ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 22
ยศสรัลเดินเข้าบ้านมาด้วยอาการอิดโรย ปากซีด เจ็บแผล จะเดินขึ้นห้อง ธัญกรหันมาเห็นพี่ชายก็ดีใจ รีบถามอย่างเป็นห่วง
“พี่สรัลกลับมาแล้วครับ”
สินีลุกขึ้นยืน จ้องยศสรัล พร้อมพูดต่อด้วยความโกรธ
“แกหายไปไหนมา”
ยศสรัลไม่ตอบ
“ใหญ่บอกว่าแกหายไปกับนังวีด้า” สินีว่า
“ครับ” ยศสรัลตอบรับ
สินีตบหน้าลูก
“คุณแม่ครับ ฟังพี่สรัลก่อน” ธัญกรเอ่ย
สินีสวนทันที “ทำไมแกต้องไปยุ่งกับมันด้วย แม่เกลียดมันแกก็รู้ แม่ไม่คิดเลยนะว่าแกจะโง่ไปหลงมันด้วยอีกคน”
“ผมกำลังช่วยคนใจครอบครัวเราอยู่นะครับ” ยศสรัลว่า
“ช่วยยังไง ช่วยด้วยการแย่งมันมาจากพี่ชายแกงั้นเหรอ ตัวเองจะเป็นจะตายก็ยังจะหนีไปหามัน แล้วแม่ที่เป็นห่วงแกทำไมแกไม่นึกถึง แกรู้ใช่มั้ยว่ามันเป็นใคร มันเป็นลูกศัตรูของชั้น แกไม่คิดจะบอกชั้นแต่ไปเข้าข้างมัน แกยังเป็นลูกของชั้นอยู่รึเปล่า สรัล!” สินีพูดแล้วตบหน้าลูกอีกทันที
“คุณแม่ครับ” ธัญกรเอ่ย
“หวังว่าสติแก คงจะกลับคืนมาได้บ้างนะ” สินีพูดจบก็เดินสะบัดออกไป
ธัญกรเข้าไปหายศสรัล “พี่สรัล..”
“พี่ไม่เป็นไรหรอกเล็ก” ยศสรัลพูด สีหน้าซ่อนความหนักใจเอาไว้เต็มอก
ยศสรัลเดินมาที่สวน เขานั่งเสียใจที่โดนแม่ตบหน้าธัญกรเดินมามองพี่ชายด้วยความสงสาร และเดินเข้ามาหา
“พี่สรัล ทำไมพี่ไม่บอกเหตุผลคุณแม่ไปล่ะครับ ว่าพี่ไปกับคุณวีด้าทำไม”
ยศสรัลปรับอารมย์คุยกับน้องชาย
“เล็ก ถ้าพี่ยิ่งพูดอะไรไปคุณแม่ก็คงไม่รับฟัง และทุกอย่างมันจะยิ่งเลวร้ายลง พี่ถึงพยายามจะหยุดวีด้าด้วยตัวพี่เอง”
“ผมไม่คิดเลย คุณวีด้าจะทำได้ถึงขนาดนี้”
“พี่เชื่อว่า เค้าไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เค้าคงฝังใจเจ็บกับอดีตมาก มากจนทำให้เค้า...” ยศสรัลลุกขึ้นยืนแล้วทรุดร่วงลง เล็กตกใจ
“พี่สรัลครับ พี่สรัล!”
ยศสรัลหมดสติไปเสียแล้ว
ตกกลางคืน วีด้าเดินคิดมากอยู่ที่คอนโด ตัดสินใจไม่ถูก อ่อนเพลีย เหน็ดเหนื่อย เศร้าใจ ส่วนยศสรัลนอนหมดสติอยู่ที่โรงพยาบาล โดยมีธัญกรนั่งเฝ้า
เช้าวันใหม่ กำธรถือโทรศัพท์คุยกับวีด้า
“จริงเหรอวีด้า” กำธรอุทาน สีหน้าดีใจปนเศร้า
“ค่ะ คุณอา วีด้าขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา ที่ทำให้คุณอาต้องเสียใจวีด้าตัดสินใจ จะหยุดเรื่องทั้งหมดที่วีด้าทำ”
“อาดีใจ ดีใจที่สุด ที่หนูคิดได้” กำธรดีใจปนเศร้า
“หนูจะรีบเคลียร์ปัญหาพวกนี้ให้เร็วที่สุดนะคะคุณอา”
โทรศัพท์วีด้าสั่น เป็นดนัยที่โทรเข้า
ดนัยวางสาย เพราะไม่มีคนรับ เขาเดินกระวนกระวายใจ พอโทรศัพท์ดังก็ดีใจ รีบรับสาย
“วีด้า ผมเป็นห่วงคุณ คุณอยู่ที่ไหน”
ดนัยมาเจอวีด้า ทั้งสองนั่งคุยกัน
“วีด้าขอโทษ สำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา ที่ทำให้ดนัยเข้าใจผิดและต้องพลอยเดือดร้อนเพราะวีด้าไปด้วย” วีด้าเอ่ย
“แค่คุณปลอดภัย กลับมาเป็นคนเดิม ผมก็ดีใจที่สุดแล้วอย่าคิดทำอะไรแบบนี้อีกเลยนะวีด้า”
วีด้าเงียบ รู้สึกเสียใจ เธอพยักหน้ารับคำ
“ต่อไป มีอะไร ผมขอให้คุณเล่าให้ผมฟัง ขอให้ผมได้มีส่วนร่วมถึงแม้มันจะเป็นอดีตที่เลวร้าย ผมก็ยินดีรับฟัง และพร้อมจะยืนอยู่ข้างๆคุณ คอยปลอบใจคุณ คุณต้องไว้ใจผมนะ วีด้า” ดนัยเอ่ย
วีด้ามองหน้าดนัยด้วยดวงตาเศร้าสร้อย
เกรซนั่งรออยู่ในบ้านดนัย ดนัยเดินเข้ามา
“เกรซซื้อขนมมาฝากค่ะดนัย”
“ขอบคุณนะครับเกรซ” ดนัยเอ่ย พร้อมกับยิ้มมีความสุข
“วันนี้หน้าตาดนัยดูมีความสุขมาก ดีใจเรื่องอะไรคะ” เกรซถาม
“ผมได้วีด้ากลับคืนมาแล้ว” ดนัยว่า
เกรซรับฟังด้วยสีหน้างงๆ
“วีด้าตัดสินใจยุติเรื่องการแก้แค้นทั้งหมดแล้ว” ดนัยพูดต่อ
“โอ๊ย เป็นข่าวดีที่สุดเลย วีด้านะวีด้า ปล่อยให้เกรซห่วงอยู่ได้ ตั้งแต่งานวันหมั้น เกรซก็ใจหายใจคว่ำทุกวัน กลัวว่าพวกนั้นเค้าจะรู้ความจริง แล้วจะเกิดเรื่องร้ายแรง” เกรซดีใจไปด้วย
“ต่อไปนี้คงไม่มีเรื่องแบบนั้นแล้วครับ และผมจะดูแลวีด้าเอง”
เกรซอึ้ง แล้วเพิ่งรู้สึกตัวว่าจับมือดนัยอยู่ตั้งนานแล้ว เธอปล่อยมือแล้วฝืนยิ้มให้
“ฮื่อ ก็ดีเหมือนกัน ดนัยจะได้ดูแลวีด้า ทีนี้ก็แฮปปี้เอนดิ้งซะทีเนอะ”
ดนัยยิ้มมีความสุข ตรงข้ามกับเกรซที่รู้สึกเศร้า
ตกเย็น เกรซมาหาวีด้าที่คอนโด
“วีด้า แกเป็นอะไร เอาแต่ถอนหายใจเฮือกๆ” เกรซว่า
“ชั้นสงสารดนัย”
เกรซอึ้งเมื่อได้ฟัง
“หมายความว่ายังไง อย่าบอกนะ ว่าแกไม่คิดจะกลับไปหาดนัย”
“ชั้นตอบไม่ถูกหรอกเกรซ ชั้นไม่รู้ว่าความรู้สึกชั้นมันคืออะไร”
“งั้นชั้นถามแกตรงๆเลยนะวีด้า ว่าแกรักดนัยรึเปล่า”
“ดนัยคือผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตชั้น รองจากคุณอา”
“ความดีกับความรัก มันไม่เกี่ยวกัน และความรัก มันก็ห้ามกันไม่ได้” เกรซว่า แล้วนิ่งคิด
“หรือที่พี่สรัลจับตัวแกไป ..... อย่าบอกนะ..... ว่าแกรักพี่สรัล” เกรซพูด
วีด้าตวัดหน้ามองเพื่อนทันที แล้วทบทวนความรู้สึกในใจตัวเอง
“เกรซ พี่สรัลดีกับชั้นตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน เค้าก็ไม่เคยเกลียดชั้นเลย ไม่ว่าชั้นจะร้ายกับครอบครัวเค้ายังไง แต่ระหว่างเรา มันเป็นความรักไม่ได้ชั้นไม่มีทางจะรักเค้าได้” วีด้าเอ่ย
“ปากแกบอกชั้น แต่ชั้นว่าใจแก สวนทางกับคำพูดแล้วล่ะ” เกรซว่า
วีด้ามองหน้าเกรซอีกรอบ
“ดีแล้ว ที่แกยุติเรื่องทุกสิ่ง และถ้าแกยังกลับไปหาดนัยทัน ชั้นอยากให้แกลองดูเพราะชั้นก็ไม่อยากให้ดนัยต้องเสียใจ และมันคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด สำหรับแก”
วีด้าฟังเพื่อนอย่างเศร้าเสียใจ
วันต่อมา ยศสรัลและธัญกรอยู่ที่โรงพยาบาล
“พี่สรัลน่าจะพักต่ออีกซักหน่อย จะรีบกลับทำไมก็ไม่รู้” ธัญกรว่า
ยศสรัลหน้าซีด แต่ก็ยังแข็งใจตอบ “พี่ไม่เป็นไรแล้ว”
ระหว่างที่เก็บของ เห็นข่าวหุ้นที่ตกลงไปมากจากโทรทัศน์
“ราคาหุ้นบริษัท Prime Enterprise ยังคงตกแรงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาปิดวันนี้อยู่ที่ 27 บาท นักลงทุนยังทะยอยขายกันออกมา” เสียงผู้ประกาศข่าวรายงาน
“เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นของเราอีก” ยศสรัลถาม
“ช่วงที่พี่สรัลไม่อยู่ พี่ใหญ่ขายหุ้นออกมาอีกครับ รู้สึกจะล็อตใหญ่เลยด้วย” ธัญกรเอ่ย
“แล้วพี่ใหญ่ขายหุ้นอีกทำไม เค้าจะเอาเงินไปทำอะไรมากมาย”
“ผมก็ไม่ทราบครับ”
ยศสรัลคิดหนัก
กระเป๋าใส่เงินถูกเปิดขึ้นภายในห้องส่วนตัวของร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง เผยให้เห็นเงินก้อนจำนวนมากอยู่ภายในแฟรงค์มองเงินอย่างพอใจ แล้วให้สัญญาณลูกน้องปิดกระเป๋าคัชพลที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองแฟรงค์หน้าตึง
“นับดูก็ได้นะถ้าแกกลัวไม่ครบ” คัชพลว่า
“คุณไม่กล้าตุกติกกับผมหรอก ผมรู้” แฟรงค์ยิ้ม เขายืนขึ้นยื่นมือขวาไปตรงหน้าคัชพล
“ขอบคุณมากนะครับคุณคัชพล ต่อไปหวังว่าเราคงได้ใช้บริการกันอีก...” แฟรงค์เอ่ย
คัชพลลุกขึ้น มองมือที่แฟรงค์ยื่นมาตรงหน้านิ่งๆ ไม่ยื่นมือไปจับ
“คงไม่มีวันนั้นแล้วละ!” คัชพลพูดเสียงแข็ง เมื่อพูดจบก็เดินออกไปทันที
แฟรงค์มองตามด้วยแววตาสะใจ
วีด้านั่งคิดเรื่องยุติการแก้แค้นอยู่ในห้องทำงาน โอ๋เดินเข้ามาพร้อมแฟ้มที่เตรียมไปประชุม
“วันนี้บ่ายสองโมง คุณวีด้ามีประชุมเรื่องโครงการโรงแรมกับคุณคัชพลนะคะ” โอ๋รายงาน
วีด้ามองนาฬิกาข้อมือ “งั้นไปกันเลยค่ะ”
วีด้าหยิบกระเป๋า ลุกออกไปโดยมีโอ๋เดินตาม
วีด้าเดินเข้าห้องประชุมพร้อมโอ๋ ทุกคนรออยู่แล้ว คัชพลรีบลุกมาขยับเก้าอี้ให้วีด้านั่ง
“วีด้าขอโทษนะคะ ที่ทำให้ทุกคนต้องรอ”เธอพูดเสียงนิ่ง
“คุณไม่ได้มาสายนี่นา ผมแค่ให้ทุกคนมารอก่อน” คัชพลว่า
“งั้นเรามาเริ่มประชุมกันเลยมั้ยคะ”
โอ๋ส่งแฟ้มให้วีด้า วีด้าเปิดแฟ้มแล้วเริ่มพูด
“สัดส่วนที่คุณคัชพล ลงทุนมากับวีด้า วีด้าคิดว่า วีด้าจะหาคนมาซื้อแทนให้ได้ในราคาที่คุณคัชพลจะไม่เสียเปรียบ”
คัชพลยิ้มฟัง
“โอ๋ติดต่อนักธุรกิจไปหลายราย และมีคนสนใจที่จะมาลงทุนเยอะค่ะ” โอ๋พูด
“นั่นน่ะสิ ผมถึงลองไปคิดดู ว่าผมไม่น่าจะถอนหุ้นจากคุณวีด้า”
วีด้าหยุดกึก มองคัชพลนิ่ง
“และคณะกรรมการทุกคนของผม ก็เห็นชอบด้วย จริงมั้ยครับ”
คณะกรรมการมองหน้ากัน
“คุณคัชพลเปลี่ยนใจไม่ขายหุ้นแล้วครับ” กรรมการท่านหนึ่งพูด
“แต่ว่าคุณไม่สะดวก..”
“ผมหาเงินมาชำระค่าหุ้นให้คุณได้เรียบร้อยแล้ว และเราจะร่วมลงทุนกันต่อสรุปทุกอย่างตามนี้ นะครับ วีด้า คุณอย่าพึ่งกลับนะ ผมมีเรื่องจะเซอร์ไพรส์คุณ” คัชพลเอ่ย
วีด้ามองหน้าคัชพลอย่างไม่ไว้วางใจ
คัชพลพาวีด้าเข้าห้องทำงาน
“มีอะไรจะเซอร์ไพรส์วีด้าคะ” วีด้าถาม
“ทำไมถึงหน้าตาซีเรียสนักล่ะ คุณไม่ดีใจเหรอ ที่ผมหาเงินมาลงทุนกับคุณต่อได้ ฮึ ที่รัก”
คัชพลเดินเข้าใกล้วีด้า ทั้งสองมองหน้ากัน
“และเรื่องที่ผมจะเซอร์ไพรส์คุณ” คัชพลเอ่ยแล้วเดินไปเปิดลิ้นชัก วีด้าถอยหนึ่งก้าว
คัชพลแอบมอง เขาหยิบของบางอย่างเดินเข้าหาวีด้า เปิดออกมาเป็นแหวนเพชรวงโต
“อะไรกันคะ” วีด้าแปลกใจ
“แต่งงานกับผมนะ” คัชพลจะใส่แหวนเข้านิ้ว วีด้าดึงมือออก คัชพลเริ่มโกรธ
“วีด้ายังไม่พร้อมค่ะ ตอนนี้วีด้ายังไม่อยากคิดเรื่องอื่น นอกจากเรื่อง..” วีด้าเอ่ยอย่างอึดอัด
คัชพลมั่นใจแล้ว ว่าวีด้าไม่เคยรักเค้า เขามองวีด้าอย่างสังเกต
“อยากคิดเรื่องงาน หรือความจริงคุณไม่ได้อยากแต่งงานกับผมอยู่แล้วกันแน่!”
วีด้าจ้องหน้า คัชพลตวัดวีด้าเข้ามากอดอย่างแรง
“วีด้า คุณฟังผมนะ ผมรักคุณ เราจะแต่งงานกัน ผมไม่มีวันจะขายหุ้นโรงแรม และเราจะร่วมทุนกันตลอดไป”
วีด้ามองหน้าคัชพลอย่างอึ้งๆ สายตาคัชพลที่ดูดุดันเดินเข้าโอบกอดวีด้าแน่น
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 22 (ต่อ)
ยศสรัลเดินมาหาคัชพลด้วยหน้าตาซีเรียส จะมาคุยกับคัชพลเรื่องขายหุ้น ยศสรัลทักเลขา
“พี่ใหญ่อยู่ใช่มั้ยครับ”
“ใช่ค่ะ แต่ว่าอยู่กับคุณ.....” ยศสรัลเดินไปไม่รอฟังจนจบ ผลักประตูเข้าห้อง
ยศสรัลเห็นคัชพลที่โอบกอดวีด้า ทุกคนมองหน้ากัน วีด้าอึ้งไปก่อนจะดิ้นออก แต่คัชพลไม่ปล่อย
“ไม่มีใครบอกแกเหรอว่าชั้นมีแขก” คัชพลเอ่ย เมื่อพูดจบก็มองวีด้า แล้วหอม วีด้าดิ้นออกอีก
“คุณใหญ่!” วีด้าว่า
คัชพลไม่ปล่อย
“พี่ใหญ่ครับ” ยศสรัลจะเข้าห้าม
“หยุด! สรัล วีด้าเป็นแฟนชั้น เราจะสวีทกัน แกมาเกี่ยวอะไรด้วย” คัชพลพูดจบก็มองวีด้า แล้วหอมแก้มเบาๆ อีก วีด้าอึ้งไป
“และเราตกลงจะแต่งงานกัน เร็วๆนี้ แกเตรียมตัวเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวได้เลย” คัชพลพูดต่อ
วีด้ามองยศสรัล แล้วหันมาเอาเรื่องคัชพล
“ใครตกลงกับคุณ” วีด้าว่า
“ผมรักคุณนะวีด้า ผมไม่อยากทำร้ายคุณ และผมจะให้โอกาศคุณ เลือกที่จะแต่งงานกับผม หรือจะทำให้คนที่คุณรักต้องเดือดร้อนอีก.. ฮึ….น้องแพร!” คัชพลพูดพร้อมกับเน้นเสียงเรียกชื่อเดิมของวีด้า พร้อมกับดึงวีด้าเข้ากอดแน่น
วีด้าตกใจประโยคคัชพลที่พูดเหมือนรู้ความจริงยศสรัลเองก็ตกใจมากเช่นกัน
ยศสรัลทิ้งตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง นึกถึงภาพที่คัชพลจูบวีด้าที่เพิ่งเจอมา แล้วนึกถึงตอนที่วีด้าดูแลเขาที่เกาะ
“พี่ใหญ่ เรื่องทุกอย่าง กำลังจะจบลงแล้ว ทำไมพี่ถึงไม่ยอมให้มันจบ” ยศสรัลคิดอย่างกลุ้มใจ รู้สึกเป็นห่วงวีด้า
ตอนเย็น เสียงสินีลั่นออกมาจากบ้าน
“ไม่ได้!” สินีจ้องหน้าลูกชาย
“แม่ไม่ยอมให้แกแต่งงานกับนังวีด้าเด็ดขาด เป็นตายยังไงแม่ก็ไม่ยอม!”สินีพูดต่อ
“แต่ผมจะแต่ง” คัชพลว่า
“ตาใหญ่! แกจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว แกรู้มั้ยว่านังวีด้ามันเป็นใคร ถ้าแกยังไม่รู้ แม่จะบอกให้แกตาสว่าง” สินีว่า
คัชพลแทรกทันที “ผมรู้แล้วครับแม่ ผมรู้ว่าวีด้าเป็นใคร มาจากไหน และเข้ามาในครอบครัวเราเพราะต้องการอะไร และเพราะเขากล้าใช้ผมเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น กล้าทำให้ผมเจ็บผมก็จะเอาคืนบ้าง!”
“ด้วยการแต่งงานกับมันเนี่ยนะเหรอ!” สีนีพูด
“ครับ และแม่ก็ไม่ต้องมาห้ามผมอีก เพราะไม่ว่าแม่หรือใครหน้าไหน ก็ห้ามผมไม่ได้!” คัชพลพูด เขายิ้มสะใจ แล้วเดินออกไปทันที
“ตาใหญ่!” สินีเรียก แววตาแข็งกร้าวครุ่นคิด
“ฉันจะไม่มีวันยอมให้ลูกสาวของแกมาร่วมวงตระกูลเดียวกับฉันหรอกนังกานดา!”
สินีนั่งคิดแค้นวีด้าอยู่นานก็ตัดสินใจเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือมากด
“นายสน มาพบชั้นด่วน ชั้นมีงานจะให้ทำ”สินีพูดจบก็วางสาย
“แกไม่มีทางได้มาร่วมวงตระกูลกับชั้นหรอก นังวีด้า” สินีคิด
เช้าวันใหม่ วีด้านั่งรอดนัยอยู่ในร้านอาหาร มีสายตาจากด้านนอกมองวีด้าผ่านกระจกร้านเข้ามา เป็นสายตาของชายชุดดำใส่หมวกกันน็อค ยกภาพขึ้นดูเปรียบเทียบหน้าวีด้า
“ดนัย”
ดนัยยืนยิ้มอยู่ ในมือถือช่อดอกไม้
“ขอโทษครับ..ผมมัวแต่ไปซื้อดอกไม้ให้คุณน่ะ” ดนัยว่า
“ขอบคุณค่ะดนัย”
วีด้ามองดอกไม้เศร้าๆ ดนัยมองยิ้ม
“คุณไม่ชอบเหรอ”
“ชอบค่ะ วีด้าแค่รู้สึกว่า ดนัยดีกับวีด้า ไม่เคยเปลี่ยน”
ดนัยยิ้มให้
“ว่าแต่ มีอะไรจะบอกวีด้าคะ”
“มหาวิทยาลัย CM ตอบรับจดหมายสมัครงานของผมแล้ว”
“จริงเหรอคะดนัย คุณฝันว่าจะได้ทำงานที่นั่นนี่นา วีด้าดีใจด้วยนะคะ”
ดนัยจับมือวีด้า
“ วีด้า ไปกับผมนะ ไปเริ่มต้นใหม่ที่นั่น และคุณก็ยังทำงานให้คุณอาจากที่นั่นได้”
วีด้ามองดนัยอย่างกังวล “วีด้ายังเคลียร์ทุกอย่างไม่เรียบร้อย”
“วีด้าครับ อย่ารอเลย ผมไม่สบายใจจริงๆ ผมกลัวมาก ผมกลัวต้องสูญเสียคุณไป..... คุณสามารถเคลียร์ทุกอย่างผ่านจากทางนั้นได้อย่าอยู่ที่นี่อีกต่อไปเลย”
“ดนัยจะต้องไปเมื่อไหร่คะ” วีด้าถาม มีท่าทีนิ่งลง
“เดือนหน้าครับ”
วีด้าคิด กังวลใจ ดนัยมองวีด้า รอคำตอบ
ที่หน้าร้านอาหาร มอเตอร์ไซด์ที่จอดรออยู่หยิบรูปวีด้าขึ้นมาดู แล้วปิดฝาครอบหมวกลง ดนัยกับวีด้าเดินคุยกันออกมาจากร้าน
ขณะที่วีด้าและดนัยเดินไปที่รถ ชายใส่หมวกกันน็อคเดินดึงปืนออกมาหาวีด้าทันที ดนัยหันมาเห็นเข้า ชายคนนั้นลั่นไกปืนต่อหน้าดนัยแต่ไกปืนค้าง ชายคนร้ายตกใจ หยิบปืนขึ้นจะยิงใหม่ ดนัยกระโดดเข้าล็อคทันที
“วีด้าหลบไป หลบเข้ารถไป” ดนัยสั่ง
วีด้าอึ้ง แล้วรีบวิ่งเข้ามาฟาดกระเป๋าใส่คนร้าย จนปืนกระเด็นออกจากมือ
“ดนัย” วีด้าร้อง
คนร้ายสะบัดหลุดหันมาชกท้องดนัย ดนัยถีบคนร้ายล้มลงตรงปืนพอดี ดนัยตรงเข้าหา คนร้ายหยิบปืนยิงทันที ดนัยทรุดลง วีด้ายืนตะลึง คนร้ายวิ่งขึ้นมอเตอร์ไซด์หนีไป ดนัยทรุดลง เธอรีบวิ่งเข้าไปหา
“ดนัย มันยิงคุณ ดนัย ช่วยด้วยค่ะ มีคนถูกยิง ช่วยด้วย” วีด้าตะโกน
“วีด้า” ดนัยเอ่ย
“วีด้าจะพาคุณไปโรงพยาบาลนะ อดทนไว้นะดนัย”
วีด้าเอากระเป๋ารองหัวดนัยแล้ววิ่งไปขึ้นขับรถถอยหลังมา เธอปาดของลงจากเบาะหลังแล้ววิ่งลงจากรถกลับมาหาดนัย
“ดนัยคะ ดนัยลุกไหวมั้ย ลุกไปโรงพยาบาลกับวีด้านะคะ ดนัย”
ดนัยหัวตก วีด้าช็อคตกใจ
วีด้าเช็คลมหายใจ พบว่าดนัยแน่นิ่งไปแล้ว วีด้าทรุดนั่งลงไปกับพื้น นิ่งเงียบไม่ไหวติง
“ดนัย..”
“รีบพาไปโรงพยาบาลเร็ว มีคนถูกยิง” “มาช่วยกันหน่อยเร็ว” เสียงคนรอบๆ ตัววีด้าอื้ออึงไปหมด ทว่า วีด้าไม่ได้ยินเสียงรอบตัวใดๆ อีกต่อไปแล้ว..
ยศสรัลเดินที่โถงโรงพยาบาล เขาคุยโทรศัพท์ไปด้วย
“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างเล็ก พี่ถึงแล้ว กำลังขึ้นไป”
ขณะเดียวกัน เกรซวิ่งมาอีกทางด้วยความรวดเร็ว เธอวิ่งเลี้ยวชนยศสรัลจนตัวเองเซล้มไป
“ขอโทษครับ คุณเป็นยังไงบ้าง” ยศสรัลเอ่ย
“ไม่เป็นไรค่ะ”เมื่อเกรซเงยหน้ามองก็อึ้ง “พี่สรัล!”
ยศสรัลมอง เขาพยายามนึกแล้วก็จำได้ “เกรซ!”
เกรซตกใจจะวิ่งไปยศสรัลจับแขนไว้
“เดี๋ยวครับเกรซ อย่าเพิ่งไป”
“ปล่อยเกรซค่ะ เพื่อนเกรซถูกยิง เกรซต้องรีบไป”
“เพื่อนเกรซวีด้าหรือเปล่าครับ” ยศสรัลถามอย่างตกใจ
“ไม่ใช่วีด้าค่ะ ดนัยเพื่อนวีด้าค่ะ”เกรซตกใจที่ตัวเองหลุดปากไป จึงรีบเดินหนี “เกรซไปก่อนนะคะ”
ยศสรัลมองตามแล้วตัดสินใจวิ่งตามไป
“เกรซ รอพี่ด้วย”
เกรซวิ่งมาหาวีด้าที่นั่งร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ตาบวมอยู่ ยศสรัลตามมายืนมอง
“วีด้าดนัยล่ะดนัยเป็นยังไงบ้าง เขาปลอดภัยใช่มั้ย” เกรซถามอย่างร้อนรน
วีด้าเงยหน้ามาเห็นเกรซ เหมือนคนเหม่อๆ
“เกรซ ดนัย ดนัยเค้าไปแล้วเกรซ!” ีด้าเอ่ย
เกรซรู้สึกช็อค เธอทรุดลงนั่งข้างวีด้า
“ดนัย!” เกรซน้ำตาร่วง
“เกรซดนัยตายเพราะชั้น มีคนจะมายิงชั้นเค้าตายเพราะชั้น มันเป็นความผิดของฉันเอง!” วีด้าพรั่งพรู
“คุณมาได้ยังไง!” เธอเงยหน้าถามเมื่อเห็นยศสรัล
“มีคนจะมายิงคุณเหรอ วีด้า” ยศสรัลถาม
วีด้าลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหายศสรัล
ประตูห้องฉุกเฉินเปิด เจ้าหน้าที่เข็นศพของดนัยที่คลุมผ้าออกมาเกรซกับวีด้าลุกขึ้นไปยืนข้างเตียงเข็น เกรซค่อยๆเปิดผ้าคลุมหน้าดนัยออก เมื่อเห็นศพของดนัยหน้าซีดไร้ชีวิต เกรซน้ำตาร่วงอย่างกลั้นไม่อยู่
“ดนัย…ดนัย"
เกรซเดินเลี่ยงไปอย่างยากที่จะทำใจยอมรับ วีด้ามองดนัยอย่างสุดเสียใจ
“ดนัย...วีด้าขอโทษ วีด้าขอโทษ”
“ขอโทษนะครับ...” เจ้าหน้าที่แทรกขึ้น ก่อนคลุมผ้ากลับ แล้วเข็นดนัยออกไปทันที
วีด้ากับเกรซมองตามไป
“มาดูผลงานของครอบครัวคุณรึไง สะใจคุณแล้วใช่มั้ย” วีด้าหันมาพูดกับยศสรัล
“วีด้า... “ ยศสรัลเอ่ยพร้อมกับจับแขนวีด้า
“ปล่อยชั้น ปล่อย ปล่อยชั้น..... ปล่อย ๆ” วีด้าดิ้นจนหมดแรงเป็นลมไป
“วีด้า” ยศสรัลและเกรซประสานเสียง
ยศสรัลนั่งเฝ้าวีด้า จนวีด้ารู้สึกตัว วีด้ามองหน้าสรัล มองหาเกรซ
“คุณเกรซไปเดินเรื่องคุณดนัย” ยศสรัลบอก
วีด้าเสียใจเรื่องดนัยขึ้นมาอีก เธอดึงสายน้ำเกลือออก จะลุกจากเตียง
“คุณจะไปไหน” ยศสรัลถาม
“ชั้นจะไปหาดนัย”
“เดี๋ยวผมไปเป็นห่วง แต่บอกผมก่อน คุณรู้มั้ย ว่าใครจะมายิงคุณ”
“ชั้นว่าพ่อคุณ หรือพี่ชายคุณ น่าจะรู้ดีที่สุด”
“พ่อผมป่วยหนักอยู่โรงพยาบาล ..... พี่ใหญ่เหรอ” ยศสรัลเอ่ย
“ชั้นคิดที่จะหยุดจองเวรกับครอบครัวคุณ และนี่... คือสิ่งที่ชั้นได้รับ”
“ทำไมคนร้ายถึงทำงานพลาดล่ะ ทำไมไม่ยิงชั้นให้ตาย ทำไมต้องเป็นดนัย ทำไม…” วีด้าพูดอย่างเสียใจ
“วีด้า ใจเย็นก่อนนะ”
“กลับไปซะ ชั้นไม่อยากเห็นหน้าคุณ!”
วีด้าเบือนหน้าหนี แล้วเดินออกไปยศสรัลมองตามวีด้า เขารู้สึกห่วงวีด้ามาก
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 22 (ต่อ)
ตกกลางคืน วีด้านอนร้องไห้อยู่ที่คอนโด นึกถึงตอนที่ดนัยกำลังจะตาย ขณะเดียวกัน ยศสรัลเดินไปหาคัชพลที่บาร์เหล้า
“พี่ใหญ่ พี่ส่งคนไปยิงวีด้าเหรอ!” ยศสรัลถาม
“ใคร เรื่องอะไร วีด้าโดนยิงเหรอ” คัชพลว่า
“ผมถามว่าพี่ส่งคนไปยิงวีด้ารึเปล่า”
“ชั้นถามแก ว่าวีด้าถูกยิงเหรอ!”
“คุณวีด้าปลอดภัยดี แต่คุณดนัยเสียชีวิตแล้วเพราะคนร้ายทำงานพลาด”
“ดนัย.... สมน้ำหน้ามัน แต่ใครมันจะฆ่าวีด้า”
“ถ้าไม่ใช่พี่ แล้วเป็นใคร!”
“คุยเรื่องอะไรกัน!” สีนีแทรกขึ้นมา
สองพี่น้อง หันมองผู้เป็นแม่
“อะไรนะครับ แม่สั่งยิงวีด้า..ทำไม! ทำไมไม่ให้ผมจัดการเรื่องนี้เอง” คัชพลเอ่ย
“ฟังชั้นนะใหญ่ ชั้นทำได้ยิ่งกว่านี้อีก ถ้าแกยังไม่ยอมเลิกยุ่งกับมัน” สินีพูด
“แม่... แม่เป็นบ้าไปแล้วรึเปล่า สั่งฆ่าคนแบบนี้ แม่ไม่กลัวติดคุกรึไง” คัชพลเอ่ย
“ถ้าชั้นกลัว ชั้นอยู่กับพ่อแกมาไม่ได้หรอก แกนึกว่าชั้นไม่รู้รึไงชั้นรู้ทุกเรื่อง! ยิ่งกว่าแกซะอีก”
คัชพลอึ้ง
“ใครที่มันเป็นศัตรูของฉัน มันไม่มีวันที่จะอยู่เป็นสุข ฉันจะไม่มีวันปล่อยมันไว้!”
คัชพลอึ้งกับอาการที่ดูโหดเหี้ยมของสินี
วันต่อมา
“ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสทางลบกับบริษัท Prime Enterprise มีออกมาเป็นระยะ สาเหตุด้วยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขายหุ้นออกมามากถึงสองระลอกใหญ่ เป็นเหตุให้หุ้นตกอย่างรุนแรง จนนักลงทุนไม่ไว้วางใจ พร้อมกับที่นายบัญชาประธานบริหารล้มป่วยเป็นเวลานาน” เสียงผู้ประกาศรายงาน ดังออกมาจากโทรทัศน์ที่คอนโดของวีด้า
วีด้าในชุดดำยืนมองข่าวอยู่แปบนึง แล้วหันมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ไม่ยินดียินร้ายกับข่าว มีเสียงกริ่งหน้าประตูห้องดังขึ้น วีด้าประหลาดใจเมื่อหันไปก็พบว่าเป็นยศสรัล เธอเดินเข้าไปหา
“มาทำไม” วีด้าถาม
“ผมต้องคุยกับคุณ” ยศสรัลว่า
“ชั้นไม่ต้อนรับ กลับไปซะ”
ยสสรัลดันประตูเข้าไปอีก วีด้าเซถอยหลังไป ยศสรัลเข้ามาและปิดประตู
“ออกไปนะ!” วีด้าตวาดใส่พร้อมกับผลักอกยศสรัล
ยศสรัลบีบไหล่วีด้า “วีด้า ฟังผมก่อน”
“ชั้นบอกให้คุณออกไป”
ยศสรัลมีท่าทีอ่อนลง “คุณจะฟังผมก่อน ไม่ได้รึไง”
วีด้าสะบัดหลุดจากยศสรัล “ชั้นแจ้งความเรื่องดนัยไปแล้ว ชั้นจะเอาคนในครอบครัวคุณเข้าตะราง ชั้นจะไม่ปล่อยครอบครัวคุณ”
“คุณกำลังดูถูกครอบครัวผมนะ และพี่ใหญ่ก็ไม่ได้ทำเรื่องนี้คุณมีศัตรูอื่นรึเปล่า ผมเป็นห่วงคุณนะวีด้า ฟังผมหน่อยสิว่าผมห่วงคุณ” ยศสรัลพูด
วีด้าหันหลังใส่ยศสรัล ยศสรัลเดินเข้าไปเผชิญหน้า วีด้าเงยมอง
“ชั้นสูญเสียครอบครัวไปจนหมด และวันที่ชั้นฟังคุณ ชั้นตัดสินใจหยุดเรื่องทั้งหมด เพื่อเลิกยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวคุณ แต่พวกคุณ กลับมาพรากดนัยไปจากชั้นแล้วชั้นจะมีเหตุผลอะไร ที่จะฟังคุณอีก กลับไปซะ ชั้นขอร้อง กลับไป” วีด้าพูดอย่างเสียใจ
ยศสรัลรู้สึกสงสารวีด้า จะเดินเข้าไปหา แต่วีด้าเดินถอยหลังออก ยศสรัลรู้สึกเจ็บปวดตามวีด้าไปด้วย วีด้าเองก็กลืนก้อนน้ำตา เธอรู้สึกเจ็บร้าวหัวใจไปหมดเช่นกัน
ที่บริษัท ยศสรัลอ่านเอกสารรายงานเรื่องหุ้นตกอย่างเศร้าใจ เลขายืนอยู่หน้าโต๊ะ
“หุ้นตกฮวบลงขนาดนี้เลยเหรอครับ”
“ค่ะ” เลขาตอบรับ หน้าจ๋อย
ยศสรัลรู้สึกเครียด
ยศสรัลกลับบ้านด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน พับแขนเสื้อ ถือสูทพาดแขน แล้วเขาก็ได้ยินเสียงดังจากกลางบ้าน เป็นเสียงของสินีและคัชพล
“คุยกับแม่เดี๋ยวนี้นะใหญ่ ว่าแกจะฟังแม่มั้ย”สินีพูด
“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะคุณแม่ อย่ามาบงการชีวิตผม” คัชพลบอก
“แกยังเห็นชั้นเป็นแม่แกอยู่รึเปล่า”
“เอาเวลาไปเฝ้าคุณพ่อ แทนการมายุ่งกับผมดีกว่า”
“แกกล้าสอนแม่เหรอ” สินีเงื้อมือจะตบหน้าลูก คัชพลรับไว้
“อย่ามาระบายอารมณ์ใส่ผม ผมอารมณ์ไม่ดี”
“พี่ใหญ่ คุณแม่!” ยศสรัลเดินเข้ามา
คัชพลเดินออกไปสินีนั่งลงโมโห เล่นงานยศสรัลต่อ
“สรัล แกจะต้องแต่งงานกับมณฑิตาให้เร็วที่สุด”
“อะไรนะครับ”
“ถ้าแกไม่อยากให้ชั้นอกแตกตาย ก็อย่าขัดใจชั้นเหมือนตาใหญ่”
ยศสรัลอึ้ง “ผมไม่อยากแต่งงานกับมณฑิตา”
“ทำไม แกอยากแต่งกับนังวีด้าใช่มั้ย”
“คุณแม่ครับ!” ยศสรัลตกใจ
“แกจะต้องแต่งงานกับมณฑิตา หนูมณเค้าพร้อมแล้ว แม่ไปหาฤกษ์มา กลางเดือนหน้า แกเตรียมตัวแต่งงานกับหนูมณได้เลย” สินีพูด
“แม่ครับ คุณพ่อกำลังป่วย หุ้นบริษัทตกวุ่นวาย ผมยังแต่งตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ”
“ตกลงทุกวันนี้ ไม่มีใครเห็นหัวชั้นเลยใช่มั้ย”
“คุณแม่!” ยศสรัลเอ่ย
สินีเดินไปเดินมาในห้อง คิดหนัก เจ็บใจเรื่องวีด้ากับยศสรัล
“นังวีด้า”สินีโมโห มือเหวี่ยงไปปัดแจกันบนโต๊ะเครื่องแป้งลงมาแตกอย่างไม่ตั้งใจ
สินีเห็นเศษแก้ว เธอนิ่งคิดบางอย่าง หยิบเศษแก้วขึ้นมามอง แล้วกดโทรศัพท์หาธัญกร
“ครับคุณแม่”
“ช่วยแม่ด้วย...” สินีทำเสียงเหมือนจะหมดลม
“คุณแม่เป็นอะไรครับ คุณแม่ คุณแม่..” ธัญกรตกใจ
สินียิ้มร้าย
ธัญกรวิ่งขึ้นชั้นสองของบ้าน เปิดประตูห้องสินีเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน เห็นแม่นอนจมกองเลือด
“คุณแม่!”
สินีนอนหลับอยู่ที่โรงพยาบาล มีสายน้ำเกลือห้อยอยู่ เริ่มรู้สึกตัว
“คุณแม่ครับ” ยศสรัลเรียก
สินีตื่นขึ้นมามองลูก แล้วเบือนหน้าหนี
“คุณแม่โกรธผมเหรอครับ”
“แม่น่าจะตายไปซะเลย จะได้ไม่ต้องมาทนปวดใจกับพวกแกอีก”
“ผมขอโทษครับแม่” ยศสรัลจำยอม
สินีหันมองลูก “สรัล รับปากแม่ แต่งงานกับหนูมณนะลูก”
“ครับแม่” ยศสรัลตอบรับอย่างรู้สึกเสียใจ
สินีแอบยิ้มสะใจ
วันต่อมา มณฑิตานั่งข้างเตียงสินี ท่าทางดีใจสุดๆ
“จริงเหรอคะคุณแม่”
“จริงจ้ะ สรัลเค้ารับปากแล้ว หนูมณก็เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้เลย” สินีว่า
“มณกราบขอบพระคุณคุณแม่มากๆเลยค่ะ มณจะรีบไปบอกคุณพ่อคุณแม่ แล้วก็จะไปดูชุดเจ้าสาวเลย งั้นมณไปก่อนนะคะ” มณฑิตาก้มกราบสินี แล้วรีบเดินออกไป
สินีมองตามอย่างระอาใจกับความเห็นแก่ตัวของมณฑิตา
“หนูมณ ไม่คิดจะถามแม่ซักคำเลยนะว่าเจ็บมั้ย เป็นยังไงบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าได้นังวีด้ามาเป็นสะใภ้” สินีบ่นกับธัญกร
รัชนาที่ฟังอยู่รู้สึกสยองสินี
“แม่นายน่ากลัวจังเลย” รัชนาเอ่ย
“แม่เปลี่ยนไปเยอะมาก บ้านชั้นมีแต่เรื่อง ชั้นอายเธอจริงๆ” ธัญกรว่า
“อายทำไม ทุกบ้านก็มีปัญหาเหมือนกันนั่นแหละ” รัชนาบอก
“ชั้นสงสารพี่สรัล และเหนื่อยกับเรื่องวุ่นวายที่บ้านมากเลย” ธัญกรเอ่ย
“ชั้นเข้าใจนาย”รัชนาตบไหล่ธัญกร
“ขอกอดหน่อยสิ” ธัญกรเอ่ย
รัชนาตกใจ “นายว่าไงนะ”
ธัญกรกอดรัชนา “ชั้นอยากได้กำลังใจ”
รัชนาอึดอัด แต่ก็รู้สึกดี เธอเอามือลูบหลังปลอบธัญกร
“ชั้นให้นายแต๊ะอั๊งชั้นวันนี้วันเดียวนะ” รัชนาว่า
ธัญกรยิ้มเศร้าๆ
ที่บริษัท Prime Enterprise ยศสรัลยื่นใบรายงานหุ้นให้คัชพลดู
“ผมคิดว่ายังไงพี่ใหญ่ก็ต้องรู้ ผมเลยตัดสินใจมาบอกพี่ใหญ่ว่าปีเตอร์ขายหุ้นให้กับคุณวีด้าไปแล้ว”
คัชพลขบกรามแน่น “ชั้นรู้แล้ว”ก่อนมองสรัล “วีด้าคือศัตรูของครอบครัวเราใช่มั้ย”
ยศสรัลหลบตา “เค้าบอกกับผมว่าจะหยุดเรื่องนี้”
“หยุดเหรอ ตอนนี้เค้ากลายเป็นหุ้นใหญ่ของบริษัทเรา แล้วหุ้นก็ยังร่วงไม่หยุด เราจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว” คัชพลโวยวาย
ถ้าพี่ขายหุ้นโรงแรมและศูนย์การค้าออกไป ผมคิดว่าเค้าน่าจะยอมขายหุ้น Prime คืนให้กับเรา ถือเป็นการยุติกันไปนะครับ” ยศสรัลว่า
“มันง่ายไป ชั้นจะไม่ขายหุ้นนั่นเด็ดขาด และชั้นก็ต้องได้วีด้าด้วย” คัชพลเอ่ย
ยศสรัลอึ้ง
ตกกลางคืน คัชพลมาที่บริษัทวีด้า แล้วจู่โจมวีด้าทันทีด้วยอาการเมาระคนอกหัก
“คุณใหญ่” วีด้าตกใจ
“คุณมันโหดร้ายมากไม่คิดเลยว่าหน้าสวยๆ จะเลือดเย็นได้ขนาดนี้” คัชพลบีบคางวีด้า
วีด้าพยายามแกะมือคัชพลออก แต่คัชพลยิ่งบีบแน่น “ปล่อยนะ ชั้นเจ็บ”
“เจ็บเหรอ แล้วที่คุณทำกับผม ทำให้ผมรัก แล้วทำลายผมอย่างนี้ มันเจ็บยิ่งกว่าคุณหลายสิบเท่า!”
“เจ็บกว่าชั้นเหรอ แค่นี้เนี่ยนะ!” วีด้าเอ่ย สีหน้าเจ็บแค้นขึ้นมา
“ผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว คุณโกรธแค้นพ่อผม เลยใช้ผมเป็นเหยื่อ สิ่งที่คุณทำมันถูกต้องแล้วใช่มั้ย” คัชพลว่า
“ใช่! ยิ่งพวกคุณย่อยยับมากแค่ไหน มันยิ่งถูกต้องมากเท่านั้น”
“ดี งั้นสิ่งที่ผมจะทำ มันก็ถูกต้องเหมือนกัน”
คัชพลพุ่งเข้าไปกอด พยายามปล้ำวีด้า
“คุณใหญ่ ปล่อยชั้น ปล่อย” วีด้าตกใจ พยายามดิ้นสุดแรง
คัชพลยิ่งรัดแน่นไม่ยอมปล่อย ซุกไซ้วีด้าไม่หยุด วีด้ากัดแขนคัชพลแล้ววิ่งเข้าไปที่ลิ้นชักโต๊ะทำงาน คัชพลวิ่งตาม แต่วีด้าหยิบปืนขึ้นมาพร้อมจ่อปืนเล็งมาพอดี คัชพลอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วท้าทายวีด้า
“ยิงสิวีด้า ยิงเลย คุณกล้ายิงผมมั้ยล่ะ”
วีด้าไม่กล้ายิง แต่หันปืนออกยิงเฉียดเพื่อขู่ คัชพลตกใจ แต่ก็ยังนิ่งไว้ คัชพลเดินเข้าหาอีกก้าว วีด้าจ้องนิ่ง
“อย่าเข้ามานะ คราวนี้ชั้นยิงจริง”
ทั้งสองมองหน้ากันนิ่ง ครู่หนึ่งรปภ. สองคน ก็วิ่งพรวดเข้ามาช่วย
“เกิดอะไรขึ้นครับ” รปภ. ถาม
“เอาตัวเค้าออกไป และอย่าให้นายคนนี้ เข้ามาบริษัทอีก” วีด้าพูด
“ครับ” รปภ.เข้าไปจับตัวคัชพล
“วีด้า วีด้า! ปล่อย! ปล่อย!” คัชพลสะบัดจนหลุด หันมาจ้องวีด้า แล้วเดินออกจากห้องไป
วีด้าทรุดลงนั่งกับเก้าอี้อย่างหมดแรง
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 22 (ต่อ)
เช้าวันใหม่ วีด้าเดินเข้ามาในบริษัท Prime Enterprise ด้วยท่าทางดุจนางพญา พร้อมบอดี้การ์ดสี่คนและเลขา พนักงานหยุดมองอย่างงงๆวีด้าเดินเข้ามาในห้องประชุมที่คัชพลและผู้บริหารคนอื่นๆ รออยู่แล้ว เธอเดินไปที่หัวโต๊ะ เริ่มพูดเปิดประชุม
“สวัสดีค่ะ ตามที่ทุกท่านทราบว่าดิฉันจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของPrime Enterprise วันนี้ดิชั้นจะขอประชุม เรื่องเปลี่ยนแปลงผู้บริหารอันดับแรก ดิชั้นขอปลดคุณคัชพล ออกจากตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริหาร ส่วนท่านอื่นให้ทำงานกันตามปกติ”
“วีด้า คุณทำอย่างนี้กับผมไม่ได้”
คัชพลแค้นจะเข้าหาวีด้าด้วยความโกรธ แต่ถูกคนของวีด้ากันไว้
วีด้าเชิดหน้านิ่ง มองคัชพลที่ถูกลากออกไป
“ปล่อยชั้น ปล่อยสิ” คัชพลร้อง
“วีด้า!” ยศสรัลเอ่ย เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่วีด้าทำ
วีด้าเหลือบมองยศสรัลแล้วไม่สนใจ เธอมองตามคัชพลไปด้วยสายตาเย็นชา
วันต่อมา ยศสรัลดูข่าวทางทีวีในห้องทำงาน ที่กำลังรายงานเรื่องศูนย์การค้า
“ขณะนี้ผมกำลังยืนอยู่บนที่ดินที่บริษัท prime enterprise กับ บริษัทกำธร logistic ร่วมมือกันจะสร้างโรงแรมและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ แต่วันนี้โรงแรมและศูนย์การค้าที่กำลังจะเสร็จเรียบร้อย กลับหยุดชะงักการก่อสร้าง ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากหุ้นของPrime Enterprise ที่ตกลงอย่างต่อเนื่อง บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป”
ยศสรัลมีสีหน้าเครียด “วีด้า คุณจะทำอะไรอีก”
วีด้ากำลังให้สัมภาษณ์
“สาเหตุที่ทำให้ต้องหยุดสร้างโรงแรม และศูนย์การค้าคืออะไรกันแน่คะ” นักข่าวถาม
“โครงการเรามีปัญหาการเงินเล็กน้อย คงต้องชะลอการก่อสร้างซักพักค่ะ” วีด้าตอบ
“คุณวีด้าให้สัมภาษณ์แบบนี้ จะไม่เป็นผลเสียกับโครงการเหรอครับ”
“เราต้องยอมรับความจริงค่ะ”
“แล้วจริงหรือเปล่าครับ ที่คุณวีด้า มีปัญหากับบอร์ดของไพรม์เอ็นเทอไพรซ์”
“ไม่จริงเลยค่ะ เรายังช่วยเหลือกันดี และสนับสนุนกันอยู่ค่ะ” วีด้ายิ้มเย็น
นักข่าวถ่ายรูปวีด้าที่ยิ้มนิ่งๆ
สินีโยนหนังสือพิมพ์ลงตรงหน้าคัชพล ที่นั่งดื่มอยู่ คัชพลเมา จึงไม่สนใจอ่านข่าวใดๆ
“นี่มันอะไรกันตาใหญ่ มันไปเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทเราได้ยังไง มันเกิดอะไรขึ้น” สินีถาม
คัชพลสีหน้าเคียดแค้น
“แกไปพลาดท่าให้มันจนหมดได้ยังไง ตาใหญ่ แกบ้าไปแล้วเหรอ แกไม่เคยโง่ให้ใครมาเอาเปรียบแกได้ แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” สินีว่า
“ใช่ ผมมันบ้า ผมโดนผู้หญิงคนนี้หลอก ผมมันโง่ ผมไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว”
คัชพลปาแก้วลงพื้น
วันต่อมา คัชพลกับเลขาเดินเข้าห้องประชุมมาแล้วเห็นห้องประชุมโล่งไม่มีใครเลย
“ทำไมยังไม่มีใครมา”คัชพลผิดสังเกต
“ทุกท่านคอนเฟิร์มหมดแล้วนะคะ แม้แต่...เอ่อ...คุณวีรดา ก็ให้เลขาโทรมาบอกว่าจะเข้าประชุมด้วย” เลขารายงาน
คัชพลขมวดคิ้วสงสัย ระหว่างนั้นก็มีชายสองคนเดินเข้าห้องประชุมมาแล้วยกมือไหว้คัชพล
“สวัสดีครับคุณคัชพล ผมเป็นทนายความ และคุณวีระเป็นตัวแทนของคุณวีรดาและกรรมการทุกคนครับ”
“หมายความว่าไง”
“คุณวีรดาให้ผมมาเรียนว่า โครงการโรงแรมและศูนย์การค้าที่เข้าหุ้นกับคุณ ขาดสภาพคล่อง จึงตัดสินใจขายทิ้งไม่ดำเนินการต่อครับ”
“อะไรนะ จะบ้าไปแล้วเหรอ ไม่…ผมไม่ขาย"
“ขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมต้องเรียนว่าอำนาจตัดสินใจอยู่กับทางเรา และกรรมการทุกท่านก็เห็นด้วยกับคุณวีรดาครับ”
“พวกคุณไปตกลงกันเองแบบนี้ได้ยังไง ทำไมไม่แจ้งผม”
“ถ้าคุณคัชพลไม่เห็นด้วย คุณคัชพลคงต้องแต่งตั้งทนายเพื่อฟ้องทางเราครับ”
ทนายวีด้าพูดจบก็ส่งเอกสารให้เซ็น คัชพลรับหยิบขึ้นแล้วปาทิ้งทันที
“วีด้า!” คัชพลพูดอย่างแค้นใจ
วีด้ากำลังเซ็นเอกสารให้นักธุรกิจคนหนึ่ง เมื่อวีด้าเซ็นเสร็จ ก็ให้นักธุรกิจ และพยานเซ็นต่อ
“โรงแรมและศูนย์การค้าแห่งนี้เป็นของคุณโดยสมบูรณ์แล้วนะคะ” วีด้าเอ่ย
“ขอบคุณครับ คุณวีรดา”
วีด้ายิ้มอย่างยินดี
พนักงานบริษัทPrime Enterprise คุยกันอย่างซีเรียส
“ตอนนี้ลูกค้าเราหนีหมดแล้ว บริษัทอาจถึงขั้นล้มละลายก็ได้นะ”
“แล้วพวกเราจะทำยังไงดี งานยิ่งหายากๆอยู่”
“เฮ้อ อยู่ดีๆมาตั้งหลายปี ไอ้เราก็นึกว่ามั่นคงแล้วเชียว เพราะอะไรนะ บริษัทเราถึงได้ล้มครืนรวดเร็วอย่างนี้”
เหล่าพนักงานถอนใจ เครียดไปตามๆกัน
วีด้ามาเยี่ยมกานดาที่โรงพยาบาลจิตเวช
“แม่คะ วีด้าทำสำเร็จแล้ว ครอบครัวนายบัญชา มันจะไม่เหลืออะไรเลยแม่ดีใจมั้ยคะ” วีด้ายิ้ม น้ำตาร่วง
มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามา วีด้าเงยมอง
“สวัสดีหลานแพร...” สินียิ้มเหี้ยม
“คุณ!” วีด้าตกใจ
“ชั้นก็สงสัยอยู่ว่า แม่แกมันหายไปไหน ที่แท้ก็มาเป็นคนบ้าอยู่ที่นี่เอง” สินีสะใจ
“คุณตามชั้นมา”
“ชั้นตามแกมาเอง ดีกว่าชั้นให้คนอื่นตาม เพราะมันไม่ได้เรื่อง!”
“คุณส่งคนมายิงฉันจริงๆ”
“หึหึ ฉลาดดีนี่...แกรู้มั้ยว่าโลกนี้มันกลม กลมจนน่ากลัว แม่แกคือคนที่ฉันเกลียดเข้ากระดูกดำ เพราะมันทำให้คุณบัญชาไม่เคยรักฉัน รักแต่มัน! และพวกลูกชายไม่เอาไหนของฉัน ยังพากันมาหลงรักแก พวกแกมันร้ายทั้งแม่ทั้งลูก สมควรแล้ว ที่แม่แกต้องกลายเป็นแบบนี้”
วีด้าเดินเข้าหาสินี “หยุดก้าวร้าวแม่ฉันนะ!”
สินีตบหน้าวีด้าทันที
“ชั้นจะแจ้งความจับคุณ ข้อหาจ้างวานฆ่าชั้น และทำให้ดนัยต้องตาย” วีด้าพูดอย่างเจ็บแค้น
“ก็ลองดู ว่าแกจะอยู่ทันศาลตัดสินรึเปล่า” สินีขำ
ทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างแค้นเคือง
เกรซคุยกับวีด้าด้วยความเป็นห่วง
“แกคงต้องระวังตัวให้มาก ศัตรูประกาศตัวขนาดนี้แล้ว” เกรซว่า
“ฉันไม่กลัวหรอก มาถึงขั้นนี้ ถึงต้องตายมันก็คุ้ม” วีด้าพูด
“เหมือนที่ดนัยตายน่ะเหรอ” เกรซเอ่ย
วีด้าอึ้ง เกรซน้ำตารื้น
“วีด้าแกเป็นเพื่อนรักของฉัน ฉันอยากจะเตือนแกเป็นครั้งสุดท้าย จบทุกอย่างซะเถอะนะ ก่อนที่แกจะต้องสูญเสียอะไรในชีวิตไปมากกว่านี้” เกรซพูดพร้อมกับบีบมือวีด้าเพื่อเตือนสติ
ทันใดนั้น โทรศัพท์วีด้าก็ดังขึ้น
“ค่ะ…วีด้าพูดค่ะ ว่าไงนะคะเป็นไปได้ยังไงค่ะๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” วีด้าวางสายหน้าตาตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอวีด้า” เกรซถาม
“โรงพยาบาลโทรมาบอกว่า แม่ฉันหายตัวไป!”
“หา!อะไรนะ! น้ากานดาหายไป”
วีด้าวิ่งออกมาที่รถอย่างร้อนรน เกรซตามมาติดๆ
“วีด้า แกจะไปไหน” เกรซถาม
“ฉันไม่รู้ ฉันควรไปโรงพยาบาล หรือไปแจ้งความก่อนดี เกรซฉันทำอะไรไม่ถูกแล้ว!” วีด้าพูด
“ใจเย็นๆ แกต้องตั้งสติก่อนวีด้า” เกรซเตือน
“แต่แม่ฉันหายไป...”
“เกรซฉันกลัว” วีด้ากอดเกรซแน่น
“ไม่ต้องกลัวนะ ใจเย็นๆ” เกรซปลอบเพื่อน
ทันใดนั้น โทรศัพท์วีด้าก็ดังขึ้นวีด้ารีบคว้าขึ้นมารับทันที
“ฮัลโหล...”
“กำลังตามหาแม่แกอยู่ซินะ...” เสียงสินีดังมาตามสาย วีด้าจำได้ทันที
“คุณสินี นั่นคุณใช่มั้ย คุณจับแม่ฉันไปงั้นเหรอ”
“แสนรู้ดีนี่...ฮ่าๆๆๆ”
“คุณอย่าทำอะไรแม่ฉันนะ!”
สินีหัวเราะเยือกเย็น “ฮ่าๆๆๆทำเหรอ ฉันไม่ทำคนบ้าอย่างแม่แกให้เสียมือหรอก แค่อยากเล่นเกมสนุกๆปั่นหัวแก เหมือนที่แกปั่นหัวลูกชายฉันไงเอาเป็นว่า รีบหาแม่แกเจอแล้วกัน ก่อนที่จะมีคนมาเข็นมันไปเป็นขอทานซะก่อน ฮ่าๆๆ” สินีพูดเสียงเหี้ยมแล้วตัดสายทิ้ง
“ฮัลโหล คุณสินี อย่าทำอะไรแม่ฉันนะ! ฮัลโหลๆๆ” วีด้าร้อง
สินีกดโทรศัพท์หาลูกน้อง
“เอานังกานดาไปปล่อยซะ!” สินีพูดจบก็ตัดสายแล้วกดปิดเครื่องทันที
เกรซวิ่งมาหาวีด้าที่ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อยู่ข้างรถ
“ฉันโทรแจ้ง จส.100 แล้วก็พวกอาสาสมัครมูลนิธิต่างๆแล้วนะ ถ้ามีใครพบเบาะแสน้ากานดาพวกเขาคงจะส่งข่าวทันที” เกรซว่า
“แม่ฉันจะเป็นอะไรมั้ยเกรซ คุณสินีจะทำอะไรแม่ฉันหรือเปล่า” วีด้าเอ่ย
“แกอย่าเพิ่งวิตกมากไปเลยวีด้า เราไปแจ้งความกันก่อนดีกว่า”
เกรซประคองวีด้าลุกขึ้น ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเกรซก็ดังขึ้นมา
“ฮัลโหล...ว่าไงนะคะ”
“วีด้า มีคนเจอน้ากานดาแล้ว!” เกรซหันไปพูดกับวีด้า วีด้าได้ยินดังนั้นก็ดีใจแทบสิ้นสติ
กานดานั่งกองอยู่บนพื้นข้างๆวิลแชร์ที่ริมถนนสายเปลี่ยวด้วยท่าทางตื่นกลัว มีคนยืนมุงเต็มไปหมด
“อย่านะ! อย่าเข้ามานะ กลัวๆๆๆ...กลัวแล้วๆ” กานดาร้อง
รถวีด้าแล่นเข้ามาจอดวีด้ากับเกรซรีบลงจากรถอย่างรวดเร็ว วีด้าพุ่งเข้าไปกลางวงไทมุงทันที เธอเห็นสภาพกานดาที่นั่งตัวสั่นงันงกอยู่ริมถนนอย่างน่าสงสาร
“แม่!” วีด้าพุ่งเข้าไปกอดกานดาไว้แน่น
“แม่จ๋า...ไม่เป็นไรแล้วนะ แพรอยู่นี่แล้วแม่ แพรอยู่นี่! ต่อไปแพรจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว...แม่จ๋า” วีด้ากอดกานดาแน่นน้ำตาไหลเกรซมองเพื่อนอย่างสะเทือนใจ
อ่านต่อตอนที่ 23