xs
xsm
sm
md
lg

ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 13

วิวิทธิ์กับอิงฟ้า นั่งสอบสวนปุ๊ เป้า และปิ๋มอยู่ในศาลาวาดรูป คุณหญิงอรชร และป้าแมวนั่งอยู่ที่โซฟา ทั้งสามคนเล่าว่าแก๊งลักเด็กเป็นฝีมือของพวกสุดหล่อ คุณหญิงอรชรรีบบอกว่าให้แจ้งตำรวจจับ แต่อิงฟ้าไม่เห็นด้วย

“ไม่ได้ค่ะแม่ มันขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจ ไม่งั้นมันฆ่าเด็ก”
วิวิทธิ์หันมาบอก
“ผมจะตามสืบพวกมันเอง ปุ๊ เป้า ไปที่วัดขวัญกับฉันเดี๋ยวนี้เลย”
ทั้งสามคนกำลังจะออกจากศาลา แต่ทันใดนั้นเสียงมือถือของอิงฟ้าดังขึ้น หน้าจอไม่แสดงเลขหมาย
อิงฟ้าลังเล วิวิทธิ์เข้ามาดู พยักหน้าให้รับสาย
“ใครน่ะ”
“ผู้ปกครองเด็กตอนนี้ไง” ศักดิ์สิทธิ์ตอบกลับมาทางปลายสาย
อิงฟ้าตกใจ “ แกพาลูกฉันไปไว้ที่ไหน”
วิวิทธิ์เข้ามาฟังด้วยทันที คุณหญิงอรชรและป้าแมวตกใจ จับมือกัน ปุ๊กับเป้ามองหน้ากัน
“เด็กๆ ปลอดภัยดี รอแม่มันมารับกลับ”
ปลายสายพูดอยู่ในบ้านต่างจังหวัดเก่าๆ อยู่ในไร่ร้าง เด็กทั้งสามนั่งหน้าซีดเซียวด้วยความหวาดกลัว
ดำรง สุดหล่อ และเน นั่งประกบ
วิวิทธิ์คว้าสายมาพูดเอง อิงฟ้าแนบหูฟัง
“แกต้องการอะไร”
“เงินยี่สิบล้าน เงินสดเท่านั้น”
“หา เงินสดยี่สิบล้าน”
คุณหญิงอรชร อิงฟ้า ป้าแมว ตกใจ
“เงินแค่นี้ไม่ลำบากพวกแกหรอก ให้เวลาแกถึงสิ้นเดือนนี้ ข้าจะนัดหมายวันเวลากับพวกแกอีกที อ้อ อย่าลืม แจ้งตำรวจเมื่อไหร่ เด็กจะหายวับไปเลยนะ เหลือแค่เศษชิ้นส่วน”
อิงฟ้าดึงมือถือไป บอกว่าจะขอพูดกับเด็กๆ ศักดิ์สิทธิ์ยื่นสายมาให้ เด็กๆ ส่งเสียงกันระงมด้วยความหวาดกลัว

อิงฟ้าร้องไห้โฮ ศักดิ์สิทธิ์กดสายทิ้งทันที

“ยี่สิบล้าน มันจะบ้าเหรอ ฉันไม่ยอมจ่ายหรอก” คุณหญิงอรชรโวยวาย

“แม่จะปล่อยให้เด็กตายเหรอคะ เด็กสามคนนั่นคือลูกหนู”
“ยายฟ้า แกเลิกเพ้อเจ้อเสียทีว่าเด็กนั่นมันคือลูกแก มันเด็กกำพร้าไม่มีหัวนอนปลายเท้า”
อิงฟ้าน้ำตาคลอ
“เขาคือลูกหนูค่ะ ไม่เป็นไร ถ้าแม่ไม่จ่าย หนูจะไปหาเงินของหนูเอง ทุกทางที่หนูจะหาได้ แม้แต่ขายตัว”
อิงฟ้าพูดอย่างจริงจังจนทุกคนตกใจ
“แม่จำไว้นะ แม่คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ถ้าแม่ไม่คิดจะกำจัดเด็ก คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าลูกหนูเป็นอะไรไป แม่ต้องรับผิดชอบ และหนูจะไปจากชีวิตแม่ตลอดไป”
คุณหญิงอรชรลมจะใส่ วิวิทธิ์กับป้าแมว ต้องรีบเข้าประคอง
อิงฟ้าเดินสะบัดหน้าออกไปจากศาลา วิวิทธิ์จะตามแต่คุณหญิงอรชรเรียกไว้
“เดี๋ยว นายหมาวัด อยู่ก่อน เธอเป็นคนเดียวที่ลูกสาวฉันรับฟัง ไปบอกด้วย ฉันไม่ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น ยี่สิบล้านหรือร้อยล้านฉันยอมจ่าย ฉันไม่ยอมเสียลูกสาวคนเดียวของฉันไปหรอก”
วิวิทธิ์มองคุณหญิงอรชรอย่างซาบซึ้งใจ
“ขอบคุณครับคุณหญิง ให้ผมไปสืบเรื่องที่บ้านไอ้สุดหล่อดูก่อน ผมว่างานนี้ยังพอมีทางช่วยเด็กออกมาได้โดยที่เราไม่ต้องเสียอะไรทั้งนั้น”
คุณหญิงอรชรพอคลายใจขึ้นบ้าง ป้าแมว ปุ๊ เป้าและปิ๋ม มองหน้ากันอย่างมีหวัง

จันทรกานต์ยืนล้างมืออยู่ในห้องน้ำในห้องทำงาน ดาริกาเดินเข้ามาในห้อง ด้วยสีหน้าซีดเซียว พอมองไปทางห้องน้ำ รู้ว่าจันทรกานต์อยู่ในนั้น ก็หยิบมือถือขึ้นมาแกล้งโทร. ด้วยน้ำสียงเริงร่า
“พ่อเหรอ หนูพูดนะ เป็นไงมาขอเงินคราวนี้ เรียกไปเท่าไหร่ล่ะ อย่าให้มากนักนะพ่อ เดี๋ยวอีตาหม่อมหน้าโง่มันจะทนไม่ไหว มันจะเลิกแต่งกับหนู พวกเราจะพลอยชวดกันทั้งบ้าน”
จันทรกานต์ก้าวออกมาจากห้องน้ำ สีหน้าเดือดดาลอย่างที่สุด
“เอาน่า กินน้อย ๆ แต่เนียน ๆ กินได้นาน เข้าใจไหมพ่อ”
พอรู้ว่าจันทรกานต์มายืนอยู่ข้างหลัง ดาริกาก็ทำแกล้งเป็นตกใจ
“อุ๊ย คุณจันทร์ เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ผมไม่ได้เข้ามา ผมอยู่ในห้องนี่ตั้งนานแล้ว ผมอยู่ในห้องน้ำ แล้วก็ได้ยินที่คุณพูดกับพ่อทุกคำ ทุกประโยค”
จันทรกานต์โกรธจนมือสั่น ดาริกาแกล้งทำทีเป็นปฏิเสธ

“เออ คือเปล่านะคะ ฉันไม่ได้พูดกับพ่อ ฉันพูดกับ... คุณจันทร์ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย ฉันกลัวนะ”

จันทรกานต์ตะคอกใส่

“ก็สมควรที่เธอจะต้องกลัว เพราะฉันรู้ตัวจริงของเธอหมดแล้ว เธอเก่งมากที่หลอกฉันได้ แต่ไม่เก่งพอที่จะหลอกฉันไปตลอด”
“คุณพูดอะไรน่ะคุณจันทร์”
จันทรกานต์หยิบมือถือขึ้นมา แล้วโชว์คลิปเมื่อกลางวันให้ดู ดาริกาทำเป็นอึ้ง
“คือ ฉัน คุณกล้าดียังไงมาแอบถ่ายฉันแบบนี้”
“เธอใช้คำว่ากล้าเหรอ ฉันซิต้องถามเธอว่าเธอกล้าดียังไงมาหลอกให้ฉันหลงโง่งมไปกับเธอ เธอนี่มันน่ารังเกียจที่สุด ไม่ใช่แค่เธอ แต่มันคือพ่อแม่ ครอบครัวเธอด้วย”
ดาริกาตบหน้าจันทร์ฉาดใหญ่
“อย่ามาลำเลิกพ่อแม่ฉันนะไอ้หม่อมหน้าโง่”
จันทรกานต์กระชากร่างของดาริกาเหวี่ยงล้มไปที่พื้น
“บอกความจริงมา เธอหลอกฉันหวังจะกอบโกยจากฉันใช่ไหม”
ดาริกาทำทีเป็นยิ้มเหยียด
“ยังคิดไม่ออกอีกเหรอ ใช่ ฉันหลอกคุณ เพราะคุณมันโง่ ยอมให้ฉันหลอก แค่ฉันเล่นบทเลขาฯ ที่ยอมทำทุกอย่างถวายหัวให้นาย ฉันก็ได้ใจคุณมาเต็ม ๆ แล้ว”
“เธอทำอย่างนี้กับผู้ชายทุกคนใช่ไหม”
ดาริกางัดไม้ตายออกมามาพูด
“เปล่า ฉันไม่ทำหรอกถ้าคนนั้นฉันรัก ฉันเทิดทูน อย่างคุณจักรพัฒน์ไง”
จันทรกานต์ผละออกมา พลางมองดาริกาอย่างรังเกียจ น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆ ไหลออกมา ดาริกาจำต้อง เบือนหน้าหนี เพราะน้ำตาไหลอาบแก้มเช่นกัน
จันทรกานต์กวาดข้าวของบนโต๊ะของดาริกาลงบนพื้น
“ฉันให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมง เก็บข้าวของแล้วออกไปจากแกรนด์ ออกไปจากชีวิตฉัน แล้วอย่าได้พบเจอกันอีก”
จันทรกานต์กำลังจะก้าวออกจากห้อง แต่บังเอิญเท้าเหยียบลงไปบนสร้อยที่ตัวเองเป็นคนเลือกให้
ดาริกา
“ของของฉันที่เคยให้เธอ ให้ถือเสียว่าฉันอุทิศให้กับคนที่ตายไปจากชีวิตของฉันแล้ว”
ดาริกาปิดปาก สะอื้นอย่างแรง แต่พยายามไม่ส่งเสียงร้องออกมา พลันเสียงเคาะประตู ก็ดังรัวขึ้น
จันทรกานต์เปิดประตู คุณชายจันทรและดาราราย ที่ยืนอยู่หน้าประตู มองสภาพห้องอย่างตกใจ จันทรกานต์รีบเล่าว่าเขาไล่เดาริกาออกแล้ว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับพ่อ เชิญพ่อที่ห้องครับ”

เมื่ออยู่กันตามลำพังพ่อ-ลูก ในห้องทำงานของคุณชายจันทร จันทรกานต์ก็ถึงกับน้ำตาซึม
“เธอหลอกผม”

“หลอกอะไร เล่ามาทั้งหมด”

ดาริกากำสร้อยที่จันทรกานต์เลือกให้ไว้แน่น ก่อนจะเก็บลงกระเป๋า พร้อมกับข้าวของอื่นๆ พลางเช็ดน้ำตาไปด้วย ดารารายมองสภาพน่าสงสารของดาริกา แล้วพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่

“ขอบใจ ที่ทำตามที่ฉันสั่ง”
ดาริกาพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ฟูมฟาย
“หวังว่าคุณท่านคงพอใจ”
“ไม่ต้องห่วงนะ งานนี้เธอไม่ได้ทำฟรีๆ หรอก ฉันจะจ่ายให้คุ้มกับที่เธอลงทุน”
ดาริกาส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ ฉันทำเพื่อไถ่โทษในสิ่งที่พ่อฉันทำกับทัศนัยไว้ ไม่ต้องจ่ายอะไรฉันทั้งนั้น แต่รอรับเงินที่ฉันจะคืนให้ เงินที่พ่อฉันรีดไถไปจากคุณจันทร์ ฉันจะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ ลาค่ะ”
ดาริกาไหว้ลา แล้วออกจากห้องไป ดารารายมองตามอย่างผิดคาด

ดาริกามานั่งร้องไห้ปรับทุกข์กับวรางค์ อาร์ตี้และป๊อบ ที่นั่งฟังอย่างสลดใจ วรางค์ออกปากชวนดาริกาให้กลับมาทำงานที่นี่ แต่ดาริกากลับบอกว่า ตอนนี้เธอหมดเรี่ยวหมดแรงที่จะทำอะไรทั้งนั้น
“พี่วรางค์ พี่ตี้ หนูขอโทษที่เอาเรื่องไม่ดีมาทำให้พี่กลุ้มตอนนี้ ทั้งๆ ที่อีกไม่กี่วัน พี่จะเข้าพิธีแต่งงานกันแล้ว”
อาร์ตี้มองดาริกาอย่างเห็นใจ
“โธ่ ไอ้ดาว เราคือครอบครัวเดียวกัน เรื่องของแกไม่ว่าทุกข์สุข ไม่ว่าเวลาไหน เราต้องรับรู้แล้วก็ช่วยเหลือกัน”
ดาริกาปล่อยโฮอีกครั้ง วรางค์ต้องรีบกอดปลอบใจ

สามวันต่อมา
แพ็ท กับเพชร เดินเข้ามาในร้านกาแฟด้วยกัน แพ็ททำทีเป็นทุกข์ร้อน เมื่อรู้ข่าวว่าดาริกาโดนไล่ออก ก่อนจะรีบขอตัวไปหาดาราราย
ยุพาเดินเข้ามาแหย่ว่าช่วงนี้ดูเพชรสนิทสนมกับแพ็ทเป็นพิเศษ ทั้งที่แพ็ทเป็นคู่หมายคนต่อไปของจันทรกานต์ เพชรรีบยิ้มเหยียดๆ
“ผมจะแย่งทุกอย่างจากไอ้จันทร์ ทั้งเก้าอี้และหัวใจ เอกสารพร้อมแล้วนะ”
“ค่ะ พร้อมรายงานคุณชายจันทรแล้ว”

เพชรรับแฟ้มมา แล้วยิ้มชั่วร้าย
 
อ่านต่อหน้า 2

ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 13 (ต่อ)

คุณชายจันทรเดินหน้าเครียดลงจากชั้นบนของวังทัศนัย จักรพัฒน์และช้างช่วยหิ้วปีกจันทรกานต์ที่เมาหมดสภาพเข้ามาในโถง ดารารายวิ่งออกมาจากห้องนั่งเล่นด้านในเข้ามาดู

จักรพัฒน์และช้างประคองร่างจันทรกานต์ลงนั่งที่เก้าอี้มุมโถง
“ไปเจอที่ไหนตาจักร”
“ไปเมาอยู่ที่ผับแถวเอกมัยน่ะครับ เห็นว่าสามวันมานี่ก็นอนอยู่แถวผับนั่นแหละครับ”
คุณชายจันทรหน้าเครียด “พาขึ้นไปนอนที่ห้องเถอะ”
จักรพัฒน์และช้างช่วยหิ้วปีกจันทรกานต์ขึ้นไป

ข้าวตู ข้าวตอก ดอกไม้ ถุกล่ามโซ่อยู่บนเตียง พอฟ้าร้องฟ้าแลบทีหนึ่ง เด็กทั้งสามที่ร้องไห้อยู่ก็ร้องโฮทีหนึ่ง สุดหล่อ เน แอล ตี๋ เดินทำหน้าหน้าถมึงทึงเข้าตาโวยวาย แต่ดำรงรีบเข้ามาห้าม พลางเข้าไปพูดปลอบเด็กๆ ไม่ให้กลัว แล้วก็ไล่พวกสุดหล่อออกไป
ดำรงตามองเด็กทั้งสามตาปริบๆ อดที่จะรู้สึกผิดเรื่องดาริกาไม่ได้ ฟ้าแลบฟ้าร้องอีกครั้ง เด็กทั้งสามกอดดำรงไว้ ดำรงอึดอัดนิดหน่อย แต่พอถูกเด็กกอดแน่น ก็ใจอ่อน
“ไม่กลัวนะลูก ไม่กลัว ลุงอยู่ด้วยแล้วนะ”


จันทรกานต์ค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้น คุณชายจันทรที่นั่งอยู่กับดารารายรีบพูดขึ้นมาทันที
“ฟื้นแล้วก็ดี จะได้สัมภาษณ์กันหน่อย”
“คุณคะ ลูกยังไม่ได้สติ อย่าเพิ่งถามอะไรกันตอนนี้เลย”
คุณชายหันไปมองหน้าดาราราย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“คุณหยุดโอ๋ลูกได้แล้ว ผมต้องพูดกับลูกตอนนี้ คิดว่าจะเมาไปอีกกี่วัน นี่สามวันแล้วนะที่นายไม่ไปทำงาน รู้ไหมว่ามันเสียหายแค่ไหน”
จันทรกานต์มองหน้าพ่ออย่างไม่สะทกสะท้าน
“จะเสียหายอะไรนักหนาละครับพ่อ กำไรเราเป็นร้อยล้านพันล้าน มาเป็นร้อยล้านปีแล้ว”
คุณชายจันทรตวาดกลับด้วยเสียงเข้ม
“ฉันไม่ได้พูดเรื่องเงิน แต่พูดถึงระบบการบริหารของนาย มันเละเทะไปหมดแล้ว โดยเฉพาะโปรเจ็กต์ “ตลาดนัดคนเดิน” นายรับผิดชอบอยู่ รู้ไหมว่ามันรั่วไหลแค่ไหน ฉันไม่คิดเลยว่ากะอีแค่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับแม่ดาริกา จะทำให้แกขาดความรับผิดชอบได้ถึงขนาดนี้ รู้ความจริงแล้วว่าเขาหลอกแก มันก็น่าจะตัดใจได้แล้ว นี่กลับเมาไม่ได้สติ ทิ้งงานทิ้งการ ยังไงยังอาลัยอาวรณ์แม่นั่นอยู่งั้นเหรอ”

จันทรกานต์มองหน้าพ่อแล้วยิ้มกวน ๆ

จันทรกานต์มองหน้าพ่อแล้วยิ้มกวน ๆ

“ครับ ยังอาลัยอาวรณ์อยู่ ก็ผมรักของผม เขาจะหลอกจะลวงจะเลวยังไง มันก็เป็นความรักครับพ่อ
ผมตัดใจไม่ได้ง่ายๆ หรอก”
คุณชายจันทรพูดใส่หน้าจันทรกานต์ว่าอ่อนแอแบบนี้ จะขึ้นมาเป็นผู้บริหารแกรนด์ได้ยังไง แต่จันทรกานต์กลับย้อนบอกว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากเป็น
“ผมเคยพูดว่าผมจะสืบทอดกิจการของพ่อของตระกูลทัศนัย แต่พ่อรู้ไหมมันหนักหนาแค่ไหน มันหนักหนาเกินกว่าที่ผมจะแบกรับไหว นับวันผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่ตัวผมขึ้นทุกที ผมต้องทำโน่นนี่ที่มันไม่ใช่ตัวผม ผมเบื่อ”
จันทรกานต์ร่ำระบายความอัดอั้นออกมาอย่างเหลืออด
“แม่ก็เป็นอีกภาระนึงของผม ยัดเยียดแต่ความต้องการของตัวเองมาให้ผม ทั้งเรื่องผู้หญิงคนนั้น คนนี้ แม่ถามผมบ้างไหมว่า ผมรักใคร่ชอบพอเธอพวกนั้นรึเปล่า แม่คิดว่าผมโง่จนจัดการกับชีวิตผมเองไม่ได้งั้นเหรอ
พ่อครับถ้าผมมันโง่เง่าขนาดนั้น ผมก็ไม่ควรรับตำแหน่งใดๆ ของแกรนด์ แม้แต่หน้าที่ภารโรง”
คุณชายมองหน้าลูกชายอย่างผิดหวัง
“ถ้าแกประเมินตัวเองต่ำแบบนั้น ฉันอาจจะให้แกไปเป็นภารโรงจริง ๆ ก็ได้ พรุ่งนี้แกต้องเข้าประชุมที่
แกรนด์ มีเรื่องใหญ่ที่ต้องสอบสวนกัน”
คุณชายจันทรสั่งอย่างเฉียบขาด ก่อนจะเดินออกจากห้องไป จันทรกานต์ทรุดนั่งกับเตียง ดารารายจะเข้ามาปลอบ
“แม่ครับ พอเถอะ ผมอยากอยู่คนเดียว เชิญครับ”
ดารารายลังเลไปครู่ แล้วจึงเดินออกไป จันทรกานต์ถอนใจ ก่อนทิ้งตัวลงนอนแผ่หงายไปกับเตียง

จันทรกานต์ในสภาพหน้าตาหมองคล้ำทรุดโทรม เดินเข้ามาในห้องประชุมพร้อมดาราราย คุณชายจันทร เพชร และยุพา นั่งรออยู่แล้ว พร้อมกรรมการบริหาร วรางค์และอาร์ตี้นั่งร่วมอยู่ด้วย สีหน้าไม่สู้ดีนัก พลางมองมาที่จันทรกานต์เหมือนจะขอความช่วยเหลือ
คุณชายจันทรลุกขึ้นพูดต่อหน้าทุกคน
“ที่ผมเรียกประชุมในวันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องด่วนที่ต้องทำการสอบสวนหาบทสรุปให้ได้เร็วที่สุด ก่อนที่จะสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้”
ดารารายมองหน้าจันทรกานต์อย่างสงสัย เพชรและยุพาแอบยิ้มในที
“มีการทุจริตเกิดขึ้นในโปรเจ็กต์ “ตลาดนัดคนเดิน” ของคุณจันทร์”
จันทรกานต์กับดารารายตกใจ วรางค์และอาร์ตี้หันมามองหน้ากัน

ดาริกาคุยมือถืออยู่ที่ห้องเช่าของตัวเอง บ๊วยที่อยู่ทางปลายสายบอกว่าวรางค์กับอาร์ตี้กำลังถูกสอบสวนอาร์ท จัสติน ป๊อบ และทีมงานจับกลุ่มคุยกันอยู่หน้าจอคอมฯ ดูข้อมูลที่อาร์ตี้ส่งมาให้จากห้องประชุม ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่เมคขึ้นมา

“พวกเราโดนไอ้เพชรกับยายยุพาเล่นงานหนักเลย มันบอกว่าเราโกงทุกอย่าง ตั้งแต่ซัพพลายเออร์ แสง สี เสียง ไปถึงกินหัวคิวร้านค้าที่เข้ามาขายของมันเมคขึ้นทั้งหมดว่าเราโกง”

“กล่าวหากันชัดๆ คุณเอาหลักฐานที่ไหนมาบอกว่าเราโกง” อาร์ตี้ยืนประกาศกลางที่ประชุม ส่วนวรางค์กำลังอ่านเอกสารที่เพิ่งได้รับแจกมาอย่างงุนงง

เพชรยิ้มหยัน
“ก็ดูในเอกสารที่แจกซิครับ ราคาที่พวกคุณโค้ท กับราคาที่เป็นจริง ที่เราตรวจสอบจากซัพพลายเออร์ แพงกว่ากันเท่าตัวทุกรายการ”
“ดูเนื้องานไหมครับ เราใช้ของคุณภาพทั้งนั้น” อาร์ตี้ท้วง
“ก็ต้องถามละครับว่ามันจำเป็นไหม อย่างพิธีกรในแต่ละวัน หรือดาราที่มาปรากฏตัว คุณจ้างระดับตัวพ่อตัวแม่ราคาเหยียบแสน มันคุ้มไหมครับสำหรับงานชาวบ้านตลาดๆ แบบนี้”
เพชรกับยุพาช่วยกันโจมตีวรางค์กับอาร์ตี้เป็นชุด
“ทุกอย่างอยู่ในความเห็นชอบของคุณจันทร์ค่ะ “
จันทรกานต์นั่งนิ่ง สภาพเหมือนยังไม่สร่างเมา คุณชายจันทรหันมาถาม
“จริงใช่ไหมที่ลูกเห็นชอบด้วยทุกอย่าง”
จันทรกานต์พยักหน้ารับคำ ดารารายอึ้ง ส่วนเพชรกับยุพาแอบยิ้ม
“แล้วทำไมถึงปล่อยปละละเลยแบบนี้”
จันทรกานต์ทนไม่ไหว
“ช่วงหลังผมไม่ได้ดูงาน แต่มาโทษผมไม่ได้ ผมโยนงานให้ทุกฝ่ายรับผิดชอบแล้ว ผิดพลาดขึ้นมาก็ไปเอาผิดกับแต่ละฝ่ายซิ มาโทษผมได้ไง”
คุณชายจ้องหน้าลูกชายอย่างเอาเรื่อง
“คุณจันทร์ นี่ไม่ใช่วิธีคิดอย่างผู้บริหารแบบแกรนด์ พ่อบอกแล้วว่า”
“โอ๊ย หยุดเถอะครับ ผมเบื่อ ผมไม่อยากฟัง” จันทรกานต์โวยวาย
“อะไรก็แกรนด์ บริหารอย่างแกรนด์ คิดอย่างแกรนด์ พูดเสียใหม่ดีไหมครับพ่อ บริหารแบบพ่อ แบบ คุณชายจันทรนั่นแหละ แต่ผมไม่ใช่ครับ ผมคือนายจันทรกานต์ ผมเดินตามกรอบที่พ่อขีดเส้นไว้ไม่ได้หรอก”
จันทรกานต์ผุดลุกขึ้นยืน ทุกคนมองอย่างตกตะลึง
“ในเมื่อผมไม่มีความสามารถในการบริหาร ปล่อยให้รั่วไหล ปล่อยให้ขาดคุณภาพได้ถึงขนาดนี้ ผมก็ขอพิจารณาตัวเอง ผมขอลาออกครับ”
ดารารายตกใจ “คุณจันทร์ อย่านะคะ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันดีกว่า”
“ไม่มีเรื่องจะคุยอีกแล้วครับแม่ ผมรู้ตัวเองแล้วว่าผมไม่เหมาะที่จะสืบทอดกิจการยิ่งใหญ่ของพ่อไว้ได้ ผมไม่มีปัญญาครับ ผมขอลาออกนับแต่วันนี้เป็นต้นไป”
จันทรกานต์ขยับตัวจะออกจากห้องประชุม แต่คุณชายจันทรรีบพูดขึ้นมาก่อน
“นายลาออกไม่ได้ถ้าฉันยังไม่อนุญาต”
จันทรกานต์หันมาเผชิญหน้ากับพ่อ
“พ่อควรจะปฏิบัติกับผมแบบลูกจ้าง ไม่ใช่แบบพ่อลูก ความผิดระดับนี้ผมต้องถูกไล่ออกอยู่แล้ว อย่าเอาเส้นสายมาทำให้เกิดความลำเอียงเลยครับ มันไม่ยุติธรรมสำหรับคนทำงาน คุณเพชรตำแหน่งเอ็มดีกลับเป็นของคุณแล้วครับ ยินดีด้วย สวัสดีครับทุกคน”
อาร์ตี้ที่นิ่งฟังอยู่นาน รีบท้วงขึ้น
“เดี๋ยวครับคุณจันทร์ นี่คุณจะไม่ปกป้องบริษัทผมเลยเหรอครับ ทางผมเสียหายนะครับที่ถูกกล่าวหาแบบนี้”
“ผมขอโทษ แต่เสียใจ ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้”
พูดจบ จันทรกานต์ก็ผลุนผลันออกจากห้องไป ดารารายมองหน้าคุณชายจันทรอย่างไม่พอใจ แล้วรีบวิ่งตามไป
วรางค์กับอาร์ตี้ ยืนยันว่าไม่เคยโกง แต่ก็พร้อมจะรับผิดชอบด้วยการให้ฉีกสัญญาได้เลย พูดจบทั้งคู่ก็เดินออกจากห้องไป คุณชายจันทรถอนหายใจ
“คุณเพชร ผมขอคืนตำแหน่งเอ็มดีแกรนด์ให้คุณนับแต่วันนี้”

เพชรและยุพายิ้มแก้มปริ

ดารารายตามเข้ามาในห้องทำงาน เห็นจันทรกานต์กำลังเก็บของอยู่ที่โต๊ะ พลางเอ่ยปากห้ามลาออก แต่จันทรกานต์ยังยืนยัน คุณชายจันทรตามเข้ามาในห้อง มองลูกชายที่กำลังเก็บของอย่างไม่พอใจมาก ๆ

“แม่ไม่อยากเชื่อเลยที่ลูกพูดว่าจะไม่สืบทอดห้างแกรนด์ ลูกจะยอมแพ้ทุกอย่างง่ายๆ แบบนี้เหรอ”
“ผมไม่ได้เก่งเหมือนพ่อนี่ครับ พ่อเก่งทุกอย่าง แล้วพ่อก็มาคาดหวังให้ผมเหมือนพ่อ เสียใจครับผมทำไม่ได้”
คุณชายจันทรที่ยืนฟังอยู่ พูดแทรกขึ้นมาทันที
“ถ้ารู้ตัว ก็ออกไปจากแกรนด์เสีย หรือจะออกไปจากทัศนัยเลยก็ได้”
จันทรกานต์กับดารารายหันมามองคุณชายจันทรพร้อมกัน
“ผมไม่ให้นายจันทร์ลาออกหรอก แต่ผมจะไล่ออก”
ดารารายโวยวาย
“ไม่ได้นะคะ คุณพูดเพราะกำลังผิดหวังในตัวลูก แต่คุณไล่ลูกไปไม่ได้นะคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ ผมไม่คิดว่าผมจะมีลูกชายที่อ่อนแอ และโง่เขลาเบาปัญญาแบบนี้”
จันทรกานต์มองพ่อด้วยแววตาเจ็บปวด
“ดีครับพ่อ ผมจะได้กลับไปอเมริกา อาจจะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเลย ไม่กลับมาอีก”
“มันเป็นเรื่องของนายแล้วละ อ้อ เมื่อตัดสินใจไปจากทัศนัยแล้ว นายก็ไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินของทัศนัยอีก ต่อไปนี้ฉันจะไม่จ่ายให้นายแม้แต่บาทเดียว”
จันทรกานต์หน้าเจื่อน ดารารายถึงกับช็อก
“ไม่นะคะคุณชาย คุณชายทำกับลูกแบบนี้ไม่ได้”
“ผมทำได้ทั้งนั้นถ้าลูกมันไม่รักดี ไป แล้วไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
จันทรกานต์กำลังจะเดินออกไป แต่ก็หันกลับมาพูดทิ้งท้าย
“พ่อครับ เวลานี้ผมขอบอกนะครับว่าผมมีความสุขมากที่สุด เมื่อไม่ต้องอยู่ในอาณาจักรของพ่ออีกแล้ว เชิญคุณพ่อคนเก่งบริหารห้างของพ่อต่อไปตามลำพังก็แล้วกัน ขอให้มันอยู่คู่กับพ่อ แก่ไปตามอายุขัยของพ่อ จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตของพ่อเลยนะครับ”
คุณชายจันทรตบหน้าจันทรกานต์ฉาดใหญ่ ดารารายกรีดร้อง พร้อมกับวิ่งถลาเข้ามากอดลูก
“คุณชายทำไมทำร้ายลูกแบบนี้”
คุณชายจันทรตัวสั่นเทิ้ม ตวาดลั่น
“ออกไป ออกไป แล้วไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
จันทกานต์น้ำตาไหลพราก ก้มกราบดาราราย แล้วออกจากห้องไป ดารารายน้ำตานองหน้า หันมามองคุณชายจันทร
“ฉันไม่ยอมนะคะคุณชาย คุณไล่ลูกไปแบบนี้ไม่ได้”

คุณชายจันทรพยายามสะกดความรู้สึกเจ็บปวด
 
อ่านต่อหน้า 3

ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 13 (ต่อ)

จันทรกานต์เดินออกจากห้องด้วยน้ำตานองหน้า จักรพัฒน์และพิชญาเดินสวนมาพอดี จันทรกานต์รีบพูดลา ก่อนที่จะยกมือไหว้จักรพัฒน์ แล้วผละไปทันที

ดารารายวิ่งตามออกมา น้ำตาไหลพราก พลางบอกกับจักรพัฒน์และพิชญา
“คุณชายไล่คุณจันทร์ออก ทั้งจากงาน ทั้งจากความเป็นทัศนัย ตาจักร ช่วยพูดกับคุณชายทีเถอะ อย่าทำแบบนี้กับลูกเลย ถึงขั้นขู่จะไม่ให้ทรัพย์สินเงินทองลูกเลยแม้แต่บาทเดียว แล้วลูกจะอยู่ยังไง”
ดารารายร้องไห้สะอื้น
“คงแค่ขู่น่ะครับคุณอา ทำใจให้สงบเถอะครับ เดี๋ยวผมช่วยพูดให้”
จักรพัฒน์หันมาพยักหน้าเป็นเชิงให้พิชญาพาดารารายกลับเข้าห้องคุณชายจันทร ส่วนตัวเองรีบเดินเข้าห้องจันทรกานต์ พลางรีบถามคุณชายจันทรถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“มันเป็นความต้องการของเขาเอง อาไม่นึกจริงๆ ว่าคุณจันทร์ลูกชายคนเดียวของอาจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เพราะผู้หญิงที่ชื่อดาริกาแท้ ๆ”
คุณชายจันทรพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด จักรพัฒน์ยังงุนงงสงสัย แต่ก็พลอยสลดไปด้วย

พอกลับมาถึงบริษัท วรางค์ก็นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น ดาริกากอดปลอบใจไว้ อาร์ตี้เดินงุ่นง่านไปมาด้วยความโกรธ บ๊วย อาร์ท จัสติน ป๊อบ ทุกคนอยู่ในอาการเดียว และต่างก็โวยวาย ว่าผิดหวังที่จันทรกานต์ไม่ยอมปกป้อง แถมยังยอมแพ้ง่ายๆ ด้วยการลาออกหน้าตาเฉย ดาริกาฟังแล้ว ก็สะอื้นน้ำตาร่วง
“ทั้งหมดคงมาจากที่ดาวทำร้ายเขาก่อนนั่นแหละค่ะ เขาคงเจ็บมากที่ดาวทรยศเขา ถึงได้เพี้ยนไปแบบนี้”
วรางค์ดึงดาริกามากอดบ้าง
“เอาน่า ไม่ต้องร้องหรอก เห็นธาตุแท้นายจันทรกานต์แบบนี้ ถือว่าดีแล้วละที่แกไม่หลวมตัวไปเป็นเมียมัน”
จากนั้นทุกคนก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาเป็นเรื่องการแต่งงานของอาร์ตี้กับวรางค์ แล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข ดาริกามองอาร์ตี้และวรางค์ พลางเช็ดน้ำตาเมื่อนึกถึงจันทรกานต์

จันทรกานต์ในสภาพหนวดเคราครึ้ม เสื้อยับยู่ยี่ เมามาย เดินผ่านห้องดาริกา ที่เปิดประตูอยู่ เห็นดาริกาอยู่ในนั้น ก็รีบถลันเข้าไปทันที แต่พอเข้าไปในห้อง กลับพบแต่เรอเน่กับแม่บ้านสองนาง กำลังคุยกันอยู่ เรอเน่บอกว่าตั้งแต่ออกไป ดาริกาก็ไม่กลับมาที่คอนโดอีกเลย จันทรกานต์ถึงกับชะงักไป
“มีอะไรจะฝากถึงไหมคะ ถ้าเธอแวะมา”
“ไม่มีครับ เธอคงไม่อยากรับรู้อะไรจากผมแล้ว”

จันทรกานต์เดินซึมออกจากห้อง เรอเน่ตามไปปิดประตู ดาริกาที่ยืนแอบอยู่ ก้าวออกมา ก่อนจะสะอื้นไห้จนแทบขาดใจ

อิงฟ้าอยู่ในห้องนอน กำลังพูดสายกับวิวิทธิ์ ที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟ คุยกันเรื่องที่จันทรกานต์ลาออก

“ผมลางานตลอดอาทิตย์ ยังไม่ได้เข้าไปที่ออฟฟิศเลยครับ โทรหาคุณจันทร์กับคุณดาวไม่รับสายทั้งคู่ เห็นว่าคุณดาวก็โดนไล่ออกด้วยครับ”
อิงฟ้าหน้าเศร้า
“ใช่ค่ะ เป็นห่วงจัง แล้วทางคุณละคะ ได้เรื่องอะไรบ้าง”
“พอควรเลยละครับ เจ้าของร้านกาแฟบอกว่าแก๊งเจ้าสุดหล่อ เคยนั่งกินกาแฟกับนักเลงใหญ่รายหนึ่ง จำไม่ยากเพราะหัวโล้น หนวดเคราเฟิ้ม ผมจะสืบดู อีกสักพักน่าจะได้เรื่อง”
ทั้งคู่วงสาย ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน

งานแต่งงานของอาร์ตี้กับวรางค์จัดขึ้นในสวนสวย รอบๆ บริเวณประดับประดาด้วยดอกไม้งดงาม
อาร์ตี้หล่อเหลาในสูททักซิโด ยืนคุยกับกลุ่มบ๊วย อาร์ท จัสติน ที่แต่งตัวหล่อเหมือนกัน
ส่วนที่ห้องแต่งตัวเจ้าสาว ดาริกา กับนางและช่างหน้าผม กำลังช่วยกันแต่งให้วรางค์ ที่อยู่ในชุดเจ้าสาวยืนอยู่หน้ากระจก ป๊อบนั่งดูอยู่ในห้องด้วย
ทั้งดาริกา ป๊อบ ละนาง ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นวรางค์ ที่แต่งหน้าแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
นางกับป๊อบเดินแยกออกไปดูความเรียบร้อยด้านนอก เหลือดาริกาที่มองหน้าหน้าวรางค์แล้วน้ำตาซึม
“ในที่สุดพี่สาวของดาวก็ประสบความสำเร็จกับความรักเสียที”
ดาริกาสะอื้นหนัก วรางค์มองนิ่ง
“ดาว แกร้องไห้ดีใจกับพี่ แล้วก็เจ็บเพราะผิดหวังเรื่องรักของตัวเองด้วยใช่ไหม”
“ดาวคงไม่มีวาสนาแบบพี่แล้วล่ะ”
วรางค์รีบพูดปลอบใจ
“ไม่เอาน่า คนดีกว่านายหม่อมหลวงจันทร์มีรอแกอยู่อีกเยอะแยะ”
“อย่าไปว่า คุณจันทร์เลยพี่ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เขา มันอยู่ที่พ่อแม่ของเราต่างหาก ทั้งพ่อหนู ทั้งแม่เขา ปัญหาไม่มีทางแก้ก็ต้องถือว่าจบค่ะ”
ดาริกาเช็ดน้ำตา วรางค์ยิ้มเป็นกำลังใจให้

นางอยู่ในกลุ่มป๊อบ บ๊วย อาร์ท จัสติน อาร์ตี้ กำลังถ่ายรูปกันเป็นที่ครึกครื้น พลันมือถือก็ดังขึ้น
นางหน้าเจื่อน รีบแยกออกมารับสาย
“พี่แพ็ท มีอะไรคะ”
“ฉันอยู่ในงานแล้ว แกออกมาที่มุมสวนด้านสระน้ำ เดี๋ยวนี้ อย่าให้ใครสังเกตล่ะ”
นางมองไปเห็นแพ็ทหลบมุมอยู่ ก็รีบเดินตรงไปทันที แพ็ทบอกว่าเตรียมแผนมาแก้แค้น แต่นางขอไว้
“พี่แพ็ทอย่าทำเลยนะคะ งานวันนี้มีแต่คนเขารักกัน เป็นงานมงคลไม่ใช่งานคนโฉด”
แต่แพ็ทไม่ฟังเสียง “พาฉันไปพบนังวรางค์เดี๋ยวนี้”
“ไม่”
“อยากลองดีกับฉันใช่ไหม คิดซิว่าพ่อแกติดหนี้ฉันอยู่กี่ล้าน ถ้าแกช่วยฉัน ฉันจะผ่อนผันหนี้ให้พ่อแก จะทำตัวเป็นลูกกตัญญู หรือเนรคุณก็เลือกเอา”

นางทำท่าจะร้องไห้

ดาริกาที่อยู่กับวรางค์ในห้องแต่งตัว เดินออกจากห้อง แพ็ทและนางก็เข้ามาทันที วรางค์เห็นทางกระจก ก็รีบหันมา พลางออกปากเชิญให้แพ็ทไปที่สวน เพราะแขกในงานอยู่ที่นั่น แต่แพ็ทปฏิเสธ

“เพราะคุณไม่ได้เชิญแพ็ทนี่คะ แพ็ทถือวิสาสะเข้ามาเอง”
“ขอโทษนะคะที่ๆไม่ได้เชิญ”
แพ็ทยิ้มมุมปาก
“แต่แพ็ทเคยบอกแล้วนี่ ว่าแพ็ทมีของขวัญขิ้นพิเศษไว้ให้ในแต่งงานของคุณและอาร์ตี้ ของขวัญสำหรับเจ้าสาวมือสอง”
นางหน้าเสีย “พี่แพ็ท พอเถอะ”
“เอาละ ลองดูคลิปนี้นะคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงเรียกคุณว่าเจ้าสาวมือสอง”
แพ็ทเปิดไอแพ็ด แล้วโชว์คลิปของอาร์ตี้ที่อยู่ในห้องนอนกับแพ็ทให้วรางค์ดู
น้ำตาวรางค์ค่อยๆ ไหลออกมา ดาริกากับป๊อบเข้าห้องมาพอดี แพ็ทจึงให้ทุกคนมาดูคลิปพร้อมกัน
ดาริกา ป๊อบ ตกใจ ส่วนวรางค์หัวใจสลาย
“เข้าใจรึยังว่าเจ้าสาวมือสองคืออะไร อาร์ตี้ขายทั้งวิญญาณและร่างกายให้ฉันแล้ว ก่อนจะตกถึงมือหญิงชราอย่างคุณ”
วรางค์นิ่งงัน พูดอะไรไม่ออก น้ำตานองหน้า ทำท่าจะเป็นลม
“ฉันช่วยให้เจ้านายเธอหูตาสว่างก่อนเข้าพีวิวาห์ นี่ละของขวัญล้ำค่าที่ฉันมอบให้ ขอให้มีความสุขกับชีวิตสมรสนะคะ อ้อ คลิปตอนท้ายที่ให้ดูต่อไม่ได้ เพราะมันติดเรทน่ะค่ะ เรื่องบนเตียงล้วนๆ จะสังเกตได้ว่าภาพสั่น เพราะถ่ายสด ไม่ใช่กล้องวงจรปิด และน้องป๊อบคะ เป็นฝีมือการถ่ายห่วยๆ ของยายนางเองล่ะค่ะ”
ป๊อบหันมามองนาง ที่ยืนหน้าซีด แพ็ทหัวเราะระรื่นแล้วออกจากห้องไป ดาริกาและป๊อบประคองวรางค์ลงนอน นางจะเข้ามาช่วย แต่ป๊อบปัดมือออก
“อย่ามาแตะพี่ผม”
นางสะอื้น ดาริกาต้องรีบช่วยพูด
“ไม่เอาน่าป๊อบ อย่าเพิ่งเชื่ออะไรยายแพ็ททั้งนั้น ออกไปดูที่งานก่อน”
ป๊อบมองนางอย่างขัดใจ ก่อนผลุนผลันออกไป
“พี่ดาว นางขอโทษค่ะ”
ดาริกาพยักหน้าเป็นเชิงปลอบใจ วรางค์หายใจระรวยเต็มที
“เล่ามาซิว่าเกิดอะไรขึ้น”

ดาริกาหันมาคาดคั้น นางเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง

ป๊อบเดินเร็วอย่างหัวเสียออกมาจากห้องแต่งตัวหน้าเครียด อาร์ตี้รีบถามขึ้นทันที

“ว่าไงป๊อบ พี่วรางค์เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมเลทอย่างนี้”
“เวียนหัวนิดหน่อยน่ะครับ”
ป๊อบส่ายหน้าอย่างหัวเสีย แล้วแยกไปมุมเครื่องดื่ม
ครู่หนึ่งก็มีเสียงแขกฮือฮามาจากห้องแต่งตัว ทั้งหมดหันไปมอง ช่างภาพกรูกันไปถ่ายรูป

วรางค์ก้าวออกมาจากประตูอาคาร ในมือถือดอกไม้ช่อใหญ่ ดาริกากับนาง ที่ยังน้ำตารื้น ตาแดงๆ เดินเป็นเพื่อนเจ้าสาวมาด้วยกัน ทั้งสามคนเดินตามทางเดินที่ปูผ้าตรงไปที่เวที ที่อาร์ตี้และญาติผู้ใหญ่ยืนอยู่
วรางค์หน้าซีดเซียว จนดาริกาต้องเตือน
“พี่ยิ้มไม่ออก”
นางรีบยืนยันว่าอาร์ตี้ไม่มีอะไรกับแพ็ทจริง ๆ คลิปนั้นถูกตัดต่อแล้ว
วรางค์หันมามองหน้านาง
“พี่จะเชื่อเธอ ถ้าพี่ได้เห็นคลิปนั่นจริง ๆ”
นางสะอื้นหนัก วรางค์หยุดเดิน ดาริการู้ทันทีว่า วรางค์ลังเลเสียแล้ว
“พี่วรางค์คะ อย่านะคะ วันนี้พี่ต้องแต่งงานกับพี่ตี้ อย่าล้มพิธีนะคะ ไม่คิดอย่างนั้นนะพี่ เดินต่อไปค่ะ พี่ตี้รออยู่ ทุกคนรออยู่”
วรางค์เดินต่อไป แต่หน้านั้นซีดขาวน่ากลัว

กลุ่มบ๊วย อาร์ท จัสติน ป๊อบ มองวรางค์ และนางที่ร้องไห้ไม่หยุดอย่างงุนงง นางมองป๊อบที่มองตอบมาอย่างไม่ให้อภัย
ดาริกาและนาง เดินมาส่งวรางค์อารฺตี้ ที่มองอย่างตะลึงในความงาม วรางค์มองตอบอาร์ตี้ แต่ภาพในคลิปนั้นกลับตามมาหลอกหลอน
ทั้งสองเดินไปยังเวที ทุกคนในงานปรบมือ วรางค์มองทุกอย่างด้วยสายตาพร่ามัว หูอื้อจนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น และในที่สุด...
“ตี้”
“ครับพี่ วรางค์” อาร์ตี้หันมามองที่วรางค์อย่างแปลกใจ
“แกนอนกับนังแพ็ทแล้วใช่ไหม ฉันถามว่าแกนอนกับนังแพ็ทแล้วใช่ไหม”
วรางค์ตะคอกถามเสียงดัง ดาริกา ป๊อบ นาง บ๊วย อาร์ท จัสติน ที่รวมกลุ่มกันอยู่ ถึงกับตะลึงงัน
“ผมไม่เข้าใจ พี่พูดอะไร”
วรางค์หน้ามืด รีบคว้าไมค์จากผู้ใหญ่ แล้วตะคอกถามซ้ำ เสียงกังวานไปทั่วงาน
“งั้นฟังให้ชัดๆ แกนอกใจฉัน ไปนอนกับนังแพ็ทแล้วใช่ไหม บอกมาซิ แกนอกใจฉันใช่ไหม”
อาร์ตี้ตอบเสียงกร้าวตอบ “พี่วรางค์ ผมเปล่า”
“ฉันไม่เชื่อ ไอ้เลว”
วรางค์ตบหน้าอาร์ตี้ฉาดใหญ่ ก่อนจะปาช่อดอกไม้ใส่หน้าซ้ำ แล้วร้องไห้โฮ วิ่งลงจากเวทีออกไปจากสวน ช่างภาพร้องเอะอะวิ่งกรูตาม ทุกคนในงานมองอย่างงงงัน
บ๊วย อาร์ท จัสติน รีบวิ่งตามไป ดาริกา ป๊อบ นางยืนงงทำอะไรไม่ถูก

อาร์ตี้รู้สึกตัวรีบวิ่งตามไป
 
อ่านต่อหน้า 4

ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 13 (ต่อ)

วรางค์วิ่งหนีกระเจิงออกจากนอกสวน ก่อนที่จะกระโดดขึ้นรถกอล์ฟของโรงแรมแล่นจากไปต่อหน้ากลุ่ม บ๊วย อาร์ท จัสติน ส่วนอาร์ตี้ รีบวิ่งลัดข้ามสวนมา ก่อนจะกระโดดขึ้นมาบนรถกอล์ฟ

“พี่วรางค์ ฟังก่อน ผมไม่ได้มีอะไรกับยัยแพ็ท ฟังผม พี่วรางค์”
อาร์ตี้เสียหลักร่วงลงจากรถ แล้วล้มกลิ้งไปกับพื้น วรางค์หันมามอง ในขณะที่รถแล่นห่างไป
อาร์ตี้ร้องไห้โฮ บ๊วย อาร์ท จัสติน วิ่งตามมาถึงช่วยประคองอาร์ตี้ขึ้นมา พร้อมกับกันนักข่าวออกไป
อาร์ตี้ที่ยืนโดดเดี่ยวอยู่กลางถนนเพียงลำพัง

คืนนั้น อาร์ตี้หน้าหมองคล้ำ นั่งซึมอยู่ในห้องแต่งตัว ส่วนนาง ก็นั่งเช็ดน้ำตาป้อย ๆ
“พ่อของนางติดหนี้พี่แพ็ทไว้เป็นสิบๆ ล้าน พี่แพ็ทเขาก็ถือว่านางต้องรับใช้เขาทุกเรื่อง เขาถึงจะผ่อนผันหนี้ให้”
นางหันมาบอกอมาร์ตี้เสียงอ่อยๆ
“ทำไมไม่บอกพี่กับพี่วรางค์ก่อนว่านางแอบถ่ายคลิปไว้”
“นางไม่นึกนี่คะว่าพี่เขาจะเอาคลิปมาแบล็คเมล์พี่อาร์ตี้แบบนี้ นางขอโทษค่ะ”
ดาริกากลับมาพร้อมป๊อบจัสติน อาร์ท พลางบอกว่าวรางค์ไมได้กลับทั้งบ้าน และออฟฟิศ แถมปิดมือถือเงียบ และที่สำคัญตอนนี้ข่าวของวรางค์กับอาร์ตี้แพร่ไปทั่วโซเชียลแล้ว
อาร์ตี้ผลุนผลันไปที่รถเครื่องดื่ม ทุกคนนึกว่าจะดื่มแอลกอฮอร์ แต่อาร์ตี้กลับคว้าขวดน้ำแร่ขึ้นมา “ฉันไม่สิ้นคิดกลับไปหาเหล้าอีกแล้ว ฉันถือว่าฉันไม่ได้ทำอะไรผิด พี่วรางค์แค่เข้าใจผิดเท่านั้นเอง ขอให้พี่เขากลับมาเถอะ ฉันจะเคลียร์เอง”
นางเดินหน้าเศร้าไปหาป๊อบ
“พี่ป๊อบ นางขอโทษนะ”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย ผมไม่อยากรับฟัง”

ป๊อบแยกออกไป นางร้องไห้ ดาริกาต้องรีบเข้ามาปลอบ

ทางด้านเพชร ก็นั่งหัวสะใจ ขณะที่นั่งดื่มกับแพ็ท ที่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องว่างานแต่งงานของวรางค์ล้มเพราะอะไร

“วันนี้ผมมีความสุขที่สุด เพราะศัตรูของผม ถูกกำจัดราบคาบ เราฉลองกันเถอะ”
“ก็เรากำลังฉลองอยู่นี่ไงคะ”
เพชรทำตากรุ้มกริ่ม “ผมหมายถึงฉลองที่บ้านคุณแพ็ทน่ะครับ”
“แพ็ทคิดดูก่อนนะ”
เพชรรู้ทาง รีบพูดภาษากวางตุ้งใส่ทันที
“เห็นใจผมหน่อยซิ คืนนี้ผมไม่อยากฉลองคนเดียว ผมเหงา”
แพ็ทฟังแล้วหัวเราะ พลางออกปากขอตัวไปห้องน้ำ แล้วลุกไป

แพ็ทตรงไปยังห้องน้ำหญิง แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นจันทรกานต์ เดินออกมาจากห้องน้ำชายด้วยอาการเซ ๆ จึงรีบปราดเข้าไปประกบทันที จันทรกานต์บอกว่าสิ่งที่แพ็ทเตือนเขานั้นถูกทุกอย่าง
“ผมไม่น่าโง่ไปเชื่อยัยตลาดนั่น ทั้ง ๆ ที่มีของสูงค่าอยู่ตรงหน้าผมแท้ๆ”
จันทกานต์มองแพ็ทตาเยิ้ม แพ็ทรีบฉวยโอกาสชวนไปฉลองความเป็นโสดที่บ้านทันที

ทางด้านอาร์ตี้ บ๊วย อาร์ท จัสติน กำลังคร่ำคร่งหาข้อมูลในเน็ต เพื่อตามหาวรางค์ พร้อมโทร.หาตามที่ ต่าง ๆ อาร์ทเห็นนางยังนั่งอยู่ เลยรีบบอกให้กลับไปก่อน ส่วนเรื่องป๊อบนั้น ถ้ารู้สึกดีขึ้นก็จะกลับมาคืนดีกับนางเอง
จังหวะนั้นมือถือนางดังขึ้น นางรีบแยกออกมาที่โถงบันได
“พี่แพ็ท โทรมาทำไม พี่แพ็ทร้ายกาจที่สุด ยู บิทช์ ยูโน้ว”
แพ็ทกำลังพูดมือถือในล็อบบี้เลาจน์ของผับ ส่วนจันทรกานต์นั่งแผ่อยู่ที่โซฟารออยู่เบื้องหลัง แพ็ท รีบสั่งให้นางมาถ่ายรูป พอนางปฏิเสธ ก็ถูกยกเรื่องพ่อมาขู่อีก
“นังนาง พ่อแกเข้าโรงพยาบาลอยู่นะ ผ่าตัดด้วยนี่ แกอยากให้ฉันช่วยเหลือค่ารักษาเป็นล้านๆ ให้ไหมล่ะ ถ้าอยากช่วยพ่อ รีบมาเดี๋ยวนี้เลย”
นางสะอื้นไห้ จำยอมอย่างไม่มีทางเลือก

ส่วนแพ็ทก็รีบส่งข้อความไปยกเลิกนัดกับเพชรทันที

จันทรกานต์ ที่นอนเปลือยเปล่าท่อนบน นอนนิ่งให้แพ็ทเช็ดตัวให้ แต่พอรู้สึกตัว ก็พยายามยันร่างขึ้น

“ผมอยู่ที่ไหน”
“ห้องนอนแพ็ทค่ะ”
จันทรกานต์ขยับจะลุก แพ็ทรีบดันอกให้ลงนอนลง
“อย่าดื้อซีคะ แพ็ทกำลังเช็ดตัวให้ คุณจะสดชื่นขึ้น”
แพ็ทเช็ดหน้าและรอบคอและเรื่อยมาถึงแผงอก จันทรกานต์จับมือแพ็ทไว้
“ผมไม่อยากสร่างเมาหรอก อยากเมาอย่างนี้แหละ เพราะยิ่งเมาผมก็ยิ่งทำตามความรู้สึกของผมได้มากเท่านั้น รู้สึกว่าคุณไม่ใช่แค่คนสวย แต่เซ็กซี่เหลือเกิน”
จันทรกานต์พูดตาเยิ้ม พลางรวบร่างแพ็ทมากอดไว้ จนแพ็ทนอนหงายไปกับเตียง ก่อนที่จะซุกหน้าเข้าซอกคอ แพ็ทหัวเราะระรื่น แต่แล้วจันทรกานต์ก็หลับไป แพ็ทลุกขึ้นอย่างหัวเสีย
“ยัยนาง ออกมา”
นางออกมาจากห้อง หน้าตายังบวมเพราะร้องไห้ พลางยื่นกล้องให้แพ็ท ที่สั่งการต่อให้นางนอนในห้องเก็บของ เผื่อได้ช็อทเด็ดตอนจันทรกานต์ตื่น
นางมองไปที่จันทรกานต์อย่างสงสารแล้วก็สะอื้น

ทางด้านศักดิ์สิทธิ์ ที่จับเด็กข้าวตู ข้าวตอดก ดอกไม้ ก็เริ่มบ่นเรื่องเงินค่าอาหารที่ร่อยหรอลงไป
ทุกวัน พลางหันมาทางดำรง
“ว่าแต่ ไอ้ดำ เห็นไอ้สุดหล่อมันบอกว่าเอ็งมีแหล่งเงินทุนนี่หว่า ใครนะไอ้หล่อ”
“ลูกเจ้าของห้างแกรนด์ครับพี่ศักดิ์ ลุงแกสูบมาได้แต่ละทีสองแสนสามแสนเลยนะครับ”
ศักดิ์สิทธิ์ตาโต
“จริงเหรอวะดำ ไม่เห็นเอ็งเล่าเรื่องดีๆ อย่างนี้ให้ข้าฟังบ้างเลย”
ดำรงกลืนน้ำลายเอื๊อก เริ่มรู้สึกอึดอัดใจ

แพ็ทในชุดอยู่บ้านแนวเซ็กซี่ เดินเข้ามาในห้องนอน พร้อมถาดอาหารเช้า พร้อมๆ กับที่จันทรกานต์ ที่นอนเปลือยท่อยบน สลึมสลือลุกขึ้น พลางมองตัวเอง แล้วเลิกผ้าห่มดูท่อนล่าง
“เมื่อคืนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอคะว่าคุณข่มเหงอะไรแพ็ทบ้าง”
“ผมจำอะไรไม่ได้เลย”
แพ็ทมองจันทรกานต์ด้วยสายตายั่วยวน
“ดื่มสักหน่อยนะคะ เดี๋ยวก็จำได้เองละ ว่ารังแกแพ็ทยังไง ร่องรอยยังอยู่เลยนะคะ”
จันทรกานต์คว้าเสื้อคลุมนอนมาคลุมตัว แล้วลุกขึ้น จังหวะเดียวกับที่เสียงมือถือดังขึ้นพอดี แพ็ทส่งแจ็คเก็ตสูทให้ จันทรกานต์รับมา พลางหยิบมือถือจากกระเป๋าเสื้อ เบอร์ดำรงปรากฏที่หน้าจอ
“ว่าไงครับ คุณพ่อดำรง”
แพ็ทหูผึ่งทันที

“แหม คุณจันทร์ครับ วันนี้มีเรื่องรบกวนอีกแล้ว”

ดำรงพูดมาทางปลายสาย ศักดิ์สิทธิ์ กับกลุ่มของสุดหล่อยืนฟังอยู่ไม่ห่าง ส่วนข้าวตู ข้าวตอก ดอกไม้ นั่งกินข้าวเช้าอยู่

จันทรกานต์ที่รู้เจตนาในการโทร. มาของดำรง ก็รีบบอกว่าเขาไล่ดาริกาออกจากชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว เพราะจับได้คาหนังคาเขาว่าดาริกา แอบปันใจให้พี่ชายของเขา

“ผู้หญิงใจง่ายแบบนี้ ผมไม่เอามาเป็นเมียให้เสื่อมเสียตระกูลผมหรอก เพราะฉะนั้นเลิกโทร.มาไถเงินจากผมได้แล้ว”
ดำรงรีบโวยวายทันที
“เดี๋ยวคุณจันทร์ คุณจะมาตัดบทแบบนี้ไม่ได้นะ นังดาวมันคงตกเป็นของคุณแล้ว ยังไงคุณก็ต้องชดใช้”
จังหวะนี้ พวกเด็กๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมา ศักดิ์สิทธิ์รีบสั่งให้พวกสุดหล่อไปดูเด็ก ขณะที่จันทรกานต์นิ่งงัน เพราะจำได้ว่าเป็นเสียงข้าวตู ข้าวตอก ดอกไม้ พลางแกล้งถามว่าดำรงอยู่ที่ไหน เพราะได้ยินเสียงเด็ก แต่ดำรงไม่ตอบ ซ้ำยังเซ้าซี้ให้จันทรกานต์ช่วยเป็นครั้งสุดท้าย
จันทรกานต์กดตัดสายทันที

จากนั้นจันทรกานต์ก็กลับมาแต่งตัว แพ็ทพยายามรั้งไว้ แต่รั้งไม่อยู่ แถมยังโดนจันทรกานต์พูดตอกกลับแรงๆ
“ผู้หญิงใช้ผู้ชายเปลืองอย่างคุณ คงไม่ให้ผู้ชายมาข่มเหงง่าย ๆ หรอกครับ แล้วถ้าผมทำจริง เอาหลักฐานเป็นคลิปมาดูหน่อยก็แล้วกันนะครับ”
จันทรกานต์ยิ้มหยัน ก่อนจะออกจากห้องไป แพ็ทโวยวายไล่หลัง นางออกมาจากห้องเล็ก ยิ้มเยาะใส่หน้าแพ็ท
“อีกคนแล้วนะคะที่ปฏิเสธคุณพี่อย่างไร้เยื่อใย”
“กล้ามาก มาท้าเรื่องคลิปงั้นเหรอ ได้ เดี๋ยวฉันจะเอาคลิปไปให้ดูทั้งวังทัศนัยเลย”
นางรีบยุส่ง แพ็ทมองอย่างแปลกใจ พลางรีบคว้ากล้องไป
นางยิ้มอย่างมีแผน

อิงฟ้านั่งหาข้อมูลของกลุ่มสุดหล่อในคอมฯ อยู่ ครู่หนึ่งเสียงมือถือดังขึ้น อิงฟ้ามองหน้าจอย่างแปลกใจก่อนรับสาย
“พี่ชายจันทร์ พี่ชายเป็นยังไงบ้าง”
จันทรกานต์ ที่ยืนอยู่หน้ารั้วบ้านแพ็ท รีบถามกลับ
“พี่ต้องถามฟ้ามากกว่า เกิดอะไรขึ้นกับข้าวตู ข้าวตอก ดอกไม้”
อิงฟ้าถึงกับอึ้ง “พี่ชายรู้อะไรมา”
“ตอนนี้เด็กสามคนนั่นอยู่ที่ไหน”
“เด็กถูกลักพาตัวค่ะพี่ชาย” อิงฟ้าเสียงสั่น “ฟ้ากับคุณวิวิทธิ์ไม่กล้าบอกใคร แล้วพี่ชายรู้ได้ยังไง”

“เอาอย่างนี้พี่จะไปหาน้องฟ้าที่บ้าน แล้วเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้พี่ฟัง”
 
อ่านต่อตอนที่ 14 จบบริบูรณ์ เวลา 17.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น