น่ารัก ตอนที่ 20
รถยนต์หรูที่ชองปอลส่งไปรับตัวโลลิต้า แล่นเข้ามาจอดที่หน้าวังฮวาซาเหนือ ทหารตรงมาเปิดประตูให้ โลลิต้าลงมาจากรถ ตามด้วยชีฟอง ชองปอลเดินยิ้มร่าเข้ามารับทันที
“น้องหญิงโลลิต้า…ที่รักของพี่”
โลลิต้ามีสีหน้านิ่งๆ “ถวายบังคมเพค่ะ”
ชองปอลยิ้มแย้ม สีหน้าเบิกบานสุดๆ “ยินดีต้อนรับสู่ฮวาซาเหนือค่ะ... น้องหญิงเดินทางมาเหนื่อยๆ เข้าไปพักในห้องรับรองก่อนดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไปวัดตัวเลยก็ได้”
“พระทัยร้อนจัง นี่คงอยากอภิเษกกับพี่เร็วๆแล้วใช่ไหมคะ เหมือนพี่เลย เชิญเสด็จค่ะ”
โลลิต้าทอดถอนใจ ชองปอลพูดเองเออเอง แล้วเดินนำเข้าไปด้านในวัง
ทันทีที่ชองปอลพาโลลิต้าเข้ามาภายในโถงของวัง ทันใดนั้นเองเห็นเหล่านางกำนัล และทหารฮวาซาเหนือพากันดึงพลุสายรุ้งกระจายเต็มห้อง โลลิต้า และชีฟองตกใจ
ชองปอลยิ้มร่า “เซอร์ไพร้ส์”
โลลิต้า ชีฟอง พากันงงว่าชองปอลจะทำอะไร
“เชิญทางนี้ค่ะน้องหญิง”
ชองปอลจูงโลลิต้าไปยืนตรงกลาง ชองปอลดีดนิ้วเรียก ทหารคนหนึ่งเดินเข้ามา โค้งก่อนส่งกล่องเล็กให้ ชองปอลคุกเข่าลงตรงหน้าโลลิต้าทันที
“ความจริงวันนี้พี่ไม่ได้นัดน้องหญิงมาเพื่อวัดตัวตัดชุดหรอกนะคะ แต่พี่อยากนัดน้องหญิงมาเพื่อพูดสิ่งนี้...”
ชองปอลเปิดกล่องออก เผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดงามอยู่ในนั้น
“ท่านพ่อเคยบอกพี่ว่าถ้าพี่จะแต่งงานกับใคร อย่าเลือกแต่งงานกับคนที่พี่อยู่ด้วยได้...แต่ให้พี่เลือกแต่งงานกับคนที่พี่ขาดเค้าไม่ได้ และน้องหญิงก็ทรงเป็นคนคนนั้น แต่งงานกับพี่นะคะน้องหญิงโลลิต้า”
โลลิต้าอึ้ง ภาพเหตุการณ์ตอนไผทให้แหวนดอกหญ้า แวบเข้ามาในความจำ
โลลิต้าหลับตานิ่ง พยายามสะกดจิตตัวเองให้ลืม
ชองปอลหยิบแหวน แล้วจับมือโลลิต้าขึ้นมา สวมแหวนให้ทันที บรรดาทหาร และนางกำนัลต่างปรบมือให้ และโห่ร้องด้วยความยินดี
ชองปอล “Will you marry me, darling”
โลลิต้าอึ้ง นิ่งงันไป ไม่คิดว่าชองปอลจะทำเว่อร์ขนาดนี้ ชีฟองมองมา รู้ดีว่าองค์หญิงรู้สึกยังไง
ทางด้านไผทมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างห้องพัก ท่าทางซึมเซา เศร้าหมอง น่าสงสาร ในมือมีแหวนดอกหญ้า ขิงเอาดอกไม้ยื่นให้ตรงหน้า ไผทหันมอง ฝืนยิ้มทัก
“มาแล้วเหรอ” เขารับดอกไม้มา “ความจริง ขิงก็มาเยี่ยมผมทุกวันอยู่แล้ว จะซื้อดอกไม้มาให้ทำไม”
“ก็อยากทำตัวเป็นแฟน...คลับบ้างมั้ง” ขิงบอก
ไผทยิ้ม “ขอบใจมากนะขิง แล้วนี่ดอกอะไร”
“ดอกขิง”
ไผทงงไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นมาก่อน “ดอกขิง มีด้วยเหรอ เกิดมาผมเพิ่งเคยเห็น...สวยเหมือนกันนะ”
ขิงยิ้มเก้อๆ “คนไม่ค่อยรู้หรอกว่า...ขิง ดอกมันสวย”
“ฮั่นแน่ จะบอกว่าเหมือนตัวเองใช่ไหมล่ะ ที่สวย”
ไผทหัวเราะชอบใจ ขิงมองไผทขำๆ เศร้าใจว่าไผทช่างไม่รู้อะไรเลย
ไผทมองดอกขิงในมือ แล้วคิดถึงโลลิต้าขึ้นมา
“ป่านนี้องค์หญิงจะเป็นยังไงก็ไม่รู้นะขิง ท่านคงกำลังทรงเตรียมตัวเรื่องพิธีอภิเษกสมรสอยู่ จะทรงทุกข์หรือสุขก็ไม่รู้” พูดแล้วชักรู้ตัว หันมามองขิง “ขอโทษนะขิง ผมรู้ว่าไม่ควรรู้สึกแบบนี้กับท่านอีก แต่มันห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ”
ไผทมองแหวนในมือ ขิงมองตาม นึกสงสาร
“ขิงเข้าใจไผท คนเราถ้ารักแล้ว มันหยุดรักไม่ได้ง่ายๆ หรอก”
ไผทยิ้มเป็นเชิงขอบคุณ ขิงยิ้มอย่างขมขื่นที่ไผทไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของตนเลย
ไผทเอาดอกไม้วางข้างๆ ตัว
“เดี๋ยวขิงเอาไปใส่แจกันให้”
“ขอบคุณมากนะขิง”
ขิงเดินออกไป ไผทดูแหวนในมืออีก เศร้าจัด
คืนนั้น แนวหน้ากำลังแนบไฟล์ส่งเมลให้เออยู่ พร้อมคุยโทรศัพท์กับเอไปด้วย
“ผมส่งเรฟเฟอร์ซาวด์ประกอบไปให้พี่แล้วนะพี่เอ พี่ลองเอาลงให้ผมหน่อย...ห้องเสียงเค้าจะได้รู้ว่าผมอยากได้โทนนี้ ขอบคุณครับพี่”
แนวหน้าวางสาย แล้วกดส่งเมลไป
แนวหน้ากดปิดโปรแกรม แล้วเห็นว่าไฟล์รูปภาพที่ตัวเองถ่ายคู่กับโลลิต้า ไผท และขิงที่ฮวาซาใต้เปิดเป็นภาพหน้าจอค้างไว้ แนวหน้าชะงักมองหน้าโลลิต้าด้วยความคิดถึง
นายเดินเข้ามาในห้อง ยืนอยู่ด้านหลังแนวหน้า โดยที่แนวหน้าไม่รู้ตัว
“ยังทำงานไม่เสร็จอีกเหรอ” นายถามขึ้น
แนวหน้าสะดุ้ง รีบปิดคอมพ์ลงทันที
“เสร็จแล้วเฮีย...เดี๋ยวจะไปเช็คเทปแล้ว เฮียล่ะทำอะไร ทำไมยังไม่นอนอีก”
“พอดีชั้นนึกได้ว่าท่านราอูลเค้าส่งจดหมายเชิญร่วมพิธีอภิเษกสมรสมาให้พวกเรา...เค้าอยากเช็คคนที่จะไปร่วมงาน ชั้นก็เลยจะมาถามแกว่าจะไปไหม” นายยื่นเทียบเชิญให้แนวหน้า
แนวหน้าดูจดหมาย แล้วอึ้งไปนิดๆ ก่อนบอกโดยไม่ยอมหยิบมาดู
“ผมไม่ไปหรอกเฮีย”
“อ้าว เฮ้ย ทำไมล่ะ”
“ไกล...ขี้เกียจไป อยู่กรุงเทพฯ ทำงานดีกว่า...อยากรีบตัดงานให้เสร็จ”
“แต่ท่านธูลเค้าเชิญเราไปเป็นแขกของฮวาซาใต้เลยนะเว้ย”
“เฮียกับเจ๊ก็ไปเหอะ ขาดผมไปคนเค้าก็แต่งงานกันได้ ผมไปเช็คเทปก่อนนะ”
แนวหน้าเดินออกไปทันที นายมองตาม ปะติดปะต่อเรื่องราวได้เรื่อยๆ
คืนเดียวกัน โลลิต้ายืนมองแหวนเพชรในนิ้วมือนิ่งนาน แล้วตัดสินใจถอดทิ้ง วางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเปิดคอมพ์ กดเข้าไปในบล็อก นายพรหมลิขิต เขียนทักไปว่า
“นายพรหมลิขิตคะ คุยกับหญิงหน่อยเถอะ หญิงกำลังต้องการกำลังใจเหลือเกิน”
โลลิต้าชะงัก รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ รีบลบสิ่งที่เขียนอยู่ออก ถอนใจยาว
“องค์หญิงเพคะ ทำอะไรเพคะ”
เสียงของพระพี่เลี้ยง ทำให้โลลิต้าสะดุ้ง รู้สึกตัว รีบแก้ตัว
“หญิงเป็นห่วงคุณไผทน่ะค่ะ คุณจีจี้ส่งข่าวมาว่าคุณไผทอาการดีขึ้นมากแล้ว แต่ทำไมยังไม่อัพบล็อกก็ไม่รู้”
ชีฟองรู้ทั้งรู้ว่า นายพรหมลิขิตก็คือแนวหน้า แต่ก็พูดอะไรไม่ได้
“เค้าคงไม่อัพแล้วละเพคะ”
โลลิต้าชะงัก “ทำไมพี่ฟองพูดอย่างนั้นล่ะคะ”
ชีฟองอึ้ง แล้วถอนใจไม่รู้จะอธิบายยังไงดี โลลิต้าเห็นท่าทีพี่เลี้ยง อ้ำอึ้ง เหมือนมีอะไรเลยตัดสินใจถาม
“พี่ฟองมีอะไรหรือเปล่าคะ” ชีฟองอึกอัก ลังเลใจว่าจะบอกดีไหม “พี่ฟองมีอะไรก็บอกหญิงมาตรงๆ เลยค่ะ”
สุดท้ายชีฟองตัดสินใจพูด “คือพี่ฟองมีเรื่องนายพรหมลิขิตอยากจะบอกองค์หญิงน่ะเพคะ”
โลลิต้าฉงน ว่าเรื่องอะไรกัน
บรรยากาศทั่วทั้งบ้านมืดสลัว มีเพียงแสงไฟจากจอทีวี แนวหน้ากำลังนั่งมองจ้องภาพโลลิต้า ในสารคดี โดยเป็นภาพโลลิต้ากำลังพูดอธิบายเรื่องดวงดาวให้ไผทฟัง
“หลังการตายของหญิงสูงศักดิ์ ดาวคู่สองดวงก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า...ชาวฮวาซาจึงยกให้ดาวทั้งสองดวงเป็นตัวแทนของคู่รักที่ได้กลับมาอยู่คู่กันอีกครั้ง และเป็นดาวประจำเมืองของเราค่ะ”
แนวหน้ากด Pause ใบหน้าโลลิต้าค้างไว้ จ้องภาพของโลลิต้าอยู่อย่างนั้นนิ่งนาน บอกตัวเองในใจ
“มีคนเคยบอกว่า…ความทรงจำคือสิ่งที่ทำร้ายเราได้มากที่สุด ผมว่ามันท่าจะจริง…และที่เลวร้ายที่สุดก็คือ…ผมดันชอบให้มันทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ซะด้วยสิ”
มือแนวหน้ากดคลิก ภาพองค์หญิงปรากฏขึ้นมาอีก เขากด Pause แล้วกดคลิกอีกหลายทีไปมา
ด้านชีฟองเอ่ยขึ้นว่า “พี่ฟองว่าองค์หญิงควรหยุดคุยกับนายพรหมลิขิตได้แล้วเพคะ”
“ทำไมล่ะคะ”
“องค์หญิงก็รู้ว่าในไม่ช้านี้องค์หญิงก็จะต้องแต่งงานกับท่านชองปอลแล้ว การที่ยังคุยกับคนอื่นแบบนี้ พี่ฟองเห็นว่าเป็นการไม่สมควรนะเพคะ”
โลลิต้าอึ้งนิ่งงันไป “หญิงรู้ค่ะ พี่ชีฟอง หญิงรู้ดี”
“ถ้าองค์หญิงทรงทราบ องค์หญิงก็ควรจะหยุดคุยกับเค้า บางทีโลกของความจริงมันอาจจะเจ็บปวดนะเพคะ แต่สุดท้ายคนเราก็ต้องอยู่กับโลกของความจริงอยู่ดี”
ชีฟอง เดินไปหยิบแหวนที่โลลิต้าถอดทิ้งไว้ ยื่นให้โลลิต้าใส่ ทั้งสงสารและเข้าใจ
“เพราะองค์หญิง เป็นเจ้าหญิงแห่งฮวาซาใต้นะเพคะ”
คราวนี้โลลิต้าฝืนไม่ไหวแล้ว ระเบิดร้องไห้ออกมาทันที ชีฟองสงสารจับใจกอดโลลิต้าไว้ ร้องไห้กันทั้งสองคน
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 20 (ต่อ)
ส่วนที่ห้องพักฟื้นในโรงพยาบาล ขิงกำลังปรับเตียงเอนลง เพื่อเตรียมให้ไผทนอน
“เดี๋ยวขิงปิดไฟให้นะ ไผทจะได้นอน”
ขิงปิดไฟที่หัวเตียงให้
“ครับผม…คุณพยาบาล”
“ขิงจะเฝ้าจนไผทหลับไปนะจ๊ะ” ขิงยิ้มให้
ห้องทั้งห้องเงียบไปสักครู่ใหญ่ ก่อนที่ไผทจะพูดขึ้นมา
“ขิง…ง่วงหรือยัง”
“ยัง... อยากคุยเรื่ององค์หญิงใช่ไหม”
“ขิงนี่รู้ใจผมตลอดเลย”
ไผทขยับตัวขึ้นนั่งอีก ขิงไปช่วย
“ไผทอย่าโกรธพี่แนวเค้าเลยนะ เค้าไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นหรอก”
“แต่ผมไม่อยากให้พี่แนวเค้าหลอกองค์หญิง”
“ไม่มีใครอยากหลอกคนที่ตัวเองรักหรอกไผท แต่ที่พี่แนวเค้าไม่กล้าบอกความจริงก็เพราะเค้ากลัว”
“กลัวอะไร”
“กลัวคำตอบไง…กลัวว่าความรักจะถูกปฏิเสธด้วยคำว่าไม่รัก”
ไผทชะงัก นิ่งไปนิดหนึ่ง “ถ้าไม่รู้จักกัน ผมคงคิดว่าขิงแอบชอบพี่แนวอยู่ถึงได้เข้าใจพี่แนวขนาดนี้”
“ทำไมไม่คิดว่าเป็นเพราะขิงแอบชอบใครอยู่เหมือนกันล่ะ” ขิงว่า
“เหรอ ขิงแอบชอบใคร ทำไมผมถึงไม่รู้เลย”
ขิงอึ้งพูดไม่ออก
“ว่าไง…บอกมาสิ ผมอยากรู้”
ขิงชะงักมองไผทก่อนจะสะอึกทันที
ไผทลุกขึ้นนั่ง เปิดไฟหัวเตียง มองขิงที่สะอึก อย่างงงๆ
ฟากแนวหน้ายังคงจ้องใบหน้าโลลิต้าบนจอทีวีอยู่อย่างนั้น สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกอาลัย อาวรณ์ ทั้งคิดถึง และเสียใจเหลือเกินที่โลลิต้าต้องแต่งงานกับชองปอล
ระหว่างที่แนวหน้าเหม่อมองโลลิต้าอยู่นั้น นายเดินถือแก้วน้ำลงมาจากห้องนอนเงียบๆ เห็นแนวหน้านั่งอยู่หน้าทีวีก็ชะงัก เหลียวไปมอง เห็นแนวหน้ากด Rewind ไปที่โลลิต้าพูดใหม่อีกครั้ง แล้วก็นั่งดูต่อ
นายมองแนวหน้าที่นั่งกด Rewind ดูแต่ภาพของโลลิต้า คราวนี้ยิ่งแน่ใจว่าน้องชายหลงรักองค์หญิง
ไผทกำลังช่วยขิงให้หายจากอาการสะอึก “ลองกลั้นหายใจดูขิง…กลั้นนานๆ”
ขิงพยายามกลั้นหายใจตามที่บอก ไผทมองขิงว่าจะหยุดสะอึกไหม ขิงหยุดไปครู่หนึ่ง สองคนดีใจ
“นั่นไง หยุดแล้ว”
แต่แล้วจู่ๆ ขิงก็สะอึกขึ้นมาอีก อึ๊ก ไผทมองขิงขำๆ
“ไม่หายสักที เอาน้ำหน่อยไหมขิง”
ขิงยิ้มแหยๆ ก่อนจะหันมาเทน้ำในเหยือกบนโต๊ะหัวเตียงใส่แก้ว แล้วยกขึ้นดื่มจนหมด
“หายยัง”
ขิงนิ่งไปสักพัก แล้วก็สะอึกต่อ
ไผทขำๆ ขิงยิ้มแล้วเทน้ำใส่แก้วอีก
“โอ้ย…นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“ตกลงขิงบอกผมได้ไหมว่าแอบชอบใคร”
ขิงเทน้ำอยู่ ชะงักงันไปทันที สะอึก อึ๊ก “เมื่อกี้ขิงพูดเล่น ไม่มีหรอก”
“จริงอ่ะ”
ขิงพยักหน้าก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มต่อ
“แต่ผมชอบขิงนะ...ชอบมากด้วย”
ขิงชะงัก มองไผทแล้วนิ่งไปทันที ตกตะลึงพรึงเพริดกับคำพูดนั้นของเขา
ไผทยิ้ม “หายสะอึกยัง”
ขิงหายสะอึกเป็นปลิดทิ้ง
“วิธีทำให้ตกใจนี่ทำให้คนหายสะอึกได้จริงๆ ด้วย”
ไผทหัวเราะชอบใจ ขิงอึ้ง มองไผทนิ่งๆ เศร้าใจกับคำพูดของไผทเมื่อกี้ ที่แค่ทำให้ตัวเองหายสะอึก
“ขอบใจนะไผท ขิงหายสะอึกจริงๆ ด้วย นี่ดึกมากแล้ว ขิงขอตัวกลับบ้านก่อนนะ”
“อ้าว…ไม่อยู่เป็นเพื่อนผมก่อนเหรอขิง”
ขิงเดินไปปิดไฟให้ แล้วเดินออกไปเลย
“ขิง…ถ้าขิงชอบใคร ขิงต้องบอกผมเป็นคนแรกนะ” ไผทพูดตามหลังไป
ขิงยืนนิ่ง ก่อนหันมามองไผทในความสลัว
“ขิงต้องบอกไผทเป็นคนแรกอยู่แล้วล่ะ”
ไผทยิ้มให้ “ฝันดีนะขิง”
ขิงรีบเปิดประตูเดินออกไป พอประตูปิดลงเท่านั้น ขิงน้ำตาไหลเป็นทาง อกหักยับเยินไม่เป็นชิ้นดี
ทางด้านจีจี้นั่งทาครีมอยู่บนเตียงในห้องนอน ส่วนนายยืนดื่มน้ำอยู่ในห้อง สีหน้าครุ่นคิดถึงท่าทีแนวหน้าเมื่อกี้ นายวางแก้วน้ำลงที่โต๊ะก่อนเดินไปนั่งข้างๆ จีจี้ จีจี้ส่งครีมให้ นายบีบครีมทาไปมา พร้อมกับชวนคุย เรื่องแนวหน้า “จี้...ผมว่าไอ้แนวมันชอบองค์หญิงโลลิต้า”
จีจี้ตกใจ “ห๊า อะไรนะ” “ผมสังเกตมานานแล้ว แต่เมื่อกี้ตอนผมลงไปเอาน้ำ ผมเห็นมัน นั่งเช็คเทปอยู่ มัน Rewind ดูแต่หน้าองค์หญิง แล้วทำท่าเหมือนจะร้องไห้”
จีจี้หน้าตาตื่น อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที “จริงเหรอ เอ๊ะหรือว่า มันกลุ้มใจเรื่องตัดสารคดีอยู่รึเปล่า”
“ไม่ ผมว่ามันต้องชอบองค์หญิงแน่ๆ ผมรู้สึกอย่างงั้นจริงๆ อย่างตอนที่มันถ่ายสารคดีอยู่ ผมก็เห็นมันชอบทำเป็นแอบมององค์หญิง”
จีจี้คิดตาม นึกถึงตอนถ่ายสารดี บางทีเห็นแนวหน้าเหม่อลอย ลืมสั่งคัทบ้าง หรือบางทีอารมณ์เสียอย่างไม่มีเหตุผล
“เออ…จริงด้วย”
“หรือมันจะชอบตั้งแต่ตอนทำบล็อกคุยกับองค์หญิง”
จีจี้ตกใจมาก “ห๊า! นี่แอบคุยบล็อกกันด้วยเหรอ ทำไมจี้ไม่เห็นรู้เลย”
นายครุ่นคิด “ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันชอบองค์หญิงจริงหรือเปล่า”
“ถ้ามันชอบจริง ป่านนี้มันไม่ช้ำใจตายแล้วเหรอ ที่องค์หญิงกำลังจะแต่งงาน”
“นั่นสิ” นายคิดแล้วยิ่งสงสารน้อง “สงสารมันเนอะ”
นายกับจีจี้ทิ้งตัวลงข้างกัน นอนมองเพดานนิ่ง พากันนึกสงสารแนวหน้า
เช้าวันใหม่ นาย กับ จีจี้นั่งกินข้าวเช้ากันอยู่ แนวหน้าเดินเข้ามา นายเรียก
“อ้าว ไอ้แนว…กินข้าวเว้ย”
แนวหน้าพยักหน้าแล้วลงนั่งที่เก้าอี้ จีจี้มองมาด้วยสายตาแปลกๆ แนวหน้าชักงง มองสำรวจว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
“อะไรเจ๊ มองผมทำไม หรือว่าผมหล่อขึ้น”
“เปล่า” จีจี้เลื่อนจานกับข้าวให้แนวหน้า “นี่…หมูกระเทียม กินกระเทียม เยอะๆ มันช่วยบำรุงหัวใจ... แล้วนี่ น้ำใบบัวบก แก้ช้ำรัก เอ้ย ช้ำในด้วย”
แนวหน้าชะงักหันมองงงๆ “อะไรเนี่ย จู่ๆ มาพูดเรื่องช้ำใจช้ำรักอะไร”
“แล้วเมื่อวานเช็คเทปเป็นไงบ้างวะ โอเคไหม” นายถามหยั่งเชิง
“ก็โอเคเฮีย…แต่มีบางจุดที่ผมยังอยากแก้อยู่”
“ดีๆ”
นายมองแนวหน้าที่ตักข้าวกินอยู่ สุดท้ายทนไม่ไหว ตัดสินใจพูดตรงๆ
“ไอ้แนว แกชอบองค์หญิงโลลิต้าเหรอ”
แนวหน้าสำลักข้าวพรวดทันที
นาย และ จีจี้จ้องหน้าแนวหน้าอย่างอยากรู้
แนวหน้าเปิดประตูบ้านเดินหนีออกมา จีจี้กับนายตามออกมาติดๆ นายเดินไปดักหน้า
“เดี๋ยว! จะไปไหน”
แนวหน้าจะเดินไปอีกทาง ถูกจีจี้เข้าไปดัก
“ตอบมาก่อน ไม่งั้นไม่ให้ไป”
แนวหน้าปากดี “ชอบเชิบอะไรเจ๊ องค์หญิงกะโปโลแบบนั้นใครจะไปชอบ”
“แต่ฉันเห็นแกตอนนั่งเช็คเทป! แก Rewind ดูแต่หน้าองค์หญิง แล้วก็ Pause ไว้…แล้วก็จ้องเค้าด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ นี่เหรอที่แกบอกว่าไม่ชอบ”
แนวหน้าแถอีก “ที่ผม Rewind ดูตรงจุดนั้นเยอะๆ เพราะผมอยากแก้”
“ไอ้แนว ฉันเป็นพี่แกนะ…แกโกหกฉันไม่ได้หรอก”
แนวหน้าชะงักก่อนจะถอนใจอย่างจนมุม ท่าทีเหมือนยอมรับความจริง
นายดูออก “นั่นไง”
จีจี้ตะลึง “ไอ้แนวแกชอบองค์หญิงจริงๆ เหรอ แล้วแกไปชอบเค้าตั้งแต่ตอนไหน”
“หรือว่าตอนที่ฉันให้แกปลอมเป็นไผทเพื่อคุยกับองค์หญิงในบล็อก” นายซัก
“ผมก็ไม่รู้หรอกเฮียว่าผมชอบเค้าตอนไหน...รู้อีกทีมันก็ชอบไปแล้ว! แถมยังอกหักยับเยินอีกด้วย”
นายนาย จีจี้ชะงักอึ้งในคำตอบของแนวหน้า
“ถ้าพอใจกันแล้ว ผมไปห้องตัดก่อนนะ” แนวหน้าเดินหิ้วกระเป๋าออกไป
นายและจีจี้มองตามไปด้วยความสงสาร รู้ว่าแนวหน้าอกหัก และเจ็บปวดชอกช้ำถึงที่สุด
อ่านต่อหน้า 3
น่ารัก ตอนที่ 20 (ต่อ)
ทางด้านปิแอร์ตื่นแต่เช้า และกำลังเปิดกระเป๋าหาอะไรบางอย่างง่วนอยู่
“อยู่ไหนวะเนี่ย อยู่ไหน.....”
ปิแอร์เทของออกจากกระเป๋าเป้ทั้งหมด ใจหล่นวูบ ทรุดลง
“ตายๆๆๆ ถ้าท่านนายพลรู้ว่าเราทำของหลวงหาย งานนี้ได้โดนทำโทษ แถมยังอดเลื่อนขั้นแน่”
ปิแอร์อยากจะร้องไห้
ที่ห้องตัดต่อสารคดีของเอ แนวหน้าเอาแต่นั่งเหม่อ ถอนใจเฮือกๆ เอหันมาถามเรื่องงานตัด
“แล้วตรงนี่เอาไงแนว” แต่แนวหน้าไม่รู้สึกตัว เอเรียกดังขึ้น “แนวหน้า”
แนวหน้าสะดุ้ง รู้สึกตัว
“อ๋อ…ช่วงหัวนี่...ขอให้กระชับๆ อีกนิดนึงนะพี่...ให้มันได้อารมณ์ตื่นเต้นๆ เหมือนไปเจออีกโลกหนึ่งอะไรเงี้ยะ...แล้วตรงช่วงองค์หญิงออกมา”
จังหวะนี้ ได้ยินเสียง ตรึ๊ง ดังขึ้น แนวหน้าชะงักแล้วหันไปดู พบว่าเสียงนั้นดังมาจากคอมพิวเตอร์ตัวเอง แนวหน้าเปิดออกดูแล้วต้องชะงัก มีข้อความจากเด็กน้อยขายไม้ขีดไฟ ซึ่งโลลิต้าส่งข้อความมานั่นเอง แนวหน้าหันจอคอมพ์หนีทันที ทำเป็นไม่สนใจ
“ต่อนะพี่” “อ้าว...ไม่ไปเช็คหน่อยเหรอวะ...เผื่อใครส่งอะไรมา” เอบอก
“ไม่เป็นไรหรอกพี่” แนวหน้าชี้ที่มอนิเตอร์ “ส่วนตอนช่วงนี้...ผมอยากให้”
ได้ยินเสียงบล็อกดังอีกติดๆกัน ตรึ๊ง…ตรึ๊ง…ตรึ๊ง
เอมองหน้าแนวหน้าเป็นเชิงถามว่าแกจะไม่ไปเช็คจริงๆ เหรอ แนวหน้าอึ้ง เหมือนโดนยิงเข้าตรงหัวใจจังๆ
“พี่ว่าแกไปเช็คหน่อยเหอะว่ะ...ตรึ๊งๆๆ มาถี่ขนาดนี้ คนส่งเค้าคงอยากคุยกับแกมากนะ...เดี๋ยวพี่แก้ตามบรีฟที่แกจดรีพอร์ตมารอไปก่อนก็ได้” เอบอก แนวหน้า(เกรงใจๆ) ครับ...แป๊บนึงนะพี่เอ
แนวหน้ายกโน้ตบุ๊คหนีไปนั่งที่มุมหนึ่งของห้องตัด เปิดเข้าไปดูบล็อกที่โลลิต้าส่งข้อความมา
“เป็นไงบ้างคะคุณไผท อาการเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ทำไมคุณไผทไม่ค่อยอัพบล็อกเลยคะช่วงนี้ หรือว่ายุ่งอยู่”
แนวหน้าสะท้อนใจ ครุ่นคิดหนัก ว่าจะตอบยังไงดี
ส่วนโลลิต้านั่งซึมเศร้าเหม่อลอยอยู่ในห้องนอน พึมพำออกมาอย่างรู้ชะตากรรมตัวเอง
“หรือว่าเค้าจะไม่อยากคุยกับเราอีกแล้วจริงๆ”
โลลิต้าพยายามรวมรวบกำลังใจ พิมพ์ต่อไป
“เมื่อวานหญิงไปขอพรเทพแห่งสายน้ำด้วยค่ะ....ขอให้คุณไผทหายไวๆ”
โลลิต้ารอคำตอบ แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีคำตอบมาจากนายพรหมลิขิตเลย
โลลิต้าเศร้าสุดขีด ตัดสินใจพิมพ์ข้อความลงไปอีก
แนวหน้ายังอยู่ในห้องตัดต่อ มองหน้าจออึ้งๆ ได้ยินเสียง ตรึ๊ง ดังขึ้นอีก
“สงสัยคุณไผทจะไม่สะดวกคุยจริงๆ งั้นหญิงไม่กวนแล้วดีกว่าค่ะ”
แนวหน้ามองจอ อ่านข้อความในบล็อก แล้วตัดสินใจอะไรบางอย่าง พิมพ์ข้อความลงไป
“ไม่รบกวนหรอกพะยะค่ะองค์หญิง...กระหม่อมสบายดี”
สองคนอยู่หน้าคอมพ์ กำลังคุยกันผ่านทางบล็อก โลลิต้าพิมพ์ข้อความลงไปอย่างดีใจ
“คุณไผทอาการดีขึ้นหรือยังคะ”
แนวหน้าสวมรอยเป็นไผท “กระหม่อมดีขึ้นมากแล้ว อีกไม่นานคงออกจากโรงพยาบาลได้...ขอบพระทัยที่องค์หญิงทรงเป็นห่วง”
“คุณไผทคะ มีอย่างนึงที่ค้างอยู่ในใจหญิง…วันนั้น ที่เราอยู่บ้านริมทะเล คุณไผทบอกว่ามีเรื่องจะบอกกับหญิง…มันคือเรื่องอะไรหรือคะ”
แนวหน้าหน้าชะงัก นิ่งคิดว่า ควรจะบอกโลลิต้าเรื่องนายพรหมลิขิตดีหรือไม่ สุดท้ายแนวหน้าตัดสินใจ พิมพ์ข้อความตอบไป
“องค์หญิงรู้ไหมพะยะค่ะ ตอนแรกที่กระหม่อมรู้ตัวว่าจะต้องไปทำงานที่ฮวาซา...กระหม่อมไม่เคยคิดอยากไปเลย”
แนวหน้านึกถึงเหตุการณ์ที่เขาบอกนายกับจีจี้ว่า “แต่ผมไม่อยากทำอ่ะ ผมไม่ชอบชื่อประเทศนี้”
แนวหน้ากำลังพิมพ์ข้อความต่อ
“แต่พอได้เจอกับองค์หญิงมันก็ทำให้กระหม่อมได้รู้ว่า...ประเทศนี้เริ่มน่าสนใจมากขึ้น”
ภาพเหตุการณ์ตอนแนวหน้าเจอองค์หญิงโลลิต้าครั้งแรกที่หมู่บ้านเชิงเขาผุดซ้อนขึ้นมา สองคนแย่งขนมกัน ขนมชิ้นสุดท้ายลอยขึ้นฟ้า แนวหน้ากระโดดคว้า โลลิต้าก็กระโดดลอยตัวขึ้นแย่ง แนวหน้าคว้าได้กลางอากาศ พร้อมๆ กับที่มือโลลิต้ายื่นไปถึง มือสองคนจับขนมคนละซีก
ร่างทั้งคู่ร่วงลงสู่พื้น แต่มือยังกำคนละด้านของขนม ทั้งคู่เงยหน้ามองกันงงๆ
แนวหน้าพิมพ์ข้อความต่อ
“เมื่ออยู่ไปนานเข้ากระหม่อมก็เริ่มหลงรัก...ประเทศนี้มากขึ้นเรื่อยๆ กระหม่อมไม่เคยคิดเลยว่าเวลาเพียง 3 เดือนจะทำให้ชีวิตของกระหม่อมเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้”
โลลิต้าชะงัก อยากรู้ว่าเขาจะบอกอะไร
“กระหม่อมรู้ว่าตอนนี้องค์หญิงกำลังจะต้องทำหน้าที่ที่สำคัญยิ่งต่อฮวาซาใต้ กระหม่อมจึงอยากจะขอว่า ตั้งแต่วินาทีนี้ไป องค์หญิงจงลืมนายพรหมลิขิตคนนี้เสียเถอะพะยะค่ะ”
โลลิต้าทั้งงงทั้งตกใจ “คุณไผท”
“ส่วนกระหม่อม จะคิดถึงองค์หญิงตลอดไป ลาก่อนนะพะยะค่ะองค์หญิงโลลิต้า”
เห็นแนวหน้ากดลบ Account ชื่อ นายพรหมลิขิตทันที
โลลิต้านั่งอึ้งตะลึงงัน กับข้อความจากนายพรหมลิขิต
“ไม่นะ ไม่จริง”
โลลิต้ากดปุ่ม Refresh ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์หลายครั้ง ท่าทางร้อนรนกระวนกระวาย
“อย่าทำอย่างนี้เลย ขอร้องล่ะ”
โลลิต้าชะงักท่พบว่าแอคเคาน์นายพรหมลิขิตขึ้นว่า “This account is disable” องค์หญิงรัชทายาทถึงกับหัวใจแตกสลาย
“คุณบอกลาหญิงจริงๆ ใช่มั้ย นายพรหมลิขิต”
โลลิต้าอึ้ง น้ำตาไหลริน ไม่คิดว่านายพรหมลิขิตจะมาบอกลาตัวเอง
ชีฟองเปิดประตูเดินเข้ามาเห็น ก็แปลกใจมาก
“องค์หญิง...เกิดอะไรขึ้นเพคะ”
ชีฟองเห็นโลลิต้านั่งร้องไห้อยู่ก็ยิ่งตกใจ รีบเข้าไปหา
“องค์หญิง...ร้องไห้ทำไมเพคะ”
โลลิต้าร้องไห้ฟูมฟาย โผกอดชีฟองทันที
“คุณไผทลบบล็อกไปแล้ว เค้าลบทำไมคะพี่ฟอง เค้าเกลียดหญิงจริงๆ ใช่มั้ย”
ชีฟองเข้าใจในทันที เพราะแนวหน้าเคยให้สัญญาไว้ว่า นายพรหมลิขิตจะหายไป
ชีฟองกอดโลลิต้าด้วยความสงสาร โลลิต้าร้องไห้สะอึกสะอื้น เป็นที่น่าเวทนา
ส่วนที่ห้องตัดต่อสารคดี มือของแนวหน้าสั่นเทาขณะปิดโน้ตบุ๊คลงอย่างตัดใจ แล้วพยายามรวบรวมกำลังใจลุกขึ้น ก่อนจะทรุดลงนั่งอีกครั้งอย่างหมดเรี่ยวแรง คอตก
แนวหน้าพยายามกลั้นน้ำตา แต่สุดท้ายน้ำตาเจ้ากรรมก็ยังไหลรินออกมา
อ่านต่อหน้า 4
น่ารัก ตอนที่ 20 (ต่อ)
เช้านั้น นายนั่งทำงานอยู่ในห้อง จีจี้เดินเข้ามาหาพร้อมกล้องวิดีโอที่ปิแอร์ลืมไว้
“นายนาย”
“อ้าว แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ จะได้ออกไปช่วยไอ้แนวมัน”
“ดูนี่สิคะ กล้องวิดีโอของใครก็ไม่รู้ จี้เห็นมันวางอยู่ในห้องนอนแขกตั้งหลายวันแล้ว”
นายเอามาดู คิดไปคิดมา
“ของทหารที่ตามองค์หญิงนั่นรึเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมถึงลืมเอาไว้ได้ล่ะเนี่ย”
“นั่นสิคะ ของสำคัญขนาดนี้ ไม่น่าลืมเลย แล้วเค้าจะเดือดร้อนมั้ยเนี่ย”
“งั้นเอางี้ เดี๋ยวผมโทร.ไปบอกท่านราอูลก่อนก็แล้วกัน ว่ากล้องอยู่กับเรา”
นายหยิบโทรศัพท์มากดโทร.ออก
ฟากปิแอร์เดินกระวนกระวายอยู่ตรงมุมหนึ่งในวังฮวาซาใต้ ท่าทีเหมือนหาของสำคัญ แต่หาอยู่นานก็ยังหาไม่เจอ
“ซวยแน่ จะไปบอกท่านนายพลยังไงเนี่ย”
นายพลราอูลเดินเข้ามาเห็นพอดี “เป็นอะไรพลทหารปิแอร์”
ปิแอร์เห็นราอูลก็ชะงัก เข่าอ่อน “เอ่อ คือ ผมมีเรื่องจะสารภาพครับผม”
ราอูลงงว่าทหารคนซื่อจะสารภาพอะไร “สารภาพ เรื่องอะไร”
ปิแอร์อึกอัก ทำท่าจะร้องไห้ “คือ...ผมทำของหลวงหายครับผม!”
“กล้องวิดีโอใช่ไหม” ท่านนายพลถาม
ปิแอร์ตกใจ “ท่านนายพลรู้ได้ยังไงครับผม”
“ก็คุณนายนายเพิ่งโทร.มาบอกเมื่อกี้ว่ากล้องอยู่ที่เค้า แกนี่ทำไมถึงขี้ลืมอย่างนี้ฮะ”
ปิแอร์โล่งอก
ตอนเย็นวันเดียวกันนั้น จีจี้ นาย และแนวหน้าเดินเข้ามาบ้านมา จีจี้ถือถุงกับข้าวมาด้วย แนวหน้ายังมีท่าทางเศร้าๆ ให้เห็นอยู่
“เดี๋ยวจี้ไปเอากับข้าวใส่จานให้นะ รอแป๊บนึง”
นายพยักหน้ารับ “ได้จ้ะที่รัก”
“ผมไม่กินนะเจ๊...เหนื่อย อยากนอน”
แนวหน้าจะเดินขึ้นบ้าน แล้วชะงักเมื่อเห็นกล้องวิดีโอของปิแอร์วางอยู่
“นี่มัน กล้องวิดีโอของปิแอร์นี่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
“เค้าลืมเอาไว้ที่นี่ จีจี้ไปเจอจากในห้องแขก” นายว่า
“แล้วเค้าจะเอากล้องที่ไหนไปถ่ายเวลาสะกดรอยตามท่านชองปอลล่ะเนี่ย” แนวหน้าบอก
จีจี้แปลกใจ “อะไรนะ คุณปิแอร์เป็นสายลับ คอยสะกดรอบตามท่านชองปอลงั้นเหรอ”
นายมองกล้องอย่างทึ่งๆ
“ถ้าอย่างนั้น ข้อมูลในกล้องนี้ มันก็จะต้องน่าสนใจมากอย่างนั้นใช่มั้ย”
นายกดเปิดกล้องดู
“ผมขอตัวนะเฮีย ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะดูหน้าเจ้าชายชองปอลเลยจริงๆ”
แนวหน้าเดินขึ้นบ้านไปเลย จีจี้กับนายมองตามด้วยความสงสาร นายหันมากด Play ดูภาพที่ปิแอร์ถ่ายไว้
โดยเหตุการณ์ตอนนั้น ปิแอร์ปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้แถวห้องพักชองปอล พร้อมกับ หันกล้องไปทางหน้าต่างด้านห้องพัก ก่อนจะพลิกหน้ากล้องมาถ่ายตัวเอง “เวลา 4 ทุ่ม 2 นาที หลังกลับจากพิธีงะน๋อเซ่อ ท่านชองปอลตะโกนโหวกเหวกอะไรไม่รู้ ไม่สามารถจับความได้”
นายมองภาพในกล้องขำๆ เห็นภาพปิแอร์ถ่ายพื้นแทนสายตาตัวเอง ตอนที่บันไดหล่นลงไป ปิแอร์จะร้องไห้
นายขำเอามากๆ “ปิแอร์ทำอะไรเนี่ย”
จีจี้ชะโงกหน้ามาดู
นายนายกด Forward ไปข้างหน้าเรื่อยๆก่อนกด Play เป็นเหตุการณ์ตอนปิแอร์อยู่ในห้องน้ำ หันมาถ่ายตัวเอง
“เวลา 6 โมง 14 นาที ผมยังเข้าห้องน้ำไม่หยุด...แต่เพื่อภารกิจผมจะอดทน” เหมือนปิแอร์จะเกิดปวดท้อง “อึ๊บบบ มาอีกแล้ว”
จีจี้ดูแล้วขำ “เนี่ยเหรอคะ นักสืบ”
นายเองก็ขำๆ กด Forward ไปอีก แล้วจึง Play ตรงช่วงที่ปิแอร์นั่งพิงต้นไม้อยู่ ท่าทางเหนื่อยล้าและง่วงนอนมาก ปิแอร์หันกล้องมาพูดกับตัวเอง
“ขณะนี้เวลา 5 ทุ่ม 49 นาที ยังตามจับคนร้ายที่ยิงฮาร์ดดิสก์ของทีมงานไทยไม่ได้ ทางท่านชองปอลก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ” ปิแอร์หาวหวอดๆ
นายขำ กด Forward เห็นเป็นภาพมือปิแอร์ที่ถือกล้องถ่ายตัวเองอยู่ร่วงลงมา โดยที่กล้องตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่ง และกล้องยังถูกกดบันทึกไว้อยู่ เป็นมุมที่ชองปอลและท่านหลุยส์ คุยกันเรื่องคนร้ายพอดี
ภาพในจอ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมุมหนึ่งอันลับตาผู้คนของวัง ท่านหลุยส์กับชองปอลยืนอยู่ มีทหารองครักษ์พาชายชุดดำที่เข้าไปในห้องนายมาหา คนร้ายเดินมาถึงหน้าท่านหลุยส์ กับชองปอล แล้วก็ทำความเคารพก่อนที่จะถอดหมวกไอ้โม่งออกมา
“แน่ใจใช่ไหมว่าเก็บหลักฐานทุกอย่างในที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว”
“พะย่ะค่ะ รับรองว่าไม่มีทางสืบมาถึงฮวาซาเหนือได้อย่างแน่นอน” คนร้ายบอก
ท่านหลุยส์ยิ้มพอใจ
“แต่ถึงเราจะกำจัดหลักฐานไปหมดแล้ว แต่ถ้าตราบใจยังไม่ได้ตัวคนร้าย ฮวาซาใต้ก็ไม่มีทางหยุดตามสืบเรื่องนี้แน่พะย่ะค่ะ” ชองปอลเอ่ยขึ้น
“จำไว้นะชองปอล ถ้าคิดจะทำการใหญ่ เจ้าจะต้องรู้จักคิดวางแผนให้เรียบร้อยตั้งแต่ต้นจนจบ”
ท่านหลุยส์ยิ้มเหี้ยมผิดมนุษย์
นายดูภาพฝีมือถ่ายปิแอร์ในกล้อง จากสีหน้ายิ้มขำ เปลี่ยนเป็นตื่นตกใจ ถึงขีดสุด
“เฮ้ย! นี่มัน”
อ่านต่อตอนที่ 21