ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 20
ยศสรัลขับรถตู้แล่นไปบนทางหลวง ก่อนจะขับเข้ามาจอดบนถนนลูกรังริมทะเลในเขตของรีสอร์ท วีด้าอยู่ในรถ มีผ้าผูกตา พุฒิสั่งให้ยอดกับเบิร์ดพาวีด้าออกจากรถ
“ไป ลงไป” ยอดพูดกับวีด้า
ยศสรัลถอดหมวกออกแล้วมอง ก่อนลงรถเดินตามทั้งสามไป
ยอดกับเบิร์ดพาวีด้าเดินมาที่ริมทะเล มี Speed Boat จอดรออยู่แล้ว
“ขึ้นไป” เบิร์ดพูดพลางดันๆ วีด้า
“ขึ้นขึ้นอะไร?” วีด้าว่า
“ก็ขึ้นเรือไง” เบิร์ดบอก
“พวกแกจะพาชั้นไปไหน” วีด้าพูด
ยอดกับเบิร์ดตอบไม่ถูก พุฒิเกาหัวกลุ้ม มองหน้ายศสรัล
“ปล่อยชั้นนะ! ปล่อย!” วีด้าร้อง
ยศสรัลลากวีด้าลงเรือ ยอดขับเรือไปที่เกาะที่เห็นอยู่ไม่ไกลนัก
ยอดกับเบิร์ดพาวีด้าเดินมาที่กระท่อมริมเกาะ ยศสรัลตามมาติดๆ วีด้าถูกพาขึ้นกระท่อมไป
พุฒิผลักวีด้าเข้าไปในกระท่อม แล้วเดินออกไป วีด้าเอาผ้าพันตาออกแล้วมองไปรอบๆ กลัว เธอหันหลังจะวิ่งออกแต่หันมาเจอยศสรัล
“คุณ!” วีด้าตกใจ
วีด้าโมโห เธอเดินไปตบยศสรัล
“คุณจับชั้นมาทำไม รู้มั้ยว่าชั้นกลัวแค่ไหน!”
“คุณกลัวเป็นด้วยเหรอ ทำไมตอนคิดทำลายครอบครัวผม คุณถึงไม่กลัวอันตรายบ้าง”
วีด้าไม่อยากเถียงต่อ จะเดินออกจากกระท่อม
“ชั้นจะกลับ” วีด้าว่า
“ไม่ได้!” ยศสรัลดึงแขนไว้
วีด้าจ้องหน้า “แล้วคุณคิดเหรอว่าจับชั้นมาแบบนี้แล้วชั้นจะเปลี่ยนใจ”
วีด้าพยายามสะบัดแขนสะบัดแขน “ปล่อย!”
ยสสรัลไม่ยอม วีด้ากัดแขนจนยศสรัลร้องเสียงหลงแล้วปล่อยวีด้า วีด้าจึงวิ่งหนีออกไปได้
วีด้าออกมาจากกระท่อม เจอลูกน้องสามคนขวางอยู่ พุฒิใส่หมวกไอ้โม่ง วีด้าอึ้ง หาทางหนี
“นายพุฒิ ปล่อยชั้นไปนะ!” วีด้าว่า
พุฒิทำหน้าเหี้ยม “พุฒิไม่ได้ชื่อพุฒิ .... อุ่ย”
วีด้าเซ็ง หันหาทางหนี ยศสรัลตามออกมา
“ที่นี่มันเป็นเกาะ คุณอย่าคิดหนีดีเลยกว่า” ยศสรัลพูด
วีด้าหันมาจ้องหน้ายศสรัลด้วยความแค้นแต่ยศสรัลไม่กลัว
คัชพลหอบดอกไม้ช่อสวยเข้ามาหาวีด้าที่บริษัทโอ๋เห็นก็รีบลุกขึ้นยืนรับหน้าทันที
“สวัสดีค่ะคุณคัชพล” โอ๋ยกมือไหว้
คัชพลพยักหน้ารับพอเป็นพิธี แล้วจะเดินเข้าห้องวีด้า โอ๋รีบขัด
“เอ่อ...คุณคัชพลค่ะ คุณวีด้ายังไม่ได้เข้ามาเลยค่ะ”
“แล้วเขาไปไหน? ผมโทรไปก็ปิดเครื่อง” คัชพลชะงัก
“ไม่ทราบค่ะ” โอ๋ตอบ
“แล้ววันนี้จะเข้ามาหรือเปล่า?” คัชพลถามต่อ
“ไม่ทราบค่ะ” โอ๋ว่า
“ไม่ทราบค่ะๆ คุณเป็นเลขาฯประสาอะไร...หา!” คัชพลพูดแล้วเดินกลับออกไปอย่างหัวเสีย
โอ๋ถอนใจอย่างโล่งอก
คัชพลเดินมาที่รถอย่างหัวเสีย
“วีด้า...คุณจะปั่นหัวผมไปถึงไหนกันนะ” คัชพลเอ่ยแล้วเขาก็ฉุกคิดอะไรบางอย่าง จึงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากด
“ฮัลโหล...ผมเอง...วันนี้สรัลเข้าบริษัทหรือยัง?"
“คุณยศสรัลยังไม่เข้ามาค่ะคุณคัชพล” เลขาตอบมาตามสาย
คัชพลวางสายประมวลความคิด
“วีด้า...ไอ้สรัล...แก” คัชพลเขวี้ยงช่อดอกไม้ลงบนพื้น
คัชพลกลับมาที่บริษัทตัวเอง ผลักประตูเข้าห้องทำงาน เดินไปเดินมา และคิด
“เอกสารโครงการศูนย์การค้า เหลือแค่เซ็นตรงนี้คะ” เลขาว่า
คัชพลเห็นเอกสารยิ่งโมโหจ้องหน้าเลขา เลขาชะงัก
“ไม่ต้องเซ็นต้องเซินมันแล้ว!”
“เอ่อ.. แต่ว่านี่เป็นสัญญาที่คุณสรัลไปดิวขายหุ้นศูนย์การค้าจนสำเร็จนะคะ” เลขาตกใจ
“ไอ้สรัล!”คัชพลดึงเอกสารมาแล้วฉีกทิ้งเลขาตกใจ
“ยกเลิกสัญญาฉบับนี้ซะ!” คัชพลว่าก่อนปาเศษเอกสารทิ้ง รู้สึกแค้นยศสรัล
คัชพลออกจากห้องทันที โดยมีเลขามองตาม ทำอะไรไม่ถูก เขาหยิบโทรศัพท์มาโทรหายศสรัลอีกครั้ง มีเสียงปลายสายให้ฝากข้อความ คัชพลยิ่งหัวเสียหนัก
“ชั้นต้องเอาแกกลับมาถามให้ได้ ไอ้สรัล” คัชพลว่า
คัชพลกดพิมพ์ข้อความโทรศัพท์ว่า “อาการคุณพ่อทรุดหนัก รีบกลับมาด่วน”เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วก็กดส่งไปยศสรัล
ขณะเดียวกัน วีด้าถูกยศสรัลโยนเข้ามาในกระท่อม แล้วจับมัดแขนไว้กับขาโต๊ะตัวหนึ่ง วีด้ายังคงดิ้นไม่ยอมง่ายๆทั้งเตะทั้งถีบ
“ปล่อยฉันนะ จะมามัดฉันไว้ทำไม!” วีด้าร้อง
“เอาเชือกมาอีก!” ยศสรัลสั่งเสียงดุ
วีด้าชะงัก พุฒิรีบส่งเชือกอีกเส้นให้ยศสรัลยศสรับเชือก แล้วมัดเท้าของวีด้าไว้คู่กัน
“อย่ามามัดชั้นนั้น จับชั้นมาแบบนี้ คุณบ้ารึเปล่า” วีด้าโวยวาย
“ถ้าผมไม่จับคุณมา เราจะเคลียร์ปัญหากันได้ยังไง” ยศสรัลว่า เมื่อมัดเสร็จเรียบร้อยก็ถอยออกมา
วีด้ามองเห็นหน้ายศสรัลก็เลือดขึ้นหน้าทันที
“คราวนี้จะยอมคุยกับผมดีๆรึยัง” ยศสรัลถาม
“ลักพาตัวชั้นมาซ้ำๆ นี่น่ะเหรอ วิธีที่คนดีเค้าทำกัน” วีด้าว่า
“ผมจะไม่ปล่อยคุณไป จนกว่าคุณจะเลิกจองเวรกับครอบครัวของผม” ยศสรัลพูด
“ไม่มีวัน!”
“งั้นคุณก็เตรียมตัวเป็นชาวเกาะอย่างถาวรแล้วกัน” ยศสรัลบอก
“คนชั่ว คุณมันก็ไม่ต่างจากพ่อของคุณ!” วีด้าว่า
ยศสรัลชะงักกึก ย่างสามขุมเข้าไปหาวีด้านั่งลงจ้องหน้าเธอ
“ถึงแม้พ่อของผม จะไม่ใช่คนดีมากมาย แต่ในฐานะลูก ผมก็ไม่ชอบให้ใครมาด่าพ่อ!” ยศสรัลพูด
วีด้ารู้สึกโกรธ ยศสรัลพูดต่อ “อยู่ที่นี่ ไม่ต้องคิดหนี ถ้าคุณแผลงฤทธิ์ ผมจะเชือดคุณทิ้ง!”
ยศสรัลออกไปทันที วีด้ามองตามกัดกรามกรอด อยากจะร้องไห้
ยศสรัลเดินออกมาสงบสติอารมณ์หน้ากระท่อมพุฒิกับแก้วรีบปรี่เข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง
“นาย นายจะมัดแฟนนายไว้อย่างงั้นจริงๆเหรอ ทำไมต้องรุนแรงกับผู้หญิงขนาดนี้ด้วย?” พุฒิถาม
“หืมม…นายโหดอย่างกับพระเอกจำเลยรักเลยอ่า” แก้วว่า
“แล้วแกมีวิธีอื่นให้เค้าเลิกดิ้นมั้ยละ” ยศสรัลเอ่ย
พุฒินึก มองนาย ส่ายหน้า
“งั้นก็มัดไว้ก่อน จนกว่าจะแน่ใจ ว่าคุณวีด้าจะไม่หนี” ยศสรัลพูดต่อ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูก็เห็นข้อความที่ส่งมาจากคัชพล “คุณพ่อทรุดหนัก รีบกลับมาบ้านด่วน!”
“คุณพ่อ!”ยศสรัลเอ่ยด้วยสีหน้ากังวลมาก
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 20 (ต่อ)
ยศสรัลเดินมาขึ้นเรือ พุฒิตามมา ยศสรัลหันมากำชับ
“บตาดูให้ดี คอยขู่ไว้ แล้วชั้นจะโทรมาบอกให้แก้มัด แต่ถ้าเค้าหนี ชั้นจะเอาเรื่องแก” ยศสรัลย้ำจริงจัง
“ครับนาย” พุฒิทำหน้าจะร้องไห้
ยศสรัลสตาร์ทเครื่อง ขับออกไป พุฒิมองตาม
“ซวยจริงๆ ไอ้พุฒิเอ๊ย”
บัญชาอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมลงกว่าเดิม สวมหมวกไหมพรมเพราะผมร่วงจากการให้เคมีบำบัด
บัญชาคิดถึงภาพของวีด้าที่สวมชุดดำมาเยี่ยม และบทสนทนาระหว่างยศสรัลและธัญกร
“เล็ก นายจำน้าชาติชาย กับน้ากานดาได้มั้ย...วีด้าในตอนนี้ก็คือ แพร”
“งั้นที่คุณวีด้าเข้ามา ก็เพื่อจะแก้แค้นอย่างนั้นเหรอครับ”
บัญชากำผ้าห่มแน่น นัยน์ตาปวดร้าวระคนเจ็บแค้น
“แก้แค้นเหรอ...แกส่งลูกสาวมาแก้แค้นฉันเหรอไอ้ชาติ...ทั้งๆที่เรื่องทั้งหมดจะไม่เกิด ถ้าแกไม่แย่งกานดาไปจากฉัน! อ้ากกกก!” บัญชากรีดร้อง กระชากสายน้ำเกลือ จิกหัวตัวเองอย่างอัดอั้น
สินีกับธัญกรเข้ามาพร้อมปิ่นโตอาหารทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องของบัญชา
“พ่อ!” ธัญกรร้อง สองแม่ลูกรีบวิ่งเข้าไปในห้องผู้ป่วยทันที รวมถึงพยาบาลที่ได้ยินเสียงก็เข้าไปด้วย
บัญชายังคงร้องโวยวาย ทึ้งหัวตัวเองไม่ยอมหยุดสินี ธัญกร และพยาบาล เปิดประตูเข้ามา ธัญกรกับพยาบาลรีบเข้าไปจับบัญชาไว้ให้สงบลง
“คุณคะ คุณเป็นอะไร?” สินีว่า
“พ่อครับ พ่อ อย่าทำร้ายตัวเองครับพ่อ!” ธัญกรพูดพร้อมกับกอดผู้เป็นพ่อแน่น
สินีเข้าไปช่วยจับขาบัญชาไว้
“คุณคะ พอนะคะ อย่าทำแบบนี้เลย” สินีว่า
บัญชามองหน้าสินีแล้วชะงัก
“ทำไมต้องเป็นเธอสินี” บัญชาเอ่ย
“คุณหมายความว่ายังไงคะ?” สินีอึ้ง
“ทำไมต้องเป็นเธอที่ยืนเคียงข้างฉัน ทำไมไม่เป็นกานดาทำไม! ทำไมกานดาถึงไม่รักฉัน ทำไม!” บัญชาพูด
สินีน้ำตารื้นขึ้นมาทันที มือค่อยๆปล่อยจากตัวบัญชา เธอรู้สึกช็อค แล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที
“แม่…แม่ครับ! แม่!” ธัญกรร้องเรียก
สินีเดินร้องไห้นัยน์ตาสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดหัวใจออกมาจากห้องพักบัญชา นึกถึงคำพูดที่เพิ่งได้ยิน
“ทำไมต้องเป็นเธอที่ยืนเคียงข้างฉัน ทำไมไม่เป็นกานดาทำไม! ทำไมกานดาถึงไม่รักฉัน ทำไม!”
“กานดา…นังกานดา” สินีรำพึงอย่างเจ็บแค้น
วีด้าอยู่ที่กระท่อม เธอยังคงถูกมัดนั่งอยู่ที่เดิม
แก้วกับพุฒิเปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดอาหาร
“กินข้าวนะคะคุณ” แก้วว่า
วีด้าเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเมินไปอีกทาง
“คุณไม่ต้องอดข้าวเพื่อต่อรองกับนายหรอก เพราะตอนนี้นายไม่อยู่” พุฒิกระซิบ
วีด้าหูผึ่งขึ้นมาทันที “เขาไม่อยู่เหรอ? ไปไหนละ? แล้วจะไปนานมั้ย?” วีด้าซัก
พุฒิปิดปากส่ายหน้า
“คุณกินข้าวเถอะ” แก้วว่า
“จะกินได้ยังไง ก็ฉันถูกมัดอยู่อย่างนี้” วีด้าบอก
“ชั้นป้อนไง ไม่เห็นยาก” แก้วพูด
“ถ้าไม่แก้มัด ฉันก็ไม่กิน”
พุฒิเกาหัวกลุ้มใจ
“งั้นก็ตามใจค่ะ แต่ถ้าหิวจนทนไม่ไหวเมื่อไหร่ เรียกชั้นนะ ชั้นจะมาป้อน” แก้วพูดแล้วเดินออกไป โดยมีพุฒิวิ่งตาม
วีด้าหงุดหงิดที่แก้วไม่หลงกล
“อีแก้ว ทำไมเดี๋ยวนี้เอ็งโหดนักวะ เดี๋ยวคุณเค้าก็อดตายหรอก” พุฒิถาม
“ก็ลองแก้มัดให้กินเองสิ คงได้หนีไปอีก เอ็งน่ะมันโง่ไอ้พุฒิ” แก้วพูดอย่างรู้ทัน
“นี่ว่าพุฒิโง่เหรอ พุฒิน่ะเป็นคนคิดแผน ขนคนเข้ากรุงเทพเลยนะ”
“เลิกคุยได้แล้วไอ้พุฒิ แล้วรีบไปซักผ้าให้เสร็จ ไป”
พุฒิค้อนใส่ แล้วบ่นพึมพำ
“พอได้เป็นเมียแล้วแรงเลยนะมึง รู้งี้พุฒิไม่เอาทำเมียหรอก”
“บ่นอะไรไอ้พุฒิ” แก้วว่า
“เปล่าจ้ะ เมียจ๋า”
ธัญกรตามหาสินีอยู่ในโรงพยาบาลด้วยความเป็นห่วง แล้วก็เห็นสินีนั่งนิ่งอยู่มุมหนึ่งธัญกรรีบเดินเข้าไป
“แม่ครับ”
สินีหลุดจากภวังค์ เห็นหน้าธัญกร
“ตาเล็ก...”
ธัญกรขึ้นมานั่งข้างแม่ ธัญกรจับมือแม่
“พ่อไม่เคยรักแม่เลย...ผ่านมาสามสิบกว่าปีพ่อก็ยังไม่เคยรักแม่” สินีพูด
“ไม่จริงหรอกครับ ถ้าพ่อไม่รักแม่ แล้วจะมีเราสามพี่น้องเกิดมาได้ยังไง” ธัญกรแย้ง
“นั่นเพราะแม่รักเขาฝ่ายเดียว หวังว่าสักวัน พ่อแกจะรักแม่บ้าง แต่เปล่าเลย จนถึงวันนี้ วินาทีนี้ ใจเขายังมีแต่มัน นังกานดา...มีแต่มันเท่านั้น!” สีนีคร่ำครวญ
“กานดา...แม่หมายถึง น้ากานดา คุณแม่ของวีด้าเหรอครับ?” ธัญกรถาม
“ว่าไงนะตาเล็ก นังวีด้ามันเป็นลูกใคร?” สินีอึ้ง
“พี่สรัลบอกผมเมื่อวาน ว่าคุณวีด้า เป็นลูกของน้ากานดากับคุณอาชาติชาย!”
สินีอึ้งหัวใจเจ็บราวกับถูกมีดกรีด
ยศสรัลขับรถเข้ากรุงเทพ เขาเป็นห่วงอาการบัญชามากมีเสียงโทรศัพท์เข้า ยศสรัลกดสมอลทอล์ครับสาย
“ฮัลโหล”
“แกถึงไหนแล้ว” คัชพลพูด
“ใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้วครับพี่ใหญ่”
“เดี๋ยวแกแวะมาหาชั้นที่บ้านก่อน”
“ไปที่บ้าน?”
“ใช่ ตอนนี้เลย”
“ครับ”ยศสรัลรับคำ กดวางสายแล้วยูเทิร์นกลับ
คัชพลวางสาย ด้วยสีหน้าเอาเรื่อง เดาใจไม่ออก
ยศสรัลเดินเข้ามาในบ้าน เจอกับคัชพลที่นั่งรออยู่แล้ว ตรงหน้าคัชพลมีปืนวางอยู่ยศสรัลเห็นปืนก็แปลกใจ แต่ไม่คิดมาก เดินเข้าไปหาคัชพล
“แกไปกับวีด้าใช่มั้ย แกสองคนมีอะไรกัน แล้วทำไมหายไปด้วยกัน” คัชพลถามน้องชาย
คัชพลขึงขัง ยศสรัลพูดไม่ออก
“ผู้หญิงมีตั้งมากมาย ทำไมแกต้องมายุ่งกับผู้หญิงของชั้น!” คัชพลหยิบปืนขู่
“อธิบายมา!” คัชพลสั่ง
“ผมแค่จะพยายามหยุด ไม่ให้เค้าทำร้ายครอบครัวเรา” ยศสรัลพูด
“แกพูดเรื่องอะไร ทำไมเค้าต้องมาทำร้ายครอบครัวเรา”
ยศสรัลเงียบ
“จะมาปั้นเรื่องโกหกอะไรชั้นอีก แล้วแกพาวีด้าไปไหนชั้นถามว่าแกพาเค้าไปไหน แกอยากตายรึไง!” คัชพลว่า
“ถ้าพี่ไม่เชื่อใจผม ก็ยิงผมเลย!” ยศสรัลพูด
“แกท้าชั้นเหรอ ไอ้สรัล!” คัชพลโกรธจัด ทั้งสองจ้องหน้ากัน
ยศสรัลไม่อยากคุยด้วยอีก หันหลังเดินออกไปคัชพลไม่พอใจลั่นไกยิงใส่ทันที ยศสรัลล้มลงกับพื้น
“กรี๊ดดด!” คนรับใช้ในบ้านพากันร้อง
คัชพลตกใจดูปืนในมือและมองร่างยศสรัล
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 20 (ต่อ)
วีด้ากำลังหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเกาะ
“นายบอกว่าจะโทรมาบอกให้แก้มัด ป่านนี้ยังไม่โทรมาเลย เอาไงดีล่ะ” พุฒิบ่น
“จะเอาไง ก็ต้องรอนายน่ะสิ ชั้นไปทำกับข้าวก่อน”แก้วเดินออกไป พุฒิมองตาม
“อีแก้วไปแล้ว ชั้นว่าแบตโทรศัพท์นายต้องหมดแน่ๆ มันนานเกินไปแล้วล่ะพี่เบิร์ด กับพี่ยอด ไปแก้มัดให้หน่อยนะ แล้วขังไว้ในห้องเดี๋ยวชั้นไปเอากุญแจมาให้” พุฒิว่า
“แกกล้าขัดคำสั่งนายแกเหรอ” เบิร์ดถาม
“แค่ไม่ให้หนีไปได้ นายไม่ด่าหรอก ขู่ให้ด้วยนะ” พุฒิบอก
เบิร์ดและยอดเดินออกไป พุฒิมองตามแบบลุ้นๆ
เบิร์ดและยอดมาแก้มัดวีด้า วีด้างง
“ไม่เห็นเหรอ กำลังแก้มัดอยู่เนี่ย” เบิร์ดว่า
วีด้ากลัวๆ ทั้งสองแก้มัดจนเสร็จ
“อย่าคิดหนีนะ”เบิร์ดพูด ทำนิ้วเชือดคอขู่
วีด้ากลัว สองคนเดินออกไป พุฒิที่รออยู่หน้ากระท่อมล็อคประตู
หน้าห้องฉุกเฉินคัชพลนั่งนิ่ง มือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ สายตามองไปทางประตูห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายสินีกับธัญกรวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“สรัลเป็นยังไงบ้าง ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้?” สินีถาม
“ผมไม่ได้ตั้งใจครับแม่ ผมโมโหที่สรัลไปยุ่งกับวีด้า เลยพลั้งมือลั่นไก” คัชพลว่า
“เพราะนังวีด้าอีกแล้วตาใหญ่นะ ตาใหญ่ สรัล…สรัลอย่าเป็นอะไรนะลูก!” สินีพูด
ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หมอออกมาในชุดผ่าตัดพร้อมกับพยาบาลสินีและธัญกรรีบปรี่เข้าไปหาหมอทันที
“คุณหมอคะ ลูกชายดิฉันเป็นยังไงบ้าง” สินีถาม
“คนเจ็บปลอดภัยแล้วนะครับ โชคดีมากที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ” หมอตอบ ทุกคนโล่งใจ
“คุณแม่ครับ ตำรวจมารอสอบปากคำครับ” ธัญกรเดินเข้ามาบอก
“โทรตามทนายเรามาจัดการ ให้บอกว่าเป็นอุบัติเหตุ” สินีว่า
“ครับ”ธัญกรรับคำ หยิบโทรศัพท์เดินออกไป
ตกดึก วีด้ามองดูกล่องข้าว รู้สึกเจ็บใจที่เสียท่าถูกจับมา วีด้าปัดกล่องข้าวหกกระจายแล้วกลับมานั่งกอดเข่าแค้นยศสรัล
ขณะเดียวกัน สินีมองยศสรัลที่หลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือและเลือดพันระโยงระยางธัญกรย้อนเข้ามา
“พี่น้องเกือบฆ่ากันตายเชียวนะ...เป็นเพราะนังนั่นคนเดียว นังวีด้าเลวเหมือนแม่ของมัน!”สินีแววตากร้าวอย่างคับแค้น
ธัญกรมองแม่อย่างสุดเป็นห่วง
วีด้าที่นอนหลับในกระท่อม แต่ฝันร้ายกระสับกระส่ายเหงื่อผุดเต็มหน้าก่อนผวาลืมตาตื่นขึ้น
“พ่อ! แม่!” วีด้าร้อง
เธอมองไปรอบๆแล้วได้สติ รู้ตัวว่าฝันไป แก้วได้ยินเสียง เปิดประตูเข้ามาดู
“ฝันร้ายเหรอคุณ” แก้วถาม
วีด้ามองแก้วนิ่งๆแก้วจะเดินออกไป วีด้าเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อนแก้ว...ฉันหิวข้าว”
“คุณยอมกินแล้วใช่มั้ย ถ้านายรู้ นายต้องดีใจมากแน่ๆ” แก้วดีใจ
“เขายังไม่กลับมาเหรอ?” วีด้าถาม
“ยังค่ะ” แก้วส่ายหน้า
วีด้าคิดหาทาง
วีด้าตักอาหารเข้าปาก จู่ๆวีด้าก็ไออย่างหนัก เหมือนสำลักกับข้าว จนหน้าแดงน้ำหูน้ำตาไหล
“ว้าย! คุณ กินน้ำก่อนค่ะ” แก้วว่า
วีด้าทำเป็นกินน้ำแต่แล้วก็สำลักน้ำออกมาอีก
“ฉัน…ฉันหายใจไม่ออก” วีด้าไออย่างหนัก
“คุณ หายใจไม่ออกเหรอ แย่แล้ว ทำไงดี” แก้วตกใจ รีบวิ่งออกมาที่หน้าบ้าน
วีด้ารีบหยุดมองตาม แล้ววิ่งออกมา
พุฒิกำลังนั่งเฝ้าอยู่หน้าบ้าน สักพัก แก้ววิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากกระท่อม
“ไอ้พุฒิๆๆๆ ช่วยด้วย เร็วเข้า!” แก้วว่า
“อะไรๆ ใครเป็นอะไร?”
“คุณวีด้า ข้าวติดคอ!”
พุฒิทิ้งอุปกรณ์ทุกอย่างวิ่งตามแก้วเข้าไปในกระท่อม
พุฒิและแก้ววิ่งเข้าห้องมาอย่างรวดเร็ว เจอห้องว่างเปล่า พุฒิตาเหลือก
“ซวยแล้วอีแก้ว” พุฒิกุมขมับ
“ทำไงดีล่ะ” แก้วว่า
“ทีนี้ล่ะโง่ขึ้นมาเชียว รีบไปบอกพวกพี่ยอด ให้รีบตามหาเร็ว” พุฒิบอก
แก้ววิ่งนำไปก่อน พุฒิหันมองทั่วห้องอีกที แล้ววิ่งตามออกไป
วีด้าวิ่งคนเดียว แล้วหยุดมองไปทางไหนดี แล้วออกวิ่งต่อเธอได้ยินเสียงตามหลังมา วีด้าแอบ มีกลุ่มคนตามมา แล้ววิ่งผ่านไป
คัชพลยืนอยู่ริมหน้าต่างในห้องพักผู้ป่วย มองออกไปข้างนอก คัชพลหันมามองยศสรัล แล้วเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงมองดูน้อง
“สรัล ชั้นขอโทษ ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะยิงแก แต่เพราะแกทำให้ชั้นโมโห” คัชพลเอ่ย
มณฑิตาเปิดประตู ได้ยินคัชพลคุยกับยศสรัลก็หยุดแอบฟัง
“ถ้าแกไม่มายุ่งกับวีด้า ไม่คิดมาแย่งผู้หญิงของชั้น ชั้นก็คงจะไม่โกรธขนาดนั้น” คัชพลพูดต่อ
มณฑิตาอึ้งที่ได้ยินคัชพลพูดอย่างนั้น
“ชั้นหวังว่าแกฟื้นขึ้นมา แกคงเข้าใจชั้น”
คัชพลเครียด
สินีและธัญกร นั่งเฝ้าอยู่ สินีฟังตาม รู้สึกแค้นวีด้า
เช้าวันใหม่ มณทิตาผลักประตูเข้ามาในห้องผู้ป่วย
“คุณแม่คะ สรัลเป็นยังไงบ้าง” มณฑิตาถาม
สินีและธัญกรเงยมองมณทิตาที่รีบเดินเข้าไปหาสรัลอย่างเป็นห่วง
“สรัล!”
ยศสรัลที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มขยับตัวลืมตาขึ้น เห็นมณทิตานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง
“สรัลคะ...คุณฟื้นแล้ว” มณฑิตาดีใจ
ยศสรัลพยายามจะยันตัวขึ้นนั่ง แต่แล้วก็เจ็บแผล
“โอ้ย...”
“อย่าเพิ่งขยับค่ะ” มณฑิตาว่า
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 20 (ต่อ)
ยศสรัลพยายามลำดับเหตุการณ์ “พี่ใหญ่” “มณ”
“ไม่ต้องแปลกใจค่ะ มณอาสาเฝ้าคุณแทนคุณอาสินีเองเดี๋ยวมณเอาผ้ามาเช็ดตัวให้นะคะ”
พอมณทิตาเดินออกไป ยศสรัลเริ่มคิดแล้วนึกได้
“วีด้า!”
ยศสรัลรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพุฒิ
“ไงพุฒิ...คุณวีด้าเป็นยังไงบ้าง...ว่าไงนะ” ยศสรัลตกใจ หน้านิ่ว เขารู้สึกเครียดมาก
มณทิตาอยู่ในห้องน้ำ กำลังเตรียมผ้าชุบน้ำไปเช็ดตัวยศสรัลมีโทรศัพท์ดัง มณทิตาเดินมาหยิบรับสาย
“ค่ะคุณแม่ สรัลรู้สึกตัวแล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะงั้นเดี๋ยวเจอกันค่ะ”มณทิตาวางสาย แล้วเดินหยิบผ้าพร้อมอ่างเล็ก เดินไปหายศสรัล
เธอเห็นแต่ห้องว่างเปล่า
“สรัลคะ” มณฑิตางง เดินกลับไปดูที่ห้องน้ำอีกทีก็ไม่เจออะไร
“สรัล” มณฑิตาเอ่ย
เช้าวันใหม่ ยศรัลขับ Speed Boat มาแต่ไกลแล้วจอดริมหาด โดยมีพุฒิกับแก้วยืนรออยู่อยู่แล้วพุฒิมีผ้าพันแผลพันอยู่ที่หัว
“นาย…”
“เจอตัวรึยัง?” ยศสรัลถาม
“ยังเลยจ้ะ” แก้วตอบเสียงอ่อย
“เราพยายามหาแล้วครับนาย แต่ไม่เจอจริงๆ” พุฒิว่า
ยศสรัลเป็นห่วงวีด้ามาก รีบวิ่งกลับไปที่เรือ แต่อาการเจ็บแผลกำเริบ
“นาย…นายเป็นอะไรหรือเปล่า?” พุฒิถาม
“ฉันไม่เป็นไร ต้องตามหาวีด้าให้เจอ”ยศสรัลตอบแล้วกัดฟันไปขึ้น Speed Boatก่อนขับออกไปตามหาแบบไม่ยอมพัก
พุฒิกับแก้วมองตามด้วยความเป็นห่วง
ยศสรัลขับ Speed Boat วนมาดูที่ท้ายเกาะ เขาจับแผลเพราะรู้สึกเจ็บ แต่อดทนไว้ยศสรัลวนเลียบชายหาดไปดูอีกทางก็ยังไม่เจอ ยิ่งเป็นห่วงเมื่อมองเข้าไปในแนวป่าก็เห็นวีด้านอนสลบอยู่
“วีด้า!” ยศรัลรีบวนเรือไปจอดที่ใกล้ที่สุดแล้ววิ่งลงไปหาวีด้า
“วีด้าคุณเป็นไงบ้าง”ยศสรัลพยายาเขย่าปลุกแต่ไม่เป็นผล เขาพยุงวีด้าขึ้น แต่ตัวเองก็เจ็บแผล
“คุณอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะวีด้า แพร” ยศสรัลพาวีด้าขึ้นเรือแล้วรีบสตาร์ทออก
คัชพลกำลังทำงาน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คัชพลรับสาย
“ว่าไงครับแม่?...อะไรนะครับ...สรัลหายตัวไปจากโรงพยาบาล?....ครับ ผมจะลองตามดูครับ”
คัชพลวางสายจากสินีแล้วครุ่นคิด แล้วรีบกดโทรหาวีด้าทันทีโทรศัพท์วีด้าไม่มีสัญญาณ คัชพลโทรเข้าออฟฟิศ
“ขอสายคุณวีด้าหน่อย”
“คุณวีด้ายังไม่ได้มาทำงานเลย สองวันแล้วค่ะ โอ๋ก็แปลกใจอยู่ค่ะ” โอ๋พูดอย่างเป็นห่วง
คัชพลกระแทกหูโทรศัพท์อย่างหัวเสีย
“หรือแกยังจะหนีไปหาวีด้า...ไอ้สรัล!” คัชพลเอ่ย
ยศสรัลอุ้มวีด้าเข้ามาในกระท่อม วางวีด้าลง “วีด้า..” เขาเอ่ย
ยศสรัลสำรวจดูตามร่างกายวีด้า แตะหน้าผากดูว่ามีไข้รึเปล่า เมื่อพบว่าไม่มีก็เบาใจ
พุฒิกับแก้วตามเข้ามา
“คุณเค้าเป็นอะไรมากมั้ยครับนาย?” พุฒิถาม
“คงแค่เหนื่อยเพลียจนสลบ” ยศสรัลบอก
“พุฒิขอโต๊ดดดดดด” พุฒิยกมือไหว้
“ไม่เป็นไร...แก้ว ไปเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้หน่อย แล้วหายามาด้วย” ยศสรัลบอกพุฒิแล้วหันไปพูดกับแก้ว
“จ้ะ นาย” แก้วรับคำ
พุฒิและแก้วเดินออกจากห้องไป ยสสรัลหันกลับมามองหน้าวีด้าด้วยความเป็นห่วง เขาเจ็บแผลจนหน้าซีด
ยศสรัลให้เงินพุฒิกับแก้วจำนวนหนึ่ง
“ซื้อยาแล้วก็ของใช้ที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงมาให้พอนะ”
“ครับนาย” พุฒิรับคำ
“ให้แก้วอยู่ช่วยดูคุณผู้หญิงมั้ยคะ?” แก้วถาม
“ไม่เป็นไร แก้วไปช่วยพุฒิซื้อของเถอะ เดี๋ยวพุฒิมันจะซื้อผิดๆ ถูกๆ” ยศสรัลว่า
“จ้ะ” แก้วรับคำ
พุฒิกับแก้วเอาเรือลำเล็กออกไป ยศสรัลหันกลับไปมองที่กระท่อมอย่างเป็นห่วง
วีด้าฟื้นในเวลาต่อมา ยศสรัลที่ยกข้าวต้มเข้ามาเห็นพอดี ก็ยิ้มดีใจ
“คุณฟื้นแล้ว กินข้าวต้มก่อนนะ” ยศสรัลว่า
วีด้าปวดหัว พยายามตั้งสติ เมื่อเห็นยศสรัลก็ถอยหนี
“คุณ!จับชั้นกลับมาอีกทำไม”
“คุณนอนสลบอยู่ท้ายเกาะ ผมพาคุณกลับมา...คุณกินข้าวต้มก่อนนะจะได้มีแรง”ยศสรัลจะป้อน
“ชั้นไม่กิน!” วีด้าปัดทิ้ง
“นี่คุณ ผมว่าเราเลิกทะเลาะกันซะทีเถอะ” ยศสรัลฉุน
“ทำไมปล่อยให้ฉันตายไปเลยล่ะ!” วีด้าว่า
“กินซะ ผมขอร้อง” ยศสรัลพูดพร้อมกับพยายามข่มอารมณ์
วีด้าไม่ยอม ไม่สนใจ
“ไม่ยอมกินใช่มั้ย”ยศสรัลอ้อมไปด้านหลังใช้มือซ้ายกอดรัดแขนทั้งสองของวีด้าไว้ ส่วนมือขวาตักข้าวต้มป้อน
“กิน!” ยศสรัลสั่ง
“ไม่”วีด้าดิ้นอีก
“คุณไม่มีแรงจะดิ้นแล้วรู้มั้ย กินซะ” ยศสรัลว่า
วีด้าออกแรงดิ้นแรงขึ้น
“โอ๊ย..” ยศสรัลร้อง
วีด้าสงสัยว่ายศสรัลร้องทำไม แต่ก็ไม่ใส่ใจ วีด้าดิ้นหมดแรง ยศสรัลกอดอยู่อย่างนั้น
“ถ้าคุณไม่กิน ผมจะกอดคุณอยู่อย่างนี้แหละ” ยศสรัลว่า
วีด้าดิ้น ยสสรัลรัด วีด้าชักหวั่นใจ
“ปล่อย.. ชั้นจะกินเอง” วีด้าว่า
ยศสรัลพอใจ ปล่อยวีด้า วีด้าแย่งช้อนมา
ระหว่างที่วีด้ากิน ยศสรัลเจ็บแผล เมื่อก้มดูก็เห็นเลือดซึมเยอะเป็นวงใหญ่
“นี่คุณเป็นอะไร?” วีด้าตกใจ
“ผมไม่เป็นไร...คุณทานข้าวไปเถอะ” ยศสรัลพูด
ยศสรัลเดินกุมแผลออกมาจากห้องวีด้าตามมาเอาเรื่องอย่างไม่ยอมลดละ
“ต่อให้ชั้นขอยังไงคุณก็จะไม่ปล่อยชั้นไปสินะ” วีด้าว่า
“ผมจำเป็นต้องกักคุณไว้ จนกว่าคุณจะเลิกล้มความคิดแก้แค้น” ยศสรัลบอก
“ไม่ให้ชั้นแก้แค้น แล้วให้ครอบครัวชั้นถูกกระทำฝ่ายเดียวงั้นเหรอ พวกคุณมันเห็นแก่ได้” วีด้าพูด
“ผมเห็นแก่คุณต่างหาก คุณรู้มั้ย ถ้าผมยังปล่อยไว้ต่อไป คุณนั่นแหละจะมีอันตราย” ยศสรัลสวน
วีด้าอึ้ง ถึงแม้เธอจะเห็นแววตาความจริงใจของยศสรัล แต่ก็ยังพยายามต่อต้าน
“อันตรายของฉัน ก็คือคุณตอนนี้ไง” วีด้าบอก
“วีด้า คุณก็รู้ ว่าผมไม่มีวันจะทำร้ายคุณ” ยศสรัลพูด
วีด้าอึ้งไป ยศสรัลเจ็บกุมแผล มีเลือดซึมออกมามากขึ้น ยศสรัลหน้าซีดเหงื่อผุด ก่อนทรุดลงกับพื้นทันที วีด้ายืนมอง งง ตกใจ ก่อนรีบวิ่งเข้าไปดู
“คุณสรัล! …คุณเป็นอะไร?”
“พุฒิ! แก้ว! มาดูนายพวกเธอเร็ว!” วีด้าตะโกน
ทว่า ไม่มีเสียงตอบรับจากพุฒิแก้ว
“พุฒิ! แก้ว! หายไปไหนกันหมด!” วีด้าตะโกนต่อ
ทันใดนั้น วีด้าก็ชะงัก มองหน้ายศสรัลที่หมดสติอยู่แล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ เธอมองไปที่ริมทะเล เห็น Speed Boat ลอยลำอยู่ก็ตาวาว วางยศสรัลไว้กับพื้นแล้วรีบวิ่งไปที่เรือ ยศสรัลพยายามฝืน
“วีด้า...” ยศสรัเรียกอย่างอ่อนแรง
ยศสรัลพยายามลุกตาม ก่อนหมดแรงแล้วทรุดลงหมดสติ
วีด้าวิ่งหนีมาที่เรือ กระโดดขึ้น แล้วไปที่คันบังคับ จะสตาร์ทแต่ไม่มีกุญแจเสียบอยู่ วีด้าหัวเสีย คิดว่าทำไงดี เธอหันกลับไปที่ชายหาด แล้วตัดสินใจวิ่งกลับไป
เมื่อกลับมาที่หาดก็พบยศสรัลนอนสลบอยู่ เธอหยุดมองแล้วค้นตัวยศสรัล เมื่อเจอกุญแจเรือในกระเป๋ากางเกงก็ดีใจ
“เจอแล้ว” วีด้าว่า เธอลุกขึ้น มองดูยศสรัลอีกครั้ง แล้ววิ่งหนีไปไม่สนใจ
วีด้ากลับมาที่เรือ ขึ้นเรือ แล้วบิดกุญแจสตาร์ทเครื่องเครื่องเรือสตาร์ตติดแล้ว แต่วีด้ากลับยังไม่ออกไป เธอหันกลับไปมองยศสรัล เริ่มลังเล แต่ในที่สุดก็ใจร้ายไม่ลง วีด้าปิดกุญแจดับเครื่องเรือ
วีด้าเดินกลับมาหายศสรัล ลมทะเลเริ่มพัดแรง เธอนั่งลงข้างๆร่างของยศสรัล เธอมองดูยศสรัลอยู่อย่างนั้นแล้วรู้สึกอยากจะร้องไห้ เธอพยายามดึงตัวยศสรัลขึ้น แต่เธอก็ไม่มีแรง วีด้าปล่อยให้ร่างยศสรัลพิงอยู่บนตักเธอ
“นี่คุณไปโดนอะไรมา” วีด้าเห็นเลือดก็รำพึง เธอร้องไห้ และมองออกไปรอบๆ
อ่านต่อตอนที่ 21