น่ารัก ตอนที่ 20
ขณะที่แนวหน้านอนก่ายหน้าผากอยู่บนเตียง ท่าทางท้อแท้สิ้นหวังอยู่นั้น ก็ได้เสียงนายตะโกนดังขึ้นมาจากข้างล่างอย่างตื่นเต้น
“ไอ้แนว ไอ้แนว....ลงมาดูอะไรเร็วๆ เข้า”
แนวหน้าเซ็งไม่ขยับตัว ตะโกนลงไป “ผมอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ นะเฮีย”
“แกต้องลงมาเดี๋ยวนี้ อย่าให้ฉันต้องขึ้นไปลากนะเว้ย...เร็วเข้า”
แนวหน้าเซ็งหนักถอนใจยาว ก่อนจะลุกขึ้นออกจากห้องไป
แนวหน้าเดินเนือยๆ ลงบันไดมาเซ็งๆ นายซึ่งมีท่าทีตื่นเต้นอยู่ เข้าไปลากมานั่งข้างๆ จีจี้ที่ดูงงๆ อยู่
“มานั่งตรงนี้เลย...เร็วเข้า”
“เฮียให้ผมดูอะไรเนี่ย ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนี้”
“นั่นสิคะ จี้ยังจัดโต๊ะไม่เสร็จเลย ไม่หิวข้าวเหรอคะ”
“ทุกคนกรุณาอยู่ในความสงบ...แล้วดูนี่ก่อน”
นายหยิบกล้องวิดีโอของปิแอร์ขึ้นมาแล้วกดเปิด
แนวหน้ากับจีจี้พากันดูอย่างไม่เต็มใจนัก
“ให้ดูปิแอร์เนี่ยนะ...เพื่ออะไร” จีจี้บ่น
นายจุ๊ปากให้เงียบก่อน
ภาพบนจอ ยังเป็นจอเปล่า เงียบๆ มืดๆ
แนวหน้ายิ่งเซ็ง “มันไม่เห็นพี่ภาพอะไรเลยพี่นาย”
“ทนดูต่อไปอีกนิดเหอะวะ ขอให้เชื่อฉัน”
แนวหน้า และจีจี้จ้องไปที่มอนิเตอร์กล้อง ภาพท่านหลุยส์กับชองปอลปรากฏตัวขึ้น
จีจี้สนใจ “ท่านหลุยส์กับท่านชองปอล”
นายเสริม “ท่าทางปิแอร์ก็คงไม่รู้ว่าบังเอิญเปิดกล้องเอาไว้”
แนวหน้าตื่นเต้นบ่นซะเอง “นี่เบาๆหน่อยเฮียผมอยากฟังชัดๆ”
ภาพบนจอเป็นเหตุการณ์ที่ท่านหลุยส์กับชองปอลพูดเรื่องให้ไปหาคนมารับผิดแทน และเป็นคนให้คนไปทำลายฮาร์ดดิสก์และผนังถ้ำ..จนจบ
แนวหน้ากับจีจี้เงยหน้าขึ้น ตื่นตะลึงสุดขีด
“นี่มัน...นี่มัน” จีจี้เบิกตาโพลง
“หลักฐานชิ้นสำคัญที่ท่านธูลจะได้จัดการกับฮวาซาเหนือได้ทันที” นายบอก
แนวหน้าลุกพรวดขึ้นอย่างตัดสินใจได้ แล้วเดินออกมาอย่างทันที
“ไอ้แนว”
คืนนั้นแนวหน้าดินออกจากบ้านมา มีนายกับจีจี้วิ่งตาม
“เดี๋ยวก่อน แกจะไปไหนไอ้แนว”
แนวหน้าไม่ฟัง จนนายต้องวิ่งมาดักหน้า
“ไอ้แนว”
“ไม่ต้องห่วงนะเฮีย ผมจะรีบกลับไปตัดสารคดีให้เสร็จ เราจะได้เอาสารคดีพร้อมกับหลักฐานชิ้นนี้ไปถวายท่านธูลที่ฮวาซาให้เร็วที่สุด”
จีจี้แย้ง “ไม่ได้นะแนว! นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องสารคดีแล้ว...แต่มันเป็นเรื่องการเมืองของ ฮวาซา...แกเป็นผู้กำกับ ไม่ใช่ทูตสันติภาพ....อย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ดีกว่า”
แนวหน้าไม่ฟัง “แต่นี่มันคือหลักฐานชิ้นเดียวที่จะเอาผิดสองคนนั้น และเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยให้ฮวาซาใต้ไม่ต้องโดนฮวาซาเหนือกดขี่นะเจ๊”
“แล้วถ้าท่านชองปอลหรือท่านหลุยส์รู้ว่าแกเอาหลักฐานนี้ไปแฉ จะทำยังไง? ท่านชองปอลโหดร้ายทำได้ทุกอย่าง ก็เห็นแล้วนี่ว่าไผทโดนอะไรไปบ้าง!”
แนวหน้าอึ้ง ชะงักไปเหมือนกัน แต่สุดท้ายตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
“ถ้าการเสี่ยงของผม...จะช่วยให้คนฮวาซาใต้ ไม่ต้องตกอยู่ใต้คน ภายใต้อำนาจของฮวาซาเหนือ...ผมก็ยอมนะเจ๊”
นายดักคอ ด้วยรู้ทัน “ที่แกยอมทำทุกอย่างก็เพื่อองค์หญิงโลลิต้าใช่มั้ยไอ้แนว”
แนวหน้าอึ้ง ก่อนตัดสินใจตอบ
“ใช่แล้วเฮีย ผมทำทุกอย่างได้ เพื่อองค์หญิง”
นายถอนใจ “ถ้างั้นชั้นจะไปกับแกด้วย รีบไปตัดสารคดีให้เสร็จกันเถอะ”
จีจี้ไม่เอาด้วย “จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว จี้ว่าแค่โทร.บอกท่านธูลว่าเรามีหลักฐาน แล้วก็ให้ท่านธูลส่งคนมาเอาไปก็พอ”
“ไม่ได้หรอก ถ้ามีคนรู้แล้วพยายามเอาไปกลางทางทุกอย่างก็สูญเปล่าเลยนะจี้” นายว่า
“ก็ก๊อปปี้สิ ทำหลายๆ ชุด” เห็นสองหนุ่มเมินหน้าหนี จีจี้โกรธมาก “นี่แปลว่าห้ามยังไงก็จะไม่ฟังกันเลยใช่ไหม”
หลายวันผ่านไป ภาพทิวทัศน์ ภูเขาสูงสลับซับซ้อน แมกไม้เขียวขจี ของประเทศ ฮวาซาใต้ ปรากฏต่อสายตา นาย จีจี้ และ แนวหน้า ขณะรถจิ๊ปที่ไปรับจากสนามบินแล่นมาตามทาง
รถวิ่งเข้าประตูวังมา จี้จี้หน้าบึ้งอยู่บนรถจี๊ปตลอดทางในที่นั่งตอนหลัง ด้วยไม่อยากมา นายนั่งอยู่ด้วยกัน แนวหน้า นั่งคู่ ทหารคนซื่อยอดนักสืบ ปิแอร์ ที่เป็นพลขับ
นายเอื้อมมือไปโอบไหล่จีจี้ “ขอบคุณนะจี้ที่ไม่ทิ้งผม”
จีจี้มองค้อนนาย เซ็งสุดขีดแต่ที่ตัดสินใจมาด้วย ก็เพราะอดเป็นห่วงสองหนุ่มไม่ได้
แนวหน้ากอดกระเป๋าที่ใส่ดีวีดีวิดีโอหลักฐานไว้แนบอก เหลียวมองบรรยากาศรอบๆ ด้วยความคิดถึง
“ผมไม่คิดเลยว่าผมจะได้กลับมาที่นี่อีก พระราชวังฮวาซาใต้ ที่หัวใจของผมถูกทิ้งไว้อยู่ที่นี่”
แนวหน้าบอกตัวเองอยู่ในใจ
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 20 (ต่อ)
ปิแอร์จอดรถจี๊ปที่หน้าวังฮวาซาใต้ แนวหน้า นาย และจีจี้ ก้าวลงมาจากรถ ปิแอร์วิ่งลงมาจากที่นั่งคนขับ แล้วมายืนยิ้มฟันเหยินตะเบ๊ะ
“ขอต้อนรับสู่ฮวาซาใต้อีกครั้งครับพ้ม!”
แนวหน้ารูดซิปกระเป๋าเป้ หยิบกล้องวิดีโอคืนให้ ปิแอร์รับมาอย่างดีใจ
“แล้วทีหลังอย่าไปเที่ยววางไว้ที่ไหนอีกล่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับคุณแนวหน้า คุณนายนายที่ช่วยผมรักษาของหลวงชิ้นนี้ไว้ ไม่งั้นนอกจากจะไม่ได้เลื่อนยศ ผมคงโดนลดยศไปเป็นทหารเลวเฝ้ายามที่หน้าส้วมแน่ๆ”
“แต่ปิแอร์เก่งมากนะ ที่ถ่ายหลักฐานชิ้นนี้ได้”
ปิแอร์เง็งกับคำพูดของนาย “ขอบคุณครับผม มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวครับพ้ม ว่าแต่...หลักฐานอะไรเหรอครับ”
นายพลราอูลเดินออกมาอย่างรีบร้อน ทหารยามและปิแอร์ทำความเคารพราอูลพรึบพรับ
“ฮวาซาใต้ยินดีต้อนรับครับ...ท่านธูลทรงรอพบพวกคุณอยู่...เชิญครับ”
ราอูลเดินลิ่วนำไป แนวหน้า นาย และจีจี้เดินตามไป
ทุกคนอยู่ในห้องทรงงานท่านธูลแล้ว แนวหน้า นาย และจีจี้ ทำความเคารพ ยืนต่อหน้าท่านธูลพร้อมราอูล แนวหน้ายื่นแผ่นดีวีดี ถวาย 2 แผ่น
“นี่คือสารคดีเปิดประเทศของฮวาซาใต้ ส่วนแผ่นนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่จะทำให้ฮวาซาเหนือจะรังแกฮวาซาใต้ไม่ได้อีกต่อไปพะย่ะค่ะ”
ท่านธูลหยิบแผ่นดีวีดีแผ่นที่ 2 ขึ้นมา
“หลักฐานเหรอ? คุณพูดถึงอะไร”
“ขอประทานอภัยนะพะย่ะค่ะ”
นายเอาแผ่นดีวีดีจากมือท่านธูล มาใส่ในโน้ตบุ๊คของแนวหน้า ราอูลและท่านธูลมองอย่างประหลาดใจ
“ลองทอดพระเนตรดู แล้วพระองค์จะเข้าพระทัยพะยะค่ะ”
ราอูลกับธูลมองดูที่หน้าจอ
ฟากองค์หญิงโลลิต้านั่งซึม อ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ในห้องนอน ชีฟองเดินเข้ามาหา
“องค์หญิงเพคะ เสด็จออกจากห้องซักนิดมั้ยเพคะ”
“ไม่ล่ะค่ะ หญิงไม่อยากไปไหน”
ชีฟองมองอย่างกังวล “แต่ตอนนี้ ท่านธูลทรงมีคนมาเข้าเฝ้าอยู่นะคะ”
โลลิต้าพูดไม่เงยหน้า “แล้วไงล่ะคะ”
“พวกชาวไทยมาขอเข้าเฝ้าท่านธูลเพคะ เห็นว่าจะเอาสารคดีที่ตัดต่อเสร็จมาถวาย”
โลลิต้าลุกขึ้นทันทีด้วยความดีใจ วางหนังสือจะออกไป
“องค์หญิงเพคะ”
โลลิต้าชะงัก “มีอะไรเหรอพี่ชีฟอง”
“องค์หญิงจะวางพระองค์สนิทสนมกับพวกเค้า อย่างแต่ก่อนไม่ได้แล้วนะเพคะ อย่าลืมนะเพคะว่าองค์หญิงกำลังจะอภิเษกสมรส แล้วท่านชองปอลน่ะ พระอารมณ์ร้ายกาจขนาดไหน”
โลลิต้าชะงัก หน้าเศร้าลงอย่างเดิม
“จริงสิ หญิงทำความเดือดร้อนให้กับพวกเค้า จนเค้าไม่อยากจะคบกับหญิงอีกต่อไปแล้ว” องค์หญิงจะร้องไห้ แต่กลั้นไว้ “ไม่ต้องห่วงนะคะพี่ชีฟอง หญิงจะไปดูว่าสารคดีเรียบร้อยดีหรือเปล่า แล้วจะรีบกลับขึ้นมาค่ะ”
โลลิต้าเดินออกไปเศร้าๆ ชีฟองมองตามด้วยความสงสาร
นาย แนวหน้า และจีจี้ เดินคุยกันลงบันไดมาที่โถงหน้าบันไดชั้นล่าง
“ท่านธูลทรงดีพระทัยมากเลยนะคะ ที่เห็นหลักฐานมัดตัวท่านหลุยส์ขนาดนี้”
“แต่ผมยังไม่เข้าใจอยู่อย่างนึง ทำไมท่านธูลถึงมีพระดำริจะให้สารคดีที่เราทำไปฉายที่เมืองไทยอีกครั้งนึง หลังจากที่มีพิธีเปิดประเทศแล้ว”
“แหม ไม่เห็นยากเลย ก็เพราะถ้าฉายที่กรุงเทพฯ แขกนานาชาติก็จะไปได้เยอะกว่า สารคดีก็จะเผยแพร่มากกว่าเดิม ก็เท่านั้นเอง”
นายมองมาทางแนวหน้า “ไอ้แนว แล้วนี่แกจะไม่ขอเข้าเฝ้าองค์หญิงซะหน่อยเหรอ”
แนวหน้าอึกอักอยู่นั่น
“หรือว่ากลัว... ไม่กล้าเจอหน้าท่าน” จีจี้พูดแทงใจดำ
“จะบ้าเหรอเจ๊ จะไปกลัวทำไม...ผม... ผมทำใจได้แล้วน่า...จริงๆ”
ทั้งนายและจีจี้ทำหน้าไม่เชื่อ
เสียงร้องเรียกหาของโลลิต้าดังเข้ามาจากหัวไดชั้นบน “คุณจีจี้ คุณนายนายคะ อยู่ที่ไหนคะ”
แนวหน้าหันขวับไปทางเสียง ช็อกสุดขีด “องค์หญิง!”
จีจี้มองแนวหน้าก่อนเงยหน้าขึ้นตอบ “พวกเราอยู่ข้างล่างเพคะองค์หญิง”
โลลิต้าเดินกึ่งวิ่งลงบันไดมาหา
“ขอโทษค่ะที่หญิงไม่ได้อยู่ต้อนรับ คุยกับท่านพ่อเสร็จแล้วเหรอคะ”
“เรียบร้อยแล้วพะยะค่ะ องค์หญิงมีอะไรกับพวกกระหม่อมรึเปล่าพะย่ะค่ะ”
“คุณนายนาย คุณจีจี้....นี่มากันแค่สองคนเหรอคะ” องค์หญิงมองหาแนวหน้า
“เปล่านี่คะ มากับ...” จีจี้งงหันไปมองทางที่แนวหน้ายืนอยู่ แต่แนวหน้าหายหัวไปไหนก็ไม่รู้ “อ้าว”
นายรู้ทันที รีบดึงมือจีจี้ไว้
แนวหน้าหลบอยู่แถวหน้าห้องน้ำ พยายามส่งซิกให้สองคนเงียบๆ แล้วโบกมือชี้ตัวเองว่าไม่ได้อยู่ที่นี่
“มาสามพะยะค่ะ แต่ไอ้แนวมัน ตอนนี้มัน...เอ่อ...” นายนึกคำพูดไม่ออก สุดท้ายหันมองแนวหน้า ที่พยายามจะช่วย
“อยู่ในห้องน้ำพะยะค่ะ”
แนวหน้าตาเหลือก รีบโบกมือ
“อยู่ในห้องน้ำ” องค์หญิงแปลกใจ
นายหันมองแนวหน้าอีกที แล้วหันกลับมาบอก “มันปวดพะยะค่ะ คงท้องเสียนิดหน่อย”
“อ๋อค่ะ...จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หญิงแค่อยากมาขอบคุณที่พวกคุณเป็นธุระดูแลสารคดีของเราจนเสร็จเรียบร้อยทันเวลา ถ้าคุณแนวหน้าออกมาแล้วบอกหญิงด้วยนะคะ หญิงอยากขอบคุณเค้าด้วยตัวเอง”
“เพคะ” โลลิต้ายิ้มให้ แล้วเดินออกไป
แนวหน้าค่อยๆ โผล่หัวออกจากห้องน้ำอย่างโล่งอก
จีจี้ขำ “กล้าหาญจริงนะน้องชั้น”
“แหม...ผมทำใจได้แล้วน่า พอท่านเสด็จมาจริงๆ ก็หนีไปซ่อน แกนี่มันขี้ขลาดจริงๆ อย่าไปบอกใครเค้านะว่าเป็นน้องชั้น อายเค้าว่ะ บอกตรงๆ”
แนวหน้าเซ็งปนเครียด รู้ดีว่าตัวเองขี้ขลาดมากกับเรื่องนี้ นายกับจีจี้เดินตรงไปเข้าห้องของตัวเอง
อ่านต่อหน้า 3
น่ารัก ตอนที่ 20 (ต่อ)
ตอนเย็นวันนั้น องค์หญิงโลลิต้าเดินเล่นอยู่ในอุทยาน ท่าทางครุ่นคิด แนวหน้าเดินเข้ามามุมหนึ่ง แอบมองอยู่ โดยที่โลลิต้าไม่รู้ตัว
แนวหน้ามองโลลิต้าแล้วถอนใจที่ตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะอยู่เจอหน้าเมื่อครู่ ได้แต่มายืนแอบมองแบบนี้
“ผู้ชายปอดแหกแบบผม คงทำได้แค่ยืนแอบมองคนที่ผมรักอยู่ห่างๆ แบบนี้ตลอดไปจริงๆ เหรอ”
แนวหน้าแอบมองโลลิต้า ก่อนจะถอนใจ หน้าเศร้าๆ แล้วตัดใจหันหลังกลับจะเดินออกไป แต่เจอชีฟองยืนจ้องอยู่ แนวหน้าตกใจ อึ้งหนัก ชีฟองมองไปเห็นโลลิต้าก็เข้าใจทันทีว่าแนวหน้ามาแอบมองอยู่
ชีฟองหันกลับมาพูดจริงจัง “ชีฟองขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิคะ”
เห็นแนวหน้าเดินตามชีฟองมาที่มุมหนึ่งซึ่งไม่มีคนแล้วชีฟองก็หยุดเดิน
“ชีฟองเพิ่งจะทราบเรื่องหลักฐานชิ้นสำคัญจากคุณราอูล ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำเพื่อพวกเรา...หลักฐานชิ้นนั้นมันสำคัญกับพวกเราจริงๆ”
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อย...อะไรที่ผมช่วยได้ ผมยินดีทำให้อยู่แล้ว”
ชีฟองยิ้ม “และในฐานะพระพี่เลี้ยง ชีฟองขอบคุณที่คุณรักษาสัญญาว่าจะไม่คุยกับองค์หญิงอีก”
แนวหน้า รับคำเศร้าๆ “ครับ”
ชีฟองเห็นอาการแนวหน้าก็อดสงสารไม่ได้ “ในเมื่อคุณทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ชีฟองเองก็จะทำตามสัญญาเหมือนกัน เรื่องนายพรหมลิขิตจะถูกปิดไว้เป็นความลับที่องค์หญิงจะไม่มีวันรู้ตลอดไปค่ะ”
ชีฟองยิ้มปลอบใจแล้วเดินออกไป ทิ้งแนวหน้ายิ้มตามเศร้าๆ เพียงลำพัง
ที่คอนโดไผทตอนกลางคืน แลเห็นข้าวของประดามีที่บรรดาแฟนคลับส่งมาให้ไผท ทั้งตุ๊กตา ดอกไม้ของขวัญการ์ดวางอยู่เต็มห้อง
ไผทยังใส่ผ้าคล้องแขน กำลังจัดแยกพวกตุ๊กตาออกจากกองของขวัญอยู่ ฟินเปิดประตูเข้ามาพร้อมตุ๊กตาอีกสองสามตัวแล้วยื่นให้ไผท
“อ่ะ หมดแล้วนะไผท...คราวนี้จะเอาไปบริจาคให้ที่ไหน” ฟินถาม
“ยังไม่รู้เลยครับพี่”
ขิงถือชามข้าวต้มออกมาจากครัว
“ขิงทำข้าวต้มปลาเสร็จแล้วนะไผท...พี่ฟินกินพร้อมกันเลยนะคะ”
“แป๊บนึงขิง ผมขอแยกของก่อน”
“เดี๋ยวค่อยแยกก็ได้ ไปกินข้าวก่อน”
ฟินเห็นด้วย “ขิงพูดถูก กินข้าว กินยา จะได้รีบๆหาย เดี๋ยวมะรืนนี้มีงานแล้วนะ”
ไผทเหลียวขวับมองหน้าฟิน เสียงแข็งใส่ทันที “ห๊ะ! นี่แผลยังไม่หาย พี่รับงานให้ผมแล้วเหรอ”
“อย่าเพิ่งวีน! งานนี้ไผทต้องอยากไปแน่นอน”
ไผทเอะใจ “งานอะไรพี่”
“เปิดตัวประเทศฮวาซาใต้”
เห็นไผทชะงักนิ่งงันไป ฟินเง็ง
“อ้าว ทำไมทำหน้าแบบนั้น? ไม่อยากไปเหรอ”
“งานรวมประเทศ...ก็งานอภิเษกขององค์หญิงกับท่านชองปอลด้วยใช่ไหมครับ”
“อุ่ย! พี่ลืม”
“ถ้าไผทไม่อยากไป เดี๋ยวให้พี่ฟินบอกทางนั้นให้ไหมว่าคิวไม่ว่าง” ขิงว่า
“ไม่เป็นไรขิง ผมโอเค...ผมไปได้”
“แน่นะ” ขิงจ้องหน้า
ไผทบอกอย่างหนักแน่น “ผมอยากเจอองค์หญิง”
ขิงชะงักที่ไผทยังอยากเจอโลลิต้า
“ไป...ไปกินข้าวต้มกันดีกว่า ฝีมือขิงจะกินได้ไหมเนี่ย”
ขิงพยายามฝืนยิ้ม แต่ช่างแห้งแล้งเหลือเกิน ฟินแอบสังเกตเห็นอาการขิงก็พอจะเข้าใจ
ฟากท่านธูลยืนใช้ความคิด มองออกไปนอกหน้าต่าง ประตูถูกเคาะเบาๆ แล้วจึงเห็นนายพลจึงเดินราอูลเข้ามา
“ทุกอย่างเรียบร้อยรึเปล่าราอูล”
“เรียบร้อยพะย่ะค่ะ เสนาบดีและผู้มีอำนาจของประเทศเพื่อนบ้านทุกคน รับปากว่าจะมาถึงที่นี่ให้เร็วที่สุด พวกเค้าดูจะตื่นเต้นว่าเรามีอะไร ที่จะแถลงให้พวกเค้าฟัง”
“ดีมาก แล้วนับจากนี้ไป ฮวาซาใต้จะมีอิสระ ไม่ถูกรังแกหรือเอาเปรียบได้อีก”
ท่านธูลหยิบดีวีดี หลักฐานขึ้นมาอย่างมีความสุข
คืนเดียวกันนี้ ที่ทรงทรงสำราญในวังฮวาซาเหนือ ท่านหลุยส์วางโทรศัพท์หันมามองชองปอลกับราชินีโซเฟียที่นั่งมองอยู่
“มันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ ทางฮวาซาใต้ก็ขอให้เราไปปรึกษาหารือในวันพรุ่งนี้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยอยู่ในหมายกำหนดการ”
“หรือว่าท่านอาจะอยากปรึกษาเรื่องงานแต่งงานของชองปอลกับน้องหญิง” ชองปอลว่า
“แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาขอให้พ่อกับแม่ไปกะทันหันแบบนี้” ท่านหลุยส์คาใจมาก
“นั่นน่ะสิเพคะท่านพี่ หรือว่าจะมีอะไรแปลกๆ อย่างที่ท่านพี่กังวลเพคะ”
“ฮวาซาใต้ต้องมีแผนอะไรอยู่แน่ๆ”
สีหน้าท่านหลุยส์ เต็มไปด้วยความกังวลปนสงสัย
อ่านต่อหน้า 4
น่ารัก ตอนที่ 20 (ต่อ)
เช้าวันถัดมา ขบวนเสด็จของท่านหลุยส์เดินขึ้นไปบันไดมายังโถงชั้น 2 มีนายพลราอูลเดินนำมา แลเห็นข้าราชบริพารของฮวาซาใต้รออยู่โดยพร้อมเพรียง
“ไหนล่ะ ท่านประธานมนตรี หา ท่านนายพล เดี๋ยวนี้ไม่คิดจะออกมาต้นรับเราเลยเชียวหรือ” ท่านหลุยส์หงุดหงิดใส่
“หรือว่า เดี๋ยวนี้ท่านธูลไม่เห็นฮวาซาเหนืออยู่ในสายตาแล้ว” ราชินีโซเฟียถามหน้าตึง
ท่านธูลเดินออกมาจากห้องประชุมเงียบๆ
“ต้องขอประทานอภัย ที่กระหม่อมไม่ได้ออกไปต้อนรับท่านพี่ทั้งสอง”
ทุกคนหันมามองท่านธูล
“ยินดีต้อนรับสู่ฮวาซาใต้อีกครั้งนะพะย่ะค่ะ”
“แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆก็ทูลเชิญให้พวกเรามาด่วนแบบนี้”
“มีเรื่องอะไรด่วนมากเหรอเพคะท่านธูล”
ท่านธูลเยื้อนยิ้ม “เชิญเสด็จในห้องนี้พะย่ะค่ะ แล้วเราจะได้คุยกัน”
ท่านธูลพยักหน้าเป็นเชิงสั่ง ทหารเปิดประตูห้องประชุม ท่านธูลผายมือ หลุยส์ขยับเดินเข้าไป
“ท่านประธานมนตรีธูลอยู่ที่ห้องรับรองแล้ว เชิญพะยะค่ะ”
ท่านหลุยส์ ราชินีโซเฟีย และชองปอลมองหน้ากันชักทะแม่งๆ ในใจแล้วว่าต้องมีอะไรแน่
ประตูห้องเปิดออก ท่านหลุยส์เดินนำ ราชินีโซเฟียและชองปอลเข้ามา ทั้งสามคนชะงัก หันไปมองท่านธูลและราอูลที่เดินตามมา
“นี่มันอะไรกัน เสนาบดีและผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเราทั้งหมดนี่นา พวกท่านมาทำอะไรที่นี่”
ท่านธูลยิ้ม “ประทับนั่งก่อนเถอะท่านหลุยส์ แล้วเดี๋ยวท่านก็จะเข้าพระทัยเองว่าที่ทุกๆ คนมาที่นี่ เพราะอะไร”
ท่านหลุยส์ฮึดฮัดเล็กน้อย ก่อนจะลงนั่งอย่างไม่เต็มใจ
ฝ่ายแนวหน้าเดินวนเวียนอย่างร้อนรน กระวนกระวาย อยู่ในสวน รอฟังข่าว จีจี้หมั่นไส้
“แกจะนั่งลงซักแป๊บได้มั้ยไอ้แนว เดินไปเดินมาแบบนี้ ชั้นปวดหัว”
“เฮีย เฮียว่ามันจะสำเร็จรึเปล่า ประเทศอื่นๆเค้าจะเข้าข้างฮวาซาใต้มั้ย”
“ถ้าเรามีหลักฐานมัดตัวท่านหลุยส์กับท่านชองปอลแน่นขนาดนี้ ใครก็น่าจะเห็นใจฮวาซาใต้กันทั้งนั้น ใจเย็นๆก่อนเถอะวะไอ้แนว”
แนวหน้าลงนั่ง แต่ยังกระสับกระส่าย ร้อนใจอยู่ดี
ท่านธูลยืนประกาศมาดองอาจ ด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ
“ที่เราเชิญผู้มีเกียรติทุกท่านมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อจะให้หลักฐานสำคัญบางอย่างที่จะบอกพวกท่านว่า บางทีพิธีรวมประเทศระหว่างฮวาซาเหนือและใต้ และพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายชองปอลกับเจ้าหญิงโลลิต้า อาจมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไป”
ชองปอลขัดหูลุกพรวดทันที “นี่มันเรื่องอะไรกันท่านอา ทำไมท่านอาถึงได้ทรงเหลวไหลแบบนี้”
ราชินีโซเฟียตกใจพยายามห้าม แต่ชองปอลไม่สนใจ
“อามีเหตผลของอานะชองปอล บางทีถ้าหลานดูหลักฐานชิ้นนี้แล้ว หลานอาจจะเข้าใจอามากขึ้นก็ได้”
นายพลราอูลปิดไฟ แล้วเจ้าหน้าที่เปิดวิดีโอ บนจอฉายเหตุการณ์ต่างๆ ที่ปิแอร์ถ่ายไว้ได้ ผู้คนในห้องประชุมฮือฮา ท่านหลุยส์ ชองปอล ตกตะลึง ภาพเหตุการณ์ถูกฉายจนจบลง ทุกคนนิ่งเงียบ ราอูลเปิดไฟ
ท่านธูลเอ่ยขึ้น “หรือว่า นี่คือวิธีที่บ้านพี่เมืองน้องเค้าควรจะกระทำต่อกัน ท่านหลุยส์ หลานชองปอล”
ทุกคนหันหน้าเข้าถกเถียงกันอื้ออึง ท่านหลุยส์ ชองปอล และราชินีโซเฟีย หน้าซีดเผือด
เวลาผ่านไปอีก นายดูนาฬิกาแล้วดูอีก ร้อนรนกระวนกระวายใจ
“หลายชั่วโมงแล้ว บรรดาผู้นำประเทศยังไม่ออกจากห้องประชุมเลย”
“คุณว่าฮวาซาเหนือจะโดนบอยคอตจากประเทศเพื่อนบ้านมั้ย” จีจี้ถาม
“ก็ไม่แน่ ฮวาซาเหนือเป็นประเทศที่ใหญ่ และมีอิทธิพลที่สุดในภูมิภาคแถบนี้ ประเทศเล็กๆ พวกนี้อาจจะไม่กล้าหือจากพี่ใหญ่ก็ได้”
“จะทำอย่างนั้นได้ยังไง ไม่ยุติธรรมเลย”
แนวหน้าลุกขึ้น อึดอัดถึงขีดสุด อยากรู้เต็มแก่
“ผมขอตัวออกไปเดินเล่นก่อนนะเฮีย ผมเครียด เดี๋ยวมา”
แนวหน้าเดินดุ่มออกไปทันที นายกับจีจี้มองอย่างเห็นใจ
องค์หญิงโลลิต้า เดินกระสับกระส่ายรอคอยคำตอบจากที่ประชุมเหมือนกัน แนวหน้าโผล่พรวดออกมาโดยไม่ทันระวัง จนทำให้ชนกับโลลิต้าที่เดินออกมาจากหัวมุมพอดี ร่างโลลิต้าเซจะล้ม แนวหน้ารีบดึงตัวไว้ทัน ประคองโลลิต้าไว้ ทั้งคู่มองกันนิ่งๆ
“คุณแนวหน้า”
แนวหน้ารีบปล่อย
“ขอประทานอภัยพะยะค่ะ”
โลลิต้าตัดพ้อ “วังก็ไม่ได้ใหญ่ แต่ทำไมตามหาตัวคุณแนวยากจังนะคะ”
“เอ่อ...” แนวหน้าอึกอัก “องค์หญิงจะตามหากระหม่อมทำไมเหรอพะยะค่ะ”
“หญิงอยากจะขอบคุณคุณเรื่องหลักฐาน แล้วก็เรื่องที่ทำสารคดีให้เราจนเสร็จ”
“กระหม่อมยินดีพะยะค่ะ”
เสียงชองปอลตะโกนหาดังลั่น จับน้ำเสียงได้ว่าอารมณ์ไม่ดีสุดขีด “น้องหญิงคะ น้องหญิง”
โลลิต้าตกใจมองแนวหน้า ไวเท่าความคิดแนวหน้าดึงแขนโลลิต้าหลบออกไปทันที
“ทางนี้พะย่ะค่ะ”
แนวหน้าดึงโลลิต้าไปหลบหลังพุ่มไม้ ชองปอลเดินแกมวิ่ง ท่าทางหงุดหงิดเข้ามากับชีฟอง
“น้องหญิง อยู่ที่ไหนคะ น้องหญิง”
ชองปอลมองจ้องหน้าชีฟอง
“ไหนว่าน้องหญิงเข้ามาเดินเล่นที่นี่ไง” จากนั้นก็ตะโกนเรียกต่อ “น้องหญิงคะ พี่มีเรื่องจะอธิบาย”
ที่หลังพุ่มไม้ใกล้ๆนั้น แนวหน้าดึงองค์หญิงเข้ามาชิดตัวโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อแอบชองปอล พลางชะเง้อมองไป เห็นชองปอลอารมณ์เสียถึงขีดสุด
“โธ่เว้ย!!”
ชองปอลเดินกลับไปอีกด้านพร้อมกับชีฟอง โลลิต้ากับแนวหน้าโล่งอก สองคนมองหน้ากัน ชะงักกันไปทั้งคู่ เพิ่งสังเกตว่าอยู่ใกล้ชิดกันแค่คืบเท่านั้น
โลลิต้าตกใจ แต่แนวหน้ามองโลลิต้าอย่างแสนรัก ใจอยากกอดเต็มรัก โลลิต้าถอยห่างออก
“องค์หญิงพะย่ะค่ะ กระหม่อม... มีเรื่อง...จะกราบทูล”
“หญิง...หญิงต้องไปแล้วค่ะ เดี๋ยวคนคงถามหาหญิง ไปก่อนนะคะ”
โลลิต้าเดินแกมวิ่งออกไป แนวหน้าถอนใจยาว โอกาสที่จะพูดเปิดอก หลุดลอยไปอีกครั้ง
คราวนี้เป็นจีจี้ที่ออกอาการร้อนใจมาก
“นี่มันหลายชั่วโมงแล้วนะ ทำไมเค้าถึงประชุมกันนานนัก”
แนวหน้าเดินกลับเข้ามาสมทบหน้าตาอึ้งๆ งงๆ อยู่ นายกับจีจี้เห็นสีหน้าท่าทางแนวหน้า ก็งงว่าเป็นอะไร
“เป็นอะไรไอ้แนว ทำไมหน้าแกดูช็อกๆ ยังไงไม่รู้”
“เฮ้ย นี่อย่าบอกนะเว้ยว่าแกรู้ว่าที่ประชุมเค้าลงมติกันยังไง” นายมองจ้องน้องชาย
“เปล่า เมื่อกี๊ผมไปเดินเล่นแล้วเจอองค์หญิงในสวน แล้วท่านชองปอลก็ตามมา”
นายกับจีจี้ชะงัก มองแนวหน้าด้วยความสงสารและเห็นใจ
ครู่หนึ่ง นายพลราอูลเดินเข้ามาหา
“ประชุมกันเสร็จแล้วเหรอคะท่านนายพล”
“ครับ ท่านธูลรับสั่งให้คุณทั้ง 3 คนไปเข้าเฝ้าที่ห้องทรงงานครับ”
ทั้งสามมองหน้ากัน
นาย แนวหน้า และจีจี้ นั่งอยู่ในห้องทรงงานกับท่านธูล ซึ่งมีราอูลอยู่ด้วย
“ที่ประชุมมีมติให้ฮวาซาใต้กับฮวาซาเหนือทำสัญญาตกลงว่ายังจะรวมประเทศกันอยู่”
จีจี้แย้ง “อ้าว...ทำไมยังต้องรวมกันอีกละเพคะ? ในเมื่อฮวาซาเหนือทำไม่ดีกับเรา ไม่เห็นจำเป็นต้องไปรวมด้วยเลย”
ท่านธูลอธิบาย “การรวมกันครั้งนี้เพื่อความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของประเทศฮวาซา แต่เงื่อนไขในการรวมจะไม่เหมือนเดิม ทั้งตัวประมุขของประเทศและข้อแม้ต่างๆ ตอนนี้ฮวาซาใต้ได้เปรียบฮวาซาเหนือมากมาย”
“แล้วพิธีรวมประเทศจะยังจัดตามกำหนดเดิมอยู่รึเปล่าพะยะค่ะ” นายถาม
“ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม เพียงแต่เราจะจัดพิธีเปิดประเทศรวมไปด้วยเลย สารคดีของพวกคุณก็จะถูกฉายในวันนั้น”
นาย กับจีจี้ดีใจ ร้อง เยส! ออกมาพร้อมกัน แนวหน้ายังไม่ดีใจ มัวแต่กังวลอีกเรื่องอยู่
จีจี้สังเกตว่าแนวหน้านิ่งไป ก็เลยถามคำถามที่คิดว่าแนวหน้าต้องอยากรู้
“จีจี้มีอีกคำถามเพคะท่านธูล...แล้วองค์หญิงโลลิต้ายังต้องอภิเษกกับท่านชองปอลอยู่ไหมเพคะ”
แนวหน้าชะงัก หันมองจีจี้ที่ถามคำถามนั้นทันที ก่อนหันมองท่านธูล เพราะอยากรู้คำตอบเหมือนกัน
“การแต่งงานของลูกหญิงไม่ถูกผูกรวมกับการรวมประเทศอีกต่อไป และจะถูกเลื่อนออกไป อย่างไม่มีกำหนด”
จีจี้แทบกรี๊ด กระโดดกอดนายด้วยความดีใจแทนองค์หญิง แนวหน้าแอบดีใจที่รู้ว่าโลลิต้าไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับชองปอลแล้ว
ที่เมืองไทย ในกองถ่ายละคร ไผท และฟิน อยู่ในห้องแต่งตัวรอคิวถ่ายทำ ไผทนั่งแต่งหน้าอยู่ ฟินอยู่ด้วย ผู้ช่วยผู้กำกับเข้ามาตาม
“แสตนด์บายได้แล้วครับไผท”
“โอเคค่ะ ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
ผู้ช่วยออกไป ไผทลุกขึ้นท่าทีเนือยๆ
“ไผท เดี๋ยวคืนนี้ถ่ายเสร็จ กลับบ้าน จัดของเลยนะ อย่าไปไหนต่อ”
“จัดของทำไมครับ”
“อ้าว ก็พรุ่งนี้เราต้องไปฮวาซาใต้แต่เช้าไง ลืมแล้วเหรอ กำลังจะมีพิธีเปิดประเทศฮวาซาใต้ไง”
ไผทถอนใจยาว ฟินนึกสงสาร
“พี่รู้ว่าไผทยังเสียใจที่จะต้องเจอองค์หญิงอีก แต่มันเป็นงานนะ เวลาเจอก็เล่นละครหน่อย อย่าทำหน้าเศร้ามากนัก คนเค้าจะสังเกต เข้าใจมั้ยจ๊ะ”
“ครับพี่ฟิน ผมจะพยายาม”
ไผทเดินออกไป ฟินมองตามด้วยความสงสาร ก่อนเดินตามออกไป
เย็นนั้น สองพ่อลูกอยู่ในห้องทรงงานท่านธูล
โลลิต้านั่งอึ้งอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของบิดา รับรู้เรื่องเงื่อนไขการแต่งงานที่ไม่ผูกกับการรวมประเทศแล้ว แต่ไม่อยากเชื่อ
“นี่หมายความว่าหญิงไม่จำเป็นต้องอภิเษกกับพี่ชองปอลแล้วงั้นเหรอเพคะ”
“ถ้าให้พ่อตอบในฐานะประธานมนตรีแห่งฮวาซาใต้ พ่อต้องบอกว่ามันยังคงเป็นหน้าที่ของมกุฏราชกุมารี แต่ในฐานะพ่อ พ่อก็ไม่อยากฝืนใจลูก พ่อรู้ว่าลูกไม่เคยมีใจให้กับชองปอล”
“เอ่อ หญิงเห็นพี่ชองปอลเป็นแค่พี่มาตลอดเพคะ ไม่เคยคิดรักท่านเลยแม้แต่นิดเดียว”
“แต่ลูกต้องอย่าลืมสิ่งสำคัญอย่างนึงก็คือกฏมณเฑียรบาลของเราแต่โบราณห้ามไม่ให้เชื้อพระวงศ์ที่เป็นหญิงอภิเษกกับคนต่างเชื้อชาติ เพื่อรักษาสายเลือดของฮวาซา” โลลิต้าอึ้ง “พ่อไม่รู้หรอกนะว่าลูกกำลังรักหรือชอบใครอยู่ในใจ แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ลูกจะไปคิดให้ต้องเสียใจภายหลังทำไมล่ะจ๊ะ”
โลลิต้าอึ้ง นิ่งงันไปนานเท่านาน ตระหนักชัดในความหมาย รู้ดีว่า...ประตูรักในใจต้องถูกปิดตายอย่างแน่นอน
อ่านต่อตอนที่ 22