ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 8
คุณหญิงอรชรพาอิงฟ้าเดินลงบันไดมา ท่ามกลางเสียงชื่นชมของทุกคนในงาน วิวิทธิ์มองอิงฟ้าอย่างตะลึงลาน แต่ครู่เดียวก็สลด หันมาเปรยกับดาริกา ที่เดินมายืนใกล้ๆ
“คุณฟ้าสวยที่สุดเลย อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ทำไมมันเหมือนไกลกันเหลือเกิน”
“ค่ะ ฉันก็รู้สึกอย่างนั้น”
ปากพูด แต่ตาปรายไปมองจันทรกานต์ ที่กำลังรับไหว้อิงฟ้าอยู่
“สวัสดีค่ะพี่ชายจันทร์”
ยังไม่ทันที่จันทรกานต์จะเอ่ยอะไร ดารารายก็รีบพูดแทรกขึ้นมาทันที
“พี่เขามีของขวัญพิเศษมาให้หนูฟ้าด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวไปเปิดกล่องของขวัญดูกันเองนะ”
คุณหญิงอรชรรีบสนับสนุน
“คุณจันทร์คะ ช่วยพาน้องฟ้าไปทักทายแขกเหรื่อทีเถอะค่ะ โดยเฉพาะญาติๆ ทางทัศนัย”
“ใช่ น้องอิงฟ้าก็เช่นกัน ช่วยแนะนำคุณจันทร์ให้รู้จักกับญาติๆทางวรรณรัตน์ทีนะคะ”
สองแม่หันมาพยักเพยิดหน้าใส่กัน อิงฟ้ากับจันทรกานต์หันมามองกันงงๆ ก่อนจะเดินแยกมา แล้วคุยกันมาตามทาง
“พี่ชายคะ แปลกๆไหมคะ ทำไมเขาต้องให้เราแนะนำญาติของเราด้วย”
“พี่แปลกใจตั้งแต่เชิญตระกูลทัศนัยมาร่วมงานแล้วล่ะ”
ทั้งสองตรงมาที่แพ็ทและนาง
“พี่แพ็ท น้องนาง สวัสดีค่ะ”
อิงฟ้าทักทายทั้งคู่ นางรีบยิ้มหวานใส่
“พี่ฟ้า สวยอย่างกะตุ๊กตาเลย พี่ฟ้ากับพี่จันทร์ ดูเหมาะสมกันดีนะคะเหมือนท้องฟ้ากับน้ำตกเหวสุวัติ”
อิงฟ้าถึงกับชะงัก “อุ๊ย ฟ้ากับเหวเหรอคะ”
แพ็ททำหน้าเหยียด
“ยัยนาง อย่าโชว์โง่ จะดัดจริตพูดความเปรียบก็ให้มันรู้เรื่องหน่อย ยัยฟ้า เธอยังทำตัวเป็นแม่พระของชาวโลกอยู่รึเปล่า”
“ถ้าพี่แพ็ทหมายถึงอุทิศตัวเป็นประโยชน์กับสังคม ยังทำอยู่ค่ะ”
แพ็ทถอนหายใจ
“เฮ้อ ไปเที่ยวตะลอนอยู่ตามสลัม ไปเก็บเด็กข้างถนนมาเลี้ยงน่ะ มันมีความสุขตรงไหนยะ”
“ลองมาทำดูบ้างซิคะ แล้วพี่แพ็ทจะพบว่าความสุขกับการให้ มันยิ่งใหญ่ที่สุดเลยนะคะ”
แพ็ททำหน้าเอือม
“ไม่เชื่อ ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือการให้และรับอย่างสุขสมล้นปรี่กันทั้งสองฝ่าย จริงไหมคะคุณจันทร์”
จันทรกานต์อึดอัด พลางรีบตอบปัดแบบเลี่ยงๆ
“ไม่ค่อยเข้าใจที่คุณแพ็ทพูดน่ะครับ เลยไม่ขอออกความเห็น”
นางพูดแทรกขึ้นมาทันที
“นางรู้ค่ะ พี่แพ็ทหมายถึงตอนไปแย่งผัวยายซูซี่ไงคะ จนคนด่ากันทั้งเมืองว่า อีไฮโซแย่งผัว อีไฮโซแย่งผัว ก็ไม่เห็นแคร์ ยังควงผัวเขาออกทุกงาน แล้วทำหน้าฟินแบบเนี้ย ถ่ายลงทวิตลงไอจี ลงหมดทุกสื่อเลย”
แพ็ทหันขวับไปจ้องหน้านาง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ยัยนาง หยุดพูดนะ มานี่เลย”
แพ็ทหยิกแขนนาง แล้วพาแยกไป จันทรกานต์และอิงฟ้ามองหน้ากันงงๆ
อิงฟ้ามองตรงมาที่วิวิทธิ์ พลางพยักหน้าส่งสัญญาณ ก่อนที่จะแอบเดินไปรอที่มุมหนึ่ง วิวิทธิ์รีบตามไป แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของคุณหญิงอรชร ที่พยักหน้าให้สองสมุนปุ๊กับเป้าให้จัดการตามแผนทันที
วิวิทธิ์ตามอิงฟ้าเข้ามาในห้องวาดรูป วิวิทธิ์รีบบอกอิงฟ้าเรื่องที่เขาตัดสินมจจะลาออกจากแกรนด์ แต่ อิงฟ้าไม่ยอม พร้อมบอกว่ามีทางออกที่ดีกว่านั้น
“ฉันจะรับงานจากพี่วรางค์ และจะทำงานให้แกรนด์ เรายังพบกันได้นะคะ”
“คุณแม่จะยอมเหรอครับ”
อิงฟ้าพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“ต้องยอมค่ะ เพราะยังไงคุณแม่ก็อยากให้ฉันอยู่ใกล้คุณจันทร์อยู่แล้ว”
“แล้วในอนาคตละครับ”
“คุณต้องพิสูจน์ตัวเองให้คุณแม่เห็นซิคะว่าคุณรักฉันจริง และยืนหยัดเพื่อความรักของเรา”
วิวิทธิ์พูดตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ผมไม่เคยมั่นใจอะไรเท่านี้มาก่อนเลยครับ ผมจะต้องชนะใจคุณหญิงแม่ให้ได้”
พูดพลางกำหมัดแน่น อิงฟ้ายิ้มปลื้ม ทั้งสองประสานสายตากัน แล้วโผเข้ากอดกันอย่างซาบซึ้ง พร้อมกับเสียงกดชัตเตอร์ดังรัวขึ้น ทั้งสองรีบผละจากกัน ก่อนจะพบว่าปุ๊กับเป้ากำลังถ่ายภาพ ทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหวจากมือถือของทั้งสอง คุณหญิงอรชรยืนยิ้มสะใจอยู่ข้างๆ
“นึกแล้วว่าต้องแอบมาพลอดรักกันจนได้”
อิงฟ้ามองหน้าคุณหญิงแม่อย่างไม่เข้าใจ “ถ่ายรูปไว้ทำไม”
“ไว้เป็นหลักฐานไง ว่าเจ้าหมาวัดมันล่วงเกินแก”
วิวิทธิ์รีบออกตัว“คุณหญิงครับ ฟังผมก่อน ผมรักคุณฟ้า ผมจะแต่งงานกับเธอ ให้โอกาสผมบ้างนะครับ”
“หยุดพูด ยายฟ้า กลับไปที่งาน”
“อย่าทำอะไรคุณวิวิทธิ์นะคะ ถ้าแม่ทำร้ายเขาละก็ หนูจะไม่อยู่ที่นี่และไม่กลับมาอีกเลย”
อิงฟ้าขู่
“อย่าเว่อร์ ฉันไม่ทำอะไรมันหรอก แม้แต่ไล่มันกลับฉันก็ไม่ทำ ปุ๊พามันกลับเข้างาน”
ปุ๊รับคำ พร้อมกับจับวิวิทธิ์ออกไป คุณหญิงอรชรยิ้มหยันกับอิงฟ้า
“ขอบคุณค่ะที่ยังฟังหนู”
อิงฟ้าสะบัดจากเป้าแล้วกลับเข้างานไป ไม่ทันสังเกตว่าคุณหญิงอรชร มองตามด้วยสีหน้าเหี้ยม อย่างคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
“จะประกาศเดี๋ยวนี้เลยเหรอคะ”
ดารารายหันมาถามย้ำ หลังจากได้ยินคำบอกเล่าที่คุณหญิงอรชรแอบมากระซิบข้างหู
“ใช่ค่ะ ไม่มีเวลาเหลือแล้ว ประกาศเลยดีกว่า”
ดารารายเดินไปที่แสตนด์เวทีเล็กๆ ทุกคนหันมามอง และทยอยเข้ามารวมกันในห้อง คุณชายจันทร จันทรกานต์ มองหน้ากันงงๆ ดาริกายืนอยู่กับวิวิทธิ์ ที่หายใจไม่ทั่วท้อง ส่วนอิงฟ้าแยกมาอยู่กับคุณหญิงอรชรและป้าแมว ฝ่ายหญิงน้อย หญิงใหญ่ แพ็ท นาง จักรพัฒน์ พิชญา ยืนรวมกันอีกมุมหนึ่ง
“ขอทุกท่านฟังทางนี้สักหน่อยค่ะ ดิฉันมีเรื่องดีๆ จะบอกกับทุกคน งานวันนี้ถูกจัดขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นงานคล้ายวันเกิดของน้องอิงฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกงานมงคลของคนคู่นี้ค่ะ เขาจะมาประกาศว่าเขารักกันมานานแล้ว และพร้อมจะครองคู่กันในอีกไม่ช้านี้”
ทุกคนฮือฮา จันทรกานต์หันมามองหน้าคุณชายจันทร ที่อยู่ในอาการงุนงงเหมือนกัน
“คุณจันทร์คะ เชิญหน่อย”
จันทรกานต์เดินเข้าไปหาแม่ ดารารายหยิบกล่องแหวนออกมา
“แม่ครับ นี่อะไรครับ”
ดารารายไม่ตอบ แต่ปรายตาไปทางคุณหญิงอรชร
“คุณพี่หญิงคะ ดิฉันถือโอกาสนี้พูดแทนจันทรกานต์ ทัศนัย ลูกชายสุดที่รักของดิฉัน คุณจันทร์รักน้อง อิงฟ้ามานานแล้ว และวันนี้คุณจันทร์ขอประกาศหมั้นน้องอิงฟ้า วรรณรัตน์ ลูกสาวของคุณพี่ค่ะ”
จันทกานต์กับอิงฟ้า ยืนช็อก ดาริกากับวิวิทธิ์ตะลึง อ้าปากค้าง จักรพัฒน์ยิ้มสะใจ ก่อนจะปรายตามองมาทางพิชญาที่ยืนนิ่งอึ้งแบบเยาะๆ ส่วนคุณชายจันทรวางหน้าเคร่งขรึมกว่าเดิม
“นี่ค่ะ ตัวแทนความรักของคุณจันทร์ที่มีต่อน้องอิงฟ้า แหวนเพชรูปหัวใจวงนี้”
ดารารายเปิดกล่องเพชรรูปหัวใจ คนในงานส่งเสียงปลาบปลื้ม ปรบมือสนั่น ดารารายส่งกล่องแหวนเพชรให้ลูกชาย
“ทำไมแม่ทำแบบนี้”
ดารารายลดเสียงพูดให้เบาลง แต่แอบวางอำนาจ
“อย่าขัดแม่ คุณชายคะ เชิญขึ้นมาหน่อยค่ะ”
คุณชายจันทรเข้ามายืนข้างๆ จันทรกานต์ “ไม่เป็นไรลูก ใจเย็นๆ”
อิงฟ้าหันขวับมาทางคุณหญิงอรชรทันที
“นี่มันอะไรกันคะแม่”
“ได้ยินแล้วนี่ คุณจันทร์เขาขอหมั้นแก”
อิงฟ้าหน้าเครียด “ไม่ใช่คุณจันทร์ แต่เป็นแม่ที่ร่วมมือกับคุณน้าดาราราย”
ดารารายประกาศออกไมค์ต่อ “ขอเชิญน้องอิงฟ้าและคุณหญิงหน่อยค่ะ”
“หนูไม่ขึ้นนะคะ”
อิงฟ้าฟันมาบอกแม่ คุณหญิงอรชรยิ้มแบบใจเย็น แล้วพูดนิ่มๆ
“ต้องขึ้น ไม่งั้นฉันประกาศต่อหน้าทุกคน เรื่องที่เจ้าหมาวัดมันล่วงเกินแกตามภาพนี้”
คุณหญิงอรชรเปิดภาพจากมือถือให้ดู อิงฟ้าพูดไม่ออก จำต้องไปยืนคู่กับจันทรกานต์ ทั้งสองมองมาที่ดาริกาและวิวิทธิ์ที่ยืนอยู่ด้วยกัน ต่างก็หน้าสลดกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะอิงฟ้า ถึงกับน้ำตารื้น คุณหญิงอรชรรีบพลิกวิกฤตเป็นโอกาส
“ตายแล้ว คุณดาวกับคุณชายทำเซอร์ไพรส์อะไรแบบนี้คะ ยายหนูทั้งตกใจ ทั้งปลื้มใจ ดูซิคะ น้ำตาไหลพรากเลย”
ดารารายพูดเสริม
“คุณจันทร์ดูน้องซิ เช็ดน้ำตาให้น้องหน่อยเร็ว”
พูดจบ ก็ยื่นส่งผ้าเช็ดหน้าให้ จันทรกานต์รับมา แล้วหันมามองหน้าคุณชายจันทร เหมือนขอคำปรึกษา
“เล่นไปตามบทบาทก่อนลูก อย่าให้แม่เขาต้องเสียหน้า”
จันทรกานต์ถอนหายใจ ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้อิงฟ้า
ดาริกาที่ยืนอยู่กับวิวิทธิ์ พยายามพูดปลอบใจ ยืนยันว่าจันทรกานต์ถูกบังคับ จันทกรานต์ยืนเคียงข้างกับอิงฟ้าด้วยทีท่าอึดอัด
“สวมแหวนให้น้องเลยซิลูก”
จันทรกานต์จำยอมต้องรับแหวนมาจากแม่ ก่อนจะค่อยๆ จับมือของอิงฟ้าขึ้น
“พี่ชาย อย่าทำอย่างนี้เลย ห้ามผู้ใหญ่ของเราทีเถอะค่ะ”
อิงฟ้าน้ำตาไหล จันทรกานต์รีบเอียงหน้าไปกระซิบข้างหู
“พี่ขอโทษนะอิงฟ้า ตอนนี้เราแก้สถานการณ์ไม่ได้ เราต้องเล่นตามเกมไปก่อน”
จันทรกานต์บรรจงสวมแหวนให้อิงฟ้า ที่เอาแต่สะอื้น ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความยินดี ฝ่ายวิวิทธิ์ก็ยืนฮึดฮัดตลอด จนดาริกาต้องคอยปราม
“หอมแก้มน้องด้วยซิคะลูก น้องฟ้าตกใจถึงกับร้องไห้ ถือเป็นการปลอบขวัญนะคะ”
จันทรกานต์มองหน้าแม่อย่างไม่พอใจมากๆ แต่ก็จำยอมต้องหอมแก้มอิงฟ้าอยางเลี่ยงไม่ได้ อิงฟ้ายิ่งสะอื้นหนัก ดารารายกับคุณหญิงอรชรยิ้มปลื้ม
วิวิทธิ์ทำท่าจะก้าวไปหาทั้งคู่ แต่ดาริการีบห้ามไว้ พร้อมๆกับที่ปุ๊กับเป้า รีบเข้าประชิดตัว แล้วพาวิวิทธิ์ ออกไปทันที ดาริการีบตามไปด้วย แพ็ทและนาง มองอาการของคนทั้งหมดด้วยความสงสัย แล้วก็รีบตามไปด้วยความสอดรู้
ดาริกาวิ่งเข้ามาประคองร่างของวิวิทธิ์ ที่ถูกโยนลงมากองที่สนาม ปุ๊กับเป้าหัวเราะสะใจ แล้วกลับเข้าตึก
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
วิวิทธิ์ส่ายหน้า “ผมจะเข้าไปบอกความจริงให้ทุกคนรู้เดี๋ยวนี้ละ”
“ไม่มีประโยชน์ค่ะ อย่าเลย”
วิวิทธิ์หน้าเศร้า
“ไม่เข้าใจคุณจันทร์ ค้านคุณแม่มาได้ทุกเรื่อง แต่ทำไมเรื่องหมั้นกลับยอมตาม นี่มันเรื่องใหญ่นะคุณ”
“คงนึกไม่ถึงละมังคะว่าคุณแม่จะมัดมือชกแบบนี้”
“เขาทำลายความรักทั้งของผมกับอิงฟ้า แม้แต่คุณ เขาบอกผมว่าเขารักคุณ”
ดาริกานิ่งงัน แพ็ทและนางตามมาแอบมองอยู่มุมหนึ่ง อ้าปากค้าง
“เขาไม่กล้าพูดตรง ๆ กับคุณเท่านั้น”
ดาริกาพยักหน้า แววตาสลด “ฉันรู้ค่ะ”
“ผมรับไม่ได้ ถ้าเขาจะประกาศออกไปว่าเขาไม่ได้รักอิงฟ้า เขาก็ย่อมทำได้ แต่เขาเลือกที่จะแสดงว่ารักอิงฟ้าต่อหน้าทุกคน ทั้งเช็ดน้ำตา ทั้งสวมแหวนหมั้น ให้ผมเชื่อเหรอว่าเขาถูกบังคับ”
วิวิทธิ์พูดระบายความรู้สึก จนดาริกาชักลังเล
“ตอนนี้เราไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร ไม่แม้แต่ตั้งคำถาม”
“ใช่ ผมมันแค่เลขาฯ หมาวัด”
ดาริกากัดริมฝีปากแน่น
“ถ้าคุณเลขาฯ หมาวัด ฉันก็นังเลขาฯ ตลาดสด หัวอกเดียวกัน เฮ้อ....กลับก่อนดีกว่าค่ะ แล้วเดี๋ยวค่อยเคลียร์คุณจันทร์เรื่องนี้”
วิวิทธิ์ทั้งกลุ้ม ทั้งเครียด นางที่แอบฟังอยู่ รีบหันมาบอกว่าจะไปบอกความจริงทั้งหมดให้ผู้ใหญ่ในงานฟัง แต่แพ็ทรีบห้ามไว้ พร้อมกับข้อเสนอที่จะให้นางมาเป็นนางแบบโฆษณา
อิงฟ้ายังคงยืนซึมอยู่กับกลุ่มผู้ใหญ่ที่แสดงความยินดีกับคุณหญิงอรชรและดาราราย ส่วนคุณชายจันทรยืนแยกมา สีหน้าเคร่งขรึม
หญิงใหญ่กำลังโทร.เมาท์เรื่องหมั้นกับเพื่อน ๆ หญิงน้อยหน้าเสีย รีบหันมาขอโทษแพ็ท ที่กลับเข้ามาร่วมวงพร้อมกับนาง
“ยายแพ็ท ป้าขอโทษนะที่พาหนูมาเสียเที่ยว กะว่าจะให้มารู้จักคุณจันทร์ ที่ไหนได้ประกาศหมั้นเสียแล้ว”
แพ็ทรีบถามเพื่อยืนยันที่ได้ยินมา เกี่ยวกับอิงฟ้าและวิวิทธิ์ หญิงน้อยยืนยันว่าใช่
“แล้วคุณจันทร์ละค่ะ รักชอบใคร”
“เรื่องนี้ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ไม่ได้ชอบยายอิงฟ้าหรอก ป้าถึงให้เรามา“แย่ง” เอ๊ย มาเป็นตัวเลือกของคุณจันทร์ไง”
แพ็ทเบ้ปาก
“แพ็ทไม่ใช่ตัวเลือกของใครค่ะ เพราะคนอย่างแพ็ท ต้องเป็นผู้เลือกเท่านั้น”
พูดพลางยิ้มอย่างมีแผน หญิงน้อยมองอย่างงงๆ
ไฟในห้องหรี่ลง จันทรกานต์ถือเค้กก้อนใหญ่ จุดเทียนครบจำนวนอายุ เดินตรงมาหาอิงฟ้า นางที่เดินมาพร้อมกลุ่มเพื่อน ร้องเพลงแฮ้ปปี้เบิร์ธเดย์นำแบบเพี้ยนไปเพี้ยนมา แพ็ทเดินไปร่วมวง แล้วร้องด้วยเสียงโซปราโน่โชว์พลังนางไม่พอใจ ที่ถูกแย่งซีน พอแพ็ทร้องจบทุกคน ก็ปรบมือเกรียว
คุณหญิงอรชรรีบปราดเข้ามากันแพ็ทออกไป
“คุณจันทร์ พูดอะไรกับน้องหน่อยซิคะ”
“เออ อธิษฐานเลยครับ”
อิงฟ้าเงยหน้ามองจันทรกานต์ แล้วพูดอย่างเย็นชา
“ค่ะ ขอให้ฟ้าได้ลงเอยกับรักแท้ค่ะ”
จันทรกานต์พยักหน้าอย่างเข้าใจ
พิชญามองมาที่จันทรกานต์ ที่ถูกดารารายและคุณหญิงอรชรเจ้ากี้เจ้าการให้ให้อิงฟ้าป้อนเค้ก ด้วยความคับแค้นใจ พลางยกแก้วเครื่องดื่มรวดเดียวหมดแก้ว จักรพัฒน์เข้ามาข้างๆ อดที่จะพูดเหน็บภรรยาไม่ได้
“วันนี้เป็นวันดีจริงๆ นอกจากได้เห็นนายจันทร์สวมแหวนหมั้นให้อิงฟ้าแล้ว ยังได้เห็นคนใจสลายอีกคน”
“จะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันเบื่อหน้าคุณเต็มทนแล้ว”
จักรพัฒน์ยิ้มเหยียด
“ไม่ต้องไล่ เพราะผมจะไปจากชีวิตคุณอีกไม่นานนี่แล้ว หลังจากเซ็นใบหย่า เก็บข้าวของของคุณออกไปให้หมด อย่าให้เหลือความทรงจำใดๆ แม้แต่ชิ้นเดียว”
“นี่ไล่ฉันเหรอ นั่นก็บ้านฉันนะ”
จักรพัฒน์หัวเราะขำ
“บ้านผมต่างหาก บ้านของตระกูลผม อย่าลืมว่าตอนที่คุณแต่งกับผม ครอบครัวคุณหมดตัวพอดี อ้อ วันนี้กลับเองนะ เพราะเดี๋ยวเขาจะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ต่อ ผมจะไปกับน้อง ๆ เขา เพื่อนๆ น้องนาง น่ารัก น่าเอ็นดู สวย
เอ๊าะๆ กันทุกคน แหม..กลับมาเป็นโสดมันดีอย่างนี้เอง”
จักรพัฒน์ระรื่นเข้าไปร่วมวง พิชญาอยากจะร้องกรี๊ด รีบสะบัดหน้าออกจากงานทันที
ดารารายเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของวังทัศนัยอย่างหัวเสีย คุณชายจันทรเดินตามมา พลางตำหนิสิ่งที่ดารารายทำ
“งานนี้คุณสมควรโดนตำหนิมาก ๆ”
“เพราะฉันไม่รายงานคุณก่อนเรื่องการหมั้นใช่ไหม”
คุณชายจันทรพูดด้วยย้ำเสียงเคร่งขรึม
“ถูกต้อง เรื่องใหญ่อย่างนี้ทำไมทำไปโดยพลการ ไม่ปรึกษาผมเลย เพราะผมเคยเตือนแล้วว่า จันทรกานต์ไม่ได้รักอิงฟ้าเลย”
ดารารายไม่ยอมแพ้
“แล้วจะปล่อยให้ไปรักแม่เลขาฯ ตลาดสด ฉันรับไม่ได้ค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้ปรึกษาคุณชายก่อน แต่งานนี้ฉันถือว่าฉันทำถูกต้องที่สุดแล้ว ขอตัวค่ะ”
พูดจบดารารายก็ออกจากห้องไป คุณชายจันทรยืนครุ่นคิด พลางหาทางช่วยลูก
อ่านต่อหน้า 2
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 8 (ต่อ)
ฝ่ายดาริกา ก็โวยวายใส่หน้าจันทรกานต์ทันที เมื่อทั้งคู่นั่งอยู่ที่คอนโดของจันทรกานต์ตามลำพัง
“ทีอย่างนี้ทำไมยอมตามคุณแม่คุณ นี่มันชีวิตคุณทั้งชีวิตเลยนะ แถมยังเอาชีวิตคุณอิงฟ้าเข้าไปเสี่ยงด้วยอีกคน”
จันทรกานต์ถอนหายใจ “แล้วจะให้ผมทำยังไง”
“ก็ประกาศไปเลยซิ ว่าคุณไม่ได้รักคุณอิงฟ้า อิงฟ้าก็ไม่ได้รักคุณ”
“ก็อยากทำอยู่เหมือนกัน อยากจะบอกด้วยซ้ำว่าผมมีคนรักอยู่แล้ว”
“ใช่ค่ะ บอกได้บอกไปเลย อุ๊ย”
ดาริกาชะงักคำพูดไป เพราะรู้ตัวว่าไปพูดเข้าทางจันทรกานต์พอดี
“จะให้บอกชื่อเลยงั้นเหรอ ไม่เร็วไปหน่อยเหรอคุณ ผมว่าเรารออีกระยะนึงไม่ดีกว่าเหรอ”
ดาริกาหน้าแดงเรื่อ
“นี่คุณ อย่ามาพูดให้เสียเรื่อง ฉันซีเรียสนะ”
“เอ้า ไม่พูดเล่นแล้ว พูดจริงก็ได้ ที่โวยวายมานี่ เป็นห่วงผมหรืออิงฟ้ากันแน่”
ดาริกาทำหน้าเศร้า
“ห่วงทั้งคู่นั่นแหละ รวมทั้งคนบาดเจ็บอีกหลายรายวันนี้”
“ใครบ้าง” จันทรกานต์ย้อนถาม
“คุณพิชญาไง เมาแอ๋เลยล่ะ”
“แล้วมีใครอีก”
“ก็คงจะคนรักของคุณอิงฟ้ามังคะ นั่นก็บาดเจ็บไม่น้อย”
จันทรกานต์ตาวาวขึ้นมาทันที
“เขาอยู่ในงานด้วยเหรอ เป็นใครบอกได้ไหม”
“อย่าให้บอกเลยนะคะ สักวันคุณก็คงรู้เอง แต่ถ้าเขารู้ว่าที่คุณเช็ดน้ำตาให้คุณอิงฟ้า บรรจงสวมแหวนให้อย่างทนุถนอม เป็นแค่การแสดงฉากนึง เขาคงดีใจไม่น้อยเลยละ”
จันทรกานต์มองหน้าดาริกาด้วยสายตาซึ้ง
“คุณล่ะ ดีใจไหมที่รู้ว่ามันเป็นแค่การแสดง”
ดาริกาเผลอตัวยิ้มแป้น “ดีใจสุดๆ เอ๊ะ ถามทำไม”
“ก็อยากรู้ว่าคุณห่วงผมแค่ไหนไง ไม่ใช่แค่ห่วง ต้องถามว่า “หวง”ด้วยรึเปล่า”
จบประโยค ดาริกาก็ลุกพรวดทันที แต่กลับถูกจันทรกานต์คว้าตัวไว้
“ยังไม่ตอบเลย ห่วงไหม หวงไหม”
ดาริกาส่ายหน้า “ไม่”
“ไม่ห่วงผมเลยเหรอ ผมกำลังถูกจับแต่งงานนะ”
“ก็เรื่องของคุณ”
จันทรกานต์ยิ้มจนตาเยิ้ม “นี่แหละ ทั้งห่วง ทั้งหวงเลยละ ดีใจจัง”
“รู้ได้ยังไง”
“ตาคุณมันฟ้อง ไม่ต้องห่วงนะดาริกา ผมไม่มีวันแต่งงานกับคนที่ผมไม่รัก ไม่มีใครมาบังคับผมได้หรอก”
พูดพลางก็ดึงร่างดาริกามากอดไว้ ดาริกาซบกับไหล่เริ่มเคลิ้ม ครู่หนึ่งก็รู้สึกตัว ผลักร่างจันทรกานต์ออก
“คุณจันทร์ ทีหลังถ้าทำเคลิ้มแบบนี้กับฉันอีก ฉันจะไม่เข้ามาในห้องคุณอีกเลย คอยดู ฉันถือว่าคุณฉวยโอกาสจากเรือนร่างของฉัน ครั้งนี้ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย”
จันทรกานต์พยักหน้า พลางทำตากรุ้มกริ่ม
“ได้ครับ งั้นขอฉวยโอกาสครั้งสุดท้ายอีกครั้ง”
จันทรกานต์ดึงดาริกามากอดอีกที ดาริกาพยายามจะขัดขืน
“พูดอีกทีซิครับ ทูนหัวของฉันหรือทูนหัวของบ่าวน่ารักที่สุดเลย”
จันทรกานต์จูบไซร้ซอกคอ จนดาริกาเคลิ้ม
“ค่ะ ทูนหัวของ”
ดาริกายังพูดไม่ทันจบ เสียงมือถือก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ ดาริกาสะดุ้งแล้วรีบผละจากร่างของจันทร์กานต์ทันที
“คนอะไรฉวยโอกาสทุกทีเลย ฉันไม่อยู่ห้องคุณแล้ว”
ดาริกาออกมาจากห้องจันทรกานต์ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่สนใจเสียงมือถือ ที่ยังดังต่อเนื่อง จนจันทรกานต์ต้องโผล่หน้ามาถาม
“ไม่รับสายเหรอครับ”
ดาริกาสะดุ้ง “ระ รับค่ะ”
ดาริกาวิ่งกลับเข้ามาที่รับสายห้องตัวเอง อิงฟ้าที่ยังนั่งอยู่ในงาน พูดมาทางปลายสายด้วยน้ำเสียง
ร้อนรน
“พี่ดาว ช่วยหน่อยเถอะค่ะ ฟ้าเพิ่งรู้ว่าคุณวิวิทธิ์ไปเมาอยู่ที่ผับเดอะเบียร์ เอกมัยน่ะค่ะ ยัยนางรายงานมา คุณวิวิทธิ์ตามพี่จักรพัฒน์ไปกับกลุ่มยัยนาง พี่ดาวช่วยตามไปดูหน่อยได้ไหม เห็นว่าคุณวิวิทธิ์เมามากเลย”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวจะไปดูเดี๋ยวนี้เลย”
จักรพัฒน์ลากวิวิทธิ์ ที่เมาแอ๋ มานั่งข้างๆ แพ็ทที่มองวิวิทธิ์ด้วยแววตาระริก
“คุณแพ็ท โทษนะ ผมเมาไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันชอบคนเมา ไงคะ ทำไมทำท่าเหมือนอกหัก”
วิวิทธิ์มองหน้าแพ็ทตาขวาง
ดาริกาเข้ามาเดินหาวิวิทธิ์ที่กลางฟลอร์ แต่ก็โดนคนกระแทกเซไปมา จนมาชนกับจักรพัฒน์ ที่รีบคว้า ดาริกามาร่วมเต้น
“พอค่ะคุณจักร เวียนหัว คุณวิวิทธิ์อยู่ไหนคะ”
“เอ อยู่ไหนล่ะ น้องนาง วิวิทธิ์อยู่ไหนนะ เมื่อกี้เพิ่งหิ้วปีกไปหยกๆ”
นางที่เต้นอยู่ข้างๆ รีบหันมาบอก
“โน่นค่ะ พี่แพ็ทกำลังจีบอยู่”
ดาริกาถึงกับตกใจ “หา จีบ”
วิวิทธิ์ที่ยังนั่งซึมอยู่ตรงหน้าแพ็ท หันมาตอบด้วยน้ำเสียงออกทองแดง
“ใช่ผมอกหัก วันนี้ผมเสียคนรักให้คนที่ผมรักและเคารพที่สุดคนนึง ผมไม่มีทางแย่งคืนมาด้วย เพราะผมมันแค่ไอ้เลขาฯ หน้าปลาจวด”
“ชอบสำเนียงคุณจัง อุ๊ย .รู้ตัวด้วยว่าหน้าปลาจวด”
“รู้ซิครับ ผมมันก็ไอ้แค่หมาวัด”
แพ็ทตาวาว “ต๊าย ทั้งปลาจวดทั้งหมาวัด บ้านๆ ของโปรดเลย เซ็กซี่จัง”
ทันใดนั้นดาริกาก็โผล่เข้ามาขัดจังหวะ
“คุณวิวิทธิ์ เป็นยังไงบ้างคะ ฉันมารับคุณกลับบ้าน เมาไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย”
วิวิทธิ์รีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่กลับ ไม่อยากกลับไปนอนเจ็บอยู่คนเดียว ผมจะนอนที่นี่”
“ทิ้งเขาไว้ที่นี่เถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
แพ็ตพูดอย่างอย่างสองแง่สามง่าม พลางจิกตามอง อย่างพร้อมจะเขมือบวิวิทธิ์
“ไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงก็ต้องพากลับ เดี๋ยวนะคะ”
ดาริกาหยิบมือถือแล้วออกไปจากผับ แพ็ทรีบตามไปทันที
ดาริกาออกมาโทร. ถามทางไปบ้านวิวิทธิ์กับอิงฟ้า แพ็ทตามมาฟังระยะประชิด
“มันเข้าซอยหลายเลี้ยวเลย พี่ดาวเอาอย่างนี้ดีกว่า พี่ดาวพาเขาไปค้างที่คอนโดพี่ได้ไหม”
ดาริกาสะดุ้ง
“หา ให้คุณวิวิทธิ์ค้างที่คอนโดพี่ ไม่เหมาะมังคะ ทำไมต้องคอนโดพี่ล่ะ”
“พรุ่งนี้ฟ้าจะได้บอกแม่ว่าจะไปเยี่ยมพี่ชายจันทร์ แล้วแว้บหลบเข้าห้องพี่ดาวก่อน จะได้พบคุณวิวิทธิ์ไงคะ นะคะ สงเคราห์หน่อยเถอะ ฟ้าเป็นห่วงเขา อยากคุยกับเขาด้วยค่ะ”
“ค่ะ ค่ะ ก็ได้”
“รักพี่ดาวที่สุดเลย พรุ่งนี้เจอกันนะคะ”
ดาริกวางสายแบบอึ้งๆ พลางบ่นกับตัวเอง
“แล้วจะแบกกลับคอนโดเราได้ยังไงล่ะเนี่ย ตัวอย่างกะตึก”
แพ็ทที่แอบฟังอยู่ คิดแผนร้ายในใจ
ร่างของวิวิทธิ์ถูกพยุงมานอนที่โซฟาในคอนโดของดาริกา ดาริกายืนหอบเหนื่อย
“ขอบคุณนะคะคุณแพ็ทที่ช่วย”
ดาริกาหันมายิ้มให้แพ็ท ที่ยืนปั้นหน้าว่าห่วงใยอยู่ข้างๆ พลางย้ำกับแพ็ทว่าอย่าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ โดยเฉพาะจันทรกานต์
“ได้จ๊ะ จัดให้ ชอบจังเวลาใครมีความลับ เอ่อ จะให้ช่วยลอกคราบ เอ๊ย ถอดเสื้อผ้า เช็ดตัวคุณวิวิทธิ์ด้วยไหม ยินดีนะ”
ดาริกาส่ายหน้า “อ๋อ คงไม่ต้องละค่ะ ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ”
เข้าวันรุ่งขึ้น จันทรกานต์ ที่ยังอยู่ในชุดเสื้อคลุมนอน กำลังดื่มกาแฟ พร้อมกับพูดมือถือไปด้วย
“อะไรนะครับ น้องฟ้าจะมาเยี่ยมผมที่คอนโด เช้านี้เลยเหรอครับ”
“ค่ะ แม่ก็เห็นว่าความคิดเข้าท่าดี” คุณหญิงอรชรพูดมาทางปลายสาย ขณะที่กำลังดูป้าแมวแต่งตัวให้อิงฟ้าอยู่ในห้องนอน
“ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าก่อน แต่เห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุด คงไม่รบกวนคุณจันทร์เกินไปนะคะ”
“อ๋อ ไม่รบกวนหรอกครับ”
คุณหญิงอรชรยิ้มพอใจ
“ดีค่ะ ยายหนูเขาจะทำของเช้าไปให้คุณจันทร์ทานด้วย”
จันทรกานต์ถามต่อ
“ครับ เออ น้องฟ้ามาคนเดียวหรือมีใครมาด้วยไหมครับ”
“แน่นอนค่ะ ต้องมีบอดี้การ์ดนายปุ๊ นายเป้าอยู่แล้วค่ะ แหม คุณจันทร์เนี่ย สุภาพบุรุษที่สุดเลย เป็นห่วงกลัวยายหนูจะดูไม่ดีใช่ไหมคะ ขึ้นคอนโดผู้ชาย”
“ใช่ครับ ครับ สวัสดีครับ”
จันทรกานต์หน้าเจื่อน ตรงข้ามกับอิงฟ้าที่ได้ยินบทสนทนาแล้วแอบอมยิ้ม
ดาริกากำลังทำอาหารอยู่มุมครัว ส่วนวิวิทธิ์ ที่เปลือยท่อนบน มีผ้าห่มคลุมร่างอยู่ นอนกระสับกระส่ายไปมา พร้อมกับส่งเสียงครางไม่เป็นภาษา
“ผมอยู่ที่ไหน”
วิวิทธิ์งัวเงียมาถามอย่างมึนๆ
“คุณวิวิทธิ์ นี่ห้องฉันค่ะ”
ดาริกาหยิบผ้าเย็นมาให้ วิวิทธิ์รับมาแล้วเช็ดหน้า
“คุณตื่นก็ดีแล้ว รีบอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ เพราะเดี๋ยวจะมีแขกสำคัญมาพบคุณ”
“ใครครับ”
“คุณอิงฟ้าไงคะ”
วิวิทธิ์หายมึนทันที “อิงฟ้า ผมจะได้พบอิงฟ้าเหรอ”
“ค่ะ เป็นแผนของเธอให้ฉันพาคุณมาที่นี่”
วิวิทธิ์ลุกพรวด แล้วจู่ๆ ก็เกิดอาการผะอืดผะอม ก่อนที่จะรีบวิ่งออกมาโก่งคออาเจียนที่รางต้นไม้ริมระเบียง ดาริการีบวิ่งตามออกมาลูบหลังให้ จันทรกานต์ที่ยืนมองผ่านกำแพงเห็นทุกอย่างอย่างตะลึงงัน
“ก็รีบลุกนี่นา จะบ้าพลังไปถึงไหน เมื่อคืนคุณหนักมาทั้งคืนนะคะ ควรจะนอนพักเอาแรงบ้าง”
จันทรกานต์ยิ่งฟัง ก็ยิ่งคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน
“ดาริกา นี่หมายความว่าผมจะได้”
“ค่ะ ฉันจัดให้คุณทุกอย่าง”
วิวิทธิ์ยิ้มดีใจ “ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก รักคุณที่สุดเลย”
พูดจบก็โผเข้ากอดดาริกาแน่น จันทรกานต์มองเห็นพอดี
“ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นะ”
ดาริกาส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ”
พลางเหลือบตามองไปยังห้องติดกัน จันทรกานต์รีบหลบหลังกำแพง ก่อนจะค่อยๆ ทรุดนั่งตรงนั้น เพราะคาดไม่ถึงว่าดาริกาและวิวิทธิ์จะเป็นแบบนี้
อิงฟ้านั่งมองจันทรกานต์ที่นั่งทานข้าวเงียบๆ ไม่พูดไม่จา ก็อดที่จะถามไม่ได้
“ไม่อร่อยเหรอคะพี่ชาย เห็นพี่จันทร์เงียบๆ”
“กำลังคิดเรื่องของเราน่ะ”
พูดไปก็เหลือบตามองไปทางปุ๊กับเป้า ที่ยืนประกบอยู่ อิงฟ้ารีบเดินไปบอกให้ทั้งคู่ลงไปรอที่ล็อบบี้ อ้างว่าอยากอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง จากนั้นก็กลับมานั่งคุยต่อ
“สะดวกแล้วค่ะ พี่ชายจะจัดการเรื่องของเรายังไงดีคะ”
“คงต้องยื่นคำขาดให้คุณแม่เราทั้งสองฝ่าย เราไม่หมั้น ไม่แต่งแน่นอน”
“ต้องรีบนะคะ เพราะมีกำหนดการเรื่องงานหมั้น งานแต่งมาแล้ว”
ครู่หนึ่งจันทรกานต์ก็เดินอกมาส่งอิงฟ้าที่หน้าลิฟท์ พอจันทรกานต์กลับเข้าห้อง อิงฟ้าก็รีบวิ่งไปที่ห้อง
ดาริกาทันที เมื่อเข้ามาในห้อง ก็พบวิวิทธิ์ ยืนอยู่กลางห้อง พร้อมกับส่งยิ้มให้ พลางก้าวเข้าหา แล้วกอดอิงฟ้าแนบแน่น ดาริกามองอย่างปลาบปลื้ม ก่อนจะรีบหลบเข้าห้องนอนไป
วิวิทธิ์คลายอ้อมกอด พลางมองอิงฟ้าอย่างรักใคร่
“นี่คือสิ่งที่ผมอยากทำใจจะขาด ตอนที่คุณจันทร์ใส่แหวนให้คุณ”
อิงฟ้ายกมือดูแหวน
“มันไม่มีความหมายอะไรหรอกค่ะ พี่จันทร์กับฟ้าตกลงกันแล้ว เราจะหาทางยุติการคลุมถุงชนครั้งนี้ให้ได้”
“งั้น ถอดมันออกเถอะนะครับ เวลาอยู่กับผม”
อิงฟ้ารับคำ แล้วถอดแหวนออกทันที
“แล้วผมจะหาแหวนที่บอกถึง “รักแท้” มาใส่ให้คุณแทน”
ทั้งสองยิ้มให้กัน ก่อนที่วิวิทธิ์ดึงอิงฟ้ามากอดแนบอกอีกครั้ง
สองวันต่อมา ระหว่างที่จันทรกานต์นั่งทำงานอยู่ในห้องตามปกติ ดาริกาก็เดินหัวเราะต่อกระซิกเข้ามาในห้องพร้อมวิวิทธิ์ ในมือถือช่อดอกคัทลียามาด้วย จันทรกานต์เงยหน้ามอง ด้วยสายตาเย็นชา
“สวัสดีค่ะ บอส ดูซิคะ คุณวิวิทธิ์เอาคัทลียามาฝากฉันด้วย”
“มีอะไรพิเศษเหรอ”
“ไม่มีหรอกค่ะ คัทลียาจะให้แฟนเขาน่ะ แต่มันเหลือก็เลยมาแบ่งให้ฉัน”
จันทรกานต์แน่ใจว่าแฟนที่ว่าก็คือดาริกานั่นเอง แต่แกล้งทำเนียนเป็นคนอื่นเพื่อไม่ให้เขาสงสัย
“คืนดีกับแฟนแล้วเหรอวิวิทธิ์”
วิวิทธิ์ยิ้มเขินๆ “ครับผม”
“ยินดีด้วย”
วิวิทธิ์นำดอกไม้ไปปักที่แจกันของดาริกา
“สวยไหมครับ เหมือนวันแรกที่คุณมาทำงาน ผมจัดกุหลาบแดงให้ คุณจำได้ไหม”
ดาริกาทำหน้าปลื้ม
“ไม่มีวันลืมเลยค่ะ”
จันทรกานต์ขบกรามแน่น พร้อมๆ กับที่มือถือดังขึ้น จันทรกานต์รับสาย ก่อนที่จะรีบออกจากห้อง แต่ยังแอบมองกลับเข้าไป เห็นวิวิทธิ์กับดาริกา ยังหัวเราะระรื่นกันอยู่ ก็เลยยืนแอบฟัง
“อีกสองวันนะ คุณจะแวะไปไหมละค่ะ เราจะได้ไปด้วยกัน”
วิวิทธิ์ รีบพยักหน้า
“ไปซีครับ ยังไงผมก็ต้องไปเป็นขวัญและกำลังใจให้อยู่แล้ว ว่าแต่จะแว่บออกจากออฟฟิศยังไงดี ไม่ให้คุณจันทร์สงสัย”
ดาริกาทำท่านึก “เราก็ต่างหาข้ออ้างออกข้างนอกไงคะ เอาอย่างนี้นัดเจอกันที่ร้านบลูแกรสส์ดีไหม”
“ตามนั้นครับ มาถ่ายรูปกันต่อ ขอรูปคู่นะ”
จันทร์กานต์เดินออกมาอย่างสลดเต็มที
“คุณช่วยพานายวิวิทธิ์ไปที่ห้องดาริกา”
จันทรกานต์ที่มานั่งอยู่ตรงข้ามแพ็ท ยิ่งหน้าสลดหนัก มือกำถ้วยกาแฟแน่น
“ค่ะ ไม่ใช่เรื่องที่แพ็ทอยากเล่านะคะ แต่มานึกดูแล้ว ในฐานะที่เราเป็นบอสเหมือนกัน แพ็ทไม่ควรเข้าข้างเลขาฯ ทำไมเธอต้องสั่งแพ็ทไม่ให้บอกเรื่องนี้คุณด้วย หรือว่าเขาลักลอบคบกัน แล้วกลัวคุณรู้”
“ทำไมคิดอย่างนั้น” จันทรกานต์ย้อนถาม
“แหม ก็ท่าทีเปิดเผยเสียขนาดนั้น พาผู้ชายมานอนที่ห้อง แล้วตอนที่แพ็ทขอตัวเข้าห้องน้ำน่ะ แป๊บเดียวเดินออกมา แทบไม่ตั้งตัว เธอเปลื้องผ้าคุณวิวิทธิ์เกือบหมดตัวเลย แถมบรรจงเช็ดตัวให้ หัวเราะระรื่นไม่ได้อายแพ็ทสักนิด เหมือนจิตๆ น่ะค่ะ เหมือนชอบโชว์เดอร์ตี้ เดอร์ตี้ให้คนอื่นดู ยี้ แพ็ทขยะแขยง Gross มาก เลยรีบลากลับ ขืนอยู่ต่อ คุณเธอได้บรรเลง...”
จันทรกานต์รีบโบกมือห้าม
“พอเถอะครับ ไม่ต้องเล่าแล้ว”
“แพ็ทเตือนเพราะหวังดีนะคะ แล้วบอกตามตรง แพ็ทไม่ไว้ใจเลขาฯ ทั้งชายทั้งหญิงของคุณเลย ลองแวะไปที่ออฟฟิศแพ็ทดูไหมคะ คนทำงานซื่อสัตย์ทุกคน ไม่มีแบบนี้หรอกค่ะ”
แพ็ทยิ้มเยือกเย็น แอบสะใจอยู่ลึกๆ
อ่านต่อหน้า 3
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 8 (ต่อ)
ในที่สุดจักรพัฒน์กับพิชญาก็ตกลงเซ็นใบหย่ากัน โดยมีคุณชายจันทร กับดาราราย ร่วมเซ็นเป็นพยานพลางทำหน้าลำบากใจ พอเจ้าหน้าที่ลากลับไป ดารารายก็หันมาบอกพิชญาว่าไม่เห็นด้วยกับการหย่าครั้งนี้
พิชญาพูดอ้อนว่าถึงจะหย่าแล้ว ก็ขอทำงานที่แกรนด์ต่อ
จักรพัฒน์ ที่กลับจากเดินไปส่งเจ้าหน้าที่ได้ยินประโยคท้าย ก็รีบเดินมาหา
“อะไรนะ เมื้อกี๊ผมได้ยินผิดไปรึเปล่า คุณยังจะทำงานที่แกรนด์”
พิชญาลอยหน้าลอยตาตอบ “ค่ะ ทำไมล่ะ”
“รบกวนคุณอาเปล่าๆ อาดาวครับ ผมว่าไม่ควรจ้างชาย่าอีกต่อไปแล้ว”
“ทำไมล่ะ” ดารารายย้อนถาม
“คุณจักรไม่อยากเห็นหน้าหนูน่ะค่ะ”
คุณชายจันทร ที่เดินเข้ามาสมทบ รีบพูดท้วงขึ้น
“อะไรกัน หย่ากันแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นี่”
จักรพัฒน์ ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“ไม่ใช่เรื่องอยากเห็นหน้าหรือไม่เห็น แต่มันคือพฤติกรรมของคุณชาย่า”
“พฤติกรรมของฉัน ทำไม” พิชญาโวยวายใส่ทันที
“ก็ที่คุณไปรบกวนคุณจันทร์ไม่เลิกไง”
พิชญาหน้าเสีย คุณชายจันทรมองคู่กรณีนิ่ง ดารารายหันขวับมาทันที
“หมายความว่ายังไง รบกวนคุณจันทร์ไม่เลิก ชาย่า ตาจักร”
พิชญาหน้าเจื่อน สลดไปทันที ไม่กล้าสบตาดาราราย จักรพัฒน์ยิ้มสะใจ
“ผมหมายถึงที่ชาย่าไปหาเรื่องคนของคุณจันทร์น่ะซิครับ ตั้งแต่เข้ามาทำงานก็หาเรื่องไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่คุณอิงฟ้า ต่อมาก็ดาริกา แล้วก็วิวิทธิ์ ผมน่ะเกรงใจคุณจันทร์จะแย่”
พิชญาแอบถอนหายใจโล่งอก คุณชายจันทรอมยิ้มในความเข้าใจพูดของ จักรพัฒน์
“อ๋อ เอาเถอะน่า เรื่องมันแล้วไปแล้วนะ”
“ขอบคุณค่ะอาดาวที่เข้าใจ ขอตัวค่ะ”
พิชญาแยกมาทันที จักรพัฒน์สบตาคุณชายจันทรด้วยความสะใจ
“เป็นโสดแล้ว อย่าเพิ่งหาเมียใหม่เร็วนักนะ นายจักร”
จักรพัฒน์ หัวเราะ “จะพยายามครับ” แล้วก็เดินจากไป
ดารารายหันมาทำตาเขียวใส่สามี
“คุณนี่พูดอะไร เขาเป็นคู่ที่เหมาะกันมาก ไม่น่าลงเอยด้วยการหย่าเลย”
“เพราะเขาไม่ได้รักกันน่ะซิ เห็นไหมคุณ คู่ไหนที่ดูภายนอกเหมาะกันเหลือเกิน แต่ถ้าไม่ได้รักกันจริง สุดท้ายก็ต้องแยก”
คุณชายจันทรแอบปรายตามองภรรยาอย่างจับสังเกต
“กำลังพูดถึงใครคะ คุณจันทร์กับอิงฟ้าใช่ไหม”
“ถูกต้อง ถ้ายังดันทุรังแต่งกันไป อนาคตไม่ต่างจากคู่นี้หรอก เชื่อผมซิ”
ดารารายหน้าตึง
“อ้อ หาว่าฉันดันทุรัง ความคิดของฉันคงไม่สบอารมณ์คุณชาย เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ เราคงไม่ต้องสื่อสารกันแล้วนะคะ หยุดพูดกันสักพักก็ดีเหมือนกัน”
พูดจบ ดารารายก็สะบัดไปอย่างน้อยใจ คุณชายจันทรมองตาม แล้วก็ส่ายหน้า
ดาริกานั่งรออยู่ในร้านบลูแกรสส์ตามนัด พลางดูเวลาด้วยความร้อนใจ จนเมื่อหางตาเห็นร่างหนึ่งเดินเข้ามา ก็หันไปยิ้มดีใจ
“คุณ วิวิทธิ์”
แต่แล้วก็หน้าเจื่อน เพราะร่างที่ยืนอยู่ ไม่ใช่วิวิทธิ์ แต่กลับเป็น..จันทรกานต์
“คุณจันทร์” ดาริกาหน้าซีด ตกใจ
“นัดวิวิทธิ์ไว้เหรอครับ เห็นพูดถึง”
“เออ ค่ะ คือคุณจันทร์มาทำอะไรแถวนี้คะ”
จันทรกานต์จ้องหน้าดาริกา เหมือนตั้งใจจะจับพิรุธ
“บังเอิญผ่านมาน่ะ จะเข้ามาทานกาแฟ เห็นคุณเข้าพอดี เป็นอะไรครับ ทำไมดูอึดอัดชอบกล”
“ไม่มีอะไรค่ะ กำลังรอเขาอยู่น่ะ”
“ไปไหนกันเหรอครับ”
ดาริกาอึกอัก เพราะไม่รู้จะตอบยังไง “ไป..เอ่อ..”
“ถ้าเป็นความลับ ไม่ถามก็ได้ครับ งั้นผมสั่งกาแฟทานนะ”
จันทรกานต์ยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ในใจรุ่มร้อน
อิงฟ้าแต่งตัวสวย ยืนสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจก คุณหญิงอรชรเดินคุยมือถือ หน้าเครียดเข้ามา“ค่ะ คุณวรางค์ ตกลงยายฟ้าไปสมัครทำงานกับคุณจริงๆ ค่ะ ค่ะ สวัสดีค่ะ”
พอคุณหญิงอรชรวางสาย อิงฟ้าก็รีบหันไปทันที
“เห็นไหม หนูไม่ได้โกหกสักหน่อย”
“หาเรื่องใส่ตัว อยู่ดีๆ ไปเป็นลูกจ้างยายวรางค์ทำไม”
อิงฟ้าตอบนิ่งๆ “หนูอยากทำงานแล้วน่ะซิ อีกอย่างหนูเป็นฝ่ายศิลป์ ได้ทำงานตรงกับวิชาที่หนูเรียนมา”
“มีวาระซ่อนเร้นรึเปล่า อาทิ แอบไปนัดพบเจ้าเลขาฯ หมาวัด เพราะแม่รู้มาว่ายายวรางค์เพิ่งเซ็นสัญญาทำออร์กาไนซ์ให้แกรนด์สองปี”
อิงฟ้าส่ายหน้า
“แม่คะ คนที่หนูจะพบบ่อยที่สุดคือคุณจันทร์ค่ะ และคุณจันทร์ก็เป็นคนเสนองานนี้ให้หนูทำเอง”
คุณหญิงอรชรยิ้มออก “จริงเหรอ ยายหนู ตกลงคุณจันทร์ชอบแก และแกชอบคุณจันทร์เขาจริงๆ แล้วใช่ไหม”
“แหม รสนิยมมันเปลี่ยนกันได้นี่คะ บางทีหนูก็อยากขับรถยุโรปบ้าง ขึ้นรถเมล์ นั่งตุ๊กๆ วินมอไซค์ มันบ้านเกิ๊นน่ะค่ะ”
จากนั้นอิงฟ้าก็ออกจากบ้าน โดยมีสองบอดี้การ์ดปุ๊กับเป้าตามประกบ
จันทรกานต์จิบกาแฟอย่างใจเย็น ตรงข้ามกับดาริกาที่อึดอัด
“ดาริกา มีปัญหาอะไรรึเปล่า ผมดูคุณหมู่นี้อึดอัดยังไงพิกล โดยเฉพาะเวลาอยู่กับผม”
ดาริกายิ่งอึดอัดหนัก แต่แกล้งทำเขินกลบเกลื่อน
“ฉัน เอ่อ บอกแล้วไงคะว่าอย่าทำแสนดีกับฉันให้มาก ฉันก็เขินเป็นนี่คะ”
“ไม่ใช่เรื่องอื่นหรอกนะ เพราะผมรู้สึกว่าคุณเปลี่ยนไปตั้งแต่งานวันประกาศหมั้นอิงฟ้า”
“ฉันไม่มีอะไรเปลี่ยนนี่คะ แต่จะเปลี่ยนเป็นโกรธแน่ๆ ถ้าคุณไม่ทำตามสัญญาเรื่องที่คุณจะไม่แต่งกับคุณอิงฟ้า”
“หึงใช่ไหม”
จันทรกานต์เอื้อมมือมาจับมือของดาริกาไว้แน่น คราวนี้ดาริกาเขินจริง
“ผมวางแผนไว้แล้วนะ หลังจากผมประกาศเลิกหมั้นกับอิงฟ้า ผมจะประกาศให้คุณพ่อ-คุณแม่ทราบต่อมาก็คือ ผมจะหมั้นและแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนที่ผมเลือกแล้ว”
ดาริกาตะลึง อึ้ง แทบไม่หายใจ “คะ”
“ผู้หญิงคนนั้นก็คือ....”
แต่ยังไม่ทันที่จันทรกานต์จะมีโอกาสเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนั้น เสียงวิวิทธิ์ก็แทรกเข้ามาขัดจังหวะ
“มาแล้วครับ”
วิวิทธิ์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมด้วยช่อคัทลียา แต่แล้วก็ชะงักไปเมื่อเห็นจันทรกานต์นั่งอยู่
จันทรกานต์มองดอกไม้ในมือของวิวิทธิ์ ก็ยิ่งแน่ใจว่าเอามาให้ดาริกา
“ตกลงจะไปไหนกัน เป็นความลับใช่ไหม”
วิวิทธิ์พยายามตอบเลี่ยงๆ “ก็ไม่เชิงหรอกครับ ผมแค่นัดดาริกาทานกลางวันน่ะ”
“ดอกคัทลียาอีกแล้ว คืนดีกับสาวคนนั้นแล้วหรือ”
“ใช่ครับ”
ดาริกา หันมาเร่ง “รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะสาย”
ทั้งคู่แยกไปทันที จันทรกานต์มองตามด้วยความหดหู่ ที่โดนคนที่ไว้ใจหลอกลวง
อิงฟ้ายืนอยู่ท่ามกลางสมาชิกของบริษัทวรางค์ ทุกคนปรบมือต้อนรับแสดงความยินดี โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ อาร์ตี้ที่หนวดเคราเข้ม ผิวแทนขึ้น และกล้ามที่บึกบึนกว่าเดิม รีบออกตัว
“ในฐานะหัวหน้าฝ่ายศิลป์ ยินดีมากครับที่ได้น้องอิงฟ้ามาร่วมทีม”
แล้วทุกคนก็ชนแก้วแสดงความยินดี วิวิทธิ์มองอิงฟ้าอย่างปลื้มใจ บ๊วย ป๊อบ อาร์ท จัสติน แย่งกันพา อิงฟ้าไปที่โต๊ะทำงาน วรางค์และวิวิทธิ์ตามไป เหลือดาริกายืนอยู่กับอาร์ตี้
“ฝากน้องฟ้าด้วยนะคะ พี่ตี้”
“ไม่ต้องห่วง เฮ้อ ตกลงคุณวิวิทธิ์กับคุณฟ้าต้องแอบจีบกันลับๆ แบบนี้ไปตลอดเลยใช่ไหม”
ดาริกาพยักหน้ายิ้มๆ
“ค่ะ จนกว่าคุณวิวิทธิ์จะพิสูจน์ตัวเองให้คุณหญิงแม่ยอมรับน่ะค่ะ”
“งานนี้คงเหนื่อยไม่ใช่เล่นเลยล่ะ”
อาร์ตี้พูดแล้วก็อดคิดถึงเรื่องตัวเองไม่ได้
“ดีนะ คนที่ยังมีหวังกับความรัก เขาคงมีความสุขแบบนี้ล่ะ”
ดาริกามองอาร์ตี้อย่างเข้าใจความรู้สึก
“หมายถึงพี่ด้วยใช่ไหม ดูซิ เปลี่ยนไปเยอะเลย ทั้งคล้ำ ทั้งเข้ม ล่ำบึ๊กกว่าเดิมอีกเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวของพี่วรางค์แล้วใช่ไหมคะ”
“เจ้าบ่าวพี่วรางค์ หึ คงต้องรอจนพี่แก่ตายนั่นแหละ นี่พี่เตรียมตัวเป็นนายแบบให้คุณแพ็ทต่างหาก วันนี้เธอจะเข้ามาดูตัวพี่ด้วย พี่ไม่มั่นใจเลยว่ะดาว”
อาร์ตี้พูดพลางทำหน้าเศร้า
“หา ตาหม่อมหลวงเป็นชายแท้ แล้วถึงขั้นจูบแกเลยเหรอ”
วรางค์ทำตาโต เมื่อได้ฟังดาริกาเล่าถึงจันทรกานต์
“แล้วเมื่อกี๊ที่เล่า แกแน่ใจนะว่าตาหม่อมหลวงจะขอแกแต่งงาน”
“เขาพูดทำนองนั้นน่ะค่ะ เพียงแต่พูดยังไม่จบประโยค คุณวิวิทธิ์เข้ามาเสียก่อน หนูจะเอายังไงดี”
วรางค์รีบยุส่ง แต่ดาริกายังลังเล
“ก็รักน่ะค่ะ แต่พื้นเพเรามันต่างกันเหลือเกิน ดาวก็ไม่ต่างจากคุณวิวิทธิ์หรอกค่ะ ทั้งจนทั้งต้อยต่ำ จะกล้าไปรับรักคุณชายสูงศักดิ์อย่างหม่อมหลวงจันทรกานต์ได้ยังไง”
วรางค์มองดาริกาอย่างคนหัวอกเดียวกัน
“ความรักของเรา ทำไมมันถึงต้องมีอุปสรรคแบบนี้ด้วยนะ ไอ้ความต่างนี่แหละที่เป็นตัวปัญหา พี่เองก็แก้ไม่ได้เหมือนกัน”
“ก็ไหนว่าพี่จะรับรักพี่ตี้แล้วไง”
“ก็เกือบแล้ว แต่พอทำจริง พี่ก็ไม่กล้า ดาว ตี้ถึงขนาดซื้อแหวนแต่งงานมาให้พี่แล้วนะ แต่พี่ไม่กล้ารับ มัน กลัวอะไรก็ไม่รู้”
วรางค์พูดไปสะอื้นไป จนดาริกาต้องกอดปลอบใจ
ระหว่างนั่งทานอาหารกลางวันร่วมกับคุณชายจันทรและดาราราย จันทรกานต์ก็เอาแต่นั่งซึม ดารารายคุยเรื่องที่จันทรกานต์ฝากให้อิงฟ้าไปทำงานที่บริษัทวรางค์ แต่จันทรกานต์ทำหน้างง คุณชายจันทรรู้ทัน เลยรีบช่วยพูด
“ลูกคงลืมน่ะคุณ”
ดารารายปรายตามองคุณชายจันทร แล้วหันมามองจันทรกานต์
“คุณจันทร์บอกพ่อเขาว่าไม่ต้องมาอ้างแทน”
“หา ให้ผมบอกพ่อเหรอครับ นี่มันอะไรกันครับ”
คุณชายจันทรยิ้มขำ
“แม่เขางอนพ่อ ไม่คุยกับพ่อตรงๆ น่ะลูก ได้ ลูกบอกแม่เขานะว่าพ่อไม่ได้อ้างแทน”
ดารารายไม่สนใจสามี หันมาบอกจันทรกานต์ว่าเตรียมหาฤกษ์วิวาห์ให้เรียบร้อยแล้ว
ที่ห้องประชุมบริษัทวรางค์ อาร์ตี้อที่ยู่ในชุดหัวหน้าคนงานไร่ข้าวโพด ข้างในเป็นเสื้อกล้าม หน้าดูคล้ำ ผิวแทนทะมึนไปทั้งตัว กำลังโพสท่าแบกข้าวโพด เบื้องหลังเป็นฉากไร่ข้าวโพดเหลืองอร่าม
บ๊วย อาร์ท ป๊อบ จัสติน ช่วยกันถ่ายรูป บ๊วยสั่งแอ็คชั่นราวเป็นผู้กำกับ แพ็ทมองอาร์ตี้ ด้วยแววตาหื่นกระหาย ก่อนจะสรุป
“ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่านี้แล้วล่ะค่ะ บ้านๆ แมน ๆ ในฝันมาก”
วรางค์และทุกคนยิ้มดีใจ แพ็ทหันมาเห็นอิงฟ้า ก็หันมาทัก
“ยัยฟ้า เธอมาทำงานที่นี่เหรอจ๊ะ”
“ค่ะ วันนี้วันแรก”
“ก็เลยมากับคุณวิวิทธิ์”
อิงฟ้าหน้าเจื่อน วิวิทธิ์รีบออกรับแทน
“เปล่าครับ ผมมากับดาริกา มาแสดงความยินดีคุณอิงฟ้าครับ”
แพ็ทมองทั้งคู่อย่างรู้ความนัย
“แปลก แล้วว่าที่คู่หมั้นจันทรกานต์ไม่ยักมาด้วย”
อิงฟ้ารีบบอกปัด “งานยุ่งน่ะค่ะ”
จากนั้นพนักงาน ก็พานาง ที่จะเล่นเป็นนางเอกเดินเข้ามา นางแต่งตัวเหมือนหลุดมาจากโลกละคร
ในบทสาวน้อยในไร่ ผมสยาย ชุดเกาะใต้อก ลากหางยาว เหมือนละครเช็คสเปียร์
ทุกคนหยุดกิจกรรมหันมามองนางที่ยืนยิ้มตาแป๋ว ป๊อบมองอย่างตะลึง แล้วก็ผลอยิ้มออกมา
เมื่อดารารายออกจากห้องอาหารไป คุณชายจันทรกับจันทรกานต์ก็นั่งปรับทุกข์กัน จันทรกานต์ยืนยันจะบอกกับดารารายว่าไม่ได้รักอิงฟ้า แต่คุณชายจันทรติงว่า
“พ่อเตือนหลายหนแล้ว แม่เขาไม่ฟัง ตอนนี้แม่เขายึดมั่นถือมั่นความคิดของเขามาก เขาอาจจะมีเล่ห์กลอื่นๆ มาบังคับลูกอีกก็ได้ เออ. แล้วเรื่องดาริกาล่ะ ความสัมพันธ์ไปถึงไหน”
จันทรกานต์หน้าสลด “ผมคิดว่าเขาไม่ได้รักผมหรอกครับ”
อาร์ตี้กับนางซ้อมเข้าฉากกัน แต่นางแสดงไม่เป็น จนถูกแพ็ทโวยวายใส่อยู่หลายรอบ
“ยัยนาง ฉันอ่อนใจกับความอ่อนปัญญาของหล่อนจริงๆ นี่มันต้องทำท่าแบบนี้”
แพ็ทเข้าไปยืนเบียดอาร์ตี้ แล้วทำท่าให้ดู
“เข้าใจไหม”
นางพยักหน้า “อ๋อ ท่ายั่วผู้ชายนี่เอง บอกมาคำเดียวก็รู้เรื่องและ”
แพ็ทรำคาญสั่งพักกอง ป๊อบอาศัยจังหวะนั้น ปราดเข้าไปทำความรู้จักกับนางทันที
“สวัสดีครับ”
นางเงยหน้ามองป๊อบ แล้วก็ยิ้มถูกใจ
“ดีค่ะ หล่อจัง ชื่อรายอ๊ะ มีเมียยัง เอ๊ย ไม่ใช่ มีแฟนยัง”
ป๊อบงงไปนิดนึง แต่ยิ่งชอบ
“หล่อครับ แต่ยังไม่มีทั้งเมียและแฟน ผมชื่อป๊อบครับ เอ่อ แล้วคุณนาง”
นางส่ายหน้าอย่างมีจริต “โน โน ต้องน้องนางซิคะ”
“ครับน้องนาง น้องนางไม่เข้าใจคำไหนในบทพูดอีกครับ ผมจะสอน”
“คำพูดเข้าใจค่ะ แต่ตอนทำท่า ร่านผู้ชาย น้องนางทำไม่เป็น”
ป๊อบยิ้มอย่างเอ็นดู “อย่าเรียกว่า “ร่าน” ต้องเรียกว่า “หลงเสน่ห์” ครับ”
“เหรอคะ แล้วทำยังไง ให้ทำท่าอย่างพี่แพ็ท ยี้ ท่าเหมือนนางลำยอง”
“ต้องเชื่อก่อนครับ ต้องเชื่อ ลองทำดูครับ”
นางทำท่าสยิว แต่กลับดูเหมือนคนโรคจิต ทำเอาป๊อบถึงกับเหวอไป
อ่านต่อหน้า 4
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 8 (ต่อ)
ครู่หนึ่งอาร์ตี้กับนาง ก็กลับมาซ้อมบทกันต่อ แพ็ทดูพอใจกับการแสดงของอาร์ตี้อย่างออกนอกหน้า
“อาร์ตี้ สุดยอดค่ะ คุณเล่นได้ถูกต้อง ตรงใจที่สุดเลย”
อาร์ตี้มองหน้าแพ็ทอย่างงงๆ “หา แต่ผมหลุดสำเนียงท้องถิ่นนะ”
“ก็นั่นแหละค่ะ จุดขายของเรา”
แพ็ทลองให้อาร์ตี้พูดสโลแกนเป็นสำเนียงทั้งเหนือ อิสาน แต่พอถึงภาษาถิ่นใต้ ที่อาร์ตี้พูดไม่ได้ แพ็ทรีบหาตัวช่วยทันที
“คุณวิวิทธิ์ขา เชิญค่ะ เชิญออกมาหน่อยค่ะ”
วิวิทธิ์ออกมาหน้าห้อง หน้าตาเลิ่กลั่ก
“ลองแหล่งใต้สุราษฎร์ให้ฟังหน่อยซิคะ ฉันเคยได้ยินคุณพูดมาแล้ว คืนนั้นไง”
วิวิทธิ์พยักหน้าหงึก “เออ ครับ ลองดู” จากนั้นก็พูดภาษาใต้ “ภูตะวัน รสชาติที่คุณหยุดไม่ได้”
แพ็ทกรี๊ดลั่น แล้วก็โผเข้ากอดทั้งวิวิทธิ์และอาร์ตี้ วรางค์ ดาริกา อิงฟ้า นาง และทุกคน ยืนทำหน้างง
“ลองค่ะ อาร์ตี้ ลองหัดพูดนะคะ เวอร์ชั่นนี้จะออกอากาศตั้งแต่ประจวบไปสุดชายแดนเลยค่ะ”
อาร์ตี้ลองพูดดู โดยมีวิวิทธิ์ช่วยสอน แพ็ทกรี๊ดกร๊าดชอบใจ และถือโอกาสหาเศษหาเลยกับเนื้อตัวของทั้งอาร์ตี้และวิวิทธิ์ตลอดเวลา จนอิงฟ้าต้องรีบหันมากระซิบบอกกับดาริกา
“ตายแล้ว เจ๊แพ็ท ออกลายแล้วไหมล่ะ ต้องระวังนะคะ เธอเจ้าชู้อย่างร้ายกาจเลย แน่ะ แอบจับเนื้อจับตัวคุณวิวิทธิ์แล้ว อยู่เฉยไม่ได้แล้วค่ะ”
ขาดคำก็รีบออกไปดึงวิวิทธิ์ถอยห่างออกมาทันที ดาริกามองแบบงง ๆ
จักรพัฒน์มองไปที่เทอเรซ เห็นรถรับจ้างจอดรออยู่ โชเฟอร์กำลังลำเลียงกระเป๋าเดินทางพิชญาขึ้นรถ พิชญาเดินลงบันไดมาพร้อมกระเป๋าใบเล็ก จักรพัฒน์หันมายิ้มให้
“ชาย่า ที่จริงคุณไม่ต้องไปก็ได้นะ เรายังอยู่ร่วมบ้านกันได้”
พิชญาเชิดหน้า “คุณเอ่ยปากไล่ฉันแล้วนะ เกิดอะไรถึงมาคืนคำ”
“เพราะความโกรธถึงพูดไปแบบนั้น ถึงจะหย่าเราก็เป็นเพื่อนกันได้นี่”
“อย่ามองโลกสวยนักเลยค่ะ แยกกันอย่างนี้ดีแล้ว คุณจะได้มีอิสระเต็มที่ อยากไปมั่วไปหิ้วสาว ๆ มานอนสักกี่คนก็ได้”
จักรพัฒน์ส่ายหน้าเบาๆ “วันนั้นผมแค่พูดประชด”
“ไม่ต้องประชดแล้วละค่ะ คุณกับฉันถือว่าไม่มีความผูกพันกันแล้ว อยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ตามสบายนะคะ เพราะฉันเองก็จะทำเหมือนกัน”
พิชญามองหน้าจักรพัฒน์แล้วถอดแหวนแต่งงานออกจากนิ้ว ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ แล้วเดินขึ้นรถ
จักรพัฒน์มองตามรถที่แล่นออกไป อดใจหายวูบขึ้นมาไม่ได้
แพ็ทนั่งพักทานของว่างกับนาง พลางมองสังเกตไปรอบๆ เห็นดาริกา วิวิทธิ์ อิงฟ้า กำลังคุยกันที่โต๊ะ จึงรีบบอกให้นางไปแยกอิงฟ้าออกมาจากกลุ่ม เหลือดาริกานั่งอยู่กับวิวิทธิ์
วิวิทธิ์หยิบคัทลียาที่ใส่แจกันแล้วให้ดาริกาดู ดูเผินๆ เหมือนวิวิทธิ์กำลังมอบช่อดอกไม้ให้ดาริกา
แพ็ทยิ้มชอบใจ รีบหยิบมือถือออกมาแล้วแอบถ่ายคลิปคนทั้งคู่ไว้
จันทรกานต์ดูคลิปด้วยอาการนิ่งงัน แพ็ทแกล้งทำหน้าซึมเศร้าไปด้วย พลางใส่ไฟว่าวิวิทธิ์เตรียมดอกไม้มาให้ดาริกา จากนั้นก็ออกปากชวนจันทรกานต์ไปดูถ่ายโฆษณาที่ไร่ภูตะวัน
“ได้ข่าวว่า ให้อาร์ตี้เป็นนายแบบให้ด้วยเหรอครับ”
แพ็ทพยักหน้า “ใช่ค่ะ ทางทีมเลยไปให้กำลังใจกันใหญ่เลย เห็นว่าคุณวิวิทธิ์กับดาริกาก็นัดไปเที่ยวกองถ่ายด้วยนะคะ เราพักกันที่บ้านพักของแพ็ทเองน่ะค่ะ ถ้าคุณจันทร์ว่าง แพ็ทเชิญไปร่วมจอยด้วยกัน เสร็จงานเรามีปาร์ตี้กันต่อด้วยนะ”
“น่าสนุกนะครับ”
แพ็ทยิ้มกว้าง “พูดอย่างนี้แพ็ทถือว่าตอบตกลงแพ็ทแล้วนะคะ”
“ผมคอนเฟิร์มอีกทีละกัน”
“ได้ค่ะ”
จันทรกานต์ถอนหายใจเบาๆ แพ็ทยิ้มอย่างมีแผน
กุสุมาและตาทศกำลังขนอุปกรณ์ทำอาหารใส่รถเข็นมาที่เต๊นท์ สุดหล่อกับพวกช่วยกันขัดถูรถเบ็นซ์คันใหญ่ที่จอดอยู่ ดำรงพ่อของดาริกา แต่งตัวหรู ใส่ทอง และพระเครื่องเต็มอก ยืนคุยอยู่ในเต็นท์ของนางสุดสวาท
“พี่ดำรง ตั้งแต่ได้เมียรวย ราศีจับตั้งแต่หัวจรดซอกเล็บเท้าเลยนะ”
ดำรงหัวเราะเสียงดัง “แม่สวาทก็พูดเกินไป ก็แค่ร้อยกว่าล้านเท่านั้นเอง”
สุดหล่อ กับพวกส่งเสียงฮือฮา
“อุ๊ยพี่ดำ อดีตเมียนวยนาดมาโน่นแล้ว
ดำรงหันมามอง กุสุมาเห็นอดีตสามี แต่ไม่สนใจ จัดข้าวของต่อไป
“หวัดดีพ่อ ไงจ๊ะกุสุมา ไม่ทักผัวรวยคนนี้เลยเหรอ”
ตาทศหันมามองตาขวาง “มีธุระอะไรวะ ถึงโผล่หัวมาแถวนี้ ไอ้ดำ”
“แหม มาเยี่ยมเยียนเมียเก่าๆ พ่อตาแก่ ๆ บ้างไม่ได้เหรอไง ฉันจะมาบอกว่าตอนนี้ ฉันเป็นเศรษฐีแล้วนะ ก็อยากมาดูแลทุกข์สุขของครอบครัวเก่าบ้าง โดยเฉพาะลูกสาวคนเก่า”
ได้ผล กุสุมาหันขวับมาทันที
“มีอะไรกับนังดาว อย่ามายุ่งกับมันนะ”
“อ้าว พ่อลูกกัน ไม่ยุ่งได้ไง ได้ข่าวว่าไปทำงานเป็นเลขาฯ ให้ลูกชายเจ้าของห้างแกรนด์งั้นเหรอ”
กุสุมามองมาทางกลุ่มของนางสุดสวาท ก่อนจะหันมาสะบัดเสียงใส่อดีตสามี
“ไม่ใช่เรื่องที่แกจะมายุ่ง”
“ไม่ยุ่งไม่ได้ ลูกชายห้างแกรนด์เป็นถึงหม่อมหลวง แล้วได้ข่าวว่ามาจีบนังดาวมันด้วย ฉันเป็นพ่อ ฉันก็ต้องยุ่งเป็นธรรมดา”
กุสุมามองหน้าอดีตสามี แล้วยิ้มเหยียด
“เหรอ ตอนที่ฉันเลี้ยงมันมาจนโตน่ะ แกเข้ามายุ่งบ้างไหม เคยรับผิดชอบอะไรในชีวิตมันบ้าง”
“ไม่ต้องมาลำเลิก ยังไงฉันก็เป็นพ่อมัน ฉันต้องรับรู้ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่ไปทำให้มันเสียเรื่องหรอก แหม จะได้เขยรวยหมื่นล้านทั้งที ยังไงฉันก็ต้องทำให้มันสมเกียรติ”
ตาทศก็อยู่เฉยไม่ไหว “สมเกียรติยังไงไอ้ดำ คนอย่างมึงมีเกียรติกับเขาด้วยเรอะ”
“อ้าว พูดดี ๆ นะพ่อ ตอนนี้ฉันมีฐานะ เป็นถึงเถ้าแก่โรงสี ที่ฉันมาเนี่ย หวังดีนะ ลำพังแม่ค้าข้าวแกงกับสัปเหร่อผุๆ อย่างพ่อ ทางตระกูลทัศนัยเขาคงรังเกียจที่จะนับญาติ”
“หนอย ไอ้กระบือ อย่าอยู่เลยมึง”
ตาทศคว้าไม้จะเข้าฟาด ดำรงวิ่งหนีไปหลบหลังกุสุมา แต่กลับโดนกุสุมาเอาน้ำแกงส้มราดลงบนหัวจนท่วมตัว ตาทศและกลุ่มนางสุดสวาทหัวเราะกันลั่น
ตาทศกับกุสุมาเดินผละไป ดำรงออกมาตะโกนด่าไล่หลัง ส่วนพวกนางสุดสวาทรีบเข้ามาพูดเชิงดูถูกว่าเป็นไปไมได้ ที่ว่าดาริกาจะได้สามีเป็นหม่อมหลวง เจ้าของห้างแกรนด์
“แหม มันจนซอมซ่อขนาดนั้น บ้านก็อยู่ในหลังป่าช้า เขาจะมาสนใจใยดีอะไรมัน”
ดำรงขมวดคิ้ว “เอ แล้วที่แม่หวาดเล่าเองว่าเขามาหามันถึงที่นี่ มันยังไงกันล่ะ”
สุดสวาทพยักเพยิดกับลูกสาว สุดที่รักรีบพูดทันที
“หนูไม่อยากพูดเลย นายหม่อมหลวงนั่นน่ะ ไม่ได้จริงจังกับใครหรอก กับพี่ดาวคงจีบเล่นๆ ไม่จริงจัง
คุณหม่อมหลวงน่ะ เขาก็มาจีบสุดที่รักเหมือนกัน”
ดำรงถึงกับสะดุ้ง “หา มาจีบแก อย่างแกเนี่ยนะ”
“อ้าว ก็หนูสวยแซ่บเว่อร์ขนาดนี้ แต่หนูถือว่าถึงหนูจะเป็นดอก ก็ดอกราชาวดี ไม่ใช่ดอกอัญชัญ ที่คั้นน้ำสีม่วงไว้ทำขนมกุยช่าย แล้วก็โยนทิ้งอย่างไร้ค่า หนูมีค่ามากกว่านั้น”
สุดหล่อรีบพูดเสริมบ้าง
“ผมกับพวกถึงขั้นชกต่อยกับมันเลยนะครับ ตอนที่มันมาลวนลามสุดที่รัก ไอ้หม่อมคนนี้มันดูถูกคนจนอย่างพวกเรา ลุงต้องระวังนะครับ ดาวไปทำงานกับมัน มันขืนใจดาวให้ตกเป็นของมันได้ง่าย ๆ”
จากนั้นทุกคนก็ร่วมกันใส่ไฟจันทรกานต์อีกเป็นชุด ก่อนที่จะแอบหัวเราะสะใจลับหลังดำรง ที่งานนี้ ดาริกามีหวังอดเป็นสะใภ้เจ้า
ดาริกามาเคาะห้องจันทรกานต์ พอเจ้าของห้องมาเปิดประตู ก็ยื่นหม้อขนมเล็ก ๆ ให้
“ฉันทำบัวลอยน้ำขิง เลยแบ่งมาให้คุณทาน น้ำตาลทรายแดงด้วยนะ”
จันทรกานต์มองหน้าดาริกา ด้วยสายตาเย็นชา “ผมไม่หิว”
“เก็บไว้ทานพรุ่งนี้ก็ได้นี่คะ ช่วยไล่ลมนะ”
แต่จันทรกานต์ปฏิเสธอีก
“ค่ะ งั้นก็ไม่รบกวนแล้ว เอ่อ จะบอกคุณด้วยว่า เสาร์-อาทิตย์นี้ฉันไม่อยู่นะคะ”
“ไปไหนเหรอครับ อ้อ ไม่ต้องบอกก็ได้ถ้าเป็นความลับ”
จันทรกานต์ไม่วายเหน็บ
“ค่ะ เจอกันวันจันทร์”
ดาริกาพูดจบประโยค จันทรกานต์ก็ปิดประตูใส่หน้า ดาริกาบ่นอย่างน้อยใจ
“เป็นอะไรของเขา”
บรรยากาศในไร่กาแฟภูตะวัน ที่อยู่บนดอย สูงตระหง่าน ท่ามกลางสายหมอกหนา คนงานในไร่ออกทำงานแต่เช้า
ทีมงานของวรางค์กำลังช่วยกันเซ็ทฉาก มีทั้งกองฟาง หุ่นไล่กา ลังใส่ข้าวโพด และอุปกรณ์ในไร่ทั้งหลาย วรางค์นั่งจิบกาแฟสบายอารมณ์อยู่ลำพัง ดื่มด่ำกับธรรมชาติงดงามตรงหน้า พวกบ๊วย อาร์ท จัสติน แซวเรื่องอาร์ตี้ ทำเอาป๊อบถึงกับหน้าสลด รีบเดินแยกเข้าบ้านไป วรางค์เลยหันมาแว้ดใส่
“ไอ้บ้า มาแซวฉันเรื่องอาร์ตี้ทำไม แกก็รู้อยู่ว่าไอ้ป๊อบมันไม่ชอบ มันไม่อยากให้ตี้มาจีบฉัน มันกลัวเสียพี่สาวคนสวยไป”
อาร์ทมองวรางค์แล้วยิ้มขำ
“เท่าที่รู้มันกลัวเสียพี่ชายอย่างพี่ตี้ไปมากกว่า”
จัสตินพลอยเออออไปด้วย “ที่จริงมันน่าจะกลัวที่ปล่อยให้พี่สาวขึ้นคานมากกว่านะพี่นะ”
สามหนุ่มหัวเราะขำ แล้วแยกกลับไปทำงาน วรางค์มองตามไปที่บ้าน สีหน้าไม่สู้ดี
วิวิทธิ์กับอิงฟ้า กำลังช่วยกันเก็บดอกหญ้ามารวมไว้ในถุง เบื้องหลังทั้งคู่คือขุนเขา ที่สูงเสียดฟ้าและงดงาม
“ดอกหญ้าไว้สำหรับโปรยในฉากน่ะค่ะ ทำให้ฉากดูมีอารมณ์โรแมนติกมากขึ้นกว่าเดิม”
วิวิทธิ์มองดูดอกหญ้า แล้วทำหน้าซึ้ง
“ดอกหญ้าดูต่ำต้อย แต่มันก็มีความงามนะครับ ความรักของเราเหมือนในโฆษณาเลย หนุ่มคนงานผู้ ต่ำต้อยและสาวเจ้าของไร่ผู้สูงศักดิ์”
อิงฟ้าอมยิ้มเขินๆ “คุณวิวิทธิ์น่ะ หวานตลอดเลยนะคะ”
“ก็บรรยากาศมันเป็นใจนี่ครับ ที่นี่สวยเหลือเกิน อยากให้เราครองรักกันที่นี่โดยไม่ต้องกลับไปเจอปัญหาต่างๆ ที่กรุงเทพอีก”
“แต่ในความจริงมันเป็นไปไม่ได้นี่คะ”
วิวิทธิ์หน้าเศร้า
“ทราบครับ ผมวางแผนไว้หมดแล้ว หลังจากคุณจันทร์ประกาศยกเลิกการหมั้น ผมจะให้คุณพ่อไปสู่ขอคุณฟ้ากับทางคุณหญิงแม่ทันที”
อิงฟ้าหน้าแดงระเรื่อ “ค่ะ”
วิวิทธิ์ขโมยจูบแก้มอิงฟ้าหนึ่งฟอด
“คุณวิวิทธิ์ เดี๋ยวเถอะ มาให้ทำโทษเสียดี ๆ”
อิงฟ้าวิ่งไล่วิวิทธิ์ไปทั่วทุ่งแสนสวย
ภายในห้องรับแขกบ้านภูตะวัน อาร์ตี้ที่เปลือยท่อนบน กำลังยืนให้ดาริกาช่วยทาตัวเป็นสีแทน แพ็ท มองรูปร่างของอาร์ตี้ด้วยสายตาโลมเลีย ก่อนที่จะเดินไปลูบที่ไหล่กำยำ อาร์ตี้ยิ้มเขิน ดาริกาแอบมองอย่างสงสัยว่า
แพ็ทจะจีบอาร์ตี้ ด้วยหรือเปล่า
พอแพ็ทที่ถูกนางหลอกด่าด้วยภาษาไทยที่ไม่สันทัด แล้วก็วิ่งไล่กันออกไปนอกห้อง อาร์ตี้เลยหันมาทางดาริกาด้วยสีหน้าเครียด
“ดาว พี่มีเรื่องจะปรึกษา”
นางวิ่งหนีแพ็ทมาหลบอยู่ที่ระเบียง เมื่อเห็นปลอดภัยแล้ว ก็วิ่งถลาออกมา บังเอิญไปชนโครมเข้ากับ ป๊อบ จนล้มแผ่ไปกับพื้น
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
ป๊อบประคองนางลุกขึ้นมา
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“วันนี้น้องนางสวยจัง”
“เหรอคะ แล้วอยากได้เป็นเมียไหม”
นางพูดหน้าตาเฉย ทำเอาป๊อบถึงกับสะดุ้งเฮือก
“น้องนางพูดผิดอีกแล้ว หมายถึงสวยพอจะเป็นแฟนได้ไหมคะ”
“ได้เลยครับถ้าน้องนางอนุญาต เอ่อ วันนี้พร้อมแสดงแล้วใช่ไหมครับ”
นางพยักหน้าหงึกๆ อย่างใส่จริตเต็มที่
“ค่ะ แต่ยังไม่แน่ใจว่าแสดงได้ดีรึเปล่า พี่ป๊อบช่วยดูหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้ซิครับ งั้นแสดงให้ดูตรงนี้เลย”
พูดพลางก็ทำท่าโก้งโค้งสะพานสูง
“วอร์มร่างกายก่อนค่ะ”
ป๊อบถอนใจในความเพี้ยนของนาง พลันก็ได้ยินเสียงคุยแว่วมาจากห้องด้านใน จึงรีบแยกไปฟัง
ดาริกาถือกล่องแหวนของอาร์ตี้เปิดออกดู พลางถามย้ำ
“พี่ตี้จะทำเซอร์ไพรส์ ขอแต่งงานพี่วรางค์ในวันนี้เหรอคะ”
อาร์ตี้พยักหน้า “ใช่ ดาวว่ายังไง”
“จะว่ายังไง ก็ยินดีด้วยซิคะ ดีใจจังเลย”
“คราวนี้ละ พี่วรางค์ไม่มีทางปฏิเสธพี่ได้ เพราะพี่จะขอต่อหน้าทีมงานของเราทุกคน”
ดาริกายิ้มหน้าบาน “ดีใจด้วยค่ะพี่ตี้ เดี๋ยวเสร็จงานต้องฉลองใหญ่กันล่ะ”
ป๊อบที่แอบฟังอยู่ หน้าเครียดขึ้นมาทันที
อ่านต่อตอนที่ 9
ป๊อบเดินหน้าเครียดกลับออกมา เห็นวรางค์เดินมาพอดี
“พี่วรางค์ มาก็ดีแล้ว ผมมีเรื่องจะพูดกับพี่”
วรางค์มองหน้าน้องชายอย่างแปลกใจ “เรื่องอะไรป๊อบ”
“เรื่องพี่อาร์ตี้น่ะซิ ผมไม่ชอบ ไม่ชอบเอามาก ๆ”
นางที่วอร์มอยู่ห่างๆ หยุดวอร์มทันที เช่นเดียวกับแพ็ท ที่เดินเลี้ยวมุมระเบียงมา พอได้ยิน ก็มาแอบเงี่ยหูฟังข้างๆ กัน
“ป๊อบ เมื่อกี้พวกพี่ๆ เขาแค่แซวเล่น ๆ น่ะ แกอย่าถือสาเลย”
ป๊อบมองหน้าพี่สาวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ผมไม่ได้พูดเรื่องที่พี่เขาแซว แต่จะพูดเรื่องที่พี่ตี้เขาจะขอพี่แต่งงานวันนี้”
วรางค์ถึงกับชะงัก “หา ขอฉันแต่งงานวันนี้ แกไปเอามาจากไหน”
“เขาพูดกับพี่ดาริกาเมื่อกี๊ เตรียมแหวนแต่งงานมาแล้วด้วย ผมห้ามพี่เด็ดขาดเลยนะ ถ้าเขาขอพี่ต้องปฏิเสธทันที”
“ทำไมไอ้ป๊อบ พี่กับตี้รักกัน ทำไมแกจะต้องห้าม”
ป๊อบหน้าเครียด
“ผมไม่อยากให้พี่แต่งกับผู้ชายอายุอ่อนกว่า ถ้าแก่กว่า ผมจะไม่ว่าเลย”
“วัยสำคัญด้วยเหรอวะป๊อบ” วรางค์ย้อนถาม “ในเมื่อเรารักกันมาห้าปีแล้วนะ”
“สำคัญครับ เพราะพี่ก็ยังมีนิสัยเด็ก พี่ตี้บางเรื่องนิสัยเด็กกว่าผมอีก ขืนแต่งกัน ไปไม่รอดแน่ ผมไม่อยากให้พี่สองคนที่ผมรัก ต้องมาลงเอยด้วยการหย่า แล้วก็เกลียดกัน เหมือนที่พ่อกับแม่เคยหย่าและเกลียดกันมาแล้ว”
ป๊อบเสียงเครือ วรางค์เองก็ถึงกับน้ำตาซึม
“นะครับพี่ อย่ารับรักพี่ตี้เลย”
วรางค์ดึงป๊อบมากอดไว้
“เข้าใจแล้ว ฉันเพิ่งเข้าใจแกวันนี้นี่เอง”
แพ็ทดึงนางถอยห่างออกมา
“เป็นข่าวดีที่สุดในวันนี้เลย นายอาร์ตี้น่ะสมควรเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว”
แพ็ทหัวเราะสะใจ ทำเอานางถึงกับงง
“เอ กับคุณวิวิทธิ์ พี่แพ็ทก็หวังจะได้มาเป็นของพี่เหมือนกัน โดยไม่แคร์ว่าเขารักกับพี่อิงฟ้า กับพี่ชายจันทร์ พี่แพ็ทก็หวังจะแย่งมาจากพี่ดาริกา ตกลงพี่จะต้องการใครกันแน่”
แพ็ทถลึงตามองนาง
“นังนาง คุณจันทร์น่ะไว้เป็นสามีออกหน้าออกตา ให้สมฐานะฉัน ส่วนอาร์ตี้ เอาไว้เป็นชู้รักดินเนอร์ยามค่ำ ส่วนวิวิทธิ์ไว้เป็นกิ๊กเคี้ยวเล่นกรุบกรอบยามว่าง เข้าใจไหม”
นางพยักหน้า “เข้าใจค่ะ พี่จะมีผัวพร้อมกันสามคน กาลีแท้ ๆ”
“ว้าย กาลี แกด่าฉันทำไม”
“ไม่ได้ด่าค่ะ พูดตามคำโบราณ เขาว่าหญิงสามผัว มักเป็นหญิงกาลีบ้านกาลีเมือง”
“ทีอย่างนี้กระแดะรู้จักคำโบราณ โดนแน่ ๆ แก”
แพ็ทเงื้อมือจะตบ นางรีบวิ่งหนีไป
บรรยากาศกองถ่าย เริ่มต้นขึ้น อาร์ตี้ดูบึกบึน ยืนอยู่กลางแดดที่แผดเผา พลางเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก แล้วยิ้มเมื่อเห็นแก้วกาแฟควันฉุยวางอยู่ ก่อนที่จะยกขึ้นดมอย่างสดชื่น แล้วดื่ม
ทีมงานแต่ละคนทำหน้าที่อย่างขมีขมัน วิวิทธิ์กับอิงฟ้า ยืนช่วยโปรยดอกหญ้า นางสวมชุดกรุยกรายวิ่งเข้ามาในเฟรม แต่ก็เล่นไม่ถูกใจผู้กำกับ
“คัท ทำไมคุณเข้าไปกอดอย่างนั้นล่ะ ค่อย ๆ กอดซิ แล้วเวลาพูดทำไมตาไม่มีอารมณ์เลย”
นางหน้าจ๋อย
“น้องนางซอร์รี่ น้องนางเสียใจค่ะ ขอแก้ผ้าอีกครั้งนะคะ”
ทุกคนตกใจ แพ็ทรีบแก้แทนให้ “เออ น้องเขาหมายถึง ขอแก้ตัวอีกครั้งค่ะ”
ระหว่างที่กองถ่ายดำเนินการถ่ายทำอยู่ ดาริกาก็เดินแยกออกมา วิวิทธิ์และอิงฟ้า ตามมาสมทบ พลันทั้งสามคน ก็มองเห็นรถหรูของจันทรกานต์แล่นเข้ามาจอดห่างๆ โดยมีแพ็ทรีบเดินไปต้อนรับ จันทรกานต์ลงจากรถ
“พี่ชายจันทร์ ไร่ภูตะวันยินดีต้อนรับค่ะ”
“ขอบคุณครับ เป็นยังไงครับ การถ่ายทำ”
แพ็ทยิ้มหน้าบาน “ยอดเยี่ยมค่ะ”
วิวิทธิ์รีบหันมาบอกอิงฟ้า
“คุณฟ้าครับ ผมคงต้องแยกจากคุณสักพักนะครับ เดี๋ยวคุณจันทร์จะสงสัย”
“เข้าใจค่ะ”
แพ็ทพาจันทรกานต์เข้ามาหาคนทั้งสาม จันทรกานต์มองวิวิทธิ์และดาริกาอย่างหยันๆ แพ็ทแอบยิ้ม
ชอบใจ แล้วเดินแยกออกไป
“ผมก็ไม่ยักรู้ว่าคุณกับดาริกามาที่นี่เหมือนกัน มาช่วยงานหรือมาเที่ยว”
จันทรกานต์ปรายตามองทั้งคู่อย่างจับผิด
“เออ ทั้งสองอย่างน่ะครับ”
วิวิทธิ์พูดจบ จันทรกานต์ก็หันมาทางอิงฟ้า
“เหนื่อยไหมน้องอิงฟ้า”
“ไม่เหนื่อยค่ะ สนุกดี ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
วิวิทธิ์รีบขอตัวตาม แล้วเดินผละไป ทิ้งให้จันทรกานต์อยู่กับดาริกาตามลำพัง
“ที่บอกว่าไม่อยู่สุดสัปดาห์ ที่แท้ก็มาเที่ยวกองถ่ายนี่เอง คุณมากับวิวิทธิ์เหรอ”
ดาริกาพยักหน้า “ค่ะ คุณจันทร์คงไม่ว่า”
“จะไปว่าอะไรได้ คุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกอยู่แล้ว ตามสบายเถอะ”
จันทรกานต์ยิ้มเย็นชา ก่อนจะแยกไปทักทายวรางค์และทีมงาน ดาริกามองตามรู้สึกถึงท่าทีเหินห่าง
แต่ไม่รู้เหตุผล
ที่กองถ่ายทำ ขณะที่กำลังถ่ายทำฉากอาร์ตี้เช็ดเหงื่อที่หน้าผาก พอเหลือบเห็นแก้วกาแฟควันฉุยวางอยู่ ก็ยิ้ม ก่อนที่จะยกขึ้นดม แล้วดื่มอย่างพอใจ นางวิ่งเข้ามาในเฟรม ยังคงเล่นแข็งเหมือนเดิม
“คำรณ นั่นกลิ่นอะไร โอว์ กลิ่นกาแฟของเธอช่างเร้าใจอะไรอย่างนี้”
“กลิ่นกาแฟภูตะวันไงครับ และนี่แหวนแต่งงานของผม”
อาร์ตี้หยิบแหวนออกมาจากกระเป๋า แล้วเดินมาหาวรางค์ ที่นั่งตะลึง กล้องยังถ่ายต่อเนื่อง ทุกคนในกองมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่คิดว่าอาร์ตี้จะเซอร์ไพรส์แบบนี้
อาร์ตี้คุกเข่าลงตรงหน้าวรางค์
“พี่วรางค์ครับ แต่งงานกับผมนะ”
ทุกคนในกองเฮพร้อมกัน แล้วปรบมือเกรียว
วรางค์ช็อก พูดไม่ออกทำอะไรไม่ถูก หันไปมองหน้าป๊อบ ที่มองกลับมาอย่างไม่พอใจ
อาร์ตี้ยิ้มหวาน แต่วรางค์กลับนิ่งงัน