ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 6
ดาริกากำลังเก็บข้าวของส่วนตัวลงในกล่อง มีบ๊วย อาร์ท จัสตินช่วยอยู่ด้วย จู่ๆ บ๊วยก็พูดขึ้นมา
“ใจร้ายมากทั้งเจ๊วรางค์ ทั้งพี่ตี้ รู้ว่าเจ๊จะไปตั้งสองปี จะอยู่ร่ำลากันสักหน่อยก็ไม่ได้”
พอดาริการู้ว่าทั้งคู่ไปหาลูกค้ารายใหญ่ ที่ไม่สามารถเลื่อนนัดไม่ได้ ก็ถึงกับหน้าสลด
“คงสำคัญมากกว่าฉันซีนะ ไม่ร่ำลาก็ไม่เป็นไร ฉันคงไม่มีความหมายอะไรแล้ว ลาพวกนายละนะ
อยู่กันดี ๆ ล่ะ รักกันให้มาก ๆ อย่ากัดกันบ่อย อาหารก็อย่าแย่งกันกิน”
บ๊วยโผเข้ากอดดาริกา
“คงคิดถึงเจ๊ชะมัดเลย ไปอยู่นั่นคิดถึงพวกเราบ้างนะ”
อาร์ทเข้ามากอดบ้าง “สู้สู้นะครับ ใครรังแกบอกผม”
“ขอบคุณทุกคน ฉันคงคิดถึงพวกแกมากเลย บอกลาพี่ตี้ พี่วรางค์ด้วย”
พูดจบดาริกาก็เดินสะอื้นออกมาจากออฟฟิศ
จันทรกานต์ยืนดูวิวิทธิ์ ที่กำลังจัดโต๊ะทำงานให้ใหม่ ที่มุมโต๊ะด้านหนึ่ง มีแจกันดอกไม้ มีดอกกุหลาบแดงปักไว้หนึ่งดอก
“หวังว่าคุณดาริกาคงชอบนะครับ”
จันทรกานต์พยักหน้ายิ้มๆ
“ถ้าไม่ชอบเธอคงเปลี่ยนเองละ แล้วโต๊ะของคุณล่ะ”
“ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่หน้าห้องเรียบร้อยแล้วครับ”
ระหว่างนั้น คุณชายจันทรก็เดินเข้ามา
“คิดดีแล้วหรือลูกเรื่องจ้างดาริกา โดยไม่บอกแม่เขาก่อน”
“คิดดีแล้วครับ เพราะถ้าผมบอกแม่ ผมไม่มีทางจ้างดาริกาได้ ต้องมัดมือชกแบบนี้ละครับ”
คุณชายจันทรถอนหายใจ
“ก็ระวังว่าเราจะโดนชกเข้าด้วย เพราะแม่เขาหมัดหนักไม่ใช่เล่น”
พลันเสียงโทรศัพท์ภายใน ก็ดังขึ้นที่โต๊ะดาริกา วิวิทธิ์รับสาย
“ครับ ขอบคุณครับ” วิวิทธิ์วางสาย แล้วรีบรายงารน “คุณดาริกามาแล้วครับคุณจันทร์”
ดาริกานั่งรออยู่ที่โถงล็อบบี้ของออฟฟิศ เห็นพนักงานแต่งตัวเท่ๆ ทั้งชายและหญิงเดินผ่านไปมา พลางมองชุดตัวเองอย่างไม่มั่นใจ
จักรพัฒน์กับพิชญาเดินเข้าออฟฟิศมาพร้อมกัน ทั้งคู่มองดาริกาอย่างแปลกใจ
“คุณ ดาริกา มีธุระเหรอครับ คุณมากับคุณวรางค์รึเปล่า”
“เปล่าค่ะ วันนี้ฉันมาทำงานที่นี่ค่ะ”
“ทำงานที่นี่” พิชญาแปลกใจ “ไม่เข้าใจ ทำงานที่นี่ ทำงานอะไร”
“แสดงว่าคุณจันทร์ยังไม่ได้บอกใครเลย ฉันมาเป็นเลขาฯ คนใหม่ของคุณจันทร์ค่ะ”
จักรพัฒน์ กับพิชญาฟังแล้วก็อึ้งไป จันทรกานต์ เข้ามาพอดี พิชญารีบหันมถาม
“เรื่องจริงเหรอคะคุณจันทร์ คุณจ้างแม่นี่มาเป็นเลขาคนใหม่”
จันทรกานต์ ปรายตามองพิชญาเชิงตำหนิ
“พูดให้เกียรติกันหน่อยซีครับ คุณดาริกาเป็นเลขาของผม”
“เลขา “ส่วนตัว” นะคะ” ดาริกาจงใจเน้นคำว่าส่วนตัว
“เชิญคุณ ดาริกาไปที่ห้องทำงานของเราดีกว่านะ”
จันทรกานต์ผายมือเชิญ ดาริกายิ้มกวน ๆ ให้พิชญา ก่อนจะเดินคู่กันไป จักรพัฒน์อมยิ้มอย่างพอใจ
ขณะที่ทั้งคู่เดินมาด้วยกันตามทางเดิน พนักงานหันมาดูทั้งคู่เป็นตาเดียว ยุพารีบสะกิดเพชรที่กำลังเม้าท์อย่างออกออกรส
“คุณเพชรขา เมื่อกี้ยุพาเห็นค่ะ เห็นยายดาริกาเดินตีเสมอกับคุณจันทร์ไปทางห้องคุณจันทร์น่ะค่ะ” เพชรหันขวับมาทันที
“ยุพา วัน ๆ เลิกมโนเสียที นอกจากมโนแล้วยังเวิ่นเว้อ เวิ่นเว้อไม่พอยังเน่าหนอน”
ยุพามองเลยไป เห็นอะไรบางอย่างแว้บๆ
“คุณเพชรขา นั่นค่ะ ดูนั่น หนอนมาเป็นคู่เลย”
เพชรหันไปมองตาม แล้วก็โวยวาย
“เฮ้ย ใครอนุญาตให้มันเข้ามาส่วนพนักงาน”
จันทรกานต์ พาดาริกาเข้ามาในห้อง
“นี่ละครับ โต๊ะทำงานคุณ”
ดาริกา มองไปที่โต๊ะอีกตัว “แล้วนั่น”
“โต๊ะทำงานผม”
“ตกลงฉันต้องอยู่ร่วมห้องกับคุณตลอดการทำงาน. ทั้งวัน ?”
จันทรกานต์ ทำหน้าทะเล้น
“หน้าที่เลขาฯ ก็อย่างนี้ละครับ”
วิวิทธิ์ ผายมือให้ดาริกามานั่งที่โต๊ะทำงาน ดาริกาลงนั่งอย่างอึดอัดเล็กน้อย จันทรกานต์ ลงนั่งที่โต๊ะของตน พลางยิ้มให้
“เอ่อ ขอย้ายเหลี่ยมโต๊ะหน่อยได้ไหมคะ นั่งอย่างนี้ฉันก็ต้องมองหน้าคุณจันทร์ตลอด ให้ฉันได้มองทิวทัศน์นอกหน้าต่างบ้างดีกว่านะคะ จะสดชื่นกว่าเยอะเลย”
จันทรกานต์หน้าตึง
“ไม่ได้ มุมนี้แหละลงตัวที่สุดแล้ว”
วิวิทธิ์กลั้นหัวเราะ พลางแนะนำงานให้ดาริกาฟัง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังเอะอะจากด้านนอก ทั้งสามรีบออกจากห้องไปดูทันที
ดาริกามองวรางค์และอาร์ตี้ ที่กำลังเถียงอยู่กับเพชรและยุพาอย่างประหลาดใจ ขณะที่จันทรกกานต์
ถามเสียงเข้ม
“มันเรื่องอะไรกัน”
“เรามาพบยายดาวค่ะ”
เพชร กับยุพา มองดาริกา ที่ยืนอยู่กับจันทรกานต์อย่างงงๆ วรางค์รีบพูดเข้าเรื่องทันที
“คุณจันทร์คะ ฉันในฐานะพี่สาวของยายดาว หัวหน้างาน และเปรียบเสมือนผู้ปกครอง ฉันมีสิทธิ์ที่จะมาดูแล สำรวจความเรียบร้อยที่ทำงานใหม่ของยายดาวค่ะ”
อาร์ตี้พยักหน้า แล้วช่วยพูดเสริม
“สำรวจเพื่อแน่ใจว่ายายดาวได้รับการต้อนรับ ดูแลเอาใจใส่อย่างดี”
“ที่ทำงานใหม่ หมายความว่ายังไงครับคุณจันทร์”
เพชรหันมาถาม
“ดาริกาเป็นเลขาฯ คนใหม่ของผม”
เพชร กับยุพาตะลึง ขณะที่จันทรกานต์ผายมือเชิญวรางค์กับอาร์ตี้เข้าไปในห้องทำงาน เพชรกับยุพา
ก็ปรี่เข้ามาถามวิวิทธิ์ทันที
“คุณจันทร์คิดอะไรอยู่ เลขาฯ ใหม่ แล้วคุณล่ะ”
วิวิทธิ์ตอบยิ้มๆ
“ผมเหรอ ผมก็ถูกปลดเป็นเลขาฯ เก่าไง ตอนนี้โต๊ะผมอยู่หน้าห้องแล้ว”
“คุณโดนปลดนะคะ ทำไมยังทำหน้าระรื่น”
“งานเบาขึ้นไงครับ แหม...พวกคุณก็คงคุ้นกันดี เวลามีคนมารองมือรองเท้า เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบมาก วัน ๆ ก็สอพลอเจ้านายไป นายเขาไปกินอะไรแพง ๆ ก็รีบตามไปประจบ ขอเศษขอเดน เลียแผล่บ ๆ “
วิวิทธิ์แอบเหน็บ แล้วก็เดินผละเข้าห้องไป
เพชรกับยุพายืนนิทากันต่อว่าสาเหตุที่ดาริกาเข้ามาทำงานที่นี่เพราะเป็นเมียเก็บของจันทรกานต์อย่างที่พิชญาว่าไว้
“อ้อ เอาเมียเก็บมาเป็นเลขา สมเป็นลูกเจ้าของห้างจริงๆ แหม...ข่าวนี้มันน่าเผยแพร่นะ”
“ได้ค่ะ ไม่เกินสิบนาที รู้ตั้งแต่ รปภ.ไปถึงแม่บ้านขัดส้วม”
ทั้งคู่หันมายิ้มให้กันอย่างสะใจ
วรางค์และอาร์ตี้มองไปรอบ ๆ ห้องอย่างพึงใจ พลางย้ำสัญญาเรื่องที่ให้ยืมตัวดาริกามาทำงานแค่สองปี จันทรกานต์รับคำ
“งั้นวรางค์ก็ไม่รบกวนคุณจันทร์แล้วละค่ะ ยายดาวตั้งใจทำงานนะ ให้สมกับที่เธอเป็นเด็กสร้าง
เด็กขายของพี่”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ดีใจที่สุดเลยที่พี่กับพี่ตี้ยังเป็นห่วงหนู”
ดาริกายิ้มดีใจ
“ตอนนี้เรากำลังกระจายข่าวเรื่องคุณจันทร์เอาเมียเก็บมาทำงาน”
เพชรพูดอย่างสะใจ ขณะที่นั่งล้อมวงคุยกับยุพา และพิชญา
“ทำไม คุณชายกับคุณดารารายถึงยอมรับนะ”
พิชญาอดข้องใจไม่ได้ จังหวะนั้นคุณชายจันทรเดินคุยมากับจักรพัฒน์ผ่านมาพอดี ทั้งสามคนก็เลยแอบฟัง
“เรื่องเลขาฯ คนใหม่นี่ คุณดารารายยังไม่รู้เรื่อง คุณก็อย่าเพิ่งบอกก็แล้วกัน เดี๋ยวให้คุณจันทร์เขาบอกของเขาเอง”
พิชญา เพชร ยุพา หันมามองหน้ากัน
“คุณดารารายยังไม่รู้เรื่อง”
เพชรยิ้มเจ้าเล่ห์“งั้นเข้าทางเราแล้วละครับ เพราะคุณ ดารารายไม่ได้ชอบยัยดาริกา”
“ก็ต้องหาทางให้คุณดารารายรู้ความจริงให้เร็วที่สุดซิคะ”
ขณะที่ดาริกามาส่งวรางค์และอาร์ตี้ที่โถงหน้า กลุ่มของพิชญา เพชร และยุพา ก็พาดารารายเข้ามา
ดาราราย ที่ยังไม่รู้เรื่องเดินตรงเข้าไปทักทาย
“สวัสดีค่ะ วันนี้มีประชุมกับทางคุณจันทร์เหรอคะคุณวรางค์”
“อ๋อ วันนี้ไม่ได้มาประชุมหรอกค่ะ พาเด็กมาส่ง เอ๊ย มาเป็นขวัญและกำลังใจให้ยายดาวน่ะค่ะ”
พูดพลางวรางค์โอบคอดาริกา ดาริกาชักอึดอัดเกรงว่า ดารารายจะหลุดออกมาว่าเธอกับวรางค์เป็นคู่ทอม-ดี้
“แหม....ให้กำลังใจกันอย่างนี้ คงรักกันมากเลยนะ แล้วเป็นขวัญและกำลังใจกันเรื่องอะไรเอ่ย”
วรางค์ ดาริกา อาร์ตี้มองหน้ากันอย่างแปลกใจ
“อ้าว ก็ในฐานะที่ดิฉันให้ยืมตัวยายดาวมาทำงานที่นี่ไงคะ”
ดารารายถึงกับชะงัก
“หา ยืมตัวเด็กของคุณมาทำงานที่นี่ ทำงานตำแหน่งอะไรไม่ทราบ”
ดาริการู้ทันทีว่างานเข้าแล้ว
“คุณจันทร์ไม่ได้บอกคุณท่านเหรอคะ หนูมาเป็นเลขาฯ คุณจันทร์ค่ะ”
ดารารายอ้าปากค้าง พิชญายิ้มสะใจ พลางพูดกระแทกใส่หน้าดาริกา
“บอกไปด้วยซิว่า เลขาฯส่วนตัว”
ดาริกาหน้าเจื่อน
ดาริกาตรงเข้าห้องทำงาน พร้อมกับเปิดฉากเล่นงานจันทรกานต์ ที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับดาราราย ยังไม่ทันขาดคำประตู ดาราราย ก็เดินนำคุณชายจันทร และวิวิทธิ์เข้ามาในห้อง พลางมองหน้าดาริกาอย่างเอาเรื่อง จากนั้นก็โวยวายเรื่องที่จันทรกานต์ปิดบังเรื่องนี้กับเธอ
“เรื่องบางเรื่องที่เป็นส่วนตัว ผมขอตัดสินใจเองครับ”
จันทรกานต์พยายามอธิบายอย่างใจเย็น
“แต่นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว นี่เป็นเรื่องที่พ่อกับแม่ต้องมีส่วนในการตัดสินใจร่วมกับลูก”
“แล้วเมื่อไหร่ผมจะโตเสียทีละครับแม่ ถ้าผมตัดสินใจของผมเองไม่ได้ ผมก็คงต้องเลิกทำงานที่นี่ละครับ”
ดารารายโกรธจนปากสั่น
“ลูกกำลังขู่แม่ใช่ไหม เพราะผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมที่ยุยงลูกให้แข็งข้อกับแม่แบบนี้ ลูกไม่เคยเป็นแบบนี้ จนกระทั่งมาคบผู้หญิงคนนี้”
ดาริกายืนอึ้ง คุณชายจันทรเห็นว่าเรื่องจะไปกันใหญ่ เลยรีบพูดตัดบท
“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย สงบสติทั้งคู่ ผมว่าเดี๋ยวเราคุยกันส่วนตัวดีกว่า”
ดาริกาออกคำสั่งให้จันทรกานต์ออกไปคุยกับเธอที่ห้องทำงาน แล้วก็สะบัดหน้าออกไปทันที
ดารารายเอะอะยิ่งกว่าเดิม เมื่อดูสัญญาที่จันทรกานต์ ทำกับบริษัทของวรางค์
“ลูกได้ตัวยายนั่นมา แลกกับการที่ลูกไปจ้างบริษัทคุณวรางค์ มาทำออร์กาไนซ์ให้เราสองปีงั้นเหรอ
ผูกมัดตัวเองแบบนี้ได้ยังไง”
“แม่ครับ แม่คงไม่ทราบ บริษัทออร์กาไนซ์ที่เราจ้างไว้สามสี่บริษัท โดยความเห็นชอบคุณเพชร มีการรั่วไหลตลอด เม็ดเงินเป็นสิบล้านนะครับที่เราถูกโกง”
ดารารายแทบไม่เชื่อหู “นายเพชรโกงงั้นเหรอ มีหลักฐานไหม”
“นี่ละครับที่ผมยังหาไม่ได้ เพราะปิดบังหลักฐานกันเป็นทีม”
เมื่อหันมาถามคุณชายจันทร ก็ได้รับคำตอบไปในทางเดียวกัน จันทรกานต์จึงอธิบายว่าที่ชวน
ดาริกามาทำงานที่นี่ ก็เพราะเธอเป็นคนสืบเรื่องให้
“และสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมคิด ว่าดาริกาสมควรจะมาเป็นเลขาฯ ให้ผม เรื่องนี้ผมคิดว่าแม่คงเห็นด้วยอย่างมาก เธอเป็น “ทอม” ไงครับ”
คุณชายจันทร กับดารารายมองหน้าลูกชายแบบงงๆ
วิวิทธิ์พาดาริกาเข้ามาในห้องแกลเลอรี่ ชณะที่อิงฟ้ากำลังขายของอยู่มุมหนึ่ง พลางบอกเหตุผลว่า
ดาริกาน่าจะต้องกาปรับทุกข์กับใครสักคน ซึ่งอิงฟ้าน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในตอนนี้
วิวิทธิ์ปลีกตัวไปหาอิงฟ้า ก่อนที่จะพาเดินกลับมาหาดาริกา
“คุณดาริกา เพิ่งทราบค่ะว่าคุณจะมาทำงานที่นี่เป็นเลขาฯ คุณจันทร์”
ดาริกาถอนหายใจ
“ใช่ค่ะ แต่มาวันแรกก็ไม่รู้จะรอดรึเปล่า คุณแม่คุณจันทร์ไม่ยอมรับฉัน เฮ้อ หรือว่าฉันจะลาออกไปเลยจะได้หมดเรื่องกัน”
“อย่าเพิ่งค่ะ ใจเย็น ๆ นะคะ ฟ้าว่าคุณจันทร์ต้องจัดการเรื่องนี้ได้แน่ ๆ มาทำงานที่นี่ก็ดีซิคะจะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน”
อิงฟ้าพูดปลอบใจ พลางพาดาริกาไปนั่งคุย
“แม่คงไม่ทราบว่าน้องอิงฟ้าชื่นชมดาริกามาก”
จันทรกานต์เห็นพ่อกับแม่นั่งงง ก็รีบอธิบาย
“อิงฟ้าไม่ได้ชอบผมเลยนะครับ ผมไม่ใช่สเป็กของเธอ ความสัมพันธ์ของเราถึงได้ไม่คืบหน้าดาริกานี่แหละครับที่จะช่วยแนะวิธีที่จะทำให้ผมชนะใจอิงฟ้าได้”
“แม่นี่เก่งขนาดนั้นเชียว” ดารารายยังไม่ปักใจเชื่อ
“เก่งหรือไม่เก่ง กว่าคุณวรางค์จะได้เธอเป็นแฟน ต้องแย่งชิงจากสาวสวยนับไม่ถ้วนเชียวนะครับ บาดเจ็บทางใจกันไปไม่รู้กี่ราย”
คุณชายจันทรกลั้นยิ้ม กับเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวของลูกชาย ดารารายยังคาใจ จึงบอกให้จันทรกานต์ตามตัวดาริกามาให้เธอสัมภาษณ์
จันทรกานต์iรีบโทร.หาวิวิทธิ์ ก่อนจะวางสาย แล้วหันมาบอกดารารายให้เดินไปดูที่ห้องแกลอรี่ด้วยกัน
ดาริกานั่งซึม วิวิทธิ์ที่กระซิบบอกให้อิงฟ้าช่วยพูดปลอบใจ อิงฟ้าพยักหน้า พลางเดินเข้ามานั่งคุกเข่าที่พื้นตรงหน้าดาริกา แล้วจับมือดาริกาไว้
“พี่ดาว อย่าเพิ่งท้อนะคะ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก คุณแม่คุณจันทร์เป็นคนมีเหตุผลค่ะ เชื่อฟ้านะ”
วิวิทธิ์มองไปนอกห้อง เห็นจันทรกานต์ ดาราราย พร้อมคุณชายจันทรเข้ามาแอบมองหน้าห้อง วิวิทธิ์กับจันทรกานต์ แอบยิ้มให้กันที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
จากนั้นทั้งจันทรกานต์ และคุณชายจันทรก็ช่วยพูดหว่านล้อมจนดารารายเริ่มคล้อยตาม พลางตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องแกลอรี วิวิทธิ์ อิงฟ้า และ ดาริกา ลุกขึ้นพร้อมกัน
“ดาริกา ฉันอาจจะอคติกับเธอมากไปหน่อย เอาละ หลังจากฟังเหตุผลของคุณจันทร์แล้ว ฉันเห็นว่าเธอเหมาะสมจะมาเป็นเลขาฯ ส่วนตัวให้ลูกชายฉันจริง ๆ”
ดาริกายิ้มออกมาอย่างงง ๆ อิงฟ้า กับวิวิทธิ์ หันมายิ้มให้กัน
“ขอบคุณค่ะคุณดาราราย”
ดารารายพยักหน้ายิ้มๆ
“ฉันก็ขอให้เธอทำตามที่ตกลงกับลูกชายฉันให้ได้นะ และถ้าสำเร็จฉันถือว่าเธอสอบผ่าน และจะสมนาคุณให้อย่างงามเชียว”
ดารารายแอบพยักเพยิดไปทางอิงฟ้า ดาริกามองอย่างงงๆ จันทรกานต์แอบส่งสัญญาณให้วางท่าเป็นทอม ดาริกาพยักหน้า
“ค่ะ สำเร็จแน่นอนค่ะ ไม่พลาด”
“ดีมากจ๊ะ ขอต้อนรับสู่แกรนด์”
อ่านต่อหน้า 2
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 6 (ต่อ)
ขณะที่วรางค์และอาร์ตี้ยังคอยอยู่ที่ห้องรับแขก ด้วยความเป็นห่วงดาริกา พิชญา พร้อมด้วยเพชรและยุพา ก็เข้ามาพูดจาแกมเยาะเย้ยตามเคย
จนเกือบจะมีเรื่องถึงขั้นชกต่อยกัน ดีที่คุณชายจันทร ดาราราย จันทรกานต์ และดารารายเดินเข้ามาขัดจังหวะ
วรางค์รีบถลาเข้าไปถามดาริกาด้วยความเป็นห่วง
“ยายดาว เป็นอย่างไรบ้าง”
“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อย”
วรางค์ถอนหายใจโล่งอก พลางดึงดาริกามากอด พร้อมกุมมือไว้อย่างแสนห่วง ดารารายมองตะลึง คุณชายจันทร จันทรกานต์ และวิวิทธิ์ หันมามองหน้ากัน เพราะกลัวความแตก
ดารารายยิ้มให้วรางค์
“ขอบคุณนะคะคุณวรางค์ ทั้งๆ ที่รักดาริกาขนาดนี้ คุณก็ยังยอมสละคนรักคุณให้มาทำงานกับจันทร์ตั้งสองปี”
วรางค์ตกใจ ”หา สละคนรัก”
จันทรกานต์รีบโพล่งทันที “ใช่ครับ ความรักของทั้งคู่ยิ่งใหญ่จริง ๆ นะครับ”
“ตกลงฉันอนุญาตให้ว่าจ้างดาริกาเป็นเลขาฯ ของ คุณจันทร์”
วรางค์ อาร์ตี้ ดาริกายิ้มให้กัน พิชญา เพชร และยุพา แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
พอกลับเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้ง ดาริกาก็โวยวายใส่จันทรกานต์ทันที เรื่องที่อ้างว่าเธอเป็นทอม แล้วให้ช่วยจีบอิงฟ้า
“นี่ละ เหตุผลที่อยู่หมัดที่สุดที่แม่จะยอมรับคุณ”
ดาริกาส่ายหน้าอย่างระอา
“ปวดตับ ไม่นึกเลยนะว่าคุณ จันทรกานต์จะสตอเบอร์รี่ได้ถึงขนาดนี้”
วิวิทธิ์ยังนั่งอยู่ อดที่จะอมยิ้มไม่ได้
“ตอนรับบรีฟ ผมยังงงเลยครับ คุณจันทร์สะตอ เอ๊ย สร้างเรื่องเก่งจริงๆ”
“บางอย่างผมก็เรียนรู้มาจากคนรอบตัวน่ะครับ”
จันทรกานต์พูดลอยๆ แต่ก็ทำเอาดาริกาและวิวิทธิ์แอบสะดุ้ง จากนั้นจันทรกานต์ก็กำชับให้ดาริกาสวมบททอมไปตามบทบาทสมมติ เวลาอยู่ต่อหน้าดาราราย
“บ้าที่สุด โอ๊ย ต้องกลายเป็นทอมทั้ง ๆ ที่ฉันเป็นสาวสวยเซ็กซี่”
“อย่าบ่นเลย ตอนนี้ผมว่าคุณเริ่มงานกับวิวิทธิ์ดีกว่านะ คืนนี้เราต้องออกงานด้วยกัน เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
ดาริกามองค้อน ก่อนจะแกล้งตอบประชด “ค่ะ เจ้านายของบ่าว”
ดาริกาเดินตามจันทรกานต์ออกมาจากลิฟท์ ที่คอนโด ในสภาพเหน็ดเหนื่อยและอ่อนเพลีย พลางบ่นว่าแค่วันแรกก็โดนใช้งานจนหมดแรง จันทรกานต์ยิ้มขำ
“กลับไปพักผ่อนเถอะครับ แล้วมาเจอผมในอีกครึ่งชั่วโมงงานเรายังไม่เสร็จ ผมยังต้องการให้คุณพิมพ์หัวข้อการประชุมพรุ่งนี้ให้หน่อย ผมร่างไว้เรียบร้อยแล้ว”
ดาริกาโวยวายขึ้นมาทันที
“นี่คุณ วันนี้ฉันเหนื่อยมากนะ แล้วก็มึนหัวด้วย”
“ผมมียาให้ทาน อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน อ้อ แต่งตัวตามสบายนะครับ ไม่ถือ”
จันทรกานต์พูดร์ยิ้มๆ แล้วเดินเข้าห้องไป
ระหว่างที่ดาริกานั่งพิมพ์งานง่วนอยู่หน้าคอมพ์ จันทรกานต์ก็เอายาลดไข้ และน้ำมาให้ ดาริกาหยิบยาเข้าปาก แล้วดื่มน้ำพรวดหมดแก้ว
ครู่หนึ่งดาริกาก็เริ่มง่วง พิมพ์ไป ก็หาวไป จันทรกานต์เดินกลับออกมาดูอีกครั้ง ก็พบว่าดาริกานอนหลับคอพับไปแล้ว จันทรกานต์พยายามจะปลุก พลางพยุงให้ดาริกาลุกขึ้น
“ยาแรงขนาดนี้เชียว ตื่นเถอะ ผมไปส่งคุณที่ห้อง”
ดาริกาเซมาซบไหล่ จันทรกานต์ถึงกับสะดุ้ง
“แกล้งซบผมรึเปล่า”
ปรากฏว่าดาริกาหลับสนิทจริง ๆ ในที่สุดจันทรกานต์ก็ตัดสินใจ
“งั้นก็ต้องนอนที่นี่แหละ”
จากนั้นก็ช้อนร่างดาริกาขึ้นอุ้ม แล้วพาเข้าห้องนอน
ที่บ้านของวิวิทธิ์ ซึ่งเป็นบ้านเล็ก สองชั้นทรงโบราณ แวดล้อมด้วยต้นไม้ร่มรื่นเย็นสบาย
ขณะที่วิวิทธิ์ในชุดเสื้อกล้าม กางเกงนอน อยู่ภายในห้องนอน ที่ค่อนข้างรกตามประสาชายโสด เสียงกริ่งบ้านก็ดังขึ้น เมื่อวิ่งลงบันไดมา และมองผ่านหน้าต่างห้องโถง ก็เห็นอิงฟ้ายืนกดกริ่งอยู่ที่ประตู
“คุณอิงฟ้า เอ๊ะ นัดไว้เหรอ แค่บอกว่าวันนี้ลาหยุดหนึ่งวัน เฮ้ย....เอาไงวะ รกอย่างกะโดนพายุถล่ม”
วิวิทธิ์มองกวาดไปทั่วห้อง แล้วเริ่มเก็บห้องอย่างรวดเร็ว
วิวิทธิ์วิ่งมาหน้ารั้ว พลางอุ้มเจ้าตูบที่เห่าเสียงขรม แล้วเปิดประตู
“คุณอิงฟ้า รู้จักบ้านผมได้ยังไงครับ”
“ถามที่ออฟฟิศน่ะค่ะ”
วิวิทธิ์มองอย่างแปลกใจ “เออ....คุณฟ้าครับ วันนี้เรานัดกันเหรอครับ”
“คุณนัดไว้ค่ะ”
“ผมนัดกับคุณเหรอ”
อิงฟ้าส่ายหน้า
“เปล่า นัดกับเด็ก ๆ ไงคะ ที่คุณเคยบอกว่าวันสารทจีน ขนมที่บ้านเยอะเลย จะพาเด็ก ๆ มาทานไง
ลืมเสียแล้ว แต่เด็ก ๆ ไม่ลืมนะคะ เอ้า....เด็ก ๆ ลงมาจากรถได้แล้ว”
ขาดคำ ข้าวตู ข้าวตอก ดอกไม้ ก็วิ่งกรูกันลงมาจากรถ วิวิทธิ์ยิ้มเจื่อนๆ
จันทรกานต์อาบน้ำเสร็จ เดินกลับเข้ามาในห้องนอน โดยมีผ้าขนหนูพันช่วงล่างผืนเดียว ขณะที่ดาริกายังนอนพริ้มอยู่บนเตียง
ดาริกางัวเงียลืมตาขึ้น เห็นร่างเปลือยท่อนบนของจันทรกานต์ ก็อมยิ้ม เพราะนึกว่าตัวเองยังฝันอยู่ แต่พอรู้สึกตัวจริงๆ แล้วเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียงของจันทรกานต์ ก็โวยวายขึ้นมาทันที
“ว้ายตายแล้ว ฉันมานอนบนเตียงคุณได้ยังไง”
“ผมอุ้มมา”
ดาริกาตกใจ “อุ้ม หมายความว่าเมื่อคืน”
พลางกระเด้งตัวลุกพรวดทันที จันทรกานต์รีบอธิบาย
“อย่าคิดอกุศล ผมไม่ได้ล่วงเกินอะไรคุณนะ อ้อ....นี่คุณกำลังคิดน้ำเน่าใช่ไหม ว่าผมหลอกคุณมาทำงาน ให้ยานอนหลับคุณทานจนคุณหมดสติ แล้วก็พาคุณขึ้นเตียง ข่มขืนคุณ พรากพรหมจรรย์คุณ นั่นในละครครับ ไม่ใช่เรื่องจริง นี่...เรื่องจริง ผมนอนตรงนี้ ไม่ได้แตะต้องตัวคุณเลยนอกจากตอนที่ นอกจากตอนอุ้มกับตอนห่มผ้าให้ โปรดอย่าเข้าใจผิดนะครับ”
ดาริกายักไหล่ “ฉันไม่ได้เข้าใจอะไรผิดสักหน่อย”
“ก็คุณโวยวาย”
“ฉันโวยวายว่าฉันมานอนบนเตียงคุณได้ยังไงเท่านั้นเอง โธ่....คุณหม่อมขา”
พูดพลางก็เดินเข้ามาใกล้ จันทรกานต์ยืนตัวเกร็ง
“บ่าวรู้หรอกค่ะ ว่าทูนหัวของบ่าวน่ะ. ทำไม่เป็นอยู่แล้ว ฮิฮิ”
จันทรกานต์ทั้งโกรธ ทั้งเขิน จนหน้าแดงก่ำ ดาริกาหยิกแก้มจันทร์เหมือนที่ดารารายทำ
“น่ารักจริงจริง กลับห้องนะคะ เดี๋ยวค่อยเจอกัน”
จันทรกานต์มองตาม พลางพึมพำกับตัวเอง
“ทำเหมือนแม่ไม่มีผิด ดูถูกกันเกินไปแล้ว รู้ได้ยังไงว่าทำไม่เป็น”
วิวิทธิ์ ที่เปลี่ยนชุดแล้วลงบันไดมา ก็เห็นอิงฟ้ากำลังจัดบ้านอยู่อย่างขมีขมัน วิวิทธิ์รีบร้องห้าม
“คุณเป็นแขก มาเก็บกวาดบ้านผมได้ยังไง เกรงใจครับ”
อิงฟ้ามองวิวิทธิ์แล้วก็ยิ้มอย่างจริงใจ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ ที่มูลนิธิน่ะ ฉันเป็นแม่บ้านประจำ ทั้งงานบ้าน งานครัว ทำเองหมด”
“ยังไงก็เกรงใจครับ อีกอย่างเรื่องขนมน่ะ วันนี้ผมไม่มีหรอกนะครับต้องกลับไปเอาที่บ้านพ่อ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“แต่เด็ก ๆ อดทานขนมเลย” วิวิทธิ์อดเป็นห่วงเด็กๆ ไมได้
“ที่จริง ที่ฉันแวะมาเยี่ยมวันนี้ ไม่ใช่พาเด็กมาทานขนมหรอกค่ะ ฉันมาเพราะฉันจะมาวาดรูปให้คุณไง ตามที่สัญญากันไว้”
วิวิทธิ์มองหน้าอิงฟ้า แล้วก็ยิ้มเขิน
จากนั้นวิวิทธิ์ก็พาอิงฟ้า มาที่บึงบัวหลังบ้าน
“นี่ละครับ บึงบัวที่ผมบอกคุณ ไม่สวยหรอกครับ แต่ผมชอบมานั่งเล่นที่นี่ เป็นที่ให้ความสงบทางอารมณ์เวลาฟุ้งมากๆ”
อิงฟ้าส่ายหน้า ไม่เห็นด้วย
“ฉันกลับเห็นว่ามันสวยมากเลย เอาละ ฉันจะวาดภาพนี้ให้คุณ แต่ขอแสงเย็น ๆ หน่อยนะคะ ฉันเตรียมอุปกรณ์มาแล้ว”
“ดีครับ ถ้างั้น ผมขอตัวออกไปข้างนอกเดี๋ยว ไปหาเสบียงน่ะครับ เด็กๆ คงหิวกันแล้วล่ะ”
ในห้องประชุม จันทรกานต์กำลังดำเนินการประชุม ต่อหน้าคุณชายจันทร ดาราราย และพนักงานอื่นๆ โดยมีดาริกาคอยช่วยเรื่องเอกสาร ดารารายแอบจับตามองอยู่ตลอด แล้วก็เห็นว่าดาริกาทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง
ขณะที่เพชร กับยุพา มองอย่างหมั่นไส้
เมื่อการประชุมจบลง ทุกคนปรบมือให้จันทรกานต์ คุณชายจันทร และดารารายมองลูกชาย แล้วยิ้มอย่างพอใจ
ดาริกาเข็นรถอาหารตรงมาที่ห้องทำงานของจันทรกานต์ พลางบ่นมาตลอดทาง ดารารายเดินออกมาเห็นก็แปลกใจ
“อาหารกลางวันคุณจันทร์เหรอ ทำไมไม่ทานที่ห้องอาหาร”
“วันนี้คุณจันทร์อยากทานที่ห้องทำงานค่ะ”
ดาริกาเปิดฝาครอบอาหารทั้งจานใหญ่ จานเล็ก พลางซักไซร้ทีละจานอย่างละเอียด
วิวิทธิ์หอบของทานและขนมมาเต็มสองมือ ข้าวตู ข้าวตอก ดอกไม้ วิ่งตามกันเกรียว
“เอ้า มารับขนมไป แต่อย่าทานเยอะนะ เดี๋ยวทานข้าวไม่ลง”
เด็กทั้งสามไหว้ แล้วรับขนมคนละชิ้น
“แล้วพี่ฟ้าอยู่ไหนล่ะครับ”
ดอกไม้รีบตอบ “อาบน้ำอยู่ค่ะ”
ข้าวตอกรีบพูดต่อทันที
“ครับ พี่ฟ้าบอกว่าให้พ่อเข้าไปหาได้เลย”
วิวิทธิ์หน้าแดง “เฮ้ย จะดีเหรอ”
วิวิทธิ์ เดินมาหยุดที่หน้าห้องน้ำ พลางกลืนน้ำลายเอื๊อก เพราะได้ยินเสียงฝักบัวในห้องน้ำ แต่ประตู กลับปิดไม่สนิท
“คุณ วิวิทธิ์เหรอคะ เข้ามาเลยค่ะ แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อย”
วิวิทธิ์เหงื่อแตก พลางมองเข้าไปในห้อง เห็นเรียวขาเปลือยเปล่า แล้วก็สะดุ้ง รีบเบือนสายตาหนี
“เข้ามาช่วยหน่อยซิคะ” อิงฟ้าเรียกซ้ำ ทำเอาวิวิทธิ์เหงื่อแตกพลั่ก
“คือว่าอยากช่วยนะครับ แต่ว่ามันคงเร็วเกินไป ผมว่าความสัมพันธ์มันต้องใช้เวลาพัฒนาก่อนจะไปถึงตรงจุดนั้น มันควรจะค่อยเป็นค่อยไป มันถึงจะมีค่านะครับ”
อิงฟ้าเปิดประตูออกมาสีหน้างง ๆ วิวิทธิ์รีบหันหนีเพราะนึกว่าโป๊ ปรากฏว่าอิงฟ้าใส่กางเกงขาสั้น กำลังอุ้มเจ้าตูบอยู่
“อ้าว! อาบน้ำให้ตูบเหรอครับ” วิวิทธิ์หน้าเหรอ
“ค่ะ น้องตูบไปเล่นโคลนมาเลยอาบให้ เอ เมื่อกี้พูดอะไรคะ”
“ปละ เปล่า พูดกับเจ้าตูบน่ะครับ มันชอบให้ผมคุยกับมัน”
“คุยกันเรื่องความสัมพันธ์ ค่อยๆ พัฒนาเหรอคะ” อิงฟ้าแกล้งถาม พลางกลั้นยิ้ม
“ครับ มันชอบเรื่องจริงจังแบบนี้”
“งั้น ช่วยเช็ดตัวให้ตูบหน่อยนะคะ”
อิงฟ้าส่งตูบให้ วิวิทธิ์รีบเบือนหน้าหนี เพราะเสื้ออิงฟ้าเปียกแนบเนื้อ อิงฟ้าแยกไป วิวิทธิ์มองตามตาลอย
“ตูบ ทำไงดี ทั้งน่ารักทั้งเซ็กซี่ จะขาดใจแล้วว่ะ”
จันทรกานต์กับดาริกา นั่งทานอาหารกลางวันด้วยกันในห้องทำงาน จันทรกานต์เห็นดาริกาทานส้มตำท่าทางน่าอร่อย เลยขอลองชิมบ้าง แต่พอตักเข้าปากได้สองสามก็แทบสำลัก แต่ยังสงวนท่าที ทั้งที่หน้าเริ่มแดง
“ก็อร่อยดี”
ดาริกาอมยิ้ม “ยอมรับมาเถอะว่าเผ็ด”
“ไม่ นี่ไง ลองทานอีกคำ เผ็ดระดับนี้ทนได้อยู่แล้ว”
ว่าแล้วก็ตักเข้าปากอีกคำใหญ่ หน้ายิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม
“คุณกำลังเผ็ดหูฉี่”
“รู้ได้ไง อร่อยดีออก” จันทรกานต์เถียง
“หูและหน้าคุณกำลังแดงน่ะซิ เหงื่อคุณก็เต็มหน้าเลย ตายแล้ว ดื่มน้ำเร็ว”
ดาริกาส่งแก้วน้ำให้ จันทรกานต์ดื่มพรวดเดียวหมดแก้ว พลางไออย่างแรง พร้อมใช้มือพัดปากที่เหมือนกำลังจะพอง ดารารายเข้ามาพอดี
“ว้ายตายแล้ว กลิ่นปลาร้าทำไมมันเหม็นไปทั้งห้องอย่างนี้”
ดาริกาหัวราะแหะๆ “ปลาร้าหนูเองล่ะค่ะ”
“รู้แล้ว แต่ทำไมเอามาทานในห้องทำงาน”
ดารารายมองดาริกาเชิงตำหนิ จันทรกานต์รีบออกตัว
“ผมอนุญาตดาริกาเองละครับ”
“คุณจันทร์ ทำไมหน้าลูกแดงอย่างนั้นล่ะ เหงื่อเต็มตัวเลย”
พอรู้ว่าจันทรกานต์กินส้มตำ ก็โวยวาย
“ตายแล้ว ดาริกา เธอให้ คุณจันทร์ทานส้มตำปลาร้าของเธองั้นเหรอ ปลาร้าดิบด้วยใช่ไหม”
ดาริกาพยักหน้า “สุกแล้วค่ะ ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วอย่างดี คุณจันทร์อยากทานเองนะคะ เตือนแล้วว่ามันเผ็ด ก็ไม่ฟัง”
“เธอไม่รู้หรอกหรือว่า คุณจันทร์ทานเผ็ดไม่ได้ ท้องเสียทันที ลูกเป็นโรคกระเพาะนะ ทานอาหารรสจัดแบบนี้ไม่ได้”
จันทร์กานต์เรอออกมาเบาๆ “ผมเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
ดาริกาหน้าเจื่อน ดารารายมองอย่างตำหนิ
“ดาริกา ฉันคงต้องพูดกับเธอเป็นการส่วนตัวแล้วล่ะ”
ดาริกายิ่งเจื่อนเข้าไปอีก
อ่านต่อหน้า 3
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 6 (ต่อ)
จากนั้นทั้งคู่ก็เข้ามานั่งคุยกันในห้องทำงานของดาราราย ที่แจกแจงกฏกติกาละเอียดยิบ
“กฏข้อแรกที่เธอจะต้องจำไว้ก็คือ อย่าตามใจคุณจันทร์ในทุกเรื่อง ถ้าเธอไม่บอกว่าเธอเป็นทอม ฉันต้องคิดว่าคุณจันทร์เขาหลงเสน่ห์เธอเข้าให้แล้ว ดูเหมือนเขาจะชอบทุกอย่างในตัวเธอ รสนิยม ความคิด แม้แต่ไลฟ์สไตล์แบบเอ่อ..ลูกทุ่งๆ ของเธอน่ะ”
”หนูขอใช้คำให้ถูก แบบบ้านๆ หรือแบบจน ๆ ใช่ไหมคะ”
ดารารายส่ายหน้า
“ฉันไม่ใช่คนดูถูกเรื่องความรวยความจน หรือชั้นวรรณะหรอกนะ แต่เธอต้องเข้าใจ ชีวิตของคุณจันทร์ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบธรรมดาสามัญ เขาถูกเลี้ยงมาเพื่อให้เป็นผู้นำและผู้บริหารที่ดี สิ่งที่ฉันให้เขาถูกคัดสรรมาแล้วอย่างดี เธอจะเอาค่านิยมหรือรสนิยมส่วนตัวไปใส่สมองเขาไม่ได้”
ดาริกานิ่งงัน จังหวะนี้คุณชายจันทรเปิดประตูเข้ามาพอดี พลางหยุดฟังหน้าห้อง
“หนูไม่เคยเอารสนิยมส่วนตัวไปใส่สมองคุณจันทร์ค่ะ มีแต่เขานั่นแหละที่มาขอความเห็นและคำแนะนำแบบบ้านๆ ของหนูไปใช้ และนี่คือเหตุผลที่เขาจ้างหนูค่ะ เขาชอบความ “บ้าน” ความ “รากหญ้า” ความ “ตลาด” ของหนูมาก”
“ตลาด ?” ดารารายถามอย่างจะให้แน่ใจ
“ค่ะ บางทีคุณจันทร์อาจจะใช้ชีวิตในห้างหรูมากเกินไป ก็เลยชอบแนว “ตลาด” อย่างหนูบ้าง แหมตลาดสดอย่างหนู ถึงจะสกปรกไปหน่อย แม่ค้าปากจัดไปนิด แต่ได้ของหลากหลายและ “สด” ถึงอกถึงใจนะคะ”
ดารารายอึ้ง ขณะที่คุณชายจันทรมองดาริกาอย่างทึ่ง
ออกจากห้องดาราราย ดาริกาก็เจอคุณชายจันทรที่หน้าห้องเข้าพอดี ดาริการีบปลีกตัวไปทันที คุณชายจันทรมองด้วยความทึ่ง ดารารายตามออกมา
“คุณชายคะ ดูซิ กล้ามาก พูดไม่ทันจบ สะบัดไปเสียแล้ว”
“ได้ยินที่เธอพูดแล้วละ แรงไม่ใช่เล่น”
ดารารายส่ายหน้า
“ค่ะ แรงมาก ยอกย้อนฉันทั้งหมดเลยนะ ทั้งรากหญ้า บ้านๆ ตลาดสด นึกว่าฉันไม่รู้รึไงว่าประชดประชัน”
“เขาอาจจะไม่ได้ประชดประชันก็ได้นะ เขาอาจจะหมายความแบบนั้นจริงๆ”
ดารารายเบ้ปาก
“อะไรนะ พูดจริง หมายความว่าลูกชายเรา ชอบความบ้านๆ ของแม่นี่จริงๆ เหรอคะ ไม่มีทาง คุณจันทร์ไม่ลงต่ำได้ขนาดนั้นหรอก”
คุณชายจันทรไม่ตอบ แต่เก็บมาครุ่นคิด
อิงฟ้ากำลังลงสีจางๆ เป็นพื้นหลังภาพบึงบัวหลังบ้าน วิวิทธิ์เดินเข้ามาดูพร้อมของว่างและเครื่องดื่ม
“โอ้โฮ สวยจัง”
อิงฟ้าหัวเราะคิก “เพิ่งร่างค่ะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ผมก็เห็นแล้วว่าสวย ต้องวาดในแสงยามเย็นแบบนี้เหรอครับ”
อิงฟ้าพยักหน้ายิ้มๆ “ใช่ค่ะ เป็นแสงที่สวยที่สุดของวัน แล้วก็ทำให้ฉันเกิดอารมณ์สุนทรีย์ในการวาด
มากที่สุดด้วย”
“ชอบจังครับ อยากให้คุณเกิดอารมณ์บ่อยๆ หมายถึงเกิดความสุนทรีย์ในการวาดน่ะครับ พูดผิดพูดถูกไปหมดแล้ว”
“เป็นอะไรคะ เหมือนคุณเขิน”
วิวิทธิ์ยอมรับ “อ๋อ นิดหน่อย ก็คุณกำลังวาดรูปให้ผม ในบ้านผม บึงบัวของผม มันเต็มตื้นสำหรับคนกระจอกๆ อย่างผมน่ะครับ”
อิงฟ้ามองหน้าวิวิทธิ์ ด้วยแววตาจริงใจ
“ใครบอกว่าคุณกระจอก คุณน่ะ “ฮีโร่” ในใจฉันเลยนะ คุณทำเพื่อฉันและเด็ก ๆ มาหลายเรื่องแล้ว ทุกอย่างคือคำขอบคุณค่ะ และสักวันฉันอาจจะขอคุณ”
วิวิทธิ์มองลุ้น “อะไรครับ”
“วาดภาพเหมือนคุณค่ะ ค่ะ ตาคุณสวย นัยน์ตาสีเหล็ก แกร่ง ทระนง เข้ม แต่ก็ปนด้วยความอ่อนไหวบางอย่าง เศร้า และเหงานิดๆ มันน่าค้นหาจัง ฉันต้องวาดพอร์ทเทรทคุณแน่ๆ ขอแบบกึ่งเปลือยด้วยนะคะ”
วิวิทธิ์สำลักน้ำพรวด
“กึ่งเปลือย ทำไมต้องกึ่งเปลือย ไม่ได้ครับ ผมไม่ใช่นายแบบนู้ด”
อิงฟ้าหัวเราะเบาๆ
“โถ ไม่ได้เปลือยทั้งตัวหรอกค่ะ แค่ครึ่งตัว แค่ท่อนบนน่ะค่ะ เพราะมัดกล้ามสวยๆ สีผิวคล้ามแดดของคุณ น่าวาดเป็นที่สุดเลย”
วิวิทธิ์เขิน นั่งบิดไปมา
หลังจากนั้นอิงฟ้า ก็เตรียมจะพาเด็กๆ กลับบ้าน วิวิทธิ์เดินออกมาส่งที่หน้าบ้าน
“วันนี้เด็ก ๆ สนุกกันมากเลยค่ะ”
วิวิทธิ์ยิ้มหน้าบาน “ผมก็สนุกมากครับ แล้วเมื่อไหร่คุณจะมาวาดรูปอีกละครับ”
“เมื่อแสงยามเย็นสวยแบบวันนี้น่ะซิคะ”
“งั้นคุณจะต้องมาวาดที่บ้านผมอีกหลายวันซิครับ”
อิงฟ้าพยักหน้า “ใช่ค่ะ สะดวกไหมคะ หรือว่ารบกวน”
“ไม่มีการรบกวนใดๆ เลยครับ ที่จริงอยากให้มาทุกวัน ทั้งวัน ค้างได้ยิ่งดี โทษครับ ผมพูดเพ้ออีกแล้ว บ้านผมยินดีต้อนรับคุณอิงฟ้าครับ ทุกวันทุกเวลาครับ”
วิวิทธิ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อิงฟ้ายิ้มหวานให้ แล้วขึ้นรถขับออกไป วิวิทธิ์ถอนใจมองตามไป
“เฮ้อ รูปกึ่งเปลือย เปลือยกายยังได้ แต่ไม่กล้าเปลือยใจ เพราะเดี๋ยวก็เห็นหมดว่าเราตกหลุมรักคุณ
เข้าแล้วจนหมดใจ เฮ้อ”
คุณชายจันทร ดาราราย และจันทรกานต์ นั่งทานมื้อค่ำด้วยกันที่วังทัศนัย ช้าง น้อย ป้าเรียม คอยปรนนิบัติอยู่ใกล้ๆ เสิร์ฟอาหาร หัวข้อการสนทนายังไม่พ้นเรื่องของส้มตำเมื่อกลางวัน
“นึกยังไงไปทานเข้าล่ะ” คุณชายจันทรหันมาถามลูกชาย
“ท่าทางน่าอร่อยครับ ลองทานก็อร่อยดี วันหลังผมจะลองอย่างเผ็ดน้อยๆ ดูบ้าง”
ดารารายชักสีหน้า
“ลูกแม่เปลี่ยนไปทุกทีแล้วนะ ทำไมต้องไปตามอย่างแม่นั่นทุกเรื่องมันเสียกับบุคลิกความเป็นนักบริหารของลูกนะ”
“แม่ครับ ผู้บริหารที่ดีต้องรู้จักคนทุกระดับชั้น ศึกษาคนในทุกแง่มุม ผมกำลังเรียนรู้วิถีคนต่างระดับอยู่
นะครับ”
คุณชายจันทรพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“เข้าใจละ คุณดาว รู้อย่างนี้ก็อย่าไปห้ามลูกเลยนะ ที่จริงส้มตำปูปลาร้าของโปรดคุณไม่ใช่เหรอ เมื่อก่อนเวลาไปถ่ายรูปที่อิสาน ก็เห็นสั่งปูปลาร้าจกข้าวเหนียวเปิบตลอด ไปเหนือก็สั่งน้ำพริกน้ำปู๋ ไปใต้ยังสั่งหลนปูขมิ้น”
“อ้าว แม่ก็ทาน ห้ามผมทำไม”
“นั่นมันเมื่อก่อนค่ะ สมัยแม่ยังลำหักลำโค่นลุยป่าฝ่าดง ตั้งแต่มีลูกก็ต้องระมัดระวังไม่ทานอะไรเสาะท้อง”
จันทรกานต์มองหน้ามารดา
“แม่ก็เลยให้ผมทานแต่อาหารสุขภาพ ภูมิต้านทานผมเลยต่ำ กินอะไรผิดหน่อย ก็เสาะท้องอยู่ดี เอาอย่างนี้ไหมครับ สักวันเราเปลี่ยนเมนูเป็นอาหารอิสานล้วน ส้มตำ ลาบ ซุปหน่อไม้”
คุณชายจันทรพยักหน้าเห็นด้วย ช้าง น้อย ป้าเรียม ร่วมด้วยช่วยกันเสนอเมนู ดารารายหน้าตึง ค้อนทุกคน แต่แอบกลืนน้ำลายเอื๊อก
ฝ่ายแก๊งของวรางค์ ก็กำลังนั่งเปิบอาหารอิสานกันอย่างออกรสที่บ้านของวรางค์ ดาริกาเริ่มเปิดประเด็น
“จริงๆ นะคะพี่ หนูรำคาญยายคุณนายมากเลย ประคบประหงมอีตาลูกชายเสียจนหมดความแมน กลายเป็นเกย์ไปแล้วยังไม่รู้ตัว”
อาร์ตี้มองดาริกาแล้วอดขำไม่ได้
“นี่ยายดาว วันแรกแกก็แผลงฤทธ์ใส่คุณนายดารารายเลยเหรอ กล้าว่ะ”
“หนูไม่สนหรอก ที่หนูทำไปก็ตามที่นายหม่อมเขาสั่งทั้งนั้น มาเอาผิดกับหนูได้ยังไง มาดูถูกหนูมาก ๆ หนูก็ลาออก”
ทุกคนพร้อมใจพูดเป็นเสียงเดียวกัน “ไม่ได้”
จากนั้นหัวข้อการสนทนาก็เปลี่ยนเป็นการพรีเซ็นต์งานโฆษณากาแฟฝีมืออาร์ตี้ ที่ผ่านการพิจารณาจากลูกค้าในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว
“เอ แล้วใครเป็นเจ้าของสินค้านะคะ” ดาริกาหยิบตัวอย่างกาแฟขึ้นมา พลางเอ่ยถาม
“คุณแพ็ทครับ ชื่อจริงอะไรนะ”
“อ่านยากมาก ศศิอาภา นามสกุล อาภาศศิธร”
ดาริกาพยักหน้าหงึก “ไฮโซที่เพิ่งจบโท จากเมืองนอกใช่ไหมคะ”
วรางค์มองหน้าดาริกาอย่างสงสัย “รู้จักเหรอ”
“ค่ะ เธอติดหนึ่งในสิบสาวโสดนักธุรกิจของตระกูลไฮโซเมืองไทย สวย รวย มั่น พี่จำไม่ได้เหรอที่เธอเคยถ่ายแบบลงหนังสือกระซู่ แล้วใส่ชุดลายเสืออยู่บนหลังผู้ชาย แถมเอาโซ่ล่ามอีกต่างหาก”
“เพราะความสามารถของอาร์ตี้แท้ๆ เลยนะเนี่ย คิดคำโฆษณาได้กิ๊บเก๋ ความหมายลุ่มลึกอีกต่างหาก เป็นที่ชี่นชอบของลูกค้า”
วรางค์มองหน้าอาร์ตี้ด้วยแววตาชื่นชม ครู่หนึ่งป๊อบที่เสิร์ชหารูปจากอินเตอร์เน็ตก็เรียกทุกคนเข้ามาดู เห็นภาพแพ็ทใส่ชุดลายเสือ ขี่หลังผู้ชายเปลือยร่างกำยำสามนาย มีโซ่ผูกคอ
“ชีแซ่บขนาดนี้ ฉันจะรับมือกับชีไหวไหมเนี่ย”
วรางค์ส่ายหน้า แววตากังวล
ดาริกานั่งทานอาหารลำพังในร้านอาหารของห้าง ขณะที่จันทรกานต์แอบมองอยู่อีกโต๊ะ ดาริกาดูคุณภาพอาหาร และการบริการ ก่อนจะขีดถูกที่ช่องคะแนนสูง รสชาติ และการบริการน่าประทับใจ พลางหันมาชูนิ้วว่าเยี่ยม จันทรกานต์พยักหน้าอย่างพอใจ
จากนั้นก็มาสำรวจห้องเสื้อ แต่ปรากฏว่าการให้บริการยังไม่เป็นที่น่าประทับใจ จันทรกานต์ส่ายหน้าเซ็งๆ
ภาพวาดบึงบัว เริ่มสมบูรณ์มากขึ้น อิงฟ้ากำลังลงรายละเอียดแสงเงา วิวิทธิ์เอาเครื่องดื่มมาให้ แต่อิงฟ้าเอาแต่สนใจงานตรงหน้า วิวิทธิ์เลยหน้าจ๋อย
ครู่ใหญ่อิงฟ้า ก็พาวิวิทธิ์เข้ามาดูผลงานภาพวาดบึงบัวสีน้ำงดงาม วิวิทธิ์มองอย่างตะลึง พลางจับมือ อิงฟ้าไว้แทนคำขอบคุณ เล่นอาอิงฟ้าหน้าแดง เขินอาย
วิวิทธิ์วางรูปบึงบัวไว้บนแสตนด์ที่มุมห้องนั่งเล่น แสงแดดยามเย็นตกกระทบสวยงาม อิงฟ้านั่งจิบน้ำชายิ้มอย่างพอใจ วิวิทธิ์มานั่งข้างๆ แล้วก็หันมามองรูปด้วยกันอย่างมีความสุข
แพ็ตเข้ามาประชุมงานที่บริษัทของวรางค์ ทั้งอาร์ตี้ บ๊วย อาร์ท จัสติน ที่แต่งตัวดีกว่าปกติ คอยต้อนรับก่อนจะพาเข้าไปพบกับวรางค์ในห้องประชุม
ท่วงท่าและกิริยาของแพ็ต สง่างามอย่างคนที่ฝึกมาอย่างดี ใบหน้าทรงผม ตลอดจนการแต่งตัว งดงามเหมาะเจาะสมกับบุคลิก อาร์ตี้ปราดเข้ามาเลื่อนเก้าอี้ให้นั่ง แพ็ทมองอาร์ตี้แล้วยิ้มมุมปากให้นิดหนึ่ง บนโต๊ะในห้องประชุม มีสินค้า โลโก้ และแสตนด์แสดงภาพกาแฟและครีมเทียม แพ็ทหยิบแว่นสไตล์โฉบเฉี่ยวขึ้นมาใส่ แล้วดูเอกสาร
“เออ เรามาเริ่มประชุมกันเลยดีไหมคะ” วรางค์แอบประหม่าเล็กน้อย
“อ้าว ก็ใช่ซิคะ ประชุมเลย จะมัวเสียเวลาอยู่ทำไม ฉันให้เวลาแค่สองชั่วโมงเท่านั้นนะคะ เพราะจะต้องไปประชุมอีกที่”
“ค่ะ ค่ะ ได้ค่ะ”
วรางค์หันไปมองหน้าอาร์ตี้ บ๊วย อาร์ทและจัสติน เพราะไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดี
“อ้าว ยืนซึมกะทือกันอยู่ทำไมคะ ฉันมาฟังพวกคุณบรีฟงานนะคะ ไม่ใช่มาดูพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง”
แพ็ทเริ่มหงุดหงิด ก่อนจะบ่นด้วยภาษาอังกฤษเป็นชุด
“โอว์ มายกูดเนสส์ ไอ แคนท์ อิแม้จิ้น วาย เดย์ โซ นอน โปรเฟสชั่นน่อล ไลค์ ดิส”
ดาราราย หญิงใหญ่ หญิงน้อย มานั่งล้อมวงจิบน้ำชา ที่ห้องลั่งเล่นบ้านคุณหญิงอรชร พลางคุยกันเรื่องจันทรกานต์กับอิงฟ้า
ดารารายออกแนวปลื้มอิงฟ้าอย่างเห็นได้ชัด คุณหญิงอรชรเอง ก็พูดว่าช่วงนี้อิงฟ้าก็ไปขลุกที่วัง ทัศนัยตลอด พร้อมกับขนอุปกรณ์วาดรูปไปด้วย
“ไปวาดรูปอะไรให้คุณจันทร์รึเปล่าคะ”
ดารารายหน้าเหรอ “มาที่วังทัศนัยทุกอาทิตย์ ?”
“ใช่ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะคุณดาว”
“ไม่มีค่ะ ก็มาทุกอาทิตย์เลย มาวาดรูปเหมือนของคุณจันทร์นั่นแหละค่ะ”
ดารารายพูดพลางรีบหัวเราะกลบเกลื่อน หญิงน้อยและหญิงใหญ่สังเกตท่าทีของทั้งคู่
“แหม เขารักกันจริงๆ นะคะ น้องฟ้ากลับมาบ้านทีไร ก็รำพันถึงพี่ชายไม่หยุดปาก พี่ชายรูปหล่อ พี่ชายคนดีของน้องฟ้า พี่ชายโง้น พี่ชายงี้ เอ็นดู๊”
ทั้งหมดหัวเราะครึกครื้น ป้าแมวและเด็กรับใช้ หันมามองหน้ากันแบบงงๆ เพราะทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริงเลย
หญิงใหญ่กับหญิงน้อยเองก็มองออกว่าทั้งดาราราย และคุณหญิงอรชร กำลังโกหกสร้างภาพให้ลูกของตัวเองอยู่
รถของวิวิทธิ์ แล่นเข้ามาจอดหน้าตึก วิวิทธิ์ลงมาจากรถพร้อมอิงฟ้า ที่ทำหน้าเศร้า
“เหลืออีกอาทิตย์เดียว ฟ้าก็ต้องไปจากห้างแกรนด์แล้วนะคะคุณวิทย์”
วิวิทธิ์เองก็เศร้าไม่แพ้กัน
“ครับ ผมทราบดี คุณฟ้าใกล้จะจบจ็อบงานที่แกลเลอรี่แล้ว เฮ้อ แล้วผมจะมีโอกาสได้พบคุณฟ้ากับ เด็กๆ อีกเมื่อไหร่”
“ก็ต้องวันหยุดน่ะค่ะ หรือไม่ก็ต้องไปที่บ้านเด็กดี”
วิวิทธิ์ถอนหายใจเฮือก “เฮ้อ ไกลทั้งตัว ไกลทั้งใจ”
คุณหญิงอรชร เดินออกมาที่หน้าประตู พร้อมกับหญิงใหญ่ หญิงน้อย และป้าแมว เมื่อรู้ว่าวิวิทธิ์เป็นคนมาส่ง เพราะจันทรกานต์ติดงาน ก็หันขวับมาทำตาเขียวใส่ลูกสาวทันที
“นี่ยายฟ้า วันนี้คุณดารารายมาเยี่ยมบ้านเรา คุณดาวเขาคิดว่าจะมารอคุณจันทร์มาส่งเรา ที่ไหนได้กลายมาเป็นนายเลขานี่อีกแล้ว”
วิวิทธิ์พอรู้ว่าดารารายอยู่ที่นี่ ก็ชิงขอตัวกลับ พลางรีบขึ้นรถกำลังจะขับออกจากบ้าน แต่ยังช้ากว่า
ดารารายที่ออกมาเรียกไว้
“เดี๋ยว วิวิทธิ์”
วิวิทธิ์ชะงัก “ครับ คุณท่าน”
ดารารายทำหน้าหน้าตาถมึงทึง อิงฟ้ามองวิวิทธิ์ที่ทำหน้าหงออย่างเป็นห่วง
ในห้องประชุมของวรางค์ หลังจากที่ฉายภาพยนตร์ตัวอย่างให้แพ็ทและบอร์ดที่มาด้วยกันพิจารณาเรียบร้อยแล้ว วรางค์ก็รีบถามความเห็นชอบทันที
“ชอบใช่ไหมคะคุณแพ็ท”
แพ็ทยิ้มเหยียดๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วตบโต๊ะปังใหญ่ จนทุกคนสะดุ้งตกใจ
“ห่วย ไม่เข้าท่า ผิดคอนเซ็ปท์ ใครให้คุณทำโฆษณาออกมาแบบนี้”
วรางค์หน้าซีด พลางพยายามแก้ตัวปากคอสั่น
“เออ ก็ เราแค่ทดลองทำให้ดูเท่านั้นเองค่ะ เอ่อ เรารับบรีฟจากทางบอร์ดของคุณแพ็ทนะคะ”
แพ็ทหันขวับไปทันที บรรดาบอร์ดรีบเบือนหน้าไปทางอื่น
“พอแพ็ทไปต่างประเทศแค่สองเดือน ก็ถือวิสาสะเปลี่ยนความต้องการของแพ็ทได้ถึงขนาดนี้”
“เออ ผมไม่ทราบจริง ๆ ครับว่าคุณแพ็ทต้องการแบบไหน”
บอร์ดคนหนึ่งรีบแก้ตัว แพ็ทตบโต๊ะโครม
“แบบไหน? ยังจะมาย้อนถาม แพ็ทเคยบอกแล้วว่า“กาแฟภูตะวัน” ของเรา ต้องแสดงถึงความเป็นไทย คนไทยดื่ม แล้วนี่เอาใครมาเป็นนายแบบ นางแบบ หน้าลูกครึ่งทั้งนั้น ใช้ได้ไหม”
วรางค์กับอาร์ตี้รีบรับคำ ว่าจะเตรียมหานายแบบ นางแบบหน้าไทยมาให้พิจารณา
“ดีค่ะ อีกอย่าง ดิฉันไม่ต้องการความหรูเฝือๆ ที่พวกคุณทำขึ้นมา กาแฟภูตะวันรับใช้คนทุกระดับชั้น นึกภาพนะคะ นึกภาพผู้จัดการไร่ เป็นชายหนุ่มร่างบึกบึน หนวดเคราครึ้ม กรำงานในไร่มาทั้งวัน คนอย่างเขาควรจะดื่มอะไรดีคะ ถึงจะสดชื่น”
“โอเลี้ยงมังครับ”
อาร์ตี้โพล่งออกมา ทำเอาวรางค์ กับทีมงานตกใจ เพราะกลัวว่าอาร์ตี้จะโดนเล่นงาน แต่คิดคาด
“ถูกต้องค่ะ โอเลี้ยง นั่นล่ะค่ะ เขากำลังดื่มโอเลี้ยงอยู่ ทำท่าให้ดูหน่อยซิคะ”
พลางให้อาร์ตี้ทำท่าดูดโอเลี้ยงจากถุงพลาสติกให้ดู
“เท่ๆ ค่ะ อย่างนั้น แล้วทันใด สายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับสาวสวยเจ้าของไร่”
ถึงตรงนี้วรางค์รีบขันอาสา พลางโพสท์ท่า
“หยุด แก่ไป ฉันเองค่ะ”
แพ็ทเข้าไปยืนแทนวรางค์ พร้อมกับคว้าแก้วกาแฟมายืนโพสต์ วรางค์หน้าเหวอ แพ็ทเดินตรงมาหาอาร์ตี้ แล้วเชยคางขึ้น
“ตรงนี้ละค่ะที่คำโปรยของเราจะขึ้น ว่าไงนะคะ”
บ๊วยทำเสียงหล่อ “ความต่างที่ลงตัว”
อาร์ทรีบเสริม “ลงตัวบนความต่าง”
จากนั้นทุกคนก็พูดพร้อมกัน “ภูตะวัน รสชาติที่คุณห้ามใจตัวเองไม่ได้”
แพ็ทเข้ามาคลอเคลียอาร์ตี้ “กอดซิคะ กอด”
อาร์ตี้รวบร่างแพ็ทมากอดอย่างเคอะเขิน วรางค์มองเขม้น บอร์ดทุกคนปรบมือให้อย่างสอพลอ แก๊ง วรางค์ และทีมงาน หน้าจ๋อย
อ่านต่อหน้า 4
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 6 (ต่อ)
อิงฟ้ารออยู่นอกโถงด้วยความกระวนกระวาย สักครู่วิวิทธิ์ เดินหน้าเจื่อนออกมา บอกว่าดารารายมีคำสั่งห้ามเขาขับรถมาส่งอิงฟ้าอีก อิงฟ้าโวยวายทันที วิวิทธิ์พยายามเตือนให้ใจเย็น
“อย่าเพิ่งขัดคุณท่านเลยนะครับ”
อิงฟ้าหน้างอ “ก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับฟ้านี่คะ”
“อีกไม่กี่วันงานที่แกลอรี่ก็จะจบแล้ว อดทนสักนิดนะครับ”
ดาราราย คุณหญิงอรชร หญิงน้อย หญิงใหญ่ ตามออกมา วิวิทธิ์รีบลาทันที ดารารายโอบอิงฟ้าพาเข้าห้องไป คุณหญิงอรชรรีบเดินตาม หญิงน้อยกับหญิงใหญ่หันมาซุบซิบกัน ว่าอิงฟ้าไม่มีท่าว่าจะลงเอยกับจันทรกานต์แน่นอน หญิงใหญ่ได้ที เปรยว่าจะเตรียมแผนหาว่าที่สะใภ้คนใหม่ให้กับดารารายแทนอิงฟ้า
“อุ๊ย .คิดเหมือนกันเลย แต่อย่ามาแย่งน้อยนะคะ”
“ตัวเลือกเธอคือใคร”
หญิงน้อยยิ้ม “ยายแพ็ท-ศศิอาภา หลานโปรดของน้อยไงคะ แค่ชื่อก็สมกันแล้ว คนนึงจันทรา อีกคนก็ อาภา แสงจันทร์”
“แต่พี่คิดถึงยายคคนางค์มากกว่า ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นท้องฟ้า ไว้ให้จันทร์ลอยเด่นเป็นสง่าไงจ๊ะ”
ทั้งคู่หันมามองหน้ากัน แบบไม่มีใครยอมลงให้ใคร
จันทรกานต์เดินเข้าไปล้างมือในห้องน้ำภายในห้องทำงาน จู่ๆ พิชญา ที่เดินตามเข้าไป ก็ตรงเข้าไปโอบกอดจากด้านหลัง จันทรกานต์รีบสั่งให้ปล่อย พิชญายอมปล่อยมือ พลางยิ้มหวานให้
“ทำไมคะ นึกว่าเอายายดาริกามาทำงานร่วม แล้วฉันจะแสดงความรักกับคุณไม่ได้งั้นเหรอ”
“ยังไงคุณก็ควรจะกลัวบ้างนะ ดาริกาน่ะขี้หึงที่สุด”
พิชญาเบ้ปาก
“กลัวตายละ ยายนั่นน่ะมันแค่เศษเดนที่คุณเลี้ยงไว้ดูเล่น แต่ฉันคือรักแท้นะคะ”
พูดพลางก็ยกมือมาโอบรอบคอจันทร์ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำท่าจะประทับจูบ
“ถ้าจูบผัวฉันล่ะก็ ฉันตบด้วยหนามทุเรียนนี่จริงๆ ด้วย”
พิชญาผงะออก หันมาเห็นดาริกายืนจังก้า ถือเปลือกทุเรียนกวัดแกว่งไปมา พิชญากรีดร้องวิ่งออกจากห้องน้ำ ดาริกาวิ่งตาม
“เอายังไง ด่าก็แล้ว ตบกันก็แล้ว ยังจะมาแย่งผัวฉันอีก ถ้าคำว่าหน้าด้านมันเรียกสิ่งมีชีวิต มันก็ต้องหน้าตาแบบเธอนี่แหละ”
พิชญาร้องกรี๊ด
“ตายจริง คุณจันทร์คะ ยายนี่ขุดมาจากชุมชนแออัดขุมไหนคะ ปากถึงได้เน่าหนอนยิ่งกว่าหลุมชักโครก”
ดาริกาเชิดหน้า
“ขุมไหนเหรอคะ ก็ขุม “ฉิมพลีนรก” ไง นรกที่เต็มไปด้วยป่าต้นงิ้วไว้ให้หญิงนอกใจผัวไว้ปีนเล่น”
“อาชีพเมียเก็บอย่างหล่อนมันก็ต้องปีนต้นงิ้วเหมือนกันแหละ อย่าบอกนะว่าไม่เคยแย่งสามีคนอื่น” พิชญาลอยหน้าลอยตาด่ากลับ
“ไม่เคยค่ะ เพราะนี่ผัวคนแรก คนเดียวของฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะเอาเปลือกทุเรียนนี่ ทิ่มหน้าโบท็อกซ์ของหล่อนแทนต้นงิ้ว รับรองได้โมหน้าใหม่แน่ ๆ”
พิชญาหันมามองมาทางจันทรกานต์ ที่ยืนทำหน้าใม่รู้ไม่ชี้ แล้วก็สะบัดหน้าเดินออกไปทันที
จันทรกานต์กับดาริกาหันมาหัวเราะให้กัน พร้อมๆ กับที่เสียงมือถือก็ดาริกาก็ดังขึ้น
“ว่าไงคะน้องฟ้า อยู่ที่แกลอรี่ เดี๋ยวพี่ไปพบค่ะ”
พิชญาที่ยังแค้นใจไม่หาย รีบเดินตรงมาที่ห้องดาราราย ที่เปิดประตูแง้มอยู่ เห็นดาราราย ที่กำลังหัวเสีย กำลังนั่งปรับทุกข์กับคุณชายจันทร จึงรีบเงี่ยหูแอบฟัง
“ต้องสืบให้ได้ค่ะว่าหนูอิงฟ้าออกจากบ้านทุกวันหยุด ไปวาดรูปที่ไหนไม่รู้ แต่ทางคุณอรชรเข้าใจว่ามาที่วังของเรา มาวาดรูปให้คุณจันทร์”
คุณชายจันทรหันมามองหน้าภรรยา
“เมื่อวานเจอหนูอิงฟ้า ทำไมคุณไม่ถามเลยล่ะ”
“ไม่กล้าน่ะซีคะ คุณแม่เธอนั่งอยู่ด้วย นี่ฉันกลัวๆ อยู่นี่ว่าคุณจันทร์ จะไม่มีใจกับอิงฟ้าเลย เฮ้อ ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันเสียหน้ากับคุณหญิงอรชรแน่ๆ”
“อย่าเป็นห่วงคุณหญิงเธอเลย ห่วงลูกเราดีกว่า ถ้าจันทรกานต์ไม่ได้รักอิงฟ้า มันก็จบจะไปบังคับให้เขาแต่งกันคงเป็นไปไม่ได้”
ดารารายยิ่งฟังก็ยิ่งหงุดหงิด ทางด้านพิชญาที่แอบฟังอยู่ ก็เริ่มคิดแผน
“อะไรนะคะ น้องฟ้ากำลังมีความรัก”
ดาริกแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อได้ยินสิ่งที่ทำให้อิงฟ้ากำลังเครียดอยู่ตอนนี้
“กับใครคะ หรือว่าคุณจันทร์”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ”
ดาริกาถอนหายใจโล่งอก “ดีค่ะ เพราะถ้ารักคุณจันทร์ พี่ก็จะห้ามและให้ตัดใจทันที”
“ทำไมคะ” อิงฟ้าย้อนถาม
“อย่าให้เม้าท์เลยค่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเลขานินทานาย แล้วบอกได้ไหมคะว่าเขาคือใคร”
อิงฟ้าส่ายหน้า “อย่าเพิ่งให้บอกเลยนะคะ แต่เขาทำงานอยู่ที่นี่ เป็นพนักงานที่นี่”
“แน่ใจนะคะว่าเขาคือคนที่ใช่”
“ค่ะ เขาเป็นสุภาพบุรุษ อบอุ่น จิตใจดี และเขาก็รักฟ้าด้วยค่ะ ปัญหาตอนนี้ก็คือตอนนี้ทางผู้ใหญ่กีดกันเราทั้งคู่ แล้วอีกไม่กี่วันฟ้าจะจบงานที่นี่แล้ว โอกาสที่เราจะเจอกันยิ่งน้อยลงทุกที ฟ้าจะทำยังไงดี”
อิงฟ้าหน้าเศร้า
“ใจเย็นๆ นะคะ ต้องค่อย ๆ คิด แล้วถ้าน้องฟ้าได้ทำงานที่นี่ต่อล่ะคะ”
อิงฟ้ามองดาริกาอย่างสงสัยแกมทึ่ง
ดารารายเดินออกมาที่โถงทางเดิน ก็เจอพิชญาที่ดักรออยู่ พร้อมรีบบอกว่าทราบเรื่องจันทรกานต์อยู่บ้าง
“คุณจันทร์ไม่มีใจให้อิงฟ้าหรอกค่ะ”
“เธอรู้ได้ยังไง”
พิชญาแอบยิ้มมุมปาก “รู้ค่ะ เพราะเขาทั้งรักทั้งหลงนังเมียเก็บของเขาอยู่”
“อะไรนะ พิชญา เมียเก็บ เธอไปเอามาจากไหน ใครคือเมียเก็บคุณจันทร์”
“จะมีใครล่ะคะ ก็ยายดาริกานั่นแหละ”
ดารารายถึงกับอึ้งไปทันที
ดารารายเดินหน้าง้ำ นำพิชญาเข้ามาในห้องทำงานจันทรกานต์ และรีบยิงคำถามใส่ลูกชายทันที
“คุณจันทร์ เป็นความจริงรึเปล่า เรื่องที่แม่ดาริกาเป็นเมียเก็บลูก”
จันทรกานต์หันขวับไปมองหน้าพิชญา แต่ฝายหลังมองกลับอย่างท้าทาย
“พิชญาเพิ่งบอก ลูกกับแม่นั่นแกล้งตบตาแม่ ทำทีว่าเป็นทอมเป็นดี้ แต่ที่จริงคือเมียลับของลูก”
“งั้นก็ต้องถามพิชญากลับ ว่ามีหลักฐานอะไรมากล่าวหาผมกับดาริกาแบบนั้น”
พิชญายักไหล่ “ฉันแอบเห็นคุณสวีทกับแม่นั่น ทั้งกอดทั้งจูบ”
“งั้นคุณคงตาฝาดแล้วล่ะครับ หรือไม่ก็สร้างเรื่องขึ้นมากล่าวหากันเล่นๆ เพราะผมกับดาริกาไม่เคยทำอะไรแบบนั้น แม่จะเชื่อผมหรือเชื่อพิชญา”
“ยังไม่เชื่อใครทั้งนั้น แม่ต้องการพบยัยดาริกา อยู่ที่ไหน”
เมื่อรู้ว่าดาริกาอยู่กับอิงฟ้าที่แกลอรี่ ดารารายก็รีบออกจากห้องไปทันที จันทรกานต์หันมาเล่นงาน พิชญาต่อ
“คุณกำลังข้ามเส้นแล้วนะ ชาย่า”
พิชญาเชิดหน้า “ตอนนี้ฉันทำได้ทั้งนั้น ถ้าจะกำจัดนังดาริกาออกไป”
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ทำได้ทุกอย่างเหมือนกันที่จะกำจัดคุณออกไป”
พูดพลางก็เดินออกจากห้อง แล้วรีบโทรหาดาริกาทันที
“ดาริกา คุณยังอยู่กับอิงฟ้าใช่ไหม เอาอย่างนี้ทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง”
ดาริกา ที่ยังคุยอยู่กับอิงฟ้า ทำหน้างง
“หา ทำไมฉันต้องเล่นบทแบบนั้นด้วย ก็ได้ โฮ่ย เหนื่อย”
ดาริกาวางสาย พลางหันมาหาอิงฟ้า ที่ยังหน้าเศร้าอยู่
“พี่ดาว ถ้าฟ้าได้ทำงานที่นี่ต่อ จะทำอะไรล่ะคะ”
ดาริกายิ้มกว้าง
“ไม่เห็นยากเลยค่ะ ก็น้องฟ้าทำงานศิลป์ระดับมืออาชีพอย่างนี้ ลองสมัครเป็นฝ่ายศิลป์ของที่นี่เลยซิคะ”
“ฟ้าไม่อยากใช้เส้นสายน่ะค่ะ มันดูไม่ดี”
“งั้นมีอีกทางเลือกนึง”
ดาริกาเห็นดารารายและพิชญามาถึงพอดี แต่ทำทีมองไม่เห็น พลางรีบวางท่าทางเป็นทอม พูดเสียงทุ้มต่ำ
“คืออย่างนี้ฮะ น้องฟ้าฮะ”
ดาริกาโอบอิงฟ้า ที่งงๆ กับท่าทีที่เปลี่ยนไปทันทีของดาริกา
“ถ้าน้องฟ้าไม่รังเกียจ พี่อยากชวนน้องฟ้ามาทำงานกับนายเก่าพี่”
“ใครคะ” อิงฟ้าถามต่อ
“พี่วรางค์ไงฮะ”
อิงฟ้าขมวดคิ้ว “อ้าว ทำงานกับพี่วรางค์ ก็ต้องไปอยู่ที่บริษัทพี่เขาซิคะ”
“ใครบอกละฮะ ตอนนี้พี่วรางค์ รับทำออร์กาไนซ์ให้แกรนด์สองปีเต็ม ผูกขาดเลยครับ น้องฟ้าช่วยงานที่นี่ได้เต็มที่เลย”
อิงฟ้ายิ้มหน้าบาน แล้วโผเข้ากอดดาริกา ดารารายและพิชญามองอย่างงงงัน
ขณะที่จันทรกานต์รีบเดินเข้าไปหาจักรพัฒน์ในห้องทำงาน พลางบอกให้ช่วยควบคุมความประพฤติของพิชญา
“เกิดอะไรขึ้น”
“เธอรังควานดาริกาไม่เลิก”
จักรพัฒน์หน้าเครียดทันที
ดาริกาปรายตาเห็นดารารายกับพิชญาเดินเข้ามาในห้อง ก็แกล้งบอกอิงฟ้า ที่ทำหน้างงๆ ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นทอม
“อย่าบอกใครนะฮะ อายฮะ”
พอดีกับที่อิงฟ้าหันไปเห็นดารารายกับพิชญา ก็รีบทัก
“คุณน้าดาราราย คุณพิชญา สวัสดีค่ะ”
ดารารายยิ้มให้อิงฟ้า “สวัสดีค่ะ คุยอะไรกันเหรอ”
“อ๋อ เรื่องส่วนตัวกันน่ะฮะ”
ดาริกาชิงตอบแทน จังหวะนั้นจันทรกานต์กับจักรพัฒน์ ก็มาแอบดูอยู่หน้าห้อง
“นี่ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นทอมเลยนะ ยัยดาริกา คุณอาคะ อย่าเชื่อนะคะ แม่นี่เล่นละครเก่ง ทำเป็นทอมตบตาคุณอาค่ะ เมื่อกี๊ยังรับบทเมียเก็บคุณจันทร์อยู่เลย”
พิชญาแว้ดใส่ จักรพัฒน์ยิ่งหน้าเครียด
“แกล้งทำใช่ไหม” ดารารายถามอย่างงงๆ “เดี๋ยวเป็นหญิง เดี๋ยวเป็นทอม ยังไงกันแน่”
“ดาวจะทอมเมื่ออยู่กับคนที่ถูกใจ อย่างน้องอิงฟ้า ที่ผมเอ๊ยหนูรักเหมือนน้องสาวแท้ ๆ”
“มันเปลี่ยนไปมาได้เหมือนกิ้งก่าเปลี่ยนสีงั้นเหรอ”
ดาริกาออกจริตหญิงใส่ทันที
“ค่ะ คุณท่าน นี่คืออีกบุคลิกนึงค่ะ เวลาทำงานเป็นทางการ หรือเวลาแบบต้องการความสาวความสวยแบบหญิง ๆ หนูเปลี่ยนได้ยิ่งกว่ากิ้งก่า ระดับหนูน่ะเขาเรียกเปิดปิดสวิทช์ไฟแบบระบบสัมผัสค่ะ”
อิงฟ้ามองดาริกาแบบชื่นชม พิชญาโวยวายต่อ
“ชาย่าไม่เชื่อค่ะคุณอา แม่นี่คือเมียเก็บคุณจันทร์จริงๆ นะคะ”
“ใครกันแน่ที่โกหก”
ดารารายหันขวับมาย้อนถามพิชญา จังหวะนั้นจักรพัฒน์ก็เดินเข้ามา
“คุณอาครับ ไม่สำคัญหรอกครับว่าใครโกหก สิ่งสำคัญมันอยู่ที่เจตนามากกว่าครับ”
“หมายความว่ายังไงนายจักร”
“ก็เจตนาที่จะหาเรื่องคนอื่น ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตัวน่ะซิครับ”
พูดพลางมองหน้าที่พิญาที่ทำสีหน้าตกใจไม่น้อย
“บอกเจตนาคุณหน่อยซิชาย่า ว่าคุณต้องการปรักปรำให้ดาริกาเป็นเมียเก็บคุณจันทร์ทำไม”
พิชญาพูดไม่ออก
“ไมไม่พูดล่ะ พูดออกมา”
พิชญาเชิดหน้า
“ผู้หญิงคนนี่เป็นพวก 18 มงกุฎ เข้ามาทำงานในบริษัทเรา จะทำให้ห้างแกรนด์พลอยเสื่อมไปด้วย”
“เป็นห่วงห้างแกรนด์เหลือเกินนะ ใช่เหตุผลที่แท้จริงหรือ”
“อะไรกัน ชาย่า มีเหตุผลอื่นอีกเหรอ”
พิชญาหน้าซีด “ไม่มีค่ะ ชาย่า ขอตัว”
“เดี๋ยว งั้นเธอสร้างเรื่องขึ้นมาเองใช่ไหม หรือเธอโกหกอา”
“เอาเป็นว่า ชาย่าเข้าใจผิดก็แล้วกันค่ะ ชาย่าขอโทษ”
พูดจบก็เดินสะบัดไป จักรพัฒน์รีบเดินตาม
ดารารายลงนั่งทันที
“ใครก็ได้ ช่วยอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังทีได้ไหม”
ดาริการีบบอก “ได้ค่ะ หนูอธิบายให้เองนะคะ
“ไม่ต้องจ้ะ ตอนนี้ฉันไม่ต้องการคำอธิบายจากเธอ คุณจันทร์พาแม่กลับห้องที”
จันทรกานต์ประคองดารารายออกไป อิงฟ้านั่งมองเหตุการณ์แบบงงๆ
“พี่ดาว มันเรื่องอะไรอีก เล่าให้ฟังหน่อย”
ดาริกายิ้มอายๆ “ฟังแล้วอย่าไปเล่าต่อนะคะ”
“ค่ะ เดี๋ยว บอกมาก่อน ทอมจริง ทอมแท้รึเปล่า”
“ทอมเทียมค่ะ”
อิงฟ้าหัวเราะลั่น “คิดแล้ว”
อ่านต่อตอนที่ 7