เครื่องวัดชีพจรกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะลดลงแน่นิ่งเป็นเส้นตรงดังเดิม อาจารย์ฮาร่าไม่ยอมแพ้ วางเครื่องปั๊มหัวใจลงบนหน้าอกริว ก่อนขึ้นไปคร่อมบนร่างริวและกดปั๊ม
“หนึ่ง สอง สาม เคลียร์”
ร่างริวกระตุกขึ้นตามแรงปั๊ม ครั้งแล้วครั้งเล่า พยาบาลเช็คจอมอนิเตอร์ของอุปกรณ์ข้างเตียง
“คลื่นสมองไม่ตอบสนองแล้วค่ะ”
“ระดับชีพจรก็ไม่ขยับเลยค่ะ” อีกคนบอก
อาจารย์ฮาร่ายืนเครียดมองร่างริวอย่างตัดสินใจ
มายูมิหน้าห้องฉุกเฉิน ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตัดสินใจวิ่งปรี่เข้าไปในห้องฉุกเฉิน นานะห้ามไม่ทัน
อาจารย์ฮาร่าลดเครื่องปั๊มหัวใจลงแล้วมองร่างแน่นิ่งของริวบนเตียง เสียงชีพจรดังลากยาว
พยาบาลยื่นผ้าห่มสีขาวให้อาจารย์ฮาร่ารับไป เลื่อนคลุมตัวริวและกำลังจะคลุมปิดหน้าริว มายูมิวิ่งมาถึง เห็นริวกำลังจะถูกคลุมผ้าห่มสีขาว ร้องลั่น
“ริว”
อาจารย์ฮาร่าและพยาบาลหันขวับด้วยความตกใจ ที่มายูมิวิ่งตรงเข้าไปหาริวข้างเตียง
เอื้อมมือไปจับมือริวไว้
“หมอมายูมิ...คุณเข้ามาในนี้ไม่ได้”
มายูมิไม่สนใจ พยายามเรียกให้ริวฟื้น
“ริว...ฉันรู้ว่าคุณได้ยินเสียงฉัน คุณไม่เคยทิ้งฉัน...ไม่เคยละสายตาจากฉัน... กลับมาดูแลฉันนะริว...ฉันสั่งให้คุณกลับมา” มายูมิตะโกนสุดเสียง
เสียงมายูมิดังกึกก้องในจิตสำนึกของริว
“ริว...กลับมา”
ริวกำลังเดินข้ามสะพานแดงท่ามกลางม่านหมอกขาวไปอีกฝั่ง ถึงกับหยุดชะงัก หันกลับไปมองข้างหลังเหมือนได้ยินเสียงเรียกจากใครบางคน แล้วเขาได้เห็นมายูมิยืนอยู่อีกฝั่ง กำลังร้องไห้ตะโกนเรียกเขา
“อย่าทิ้งฉันไปนะคะริว”
“มายูมิ คุณเป็นอะไร”
“กลับมาหาฉันนะคะริว ได้โปรด...”
ม่านหมอกสีขาวเริ่มปกคลุมหนาขึ้น เหมือนจะปิดกั้นสะพานสองฝั่ง ริวเริ่มมองไม่เห็นร่างมายูมิ ตกใจมาก
“มายูมิ...คุณอยู่ไหน... มายูมิ”
มายูมินอนอยู่บนเตียงพักฟื้นสะดุ้ง ตกใจตื่นขึ้น
“ริว”
“ฟื้นแล้วเหรอลูก”
ทามาโกะกับทากาฮาชิเข้ามาหามายูมิที่เหงื่อชุ่มเต็มใบหน้า ทามาโกะกอดมายูมิอย่างโล่งใจ
นานะ เมกุมิ ยืนมองมายูมิด้วยความเป็นห่วง มายูมิพยายามตั้งสติ มองไปรอบๆพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงคนไข้
“เธอเป็นลมในห้องผ่าตัด ฉันเลยพามานอนพักที่นี่” นานะบอก
“คนของโอะนิซึกะไปแจ้งข่าว พ่อก็รีบมาทันที...โชคดีที่ลูกปลอดภัย” ทากาฮาชิยิ้มบางๆ
“ริวล่ะคะ... ริวเป็นยังไงบ้าง”
“พี่ริวพ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ แต่...” เมกุมิชะงักไป
“แต่อะไร”
ทุกคนสบตากัน ไม่กล้าบอก มายูมิไม่สบายใจ ปัดผ้าห่มออก ขยับตัวลงจากเตียง นานะเตือน
“อย่าเพิ่งลุกสิ...เดี๋ยวก็หน้ามืดไปอีกหรอก”
“ฉันจะไปหาริว ฉันอยากเห็นกับตาว่าเขาปลอดภัย”
ทุกคนได้แต่อ่อนใจ ในความดื้อดึงของมายูมิ
ห้องพักฟื้นผู้ป่วยไอซียู...มายูมิยืนมองริวที่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ยังอยู่ในอาการโคม่า
“คนไข้ถูกกระสุนเจาะกะโหลกด้านขวา ทำให้เสียเลือดมากและหยุดหายใจในช่วงที่แพทย์กำลังผ่าตัดนำเศษกระสุนออก” อาจารย์ฮาร่าอธิบาย
“ตอนนี้...ถือว่าโซเรียวพ้นขีดอันตรายรึยังครับ” โคจิกังวล
“ถ้าคุณริวไม่เป็นเจ้าชายนิทรา ก็อาจสูญเสียความทรงจำสักระยะหรือไม่ก็...”
อาจารย์ฮาร่าหยุดมองมายูมิ ไม่กล้าพูด ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกมายูมิ
“อะไรเหรอครับคุณหมอ” คาซูมะร้อนใจ
มายูมิน้ำเสียงสั่น รู้ผลทางการแพทย์เป็นอย่างดี
“สมองซีกขวาของริวเสียไปบางส่วน มีผลทำให้ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง จนสูญเสียการควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายซีกซ้าย”
“หมายความว่าถ้าโซเรียวฟื้นก็อาจความจำเสื่อม หรือเป็นอัมพาต” มาซาโตะตะลึง
“คนไข้แต่ละเคสมีอาการหลังผ่าตัดไม่เหมือนกัน ทีมแพทย์ได้ช่วยชีวิตคุณริวอย่างสุดความสามารถแล้ว หลังจากนี้คงต้องขึ้นอยู่กับตัวคนไข้ว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร” อาจารย์ฮาร่าอธิบายเพิ่ม
มาซาโตะ คาซูมะตกใจ โคจินิ่งแต่เครียดกับอาการของริว สีหน้ามายูมิเจ็บปวด น้ำตาคลอด้วยความเสียใจ แต่ยังสกัดกลั้นความรู้สึก ไม่ฟูมฟายอ่อนแอ
“ขอแค่ริวฟื้น ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาเขา ฉันจะทำให้ริวหายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม”
มายูมิกุมมือริวบีบแน่น แต่ริวยังคงนอนนิ่งไม่รับรู้
“ฉันรอคุณอยู่นะคะริว”
มายูมิน้ำตาร่วง ทรุดลงนั่งข้างริวอย่างปวดร้าวและทรมานใจมาก โคจิ มาซาโตะ คาซูมะ สงสารมายูมิ สลับกับมองริวด้วยความเป็นห่วง
นอกห้องไอซียู นานะ ทากาฮาชิ ทามาโกะ เมกุมิยืนมองมายูมิอยู่ตรงกระจกประตูหน้าห้อง ทุกคนพลอยเศร้าสลดใจไปด้วย
“สงสารพี่มายูมินะคะ” เมกุมิบอกเศร้าๆ
“เราทำได้แค่ให้กำลังใจ พ่อเชื่อว่ามายูมิเข้มแข็งพอที่จะผ่านความทุกข์นี้ไปได้ด้วยตัวเอง”
ทุกคนเศร้าใจไปกับมายูมิ
บ่อนมิซาว่า...ทาคาโอะนั่งแกะสลักจุกไม้ก็อกเป็นรูปหัวกะโหลกอย่างสบายใจ โดยมีนาบุคอยรับใช้อยู่ข้างกาย มาซารุก้าวเข้ามาในห้องตรงมาตบโต๊ะทาคาโอะด้วยความไม่พอใจ
“ไอ้ริวยังไม่ตาย”
ทาคาโอะเงยหน้าขึ้นมองมาซารุอย่างใจเย็น เห็นยูจิกับเคนเดินตามเข้ามา
“โดนกระสุนเจาะสมองอย่างนั้น...ไม่ตายก็ต้องกลายเป็นผัก”
“ข้ออ้างของคนทำงานพลาด” ยูจิยิ้มเยาะ
“ยังดีกว่าพวกมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ”
ยูจิจะพุ่งเข้าไปเล่นงานทาคาโอะ แต่มาซารุเข้าไปขวาง และผลักตัวยูจิออก
“นี่ไม่ใช่เวลาที่แกสองคนจะทะเลาะกัน หน้าที่ของเราคือฆ่าไอ้ริว โค่นพวกโอะนิซึกะตามคำสั่งท่านยามาโมโต้” มาซารุตวาด
“ส่งคนไปเล่นงานริวที่โรงพยาบาลอีกครั้งดีมั้ยครับ” เคนถาม
“โซเรียวเจ็บหนัก สามทหารเสือแห่งโอะนิซึกะคงสั่งคนคุ้มกันมากกว่าเดิม เราต้องหาทางเข้าถึงไอ้ริวด้วยความเงียบ ไม่ให้พวกมันรู้ตัว” ยูจิออกความเห็น
“แกมีวิธีเหรอ”
มาซารุจ้องยูจิด้วยความสงสัย ยูจิยิ้มร้ายลึก มีแผนในใจ
คัตสึบ่นไทชิที่ดื้อดึงมายืนอารักขาริวหน้าห้องพักฟื้น ทั้งที่ยังพันผ้าพันแผลแขนข้างหนึ่งอยู่
“แกควรจะพักให้แข็งแรงก่อนนะไทชิ ทางนี้พวกฉันดูแลได้”
“ฉันไม่อยากนอนเฉย ๆ ขอให้ฉันได้ทำหน้าที่องครักษ์ของโซเรียวเถอะ”
“ไทชิ” อาคิโกะปรี่เข้ามา
ไทชิยิ้มดีใจ คิดว่าอาคิโกะมาหาเพราะเป็นห่วงตน
“อาคิโกะ”
“ริวฟื้นรึยัง อาการเป็นยังไงบ้าง แล้วจะหายเป็นปกติมั้ย ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน”
“ยิงสลุตไม่ยั้งเลยว่ะ” เซกิแอบกระซิบกับคัตสึ
ไทชิสลดลง เมื่อรู้จุดประสงค์การมาของอาคิโกะ
“ถามไม่ตอบ ฉันเข้าไปดูเองก็ได้”
อาคิโกะจะเข้าไปในห้อง แต่คัตสึ เซกิ ก้าวมายืนขวางประตู
“ท่านโคจิห้ามคนนอกเข้าออกห้องพักฟื้นของโซเรียวเด็ดขาด”
“ฉันก็เป็นคนของโอะนิซึกะเหมือนกัน ไม่ใช่คนนอก” อาคิโกะตวาด
“เหตุการณ์ช่วงนี้ไม่น่าไว้ใจ พวกเราต้องดูแลความปลอดภัยให้โซเรียว อย่างเข้มงวด นอกจากผู้อาวุโสของโอะนิซึกะ มีคุณมายูมิคนเดียวเท่านั้นที่เข้าห้องนี้ได้” คัตสึอธิบาย
“มายูมิ”
อาคิโกะถลึงตาแค้น กำลังจะสกัดกลั้นอารมณ์โกรธไว้ไม่อยู่ ไทชิเห็นท่าไม่ดี รีบดึงแขนอาคิโกะออกไป
“ตามฉันมา”
“ไทชิ... ปล่อยนะ”
อาคิโกะโวยวาย แต่ไทชิไม่ยอมปล่อย
อาคิโกะสะบัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุมของไทชิ เมื่อมาถึงสวนโรงพยาบาล
“พาฉันออกมาทำไม”
ไทชิชะงักกึก เจ็บแผลจี๊ด แรงสะบัดของอาคิโกะทำให้กระทบกระเทือนบาดแผล
ยูจิยืนซุ่มเงียบอยู่มุมหนึ่ง แอบฟังอาคิโกะกับไทชิคุยกัน อาคิโกะเห็นอาการไทชิ จึงเข้าไปช่วยประคองแขนที่บาดเจ็บ น้ำเสียงอ่อนลง
“เจ็บแผลเหรอ ฉันขอโทษ”
“ไม่เป็นไร”
ไทชิตอบเสียงเรียบ วางตัวนิ่ง อาคิโกะขยับเข้าใกล้ไทชิอย่างมีจริต สายตาหวานแฝงเจ้าเล่ห์
“เธอบาดเจ็บเพื่อปกป้องโซเรียวขนาดนี้ โอะนิซึกะจะต้องเห็นความดีและเกรงใจเธอ”
“องครักษ์ทุกคน..ยินดีสละชีวิตเพื่อโซเรียวโดยไม่หวังรางวัลตอบแทน ถ้าจะให้ฉันพาไปเยี่ยมโซเรียว...ฉันขอปฏิเสธ”
อาคิโกะปรี๊ด โกรธที่ไทชิรู้ทันและขัดใจ
“เธออิจฉาที่ฉันรักริว ก็เลยกีดกันฉันใช่มั้ย”
“หัวใจโซเรียวมีแต่คุณมายูมิ สิ่งที่เธอคิดกับโซเรียว มันเป็นไปไม่ได้ ฉันเตือนในฐานะเพื่อน อย่าทำตัวไร้ค่าในสายตาคนอื่นอีกเลย”
ไทชิเจ็บปวดกับการยืนยันความเป็นเพื่อนอาคิโกะ ก่อนเดินผละไปอย่างเจ็บช้ำ
“กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องนะไทชิ...ไทชิ”
ยูจิก้าวออกมาหาอาคิโกะ ทันทีที่ไทชิเดินลับไป
“คุณอาคิโกะ คุโด ใช่มั้ยครับ”
อาคิโกะหันขวับมองยูจิ สงสัยว่ายูจิเป็นใคร
อาคิโกะยิ้ม ๆ มีท่าทีเกรงใจยูจิ หลังจากที่รู้ว่ายูจิเป็นใคร
“เคยได้ยินสาว ๆ หลายคนพูดถึงผู้กองมานาน เพิ่งจะมีโอกาสเจอตัวจริง”
“ตำรวจธรรมดาอย่างผม คงไม่มีเสน่ห์เท่าริว โอะนิซึกะ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตระกูลดังหรอกครับ”
อาคิโกะหรี่ตามองยูจิ นึกสงสัย
“ผู้กองมีธุระอะไรกับฉันกันแน่คะ”
“ธุระของผม คล้ายกับความต้องการของคุณ”
“ยังไง”
“คุณอยากเข้าไปเยี่ยมริว ผมก็อยากเข้าไปสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
“ริวยังไม่ฟื้น คงให้ข้อมูลผู้กองไม่ได้”
“ผมถึงได้มาขอให้คุณส่งข่าวให้ผมทราบทันทีที่ริวฟื้น”
ยูจิบอกความต้องการตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม อาคิโกะครุ่นคิด ยังไม่ค่อยไว้ใจยูจิ
โคจิ มาซาโตะ คาซูมะ ปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด
“เป็นไปได้มั้ย ที่ฮารุจะวางแผนตลบหลังโซเรียวหลังการเจรจา”
“ฮารุเป็นคนตรงไปตรงมา คงไม่ทำอะไรที่ไร้เกียรติในถิ่นของตัวเองหรอก”
มาซาโตะครุ่นคิด หนักใจ
“ถ้าไม่ใช่มิอุระ แล้วจะเป็นใคร”
“เรามีศัตรูรอบด้าน แต่ยังไม่มีหลักฐานเอาผิดใครได้ น่าเจ็บใจจริง ๆ” คาซูมะหนักใจ
“ตอนนี้ชีวิตโซเรียวสำคัญที่สุด หวังว่าโซเรียวจะไม่ยอมแพ้ฟื้นขึ้นมาโดยเร็วนะ”
โคจิทอดถอนใจทั้งสามสบตากัน เป็นห่วงริว
อายะโกะ ฟุมิโกะ ช่วยกันจัดเสื้อผ้าและของใช้ใส่กระเป๋าใบขนาดกะทัดรัดให้มายูมิเอาไปโรงพยาบาล ทั้งสองใบหน้าหมองเศร้า เสียใจกับการบาดเจ็บของริว
“ฉันอยู่บ้านโอะนิซึกะมาตั้งแต่ยังสาวเห็นการเข่นฆ่ากันแทบทุกวัน สมาชิกในบ้านล้มตายไปทีละคน จนเหลือคุณริวเป็นทายาทคนเดียว ไม่นึกเลยว่าคุณริวจะ...”
อายะโกะจุกในลำคอ เศร้า พูดไม่ออก ฟุมิโกะเลื่อนมือไปกุมมืออายะโกะ พูดปลอบ
“โซเรียวเป็นคนดี บรรพบุรุษโอะนิซึกะจะต้องคุ้มครองโซเรียวนะจ๊ะป้า”
อายะโกะพยักหน้ารับรู้ เศร้า ๆ โคจิเลื่อนประตู ยืนอยู่นอกห้อง ไม่ก้าวเข้ามา
“จัดกระเป๋าไปโรงพยาบาลให้คุณมายูมิเสร็จรึยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“แล้วคุณมายูมิอยู่ไหน”
โรงซ้อมเคนโด้ บ้านโอะนิซึกะ มายูมิอยู่ในชุดซ้อมเคนโด้นั่งนิ่งเงียบอยู่กลางโรงซ้อมคนเดียวท่าทางสง่างาม เข้มแข็ง ข้างกายมีดาบไม้วางอยู่หนึ่งอัน คิดถึงสิ่งที่ริวบอก
“ว่าที่นายหญิงของโอะนิซึกะจะต้องแข็งแกร่ง ช่วยเหลือตัวเองได้ ฝีมือต่อสู้ของคุณคราวก่อนถือว่าใช้ได้ แต่ยังต้องฝึกเพิ่ม”
มายูมิคว้าดาบไม้ลุกขึ้น ก่อนกำดาบไม้ตวัดฟาดอากาศตรงหน้า วาดดาบไม้ ตีโต้กลับ เสมือนกำลังฝึกซ้อมกับริวในความคิด
“ประสานใจให้เป็นหนึ่งเดียว... แล้วมันจะเป็นอาวุธที่ทรงพลัง”
มายูมิหมุนตัว ตวัดดาบไม้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว ขณะที่กำลังหมุนดาบไม้ตวัดฟาดอากาศตรงหน้าอีกครั้ง จู่ ๆ ก็ชะงักเมื่อภาพหวานของเธอกับริวปรากฏขึ้น ทำให้เสียจังหวะ ดาบไม้หลุดมือกระเด็นไป มายูมิเครียด สับสน ก่อนทรุดตัวลงกับพื้น คิดถึงริวที่ให้คำมั่นสัญญาหน้าฮารุในไนต์คลับ
“มายูมิมีค่ายิ่งกว่าลมหายใจของผม ผมพร้อมจะดูแลเธอด้วยชีวิต”
ภาเหตุการณ์ที่ริวกระโดดคว้าตัวเธอหลบกระสุนของทาคาโอะ เกิดขึ้นในใจ
“มายูมิ ระวัง”
เสียงปืนดังก้องในความคิด เปรี้ยง...! มายูมิสะดุ้งเฮือก ตกใจ น้ำตารินไหลด้วยความรู้สึกที่กัดกินในใจ
“ฉันผิดเอง ฉันมองไม่เห็นความรักของคุณ กว่าจะรู้ตัวก็เกือบสายไปแล้ว ให้โอกาสฉันแก้ตัวอีกครั้งนะคะริว คุณต้องฟื้นนะคะ”
มายูมิปล่อยโฮ น้ำตาแห่งความอ่อนแอหลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ร่ำร้องด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เสียใจเกินเยียวยา
ทางเข้าโรงซ้อมเคนโด้ โคจิยืนนิ่งมองมายูมิอยู่เงียบ ๆ เฝ้าดูอาการของมายูมิด้วยความเป็นห่วง และเศร้า เสียใจกับการบาดเจ็บของริวเช่นกัน
จบตอนที่ 7