น่ารัก ตอนที่ 4
โลลิต้ากับแนวหน้าต่างตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อเห็นหน้ากันถนัดตาว่าใครเป็นใคร
“นายมาทำอะไรที่นี่ อีตาบ้า” โลลิต้าเปิดฉากด่า
“ผมสิต้องถามองค์หญิงว่า มาทำอะไรที่นี่ มาแอบดูผมทำไม”
โลลิต้าโกรธจนตาแทบถลน “ไอ้บ้า...” องค์หญิงร้องตะโกนอย่างลืมตัว “ทหาร!! มาจับอีตานี่ที”
แนวหน้าช็อก โดยไม่ทันคาดคิด เขาเข้าไปอุดปากเจ้าหญิงทันที
“อย่า...อย่าเรียก ผมขอโทษ”
โลลิต้าตกใจสุดขีด ดิ้นรนสุดแรง แนวหน้าไม่ยอมปล่อย เพราะกลัวทหารมาจับไปแล้วจะเสียแผน เจ้าหญิงจอมแก่นโกรธจัด ในที่สุดก็ตัดสินใจ อ้าปากกัดนิ้วแนวหน้าเต็มแรง แนวหน้าร้องจ๊าก
“โอ๊ย”
โลลิต้าวิ่งหนีขึ้นฝั่งไป “มีใครอยู่ตรงนั้น ช่วยโลลิต้าด้วย”
แนวหน้ารีบวิ่งถลาตามมา ระล่ำระลัก “ใจเย็นก่อนพะยะค่ะ...ใจเย็น ผม เอ๊ย กระหม่อมแค่ล้อเล่น ทำพระทัยเย็นๆ ก่อนนะพะยะค่ะ”
โลลิต้าสงบลงหน่อยหนึ่ง แนวหน้าสาระวนมองหาหินให้เจ้าหญิงนั่ง
“กระหม่อมไม่คิดว่าองค์หญิงจะเสด็จมาแถวนี้ นั่งก่อนพะยะค่ะ”
แนวหน้าหันกลับมาจะเชิญเจ้าหญิงนั่ง โลลิต้าเพิ่งสังเกตเห็นบ็อกเซอร์ที่แนวใส่อยู่ตัวเดียว ตาเบิกโพลง ชี้ไม้ชี้มือ
“นั่น...นั่นมัน”
แนวหน้าก้มลงมองตัวเอง แล้วสะดุ้งสุดตัว เอามือปิดเป้าทันที
“เฮ้ย! คือ...คือ...”
“นาย...ไอ้คนโรคจิตวิปริตทางเพศ!”
ก่อนที่แนวหน้าจะตั้งหลัก โลลิต้าก็ต่อยหมัดเข้าหน้าเต็มแรง แนวหน้าโงนเงนแล้วล้มตึงลงไปในน้ำ
ส่วนที่ร้านอาหารในห้างดังกลางกรุงเทพฯ ลูกปูนั่งรอไผทอยู่ตรงโต๊ะมุมหนึ่ง ฟินชะเง้อชะแง้ร้อนใจเป็นที่สุด สักครู่ไผทเดินรีบร้อนเข้ามา ฟินโล่งอก
“มาแล้วค่ะคุณลูกปู”
ไผทลงนั่งข้างลูกปู ยิ้มแย้มแจ่มใส
“ขอโทษนะครับที่ทำให้รอ สั่งอาหารรึยังครับ”
“ยังค่ะ รอไผทอยู่ เอ๊ะ..ไหนว่าไผทไปเอาของที่รถไงคะ...ไหนล่ะคะของ”
“ของ..ของ...อ๋อครับ...ของที่รถ...คือ...” ไผทลนลานหยิบกระเป๋าสตางค์ “นี่ไงครับ กระเป๋าตังค์ พอดีผมลืมไว้ที่เก๊ะรถฮะ”
ลูกปูพยักหน้ารับรู้ ฟินโล่งอก
“อุ๊ยไม่ดีเลยนะคะ อย่าทิ้งของมีค่าไว้ในรถค่ะ สมัยนี้มันอันตราย”
ฟินดูนาฬิกา
“คุณลูกปูขา...ไผท...พี่ต้องขอตัวก่อนนะคะ มีงานด่วนเข้ามาพอดี...ทานกัน 2 คนไปก่อนนะคะ เดี๋ยวถ้าเสร็จธุระทัน ฟินจะกลับมา…บ๊ายบายค่ะ”
ฟินรีบลุกขึ้นชิ่งออกมาทันที ลูกปูทำท่าเขินๆมองไผท ที่ดูคล่องแคล่ว ส่งเมณนูให้ลูกปูทันที
“สั่งอาหารเลยดีกว่านะครับ”
ฟินหยุดอยู่หน้าร้านหันมามองสองคนอย่างพอใจ แล้วเดินจากไป
อีกด้านหนึ่ง โด่งโผล่ออกมา ทำท่าลับๆล่อๆ ถ่ายรูปไผทกับลูกปูทันที โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
โลลิต้ามีสีหน้าสำนึกผิดเล็กน้อย เอาผ้าขนหนูประคบตาให้แนวหน้า ที่ขยับกายรู้สึกตัว
พอแนวหน้าขยับตัว โลลิต้าถอยกรูดอย่างระวังตัว แนวหน้าครางเบาๆ ก่อนลุกขึ้นนั่ง
“ผมป็นอะไรไปน่ะ..ฟ้าผ่าหรอ”
แนวหน้าลุกพรวดขึ้นยืนใส่บ๊อกเซ่อตัวเดียว โลลิต้ายกมือบังหน้าแทบไม่ทัน
“ว้าย” องค์หญิงยกมือปิดตา “อย่านะ ไอ้คนเลว บ้า ลามก จกเปรต จิตไม่ปกติ จะมาทำอะไรน่ะ..อย่านะ
แนวหน้าก้มมองตัวเองแล้ว รีบเอามือกุมปิดเป้า “กระหม่อมบอกแล้วไงว่าขอโทษ ..ไม่ได้ตั้งใจจะให้องค์หญิงตกใจ ก็นึกว่าอยู่คนเดียว เลยลงไปเล่นน้ำ..ไม่คิดนี่กระหม่อม ว่าจะมีเจ้าหญิงมาแอบดูแบบนี้”
“ไอ้คนบ้า ใครเค้าจะไปแอบดูคนอย่างนาย ชั้นนั่งเล่นอยู่แล้วนึกว่ามีคนจมน้ำก็เลยมาช่วย ฉันจะเป็นอะไรก็เรื่องของฉันแต่ฉันไม่ได้จิต นายต่างหากมาอยู่ตรงนี้ ทำไม ถูกไล่ให้กลับประเทศไปแล้วแล้วยังไม่ไป หน้าไม่อาย”
โดนด่าชุดใหญ่ แนวหน้าหันขวับมา “อ้าวเจ๊”
“อย่ามาเรียกชั้นแบบนี้นะ นายน่ะมันแย่มาก ขี้โม้ โรคจิต บ้ากาม ไร้ฝีมือ ทำงานไม่ได้เรื่อง คนแบบนี้เราไม่เอามาทำงานสารคดีให้ฮวาซาเด็ดขาด”
แนวหน้าถามโกรธๆ “หมดหรือยัง”
โลลิต้าเอามือบังหน้าอยู่ “จะยืนโชว์อยู่อีก ฉันไม่อยากดู ไป..ไปสิ”
“โอเค...ได้” ครีเอทีฟหนุ่มเดินไปหยิบเสื้อผ้าใกล้ๆ เจ้าหญิง โลลิต้าถอยกรูด
“นั่นจะทำอะไรน่ะ”
แนวหน้าหยิบกางเกงมาสวม คว้าเสื้อขึ้นมาใส่ ปากก็บ่นบ้าไม่หยุด
“อ้าว ก็ไปไง...แต่บอกเลย งานสารคดีเชยๆ เฉิ่มๆ เอาดารงดารามาพูดนั่นนี่ๆ จ้างให้ตาย กระหม่อมก็ไม่ได้อยากทำเลยด้วย”
โลลิต้าดีใจ “ดี ขอบคุณที่ไม่อยากทำ”
“แต่...” แนวหน้าท้วง
“แต่อะไร”
“พอองค์หญิงพูดๆ ใส่มาอย่างนี้ ผมก็เลย...คิดเปลี่ยนใจซะละ”
“เปลี่ยนใจอะไร” โลลิต้างง
“ก็เปลี่ยนใจกลับไปพาไอ้ไผท เอ้ย ไอ้น้ำเชี่ยวอะไรนั่นมาที่นี่ไง”
“ไม่ต้อง คุณจีจี้กำลังไปพาเค้ามาแล้ว นายหมดหน้าที่แล้ว ออกไปจากประเทศชั้นได้”
“ไม่ได้ซีครับ งานยังไม่เสร็จเราจะกลับไปเฉยๆได้ไง แล้วอีกอย่างจีจี้ไม่มีพวกเราก็ไม่มีปัญญาทำงานนี้ได้หรอก..ใครเชื่อจีจี้ก็โง่แล้ว”
โลลิต้ากรี๊ด “แอร๊ย...นายว่าชั้นโง่เหรอ บังอาจ! ชั้นมีเหตุผลนะยะ ก็เพราะยังไงพวกนายก็ไม่มีปัญญาพาน้ำเชี่ยวมาได้หรอก มีแต่คุณจีจี้เท่านั้นที่สมควรทำงานของเรา” ชี้หน้าแนวหน้า “เพราะฉะนั้นกลับไป!”
แนวหน้าโกรธจัดเดินเข้าไปกดมือของโลลิต้าที่ชี้หน้าอยู่ลง “งั้นก็มาดูกัน ว่าแนวหน้าหรือจีจี้ ที่จะแน่กว่ากัน ผมจะเอานายไผท ไพศาลีมารับงานนี้ให้ได้ ไม่เชื่อก็คอยดู”
แนวหน้าหันหลังให้เจ้าหญิง เดินสวบๆ ออกไปอย่างโมโห โลลิต้ามองแล้วแลบลิ้นตามหลังไป โกรธสุดๆ เช่นกัน
บ่ายแก่ๆ แนวหน้าเดินปึงปังเข้ามา หน้าตาบูดบึ้ง นายกับเปอร์ตี้หันไปมอง แนวหน้าคว้าเป้ออกมาแล้วจะเดินออกจากกระท่อมไป
นายตกใจปนงง “เฮ้ยเดี๋ยว...แกจะไปไหน”
แนวบอกอย่างจริงจัง มุ่งมั่น “กลับเมืองไทย!”
“อ้าว เฮ้ย จะกลับทำไม บ้าหรือเปล่าก็ตกลงกันแล้วนี่นาว่า จะรอให้จีจี้พาไผทมาที่นี่ แล้วเราค่อยเข้าสวมรอยไง”
แนวหน้าจริงจังมากขึ้นอีก “นั่นละ ไม่ได้เด็ดขาด ผมต้องเป็นคนพาไผทมาเอง ให้ยัยเจ้าหญิงบ้าๆ บอๆ นั่นเห็นว่าไผทเป็นคนของเรา ถ้ารอให้เจ๊จีจี้พามา ไผทก็เป็นของเจ๊อ่ะซิ แล้วเราจะไม่เหลือราคาอะไรเลยในสายตาของเค้า”
“อืม...” นายคิดตาม “ก็ถูก..แต่ว่า...”
“แล้วเฮียก็ต้องรีบเข้าไปในวังไปเตรียมปูทางรอผมไว้ ให้ทางนั้นกลับมาเชื่อว่าเรา คือตัวจริงพูดจริงทำจริง...ไม่ใช่คนไร้ฝีมืออย่างที่เค้าตราหน้าไว้”
“งั้นหมายความว่าแกจะ...”
แนวหน้ามุ่งมั่นเป็นที่สุด “ใช่” กลืนน้ำลายเอื้อก “ผมจะกลับไปเอา...ไอ้ไผทมันมาที่นี่เอง”
“เฮ้ย”
แนวหน้าสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า แล้วเดินตัดหน้านายออกจากกระท่อมลิ่วๆ ไป นายมองตามทึ่งๆเปอร์ตี้เดินมาดึงแขนขาไว้ “ไหนล่ะ...รูปที่พี่บอกจะจ้างให้ลุงผมวาดน่ะ”
นายได้สติ เดินไปปิดกระเป๋า
คืนนั้น ฟินเดินเข้าห้องพัก คอนโดหรูย่านกลางเมือง ท่าทีเหนื่อยล้า ถอดรองเท้า วางกระเป๋า ก่อนเหลือบไปเห็นซองเอกสารในกระเป๋าตกใจทันที
“ว้ายตายละ ตายๆ” ฟินรีบยกมือถือขึ้นมากดโทรออก บ่นกับตัวเอง “แย่มาก ลืมได้ยังไง”
ไผทสวมหมวก แว่นดำพรางตัว ชุดเดิมจากที่เคยหลบไปร้านขิง ซุปตาร์หนุ่มเดินก้มหน้าก้มตามากับก้อยหน้าโรงหนัง เสียงมือถือดัง ไผทยกมือถือขึ้นมาดู ก้อยเดินล่วงหน้าไป
ไผทรับเสียงเนือยๆ “ค้าบคุณพี่ มีอะไรกับผมอีก”
“นี่ รู้มั้ยว่าฉันลืมอะไร...ดูซิ ฉันไม่ได้เอาสัญญาฉบับใหม่ให้เธอน่ะ เอาไงดีละ”
ก้อยเดินย้อนมาเอานิ้วเขี่ยๆ เกาะแขนให้สนใจ
“สัญญาอะไรครับ ของบลูน่ะเหรอ” ไผทหันไปหาก้อย พูดเบา “หา”
“ดูเรื่องโกยสุดซอย 3D ดีก่านะคะ”
ไผทพยักหน้า “เอาสิ” หันมากับมือถือต่อ “สัญญาอะไรครับพี่ฟิน”
“สัญญาของฉันกะเธอนะสิ ที่มันหมดตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน ที่พี่บอกไงที่รัก พี่ก็ยุ้งยุ่ง เลยไม่มีเวลาเอามาให้เซ็นซะที พอวันนี้หยิบมาก็ลืมเอาให้อีก”
“อ๋อ...อ้าว งั้นผมก็เป็นอิสระแล้วนะสิ” ไผทร้องเสียงดัง “ไชโย”
ฟินตกใจ รีบถอยมือถือห่างหู “อะไรของเธอ...” เกย์ผู้จัดการลากเสียงแปร๋นใส่ “อย่ามาทำเป็นดีใจ.. .ชีวิตเธอกับฉัน แยกกันไม่ได้ง่ายไหรอกไผท เธอรีบเซ็นฉบับใหม่ของเรานี่ซะให้เรียบร้อยคือ...ฉันอยากให้เราเซ็นกันให้จบก่อนที่เซ็นกับบลูโอเค้...อย่ามาทำตัวมีปัญหานะ...เด็กดีของเจ๊”
ไผทสลดลง “แหม นึกว่าจะเป็นอิสระซะแล้ว หลงดีใจ..ฮะๆ ล้อเล่น เคครับ ได้...ได้ครับผม ไม่มีปัญหา งั้น...พรุ่งนี้ให้น้ากล้วยเอาไปให้ผมที่สตูฯเดอะสตาร์แล้วกัน”
“หืม...นึกว่าจะมาเอาไปเลย...ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้ก็ได้...นี่ แล้วก็ระวังๆ ตัว เพลาๆ หน่อย อย่าให้มีอย่างเมื่อบ่ายอีกล่ะ รถไฟเกือบชนกันพังทั้งขบวน”
ไผทอึกอัก “ก็... ก็...”
“แล้วพี่ขอเตือนนะว่าเลิกยุ่งกับยายเด็กนักศึกษานั่นได้แล้ว อย่าพากันไปที่สาธารณะด้วยกันอีก ไม่อย่างนั้นจะเป็นข่าวเอาให้ผ่านวันเซ็นสัญญากับบลูไปก่อน ไม่อย่างนั้นคุณลูกปูโกรธขึ้นมาละก็... อดเป็นพรีเซ็นเตอร์แน่ๆ”
ไผทกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ มองไปเห็นก้อยยืนมองตาแป๋วอยู่ใกล้ๆ ไผทหันหลัง
“ก็ผมไม่มีอะไรจริงๆ นี่พี่ น้องๆ รู้จักกันธรรมดาๆ เจอกันบ้าง คุยกันบ้าง ไม่ได้ปิดบังอะไร...แค่นี้ก่อนนะพี่ฟิน” ไผทวางหูโทรศัพท์ทันที
ฟินถอนใจเหนื่อยล้า แล้วเดินมารินน้ำกินจากตู้เย็น
เสียงจีจี้ดังขึ้น “ให้จีจี้ช่วยอะไรมั้ยล่ะจ๊ะ”
ฟินสะดุ้งสุดตัว
“ว้ายผี...” หันไปเจอจีจี้ถือจาน เดินกินส้มตำมาจากครัว “ยายบ้าจี้ เธอเข้ามาในห้องชั้นได้ยังไง”
จีจี้ชูกุญแจห้องมาให้ดู
“ลืมไปแล้วเหรอว่าเจ๊เคยให้กุญแจห้องหนูไว้น่ะ”
ฟินดึงคว้าเอามา “เอาคืนมา”
จีจี้อ้อนสุดขีด “เจ๊ฟิน...เจ๊ต้องช่วยหนูนะ”
“ไม่..ยังไม่ว่างช่วย แกไปให้พ้นห้องชั้น ไปเลย ไป๊”
ฟินกระชากจาน ส้อมในมือจีจี้มา วางกระแทกบนโต๊ะ แล้วมองรอบๆ เจอกระเป๋าจีจี้ หยิบมา แล้วลากแขนจีจี้มาหน้าห้อง
“เจ๊...แต่หนูต้องได้งานนี้จริงๆ นะ เจ๊ต้องช่วยหนู”
“บอกว่าไม่ก็ไม่ไง...อย่ามาบังคับชั้นให้ยากเลย ยังไงไผทก็ไปทำงานนี้ไม่ได้”
“โธ่...เจ๊ ช่วยหนูหน่อยนะ”
“จีจี้ ขอโทษนะ เราจะสนิทกันแต่เรื่องบางเรื่อง ชั้นก็ช่วยเธอไม่ได้หรอก กู้ดไนท์”
ฟินปิดประตูปัง แล้วล็อกกลอนด้านในทุกชั้น จีจี้ยืนตะลึง ไม่นึกว่าจะโดนแบบนี้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นแค้น พึมพำกับตัวเอง
“บังคับให้ชั้นทำแบบนี้ใช่มั้ย...ได้”
จีจี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร.ออก
ภาพ Snap shot ขณะไผทกับก้อย ซื้อขนมหน้าโรงหนังกันกระหนุงกระหนิง โดยก้อยส่งข้าวโพดให้ ไผทส่ายหน้า ก้อยเลยเอาข้าวโพดป้อนใส่ปาก ไผทตกใจรีบลากแขนก้อยเข้าโรงไป
โด่งเจ้าของผลงาน ลดกล้องลง ยืนอยู่มุมมืด แล้วหยิบโทรศัพท์ที่ดังอยู่มากดรับ
“ทุกอย่างเรียบร้อยเจ๊จี้...โด่งซะอย่าง..ไม่ต้องห่วง”
โด่งวางโทรศัพท์ ยิ้มพอใจ
กลางดึก รถสปอร์ตหรูของไผทแล่นมาจอดหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง เห็นก้อยลงจากรถแล้วเดินอ้อม ไปเปิดประตูฝั่งคนขับ ดึงตัวไผทออกมา
“ขึ้นไปได้แล้วก้อย ดึกมากแล้ว”
“แล้วพี่ไผทจะไม่มาหาก้อยอีกแล้วเหรอคะ”
“เรื่องเรามันจบลงแล้วไงจ๊ะ ก้อยสัญญาแล้วว่า ถ้าพี่ไปดูหนังกับก้อย แล้วก้อยคืนรูปให้พี่แล้ว มันก็จะจบไม่ใช่เหรอ”
ก้อยคอตกหน้าเศร้า พยักหน้ารับ แล้วเดินจากไป 2-3 ก้าวก่อนจะหันกลับมา โผเข้ากอดไผทเต็มแรง ไผทตกใจไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก้อยก็วิ่งขึ้นห้องไป ไผทถอนใจโล่งอก ขึ้นรถขับออกไป
โด่งแอบตามมาซุ่มอยู่มุมหนึ่ง กดถ่ายรูป Snap shot ระรัว
ที่มุมหนึ่งภายในลอบบี้คอนโดหรู จีจี้ก้มหน้าดูแท็บเล็ตในมือ สไลด์ขึ้นลง พร้อมกับคุยโทรศัพท์อีกมือไปด้วย เบา
“อ๋อนี่ไงรูปมาละ โอเค” จีจี้ตาโตพอใจผลงานโด่งมาก “เก่งมากโด่งน้องรัก ชัดเจนแจ่มแจ๋ว สมแล้วที่เป็นมืออาชีพ โอเค...งั้นเดี๋ยวชั้นดูก่อนแล้วเดี๋ยวจะบอกให้ว่าเธอควร post รูปไหนบ้าง”
จีจี้ยิ้มสมใจ วางสาย มองดูรูปไผทกะก้อยหน้าจออย่างพึงพอใจสุดๆ แววตามีเลศนัย มีเสียงคนเดินมาจีจี้รีบหันไปดู เห็นเป็นไผทที่เพิ่งกลับเข้าคอนโดมา และจะตรงไปที่ลิฟต์
จีจี้ทักดังลั่น “น้องไผท..น้องไผทๆ” รีบเก็บของลุกขึ้นเดินไปหา
“พี่จีจี้”
ไผทงง เห็นจีจี้กับกระเป๋าเดินทางในมือ
“พี่อยู่ที่นี่เหรอครับ...ทำไมผมไม่เคยเห็น”
“พี่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก แล้วตรงมาหาเธอเลย..นี่ๆๆ พี่มีอะไรจะให้ดู”
จีจี้คว้าแทบเล็ตขึ้นมาเปิด เป็นภาพทิวทัศน์อันสวยงามของฮวาซาใต้ภาพหนึ่งขึ้นมา ยื่นให้ไผทดูใกล้ๆ
“นี่ๆ พี่เพิ่งจะไปมา สวยมะ ประเทศเกิดใหม่ ชื่อ ฮวาซาใต้”
ไผทชมตามมารยาท “ครับ สวยมากเลยครับ”
“นี่ๆๆ” จีจี้เลื่อนภาพให้ดูไปเรื่อยๆ “พี่ไปคุยงานมาล่ะ งานช้างระดับฮอลลีวู้ดเลยนะ”
“ถ่ายหนังเหรอครับ น่าอิจฉามากเลย ได้ไปที่สวยๆ แบบนี้ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ไผทไม่สนใจเลย
“เดี๋ยวสิ...ถ้าสวยไผทก็ไปสิ อยากไปรึเปล่า พี่พาไปได้เลยนะ”
ไผทหัวเราะชอบใจ “ถ้าได้ไปจริงก็ดีสิครับ อะไรที่ให้มันไกลจากชีวิตแบบ...ตื่นเช้าไปกองถ่าย-ตกบ่ายวิ่งอีเว้นท์...ผมละอยากไปทั้งนั้น อยากพัก อยากเที่ยวใจแทบขาด...อย่าไปฟ้องพี่ฟินนะฮะ แหะๆ”
“ก็นี่ไง มาเลยๆ ไปฮวาซากับพี่จี้เลย ได้เที่ยว ได้พักผ่อน ได้งานได้เงิน ได้โกอินเตอร์ โอยทั้งขึ้นทั้งล่องตอบครบทุกโจทย์เลยมะ พี่ว่าคุ้มสุดๆ นี่แสดงว่าฟินยังไม่บอกอะไรละซิ งั้นพี่จี้บอกเลยนะ ว่าพี่จะทำสารคดีท่องเที่ยว...ที่จะเอาเธอมาเป็นพิธีกร...งานนี้ไม่ใช่งานสารคดีงงๆทื่อๆแบบของเจ้าแนวหน้าอะไรอย่างนั้นนะ อย่าเข้าใจผิด เพราะพี่กำลังคุยกับ เจมส์ คาเมร่า ผู้กำกับฮอลลีวูด เอาตัวเป็นๆ มาเลย” จีจี้ฝอยโน้มน้าวแหลก
“หา! เจมส์ คาเมร่า เจ๋งมากเลยพี่ …น่าทำด้วยชะมัด แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่เลย” จีจี้ทำท่าจะจูงมือไปยังลิฟต์ “ไปๆ ไปรีบเก็บของเลย พรุ่งนี้ไปกันเลย”
“นี่เล่นหรือจริงเนี่ย”
“จริงสิจ๊ะ พี่ดูเหมือนเป็นคนชอบพูดเล่นเหรอ...ไปจ้ะไป”
เสียงลิฟต์ดัง ไผทหันไปเห็นลิฟต์เปิด มีคนเดินออกมา เลยรีบวิ่งเข้าไป จีจี้งง ไม่ทันตั้งตัว ก่อนไผทโผล่หน้าตะโกนออกมา
“คงไม่ได้หรอกพี่จี้ งานผมยาวเป็นหางว่าว พี่ฟินไม่ยอมให้ไปไหนหรอก เดี๋ยวอีกวันสองวันผมจะต้องเซ็นกับบลูแล้วด้วย หมดสิทธิ์ครับพี่ บ๊ายบาย”
ประตูลิฟต์ค่อยๆ ปิดลง จีจี้ตั้งตัวได้รีบวิ่งตามไป แต่ไม่ทัน
“นี่ เดี๋ยวซิ..ไผท ไผท” บ่นบ้ากับตัวเองอย่างอาฆาต “อะไรก็บลูๆ เอาซี้ ถ้าชั้นไม่ได้...คนอื่นก็ต้องไม่ได้ด้วยเหมือนกัน...ฮึ!”
จีจี้โกรธปนแค้นกรุ่นๆ ขึ้นมาอีก
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 4 (ต่อ)
ไก่ป่าขันร้องดังบอกเวลายามเช้าตรู่ เสียงดังมาถึงกระท่อมกลางป่าของเปอร์ตี ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม สดชื่น แลเห็นทิวเขาสุดลูกหูลูกตาของฮวาซาใต้
ชามอาหารที่มีแต่ข้าวยุ่ยๆ เละๆ กับผักลอยเต็ม หน้าตาคล้ายโจ๊กปนจับฉ่าย พร่องไปค่อนชาม
นายนั่งเคี้ยวช้าๆ แบบเต็มกลืน พยายามฝืนกลืนลงคอ ในมือถือชามอาหารกับจับช้อนขนาดทัพพี หน้าเบ้ ถอนใจเป็นระยะ
เปอร์ตีวิ่งพรวดโผล่เข้าประตูมา ในมือถือโถใบเขื่องกับม้วนกระดาษหนาโต นายตกใจหันมอง
“มาแล้ว” เปอร์ตียื่นโถให้ “นี่นมสดๆ จากฟาร์มลุง”
“อา...” นายแทบจะร้องไห้ รับโถมาดู เห็นเป็นนมสด ดีใจมาก รีบกลืนข้าวที่เคี้ยวอยู่อย่างฝืดคอ “รอดตายแล้วไอ้นาย”
นายยกโถขึ้นดื่มเอื้อกๆ เปอร์ตียืนมองอย่างแปลกใจ
“หิวมากเหรอพี่” เด็กน้อยก้มดูชาม ยิ่งแปลกใจ “กินจะหมดชามเลยด้วย? เดี๋ยวเปอร์ตีไปเอามาให้อีก” เปอร์ตีคว้าชามจะเดินออกไป
นายสำลักนม “โอว..พะ พ่อคุณ ไม่ต้องแล้วจ้า...พี่อิ่มอร่อยสุดๆ ไปเรียบร้อยแล้ว”
“อร่อยจริงเหรอ? ลุงคงดีใจน่าดู”
“ทำไมล่ะ”
“ในที่สุดก็มีคนกินอาหารของลุงได้น่ะสิ ปกติลุงก็จะทำให้หมูในคอกกินหมูยังเมินเล”
นายเหวอ อึ้ง อ้าปากค้าง เหลือบมองอาหารในชาม พูดไม่ออก
“อะ นี่ ที่พี่ให้เปอร์ตี้เอาไปให้ลุงวาด”
เปอร์ตียื่นม้วนกระดาษให้ นายรับแล้วรีบคลี่เปิดดู ตาลุกวาวทันที เป็นภาพสเก็ตช์ด้วยดินสอ portrait น้ำเชี่ยวในละคร
“โหย สุดยอด..นี่ฝีมือลุงน้องเหรอเนี่ย เยี่ยม” นายพลิกดูแผ่นอื่นๆ ไปมา “เยี่ยมที่สุด”
นายตาวาว มีความสุขล้น นึกถึงแผนการของตัวเอง
ไม่นานต่อมา เปอร์ตีเดินนำฉับๆ มีนายสะพายเป้เดินตาม ทั้งสองเดินอยู่กลางป่าสูง เลี้ยวลด ไปตามเนินลงไป นายเดินไปเปิดรูปดูไปอย่างมีความสุข
“นี่ ฝากบอกลุงด้วยนะ ว่ามาเอาดีทางวาดรูปเถอะ อาหารน่ะ ไม่ทำก็ไม่มีใครว่าหรอก”
“เหรอ ได้สิ เดี๋ยวบอกให้ เปอร์ตีก็ว่างั้นละ”
เปอร์ตีหยุดมองซ้ายขวา คิดแล้วออกเดินไปทางหนึ่ง
นายมองตาม เห็นมีแต่ป่า “เปอร์ตีมาทางนี้บ่อยเหรอ”
เปอร์ตีส่ายหน้า “ไม่หรอก ลุงเคยพามาตอนเปอร์ตี 5 ขวบ ครั้งเดียว แต่ก็พอจำได้”
“อ้าว...แล้วไหนว่ารู้จักดี”
เปอร์ตีเดินมาหยุดหน้าแนวพุ่มไม้สูงหนาทึบ
“นี่ไง ถึงละ”
นายเหลียวมองไปรอบตัวท่าทีงงๆ “ถึง! เนี่ยนี่ ทางเข้าวัง”
นายหันซ้ายหันขวาอีกรอบอย่างงงๆ เพราะรอบข้างเป็นป่ารกชัฏ
เช้าวันเดียวกัน กรุงเทพฯ รถติดเป็นแพ
บริเวณหน้าห้างแห่งนั้น ใกล้เปิด คนมายืนรอเข้ากันเต็ม พนักงานเดินเข้าทางประตูข้าง
ชายคนหนึ่งก้าวเข้ามาตรงทางเข้า ไม่ใช่อื่น แต่เป็นแนวหน้าที่สะพายเป้หน้าดำแดดโทรมหน้ามาหยุดยืนมองอยู่หน้าห้าง เข้าคิวรออีกคน ดูนาฬิกา พบว่าเวลา 10 โมง ตรง
พนักงานเปิดประตูออกมา แล้วเชิญคนเข้า พวกลูกค้าท่าทางรีบร้อน เข้าไปในห้างกัน
แนวหน้าจะเดินเข้า แล้วเกิดลังเล หันกลับ ถอนใจหนักหน่วง เอาไงดีวะ จะเข้าไปดีไม่ดี แล้วหันกลับ แต่โดนคนชนจนกระเด็น ล้มก้นกระแทกพื้น แนวหน้าสุดเซ็ง
แนวหน้าเดินลังเลจะไปไม่ไปดี ใจเต้นโครมคราม สุดท้ายมาหยุดอยู่ตรงทางเดินในห้าง กลืนน้ำลายเอื้อก มองไปตรงหน้าเห็นป้ายร้านขิงดีไซน์อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก
แนวหน้าสูดหายใจลึกสุดปอด รวบรวมสติและความกล้าเดินตรงเข้าไป แต่เดินไปได้สองก้าวก็หันขวับกลับเดินมาที่เดิม ร้องกรี๊ดเบาๆ กับตัวเอง
“เอาไงดีว๊า.. กล้าสิเว้ย เฮ้ย”
แนวหน้าหลับตารวบรวมความกล้า หันขวับเดินก้มหน้าตรงไปที่หน้าร้านขิงดีไซน์ทันที
แนวหน้าเดินมาหยุดที่หน้าร้าน ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง เห็นร้านมีป้าย closed แขวนอยู่
แนวหน้าผงะ มองป้าย ก่อนจะกวาดตามองผ่านกระจกเข้าไปสำรวจในร้าน ชะเง้อชะแง้ดูจนทั่ว
“ร้านปิด” แนวหน้ามองจนแน่ใจ พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นดีใจสุดขีด โล่งสุดๆ
“เยส! รอดแล้วเว้ย ฮ่าๆๆ งั้นก็กลับ”
แนวหน้าหันขวับเดินกลับสบายใจเฉิบ
ขณะเดียวกัน ขิงที่สะพายกระเป๋าใบใหญ่ ถือกุญแจจะมาเปิดร้าน เดินมาอย่างรีบร้อน เพราะสายมากแล้ว แนวหน้าเองจะก้าวเดินต่อ ขิงเดินมาถึงหน้าร้านพอดี ต่างคนต่างอึ้ง
ขิงมองอย่างไม่เชื่อสายตา “พี่...พี่แนว”
แนวหน้าตกใจ “ขะ...ขิง”
ขิงมองสำรวจแนวหน้าหัวจรดเท้า ยังไม่อยากเชื่อ ส่วนแนวหน้าตะลึงจังงัง ตัวแข็งเป็นหินไปแล้ว
สองคนอยู่ในร้านขิงดีไซน์ที่เปิดให้บริการแล้ว
แนวหน้ากับขิง ต่างคนต่างอึ้ง ขิงเสิร์ฟน้ำให้แนว
“พี่แนวมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
แนวหน้าไปไม่เป็น เงอะงะ “คือ พี่...พี่มาเดินเล่นๆ เรื่อยๆ น่ะ แฮะๆ”
ขิงแอบมองสาระรูปของแนวหน้าที่ดูทรุดโทรมมาก
“ค่ะ พี่แนวสบายดีเหรอคะ ไม่ได้เจอกันนานเลย”
“อ้อ ใช่...ก็ สบายสิครับผม แล้วน้องขิงล่ะ มาร้าน...เอ้ย...มาทำอะไรแถวนี้ล่ะ”
“ค่ะ นี่ร้านขิงค่ะ ขิงเปิดร้านนี้ได้ปีกว่าแล้ว”
“อ๋อ...เหรอ...ดีจัง...พี่ไม่ยักรู้”
แนวหน้าไม่รู้จะพูดยังไงต่อ ความเงียบทำหน้าที่ชั่วขณะ ขิงมองๆ
“งั้น...พี่แนว...ไม่ได้มาหาขิง จริงๆ ใช่มั้ยคะ”
“ปละ...เปล่า...คือ...พี่ก็เคยได้ยินอยู่เหมือนกัน เคยผ่านๆ มาหลายทีละไม่แน่ใจ..แล้วขิงสบายดี? เอ้ย..ถามแล้ว” แนวหน้าเขิน อาย มือไม้เกะกะไปหมด ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเงอะงะอีก สุดท้ายนึกได้จะพูดอะไร “อ้อ...ขิงดูดี สดใสดีนะเป็นผู้ใหญ่เชียว ตอนงานรับปริญญาขิง พี่ก็วุ่นเลยไม่ได้ไป”
ขิงเยื้อนยิ้ม “ค่ะ ขอบคุณค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ”
“แล้วๆ...เบอร์ขิง พี่ก็ดันทำหาย...เอ่อ คือ ตอนนั้นมือถือพี่หายไง ก็เลยหาย เราเลยไม่ได้คุยไม่ได้ติดต่อกันเลย..นิ” แนวหน้ายิ้มแหะๆ แห้งแล้งเต็มประดา “แล้ว..ไอ้..เอ่อ...” จะถามถึงไผท แต่ชะงัก หยุดเท่านั้น
“อะไรคะ”
“อ้อ เปล่าจ้ะ”
ขิงงงๆ รอฟัง แต่แนวหน้าเงียบ “แล้วพี่แนวไปไหนมาคะ ท่าทางเหมือนเพิ่งมาจากป่าเลย”
“อ้า ใช่ๆ จ้ะ เพิ่งกลับมาจากฮวาซาใต้นู่น”
“อ๋อ...ประเทศที่เพิ่งประกาศอิสรภาพ...โหย...น่าอิจฉาจัง...ท่าทางจะสวยนะคะประเทศนี้”
“อ้อ จ้ะๆ” แนวหน้าคิดหนัก “เอ่อ...ขิง...คือ...พี่มีเรื่อง...”
โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานดังขึ้น ขิงหันไปมอง
“รับโทรศัพท์ก่อนเถอะจ้ะ”
“งั้น ขิงขอตัวก่อนนะคะ” ขิงลุกขึ้น
“งั้นเดี๋ยวพี่ก็กลับแล้วเหมือนกัน”
ขิงงง “อ้าว...แล้วเมื่อกี๊พี่แนวมีอะไรจะเล่าให้ขิงฟังไม่ใช่เหรอคะ”
“เปล่า..ไม่มีอะไร พี่ลาละนะ”
แนวหน้าลากกระเป๋า เดินออกไปจากร้าน ขิงทำหน้างง แล้วเดินไปรับโทรศัพท์
แนวหน้าเดินออกมาหน้าร้าน ทำท่าจะไปแล้วเกิดลังเล ภาพตอนโลลิต้าด่าว่าทำงานไม่เก่งผุดขึ้นมาหลอน แนวหน้าถอนใจเฮือก
ขิงวางโทรศัพท์ลง หันไปเห็นแนวหน้าเดินกลับเข้ามาในร้าน ท่าทางมุ่งมั่น
“ขิง คืองี้นะ”
ขิงตกใจ หันไป รอฟัง
“เอ่อ...”
“อ้าว? พี่แนว..ลืมของเหรอคะ” ขิงมองเป็นเชิงถาม ว่ามีอะไรหรือเปล่า
“เปล่าจ้ะ...คือ...ก็ พอดีว่า...คือ พี่เพิ่งนึกได้ว่าอยากจะมาขอคุยเรื่องงานสักหน่อย ไม่มีอะไรหรอก”
“อ๋อ งาน...งานของพี่น่ะเหรอคะ” ขิงแปลกใจ
“จ้ะ คือว่า...คือว่าพี่อ่ะนะ เห็นว่าขิงกับ...เอ่อ...ไผท ไพศาลี ที่กำลังดังๆ อยู่เนี่ย...สนิทกัน แล้วพี่ก็...พี่ก็อยากชวนเขามาร่วมงานด้วยหน่อย จะได้ไหม”
ขิงงงไปใหญ่ “ก็...ไม่ทราบสิค่ะ พี่แนวก็ลองคุยดูสิ”
แนวหน้าดีใจมีหวัง “คืองานนี้นะ มันเป็นงานไฮโซโกอินเตอร์ ที่สุดยอดมากๆ แบบยังไม่เคยมีใครเขาทำกันเรียกว่ามาสเตอร์พีซระดับชาติทีเดียวเชียว”
ขิงยิ้มไปตามมารยาท “ค่ะ...น่าสนใจนะคะ”
“ขิงก็ว่าดีใช่มั้ย...อา...เยี่ยมเลย งั้นช่วยคุยให้พี่หน่อยสิ”
ขิงงงหนัก “ขิงคุย? คุยอะไรกับใครคะ?”
“เอ้า ก็คุยกับไผทไง เค้าเป็นแฟนขิงไม่ใช่เหรอ คือพี่อยากให้ขิงช่วยคุยตรงนี้ให้พี่หน่อย ว่าพี่ขอร้อง เอ๊ย...ชวน”
ขิงยิ้มแห้งๆ “พี่แนว...เอางี้นะ ขิงไม่ได้เป็นอะไรกับไผท เราไม่เคยเป็นแฟนกันเลย เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ถ้าพี่คิดอย่างนั้น พี่ผิดแล้วล่ะ” หางเสียงดีไซเนอร์สาวเท่สะบัดๆ โดยไม่รู้ตัว เพราะชักโกรธกรุ่นขึ้นมา จากนั้นก็เดินหนีไปหลังร้านดื้อๆ
“เอิ่ม...ขะ ขิง!ก็...”
แนวหน้าอึ้งไป มึนตึ๊บ
ขิงมารื้อสต็อกหาของ แต่ไม่มีสติเท่าไหร่ แกะถุงพลาสติกแรงๆ ระบายอารมณ์ แนวหน้าโผล่มาข้างประตู จ๋อยๆ ซีดๆ ทำหน้าด้านสุดชีวิต ฝืนใจสุดๆ เพราะเดิมเป็นคนติสท์และหยิ่งมาก
“ขิง พี่ขอโทษที่เข้าใจผิดแต่ ขิงต้องช่วยพี่นะ พี่คิดว่าขิงช่วยพี่ได้”
“พี่แนว คือ...ขิงไม่เกี่ยวอะไรกับไผทน่ะ เรื่องงานไผท พี่ก็ต้องไปคุยกับพี่ฟิน ผู้จัดการส่วนตัว เขาสิ ไม่ใช่ขิงเลย”
“ก็นั่นเขาเป็นเพื่อนกับพี่จีจี้”
“แล้วไงล่ะคะ”
“อ๋อเปล่าจ้ะ...คือพี่แนวจะบอกว่า ไปติดต่อผ่านผู้จัดการมันดูเป็นทางการไป พี่ว่าของอย่างนี้ คุยอย่าเป็นทางการจะดีกว่า...แล้วขิงเองก็เป็น เอ่อ เพื่อน...สนิทกันมาหลายปี...ขิงก็น่าจะบอก หรือติดต่อไผทให้พี่ได้ ไง” แนวหน้าฉีกยิ้ม “ได้มั้ยจ๊ะ”
ขิงหันมามองไม่อยากเชื่อหูเชื่อตาตัวเอง ว่าแนวหน้าผู้แสนติสต์แตก ถือตัวโครตๆ จะกลายเป็นแบบนี้จริงหรือ
อ่านต่อหน้า 3
น่ารัก ตอนที่ 4 (ต่อ)
ตรงแนวพุ่มไม้อีกด้านหนึ่ง ฝั่งเขตพระราชวัง เปอร์ตีมุดหัวโผล่หน้าออกมาบริเวณนั้นก่อน มีนายโผล่ตาม หัวหูหน้าตามีใบไม้ติดเต็ม หลายใบติดคาปากนายรีบพ่นออก ก่อนแหงนมองไปรอบ สีหน้าดีใจมากๆ
“ฮัดช่า...เก่งมากไอ้น้อง”
บริเวณที่สองคนโผล่มานั้นเป็นมุมหนึ่งติดกับอุทยาน แลเห็นพระราชวังฮวาซาใต้อยู่เบื้องหน้า
เปอร์ตียิ้มแฉ่ง “เปอร์ตีส่งแค่นี้นะ ต้องรีบกลับไปหาลุงละ”
“โอเค ได้เลย ขอบใจหลายๆ...ฝากบอกลุงด้วยละ”
เปอร์ตีโบกมือให้ก่อนผลุบหายมุดกลับออกไปทางเดิม นายมองตาม ค่อยๆ โผล่ออกมาจากแนวสุมทุมพุ่มไม้ลุกยืนขึ้นปัดเศษใบไม้ออกจากตัว
“ไอ้เด็กนี่มันก็เก่งเหมือนกันนะ”
นายหมุนตัวกลับ พอจะออกเดินต้องชะงัก เมื่อเห็นทหารยามวังยืนจังก้า หน้าเข้ม จ้องมา นิ่งดุ
นายรีบทำเป็นมองไม่เห็น ก่อนจะออกเดินช้าๆ เนียนๆ ตัดผ่านหน้าทหารยามที่มองตามงงๆ นายทำหน้านิ่ง แต่เกร็งเป็นที่สุด จนนายเดินผ่านหน้าทหารยามไปได้
ทันใดนั้นเองก็มีมือใหญ่ตบปั้กหลงมาที่บ่าของนาย จนตัวนายถึงกับเอียง
ทหารยาม 1 เสียงเข้ม ดัง “จะไปไหน!”
นายร้อง “เอิ๊ก” ยิ้มกะเรี่ยกะราด
ฝ่ายลูกปู เดินตรงมาที่ประตูออฟฟิศหรู มีโลโก้ “BLUE” เด่นเป็นสง่า เปิดประตูออก เดินตรงเข้าไป พบว่า โต๊ะพนักงานเกือบทั้งห้องไม่มีใครนั่งอยู่ เหมือนออฟฟิศร้าง พอกวาดตามองไปที่มุมหนึ่ง จึงเห็น พนักงาน 5-6 คนกำลังสุมหัวรวมตัวอยู่หน้าจอคอมพ์ ที่โต๊ะๆ หนึ่ง จังหวะนี้มีพนักงานคนหนึ่งเหลียวมาเห็น เลยพากันวงแตก แยกย้ายกันกลับโต๊ะของตัวเอง
ลูกปูเหลียวมองฉงน แปลกใจนิดๆ เดินตรงไปที่ห้องด้านใน ลูกปูนั่งลงที่เก้าอี้ในห้องทำงานส่วนตัว ไม่นาน ก็มีเสียงเคาะประตูดัง
“เชิญ”
พนักงานเปิดประตูโผล่หน้าเข้ามา “สัญญาคุณไผทค่ะ”
ได้ยินชื่อนี้ลูกปูยิ้มแย้มแจ่มใสทันที “เอามาสิ”
พนักงานชื่อ จิว ซึ่งเป็นเลขา เดินเอาเอกสารร่างสัญญามายื่นให้
“โอเค เดี๋ยวขอดูนิดนึง แล้วจะรีบบอก”
“ค่ะ” เลขาหันกลับจะเดินออกไป ลูกปูนึกได้
“เดี๋ยว ข้างนอกเขามีอะไรกันน่ะคุณจิว”
“เอ่อ...” จิวอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะตอบดีไม่ดี “คือ...”
ลูกปูมองอย่างฉงนฉงาย รอฟัง
ขวดน้ำมันถูกเทน้ำมันลงบนฝ่ามือพนักงานนวด ก่อนที่มือนั้นจะมาลูบไล้ไปมาบนมือของเจ๊ฟิน ที่นั่งเอนหลังสบายอุราอยู่คนเดียวในร้านสปาประจำ
พลันเสียงมือถือดังขึ้นทำลายบรรยากาศ ฟินสะดุ้ง ปล่อยให้ดังอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอื้อมมือไปรับ บอกกับพนักงาน
“เดี๋ยวนะจ๊ะ” ฟินละมือ เอื้อมคว้ามือถือมากดรับสายเห็นชื่อก็เซ็ง “อะไรอีกล่ะแม่คุณ แต่เช้าเชียว”
เป็นจีจี้ที่กำลังขับรถอยู่ พูดสายผ่าน Small talk
“เจ๊ฟิน....” จีจี้ลากเสียงน่าหมั่นไส้ “เห็นรูปที่หนูส่งไปให้ในไลน์รึยัง”
ฟินออกอาการรำคาญมาก “รูปอะไรของเธออีกยะ มากวนชั้นทำไมอีกเนี่ย ชั้นกำลังนวดอยู่”
แต่พอได้ดูหน้าจอ ฟินถึงกับตาเหลือก ร้องเสียงหลง “หา!”
ฟินแทบจะกระเด้งตัวจากเก้าอี้เดี๋ยวนั้น เพราะภาพในจอเป็นรูปไผทกับก้อย ทั้งที่ฉอเลาะกันที่หน้าโรงหนังกับในรถ เมื่อคืนก่อนนั่นเอง
ขณะเดียวกันที่สตูดิโอแห่งหนึ่ง ไผทกำลังโพสท่าถ่ายแบบในชุดสไตล์คุณชาย หรู ไฮโซ ออกงาน
แนวหน้าเดินเข้ามากับขิง พยายามวางท่าวางฟอร์ม ทำตัวให้สงบ หันหลังให้ขิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ที่กำลังยืนชะเง้อชะแง้อยู่ข้างหลังทีมงานมุมหนึ่ง
ขิงบอกแนวหน้า “เค้ายังไม่เสร็จกันเลยสงสัยต้องรอหน่อย” แล้วหันไปมองไผทในฉาก “ขิงโทร.บอกไผทให้แล้วคร่าวๆ ว่าพี่แนวอยากคุยด้วยส่วนรายละเอียด” หันมาทางแนวหน้า “พี่แนวลองคุยดูแล้วกัน...อ้าว” ปรากฏว่าหาแนวหน้าไม่เจอ เหลียวมองหาแนวจนทั่ว แต่ก็ไม่เห็น
เสียงช่างภาพดังขึ้น “โอเค เรียบร้อย...เสร็จแล้วล่ะไผท”
“ขอบคุณครับๆ”
ไผทเดินออกจากเซ็ตมา ขิงหันไปเห็นเลยรีบตรงเข้าไปหา
“ไผท”
ไผทหันมองมาเดินมาหา “ขิง ทำไมมาคนเดียวล่ะ ไหนเธอว่าจะพาพี่แนวหน้า”
จังหวะนี้มีมือมาตบที่บ่าไผทหมับ ไผทหันไป
เห็นแนวหน้า ทักทายในท่าทีร่าเริง สบายๆ “ไง ไผท”
ไผทไหว้ตอบ “พี่แนว สวัสดีครับ สบายดีนะพี่ ไม่ได้เจอกันนาน”
“สวัสดีน้องรัก...พี่ต้องสบายดีอยู่แล้ว ไม่ต้องถามก็ได้นะ”
ขิง และ ไผท เงียบสนิท แนวหน้ารีบขำแก้เกี้ยว
“ฮ่า ๆๆ...มุกน่ะ ไม่มีอะไร แล้วน้องสบายดีนะ”
“ครับๆ ดีครับ” ไผททำหน้าไม่ถูก
“อันนี้สิไม่น่าถาม...ยังไงก็ต้องสบายอยู่แล้วเนอะ สวยขนาดนี้” แนวหน้าหัวเราะดังเว่อร์ “ฮ่าๆๆ”
ไผทเหลือบมองขิงเป็นเชิงถาม พบว่าขิงก็ทำหน้าไม่ถูก ก่อนพูดขึ้น
“คือพี่แนวมีงานที่อยากจะมาชวนไผทไปทำน่ะ”
ไผทมองหน้า ไม่วางใจนัก ด้วยเคยถูกแนวหน้าปรามาสไว้เยอะ “งานอะไรครับ”
“อ้า คือ..มันยังงี้นะ..มันเป็นงานที่แบบว่าไฮโซ โกอินเตอร์ ระดับมาสเตอร์พีซ เลยนะ ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนๆ อยากจะทำแล้วได้ทำ มันเอ่อ..เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือ ชื่อเสียง แล้วก็ ประสบการณ์ของคนทำงานตัวจริงเสียงจริงแบบพี่นี่ละ ถึงจะได้ทำ”
“อ๋อ..ครับๆ” ไผทหันไปทางขิง “ขิง...เราว่าเสื้อตัวเนี้ย...วงแขนมันคับไปหน่อยนะ”
“เหรอ...ไหนขอดูหน่อยสิ” ขิงเดินไปดูเสื้อให้ไผท ท่าทางสนิทสนม แนวหน้ากลืนน้ำลายลงคอ หึงขึ้นมาอีก
“คืองานนี้ ถ้าไม่ใช่ชื่อพี่ ในฐานะมือสารคดีระดับรางวัลดิสคัฟเวอรี่ทองคำแล้วละก็ รับรองทำไม่ได้.. ฮ่าๆๆ ถูกต้องมะ”
ไผทไม่ค่อยใส่ใจนัก “ครับๆ แล้วยังไงต่อครับ”
“ก็นี่ละ มันเป็นที่มาที่พี่ต้องมาชวนน้องไง งานนี้มันเป็นงานของระดับเทพเท่านั้น เพราะฉะนั้น โอกาสอย่างนี้มันไม่ได้หากันง่ายๆ เลยทีเดียวเชียวแล้วพี่ก็เลยอยากชวน...เอ่อ...เทพๆ อย่างไผทไปร่วมงาน” แนวหน้าฝืนใจสุดๆ
“ต้องเป็นงานเดียวกับของพี่จีจี้แน่เลยใช่มั้ยครับ?” ไผทถาม
แนวหน้าร้อง “หา...”
คนขับรถฟินเดินเข้ามา พูดนอบน้อม
“คุณไผทครับ คุณฟินให้เอามาให้”
“น้ากล้วย สัญญาผมใช่มั้ยครับ ครับขอบคุณมาก” ไผทรับมา
“คุณฟินบอกให้รีบเซ็นด้วยครับ” คนขับรถกำชับ
“ครับ น้ากล้วย เดี๋ยวผมจัดให้”
“งั้นผมไปก่อน”
“ได้ครับน้า” ไผทหันมาทางแนวหน้าที่อึ้งอยู่พอรู้ว่าจีจี้โผล่มาคุยตัดหน้าแล้ว “แล้วยังไงต่อนะพี่?”
“อา...เอ้อ..งานเจ๊จีจี้? มีด้วยเหรอ”
“ก็ เมื่อคืนพี่จีจี้ไปหาผมแล้วมาคุยว่ามีงานโกอินเตอร์ระดับฮอลลีวู้ด ติดต่อ เจมส์ คาเมร่า มาด้วย ไปถ่ายที่ไหนน้า...จา...จา...”
แนวหน้าอึ้ง “จะ..เจมส์ คาเมร่า?”
“ใช่ครับ ไปถ่ายที่ฮวาซา ฮวาซาอะไรเนี่ย ซึ่งผมก็บอกไปว่าน่าสนใจมาก...เอ แต่พี่จีจี้บอกว่าไม่ใช่งานของพี่แนว อ้อ งั้นคงคนละงาน...ไหนงานพี่เป็นยังไงครับ”
แนวหน้าใบกิน “เอ่อ...”
ขิงชำเลืองมองแนวหน้าที่กลืนน้ำลายลงคอ เสียงมือถือไผทดังขึ้น
“พี่ฟิน?” มองดูชื่อ แล้วจึงกดรับ “ขอโทษนะครับ... ครับคุณพี่” ซุปตาร์หนุ่มฟัง แล้วอึ้ง ซีด “อะไรนะครับ!”
ที่ร้านกาแฟ กลางห้างหรูแห่งหนึ่ง ของกรุงเทพฯ ภาพ Snap shot ของ ไผทกับก้อย ที่หน้าโรงหนัง 3-4 รูป บนหน้าจอแท็บเล็ต ถูกเลื่อนไปมา โดยมีจีจี้กำลังนั่งดูอย่างตั้งใจ
“ดีนะ ที่น้องๆ ของหนูเห็นเมื่อเช้า แล้วรีบโทร.มาบอก...แต่ก็ยังไม่เห็นมีพวกเว็บดังๆ เล่นเรื่องนี้กันเลยนะ” จีจี้ชี้ที่แท็บเล็ต “อุ้ย นี่จูบหรือหอมกันจ๊ะเนี่ยไผท”
ไผท กับฟินที่นั่งอยู่ตรงข้ามหน้าเครียด ถึงกับสะดุ้ง
“พี่ ผมเปล่า ไม่ใช่ ผมไม่ทำอะไรอย่างนั้นเด็ดขาด ทำก็บ้าน่ะสิพี่”
“ก็นี่ไงคะ ใครเห็นเขาก็ต้องคิดแบบพี่ทั้งนั้นละ นี่ไงมีโอบ มีจูงมือ มีจูบซะขนาดนี้”
“มุมกล้องมันแกล้งผมทั้งนั้น ผมจะไปเที่ยวหาเศษหาเลยในที่สาธารณะทำไม...ผมรู้จักน้องเค้า...คุยกันแบบพี่ๆ น้องๆ ไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆ” ซุปตาร์หนุ่มอธิบาย
ฟินหงุดหงิด ระเบิดออกมา “โอ๊ย! จะเถียงกันไปทำไม มันได้อะไรขึ้นมา หาทางแก้สิ หาทาง...ฉันเพิ่งเตือนแกไปใช่ไหม แล้วมันเป็นยังไงล่ะ จะพังมั้ย...แล้วไอ้ที่เว็บดังๆ มันยังไม่เล่น ก็ไม่เพราะฉันหรือ ที่รีบโทร.ไปซะก่อน ไม่งั้นป่านนี้คงไม่เหลือแน่”
“แล้วนี่...ถ้าคุณลูกปูเค้ารู้เข้าจะทำยังไงล่ะเจ๊” จีจี้แกล้งถามอย่างห่วงใย
ทั้งฟินและไผทสะดุ้ง
“ก็นั่นแหละที่เจ๊กลัว เอ่อ...ขอบใจมากนะจี้ที่มาเตือนก่อน แต่อยากรู้จริงๆว่า ไอ้พวกมือบอนหน้าไหนมันทำ”
“นั่นสิ แย่มาก เจ๊ควรตามเก็บภาพพวกนี้ด่วนๆ”
“เจ๊บอกพรรคพวกไปแล้ว แต่ยังไม่มีใครตามหาไอ้มือบอนนี่เจอสักคน” ฟินแค้นมาก
“ใจเย็นน่าเจ๊...เอางี้ หนูจะลองหาทางช่วยตามเก็บให้อีกแรง มันน่าจะมีทาง”
ไผทซึ้งไหว้ขอบคุณ “ขอบคุณครับพี่ พี่จีจี้ใจดีจังเลย ผมไม่รู้จะขอบคุณพี่ยังไง”
จีจี้ยิ้มเรี่ยราด ชอบใจ “ไม่เป็นไร ถ้าน้องเดือดร้อนพี่ยินดีช่วยอยู่แล้ว”
“ขอบคุณมาก...มากที่สุดครับ”
“แล้วก็คราวหน้าคราวหลัง เกิดพี่เดือดร้อนขึ้นมาบ้าง ก็อย่าลืมช่วยเหลือพี่บ้าง ก็แล้วกัน”
เสียงมือถือไผทดัง ไผทถึงกับสะดุ้งโหยง หยิบมาดู “คุณลูกปู! พี่ฟิน”
“ว้าย เห็นมั้ยเล่า ฉันบอกแล้วใช่มั้ย” ฟินสับสน “เอาไงๆ...งั้นอย่าเพิ่งรับแล้วกัน”
ฟิน กับไผท มองมือถือจนเงียบเสียงไปเอง ต่างคนต่างถอนใจโล่ง จีจี้มองยิ้มในสีหน้า
แต่เพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้น เสียงมือถือฟินก็ดังขึ้น ฟินหยิบมาดูถึงกับผวาไม่ต่างกันกับไผท
“ทะ โทะมาหาฉันอีก..อะ เอาไง ตายแล้ว”
“ก็รับไปสิ รับ เชื่อฉัน” จีจี้เชียร์
ฟินมองสองคนไปมา ตั้งสติแล้วตัดสินใจรับ “ฮะ ฮาโหลค่ะ..ค่ะคุณลูกปู...อะไรนะคะ ขะ ข่าวอะไรคะ?...อ้อ ยังไม่เห็นเลยค่ะ...อ๋อ...” ผู้จัดการคนดังแสร้งตกใจ “หา...วะ ว้าย...เรื่องใส่ร้าย หรือคนหน้าเหมือนแน่เลยค่ะ ไผทเขาไม่ทำอะไรโง่ๆ อย่างนั้นหรอกค่ะ เรียนคุณพ่อคุณลูกปูด้วยนะคะ งั้นเดี๋ยวทางนี้ ฟินจะรีบเช็คข่าว แล้วจัดการเลยค่ะ สบายใจเถอะค่ะคุณลูกปู...อ๋อ ค่ะ...งั้นเดี๋ยวฟินจะรีบ ตรวจดูสัญญาก่อนเลย...ค่ะๆ ก็เอางี้มั้ยคะ หากสัญญาโอเค ฟินว่า พรุ่งนี้เรานัดเซ็นสัญญากันได้เลย ค่ะ ขอบคุณคุณลูกปูมากค่ะ สวัสดีค่ะ”
ฟินวางสาย ไผทถามทันที “คุณลูกปูเห็นแล้วเหรอพี่?”
ฟินคราง เบาๆ “ตาย ตายแน่...คุณลูกปู...พ่อคุณลูกปู เห็นกันหมด” แล้วหันมาทางจีจี้ “ไหนว่าข่าวยังไม่ออก แล้วนี่ฉันจะทำยังไง! ตายแล้ว...ตายแล้ว”
จีจี้ลอบมองทั้งสองที่มีท่าทีวุ่นวายใจสุดขีด แววตาเป็นประกายสะใจสมใจ
อ่านต่อหน้า 4
น่ารัก ตอนที่ 4 (ต่อ)
ไฟสัญญาณจราจรกลางสี่แยกนั้น เปลี่ยนเป็นไฟแดง ท้ายรถคันหน้าไฟท้ายขึ้นแดง รถของขิงเคลื่อนมาจอดต่อ เบรคกึก แนวหน้านั่งอยู่ข้างๆ จ้องมองไปข้างหน้า บ่นบ้าพึมพำกับตัวเอง
“แดง...แดง...แดงเข้าไป เฮ้อ!”
“แล้วพี่แนวจะทำยังไงต่อคะ”
“อะไรนะ”
“พี่จะทำยังไงต่อคะ เพราะขิงก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เหมือนที่บอกตั้งแต่แรก ว่าไผทเค้างานเยอะมากจริงๆ ตอนนี้เค้าฮ็อตมาก”
แนวหน้าถามตัวเอง “ก็นั่นสิ” แล้วหันไปพูดกับขิง “อ้อ สบายมาก น้องขิง...ยังไงต้องขอบใจขิงมากๆ ที่เสียเวลาพาพี่มา พี่โอเคอยู่แล้ว” แนวหน้าผิวปาก ทำเป็นอารมณ์ดี
“ขิงว่าคงต้องไปหาดาราคนอื่นแทนจะง่ายกว่า ไผทเขาคิวทอง”
“ฮะๆๆ คิวทอง...คิวทอง ก็...ไม่เห็นเป็นไรนี่ พี่สบายมากอยู่แล้ว ใครๆ ก็คงอยากทำงานชิ้นนี้อยู่แล้ว...ว่ามั้ย ขนาดขิงยังอยากไปเลย” แนวหน้าฝืนยิ้มอันแสนแห้งแล้งให้
“ค่ะ งั้นก็ดี นึกว่าพี่แนวจะซีเรียสว่าต้องเป็นไผทเท่านั้น”
แนวหน้าผู้ฟอร์มจัดรีบพูด “โอว โนๆ โนซีเรียส พี่จะซีเรียสไปทำไม ฝีมือคนรางวัลแบบพี่ ใครๆก็คงจะอยากทำด้วยอยู่แล้ว”
ขิงอึ้ง “จริงค่ะ”
“แต่พูดก็พูดเถอะงานมันไม่น่าทำก็จะไปทำมันทำไม ถูกไหมจ๊ะน้องขิง พี่อาจจะตัดสินใจไม่ทำเลยก็ได้...ทำงานอื่นดีกว่า...เนอะ” นายพูดเองเออเอง
ขิงยิ้มงงๆ “ดีแล้วค่ะ..แล้วพี่แนว จะไปทางไหน”
แนวหน้าครุ่นคิด พึมพำกับตัวเอง “ไปทางไหน..ก็ต้อง ไปทางที่มันควรไป ไปไม่ได้ก็อย่าไปให้เสียเวลา”
ขิงได้ยินไม่ถนัด “คะ?..ไม่ค่ะ คือพี่จะลงตรงไหน ขิงจะได้ไปส่ง”
“อ้อ ลง ใช่ลง” แนวหน้าจะเปิดประตู “มันติดนักก็ต้องลงเลยดีกว่า เปิดเลย เปิด พี่ลงนี่ละ”
“หา...ตรงนี้นะเหรอคะ” ขิงงง มองรอบตัว
แนวหน้าพูดเบลอๆ “ค่ะ คนเราต้องเด็ดขาด จะทำอะไรก็ตัดสินใจเลย ลงเลย”
ขิงงง ปลดล็อคประตูให้ แนวหน้าเปิดประตูออกไป
“ขอบใจมากขิง ที่บอกให้พี่ลง...พี่ไปละ” แนวหน้าปิดประตูปัง แล้วเดินจากไป
“พี่แนว?” ขิงพึมพำอาการงงๆ บ้าหรือเพี้ยนเนี่ย
แนวหน้าเดินไปบนถนน ไฟเขียวพอดี รถแล่นมา แนวหน้าโดนบีบแตรไล่ตลอดทาง แนวหน้างงๆ อยู่อย่างนั้น
ขณะเดียวกัน ทหารวังรักษาการณ์ที่ยืนตัวตรงอยู่ตามทางเดินในวังตามจุดต่างๆ พากันกลอกตามองตามทหารยามที่เดินเปิดดูรูปในมือไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างสุขใจ โดยมีนายเดินตามมาติดๆ
“ดูรูปล่ะสิ”
“รูปคุณน้ำเชี่ยว ใครๆ ก็ต้องชอบ” ทหารยาม 1 ตะเบ๊ะ “ขอบคุณมากครับ” แล้วหยุดเดิน
“นี่เขตพระราชทานด้านใน ท่านตรงต่อไปทางนี้ก็จะถึง
“อ้อ โอเค ขอบใจนะ”
ทหารยาม 1 จะเดินเลี้ยวกลับ
นายเรียกไว้ “เดี๋ยวพี่...”
ทหารยาม 1 ชะงักหันมา นายดึงม้วนกระดาษออกมายื่นให้อีกแผ่น
“เอาไปอีกแผ่น เพราะพี่น่ารักมาก เอาไปแปะฝาบ้านใบนึง ให้เมียใบนึง แล้วพอผมพาน้ำเชี่ยวตัวเป็นๆ มา พี่ก็เอาเนี่ย มาให้เขาเซ็นชื่อไง โอเค้”
ทหารยามยิ้มแป้น ตะเบ๊ะแล้วตะเบ๊ะอีก
ท่านธูลกับราอูลเดินตามทางในวัง มองไปแล้วเกิดอาการงวยงง เพราะเห็นบรรดาสาวรับใช้ บ้างวิ่งวี้ดว้ายกันเข้าไป บ้างกรี๊ดๆ สวนออกมา ท่านธูลกับราอูลเดินเข้ามาหยุดมองว่าเกิดอะไรขึ้น
สาวๆ เมื่อเห็นท่านธูลก็ตกใจ ถวายคำนับแล้วหนีไป ทุกคนถือภาพอะไรบางอย่างในมือ
“พวกนั้นเค้าเป็นอะไรของเค้า”
“นั่นสิพะยะค่ะ บางคนท่าทางคล้ายโดนผีเข้า กระหม่อมไปดูก่อนดีกว่า”
ราอูลทำท่าจะเดินไปด้านนอก
โลลิต้าเดินเข้ามาอีกด้านหนึ่ง กับชีฟอง ในมือชีฟองถือรูปอะไรบางอย่างมาด้วย
“ท่านพ่อเพคะ”
ท่านธูลกับราอูลหันไปมอง โลลิต้าปรี่เข้ามาหา “ดูนี่สิเพคะ”
เจ้าหญิงจอมแก่นเอารูปจากมือชีฟองส่งให้บิดา ท่านธูลเปิดดูเห็นรูปไผทในชุดน้ำเชี่ยว ก็ตะลึง
“รูปคุณน้ำเชี่ยว”
“นางในคนนึงถือเข้าไปกรี๊ด ถามว่ามาจากไหน ก็บอกว่ามีคนมาแจกด้านนอกเพคะ” ชีฟองบอก
ทุกคนอึ้ง แล้วพากันเดินออกไป
พอเข้ามาในอุทยาน ท่านธูลมองไปเห็น สาวชาววังนับสิบกำลังกลุ้มรุมแย่งยื้ออะไรอยู่ตรงมุมหนึ่งที่ลานด้านหน้า เหตุการณ์เลยเถิดจนเกิดมีการแย่งเป็นกลุ่มๆ
นายยิ้มหน้าบาน ตั้งโต๊ะนั่งแจกรูปวาดไผทให้สาวๆอยู่
“รับไปเลยครับ รับไป...ไผท ไพศาลี ในบทน้ำเชี่ยว เขากำลังจะมา ตัวจริงเสียงจริง..นายนายรับประกันคุณภาพ อย่าแย่งครับอย่าแย่ง”
สาวๆ แย่งกันพร้อมกับร้องกรี๊ดๆ
ท่านธูลตะโกนก้อง “หยุด เดี๋ยวนี้นะ นั่นทำอะไรกัน”
สาววังต่างหยุดกึกหันมองมา หน้าสลด บ้างอ้าปากค้าง ในท่าต่างๆ ก่อนจะค่อยๆ สลายตัวออกซ้าย ขวา จนเผยให้เห็นนายนั่งอยู่ที่โต๊ะยิ้มแหะๆ
ชีฟองชี้ “ว้าย นั่นไอ้วิตถารลามกหนุ่มคนไทยที่โดนไล่ไปนี่คะ”
“กระหม่อม..นายนายพะยะค่ะ”
นายคำนับแล้วยิ้มอย่างหล่อ
ท่านธูลเสียงเข้มเฉียบขาด “ทหาร!”
ราอูลหันไปสั่ง “ทหารมาจับตัวไอ้บ้านี่ออกไปเร็ว”
ทหารวัง 4-5 นาย วิ่งกรูกันเข้ามา นายหน้าเหวอ รีบยกมือขึ้นเหนือหัว
“หยะ อย่าครับ ผมมาดี”
นายนั่งอยู่ที่เก้าอี้กลางห้องสอบสวน จ๋องสุดขีด มีทหารวัง 2-3 นาย ยืนคุมเชิงอยู่ข้างหลัง ท่านธูล โลลิต้า ราอูล และชีฟอง ยืนมองรูปวาดน้ำเชี่ยวในมือกันคนละใบ
“คุณเอารูปคุณน้ำเชี่ยวนี่มาแจกทำไม” ท่านธูลถาม
“เขาเรียกว่า โปรโมท พะยะค่ะ” นายบอก
โลลิต้างง “โปรโมท? โปรโมทเรื่องอะไร”
“อ้าว ก็ ผมกับน้องชายผม กำลังจะเอาตัวไผท เอ่อ...คุณน้ำเชี่ยว มาที่นี่พะยะค่ะ ตามสเต็ปของมือ อาชีพ ที่ไหนๆ ก่อนที่ดาราระดับบิ๊กๆ จะมา เขาก็ต้องมีการโปรโมทอย่างนี้ทั้งนั้น ไม่มีสิแปลกองค์หญิง” นายว่า
ชีฟองแย้ง “ไม่ คุณจีจี้ต่างหาก ที่กำลังจะพาน้ำเชี่ยวมา แก เอ๊ย...คุณ ต้องโกหกแน่”
นายหัวเราะร่า “ฮ่าๆๆ ไม่อยากหัวเราะ..ผิด ผิดครับผม จีจี้นะไม่ใช่ตัวจริงเสียงจริงแบบพวกผมนี่ ท่านประธาน กับองค์หญิง คงยังไม่ทรงทราบล่ะสิ”
“อะไร ฉันต้องรู้อะไรอีก” ราอูลงงใหญ่
“ก็เรื่องที่ แนวหน้า น้องชายของผม ที่สุดหล่อเหมือนพี่ชายคนนี้ เป็นเพื่อนสนิทของคุณไผท หรือน้ำเชี่ยวมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ กินก็กินด้วยกัน เล่นก็เล่นด้วยกัน นอนก็นอนด้วยกัน ขนาดมีแฟนก็ยังมีแฟนคนเดียวกันอีก”
ราอูลตะลึง “หา! จริงเหรอ”
“จริงเสียยิ่งกว่าจริงอีกครับ ถ้าจะหาใครสักคนที่มีศักยภาพพอที่จะพาไผทมาที่ฮวาซาได้ คนคนนั้นก็คือ...เจ้าแนวหน้านี่ล่ะครับ” นายคุยเขื่อง
“แล้วจะแน่ใจได้ยังไง ว่าที่บอกมาทั้งหมด ไม่ได้โม้” โลลิต้ายังไม่เชื่อนัก
นายร้อง “หา...”
ชีฟองเสริม “ใช่ คุณจีจี้บอกพวกเรามาแล้ว ว่าคุณเป็นพวกขี้โม้ ไม่ได้เรื่อง”
นายอ้าปากค้าง
“นั่นสิมีอะไรมายืนยัน” ท่านธูลขู่ “หรือไม่มี เป็นพวกพูดพล่อยๆ”
จู่ๆ นายค่อยหัวเราะในลำคอ หน้าตาเจ้าเล่ห์ มั่นใจว่าแน่สุดๆ “หึๆๆๆ”
ทุกคนเหลียวมองกันไปมา ว่าไอ้นี่มันจะมาไม้ไหน
นายพูดเบา เจ้าเล่ห์ ออกไปทางโรคจิต “แล้วในมือของพวกท่านมันคืออะไร มันบ่งบอกได้หรือยังว่า ไผทกับเรา...ซี้กันแค่ไหน ไม่งั้น รูปวาดน้ำเชี่ยวที่ดูก็รู้ ว่าวาดจากตัวเป็นๆ จะมาอยู่ที่เราได้ยังไง ไผทเค้าส่งมาให้เราที่นี่ เพื่อให้เราช่วยโปรโมท แค่นี้ก็บอกได้อยู่แล้วว่าน้ำเชี่ยวจะมากับใคร” นายหัวเราะดังลั่นอย่างสะใจ “ถูกมั้ยพะยะค่ะ”
ท่านธูล และ โลลิต้า นิ่งอึ้ง มองรูปในมือ เริ่มคล้อยตาม
ที่หน้าจอมือถือ เป็นรูปโด่งโทร.เข้ามา จีจี้ที่นั่งอยู่ที่โซฟารับแขกมุมหนึ่งในออฟฟิศ มีป้ายโลโก้ BLUE ให้เห็นเด่นหรา
จีจี้กดรับสาย โดยป้องปากพูดเสียงค่อยๆ “ว่าไง...หา ปล่อยชุด2 แล้วชิมิ..โอเค ฉันรักแกที่สุดนังโด่ง...ไม่สิ ยังๆ ชุดสามเก็บไว้ก่อน แต่แกส่งมาให้ฉันครบแล้วนะ เค..เลิศ..บาย”
จีจีวางสายยิ้มอย่างมีความสุข นึกได้รีบยกมือถือกดโทร.ออก
“นี่ คุณนายฟินขา..อาการดีหรือยัง..งั้นก็ดีได้แล้วนะ หนูเก็บมาให้แล้ว พร้อมต้นฉบับ ในมือ...ก็เออสิ เออๆ แค่นี้ก่อน คุยงานก่อน”
จังหวะที่วางสายนั้นพนักงานหญิงคนหนึ่ง เลขาลูกปูเดินมาหา
“คุณจีจี้เชิญค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
จีจี้ยิ้มหวานสมใจ ลุกตามไป
ครู่ต่อมาจีจี้มาทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟารับรองในห้องทำงานลูกปู โดยมีลูกปูนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง
“สวัสดีค่ะคุณลูกปู”
“สวัสดีค่ะ คุณ...จีจี้ เอ เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าคะ”
จีจี้ยิ้ม “อุ้ย จีจี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่โลกมันก็ใบแค่นี้ หมุนไปหมุนมาเราก็มาเจอกันนี้ไงคะ”
“ค่ะ คุณจีจี้เป็นคนอารมณ์ดีจัง...เอ่อ เห็นว่ามีเรื่องสำคัญของ..ไผทหรือคะ”
“ค่ะ ถูกต้องค่ะ...คือจี้ ก็รู้เรื่องภาพหลุดไผทมาเมื่อเช้า แล้วทีนี้ทางเจ๊ เอ๊ย!พี่ฟิน ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับจี้ โทร.มาขอร้องให้จี้ช่วยจัดการให้หน่อย ก่อนที่มันจะลุกลามใหญ่โตส่งผลเสียกับน้องไผทไปมากกว่านี้ ซึ่งจี้ก็ได้ภาพทั้งหมดมาแล้ว แต่เพื่อความบริสุทธิ์ใจของทางเจ๊ฟินที่คุยปรึกษากับจี้แล้ว เห็นควรว่า...ควรเอามาให้คุณปูดูให้แน่ใจไปเลยว่า ภาพหลุดมันใช่หรือไม่ใช่ไผท”
จีจี้จ๊ะจ๋า พลางหยิบซองแผ่นซีดีออกมาจากกระเป๋า วางลงบนโต๊ะตรงหน้าลูกปู
“รบกวนคุณลูกปู ช่วยดูให้หน่อยได้มั้ยคะ”
ลูกปูสีหน้าไม่ดีเอาเลย มองซีดีอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะเอาซีดีใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์
จีจี้ลอบมอง นัยน์ตายิ้มฉายแววเจิดจ้ามุ่งผลเลิศบางประการ
อ่านต่อตอนที่ 5