น่ารัก ตอนที่ 18
ตอนเย็นใกล้ค่ำ ตรงบริเวณชายหาดริมทะเล บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด สองหนุ่มยืนจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้นนิ่งและนาน แนวหน้ามองไผทที่ดูเครียดๆ ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับไผทยังไงดี
“เอ่อ…ไผท คือ เรื่องในบล็อก ฉันอธิบายได้นะ…คือฉันทำไปก็เพราะงาน”
ไผทไม่เชื่อ “เรื่องงานยังไงครับ? ก็ผมเห็นอยู่ว่าพี่จงใจจะให้องค์หญิงคิดว่า นายพรหมลิขิต คือผม”
แนวหน้าอึกอักไม่รู้จะไปยังไงต่อ “ใช่…คือ…เอ่อ แกจำได้ใช่ไหม ช่วงที่เราไปฮวาซาใหม่ๆ แล้วที่พี่นายกับพี่จี้มีปัญหากัน เจ๊ฟินก็ชอบหาเรื่อง ตอนนั้นฉันคิดว่าถ้าตีสนิทองค์หญิงได้ ฉันจะได้มีคนหนุนหลัง แล้วพอองค์หญิงเข้าใจผิดชั้นก็เลยเลยตามเลยเลย”
ไผทจ้องหน้าแน่วนิ่ง “งั้นพี่กำลังจะบอกว่าทุกอย่างที่พี่คุยกับองค์หญิงในบล็อกมันแค่เรื่องงานเหรอครับ”
“ใช่ เรื่องงานล้วนๆ เลย พี่รับรอง” แนวหน้ายืนกรานหนักแน่น
ไผทหยิบบันทึกของแนวหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงตัวเอง แล้วชูให้ดู แนวหน้าพบว่าบันทึกตัวเองอยู่กับไผทก็ตกใจ
“แล้วนี่อะไรครับ? ไอ้สิ่งที่พี่เขียนในนี้ก็เป็นเรื่องงานด้วยเหรอพี่แนว”
แนวหน้าอึ้ง ฉุนนิดๆ “นี่แกอ่านบันทึกฉันเหรอ”
“ก็ถ้าผมไม่อ่าน ผมจะรู้เหรอว่าจริงๆ แล้วพี่ชอบองค์หญิงขนาดไหน ไม่ใช่สิ เรียกว่ารักเลยจะดีกว่า”
แนวหน้าชะงัก “ยังไงแกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาอ่านสมุดบันทึกของคนอื่น”
“ผมควรมีมารยาทกับคนที่กำลังใช้ชื่อผมจีบผู้หญิงที่ผมรักงั้นเหรอ” ไผทโวยวายเสียงดัง “ทำไมครับพี่แนว ทำไมพี่ต้องใช้ชื่อผมโกหกองค์หญิง ด้วย...ถ้าพี่ชอบองค์หญิงทำไมไม่บอกเค้าไปตรงๆ”
แนวหน้าตั้งสติ พยายามทำใจดีสู้ “ไผท แกเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้ชอบองค์หญิง”
ไผทจ้องหน้าแนวหน้าอย่างโกรธขึ้ง เปิดสมุดบันทึกแล้วอ่านให้แนวหน้าฟัง “งั้นเหรอ” ไผทเริ่มอ่าน “หรือว่าเจ้าหญิงทุกคนจะต้องเป็นแบบนี้ และที่สำคัญที่สุด เธอน่ารักเหลือเกิน” จากนั้นก็พลิกหน้าอ่านต่อ “...ว่ากันว่าทุกอย่างในโลกมันถูก ลิขิตขึ้นมา แต่เรานี่แหละจะเป็นคนกำหนดมันด้วยตัวเอง... โปรดเรียกผมว่านายพรหมลิขิต” ซุปตาร์หนุ่มพลิกหน้าอ่านต่อ “…จะผิดไหม ถ้านายพรหมลิขิตคิดจะชอบเด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ...หลงรักเจ้าหญิง โดนตัดหัวแน่ไอ้แนว!”
แนวหน้าสุดทนฟัง คว้าสมุดบันทึกกลับมา “พอแล้ว” บอกออกมาด้วยความโมโห “เออ! ชอบก็ชอบ!แต่แกจะให้ฉันบอกเค้า ยังไง? บอกว่าไอ้คนปากหมา หน้าตาก็ธรรมดาที่เค้าเกลียดขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็นอย่างชั้นชอบเค้างั้นเหรอ”
ไผทมองแนวหน้านิ่ง
“ผมหลงคิดว่าพี่แนวเป็นคนเจ๋ง ถ้าพี่แนวชอบองค์หญิง แล้วจีบท่านตรงๆแข่งกับผม ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่นี่พี่เล่นใช้วิธีขี้ขลาดแบบนี้ ไม่เหมาะกับตัวพี่เลย”
แนวหน้าชักจะโกรธ “ขี้ขลาดเหรอ ไผท แกลองดูหน้าแกกับฉันสิ ลองนึกว่าถ้าผู้หญิงเห็นเราสองคนอยู่ด้วยกันตรงหน้า เค้าจะมองใคร คำตอบคือไม่มีใครมองฉัน! ไม่ว่าจะเป็นขิง หรือองค์หญิง ก็ไม่มีใครเคยสนใจชั้นเลย เค้ามองแต่แก ไผท”
ไผทชะงักอึ้งไป ฟากโลลิต้า และชีฟองกำลังยืนมองแนวหน้ากับไผทที่คุยกันอยู่ริมทะเล “คุณแนวกับคุณไผทคุยกันนานจังเลยนะคะ” ชีฟองปรารภ “นั่นสิคะ ไม่รู้คุยอะไรกัน ท่าทางซีเรียสด้วย” องค์หญิงนึกได้ “หรือว่านายนั่นกำลังด่าคุณไผทเรื่องที่มาที่นี่ หญิงว่าหญิงไปช่วยพูดให้คุณไผทดีกว่าค่ะ” โลลิต้าทำท่าจะไป
ชีฟองรีบห้ามไว้ “พี่ฟองว่าอย่าเลยเพคะ องค์หญิงก็ถือว่ามีความผิดนะเพคะที่ไปบอกคุณไผท พี่ฟองว่าปล่อยให้เค้าคุยกันเองเถอะเพคะ”
โลลิต้าเป็นห่วงไผทไม่คลาย
แนวหน้ายังคุยกับไผทอยู่ที่เดิม “แกคิดว่าสนุกนักเหรอที่ต้องคุยกับคนที่เรารักด้วยชื่อคนอื่น ทำไมชั้นจะไม่เฮิร์ทเวลาองค์หญิงเรียกชั้นว่าไผท ชั้นอยากจะบอกความจริงใจจะขาดว่าชั้นคือใคร แต่องค์หญิงเค้าเข้าใจผิดตั้งแต่แรกว่าคนที่เขียนสมุดบันทึกเล่มนี้ กับคนที่เขียนบล็อกนายพรหมลิขิตคือแก!! แล้วแกจะให้ฉันบอกเค้าว่ายังไง”
“ก็บอกความจริงไงพี่” “บอกยังไง บอกว่าไม่ใช่พะยะค่ะคนที่คุยกัน หัวเราะด้วยกันทุกวันทุกคืนคือกระหม่อม คือไอ้แนวปากหมาคนนี้ ไม่ใช่ไผท ไพศาลีที่องค์หญิงปลื้มงั้นเหรอ”
“ใช่พี่ พี่รู้ไหม ทุกครั้งที่ผมคุยกับองค์หญิง เค้าจะคุยกับผมเรื่องหนังสืออะไรไม่รู้ที่ผมไม่เคยอ่าน เรื่องหมาที่แค่เข้าใกล้ผมก็แพ้ขนมัน เรื่องปรัชญาที่ผมไม่เข้าใจ แล้วยังเรื่องนิยาย บล็อกอะไรก็ไม่รู้ที่ผมไม่ได้สนใจอีก ตอนแรกผมก็แปลกใจว่าเค้าพูดถึงอะไร…แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว” ไผทพูดอย่างเจ็บปวด “บางทีคนที่องค์หญิงชอบ...อาจจะเป็นคนที่อยู่ในบล็อกนายพรหมลิขิตก็ได้ ไม่ใช่ผมหรอก”
แนวหน้าอึ้ง ตะลึงไปเลย “ไม่จริงหรอก เป็นไปไม่ได้”
“ถ้างั้นก็พิสูจน์สิ ไปบอกความจริงกับองค์หญิง บอกเค้าว่าพี่คือนายพรหมลิขิตตัวจริง แล้วเราจะได้รู้กัน ว่าองค์หญิงชอบใครกันแน่ ระหว่างคนในบล็อกกับตัวจริงของผม”
แนวหน้าไม่เอาด้วย “ไม่อะ ชั้นบอกไม่ได้ ชั้นไม่อยากให้เค้าผิดหวัง”
“แต่องค์หญิงควรจะรู้ความจริง ถามจริงๆ เถอะพี่แนว พี่คิดจะหลอกคนที่พี่รักไปอีกนานแค่ไหน”
คราวนี้แนวหน้าชะงักมองหน้าไผทเขม็ง ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำยังไงดี
“งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน ผมจะให้เวลาพี่ถึงสองทุ่มคืนนี้ ถ้าพี่ไม่กล้าบอกองค์หญิง…ผมจะเป็นคนบอกองกค์หญิงเอง”
ไผทเดินไป 2-3 ก้าว แล้วหยุดพูดอีกคำ “ถ้าพี่ไม่กล้าบอกองค์หญิง ผมจะถือว่าพี่ขี้ขลาดสิ้นดี”
จากนั้นไผทก็เดินออกไปเลย แนวหน้าอึ้ง พูดไม่ออก จุกสุดขีด
ไผทเดินจากแนวหน้ามาตามชายหาดริมทะเล ไผทหยุดยืน หันหน้าไปทางทะเลแล้วยืนทำใจเรื่องแนวหน้ากับโลลิต้าที่ดงมะพร้าว
ส่วนแนวหน้าเดินหงุดหงิดเข้าไปเขย่าต้นมะพร้าวอย่างโมโห “โธ่เว้ย!”
แนวหน้าทั้งเขย่า ทั้งเตะ ทั้งทุบต้นมะพร้าวใกล้ๆ เพื่อระบายอารมณ์ “ถ้าเพียงแต่วันนั้นผมไม่ป๊อดแล้วกล้าบอกองค์หญิงไปตรงๆ ว่าบันทึกเล่มนี้เป็นของผม…เรื่องทั้งหมดมันคงไม่เป็นแบบนี้”
แนวหน้าแหกปากตะโกนดังลั่นด้วยความอึดอัด
โลลิต้า กับชีฟองยืนมองอยู่ในบ้าน สักครู่ไผทเดินเข้ามาในบ้านทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น “คุณไผท โดนคุณแนวว่าอะไรหรือเปล่าคะ” ไผทยิ้มๆ “เปล่าพะยะค่ะ จะว่าเรื่องอะไร” “นึกว่าโดนว่าเรื่องตามหญิงมาที่นี่ หญิงจะได้ไปจัดการนายนั่นให้” ไผทยิ้มอีก ชีฟองถามขึ้น “แล้ววันนี้คุณไผทไม่ต้องทำงานเหรอคะ”
ไผทโกหก “วันนี้วันหยุดผมน่ะครับ...ก็เลยว่าจะมาขอค้างที่นี่สักคืน องค์หญิงคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมพะยะค่ะ”
“ที่นี่บ้านคุณแนว ถามคุณแนวดีกว่าค่ะ”
แนวหน้าเดินเข้ามาพอดี ไผททำเป็นยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ผมขอแล้วครับ พี่แนวไม่ได้ว่าอะไร...จริงไหมพี่แนว ผมค้างที่นี่ได้ใช่ไหม”
แนวหน้าอึ้งๆแล้วพยักหน้า “ก็... ตามสบายเลย”
โลลิต้าพยักหน้ายิ้มๆ “งั้นเย็นนี้กระหม่อมว่าเราไปย่างอาหารทะเลทานกันที่ริมทะเลดีไหมพะยะค่ะ” ไผทหันมาพูดกับแนวหน้า “ดีไหมพี่แนว จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน”
แนวหน้าอึดอัด มองไผทนิ่งๆ ไม่รู้จะทำยังไง “จะดีเหรอ เอ่อ...” แล้วทำฟอร์ม “ก็เอาสิ…อยากกินอะไรบ้างล่ะ เดี๋ยวฉันไปตลาดให้”
โลลิต้ามองแนวหน้า แปลกใจที่เขาที่ยอมให้ไผทมาอยู่ด้วยโดยง่าย ทั้งที่ทีแรกทำเหมือนโกรธจะเป็นจะตาย
แนวหน้าละอายใจไม่กล้าสบตาองค์หญิงเอาเลย
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 18 (ต่อ)
ชีฟองกับปิแอร์กำลังแกะ กุ้ง หอย ปู ปลา ออกจากถุงมาล้างที่อ่างล้างจาน
“คุณชีฟองครับ...พร้อมรึยังครับ...เดี๋ยวเราต้องไปพม่านะครับ” ปิแอร์บอก
ชีฟองงง “ห๊ะ ไปทำไม” ปิแอร์ทำท่าทางน่าขำ ชูกุ้งในมือเฉลยว่า “ไปย่างกุ้งไงครับ”
ชีฟองส่ายหน้าเซ็งเป็ด ไผทเดินเข้ามาในจังหวะนี้
“คุณชีฟอง พี่แนวล่ะครับ”
“เมื่อกี้เอาอาหารทะเลมาให้ แล้วก็เดินเข้าห้องไปเลยค่ะ สงสัยจะทำงาน” ชีฟองว่า ไผทมองตามไปด้านบน กังวลว่าแนวหน้าจะไม่ลงมา บ่นบอก
“ทำงาน หรือว่าป๊อด”
ชีฟองงง “อะไรนะคะ”
“เปล่าครับ ไหน มีอะไรจะให้ผมช่วยบ้างมั้ย”
โต๊ะปาร์ตี้ปิ้งย่างบาร์บีคิว และ เตาย่าง ถูกตั้งอยู่ริมทะเล ไผทกำลังเอาผ้าปูโต๊ะเพื่อจัดสถานที่ เห็นมีโถใส่ดอกลีลาวดีที่เก็บได้แถวนั้นตั้งอยู่กลางโต๊ะ ไผทมองสิ่งที่ตัวเองเตรียมรอบๆ ดูนาฬิกาเป็นเวลา 6 โมงครึ่ง ไผทมองเข้าไปในบ้าน พึมพำออกมา “พูดเถอะพี่แนว ผมอยากให้พี่พูด”
โลลิต้าเดินตามเข้ามาทางด้านหลังพอดี “คุณไผท...” ไผทหันไปยิ้มเหมือนไม่มีอะไรทันที
“มีอะไรให้หญิงช่วยไหมคะ”
“ไม่เป็นไรพะยะค่ะองค์หญิง เดี๋ยวกระหม่อมจัดการเอง”
“พี่ชีฟองก็ไม่ให้หญิงช่วย คุณไผทก็ไม่ให้หญิงช่วย…นี่ทุกคน กลัวหญิงเหนื่อย หรือกลัวว่าหญิงจะทำของพังกันแน่คะ”
ไผทครุ่นคิดก่อนพูด “องค์หญิง ทรงเอาแหวนวงนั้นมาหรือเปล่าพะย่ะค่ะ”
องค์หญิงนึกถึงเหตุการณ์ที่ฮวาซาใต้ ตอนรับแหวนจากไผท เลยเขินๆ
“หญิงทิ้งไว้ที่บ้านคุณแนวหน้า แล้วตอนรีบร้อนออกจากกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลยค่ะ”
โลลิต้าหันมองไผทว่าช่วยเรื่องอะไร
ไผทมองซ้ายมองขวาเห็นดอกลีลาวดีที่วางอยู่ในโถกลางโต๊ะ
“ถ้าอย่างนั้น...”
ไผทเดินไปหยิบดอกลีลาวดีมาแล้วยื่นให้โลลิต้า
“เก็บดอกลีลาวดีนี้ไว้นะพะยะค่ะ เพราะวันนี้กระหม่อมมีเรื่องอยากจะบอกองค์หญิง และถ้าองค์หญิงทรงรู้ความจริงแล้วยังคงรู้สึกกับกระหม่อมเหมือนเดิม...ช่วยคืนดอกลีลาวดีนี้กลับมาให้กระหม่อมแทนคำตอบด้วยนะพะยะค่ะ
โลลิต้ามองงๆ พร้อมกับรับดอกลีลาวดีจากไผท
“ความจริงอะไรเหรอคะ”
“แล้วคืนนี้องค์หญิงจะทรงทราบเองพะยะค่ะ”
โลลิต้ามองไผทอย่างแปลกใจ
ห่างออกมาริมชายทะเลไม่ไกลนัก ชองปอล พร้อมทหารติดตามอีก 2 คน ก้าวออกมายืนในที่โล่ง ชองปอลมองจ้องไปยังโลลิต้าที่รับดอกลีลาวดีจากไผทอย่างโกรธแค้นสุดขีด
“นี่เหรอที่มันบอกว่าไม่รู้ว่าน้องหญิงอยู่ที่ไหน ไอ้คนโกหก”
ชองปอลมองไผทอย่างอาฆาตแค้น
แนวหน้านั่งหมกตัวอยู่ในห้อง มองสมุดบันทึกท่าทีคิดหนัก มองดูนาฬิกาข้อมือตัวเองที่บอกเวลาทุ่มตรง แนวหน้าคิดไม่ตก ว่าจะออกไปเจอโลลิต้าดีหรือไม่ดี
ข้าวของสำหรับปาร์ตี้ปิ้งย่าง ถูกจัดวางไว้เรียบร้อย มีเตาย่าง ปิแอร์ย่างของทะเลบนเตา โลลิต้า และไผทนั่งอยู่ที่โต๊ะ แล้ว ข้างโลลิต้ามีดอกลีลาวดีที่ไผทให้วางอยู่ ชีฟองยกจานปูที่แกะแล้ววางอย่างสวยงามมาตั้งที่โต๊ะให้สองคน
“นี่คุณแนวไม่ลงมากินกับเราด้วยเหรอเนี่ย”
“ทั้งพี่ชีฟอง ทั้งปิแอร์ผลัดกันไปเรียก แต่คุณแนวหน้าก็ยังเงียบอยู่ค่ะ”
“เอ๊ะ เป็นอะไรไป หรือว่าจะคิดงานอยู่”
“ถ้างั้นเราอย่าไปกวนเค้าเลยดีกว่านะคะ” ชีฟองบอก
ไผทมองนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลา 19.30 น. แล้ว
“ผมว่าอีกไม่นานพี่แนวคงลงมาน่ะครับ”
ฟากแนวหน้ามองนาฬิกาว่าเหลืออีก 10 นาที 2 ทุ่ม คำพูดไผทดังก้องในหู
“ผมจะให้เวลาพี่ถึงสองทุ่มคืนนี้ ถ้าพี่ไม่กล้าบอกองค์หญิง…ผมจะเป็นคนบอกองค์หญิงเอง”
แนวหน้าคิดหนัก ลุกขึ้นเดินไปที่ประตูแล้วจับที่ลูกบิดประตู แต่ลังเลอีกว่าจะไปดีไหม
ปิแอร์ และชีฟองยังปิ้งย่างของอยู่ไปมา ไผทมองนาฬิกาเห็นว่า 2 ทุ่มตรงแล้ว แต่ว่าแนวหน้ายังไม่ลงมาสักที ไผทบ่นอุบ
“ทำไมยังไม่มาเนี่ย”
องค์หญิงได้ยินไม่ถนัด “คุณไผทว่าอะไรนะคะ”
“เอ่อ...กระหม่อมบอกว่าปูเนี่ย เนื้อแน่นดีนะพะยะค่ะ”
โลลิต้ามองไผทที่ดูมีท่าทีแปลกๆ
“แล้วคุณไผทจะบอกหญิงได้หรือยังคะว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับหญิง” ไผทนิ่งคิดแล้วมองไปทางแสงไฟในห้องของแนวหน้า ดูนาฬิกาที่เดินเวลา 2 ทุ่มแล้ว ก่อนจะตัดสินใจ
“องค์หญิงพะยะค่ะ คือ…กระหม่อมอยากจะบอกว่า…” สุดท้ายไผทไม่กล้าบอก “เอ่อ...น้ำแข็งหมด เดี๋ยวกระหม่อมขึ้นไปเอาให้พะยะค่ะ”
ไผทลุกขึ้นไปหยิบถังน้ำแข็ง “เดี๋ยวผมไปเอาให้ก็ได้ครับคุณไผท พอดีตู้เย็นมันเต็ม ผมเลยเอาไว้ที่ถังด้านนอก”
ปิแอร์ดึงถังน้ำแข็งมจากไผท “ไม่เป็นไรครับ ผมไปเอาเอง จะได้ไปตามพี่แนวด้วย”
“ผมตามคุณแนวให้ด้วยก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากเป็นคนไปตามเอง”
ไผทยิ้ม แล้วเดินถือถังน้ำแข็งออกไป
ไผทถือถังน้ำแข็งเดินเข้ามาในบ้านพัก เพื่อจะไปตามแนวหน้า ขณะก้มลงวางถังน้ำแข็ง จู่ๆ มีไม้ท่อนใหญ่ฟาดเข้าต้นคอไผทเต็มแรง ร่างไผทล้มลงหมดสติทันที มีชายชุดดำ 2 คนลากไผทออกไป
ส่วนแนวหน้าตัดสินใจแน่วแน่ ในท่าทีมุ่งมั่น ลุกขึ้นยืนบิดลูกบิด เปิดประตูออกมา
โลลิต้าถือดอกลีลาวดีอยู่ในมือ ครุ่นคิดว่าไผทจะบอกอะไรตัวเอง ขณะชะเง้อชะแง้แลหาไผท
“ทำไมคุณไผทหายไปนานจังคะพี่ฟอง”
“เดี๋ยวกระหม่อมไปดูให้พะยะค่ะ” ปิแอร์เดินออกไป
แนวหน้าเดินตัดสนามเข้ามาจากอีกทาง หน้าตามุ่งมั่นตัดสินใจ ชีฟองหันไปเห็น “อ้าว คุณแนวมาแล้วเหรอคะ ทำงานเสร็จแล้วล่ะสิ หิวไหมคะ”
“ขอบคุณครับคุณชีฟอง แต่ผมมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับองค์หญิง”
“ทำไมวันนี้ทั้งคุณไผท ทั้งคุณแนวมีเรื่องจะบอกหญิง มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าคะ” โลลิต้างวยงงสงสัย
แนวหน้ากำลังจะอ้าปากบอกความจริงกับโลลิต้า
“คือ...กระหม่อมมีเรื่องจะสารภาพ คือ...”
เสียงชองปอลดังขัดขึ้นก่อน “สวัสดีค่ะน้องหญิง” ทุกคนหันไปเห็นชองปอลเดินเข้ามาพร้อมทหารติดตามก็ตกใจ ชีฟองถึงกับของหล่นจากมือ
“พี่ชองปอล” องค์หญิงอุทาน
“พี่ขับรถตามหาน้องหญิงตั้งไกล ทั้งเหนื่อยทั้งหิว ขอพี่ทานอาหารกับน้องหญิงด้วยคนนะคะ”
ชองปอลเดินลงนั่งแทนที่ไผทหน้าตาเฉย เห็นช่อดอกลีลาวดีที่วางอยู่ก็หยิบมาขว้างทิ้งลงพื้นอย่างไม่แยแส ทุกคนมองชองปอลอึ้งๆ
ร่างไผทที่ถูกโยนทิ้งไว้ที่พื้น ค่อยๆ รู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมา สติสตังค่อยๆ ฟื้น เขามองไปรอบๆ
ชายชุดดำ 1 มองอยู่ “ฟื้นแล้วเหรอ ไอ้รูปหล่อ”
ไผทมองเห็นชายชุดดำ 2 คน แววตาฉงน “พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไร”
“ก็เป็นคนที่หมั่นไส้หน้าหล่อๆ ของแกไง”
ขาดคำ ชายชุดดำ 1 ต่อยไผทคว่ำลงที่พื้นอีกรอบ ชายชุดดำ 2 หยิบมีดสปริงขึ้นมา ชายชุดดำ 1 เข้าไปล็อคตัวไผทที่นอนอยู่ที่พื้น แล้วจับหน้าไผทให้หันมา
ชายชุดดำ 2 ถือมีดเข้าไปหา ทำท่าจะเอามีดกรีดหน้า ไผทพยายามดิ้นสุดแรงเกิด ทั้งสองทั้งล็อคและต่อยท้อง ไผททั้งจุกทั้งเจ็บ ตัวงอเป็นกุ้งล้มลงไปอีก
โม่งดำ1บอก “จับหน้ามันไว้” แล้วเดินเข้าไปจะกรีดหน้าไผทอีก
เสียงปิแอร์ดังขึ้น “หยุดนะ”
ชายชุดดำทั้งคู่ชะงักหันไปมองเห็นปิแอร์ยืนอยู่ ทำท่าขึงขังเล็งปืนมาที่คนร้าย
“พวกแกกำลังจะทำอะไร”
ชายชุดดำสบตากัน ปิแอร์ขยับมาใกล้ไผท “คุณไผท เป็นยังไงบ้าง”
ช่วงจังหวะที่ปิแอร์เผลอ ชายชุดดำ 2 เตะ จนปืนในมือปิแอร์กระเด็นไป แล้วต่อยเต็มแรงจนร่างปิแอร์กระเด็น อีกคนตามไปจะกระทืบ ไผทพุ่งตัวมาช่วยปิแอร์ เปิดฉากบู๊ชุลมุนกันสักครู่ใหญ่ ชายชุดดำ 1 ล้มลงไปใกล้ปืน มันชะงักมองปืน แล้วมองไผทที่กำลังเป็นต่อ ไล่ต่อยชายชุดดำ 2 อย่างเมามัน ชายชุดดำ 1 หยิบปืนขึ้นมาช้าๆ ตาวาววับ
ชองปอลนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะอาหาร โลลิต้านั่งอยู่ด้วย แนวหน้า กะ ชีฟองยืนอึ้งๆ อยู่ ชองปอลหัวเราะ
“ทำไมไม่มีใครกินอะไรเลยล่ะ ชีฟองแกะปูมาให้เราชิมสักนิดสิ”
“พี่ชองปอลมาที่นี่ได้ยังไงเพคะ” ชองปอลยิ้มๆ “มาได้ยังไงไม่สำคัญหรอกค่ะน้องหญิง สำคัญที่ว่าพี่มาที่นี่เพื่อมารับตัวน้องหญิงกลับฮวาซาด้วยกัน”
“หญิงยังกลับฮวาซาไม่ได้หรอกเพคะ”
ชองปอลสวนแรง “กลับไม่ได้หรือไม่อยากกลับกันแน่คะ”
“ยังไงมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของหญิง”
“อย่างนั้นเหรอ พี่ว่าไม่ใช่หรอกนะ”
โลลิต้ามองชองปอลแล้วรู้ว่าชองปอลไม่พอใจอย่างมาก ทันใดนั้นโลลิต้า แนวหน้า ชีฟองได้ยินเสียงปืน ปัง!! ทั้งสามคนตกใจ
“เสียงปืนนี่เพคะ” ชีฟองเหลียวไปทางที่มาเสียง
ชองปอลชะงัก ชักสีหน้าไม่พอใจ ที่ทหารทำอะไรเอิกเกริก
แนวหน้าใจไม่ดี ออกวิ่งนำไปก่อน โลลิต้ากับชีฟองตามไปติดๆ กัน
ร่างไผทล้มคว่ำอยู่กับพื้นทราย ชายชุดดำรีบทิ้งไผทแล้ววิ่งหนีออกไป ปิแอร์รีบวิ่งเข้าไปช่วยไผทที่อยู่ที่พื้นทันที “คุณไผท! คุณไผท”
ปิแอร์พลิกตัวไผทขึ้นมาพบว่าไผทโดนยิงที่หัวไหล่ ใบหน้าช้ำบวมเพราะถูกซ้อมอย่างหนัก มีแผลแตก เลือดออก ปิแอร์ใจหล่นวูบ “อย่าเป็นอะไรนะครับ คุณไผท”
แนวหน้ามาถึงก่อนใครชะงัก “ปิแอร์เกิดอะไรขึ้น”
ปิแอร์กำลังจะรายงาน โลลิต้ากับชีฟองตามมาถึง เห็นสภาพไผทในอ้อมแขนของปิแอร์ ก็ช็อก!
“คุณไผท!” โลลิต้ากรีดร้อง
ชองปอลตามมากับทหารเป็นกลุ่มสุดท้าย
ชองปอล ตกใจนิดๆ มองไผทอึ้งไปชั่วขณะ แล้วเหยียดยิ้มอย่างสะใจออกมา
อ่านต่อหน้า 3
น่ารัก ตอนที่ 18 (ต่อ)
เตียงรถเข็นรับผู้ป่วยของโรงพยาบาล ถูกเข็นมาอย่างรีบร้อน ร่างไผทสลบไม่ได้สตินอนอยู่บนเตียงนั้น ที่กำลังเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป ใบหน้าซีดเผือด เลือดชุ่มเต็มเสื้อ โลลิต้า แนวหน้า ชีฟอง และปิแอร์ วิ่งตามมา จนไผทถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป พยาบาลให้ทั้ง 4 รออยู่นอกห้อง
โลลิต้าเพิ่งมีโอกาสถามที่มาที่ไป “ปิแอร์…คุณไผทเป็นแบบนี้ได้ยังไง”
“กระหม่อมไปเจอคุณไผทกำลังโดนใครก็ไม่รู้รุมทำร้ายอยู่พะยะค่ะ พวกมันแต่งชุดดำใส่หมวกปิดหน้าปิดตากันหมด” ปิแอร์บอก
“แล้วมันก็เอาปืนมายิงไผทอย่างนั้นเหรอ” แนวหน้า คาใจ
“ไม่ใช่ครับ คือ.. ปืนกระบอกนั้นเป็นของผมครับ ตอนสู้กันปืนของผมหล่นไปที่พื้น แล้วคนร้ายมันก็เอามายิงคุณไผทครับผม”
ชีฟองตื่นตระหนก ท่าทีเป็นกังวลมาก “ตายแน่ๆ เรื่องมันต้องยุ่งแน่ๆ”
“หญิงจะรีบส่งข่าวบอกท่านนายพล เราต้องปิดข่าวเรื่องนี้เป็นความลับ”
“งั้นกระหม่อมจะส่งข่าวบอกพี่ฟิน ต้องช่วยกันทุกทาง ไผท แกต้องไม่เป็นอะไร” แนวหน้าบอก
เจ๊ฟินอยู่ที่กองถ่ายละคร กำลังคุยจ๊ะจ๋ากับโปรดิวเซอร์ละคร
“โอ๊ย…ว่างสิคะ จะให้ไผทไปรับเชิญซิทคอมใช่ไหม สบายมากเลยค่ะ เอ๊ะ หรือจะเอาเป็นตัวประจำเลยดีกว่ามั้ยคะ ค่าตัวไม่แพงหรอกค่า”
มือถือฟินดังขัดขึ้น คนที่โทร.เข้ามาคือแนวหน้า “แป๊บนึงนะคะ” ฟินเดินเลี่ยงมารับสาย พูดเสียงเขียว “ว่าไงไอ้แนว…รีบๆ พูดนะฉันไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับแก” พอฟังแล้วถึงกับชะงัก “อะไรนะ”
ฟินฟังแนวหน้าบอกเรื่องไผทต่อสักครู่ ก็ตาค้าง ตกใจ ช็อกสุดขีด โทรศัพท์ร่วงจากมือทันที ร่างฟินล้มทั้งยืน ท่ามกลางความตกใจของทุกคนที่อยู่แถวนั้น
ราอูล จีจี้ และนายพลราอูล กำลังคุยหารือกันอยู่ ท่าทางตกอกตกใจกันมาก
“แล้วไผทเป็นอะไรมากไหมครับท่านนายพล”
“ยังไม่รู้เหมือนกัน…องค์หญิงทรงบอกว่าคุณไผทยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย”
ทุกคนตะลึงตามๆ กัน
“ต้องเป็นฝีมือทหารของท่านชองปอลแน่ๆ” นายมั่นใจมาก
“คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะท่านชองปอลประทับอยู่ที่นั่นด้วย” ราอูลบอก
“หา! ตามไปได้ยังไงคะ” จีจี้สงสัย
“ผมคิดว่าท่านชองปอลอาจจะสะกดรอยตามคุณไผทไป”
“ถ้าอย่างนั้นก็ชัดเลย คนที่ทำร้ายไผทคือคนของท่านชองปอลแน่ๆ” นายยิ่งมั่นใจ
จีจี้ที่รู้ฤทธิ์ชองปอลถึงกับหลุดปาก อย่างมีอารมณ์ “จะเป็นใครไปได้อีกล่ะนาย! ใจร้ายจริงๆ”
“นี่มันจะกลายเป็นเรื่องราววุ่นวายกันใหญ่นะครับท่านนายพล”
จีจี้ นายหันมองราอูลที่เครียดหนัก รู้ว่าจะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ๆ
จากเย็นเป็นค่ำ โลลิต้า ชีฟองนั่งรอเฝ้าอาการไผทอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน แนวหน้ายืนอยู่อีกมุมหน้าห้องอย่างเครียดจัด คอยชะเง้อดูว่าเมื่อไหร่หมอจะออก มา ปิแอร์ยืนรออยู่แถวนั้นด้วย “ทำไมคุณไผทเข้าไปนานจังเลยคะพี่ฟอง” “ใจเย็นๆ นะเพคะองค์หญิง เชื่อพี่ฟอง คุณไผทต้องไม่เป็นอะไร”
แนวหน้าถอนใจยาว เอาแต่โทษตัวเอง และยิ่งรู้สึกผิดต่อไผทมากๆ
“ถ้าผมลงมาเร็วกว่านั้น เรื่องนี้มันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้”
ชีฟองหันไปเห็นชองปอลเดินเข้ามาพร้อมกับทหารติดตาม
“องค์หญิงเพคะ ท่านชองปอลเสด็จเพคะ”
โลลิต้าลุกขึ้นมองชองปอลด้วยสายตากล่าวหาอย่างเปิดเผย
“พี่เห็นว่าหายกันมานาน ขี้เกียจนั่งรอรอยู่ที่บ้าน ก็เลยตามมาดู อาการคุณไผทเป็นยังไงบ้างคะน้องหญิง”
“ยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉินเลยเพคะ” ชีฟองตอบแทน
“ใครนะช่างกล้าทำร้ายดาราใหญ่อย่างคุณไผทได้ลงคอ”
ชองปอลพูดยิ้มๆ ทำเหมือนไม่มีอะไร โลลิต้ามองสบตาชองปอลนิ่ง
หมอเดินออกมาจากห้องพอดี แนวหน้ารีบพุ่งไปหา ถามทันที “หมอ…ไผทเป็นยังไงบ้างครับ”
โลลิต้าเห็นว่าหมอออกมารีบเดินไปหาด้วย “กระสุนทะลุออกด้านหลัง ไม่กระทบอวัยวะที่สำคัญอะไร อาการทั่วๆ ไปไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” ทุกคนโล่งอก “แต่ในเคสที่โดนยิงมาแบบนี้ ทางโรงพยาบาลจะต้องแจ้งความก่อน”
ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีทันที โลลิต้า ชีฟอง และ แนวหน้า ทักท้วงพร้อมกัน
“เดี๋ยวค่ะ” / “เดี๋ยวครับ”
หมอตกใจ “มีอะไรกันเหรอครับ”
“คือ...ผมขอคุยกับคุณหมอเป็นการส่วนตัวหน่อยได้มั้ยครับ”
หมอมองงงๆ แนวหน้าตามหมอไปด้านหนึ่ง ชองปอลมองโลลิต้าที่มีท่าทีโล่งอกที่รู้ว่าไผทปลอดภัย
“พี่ว่าถ้าเพื่อนของน้องหญิงไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว น้องหญิงเสด็จกลับฮวาซากับพี่พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ”
โลลิต้าชะงัก
ชองปอลพูดต่อ “พี่ไม่ได้อยากบังคับน้องหญิงนะคะ แต่พี่เป็นห่วง คนร้ายบุกเข้ามาทำอันตรายร้ายแรงถึงในบ้านขนาดนี้ พี่กลัวว่าน้องหญิงจะไม่ปลอดภัย”
โลลิต้ามองหน้าชองปอลอย่างไม่ไว้ใจ “หญิงว่าคนร้ายไม่กล้าทำอะไรหญิงหรอกค่ะ แล้วหญิงก็จะอยู่รอที่นี่จนกว่าคุณไผทจะฟื้นด้วย”
ชองปอลยิ้ม สุ้มเสียงโหดเหี้ยม ข่มขู่ในที “น้องหญิงโลลิต้า ช่างเป็นผู้หญิงที่ทำให้พี่ขัดใจได้ตลอดเวลา เอาเถอะ ในตอนนี้พี่ยังพอตามพระทัยน้องหญิงได้ พี่ก็จะรอ แต่อย่าให้พี่หมดความอดทนก็แล้วกัน แล้วจะหาว่าพี่ใจร้ายไม่ได้นะคะ”
ชองปอลมองโลลิต้านิ่งๆ ก่อนจะเดินออกไป
โลลิต้ามองตามไปด้วยความหวั่นใจ ด้วยรู้ดีว่าชองปอลโหดเหี้ยมแค่ไหน
ชองปอลเดินอารมณ์ดีจะไปที่รถ มือถือดังขึ้น ชองปอลกดรับสาย
“ท่านพ่อ”
ท่านหลุยส์อยู่ที่วังฮวาซาเหนือ เพิ่งทราบข่าวกลางดึก ท่าทางโกรธกริ้ว และไม่พอใจมาก
“ทำอะไรลงไปชองปอล! แค่จะตามตัวหญิงโลลิต้ากลับมา ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ที่นั่นแผ่นดินไทยนะ ไม่ใช่บ้านเรา การที่ทำร้ายพระเอกชื่อดังขนาดนี้ มันจะทำให้เกิดเรื่อง เข้าใจมั้ย”
“ลูกไม่สนพะยะค่ะ ไม่ว่าใครหน้าไหนที่บังอาจหยามเกียรติชองปอล ต้องโดนสั่งสอน”
ท่านหลุยส์โกรธสุดขีด แต่พยายามสงบอารมณ์ “กลับมาเดี๋ยวนี้”
“ไม่พะยะค่ะ ลูกจะกลับไปพร้อมกับน้องหญิงโลลิต้า ขอประทานอภัยพะยะค่ะท่านพ่อ”
ชองปอลชิงกดวางสายใส่ท่านหลุยส์ และท่าทางจะไม่ยอมฟังใครหน้าไหนทั้งนั้น
โลลิต้า ชีฟอง ปิแอร์เดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย มองไปที่เตียงไผท เห็นสภาพไผทนอนสลบอยู่ในชุดซึ่งทำแผลเรียบร้อยแล้ว มีผ้าปิดที่คิ้วซึ่งโดนเย็บ ใบหน้าฟกช้ำ มีสายน้ำเกลือ ระโยง รยางค์ อยู่ ที่ไหล่ข้างขวามีผ้าพันแผลตรงที่โดนยิง
โลลิต้ามองไผทด้วยความรู้สึกเป็นห่วง เดินไปนั่งลงข้างเตียง ปิแอร์มองไผทอย่างรู้สึกผิด
“นี่ถ้าตอนนั้นผมยืนยันว่าจะไปเอาน้ำแข็งกับไปตามคุณแนวให้ คุณไผทก็คง ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้”
ประตูห้องเปิดออก แนวหน้าตามเข้ามา
“คุณหมอยอมไม่ไปแจ้งความมั้ยคะคุณแนว” ชีฟองถามทันที
“ยังไม่ยอม 100% ครับ คงต้องให้ท่านราอูลมาช่วยวิ่งเต้นก่อน ว่าเรื่องมันจะกระทบกระเทือนมาถึงพระนามขององค์หญิง ถ้าเป็นข่าว คุณราอูลต้องคงตามมาพร้อมพี่ฟินคืนนี้ล่ะครับ”
แนวหน้ามองไผทอย่างรู้สึกผิด เหมือนว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ไผทเจ็บตัวปางตายแบบนี้
โลลิต้าหน้าเศร้าจัด มองไผทอย่างเป็นห่วง พูดบอกกับร่างไร้สติของไผท
“รีบฟื้นขึ้นมานะคะคุณไผท หญิงยังรอฟังอยู่ว่าคุณอยากบอกอะไรกับหญิง” แนวหน้าอึ้งไป บอกตัวเองในใจ “ผมเป็นต้นเหตุของปัญหาทุกอย่างจริงๆ พี่ขอโทษนะไผท” แนวหน้ามองโลลิต้าหน้าเศร้า
แนวหน้าเดินออกมามุมหนึ่ง พร้อมกับคิดทบทวนถึงเรื่องราวที่คุยกับไผทอย่างไม่สบายใจ
“พี่รู้ไหม ทุกครั้งที่ผมคุยกับองค์หญิง เค้าจะคุยกับผมเรื่องหนังสืออะไรไม่รู้ที่ผมไม่เคยอ่าน เรื่องหมาที่แค่เข้าใกล้ผมก็แพ้ขนมัน เรื่องปรัชญาที่ผมไม่เข้าใจ แล้วยังเรื่องงานเขียนอะไรก็ไม่รู้ที่ผมไม่ได้สนใจอีก ตอนแรกผมก็แปลกใจ…แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว...คนที่องค์หญิงชอบ...คือคนที่อยู่ในบล็อกนายพรหมลิขิต...ไม่ใช่ผม”
แนวหน้ายังเดินต่อไป คำพูดไผทดังก้องขึ้นมาอีก
“ไปบอกความจริงกับองค์หญิงเถอะพี่...บอกเค้าว่าพี่คือนายพรหมลิขิตตัวจริง”
แนวหน้าหยุดเดิน ภาพไผทที่ถูกยิงนอนนิ่งอยู่บนพื้นทราย และภาพไผทนอนนิ่งในห้องไอซียูหมดสภาพซุปตาร์ ผุดซ้อนขึ้นมาหลอกหลอน แนวหน้าน้ำตาจะไหลให้ได้ ทั้งโกรธตัวเอง และสงสารไผทเหลือเกิน
“ไอ้แนวหน้า ไอ้ขี้ขลาด”
อ่านต่อหน้า 4
น่ารัก ตอนที่ 18 (ต่อ)
องค์หญิงโลลิต้ายังนั่งเป็นทุกข์อยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด สักครู่หนึ่ง แนวหน้า เดินหน้าตาเครียดหนัก ในมือถือกาแฟร้อน 2 แก้วเข้ามา มองโลลิต้าที่เป็นห่วงไผทมาก เขาหยุดเดินสูดหายใจ พยายามทำปกติ แล้วเดินถือกาแฟมาให้โลลิต้า
“กาแฟพะยะค่ะองค์หญิง”
“ขอบคุณค่ะ”
โลลิต้ายิ้มบางๆ รับกาแฟจากแนวหน้า แต่พลาดพลั้งทำให้กาแฟร้อนๆ กระฉอกโดนมือโลลิต้า
“โอ๊ย”
“องค์หญิง! เป็นอะไรหรือเปล่าพะยะค่ะ”
แนวหน้าตกใจ เห็นกระเป๋าที่วางอยู่ข้างๆ มีกระดาษทิชชู่อยู่ รีบหยิบมาเช็ดมือให้โลลิต้าอย่างเป็นห่วง
โลลิต้ามองแนวหน้าที่เช็ดมือให้ตัวเองให้นิ่งๆ
“แสบไหมพะยะค่ะ” แนวหน้าเงยหน้ามองแล้วพบว่าโลลิต้ามองตัวเองอยู่ก็ชะงักไป
ชีฟองเดินไปหาน้ำมาให้โลลิต้า เดินกลับเข้ามาพอดี เห็นแนวหน้าที่กำลังเช็ดมือให้องค์หญิงอยู่ก็ชะงัก
“ทำอะไรคะ”
แนวหน้าได้สติรีบปล่อยมือจากโลลิต้าทันที
ชีฟองยังมองจ้องจับตา เพราะรู้สึกว่าเมื่อกี้แนวหน้ามองโลลิต้าด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนว่าจะคิดอะไรกับโลลิต้า
แนวหน้ารีบบอก “พอดีองค์หญิงโดนกาแฟลวกนะครับคุณชีฟอง”
“เดี๋ยวชีฟองดูแลเองดีกว่าค่ะ”
ชีฟองเดินเข้าไปดูมือให้ โลลิต้าบอก
“หญิงไม่เป็นไรแล้วค่ะพี่ฟอง”
“ไปล้างพระหัตถ์ในห้องน้ำดีกว่าเพคะองค์หญิง”
ชีฟองพาโลลิต้าเดินไปเข้าห้องน้ำ มือถือแนวหน้าดังขึ้นในจังหวะนี้ แนวหน้ารีบกดรับ
“ฮัลโหล ...ขิงกับพี่ฟินถึงแล้วเหรอ โอเคๆ เดี๋ยวพี่เดินออกไปรับ”
แนวหน้าวางสายแล้วรีบเดินออกจากห้องไป
แนวหน้าเดินมารอรับขิง และ ฟิน ที่ล็อบบี้โรงพยาบาล เห็นขิง ฟินเดินเข้ามาอีกทางหนึ่งด้วยท่าทางรีบร้อนเป็นห่วงไผท
“ไผทเป็นไงบ้างพี่แนว”
“ยังไม่ออกจากห้องผ่าตัดเลย”
“แล้วเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง ใครเป็นคนยิงไผท ยิงทำไม”
“ค่อยๆ หน่อยพี่ฟิน รีบเข้าไปดูไผทกันก่อนเถอะ”
แนวหน้ารีบเดินนำหน้าขิงกับฟินเข้าไปที่ห้องผ่าตัดทันที
ครู่ต่อมาแนวหน้าพาขิงเดินเข้ามาในห้องผ่าตัดแล้ว
“ไผทอยู่ในนั้นเหรอพี่แนว” ขิงถาม
แนวพยักหน้า ขิงไปยืนดูแนวหน้าที่เตียง ใจจะขาดให้ได้ เป็นห่วงและสงสารจับใจ จนน้ำตาไหลรินอย่างกลั้นไม่อยู่
“ไผท อย่าเป็นอะไรนะ”
ทุกคนมองอาการขิงอย่างตกใจ
แนวหน้าเห็นขิงลืมตัวก็รีบกระแอมบอก
“ขิง ไผทไมได้เป็นอะไรมากหรอก หมอบอกว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว”
ขิงเห็นโลลิต้ากับชีฟองมองจ้องก็รู้ตัวได้สติ หันมาวางท่าทางทอมทันที
“ถวายบังคมพะยะค่ะองค์หญิง”
โลลิต้ายิ้มให้ขิง ฟินทำความเคารพโลลิต้าแล้วเดินไปหาไผท จะร้องไห้อีกคน
“โอ๊ย...ไผท...ใครมันใจร้ายทำแบบนี้กับไผทของพี่ คุณพระคุณเจ้า ขออย่าให้ไผทของลูกช้างเป็นอะไรไปเลย เจ้าพระคู๊ณ”
แนวหน้าถาม “แล้วนี่มีใครได้บอกพ่อแม่ไผทหรือยังครับ”
ฟินบอก “พี่บอกแล้ว แต่กำชับแล้วว่าห้ามบอกใคร...เอ้อ แล้วแกบอกคนในโรงพยาบาลหมดแล้วใช่มั้ยว่าห้ามข่าวหลุดไปเป็นอันขาด”
“ก็นี่แหละ เรื่องนี้แหละที่พี่ต้องไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล” แนวหน้าบอก
“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่มา ข่าวเรื่องไผทโดนยิงจะแพร่งพรายออกไปไม่ได้เด็ดขาด พี่จะบอกแค่ว่าไผทมีเรื่องชกต่อยกับผู้ร้ายวันก่อน แล้วเลยนอนพักรักษาตัว”
ฟินวิ่งออกมาแล้วสวนกับปิแอร์
“ขอประทานอนุญาตพะยะค่ะ ท่านนายพลราอูล มาถึงที่โรงพยาบาลแล้วพะยะค่ะ ท่านนายพลขอเชิญองค์หญิงที่ห้องรับรองพะยะค่ะ”
โลลิต้าลุกเดินออกจากห้องไป ชีฟอง ปิแอร์ตามไปด้วย แนวหน้ามองตามอย่างเป็นห่วง
โลลิต้ายืนอยู่ในห้องรับรองพร้อมกับชีฟองและปิแอร์แล้ว นายพลราอูลกำลังคุยกับองค์หญิงอยู่
“ถ้าฟังจากที่ปิแอร์รายงานกระหม่อมแล้ว เป็นไปได้เป็นอย่างสูงว่าจะเป็นฝีมือของท่านชองปอล”
“หญิงก็คิดอย่างนั้นค่ะ”
“งั้นกระหม่อมว่าเพื่อความปลอดภัยขององค์หญิง องค์หญิงควรจะเสด็จกลับฮวาซาใต้นะพะยะค่ะ”
“แต่เราจะทิ้งไป ทั้งๆ ที่คุณไผทยังบาดเจ็บสาหัสอยู่อย่างนี้น่ะเหรอ”
“องค์หญิงเพคะ” ชีฟองพยายามทักท้วง
เห็นโลลิต้ามีสีหน้าหนักใจสุดๆ คิดว่าจะเอายังไงดี
“ถ้างั้น ขอหญิงปรึกษากับท่านพ่อก่อนได้ไหมคะ”
กลางดึกคืนนั้น ท่านธูลพูดสายกับพระธิดาอยู่ในห้องโทรศัพท์ วังฮวาซา
“ลูกหญิงได้รับบาดเจ็บรึเปล่า ถ้าอย่างนั้นลูกหญิง ฟังพ่อให้ดีนะ ตอนนี้พ่ออยากให้ลูกกลับมาที่ฮวาซาใต้ให้เร็วที่สุด ไม่ต้องห่วงเรื่องสารคดี เพราะคุณนายนายและคุณจีจี้เค้ารับปากว่าจะดูแลสารคดีให้เราจนเสร็จสมบูรณ์ เวลานี้ที่พ่อห่วงก็คือถ้าลูกยังขืนดื้อไม่ยอมกลับ...อาจจะมีคนเจ็บมากไปกว่านี้ และที่สำคัญ ถ้าชองปอลรู้ว่าเรากำลังเร่งตัดต่อทำสารคดีกันอยู่ เค้าอาจจะเปลี่ยนเป้าหมายไปทำลายสารคดีอีกครั้งก็ได้”
โลลิต้าชะงักคิดตาม “ได้เพคะเสด็จพ่อ...หญิงจะกลับฮวาซาใต้พร้อมกับพี่ชองปอลเพคะ”
โลลิต้าวางโทรศัพท์มือถือ เศร้ามาก
“ยังมีอีกเรื่องที่ท่านธูลคงจะยังไม่ได้ทรงบอกองค์หญิง”
“เรื่องอะไรอีกเหรอคะ”
ราอูลถอนใจ ท่าทางหนักอก ไม่อยากพูด
นายกับจีจี้เข้าไปเยี่ยม ดูอาการไผทเสร็จ เดินออกมาจากห้อง เจอแนวหน้ากับขิงรออยู่
“สงสารไผทจังเลย คนทำมันใจร้ายจริงๆ” จีจี้บ่น
ฟินเดินเข้ามารวมกลุ่มด้วย จีจี้ถามทันที “เป็นไงบ้างเจ๊”
“เรื่องแจ้งความเรียบร้อยแล้ว เพราะคุณราอูลมาช่วยพูด แต่เรื่องงานของไผทเนี่ยสิ วันเสาร์มีงานใหญ่ เปิดตัวรถยนต์ ยังไม่รู้จะบอกเค้ายังไงดี” ฟินเครียด
แนวหน้าแนะ “เจ๊ก็บอกว่าไผทไม่สบายเข้าโรงพยาบาลสิ”
จีจี้ท้วง “พูดอย่างงั้นได้ทีไหนละไอ้แนว เดี๋ยวเค้าก็จะถามว่าเป็นอะไร อยู่โรงพยาบาลไหน นักข่าวก็คงจะสืบ พอสืบได้ก็คงแห่มาที่โรงพยาบาล ทุกอย่างก็เป็นเรื่องทันที”
แนวหน้า “แต่ถ้าไม่บอกตอนนี้ ยังไงนักข่าวก็ต้องรู้อยู่ดีนะ ไผทมันไม่มีทางหายภายในวันสองวันนี้หรอก”
ขิงเอ่ยขึ้น “งั้นเราบอกความจริงไม่ได้เหรอคะ”
โลลิต้า และชีฟองเดินกลับเข้ามาได้ยินพอดี แต่ทุกคนไม่เห็นโลลิต้า
“ไม่ได้หรอกขิง ถ้าบอกความจริงนักข่าวอาจจะสืบจนรู้ว่าไผทตามองค์หญิงมา แล้วถ้าองค์หญิงเป็นข่าวกับไผทอีก ท่านชองปอลอาจจะทำอะไรเลวร้ายกว่านี้ก็ได้”
“พี่ว่าทางที่ดีที่สุดต้องรอให้องค์หญิงเสด็จกลับฮวาซาไปกับท่านชองปอลก่อน แล้วค่อยแถลงข่าวเรื่องอาการป่วยของไผท เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย”
เสียงองค์หญิงดังขึ้น “ไม่ต้องรอแล้วล่ะค่ะ คุณฟินเตรียมแถลงข่าวได้เลย หญิงจะกลับฮวาซาใต้ทันทีที่คุณไผทฟื้นค่ะ”
ทุกคนเหลียวไปทางเสียง อึ้งไปที่โลลิต้าได้ยินทั้งหมด แนวหน้าอึ้งหนักกว่าใครอื่น
อ่านต่อตอนที่ 19