เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 20
ทุกคนยกเว้นนาคินทร์นั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตาภายใต้บรรยากาศดูชื่นมื่น
สาวิตรียิ้มแฉ่งด้วยท่าทางปลาบปลื้ม "เอาล่ะค่ะ..เป็นอีกครั้งนึงนะคะที่พวกเราได้มาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า พร้อมตา"
ใบตองยื่นหน้า "ยังไม่พร้อมค่ะ..ขาดคุณคินอีกคนนึงค่ะ"
สาวิตรีเพิ่งรู้ "อ้าว"
"ใบตองรีบไปตามคุณคินมาเร็ว" ทวยเทพสั่ง
"ค่ะ"
ใบตองเตรียมจะวิ่งแต่นาคินทร์เดินเข้ามาพอดี
"อร้าย!! คุณคินมาพอดีค่ะ"
นาคินทร์มองอย่างงงๆ ที่เห็นทุกคนอยู่ครบ "เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย"
นารถนรินทร์มองสาวิตรีแล้วก็ยิ้มๆ ให้กัน
"จะเกิดอะไรขึ้นล่ะคะพี่คิน ก็จะเกิดเรื่องราวดีๆ ในบ้านเราน่ะสิคะ" สาวิตรีดึงนาคินทร์ให้ลงมานั่ง "มานี่ๆ.. นั่งเลย"
นาคินทร์นั่งลงด้วยสีหน้ามึนๆ กับปานตะวันและนัครินทร์
"เอาล่ะค่ะ..ทีนี้ก็อยู่กันครบพร้อมหน้าพร้อมตาจริงๆ แล้วเพราะฉะนั้น" สาวิตรียกแก้วขึ้นเคาะแก๊งๆ "แม่จะขอประกาศข่าวดีเลยนะคะ"
"แถ่น..แทน..แท้น" ใบตองทำซาวน์
"ข่าวดีก็คือ แม่ได้ฤกษ์แต่งงานของพี่วิทย์กับน้องนารถมาแล้ว"
วิทย์กับนารถนรินทร์ยิ้มแฉ่งมองตากัน
ใบตองพูดต่อ "ได้แก่...”
"วันที่ 31 เดือนหน้านี้ค่า" สาวิตรีบอก
วิทย์ นารถนรินทร์ ทวยเทพ สาวิตรี และใบตองปลาบปลื้ม อัครินทร์ยินดี ส่วนนัครินทร์นั่งคิดเรื่องตัวเอง
ในขณะที่นาคินทร์อึ้งไป เขาหันไปมองปานตะวันที่ก็นิ่งๆ ไปแล้วก็ลอบมองนาคินทร์ พอเห็นนาคินทร์มองมาเธอก็เลยเฉไฉไปยินดีกับนารถนรินทร์ นาคินทร์อึ้ง
"ไม่เร็วไปเหรอครับ?”
ทุกคนชะงัก
"พี่คินว่าไรนะคะ?” สาวิตรีถาม
"คือ..ผมคิดว่า..มันอาจจะเร็วไปรึเปล่า? ยัยนารถก็..ยังไม่หายดี" นาคินทร์บอก
นารถนรินทร์สวน "ใครว่านารถยังไม่หายดี" นารถนรินทร์สะดุ้งที่หลุดปาก
นารถนรินทร์กับตะวัน มองหน้ากันแล้วก็ตกใจที่หลุดปาก
"คือ..นารถจะบอกว่านารถก็ไม่ได้ไม่สบายซักหน่อย ก็แค่..ยังเดินไม่ได้" นารถนรินทร์เกาะแขนวิทย์ "แต่พี่วิทย์ก็ไมได้แคร์ไม่ใช่เหรอคะ?”
วิทย์ยิ้ม "ครับ.." วิทย์พูดกับนาคินทร์ "เหตุผลเดียวที่จะทำให้นารถไม่ได้แต่งงานกับผมก็คือ..นารถไม่ได้รักผม"
นารถนรินทร์รีบพูดทันที "แต่นารถรักพี่วิทย์ค่ะ..รักมากกด้วย"
ทวยเทพ สาวิตรี ใบตอง อัครินทร์ต่างก็โห่ฮิ้วกัน ส่วนนาคินทร์อึ้งไป
ทวยเทพปราม "นี่ยัยนารถ..เราเป็นผู้หญิง ออกตัวแรงไปรึเปล่า สงวนท่าทีหน่อย"
"โห..คุณพ่อ คนมันจริงใจ ผิดตรงไหนคะ? แต่เอ๊ะ ปกติต้องเป็นพี่นัคนะคะที่แซวนารถ" นารถนรินทร์มองนัครินทร์ "วันนี้กินยาอะไรผิดละป่าวพี่นัค?”
"นั่นสิคะ?? ทำไมนั่งซึมไม่พูดไม่จาตั้งแต่เช้าแล้วคะ?” ใบตองว่า
สาวิตรีเป็นห่วงจริงจังจึงปรี่มาแตะหน้าผาก "จริงด้วยสิ! ไม่สบายรึเปล่าคะลูก?”
นัครินทร์มีท่าทางเฉยผิดปกติ "เปล่าฮะแม่"
"อ้าว..ถ้างั้นแกเป็นอะไรของแกห๊า..ตานัค?” ทวยเทพสงสัย
นัครินทร์พูด "ผมอยากแต่งงานฮะ!”
ทุกคนแทบจะตกเก้าอี้ ร้องเสียงหลงกันทั้งทวยเทพ, สาวิตรี, ใบตอง และนารถนรินทร์
"อยากแต่งงาน?”
สาวิตรีตาเหลือก "ลูกนัคเนี่ยนะ..อยากแต่งงาน?”
นัครินทรทำหน้านิ่งมาก "ฮะ..ผมอยากแต่งงาน"
นาคินทร์หันขวับมาจ้องหน้านัครินทร์ทันที
นัครินทร์หันไปจ้องตานาคินทร์ "กับประกายเดือน!!”
ทุกคนตกใจฮือฮาที่เป็นประกายเดือน อัครินทร์ยิ้ม นาคินทร์จ้องนัครินทร์ตาวาว ปานตะวันนั่งช็อคเพราะไม่อยากจะเชื่อ
นาคินทร์นั่งเครียด ปานตะวันเดินดุ่มๆ ตาวาวแบบแม่เสือสาวเอาเรื่องมาประชิดตัวนาคินทร์ทันที
"ล้มเลิกซะ!” ปานตะวันเสียงเข้ม
นาคินทร์หันขวับมามองแล้วพูดเสียงเขียวไม่แพ้กัน "ล้มเลิกอะไร?”
"ไม่ต้องมายอกย้อน!! ล้มเลิกแผนแก้แค้นบ้าๆ ของคุณซะ!! ฉันเคยบอกแล้วใช่มั้ย จะแก้แค้นบ้าบออะไรก็ให้มาลงที่ฉันคนเดียวพอ อย่าแตะต้องประกายเดือน"
นาคินทร์ลุกพรวดขึ้นประจันหน้าทันที "คุณนั่นแหละ..เลิกเนียนได้แล้ว!! เลิกเล่นละครซะที!!ที่สำคัญเลิกเสี้ยมสอนน้องสาวให้ยั่วผู้ชายจนหลงหัวปักหัวปำอย่างที่พี่สาวชอบทำด้วย"
ปานตะวันแว้ด "คุณพูดอะไร?”
นาคินทร์สวน "คุณรู้อยู่แก่ใจ!!”
ปานตะวันงง
"เล่นแรงนะ เอาซะนายนัคอยากแต่งงานด้วย" นาคินทร์มองอย่างดูถูกก่อนจะส่ายหน้า "ร้ายทั้งพี่ทั้งน้อง"
"ไม่จริง!! คุณนั่นแหละ วางแผนให้น้องชายคุณหลอกน้องสาวฉัน"
นาคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงดูถูกและเยาะๆ "หลอกน้องสาวคุณ เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า? ทั้งคุณ ทั้งน้องสาวคุณมีอะไรให้หลอก?" นาคินทร์เปลี่ยนเสียงเป็นจริงจัง "พวกคุณต่างหากรวมหัวกันวางแผนจับผู้ชายบ้านนี้"
ปานตะวันโกรธมากจนพูดไม่ออก เธอตัดสินใจพลิกเกมยั่วนาคินทร์ซะเลย
"ผู้ชายบ้านนี้? จริงสินะ..จะว่าไป ผู้ชายบ้านนนี้ก็น่าจับจริงๆ ซะด้วย ทั้งคุณนัครินทร์" ปานตะวันเลิกคิ้วยั่ว "ทั้งคุณอัครินทร์"
นาคินทร์อึ้ง
ปานตะวันเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเหยียดๆ "จะมีก็แต่คุณคนเดียวที่น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงที่สุด"
นาคินทร์โกรธจึงกระชากปานตะวันมาประจันหน้าใกล้ๆ
"ขยะแขยง? จับผมไม่สำเร็จสินะ" นาคินทร์ว่า
ปานตะวันจ้องตา "ฉันไม่เคยคิดจะจับคุณ" ปานตะวันเสียงเข้ม "ไปสั่งน้องชายคุณให้เลิกยุ่งกับน้องสาวฉัน!”
นาคินทร์สวน "ไปสอนน้องสาวคุณ อย่าคิดจะจับน้องชายผม!”
ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
อัครินทร์ตบไหล่ยินดีกับพี่ชาย
"ยินดีด้วยครับพี่ชาย"
"ยินดีกะผีสิ!!” นัครินทร์ว่า "แกเห็นหน้าพี่คินมั้ยล่ะไอ้หมอ?”
"โห่ย..จะไปสนใจอะไร พี่โตจนป่านนี้แล้วนะครับ ไม่ใช่เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ อีกอย่าง ดูพ่อกับแม่สิครับ..ป่านนี้ยังดีใจฉลองกันไม่เสร็จเลย"
"แกก็รู้ว่าพี่คินล้มกระดานได้ทุกเรื่อง"
"ถ้าเรื่องธุรกิจ KTK ก็คงใช่!! แต่ถ้าเรื่องหัวใจคนในบ้าน คงไม่ใช่มั่งพี่?”
นัครินทร์อึ้ง
"หัวใจเราเป็นของเราครับพี่!!" อัครินทร์ตบไหล่พี่ชาย
นัครินทร์มองหน้าอัครินทร์ อัครินทร์ทำหน้าคอนเฟิร์ม นัครินทร์ยิ้มพลางคิดในใจว่าได้เรื่องล่ะเว้ย
ประกายเดือนนอนหลับอุตุอยู่ เสียงมือถือของเธอดังจนเธอรำคาญจึงคลำๆ มารับสายทั้งที่ยังหลับตาอยู่
"โหล"
ปานตะวันทำหน้าซีเรียสคุยอยู่ที่ปลายสาย
"เดือน!!”
ประกายเดือนพูดทั้งที่หลับตา "ตะวัน..เค้าง่วง ให้เค้านอนก่อน เดี๋ยวโทรกลับ" ประกายเดือนวางหูทันที
"เดือน!! เดี๋ยว!!" ปานตะวันโมโห "เดือน!!”
ประกายเดือนดึงผ้าห่มมาคลุมโปงนอนต่อ สักพักเสียงกดติ๊งหน่องรัวๆ ก็ดังขึ้น ประกายเดือนหงุดหงิด เสียงเคาะประตูรัวๆ ดังตามมา ประกายเดือนออกมาจากผ้าห่ม
"โอ๊ย..ตะวัน!! จะอะไรกันนักกันหนา!”
เสียงเคาะประตูสลับเสียงติ๊งหน่องดังไม่หยุด ประกายเดือนจำใจลุกไปที่ประตู
ประกายเดือนเดินหลับตาตุปัดตุเป๋มาที่ประตู โดยที่ปากก็บ่นไป
"ก็บอกว่าโทร.กลับ..โทร.กลับ" ประกายเดือนเปิดประตูผัวะโดยที่ยังหลับตาอยู่ "มีอะไร..ตะวัน"
นัครินทร์เป็นคนมาเคาะ เขาคว้าข้อมือประกายเดือนแล้วกระชากตัวปลิว
"ไปกับผม!!”
ประกายเดือนตกใจ "ว้าย!!”
ณ ที่ว่าการอำเภอ นัครินทร์นั่งหน้ามั่นใจคู่กับประกายเดือนที่ยังอยู่ในชุดนอน ประกายเดือนทำหน้าตาเหวอมากเพราะอายมาก
"แน่ใจนะครับ?” เจ้าหน้าที่ถาม
นัครินทร์กับประกายเดือนตอบพร้อมกัน "แน่สิฮะ / ไม่แน่ค่ะ"
ทั้งสองหันมามองหน้ากัน เจ้าหน้าที่มองคล้ายจะถามว่าจะเอายังไง?
"ผมจะพาภรรยาผมมาจดทะเบียนฮะ" อัครินทร์บอก
"บ้า!! ใครภรรยาคุณ?” ประกายเดือนว่า
"ก็คุณไงฮะ ภรรยาผม!! ภรรยาผมต้องเป็นคุณคนเดียวเท่านั้นแหละฮะ!!”
"มั่ว!!” ประกายเดือนว่า
"ไม่มั่ว!!” นัครินทร์บอก
"นี่!! เรา2คนยังไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย"
"ก็ถึงได้พามาจดทะเบียนนี่ไงฮะ จดปุ๊ปเดี๋ยวได้เป็นปั๊บ"
"บ้า!!!”
เจ้าหน้าที่กระแอม "แฮ่ม!! ตกลงเอาไง?”
"ก็เอางี้ล่ะฮะ" นัครินทร์คว้าปากกามาเซ็นทะเบียนสมรสหมับทั้ง 2 ฉบับแล้วยื่นให้ประกายเดือนทันที "อ่ะ!! เซ็นต์สิฮะ..ทำมามอง?”
ประกายเดือนอึ้ง เธอมองอัครินทร์แบบไม่อยากจะเชื่อ "ท่านรองฯ" ประกายเดือนทำน้ำเสียงจริงจัง "นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะคะ"
"คุณกับพี่สาวคุณและทุกคนบนโลกนี้จะได้รู้ฮะว่าผมไม่ได้เล่นๆ กับคุณ ผมรักคุณจริงๆ"
ประกายเดือนอึ้ง
นัครินทร์พูดต่อ "ที่สุด..ที่ผมจะทำให้คุณเห็นได้ในตอนนี้"
ประกายเดือนน้ำตาเอ่อ
"ส่วนต่อไป..ให้โอกาสผม..ได้ทำให้คุณเห็น..ว่าผมรักคุณ..มากแค่ไหน"
ประกายเดือนน้ำตาหยดลงทะเบียนสมรสหนึ่งแหมะ
"อ้าว..เปียกเลย" เจ้าหน้าที่ว่า
"ไม่เป็นไร.." นัครินทร์เอาแขนเสื้อซับๆ "ร่องรอยที่ระลึกแห่งความดีใจ" นัครินทร์เอานิ้วเช็ดน้ำตาให้ประกายเดือนแล้วยื่นปากกาให้ก่อนจะมองหน้ายิ้มๆ
ประกายเดือนรับปากกามาเซ็นต์ชื่อ นัครินทร์มองลุ้นๆ ด้วยความดีใจที่สุด เขารวบประกายเดือนมากอด แล้วลุกขึ้นจับตัวเธอหมุนๆ อย่างมีความสุขที่สุด เจ้าหน้าที่อดยิ้มไม่ได้
แพรวพรรณรายที่คุยโทรศัพท์อยู่หงายหลังจนตกเก้าอี้
"ว้าย!!" แพรวพรรณรายค่อยๆ ลุกขึ้น "อะ..อะไรนะเดือน? ตะกี้ว่าอะไรนะ? พูดใหม่อีกทีซิ"
ประกายเดือนทำหน้าแหยๆ "เดือนจดทะเบียนสมรสกับคุณนัครินทร์แล้ว"
แพรวพรรณรายอึ้ง "เดือน..ตะวันล่ะ?”
ประกายเดือนอึ้งและไม่ตอบ
แพรวพรรณรายรู้ทันที "แย่แล้ว..นี่" แพรวพรรณรายทำหน้าสยอง "เธอก็รู้นี่เดือน..ว่าเวลา “ตะวันเดือด” น่ะ มันเดือดขนาดไหน?”
ประกายเดือนกลืนน้ำลายเอื้อก
"พี่พิงค์อย่าเพิ่งบอกตะวันนะ..ขอร้อง!!”
"พี่ไม่บอก แล้วถ้าคนอื่นบอกล่ะ??”
ประกายเดือนอึ้ง "เดือนก็บอกคุณนัคแล้วว่า..อย่าเพิ่งบอกให้ใครรู้"
แพรวพรรณรายไม่เชื่อ "แน่ใจ๊!! ว่าจะไม่มีใครรู้" แพรวพรรณรายส่ายหน้า "ยัยเดือนนะยัยเดือนเตรียมตัวไว้ให้ดีละกัน แค่นี้นะ" แพรวพรรณรายวางหู
ประกายเดือนถอนหายใจเฮือกและมีสีหน้าหวาดหวั่น
อ่านต่อหน้าที่ 2
เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 20 (ต่อ)
ทันใดนั้นนัครินทร์ก็กระโดดตูมทิ้งตัวลงบนเตียงนอนแอ้งแม้งข้างประกายเดือนที่สะดุ้งเฮือก
"ว้าย!" ประกายเดือนมองนัครินทร์ที่ไม่ใส่เสื้อนุ่งแต่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแล้วก็ทำตาโต เธอตีนัครินทร์รัวๆ "ว้ายๆ อีตาบ้าๆๆ"
นัครินทร์ปัดป้องเป็นพัลวัน "เฮ้ยๆๆ เจ็บนะ หยุดๆๆ"
ประกายเดือนหอบแฮ่กๆ "อีตาบ้า!!จะทำอะไรเนี่ย?? มานอนตรงนี้ได้ยังไง ? เสื้อผ้าก็ไม่ใส่!! ลามกๆๆ" ประกายเดือนตีรัวๆ
"เดี๋ยวๆๆ" นัครินทร์คว้าข้อมือประกายเดือนเอาไว้ได้ "ฟังก่อน!! ฟังก่อนสิจ๊ะ ?" นัครินทร์ยิ้ม "ก็เราสองคนจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมายแล้ว เอาจริงๆ พูดง่ายๆสั้นๆ" นัครินทร์ทำตาวาวแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "เรา 2 คนเป็นผัวเมียกันแล้ว..ไม่ให้ผัวนอนกะเมียแล้วจะให้ไปนอนกะแมวที่ไหนล่ะจ๊ะ?”
"อึ๋ย" ประกายเดือนจับหมอนอัดเข้าเต็มๆหน้านัครินทร์จนหงายเงิบตกเตียง "นี่แน่ะ! อีตาบ้า!! แค่ จดทะเบียน! ยังไม่ได้เป็น ผ..เอ่อ!...ยังไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย"
นัครินทร์ตะกายแล้วโผล่หน้าขึ้นมาเกาะเตียงพูด "โถ…เมียจ๋า…เดี๋ยวก็เป็นจ้ะ"
ประกายเดือนเงื้อหมอนขึ้นอีก "อะไรนะ?”
"โอ๊ะๆๆ…โห!!คุณอ่ะ…จะโหดไปถึงไหนฮะ?? ผมแสดงความจริงใจให้คุณขนาดนี้แล้วนะฮะ" นัครินทร์ว่า
"ก็อีแค่จดทะเบียน ไม่ได้แปลว่าคุณจะจริงใจกับฉันตลอดไป ไม่เห็นหรอ? จดได้ก็หย่าได้กันโครมๆ"
นัครินทร์ถอนหายใจเฮือก "งั้นผมต้องทำอะไรอีกฮะ? คุณถึงจะเชื่อว่าผมจริงใจ"
"ก็.." ประกายเดือนนึก "ก็ไม่รู้สินะ"
"เอ๊าา?”
ประกายเดือนเปลี่ยนเรื่อง "กลับบ้านไปได้แล้ว ดึกแล้ว"
"โห…ก็ดึกแล้วสิฮะ จะให้กลับได้ไง ใจร้ายอ่ะดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้เกิดโดนโจรผู้ร้ายทุบหัวผมขึ้นมา…ไม่เป็นห่วงกันมั่งรึไงฮะ เพิ่งเป็นผัวเมียกันได้วันเดียว อยากเป็นม่ายแล้วงิ?”
ประกายเดือนโกรธก็โกรธ ห่วงก็ห่วง "อีตาบ้า"
นัครินทร์อมยิ้ม "คำก็บ้า สองคำก็บ้า" นัครินทร์ปีนขึ้นมานั่งบนเตียง "คืนนี้ขอนอนด้วยนะ"
ประกายเดือนหันขวับจะวี๊ด แต่นัครินทร์รีบปิดปากเธอแล้วรวบตัวไว้
"ไม่ต้องด่า!! อ่ะ!! สัญญา…จะนอนเฉยๆ…ไม่ได้ทำอะไร"
ประกายเดือนอึ้งแล้วดึงมือที่ปิดปากออก "จริงอ่ะ?”
""จริง!! ก็ถ้ามันจะทำให้คุณเชื่อผมขึ้นมาบ้าง
ประกายเดือนอึ้ง เธอมองหน้าเขาอย่างจะไว้ใจได้มั้ยวะ ก่อนจะมองสารรูปนัครินทร์ที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอยู่ "แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า?”
นัครินทร์อ่อนใจ "จะให้ใส่อะไรล่ะฮะ เสื้อผ้าที่ใส่มาก็เหม็นหึ่งแล้วนี่ฮะ??ไม่ให้ใส่อย่างนี้ แล้วจะให้ใส่ยังไงล่ะฮะ?”
ประกายเดือนมอง
นัครินทร์ที่สวมชุดนอนของประกายเดือนโดยเป็นกางเกงวอร์มขาเต่อและจั๊มเปอร์ลายการ์ตูนหวานแหววยืนทำสีหน้าอยากตายมาก
ประกายเดือนยิ้มพอใจก่อนจะขำก๊าก
นัครินทร์มองประกายเดือนคล้ายจะบอกว่ากูอยากจะฆ่ามึง "ขำ? พอใจ?...ไม่รักไม่ยอมน่ะเนี่ย" นัครินทร์ถามเสียงเข้ม "นอนได้ยัง?”
ประกายเดือนยักไหล่แล้วทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้ นัครินทร์กระโดดตูมลงไปนอนข้างๆ แล้วก็จับประกายเดือนให้หันมา
ประกายเดือนโวย "เฮ้ย…ไหนว่านอนเฉยๆ"
"ก็นอนเฉยๆไง ก็ขอนอนมองหน้าไม่ได้เหรอฮะ"
ประกายเดือนอึ้งไปแล้วก็ยอมสงบ นัครินทร์นอนมองหน้าประกายเดือน ทั้งสองนอนมองหน้ากันจริงๆ
มอลลี่กำลังนั่งส่อง IG คนดังอยู่อย่างเคร่งเครียด
"อยากรู้เรื่องใคร ส่อง IG ดูสิคะ - รู้ได้หมด!! นี่ๆ ณเดชน์เพิ่งกินข้าวผัดแหนมก่อนไปถ่ายละคร แอร้ย!! หมาก-ปริญบ่นคิดถึงใครก็ไม่รู้ -- อึ๊ย!! คิดถึงมอลลี่ละป่าวว?”
ลูกกอล์ฟสวน "ถุ้ย!!”
มอลลี่แว้ด "เป็นไรไอ้ลูกกอล์ฟ?”
ลูกกอล์ฟสะดุ้งก่อนจะแถด้วยการคว้ามะม่วงมาเคี้ยวตุ้ย "เปรี้ยว!! มะม่วงมันเปรี้ยว..ถุ้ยๆๆ"
มอลลี่ชี้หน้าคล้ายจะบอกให้จำไว้
จามจุรีหอบแฟ้มเดินเข้ามา "อ่ะ!! วันๆ เอาแต่อยากรู้เรื่องชาวบ้านเค้า เอางานเราไปทำให้เสร็จก่อนมั้ยสมรศรี"
"มอลลี่ค่ะ!! แหม..ต้องให้เตือนตลอด" มอลลี่ขายของควักซองขึ้นมาทันที "สนใจแป๊ะก๊วยผงชงน้ำร้อน-เย็นดื่มได้ทันทีมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นความจำมั่งมั้ยคะ ช่วงนี้มีโปรโมชั่นซื้อ 3 แถม1ด้วยนะคะ"
จามจุรีตีแขนดังเพียะ "แน่ะ!! ยังจะมาขายของ ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมย่ะ แล้วก็จำแม่นด้วยว่าเธอน่ะชื่อสมรศรี แต่กระแดะเปลี่ยนเป็นมอลลี่" จามจุรีพูดแบบอาจารย์แม่
มอลลี่กับลูกกอล์ฟว่า "ว้าย!! แรงส์"
จามจุรีบ่น "คนเราสมัยนี้ไม่รู้เป็นอะไร ขยันเปลี่ยนกันจริงๆ เปลี่ยนชื่อไม่พอ บางคนเปลี่ยนมันทั้งชื่อทั้งนามสกุล"
"จริงครับ!! เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลไม่พอ เปลี่ยนหน้าซะจนพ่อแม่ยังจำไม่ได้ 555” ลูกกอล์ฟว่า
ปาริฉัตรเงยหน้าขึ้นมาฟัง
"แกว่าใครไอ้ลูกกอล์ฟ?”
"จะว่าใคร?" ลูกกอล์ฟทำหน้าแหย "ก็ว่าคนอื่นน่ะสิ..โหย!! เยอะแยะไป เดี๋ยวนี้ไฮโซยันโลโซขยันทุบหน้ากันซะยิ่งกว่าทุบถนน"
"อ่ะๆๆ..เลิกไร้สาระ" จามจุรียื่นแฟ้มให้ "เอาแฟ้มงานไปส่งต่อ"
"มอลลี่เพิ่งไปมาตะกี้นะคะ" มอลลี่มองลูกกอล์ฟ "ไอ้ลูกกอล์ฟ!”
ลูกกอล์ฟหงุดหงิดเล็กๆ "เออ..ก็ได้!!”
ลูกกอล์ฟคว้าแฟ้มเดินออกไป จามจุรีส่ายหน้าก่อนจะหันมาจะต่อว่าแต่มอลลี่ชิ่งไปหาปาริฉัตรแล้ว จามจุรีจึงถอนใจแล้วเดินออกไป
"น้องฉัตรไม่สนใจจะส่อง IG มั่งเหรอคะ? วันๆ ส่องแต่ท่านประธานไม่เบื่อมั่งรึไง?” มอลลี่ว่า
ปาริฉัตรตอบแบบไม่มองหน้า "มีงานต้องทำเยอะ ไม่ว่างค่ะ!!”
มอลลี่ชะงัก "อึ๋ย!! ตามใจ เชิญทำงานให้สนุกเถอะนะคะ" มอลลี่มอง IG แล้วกรี๊ด "ว้าย!! คุณกนกรัตน์!" มอลลี่เหล่ปาริฉัตร
ปาริฉัตรชะงัก
มอลลี่ดู IG "สวยจังเลยอ่ะ" มอลลี่ดูอีกรูป "แอร้ย!! กินกัน เอ๊ย! กินข้าวกลางวันกะท่านประธานด้วยอ่ะ!" มอลลี่เชิดๆ แล้วเดินสะบัดออกไป "น่าอิจฉาจุงเบย”
ปาริฉัตรมองตามอย่างเคืองๆ ก่อนจะชะงักเพราะคิดอะไรขึ้นมาได้
ปาริฉัตรนั่งซุ่มเหลียวซ้ายแลขวา เธอควักมือถือขึ้นมากด IG ก่อนจะนึกแล้วกด“KANOKRAT” แล้วเสิร์ทแต่ก็ไม่เจอ ปาริฉัตรอารมณ์เสียก่อนจะกดใหม่ ‘KANOK’ แล้วเสิร์ทแต่ก็ไม่เจอก็อารมณ์เสีย เธอนึกแล้วพูด‘เคท’ ก่อนจะกดใหม่ว่า ‘KATE’ แล้วก็เสิร์ทก่อนจะไล่ดูเมื่อเห็นว่ามียาวเหยียด ปาริฉัตรตาโตที่เจอ ‘KATEKATE’ ที่มีรูปกนกรัตน์ ปาริฉัตรตาวาวแล้วยิ้มเหยียดก่อนจะกดเข้าไปดู ภาพทั้งหมดขึ้นพรึ่บ ทั้งภาพส่วนตัว ภาพถ่ายแฟชั่น ภาพงานเครื่องเพชร และภาพล่าสุดคือภาพขณะกินข้าวกับนาคินทร์ ปาริฉัตรหึง
"ชิ!! นังขี้อวด!!”
ทันใดนั้น คอมเม้นท์ ‘MILKYY’ ก็ขึ้นมาว่า ‘อีเคท! ลบเม้นท์กูมัยวะ?!!’
ปาริฉัตรอ่าน "อีเคท..ลบเม้นท์กูมัยวะ" ปาริฉัตรมองชื่ออีกที “MILKYY?”
ทันใดนั้น คอมเม้นท์ ‘MILKYY’ ก็โดนลบไป ปาริฉัตรจ้องมองก่อนจะคิด
“MILKYY?”
ปาริฉัตรเสิร์ทหาชื่อ ‘MILKYY’ พอเจอก็ไล่ดูยาวเหยียดจนสุดท้ายก็เจอ ‘MILKYY’ เธอเข้าไปดูรูป
ปาริฉัตรตาโต "นี่มันพี่มิลค์นี่?”
ปาริฉัตรรีบไล่ดูรูปไปเรื่อยๆ แล้วก็ชะงักกึกที่เห็นรูปคู่ล่าสุดกับกนกรัตน์ในวันที่ไปกินกาแฟ โดยกนกรัตน์ทำหน้าไม่เต็มใจเท่าไหร่
ปาริฉัตรอ่านคำบรรยาย "หมอไหนทำหน้าให้อีกเคทเนี่ย?? ทำหน้ายักษ์ 555”
ปาริฉัตรงงก่อนสุดท้ายจะทำตาวาว
ปาริฉัตรพึมพำ "พี่มิลค์?? อีเคท??”
ทันใดนั้นก็มีมือใครไม่รู้มาคว้ามือถือจากมือปาริฉัตรไปทันที ปาริฉัตรสะดุ้งสุดตัวพอหันไปมองก็ตาเหลือก ด้วยความตกใจมากที่เห็น “จามจุรี” ยืนตีหน้ายักษ์อยู่
"นี่ก็อีกคน!! เอากะเค้าเหมือนกันเหรอ งานการไม่ทำ มัวแต่ทำอะไรเนี่ย" จามจุรีจะดูมือถือ
ปาริฉัตรรีบตะปบเอากลับมา "อย่าค่ะ!! ฉัตรจะรีบไปทำงานแล้วค่ะ"
"อ่ะ! ก็รีบไปสิคะ?? อย่าไปเอาอย่างยัยมอลลี่ เข้าใจมั้ย?”
"เข้าใจค่ะ"
จามจุรีส่ายหน้าแล้วเดินออกไป ปาริฉัตรมองมือถือแล้วยิ้ม
กนกรัตน์ที่แต่งตัวเสร็จหลังจากเล่นโยคะแล้วเดินมาเปิดล็อคเกอร์เพื่อหยิบของเสร็จแล้วก็ปิดประตูแล้วเธอก็ตกใจจนสะดุ้งเมื่อเห็น ‘มิลค์’ ยืนอยู่
"ตกใจอะไร? ตกใจทำไม?” มิลค์ว่า
กนกรัตน์ทำตาซื่อ "ก็..ไม่ได้ตกใจอะไรนี่"
มิลค์ยิงตรงทันที "ลบเม้นท์ฉันทำไม? แล้วยังบล็อคไอจีฉันอีก? แกหมายความว่าไง อีเคท!!”
กนกรัตน์มองหน้า "เลิกเรียกฉันว่า ‘อี’ ได้แล้ว"
มิลค์งง "ทำไม? ทำไมจะเรียกไม่ได้ เมื่อก่อนตอนอยู่อเมริกา ฉันก็เรียกแกอย่างนี้" มิลค์พูดใส่หน้า "อีเคทๆๆ อร้าย!!”
มิลค์ตกใจที่กนกรัตน์บีบปากเธอแน่น กนกรัตน์ดันมิลค์ไปจนหลังติดล็อคเกอร์ มิลค์ตกใจพยายามจะร้อง แต่กนกรัตน์ออกแรงมือยังกะคีมเหล็กบีบไว้จนมิลค์ขยับปากไม่ได้ ได้แต่มิลค์ก็พยายามร้องและดิ้น
"ในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่เชื่อ ฉันก็ต้องทำแบบนี้" กนกรัตน์บีบหนักจนมิลค์ตกใจมาก "ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับฉันอีก เราไม่เคยรู้จักกัน" กนกรัตน์พูดลอดไรฟัน "เข้าใจมั้ย?”
มิลค์เจ็บปวดจนจำต้องยอมพยักหน้า กนกรัตน์ผลักมิลค์กระเด็นไปแล้วเดินออกไปหน้าสวยๆ มิลค์ยังตกใจไม่หาย สุดท้ายมิลค์ก็โกรธตะโกนไล่หลัง
"อี..อีเคท! จำไว้ แกจำไว้เลย!”
หุ่นใส่ชุดวิวาห์เรียงรายสวยงาม นาคินทร์เข็นนารถนรินทร์เข้ามาในร้าน โดยมีปานตะวันเดินมาด้วย นารถนรินทร์ยิ้มหน้าบานผิดกับนาคินทร์กับปานตะวันที่ทำหน้าตึง
"ขอบคุณพี่คินมากเลยนะคะที่อุตสาห์พาน้องมา" นารถนรินทร์บอก
นาคินทร์มองปานตะวัน "ถ้าคุณแม่ไม่ขอร้อง พี่ก็คงไม่มาหรอก"
ปานตะวันมอง?
"โห..ใจร้าย!! เดี๋ยวนี้ไม่รักน้องแล้วใช่มั้ย?" นารถนรินทร์นึกถึงกนกรัตน์ก็หน้าตึง "รู้แล้ว..ว่าใครเป็นต้นเหตุ!”
นาคินทร์จะดุ "นี่!! ยัยนารถ..”
เจ้าของร้านเดินมาพอดี
"สวัสดีค่ะคุณนารถนรินทร์" เจ้าของร้านเห็นนาคินทร์ก็ตกใจโอเว่อร์ "คุณนาคินทร์!!! ต๊าย! คุณนาคินทร์จริงๆ ด้วย ตื่นเต้นจังค่ะ คุณนาคินทร์มาเองเลยเชิญค่ะ..เชิญมาชมชุดของคุณนารถ...”
นารถนรินทร์รีบพูดแทรก "ไม่ได้ค่ะ!! ให้พี่คินเห็นไม่ได้ให้ใครเห็นก็ไม่ได้ทั้งนั้น ยกเว้นนารถกับพี่ตะวัน"
นาคินทร์เซ็ง
เจ้าของร้านจ๋อย ก่อนจะพูดจ๊ะจ๋า " Oops!!!" เจ้าของร้านทำท่าปิดปาก "เข้าใจค่ะ!! Oops!!!อุ๊บส์!! เก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์ หืมม์..น่ารักอ่ะค่ะ รับรองเลยค่ะว่าสวย & เซอร์ไพรส์กันทั้งงานแน่ๆ ค่ะ"
"ไปดูกันเถอะค่ะพี่ตะวัน" นารถนรินทร์พูดกับนาคินทร์ "พี่คินรออยู่นี่นะคะ"
ปานตะวันเข็นรถให้นารถนรินทร์ไป นาคินทร์ทิ้งตัวลงนั่งอย่างเซ็งๆ
ปานตะวันรูดซิปขึ้นให้นารถนรินทร์ที่ลองใส่ชุดแต่งงานสวยงามและกำลังยืนส่องตัวเองอยู่หน้ากระจก
ปานตะวันปลื้ม "น้องนารถ..น้องนารถสวยมากๆ เลยค่ะ"
"จริงเหรอคะพี่ตะวัน พี่ตะวันว่าพี่วิทย์จะชอบมั้ยคะ"
"ชอบสิคะ คุณวิทย์ต้องชอบแน่ๆ"
เจ้าของร้านเงี่ยหูอย่างอยากรู้อยากเห็นอยู่หน้าห้องลอง
"ฮาโหล! ฮาโหล้!! เป็นไงกันมั่งแล้วคะ ใส่พอดีมั้ยคะ" เจ้าของร้านทำหน้าย่น "ให้พี่เข้าไปได้รึยังคะ?”
ทั้งสองสะดุ้ง
นารถนรินทร์ตะโกนตอบ "เอวหลวมไปนิดนึงอ่ะค่ะ"
"งั้นพี่ขอดูนิดนึงนะคะ"
นารถนรินทร์เสียงหลง "เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งเข้ามา"
นารถนรินทร์กับปานตะวันช่วยกันจัดแจงให้นารถนรินร์นั่งบนเข็นเพราะไม่อยากให้เจ้าของร้านเห็นว่านารถนรินทร์ลุกยืนและเดินเองได้แล้ว ทั้งสองขำๆ กัน
นารถนรินทร์ตะโกน "เข้ามาได้แล้วค่ะ"
เจ้าของร้านรีบเข้ามา "ว้าย!! สวยที่สุดเลยค่ะคุณนารถ นี่ขนาดนั่งนะคะเนี่ย มาค่ะ ขอพี่ดูหน่อย เอวหลวมแค่ไหนคะ?”
เจ้าของร้านก้มๆ เงยๆ เลยชนกับปานตะวัน
"พี่ตะวันรอนารถข้างนอกดีกว่าค่ะ" นารถนรินทร์บอก
"แต่เดี๋ยวน้องนารถ..” ปานตะวันเป็นห่วง
"นารถโอเค.ค่ะ ไปรอข้างนอกเถอะค่ะ"
ปานตะวันยิ้มให้ ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้เจ้าของร้านมองดูชุดนารถนรินทร์
อ่านต่อหน้าที่ 3
เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 20 (ต่อ)
นาคินทร์นั่งรออย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันมองไปมองมาอย่างเบื่อๆ สุดท้ายเขาก็ชะงักกึกเมื่อเห็นปานตะวันเดินมาท่ามกลางชุดวิวาห์สวยงาม ปานตะวันเองก็มองชุดวิวาห์ไปมาอย่างเพลิดเพลิน นาคินทร์เผลอจ้องมองหน้าปานตะวันที่สวยมากโดยที่ปานตะวันไม่รู้ตัว อาร์ตเดินผ่านมาที่หน้าร้าน เขาเห็นปานตะวันอยู่ในร้านก็ชะงักกึก
"ตะวัน!!”
อาร์ตรีบวิ่งมาเกาะกระจกร้าน
อาร์ตตะโกน "ตะวัน!!!
ปานตะวันอึ้ง "พี่อาร์ต?”
นาคินทร์หายเพลินเป็นปลิดทิ้ง อาร์ตทำมือชี้ๆ ประมาณบอกให้รออย่าไปไหน อาร์ตรีบวิ่งเข้าไปในร้าน ปานตะวันหันขวับไปเห็นนาคินทร์ยืนจ้องอยู่ด้วยสายตาหึงหวง ยังไม่ทันจะพูดอะไร อาร์ตก็วิ่งเข้าในร้าน
อาร์ตดีใจมาก "ตะวัน!!”
อาร์ตวิ่งโผจะมาหาปานตะวันที่ยืนงงอยู่ แต่ก่อนจะถึงตัวปานตะวันนาคินทร์ก็เข้ามาฉกปานตะวันมาซบอกไว้แน่น
ปานตะวันตกใจ "คุณ...”
อาร์ตไม่พอใจ "ปล่อย!! ปล่อยตะวันเดี่ยวนี้!!”
"กลับไปหาเมียคุณดีกว่า"
อาร์ตพูดกับปานตะวัน "ตะวัน..ตะวันใจร้ายไม่ยอมรับสายพี่เลย พี่คิดถึงตะวันมากรู้มั้ย เรากลับมาดีกันเถอะนะ พี่อย่ากับมิลค์แล้ว"
คำพูดนี้ทำให้อึ้งกันไปทั้งตะวันทั้งนาคินทร์
"หย่า?? พี่อาร์ตทำอย่างนั้นทำไม?” ปานตะวันถาม
"พี่รักตะวันไง เพราะพี่รักตะวันคนเดียว" อาร์ตบอก
ปานตะวันอึ้ง "พี่อาร์ต?”
นาคินทร์หึง
"เรากลับมารักกันใหม่นะตะวัน กลับมารักกันเหมือนเมื่อก่อน" อาร์ตบอก
ปานตะวันอึ้งแล้วเหลือบมองนาคินทร์ที่มองปานตะวันนิ่งอยู่
"พี่อาร์ต....ไม่เหมือนแล้วค่ะ" ปานตะวันหลบตา "มันมีทางเหมือนเดิมได้อีกต่อไปแล้ว"
"ทำไมล่ะตะวัน? ทำไม?” อาร์ตถาม
ปานตะวันพูดไม่ออก
อาร์ตเสียงดังลั่น "ทำไมล่ะตะวัน”
"เพราะตะวันเป็นแฟนผม" นาคินทร์พูด
ปานตะวันหันขวับไปมองนาคินทร์
นาคินทร์กอดปานตะวันแน่น "เรากำลังจะแต่งงานกัน"
ปานตะวันตาโต
"อะไรนะ?? ไม่จริง!! ไม่จริงใช่มั้ยตะวัน??”
"เอ่อ.." ปานตะวันยังงงเหมือนกัน
"ไม่จริงแล้วจะมาที่นี่ทำไมล่ะครับ"
อาร์ตอึ้ง เขาหมดแรงจนถึงกับทรุด ปานตะวันมองอาร์ตอึ้งๆ เพราะสงสารจนพูดไม่ออก บอกไม่ถูก เธอหันไปมองนาคินทร์ นาคินทร์เชิดแถมกอดแน่นขึ้นอีก
‘แตงโม’ เดินผ่านมาหน้าร้านทันเห็นช็อตเด็ด เธอรีบควักมือถือมากดแชะทันที
กนกรัตน์เดินเชิดมาแล้วก็ชะงักเมื่อเห็นมิลค์เดินตรงมา กนกรัตน์เซ็งแล้วหลบวืด มิลค์ไม่ทันเห็น ปาริฉัตรเดินมาเห็นมิลค์เดินอยู่ชั้นล่างของอีกฝั่งก็ชะงักตาโต ด้วยความดีใจ เธอรีบชะโงกแล้วตะโกนเรียก
"พี่มิลค์!! พี่มิลค์ !!”
มิลค์ไม่ได้ยินเพราะใส่หูฟังเพลง แต่กนกรัตน์ที่แอบอยู่ถึงกับขนหัวลุกที่ได้รู้ว่าปาริฉัตรรู้จักกับมิลค์ด้วย กนกรัตน์มองมิลค์ที มองปาริฉัตรทีว่าจะเอายังไงดี
ปาริฉัตรพยายามเรียกและโบกมือหยอยๆ แต่มิลค์ยังไม่เห็น สุดท้ายปาริฉัตรก็ตัดสินใจวิ่งเพื่อจะมาหามิลค์
กนกรัตน์มองเห็นปาริฉัตรวิ่งมาแล้วลงบันไดเลื่อน ในขณะที่มิลค์เดินชิวๆ จนปาริฉัตรใกล้จะเจอมิลค์แล้ว สุดท้ายมิลค์ถูกฉกวืดหายไปทันที มิลค์ร้องว้าย ปาริฉัตรวิ่งมาตรงจุดที่มิลค์หายไปแล้วยืนหอบแฮ่กๆ
"อะไรวะ? ตะกี้เห็นอยู่ตรงนี้แหมบๆ" ปาริฉัตรหอบ "โห่ย..เหนื่อย! หายไปไหนแล้วอะพี่มิลค์"
ปาริฉัตรเจ็บใจ
มิลค์เชิดหน้า อย่างหยิ่งๆ และไว้ฟอร์ม
"มันคืออะไร?” มิลค์ถาม
กนกรัตน์นั่งหน้างอนเพื่อนอยู่
"วันก่อนยังเหวี่ยงใส่ฉันอยู่เลย วันนี้ทำไมหวานใส่ตกลงว่า..มันคืออะไรห๊ะ..อีเคท? เอ๊ย!!ไม่ใช่สิ..ต้อง ‘คุณเคท’ สิ..ใช่มั้ย"
กนกรัตน์เสียงหวาน "แหม!! มิลค์ก้อ..ขอโทษน้าาา..วันก่อนมัน...มัน..เอาล่ะ..ฉันยอมรับผิดทุกอย่างจะให้ขอโทษยังไงก็ยอมนะ"
มิลค์แว้ด "ตกลงแกนี่มันยังไงห๊ะ" มิลค์ชะงัก เสียง Line ดัง มิลค์กดดูแล้วก็แทบช็อค "พี่อาร์ต!”
กนกรัตน์ทำหน้าเซ็ง
มิลค์โกรธจนตัวสั่น เธอมองกนกรัตน์ "อีเคท! ดูซิ!! นี่ใคร?” เธอกระแทกรูปใส่หน้าให้กนกรัตน์ดูเต็มๆ
กนกรัตน์เห็นภาพนาคินทร์กอดปานตะวันแน่นก็ช็อคยิ่งกว่ามิลค์
มิลค์กัดฟัน "ฉันกับแกคงต้องมาจับมือกัน อย่างด่วนแล้วล่ะอีเคท!!”
มิลค์แค้นสุดขีด กนกรัตน์เจ็บแค้นแบบร้ายลึก
ปานตะวันกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาที่หน้าห้องนอน นาคินทร์พรวดพราดไล่ตามมาจะถึง ปานตะวันรีบเปลี่ยนใจจะไม่เข้าห้องนอนเพราะกลัวนาคินทร์ตามเข้ามา เลยจะวิ่งหนีไปอีกทางนาคินทร์รู้ทันก็ล็อคตัวทันที
"จะหนีไปไหน?”
"ปล่อยนะ!!ไม่ได้หนี!!” ปานตะวันว่า
นาคินทร์พูดเยาะๆ "หนีไม่รอดหรอก!!”
พูดจบนาคินทร์ก็กระชากปานตะวันเข้าห้องนอนทันที
นาคินทร์ดันปานตะวันจนหลังพิงประตูก่อนจะเอาหน้ามาใกล้จนแทบจะชน
"เสน่ห์แรงจริงนะ?”
ปานตะวันไม่พอใจ เธอได้แต่เชิดหน้าแล้วเบือนหน้าไปไม่อยากคุยด้วย
"ไม่คิดจะขอบคุณผมซักคำหรอ?”
ปานตะวันมองหน้า "ขอบคุณ? เรื่องอะไร?”
นาคินทร์ยิ้มเยาะ "ก็วันนี้ผมอุตส่าห์จัดการไล่กุ๊ยพี่อาร์ตของคุณไปได้…คุณยังไม่ขอบคุณผมซักคำ?”
ปานตะวันมอง "ขอบคุณ??คุณต่างหากที่ต้องขอโทษฉัน…คุณนาคินทร์!!”
นาคินทร์งง "ขอโทษ?”
ปานตะวันยิ้มยวน "ใช่!! พี่อาร์ตของฉันอุตส่าห์อย่าเมียเพื่อจะกลับมาง้อขอคืนดีกับฉัน แต่คุณดันมาไล่เค้าแถมยังทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันอีก" ปานตะวันจ้องหน้า "คุณต้องขอโทษฉัน"
นาคินทร์อึ้ง "อะไรนะ?”
ปานตะวันยิงต่อแบบกระแดะสุดฤทธิ์ "ฉันกะจะเล่นตัวอีกซักนิด ให้พี่อาร์ตง้ออีกหน่อย เผื่อจะอัพราคาค่าหายงอนได้อีกซัก 10ล้าน 20 ล้าน" ปานตะวันถอนใจ "เฮ้อ!!" ปานตะวันส่ายหน้า "คุณทำแผนฉันพังหมด"
นาคินทร์พรวดมาจูบปากตะวันแน่นแทนการสั่งให้หยุดพูด ปานตะวันตาโตตกใจ นาคินทร์จูบแรงเพราะ
โกรธและน้อยใจก่อนจะค่อยๆ นุ่มนวลเพราะความรักที่ซ่อนอยู่ข้างในลึกๆ สักพักนาคินทร์ก็ค่อยๆ ผละออกมา ทั้งสองจ้องหน้ากัน ตะวันเองก็รู้สึกแปลกๆ หมดฤทธิ์ไปเหมือนกันได้แต่อึ้งและอิน
"อยากให้ขอโทษอีกเมื่อไหร่ก็บอก" นาคินทร์บอก
ปานตะวันยิ่งอึ้งและงง
นาคินทร์มองอย่างโกรธและน้อยใจนิดๆ เขาเดินออกจากห้องไปทันที ปานตะวันมองตามอย่างอึ้งๆ แล้วปิดประตู ก่อนจะหันกลับมาเอามือจับปากตัวเองอย่างงงๆ
นาคินทร์นั่งน้อยใจอยู่คนเดียว
เขานึกถึงอดีตวันหวานของตัวเองกับปานตะวัน นาคินทร์มีแววตาแอบมีความสุข
แต่เมื่อนึกถึงตนที่ปานตะวันซบอัครินทร์ ปานตะวันกับเล็ก
นึกถึงตอนที่ปานตะวันบอก “ใช่!!พี่อาร์ตของฉันอุตส่าห์อย่าเมียเพื่อจะกลับมาง้อขอคืนดีกับฉัน แต่คุณดันมาไล่เค้าแถมยังทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันอีก /เฮ้อ!" ปานตะวันส่ายหน้า "คุณทำแผนฉันพังหมด…นาคินทร์พรวดจูบปากตะวันแน่น"
นาคินทร์อึ้งแล้วก็สะบัดหน้าเพราะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
กนกรัตน์อยู่ในชุดนอน เธอพยายามโทร.หานาคินทร์แต่ก็ติดต่อไม่ได้เพราะนาคินทร์ปิดเครื่อง กนกรัตน์โมโหจึงเหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้งก่อนจะหงุดหงิด สักพักเธอก็หยิบโทรศัพท์มากดดู IG ของตัวเองซึ่งเป็นภาพคู่กับนาคินทร์แบบหวานชื่น เธอแอบโกรธแต่พออ่าน Comment ก็อารมณ์ดีขึ้น
"เหมาะสมกันที่สุด/คู่สร้างคู่สม/Sweet /หวานใส่ไฮโซ" กนกรัตน์ยิ้มมากขึ้น "คู่แท้ที่สุด" กนกรัตน์ชะงักเมื่อเห็น Comment ของ ‘แตงโม’ ซึ่งมีรูปใช้ชื่อ MOMO เขียนว่า ลืมกำพืด ลืมหน้าเก่า ไว้จะเอาหน้าเก่าไว้
เตือนความจำให้!!
กนกรัตน์หน้าจ๋อย ปากสั่น เธออ่านพึมพำ "ลืมกำพืด ลืมหน้าเก่าไว้จะเอาหน้าเก่ามาเตือนความจำให้" กนกรัตน์โกรธตาวาวแล้วกัดฟันแน่น "อีโม!”
แตงโมเดินเซออกมาจากผับกับแก๊งค์เพื่อนไฮโซ ทุกคนร่ำลากัน แตงโมขึ้นรถสตาร์ทแต่ก็ไม่ติด เธองงๆ ด่าแล้วก็ลงจากรถ ใครคนนึง ยืนซุ่มมองแตงโมจากอีกมุมนึง
"ทุเรศ!! เป็นไรวะสตาร์ทไม่คิด"
แตงโมเดินเซๆ มามองหาเพื่อน
"อีพวกบ้า!! หายตัวเร็วอย่างกะนินจา ไม่อยู่ช่วยกันเลยเว้ย" แตงโมโมโหเตะล้อรถตัวเองแล้วก็เจ็บข้อเท้าเอง "โอ้ย" แตงโมทรุดลงนั่งกุมข้อเท้าเพราะเจ็บมาก "โอ้ย! เจ็บๆ"
เท้าใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาหยุดยืน
เสียงกนกรัตน์ดังขึ้น "เจ็บมากมั้ย?”
แตงโมเงยหน้าขึ้นมองอย่างมึนๆ? งงๆ?
แตงโมแปลกใจ "นังเคท?”
กนกรัตน์ยืนมองยิ้มๆ
แตงโมยังไม่รู้ชะตากรรม "นังบ้า!! ตาบอด หูหนวกรึไง? ก็นั่งร้องเจ็บๆอยู่ขนาดนี้ ยังจะมาถาม"
กนกรัตน์ทรุดลงนั่งบีบปากแตงโมอย่างแรง "คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วง ยังจะปากดี"
แตงโมตกใจ เธอจะร้องแต่ก็โดนบีบยังกะคีมเหล็กจนพูดไม่ออก
"ก็ปากดีอย่างนี้ไงล่ะ…อ่อ…ไม่ใช่ปากดีสินะ ต้องบอกว่าปากพาซวยมากกว่า" กนกรัตน์ว่า
แตงโมตกใจ
"อยู่ดีๆไม่ชอบ?" กนกรัตน์ยิ้ม "ฉันถามแกหน่อยเถอะที่แกบอกว่าจะเอา ‘หน้าเก่า’ ของฉันมาเตือนความจำให้น่ะ…หมายความว่ายังไง?”
กนกรัตน์ปล่อยมือให้แตงโมพูด
แตงโมชักจะกลัว "เปล่า..เปล่านะ"
กนกรัตน์บีบคอหมับ "จะบอกรึไม่บอก"
แตงโมไปแค่กๆ ตาเหลือกแล้วทำท่าบอกว่ายอมบอกแล้ว กนกรัตน์จึงปล่อยมือออก
"แค่กๆๆ…ฉัน…ฉันล้อเล่น"
กนกรัตน์ตลาดแว้ด "ล้อเล่นอะไร?”
แตงโมสะดุ้งเฮือก "ก็ล้อว่าจะเอารูปเก่าๆตอน…ตอนเธอยังไม่…เอ่อ…ยังไม่ทำหน้ากับหมอโก้"
กนกรัตน์สะดุ้งก่อนจะตวาดแว้ด "แกมีรูปเหรอ?”
แตงโมรีบบอก "ไม่ๆๆๆ…ไม่มี…แต่…หมอโก้น่าจะมี"
กนกรัตน์อึ้งไปก่อนจะโกรธ จึงบีบคอแตงโมหมับ "แกๆๆ…ทำไมพวกแกต้องมายุ่งกับฉันด้วยทำไมๆๆ"
กนกรัตน์เขย่าด้วยความโมโหและลืมตัว เธอผลักแตงโมหัวโขกรถดังโป๊ก แตงโมร้องโอ๊ย ชนิดที่ทั้งมึน ทั้งกลัวมาก กนกรัตน์ยังโกรธจนตัวสั่นโดยไม่ได้สนใจแตงโม เธอคิดแต่ว่าจะทำยังไงดี? แตงโมได้โอกาสก็รีบลุกวิ่งหนีไป
กนกรัตน์ได้สติก็หันมองขวับ "นังโม!" กนกรัตน์ตะโกนตามหลัง "จะไปไหน?”
แตงโมตกใจจึงรีบวิ่งขาลากหนีไปสุดชีวิต กนกรัตน์วิ่งตาม
อ่านต่อหน้าที่ 4
เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 20 (ต่อ)
แตงโมวิ่งขากะเผลกหนีกนกรัตน์มาที่ถนนใหญ่ กนกรัตน์วิ่งตามมาตะโกนเรียก
"กลับมา!จะหนีไปไหน??”
แตงโมกัดฟันวิ่ง ปากก็พูด "อีโง่!! อยู่ให้โง่สิ"
แตงโมวิ่งไป หันหลังมองกนกรัตน์ไป ทำให้ไม่ทันเห็นรถที่วิ่งมาบนถนนใหญ่อย่างรวดเร็ว
กนกรัตน์เห็นรถวิ่งมาก็ตกใจจึงตะโกนลั่น "แตงโม!!”
แตงโมนึกว่ากนกรัตน์เรียกเพื่อไล่ล่าก็รีบวิ่งพรวดข้ามถนนใหญ่ รถชนโครมจนแตงโมกระเด็นตัวลอยละลิ่วหล่นตุบไปไกล กนกรัตน์ตะลึง
แตงโมกระตุก คนขับรีบวิ่งมาดูแล้วก็โวยวายด้วยความตื่นเต้นว่าอยู่ๆ ก็มีผู้หญิงวิ่งตัดหน้า โดยเขามองไม่เห็น กนกรัตน์รีบซ่อนอยู่ในมุมมืดแบบยังตกใจต่อสิ่งที่เห็น แตงโมสะดุ้งเฮือกแล้วก็หมดลม กนกรัตน์ตาโตอย่างตกตะลึง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคิดในใจว่าอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน
ปานตะวันถวายดอกไม้พระ พระสวดให้พรทุกคนจบก็เดินออก นาคินทร์เดินเข้ามามอง
สาวิตรีดีใจ "พี่คิน!!! จะไปทำงานเหรอคะ?เดี๋ยวค่ะ…มาใส่บาตรด้วยกันก่อนค่ะ" สาวิตรีดึงมายืนใกล้ๆปานตะวัน
ใบตองทำตาวิบวับ "ทำบุญร่วมกัน ชาติหน้าจะได้มาเจอกันอีกไงคะ..คิกๆ"
ปานตะวันกับนาคินทร์ทำหน้าไม่ถูก
"นี่!!เอาแค่ชาตินี้ก่อนก็ได้พี่ใบตอง ใส่บาตรด้วยกัน" นารถนรินทร์ยิ้ม "ชาตินี้จะได้คู่กัน"
นารถนรินทร์กับใบตองหัวเราะคิกคัก ปานตะวันกับนาคินทร์ยิ่งทำหน้าไม่ถูก
สาวิตรีเคลียร์ "ฟังนะคะ…ได้เกิดมาเป็นคนเนี่ยก็ถือว่าเราเคยทำบุญมามาก และก็โชคดีมากที่เรายังมีโอกาสทำบุญต่อไปอีก ไม่เหมือนสัตว์เดรัจฉานที่ไม่มีโอกาสได้สร้างบุญสร้างกุศลอีกแล้วเพราะฉะนั้น เราควรหมั่นสร้างบุญสร้างกุศลให้มากๆนะคะ"
นารถนรินทร์กับใบตองพูดพร้อมกัน "ส๊าธุ!!”
สาวิตรีตีแขนเพียะๆ "พวกนี้นี่!!”
นารถนรินทร์กับใบตองพูด "อ่ะ บาปนะคะ…บาปกรรม"
ปานตะวันกับนาคินทร์เผลอยิ้ม ทั้งสองหันมามองและเหล่ใส่กัน
"พระมาแล้ว" สาวิตรีบอก พระเดินมา "นิมนต์เจ้าค่ะ"
ทั้งหมดเริ่มใส่บาตรด้วยกัน ปานตะวันกับนาคินทร์บังเอิญหยิบของชิ้นเดียวกันทำให้มือแตะกัน กองเชียร์หัวเราะคิกคัก ทุกคนใส่บาตรเสร็จ สาวิตรีพนมมืออธิษฐานอยู่นาน
"คุณแม่อธิษฐานอะไรคะ…นานจัง" นารถนรินทร์ถาม
"ก็อธิษฐานขอพรให้ลูกนารถของแม่เป็นพิเศษน่ะสิคะ ใกล้จะถึงวันงานแต่งงานของลูกแล้ว แม่ก็ขอพรให้ลูกหาย ขอให้มีปาฏิหาริย์ให้ลูกของแม่ลุกขึ้นเดินได้"
นารถนรินทร์อมยิ้มแล้วก็แอบมองปานตะวันที่อมยิ้มเช่นกัน
นารถนรินทร์กอดแม่ "ขอบคุณค่ะคุณแม่ นารถเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริงค่ะ" นารถนรินทร์มองปานตะวัน "พี่ตะวันว่าจริงมั้ยคะ?”
ปานตะวันยิ้มแฉ่ง "จริงค่ะ ปาฏิหาริย์ต้องมีจริงค่ะ"
ทุกคนชื่นมื่น แต่นาคินทร์กลับหน้าจ๋อยไป
ปานตะวันวางถาด ฯลฯ จากการใส่บาตรลงแล้วหันขวับมาป๊ะนาคินทร์จังๆ ก็ตกใจมาก
"คุณนาคินทร์!!”
"ลั้นลาน่าดูนะ อารมณ์ดีเกินเหตุรึเปล่า" นาคินทร์ว่า
"จะหาเรื่องอะไรก็เข้าเรื่องเลยเถอะค่ะ"
นาคินทร์เข้าเรื่อง "ท่าทางคุณจะดีใจมากถ้ายัยนารถจะเดินได้"
"อ้าว? แล้วคุณไม่ดีใจเหรอคะ? คุณไม่อยากให้น้องสาวคุณเดินได้เหรอคะ"
นาคินทร์อึ้งแล้วก็ทำเสียงพาลทันที "อยากจะออกไปจากที่นี่จนตัวสั่นสินะ"
"แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ใครจะอยากอยู่" ปานตะวันบอก
ปานตะวันจะเดินออก นาคินทร์คว้าตัวไว้ "เดี๋ยว!!”
ปานตะวันจ้องหน้า "จะหาเรื่องอะไรอีกคะ?”
นาคินทร์พูดไม่ออก เขาได้แต่จ้องหน้า "ผม…"
ทั้งสองจ้องหน้ากัน ปานตะวันรอฟัง นาคินทร์จ้องตาอยากจะพูดก็พูดไม่ออก ทันใดนั้นใบตองก็โผล่มา
"คุณตะวันขา.." ใบตองเห็นเค้าจ้องตากันอยู่ก็ตกใจ "แม่เจ้า!!”
ทั้งสองเด้งดึ๋งออกจากกันทันที
ใบตองเสียงดังลั่น "ไม่ค่ะ !!ไม่เห็นค่ะ!!เชิญตามสบายค่ะ"
ทั้งสองรีบเดินออกจากกันไปคนละทาง
ใบตองมองตามด้วยความเจ็บใจและเสียดาย "โธ่เว๊ย!! น่าจะย่องมาเงียบๆ อดดูเลยอ่ะ" ใบตองนึกแล้วยิ้ม "ใส่บาตรด้วยกันปุ๊บ กลับมาปิ๊งกันทันตาเห็นเลยอ่ะ…เร็วยิ่งกว่า 4G คริๆๆ"
จามจุรี มอลลี่ และลูกกอล์ฟรุมอ่านนสพ. ที่พาดหัวข่าว “ซิ่งขยี้ไฮโซดับสยอง”
จามจุรีวางนสพ.ลง "เฮ้อ! น่าเวทนา..ยังสาวยังแส้แท้ๆ...คงทำบุญมาน้อย"
มอลลี่ไม่สนใจ เธอจกปาท้องโก๋ใส่ปาก "แต่ดันกระดกเหล้าเข้าไปเยอะ!!”
จามจุรีว่ามอลลี่ "บาปกรรม!”
"แหม..ออกจากผับมะซะขนาดนั้น ก็ต้องเมาเละล่ะค่ะ ถึงได้ข้ามถนนไม่ดูตาม้าตาเรือให้ รถมันชนเอาจริงมั้ยไอ้ลูกกอล์ฟ"
"จริง!!”
"เธอ 2 คนนี่!! คนเค้าตายไปแล้วยังจะเม้าท์เค้า ขี้เม้าท์ไม่เว้นคนเป็นคนตาย" จามจุรีชี้หน้าทีละคน "ตกนรก!!ตกนรก!”
มอลลีเม้าท์จามจุรีกับลูกกอล์ฟ "นางก็ด้วยแหละเนาะ…ร่วมวงตล๊อด!" มอลลี่หันไปเห็นประกายเดือนหอบแฟ้มท่วมหัวเดินเป๋ๆเข้ามา "อร้าย!!!คุณน้องเลขาเดือนขาา"
มอลลี่ลากลูกกอล์ฟเข้าประกบประกายเดือนทันที ประกายเดือนงงๆ
"ตายจริงๆ!!คุณน้องเลขาเดือน..อุ๊ปส์!!ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่า “คุณนายท่านรองฯ” สิเนอะ??? คุณนายท่านรอง ฯขาาาา…ทำไมถึงทำอย่างนี้คะ" มอลลี่แย่งแฟ้มไปโยนใส่ลูกกอล์ฟทันที "งานแบกหามต้องให้ไอ้ลูกกอล์ฟมันค่ะงานหนักแบบนี้ไม่เหมาะกับคุณนายท่านรองฯ นะค้า"
ปาริฉัตรหอบแฟ้มท้วมหัวเข้ามาเหมือนกันเป๊ะแต่ไม่มีใครสนใจ
"ไปค่ะ…คุณนายท่านรองขา" มอลลี่ลากประกายเดือนออกไป "ไปนั่งพักผ่อนค่ะ…รับอะไรยามเช้าดีคะ? กาแฟ? น้ำส้ม? รึน้ำเต้าหู้? ปาท่องโก๋"
มอลลี่ทิ้งให้ปาริฉัตรยืนนิ่ง มองตาม ในสภาพแฟ้มท่วมหัว มอลลี่เดินกลับเข้ามา
มอลลี่ยิ้มหวาน "คุณน้องเลขาฉัตร" มอลลี่ทำหน้าจิก "แบกหามไป ก่อนละกันนะคะ!!ได้เป็น “คุณนายท่านประธานฯ” เมื่อไหร่แล้วคุณพี่จะมาช่วย" มอลลี่หัวเราะใส่แบบสมน้ำหน้า "คริๆๆ"
ปาริฉัตรยืนหน้าโกรธ ตัวสั่นอยู่คนเดียว
นัครินทร์นอนเล่นบนโซฟาชิลด์ๆ ประกายเดือนพรวดพราดเข้ามา
ประกายเดือนเสียงดังลั่น "ท่านรองฯ"
นัครินทร์แทบตกโซฟา "เฮ่ย…ตกใจหมดเลย"
ประกายเดือนปรี่เข้ามาลุยทันที "ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่า ห้ามพูดห้ามบอกอะไรใครทั้งนั้น"
นัครินทร์งงจึงขึ้นเสียงสูง "พูดอะไร? บอกอะไร?”
ประกายเดือนทุบทันที "ก็เรื่องที่เราจดทะเบียนกันน่ะสิ!!”
"เดี๋ยวๆๆ…ผมไม่ได้บอก!! ผมไม่ได้บอกอะไรใครเลย"
"แล้วทำไมยัยสมรศรีถึงเรียฉันว่า “คุณนายท่านร่องฯ” ?
"จะไปรู้เรอะ?" นัครินทร์นึกได้ "อ๋อ ก็วันนั้นมั้ง วันที่คุณเหวี่ยงผม แล้วผมง้อคุณที่หน้าห้องอ่ะ"
ภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนมา นัครินทร์พูด “แต่งงานกับผมน่ะฮะ” ขาเม้าท์กรี๊ดกร๊าด
นัครินทร์กอดประกายเดือนแน่น ผู้คนปรบมือเกรียวราว
ประกายเดือน Get "เออ…จริงด้วยอ่ะ"
"ไง??เอะอะๆ ก็เหวี่ยง" นัครินทร์ทำท่าน้อยใจ "โดนทุกทีเลยไอ้นัค!!”
ประกายเดือนมองนัครินทร์จ๋อยๆ "ก็ใครจะไปรู้ล่ะ"
นัครินทร์ชี้แก้มตัวเอง "ขอโทษก่อน"
ประกายเดือนค้อนๆ นัครินทร์ยังชี้อยู่แล้วเอียงแก้มให้ ประกายเดือนอมยิ้มก่อนจะจุ๊บ ทันใดนั้น จามจุรีก็เปิดประตูพรวดเข้ามา
"ท่านรองฯ คะ" จามจุรีช็อค "คุณพระช่วย!!”
ประกายเดือนสะดุ้งเฮือก นัครินทร์ขำ แล้วกอดประกายเดือนไว้แน่น
"ว้าย!!”
"ว๊าย !!" จามจุรีร้องโอเว่อร์ยิ่งกว่า
"มีธุระอะไรฮะ ? ผมยังไม่ว่างฮะ"
"ค่ะๆๆ…รับทราบค่ะ" จามจุรีรีบปิดประตูออกไปทันที
ประกายเดือนตีนัครินทร์ "บ้า!!”
นัครินทร์ขำและชอบใจกอดประกายเดือนแน่น
กนกรัตน์วางนสพ. ที่พาดหัว “ซิ่งขยี้ไฮโซดับสยอง” ลงบนโต๊ะอย่างแรง กนกรัตน์อึ้ง
กนกรัตน์แอบหวั่นนิดนึงก่อนจะพึมพำ "ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน แกทำตัวแกเอง…แกทำตัวแกเอง"
ทันใดนั้นเสียงมือถือก็ดังขึ้น กนกรัตน์สะดุ้งเฮือกเพราะตกใจแทบแย่ ก่อนจะตะปบมือถือมาดู
"อีบ้า!!”
กนกรัตน์โยนมือถือทิ้ง แต่ยังดังไม่หยุด กนกรัตน์มองชั่งใจก่อนจะตัดสินใจรับสาย
กนกรัตน์ทำเสียงปกติหวานๆ "ว่าไงมิ้ลค์?”
มิ้ลค์ร้องไห้สะอึกสะอื้น "เคท!!ไอ้โม..ไอ้โม..ตายแล้ว"
กนกรัตน์นิ่งนิดนึง ก่อนจะทำตกใจ "ห๊า!!อะไรนะ?”
มิลค์ร้องไห้โฮ "ไอ้โมตายแล้ว โดนรถชนตายเมื่อคืน"
กนกรัตน์หน้าตาเฉยมาก แต่ทำน้ำเสียงเห็นใจและตกใจ "โธ่!!โม..ไม่น่าเลย"
กนกรัตน์ไม่แคร์ เธอจิบกาแฟชื่นใจทั้งที่ยังถือสายมิ้ลค์ที่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่
ปานตะวัน ประกายเดือน และแพรวพรรณรายนั่งเม้าท์กัน
"จะข้ามถนนก็มองซ้ายมองขวามั่งนะยะ อย่ามัวแต่เหม่อเดี๋ยวจะเหมือนไฮโซแตงโม (ทำท่าสยอง) โดนชนซะเละ น่ากลัวมาก"
"อืม…น่าสงสารจังเลย" ปานตะวันพูดกับประกายเดือน "เดือน!!ต้องระวังนะ ไปไหนมาไหน ที่สำคัญ…อย่าดื่มนะ"
"ค่ะ…คุณแม่"
แพรวพรรณรายได้ที "อย่างนี้นะ…ควรจะให้เดือนมีบอดี้การ์ดซักคนได้แล้วนะ…คุณแม่?”
ประกายเดือนสะดุ้งแล้วก็รีบมองหน้าแพรวพรรณรายประมาณว่าอย่าหาเรื่อง
ปานตะวันหวงทันที "บอดี้ก่งบอดี้การ์ดอะไร? ไม่เห็นจะจำเป็น"
ประกายเดือนหน้าจ๋อยทันที
"โห่ย!!จะหวงไปถึงไหน?? กลัวไม่มีใครโหนคานเป็นเพื่อนรึไง?”
"ใช่!!ยังไงก็ต้องโหนอยู่ด้วยกัน 3 คนนี่แหละ"
"ว้าย!!!เพื่อนอะไรนิสัยไม่ดี ไม่เอานะยะ เค้าไม่ยอมเหี่ยวแห้ง หิวโหยไปทั้งชาติแน่นอนเนอะเดือนเนอะ"
ประกายเดือนยังหน้าจ๋อยอยู่
"เอางี้…ใครแต่งก่อน ที่เหลือต้องเลี้ยง"
"บ้า!! ไม่เอาด้วยหรอก" ปานตะวันว่า
"แน่ะ!!กลัวต้องเลี้ยง ฮิๆๆ"
ปานตะวันหยิบผักโยนใส่แพรวพรรณราย "นี่แน่ะ!!”
"ว้าย!! เดี๋ยวน้ำร้อนกระเด็น ฉันเสียโฉมหาสามีไม่ได้นะยะ เพื่อน!”
กนกรัตน์เดินมาเห็นก็ชะงักแล้วแอบมอง
"เสียโฉมก็ไปทำศัลยกรรมกับหมอโก้เพื่อนเธอสิ ข่าวว่าเก่งมากไม่ใช่เหรอ"
กนกรัตน์สะดุ้ง
"เก่งสิ!!!เก่งมาก!! ซุปตาร์ฮอลลีวู้ด เป็นลูกค้ามันเพียบเลย ไฮโซไฮซ้อบ้านเราก็ให้มันไปทุบหน้ากันทั้งนั้น นี่กำลังสืบอยู่นะว่ามีใครบ้าง?แหม้..ไอ้โก้มันก็ไม่ยอมบอก…จรรยาบรรณสูง"
ทุกคนหัวเราะคิกคักกัน
กนกรัตน์หวั่นใจเพราะกลัวความลับแตก
นาคินทร์มองๆ กนกรัตน์ที่ทำหน้าตาวิตก
"อาหารไม่อร่อยเหรอครับ? ไม่เห็นทานเลย?”
"เอ่อ..คือ..เคท..เคท..เหมือนจะไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ..พี่คิน" กนกรัตน์ว่า
นาคินทร์เป็นห่วง "ไปหาหมดมั้ยครับ?พี่พาไป"
กนกรัตน์ซึ้งใจ "พี่คินคะ..”
"ครับ?”
กนกรัตน์พูดความจริง "พี่คิน…รักเคทใช่มั้ยคะ?”
นาคินทร์อึ้งนิดนึงก่อนจะเฉไฉไป "ทำไมถามอย่างนั้นล่ะครับ?”
"รักมั้ยคะ? ตอบเคทสิคะ"
นาคินทร์โกหกไม่ลง "กนกต้องทานอะไรซักหน่อยนะครับ ไม่ยอมทานอะไร ถึงไม่ค่อยสบาย" นาคินทร์ตักอาหารจะป้อน "ทานนิดนึง"
กนกรัตน์อึ้งไปว่าทำไมไม่ตอบ เธอเริ่มหวั่นใจแล้วก็จำใจกินอาหารที่นาคินทร์ป้อน นาคินทร์ไม่สบายใจเพราะเริ่มไม่แน่ใจตัวเอง กนกรัตน์มองหน้านาคินทร์อย่างเริ่มระแวง
อ่านต่อตอนที่ 21