รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 5
บรรยากาศยามเย็นสวยงาม...ทาเคชิเดินมาส่งแพรวดาวที่หน้าบ้าน
“ฉันขอโทษที่วันนี้ทำให้คุณต้องลำบาก”
“ไม่ใช่ความผิดของคุณ ไอโกะต่างหากที่เป็นต้นเหตุ ที่จริงเธอต้องเป็นคนขอโทษคุณด้วยซ้ำ”
“อย่าให้เรื่องแย่กว่านี้เลยค่ะ...บอกเธอว่าฉันจะไม่พบคุณอีก ฉันจะกลับเมืองไทยทันทีที่เรียนจบ”
ทาเคชิยังมีท่าทีนิ่งเฉยไม่ตอบ แพรวดาวยิ่งไม่สบายใจเอื้อมมือไปแตะมือทาเคชิ
“ฉันผิดเองที่เข้ามาวุ่นวายกับคุณ”
ทาเคชิกุมมือแพรวดาวขึ้นมา
“ไม่เซโกะ คุณไม่ได้ทำอะไรผิด”
แพรวดาวชักมือตัวเองกลับแล้วขยับตัวออกห่างจากทาเคชิ
“คุณกับไอโกะกำลังจะหมั้นกัน ฉันยังปล่อยตัวเองให้มาอยู่ใกล้คุณ...สมควรแล้วที่ต้องเจอแบบนี้”
“ผมแค่อยากให้เวลาที่เหลืออยู่ของเรา มีค่ามากที่สุด มันก็เท่านั้น”
ทาเคชิขยับตัวเข้าหาแพรวดาวอีก แต่เธอยกมือขึ้นยันตัวทาเคชิไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้
“เราทำตามหัวใจมากพอแล้วค่ะ”
“แต่ว่า...”
แพรวดาวใช้มือแตะที่ริมฝีปากทาเคชิแล้วส่ายหน้าไม่ให้ทาเคชิพูดอะไรอีก ทาเคชิมองด้วยสายตาผูกพัน แต่เธอหลบตาเขา
“จากนี้ไป...เราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
“แต่ผมไม่เคยรู้สึกกับคุณแค่นั้น”
“เราเป็นได้แค่นั้นค่ะ”
ทาเคชิมองหน้าแพรวดาวอย่างรู้สึกเจ็บปวด แพรวดาวน้ำตาคลอเจ็บปวดไม่แพ้กัน ทาเคชิเห็นแพรวดาวร้องไห้ก็ดึงเข้ามากอดทันที
“คุณจะเป็นฝันดีของผมตลอดไปเซโกะ”
ทั้งสองคนกอดกันแน่นเพราะรู้ดีว่านี่คือกอดครั้งสุดท้ายของตน
ทาโร่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ที่รถที่จอดอยู่ใกล้ๆบ้านแพรวดาว เขาถอนใจเศร้าๆแล้วพลิกตัวพิงรถไปเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาแล้วก้มลงมองเสื้อตัวเองยิ้มเศร้าๆคิดถึงแพรวดาว
“ทาโร่”
ทาโร่หันไปทางต้นเสียง เห็นทาเคชิยืนอยู่
“อยู่ดูแลเซโกะที่นี่ อย่าให้ใครมาทำอะไรเธออีก...ดูแลเธอให้ดีเหมือนกับที่ดูแลฉัน”
“ครับโซเรียว...ผมจะดูแลเธอด้วยชีวิต”
ทาโร่โค้งศีรษะให้ทาเคชิเพื่อเป็นการสัญญาแล้วมองไปทางบ้านแพรวดาว
ค่ำนั้น ไอโกะอยู่ในห้องนอนน้ำตาคลอเบ้าด้วยด้วยความเคียดแค้น
“นังเซโกะ...”
ไอโกะกำคัทเตอร์อยู่ในมือแล้วง้างขึ้นพร้อมจะแทง
“ใครที่คิดจะมายุ่งกับทาเคชิของฉัน มันต้องเจอดี”
ไอโกะแทงคัทเตอร์ลงกลางตัวของตุ๊กตาเด็กผู้หญิงทันที ไอโกะน้ำตาไหลอาบแก้มแต่เป็นน้ำตาแห่งความเคียดแค้น เธอง้างมีดขึ้นแล้วแทงตุ๊กตาซ้ำอีกหลายครั้ง
ริกิและซาโตชิยืนมองไอโกะอยู่หน้าห้อง ซาโตชิโกรธแค้นแทนไอโกะ
“ไอ้ทาเคชิไม่ให้เกียรติไอโกะ เอาแต่ปกป้องผู้หญิงคนนั้น เหมือนมันไม่ให้เกียรติมิซาว่า”
“มิซาว่ากับโอะนิซึกะใกล้จะอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว”
ริกิเต็มไปด้วยความเครียด โหดเหี้ยม
แพรวดาวนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องแล้วนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ทาโร่นั่งมองแพรวดาวอยู่เช่นกัน ในมือถือแก้วกาแฟร้อนกระดาษ
เช้ามืด วันใหม่...ทาโร่ลงมาจากรถ มองขึ้นไปบนห้องแพรวดาว เห็นไฟในห้องเปิดขึ้น แพรวดาวเดินมาที่หน้าต่าง ทาโร่รีบหลบเพราะกลัวแพรวดาวเห็น แต่ยังแอบหันมามองยิ้มๆ
แพรวดาวเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้ว เอาขยะออกมาทิ้งหน้าบ้านแล้วชะงักไป หยิบแก้วกาแฟร้อนที่ทิ้งอยู่ในถังขยะขึ้นมามองอย่างแปลกใจ
“แก้วกาแฟมาจากไหน”
ทาโร่ พอเห็นว่าแพรวดาวหันมองไปรอบ ๆ ก็รีบหลบทันที เขามองแก้วกาแฟร้อนในมือแล้วส่ายหน้าเซ็งๆ โมโหตัวเองบ่นเบาๆ
“เดี๋ยวก็โดนจับได้กันพอดีว่ามาเฝ้า”
ทาโร่เงยหน้ากลับขึ้นไปมองที่แพรวดาวแล้วอึ้งช็อคไป
“คุณเซโกะ”
ทาโร่ทิ้งแก้วกาแฟในมือแล้ววิ่งไปหาแพรวดาวทันที ชายแก่ผอมๆ โทรมๆ ท่าทางเหมือนคนติดยา กำลังเดินไปหาแพรวดาวแล้วเอื้อมมือไปจะจับตัว
“แม่หนู...”
ทันใดนั้นทาโร่โผล่เข้ามาจับข้อมือชายแก่ไว้แล้วบิดไพล่หลังทันที
“โอ๊ย...”
แพรวดาวตกใจหันมาเห็นทาโร่ล็อคตัวชายแก่อยู่ยิ่งตกใจ ทาโร่ถามชายแก่
“จะทำอะไร”
แพรวดาวจ้องทาโร่
“คุณนั่นแหละ ปล่อยคุณลุงเดี๋ยวนี้”
ทาโร่เห็นแพรวดาวรู้จักชายแก่ก็อึ้งเหวอไป
แพรวดาวส่งกล่องข้าวให้ชายแก่ พร้อมกับทาโร่ที่โค้งตัวก้มศีรษะให้ชายแก่อย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษที่ใจร้อนครับ”
ชายแก่รับกล่องข้าวจากแพรวดาวแล้วเดินแยกไป แพรวดาวแอบขำทาโร่ที่ทำท่ารู้สึกผิดมากมาย ทาโร่เห็นแพรวดาวยิ้มก็ยิ้มตามไปด้วย
“ลุงแกมาเก็บขยะไปขายทุกวัน ฉันก็ทำข้าวเผื่อแกตลอด...แล้วคุณล่ะคะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ทาโร่ที่ยืนยิ้มอยู่ค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าเป็นลำบากใจ พูดอะไรไม่ออก
“คือผม...คือ...”
แพรวดาวนึกรู้
“ทำไมทาเคชิต้องส่งคุณมา เมื่อคืนนึกว่าคุยกันรู้เรื่องแล้ว”
“โซเรียวกลัวคุณหนูไอโกะจะมาทำร้ายคุณอีก”
“ฉันไม่อยากให้คุณต้องลำบาก”
“ไม่เลยครับ ผมเต็มใจและพร้อมที่จะดูแลคุณ”
แพรวดาวถอนหายใจเครียดๆ แต่เมื่อเห็นสายตาของทาโร่ที่มองเธออย่างเป็นห่วงก็อารมณ์คลายลง เสียงท้องร้องของทาโร่ดังขึ้น แพรวดาวหันมามองขำๆ
“หิวขนาดนี้...ยังพร้อมอยู่อีกหรือคะ”
ทาโร่ยิ้มเขินๆ แพรวดาวยิ้มให้ทาโร่ทั้งขำทั้งเห็นใจ
“เดี๋ยวจะทำข้าวต้มหมูให้ทาน รับรองว่าคุณต้องติดใจฝีมือข้าวต้มหมูแบบไทยๆ แน่นอน”
“ไม่เหมาะมั้งครับ...คุณเป็นเหมือนเจ้านายของผม”
“ฉันไม่รู้ว่าพวกของคุณแบ่งสถานะกันยังไง แต่สำหรับฉัน คุณไม่ใช่ลูกน้อง ฉันไม่ใช่เจ้านาย...คิดซะว่าเป็นเพื่อนกันนะคะ”
ทาโร่ยิ้มแล้วมองแพรวดาวอย่างชื่นชม
“เป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกัน จริงมั้ยครับ เดี๋ยวผมไปช่วยคุณทำข้าวต้มหมูเอง”
แพรวดาวสอนทาโร่ทำข้าวต้มหมูอย่างสนุกสนาน ทาโร่มองแพรวดาวแล้วยิ้มมีความสุข ทั้งสองนั่งทานข้าวต้มด้วยกันอย่างมีความสุข
สวนในบ้านโอะนิซึกะ...ทาเคชิและโคจิยืนประจันหน้ากับ ริกิและไอโกะอยู่ในสวน สถานการณ์และบรรยากาศเครียดมาก
“เมื่อวานไม่เหมาะจะพูด วันนี้พร้อมจะอธิบายรึยัง”
“พ่อจะให้อธิบายอีกทำไม หนูบอกไปหมดแล้ว ทาเคชิเห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าหนู” ไอโกะไม่พอใจ
ริกิบอกกับจูโร่
“พาไอโกะไปรอที่ห้องรับแขก”
จูโร่เข้ามาใกล้แต่ไอโกะผลักออกไปทันที
“ไม่ต้อง...หนูจะอยู่ฟังทาเคชิอธิบาย”
“ให้โซเรียวทั้งสองคุยกันตามลำพังดีกว่าครับ”
โคจิผายมือเชิญไอโกะไปทางห้องห้องรับแขก แต่ไอโกะกลับหันมาชี้หน้าโคจิอย่างไม่พอใจ
“แกไม่มีสิทธิมาสั่งฉัน”
“ไอโกะ” ริกิสั่งจูโร่เหี้ยมๆ “พาไอโกะออกไป”
จูโร่เข้ามาล็อคตัวไอโกะแล้วพาออกไปจากสวนทันที ไอโกะพยายามจะดิ้นหนีแต่สู้แรงไม่ได้
“ปล่อยฉันนะจูโร่ ปล่อยฉัน”
จูโร่พาไอโกะออกไป โคจิเดินตามจูโร่ไปด้วย ริกิหันกลับมาจ้องหน้าทาเคชิเพื่อรอคำอธิบาย
“ผมกับเซโกะแค่เรียนที่คณะเดียวกัน ไอโกะไม่ควรจะหึงไร้สาระ คนทั้งเมืองรู้ว่าไอโกะคือว่าที่คู่หมั้นของผม ถึงยังไงโอะนิซึกะกับมิซาว่าก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกัน”
“ถ้าอิจิโร่ยังอยู่...ป่านนี้จัดงานหมั้นไปแล้ว”
“ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว คนที่ฆ่าครอบครัวผมต้องโดนลงโทษ”
“ถ้าแกหาตัวการไม่ได้ ไอโกะมิต้องรอไปตลอดชีวิตรึ”
“ผมไม่ใช่คนไร้เกียรติขนาดนั้น”
ริกิมองหน้าทาเคชิด้วยแววตาไม่พอใจมาก เดินตรงไปยังห้องตั้งป้ายบรรพบุรุษของโอะนิซึกะทันที ทาเคชิรีบตามไป
ริกิเดินเข้ามาในห้องตั้งป้ายบรรพบุรุษ หยิบดาบประจำตระกูลโอะนิซึกะขึ้นมา ทาเคชิเดินตามมา ริกิใช้ดาบชี้หน้าทาเคชิ
“แกต้องสาบานต่อหน้าบรรพบุรุษ...อีกหนึ่งปี เมื่อไอโกะเรียนจบ โอะนิซึกะต้องแสดงความรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นเราแตกหักกัน”
ริกิจ้องหน้าทาเคชิด้วยความโกรธ แต่ทาเคชิไม่เกรงกลัวจ้องตากลับแล้วดึงดาบมาจากมือริกิ
“ไม่จำเป็นต้องสาบาน โซเรียวแห่งโอะนิซึกะมีเกียรติมากพอ เมื่อรับปากแล้วต้องทำตามสัญญา” ทาเคชิจ้องหน้าไม่พอใจ “การข่มขู่...ใช้กับผมไม่ได้ผลหรอกครับ โซเรียวแห่งมิซาว่า”
ทาเคชิจ้องหน้าริกิด้วยแววตาไม่ลงให้เลยแม้แต่น้อย
สมาชิกโอะนิซึกะยืนมองทาเคชิและริกิอยู่อีกมุมหนึ่งในบ้าน คัตสึกำดาบในมือแน่นพร้อมจะต่อสู้ โคจิยกมือห้ามคัตสึเก็บดาบลง ริว มาซาโตะและคาซูมะมองหน้ากันแล้วมีสีหน้ากลุ้มใจ มาซาโตะถอนหายใจเครียด
“โซเรียวเจอศึกหนักเสียแล้ว”
คาซูมะมองอย่างเหนื่อใจแทน
“ทั้งศึกพ่อ...ศึกลูก”
“พวกมิซาว่าทำอะไรโซเรียวของเราไม่ได้หรอก” โคจิมองนิ่ง
“แต่มีคนนึงที่จะทำให้เหล็กกล้าอย่างทาเคชิพังทลายได้” ริวพูดขึ้น
“ใคร...” มาซาโตะหันมาถาม
“สาวไทยคนนั้นไงครับ”
“แค่ผู้หญิงคนเดียวจะมีอิทธิพลมากขนาดนั้นเลยเหรอ” คาซูมะแย้ง
“มีมากจนคาดไม่ถึงเชียวล่ะครับ”
“ถ้าวันนี้ทาเคชิแอบไปหาเธออีก มั่นใจได้เลยว่าเธอคือคนกุมชีวิตของทาเคชิ”
บ่ายวันนั้น แพรวดาวหอบหนังสือกองโตออกมาจากห้องสมุดของมหาวิทยาลัย เธอ เดินไปตามทางหน้าห้องสมุดจนมาถึงม้าหินที่สนามก็วางกองหนังสือลงเพื่อพักเหนื่อย มองกองหนังสือตรงหน้าแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นมือผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาช่วยถือหนังสือ แพรวดาวหันไปมอง เห็นว่าทาโร่เอาหนังสือไปถือให้ก็อึ้งไป
“คุณ...มาได้ยังไงคะ อย่าบอกนะว่าคุณต้องตามฉันไปทุกที่”
ทาโร่ไม่ตอบแต่ยิ้มให้ ยกหนังสือทั้งหมดขึ้นมาอย่างสบายๆ
“ฉันถือเองได้ค่ะ แค่คุณต้องทำหน้าที่ดูแล ฉันก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว”
“เรื่องหนังสือไม่ได้ทำตามหน้าที่ แต่ทำตามความรู้สึกครับ”
ทาโร่ยิ้มให้ แพรวดาวอึ้งๆ ไป
“แบกหนังสือทีละเยอะๆ ระวังจะปวดหลังนะครับ”
“ปวดหลังก็ต้องยอม หนังสือกองนี้คืออนาคตของฉันเลยนะคะ”
ทาโร่ยิ้มๆ ล้อๆ
“งั้นผมจะคืนอนาคตบางส่วนให้”
ทาโร่พูดจบส่งหนังสือเล่มที่บางและเบาที่สุด 2-3 เล่มให้
“ช่วยผมถือแค่นี้...ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
“ด้วยความเต็มใจครับ”
ทั้งสองคนยิ้มให้กัน
แพรวดาวและทาโร่เดินคู่กันมาตามทางของถนนแถวบ้าน
“หนังสือเยอะแยะแบบนี้ ขออนุญาตเอาเข้าไปส่งให้ในบ้านนะครับ”
“อย่าดีกว่าค่ะ...คุณป้าน่าจะกลับมาบ้านแล้ว”
“คุณคงไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีคนของโอะนิซึกะมาตามดูแล”
แพรวดาวนิ่งไปแล้วพยักหน้าให้ ทาโร่จำใจส่งหนังสือให้
“ขอบคุณนะครับที่ให้ผมเดินมาเป็นเพื่อน”
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ ขอตัวนะคะ”
แพรวดาวโค้งศีรษะให้ทาโร่เล็กน้อยแล้วเดินไป ทาโร่มองตามไป แพรวดาวหันมามองทาโร่แล้วยิ้มขอบคุณอีกครั้ง ทาโร่ยิ้มยินดีมองแพรวดาวเดินไปตามทางจนเลี้ยวเข้าบ้านไป
แพรวดาวกลับเข้ามาในบ้าน
“กลับมาแล้วค่ะ”
แพรวดาววางหนังสือลงใกล้ๆ แล้วถอดรองเท้าเก็บเข้าที่ หยิบรองเท้าใส่ในบ้านมาใส่ เธอเหลือบเห็นรองเท้าผู้ชายคู่หนึ่งถอดวางอยู่
“โอคาเอรินาไซ...ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ”
แพรวดาวเงยหน้ามาแล้วอึ้งเหวอไป เมื่อพบว่าทาเคชิยืนอยู่หน้าห้องรับแขกแล้วยิ้มให้
“คุณทาเคชิ”
มาซาโกะออกมาจากทางครัวพร้อมถาดน้ำชา
“กลับมาแล้วเหรอเซโกะ...ท่านโซเรียวมารอนานแล้วจ้ะ”
แพรวดาวยิ่งอึ้งเหวอไปอีก
ในห้องรับแขก...มาซาโกะเอาน้ำมาเสิร์ฟให้ทาเคชิแล้วโค้งตัวก้มก้มศีรษะอย่างนอบน้อม
“ขอโทษด้วยนะคะ ที่หาชาดีกว่านี้ไม่ได้”
“แค่นี้ก็ดีแล้ว ขอบคุณครับ”
มาซาโกะโค้งตัวก้มศีรษะให้ทาเคชิอีกครั้งแล้วออกไป ทาเคชิขยับตัวเข้าไปใกล้แพรวดาว เชยหน้าของเธอขึ้นมามองอย่างเป็นห่วง
“เป็นยังไงบ้าง แก้มยังแสบอยู่มั้ย”
แพรวดาวผละออกจากเขาเล็กน้อย
“ไม่แล้วค่ะ”
“เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลย ห่วงว่าแผลคุณจะอักเสบ”
ทาเคชิยิ้มให้ แพรวดาวยิ้มตอบน้อยๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
“หน้าคุณยิ้ม...แต่แววตาคุณไม่ยิ้ม”
“ฉันไม่คิดว่าคุณจะกลับมาที่นี่อีก ถ้าไอโกะรู้จะยิ่งไม่สบายใจ อย่าทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปกว่านี้เลย ไม่ต้องส่งใครมาคอยดูแลฉันด้วย”
“ผมทำเพื่อความปลอดภัยของคุณ ส่วนเรื่องที่มาที่นี่...ผมรู้ดีว่าควรอยู่ห่างคุณให้มากๆ ผมขอโทษที่ทำตามใจตัวเองมากเกินไป”
ทาเคชิเข้าไปหาแพรวดาวแล้วกุมมือเธอขึ้นมา
“แต่บางครั้ง...คนเราก็ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจไม่ได้”
แพรวดาวอึ้งเขินไปเมื่อทาเคชิสารภาพรักตรงๆ แต่พยายามหักห้ามใจตัวเอง ค่อยๆ ดึงมือเธอออกจากการกุมมือของเขา
“อีกแค่ปีเดียวฉันก็จะกลับเมืองไทย พอแต่งงาน...คุณจะลืมฉันไปเอง”
“ผมไม่มีวันลืม”
ทาเคชิหยิบสร้อย จี้หยกแกะสลัก รูปตราประจำตระกูลโอะนิซึกะขึ้นมา
“หยกประจำตระกูลโอะนิซึกะ...ผมให้คุณ”
แพรวดาวอึ้งๆ
“ของสำคัญขนาดนี้ ฉันรับไว้ไม่ได้”
ทาเคชิยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากแพรวดาวไม่ให้ปฏิเสธ
“หยกชิ้นนี้จะช่วยปกป้องคุณ คนที่เห็นจะรู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงของผม จะไม่มีใครกล้าทำร้ายคุณ”
ทาเคชิสวมสร้อยให้แพรวดาว แต่เธอยังไม่ยอม
“สวมมันไว้...แล้วผมจะไม่มาพบคุณอีก”
แพรวดาวมองทาเคชิ ยอมให้เขาสวมสร้อยหยกให้ ทาเคชิดึงเธอเข้ามากอดแล้วกระซิบข้างหู
“ลาก่อนเซโกะ...ผมจะรักคุณตลอดไป”
แพรวดาวน้ำตาคลอ เสียใจที่ต้องจากเขาเช่นกัน ทาเคชิเลื่อนหน้ามาประทับจูบอำลาที่หน้าผาก ด้วยความทะนุถนอมอย่างแผ่วเบา ทาโร่ยืนแอบมองอยู่ที่ประตูบ้าน มองภาพตรงหน้าอย่างเจ็บปวด
ค่ำนั้น โคจิและริวนั่งอยู่ในห้องรับแขก ท่าทางเครียดๆ เมื่อได้รับรายงานจากทาโร่
“ทาเคชิแอบไปหาเธอจริงๆ”
โคจิหันไปกำชับทาโร่
“ดูแลเซโกะให้ดีที่สุด ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรไป หัวใจของโซเรียวลุกเป็นไฟแน่”
“ครับ”
ทาโร่พยักหน้ารับคำ แต่แววตาเศร้าๆ
ไอโกะร้องไห้อยู่บนเตียง ข้าวของในห้องกระจัดกระจายไปทั่ว คำพูดของพ่อดึงก้องในหัว
“ถ้ายังทำตัวแย่ๆ แบบนี้ ทาเคชิคงหาเรื่องไม่แต่งงานอีกจนได้ พ่อขอสั่ง...ห้ามทำร้ายผู้หญิงคนนั้นอีก”
แววตาไอโกะโกรธแค้นมากขึ้นแล้วคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตอนที่ทาเคชิยิ้มให้แพรวดาว และ อุ้มแพรวดาวออกไปจากงาน ไอโกะยิ่งแค้นกรี๊ดลั่นแล้วคว้าของใกล้มือปาลงพื้นอย่างโมโห ไอโกะคว้ากระเป๋าถือของตัวเองมาปาทิ้ง แต่กระเป๋าไม่ได้ปิด ข้าวของตกลงมา เธอหยิบข้าวของปาไปทั่วห้อง แล้วอยู่ๆ ชะงักไป มองของบางอย่างในมือ เป็นกระดาษโน้ตเขียนภาษาญี่ปุ่นที่เคนอิจิให้ไว้
“มีปัญหาอะไร เชิญปรึกษาที่ไนท์คลับของผม ผมยินดีรับใช้เสมอ”
ไอโกะมองกระดาษโน้ตในมือ แววตาเครียด
ไอโกะขับรถเข้ามาจอดที่หน้าไนต์คลับของเคนอิจิ เธอลงจากรถแล้วเดินไปที่ประตูทางเข้า ยามะและโคเฮเฝ้าประตูอยู่
“ฉันต้องการพบเคนอิจิ...”
รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 5 (ต่อ)
เคนอิจิและไอโกะนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องทำงานของเคนอิจิ
“ไม่นึกว่าคุณหนูไอโกะจะเรียกใช้บริการผมเร็วขนาดนี้”
เคนอิจิยิ้มเยาะแล้วรินชาให้ไอโกะ แต่ไอโกะไม่รับชามาดื่ม
“ดูจากสภาพคุณ ท่าทางจะร้องไห้มาทั้งวัน”
“จับตัวนังนั่นมาขายที่นี่ จัดการอย่าให้มันออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก”
เคนอิจิยิ้มกวน
“ทำแบบนั้นมันเรียกหาคุกนะครับ”
“นังผู้หญิงไทยคนนี้จะเป็นบ่อเงินบ่อทองให้แก”
“ทำไมไม่ให้พ่อคุณจัดการ”
ไอโกะอึกอัก
“ฉันไม่อยากให้พ่อรู้เรื่องนี้”
“กลัวพ่อจะรู้...หรือกลัวว่าทาเคชิสุดที่รักจะรู้ แล้วเกลียดคุณกันแน่”
ไอโกะหันขวับไปจ้องหน้าเคนอิจิโกรธๆ ที่รู้ทัน เคนอิจิยิ้มสะใจ
“ตกลงจะช่วยหรือไม่ช่วย ถ้าไม่...ฉันจะกลับ”
ไอโกะลุกขึ้นจะเดินออกไป แต่เคนอิจิเดินมาตัดหน้าไว้แล้วจับแขนเธอไว้แน่น
“ผมช่วยแน่ แต่เสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางขนาดนี้ ค่าตอบแทนสูงมากนะครับ”
“จะเรียกเท่าไหร่ก็ว่ามา”
“ของบางอย่างมีค่ามากกว่าเงิน”
เคนอิจิเดินอ้อมมายืนด้านหลังไอโกะ ค่อยๆ ใช้มือลูบไล้ไปตามแขน พร้อมทั้งไซ้จูบซอกคอ ไอโกะผละออกอย่างตกใจ
“แกจะทำอะไร”
เคนอิจิเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น ไอโกะถอยกรูดไปจนติดกำแพงห้อง
“ผมกำลังคิดค่าจ้างจากคุณ”
เคนอิจิใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ที่ต้นขาไอโกะอีก เธอทั้งอึ้งทั้งโกรธ ผลักเขาออกอย่างแรง
“ไม่มีทาง...แกไม่มีทางได้ตัวฉัน”
ไอโกะจะเดินออกไปจากห้อง แต่เคนอิจิกระชากตัวมา แล้วดันให้ติดกับกำแพง
“ขอโทษที่ต้องทำให้ผิดหวัง”
เคนอิจิเหวี่ยวไอโกะลงบนโซฟาแล้วโน้มตัวตามลงไปจัดการไอโกะทันที
เสียงไอโกะกรีดร้องดังมาจากในห้อง ชินอิจิ ยามะและโคเฮยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง มองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างรู้ทันว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง
“ฉันว่าเราไปกินอุด้งรอดีกว่า” ยามะชวน
โคเฮเห็นด้วย
“ท่าทางอีกนานกว่าถึงจะคุยกัน...เสร็จ”
ทั้งสามคนหัวเราะลั่นแล้วเดินออกไป เสียงไอโกะยังกรีดร้องอยู่
เช้าวันใหม่...แม่บ้านเสิร์ฟอาหารเช้าให้ริกิและซาโตชิ ริกิแปลกใจที่ไม่เห็นไอโกะ
“ไอโกะไม่ลงมาทานข้าวเหรอ หรือออกไปตั้งแต่เช้า”
“กลับบ้านเช้าต่างหาก ผมได้ยินเสียงรถไอโกะกลับเข้ามาตอนตี 5” ซาโตชิบอก
ริกิส่ายหน้าไม่พอใจ
ไอโกะทรุดร้องไห้อยู่ในห้องน้ำในเสื้อผ้าชุดเดิม เปียกปอนไปทั้งตัว ใบหน้าผ่านการร้องไห้มา
อย่างหนัก ภาพเคนอิจิระดมระดมจูบและไซ้ซอกคอเธอแว่บเข้ามา ไอโกะร้องไห้ไปแล้วใช้มือถูไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างขยะแขยง ล้างรอยจูบของเคนอิจิ แววตาไอโกะโกรธแค้นและเจ็บปวดจากสิ่งที่เคนอิจิทำกับเธอ
เคนอิจินั่งยิ้มสะใจอยู่บนโซฟา แล้วหันไปทางยามะกับโคเฮ
“ไปจัดการตามที่สั่ง...” เคนอิจิหันไปหาชินอิจิ “ส่วนแก...รอรับสินค้าชิ้นใหม่ได้เลย”
“ครับนาย”
ทั้งหมดออกไปจากห้อง เคนอิจิยังยิ้มสะใจอยู่
ทาโร่เดินยิ้มอย่างอารมณ์ดีมาที่หน้าบ้าน แล้วหยิบรองเท้ามาใส่ โคจิเดินผ่านมาพอดี
“จะไปแล้วเหรอ”
ทาโร่ยิ้ม
“ครับพ่อ วันนี้คุณเซโกะไปช่วยป้าเจ้าของบ้านขายผลไม้แต่เช้า”
“ผู้หญิงคนนี้สวยทั้งรูป สวยทั้งจิตใจจริงๆ”
“เธอเป็นคนดีมากครับพ่อ จิตใจดี อ่อนโยน...แต่เข้มแข็งไม่แพ้ผู้ชาย”
“มิน่า...ใครที่อยู่ใกล้เป็นต้องหลงรักไปซะทุกราย”
ทาโร่นิ่งไปแล้วหันไปมองหน้าโคจิอึ้งๆ แล้วรีบปฏิเสธ
“โซเรียวรักเธอมาก ไม่มีใครกล้ารักเธอหรอกครับ”
โคจิจับสังเกตท่าทางของทาโร่
“ถ้าจริงอย่างว่าก็ดี จะได้ไม่ห่วงว่าจะมีเรื่องปวดหัวอีก”
ทาโร่ยังนิ่งอยู่ โคจิตบไหล่เบาๆ แล้วยิ้มให้
“รีบไปเถอะ”
ทาโร่โค้งศีรษะให้แล้วออกไป
ทาโร่เข้ามาแอบดูแพรวดาวอยู่ใกล้ๆ ร้านผลไม้ เห็นแพรวดาวและมาซาโกะช่วยกันเรียงผลไม้หน้าร้านอยู่ เขามองเธอแล้วยิ้มมีความสุข
ในห้องทำงานโอะซะมุ...ทาเคชิกระแทกแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะทำงานโอะซะมุอย่างไม่พอใจ
“อะไรกัน...หลักฐานอ่อน ทำให้เอาตัวเคนอิจิมาสอบสวนไม่ได้”
ริวเอาแฟ้มมาเปิดดูกับโคจิแล้วมองหน้ากัน
“ไม่สามารถระบุประเภทของระเบิดได้” ริวหันไปถามโอะซะมุ “ระบุไม่ได้หรือไม่ได้ตรวจสอบกันแน่”
โอะซะมุดึงแฟ้มกลับมาจากริว
“ผมตรวจสอบหลักฐานทุกอย่างแล้ว ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดกลุ่มซะโต้”
ทาเคชิไม่พอใจ
“ตรวจทุกอย่างแต่คดีไม่คืบหน้า ทำแบบนี้แล้วประชาชนจะฝากความหวังกับตำรวจได้ยังไง”
“ใจเย็นๆ ก่อนครับโซเรียว ผมว่าทางตำรวจทำเต็มที่แล้ว” โคจิปราม
“แต่นี่คดีผ่านมาหลายเดือนแล้ว”
โคจิแตะไหล่ริวปรามให้ใจเย็น
“เรากลับเถอะครับ”
ทาเคชิและริวมองหน้าโคจิแล้วพยักหน้าตกลง ลุกขึ้นจะกลับ โอะซะมุลุกขึ้นแล้วโค้งให้โคจิ
“ขอบคุณท่านโคจิที่เข้าใจ”
โคจิหันไปมองโอะซะมุนิ่งๆ
“จากนี้โอะนิซึกะจะตามเรื่องทั้งหมดเอง ท่านโอะซะมุคงเข้าใจเช่นกัน”
โคจิ ทาเคชิและริวมองโอะซะมุอีกครั้งแล้วเดินออกไป โอะซะมุมองตามไปเครียดๆ
สามคนนั่งอยู่ในรถตู้ ทาเคชิท่าทางไม่พอใจ
“ขอแค่หลักฐานชิ้นเดียวที่เป็นของเคนอิจิ...ก็พอที่จะเล่นงานมันได้แล้ว”
“ฉันอยากเห็นซากระเบิดที่ติดที่รถ มันต้องมีตราของซะโต้แน่” ริวติดใจสงสัย
ทั้งสองคนมองหน้าโคจิที่พยักหน้ารับรู้
เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งกำลังยกหลักฐานขึ้นเก็บบนชั้น ตำรวจอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาหา
“ท่านโอซามุเรียก...”
“เรียกฉันเหรอ”
“ใช่...ให้ไปหาที่ห้องประชุมตึกใหม่”
“ไกลจะตาย กว่าจะไปกว่าจะกลับ...เดินขาลากแน่”
“รีบไปรีบมา...ฉันเฝ้าที่นี่ให้เอง”
ตำรวจคนนั้นเดินออกไป ตำรวจที่มาตามมมองเมื่อแน่ใจแล้วจึงหันไปพยักหน้าเรียก ทาเคชิกับริวเข้ามาอีกทางหนึ่ง ตำรวจรีบบอก
“มีเวลา 30 นาทีครับ”
ตำรวจเดินไปทางเดียวกับตำรวจคนแรก ทาเคชิกับริวรีบแยกย้ายหากล่องหลักฐานทันที ริวเดินมาที่ชั้นเก็บหลักฐานชั้นหนึ่ง ที่กล่องเขียน อิจิโร่ โอะนิซึกะ
“ทาเคชิ”
ทาเคชิเดินมาสบทบกับริว หยิบกล่องหลักฐานลงจากบนชั้นแล้วเปิดดูของข้างใน เห็นแฟ้มเอกสารและซองสีน้ำตาลหลายซอง ทาเคชิหยิบขึ้นมาดูจนเจอซองหนึ่ง เขาอ่านข้อความหน้าซอง
“ส่วนประกอบของระเบิด”
ทาเคชิเปิดซองน้ำตาลแล้วเท ซากชิ้นส่วนต่างๆ ของระเบิดที่ไหม้ดำเป็นตอตะโก เหลือชิ้นส่วนไม่เต็มชิ้นลงบนฝากล่อง ริวมองอย่างสงสัย
“ระเบิดแสวงเครื่อง...พวกซะโต้เคยทำระเบิดเองเหรอ”
ทาเคชิหยิบชิ้นส่วนบางอย่างขึ้นมาดมกลิ่น
“กลิ่นแอมโมเนียไนเตรท...ระเบิดแบบเจาะ อนุภาพแรงมากละลายเหล็กกล้ากับคอนกรีตหนาได้ภายในพริบตา”
“เคนอิจิไม่เคยใช้ระเบิดรุนแรงแบบนี้”
ริวหยิบหลักฐานอีกหลายๆชิ้นมาดูอย่างละเอียด
“ไม่มีสัญลักษณ์กลุ่มซะโต้”
“มันตั้งใจจะฆ่าล้างตระกูล ถึงใช้ระเบิดรุนแรงแบบนี้”
“ต้องหาหลักฐานอย่างอื่นเพิ่มเติม ถึงจะเล่นงานพวกมันได้” ริวแนะ
ทาเคชิกำซากระเบิดในมือแน่น แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ริวจับไหล่ทาเคชิให้กำลังใจ
“เราจัดการไอ้เคนอิจิได้แน่”
ริวและทาเคชิมองหน้ากันด้วยแววตามุ่งมั่น
ทาโร่เดินมาที่ร้านขายผลไม้ ผลไม้ที่หน้าร้านตกกระจายไปทั่ว แผงร้านล้มระเนระนาด ทาโร่มองหาเซโกะแต่ไม่เจอ รีบวิ่งเข้าไปหามาซาโกะเดินมาจากหลังร้านพอดี
“เซโกะอยู่ไหน แล้วทำไมร้านเป็นแบบนี้”
มาซาโกะมองทาโร่อึ้งๆงงๆ
“มีเด็กวิ่งมาชนกระบะผลไม้ล้ม เซโกะไปรอรับผลไม้ที่มาส่งอยู่หลังร้านค่ะ”
รถตู้ขนส่งผลไม้จอดอยู่ แพรวดาวยืนเช็คลังผลไม้จนครบแล้วส่งเงินให้คนส่งผลไม้ตามจำนวน
“ขอบคุณค่ะ”
ทาโร่วิ่งเข้ามาจากหน้าร้าน เห็นแพรวดาวยืนอยู่กับลังผลไม้ก็โล่งใจ รถส่งผลไม้ขับออกไป สวนกับรถตู้สีดำติดฟิล์มดำรอบคันเข้ามา ทันใดนั้นยามะและโคเฮเปิดประตูรถแล้วพุ่งเข้าจับตัวแพรวดาวทันที
“อ๊าย ช่วยด้วย”
ทาโร่เห็นคนร้ายมาจับตัวแพรวดาวก็ตกใจ
“เซโกะ”
แพรวดาวเห็นทาโร่ก็พยายามดิ้นหนี แต่สู้แรงยามะและโคเฮไม่ได้
“ทาโร่ ช่วยด้วยค่ะ”
ทาโร่วิ่งเข้ามา จะจัดการกับยามะและโคเฮ แต่ลูกน้องของเคนอิจิทั้งหมดคนลงมาจากรถ ยามะสั่งการ
“จัดการมัน”
ลูกน้องทั้งหมดกรูเข้าไปจัดการกับทาโร่ทันที ทาโร่ต่อสู้กับลูกน้องของเคนอิจิ เร้าใจ แพรวดาวพยายามจะดิ้นหนี แต่ยามะต่อยท้องจนเธอหมดสติไป ทาโร่เห็นแพรวดาวสลบไปก็ยิ่งตกใจ ลูกน้องเคนอิจิเห็นทาโร่เผลอ พุ่งเข้าไปจัดการกับทาโร่จนล้มไป ทาโร่โดนลูกน้องเคนอิจิรุมเข้ามาจัดการทันที เขาพยายามต่อสู้กับพวกเคนอิจิ แต่จำนวนคนที่เยอะกว่าทำให้เขาพลาด ลูกน้องคนหนึ่งคว้าไม้ใกล้มือ ฟาดลงท้ายทอย ทาโร่ค่อยๆ ล้มไปกองกับพื้น ทาโร่เห็นโคเฮอุ้มร่างที่หมดสติของแพรวดาวขึ้นรถไป ทาโร่อ่อนแรง
“เซโกะซัง...”
ทาโร่ล้มไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ
ในห้องโถงโอะนิซึกะ...โคจิเรียกลูกชายที่นอนหมดสติอยู่
“ทาโร่... ได้ยินพ่อมั้ย ทาโร่”
ทาโร่ที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เห็นแสงสว่างภาพยังเบลออยู่ เขาเห็นโคจิยื่นหน้ามามองตัวเอง เขากระพริบตา 2-3 ทีเพื่อปรับสายตา จนมองเห็นโคจิชัดเจน
“พ่อ...”
ทาโร่พยายามจะลุกขึ้น แต่เจ็บไปทั้งตัว โคจิค่อยๆ ประคองขึ้นนั่ง
“เกิดอะไรขึ้น”
ทาโร่นึกได้
“แย่แล้วครับ คุณเซโกะโดนจับตัวไป”
“ว่าไงนะ ใครจับตัวคุณเซโกะไป” โคจิตกใจ
“ลูกน้องของซะโต้ เคนอิจิ ผมจำหน้าพวกมันได้...เราต้องบอกโซเรียว”
ทาโร่จะลุกขึ้นแต่โคจิห้ามไว้
“อย่าเพิ่ง”
“แต่เราต้องช่วยคุณเซโกะ เธอตกอยู่ในอันตราย”
“ถ้าโซเรียวรู้เรื่อง ต้องบุกไปถล่มพวกเคนอิจิแน่”
“แต่ผมปล่อยให้คุณเซโกะเป็นอันตรายไม่ได้”
“พักให้หายเจ็บก่อน พ่อจะไปตามคนของเรามา แล้วเราจะไปช่วยเธอด้วยกัน”
โคจิไม่สบายใจเลย ส่วนทาโร่เป็นห่วงแพรวดาวมาก
ค่ำนั้น เคนอิจิจิบเครื่องดื่มมองบรรยากาศคึกคักภายในไนท์คลับของตัวเองอย่างสบายอารมณ์ ชินอิจิเข้ามารายงาน
“สินค้าใหม่มาถึงแล้วครับ”
เคนอิจิชำเลืองมองชินอิจิ ยิ้มพอใจ
ห้องลับในซ่องเคนอิจิ...แพรวดาวรู้สึกตัวตื่น พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเก่า ภายในห้องทึบที่หน้าต่างทั้งหมดถูกปิดตาย มีเพียงแสงสว่างจากหลอดไฟดวงเล็กบนเพดาน เคนอิจิเปิดประตูเข้ามา แล้วปิดประตูล็อคกลอนทันที แพรวดาวตกใจ พยายามยันกายลุกขึ้น ทั้งที่ยังมีอาการมึน ๆ
“คุณจะทำอะไร”
“พ่อค้าก็ต้องชมคุณภาพสินค้าก่อน”
เคนอิจิย่างสามขุมเข้าหาแพรวดาว สายตาหื่นกระหาย
“สวย ๆ อย่างเธอคงเรียกแขกได้เยอะ”
แพรวดาวถอยกรูดด้วยความกลัว จนหลังชนฝาผนัง
“อย่าเข้ามานะ ออกไป”
เคนอิจิไม่รอช้า กระชากตัวแพรวดาวเข้ามาหาตัว แต่แพรวดาวขัดขืน พยายามผลักเคนอิจิออกห่าง
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
แพรวดาวพยายามดิ้นรนเพื่อให้พ้นอ้อมแขนที่เริ่มรัดแน่นเข้ามา
“ความสวยของเธอเป็นดาบสองคม ทำให้คนรักและเกลียดได้ในเวลาเดียวกัน ฮ่า ๆ ”
เคนอิจิกระชากตัวแพรวดาวเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างแรง แล้วคร่อมตัวของเธอไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดไป
“ปล่อยฉันนะ”
แพรวดาวออกแรงสู้ ใช้มือที่หลุดจากช่วงแขนทั้งทุบและข่วนเคนอิจิเท่าที่สามารถทำได้
“ฤทธิ์เยอะนักใช่มั้ย”
เคนอิจิตบแพรวดาวอย่างแรง
“โอ๊ย...”
แพรวดาวเจ็บจนแทบหมดแรง น้ำตาไหลพราก ตัวสั่นเป็นลูกนก เธอสะอื้น เสียงแผ่ว
“อย่า...อย่าทำอะไรฉัน”
เคนอิจิหัวเราะลั่น แววตาหื่น กระชากคอเสื้อแพรวดาวจนขาด
“ว๊าย...”
เคนอิจิโน้มหน้าเข้าหาอย่างหื่นกระหาย ก่อนชะงัก เมื่อเห็นจี้หยกที่คอแพรวดาว
“หยกประจำตระกูลโอะนิซึกะ”
เคนอิจิกระชากสร้อยที่คอแพรวดาวจนขาดติดมือออกมา ดูใกล้ ๆ เพื่อความแน่ใจ
“ไอ้ทาเคชิคงรักเธอมาก ถึงให้หยกประจำตระกูลเอาไว้” เคนอิจิหัวเราะลั่น “มิน่า…คุณหนูไอโกะถึงได้โกรธแค้น จนสั่งให้ฉันจับตัวเธอมาขาย”
แพรวดาวสะดุดกึก
“ไอโกะ”
“หึ ๆ ผู้หญิงน่ากลัวที่สุดเวลาหวงของรัก”
เคนอิจิมองจี้หยกด้วยสายตาครุ่นคิด ยิ้มกริ่มถึงแผนบางอย่าง แล้วหมุนตัวออกจากห้องไป แพรวดาวรีบดึงเสื้อมาปกหน้าอกตัวเอง สะท้อนใจวูบ ไม่คาดคิดว่าจะเป็นฝีมือของไอโกะ
ริกิ ไอโกะ ซาโตชิ นั่งทานอาหารร่วมกัน ไอโกะยกถ้วยชาร้อนขึ้นมาจิบ สายตาเหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ริกิสังเกตเห็น จึงยื่นมือไปสะกิดแขนเรียก
“ไอโกะ”
ไอโกะสะดุ้งผวา จนทำถ้วยน้ำชาหลุดมือลงบนโต๊ะ
“อย่า”
ริกิรีบเข้าไปดูไอโกะด้วยความเป็นห่วง แต่ซาโตชิมองอย่างสงสัย
“ทำไมต้องตกใจขนาดนี้”
“ไม่สบายรึเปล่าลูก”
ริกิเอามืออังหน้าผากไอโกะ แต่เธอบ่ายเบี่ยง พยายามเก็บอารมณ์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจ
“หนูปวดหัว ขอตัวก่อนนะคะ”
ไอโกะรีบเดินหนีขึ้นห้องไปทันที ริกิกับซาโตชิมองตาม แปลกใจในท่าทีของไอโกะ
ไอโกะรีบปิดประตูห้อง เดินไปนั่งที่เตียงด้วยความเครียด กดดันมาก ภาพเหตุการณ์ที่เคนอิจิปล้ำเธอแว่บเข้ามา ไอโกะคว้าหมอนเข้ามากอดและจิกแน่น ก่อนกรีดร้องใส่หมอนทั้งน้ำตา ด้วยความเก็บกดและเคียดแค้น ที่ไม่สามารถเล่าอัปยศนี้ให้ใครรับรู้ได้
ในห้องทำงาน...เคนอิจิยื่นหยกประจำตระกูลของทาเคชิให้ชินอิจิ
“ส่งของขวัญให้ทาเคชิ บอกให้มันมาพบฉันคนเดียวพรุ่งนี้ไม่งั้น...ฉันจะประมูลขายผู้หญิงที่มันรัก”
ชินอิจิ ยามะ โคเฮ หันมองกันด้วยความสงสัย
“คุณหนูไอโกะอยากให้จับตัวเซโกะมาขายซ่องเท่านั้นนี่ครับ” ชินอิจิถามอย่างสงสัย
“เซโกะไม่มีค่าเท่ากับลมหายใจของไอ้ทาเคชิ หมดเสี้ยนหนามอย่างโอะนิซึกะโซเรียว เคนอิจิ ซะโต้ ก็จะครองเมืองนี้ทั้งหมด”
ชินอิจิ ยามะ โคเฮ แสยะยิ้มเข้าใจในแผนการร้ายของเคนอิจิ
ห้องป้ายบรรพบุรุษเช้าวันใหม่...ทาเคชิกับริวก้มศีรษะแสดงความเคารพต่อป้ายบรรพบุรุษอย่างนอบน้อม คัตสึเปิดประตูเข้ามารายงาน
“คนของซะโต้ มาขอพบโซเรียวครับ”
ทาเคชิกับริวนิ่วหน้ามองกันด้วยความประหลาดใจ
โถงบ้านโอะนิซึกะ...ทาเคชิถามชินอิจิด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทันทีที่เดินเข้ามาเผชิญหน้ากัน
“มีธุระอะไร”
“ท่านเคนอิจิฝากของขวัญมาให้โอะนิซึกะโซเรียว”
ชินอิจิกระตุกยิ้ม ชูสร้อยที่มีจี้หยกประจำตระกูลโอะนิซึกะออกมายื่นตรงหน้าทาเคชิ
“หยกประจำตระกูลโอะนิซึกะ” ริวตกใจ
ทาเคชิผงะไป รีบคว้าจี้หยกพร้อมสร้อยที่ขาดมาดูด้วยความตกใจ
“พวกแกทำอะไรเซโกะ”
ทาเคชิถลาเข้าไปกระชากคอเสื้อชินอิจิ ขาดสติไปชั่วขณะ ตะคอกถามเสียงดัง
“ใจเย็นครับ ผมเป็นแค่คนส่งข่าว”
ชินอิจิยิ้มอย่างถือไพ่เหนือกว่า
“คืนนี้ท่านเคนอิจิต้องการพบโซเรียวตัวต่อตัว ไม่อย่างนั้น...ผู้หญิงคนที่เคยใส่จี้หยกชิ้นนี้ ...เละ”
ทาเคชิเหวี่ยงกำปั้นกระแทกปลายคางชินอิจิจนล้มคว่ำไปกับพื้น ด้วยความโกรธมาก ตรงเข้าไปกระหน่ำชกอย่างไม่นับ ห่วงคนรักอย่างที่สุด
“สารเลวๆ ”
“โอ๊ย...” ชินอิจิร้องลั่น
ริวต้องตรงเข้ามาดึงร่างทาเคชิออกไป ขณะที่ชินอิจิยังกองอยู่ที่พื้นตรงนั้น
“พอได้แล้วทาเคชิ...แค่นี้มันก็แย่แล้ว”
ชินอิจิเริ่มหวาดกลัว เมื่อร่างทาเคชิเดินถมึงทึงตรงเข้ามาอีกครั้ง ขยุ้มคอเสื้อกระชากขึ้นอย่างเลือดขึ้นหน้า
“กลับไปบอกให้มันรอฉันคืนนี้ ถ้าใครแตะต้องเซโกะแม้แต่ปลายเล็บ ฉันจะถล่มซะโต้ให้ราบ”
รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 5 (ต่อ)
ทาเคชิผลักตัวชินอิจิอย่างแรงจนหงายท้องไปอีกรอบ ชินอิจิรีบลนลานวิ่งออกไปด้วยความกลัว สวนกับโคจิ เซกิ ที่ตามเข้ามา ทาเคชิจ้องหน้าโคจิ ขบกรามจนขึ้นสันนูนด้วยความเจ็บใจ โคจิก้มหน้าสำนึกผิด รู้ว่าทำงานพลาด ดูแลแพรวดาวไม่ได้
“ทาโร่พลาดจนบาดเจ็บ อาผิดที่ประมาทเกินไป”
“ทำไมไม่รีบบอกผมทันทีที่เกิดเรื่อง”
ทาเคชิปรายตามองโคจิ ไม่รอให้โคจิตอบคำถามเขาสักคำ
“ต่อไปนี้ ผมจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”
“เคนอิจิตั้งใจใช้เซโกะเป็นเหยื่อล่อให้แกไปติดกับดัก” ริวรีบเตือน
“เซโกะเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันมีหน้าที่ปกป้องเธอ”
ริวจับไหล่ทาเคชิให้หันมาเผชิญหน้า จ้องมองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว
“แกเห็นผู้หญิงคนเดียวสำคัญกว่าโอะนิซึกะงั้นเหรอ”
“ผู้ชายสายเลือดซามูไรต้องปกป้องผู้หญิงของตัวเอง ถ้าโซเรียวอย่างฉันทำไม่ได้ ก็ไม่ต่างจากคนขี้ขลาด”
ทาเคชิปัดมือริวออกจากไหล่ กำจี้หยกในมือแน่น เดินผละไป โคจิหน้าเครียด
“เคนอิจิเลือกตีโซเรียวได้ตรงจุดอ่อนจริงๆ”
“เราต้องหาทางขัดขวางทาเคชิ”
ริวสบตาโคจิ อย่างปรึกษากัน
มิโยะโกะพามาซาโกะมาแจ้งความกับฮิโระถึงสำนักงานตำรวจ ด้วยความเป็นห่วงแพรว
“หนูเซโกะถูกลักพาตัวเหรอ” ดาว ฮิโระ อาเบะตกใจ
“พวกมันมาจากไหนก็ไม่รู้ จู่ๆ ก็บุกเข้ามา ไม่มีใครตั้งตัวทันเลยค่ะ” มาซาโกะเล่า
ฮิโระ อาเบะหันมาถามมิโยะโกะ
“หนูเซโกะรู้จักกับใครคนอื่นมั้ย นอกจากลูก”
“เซโกะสนิทกับหนูคนเดียวค่ะพ่อ”
มาซาโกะนึกได้
“แต่ระยะหลังๆ นี้...หนูเซโกะพูดถึงโอะนิซึกะอยู่บ่อยๆ”
ฮิโระ อาเบะ นิ่งครุ่นคิด
“ผู้หญิงไทยอย่างหนูเซโกะ เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพลได้ยังไง”
มิโยะโกะร้อนใจ
“พ่อต้องช่วยเซโกะกลับมาให้ได้นะคะ”
“ตอนนี้ท่านโอะซุมะติดธุระด่วน ต้องรอปรึกษาท่านก่อน เดี๋ยวพ่อจะส่งสายตำรวจจับตาดูความเคลื่อนไหวบ้านโอะนิซึกะ อาจจะมีเบาะแสตามหาหนูเซโกะ”
“ขอให้หนูเซโกะปลอดภัยด้วยเถอะ”
มาซาโกะรำพึงด้วยความไม่สบายใจ เป็นห่วงแพรวดาว มิโยะโกะกุมมือมาซาโกะอย่างปลอบใจ เป็นห่วงแพรวดาวเช่นกัน
ห้องลับในซ่องเคนอิจิ...แพรวดาวผวาตกใจ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น รีบลุกไปซุกอยู่มุมหนึ่งของห้องด้วยความหวาดกลัว ยามะกับโคเฮ เดินเข้ามาในห้อง คนหนึ่งถือถาดใส่อาหารและน้ำดื่ม อีกคนถือชุดกิโมโนเข้ามาวางให้แพรวดาว ทั้งสองยิ้มโลมเลียแพรวดาวด้วยสายตา
“กินให้อิ่ม แล้วเปลี่ยนชุดซะ” โคเฮสั่ง
“ทำไม” แพรวดาวถามเสียงแข็ง
“นายสั่งว่าถ้าเธอไม่กินเองก็ให้พวกฉันป้อน และถ้าไม่ยอมเปลี่ยนชุดเอง ฉันก็คงต้อง...”
ยามะพูดพลางไล่สายตามองเรือนร่างแพรวดาว แววตาหื่น แพรวดาวสะดุ้งกลัว รู้ความหมายทางสายตานั้น
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
ยามะกับโคเฮ หัวเราะชอบใจก่อนเดินจากห้อง ปิดประตูไป แพรวดาวน้ำตาไหล หวาดกลัวและหมดหนทางหนีรอด
ในห้องป้ายบรรพบุรุษ...ทาเคชิสวมชุดฮากามะชุดเสื้อและกางเกงของญี่ปุ่น นั่งคุกเข่าต่อหน้าป้ายบรรพบุรุษและดาบประจำตระกูล มองจี้หยกประจำตระกูลด้วยอารมณ์เคียดแค้นเคนอิจิ และเป็นห่วงแพรวดาว เขานึกถึงตอนที่มอบจี้หยกให้กับแพรวดาว เขาเข้าไปหาแล้วกุมมือเธอขึ้นมา
“แต่บางครั้ง...คนเราก็ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจไม่ได้”
แพรวดาวอึ้งเขินไปเมื่อทาเคชิสารภาพรักตรงๆ แต่พยายามหักห้ามใจตัวเอง ค่อยๆ ดึงมือเธอออกจากการกุมมือของเขา
“อีกแค่ปีเดียวฉันก็จะกลับเมืองไทย พอแต่งงาน...คุณจะลืมฉันไปเอง”
“ผมไม่มีวันลืม”
ทาเคชิหยิบสร้อย...จี้หยกแกะสลัก รูปตราประจำตระกูลโอะนิซึกะขึ้นมา
“หยกประจำตระกูลโอะนิซึกะ...ผมให้คุณ”
แพรวดาวอึ้งๆ
“ของสำคัญขนาดนี้ ฉันรับไว้ไม่ได้”
ทาเคชิยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากแพรวดาว ไม่ให้เธอปฏิเสธ
“หยกชิ้นนี้จะช่วยปกป้องคุณ คนที่เห็นจะรู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงของผม จะไม่มีใครกล้าทำร้ายคุณ”
ปัจจุบัน...ทาเคชิกำจี้หยกแน่น โกรธตัวเองที่คุ้มครองแพรวดาวไม่ได้
“เซโกะ...คุณเป็นอันตรายเพราะผม”
ทาโร่เข้ามาทางด้านหลังทาเคชิ นั่งคุกเข่า และก้มศีรษะลงกับพื้นด้วยความรู้สึกผิด
“ผมผิดเองที่ทำให้คุณเซโกะถูกจับตัวไป ผมขอแก้ตัวด้วยการไปช่วยคุณเซโกะให้กลับมาอย่างปลอดภัย”
ทาเคชิพูดโดยไม่เหลียวหลัง
“ฉันต้องไปช่วยผู้หญิงของฉันด้วยตัวเอง”
ทาโร่ชะงักไป แอบเจ็บที่ทาเคชิตอกย้ำความเป็นเจ้าของแพรวดาว ทาเคชิหันหลังกลับมา เห็นทาโร่ในสภาพบาดเจ็บ กำลังมองเขาอย่างรู้สึกผิด ริว และทุกคน ตามเข้ามาคุกเข่า ขอร้องทาเคชิ
“ให้พวกเรายกพวกไปถล่มซะโต้ เพื่อชิงตัวเซโกะกลับมาดีกว่า” ริวบอก
ทาเคชิเมินคำพูดริว หันไปพยักหน้าให้เซกิยกแท่นตั้งดาบซามูไรมาวางเบื้องหน้าทุกคน
“ถ้าคืนนี้ผมพ่ายแพ้...ตำแหน่งโซเรียวจะตกเป็นของริว อาทั้งสามต้องช่วยริวดูแลโอะนิซึกะต่อไปด้วย”
ทุกคนมีท่าทีไม่เห็นด้วย โคจิกับริวเหมือนกำลังจะค้าน ทาเคชิประกาศกร้าว
“ขอให้ทุกคนเคารพการตัดสินใจของ โอะนิซึกะ โซเรียว”
ทุกคนจำใจก้มศีรษะน้อมรับคำสั่งโซเรียวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทาเคชิลุกขึ้นหยิบดาบสั้นที่วางอยู่บนแท่นเดียวกัน เหน็บลงกับโอบิที่รัดเอว ประกาศเสียงดัง
“โซเรียวต้องทำหน้าที่สุภาพบุรุษ...เพื่อปกป้องเกียรติของผู้หญิงคนรักและต้องแก้แค้นแทนดวงวิญญาณของคนในครอบครัวโอะนิซึกะ ที่ถูกซะโต้ฆาตกรรม”
ทุกคนภายในห้องก้มศีรษะรับอีกครั้ง ริวลุกขึ้นประจันหน้ากับทาเคชิ นิ่งมอง
“ฉันห้ามความต้องการของโซเรียวไม่ได้ นอกจากอวยพรให้นายได้รับชัยชนะกลับมา”
ริวตบมือสองที คัตสึยกถาดใส่น้ำชาเข้ามาอย่างรู้หน้าที่ แล้วรีบเทน้ำชาสองถ้วย ยื่นให้ทาเคชิกับริวคนละถ้วย
“แด่ชัยชนะของโอะนิซึกะโซเรียว”
“ขอบคุณ”
ริวยกถ้วยน้ำชาขึ้น ทาเคชิยกตาม ทั้งสองจิบน้ำชาพร้อมกัน ริวหน้านิ่ง แววตามีเลศนัย ทาเคชิวางถ้วยชาลงบนถาดที่คัตสึถือ กำลังจะก้าวขาเดินออกไป จู่ ๆ ก็เซเสียหลัก เกือบจะล้ม ทาเคชิตกใจ หันขวับมองริวเหมือนรู้ทัน แต่ก็สายไปเสียแล้ว ทาเคชิจ้องหน้าริวแล้วยกนิ้วขึ้นชี้หน้า...ทาเคชิทรุดลง เซกิกับริวรีบปราดเข้าไปประคองรับร่างได้ทัน ทาเคชิสลบไม่ได้สติ
“ยานอนหลับของอามาซาโตะออกฤทธิ์เร็วมาก” ทาโร่บอก
ริวมองทาเคชิ
“ขอโทษที่ต้องใช้วิธีนี้ แต่ฉันยอมให้โอะนิซึกะโซเรียวเป็นอะไรไปไม่ได้”
“เราต้องวางแผนช่วยคุณหนูเซโกะอย่างรัดกุม เพราะพวกเคนอิจิคงไม่ปล่อยให้ใครผ่านเข้าไปง่าย ๆ” โคจิพูดขึ้น
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับโคจิ
ไอโกะก้าวเข้ามาในศาลเจ้า แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิด ใส่แว่นตาดำเพื่ออำพรางสายตาคนทั่วไป
ไอโกะเดินตรงไปยังมุมที่แขวนใบคำอธิษฐาน เคนอิจิกำลังแขวนคำอธิษฐานของตัวเองกระหยิ่มยิ้ม ชำเลืองมองไอโกะที่ทำทีเป็นยืนอ่านคำอธิษฐานอยู่ใกล้ ๆ กัน ไอโกะพูดขึ้นเสียงเบา
“จับนังนั่นมาได้รึยัง”
“จะไม่ทักทายกันก่อนหรือจ๊ะเมียจ๋า”
ไอโกะหันขวับด้วยความโกรธ ปรี๊ดมาก จะโวยวาย แต่ถูกเคนอิจิขู่
“อยากให้คนรู้เหรอว่าเราเป็นอะไรกัน ผมมีเทปเสียงของคุณอยู่นะจ๊ะที่รัก”
ไอโกะตกใจ
“แกแอบอัดเสียงฉันไว้”
“ทั้งเสียงที่สั่งเล่นงานนังเซโกะ และเสียงอื่นๆ อีกเยอะแยะ”
ไอโกะหน้าเสีย ไม่พอใจมาก
“ไม่ต้องตกใจ เทปนั้นจะถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี ตราบใดที่เมียยังทำตัวน่ารักกับผัว”
ไอโกะอึ้ง ไม่คิดว่าเคนอิจิจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ แต่เพราะกลัวถูกแฉ จึงต้องสะกดกลั้นอารมณ์เจ็บแค้นไว้
“ฉันไม่ใช่เมียแก...นังเซโกะเป็นยังไงบ้าง”
“คืนนี้ลูกค้าผมได้สนุกกับเซโกะแน่”
“ฉันอยากให้มันตายคาซ่อง”
“ขอให้ผมได้ค่าตัวมันให้คุ้มก่อนได้มั้ยจ๊ะ...เมียรัก”
ไอโกะกัดฟันกรอด รังเกียจและขยะแขยงคำพูดของเคนอิจิมาก
“แกจะทำยังไงก็ช่าง แต่อย่าให้มันกลับมายั่วทาเคชิอีก”
“โอ๊ย...เจ็บที่ได้ยินเมียพูดถึงผู้ชายอื่น”
เคนอิจิทำเสียงครวญยั่ว ไอโกะโกรธจนสุดทน กระแทกเท้าเดินจากไปอย่างฉุนเฉียวมาก เคนอิจิหัวเราะอย่างเหนือกว่าไอโกะ
โถงบ้านโอะนิซึกะ...ริวกับทุกคน ปรึกษากันเรื่องแผนเข้าไปช่วยแพรวดาว
“เราจะกระจายกำลังออกเป็นสามจุด ผมจะเข้าไปด้านหน้า ทาโร่อ้อมไปทางด้านหลัง อาโคจิรอฟังเสียงสัญญาณด้านนอก แล้วค่อยพาพวกเราถล่มไนท์คลับพร้อมๆ กัน” ริวบอกแผนการ
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับริว คัตสึกับเซกิ วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาริว
“แย่แล้วครับ”
“มีอะไร”
เซกิหน้าตื่น
“โซเรียวหายตัวไป”
ริวและทุกคนตกใจ หันมองกัน
“ฉันสั่งให้แกสองคนเฝ้าโซเรียวให้ดี” โคจิเสียงเข้มไม่พอใจ
คัตสึรู้สึกผิด
“เราเห็นโซเรียวสลบอยู่ เลยออกมาเฝ้าหน้าห้องเพราะไม่อยากรบกวน พอกลับเข้าไปก็เจอจดหมายฉบับนี้”
คัตสึเอาจดหมายฉบับหนึ่งยื่นให้ ริวรีบรับไปเปิดอ่านข้อความในจดหมายทันที
“ถึง ริว โอะนิซึกะ เพื่อนรักที่รู้ใจ...ฉันรู้ว่าแกต้องขัดขวางไม่ให้ฉันไปช่วยเซโกะ และมั่นใจว่าแกต้องใส่อะไรไว้ในน้ำชา ฉันปล่อยให้ผู้หญิงที่ฉันรักมากที่สุดถูกทำลายไม่ได้ จี้หยกที่มอบฉันมอบให้เซโกะ...เป็นเหมือนสัญญาที่จะปกป้องเธอด้วยชีวิตฉันจะสู้กับเคนอิจิด้วยศักดิ์ศรีของสายเลือดซามูไร เพื่อทวงแค้นให้พ่อ...ให้ทุกคน และ เพื่อเกียรติของเซโกะ”
ก่อหน้านี้ทาเคชินอนหลับอยู่บนที่นอน ค่อย ๆ ลืมตามองภายในห้องที่เหลือเพียงเขาคนเดียว ทาเคชิรีบลุกไปยังถังขยะ คายน้ำชาที่อมไว้ในปากทิ้งจนหมด เขาเขียนจดหมายฉบับหนึ่งวางไว้บนที่นอน หยิบดาบสั้นวางอยู่ใกล้ ๆ มาเหน็บไว้ที่สายโอบิคาดเอว สีหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แอบหนีออกไปทางระเบียง
ริวอ่านจดหมายของทาเคชิ หน้าเคร่งเครียด
“โอะนิซึกะพิทักษ์เมืองนี้มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง วันนี้ฉันขอทำหน้าที่ปกป้องผู้หญิงที่รัก และปกป้องเมืองนี้ให้ปลอดภัยจากพวกคนชั่ว”
ริวเอาจดหมายยื่นให้โคจิ ถอนใจแรงอย่างหนักใจ
“พวกเราต้องรีบไปช่วยโซเรียวตามแผนเดิม” โคจิบอกอย่างร้อนใจ
“มันก็จริงอย่างที่ทาเคชิพูด...การกำจัดซะโต้ไม่ใช่แค่เรื่องหัวใจ แต่มันเป็นการทวงความสงบสุขของเมืองนี้ให้กลับมา การปกป้องเมืองนี้จากอิทธิพลเถื่อน ถือเป็นเกียรติสูงสุดของนักรบอย่างพวกเรา”
“ผมพร้อมสละชีวิตเพื่อโซเรียวและชาวเมืองทุกคน” ทาโร่ประกาศ
ริวสายตามุ่งมั่น
“การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการประกาศให้ซะโต้รู้ว่า โอะนิซึกะจะไม่ยอมให้อันธพาลชั่วหน้าไหนมาย่ำยีเมืองนี้เด็ดขาด”
ทุกคนหน้าตามุ่งมั่นจริงจัง
บ้านมิซาว่ายามค่ำคืน...ริกินั่งอ่านหนังสืออยู่มุมรับแขก ไอโกะเดินหิ้วถุงกระดาษที่ไปช้อปปิ้งกลับมาอย่างอารมณ์ดี จูโร่นั่งอยู่ข้าง ๆ ริกิ รีบปรี่เข้าไปช่วยรับถุงกระดาษจากไอโกะอย่างรู้หน้าที่
“เอาขึ้นไปเก็บบนห้องฉัน”
จูโร่ก้มศีรษะรับคำ ถือถุงกระดาษเดินสวนกับซาโตชิที่เข้ามา
“ช้อปปิ้ง วันนี้ผีอะไรเข้า”
“สวยแบบนี้ต้องเป็นนางฟ้า จริงมั้ยคะพ่อ”
ไอโกะถลาเข้าไปกอดอ้อนริกิ ไม่สนใจเสียงจิกกัดของซาโตชิ
“ไอโกะซื้อของมาฝากคุณพ่อกับพี่ซาโตชิด้วยนะ”
ริกิมองไอโกะอย่างแปลกใจ ไม่เข้าใจในอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของไอโกะ
“สงสัยทาเคชิจะทำตัวดีกับไอโกะ ลูกสาวพ่อถึงได้อารมณ์ดี”
ไอโกะหอมแก้มริกิ อมยิ้มไม่ตอบ แล้วลุกเดินขึ้นห้องไปดื้อ ๆ ซาโตชิกับริกิหันมองกัน งง ๆ
ไอโกะนั่งอยู่หน้ากระจกแต่งตัวในห้องนอน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ที่ซื้อมามากมาย ถูกรื้อออกมาวางกองอยู่นอกถุงตรงหน้า เธอหยิบกล่องกำมะหยี่เล็ก ๆ กล่องหนึ่งขึ้นมา แล้วเปิดกล่องออก เผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดงามซ่อนอยู่ข้างใน
“ไม่มีนังเซโกะ ทาเคชิก็ต้องหมั้นกับฉัน...ด้วยแหวนวงนี้ ฮึ ๆ”
ไอโกะหยิบแหวนออกมาบรรจงสวมที่นิ้วนางด้านซ้ายของตัวเอง ประกายเพชรวูบวาบ สวยงามมาก
“ผู้หญิงของทาเคชิคือ ไอโกะ มิซาว่า คนเดียวเท่านั้น”
ไอโกะกระหยิ่มยิ้มมองแหวนเพชรที่นิ้ว สะใจที่กำจัดแพรวดาวได้
บรรยากาศแสงสีเสียงของไนท์คลับยามราตรี สาวสวยไนท์คลับหลายคนคอยโบกมือเรียก
นักเที่ยว และควงแขนนักเที่ยวเข้าไปด้านใน ทาเคชิก้าวมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้าไนท์คลับ ด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว ไม่หวั่นเกรงใด ๆ หันไปบอกลูกน้องกลุ่มซะโต้สองคนที่เฝ้าอยู่หน้าประตู
“ไปบอกนายแก...โอะนิซึกะโซเรียวมาถึงแล้ว”
ลูกน้องทั้งสองพยักหน้ารับรู้กัน คนหนึ่งเปิดประตูให้ อีกคนผายมือเชื้อเชิญทาเคชิ ขณะที่ทาเคชิกำลังจะก้าวเท้าเข้าไป ลูกน้องคนหนึ่งก็ตรงเข้ามาขวาง ทาเคชิชะงัก รู้ด้วยสายตาว่าชายตรงหน้าต้องการอะไร จึงยกมือขึ้น ให้ตรวจอาวุธ ลูกน้องคนนั้นไล่ตรวจตามตัวทาเคชิ เจอดาบสั้นที่โอบิ จึงดึงออกมา แต่ทาเคชิรีบตะครุบเอาไว้
“ห้ามพกอาวุธเข้าไปด้านใน” ลูกน้องเสียงเข้ม
ทาเคชิขบกรามแน่น หนทางตีบตัน จำใจส่งดาบสั้นให้ลูกน้อง
“เดี๋ยวฉันมาเอาคืน”
ลูกน้องยิ้มเยาะอย่างไม่สะทกสะท้าน มั่นใจว่าทาเคชิคงไม่มีชีวิตรอดกลับมา ทาเคชิเดินตามลูกน้องอีกคนเข้าไปข้างใน
ในห้องรับรองส่วนตัวชั้นบนของไนต์คลับ...ลูกน้องเลื่อนประตูไม้เปิดให้ทาเคชิเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว มีโต๊ะเตี้ยตั้งอยู่กลางห้อง ยังไม่ทันที่ทาเคชิจะก้าวเข้าไป ประตูฝั่งตรงข้ามก็ถูกเปิดออก ทาเคชิเห็นแพรวดาวในชุดกิโมโนถูกมัดมือมัดเท้านอนอยู่บนพื้น โดยมีเคนอิจินั่งบนเบาะอยู่กลางห้อง ลูกน้องทั้งหมดยืนอยู่รอบห้อง
“ทาเคชิ”
แพรวดาวร้องไห้โฮด้วยความดีใจ ที่เห็นทาเคชิเข้ามาช่วยเธอ
“คุณมาช่วยฉัน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นกับดัก”
ทาเคชิสบตาแพรวดาว ปวดร้าวที่เห็นน้ำตาของหญิงที่รัก เขาพยายามถ่ายทอดกำลังใจผ่านทางสายตา ทำให้แพรวดาวคลายสะอื้น อุ่นใจที่มีเขาอยู่ด้วย เคนอิจิมองหยัน
“ฉันนับถือความรักของโอะนิซึกะโซเรียวจริง ๆ”
“จะเอายังไงก็ว่ามา”
เคนอิจิถามยั่ว
“นั่นสิ...อะไรที่จะสมน้ำสมเนื้อ แลกกับผู้หญิงของโซเรียว”
เคนอิจิหันไปลากตัวแพรวดาวเข้ามา แล้วกระชากคอเสื้อกิโมโนออกกว้าง เผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเนียนของเธอ
“อ๊าย...”
แพรวดาวตกใจ รีบใช้มือที่ถูกมัด พยายามดึงคอเสื้อมาปิดตัวเองด้วยความอับอายต่อสายตาหื่นกระหายรอบตัว ทาเคชิแทบจะถลาไปฆ่าเคนอิจิตรงหน้า เขากำหมัดแน่น กัดฟันข่มโทสะลงอย่างยากเย็น มองแพรวดาวสะอื้นไห้ เจ็บปวดที่คนรักถูกนำมาเป็นเครื่องมือต่อรอง ทาเคชิตะคอกถาม สายตากร้าว
“แกต้องการอะไร แลกกับการปล่อยให้เซโกะเป็นอิสระ”
เคนอิจิยิ้มเจ้าเล่ห์ เข้าทางตัวเอง
“เล่นโจฮังกับฉันหนึ่งเกม”
แพรวดาวชะงัก
“โจฮัง เกมทอดลูกเต๋าเสี่ยงทาย”
“ฉลาด สมเป็นผู้หญิงของโอะนิซึกะโซเรียว” เคนอิจิแสยะยิ้ม
“อย่ายุ่งกับเธอ” ทาเคชิตวาด
เคนอิจิหันมามองทาเคชิ กระหยิ่มยิ้มชอบใจ
“ฉันจะทอยลูกเต๋าสองลูก แล้วให้แกขานว่าจะเลือกโจ...เลขคู่หรือเลือกฮัง...เลขคี่ ถ้าแกชนะก็เอาตัวผู้หญิงกลับไป”
“แล้วถ้าฉันแพ้”
“เกมนี้เดิมพันด้วยชีวิต”
ทาเคชินิ่ง คิดไว้อยู่แล้วว่าเคนอิจิต้องใช้แผนนี้ แพรวดาวมองทาเคชิ เครียดมาก
บริเวณตรอกด้านหลังไนต์คลับเคนอิจิ...ลูกน้องกลุ่มซะโต้ 2 คน เดินไปมาตรวจตราเวรยามหลังไนท์คลับอย่างเข้มงวด ทาโร่แอบหลบอยู่มุมมืดมุมหนึ่ง รอเวลาและโอกาส พนักงานเสิร์ฟชายคนหนึ่ง เปิดประตูหลังไนท์คลับ ยกถังขยะออกมาเททิ้ง ใกล้กับมุมที่ทาโร่หลบอยู่พอดี ลูกน้องกลุ่มซะโต้มองตามผ่าน ๆ แล้วก็เลิกสนใจ ทาโร่ย่องไปฟาดสันมือลงท้ายทอยของเด็กเสิร์ฟ จนสลบทรุดลง ทาโร่รีบประคองรับร่างเด็กเสิร์ฟ แล้วลากตัวเข้าไปซ่อนในมุมมืด สักพัก ทาโร่ก้าวออกมาในชุดเด็กเสิร์ฟ ปลอมตัวเนียน ๆ ถือถังขยะ เดินก้มหน้าก้มตาตรงไปยังประตูทางเข้าด้านหลัง ลูกน้องคนหนึ่งเรียกไว้
“เฮ้ย”
ทาโร่ชะงัก เมื่อลูกน้องเดินเข้ามาแตะไหล่เขาจากด้านหลัง
“เดี๋ยวเอาเครื่องดื่มมาให้พี่ด้วยนะ”
ทาโร่พยักหน้ารับคำโดยไม่เหลียวหลัง แล้วรีบก้าวเท้าเดินผ่านประตูเข้าไป
ในไนต์คลับเคนอิจิ...ริว คัตสึ เซกิ ปลอมตัวเป็นเที่ยว เนียน ๆ อยู่ในไนท์คลับเคนอิจิโดยไม่มีลูกน้องซะโต้จำได้ ริวกอดสาวสวยสามคน ท่าทางป๋า ๆ สนุกสนานคึกคักมาก
“สาวสวย เพลงสนุกแบบนี้ สวรรค์ดี ๆ นี่เอง วู้...”
สาวสวยยิ้มหวาน
“ถูกใจก็แวะมาเที่ยวบ่อย ๆ นะคะ”
“ตอกบัตรลูกค้าวีไอพีตลอดชีพเลยจ้ะ”
ริวพูดพลางยื่นหน้าไปหอมแก้มสาวสวยหนึ่งฟอด สายตาริว คอยกวาดสายตามองลูกน้องกลุ่มซะโต้ในไนท์คลับ และมองทางเข้าออกอย่างละเอียด สาวสวยคนอื่นไม่ยอม กรี๊ดกร๊าดเข้ามากอด เข้ามาซบอ้อนริวบ้าง
“โอ๋ ๆ ไม่ต้องน้อยใจ พี่ริวจัดให้ทุกคน”
ริวทำทีกอดหอมสาวสวยคนอื่น ๆ เพื่อหวังลอบมองทางออกหลาย ๆ ทาง คัตสึกับเซกิ สบตารู้กัน คอยช่วยริวสังเกตทางหนีทีไล่เช่นกัน
โคจิและลูกน้องโอะนิซึกะ ซุ่มรออยู่ในรถตู้ ที่จอดห่างจากไนต์คลับมาพอสมควร โคจิมองไปทางหน้าไนท์คลับที่เต็มไปด้วยสาวสวยและนักเที่ยว เสียงเพลงคึกคักสนุกสนาน เขาหน้าเครียด รอเวลา
อ่านต่อเวลา 17.00น.
รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 5 (ต่อ)
ทาเคชิกับเคนอิจินั่งอยู่ตรงโต๊ะเตี้ย ฝั่งตรงข้ามกัน โดยมีแพรวดาวนั่งเยื้องออกไปทางด้านหลังเคนอิจิ ชินอิจิยกอุปกรณ์การเล่นลูกเต๋ามาวางบนโต๊ะ เป็นถ้วยไม้ไผ่กับลูกเต๋าสองลูกวางในจาน ทาเคชิพูดขึ้น
“เกมแห่งเกียรติยศ ถ้าแพ้...ฉันยอมตายด้วยดาบของตระกูลโอะนิซึกะ”
เคนอิจิหรี่ตามองทาเคชิอย่างครุ่นคิด ก่อนพยักหน้าสั่งโคเฮ
“ไปเอาดาบของทาเคชิมา”
โคเฮก้มศีรษะรับรู้ แล้วรีบเลื่อนประตูเดินออกไป
หน้าห้อง ทาโร่ทำเนียนเป็นเด็กเสิร์ฟ ยกเครื่องดื่มและถังน้ำแข็งเดินผ่านมา ชะงัก รีบก้มหน้าหลบโคเฮที่ถือดาบสั้น เดินกลับเข้าไปในห้องรับรอง ขณะที่โคเฮเลื่อนปิดประตู ทาโร่ทันเห็นทาเคชินั่งประจันหน้ากับเคนอิจิ โดยมีแพรวดาวอยู่ด้วย ประตูห้องปิดไป ทาโร่รีบเดินเลี่ยงไป เพื่อหาทางช่วยทาเคชิกับแพรวดาว
โคเฮวางดาบสั้นไว้บนโต๊ะ ฝั่งทาเคชิ ทาเคชิมองมองดาบสั้นของตัวเอง ชำเลืองมองแพรวดาวที่กำลังจ้องด้วยความหวาดกลัว เขาถ่ายทอดกำลังใจทางสายตา ให้เธอเชื่อใจเขา
“เริ่มเลยดีกว่า อย่าให้เสียเวลา”
เคนอิจิพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ อารมณ์ดีจนผิดสังเกต เตรียมคว้าลูกเต๋าโยนลงในถ้วยไม้ไผ่ ทาเคชิขัดขึ้น
“ขอตรวจลูกเต๋าก่อน”
“โซเรียวไม่ไว้ใจฉันเหรอ”
เคนอิจิหัวเราะลั่น แต่ทาเคชิตีสีหน้าเรียบนิ่ง ทำให้เสียงหัวเราะค่อย ๆ เงียบลง เคนอิจิวางลูกเต๋ากลับลงในจาน ยื่นให้ทาเคชิ ยิ้มกวนโทสะ ทาเคชิหยิบลูกเต๋าขึ้นมาพลิกดูทุกด้านอย่างละเอียด
“เริ่มได้”
ทาเคชิกับเคนอิจิจ้องมองกัน สายตาเชือดเฉือน ก่อนเริ่มเดิมพันด้วยชีวิต
บรรยากาศในไนท์คลับ นักเที่ยวหลายคนออกไปเต้นรำกับสาวสวยอย่างสนุกสนาน โดยมีนักร้องสาวร้องเพลงขับกล่อมบนเวที ริว คัตสึ เซกิ ทำทีสนุกสนานเข้าบรรยากาศ โดยมีสาวสวยทั้งสามคอยให้บริการบีบนวดและเติมเครื่องดื่มให้ ทาโร่ยกเครื่องดื่มและถังน้ำแข็งเดินเข้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะของริว เนียน ๆ สาวสวยทักทาโร่
“ยังไม่ได้สั่ง”
ริวรีบบอก
“ไม่เป็นไร”
ทาโร่ก้มศีรษะขอบคุณริว ก่อนวางเครื่องดื่มและถังน้ำแข็งใกล้ ๆ ริวชำเลืองมองถังน้ำแข็ง เห็นปืนหนึ่งกระบอกซุกซ่อนอยู่ไม่มีน้ำแข็งข้างใน ทาโร่กระซิบบอก
“โซเรียวอยู่ข้างบน”
ริวมองตามสายตาทาโร่เป็นเชิงรับรู้ ทาโร่รีบเดินเลี่ยงออกไปไม่ให้ผิดสังเกต
“สนุกกันให้เต็มที่นะจ๊ะสาว ๆ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น”
สาวสวยทั้งสามกรี๊ดกร๊าดดีใจ แย่งกันเอาอกเอาใจริว คัตสึกับเซกิ สบตารู้กันอย่างเตรียมพร้อม รอเวลา
ในห้องรับรองส่วนตัว...เคนอิจิเขย่าลูกเต๋าในถ้วยไม้ไผ่ ก่อนจะคว่ำถ้วยลงบนโต๊ะเสียงดังปังแพรวดาวสะดุ้งเฮือก ตกใจ เคนอิจิจ้องทาเคชิเขม็ง ราวกับบังคับให้ขาน ทาเคชิดึงดาบสั้นออกจากฝัก ขานออกไปพร้อมกับปักดาบลงบนโต๊ะใกล้ถ้วยลูกเต๋า
“โจ… เลขคู่”
เคนอิจิกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ยื่นมือไปจับก้นถ้วย ค่อย ๆ ยกขึ้นช้า ๆ แพรวดาวลุ้นมองลูกเต๋าจนแทบจะหยุดหายใจ ทาเคชิขบกรามแน่น รอคอยผลอย่างใจจดใจจ่อ ถ้วยไม้ไผ่ถูกเปิดออก เห็นลูกเต๋าสองลูกบนโต๊ะปรากฏเลขสามและเลขหนึ่ง ทาเคชิกระชากดาบสั้นของเขาออกจากโต๊ะ ลุกขึ้นประกาศ
“เลขคู่...ฉันชนะ”
ทาเคชิเดินตรงไปหาแพรวดาว ตัดเชือกที่ผูกข้อมือและข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ แพรวดาวโผเข้ากอดทาเคชิด้วยความดีใจ อย่างไม่ลังเล
“ทาเคชิ...คุณไม่ทิ้งฉัน”
“ผมไม่มีวันทิ้งผู้หญิงที่รักเป็นอันขาด”
ทาเคชิกอดแพรวดาวแน่น ดีใจที่เห็นแพรวดาวปลอดภัย
“ความรักของโซเรียวมันน่าซาบซึ้งจริง ๆ”
เคนอิจิปรบมือช้า ๆ แล้วลุกขึ้น ชินอิจิ ยามะ โคเฮ ขยับตัวเตรียมพร้อม
“แต่นึกหรือว่าฉันจะปล่อยแขกผู้มีเกียรติกลับง่าย ๆ”
“ปล่อยเซโกะออกไป แล้วเรามาสู้กันตัวต่อตัว”
ทาเคชิกระชับดาบในมือแน่น ดึงตัวแพรวดาวให้หลบไปอยู่ด้านหลังเขา
“เป็นเกียรติที่ได้ทดสอบฝีมือกับโอะนิซึกะโซเรียว”
ยามะหยิบดาบมายื่นให้เคนอิจิ ดึงออกไปจากฝัก ทาเคชิดันตัวแพรวดาวให้ถอยห่างออกไป มือจับดาบสั้นไว้มั่น เตรียมตั้งรับทั้งที่อาวุธเสียเปรียบกว่า เคนอิจิเงื้อดาบขึ้นสูง พุ่งเข้าหา
“อ๊าก...”
แพรวดาวยกมือปิดปาก กลั้นเสียงกรีดร้องของความตกใจ ทาเคชิยกดาบสั้นขึ้นรับดาบของเคนอิจิได้อย่างรวดเร็ว ทาเคชิกับเคนอิจิต่อสู้ฟาดฟันกันด้วยดาบอย่างดุเดือด ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ อย่างไม่มีใครยอมกัน
ทางเดินหน้าห้องรับรองส่วนตัว...ลูกน้องกลุ่มซะโต้สามคนวิ่งกรูจะเข้าไปในห้องรับรอง เมื่อได้ยินเสียงการต่อสู้ข้างใน ทาโร่ยกถาดใส่แก้วและขวดเครื่องดื่มปราดออกมาอีกทาง ก่อนคว้าขวดเครื่องดื่มเขวี้ยงเข้าใส่ลูกน้องกลุ่มซะโต้ทั้งสาม เพื่อสกัดไม่ให้เข้าไปช่วยเคนอิจิ ลูกน้องคนหนึ่งถูกขวดฟาดเข้าที่ท้ายทอยเต็ม ๆ ทรุดลง เสียงแก้วแตกกระจาย ลูกน้องซะโต้อีกสองคนที่หลบทัน จึงปรี่เข้ามารุมเล่นงานทาโร่ทันที
โถงในไนต์คลับ...ริว คัตสึ เซกิ หันขวับเมื่อได้ยินเสียงการต่อสู้ดังโครมครามมาจากชั้นสอง ท่ามกลางความงุนงงสงสัยของกลุ่มนักเที่ยวและสาว ๆ ในไนต์คลับ ไม่รอช้า ริวรีบคว้าปืนในถังน้ำแข็งออกมา ยิงหลอดไฟบนเพดาน เปรี้ยง ๆ ๆ เหล่านักเที่ยวและสาวสวยต่างหวีดร้องด้วยความตกใจ บ้างก็ก้มหลบ บ้างก็วิ่งหนีออกไป
“ขึ้นไปช่วยโซเรียว ระวังอย่าทำร้ายชาวบ้าน” ริวสั่งการ
“ครับ” คัตสึกับเซกิรับคำ
ริวถือปืนวิ่งนำคัตสึกับเซกิไป ลูกน้องซะโต้หลายคนกรูกันเข้ามา กระชากปืนยิงใส่ ปัง ๆ ๆ ริว คัตสึ เซกะ กระโดดหลบกระสุนไปคนละทาง ยิงต่อสู้กับเหล่าบรรดาลูกน้องซะโต้อย่างเร้าใจ
ในรถตู้โคจิ...ทุกคนหันขวับเมื่อได้ยินเสียงปืนดังมาจากในไนท์คลับ พร้อมเหล่านักเที่ยวและสาวสวยวิ่งหนีกันออกมาอย่างอลหม่าน โกลาหล โคจิกระชากปืนออกมา เปิดประตูกระโดดลงจากรถทันทีสั่งลูกน้อง
“ปกป้องโซเรียว”
ลูกน้องกลุ่มโอะนิซึกะรีบกรูกันลงจากรถด้วยความฮึกเหิม ดุดัน
ห้องรับรองส่วนตัวในไนต์คลับ...ทาเคชิกับเคนอิจิยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือด อย่างไม่มีใครยอมกัน จนฉากไม้กั้นห้องล้มระเนระนาด ทำให้เห็นการปะทะกันของกลุ่มโอะนิซึกะกับกลุ่มซะโต้ ชินอิจิตกใจ
“โอะนิซึกะบุกเข้ามาถล่มไนต์คลับเราครับ”
เคนอิจิเงื้อดาบฟาดฟันทาเคชิด้วยความโมโห ยามะ โคเฮ แอบย่องมาคว้าข้อมือแพรวดาวที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังทาเคชิอย่างรวดเร็ว
“ว้าย...ปล่อยฉันนะ”
“เซโกะ” ทาเคชิตกใจ
ทาเคชิผลักดาบดันดาบเคนอิจิสุดแรง จนเคนอิจิเสียหลัก แล้วปราดเข้าไปตวัดดาบสั้นเล่นงานยามะกับโคเฮที่กำลังดึงยื้อตัวแพรวดาว ยามะกับโคเฮ หันมาเล่นงานทาเคชิ แต่โดนทาเคชิเตะกระเด็นไปคนละทาง ทาเคชิโอบตัวแพรวดาวมากอดไว้กับตัว พร้อมปกป้องหญิงคนรักสุดชีวิต แพรวดาวลอบมองทาเคชิ ปลื้มใจที่มีเขาคุ้มครองตลอดเวลา เคนอิจิปรี่เข้าไปจะเล่นงานทาเคชิจากด้านหลัง ทาโร่ถือท่อนไม้ไผ่ยาวพุ่งเข้ามารับดาบเคนอิจิไว้ได้ทัน ทาเคชิหันไปเห็น
“ทาโร่”
ทาโร่ควงท่อนไม้ไผ่ตวัดตีโต้กลับเคนอิจิออกไป
“เรามาช่วยโซเรียว”
ทาโร่ก้มศีรษะแสดงความเคารพทาเคชิ ชำเลืองมองแพรวดาวแวบหนึ่ง โล่งใจที่เห็นเธอปลอดภัย เคนอิจิโกรธ
“โซเรียวของพวกแกมันขี้ขลาด ไม่กล้ามาคนเดียว”
“เราตามมาเอง เพราะรู้ว่าสุนัขอันธพาลมันชอบลอบกัด” ทาโร่สวน
เคนอิจิพยักหน้าบอกชินอิจิ ยามะ โคเฮ ทั้งสี่พุ่งเข้าเล่นงานทาเคชิและทาโร่พร้อมกัน ทาเคชิตั้งรับ และตวัดดาบตอบโต้เคนอิจิกับชินอิจิอย่างสวยงาม เหนือชั้น ทาโร่ควงท่อนไม้ไผ่ไล่ตียามะ โคเฮ ทาเคชิกับทาโร่หันหลังให้กัน สู้กับพวกเคนอิจิไม่ถอย โดยมีแพรวดาวยืนตื่นตะลึงอยู่ข้างหลังของทาเคชิกับทาโร่
โคจิพาลูกน้องกลุ่มโอะนิซึกะบุกเข้ามา ปะทะกับลูกน้องกลุ่มซะโต้ ทั้งสองกลุ่มต่างคว้าท่อนไม้ เก้าอี้ ท่อนเหล็ก ขวด เป็นอาวุธต่อสู้กัน โคจิคว้าเก้าอี้เล่นงานลูกน้องซะโต้ไปหลายคน ขณะหาทางฝ่าเข้าไปข้างในเพื่อช่วยทาเคชิ
ลูกน้องซะโต้คนหนึ่งคว้าขวดตีเป็นปากฉลาม พุ่งเข้ามาแทงริวทางด้านหลัง ริวหันขวับไปเห็น...เอี้ยวตัวหลบได้ทัน แต่ถูกลูกน้องซะโต้ ตวัดขาเตะปืนในมือริวลอยขึ้น ริวหมุนตัวเตะตัดขาลูกน้องซะโต้ล้มลง ก่อนยื่นมือขึ้นไปรับปืนที่ตกลงมาได้อย่างคล่องแคล่วยิงกระสุนออกไป...เปรี้ยง ลูกกระสุนโดนลูกน้องซะโต้ล้มคว่ำไป ริวต่อสู้กับลูกน้องซะโต้คนอื่นๆ อย่างเร้าใจ
เคนอิจิถูกดาบสั้นของทาเคชิตวัดเข้าที่แขน จนเป็นแผล
“อ๊าก...”
เคนอิจิเสียหลักชนฉากไม้กั้นห้องจนพังไปอีกแถบ ทำให้ชั้นบนที่กั้นเป็นห้อง ๆ โล่ง เห็นลูกน้องทั้งสองกลุ่มกำลังต่อสู้กันโดยรอบ เคนอิจิไม่พอใจ
“ยกพวกมารุม โอะนิซึกะโซเรียวไร้เกียรติ ไม่ต่างจากอันธพาล”
“ไม่ต้องห่วง...ฉันจะฆ่าแกด้วยตัวเอง”
ทาเคชิพยักหน้าสั่งให้ทาโร่ดูแลแพรวดาว และกวาดสายตาดุ ขู่ชินอิจิ ยามะ โคเฮ ให้ถอยออกไป เคนอิจิกระหยิ่มยิ้ม ลุกขึ้น ทาเคชิขยับดาบสั้นในมือ เตรียมพร้อม ทาเคชิและเคนอิจิเงื้อดาบพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง อย่างดุเดือดและสูสีมาก แพรวดาวยืนอึ้งมองการต่อสู้ของทาเคชิอยู่ข้างหลังทาโร่ ลุ้น ๆ เคนอิจิพยายามแทงดาบเข้าใส่ทาเคชิเป็นระยะ ทาเคชิเบี่ยงตัวหลบอย่างคล่องแคล่ว
ริว โคจิ คัตสึ เซกิ ลูกน้องกลุ่มโอะนิซึกะ ต่อสู้กับลูกน้องกลุ่มซะโต้ จนตามมาถึงห้องรับรองชั้นบน ทาเคชิหันไปเห็น จึงประกาศบอกทุกคน
“ฉันจะสู้ด้วยศักดิ์ศรีของซามูไร ห้ามใครเข้ามายุ่ง”
พวกโอะนิซึกะชะงัก ไม่กล้าขัดคำสั่งทาเคชิ แต่ก็คอยระวังตัว กลัวพวกซะโต้จะเล่นไม่ซื่อ ทาเคชิกระชับดาบสั้นในมืออย่างมั่นคง ก่อนพุ่งเข้าตอบโต้ เล่นงานเคนอิจิ
“แกพรากชีวิตคนในครอบครัวฉัน”
เคนอิจิยกดาบตั้งรับ เริ่มอ่อนแรง ทาเคชิตวัดดาบเข้าตีเคนอิจิซ้ำ
“แกใช้ธุรกิจเถื่อนครอบงำเมืองนี้”
เคนอิจิเริ่มซวนเซ ทาเคชิหมุนดาบพุ่งเข้าใส่เคนอิจิอีกครั้ง รุนแรง หนักหน่วง
“แกทำลายเกียรติของผู้หญิงที่ฉันรัก”
เคนอิจิโดนดาบสั้นของทาเคชิกรีดที่ข้างแก้มจนเป็นบาดแผล เลือดกระจายกระจายไปทั่ว
“อ๊าก”
“นาย” ชินอิจิตะลึง
ชินอิจิ ยามะ โคเฮ ขยับเข้าไปหาเจ้านายด้วยความเป็นห่วง ทาเคชิปรี่เข้าไป เงื้อดาบจะเล่นงานเคนอิจิซ้ำ
“แกต้องชดใช้ด้วยชีวิต”
เคนอิจิตกใจกลัวมาก รีบดึงร่างชินอิจิเข้ามาบังตนเองไว้ ทาเคชิชะงัก ถือดาบค้างในมือ มองเคนอิจิด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ไอ้คนไม่มีศักดิ์ศรี รังแกผู้หญิง กลัวตายจนต้องหลบหลังลูกน้อง”
เสียงไซเรนรถตำรวจดังขึ้น ทุกคนชะงัก ทาโร่ตะโกน
“ตำรวจมา”
เคนอิจิสบโอกาส รีบผลักชินอิจิเข้าใส่ทาเคชิ แล้วรีบหลบหนีออกไปทางหนึ่ง ชินอิจิ ยามะ โคเฮ และเหล่าลูกน้องซะโต้ ตกใจ วิ่งหนีกันกระจัดกระจาย
“ไอ้เคนอิจิ”
ทาคาชิจะตามไป โคจิรีบบอก
“หนีก่อนครับ รถเราจอดรออยู่ข้างหลัง”
ทาเคชิดึงดัน จะไม่ยอมไป เพราะยังไม่ได้แก้แค้นเคนอิจิ ริวต้องบอกอีกคน
“ถ้าตำรวจรู้ว่าเซโกะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คงไม่ดีแน่ รีบพาเธอหนีเถอะ”
“เซโกะ...”
ทาเคชิหันไปหาแพรวดาวอย่างนึกขึ้นได้ เห็นเธอยืนตัวสั่นตกใจอยู่ข้างหลังทาโร่ ทาเคชิตัดสินใจ
สำนักงานตำรวจกลางคืน...โอะซะมุตบโต๊ะปัง ด้วยความไม่พอใจ
“จับใครไม่ได้ หมายความว่ายังไง”
เหล่าลูกน้องตำรวจก้มหลบสายตาโอะซะมุ ฮิโระ อาเบะ เงยหน้าขึ้น
“เราส่งตำรวจไปตรวจเหตุทะเลาะวิวาทที่ไนต์คลับซะโต้ แต่ไม่เจอผู้ก่อเหตุทั้งสองกลุ่ม”
“พยานที่เห็นเหตุการณ์ล่ะ”
“ทุกคนให้การเหมือนกันว่าจำอะไรไม่ได้”
โอะซะมุหงุดหงิด
“จำไม่ได้หรือไม่กล้าซัดทอดใคร”
ฮิโระ อาเบะ ขยับเข้าหาโอะซะมุ พูดเสียงเบาลงเหมือนไม่อยากให้ลูกน้องได้ยิน
“เป็นไปได้มั้ยครับ ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการหายตัวไปของหนูเซโกะ”
โอะซะมุครุ่นคิดตาม
ในรถตู้โคจิ...แพรวดาวยังมีอาการหวาดผวา ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องอยู่ในรถร่วมกับทาเคชิ และสมาชิกกลุ่มโอะนิซึกะ ทาเคชิถามอย่างเป็นห่วง
“เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
แพรวดาวสั่นหน้าปฏิเสธ แต่ตาแดง ๆ เหมือนจะร้องไห้ ทาเคชิจึงดึงตัวเธอเข้ามากอดปลอบ แพรวดาวสะอื้นไห้ราวกับโล่งใจ รู้สึกถึงความปลอดภัย เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา ทาโร่เฝ้ามองแพรวดาวในอ้อมกอดทาเคชิ เจ็บปวดใจ ทาเคชิปาดน้ำตาให้แพรวดาว กอดแนบแน่น ไม่สนใจสายตาหนักใจของทุกคน โคจิบอกคนขับ
“ไปส่งคุณเซโกะที่บ้านมาซาโกะ ไอดะ”
ทาเคชิรีบขัด
“กลับบ้านโอะนิซึกะ เซโกะจะต้องอยู่กับผม”
ทุกคนหันมองทาเคชิเป็นตาเดียว อึ้ง ๆ โคจิรีบค้าน
“โซเรียวครับ...”
“ไม่มีที่ไหนปลอดภัยสำหรับเซโกะเท่าบ้านโอะนิซึกะ ต่อไปนี้ผมจะดูแลเซโกะเอง”
แพรวดาวเงยหน้ามองทาเคชิอึ้ง ๆ จะค้านแต่ถูกทาเคชิขึงตาดุ ให้เธอเงียบไป ริวเห็นท่าทางจริงจังของทาเคชิ จึงพยักเพยิดบอกโคจิให้ยอมตามน้ำไปก่อน โคจิเครียด แต่ก็ส่งสายตาบอกให้คนขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านโอะนิซึกะ แพรวดาวไม่สบายใจ รู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของบรรยากาศอึมครึม
บ้านมาซาโกะ...มาซาโกะตกใจ เมื่อรู้เรื่องจากคัตสึกับเซกิ
“ย้ายไปอยู่บ้านโอะนิซึกะงั้นเหรอ”
“โซเรียวให้เรามาส่งข่าวกับคุณมาซาโกะ และขอให้ช่วยเก็บเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวไปให้คุณเซโกะด้วย” คัตสึบอก
มาซาโกะยังคงมึนงง จับต้นชนปลายไม่ถูก
“หนูเซโกะจะไปอยู่บ้านโอะนิซึกะในฐานะอะไร”
ในห้องเก็บป้ายบรรพบุรุษบ้านโอะนิซึกะ...ทาเคชิก้มศีรษะเคารพป้ายบรรพบุรุษเสร็จแล้ว จึงหันมาประกาศบอกสมาชิกทุกคน
“เซโกะเป็นผู้หญิงของโซเรียว...ในฐานะโอคุซัง สมาชิกโอะนิซึกะทุกคนมีหน้าที่ดูแลและปกป้องเธอด้วยชีวิต”
“โอคุซัง...ภรรยารอง”
แพรวดาวตกใจ คาดไม่ถึง
“ทาเคชิคะ ฉัน...”
ทาเคชิไม่ฟังเสียงแพรวดาว พยักหน้าสั่งอายะโกะที่นั่งเงียบ รออยู่ อายะโกะก้มศีรษะรับคำ แล้วลุกไปประคองแขนแพรวดาว พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะค่ะ”
แพรวดาวจำใจลุกออกไปกับอายะโกะ ทั้งที่ยังสับสน งง ๆ โคจิรอจนแพรวดาวเดินออกจากห้องไป จึงเตือนทาเคชิ
“ท่านริกิคงไม่พอใจ ถ้ารู้ว่าโซเรียวรับคุณเซโกะเป็นภรรยารอง”
“อาโคจิไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของผม”
ทาเคชิกวาดสายตามองทุกคนเหมือนกำลังสังเกตความรู้สึก
“และทุกคนในห้องนี้...ก็คิดเหมือนอาโคจิ”
มาซาโตะพูดขึ้น
“พวกเราไม่อยากให้โอะนิซึกะกับมิซาว่าบาดหมางกันเพราะผู้หญิง”
คาซูมะหน้าเครียด
“จัดการซะโต้ก็ยากแล้ว ถ้ามิซาว่าตั้งตัวเป็นศัตรูกับเราอีก เมืองนี้คงลุกเป็นไฟ”
ทาเคชิสบตาริว ราวกับอยากรู้ความคิดเห็น ริวจริงจัง
“อนาคตของโอะนิซึกะ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโซเรียว”
ทาเคชิหันหลังกลับไปมองป้ายบรรพบุรุษ นิ่งสักพัก ยืนยันหนักแน่น สีหน้าจริงจัง
“ผมตัดสินใจแล้ว...ต่อไปนี้เซโกะจะอยู่ที่นี่ในฐานะโอคุซัง โอะนิซึกะ โซเรียวจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอง”
โคจิ ริว คาซูมะ มาซาโตะ สบตากันอย่างหนักใจ ทาโร่นั่งเงียบ แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ ทาเคชิสีหน้ามุ่งมั่น จนไม่มีใครกล้าขัด
อายะโกะเลื่อนประตูให้แพรวดาวในชุดยูกาตะเดินเข้ามาในห้องทาเคชิ ก่อนเลื่อนประตูปิดให้แพรวดาว โดยอายะโกะไม่ตามเข้าห้องด้วย
“เอ้อ คุณป้าคะ”
แพรวดาวหันไปเรียกอายะโกะ แต่ไม่ทันแล้ว เธอทำตัวไม่ถูก กวาดสายตาและเดินมองรอบ ๆห้องอย่างไม่คุ้นเคย เห็นข้าวของในห้องถูกจัดเป็นระเบียบ เบาะนอนสองเบาะถูกปูไว้คู่กันเรียบร้อย
แพรวดาวนั่งลงกับพื้น มองเบาะนอนคู่กันอย่างไม่สบายใจ ทาเคชิเลื่อนประตู เดินกลับเข้าห้อง เขาแปลกใจ
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“ฉันนอนที่นี่ไม่ได้ กรุณาจัดห้องอื่นให้ฉันเถอะค่ะ”
สายตาเศร้าของแพรวดาว หนักใจมาก
“จะไม่มีใครกล้ารังแกคุณที่นี่ ผมทำเพื่อปกป้องคุณจากเคนอิจิ และไอโกะ”
“แต่ฉันเป็นโอคุซัง ภรรยารองของคุณไม่ได้ ถ้าพ่อแม่ฉันรู้ท่านจะเสียใจ วัฒนธรรมของบ้านเมืองเราต่างกัน”
“อีกปีเดียวคุณก็จะเรียนจบกลับเมืองไทย ทุกอย่างจะจบสิ้น”
ทาเคชิพูดพลางรู้สึกใจหาย เมื่อนึกถึงวันที่ไม่มีเธอ แพรวดาวสับสน ทาเคชิก้าวมานั่งลงตรงหน้าช้อนมือเธอขึ้นมากุมไว้ขอร้อง
“อยู่กับผมนะเซโกะ เป็นโอคุซังของผม”
“ฉันทำไม่ได้...”
แพรวดาวดึงมือออกจากการกุมของทาเคชิ หันหลังให้ขอบตาแดงก่ำ ทาเคชิสงสารรู้ว่าเธอยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์เลวร้าย เขาสวมกอดจากด้านหลัง กระซิบข้างหู เบา ๆ
“ผมสัญญาจะไม่แตะต้องตัวคุณ ขอให้เราอยู่เป็นเพื่อนร่วมห้องเพื่อตบตาทุกคนเท่านั้น”
แพรวดาวหันมามองทาเคชิ
“คุณจะเป็นโอคุซังแค่ในนาม เมื่อคุณกลับเมืองไทย...แฟนของคุณจะไม่มีทางรู้”
แพรวดาวหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย เพราะรู้สึกผิดที่หลอกทาเคชิเรื่องมีแฟน ยังไม่กล้าสารภาพ ทาเคชิใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาที่ซึมอาบแก้มของเธออย่างนิ่มนวล แพรวดาวคลี่ยิ้ม ทาเคชิดีใจที่เห็นรอยยิ้มของเธอ
“รอยยิ้มของคุณ ทำให้หัวใจผมสว่างเสมอ”
แพรวดาวหลบสายตาทาเคชิ หน้าร้อนผ่าว เอียงอาย
“ดึกแล้ว...ผมจะพาเจ้าหญิงเข้านอน”
ทาเคชิดึงตัวแพรวดาวมาบนเบาะนอน แล้วเปิดผ้าห่มให้ แพรวดาวยิ้มขัดเขิน ยอมเอนตัวลงนอนอย่างว่าง่าย ทาเคชิดึงผ้าห่ม ห่มให้แพรวดาวอย่างทะนุถนอม
“คุณไม่ใช่ฝันดีของผมอีกแล้ว...เซโกะ”
แพรวดาวใจหายวาบ
“ทำไมคะ”
“จากนี้ไป คุณจะเป็นความสุขของผมทุกวัน”
แพรวดาวยิ้มหวาน สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาทางสายตาของเขา ทาเคชิดึงเชือกที่ห้อยลงมาจากเพดาน กำลังจะปิดไฟ
ทาโร่ยืนมองไปทางห้องนอนทาเคชิ เห็นไฟในห้องทาเคชิดับลง เขาจึงก้มหน้าเศร้า กำชายเสื้อ
ที่เป็นรอยเย็บฝีมือแพรวดาวไว้ด้วยความปวดร้าว โคจิเดินเข้ามา มองทาโร่จากด้านหลัง รู้เรื่องทุกอย่าง
“โอคุซัง คือผู้หญิงที่แกไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดถึง”
ทาโร่หันไปเจอพ่อยืนมองเขาด้วยสายตานิ่ง
“พ่อ”
“อย่าปฏิเสธ สายตาแกมันฟ้อง”
ทาโร่ก้มหน้าหลบสายตาพูดไม่ออก
“หน้าที่ของเราคือปกป้องโซเรียว และผู้หญิงของโซเรียวด้วยชีวิต อย่าให้ความรู้สึกส่วนตัวมาทำลายความรับผิดชอบ”
“ผมทราบครับ”
“พ่อไม่ได้บอกให้แกรับรู้ แต่บอกให้แกทำ และ แกต้องทำให้ได้”
“ครับพ่อ”
ทาโร่ก้มศีรษะรับคำสอนของโคจิอย่างลำบากใจ โคจิเครียดมองลูกชายรู้คงตัดใจจากแพรวดาวไม่ได้ง่าย ๆ
จบตอนที่ 5