xs
xsm
sm
md
lg

เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 18

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 18

เช้าวันใหม่ ที่ใต้ถุนเรือนบ้านครูประสิทธิ์ น้ำค้างยิ้มอย่างชอบใจ แล้วเชิดหน้าใส่วัลภากับน้อย
“ดีมากจ้ะวัลภา ตอบตกลงแบบนี้แหละแสดงว่าเธอมาถูกทางแล้ว”
น้อยหมั่นไส้ท่าทีของน้ำค้าง เลยว่าแดกหลายคำ แต่วัลภาปรามไว้ พลางสบตาให้เข้าใจถึงจุด ประสงค์ น้อยเลยสงบปากสงบคำ แล้วเชิดหน้าเดินออกไป น้ำค้างจะตามไปด่าต่อ แต่เชนโผล่เข้ามาขวางไว้
“พอได้แล้วล่ะน้ำค้าง ถ้าหมดธุระแล้ว ก็ขอให้พวกพี่ได้ซ้อมวงเตรียมไปแสดงได้มั้ย”
น้ำค้างนิ่งมองเชนกับวัลภา แล้วแอบยิ้มจ้าเล่ห์

เชนเดินออกมาส่งน้ำค้างที่หน้าบ้าน น้ำค้างเห็นวัลภายืนมองอยู่จากใต้ถุนเรือน เลยแกล้งออเซาะ “พี่เชนอย่าโกรธน้ำค้างเลยนะที่ต้องทำแบบนี้ พี่เชนก็รู้ ถ้าอยากมีชีวิตรอดในผาปืนแตก ก็ต้องรู้จัก เอาตัวรอด”
เชนพยักหน้าอย่าเสียมิได้
“ใช่ แต่มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐไม่เหมือนกับพวกเดรัจฉาน มนุษย์ยังมีคำว่าศักดิ์ศรี และกตัญญู รู้คุณ”
น้ำค้างแกล้งออเซาะว่าเชนพูดอะไรเข้าใจยาก วัลภาหมั่นไส้เลยเดินเข้าไปอย่างหัวเสีย น้ำค้าง อมยิ้มชอบใจและจะเอียงซบอีก แต่เชนรู้ทันขยับถอยออกมาหนึ่งก้าว ทำเอาน้ำค้างเกือบเซล้ม
“เรื่องที่พี่พูดไปมันไม่ได้เข้าใจยากหรอกน้ำค้าง กลับบ้านไปส่องกระจกดูตัวเอง น้ำค้างก็จะเข้าใจ คำพูดของพี่เอง พี่ส่งแค่นี้นะ”
เชนเดินกลับเข้าไปในบ้านทิ้งน้ำใค้างให้ยืนทำหน้างงๆ

เชนเดินตามวัลบภาเข้ามาในบ้าน พลางบอกว่าไล่น้ำค้างกลับไปเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ชวนวัลภาเริ่มซ้อมร้องเพลง
เชนเดินร้องเพลงตามวัลภาเข้ามาที่ใต้ถุนบ้าน วัลภาอมยิ้มแล้วร้องรับสอดประสานไปกับเชน พร้อมกับเอาผ้าพันคอขนฟูมาคล้องคอเชน ร้องเล่นเต้นคู่กันอย่างน่ารักน่าชัง จนกระทั่งจบเพลงด้วยด้วยการที่วัลภา หมุนตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเชน
ทั้งคู่สบตากันและยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

สำรวยยื่นอาหารกระป๋องให้ชาวบ้านท่าทางจนๆคนหนึ่ง น้ำค้างเข้ามาเห็นก็โวยวายเสียงดัง บอกว่าถ้าไม่อยากอดตาย ก็ขยันไปทำงานที่เหมือง หรือถ้ามีลูกสาวหน้าตาสวยๆ ก็สั่งให้ไปทำงานที่บาร์ผีเสื้อราตรี สำรวยเลยด่ากลับ
“นังน้ำค้าง ผีห่าซาตานมันสิงเอ็งแล้วใช่มั้ย เอ็งถึงได้คิดแต่เรื่องชั่วๆ แบบนี้”
“อย่ามาว่าฉันแบบนั้นนะพ่อ ต้องบอกว่าเป็นนางฟ้านางสวรรค์มาโปรดชี้ทางรอดให้ต่างหาก”
พูดพลางหันไปดึงของออกจากมือชาวบ้าน แต่เพลิงเข้ามาเห็นพอดี
“ให้เขาไปเถอะ ค่าของพวกนั้นพี่จ่ายให้เอง”
เพลิงล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบเงินออกมาแล้ววางบนโต๊ะ
“เงินพี่มีอยู่เท่านี้คงจะพอสำหรับของพวกนั้นนะน้องน้ำค้าง”
น้ำค้างมองเงินด้วยหางตา แล้วรับมายัดใส่หน้าอก ก่อนจะพยักหน้าให้ชาวบ้านเอาของออกไป จากร้าน
“พี่ช่วยซื้อของจากน้องแล้ว งั้นพี่จะขอให้ช่วยอะไรสักอย่างได้มั้ย”

น้ำค้างมองเพลิงอย่างสงสัย

บนเวทีภายในบาร์ของฟ้าลั่น เสียงดนตรีจังหวะสนุกๆ ดังขึ้น ลำดวนเดินออกมาร้องเพลงต่อหน้ากำนันปราบ และท่านสมบัติที่นั่งอยู่อยู่หน้าเวที ด้วยลีลาที่พลิ้วไหวสวยงามไม่ทิ้งลายของอดีตนักร้องชื่อดัง ลำดวน ดอกรัก
กำนันปราบกับท่านสมบัตินั่งดูอย่างชื่นชอบ ลำดวนร้องเพลงไปก็เดินลงจากเวทีมาร้องใกล้ๆ ท่าน สมบัติ ก่อนจะโปรยยิ้มหวาน
พอลำดวนร้องเพลงจบ เสียงปรบมือของท่านสมบัติก็ดังขึ้น พร้อมกับออกปากชมเปาะ จนกำนันปราบถึงกับแปลกใจ เพราะไม่เคยรู้ว่าท่านสมบัติเคยเป็นแฟนเพลงของลำดวนมาก่อน
“กำนัน สมัยโน้นชื่อเสียงของลำดวน ดอกรักมีเหรอใครจะไม่รู้จัก ตอนนี้กำนันน่ะโชคดีแล้วที่ได้ ลำดวนดอกหอมมาครอบครองคนเดียว”
กำนันปราบหัวเราะชอบใจ
“ผู้ชายที่มีทั้งอำนาจและบารมีอย่างเรา มันก็ต้องเคียงข้างด้วยผู้หญิงที่คู่ควรสิครับท่านจริงมั้ย ลำดวน”
กำนันปราบดึงลำดวนมากอดมาหอม ลำดวนทำเป็นเขินอายหัวเราะคิกคัก ระหว่างนั้นน้ำค้างเข้ามา
ลำดวนรีบบอกให้ไปพาสาวๆ ผีเสื้อราตรีมาช่วยดูแลท่านสมบัติ น้ำค้างยิ้ม แล้วพูดฉอเลาะ
“งั้นถ้าท่านติดใจสาวๆของผาปืนแตก คืนนี้ท่านก็อยู่ต่ออีกคืนสิคะ รับรองว่าจะมีทีเด็ดให้ท่านได้ชม อีกเพียบเลย”
กำนันปราบรีบถาม “ทีเด็ดอะไรเหรอน้ำค้าง”
น้ำค้างอมยิ้ม

ลำดวนเดินตามน้ำค้างเข้ามาที่มุมหนึ่งของบาร์ พลางถามย้ำว่าทำไมพวกเชนถึงได้ยอมมาเล่น ดนตรีที่นี่ น้ำค้างบอกว่าพวกนั้นก็ต้องหาทางเอาตัวรอด ลำดวนไม่วายเตือนให้ระวังว่าบางทีอาจจะมีแผนการอะไร อยู่ก็ได้ น้ำค้างรีบเถียงอย่างมั่นใจ
“โอ้ย คิดมากไปรึเปล่าคะคุณลำดวน ตอนนี้มีแต่พวกกำนันที่ชี้เป็นชี้ตายคนในผาปืนแตก พวกมัน ไม่กล้าคิดสั้นให้ลงเอยเหมือนครูประสิทธิ์หรอก เอาอย่างนี้แล้วกันค่ะ ถ้ายังไม่ไว้ใจพวกมัน น้ำค้างจะไปบอกพี่ชาติ ให้เพิ่มคนเข้ามาจับตาดูพวกมัน คุณลำดวนจะได้สบายใจ เยสโนโอเคมั้ยคะ”
ลำดวนพยักหน้า จะเดินออกไป แต่น้ำค้างตามไปรั้งไว้
“มีคนอยากคุยกับคุณ เขาขอให้ฉันมาบอก”

เพลิงยืนรออยู่ในโรงไม้ ครู่หนึ่งลำดวนก็เดินเข้ามา เพลิงรีบขยับเข้าไปใกล้ พร้อมกับยื่นผีเสื้อ พลาสติกให้ลำดวนดู

“มันเป็นผีเสื้อพลาสติกที่ฟ้างามใช้ร้อยเป็นมู่ลี่ตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ และในวันที่เธอตาย เธอกำมัน เอาไว้ครับ”
ลำดวนชะงักไป สีหน้าเหมือนจะจำอะไรได้ แต่ก็พยายามกลบเกลื่อน
“เหรอ ฉันไม่รู้มาก่อน แล้วเธอเอามาให้ฉันดูทำไม”
เพลิงมองหน้าลำดวนอย่างอยากตั้งคำถาม

เชน วัลภา พร้อมด้วยแสน จิก น้อย และลูกวงขนเครื่องดนตรีเข้ามาติดตั้งที่บนเวทีมในบาร์เพื่อเล่น ดนตรีคืนนี้ แต่ทุกคนในวงอยู่ท่ามกลางดงของไอ้ฟ้าลั่น ไอ้คม ไอ้ทอม และพวกลูกน้องที่ยืนประกบ ไอ้ทอมจ้องหน้าวัลภาเขม็ง วัลภาหน้าซีด ตกใจกลัว
“ถอยไปไอ้ทอม ถ้าแกแตะต้องเมียข้าล่ะก็....”
เชนยังไม่ทันจะทำอะไร ไอ้คมก็ยื่นปืนเข้ามาจ่อหลัง
“ไอ้ทอมมันยังมีเรื่องคาใจกับวัลภา เพราะฝีมือเมียเอ็งทำให้มันต้องนอนรักษาตัวเองอยู่เกือบเดือน เอ็งอย่ายุ่งจะดีกว่า”
ไอ้ทอมเข้าไปจับแขนวัลภามาจ้องหน้าเขม็งแล้วฉุดกระชากลากไป เชนกับพวกขยับจะเข้าไปช่วย แต่กลับถูกพวกไอ้เชิดยกปืนขึ้นจ่อบังคับไม่ให้ยุ่ง
ฟ้าลั่นหัวเราะชอบใจ
“อย่าให้ไอ้เชนมายุ่งนะเว้ย”
จากนั้นก็เดินตามไอ้ทอมออกไป เชนกำหมัดแน่นเจ็บใจ

“เธออยากรู้เรื่องที่ฟ้างามอยากจะบอกเธอก่อนที่จะถูกฆ่าตายน่ะเหรอ”
ลำดวนถามย้ำกับเพลิง
“ครับพี่ลำดวน ผมจำได้ว่าฟ้างามมีเรื่องอยากจะบอกผม แต่อยู่ๆเธอก็ไม่ยอมพูดถึงมัน ไม่ว่าผมจะ พยายามถามเท่าไหร่ เธอก็ไม่บอก”
ลำดวนรีบพูดปัดให้พ้นตัว
“มันเป็นเรื่องของฟ้างาม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง”
เพลิงบอกว่าฟ้างามสนิมกับลำดวน เวลามีเรื่องไม่สบายใจ ก็มักจะไปปรึกษาเสมอๆ ลำดวนพูดเลี่ยงไปว่าปรึกษาหลายเรื่อง จนเธอจำไม่หวาดไหว พลางขยับตัวจะเดินออกไป แต่เพลิงรีบเข้าไปรั้ง
“ผมขอร้องล่ะครับพี่ลำดวน ช่วยนึกดีๆ เพราะผมคิดว่าฟ้างามพยายามจะบอกให้ผมรู้เรื่องฆาตกร ผ่านผีเสื้อตัวนี้”
ลำดวนชะงัก อึกอักขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น แล้วฉันก็จำอะไรไม่ได้ด้วย ไม่ต้องมาเซ้าซี้ฉันอีกแล้วนะเพลิง ตอนนี้ชีวิตเธอ ติดอยู่ในผาปืนแตก และเจ้าชีวิตของเธอคือก็คือพี่ปราบสามีฉัน เพราะฉะนั้นต่อให้เธอรู้ว่าฆาตกรเป็นใคร เธอก็ ออกไปตามล่าเอาผิดกับมันไม่ได้”
“แต่ฟ้างามจะต้องได้รับความยุติธรรม”
“งั้นเธอก็ลองแหกด่านออกไปจากผาปืนแตกสิ เผื่อบางทีฟ้างามอาจจะบอกเธอเองว่าใครคือฆาตกร เวลาที่เธอได้เจอกันในปรโลก”
ลำดวนพูดแค่นั้นแล้วเดินออกไปทิ้งให้เพลิงยืนเจ็บใจ

ลายเสือเดินไปเดินมาสีหน้าครุ่นคิดนึกถึงคำพูดของฟ้าลั่น กำนันปราบกับชาติ และไอ้เชิด ก็เดินเข้ามา
“ดูท่าทางเอ็งจะมีเรื่องต้องให้คิดอยู่นะไอ้ลายเสือ มีอะไรให้ข้าช่วยมั้ย”
ลายเสือรีบปฏิเสธ กำนันปราบเลยพูดต่อ
“เอ็งอย่าลืมสิวะ กว่าที่เอ็งกับข้าจะมีวันนี้ได้ เราสองคนเกือบจะปล่อยให้คนของเราเข่นฆ่ากันเอง ไปแล้ว จำไม่ได้เหรอไง”
“จำได้”
ชาติรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที“ถ้าจำได้งั้นก็ควรจะไปเตือนความจำของลูกชายแกด้วยนะ ว่าอย่าให้มันคิดอะไรแตกแถวจากที่ ตกลงกันไว้ ไม่อย่างนั้น ระบบหุ้นส่วนที่ตกลงกันไว้ จะเหลือแค่หุ้นลม”
ลายเสือโกรธจนควันออกหู
“ไอ้ชาติ เอ็งเป็นเด็ก เอ็งอย่าสะเออะมาขู่คนอย่างข้า”
กำนันปราบเข้ามาแตะอกลายเสือให้หยุด
“ไอ้ชาติมันพูดถูกแล้ว ถ้าเป้าหมายของเอ็งกับข้ายังเหมือนเดิม สร้างประเทศนี้ขึ้นมาใหม่ โดยมีเรา เป็นคนชี้เป็นชี้ตาย เอ็งก็ควรรักษาสัจจะ เพราะพวกเราไม่ใช่โจรที่ไม่จำเป็นต้องรักษาสัจจะ”

ลายเสือฉุนเฉียวเดินออกไป กำนันปราบมองตาม พลางยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน

เชนที่ถูกไอ้คมกับพวกลูกน้องคุมตัวเอาไว้ มองตามวัลภาที่ถูกไอ้ฟ้าลั่นกับไอ้ทอมเอาตัวไปอย่างเป็นห่วง

“ถ้าวัลภาเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว ข้าเล่นเอ็งตายแน่”
ไอ้คมหัวเราะลั่น
“เอ็งจะเล่นงานพวกข้ายังไงวะไอ้เชน ปืนในมือข้าชี้หน้าเอ็งอยู่แบบนี้”
“เอ็งมันก็ดีแต่คุยโวโอ้อวด เอาเข้าจริงวัดเชิงมวยกับข้าแล้ว เอ็งมันก็ไม่เท่าไหร่หรอก”
ไอ้คมเจอคำท้าทายยั่วยุจากเชน ก็ไม่พอใจ โยนปืนให้ลูกน้องรับไป แล้วปรี่เข้าไปชกหน้าเชนจนเซไป จิก แสนและน้อย รีบประคองรับไว้ เชนได้ทีรีบกระซิบกับจิกเบาๆ
“อาศัยช่วงชุลมุนไปหาอะไหล่มาซ่อมวิทยุเลยน้า รีบไปเถอะน้า”
เชนผุดลุกขึ้นแล้วพุ่งเข้าไปปะทะกับไอ้คมแลกหมัดเข่าศอกตะบันใส่กันเต็มที่ แสนกับน้อยช่วยกัน ยืนบังให้จิกเลี่ยงออกไปอย่างเนียนๆโดยพวกมันไม่เห็น

วัลภาถูกฟ้าลั่นผลักกระแทกไปกับรั้วลวดหนาม ไอ้ทอมยืนเป็นกำแพงข้างหลังฟ้าลั่น
“วันนี้ไอ้ทอมมันอยากชำระหนี้แค้นกับเธอ ทั้งๆที่มันเอ็นดูให้ความสำคัญกับเธอเหมือนลูกสาวมัน แต่เธอกลับทำให้ต้องเจ็บตัว ความแค้นครั้งนี้ เธอหนีไม่พ้นโดนเอาคืนแน่ ใช่มั้ยไอ้ทอม”
ทอมจิกหน้าโหดแล้วผลักวัลภาเซไปทางกองลังกระดาษ จากนั้นก็หันไปคว้าท่อเหล็กแป้บ ขึ้นมา แล้วบิดหักงอด้วยสองมือ วัลภาเห็นก็ถึงกับสะดุ้ง ฟ้าลั่นหัวเราะสะใจ
“เฮ้ย อย่าให้บอบช้ำมากนักนะไอ้ทอม เก็บไว้ให้ข้าสนุกกับมันต่อด้วย”
ทอมพยักหน้ารับแล้วเข้าไปหาวัลภา แล้วใช้มือบีบหน้า จากนั้นก็ตบผั๊วะ จนวัลภาเลือดกลบปาก

เพลิงตามเข้ามาแล้วเห็นเหตุการณ์ที่เชนกำลังปะทะกับไอ้คม ก็จะเข้าไปช่วย แต่แสนรีบกันไว้
“ไอ้เชนพยายามถ่วงเวลาให้ไอ้จกเข้าไปหาอะไหล่ไปซ่อมวิทยุ แล้วก็รอให้เอ็งรีบมาเพื่อไปช่วยวัลภา จากไอ้ทอม”
เพลิงพยักหน้ารับแล้วรีบออกไป

ฟ้าลั่นเห็นวัลภาถูกไอ้ทอมทำร้ายจนร้องลั่น ก็หัวเราะชอบใจ ก่อนที่จะถูกขัดจังหวะสนุก เพราะเพลิง ปรี่เข้ามาพร้อมท่อเหล็กในมือ และฟาดไปที่กลางหลังไอ้ทอมอย่างแรง มันรีบปล่อยมือจากวัลภา แล้วหันขวับไปที่ เพลิงที่ยืนจังก้าหน้าตาเอาเรื่อง

จิกแอบเลียบๆเคียงๆเดินเข้ามาในห้องเก็บของอย่างระมัดระวัง พอเห็นลังหลอดไฟสำหรับไว้ ตกแต่งเวที มีลำโพง และเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้จัดการแสดง รวมทั้งมีตู้เครื่องเสียงอยู่ด้วย ก็ตาวาว จากนั้นก็รีบงัดเอา ไขควงขึ้นมาแล้วทำการขันน็อตเปิดฝาเครื่องเสียง เห็นข้างในนั้นมีแผงวงจรไฟฟ้า
จิกยิ้มกริ่ม

ไอ้คมสู้เชนไม่ได้ พวกลูกน้องก็เลยกรูกันเข้าล้อมรอบเชนไว้ ระหว่างนั้นเสียงกำนันปราบก็ดังเข้ามา
“เฮ้ย พอได้แล้ว”
ทุกคนหันขวับไป เห็นกำนันปราบเดินเข้ามาพร้อมด้วยชาติ ลายเสือและลูกน้อง
“น้ำค้างบอกข้าว่า พวกพราวฟ้าจะมาเล่นดนตรีคืนนี้ แล้วพวกเอ็งกำลังทำอะไรกัน”
ไอ้คมรีบบอกอย่างเอาหน้า
“ดัดสันดานมันนิดหน่อยครับกำนัน”
“แต่คืนนี้แขกคนสำคัญของข้าจะมาพักผ่อนที่บาร์นี้ เอ็งว่ามันใช่เวลามั้ยที่พวกเอ็งจะมาทำ เลอะเทอะ”
ไอ้คมก้มหน้าเซ็งๆ ลายเสือเดินเข้ามาถามหาฟ้าลั่น ไอ้คมรีบบอกว่าอยู่ที่หลังบาร์ “เอ็งไปจัดการตามที่คุยกัน ถ้ายังอยากเป็นหุ้นส่วนกันอยู่”

ลายเสือมองกำนันปราบอย่างไม่ค่อยพอใจ พลางเดินเข้าไปในร้าน

เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 18 (ต่อ)

เพลิงกับไอ้ทอมแลกหมัดซัดกันด้วยฝีมือที่สูสี ฟ้าลั่นแอบเล่นสกปรก ด้วยการชักปืนขึ้นมาเล็งไปที่ เพลิงหวังจะยิงตัดกำลัง วัลภาเห็นเข้าพอดีเลยเข้าไปใช้มืออีกข้างที่ไม่เจ็บคว้าท่อเหล็กขึ้นมาฟาดมือ ฟ้าลั่นหันขวับมาตบอย่างแรง จนวัลภาเซ ทันใดนั้นเสียงลายเสือ ก็แทรกมาขัดจังหวะ

“พอได้แล้วไอ้ฟ้าลั่น”
“พ่อ มาห้ามฉันทำไม”
“เอ็งมันชักจะทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองเกินไปแล้ว ถ้าข้าไม่คุยกับเอ็งเดี๋ยวนี้ เอ็งจะทำให้พวกเราชวด งานใหญ่”
เพลิงอาศัยจังหวะขยับเข้าไปช่วยประคองวัลภา แล้วรีบพาออกไป

จิกจัดการถอดอะไหล่ที่จำเป็นต้องใช้ออกมาจากเครื่องเสียงใส่ลงในกระเป๋าผ้าที่สะพายมาด้วย แล้วขันน็อตเครื่องกลับคืนเหมือนเดิม แต่พอกำลังจะเดินออกไป น้ำค้างก็เข้ามาเห็นพอดี พลางมองอย่างสงสัย
“ท่าทางมีพิรุธแบบนี้ แกเข้ามาขโมยของใช่มั้ย”
“ข้าเปล่านะเว้ย ข้าไม่ได้ขโมยอะไร”
น้ำค้างเบ้ปาก
“คิดว่าฉันจะเชื่อแกเหรอไอ้จิก หน้าที่แกคือมาเล่นดนตรีที่นี่ไม่ใช่มาเดินลอยหน้าแถวนี้ เอาของใน กระเป๋าแกมาให้ฉันดู”
“ทำไมข้าต้องฟังคำสั่งแกด้วยวะนังน้ำค้าง นังเด็กเมื่อวานซืน”
จิกไม่สนใจจะเดินออกไป แต่น้ำค้างคว้าคอเสื้อเอาไว้
“แต่นังเด็กเมื่อวานซืนคนนี้ที่พวกแกเคยชอบดูถูก จะเรียกให้พวกพี่ชาติมากระทืบแก ถ้าแกไม่เอา กระเป๋านั่นมาให้ฉันดู เร็วเข้าไอ้จิก”
จิกเจ็บใจจำต้องยื่นกระเป๋าสะพายที่มีอะไหล่วิทยุให้น้ำค้างรับไปดู ก่อนจะฉวยจังหวะคว้าแจกัน แถวๆ นั้นมาทุ่มใส่หัว น้ำค้างหัวหมุนคว้างก่อนจะทรุดฮวบลงไป จิกมองน้ำค้างแล้วหน้าเครียด
“ไปกันใหญ่แล้วไอ้จิก เอาไงดีวะเนี่ย”

ทางด้านพวกเชนยังอยู่ในวงล้อมของกำนันปราบกับชาติ

“ข้าอุตส่าห์ใจดี เห็นด้วยกับน้ำค้างที่ชวนให้พวกเอ็งมาร้องเล่นดนตรีที่นี่ เพราะเห็นว่าพวกเอ็งต้อง ตรากตรำทำงานเหมือง แต่พวกเอ็งกลับยังคิดเหิมเกริม กล้ามาก่อเรื่องถึงที่ของพวกข้าอีก”
ชาติจ้องหน้าพวกเชนอย่างเอาเรื่อง ระหว่างนั้นเพลิงพยุงวัลภาเข้ามา เชนเป็นห่วงก็รีบเข้าไปรับ
กำนันปราบรีบพูดตัดบท
“เอาล่ะๆ ถ้าพวกเอ็งติดตั้งเครื่องดนตรีเสร็จแล้วก็พาวัลภากลับไปแต่งหน้าแต่งตา แล้วมาขึ้นเวที คืนนี้”
ชาติยิ้มกวน แล้วเดินเข้ามาที่วัลภา
“แขกคนสำคัญของข้าเขาชอบดูอะไรสวยๆงามๆ ถ้าทำ ไม่เต็มที่ล่ะก็ ข้าจะยุบวงพราวฟ้าของ พวกเอ็ง ไม่ต้องเล่นดนตรีอีกตลอดชีวิต”

เชนกับชาติจ้องหน้าเขม็ง

ฟ้าลั่นถึงกับอึ้งเมื่อได้รับคำสั่งจากลายเสือ
“ว่าไงนะ พ่อไปยกเลิกข้อตกลงของฉันกับนายพลจอร์จแล้วเหรอ”
ลายเสือพยักหน้า
“เออ ตอนนี้ข้าให้มันออกไปจากผาปืนแตกแล้ว”
“แต่กำลังคนกับอาวุธของพวกมันจะทำให้เราเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดนะพ่อ”
“แต่ไอ้ปราบมันรู้เรื่องนี้แล้วและมันก็ไม่เห็นด้วย”
ฟ้าลั่นหน้าเครียด
“ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันต้องไม่เห็นด้วย แต่พ่อนั่นแหละที่ฉันอยากรู้ว่าทำไมไม่เห็นด้วยกับฉัน”
“เพราะสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนไทยที่เอ็งอยากเห็น มันโหดเหี้ยมเกินไปน่ะสิวะ”
“โหดเหี้ยมเกินไป แล้วมันต่างอะไรกับที่พ่อขายเฮโรอีนเข้าประเทศนี้มาเป็นสิบๆปีล่ะ ไอ้พวกนั้น มันก็ตายทั้งเป็น เพราะยาเสพติดของเรามาตลอด”
ฟ้าลั่นพูดย้อน ลายเสือถึงกับนิ่งไป
“เชื่อฉันเถอะพ่อ เราไว้ใจพวกมันไม่ได้หรอก ถ้าวันนึงมันดันไอ้แก่นั่นให้ขึ้นเป็นนายกฯ ได้ แล้วเกิด มันซูเอี๋ยกัน ไม่ต้องการให้พ่อเป็นคนคุมกองทัพ หันมาจัดการกับพ่อกับฉันแทนล่ะ เราไม่ใช่เรือจ้างแต่เราต้องเป็น เรือรบนะพ่อ”
ลายเสือนิ่งไปมองหน้าลูกชายอย่างครุ่นคิด

เชนใช้ผ้าชุบน้ำเย็นๆประคบไหล่ของวัลภาที่โดนจัดบิดแขนจนเจ็บระบม
“ฉันขอโทษนะ ฉันอยากจะไปช่วยเธอแต่ว่า...”
วัลภายิ้มให้เชน
“เธอทำถูกแล้วล่ะเชน ไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีโอกาสให้น้าจิกเข้าไปหาอะไหล่ใช้ซ่อมวิทยุสื่อสาร”
ระหว่างนั้นเพลิงกับน้อยพากันเข้ามา พลางรีบบอกว่ายังไม่มีใครเจอจิก
“หมายความว่ายังไง หรือว่าพวกมันจับน้าจิกได้”
น้อยส่ายหน้า
“ไม่ใช่หรอกเชน ถ้าพวกมันจับไอ้จิกได้ ป่านนี้มันคงไม่ปล่อยพวกเราออกมา”
แสนเดินเข้ามาสมทบ
“ข้ารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้นี้ข้าลองไปตามไอ้จิกที่อู่ร้างของพวกเรา ตกใจแทบแย่ เพราะไม่เจอ วิทยุสื่อสาร แต่เจอกระดาษโน้ตของไอ้จิกเขียนเอาไว้”
“มันเขียนว่าอะไรวะไอ้แสน”
น้อยรีบถาม

น้ำค้างถูกจับมัดมือและสวมถุงดำคลุมหัวร้องโวยวายอยู่ในโรงไม้ ในขณะที่จิกกำลังซ่อมวิทยุสื่อสาร
“หุบปากแกซะทีได้มั้ยวะนังน้ำค้าง หนวกหูเว้ย ข้าไม่มีสมาธิทำงาน”
“ทำงานอะไรของแก บอกมานะ นี่พวกแกคิดจะทำอะไรกัน ไม่งั้นฉันจะตะโกนจนกว่าจะมีคนมา ได้ยิน แล้วแกก็จะต้องโดนกระทืบเละ ช่วยด้วยพี่ชาติ ฟ้าลั่น ฉันอยู่นี่ ช่วยฉันด้วย”
“นังนี่ สงสัยยังเจ็บตัวไม่พอ”

จิกใช้สันมือทุบไปที่ต้นคอของน้ำค้าง จนทรุดลงไปแน่นิ่งหมดสติ ก่อนจะหันไปมองที่วิทยุสื่อสาร ที่รอการซ่อมให้กลับมางานได้

เนื้อทองเอาเหยือกเหล้ามารินให้ชาติที่นั่งจิบอย่างสบายใจ แล้วก็จะเดินผละไป แต่ชาติกลับสั่งให้นั่งคอยชงเหล้าให้
“อย่ามาทำเป็นหูทวนลม เพราะถ้าฉันอารมณ์เสียขึ้นมาแล้วเธอจะเจ็บตัว”
เนื้อทองเชิดหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“ทุกวันนี้ฉันทนมือเธอได้สบายมาก เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะฉันมันด้านชากับความเจ็บปวดที่เธอมีให้ ฉันทุกวันแล้วไง”
ชาติโมโหใช้มือบีบปาก แล้วก็ไสหน้าเนื้อทองออกไป “อยากให้ฉันดูแลเอาใจเธอใช่มั้ย ได้ ฉันจะรินเหล้าให้ จะป้อนกับแกล้มมาให้เธอด้วย”
เนื้อทองพูดพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วยกป้อนให้ชาติ และตักกับแกล้มขึ้นมาป้อนใส่ปากตาม
พลางยิ้มร้าย
“รีบๆเคี้ยวแล้วก็กลืนไปเถอะชาติ ยาพิษที่ฉันใส่ลงไปมันจะได้ออกฤทธิ์”
ชาติสะดุ้งตาเหลือกด้วยความกตกใจ !!!

ไอ้เชิดมาอาละวาดกับสำรวย เพราะตามหาน้ำค้างไม่เจอ แต่lสำรวยบอกว่าไม่รู้ว่าน้ำค้างไปไหน
“เอ็งเป็นพ่อทำไมจะไม่รู้ว่าลูกเอ็งอยู่ไหน”
“เมื่อก่อนข้าเคยเป็น แต่ตอนนี้ข้าเลิกเรียกมันว่าลูกไปนานแล้ว อีนังลูกไม่รักดีคบหาแต่กับพวกโจร ขยันทำแต่เรื่องชั่วๆ”
สำรวยพูดด้วยอารมณ์โกรธ จนไอ้เชิดรับรู้ได้ว่าสำรวยไม่ได้โกหก จึงปล่อยมือจากคอเสื้อแล้ว เดิน ออกไป สำรวยส่ายหน้าเซ็งๆ แล้วถอนใจ

ชาติจ้องเขม็งเนื้อทองด้วยสีหน้าที่ตกใจไม่หาย เนื้อทองเชิดหน้าอย่างสะใจ
“ชอบให้ฉันทำตัวเป็นทาสรับใช้รองรับอารมณ์ของเธอไม่ใช่เหรอชาติ ก็นี่ไงฉันทำให้แล้ว ตกลงไม่ชอบ เหรอ”
ชาติปรี่เข้าไปบีบคอ จนเนื้อทองหน้าดำหน้าแดง ลำดวนเข้ามาเห็นก็ตกใจ รีบเข้าไปดึงมือจนชาติ หลุดอออกมา เนื้อทองทรุดลงสำลัก
“มันเรื่องอะไรกันเนี่ยพ่อชาติ ทำไมต้องทำแบบนี้”
“เนื้อทองวางยาพิษจะฆ่าฉัน”
ลำดวนตกใจ “ว่าไงนะ จริงเหรอเนื้อทอง”
เนื้อทองไม่ตอบ แต่กลับยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ชาติชักปืนออกมาแล้วเล็งไปที่เนื้อทองอย่างโกรธแค้น
“ถ้าฉันเป็นอะไรไป ฉันจะเอาชีวิตเธอไปด้วย เนื้อทอง”
แต่ลำดวนกลับจับได้ว่าเนื้อทองตั้งใจโกหก จึงรีบหันมาบอกกับชาติ
“ฉันอ่านสายตาของผู้หญิงด้วยกันออก เนื้อทองจงใจโกหก เพราะต้องการแกล้งปั่นหัวเธอ อยากเห็น เธอเป็นฝ่ายกลัวและระแวงบ้าง ใช่มั้ยเนื้อทอง”
เนื้อทองยิ้มสะใจ
“ใช่ เพราะคนอย่างแกควรจะต้องกลัวผู้หญิงอย่างฉันบ้างไงล่ะไอ้ชาติ”
ชาติโกรธมากพุ่งเข้าไปกระชากแขนเนื้อทองพาออกไป พลางเรียกหาฟ้าลั่นเสียงดัง ลำดวนวิ่งตามมาติดๆ เนื้อทองไม่มีท่าทางกลัวเกรง กลับด่าชาติซ้ำ
“เนื้อทอง ถ้าเธอกล้าด่าฉันได้ขนาดนี้ล่ะก็ มันก็สมควรแล้วที่ฉันจะส่งเธอให้ไอ้ฟ้าลั่นจับเธอไปตีตรา เป็นผีเสื้อราตรี ไอ้ฟ้าลั่น ไอ้ฟ้าลั่น”
เสียงตะโกนของชาติทำให้กำนันปราบต้องเดินออกมาถาม ลำดวนจึงรีบขอร้องให้ช่วยห้าม
“พี่ปราบ ช่วยคุยกับชาติหน่อยสิ ตอนนี้ชาติโกรธจนขาดสติแล้ว ดึงดันจะบังคับให้เนื้อทองไปเป็น ผีเสื้อราตรีท่าเดียว”

กำนันปราบมองไปที่ชาติซึ่งอยู่ในอาการฉุนเฉียวมาก ส่วนเนื้อทองก็น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างน่าเวทนา

จิกก้มหน้าก้มตาใช้บัดกรีซ่อมวิทยุสื่อสารอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด ส่วนน้ำค้างก็นอนสลบโดยมีผ้าคลุม หัวอยู่
จิกพยายามจะซ่อมวิทยุสื่อสารให้เสร็จ แต่อยู่ๆไฟก็เกิดสปาร์คช็อตขึ้นมา พร้อมกับมีควันขึ้นจาก แผงวงจร
แสนกับน้อยเดินเข้ามาเห็นพอดี แต่กลับโดนจิกต่อว่าเพราะบอกไปในจดหมายแล้วว่าไม่ต้องมา เพราะไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อน จนกว่าจะหาทางปิดปากน้ำค้างไม่ให้เอาความลับไปพูด
“แต่เอ็งคนเดียวไหนจะซ่อมวิทยุไหนจะจัดการกับนังค้าง เอ็งไม่ไหวหรอก มันอยู่ไหน”
น้อยรีบถาม จิกพยักหน้าไปทางที่น้ำค้างนอนหมดสติอยู่ น้อยเข้าไปดูใกล้ๆ
“ข้าต้องเอาผ้าคลุมหัวมันไว้เพราะไม่อยากให้มันรู้ว่าข้ากำลังทำอะไร นี่ถ้าข้าโหดเหี้ยมได้อย่าง พวกมัน ข้าคงฆ่าปิดปากมันไปแล้ว”
จากนั้นแสนก็ถามถึงเรื่องซ่อมวิทยุสื่อสาร จิกเล่าว่ากำลังจะซ่อมเสร็จ แต่เกิดไฟช้อตขึ้นมาก่อน แต่ยังพอมีหวัง เพราะยังเหลืออะไหล่อยู่อีกหนึ่งชิ้น ระหว่างน้ำค้างก็เริ่มรู้สึกตัว ร้องโอดโอย น้อยจึงรีบเร่งให้จิกซ่อมให้เสร็จ ส่วนน้ำค้าง น้อยอาสาเป็นคนจัดการเอง


วัลภาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักร้องเตรียมจะไปร้องเพลงที่บาร์ เชนเข้ามาอย่างเป็นห่วง
“ถ้าผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ น้าจิกซ่อมวิทยุมื่อสารเสร็จ ฉันตามผู้พันให้ยกกองกำลังมาช่วยเราได้ ผาปืนแตกก็จะกลับมาเป็นสวรรค์บนดิน เมื่อถึงเวลานั้น ลูกของเราก็จะกลายเป็นเทวดาตัวน้อยๆบนแดนสวรรค์”
เพลิงเข้ามาตามทั้งคู่เพราะถึงเวลาต้องไปที่บาร์แล้ว

กำนันปราบหันไปสั่งลูกน้องให้พาเนื้อทองเข้าไปในห้อง ชาติไม่พอใจ บอกว่าจะต้องสั่งสอนเนื้อทองให้หลาบจำ แต่กำนันปราบห้ามไว้ เพราะทุกคนรู้กันทั่วว่าเนื้อทอง เป็นลูกสะใภ้ ชาตินึกว่ากำนันปราบกลัวเสียหน้า
“มันไม่ใช่เรื่องเสียหน้าอย่างเดียวนะไอ้ชาติ แต่มันเป็นเรื่องของการปกครองคนด้วย คิดดูนะ เอ็งให้ เนื้อทองไปเป็นผีเสื้อราตรี ไปนอนกับผู้ชายเป็นสิบๆ ที่มีลูกน้องเอ็งรวมอยู่ด้วย แล้วพวกมันจะคิดยังไง มันจะคิดว่ามัน ก็มีสิทธิ์เท่าเทียมเอ็ง ขนาดเมียลูกพี่มันยังมีอะไรด้วยได้ไง พอได้แล้ว ขังเนื้อทองเอาไว้แบบนี้แหละ ไม่ต้องให้ออก ไปไหน อย่างมากก็ให้อดข้าวอดน้ำ ผู้หญิงตัวแค่นี้มันจะทนได้มากขนาดไหนเชียว”
ลำดวนรีบพูดสนับสนุน จนชาติจำยอมต้องทำตาม

น้อยพยุงน้ำค้างที่ถูกมัดมือมีผ้าดำคลุมหัวนั่งพิงเสาที่โรงนา จึงได้รู้ว่าที่แท้น้ำค้างแกล้งทำเป็นหมดสติมาตลอด เพราะอยากรู้ว่าพวกเชนคิดจะวางแผนอะไรกัน
“หนอยคิดการใหญ่เลยนะ จะตามกองทัพมาช่วย ฝันหวานไปเถอะ”
“นังนี่ แกมันร้ายไม่ใช่เล่น” น้อยทำหน้าเย้ย “แต่ถึงแกจะรู้ว่าพวกข้าจะทำอะไร แกก็ทำอะไรไม่ได้ ยกเว้นแต่แกต้องข้ามศพอีน้อยไปก่อน”
น้อยเชิดหน้าใส่ ขณะที่น้ำค้างกำลังใช้เศษกระเบื้องในมือตัดเชือกที่มัดไว้อย่างใจเย็น

พวกลูกน้องของท่านสมบัติ ฟังเพลิงร้องเพลงอย่างไม่ค่อยพอใจ พลางโห่ไล่ พร้อมทั้งเอาถั่วกับ กับแกล้มปาใส่
ส่วนที่โต๊ะท่านสมบัติ มีลำดวน ชาติและกำนันปราบคอยดูแล ลำดวนทำหน้าที่คอยชงเหล้า ส่วนชาติอาสาจะไปตามสาวๆ ผีเสื้อราตรีมาช่วยดูแล แต่ท่านสมบัติบอกว่าอยากเจอผีเสื้อพันธุ์ที่พิเศษมากกว่าปกติ
กำนันปราบหันไปถามชาติ
“น้ำค้างบอกว่าจะให้วัลภามาโชว์ร้องเพลงไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมยังไม่ขึ้นเวทีอีก”
“เดี๋ยวผมไปดูให้ครับพ่อ”
ชาติพูดแล้วก็รีบลุกออกไปทันที

ชาติเข้ามาห้องแต่งตัวแล้วดึงแขนวัลภาอย่างแรง จนเธอตกใจ
“คิดว่าฉันไม่รู้ทันพวกเธอเหรอวัลภา เธอกำลังถ่วงเวลาฉันอยู่ใช่มั้ย เธอให้ไอ้เพลิงขึ้นไปร้องเพลง คั่นเวลา เพราะไม่อยากขึ้นไปร้องต่อหน้าพวกฉันใช่มั้ย”
เชนเดินถือแก้วน้ำเข้ามาพอดี
“ไม่ใช่หรอกไอ้ชาติ วัลภากำลังจะขึ้นไปร้องเพลง แต่เสียงยังไม่ค่อยมา ฉันเลยต้องไปเอาน้ำมาให้นี่ไง”
เชนยื่นแก้วน้ำให้วัลภา ทั้งคู่สบตากัน โดยที่ชาติไม่ทันสังเกตเห็น เชนกับชาติชาติ ไม่วายต่อปากต่อคำกัน แบบไม่มีใครยอมใคร จนวัลภาต้องรีบตัดบท
“พอได้แล้วชาติ ฉันจะไปขึ้นเวทีแล้ว”

ชาติมองตามวัลภาที่พากันเดินไปกับเชนด้วยความหมั่นไส้

อ่านต่อเวลา17.00น.

เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 18 (ต่อ)

วัลภาในชุดนักร้องสวยเซ็กซี่ก้าวขึ้นมาบนเวที ยิ่งเมื่อโดนแสงไฟสาดส่อง ทำให้เธอสวยผุดผ่องมากยิ่งขึ้น ท่านสมบัติมองอย่างไม่วางตา ลำดวนรีบบอกว่าเป็นลูกสาวของเธอเอง
“แม่ว่าสวยจัดจ้านแล้ว แต่สำหรับลูกสาวนี่. ต้องขอโทษนะ ลำดวน สวยแบบนี้ สวยจนแม่ต้อง กลุ้มใจเลยใช่มั้ย”
กำนันปราบคุยฟุ้ง
“แล้วไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียวนะครับท่าน ร้องเพลงก็เพราะ ลีลาก็ดีด้วย”
“ลองดูสักครั้งแล้วท่านจะติดใจ”
ลำดวนกับกำนันปราบยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย เพราะตั้งใจจะผลักดันวัลภาให้เป็นเมียน้อยท่านสมบัติ
วัลภาที่อยู่บนเวทีแอบปรายตาไปมองเชน แล้วพยักหน้าให้กันตามที่เตี๊ยมไว้จากนั้นก็ทั้งร้อง ทั้งเต้น ด้วยท่าทางยั่วยวนชวนมอง ทำเอาท่านสมบัติถึงกับต้องขยับตัวลุกขึ้นมองอย่างถูกใจ

น้ำค้างพยายามใช้เศษกระเบื้องเฉือนเชือกที่มัดมือ แต่พยายามแล้วเชือกก็ยังขาดไม่ได้เยอะ พอดีกับที่น้อยเดินเข้ามา น้ำค้างเลยต้องชะงักหยุดไว้ก่อน แล้วเล่นละครตบตาหลอกล่อ ทำทีอ้อนวอนให้น้อยสงสาร และบอกว่าสำนึกผิดแล้ว
“สำนึกผิด โอ๊ยตายแล้ว นี่ข้ากำลังฝันอยู่เหรอไงเนี่ย คนอย่างแกเนี่ยนะจะสำนึกผิด โธ่เอ้ย ข้ากินข้าว นะเว้ยนังน้ำค้าง ไม่ใช่กินหญ้า จะได้หลงเชื่อคำพูดของเอ็ง”
น้ำค้างชักโกรธแต่พยายามเก็บสีหน้า
“แต่ฉันพูดจริงๆนะ ถ้าพี่น้อยไม่เชื่อ ฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว”
น้ำค้างเริ่มปล่อยโฮ จนน้อยชักรำคาญ เลยเอาผ้ามาปั้นเป็นก้อนแล้วยัดปากน้ำค้าง แล้วก็เดินออกไป น้ำค้างสบโอกาส รีบใช้กระเบื้องในมือพยายามเฉือนเชือกที่มัดให้ขาด
ทางด้านจิกก็ยังคงก้มหน้าก้มตาซ่อมวิทยุสื่อสารสีหน้าตั้งอกตั้งใจ โดยมีแสนนั่งลุ้นอยู่ข้างๆ

วัลภาร้องเพลงจบ ก็โพสต์ท่าได้อย่างเซ็กซี่สวยงาม ท่านสมบัติติดอกติดใจ ปรบมือเสียงดัง แล้วเดิน ไปที่หน้าเวที พร้อมกับกวักมือเรียกให้ลูกน้องเอาพวงมาลัยติดแบงค์เข้ามา แล้วเตรียมจะคล้องที่คอของวัลภา แต่
เชนกลับพุ่งมารับพวงมาลัยไปเอง
“ขอบคุณมากครับท่าน พอดีว่าเมียผมมีกฏว่าจะไม่รับพวงมาลัยจนกว่าจะร้องเพลงเสร็จ ยังไงผัว ขอรับแทนไปก่อนนะครับ มีค่าเท่ากัน”
เชนยิ้มกวนๆ แล้วเอาพวงมาลัยมาสวมคอเอง ทำเอาท่านสมบัติถึงกับอึ้ง
“เมีย ? ”
ท่านสมบัติหน้าเสีย รีบเดินกลับมาที่โต๊ะ ปราบกับลำดวนชักสีหน้าไม่พอใจที่เชนทำแบบนั้น
ส่วนเชนหันไปพยักหน้ากับนักดนตรีให้เริ่มบรรเลงเพลงใหม่ซึ่งเป็นเพลงร้องคู่กับวัลภา

ชาตินั่งรออยู่ที่เคาเตอร์ ไอ้เชิดพาลูกน้องคนหนึ่งเข้ามา หลังจากช่วยกันออกตามหาน้ำค้างแต่ก็ยังไม่เจอร่องรอย
ชาติคิ้วขมวด พลางหันไปมองที่บนเวทีที่เชนกับวัลภากำลังร้องเพลงคู่กัน เพลิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล จากตรง เคาน์เตอร์เพื่อเฝ้าดูพวกชาติ เห็นพวกมันเริ่มสงสัยเชนก็เริ่มเป็นห่วง

ท่านสมบัติตะคอกใส่ลำดวน ด้วยท่าทางฉุนเฉียว
“ทำไมไม่บอกฉันว่าลูกสาวเธอแต่งงานมีผัวแล้ว”
ลำดวนตอบไม่ถูก กำนันปราบเลยช่วยตอบเอง
“มีผัวแล้วมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไรนี่ครับท่าน ผมว่าดีซะอีก เป็นงานเป็นการไม่ต้องมานั่งสอน ให้เสียอารมณ์ แล้วอีกอย่างรสนิยมของท่านก็แค่ขอให้ถูกใจเป็นพอ”
ท่านสมบัติรีบบอกว่าไม่ชอบใจท่าที่ยียวนของเชน ลำดวนจึงรีบเสริม
“ไม่ใช่แค่กำนันหรอกค่ะที่ไม่พอใจไอ้เชน”
“ไอ้เชน ไอ้หมอนี่น่ะเหรอที่ได้ยินกำนันพูดถึงอยู่ ตัวแสบของหมู่บ้าน”
ลำดวนพยักหน้า
“ค่ะท่าน ไอ้นี่มันกะล่อนเก่ง มันล่อลวงลูกสาวลำดวนให้ไปหลงคารมมัน ทำให้ลำดวนปวดหัว จนอยากจะบ้าตายวันละหลายๆหน ถ้าเป็นท่านช่วยดูแลวัลภาแทนไอ้จิ๊กะโล่อย่างไอ้เชนล่ะก็ แม่อย่างดิฉันก็นอน ตายตาหลับ”
ท่านสมบัติฟังลำดวนที่พูดเสนอวัลภาให้ ก็ยิ่งหันไปมองอย่างสนใจ

เพลิงเข้ามารอเชนกับวัลภาที่ข้างเวที พอทั้งคู่ลงมา ก็รีบบอกว่าเห็นชาติมีท่าทีสงสัยเรื่องน้ำค้างหายตัวไป ขณะนั้นเองลำดวนก็เดินเข้ามาตามวัลภาไปคุยด้วย เชนมองตามอย่างเป็นห่วง แต่พอจะเดินตามไป ชาติกับไอ้เชิดและพวกลูกน้องก็เข้ามาขวาง

เชนกับเพลิงถูกชาติกับไอ้เชิดผลักไหล่กระแทกกับผนังอย่างแรงๆ ก่อนจะปล่อยหมัดเข้าหน้าเชนจนเลือดซิบ เพลิงง้างหมัดจะเล่นงานชาติแต่เจอไอ้เชิดเอาปืนจ่อ
“บอกมาไอ้เชน เอ็งกับพวกกำลังคิดจะทำอะไร ถึงได้เอาตัวน้ำค้างไป”
เชนหัวเราะขำ
“เอ็งมาถามหาน้ำค้างกับข้าเนี่ยนะข้าได้ยินเขาพูดกันว่าน้ำค้างเป็นเมียเก็บเอ็ง แต่เอ็งมาถามหา เมียเก็บกับข้าแบบนี้ แสดงว่าเอ็งมันไม่มีน้ำยาสมราคาคุย ถ้าเอ็งเจ๋งจริง เอ็งก็คงไม่มากระชากคอผู้ชายอื่นถามหา เมียเก็บหรอก”
ชาติเจ็บใจ ปราดจะเข้ามาเล่นงานเชน แต่เชนกลับส่งสัญญาณบอกเพลิง ก่อนจะใช้ชั้นเชิงวิ่งหนีเอาตัวรอดออกไปได้ทั้งคู่
ไอ้ทอมรีบไล่ตามไปก่อน พร้อมๆ กับชาติกับไอ้เชิดก็รีบตามไปติดๆ

ในที่สุดน้ำค้างก็ตัดเชือกจนขาด แล้วรีบเอาผ้าที่อุดปากตัวเองออก พลางหันซ้ายหันขวา เห็นท่อเหล็ก อยู่ใกล้มือ ก็คว้าขึ้นมาแล้วยิ้มชั่วร้าย หมายจะไปจัดการกับน้อย

น้อยกำลังนั่งบนบานศาลกล่าวขอให้จิกซ่อมวิทยุได้เสร็จ น้ำค้างแอบย่องมาข้างหลังพร้อมกับ เงื้อท่อเหล็กขึ้นโดยที่น้อยไม่ทันสังเกต แต่พอจะฟาดเหล็กใส่ เท้าดันเหยียบเศษกระเบื้องทำให้น้อยได้ยินเสียง จึงรีบหันขวับ แล้วหลบได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบปราดเข้าไปกระชากท่อเหล็กออกจากมือน้ำค้างแล้วโยนทิ้งได้ ก่อนที่จะตบอย่างแรงจนน้ำค้างเซถลา แล้วยังตามไปกระชากผม ตบซ้ำอีกหลายฉาด
“นังอสรพิษ นังศิษย์คิดล้างครู คิดจะฆ่าฉันเลยเหรอ ฉันไม่ไว้เอาแกไว้แน่”
น้อยตบอย่างไม่ยั้งมือ จนน้ำค้างร้องโอดโอย ยกมือไหว้อ้อนวอนอย่างน่าเวทนา น้อยจึงหยุดลงมือ พลางจะพากลับเข้าไปในโรงนา แต่น้ำค้างกลับอาศัยทีเผลอ กำก้อนหินที่พื้นขึ้นมาแล้ว ฟาดผั๊วะไปที่หัวน้อยทันที น้อยเซถลาเลือดอาบหัว

วัลภาเดินตามลำดวนเข้ามา ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ลูกน้องของกำนันปราบยืนเฝ้าอยู่หลายคน ลำดวนมองหน้าวัลภาแล้วยิ้มเหี้ยม“ฉันปล่อยให้แกทำตัวไร้ประโยชน์มานานพอแล้ว มันก็ควรจะถึงเวลาที่แกจะทำประโยชน์ให้ฉันบ้าง” วัลภาพยายามจะสะบัดมือจะหนี แต่ลำดวนจับมือไว้แน่น ไม่ปล่อย แล้วยังมองไปที่พวกลูกน้องกำนันปราบที่ยืนรอบๆ วัลภาจำยอมต้องนิ่งไป ลำดวนยิ้มพอใจ ก่อนจะกระชากแขนพาวัลภาเข้าไปในบ้าน เนื้อทองเดินออกมามองตามสีหน้าเป็นห่วงวัลภา จนกระทั่งถูกลูกน้องชาติเข้ามาคว้าหมับที่แขน
“ให้ออกมาเข้าห้องน้ำไม่ใช่มาเดินเพ่นพ่าน กลับเข้าไปในห้อง”

เนื้อทองชะงักแล้วยอมเดินออกไปแต่สีหน้าครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา

ลำดวนพาวัลภาเข้ามามี่ห้องโถงขณะที่กำนันปราบกับท่านสมบัติรออยู่ วัลภาเห็นปั๊บ ก็นึกรู้ทันที ว่าจุดประสงค์ของแม่คืออะไร 
“แม่ นี่น่ะเหรอที่แม่จะทำกับฉัน”
“ท่านสมบติเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มีชื่อเสียงมีอำนาจ และเป็นหุ้นส่วนกับพี่ปราบ ท่านเห็นแกร้องเพลง แล้วชื่นชมแกมาก ฉันก็เลยอยากให้แกมารู้จักกับเขาเอาไว้”
“แต่ฉันมีผัวแล้ว”
วัลภาจะเดินออกไป แต่ถูกลูกน้องปราบมายืนขวางปิดตรงทางออก ท่านสมบัติรีบหันมาบอกลำดวน
“เด็กสาวๆ ก็อย่างนี้แหละ กำลังวังชาเหลือเฝือ แต่เดี๋ยวได้ออกแรงบ้างก็จะหยุดพยศเอง”
วัลภาหันขวับไปจ้องหน้าท่านสมบัติ ลำดวนและกำนันปราบสลับกัน
“คิดจะปราบพยศฉันเหรอไอ้แก่ เก็บแรงไว้ไปหาหมอรักษาโรคหื่นกามเถอะ”
พูดจบก็หยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาแล้วสาดใส่หน้าท่านสมบัติทันที กำนันปราบกับลำดวนถึงกับตกใจ

เชนกับเพลิงวิ่งหนีกันออกมาตามถนนลูกรัง เสียงปืนไล่ยิงตามมาติดๆ ทั้งคู่รีบวิ่งแยกไปคนละทาง ชาติพยักหน้าให้ไอ้ทอมตามไปทางเพลิง ส่วนมันกับไอ้เชิดวิ่งตามเชนไป
เพลิงกับไอ้ทอมปะทะหมัดกันแบบตัวต่อตัว ส่วนเชนก็สู้กับชาติกับไอ้เชิดในลักษณะ 2 รุม 1

วัลภาถูกกำนันปราบกระชากแขนเข้ามานั่งที่เก้าอี้ ในขณะที่ลำดวนเอาผ้ามาเช็ดหน้าให้ท่านสมบัติ กำนันปราบด่าวัลภา แต่กลับถูกโต้กลับอย่างไม่เกรงกลัว จนกำนันปราบโมโหจะเงื้อมือตบแต่ท่านสมบัติห้ามไว้ กำนันปราบรีบบอกว่าจะพาวัลภาไปหาท่านสมบติที่ห้อง วัลภาจิกหน้ามองตามท่านสมบัติที่เดินไปอย่างเจ็บใจ พร้อมกับพยายามจะแกะมือกำนันปราบ แต่กลับโดนวัลภาฟาดฝ่ามือใส่หน้าเต็มแรง
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยวัลภา ที่ยืนในผาปืนแตกของพวกไอ้เชน มันก็เป็นได้แค่ที่รองมือรองเท้าพวกฉันเท่านั้น ถ้าแกฉลาด แกก็ควรจะเลือกโอกาสที่ฉันหยิบยื่นให้แก”
วัลภางมองหน้าแม่อย่างเจ็บปวด กำนันปราบยิ้มพอใจ แล้วพยักหน้าให้ลูกน้องเข้ามาคุมตัวพาวัลภา ออกไปหาท่านสมบัติไปที่รอในห้อง

และแล้วจิกก็ใช้ความพยายามซ่อมวิทยุสื่อสารจนสำเร็จ พลางอาสาจะวิทยุไปบอกผู้พันของเชน ให้ยกกองทัพมาถล่มพวกกำนันปราบและลายเสือให้ราบคาบ แต่ปรากฎว่าจิกดันลืมคลื่นความถี่ เลยวิทยุออกไปไม่ได้ดังใจ แสนเลยบอกว่า
“งั้นเอางี้ ถ้าวิทยุเอ็งใช้ได้แล้ว ก็ติดต่อให้เจ้าหน้าที่จากในเมืองรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
แต่จิกกลับบอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้
“ก็ไอ้พวกนั้นมันมีนักการเมืองระดับชาติหนุนหลังอยู่ ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าวิทยุไปเจอพวกมันเข้า ก็ได้เน่า กันหมดน่ะสิวะ”
แสนถอนหายใจ
“หมายความว่าเราไว้ใจเจ้าหน้าที่อื่นไม่ได้เลยเหรอ”
“เออ ข้าว่าป่านนี้มันคงใช้ทองคำของพวกมันช่วยปิดปากพวกคอรัปชั่นไว้หมดแล้ว เราต้องรอให้ ไอ้เชนเป็นคนวิทยุไปหาผู้พันหัวหน้าเก่ามันเท่านั้น”

น้ำค้างวิ่งหนีเข้ามาบริเวณยุ้งเก็บข้าว แล้วพยามยามร้องให้คนช่วย น้อยตามเข้ามาจิกผมกระชาก อย่างสุดแรง แล้วทั้งคู่ก็เปิดฉากตบตีกันต่อ น้ำค้างดูจะได้เปรียบกว่า เพราะน้อยบาดเจ็บที่หัวอยู่ทำให้อ่อนแรงลงไป มาก น้ำค้างตบน้อยจนล้มแล้วรีบวิ่งไปที่รถบรรทุกหญ้าซึ่งมีกุญแจรถเสียบคาอยู่ น้อยพยายามลุกขึ้นมาอย่างเจ็บใจ
“นังน้ำค้าง ข้าจะไม่ปล่อยให้เอ็งทำลายแผนการของพวกข้าเด็ดขาด ตายเป็นตายวะ”
น้อยหันไปคว้ามีดพร้าที่เสียบอยู่ใกล้ๆขึ้นมา ในขณะที่น้ำค้างก็พยายามสตาร์รถ จนเครื่องรถติด จากนั้นก็หยียบคันเร่งแล้วพุ่งรถไปที่น้อยทันที
รถพุ่งเฉี่ยวน้อยจนล้มลงไปแน่นิ่งอยู่กับพื้น น้ำค้างเร่งความเร็วจนคุมรถไม่ได้ รถเลยพุ่งเข้าไปชน กำแพงที่ขวางทางอยู่ แรงกระแทกทำให้หัวน้ำค้างกระแทกกับพวงมาลัยจนแน่นิ่งไปด้วยอีกคน

เชนใช้ชั้นเชิงหมัดจัดการทั้งชาติ ทั้งไอ้เชิดจนหมอบ ก่อนจะหันไปมองทางที่เพลิงต้องรับมือกับ ไอ้ทอมอย่างเป็นห่วง แต่ครู่เดียว เพลิงก็สามารถจัดการกับไอ้ทอมจนมันหมดสติ
เพลิงกับเชนรีบประคองกันออกไปจากที่นั่นทันที

เนื้อทองพยายามหาทางช่วยวัลภาแต่ลูกน้องกำนันปราบเฝ้าอยู่ที่หน้าห้อง จึงแกล้งทำแจกันตกเสียงดัง ลูกน้องกำนันปราบตกใจรีบลุกแล้วเปิดประตูเข้าไปดู
เนื้อทองแกล้งนั่งกุมท้อง แล้วร้องโอดโอย หน้านิ่วด้วยความเจ็บปวด
“ช่วยฉันด้วย ฉันปวดท้อง ปวดจังเลย ช่วยไปเอากระเป๋ายามาให้หน่อย ฉันขอร้องล่ะ”
เนื้อทองร้องรวญครางจนน่าสงสาร ลูกน้องรับคำ แล้วรีบออกไป คล้อยหลังเนื้อทองก็กลับลุกขึ้นมา เป็นปกติ

วัลภาถูกลูกน้องปราบพาตัวมาที่หน้าห้องที่ท่านสมบัติรออยู่ข้างในโดยมีลำดวนประกบมาด้วย
“แกอย่าคิดทำอะไรโง่ๆ เด็ดขาดนะวัลภา ดูแลท่านให้ดีเพื่ออนาคตของแกเอง เพราะมีแต่ท่านคนเดียว เท่านั้น ที่จะพาแกไปให้พ้นจากผาปืนแตก”
วัลภาส่ายหน้า
“แต่ฉันไม่มีวันทิ้งเชน ไม่มีวันทิ้งผาปืนแตก”
“อยากโง่ดักดานอยู่ก็ตามใจ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้แกพ้นจากมือท่านได้ เข้าไปได้แล้ว”
ลำดวนสั่งลูกน้องให้เปิดประตู วัลภาชะงักอึ้ง
“ที่นี่พวกของกำนันอยู่เต็มไปหมด ถ้าแกคิดทำะไรที่ไม่เข้าท่า ผลที่ตามมามันจะไม่ตกที่แก แต่จะไป ตกที่พวกไอ้เชน จำไว้”

ลำดวนผลักลูกสาวให้เข้าไปในห้องแล้วให้ลูกน้องปิดประตู

วัลภาก้าวเข้ามาในห้องแล้วเจอท่านสมบัติในชุดคลุมหลวมๆนั่งรออยู่ที่เก้าอี้พร้อมแก้วไวน์ในมือ แล้วก็พูดจาแทะโลม พลางจ้องมองวัลภาด้วยสายตาหื่นกระหาย
วัลภาเหลือบไปที่มีดปอกผลไม้ซึ่งวางอยู่ในกระจาดใกล้ๆ เตียง ก็รีบพุ่งเข้าไปหยิบ แต่กลับถูกท่าน สมบัติยกปืนจ่อหน้า
“ไม่เอาน่า ฉันบอกแม่เธอแล้วว่า ฉันจะช่วยดัดสันดานลูกสาวให้ เพราะฉะนั้นฉันจะใช้ความเป็น ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ใครๆ ก็เคารพมาช่วยอบรมบ่มนิสัยให้เธอกลายเป็นเด็กดีเอง”
พูดพลางใช้ปืนตบหน้าวัลภาอย่างแรง
“ทิ้งมีดไปซะ ทิ้ง”
วัลภาเจ็บใจยอมทิ้งมีด ก่อนจะถูกท่านสมบัติชกเข้าที่ท้องน้อย จนตัวงอเซไปที่เตียง

เนื้อทองที่แอบเข้าซุ่มอยู่ห่างๆ เห็นลูกน้องของกำนันปราบยืนเฝ้าหน้าห้องที่วัลภาถูกพาตัวเข้าไป ข้างใน พยายามคิดหาทางช่วย จนมองไปที่ตะเกียงน้ำมัน ซึ่งใช้ตกแต่งเรียงรายอยู่ที่ชานเรือน จากนั้นก็หยิบมาหนึ่งอันแล้วโยนมันลงพื้นทำให้น้ำมันหกกระจายไฟลุกท่วมพื้นทันที
ควันจากตะเกียงโชยเข้ามา ลูกน้องปราบที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเห็นเข้าก็ตกใจ รีบเข้าไปพยายามดับไฟ
เนื้อทองใช้โอกาสนี้รีบวิ่งไปที่ประตูห้องทันที

ท่านสมบัติกำลังจู่โจมโถมใส่พร้อมกับจับวัลภากดลงกับเตียง ทันใดนั้นเนื้อทองก็เข้ามา แล้วคว้า แจกัน มาทุ่มใส่หัวทันที แจกันแตกละเอียด ท่านสมบัติทรุดฮวบลงไปแน่นิ่งบนเตียง วัลภาเห็นเนื้อทองเป็นคนมา ช่วย ก็ดีใจ
“รีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกมันมาเห็นฉันกับเธอเข้า”
วัลภาพยักหน้ารับแล้วรีบออกไปกับเนื้อทอง แต่แล้วก็นึกขึ้นได้
“เดี๋ยวก่อนเนื้อทอง ถ้าเธอมาช่วยพาฉันออกไปแบบนี้ พวกมันต้องรู้แน่ๆ ว่าเป็นฝีมือเธอ แล้วเธอจะ เดือดร้อน”
เนื้อทองส่ายหน้า “ช่างมันเถอะ ฉันไม่สนใจหรอก”
“ไม่ได้ เธอเสียสละมามากพอแล้ว เอาอย่างนี้ฉันมีวิธี”
วัลภาพูดพลางมองไปที่ท่านสมบัติแล้วยิ้มร้าย

กำนันปราบกำลังยืนสั่งการกับลูกน้องคนหนึ่งอยู่ พอหันมาก็เจอลูกน้องถือกระเป๋ายาเดินผ่านมา ลูกน้องรายงานว่าเนื้อทองปวดท้อง เลยเอายาไปให้ กำนันปราบถามต่ออย่างร้อนใจว่าแล้วใครเฝ้าอยู่
“เปล่าครับ ผมเห็นเนื้อทองปวดมากก็เลยรีบออกมา”
กำนันปราบฟังลูกน้องแล้วรู้สึกสังหรณ์ใจ รีบเดินไปทางห้องเนื้อทองทันที

กำนันปราบเปิดประตูเข้ามาอย่างแรง พร้อมกวาดสายตามองในห้อง ก่อนจะตรงไปที่เตียง แล้วดึง ผ้าห่มออก เนื้อทองนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม มือกุมท้องร้องครวญคราง
“กำนัน ยาล่ะ ยาแก้ปวดท้องอยู่ไหน ฉันปวดท้องเหลือเกิน โอ้ย”
“เธอนอนปวดท้องในห้องนี้ตลอดเลยเหรอเนื้อทอง”
“ใช่สิจ๊ะกำนัน. ฉันปวดท้องแบบนี้ แล้วจะมีแรงลุกไปไหนได้”
กำนันปราบนิ่งมองเนื้อทองด้วยสายตาสงสัย ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้เอายาให้เนื้อทอง พร้อมกับที่ลำดวนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“พี่ปราบ แย่แล้วจ้ะ ท่านสมบัติหายตัวไป วัลภาก็ไม่อยู่ด้วย”
“เป็นไปได้ยังไง คนของเราอยู่กันเต็มไปบ้าน ฝีมือเธอใช่มั้ย เนื้อทอง”
กำนันปราบจะเข้าไปเอาเรื่อง แต่ลำดวนรีบทัก
“ไม่ใช่เนื้อทองหรอกจ้ะพี่ ฝีมือของนางสิงห์ มันเขียนจดหมายทิ้งเอาไว้ นี่ไงจ๊ะ”
ลำดวนรีบยื่นกระดาษที่วัลภาเขียนทิ้งไว้ในห้อง ให้กำนันปราบดู
“ถ้าอยากได้ตัวไอ้แก่ตัณหากลับนี่กลับไปล่ะก็ พวกแกคงต้องเหนื่อยหน่อย ลงชื่อ....นางสิงห์”

กำนันปราบขยำกระดาษด้วยความเจ็บใจ ส่วนเนื้อทองแอบยิ้มพอใจ

เชนกับเพลิงพากันกลับเข้ามาในอู่ร้าง ด้วยสภาพที่สะบักสะบอมทั้งคู่ จิกกับแสน ที่รออยู่รีบเข้ามาประคอง ก่อนจะรายงานผลว่าซ่อมวิทยุสื่อสารสำเร็จเรียบร้อยแล้ว
“ขอบใจมากนะน้า ถ้าวิทยุใช้ได้แล้วเราจะติดต่อไปเมื่อไหร่ก็ได้ ยังไงที่นี่ก็เป็นฐานลับของพวกเรา แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงวัลภา”
เชนพูดอย่างเป็นกังวล
“นั่นสิ ไม่รู้ว่าน้าลำดวนพาวัลภาไปไหน”
แสนรีบบอกว่าน้อยเองก็หายตัวไปเหมือนกัน ทั้ง 4 คน หันมามองหน้ากัน ด้วยความเป็นห่วง
ทั้งวัลภาและน้อย

วัลภาจัดการมัดท่านสมบัติที่ยังหมดสติผูกติดกับเสาเล้าเป็ดไก่แล้วจับถอดเสื้อออก เอาถุงดำคลุมหัว ในนสภาพที่มองแล้วน่าสมเพช
“แกโชคดีมากนะไอ้แก่ตัณหากลับ ที่ฉันกล้าเลวได้ที่สุดก็เท่านี้ ไม่งั้นล่ะก็ฉันจะสั่งสอนให้แกผวา ผู้หญิงอย่างฉันไปตลอดชีวิตเลย”
พูดเสร็จวัลภาก็เอาแกลบและอาหารเป็ดไก่ออกมาเทลงไปที่หว่างขาของท่านสมบัติ จากนั้นก็เดินไป
เปิดกรงเป็ดไก่ให้ออกมาเดินเพ่นพ่านเข้าไปกินอาหารที่หว่างขาด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ

น้ำค้างซึ่งแน่นิ่งอยู่หลังพวงมาลัยรถบรรทุก เริ่มรู้สึกตัวขึ้มา พลางค่อยๆ เปิดประตูลงมาในสภาพ โงนเงน จากนั้นก็เดินไปที่บริเวณซึ่งคิดว่าขับรถชนน้อยไปแล้ว แต่เมื่อไปถึงกลับไม่เจอร่างของน้อยอยู่แถวนั้น
น้ำค้างกวาดตามองหาอยู่ครู่ก็เห็นรอยเลือดที่พื้นหยดเป็นทางไปในความมืดข้างหน้า พร้อมกับมอง เห็นมีดตัดหญ้าเหน็บอยู่ข้างเสา

น้อยค่อยๆ คลานกระเสือกกระสนมาตามพื้นในสภาพบาดเจ็บจนน่าเวทนา เพราะขาหักข้างหนึ่ง เนื้อตัวก็มอมแมม วัลภาที่เดินออกมาจากเล้า มองผ่านรั้วลวดเหล็กเห็นเข้าก็ตกใจ แล้วรีบวิ่งไปหาทันที
“เกิดอะไรขึ้นจ๊ะน้า ใครทำกับน้าแบบนี้”
“นังน้ำค้าง”
“อดทนไว้นะจ๊ะน้า ฉันจะปีนไปช่วยน้าเดี๋ยวนี้”
วัลภาพยายามจะปีนข้ามรั้วลวดเหล็ก แต่จังหวะนั้นเองน้ำค้างโผล่เข้ามาพร้อมกับมีดดายหญ้า
“หยุดเลยนะนังวัลภา ถ้าแกเข้ามาล่ะก็ ฉันจะช่วยให้นังน้อยหายเจ็บปวดทรมานเดี๋ยวนี้แหละ”
วัลภาขอร้องให้น้ำค้างปล่อย แต่น้ำค้างกลับพูดทวงบุญคุณ น้อยรีบหันไปบอกวัลภา
“วัลภา ไม่ต้องไปเจรจากับมัน ไม่ต้องห่วงน้าด้วย ถ้าไอ้จิกซ่อมวิทยุเสร็จ ก็บอกให้ไอ้เชนตามกองทัพ มาถล่มพวกมันให้ราบคาบไปเลย”
พูดจบ น้อยก็ถูกน้ำค้างทุบเข้าที่หลัง จนแน่นิ่งหมดสติ วัลภาร้องอย่างตกใจ
“น้ำค้าง เธออยากจะให้ฉันทำอะไร บอกฉันมาเลย ฉันขอแลกทุกอย่างกับชีวิตน้าน้อย”
น้ำค้างจิกหน้ามองวัลภาแล้วคิดก่อนจะยิ้มออกมาอย่างผู้มีชัย

เชนกับเพลิงกลับเข้ามาเจอกับจิกกับแสนที่กลับเข้ามาด้วยเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างก็บอกว่าหาทั้งวัลภาและน้อยไม่เจอ
“หรือว่าวัลภาจะถูกพวกมันเล่นงานไปแล้ว”
แสนคาดคะเน เชนรีบบอก
“ไม่ใช่หรอกน้า เมื่อกี้ที่ออกไปตามวัลภา ได้ยินพวกลูกน้องของกำนันคุยกันระหว่างที่กำลังตามหา ตัวท่านสมบัติ ได้ยินว่าท่านสมบัติถูกนางสิงห์เล่นงานแล้วลักพาตัวหายไป”
ทันใดนั้นเสียงวัลภาก็ดังเข้ามา
“ฉันมาแล้วจ้ะเชน”
วัลภาเดินเข้ามา พลางพยายามยิ้มกลบเกลื่อน ทำสีหน้าเป็นปกติ แล้วอาศัยจังหวะเดินไปหยุดอยู่ที่วิทยุสื่อสาร และเมื่อรู้ว่าทุกคนกำลังตามหาน้อยอยู่ ก็รีบบอกว่าเธอเจอน้อยแล้ว “เจอมาแล้วเหรอ แล้วนังน้อยมันเอาตัวน้ำค้างไปไว้ที่ไหน”
วัลภาหน้านิ่งมองแสน ด้วยแววตาที่เจ็บปวดแต่พยายามกลบเกลื่อน พลางย้อนนึกถึงข้อแลกเปลี่ยนของน้ำค้าง ที่จะให้เธอทำลายวิทยุสื่อสาร วัลภานิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจ
“ก็ได้ ฉันยอมทำตามที่เธอสั่ง แต่เราต้องมีเงื่อนไขตกลงกัน ฉันจะทำลายวิทยุเครื่องนั้นไม่ให้เชน ตามกองทัพมาช่วย ส่วนเธอก็ห้ามบอกเรื่องนี้ให้พวกไอ้ชาติรู้เหมือนกัน ตกลงรึเปล่า”
น้ำค้างพยักหน้ายอมรับเงื่อนไข
“ถ้าแกขโมยวิทยุนั่นมาได้ ก็ค่อยมาเอานังน้อยไป รีบไปได้แล้ววัลภา ถ้าแกช้า เชนวิทยุไปขอกำลัง ทหารมาที่นี่ นังน้อยได้ตายคามือฉันแน่ๆ ไปสิ”

วัลภาจำต้องถอยออกมาจากรั้วลวดเหล็กมองน้าน้อยที่หมดสติด้วยแววตาเสียใจ

เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 18 (ต่อ)

วัลภาหลบตาทุกคนที่ถามอย่างอยากรู้ว่าน้อยอยู่ไหน แล้วรีบหันหลังให้
“น้าน้อยปลอดภัยดี แต่เพราะน้ำค้างรู้ตัวแล้วและขู่ว่าจะเล่นงานพวกเราทุกคน น้าน้อยก็เลยจำเป็น ต้องขังน้ำค้างเอาไว้ แล้วสั่งให้ฉันมาบอกทุกคนว่าไม่ต้องห่วง”
แสนขันอาสาจะไปช่วยน้อยช่วยควบคุมน้ำค้าง แต่วัลบภารีบอ้างว่าน้อยไม่อยากให้คนอื่นไปช่วย เพราะเดี๋ยวจะผิดสังเกต ถ้าพวกชาติเห็นพวกผู้ชายไม่ไปทำงานที่เหมือง
จิกพยักหน้าเห็นด้วยกับที่วัลภาพูด เพลิงรีบตัดบท
“งั้นถ้าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว พี่ว่าเอ็งควรจะวิทยุไปบอกผู้พันให้ยกกองทัพมาช่วยเราได้แล้ว”
เชนพยักหน้ารับ
“ได้เลยพี่บึ้ก ถ้าผู้พันรู้เรื่องเขาต้องยกกำลังมาช่วยเราแน่ คงใช้เวลา 2-3 วัน ระหว่างนี้พวกเราก็ ใช้ อาวุธที่ซ่องสุมเอาไว้คอยเล่นงานเก็บพวกมันให้น้อยลง”
เชนกำลังเดินไปที่วิทยุสื่อสาร วัลภาหน้านิ่วครุ่นคิด ก่อนจะร้องขึ้นมา พร้อมกับเอามือกุมท้องทำเอา ทุกคนตกใจโดยเฉพาะเชน
“เป็นอะไรไปวัลภา”
วัลภาแกล้งส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ เจ็บจังเลยเชน”
จิกรีบบอกให้เชนพาวัลภาไปพัก แล้วค่อยวิทยุพรุ่งนี้ ส่วนเพลิงก็อาสาจะไปตามเอื้อมเดือนมาดูอาการ
เชนช่วยประครองพาวัลภา ที่เหลือบมองไปที่เครื่องส่งวิทยุสื่อสารด้วยแววตาเคร่งเครียด

ชาตินั่งหน้าเครียดอยู่ในบาร์ เมื่อได้รับรายงานจากไอ้เชิดว่านางสิงห์บุกไป ที่บ้านแล้วลักพาตัวท่าน สมบัติไป จังหวะนั้นเองน้ำค้างก็โผล่เข้ามา พร้อมกับรีบแก้ตัวว่าไปดูเด็กสาวๆ ที่จะพามาเป็นผีเสื้อราตรี ชาติโวยวายทันที
“แต่เธอเป็นเมียเก็บของฉัน เวลาฉันอยากเจอเธอ เธอก็ต้องรีบมาหาฉัน ไม่ใช่ปล่อยให้ฉันเสียเวลา ตามหาแล้วนั่งรอ คืนนี้ฉันจะไม่กลับบ้าน ไปเจอกันที่เดิม”
“จ้ะ คืนนี้ฉันจะปรนเปรอเธอให้หายอารมณ์เสียเอง”
ชาติเดินออกไป ตามหลังด้วยไอ้เชิด น้ำค้างมองตามแล้วยิ้มชอบใจ
“รอให้นังวัลภาทำตามที่ฉันสั่งมันสำเร็จเมื่อไหร่ เธอจะต้องภูมิใจในผลงานฉันแล้วเลื่อนให้ฉันเป็น เมียหลวงเธอแน่”

วัลภานอนอยู่บนเตียง เอื้อมเดือนตรวจดูอาการแล้วก็ทำหน้าสงสัย พลอยให้เชนกับเพลิงที่อยู่ข้างๆ สงสัยไปด้วย
“ตรวจดูแล้วยังไม่รู้สาเหตุอีกเหรอครับคุณหมอ”
“เท่าที่ตรวจภายนอกดูก็ปกติทุกอย่าง เลยยังวินิจฉัยไม่ถูกจ้ะเชน”
วัลภารีบแก้ตัว
“สงสัยว่าวัลภาจะสู้กับพวกมันแล้วถูกพวกมันเล่นงานมาเลยช้ำในก็ได้มั้งคะคุณหมอ อู้ย พูดถึง ก็เจ็บอีก งั้นวัลภาขอยาจากคุณหมอเอาไว้แล้วกันนะคะ แล้วค่อยให้เชนดูแล จะได้ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณหมอ”
เอื้อมเดือนหันไปที่เชน
“งั้นเดี๋ยวฉันทิ้งยาแก้ปวดไว้ให้นะจ๊ะเชน”

เชนขอบคุณเอื้อมเดือนแล้วมองไปที่วัลภาอย่างเป็นห่วง

เชนเดินออกมาส่งเพลิงกับเอื้อมเดือน พอหันกลับไป ก็เห็นวัลภาเดินออกมา เชนรีบเข้าไปช่วยประคองพาไปนั่งที่ศาลา
“หายเจ็บแล้วเหรอถึงได้อยากออกมานั่งข้างนอก รู้มั้ยว่าฉันห่วงเธอมากแค่ไหน”
วัลภายิ้มขำ แล้วก็แกล้งพูดยั่วเชนอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็วิ่งขึ้นบันไดมาบนระเบียง แต่เจอเชนที่ปีน ระเบียงเข้ามายืนขวางดักหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ พลางเข้าล็อกกอดแน่นจากข้างหลัง ใบหน้าของเชนซุกอยู่ที่ซอกคอวัลภา
“ไม่เอา พอแล้ว มันจั๊กจี๋นะไอ้บ้าเชน บอกให้พอ”
“ฉันไม่หยุดหรอกจนกว่าเธอจะบอกว่ายอมแพ้ แล้วกลับเข้าไปนอนพักดีๆ”
วัลภายิ้มอย่างน่าเอ็นดู
“หยุด ยอมแพ้แล้ว แต่ฉันไม่อยากนอนพักคนเดียว ฉันอยากให้เธอนอนกอดฉันด้วย”
พูดพลางเดินไปที่ประตูห้องแล้วหันมายิ้มสดใสน่ารัก
“ไม่รีบตามเข้ามา ล็อกห้องจริงๆ นะ”
เชนยืนอึ้งตะลึงไม่หาย พลางเอามือตบหน้าตัวเองทวนสติ
“ไม่ได้ฝันไปจริงๆ ด้วย”

เชนเดินตามเข้ามาแล้วก็เจอวัลภาปล่อยผมให้สยายออก ปลดกระดุมเสื้อหนึ่งเม็ด นั่งรออยู่บนเตียง พลางเอียงหน้าหันมาทางเชนอย่างดูเซ็กซี่
เชนยืนอึ้งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปกอดวัลภาเอาไว้อย่างทะนุถนอม วัลภานิ่งหันหลังให้เชน สีหน้าสลดลงไปวูบหนึ่ง แววตาเศร้าจนน้ำตารื้น เพราะความลับที่ต้องทนแบกรับเอาไว้
“วันนี้ควรจะเป็นวันที่ฉันจะได้ทำหน้าทีเมียให้เธออย่างสมบูรณ์”
“แต่ฉันยังไม่ได้วิทยุไปบอกผู้พันเลยนะวัลภา”
วัลภาน้ำตาไหลแล้วหันกลับมา พร้อมใช้มือแตะริมฝีปากเชนไม่ให้พูดอะไรต่อ
“มันถึงเวลาแล้วล่ะเชน”
“ถ้าเธอคิดว่าถึงเวลาแล้ว แล้วทำไมเธอร้องไห้”
เชนอดแปลกใจไมได้ วัลภาต้องรีบแก้ตัว
“มันเป็นน้ำตาของความดีใจน่ะเชน ฉันดีใจที่ฉันจะทำให้คนที่ฉันรักมีความสุข”
วัลภารีบจับหน้าเชนมาจูบ เพื่อไม่ให้เชนสงสัยอะไรมากไปกว่านี้ ก่อนจะผละออกมาแล้วบอกเชนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันขอโทษนะเชน ฉันอยากให้เธอรู้นะว่า ฉันรักเธอจริงๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ สิ่งที่ฉันทำ ทุกอย่าง ล้วนเกิดมาจากความรักเธอ”
“เธอพูดเหมือนกับว่าพรุ่งนี้จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นอย่างนั้นแหละวัลภา”
วัลภาส่ายหน้าช้าๆ“ไม่มีอะไรหรอกเชน ฉันก็แค่พูดเพื่อให้เธอรู้ว่า ฉันรักเธอหมดทั้งหัวใจของฉันจริงๆ”
“ฉันรู้แล้วล่ะวัลภา ฉันเองก็รักเธอหมดทั้งหัวใจของฉันเหมือนกัน”
เชนกับวัลภานิ่งสบตากันอย่างซาบซึ้ง ใบหน้าของทั้งสองเคลื่อนเข้าหากันแล้วจูบกันอย่างดูดดื่ม มือของทั้งคู่กุมกันอย่างแนบแน่น
เสื้อผ้าของทั้งคู่ถูกถอดลงมากองที่พื้น

เพลิงเดินมาส่งเอื้อมเดือน แล้วคุยกันมาตามทาง จู่ๆ เดื้อมเดือนก็ร้องไห้ เพลิงหันมาเห็นก็ตกใจ“คุณหมอ คุณหมอร้องไห้ ทำไมครับ”
เอื้อมเดือนรีบปฎิเสธ
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ฝุ่นมันคงเข้าตาฉันน่ะ เธอส่งฉันแค่นี้พอแล้วล่ะเพลิง ขอบใจมากนะ”
เอื้อมเดือนรีบเดินเข้าไปในบ้าน เพลิงมองตามอย่างแปลกใจ แต่พอกำลังจะเดินตามไปถาม ผู้กองสมานที่เดินออกมาจากอีกด้านห้ามไว้
“ ดึกแล้ว น้องสาวฉันอยากพักผ่อน”
เพลิงขอโทษแล้วรีบเดินออกไป ผู้กองสมานก้าวออกมามองตามเพลิงสีหน้าครุ่นคิด

เอื้อมเดือนเข้ามาในบ้านพัก พลางนั่งลูบท้องแล้วร้องห่มร้องไห้พูดกับลูกน้อยในท้อง
“ลูกจ๋า แม่ขอโทษนะ แม่อยากให้หนูได้เกิดมามีครอบครัวที่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่ว่าแม่ไม่อยาก ทำให้พ่อเขาต้องลำบากใจ เพราะมีแม่เป็นตัวถ่วงความตั้งใจเขา แม่ขอโทษ”

ผู้กองสมานเดินเข้ามายืนมองน้องสาวที่กำลังนั่งร้องไห้เสียใจ ด้วยความรู้สึกสงสาร

เช้าวันใหม่ เสียงของท่านสมบัติร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวาดดังออกมา กำนันปราบกับลำดวน เดินเข้ามาที่หน้าประตู เจอสาวผีเสื้อราตรีถูกไล่ตะเพิดออกมา พร้อมกับรีบรายงาน
“คุณลำดวนสั่งให้พวกเราช่วยทำแผลที่ท่านโดนเป็ดไก่จิกน้องชายของท่าน แต่ท่านไม่พอใจ หาว่า พวกเรายิ่งทำให้ท่านเจ็บ ท่านก็เลยไล่ตะเพิดออกมาค่ะ”
กำนันปราบไล่สาวๆ ผีเสื้อราตรีออกไป แล้วหันมาสีหน้าหงุดหงิด ลำดวนอาสาจะเข้าไปคุยให้ แต่ไม่ทันจะเดินเข้าไปในห้อง ท่านสมบัติก็เดินออกมาพร้อมกับลูกน้อง
“ฉันไม่ต้องการจะคุยอะไรทั้งนั้นแล้วลำดวน ฉันจะกลับกรุงเทพฯแล้ว ส่วนเรื่องลูกสาวของเธอ ฉันไม่ให้จบลงที่ อู้ย..ไม่ให้จบลงแบบนี้แน่”
กำนันปราบกับลำดวน หันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าหนักใจ

อีกมุมหนึ่งของบ้านฟ้าลั่นเข้ามาพูดกับกำนันปราบและลายเสือ ที่นั่งหน้าครุ่นคิด
“เห็นมั้ยล่ะ ฉันก็บอกตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าไม่จำเป็นเลยที่จะต้องไปจ้างหุ่นมาเชิด ทั้งๆที่พวกเรานี่แหละ แค่ออกโรงให้มันดุๆหน่อย ขี้คร้านจะกลัวเราจนหงอกันทั้งเมือง”
ลายเสือหันมาตวาด พร้อมบอกว่ายังไงก็ไม่เห็นด้วย ส่วนกำนันปราบนั้น เห็นด้วยกับลายเสือ “พ่อเอ็งพูดถูกแล้วฟ้าลั่น เอ็งจะให้ข้าเอาทองคำในเหมืองไปจ้างกองทัพต่างชาติมาปูทางให้ข้ากับ พ่อเอ็งขึ้นเป็นใหญ่ คิดยังไงมันก็ไม่คุ้มเท่ากับเสียนิดเดียวแต่เชิดหุ่นให้มันอยู่ใต้ฝ่าเท้าเราได้นานๆ”
ฟ้าลั่นไม่ค่อยพอใจ แต่ก็จำต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้

ลำดวนพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ช่วยพูดดับความโกรธท่านสมบัติ
“ช่วยเหรอ ? ช่วยอะไร ขนาดไอ้เสือนางสิงห์โจรกระจอกอย่างพวกมันยังตบตาผัวเธอ จนกลายเป็น ไอ้โง่ ปล่อยให้มันบุกเข้ามาเล่นงานชั้นถึงที่นี่ได้ แล้วมันจะมีปัญญาทำอะไรอีก”
พูดพลางหันไปสั่งลูกน้องให้ไปลากตัววัลภามา กำนันปราบที่เข้ามาพอดี รีบห้ามไว้
“เรื่องวัลภาฉันจะจัดการเอง พวกแกพาท่านไปพักที่ห้องก่อน”
ลูกน้องของท่านสมบัตินิ่งไป
“ไอ้ปราบ นี่แกกล้าสั่งลูกน้องของฉันเหรอ”
กำนันปราบยิ้มมุมปาก อย่างเหนือกว่า
“แล้วทำไมผมจะไม่กล้าสั่งล่ะครับท่าน ก็ในเมื่อผมเป็นคนจ่ายค่าจ้างพวกมันเอง ใช่มั้ย”
กำนันปราบยิ้มร้ายแล้วโยนก้อนแร่ทองคำให้ลูกน้องของท่านสมบัติ พวกมันรับไปแล้วก้มหัวให้ ท่าน สมบัติถึงกับอึ้ง
“ผมว่าถึงเวลาที่ผมควรจะพูดความจริงกับท่านซะที เพราะผมจะไม่ยอมให้ไอ้แก่ที่เก่งแต่น้ำลาย แตกฟองอย่างท่านมาดูถูกพวกผมอีกแล้ว”
พูดพร้อมกับกระชากคอเสื้อ แล้วตะคอกใส่หน้า “อย่าคิดว่าการที่ผมชวนท่านให้มาร่วมมือสร้างชาติขึ้นมาใหม่จะเป็นการง้อท่าน เพราะถ้าผมเลือก สนับสนุนพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามท่าน ผลจะออกมาเป็นยังไงท่านคงจะรู้ดี”
ลำดวนรีบพูดเสริม
“ถ้าดิฉันเป็นท่าน ดิฉันจะเชื่อตามที่สามีดิฉันบอก เขาเป็นคนเอาจริงนะคะท่าน ถ้าพรรคฝั่งตรงข้าม ท่านเลือกทางเรา ครอบครัวท่านจะไม่มีแผ่นดินอยู่แน่นอน”
ท่านสมบัติแสยะยิ้ม “ฉันไม่กลัวหรอกเว้ย ก็แค่ไอ้คำขู่”
“งั้นท่านจะลองดูมั้ยล่ะ ท่านก็เห็นว่าทองคำในเหมืองผม ซื้อได้แม้แต่คนใกล้ชิดของท่าน แล้วกับพรรค ตรงข้ามที่อยากได้คนหนุนหลัง และอยากฆ่าท่าน ทำไมเขาจะไม่ดีใจถ้าได้เห็นทองคำของผม”
ท่านสมบัติเริ่มเครียด กำนันปราบพยักหน้าให้ลูกน้องของท่านสมบัติเข้าไปจับแขนพร้อมลากกลับ เข้าไปในห้อง
“ตอนนี้ถ้าผมสั่งให้ท่านอยู่เฉยๆ ท่านก็ต้องอยู่เฉยๆ ส่วนเรื่องวัลภา ผมจะจัดการให้เอง ได้ตัวมา เมื่อไหร่ วัลภาจะเป็นรางวัลปลอบใจที่ท่านจะได้ตัวกลับไปด้วย”
เชนหลับมีความสุขอยู่บนเตียง วัลภานั่งอยู่ข้างๆ มองดูเชนด้วยแววตาเศร้าๆ พลางใช้มือค่อยๆ ลูบไล้ ใบหน้าของชายคนรัก น้ำตาเธอคลอๆ ก่อนจะลุกเดินออกไป แต่เชนที่ตื่นขึ้นมาก่อน ถามว่าจะไปไหน วัลภารีบอ้างว่าจะไปเตรียมอาหาร
เชนลุกจากที่นอนแล้วเข้ามาสวมกอดหอมแก้มวัลภาเบาๆ
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมให้เธอเอง ฉันอยากจะดูแลเมียจ๋าของฉันบ้าง นะ รอแป๊บนึง”

เชนหอมแก้มวัลภาแล้วเดินออกไป วัลภามองตามสีหน้าครุ่นคิด

พวกชาวบ้านถูกพามารวมกันที่ลานหมู่บ้าน ก่อนจะไปทำงานเหมืองเหมือนทุกวัน เพลิงกับแสนเดินเข้ามาพร้อมกัน
“ไอ้ยอดกับน้าจิกพร้อมแล้วใช่มั้ย”
แสนพยักหน้ารับ “พวกมันพร้อมแล้ว”
ไอ้คมโผล่เข้ามา ก็หาเรื่องทันที
“ไอ้เพลิง แล้วพวกเอ็งคนอื่นๆหายไปไหน ทำไมยังไม่มาทำงาน”
“กำลังมา”
ไอ้เชิดเข้ามาสมทบ
“กำลังมาหรือคิดจะหนี เพราะเมื่อคืนนี้ไอ้เชนเล่นงานพี่ชาติไปหนัก มันก็เลยกลัวจะโดนพี่ชาติ ใช้ ทำงานเหมืองจนไม่กล้าโผล่มาใช่มั้ย”
เพลิงไม่ตอบโต้ ระหว่างนั้นเสียงปืนดังรัวขึ้นมา ไอ้เชิด ไอ้คมและพวกลูกน้องพากันตกใจ หาต้นตอ ของเสียงปืนกันจ้าละหวั่น
ยอดบิดมอเตอร์ไซค์เข้ามาในคราบของจอมโจรไอ้เสือสวมหมวกคาวบอย มีผ้าคาดหน้า
“ข้าจอมโจรไอ้เสือกลับมาแล้ว พวกเอ็งอยากรู้ว่าข้าเป็นผีหรือคนก็ตามมาเว้ย”
ยอดหัวเราะเสียงดังแล้วกราดยิงไปทั่ว แล้วบึ่งมอเตอรืไซค์ออกไป
ไอ้เชิดหันไปสั่งลูกน้องให้ตามล่า แล้วก็พากันรีบขึ้นรถจี๊ปขับไล่ตามไปทันที
เพลิงยิ้มที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน“หวังว่าเชนคงจะใช้โอกาสนี้วิทยุบอกให้ผู้พัน ส่งกองกำลังมาช่วยเรา”

ยอดที่ปลอมตัวเป็นจอมโจรไอ้เสือ บิดมอเตอร์ไซค์หนีการไล่ล่าของพวกไอ้เชิดกับไอ้คม ที่ระดมยิง ไม่หยุด จากนั้นก็บิดมอเตอร์ไซค์ผ่านแนวป่าข้างทางที่จิกแอบซุ่มอยู่ ยอดหยุดรถแล้วหันมาพยักหน้ากับจิกก่อนจะ บิดมอเตอร์ไซค์หนีไปอีกทาง
พวกไอ้เชิดขับรถจี๊ปไล่ตาม เลยเจอกับดักระเบิดที่จิกวางเอาไว้ แล้วกดปุ่มทันทีที่พวกมันเข้ามาใกล้ เสียงตูมดังสนั่น ฝุ่นควันตลบ พวกไอ้เชิดเสียศูนย์ไป ลูกน้องโดนแรงระเบิดกระเด็นตกรถไป

วัลภาเดินไปเดินมาสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตรงใต้ถุนบ้าน ระหว่างนั้นเสียงน้ำค้างก็ดังขึ้น
“ยังมัวมาพิรี้พิไรคิดตัดสินใจอะไรอยู่อีกล่ะวัลภา”
วัลภาหันไปทางน้ำค้างที่แอบซุ่มเข้ามาเงียบๆไม่ให้เชนเห็น แล้วก็เริ่มอึกอัก
“หยุดเลย ถ้าคิดจะเปลี่ยนใจล่ะก็ ฉันจะบอกให้นะ อาการของนังน้อยตอนนี้มียมบาลมารอรับตัว มันไปอยู่กับครูด้วยแล้ว ถ้าแกชักช้าพามันไปหาหมอไม่ทันล่ะก็ แกนั่นแหละที่ฆ่าพวกเดียวกัน รีบๆลงมือซะวัลภา แล้วถ้าเชนรู้เรื่องนี้ล่ะก็ ทุกอย่างที่ตกลงกันไว้ .ถือว่าจบ”
น้ำค้างข่มขู่วัลภาแล้วรีบออกไป คลาดกับเชนที่เดินเข้ามานิดเดียว
“ตอนนี้พวกพี่เพลิงคงจะหาเรื่องดึงความสนใจไม่ให้พวกมันสงสัยว่าทำไมฉันไม่ไปทำงานที่เหมือง โอกาสดีที่ฉันจะวิทยุไปขอกำลังช่วยเหลือจากผู้พันมาแล้ว เธอจะไปกับฉันด้วยกันมั้ย”

วัลภาพยักหน้ารับคำ
 
จบตอนที่ 18
กำลังโหลดความคิดเห็น