xs
xsm
sm
md
lg

น่ารัก ตอนที่ 22

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น่ารัก ตอนที่ 22

ครั้นพอกลับถึงวังฮวาซาเหนือ คืนนั้น ชองปอลก็เอะอะโวยวายเอากับ ท่านหลุยส์ และราชินีโซเฟีย

“ยังไงชองปอลก็จะแต่งงานกับน้องหญิงโลลิต้าให้ได้”
ท่านหลุยส์ทอดถอนใจ “ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไรกับเค้าได้แล้วชองปอล”
“แต่ชองปอลไม่ยอมยกเลิกงานแต่งงานเด็ดขาด! ท่านพ่อ ท่านแม่ต้องทำอะไรสักอย่างสิพะยะค่ะ นี่เราต้องกลายเป็นฝ่ายยอมฮวาซาใต้อย่างนั้นหรือพะยะค่ะ ชองปอลไม่ยอมนะท่านพ่อ ชองปอลไม่ยอม”
ท่านหลุยส์เองก็แค้นมาก เพราะไม่คิดว่าท่านธูลจะมาไม้นี้ ราชินีได้แต่ปลอบลูกชาย
“ชองปอลใจเย็นๆลูก...ทั้งลูกแล้วก็ท่านพ่อได้ทำพลาดไปแล้ว ตอนนี้แม่ว่าเราควรจะอยู่กันนิ่งๆ เงียบๆ รอให้เรื่องมันผ่านไปก่อน แล้วเราค่อยกลับมาคิดกัน ว่าเราควรจะทำยังไงกันดี เชื่อแม่เถอะลูก”
ท่านหลุยส์เครียด เดินออกไป ปิดประตูปัง ชองปอลเครียดจัด เพราะกลัวว่าโลลิต้าจะไม่แต่งงานด้วย

คืนเดียวกัน ปิแอร์กำลังทำความเคารพท่านนายพลราอูล
“ที่เรียกเจ้ามาพบในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ...เนื่องด้วย ภารกิจตามติดชีวิตท่านชองปอลที่เรามอบหมายให้เจ้าทำ ทำให้ฮวาซาใต้ได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่จะเอาผิดฮวาซาเหนือ ถึงแม้เจ้าจะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างที่ทำของหลวงหาย แต่เมื่อชดเชยกันแล้ว ถือว่าความผิดยังน้อยกว่าที่เจ้าทำเพื่อประเทศชาติ” ปิแอร์ยิ้มแป้น ดีใจเป็นที่สุด “ท่านประธานธูลจึงมีหมายกำหนดการให้แต่งตั้งเจ้าเป็นร้อยโทปิแอร์ ในวันรวมประเทศฮวาซา!”
ปิแอร์อึ้งตะลึงงัน อ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อ
“ดีใจกับเจ้าด้วยนะปิแอร์”
“ขอบคุณครับผมท่านนายพล!”
“เตรียมตัวรับตำแหน่งได้เลย”
ปิแอร์งงหนัก “เตรียมตัว คนเป็นร้อยโทเค้าต้องเตรียมตัวอะไรบ้างครับผม” ทหารคนซื่อยิ้มแหยๆ โชว์เหงือก “แหะ แหะ คือ กระผมไม่เคยเป็น เลยทำตัวไม่ถูกครับ ช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ”
นายพลราอูลยิ้มขำความซื่อของปิแอร์

ภายในห้องรับรอง ภายในวังฮวาซาใต้ ตอนเช้าวันนี้ ไผท ฟิน และขิง ซึ่งเพิ้งเดินทางมาถึง ถวายความเคารพท่านธูล นายพลราอูลยืนอยู่ด้านหลังห่างออกมา
“ยินดีต้อนรับทุกท่านกลับสู่ฮวาซาอีกครั้ง...แล้วคุณไผทหายดีแล้วใช่ไหม”
ไผทจับไหล่ตัวเองข้างที่โดนกระสุน

“พะยะค่ะ เป็นพระกรุณาที่ท่านธูลทรงเป็นห่วง”
“เราได้ดูสารคดีจากคุณแนวหน้าแล้ว คุณไผทดูดีมาก...คุณทำให้สารคดี ของประเทศเราน่าดูขึ้นเยอะ เราไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมตอนนั้น ลูกหญิงถึงอยากให้คุณมาเป็นผู้ร่วมถ่ายทอดสารคดี”
มีเสียงเคาะประตูเบาๆ แล้วประตูถูกเปิดออก เป็นองค์หญิงโลลิต้าเดินเข้ามาพร้อมชีฟอง ไผทมองจ้องตาเป็นประกายด้วยความดีใจ ขิงมองอย่างสงสาร โลลิต้าไม่ยอมมองตอบไผท ที่พยายามสบตาส่งยิ้มมาให้
โลลิต้าทักทายเบาๆ “ยินดีต้อนรับทุกๆ คนกลับมาฮวาซาใต้อีกครั้งค่ะ”
“แล้วองค์หญิงล่ะพะยะค่ะ ได้ทอดพระเนตรสารคดีของเราแล้วหรือยัง” ไผทชวนคุย
โลลิต้าชะงัก มองไผทนิ่งๆ พยายามจะทำให้เป็นปกติที่สุด “ยังค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะพะยะค่ะ ไหนองค์หญิงเคยทรงบอกว่า...”
ไผทมองท่าทีโลลิต้าที่ไม่แม้แต่จะสบตาตัวเอง ก็แปลกใจ
“ท่านพ่อเพคะ หญิงทำงานค้างอยู่ ถ้าตรงนี้ไม่มีอะไรสำคัญ หญิงขอตัวนะเพคะ”
“งั้นก็เชิญทุกท่านไปพักผ่อนกันให้สบายเถอะ แล้วพบกันในวันพระราชพิธีนะ”
ทุกคนทำความเคารพท่านธูล ท่านธูล และโลลิต้าเดินออกไปทันที ชีฟองตามออกไปด้วย ไผทมองตามสีหน้าครุ่นคิด ที่เห็นท่าทางโลลิต้าดูแปลกๆ เหมือนโกรธอะไรตัวเอง
ไผทหันไปถามขิง “ขิง...ขิงว่าองค์หญิงแปลกไหม”
“แปลกยังไงไผท”
“ไม่รู้สิ ท่านดูไม่ค่อยอยากมองหน้า ไม่อยากคุยกับผมยังไงไม่รู้” เขาคิดหาเหตุผล “ท่านดูเหมือนโกรธผมนะ” สุดท้ายนึกได้ “จริงด้วย ไม่ใช่ดูเหมือนหรอก ท่านโกรธชัดๆ โกรธเรื่องอะไรอ่ะ”
ไผทเดินออกไปทันที ไม่สนใจใคร ฟินกับขิงตกใจ
“ไผท! จะไปไหน เดี๋ยว”
ขิงมองตามไผทเศร้าๆ รู้ว่าไผทต้องไปหาองค์หญิงแน่ๆ

โลลิต้า กับชีฟองกำลังเดินกลับห้อง ไผทวิ่งตามมาทางด้านหลัง เรียกไว้
“องค์หญิงพะยะค่ะ...รอกระหม่อมก่อน”
โลลิต้าชะงักนิดๆ แล้วทำเป็นไม่ได้ยินเดินไปต่อ ไผทวิ่งอ้อมมาหมายจะดักที่ด้านหน้า
“องค์หญิง”
ชีฟองเดินมากันโลลิต้าไว้ พูดดุ ปรามในที
“คุณไผทคะ อย่าทำอย่างนี้เลย มันไม่สมควรนะคะ”
“องค์หญิง ทรงโกรธอะไรกระหม่อมรึเปล่าพะย่ะค่ะ”
โลลิต้าสวนขึ้นมาทันที “เราอย่าเพิ่งคุยอะไรกันตอนนี้เลยนะคะคุณไผท ให้เวลาหญิงหน่อย”
ไผทงงอยู่อย่างนั้น “ให้เวลา กระหม่อมทำอะไรผิดเหรอพะยะค่ะ”
โลลิต้าไม่ตอบ “ไปเถอะค่ะพี่ฟอง”
โลลิต้าเดินนำออกไป ชีฟองเดินตามเข้าห้ององค์หญิงไป ไผทจะเดินตาม แต่ถูกทหารยามกันไว้
“องค์หญิง”
ชีฟองรู้ว่าไผทคงไม่หยุดจึงหันกลับมาหาไผท
“พอเถอะค่ะคุณไผท กลับลงไปเถอะ”
“แต่ผมไม่เข้าใจ ทำไมองค์หญิงต้องขอเวลา...ผมทำอะไรให้องค์หญิงโกรธ”
“ชีฟองว่าถ้าคุณไผทอยากรู้จริงๆ คุณน่าจะไปถามจากคุณแนวหน้าดีกว่านะคะ คุณกับคุณแนวหน้า ไม่มีสิทธิ์คุยกับองค์หญิงอีกตลอดชีวิต”
ไผทชะงักงงหนัก ว่าทำไมถึงเกี่ยวกับแนวหน้า ชีฟองเดินออกไป ปิดประตูห้องโลลิต้าทันที
แนวหน้า นาย และจีจี้กำลังประชุมเรื่องงานในวันเปิดประเทศอยู่
“ให้ผมกลับไปเตรียมงานเปิดประเทศที่กรุงเทพฯ แทน ก็ได้นะเฮีย”
“จะได้ยังไงวะ แกเป็นผู้กำกับ แกก็ต้องอยู่ที่นี่สิ...จะได้ร่วมฉลองในพิธี แต่งานเปิดสารคดีที่จัดที่กรุงเทพ เดี๋ยวฉันกับจี้จัดการเอง”
“เดี๋ยวก่อน ทำไมอยู่ดีดีแกถึงอยากกลับ...เฮิร์ตเหรอ ตั้งใจจะหนีหน้าองค์หญิงใช่มั้ย” จีจี้จี้ใจดำ
แนวหน้าเซ็ง “เฮิร์ตอะไร ใจผมแกร่งอย่างกับหินผา ไม่มีเฮิร์ตหรอก”
ทันใดนั้นเอง ไผทก็เปิดประตูเข้ามา สีหน้าร้อนใจ
“พี่แนว” พอเห็นจีจี้ กับนายอยู่ด้วยก็ชะงัก “ผมขอคุยอะไรกับพี่แนวหน่อยได้มั้ยครับ”

แนวหน้ามองหน้าไผทรู้ทันทีว่าต้องเป็นเรื่องโลลิต้าแน่ๆ

อ่านต่อหน้า 2

น่ารัก ตอนที่ 22 (ต่อ)

ฟากโลลิต้านั่งเป็นทุกข์เรื่องไผทอยู่ที่เตียง สีหน้าว้าวุ่นสับสนใจอย่างหนัก ชีฟองมององค์หญิงรัชทายาท สงสารจับใจ

“องค์หญิงเพคะ”
“ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้คะพี่ชีฟอง เค้ามาทำพูดดีกับหญิงทำไม ทั้งๆ ที่เค้าบอกเองว่าจะลืมหญิง แล้วก็บอกเลิกคบกับหญิง”
ชีฟองอึดอัดใจ “องค์หญิงอย่าทรงคิดมากสิเพคะ”
“หญิงไม่ได้คิดมาก แต่เค้าทำอย่างนั้นจริงๆ หญิงพยายามที่จะทำให้เค้าบอกลืมเค้า เลิกนึกถึงเค้า แล้วเค้าจะมาตามหา อยากมาคุยกับหญิงทำไม”
“บางที...คุณไผทเค้าอาจจะมีเหตุผลของเค้าก็ได้เพคะ”
โลลิต้าครุ่นคิด แล้วลุกขึ้นเดินออก
ชีฟองตกใจ “องค์หญิงจะเสด็จไหนเพคะ”
“หญิงจะต้องรู้ให้ได้ว่าคุณไผทเค้าทำแบบนี้ทำไม”
โลลิต้าเดินลิ่วออกห้องไป ชีฟองวิ่งตามออกไปทันที
ไผทลากแนวหน้ามาหยุดคุยกันที่มุมหนึ่งของอุทยาน
“คุณชีฟองบอกว่าให้ผมมาถามพี่ว่าทำไมองค์หญิงถึงดูแปลกๆ กับผม ท่านดูโกรธจนไม่อยากมองหน้าผม พี่ไปทำอะไรหรือเปล่า”
แนวหน้าหลบตา พูดไม่เป็นคำ “เอ่อ...ก็... ไม่เข้า”
“ไม่เข้าคืออะไร หรือว่าพี่บอกความจริงกับองค์หญิงเรื่องนายพรหมลิขิตไปแล้ว”
“เปล่า ฉันยังไม่ได้บอก”
“อ้าว แล้วพี่ไปทำอะไร องค์หญิงถึงได้เป็นแบบนั้น”
“ฉันแค่...บอกลาท่าน บอกให้ท่านลืมชั้นซะ แล้วก็ลบบล็อกทิ้ง”
ไผทตะลึง พูดไม่ออก
“พี่ลบบล็อกนายพรหมลิขิตไปแล้วเหรอพี่แนว”
“เออ...ฉันลบไปแล้ว”
“นี่พี่ยังไม่ได้บอกความจริง แถมพี่ยังลบบล็อกนายพรหมลิขิต แล้วก็บอกลาองค์หญิง ทั้งๆที่องค์หญิงเข้าใจว่านายพรหมลิขิตคือผมงั้นเหรอ”
“ฉันว่ามันเป็นทางออกนี้มันดีที่สุดแล้ว”
“ดียังไงพี่ พี่เอาชื่อผมไปแอบอ้างเป็นนายพรหมลิขิต โดยที่พี่ไม่เคยถาม ไม่เคยบอกผม แล้วตอนนี้ พี่ก็ยังบอกเลิกกับผู้หญิงที่ผมรัก โดยที่ไม่ปรึกษาผมซักคำ ยังเงี้ยเหรอที่เรียกว่าดี”
“ฉันขอโทษ” แนวหน้าจ๋องสุดขีด
ไผทโกรธเป็นริ้วๆ “พี่ก็เอาแต่พูดว่าขอโทษๆ พี่พูดอย่างอื่นไม่เป็นบ้างเหรอ พี่คิดแค่เอาตัวเองรอด แล้วพี่คิดถึงผมบ้างไหม ผมอยู่ของผมเฉยๆ ผม ก็โดนพี่เอาชื่อผมไปใช้ แล้วผมก็โดนองค์หญิงโกรธทั้งๆ ที่ผม ไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมพี่เห็นแก่ตัวอย่างนี้พี่แนว”
แนวหน้าชักเริ่มของขึ้นเหมือนกัน “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง บอกความจริงเหรอ”
“ก็เออน่ะสิ” ไผทกระแทกเสียงใส่
“บอกเพื่ออะไร ในเมื่อตอนนั้นเค้ากำลังจะแต่งงาน มันจะมีประโยชน์อะไร”
“มีประโยชน์อะไรงั้นเหรอ ก็มีความจริงไงพี่ การพูดความจริงน่ะมันดีจะตายไป พี่เนี่ย นอกจากจะขี้ป๊อดแล้ว ยังขี้โกหกอีกเหรอ ห่วยแตกจริงๆ”
“เออสิ ชั้นมันห่วยไม่ได้เรื่อง ถ้าแกเก่งนัก แกก็ไปบอกองค์หญิงเค้าเลยสิ บอกให้หมดเลยนะว่าชั้นโกหกเค้าเรื่องนายพรหมลิขิต บอกว่าชั้นมันน่าสมเพชขนาดไหน ที่รักผู้หญิงคนนึงแทบจะบ้า แต่ก็ไม่กล้าบอกความจริง เพราะชั้นรู้ว่าไอ้คนห่วยๆอย่างชั้น มันสู้ดาราที่มีดีแค่หน้าตาอย่างแกไม่ได้”
ไผทมองแนวหน้าอย่างเข่นเขี้ยว ทั้งแค้น ทั้งผิดหวังถึงขีดสุด โดยที่แนวหน้าไม่ทันตั้งหลัก ไผททะยานเข้าไปต่อยแนวหน้าโครมทันที ร่างแนวหน้ากระเด็นไป แต่แล้วพอเงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้าก็ช็อก เพราะองค์หญิงโลลิต้ายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ชีฟองยืนหน้าเสียอยู่ใกล้ๆ
ไผทเองก็ชะงัก เมื่อเห็นว่าโลลิต้ายืนอยู่
“องค์หญิง” สองหนุ่มไทยอุทานพร้อมกัน
“เอ่อ... องค์หญิงเสด็จมาตั้งแต่เมื่อไหร่พะยะค่ะ”
“ก็มานานพอที่จะรู้ว่าพวกคุณสองคนโกหกหญิงนั่นแหละค่ะ”
โลลิต้ามองจ้องหน้าแนวหน้า และไผท ผิดหวังและเสียใจอย่างรุนแรง ก่อนหันหลังแล้วเดินหนีออกไปทันที ชีฟองทำอะไรไม่ถูก ไผทรีบวิ่งตามโลลิต้าไปทันที
แนวหน้าลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไปด้วย
โลลิต้ากำลังเดินลิ่วๆ หนีแนวหน้าและไผทมา ชีฟองเดินตามมาด้านหลัง สองหนุ่มวิ่งเข้ามาดักไว้ที่ด้านหน้า ไผทถึงตัวก่อน
“องค์หญิง...ฟังก่อนพะยะค่ะ”
โลลิต้าไม่ฟังจะเดินหนีท่าเดียว
“มันไม่ใช่อย่างที่องค์หญิงคิดนะพะยะค่ะ...ได้โปรดฟังกระหม่อมอธิบายก่อน” แนวหน้าขอร้อง
โลลิต้ามองไผทและแนวหน้าด้วยสายตาผิดหวัง
“หญิงอุตส่าห์คิดตลอดเวลาว่าคุณทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่ดีกับหญิง..คิดว่าคุณทั้งคู่ไว้ใจได้ แต่สุดท้ายพวกคุณก็รวมหัวกันหลอกหญิง เห็นหญิงเป็นคนบ้านนอกหน้าโง่”
ไผทพยายามอธิบาย “ไม่ใช่นะพะยะค่ะ องค์หญิง...”
โลลิต้าสวนคำออกมาทันที “สิ่งที่หญิงเกลียดที่สุดในชีวิตก็คือคนโกหก ต่อจากนี้ไปคุณทั้งสอง ไม่ใช่เพื่อนของหญิงอีกแล้ว อย่ามาให้หญิงเห็นหน้าอีก เข้าใจมั้ยคะ” องค์หญิงเดินหุนหันออกไปทันที
“องค์หญิงเพคะ” ชีฟองทำอะไรไม่ถูก รีบตามโลลิต้าไป
แนวหน้ากับไผท นิ่ง อึ้ง ตะลึง ช็อก ตกใจสุดขีด ที่เห็นโลลิต้าโกรธมากขนาดนี้

องค์หญิงโลลิต้าเปิดประตูเข้ามาในห้อง โกรธจัดและเสียใจ นึกทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างสองหนุ่ม เริ่มจากที่สงสัยในคำพูดของไผท
“คุณไผทชอบเล่นเกมเหรอคะ”
“ชอบมากเลยพะยะค่ะ ว่างเมื่อไหร่กระหม่อมต้องหยิบมาเล่นตลอด เวลาออกกองหรือรอเข้าฉากกระหม่อมก็หยิบขึ้นมาเล่นแก้เบื่อ”
โลลิต้าต้องทำหน้างงๆ เมื่อถามเรื่องหนังสือ
“หนังสือเหรอพะยะค่ะ...เอาจริงๆ เลยนะพะยะค่ะองค์หญิง ความจริงแล้วกระหม่อมไม่ค่อยถูกกับหนังสือหรอก เปิดอ่านได้หน้าเดียวก็หลับแล้ว”
โลลิต้าฟังแล้วยิ่งแปลกใจ “อย่างนั้นเหรอคะ”
“พะยะค่ะ...ถ้าองค์หญิงชอบหนังสือคงต้องคุยกับพี่แนวแล้วล่ะพะยะค่ะ รายนั้นชอบอ่าน ชอบเขียน”
ต่อมาเป็นเหตุการณ์ในตอนที่โลลิต้าไปพักบ้านของแนวหน้าที่ต่างจังหวัด แล้วหยิบ missing piece meet the big o ออกมาจากชั้นหนังสือ ออกมาดูอย่างตื่นเต้น แนวหน้าเดินลงมาจากชั้นบนพอดี
“หนังสือทั้งหมดนี่ของใครเหรอคะ”
“มีทั้งของพ่อกับแม่ แล้วก็พี่นาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของกระหม่อมพะยะค่ะ ตอนเด็กๆกระหม่อมบ้าอ่านหนังสือจนโดนแม่บ่นว่าไม่มีที่เก็บ พ่อก็เลยต้องต่อชั้นหนังสืออันนี้ให้กระหม่อม”
จนมาถึงตอนที่โลลิต้าไปถามเรื่องไผทกับแนวหน้า และเห็นสมุดบันทึกบนโต๊ะ จึงเดินมาหยิบ
“นี่สมุดของคุณเหรอคะ” โลลิต้ามองหน้าแนวหน้าอย่างตกใจ และจะเปิดอ่าน
แนวหน้าตกใจมาก “มะ..ไม่ใช่นะพะย่ะค่ะ ของ.. ของใครก็ไม่รู้”
โลลิต้าโล่งอก ยิ้มออก “ถ้าอย่างนั้น ก็คงเป็นของคุณไผทใช่มั้ยคะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่”
แนวหน้างง “สมุดของ... ไผท ทำไมถึงทรงคิดอย่างนั้น”
“เมื่อคืนนี้คุณไผททำสมุดเล่มนี้ตกอยู่ในถ้ำ หญิงบังเอิญเห็นข้อความในสมุด ก็เลยรู้ว่าเค้าไม่ใช่คนอย่างที่คุณนินทาเค้าสักนิด”
แนวหน้าช็อก “องค์หญิง...ทรงอ่าน”
“ค่ะ หญิงไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ได้อ่าน แล้วเค้าก็เขียนบางอย่างเกี่ยวกับหญิงด้วย คุณแนวหน้าช่วยบอกหญิงให้ชัดๆอีกทีสิคะว่า สมุดนี่คือบันทึกของคุณไผท ใช่มั้ยคะ”
แนวหน้าอึ้ง โลลิต้ามองอย่างคาดคั้น
“ว่าไงคะ”
แนวหน้าต้องตามน้ำ “พะย่ะค่ะ สมุดบันทึกนี่...คือ...ของไผท เค้าวางลืมไว้ตรงนี้ก่อนจะเดินออกไป”
สุดท้ายเป็นข้อความที่นายพรหมลิขิตส่งมาว่า “ไม่ว่ายังไง องค์หญิงก็จะมีผมคนนี้เป็นเพื่อนอยู่ข้างๆเสมอ”
โลลิต้าอึ้งกับความจริงที่ได้รู้ ทรุดตัวลงร้องไห้สะอึกสะอื้น เสียใจที่ถูกหลอก และมิตรภาพที่ถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ

ไผทเดินเสียใจที่โลลิต้ารู้ความจริง แต่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ และคิดว่าองค์หญิงคงต้องโกรธตัวเองมากแน่ๆ ไผทหยุดยืน กำหมัดชกกำแพงเป็นการระบายอารมณ์
ส่วนแนวหน้าเดินหน้าเศร้า มาตามทางเดินจนถึงหน้าห้องพักรับรอง คิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ทะเลาะกับไผท จนทำให้โลลิต้ารู้ความจริง
“แค่บอกความจริงมันยากตรงไหนพี่ ผมเคยนับถือพี่นะว่าพี่เก่ง แต่วันนี้ผมว่าพี่โคตรห่วยเลยว่ะ”
น้ำเสียงโลลิต้าที่สวนออกมาด้วยความโกรธ “หญิงเกลียดคนโกหก! ต่อไปไม่ต้องมาให้หญิงเห็นหน้าอีก”
แนวหน้า ใจจะขาดรอนๆ ทรุดลงที่หน้าประตูห้องพัก ทั้งผิดหวัง ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธตัวเองที่ไม่กล้าแม้แต่จะพูด ความจริงกับโลลิต้า
แนวหน้าครวญคร่ำในใจ “ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังดำดิ่งลงเหวลึก ถึงแม้จะมีคนพยายามจะช่วยดึงผมขึ้นไป แต่ผมกลับเลือกที่จะปล่อยมือเค้า และปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ และตอนนี้ผมก็ไม่ รู้ว่าจะมีวันที่ผมจะปีนกลับขึ้นไปได้อีกครั้งได้ไหม”
เขาทรุดร่างลงนั่ง อย่างสิ้นเรี่ยวแรง

ค่ำนั้นองค์หญิงโลลิต้านั่งซึมอยู่ในความมืด ชีฟองเปิดประตูเข้ามา เปิดไฟแล้วต้องแปลกใจ
“องค์หญิง…ทำไมถึงอยู่มืดๆ แบบนี้ล่ะเพคะ”
โลลิต้ายังนั่งนิ่ง ชีฟองมองมาด้วยความสงสาร ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะไหล่ปลอบ
“องค์หญิงเพคะ”
โลลิต้าลุกขึ้น แล้วออกเดิน
“จะเสด็จไหนเพคะ”
“หญิงจะไปหาท่านพ่อ หญิงตัดสินใจได้แล้วว่า หญิงจะอภิเษกกับพี่ชองปอล”
ชีฟองตกใจมาก “องค์หญิง!”

โลลิต้าเดินออกไปในท่าทีอันมุ่งมั่น ชีฟองมองตะลึงไม่อยากเชื่อว่าองค์หญิงจะตัดสินใจแบบนี้

อ่านต่อหน้า 3

น่ารัก ตอนที่ 22 (ต่อ)

โลลิต้าเดินมาดมั่นมาตามทางเดิน มุ่งหน้ามายังห้องบรรทมท่านธูล จนถึงหน้าประตูแล้ว ชีฟองตามมาติดๆ รีบวิ่งไปดักหน้าไว้

“องค์หญิงแน่ใจแล้วเหรอเพคะ ว่าจะแต่งงานกับท่านชองปอลจริงๆ”
“แน่ใจสิคะ...ทำไมพี่ฟองถามแบบนั้นล่ะ”
“ก็พี่ฟองรู้ว่าองค์หญิงไม่ได้ชอบท่านชองปอล…และท่านธูลเองก็ให้ องค์หญิงเลือกได้ว่าจะแต่งงานหรือไม่ แต่ทำไมองค์หญิงถึงทรงเลือกที่จะแต่งละเพคะ พี่ชีฟองไม่เข้าใจ”
“ฮวาซาเหนือกับฮวาซาใต้เป็นแผ่นดินพี่น้องกัน ตอนนี้ฮวาซาเหนืออาจจะทำอะไรพลาดไปบ้าง แต่ยังไงแล้วเราก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แล้วนะพี่ชีฟอง”
“แล้วยังไงละเพคะ องค์หญิงทรงพยายามจะหนีท่านชองปอลมาตลอด ทำไมอยู่ๆ ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้หรือเป็นเพราะทรงกริ้วคุณแนวหน้า คุณไผทก็เลยประชดแบบนี้”
“หญิงไม่ได้ประชดนะคะ”
“องค์หญิงเพคะ เราชาวฮวาซามีคติที่ยึดมาตลอดคือความซื่อสัตย์และความจริงใจ ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง เราจะซื่อสัตย์กับใครได้ละเพคะ การตัดสินใจเพียงเพราะประชดมันอาจทำให้ชีวิตทั้งชีวิตขององค์หญิงไม่มีความสุขเลยไปตลอดชีวิตก็ได้นะเพคะ ลองคิดดูใหม่อีกสักครั้งเถอะเพคะ”
โลลิต้าชะงัก ครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เปิดประตูห้องท่านธูลเข้าไป ชีฟองถอนใจยาว หมดปัญญาแล้ว
นายนั่งอยู่บนเตียงถึงกับลุกพรวดด้วยความตกใจ จีจี้เองก็อึ้งกับเรื่องที่แนวหน้าเพิ่งเล่าจบเช่นกัน “นี่องค์หญิงรู้เรื่องที่แกหลอกว่าเป็นไผทแล้วงั้นเหรอ”
แนวหน้าลูบปากตัวอย่างเจ็บใจแล้วพยักหน้า “ตายๆๆ อย่างนี้แกจะทำยังไงเนี่ย แกจะโดนลงโทษไหมไอ้แนว” จีจี้ร้อนรนใจ “คงไม่หรอกมั้งจี้”
“ไม่อะไรล่ะนาย ไอ้แนวมันโกหกมกุฎราชกุมารีแห่งฮวาซาเชียวนะ มีหวังมันจะโดนโบยด้วยหวาย!! ขังคุก!! ไม่ก็ประหารชีวิต!”
นายเซ็ง “โอ๊ย ไปกันใหญ่แล้ว…องค์หญิงคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกจี้”
“แต่ถ้าผมโดนประหารแล้วทำให้องค์หญิงเค้าหายโกรธผมก็ยอมนะพี่” แนวหน้าบอก
นาย กะ จีจี้ชะงัก เพราะรู้ว่าแนวหน้าคงเฮิร์ตอยู่มาก
“ผมไม่อยากทำให้องค์หญิงเสียพระทัยขนาดนี้เลย” แนวหน้าบอก
นายถอนใจ เดินมาตบไหล่น้องชาย
“ถามจริง ไหวมั้ยไอ้แนว”
“ถ้าบอกว่าไม่ไหวได้ไหมเฮีย” เห็นแนวหน้าเศร้าๆ ทั้งนาย และจีจี้มองอย่างเป็นห่วงและกังวลหนัก
ฟากไผทนั่งซึมเหม่อลอยอยู่ในห้อง สิ้นหวังในความรัก
มีเสียงเคาะประตูเบาๆ แล้วเห็นขิงเดินถือแก้วช็อกโกแล็ตร้อนมาให้
“อ่ะ ช็อกโกแล็ตร้อนๆ...เผื่อกินแล้วอาการจะดีขึ้น”
แต่ไผทนิ่งเฉยไม่ขยับตัวสักนิด นั่งคอตกเหมือนเดิม
ขิงเห็นยิ่งเป็นห่วง “ไผท อย่าเครียดสิ...ตอนนี้องค์หญิงท่านคงโกรธอยู่ ให้เวลาองค์หญิงท่านหน่อย” “ผมไม่น่าโมโหขนาดนั้นเลยนะขิง บางทีการเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่างที่พี่แนวบอกอาจจะดีกว่า”
“อย่าโทษตัวเองสิไผท...ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นหรอก”
ไผทถอนใจยังเครียดเรื่องโลลิต้า ขิงแอบมองอย่างเป็นห่วง
“องค์หญิงคงจะไม่ยกโทษให้เราง่ายๆ...ดูท่าทางท่านก็รู้...ท่านยังบอกอีกนะว่าไม่อยากเห็นหน้าผมกับพี่แนวอีก”
“ผู้หญิงกำลังโกรธ ก็พูดแบบนี้แหละไผท”
“แล้วถ้าท่านรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ล่ะ” ไผทลุกเดินไปเดินมากก่อนจะหยุดมองขิง “ขิง..ขิงเคยบอกว่าขิงแอบชอบใครอยู่ใช่มั้ย...แล้วขิงทำยังไงถึงตัดใจจากเค้าได้ล่ะ”
ขิงหลบตาวูบ “ใครบอกว่าขิงตัดใจได้” ไผทร้อง “อ้าว” ขิงเล่าต่อ “ขิงไม่เคยเลิกรักเค้าเลยนะ รักทั้งๆที่เค้าไม่รู้”
“ขิงไม่เจ็บเหรอ”
ขิงอึ้ง นิ่งงันไป “สำหรับขิง...ถ้าต้องเลิกรักเค้า ขิงคงเจ็บมากกว่านี้”
ไผทชะงักแล้วหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่ององค์หญิงโลลิต้าอีก

ขิงลอบมองไผทแล้วยิ่งเศร้า เพราะไผทไม่เคยหันมามองตัวเองสักที

อ่านต่อหน้า 4

น่ารัก ตอนที่ 22 (ต่อ)

เช้าวันต่อมา ทุกคนหารือกันอยู่ในห้องประชุม วังฮวาซาใต้ มีท่านธูลเป็นประธาน

“ที่ผมต้องเรียกพวกคุณทุกคนมาประชุมอีกก็เพราะมีการเปลี่ยนแปลงที่ต้องแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ต้องขอโทษทุกคนล่วงหน้า”

ทุกคนรอฟังท่านธูลพูดต่อ “ก่อนอื่นผมต้องถามว่า ตกลงคุณนายนายกับคุณจีจี้ จะเป็นคนกลับไปดูแล
เรื่องงานเปิดตัวสารคดีฮวาซาที่กรุงเทพฯใช่ไหม”
“พะยะค่ะ” นายรับคำ
แนวหน้าเอ่ยขึ้น “ส่วนงานพิธีรวมประเทศนี้กระหม่อมเป็นคนจัดการเองพะยะค่ะ”
“เราทุกคนรับรองว่างานทุกอย่างจะออกมาเรียบร้อยเพคะ” จีจี้หันมาบอกกับฟิน “เจ๊...อย่าลืมเคลียร์คิวไผทเพิ่มให้หนูสักสองวันนะ...เผื่อมีซ้อม”
“ได้จ้ะ เดี๋ยวจัดให้”
ท่านธูลพูดต่อ “ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่ผมอยากบอกพวกคุณทุกคนก็คือ...หลังจากพิธีเปิดรวมฮวาซาเสร็จสิ้นแล้ว... วันรุ่งขึ้นจะมีพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างโลลิต้ากับชองปอล เราอยากเชิญให้ทุกคนอยู่ร่วมงานด้วยกัน”
ทุกคนตะลึง สองหนุ่ม ไผทกับแนวหน้าตะลึงมากกว่าใคร โดยเฉพาะแนวหน้าแทบหมดแรง นาย จีจี้ และขิงดูออก มองแนวหน้าอย่างเป็นห่วง
“ทำไมล่ะเพคะ ก็ไหนว่าองค์หญิงไม่ต้องอภิเษกก็ได้ไม่ใช่เหรือเพคะ” จีจี้ถามแทนสองหนุ่ม
“แต่นั่นเป็นความประสงค์ของโลลิต้าเอง..เค้าต้องการแต่งงานกับชองปอลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

แนวหน้าอึ้งหนัก ไม่แน่ใจว่าที่องค์หญิงโลลิต้าตัดสินใจแต่งงานหนนี้ เป็นเพราะโกรธตัวเองและไผทหรือเปล่า?

ไม่นานต่อมา ท่านธูลเดินท่าทีอ่อนระโหย เข้ามาในห้องทรงงาน ในนั้นราอูลรออยู่แล้ว ท่านธูลมีท่าทางอึดอัดใจมาก
“ทำไมพระองค์ไม่ทรงห้ามองค์หญิงล่ะพะยะค่ะ” “เราจะห้ามได้ยังไง ถ้าโลลิต้ามีประสงค์อย่างนั้น”
“แต่การอภิเษกกับท่านชายชองปอล อาจทำให้เราถูกอิทธิพลของฮวาซาเหนือกลับมาครอบงำอย่างที่เราเคยกลัวกัน นะพะยะค่ะ”
“โลลิต้ารู้ทุกอย่าง แต่ก็ยังเลือกที่จะแต่งงาน...แล้วจะให้เราทำยังไง”
ราอูลถอนใจอย่างกลัดกลุ้ม
“เป็นไปได้มั้ยพะยะค่ะ ที่องค์หญิงจะทรงอภิเษกเพราะเหตุผลอื่น”
“เหตุผลอะไร”
“ไม่ทราบเกล้าพะยะค่ะ แค่เดาเอาเพราะแต่ไหนแต่ไร องค์หญิงไม่เคยโปรดเจ้าชายเลย...มันน่าสงสัยนะพะยะค่ะว่าเพราะอะไรถึงได้ทรงเปลี่ยนพระทัยแบบนี้”

ท่านธูลมีสีหน้าครุ่นคิดตริตรอง กังวลหนักเรื่องพระธิดา

อ่านต่อตอนที่ 23
กำลังโหลดความคิดเห็น