xs
xsm
sm
md
lg

น่ารัก ตอนที่ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น่ารัก ตอนที่ 13

รถตู้ของทีมงานแล่นเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้าวังตอนเย็น ทีมงานทุกคน แนวหน้า ไผท ขิง จีจี้ ลงจากรถ เดินเข้าวัง แล้วพากันชะงัก เมื่อเห็นข้าหลวงชาย หญิง จัดเตรียมสถานที่กันวุ่นวาย ที่สำคัญวังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองไปหมดทั้งหลัง พวกทีมงานชาวไทยมองอย่างงงๆ

แนวหน้าอึ้ง ทึ่ง ร้องเสียงดัง “โอ้โห... นี่มันอะไรกัน เราออกไปถ่ายแค่คืนเดียว พอกลับมา วังเปลี่ยนสีแล้วเหรอเนี่ย”
นางข้าหลวงคนหนึ่งบอก “ท่านธูลมีรับสั่งให้เกณฑ์ช่างทั้งหมดมาช่วยกันเปลี่ยนสีวังตั้งแต่เมื่อวานค่ะ ท่านบอกว่า สีนี้ดูเป็นสากลมากกว่าสีเดิมค่ะ”
จีจี้ออกความเห็นท่าทีฉุนฉียว “กษัตริย์แห่งฮวาซาเหนือเสด็จมาทั้งทีก็ต้องเตรียมต้อนรับใหญ่โตสินะ! แต่แหม...ทำไมต้องเสด็จมาตอนนี้ก็ไม่รู้...คิวที่เหลือยกไปบานเลย จะได้ถ่ายองค์หญิงอีกเมื่อไหร่ล่ะเนี่ย พังๆๆ”
“ใจเย็นนะพี่จี้ มันเป็นเหตุสุดวิสัย พี่นายเค้าต้องเข้าใจแหละฮะ” ขิงว่า
จีจี้ยังคงหนักใจเรื่องงานอยู่ และที่สำคัญกลัวว่าจะถูกนายตำหนิด้วย

หลังมื้อค่ำ ทุกคนสุมหัวรวมตัวกันอยู่ในห้องประชุม นาย แนวหน้า จีจี้ ขิง และทีมงานกำลังประชุมกันเรื่องคิวที่ยกเลิกด่วน
นายวางใบคิวลง สีหน้าเครียดจัด “ถ่ายไม่ได้ก็ตัดออก ไม่ต้องกลับไปแล้ว เอาเท่าที่ได้นี่แหละ”
แนวหน้างง “เฮ้ย! ทำไมเฮียยอมง่ายอย่างนั้นล่ะ มันยังไม่ครบตามที่ผมวางไว้เลยนะ”
นายตัดสินใจบอก “ตอนนี้มันเกิดเรื่องใหม่ขึ้นมา พี่ฟินเอาคลิปของไผทที่ส่งข่าวถึงแฟนคลับไปเผยแพร่ ผู้คนก็เลยตื่นเต้นที่รู้ว่าไผทอยู่ที่ฮวาซานี่ เราถึงต้องรีบทำสารคดีชิ้นนี้ให้เสร็จเรียบร้อยภายในสิ้นเดือนนี้”
ทุกคนตกใจร้องประสานเสียง “ห๊า! สิ้นเดือน”
แนวหน้าโวยลั่น “จะบ้าเหรอพี่แนว เราจะทำทันได้ยังไง”
นายยกมือห้าม “แกต้องแก้สคริปต์ที่เหลือ ฉันมีเวลาให้แกถ่ายทำอีก 1 อาทิตย์ เท่านั้น ส่วนที่เหลือ 2 อาทิตย์คือขั้นตอนของ Postproduction” เขาหันมาทางอดีตคนเลิฟ “จีจี้ พรุ่งนี้เช้าคุณรีบโทรไปจองคิวห้องตัดกับห้องเสียงให้เรียบร้อยด้วย”
จีจี้ค้าน “เดี๋ยวๆๆ แล้วคุณไปยอมเขาได้ยังไง อยู่ๆ มาเปลี่ยน deadline กลางอากาศมันจะดีเหรอ งานมันจะออกมาห่วยน่ะสิ หรือว่าคุณคุยกับท่านธูลไม่ได้ งั้นเดี๋ยวฉันจะไปคุยเอง ท่านอาจจะยอมฟังชั้นก็ได้”
นายหึงปนฉุน พูดอย่างมีอารมณ์ “ผมรู้ว่าท่านธูลโปรดคุณมากกว่าผม แต่เรื่องทั้งหมดมันจะไม่เกิดขึ้นหรอก ถ้าเจ๊ฟิน เพื่อนที่คุณลากมาที่นี่จะไม่เอาข่าวของไผทไปปล่อยให้มันวุ่นวายแบบนี้ เค้ามาอยู่นี่ก็ไม่ได้ช่วยทำอะไรสักหน่อย”
จีจี้อึ้งไปชั่วขณะ “นี่คุณโทษชั้นเหรอ! ตกลงที่มันต้องเป็นอย่างนี้เป็นความผิดของฉัน อีกแล้วงั้นเหรอ”
แนวหน้าห้ามทัพ “นี่มันไม่ใช่เวลาจะมาทะเลาะกันนะพี่จีจี้ พี่นาย เวลานี้เรื่องที่สำคัญกว่านั้นก็คือ งานเราจะออกมาเป็นยังไง ถ้ามีเวลาจำกัดขนาดนี้”
นายได้สติ อึ้ง จีจี้ยังงอนอยู่
“ถึงชั้นอยู่ก็คงช่วยคิดอะไรไม่ได้ เพราะชั้นมันไม่ได้เรื่อง ได้! คุณอยากให้ฉันทำอะไรก็สั่งมาแล้วกัน”
พอพูดจบจี้จี้ลุกเดินสะบัดออกไปเลยอย่างฉุนเฉียว
นายทั้งเซ็งทั้งเครียด คนอื่นๆ มองหน้ากันกลุ้มทั้งแถบ
“เฮีย” นายหันมา “มันมีอะไรมากกว่าเรื่องพี่ฟินใช่ไหม”
นายพยักหน้ายอมรับกับแนวหน้า

ต่อมาไม่นาน นายกับแนวหน้านั่งอยู่ปลายเตียงของตัวเอง ท่าทีอึ้งๆ กับเรื่องสารคดีที่เพิ่งคุยกัน
ยิ่งพอฟังเหตุผลจากพี่ชาย แนวหน้าก็ยิ่งตกใจ “นี่มันเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศนี่หว่าเฮีย”
นายพยักหน้า “รีบทำสารคดีให้เสร็จแล้วรีบกลับบ้านเหอะ ที่นี่ยิ่งอยู่ยิ่งน่ากลัวไงไม่รู้ว่ะ”
“แล้วพรุ่งนี้ที่เค้าจะมากัน มันจะเกี่ยวกับงานของเราไหม”
“ฉันภาวนาขอให้ไม่เกี่ยว”
แนวหน้าฮึด ดีดตัวลุกขึ้น “ก็ดี เราจะได้พักซัก 2-3 วัน งั้นคืนนี้เฮียนอนก่อน เดี๋ยวผมทำสคริปต์ใหม่ให้ดูพรุ่งนี้เช้า” แนวหน้าคิดห่วงความรู้สึกจีจี้ “ว่าแต่ เฮียจะไม่อธิบายให้เจ๊เข้าใจหน่อยเหรอ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“อย่าเลย รายนั้นเดี๋ยวเกิดโวยวายจะอยู่ช่วยปกป้องฮวาซาใต้ขึ้นมาล่ะเรื่องใหญ่เลย ท่านธูลอุตส่าห์ขอร้องให้ชั้นเก็บไว้เป็นความลับ”
แนวหน้าถอนใจเฮือก “เฮ้อ! ประเทศที่ดูสงบสุขร่มเย็นอย่างฮวาซาใต้นี่ก็มีศัตรูเหมือนกันเนอะ ไม่ยักกะรู้”
นายขำคำพูดน้องชาย แล้วลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว เดินเข้าห้องน้ำไป
แนวหน้าหันไปเปิดคอมพิวเตอร์จะทำงาน แต่แล้วก็ชะงัก คิดถึงและเป็นห่วงโลลิต้า
“มิน่าองค์หญิงถึงโดนตามกลับมาด่วน”
แนวหน้าตัดสินใจเปิดเข้าไปหน้าบล็อกแล้วพิมพ์ข้อความหาองค์หญิง
“ทำอะไรอยู่ ผมเป็นห่วง”
แนวหน้าชะงัก นึกขึ้นได้ ลบข้อความทิ้ง ไม่ได้ส่ง

เช้าวันใหม่ทั่วทั้งวังฮวาซาใต้ มีธงฮวาซาเหนือถูกนำติดเพื่อต้อนรับการมาเยือนของกษัตริย์และราชินีแห่งฮวาซาเหนือ
ทหารฮวาซาใต้ตั้งแถวรอรับการมาเยือนอย่างสมพระเกียรติ
ไม่นานนัก ที่ถนนทางเข้าวัง เห็นรถยนต์พระที่นั่งของกษัตริย์และราชินีฮวาซาเหนือ นำขบวนเข้ามาด้วยรถทหาร เสียงแตรเป่าต้อนรับ
ท่านธูล โลลิต้าในชุดเจ้าหญิงเต็มพระยศ ยืนรอต้อนรับ
รถของท่านหลุยส์ขับเข้ามาจอดเทียบ ทหารรีบเข้าไปเปิดประตูรถให้
ท่านหลุยส์ ราชินีโซเฟีย และชองปอลก้าวลงมาจากรถ
ท่านธูล โลลิต้ารีบเดินเข้าไปต้อนรับ ”ยินดีต้อนรับท่านหลุยส์ และพระราชีนีโซเฟียสู่ฮวาซาใต้”
ท่านธูลจับมือทักทายกับท่านหลุยส์และท่านหญิงโซเฟีย “ถวายบังคมเพคะท่านอาหลุยส์ ท่านอาโซเฟีย...พี่ชองปอล”
“สวัสดีจ้ะ หลานโลลิต้า ไม่เจอกันนาน ยิ่งโตยิ่งสวยนะ เหมือนท่านแม่มาก”
โลลิต้ายิ้ม “ขอบพระทัยเพคะ”
“เชิญเสด็จข้างในก่อนดีกว่า”
ท่านธูลว่าพลางเดินนำท่านหลุยส์ ราชินีโซเฟีย และชองปอลเข้าวังไป
ครู่ต่อมาท่านหลุยส์ ราชินีโซเฟีย ชองปอลนั่งอยู่ในท้องพระโรง สถานที่รับรองแล้ว ท่านธูลนั่งอยู่ด้วย ท่านหลุยส์ และโซเฟียยกชาขึ้นมาจิบ
ท่านหลุยส์เยื้อนยิ้มโอภาปราศัย “ชาที่ฮวาซาใต้นี่ยังหอมและรสชาติเหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้วไม่เคยเปลี่ยนเลยนะท่านธูล”
“ดีใจที่ท่านหลุยส์ยังจำรสชาติชาในวันเก่าได้”
ท่านหลุยส์ยิ้ม สีหน้าเยือกเย็น “ใครจะลืมรสชาติของชาขมๆ ในเวลาที่อยู่ภายใต้การปกครองของคนอื่นได้ แต่ก็นั่นแหละ เพราะมีวันนั้น วันนี้ ฮวาซาเหนือและใต้จึงสมัครสมานสามัคคีกันได้ขนาดนี้ จริงมั้ย”
ท่านธูลยิ้มบางๆ โดยไม่ตอบอะไร
“ลูกชองปอลเล่าว่า ท่านธูลทรงกำลังทำสารคดีเพื่อเตรียมประชาสัมพันธ์ประเทศ แล้วยังใช้ทีมงานมือรางวัลและดาราดังจากประเทศไทยด้วยหรือเพคะ” ท่านหญิงโซเฟียถาม
โลลิต้าตอบแทน “ใช่เพคะท่านอา”
“แหม อาชักอยากจะรู้จักพวกเค้าซะแล้วสิ เผื่อจะได้ติดต่อใช้บริการในวังหลัง ท่านธูลจะรังเกียจไหมถ้าเราอยากจะขอทำความรู้จักกับพวกเค้าด้วย”
ท่านธูลหันมาทางราอูล “ราอูล ให้คนไปตามทีมงานทั้งหมดมาที่นี่”
“พะย่ะค่ะ” ราอูลออกไป
จีจี้รู้เรื่องเป็นคนแรก รีบมาพบนายที่ด้านหลังวัง
นายตะลึง “ว่าไงนะ”
“คุณราอูลบอกว่าท่านธูลมีรับสั่งให้พวกเรา เข้าเฝ้าท่านหลุยส์กับราชีนีโซเฟียด้วย ด่วนที่สุด พวกท่านรออยู่”
นายตาเหลือก “ถ้างั้น แยกย้ายกันไปตามพวกมันเร็ว”

พริบตานั้นเองนายรีบร้อนเข้าห้อง เห็นแนวหน้านอนเหมือนตายอยู่บนเตียง กระโจนขึ้นเตียงมาดึงให้ลุก แนวหน้าอยู่ในอาการไร้สติ
“ตื่น...ตื่นสิ เร็วเข้าไอ้แนว”
“ไม่เอาน่าเฮีย ผมง่วง วันนี้คิวว่างไม่ใช่เหรอ” แนวหน้าล้มตัวลงนอนต่อ
“ไม่ได้แล้วไอ้แนว ลุกขึ้นมา เราต้องไปเฝ้าพระเจ้าหลุยส์กับราชินีด่วน!”
“เฝ้าทำไม ไม่ใช่ยาม” แนวหน้าพูดพร่ำในอาการงัวเงีย แล้วได้สติ ลุกขึ้นนั่งตัวตรงแหกปากร้อง “หา”
“ไม่ต้องหา เปลี่ยนชุดเร็ว”

เช่นเดียวกับทางฝ่ายไผทหันขวับจากโต๊ะเครื่องแป้งมาทางขิง ใบหน้าหล่อของเขาใส่หน้ากากมาสค์หน้าอยู่
“ไม่ได้นะ”
“ทำไมจะไม่ได้ พี่จี้บอกว่า เราต้องแต่งตัวเสร็จภายใน 10 นาที”
“ไม่ได้หรอก ผมมาสค์หน้าไว้ มันยังไม่ครบครึ่งชั่วโมงเลย รอหน่อยไม่ได้เหรอ”
“นี่พระมหากษัตริย์ถึง 2 พระองค์นะไผท ราชีนีอีกหนึ่ง เจ้าหญิงกับเจ้าชายอีก ท่านจะมารอไผทได้ยังไง”
ไผทอึ้ง แล้วดึงมาสค์หน้าออก
“ก็ได้ นึกว่าวันนี้จะได้พักหน้าซักหน่อย แต่อันที่จริง ได้เจอองค์หญิงก็ดีเหมือนกัน ขิงมีสูทหล่อๆ ให้ผมใส่ด้วยรึเปล่า”
ขิงทำหน้าเซ็งๆ

ไม่นานต่อมา ภายในท้องพระโรง นาย แนวหน้า จีจี้ ไผท ขิง อยู่ในชุดหรูดูดี กำลังทำความเคารพท่านหลุยส์ ราชินีโซเฟีย และชองปอล ท่าทางชาวไทยทุกคนดูตื่นเต้นมาก นายเป็นตัวแทนกล่าวถวายการเคารพ
“เป็นเกียรติของกระหม่อมและทีมงานทุกคนพะยะค่ะที่ทรงพระราชทานวโรกาสให้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์และ พระราชินีโซเฟียแห่งฮวาซาเหนือ”
“ยินดีเช่นกัน” ท่านหลุยส์พูดกับไผท “คุณคงจะเป็น ไผท ไพศาลี ดาราจากเมืองไทยที่เป็นพิธีกรร่วมกับโลลิต้าใช่มั้ย”
ไผทยิ้มรับ “พะยะค่ะ”
ท่านหญิงโซเฟียยิ้มแย้ม “หน้าตาดีนะเพคะท่านพี่”
ท่านหลุยส์มองยิ้มๆ ไม่พูดอะไร ก่อนจะหันไปถามนาย “แล้วถ่ายทำกันไปถึงไหนแล้ว”
“เอ่อ ก็...” นายเหลือบมองท่านธูลแวบหนึ่ง “ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์แล้วพะยะค่ะ”
“ใกล้เสร็จแล้วสินะ” ท่านหลุยส์ถามเสียงเรียบ
“พะยะค่ะ”
“ดี ถ้าฮวาซาใต้ได้มีพิธีเปิดประเทศเร็วเท่าไหร่ การจัดการเรื่องการรวมฮวาซาเหนือกับใต้และพิธีอภิเษกสมรสระหว่างชองปอลและโลลิต้าก็จะเกิดขึ้นเป็นลำดับต่อไป ใช่มั้ยท่านธูล”
ทุกคนตะลึงกับคำพูดท่านหลุยส์
“คงจะเป็นเช่นนั้นพะย่ะค่ะ”
ชองปอลส่งยิ้มหวานให้โลลิต้า โลลิต้าจำใจยิ้มรับเจื่อนๆ
แนวหน้า และไผทที่ได้ยินว่าโลลิต้าต้องแต่งงานกับชองปอลก็อึ้งไปทันที
ไผทลอบมองโลลิต้า เห็นองค์หญิงหน้านิ่งไม่มองใคร

ไม่นานหลังจากนั้น แนวหน้าเดินหงุดหงิดออกมาจากท้องพระโรงรับรอง ไผทรีบเข้ามาดึงไว้ ถามอย่างร้อนใจ
“พี่แนว ตกลงองค์หญิงต้องแต่งงานกับท่านชองปอลหลังจากสารคดีเสร็จจริงๆ เหรอพี่”
“ชั้นจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ก็ได้ยินพร้อมๆ แกนั่นแหละ” แนวหน้าพยายามสงบใจ เสียงอ่อนลง “มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วไผท หลังจากฮวาซาใต้เปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ก็อาจจะมีการรวมประเทศฮวาซาเหนือกับใต้เข้าด้วยกัน และสิ่งที่จะเป็นรูปธรรมที่สุดก็คือการให้เจ้าหญิงกับเจ้าชายของทั้งสองประเทศอภิเษกสมรสกัน ทุกอย่างมันถูกวางเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว”
“แต่จะทำอย่างนั้นได้ยังไง องค์หญิงไม่ได้ชอบท่านชองปอลนะพี่” ไผทย้อนแย้ง
“ผลประโยชน์ของประเทศ มันน่าจะสำคัญกว่าความรู้สึกส่วนตัวนะ ขนาดแกไม่ชอบกินผัก แต่เวลาอยู่หน้ากล้อง แกยังต้องกินเลย ไม่ใช่เหรอ”
แนวหน้าเดินลิ่วออกไปเลย ไผทอึ้งไป

ขณะเดียวกัน ในห้องทรงงานท่านธูล องค์หญิงโลลิต้ากำลังต่อรองกับบิดา
”หญิงทราบเพคะว่ามันเป็นหน้าที่ที่หญิงจะต้องทำเพื่อฮวาซาของเรา แต่มันต้องเร็วขนาดนั้นเลยเหรอเพคะ”
“หญิงก็รู้ว่าพ่อประวิงเวลาให้ลูกมาตลอด แต่ถ้าวันนึงมันถึงเวลาของมัน พ่อเองก็คัดค้านไม่ได้นะลูก”
โลลิต้าแทบจะร้องไห้ “หญิงขอเวลาอีกนิดได้ไหมเพคะท่านพ่อ ให้เวลาหญิงอีกนิด”
“เวลาเพื่ออะไร” โลลิต้าอึ้ง “หรือว่าตอนนี้ ลูกมีใครในใจแล้วอย่างนั้นเหรอ”
โลลิต้าปฏิเสธ “เปล่าเพคะ ไม่ใช่อย่างนั้น หญิงแค่ ยังทำใจไม่ได้”
“ในฐานะพ่อ พ่อไม่อยากบังคับให้ลูกต้องแต่งงานกับคนที่ลูกไม่ได้รัก แต่ในฐานะราชาผู้ปกครองฮวาซาใต้ พ่อต้องคิดถึงประชาชนในแผ่นดิน ถ้าหญิงไม่ยอมแต่งงาน ฮวาซาเหนือจะใช้เป็นข้ออ้างในการรุกรานประเทศของเรา และด้วยความพร้อมทางอาวุธของฮวาซาเหนือ เราตกเป็นรองในทุกด้าน หญิงคงไม่อยากให้ผู้คนล้มตายในสงครามเพราะเรื่องนี้ใช่มั้ยลูก”
โลลิต้าน้ำตาร่วง “หญิงเข้าใจเพคะ หญิงจะทำหน้าที่ของเจ้าหญิงแห่งฮวาซาใต้ให้ดีที่สุด”

องค์หญิงกอดซบบิดา ท่านธูลลูบหัวธิดาอย่างแสนรักแสนสงสาร

เวลานั้นบรรดาทีมงานนั่งคุยงานกันอยู่ที่ห้องประชุม นายดูคิวที่เหลืออยู่ ไผทลุกพรวดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“ผมขอตัวนะพี่ ผมไม่มีอารมณ์ประชุม” ไผทเดินออกไปทันที ขิงมองตาม
“คิวต่อไปที่จะต้องออกไปที่ทะเลสาบ ชั้นขอยกเลิกก็แล้วกัน แล้วชั้นได้ยินมาว่าในพิธีต้อนรับพรุ่งนี้จะมีระบำพื้นเมืองด้วย เรารอถ่ายทำระบำนี้แทนก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินค่าเดินทาง แล้วเจ้าหญิงก็จะได้มาถ่ายได้ด้วย ไอ้แนว แกไปบอกไผทด้วยแล้วกันว่าให้เตรียมตัวซ้อมระบำฮวาซาไว้ด้วย”
แนวหน้ารับเซ็งๆ “ครับเฮีย ถ้าไอ้หมาบ้านั่นมันยอมนะ”
“ยังไงก็ต้องยอม จีจี้ แล้วเรื่องห้องตัดต่อกับลงเสียงเลื่อนคิวได้เรียบร้อยไหม” นายหันมาทางจีจี้
จีจี้ตอบนิ่งๆ “เรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อวานละ”
นายรู้ว่าจีจี้ยังโกรธ พยายามไม่สนใจ ทำงานต่อ “ดี! ไอ้แนว แกเตรียมฮาร์ดดิสก์ที่ถ่ายทั้งหมดไว้ด้วย ถ้าจำเป็นฉันจะเอากลับไปตัดให้ก่อน”
“ผมยังไม่ได้ทำแบ็คอัพไว้เลย เดี๋ยวคืนนี้จะทำให้”
“อะไร ตั้งหลายวันแล้ว มัวแต่ทำอะไรอยู่” จีจี้ติง
“ก็มัวแต่วุ่นทุกเรื่องนั่นแหละ เอาน่า เดี๋ยวจะทำ แล้วจะทำโน้ตชู้ตติ้งให้ละเอียดเลยด้วย ไม่ต้องห่วงน่า” แนวหน้าบอก
“เบื่อพวกทำงานไม่มีระบบ ไม่มีอะไรกับจี้แล้วใช่ไหมคะ งั้นจี้ขอตัวก่อนค่ะ” จีจี้ลุกออกจากห้องไป

นายชะงัก เหลียวมองตาม รู้ว่าทำอะไรไม่ได้

อ่านต่อหน้า 2

น่ารัก ตอนที่ 13 (ต่อ)

เวลานั้นขิงเดินตามหาไผทมาที่อุทยานกุหลาบ

“ไผท ไผทอยู่ไหน ไผท”
“ผมอยู่นี่ขิง”
ขิงเดินตามเสียงไปจนเจอไผทกำลังพยายามมัดดอกกุหลาบที่เก็บมาให้เป็นช่ออย่างทุลักทุเล
“ทำอะไรน่ะ” ไผทไม่ตอบ พยายามมัดเข้าช่อ โดนหนามตำ
“อุย! โอ๊ย เจ็บ”
“มา.. ขิงช่วย”
ขิงเข้าไปช่วยลิดใบและกิ่งจัดวางดอกกุหลาบใหม่ พูดกับไผทไปด้วย
“เดี๋ยวคิวต่อไปไผทจะต้องไปหัดเต้นระบำฮวาซากับองค์หญิงนะ”
“ระบำ ผมจะเต้นระบำได้ยังไง องค์หญิงกำลังจะแต่งงาน ขิงไม่ได้ยินเหรอ”
“ใจเย็นน่า ไผทเองก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่ามันต้องเป็นแบบนั้น ไม่ช้าก็เร็ว” ขิงส่งช่อดอกไม้ให้ “อ่ะเรียบร้อย”
ไผทมองช่อดอกไม้สักพักแล้วตัดสินใจเด็ดขาด
“แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ ผมจะใช้เวลาที่มีเหลือให้มีค่าที่สุด ขอบคุณนะขิง”
ไผทถือช่อดอกไม้รีบวิ่งออกไป ขิงมองตามหน้าเศร้า

องค์หญิงโลลิต้าเดินกลับห้องพร้อมกับชีฟอง สีหน้าโลลิต้ายังเศร้าเรื่องที่คุยกับท่านธูล “องค์หญิง”
เป็นไผทนั่นเองที่โผล่ออกมาจากมุมหนึ่งเรียก และยกมือถือช่อดอกกุหลาบขึ้น ยิ้มเจื่อนๆ
โลลิต้า และชีฟองตกใจ “คุณไผท”
ชีฟองรีบถาม “คุณมาทำอะไรตรงนี้คะ” “ผมอยากคุยกับองค์หญิง” ซุปตาร์หนุ่มยื่นช่อกุหลาบให้โลลิต้า “สำหรับองค์หญิงพะย่ะค่ะ”
ชีฟองตกใจที่ไผทกล้าทำขนาดนี้ กวาดมองรอบตัวกลัวฝ่ายฮวาซาเหนือมาเห็น
“คุณไม่ควรทำแบบนี้นะคะคุณไผท มันเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง”
ชีฟองมองปราดกวาดตารอบๆ อีกหน
โลลิต้ารับดอกไม้ไว้ด้วยความรู้สึกหนักในใจ
“ขอบคุณนะคะคุณไผท...หญิง...” โลลิต้าพูดไม่ออก เลยตัดบท “แล้วเราค่อยคุยกันคืนนี้แล้วกันนะคะ หญิงขอตัวก่อน”
โลลิต้าเดินออกไปในทันที ชีฟองรีบตาม ” คุยคืนนี้ หรือว่า...” ไผทฉงน มองตามโลลิต้างงๆ

ค่ำคืนนั้นแนวหน้านั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ เช็คฮาร์ดดิสก์ที่ถ่ายทำ พร้อมกับเช็คโน้ตการถ่ายทำไปด้วย นายในชุดนอนเตรียมจะนอนแล้ว อยู่ๆ มีเสียงเคาะประตูที่หน้าห้อง นายเดินไปเปิดประตู เห็นเป็นจีจี้ ก็ชะงัก ตกใจ
จีจี้พูดหน้านิ่งๆ กับนาย “ฉันมาหาไอ้แนว”
จีจี้เดินถือกระดาษจดงาน ผ่านนายเข้าห้องไปเลย นายปิดประตูเซ็งๆ
จีจี้ยื่นกระดาษจดงานให้แนวหน้า “โน้ตวันถ่ายล่าสุด แกลืมไว้”
“ขอบใจเจ๊ กำลังหาอยู่เลย” แนวหน้ารับมาแล้ววางไว้กับกองเอกสารข้างคอมพ์
จีจี้ตีมือแนวหน้า “นี่! วางไว้อย่างนี้ เดี๋ยวก็หาไม่เจออีก เอาเก็บไว้กับฮาร์ดดิสก์จะได้ไม่หาย” จีจี้หยิบเอกสารเอาไปที่กระเป๋าใบเล็กที่วางข้างๆ กระเป๋าเดินทางของแนวหน้า “กระเป๋านี้ใช่ไหม”
แนวหน้ายิ้ม “ขอบใจเจ๊”
จีจี้เอาเอกสารเก็บให้ในกระเป๋า เห็นว่าในนั้นมีฮาร์ดดิสก์ที่เก็บงานถ่ายทำสารคดีวางอยู่ จึงเอาเอกสารวางไว้ใต้ฮาร์ดดิสก์อย่างเรียบร้อย แล้วปิดกระเป๋า
“แล้วได้ทำแบ็คอัพฮาร์ดดิสรึยังแก”
“เดี๋ยวพอทำสคริปต์เสร็จ ก็จะไปทำเนี่ยแหละเจ๊”
“อย่ามัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยวเกิดอะไรขึ้นมาล่ะก็ ที่ทำไปเป็นเดือนๆ มันจะสูญเปล่านะยะ” จีจี้พูดดุอย่างหมั่นไส้
“ครับเจ๊ ไม่ลืมคร้าบ...”
ในขณะที่จีจี้ดุแนวหน้าก็ลืมตัว ยื่นมือไปหยิบเสื้อแนวหน้าและนายที่รกระเกะระกะแถวนั้นมาพับวางๆให้ด้วยความเคยชิน
นายมองจ้อง ใจชื้น กึ่งซึ้งใจ จีจี้ได้สติ ชะงักสายตาซึ้งๆ ของนาย แล้วโยนเสื้อแหมะลงบนเตียงอย่างเก่า แนวหน้าเลยโดนลูกหลงถูกดุต่อ
“ชั้นไม่พูดกับแกแล้ว ปากเปียกปากแฉะ รับปากแล้วรีบทำซะล่ะ เข้าใจมั้ย”
จีจี้รีบเดินออกไป นายมองตามตาละห้อย แนวหน้าเซ็งที่เห็นสองคนฟอร์มจัดทั้งคู่
“จะดีก็รีบๆ ซะเฮีย อย่ามัวแต่ฟอร์มเยอะ รำคาญ”
นายหลบตาน้องชายเดินไปนอนข่มตาให้หลับ
ขณะที่แนวหน้าหยิบฮาร์ดดิสก์ออกมาจะแบ็คอัพ มีเสียงตรึ๊งดังมาจากคอมพ์ แนวหน้ารีบวางฮาร์ดดิสก์แล้ววิ่งไปที่คอมพ์อย่างดีใจ
“นอนหรือยังคะคุณไผท” โลลิต้าทักมา

โดยโลลิต้ากำลังพิมพ์คอมพ์คุยกับแนวหน้า ตรงหน้าโลลิต้ามีช่อดอกกุหลาบของไผทใส่แจกันวางอยู่ “ยังพะยะค่ะ… องค์หญิงเป็นไงบ้าง” แนวหน้าที่องค์หญิงเข้าใจว่าเป็นไผทตอบ
โลลิต้ายิ้มๆ มองดอกกุหลาบ

แนวหน้ากำลังอ่านข้อความจากโลลิต้า
“ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ”
แนวหน้างง “ดอกไม้อะไรวะ”
“ตอนนี้หญิงมีเรื่องต้องคิด ต้องทำมากเหลือเกิน”
โลลิต้าเศร้าใจกับเรื่องที่ต้องแต่งงานกับชองปอล แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ
“ถ้าหญิงจะมีเวลาคุยกับคุณน้อยลง ก็อย่าโกรธกันนะคะ”
“กระหม่อมไม่มีวันโกรธองค์หญิง ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร” แนวหน้าเขียนตอบไป
โลลิต้ายิ้ม รู้สึกดีขึ้นมา แล้วพิมพ์ข้อความตอบแนวหน้า
“ขอบคุณนะคะ...ชั้นดีใจที่มีคุณคอยคุยด้วยค่ะ คุณไผท”
แนวหน้าหุบยิ้มแทบไม่ทัน คิดอยู่ในใจ
“การที่คนเราต้องคุยกับใครบางคนในชื่อของคนอื่น มันทำให้เจ็บปวดได้ขนาดนี้เลยเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย”

ฟากไผทเดินงุ่นง่านอยู่บนระเบียงหน้าห้องพัก เดินกลับไปกลับมาอย่างรอคอยอะไรบางอย่าง จีจี้เดินขึ้นบันไดมาเห็น ชะงักมอง “ไผท...ทำไมยังไม่นอน”
“ผมยังไม่ง่วงครับ”
“นี่มันก็ดึกแล้วนะ พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นมาซ้อมระบำแต่เช้า ระวังหน้าไม่ใส ไม่รู้ด้วยนะ”
“งั้นขออีกซักครึ่งชั่วโมงนะพี่จี้ แล้วจะลงไปนอนแล้ว นะครับ”
“ตามใจ งั้นกู๊ดไน้ท์นะ”
“กู๊ดไน้ท์ครับ”
จีจี้เดินไปทางห้องพัก ไผทมองตาม แล้วมองขึ้นชั้นบน พึมพำ
“ก็องค์หญิงบอกว่า เดี๋ยวคืนนี้คุยกัน” เขาเกาหัวงงๆ “แล้วท่านจะลงมารึเปล่าว้า...”
ไผทครุ่นคิด กังวล

ลานกว้าง สนามหญ้าในบริเวณวังฮวาซาใต้ ถูกใช้เป็นลานเต้นระบำพื้นเมืองเช้าวันนี้ ไผทเดินหาวหวอดๆ มาหาขิงซึ่งยืนรออยู่ ไผทสอดตามองไม่เห็นโลลิต้า “องค์หญิงยังไม่มาเหรอขิง”
“ยัง ทำไมทำหน้าง่วงนอนขนาดนั้นล่ะ” ขิงแปลกใจ ” ก็เมื่อคืนผมนอนดึกน่ะสิ”
แนวหน้าถือวิทยุเดินนำชีฟองเข้ามา ชีฟองยิ้มหวานให้กับขิง
แนวหน้าเรียก “มา ไผท…ซ้อมระบำได้แล้ว” ไผทบ่ายเบี่ยง “องค์หญิงยังไม่มาเลยจะซ้อมได้ยังไงล่ะพี่แนว”
ชีฟองบอกว่า “องค์หญิงมาไม่ได้ค่ะ ทรงมีราชกรณียกิจต้องนำเสด็จท่านหลุยส์ พระราชินีโซเฟีย และท่านชองปอลชมเมืองฮวาซาใต้ค่ะ”
“อ้าว... แล้วผมจะเต้นกับใครล่ะครับ”
“ก็เต้นกับชีฟองไงคะ ชีฟองเป็นคนสอนองค์หญิงเต้นเองกับมือเลยนะคะ”
“ไม่ต้องเสียเวลา เริ่มเลยแล้วกันครับ”
แนวหน้ากดเปิดเพลงที่ชีฟองนำมาให้ ไผทเซ็งที่ไม่ได้ซ้อมกับองค์หญิง
ขณะเดียวกันที่ ตลาดฮวาซาใต้ ท่านหลุยส์ กับ ราชินีโซเฟียเดินนำมา มีโลลิต้า และชองปอลเดินตาม
เหล่าทหารองครักษ์เดินตามอารักขาห่างๆ
ท่านหลุยส์เอ่ยขึ้น “อาไม่ได้มาที่ฮวาซาใต้แค่ไม่กี่ปี ฮวาซาใต้เปลี่ยนไปมากเหมือนกันนะ” “นั่นสิ…ตอนที่อามาครั้งที่แล้ว ที่ตรงนี้ยังเป็นป่าอยู่เลย”
“ค่ะ…ท่านพ่อเพิ่งทรงสร้างตลาดนี้ไม่นาน เพราะเราอยากให้ชาวบ้านมีสถานที่ สำหรับขายผลผลิตทางการเกษตรน่ะเพคะ”
ท่านหลุยส์พยักหน้ายิ้มๆ “นับว่าท่านธูลทรงมีสายพระเนตรกว้างไกลดีมาก”
“น้องหญิงเดินมาตั้งนาน เมื่อยไม๊คะ เราไปนั่งพักตรงศาลาตรงโน่น กันไหม” ชองปอลเอาใจ
“ไม่เป็นไรเพคะ”
ประชาชน ชาวบ้านสองข้างทางพยายามส่งดอกไม้ให้
“องค์หญิงโลลิต้าเพคะ องค์หญิงโลลิต้า”
โลลิต้ายิ้มแย้มตอบ เดินไปรับดอกไม้จากชาวบ้าน ชองปอลเดินไปด้วย ประชาชนถวายดอกไม้ทั้งสองพระองค์ ท่านหลุยส์กับราชินีโซเฟียมองตาม
“ท่านธูลนี่ไม่ใช่ธรรมดา แค่ 10 ปี ก็ทำให้ฮวาซาใต้เติบโตเร็วได้ขนาดนี้” ราชินีโซเฟียเสริม “แต่โตเร็วแค่ไหนก็ไม่ทันฮวาซาเหนือของเราหรอกเพคะท่านพี่”
“อย่านิ่งนอนใจไปโซเฟีย…ระหว่างทางที่เราเดินผ่านมา ประชาชนทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุข นี่คือเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคนฮวาซาใต้ ถ้าการเปิดประเทศฮวาซาใต้ที่ท่านธูลเตรียมไว้ประสบผลสำเร็จ การพยายามรวมประเทศฮวาซา อาจไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เราคิด”
“ท่านพี่คิดว่านี่คือแผนของท่านธูลอย่างนั้นหรือเพคะ”
“พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็จะยอมให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ ฮวาซาใต้จะอยู่เหนือเราไม่ได้เด็ดขาด”
ท่านหลุยส์ยิ้มร้าย คอละครดูออกว่าท่านต้องมีแผนชั่ว
ด้านแนวหน้าเดินเข้ามาอย่างเหนื่อยอ่อน บ่นกระปอดกระแปด
“แค่ดูมันซ้อมระบำแค่นี้ ทำไมมันเหนื่อยนักวะ”
ทหารวิ่งเข้ามา “คุณแนวหน้าครับผม ผมคิดว่าคุณน่าจะตามผมมาทางนี้นะครับ”
“ตามคุณไป ทำไมล่ะ”
“ถ้าอยากรู้ตามผมมาครับผม”

ทหารวิ่งนำออกไป แนวหน้าตามไป งงๆ

อ่านต่อหน้า 3

น่ารัก ตอนที่ 13 (ต่อ)

แนวหน้าเดินเข้ามาในร้านเหล้านอกวัง แล้วต้องตะลึง ลุงเจ้าของร้านเอาไหใส่เหล้ามาวางไว้ตรงหน้าขิงกับจีจี้ที่นั่งอยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ขิงรินเหล้าใส่แก้วให้จีจี้

“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” จีจี้ดื่มพรวด
ขิงรินใส่แก้วให้จีจี้อีก
“ไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัว” จีจี้ดื่มอีกพรวด
ขิงรินใส่แก้วให้จีจี้อีกจอก
“ไอ้ผู้ชายใจร้าย” จีจี้ดกพรวด
แนวหน้าเห็นแล้วเซ็ง “เจ๊ อะไรกันเนี่ย ขิงเอาเหล้าให้เจ๊กินทำไม”
จีจี้เมาได้ที่แล้ว “มาก็ดีแล้ว มาให้ฉันด่าแทนพี่ชายแกเดี๋ยวนี้” พลางดึงแนวหน้าให้ลงนั่ง “ใจร้าย ใจจืด ใจดำ ชั้นอยากจะบีบคอพี่แก....” จีจี้บีบคอแนวหน้าหมับทันที แล้วออกแรงบีบแรงขึ้นๆ
“เจ๊ นี่คอผมไม่ใช่พี่นาย โอ๊ย อะไรของเจ๊เนี่ย ช่วยหน่อยสิขิง”
ขิงช่วยจับจีจี้ไว้อย่างทุลักทุเล
จีจี้ปล่อยมือจากคอแนวหน้าอย่างอารมณ์เสีย “รินมา”
“พอก่อนมั้ยพี่จี้ ขิงว่าพี่เมาแล้วนะคะ”
“ไม่เมา เอามาอีกไห!”
“ไม่เอาน่าเจ๊ ทำตัวเป็นคนขี้เมาไปได้ เป็นผู้หญิงยิงเรือ กินเหล้ามันไม่น่าดูนะเจ๊ เหล้ามันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรหรอกเจ๊ เชื่อผม”

ไม่นานต่อมา แนวหน้าเมาแอ่นเรียบร้อย ขิงกลายเป็นสก๊อยคอยริน จีจี้ฟุบหลับไปแล้ว
แนวหน้าเมา เสียงอ้อแอ้ “นี่ไผทมันทำให้ขิงเสียใจอีกแล้วใช่ไหม มันทำให้ขิงเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า ไปรักมันทำไม”
ขิงมองจีจี้ที่หลับอยู่อย่างไม่ค่อยไว้ใจ กลัวจีจี้ได้ยิน “อย่าพูดเลยพี่แนว”
“ต้องพูด พี่ต้องพูด ทำอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง มันทำเหมือนขิงไม่มีหัวใจ”
ขิงถอนใจ หน้าเศร้า “ความจริงขิงก็เหนื่อยแล้วพี่แนว...เหนื่อยที่เอาแต่มองคนที่เค้ามองไม่เคยเห็นเราเลย...เหนื่อยที่ต้องคอยเป็นที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่อง การแอบรักใครสักคนทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ล่ะพี่แนว”
แนวหน้าจี๊ดใจ ชะงักไปเหมือนกัน เพราะว่าเคยแอบรักขิง และตอนนี้ก็แอบรักโลลิต้า
“ถามถูกคน! พี่นี่มือโปรเรื่องแอบรักคนเลยนะขิงรู้ไหม” แนวหน้าหัวเราะสมเพชตัวเอง “แอบรักมันทั่วไปหมด”
“แล้วตอนนี้ล่ะ พี่แนวแอบรักใครอยู่” ขิงมองแนวหน้านิ่งๆ จำเลยหลบตาวูบไม่กล้าตอบ
“พี่จะบอกให้นะ การแอบรักมันไม่ได้เหนื่อยหรอกขิง แต่การคาดหวังต่างหากที่ทำให้เราเหนื่อย”
ขิงคิดตามแล้วย้อนแย้ง “ทำได้ด้วยเหรอพี่แนว รักแบบไม่คาดหวัง”
“ทำยาก พี่บอกเลยว่ายากมาก พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำได้รึเปล่า อ่ะ โชน”
แนวหน้าชนแก้วกับขิงแล้วดกหมดแก้ว ขิงมองแนวหน้าเริ่มมั่นใจว่าแนวหน้าก็มีปัญหาแอบรักใครอยู่ชัวร์

จากเย็นเป็นค่ำ แนวหน้าที่มีท่าทางเมาแอ่นกับขิงช่วยกันหิ้วปีกจีจี้ เดินโซซัดโซเซกันเข้ามา ขิงเริ่มหายเมา แนวหน้ายังกึ่มๆ อยู่ ส่วนจีจี้เมาปลิ้น
“ไอ้แนว แกพาชั้นกลับมาทำไม ฉันจะกินต่อ”
“สภาพนี้ไปกินต่อที่เตียงนอนเหอะเจ๊” แนวหน้าว่า
“กลับไปนอนเถอะพี่จี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำงานไม่ไหวนะคะ” ขิงบอก
จีจี้พาล “นี่ขิงหาว่าพี่เป็นภาระเหรอ” โวยวายลั่น “ใช่ซี๊ ตอนนี้พี่มันหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีใครอยู่ข้างพี่เลย”
จีจี้หยุดเดิน “พี่เหงามากเลยนะขิง มันเหงามากเลยรู้มั้ย เวลาไม่มีใครอยู่ข้างๆ ตัวเนี่ย”
จีจี้ปล่อยโฮออกมาแล้วทรุดลงนั่ง เลิกเดินเอาดื้อๆ ขิงกับแนวหน้ามองอย่างหมดปัญญา
แนวหน้าทรุดลงนั่งใกล้ๆ จีจี้ หมดแรงเหมือนกัน

ขณะที่นายนอนอยู่บนเตียง ได้ยินเสียงเคาะประตู นายลุกขึ้นงัวเงียมาเปิด
“แกไม่ได้เอากุญแจไปเหรอวะไอ้แนว”
เป็นขิงยืนหน้าตาเหนื่อยหอบอยู่ที่หน้าห้อง
“มีอะไรเหรอขิง”
“พี่นายช่วยไปดูพี่จีจี้หน่อยเถอะค่ะ”
นายเง็ง “ดูจีจี้ ทำไม จี้เป็นอะไร”
“พี่จี้เมามากค่ะ ไม่ยอมกลับวัง พี่แนวก็เมา อุ้มพี่จี้ไม่ไหว ขิงก็เลยวิ่งมาตามพี่นายเนี่ยแหละค่ะ”
นายได้ฟัง ก็ตกใจมาก

ต่อมาไม่นาน นายพยุงจีจี้เข้ามาในห้อง จีจี้ดีดดิ้นพยายามสะบัดออก
“ไม่ต้องพยุง ฉันเดินเองได้” จีจี้อวดเก่งสะบัดตัวจากนายแล้วพยายามเดินเอง แต่เซจะล้ม
จนนายเข้าไปจะพยุงอีก แต่จีจี้สะบัดหนีอีก
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง ปล่อย” จีจี้พยายามเดินเองแต่เซจะล้มอยู่นั่น นายตัดสินใจช้อนตัวจีจี้แล้วอุ้มขึ้นมาทันที จีจี้ตกใจ พยายามดิ้น
“หยุดดิ้น แล้วอยู่นิ่งๆ แค่นี้มันยังยุ่งไม่พออีกหรือไง”
จีจี้ตกใจ อึ้ง นิ่งไปทันควัน

นายค่อยๆ วางร่างจีจี้ลงที่เตียง จีจี้นอนดิ้นไปดิ้นมาเพราะเมามาก
“นี่คุณไปกินเหล้าทำไมเนี่ยจี้”
“ยังจะถามอีกเหรอคนใจร้าย ไม่รักแล้ว จี้ไม่รักนายแล้ว ไม่รักกกก”
จีจี้น้ำตาไหลริน แล้วหลับไปทั้งน้ำตา นายมองจีจี้ด้วยความสงสาร เดินเข้าห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดหน้า นายลงนั่งข้างๆ แล้วเช็ดหน้าเช็ดตาให้จีจี้อย่างอ่อนโยน
ทันใดนั้นเองจีจี้พลิกตัวมาจับมือนายไว้ จนนายตกใจ
จีจี้เพ้อ “จี้ขอโทษเรื่องสัญญาของไผท จี้ไม่ได้หลอกคุณนะนาย ไม่โกรธได้มั้ย อย่าโกรธจี้เลยนะ”
นายมองยิ่งสงสารจีจี้ เมาจนเพ้อบอกความในใจ นายวางผ้าแล้วจัดท่าจีจี้ให้นอนสบายๆ
จีจี้พึมพำ “ฉันรักคุณนะ...ฉันขอโทษ”
จีจี้ที่เมาหลับน้ำตาไหลรินออกมาอีก นายอึ้งนิ่งงันนั่งซึมกะทือ

แนวหน้าที่ท่าทางยังเมาแอ่นอยู่เดินมากับขิงที่อุทยานด้านหลัง
“ฝันดีนะขิง พรุ่งนี้เจอกัน ขอบใจนะที่วิ่งมาตามพี่นายให้ พี่นี่มันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ มิน่า ใครๆ ก็ไม่รัก
แนวหน้าจะเดินกลับ
“เดี๋ยวพี่แนว...พี่แอบชอบใครอยู่เหรอ”
แนวหน้าชะงัก “ชอบใคร เปล๊า ไม่มี!”
ขิงเลยดึงแนวหน้าให้ไปลงนั่งกับพื้นตรงสวนใกล้ๆ “มีคนทำพี่แนวอกหักใช่ไหม” แนวหน้านิ่ง “ผู้หญิงที่ไหนเหรอ” แนวหน้านิ่งอีก “เอ๊ะ หรือว่าผู้ชาย”
“บ้าน่า...ผู้หญิงสิ”
ขิงชะโงกหน้ามองใกล้ๆ “ไม่ใช่ขิงใช่มั้ย”
แนวหน้าตะลึงแทบสร่างเมา “ขิง เอาอะไรมาพูด”
“เมื่อก่อน ขิงเคยรู้สึกว่าพี่แนวอาจจะชอบขิง พี่แนวไม่เคยมองตาขิงตรงๆ เลย แต่ตอนนี้พี่แนวคุยกับขิงได้สนิทใจมากขึ้น มองตาขิงได้ตรงๆ พูดจาไม่ตะกุกตะกักอย่างแต่ก่อน เพราะฉะนั้น ผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่ขิงใช่มั้ย”
แนวหน้าหลบตาวูบ
“เค้าเป็นใคร บอกขิงได้มั้ย ขิงรู้จักรึเปล่า” ขิงคาดคั้น
“เค้าเป็น...ผู้หญิงในอินเตอร์เน็ตน่ะ”
ขิงแปลกในระคนตกใจ “หา นี่พี่จีบสาวทางเน็ตเหรอ วัยรุ่นนะเนี่ย แล้วคุยกันนานรึยัง”
“สักพัก แต่เค้าดันเข้าใจผิดว่าพี่เป็นอีกคน...แล้วสองคนนั้นก็ดันชอบกันไปแล้วด้วย”
“อะไรเนี่ย ขิงงง”
แนวหน้าหัวเราะเยาะตัวเอง “นายพรหมลิขิต ลิขิตให้เค้าชอบกันซะเลย”
ขิงงงหนัก “นายพรหมลิขิต? ใคร”
“นายพรหมลิขิต...ก็พี่นี่ไงขิง พี่นี่แหละคือนายพรหมลิขิต” แนวหน้าลุกขึ้น “พี่นี่แหละ ลิขิตชีวิตคนได้ บ้าชะมัดเลย”
พูดแล้วแนวหน้าก็ทรุดตัวลงเอนหลับพับไป
“พี่แนว!! พี่แนว!”
แนวหน้าหลับเป็นตายไม่รู้เรื่อง ขิงกลุ้มใจ

เช้าวันใหม่ แนวหน้านอนหลับอยู่บนเตียง มีมือใครคนหนึ่งมาสะกิดปลุก แนวหน้าสะดุ้งตื่นเห็นเป็นไผท
“เช้าแล้วพี่...เดี๋ยวไปกองสาย”
“เฮ้ย... นี่แกมาอยู่ห้องฉันได้ไงเนี่ย”
“พี่นั่นแหละมาอยู่ห้องผม”
แนวหน้าลุกพรวดมองรอบตัว “อ้าว แล้วฉันมาอยู่ห้องแกได้ไง”
“ก็เมื่อคืนพี่เมามาก หลับอยู่ข้างนอก ขิงเลยมาตามผมให้พาพี่มานอนด้วย”
“อ้อเหรอ”
“แล้วพี่มีเรื่องอะไร ทำไมไปกินเหล้าเมาขนาดนั้นล่ะครับ” แนวหน้าชะงัก ไผทถามต่อ “หรือว่าเฮิร์ทเรื่องขิง”
“เฮ้ยย ฉันไม่ได้คิดอะไรกับขิงแล้ว”
ไผทมองไม่อยากเชื่อ “จริงอะ”
แนวหน้าไม่ยอมสบตา “ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ” เขาลุกหนีออกจากห้องไปทันที
ไผทส่ายหน้า มั่นใจว่าเป็นเรื่องขิง
ฝ่ายจีจี้ค่อยๆ รู้สึกตัว ลืมตาตื่นขึ้นม “โอยย...”
นายที่ยืนติดกระดุมเสื้ออยู่ หันมาหาจีจี้ “ตื่นแล้วเหรอ” จีจี้เหลียวขวับไปตามเสียงเห็นว่านายยืนอยู่หน้าเตียงพร้อมติดกระดุมเสื้อไปด้วยก็ตกใจจนตาโปน
“ห๊า! นายนาย คุณมาอยู่นี่ได้ไง” จีจี้เปิดผ้าห่มดูตัวเองเพราะกลัวว่าเมื่อคืนมีอะไรกับนายไป
นายมองขำๆ
“เมื่อคืนคุณเมามาก ผมก็เลยพาคุณมานอนที่นี่ เพราะไม่อยากให้ข้างบนเค้ารู้ว่าคุณเมา”
จีจี้นึกทบทวนถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แล้วรู้สึกเสียหน้า เลยพยายามลุกจากเตียงแต่ดันเซจะล้มเพราะแฮงค์ นายรีบเข้ามาช่วย
ประตูห้องเปิดออก แนวหน้าโผล่เข้ามาแล้วชะงัก เห็นภาพตรงหน้า
“ผม...ขอโทษ เอ้อ...ผม...ไปละ” แนวหน้าเผ่นออกไปจากห้องทันที
“ไม่ต้องลุกหรอก คุณนอนพักไปเถอะ”
นายจับจีจี้นั่งลงที่เตียง
“ผมสั่งให้คนเอาข้าวต้มกับยามาให้แล้ว กินเสร็จก็นอนพักซะ เดี๋ยววันนี้เราถ่ายระบำอยู่ในวังนี่เอง เดี๋ยวผมทำเอง แล้วพอค่อยยังชั่วคุณค่อยตามไปก็ได้”
“ไม่ได้หรอก ชั้นไม่อยากโดนใครบางคนด่าอีกว่าทำงานไม่ได้เรื่อง”
“จี้...ถ้าไม่ไหว อ่อนแอบ้างก็ได้นะ คนเราไม่จำเป็นต้องเก่งตลอดหรอก อ้อ เดี๋ยวผมจะไปตามไอ้แนวมาอาบน้ำ คุณไม่ต้องสนใจอะไรมันนะ นอนตามสบาย”
จีจี้ชะงักอึ้ง นายพูดจบก็เดินออกจากห้องไป จีจี้ถอนใจเซ็งทิ้งตัวลงกับเตียงรู้สึกผิดที่ปากเสียพูดจาหาเรื่องทะเลาะกับนายจนได้

ท่านหลุยส์ ราชินีโซเฟีย และชองปอล นั่งรอดูการถ่ายทำอยู่ ที่มุมรับรอง นายเข้ามาต้อนรับ
“นับเป็นเกียรติอย่างสูงพะยะค่ะที่ท่านหลุยส์ องค์ราชินีโซเฟีย และท่านชองปอล เสด็จมาทอดพระเนตรการถ่ายทำสารคดีของกระหม่อม”
ชองปอลวางอำนาจ “เมื่อไหร่จะเริ่มถ่ายสักที เราอยากดูน้องหญิงเต้น”
“เดี๋ยวกระหม่อมไปเร่งให้นะพะย่ะค่ะ” นายรีบเดินออกไป
ชองปอลหงุดหงิดหันไปกระซิบท่านหลุยส์ “ท่านพ่อ ทำไมท่านพ่อไม่ทำอะไรสักอย่างเลยพะย่ะค่ะ จะปล่อยให้พวกนี้ถ่ายทำสารคดีบ้าบอนี่จนเสร็จจริงๆ หรือพะย่ะค่ะ”
“ชองปอล ลูกต้องหัดใจเย็น แล้วรู้จักรอบ้าง”
ท่านหลุยส์ยิ้มเหี้ยมมีแผนร้าย ชองปอลเอะใจว่าพ่อต้องมีแผนอะไรสักอย่างแน่นอน

ท่านหลุยส์หันไปสบตาทหารคนหนึ่งแล้วพยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงสั่ง ทหารคำนับ ถอยออกไป

อ่านต่อหน้า 4

น่ารัก ตอนที่ 13 (ต่อ)

ในลานเต้นรำ แลเห็นไผทในชุดพื้นเมืองของฮวาซากำลังเดินวนไปวนมาอยู่ แนวหน้ากับทีมงานเตรียมกล้องเพื่อทำการถ่ายทำอยู่ แนวหน้าร้องขึ้น
 
“แสตนด์ บาย อีก 5 นาทีถ่ายนะ”
ทีมงานรับคำแล้วหันไปเตรียมตัวต่อทันที แนวหน้าเห็นขิงเดินผ่านมา เลยกระซิบถาม
“เอ่อ ขิง คือ เมื่อคืน พี่พูดอะไรรั่วๆ ไปรึเปล่า คือ พี่จะบอกว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา เวลาพี่เมา พี่ก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าถือสาเลยเนอะ”
ขิงประชดขำๆ “จ้ะ...นายพรหมลิขิต”
แนวหน้าหันขวับมองหน้าขิงประมาณรู้ตัวว่ากรูดันเผลอพูดเรื่องนี้ไปเหรอเนี่ย
“หือม์...นี่พี่พูดเรื่องนี้เหรอ”
ขิงยิ้มกว้าง แนวหน้าเซ็งโคตร ขิงทำท่ารูดซิปปากมาดทอมฮะ
“ขิงจะไม่พูดฮะ ขิงสัญญา”
จังหวะนั้นเอง ชีฟองเดินเข้ามาที่กลางลานเต้นรำ
“องค์หญิงโลลิต้าเสด็จแล้ว”
องค์หญิงโลลิต้าเดินมาด้วยชุดพื้นเมืองฮวาซาอย่างสวยงามแปลกตา
ไผทมองโลลิต้า ด้วยความคิดถึง รู้สึกดีที่ได้เจอหน้า รู้สึกว่าอีกไม่กี่วินาทีจะได้เต้นด้วยกันแล้ว สองคนยิ้มให้กัน
นายเดินเข้ามาหา “ไอ้แนว องค์หญิงมาแล้ว เริ่มงานได้เลย ชั้นจะไปทูลเชิญทุกพระองค์ให้เรียบร้อยก่อน”
“โอเค งั้นทุกคนประจำที่เลยนะครับ” แนวหน้าหันไปให้สัญญานทุกฝ่าย
ไผทเดินไปที่โลลิต้า ส่งมือให้ โลลิต้าวางมือลงช้าๆ ขิงกับแนวหน้าเพ่งมองภาพนั้นพร้อมกัน ไผทและโลลิต้าเข้าประจำที่ เตรียมเต้น

ด้านจีจี้เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างงัวเงีย ที่ประตูห้องนอน ลูกบิดถูกหมุนเหมือนจะมีคนเปิดประตูเข้ามา คนที่พยามยามบิดลูกบิดอยู่คือชายชุดดำใส่หมวกคลุมหน้า ค่อยๆ ย่องเข้ามา ตรงไปที่โต๊ะทำงาน เริ่มรื้อค้น
จีจี้เดินออกมาจากห้องน้ำ “ลืมอะไรไว้เหรอนาย” จีจี้ชะงัก
ชายชุดดำหันหน้ามา จีจี้ตกใจอ้าปากจะกรี๊ด ชายชุดดำกระโดดถึงตัว เอาปืนจี้ขู่
“เงียบ ถ้ายังไม่อยากตาย”

ได้ยินเสียงเพลงบรรเลงดังอึกทึกทั่วลานเต้นรำ ไผทกับโลลิต้าเต้นระบำคู่กัน พร้อมๆ กับนักเต้นคู่อื่นๆอีกหลายคู่
ท่านธูล ท่านหลุยส์ ราชินีโซเฟียนั่งดูการถ่ายทำอยู่ที่เดิม แนวหน้า กะ ขิงมองไผทที่เต้นรำกับโลลิต้าผ่านมอนิเตอร์หน้าเศร้ากันทั้งคู่ ส่วนชองปอลมองโลลิต้าที่เต้นคู่กับไผทอย่างหมั่นไส้
นายดูถ่ายไป นึกเป็นห่วงจีจี้ขึ้นมา ดูนาฬิกา “เดี๋ยวชั้นมานะไอ้แนว” แนวหน้าโวย “อ้าวเฮ้ย จะไปไหนเฮีย” ”จะแวะไปดูจี้หน่อย ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง ได้กินข้าวรึเปล่าก็ไม่รู้” ” โอ๊ย เฮีย ป่านนี้เจ๊จี้คงยังหลับสบายไปแล้ว เฮียอยู่ช่วยผมดูที่นี่ก่อนเหอะ”
นายคิดไปคิดมาแล้วบอก “เออๆ” นายรู้สึกเป็นห่วงจีจี้โดยประหลาด
ท่านหลุยส์ดูระบำอย่างเพลิดเพลิน แต่จังหวะหนึ่งก้มลองมองดูนาฬิกาเหมือนรอเวลา

ฟากฝั่งคนร้าย 1 กำลังปิดปากจีจี้ไม่ให้ร้อง จีจี้ตกใจมากไม่กล้าขัดขืนใดๆ
“ฮาร์ดดิสก์อยู่ไหน!” คนร้ายเค้น จีจี้ส่ายหน้าว่าไม่รู้
“บอกมา! ฮาร์ดดิสก์สารคดีอยู่ที่ไหน” จีจี้พูดทั้งที่โดนปิดปากไว้ “ไม่รู้...ชั้นไม่รู้”
จังหวะหนึ่ง คนร้ายคว้ากระเป๋าที่เก็บฮาร์ดดิสก์ของแนวหน้าขึ้นมาทิ้งลงบนเตียง จีจี้ทำท่าตกใจ จ้องไปที่กระเป๋าตาเป๋ง คนร้ายที่ถามเห็นสายตาของจีจี้ก็หันไปมองตาม แล้วเข้าไปหยิบกระเป๋าทันที
คนร้ายคาดคั้น “อยู่ในนี้ใช่ไหม” จีจี้เหวอหน้าเสียส่อพิรุธ พูดอะไรไม่ออก คนร้ายรู้ทันทีว่าฮาร์ดดิสก์น่าจะอยู่ในนั้น พยายามจะเปิด
จีจี้สะบัดแล้วพุ่งเข้าไปแย่งกระเป๋ามากอดไว้
“อย่านะ พวกแกจะเอาไปทำอะไร”
คนร้ายยกปืนขึ้นมาขู่ จีจี้ชะงัก “เอากระเป๋ามา! ถ้ายังไม่อยากตาย”
จีจี้หน้าซีดผวากลัว คนร้ายหยิบกระเป๋าไปจากจีจี้ได้อย่างง่ายดาย แล้วพยายามจะเปิดกระเป๋า ทันใดนั้นเอง นายก็เปิดประตูเข้ามา ชะงักทันทีเมื่อเห็นว่าอะไรเป็นอะไร
“นี่มันอะไรกัน”
จีจี้หันมาเห็นว่าเป็นนายก็ตะโกนสุดเสียง ”ระวัง”
ชายชุดดำพรวดเดียวถึงตัวนาย มันต่อยท้องจนนายทรุด คนร้ายเอาท้ายปืนจะตีนาย แต่นายหลบทันแล้วต่อยสวนคืน
อีกมุมหนึ่งของลานเต้นรำ คู่เต้นกำลังเต้นระบำกำลังเต้นกันอยู่อย่างสนุกสนาน แนวหน้าจ้องดูภาพอยู่ที่หน้ามอนิเตอร์
“คิวต่อไปถ่ายอะไรเฮีย”
แต่เป็นเสียงขิงบอก “Insert เครื่องดนตรีฮวาซา”
“อ้าวขิง...แล้วพี่นายหายไปไหน”
“เห็นเดินออกไปเมื่อกี้ ไปเข้าห้องน้ำมั้ง”
แนวหน้าเซ็ง รู้ว่าพี่ชายต้องแอบไปดูจีจี้แน่ๆ
นายบู๊กับคนร้ายเพื่อแย่งกระเป๋า ผลัดกันแพ้ชนะ คนร้ายดึงกระเป๋าสำเร็จจะหนีออกทางหน้าต่าง นายนายดึงรั้งเอาไว้ทัน คนร้ายเลยหันมาสู้อีกยกนายล้มลง คนร้ายจะยิงนาย จีจี้ได้สติคว้ากระเป๋าขึ้นปัด เสียงปืนดังเปรี้ยง
ที่ลานเต้นรำ เพลงระบำจบลงพอดี ทุกคนปรบมือ จู่ๆ ได้ยินเสียงดัง ปัง! ปัง! ปัง! พวกผู้หญิงตกใจ กรีดร้องระงม ทุกคนชะงัก หยุดทำกิจกรรมของตัวเองทันที ทหารทุกคนเข้าประจำที่ปกป้องอารักขาเจ้านายทุกพระองค์กันแข็งขัน ทหารฮวาซาใต้วิ่งไปทางเสียงปืน ราอูลพุ่งเข้าไปปกป้องท่านธูลทันที
ไผทที่เต้นรำอยู่กับโลลิต้ากอดโลลิต้าไว้ทั้งตัวอย่างปกป้อง ชองปอลที่มองอยู่ ลุกขึ้นโกรธสุดขีด
ทหารองครักษ์ฮวาซาเหนือพุ่งเข้าไปปกป้อง ท่านหลุยส์ ท่านโซเฟีย ชองปอล ท่านธูลถามเสียงดัง “ทหาร เกิดอะไรขึ้น” “นั่นมันเสียงปืนนี่คะคุณไผท!”
สีหน้าท่านหลุยส์เรียบเฉย ไม่ตื่นเต้นใดๆ
ราอูลบอก “ดังมาจากฝั่งที่พักของทีมงานชาวไทยพะย่ะค่ะ” แนวหน้าตกใจถอดวางอุปกรณ์ แล้วลุกออกวิ่งทันที ขิง ไผทตามไป

ขณะที่นายกับจีจี้กอดกันอยู่ที่พื้น ทันใดนั้นเอง ราอูลกับกลุ่มทหารเปิดประตูผลัวะเข้ามา แนวหน้า ขิง และไผท ตามมาติดๆ
แนวหน้าร้องเรียก “พี่นาย! พี่จี้!” นายนิ่งเงียบ ไม่ขยับ
จีจี้ตกใจ เขย่าเรียก “นาย! นาย! คุณเป็นอะไรรึเปล่า” นายขยับตัวออก “ผมไม่เป็นไร คุณล่ะ”
“ชั้นก็ไม่เป็นอะไร” ราอูลถาม “เมื่อกี้เสียงปืนอะไรหรือครับ”
“มีคนร้ายบุกเข้ามาพยายามขโมยฮาร์ดดิสก์สารคดีที่เราถ่ายทำไว้ ผมเข้ามาพบเข้าพอดีก็เลยต่อสู้กัน ตอนนี้ทหารยามวิ่งตามไปทางโน้นแล้วครับ” นายบอก
ราอูลสั่งทันที “รีบตามจับคนร้ายมาให้ได้ พวกคุณไม่มีใครเป็นอะไรใช่มั้ย”
ทหารรีบวิ่งออกไป
แนวหน้าหันไปเห็นกระเป๋าใส่ฮาร์ดดิสถูกยิงยับเยินเป็นพรุน แนวหน้าตกใจมากรีบเปิดกระเป๋าทันที พบว่าฮาร์ดดิสก์ถูกยิงเละ “เฮีย! มันยิงโดนฮาร์ดดิสก์” ทุกคนร้อง “หา”
ราอูลฉงน “ฮาร์ดดิสก์คืออะไร”
“ข้อมูลทั้งหมดที่เราถ่ายทำสารคดีชิ้นนี้น่ะสิครับ” นายว่า
แนวหน้าเสริม “ภาพทุกภาพที่เราถ่าย ผมยังไม่ทันได้ก๊อปปี้ไว้ด้วย ถ้าฮาร์ดดิสก์เกิดพังขึ้นมา สารคดีทั้งหมดที่เราถ่ายไป ก็จะไม่เหลืออะไรเลย”

ทุกคนอึ้ง เครียดกันไปทั้งแถบ

อ่านต่อตอนที่ 14
กำลังโหลดความคิดเห็น