เรือนริษยา ตอนที่ 21
บริเวณด้านล่างของตึกอพาร์ตเม้นท์ ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ พยายามกันเหล่าไทยมุงออกห่าง
มุมหนึ่งตำรวจกำลังยืนถามและบันทึกปากคำ ชายแก่และผู้หญิงรุ่นป้าที่เป็นพยานเห็นเหตุการณ์สมหมายพยายามฆ่ากฤตพนธ์
ตำรวจอีกชุดหนึ่งกำลังถ่ายรูปและเก็บหลักฐานที่ศพสมหมาย ขณะที่กฤตพนธ์นั่งอยู่ที่ท้ายรถพยาบาล ให้พยาบาลปฐมพยาบาลบาดแผลถลอกฟกช้ำจากการต่อสู้ โดยมีหมวดเมธยืนอยู่ใกล้ๆกำลังเช็คดูโทรศัพท์มือถือของสมหมาย
"เบอร์สุดท้ายที่โทร.มาหาคนร้าย เป็นเบอร์ที่คนร้ายติดต่อด้วยบ่อยมาก แค่วันนี้วันเดียว ติดต่อหากันถึง 7 ครั้ง"
"แต่กลับไม่ยอมเมมชื่อเอาไว้ในเครื่อง เหมือนต้องการเซฟไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นใคร" กฤตพนธ์บอก
"แต่มันเช็คไม่ยากหรอกผู้พัน แค่มีเบอร์โทร. ก็เช็คได้แล้วว่าเจ้าของเครื่องเป็นใคร"
"ถ้างั้นหมวดรีบเช็คให้ผมเดี๋ยวนี้เลยได้ไหมครับ ถ้าเป็นคนที่ผมรู้จัก เราจะได้รวบผู้บงการได้ทัน ก่อนที่มันจะไหวตัวหนีไป"
"ผมจะลองดูนะครับ"
หมวดเมธยกมือถือของตัวเองโทร.หาตำรวจในกองพิสูจน์หลักฐานทันที
"ฮัลโหล...ผมมีเบอร์โทร.ในมือถือของคนร้ายที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ให้รีบช่วยเช็คหาเจ้าของเครื่องให้หน่อย"
ภานุรีบเดินเข้ามาที่เกิดเหตุ หยุดมองศพสมหมายแล้วเดินเข้ามาเพื่อน
"เฮ้ย...ไม่เป็นไรมากใช่ไหมพ่อพระเอก"
"ก็เกือบเสร็จมันไปแล้ว"
"ฉันว่าไอ้นั่นมันชะตาขาดตั้งแต่คิดจะเก็บแกแล้วว่ะ ไอ้มือฆ่านั่นมันหน้าคุ้นๆว่ะ ถ้าหน้ามันไม่เละ ฉันอาจจะจำได้ว่าเคยเห็นมันที่ไหน"
"มันชื่อสมหมาย ลูกน้องไอ้เชนไง"
"เออใช่ งั้นก็แปลว่าไอ้เชนส่งลูกน้องมาเก็บแกน่ะซิ"
"ฉันกับมันไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นอะไรกันมาก่อน"
"ลืมไปแล้วเหรอ เราเกือบลากคอมันเข้าคุกตอนไปทลายบ่อนลอยฟ้า"
"เรื่องแค่นี้ มันไม่น่าจะส่งลูกน้องมาตามฆ่าฉันสองสามครั้งหรอก"
"แกจะบอกว่ามีผู้บงการจ้างมันมาอีกทีงั้นเหรอห่ะ"
"ใช่ งานนี้ต้องมีคนจ้างวาน"
ภายในบ้านกลางสวน ทิพย์กำลังอาละวาดปัดข้าวของภายในบ้านอย่างโกรธแค้น ชิดไม่เคยเห็นทิพย์เป็นอย่างงี้มาก่อนก็ตกใจ
"ทำไมมันหนังเหนียวตายยากตายเย็นนัก จะอยู่เกะกะขวางทางฉันไปถึงไหน อี้ย์!"
"พอเถอะทิพย์ เป็นบ้าไปแล้วเหรอ"
"ใช่ ฉันกำลังจะเป็นบ้า เพราะอีนังคุณหนูนันของแก มันเอาไอ้กฤตเข้ามายุ่งกับเรื่องของเรา จนแผนของฉันจะพังอยู่แล้ว ฉันต้องกำจัดมันให้ได้"
"ใจเย็นๆนะทิพย์ อย่าให้ใครต้องตายเพราะเรื่องนี้อีกเลย"
"หุบปาก"
ทิพย์หันมาตวาด ชิดอึ้งตะลึง
"แม้แต่แก ถ้าขวางทางฉัน ฉันก็ไม่เอาไว้"
"ทิพย์"
ทิพย์หันเดินผละไป ทิ้งให้ชิดยืนหวาดผวา
หมวดเมธกำลังมองไลน์ในมือถือที่ตำรวจพิสูจน์กองหลักฐานส่งมาให้ดู ก่อนเดินเข้ามาหากฤตพนธ์กับภานุ
"รู้ตัวเจ้าของเบอร์โทร.มาแล้วครับ"
"ใครครับ"
หมวดเมธส่งมือถือให้ดู รูปในมือถือเป็นรูปของเชน ทั้งกฤตพนธ์และภานุมองหน้ากัน
"ใช่มันจริงๆด้วย ... ขอบคุณมากครับหมวด"
"ผมจะรวบรวมหลักฐานและเรียกตัวนายเชนมาให้ปากคำโดยเร็วที่สุด"
"ขอบคุณครับ"
หมวดเมธเดินผละไป กฤตพนธ์รีบหันมาบอกภานุ
"ฉันต้องการที่กบดานของนายเชน แกช่วยฉันที"
"เฮ้ย...แกจะทำบ้าอะไรอีกวะ ก็ตำรวจ..."
กฤตพนธ์สวน
"ตำรวจจะทำคดี ก็ปล่อยให้เค้าทำตามวิธีของเค้าไป ฉันก็จะทำตามวิธีของฉันเหมือนกัน หาที่กบดานของมันมาให้เร็วที่สุด นายเชนนี่แหละที่จะช่วยเราสาวไปถึงผู้บงการตัวจริงได้"
ทุกคนในฝ่ายฤทัยกำลังจะเดินเข้าบ้านก็เจอเดือนที่แล่นเข้ามาฟ้อง
"ตอนที่คุณผู้หญิงไม่อยู่ คุณนันพาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ค่ะ เข้ามาในบ้าน"
"ใครยะ! แกรู้จักไหม" ฤทัยถาม
เดือนส่ายหน้า
"ฮึ... ไม่คุ้นเลยค่ะ"
"เอ๊า! แล้วทำไมแกไม่ไล่มันไปล่ะ ปล่อยให้มันเข้ามาเพ่นพ่านในบ้านทำไม"
"อุ้ย ทำไมจะไม่ไล่คะคุณผู้หญิง เดือนเนี่ยะเข้าไปตะเพิดมันเลย ให้ออกไป ถือดียังไงเข้ามาบุกรุกบ้านคนอื่น แต่มันสวนค่ะ สวนไงรู้ไหมค่ะ มันว่า พวกแกนั่นแหละบุกรุกบ้านฉัน พวกแกต้องชดใช้"
ฤทัยฟังแล้วก็รู้ทันที
"อีทิพย์!"
นันทนัชกำลังเดินมานั่งลงที่โต๊ะอาหารเพื่อจะทานข้าว
"ทานก่อนเถอะค่ะคุณนัน อย่ารอคุณกฤตเลย ดีไม่ดีอาจจะกลับมืด" ศรีบอก
นันทนัชแอบน้อยใจเล็กๆ
"หรือเค้าอาจจะกลับบ้านไปแล้วก็ได้ มาอยู่ที่นี่หลายวันก็...คงเบื่อ"
"รู้ตัวเหมือนกันเหรอว่าหล่อนมันน่าเบื่อ อีตัวเจ้าปัญหา"
กนกกรเดินด่าเข้ามากับฤทัย มีรณฤทธิ์ ไม้ เดือนตามหลังมา งานนี้เธอรู้ว่า โดนเจอรุมแน่ แต่พยายามนิ่งสู้
"ตักข้าวซีจ้ะศรี"
ศรียืนตกใจอยู่ พยักหน้าอย่างละล่ำละลัก
"เอ่อ...ค่ะ"
ศรีคว้าโถข้าวมาจะตักให้ ฤทัยปรี่เข้ามากระชากโถข้าวไปจากมือศรีโยนโครมลงใส่โต๊ะ
"แกไม่ต้องกิน!"
"ว้าย!"
จานอาหารบนโต๊ะกระจาย นันทนัชตกใจ ลุกขึ้นยืนพรวด ฤทัยเดินชี้หน้าเข้าหาเรื่อง
"แกกล้าดียังไงห่ะ ถึงเอาอีทิพย์...อีขี้ข้าชั้นเลวนั่นเข้ามาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก"
"น้านั่นแหละกล้าดียังไงมาถามฉันยังงี้ น้าทิพย์เป็นคนเลี้ยงดูฉัน เป็นคนดูแลพ่อลิตร อยู่บ้านหลังนี้มาก่อนที่น้าจะเข้ามาอยู่เป็นนางบำเรอซะอีก เพราะฉะนั้นน้าทิพย์มีสิทธิ์จะเข้ามาบ้านหลังนี้
เมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าฉันอนุญาต"
"อ๊าย...อีนัน!"
"มึงด่าแม่กูเป็นนางบำเรอพ่อมึงเหรอห่ะ" รณฤทธิ์ว่า
"ไม่ได้ด่า ฉันกำลังชื่นชม จากนางบำเรอ ค่อยๆขยับไต่เต้าขึ้นมาเป็นเมีย เป็นการลงทุนเปลืองตัวที่คุ้มค่าจริงๆ ฉันนับถือ"
ฤทัยตวาด
"แกหยุดปากชั่วๆของแกเดี๋ยวนี้นะอีหมาหัวเน่า"
"ก็เอาเลยซีแม่ ไม่มีคุณกฤตอยู่ช่วยมันได้แล้ว จัดการมันเลยซี อย่าปล่อยให้มันด่าแม่ได้อีก"
"อีปากนรก นับจากวันนี้แกจะไม่ได้พูดอีกเลย ไม้! จับตัวมันมาให้ฉัน"
ไม้เดินปรี่เข้ามาหา นันทนัชหยิบปืนที่พกมาด้วย ทุกคนตกใจกันถ้วนหน้า
"แกเข้ามาฉันยิงแกแน่ ไอ้ไม้ และฉันก็ไม่มีความผิด เพราะฉันทำเพราะป้องกันตัว อยากโดนก็เข้ามา"
ไม้ไม่กล้าเข้าไป นันขยับเท้าหาทุกคน ทุกคนถอยหนีเพราะไม่คิดว่านันจะพกปืนติดตัว และก็คิดว่านันคงจะเอาจริง กฤตพนธ์เข้ามาเห็นพอดี
"เกิดเรื่องอะไรครับคุณนัน"
กฤตพนธ์เข้าบ้านเดินปรี่เข้ามาหาเธอเพื่อปกป้อง
"ทำไมทำงี้ คุณกฤตกำลังปกป้องคนผิดนะคะ ยัยนันวางแผนพาคนใช้เก่าเข้ามาในบ้าน เจตนาจะแอบเข้ามาทำมิดีมิร้ายพวกกิ๊บ แถมยังเอาปืนมาขู่พวกกิ๊บ"
"คุณนันไม่ได้วางแผนอะไรทั้งนั้น น้าทิพย์เข้ามาเอง ตอนนั้นผมอยู่ด้วย ผมยืนยันได้"
"ตอแหล! พวกแก 2 คนก็รวมหัวกันนั่นแหละ คิดจะแย่งสมบัติทุกอย่างไปจากแม่ฉันเหรอ อย่าฝันไปเลย มึงจะไม่ได้อะไรออกไปจากที่นี่ทั้งนั้น ถ้าอยากได้ มึงต้องข้ามกูไปก่อน" รณฤทธิ์โวยลั่น
"แกอีกคนไอ้รณ ระวังตัวให้ดีเถอะ ทำเป็นปากดี ไปเถอะคุณกฤต ไปเถอะค่ะ"
นันทนัชดึงกฤตพนธ์แยกไป พวกฤทัยมองตามอย่างแค้น
เธอเปิดประตูพาเขาเข้าห้องมา...ถอนใจโล่งอก
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมต้องพกปืนในบ้านด้วย"
"ก็คุณบอกให้ฉันพกติดตัวตลอดเวลาฉันก็ทำแล้วนี่ไง อีกอย่างนะฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะโดนพวกนังฤทัยทำร้ายเอาตอนไหน ฉันก็เลยเอาติดตัวไว้"
นันทนัชอึ้งมองร่องรอยฟกช้ำที่หน้าของเขา
"ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ คุณนั่นแหละไปโดนอะไรมา ทำไมหน้าตาถึงขียวช้ำกลับมายังงี้"
"ผมถูกมันตามเก็บ ตอนไปส่งน้าทิพย์"
"มัน? คนเดียวกับไอ้โม่งที่ตามเล่นงานเราเหรอคะ"
"ใช่ แต่คุณไม่ต้องห่วง มันหมดโอกาสที่จะตามล่าเราอีกแล้ว"
"ทำไมคะ"
"ผมรอด แต่มันพลาดท่าตกตึกลงมาตาย"
"ห่ะ"
นันทนัชตะลึงค้าง
รณฤทธิ์พยายามโทร.หานายเชน แต่ติดต่อไม่ได้
"หมายเลขที่ท่านเรียกติดต่อไม่ได้...ติดต่อไม่ได้...โว้ย! สัญญาณเป็นไรวะเนี่ยะ ทำไมโทร.ไม่ติด" เขากดโทร.ใหม่
"รับซีวะไอ้เชน แกต้องมาจัดการเก็บมันให้ฉัน"
กนกกรได้ยินแล้วแปลกใจ
"เก็บใคร เก็บอะไร แล้วไอ้เชนเป็นใคร"
ฤทัยกับไม้เงียบ ได้แต่แอบมองตากัน ไม่อยากให้กนกกรรู้
รณฤทธิ์ยุ่งกับการโทร.
"ไอ้เวรเอ้ย...แกรับเงินฉันไปแล้ว...ต้องฆ่ามันให้ได้ซีวะ"
"หูแตกหรือไง! ฉันถามว่าฆ่าใคร ทำไมเงียบกันไปหมด ไม่มีใครตอบอะไรฉันสักคน"
กนกกรเลยหันไปเขย่าแขนรบเร้าฤทัย
"แม่! จะทำอะไรบอกฉันบ้างซี ไอ้รณมันจะฆ่าใคร คุณกฤตใช่ไหม บอกฉันมาซีแม่"
ฤทัยเหลืออด หันมาสะบัดมือวีนใส่กนกกร
"ฉันก็ฆ่ามันทุกคนที่มาขวางทางฉันนั่นแหละ"
"แม่...ไม่นะ อย่าทำคุณกฤตนะ แม่อยากจะฆ่านังนัน แม่ก็จัดการมันไปซี แต่คุณกฤตเค้าไม่..."
"ไม่อะไร! ห่ะ...ไม่อะไร! แกเป็นอะไรหะนังกิ๊บ ไม่เห็นหรือไงว่าไอ้กฤตมันเสือก จนเกินที่ฉันจะเก็บชีวิตมันไว้ให้รกหูรกตาฉันได้อีกแล้ว"
"อย่านะแม่...อย่าทำอะไรคุณกฤตนะ เค้าเป็นคนดี เค้าแค่หลงผิดเพราะอีนังนัน มันหลอกใช้เค้า กิ๊บจะหาทางให้เค้าออกไปจากบ้านเราเอง นะแม่นะ"
"งั้นคุณกิ๊บก็รีบๆทำหน่อยนะครับ เพราะผมจะไม่ทนมันอีกแล้ว"
ไม้พูดพลางจับปากที่แตกอย่างแค้น ทำเอากนกกรใจเสีย
"ฉันก็เหมือนกัน ฉันอยากจะขึ้นไปฆ่ามันบนห้องตอนนี้เลยด้วยซ้ำ" รณฤทธิ์ว่า
กนกกรอึ้งมองหน้าทุกคน...เห็นสีหน้าทุกคนโกรธแค้นกฤตพนธ์ พร้อมจะกำจัดเค้าจริงๆ
ภายในห้อง กฤตพนธ์หยิบมือถือ เปิดรูปศพให้นันทนัชดู
"มันชื่อสมหมาย ลูกน้องนายเชน ที่ผมเคยให้คุณดูรูปพร้อมประวัติมัน คงมีใครไปจ้างมันให้มาเล่นงานคุณ แล้วก็เก็บผม"
"แปลว่าถ้าตำรวจจับตัวนายเชนคนนี้ได้ ฉันก็จะได้รู้ความจริงเสียที ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้น่ะซีคะ"
"แน่นอนครับ ผมมั่นใจว่านายเชนคือกุญแจสำคัญที่จะเปิดเผยเรื่องทั้งหมดนี้ ใครเป็นคนจ้าง ใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด เราจะได้รู้กัน"
"ขอให้ตำรวจจับตัวมันให้ได้เร็วๆ"
เธอรู้สึกมีความหวัง ส่งมือถือคืนให้เขา แล้วก็นึกห่วงทิพย์ขึ้นมา
"จริงซิ! แล้วน้าทิพย์ล่ะคะ เป็นอะไรด้วยรึปล่าว"
"ปล่าวครับ น้าทิพย์ไม่ยอมให้ผมไปส่งถึงที่พัก ผมห่วงเลยแอบตามแกไป อยู่ๆน้าทิพย์ก็คลาดสายตาผมไป แล้วไอ้สมหมายก็โผล่มา"
นันทนัชโล่งอก
"ฉันนึกว่าน้าทิพย์จะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยซะอีก"
นันทนัชที่ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรในตัวทิพย์เลย แต่เขาสงสัยทิพย์มาก และห่วงเธอมากจนดึงเธอมากอดไว้
"เอ่อ...อะไรเนี่ยะ มากอดฉันทำไม"
"ผมเป็นห่วงคุณ ห่วงจริงๆ ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน ตอนนี้ไม่มีที่ไหนปลอดภัยสำหรับคุณเลย ตราบใดที่ยังจับตัวคนบงการไม่ได้"
"มีซีคะ มีที่นึงที่ปลอดภัยสำหรับฉัน คือตอนที่ฉันอยู่กับคุณไงคะ"
ทั้ง2สบตากัน นันทนัชหลบตาอย่างเขินๆ
"คุณแน่ใจเหรอ...ว่าอยู่ใกล้ผมแล้วจะปลอดภัย"
กฤตพนธ์ทำเป็นยื่นหน้าจะจูบ นันทนัชผละหลบจากอ้อมแขนเค้าอย่างเขิน
"ไม่ปลอดภัยแล้ว"
เขายิ้มมองเธอที่ผละไปเปิดกระเป๋าเดินทางหาอะไรบางอย่าง
"คุณหาอะไรอยู่"
"จดหมายค่ะ จดหมายจากบุคคลลึกลับที่ส่งไปแจ้งข่าวคุณพ่อเสียให้ฉันถึงที่อังกฤษ ฉันเก็บไว้ไหนแล้วน้า"
"อืม ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันครับ ว่าใครเป็นคนส่งไปให้คุณ บางทีเค้าอาจจะช่วยให้เราหาตัวผู้บงการได้เร็วขึ้น"
"ค่ะ ฉันก็ว่างั้น"
"งั้นผมช่วยหานะครับ"
เขาช่วยนันทนัชหาตามลิ้นชัก โต๊ะ หนังสือ
ภายในบ้านกลางสวน เวลาพลบค่ำ ทิพย์จ้องออกไปนอกหน้าต่าง หงุดหงิดในใจ
"รีบหาพินัยกรรมเข้าคุณนัน...อย่ามัวพะเน้าพะนอผู้ชายอยู่ หน้าที่คุณคือทดแทนบุญคุณฉัน ถ้าวันนั้นไม่มีฉัน วันนี้ก็ไม่คุณ สำนึกใส่กะลาหัวไว้บ้างไหม"
ทิพย์ขบฟัน มือกำจิกแน่น เพลิงแค้นลุกโชนในใจพร้อมเผาผลาญทุกคนที่ขวางหน้า
ชิดแอบนั่งพิงผนังฟังและกุมขมับเครียดอยู่ข้างหลัง
ภายในห้อง นันทนัชรื้อค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ สีหน้าง่วงเพลียเต็มที จนต้องปิดปากหาวออกมา
กฤตพนธ์กำลังช่วยหาอยู่อีกมุม
"ดีจัง คืนนี้คงเป็นอีกคืนที่คุณได้หลับโดยไม่ต้องพึ่งยานอนหลับ"
"ดีอะไรล่ะ ฉันยังหาจดหมายไม่เจอเลย เอาไปเก็บไว้ที่ไหนยัยโก๊ะ ดวงฉันคงไม่ถูกกับของหาย หาอะไรไม่เคยพบสักอย่าง ทั้งพินัยกรรมของพ่อ ทั้งชิ้นส่วนรูปของแม่ที่ขาดไป"
นันทนัชบ่นหงุ๊งงิ๊งคนเดียว
"ยิ่งลน ยิ่งหาไม่เจอ ค่อยๆหาดีกว่านะคุณ เดี๋ยวก็เจอเอง"
กฤตพนธ์หันไปช่วยหาตามข้าวของที่นันทนัชวางไว้ ครู่ใหญ่ เขาก็เจอเข้ากับของสิ่งหนึ่ง ที่นันทนัชกำลังหาอยู่ มันร่วงอยู่ในซอกข้างตู้
กฤตพนธ์สังเกตเห็น นั่งยองแล้วพยายามยื่นนิ้วไปหยิบมันออกมา ครู่เดียวก็หยิบออกมาได้ เขา ลุกขึ้นยื่นมันออกไป
"นี่ไง...ผมเจอแล้ว"
เขาชะงัก...เมื่อพบว่านันทนัชฟุบหลับไปบนเตียงเสียแล้ว
เขาเดินย่องมาที่เตียง ค่อยๆจัดท่าให้เธอนอนหลับอย่างสบายๆ จับมือเธอขึ้นมาจูบอย่างถนอม ห่มผ้าและเดินผละไป
เรือนริษยา ตอนที่ 21 (ต่อ)
เขาออกจากห้องลงมาข้างล่างที่ปิดไฟสลัว ทุกคนแยกย้ายกันเข้านอนกันหมดแล้ว เขาเดินตรงไปที่ตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่ม... เขาคว้าน้ำดื่มออกมา 2 ขวด ปิดตู้เย็น กนกกรเดินตามมา
"ยังไม่นอนเหรอครับคุณกิ๊บ!"
กนกกรยืนมองเขาด้วยสายตาทั้งรัก ห่วงและเศร้า
"จะให้กิ๊บนอนหลับลงได้ยังไงกันคะ ในเมื่อสมองกิ๊บคิดๆอยู่ตลอดเวลา ว่าคุณอยู่กับยัยนันในห้อง"
"คุณกิ๊บครับ ผมอยากให้คุณทำใจยอมรับเรื่องของผมกับคุณนันเสียที"
"กิ๊บไม่มีวันยอมรับ กิ๊บเจอคุณก่อน กิ๊บรักคุณก่อน ยัยนันมาแย่งคุณไปจากกิ๊บ"
กนกกรพูดพลางโผเข้ามากอดกฤตพนธ์ไว้ เขาได้แต่ยืนอึ้ง หนักใจ
"คุณไม่ต้องรักกิ๊บก็ได้ค่ะ แต่กิ๊บขอร้อง คุณไปจากยัยนันได้ไหมคะ ไปให้ห่างจากมัน อย่ามายุ่งกับมันอีก นะคะ กิ๊บขอร้อง คุณไปซะ"
"คุณนั่นแหละครับอย่ามายุ่งกับผมอีก"
เขาพูดพลางดึงไหล่กิ๊บให้ผละออกจากเขา แล้วมองหน้าบอกกำชับกนกกร
"แล้วบอกคุณแม่คุณ น้องคุณ และคนของคุณด้วยว่า อะไรที่คิดจะทำกับคุณนัน ขอให้เลิกคิดซะ ใครทำอะไรเอาไว้ ไม่มีใครหนีสิ่งที่ตัวเองทำได้หรอกครับ"
"คุณก็ฟังๆๆแต่นังนัน คุณไม่ฟังสิ่งที่กิ๊บกำลังบอก กำลังเตือนคุณบ้างเลย นะคะคุณกฤต เลิกกับนังนันซะ คุณไม่คู่ควรกับมันหรอก คุณมีอนาคตที่ดีรออยู่ข้างหน้า มันกำลังดึงชีวิตคุณให้ดับไปกับมันด้วย เชื่อกิ๊บสักครั้ง อย่าไปยุ่งกับมัน กิ๊บหวังดีกับคุณนะคะ"
กนกกรมองขอร้องเขาด้วยน้ำตา แต่เขาถอนใจใส่
"กู๊ดไนท์ครับคุณกิ๊บ"
กฤตพนธ์เดินผละไปจากมือกนกกร
"คุณกฤต! ทำไมไม่ยอมเชื่อกิ๊บบ้าง ทำไม นังนันมันมีอะไรดี"
กนกกรทรุดนั่งร้องไห้…
นันทนัชหลับสบาย...ค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้น พบว่า ฟ้าสว่างโล่งโจ้งแล้ว
"ห่ะ...กี่โมงแล้วเนี่ยะ"
เธอรีบลุกขึ้นคว้านาฬิกามาดู เห็นเป็น7โมงกว่าแล้ว
"นอนเพลิน ตื่นซะสาย"
เธอตวัดผ้าห่มจะลุก ต้องชะงักเมื่อเห็นรูปของแม่รำเพยวางอยู่ที่หมอนหนุนข้างๆ ที่สำคัญ...ชิ้นส่วนที่ขาดหายไปนั้นถูกต่อไว้อย่างเดิม นันทนัชยื่นมือไปหยิบรูปมามองด้วยน้ำตาเอ่อๆเอารูปนั้นมาทาบไว้กับอกอย่างตื้นตัน
กฤตพนธ์อาบน้ำ แต่งตัวแล้วไปยืนอยู่ที่ริมระเบียงด้านนอก นันทนัชลุกเดินออกไป
"คุณคงมีดวงเรื่องของหาย"
เธอพูดพลางเข้ามายืนข้างๆ เขายิ้มให้นัน และรู้สึกดีที่เธอมองรูปแม่อย่างมีความสุข
"คุณหาเจอตั้งแต่เมื่อคืนเหรอคะ ทำไมไม่ปลุกฉัน"
"ผมอยากให้คุณหลับ แล้วตื่นขึ้นมาเจออย่างมีความสุข"
"ขอบคุณมากๆค่ะ ฉันไม่รู้จะหาคำๆไหนมาบอกคุณ เพื่อตอบแทนสิ่งที่คุณทำให้ฉันในวันนี้ ได้มากกว่าคำว่าขอบคุณ"
"มีซิครับ มีคำๆนึงที่ผมอยากได้ยินจากปากของคุณ"
"คำไหนเหรอคะ"
"คำว่ารัก"
นันทนัชอึ้ง ตะลึงมองเขา แต่เสียงมือถือของเขาดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เขามองเบอร์ แล้วรีบรับสาย
"ว่าไงนุ ฉันรอสายแกตลอดเวลา...ว่าไงนะ...ได้เรื่องแล้วเหรอ โอเค ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
กฤตพนธ์รีบวางสาย
"จะออกไปข้างนอกเหรอคะ"
กฤตพนธ์พยักหน้า
"ภานุได้เบาะแสของนายเชนแล้ว ผมไปนะ"
"ระวังตัวนะคะ"
เขาจับไหล่เธอบอก
"คุณนั่นแหละ อยู่ที่นี่ต้องระวังตัว โทร.เรียกคุณต้ามาอยู่เป็นเพื่อนจะดีกว่านะครับ"
เธอพยักหน้า กฤตพนธ์จะผละไป แต่วินาทีนั้น เขากลับหันมาหอมแก้มเธอ ก่อนจะผละไป
ทำให้นันทนัชยืนจับแก้มอึ้งมองเขาเดินออกจากห้องไป
ภานุยืนซุ่มทำเป็นเล่นมือถืออยู่ที่มุมตึก สายตาแอบมองไปยังตึก3ชั้นของคอนโดฯ ที่พัก
กฤตพนธ์เดินมาแล้วปรี่เข้ามาหา
"แกตามมันมาถูกได้ไงวะ"
"ฉันได้ที่อยู่เซฟเฮ้าส์ของมันมา ลองแวะไปหาข่าว เจอมันออกจากเซฟเฮ้าส์พอดี เลยสะกดรอยตามมันมานี่"
"มันมาทำอะไรแถวนี้วะ"
"มันมาหากิ๊กมันที่นี่"
เขามองไป และแล้วก็เห็นเชนเดินออกมากับลูกน้อง 2คน ตรงไปยังรถที่จอดอยู่
"เฮ้ยเร็ว...ก่อนที่มันจะขึ้นรถ"
ทั้ง2 รีบออกวิ่งไปทันที
เชนออกมาอย่างระวังตัว...มันล้วงกุญแจออกมากดรีโมต แต่ไม่ทันจะเปิดประตู...ลูกน้องที่กำลังเดินอ้อมจะไปขึ้นรถอีกด้าน ก็หันมาเห็นกฤตพนธ์กับภานุวิ่งเข้ามาหาเสียก่อน ก็เลยชี้นิ้วตะโกนบอกลั่น
"พี่เชน...ระวัง"
"ห่ะ"
เชนจะชักปืนที่เหน็บไว้ที่เอวออกมา แต่กฤตพนธ์กับภานุวิ่งมาถึงตัวเสียก่อน ภานุจับมือที่ถือปืนงัดขึ้น กฤตพนธ์ถลาเข้ามาล็อกแขนอีกข้าง ลูกน้อง 2คนเข้ามาช่วยเชนต่อสู้กับกฤตพนธ์และภานุ
"ปล่อยกู"
เชนออกแรงงัดสู้...แขนข้างที่ถือปืนล็อกคอภานุไว้ได้ แต่ภานุก็บิดข้อมือ จนเชนเจ็บปล่อยปืนร่วง ภานุเตะปืนกระเด็นเข้าใต้ท้องรถไป กฤตพนธ์ต่อยกับลูกน้อง 2คน
"ปล่อยกู"
เชนศอกใส่สีข้างภานุ แล้วบิดแขนภานุหมุนหันมาต่อย แต่ภานุหลบต่อยสวนคืนเข้าเต็มหน้ามัน ถีบร่างมันเซไปชนถังขยะแถวนั้นล้ม
ภานุปรี่เข้าไปหา แต่มันคว้าถังขยะโยนเข้าใส่จนต้องผงะหลบ แล้วมันก็อาศัยจังหวะวิ่งหนีไป
"เฮ้ย อย่าหนีนะ"
กฤตพนธ์อัดลูกน้องทั้ง 2 จนสลบไป แล้ววิ่งออกตามภานุไป
เชนวิ่งหนีมาในซอกซอยตึก ภานุวิ่งไล่ตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด เชนปัดของล้มกระจาย เพื่อขวางทางภานุ
กฤตพนธ์วิ่งตามแล้วแยกไปอีกทาง ปล่อยให้ภานุวิ่งไล่ไปคนเดียว
เชนวิ่งหนีออกมาใกล้ถึงปากตรอก คว้าของโยนใส่ ภานุจนเสียหลักล้มกลิ้ง เงยหน้ามองอีกที เห็นเชนวิ่งไปจะทะลุต้นซอยแล้ว กฤตพนธ์วิ่งโผล่มาจากซอยข้างๆ พุ่งชนเชนล้มกลิ้งไปด้วยกัน
"อ๊าก"
เชนลุกขึ้นได้ กฤตพนธ์ไม่ทันระวังตัวจึงถูกเชนเตะใส่เข้าท้องจนจุก ภานุตามมาด้านหลังถูกเชนเตะตัวจนล้มลง เชนถีบใส่ภานุจนหน้าหงาย เชนลุกขึ้นวิ่งหนี
"ย๊าก"
เชนวิ่งมาถึงรถขึ้นรถขับออกไป ทั้งคู่วิ่งตามมาไม่ทัน แต่เห็นรถวิ่งออกไป ได้แต่ยืนหอบ
ในเวลาเดียวกัน นันทนัชยกจดหมายขึ้นมาอย่างดีใจ
"เจอจดหมายแล้ว!"
แฟนต้ากับธีร์ที่อยู่ในห้องด้วยรีบเข้ามาดู เห็นจดหมายเขียนจ่าหน้าซองเป็นภาษาอังกฤษ
"งั้นใครมันจะหวังดี ถึงกับส่งจดหมายฟ้องแก ให้รีบกลับมาขัดขวางแผนการของแม่เลี้ยงแก"
นันทนัชสะอึกไป ธีร์เข้าไปปิดปากแฟนต้า
"เรานี่มันพูดมากจริงๆเลย เกรงใจนันเค้าบ้างดิ"
"แฮ่...โทษทีนัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะสะกิดต่อมอะไรของแกเลยนะ"
"หึ คำพูดแกแค่นี้ ทำไรฉันไม่ได้หรอก ฉันเจอมาเยอะกว่านี้"
เสียงมือถือดังขึ้น ฤตพนธ์โทร.มา เธอรีบรับ
"ฮัลโหล เป็นไงคะคุณกฤต ได้ตัวมันไหม เหรอ...มันหนีไปได้ คุณเป็นไง...ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ"
แฟนต้าเหล่มามองหน้าธีร์ เห็นธีร์กำลังอึ้งมองนันทนัชอยู่
ย่านช็อปปิ้ง ในมุมหนึ่งกฤตพนธ์เดินมากับภานุ คุยโทรศัพท์
"ครับ แล้วคุณล่ะ...อยู่ที่บ้าน มีใครมาหาเรื่องอีกรึปล่าว"
"ปล่าวค่ะ ตอนนี้ต้ากับพี่ธีร์ก็อยู่ด้วย ออ! มีข่าวดีค่ะ ฉันเจอจดหมายแล้ว ฉันดันเสียบไว้ในกระเป๋าเดินทางค่ะ"
"เจอแล้วเหรอครับ"
"ฉันว่าจะไป"
"ไม่ได้นะครับ! คุณไปคนเดียวไม่ได้นะครับ เอางี้...ผมจะรอคุณอยู่ที่นี่ แล้วเราไปด้วยกัน"
ทิพย์กำลังเดินลึกเข้าไปในสวนที่รกร้างและวังเวง ชิดแอบเดินตามทิพย์ไปห่างๆเงียบๆ ด้วยความสงสัยว่าทิพย์ไปไหน อยู่ๆทิพย์ก็หยุดเดิน เหลียวหันมามอง ชิดรีบหยุด ซ่อนตัวอยู่หลังพงไม้รกๆ
ทิพย์กวาดมองไปทั่วอย่างระแวดระวัง จนมั่นใจว่าไม่มีใครจึงเดินต่อไป ชิดค่อยๆหายใจเข้าอย่างโล่งอก ก่อนจะเดินตามไปอีกครั้งทิพย์เดินลึกเข้ามาจนถึงด้านหลังของสวนร้าง ที่มีเพิงไม้ผุพังสำหรับคนเฝ้าสวนอยู่ และบ่อน้ำที่ก่อขึ้นง่ายๆขึ้นมาด้วยขอบปูนและอิฐมอญที่มีตะไคร่จับ
ทิพย์หยุดยืนมองหาคนที่นัดไว้ ชั่วครู่ ... เชนก็เดินออกมาจากด้านหลังเพิงพัก
"นัดฉันมาทำไม"
"ผมเพิ่งหนีไอ้กฤตมา มันตามจับตัวผม"
ทิพย์ตกใจ
"แสดงว่ามันรู้แล้ว ว่าไอ้คนที่ตามฆ่ามันเป็นลูกน้องคุณ"
"ก็ใช่น่ะซี มันคงคิดจะจับตัวผมไปเค้นคอ ว่าใครเป็นคนจ้างผมให้ตามเก็บมัน"
ทิพย์ตะลึงงัน ตาลุกด้วยความกลัวว่าความลับจะแตก!
ชิดตามมาถึง...หยุดอยู่หลังต้นไม้...แอบดูแอบฟังอย่างเงียบๆ
"ระดับอย่างคุณ จะยอมให้มันจับตัวได้ยังไง ลงมือเก็บมันซะเองซี"
"พูดน่ะมันง่าย ลำพังไอ้กฤตคนเดียว ไม่พอมือผมหรอก แต่ตอนนี้... ชื่อของผมคงอยู่ในหมายจับของตำรวจแล้ว เพราะไอ้เวรสมหมายตัวเดียว เสือกมาตาย ทิ้งร่องรอยหลักฐานให้ตำรวจดมกลิ่นเต็มไปหมด"
เชนพูดพลางยืนหันหลังให้ทิพย์ เธอแอบล้วงมีดปลายแหลมคมกริบที่ซ่อนมาในเสื้อออกมาอย่างช้าๆ ชิดมองจากระยะไกล...เห็นเงาวาววับของมีดในมือทิพย์สะท้อนมาเข้าตาแต่ไกล ชิดอ้าปากค้าง
"อีกไม่นาน...ตำรวจคงส่งสายสืบออกตามล่าตัวผม ไหนจะไอ้กฤตอีก มันก็มีคนของมันคอยสืบคอยตามผมไม่ปล่อยแน่"
"แล้วจะให้ฉันช่วยยังไง"
ทิพย์พูดพลางก้าวขยับเข้าไปยืนใกล้เชน เชนหันมามอง ทิพย์ตีหน้ากังวลปนห่วงไร้พิรุธ
"ผมต้องหนี"
"เงินเหรอ"
ทิพย์พูดพลางขยับเข้ามาใกล้อีก
"ใช่ ผมต้องใช้เงินในการหนี"
"เท่าไหร่"
ทิพย์ก้าวเข้ามาใกล้เชนอีก...ชิดมองอย่างลุ้นระทึก...แต่เชนไม่ทันเฉลียวหรือระวังตัว
"ล้านนึง"
"ล้านนึงเลยเหรอ"
ซ๊วบ! ทิพย์แทงเชนเข้าเต็มกลางช่องอกตรงลิ้นปี่ ยืนตาค้างก่อนจนล้มลงหมดสติ
"เฮิ้ก!"
ชิดมองอย่างช็อก ขณะที่ทิพย์ดึงมีดออกมาแล้วกระซวกเชนซ้ำ
"ฉันว่ามันมากไป"
"แก..."
ทิพย์เลือดเย็น
"อย่างแก ตายไปซะ จะหนีรอดมากกว่า ฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้"
"ยะ...ยะ...อย่า"
ทิพย์แทงเชนซ้ำจนเชนตาย ก่อนยืนชะโงกมองลงไปในบ่ออย่างโล่งอก แล้วหาแผ่นไม้ สังกะสีผุแถวนั้นมาปิดปากบ่อไว้ ชิดฉวยโอกาสที่ทิพย์กำลังง่วนกับการปกปิดซ่อนเร้นศพ ลุกหนีไป
ชิดสติแตกวิ่งเตลิดมาอย่างกระเซอะกระเซิงไปยังป่าอีกด้าน ภาพการฆ่าของทิพย์ยังติดตา เขาหวาดผวา จนแข้งขาอ่อนร่วงลงกับพื้น คลานพาตัวมานั่งขดอยู่ที่หลังต้นไม้ตัวสั่นเทา ได้รู้ซึ้งถึงความโหดเหี้ยมของทิพย์ นึกห่วงนันทนัชสุดชีวิต
"คุณเรไร ...คุณรำเพย...ช่วยคุณนันด้วย"
นันทนัชก้มลงมองบ้านเลขที่ในจดหมาย แล้วมองยังบ้านเลขที่หน้าประตูรั้ว...
"น่าจะเป็นบ้านหลังนี้แหละค่ะ ตามที่ลุงบอกก็เห็นมีแต่หลังเดียวนะคะ" นันทนัชว่า
"น่าจะใช้แล้วครับ" กฤตพนธ์บอก
ทั้ง 4 คนเดินมาหยุดยืนมองผ่านประตูรั้วเข้าไป
"หื๊อ ทำไมเงียบยังงี้ ยังกับบ้านร้าง" แฟนต้าบอก
กฤตพนธ์มองไปที่ประตูรั้ว
"บ้านดูไม่รก แสดงว่าต้องมีคนอยู่ในบ้าน"
"อยู่ลึกในที่เปลี่ยวแบบนี้ คงไม่อยากจะคบใคร" ธีร์ว่า
"อย่ามัวสันนิษฐานกันอยู่เลย นันอยากรู้ใจจะขาดแล้ว ว่าคนในบ้านเป็นใคร ทำไมถึงหวังดีส่งข่าวเรื่องพ่อไปให้ฉันถึงที่อังกฤษ"
นันทนัชมองดูแล้วตะโกนเรียก
"มีใครอยู่ในบ้านบ้างครับ" กฤตพนธ์ถาม
"ขอโทษค่ะ มีใครอยู่บ้างไหมคะ"
เงียบ...ไม่มีเสียงตอบ
"มีใครอยู่บ้างไหมครับ" ธีร์ย้ำ
"มีใครอยู่บ้างค๊า ยู้ฮู...มีใครอยู่ไหม...ส่งเสียงหน่อยค่า" แฟนต้าบอก
"นี่...ไม่ได้มาดูคอนเสิร์ต"
"อะไรเล่า"
ทั้งคู่ต่อล้อต่อเถียงกันน่ารัก...นันทนัชแอบมอง ยิ้มๆ
กฤตพนธ์เสนอ
"ผมว่า...เราเข้าไปเลยดีกว่าครับ"
ฤตพนธ์เปิดประตูรั้วเข้าไปได้ เขาทำหน้าที่เคาะประตูหน้า
"สวัสดีครับ! สวัสดีครับ"
ไม่มีเสียงตอบ
"สวัสดีค่า มีใครอยู่บ้างคะ...มีใครอยู่ไหม" นันทนัชเรียก
ไม่มีเสียงตอบ...กฤตพนธ์ ธีร์ แฟนต้าเลยแยกย้ายกันเดินไปมองหาตามหน้าต่าง ข้างๆบ้าน
"Hello everybody !" แฟนต้าฉีกแนว
"พวกเรามาดี ขอคุยด้วยหน่อยครับ" ธีร์บอก
"มีใครอยู่บ้างครับ"
กฤตพนธ์เดินออกอีกทาง
เรือนริษยา ตอนที่ 21 (ต่อ)
ทิพย์เดินลุยป่าหญ้ารกๆกลับมา มีรอยเลือดสดๆติดเลอะอยู่ที่ข้างฝ่ามือและซอกเล็บ
ธีร์ แฟนต้า กฤตพนธ์ยังคงเดินอยู่ข้างตัวบ้านมองผ่านหน้าต่างเข้าไปภายใน
"ถ้ามีใครอยู่ในบ้าน มันต้องมีตอบฮืออือออกมามังดิ นี่เงียบกริ๊บ" แฟนต้าว่า
"นั่นน่ะซิ แปลกจริงๆ"
ขณะที่กฤตพนธ์เดินกลับมาที่ประตูหน้า ต้องตกใจเมื่อไม่เห็นนันทนัชยืนอยู่
"คุณนัน"
"มีอะไรครับ"
"คุณนันหายไป"
"อ้าว! ก็เมื่อกี้ยังยืนเคาะประตูอยู่เลย"
แฟนต้ามองที่ประตู...ก็พบว่าประตูแง้มๆอยู่
นันทนัชเดินเข้ามาภายใน ทิพย์ก้าวเข้าบ้านมา แล้วต้องหยุดยืนมองตะลึง เมื่อเห็นด้านหลังนันทนัชกำลังยืนอยู่กลางบ้าน
"นรกเอ้ย! นังเด็กนี่มาที่นี่ถูกได้ยังไง"
ทิพย์ทั้งโกรธ ทั้งกลัว ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ ดูขัดขวางทางไปหมด 2มือกำเกร็งแน่น สายตามองจ้องเขม็งไปราวกับนางเสือที่อยากจะขย้ำเหยื่อ
ทิพย์เดินช้าๆ ดึงมีดพกออกมาเข้าไปหาเธอทางด้านหลัง เมื่อใกล้เข้ามา...ทิพย์เอื้อมีดจะแทงให้แหลกเหลวได้คามือ แต่แล้ว...สายตาทิพย์ก็มองไปเห็นกฤตพนธ์เดินเข้ามาตามหานันทนัชมาแต่ไกล พร้อมทั้งธีร์และแฟนต้า ทิพย์ตะลึงก่อนจะรีบเปลี่ยนแผนทันที
ทิพย์เก็บมีด แล้วก็รีบเรียกนันทนัช
"คุณนันคะ"
"น้าทิพย์"
ทิพย์ปรี่เข้ามาหา...ขณะที่กฤตพนธ์ ธีร์ แฟนต้ายืนอึ้งมอง ไม่คิดว่าจะเป็นทิพย์ที่อยู่ที่นี่
"คุณนันมาที่นี่ได้ยังไงกันคะ"
"ก็จดหมายนี่ไงคะ จดหมายที่ส่งไปบอกนันเรื่องที่พ่อลิตรตาย นันก็เลยมาตามที่อยู่นี่"
นันทนัชควักจดหมายออกมา ทิพย์อึ้งไปเมื่อเห็นที่อยู่ของตัวเองอยู่หลังซอง
"น้าเองเหรอคะที่ส่งข่าวไปบอกนัน ทำไมน้าไม่เคยบอกนันเลยล่ะคะ"
"ก็เพราะน้าอยากปิดที่นี่เป็นความลับไงคะ เกิดรู้เข้าหูนังฤทัยว่าน้าแอบอยู่ที่นี่ มันคงตามมากำจัดน้านานแล้ว น้าคงไม่มีชีวิตอยู่รอด รอคุณนันจนถึงวันนี้หรอกค่ะ"
นันทนัชโผกอดทิพย์ไว้
"โธ่...น้าต้องลำบากเพราะนันแท้ๆ"
กฤตพนธ์อึ้งมองภาพตรงหน้า การมาเจอทิพย์ที่นี่ ยิ่งทำให้น่าสงสัยในตัวทิพย์มากขึ้น ธีร์กับแฟนต้ามองหน้าแอบกระซิบกัน
"หาแทบตาย มาแอบอยู่ที่นี่เอง"
ภายในบ้านไม้กลางสวน บริเวณโต๊ะรับแขก ทิพย์กำลังเทน้ำชาสีเข้มดูน่ากลัวจากกาลงสู่ถ้วย
"ดื่มน้ำ"
ทิพย์พูดพลางยื่นส่งให้แฟนต้า
"ขอบคุณค่ะ"
"ก็ไหนคุณน้าบอกผมว่า เช่าอพาร์ตเม้นท์อยู่ไงครับ ยังให้ผมไปส่งที่ปากซอยอยู่เลย" กฤตพนธ์ว่า
ทิพย์ชะงักมือที่รินชานิดนึง ก่อนจะตอบออกไปตรงๆ
"น้าโกหกคุณน่ะค่ะ"
ทิพย์พูดพลางยื่นแก้วชาให้กฤตพนธ์
"คุณน้าปิดพวกเราทำไมครับ"
ทิพย์จัดแจงรินชาอีก2ถ้วย
"ก็บอกแล้วไงคะ ว่าน้าไม่อยากให้นังฤทัยรู้ที่อยู่ของน้า แค่มันรู้ว่าน้าทำงานอยู่ที่ร้านคุณต้า น้าก็ทำงานอย่างไม่มีความสุขแล้ว น้ากลัว น้าหวาดระแวงไปหมด น้าถึงต้องลาออก"
"น้าทิพย์ลาออกจากร้านต้า เพราะเหตุผลนี้เองเหรอครับ" ธีร์ถาม
"ค่ะ แล้วพวกคุณคิดว่าน้าจะลาออกเพราะเหตุผลอะไรเหรอคะ"
ทิพย์พูดพลางยื่นแก้วชาให้แฟนต้ากับธีร์
"ไม่รู้ซีคะ อยู่ๆน้าก็ออก ไม่บอกไม่กล่าว ไม่อยู่ให้ต้าถามเลย" แฟนต้าบอก
"นี่แก...น้าทิพย์เค้าทำงานมาหลายปีแล้ว เค้าก็เหนื่อย ก็อยากจะหยุดพักบ้างแหละ แกหาแม่ครัวใหม่มาทำแทนก็แล้วกันนะ ฉันไม่ให้น้าทิพย์ทำงานหนักแล้วล่ะ"
นันทนัชช่วยแก้ตัวแทน
"คนดีของน้า มีคุณนันคนเดียวที่เข้าใจน้าที่สุด"
ทิพย์ยิ้มจับแก้มนันทนัชอย่างรักเหลือเกิน นันทนัชส่งยิ้มให้
ชิดเดินกลับมาจากป่าด้วยสีหน้าที่เครียด อับจนปัญญากับเรื่องที่ห้ามปรามทิพย์ได้ต่อไป
เขาเดินผ่านหน้าต่างข้างบ้าน มองเข้ามาในบ้าน อึ้ง ช็อก เห็นทิพย์จับแก้ม ลูบหัวนันทนัช ราวกับรักเสียเต็มประดา
"ห่ะ คุณนัน"
ชิดรีบยืนหลบหลังชิดผนังทันที ห่วงนันทนัช
"คุณนันมาที่นี่ทำไม...มาทำไม"
นันทนัชจับมือทิพย์ถาม
"ถามหน่อยซีคะน้าทิพย์ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของน้าหรือคะ"
ทิพย์อึ้งๆไปกับคำถามก่อนจะตัดสินใจพูดความจริงบางส่วน
"ไม่ใช่บ้านของน้าหรอกค่ะ แต่เป็นบ้านเกิดของคุณ"
"บ้านเกิดของนันเหรอคะ"
"ค่ะ คุณรำเพยคลอดคุณที่นี่ และน้าก็เป็นคนมาช่วยคุณรำเพยเลี้ยงคุณที่บ้านหลังนี้ด้วย"
กฤตพนธ์แปลกใจ
"ทำไมคุณแม่คุณนันถึงพาคุณนันมาอยู่ที่บ้านกลางสวนห่างไกลแบบนี้ล่ะครับ ทำไมไม่อยู่ที่เรือนรัตนะ"
"อ้าว คุณไม่รู้เหรอคะ"
"ทำไมคุณน้าคิดว่าผมรู้ล่ะครับ"
"ฉันนึกว่านังฤทัยจะแฉเรื่องทุกอย่างในเรือนรัตนะให้คุณฟังอย่างหมดเปลือกซะอีก"
"เอ่อ..."
กฤตพนธ์อยากจะถามต่อ แต่นันทนัชแย้งขึ้น
"ฉันคิดว่าไม่จำเป็นที่คุณจะรู้ทุกเรื่องหรอกค่ะ"
กฤตพนธ์อึ้ง บึ้งตึงไม่พอใจของนันทนัช ทิพย์แอบรู้สึกพอใจ แฟนต้าเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
"แล้วตกลงน้าทิพย์อยู่ที่นี่คนเดียวเหรอคะ หรือว่าอยู่กับใคร"
"คนเดียวค่ะ"
"อยู่เปลี่ยนๆลึกๆแบบนี้ ไม่กลัวเหรอครับ" ธีร์ถาม
"ไม่มีคนรู้ ก็ไม่กลัวค่ะ แต่ตอนนี้ชักกลัวซะแล้ว เพราะมีคนรู้"
ทิพย์พูดพลางมองหน้าธีร์กับแฟนต้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ดูน่าขนลุกมาก
"ไม่ต้องห่วงนะคะน้าทิพย์ พวกเราไว้ใจได้ จะไม่เอาไปพูดให้ใครได้ยินหรอกคะ"
"น้าก็ขอให้เป็นอย่างนั้น จะให้นังฤทัยกับพวกของมันรู้ไม่ได้เด็ดขาดนะคะว่าน้าหลบอยู่ที่นี่ มันต้องตามมาฆ่าน้าแน่ๆ"
"ค่ะ ที่นี่จะเป็นความลับระหว่างเรา นันสัญญาค่ะ"
ทิพย์ยืนจับมือส่งนันทนัชที่หน้าประตูรั้ว
"รักษาตัวให้ดีๆ แล้วรีบหาพินัยกรรมให้พบเร็วๆนะคะ น้าจะรอคุณนันอยู่ที่นี่ รอคุณนันกลับมารับน้าไปอยู่ที่เรือนรัตนะ"
"ค่ะ น้าอยู่คนเดียวระวังตัวนะคะ แล้วนันจะมาหาบ่อยๆ"
"ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้องมาหาน้า แค่โทร.มา แล้วน้าจะไปหาคุณนันเอง"
"ก็ได้ค่ะ นันไปก่อนนะคะ"
"ค่ะ"
"ผมลาล่ะครับคุณน้า" กฤตพนธ์บอก
"ไปก่อนนะครับ" ธีร์ว่า
"แล้วต้าจะฝากเงินเดือนที่ค้างไว้กับนันนะคะ"
"ค่ะ"
ชิดแอบยืนชะเง้อมองส่งนันทนัชอยู่ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเดินกลับหายเข้าหลังบ้านไป
ทิพย์เปิดประตูผัวะเข้าไปในห้องนอนชิด ชิดสะดุ้ง ตกใจ
"ทิพย์! เอ่อ...มีอะไร"
"ฉันจำได้ ตอนที่ใช้ให้ชิดช่วยไปส่งจดหมายไปให้คุณนันที่อังกฤษ ฉันเป็นคนจ่าหน้าซองด้วยมือของฉันเอง"
ทิพย์พูดพลางเดินย่างเข้ามาใกล้ชิดอย่างช้าๆ
"ชะ...ใช่! ฉันก็แค่ไปส่งที่ไปรษณียฺตามที่ทิพย์บอก ทะ...ทำไมเหรอ"
"แค่จ่าหน้าซอง แต่ฉันไม่ได้เขียนชื่อที่อยู่คนส่งไว้เลย แล้วที่มุมซองจดหมายนั่น ที่อยู่มันโผล่มาจากไหนห่ะ"
"ฉะ...ฉันไม่ได้เขียน ฉัน"
"แกเขียนใช่มั๊ย.. ฉันถามว่าแกเขียนใช่มั๊ย"
ชิดตกใจผงะ แล้วก็นึกออก
"ใช่.. ฉันเขียนเอง"
"แล้วแกเขียนที่อยู่ลงไปทำไม"
"ถ้าฉันไม่เขียนที่อยู่ผู้ส่งเค้าก็ไม่ให้ฉันส่ง แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะทิพย์"
ทิพย์ได้แต่อึ้งและยอมจำนน แต่แฝงไปด้วยความโกรธและเคืองชิดเป็นอย่างมาก ชิดก้มหน้าไม่กล้ามองทิพย์
ทิพย์โกรธจัด คว้าหมอนขิดใกล้มือปาเข้าใส่หน้าชิด
"โง่ที่สุด"
หมอนโดนเข้าเป้าตาเต็มๆ ชิดจับเบ้าตาเจ็บ
"แกรู้ไหม...เพราะที่อยู่นั่นทำให้คุณนันตามมาที่นี่จนเจอ! แถมยังลากทั้งไอ้กฤต ไอ้ธีร์ นังตาร์มาด้วยเป็นฝูง ที่ปลอดภัยของฉัน ตอนนี้มันไม่ปลอดภัยสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว เพราะความโง่เง่า ซื้อบื้อของแกคนเดียว"
ชิดได้แต่นั่งเงียบ
"ฉันคิดมาตลอด ว่าคุณนันจะเป็นที่พึ่งของฉัน...ช่วยให้ฉันแก้แค้น และเอาทุกสิ่งที่อย่างของไอ้ลิตรมาเป็นของฉันได้ทั้งหมด แต่ฉันคิดผิด! นังเด็กนั่นกำลังทำให้ฉันตกที่นั่งลำบาก เห็นที...ฉันจะเอามันไว้ไม่ได้ซะแล้ว"
ชิดตะลึง ทิพย์เดินออกจากห้องไป ชิดนั่งช็อก ก่อนจะตัดสินใจได้ในทันที
"ฉันจะไม่ยอมให้ทิพย์ ทำอะไรคุณนันได้เป็นอันขาด"
ยามเย็น ภายในเรือนรัตนะ นันทนัชเดินเข้าบ้านบึ้งตึงไม่พูดไม่จา กฤตพนธ์เดินตามมาคว้าแขนนันทนัช
"คุณนันเดี๋ยว! เป็นอะไรของคุณ นั่งเงียบมาในรถ ไม่พูดไม่จากับผม"
"ปล่าวค่ะ ฉันเหนื่อย"
เธอดึงมือเขาออก เดินขึ้นบันได แต่กเขาก็ตามขึ้นบันไดไป ในช่วงจังหวะนั้นเอง ทั้งคู่ในทุกอิริยบทถูกแอบถ่ายไว้
"เหนื่อยหรือโกรธผมกันแน่"
"ฉันจะไปโกรธคุณเรื่องอะไรเหรอคะ"
"นั่นน่ะซิ แค่ผมถามว่าทำไมคุณแม่คุณถึงไม่พาคุณมาอยู่ที่เรือนรัตนะนี่ตอนที่คุณเกิด จากดีๆคุณก็เปลี่ยนเป็นโกรธ"
"ก็ฉันไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้ อย่ามาถามฉันอีก"
เธอเดินหัวเสียขึ้นไป เขาไม่ยอมเลิกราง่าย เดินตามไป... กนกกรเดินออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับลดมือถือที่กำลังถ่ายรูปลง
กฤตพนธ์ตามมาคว้าแขนนันทนัชไว้อีก
"ที่ผมถามเพราะนี่คือสัญญา ระหว่างเรา"
"สัญญา...สัญญา! คุณไม่ต้องย้ำฉันหรอกคะ ฉันจำได้ ว่าค่าเหนื่อยที่คุณต้องอุทิศตัวมาเป็นคนรักปลอมของฉันคือ10เปอร์เซ็นต์ จากกองมรดกของพ่อฉัน เมื่อเรื่องนี้จบ"
กนกกรแอบตามมาได้ก็ดีใจราวกับพระมาโปรด เธอใช้ถือมืออัดเสียงคุยของทั้งคู่ไว้ทุกคำพูด
กฤตพนธ์จับไหล่นันทนัชเรียกสติเธอ
"คุณนัน! คุณมีสติได้ไหม การใช้อารมณ์แบบเด็กๆจะทำให้เรื่องเราพัง ที่คุณต้องบอกผมทุกเรื่อง เพราะทุกเรื่องมันอาจจะเกี่ยวกับที่เรื่องคุณตกที่นั่งลำบากอยู่ที่นี่ได้ทั้งนั้น"
"พ่อฉันมีคุณป้าเรไรเป็นเมียอยู่แล้ว แต่กลับแอบนอกใจไปรักแม่ฉัน แม่ถึงต้องอุ้มท้องฉันอย่างหลบๆซ่อนๆ แล้วพาฉันไปคลอดที่อื่นไง คุณอยากรู้พอหรือยัง"
กฤตพนธ์อึ้ง นันทนัชเจ็บปวดกับเรื่องราวในอดีตของพ่อแม่
"พอแล้วครับ ไม่ต้องเล่า เข้าห้องไปพักผ่อนเถอะครับ"
เขาเปิดประตูจูงมือเธอเดินเข้าห้องไป
กนกกรเปิดประตูเข้าห้องมา พร้อมเปิดภาพวีดีโอในมือถือที่ถ่ายเมื่อครู่
"ที่ผมถามเพราะนี่คือสัญญา ระหว่างเรา"
"สัญญา...สัญญา! คุณไม่ต้องย้ำฉันหรอกคะ ฉันจำได้ ว่าค่าเหนื่อยที่คุณต้องอุทิศตัวมาเป็นคนรักปลอมของฉันคือ10เปอร์เซ็นต์จากกองมรดกของพ่อฉัน เมื่อเรื่องนี้จบ"
กนกกรยิ้มร้าย
"อีนัน! ได้เวลาที่ฉันจะเอาคุณกฤตของฉันกลับแล้ว"
ชิดลับๆล่อๆมา มองหาทิพย์ให้แน่ใจว่า ไม่อยู่แถวนี้ ก่อนหยิบมือถือของทิพย์วางทิ้งไว้บนโต๊ะ มาเปิดหาเบอร์ของนันทนัช เขาลนลาน เหงื่อตก เมื่อเจอเบอร์ก็กดเบอร์ใส่ไว้ในเครื่องตัวเอง แล้ววางโทรศัพท์ไว้อย่างเดิม พอออกนอกห้องก็สะดุ้งเฮือก เมื่อเจอทิพย์ยืนอยู่
"ไม่กินข้าวเหรอชิด ฉันทำไว้ในครัวแน่ะ"
"ยังไม่หิว เดี๋ยวดึกๆฉันจะออกมากิน"
ชิดเดินผละไป สายสัมพันธ์ที่เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างคนทั้งสองได้ขาดสะบั้นลง แม้ทิพย์จะมีแววเจ็บปวดเสียใจ แต่ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาได้อย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่า ชิดแอบขโมยเบอร์โทร.ไป
ชิดรีบเปิดประตูเข้ามาในห้อง ล็อกประตูไว้อย่างแน่นหนา แล้วกดเบอร์โทร.ออก
ทิพย์ก็เดินเข้ามาในห้องเก็บของ ไขกุญแจเปิดตู้ที่ล็อกไว้อย่างแน่นหนา เปิดประตูตู้ผลัวะออก
ชิดกดโทร. รอสาย เสียงสัญญาณมือถือติด เขารอสายอย่างกระวนกระวายใจ
เรือนริษยา ตอนที่ 21 (ต่อ)
ทิพย์ยื่นมือไปหยิบกล่องๆหนึ่งออกมาจากตู้ เปิดฝากล่องออก เป็นห่อผ้าขาวของลิตรวางอยู่ในนั้น
"ถึงเวลาแล้ว...ที่ฉันต้องใช้มันอีก"
เสียงมือถือดัง นันทนัชยกมือถือขึ้นดู เห็นเบอร์ไม่คุ้น
"ใครโทรมาครับ"
เธอส่ายหน้า
"เบอร์แปลกๆค่ะ"
"ลองรับซิครับ"
เธอตัดสินใจรับสาย
"ฮัลโหล"
"ฮัลโหล...คุณนันใช่ไหมครับ"
"ใช่ค่ะ นั่นใครพูด"
"ชิดครับ...ชิดพูด"
"นายชิดเหรอ! นายชิดอยู่ที่ไหน"
"คุณนันอย่าเพิ่งถามอะไรผมตอนนี้เลยครับ ผมมีอะไรจะบอก"
"นายชิดพูดมาเลย รอฟังอยู่"
"คุณนันควรจะอยู่ห่างๆน้า..."
ประตูห้องถูกเปิดออกมาอย่างแรง ทิพย์ยืนอยู่หน้าประตู ชิดรีบซ่อนมือถือไว้ข้างหลัง
"คุยกับใครอยู่ชิด" ทิพย์ถาม
"เปล่า.. ไม่ได้คุยกับใคร"
"แต่ฉันได้ยิน"
ชิดไม่ตอบ ทิพย์ถามต่อ ชิดอึกอัก
"เอาโทรศัพท์มาให้ฉันดูซิ"
นันทนัชได้ยินเสียงที่ปลายสาย
"เสียงเหมืนน้าทิพย์เลย"
แล้วสัญญานก็ขาดหายไป ชิดรีบกดวางไปก่อน แล้วส่งโทรศัพท์ให้ทิพย์
"ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ได้คุยกับใคร"
ทิพย์เปิดดูเห็นเบอร์ของนันทนัชแต่ทำเป็นไม่สนใจ แต่ไม่คืนโทรศัพท์ให้ ชิดรู้สึกเครียดและไม่สบายใจที่ไม่สามารถบอกความจริงให้กับนันทนัชได้
"เค้าโทรมาทำไม"
"นายชิดบอกว่ามีอะไรจะบอกฉัน"
"เมื้อกี้คุณบอกว่าได้ยินอีกเสียงเหมือนเสียงน้าทิพย์"
ทั้งคู่สงสัยว่ามีเรื่องอะไร
กลางดึก เวลาตี 3 ชิดนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง อยู่ๆก็ขยับตัวรู้สึกหายใจอึดอัด จนไอออกมา
แล้วต้องลืมตาเบิกขึ้น 2มือจับไปที่คอที่หายใจไม่ออก
บรรยากาศในห้องของชิดเต็มไปด้วยควันจางๆลอยอยู่ทั่วห้อง
ชิดพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง มองไปที่ประตู เห็นควันลอยลอดช่องใต้ประตูเข้ามาในห้อง
ก่อนจะเห็นเงาคนยืนอยู่หน้าห้อง
ลูกบิดประตูค่อยหมุนบิดล็อกช้าๆ แล้วเปิดออก เห็นเป็นทิพย์ยืนถือตะเกียงอยู่ โดยคาดผ้าปิดปากปิดจมูกไว้ และที่พื้นนอกห้องหน้าประตู...มีโถดินเผาเคลือบที่กิ่งรำเพยกำลังเผาไหม้เป็นควันลอยคลุ้ง
"ทะ...ทิพย์"
ชิดกลิ้งตกลงมานอนคว่ำอยู่ที่พื้น 2มือเกลือกเถือกพยายามจะหนีออกจากห้อง แต่ไม่มีแรง ร่างกายเป็นอัมพาตไปจนหมด และใกล้จะหมดลมเต็มที่
ทิพย์เดินมาหยุดยืนอยู่ใกล้ชิดร่างชิดที่นอนทุรนทุรายอยู่
"ชิดไม่น่าคิดทรยศฉันเลย! เสียแรงที่เราลำบากมาด้วยกัน ลืมไปหมดแล้วเหรอชิด วันที่เราถูกไอ้ลิตร ถูกนังฤทัยมันเหยียบย่ำเหมือนขยะ ถูกมันเฉดหัวออกจากบ้านเหมือนหมาตัวนึง"
ชิดยื่นมืออันสันเมามาจับที่ขาทิพย์ พยายามพูดด้วยลมที่แทบจะหมด
"อย่า...ทำ...อะไร...คุณนัน...อโห...สิเถอะ"
ทิพย์เตะมือชิดออกอย่าโกรธ
"อโหสิเหรอ...ไม่! ความแค้นของอีทิพย์ต้องถูกชำระ...ฉันต้องเอาคืน ทุกคนที่ทำกับฉันเอาไว้ แล้วใครที่ทรยศหักหลังความรักความไว้ใจของฉันที่มีให้ เหมือนกับที่แกทำฉันในตอนนี้ มันจะต้องตายมอดไหม้ไปต่อหน้าฉัน"
เวลาต่อมา ในสวนร้าง ร่างชิดนอนอยู่ในหลุม ทิพย์ร้องไห้ยืนมองนิ่ง เธอหยิบพลั่วตักดินกลบร่างชิด
"ฉันไม่ได้ตั้งใจ....ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันไม่ได้อยากฆ่าแก แกเป็นคนเดียวที่คอยช่วยเหลือ คอยดูแลฉันทุกอย่าง..... แต่แกไม่น่ามาขวางทางฉันเลย"
ทิพย์พูดเสร็จก็สะอื้นจนตัวโยน แล้วโกยดินกองสุดท้าย วางเสียม ปาดน้ำตาบนหน้า เม้มปากแน่น ไม่ยอมเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปอีก ลุกขึ้นเดินเข้าบ้านไป
เธอหยุดสะอื้นเดินเข้ามาในบ้าน เธอตกใจที่เห็นนันทนัชยืนรออยู่ที่รถ
"คุณนัน"
"น้าทิพย์ ไปทำไรมาคะ ทำไม"
ทิพย์ก้มมองสภาพตัวเอง ปัดดินออกจากตัว
"เอ่อ แมวแถวนี้มันโดนยาเบื่อน่ะค่ะ น้าเลยเอาไปฝัง แล้วคุณนันมาทำอะไรที่นี่คะ"
"นันไม่ค่อยสบายใจน่ะค่ะ อยากคุยกับใครสักคน"
"มีไรรึเปล่าคะ"
ทิพย์เดินเข้าหานันเหมือนห่วงใยเต็มที่
"เมื่อคืนน้าชิดโทร.มาหา"
ทิพย์หน้าซีด กลั้นความรู้สึก
"บอกว่ามีอะไรจะบอก แต่สายหลุดไปก่อน ไม่รู้เกี่ยวอะไรกับพินัยกรรมรึเปล่า"
"แล้ว..แล้ว ตอนโทรศัพท์ เขาเล่าอะไรบ้างรึเปล่าคะ"
ทิพย์สงสัยมากจนเธอแอบสงสัยนิดๆ
"เพราะไม่พูดน่ะสิค่ะ นันเลยร้อนใจ น้าทิพย์ได้เจอน้าชิดบ้างรึเปล่าค่ะ"
ทิพย์ปัดดินที่เลอะมือ หน้าเริ่มมีพิรุธ
"ตั้งแต่ออกจากเรือนรัตนะ น้าก็ไม่เคยเจอใคร น้าก็อยู่ที่นี่ลำพังของน้าคนเดียว"
ทิพย์เสประเด็นแสร้งทำเศร้า
"นันไม่อยากให้น้าทิพย์อยู่คนเดียวเลย ถ้าเรื่องพินัยกรรมเรียบร้อย กลับไปอยู่เรือนรัตนะด้วยกันนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ น้าชินแล้ว ห่วงก็แต่คุณนันของน้า"
"ไม่ต้องห่วงนันนะคะ ตอนนี้มีคุณกฤตอยู่ที่เรือนด้วย นันอุ่นใจขึ้นเยอะเลย"
เธอพูดอย่างสบายใจ ทิพย์โอบไหล่นันทนัชไว้ แววตาใจดีเปลี่ยนเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น
กฤตกับภาณุคุยกันเรื่องเชน
"แกได้ข่าวเรื่องไอ้เชนมันบ้างไหม"
"หลังไอ้สมหมายตาย ยังสืบไม่ได้เลยว่ะ"
"แกว่าทั้งหมดนี้มันจะเกี่ยวอะไรกับคุณนันไหมวะ พูดแล้วชักเป็นห่วง"
กฤตว่าพลางหยิบโทรศัพท์โทรหาเธอ
"คุณนันครับ อยู่ไหนแล้วครับเนี่ย...บ้านน้าทิพย์เหรอครับ"
เขาวางสาย ภาณุมองเพื่อนอย่างเป็นห่วง
"เอ็งย้ายไปอยู่เรือนรัตนะกับคุณนันเขาแบบนี้ บ้านไม่แตกเหรอวะ"
"ทำไมวะ"
"เอ้า ก็ไหนคุณกนกกรแกประกาศจะจับจอง เป็นเจ้าของแกซะขนาดนั้น"
"ฉันยังไม่ได้รับจองซะหน่อย ไปก่อนนะเว้ย เดี๋ยวคุณนันรอ"
เขาพูดพลางลุกออกไป ภาณุมองตาม แอบสงสารกนกกรเบาๆ
รถของมานพมาจอดที่เรือนรัตนะ กนกกรรอรับ
"สวัสดีค่ะคุณลุง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ"
"นั่นสิ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันที่บ้านอัสวัติแล้วอาก็ไปต่างประเทศซะนานเลย"
"มีอะไรเกิดขึ้นเยอะเลยค่ะ ช่วงที่คุณลุงไม่อยู่"
"ถึงต้องเชิญลุงมาที่นี่.ใช่ไหม"
"เชิญข้างในดีกว่าค่ะ คุณแม่รอพบคุณลุงด้วยค่ะ"
ชั่วครู่ต่อมา ทั้งหมดนั่งคุยกันอยู่
"จริงๆ เรื่องที่รบกวนให้มาวันนี้ ไม่รู้ว่าจะก่อความไม่สบายใจให้คุณมานพรึเปล่า แต่ดิฉันเห็นยัยกิ๊บร้อนใจ นอนไม่หลับมาหลายคืนก็ไม่รู้จะทำยังไง" ฤทัยเปิดฉาก
"มันมีเรื่องอะไรกันเหรอครับ หรือว่าเกี่ยวกับตากฤต"
ฤทัยทำทีถอนใจ
"พี่กฤตได้แจ้งคุณลุงไหมคะ ว่าช่วงนี้ทำไมเขาถึงไม่ค่อยอยู่บ้าน"
"เห็นบอกแค่ต้องตามสืบคดีน่ะ"
"นี่แหละค่ะ สาเหตุที่ต้องเชิญคุณมานพมา ทุกวันนี้คุณกฤตย้ายมาอยู่ที่เรือนรัตนะค่ะ"
"ห่ะ"
มานพมองกนกกร
"อย่าบอกนะว่า มันทำหนูกนกกร"
"เอ่อ เปล่าค่ะ คือ..."
กนกกรหยิบมือถือมาแล้วเปิดคลิปเสียงที่อัดไว้ มานพนั่งฟังคลิปเสียง ที่กฤตคุยกับนันเรื่องแบ่งมรดก 10%
"นี่มันอะไรกัน ทำไมตากฤตถึงได้ทำตัวแบบนี้"
"อย่าโทษหลานชายคุณเลยค่ะ อาจจะผิดที่ลูกเลี้ยงของดิฉันเอง ยัยนันแกถูกส่งไปเลี้ยงเมืองนอกตั้งแต่เด็ก อาจจะลืมความเป็นกุลสตรีไทยไปหมด ถึงได้ชักชวนผู้ชายมาอยู่บ้านโดยไม่ผ่านผู้ใหญ่"
"ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมไม่ยอมให้ตากฤต ประพฤติตัวไร้ความเป็นสุภาพบุรุษแบบนี้แน่ๆ"
มานพพูดด้วยท่าทีโกรธ เข้าทางกนกกรกับฤทัยเป็นอย่างยิ่ง
เป็นจังหวะเดียวกับที่นันทนัชเพิ่งขับรถกลับมาถึง กฤตพนธ์ก็ขับรถมาถึงพร้อมๆกันพอดี
"ทำไมมาถึงไวจังคะ"
"ก็ใจสั่งมา"
"น้ำเน่าจริงๆ"
"โถ่ คุณนันผมอุตส่าห์เป็นห่วง รีบขับมาหา แล้วดูคุณทำกับผมสิ"
"จะห่วงทำไม นันแค่ไปหาน้าทิพย์"
"เพราะนั่นแหละครับ คุณนันมีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอครับ ถึงต้องไปหาน้าทิพย์ถึงโน่น"
"ไปถามข่าวเรื่องน้าชิดน่ะค่ะ ที่แกติดต่อจะพบนัน แล้วอยู่ๆ ก็หายตัวไปเฉย"
กฤตพนธ์ร้อนใจ เขาเอื้อมมือไปจับเธอ
"คุณนันครับ ผมขออะไรอย่างได้ไหม"
"อะไรคะ"
"ขอให้คุณไว้ใจผมเท่าที่คุณไว้ใจน้าทิพย์ ถ้ามีอะไรที่คุณไม่สบายใจ ผมอยากรู้เป็นคนแรก ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ นะ คุณต้องมีใครสักคนดูแล และผมขออาสาทำหน้าที่นั้นเอง"
เขาพูดอย่างจริงใจจนเธอมองอย่างเคลิ้ม สองคนจับมือกันแน่น
"ตากฤต"
ทั้งสองคนหันไปมองตามเสียง
"คุณลุง"
ทั้งคู่ปล่อยมือ นันทนัชยกมือไหว้มานพที่มองเมิน ไม่รับไหว้ เธอจ๋อยไปนิดนึง ก่อนสำรวมตัวเอง
"คุณลุงมาทำไมที่นี่ครับ"
"ถ้าไม่มา ฉันจะรู้ได้ไงว่าแกแอบไปทำอะไรไว้"
ฤทัย กนกกรที่เดินมากับมานพ
"จะทำอะไร ให้นึกถึงตระกูลเราบ้าง"
นันทนัชนิ่งฟังอย่างพยายามข่มอารมณ์ ฤทัยกับกนกกรมองอย่างสะใจ
"นันขอตัวก่อนละกันนะคะ"
กฤตมองตามอย่างไม่รู้จะทำไง พอนันทนัชไปแล้ว มานพก็เริ่มใส่หลานชายทันที
"สมบัติตระกูลเรามันไม่มากพอหรือไง แกถึงต้องมาทำมาหากินด้วยการรับจ้างเป็นแฟนผู้หญิงคนนั้น"
กนกกรทำหน้าเดียงสา ไม่รู้เรื่อง
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณลุง"
"ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้แกทำตัวไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้อีกแล้ว"
มานพเสียงแข็ง กฤตพนธ์ถอนใจ
นันทนัชมองข้าวของของกฤตที่ยังอยู่ในห้อง ที่ถูกเก็บอย่างเรียบร้อย แต่มีเสื้อผ้าบางตัวยังแขวนไว้ เธอหันไปมองรูปแม่ มือจับที่จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่เขาเคยเอามาให้
เธอเก็บเสื้อที่แขวนไว้ลงมา กระเป๋ากฤตถูกลากมาวางหน้าเตียง เสียงเคาะประตูดังขึ้นพอดี เธอเดินไปเปิดประตู ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างเศร้าๆ
"ผมมาลา"
"ค่ะ ฉันเก็บของให้คุณหมดแล้ว"
กฤตมองไปเห็นกองกระเป๋าก็สะท้อนใจ
"เก็บไว้ก่อนเถอะครับ ผมขอกลับไปเคลียร์กับคุณอาก่อน แล้วผมจะรีบกลับมา"
"อย่าเลยค่ะ นันไม่อยากเป็นตัวปัญหาของใคร"
"คุณนัน อย่าพูดแบบนั้นสิครับ คุณนันไม่ใช่ตัวปัญหา ผมแค่ขอเวลาจัดการเรื่องทั้งหมดนี้สักพัก"
กฤตพนธ์อ้อนวอน กนกกรเดินเข้ามาซะก่อน
"พี่กฤตคะ คุณอาให้กิ๊บมาตามค่ะ"
เขาจนใจ จำต้องเก็บกระเป๋าแล้วเดินลงจากเรือนไป เธอมองเขาจนลับตา พยายามกลั้นสะอื้น รู้สึกเหมือนไม่เหลือใครในชีวิต
เสียงโทรศัพท์ดัง
"น้าทิพย์"
ทิพย์คุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้างงๆ
"เป็นอะไรคะคุณนัน"
"นันไม่เหลือใครแล้วค่ะน้าทิพย์ คุณกฤตเขาไปแล้ว เขาไปแล้ว"
ทิพย์ยิ้มมุมปากออกมาอย่างโล่งใจ เสแสร้งพูดกรอกสายไป
"ใจเย็นๆ นะคะคุณนัน น้ายังอยู่กับหนูทั้งคน ถ้าเพียงแต่น้าทำได้ น้าจะไปหาคุณนันในตอนนี้เลย"
เธอเหมือนคิดอะไรได้
"จริงสิคะ ทำไมเราจะอยู่ด้วยกันไมได้ น้าทิพย์ไม่ต้องห่วงนะคะ นันจะจัดการเรื่องนี้เอง"
เธอวางสาย หน้าตาเข้มแข็งขึ้นมาทันที แล้วกดโทร.ออก
"สวัสดีค่ะ ทนายสมุทรชัยใช่ไหมคะ"
ทิพย์วางสาย หน้าเธอเหมือนคนกำชัยชนะ ทว่าแววตาเหี้ยมเกรียม
เวลาต่อมา รถของนันทนัชแล่นเข้ามาจอดที่เรือนรัตนะ ทิพย์ในลุคใหม่ก้าวลงจากรถ เธอถูกเชิญให้กลับมาเยือนเรือนรัตนะ หน้าตาดูมั่นใจ มีอำนาจขึ้น โดยเฉพาะแววตาที่มุ่งมั่นเกินปกติ
ทิพย์มองเรือนรัตนะ ยิ้มอย่างคิดถึงปนแค้นเคือง
"ยินดีต้อนรับกลับเรือนรัตนะนะคะ น้าทิพย์"
"ค่ะ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเลยนะคะ"
เดือนกับศรี ทำงานสวนอยู่แถวนั้น เห็นทิพย์ ก็คุยกันว่าหน้าคุ้นๆ
"ไอ้ศรี นั่นคุณนันพาใครมาวะ"
"หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นอ่ะ"
"ฉันนึกออกละ คนที่มันมาวันก่อนไง ไม่ได้การละ ฉันต้องรีบไปบอกคุณฤทัยก่อน"
แล้วเดือนก็เดินหลบไป ขณะที่ศรีเดินตรงไปหานันทนัชที่ยกข้าวของกันอยู่
"ศรีช่วยไหมคะคุณนัน"
"ขอบใจนะจ๊ะ ศรีจ๊ะ น้าทิพย์คือญาติผู้ใหญ่คนสำคัญของฉัน ฝากศรีช่วยดูแลด้วยนะ"
ศรียกมือไหว้ ทิพย์รู้สึกลำพองถึงเกียรติภูมิตัวเองที่เริ่มๆ กลับมา
ภายในเรือน รณฤทธิ์นั่งกระดิกเท้าสบายใจอยู่ ฤทัยนั่งคุยอยู่กับกนกกร
"ตั้งแต่แฟนพี่กิ๊บออกจากบ้าน บ้านนี้ค่อยน่าอยู่หน่อย"
"แกจะพูดอะไรก็พูดไป อีกหน่อยพอเรื่องพินัยกรรมจบ คุณกฤตก็ต้องกลับมาอยู่บ้านนี้อยู่ดี แกควรจะหัดทำดีกับเขาไว้บ้าง"
"อีกหน่อยของพี่ มันจะอีกกี่ชาติ"
"ไม่นานหรอกน่ะ มันยืนยันว่าจะเปิดพินัยกรรมวันครบรอบ 100 วันที่คุณลิตรเสีย อีกไม่กี่วัน ก็คงได้รู้กันแล้ว" ฤทัยว่า
"แต่กิ๊บว่ามันไม่มีหรอกแม่ โกหกขึ้นมาเองแน่ๆ"
"แล้วถ้ามันมีล่ะ" รณฤทธิ์ถาม
"ไม่มีทาง เรือนรัตนะจะต้องเป็นของเรา"
ยังพูดยังไม่ทันจบ ทิพย์เดินก้าวเข้าเรือนมา
"นังทิพย์"
สองคนประสานสานตากัน ยืนนิ่งราวกับถูกหมุดตรึง รัศมีอำมหิตราวกลับแผ่ไปรอบบ้าน ทำเอาทุกคนที่อยู่รายรอบแทบจะร้อนไปด้วย ทิพย์ยิ้มเหยียดมุมปากนิดๆ ใช้แววตาพิฆาต ยืนนิ่งมองฤทัย และลูกๆ อย่างเหนือๆ
"ใครสั่งให้แกมาเหยียบเรือนรัตนะ"
"ฉันเอง" นันทนัชบอก
"นี่ นึกจะทำอะไรก็ทำตามใจชอบเลยใช่ไหม คราวที่แล้วก็เอาผู้ชายเข้าบ้านมาทีล่ะ"
"จริงๆ ฉันแทบไม่ได้ทำอะไรเลย แค่บอกคุณกฤตว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย คุณกฤตเลยอาสาเข้ามาช่วยดูแลเอง ไม่ต้องลงทุนทำถึงขนาด อัดเสียงแล้วโร่ไปฟ้องผู้ใหญ่เหมือนบางคน"
"แกว่าใคร"
"อย่าเสียเวลาถามในสิ่งที่ตัวเองก็รู้คำตอบอยู่แล้วเลย"
กนกกรรู้ว่าโดนด่า ก็แอบฟึดฟัด
"ไหนๆ แกก็กล้าเข้ามาเหยียบล่ะ ฉันก็จะยอมทำทานให้แกรำลึกความหลังที่บ้านหลังนี้สักพักก็แล้วกัน แต่ก็ช่วยหัดมีมารยาทบ้าง อย่าอยู่นาน จนเจ้าของบ้านต้องลำบากมาไล่"
"แหม ทำไมพูดถึงตัวเองแบบนั้นล่ะ" นันทนัชสวนกลับ
"แก!"
"ฉันขอบอกให้ทุกคนรู้ว่า น้าทิพย์จะมาอยู่กับฉัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"
"ห่ะ..แกไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะ"
"มีสิ สิทธิที่ฉันเป็นลูกในสายเลือดคนเดียวของคุณพ่อลิตร แต่ถ้าเรื่องง่ายๆ พวกนี้มันเข้าใจยากสำหรับพวกคุณน้าล่ะก็"
นันทนัชหยิบจดหมายในกระเป๋าออกมายื่นให้ ฤทัยรับมาอ่าน ข้อความในจดหมายเป็นการยืนยันจากสมุทรชัย ว่า นันทนัชมีสิทธิที่จะให้ทิพย์เข้ามาอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จนกว่าจะถึงวันเปิดพินัยกรรม
ฤทัยหันไปเดือดดาลกับลูกทั้งสองแทน
"ไปกันเถอะค่ะน้าทิพย์ นันอยากให้น้าทิพย์ได้ใช้เวลาที่เรือนรัตนะแห่งนี้เยอะๆ"
ทิพย์เดินผ่านหน้าฤทัย ยิ้มยะเยือกให้ และส่งแววตา ประกาศว่าฉันไม่ปล่อยให้แกทำลายฉันอีกแน่! พอสองคนเดินไป ฤทัยได้แต่กรี๊ด
"แม่ค่ะ เราปล่อยให้มันทำอะไรตามใจแบบนี้เรื่อยๆ ไม่ได้นะคะ"
"ถ้ามันวุ่นวายนักล่ะก็ รณจัดการให้ได้นะแม่"
"พอเถอะตารณ เรื่องเก่าที่แกก่อไว้ ป่านนี้แม่ยังเคลียร์ไม่จบ อดทนอีกนิดน่ะ อีกไม่กี่วันทุกอย่างก็จบแล้ว"
ฤทัยพยายามข่มอารมณ์เต็มที่
จบตอนที่ 21