น่ารัก ตอนที่ 15
ที่เมืองไทย ตอนเช้าวันเดียวกัน ในร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นร้านไม่ใหญ่นัก ช่างซ่อมคอมพ์พิจารณาฮาร์ดดิสก์ พลิกกลับไปกลับมาดูรูที่เสียหาย ปิแอร์กับแนวหน้าลุ้นสุดๆ
“นี่มันไปโดนอะไรมาน่ะคุณ” ช่างถาม
แนวหน้าอ้าปากจะตอบ แต่ถูกปิแอร์ชิงตอบก่อนว่า “ลูกปืนครับ”
ช่างสะดุ้ง ตาเหลือก
“หา ลูกปืนเหรอ เอาคืนไปเถอะ ผมคงซ่อมให้ไม่ได้หรอก ไปร้านอื่นก็แล้วกัน”
ช่างวางฮาร์ดดิสก์ลงแล้วเดินหนีไป แนวหน้ามองหน้าปิแอร์อย่างเข่นเขี้ยว ปิแอร์จ๋อย
สองคนอยู่อีกร้าน หลังจากดูอยู่ครู่ใหญ่ ช่างวางฮาร์ดดิสก์ลงอย่างหมดหวัง
“พอจะซ่อมได้มั้ยครับ”
“ผมว่าซ่อมไม่ได้แล้วละ”
แนวหน้าร้อง “หา! อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ มันต้องซ่อมได้น่า พยายามนิดนึงนะ”
“ฝีมือผมไม่ถึงหรอก ไปที่อื่นเถอะนะ”
แนวหน้าเดินคอตกออกจากร้าน ปิแอร์ตามมาติดๆ ใจเสียแล้ว
“ช่างคนตะกี้เค้าพูดจริงๆ เหรอครับคุณ มันไม่มีทางซ่อมได้แล้วจริงๆ เหรอ นี่ถ้าท่านธูลทรงทราบนะ จะทรงเสียพระทัยมากขนาดไหน”
แนวหน้าปลอบ “ใจเย็นๆน่า คุณปิแอร์ มันคงไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้นหรอก
แนวหน้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“พี่ไก่ต้องช่วยเราได้ ผมจะโทร.ไปตื๊อให้พี่ไก่รีบกลับมาเมืองไทย”
แนวหน้าจะกดออก มีสายจากนายโทร.เข้ามาพอดี จึงกดรับ
“ฮัลโหล พี่นาย มีอะไรเหรอ” แนวหน้าฟังแล้วตกใจมาก “หา! รถตู้ชนต้นไม้ ที่ไหน เมื่อไหร่”
ปิแอร์หันขวับมามองเขม็ง พลอยตื่นเต้นตกใจไปด้วย
นายวิ่งหน้าตาตื่นลงมาด้านล่าง เห็นโลลิต้ากับชีฟองหน้าตาตกอกตกใจสุดขีด กำลังรายงานข่าวให้ท่านธูลฟังอยู่
“ตอนที่รถของหญิงไปถึง ก็เห็นรถตู้ของทีมงานชนอยู่กับต้นไม้ใหญ่ริมทางแล้วเพคะท่านพ่อ พวกทหารก็เลยพาทุกคนไปส่งโรงพยาบาล”
นายแปลกใจมาก “แล้วมันเกิดอะไรขึ้นพะยะค่ะองค์หญิง ทำไมอุบัติเหตุถึงเกิดขึ้นได้”
“รถตู้ของทีมงานโดนตะปูเรือใบที่โรยอยู่เต็มถนนค่ะ ทำให้ยางแตก แล้วก็เสียหลักเข้าไปชนกับต้นไม้ริมทางอย่างจัง” ชีฟองบอก
“แล้วลูกหญิงแน่ใจเหรอ ว่าไม่มีใครเป็นอะไรจริงๆ”
ราอูลตอบแทน “กระหม่อมได้โทร.ไปเช็คที่โรงพยาบาลแล้วพะย่ะค่ะ ชาวไทยทุกคนกำลังเดินทางกลับจากโรงพยาบาล ส่วนใหญ่ปลอดภัยดี เว้นก็แต่.. เอ่อ...”
“ยกเว้นใครเหรอครับคุณราอูล”
ไม่ทันที่ราอูลจะพูดอะไรกับนาย รถตู้คันใหม่ที่ไปรับ วิ่งเข้ามาพอดี
ท่านธูล เห็นก่อน “พวกเค้ามานั่นแล้ว”
ทุกคนรีบร้อนกันไปยังหน้าวัง
รถตู้คันใหม่แล่นเข้ามาจอดหน้าวัง ท่านธูล ราอูล นาย โลลิต้า ชีฟอง มายืนรอรับ โดยมีรถอีกคันเป็นทีมงานที่ไม่เป็นอะไรตามมาด้วย ชีฟองวิ่งไปเปิดประตูให้ ไผทลงจากรถมาก่อน
“มีใครเป็นอะไรกันบ้างไผท” นายถามอย่างร้อนใจ
ไผทไปรับจีจี้ที่ลงมา สภาพมีเฝือกที่รอบแขนซ้าย หน้าตาซีดเซียวอิดโรย ขิงประคองทางด้านหลัง
“จีจี้”
ท่านธูลถามอย่างเป็นห่วง “คุณจีจี้ เป็นยังไงบ้าง”
“พี่จีจี้แขนหักพะย่ะค่ะ เพราะพี่จีจี้นั่งหน้า ตอนที่รถชนเข้ากับต้นไม้” ไผทรายงาน
“นายนาย”
นายถลาไปกอดจีจี้ปลอบขวัญ จีจี้กอดตอบอย่างคนเสียขวัญ
“เราจะต้องสืบให้ได้ว่าใครกันที่ทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้บนแผ่นดินของเรา มันผู้นั้นจะต้องโดนลงโทษอย่างสาสม”
ท่านธูลแค้นใจมาก
แนวหน้ากลับเข้าโฮมออฟฟิศจีเอ็นเอ็น กำลังพยายามโทรศัพท์หาทุกคนที่อยู่ฮวาซาอย่างร้อนใจ ปิแอร์ยืนรออยู่ใกล้ๆ
“โอ๊ย ทำไมไม่รับโทรศัพท์กันเนี่ย”
“ติดต่อให้ได้นะคุณแนวหน้า ผมอยากรู้ว่าองค์หญิงโลลิต้าทรงปลอดภัยรึเปล่า”
แนวหน้าวางสายลงแล้วกดโทรใหม่อีกที
แนวหน้ารอสายสักครู่อย่างร้อนใจ ในที่สุดนายก็รับสาย แนวหน้าดีใจ “พี่นาย”
นายยืนคุยโทรศัพท์กับแนวหน้าอยู่ที่มุมหนึ่ง
“แกอย่าเพิ่งถามอะไรแล้วฟังชั้นนะไอ้แนว ตอนนี้ทุกคนปลอดภัย มีแต่จี้ที่แขนหัก ภายในวันสองวันนี้ฉันจะพาทีมงานทุกคนกลับเมืองไทย”
“อ้าว แล้วไม่ถ่ายสารคดีต่อแล้วเหรอเฮีย”
“เจอเรื่องเฉียดตายแบบนี้ ชั้นต้องรักษาชีวิตทุกคนไว้ก่อน แล้วชั้นก็เชื่อว่าท่านธูลจะเข้าใจ แต่ที่ชั้นจะถามแกก็คือ ถ้าสารคดีชิ้นนี้เราจะใช้แค่ฟุตเทจเท่าที่มีอยู่ในฮาร์ดดิสก์ก์นั่น แกจะว่าไง”
แนวหน้านิ่งคิด “ก็น่าจะได้นะเฮีย เพราะมันทีส่วนที่ผมถ่ายเผื่อไว้เยอะเหมือนกัน ถ้าเรากู้ไฟล์มาได้ทั้งหมดอ่ะนะ”
นายสั่ง “แกต้องกู้ให้ได้ เพราะถ้าไม่ได้ เราก็จะไม่เหลืออะไรเลย รวมทั้งประเทศฮวาซาใต้ด้วย ทุกๆ อย่างอยู่ในมือของแกแล้วนะไอ้แนว”
“ได้พี่นาย เพื่อฮวาซาใต้และจีเอ็นเอ็นของเรา ผมสัญญาว่าจะกู้ไฟล์คืนมาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม”
แนวหน้าวางหู ปิแอร์มองอย่างชื่นชม
“ออกไปกันอีกรอบเถอะปิแอร์ เราต้องไม่ยอมแพ้ เร็ว”
ภายในห้องทรงงานท่านธูล เวลานั้น นายคุยอยู่กับท่านธูล ราอูล
ราอูลโวยวายลั่น พอฟังจบ “นี่คุณจะกลับไปทั้งๆ ที่ยังถ่ายไม่เสร็จงั้นเหรอ แล้วสารคดีล่ะ”
ท่านธูลพูดเสียงดัง “หยุดได้แล้วราอูล เราต่างหากที่ต้องขอโทษพวกเค้าที่ต้องมาเจอเรื่องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแบบนี้ในประเทศของเรา... ผมเห็นด้วยกับคุณนายนาย ผมจะให้ทหารพาพวกคุณทุกคนกลับกรุงเทพฯให้เร็วที่สุด
“เป็นพระกรุณาพะยะค่ะ เรื่องสารคดีไม่ต้องเป็นห่วงนะพะยะค่ะ ตอนนี้แนวหน้ากำลังรอคนที่ไว้ใจได้กลับมากู้ฮาร์ดดิสก์ก์อยู่ ไม่ว่ายังไงเราก็จะทำสารคดีชิ้นนี้ออกมาให้ได้พะย่ะค่ะ”
“ขอบใจมากนะคุณนายนาย”
นายคำนับแล้วออกไป
ราอูลท้วงไม่เห็นด้วย “ถ้าทรงปล่อยให้เค้าทำแบบนั้น แล้วสารคดีของเรามันจะออกมาดีเหรอพะย่ะค่ะ”
“เราเชื่อใจพวกเค้า แล้วอีกอย่าง คุณลืมไปแล้วเหรอราอูล ว่าความจริง ในเวลาปกติรถของโลลิต้าจะต้องออกก่อนรถของทีมงาน ถ้าวันนี้ชีฟองไม่เกิดปวดท้องขึ้นมา ก็ต้องเป็นรถพระที่นั่งของโลลิต้า ที่จะต้องโดนตะปู”
ราอูลตกใจ “นี่แสดงว่า คนก่อเหตุ มันจงใจที่จะลอบทำร้ายเจ้าหญิงโลลิต้าเหรอพะย่ะค่ะ”
“เรื่องนี้มันรุนแรงเกินกว่าที่เราคิดนะราอูล จับตัวมาให้ได้ ว่าคนทำมันเป็นใคร มันสมควรได้รับโทษประหารชีวิต”
ท่านธุลเสียงเข้ม ราอูลอึ้ง ตะลึงไป
ตอนกลางวันวันเดียวกัน ที่วังฮวาซาเหนือ ชองปอลดีดกีต้าร์อย่างมีความสุขอยู่ในห้อง ทหารเดินเข้ามาทำความเคารพ
“ขอประทานอนุญาตพะยะค่ะท่านชองปอล”
ชองปอลถาม “มีอะไร”
“สายรายงานว่าตอนนี้ฮวาซาใต้ได้หยุดการถ่ายทำสารคดีแล้ว และทีมงานชาวไทยก็กลับไปกันหมดแล้วพะยะค่ะ”
ชองปอลยิ้มอย่างผู้ชนะ “ดี! พวกนั้นคงจะกลัวจนวิ่งหนีเตลิดกันไปหมด สั่งคนให้เตรียมห้องไว้รับรององค์หญิงโลลิต้าด้วย อีกไม่นานท่านธูลต้องส่งน้องหญิงมาขอลี้ภัยที่ฮวาซาเหนือแน่นอน”
ชองปอลหัวเราะชอบใจ ก่อนจะบรรเลงกีต้าร์เสียงดังลั่น ทหารหนวกหู ปวดแก้วหู แต่ไม่กล้าแสดงออก
แนวหน้า พาปิแอร์ทหารคนซื่อ ตะลุยห้างดังที่รับซ่อมคอมพ์
ตอนนี้สองหนุ่มหยุดอยู่ละแวก โซนร้านซ่อมคอมพ์ที่เป็นแถวยาว แนวกับปิแอร์เดินดู บางร้านก็ปิดสงกรานต์
แนวหน้ายืนอยู่ในร้านซ่อมคอมพ์กำลังคุยกับช่างซ่อม ปิแอร์ซึ่งวันนี้ใส่ชุดปกติยืนอยู่ด้วย
“พี่พอจะซ่อมได้ไหมครับ” แนวหน้าถาม
ช่างซ่อมคอมพ์ 1 จับฮาร์ดดิสก์ พลิกไปพลิกมา แล้วส่ายหน้าว่าทำไม่ได้
ช่างซ่อมคอมพ์ 2 ของอีกร้านหนึ่ง กำลังลองต่อฮาร์ดดิสก์กับคอมพ์ แต่ไม่มีอะไรตอบสนอง
แนวหน้าเดินคอตกออกจากร้านมา แล้วเดินเข้าร้านใหม่ มีปิแอร์ตามต้อยๆ เจ้าของร้านส่ายหน้าตามเดิม ปิแอร์จ๋อย แนวหน้าถอนใจหนักหน่วง เครียดสุดขีด
ปิแอร์เดินผิดผิดหวังออกมาหน้าร้าน คนขายแผ่นผี เดินมาหาแล้วกระซิบปิแอร์
“พี่ๆ…โป๊ไหม”
ปิแอร์มองตัวเอง “ไม่โป๊นะครับ…ผมก็แต่งตัวมิดชิดอยู่ พี่ว่าโป๊เหรอครับ”
คนขายแผ่นผีมองปิแอร์งงๆ แนวหน้าเดินออกจากอีกร้านพอดี ปิแอร์เดินเข้าไปหา
“พี่คนนั้นเค้าว่าผมแต่งตัวโป๊ คุณว่าโป๊มั้ย”
พอแนวหน้ามองไป คนขายแผ่นผีเดินหนี แนวหน้าถอนใจก้มมองฮาร์ดดิสก์
“ไม่มีร้านไหนยอมซ่อมให้เลย ร้านใหญ่ๆส่วนใหญ่ก็ปิดสงกรานต์ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย โอ๊ย”
“คุณแนวหน้าจะยอมแพ้ไม่ได้นะครับ อนาคตของชาวฮวาซาใต้ทุกคน ฝากไว้กับคุณ”
ปิแอร์มองมาอย่างขอร้อง แนวหน้าถอนใจเฮือกในภาระอันใหญ่ยิ่ง
“เราคงต้องตระเวนหาที่ซ่อมให้ทั่วกรุงเทพฯ หรือไม่ก็ต้องรอพี่ไก่กลับมาจากฮ่องกง นั่นเป็นความหวังสุดท้ายของเรา”
แนวหน้าเครียดจัด
เย็นนั้นแนวหน้าขับรถมาจอดหน้ารั้วบ้าน ปิแอร์ที่ท่าทางเหนื่อยอ่อน ลงไปจะไปเปิดประตูให้ แล้วชะงัก วิ่งกลับมาหา
ปิแอร์พูดเสียงค่อยๆ “เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับคุณแนวหน้า”
แนวหน้าเซ็ง “อะไรอีกปิแอร์ รีบๆ เปิดประตูสิ ชั้นเหนื่อย ร้อน อยากเข้าไปพักแล้ว”
“เมื่อสายๆ ตอนคุณแนวออกจากบ้าน คุณแนวล็อคประตูนี้แล้วนี่ครับ แต่ทำไมพอเรากลับมา ประตูมันถึงไม่ได้ล็อคล่ะครับ”
แนวหน้าอึ้ง มองไป แล้วตัดสินใจลงไปดูพบว่าประตูรั้วถูกแง้มไว้ไม่ได้ล็อคอย่างที่ทหารคนซื่อบอกจริงๆ
“เออ จริงด้วย”
“คุณแนวหลบไปครับ!”
แนวหน้าเดินไปหลบหลังปิแอร์ เห็นปิแอร์ถลกขากางเกงขึ้น แล้วหยิบปืนที่ซ่อนไว้ที่ขามาคาบไว้
แนวหน้าตาเหลือก “เฮ้ย! นี่นายพกปืนด้วยเหรอ”
ปิแอร์ไม่ตอบเปิดประตูบ้านอย่างเบามือ แล้วค่อยๆ เดินย่องเข้าด้านใน แนวหน้าตามไปงงๆ
ปิแอร์ย่องนำแนวหน้าเข้ามาอย่างระมัดระวัง ทั้งคู่ชะงัก เห็นประตูกระจกแง้มอยู่ ทั้งคู่ตกใจ ปิแอร์ทำสัญญาณให้เงียบๆ ด้านในมีเสียงกุกกัก ปิแอร์ย่องไปใกล้ ร่างๆนึงโผล่ออกมาจากครัว ปิแอร์โดดไปคาราเต้ที่ต้นคอ
“นี่แน่ะ”
ร่างนั้นคว่ำลงไป ที่แท้เป็นนายนั่นเอง แนวหน้าตกใจมาก
“เฮ้ย! พี่นาย” แนวหน้าถลาเข้าไปประคอง
ปิแอร์ตกใจมาก
จีจี้ที่ใส่เฝือกเดินตามหลังนายมาเห็นเข้าก็ตกใจไปด้วยร้องกรี๊ด “แอร๊ย...ย”
ปิแอร์พยายามทำให้จีจี้หยุดร้อง
แนวหน้าประคองนายที่ยังมึนงงให้ลงนั่งตรงโซฟา จีจี้ยังตกอกตกใจอยู่ ปิแอร์จ๋อยสนิท
“พี่นายกับพี่จี้มาถึงกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ” ตั้งแต่บ่าย มาถึงชั้นก็มานั่งรอแกอยู่ที่นี่ มือถือแกเป็นอะไร โทร.ไม่ติดเลย”
“แบ็ตหมดน่ะเฮีย แล้วนี่ท่านธูลไม่ทรงว่าอะไรเหรอ ที่พวกเราทิ้งงานมาเฉยๆ แบบนี้น่ะ” “ไม่ว่าหรอก ท่านทรงรู้ว่าพวกเราทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตราย” นายว่า
“มีคนบางคน คงจะเดือดร้อนจากการทำสารคดีของเรา ถึงได้พยายามจะขัดขวาง ถ้าเราอยู่ที่นั่นต่อไป อาจมีคนได้รับอันตรายถึงชีวิตก็ได้นะ”
“ถ้าผมรู้ว่ามันคนนั้นเป็นใคร ผมจะไม่ไว้ชีวิตมันแน่ๆ” ปิแอร์ว่า
“ไม่ใช่แค่พวกเรานะ ที่กลับมาตั้งหลักที่เมืองไทยน่ะ ท่านธูลยังทรงมอบหมายให้พวกเราช่วยกันดูแลคนบางคนระหว่างที่อยู่ที่นี่ด้วยนะ”
แนวหน้าเง็ง “ดูแล...ใครเหรอ”
นายกะจีจี้ มองหน้ากันยิ้มๆ
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 15 (ต่อ)
บ่ายจวนเย็นของวันเดียวกันนี้ ที่ล็อบบี้โรงแรมแห่งหนึ่ง ไผทนั่งอยู่กับโลลิต้า ที่แต่งตัวดูเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ มีผู้คนมองจ้องไผทที่นั่งอยู่ แล้วหันไปซุบซิบเม้าท์มอยกัน
ขิงกับชีฟองเดินกลับมาจากเช็คอิน เจอหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาไผท
“คุณไผทคะ ขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ”
ไผทอึดอัด “เอ่อ.. คือ.. ไม่ค่อยสะดวกอ่ะครับ”
“น่า.. ถ่ายรูปนิดเดียว อย่าเล่นตัวสิคะ”
หญิงสาวถ่ายรูป โลลิต้าเบี่ยงตัวหลบทันที ไผทหน้าแหยๆ
“ได้ห้องแล้วเพคะองค์หญิง เราไปกันเถอะ”
โลลิต้าลุกยืน หญิงสาวถ่ายเสร็จก็เดินออกไป ขิงหันมาดุไผท
“ไผท ก็บอกแล้วไงว่าการเสด็จมาที่นี่ขององค์หญิงต้องเป็นความลับที่สุด แต่ไผทกำลังจะทำให้เรื่องมันแตก
“ก็ผมไม่ได้ตั้งใจนิ่ อุตส่าห์ปลอมตัวแล้ว ทำไมเค้ายังจำได้ก็ไม่รู้”
“คุณไผทกลับไปก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวเกิดใครตามถ่ายรูปคุณไผทแล้วติดองค์หญิงไปด้วย คนร้ายอาจจะตามหาเราเจอก็ได้”
“ยกโทษให้กระหม่อมด้วยเถอะพะย่ะค่ะองค์หญิง กระหม่อมไม่ได้ตั้งใจจะให้องค์หญิงเดือดร้อน กระหม่อมแค่เป็นห่วงองค์หญิงกับคุณชีฟอง ถ้ากระหม่อมไม่ได้เห็นกับตาว่าทรงอยู่ที่ไหนยังไง กระหม่อมคงนอนไม่หลับแน่ๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ชีฟอง คุณขิง อย่าไปว่าคุณไผทเลย หญิงดูแลตัวเองได้”
“ตอนนี้เราขึ้นไปบนห้องกันเถอะเพคะ ตรงนี้คนพลุกพล่าน ไม่เหมาะที่จะอยู่นานๆ เชิญเสด็จเพคะ”
“เราขึ้นไปส่งองค์หญิงกันเถอะขิง เร็ว”
ไผทเดินตามโลลิต้า ขิงถอนใจแล้วตามไป
ทุกคนยืนรอลิฟต์อยู่ ไผทเอ่ยขึ้น
“องค์หญิงแน่พระทัยนะพะย่ะค่ะว่าจะไม่ไปประทับที่คอนโดของกระหม่อม ที่นั่นเงียบสงบมาก ระบบรักษาความปลอดภัยก็ดีเยี่ยม”
“แต่ถ้ามีคนรู้ทีหลังว่าองค์หญิงไปประทับกับคุณไผท มันก็คงจะไม่งามนักหรอกนะคะ” ชีฟองว่า
“ถ้าเราไม่พูด ใครจะไปรู้ล่ะครับคุณชีฟอง”
ลิฟต์เปิดออก ด้านในมีคนออกมา เป็นชายกลางคนมาด มองจ้องไผท
“อ้าวไผท มาทำอะไรที่นี่” ชายมาดเสี่ยกวาดตามองทั้งขิง ชีฟอง และโลลิต้า ยิ้มๆ
ไผทหน้าเสีย “เสี่ย.. มาคุยงานเหรอครับ”
“ดาราเกาหลีเค้ามาพักที่นี่น่ะสิ ผมเลยมาคุยกับเค้า” เสี่ยยิ้ม “จะไม่เข้าลิฟต์ กันเหรอครับ”
ขิงได้สติ ก่อนเดินนำ โลลิต้ากับชีฟองตามเข้าไป
ไผทหน้าเจื่อนๆ “ผมลงมาหาเพื่อน แต่เดี๋ยวโทรเรียกเค้าลงมาก็ได้ ไปนั่งรอที่ล็อบบี้ดีกว่า”
ไผทมองด้านหลัง ประตูลิฟต์ปิดลง ทุกคนต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน
ฟากแนวหน้ากับปิแอร์อยู่ที่ฟร้อนท์ กำลังรอสายที่เจ้าหน้าที่ต่อให้
“ต่อห้อง 2801 ด้วยครับ”
ไผทเดินงงๆ มาทางนี้ จะมาโทรศัพท์ด้วยเหมือนกัน เห็นแนวหน้าพอดี
“พี่แนว”
แนวหน้าหันมา “ไผท...แกมาหาองค์หญิงเหรอ”
“ผมมาส่งน่ะ ตอนนี้ท่านขึ้นไปบนห้องแล้ว ขิงก็อยู่ด้วย”
“แล้วทำไมแกไม่ขึ้นไปข้างบนล่ะ”
ไผทเซ็ง “เพราะใครๆก็ทักผมน่ะสิ ผมกลัวมันจะทำให้องค์หญิงทรงเป็นอันตราย” ไผทถอนใจ “ผมขอตัวกลับก่อนนะพี่แนว พี่แนวพาคุณปิแอร์มาดูแลองค์หญิงใช่มั้ย ค่อยยังชั่ว ผมลาละ”
ไผทเดินกลับออกไป แนวหน้ามองตาม
“เราจะขึ้นไปกันรึยังครับ ผมเป็นห่วงองค์หญิง” ปิแอร์ว่า
แนวหน้าพยักหน้า
องค์หญิงโลลิต้าบอกทันทีที่ปิแอร์ กะ แนวหน้า พูดจบ
“ขอบใจมากนะปิแอร์ แต่หญิงว่าไม่จำเป็นหรอก หญิงอยู่กับพี่ชีฟอง 2 คนได้”
“แต่นี่มันเป็นหน้าที่โดยตรงของกรหม่อมนะพะย่ะค่ะ ที่ต้องถวายความปลอดภัยให้กับองค์หญิง”
“เถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกเพคะองค์หญิง ไล่ให้ตายปิแอร์ก็คงจะไม่ยอมไป ถ้างั้นเดี๋ยวคืนนี้นายนอนตรงทางเดินห้องโถงนี่แล้วกันนะปิแอร์” ชีฟองว่า
“ครับผม”
“ถ้าตกลงกันได้แบบนี้ ผมก็สบายใจ กระหม่อมทูลลานะพะย่ะค่ะ ไปกันเถอะขิง”
“ทำไมรีบกลับนักล่ะคะคุณแนวหน้า คุณขิง อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิคะ”
แนวหน้าอึกอัก “เอ่อ.. คือ.. คือ...”
ขิงเข้าใจมองแนวอย่างสงสารเห็นใจ
“ขิงต้องรีบกลับน่ะฮะ กำลังขอให้พี่แนวไปส่งอยู่พอดี ทูลลาก่อนนะฮะองค์หญิง คุณชีฟอง แล้วพรุ่งนี้ ถ้าทิ้งงานมาได้ ขิงจะมาเข้าเฝ้าอีกที”
ขิงคำนับ แนวคำนับด้วย แล้วออกจากห้อง
เย็นแล้ว แนวหน้าเดินออกมา ขิงเดินตาม
“ชีวิตคนเรานี่ก็ตลกนะพี่แนว เรายิ่งหนี ...เค้ายิ่งตาม” “ขิงพูดถึงอะไร”
“ก็องค์หญิงไง…พี่แนวอุตส่าห์หนีมาทำใจ แต่องค์หญิงก็ยังตามมาถึงที่กรุงเทพฯนี่” “เค้าไม่ได้ตามพี่ซะหน่อย...เค้าหลบมาลี้ภัยต่างหาก” “พี่แนว…ขิงว่าบางทีองค์หญิงเค้าอาจจะไม่ได้ชอบไผทก็ได้นะ”
แนวหน้าเบรกกึกทันที “เฮ่ย…ทำไมขิงคิดแบบนั้น” “ไม่รู้สิพี่ เซ้นส์มันบอก.... ขิงรู้สึกว่าไผทไม่น่าใช่ผู้ชายแบบที่องค์หญิงชอบ” แนวหน้าชะงักอึ้ง นิ่งงันไปชั่วขณะ ปิแอร์วิ่งตามมา
“รอก่อนครับคุณแนวหน้า”
“มีอะไรเหรอปิแอร์”
“ผมลืมไปว่า ผมต้องไปส่งคุณแนวที่รถ”
แนวหน้างง “ส่งผม? ทำไม”
“ตราบใดที่คุณแนวยังมีฮาร์ดดิสก์อยู่กับตัว ผมมีหน้าที่ที่ต้องคอยดูแลคุณกับฮาร์ดดิสก์อันนั้นครับผม”
แนวหน้ากับขิงถอนใจยาว
ไผทกลับถึงคอนโด นั่งแหมะอยู่ที่โซฟามีแผ่นมาสก์หน้าปิดอยู่ ข้างๆ มีกระเป๋าไผท ถูกวางทิ้งไว้แสดงว่าเพิ่งมาถึงไม่นาน ฟินเปิดดูแขนขาไผทแล้วบ่นอุบ
“ตายๆๆๆๆ หน้าก็ดำ ตัวก็ดำ คุ้มกันไหมเนี่ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปหาหมอจี๋กับพี่แต่เช้าเลยนะไผท พี่จะให้รถตู้มารอรับ”
ไผทดึงมาสค์ออก “โห พี่ฟิน ผมเพิ่งมาถึงก็จัดตารางให้ผมไปหาหมอหน้าแล้วเหรอครับ? ให้ผมพักอีกหน่อยไม่ได้เหรอครับพี่”
“เสียใจ ที่เราไปอยู่ฮวาซามาเป็นเดือนสองเดือนนั่นพี่ถือว่าเป็นการพักร้อนไปแล้ว ต่อจากนี้ไปไผทต้องเร่งออกสื่อให้คนเห็นกันเยอะๆ เค้าจะได้รู้ว่าไผทกลับมาแล้ว เข้าใจไหม”
“ถ้างั้นพรุ่งนี้ ให้รถไปส่งผมหาหมอ แล้วไม่ต้องรอรับกลับนะครับ”
“จะไปไหน หาองค์หญิงโลลิต้าใช่ไหม”
ไผทจุ๊ปาก “บอกแล้วไงว่าอย่างพูด มันเป็นความลับนะพี่ฟิน องค์หญิงอุตส่าห์มาเมืองไทยทั้งทีนะพี่ ผมอยากไปดูแลเค้า อยากพาเค้าไปเที่ยวไรเงี้ย”
“เฮอะ! นี่เราไปอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนนานจนลืมไปแล้วใช่ไหมว่าปกติอยู่ที่นี่แกน่ะเป็นใคร ไผท ไพศาลี ดังจนเดินห้างแทบไม่ได้!! แล้วขืนไผทไปเดินกับองค์หญิงคงไม่พ้นเป็นข่าวอีก ข่าวเก่าเพิ่งจะเคลียร์ กลับมาก็จะมีข่าวใหม่เลยเหรอ พี่ไม่ไหวนะไผท อีกอย่างพรุ่งนี้เย็นพี่รับงานไว้ให้เราแล้วด้วย”
ไผทตาเหลือก “ห๊ะ อะไรนะ”
“เปลี่ยนชุดมาจากที่ร้านหมอจี๋เลยนะ เดี๋ยวให้น้ากล้วยไปรอ งานที่พารากอน 4 โมงเย็น อ้อ! แล้วค่ำนี้มีมีทติ้งแฟนคลับ แต่งตัวหล่อๆ ด้วยนะ เค้าคิดถึงไผทกันจะแย่อยู่ละ”
ไผทเซ็งเอามาสค์ปิดหน้าลงอย่างเดิม
ฝ่ายชีฟองกำลังเปิดกระเป๋าเดินทางของโลลิต้าใส่ตู้เสื้อผ้า องค์หญิงโลลิต้ายืนมองวิวยามเย็นของกรุงเทพฯฯ จากกระจกในห้อง
“องค์หญิงหิวหรือยังเพคะ...เดี๋ยวพี่ฟองจะได้โทรสั่งอาหารเย็นขึ้นมาให้”
“หญิงว่าเราลงไปกินที่ห้องอาหารดีกว่าไหมคะ”
“จะดีเหรอเพคะองค์หญิง ถ้าใครมาเห็นเข้า มันจะอันตรายนะเพคะ...อีกอย่างการมาเยือนขององค์หญิงครั้งนี้ต้องเป็นความลับที่สุดนะเพคะ”
“แค่ลงไปกินข้าวเองนะคะพี่ฟอง แล้วอีกอย่างถ้าหญิงแต่งตัวธรรมดาแบบนี้ ก็ไม่มีใครจำหญิงได้หรอกค่ะ”
ชีฟองทักท้วง “แต่...จะดีเหรอเพคะ” “ยังไงเราก็ต้องอยู่ในห้องแบบนี้อีกหลายวัน มื้อนี้ถือว่าฉลองการมาถึงเมืองไทยวันแรกของพี่ฟองแล้วกันนะคะ”
ชีฟองถอนใจ เริ่มใจอ่อน
โลลิต้าและชีฟองอยู่ในชุดทันสมัย โลลิต้าใส่หมวกหรุบลงครึ่งหน้า แต่งตัวเหมือนเด็กผู้ชาย ท่าทางดูสบายๆ แต่ชีฟองดูเคอะเขิน ทั้งสองเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารของโรงแรมแล้วนั่งลง พนักงานเสิร์ฟเดินเอาเมนูมาให้ โลลิต้าและชีฟองเลือกเมนูอาหาร
สักครู่ มีชายคนหนึ่งแต่งตัวชุดดำ สวมหมวก และมีผ้าปิดปาก ท่าทางดูน่ากลัวเดินเข้ามานั่งโต๊ะข้างๆ สองคน ชายชุดดำเหลือบมองโลลิต้ากับชีฟองอย่างสำรวจ
โลลิต้ารู้สึกเหมือนมีคนมองเลยหันไปดู ชายชุดดำรีบหันไปทางอื่นก่อนขยับหมวกลงเพื่อบังหน้า โลลิต้าชะงักเริ่มใจคอไม่ดี กระซิบกับพี่เลี้ยง “พี่ชีฟอง…ผู้ชายคนนั้นมองมาทางเราทำไมก็ไม่รู้ค่ะ”
“ไหนคะ”
ชีฟองหันไปทางชายชุดดำ พบว่าชายชุดดำเหลือบมองมาพอดี โลลิต้ากับชีฟองชะงัก “ท่าทางน่ากลัวจัง พี่ชีฟองว่าเรากลับขึ้นห้องแล้วสั่งมากินดีกว่าไหมเพคะ” “ดีเหมือนกันค่ะ”
โลลิต้า กะ ชีฟองรีบร้อนลุกออกจากห้องอาหารทันที
สองสาวบ่าวนายยืนอยู่หน้าลิฟท์ ท่าทางไม่ค่อยสบายใจทั้งคู่ ชายชุดดำคนเดิมเดินออกจากห้องอาหารมองหารอบตัว ชีฟองตกใจ พยายามกดลิฟต์แต่ลิฟต์ไม่มาสักที ชายชุดดำ เห็นชีฟอง จึงเดินตรงเข้ามา โลลิต้าตกใจ
“พี่ฟองคะ เราขึ้นบันไดกันดีกว่าค่ะ”
ชีฟองรีบวิ่งขึ้นบันไดไปกับโลลิต้า
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป”
ชายชุดดำเรียก แล้ววิ่งตามมาจับแขนชีฟองไว้ ชีฟองสะบัดกรี๊ดสุดเสียง “อร๊าย... ปล่อยนะ”
มีมือใครคนหนึ่งจับมือชายชุดดำ กระชากจนหลุดจากชีฟอง ชีฟองหันไปมองเห็นปิแอร์ยืนอยู่ข้างแนวหน้า “นายคิดจะทำอะไรน่ะ” แนวหน้าถามชายชุดอย่างเอาเรื่อง โลลิต้าดีใจ “คุณแนวหน้า”
ปิแอร์ดึงแขนชายชุดดำบิดอย่างแรง
ชายชุดดำร้องโวยวาย “โอ๊ย เจ็บ ปล่อยผม” “ใครส่งแกมา บอกมาเดี๋ยวนี้ ฮวาซาเหนือใช่มั้ย” ปิแอร์คาดคั้น
ชายชุดดำงงๆ “คุณพูดอะไร ไม่มีใครผมส่งผมมา ผมเห็นคีย์การ์ดนี่ตกอยู่ใต้โต๊ะในห้องอาหาร เลยเก็บมาคืนให้”
ทุกคนชะงัก ปิแอร์มือตก ชายชุดดำสะบัดจนหลุด
“พวกคุณนี่มันบ้าจริงๆ คุณคิดว่าผมเป็นคนร้ายรึไง ผมเป็นการ์ดดูแลนักร้องเกาหลี เดี๋ยวพวกเค้ากำลังลงมา คุณ 2 คน เป็นติ่งเค้าใช่มั้ยเนี่ย ลงทุนมาเปิดห้องเฝ้าเลยเหรอ บ้าบอจริงๆ เลยเนี่ย”
ชายชุดดำโกรธจัด เดินหุนหันออกไป โลลิต้าดูคีย์การ์ด
“ของห้องฉันจริงๆ ด้วย”
ทุกคนจ๋อย ระแวงเว่อร์
แนวหน้าเอ่ยขึ้นเป็นเชิงตำหนิ เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว
“นี่ยังโชคดีที่เป็นแค่การเข้าใจผิดกัน แต่ถ้าผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นคนร้ายที่ตามองค์หญิงอยู่ จะทำยังไง คิดอะไรถึงได้เสด็จลงไปกินข้าวข้างล่าง”
“ชีฟองผิดเองแลหะค่ะที่ตามพระทัยองค์หญิง คุณแนวอย่าว่าองค์หญิงเลย”
“แล้วไหนคุณบอกว่ากลับไปแล้ว เกิดกลับมาอีกได้ยังไงล่ะคะเนี่ย” องค์หญิงแปลกใจ
“ก็กระหม่อมเกิดนึกขึ้นมาได้ว่า ควรจะเอาโทรศัพท์ไว้ให้องค์หญิงทรงใช่สักเครื่อง ก็เลยไปหามาให้น่ะพะย่ะค่ะ เผื่อว่ามีอะไรจะได้โทร.ติดต่อกัน พอดีมาเจอเรื่องยุ่งๆ เข้าพอดี นี่แค่วันแรกก็เจอเรื่องแบบนี้แล้ว ถ้าต้องประทับอยู่หลายวัน กระหม่อมคงไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ”
“ความจริง คุณไม่เห็นต้องมาใส่ใจอะไรหญิงเลย หญิงมีทั้งพี่ชีฟอง ทั้งปิแอร์ พวกเค้าคงดูแลหญิงได้ จริงมั้ยพี่ชีฟอง ปิแอร์”
“ไม่มีทาง ทั้ง 2 คนเนี่ย มีแต่จะตามพระทัยองค์หญิง กระหม่อมว่า การมาประทับอยู่ที่โรงแรมแบบนี้มันดูแลความปลอดภัยได้ยากมาก คนร้ายก็อาจจะสืบหาพระองค์ได้ง่าย” แนวหน้าบอกอย่างจริงจัง
“แล้วคุณแนวหน้าคิดว่าเราควรจะทำยังไงล่ะคะ” ชีฟองถาม
“คืนนี้อาจจะอยู่ที่นี่กันไปก่อน แต่พรุ่งนี้ผมจะหาทางขยับขยาย ให้องค์หญิงไปประทับในที่ที่ผมจะดูแลได้ง่ายกว่า”
“แล้วทำไมคุณถึงต้องดูแลหญิงด้วยล่ะ” องค์หญิงย้อน
แนวหน้าอึกอัก “เพราะ... เพราะ...เพราะพระองค์เป็นนายจ้างของกระหม่อมไงพะย่ะค่ะ ถ้าขืนนายจ้างเป็นอะไรไป ใครจะจ่ายค่าจ้างกระหม่อมล่ะ จริงมั้ย กระหม่อมทูลลาพะย่ะค่ะ”
พูดเท่านั้นแนวหน้าก็วิ่งหนีออกไปทันที
แนวหน้าเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้อง แล้วหยุดยืนหอบหายใจ
“จริงสิ ทำไมผมถึงต้องออกหน้าดูแลองค์หญิงโลลิต้าอย่างเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ด้วย ก็ไหนผมคิดว่าจะตัดใจจากพระองค์แล้วยังไง เฮ้อ.. นี่มันเป็นโชคหรือเป็นกรรมของผมกันแน่ ที่องค์หญิงจะต้องหนีมาอยู่ที่เมืองไทย แล้วผมจะทำยังไงกับหัวใจของผมดีนะคราวนี้”
แนวหน้าครุ่นคิด ว้าวุ่นอยู่ในใจ
อ่านต่อหน้า 3
น่ารัก ตอนที่ 15 (ต่อ)
ค่ำคืนนั้น ขณะที่แนวหน้ากำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็ก นายยืนโวยวายอยู่ใกล้ๆ
“แกจะพาองค์หญิงไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง มันต่างจังหวัดเลยนะเว้ย แถมยังเก่าอีก”
“แต่ผมคิดแล้วเฮียว่าที่นั่นปลอดภัยที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าเรามีบ้านอยู่ที่นั่น และที่สำคัญที่นั่นไม่มีใครรู้จักองค์หญิง หรือประเทศ ฮวาซาแน่นอน”
“มันก็จริง แล้วเรื่องซ่อมฮาร์ดดิสก์ล่ะ”
“ผมโทร.คุยกับพี่ไก่อยู่เฮีย ถ้าถ้าพี่ไก่กลับมาเมื่อไหร่ ผมจะรีบกลับมาทันที”
“เอ้อ! ก็ตามใจ แกเปิดมือถือไว้แล้วกัน มีอะไรชั้นโทร.หา”
“แต่เรื่องที่ผมพาองค์หญิงไปอยู่ที่นั่นห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดนะเฮีย โดยเฉพาะไผท”
“ทำไมวะ”
“ไอ้หมอนั่นมันเก็บความลับไม่อยู่หรอกเฮีย ถ้ามันรู้ องค์หญิงคงจะไม่ปลอดภัยแน่ๆ”
ทางด้านไผทเปิดแฟนมีตติ้งเล็กๆ กับเหล่าแฟนคลับในร้านอาหารบรรยากาศดี ตามการจัดแจงของเจ๊ฟิน เวลานี้เขากำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีเล็กๆ บรรดาแฟนคลับที่อยู่ในร้านกรี๊ดกร๊าดกันลั่น ทุกคนชื่นชมไผทมากมายดังเก่า
“ขอบคุณนะครับทุกคนที่ยังไม่ลืมกัน ผมกลับมาแล้ว สัญญาว่าคราวนี้จะไม่ไปไหนอีก” ไผทยิ้มหวาน “ถ้าแฟนคลับทุกๆ คนไม่อยากให้ไป”
แฟนคลับกรี๊ดปลื้มฝุดๆ เจ๊ฟินปลาบปลื้มสุดๆ กับการกลับมาของไผท
ชีฟองกำลังปูที่นอน ข้างๆ เตียง โลลิต้าที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาในห้องรีบเดินไปที่โน้ตบุ๊ค แล้วเปิดเน็ตทันที
“องค์หญิง ทรงทำอะไรเพคะ”
“หญิงจะบอกคุณไผทว่าเราอาจจะต้องย้ายโรงแรมพรุ่งนี้”
“เอาไว้ก่อนเถอะเพคะ วันนี้ทรงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
“แต่ว่า…”
“เชื่อพี่ชีฟองเถอะเพคะ พรุ่งนี้คุณไผทก็คงจะแวะมาหา แล้วเราค่อยบอกเค้าก็ได้ บรรทมเถอะเพคะองค์หญิง พี่ชีฟองขอร้อง”
โลลิต้าจำใจปิดโน้ตบุ๊ค แล้วลงนอน
ฝ่ายจีจี้นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง และฝันไป ในฝันเป็นเหตุการณ์ตอนคนร้ายบุกเข้ามาในห้อง เอาปืนจ่อนาย และฝันถึงเหตุการณ์ร้ายที่เห็นรถตู้พุ่งเข้ามาใส่ต้นไม้ตอนนั่งรถตู้ไปถ่ายสารคดี จีจี้ผวาทั้งตัว ร้องกรี๊ด นายผวาลุกขึ้นนั่งข้างๆแล้วกอดไว้
“จี้ ไม่เป็นไรนะจี้ ผมอยู่นี่แล้ว อย่าตกใจ”
จีจี้ผวาเข้ากอด “นาย คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย จี้กลัว จี้กลัวจังเลย”
“ผมไม่เป็นไรจ้ะ คุณก็ไม่เป็นไร เราปลอดภัยดี อยู่ที่บ้านของเรา”
จีจี้ได้สติ มองรอบตัว แล้วค่อยๆสงบลง “จี้ฝันไปใช่มั้ย”
นายกอดกระชับปลอบ “เลิกฝันร้ายได้แล้วจีจี้ ผมอยู่ตรงนี้ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอันตรายคุณได้อีกแล้ว คุณวางใจเถอะ”
จีจี้พยักหน้าแล้วกอดนายอย่างมีความสุข
เช้าวันใหม่ที่วังฮวาซาเหนือ ชองปอลกำลังโวยทหารอยู่
“จนป่านนี้ฮวาซาใต้ยังไม่ติดต่อขอลี้ภัยของน้องหญิงมาอีกเหรอ”
“ยังเลยพะย่ะค่ะ” “จะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ พวกเจ้าไปเตรียมรถ เราจะไปฮวาซาใต้เดี๋ยวนี้”
บ้านหลังเก่า สมัยแนวหน้ายังเป็นเด็กๆ เป็นบ้านหลังน่ารักอยู่ติดริมทะเล ทั้งเงียบสงบ และสวยงามในแวดล้อมของธรรมชาติอันร่มรื่น รถของแนวหน้าขับเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังนี้
แนวหน้าลงจากที่นั่งข้างคนขับไปเปิดประตูด้านหลังให้โลลิต้า ปิแอร์ลงไปเปิดให้ชีฟอง
“เชิญเสด็จพะย่ะค่ะองค์หญิง”
โลลิต้า และชีฟอง เดินลงไปดูที่หน้าชายหาด แล้วหันมามองที่ตัวบ้าน
“ที่นี่เหรอคะบ้านที่คุณแนวหน้ากับคุณนายนายเคยอยู่กับพ่อแม่ตอนเด็กๆ” ชีฟองถาม
“ใช่ครับ”
“สวยจังเลยค่ะคุณแนวหน้า พวกเราเป็นคนภูเขา เวลาเห็นทะเลสวยๆ แล้ว ตื่นเต้นทุกทีเลยค่ะ”
โลลิต้าหันมาส่งยิ้มอย่างจริงใจให้กับแนวหน้า แนวหน้าอึ้งรู้สึกวูบหวิวอย่างบอกไม่ถูก
แนวหน้ามองตามโลลิต้าที่เดินเล่นพลางชี้ชวนให้ชีฟองดูรอบๆ อย่างตื่นเต้น บอกตัวเองในใจ
“นี่ผมคิดถูกรึเปล่าที่พาองค์หญิงมาอยู่ด้วยกันที่นี่ ถ้าขืนทรงยิ้มให้ผมแบบเมื่อกี้บ่อยๆ แล้วละก็ ผมอาจจะหัวใจวายตายในเร็วๆ นี้แน่ๆ”
องค์หญิงโลลิต้าเดินสำรวจดูชั้นหนังสือในบ้าน เห็นมีวรรณกรรมเด็กมากมาย มีถ้วยรางวัล สารคดียอดเยี่ยมต่างๆ มีรูปเก่า และรูปหมาใส่กรอบวางอยู่ ส่วนที่ฝาผนัง มีป้ายประกาศ และรูปภาพแปะอยู่ทั่วผนังบ้าน เป็นภาพที่แนวหน้าทำกิจกรรมสมัยเด็กๆ ไล่มาจนถึงวัยรุ่น หลายชิ้นเป็นงานที่ถ่ายทำหลายๆ ที่ทั่วโลก โลลิต้ามองแล้วรู้สึกทึ่งๆ ในตัวแนวหน้าเหมือนกัน
โลลิต้าดูหนังสือแล้วไปสะดุดตาที่เล่มหนึ่ง หยิบ Missing piece meet the big O ออกมาจากชั้นหนังสือเปิดดูอย่างตื่นเต้น แนวหน้าเดินลงมาจากชั้นบนพอดี
“องค์หญิงอยากอ่านเล่มไหนเชิญหยิบได้ตามสบายเลยนะพะย่ะค่ะ”
“หนังสือทั้งหมดนี่ของใครเหรอคะ”
“มีทั้งของพ่อกับแม่ แล้วก็พี่นาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของกระหม่อมพะย่ะค่ะ ตอนเด็กๆกระหม่อมบ้าอ่านหนังสือจนโดนแม่บ่นว่าไม่มีที่เก็บ พ่อก็เลยต้องต่อชั้นหนังสืออันนี้ให้กระหม่อม”
โลลิต้ายิ้มขำ หันไปมองที่พวกรางวัลต่างๆแล้วไปหยุดที่รูปหมาที่อยู่ในกรอบรูป
“แล้วเจ้าตัวนี้ก็ของคุณด้วยหรือเปล่าคะ”
แนวหน้าอึ้งไป “เอ่อ ใช่พะย่ะค่ะ...กระหม่อมไปเจอมันหลงกับแม่อยู่ก็เลยขอพ่อแม่เลี้ยง กระหม่อมติดมันมากถึงขนาดกินนอนด้วยกัน ยังจำได้เลยว่าตอนมันตาย กระหม่อมร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์”
“คุณคงรักหมาตัวนี้มาก... มันชื่ออะไรเหรอคะ”
แนวหน้าพยามยามนึกหาชื่อ “เอ่อ ชื่อ... ขอโทษพะย่ะค่ะ มันนานมากแล้ว”
โลลิต้าฉงน “มีด้วยเหรอคะ คนที่จำชื่อหมาที่ตัวเองรักไม่ได้”
แนวหน้าหันไปเห็นสันหนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อ ริชาร์ด เป็นคนเขียน
“ริชาร์ด...มันชื่อริชาร์ด พะย่ะค่ะ”
“ริชาร์ด ชื่อเพราะดีนะคะ”
โลลิต้าไม่ได้ติดใจอะไรอีก หันไปดูหนังสือต่อ แนวหน้าแอบโล่งอก ที่แถไปได้สำเร็จ
อ่านต่อหน้า 4
น่ารัก ตอนที่ 15 (ต่อ)
อีกฟากหนึ่ง ท่านธูล และราอูล กำลังต้อนรับชองปอล อยู่ในห้องทรงงานในวังฮวาซาใต้ ชองปอลตกใจเมื่อได้ฟังว่าโลลิต้าล้มป่วย
“น้องหญิงป่วยหนักเลยหรือท่านอา”
“หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ลูกหญิงก็กลัวมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ร่างกายซูบผอม” ท่านธูลว่า
“ตายจริง พระอาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอท่านอา ขอชองปอลขึ้นไปเยี่ยมน้องหญิงได้ไหมพะย่ะค่ะ”
“อย่าเลย...อาอยากให้ลูกหญิงได้พักผ่อนได้เต็มที อาว่าชองปอลกลับไปก่อนดีกว่า...ถ้าลูกหญิงดีขึ้นเมื่อไหร่ อาจะให้คนติดต่อไป”
ชองปอลพูดอะไรไม่ออก รู้สึกผิดที่ทำให้โลลิต้าป่วย ท่านธูลแอบสังเกตสีหน้าชองปอล แล้วหันไปสบตากับราอูลอย่างรู้กัน
ชองปอลเดินออกจากห้องมา ท่าทางกังวลใจไม่คลาย
“แล้วชองปอลจะติดต่อกลับมาอีกเร็วๆ นี้ ฝากเยี่ยมน้องหญิงด้วยนะพะย่ะค่ะ”
ชองปอลคำนับธูลแล้วจากไป ธูลถอนใจยาวโล่งอก
“เราจะหลอกท่านชองปอลไปได้อีกนานเท่าไหร่พะย่ะค่ะ”
“จนกว่าลูกหญิงจะทำภารกิจสำเร็จ...แล้วทางนั้นคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ปิแอร์ส่งข่าวมาบ้างรึเปล่า”
“ยังทำอะไรไม่ได้เพราะต้องรอช่างซ่อมฮาร์ดดิสก์พะย่ะค่ะ”
ท่านธูลถอนใจอย่างเป็นกังวล เพราะไม่รู้ว่าสุดท้ายฮาร์ดดิสก์จะซ่อมได้ไหม
ไผทอยู่ที่คอนโด กดโทรศัพท์ รอสาย “ครับ ช่วยต่อห้อง 2801 ครับ”
ประตูห้องเปิดออก ฟินเดินปร๋อเข้ามา ไผทเงยหน้ามอง
“โทรหาใครแต่เช้า” ฟินหยิบโทรศัพท์ออกจากมือไผท “นี่ไผทรีบกินอาหารเช้าด่วนเลย วันนี้เราจะออกแต่เช้า”
“ไหนบอกว่างานเริ่มเที่ยงไง”
“พี่กำลังจะล้างภาพลักษณ์เก่าของไผท เราต้องไปก่อนเวลาให้ทุกคนเอ็นดู ไผทต้องเป็นคนใหม่ ทำตัวใหม่ แล้วเราจะกลับมาได้อย่างสง่างาม เชื่อพี่ เร็วเข้า”
ไผทถอนใจยาว ชีวิตกลับสู่วังวนซุปตาร์ที่เจ๊ฟินขีดให้อย่างเก่า
โลลิต้ากับชีฟองร่าเริงเล่นคลื่นในทะเล มีปิแอร์เดินตามดูแลห่างๆ แต่ก็ตื่นเต้น เห่อทะเลไม่แพ้กัน
“โดดเพคะ โดด ลูกนี้ใหญ่เพคะ โดดสูงๆ” ชีฟองว่า
“คุณแนวเค้าคงขำนะ ที่เห็นคนดอยอย่างพวกเราเห่อทะเลกันขนาดนี้”
“แหม ทีตอนพวกเค้าเห่อภูเขา เห่ออากาศหนาว พวกเรายังไม่หัวเราะเยาะเค้าเลยนะเพคะ”
เสียงท้องโลลิต้าร้องจ๊อก ชีฟองตกใจ “ตายจริง ทรงหิวแล้วเหรอเพคะ”
โลลิต้าพยักหน้าอายๆ
“จริงสินะเพคะ เมื่อเช้าเราก็รีบออกมากับคุณแนวหน้า องค์หญิงเสวยแค่แซนด์วิชกับกาแฟ ถ้างั้นเรากลับเข้าบ้านกันเถอะเพคะ หาอะไรรองท้องก่อน เดี๋ยวค่อยออกมาเล่นทะเลใหม่นะเพคะ”
ทุกคนเดินเข้าบ้านกัน
แนวหน้ากำลังยืนล้างจานอยู่ที่ครัว ชีฟองเดินเข้ามาหา
“คุณแนวหน้าคะ มีอาหารสดติดบ้านบ้างมั้ยคะเนี่ย องค์หญิงทรงหิวแล้ว”
ชีฟองเดินไปเปิดตู้เย็น ทุกอย่างว่างเปล่า มีแต่น้ำ 2 ขวด แนวหน้ายิ้มแหยๆ
“ผมลืมซื้อของมานะครับ ขอโทษที”
“ไม่เป็นไร ชีฟองออกไปซื้อก็ได้ แถวนี้มีตลาดมั้ยคะ”
“มีครับ...เดี๋ยวผมล้างจานเสร็จแล้วพาไปดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ รบกวนคุณแนวหน้าเปล่าๆ ชีฟองไปกับปิแอร์ก็ได้”
“แต่คุณ 2 คนจะไม่รู้จักทางน่ะสิ”
“ถ้ามันไม่ยากนัก ก็น่าจะพอหาได้ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าคุณแนวหน้าออกไป ใครจะดูแลองค์หญิงล่ะคะ”
ปิแอร์เดินเข้ามา
“อย่าห่วงเลยครับคุณชีฟอง เมื่อกี้ตอนเข้ามา ผมจำทางได้หมดแล้วครับ อย่าลืมสิครับว่าผมมาเมืองไทยก่อนคุณชีฟอง ตอนนี้แผนที่ทั้งหมดอยู่ในหัวผมหมดแล้วครับ”
“งั้นฝากดูแลองค์หญิงด้วยนะคะคุณแนวหน้า ชีฟองจะรีบไปรีบกลับ”
ชีฟองออกไปกับปิแอร์
ภายในห้องแต่งตัวนักแสดง ของงานอีเว้นท์ ไผทอยู่คนเดียว กำลังกดโทรศัพท์
“ฮัลโหล ช่วยต่อห้อง 2801 ด้วยครับ หา...ว่าไงนะครับ ห้อง 2801 ย้ายออกไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วย้ายไปได้ยังไง ย้ายไปที่ไหน”
ประตูห้องเปิดออก ฟินเดินนำเข้ามา พร้อมลูกค้าตามมา 3 คน ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส
“ไผทจ๋า”
ไผทไม่สนใจคุยสายต่อ “ทำไมคุณถึงไม่รู้ล่ะครับ เค้าไม่ได้บอกอะไรไว้เลยเหรอ”
ฟินมองท่าทีไม่ใส่ใจของไผทอย่างตกใจ แล้วเดินมาหยิบโทรศัพท์ไปจากมือ ไผทฉุนกึก ตั้งท่าโวย
“ไผทจ๋า...คุณไก่มาทักทายจ้ะ แล้วก็คุณนิด คุณอ้อ ลูกค้าทุกคนเค้าบ่นคิดถึงไผทกันหมดเลย”
“เป็นไงไผท หายหน้าไปนานเลยนะ” คุณไก่ทัก
ไผทรู้สึกตัว ยกมือไหว้ทุกคน
“สวัสดีครับ คุณไก่ คุณนิด คุณอ้อ สบายดีนะครับ”
คุณอ้อทักตอบ “พวกพี่น่ะสบายดีจ้ะ ไผทล่ะสบายดีมั้ย เงียบหายไปเหมือนไม่เคยรู้จักกันเลยนะจ๊ะ”
ไผทยิ้ม “ทำไมคุณอ้อพูดอย่างนั้นล่ะครับ ผมน่ะคิดถึงพี่ๆทุกคนตลอดเวลาเลยนะครับ”
“ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะไผท” คุณไก่บอกกับฟิน “ไม่มีใครแทนที่เค้าได้จริงๆ นะคุณฟิน”
“ฟินก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ”
ทุกๆ คนหัวเราะชอบใจกัน ไผทฝืนยิ้มชื่นบาน
ฝ่ายแนวหน้านั่งทำงานง่วนอยู่ที่โต๊ะทำงาน เปิดดูเอกสารกับบทสารคดี และโทร.คุยกับไก่ไปด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“โธ่ พี่ไก่ ถ้าไม่สำคัญผมไม่โทรมากวนพี่ขนาดนี้หรอก ผมมีข้อเสนอมาให้พี่ ผมอยากให้พี่กลับมาเร็วที่สุดเท่าที่จะหาตั๋วได้ แล้วพอซ่อมฮาร์ดดิสก์ให้ผมเสร็จแล้ว ผมยินดีที่จะซื้อตั๋วไปฮ่องกงให้พี่กับเมียพร้อมกับพ็อคเก็ตมันนี่ให้พี่ไปที่นั่นอีกรอบเลย พูดจริงสิพี่ เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนี้จะพูดเล่นได้ยังไง พี่ไปปรึกษาเมียพี่ก่อนเลย แล้วโทรกลับมาหาผมด้วยนะครับ ผมรออยู่นะ สวัสดีครับ”
แนวหน้าวางสาย หันไปเห็นโลลิต้านั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ริมระเบียงนอกบ้าน โลลิต้ารู้สึกว่ามีคนมองอยู่ก็หันไปมอง แล้วยิ้มให้ แนวหน้ารีบหลบตาเฉไฉทำเป็นทำงานต่อทันที พอโลลิต้าหันไปอ่านหนังสือต่อ แนวหน้าก็แอบมองต่อ พลางหยิบไดอารี่ขึ้นมาเขียนบันทึก
“ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายถึงใฝ่ฝันอยากจะมีผู้หญิงที่ตัวเองรักมานั่งอยู่ใกล้ๆในบ้านหลังเดียวกัน... ถ้านี่คือความฝัน ผมก็ไม่อยากตื่นเลย”
เสียงโลลิต้าดังขึ้น “ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ”
แนวหน้าชะงักรีบเอาเอกสารเลื่อนมาปิดไดอารี่อย่างลนลาน แล้วจึงหันไปหาโลลิต้าเดินมาใกล้มาก
“มีอะไรเหรอพะย่ะค่ะ”
“คือชั้น....” ได้ยินเสียงท้องร้องแบบไม่ไว้หน้าโลลิต้า
แนวหน้าตกใจ โลลิต้ายิ้มเขินๆ
“ชั้นจะมาบอกว่า ชั้นหิวมากๆ มีอะไรที่พอกินได้ ติดบ้านอยู่บ้างมั้ยคะ”
โลลิต้ายิ้มเขินๆ แนวหน้ามองเข้าใจ
แนวหน้ากำลังเปิดตู้เย็นในครัว ดูกับข้าวว่ามีอะไรกินมั้ย ในตู้มีแต่เครื่องปรุง โลลิต้ายืนมองอยู่ข้างๆ แนวหน้าพยายามรื้อดู
“เจอแล้ว!”
แนวหน้าหยิบกล่องแป้งแพนเค้กออกมา
“แป้งทำแพนเค้ก...เอ่อ แต่กระหม่อมทำไม่เป็นพะย่ะค่ะ” โลลิต้ายิ้ม หยิบกล่องมาจากมือแนวหน้า “แต่หญิงทำเป็นค่ะ”
ไม่นานต่อมาโลลิต้าเทแป้งทำแพนเค้กใส่ที่ร่อนแล้วยื่นชามอ่างให้แนวหน้า
“อ่ะ ร่อนแป้งซะ”
“ทำไมต้องร่อนแป้งด้วยละพะย่ะค่ะ ตรงข้างกล่องมันบอกว่าผสมนมกับไข่ก็ทอดได้เลย” แนวหน้าแย้ง
“ถ้าไม่ร่อนมันก็ติดกันเป็นก้อนสิ แค่นี้ก็ไม่รู้ แย่จังเลย”
องค์หญิงโลลิต้าเทแป้งใส่ที่ร่อนให้ แนวหน้าทำการร่อนแป้งแบบคนทำไม่เป็น แป้งฟุ้งกระจาย
องค์หญิงเอ็ด “เบาๆ สิ เปื้อนหมดแล้ว...การทำของหวานที่ดี มันต้องใส่ความอ่อนหวานของคนทำลงไปด้วย เข้าใจไหม”
“ไม่ใช่ใส่น้ำตาลเหรอพะย่ะค่ะ” แนวหน้าองดเก่ง ท้วงอีก
โลลิต้ามองแนวหน้าเซ็งๆ “ร่อนไป อย่าพูดมาก”
เวลาผ่านไปสักระยะ โลลิต้าตักเนยลงไปละลายในกระทะ เอาช้อนหยอดแป้งแพนเค้กที่ผสมเสร็จแล้วลงกระทะ แนวหน้ายืนดูอยู่ข้างๆ ครู่หนึ่งแป้งสุกแล้ว โลลิต้ากลับข้างแพนเค้กอย่างชำนาญ แนวหน้ามองอย่างทึ่งๆ
แพนเค้กที่ทอดเสร็จแล้วถูกเรียงอยู่ในจาน แลดูน่ารับประทานมากๆ
“อื้อหือ... หอมมากเลยนะพะย่ะค่ะ องค์หญิงทรงเก่งจริงๆ”
“ไม่ได้เก่งอะไรหรอก แค่ของง่ายๆ หญิงเคยทำมาบ้าง 2-3 ครั้ง”
“กับข้าวบางอย่าง กระหม่อมกินมาตลอดชีวิต ยังทำไม่เป็นเลยนะพะย่ะค่ะ”
“รีบทานดีกว่าเดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะ”
“ต้องอร่อยสิพะย่ะค่ะ ทรงทำเองกับพระหัตถ์ทั้งที ไม่อร่อยก็แย่แล้ว” โลลิต้ามองหน้าแนวหน้าเขินๆ แล้วยกจานแพนเค้กออกไป
แนวหน้านึกโมโหตัวเองว่าพูดอะไรออกไป
แนวหน้ากับองค์หญิงโลลิต้ากำลังกินแพนเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย จนเหลือชิ้นสุดท้าย ทั้งคู่ต่างเอาส้อมจิ้มพร้อมกัน สองคนมองหน้ากันชะงัก
“เชิญพะย่ะค่ะ” แนวหน้าว่า
“คุณเอาไปสิ เห็นทานไปนิดเดียวเอง”
“องค์หญิงบ่นหิว องค์หญิงเสวยเถอะพะย่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวทำใหม่ก็ได้”
“ทำยังไงล่ะพะย่ะค่ะ แป้งหมดแล้ว”
“ก็เดี๋ยวโทรไปบอกพี่ชีฟองให้ซื้อกลับมาให้ก็ได้” โลลิต้าชะงัก “จริงสิ” สองคน นึกขึ้นได้พร้อมกัน “คุณชีฟอง” / “พี่ชีฟอง”
สองคนอยู่ริมถนนย่านในเมือง ชีฟองกับปิแอร์หิ้วถุงใส่ของจากซุปเปอร์มาร์เกต ยืนงงกันอยู่ที่ริมถนน ชีฟองหน้ายุ่ง โวยลั่น
“ตกลงไปทางไหนกันแน่ พาชั้นเดินวนไปวนมาหลายรอบแล้วนะ”
ปิแอร์มองพิจารณาสี่แยกอยู่ “จากทิศทางลม...ผมว่าลมทะเลพัดมาจากทางนั้น” ทหารคนซื่อชี้ไปทางหนึ่ง
“แน่ใจนะว่าทางนั้น แต่ชั้นว่าเรามาจากทางนี้นะ” ชีฟองชี้ไปอีกทางหนึ่ง “เชื่อผมเถอะครับ ผมเป็นทหารที่ได้รับความไว้ใจสูงสุดจากท่านนายพลราอูล แผนที่ทั้งหมดอยู่ในหัวผมแล้ว”
ที่ด้านหลังเวทีงานอีเว้นท์งานหนึ่ง เห็นทีมงานเดินขวักไขว่ไปมา บรรยากาศแลดูวุ่นวาย ทีมงานกำลังบรีฟงานไผทอยู่ ไผทมีท่าทีร้อนรนกระวนกระวายแปลกๆ
“แสตนด์บายนะครับไผท อีก 5 นาทีขึ้นเวทีนะครับ” ไผทพยักหน้า “ครับ”
ทีมงานกำลังจะเดินออกไป เสียงฟินแหลมเข้ามา
“เดี๋ยว! ร้องเพลงเดียวใช่มั้ยน้อง ไม่เกินบ่าย 2 นะคะ น้องไผทมีอัดรายการต่อที่สตูฯแถวลาดพร้าว”
ไผทหันขวับไปหาฟินทันที “ห๊า”
“เพลงเดียว ไม่เกิน 15 นาทีแน่นอนครับ” ทีมงานเดินออกไป
“ไหนพี่บอกว่ามีแต่อีเว้นท์นี้ไงพี่ฟิน ไหงมีถ่ายรายการด้วยล่ะ” ไผทบ่น
“ขอโทษทีพี่ลืมบอกไป พี่เห็นว่าเย็นนี้ไผทว่างอยู่ก็เลยให้คิวเค้าไป รายการพี่แก้วเลยนะ ไม่ไปไม่ได้นะไผท”
ไผทถอนใจเซ็งสุดขีด แล้วลุกออกไปทันที
“อ้าว ไผทจะไปไหน”
“ไปฉี่ครับ” ” อั้นไว้ก่อนได้มั้ย เค้าให้แสตนด์บายแล้วนะ ไผท”
“ไม่ได้หรอกครับ ถ้าพี่ฟินไม่อยากเห็นผมฉี่ราด”
ไผทเดินหนีออกไปเลยโดยไม่ฟังฟิน
พอเปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำได้ ไผทก็ถอนใจเฮือกใหญ่ เซ็งสุดขีด แล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาแนวหน้าทันที
แนวหน้าอยู่ที่บ้านกำลังคุยสายอยู่กับชีฟอง
“ห๊ะ หลงทางเหรอครับ” ระหว่างนี้มีสายเข้า “แป๊ปนึงนะครับคุณชีฟอง” แนวหน้าดูเบอร์ซ้อนเป็นไผทโทร.เข้ามา เลยไม่สนใจ
“ต่อเลยครับ แล้วนี่คุณชีฟองอยู่ตรงไหนครับ”
ส่วนไผทรอสายอยู่ จนแล้วจนรอดแนวหน้าไม่รับก็เซ็ง ไม่รู้จะทำยังไงเลยกดโทร.หาขิง
เวลานั้นขิงอยู่ที่ร้านขิงเสื้อ และกำลังช่วยเลือกเสื้อให้ลูกค้า
“ชุดนี้ก็ดีนะคะ สีสันสดใส เข้ากับคุณเปี๊ยบเลย”
โทรศัพท์ขิงที่วางบนโต๊ะดังขึ้น ขิงชะงัก
“รับสายก่อนก็ได้นะคะ” ลูกค้าว่า ขิงหันไปมองโทรศัพท์ที่วางอยู่เห็นว่าไผทโทร.เข้ามา ขิงรีบหันไปบอกลูกค้า “สักครู่นะคะ”
ขิงเดินเลี่ยงไปแล้วกดรับสาย “ฮัลโหลว่าไงไผท”
“ขิง....ขิงยุ่งอยู่มั้ย คุยได้หรือเปล่า”
“กำลังช่วยลูกค้าเลือกแบบเสื้อน่ะ มีอะไรเหรอ”
“พี่ฟินเอาอีกแล้ว กลับมาถึงก็รับงานให้ผมไม่หยุดเลย แล้วนี่ขิงรู้รึเปล่า ว่าองค์หญิงย้ายโรงแรมไปแล้ว”
ขิงชะงัก “หา จริงเหรอ แล้วไปอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าพี่แนวรู้เรื่องรึเปล่า โทร.ไปก็ไม่รับสาย”
“พี่แนวเค้าคงยุ่งอยู่ล่ะมั้ง เรื่องหาที่ซ่อมฮาร์ดดิสก์นั่นน่ะ”
ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้น ตามด้วยเสียงเรียกของเจ๊ฟิน
“ไผท! คิวไผท แล้วเร็ว”
“แค่นี้ก่อนนะขิง ผมทำงานก่อน ยังไงขิงลองถามให้หน่อยนะ ว่าพี่แนวรู้เรื่ององค์หญิงรึเปล่า นะขิงนะ” ไผทวางสาย
ขิงอยู่ที่ร้าน อึ้งๆ ที่ไผทคิดถึงแต่โลลิต้า
แนวหน้ายังคุยมือถือกับชีฟองอยู่
“งั้นคุณชีฟองไปรอที่สี่แยกแล้วกันครับ เดี๋ยวผมออกไปรับ” แนวหน้าวางสายหันไปบอกกับโลลิต้าที่นั่งฟังอยู่ใกล้ๆ “เดี๋ยวกระหม่อมจะออกไปรับคุณชีฟองก่อนพะย่ะค่ะ”
“หญิงไปด้วย
แนวหน้าชะงัก “จะดีเหรอพะย่ะค่ะ”
“ก็คงจะดีกว่าปล่อยให้หญิงรออยู่ที่นี่คนเดียว ไม่ใช่เหรอคะ”
ชีฟองนั่งหมดแรงอยู่ข้างทางใกล้สี่แยก ปิแอร์นั่งจ๋อยอยู่ข้างๆ
“รอให้ชั้นพอจะมีแรงก่อนนะปิแอร์ ชั้นจะฉีกเนื้อนายด้วยมือเปล่าให้เป็นชิ้นๆเลย”
“แต่ผมจำได้นะครับคุณชีฟอง ว่าเลี้ยวขวาข้างหน้าแล้วจะถึงเลย”
ชีฟองขึ้นเสียง “ถึงเลยกับผีอะไร เราเดินผ่านแยกนั้นมา 20 รอบ ไหนว่าแผนที่ทั้งหมดอยู่ในสมอง มันน่าฆ่าทิ้ง ตัดหัวเล่นซะนัก”
ปิแอร์สยอง เอามือกุมหัวไว้
รถของแนวหน้าขับเข้ามาอีกด้านหนึ่ง โลลิต้าใส่หมวก ใส่แว่นดำนั่งข้างๆ ทั้งคู่มองหาชีฟองกับปิแอร์
“นั่นไงคะ อยู่ที่นั่น”
แนวหน้าจอดรถ แล้วรีบลงมา ร้องเรียก
“คุณชีฟอง คุณปิแอร์ ทางนี้ครับ”
ชีฟองหันไปมองดีใจมาก แต่ปิแอร์ดีใจกว่า วิ่งถลาไปหาแนวหน้าทันที
“คุณแนวหน้า ช่วยผมด้วยครับ”
ชีฟองและปิแอร์ขึ้นมานั่งที่ด้านหลัง โลลิต้านั่งอยู่ข้างหน้าคู่แนวหน้า
ชีฟองเปิดฉากด่าปิแอร์ “แล้วบอกว่าแผนที่อยู่ในหัวหมดแล้ว!! พาชั้นเดินวนจนคนแถวนั้นหาว่าจะมาขโมยของ แกนะแก!”
“เอาน่าพี่ชีฟอง ปิแอร์เค้าคงจำไม่ได้จริงๆ ถ้าเป็นหญิงก็คงหลงเหมือนกัน ตึกรามบ้านช่องเหมือนกันไปหมด ไม่มีอะไรให้สังเกตสักอย่าง”
“ดีนะคะที่คุณแนวหน้าให้มือถือไว้ ไม่งั้นพี่ฟองต้องนอนริมถนนแน่”
แนวหน้ากับโลลิต้าฟังแล้วขำ
มือถือแนวหน้าดังขึ้น เขาเอาออกมาดูพบว่าไก่ช่างคอมพ์โทร.มา จึงรีบกดรับสาย
“ฮัลโหลครับพี่ไก่...พี่ตัดสินใจแล้วเหรอครับ” แนวหน้าออกอาการดีใจมาก “พี่จะถึงกรุงเทพฯเย็นนี้ โอเค ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราเจอกันที่บ้านพี่ตอนทุ่มนึง”
แนวหน้าวางสายหันมาบอกองค์หญิง “ช่างซ่อมฮาร์ดดิสก์กำลังกลับมาแล้วพะย่ะค่ะ”
โลลิต้าดีใจ ยิ้มให้กับแนวหน้าอย่างมีความหวัง
อ่านต่อตอนที่ 16