รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 4
เช้าวันใหม่...มิโยะโกะคุยกับแพรวดาวที่ร้านผลไม้ ในมือมิโยะโกะถือหนังสือพิมพ์ กำลังอ่านข่าวอยู่อย่างสนใจ
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าครบร้อยวันการตายยกตระกูลโอะนิซึกะแล้ว...วันนี้เค้าจะจัดพิธีใหญ่ที่บ้านด้วยนะ”
“การไว้ทุกข์ครบร้อยวันต้องจัดพิธีใหญ่โตด้วยเหรอ”
“ไม่ใช่แค่ครบร้อยวันแต่วันนี้คือพิธีขึ้นรับตำแหน่งโซเรียวของทาเคชิ ตระกูลโอะนิซึกะถือเป็นตระกูลซามุไรแห่งจักรพรรดิ .. โซเรียวของโอะนิซึกะ ได้รับเกียรติจากคนในเมืองอย่างสูง งานนี้สำนักงานตำรวจอารักขาความ ปลอดภัยเต็มที่ คุณพ่อของฉันคุมตำรวจไปด้วยตัวเองเลยนะ” มิโยะโกะนึกถึง ฮิโระ อาเบะพ่อของเธออย่างภูมิใจ
“ไอโกะว่าที่คู่หมั้นของทาเคชิ..คงอยู่ในพิธีนี้ด้วยใช่มั้ย”
“ถ้าไปก็เข้าไม่ได้ พิธีศักดิ์สิทธิ์แบบนี้...คนที่จะเข้าร่วมได้ต้องเป็นสายเลือดของตระกูลเท่านั้นคนนอกจะร่วมได้ก็แค่ในงานเลี้ยงฉลอง”
แพรวดาวฟังเรื่องราวต่างๆอย่างสนใจ
บริเวณจัดงานบ้านโอะนิซึกะ บรรยากาศการจัดงานพิธีรับตำแหน่งใหญ่โต มีสมาชิกของกลุ่มมาร่วมงาน โคจิ มาซาโตะ และ คาซูมะ ยืนอย่างสง่าผ่าเผยในชุดมนท์ซุกิ ฮะโอะริ ฮะกะมะ หรือกิโมโนสำหรับผู้ชาย ชุดกิโมโนมีตราประจำตระกูลประทับอยู่ 5 แห่งฮะโอะริ คือเสื้อคลุมครึ่งตัว มีตราประทับ 5 แห่ง ส่วน ฮะกะมะ คือกางเกงกระโปรงที่สวมทับกิโมโนอีกที...มนท์ซุกิ กับ ฮะโอะริ จะใช้ผ้าไหมพื้นสีดำ ฮะกะมะจะมีลวดลายเป็นลายทางยาวสีดำขาว ชุดนี้จะสวมกับรองเท้าแบบหนีบที่เรียก โสริ และทะบิ ถุงเท้าสีขาวมีรอยแยกระหว่างหัวนิ้วโป้งกับนิ้วชี้
ในห้องตั้งป้ายบรรพบุรุษ บ้านโอะนิซึกะ...สมาชิกทั้งหมดของโอะนิซึกะนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าป้ายชื่อของบรรพบุรุษโอะนิซึกะ อายะโกะนั่งอยู่ที่ประตูห้อง สักพักได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆจากอีกฝั่ง อายะโกะพยักหน้าน้อยๆแล้วหันไปโค้งคำนับทำความเคารพสมาชิกทุกคน
“ทั้งสองท่านพร้อมแล้วค่ะ”
สมาชิกทุกคนหันไปมองที่ประตูห้อง อายะโกะค่อยๆเลื่อนบานประตู ทาเคชิและริวยืนอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางองอาจ ทั้งสองอยู่ในชุดมนท์ซุกิ ฮะโอะริ ฮะกะมะที่มีตราประจำตระกูลโอะนิซึกะ เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสงบนิ่งแต่น่าเกรงขาม สมาชิกอาวุโสมองชายทั้งสองคนแล้วยิ้มภูมิใจ ทาเคชิและริวเดินเข้ามาในห้อง ตรงไปยังที่นั่งหน้าป้ายบรรพบุรุษที่โคจิเตรียมไว้ ทาเคชิเดินนำริวไปโค้งคำนับทำความเคารพป้ายบรรพบุรุษ ทั้งสองโค้งตัวก้มศีรษะทำความเคารพอย่างนอบน้อมสง่างาม สมาชิกทุกคนที่นั่งอยู่โค้งตัวลงตามเพื่อทำความเคารพ
โคจิเดินถือถาดใส่ถ้วยชา 2 ใบเข้ามา แล้วโค้งคำนับให้ทาเคชิและริว
“ได้เวลาแล้วครับ”
ทาเคชิไปยืนตรงหน้าดาบประจำตระกูลแล้วโค้งตัวก้มหัวคำนับอย่างนอบน้อม เขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกสุดออกแล้วพับแขนเสื้อกิโมโนขึ้น แล้วหยิบดาบประจำตระกูลขึ้นมา ทาเคชิยกดาบสูงระดับใบหน้า แล้วค่อยๆ ดึงดาบออกจากฝัก เงาของคมดาบสะท้อนวาบ ทาเคชิวาดปลายดาบลงจรดพื้นแล้วยื่นมือซ้ายไปข้างหน้าจ้องมองไปที่ป้ายบรรพบุรุษ
“หัวใจของผู้ครอบครองดาบ จะต้องแข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียวกันจึงจะเอาชนะศัตรูได้”
หยดเลือดที่แขนหยดลงในถ้วยใบแรก
อายะโกะทำความสะอาดและฆ่าเชื้อดาบประจำตระกูลแล้ววางลงที่ตำแหน่งเดิม ริวลุกขึ้นแล้วทำตามอย่างที่ทาเคชิทำทุกขึ้นตอน จนกระทั่งเลือดของริวหยดลงถ้วยอีกใบ ถ้วยสองใบ มีเลือดของ ทาเคชิ และ ริว โคจิเทเลือดของทั้งสองคนลงไปผสมในถังเหล้าสาเก แล้วใช้ตะบวยตักเหล้าใส่จอกเหล้าเพื่อแจกจ่าย ทาโร่ คัตสึและเซกิเข้ามาช่วยเอาจอกเหล้าไปแจกกับสมาชิกของโอะนิซึกะ
อายะโกะและฟุมิโกะพันแผลให้ทาเคชิและริวอยู่ โคจิถือจอกเหล้ามาให้ ส่วนทาโร่ส่งจอกเหล้าให้อายะโกะและฟุมิโกะ ทาเคชิกับริว รับจอกเหล้ามาแล้วยืนขึ้นต่อหน้าป้ายของบรรพบุรุษ ทาเคชิยกจอกเหล้าขึ้นสาบาน
“ทาเคชิ โอะนิซึกะ โซเรียวลำดับที่สิบเก้าแห่งโอะนิซึกะ ขอให้คำสัตย์สาบานว่า จะปกป้องและดูแลตระกูลของเราด้วยชีวิต จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเหล่าพี่น้องทุกคน จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ทาเคชิหันกลับมาหาสมาชิกทุกคน
“ขอฝากเนื้อฝากตัว...และขอความร่วมมือจากน้องพี่ทุกคนด้วย”
“ไฮ้” ทุกคนส่งเสียงพร้อมเพียง
ริวและสมาชิกทุกคนโน้มตัวก้มศีรษะลงพร้อมกันเพื่อต้อนรับทาเคชิอย่างอย่างเต็มใจ ทาเคชิยกจอกเหล้าขึ้นดื่ม ริวและสมาชิกทุกคนยกจอกเหล้าดื่มตามทันที
ริวยกจอกเหล้าสาบานอยู่หน้าป้ายบรรพบุรุษ
“ริว โอะนิซึกะ…ขอให้คำสัตย์สาบานว่า จะอุทิศชีวิตที่เหลือเพื่อปกป้อง
ดูแล ทาเคชิ...โอะนิซึกะโซเรียวด้วยชีวิต และจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเหล่าพี่น้องทุกคนจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ริวหันมาหาสมาชิกในห้อง
“ขอฝากเนื้อฝากตัว และขอความร่วมมือจากน้องพี่ทุกคนด้วย”
“ไฮ...” ทุกคนส่งเสียงพร้อมเพียง
ทาเคชิและสมาชิกทุกคนโน้มตัวก้มศีรษะลงพร้อมกันเพื่อต้อนรับริวอย่างอย่างเต็มใจ ริวยกจอกเหล้าขึ้นดื่ม ทาเคชิและสมาชิกทุกคนยกจอกเหล้าขึ้นดื่มตาม
โคจิกับมาซาโตะและคาซูมะยืนมอง ทาเคชิกับริวที่โค้งคำนับขอบคุณสมาชิกอาวุโสอยู่ โคจิพูดขึ้น
“จากนี้ไปโซเรียวต้องเหนื่อยขึ้นอีกเป็นร้อยเป็นพันเท่า”
มาซาโตะมองอย่างมั่นใจ
“ฉันมั่นใจ...โซเรียวจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเรื่องอายุไม่ใช่อุปสรรค”
คาซูมะยิ้ม
“คนที่เคยดูถูกโซเรียวไว้ มันต้องเสียหน้า”
ในห้องรับประทานอาหาร บ้านโอะนิซึกะค่ำ วันเดียวกัน...ริกิหน้าขรึมขลัง ดูน่ากลัวพูดขึ้น
“ถ้าอิจิโร่ยังอยู่...ต้องภูมิใจในตัวเธอมากทาเคชิ”
“ขอบคุณครับ”
อายะโกะและฟุมิโกะค่อยๆ วนเทสาเกเติมให้ทุกคน ซาโตชิใช้ศอกกระทุ้งให้ไอโกะเติมเหล้าให้ทาเคชิ ไอโกะรีบปั้นหน้ายิ้มหวานแล้วเอื้อมมือไปจับมืออายะโกะพูดเสียงหวาน
“ให้ไอโกะช่วยนะคะ”
ริว อายะโกะและฟุมิโกะอึ้งเหวอไปกับท่าทีของไอโกะ...ไอโกะยกสาเกมาจะเติมให้ทาเคชิแต่อายะโกะยั้งไว้
“ให้ท่านมิซาว่าโซเรียวก่อนค่ะ”
ไอโกะชะงักไปเหลือบมองอายะโกะด้วยแววตาไม่พอใจ แต่พยายามเก็บอาการแล้วยิ้มหวาน
“ขอบคุณที่เตือน”
ไอโกะเติมสาเกให้ริกิ แล้วเติมสาเกให้ทาเคชิด้วยท่าทางเรียบร้อยอ่อนหวานสุดๆ ทาเคชิพูดเรียบนิ่ง
“ขอบคุณ”
ไอโกะยิ้มกว้าง
“ยินดีค่ะทาเคชิซัง”
ริกิยิ้มพอใจกับท่าทีของไอโกะ ริวแทรกขึ้น
“วันนี้ไอโกะดูแปลกไปมาก มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนสุดๆ”
“น้องฉันพร้อมจะเป็นเจ้าสาว...รอแค่เจ้าบ่าวจะต้องรักษาคำพูด” ซาโตชิสวน
ทาเคชิมองหน้าซาโตชินิ่งๆ ซาโตชิจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว ริกิรีบบอก
“ลุงไปดูวันมาให้แล้ว...เร็วที่สุดคือกลางเดือนหน้า แต่ถ้าไม่ทันก็ถัดไปได้อีกสัก 2 อาทิตย์”
ทาเคชินิ่งไม่ตอบ ไอโกะยิ้มแย้มบอก
“จริงๆ หมั้นกลางเดือนหน้าแล้วแต่งปลายเดือนเลยก็ได้นะคะ”
ทาเคชิมองหน้าริกิสีหน้านิ่งไร้ความกดดัน เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง แล้วโค้งตัวขอโทษ
“ต้องขอโทษ...ผมทำตามข้อเสนอไม่ได้”
ริกิและซาโตชิเปลี่ยนสีหน้าโกรธทันที
“หมายความว่ายังไง” ริกิถามเสียงแข็ง
“อย่างที่ทราบ...คดีการตายของครอบครัวโอะนิซึกะยังไม่คลี่คลาย” ริวตอบแทน
“ถ้ายังตามล่าคนที่ฆ่าโซเรียวไม่ได้ โอะนิซึกะไม่ควรจะไม่มีงานมงคล” ทาเคชิเสริม
ซาโตชิโวยวาย
“คราวที่แล้วบอกให้พ้นช่วงไว้ทุกข์ คราวนี้บอกรอจับคนร้ายให้ได้ก่อน แล้วคราวหน้าจะว่ายังไงอีก นี่เหรอคำพูดของโซเรียวผู้ยิ่งใหญ่” ซาโตชิชี้หน้าทาเคชิ “กลับกลอกเชื่อไม่ได้”
คัตสึและเซกิโกรธแทนจะเข้าไปเล่นงาน แต่ทาเคชิยกมือขึ้นห้าม
“แต่ถ้าผมปล่อยคนร้ายลอยนวล...คิดแต่จะจัดงานมงคลให้ตัวเอง ผมจะมีเกียรติเป็นโซเรียวของโอะนิซึกะอยู่ได้ยังไง”
“คิดว่าบ้างมั้ยว่ามันจะมีผลต่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างโอะนิซึกะและมิซาว่า” ริกิโกรธ
ทาเคชิจ้องหน้าริกิด้วยแววตาจริงจัง
“ผม...โอะนิซึกะโซเรียว ขอสาบาน...ถ้าผมยังเอาตัวคนร้ายมาลงโทษไม่ได้ จะไม่มีงานหมั้นหรืองานแต่งงานเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้เด็ดขาด”
ทาเคชิกับริกิเผชิญหน้ากัน
ริกิกลับเข้าบ้านมาด้วยท่าทางหงุดหงิด เครียด ไอโกะกับซาโตชิตามมาโวยวายอย่างไม่พอใจ
“คุณพ่อปล่อยให้ทาเคชิเลื่อนงานหมั้นไม่ได้นะคะ”
“มันไม่อยากหมั้น ก็ไม่ต้องง้อ”
“อย่ายุ่ง” ไอโกะตวาดพี่ชาย
“ไอโกะ...ต้องให้เราเสียหน้ากี่ครั้ง เธอถึงจะรู้สึกรู้สมขึ้นมาบ้าง” ซาโตชิหงุดหงิด
“อ๊าย...ไอ้พี่บ้า”
“พอได้แล้ว”
ริกิหันมาตวาดไอโกะกับซาโตชิอย่างหมดความอดทน จนทั้งสองชะงัก อึ้ง
“เลิกทำตัวงี่เง่าเป็นเด็กสักที...ถ้าแกสองคนยังทำตัวเหลวไหล ทาเคชิจะใช้จุดนี้เป็นข้ออ้างเลื่อนงานหมั้นกับไอโกะอยู่ร่ำไป มิซาว่าจะไม่มีวันอยู่เหนือโอะนิซึกะ”
ริกิพูดเด็ดขาดก่อนเดินเข้าห้องทำงาน จูโร่เลี่ยงตามนายไปเงียบ ๆ ไอโกะกับซาโตชิหันมามองกัน ก่อนสะบัดหน้าใส่กัน เดินแยกไปคนละทาง
ริกิเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงาน ชะงัก เมื่อเห็นรูปของเขากับอิจิโร่สมัยหนุ่มตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานอย่างเดิม ริกิโยนกรอบรูปนี้ทิ้งถังขยะอย่างไม่แยแสหันไปโวยจูโร่ที่เดินตามเข้ามาในห้อง
“ใครเอารูปมาตั้งไว้ตรงนี้”
“คุณหนูไอโกะเก็บขึ้นมาวางไว้ให้ครับ”
ริกิพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธ ก่อนโบกมือไล่ จูโร่ก้มศีรษะคำนับ รีบเลี่ยงออกห้องไป ริกินั่งลงบนเก้าอี้ เอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปที่ถ่ายคู่อิจิโร่มาดู จ้องรูปอิจิโร่เขม็ง
อดีตนานมาแล้ว...อิจิโร่กับริกิในวัย 20 กว่าๆ ฝึกซ้อมเคนโด้กันอย่างจริงจัง ผลัดกันรุกและรับอย่างไม่ยอมกัน อิจิโร่ตวัดดาบไม้ตีเข้าที่สะโพกของริกิได้ ริกิไม่ยอมแพ้ ควงดาบไม้จะพุ่งเข้าเล่นงานอิจิโร่ แต่ถูกอาจารย์โบกมือให้หยุดการฝึกซ้อมเดี๋ยวนั้น
“หยุดก่อน”
ริกิชะงัก หันมองอาจารย์ที่กำลังเดินเข้ามาสอนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ฝีมือโซเรียวทั้งสองถือว่าใช้ได้ ริกิ...การต่อสู้ต้องใช้ไหวพริบและสมาธิ ไม่ใช่อารมณ์…ควรดูอิจิโร่เป็นตัวอย่าง”
อิจิโร่กับริกิก้มศีรษะรับฟังคำสอนของอาจารย์ ริกิแอบชำเลืองมองอิจิโร่ ไม่พอใจที่โดนเปรียบเทียบกับอิจิโร่อยู่ตลอดเวลา
คลังสินค้าโอะนิซึกะในอดีต...โคจิจับตัวอันธพาลคนหนึ่งเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าอิจิโร่และริกิ
“แกนี่เอง ที่แอบเข้ามาขโมยของในถิ่นฉัน”
ริกิกระชากปืนออกมาจะยิง ขโมยตกใจกลัวมาก แต่อิจิโร่โบกมือห้าม
“หยุดนะริกิ...ฆ่าสุนัขหิวก็ตายเปล่า เราต้องให้อาหารแล้วชุบเลี้ยงมันไว้ดีกว่า”
“ขอบคุณโอะนิซึกะโซเรียวมากครับ ขอบคุณครับ”
ขโมยก้มศีรษะลงกับพื้น ขอบคุณอิจิโร่ด้วยความดีใจ ริกิหงุดหงิดที่ถูกอิจิโร่ปราม
โถงบ้านโอะนิซึกะในอดีต...อิจิโร่กับริกิ ก้มศีรษะแสดงความเคารพยูตะอย่างนอบน้อม ฮิเดโกะนำน้ำชาเข้ามาเสิร์ฟให้อิจิโร่กับริกิ ทั้งสองนิ่งมองฮิเดโกะด้วยความสนใจ ฮิเดโกะยิ้มเอียงอาย ก้มหน้าหลบสายตาของอิจิโร่กับริกิ ยูตะเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณโอะนิซึกะโซเรียว กับมิซาว่าโซเรียว ที่ให้เกียรติมาดื่มชากับฉัน”
“ผมกับริกิรู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติจากท่านยูตะเช่นกันครับ” อิจิโร่โค้ง
ยูตะยิ้มพอใจ ก่อนยกถ้วยชาขึ้นมาเชื้อเชิญให้อิจิโร่กับริกิดื่มพร้อมกัน ฮิเดโกะยิ้มถูกใจกับอิจิโร่ สายตาและรอยยิ้มบ่งบอกว่าพึงใจซึ่งกันและกัน ริกิจิบน้ำชา แอบมองฮิเดโกะที่ยิ้มให้กับอิจิโร่ สายตาไม่ค่อยพอใจนัก
ปัจจุบัน...ริกิใช้กำปั้นกระแทกรูปอิจิโร่ที่วางอยู่บนโต๊ะจนกระจกกรอบรูปแตก เพล้ง เลือดซึมที่มือ
“อีกไม่นาน...โอะนิซึกะจะถูกมิซาว่าเหยียบจนมิด”
สายตาริกิเต็มไปด้วยความเกลียดชังอิจิโร่
หน้าไนต์คลับของเคนอิจิยามค่ำคืน...โกะโร่ ซูจิ กอดสาวสวยคนละคน ยืนหัวเราะคุยกันอยู่หน้าไนท์คลับเคนอิจิ ท่ามกลางเสียงเพลงสนุกสนาน และนักเที่ยวมากมาย ลูกน้องกลุ่มโอะนิซึกะคนหนึ่ง ปลอมตัวเป็นนักเที่ยว ทำทีเดินผ่านไนต์คลับเคนอิจิ ลูกน้องกลุ่มโอะนิซึกะจ้องโกะโร่กับซูจิ ก่อนเดินผ่านไป
โถงบ้านโอะนิซึกะวันใหม่...โคจิก้มศีรษะเคารพทาเคชิ ก่อนรายงาน
“คนของเราเห็น โกะโร่ กับ ซูจิ ป้วนเปี้ยนอยู่ที่ไนต์คลับของเคนอิจิ”
“ตั้งแต่เกิดเรื่อง สองคนนี้ก็ไม่เคยมาทำงานที่นี่อีกเลย” ริวนึกหน้าสงสัย
ทาโร่ นึกเอะใจ คิดถึงเหตุการณ์บางอย่าง ก่อนที่จะเกิดเรื่องเขาเจอโกะโร่กับซูจิท่าทางมีพิรุธอยู่ตรงที่จอดรถ ทาโร่ประติดประต่อเรื่อง จนเริ่มสงสัยโกะโร่กับซูจิ
“ผมเห็นโกะโร่กับซูจิป้วนเปี้ยนอยู่ที่รถท่านอิจิโร่ในวันเกิดเหตุ”
ทาเคชิกับริวสบตากัน สีหน้าเคร่งขรึม คิดตาม ทาเคชิสั่งการ
“จับตัวมันสองคนมาที่นี่ ฉันต้องการสอบสวนคนทรยศด้วยตัวเอง”
ทาโร่รับคำ
“ครับ โซเรียว”
ทาเคชิหน้าเคร่งขรึม
บรรยากาศในตลาดเริ่มบางตาเพราะตลาดปิดแล้ว พ่อค้าแม่ค้าเริ่มปิดแผงกลับบ้าน โกะโร่เดินนับเงิน แล้วแบ่งส่วนหนึ่งให้ซูจิ อย่างอารมณ์ดี
“วันนี้มือขึ้นจริง ๆ”
“คนมันดวงดีก็อย่างนี้แหละ”
โกะโร่กับซูจิ หัวเราะร่า ก่อนชะงัก ตกใจ เมื่อหันไปเจอทาโร่ยืนรออยู่ข้างหน้า โกะโร่พึมพำ
“ท่านทาโร่”
ซูจิจะหันหลังวิ่งหนี ต้องผงะ เมื่อเจอคัตสึกับเซกิเข้ามาดักไว้ เซกิจ้องหน้า
“รีบร้อนไปไหน”
ทาโร่มองทั้งสอง
“ท่านโซเรียวอยากคุยกับพวกแก”
ทาโร่ คัตสึ เซกิ เดินล้อมเข้ามาใกล้โกะโร่กับซูจิ ที่ขยับเข้าประชิดกันอย่างระวังตัว คนเข็นผัก กำลังเข็นผักเข่งใหญ่หลายเข่งซ้อนกันผ่านมาพอดี โกะโร่สบโอกาส ปรี่เข้าไปคว้ารถเข็นผักเหวี่ยงใส่ทาโร่ คัตสึ เซกิ จนทั้งสามต้องกระโดดหลบรถเข็นไปคนละทาง โกะโร่วิ่งนำไป โดยมีซูจิวิ่งตามไปติด ๆ ทาโร่สั่งการ
“จับมันสองคนมาให้ได้”
คัตสึกับเซกิรีบไล่ตามโกะโร่ กับซูจิไป ทาโร่วิ่งแยกไปอีกทาง
โกะโร่กับซูจิกำลังจะวิ่งหนีออกไปทางด้านหลัง ชะงัก เมื่อเจอทาโร่วิ่งอ้อมมาดักหน้าทั้งคู่ไว้
“พวกแกวางระเบิดรถท่านอิจิโร่ใช่มั้ย”
โกะโร่รีบบอกเสียงสั่น
“เราไม่รู้เรื่อง”
“ไม่ได้ทำ แล้วหนีทำไม” ทาโร่จ้องหน้า
โกะโร่กับซูจิเลิกลั่ก หาทางเอาตัวรอด ทาโร่พุ่งเข้าไป โกะโร่คว้าไม้กวาดทางมะพร้าวตีเข้าใส่ ทาโร่หมุนตัวหลบ ซูจิคว้าตะขอเหล็กเกี่ยวเนื้อตรงแผงบริเวณนั้นตวัดเข้าหา ทาโร่คว้าเขียงใกล้ ๆ มารับ ตะขอเหล็กปักลงบนเขียง ฉึ่ก ทาโร่ตวัดขาเตะซูจิจนเสียหลักล้มไป เหวี่ยงเขียงที่มีตะขอเหล็กคาอยู่ทิ้งไป โกะโร่กับซูจิพยักหน้าส่งซิกกัน พุ่งเข้าเล่นงานทาโร่พร้อมกัน โกะโร่ใช้ไม้กวาด ซูจิใช้หมัด เตะ ต่อย ช่วยกันรุม
ทาโร่ตั้งรับและโต้ตอบอย่างคล่องแคล่ว และเหนือชั้น ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุก ผลัดกันรับ ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ เด็กชายคนหนึ่งวิ่งเล่นผ่านมา โกะโร่หันขวับไปเห็น จึงปราดเข้าไปจับตัวเด็กมาอุ้มไว้ เด็กตกใจร้องไห้จ้า ทาโร่ชะงัก เห็นโกะโร่จับเด็กชายไว้เป็นตัวประกัน โกะโร่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนโยนเด็กชายออกไปทางหนึ่ง เด็กหวีดร้องลั่น
“เฮ้ย”
ทาโร่กระโดดพุ่งเข้าไปรับตัวเด็กชายไว้ ม้วนตัวกลิ้งไปกับพื้น คัตสึกับเซกิวิ่งเข้ามาสมทบ เห็นเด็กร้องไห้ด้วยความตกใจในอ้อมกอดทาโร่
“ไม่ต้องกลัว หนูปลอดภัยแล้ว”
ทาโร่หันกลับมาอีกที เห็นโกะโร่กับซูจิ กำลังวิ่งเลี้ยวหายไปมุมหนึ่งแล้ว
“ตามมันไป”
ทาโร่ คัตสึ เซกิ รีบตามไปอย่างไม่ลดละ
บริเวณชุมชนท้ายตลาด...โกะโร่กับซูจิ ผลักประตูเข้ามาในบ้านร้างหลังหนึ่ง แล้วรีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ทาโร่ คัตสึ เซกิ วิ่งเข้ามาถึงบริเวณหน้าบ้านร้าง
“มันสองคนต้องอยู่แถวนี้แน่”
ทาโร่กวาดสายตามองหาจนทั่ว เดินมาหยุดที่หน้าบ้านร้าง
โกะโร่กับซูจิ แอบซุ่มฟังเสียงฝีเท้าใครบางคน เดินมาหยุดอยู่ตรงนอกประตู สักพักได้ยินเสียงใครคนนั้นเปิดประตูผัวะ เข้ามาข้างใน โกะโร่กับซูจิ ตกใจ หลับหูหลับตาพูด
“ท่านทาโร่...พวกเราผิดไปแล้ว อย่าฆ่าพวกเราเลย”
เท้าใครคนหนึ่ง เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าโกะโร่กับซูจิ โกะโร่กับซูจิ ค่อย ๆ ลืมตามอง สะดุ้งตกใจมาก ตาเหลือกค้าง
ทาโร่พังประตูบ้านร้างเข้าไปชะงัก เมื่อภายในบ้านว่างเปล่า ไม่มีใครสักคน คัตสึ เซกิ ช่วยกันตรวจดูจนทั่ว จึงเดินกลับมารายงานทาโร่
“ไม่มีใครอยู่ในนี้ครับ”
ทาโร่เจ็บใจมาก
โถงบ้านโอะนิซึกะ...ทาโร่ก้มศีรษะขอโทษทาเคชิอย่างรู้สึกผิด
“ผมทำงานพลาด ขอให้ท่านโซเรียวลงโทษด้วย”
คัตสึกับเซกิ ก้มศีรษะให้ทาเคชิ ยอมรับความผิดเช่นกัน ทาเคชิชำเลืองริวกับโคจิราวกับต้องการคำปรึกษาว่าจะเอายังไง ลูกน้องคนหนึ่งหน้าตาตื่นเข้ามา ก้มศีรษะให้ทาเคชิและรีบรายงาน
“เกิดเรื่องที่คลังสินค้าของเราครับ”
ทาเคชิหันขวับมองลูกน้อง สงสัยว่าเรื่องอะไร
คลังสินค้าโอะนิซึกะยามค่ำคืน...ตำรวจช่วยกันยกแปล หามร่างของคนสองคนที่ถูกคลุมผ้าสีขาว ขึ้นมาอย่างทุลักทุเล โอะซะมุกับ ฮิโระ อาเบะ ยืนมองดูอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หันไปเห็นรถของกลุ่มโอะนิซึกะสองคันแล่นเข้ามาจอดอย่างรวดเร็ว ทาเคชิรีบลงจากรถเป็นคนแรก โดยมีริวและคนอื่น ๆตามลงมา
“ท่านโอะซะมุ”
ทาเคชิกับริวก้มศีรษะเคารพโอะซะมุที่เป็นผู้อาวุโสกว่า โอะซะมุก้มศีรษะรับความเคารพ ก่อนเดินไปเปิดผ้าคลุมสีขาวของร่างทั้งสอง เผยให้เห็นว่าเป็นศพของโกะโร่กับซูจิ ทาเคชิ ริว ทาโร่ โคจิ คัตสึ เซกิ ตกใจที่เห็นศพของทั้งสอง
“โกะโร่ ซูจิ”
โอะซะมุสังเกตสีหน้าท่าทางของทาเคชิและพวกโอะนิซึกะ พูดอย่างตรงไปตรงมา
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ทาเคชิมองหน้าโอะซะมุ พร้อมที่จะคุยทุกเรื่อง
ห้องทำงานในคลังสินค้า...ทาเคชิยืนยันกับโอะซะมุ น้ำเสียงหนักแน่น
“การตายของโกะโร่กับซูจิ ไม่ใช่ฝีมือของโอะนิซึกะ”
ฮิโระแย้ง
“แต่สองคนนี้เป็นคนของโอะนิซึกะ และเป็นผู้ต้องสงสัยวางระเบิดรถคุณอิจิโร่”
“ถ้าพวกเราจะฆ่าไอ้สองคนนั่นเพื่อล้างแค้น คงไม่ทิ้งหลักฐานให้กลับมาเล่นงานตัวเองหรอกครับ” ริวเถียง
โอะซะมุหน้าเครียด
“รูปคดีมันเป็นอย่างนั้น”
ทาเคชิกับริวจ้องโอะซะมุ ยืนยันด้วยสายตาจริงจัง โอะซะมุเชื่อสายตาของทั้งคู่ แต่ก็หนักใจ
“คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล และตั้งใจโยนความผิดให้กลุ่มโอะนิซึกะ”
“แผนสกปรกของไอ้เคนอิจิ” ริวโกรธ
“เรากล่าวหาใครโดยไม่มีหลักฐานไม่ได้” โอะซะมุขัด
โคจิมองโอะซะมุอย่างรู้ทัน
“แต่หลักฐานที่ท่านโอะซะมุมีตอนนี้ ก็ยังไม่พอที่จะเอาผิดโอะนิซึกะ”
“คดีนี้มีเงื่อนงำซับซ้อน โอะนิซึกะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี”
“เรายินดีให้ความร่วมมือกับท่านโอะซะมุเพื่อพิสูจน์ความจริง”
ทาเคชิแววตานิ่ง หน้าเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ในไนต์คลับ...เคนอิจิกระแทกแก้วเครื่องดื่มลงตรงบาร์เครื่องดื่ม เมื่อได้รู้เรื่องที่ชินอิจิมารายงาน
“ไอ้ทาเคชิไปคุยกับท่านโอะซะมุเป็นการส่วนตัว”
“ไม่รู้ว่าท่านโอะซะมุกับทาเคชิโซเรียว จะมีแผนเล่นงานพวกเราหรือเปล่า”
“ไม่มีหลักฐาน ก็ทำอะไรฉันไม่ได้”
เคนอิจิกระหยิ่มยิ้ม ไม่รู้สึกเกรงกลัว
บ้านโอะนิซึกะ...ทาเคชิ ริว ทาโร่ โคจิ กลับเข้ามาในบ้าน แปลกใจที่เห็นภายในบ้านถูกตกแต่งด้วยดอกไม้ อาหารมากมายหลากชนิด ราวกับกำลังมีงานเลี้ยงฉลอง
“ทาเคชิ”
ไอโกะก็วิ่งถลาเข้ามากอดทาเคชิด้วยความดีใจ โดยที่เขาไม่ทันตั้งหลัก
“ในที่สุดก็เจอคนร้ายที่ฆ่าคุณลุงอิจิโร่ ไอโกะดีใจด้วยนะคะ”
ทาเคชิกับริวหันมองกัน งง ๆ ยังไม่ทันพูดอะไร ริกิกับซาโตชิก็ตามมาสมทบ
“เสียดายที่ลุงไม่ได้ฆ่าคนทรยศด้วยมือตัวเอง”
ซาโตชิเสริม
“ลูกน้องชั่วช้าอย่างไอ้โกะโร่กับซูจิ สมควรตายอย่างทรมาน”
“ไอโกะสั่งดอกไม้กับอาหารจากโรงแรมมาเลี้ยงฉลอง เราไปทานอาหารให้อร่อย แล้วกำหนดวันหมั้นของเรากันดีกว่า”
ไอโกะดึงแขนทาเคชิให้เดินตาม แต่เขาขืนตัวไว้ ทาเคชิโกรธที่ไอโกะถือวิสาสะมาจัดงานฉลองในบ้าน แต่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไว้
“ผมเคยบอกแล้วว่าจะไม่มีพิธีมงคลเกิดขึ้น จนกว่าจะแก้แค้นให้ทุกคนในครอบครัว”
ไอโกะ ริกิ ซาโตชิ หันขวับมองทาเคชิอย่างไม่พอใจ
“ฆาตกรตายแล้ว ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ตกลง” ไอโกะเสียงแข็ง
“โกะโร่กับซูจิวางระเบิดรถคุณลุงจริง แต่เรื่องนี้มีคนบงการและฆ่าปิดปากสองคนนั่น” ริวบอกเสียงเข้ม
“รู้ว่าเป็นฝีมือของซะโต้ ก็ยกพวกไปถล่มมันสิ” ซาโตชิเบ้หน้า
“โอะนิซึกะมีเกียรติเกินกว่าที่จะทำตัวต่ำช้าเหมือนพวกอันธพาล” ทาเคชิพูดเรียบนิ่ง
ซาโตชิหันขวับจ้องทาเคชิด้วยความไม่พอใจ
“หาข้ออ้างเลี่ยงงานหมั้นกับไอโกะมากกว่า”
“จะทำอะไร...เกรงใจลุงบ้างนะทาเคชิ” ริกิไม่พอใจ
“ทันทีที่ได้ตัวคนบงการฆ่าคุณพ่อ ผมจะเป็นคนกำหนดวันหมั้นเอง”
“ไม่ได้นะทาเคชิ ไอโกะไม่ยอม คุณต้องกำหนดงานหมั้นเดี๋ยวนี้” ไอโกะโวยวาย
“ผมไม่ผิดสัญญาที่คุณพ่อให้ไว้กับคุณลุงริกิแน่”
ทาเคชิก้มศีรษะลาริกิ ก่อนหมุนตัว เดินหนีขึ้นห้องไป
“ทาเคชิ ทาเคชิ...อ๊าย”
ไอโกะกรีดร้องสุดเสียง ก่อนเป็นลมล้มทั้งยืน ดีที่ซาโตชิปราดเข้าไปประคองรับไอโกะไว้ได้ทัน
“ไอโกะ”
ซาโตชิมองไอโกะด้วยความเป็นห่วง ริกิทั้งตกใจและโกรธทาเคชิมาก โคจิ ริว ทาโร่ สบตากัน รู้สึกได้ถึงบรรยากาศเครียดภายในบ้าน
ทาเคชิเดินเข้ามาในห้อง ปิดประตูเสียงดัง ก่อนเดินมานั่งที่โต๊ะทำงาน ถอนใจแรงด้วยความอึดอัดและเหน็ดเหนื่อยกับหน้าที่ที่ต้องแบกรับ เขาเปิดลิ้นชัก หยิบรูปแพรวดาวใต้ต้นซากุระขึ้นมามอง อย่างคิดถึงเป็นที่สุด
โถงบ้านมิซาว่า...ไอโกะนอนหมดสติอยู่ตรงโซฟา โดยมีสาวใช้คอยดูแลปฐมพยาบาลอยู่ ซาโตชิพูดกับริกิอย่างโมโห โกรธแทนน้อง
“กี่ครั้งแล้วที่ไอโกะต้องเสียน้ำตาให้ไอ้ทาเคชิ พ่อไม่สงสารน้องรึไง”
ริกินิ่ง ขบกรามจนเป็นสันนูนด้วยความเครียด
“อย่าบอกนะว่านี่คือการเสียสละของมิซาว่า อย่าบอกว่าพ่อจะทนดูไอโกะร้องไห้เสียใจเพราะไอ้ทาเคชิ โดยไม่ทำอะไรเลย”
ไอโกะเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น สาวใช้ดีใจ
“คุณหนูรู้สึกตัวแล้วค่ะ”
ซาโตชิหันไปมองอย่างโล่งใจ ริกิรีบเข้าไปหา ไอโกะเห็นริกิ เริ่มใจเสีย ร้องไห้
“ไม่ต้องร้อง...นางฟ้าของพ่อ”
ริกิปลอบพลางกอดลูกสาวไว้
“ทาเคชิไม่ยอมหมั้น เค้าไม่แคร์ไอโกะ”
ริกิจำใจพูดทั้งที่ไม่พอใจทาเคชิ
“เขาต้องทำเพื่อตระกูล”
“ทาเคชิรับปากจะหมั้นเพราะคำสัญญา แต่เขาไม่ได้รักไอโกะใช่มั้ยคะ”
ไอโกะร้องไห้สะอึกสะอื้น ริกิมองไอโกะด้วยความสงสารและรู้สึกผิด
“พ่อขอโทษ...พ่อผิดเองที่ทำให้ลูกเสียใจ ถ้าไอโกะอยากยกเลิกการหมั้นกับทาเคชิ พ่อจะ...”
ไอโกะตกใจ โวยวาย
“ไม่นะ ไอโกะรักทาเคชิ ไอโกะจะแต่งงานกับทาเคชิคนเดียวเท่านั้น”
ไอโกะตื่นวิตก ร้องไห้โฮ เพราะกลัวริกิยกเลิกสัญญาหมั้น ริกิรีบดึงตัวไอโกะเข้ามากอด พยายามปลอบ
“ไม่ต้องร้องลูก...พ่อจะตามใจไอโกะทุกอย่าง”
ริกิกอดไอโกะแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเจ็บแค้นแทนลูก ซาโตชิกำมือแน่นจนสั่น โกรธแค้นทาเคชิเช่นกัน
สวนสวยบ้านโอะนิซึกะ...ทาเคชิยืนมองพระจันทร์สุกสว่างท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระดับ หยิบผ้าเช็ดหน้าสีแดงของแพรวดาวออกมาดูอย่างคิดถึง
“เส้นทางนักรบ เหมือนท้องฟ้ามืดมิดตอนกลางคืน”
โคจิเข้ามา ทาเคชิหันไปตามเสียงหน้าเบื่อหน่ายราวกับรู้จุดประสงค์ของโคจิ
“นักรบบางคนโชคดีที่มีแสงจันทร์นำทาง แต่บางคน...แค่มีแสงดาวระยับระหว่างทางก็เพียงพอแล้ว”
“ความรัก...คือจุดอ่อนของนักรบ”
“แต่บางครั้ง...รักก็เป็นปาฏิหาริย์ที่เยียวยาบาดแผลได้”
โคจิพูดกับทาเคชิด้วยสีหน้าเป็นห่วงอย่างจริงใจ
“อย่าปล่อยให้ความรักของโซเรียว เป็นต้นเหตุของรอยร้าว ทำให้ทั้งสองตระกูลต้องบาดหมางกันเลย”
“ผมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาเกียรติของพ่อ...แต่หัวใจเป็นของผม”
ทาเคชิหันหลังให้โคจิ ทอดสายตามองพระจันทร์อย่างไม่สนใจจะคุยด้วยอีก โคจิหนักใจ
ร้านผลไม้มาซาโกะวันใหม่...แพรวดาววุ่นวายอยู่กับการช่วยมาซาโกะหยิบผลไม้ รับเงิน ทอนเงินให้ลูกค้า เธอก้มศีรษะให้ลูกค้าอย่างนอบน้อม มิโยะโกะถือแอปเปิ้ลมายื่นให้แพรวดาวตรงหน้า
“เอาแอปเปิ้ลครึ่งลูก”
แพรวดาวเงยหน้าขึ้นมาเจอมิโยะโกะ ยิ้มทะเล้น แกล้งแพรวดาว
“มิโยะโกะบ้า...ว่างจนต้องมาแกล้งฉันเลยเหรอ”
มิโยะโกะค้อนเพื่อน
“จะมาชวนไปซื้อชุดกิโมโนไปงานแต่งงานแบบชินโต”
แพรวดาวยิ้มเจื่อน เพิ่งนึกขึ้นได้ มาซาโกะตื่นเต้นแทน
“ใช่งานแต่งของหนูยูริ ลูกสาวท่านโอะซะมุ มากิ รึเปล่า”
“ยูริเป็นเพื่อนสนิทของหนูค่ะ ท่านโอะซะมุก็เป็นเจ้านายคุณพ่อ” มิโยะโกะบอก
แพรวดาวหน้าสลดลง
“งานนี้คงเชิญแต่แขกสำคัญในเมือง อาจไม่เหมาะกับฉัน”
“ประเพณีแต่งงานแบบดั้งเดิมหาดูไม่ได้ง่าย ๆ นะเซโกะ ยูริจัดที่นั่งให้เธอแล้ว ถ้าไม่ไปคงน่าเกลียด”
แพรวดาวอึกอัก ลังเล
ในร้านร้านขายกิโมโน...พนักงานขายเอาชุดกิโมโนหลายสีสัน หลากลวดลาย ออกมาให้แพรวดาวกับมิโยะโกะเลือก มิโยะโกะยกกิโมโนตัวหนึ่งขึ้นมาทาบตัวเองให้ดู แพรวดาวพยักหน้าเห็นด้วย แต่พอมิโยะโกะหยิบอีกชุดมาทาบ แพรวดาวก็พยักหน้าเห็นด้วยอีก มิโยะโกะงงว่าแพรวดาวเห็นด้วยกับชุดไหนกันแน่ แพรวดาวขำมิโยะโกะ หันไปมองหาชุดกิโมโนที่ตัวเองชอบบ้าง...ทาเคชิยืนอยู่นอกร้าน ใช้นิ้วชี้เลื่อนหมวกที่ใส่อำพรางใบหน้าขึ้นนิดหนึ่ง แอบมองแพรวดาว
เคนอิจินั่งอยู่ในรถ โดยมีชินอิจิเป็นคนขับ เคนอิจิชะงักเมื่อมองเห็นทาเคชิที่หน้าร้าน
“ไอ้ทาเคชิ...”
เคนอิจิโบกมือให้ชินอิจิจอดรถที่ข้างทางฝั่งตรงข้ามร้าน ทั้งสองมองทาเคชิที่ยืนอยู่มุมหนึ่งหน้าร้าน เคนอิจิ เห็นทาเคชิลังเล ก่อนเปิดประตูเข้าไปในร้าน เคนอิจิยิ้มร้าย อย่างสบโอกาส
“แกรอฉันอยู่ตรงนี้”
เคนอิจิลงจากรถไปด้วยสีหน้าและแววตาเหี้ยมเกรียม
คลังสินค้าโอะนิซึกะ...ริวถึงกับโมโหมาก เมื่อรู้เรื่องจากคัตสึกับเซกิ
“ปล่อยให้ทาเคชิหายตัวไปได้ยังไง”
“ท่านโซเรียวคนเดียวยังดูแลไม่ได้ ต่อไปจะไว้ใจให้ทำงานใหญ่ได้ยังไง”
โคจิดุคัตสึกับเซกิ จนทั้งคู่ก้มหน้าจ๋อย รู้สึกผิด ทาโร่เดินเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน สีหน้าไม่ค่อยดี
“ไปตามที่ร้านผลไม้แล้ว ไม่เจอครับ”
“ทาเคชิไปไหน...”
ริวถอนใจอย่างหงุดหงิด
ในร้านขายกิโมโน...ทาเคชิเดินแอบ ๆ เข้ามามุมลับตาคนในร้าน เฝ้ามองแพรวดาวเลือกชุดกิโมโนกับเพื่อนเผลอยิ้มไปกับรอยยิ้มบนใบหน้าของแพรวดาวด้วย เคนอิจิมองอยู่มุมตู้โชว์ข้างหลัง เห็นทาเคชิกำลังมองแพรวดาวด้วยความสนใจ จนไม่ได้ระวังตัว เคนอิจิยิ้มร้าย สายตาอำมหิตกำมีดพกแน่น เคนอิจิเดินเงียบเข้าไปใกล้โดยที่ทาเคชิไม่รู้ตัว เพราะมัวเหม่อมองแพรวดาว
เคนอิจิเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วจะเข้าไปทำร้ายทาเคชิ แต่แล้วมีตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาตัดหน้าเคนอิจิ แล้วยืนนิ่งขวางหน้าเคนอิจิอยู่ตรงนั้น เคนอิจิชะงัก รีบหลบวูบเข้าไปอีกมุมหลบตำรวจคนนั้น พนักงานของร้านเข้ามาต้อนรับตำรวจ
“มารับชุดของท่านโอะซะมุใช่มั้ยคะ รอสักครู่ค่ะ”
พนักงานขายพูดกับตำรวจ ก่อนหันไปต้อนรับทาเคชิ
“สนใจชุดไหนสอบถามได้นะคะ”
ทาเคชิคุยกับพนักงานขาย ทำทีสนใจชุดกิโมโน แต่คอยแอบมองแพรวดาวเป็นระยะอยู่คนละมุม แพรวดาวมองไม่เห็นทาเคชิ เคนอิจิเก็บมีดพก เจ็บใจที่พลาดโอกาสเล่นงานทาเคชิ ถอนหายใจด้วยความไม่พอใจ เดินออกไป
ห้องลองชุดสองห้องติดกันข้างหลังร้าน พนักงานถือชุดกิโมโนของผู้ชายมาส่งให้ทาเคชิที่เข้าไปรอในห้องลองชุดห้องแรก ทาเคชิจำใจรับชุดกิโมโนมาเหมือนจะลองใส่ ทำทีปิดประตู พนักงานเดินออกไป ทาเคชิจึงค่อย ๆ เปิดประตู จะแอบออกมาจากห้องลองชุดเนียน ๆ
แพรวดาวกับมิโยะโกะถือชุดกิโมโนที่จะลองใส่ เดินสวนกับพนักงาน ตรงมายังห้องลองชุด ทาเคชิรีบปิดประตู หลบอยู่ในห้องลองชุด กลัวแพรวดาวเห็นลืมล็อคประตู แพรวดาวเอื้อมมือจะเปิดประตูห้องลองชุดที่สอง แต่ถูกมิโยะโกะผลักประตูห้องเข้าไปก่อน
“ขอบใจที่เปิดประตูให้นะ”
มิโยะโกะโบกมือยิ้มทะเล้น แล้วรีบปิดประตูลงกลอนไป
“เพื่อนตัวแสบ”
แพรวดาวยิ้ม ๆ รู้ว่าเพื่อนแกล้ง ก่อนเปิดประตูห้องลองชุดห้องแรก...แพรวดาวล็อคประตู แล้วหันกลับมา ตกใจที่เห็นชายใส่หมวกยืนนิ่งอยู่ในห้อง เธอจะตะโกนเรียกมิโยะโกะ แต่ทาเคชิไวรีบคว้าตัวเข้ามากอด แล้วเอามือปิดปากไว้ หมวกหล่น แพรวดาวยิ่งตกใจ เมื่อเห็นว่าคนที่กอดเธออยู่คือทาเคชิ
“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ไม่ต้องกลัว”
ทาเคชิกระซิบข้างหูแพรวดาวอย่างแผ่วเบา แพรวดาวพยักหน้ารับรู้ เขาจึงปล่อยมือจากปากเธอแต่มืออีกข้างยังกอดหญิงสาวไว้
“คุณแอบตามฉัน”
แพรวดาวถามทาเคชิเสียงเบา กลัวมิโยะโกะได้ยิน
“คิดถึงผมมั้ย”
“ฉัน...”
แพรวดาวอึกอัก เขิน ทาเคชิยิ้มหวาน แน่ใจว่าเธอคิดถึงเขาเช่นกัน
“สายตาคุณตอบผมแล้ว”
“เราไม่ควรเจอกันอีกไม่ใช่เหรอคะ”
ทาเคชิหน้าสลดลงนิดหนึ่ง ก่อนโอบกอดแพรวดาวด้วยมือทั้งสองข้าง พยายามซึมซับความอบอุ่นจากตัวแพรวดาวให้มากที่สุด ไม่สนใจอะไรตอนนี้
“ผมกำลังฝันดี...ฝันว่าได้กอดผู้หญิงที่ผมรัก”
“คุณมีไอโกะอยู่แล้ว”
“ไอโกะคือหน้าที่ แต่คุณคือหัวใจ”
แพรวดาวน้ำตาคลอด้วยความซาบซึ้งระคนเศร้าใจ
“คุณต้องอยู่ในโลกของความจริงค่ะทาเคชิ...โลกที่ไม่มีฉัน”
ทาเคชิกับแพรวดาวสบตากัน เจ็บปวดในรักที่ไม่มีวันเป็นไปได้ของทั้งคู่...มิโยะโกะถือชุดกิโมโนออกมาจากอีกห้อง เคาะประตูเรียกแพรวดาว
“เสร็จรึยังเซโกะ”
แพรวดาวกับทาเคชิตื่นจากภวังค์ มิโยะโกะยังเคาะประตูเรียกด้วยความเป็นห่วง
“เซโกะเป็นอะไรรึเปล่า”
“กำลังออกไปแล้วจ้ะ”
แพรวดาวตะโกนบอกค่อย ๆ ถอนตัวออกจากอ้อมกอดทาเคชิ ขณะที่มือของเธอกำลังจะเลื่อนหลุดจากมือเขา จู่ ๆ ทาเคชิก็คว้ามือเธอจับไว้ ราวกับยังไม่ยอมให้จากไป แพรวดาวมองแววตาเศร้ากระซิบเบาๆ
“เราจะเจอกันในฝันค่ะ”
“คุณคือฝันดีของผม”
แพรวดาวสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหล ดึงมือตัวเองออกจากมือทาเคชิช้าๆ แล้วจึงรีบหันหลังเปิดประตูออกไปจากห้อง ทาเคชิมองมือตัวเองที่ว่างเปล่า ไม่มีมือแพรวดาวให้จับแล้ว เศร้ามาก
มุมชำระเงินในร้านขายกิโมโน...พนักงานยื่นถุงกระดาษที่ใส่ชุดกิโมโนมาให้มิโยะโกะกับแพรวดาวคนละถุง แพรวดาวตรวจดูชุดกิโมโนสีน้ำเงินในถุงกระดาษ รีบทักพนักงานด้วยความแปลกใจ
“ไม่ใช่ชุดกิโมโนที่ฉันเลือกนี่คะ”
“ผ้าไหมอย่างดี...คงราคาแพงมากเลย”
มิโยะโกะจับเนื้อผ้ากิโมโนของแพรวดาว ใช้นิ้วลูบไปตามเนื้อผ้า รู้เรื่องผ้ากิโมโนเป็นอย่างดี พนักงานยิ้มแย้มบอก
“ลดพิเศษเฉพาะวันนี้ค่ะ ดิฉันเห็นคุณผู้หญิงคนนี้เหมาะกับผ้าเนื้อดีมากกว่า ก็เลยเปลี่ยนให้”
“เอาคืนไปเถอะค่ะ ดิฉันไม่...”
แพรวดาวยื่นถุงใส่ชุดกิโมโนคืนให้พนักงาน แต่มิโยะโกะรีบคว้ามาไว้
“เพื่อนฉันไม่ปฏิเสธค่ะ” มิโยะโกะรีบกระซิบบอก “ของดี สวย ราคาถูกไม่เอาก็เสียดายแย่”
มิโยะโกะยื่นถุงกระดาษคืนให้แพรวดาว แล้วหันไปยิ้มขอบคุณพนักงาน แพรวดาวมองชุดกิโมโนในถุงกระดาษอย่างไม่ค่อยสบายใจ พยายามมองหาทาเคชิ แต่ไม่เห็นแล้ว ทาเคชิแอบมองแพรวดาวจากมุมหนึ่ง ยิ้มพึงพอใจ
ค่ำนั้น แพรวดาวอยู่ในห้องนอนเอาชุดกิโมโนในถุงกระดาษออกมาดูอีกครั้ง ราวกับยังไม่แน่ใจที่จะรับชุดนี้ไว้ ดาวกระดาษสีชมพูดวงหนึ่ง หล่นออกมาจากชุดกิโมโน ตกลงบนพื้น แพรวดาวหยิบดาวกระดาษขึ้นมาดู อึ้ง ๆ
“คุณคือเจ้าของกิโมโนชุดนี้”
แพรวดาวมองดาวกระดาษในมือด้วยความสงสัย
อ่านต่อเวลา 17.00น.
รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 4 (ต่อ)
หน้าบ้านพักโคจิวันใหม่...ทาโร่กำลังทำความสะอาดดาบซามุไร โดยการใช้ผ้าขัดลูบจนทั่วใบดาบอย่างมีสมาธิ นิ่งมาก โคจิเดินเข้ามามองทาโร่ ด้วยสายตาชื่นชม ทาโร่ทำความสะอาดดาบเสร็จ จึงวางดาบไว้บนที่วางข้างตัว โคจิมองเห็นรอยเย็บที่ชายเสื้อของทาโร่ จึงทักขณะนั่งลง
“ใส่เสื้อตัวนี้บ่อยจัง มันขาดแล้วไม่ใช่เหรอ”
ทาโร่มองรอยเย็บที่ชายเสื้อ อึกอักตอบ
“ผ้ามันใส่สบาย ซ่อมแล้วก็ยังใช้ได้” ทาโร่เสเปลี่ยนเรื่อง “พ่อมีอะไรจะใช้ผม หรือครับ”
“ตั้งแต่เรียนจบจนทำงาน พ่อยังไม่เคยเห็นพาแฟนมาแนะนำที่บ้านเลย”
“แฟน” ทาโร่ชะงัก
“ครอบครัวที่อบอุ่นของลูก คือสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนอยากเห็น”
“พ่อกับแม่เจอกันได้ยังไงครับ”
โคจิยิ้ม เล่าอดีตให้ฟัง
“แม่ของลูกเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา เราเจอกันตอนพ่อรับคำสั่งจากโซเรียวไปขับไล่พวกอันธพาลที่เข้ามาข่มเหงรังแกชาวบ้าน...รอยยิ้มและกิริยามารยาทที่เรียบร้อยของแม่ ทำให้พ่อประทับใจมาตลอด จนเราได้แต่งงานกันในที่สุด”
ทาโร่เอามือจับรอยเย็บที่ชายเสื้อตัวเอง อมยิ้ม นึกถึงแพรวดาว
“อมยิ้มทำไม เรื่องที่พ่อพบกับแม่มันเหมือนเรื่องของเรางั้นเหรอ”
โคจิจ้องหน้าทาโร่อย่างค้นหา
“พบผู้หญิงคนที่ถูกใจแล้วใช่มั้ย”
“เปล่าครับ...” ทาโร่ยิ้มเขินๆ
“จริงเหรอ”
“ถ้าผมพบ...ผมจะบอกพ่อเป็นคนแรก”
โคจิมองทาโร่ด้วยรอยยิ้ม ทาโร่หันไปเห็นสายตาโคจิ จึงทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โคจินึกขึ้นได้
“เกือบลืมอีกเรื่อง...โซเรียวจะไปร่วมงานแต่งงานของลูกสาวท่านโอะซะมุ เตรียมตัวให้พร้อม”
“ทำไมไม่จัดคนของเราเพิ่ม”
“งานนี้เชิญแต่แขกคนสำคัญ เรามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของท่านโซเรียว...อย่าประมาท”
“ครับพ่อ”
ทาโร่รีบรับคำ ก่อนทำทีเก็บดาบเลี่ยงหนีไป โคจิมองตาม นึกแปลกใจในท่าทางมีพิรุธของทาโร่
ภายในบ้านพักโคจิ...ทาโร่แอบมองโคจิจากภายในบ้าน เห็นพ่อนั่งนิ่งเหมือนกำลังใช้สมาธิครุ่นคิดงาน เขาถอนใจโล่งอกที่พ่อไม่สงสัยอะไร ทาโร่มองรอยเย็บที่ชายเสื้อ นึกถึงรอยยิ้มของแพรวดาว เขายิ้มมีความสุข
ในห้องแต่งตัวเจ้าสาว...แพรวดาวกับมิโยะโกะในชุดปกติ คอยช่วยช่างแต่งหน้า หยิบจับอุปกรณ์แต่งหน้าให้เจ้าสาว ยูริหันมายิ้มให้แพรวดาวอย่างเป็นกันเอง แพรวดาวยิ้มรับ เขิน ๆ เฝ้าดูช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ช่วยเจ้าสาวสวมชุดกิโมโนสีขาวทั้งชุด ด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน มิโยะโกะคอยอธิบายขั้นตอนการแต่งชุดกิโมโนให้ฟัง แพรวดาวมองยูริ ด้วยความสนใจ เธอมองช่างทำผมรวบผมเจ้าสาวเป็นมวยแน่น ก่อนสวมวิกผมซึ่งเกล้าแบบญี่ปุ่น แล้วคลุมผ้าสีขาวลงบนวิกอีกที
ในความคิดของแพรวดาว... เธออยู่ในชุดกิโมโนสีขาวทั้งชุดที่งดงามมาก เธอเดินไปที่กระจกมองตัวเองในชุดเจ้าสาว อึ้ง ไม่คาดคิด
“คุณสวยมาก เซโกะ”
ทาเคชิเดินเข้ามาในชุดเจ้าบ่าว โค้งตัวต่ำและยื่นมือมาให้ แพรวดาวยิ้มหวาน ยื่นมือไปจับมือเขา ทาเคชิดึงตัวเธอเข้ามากอด ยิ้มมีความสุข
“เซโกะ...เจ้าสาวของผม”
แพรวดาวยืนมองภาพตัวเองในชุดเจ้าสาวกอดกับทาเคชิ ตะลึง...มิโยะโกะสะกิดเรียกแพรวดาวด้วยความแปลกใจ
“เซโกะ เป็นอะไร”
แพรวดาวรู้สึกตัว หันไปเห็นยูริในชุดเจ้าสาว ยิ้มหวานให้ เธอยิ้มรับเจื่อน ๆ ช่างแต่งหน้าหันมาเรียก
“เพื่อนเจ้าสาวรีบแต่งตัวได้แล้วค่ะ เดี๋ยวไม่ทันงานพิธี”
แพรวดาวนึกได้
“ฉันยังใส่ชุดกิโมโนไม่เก่งเลย”
มิโยะโกะยิ้มอย่างไม่ยี่หระ มองช่างแต่งหน้าและช่างทำผมที่ยืนรออยู่อย่างเตรียมพร้อม
บริเวณประกอบพิธีแต่งงาน...พ่อแม่บ่าวสาวกำลังยืนต้อนรับแขกเหรื่อที่ทยอยเข้ามาในงาน โดยญาติของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นผู้ดูแลพาแขกฝ่ายของตนไปนั่งที่นั่งซึ่งจัดไว้ตรงเต็นท์บริเวณพิธี ทาเคชิ ริว ทาโร่ โคจิ มาซาโตะ คาซูมะ เดินทางมาถึง ทั้งหมดสวมชุดกิโมโนสีดำแบบผู้ชาย บนอกซ้ายของเสื้อปักตัวอักษรสัญลักษณ์ประจำตระกูล พวกทาเคชิเข้าไปแสดงความยินดีกับโอะซะมุ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ขอบคุณที่โอะนิซึกะโซเรียวให้เกียรติมางานแต่งลูกสาวผม”
ทาเคชิโค้ง
“ขอบคุณท่านโอะซะมุที่ให้เกียรติเชิญผมมาเป็นแขกเช่นกัน”
ฮิโระ อาเบะ เดินมากระซิบเตือนโอะซะมุ โอะซะมุจึงหันไปถามยูริ
“ใกล้เริ่มพิธีแล้ว เพื่อนเจ้าสาวของลูกยังไม่มาอีกเหรอ”
“มาแล้วค่ะ”
ขาดคำของยูริ แพรวดาวเดินออกมาในชุดกิโมโน สีน้ำเงิน สวยโดดเด่น และสะดุดตามาก ทาเคชิตะลึง มองแพรวดาวเหมือนต้องมนต์สะกด ทาโร่มองแพรวดาวด้วยความทึ่ง ริวและแขกทุกคนในงานต่างหันมองแพรวดาวเป็นสายตาเดียว มิโยะโกะเดินมาพร้อมแพรวดาว สะกิดแพรวดาวด้วยความตื่นเต้น
“ทาเคชิยิ้มมาทางนี้ด้วย”
แพรวดาวอมยิ้มเขิน ๆ เดินเข้ามาก้มศีรษะแสดงความเคารพผู้ใหญ่ทุกคน โอะซะมุมองอย่างชื่นชม
“สาวไทยอย่างหนูเซโกะ ใส่ชุดกิโมโนสวยไม่แพ้สาวที่นี่เลย”
“ขอบคุณค่ะ” แพรวดาวก้มศีรษะ
ไอโกะถลาเข้ามาควงแขนทาเคชิด้วยความดีใจ
“ทาเคชิ ทำไมไม่ไปรับไอโกะมางานด้วยกันล่ะคะ”
ทาเคชิตกใจเล็กน้อย ก่อนหันไปเห็นริกิกับซาโตชิเดินตามเข้ามา แพรวดาวหน้าเสียที่เจอไอโกะ ริกิยิ้มให้ยูริ
“ขอแสดงความยินดีกับงานมงคลของหนูยูริด้วย”
“ขอบคุณคุณริกิมากครับ” โอะซะมุโค้ง
ไอโกะหันขวับไปถามแพรวดาวอย่างจำได้
“หล่อนมาเสนอหน้าที่นี่ได้ไง”
กลุ่มริว สบตากัน หวั่นจะเกิดเรื่อง มิโยะโกะตอบแทน
“ฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาว คุณพ่อฉันเป็นลูกน้องท่านโอะซะมุ”
“ก็แค่ลูกของลูกน้อง”
ไอโกะเชิดหน้าใส่มิโยะโกะกับแพรวดาวอย่างดูถูก ก่อนหันไปสนใจทาเคชิ
“ไอโกะเมื่อยแล้ว ไปนั่งที่ของเรากันเถอะ”
ทาเคชิยังไม่ทันตอบอะไร ก็ถูกไอโกะดึงตัวเดินไปยังที่นั่งบริเวณเต็นท์ พวกริวเดินตามไป พร้อมกับพวกริกิ แพรวดาวมองตามไอโกะควงแขนทาเคชิ หัวใจเจ็บจี๊ด
ฮิโระ อาเบะ ผายมือเชิญกลุ่มทาเคชินั่งตรงแถวแรกสุด ไอโกะดึงแขนทาเคชิจะไปนั่งคู่กัน แต่ถูกฮิโระ อาเบะเข้ามากันไว้
“แถวแรกสุดเป็นที่นั่งบ้านโอะนิซึกะครับ บ้านมิซาว่าอยู่ถัดไปทางด้านหลังอีกสองแถว”
“ฉันเป็นว่าที่คู่หมั้นทาเคชิ ฉันจะนั่งกับทาเคชิ” ไอโกะไม่พอใจ
ฮิโระ อาเบะแย้ง
“คุณหนูไอโกะยังไม่ได้แต่งงานกับคุณทาเคชิ ยังถือว่าเป็นคนนอกครับ”
ไอโกะปรี๊ด จะเล่นงานฮิโระ อาเบะ ริกิรีบเข้ามาปรามก่อนที่จะอายแขกในงาน
“พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิม จะจัดที่นั่งตามลำดับตระกูล ลูกไม่ควรทำให้เจ้าภาพลำบากใจ”
ริกิคว้าแขนไอโกะเดินไปนั่งที่แถวของตัวเอง ซาโตชิรีบเดินตามไป พวกทาเคชินั่งลงตามแถวของตัวเอง
ไอโกะกับซาโตชิท่าทางไม่ค่อยพอใจ เมื่อต้องมานั่งแถวถัดจากโอะนิซึกะ แสดงถึงความต่ำต้อยกว่าของตระกูล
“ทำไมต้องลำดับที่นั่งประจำตระกูลบ้าบอนี่ด้วย” ไอโกะโวย
ริกิขบกรามแน่น เจ็บแค้นใจที่ถูกกดดันทางความสำคัญของตระกูล ซาโตชิไม่พอใจมาก
“จัดที่นั่งให้มิซาว่าอยู่หลังโอะนิซึกะถึงสองแถว มันให้เกียรติเราน้อยกว่า ไอ้ทาเคชิ ทั้งๆ ที่มันเพิ่งขึ้นมาเป็นโซเรียวหลังคุณพ่อ”
ซาโตชิชำเลืองมองริกิ รู้ว่าพ่อรู้สึกอย่างไร แล้วชะงักไปเมื่อได้ยินเสียง เคนอิจิเข้ามา
“ยินดีที่ได้เจอ”
ริกิหันขวับ เคนอิจิก้มศีรษะทักทาย สีหน้ายิ้มแย้ม
“เคนอิจิ” ริกิพึมพำ
ไอโกะกับซาโตชิ มองเคนอิจิ สายตาเหยียด ๆ
“ใครเชิญพวกแก” ซาโตชิถามเสียงหยัน
“ท่านโอะซะมุเป็นคนมีน้ำใจ เชิญทุกคน” เคนอิจิยิ้ม
“จำใจเชิญล่ะไม่ว่า” ซาโตชิเบ้หน้า
“ยังไงผมก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญ และดีใจที่ลำดับตระกูลเราใกล้เคียงกัน”
“อันธพาลชั้นต่ำอย่างแก ไม่มีสิทธิ์มาเทียบเท่าตระกูลฉัน”
ริกิพูดพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่อยากคุยด้วย เคนอิจิยิ้มกริ่ม ไม่สะทกสะท้าน
ริวสะกิดทาเคชิ ทันทีที่เห็นเคนอิจิ
“ไอ้เคนอิจิ”
ทาเคชิหันมองตามริว เห็นเคนอิจิกับชินอิจิ นั่งอยู่แถวเดียวกับกลุ่มมิซาว่า ทาโร่ โคจิ คาซูมะ มาซาโตะ จ้องมองเคนอิจิไม่วางตา ริวทำท่าจะลุกตรงไปหาเคนอิจิ แต่ถูกทาเคชิยกมือขวางไว้
“ให้เกียรติเจ้าภาพด้วย”
ริวฮึดฮัด จำใจนั่งลง โคจิ คาซูมะ มาซาโตะ สบตากัน ภูมิใจที่ทาเคชิเป็นผู้ใหญ่ที่รอบคอบขึ้น
บรรยากาศการประกอบพิธีทางศาสนาของคู่บ่าวสาว ต่อหน้าพระชินโตและญาติผู้ใหญ่ แขกในงานที่ร่วมพิธีต่างนั่งเงียบ มองการประกอบพิธีดำเนินไป แพรวดาวเฝ้ามองพิธีแต่งงานด้วยความตื่นเต้น อยากรู้ สักพักรู้สึกว่ากำลังถูกใครบางคนมองอยู่จึงหันไปเจอทาเคชิ ทั้งสองประสานตากันอย่างจัง ทาเคชิยิ้มนิด ๆ ให้ แพรวดาวยิ้มตอบโดยอัตโนมัติ มิโยะโกะหันไปสังเกตเห็นสายตาของทาเคชิกับแพรวดาวกระซิบอย่างตื่นเต้น
“ทาเคชิยิ้มให้เซโกะ”
“บ้า...เขาจะยิ้มให้ฉันทำไม”
แพรวดาวปฏิเสธทั้ง ๆ ที่อดมองทาเคชิอีกไม่ได้ เคนอิจิ เห็นทาเคชิยิ้มหวานให้แพรวดาว เคนอิจิ นึกย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาตามทาเคชิเข้าไปในร้านขายกิโมโน เห็นทาเคชิแอบมองแพรวดาว เคนอิจินึกขึ้นได้ ก่อนหันไปมองไอโกะที่นั่งมองชุดเจ้าสาวอย่างไม่รู้เรื่องอะไร เคนอิจิรู้ว่าทาเคชิชอบแพรวดาว ยิ้มพราย แผนการแยบยลผุดขึ้นในใจ
บรรยากาศงานเลี้ยงฉลองการแต่งงานในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม แขกเหรื่อที่มาร่วมงานตอนเช้า ยังคงเดินทางมายังสถานที่จัดเลี้ยง โดยมีบ่าวสาวคอยยืนต้อนรับแขกอยู่ตรงทางเข้างาน ทาเคชิยืนคุยอยู่กับโอะซะมุสักพัก จึงหันมากระซิบถามทาโร่
“ริวหายไปไหน”
ริววิ่งหน้าตื่น ตรงมายังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
“ดื่มน้ำเยอะทีไร ได้เรื่องทุกที อูย...”
จังหวะเดียวกันนั้น มายูมิเดินออกมาจากห้องน้ำหญิง ที่อยู่ติดกับห้องน้ำชายพอดี ริวเห็นมายูมิ ชะงัก เบรกแทบไม่ทัน มายูมิหมุนตัวมาในชุดเดรสน่ารัก สวยหวาน ทำให้ริวถึงกับตะลึง ตาค้าง มายูมิเดินเข้ามามองริวใกล้ ๆ โบกมือผ่านหน้าเขาด้วยความแปลกใจ
“มองอะไร...เป็นบ้าอะไรของคุณ”
“เบลอรักท่า บ้ารักเธอ เอ๊ย...คนอย่างริวไม่เคยรักใครนี่หว่า”
ริวพูดหยอดเอง และสับสนกับความคิดตัวเอง
“ฉันรู้ค่ะว่าคนอย่างคุณไม่เคยรักใคร และคนผู้หญิงธรรมดาอย่างฉันก็...”
“เดี๋ยวมาคุยต่อ รอแป๊บนะ”
ริวหลับหูหลับตาจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำหญิง แต่ถูกมายูมิขวางไว้
“คุณจะไปไหน”
“โธ่คุณ อย่าเพิ่งถามตอนนี้ได้มั้ย”
“ห้องน้ำชายอยู่ทางโน้น”
มายูมิชี้ป้ายห้องน้ำชายให้ดู ริวสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหันมายิ้มแหย ๆ
“ก็มันชิน เอ๊ย มันไม่เห็น โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว...”
ริวลนลานรีบวิ่งเข้าห้องน้ำชายไป มายูมิส่ายหน้า เหนื่อยใจกับริว
ในห้องจัดเลี้ยง...ริวกับทาเคชิ กำลังยืนคุยกับโอะซะมุอยู่มุมหนึ่ง ฮิโระ ทากาฮาชิ พามายูมิ ทามาโกะ เข้ามาในงานเลี้ยง ริวหันไปสบตามายูมิ มายูมิเมินหน้าหนี ไม่สนใจ ทาเคชิเห็นท่าทางของริวกับมายูมิ อดขำไม่ได้ ฮิโระ ทากาฮาชิโค้งต่ำทักทายโอะซะมุ ทาเคชิ ริว ทำให้ทามาโกะและมายูมิต้องก้มตัวตาม
“สวัสดีครับท่านโอะซะมุ นี่ภรรยากับลูกสาวผม มายูมิว่าที่คู่หมั้นของริว โอะนิซึกะ”
โอะซะมุยิ้มแย้ม
“มีงานมงคลเมื่อไหร่อย่าลืมเชิญผมไปด้วยล่ะ”
“ท่านโอะซะมุต้องได้เป็นแขกพิเศษของผมแน่ครับ” ริวยิ้มรับ
มายูมิมองริวอย่างไม่พอใจ ยังเคืองเขาอยู่ไม่หาย ทาเคชิถองศอกเตือนริว
“พาคู่หมั้นไปหาเครื่องดื่มสิ”
ริวงง จู่ ๆ ทาเคชิก็เปิดโอกาสให้เขากับมายูมิโดยไม่ทันตั้งตัว มายูมิมองพ่อแม่เป็นเชิงขออนุญาต ฮิโระ ทากาฮาชิ พยักหน้ายินยอม มายูมิจึงเดินไปกับริว
ทาเคชิหันไปเห็นแพรวดาวเดินเข้างานมากับมิโยะโกะ กำลังจะเดินไปหา แต่ไอโกะก็ปรี่เข้ามาควงแขนเขาไว้ ริกิกับซาโตชิเดินเข้ามาร่วมวงสนทนากับโอะซะมุ ยิ่งทำให้ทาเคชิปลีกตัวไปหาแพรวดาวไม่ได้
มุมเครื่องดื่ม...มายูมิเอ่ยขึ้นขณะที่ทั้งสองแยกมาเอาเครื่องดื่ม
“คุณไม่ควรรับปากท่านโอะซะมุทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะไม่มีงานหมั้นเกิดขึ้น ยังไงคุณก็ไม่มีวันแต่งงานกับใคร”
“ไม่ต้องคิดมาก ทำตัวสบาย ๆ ชิล ๆ”
“ฉันไม่ใช่คนไม่ทุกข์ร้อนเหมือนคนบางคน”
ริวทำหน้าเหรอหรา หันมองหาใครบางคน จนมายูมิต้องหันมองตาม
“อะไร”
“หาคนบางคนที่คุณพูดถึง หน้าตามันเป็นยังไง หล่อเหมือนผมรึเปล่า”
จู่ ๆ ริวก็ขยับเข้ามาประชิดตัวมายูมิ ให้เธอดูหน้าตัวเองชัด ๆ จนหน้าทั้งสองแทบจะชนกัน มายูมิชะงัก อึ้งไปเล็กน้อย ริวยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีก จนมายูมิรู้สึกตัว ผงะถอย
“ตาบ้า”
“อยู่เฉย ๆ พ่อคุณมองมาทางนี้แล้ว”
มายูมิชะงัก จะหันหลังไปมอง แต่ถูกริวห้าม
“อ๊ะ อย่าทำตัวมีพิรุธสิ” ริวโบกมือให้คนข้างหลังมายูมิ “อินเลิฟกันดีครับพ่อตา”
มายูมิไม่ไว้ใจ จึงหันหลังไปมอง เห็นฮิโระ ทากาฮาชิ กำลังคุยกับโอะซะมุและทาเคชิ ไม่ได้สนใจเธอ ริวโบกมือค้าง ยิ้มเจื่อนเมื่อถูกจับได้ มายูมิแกล้งเหยียบเท้าริวแล้วบดหลังเท้าด้วยความแค้น ริวอ้าปากร้อง แต่มายูมิทำมือจุ๊ปากให้เงียบ ริวอดทนเจ็บจนมายูมิยอมยกเท้าออก
“อูย...ตาปลาแทบแตก”
“สม”
มายูมิยิ้มเยาะอย่างมีความสุข ริวชะงัก หยุดมองรอยยิ้มของมายูมิ
“เหยียบอีกสิ”
“อยากเจ็บตัวเหรอ”
“ผมยอม...ถ้ามันทำให้คุณยิ้มอย่างมีความสุขแบบเมื่อกี้”
มายูมิอึ้ง ๆ รู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดของเขาไปชั่วขณะ ริวเสเปลี่ยนเรื่อง
“ได้ยินว่าสอบเสร็จแล้ว คุณจะเลือกเรียนอะไรต่อ”
“ฉันอยากเป็นหมอ แต่คุณพ่ออยากให้เรียนบัญชี ครูบอกว่าฉันสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ได้แน่ แต่คุณพ่อ...”
“งั้นสอบไปเลย ผมจะช่วยพูดกับพ่อคุณให้”
“จริงเหรอคะ” มายูมิดีใจ
“แลกกับ...” ริวชี้แก้มตัวเอง “หนึ่งจุ๊บ”
มายูมิจะโวย แต่ริวตัดบท
“เพื่ออนาคตของแพทย์หญิงมายูมิ...คิดให้ดี ๆ”
มายูมิหยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนนึกได้ มองริวสายตาเจ้าเล่ห์
“หวังว่าคุณจะไม่ผิดคำพูด”
“ด้วยเกียรติของ ริว โอะนิซึกะ ถ้าผมช่วยพูด พ่อคุณยอมให้คุณเรียนแพทย์แน่นอน”
ริวรีบหลับตาพริ้ม เอียงแก้มรอจูบ มายูมิทำทีเป็นยื่นหน้าเข้าไปใกล้ริว แต่กวาดสายตามองไปยังโต๊ะของว่างใกล้ ๆ ริวทำท่าขนลุก ตื่นเต้น
“อุ๊ย...ตื่นเต้น ขนลุก...”
“นิ่ง ๆ สิ” มายูมิแกล้งดุ
ริวนิ่ง ชะงักทันที มายูมิหยิบขนมโมจิมาแปะแก้มริว ทำเนียนว่าจูบเขา ริวทำเสียงครางในลำคอ มีความสุข โดยไม่รู้ว่ามีขนมโมจิติดคาแก้มอยู่อย่างนั้น มายูมิพยายามกลั้นขำ รีบเอาขนมโมจิออก แล้วกำซ่อนไว้ ริวลืมตาวาววาบ เคลิ้ม ๆ เดินจากไปเหมือนคนละเมอ มายูมิรีบเอามือกุมปาก อดขำท่าทางริวไม่ได้
ไอโกะเดินออกมาจากห้องน้ำ กำลังจะเข้าไปในงานเลี้ยง เสียงเคนอิจิทักทายดังขึ้น
“สวัสดีครับคุณหนูไอโกะ”
ไอโกะชะงัก หันไปมองเคนอิจิที่ยืนพิงกำแพงอยู่ เดินตรงเข้ามาหาเธอ แล้วโค้งตัวต่ำ
“ต้องการอะไร”
ไอโกะพูดเสียงกระด้าง เพราะรู้ว่าเคนอิจิคือศัตรูของพ่อ
“ผมแค่อยากทักทายลูกสาวคนสวยของท่านริกิ”
“หมดธุระแล้วใช่มั้ย”
“อย่าเพิ่งรีบไปขัดจังหวะว่าที่คู่หมั้นเลย ให้โอกาสทาเคชิได้มองสาวสวยที่เค้าสนใจก่อนเถอะ”
ไอโกะชะงัก
“หมายความว่ายังไง”
“เขาเห็นกันทั้งงานว่าโอะนิซึกะโซเรียวคอยมองหาแต่เพื่อนเจ้าสาวคนที่ใส่ชุดกิโมโนสีน้ำเงิน มีคุณเท่านั้นที่ตาบอด...หรือแกล้งตาบอดก็ไม่รู้”
เคนอิจิเดินผละจากไป ยิ้มร้าย เข้าแผน
รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 4 (ต่อ)
พิธีการในส่วนงานเลี้ยงกำลังเริ่มขึ้น พนักงานเสิร์ฟเอาชาร้อนเข้ามาเสิร์ฟให้บนโต๊ะของแขกในงาน ไอโกะย่องเข้ามาทางด้านหลังห้องจัดเลี้ยง มองหาทาเคชิ สายตาของเธอเห็นทาเคชิหันมายิ้มหวานให้แพรวดาว โดยที่แพรวดาวอมยิ้ม เขิน ๆ
ไอโกะ นึกย้อนถึงเหตุการณ์เก่า ๆ ตอนที่เธอโวยวายเขาเรื่องนัดเจอผู้หญิงที่สถานีรถไฟ...ตอนที่เธออาละวาดเล่นงานแพรวดาว แต่ทาเคชิเข้ามาขวาง...ไอโกะมั่นใจว่าแพรวดาวต้องเป็นคนเดียวกับที่ทาเคชิแอบไปหาที่สถานีรถไฟ เธอกำมือจนเล็บแหลมๆ จิกลงไปในเนื้อด้วยความแค้น จ้องแพรวดาวอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
เจ้าบ่าวเจ้าสาวควงคู่กันเข้ามาในงานด้วยชุดกิโมโนที่เปลี่ยนใหม่ กำลังจะเดินไปด้านหน้าเวที ไอโกะเดินฉับ ๆ ผ่านแขกที่มองตามหลังไอโกะด้วยความประหลาดใจ ตรงไปยังโต๊ะที่แพรวดาวนั่งอยู่
“นังหน้าด้าน”
ไอโกะคว้าถ้วยใส่น้ำชาร้อนบนโต๊ะ สาดใส่หน้าแพรวดาวอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย”
มิโยะโกะตกใจร้องลั่น
“ว้าย เซโกะ”
ทาเคชิตกใจ หันขวับไปเห็นแพรวดาวถูกไอโกะเอาน้ำชาร้อนสาดหน้า จึงรีบพุ่งเข้าไว้คว้าตัวแพรวดาวมากอดไว้ เพื่อป้องกันอันตรายจากไอโกะ ริว ทาโร่ มายูมิและผู้คนในงานต่างแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“อ๊าย...เอามือออกจากตัวนังนั่นเดี๋ยวนี้นะทาเคชิ”
ไอโกะกระโดดเข้าไปจิกข่วนทึ้งแขนทาเคชิ เพื่อให้ปล่อยตัวแพรวดาว ทาเคชิสะบัดแขนสุดแรง จนไอโกะเซเสียหลักไป ทาเคชิจ้องมองไอโกะด้วยสายตาเกลียดชัง
“เป็นบ้าอะไรของเธอ”
“รีบพาเซโกะไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”
ริวเข้ามาดูอาการแพรวดาวด้วยความเป็นห่วง
“เอาผ้าปิดหน้าไว้ก่อนนะครับ”
ทาเคชิเอาผ้าเช็ดหน้าสีแดงของแพรวดาวที่พกติดตัวไว้ ยื่นให้เธอปิดหน้าตัวเอง ทาโร่เดินแหวกทางให้อย่างรู้หน้าที่ ทาเคชิอุ้มแพรวดาวแล้วรีบตามทาโร่ออกไป
“ทาเคชิจะไปไหน”
ไอโกะจะวิ่งตาม แต่ริกิกับซาโตชิรีบพรวดพราดเข้ามาห้าม แต่ไอโกะไม่ยอมแพ้ ยังคงโวยวายลั่น
“กลับมาเดี๋ยวนี้นะทาเคชิ”
ริกิพยายามข่มน้ำเสียงให้เย็น
“พอได้แล้ว”
ริกิกับซาโตชิพยายามลากไอโกะออกไปจากงาน แต่ไอโกะยังคงดิ้นจะตามทาเคชิไป
“ไม่...ปล่อยไอโกะนะ ไอโกะจะตามไปฆ่านังนั่น”
เพี๊ยะ ! ริกิฟาดมือลงบนแก้มไอโกะด้วยความโกรธจัด จนเป็นที่อับอายแก่ทุกคน ไอโกะตกตะลึง เอามือลูบแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเอง มองพ่อด้วยสายตาปวดร้าวน้ำตาร่วง
“ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อไม่เคยตีไอโกะ”
“แกทำลายงานมงคลของเค้า ทำให้พ่อขายหน้า”
“แต่นังนั่นกับทาเคชิ...”
“กลับบ้าน”
ริกิโบกมือให้ไอโกะหยุดพูด ซาโตชิออกแรงลากตัวไอโกะออกไปอย่างรู้หน้าที่
“ปล่อยฉันนะ ฉันไม่กลับ...อ๊าย”
ซาโตชิทั้งลากทั้งดึงไอโกะเดินผ่านแขกในงานด้วยความอับอาย ไอโกะดิ้นรนไม่ยอม จนเซไปหาเคนอิจิ เกือบจะล้มทับ แต่เคนอิจิช่วยประคองรับไว้ได้ทันมือเขาแอบหย่อนกระดาษโน๊ตเล็ก ๆ ไว้กับสายโอบิตรงเอวของไอโกะอย่างรวดเร็ว
ไอโกะสะบัดหน้าใส่เคนอิจิ ก่อนถูกซาโตชิลากออกไป เคนอิจิปั้นสีหน้านิ่ง ไม่รู้ไม่ชี้ โอะซะมุและแขกในงานหันมองกัน งุนงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มิโยะโกะมองตามไอโกะด้วยความโกรธแทนเพื่อน มายูมิสบตาริว ยังคงตกใจไม่หาย โคจิ มาซาโตะ คาซูมะ สบตากันอย่างหนักใจ เคนอิจิยิ้มร้าย สะใจในแผนการของตัวเอง
ไอโกะถูกซาโตชิเหวี่ยงเข้ามานั่งตรงเบาะด้านหลังของรถคนเดียว โดยซาโตชิกับริกิยืนอยู่ที่ข้างรถ ไอโกะจะกรีดร้องตะกายออกจากรถ ริกิหันมาดุ สีหน้าจริงจัง
“อย่าให้พ่อต้องเหลืออดกับแก กลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้าน”
ไอโกะชะงัก เห็นแววตาดุเอาเรื่องของพ่อ จึงไม่กล้าโวยวาย ซาโตชิปิดประตูรถโครม คนขับรถขับรถออกไป ริกิมองตามด้วยใบหน้าเครียดมาก
ไอโกะฮึดฮัดไม่พอใจ ก่อนก้มลงมาเห็นกระดาษโน๊ตที่เคนอิจิแอบเหน็บไว้ตรงโอบิจึงหยิบมาแกะอ่านข้อความในกระดาษโน๊ตเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น
“มีปัญหาอะไร เชิญปรึกษาที่ไนท์คลับของผม ผมยินดีรับใช้เสมอ”
ไอโกะรีบเก็บกระดาษโน้ตซ่อนไว้ที่โอบิตามเดิม สับสน ไม่เข้าใจว่าเคนอิจิต้องการอะไรจากเธอ
ทาโร่ขับรถไปแล้วเหลือบมองกระจมองหลังไปอย่างเป็นห่วงแพรวดาว เขาส่งผ้าขนหนูและขวดน้ำเกลือให้ทาเคชิ
“น้ำเกลือสำหรับล้างตาครับโซเรียว”
ทาเคชิรับมา เทน้ำเกลือล้างตาและล้างหน้าให้แต่แพรวดาวคอยหลับตาและหันหน้าหนี
“ฉันแสบค่ะ”
“อดทนหน่อยนะครับ แล้วตาคุณเป็นยังไงบ้าง”
“ยังมองเห็นค่ะ”
ทาเคชิยังกอดประคองหญิงสาวไว้แน่นแล้วมองไปตามทางถนนสลับกับมองแพรวดาว
“ใกล้จะถึงรึยังทาโร่”
“เลยแยกหน้าก็ถึงแล้วครับ”
ทาเคชิหันกลับมามองแพรวดาว
“คุณไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะเป็นแผลนะ ผมจะให้หมอรักษาคุณให้ดีที่สุด”
ทาโร่เหลือบมองกระจกมองหลัง เห็นทาเคชิโอบกอดแพรวดาวอยู่ก็แววตาเศร้า
ทาโร่เลี้ยวรถเข้ามาจอดบริเวณโรงพยาบาลแล้วเปิดประตูรถลงมาทันที
“จากโอะนิซึกะที่โทรมาแจ้งไว้ครับ”
พยาบาลรีบบอก
“คุณหมอรออยู่แล้วค่ะ”
ทาโร่รีบเปิดประตูรถประตูฝั่งที่แพรวดาวนั่งอยู่ทันที ทาเคชิช่วยดันตัวแพรวดาวให้ทาโร่อุ้มลงไปจากรถ ทาโร่อุ้มแพรวดาวแล้ววางลงบนเตียงฉุกเฉิน บุรุษพยาบาลและพยาบาลกำลังจะเข็นเตียงแพรวดาวเข้าห้องฉุกเฉิน ทาโร่จับมือแพรวดาวอย่างเป็นห่วง แล้วกำลังจะเดินตาม แต่ทาเคชิเข้ามาตบไหล่ทาโร่เบาๆ
“ขอบใจมากทาโร่”
ทาโร่ชะงักไปแล้วรีบปล่อยมือจากแพรวดาวทันที ทาเคชิพูดจบก็เดินประกบคู่เตียงแพรวดาวไปแล้วจับมือของแพรวดาวไว้แน่น ทาโร่มองตามไปเศร้าๆ
ในห้องฉุกเฉิน...แพรวดาวนอนให้หมอตรวจดวงตา พยาบาลกำลังเตรียมผ้าเย็นไว้รอประคบหน้า ทาเคชิคอยชะโงกหน้ามาดูอย่างเป็นห่วง หมอชะงักไปแล้วเงยหน้าขึ้นมามองทาเคชินิ่งๆ
“ท่านโซเรียวยังไม่ออกไปรอด้านนอกอีกหรือคะ”
“ผมเป็นห่วงเซโกะ”
“ถ้าห่วงก็ปล่อยให้หมอได้ตรวจคนไข้อย่างละเอียดนะคะ”
ทาเคชิพยักหน้าแล้วถอยห่างออกมาจากเตียงแพรวดาวแต่ยังไม่ออกไป หมอเริ่มไม่พอใจ เดินไปดึงม่านมากั้นระหว่างทาเคชิกับเตียงของแพรวดาวทันที ทาเคชิไม่ยอมเปิดม่านออกทันที หมอและพยาบาลหันมามองทาเคชิอึ้ง ๆ หมอหันมามองแพรวดาวที่ยิ้มเจื่อนๆ ให้หมอแล้วหันไปหาทาเคชิ
“คุณออกไปรอข้างนอกนะคะทาเคชิ คุณหมอจะได้ทำงานสะดวก”
“แต่ผม...”
ทาเคชิเอื้อมมือไปจับมือแพรวดาวไว้ เธอบีบมือเขาแล้วยิ้มให้
“รอข้างนอกนะคะ”
ทาเคชิมองแพรวดาวแล้วจำใจเดินออกไป
ทาเคชิเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินแต่ยังชะเง้อมองเข้าไปในห้องพยาบาลอยู่ เสียงทาโร่ดังขึ้น
“โซเรียวครับ”
ทาเคชิหันมาเห็นทาโร่ที่วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
“มีอะไร”
“คุณหนูไอโกะมาครับ”
ทาโร่ชี้ไปทางหน้าโรงพยาบาล เห็นไอโกะกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาอย่างเหวี่ยงๆ
“นังผู้หญิงไทยอยู่ไหน”
ไอโกะมองมาเห็นทาเคชิก็ยิ่งโมโหแล้วเดินตรงเข้ามาทันที
“มันอยู่ในนั้นใช่มั้ย”
ไอโกะจะเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินแต่ทาเคชิรั้งไว้ ทาโร่รีบเดินมาขวางทางเข้าห้องฉุกเฉินทันที
“จะทำอะไรไอโกะ”
“จะเข้าไปเอาเรื่องนังนั่งไง” ไอโกะตะโกน “แกอย่าคิดว่าจะรอดนะ”
ไอโกะจะเข้าไปในห้องฉุกเฉินแต่ทาเคชิไม่ยอม
“ปล่อยฉันนะทาเคชิ ปล่อย”
“ไม่” ทากาชิกำชับทาโร่ “ฝากทางนี้ด้วยนะทาโร่...”
“ผมจะดูแลเธอเองครับโซเรียว”
“อย่าให้ใครเข้าไปเด็ดขาด”
ทาโร่พยักหน้ารับคำ ทาเคชิลากตัวไอโกะออกไปทันที
ทาเคชิลากตัวไอโกะออกมาด้านนอก ไอโกะยังโวยวายไม่ยอม
“ปล่อยฉันนะ ฉันจะไปจัดการกับมัน”
“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ จะไปทำอะไรเค้าอีก”
“ที่นังนั่นโดนยังน้อยไปด้วยซ้ำ คนที่คิดจะมายุ่งกับคุณ มันต้องโดนสั่งสอน”
ไอโกะจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลอีก แต่ทาเคชิจับตัวไว้
“หยุดเดี๋ยวนี้ไอโกะ ถ้าคุณไปทำอะไรผู้หญิงคนนั้นอีก เกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ”
ไอโกะมองทาเคชิอึ้งๆ
“นี่คุณปกป้องมัน คุณนอกใจฉันไปคบกับนังนั่น”
“บ้ากันไปใหญ่แล้วไอโกะ เลิกคิดเองเออเองได้แล้ว”
“ไอโกะไม่ได้คิดไปเอง ในงานคุณเอาแต่จ้องมัน ส่วนมันก็หน้าด้านยิ้มอ่อยคุณอยู่ตลอดเวลา”
ทาเคชิโมโหกระชากแขนไอโกะมา จ้องหน้าโกรธๆ
“คุณไม่มีสิทธิว่าเซโกะแบบนั้น”
“ทำไมไอโกะจะว่าไม่ได้ ก็นังนั่นมันหน้าด้านจริงๆ”
“ไอโกะ”
ทาเคชิกระชากแขนไอโกะแรงมากขึ้น เมื่อเธอพยายามจะสะบัดมือเขาออก เพื่อจะเข้าไปด้านใน ทันใดนั้นเสียงซาโตชิดังขึ้น
“ปล่อยมือจากไอโกะ”
ทาเคชิปล่อยมือ ซาโตชิเดินเข้ามาดึงตัวไอโกะมา
“มาหาทาเคชิทำไม อยากโดนพ่อเล่นงานใช่มั้ย”
ไอโกะกระฟัดกระเฟียดไม่อยากฟัง
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้”
“ไม่...ฉันไม่กลับจนกว่าทาเคชิจะรับปากว่าจะเลิกยุ่งกับนังนั่งและยอมให้ฉันจัดการกับมันขั้นเด็ดขาด”
ไอโกะหันมาจ้องหน้าทาเคชิ แต่ทาเคชิไม่สนใจแล้วหันไปหาซาโตชิ
“บอกน้องสาวนายให้เลิกคิดไปเองได้แล้ว ฟุ้งซ่านแบบนี้ไม่มีวันคุยกันรู้เรื่อง”
ไอโกะโกรธที่โดนว่าแล้วอ้าปากกำลังจะกรี๊ด แต่ซาโตชิพุ่งเข้าไปต่อยหน้าทาเคชิทันที ทาเคชิไม่ทันระวังโดนหมัดของซาโตชิเต็มๆ เลยล้มไปกองกับพื้น ไอโกะอึ้งเหวอไป
“น้องฉันไม่ได้คิดไปเอง แกนั่นแหละที่หลอกไอโกะ คิดว่าไม่มีใครเห็นการกระทำของแกเหรอ”
ไอโกะชะงัก
“ทาเคชิทำอะไร นี่พี่ซาโตชิไปรู้อะไรมา”
“ทาเคชิแอบไปเจอกับผู้หญิงอยู่บ่อยๆ ที่มหาวิทยาลัยกับแถวตลาดในเมือง”
ทาเคชิอึ้งไปที่ซาโตชิรู้เรื่อง
ทาโร่เดินเข้ามาในห้องฉุกเฉิน พยาบาลเดินนำมาที่เตียงของแพรวดาวแล้วเปิดม่านออก แพรวดาวนอนอยู่บนเตียงและมีผ้าก๊อตปิดตาอยู่ทั้ง 2 ข้าง พยาบาลประคบเย็นบริเวณแก้มให้
“ญาติคนไข้มาแล้วค่ะ”
แพรวดาวเอียงหน้ามาทางทาโร่ แล้วเผลอยื่นมือไปจับมือเขาเพราะคิดว่าเป็นทาเคชิ
“ทาเคชิ”
ทาโร่อึ้งไปเล็กน้อยที่แพรวดาวเรียกหาทาเคชิเป็นคนแรก
“เดี๋ยวโซเรียวตามเข้ามาครับ”
แพรวดาวชะงักไปแล้วค่อยๆ ชักมือกลับ ทาโร่หันไปหาหมอ
“อาการเป็นยังไงบ้างครับหมอ”
“ใบหน้าอาจจะแสบๆ แดงๆ อยู่สัก 2-3 วัน ดวงตาไม่เป็นอะไรค่ะ อาจจะรู้สึกเคืองๆ บ้างช่วงแรก ให้หยอดยาตามที่สั่งค่ะ”
“แล้วต้องปิดตาไว้อีกนานมั้ยครับ”
“อีกสัก 10 นาทีก็เปิดตาได้ แต่ถ้าเปิดตาแล้วรู้สึกว่ามองไม่ชัด ให้รีบบอกหมอเลยนะคะ”
หมอออกไปตรวจเตียงอื่น พยาบาลยังประคบหน้าให้แพรวดาวอยู่
“เดี๋ยวประคบเย็นเสร็จแล้ว ดิฉันจะไปจัดยาให้นะคะ”
“ฉันประคบเย็นเองก็ได้ค่ะ”
แพรวดาวยกมือขึ้นมาจับที่ประคบหน้า พยาบาลช่วยจับให้เพราะเธอจับไม่ถนัด
“ผมช่วยเองครับ”
ทาโร่รับที่ประคบเย็นมาจากพยาบาลและแพรวดาว
“ขออนุญาตนะครับ”
ทาโร่รอจนแพรวดาวพยักหน้าอนุญาตก่อน จึงประคบเย็นที่หน้าให้ พยาบาลออกไป
“เอ้อ...ทาเคชิไปไหนล่ะคะ”
“ไปห้องน้ำครับ”
ทาโร่เห็นปลายผมของแพรวดาวปรกแก้ม ข้างที่ประคบเย็นอยู่เลยค่อยๆ ปัดผมออกให้ พยาบาลเดินเข้ามาเก็บอุปกรณ์ทำแผลเสียงวัสดุตกพื้นเสียงดัง...แพรวดาวสะดุ้ง ผวาตกใจหันไปมองตามเสียง
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมอยู่ที่นี่...จะไม่มีใครมาทำอะไรคุณได้อีกแล้ว”
แพรวดาวยิ้มน้อยๆให้ทาโร่
“ขอบคุณค่ะ”
สวนบริเวณโรงพยาบาล...ไอโกะเข้าไปกระชากแขนทาเคชิคาดคั้นให้ตอบ
“ยอมรับมาสิคะว่าคุณแอบคบกับผู้หญิงคนนั้น”
“ผมไม่ได้คบกับเขา”
“พี่ซาโตชิมีหลักฐาน คุณยังโกหกอีกเหรอ”
“ผมไม่ได้โกหก เธอเป็นแค่เพื่อนคนนึงที่มหาวิทยาลัย”
“โกหก...ไอโกะรู้ว่าคุณไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงสักคน”
ทาเคชิดึงแขนออกจากมือไอโกะ แล้วมองอย่างไม่พอใจ
“ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ไอโกะจะไปบังคับให้นังนั่นมันพูดเอง”
ไอโกะจะเข้าไปในโรงพยาบาลแต่ทาเคชิรั้งตัวไว้
“ผมไม่ให้คุณเข้าไป”
“อย่ามาจับตัวน้องฉัน”
ซาโตชิเข้าไปดึงตัวไอโกะมาจากทาเคชิ
“อย่าให้น้องสาวนายเข้าไปทำอะไรผู้หญิงคนนั้นอีก ไม่อย่างนั้นจะหาว่าฉันไม่เกรงใจไม่ได้นะ”
“แกจะทำอะไรน้องฉัน”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้น...ข้อตกลงการแต่งงานระหว่างโอะนิซึกะกับมิซาว่าถือเป็นโมฆะ โอะนิซึกะไม่มีวันยอมรับนายหญิงที่มีคดีทำร้ายร่างกายติดตัว”
ไอโกะและซาโตชิอึ้ง ทาเคชิหลีกทางให้ไอโกะ
“เอาสิ...อยากเข้าไปทำร้ายใครอีกก็เชิญ”
ไอโกะจ้องทาเคชิโกรธๆ ซาโตชิโมโห
“กลับบ้านไอโกะ”
“ไม่...ไอโกะไม่กลัวคำขู่ทาเคชิหรอก”
“พี่บอกให้กลับ”
ไอโกะยังไม่ยอม แต่ซาโตชิไม่ยอม ออกแรงลากไอโกะไป ไอโกะกรี๊ดโวยวาย
ในห้องฉุกเฉิน...พยาบาลเข้ามาดูแผลให้พร้อมส่งถุงยาให้แพรวดาว
“นี่ยานะคะ ตามที่คุณหมอสั่ง”
พยาบาลส่งถุงยาให้ทาโร่แล้วออกไป แพรวดาวยันตัวจะลุกขึ้นแต่ไม่ถนัดเพราะมองไม่เห็นอะไร
“ให้ผมช่วยนะครับ”
ทาโร่เข้าไปช่วยประคองให้ลุกขึ้น เขาโอบรอบตัวเธอหันหน้ามองหน้าแพรวดาว ใบหน้าสองคนอยู่ใกล้กัน ทาโร่มองอย่างหวั่นไหว โดยแพรวดาวไม่รู้ตัวเพราะโดนปิดตาอยู่ พยาบาลเข็นรถเข็นเข้ามา ทาโร่รีบผละออก
“รถเข็นได้แล้วค่ะ ส่วนผ้าปิดตาเปิดที่บ้านก็ได้นะคะ จะได้พักตาอีกสักหน่อย”
พยาบาลกลับออกไป ทาโร่ประคองแพรวดาวให้ลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆ ก้าวลงจากเตียง แต่เธอก้าวพลาด
“ว๊าย...”
แพรวดาวเสียหลักเซล้ม ทาโร่รวบตัวไว้ได้ทัน ทาโร่หันหน้ามาทางแพรวดาวใบหน้าทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกัน ทาโร่จิตใจเริ่มหวิวๆ มากขึ้น
“เปิดตาก่อนดีกว่าค่ะ ฉันจะได้ทำอะไรสะดวก”
แพรวดาวยกมือขึ้นมาจับที่ตาแล้วค่อยๆ คลำผ้าพันแผลไปรอบๆ เพื่อจะแกะออก ทาโร่เอื้อมมือไปจับมือเธอไว้
“นั่งก่อนครับ เดี๋ยวผมแกะให้”
ทาโร่ประคองแพรวดาวลงนั่งบนเตียง แล้วโน้มตัวใกล้ชิดเพื่อแกะผ้าพันแผลออกให้ ทาโร่ทั้งเขิน ทั้งหวั่นไหวที่อยู่ใกล้แพรวดาวมากขนาดนี้ เขากำลังจะแกะผ้าพันแผลชั้นสุดท้ายให้ ทันใดนั้นเสียงทาเคชิดังขึ้น
“ฉันเปิดเอง”
ทาโร่ชะงักไปแล้วหันไปทางต้นเสียงแล้วอึ้งไป ทาเคชิยืนอยู่ไม่ได้คิดอะไร ไม่ทันได้สังเกตเห็นอาการทาโร่ว่าชอบแพรวดาวอยู่ แพรวดาวหันหน้าไปทางทาเคชิ
“ทาเคชิ”
ทาเคชิเข้ามารับผ้าพันแผลต่อ ทาโร่ได้สติรีบส่งลุกขึ้นก้มหัวให้ทาเคชิ แล้วถอยออกมาทันที
“ผมอยู่ตรงหน้าคุณแล้วเซโกะ”
ทาเคชิค่อยๆแกะผ้าพันแผลชั้นสุดท้ายให้ สายตาแพรวดาว ในความมืดค่อยๆมีแสงสว่างเกิดขึ้น เธอค่อยๆลืมตาขึ้นทุกอย่างสว่างจ้าและเบลอไปหมด ทาเคชิยื่นหน้ามาใกล้ๆ แพรวดาวอย่างเป็นห่วง
“เห็นผมมั้ยเซโกะ”
แพรวดาวกระพริบตา 2-3 ครั้งเพื่อปรับสายตาตัวเอง...จนมองเห็นทาเคชิชัดเจน เธอยิ้มออกมา
“ฉันเห็นคุณค่ะ”
ทาเคชิโล่งใจ ลืมตัวดึงแพรวดาวเข้ามากอดอย่างดีใจ
“ผมดีใจที่ตาคุณไม่เป็นไร คุณปลอดภัยแล้ว...ผมห่วงคุณมากนะเซโกะ”
แพรวดาวยิ้ม ปล่อยให้ทาเคชิกอดอยู่อย่างนั้น ด้วยรับรู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้รักและห่วงใยเธอมากแค่ไหน ทาโร่มองภาพตรงหน้าอย่างปวดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
จบตอนที่ 4