น่ารัก ตอนที่ 6
ตอนสายวันต่อมา เครื่องบินโดยสารร่อนลงแตะรันเวย์สนามบินฮวาซาเหนือ ผู้โดยสารคนอื่นๆ ทยอยเดินออกจากประตูเครื่อง ไม่นานนัก ตรงบริเวณทางเดินในอาคารผู้โดยสารขาเข้า เห็นแนวหน้าแบกกระเป๋าเป้บนหลัง มือหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางใบยักษ์ออกมาอย่างทุลักทุเล แท้จริงแล้วคือกระเป๋าเดินทางของไผท
ไผทใส่แว่นดำและหมวกแก๊ปหรุบลงปิดครึ่งหน้าพรางตัวตามเคย ลากกระเป๋าเดินทางใบยักษ์อีกใบตามออกมา บนหลังของไผทยังแบกกระเป๋าเป้อีกใบ
แนวหน้ามองที่กระเป๋าเดินทางใบยักษ์ที่ตนเองช่วยไผทลากอย่างเซ็งๆ
“ถามจริงเหอะ ของเยอะขนาดนี้ แกจะมาถ่ายสารคดีหรือจะมาตั้งถิ่นฐานที่ฮวาซา”
“ผมเป็นดารานะพี่ ก็ต้องมีอุปกรณ์เสริมหล่อเยอะหน่อยสิ แล้วอีกอย่างเสื้อผ้าพี่ก็ไม่เตรียมให้ ผมก็ต้องเตรียมมาเผื่อด้วยสิ” ไผทบอกโดยซื่อ
แนวหน้าเซ็งเป็ด “แล้วไอ้หมวกกับแว่นตานี่จะใส่ทำไมอีก ออกจากกรุงเทพฯ แล้วก็ถอดซะทีเหอะ เห็นทีไรนึกว่าโจรปล้นร้านทอง”
“ไม่ได้หรอกพี่แนว...เผื่อเจอคนไทย ผมไม่อยากเป็นข่าวอีก”
แนวหน้าหมั่นไส้ “ซุปตาร์! งั้นก็รอตรงนี้แล้วกันพ่อ เดี๋ยวชั้นไปหารถเข้าวังก่อน”
ไผทงงมาก “อ้าว ที่วังเค้าไม่ได้ส่งรถมารับเราเหรอพี่”
แนวหน้าอึกอัก แต่ไม่อยากเสียฟอร์ม “ก็...ฉันมัวแต่รีบพาแกหนีพี่ฟินเลยลืมนัดหมายกับเค้าไง ไม่ต้องห่วงน่า...เรื่องแค่นี้ สบาย! เดี๋ยวฉันมา”
แนวหน้าวางกระเป๋าทั้งหมดแล้วเดินตัวปลิวออกไปทันที ไผททำหน้าไม่ค่อยสบายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ขิงที่อยู่ที่ร้านในห้าง กรุงเทพฯ มือถือดัง รีบเอามาดู เพราะกำลังเป็นห่วงไผท พบว่าเป็นไผทโทร.มาก็รีบรับสายทันที
“ฮัลโหลไผท เป็นไง ถึงไหนกันแล้ว”
“มาถึงสนามบินแล้ว แต่เป็นอีกเมืองนึง ชื่อฮวาซาเหนืออะไรเนี่ย” ไผทชักเครียด “ขิงว่าเราคิดถูกแล้วใช่มั้ยที่ตัดสินใจมาถ่ายสารคดีกับพี่แนวที่นี่”
ขิงหน้าเจื่อนไป อยากจะพูดความจริงว่าไผทคิดผิด แต่กลัวซุปตาร์หนุ่มหมดกำลังใจ
“เอ่อ..ก็...” ขิงพยายามพูดให้กำลังใจ “เป็นเรื่องที่ดีนะ ถึงพี่แนวเค้าจะดูขวางโลก...ปากไม่ค่อยดี ขี้เหวี่ยง... แต่ขิงว่าเค้าก็เก่งนะ แล้วไผทก็อยากทำงานกับพี่แนวตั้งแต่สมัยเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ”
ไผทฟังแล้วค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย “อืม...จริงด้วย” สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นขณะบอก “คราวนี้เราจะพิสูจน์ให้พี่แนวเห็นฝีมือ เราจะไม่ทำให้งานล่มเหมือนคราวละครเวทีอีก..พี่แนวจะได้เลิกดูถูกเราเสียที”
ขิงทั้งสงสารและเห็นใจ จึงปลอบใจอีก “อดทนนะไผท...กว่าจะถ่ายทำเสร็จ...เราว่าไผทต้องเจอปัญหาอีกเยอะเลยล่ะ...แต่เราเชื่อนะว่าไผทจะผ่านไปได้”
ไผทซึ้งใจ “ขอบใจมากนะขิง”
ขิงนึกได้ “เอ้อ...แล้วนี่ได้ติดยาแก้แพ้ไปด้วยรึเปล่า?”
ไผทขำ “เอามาอยู่แล้ว ไม่ลืมหรอกน่า”
แนวหน้าเดินกลับมาท่าทางเครียดจัด เห็นไผทยิ้มแย้ม รู้ทันทีว่ากำลังคุยมือถือกับขิงหวานซึ้ง
“ขอบใจนะขิง คุยกับขิงแล้วผมสบายใจขึ้นเยอะเลย ถ้าไม่มีคนดีดีอย่างขิงอยู่ใกล้ๆ ชีวิตผมคงแย่น่าดูเลย”
แนวหน้าหมั่นไส้ คว้ามือถือไผทไปคุย “แค่นี้ก่อนนะขิง ไผทมันต้องรีบไป”
ไผทเซ็งนิดๆ แต่ก็ไม่ถือสาอะไร แนวหน้ากดตัดสายแล้วยื่นมือถือคืนให้ไผท
“ได้รถแล้วเหรอพี่?”
“ถ้าได้รถแล้วฉันจะทำหน้าแบบนี้ไหม...แกนี่พูดอะไรไม่คิด ที่นี่ไม่มีแท็กซี่ ไม่มีอะไรทั้งนั้น มีแต่รถโดยสารก็ต้องรออีกหลายชั่วโมง”
“อ้าว ก็ผมเห็นพี่บอกขิงว่าต้องรีบไป แล้วเราจะเข้าวังกันยังไงล่ะครับ”
“ก็นั่นน่ะสิ”
แนวหน้าคิดเครียด ส่วนไผทมองงง
ไผทลากกระเป๋ามาหน้าสนามบินอย่างเหนื่อยล้า ส่วนแนวหน้ากำลังโบกรถอยู่
“เราจะโบกรถไปวังฮวาซาจริงๆเหรอพี่”
“แกไม่เคยดูหนังฝรั่งเหรอ พวกตัวละครเท่ห์ๆ คูลๆ เค้าก็แบกเป้ โบกรถแบบนี้ทั้งนั้นแหละ”
“แต่ตอนจบ...ตัวละครพวกนั้นถ้าไม่โดนคนขับรถฆ่าตายก็โดนปล้นกลางทางทุกทีเลยนะพี่”
“เงียบน่า มาด้วยกันก็ช่วยเชื่อกันหน่อยเถอะ”
ไผทพยักหน้าเป็นเชิงว่าเห็นไหมล่ะ? แนวหน้าเซ็งหนักกว่าเก่า
ทันใดนั้นเองมือถือแนวหน้าดังขึ้น แนวหน้าเอาขึ้นมาดูพบว่าจีจี้โทร.เข้ามาก็ตกใจ เหวอไป
“อีเจ๊โรคจิต....โทร.มาทำไมวะเนี่ย” ว่าแล้วก็ตะโกนใส่โทรศัพท์ “ไม่รับหรอกเว้ย”
แนวหน้ากดตัดสายทิ้งทันที
เสียงแปดหลอดของจีจี้ดังขึ้นมาจากทางใดทางหนึ่ง “นายตัดสายฉันทำไมนายแนวหน้า”
แนวหน้ากับไผทตกใจหันขวับไป เห็นจีจี้ถือมือถือมองแนวหน้าอย่างแค้นสุดขีด โดยมีฟินยืนหน้าตึงเปรี๊ยะอยู่ข้างๆ
“คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!”
แนวหน้ากับไผทช็อกสุดขีด
ขณะเดียวกัน ที่ห้องโถงในวังฮวาซาใต้ โลลิต้าสอบถามเอากับชีฟองอย่างตื่นเต้น
“พวกเราเตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้วแน่นะพี่ชีฟอง”
“องค์หญิงทอดเนตรเองดีกว่าเพคะ”
ชีฟองปรบมือสองที มาเรีย กะ เซลีนเดินนำขบวนทหารเข้ามา โดยมาเรียกับเซลีนถือผ้าใบที่ม้วนไว้มาหยุดต่อหน้าโลลิต้า ทั้งสองคลี่ผ้าใบออกเห็นข้อความเป็นภาษษไทย “ขอต้อนรับสู่ฮวาซา”
ส่วนขบวนทหารหยิบหน้ากากขึ้นมา ทั้งหมดใส่หน้ากากไผทในบทน้ำเชี่ยวอันลือลั่น
“ถูกพระทัยมั๊ยเพคะ ป้ายภาษาไทยนี่จะทำให้คุณไผทรู้ว่าพวกเรายินดีต้อนรับเค้าขนาดไหน”
“น่ารักมากเลยพี่ฟอง! หญิงตื่นเต้นจังเลยที่จะได้เจอกับคุณไผทแล้ว”
โลลิต้ายิ้มอย่างมีความสุข
นายแอบมองอยู่มุมหนึ่งเครียดหนัก “ไอ้แนวเอ้ย...ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนวะ”
แนวหน้ากับไผทกำลังลากกระเป๋าวิ่งหนีจีจี้กับฟินท่าทางทุลักทุเลสุดๆ จีจี้ตามมาดึงตัวแนวหน้าได้ ส่วนฟินตามมาดึงตัวไผทไว้ได้เช่นกัน
“จะหนีไปไหนไอ้แมวขโมย!” ฟินแว้ดใส่
“แกรู้ไหมไอ้แนวว่าวันนั้นพวกฉันต้องวิ่งลงบันไดหนีไฟมากี่ชั้น!” จีจี้แค้นฝังหุ่น
แนวหน้าพูดกวนโทสะ “ไม่รู้ เพราะผมลงลิฟต์”
“ไอ้!” จีจี้อยากด่าแต่ไม่รู้จะด่ายังไงถึงจะสาสม “ไอ้บ้า”
“แกไม่มีสิทธิ์มาฉกตัวไผทไปจากฉัน ไผท! กลับกรุงเทพฯ กับพี่เดี๋ยวนี้!”
ฟินคว้ามือไผทจะให้เดินกลับไปด้วย แนวหน้าคว้าแขนไผทอีกข้าง
“เฮ้ย กลับไม่ได้ แกต้องไปกับฉัน” แนวหน้าหันมาด่าฟินกับจีจี้ “ปล่อยเลยเจ๊หน้าแป้น ปล่อย”
ฟินกรี๊ด “อ๊าย...ว่าฉันเหรอ ไอ้.. ไอ้ปากเสีย!”
ขณะเหตุการณ์กำลังชุลมุนอยู่ ทันใดนั้นเห็นรถจี๊ปของฮวาซาใต้ก็วิ่งตรงมาทางพวกแนวหน้า
“เฮ้ย รถทหารจากฮวาซา! พี่นายส่งมารับเราแน่เลย” แนวหน้าโบกมือ “ทางนี้ ทางนี้! วู้ว...”
รถทหารจอดลงตรงหน้าทุกคน แนวหน้าดีใจมาก ทหารพลขับลงจากรถมาทำความเคารพ
“ท่านธูลรับสั่งให้ผมมารับคุณจีจี้ครับผม!”
แนวหน้าเหวอ หันมองจีจี้ที่ทำหน้าเยาะเย้ยและเป็นต่อขึ้นมาทันที
นายเดินมาตามทางในวังด้วยท่าทางเครียดๆ เจอกับราอูลที่จ้องนายนิ่งๆ
“อ้าว...คุณราอูล มาเดินเล่นเหรอครับ”
ราอูลมองนิ่ง “ผมจะมาบอกคุณเนี่ยแหละว่า คุณไผทมาถึงสนามบินแล้ว และกำลังเดินทางมาที่นี่”
“จริงเหรอครับ” นายดีใจมีท่าทีเหมือนยกภูเขาออกจากอก “สุดยอดไอ้แนว! เป็นไงครับน้องสุดที่รักของผม บอกแล้วว่ามันซี้กับไผท มันต้องพาเค้ามาได้แน่ๆ”
“ถ้าน้องชายคุณซี้กับคุณไผท แล้วทำไมคุณไผทถึงมากับคุณจีจี้!”
นายอึ้งตะลึงงัน “ห๊ะ! จีจี้เป็นคนพาไผทมางั้นเหรอ ผมว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ” คิดปราดเดียว “ขอผมใช้โทรศัพท์คุยกับน้องชายผมอีกครั้งนะครับ”
“โกหกโดนจับได้ขนาดนี้ ยังมีหน้ามาขอใช้สิ่งล้ำค่าของฮวาซาอีก! คุณนายนาย คุณเตรียมตัวรับโทษจากฮวาซาใต้ได้แล้ว!”
ราอูลเดินไป นายเครียด
แนวหน้ากำลังโยนกระเป๋าขึ้นรถ เสร็จแล้วก็รีบดึงไผทขึ้นนั่งบนรถพร้อมกัน สั่งพลขับ
“ออกรถเลยพี่!”
“ไม่ได้ครับผม! ท่านธูลสั่งให้ผมมารับคุณจีจี้ครับ ถ้าคุณจีจี้ไม่ขึ้นรถไปด้วย ผมก็ออกรถไม่ได้ครับผม!”
จีจี้กอดอกหัวเราะอย่างผู้ชนะ “ฮ่าๆๆ แนวเอ๊ย! อย่าพยายามเลย นายลืมแล้วหรอว่าคนที่ประสานงานกับวังฮวาซาก็คือฉัน เพราะฉะนั้นคนที่เขาจะฟังก็คือฉันคนเดียว ไม่ใช่นายนาย!”
แนวหน้าแค้นจีจี้ หันไปบอกทหาร “แต่ไผทอยู่นี่แล้วนะ ไผทสำคัญน้อยกว่าอีเจ๊โรคจิตอีกเหรอ! ถ้างั้น...ไผท...เราไปรอรถเมล์กันเถอะ”
“อ่ะๆๆ ฉันจะให้ไปด้วยก็ได้นะ” แนวหน้ายิ้มนึกว่าจีจี้ยอมแพ้ “แต่ฉันให้ไผทไปคนเดียว ไม่ใช่นาย”
ฟินแว้ดใส่ “หยุด! เลิกเถียงกันได้แล้ว ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละไผท กลับกรุงเทพฯกับพี่”
จีจี้ กะแนวหน้าประสานกำลังโดยอัตโนมัติ “ไม่ได้ ไผทต้องไปกับฉัน” / “ไม่ได้ ไผทต้องไปกับผม!”
ไผทงงๆไม่รู้จะทำยังไงดี “ขอโทษนะครับ ผมว่า...”
ฟินขัด “ไผททำกับพี่แบบนี้ไม่ได้นะ มีงานรออยู่ที่กรุงเทพฯเพียบเลย กลับไปรับผิดชอบเดี๋ยวนี้”
ไผทผู้อยู่ในโอวาทผู้จัดการมาตลอดชักลังเล “แต่พี่ฟินครับ…”
“ไม่มีแต่! ไผทลืมไปแล้วเหรอ ใครกันที่เป็นคนหางานให้ไผท ใครกันเป็นปั้นไผทมาจนมีชื่อเสียงขนาดนี้...ใครกันที่ยอมขึ้นเหนือล่องใต้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันกับไผท ใช่พี่ฟินคนนี้ไหม! พี่ทั้งรัก ทั้งเอ็นดูไผท...แล้วไผททำกับพี่แบบนี้ได้ยังไง!”
“พี่ฟิน อย่าพูดอย่างนี้สิพี่”
แนวหน้าเห็นไผทเริ่มใจอ่อน จึงสวนกลับฟินทันที
“เฮ้ย อย่าไปใจอ่อน แกลืมแล้วเหรอใครกันที่หน้าเลือดรับงานซ้ำรับงานซ้อนจนแกไม่ได้หลับไม่ได้นอน แถมยังถูกคนด่า ใครกันที่หักเอาเงินค่าตัวแกไม่ต่ำกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ ใครกันที่เป็นเสือนอนกิน ทำนาบนหลังแก ไม่ใช่อีเจ๊หน้าแป้นนี่เหรอ”
ฟินเต้นเป็นเจ้าเข้า “อร๊าย... ไอ้ปากปีจอ! แกไม่รู้จักคำว่าน้ำขึ้นให้รีบตักหรือไง ช่วงนี้ไผทกำลังฮ็อตก็ต้องรีบกอบโกยสิยะ”
“กอบโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเองน่ะสิ...ที่ต้องบินมาถึงนี่เพราะเด็กคนอื่นๆ มันให้เจ๊สูบเลือดได้ไม่หนำใจเท่าไผทใช่ไหมล่ะ”
ฟินกรี๊ด เต้นเร่าๆ เพราะโดนจี้ใจดำอย่างจัง “แอร๊ยย...ไผท พี่บอกไว้เลยนะ...ถ้าไผทไปอยู่กับไอ้บ้านี่..ชื่อเสียงในวงการของไผทจะมีแต่ ดับ! ดับ! ดับ!”
แนวหน้าย้อนเจ็บ “ผมว่าเจ๊นั่นแหละที่ดับ...รู้ไว้ด้วยนะว่าไผทไม่มีทางกลับไปหาเจ๊ได้...เพราะตอนนี้เค้าเซ็นสัญญากับผมแล้ว!”
ว่าพลางแนวหน้าควักสัญญาจากกระเป๋ามาโชว์ให้ฟินกับจีจี้ดู
จีจี้กับฟินช็อก ท้ายสัญญาเป็นลายเซ็นไผทจริงๆ จีจี้ดึงไปดู แนวหน้าเอาหลบอย่างว่องไว
ฟินจะเป็นลม “ไม่จริงง! ไผท!”
“ผมขอโทษนะพี่ฟิน ผมอยากพักเรื่องยุ่งๆ ในเมืองไทยสักพักนึง พี่เข้าใจผมนะครับ”
แนวหน้าประกาศกร้าว “ต่อไปนี้ผมคือผู้จัดการของไผท ไพศาลีแต่เพียงผู้เดียว ถ้าไผทไปไหน ผมต้องไปด้วย” เขาพูดอย่างยียวนกวนประสาท “เข้าใจเนอะ”
จีจี้มองแนวหน้าอย่างเอาเรื่อง และไม่ไว้ใจ
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 6 (ต่อ)
ทางด้านนายแอบมองทหารยาม 2 คน ที่เดินเฝ้าหน้าห้องโทรศัพท์อย่างขึงขัง จังหวะนี้ ราอูลเดินเข้าไปหาทหารยามทั้งสอง นายรีบหลบฉากทันที พร้อมกับพึมพำกับตัวเอง
“จะเข้าไปใช้โทรศัพท์ยังไงวะเนี่ย”
ไม่นานต่อมา มือใครคนหนึ่งโผล่มาแตะขอบหน้าต่างราวกับหนังสยองขวัญ อีกชั่วอึดใจมืออีกข้าง ค่อยๆ โผล่มาเกาะขอบหน้าต่างเหมือนกัน
เจ้าของมือนั้นคือนายนั่นเอง และกำลังดันร่างของตัวเองเข้ามาในห้องโทรศัพท์อย่างทุลักทุเล
“นี่เข้ามาโทรศัพท์หรือปล้นธนาคารวะ ต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้”
นายบ่นบ้า แต่พอเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ก็ยิ้มออกทันที
อีกฟากหนึ่ง รถจิ๊ปแล่นปุเลงๆ ไปบนถนนอันสุดแสนจะกันดาร ข้างทางรายล้อมด้วยป่าสูง แนวหน้า ไผท จีจี้ ฟิน นั่งเบียดเสียดกันอยู่ในรถ แต่ละคนหน้าตาบึ้งตึง โดยมีกระเป๋าใบยักษ์ของไผทคั่นอยู่ตรงกลาง แนวหน้าครุ่นคิดหาทางกำจัดจีจี้กับฟินอยู่ ส่วนฟินกับจีจี้เองก็จ้องแนวหน้าอย่างไม่วางใจเช่นกัน
ทันใดนั้นมือถือของแนวหน้าก็ดังขึ้น จีจี้กับฟินเหลียวขวับมามองที่แนวหน้าเป็นตาเดียว
แนวหน้าหยิบมือถือขึ้นมาอย่างหลบๆ เห็นที่หน้าจอขึ้นว่า Unknown User รู้ทันทีว่าเป็นพี่ชาย แนวหน้ากดรับสาย
“ฮัลโหล”
“ไอ้แนว ฉันได้ข่าวว่าจีจี้ฉกตัวไผทได้แล้วและกำลังจะพาไผทเข้าวัง...จริงรึเปล่า”
“ใช่” แนวหน้าเหลือบมองจีจี้กับฟินเพราะกลัวสองคนนั้นได้ยิน “แต่ใช่ไม่ทั้งหมด”
จีจี้หูผึ่งสนใจทันทีว่าแนวหน้าคุยอะไรกับใคร
“อะไรของแกวะ ใช่ไม่หมด เอางี้ แกฟังฉันดีดีนะ! แกต้องหาทางพาตัวไผทเข้าวังคนเดียวเท่านั้น! ห้ามเข้ามากับจีจี้เด็ดขาด ไม่งั้นทางฮวาซาต้องคิดว่าพวกเราเป็นสิบแปดมงกุฎ แล้วชั้น อาจจะโดนโบยก็ได้”
แนวหน้าแหกปาก “หา! ไผท!”
ทุกคนในรถหันขวับมามอง
แนวหน้าเครียด ได้ยินแต่เสียงตู๊ดๆ ดังมาจากฝั่งของนาย
“ฮัลโหล..ฮัลโหล” แนวหน้างง “เฮ้ย สายหลุดได้ไงวะเนี่ย”
นายหันไปมองทางที่โทรศัพท์เห็นว่าท่านธูลเป็นคนกดตัดสายและมองจ้องอยู่อย่างเอาเรื่อง มีราอูลยืนมองอย่างกินเลือดกินเนื้อนายอยู่หลังท่านธูล
ส่วนแนวหน้ามองมือถืออย่างเครียดๆ จีจี้มองอย่างรู้ทัน
“พี่ชายนายโทรมาใช่ไหม มีแผนอะไรอีกล่ะ”
แนวหน้าลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ “แผนเผินอะไรไม่มี” แล้วเคาะรถบอกทหาร “พี่ๆ จอดหน่อย”
“แกจะทำอะไร” ฟินไม่วางใจ
“ขับต่อไปเลยค่ะ ไม่ต้องไปฟังนายนี่” จีจี้บอกพลขับ
“ผมปวดฉี่” แนวหน้าบอก
“อั้นไว้ก่อน ถึงวังแล้วค่อยฉี่” จีจี้ว่า
“อั้นไม่ไหวแล้ว...ถ้าไม่จอดจะฉี่ตรงนี้แหละ”
ทหารเบรครถทันที ทุกคนหน้าคะมำ
ล้อรถเบรกเอี๊ยด แนวหน้าก้าวลงจากรถหันมาเรียกไผท
“ไป ไผท ลงไปฉี่กัน”
แนวหน้าพยายามส่งซิกให้ไผท แต่พระเอกคนซื่อไม่เข้าใจ
“แต่ผมไม่ปวดครับ”
“ลงมาเถอะน่า”
ไผทจำใจลงมา
จีจี้ตามลงมา แนวหน้าเซ็ง จีจี้มองแนวหน้าอย่างรู้ทัน มายืนประกบข้างๆ
“นายจะอาศัยตอนไปฉี่พาตัวไผทหนีไปใช่ไหมนายแนวหน้า อย่าคิดว่าฉันไม่รู้แผน ชั่ว ของนายนะ” จีจี้บอกไผท “ไผท...ขึ้นรถ” ฟินตามลงมาอีกคน
“เรื่องอะไร ขืนทิ้งไผทไว้กับเจ๊...มีหวังเจ๊ปล่อยผมอยู่ในป่านี่ แล้วชิงตัวไผทไปน่ะสิ” แนวหน้าอ้าง
“ต๊าย...ใครมันจะไปคิดอะไรชั่วๆ แบบนั้น”
แนวหน้าหมั่นไส้สวนทันที “ก็เจ๊ไง!”
จีจี้เซ็งที่แนวหน้ารู้ทัน จู่ๆ แนวหน้าก็ทำท่าบิดตัวเหมือนปวดฉี่สุดๆ
“อู๊ยยย จะราดแล้ว ฉี่ตรงนี้แหละ”
แนวหน้ายังทำท่าจะรูดซิปกางเกง
จีจี้กรี๊ด “แอร๊ย...อีตาบ้า” หันขวับมามองฟิน “เจ๊...เจ๊ไปฉี่กับไอ้แนวทีสิ”
เจ๊ฟินดีดดิ้น “ห๊ะ ฉันเนี่ยนะ แกจะให้ฉันเข้าป่ากับผู้ชายสองคนงั้นเหรอ?”
แนวหน้าเดินนำไปในป่า ไผทเดินตาม ฟินเดินตามหลังทั้งสอง โดยไม่ให้คลาดสายตา เจ๊ฟินพันผ้าพันคอมาด้วยบ่นบ้าตามประสา
“แค่จะฉี่ทำไมต้องมาไกลขนาดนี้ นายนี่เรื่องเยอะอย่างกับชะนีเชียวนะ”
แนวหน้าตัดสินใจทำท่าจะฉี่ แต่ฟินยังคงจ้องอย่างไม่คลาดสายตา
“ยืนจ้องแบบนี้ผมจะฉี่ออกไหม อย่าแอบดูน้องชายผมนะ”
“โอ๊ย น่าดูตายล่ะ” ฟินผินหน้ามองไปทางอื่น “รีบๆ ฉี่ซะ ฉี่เสร็จแล้วบอกฉันด้วย”
ฟินหันหลังให้ แนวหน้ารีบดึงไผทมากระซิบ
“เดี๋ยวฉันสั่งให้แกทำอะไร แกทำตามฉันนะ”
ไผทเง็ง “ทำไรพี่”
แนวหน้าชำเลืองมองฟินที่กำลังยืนชมนกชมไม้อยู่
พริบตาเดียวฟินโดนมัดมือไขว้ไปด้านหลัง แล้วมัดอีกชั้นด้วยเข็มขัด แถมปากโดนอุดด้วยผ้าพันคอ ฟินนอนดิ้นกระแด่วๆ เหมือนตัวหนอน
“ทำแบบนี้จะดีเหรอพี่ ถ้าพี่ฟินเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงอ่ะ” ไผททักท้วง
“ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ได้มัดอะไรแน่นมาก เดี๋ยวอีเจ๊โรคจิตก็เข้ามาตามเองแหละ เราหนีก่อนดีกว่า ไปเร็ว!”
แนวหน้ากับไผทรีบวิ่งเข้าป่าไป ทิ้งฟินนอนดิ้นอยู่ที่พื้น
ฝ่ายจีจี้รอนานชักสังหรณ์ใจประหลาด ตัดสินใจเคาะกระจกรถเรียกทหารพลขับที่นั่งอยู่ข้างใน
“พี่คะ...ปกติผู้ชายเค้าฉี่นานมั้ยคะ”
ทหารทำหน้างงปนเขินที่ถูกถามเรื่องขี้เยี่ยว
ฟินถูกมัดทิ้งอยู่ข้างทาง ทหารพลขับเดินพาจีจี้มาตามหา ปรากฏว่าไม่เห็นแนวหน้ากับไผทแล้ว แต่ได้ยินเสียงร้องอู้อี้ของใครบางคนอยู่
จีจี้กับทหารหันไปมองอย่างสงสัยว่าเสียงอะไร จนเห็นฟินที่ถูกมัดพยายามส่งเสียงและดีดดิ้นขอความช่วยเหลืออยู่ ทั้งสองเห็นก็ตกใจรีบวิ่งเข้าไปช่วยกันแก้มัดให้ฟินทันที
“เจ๊!...ใครทำอะไรเจ๊”
“อีพวกนั้น...มันทำฉัน...มันหนีไปแล้ว”
จีจี้ตาเบิกโพลง ตกใจสุดขีด
ส่วนแนวหน้ายังคงนำไผทเดินลึกเข้ามาในป่าเรื่อยๆ แต่พอมาถึงจุดหนึ่งที่เป็นทางแยก แนวหน้าหยุดชะงัก ยืนมองไปรอบๆ หันซ้ายหันขวาอย่างลังเลว่าจะไปทางไหนดี
“เป็นอะไรพี่แนว อย่าบอกนะว่าหลงทาง”
แนวหน้าฟอร์ม “หลงอะไร! ฉันแค่ไม่แน่ใจเว้ยว่าทางไหน เพิ่งเคยมาหนเดียวจะเอาอะไรมาก...ขวาร้ายซ้ายดี ไปซ้ายแล้วกันวะ”
แนวหน้ากับไผทตัดสินใจไปตามทางซ้าย พอเลี้ยวทางแยกไปก็เจอกับทหาร จีจี้ และฟินที่ยืนดักอยู่แล้ว แนวหน้ากับไผทสะดุ้งตกใจ
“ชะอุ๋ย”
“จะหนีไปไหน! นายไม่มีทางรู้จักป่านี่มากกว่าคนฮวาซาหรอก” จีจี้เยาะ
ฟินโกรธสุดขีด “อีบ้า แกทำอย่างงี้กับชั้นได้ยังไง ถ้าชั้นโดนเสือจับกินขึ้นมาจะทำยังไงห๊ะ!”
“โฮ้ย เสือมันเลือกกินน่ะเจ๊!”
ฟินกรี๊ด “อ๊าย... ไผทก็เหมือนกัน ไปร่วมมือกับไอ้บ้านี่ได้ยังไง”
ไผทยกมือไหว้ “พี่ฟิน ผมขอโทษ ผมไม่มีทางเลือก”
“พอ! ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว” จีจี้สั่งแนวหน้า “กลับไปที่รถได้แล้วนายแนวหน้า” แนวหน้านิ่งไม่ยอมขยับ “ไม่ไปใช่ไหม?”
จีจี้หันไปพยักหน้ากับทหารพลขับ ทหารก้าวเข้ามาประชิดตัวแนวกับไผท เอาปืนมาจ่อ บอกนิ่ง แต่หน้าโหด “เชิญที่รถครับ!”
แนวหน้าเห็นหน้าตาเอาจริงของทหาร ซีดไปเหมือนกัน
ทหารกึ่งเดินประกบกึ่งคุมตัวแนวกับไผทกลับมาที่รถ โดยมีจีจี้กับฟินตามมา
“ต่อไปนี้...นายหัดสะกดคำว่าเจียมตัวไว้ให้ขึ้นใจด้วยนะนายแนวหน้า ทั้งนายทั้งพี่ชายนายไม่มีทางสู้ฉันได้หรอก” แนวหน้าหยุด ไม่ยอมขึ้นรถ จีจี้โมโหสั่งแนวหน้ากับไผทอีกที “จะขึ้นรถดีๆ หรือให้พี่ทหารเค้าอุ้มขึ้นไป”
ไผทเหล่มองแนวหน้าว่าจะเอายังไงดี ทหารขยับปืน แนวหน้าปีนขึ้นรถไปแทบไม่ทัน
“หึ กลัวล่ะสิ” จีจี้สะใจ
จู่ๆ แนวหน้าก็เข้าไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองกับไผทโยนลงจากรถ
ทุกคนงงว่าแนวหน้ากำลังทำบ้าอะไร
“แนว! ทำอะไร?” จีจี้แปลกใจมาก
แนวหน้าลงจากรถมายืนบอกท่าทางจริงจัง “ผมไม่ไปแล้ว”
“อย่ามาทำตัวน่ารำคาญ ชั้นจะรีบไป ท่านธูลทรงรออยู่นะ”
“เจ๊ไม่มีสิทธิ์มาสั่งผม”
“ถ้างั้นก็ตามใจ ไปกันเถอะไผท” จีจี้ดึงตัวไผท
แนวหน้าดึงมือจีจี้ออกจากไผท “ไผทก็ไปกับเจ๊ไม่ได้ ไผทต้องมากับผม! เพราะตอนนี้เค้าเซ็นสัญญากับผมอยู่”
ไผทลังเลหนักตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปกับใครดี
ฟินสอดขึ้น “ทำไมไผทต้องไปกับแก แกจะไสหัวไปไหนก็ไปสิยะ” พลางหันไปช่วยดึงไผท “ไผทพี่ไม่เล่นแล้วนะ! กลับกรุงเทพฯ ไปกับพี่เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องสนใจสัญญาที่เซ็นกับมัน ถ้ามันจะฟ้องอะไร เดี๋ยวพี่จัดการเอง อย่าเอาอนาคตมาทิ้งกับคนบ้าๆ อย่างนี้เลย”
ไผทอึ้งลังเลหนัก เริ่มจะเอนเอียงไปทางฟิน
แนวหน้าเห็นแล้วเริ่มเครียด เลยปล่อยมือจากไผท
“ตามใจ ฉันไม่บังคับนายแล้วไผท ถ้านายอยากกลับไปเป็นดาราที่ดังเพราะข่าวฉาวมากกว่าฝีมือก็ตามใจ” แนวหน้าออกเดินไป แต่ไผทยังนิ่ง แนวหน้าหันมาอีกที “...อ้อ! แล้วก็ขอบใจมากนะที่แกเข้ามาทำลายงานชิ้นสำคัญในชีวิตของฉัน...อีกชิ้น!”
แนวหน้าหันกลับเดินเข้าป่าไปเลย ไผทยืนอึ้งกับสิ่งที่แนวหน้าพูดอยู่
สุดท้ายแนวหน้าเดินแบกเป้มา โดยมีไผทเดินแบกเป้ของตัวเองตามมาด้วย แนวหน้าดีใจสุดขีด แต่ทำฟอร์ม
“แกแน่ใจนะที่มากับฉัน ลำบากนะเว้ย รถก็ไม่มีจะนั่ง”
ไผทหยุด “ผมไม่ได้เห็นพี่ดีกว่าพี่ฟินนะ ไม่ว่าพี่ฟินจะเป็นยังไง เค้าก็มีบุญคุณกับผม แต่ผมแค่อยากพิสูจน์ให้พี่เห็นว่าผมไม่ได้เป็นคนไม่เอาไหน ไร้ฝืมือ ดีแต่หล่ออย่างที่พี่คิด”
ไผทเดินแซงหน้าไปเลย แนวหน้ามองตามไผท เริ่มรู้สึกว่าไผทก็มีอะไรน่าสนใจกว่าที่คิด
อ่านต่อหน้า 3
น่ารัก ตอนที่ 6 (ต่อ)
ทางด้านจีจี้ปรึกษากับฟินอยู่ที่ข้างรถ สองคนทั้งโกรธและหงุดหงิดมากๆ โดยเฉพาะจีจี้ท่าทางร้อนรนใจถึงขีดสุด
“เอาไงดีอ่ะเจ๊...เราเดินเข้าป่าตามมันไปดีไหม”
ฟินโกรธมากที่ต้องมาเจอเรื่องบ้าๆนี้ “ไม่! แกอยากไปก็ไปเองเลย ชั้นไม่ไปกับแกแล้วยัยจี้ กลับไปส่งชั้นที่สนามบินเดี๋ยวนี้”
จีจี้ดึงแขนไว้ “อ้าว! แล้วเจ๊ไม่อยากได้ตัวไผทคืนแล้วเหรอ”
“ช่างมัน! อยากไปไหนก็ไป เด็กคนอื่นที่รอให้ชั้นปั้นมีอีกเยอะแยะ ชั้นไม่ง้อไอ้บ้านี่แล้ว งานสบายๆ ไม่ชอบ ชอบอยู่ในป่าในดงก็ปล่อยมัน! ไม่รักไม่นึกถึงบุญคุณกันก็ตามใจ”
ฟินเดินหุนหันขึ้นรถไป จีจี้กลุ้มใจไม่รู้จะทำยังไงต่อดี
เย็นแล้ว แนวหน้าเดินนำหน้าไผทมาทางเดิมที่เขาเคยเดินมาเมื่อตอนมาครั้งแรก ไผทบ่น ท่าทางเหนื่อยอ่อนโรยแรง เพราะกระเป๋าหนัก
“อีกไกลไหมพี่แนว โอ๊ย ทำไมกระเป๋ามันหนักขนาดนี้เนี่ย”
“ก็เตือนแล้วว่าอย่าขนมาเยอะ”
“ก็ใครจะไปรู้ว่าต้องมาเดินแบกกระเป๋าเองแบบนี้นี่นา”
“อย่าบ่นน่า กล้ามใหญ่ซะเปล่า ชั้นช่วยแกถือยังไม่บ่นเลย”
แนวหน้าเดินนำไป แล้วไปหยุดยืนดูอะไรบางอย่าง ไผทวางกระเป๋าลงพัก ไม่ทันสนใจอย่างอื่น
“หยุดทำไม? ไม่เดินต่อล่ะพี่แนว”
แนวหน้าไม่ตอบ แต่ยังคงยืนมองบางอย่างนิ่งนานราวถูกสะกด ไผทแปลกใจหันไปมองตาม
สายตาไผทมองลงไปยังด้านล่าง บริเวณหุบเขาที่เป็นหมู่บ้านของเปอร์ตี เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอะเมซิ่งโครตๆ บวกกับแสงนวลตายามพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน ไผทอึ้งตกอยู่ในภวังค์ลืมสิ้นความเหนื่อยล้าทั้งปวง
“โอ้โห....โคตรสวยเลยว่ะพี่”
“คุ้มเหนื่อยใช่ไหมล่ะ... นี่แหละ ฮวาซาใต้ล่ะ” แนวหน้าภูมิใจนำเสนอ
ไผทกับแนวหน้ายืนมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน ดูเหมือนความสัมพันธ์ของชายหนุ่มทั้งสองจะเริ่มดีขึ้นกว่าแต่เก่าก่อน
ฟากจีจี้บีบน้ำตา ตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องให้ท่านธูลฟังอยู่ในห้องทรงงาน ทั้งจริงปนเท็จ
“จีจี้ไม่คิดเลยเพคะว่าคนรู้จักกันอย่างนายแนวหน้าจะใช้แผนป่าเถื่อนดักปล้นไผทกลางทางแบบนี้...จีจี้เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ จีจี้สู้ไม่ไหวจริงๆ เพคะ” น้ำตาคลอ
ท่านธูลเห็นจีจี้แล้วสงสาร จะหยิบผ้าเช็ดหน้าส่วนตัวมาให้ แต่ก็ชะงักมือไว้เพราะเห็นว่าไม่ควร
“จีจี้ต้องขอโทษนะเพคะที่ทำให้ท่านธูล องค์หญิง และคนฮวาซาทั้งประเทศต้องผิดหวัง ท่านธูลจะลงโทษจีจี้ก็ได้นะเพคะ จีจี้ยอมรับผิดทุกอย่าง”
“ไม่เป็นไร เราเข้าใจว่าไม่ใช่ความผิดของคุณจีจี้... คุณจีจี้เหนื่อยกับการเดินทางมามากแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถอะ เราให้นางกำนัลเตรียมชาฮวาซาไว้ให้ ดื่มแล้วจะได้หลับสบาย”
จีจี้ทำความเคารพอย่างงดงาม
“ขอบพระทัยเพคะ ท่านธูลช่างมีเมตตากับจีจี้เหลือเกิน”
จีจี้มองท่านธูล จริตมารยาหวานหยดย้อย ท่านธูลเขินแต่พยายามเก็บอาการไว้
“แล้ว...นายแนวหน้าล่ะเพคะ...ท่านธูลจะจัดการยังไง”
จีจี้เดินออกมาจากห้องท่านธูล โล่งอกที่ไม่ถูกเอาผิด เดินมาอีกนิดก็เจอกับนายจังๆ ต่างคนต่างชะงัก
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
จีจี้วางฟอร์ม “สนใจด้วยเหรอ”
นายชะงักไปนิดๆ ที่อุตส่าห์ห่วง แต่ถูกเมิน “แล้วไอ้แนวกับไผทล่ะ”
จีจี้ของขึ้น “ยังจะมาถามอีก! น้องชายตัวแสบของคุณมันเลวมากที่กล้าหลอกพาไผทไปจากฉัน แถมยังแย่งไผทไปจากพี่ฟินอีก!”
“ก็...ช่วยไม่ได้ น้องผมมันอัจฉริยะเหมือนผม”
จีจี้ยิ่งหมั่นไส้ “เหมือนกันน่ะฉันไม่เถียง แต่อัจฉริยะนี่ ฉันว่าไม่เฉียด!”
นายเซ็ง “นี่จี้ ผมว่าเราเลิกตั้งแง่ใส่กัน แล้วรีบช่วยกันทำงานให้เสร็จดีกว่าไหม”
“อะไร ใครตั้งแง่อะไร ไม่มีเลย ขอโทษ” จีจี้จะเดินหนี
นายดึงมือจีจี้ไว้ “จี้... คุณก็รู้ว่างานชิ้นนี้” จีจี้มองมือนาย แล้วคาดหวังว่าเขาจะพูดง้อขอคืนดี นายมองหน้าจี้ อยากจะง้อ แต่กลัวเสียฟอร์ม เลยเปลี่ยนคำพูด “คุณทำไม่ได้หรอกถ้าไม่มีผม”
จีจี้ปรี๊ดแตกดึงมือออกจากนายทันที “ฉันจะทำให้คุณดูว่า ฉันทำงานนี้สำเร็จได้ โดยไม่มีคุณ!”
จีจี้เดินออกไปทันที นายเซ็งตัวเองที่ทำทุกอย่างให้แย่ลงไปอีก
อาหารในชามแลดูเขียวปี๋ ด้วยมีแต่ผักอยู่เต็ม ไผทมองชามอาหารตรงหน้าอึ้งๆ
“ผมดีใจที่พี่รูปหล่อกลับมาอีกครั้ง” เปอร์ตีมองไผท “แต่พี่คนนี้หล่อกว่าเยอะเนอะ กินข้าวสิครับ ลุงผมอุตส่าห์ทำมาให้”
แนวหน้าตักกินไป แล้วหน้าเบ้ “ลุงนายทำอาหารรสชาติน่ากลัวจังว่ะเปอร์ตี”
“เวลาลุงเอาข้าวให้หมานะ หมาวิ่งออกจากบ้านเลยแหละพี่ ตลกดี”
ไผทอ้อมแอ้มถาม “เอ่อ..มีอะไรที่ไม่มีผักมั้ยน้อง คือพี่ไม่ชอบกินผักอ่ะ”
แนวหน้าหมั่นไส้ “ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารที่กรุงเทพฯ นะจะได้สั่งอะไรกินก็ได้ กินๆ ไปเหอะ”
ไผททำหน้าอิดออด แต่จำต้องตักซุปผักกินเพราะหิว
เปอร์ตีมองหน้าไผท คิดไปคิดมาจนนึกออก “นึกออกแล้ว...พี่คือคนที่อยู่ในรูปที่ลุงวาดนี่”
เปอร์ตีวิ่งไปหยิบรูปที่ลุงวาดมายื่นให้ไผทดู ไผทรับมาแล้วถามด้วยความเคยชิน
“มีปากกาไหม?”
เปอร์ตีบอกหน้าเฉย “ต้องไปขอลุง”
“ขอมาสิ เดี๋ยวพี่จะได้เซ็นชื่อให้ เราจะได้เอาไปอวดเพื่อนๆ” ไผทยิ้มบอก
เปอร์ตีงง “อวดทำไม? หมูออกลูกยังน่าอวดมากกว่าอีก”
แนวหน้าชอบใจ ขำก๊าก เปรอ์ตีพูดจบก็ดึงรูปคืนมาจากไผทแล้ววิ่งเอาไปเก็บที่เดิม
ไผทหน้าม้านแต่ก็แอบแปลกใจที่คนที่นี่ไม่ได้สนใจตัวเอง
ขณะเดียวกันที่กรุงเทพฯ ขิงกำลังเก็บของเตรียมปิดร้าน เอาผ้าที่กองอยู่ขึ้นมาพับ อต่มองไปเห็นนิตยสารบันเทิงที่มีรูปไผทพร้อมข่าวพาดหัว ขิงเห็นแล้วนึกเป็นห่วง จึงหยิบมือถือขึ้นมาส่งไลน์ทักไปว่า
“เป็นไงบ้าง? โอเคไหม?”
ขิงรออยู่สักครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นข้อความตอบกลับ ถอนใจเฮือกอย่างเป็นห่วง
ฝ่ายไผทกำลังดูสัญญาณมือถือตัวเอง ส่วนแนวหน้ากำลังคุ้ยของในกระเป๋าหยิบสมุดบันทึกออกมา
“โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลย....ของพี่มีสัญญาณมั้ย ผมจะโทร.หาขิง”
แนวหน้าตอบห้วนๆ “ไม่มี”
“แล้วผมจะบอกขิงยังไงเนี่ยว่าผมถึงแล้ว”
แนวหน้าหมั่นไส้ “นี่ต้องรายงานแฟนทุกฝีก้าวเลยรึไง”
“เฮ้ย ผมไม่ได้เป็นอะไรกับขิง”
แนวหน้าเซ็ง “โห๊ย! อยู่กันสองคน แกไม่ต้องตอบแบบดาราก็ได้ จะรักจะชอบใครก็บอกมาตรงๆ”
“จริงๆพี่ ผมกับขิงเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ”
“กล้าพูดเนอะ นึกว่าฉันไม่เคยเห็นรึไง?”
แนวหน้าเซ็งโครต เล่าเรื่องตอนที่ตัวเองเดินพ้นหัวมุมถนนมาเห็นสองคนให้ดอกไม้บอกรักกันพอดี ถึงกับชะงัก ตะลึงแล
ภาพตรงหน้า ขิงรับช่อดอกไม้จากไผทซุปตาร์หนุ่มหล่อชื่อเสียงโด่งดังและมองอย่างชื่นชม ก่อนเข้าไปนั่งในรถ คุยกัน หัวเราะ สดใส มีเพื่อนๆ โบกไม้โบกมือลา
ของในมือทั้งหมดของแนวหน้าที่เตรียมมาให้ขิงตกลงพื้น แนวหน้าเบลอ หัวใจแตกสลาย
“ขิง..น้องขิง”
ไผทฟังแล้วหน้าเหวอ
“บ้าแล้ว พี่คิดเองเออเองแล้วเนี่ย”
แนวหน้าชักฉุน “เอ้อ! เห็นตำตาขนาดนั้น ใครไม่คิดก็บ้าแล้วเว้ย”
“โธ่ พี่แนว พี่เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว เรื่องจริงมันเป็นแบบนี้”
ไผทเล่าเหตุการณ์เดียวกัน ให้ฟังตั้งแต่ต้น ตอนนั้นไผทอาสาไปส่งขิงเพราะถูกเพื่อนๆ เชียร์
“โอเค มาเลยขิง เราไปส่ง ถึงไหนถึงนั่น” ไผทผลักประตูเปิดออกให้ “เดี๋ยวนะ ของรก”
ไผทเก็บของเบาะข้างคนขับโยนไปหลังรถ มีดอกไม้หลายช่อจากแฟนคลับ วางอยู่บนที่นั่งข้างๆ คนขับเต็ม และด้านหลังก็มีทั้งตุ๊กตาหมีและดอกไม้
“โอ้โห...ดอกไม้เต็มเลยนะ”
“ก็ ได้มาจากพวกแฟนคลับน่ะ..เอาไว้ไหนดีนะ” ไผทเหลียวมองเบาะหลังอย่างหมดปัญญาเพราะของขวัญจากบรรดาเอฟซี เต็มเอี๊ยด
“ขิงถือไว้ให้ก็ได้ ข้างหลังเต็มแล้ว มา...”
ไผทยิ้มแล้วส่งดอกไม้ให้
ขิงขึ้นนั่งในรถ แล้วหันไปโบกไม้โบกมือให้เพื่อนๆ ก่อนที่ไผทจะขับรถออกไป
พอได้ฟังเรื่องจบ แนวหน้าถึงกับอึ้ง หน้าเหวอสุดขีดที่ได้ล่วงรู้ความจริง
“อะไรมันจะละครขนาดนั้นวะ”
“นั่นสิพี่ ผมก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่เข้าใจผิดมาตลอด มิน่า พี่ถึงได้ต่อยผม พี่ชอบขิงเหรอ”
ถูกแทงใจดำ แนวหน้าถึงกับสะดุ้งโหยง “เฮ้ยไอ้บ้า พูดอะไรบ้าๆ”
“อ้าว ก็จริงนี่นา พี่คงหึงใช่ปะ เลยมาต่อยผม”
“เปล๊าา... พอแล้ว ชั้นจะทำงาน” แนวหน้าหันไปหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมาเขียนเพื่อจบการสนทนา
“เขียนอะไรน่ะพี่”
“บันทึก” แนวหน้าบอก
ไผทพาซื่อ “รายรับรายจ่ายเหรอ?”
แนวหน้าเซ็ง “ไอ้บ้า บันทึกความทรงจำเว้ย! ว่าวันนี้ไปไหน ทำอะไรบ้าง”
ไผทอึ้งไม่อยากเชื่อ ขำก๊าก “พี่เนี่ยนะเขียนบันทึกความทรงจำ เอาจริงดิพี่แนว หน่อมแน้มไปรึเปล่า”
แนวหน้าขี้เกียจจะอธิบาย “พูดไปแกก็ไม่เข้าใจหรอก” หันไปเขียนบันทึก
“พี่เก่งเนอะ ผมไม่ค่อยถูกกับตัวหนังสือเลย หนังสือที่ผมอ่านมากที่สุดก็บทละครนี่แหละ...แล้วพี่เริ่มต้นเหมือนในละครไหม?” ไผททำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียน “ไดอารี่จ๋า...”
แนวหน้าฉุนปนหมั่นไส้ “ไดอารี่จ๋า บ้านป้าแกดิ เงียบไปเลยปะ”
ไผทขำกลิ้ง เห็นแนวหน้าหันกลับไปเขียนบันทึก แต่ดูมีความสุขที่รู้ความจริงเรื่องขิง
อ่านต่อหน้า 4
น่ารัก ตอนที่ 6 (ต่อ)
ค่ำคืนนั้นเจ้าหญิงโลลิต้ากำลังเขียนนิยายอยู่อย่างมีความสุข เป็นเรื่อง “บอดี้การ์ดหัวใจ ตอน 6” โลลิต้าพิมพ์ไปพร้อมกับอ่านไปด้วย
“หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เจ้าหญิงโลล่าก็ได้แต่คิดถึงตอนที่เธอบรรจงจุมพิตลงไปที่หน้าผากของเขา...เธอเฝ้าถามตัวเองอีกนานแค่ไหน? เธอถึงจะได้เจอเขาอีก...คุณน้ำนิ่ง...”
โลลิต้าละหน้าจากนิยาย ท่าทีเหม่อลอย
“เมื่อไหร่น้อ...ที่เราจะได้เจอคุณน้ำเชี่ยวตัวจริงซักที”
โลลิต้ายิ้ม หลับตาเคลิ้มฝัน
คืนหนึ่ง ได้ยินเสียงของโลลิต้าร้องตะโกนขอความช่วยเหลือดังออกมาจากในความมืด
“ช่วยด้วย....ช่วยเราด้วย เราติดอยู่ในนี้”
เหมือนว่าองค์หญิงโลลิต้าถูกขังอยู่ในห้องมืด และพยายามหาทางออก
“ได้โปรด....ใครก็ได้ ช่วยเราด้วย!”
ทันใดนั้นเอง ประตูถูกถีบพังเข้ามา แสงสว่างสาดเข้ามาในห้อง โลลิต้าพยายามเพ่งมองว่าคนที่พังประตูเป็นใคร แค่เพียงเงาของผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างสูงโปร่งยืนอยู่ โลลิต้าก็รู้ว่าเป็นใคร
องค์หญิงดีใจสุดขีด “คุณไผท ช่วยหญิงด้วยค่ะ”
เป็นไผทที่เดินเข้ามาในแสงอย่างองอาจ โลลิต้าดีใจจนน้ำตาคลอ
“คุณไผท”
“ผมมาช่วยองค์หญิงแล้ว”
โลลิต้าดีใจ โผเข้าหา ทั้งคู่กอดกันแนบแน่นครู่หนึ่งแล้วถอยห่างออกจากกัน ไผทก้มลงยิ้มหวานให้ โลลิต้าช้อนตาเงยหน้าขึ้นมอง แล้วชะงักตาเบิกโพลง เมื่อพบว่าตรงหน้าเจ้าหญิงกลายเป็นแนวหน้าที่ยิ้มแฉ่งอยู่
“องค์หญิง” แนวหน้าเรียกเสียงหวาน
โลลิต้ากรี๊ดสุดเสียง “อร๊าย.....”
โลลิต้านอนดิ้นอยู่บนเตียงในห้องบรรทม กรี๊ดลั่นห้อง สะดุ้งตื่นจากฝันทันที
“อร๊าย...”
โลลิต้ามองซ้ายขวา พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนก็โล่งใจ
“ฮึ่ยย ฝันถึงตาบ้านั่นได้ไงเนี่ย” องค์หญิงจอมแก่นทำหน้าเซ็ง ที่ฝันเห็นแนวหน้าแทนที่จะเป็นไผท ชายในฝัน ถอนใจเฮือกใหญ่ปลอบใจตัวเอง “เฮ้อ...ฝันร้ายต้องกลายเป็นดีสิน่า”
เช้านี้ บรรยากาศในอุทยาน แสนสดชื่น อากาศแจ่มใส โต๊ะสนามนั่งเล่นในสวนสวย ถูกจัดแต่งอย่างเก๋ไก๋
แต่โลลิต้ากลับนั่งซึมกะทืออยู่ โดยมีชีฟองคอยรับใช้ดูแล และหน้าตาเจ้าหญิงยิ่งเซ็งจัด เมื่อมองไปเห็นชองปอลเดินนำทหารที่ถืออุปกรณ์ปิ๊กนิคมาแต่ไกล
โลลิต้าบ่น “เจอท่านชองปอลเนี่ย แย่ยิ่งกว่าในฝันอีก”
“อดทนหน่อยนะเพคะ ท่านชอลปอลถึงขนาดไปขออนุญาตกับท่านธูลมาปิ๊กนิคด้วย จะปฏิเสธก็น่าเกลียด” ชีฟองปลอบ
ชองปอลเดินมาถึง แล้วนั่งลงตรงหน้าโลลิต้า องค์หญิงจอมแก่นจำต้องยิ้มตามมารยาท ทหารวางจานเค้กน่าทาน และชุดถ้วยชาทรงสวยวางลงตรงหน้าทั้งคู่ ชีฟองดูความเรียบร้อย แล้วเดินออกไปพร้อมทหารรับใช้
“น้องหญิงทานสิจ๊ะ นี่ไวท์ช๊อคโกแล๊ตชีสเค้ก กับดาจีลิ่งชาที่ปลูกที่ฮวาซาเหนือจ้ะ”
“หญิงไม่ชอบทานเค้กค่ะ”
“ลองหน่อยเถอะนะคะน้องหญิง พี่อุตส่าห์ให้เชฟทำมาให้น้องหญิงโดยเฉพาะเลยนะ...แล้วถ้าน้องหญิงได้ชิม น้องหญิงจะรู้ว่ามันไม่ใช่เค้กธรรมดา” ชองปอลพูดเป็นนัย
โลลิต้าทะแม่งหู “ไม่ธรรมดายังไงเหรอคะ”
ชองปอลยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าน้องหญิงอยากรู้ น้องหญิงต้องลอง” พลางเลื่อนจานให้ “ชิมนะจ๊ะ”
โลลิต้ายังนิ่ง
“หรือจะให้พี่ป้อน?”
“ไม่เป็นไรค่ะ หญิงทานเอง”
โลลิต้าตักเค้กคำเล็กๆ ชองปอลมองลุ้น
“น้องหญิงจ๋า ตักคำใหญ่ๆ เลยสิจ๊ะ ทานแค่นั้นจะไปรู้รสอะไรละคะ มา...พี่ตักให้ดีกว่า”
ชองปอลใช้ส้อมอีกอันมาช่วยตัก และจู่ๆ ตักไปเจออะไรบางอย่าง แล้วแกล้งตกใจ
“อุ๊ย อะไรเนี่ย น้องหญิงดูสิคะ”
โลลิตาเอาส้อมเขี่ยดู เห็นว่าเป็นสร้อยทองคำขาวมีจี้เพชรคริสตัลสวยเก๋
ชองปองยิ้มกริ่ม ภูมิใจนำเสนอ “เซอร์ไพร้ส์” เอาผ้ามาเช็ดแล้วโชว์ให้ดู “ชอบไหมคะน้องหญิง พี่ใส่ให้นะ” พลางขยับลุกมาจะใส่สร้อยให้
ชองปอลชะงักกึก รู้ทันว่าโลลิต้าไม่อยากให้ใส่ แต่ก็ยิ้มอารมณ์ดี เดินกลับมานั่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นพี่จะเก็บไว้ให้น้องหญิง...ในวันหมั้นของเราแล้วกันนะคะ”
โลลิต้าอึ้งนิ่งงันไปชั่วขณะหนึ่ง ชองปอลตักเค้กกินสบายใจ
รอบทะเลสาบยามเช้าแสนสดชื่นชวนดื่มด่ำ แนวหน้ากับไผทตื่นนอนเดินมาที่ริมตลิ่ง
“รีบอาบน้ำเถอะ เสร็จแล้วจะได้รีบเข้าวัง”
“เอ่อ...อาบตรงนี้เลยเหรอพี่? โล่งๆ อย่างนี้เลย” ไผทอิดออด เยอะตามปนระสาซุปตาร์
“แกเห็นมีอ่างจากุชชี่แถวนี้ไหม” ไผทส่ายหน้า “ไม่มี ก็แปลว่าอาบตรงนี้ไง!”
แนวหน้าเดินลงน้ำไปหน้าตาเฉย ไผทจะเดินลงตามไป แต่ทันทีที่เท้าแตะน้ำ ก็รีบชักเท้ากลับขึ้นฝั่ง
“โห พี่แนว! น้ำเย็นขนาดนี้ พี่ลงไปได้ไง”
แนวหน้าเซ็งปนหมั่นไส้ “แค่น้ำเย็น แกจะกลัวอะไรวะ”
“ก็ผมขี้หนาวน่ะพี่ อาบน้ำเย็นๆเดี๋ยวผมป่วย”
“พ่อซุปตาร์! ผักก็ไม่กิน น้ำเย็นก็อาบไม่ได้ ตายง่ายนะแกเนี่ย...ตกลงจะอาบหรือไม่อาบ”
ไผทยิ้มแฉ่งประจบแนวหน้าฝุดๆ
ขณะที่เปอร์ตีเดินเอาถ่านไม้มาเติมไฟในเตาถ่านที่ต้มน้ำในหม้อ แนวหน้ายืนอยู่ที่เตา เห็นว่าน้ำเดือดได้ที่ จึงใช้ผ้ายกหม้อใส่น้ำเดินเอาไปเทลงในถังให้ไผท
“น้ำอุ่นพอรึยัง”
ไผทเอามือแตะน้ำ ดีใจ “โอเคแล้วพี่” พลางยกมือไหว้ “ขอบคุณนะครับพี่แนว...”
ไผทเอาผ้าชุบน้ำอุ่นที่แนวหน้าผสมให้มาเช็ดตัว แนวหน้ามองไผทแล้วเซ็งบ่นบ้างึมงำ
“เรื่องเยอะ อยู่ยากขนาดนี้ ผู้หญิงไปชอบมันได้ไงวะ?”
ฟากชองปอลเบิกบานอารมณ์ดี ขณะเดินเล่นอยู่กับโลลิต้าที่ท่าทางเบื่อๆ
“พี่ว่าอากาศดีๆ แบบนี้เราไปขี่ม้าเล่นกันดีกว่า ขี่ลงไปเที่ยวในหมู่บ้านก็ดีนะคะ”
ทันใดนั้นเองชีฟองก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน ถอนสายบัว
“ขอประทานอภัยเพคะท่านชองปอล องค์หญิงเพคะ....”
“มีเรื่องอะไรเหรอพี่ฟอง”
“คุณไผท พาศาลีเดินทางมาถึงแล้วเพคะ
โลลิต้าดีใจมาก “จริงเหรอ...หญิงขอตัวก่อนนะคะพี่ชองปอล”
โลลิต้าโลดแล่นออกไปโดยไม่สนใจชองปอลเลยสักน้อย ชีฟองกับนางรับใช้ตามไปเป็นพรวน
ชองปอลมองตามแค้นสุดขีด “ไผท! อีกแล้วเหรอ”
แนวหน้า กับไผทเดินเข้าวังมา ทหารยืนแถวต้อนรับ พร้อมกับป้ายที่โลลิต้าทำไว้เขียนเป็นภษาไทยว่า
“ยินดีต้อนรับสู่ฮวาซา”
นาย และ จีจี้ ยืนอยู่กับท่านธูล นายยิ้มหน้าบาน จีจี้เจ็บใจ
“กระหม่อมบอกแล้วว่าแนวหน้าน้องชายคนเก่งของกระหม่อมต้องทำได้” นายแนะนำไผท “ไผท นี่ท่านประธานมนตรีธูล ผู้นำแห่งรัฐฮวาซาใต้” ไผททำความเครารพท่านธูล กับ ราอูล “ไผท ไพศาลี พระเจ้าค่ะ”
“ขอต้อนรับคุณไผทสู่ฮวาซาใต้ ขอบคุณที่ตกลงมาเป็นส่วนหนึ่งในสารคดีของฮวาซา” ท่านธูลเอ่ยต้อนรับ
“กระหม่อมยินดี และเป็นเกียรติที่ฮวาซาให้เกียรติเกล้ากระหม่อมพะย่ะค่ะ”
“ถ้าจะขอบคุณเรื่องนั้นคงต้องบอกกับคนต้นคิด” ท่านธูลกระซิบถามเอากับราอูล “แล้วนี่ลูกหญิงไปไหน?”
ราอูลกระซิบตอบ “เสด็จออกไปกับท่านชองปอลพระเจ้าค่ะ”
“อ้อ...จริงสิ ลืมไป” ท่านธูลหันมาทางไผท “ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ที่งานเลี้ยงต้อนรับ ท่านคงจะได้พบกับลูกหญิงของเรา” แล้วบอกกับแนวหน้าอย่างชื่นชม “ขอบคุณคุณด้วยที่อุตส่าห์ทุ่มเทเพื่อฮวาซาขนาดนี้”
“ยินดีพะย่ะค่ะ”
ท่านธูลเอ่ยขึ้น “เดินทางกันมาเหนื่อยๆ เชิญพักผ่อนก่อน แล้วเย็นนี้ค่อยพบกัน”
นาย แนวหน้า และไผทเดินออกมาเพื่อจะกลับไปยังที่พัก จีจี้เดินตามมาเงียบๆ
แนวหน้าหันไปเห็นเลยเยาะเย้ยถากถาง “ไงเจ๊ หมดฤทธิ์เลยเหรอ เงียบกริ๊บเลย”
นายปรามน้อง “แนว...พอเหอะ”
“เฮียไม่ต้องมาห้ามผมเลย” แนวหน้าด่าจีจี้ไม่ไว้หน้า “เจ๊ทำกับผมสารพัด อีเจ๊สารพัดพิษ!”
จีจี้โกรธเดินหนีไปทันที
“จีจี้!” นายใส่แนวหน้า “คราวหน้าแกห้ามเรียกจีจี้แบบนี้อีกนะไอ้แนว!” แล้วรีบตามไป “จีจี้ เดี๋ยว”
แนวหน้ามองตามบ่นพึมพำ “อื้อหือ...ถ้าคืนดีกัน จะเป็นหมาไหมกู”
แนวหน้าหันมาหาไผท พบว่าไผทกำลังมองตะลึงอะไรอยู่ จึงหันไปมองตามแล้วก็อึ้งไปเหมือนกัน ไผทกำลังมองภาพเท่าตัวจริงของเจ้าหญิงโลลิต้าที่ติดอยู่ข้างฝา
ไผทถามในอาการเพ้อ “ใครเหรอพี่”
“เจ้าหญิงโลลิต้า ลูกสาวท่านธูล คนต้นคิดอยากจะได้แกมาอยู่ในสารคดีฮวาซานี่ไง”
“น่ารักอ้ะ” ไผทเคลิ้ม
แนวหน้านึกถึงวีรกรรมองค์หญิงจอมแก่นแล้วโมโห “หึ ร้ายสิไม่ว่า! เดี๋ยวเจอตัวจริงแกก็จะรู้! หน้าตาน่ารัก แต่วีนสุดๆ ไปกันเถอะ จะพาไปห้อง”
“พี่ไปก่อนเลยครับ ผมขอเดินเล่นแถวนี้ก่อน”
“งั้นก็เผื่อเวลาแต่งตัวไปงานเลี้ยงตอนเย็นด้วยแล้วกัน”
แนวหน้าเดินแยกไปพักผ่อน ปล่อยไผทให้ยืนชื่นชมรูปโลลิต้าอยู่คนเดียว
“ผู้หญิงน่ารักอย่างนี้เนี่ยนะ...จะร้ายอย่างที่พี่แนวว่า ไม่จริงอ่ะ”
เสียงโลลิต้าดังมาจากหนึ่ง “พี่ชีฟอง แล้วตอนนี้คุณไผทอยู่ที่ไหน?”
ตามด้วยเสียงชีฟอง “น่าจะยังอยู่ที่ห้องรับรองเพคะ...ช้าๆ เพคะองค์หญิง ระวังเพคะ!”
ไผทเดินไปดูตามทางที่มาของเสียง โลลิต้าที่รีบจะมาต้อนรับไผท เดินเลี้ยวมุมมาก็ชนกับไผทพอดี
โลลิต้าผงะและซวนเซจะล้ม แต่ไผทช้อนตัวไว้ได้ทัน สองคนเห็นหน้ากันในระยะประชิดใกล้แค่เอื้อม ต่างคนต่างอึ้ง ตะลึงงันกันไป
อ่านต่อตอนที่ 7