อย่าลืมฉัน ตอนที่ 20
ในขณะที่ฮันนี่เดินเข้ามาในรีสอร์ท ยังครุ่นคิดๆ แล้วก็รีบเดินไปที่โทรศัพท์ กดโทร หาชนะ
“คุณพ่อคะ ตอนนี้คุณพ่ออยู่ที่ไหนแล้วคะ?”
เขมชาติเปิดฉากอาละวาดทันที
“ทำไมมาอยู่ที่นี่?”
สุริยงเชิดหน้า แล้วสวนกลับ
“ฉันต้องถามคุณมากกว่า ว่ามาทำอะไรที่นี่ ? ระหว่างฉันกับคุณ ไม่มีเรื่องต้องพูด ต้องคุย หรือ
แม้แต่จะต้องมาเห็นหน้ากันอีก อย่ามายุ่งกับฉัน เข้ามาทางไหน เชิญออกไปทางนั้น”
เขมชาติอึ้งๆ พยายามหาทางกล่อม เสียงอ่อนลง
“โอเค คุณกำลังโกรธผม”
สุริยงสวนทันที
“ไม่ได้โกรธ แต่เกลียด เกลียดทุกอย่างที่เป็นคุณ ฉันเคยบอกคุณไปแล้วถ้าโง่ หรือบ้า ก็น่าจะคิดได้
และหยุดพฤติกรรมหลอกลวงซ้ำซากซะที”
เขมชาติรู้สึกตัวชา หน้าซีดชาๆ เมื่อเห็นว่าการพูดอย่างใจเย็นลง ไม่ได้ช่วยอะไร ก็เริ่มวางมาดร้ายใส่
ทันที
“ถ้าสิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดเมื่อกี๊ มันทำให้คุณสบายใจขึ้น ผมก็ดีใจด้วยที่คุณได้ระบายออก คราวนี้
เรามาคุยกันแบบมีเหตุผล ไม่ใส่อารมณ์กันจนเกินเหตุ”
สุริยงมองหน้าเขมชาติ แววตาเหยียด เขมชาติ พูดต่อ
“วันก่อนผมอาจจะใช้คำพูดไม่ค่อยดี คุณเลยยังอารมณ์ค้าง แต่ครั้งนี้ผมจะใจเย็น และพูดกับคุณ
อย่างดีที่สุด เพราะผมมาตามคำขอร้องของคุณเกน”
สุริยงมองเขมชาติ แววตาประหลาดใจ
“คุณเกนอยากให้คุณมาช่วยจัดงานหมั้น และงานแต่งงานของเรา”
สุริยงอึ้ง ไม่อยากเชื่อว่าเขมชาติมาเพราะเหตุผลนี้ เขมชาติพยายามยกเกนหลงให้สูงเพื่อปกปิด
ความคิดที่ต่ำมืดของตัวเอง
“คุณก็รู้ เพื่อคุณเกนผมทำได้ทุกอย่าง แน่นอนว่าคุณเกนเธอไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่สวิส และก็ไม่
จำเป็นต้องรู้ด้วย แล้วคนดีๆอย่างคุณเกนเอ่ยปากขอความช่วยเหลือถ้าไม่ใจดำจนเกินไป ช่วยกันได้ ก็ควรจะช่วย”
สุริยงปากสั่น
“ถ้าคุณเกนมาขอเอง ฉันจะไป แต่เป็นคุณ บอกตามตรง ฉันไม่เชื่อ ไม่ไว้ใจ และไม่ไป คนอย่าง
คุณอย่ามาเรียกร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งที่ตัวเองทำแต่เรื่องเห็นแก่ตัว ไม่เคยเห็นหัว หรือว่าเห็นใจใครสักนิด”
“นี่ผมกำลังขอคุณดีๆนะ ถ้าคุณยังโกรธเรื่องคืนนั้นก็ได้ งั้นผมจะชดเชยให้”
สุริยงชะงัก สงสัยว่าเขมชาติหมายความว่ายังไง
“เท่าไหร่ที่มันจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้บอกตัวเลขมาเลย”
สุริยงอึ้ง มองเขมชาติด้วยความผิดหวัง และเสียใจสุดกลั่น พลางเงื้อฝ่ามือขึ้นมา จะฟาดหน้า
เขมชาติให้หายเลวซะที หากเขมชาติล็อคข้อมือสุริยงไว้ได้ทันท่วงที
“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับผมอีก เพราะครั้งนี้ผมพูดกับคุณดีๆ”
สุริยงตบหน้าเขมชาติไม่ได้ เปลี่ยนเป็นทุบสะบัดมือและผลักเขมชาติออกไป สุดแรง เขมชาติเซไป
“ค่าชดเชยอย่างเดียวที่ฉันอยากได้ คือสิ่งที่คุณเขียนไว้ในจดหมาย ขอให้เราตายจากกัน”
เขมชาติขบกรามแน่น
“ไม่ต้องมาตามฉัน ตรงไหนที่มีคุณอยู่ ฉันไม่ต้องการจะเฉียดเข้าไปใกล้ คนที่ได้ชื่อตายจากกัน
มันจะต้องไม่เห็นกันแม้แต่เงา เข้าใจมั้ย”
เขมชาติ หน้าชาที่โดนปฏิเสธแรงยิ่งกว่าเดิม
“ออกไป ก่อนที่ฉันจะเรียกรปภ.มาลากตัวคุณออกไป คุณอาจจะใหญ่ที่บริษัทเขมชาติ แต่ไม่ใช่ที่นี่”
สุริยงพูดทิ้งท้าย ก่อนจะหันหลัง ตั้งท่าจะเดินไป เขมชาติกัดฟันกรอด
“คุยดีๆไม่ได้ สงสัยต้องเตือนความจำ”
จากนั้นก็พุ่งเข้ามากอดสุริยงทันทีด้วยความโกรธ และ ความหวง ไม่อยากเสียของรัก พลางพยามจู่
โจมกอดรัดฟัดเหวี่ยง สุริยงทั้งดันทั้งผลัก ตบตี แต่เขมชาติก็ไม่ยอม
ทันใดนั้นเสียงชนะก็ดังขึ้น
“คุณสุ”
ทั้งเขมชาติและสุริยงตกใจ เขมชาติรีบผละออกไปทันที สุริยงก็ผลักสุดแรงเกิด ชนะเดินเข้ามา มองทั้งเขมชาติและสุริยงที่อยู่ในอาการแปลกๆ ด้วยความสงสัย
“สวัสดีครับ คุณเขมชาติ”
เขมชาติ พยายามวางท่า เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“สวัสดีครับ ดีใจด้วยนะครับ สำหรับพนักงานใหม่ หวังว่าการที่เขา “ผ่านมือ” ผมมาแล้ว จะทำให้
เขาทำงานกับคุณได้คล่องขึ้น”
เขมชาติพูดประชดแบบเหยียดๆ
สุริยงเจ็บจี๊ดขึ้นมา หน้าเชิดทันที ใจเต้นโครมคราม ด้วยความแค้นสุดแค้น
“คุณคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามตัว “คนของผม” กลับไปนะครับ”
ชนะหยั่งเชิง เขมชาติชะงักกึ้ก กับคำว่า “คนของผม” แต่ฝืนหัวเราะกลบเกลื่อน
“ผมเป็นคนใจกว้างครับ พนักงานรู้งานแบบนี้ ต้องแบ่งๆกันใช้”
พูดพลางปรายตามองหน้าสุริยงแบบดูถูก
สุริยงตาวาว ด้วยความแค้น ก่อนจะหันมาพูดกับชนะ พร้อมรอยยิ้มเชือดเฉือน
“สุเป็นประเภท “ขี้เบื่อ” ค่ะ ชอบเปลี่ยนเจ้านายบ่อยๆ ไม่ชอบอะไรซ้ำซาก แต่ถ้า เจอเจ้านายดีๆ
ก็อยู่ยาวค่ะ”
“หวังว่าผมจะเป็นเจ้านายผู้โชคดีคนนั้นนะครับ”
ชนะยิ้มรับ หน้าบาน สุริยงยิ้มตอบ เขมชาติปรายตามามองด้วยความหมั่นไส้
“คุณชนะทราบเรื่องงานแต่งงานของผมกับคุณเกนแล้วใช่มั้ยครับ”
“ใช่ครับๆ แสดงความยินดีด้วยนะครับ”
“ขอบคุณครับ เพราะงานแต่งงานนี่แหละ ที่ทำให้ผมต้องมาที่นี่ คือ คุณเกนเขาอยากให้สุริยงไปช่วย
จัดงานน่ะครับ เขาไม่ไว้ใจพวกเวดดิ้งแพลนเนอร์”
ชนะหันมาทางสุริยง “แล้วคุณสุว่ายังไงครับ?”
“ดิฉันต้องฝากขอโทษคุณเกนหลงด้วยค่ะ แต่ดิฉันเลือกทำงานที่นี่ ฉันอยากทำงานของคุณชนะให้ดี
ที่สุด”
ชนะฟังสุริยงแล้วยิ้มปลื้ม เขมชาติมองอย่างหมั่นไส้
“ทางเราก็ไม่ได้ขอให้กลับไปอยู่ยาว แค่อยากได้มาช่วยงาน แค่ชั่วคราวพอจัดงานนี้เสร็จแล้วจะไป
ไหน ก็ไป เชิญตามสบาย”
เขมชาติจงใจพูดกระแทก ให้สุริยงรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ
“ถึงจะแค่ชั่วคราว ดิฉันก็คงไม่รับเพราะเวลาถึงแม้จะสั้นๆ ก็มีค่า ดิฉันอยากทำเฉพาะสิ่งที่อยากทำ
เท่านั้น”
ชนะชักรู้สึกว่าบรรยากาศไม่ชอบมาพากล “เอ่อ จริงๆทางผมก็ไม่มีปัญหานะครับ ถ้าเพื่อคุณเกน ผม
ให้คุณสุไปได้ แต่สงสัยว่าคุณเขมคงต้องเคลียร์กับคุณสุเธอเองแล้วล่ะครับ”
สุริยงรีบบอกทันที
“จะไม่มีการคุยอะไรกันอีกแล้วค่ะ สุพูดคำไหนคำนั้น ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน”
ชนะอึ้ง นึกแปลกใจที่สุริยงดูใจแข็งกับเขมชาติเป็นพิเศษ
“ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว สุขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะ เสียเวลามามากแล้ว”
เขมชาติเห็นสุริยงจะเดินหันหลังจากไปง่ายๆ ก็รีบพูดโพล่งออกมาด้วยความเจ็บใจ
“คุณชนะครับ รีสอร์ทคุณสวยดีนะครับ บรรยากาศก็ดี พนักงานก็เป็นมิตร ผมว่า ผมขอพักที่นี่สัก
วันสองวันนะครับ ไม่ทราบว่ายังพอมีห้องว่างหรือเปล่าครับ”
สุริยงอึ้ง หันขวับมา ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เขมชาติยิ้ม สายตาบ่งบอกว่าเรื่องมันไม่จบง่ายๆแน่
ฮันนี่ทำหน้าตื่นตกใจ เมื่อได้ยินบิดาพูดถึงเขมชาติ
“คุณน้าหน้ายักษ์มาพักที่รีสอร์ทเราเหรอคะ แย่แล้ว”
“ฮันนี่ พ่อบอกแล้วไงคะ ว่าอย่าเรียกคุณอาเขมชาติเขาแบบนั้น”
“แต่เขาเป็นคนไม่ดีนี่คะ”
ฮันนี่เถียง ชนะยิ่งทำสีหน้าปราม ฮันนี่ก็ยิ่งพูด
“ตอนที่เขามาหาน้าสุ เขาโกหกว่าชื่อเอื้อ เพื่อให้น้าสุออกมาหาเขาค่ะ”
ชนะจับฮันนี่หันหน้ามามองกัน และพูดน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“น้องฮันนี่รู้ว่าการโกหก เป็นลักษณะของ “คนไม่ดี” แต่วันนี้น้องฮันนี่ก็โกหกใช่มั้ยคะ”
“คุณน้าหน้ายักษ์ฟ้องคุณพ่อใช่มั้ยคะ?”
“คุณพ่อรู้จากใครไม่สำคัญ สำคัญที่ฮันนี่ทำจริงๆ ฮันนี่รู้จักเรื่อง “เด็กเลี้ยงแกะ” ใช่มั้ยคะ?”
ชนะยกนิทานสอนใจ
ฮันนี่ก้มหน้า อย่างรู้ตัวเลย
“รู้จักค่ะ เด็กเลี้ยงแกะ ชอบโกหกให้ชาวบ้านแตกตื่นว่ามีหมาป่ามากินแกะ พอวันหนึ่งมีหมาป่ามา
กินแกะจริงๆ พอวิ่งไปบอกชาวบ้านขอความช่วยเหลือ ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะทุกคนคิดว่าโกหก”
“ใช่แล้วครับ เก่งมาก การโกหก จะทำให้คนน่าเชื่อถือของคนเราลดลง จนวันหนึ่งจะไม่มีใครเชื่อ
คำพูดเราอีกเลย ฮันนี่ไม่อยากเป็นแบบนั้นใช่มั้ยครับ”
ฮันนี่เสียงอ่อย
“ไม่อยากค่ะ ฮันนี่ไม่อยากเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ต่อไป ฮันนี่จะไม่โกหกอีกแล้วค่ะ”
ชนะยื่นหน้าไปหอมแก้มลูกสาว “เก่งมากลูก”
ฮันนี่ยิ้มปลื้ม
“แต่ แล้วผู้ใหญ่เลี้ยงแกะหล่ะคะ เราจะปล่อยให้ผู้ใหญ่เลี้ยงแกะ ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือแบบนั้น มา
อยู่ใกล้ๆน้าสุดเหรอคะคุณพ่อ?”
ฮันนี่ยิงคำถามซื่อๆ แต่ก็สะท้านเข้าไปกลางใจของชนะ
สุริยงบอกกับฮันนี่ทางโทรศัพท์
“น้าสุโตแล้ว ฮันนี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ไม่มีใครทำอะไรน้าสุได้หรอกค่ะ น้าสุจะดูแลตัวเองให้ดีจริง
ค่ะ น้าสุรับปาก ฮันนี่ รีบเข้านอนได้แล้วนะคะ”
ฮันนี่อยู่ในชุดนอน หน้าจ๋อยๆนิดๆ ในใจยังเป็นห่วง แต่ต้องยอมไปนอนแต่โดยดี
“ก็ได้ค่ะ น้าสุดูแลตัวเองดีๆนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้ชนะ
“ขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมอธิบายเท่าไหร่ แกก็ไม่ยอมฟัง เลยต้องให้คุณช่วยคุยให้”
สุริยง ตอบด้วยแววตาอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ”
“คุณสุครับ มีอีกเรื่องนึง ที่ผมสงสัย”
ชนะ พูดอย่างเกรงใจ
“เมื่อตอนเย็น ระหว่างที่คุยกันกับคุณเขม ผมสังเกตว่าคุณกับเจ้านายเก่าดูเหมือนจะมีอะไร
บางอย่างที่ไม่ลงรอยกัน ผมขอโทษนะครับ ถ้าผมละลาบละล้วง หรือถามตรงๆเกินไป คือ ผมจะได้วางตัวถูก”
สุริยง คิดและ ตัดสินใจบอกชนะเพื่อกลบเกลื่อน
“แค่เคยมีปัญหาเรื่องงานกันน่ะค่ะ แต่ตอนนี้เคลียร์เรื่องนั้นจบไปแล้ว”
ชนะ ฟังแล้วก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ
“จบแน่เหรอครับ?”
“แน่ค่ะ” สุริยงย้ำ “คุณชนะวางใจได้ สุจะไม่เอาปัญหาจากที่ทำงานเก่ามาทำให้เป็นปัญหากับที่นี่
สุจะดูแลคุณเขมชาติในฐานะแขกคนหนึ่งของรีสอร์ท อย่างดีที่สุด จะไม่ให้มีปัญหาอะไรทั้งนั้นค่ะ”
สุริยงบอกชนะอย่างเข้มแข็ง แววตาฮึด เตรียมตั้งกำแพงขึ้นมารับศึก
คุณพจน์กับเกนหลง กำลังนั่งดูรูปที่เกนหลงไปลองชุดไทย รูปถูกเปิดดูทีละภาพๆ ไล่มาจากภาพ
เดี่ยวของเกนหลง
คุณพจน์มองลูกสาวอย่างภูมิใจ
“เกนใส่ชุดไทยได้สวยมาก สวยเหมือนแม่เราไม่มีผิด”
เกนหลงยิ้มตอบบิดา แต่แววตากลับมีความไม่สบายใจซุกซ่อนอยู่. คุณพจน์พลิกอัลบั้มภาพต่อไป
แล้วต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นรูปภาพคู่ระหว่างเกนหลงกับเอื้อ สองคนยืนคู่กันราวกับเป็นคู่หมั้นกันเสียเอง
“เอ๊ะ คุณเอื้อนี่ ทำไมถึงมาถ่ายคู่กันได้”
เกนหลง อธิบายอย่างระมัดระวังคำพูด ด้วยไม่อยากให้บิดาโกรธเขมชาติ
“ พอดีชุดไทยพวกนี้เป็นของคุณยายของพี่เอื้อน่ะค่ะ พี่เอื้อเลยเป็นคนพาเกนไปเลือก”
คุณพจน์พลิกหาภาพต่อไป และต่อไป เกนหลงสีหน้าไม่ดี รู้ว่าบิดากำลังหาอะไร
“เขมเขาไม่ได้ไปด้วยหรอกค่ะ พอดีว่าเขาต้องไปเคลียร์งานที่ต่างจังหวัด เพื่อให้มีคิวว่างตอนใกล้ๆวัน
หมั้น”
คุณพจน์ปิดอัลบั้มภาพลง แม้ไม่ใส่อารมณ์ แต่สีหน้าแสดงว่าไม่ค่อยพอใจ
“อย่าโกรธเขมเขาเลยนะคะ เกนไม่อยากจุกจิกมาก เดี๋ยวจะกลายเป็นทะเลาะกันตั้งแต่ก่อนหมั้น”
“แล้วเรา โอเคเหรอที่เขมเขาไม่ว่างแบบนี้” คุณพจน์ย้อนถาม
“โอเคสิคะ นี่มันแค่งานหมั้น แต่ถ้าเขาไม่ว่างมาลองชุดแต่งงานเมื่อไหร่ ตอนนั้นแหละ เกนไม่โอเค
แน่ๆค่ะ”
เกนหลงพยายามยิ้มเพื่อไม่ให้บิดาเครียดตาม คุณพจน์พยักหน้ารับ หากแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมอง
เกนหลงอย่างแอบห่วงอยู่ลึกๆ
แม้เวลาจะล่วงเลยมาจนเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว หากสุริยง ที่อยู่ในห้องนอนส่วนตัวภายในรีสอร์ท
ยังคงเปิดแฟ้มศึกษางานไปเรื่อยๆ พลันเสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ แขกมีปัญหาเรื่องเตียง ห้องไหนนะ”
ภายในห้องพักของเขมชาติ แม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยภายในรีสอร์ท ยืนอยู่บริเวณปลายเตียง
ในขณะที่เขมชาติแกล้งโวยวายเสียงดัง
“ปูเตียงไม่ตึง โยนเหรียญไม่เด้งผมนอนไม่ได้”
แม่บ้านยืนเหวอ
“ดิฉันขอโทษค่ะ แต่นี่ปูตึงมากที่สุดแล้วนะคะ แล้วดิฉันก็ปูใหม่ 5 ครั้งแล้วนะคะ”
สุริยงเดินเข้ามาในห้อง ในจังหวะที่เขมชาติยังคงโวยวายอย่างหนัก
“5 ครั้งแล้วไง ก็ยังไม่ตึง ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไป แล้วไปเรียกผู้จัดการคุณมา”
สุริยงสวนขึ้นมทันที “ดิฉันมาแล้วค่ะ”
เขมชาติชะงัก แกล้งทำท่าขรึม แต่แอบอมยิ้มสะใจ
“ออกไปก่อนเดี๋ยวสุดูแลเอง”
แม่บ้านพยักหน้าแล้วเดินออกไป
เมื่ออยู่ภายในห้องกันตามลำพังสองต่อสอง สุริยงเปิดฉาก
“ดิฉันทราบมาว่าคุณมีปัญหาเรื่องเตียง เท่าที่เห็น เตียงนี้ก็ตึงดี ไม่มีปัญหาอะไรนี่คะ”
เขมชาติยิ้มเยาะ หยิบเหรียญสิบมาโยนอีกที เห็นว่าเหรียญ “แปะ”ไปบนเตียง นิ่งๆ
เขมชาติพูดกวนๆ “ไม่เด้ง นอนไม่ได้”
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 20 (ต่อ)
สุริยงยิ้มมุมปากรู้ทัน “กรุณารอสักครู่ค่ะ”
ก่อนที่จะลงมือปูเตียง ด้วยวิชาการโรงแรมอย่างรวดเร็วราวกับมืออาชีพ จากนั้นก็โยนเหรียญลงไป
และเหรียญเด้ง ขึ้นมาอย่างง่ายดาย เขมชาติเหวอนิดๆ เพราะคิดไม่ถึง
สุริยง ยิ้มมอย่างผู้ชนะ
“เด้งแบบนี้ คงนอนได้ ไม่มีปัญหาแล้วนะคะ”
เขมชาติอึ้ง ในขณะที่สุริยงพูดหน้านิ่งๆ แต่กวนสุดๆ
“ถ้าคุณคิดจะแกล้งป่วนด้วยมุกเด็กๆ แบบนี้ควรมีข้อมูลสักนิด ฉันจบการโรงแรมที่สวิส และใช้วิชาที่
เรียนมา ดูแลสามีถึงจะไม่เคยทำงานโรงแรมมาก่อน แต่ฉันก็รู้ว่า ต้องทำยังไง ถ้าคิดจะป่วนก็เชิญแต่ขอบอกว่าเหนื่อย
เปล่า เพราะฉันก็จะแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ และไม่มีวันกลับไปจัดงานให้คุณ”
และย้ำว่า
“เก่งเรื่องสร้างปัญหาอยู่แล้วนี่ เชิญ”
สุริยงปิดท้ายอย่างรู้ทัน และหันหลังตั้งท่าจะออกไป ทว่าเขมชาติรีบเดินมาดัก พลางดันตัวติดผนังแล้วยืนค่อมไว้
“เข้ามาถึงในห้อง คิดเหรอว่าผมจะยอมปล่อยออกไปง่ายๆ”
สุริยงยักไหล่
“แล้วคุณคิดเหรอว่าฉันจะยอมเข้ามาในห้องผู้ชาย ที่เชื่อถือไม่ได้โดยไม่คิดป้องกันตัว”
จากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง “ รปภ”
เขมชาติ ตกใจ โวยวายเสียงหลง “เฮ้ย”
ครู่เดียว รปภ 3 คน ก็ วิ่งกรูเข้ามาในห้อง เขมชาติรีบเด้งตัวออกจากสุริยงทันที
“ผู้จัดการ มีอะไรครับ”
เขมชาติหันมาถลึงตาใส่สุริยง “ นี่คุณ เรียกรปภ.มารอเลยเหรอ ? “
สุริยงจ้องหน้ากลับ
“ใช่ คนอย่างฉันเจ็บแล้วจำ ถ้าคุณลูกค้าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ดิฉันขอตัว ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนนะคะ ฝันดีค่ะ”
สุริยงยิ้มร้ายกาจอย่างไม่กลัวเกรง ก่อนที่จะเดินออกไป รปภ ประกบตามติดๆ เขมชาติมองตามยัง
เหวอๆ อยู่ เสียงประตูปิดลง เขมชาติสบถออกมา
“บ้าจริงๆ พลาดได้ไงวะ”
เกนหลงยังนั่งคิด นั่งหาแบบสถานที่ แบบแหวน แบบผม แบบแต่งหน้าอยู่ในห้องรับแขกตามลำพัง
คุณพจน์เดินลงมาจากห้องนอนแล้วก็ชะงัก ที่เห็นลูกสาวง่วนอยู่กับการเตรียมงานดึกๆ ดื่นๆ อยู่คนเดียว พลางมองอย่างสงสาร ก่อนที่จะครุ่นคิด พยายามหาทางออก
เช้าวันรุ่งขึ้น คุณพจน์จึงได้เชิญเอื้อมาพบ และนั่งพูดคุยกันภายในห้องทำงาน
“ได้ครับ ผมจะมาช่วยเกนจัดงานเองครับ”
เอื้อรับปาก คุณพพจน์ฟังแล้วก็เบาใจ
“ขอบใจนะ ที่เอื้อเข้าใจอา”
เอื้อยิ้มให้ผู้อาวุโสกว่า
“เข้าใจ และยินดีมากครับ งานสำคัญแบบนี้ ในชีวิตก็คงจัดแค่ครั้งเดียว ถ้าผมพอช่วยได้ ก็ยินดี”
คุณพจน์มองหน้าเอื้อ แล้วตัดสินใจพูดสิ่งที่คาใจ
“แปลกดี ที่คนพูดเป็นคุณเอื้อ แทนที่จะเป็น”
นึกถึงเขมชาติ แต่ไม่พูดออกมา
เอื้อ ยิ้มให้อย่างเห็นใจ “แล้วนี่เกนเขาอยู่ไหนเหรอครับ”
ในขณะที่คนที่ถูกพูดถึง กำลังสาละวนกับการคุยโทรศัพท์อย่างวุ่นวาย บนโต๊ะมีข้อมูลสำหรับเตรียมงานหมั้นกองเอาไว้เต็มโต๊ะ หน้าจอแท็ปเล็ตโชว์รายละเอียดสิ่งต่างๆที่ต้องทำไว้ยาวเหยียด
“ฉันยังคอนเฟิร์มไม่ได้ค่ะ พอดีว่ายังติดต่อว่าที่คู่หมั้นไม่ได้”
เกนหลงสีหน้าเครียดๆ เอื้อเดินมาส่งยิ้มให้นิดๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าไม่ทัน ก็ไม่เป็นไร” เกนหลงวางสายอย่างอารมณ์เสีย ก่อนที่จะรีบหันมาบอกเอื้อ”
รู้มั้ยคะ ถ้าพี่เอื้อมาช้ากว่านี้อีกนิดเดียว เกนจะไม่มงไม่หมั้นแล้ว นึกไม่ถึงว่ารายละเอียดจะเยอะแยะขนาดนี้”
“ติดต่อเขมชาติไม่ได้เลยเหรอ”
เกนหลงถอนหายใจเบาๆ “เขารับสายนะคะ แต่บอกว่าไม่ว่าง ติดงานตลอด เฮ่อ”
เอื้อมองเกนหลงด้วยความเห็นใจ ที่ต้องมาเครียดอยู่ลำพัง พลางหยิบแท็ปเล็ตของเกนหลงขึ้นมาดู“เกนลิสต์งานไว้ได้ละเอียดดีนะ นี่ขนาดว่าเครียดนะเนี่ย”
“ ไม่ต้องมาปลอบใจกันเลย ไงคะ นายธนาคารใหญ่มี อะไรจะแนะนำมั้ย”
เอื้อ คิดๆ ก่อนจะตัดสินใจบอก
“เกนลองทำแบบนี้นะ แทนที่จะลิสต์ทุกอย่างไว้ด้วยกัน ให้ลองจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง” จากนั้นเอื้อ ก็จัดแจงทำตารางแบ่งเป็น 4 ช่อง แบ่งแยกความสำคัญไว้อย่างชัดเจน
“งั้นเรามาช่วยกันเอาลิสต์พวกนี้ ใส่ลงในตารางเลยดีมั้ย?”
เกนหลงพยักหน้า เอื้อช่วยเกนหลงทวนลิสต์ต่างๆเพื่อใส่ในตาราง พอมีเอื้อเป็นคู่คิด เกนหลง ก็เริ่มสงบและเริ่มสนุกขึ้น เอื้อยิ้มๆเมื่อเห็นเกนหลงเริ่มอารมณ์ดี
วิบูลย์ระล่ำระลักพูดโทรศัพท์
“ตอนนี้ผมไม่รู้จริงๆ ครับว่าคุณเขมอยู่ไหน? ผมเองก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกันครับ รู้แค่ว่าไปพบลูกค้าที่
ต่างจังหวัด”
อีกด้านหนึ่ง เอื้อยืนคุยโทรศัพท์หน้าบึ้งๆ ในขณะที่เกนหลงดูหนังสือ เตรียมงานง่วนอยู่ทางด้านหลัง เอื้อจงใจพูดเหน็บเขมชาติ
“ลูกค้า คงจะเป็นคนสำคัญมาก ถึงกับทิ้งการจัดงานหมั้นของตัวเองแล้วรีบไปแบบนี้”
วิบูลย์ฟังประโยคหลังของเอื้อ รู้สึกได้ว่ากำลังตำหนิเจ้านายตัวเอง
“เอ่อ ผมก็ไม่ทราบจริงๆครับคุณเอื้อ คุณเขมไม่ได้บอกว่าไปพบใคร”
เอื้อสรุปเสียงเข้ม
“เอาเป็นว่า ติดต่อได้เมื่อไหร่ บอกเจ้านายคุณด้วยว่าให้มาช่วยคุณเกนหลงจัดงาน ตอนนี้คุณเกนหลง
เธอต้องรับผิดชอบทุกอย่างอยู่คนเดียว เขาควรมาทำหน้าที่ของคู่หมั้น ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป”
เอื้อวางสายไปเลย ด้วยความไม่พอใจ วิบูลย์ฟังเอื้อพูด แล้วก็เหวอไปเหมือนกัน ก่อนที่จะค่อยๆ
วางสายตามไปอย่างเบลอๆ
สมคิดนั่งอยู่ข้างๆ ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“คุณเอื้อจัดชุดใหญ่เลยสิ. เฮ้อ! แต่นายเราก็ทำตัวให้สมควรโดนด่า” วิบูลย์หันมาตั้งท่าจะแย้ง สมคิดรู้ทัน รีบพูดต่อ
“ก็จริงนี่ งานหมั้นตัวเองแต่หายไปไหนก็ไม่รู้ เป็นผมถ้ามีผู้ชายแบบนี้มาขอหมั้นกับลูกสาวหรือน้องสาว ผมก็โกรธ ดูสิ อยู่ๆก็หายไป ที่สำคัญ หายไปไหนก็ไม่มีใครรู้”
วิบูลย์คิดแล้วจึงพูดออกมา
“แต่ผมคิดว่า ผมรู้ว่าคุณเขมหายไปไหน?”
สมคิดหันขวับมาด้วยความสนใจ
เขมชาติกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่บนเก้าอี้ชายหาด ทันใดนั้นมีพนักงานเดินมาหาพร้อมโทรศัพท์ของโรงแรม
“คุณเขมชาติครับ มีโทรศัพท์ด่วนมาจากผู้ช่วยของคุณที่ชื่อคุณสมคิดครับ”
“คุณเอื้อฝากมาบอกแบบนี้ครับ” สมคิดพูดมาทางโทรศัพท์ “คุณเขมครับ ที่หายไปเนี่ย คุณจะไปตาม
หาคุณสุใช่มั้ยครับ?”
เขมชาติยืนยันหนักแน่น
“ที่ผมมาตามเขา เพราะเป็นความต้องการของคุณเกน ผมไม่ได้บอกใคร เพราะไม่อยากให้เรื่องมัน
ยุ่งยากวุ่นวาย ผมมาตามสุริยงกลับไปเป็นผู้ช่วยให้คุณเกน ตามที่เขาขอผมไว้”
สมคิด ส่ายหน้ เบื่อกับข้ออ้างของเขมชาติ
“ถ้าอยากทำเพื่อคุณเกนหลงจริงๆ ควรรีบกลับมาช่วยงานคุณเกนหลง ก่อนที่ทางนั้นจะไม่พอใจไป
มากกว่านี้ ผมพูดเพราะหวังดี ไม่อยากเห็นคุณต้องเสียใจภายหลัง”
เขมชาติฟังแล้วก็ยิ่งกังวล แต่ด้วยทิฐิ ยังไงก็ไม่ยอม
“ขอบคุณที่หวังดี ยังไงผมก็จะต้องกลับไปแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผมจะไม่กลับไปมือเปล่า”
จากนั้นก็วางสายไปเลย สมคิดรีบเรียกไว้ แต่ไม่ทัน จึงจำต้องวางสายตาม
“ทำไมคุณสุถึงได้มีอิทธิพลกับคุณเขมมากมายขนาดนี้นะ อยากรู้จริงๆ ทำไม ทำไม ทำไม”
แววตาสมคิดเต็มไปด้วยความสงสัย
หลังจากวางสายของสมคิด เขมชาติก็หันไปมองสุริยงที่กำลังเดินตรวจงานอยู่อีกมุมหนึ่ง ไกลออกไป สักพักสุริยงรู้สึกเหมือนมีคนมอง พอหันมาเห็นเขมชาติมองอยู่ก็มองตอบไม่กลัว เชิดหน้าใส่ แล้วก็เดินไปทันที
เขมชาติ แค้น ไม่ยอม พลันก็หันไปเห็นป้าย ยินดีต้อนรับพนักงานบริษัท “ด้ายไทย”
“ด้ายไทย มาพรุ่งนี้”
เขมชาติยิ้มร้าย
“โอเค เรียบร้อย” เกนหลงยิ้มกว้างพลางปิดแท็บเล็ต
เอื้อดูนาฬิกา แล้วหันมาพูดกับเกนหลง
“ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม เกนก็บอกพี่แล้วกัน ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยววันนี้พี่ต้องไปก่อน ต้องไปรับนายสองแสบที่โรงเรียน”
เกนหลง ตาวาว “ไก่ ไข่ เหรอคะ”
เอื้อยิ้มรับแทนคำตอบ เกนหลงพูดต่อ
“คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอตั้งนาน”
“แล้วอยากเจอรึเปล่าล่ะ”
เกนหลงไม่ตอบ แต่หันไปหยิบกระเป๋าเรียบร้อย แล้วลุกขึ้นเตรียมตัวเสร็จสรรพ
“พร้อมค่ะ”
แล้วทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน
สุริยงถามขึ้นมาด้วยแปลกใจ
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมกรุ๊ปทัวร์ที่จองไว้ตอนบ่ายถึงได้ยกเลิก”
พนักงานที่นั่งประชุมกันอยู่ประมาณ 4-5 คน หน้าเครียดหัวหน้าเซลล์รีบตอบ
“ทางลูกค้าบอกว่ามีผู้สนับสนุนอัพเกรดห้องพักให้ แล้วให้ไปพักที่โรงแรมห้าดาวแทนครับ”
“หมายความว่าเขายอมเสียค่ามัดจำที่พักให้กับเราฟรีๆงั้นเหรอ”
“ครับ”
สุริยง ถึงกับมึนไปหมด ไม่เคยพบเคยเจออะไรแบบนี้
“เอ ทำไมอยู่ดีๆ ลูกค้าถึงได้ยกเลิกกะทันหันแบบนี้ หรือเขาไม่พอใจอะไรเรา ลูกค้า 200 คนยกเลิก
ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ มันต้องมีอะไรแน่ๆ”
หัวหน้าเซลล์เพิ่งนึกออก
“อ้อ ทาง ผจก บริษัทด้ายไทย บอกว่ามีสปอนเซอร์ของโรงงาน ออกค่าที่พักส่วนต่างให้ครับ รู้สึกว่า
สปอนเซอร์คนนี้จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ของโรงงาน”
สุริยงชะงัก “ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทผลิตด้าย”
สุริยงนึกรู้ทันทีวส่าหมายถึงใคร
ในขณะที่คนต้นเหตุ กำลังนอนรับลมอย่างสบายอารมณ์บนเก้าอี้ริมชายหาด
“ใช่ ผมเป็นคนบอกให้พวกเขาย้ายไปพักที่อื่นเอง”
สุริยงยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ ไม่พอใจอย่างแรง
“คุณทำแบบนี้รู้หรือเปล่าว่าที่นี่จะเสียหายขนาดไหน?”
เขมชาติหันมาตอบกวนๆ
“รู้ เพราะรู้ถึงทำและผมจะไม่หยุดแค่นี้ ยังมีลูกค้าบริษัทรางผ้าม่าน บริษัทส่งออกสิ่งทอ สีย้อมผ้า
และบริษัททัวร์อีกหลายแห่งที่ผมมีคอนเนคชั่น ผมพร้อมจะทำทุกอย่าง เพียงเพื่อให้รีสอร์ทของคุณไม่มีลูกค้า คุณจะ
ได้ว่าง ไปจัดงานให้คุณเกน”
เขมชาติกับสุริยงจ้องหน้าไม่มียอมกัน สุริยง ทั้งโกรธทั้งแค้น ทั้งนึกไม่ถึง
“คุณทำทั้งหมด เพียงเพราะต้องการให้ฉันกลับไปจัดงานให้คุณอย่างนั้นเหรอ? คุณยอมทุ่มเงิน
เพียงแค่นี้เนี่ยนะ?”
“ใช่ และผมพร้อมจะจ่ายมากกว่านี้ ที่ผมยอมทำทุกอย่างก็เพื่อคุณเกน เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่ยอม
กลับไป เพราะคิดว่าผมต้องการคุณและอยากจะเล่นตัวเพื่อเพิ่มมูลค่าก็เลิกคิดได้แล้ว”
“อย่าหลงตัวเอง ผู้ชายอย่างคุณไม่มีค่ามากขนาดนั้น”
เขมชาติจ้องหน้าสุริยงเขม็ง
“พิสูจน์สิ ว่าผมไม่มีค่า “ต่อความรู้สึกคุณ” พิสูจน์ว่าผมไม่ได้มี “อิทธิพล” เหนือชีวิตคุณ พิสูจน์ด้วย
การกลับไปจัดงานหมั้นและงานแต่งให้ผมกับคุณเกน ทำให้เห็นว่าคุณอยู่ใกล้ผมได้โดยไม่รู้สึกอะไร”
สุริยงนิ่งฟัง พลางคิด ในขณะที่เขมชาติรุกหนัก
“ถ้าคุณไม่ “กล้า”ไป ผมจะสรุปว่า คุณยังหวั่นไหวและไม่กล้าอยู่ใกล้ผม และบางทีคุณอาจจะเศร้า
เสียใจ ทำใจไม่ได้ที่เห็นผมกับคุณเกนมีความสุข คุณอาจจะอิจฉาคุณเกน และอยากแต่งงานกับผมแทนเธอก็ได้”
สุริยงกัดฟันกรอด แล้วตัดสินใจในทันที
“ ถ้าการที่ฉันกลับไปมันพิสูจน์ว่าฉันรังเกียจ สะอิดสะเอียน และขยะแขยงผู้ชายอย่างคุณ ก็ได้ฉันจะ
“ฝืนใจ” กลับไป”
เขมชาติสะอึก จุก กับคำด่าและอารมณ์ที่แสดงออกมาว่าเกลียดชัง
“ฉันจะช่วยคุณเกนจัดงานหมั้นและงานแต่ง จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยหลังจากนั้นหวังว่าเราจะไม่
ต้องเจอหน้ากันอีกตลอดชีวิต”
สุริยงสะบัดหน้าและเดินจากไปด้วยความโกรธ เขมชาติมองตาม ถึงจะเจ็บอยู่บ้างที่โดนรังเกียจอย่าง
เห็นได้ชัด แต่ก็ยังแอบสะใจที่ทำได้สำเร็จ
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 20 (ต่อ)
“เมื่อวานนี้พี่เขมมาหาไก่กับไข่ที่นี่เหรอครับ?”
เกนหลงถามด้วยความแปลกใจอย่างแรง
ไก่ ไข่ ตอบพร้อมกัน “ครับ”
“แต่เมื่อวานนี้เขมบอกว่าต้องเคลียร์งานทั้งวัน ไปลองชุดก็ไม่ได้ ไปดูของชำร่วยก็ไม่ได้ แล้วทำไม
ทำไมมาที่นี่”
เกนหลงเริ่มหน้าเสีย เอื้อมองด้วยความเป็นห่วง แล้วก็นั่งลงคุยกับไก่ ไข่
“แล้วพี่เขมมาหาไก่กับไข่ทำไมครับ?”
“มาถามแม่หนูเล็ก แม่หนูเล็ก แม่หนูเล็ก เต็มไปหมดเลยครับ”
เกนหลงอึ้ง อื้อหันมามองเกนหลงด้วยความเห็นใจ ก่อนที่จะถามคู่แฝดต่อ
“ถามเกี่ยวกับแม่หนูเล็กว่ายังไงบ้าง แล้ว ไก่ไข่ ตอบว่าอะไรบ้างครับ?”
เอื้อรอฟังคำตอบ ไก่ กับไข่ มองหน้ากัน แล้วก็เล่าให้เอื้อกับเกนหลงฟังเท่าที่จะนึกออก
ฮันนี่เข้ามากอดสุริยง แล้วเริ่มงอแง
“น้าสุไม่ไปไม่ได้เหรอคะ ฮันนี่คิดถึงทำไมต้องกลับไปช่วย น้าเกนด้วยคะ?”
ชนะรีบปรามลูกสาว
“ฮันนี่ น้าสุไปไม่นานและงานนี้ก็สำคัญกับน้าเกนมากนะ พ่อก็ต้องไปช่วยเหมือนกัน อย่างองแง
นะลูก”
ฮันนี่มองชนะ อย่างพยายามเข้าใจ ก่อนที่จะหันมาพูดกับสุริยง
“จัดงานให้น้าเกนเสร็จ ต้องรีบกลับมาเลยนะคะ ฮันนี่จะรอ”
สุริยงรับคำ
“แน่นอนค่ะ น้าสุต้องรีบกลับมาทำงานให้คุณพ่อด้วย ขอบคุณคุณชนะมากนะคะ สุไปก่อนนะคะ”
สุริยงกำลังจะเดินไป ชนะนึกได้ถามขึ้น
“อ้อ คุณสุครับ ผมมีเรื่องนึงที่สงสัย ทำไมคุณเกนไม่มาตามคุณเอง ทำไมต้องให้คุณเขมเป็นคนมา
ตาม ตกลงคุณเกน หรือคุณเขมที่อยากให้คุณไปช่วยงานกันแน่ แล้วคุณเกนเขารู้หรือเปล่าว่าคุณสุอยู่ที่นี่”
สุริยงอึ้งไป หาคำตอบให้ชนะไม่ได้
เอื้อหันมาทางเกนหลงที่ยืนหน้านิ่งเครียดอยู่ที่เบาะหน้ารถข้างคนขับ ในขณะที่ไก่กับไข่นั่งอยู่ที่เบาะ
หลัง
“เกนรู้มาก่อนหรือเปล่าว่าหนูเล็กไปทำงานกับคุณชนะ”
เกนหลงส่ายหน้า
“ไม่ทราบเลยค่ะ เกนทราบจากเขมแค่ว่า คุณสุไม่ได้ทำงานกับพี่เอื้อแล้ว และก็หาตัวไม่เจอ แต่เกนไม่
เข้าใจว่าทำไมเขมต้องโกหกว่าติดงาน ไม่ยอมไปลองชุด แต่แอบมาถามหาคุณสุกับไก่ ไข่ ทำไมเขาไม่บอกตรงๆ ทำไม
ต้องโกหก”
เอื้อพยายามปลอบใจ
“เกน ใจเย็นๆพี่เคยถามแล้วไง ถ้าเป็นแบบนี้อีก เราจะทำยังไง ? ไหนบอกว่าจะไว้ใจ”
เกนหลงหลับตาพยายามทำใจให้ยอมรับแต่ทำไม่ได้
“ไม่ได้ค่ะ เกนยังทำไม่ได้ เกนทำแบบพี่เอื้อไม่ได้”
“อยากตามไปดูที่บ้านคุณชนะอีกมั้ย ?”
เกนหลง คิด แล้วก็ส่ายหน้า
“ ไม่ค่ะ เกนจะไม่วิ่งไล่ตามอีกแล้ว เกนจะรอคำอธิบาย ถ้าเขมไม่มีคำอธิบายที่ดีพอ เกนจะยกเลิกทุก
อย่าง ทั้งงานหมั้น งานแต่งมันจะไม่มีวันเกิดขึ้น”
เกนหลงเอาจริงหน้าดุมาก เอื้อมองแล้วก็ทั้งเห็นใจและเป็นห่วง
สมคิดกำลังนั่งดูคลิปสัมภาษณ์สุริยงตอนสมัครงานอย่างพินิจพิจารณา
“ในประวัติบอกว่าคุณเคยเป็นเลขาให้เจ้าสัวชวลิต รัตนชาติ เจ้าของธนาคารรัตนชาติ คุณเองก็
นามสกุลรัตนชาติ คุณเป็นอะไรกับท่าน ?”
“ ดิฉันเป็นภรรยาของท่านค่ะ”
สมคิดกดหยุดคลิป แล้วก็คิด
“มันต้องมีอะไรบางอย่าง ที่เราไม่รู้เกี่ยวกับคุณเขมแล้วก็คุณสุมันต้องมีอะไรบางอย่าง”
ภาพต่างๆ ที่ผ่านมาเริ่มถูกประติดประต่อเข้าหากัน จากตอนเขมชาติเจอสุริยงครั้งแรกแล้วก็ไล่กลับ
เลย
“จ่ายเงินเดือนให้เลขาใหม่ของคุณ 3 เดือนแล้วไล่ออกไป ผมไม่ต้องการผู้หญิงคนนี้”
เรื่อยมาจนถึงตอนวิบูลย์บอกสมคิดว่าเขมชาติกับสุริยงเรียนที่เดียวกัน
“คุณสมคิดรู้หรือเปล่าว่าคุณสุกับคุณเขมเค้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน อ๊ะๆ ไม่รู้หล่ะสิ เพราะผม
เอาใบสมัครคุณสุมาดูอีกที ก็ไม่มีเขียนบอกเอาไว้ แต่ที่ผมรู้เพราะเมื่อเช้าผมแวะไปที่บ้าน เห็นรูปคุณสุตอนอยู่
มหาวิทยาลัย ผมลองไล่ปีดูแล้ว ผมว่าเข้าปีเดียวกับคุณเขมด้วยนะ ดีไม่ดีสองคนนี้ต้อง.... “
หน้าสมคิดเริ่มคิด เข้าเค้า
จากนั้นก็หวนนึกถึงภาพของตัวเองตอนเจอเขมชาติใหม่ๆ
“คุณเขม ผมสงสัย ทำไมคุณไม่ไปเที่ยวเล่นเหมือนคนอื่น จะทำงานหนักขนาดนี้ไปทำไม พ่อแม่ก็ไม่
มีแล้ว แฟนก็ไม่เห็นจะมีสักคน”
“ มี ผมเคยมีแฟน แต่เค้าทิ้งผมไปแต่งงานกับคนรวย ตั้งแต่นั้นมาผมตั้งใจไว้ว่าผมจะต้องรวย รวย
มากๆ รวยจนเค้าต้องหันมามองด้วยความเสียดายที่ทิ้งผมไป วันที่เขามาเจอผม เขาจะต้องเสียดาย และเสียใจอย่าง
ที่สุด”
สมคิดคิด สายตาเริ่มหวาดหวั่น เสียงของเขมชาติตอนที่คุยโทรศัพท์จากสวิสแว่วเข้ามา
“ไม่ได้กำลังทำผิด สิ่งที่ผมทำมันคือความถูกต้อง พูดไปคุณสมคิดก็ไม่เข้าใจ เรื่องนี้มันซับซ้อนกว่า
ที่คนอื่นเห็น”
เมื่อประมวลทุกอย่างเข้าหากัน สมคิดก็ถึงกับหลุดปากออกมา
“หรือว่า แฟนเก่าที่คุณเขมพูดถึง คือคุณสุ”
สมคิดอึ้งกับสิ่งที่ตัวเองคาดเดา
พนักงานเข็นกระเป๋าเดินทางของเขมออกไป เพื่อเตรียมเช็คเอ้าท์ เขมชาติถามพนักงานที่เคาเตอร์
“ผู้จัดการของคุณยังอยู่หรือเปล่”
“คุณสุริยงเข้าไปทำธุระที่กรุงเทพค่ะ ออกไปตั้งแต่ตอนเช้าแล้วค่ะ”
เขมชาติยิ้มพอใจ “ขอบคุณมาก เช็คเอ้าท์เลยครับ”
ระหว่างยืนรอ เขมชาติก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาดู มีข้อความแจ้งเตือนว่ามีสายไม่ได้รับ เขมชาติ
รีบกดดู แล้วก็ชะงักนิดๆ
“คุณเกนโทรมา สิบสาย ?”
เขมชาติหน้า แล้วก็เห็นข้อความจากเกนหลง 1 ข้อความ เขมชาติรีบกดอ่าน
“คุณไม่ได้ไปพบลูกค้า เกนรู้เรื่องหมดแล้ว”
เขมชาติหน้าซีดเผือด..
ในขณะที่เกนหลงนั่งหน้าเครียดอยู่ในบ้าน พลันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดู ที่หน้าจอ
ปรากฏชื่อ หันมาดู “เขม”
เกนหลงรีบกดรับ หากยังไม่ทันพูดอะไร เสียงเขมชาติก็รีบพูดแทรกขึ้นมา
“คุณเกน คุณกำลังเข้าใจผมผิดนะครับ”
เกนหลงตอบนิ่งๆ “ เหรอคะ ?”
เขมชาติยืนคุยโทรศัพท์ พยายามแก้ตัว และทำเสียงให้นุ่มนวล ร่าเริง
“ใช่ครับผมไม่ได้มาหาลูกค้า แต่รู้มั้ยครับว่าผมมาหาใคร”
“ ใครล่ะคะ” เกนหลงแกล้งย้อนถาม ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแล้ว
“คุณจำได้มั้ย ที่บอกว่าอยากให้คุณสุริยงมาช่วยจัดงานหมั้น นี่พอผมรู้ว่าเขามาเป็นเลขาคุณชนะ ผม
ก็รีบมาหาเขา เพื่อคุณ คุณจะได้มีคนช่วยจัดงาน จะได้ไม่เหนื่อย นี่คุณสุเขาก็รับปากแล้วด้วยนะ”
“ งั้นเหรอคะ ?”
เขมชาติงงๆ “คุณเกนไม่ดีใจเหรอครับ”
เกนหลงส่ายหน้า แล้วก็พูดออกไปตรงๆ
“เกนคงจะดีใจมากกว่านี้ ถ้าทุกสิ่งที่คุณทำ คุณบอกเกนตรงๆ ไม่โกหกและแอบทำลับหลัง”
เขมชาติหน้าเสีย รีบบอก
“คุณเกนครับ คือผม ผมอยากจะเซอร์ไพรส์เลยไม่อยากบอกก่อน”
เกนหลงตอบนิ่งๆ ทว่าเป็นความนิ่งที่น่ากลัวมาก
“ที่ผ่านมา เกนเซอร์ไพรส์มามากแล้วค่ะ ถ้าเขมยังอยากให้มีงานหมั้นต่อไป ก็มาเคลียร์เอาเองนะคะ
เพราะเกนสั่งหยุดทุกอย่างไปหมดแล้ว”
เขมชาติอึ้งหนักกว่าเดิม เกนหลงปิดท้าย
“เซอร์ไพรส์มั้ยคะ ?”
แล้ววางสายไปเลย
“คุณเกน”
เขมชาติเรียกไว้ไม่ทัน จึงรีบโทร.กลับ แต่เกนหลงปิดเครื่องไปแล้ว
เขมชาติกดวางสายตามไปด้วยความเครียด
“อะไรวะเนี่ย ?”
เขมชาติหันมองโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายจากเกนหลง ยืนเครียด คิดหนักจะจัดการเรื่องเกนหลงยังไงดี
ฮันนี่กำลังพูดกับกล้องในโทรศัพท์มือถือ โดยมีเขมชาตินั่งเป็นตากล้องจำเป็นอยู่อีกมุมหนึ่ง
ฮันนี่ชูดอกไม้ขึ้นมาก่อน
“สวัสดีค่ะน้าเกน น้าเกนกำลังโกรธใครอยู่หรือเปล่าคะ ? ฮันนี่ทาย โกรธคุณน้าหน้ายักษ์คนนี้
ใช่มั้ยคะ “ พลางชี้มือไปที่เขมชาติ ที่ตีหน้าเศร้า รับกับกล้องที่แพนมา ฮันนี่พูดต่อ
“น้าเกนอย่าโกรธเลยนะคะ”
เกนหลงมองฮันนี่ทำหน้าฉอเลาะอยู่ในจอด้วยความเอ็นดู
“ที่คุณน้าเขาหายตัวมาอยู่ที่นี่ เพราะต้องมาปฎิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ นั่นคือตามตัวน้าสุ” ฮันนี่ชู
กระดาษวาดเป็นรูปสุริยงขึ้นมา
เกนหลงอมยิ้มนิดๆ แล้วก็รู้สึกตัวหุบยิ้ม ปรายตามาทางเขมชาติที่นั่งอยู่ห่างๆ
ฮันนี่พูดต่อ
“ กลับไปช่วยน้าเกนจัดงานหมั้น น้าเขมทุ่มทุน ทุ่มเท ขอร้องจนน้าสุยอมลางานกับคุณพ่อเข้าไป
กรุงเทพและอยู่ช่วยงานจนกว่าจะเรียบร้อย น้าเขมทำทุกอย่างก็เพราะอยากให้น้าเกนมีความสุข และไม่เหนื่อยนะคะ”
เกนหลงปรายตามาทางเขมชาติ ฃ ที่นั่งหน้าจ๋อยๆ แต่ในใจแอบลุ้น
ฮันนี่พูดต่อ
“น้าเกนอย่าโกรธน้าเขมเลยนะคะ โกรธแล้วหน้ายับไม่สวยนะคะ”
เกนหลงหัวเราะเบาๆ เริ่มอารมณ์ดี
ฮันนี่ยื่นดอกไม้ให้
“นี่ค่ะ ฮันนี่ให้น้าเกนแทนคำขอโทษของน้าเขม จุ๊บๆ รักน้าเกนนะคะ “
คลิปหยุด..เกนหลงหัวเราะ แล้วก็หันมาทางเขมชาติ เห็นช่อดอกไม้แบบเดียวกันยื่นมาตรงหน้า
“รับไว้สิครับ น้องฮันนี่ฝากมาให้”
เกนหลง มองหน้าเขมชาติ “ร้ายนะคะ ดึงเด็กมาเป็นพวก แถมยังให้เด็กขอโทษแทนอีก ทำยังไง
คะเนี่ยน้องฮันนี่ถึงยอม”
เกนหลงถามตรงๆ เขมชาติชะงักกึก พลางนึกย้อนถึงตอนที่เขาต้องนั่งฟังฮันนี่สาธยายสิ่งแลกเปลี่ยนยาวเหยียด
“ฮันนี่ทำในสิ่งที่คุณน้าหน้ายักษ์ต้องการแล้วนะคะ ต่อไปเป็นสิ่งที่ฮันนี่ต้องการ
เขมชาติกอดอกฟัง ฮันนี่ปีนขึ้นมาบนโต๊ะ
“คุณน้าจะต้องให้ไก่ไข่ และ ฮันนี่ไปร่วมงานหมั้นในครั้งนี้ด้วย คุณน้าจะต้องให้เราสามคนอยู่ในขบวน
ขันหมาก แต่งชุดไทย แบบจัดเต็ม และถ้าจบงานแล้ว คุณน้าห้ามมาตามตัวน้าสุกลับไปอีกเด็ดขาด”
เขมชาติสะอึกนิดๆ แต่จำต้องยอมไปก่อน
หากยามเมื่ออยู่ต่อหน้าเกนหลง เขมชาติยืนยันเสียงแข็ง
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่ให้น้องฮันนี่พูดเรื่องจริง แค่นั้นเอง เด็กก็พูดไปตามที่เห็น”
เขมชาติโกหกตาใส เกนหลงไม่แย้ง เป็นการยอมรับว่าเชื่อโดยไม่ต้องพูด เขมชาติได้ทีรีบคว้ามือของ
เกนหลงมากุม
“ คุณเกน”
เกนหลง ดึงมือออกอย่างนุ่มนวล “พูดเฉยๆค่ะ”
“ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ผมขอโทษ ที่ผ่านมาผมชอบวางแผนทำโน่นทำนี่ให้คุณเซอร์ไพรส์ เพราะคิดว่า
มันจะทำให้คุณประทับใจ แต่ตรงกันข้าม มันกลับทำให้คุณไม่สบายใจ ผมขอโทษจริงๆ”
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 20 (ต่อ)
เขมชาติพูดด้วยความจริงใจ รู้สึกผิดจริงๆ กับทุกเรื่อง
“ผมเป็นเด็กกำพร้า เติบโตมาโดยลำพัง ทำอะไรก็คิดคนเดียว ทำคนเดียว จนบางครั้งผมคงจะเคยชิน
กับการไม่พูด ไม่บอกใคร แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป”
เกนหลงสะบัดเสียงอย่างงอนๆ “เพิ่งรู้เหรอคะ ?”
เขมชาติยิ้มอ้อน
“ผมอาจจะรู้สึกช้าไปนิด แต่ก็ยังมีความรู้สึกนะครับ ตอนที่คุณบอกว่าจะไม่มีงานหมั้นแล้ว วินาที
นั้นผมรู้เลยว่า ผมเสียคุณไปไม่ได้ ผมยอมที่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาคุณไว้”
พลางคว้ามือเกนหลงมากุมอีกครั้ง
“ต่อจากนี้ไปคุณอยากให้ผมทำอะไร ต้องทำยังไง บอกมาได้เลยนะครับ ผมพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน
ตัวเองเพื่อคุณ”
เกนหลงใจอ่อนยอมให้กุมมือโดยไม่อิดออด
“นับจากนี้ไปคุณจะต้องเปิดตัวเอง เปิดใจ และเปิดปากบอกเกนทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญกับ
ชีวิตคุณ ที่สำคัญห้ามโกหก เกนไม่แน่ใจว่าความรักที่มี มันจะมากพอที่จะให้อภัยทุกครั้งที่จับได้หรือเปล่า เกนขอแค่นี้.
ทำได้หรือเปล่าคะ ?”
เขมชาติพยักหน้ายอมรับ “ ได้ครับ ผมจะต้องทำให้ได้ เพื่อคุณเกน”
เขมชาติรับปากอย่างมั่นเหมาะ เพราะคิดว่าจะทำให้ได้จริงๆ เกนหลงมองหน้าเขมชาติเห็นแววตาที่
มุ่งมั่นก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
“ส่วนเรื่องเตรียมงานหมั้น นอกจากคุณสุแล้ว เกนขอเพิ่มผู้ช่วยอีกสองคนนะคะ”
เขมชาติขมวดคิ้ว “ ใคร ?”
เกนหลงไม่ตอบ แต่มีแววเจ้าเล่ห์ซ่อนอยู่ในแววตา ทำให้รู้ว่าไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เขมชาติพูดทั้งหมด
สุริยงกำลังเอาของออกจากกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เอื้อ ที่นั่งอยู่ด้วย รีบถามด้วยความแปลกใจ
“หนูเล็กจะรับจัดงานหมั้นให้เขมชาติ กับเกนจริงๆเหรอ ?”
“จริงค่ะ คุณชนะ เจ้านายหนูเล็กเขาก็อนุญาตแล้ว”
“เรื่องเจ้านายใหม่จะอนุญาตหรือไม่ มันไม่ใช่ประเด็น แต่คุณแน่ใจนะว่า อยากทำ”
สุริยงเงยหน้าจากกระเป๋า
“อยากทำสิคะ ถ้าไม่อยาก หนูเล็กคงไม่กลับมา”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้มาเพราะโดนเขมชาติบังคับ หรือ “หลอก” มา”
เอื้อย้อนถาม ทำเอาสุริยงถึงกับชะงักกึก พลางยิ้มกลบเกลื่อน
“เขาหลอกหนูเล็กไม่ได้หรอกค่ะ และก็บังคับไม่ได้เหมือนกัน คุณเอื้อไม่ต้องห่วงนะคะ ที่หนูเล็กมา
เพราะเห็นแก่คุณเกน ไม่ใช่เขมชาติ “
สุริยงพูดถึงเขมชาติด้วยน้ำเสียงเจือความแค้น จนเอื้อจับพิรุธได้ มือถือเอื้อดังขึ้น เอื้อหยิบมาดูเป็นชื่อ
เกนหลง
“ว่าไง..ตอนนี้พี่อยู่บ้านคุณผู้ช่วยจัดงานหมั้นของเรา กำลังพูดถึงอยู่พอดี”
เสียงเกนหลงพูดกลับมาทางปลายสาย “แสดงว่าเกนตายยาก..และนอกจากตายยากแล้ว เกนยังมี
เรื่องสร้างความลำบากให้พี่เอื้ออีกด้วยค่ะ”
“จะใช้พี่ทำอะไรอีก ว่ามา”
เอื้อยิ้มรับคำสั่งแต่โดยดี
ในขณะที่เกนหลงพูดด้วยความมั่นใจ
“เกนชวนพี่เอื้อ และ คุณชนะมาช่วยคุณสุเตรียมงานหมั้น และทั้งสองคนก็น่ารักมาก รับปากช่วย
เกนในทันที รับรองว่างานนี้ต้องสนุกแน่ๆค่ะ”
เกนหลงมองสุริยง เอื้อกับชนะยิ้มรับ และหันมามองสุริยงทั้งคู่ ในขณะที่เขมชาติมองด้วยความหมั่นไส้
ชนะรีบพูด
“ฮันนี่กำชับว่า ผมจะต้องช่วยงานคุณสุอย่างดีที่สุด มีอะไรให้ผมทำ คุณสุสั่งมาได้เลยนะครับ”
เขมชาติชักสีหน้า แต่ไม่พ้นสายจาของเอื้อ ในขณะที่สุริยงยิ้มรับ
“ต้องให้คุณเกนเป็นคนสั่งมากกว่าค่ะ สุเองก็รับคำสั่งคุณเกนมาอีกที”
เขมชาติเบ้หน้าหมั่นไส้ เอื้อขมวดคิ้วสงสัยว่าเขมชาติเป็นอะไร ส่วน เกนหลง สุริยง และชนะไม่ทัน
สังเกต
“เกนเองก็สั่งไม่ถูกหรอกค่ะ เอาเป็นว่า เราก็เตรียมงานไปพร้อมๆกันเลยแล้วกันนะคะ เริ่มจากสถานที่
เดี๋ยวเกนจะพาไปดูบริเวณที่จะจัดงาน เผื่อคุณชนะกับคุณสุจะมีไอเดียว่าควรจะจัดยังไงดี เชิญทางนี้ค่ะ”
เกนหลงเดินนำไป สุริยงกับชนะลุกตาม เขมชาติกำลังจะลุก ทว่าเอื้อดักคอไว้
“เกนครับ เรื่องสถานที่พี่ว่าให้คุณชนะกับหนูเล็กช่วยดูก็น่าจะพอ พี่ขอคุยกับคุณเขมเรื่องการจัดขบวน
ขันหมากอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน”
เขมชาติชะงัก ส่วนเกนหลงยิ้มรับ โดยไม่เอะใจ)
“ได้ค่ะ” พลางหันมาบอกกับสุริยง และชนะ “เชิญค่ะ”
เกนหลงเดินนำสุริยงและชนะออกไป เหลือเขมชาติกับเอื้อ นั่งประจัญหน้ากันสองต่อสอง
เอื้อไม่รอช้า รีบเปิดฉากทันที
“ดีใจด้วยนะ ที่เกนเชื่อคุณอีกครั้ง”
เขมชาติรู้สึกทะแม่งๆแต่ยังยิ้มๆรับเหมือนปกติ
“ ก็มันเป็นความจริง ไม่เห็นแปลกที่คุณเกนจะเชื่อ”
“คุณรู้เหรอว่าผมหมายถึงเรื่องอะไร ?” เอื้อย้อนถาม
“ก็ทุกเรื่อง ระหว่างผมกับคุณเกน เราไม่มีอะไรปิดบังกัน”
“รวมทั้งเรื่องระหว่างคุณกับหนูเล็กที่สวิสด้วยหรือเปล่า ?”
เอื้อพยายามโยนหินถามทาง ได้ผล... เขมชาติถึงกับสะอึก ไม่แน่ใจว่าเอื้อรู้แค่ไหน กระนั้นก็ยังฝืนทำ
ไม่รู้ไม่ชี้
“เรื่องนั้นผมเคลียร์กับคุณเกนไปเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องการอะไรอีก ?”
เขมชาติแสร้งทำเสียงเข้ม เพื่อเบี่ยงประเด็น
“ผมว่าคุณอย่ามาหาเรื่องผมดีกว่า คุณเป็นคนบอกให้ผมเลิกยุ่งกับ “แม่เลี้ยง” คุณ ตอนนี้ผม
กำลังจะหมั้นกับเกน คุณก็น่าจะพอใจ”
เอื้อสวนกลับ “แต่คุณยังไม่เลิกยุ่งกับหนูเล็ก”
เขมชาติไม่ยอมแพ้
“ผมไม่เลิกยุ่ง เพราะผมไม่เคยยุ่งกับเขาตั้งแต่แรก คุณกำลังหาเรื่องใส่ร้ายผม “
“สิ่งที่คุณทำต่างหากที่ให้ร้ายตัวคุณเอง คุณหลอกพี่สาวและน้องสาวผมได้ คุณหลอกเกน หลอก
หนูเล็กได้ แต่คุณหลอกผมไม่ได้ ที่สวิสผมไม่เชื่อว่าทุกอย่างมันจะโปร่งใส สวยงาม ผมรู้ว่าคุณทำบางอย่างลับหลัง
เกนหลง”
เขมชาติ โดยจี้ใจดำ แต่ฝืนทำเป็นหัวเราะออกมา
“ฮึๆๆๆ นี่ตกลง..คุณกำลังห่วง หึง หวง ใครกันแน่ แม่เลี้ยงของคุณ หรือ ว่าที่คู่หมั้นของผม”
เขมชาติสวนกลับ ทำเอาเอื้อถึงกับอึ้งไป
เกนหลงพาสุริยง และชนะเดินมาถึงบริเวณที่ตั้งใจจะจัดงาน
“เกนจะจัดงานตรงนี้ค่ะตรงโน้นว่าจะเป็นซุ้มดอกไม้ เออ เกนลืมหนังสือที่จะให้ดูแบบดอกไม้ เดี๋ยวเกน
เดินไปหยิบมาก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสุไปหยิบให้ก็ได้ค่ะ” สุริยงอาสา
“ไม่เป็นไรค่ะๆ คุณสุอยู่ปรึกษากับคุณชนะที่นี่เถอะค่ะ เกนรีบไปรีบมา”
พูดจบ เกนหลงก็เดินย้อนกลับไปที่ห้องเดิม
เมื่อเห็นเอื้ออึ้ง เขมชาติได้ที รีบรุกต่อ
“ก่อนหน้านี้คุณพูดแต่ให้ผมอยู่ห่างๆ แม่เลี้ยงคุณ ตอนนี้ผมขอบอกให้คุณอยู่ห่างๆว่าที่คู่หมั้นผมบ้าง
จะได้หรือเปล่า?”
เอื้อชะงัก พลางจ้องหน้าเขมชาติ อารมณ์เริ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขมชาติก็พูดกลบเกลื่อน
ความผิดของตัวเองไปเรื่อย ยิ่งพูดยิ่งคุมตัวเองไม่อยู่ ด้วยความกลัวจะโดนจับได้ว่ารู้สึกดีกับสุริยง เลยต้องพูดให้
เธอดูแย่ไว้ก่อน
”เงียบ ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ทำแบบนั้น เพราะผมใจกว้างพอ คุณเองก็ควรจะใจกว้างเหมือนกัน
โดยเฉพาะเรื่องแม่เลี้ยงคุณ ไม่ต้องห่วง ผมไม่ยุ่งกับเขาแน่ ผมไม่ชอบของมีตำหนิ ผ่านทั้งการมีสามี มีลูกมาแล้ว ให้
ฟรีๆ ผมยังคิดหนัก”
เอื้อสุดจะทน เลยซัดหมัดเข้าที่แสกหน้าเขมชาติอย่างแรง จนเขมชาติเซล้มลงไปกองกับพื้น
“นี่คุณมาชกผมทำไมเนี่ย?”
“อย่ามาดูถูกหนูเล็ก คุณไม่รู้จักเธอดีพอ คุณไม่รู้ทั้งเรื่องสามีและลูกของเธอ ไม่รู้ ก็อย่าพูดมาก เธอมี
ค่ามากกว่าที่คุณคิด”
ทั้งน้ำเสียง และแววตาของเอื้อ เต็มไปด้วยความโกรธ ครางนี้เขมชาติเป็นฝ่ายอึ้งแทน เอื้อพูดต่อ
“ผมขอย้ำอีกครั้งคนที่คุณควรจะสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือเกนหลง และคนที่คุณควรจะอยู่ห่างที่สุด
คือสุริยง โตๆ กันแล้ว ตรรกะง่ายๆแบบนี้ควรจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาบอก”
เขมชาติสะอึก ในขณะที่เกนหลงเดินเข้มาพอดี เห็นเขมชาติทรุดอยู่ที่พื้นก็ตกใจ
“เขม เป็นอะไรคะ”
เขมชาติรีบหันหน้าหนี ไม่ให้เกนหลงเห็นรอยโดนต่อย แล้วยันตัวลุก
“มะ ไม่มีอะไร”
เอื้อช่วยกลบเกลื่อน
“พอดีคุณเขมเขาสะดุดเก้าอี้ล้มน่ะ ไม่มีอะไรมาก เกนจะมาหยิบหนังสือนี่ใช่มั้ย”
เอื้อหยิบหนังสือให้เกนหลงอย่างรู้ทัน
“เดี๋ยวถือไปให้ พี่คุยเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวไปช่วยดูเรื่องสถานที่ ไป”
เกนหลงมองเขมชาติเป็นห่วง แต่ก็ต้องเดินตามไปด้วยแรงจูงของเอื้อ เขมชาติยันตัวลุกขึ้นจับแผลที่
โดนชกด้วยความเจ็บ
ทันทีที่จูงเกนหลงพ้นออกมาอีกมุมหนึ่ง เอื้อก็ตัดสินใจหันมาถามตรงๆ ..
“เกนถามจริงเถอะ ที่เราชวนพี่กับคุณชนะมาช่วยงานหนูเล็ก เพราะอยากจะลองใจเขมชาติใช่หรือ
เปล่า ?”
เกนหลงหันขวับมามองหน้าเอื้อ นึกไม่ถึงว่าเอื้อจะรู้
“เกนอยากดูปฎิกริยาของเขมชาติ. อยากรู้ว่าเขาจะหึงหนูเล็กหรือเปล่าใช่มั้ย?”
เกนหลงหน้าเสีย เอื้อรอคำตอบ ในที่สุดเกนหลงก็ยอมสารภาพ
“เกนไม่รู้จะทำยังไง เขมเหมือนผู้ร้ายปากแข็ง ทำยังไงเขาก็ไม่ยอมรับ และเกนก็ไม่อยากทำตัวเป็นเด็กๆ ที่ใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาจากสิ่งที่เราคิดไปเอง เกนขอโทษนะคะ ที่ใช้พี่เอื้อเป็นเครื่องมือ”
เอื้อยิ้มอย่างจริงใจ
“พี่ไม่โกรธ ตรงกันข้าม พี่เป็นห่วงแน่ใจนะว่าเราจะรับได้กับทุกคำตอบ ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด”
เกนหลง พูดอย่างหนักแน่น
“ถ้าเป็นความจริง เกนต้องรับมันให้ได้ ขอให้เกน ได้รู้ ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ถ้าเกนไม่เห็นอะไร และ
มันไม่มีอะไรระหว่างสองคนนั้น..เกนก็พร้อมที่จะเริ่มใช้ชีวิตครอบครัวกับเขมชาติอย่างไม่มีข้อกังขา”
เอื้อมองเกนหลง แล้วก็ชื่นชมในความหนักแน่น พลางยื่นมือไปจับไหล่ของเธอ พร้อมส่งยิ้มให้กำลังใจ
“ขอให้เราผ่านพ้นมันไปให้ได้ และได้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของตัวเอง”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เกนหลงมองเอื้อแล้วรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนเคย แต่เอื้อมองด้วยความเป็นห่วง
จบตอนที่ 20
อ่านต่อตอนที่ 21 พรุ่งนี้ เวลา09.30น.