น่ารัก ตอนที่ 5
บ่ายนั้นภายในล็อบบี้อาคารสำนักงาน ออฟฟิศลูกปู มีแสตนดี้ขนาดเท่าตัวจริงของไผทกับสินค้าบลูวางตั้งอยู่
นักข่าวทยอยกันเข้ามาที่ตึก เพราะว่ากำลังจะมีงานแถลงข่าวเซ็นสัญญาของไผทกับ Blue
ฟินกับไผทเดินเข้ามาที่ตึก นักข่าวหันมาเห็นก็จะกรูเข้ามาหาไผท ฟินรีบกันไว้ทันที
“ใจเย็นๆ ค่ะคุณน้องขา...ขอบคุณนะคะที่เอ็นดูน้องไผทไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่รอสักแป๊บนะคะ เดี๋ยวทุกเรื่องที่น้องๆอยากรู้ ไผทจะให้สัมภาษณ์อย่างจุใจแน่นอนค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะ”
ฟินรีบพาไผทเดินเข้าลิฟต์ไป
สองคนอยู่ในลิฟต์ ฟินหันมาสั่ง
“ไผท เดี๋ยวตอนสัมภาษณ์ยิ้มสะกดใจเอาให้พวกนั้นขาอ่อนไปเลยนะ รู้ไหม?”
“ครับ....แล้วคุณลูกปูเค้าจะไม่ว่าอะไรเหรอครับ...เรื่องรูปหลุดของผม”
“พี่แก้ตัวให้ไปแล้ว...คุณลูกปูเค้าก็ดูไม่ติดใจอะไร คงไม่มีอะไรหรอกน่า”
ไผทพยักหน้า แต่ยังไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี
ไผทเดินมากับฟิน พอดีกับที่ลูกปูเดินออกมาจากห้อง ด้วยสีหน้าเย็นชาสุดๆ โดยมีจีจี้ตามออกมา
ไผท กะฟิน หน้าเหวอ ตกใจที่เห็นจีจี้
“นังจี้” ฟินอุทานเบาๆ
จีจี้ออกมาจากห้องพร้อมลูกปู ทีท่าดีใจ แต่พอเห็นฟินก็ผงะ
“ตรงเวลาดีนะคะคุณฟิน ไผท” ลูกปูทัก
“ขา...ค่ะ งานระดับนี้พี่ไม่ยอมให้พลาด เอ๊ย...พี่หมายความว่า งานของคุณลูกปูพี่เป๊ะตลอดค่ะ เราเซ็นสัญญากันเลยมั้ยคะ?”
ลูกปูไม่สนใจที่ฟินพูด แต่หันไปยิ้มทักทายไผท
“ไผท เป็นยังไงบ้างคะ”
“อา อะไรครับ..พร้อมครับ ผมก็พร้อมแล้วเหมือนกัน”
“ไม่ใช่ค่ะ ลูกปูหมายถึง..หนังสนุกไหมคะ?”
“หา...เอ่อ” ไผทเหล่มองฟินให้ช่วย
“อู๊ย... ไม่มีค่ะคุณลูกปู ไผทเค้าคิวแน่นทั้งวันทั้งคืน ไม่มีเวลาไปดูหนังหรอกค่ะ”
ลูกปูหันมายิ้มหวานกับฟิน “เหรอคะ”
ฟินยิ้มตีหน้าตาย ไผททำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มไปด้วย จีจี้เสียวไส้แทนฟิน บรรยากาศชวนอึดอัด
เลขาเดินเข้ามาหาลูกปู
“คุณลูกปูคะ นักข่าวพร้อมแล้วค่ะ”
จีจี้ตกใจ “นักข่าว?!! นักข่าวอะไรคะคุณลูกปู”
“ก็นักข่าวที่เขาเตรียมมาแถลงข่าวเซ็นสัญญาของไผทกับบลูน่ะสิยะ” ฟินสะใจ จีจี้ตกใจ “อะไรของแกจีจี้?”
จีจี้ร้อนใจ พยายามถามลูกปู “คุณลูกปูคะ”
ลูกปูตัดบท “ลูกปูพร้อมแล้วค่ะ เราแถลงข่าวกันเลยดีกว่า” แล้วเดินคอแข็งไปเลย
“แต่เรายังไม่เซ็น...” ลูกปูเดินไป ไม่สนใจฟิน
จีจี้รีบบอกฟิน “เจ๊ๆ แถลงไม่ได้นะ”
“อะไรของแกนังจี้ นี่แกมาหาคุณลูกปูทำไม?”
จีจี้แทบจะร้องไห้
ลูกปูเปิดประตูก้าวฉับๆ เข้ามาในห้องแถลงข่าว พรีเซนเตอร์บลู มีแสตนดี้ขนาดเท่าตัวจริงของไผทกับสินค้าบลูตั้งอยู่ นักข่าวยืนนั่งอยู่เต็มไปหมด
ลูกปูหน้านิ่งๆ เดินตรงไปที่เวที แต่แวะยื่นซีดีแล้วกระซิบอะไรบางอย่างกับทีมงาน นักข่าวขยับเข้ามาเตรียมสัมภาษณ์ ลูกปูเดินขึ้นไปที่โพเดี้ยม
ฟิน ไผท จีจี้วิ่งตามหน้าตาตื่นเข้ามา พอเห็นนักข่าวเต็มห้องเลยได้แต่เดินไปยืนข้างเวที
“สวัสดีค่ะ สื่อมวลชนทุกท่าน ดิฉันในฐานะกรรมการบริหารบริษัท Blue ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจกับการประกาศตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ของบลูในวันนี้นะคะ... อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่าสินค้าบลูเน้นภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคมของพรีเซ็นเตอร์มาเป็นอันดับหนึ่ง และพรีเซนต์เตอร์คนใหม่ที่เราวางไว้ก็คือ... คุณไผท ไพศาลี”
ลูกปูหันมาผายมือมาทางไผท ไผทจำต้องเดินขึ้นไปยืนข้างๆ ลูกปู นักข่าวถ่ายรูปกัน
“แต่ด้วยภาพลักษณ์ที่ปรากฏในปัจจุบันของคุณไผท ทางบลูจึงไม่แน่ใจในเรื่องความเหมาะสม ดิฉันและทีมบริหารจึงตัดสินใจว่า...บลูขอยกเลิกการเซ็นสัญญาในวันนี้ค่ะ”
สิ้นคำ ไผทเหวอ ฟินอึ้ง จีจี้อยากจะร้องไห้ นักข่าวรุมถ่ายรูปไผทที่ยืนเหวออยู่บนเวทีทันที ยิงคำถามไม่ยั้ง
“มีสาเหตุจากอะไรคะ?” / “เกิดอะไรขึ้น?” / “เกี่ยวกับข่าวน้องก้อยรึเปล่าคะ?”
“เพื่อแก้ข้อข้องใจของทุกคน ดิฉันขอให้ทุกท่านได้ชมภาพต่อไปนี้ค่ะ”
ลูกปูพยักหน้าให้ทีมงาน
บนจอโปรเจคเตจอร์ เห็นคลิปของไผทกับก้อยในลักษณะใกล้ชิดสนิทสนมกันมวาก
ฟินหันไปมองจีจี้อย่างโกรธแค้น จีจี้หน้าเสียอยากจะร้องไห้ เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำ จะส่งผลใหญ่โตขนาดนี้ นักข่าวฮือฮา พากันรัวชัตเตอร์ใส่ไผทไม่ยั้ง
ฟินเห็นคลิปแล้วอึ้งๆ มองหน้าไผทอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไผทหน้าเจื่อน
เมื่อฉายคลิปจบ ลูกปูเดินออกไปจากห้องแถลงข่าวทันที นักข่าวพากันมารุมไผท
“ไผทมีอะไรจะแก้ตัวไหมคะ”
“นั่นน้องก้อยที่เคยมีภาพหลุดกันมาใช่มั้ยคะ”
“ที่เคยมีข่าวว่าไปกินข้าวกับคุณลูกปู ที่แท้ก็เพื่อผลประโยชน์เหรอคะ”
“เอ่อ...” ไผทยืนช็อคคาที่ ทำอะไรไม่ถูก หันไปหาฟินขอความช่วยเหลือ “พี่ฟิน”
ฟินเข้ามากันไผท “เรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดกันนะคะ ขอให้ทุกคนรอฟังคำแถลงจากไผทอีกครั้งนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ!”
ฟินรีบพาไผทลงจากเวทีแล้วออกจากห้องไป จีจี้รีบตามไปด้วย นักข่าวรัวถ่ายภาพกันยับ
ฟินเดินฮึดฮัดลิ่วๆ ออกมาจากล็อบบี้ ไผทตามหลัง จีจี้วิ่งตามติดมาด้วย
“เจ๊...เดี๋ยวสิเจ๊!”
ฟินหยุดหันไปหาไผท “ไผทไปรอที่รถ!”
ไผทรีบเดินแยกออกไปทันที
จีจี้ใจชื้น พยายามพูดดีๆ “เจ๊ฟังหนูก่อนนะ”
ฟินโกรธสุดขีด “ไม่! ฉันไม่ฟังอะไรอีกแล้ว อีนางมาร! ฉันไม่คิดเลยนะว่าแกจะทำกับชั้นได้ขนาดนี้ นังหอกข้างแคร่!”
จีจี้ยกมือไหว้ปลกๆ “หนูขอโทษ หนูสาบานเลยว่าไม่รู้จริงๆ ว่ามีนักข่าวอยู่เป็นแสน แล้วหนูก็ไม่คิดว่าคุณลูกปูจะแรงถึงขนาดเอาคลิปไปเปิดให้นักข่าวดู”
“แล้วแกคิดอะไรนังจี้? แกคิดแค่จะให้ไผทถูกแคนเซิลงาน จะได้มีคิวไปถ่ายสารคดีกระจอกๆให้แก แกไม่คิดถึงฉัน ไม่คิดถึงอนาคตของเด็ก แกนี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆ!”
จีจี้เถียงไม่ออก แต่ไม่ยอมรับว่าผิด “ก็ตอนแรกหนูขอเจ๊ดีๆ แล้ว เจ๊ไม่ให้ หนูก็เลยต้องทำแบบนี้แหละ!” จีจี้ยกมือไหว้
“นัง...นัง...” ฟินไม่รู้จะด่าว่าอะไรดี เลยจะเดินหนีไป
จีจี้ดึงมือไว้ “เจ๊!”
ฟินหันมากระชากมือออก ตวาดแว้ด “แกเลิกเรียกฉันได้แล้ว! อย่ามาเรียกฉันว่าเจ๊อีก...ต่อไปนี้ฉันกับแก เราไม่รู้จักกัน!”
ฟินเดินไปเลย จีจี้อึ้งไม่กล้าตามไปอีก มองไปใกล้ๆ มีแสตนดิ้งเท่าตัวไผทที่ยืนยิ้มตั้งอยู่
ที่ฮวาซาใต้ แสตนดิ้งไผทเต็มตัว มาที่แสตนดิ้งเต็มตัวของไผท รูปเดียวกันท่าเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่ห้องบรรทมของเจ้าหญิง บนโต๊ะมีหนังสือเฉพาะกิจเรื่องย่อละคร หน้าปกไผทสุดเท่ แผ่นดีวีดีหนังและละครที่ไผทเล่นครบทุกเรื่อง
ชีฟอง กับสองสาวใช้ มาเรีย และ เซลีน มุงกันอยู่ที่ปลายเตียง ชีฟองอ่านบันทึกขององค์หญิง
“ขณะที่ร่างอันบอบบางของเจ้าหญิงโลล่ากำลังจะตกจากม้าพยศ พลันน้ำนิ่งบอดี้การ์ดหนุ่มรูปงามก็รีบโผเข้ามา และนาทีที่ร่างของเจ้าหญิงจะร่วงลงกระแทกพื้นหินอันแหลมคม อ้อมแขนอันอบอุ่นของน้ำนิ่งก็รัดร่างของเจ้าหญิงไว้เต็มกำลัง”
มาเรียร้อง “ฮ้า” กุมมือตั้งใจฟังอย่างตั้งใจ “เท่จัง”
"องค์หญิงลืมตาขึ้นอย่างตระหนก และพบว่าร่างน้ำนิ่งนอนเหยียดยาว ไร้สติ”
เซลีนร้อง “โอ้ว...ไม่”
ชีฟองอ่านต่อ “องค์หญิงถลาเข้าไปใกล้ และเห็นว่าหัวของเขาได้กระแทกหินแถวๆนั้น องค์หญิงโลล่าถลาเข้าไปหาร่างของน้ำนิ่งอย่างตกพระทัย น้ำนิ่ง คุณอย่าเป็นอะไรนะคะ...หญิงจะอยู่อย่างปลอดภัยได้ยังไง ถ้าไม่มีคุณคอยปกป้อง...ตื่นมาเถอะนะคะ...เจ้าหญิงบรรจงจุมพิตลงบนหน้าผากน้ำนิ่งอย่างแผ่วเบา ด้วยใบหน้านองน้ำตา...จบตอน 5”
มาเรียกะ เซลีนร้อง “อ้าว”
“แล้วเรื่องจะเป็นยังไงต่อเพคะองค์หญิง?” มาเรียถาม
โลลิต้ายิ้มพราย “ไม่บอก...คอยติดตามตอนที่ 6 ของเรื่อง “บอดี้การ์ดหัวใจ” โดย เด็กน้อยขายไม้ขีดไฟ เร็วๆ นี้”
“แค่คุณน้ำนิ่งกับองค์หญิงโลล่าเจอกันในนิยายยังโรแมนติกกุ๊กกิ๊กน่ารักขนาด นี้ ถ้าได้เจอกันจริงๆคงจะ...” ชีฟองยิ้มฟิน สีหน้าเคลิ้มฝัน
“อีกไม่นานแล้วสินะ ที่หญิงจะได้เจอเค้าซักที...คุณไผท”
โลลิต้าเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ยิ้มเคลิ้มฝัน นางกำนัลทุกคนเคลิ้มฝันไปด้วย
ทางด้านนายยืนอยู่ต่อหน้าท่านธูลในห้องสอบสวน โดยมีราอูลยืนอยู่ข้างๆ
“ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่คุณว่า คุณก็ต้องตอบได้สิว่า เมื่อไรคุณไผท ไพศาลีจะมาถึงที่นี่”
“เอ่อ มันก็ตอบยากน่ะพะยะค่ะ แต่ว่าตอนนี้น้องชายผมกำลังไปเร่งตามตัวอยู่น่ะครับ”
“ก็ถ้าน้องชายคุณสนิทกับเค้าอย่างที่คุย ก็ต้องใช้เวลาไม่นานน่ะสิ” ราอูลว่า
“แน่ใจนะว่าคุณไม่ได้เป็นพวกขี้โม้แบบที่คุณจีจี้พูดไว้จริงๆ” ท่านธูลจ้องหน้า
นายคิดหาทางเอาตัวรอดอย่างรวดเร็ว “ท่านต้องเข้าพระทัยนะพะยะค่ะว่า ตอนนี้ไผทเค้าฮ็อตมาก ก็เลยต้องใช้เวลาเคลียร์งานที่ค้างอยู่ แต่เค้ารับปากผมแล้วว่าจะมาที่นี่แน่นอน ฮวาซาคือดินแดนในฝันที่เค้าอยากมามากพะยะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ถ้าคุณโทร.ไปหาน้องชายคุณ คุณก็ต้องให้คำตอบได้สินะ” ท่านธูลว่า
“โทร. เอ่อ...อย่าบอกนะว่าที่ฮวาซามีโทรศัพท์”
นายหน้าเจื่อน แต่พยายามทำใจดีสู้เสือ
ราอูลพานายเข้ามาในห้องที่มีโทรศัพท์รุ่นโบราณ กับคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องตั้งอยู่กลางโต๊ะ ผายมือไปที่โทรศัพท์ “ท่านมีเวลาให้ใช้แค่ 5 นาที”
“5 นาที? นี่ผมกำลังจะคุยธุระสำคัญระดับชาติฮวาซา ให้เวลาผมแค่ 5 นาทีเนี่ยนะ”
“สำหรับฮวาซา ผู้ที่จะใช้เครื่องโทรศัพท์ได้ ต้องเป็นราชนิกุลหรือข้าราชการระดับขุนนางเท่านั้น! หากเป็นคนธรรมดาก็ต้องเป็นระดับเอกอัคราชทูตขึ้นไป”
“แต่ผมกำลังจะโทร.ไปหาน้องชายผม ซึ่งเป็นคนที่จะพาไผทมาที่นี่นะครับ ถ้าทางนี้อยากรู้ว่าไผทจะมาถึงวันไหนแน่ ก็ต้องให้ผมติดต่อน้องชายผม! หรือคุณอยากจะให้องค์หญิงโลลิต้ารอคอยคำตอบไปเรื่อยๆ”
ราอูลนิ่งคิดสักครู่ “10 นาที ไม่เกินกว่านั้น”
นายถอนใจเซ็ง แต่ก็ยังดีกว่าเก่า เลยหันไปยกหูโทรศัพท์จะกดเบอร์ แต่ราอูลยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
นายชะงักกึก บอกกับราอูล “ขอต้องคุยเป็นการส่วนตัวได้มั้ยครับ”
ราอูลดูนาฬิกา “ผ่านไป 30 วิแล้ว”
นายเลยวางหูโทรศัพท์ลงทันที
“งั้นผมก็ไม่โทร. แล้วถ้าเกิดไผทเปลี่ยนใจไม่มาที่นี่ขึ้นมา คุณก็หาคำตอบคอยตอบเจ้าหญิงด้วยแล้วกัน” นายแกล้งโมโหจะเดินออกไป
“ก็ได้! ครั้งนี้เราอนุมัติให้เป็นกรณีพิเศษ”
ราอูลยอมเดินออกจากห้อง นายเหนื่อยใจ รีบเดินกลับมากดเบอร์มือถือของแนวหน้า
ค่ำนั้นแนวหน้านอนหมดอาลัยตายอยากอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก โฮมออฟฟิศ
“หรือว่าเราจะเลิกทำสารคดีดีวะ”
ทันใดนั้นเอง จีจี้ที่สีหน้าไม่ดี เดินคอตกกลับเข้าบ้านมา จีจี้กับแนวหน้าหันมาเจอหน้ากันต่างคนต่างอึ้ง
แนวหน้ารีบลุกนั่งฟอร์มมั่นใจเต็มที่ จีจี้ก็รีบยืดตัวตั้งใจข่มแนวหน้าเช่นกัน
“หลังจากที่ทำอย่างนี้กับผมกับพี่แนวแล้ว พี่จี้ยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ”
“นี่ก็บ้านฉันเหมือนกัน ถึงฉันจะเลิกกับพี่ชายนายแล้ว แต่ฉันก็ยังมีชื่อเป็นหุ้นส่วนของบริษัทจีเอ็นเอ็น อยู่ นายลืมไปแล้วหรือไง”
“ก็ได้ๆ เดี๋ยวรอให้พี่นายมาจัดการไล่เจ๊ไปเองก็แล้วกัน”
แนวหน้าทำท่าจะลุกหนี
“แล้วนี่พี่ชายของนายไปไหนซะล่ะ”
แนวหน้าหมั่นไส้ “อยากรู้ไปทำไม ก็เลิกกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฉันถามเพราะอยากจะฝากข่าวไปบอกนายนายนั่นด้วยว่า อีกไม่กี่วันฉันจะควงไผทไปทำงานที่ฮวาซา แผนการชิงตัวไผทของชั้น ราบรื่น ไร้อุปสรรคมากๆ!”
แนวหน้าตะลึง
“ไม่มีทาง เจ๊ต้องใช้แผนชั่วแน่ๆ”
“เค้าเรียกใช้สมองย่ะ! แล้วถ้านายไม่อยากตกงาน ฉันก็ขอแนะนำให้นายก้มหัวเป็นลูกน้องฉันเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้! แล้วก็ลอยแพพี่ชายนายให้อยู่คนเดียว”
แนวหน้าของขึ้น “อีเจ๊โรคจิต ผมไม่หักหลังพี่ชายผมหรอก!”
“ตามใจ! ถือว่าฉันให้โอกาสแกแล้วนะ อยากเป็นไอ้ขี้เก๊กร่วมกันกับพี่ชายของตัวเองก็ตามใจ!”
จีจี้เดินหนีขึ้นชั้นบนทันที
พอจีจี้เดินพ้นไป แนวหน้าก็หน้าเสียจ๋อยสนิททันที
ส่วนจีจี้ที่เดินพ้นแนวหน้าไป ก็ไปยืนจ๋อยอยู่คนเดียว ไม่รู้จะทำยังไงต่อเหมือนกัน
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 5 (ต่อ)
แนวหน้าอยู่บ้าน ดูมือถือขึ้นเป็น UNKNOW NUMBER โทร.เข้ามา
“ใครวะ” กดรับสาย “ฮัลโหล”
“ไอ้แนว นี่ชั้นเองนะ” นายโทร.มาจากห้องควบคุมโทรศัพท์ ฮวาซาใต้
แนวหน้าไม่ค่อยได้ยิน “ชั้นไหนวะ? นี่โทร.จากขวดโซดาหรือไง ถึงซ่าขนาดนี้!”
นายเสียงดังขึ้น “แกเลิกกวนแล้วฟังฉันดีๆ นี่ฉันนาย! พี่บังเกิดเกล้าของแก! เมื่อไหร่แกจะพาไผทมาที่ฮวาซาสักที?”
แนวหน้าอึกอัก “เอ่อ...คือ...ใกล้แล้วพี่”
“ใกล้ของแกน่ะเมื่อไหร่ แกรู้มั้ยว่าตอนนี้ฉันเข้ามารอแกอยู่ในวังแล้วนะ”
แนวหน้าร้อง “หา!”
“แล้วนี่เค้าก็เริ่มสงสัยแล้วว่าฉันแหกตาเขาเรื่องไผท”
“มันติดปัญหานิดหน่อยน่ะพี่นาย”
“แล้วแกคิดว่าที่นี่ไม่มีปัญหาหรือไง ถ้าพลาดนิดเดียว ฉันคงโดนรุมยิงเป้าแน่นอน ฐานหลอกลวง เอางี้ ฉันรู้ว่าแกเก่ง ฉันจะบอกทางนี้ว่าแกจะพาไผทมาที่นี่อาทิตย์หน้านะ”
แนวหน้าตาเหลือก “ห๊ะ! อาทิตย์หน้าเลยเหรอ?”
ราอูลเดินกลับเข้ามาในห้อง นายรีบฟอร์มคุยเหมือนไม่มีปัญหาอะไร
“โธ่เอ๊ย! อาทิตย์หน้าแกจะมาถึงก็ไม่บอก ปล่อยให้ฉันกับคนทางนี้ตกใจแทบแย่...โอเค งั้นอาทิตย์หน้าเจอกัน อ้อ! บอกไผทด้วยนะว่าให้เตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย ที่นี่มันหนาวกว่าเมืองไทยมาก เออๆ สวัสดี”
นายวางสาย หันมาฉีกยิ้มกับราอูลอย่างเบิกบานแจ่มใส
“ฮัลโหล เฮ้ย! พี่นายอย่าเพิ่งวาง ฮัลโหล ฮัลโหล” แนวหน้าจะกดโทร.กลับไป “เบอร์อะไรละเนี่ย? โว้ว!” ทิ้งมือถือหมดแรง “อาทิตย์หน้า”
แนวหน้าเครียดหนัก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
เห็นชีฟองเที่ยวถามหาโลลิต้ากับสาวใช้ที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างร้อนใจ
“นี่เธอ..เห็นองค์หญิงไหม”
สาวใช้ส่ายหน้าแล้วเดินไป
ชีฟองเดินไปบ่นไป “ทำไมซนอย่างนี้นะเพคะองค์หญิง”
ชีฟองเดินจนไปถึงมุมเลี้ยวมุมหนึ่งแล้วเกือบชนกับชองปอล ชีฟองตกใจมาก รีบถอนสายบัวสุดฤทธิ์
“ขอประทานอภัยเพคะท่านชองปอล หม่อมชั้นไม่ทราบว่าท่านเสด็จมาอีกแล้ว”
“ชั้นจะถือว่า คำว่า “เสด็จมาอีกแล้ว” เป็นคำต้อนรับ” ชองปอลมองหาโลลิต้า “นี่น้องหญิงอยู่ที่ไหน”
“เอ่อ...ไม่ทราบเพคะ”
ชองปอลหงุดหงิด “เธอเป็นพระพี่เลี้ยงของน้องหญิงนี่นา ทำไมถึงไม่รู้ว่าน้องหญิงไปอยู่ที่ไหน ถ้าเป็นที่ฮวาซาเหนือ พี่เลี้ยงที่ละเลยชองปอลต้องโดนเฆี่ยนอย่างน้อย 50 ที”
ชีฟองสะดุ้ง “คือหม่อมชั้นกำลังจะไปตามอยู่เนี่ยแหละเพคะ”
ชีฟองถอนสายบัวแล้วเลี่ยงเดินหนี ชองปอลมองตามไป
โลลิต้ากำลังเด็ดดอกกุหลาบอธิษฐานอยู่ในอุทยาน
โลลิต้าพูดกับตัวเองเบาๆ “มา...ไม่มา...มา...ไม่มา...มา...ไม่มา...มา” องค์หญิงชะงัก เพราะกุหลาบในมือเหลือกลีบสุดท้าย “ไม่มา” โลลิต้าหน้าเศร้า “นี่เค้าจะไม่มาจริงๆ เหรอเนี่ย”
โลลิต้าโยนก้านดอกกุหลาบลงกับพื้น หน้าสลด
เสียงชีฟองดังขึ้น “องค์หญิงเพคะ มาอยู่ที่นี่เอง”
โลลิต้าหันไปแล้วเห็นชีฟองเดินเข้ามา โลลิต้ารีบลุกขึ้นฟ้อง
“พี่ชีฟอง ดูดอกกุหลาบนี่สิ หญิงอธิษฐานขอให้คุณไผท...”
เสียงชองปอลดังขัดจังหวะขึ้น “ขออะไรเหรอน้องหญิง”
โลลิต้าชะงัก ชองปอลเดินอาดๆ เข้ามาใกล้ โลลิต้านิ่งไป ท่าทางเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาทันที
“ว่ายังไงล่ะคะ น้องหญิงกำลังขอพรอะไรจากดอกกุหลาบนั่น”
“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของหญิงค่ะ”
“ก็ได้ ตอนนี้น้องหญิงอาจจะมีเรื่องส่วนตัวกับพี่ แต่อีกไม่นาน เมื่อเราแต่งงานกัน คำว่าเรื่องส่วนตัวก็จะหมดไป”
โลลิต้าอึ้ง โกรธ ชีฟองที่ตามชองปอลมานึกอะไรได้ รีบเสนอหน้าบอก
“องค์หญิงเพคะ ท่านธูลรับสั่งให้ชีฟองตามไปพบด่วนเพคะ”
“เดี๋ยวก่อนสิน้องหญิง ไม่ไปเดินเล่นกับพี่หน่อยเหรอ อากาศกำลังดี”
“แต่ท่านธูลทรงมีเรื่องด่วนเพคะ” ชีฟองแจ้งกับโลลิต้า “คุณไผท ไพศาลี จะมาถึงที่นี่สัปดาห์หน้า ท่านจึงอยากให้องค์หญิงไปปรึกษาเรื่องงานต้อนรับน่ะเพคะ”
โลลิต้าดีใจมาก แต่เก็บอาการไว้
“อ๋อ เอ่อ จริงสิ หญิงลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย” พยายามซ่อนความดีใจ “ขอบใจมากนะพี่ชีฟองที่มาเตือน” หันมาทางชองปอล “ถ้างั้นหญิงขอตัวก่อนนะเพคะ”
โลลิต้าเดินหนีไปทันที ชองปอลเก้อที่โลลิต้าดูไม่สนใจตนเลยสักนิด
“ไผท ไพศาลี ใครกัน!”
ทันทีที่เดินพ้นชองปอลมาได้ เจ้าหญิงโลลิต้าก็หันมาหาชีฟองด้วยอาการดีใจสุดขีด
“จริงเหรอพี่ชีฟอง คุณน้ำเชี่ยวจะมาถึงฮวาซาอาทิตย์หน้าจริงๆ เหรอ”
“จริงเพคะ เมื่อครู่นี้ท่านธูลเพิ่งจะสั่งให้ทางวังเตรียมที่พักให้คุณไผท พี่ชีฟองก็เลยรีบไปทูลองค์หญิงไงเพคะ”
โลลิต้าหันมาเขย่ามือชีฟอง อย่างตื่นเต้นสุดๆ
“ในที่สุด คำอธิษฐานของหญิงเป็นจริง! ถ้าอย่างนั้นเราต้องเตรียมการต้อนรับคุณไผทให้สมกับที่เขามาเยือนฮวาซาครั้งแรก...” องค์หญิงยิ้มเคลิ้ม “คุณไผทจะต้องประทับใจฮวาซาเหมือนอย่างที่คุณน้ำเชี่ยวประทับใจประเทศศิขรินของเจ้าหญิงนภัสสราวดี...พี่ชีฟองต้องช่วยหญิงนะ”
ชีฟอง พลอยตื่นเต้นดีใจไปด้วย
แนวหน้ากำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านขายข้าวแกงริมทาง เครียดเรื่องไผทอยู่ ทีวีในร้านที่เปิดอยู่เปลี่ยนเป็นข่าวไผท แนวหน้าหันไปดูอย่างสนใจ
“ไม่น่าเชื่อเลย...เห็นหน้าตาน้องไผทเรียบร้อยๆ หงิมๆติ๋มๆ แต่แท้จริงเป็นเสือผู้หญิงนะคะ คบทีละ 2 คนแบบนี้ไง มันถึงได้เจ๊ง” พิธีกร1 เปิดประเด็น
พิธีกร 2 ว่า “ก็นั่นน่ะสิคะ ไม่แปลกใจเลยที่ไผทจะถูกถอดออกจากพรีเซ็นเตอร์ของบลู นี่ข่าวแว่วๆ มาว่ามีสินค้าอีกหลายตัวเรียงคิวปลดอยู่ด้วยนะคะ”
พิธีกร 1บอก “ก็นั่นน่ะสิคะ เล่นกับใครไม่เล่น ไปหลอกเอาลูกสาวเจ้าของผลิตภัณฑ์ใหญ่ ไผทเอ๊ย... ตายตายตายลูกเดียวพี่ขอบอก”
แนวหน้าคิดแผนการอย่างรวดเร็ว
ฟากไผทนั่งหน้าเครียดดูทีวีรายการเดียวกัน อยู่ที่คอนโด
พิธีกร 2“จากดาวรุ่งกลายเป็นดาวร่วงแค่ชั่วข้ามคืน หมดอนาคตเลยนะเนี่ย จริงๆ”
ไผทเครียดหนัก เสียงมือถือดัง ไผทหยิบมาดู เห็น Missed called ประมาน 200 ครั้ง
“ทำยังไงดีวะเนี่ย โอ๊ย...”
ไผทตัดสินใจกดปิดเครื่องทันที ร้อนรนใจเป็นที่สุด ลุกเดินไปเดินมาไม่สบายใจ
แนวหน้าลงนั่งตรงหน้าขิง ท่าทางเก้อเขิน
“พี่ขอโทษนะที่ต้องมารบกวนอีก แต่...เอ่อ…ร้านขิงนี่สะอาดสะอ้านดีจัง”
“บอกมาเถอะค่ะว่าพี่แนวมีอะไรให้ขิงช่วย”
“โอ๊ย...ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ เห็นพี่เป็นคนชอบรบกวนรึไง ความจริงพี่มาซื้อเสื้อผ้าไง เสื้อผ้าร้านขิงสวยดีนะ” แนวหน้าเฉไฉ หยิบเสื้อมาทาบแต่เป็นเสื้อผู้หญิง “อุ้ย! ไม่เหมาะเนอะ” รีบแขวนคืน
ขิงถามท่าทีจริงจัง “พี่แนวจะขอให้ขิงช่วยเรื่องไผทใช่ไหมคะ”
แนวหน้าชะงักทันที หันมามองหน้าขิงแล้วยิ้มอย่างน่าสงสาร “ถ้าพี่บอกว่าใช่...ขิงจะช่วยพี่ใช่ไหม”
ขิงถอนใจเฮือกใหญ่ เหนื่อยใจที่ดันเดาถูก
อ่านต่อหน้า 3
น่ารัก ตอนที่ 5 (ต่อ)
ส่วนทางฝ่ายชองปอลพาตัวเองมาอยู่ภายให้ทรงสำราญของห้องท่านธูล ในวังฮวาซาใต้ และถามขึ้นอย่างคาใจ
“นายไผท ไพศาลี คือใครกันกระหม่อม ทำไมน้องหญิงโลลิต้า ถึงได้มีท่าทางดีอกดีใจ เมื่อรู้ว่าไอ้หมอนั่นจะมาที่นี่”
“ท่านชองปอลอย่าคิดมากไปเลย ลูกหญิงก็แค่ต้อนรับ คุณไผทในฐานะของแขกเมืองของฮวาซาเท่านั้น”
“ชองปอลก็เป็นแขกเมืองเหมือนกัน ทำไมน้องหญิงไม่เห็นจะสนใจแบบนั้นบ้าง ทั้งๆ ที่ชองปอลเป็นพระคู่หมั้นแท้ๆ หรือว่าฮวาซาใต้ไม่เคยเห็นความสำคัญของฮวาซาเหนือ?”
ชอลปอลหันมาจ้องหน้าท่านธูล ท่านธูลแอบไม่พอใจที่ชองปอลพาลแต่สะกดเอาไว้ พยายามพูดแบบผู้ใหญ่กว่า
“อย่าให้เรื่องเพียงเล็กน้อยมาทำให้ความสัมพันธ์ของเราชาวฮวาซาสั่นคลอนเลยชองปอล มันไร้สาระเกินไป”
ชองปอลรู้ว่าโดนพูดกระทบ แต่ไม่แคร์ “ถ้าท่านอาคิดว่ามันไร้สาระ ชองปอลก็ขอประทานอภัย แต่อย่าให้มันกลายเป็นสาระขึ้นมาก็แล้วกัน เพราะคนฮวาซาเหนือไม่ค่อยมีความอดทนเท่าไหร่หรอกนะ พะย่ะค่ะ”
แล้วชองปอลก็เดินหุนหันออกไปเลย ท่านธูลเครียดเพราะเห็นลางแห่งความขัดแย้งในวันหน้า
นายเดินวนเวียนไปมาอย่างกลัดกลุ้ม กลัวว่าแนวหน้าจะพาตัวไผทมาไม่ได้ ราอูลเดินมาเห็น ชะงักมอง แล้วเดินมาใกล้ๆ นายที่เดินวนเวียนไม่ทันสังเกต จนมาชะงัก เมื่อเห็นเท้าราอูลใกล้ๆ
“เป็นยังไง คิดอะไรอยู่เหรอคุณนายนาย ท่าทางดูแจ่มใส มีความสุขดีเหลือเกิน”
“ก็...เอ่อ...คิด...คิดเรื่องสคริปต์น่ะครับ รื่องแผนการทำงานเวลาที่ไผทเค้ามาถึงแล้ว ทำยังไงถึงจะถ่ายทำได้เร็วที่สุด อะไรแบบนี้น่ะครับ”
“ก็ดี เพราะเวลานี้องค์หญิงและทุกๆ คน รวมทั้งท่านธูล ก็เฝ้ารอคอยที่จะได้พบและทำงานร่วมกับคุณไผท แต่คุณก็รู้ใช่มั้ยว่าถ้างานนี้พลาดไป เช่นคุณไผทไม่มา หรือเราพบว่าคุณกำลังหลอกลวงฮวาซาอยู่ล่ะก็ จะเกิดอะไรขึ้น”
นายกลืนน้ำลาย “คง...ไม่ต้องรู้ก็ได้มั้งครับ เพราะมันคงไม่เกิดขึ้นหรอก”
“ก็ดี เพราะว่าเมืองของเราอยู่บนภูเขาสูง ถ้าเกิดอะไรขึ้น คนคงจะตามมาช่วยคุณไม่ทันแน่ๆ” ราอูลหัวเราะเมื่อเห็นหน้าเหวอของนาย “ผมขู่เล่นน่ะคุณ เราไม่โหดร้ายป่าเถื่อนอย่างนั้นหรอก อย่างดีก็แค่ โบยหลังคนหลอกลวงเท่านั้นเอง”
“โบย...โบยหลัง” นายเข่าอ่อน ทำหน้าสยดสยอง
สองคนอยู่ในร้านขิงดีไซน์ ขิงกดมือถือหาไผท แต่ติดต่อไม่ได้
“ไผทปิดมือถือ ทำไงดีพี่แนว”
แนวหน้าหนักใจ พยายามหาทางออก “ขิงพอจะรู้จักใครที่หน้าเหมือนไผท หรือว่าเป็นฝาแฝดไผทบ้างมั้ย?”
ขิงงง “หือ?”
“ไม่มีเนอะ” แนวหน้าหัวเราะกลบเกลื่อน “พี่ล้อเล่นน่ะ” ถามตัวเอง “เอายังไงดีวะ”
ขิงมองออกว่าแนวหน้าเครียดมาก ใคร่ครวญครุ่นคิด
“แต่ขิงพอจะเดาได้ว่า ถ้าจะหนีเรื่องเดือดร้อนพวกนี้ ไผทเค้าจะหนีไปไหน”
แนวหน้าหูผึ่งหันขวับมาที่ขิงทันที
ขิงขับรถพาแนวหน้ามาที่หน้าบ้านใหญ่โต ทันสมัยหลังหนึ่ง ในกรุงเทพฯ แล้วจอดรถ ที่นี่คือบ้านพ่อแม่ของไผท
“ขิงแน่ใจได้ยังไงว่าไผทมันจะหนีกลับมาหาพ่อกับแม่ที่บ้าน”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าเดา”
“อ๋อ ลืมไปว่าสนิทกัน” แนวหน้าอดประชดไม่ได้
ขิงมองค้อนแนวหน้า แนวหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ลงตรงนี้เถอะค่ะ”
ทั้งคู่ลงจากรถแล้วชะงัก เมื่อพบว่าที่หน้าบ้านไผท นักข่าวบันเทิงกลุ่มใหญ่มารุมสัมภาษณ์พ่อแม่ไผทอยู่หน้าบ้าน
นักข่าว 1 บอก “ขอสัมภาษณ์คุณไผทหน่อยคะ”
พ่อไผทตอบเสียงแข็ง “ก็บอกแล้วไงว่าเค้าไม่อยู่ ไผทเค้าออกไปอยู่คอนโดนานแล้ว”
“ที่คอนโดก็ไม่มีนะคะ” นักข่าว 1 ว่า
นักข่าว 2 ถาม “แล้วรู้ไหมคะว่าอยู่ที่ไหน โทร.ไปก็ติดต่อไม่ได้เลยค่ะ”
แม่ไผททำมือไล่ “ไม่รู้ค่ะ ไม่รู้ กลับไปกันเถอะค่ะ แม่ขอร้อง”
“ขิงเดาผิด” ขิงว่า
แนวหน้าหลุดปาก “ดีแล้ว” ขิงหันมองหน้า แนวหน้ารีบแก้ตัว “พี่หมายถึงดีแล้วที่ไผทมันไม่อยู่ที่บ้านไง ไม่งั้นคงโดนนักข่าวรุมตาย”
“ถ้าที่คอนโดก็ไม่อยู่ แล้วตอนนี้ไผทอยู่ที่ไหน?”
แนวหน้าอึ้ง มองหน้าขิงที่ดูเป็นห่วงไผทมาก
ไผทอยู่บนรถแท็กซี่ ที่อยู่ใกล้ๆ ละแวกหน้าบ้านพ่อแม่นั่นเอง เขามองไปที่กลุ่มนักข่าวที่ออกันอยู่เต็มหน้าบ้าน และเห็นพ่อกับแม่เดินหนีเข้าบ้านไป
ไผทที่ใส่แว่นกันแดดกับหมวกพรางตัวนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
“โอ้โห นักข่าวเต็มเลย สงสัยเจ้าของบ้านเค้าไปฆ่าใครตายแน่ๆ เลย” คนขับเอ่ยขึ้น
“เอ่อ... พี่ครับ สงสัยผมจะจำซอยผิด พี่พาผมไปส่งที่เดิมแล้วกันนะครับ”
“ครับๆ ได้ครับ”
คนขับรีบกุลีกุจอกลับรถออกไปทันที
เย็นวันต่อมา ที่สตูดิโอถ่ายแบบแห่งหนึ่ง ทีมงาน อันมีตากล้องกำลังการถ่ายแบบนายแบบคนหนึ่งอยู่ โดยมีลูกค้านั่งดูรูปอยู่ที่จอคอมพ์กับพวกทีมงานและเออี
ไม่ไกลนัก ฟินดูงานไปก็รับโทรศัพท์มือเป็นระวิงไปด้วย
“ขอเลื่อนคิวน้องไผทไปญี่ปุ่นเป็นเดือนหน้าไปก่อนได้มั้ยคะคุณจิ๊บ”
ระหว่างนั้นมือถืออีกเครื่องของฟินดังขึ้น ฟินเอาขึ้นมาดูเห็นสีหน้าประมาณว่าสายนี้ไม่รับไม่ได้
“อุ๊ยๆ แป๊บนึงนะคะคุณจิ๊บ...” ฟินเอามือถือที่คุยกับคุณจิ๊บลงแล้วกดรับสายอีกเครื่องหนึ่ง “ฮะ ฮัลโหลค่าเจี๊ยบ...ไผทเค้ายังไม่รับโทรศัพท์เลยอ่ะ ไม่รู้ว่าไปหลบอยู่ที่ไหน ยังไงก็ฝากขอโทษพี่ป้อมด้วยนะ”
ระหว่างนั้น น้ากล้วย ผู้ช่วยและคนขับรถของฟินวิ่งเอามือถือมาให้อีกเครื่อง
“คุณฟินครับ คุณรี...”
ฟินเอามือปิดสายเจี๊ยบแล้วหันมาวีนผู้ช่วย “น้ากล้วยก็รับไปก่อนสิ ฉันติดสายกองละครพี่ป้อมอยู่” หันมาคุยมือถือต่อ “เนี่ยจองตั๋วไปญี่ปุ่นเป็นชื่อน้องได้เลยค่ะ... อุ๊ตะ ผิดสาย ขอโทษเจี๊ยบ บอกพี่ป้อมแกใจเย็นๆนะ อย่าเพิ่งเปลี่ยนตัวน้องเลยนะ...ขอโอกาสอีกครั้งนะคะ”
“แต่คุณรีเค้าจะเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์โฆษณารถนะคะพี่ฟิน” ผู้ช่วยบอก
ฟินตกใจรีบตัดบท “เดี๋ยวเจี๊ยบคุยกับผู้ช่วยพี่ก่อนนะ” ส่งมือถือสายเจี๊ยบให้ผู้ช่วย แล้วเอาสายคุณรีมารับสายแล้วพูดอ่อนเสียงหวานทันที “คุณรีขา... ฟินพูดค่ะ...ตอนนี้ไผทเค้าโดนโจมตีเยอะมากเลย คุณรีใจดี๊ใจดี ไม่ซ้ำเติมน้องเค้าหรอกเนาะ...น่ารักที่สุดเลย ฟินคิดไม่ผิดว่าคุณรีคนเดียวที่รักน้องไผทจริงๆ ถ้าติดต่อไผทได้ ฟินรีบโทรหาเลยนะคะ”
ฟินวางสาย แล้วเปลี่ยนเป็นวี้ดทันที
“ไผท ไอ้บื้อ! บอกให้หลบหน้านักข่าว ไม่ได้บอกให้ปิดเครื่องหนี...อ๊าย...ฉันเหนื่อย”
ลูกค้าที่นั่งดูรูปที่คอมพ์สะกิดเรียกเออีมากระซิบอะไรบางอย่างแล้ว เออีลุกตรงมาหาฟิน
“พี่ฟินคะ...ลูกค้าไม่ชอบนายแบบคนที่พี่ฟินเอามาแทนไผทน่ะค่ะ”
“อ้าว ทำไมอ่ะ? นี่น้องแจ๊คกำลังจะมาเลยนะคะ เล่นละครเรื่องแรกก็ดังเปรี้ยงแล้ว”
“คือลูกค้าบอกว่าถ้าไม่ได้ไผทก็ไม่เอาคนอื่นเลยค่ะ แล้วยังบอกด้วยว่าค่าตัวนายแบบคนนี้ไม่จ่ายให้นะคะ เพราะถือว่าไม่ได้ตกลงกันไว้แบบนี้” เออีรีบเดินกลับไปนั่งที่เดิมทันที
ฟินยิ่งเครียดมากกว่าเดิม อยากจะกรี๊ดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด แล้วหันไปสั่งผู้ช่วย
“ออกรถ ชั้นต้องไปตามตัวไผทเดี๋ยวนี้! ฉันต้องการตัวไผท ตอนนี้! เดี๋ยวนี้!”
เย็นนั้น รถแท็กซี่คันเดิมแล่นเข้ามาจอดหน้าคอนโด ไผทลงจากรถแล้ววิ่งเข้าตึกทันที
ไผทยังใส่หมวกกับแว่นกันแดดกึ่งเดินกึ่งวิ่งจะเข้ามาที่โถงล็อบบี้คอนโด เจอนักข่าวถือไมค์อยู่สองสามคนดักอยู่ เลยรีบหันหลังเพื่อจะเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อจะขึ้นลิฟต์ แต่พอเดินอ้อมมาอีกทางก็เจอนักข่าวอีกกลุ่มที่ดักรออยู่
ไผทชะงักเดินกลับไปอีกทางทันที แต่คราวนี้เห็นนักข่าวกลุ่มแรกมองๆ มาที่ตัวเอง
ไผทลังเลว่าจะไปทางไหนดี เดินไปข้างหน้าก็โดนเดินไปข้างหลังก็โดน
ทันใดนั้นเอง ก็มีคนของร้านซักอบรีด เข็นราวเสื้อผ้า กำลังจะผ่านพอดี ไผทรีบฉวยโอกาสไปแอบอยู่หลังราวเสื้อผ้าแล้วเดินไปพร้อมกับคนเข็นที่กำลังจะเข็นไปทางลิฟต์
เหมือนว่าไผทจะรอดไปได้ และเดินขึ้นลิฟต์แบบรอดพ้นสายตานักข่าว แต่โทรศัพท์ของคนเข็นราวเสื้อผ้าดังขึ้น หล่อนจึงหยุดเข็นแล้วทิ้งราวเสื้อผ้าไว้ตรงนั้นก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์
ไผทจำต้องยืนอยู่ตรงนั้นไปไหนไม่ได้
แท็กซี่คนหนึ่งขับเข้ามาจอดที่หน้าคอนโดไผท แนวหน้าลงมาอย่างรีบร้อน คุยมือถือกับขิงไปด้วย
“โอเคขิง พี่กลับมาถึงคอนโดไผทแล้ว เดี๋ยวถ้าใครเจอไผทก่อนก็โทร.หากันนะจ๊ะ”
แนวหน้ากดวางสาย แล้ววิ่งเข้าไปที่โถง ล็อบบี้คอนโด
แนวหน้าเข้ามาที่ลอบบี้ จะเดินตรงไปที่ลิฟต์ แต่เห็นไผทแอบอยู่หลังราวแขวนเสื้อจึงทักเสียงดังลั่น
“อ้าว เฮ้ยไผท”
ไผทตกใจรีบหันมาชู่ว์ปากให้เบาเสียง
“พี่แนว เบาๆ พี่” พูดบอกเสียงเบา “นักข่าว” แล้วชี้ให้แนวหน้าดูว่ามีนักข่าวอยู่แถวนั้นเต็ม
แนวหน้าหันไปมองตามที่ไผทชี้เห็นว่ามีนักข่าวอยู่จริงๆ ด้วย
ไผทมองไปที่ลิฟต์ รอจังหวะที่นักข่าวหันไปทางอื่น แล้วจะรีบวิ่งไปขึ้นลิฟต์ ไผทพูดกับแนวหน้าเบาๆ ทำมือไม้ประกอบ
“พี่แนวช่วยผมหน่อยสิ”
แนวหน้าคิดนิดหนึ่งแล้วตัดสินใจจะเดินไปกดลิฟต์ให้ไผท
แต่ทันใดนั้นเองก็เห็นก้อยเดินเข้ามาในล็อบบี้เสียก่อน และมีนักข่าวคนหนึ่งหันไปเห็นว่าก้อยกำลังเดินมาทางไผท ร้องบอกเพื่อนๆ
“น้องก้อย!”
ไผทหันขวับไปดู หน้าตาตกใจสุดฤทธิ์
นักข่าวทั้งหมดกรูเข้าไปหาก้อยที่หน้าประตูทางเข้าทันที
นักข่าว 1 ถาม “น้องก้อยมาที่นี่ทำไมคะ”
นักข่าว 2 ถามตาม “หรือว่ามาหาคุณไผท?”
ก้อยอึกอักเป็นพิธี แล้วว่า “เอ่อ...คือ ก้อยเป็นห่วงพี่ไผทน่ะค่ะ ตั้งแต่ข่าวออกมาเราก็ไม่ได้คุยกันเลย ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเราคุยกันทุกวัน”
นักข่าว 3 ซัก “แสดงว่าก้อยกับไผทสนิทกันมากจริงๆ ใช่ไหมคะ”
ก้อยทำเป็นตกใจ “อุ๊ย!..” พร้อมกับยกมือไหว้ออดอ้อนนักข่าวอย่างสตรอว์เบอแหลสุดๆ “พี่ๆ อย่าเอาไปลงนะคะ ก้อยสงสารพี่ไผท...นะคะ...นะคะ...แต่จริงค่ะ เราสองคนสนิทกันมาก”
ไผทดูและฟังอยู่เซ็งสุดๆ “อะไรวะ”
แนวหน้าหมั่นไส้ “อื้อหือ... พูดจาวอนเป็นข่าวจริงๆ เลย ท่าทางจะอยากดังนะอีหนูคนเนี้ย”
แนวหน้ากลับไปมองไผท เห็นไผทกุมหัว ท่าทางเครียดสุดๆ
“โอ๊ย... ทำไงดีโว้ย”
แนวหน้าปิ๊งไอเดียทันที เดินเร็วรี่ไปกดลิฟต์ แล้วทำเป็นเดินผ่านราวแขวนเสื้อ พูดกับไผท
“เอางี้ แกขึ้นห้องไปก่อน ทางนี้ชั้นจัดการให้เอง...ไม่ใช่เพราะฉันอยากยุ่งอะไรหรอกนะ แต่เพราะชั้นเป็นคนดี! เข้าใจปะ”
แนวหน้าเดินตรงไปทางก้อย ไผทมองตามงงๆ ว่าแนวหน้าจะทำอะไร
เสียงลิฟต์ดังกิ๊ง ประตูลิฟต์เปิด ไผทเลยจำต้องวิ่งเข้าลิฟต์ไปก่อน
ฝ่ายก้อยยังคงให้สัมภาษณ์กับนักข่าวแบบสตรอว์เบอแหลอยู่
“พี่ไผท…เค้ายังไม่อยากให้ใช้คำว่าแฟนหรอกค่ะ เพราะก้อยยังเรียนหนังสืออยู่ เราเป็นแค่พี่น้องที่สนิทกันมากๆ เท่านั้นแหละค่ะ”
แนวหน้าแหวกนักข่าวเข้าไปหาก้อยด้วยท่าทีโหดๆ เรียกเสียงเข้ม “ก้อย”
ก้อยและเหล่าบรรดานักข่าวหันมองแนวหน้าอย่างงงๆ ว่าเมริงเป็นใคร?
“พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาที่นี่” แนวหน้าอินคาแร็คเตอร์โหดต่อ
ก้อยงงเป็นไก่ถูกจิกตาแตก “พี่เป็นใคร? มายุ่งอะไรกับหนู”
“แหม น้องก้อยล่ะก็ โกรธทีไรเป็นแบบนี้ทุกที” แนวหน้าเข้าจับแก้มทั้ง 2 ข้าง “บู่บู๋ละก็”
ก้อยตาเหลือก “หา… ปล่อยนะ”
แนวหน้าโอบก้อยโชว์นักข่าว ภูมิใจนำเสนอ “น้องก้อยกับผม เราเป็นแฟนกันครับ”
นักข่าวทั้งก๊วน ตกใจเช่นกัน “หา”
แล้วพอนักข่าวตั้งสติกันได้ ก็รีบรุมถ่ายรูปแนวหน้ากับก้อยกันรัวแชะๆๆ รัวยิ่งกว่าเดิม
ก้อยงง เหวอ มองแนวหน้าว่า เมริงเป็นใครคระ?
นักข่าว 2 ซักต่อ “แล้วไผทล่ะคะ”
“อย่างงี้ก็แสดงว่าน้องก้อยมี ผัว...เอ๊ย แฟนอยู่แล้ว แล้วมาหลอกพี่ไผทเหรอคะ” นักข่าว 1 ยิงคำถาม
“ไม่จริงค่ะ หนูไม่รู้จักไอ้บ้านี่” ก้อยพยายามแกะมือแนวออก
แนวหน้าโอบก้อยแน่นกว่าเดิม “น้องก้อยเค้าเป็นแบบนี้แหละครับ เค้าชอบทะเลาะกับผม แล้วเผอิญไผทกับผมก็เป็นเพื่อนสนิทกัน พอโกรธกันเค้าก็เลยยั่วให้ผมหึง ด้วยการเป็นข่าวเรื่องไผท แต่ผมไม่โกรธหรอกครับ แค่เห็นใจไผทมันที่ต้องเดือดร้อนไปด้วย เราดีกันนะบู่บู๋ รักบู่บู๋นะ ม้วฟ...”
แนวหน้าปิดจ๊อบด้วยการหอมหน้าผากก้อยอย่างดูดดื่ม อีกฝ่ายขยะแขยงดิ้นรนสุดฤทธิ์
นักข่าว ช่างภาพรุมถ่ายรูปแนวหน้ากับก้อยไม่ยั้ง
อ่านต่อหน้า 4
น่ารัก ตอนที่ 5 (ต่อ)
เวลาผ่านไปอีกสักระยะ ไผทคุยมือถือกับขิงไปด้วยขณะเดินอยู่ในห้องพักคอนโด
“ขอบใจมากขิง เธอไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนเราหรอก เราอยู่คนเดียวได้”
ขิงยังอยู่ที่ร้าน ขณะกำลังคุยมือถือกับไผท
“ถ้าไผทมีอะไรโทร.หาขิงได้ตลอด 24 ชั่งโมงเลยนะ หรือจะมาหลบที่ร้านเราก็ได้ เดี๋ยวเราเคลียร์ร้านให้”
“ขอบใจมากนะขิง แค่รู้ว่าเรายังมีขิงที่พร้อมจะรับฟัง เราก็ดีใจมากแล้ว”
แนวหน้าอยู่ในนั้นด้วย มองไผทอย่างหมั่นไส้แล้วบ่นพึมพำ
“ไหนว่าไม่ใช่แฟน ทำไมห่วงกันจัง...เอ้อ ไผท แบตพี่จะหมดแล้ว”
ไผทเอามือถือมาดู “ยัง 60 เปอร์เซ็นต์อยู่เลยนะพี่”
“แบตโทสับพี่เสื่อม” แนวหน้าคว้ามือถือจากไผทมาพูด “ขิงแค่นี้ก่อนนะ ไว้มีอะไรแล้วพี่โทรหา” แล้ววางสายทันที
ไผทหันมามองแนวหน้าอย่างชื่นชมราวกับเขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ “เมื่อกี้พี่คิดได้ไง สวมรอยเป็นแฟนก้อย.. สมแล้วที่เคยเป็นประธานชมรมละคร เล่นละครกะล่อนน่าดู”
“อ้าว นี่แกด่าชั้นเหรอ”
“เปล่าครับ ผมจะชมว่าพี่หัวไวต่างหาก ผมไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ได้เด็ดขาด”
“ขอบใจ แต่ก็ยังรู้สึกว่าโดนด่าอยู่ดีว่ะ”
“แล้วพี่ไปบอกนักข่าวอย่างนั้น พี่ไม่กลัวนักข่าวเล่นข่าวพี่ไม่หยุดเหรอ?”
“ชั้นมันพวกโลว์โปรไฟล์ ไม่ใช่ดาราดังเหมือนแก ใครเค้าจะสนใจ” แนวหน้าบอก
“ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับที่ช่วยผม ถ้าเมื่อกี้ไม่ได้พี่ ผมไม่รอดแน่”
“แกคิดว่าฉันจะช่วยแกฟรีๆ เหรอ”
ไผทอึ้ง “อ้าว!”
“แกจำสารคดีที่ชั้นบอกแกได้มั้ย...ทางฮวาซาเค้ารีเควสมาว่าต้องเป็นแกคนเดียวเท่านั้น ยังไงแกก็ต้องไปฮวาซาใต้กับฉัน”
ไผทชะงัก ลังเล คิดว่าจะไปดีมั้ย? แนวหน้าเริ่มหว่านล้อมต่อ
“หรือแกจะไม่ไปก็ได้นะ ก็คอยหลบนักข่าวอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าสืบรู้ว่าชั้นก็โกหก นักข่าวเค้าก็จะวุ่นวายกับแกอีก แกต้องหนีหัวซุกหัวซุนแน่ๆ”
ไผทชักหวั่นไหว ระหว่างนั้นเองโทรศัพท์มือถือของแนวหน้าก็ดังขึ้น
แนวหน้าเอามือถือขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นขิงโทร.เข้ามา แอบเซ็งว่าขิงนี่แหละที่จะไปเป็นเพื่อนไผท
“ฮัลโหล ว่าไงขิง?”
“เปิดทีวีเร็วพี่แนว!” ขิงบอกน้ำเสียงร้อนรนมาก
“ทำไม มีอะไร”
แนวหน้ารีบคว้ารีโมทมากดเปิดทีวีทันที เห็นข่าวในทีวีเป็นรายการ สองสาวเล่าเรื่อง กำลังรายงานข่าวไผท
พิธีกร 1 เปิดเรื่องเล่า “ฉาวไม่หยุด อีกแล้วค่ะคุณ ทั้งเรื่องถูกฉีกสัญญาเพราะคลิปที่ถูกปล่อยออกมา ล่าสุดน้องไผทหลบหน้าจนไม่ไปทำงาน ปิดโทรศัพท์หนีเลยจ้า ทั้งๆ ที่มีคิวงานเยอะแยะ ทั้งละคร ทั้งถ่ายแบบ ทั้งโชว์ตัว งานอีว้งอีเว้นท์อีกเพียบ ล่าสุดพี่ป้อมผู้กำกับถึงกับปรี๊ดแตกเลยทีเดียว”
พิธีกร 2เสริมส่งกันไป “จะปรี๊ดแตกขนาดไหน เรามีภาพสัมภาษณ์มาให้ชมกันค่ะ”
ไผทหน้าตาตื่นตกใจมาก มองจ้องทีวี
ภาพจากสตูดิโอ เป็นภาพการสัมภาษณ์ผู้กำกับในกองถ่าย มีไมค์รวมของนักข่าวช่องนู่นนี่นั่น หัวไมค์เท่าฝาหม้อจากช่องบันเทิงยื่นใส่หน้าอยู่นับไม่ถ้วน
“เค้าแอบแว้บไปรับงานนอกทั้งๆ ที่ เรากำลังถ่ายอยู่ครับ วันนั้นที่กองต้องเบรครอเค้าคนเดียวอยู่ 3 ชั่วโมง... แล้ววันนี้มีถ่ายเค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้เลย”
นักข่าวซัก “แล้วผู้จัดการส่วนตัวของไผทว่าไงบ้างคะ”
“ก็แก้ตัวไปตามเรื่อง ผมเบื่อกับคำแก้ตัวเขาเต็มทีแล้วครับ!...แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรก มันเป็นอย่างนี้มาตลอด ผมเลยปรึกษากับผู้จัดว่าเราจะเปลี่ยนตัวพระเอกดีกว่า ที่ถ่ายไปแล้วก็ถ่ายใหม่ เสียเงินดีกว่าเสียเวลากับดาราที่ไม่มีความรับผิดชอบ...ถ้าไผทดูอยู่ พี่บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่า วงการนี้มันแคบ หน้าตาดีอย่างเดียวมันอยู่ได้ไม่นานหรอก!! จำเอาไว้” ผู้กำกับคู่ปรับฟินบอกตามเนื้อผ้า
ไผทช็อก แนวหน้าชักสงสารขึ้นมาหน่อย เอารีโมทมาปิดโทรทัศน์
“พี่ว่าเขาโกรธผมมากไหม?”
แนวหน้าแอบเซ็งว่า เมริงยังจะถามโง่ๆ อีก! แต่จำต้องพูดดีเพราะหวังเกลี้ยกล่อมไผท
“เค้าอาจจะกำลังโมโหก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมาก รอให้พี่เขาเย็นลงกว่านี้เราค่อยเข้าไปขอโทษเขาดีกว่า ระหว่างนี้เราก็หายไปสักพักรอให้เรื่องเงียบค่อยว่ากันใหม่”
“แต่ผมหายไปไม่ได้หรอก”
แนวหน้าเซ็ง เผลอหลุดปากหมา “แล้วแกจะอยู่ไปทำไมวะ?! จะไปทานตอนนี้ได้ยังไง เค้าด่าขนาดนี้แล้วยังจะต้องแคร์อะไรอีก แล้วอีกอย่าเค้าก็คงหาพระเอกมาแทนแกได้ไม่ยากหรอก ดาราสมัยนี้หล่อๆถามเถไป”
ไผทมองแนวหน้าอย่างน้อยใจที่ไม่เคยให้เครดิตกันเลย ไผทเดินไปหยิบเอกสารขึ้นมาฉบับหนึ่งก่อนจะมาส่งให้แนวหน้า
ไผทท่าทางโกรธสุดขีด “ที่ผมบอกว่าผมไปไหนไม่ได้ เพราะผมติดไอ้นี่ต่างหาก สัญญาของผมกับพี่ฟิน ผมไปไหนไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบจากพี่ฟิน”
แนวหน้าอึ้ง หยิบมาดู
รถตู้จอดเทียบหน้าสตูดิโอ ฟินเดินหน้ามุ่ยออกมาจากสตูฯ จะขึ้นรถตู้ คนขับมารอปิดประตูให้
ฟินสั่งการแค้นๆ “รีบไปคอนโดไผทเดี๋ยวนี้เลย!”
รถอีกคันหนึ่งขับปราดเข้ามาจอดต่อท้ายรถตู้ แล้วบีบแตรเหมือนทัก ฟินชะงักหันไป เห็นจีจี้ลงจากรถมาทักทายเสียงหวาน
“เจ๊ฟินคะ...เจ๊ฟินคนสวย”
ฟินหน้าบึ้งตึงเปรี๊ยะ แหวใส่ “มาทำไม? บอกแล้วไงว่าเราไม่เคยรู้จักกัน”
“เจ๊...อย่าโกรธขนาดนี้สิ ฟังหนูอธิบายก่อน”
“ไม่ใช่แค่ชั้นคนเดียวนะนังจี้ที่เดือดร้อนเพราะแก ตอนนี้ทุกคนในบริษัทชั้นรวมทั้งเด็กคนอื่นๆ ในสังกัดก็กำลังจะพังเพราะแก!”
ฟินขึ้นรถตู้ แล้วปิดประตูอย่างฉุนเฉียว รถตู้ขับออกไป จีจี้รีบกลับไปที่รถแล้วขับรถตามไป
ไผทออกจากประตูพร้อมกระเป๋าใบโต เห็นแนวหน้ายืนเซ็งอยู่ มีกระเป๋าใบใหญ่อีกใบวางอยู่ข้างๆ
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมจะได้ไปกันซักที” แนวหน้าจะช่วยเข็นกระเป๋า
“เดี๋ยวพี่!” แนวหน้าชะงัก หันมาเซ็งๆ “ยังมีกระเป๋าอีกใบครับ”
ไผทเดินเข้าห้องนอนไปเข็นกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาอีกใบ
“เรียบร้อยครับ”
“นี่แกจะย้ายบ้านเหรอเนี่ย”
แนวหน้าทำหน้าไม่อยากจะเชื่อว่าไผท จะขนอะไรไปมากมายขนาดนี้
รถตู้ฟินมาจอดเทียบหน้าคอนโด รถของจีจี้ขับตามมาติดๆ
“นี่แกจะตามมาทำไมเนี่ย!”
“หนูจะตามจนกว่าเจ๊จะยอมฟังเรื่องทั้งหมดเมื่อวานนี้”
ฟินหงุดหงิดขี้เกียจทะเลาะ เดินเข้าคอนโดไปทันที จีจี้เดินตามฟินไปไม่ลดละ
ฟินกับจีจี้กดลิฟต์ ลิฟต์เปิดออก แนวหน้ากับไผทกำลังออกมา สองคนผงะเพราะเห็นฟินกับจีจี้ยืนอยู่
แนวหน้าร้อง “เฮ้ย!”
ฟิน กะจีจี้อุทาน “ไผท!”
ฟินพุ่งเข้ามาหาไผททันที
“ไผท! ปิดโทรศัพท์ทำไม แล้วทำไมไม่ติดต่อพี่?” เห็นกระเป๋าเดินทางไผทเลยงง “แล้วนี่จะไปไหน”
ไผทอึกอักไม่รู้จะตอบยังไง
แนวหน้าช่วยกู้สถานการณ์ “จะไปไหนก็ช่าง เพราะไผทไม่ใช่เด็กในสังกัดคุณอีกต่อไป”
ฟินเม้งมองตาเขียว “นี่นายเป็นใครถึงมาพูดจาแบบนี้ !!! ไผทเป็นเด็กของชั้น ใครๆ ก็รู้”
แนวหน้าต่อปาก “แต่คงไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว”
“นี่...ทำไมพูดจาน่าตบปากยังงี้หา!”
ไผทหน้าเสีย “คือ...พี่ฟินฮะ สัญญาที่พี่ให้น้ากล้วยเอามาให้...ผมยังไม่ได้เซ็นครับ”
ฟินตะลึง “อะไรนะ!”
แนวหน้ากวนโทสะสุดขีด “นอกจากจะไม่ได้ต่อสัญญาแล้ว ผมก็ยังฉีกสัญญาพี่ทิ้งไปแล้วด้วยครับ”
“ใจร้ายเกินไปแล้วแนว แกจะมาฉกตัวไผทไปแบบนี้ไม่ได้นะ! ไผทมากับพวกพี่” จีจี้โมโห
“จะไปไหน ไผทมากับพี่”
ฟินลืมความโกรธ มาชวยจีจี้ดึงไผท
“พี่จะไม่ปล่อยไผทไปกับคนอื่นเด็ดขาด”
จีจี้ลากตัวไผทออกไป แนวหน้าดึงมือไผทอีกข้างไว้ ฟินเข้ามาช่วยฝั่งจีจี้ ทั้งสามคนยื้อไผทไปมา
“โอ๊ย หยุด”
ไผทสะบัดมือทั้งสองข้างจนหลุดจากการยื้อแย่งของทั้งสองฝ่าย
“ผมเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา จะได้มาแย่งกันแบบนี้”
แนวหน้าเหลือบมองไปทางประตูบันไดหนีไฟแล้วคิดได้
“ไผทมาทางนี้”
แนวหน้าดึงไผทจนเสียหลักมาทางหน้าบันไดหนีไฟ
“แกจะหนีไปไหน”
จีจี้เข้าไปดึงแนวหน้าไว้แทน ฟินก็รีบเข้ามาดึงไผท สองคู่ 4 คน ยื้อยุดกันวุ่นวาน
“ไผท เหวี่ยงเข้าไปเลย” แนวหน้าสั่ง
ทุกคนหันมามองแนวหน้างงๆ แนวหน้าผลักประตูบันไดหนีไฟแล้วเหวี่ยงจีจี้เข้าไปก่อน ไผทยืนตะลึง แนวหน้ารีบผลักเจ๊ฟินตามไปติดๆ
จีจี้กับฟินจะเปิดประตูกลับเข้ามาในตึกแต่เปิดไม่ได้
“แนว เปิดประตู” / “ไผทเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ”
แนวหน้าตะโกนไปที่ประตูอย่างสะใจ “เกมของเรามันจบแล้วเจ๊ และผมกับพี่นายก็คือผู้ชนะ ฮ่าๆๆๆ!” แนวหน้าบอกกับไผท “ไปเหอะ”
ไผทชักเห็นใจฟิน “แต่...ทำอย่างนี้จะดีเหรอพี่แนว”
“ไม่มีเวลามานั่งสงสารคนอื่นแล้ว รีบไปกันเถอะ”
แนวหน้ารีบหยิบเป้แล้วลากกระเป๋าใบใหญ่ของไผทไป ไผทหยิบเป้ตัวเองแล้วลากกระเป๋าอีกใบตามแนวหน้าไปอย่างลังเล
ฝ่ายจีจี้กับฟินทุบประตูบันไดหนีไฟ พัลวัน จีจี้แหกปากร้องลั่น
“แนว! แนว! เปิดให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ทำไมมันเปิดไม่ได้ล่ะ”
ฟินทั้งโกรธทั้งเหนื่อย หันมาโวยวายใส่จีจี้ “นังจี้ แกรู้จักผู้ชายคนนั้นใช่มั้ย มันเป็นใคร”
“เค้าเป็นน้องชายแฟน เอ๊ย! แฟนเก่าหนูเอง แต่หนูเลิกกับมันไปเรียบร้อยแล้ว ไอ้แนวมันคงจะมาแย่งไผทไปจากหนู ตามคำสั่งพี่ชายของเค้า”
ฟินมองจีจี้ตาขวาง
“แสดงว่า...เรื่องทั้งหมดนี่...เกิดขึ้นเพราะแกอีกแล้ว” ฟินแค้นโผเข้าบีบคอจีจี้ “ตายซะเถอะ!”
จีจี้ดิ้นรน สะบัดจนหลุด “ปล่อยหนู หนูไม่รู้เรื่องนะเจ๊”
“แกต้องเอาไผทคืนมาให้ได้ ไม่อย่างนั้น ชั้นจะเชือดแกทีละชิ้นๆ แล้วเอาน้ำเกลือราด”
“ก็หนูกำลังหาทางช่วยเจ๊อยู่นี่ไง!” จีจี้คิดปราด “มันฉกตัวไผทได้ เราก็ฉกกลับสิ”
“แล้วแกรู้เหรอว่ามันจะพาไผทไปไหน?”
“หนูไม่รู้หรอกว่ามันสองคนจะไปหลบที่ไหน แต่หนูรู้ว่ามันกำลังจะไปที่ไหนกัน!”
จีจี้เสียงกร้าวตาวาววับ มุ่งมั่นสุดพลัง ไม่มีทางที่หล่อนจะยอมแพ้นายและแนวหน้าเด็ดขาด
อ่านต่อตอนที่ 6