xs
xsm
sm
md
lg

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11-1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11

รถกระบะคันหนึ่งกำลังแล่นผ่านมาเป็นรถกระบะที่มีผ้าใบคลุมท้ายรถอยู่ ซาโตชิ เห็นสัญลักษณ์ของตระกูลโอะนิซึกะติดอยู่หน้ารถ
“รถของโอะนิซึกะ เฮ้...จอด...จอดก่อน”
ซาโตชิรีบโบกเรียกรถกระบะคันนั้นด้วยความตื่นเต้น รถกระบะชะลอความเร็ว และจอดข้างทาง ซาโตชิเดินโซเซไปทางฝั่งข้างคนขับ ที่คนในรถเลื่อนกระจกลงมา
“พาฉันไปหาโอะนิซึกะโซเรียวเดี๋ยวนี้ ฉันมีเรื่องด่วน”
ชายสองคนในรถหันมองปรึกษากัน ท่าทางตัดสินใจ

รถกระบะแล่นมาจอด เสียงซาโตชิดังขึ้นจากใต้ผ้าใบคลุมท้ายรถ
“ถึงแล้วใช่ไหม”
เงียบ...ไม่มีเสียงตอบ ซาโตชิจึงพยายามลุกขึ้น เปิดผ้าใบออก เคนอิจิยืนยิ้มกริ่ม รอต้อนรับซาโตชิอยู่
“เคนอิจิ”
ซาโตชิตาเหลือก ตกใจมาก

บ้านมิซาว่ายามค่ำคืน...ริกิเปิดผ้าคลุมร่างซาโตชิ ช็อก ตกใจมากที่เห็นศพลูก ไอโกะกรีดร้องแทบสิ้นสติ โผเข้าไปกอดร่างไร้วิญญาณของซาโตชิ
“ไม่จริง...พี่ซาโตชิ”
ริกิขยุ้มผ้าคลุมร่างซาโตชิแน่น หลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ
“ซาโตชิลูกพ่อ...”
จูโร่ก้มหน้าสลด ในการจากไปของเจ้านาย เคนอิจิ ยามะ โคเฮ แอบสบตารู้กัน ก่อนยุยงต่อ
“เราเจอศพของซาโตชิในรถของโอะนิซึกะ คาดว่ากำลังจะเอาศพไปทิ้ง”
ไอโกะไม่เชื่อ
“ทาเคชิไม่มีทางฆ่าพี่ซาโตชิ...ฉันไม่เชื่อ”
ริกิน้ำตาร่วง มองไอโกะที่ร้องไห้ตัวโยน กอดศพซาโตชิ คร่ำครวญถึงซาโตชิด้วยความเศร้าโศก อย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“พี่ซาโตชิสัญญาว่าจะดูแลน้องตลอดไป...พี่ใจร้าย...พี่โกหก...ฮือ”
ไอโกะร้องไห้เสียใจจนทรุดหมดแรงลงกับพื้น ริกิปรี่เข้าไปกอดไอโกะไว้แน่น ก้มหน้ากลั้นเสียงสะอื้น ใบหน้าแดงก่ำ ขบกรามแน่นเพื่อระงับความโศกเศร้าอย่างหนัก
“ใครฆ่าลูกฉัน...มันจะต้องตายอย่างทรมานที่สุด”

ไอโกะร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดริกิ เศร้าเสียใจมาก

เคนอิจิอยู่ในห้องทำงาน หัวเราะลั่นด้วยความสะใจ
“ส่งคนหาศพไอ้ซาโตชิจนทั่วก็ไม่เจอ สุดท้าย...มันก็โง่กลับมาตายเอง”
ยามะเอ่ยชม
“นายฉลาดมากที่ให้คนของเราปลอมตัวเป็นพวกโอะนิซึกะ จนซาโตชิยอมขึ้นรถมาด้วย”
“การตายของซาโตชิจะทำให้มิซาว่ากับโอะนิซึกะฆ่ากันเอง” โคเฮเสริม
“สินค้าล็อตใหญ่ของฉันถูกตำรวจยึดไว้เป็นของกลาง ทำให้ฉันขาดทุนย่อยยับ คราวนี้ฉันจะเก็บกำไรย้อนหลัง ฮุบที่ดินทั้งหมดของเมืองนี้มาครองคนเดียว”
เคนอิจิหัวเราะร่าอย่างมีความสุข ยามะ โคเฮ หัวเราะชอบใจไปกับเจ้านาย ชินอิจิหลุกหลิกร้อนใจ อยากหาทางไปส่งข่าวให้โอะนิซึกะ แต่ไม่มีโอกาส จนหันไปเห็นสายตาเคนอิจิจ้องมองเขาเขม็ง จึงรีบออกตัว
“ผมขอตัวไปดูแลความเรียบร้อยที่ไนต์คลับก่อนครับ”
ชินอิจิก้มศีรษะแล้วเลี่ยงออกไป เคนอิจิหันมาบอกสมุน
“จับตาดูชินอิจิเอาไว้ ท่าทางมันไม่น่าไว้ใจ”
ยามะกับโคเฮรับคำ
“ครับนาย”
เคนอิจิมองตามชินอิจิอย่างไม่ละสายตา รู้สึกไม่ไว้ใจ

ในห้องนอนทาเคชิ...แพรวดาวหันมาหาทาเคชิอย่างตกใจ
“เจอศพคุณซาโตชิแล้วเหรอคะ”
“ท่านโอะซะมุให้คนมาส่งข่าวตอนเย็น บอกว่าลุงริกิไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตายของซาโตชิเลย”
ทาเคชิพูดด้วยสีหน้าหนักใจ แพรวดาวเข้าใจได้ทันที
“เพราะมิซาว่าโซเรียวต้องการแก้แค้นด้วยตัวเอง”
ทาเคชิครุ่นคิด
“ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเคนอิจิ...พรุ่งนี้ผมจะไปเคารพศพซาโตชิ”
“แต่มันอันตราย ถ้ามิซาว่าโซเรียวคิดว่าคุณฆ่าคุณซาโตชิ”
“ความแค้นกับหน้าที่ของตระกูลเป็นคนละส่วนกัน ผมมั่นใจว่าลุงริกิไม่ทำอะไรเอิกเกริกในพิธีศพของลูกชายตัวเอง”
แพรวดาวไม่สบายใจ เป็นห่วงทาเคชิ

บ้านมิซาว่ายามเย็น...ขบวนรถของโอะนิซึกะหลายคันแล่นเข้ามาจอดหน้าทางเข้างานศพ คัตสึ เซกิ วิ่งลงมาเปิดประตูให้ทาเคชิ แพรวดาว ริว ทาโร่ โคจิ ลงจากรถ ขณะที่พวกโอะนิซึกะกำลังจะก้าวเข้าไปในงานศพ จูโร่ และลูกน้องมิซาว่าที่ยืนเฝ้าอยู่หน้างานอีก 2 คน ก็ขยับเข้ามาขวางทาง
“ท่านริกิจัดพิธีศพเฉพาะคนในครอบครัว ห้ามคนนอกเข้า”
“เรามาตามมารยาทแล้ว ถ้าเขาไม่มีมารยาทก็กลับเถอะ”
ริวจะหันหลังกลับ เพราะไม่เต็มใจมาอยู่แล้ว แต่ทาเคชิรั้งไว้
“การให้เกียรติคนตาย คือหน้าที่ที่เราต้องทำ”
“แต่เจ้าภาพเขาไม่ต้อนรับ” ริวฮึดฮัด
“ทาเคชิ...”
ไอโกะถลาเข้ามาสวมกอดทาเคชิ ร้องไห้สะอึกสะอื้น แพรวดาวอึ้งไปเล็กน้อยเพราะไม่ทันตั้งตัว ไอโกะหันไปเห็นแพรวดาว จ้องตาเขม็ง แพรวดาวจึงเลี่ยงสายตาไปทางอื่น อย่างเจียมตัว ริกิ เดินนำลูกน้องออกมา
“ไม่นึกว่าโอะนิซึกะจะกล้ามาเหยียบที่นี่”
ทาเคชิ ก้มศีรษะแสดงความเคารพริกิ ริว แพรวดาวและลูกน้องโอะนิซึกะจึงก้มศีรษะตาม
“โคโนทะบิโนะโกะฝุโค โอคุยาหมิ โมชิอาเงมัสสุ...โปรดรับการแสดงความเสียใจด้วยครับ”
ริกินิ่ง ไม่ตอบรับตามมารยาท ก่อนคำรามเสียงดัง
“ไม่จำเป็น”
แพรวดาวยืนอยู่ข้างทาเคชิถึงกับสะดุ้งเฮือก หวาดกลัวท่าทีของริกิ ริวก้าวออกมายืนเคียงข้างทาเคชิ จ้องริกิอย่างดุดันฉายแววเกลียดชัง พร้อมที่จะปะทะกับริกิเต็มที่ ไอโกะมองทาเคชิกับริกิสลับกัน สะอื้นฮัก ๆ เห็นความความบาดหมางของตระกูลชัดเจน โคจิพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มตึงเครียด
“หากมิซาว่าโซเรียวมีเรื่องเคลือบแคลงใจกับโอะนิซึกะ ก็ควรคุยกันหลังงาน ถือเป็นการให้เกียรติคนตายนะครับ”
ริกิหันขวับมองโคจิ ครุ่นคิดสักพัก ก่อนหันหลังเดินกระแทกเท้ากลับเข้าไปในพิธีศพ
“เข้าไปเคารพศพพี่ซาโตชิกันเถอะค่ะ”

ไอโกะปรายตามองแพรวดาวอย่างเย้ยหยัน ก่อนดึงแขนทาเคชิเข้าไป แพรวดาวเดินตามทาเคชิไปพร้อมกับทุกคน รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดมาก

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

ภายในพิธีงานศพของซาโตชิ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึมครึม และท่าทางเหินห่างของมิซาว่าและโอะนิซึกะนั่งฟังพระสวดอยู่คนละมุม ทาเคชิ ริว นิ่งและองอาจมาก เพราะต้องการทำหน้าที่ของตระกูลให้ดีที่สุด ริกิเคร่งขรึมจนดูน่ากลัว มองรูปซาโตชิด้วยอารมณ์เศร้าระคนแค้น แพรวดาวยอมนั่งห่างทาเคชิ ใกล้ริวและทาโร่ แอบมองไอโกะร้องไห้กอดทาเคชิ จนหันมาเห็นสายตาให้กำลังใจจากทาโร่ จึงยิ้มรับนิด ๆ พยายามเข้มแข็ง ไม่คิดมาก

แพรวดาวก้าวออกมาจากห้องน้ำ สะดุ้งเฮือกเมื่อเจอไอโกะยืนรออยู่
“แกมาบ้านฉัน เพื่อเยาะเย้ยฉันในฐานะเมียของทาเคชิใช่ไหม”
ไอโกะตวาดใส่ แพรวดาวตกใจก่อนคุมสติ แล้วก้มศีรษะให้ไอโกะ
“ฉันขอแสดงความเสียใจกับคุณไอโกะด้วยนะคะ”
“ฉันไม่ต้องการอะไรจากผู้หญิงหน้าด้านอย่างแก”
ไอโกะผลักแพรวดาวจนเสียหลักไปติดประตู
“โอ๊ย”
ขณะที่ไอโกะจะปรี่จะเข้าไปเล่นงานแพรวดาว ทาโร่ก็พุ่งเข้ามาขวางทันทีที่เห็นเหตุการณ์ จนไอโกะชะงัก
“อย่ายุ่ง ไอ้ขี้ข้า”
“โอคุซังตั้งใจมาเพื่อให้เกียรติมิซาว่า แต่คุณหนูไอโกะกำลังจะทำให้ตัวเองเสียเกียรติ”
“เกียรติของมิซาว่าไม่ได้มีไว้ใช้กับคนอย่างพวกแก”
“สำหรับผมยังไงก็ได้ แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายโอคุซังเด็ดขาด”
ทาโร่พูดด้วยสีหน้าท่าทางเอาจริง ไอโกะเข่นเขี้ยว แค้นที่ทำอะไรแพรวดาวไม่ได้

ริกิ และลูกน้องมิซาว่าก้าวเข้ามาขวาง เมื่อทาเคชิ กำลังจะเดินทางกลับ
“เสร็จพิธีแล้ว ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีก”
“หากท่านลุงริกิคิดว่าเราฆ่าซาโตชิ ผมขอยืนยันด้วยเกียรติของโอะนิซึกะว่าไม่ได้ทำ”
“ลูกฉันตายแล้ว แกจะแก้ตัวยังไงก็ได้”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าคนของมิซาว่าไปอยู่กับพวกซะโต้ได้ยังไง”
ริวคำรามออกมาอย่างหมดความอดทน โกรธแค้นเรื่องริกิบงการฆ่าพ่อแม่ของตัวเอง ทาเคชิปราม
“ริว ท่านลุงริกิกำลังเสียใจ ไว้ค่อยคุยวันหลัง”
“ฉันไม่ใช่ลุงของพวกแก วันนี้มิซาว่ากับโอะนิซึกะไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากกันอีก”
ริวสวนทันที
“น่าจะถอดหน้ากากทิ้งตั้งแต่วันที่มิซาว่าโซเรียวสั่งฆ่าเพื่อนรักอย่างลุงอิจิโร่”
“แกพูดเรื่องอะไร”
ริกิตะคอกกลับริวเสียงดัง ทั้งริวและริกิกำลังอารมณ์เดือดพล่าน จนทาเคชิห้ามไม่ได้
“ก็พูดในสิ่งที่ได้ยิน...มิซาว่าโซเรียวคือคนบงการฆ่าท่านลุงอิจิโร่ จนทำให้พ่อแม่ผมเสียชีวิตไปด้วย”

“ไม่จริง คุณพ่อฉันไม่ได้ทำ”

ไอโกะปรี่เข้ามายืนเคียงข้างริกิเพื่อยืนยัน แพรวดาวกับทาโร่ตามเข้ามาสมทบกับพวกโอะนิซึกะเงียบ ๆ ทาเคชิสังเกตเห็นริกิหน้าแดงก่ำ ท่าทางตกตะลึงจนพูดไม่ออก ความจริงก็กระจ่างในใจ
“ในที่สุด...ท่านพ่อก็ต้องตายเพราะเพื่อนที่รักและไว้ใจที่สุด”
“บอกเขาไปสิคะว่าคุณพ่อไม่ได้ฆ่าลุงอิจิโร่”
ไอโกะถามริกิ ก่อนหันไปถามทาเคชิ
“คุณก็ไม่ได้ฆ่าพี่ซาโตชิใช่ไหม”
ทาเคชิมองไอโกะด้วยสายตาเย็นชา ก่อนตัดสินใจ
“ขอโทษด้วยไอโกะ...พ่อคุณบงการฆ่าครอบครัวผม การหมั้นของเราสิ้นสุดแล้ว”
“ไม่...คุณพ่อไม่ได้ทำ ทาเคชิจะยกเลิกการหมั้นไม่ได้”
ไอโกะกรีดร้อง ขณะโผเข้าไปกอดรั้งทาเคชิ
“ปล่อยมือจากมันเดี๋ยวนี้ไอโกะ”
ริกิออกคำสั่ง แต่ไอโกะไม่ยอมฟัง
“เราไม่ได้ยกเลิกงานหมั้นใช่ไหม ทาเคชิโกหกใช่ไหมคะพ่อ”
“ต่อไปนี้...จะมีแต่วันล้างแค้นให้ซาโตชิเท่านั้น”
ทาเคชิโต้กลับอย่างไม่เกรงกลัวสักนิด
“มิซาว่าโซเรียวออกทุกข์เมื่อไหร่ โอะนิซึกะพร้อมจะสะสางบัญชีแค้น”
“อ๊าย...ไม่จริง ไม่”
ไอโกะเต้นเร่า ๆ ก่อนสติสัมปชัญญะดับวูบ ร่างบางกำลังจะล้มทรุดฮวบกับพื้น ทาเคชิจะเข้าไปช่วยประคอง แต่ริกิปราดเข้าไปรับร่างไอโกะไว้แทน ตวาดเสียงเหี้ยม
“แกไม่มีสิทธิ์แตะต้องคนของมิซาว่า...ออกไปจากบ้านฉัน”
ทาเคชิกัดฟันข่มความโกรธ เดินนำพวกโอะนิซึกะออกไป ริกิมองไอโกะที่ไม่ได้สติในอ้อมแขน เคียดแค้น อาฆาตทาเคชิมาก

ภายในรถ แพรวดาวนั่งอยู่เบาะด้านหลังกับทาเคชิที่มีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา โดยมีคัตสึเป็นคนขับรถ เซกินั่งข้างคนขับ แพรวดาวยื่นมือไปแตะแขนทาเคชิเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ เมื่อเห็นสีหน้าของเขา
“นับจากวันนี้ โอะนิซึกะกับมิซาว่าจะเผชิญหน้ากันในฐานะศัตรู...ถึงเป็นการทำลายความสัมพันธ์ที่มีมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ผมก็ต้องทำ”
“คุณจะยอมให้ความแค้น ทำลายมิตรภาพทั้งหมดเหรอคะ”
“ผมทำเพื่อความถูกต้อง”
ทาเคชิสบตาแพรวดาว
“ถ้าปล่อยให้มิซาว่ากับซะโต้ร่วมมือกัน แผ่นดินจะร้อนเป็นไฟ ชาวเมืองจะอยู่อย่างหวาดผวา ไม่มีวันสงบสุข”

สีหน้าทาเคชิมุ่งมั่นมาก แพรวดาวหวั่นวิตก ไม่สบายใจ

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

ห้องทำงานเคนอิจิวันใหม่...ประตูห้องถูกกระแทกเปิดดังปัง ขณะยามะ โคเฮ กำลังทำแผลตามตัวให้เคนอิจิ ริกิก้าวเข้าประตูมาพร้อมจูโร่และลูกน้อง หน้าตาถมึงทึงเอาเรื่อง
“ไอ้ทาเคชิกับไอ้ริวรู้เรื่องการตายของพ่อแม่มันได้ยังไง”
ริกิจ้องตาเคนอิจิอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ เคนอิจิรีบแก้ตัว
“โอะนิซึกะมีสายตั้งเยอะแยะ ไม่แปลกที่จะรู้”
ริกิจ้องหน้าเคนอิจิอย่างไม่ไว้ใจ รู้ทันความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
“ฉันประกาศสงครามกับโอะนิซึกะไปแล้ว มีมิซาว่าก็ต้องไม่มีโอะนิซึกะ”
“ซะโต้ยินดีให้ความร่วมมือกับมิซาว่าทุกอย่าง”
เคนอิจิพูดพร้อมทวงสัญญา
“หวังว่าคุณพ่อตาจะไม่ลืมสัญญาของเรา”
ริกิอึ้งไปนิดด้วยความรังเกียจ แต่ยังฝืนหัวเราะเบา ๆ
“โค่นโอะนิซึกะได้เมื่อไหร่ แกจะได้แต่งงานกับไอโกะทันที”
เคนอิจิยิ้มอย่างพอใจ รอคอยเวลาที่จะได้แต่งงานกับไอโกะ

หลายวันผ่านไป...แพรวดาววางดอกไม้ลง อย่างไม่สมาธิ อายะโกะละมือจากการจัดดอกไม้ หันมาถามแพรวดาวด้วยความเป็นห่วง
“ความอึดอัดใจจะทำให้เราสูญเสียสมาธิ”
แพรวดาวมองอายะโกะอย่างสองจิตสองใจ ก่อนระบายความในใจออกมา
“ท่าทางทาเคชิแปลกไปตั้งแต่ประกาศสงครามกับมิซาว่า เหมือนมีแผนบางอย่างแต่ไม่ยอมบอกฉัน”
“โซเรียวคงเป็นห่วง ไม่อยากให้โอคุซังเครียดไปด้วย อย่าคิดมากเลยนะคะ”
แพรวดาวยังคงกลัดกลุ้ม ไม่สบายใจ ฟุมิโกะเข้ามา ก้มศีรษะก่อนรายงานแพรวดาว
“เย็นนี้โซเรียวจะพาโอคุซังออกไปดินเนอร์ข้างนอก ฝากกำชับให้โอคุซังแต่งตัวสวยรอด้วยค่ะ”
“แหม...เหมือนรู้ว่าภรรยากำลังไม่สบายใจ ถึงได้รีบมาเอาใจ”

อายะโกะพูดแซว ยิ้ม ๆ กับฟุมิโกะ แพรวดาวนึกแปลกใจว่าทาเคชิจะพาไปไหน

ท่าเรือโอะนิซึกะยามเย็น...เรือมากมายหลายชนิดจอดเทียบท่าอยู่ขบวนรถหรูของทาเคชิแล่นเข้ามาจอดบริเวณท่าเรือ ทาโร่วิ่งลงมาเปิดประตูให้ ทาเคชิก้าวลงมาจากรถในชุดสูทสุดเท่ และแพรวดาวตามลงมาในชุดสวย สง่า ทาเคชิยิ้มมองแพรวดาวอย่างพึงพอใจ
“คิมิที่รักของผม งดงามที่สุด”
แพรวดาวหลบสายตาทาเคชิ เขิน ๆ ทาโร่แอบมองแพรวดาวด้วยสายตาชื่นชม ก่อนรายงานทาเคชิ
“เรือพร้อมแล้วครับ”
ทาโร่ผายมือไปยังเรือยอร์ชสีขาวที่จอดอยู่ตรงปลายสะพาน ได้รับการเช็ดถูสะอาดเอี่ยมจนเงาวับ แพรวดาวอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
“เรือสวยจังเลยค่ะ”
“ป้าอายะโกะบอกว่าคุณเครียดจนหน้ามืดและเวียนหัวบ่อย ผมก็เลยอยากพาคุณมาเปลี่ยนบรรยากาศ”
“ขอบคุณที่เป็นห่วงฉันนะคะ”
ทาเคชิยิ้ม แล้วประคองมือแพรวดาวเดินไปลงเรือด้วยกัน โดยมีทาโร่ คัตสึ เซกิ ตามไปคอยดูแลด้วย

บนเรือยอร์ชยามเย็น...ทาเคชิประคองกอดแพรวดาวเดินสำรวจไปทั่วเรือ คุยกัน หยอกล้อกันอย่างมีความสุข แพรวดาวยืนมองวิวจากบนเรืออย่างสบายใจ ก่อนรู้สึกหนาว เพราะลมแรง ทาเคชิเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้ และกอดไว้แนบแน่น ทั้งสองหันมาสบตากัน ยิ้มหวาน ราวกับโลกนี้มีเพียงสองคน
คัตสึ เซกิ คอยสลับกันควบคุมเรือและบริการ แอบสะกิดกันด้วยความอิจฉาเจ้านาย ทาโร่มองแพรวดาวกับทาเคชิหวานต่อกัน เศร้า ๆ เจียมตัว จึงเลี่ยงหลบไปทางด้านหลังเรือ

ทาโร่ยืนอยู่ท้ายเรือ มือกำราวจับไว้แน่นแล้ว พยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเอง เขานึกถึงคำสาบานต่อหน้าป้ายบรรพบุรุษ ตามคำสั่งพ่อ
“ผม ทาโร่ ซาซากิ ขอสาบาน...จะจงรักภักดีต่อโอะนิซึกะโอะยะบุนด้วยชีวิต วิญญาณ หัวใจ และจะไม่มีวันทรยศหักหลังโอะยะบุน ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต”
ทาโร่นึกถึงตอนที่โคจิรื้อแปลงดอกดาวเรืองทิ้ง เพราะอยากให้เขาตัดใจ
“ดอกดาวเรืองคือเจ้าสาวของพระอาทิตย์ ไม่ใช่เจ้าสาวของแก...ความจริงมันเจ็บปวด และแกต้องยอมรับมันให้ได้”
ทาโร่มองแหวนประจำตระกูลของตัวเอง สีหน้าเศร้า และพยายามตัดใจ เขาพึมพำคนเดียว

“โอคุซังคือเจ้าสาวของพระอาทิตย์ ไม่ใช่ของเรา...”

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

ดาดฟ้าเรือยามค่ำคืน ทาเคชิยื่นแก้วไวน์แก้วหนึ่งให้แพรวดาว และถืออีกแก้วของเขาชนแก้วไวน์กับแพรวดาวเบา ๆ ยกขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดี ท่ามกลางบรรยากาศวิวดาดฟ้าเรือยามค่ำคืน
“ฉันคิดว่าคุณชอบดื่มแต่สาเก”
“ผมชอบไวน์มากกว่า...เคยฝันอยากมีบ้านในหุบเขาที่ปลูกแต่องุ่น และมีโรงบ่มไวน์”
ทาเคชิขยับเข้าแนบชิดแพรวดาว
“ยิ่งมีคุณอยู่เคียงข้าง ชีวิตผมก็สุขที่สุดแล้ว”
แพรวดาวพิงศีรษะลงบนไหล่เขา เหม่อมองออกไปยังท้องฟ้ามืดมิด มีเพียงแสงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ทาเคชิรับแก้วไวน์จากมือแพรวดาว มาวางไว้บนโต๊ะพร้อมแก้วไวน์ของเขา แล้วโอบวงแขนกระชับกอดเธอจากด้านหลัง ยืนดูดาวคู่กัน
“กลางคืนมืดมิดเพราะไร้แสงตะวัน โชคดีที่มีแสงดาวสุกสว่างบนท้องฟ้า เหมือนชีวิตนักรบอย่างผม ที่มีแสงดาวอย่างคุณนำทาง”
“แต่แสงดาวไม่สว่างพอที่จะทำให้เห็นอะไรชัดเจน”
“คุณเห็นดาวดวงนั้นไหม”
ทาเคชิใช้มือข้างซ้ายจับมือข้างซ้ายแพรวดาวขึ้นทาบท้องฟ้า ราวกับกำลังจับดาวดวงหนึ่งที่ส่องแสงเจิดจ้าไว้
“ดาวศุกร์...เป็นดาวเคราะห์ที่สว่างที่สุดถ้ามองจากโลก แต่ผมใช้หัวใจมองจึงเห็นแสงเจิดจ้าที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณ”
มืออีกอีกข้างของทาเคชิ ถือแหวนเพชรเม็ดงามสะท้อนแสงไฟวาว วาดเข้ามาหามือข้างซ้ายของแพรวดาว เขาบรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ
“นักรบแห่งตะวันจะเคียงคู่แสงดาวตลอดไป...แต่งงานกับผมนะคิมิที่รัก ผมจะรักและเทิดทูนคุณเพียงคนเดียวตลอดไป”
แพรวดาวอึ้ง ตะลึง มองแหวนในมือด้วยความสับสน เธอนึกถึงภาพบรรยากาศในงานศพซาโตชิ ที่อึมครึมและโศกเศร้า ภาพที่เธอเห็นทาเคชิโศกเศร้าในงานศพอิจิโร่ ภาพในฝันที่พ่อกับแม่เตือนเธอ
“ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน หรือหลงอยู่ในโลกของความฝันชั่วเวลาหนึ่ง แต่สุดท้ายเราก็ต้องตื่นมาอยู่ในโลกที่แท้จริง...นั่นก็คือการยอมรับความจริง” แม่พูดเตือนสติ
“ผู้หญิงของนักรบ คือจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของนักรบ...ถ้าลูกรักทาเคชิ ลูกก็ต้องตัดใจจากเขา” พ่อชี้แนะ
ปัจจุบัน...ทาเคชิยิ้มรอคำตอบจากแพรวดาว แต่เธอเงยหน้ามองเขาน้ำตาค่อย ๆ เอ่อล้นคลอเบ้า ตัดสินใจ
“ฉันขอโทษค่ะ...ฉันแต่งงานกับคุณไม่ได้”
ทาเคชิอึ้ง ไม่คาดคิดว่าจะได้รับคำตอบนี้จากแพรวดาว เขากระซิบเสียงแผ่ว
“หรือคุณไม่ได้รักผม”
“ความรักไม่ได้จบที่การแต่งงานเสมอไปนะคะ ลืมไปแล้วเหรอคะว่าเส้นทางเดินของเรามีจุดหมายปลายทางที่ต่างกัน”
แพรวดาวตัดใจถอดแหวน และถอดสร้อยจี้หยกของทาเคชิออก เจ็บปวดแต่ต้องทำ

“ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดา อยากแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองรัก...พร้อมจะแก่เฒ่าไปด้วยกัน ฉันไม่อยากอยู่ท่ามกลางคมหอกคมดาบไปตลอดชีวิต แล้วถ้าเรามีลูก ลูกของเราต้องสืบทอดภาระความแค้นไปอีกไม่มีที่สิ้นสุดงั้นเหรอคะ ฉันไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นค่ะ...ทาเคชิ”

แพรวดาวสะอื้นฮัก พรั่งพรูความในใจออกมาจนหมด ขณะยื่นแหวนและจี้หยกคืนให้เขา ทาเคชิไม่รับแหวนและจี้หยกคืน เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ก่อนหมุนตัวเดินจากไปด้วยท่าทางเย็นชา ไร้ความรู้สึก เพราะช็อคและเสียใจมาก แพรวดาวร้องไห้หนักเมื่อเห็นเขาเดินห่างออกไป ทาโร่เดินสวนทาเคชิเข้ามา งุนงง ว่าเกิดอะไรขึ้น

บ้านมาซาโกะเช้าวันใหม่...แพรวดาวก้มศีรษะขอบคุณมาซาโกะ ใบหน้าเศร้าหมอง ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก มาซาโกะสบตาทาโร่ รู้ว่าแพรวดาวต้องมีเรื่องมา แต่ไม่กล้าถาม
“ขอบคุณคุณป้ามากนะคะ ที่ยอมให้หนูกลับมาพักที่นี่”
“ป้ายินดีต้อนรับหนูเซโกะเสมอจ้ะ”
แพรวดาวหันไปบอกทาโร่ ที่คอยติดตามดูแลเธอ
“คุณทาโร่กลับไปเถอะค่ะ”
“โซเรียวสั่งให้ผมคอยดูแลโอคุซัง”
“ฉันไม่ใช่โอคุซังตั้งแต่ก้าวออกมาจากบ้านหลังนั้น”
ทาโร่ก้มศีรษะนิ่ง ยืนยันที่จะไม่กลับ แพรวดาวถอนใจแรงอย่างเหนื่อยใจ มิโยะโกะรีบมาหาแพรวดาวที่บ้านด้วยความร้อนใจ
“เซโกะ...เกิดอะไรขึ้น”
แพรวดาวอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะอธิบายยังไง

แพรวดาวซับน้ำตา หลังจากเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้มิโยะโกะฟัง
“คิดดีแล้วเหรอที่ทำแบบนี้” มิโยะโกะจับมือแพรวดาวอย่างปลอบใจ
“โลกของทาเคชิไม่ใช่โลกที่ฉันต้องการ รักแค่ไหน...ฉันก็ต้องยอมรับความจริง”
“ความจริงจะทำร้ายหัวใจเธอให้เจ็บช้ำทรมานไปตลอดชีวิต”
แพรวดาวเบือนหน้าหนี น้ำตาไหลอาบแก้ม
“ฉันตัดสินใจไปแล้ว...ทันทีที่เรียนจบ ฉันจะกลับเมืองไทย”
“ก็ยังเหลืออีกตั้งหลายเดือน ถึงตอนนั้นก็ว่ากันอีกที ตอนนี้ไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นก่อนดีกว่า”
แพรวดาวพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย พอลุกขึ้น จู่ ๆ เธอก็รู้สึกวูบ หน้ามืด จนมิโยะโกะต้องประคองรับไว้
“เซโกะ”
ทาโร่วิ่งเข้ามา ตกใจที่เห็นแพรวดาวหมดสติอยู่กับมิโยะโกะ

“โอคุซัง”
 
อ่านต่อตอนที่ 11-2  
กำลังโหลดความคิดเห็น