xs
xsm
sm
md
lg

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 6

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 6

แพรวดาวกับทาเคชิพลิกตัว หันมาเจอกัน ทั้งสองนอนไม่หลับ ทำให้อดขำกันและกันไม่ได้
“นอนไม่หลับเพราะแปลกที่ล่ะสิ”
“ค่ะ” แพรวดาวยิ้มๆ
“แต่ผมมีความสุข จนไม่อยากให้คืนนี้ผ่านไปเลย”
แพรวดาวอมยิ้มเขิน ก่อนนึกขึ้นมาได้
“ตอนเล่นโจฮัง ทำไมคุณขอดูลูกเต๋าคะ”
“พ่อเคยบอกผมว่า บ่อนของอาริกิจะเอาลูกเต๋าที่ถูกเจาะเป็นพิเศษมาใช้ ทำให้ลูกเต๋าส่วนใหญ่ออกเป็นด้านเลขคี่ เมื่อรวมแต้มก็เป็นเลขคู่ เคนอิจิไม่ใช่คนซื่อสัตย์ ผมจึงลองเสี่ยงดู”
“ตอนนั้นฉันกลัวว่าคุณจะทายผิด”
“ไม่ว่าผมจะชนะหรือแพ้ เคนอิจิก็ไม่ปล่อยเรา”
“คุณรู้ว่าเราไม่มีทางรอด แต่ก็เข้าไปช่วยฉัน”
“ผมเลือกโจ เลขคู่ หมายถึงเราสองคน ถ้าอยู่ก็อยู่ด้วยกัน ถ้าตายก็ต้องตายพร้อมกัน”
แพรวดาวอึ้ง ซาบซึ้งมาก
“ทาเคชิ...ฉันไม่รู้จะตอบแทนความรักของคุณยังไง”
“เวลาหนึ่งปีที่ได้อยู่กับคุณจนกว่าจะเรียนจบ มันมีค่าที่สุดสำหรับชีวิตผมแล้ว”
ทาเคชิยื่นมือไปกุมแพรวดาวไว้ ราวกับกำลังซึมซับความสุขนั้นผ่านมายังมือเธอ
“ตราบใดที่ผมยังไม่ได้แต่งงานกับไอโกะ คุณคือภรรยาที่ต้องออกงานคู่กับผม พรุ่งนี้คุณต้องเริ่มรับผิดชอบงานในฐานะ โอคุซัง”
แพรวดาวลำบากใจอยู่ไม่น้อย กับภาระที่ยิ่งใหญ่และไม่คุ้นเคยนี้
“โอคุซังต้องเรียนรู้อะไรบ้างคะ”
“อย่างแรก...เวลาผู้ชายเมืองนี้รู้สึกสนิทสนมกับผู้หญิงคนนึงเป็นพิเศษ เขาจะเรียกแทนตัวเธอว่า คิมิ ส่วนผู้หญิงจะเรียกแทนตัวผู้ชายที่เป็นสามีด้วยความยกย่องว่า อะนะตะ”
“คิมิ...อะนะตะ” แพรวดาวทวนคำ
“นอนได้แล้วคิมิ...ที่รักของผม”
ทาเคชิดึงมือแพรวดาวขึ้นมาจูบที่หลังมือเบา ๆ อย่างนิ่มนวล แพรวดาวยิ้ม เคลิ้ม มองเขาราวกับอยู่ในภวังค์ ทาเคชิยิ้มอบอุ่นให้ ก่อนหันหลังนอนอย่างพยายามข่มจิตใจตัวเอง แพรวดาวหันหลังให้ กุมมือที่ทาเคชิจูบไว้แนบอกด้วยความปลาบปลื้ม ยังคงรู้สึกถึงความอบอุ่นของริมฝีปากเขา
“ ราตรีสวัสดิ์ค่ะอะนะตะ...ที่รักของฉัน”
แพรวดาวหลับตาลง ยิ้ม มีความสุข

บ้านโอะนิซึกะเช้าวันใหม่...แพรวดาวลืมตาตื่นขึ้น มองเพดานและรอบห้องอย่างไม่คุ้นตาก่อนหันไปมองที่นอนว่างเปล่าข้าง ๆ สะดุ้งลุกขึ้นอย่างนึกได้
“สายแล้ว”
อายะโกะเลื่อนประตู แล้วเดินเข้ามากับฟุมิโกะ ก้มศีรษะแสดงความเคารพแพรวดาว
“โอะฮะโยโกะไซมัส อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
แพรวดาวรีบลุกจากที่นอน แล้วก้มศีรษะให้อายะโกะ กับฟุมิโกะ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ขอโทษที่ฉันตื่นสาย”
“ไม่เป็นไรค่ะ โอคุซังเหนื่อยมาก ควรพักผ่อนเยอะ ๆ”
อายะโกะพยักหน้าบอกฟุมิโกะ ทั้งสองตรงไปเก็บที่นอนอย่างรู้หน้าที่ แพรวดาวจึงรีบเข้าไปช่วย
“ให้ฉันทำเองเถอะค่ะ”
“ไม่ได้ค่ะ มันเป็นหน้าที่ของฉันกับฟุมิโกะ โอคุซังออกไปช่วยแต่งตัวให้โซเรียวดีกว่า ท่านอยู่ห้องข้าง ๆ
“แต่งตัว”
แพรวดาวหน้าเหลอหลา เมื่อรู้ว่าต้องทำหน้าที่ของภรรยาของทาเคชิ

แพรวดาวเปิดบานเลื่อนประตูเดินเข้ามาในห้องอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เห็นทาเคชิกำลังใส่เสื้อเชิ้ตอย่างเก้ ๆ กัง ๆ
“ป้าอายะโกะให้ฉันมาช่วยคุณแต่งตัว”
“แต่ก่อนเป็นหน้าที่ของคัตสึกับเซกิ ตอนนี้มีภรรยาแล้ว จึงต้องเป็นหน้าที่ของคุณ”
แพรวดาวก้มหน้าอาย ๆ เข้าไปช่วยทาเคชิจับเสื้อ เพื่อให้เขาสอดแขนเข้าไปได้ง่ายขึ้น จึงเห็นผ้าก๊อซสีขาวพันรอบแขนของทาเคชิ แพรวดาวเป็นห่วง
“ฉันไม่รู้ว่าคุณบาดเจ็บ”
“แผลพวกนี้ไม่ทำให้ผมเจ็บเท่ากับเห็นคุณถูกรังแก”
แพรวดาวยิ้มปลื้ม ทาเคชิตั้งท่าจะกลัดกระดุม แพรวดาวจึงอ้อมตัวไปอยู่ข้างหน้าเขา แล้วช่วยติดกระดุมให้ ทาเคชิฉวยโอกาสนั้น คว้าตัวเธอเข้ามากอดหน้าตาเฉย แพรวดาวตกใจเล็กน้อย เขิน
“อุ๊ย”
“ผมกอดคุณหลายครั้งแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอ”
“ฉันก็เขินทุกครั้งที่คุณกอดนั่นแหละ แต่ไม่รู้บอกยังไง”
“ก็บอกว่ารักผมสิ”
แพรวดาวชะงัก เงยหน้าขึ้นสบตาทาเคชิ ทั้งสองประสานสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักซึ่งกันและกัน ทาเคชิโน้มหน้าเข้าหาแพรวดาว เหมือนต้องมนต์ กำลังจะจูบ ริวเลื่อนประตูเปิดเข้ามาท่าทางงัวเงียเหมือนเพิ่งตื่นนอน ชะงัก ตาโต เมื่อเห็นทาเคชิกับแพรวดาวกำลังจะจูบกัน
“โอ๊ะโอ...หน้าตาดี มีเสน่ห์ แต่ผิดคิวว่ะไอ้ริว”
แพรวดาวรีบผละตัวจากทาเคชิ ก้มหน้าก้มตาเดินเลี่ยงออกไปด้วยความอาย ทาเคชิจ้องริวอย่างอารมณ์เสีย ที่เข้ามาขัดจังหวะ ริวยิ้มแหยๆ
“แหะ ๆ ปรกติฉันก็เข้าออกห้องแกทุกวัน”
“ปรับตัวซะ จะได้ไม่โผล่มาเป็นก้าง”
ทาเคชิรีบเดินตามแพรวดาวออกไป
“คร้าบ...โซเรียว ฉันไม่มีเมียมั่งให้มันรู้ไป”
ริวนึกขึ้นได้
“เมีย พูดแล้วคันปาก ยิก ๆ หรือจะเป็นคำอาถรรพ์ของเรา บรื๋อ...”

ริวเกาปากตัวเองไป ขนลุกไป

แพรวดาวเดินชมบริเวณบ้านโอะนิซึกะด้วยความแปลกตา และชื่นชอบ คัตสึกับเซกิ เดินสวนมา หยุดก้มศีรษะทักทาย แพรวดาวรีบก้มศีรษะรับ เดินมาได้อีกนิด เจอลูกน้องโอะนิซึกะอีก 3 คนยืนอยู่ ลูกน้องทั้งสามรีบก้มศีรษะแสดงความเคารพ แพรวดาวก็ก้มศีรษะตอบ เธอเดินมาหยุดมองสวนสวย ยังคงไม่สบายใจ
“ทำใจให้สบาย อีกสักพักคุณก็ชิน”
ทาเคชิเข้ามายืนเคียงข้างมองสวนสวยเบื้องหน้า
“ผมให้จัดเสื้อผ้าข้าวของคุณไว้ในห้องผม”
“คุณป้ามาซาโกะรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ คนทั้งเมืองก็คงรู้แล้วว่าฉันเป็นภรรยารองของคุณ”
“คุณไม่สบายใจเรื่องนี้”
“วัฒนธรรมบ้านฉัน ไม่สนับสนุนให้แย่งคนรักของคนอื่นค่ะ”
“ผมเต็มใจรักคุณหมดหัวใจเอง”
แพรวดาวเศร้า ยังคงรู้สึกผิด ทาเคชิจึงตัดบทเปลี่ยนเรื่อง
“ต่อไปนี้จะมีครูมาสอนมารยาท จัดดอกไม้ ชงชา และศิลปะฟ้อนรำให้กับคุณ”
แพรวดาวตกใจ
“ฉันต้องเรียนหมดเลยเหรอคะ”
“โอคุซังต้องรู้ทุกอย่าง โดยเฉพาะการเปลี่ยนเสื้อผ้า...และคอยถูหลังให้ผมเวลาอาบน้ำ” ทาเคชิอมยิ้มพูดนิ่งๆ
“ถูหลังให้คุณ” แพรวดาวชะงัก
ทาเคชิพยักหน้าขรึม
“สามีภรรยาก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กัน ถูหลังให้กันเวลาอาบน้ำ”
“ไม่เคยได้ยินว่าผู้ชายก็ต้องทำให้ผู้หญิง” แพรวดาวงง
“ผมยินดีบริการคุณเป็นพิเศษ”
ทาเคชิอมยิ้ม ขำที่แกล้งอำเธอได้ แพรวดาวค้อนตามองเขาด้วยความหมั่นไส้

หน้าบ้านพักโคจิ...ทาโร่ถือดาบไม้ซ้อมเคนโด้กับต้นไผ่หน้าบ้าน ครั้งแรกฟาดเต็มน้ำหนักจนต้นไผ่สะเทือน เขาพยายามสลัดภาพแพรวดาวออกไป ด้วยการหมุนตัว ตวัดดาบไม้ฟาดกับต้นไผ่อีกครั้ง เขาหมุนตัวหันหลัง ควงดาบไม้ตวัดฟาดต้นไผ่สามต้นที่อยู่ด้านหลัง ด้วยความสับสนในความรู้สึกตัวเอง จนต้นไม้เอนเอียงตามแรงฟาด เสียงดังสนั่น ทาโร่เอาดาบไม้ยันกับพื้น หยุดยืนอย่างเหนื่อยหอบ พยายามตัดใจ โคจินิ่งมองลูกชาย ถอนใจด้วยความเป็นห่วง

ห้องทานอาหารบ้านโอะนิซึกะ...ทาเคชิพาแพรวดาวนั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหาร สักพักริวก็เดินเข้ามาในสภาพที่เพิ่งตื่นนอนเหมือนเมื่อครู่ ยังไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แพรวดาวหันมองริว งง ๆ ไม่อยากเชื่อสายตา
“ไม่ต้องแปลกใจ ริวมันหล่อแค่ตอนอยู่ต่อหน้าสาว ๆ”
“ถ้าสาวสวยตรงนี้ไม่มีเจ้าของก็ไม่แน่” ริวยิ้มเย้าแหย่
ทาเคชิรีบโอบเอวแพรวดาว เป็นเชิงหวง
“อ๊ะ ข้าวใหม่ปลามัน กอดกันไม่ห่าง” ริวแซว
แพรวดาวจะแก้ตัว
“ไม่ใช่ค่ะ เราแค่...”
“รักมากหวงมาก ไม่อยากห่างกันสักวินาที”
ทาเคชิแทรก ดึงตัวแพรวดาวเข้ามาโอบกอดและหอมแก้ม ริวตาโต
“โหย... อิ่มรักขนาดนี้ ไม่ต้องกงต้องกินกันแล้วข้าว”
แพรวดาวสะดุ้ง จะขัดขืน แต่ทาเคชิแอบกระซิบบอกแพรวดาวเบา ๆ ย้ำเรื่องตบตาทุกคน
“อย่าลืมสิ...ต่อหน้าทุกคน คุณคือโอคุซังของผม”
แพรวดาวชะงัก จำใจยอมให้ทาเคชิกอดอยู่อย่างนั้น ไอโกะปราดเข้ามาเห็นทาเคชิกอดแพรวดาวอยู่ ไอโกะถึงกับเลือดขึ้นหน้า กรีดร้องลั่นบ้าน
“อ๊าย....นังหน้าด้าน”
ไอโกะปรี่เข้าไปกระชากดึงตัวทาเคชิกับริวออกจากแพรวดาว โดยที่ทั้งคู่ไม่ทันตั้งตัว ก่อนเงื้อฝ่ามือตบหน้าแพรวดาวด้วยความโมโห สุดแรง จนคว่ำไปทางหนึ่ง
“โอ๊ย”
“เซโกะ” ทาเคชิตกใจ
“นังผู้หญิงชั้นต่ำ”
ไอโกะตามไปจิกกระชากผมแพรวดาวขึ้นมา แล้วตบอีก
“แกแย่งทาเคชิของฉัน”
แพรวดาวล้มไป ไอโกะตามไปบีบคอแพรวดาว กระชากลากทึ้งด้วยด้วยพิษรักแรงหึงสุด ๆ
“ฉันจะฆ่าแก”
ไอโกะบีบคอแพรวดาวแน่น จนแพรวดาวสำลัก หายใจไม่ออก ทาเคชิกับริวรีบพุ่งเข้าไปช่วยกันกระชากตัวไอโกะกับแพรวดาวแยกจากกัน ยื้อกันไปมา
“หยุดนะไอโกะ”
“ไม่”
“ผมบอกให้หยุด”
ทาเคชิคว้าข้อมือไอโกะแล้วบีบแน่นด้วยความโกรธ ไอโกะร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
“อ๊าย...ไอโกะเจ็บนะ”
ริวกับทาโร่วิ่งเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี ริวช่วยประคองแพรวดาวที่มีสีหน้าตื่นตระหนก ลุกขึ้น ทาเคชิสั่งทาโร่
“ดูแลโอคุซังด้วย อย่าให้ใครทำร้ายเธอได้เด็ดขาด”
“ครับ โซเรียว”
ทาโร่รับคำ แล้วรีบเข้าไปช่วยประคองแพรวดาวออกไป ไอโกะโวยวาย
“ทาเคชิเรียกนังนั่นว่าโอคุซัง ไอโกะไม่ยอมนะ อ๊าย...”
“เลิกบ้าสักที อย่ามาแสดงมารยาทแย่ ๆ ที่นี่” ทาเคชิตะคอก
ทันใดนั้นเสียงริกิดังขึ้น
“แล้วการรับผู้หญิงอื่นเข้ามาอยู่ในบ้าน เป็นมารยาทที่ดีแล้วเหรอ”

ทาเคชิชะงัก หันไปเห็นริกิกับซาโตชิตามเข้ามา ริกิ ซาโตชิ จ้องทาเคชิด้วยสายตาเดือดดาลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

สวนหลังบ้านโอะนิซึกะ...แพรวดาวนั่งน้ำตาคลอ ทั้งตกใจและรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทาโร่เอาน้ำชามายื่นให้
“จิบสักนิด เผื่อจะดีขึ้นครับ”
“ไม่มีอะไรล้างความรู้สึกผิดในใจฉันได้หรอกค่ะ ฉันเหมือนเป็นผู้หญิงไม่ดี แย่งคู่หมั้นคู่หมายคนอื่น”
ทาโร่วางถ้วยน้ำชา แล้วล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อยื่นให้แพรวดาว
“อย่างน้อยผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ก็เช็ดน้ำตาให้โอคุซังได้”
ทาโร่ยิ้มให้แพรวดาวอย่างห่วงใย แพรวดาวมองผ้าเช็ดหน้า ก่อนรับไป
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ โซเรียวไม่ยอมให้ใครทำร้ายโอคุซังแน่นอน”
แพรวดาวมองเข้าไปในบ้าน สีหน้าไม่สบายใจ

ในห้องรับแขก บ้านโอะนิซึกะ...ทาเคชิและริวนั่งอยู่ด้านที่นั่งของเจ้าของบ้าน ริกินั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนโคจินั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“บอกว่าจะไม่มีงานแต่งจนกว่าจะแก้แค้นให้อิจิโร่ แต่ไม่ทันไรก็มีเมียเก็บแล้ว” ริกิต่อว่า
“เซโกะเป็นแค่โอคุซัง ส่วนตำแหน่งนายหญิงยังเป็นของไอโกะเหมือนเดิม” ทาเคชิเสียงเข้ม
“ทำแบบนี้เท่ากับหยามเกียรติมิซาว่า”
“ผู้หญิงของผมถูกเคนอิจิรังแก ผมปกป้องเธออย่างที่ลูกผู้ชายต้องทำ”
“ช่วยแล้วก็ส่งกลับไทยสิ จะเอามาเป็นเมียรองทำไม”
“เธอได้ทุนมาเรียนที่นี่ อีกหนึ่งปีถึงจะจบ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยสำหรับเธอนอกจากที่นี่”
ริกิมองทาเคชิอย่างโกรธ โพล่งออกมาอย่างหัวเสีย
“ห่วงนังนั่นมากกว่าความรู้สึกของไอโกะงั้นเหรอ”
ริวและโคจิเหลือบมองหน้ากันอย่างหวั่นใจ ทาเคชิสีหน้าจริงจัง
“เมื่อเธอเรียนจบผมจะส่งกลับเมืองไทยทันที และต่อไปผมจะไม่มีโอคุซังอีกแม้แต่คนเดียว”
ริกิยังจ้องหน้าทาเคชิอย่างครุ่นคิด ริวแทรกขึ้น
“อย่าให้ตระกูลของเราต้องบาดหมางกันเพราะเรื่องไร้สาระเลยครับ”
“ไอโกะไม่ใช่เรื่องไร้สาระ” ริกิสวน
“งั้นมองเรื่องธุรกิจสิครับ เมื่อคืนโอะนิซึกะไปถล่มไนท์คลับของเคนอิจิจนพังยับเยิน คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัวได้” โคจิแนะนำ
“ระหว่างนั้นลูกค้าจะแห่ไปที่ไนท์คลับของมิซาว่า คุณลุงมีแต่ได้กับได้นะครับ”
ริวพูดจบแล้วยิ้มให้ แต่ริกิยังนิ่งไม่พอใจ
“ผมสัญญา แค่หนึ่งปีเท่านั้นที่เซโกะจะอยู่ที่นี่ ในฐานะโอคุซังของผม”
“จำคำสัญญาของเราไว้ให้ดีก็แล้วกัน” ริกิจำต้องยอมรับ

รถของกลุ่มมิซาว่าขับออกไปจากบ้านโอะนิซึกะอย่างรวดเร็ว ทาเคชิ ริวและโคจิยืนก้มโค้งศีรษะส่งพวกมิซาว่าอยู่ ทั้งหมดเงยหน้าขึ้นแล้วมองหน้ากันนิ่งๆ
“คิดว่าลุงริกิมีแผนอะไรรึเปล่า” ริวถาม
“พ่อเคยบอกไว้ว่าลุงริกิมีหนามแหลมรอบตัว จะกลิ้งไปทางไหนก็ทำร้ายทุกคนได้หมด” ทาเคชิบอก
โคจิหน้าเครียด
“จากนี้ไปต้องระวังตัวให้มากขึ้น ต้องพร้อมรับมือทั้งเคนอิจิและมิซาว่า”
ทาเคชิถอนหายใจเครียดๆ ริวตบไหล่ให้กำลังใจ
“ตอนนี้ไปเคลียร์หวานใจก่อนดีกว่า...เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เมื่อวานโดนจับ วันนี้โดนตบ”
ทาเคชิพยักหน้าแล้วจะเดินออกไป แต่ริวรั้งตัวไว้แล้วแกล้งหยอก
“เดี๋ยว ปลอบใจกันเพลาๆหน่อยล่ะ เหลือแรงไว้รับแขกเย็นนี้ด้วย ฮ่าๆ”

สวนหลังบ้านโอะนิซึกะ...แพรวดาวยังประคบน้ำแข็งที่ข้างแก้มอยู่แต่เย็นมือจนทนไม่ไหวต้องเลิกประคบ ทาโร่ชะโงกหน้าเข้ามาดูแล้วเห็นว่าแก้มแพรวดาวยังแดงอยู่
“ประคบต่อไม่ไหวแล้วค่ะ เย็นมือไปหมด”
“ถ้าไม่ประคบจะยิ่งระบม ตอนเย็นจะออกงานลำบาก”
แพรวดาวนึกได้
“จริงด้วย...แต่มือฉันชาไปหมดแล้ว”
ทาโร่ขยับเข้ามาใกล้แล้วโค้งศีรษะขออนุญาต
“ผมขออนุญาตนะครับ”
ทาโร่หยิบผ้าขนหนูที่ห่อน้ำแข็งขึ้นมาแล้วมองหน้าแพรวดาว รอคำตอบ แพรวดาวพยักหน้าช้าๆอนุญาต ทาโร่ประคบหน้าให้แล้วอยู่ๆแพรวดาวก็ยิ้มน้อยๆ
“คราวก่อนคุณก็ประคบเย็นให้ฉัน คราวนี้ก็อีก สงสัยเราจะสมพงษ์กันเรื่องนี้”
ทาโร่มองแพรวดาวแล้วยิ้มรู้สึกดีสุดๆ
“เป็นเกียรติสำหรับผม ที่ได้ดูแลโอคุซังครับ”
ทาโร่มองแพรวดาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก
“ผมสัญญาว่าผมจะดูแลและปกป้องคุณ...ด้วยชีวิต”
แพรวดาวเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรักของทาโร่แล้วรู้สึกหวั่นไหว รีบหลบสายตาไปทันที ขณะเดียวกันนั้นเสียงทาเคชิดังขึ้น
“ทำอะไรกันอยู่เหรอ”
แพรวดาวและทาโร่หันไปมอง เห็นทาเคชิยืนอยู่ ทาโร่ก็รีบผละตัวออกห่างจากแพรวดาวทันที
“ทาโร่ช่วยประคบแก้มให้ฉันค่ะ มือฉันเย็นจนปวดไปหมด”
ทาเคชิหันไปมอง ทาโร่นิ่งไม่รู้ว่าทาเคชิคิดอะไร ทาเคชิมองทาโร่ครูหนึ่งแล้วยิ้มให้
“ขอบใจมากทาโร่ ขอโทษด้วยที่ต้องให้นายมาช่วยดูแลโอคุซัง”
“โซเรียวไม่จำเป็นต้องขอโทษ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”
“ไปพักเถอะ ฉันดูและโอคุซังต่อเอง”

ทาเคชิจูงมือแพรวดาวเดินเข้าห้องไป ทาโร่มองตามไปอย่างสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง

ทาเคชิและแพรวดาวเข้ามาในห้อง แพรวดาวจะเดินเลี่ยงไปแต่เขาดึงตัวไว้เชยคางเธอขึ้นมองรอยแดงที่แก้ม
“เจ็บรึเปล่า”
“ฉันสมควรโดนแบบนี้ไม่ใช่หรือคะ”
“ทำไมพูดแบบนี้”
“แค่ฉันมายุ่งกับคุณ ไอโกะจังก็ไม่พอใจแล้ว นี่คุณยกให้ฉันเป็นโอคุซัง หัวใจเธอคงแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ”
ทาเคชิใช้มือประคองหน้าแพรวดาวขึ้นมองอย่างรู้สึกผิด
“แต่ไอโกะทำเกินไป”
“ไม่มีใครรับได้หรอกค่ะถ้าผู้ชายของตัวจะมีผู้หญิงคนอื่น”
“ผมยังไม่ได้หมั้น และผมก็ไม่ใช่ผู้ชายของใคร”
แพรวดาวผละจากทาเคชิเล็กน้อยแล้วกุมมือเขาไว้
“เราสองคนรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร...ต่อไปฉันจะพยายามเลี่ยงไม่เจอเธอค่ะ พอฉันกลับเมืองไทยทุกอย่างก็จะจบ”
ทาเคชิมดึงแพรวดาวเข้ามากอด
“ผมขอโทษคิมิ ความรักของผมเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด...ผมทำให้คุณเจ็บตัว ทำให้ทุกคนในกลุ่มต้องเดือดร้อน...ผมเห็นแก่ตัวมากใช่มั้ย”
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น”
“แรงหึงของไอโกะน่ากลัวกว่าที่คุณคิด เธออาจจะทำร้ายคุณปางตายได้ อย่าไว้ใจไอโกะ คนของมิซาว่าไว้ใจไม่ได้”

ซาโตชิและแม่บ้านช่วยกันลากตัวไอโกะเข้าไปในห้องนอน แต่ไอโกะทั้งดิ้นทั้งฝืนตัวไม่ยอม โวยวายทั้งน้ำตา มาสคาร่าเลอะเป็นคราบน้ำตา
“ปล่อยฉันนะไอ้พี่บ้า...ปล่อย”
“พี่จะปล่อยก็ต่อเมื่อเราเข้าไปอยู่ในห้อง”
“ไม่...ได้ยินมั้ย...ไม่”
ไอโกะกรี๊ดลั่นอีก ซาโตชิและแม่บ้านทำหน้าเบ้แสบแก้วหู ทันใดนั้นริกิเดินเข้ามาสมทบ แล้วจ้องหน้าไอโกะดุๆ ไอโกะเห็นพ่อก็หยุดกรี๊ด แล้วจ้องหน้าพ่อด้วยแววตาเอาเรื่อง แต่ริกิไม่สนใจท่าทางของลูกสาว ไอโกะค่อยๆน้ำตาค่อยๆ ไหลอาบแก้มแล้วร้องไห้โฮทรุดไปกองกับพื้น โกรธและเสียใจที่ทำอะไรไม่ได้ ซาโตชิมองน้องสาวอย่างสงสารเข้าไปจะช่วยประคอง แต่ไอโกะกรี๊ดลั่นไม่ยอมให้จับตัว
“อย่ามายุ่ง”
ซาโตชิไม่ยอมปล่อยแล้วขืนแรงดึงตัวไอโกะมากอดไว้แน่น ไอโกะดิ้นไม่ยอมสักพักก็อ่อนแรง โผกอดซาโตชิแล้วร้องไห้โฮ ซาโตชิประคองไอโกะเข้าไปในห้อง ริกิมองตามไปอย่างสงสาร นึกถึงความหลังของตัวเอง

ในอดีต ริกิและอิจิโร่ วัย 21 ปีนั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวน ริกิถือกล่องของขวัญในมือ
“ริกิ...ซื้ออะไรให้ฮิเดะโกะ” อิจิโร่ถาม
“เดี๋ยวก็รู้เอง”
“ทำเป็นมีลับลมคมใน...แล้วที่บอกว่ามีเรื่องจะบอก เรื่องอะไร”
“อยากรู้ก็บอกเรื่องของแกมาก่อน”
“แกไม่บอกฉันก็ไม่พูด” อิจิโร่กวนๆ
ริกิมองอิจิโร่อย่างลังเล
“เออก็ได้ วันนี้ฉันตั้งใจจะ...”
ทันใดนั้นเสียงฮิเดะโกะดังขึ้น
“ขอโทษที่มาช้าจ้ะ”
อิจิโร่และริกิหันไป เห็นฮิเดะโกะยืนยิ้มให้อยู่
“ฮิเดะโกะ”
อิจิโร่และริกิโค้งศีรษะให้ฮิเดะโกะเป็นการทักทาย ริกิรีบยื่นกล่องของขวัญให้ฮิเดะโกะทันที
“สุขสันต์วันเกิดจ้ะฮิเดะโกะ”
ฮิเดะโกะมองกล่องของขวัญยิ้มๆแล้วรับมา
“เธอไมเคยลืมวันเกิดเราเลย...ขอบคุณนะ”
ริกิยิ้มแย้มบอก
“เปิดเลยสิ”
ฮิเดะโกะแกะกล่องของขวัญออกแล้วเห็นว่าเป็นกล่องแหวนเพชรสวยงาม ฮิเดะโกะอึ้งไปแล้วเหลือบมองอิจิโร่ เห็นอิจิโร่อึ้งไปเหมือนกัน ฮิเดะโกะหันกลับมามองริกิอึ้งๆ ริกิยิ้มแล้วเข้าไปใกล้ฮิเดะโกะ
“เราอยากให้เธอเป็นโอะคะมิซัง นายหญิงแห่งมิซาว่า”
อิจิโร่ชะงักแล้วเหลือบมองฮิเดะโกะที่อึ้งช็อคไป เธอหันมองอิจิโร่แล้วหันกลับมามองริกิงงๆ
“แต่เราเป็นเพื่อนกัน”
“ฉันโชคดีที่ได้อิสระในการเลือกคู่ครอง ได้เลือกแต่งงานกับคนที่ฉันรัก”
ริกิหันกลับมาหาฮิเดะโกะ แต่ฮิเดะโกะค่อยๆชักมือกลับแล้วส่งกล่องแหวนคืนให้ริกิ
“ฉันขอโทษริกิ ฉันรับไว้ไม่ได้จริงๆ”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากเดินในเส้นทางของซามูไรที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่ฉันสัญญาว่าจะรักและดูแลเธอด้วยชีวิต”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นริกิ”
ฮิเดะโกะหันไปมองอิจิโร่ด้วยสีหน้าหนักใจ อิจิโร่พยักหน้าให้ ฮิเดะโกะค่อยๆจับสร้อยคอของตัวเองแล้วหยิบจี้หยกตราประจำตระกูลของโอะนิซึกะให้ดู ริกิช็อคๆ
“หยกของอิจิโร่...”
“เรากำลังจะแต่งงานกัน” อิจิโร่บอก
“ฉันจะเป็นโอะคะมิซังของอิจิโร่ เป็นนายหญิงแห่งโอะนิซึกะ”
ริกิอึ้งช็อค กำมือแน่นระงับความโกรธแค้นไว้

แววตาริกิเต็มไปด้วยความโกรธแค้นเมื่อนึกถึงความหลัง ซาโตชิเดินเข้ามาโวยวาย
“ทำไมพ่อถึงยอมพวกมัน ทำไมไม่แตกหักกันไปเลย”
“แล้วแกจะเอาอะไรไปสู้ คนของไอ้เคนอิจิมีเยอะกว่า...ยังสู้โอะนิซึกะไม่ได้เลย”
“ไอ้เคนอิจิเป็นแค่นักเลง ไม่ใช่นักรบซามูไรอย่างเรา ถ้าพ่อไม่จัดการ ผมจัดการเอง”
ริกิลุกขึ้นจ้องหน้าซาโตชิ
“จะจัดการยังไง ด้วยฝีมือดาบที่อ่อนหัดของแกงั้นเหรอ ต้องให้พ่ออับอายขายหน้าอีกกี่ครั้ง มีลูกสาวก็ไม่มีความเป็นกุลสตรี มีลูกชายก็ไม่คุณสมบัติจะขึ้นเป็นโซเรียว”
“พ่ออย่าดูถูกผมแบบนี้ ผมจะจัดการไอ้ทาเคชิเอง” ซาโตชิโมโห
“ฉันเป็นโซเรียว สั่งว่าไม่ก็คือไม่”
ซาโตชิโกรธที่ทำอะไรไม่ได้ เดินออกไปทันที จูโร่ถามขึ้น
“โซเรียวจะไม่ทำอะไรเลยจริงๆ หรือครับ”
“ปล่อยให้ทาเคชิตายใจไปก่อน เมื่อถึงเวลาฉันจะจัดการมันเอง”

แววตาริกิที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 6 (ต่อ)

ห้องนอนไอโกะเละเทะข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วห้อง ไอโกะนั่งอยู่บนเตียง หน้าตาเลอะมาสคาร่าเป็นทาง เธอถือตุ๊กตาผู้หญิงญี่ปุ่นโบราณผมดำยาวสลวยแล้วนึกถึงแพรวดาวแค้นๆ
“ฉันจะทำทุกทาง ไม่ให้แกมีความสุขกับทาเคชิ”
ไอโกะจับตุ๊กตาไว้แน่นแล้วหักคอตุ๊กตาทันที

ซาโตชิเดินเข้ามาในสวน เห็นจูโร่ตามเข้ามา
“ตามผมมาเรื่องอะไรครับ”
“ฉันมีเรื่องสำคัญให้แกจัดการ”
ซาโตชิคิดแผนการบางอย่าง

บ้านโอะนิซึกะยามเย็น...ทาโร่ คัตสึและเซกิช่วยกันยกบานประตูกั้นห้องออก เพื่อเปิดห้องให้โล่งยาว ฟูมิโกะนั่งเช็ดถ้วยข้าวจานชามหลายสิบใบสำหรับจัดสำรับอยู่ โคจิและริวเดินเข้ามาตรวจความเรียบร้อย ริวมองไปรอบๆ เห็นอายะโกะนั่งอธิบายการจัดสำรับให้แพรวดาวอยู่ ทาเคชิอยู่ใกล้ๆยิ้มมีความสุข ริวหันมาหาโคจิ
“จัดเลี้ยงต้อนรับโอคุซังแบบนี้ ไม่ถือว่าผิดคำพูดกับมิซาว่าใช่มั้ย บอกว่าจะไม่มีงานรื่นเริง แต่นี่ยิ้มระเริงมาก”
“เราไม่ได้จัดงานใหญ่โต เชิญเฉพาะญาติสนิทเท่านั้น”
ริวชะงักไปสงสัยสุดๆ
“ต้องสนิทขนาดไหน ต้องเป็นสายเลือดโอะนิซึกะโดยตรงรึเปล่า”
โคจิหันมองริวอย่างแปลกใจ
“ทำไมอยู่ๆ สงสัยเรื่องนี้”
“เอ่อ ก็ผมเป็นรองหัวหน้า ก็ต้องรู้หลักเกณฑ์ในการเชิญแขกมาร่วมงาน” ริวแถไป
“ไม่ใช่ว่าอยากชวนใครมางานเหรอ”
“อยาก... เอ้ย อยากรู้เฉยๆ เผื่ออาเชิญแขกมาไม่ครบ ตกลงสนิทขนาดไหน”
“สนิทมากพอที่โซเรียวหรือท่านรองหัวหน้าให้รับรู้เรื่องส่วนตัวพวกนี้ได้”
ริวขมวดคิ้วครุ่นคิดอีก โคจิแอบมองดูอาการของริวแล้วยิ้มขำๆ
“ผมรวมคุณหนูมายูมิไว้ในกลุ่มญาติสนิทแล้ว แต่คุณหนูมายูมิติดอ่านหนังสือเตรียมสอบ เลยขอตัวไม่มาร่วมงาน”
ริวลืมตัว
“อีกตั้ง 2 อาทิตย์กว่าจะสอบ แวะมาสักสองสามชั่วโมงไม่ได้หรือไง”
“ลองไปถามคุณหนูมายูมิด้วยตัวเองสิครับ”
ริวพยักหน้าแล้วจะเดินออกไปทันที โคจิมองตามไปแล้วยิ้มขำๆ อายะโกะยื่นหน้าเข้ามา
“ออกอาการแบบนี้ ริวซังยังปากแข็งว่าไม่ชอบเค้าอีกเหรอ”
“ไม่ได้ปากแข็งหรอก แค่ยังไม่รู้ตัวมากกว่า”

มายูมิใส่ชุดอยู่บ้านธรรมดาๆอยู่ในห้องนอนหน้าตาไม่พอใจคุยกับทามาโกะเรื่องทาเคชิกับแพรวดาว
“ไม่รู้ได้ยังไงกัน คนทั้งเมืองรู้ว่าโซเรียวมีคู่หมั้นเป็นไอโกะ แต่ผู้หญิงคนนั้นยังจะไปแย่งเขามาอีก”
ทามาโกะแย้ง
“โซเรียวอาจจะไปติดพันผู้หญิงคนนั้นเองก็ได้ หนูไอโกะก็นิสัยร้ายพอตัว”
“แต่ยังไงเธอก็ไม่ควรไปยุ่งกับแฟนคนอื่น นิสัยแบบนี้ร้ายกว่าไอโกะ”
“แม่ไม่เถียงด้วยแล้ว ยังไงลูกก็ควรจะลงไปบอกริวซังเองว่าจะไม่ไปงานเลี้ยง”
มายูมิเปลี่ยนสีหน้าจากบึ้งตึงเป็นตกใจทันที
“เขามาเชิญไปงานด้วยตัวเองเหรอคะ”
“แล้วกัน คุยกับแม่ตั้งนานไม่รู้เหรอว่าริวซังมา”
มายูมิลุกพรวดจากเตียงแล้วออกไปจากห้องทันที แต่อยู่ๆ ก็วิ่งกลับมาส่องกระจกสำรวจตัวเองก่อน มายูมิรีบหยิบหวีมาหวีผมแบบลวกๆ พร้อมทั้งทาแป้งฝุ่นที่หน้าทันที ทามาโกะมองมายูมิแล้วส่ายหน้าขำๆ

ในห้องรับแขก ฮิโระแอบไขว้นิ้วมืออยู่ด้านหลัง
“อยู่ๆจะให้มายูมิไปร่วมงาน สมาชิกในโอะนิซึกะจะไม่ว่าเอารึ”
“จะว่าได้ยังไงล่ะครับ ในเมื่อมายูมิไปในฐานะว่าที่คู่หมั้นของผม”
ฮิโระยิ้มพอใจกับคำตอบของริว ทันใดนั้นเสียงมายูมิดังขึ้น
“หนูไปไม่ได้ค่ะ”
ริวและฮิโระหันไปตามเสียง มายูมิในชุดลำลองสวยงามพร้อมผมเผ้าหน้าตาสวยใสสมวัย ริวมองมายูมิที่แต่งตัวน่ารักอึ้งๆ มายูมิรีบคุกเข่าลงนั่งแล้วโค้งศีรษะให้ริวเพื่อเป็นการขอโทษ
“ฉันติดอ่านหนังสือสอบ ไม่สะดวกจะไปร่วมงานเลี้ยงจริงๆ”
มายูมิเงยหน้าขึ้น เห็นริวมองแล้วยิ้มให้อยู่ก็อึ้งเหวอไป ทามาโกะสะกิดให้ฮิโระออกมาจากห้อง ฮิโระค่อยขยับตัวออกมาทันที ประตูห้องรับแขกเลื่อนปิด มายูมิเปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึงทันที
“ทำหน้างอแบบนี้ ไม่กลัวพวกดอกยางจะมาก่อนวัยเหรอ”
มายูมิอปัดมือริวออกแล้วหันไปจ้องหน้าริวไม่พอใจ
“ฉันไม่เข้าใจ คุณให้ฉันไปงานที่บ้านคุณทำไม”
“ก็งานเลี้ยงของครอบครัวคุณก็ต้องไป”
“ทำไมต้องไป ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ”
“อายุก็ไม่เยอะ เป็นอัลไซล์เมอร์แล้วเหรอคู่หมั้นคนสวยของผม”
“ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องการหมั้นของเราเป็นอันยกเลิก”
“ผมยังไม่ได้บอกคุณซักคำว่ายกเลิก”
“ไม่บอก แต่ไปพูดกับคนอื่นว่าโดนบังคับให้หมั้นเนี่ยนะ”
“อ๋อ ที่แท้ก็น้อยใจเรื่องนี้จริงๆ ด้วย”
มายูมิอึ้งไปกับความหลงตัวเองของเขา ริวพูดลอยๆ
“เดี๋ยวนี้เขาง้อหญิงด้วยวิธีไหน”
มายูมิส่ายหน้าเซ็งๆ แล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง สายตามายูมิที่มองทางอื่นอยู่ เห็นสร้อยทองคำขาวพร้อมจี้รูปดอกเดซี่ห้อยตกลงมาตรงหน้า ริวถือสร้อยอยู่ตรงหน้า มายูมิอึ้งๆ
“ให้ฉัน”
“อยู่กันสองคนจะให้ใคร”
มายูมิค้อนใส่แต่ก็รับสร้อยคอมาดูอึ้งไปที่เขาซื้อศร้อยคอให้
“ผมใส่ให้นะ”
ริวหยิบสร้อยจากดอกไม้มาแล้วยื่นหน้าไปใส่สร้อยให้มายูมิ หน้าสองคนอยู่ใกล้กัน มายูมิอึ้งเขินๆเหลือบมองเขาอย่างหวั่นไหว มายูมิยังแกล้งฟอร์ม เพื่อกลบเกลื่อนอาการหวั่นไหวของตัวเอง
“คิดว่าซื้อสร้อยมาง้อแล้วจะหายโกรธเหรอ”
“เรื่องง้อพักไว้ก่อน เพราะสร้อยไม่ได้ซื้อมาง้อ แต่ซื้อมาให้เป็นเครื่องราง”
“เครื่องราง” มายูมิชะงัก
“ก็ขอให้โชคดีในการสอบไง เดซี่คือดอกไม้แห่งความหวังความโชคดี...ไม่ไปงานเลี้ยงก็ตั้งใจอ่านหนังสือล่ะ”
“ขอบคุณนะคะริวซัง”

สองยิ้มให้กัน

บ้านโอะนิซึกะยามค่ำคืน...ทุกคนเดินเข้ามาในห้องทานข้าว เห็นสำรับอาหารถูกจัดไว้ตามจำนวนที่นั่งของสมาชิก สมาชิกของกลุ่มหลายๆคนโค้งศีรษะทำความเคารพ ทาเคชิลงนั่งที่นั่งของตัวเอง แพรวดาวและริวนั่งตามที่นั่งของตำแหน่งตัวเอง สมาชิกคนอื่นๆ ลงนั่งตามยกเว้น ทาโร่ คัตสึและเซกิ ที่ดูแลความปลอดภัยอยู่ ทาเคชิพูดขึ้น
“ผมขอแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับโอคุซังของผม...ขอให้ทุกคนรักและเคารพเซโกะ ปฏิบัติต่อเธอเช่นเดียวกับที่ปฏิบัติต่อผม”
แพรวดาวรีบขยับตัวจากโต๊ะอาหารเล็กน้อย
“จากนี้ไปฉันขอฝากตัวด้วยค่ะ”
แพรวดาวโค้งตัวก้มศีรษะจรดพื้นอย่างนอบน้อม สมาชิกทุกคนรีบโค้งตัวก้มศีรษะตอบรับทันที
“ด้วยความยินดีครับ”
ทาเคชิพอใจ
“เชิญทุกคนรับประทานอาหารได้”
ทุกคนเริ่มรับประทานอาหาร อายะโกะและฟูมิโกะช่วยเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ทุกคน แพรวดาวรีบเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ทาเคชิเช่นกัน โคจิ มาซาโตะและคาซูมะคอยมองท่าทางของแพรวดาว...แพรวดาวใช้ตะเกียบจะคีบเนื้อปลาแต่ท่าทางไม่ค่อยถนัด ทาเคชิเห็นจะช่วยทันที
“ผมเอาก้างปลาออกให้”
ทาเคชิให้ตะเกียบคีบก้างปลาออกอย่างคล่องแคล่ว
“ไม่เป็นไรค่ะ คนที่นี่ถือเรื่องคีบอาหารระหว่างจานนี่คะ”
“แต่คุณเป็นคนไทย”
“เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามค่ะ ถึงจะเป็นแค่โอคุซัง เมียรองของคุณ แต่ฉันต้องไม่ทำให้คุณเสียหน้า”
แพรวดาวค่อยๆคีบก้างปลาต่อ ทาเคชิมองอย่างภูมิใจแล้วเอื้อมมือไปกุมมือของเธอ แพรวดาวและทาเคชิมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ทาเคชิค่อยๆยกมือแพรวดาวขึ้นมาจูบ ทุกคนในห้องเฮลั่น แพรวดาวทั้งอายทั้งเขิน ทาโร่ที่ยืนมองจากอีกมุม มองภาพตรงหน้าอย่างเจ็บปวดแต่พยายามเก็บอาการไว้ ทาโร่บอกกับคึตสึและเซกิ
“ฉันจะออกไปตรวจรอบๆบ้าน คอยดูแลทุกคนด้วย”
คัตสึและเซกิโค้งศีรษะรับคำสั่ง ทาโร่ออกจากห้องอาหารไป โคจิมองตามทาโร่ไปอย่างเป็นห่วง

บรรยากาศการรับประทานอาหารอย่างสนุกสนาน แพรวดาวคอยดูแลทาเคชิอย่างดี ทุกคนรับประทานอาหารเสร็จ แพรวดาว อายะโกะและฟูมิโกะช่วยกันยกสำรับอาหารออกไปจากห้องรับประทานอาหาร ทาเคชิหันไปมองทางริวและพวกโคจิ
“มองแบบนี้คงอยากรู้ผลล่ะสิ”
ริวพูดจบก็หันไปหาพวกโคจิและสมาชิกของกลุ่มคนอื่นๆ ทุกคนมองทาเคชิแล้วพยักหน้าให้
“โอคุซังปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาก กิริยาท่าทางไม่มีที่ติ” มาซาโตะชม
“โอคุซังเป็นหน้าเป็นตาของพวกเราได้อย่างแน่นอนครับ” โคจิบอกอย่างมั่นใจ
ทาเคชิยิ้มดีใจที่ทุกคนยอมรับแพรวดาว

ห้องนอนทาเคชิ...อายะโกะเปิดตู้เก็บเก็บที่นอนเพื่อจะปูที่นอนให้ แพรวดาวเข้ามาพอดี
“ให้ฉันปูเองดีกว่าค่ะ มันเป็นหน้าที่ของโอคุซัง”
“ตายจริง...ป้าเคยชิน ดูแลโซเรียวมาเป็นสิบปี งั้นจากนี้ยกหน้าที่ดูแลโซเรียวทั้งหมดให้โอคุซังเลยนะคะ”
แพรวดาวยิ้มรับ
“ค่ะป้า... ต้องทำอะไรบ้างคะ”

อายะโกะเปิดประตูห้องสำหรับอาบน้ำเข้ามา ในอ่างน้ำมีน้ำอุ่นที่เตรียมไว้แล้ว
“ก่อนอื่นต้องเตรียมน้ำอุ่นให้อุ่นพอดีอาบค่ะ แต่วันนี้ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว ความร้อนประมาณนี้นะคะ”
แพรวดาวใช้ตะบวยตักน้ำมาเล็กน้อยแล้วราดลงบนฝ่ามือเพื่อวัดความร้อน
“ที่บ้านนี้โซเรียวจะได้อาบน้ำเป็นคนแรก ถัดมาคือ...ริวซัง...และโอคุซัง นอกจากคุณจะอาบน้ำพร้อมโซเรียวค่ะ” อายะโกะอมยิ้ม
แพรวดาวยิ่งเขินก้มหน้าหลบอายๆ อายะโกะเห็นท่าทางของแพรวดาวแล้วยิ้มชอบใจเปิดประตูห้องสำหรับอาบน้ำไปอีกห้อง...อายะโกะเดินนำแพรวดาวเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อ ชุดสำหรับผลัดอาบน้ำและผ้าขนหนูวางไว้ที่มุมหนึ่งอย่างเรียบร้อย
“เตรียมน้ำอุ่นแล้ว ก็ต้องมาเตรียมชุดสำหรับผลัดอาบน้ำกับผ้าขนหนู เวลาโซเรียวมาถึง จะได้หยิบไปอาบน้ำได้เลย”
แพรวดาวพยักหน้ารับรู้แล้วมองสำรวจรอบๆห้อง อายะโกะอธิบายเรื่องอื่นๆให้แพรวดาวฟังต่อ

แพรวดาวอยู่ในห้องนอน เธอนั่งอยู่ที่ข้างเบาะนอน ป้าอายะโกะส่งชุดสำหรับเปลี่ยนหลังอาบน้ำให้
“ชุดเปลี่ยนหลังอาบน้ำของโซเรียวค่ะ”
แพรวดาวรับมาแล้วจับดูว่ามีผ้ากี่ชิ้น แต่ไม่มีกางเกงชั้นใน
“เอ๊ะ ไม่เห็นมี...”
“ไม่มีอะไรเหรอคะ”
แพรวดาวเริ่มอายหน้าแดงไม่กล้าพูด
“เอ่อ... คือมันไม่มี...”
“คะ”
อายะโกะหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมมาดูอีกครั้ง
“ป้าเตรียมทุกอย่างครบแล้วนะคะโอคุซัง”
แพรวดาวทั้งเขินทั้งอายแต่ตัดใจพูดไป
“คือมันไม่มีชุด...เอ่อ...ชุดสำหรับใส่ข้างในค่ะ”
“ชุดใส่ข้างใน”
อายะโกะมองเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ แล้วหันไปมองแพรวดาวที่เขินจนหน้าแดงแล้วนึกได้
“อ๋อ...โอคุซังหมายถึงกางเกงชั้นในใช่มั้ยคะ”
แพรวดาวพยักหน้าอายๆ อายะโกะขำๆ
“ไม่ต้องเตรียมหรอกค่ะ...เดี๋ยวโซเรียวก็จะนอนแล้ว เอ๊ะ เมื่อคืนโซเรียวก็ไม่ได้ใส่นะคะ...รึว่าโอคุซังไม่ทันสังเกตุ”
อายะโกะจ้องหน้าแพรวดาวแล้วยิ้มขำๆ แพรวดาวยิ่งเขินได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาอายะโกะ ขณะเดียวกันนั้นเสียงทาเคชิดังขึ้น
“คุยอะไรกันอยู่”
แพรวดาวและอายะโกะหันไปทางประตู เห็นทาเคชิยืนอยู่
“ป้าขอตัวนะคะ”
อายะโกะคุกเข่าลงและก้มศีรษะให้แพรวดาวและทาเคชิ แล้วขยับตัวออกจากห้องไป ทาเคชิยังยืนยิ้มให้แพรวดาวอยู่ด้วยอาการกึ่มเหล้านิดๆ
“แขกกลับกันหมดแล้วเหรอคะ”
ทาเคชิพยักหน้าตอบแล้วเดินเข้ามาหาแล้วสัมผัสที่แก้มของเธอ
“ทุกคนชอบคุณมาก...พวกสมาชิกอาวุโสเอ่ยปากชมคุณไม่หยุด”
แพรวดาวยิ้มตอบเขินๆ

“ขอบคุณค่ะ...คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ ฉันเตรียมผ้าอาบน้ำไว้ให้แล้ว”

ทาเคชิเลื่อนมือไปปลดกิ๊บติดผมของแพรวดาวออก
“อาบน้ำด้วยกันมั้ย...”
แพรวดาวส่ายหน้าเหวอๆ ทั้งอายทั้งเขิน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรออาบหลังริวซังดีกว่า”
แพรวดาวส่งผ้าขนหนูและชุดสำหรับผลัดอาบน้ำให้ทาเคชิแล้วจะลุกหนี ทาเคชิคว้าตัวไว้แล้วทำหน้าออดอ้อนเหมือนเด็กๆ
“หมอห้ามแผลผมโดนน้ำ...แผลผมเต็มตัวไปหมด ถ้าราดน้ำไม่ดี แผลโดนน้ำ...ต้องอักเสบขึ้นมาแน่ ๆ”
แพรวดาวหรี่ตามองทาเคชิอย่างลังเล
“แผลใหญ่มีแต่ที่แขนไม่ใช่เหรอคะ”
ทาเคชิอ้อน
“ผมไม่ได้โกหกนะ แผลเต็มตัวจริงๆ เปิดให้ดูก็ได้”
ทาเคชิทำท่าจะถอดชุดให้แพรวดาวดู แต่แพรวดาวรีบยกมือห้าม
“ถ้าแผลเยอะนัก ไม่ต้องอาบดีมั้ยคะ”
ทาเคชิจ๋อย
“ถ้าไม่อาบ...คนนอนข้างๆ คงเหม็นตายเลย”
“ฉันยอมตายค่ะ...จะปล่อยให้ฉันตาย หรือจะอาบเองคะ”
ทาเคชิเห็นท่าทางของแพรวดาวแล้วรู้ว่าเธอไม่ยอมก็จ๋อย เดินคอตกเข้าห้องอาบน้ำไป แพรวดาวเห็นท่าทางของเขาแล้วแอบขำ แต่อยู่ๆ ทาเคชิหันกลับมาตัดพ้อ
“ใจร้าย...ไม่อาบให้แล้วยังเยาะเย้ยกันอีก เจ็บไปทั้งตัว...ไม่เห็นใจกันเลย คงต้องเจ็บเจียนตาย...คุณถึงจะยอมดูแลผมบ้าง”
ทาเคชิยังทำหน้าจ๋อยอยู่ แพรวดาวมองแล้วถอนใจพร้อมส่ายหน้าขำๆท่าทางงอแงของเขา
“ถ้าฉันไม่ตกลง คงได้ฟังเด็กงอแงทั้งคืน...แต่ฉันช่วยถูหลังให้เท่านั้นนะคะ”
ทาเคชิเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มกว้างดีใจสุดๆ

ในห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อ...แพรวดาวช่วยถอดเสื้อตัวสุดท้ายให้ทาเคชิ เห็นผ้าก๊อชผันที่แขน ตามลำตัวมีแผลถลอก แพรวดาวมองสำรวจแผลตามลำตัวเขาอย่างสงสารที่เขาบาดเจ็บมากเหลือเกิน

ห้องสำหรับอาบน้ำ บ้านโอะนิซึกะยามค่ำคืน...ทาเคชิที่เปลือยท่อนบนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เล็กๆ ข้างอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ที่ตักมีแค่ผ้าขนหนูผืนเล็กปิดบังท่อนล่างไว้ไม่ให้โป๊ แพรวดาวมองอย่างหวั่นไหวทั้งเขินทั้งอายแต่พยายามเก็บอาการไว้ เธอตักน้ำร้อนในอ่างใส่ถังไม้ แล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำถูหลังให้เขาอย่างระวังแผลตามตัว แพรวดาวเช็ดตัวจากมือ ไล่ขึ้นมาที่แขนและหัวไหล่
“เห็นมั้ย ผมมีแผลทั้งตัวจริงๆ”
ทาเคชิหันมาหาแพรวดาว พอดีกับที่เธอขยับหน้ามาใกล้เขา ใบหน้าทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก แพรวดาวทั้งเขินทั้งหวั่นไหว เลยรีบหลบสายตาไปแล้วรีบหยิบสบู่ถูหลังให้เขาทันที ทาเคชิคอยเหลือบมองยิ้มขำๆกับท่าทางเขินอายของแพรวดาว
“เสร็จแล้วค่ะ”
แพรวดาวผละจากแผ่นหลังของทาเคชิ
ทันใดนั้นทาเคชิก็หันกลับมาหาแพรวดาวทันที เลยทำให้ผ้าขนหนูที่ปิดท่อนล่างร่วงลงพื้นๆ
”ว้าย”
แพรวดาวรีบยกมือขึ้นปิดตาตัวเอง ทาเคชิได้ทีก็หัวเราะชอบใจ
“ปิดตาทำไม ผมไม่ได้โป๊สักหน่อย”
แพรวดาวยังลังเลอยู่แต่ค่อยๆ แยกนิ้วมือออกเพื่อแอบดู ทาเคชินั่งใส่กางเกงขาสั้นอยู่ แพรวดาวถอนใจ
“ชอบแกล้งกันจัง”
แพรวดาวค้อนใส่แล้วตีแขนเขาเบาๆ ทาเคชิยิ้มมีความสุข
“งั้นวันหลังไม่แกล้งก็ได้ จะถอดให้หมดทุกชิ้นเลย...คุณควรจะถูตัวผมด้านหน้าด้วย เดี๋ยวสะอาดไม่ทั่วถึงนะจ้ะคิมิ”
ทาเคชิแอ่นอกให้ถูตัวให้ แพรวดาวมองทาเคชิค้อนๆ แล้วหลับหูหลับตาถูสบู่ส่งๆ ให้แล้วตักน้ำในอ่างมาล้างตัวให้จนเสร็จ

ในห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อ...แพรวดาวหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวให้ทาเคชิจนแห้งแล้วผละออกจากเขาทันที
“หมดหน้าที่ของฉันแล้ว ขอตัวนะคะ”
แพรวดาวจะเดินออกไปจากห้องเปลี่ยนเสื้อ แต่ทาเคชิรั้งตัวไว้อีกแล้วดึงเธอเข้ามาใกล้
“ยังไม่เสร็จ...ต้องสวมยูกาตะให้ผมด้วย”
แพรวดาวหยิบชุดมาสวมให้ทาเคชิอย่างระวัดระวังบาดแผล เธอเอื้อมมือโอบรอบตัวเขา ทาเคชิเห็นใบหน้าแพรวดาวเข้ามาใกล้ เขาค่อยๆ เลื่อนศีรษะหวังจะจูบเธอ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ...คุณกลับห้องไปก่อนนะคะ ฉันขออาบน้ำแป๊บนึง”
แพรวดาวผละออกทันที แต่ทาเคชิรั้งไว้ เขาส่ายหน้า
“ไม่ได้ เข้าพร้อมกันต้องออกพร้อมกัน...ถ้าผมออกไปก่อน ริวต้องเข้าใจผิดคิดว่าถึงคิวของเขาแล้ว กลอนประตูห้องน้ำก็ไม่มีด้วยนะ แพรวดาวเหลือบมองไปที่ประตูห้องน้ำที่เป็นบานเลื่อนไม่มีกลอน เธอกลุ้มใจ
“คุณเข้าไปอาบน้ำเถอะ ผมจะรอในห้องนี้แหละ”
“แต่ฉัน...”
“ผมสัญญาว่าจะหันหลัง ไม่แอบมองคุณแม้แต่นิดเดียว”
ทาเคชิพูดจบยกมือปิดตาตัวเองพร้อมกับหันหลังให้ทางห้องอาบน้ำทันที แพรวดาวมองแล้วยิ้มๆ

“ห้ามผิดคำพูดนะคะ”

ทาเคชิพยักหน้า แพรวดาวหยิบผ้าสำหรับเปลี่ยนอาบน้ำแล้วเข้าห้องอาบน้ำไปทันที ทาเคชิแอบหันไปมองแพรวดาว ผ่านช่องประตูที่ปิดไม่สนิท แพรวดาวรวบผมขึ้นเพื่อไม่ให้เปียกน้ำ และกำลังจะถอดเสื้อออก ทาเคชิรีบหันหน้ากลับไปทันที สักพักได้ยินเสียงตักน้ำราดตัว ทาเคชิถอนใจเครียดกลัวความหวั่นไหวของตัวเอง

ทาเคชิและแพรวดาวเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ริวยืนมองอยู่อย่างหมั่นไส้
“ทำเป็นอ้างว่าปวดแผลหนีออกมาจากงานเลี้ยง ที่แท้มานอนแช่น้ำให้แผลเน่า”
“ฉันมาอาบน้ำก่อนนอน ผิดตรงไหน”
“ผิดตรงที่ทำให้คนหน้าตาดีแต่โสดอย่างฉันหมั่นไส้ ไว้ฉันมีโอคุซังเมื่อไหร่ จะยึดทั้งห้องน้ำ ห้องครัว ยังโรงซ้อมเคนโด้เลย” ริวกวนๆ
ริวพูดจบแล้วเดินไปอาบน้ำทันที
“ปากดี ถึงเวลานั้นจริงๆ แกก็มีไม่ได้หรอก”

ทาเคชิทิ้งตัวลงบนที่นอน แพรวดาวลงนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆเบาะที่นอนของตัวเอง
“ทำไมริวถึงมีโอคุซังไม่ได้ล่ะคะ เขาให้สิทธิเฉพาะโซเรียวเหรอ”
แพรวดาวพูดไปหวีผมไปด้วย
“ใครๆ ก็มีเมียรองได้ถ้าอยากจะมี แต่กะล่อนเจ้าชู้อย่างริวเวลารักใครรักจริง”
“แสดงว่าริวซังมีคนรักอยู่แล้ว”
“ไม่ใช่คนรัก แต่เป็นว่าที่คู่หมั้นที่ริวกำลังหลงรักโดยไม่รู้ตัว”
“ถ้าริวซังยังไม่รู้ตัว แล้วคุณไปรู้ใจเขาได้ยังไงคะ”
แพรวดาวพูดจบหันกลับไปหวีผมต่อ ทาเคชิมองแพรวดาวที่กำลังหวีผมแล้วรวบผมเบี่ยงมาข้างหนึ่ง เขาขยับตัวไปหาเธอแล้วใช้มือสางผมให้อย่างแผ่วเบา
“ดึกแล้ว...นอนเถอะ”
ทาเคชิค่อยๆ โน้มหน้าลงมาจะจูบที่ซอกคอ แต่แพรวดาวรีบหันมาแล้วใช้มือยันอกเขาไว้
“จะทำอะไรคะ”
“Good Night Kiss” ทาเคชิออดอ้อน
แพรวดาวอึ้งเหวอไปกำลังจะห้ามแต่ เขารวบตัวเธอเข้ามากอดไว้
“นะ...คิมิ ขอแต่ kiss เดียวแล้วจะนอนเลย”
ทาเคชิจะเข้ามาจูบ แต่แพรวดาวยังไม่ยอม
“คิมิจ๋า...ผมสัญญา แค่จูบเดียวจริงๆ...นะครับคิมิที่รักของผม”
ทาเคชิมองด้วยสายตาออดอ้อนพร้อมกอดแน่นขึ้น แพรวดาวเขินๆ
“จูบเดียวแน่นะคะ”
ทาเคชิเลื่อนมือขึ้นมาประคองใบหน้าแพรวดาวอย่างทะนุถนอม
“ผมสัญญา”
ทาเคชิใช้จมูกแตะที่แก้มแพรวดาวอย่างแผ่วเบา แล้วเลื่อนลงมาเรื่อยจนใกล้ริมฝีปากของหญิงสาว แพรวดาวที่ยังมีท่าทีหวั่นไหว ค่อยๆ หลับตาลง ทาเคชิค่อยๆ เคลื่อนใบหน้าเหมือนจะประทับจูบบนริมฝีปาก แต่แล้วเขากลับคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแพรวดาวที่โดนเคนอิจิทำร้าย ทาเคชิ รู้สึกผิดที่จะทำร้ายจิตใจของเธอ เขาคิดว่าแพรวดาวโดนเคนอิจิข่มเหง และทำร้ายจิตใจตอนโดนจับตัวไป ทาเคชิผละออกจากแพรวดาวทันที
“ผมสัญญาแล้วว่าเราจะเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องกัน ผมไม่ควรทำร้ายจิตใจ คุณให้มากไปกว่านี้”
ทาเคชิรีบลุกขึ้นนั่งคุกเข่าแล้วก้มศีรษะขอโทษแพรวดาว
“ผมขอโทษเซโกะ...ผมมันเห็นแก่ตัวจริงๆ คุณเพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา แต่ผมก็ยังจะทำร้ายคุณอีก” ทาเคชิจ้องหน้าแพรวดาวอย่างรู้สึกผิด “ผมสัญญาด้วยเกียรติของโอะนิซึกะ คุณจะได้กลับเมืองไทยอย่างไร้มลทิน...”
ทาเคชิลุกเดินออกไปจากห้องทันที แพรวดาวได้แต่มองตามไปรำพึงในใจ
“ทาเคชิ...ความเป็นสุภาพบุรุษของคุณจะทำให้ฉันใจอ่อน”
แพรวดาวซึ้งใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของเขา

ในโรงซ้อมเคนโด...ทาเคชิเหงื่อไหลเต็มใบหน้ากำลังฟันดาบไม้ใส่ทาโร่ไม่ยั้ง ระบายความอัดอั้นที่มีอยู่เต็มหัวใจ
“ย๊าก!”
ทาโร่ไม่สู้กลับแต่ตั้งรับและหลบปลายดาบของทาเคชิอย่างคล่องแคล่ว ทาเคชิฟาดดาบใส่ทาโร่ไม่ยั้ง จนเริ่มอ่อนแรงแล้วขว้างดาบไม้ทิ้งไปอย่างหงุดหงิด ทาโร่จะไปเก็บดาบไม้ แต่ทาเคชิยกมือห้ามไว้
“ไปพักได้ ฉันขอโทษที่เรียกมาดึกๆ แบบนี้”
ทาโร่โค้งศีรษะให้
“ด้วยความยินดีครับโซเรียว...ถ้ามีอะไรที่ผมสามารถทำให้โซเรียวสบายใจได้ ขอให้บอกครับ”
ทาโร่โค้งศีรษะให้ ทาเคชิโบกมือไล่ให้เดินออกไป ทาโร่เดินออกไปแล้วทาเคชิถอนใจเครียดๆ

เช้าวันใหม่...แพรวดาวกลับเข้ามาในห้องแล้วใช้หวีสางผมอย่างสวยงาม ทาเคชิยืนผูกเนคไทอยู่หันไปมองแพรวดาว ที่กำลังรวบผมไปด้านหลัง แล้วถักเปียก
“ต่อไปคุณจะถักเปียแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ”
ทาเคชิดึงยางรัดผมแพรวดาวออก แล้วใช้มือสางผมให้อย่างแผ่วเบา พูดที่ข้างหู
“เพราะคุณมีสามีแล้ว ต้องเกล้ามวยหรือทำทรงอื่นก็ได้ แต่ไม่ใช่ถักเปีย”
“ฉันขอโทษค่ะ...ฉันไม่รู้ว่ามีธรรมเนียมแบบนี้ด้วย”
ทาเคชิพูดจบแล้วส่งซองจดหมายสีขาวให้แพรวดาว
“ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของคุณ”
“ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมีเงินเดือนจากทุนของฉันอยู่แล้ว”
“นี่ก็เงินเดือนเหมือนกัน คุณเป็นถึงโอคุซังของโอะนิซึกะ ทุกอย่างถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของเรา คุณต้องมีความเป็นอยู่สมฐานะของโอคุซัง”
แพรวดาวพยักหน้ารับคำแล้วจำใจรับซองเงินมาจากทาเคชิ

ริวยืนรออยู่ที่รถของตัวเอง โดยมีคัตสึยืนอยู่ใกล้ๆ ทาโร่ยืนรออยู่ที่รถที่จอดถัดมา ทาเคชิและแพรวดาวที่ทำผมใหม่เดินออกมาที่รถพร้อมกัน
“เมื่อเช้านึกสงสัยอยู่เชียวว่าป้าอายะโกะหายไปไหน ที่แท้ก็ไปทำผมให้โอคุซังนี่เอง...กลัวคนอื่นมาจีบภรรยาสุดที่รักหรือไง ไอ้สามีป้ายแดง” ริวแซว
แพรวดาวก้มหน้าอายๆที่โดนแซว ทาเคชิเข้าไปล็อคริวออกไปทันที
“ขึ้นรถไปเลย”

คัตสึรีบเปิดประตูรถให้ริวและทาเคชิทันที ทาโร่เปิดประตูรถให้แพรวดาว เขาเงยหน้าขึ้นมา เห็นแพรวดาวยิ้มให้ ก็ยิ้มตอบอย่างมีความสุข

แพรวดาวเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัย มีทาโร่เดินตาม คนในมหาวิทยาลัยมองมาที่แพรวดาวเป็นตาเดียวแล้วจับกลุ่มแอบกระซิบคุยกัน แพรวดาวท่าทางเครียดๆ ทาโร่มองอย่างเป็นห่วง
“อยากกลับบ้านมั้ย”
“ไม่ค่ะ...คุณส่งฉันตรงนี้ก็พอ”
แพรวดาวเดินแยกออกไปท่ามกลางสายตาหลายคนที่ยังจ้องมองอยู่ ทาโร่มองตามด้วยแววตาเป็นห่วง

ในห้องสมุด...บรรณารักษ์หอบหนังสือกองโตมาเพื่อเรียงขึ้นบนชั้น เสียงมิโยะโกะดังขึ้น
“จริงเหรอเซโกะ”
บรรณารักษ์สะดุ้งตกใจจนทำหนังสือทั้งกองหล่น บรรณารักษ์หันไปมองตามเสียง มิโยะโกะยืนมองแพรวดาวอึ้งๆ ช็อคๆ อยู่กลางห้องสมุด ทุกคนในห้องสมุดมองมาที่แพรวดาวและมิโยะโกะเป็นตาเดียว แพรวดาวรีบดึงให้มิโยะโกะลงนั่งทันที
“จะเสียงดังทำไมเนี่ย”
“ก็คนมันตกใจ” มิโยะโกะนึกได้แล้วกระซิบ “ตกลงไอโกะเป็นคนสั่งให้เคนอิจิจับตัวเธอ
ไปจริงๆ เหรอ”
“เคนอิจิพูดแบบนั้น”
มิโยะโกะนิ่งคิด
“มิซาว่ากับซะโต้ของเคนอิจิไม่ถูกกัน ไอโกะกับเคนอิจิจะร่วมมือกันได้ยังไง...แล้วเธอบอกโซเรียวรึเปล่า”
“เปล่า...ฉันไม่อยากมีเรื่องมากไปกว่านี้ อีกแค่ปีเดียวฉันเรียนจบ...ก็จะกลับ
เมืองไทยแล้ว”
“กว่าจะ 1 ปี เธอต้องโดนไอโกะพ่นสารพัดพิษใส่แน่”
แพรวดาวได้แต่ถอนใจหน้าเครียดเป็นกังวล มิโยะโกะจับผมของแพรวดาว
“ทำผมทรงนี้ แสดงว่าเป็นโอคุซังทั้งในทางทฤษฎี และทางปฏิบัติแล้วใช่ป่ะ”
แพรวดาวอายๆ
“จะบ้าเหรอมิโยะโกะ พูดอะไรก็ไม่รู้”
ยูมิโกะและอาซึมิที่ยืนมองมาที่แพรวดาวอยู่มุมหนึ่งด้วยท่าทางไม่พอใจ อาซึมิเบ้หน้า
“นังนั่นเกล้าผมมาเรียน...กะจะป่าวประกาศให้รู้กันทั่วล่ะสิว่ามีสามีแล้ว”
“เรื่องนี้ถึงหูไอโกะแน่” ยูมิโกะมองหยัน

ริกิช่วยประคองไอโกะที่หน้าซีดเหมือนคนป่วยกลับมาบ้าน โดยมีซาโตชิเดินบ่นตามหลัง
“ยอมไปหาหมอแต่แรก ก็ไม่เป็นหวัดงอมขนาดนี้หรอก”
ไอโกะค้อนซาโตชิ ไม่พอใจ แต่ไม่มีแรงต่อปากต่อคำ ริกิหันมาปรามลูกชาย
“วันนี้น้องก็ไปหาหมอแล้ว แกเลิกบ่นสักทีเถอะ เดี๋ยวทานยาที่หมอจัดให้ แล้วพักผ่อนเยอะ ๆ นะลูก”
“ค่ะพ่อ”
ไอโกะรับคำ เสียงแหบพร่า แม่บ้านเดินออกมาจากในบ้าน เข้ามารายงาน
“เพื่อนคุณไอโกะมาเยี่ยมค่ะ”
ไอโกะ แปลกใจที่เพื่อนมาหา

ในห้องนอน...ไอโกะนั่งจิกหมอนแน่น ขณะฟังเพื่อนสาวเล่าเรื่องแพรวดาวให้ฟัง
“ไอโกะป่วยอยู่บ้านหลายวัน เลยไม่รู้ว่านังเซโกะมันนั่งชูคอบนรถหรูของทาเคชิไปมหาวิทยาลัยทุกวัน แถมยังมีบอดี้การ์ดส่วนตัวคอยไปรับส่งถึงหน้าคณะ” ยูมิโกะใส่ไฟ
ไอโกะหน้าเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ
“บอดี้การ์ดส่วนตัวเลยเหรอ”
“ตอนนี้ที่คณะ...ใคร ๆ ก็อิจฉาที่นังนั่นได้เป็นโอคุซังของทาเคชิ ฉันเห็นแล้วยังเจ็บใจแทนไอโกะเลยนะ”
“มันมีอะไรดี ทาเคชิถึงได้หลง”
ไอโกะเข่นเขี้ยว คำรามออกมาทั้งที่เสียงยังแหบแห้ง ยูมิโกะเบ้หน้า
“ไม่อยากเชื่อว่าทาเคชิจะตาต่ำ คว้าผู้หญิงไทยหน้าจืดนั่นมาเป็นเมียรองทั้งๆ ที่ไอโกะสวยและเพียบพร้อมกว่านังเซโกะทุกอย่าง”
“นังเซโกะ...ฉันจะทำให้แกออกไปจากชีวิตทาเคชิให้ได้”
ไอโกะขยำหมอนแน่น แววตาแค้นมาก

แพรวดาวเลื่อนประตู เดินเข้ามาในห้อง แปลกใจที่เห็นทาเคชิกำลังง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะทำงานแบบญี่ปุ่นสองตัวในห้อง ไว้ตามมุมต่าง ๆ อย่างตัดสินใจไม่ได้
“ทำอะไรคะ”
“จัดโต๊ะทำงานของคุณกับผม”
แพรวดาวแปลกใจ
“ไม่ใช่หน้าที่ของคัตสึ เซกิ หรือคะ”
“อะไรที่เกี่ยวกับเราสองคน ผมอยากทำด้วยตัวเอง”
แพรวดาวอมยิ้ม เป็นปลื้ม
“ให้ฉันช่วยนะคะ”
“งั้นก็ช่วยดันโต๊ะอีกตัวมาติดกัน ผมอยากมองเห็นคุณเวลาเรานั่งทำงานด้วยกัน”
แพรวดาวอมยิ้ม ขณะช่วยดันโต๊ะอีกตัวหันไปชนกับโต๊ะที่ทาเคชิกำลังดันไว้มุมหนึ่ง ทั้งสองต่างคนต่างหันหัวโต๊ะสองตัวมาชนกัน จู่ ๆ ทาเคชิก็ร้องลั่น สะบัดมือราวกับเจ็บปวด
“โอ๊ย”
แพรวดาวตกใจ คิดว่าเป็นคนทำโต๊ะหนีบมือเขารีบปรี่เข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง
“ขอโทษค่ะ เจ็บมากมั้ย ให้คนไปตามหมอมั้ยคะ”
“เจ็บ...แต่อยากได้หมอคนนี้ช่วยตรวจหัวใจ อยากรู้ว่าทำไมเวลาผมอยู่ใกล้หัวใจผมแทบหยุดเต้น”
ทาเคชิดึงแพรวดาวเข้ามากอด ยิ้มเจ้าเล่ห์ แพรวดาวมองค้อน ทุบเขาเบา ๆ
“คุณหลอกฉัน”
“ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ผมจะรู้เหรอว่าคุณเป็นห่วงผมแค่ไหน”
“ฉันไม่ได้ห่วงคุณสักหน่อย”
“คุณปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกคิมิที่รัก เพราะหัวใจของคุณอยู่กับผม”
ทาเคชิยิ้มหวาน สบตาแพรวดาว หยิบสร้อยจี้หยกประจำตระกูลขึ้นมาตรงหน้าของเธอ
“สร้อยเส้นนี้กลับมาอยู่กับคุณอีกครั้ง เหมือนกับหัวใจของผม...ที่จะอยู่กับคุณ
ตลอดไป เซโกะ”

ทาเคชิใส่สร้อยจี้หยกให้กับแพรวดาวอีกครั้งพร้อมๆ กับสวมกอดเธอไว้ ทั้งสองสบตากันอย่างมีความหมายรักลึกซึ้ง แพรวดาวอายหลบสายตา

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 6 (ต่อ)

ม้านั่งในสวนบ้านโอะนิซึกะ...ริวนั่งเล่นหมากรุกญี่ปุ่นกับคัตสึ สีหน้าเคร่งเครียดใช้ความคิดทั้งคู่ โดยมีเซกิเฝ้ามอง ลุ้น ๆ คัตสึตัดสินใจเลื่อนหมากบนกระดานตัวหนึ่งให้เดินหน้า ริวยิ้มกริ่ม ก่อนเลื่อนหมากอีกตัวมากินหมากของคัตสึ
“เรือกินขุน”
“เย้...คุณริวชนะ” เซกิดีใจ
“โธ่ คิดว่าจะเสมอบ้าง” คัตสึเซ็ง
“แกไม่เคยเล่นหมากรุกญี่ปุ่นชนะคุณริวสักครั้ง ยังไม่ชินอีกเหรอ” เซกิเย้ยหยัน
“เอาน่า เดี๋ยวให้แก้มืออีกรอบ”
ริวตบไหล่คัตสึเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี เซกิขำท่าทางสุดเซ็งของคัตสึ ทาโร่เข้ามา ก้มศีรษะเคารพริว
“โซเรียวกับโอคุซังจะออกไปธุระข้างนอกรึเปล่าครับ ผมจะได้ให้คนของเราเตรียมรถ”
“ดูแลความเรียบร้อยรอบ ๆ บ้านก็พอ วันนี้เป็นวันหยุดพิเศษของโซเรียว”
ทาโร่งง ไม่เข้าใจ
“โซเรียวกับโอคุซังกำลังสร้างโลกส่วนตัวอยู่บนวิมาน จนลืมวันลืมคืนลืมงานไปแล้ว” ริวประชด
“คุณริวเห็นอะไร ก็เล่าให้พวกเราฟังบ้างสิครับ” เซกิรีบบอก
“เรื่องส่วนตัวของโซเรียวเอามาพูดเล่นไม่ได้” ริวจริงจัง ก่อนทำเสียงทะเล้น “แต่เล่าสู่กันฟังได้”
ริว คัตสึ เซกิ สุมหัวกันคุยเรื่องทาเคชิ หัวเราะกันคิกคัก คัตสึยิ้มกว้าง
“หวานกันขนาดนี้ อีกไม่นานโอะนิซึกะก็มีทายาทรุ่นต่อไป”
“พูดดีมีรางวัล” ริวยิ้ม
ทั้งสามหัวเราะกันสนุกสนาน ทาโร่นิ่งเงียบ ทอดสายตามองขึ้นไปบนห้องทาเคชิ อย่างเจ็บช้ำ

ทาเคชิกับแพรวดาวนั่งอ่านหนังสือโดยหันหน้ามาชนกัน ตรงโต๊ะสองตัวที่เลื่อนมาติดกัน แพรวดาวชำเลืองมองทาเคชิที่กำลังเพ่งอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ
“ขอบคุณที่ช่วยฉันทำรายงานสรุปสภาวะเศรษฐกิจ ของเอเชียแปซิฟิกนะคะ”
“ผมอยากวิเคราะห์ทิศทางในอนาคตไปพร้อมกับคุณ”
แพรวดาวเขิน
“ความจริงคุณไม่ต้องจัดโต๊ะแบบนี้ก็ได้ ฉันไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของคุณ”
“หรือคุณอยากได้แบบหันหลังชนกัน”
แพรวดาวทำหน้าอึ้ง ๆ จนทาเคชิอดขำไม่ได้
“ผมอยากทำงานโดยมีคุณอยู่ใกล้ ๆ เงยหน้ามาเจอคุณก็หายเครียด”
“กลัวคุณจะเครียดกว่าเดิมสิคะ”
ทาเคชิลุกตรงมานั่งตรงหน้าแพรวดาว ยืนยันคำพูดตัวเอง
“คุณเป็นความสุขของผมทุกวัน จำไม่ได้เหรอ”
แพรวดาวหลบสายตาทาเคชิ ยิ้มเขิน ๆ สักพักก็รีบเอามือป้องปากหาว
“ได้เวลาพักผ่อนแล้วคิมิที่รักของผม”
“ค่ะอะนะตะ ที่รักของฉัน”
“คุณเรียกผมว่าอะนะตะ” ทาเคชิตื่นเต้น
“ก็คุณสั่งให้ฉันเรียกอย่างนี้”
ทาเคชิหน้าสลดลง
“อ้าว...คุณแค่ทำตามคำสั่งผมเหรอ”
แพรวดาวไม่ตอบแต่หันหลังให้เขาทำทีเป็นจัดที่นอนของทั้งคู่ให้เข้าที่ ทาเคชิมองเธอด้วยสีหน้าผิดหวัง แพรวดาวแอบยิ้ม รำพึงคนเดียวเบา ๆ
“ฉันทำตามคำสั่งคุณ และทำตามเสียงหัวใจฉันค่ะ อะนะตะที่รัก”

แพรวดาวยิ้ม ดีใจลึก ๆ ที่ทาเคชิสั่ง เพื่อเป็นข้ออ้างให้เธอเรียกเขาอย่างสนิทสนม

ค่ำนั้น ทาโร่รดน้ำต้นดาวเรืองที่ออกดอกสวยงามอยู่ในกระถางหน้าบ้านอย่างมีความสุข โคจิเดินออกมา หยุดมองทาโร่ด้วยความแปลกใจ
“จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาปลูกดอกไม้ เกิดอะไรขึ้น”
“ดอกดาวเรืองครับ ความหมายของมันคือ มีชัยชนะอย่างสง่างาม”
“ดอกดาวเรือง” โคจิแปลกใจ
“ดอกดาวเรืองชอบแสงแดดมาก จึงถูกเรียกว่า เจ้าสาวของพระอาทิตย์ ภาษาดอกไม้คือ พระอาทิตย์ที่ส่องสว่าง”
ทาโร่ยื่นมือไปแตะดอกดาวเรืองที่กำลังจะบาน เล่าไปยิ้มไป
“ดาวเรืองเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป ต้องอาศัยพระอาทิตย์ในการเติบโต ถ้าลมฟ้าอากาศเปลี่ยน ดาวเรืองก็จะเฉาตาย เหมือนชีวิตที่มีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากัน”
โคจินิ่งฟังทาโร่ ราวกับรู้ทันความคิดของลูกชาย
“ไม่ว่าความหมายของดอกดาวเรืองคืออะไร สุดท้าย...มันก็เป็นแค่ดอกไม้แกมีหน้าที่เป็นแค่คนดูแลมัน แต่ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ”
ทาโร่ชะงักเล็กน้อย ค่อย ๆ ปล่อยมือจากดอกดาวเรือง แต่ยังคงยืนนิ่งมองดอกดาวเรืองด้วยสีหน้าเรียบ คาดเดาความรู้สึกยาก โคจิลอบถอนใจ เป็นห่วงลูกชาย

เช้าวันใหม่...ทาเคชิถือห่อข้าวกล่องเดินตามมาส่งแพรวดาว โดยมีทาโร่ยืนรออยู่ที่รถ
“ป้าอายะโกะทำข้าวกล่องให้คุณกับมิโยะโกะ”
“ฝากขอบคุณป้าอายะโกะด้วยนะคะ”
แพรวดาวก้มศีรษะขอบคุณทาเคชิ ก่อนรับห่อข้าวจากเขา ทาเคชิใช้มืออีกข้าง กุมมือแพรวดาวที่มารับห่อข้าวกล่อง ยังไม่ยอมปล่อย
“ดูแลตัวเองด้วยนะ อยากได้อะไรก็บอกทาโร่”
“ฉันไปเรียนนะคะไม่ได้ไปรบ”
“ก็ผมเป็นห่วง”
ทาเคชิทำสายตาอ้อน แพรวดาวยิ้มเขิน ทาโร่ก้มหน้านิ่ง พยายามข่มความรู้สึกอึดอัดใจ ริวยิ้มทะเล้น เดินเข้ามาแซวทาเคชิ
“อยู่ห่าง ๆ ให้มีเวลาห่วงกันบ้างก็ได้”
ริวทำเนียนแกะมือทาเคชิออกจากมือแพรวดาว แล้วกุมไว้แทน
“ขอให้มีสมาธิกับการเรียนนะครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณริว” แพรวดาวยิ้ม
“ปล่อยมือคิมิของฉันได้แล้ว” ทาเคชิหงุดหงิด
“อุ๊ย เพิ่งได้ยินโซเรียวเรียกโอคุซังว่าคิมิเป็นคนแรก บุญหูไอ้ริวจริง ๆ”
ทาเคชิบอกกับแพรวดาว
“รีบไปเถอะ ไม่อยากให้คุณเห็นผมอัดคนแถวนี้”
“งั้นโอคุซังลาป่วยอยู่บ้านดีกว่า ผมยังไม่อยากตาย พรีส”
“เฮ้ย...ปล่อย ๆ”
ทาเคชิรีบแกะมือริวออกจากแพรวดาว แล้วโอบเอวไปนั่งเบาะด้านหลังรถ โดยมีทาโร่คอยเปิดประตูให้ ทาเคชิกำชับทาโร่
“ดูแลโอคุซังให้ดี”
ทาโร่ก้มศีรษะเคารพทาเคชิ ก่อนอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกไป ทาเคชิยิ้มหวานให้แพรวดาวที่มองผ่านกระจกออกมา
“มดกัดเต็มไปหมด ไม่รู้ใครเอารถบรรทุกน้ำตาลมาเททิ้งแถวนี้” ริวแดกดัน
ทาเคชิปรายตามองริว สายตาอำมหิต ริวยิ้มยียวนกวนประสาท แล้วรีบเดินหนี ทำไม่รู้ไม่ชี้

ริกิแปลกใจมาก เมื่อรู้เรื่องจากซาโตชิ
“ไอโกะน่ะหรือรีบไปเรียนแต่เช้า”
“ถ้าไม่ใช่ผีเข้า ก็คงป่วยจนเพี้ยน”
ริกินึกเป็นห่วง
“ไอโกะหายดีแล้วเหรอ”
“คงดีขึ้นมั้งครับ ถึงได้กระตือรือร้นอยากไปมหาวิทยาลัย แต่ก็แปลก...ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นไอโกะอยากไปเรียนสักครั้ง”

ริกินึกแปลกใจเช่นกัน

หน้าห้องเรียน ในมหาวิทยาลัย...นักศึกษาทยอยเดินออกจากห้องเรียน หลังจากหมดเวลาเรียนแล้ว แพรวดาวกับมิโยะโกะเดินปะปนออกมาพร้อมกับนักศึกษาในกลุ่มนี้ แพรวดาวไม่สบายใจ
“นึกว่าบรรยายสรุปวันนี้จะเข้าใจง่ายกว่าคราวก่อน”
“ฉันพอรู้เรื่อง เดี๋ยวช่วยติวให้” มิโยะโกะบอก
“มิโยะโกะน่ารักกับฉันอีกแล้ว”
“แต่คงติวไม่เก่ง และไม่น่ารักเท่าคนที่บ้านโอะนิซึกะนะ”
แพรวดาวค้อนตามองมิโยะโกะ หยิกเพื่อนเบา ๆ แก้เขิน มิโยะโกะหัวเราะขำที่เห็นแพรวดาวอาย ไอโกะ ยูมิโกะ อาซึมิ และเพื่อนสาวอีกหนึ่งคน แอบมองแพรวดาวอยู่มุมหนึ่งทางด้านหลัง ไอโกะพยักหน้าเริ่มแผน เพื่อนสาวพยักหน้ารับรู้แล้วเดินแยกไปทางหนึ่ง ไอโกะ อาซึมิ ยูมิโกะเดินตามแพรวดาวกับมิโยะโกะไปเงียบ ๆ

ทาโร่เดินเข้ามาในตึกเรียนมองหาแพรวดาว ท่ามกลางกลุ่มนักศึกษาที่ทยอยกันกลับหลังจากเรียนเสร็จแล้ว เพื่อนสาวไอโกะเดินออกมาพร้อมพวกนักศึกษา ตรงมาทางทาโร่ จู่ ๆ ก็แกล้งสะดุดเท้าตัวเองล้มลง
“โอ๊ย”
ทาโร่รีบเข้าไปถามเพื่อนสาวไอโกะอย่างสุภาพบุรุษ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“ข้อเท้าฉัน...โอ๊ย”
เพื่อนสาวไอโกะทำทีเอามือกุมข้อเท้า แสร้งร้องด้วยความเจ็บปวด
“สงสัยข้อเท้าคุณพลิก”
ทาโร่มองข้อเท้า สลับกับคอยมองหาแพรวดาว กลัวว่าจะคลาดกัน
“พาฉันไปห้องพยาบาลหน่อยได้มั้ยคะ ฉันเจ็บ...”
ทาโร่ลังเล

แพรวดาวกับมิโยะโกะเดินยิ้มเข้ามาในห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี ไอโกะ ยูมิโกะ อาซึมิเดินตามหลังเข้ามาด้วยท่าทางคุกคาม เอาเรื่อง แพรวดาวกับมิโยะโกะเห็นนักศึกษาหญิงสองสามคนในห้องน้ำมีท่าทางตื่น ๆ รีบพากันออกไปจากห้องน้ำ จึงหันขวับไปด้านหลัง ใจหายวาบ
“นังสารเลว”
ไอโกะปรี่นำเพื่อนทั้งสองตรงเข้ามาหาแพรวดาว เงื้อมือขึ้นตบหน้า แพรวดาวถอยตัวหลบไปได้หวุดหวิด มิโยะโกะโวย
“จะทำอะไร”
“แกไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง”
ไอโกะผลักมิโยะโกะกระเด็นไปกระแทกประตูห้องน้ำ กองกับพื้น
“โอ๊ย” แพรวดาวตกใจ “มิโยะโกะ”
ยูมิโกะกับอาซึมิปรี่เข้าไปล็อคตัวแพรวดาวไว้ แพรวดาวตกใจพยายามดิ้นรนขัดขืนให้หลุดจากการจับกุม
“ปล่อยฉันนะ”
ไอโกะปราดเข้าไปฟาดฝ่ามือลงบนแก้มแพรวดาวเต็มแรง เพี๊ยะ
“ว้าย...”
“แกแย่งทาเคชิของฉัน”
ไอโกะเงื้อมือตบแพรวดาวอีกหลายครั้ง ไม่ยั้ง ด้วยความโกรธแค้น
“โอ๊ย”
แพรวดาวพยายามดิ้นหนีสุดแรง และเริ่มใช้เท้าถีบยูมิโกะกับอาซึมิออกจากตัว
“คิดจะสู้เหรอ”
“จับตัวมันไว้”
จังหวะที่ไอโกะโผเข้าหาแพรวดาวอีกครั้ง เท้าของแพรวดาวจึงถีบยันเข้าที่ท้องไอโกะจนเซถอยออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“โอ๊ย...แก...นังโสเภณี แกกล้าทำร้ายฉัน”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“จัดการมันเลยไอโกะ” อาซึมิยุ
ไอโกะโกรธมาก ล้วงมีดโกนพับสีเงินออกมาจากกระเป๋า มิโยะโกะเห็นมีดโกนในมือไอโกะ ตกใจมาก
“แย่แล้ว”

ทาโร่ตัดสินใจช่วยพยุงตัวเพื่อนสาวไอโกะลุกขึ้น
“ห้องพยาบาลไปทางไหนครับ”
“ทางนี้เลยค่ะ”
เพื่อนสาวไอโกะแอบยิ้ม เข้าแผน ขณะทาโร่กำลังช่วยประคองตัวเธอเดิน มิโยะโกะวิ่งออกมาตามหาทาโร่ ร้องลั่น
“คุณทาโร่ ช่วยด้วยค่ะ”
ทาโร่หันไปเห็นมิโยะโกะวิ่งหน้าตาตื่นตระหนกเข้ามา เพื่อนสาวไอโกะกับมิโยะโกะหันมาเจอหน้ากันพอดี มิโยะโกะจำได้ เพื่อนสาวไอโกะกลัวความผิด รีบผลักทาโร่ แล้ววิ่งหนีไปทันที ทาโร่งง
“อ้าว คุณ”
มิโยะโกะวิ่งมาหยุดกระหืดกระหอบต่อหน้าทาโร่

“เกิดอะไรขึ้น”

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 6 (ต่อ)

แพรวดาวถูกยูมิโกะกับอาซึมิล็อคตัวไว้แน่น ไอโกะปรี่เข้ามาจิกผมแพรวดาวแล้วตบซ้ำหลายครั้งด้วยความแค้น
“โทษฐานที่แกทำร้ายฉัน”
“โอ๊ย...”
แพรวดาวโดนตบจนหน้าหัน มีเลือดไหลซึมออกข้างปาก ไอโกะเลื่อนคมมีดโกนวาววับออกจากพับ
“ความสวยของแกทำให้ทาเคชิหลงใช่ไหม”
แพรวดาวตกใจเมื่อเห็นมีดในมือของไอโกะ หวาดกลัวสุดขีด ไอโกะกระชากจิกผมแพรวดาวจนหน้าหงาย เพื่อให้พร้อมรับคมมีดที่จะกรีดลงมา แพรวดาวอ้อนวอน น้ำตาริน
“อย่า...”
“ฉันอยากจะรู้นักว่าถ้าแกเสียโฉม ทาเคชิจะยังรักแกอีกรึเปล่า”
“ได้โปรด...อย่าทำอะไรฉันเลย”
แพรวดาวส่ายหน้าช้า ๆ น้ำตาไหล สะอื้นไห้ด้วยความหวาดกลัว ไอโกะยิ้มเหี้ยม เงื้อมีดโกนในมือยกสูง แพรวดาวตื่นตระหนก หวาดกลัวสุดขีด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
ทาโร่พุ่งเข้ามา ร่างไอโกะถูกไหล่หนากระแทกจนเซไปชนประตูห้องน้ำอย่างแรง
“ว้าย”
ทาโร่กระชากตัวยูมิโกะกับอาซึมิที่ล็อคตัวแพรวดาวไว้ เหวี่ยงกระเด็นไปคนละทาง
“ว๊าย”
ไอโกะยังไม่ยอมแพ้ เงื้อมีดโกนพุ่งเข้าหาแพรวดาวอีกครั้ง
“แกตาย”
ทาโร่ไวกว่า คว้าข้อมือไอโกะไว้ และบิดสุดแรงจนมีดโกนหลุดตกลงพื้น
“อ๊าย...ปล่อยฉันนะ”
ทาโร่ผลักตัวไอโกะเสียหลักไปทางหนึ่ง แล้วรีบเข้าไปประคองตัวแพรวดาวที่ตัวสั่น ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ไอโกะชี้หน้าทาโร่ด้วยความโกรธ
“ไอ้ทาโร่ ฉันจะให้คุณพ่อเล่นงานแก”
“ผมเป็นคนของโอะนิซึกะ ถ้าคุณหนูไอโกะไม่พอใจ ก็ตามไปเอาเรื่องที่โน่น” ท่าโร่บอกกับแพรวดาว “รีบไปครับโอคุซัง”
ทาโร่โอบแขนรอบไหล่แพรวดาว รีบพาออกไปจากห้องน้ำทันที
“นังเซโกะ...ฉันจะฆ่าแกให้ได้ อ๊าย”
ไอโกะอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง จนยูมิโกะกับอาซึมิยืนเบียดกัน ไม่กล้าเข้าไปห้าม

มิโยะโกะปรี่เข้ามาหาแพรวดาวด้วยความเป็นห่วง เมื่อทาโร่พามาถึงที่จอดรถ
“เซโกะ เธอเป็นอะไรรึเปล่า”
ทาโร่จำต้องคลายอ้อมแขนที่กอดรัดตัวแพรวดาวออก ทั้งที่อยากเป็นคนกอดปลอบเธอมากที่สุด แพรวดาวโผเข้าไปซบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นกับมิโยะโกะ
“มิโยะโกะ”
ทาโร่มองแพรวดาวที่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดมิโยะโกะด้วยความสงสาร มิโยะโกะลูบหลังปลอบเพื่อน นึกแค้นแทนเพื่อน
“ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเพื่อนรักฉันอย่างนี้”
มิโยะโกะหันไปบอกทาโร่ น้ำเสียงจริงจัง
“ฉันจะเอาเรื่องไอโกะให้ถึงที่สุด”

แพรวดาวมองมิโยะโกะ หวั่นใจว่าจะทำอะไร

ทาเคชิผลักประตูห้องทำงานฮิโระ อาเบะในสำนักงานตำรวจเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน โดยมีริวกับโคจิตามมาติด ๆ
“เซโกะ”
แพรวดาวนั่งรออยู่กับทาโร่ มิโยะโกะ หันไปเห็น
“ทาเคชิ”
ทาเคชิรีบก้าวเข้าไปหาแพรวดาว และดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้ทันทีสีหน้าหวาดกลัวของแพรวดาว เริ่มรู้สึกปลอดภัย เมื่ออยู่ในอ้อมกอดเขา
“ผมอยู่กับคุณแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ”
แพรวดาวพยักหน้าน้ำตารินไหล ทาเคชิปาดน้ำตาให้เห็นใบหน้าบวมช้ำของเธอ ยิ่งรู้สึกโกรธ
“ตำรวจแจ้งทางมิซาว่าแล้ว ท่านริกิกับคุณไอโกะกำลังเดินทางมา”
ทาโร่แจ้งโคจิ แวบหนึ่งทางสายตาเห็นทาเคชิกอดแพรวดาว จึงรีบหลุบสายตาข่มความรู้สึกเจ็บปวดใจ ทาเคชิไม่พอใจ
“ทำไมปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“เป็นความผิดพลาดของผมเองครับ”
ทาโร่ก้มศีรษะยอมรับผิด ทาเคชิจะเล่นงานต่อ แต่มิโยะโกะเห็นท่าไม่ดี รีบออกรับแทน
“ไอโกะให้คนล่อคุณทาโร่ออกไป แล้วตามเข้าไปทำร้ายเซโกะในห้องน้ำ เธอตั้งใจจะกรีดหน้าเซโกะ”
“อะไรนะ” ทาเคชิชะงัก
“ไม่นึกว่าไอโกะจะโหดร้ายขนาดนี้” ริวอึ้งๆ
ทาเคชิรีบเชยคางแพรวดาวมองหาร่องรอยบาดแผลบนใบหน้าด้วยความเป็นห่วง
“เธอยังไม่ทันลงมือค่ะ คุณทาโร่เข้ามาช่วยไว้ก่อน”
แพรวดาวน้ำตาร่วง ตอบเสียงสั่นเครือ ยังรู้สึกหวาดกลัวเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาเคชิกัดฟันกรอด ยิ่งรู้สึกเกลียดชังไอโกะมากขึ้น
“ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณพ่อฟังแล้ว เราจะแจ้งความจับไอโกะในข้อหาทำร้ายร่างกาย” มิโยะโกะน้ำเสียเอาจริง
“ใครทำร้ายเซโกะ ผมไม่ปล่อยเอาไว้แน่” ทาเคชิน้ำเสียงโกรธจัด
ริวกับโคจิหันมาสบตากันเครียด ๆ เมื่อเห็นแววตาทาเคชิ ริววางมือบนไหล่ทาเคชิ ส่งสายตาทำนองให้เลี่ยงออกไปคุยกันตามลำพัง

โคจิพูดกับทาเคชิทันทีที่ทั้งสามเลี่ยงออกมาคุยกันนอกห้อง
“ถ้าเราเอาเรื่องคุณหนูไอโกะ มิซาว่าโซเรียวต้องไม่พอใจ”
“อาโคจิจะให้ผมไม่เอาเรื่องไอโกะงั้นเหรอ”
น้ำเสียงทาเคชิเดือดดาล และแข็งกระด้าง
“เราควรจะตกลงกับมิซาว่าต่อหน้าท่านโอะซะมุ ลุงริกิจะได้เกรงใจ ช่วยกันไอโกะให้เลิกยุ่งกับโอคุซัง” ริวแนะ
“ปล่อยให้มิซาว่าโซเรียวทำโทษลูกสาวของเขาเองดีกว่า” โคจิเสริม
“ทำร้ายโอคุซังของผม ก็เหมือนกรีดหัวใจผม ถ้าทาโร่ไปช่วยไม่ทัน เซโกะคงยับเยินไปแล้ว”
ริวถอนใจ
“ฉันรู้ว่าไอโกะหึงหวงเกินเหตุ แต่แกควรคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างโอะนิซึกะกับมิซาว่ามากกว่าเรื่องส่วนตัว”
“เราประกาศสงครามกับซะโต้ของเคนอิจิไปแล้ว ถ้ามีปัญหากับมิซาว่าอีกคงเป็นเรื่องใหญ่ ช่วงนี้ตำรวจกำลังจับตามองเราทุกฝีก้าว” โคจิบอกอย่างหนักใจ

ทาเคชิหันไปมองโคจิ ขบกรามแน่น ยากที่จะยอมให้อภัยไอโกะ

ฮิโระ อาเบะ เดินออกมาจากห้องทำงานโอะซะมุ เป็นจังหวะเดียวกับที่ทาเคชิ ริว โคจิ เดินกลับเข้ามาพอดี มิโยะโกะลุกขึ้น รีบก้าวเข้าไปหาฮิโระ อาเบะ
“พ่อคะ...ท่านโอะซะมุว่ายังไงบ้างคะ ท่านจะช่วยเซโกะมั้ย”
“ใจเย็นๆ เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย”
ฮิโระ อาเบะพูดพลางหันไปบอกทาเคชิ
“มิซาว่าโซเรียวกำลังเดินทางมา แต่ท่านโอะซะมุอยากคุยกับคุณทาเคชิและคุณริวเป็นการส่วนตัวก่อน”
ทาเคชิกับริวชำเลืองมองกัน ก่อนเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวโอะซะมุ

ทาเคชิกับริวเดินเข้ามาให้ห้อง ปิดประตู โอะซะมุยืนหันหลังมองแผนที่เมือง ทางผนังห้องด้านหนึ่ง โอะซะมุหันกลับมา ทาเคชิกับริว ก้มศีรษะแสดงความเคารพ
“ท่านโอะซะมุต้องการพบเรา”
“ผมอยากให้คนรุ่นใหม่อย่างคุณสองคน ช่วยหาทางแก้ไขปัญหาระหว่างสามตระกูลใหญ่ของเมือง โอะนิซึกะ มิซาว่า และ ซะโต้ ผมไม่ต้องการให้เมืองของเราเป็นเมืองเถื่อนเพราะอิทธิพลเถื่อนแบบเก่าๆ”
ริวแทรกขึ้น
“ซามุไรมีเกียรติมากกว่าอันธพาลชั้นต่ำ”
“การยกพวกตีกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกอันธพาล”
ทาเคชิมองโอะซามุ
“ทำไมท่านโอะซะมุอยากให้เราเป็นฝ่ายยุติปัญหา”
“คุณพ่อของคุณ...ท่านอิจิโร่ เคยคุยกับผมเรื่องแผนพัฒนาบ้านเมืองให้เป็นระเบียบ ไม่แบ่งก๊กแบ่งเหล่า ก่ออาชญากรรมกลางเมือง”
“ด้วยการให้ผมแต่งงานกับไอโกะ เพื่อยุติคลื่นใต้น้ำระหว่างโอะนิซึกะกับมิซาว่า”
ทาเคชิพูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ
“ถูกต้อง...ถ้าโอะนิซึกะกับมิซาว่าเป็นทองแผ่นเดียวกัน บ้านเมืองก็จะสงบ แต่ถ้าวันนี้โซเรียวเอาเรื่องไอโกะ ปัญหาจะแย่กว่าเดิม”
“ท่านต้องการให้ผมไม่เอาเรื่อง ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายโอคุซังคนรักของผม”
“คิดซะว่าผมขอได้มั้ย”
“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอครับ”
“เรื่องโอคุซังของคุณ...ผมจะสั่งมิซาว่าโซเรียวกันลูกสาวให้เลิกเข้ามาวุ่นวาย จนกว่าเซโกะจะเรียนจบและกลับประเทศไทย”
ทาเคชิมีสีหน้าเครียดและทำใจลำบาก ริวครุ่นคิดเช่นกัน หาทางแก้ปัญหา
“แต่ว่า...”
ทาเคชิจะแย้ง ริวแทรกขึ้นทันที
“โอะนิซึกะจะไม่เอาเรื่องไอโกะก็ได้ แต่ตำรวจต้องลงบันทึกประจำวัน...ห้ามไอโกะทำร้ายโอคุซังของโอนิซึกะอีก ไม่อย่างนั้นจะโดนดำเนินคดี”
ทาเคชิชะงักหันมามองริวด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ ริวเอามือแตะไหล่ทาเคชิไว้เพื่อให้สงบสติอารมณ์ พลางหันไปพูดกับโอะซะมุต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง เราจะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้าไอโกะยังวุ่นวายกับคนของเรา โอะนิซึกะจะเล่นงานไอโกะตามกฎหมาย”
โอะซะมุหันมาหาทาเคชิ
“ทาเคชิ...คุณจะฟ้องคนที่จะมาเป็นโอะคะมิซัง ภรรยาของคุณได้ลงคอเหรอ”
ทาเคชิเสียงกร้าว
“ผมจะทำทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของเซโกะ ถ้าตำรวจทำอะไรไม่ได้ โอะนิซึกะจะประกาศสงครามกับมิซาว่า”
โอะซะมุหนักใจ รู้ว่าทาเคชิรักแพรวดาวมากจนอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคตได้
“ถ้าหมดธุระแล้ว ผมขอตัว”
ทาเคชิกับริวกำลังจะหมุนตัวเดินไปที่ประตู แต่โอะซะมุรั้งไว้จนต้องเหลียวหลังกลับมาอีก
“เดี๋ยวก่อน”
โอะซะมุจ้องทาเคชิกับริวด้วยแววตาคาดหวัง

“ผมรู้ว่าโอะนิซึกะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย...ในทางตรงกันข้ามยังช่วยเหลือคนในเมืองไม่ให้ถูกข่มเหงรังแก แต่มิซาว่ากับซะโต้ไม่ใช่...ถึงเวลาแล้วที่จะยุติระบบแบบเก่าให้สิ้นซาก”
“ท่านต้องการอะไรกันแน่” ริวหรี่ตาไม่เข้าใจ
“เมืองนี้จะไม่มีวันสงบ ถ้ายังแบ่งกลุ่มอิทธิพล”
“ท่านอยากให้เราช่วยปราบปรามมิซาว่ากับซะโต้” ทาเคชิเข้าใจ
“คุณรู้คำตอบดี...ถ้าพวกคุณต้องการความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจ เรายินดีช่วยเต็มที่”

ทาเคชิสบตาริว คิดหนัก

ทาเคชิเดินออกมาจากห้องทำงานโอะซะมุอย่างครุ่นคิด ก่อนเดินไปหาแพรวดาวที่ยืนอยู่กับมิโยะโกะและฮิโระ อาเบะ
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือโอคุซังของผม”
ทาเคชิก้มศีรษะขอบคุณ มิโยะโกะตกใจ รีบก้มศีรษะตอบทาเคชิ
“เซโกะเป็นเพื่อนรักฉัน ฉันยินดีช่วยเพื่อนค่ะ”
“กลับบ้านเราเถอะคิมิ”
มิโยะโกะได้ยินทาเคชิเรียกแพรวดาว ถึงกับอดค้อนเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ แพรวดาวยิ้มให้มิโยะโกะนิด ๆ ก่อนก้มศีรษะลาฮิโระ อาเบะ ทาเคชิประคองกอดแพรวดาวอย่างทะนุถนอม กำลังจะเดินออกไปด้วยกัน ริกิ ไอโกะ ซาโตชิ จูโร่ เดินทางมาถึงพอดี ไอโกะเห็นทาเคชิประคองกอดแพรวดาว ลมหึงขึ้นหน้า จะปราดเข้าไปเล่นงานแพรวดาวอีก แต่ถูกริกิดุเสียงดัง
“ไอโกะ”
ไอโกะชะงักเมื่อเห็นสายตาดุของพ่อจึงได้แต่ฮึดฮัดไม่พอใจอยู่ข้าง ๆ ซาโตชิ ทาเคชิกับริกิประจันหน้ากัน สายตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความบาดหมาง ไม่พอใจกันและกัน
“โอะนิซึกะโซเรียวจะแจ้งความจับว่าที่โอะคะมิซังของตัวเอง”
“กฎเกณฑ์ของสังคมคือการเคารพกฎหมาย ต่อให้ผมทำผิด ผมก็ต้องถูกลงโทษเช่นเดียวกับทุกคน”
ซาโตชิไม่พอใจ
“ทำร้ายจิตใจน้องฉัน ยังมีหน้ามาสั่งสอนพวกฉันอีกเหรอ”
ซาโตชิพุ่งเข้าไปผลักอกทาเคชิ แต่ทาโร่กับริวไวกว่า ปรี่เข้าไปขวาง ริวผลักตัวซาโตชิออกไป
“อยากเพิ่มข้อหาทะเลาะวิวาทบนโรงพัก ทำให้เรื่องมันบานปลายมากไปกว่านี้ใช่มั้ย”
“ซาโตชิ...อย่าเสียมารยาท” ริกิดุ
ฮิโระ อาเบะรีบเข้าไปบอกริกิ ก่อนที่บรรยากาศจะตึงเครียดมากขึ้น
“ท่านโอะซะมุรออยู่ข้างในครับ”
ริกิพยักหน้านิ่ง ๆ รับรู้ หันไปสบตาดุกร้าวมองทาเคชิ ก่อนเดินผ่านไปอย่างไม่แยแส ไอโกะปราดตามองแพรวดาวด้วยความแค้น แพรวดาวหลบสายตาไอโกะด้วยความกลัว ทาเคชิกอดแพรวดาวแน่น พร้อมจะปกป้องคนรักเต็มที่ ซาโตชิกระแทกเท้าเดินตามริกิไป พร้อมจูโร่ โคจิลอบถอนใจ แต่สีหน้ายังคงเคร่งเครียดไม่สบายใจ

ภายในรถประจำตัวแพรวดาว...ทาเคชินั่งกอดแพรวดาวอยู่เบาะด้านหลัง คอยเอามือลูบหลังเธอเบา ๆ อย่างทะนุถนอม แพรวดาวเริ่มดีขึ้น เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา ทาโร่ลอบมองแพรวดาวผ่านกระจกมองหลังแวบหนึ่ง เป็นห่วงเธอเช่นกัน จังหวะเดียวกันนั้น ทาเคชิเงยหน้าขึ้นมาเจอสายตาทาโร่ในกระจก ทาโร่รีบหลบสายตา แล้วทำทีเป็นขับรถต่อไป ทาเคชิไม่ได้คิดมากเรื่องทาโร่ สีหน้าเครียด นึกถึงเรื่องที่คุยกับโอะซะมุ

จบตอนที่ 6
กำลังโหลดความคิดเห็น